• "ไมโครพลาสติก: พาหะใหม่ของเชื้อโรคและดื้อยา"

    งานวิจัยจาก University of Exeter และ Plymouth Marine Laboratory ในสหราชอาณาจักรเผยว่า ไมโครพลาสติกไม่เพียงแต่เป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังสามารถเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรคและแบคทีเรียดื้อยา โดยพบว่าบนพื้นผิวของไมโครพลาสติกเกิดการสร้าง biofilm หรือที่เรียกว่า "plastisphere" ซึ่งเป็นชั้นจุลชีพที่ช่วยให้เชื้อโรคเจริญเติบโตและอยู่รอดได้นานขึ้น

    ผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
    การทดลองในแม่น้ำ Truro ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษพบว่า ไมโครพลาสติกที่อยู่ใกล้โรงพยาบาลและโรงบำบัดน้ำเสียมีการสะสมเชื้อโรคที่อันตรายมากกว่า เช่น Flavobacteriia และ Sphingobacteriia รวมถึงยีนจากแบคทีเรียดื้อยาที่แพร่กระจายได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับวัสดุอื่นอย่างไม้หรือแก้ว ซึ่งหมายความว่าไมโครพลาสติกอาจเป็นตัวกลางในการแพร่กระจายเชื้อโรคเข้าสู่ห่วงโซ่อาหารและสิ่งแวดล้อม

    ความเสี่ยงระดับโลก
    นักวิจัยเตือนว่า ไมโครพลาสติกไม่ใช่แค่ปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่เป็นภัยต่อสาธารณสุข เพราะสามารถนำเชื้อโรคเข้าสู่ระบบนิเวศและเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่รักษายากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการรั่วไหลของพลาสติกจากโรงบำบัดน้ำเสีย ซึ่งอาจทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายไปยังสัตว์น้ำและมนุษย์

    ข้อแนะนำและการป้องกัน
    ทีมวิจัยแนะนำให้มีมาตรการเข้มงวดในการป้องกันการรั่วไหลของพลาสติก เช่น bio-beads ที่ใช้ในโรงบำบัดน้ำเสีย รวมถึงการจัดการขยะพลาสติกอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังแนะนำว่า อาสาสมัครที่ทำกิจกรรมเก็บขยะชายหาดควรสวมถุงมือและล้างมือทุกครั้งหลังทำกิจกรรม เพื่อป้องกันการสัมผัสเชื้อโรคที่อาจสะสมอยู่บนพลาสติก

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ไมโครพลาสติกสามารถเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรคและแบคทีเรียดื้อยา
    เกิด biofilm หรือ "plastisphere" ที่ช่วยให้เชื้อโรคอยู่รอด

    การทดลองพบเชื้อโรคอันตรายสะสมมากขึ้นใกล้โรงพยาบาลและโรงบำบัดน้ำเสีย
    Flavobacteriia และ Sphingobacteriia พบมากบนไมโครพลาสติก

    ไมโครพลาสติกเป็นภัยต่อสาธารณสุข ไม่ใช่แค่สิ่งแวดล้อม
    อาจแพร่เชื้อโรคเข้าสู่ห่วงโซ่อาหารและสัตว์น้ำ

    ทีมวิจัยเสนอให้ควบคุมการรั่วไหลของพลาสติกจากโรงบำบัดน้ำเสีย
    bio-beads ต้องมีการจัดการที่รัดกุม

    ไมโครพลาสติกอาจเพิ่มการแพร่กระจายเชื้อโรคดื้อยา
    ทำให้การรักษาโรคติดเชื้อยากขึ้นและเสี่ยงต่อสุขภาพมนุษย์

    การสัมผัสพลาสติกที่ปนเปื้อนเชื้อโรคอาจเป็นอันตรายต่ออาสาสมัครเก็บขยะ
    ควรสวมถุงมือและล้างมือทุกครั้งหลังทำกิจกรรม

    https://www.sciencealert.com/microplastics-can-spread-dangerous-pathogens-scientists-warn
    🧪 "ไมโครพลาสติก: พาหะใหม่ของเชื้อโรคและดื้อยา" งานวิจัยจาก University of Exeter และ Plymouth Marine Laboratory ในสหราชอาณาจักรเผยว่า ไมโครพลาสติกไม่เพียงแต่เป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังสามารถเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรคและแบคทีเรียดื้อยา โดยพบว่าบนพื้นผิวของไมโครพลาสติกเกิดการสร้าง biofilm หรือที่เรียกว่า "plastisphere" ซึ่งเป็นชั้นจุลชีพที่ช่วยให้เชื้อโรคเจริญเติบโตและอยู่รอดได้นานขึ้น 🦠 ผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม การทดลองในแม่น้ำ Truro ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษพบว่า ไมโครพลาสติกที่อยู่ใกล้โรงพยาบาลและโรงบำบัดน้ำเสียมีการสะสมเชื้อโรคที่อันตรายมากกว่า เช่น Flavobacteriia และ Sphingobacteriia รวมถึงยีนจากแบคทีเรียดื้อยาที่แพร่กระจายได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับวัสดุอื่นอย่างไม้หรือแก้ว ซึ่งหมายความว่าไมโครพลาสติกอาจเป็นตัวกลางในการแพร่กระจายเชื้อโรคเข้าสู่ห่วงโซ่อาหารและสิ่งแวดล้อม 🌍 ความเสี่ยงระดับโลก นักวิจัยเตือนว่า ไมโครพลาสติกไม่ใช่แค่ปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่เป็นภัยต่อสาธารณสุข เพราะสามารถนำเชื้อโรคเข้าสู่ระบบนิเวศและเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่รักษายากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการรั่วไหลของพลาสติกจากโรงบำบัดน้ำเสีย ซึ่งอาจทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายไปยังสัตว์น้ำและมนุษย์ ⚠️ ข้อแนะนำและการป้องกัน ทีมวิจัยแนะนำให้มีมาตรการเข้มงวดในการป้องกันการรั่วไหลของพลาสติก เช่น bio-beads ที่ใช้ในโรงบำบัดน้ำเสีย รวมถึงการจัดการขยะพลาสติกอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังแนะนำว่า อาสาสมัครที่ทำกิจกรรมเก็บขยะชายหาดควรสวมถุงมือและล้างมือทุกครั้งหลังทำกิจกรรม เพื่อป้องกันการสัมผัสเชื้อโรคที่อาจสะสมอยู่บนพลาสติก 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ไมโครพลาสติกสามารถเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรคและแบคทีเรียดื้อยา ➡️ เกิด biofilm หรือ "plastisphere" ที่ช่วยให้เชื้อโรคอยู่รอด ✅ การทดลองพบเชื้อโรคอันตรายสะสมมากขึ้นใกล้โรงพยาบาลและโรงบำบัดน้ำเสีย ➡️ Flavobacteriia และ Sphingobacteriia พบมากบนไมโครพลาสติก ✅ ไมโครพลาสติกเป็นภัยต่อสาธารณสุข ไม่ใช่แค่สิ่งแวดล้อม ➡️ อาจแพร่เชื้อโรคเข้าสู่ห่วงโซ่อาหารและสัตว์น้ำ ✅ ทีมวิจัยเสนอให้ควบคุมการรั่วไหลของพลาสติกจากโรงบำบัดน้ำเสีย ➡️ bio-beads ต้องมีการจัดการที่รัดกุม ‼️ ไมโครพลาสติกอาจเพิ่มการแพร่กระจายเชื้อโรคดื้อยา ⛔ ทำให้การรักษาโรคติดเชื้อยากขึ้นและเสี่ยงต่อสุขภาพมนุษย์ ‼️ การสัมผัสพลาสติกที่ปนเปื้อนเชื้อโรคอาจเป็นอันตรายต่ออาสาสมัครเก็บขยะ ⛔ ควรสวมถุงมือและล้างมือทุกครั้งหลังทำกิจกรรม https://www.sciencealert.com/microplastics-can-spread-dangerous-pathogens-scientists-warn
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Microplastics Can Spread Dangerous Pathogens, Scientists Warn
    Scientists are hard at work trying to assess the scale of our microplastic pollution problem and the likely health impacts.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Ozempic สำหรับแมว: ความหวังใหม่ของสัตวแพทย์"

    มากกว่าครึ่งของแมวเลี้ยงทั่วโลกมีน้ำหนักเกิน ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคข้อเสื่อม เบาหวาน และโรคหัวใจ ล่าสุด OKAVA Pharmaceuticals ได้ประกาศเริ่มการทดลองทางคลินิกของ OKV-119 ยาแบบฝังใต้ผิวหนังที่ปล่อยสารออกฤทธิ์ต่อเนื่องนานถึง 6 เดือน ยานี้เป็น GLP-1 receptor agonist คล้ายกับ Ozempic และ Wegovy ที่ใช้ในมนุษย์ โดยออกแบบมาเพื่อเลียนแบบผลของการอดอาหาร เช่น เพิ่มความไวต่ออินซูลิน ลดมวลไขมัน และปรับสมดุลพลังงาน

    กลไกและการทดลอง
    OKV-119 จะถูกฝังใต้ผิวหนังและค่อย ๆ ปล่อยยาเข้าสู่ร่างกายแมว ทำให้เจ้าของไม่ต้องยุ่งยากกับการให้ยาทุกวัน การทดลองเบื้องต้นในแมวสุขภาพดีแสดงให้เห็นว่ายามีความปลอดภัย และปัจจุบันกำลังทดสอบในแมวที่มีภาวะอ้วน โดยจะติดตามผลนาน 12 สัปดาห์เพื่อดูว่าสามารถช่วยให้แมวกลับมามีน้ำหนักที่เหมาะสมได้หรือไม่

    ผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต
    แมวที่มีน้ำหนักเกินเพียงไม่กี่กิโลกรัมก็อาจมีคุณภาพชีวิตลดลงอย่างมาก การใช้ยาแบบฝังนี้อาจช่วยลดความเสี่ยงโรคเรื้อรังและยืดอายุขัยของสัตว์เลี้ยง ขณะเดียวกันยังช่วยเจ้าของที่มักประสบปัญหาในการควบคุมอาหารแมว โดยเฉพาะพฤติกรรม “free feeding” ที่ปล่อยให้แมวเข้าถึงอาหารได้ตลอดเวลา

    ข้อควรระวังและคำแนะนำ
    แม้การทดลองนี้จะเป็นความหวังใหม่ แต่ยังอยู่ในระยะเริ่มต้นและมีแมวจำนวนเล็กน้อยที่ได้รับการทดสอบเท่านั้น ผู้เชี่ยวชาญยังคงแนะนำให้เจ้าของ ลดการให้อาหารนอกมื้อและใช้ของเล่นเสริมพฤติกรรมการล่า เพื่อช่วยให้แมวลดน้ำหนักอย่างปลอดภัย

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ยา OKV-119 ถูกพัฒนาสำหรับแมวอ้วน
    เป็น GLP-1 receptor agonist คล้าย Ozempic

    ระบบฝังใต้ผิวหนังปล่อยยาได้นานถึง 6 เดือน
    ลดภาระการให้ยาทุกวัน

    การทดลองเบื้องต้นแสดงความปลอดภัยในแมวสุขภาพดี
    กำลังทดสอบในแมวอ้วนเป็นเวลา 12 สัปดาห์

    เป้าหมายคือช่วยลดน้ำหนักและปรับสมดุลการเผาผลาญ
    ลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวานและโรคหัวใจ

    การทดลองยังอยู่ในระยะเริ่มต้น
    มีแมวจำนวนเล็กน้อยที่ได้รับการทดสอบ

    เจ้าของไม่ควรพึ่งยาเพียงอย่างเดียว
    ควรควบคุมอาหารและใช้กิจกรรมเสริมพฤติกรรมการล่า

    https://www.sciencealert.com/ozempic-for-cats-is-coming-and-vets-are-testing-it-on-overweight-pets
    🐱 "Ozempic สำหรับแมว: ความหวังใหม่ของสัตวแพทย์" มากกว่าครึ่งของแมวเลี้ยงทั่วโลกมีน้ำหนักเกิน ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคข้อเสื่อม เบาหวาน และโรคหัวใจ ล่าสุด OKAVA Pharmaceuticals ได้ประกาศเริ่มการทดลองทางคลินิกของ OKV-119 ยาแบบฝังใต้ผิวหนังที่ปล่อยสารออกฤทธิ์ต่อเนื่องนานถึง 6 เดือน ยานี้เป็น GLP-1 receptor agonist คล้ายกับ Ozempic และ Wegovy ที่ใช้ในมนุษย์ โดยออกแบบมาเพื่อเลียนแบบผลของการอดอาหาร เช่น เพิ่มความไวต่ออินซูลิน ลดมวลไขมัน และปรับสมดุลพลังงาน 🧪 กลไกและการทดลอง OKV-119 จะถูกฝังใต้ผิวหนังและค่อย ๆ ปล่อยยาเข้าสู่ร่างกายแมว ทำให้เจ้าของไม่ต้องยุ่งยากกับการให้ยาทุกวัน การทดลองเบื้องต้นในแมวสุขภาพดีแสดงให้เห็นว่ายามีความปลอดภัย และปัจจุบันกำลังทดสอบในแมวที่มีภาวะอ้วน โดยจะติดตามผลนาน 12 สัปดาห์เพื่อดูว่าสามารถช่วยให้แมวกลับมามีน้ำหนักที่เหมาะสมได้หรือไม่ 🌍 ผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต แมวที่มีน้ำหนักเกินเพียงไม่กี่กิโลกรัมก็อาจมีคุณภาพชีวิตลดลงอย่างมาก การใช้ยาแบบฝังนี้อาจช่วยลดความเสี่ยงโรคเรื้อรังและยืดอายุขัยของสัตว์เลี้ยง ขณะเดียวกันยังช่วยเจ้าของที่มักประสบปัญหาในการควบคุมอาหารแมว โดยเฉพาะพฤติกรรม “free feeding” ที่ปล่อยให้แมวเข้าถึงอาหารได้ตลอดเวลา ⚠️ ข้อควรระวังและคำแนะนำ แม้การทดลองนี้จะเป็นความหวังใหม่ แต่ยังอยู่ในระยะเริ่มต้นและมีแมวจำนวนเล็กน้อยที่ได้รับการทดสอบเท่านั้น ผู้เชี่ยวชาญยังคงแนะนำให้เจ้าของ ลดการให้อาหารนอกมื้อและใช้ของเล่นเสริมพฤติกรรมการล่า เพื่อช่วยให้แมวลดน้ำหนักอย่างปลอดภัย 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ยา OKV-119 ถูกพัฒนาสำหรับแมวอ้วน ➡️ เป็น GLP-1 receptor agonist คล้าย Ozempic ✅ ระบบฝังใต้ผิวหนังปล่อยยาได้นานถึง 6 เดือน ➡️ ลดภาระการให้ยาทุกวัน ✅ การทดลองเบื้องต้นแสดงความปลอดภัยในแมวสุขภาพดี ➡️ กำลังทดสอบในแมวอ้วนเป็นเวลา 12 สัปดาห์ ✅ เป้าหมายคือช่วยลดน้ำหนักและปรับสมดุลการเผาผลาญ ➡️ ลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวานและโรคหัวใจ ‼️ การทดลองยังอยู่ในระยะเริ่มต้น ⛔ มีแมวจำนวนเล็กน้อยที่ได้รับการทดสอบ ‼️ เจ้าของไม่ควรพึ่งยาเพียงอย่างเดียว ⛔ ควรควบคุมอาหารและใช้กิจกรรมเสริมพฤติกรรมการล่า https://www.sciencealert.com/ozempic-for-cats-is-coming-and-vets-are-testing-it-on-overweight-pets
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    'Ozempic' For Cats Is Coming, And Vets Are Testing It on Overweight Pets
    More than half of the world's pet cats are overweight, experts estimate, and soon, these chubby felines may be treated with a drug similar to Ozempic.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • "กรุ๊ปเลือดกับความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง"

    งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Neurology วิเคราะห์ข้อมูลจากกว่า 48 งานวิจัย รวมผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองกว่า 17,000 คน และกลุ่มควบคุมเกือบ 600,000 คน ผลการศึกษาพบว่า ผู้ที่มีกรุ๊ปเลือด A มีโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดสมองก่อนอายุ 60 ปีสูงขึ้น 16% เมื่อเทียบกับคนกรุ๊ปอื่น ในขณะที่ผู้ที่มีกรุ๊ป O กลับมีความเสี่ยงต่ำลงราว 12%

    กลไกที่อาจเกี่ยวข้อง
    นักวิจัยยังไม่สามารถระบุชัดเจนว่าทำไมกรุ๊ปเลือด A จึงสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่สูงขึ้น แต่คาดว่าเกี่ยวข้องกับ ปัจจัยการแข็งตัวของเลือด เช่น เกล็ดเลือดและโปรตีนที่หมุนเวียนในหลอดเลือด ซึ่งอาจทำให้เกิดการอุดตันได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในคนอายุน้อยที่โรคหลอดเลือดสมองมักไม่ได้เกิดจากไขมันสะสมในหลอดเลือดเหมือนในผู้สูงอายุ

    ความแตกต่างตามอายุและภูมิภาค
    การศึกษาเปรียบเทียบผู้ที่เกิดโรคหลอดเลือดสมองก่อนและหลังอายุ 60 ปี พบว่า ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในกรุ๊ป A มีผลเฉพาะในวัยหนุ่มสาวเท่านั้น ส่วนผู้สูงอายุไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรปและอเมริกาเหนือ ทำให้ยังต้องการงานวิจัยเพิ่มเติมในประชากรที่หลากหลายมากขึ้น

    ข้อควรระวังและการตีความ
    แม้ผลการศึกษาจะน่าสนใจ แต่ผู้เชี่ยวชาญย้ำว่า ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในกรุ๊ป A มีขนาดเล็ก จึงไม่จำเป็นต้องมีการตรวจคัดกรองพิเศษสำหรับคนกรุ๊ปนี้ การป้องกันโรคหลอดเลือดสมองยังคงขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญ เช่น การควบคุมความดันโลหิต การเลิกบุหรี่ และการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    กรุ๊ปเลือดสัมพันธ์กับความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง
    กรุ๊ป A เสี่ยงสูงขึ้น 16% ก่อนอายุ 60 ปี
    กรุ๊ป O เสี่ยงต่ำลง 12%

    กลไกอาจเกี่ยวข้องกับการแข็งตัวของเลือด
    เกล็ดเลือดและโปรตีนในหลอดเลือดมีบทบาทสำคัญ

    ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นพบเฉพาะในวัยหนุ่มสาว
    ผู้สูงอายุไม่พบความแตกต่างชัดเจน

    งานวิจัยต้องการข้อมูลจากประชากรที่หลากหลายมากขึ้น
    ปัจจุบันตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรปและอเมริกาเหนือ

    ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในกรุ๊ป A มีขนาดเล็ก
    ไม่จำเป็นต้องตรวจคัดกรองพิเศษ

    ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญยังคงเป็นพฤติกรรมและสุขภาพทั่วไป
    ความดันโลหิตสูง การสูบบุหรี่ และการไม่ออกกำลังกาย

    https://www.sciencealert.com/your-blood-type-affects-your-risk-of-early-stroke-study-reveals
    🧬 "กรุ๊ปเลือดกับความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง" งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Neurology วิเคราะห์ข้อมูลจากกว่า 48 งานวิจัย รวมผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองกว่า 17,000 คน และกลุ่มควบคุมเกือบ 600,000 คน ผลการศึกษาพบว่า ผู้ที่มีกรุ๊ปเลือด A มีโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดสมองก่อนอายุ 60 ปีสูงขึ้น 16% เมื่อเทียบกับคนกรุ๊ปอื่น ในขณะที่ผู้ที่มีกรุ๊ป O กลับมีความเสี่ยงต่ำลงราว 12% 🧠 กลไกที่อาจเกี่ยวข้อง นักวิจัยยังไม่สามารถระบุชัดเจนว่าทำไมกรุ๊ปเลือด A จึงสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่สูงขึ้น แต่คาดว่าเกี่ยวข้องกับ ปัจจัยการแข็งตัวของเลือด เช่น เกล็ดเลือดและโปรตีนที่หมุนเวียนในหลอดเลือด ซึ่งอาจทำให้เกิดการอุดตันได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในคนอายุน้อยที่โรคหลอดเลือดสมองมักไม่ได้เกิดจากไขมันสะสมในหลอดเลือดเหมือนในผู้สูงอายุ 🌍 ความแตกต่างตามอายุและภูมิภาค การศึกษาเปรียบเทียบผู้ที่เกิดโรคหลอดเลือดสมองก่อนและหลังอายุ 60 ปี พบว่า ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในกรุ๊ป A มีผลเฉพาะในวัยหนุ่มสาวเท่านั้น ส่วนผู้สูงอายุไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรปและอเมริกาเหนือ ทำให้ยังต้องการงานวิจัยเพิ่มเติมในประชากรที่หลากหลายมากขึ้น ⚠️ ข้อควรระวังและการตีความ แม้ผลการศึกษาจะน่าสนใจ แต่ผู้เชี่ยวชาญย้ำว่า ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในกรุ๊ป A มีขนาดเล็ก จึงไม่จำเป็นต้องมีการตรวจคัดกรองพิเศษสำหรับคนกรุ๊ปนี้ การป้องกันโรคหลอดเลือดสมองยังคงขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญ เช่น การควบคุมความดันโลหิต การเลิกบุหรี่ และการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ กรุ๊ปเลือดสัมพันธ์กับความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง ➡️ กรุ๊ป A เสี่ยงสูงขึ้น 16% ก่อนอายุ 60 ปี ➡️ กรุ๊ป O เสี่ยงต่ำลง 12% ✅ กลไกอาจเกี่ยวข้องกับการแข็งตัวของเลือด ➡️ เกล็ดเลือดและโปรตีนในหลอดเลือดมีบทบาทสำคัญ ✅ ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นพบเฉพาะในวัยหนุ่มสาว ➡️ ผู้สูงอายุไม่พบความแตกต่างชัดเจน ✅ งานวิจัยต้องการข้อมูลจากประชากรที่หลากหลายมากขึ้น ➡️ ปัจจุบันตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรปและอเมริกาเหนือ ‼️ ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในกรุ๊ป A มีขนาดเล็ก ⛔ ไม่จำเป็นต้องตรวจคัดกรองพิเศษ ‼️ ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญยังคงเป็นพฤติกรรมและสุขภาพทั่วไป ⛔ ความดันโลหิตสูง การสูบบุหรี่ และการไม่ออกกำลังกาย https://www.sciencealert.com/your-blood-type-affects-your-risk-of-early-stroke-study-reveals
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Your Blood Type Affects Your Risk of Early Stroke, Study Reveals
    Research suggests a surprising link between blood type and stroke risk, with people carrying one specific group A blood type facing a higher likelihood of stroke before age 60.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • "การนอนหลับ: กุญแจสำคัญของอายุยืนยาว"

    งานวิจัยจาก Oregon Health & Science University (OHSU) ระหว่างปี 2019–2025 พบว่า การนอนหลับไม่เพียงพอเป็นตัวแปรที่สัมพันธ์กับอายุขัยสั้นลงอย่างชัดเจน โดยมีความเชื่อมโยงที่แรงกว่าการรับประทานอาหารหรือการออกกำลังกายเสียอีก และมีเพียงการสูบบุหรี่เท่านั้นที่มีผลรุนแรงกว่า การนอนน้อยกว่า 7 ชั่วโมงต่อคืนถูกจัดว่าเป็น “การนอนหลับไม่เพียงพอ” และมีผลต่อสุขภาพในระยะยาว

    ผลกระทบต่อสมองและร่างกาย
    การขาดการนอนหลับเพียงคืนเดียวสามารถกระทบต่อระบบประสาทและภูมิคุ้มกันได้ทันที ในระยะยาวยังสัมพันธ์กับโรคอ้วนและเบาหวาน ซึ่งเป็นปัจจัยที่ลดอายุขัยลงอย่างมีนัยสำคัญ นักวิจัยชี้ว่า การนอนหลับที่ดีช่วยให้สมองฟื้นฟูวงจรการทำงานและร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน ทำให้สุขภาพโดยรวมแข็งแรงขึ้น

    ข้อมูลเชิงสังคมและเศรษฐกิจ
    ผลการศึกษาในหลายรัฐของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่า พื้นที่ที่ประชากรนอนหลับไม่เพียงพอมีอายุขัยเฉลี่ยต่ำกว่า ไม่ว่าจะเป็นเมืองใหญ่หรือชนบท ข้อมูลนี้สะท้อนว่าการนอนหลับไม่ใช่เรื่องของรายได้หรือสถานะทางสังคม แต่เป็นปัจจัยพื้นฐานที่ทุกคนต้องให้ความสำคัญ

    พฤติกรรมยุคดิจิทัลและการแก้ไข
    นักวิจัยแนะนำให้เลี่ยงพฤติกรรม “doomscrolling” ก่อนนอน และหันมาใช้กิจกรรมผ่อนคลาย เช่น โยคะหรือไทเก็ก เพื่อปรับคุณภาพการนอน การนอน 7–9 ชั่วโมงต่อคืนถูกยืนยันว่าเป็นมาตรฐานที่เหมาะสมที่สุดต่อสุขภาพและอายุขัย

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การนอนหลับเพียงพอสัมพันธ์กับอายุขัยที่ยืนยาว
    นอน 7–9 ชั่วโมงต่อคืนเป็นมาตรฐานที่แนะนำ

    ผลกระทบของการนอนต่อสุขภาพมีมากกว่าการออกกำลังกายและอาหาร
    มีเพียงการสูบบุหรี่ที่มีผลรุนแรงกว่า

    การนอนหลับช่วยฟื้นฟูสมองและระบบภูมิคุ้มกัน
    ลดความเสี่ยงโรคอ้วนและเบาหวาน

    พื้นที่ที่ประชากรนอนน้อยมีอายุขัยเฉลี่ยต่ำกว่า
    ไม่ขึ้นกับรายได้หรือสถานะทางสังคม

    การนอนหลับไม่เพียงพอเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง
    โรคอ้วน เบาหวาน และโรคหัวใจ

    พฤติกรรมดิจิทัล เช่น doomscrolling ทำให้คุณภาพการนอนลดลง
    ส่งผลต่อสมอง ภูมิคุ้มกัน และสุขภาพจิต

    https://www.sciencealert.com/one-critical-factor-predicts-longevity-better-than-diet-or-exercise-study-says
    🛌 "การนอนหลับ: กุญแจสำคัญของอายุยืนยาว" งานวิจัยจาก Oregon Health & Science University (OHSU) ระหว่างปี 2019–2025 พบว่า การนอนหลับไม่เพียงพอเป็นตัวแปรที่สัมพันธ์กับอายุขัยสั้นลงอย่างชัดเจน โดยมีความเชื่อมโยงที่แรงกว่าการรับประทานอาหารหรือการออกกำลังกายเสียอีก และมีเพียงการสูบบุหรี่เท่านั้นที่มีผลรุนแรงกว่า การนอนน้อยกว่า 7 ชั่วโมงต่อคืนถูกจัดว่าเป็น “การนอนหลับไม่เพียงพอ” และมีผลต่อสุขภาพในระยะยาว 🧠 ผลกระทบต่อสมองและร่างกาย การขาดการนอนหลับเพียงคืนเดียวสามารถกระทบต่อระบบประสาทและภูมิคุ้มกันได้ทันที ในระยะยาวยังสัมพันธ์กับโรคอ้วนและเบาหวาน ซึ่งเป็นปัจจัยที่ลดอายุขัยลงอย่างมีนัยสำคัญ นักวิจัยชี้ว่า การนอนหลับที่ดีช่วยให้สมองฟื้นฟูวงจรการทำงานและร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน ทำให้สุขภาพโดยรวมแข็งแรงขึ้น 🌍 ข้อมูลเชิงสังคมและเศรษฐกิจ ผลการศึกษาในหลายรัฐของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่า พื้นที่ที่ประชากรนอนหลับไม่เพียงพอมีอายุขัยเฉลี่ยต่ำกว่า ไม่ว่าจะเป็นเมืองใหญ่หรือชนบท ข้อมูลนี้สะท้อนว่าการนอนหลับไม่ใช่เรื่องของรายได้หรือสถานะทางสังคม แต่เป็นปัจจัยพื้นฐานที่ทุกคนต้องให้ความสำคัญ 📱 พฤติกรรมยุคดิจิทัลและการแก้ไข นักวิจัยแนะนำให้เลี่ยงพฤติกรรม “doomscrolling” ก่อนนอน และหันมาใช้กิจกรรมผ่อนคลาย เช่น โยคะหรือไทเก็ก เพื่อปรับคุณภาพการนอน การนอน 7–9 ชั่วโมงต่อคืนถูกยืนยันว่าเป็นมาตรฐานที่เหมาะสมที่สุดต่อสุขภาพและอายุขัย 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การนอนหลับเพียงพอสัมพันธ์กับอายุขัยที่ยืนยาว ➡️ นอน 7–9 ชั่วโมงต่อคืนเป็นมาตรฐานที่แนะนำ ✅ ผลกระทบของการนอนต่อสุขภาพมีมากกว่าการออกกำลังกายและอาหาร ➡️ มีเพียงการสูบบุหรี่ที่มีผลรุนแรงกว่า ✅ การนอนหลับช่วยฟื้นฟูสมองและระบบภูมิคุ้มกัน ➡️ ลดความเสี่ยงโรคอ้วนและเบาหวาน ✅ พื้นที่ที่ประชากรนอนน้อยมีอายุขัยเฉลี่ยต่ำกว่า ➡️ ไม่ขึ้นกับรายได้หรือสถานะทางสังคม ‼️ การนอนหลับไม่เพียงพอเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง ⛔ โรคอ้วน เบาหวาน และโรคหัวใจ ‼️ พฤติกรรมดิจิทัล เช่น doomscrolling ทำให้คุณภาพการนอนลดลง ⛔ ส่งผลต่อสมอง ภูมิคุ้มกัน และสุขภาพจิต https://www.sciencealert.com/one-critical-factor-predicts-longevity-better-than-diet-or-exercise-study-says
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    One Critical Factor Predicts Longevity Better Than Diet or Exercise, Study Says
    What you gain in a day by staying up late might be curtailing how long you live, according to a new study linking insufficient sleep to a lower life expectancy.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • โรคอัลไซเมอร์อาจมีต้นตอมาจากเชื้อโรคในช่องปาก

    นักวิจัยได้เสนอสมมติฐานใหม่ที่น่าตกใจว่าโรคอัลไซเมอร์อาจไม่ใช่เพียงภาวะเสื่อมของสมองตามวัย แต่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อ โดยพบว่ามีแบคทีเรีย Porphyromonas gingivalis ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเหงือกเรื้อรัง เข้าไปอยู่ในสมองของผู้ป่วยอัลไซเมอร์ที่เสียชีวิต การค้นพบนี้ทำให้เกิดแนวทางใหม่ในการทำความเข้าใจและอาจนำไปสู่การรักษาในอนาคต

    จุดเริ่มต้นจากโรคเหงือก
    งานวิจัยจากทีมมหาวิทยาลัย Louisville พบว่าเชื้อ P. gingivalis สามารถแพร่จากช่องปากไปยังสมอง และกระตุ้นการสร้างโปรตีนอะไมลอยด์เบต้า (Aβ) ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่สะสมในสมองผู้ป่วยอัลไซเมอร์ การทดลองในหนูยืนยันว่าการติดเชื้อในช่องปากสามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในสมองได้จริง

    หลักฐานใหม่ที่ชี้ชัด
    นอกจากการพบเชื้อแล้ว นักวิจัยยังตรวจพบเอนไซม์พิษที่เรียกว่า gingipains ในสมองของผู้ป่วย ซึ่งสัมพันธ์กับโปรตีน tau และ ubiquitin ที่เป็นเครื่องหมายของโรคอัลไซเมอร์ ที่น่าสนใจคือพบเอนไซม์เหล่านี้แม้ในสมองของผู้ที่ยังไม่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นอัลไซเมอร์ แสดงว่าอาจเป็น “สัญญาณเริ่มต้น” ของโรคก่อนที่อาการจะปรากฏ

    ความหวังและความท้าทาย
    บริษัทวิจัย Cortexyme ได้พัฒนายา COR388 ที่สามารถลดจำนวนเชื้อในสมองหนูและลดการอักเสบได้ แต่ยังต้องรอการทดลองเพิ่มเติมในมนุษย์ ปัจจุบันโรคอัลไซเมอร์ยังเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ในสหรัฐฯ และปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญก็เปลี่ยนไปตามยุค เช่น จากการไม่ออกกำลังกายในอดีต กลายเป็น “โรคอ้วน” ที่เป็นตัวแปรหลักในปัจจุบัน

    สรุปสาระสำคัญ
    การค้นพบใหม่เกี่ยวกับโรคอัลไซเมอร์
    เชื้อ Porphyromonas gingivalis จากโรคเหงือกถูกพบในสมองผู้ป่วย
    การติดเชื้อในช่องปากอาจกระตุ้นการสร้างโปรตีน Aβ ที่เกี่ยวข้องกับโรค
    พบเอนไซม์ gingipains ที่สัมพันธ์กับโปรตีน tau และ ubiquitin

    แนวทางการรักษาใหม่
    ยา COR388 สามารถลดเชื้อและการอักเสบในสมองหนู
    ยังต้องมีการทดลองในมนุษย์เพื่อยืนยันประสิทธิภาพ

    คำเตือนจากงานวิจัย
    โรคเหงือกเรื้อรังอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคอัลไซเมอร์
    การละเลยสุขภาพช่องปากอาจเพิ่มโอกาสเกิดภาวะสมองเสื่อมในระยะยาว

    https://www.sciencealert.com/the-cause-of-alzheimers-may-be-coming-from-within-your-mouth
    🧠 โรคอัลไซเมอร์อาจมีต้นตอมาจากเชื้อโรคในช่องปาก นักวิจัยได้เสนอสมมติฐานใหม่ที่น่าตกใจว่าโรคอัลไซเมอร์อาจไม่ใช่เพียงภาวะเสื่อมของสมองตามวัย แต่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อ โดยพบว่ามีแบคทีเรีย Porphyromonas gingivalis ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเหงือกเรื้อรัง เข้าไปอยู่ในสมองของผู้ป่วยอัลไซเมอร์ที่เสียชีวิต การค้นพบนี้ทำให้เกิดแนวทางใหม่ในการทำความเข้าใจและอาจนำไปสู่การรักษาในอนาคต 🦷 จุดเริ่มต้นจากโรคเหงือก งานวิจัยจากทีมมหาวิทยาลัย Louisville พบว่าเชื้อ P. gingivalis สามารถแพร่จากช่องปากไปยังสมอง และกระตุ้นการสร้างโปรตีนอะไมลอยด์เบต้า (Aβ) ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่สะสมในสมองผู้ป่วยอัลไซเมอร์ การทดลองในหนูยืนยันว่าการติดเชื้อในช่องปากสามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในสมองได้จริง 🔬 หลักฐานใหม่ที่ชี้ชัด นอกจากการพบเชื้อแล้ว นักวิจัยยังตรวจพบเอนไซม์พิษที่เรียกว่า gingipains ในสมองของผู้ป่วย ซึ่งสัมพันธ์กับโปรตีน tau และ ubiquitin ที่เป็นเครื่องหมายของโรคอัลไซเมอร์ ที่น่าสนใจคือพบเอนไซม์เหล่านี้แม้ในสมองของผู้ที่ยังไม่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นอัลไซเมอร์ แสดงว่าอาจเป็น “สัญญาณเริ่มต้น” ของโรคก่อนที่อาการจะปรากฏ ⚠️ ความหวังและความท้าทาย บริษัทวิจัย Cortexyme ได้พัฒนายา COR388 ที่สามารถลดจำนวนเชื้อในสมองหนูและลดการอักเสบได้ แต่ยังต้องรอการทดลองเพิ่มเติมในมนุษย์ ปัจจุบันโรคอัลไซเมอร์ยังเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ในสหรัฐฯ และปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญก็เปลี่ยนไปตามยุค เช่น จากการไม่ออกกำลังกายในอดีต กลายเป็น “โรคอ้วน” ที่เป็นตัวแปรหลักในปัจจุบัน 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การค้นพบใหม่เกี่ยวกับโรคอัลไซเมอร์ ➡️ เชื้อ Porphyromonas gingivalis จากโรคเหงือกถูกพบในสมองผู้ป่วย ➡️ การติดเชื้อในช่องปากอาจกระตุ้นการสร้างโปรตีน Aβ ที่เกี่ยวข้องกับโรค ➡️ พบเอนไซม์ gingipains ที่สัมพันธ์กับโปรตีน tau และ ubiquitin ✅ แนวทางการรักษาใหม่ ➡️ ยา COR388 สามารถลดเชื้อและการอักเสบในสมองหนู ➡️ ยังต้องมีการทดลองในมนุษย์เพื่อยืนยันประสิทธิภาพ ‼️ คำเตือนจากงานวิจัย ⛔ โรคเหงือกเรื้อรังอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคอัลไซเมอร์ ⛔ การละเลยสุขภาพช่องปากอาจเพิ่มโอกาสเกิดภาวะสมองเสื่อมในระยะยาว https://www.sciencealert.com/the-cause-of-alzheimers-may-be-coming-from-within-your-mouth
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    The Cause of Alzheimer's May Be Coming From Within Your Mouth
    In recent years, an increasing number of scientific investigations have backed an alarming hypothesis: Alzheimer's disease may not be merely a condition of an aging brain, but the product of infection.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 77 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251211 #TechRadar

    UK เสริมความปลอดภัยสายเคเบิลใต้น้ำจากภัยรัสเซีย
    สหราชอาณาจักรประกาศโครงการ Atlantic Bastion เพื่อปกป้องโครงสร้างพื้นฐานใต้น้ำอย่างสายเคเบิลและท่อส่งพลังงานจากการคุกคามของรัสเซีย หลังจากมีเหตุการณ์สายเคเบิลในทะเลบอลติกถูกตัดหรือเสียหายหลายครั้งในช่วงสงครามรัสเซีย–ยูเครน โครงการนี้จะใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย ทั้งเรืออัตโนมัติ เซ็นเซอร์ตรวจจับ และกองทัพเรือ โดยมีแผนเริ่มนำไปใช้จริงตั้งแต่ปี 2026 เพื่อให้การป้องกันครอบคลุมพื้นที่มหาสมุทรกว้างใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    https://www.techradar.com/pro/security/uk-strengthens-subsea-cables-against-russian-interference

    Europol ปราบเครือข่าย “Violence-as-a-Service”
    Europol เปิดเผยแนวโน้มใหม่ของอาชญากรรมที่เรียกว่า “Violence-as-a-Service” ซึ่งเป็นการจ้างคนรุ่นใหม่ที่ไร้ประสบการณ์ให้ก่อเหตุรุนแรง ตั้งแต่ข่มขู่ ทรมาน ไปจนถึงฆาตกรรม เครือข่ายนี้เริ่มจากสวีเดนและแพร่ไปทั่วยุโรป จนต้องตั้งหน่วยเฉพาะกิจ GRIMM เพื่อสกัดกั้นการรับสมัครผ่านโซเชียลมีเดีย ภายใน 6 เดือนแรกสามารถจับกุมผู้เกี่ยวข้องได้ถึง 193 คน พร้อมยึดอาวุธและกระสุนจำนวนมาก ถือเป็นการป้องกันโศกนาฏกรรมที่อาจเกิดขึ้นได้
    https://www.techradar.com/pro/security/europol-cracks-down-on-violence-as-a-service-network

    หุ่นยนต์ไล่เตะ CEO – โลกอนาคตที่เราเซ็นรับหรือยัง
    เรื่องราวที่กำลังเป็นไวรัลคือหุ่นยนต์ T800 ของบริษัท EngineAI ที่โชว์พลังเตะใส่ CEO ของตัวเองจนกระเด็นไปไกล ทั้งหมดนี้เป็นการพิสูจน์ว่าหุ่นยนต์ไม่ได้ถูกสร้างด้วย CGI แต่ทำได้จริง หุ่นยนต์รุ่นใหม่ไม่เพียงแค่เดินหรือโต้ตอบ แต่ยังสามารถวิ่งได้ถึง 6 mph และทำท่าต่อสู้เหมือนมนุษย์ จุดประสงค์เบื้องหลังคือการโปรโมตงาน “Robot Boxing Match” ที่จะจัดขึ้นในจีน แต่ภาพที่ออกมากลับทำให้หลายคนเริ่มกังวลว่าอนาคตหุ่นยนต์อาจไม่ใช่ผู้ช่วยในบ้าน แต่กลายเป็นคู่ต่อสู้ในสังเวียนแทน
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/now-weve-got-robots-that-can-chase-and-kick-us-is-this-the-robot-revolution-we-signed-up-for

    DJI FlyCart 100 – โดรนยักษ์แบกของหนัก 100 กิโลกรัม
    DJI เปิดตัวโดรนรุ่นใหม่ FlyCart 100 ที่ออกแบบมาเพื่อการขนส่งหนักโดยเฉพาะ สามารถแบกน้ำหนักได้ถึง 100 กิโลกรัม และบินสูงถึง 6,000 เมตร พร้อมระบบวินซ์ยกของด้วยสายเคเบิล 30 เมตร มีแบตเตอรี่ที่เปลี่ยนได้แบบ hot-swap และทนสภาพอากาศตั้งแต่ -20°C ถึง 40°C รวมถึงทนลมแรงและมีระบบหลบสิ่งกีดขวางด้วย LiDAR จุดเด่นคือความสามารถในการทำงานในพื้นที่ก่อสร้างหรือภูเขาสูง แต่รูปลักษณ์ที่ดุดันทำให้หลายคนเปรียบเทียบกับเครื่องจักรในหนังไซไฟมากกว่าจะเป็นโดรนส่งพัสดุทั่วไป
    https://www.techradar.com/cameras/drones/djis-terrifying-new-delivery-drone-is-its-most-powerful-so-far-the-flycart-100-can-carry-100kg-loads-and-climb-6-000m-mountains

    Sam Altman บน Tonight Show – AI คือพลังแห่งความเท่าเทียม
    Sam Altman CEO ของ OpenAI ไปออกรายการ Tonight Show กับ Jimmy Fallon เพื่อเล่าถึงการเติบโตของ ChatGPT ที่มีผู้ใช้กว่า 800 ล้านคนต่อสัปดาห์ เขาเปรียบ AI ว่าเป็น “พลังแห่งความเท่าเทียม” คล้ายกับการมาของสมาร์ทโฟนที่ทุกคนเข้าถึงได้เหมือนกัน แม้จะยอมรับว่ามีความเสี่ยงและการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว แต่เขาย้ำว่า AI กำลังช่วยให้คนทั่วไปมีเครื่องมือทรงพลังในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่เขียนเรซูเม่ไปจนถึงวางแผนการเดินทาง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/sam-altman-tells-jimmy-fallon-that-ai-is-the-equalizing-force-the-world-needs

    Salesforce Agentforce – เดิมพันอนาคตด้วย AI ผู้ช่วยอัจฉริยะ
    Salesforce ประกาศเปิดตัว Agentforce 360 แพลตฟอร์มใหม่ที่ช่วยให้ธุรกิจสร้าง AI Agent สำหรับงานบริการลูกค้าและการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้รายได้ไตรมาสล่าสุดจะโตถึง 9% เป็น 10.3 พันล้านดอลลาร์ แต่หุ้นยังร่วงลงกว่า 29% ในปีนี้ การเปิดตัว Agentforce จึงถูกมองว่าเป็นการวางเดิมพันครั้งใหญ่เพื่อสร้างความเชื่อมั่น โดยมีตัวอย่างการใช้งานจริง เช่น ตำรวจ Thames Valley ที่ทดลองใช้ AI Assistant “Bobbi” ตอบคำถามทั่วไปแทนเจ้าหน้าที่ แม้ยังมีข้อกังวลเรื่องความผิดพลาด แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่า AI กำลังเข้ามาอยู่ในงานที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นเรื่อย ๆ
    https://www.techradar.com/pro/salesforce-bets-on-agentic-ai-platform-following-cautiously-optimistic-earnings-report

    จอมอนิเตอร์ 1000Hz – เร็วเกินไปหรือเปล่า?
    ข่าวที่ทำให้สายเกมเมอร์ต้องขมวดคิ้วคือการเปิดตัวจอมอนิเตอร์ “dual-mode” ที่สามารถรีเฟรชเรตได้สูงถึง 1000Hz ฟังดูเหมือนจะเป็นการปฏิวัติ แต่หลายคนกลับมองว่ามันเกินความจำเป็น เพราะแม้แต่เกมแข่งขันระดับ eSports ส่วนใหญ่ก็ยังใช้ไม่ถึง 360Hz การกระโดดไปถึง 1000Hz จึงถูกตั้งคำถามว่าเป็นการตลาดมากกว่าความต้องการจริงของผู้เล่น อย่างไรก็ตาม มันก็สะท้อนให้เห็นว่าตลาดฮาร์ดแวร์ยังคงพยายามหาจุดขายใหม่ ๆ อยู่เสมอ
    https://www.techradar.com/computing/monitors/the-worlds-first-1-000hz-dual-mode-gaming-monitors-are-coming-but-they-sound-completely-unnecessary

    Lamborghini ชนะคดีโดเมน Lambo.com
    เรื่องราวดราม่าในโลกออนไลน์คือการที่ Lamborghini ฟ้องร้องเจ้าของโดเมน Lambo.com หลังจากเจ้าของพยายามขายชื่อโดเมนนี้ในราคา 75 ล้านดอลลาร์ ศาลตัดสินว่าเจ้าของกระทำโดยไม่สุจริต และสั่งให้โดเมนตกเป็นของ Lamborghini ทันที เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าของชื่อแบรนด์ในโลกดิจิทัล และการที่บริษัทใหญ่พร้อมจะปกป้องทรัพย์สินทางออนไลน์ของตนอย่างจริงจัง
    https://www.techradar.com/pro/man-attempts-to-break-world-record-with-usd75-million-domain-name-pitch-ends-up-empty-handed-instead

    นาฬิกาฟิตเนสรุ่นใหม่ – คู่แข่ง Apple Watch SE 3
    ข่าวหลุดล่าสุดเผยว่ากำลังจะมีการเปิดตัวสมาร์ทวอทช์ราคาประหยัดรุ่นใหม่ ที่ถูกมองว่าเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Apple Watch SE 3 จุดเด่นคือการออกแบบที่คล้ายคลึงกับรุ่นยอดนิยม แต่เพิ่มฟีเจอร์ด้านสุขภาพและการออกกำลังกายมากขึ้น ทำให้หลายคนคาดว่าจะเป็น “ภาคต่อ” ของนาฬิกาฟิตเนสที่เคยได้รับการยกย่องว่าเป็นรุ่นที่คุ้มค่าที่สุด
    https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/forget-the-apple-watch-se-3-it-looks-like-a-big-sequel-to-our-best-ever-cheap-fitness-watch-has-just-leaked

    Windows 11 ปรับเมนูคลิกขวา ลบ AI Actions ที่ไม่ใช้
    Microsoft กำลังทดสอบการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ แต่ช่วยลดความรกใน Windows 11 โดยหากผู้ใช้ปิดการทำงานของ AI Actions ทั้งหมด เมนูคลิกขวาใน File Explorer จะไม่แสดงโฟลเดอร์ว่าง ๆ ของ AI อีกต่อไป ก่อนหน้านี้แม้ปิดแล้วก็ยังเห็นเมนูแต่ไม่มีฟังก์ชัน ซึ่งทำให้หลายคนงง การแก้ไขนี้จึงเป็นเหมือนการจัดระเบียบให้ใช้งานง่ายขึ้น และเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการทำให้ Windows 11 ดูสะอาดตาและตรงไปตรงมา
    https://www.techradar.com/computing/windows/think-ai-actions-in-windows-11-are-pointless-microsoft-is-letting-you-banish-them-from-the-right-click-menu

    Norton VPN ปรับปรุงครั้งใหญ่ เพิ่มความเร็วและความปลอดภัย
    ปีนี้ Norton VPN เดินหน้าอัปเกรดครั้งใหญ่ ทั้งเพิ่มเซิร์ฟเวอร์ความเร็วสูง 25Gbps ในหลายเมืองทั่วโลก รวมถึงเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ใหม่สำหรับ P2P และเพิ่มตัวเลือก OpenVPN ทั้ง UDP และ TCP เพื่อให้ผู้ใช้เลือกได้ตามความต้องการ ไม่เพียงเท่านั้น Norton ยังผ่านการตรวจสอบจากบริษัทภายนอกเกี่ยวกับโปรโตคอล Mimic ที่พัฒนาขึ้นเอง ผลคือไม่มีความเสี่ยงด้านเทคนิคและยังรองรับการเข้ารหัสที่ต้านทานคอมพิวเตอร์ควอนตัมในอนาคต ทำให้บริการนี้ก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งที่น่าจับตามองในตลาด VPN
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/faster-speeds-more-locations-norton-vpn-caps-off-a-year-of-transformation

    Samsung Galaxy S26 อาจได้ MagSafe เวอร์ชันของตัวเอง
    ข่าวลือใหม่เผยว่า Galaxy S26 จะมาพร้อมระบบแม่เหล็กคล้าย MagSafe ของ Apple ซึ่งจะเปิดทางให้มีอุปกรณ์เสริมหลากหลาย เช่น เคสแม่เหล็ก แท่นชาร์จ และที่ยึดติดรถยนต์ นี่อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ใน ecosystem ของ Samsung เพราะจะทำให้ผู้ใช้มีตัวเลือกเสริมที่สะดวกและเป็นมาตรฐานเดียวกันมากขึ้น หากเป็นจริง Galaxy S26 จะกลายเป็นสมาร์ทโฟนที่รองรับอุปกรณ์เสริมได้กว้างขวางที่สุดรุ่นหนึ่ง
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/the-samsung-galaxy-s26-might-finally-be-getting-its-version-of-magsafe-here-are-8-accessories-to-expect

    Adobe จับมือ YouTube: เพิ่มเครื่องมือใหม่ให้ครีเอเตอร์
    Adobe และ YouTube ร่วมกันเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ในแอป Premiere สำหรับการสร้าง YouTube Shorts โดยตรง จุดเด่นคือมีเอฟเฟกต์พิเศษ ทรานซิชัน และเทมเพลตที่ออกแบบมาเฉพาะ ทำให้การตัดต่อและอัปโหลดคลิปสั้นง่ายขึ้นมาก นอกจากนี้ยังมีระบบติดตามเทรนด์เพื่อช่วยให้ครีเอเตอร์เข้าใจว่าคอนเทนต์แบบไหนกำลังมาแรง ถือเป็นการต่อยอดความร่วมมือระหว่าง Adobe และ Google ที่เคยนำโมเดล AI เข้ามาใช้ในเครื่องมือสร้างสรรค์ต่าง ๆ การอัปเดตนี้ช่วยให้การทำงานของครีเอเตอร์เร็วขึ้นและมีคุณภาพมากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/adobe-and-youtube-love-in-delivers-new-tools-for-content-creators-and-resolves-the-biggest-issue-we-had-with-adobes-free-video-editing-app

    Amazon ทุ่มงบ 35 พันล้านดอลลาร์ลงทุน AI ในอินเดีย
    Amazon ประกาศแผนลงทุนครั้งใหญ่ในอินเดีย มูลค่าถึง 35 พันล้านดอลลาร์ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี AI และโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล การลงทุนนี้สะท้อนถึงความตั้งใจที่จะทำให้อินเดียเป็นศูนย์กลางด้าน AI และคลาวด์ในภูมิภาคเอเชีย พร้อมทั้งสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและการจ้างงานจำนวนมาก ถือเป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ที่ยิ่งใหญ่ของ Amazon ในตลาดเกิดใหม่
    https://www.techradar.com/pro/amazon-and-to-commit-usd35bn-into-ai-in-india

    AMD Redstone: อัปเดตใหม่ที่อาจทำให้ Nvidia ต้องกังวล
    AMD เตรียมปล่อยอัปเดต Redstone สำหรับเทคโนโลยี FSR (FidelityFX Super Resolution) ที่ใช้ในการเรนเดอร์ภาพเกมบนพีซี การอัปเดตนี้ถูกคาดว่าจะช่วยยกระดับคุณภาพภาพและประสิทธิภาพให้ดีขึ้นมาก จนกลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของ DLSS จาก Nvidia หาก Redstone ทำได้ตามที่คาดไว้ มันอาจเปลี่ยนสมดุลการแข่งขันในตลาดกราฟิกการ์ด และทำให้ผู้เล่นเกมมีทางเลือกที่คุ้มค่ามากขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/gpu/amds-redstone-update-could-revitalize-fsr-for-pc-games-heres-why-nvidia-should-be-worried

    SAP อุดช่องโหว่ร้ายแรง 3 จุด เพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ใช้ S
    AP ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัยที่ถูกจัดว่าเป็นระดับวิกฤติถึง 3 จุด ซึ่งหากปล่อยไว้ อาจเปิดโอกาสให้แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลสำคัญหรือควบคุมระบบได้ ช่องโหว่เหล่านี้ถูกค้นพบและรายงานโดยนักวิจัยด้านความปลอดภัย และการแก้ไขครั้งนี้ถือเป็นการยืนยันว่า SAP ให้ความสำคัญกับการปกป้องลูกค้าในระดับองค์กรอย่างจริงจัง
    https://www.techradar.com/pro/security/three-critical-vulnerabilities-patched-by-sap-heres-what-we-know

    ไต้หวันบล็อกแอป RedNote จุดกระแส VPN พุ่งแรง
    รัฐบาลไต้หวันได้สั่งบล็อกการใช้งานแอป RedNote ซึ่งเป็นแอปที่ได้รับความนิยมในบางกลุ่ม ส่งผลให้ผู้ใช้จำนวนมากหันไปใช้ VPN เพื่อหลีกเลี่ยงการบล็อก การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดด้านการควบคุมข้อมูลและการสื่อสารในประเทศ และทำให้ตลาด VPN เติบโตขึ้นทันทีหลังจากมาตรการถูกประกาศ
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/taiwan-blocks-rednote-app-sparking-vpn-surge

    Motorola โชว์มือถือพับใหม่ท้าชน Samsung Galaxy Z Fold 7
    Motorola กำลังกลับมาสู่ตลาดมือถือพับได้อีกครั้ง โดยล่าสุดได้ปล่อยทีเซอร์มือถือรุ่นใหม่ที่ตั้งใจจะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Samsung Galaxy Z Fold 7 แม้ยังไม่มีรายละเอียดเต็ม ๆ แต่การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่าตลาดมือถือพับได้ยังคงร้อนแรง และ Motorola ต้องการกลับมาชิงส่วนแบ่งตลาดจาก Samsung ที่ครองตลาดอยู่ในตอนนี้
    https://www.techradar.com/phones/motorola-phones/motorola-just-teased-a-new-foldable-to-rival-the-samsung-galaxy-z-fold-7

    Instagram เปิดให้ผู้ใช้ควบคุมอัลกอริทึมเอง
    Instagram ประกาศฟีเจอร์ใหม่ที่ให้ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าต้องการเห็นโพสต์แบบไหน โดยสามารถปรับการแสดงผลให้เป็นไปตามความต้องการ เช่น การจัดลำดับตามเวลา หรือการเลือกเนื้อหาที่สนใจมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลต่อวิธีที่ผู้คนใช้แพลตฟอร์ม และอาจเปลี่ยนโฉมหน้าของโซเชียลมีเดียในอนาคต เพราะเป็นการคืนอำนาจการควบคุมให้กับผู้ใช้มากขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/social-media/instagram-just-gave-users-algorithm-control-and-this-could-change-the-face-of-social-media

    ทำไมระบบเทคโนโลยีที่ไม่เชื่อมต่อกันกำลังบั่นทอนประสิทธิภาพการทำงาน
    หลายองค์กรลงทุนในเทคโนโลยีมากมาย แต่กลับสูญเสียเงินมหาศาลเพราะระบบที่ไม่เชื่อมโยงกัน ทำให้พนักงานต้องเสียเวลามากกว่า 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เพียงเพื่อค้นหาข้อมูลหรือแก้ปัญหาซ้ำ ๆ สิ่งนี้ไม่เพียงลดประสิทธิภาพ แต่ยังทำให้คนเก่ง ๆ หมดไฟและลาออกไปในที่สุด ทางออกคือการสร้างระบบที่เชื่อมโยงกันอย่างชาญฉลาด มีความสามารถในการแก้ไขตัวเองอัตโนมัติ และปรับตัวตามพฤติกรรมผู้ใช้ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจแข่งขันได้ดีขึ้นและรักษาคนเก่งไว้ได้
    https://www.techradar.com/pro/why-disconnected-tech-stacks-are-undermining-your-workforce-and-how-to-fix-it

    อังกฤษยังไม่คิดทำตามออสเตรเลียเรื่องแบนโซเชียลมีเดียเด็กอายุต่ำกว่า 16
    หลังจากออสเตรเลียประกาศห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้โซเชียลมีเดีย อังกฤษถูกถามว่าจะทำตามหรือไม่ รัฐมนตรีวัฒนธรรม Lisa Nandy ยืนยันว่า “ยังไม่มีแผน” เพราะกังวลเรื่องการบังคับใช้และผลกระทบที่อาจผลักเด็กไปใช้ช่องทางอื่น แต่ก็เปิดช่องว่า หากมาตรการนี้ได้ผล อังกฤษอาจพิจารณาในอนาคต ประเด็นนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงระหว่างการปกป้องเยาวชนกับสิทธิความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/uk-has-no-plans-to-replicate-australias-social-media-ban-yet

    Google Photos เพิ่มเครื่องมือใหม่สู้ CapCut
    Google Photos เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่สำหรับการตัดต่อวิดีโอ โดยเพิ่ม “template” สำเร็จรูปที่มีเพลงและข้อความพร้อม ทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างคลิปสั้น ๆ สไตล์ TikTok หรือ Reels ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงหน้าตา editor ให้ใช้งานง่ายขึ้น พร้อมเพิ่มฟังก์ชันใส่เพลงและข้อความลงในคลิป ฟีเจอร์เหล่านี้กำลังทยอยเปิดให้ใช้ทั้งบน Android และ iOS และจะกลายเป็นเครื่องมือหลักในการตัดต่อวิดีโอบนมือถือของ Google
    https://www.techradar.com/computing/software/google-photos-takes-on-capcut-with-5-handy-new-video-editing-tools-including-a-time-saving-template-feature

    การหลอกลวงผ่าน SMS หรือ Smishing กำลังกลายเป็นภัยต่อธุรกิจ
    จากเดิมที่เป็นเพียงการหลอกผู้บริโภค ตอนนี้ Smishing หรือการส่งข้อความ SMS หลอกลวงได้พัฒนาไปถึงระดับที่คุกคามองค์กร โดยอาชญากรใช้เครื่อง “SMS Blaster” ที่สามารถส่งข้อความปลอมจำนวนมหาศาลได้ในไม่กี่วินาที ทำให้พนักงานตกเป็นเป้าหมายและอาจเผลอให้ข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านหรือข้อมูลการเงิน อุตสาหกรรมโทรคมนาคมและหน่วยงานกำกับดูแลกำลังหาทางป้องกัน ทั้งการบล็อกข้อความลิงก์ต้องสงสัย และการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่อย่าง RCS ที่มีระบบเข้ารหัสและการยืนยันตัวตนที่แข็งแรงกว่า
    https://www.techradar.com/pro/smishings-evolution-from-consumer-scam-to-enterprise-threat-how-industry-is-fighting-back

    CEO มองว่าเรื่องการเรียนรู้ AI ต้องฝึกเอง
    ในโลกธุรกิจปัจจุบัน AI กลายเป็นเครื่องมือสำคัญ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือผู้บริหารหลายคนกลับมองว่า การเรียนรู้และการพัฒนาทักษะด้าน AI ไม่ควรพึ่งพาองค์กรจัดฝึกอบรมให้ แต่ควรเป็นความรับผิดชอบของพนักงานเองที่จะต้องหาความรู้ ฝึกฝน และพัฒนาทักษะเพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง เท่ากับว่าภาพลักษณ์ของการทำงานยุคใหม่คือ “ใครปรับตัวได้เร็ว คนนั้นได้เปรียบ”
    https://www.techradar.com/pro/need-ai-training-ceos-think-you-should-train-yourself

    ชิป PCIe ตัวเดียวเปลี่ยน DDR4 ให้มีพลังเพิ่มขึ้น
    มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่น่าสนใจมากสำหรับวงการเซิร์ฟเวอร์และดาต้าเซ็นเตอร์ คืออุปกรณ์ PCIe ที่สามารถทำให้หน่วยความจำ DDR4 รุ่นเก่ากลับมามีประสิทธิภาพสูงขึ้นเกือบสามเท่า โดยใช้เทคโนโลยี CXL เพื่อเชื่อมต่อและขยายความสามารถ เท่ากับว่าบริษัทใหญ่ที่มีฮาร์ดแวร์เก่าอยู่แล้วสามารถรีไซเคิลมาใช้ใหม่ได้โดยไม่ต้องลงทุนซื้อ DDR5 ในราคาสูง ถือเป็นการแก้ปัญหาขาดแคลนหน่วยความจำได้อย่างชาญฉลาด
    https://www.techradar.com/pro/this-tiny-chip-could-singlehandedly-solve-the-ram-shortage-by-allowing-hyperscalers-to-reuse-old-ddr4-memory-via-cxl-and-it-even-comes-with-an-extraordinary-feature

    HBO Max ผู้ใช้ฟ้อง Netflix ด้วยคดีใหญ่
    เกิดคดีความที่น่าสนใจในวงการสตรีมมิ่ง เมื่อผู้ใช้ HBO Max รายหนึ่งยื่นฟ้อง Netflix ในรูปแบบคดีแบบกลุ่ม โดยอ้างว่าข้อตกลงระหว่าง Netflix และ Warner Bros จะสร้างความเสียหายต่อการแข่งขัน และอาจทำให้เกิดการผูกขาดในตลาดสตรีมมิ่ง ผู้ฟ้องร้องมองว่าตนเองและผู้ใช้รายอื่นจะได้รับผลกระทบในเชิง “การเลือกที่น้อยลงและราคาที่สูงขึ้น” เรื่องนี้จึงถูกมองว่าเป็นคดีที่อาจเปลี่ยนโฉมหน้าของตลาดสตรีมมิ่งในอนาคต
    https://www.techradar.com/streaming/netflix/hbo-max-subscriber-sues-netflix-in-dramatic-class-action-lawsuit-claiming-the-warner-bros-deal-will-cause-irreparable-antitrust-injury

    TunnelBear ปรับโมเดล VPN ฟรีใหม่
    TunnelBear กำลังปรับเปลี่ยนบริการ VPN ฟรีของตัวเอง เนื่องจากต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้น ทำให้ผู้ใช้แบบฟรีจะไม่สามารถเลือกเซิร์ฟเวอร์เองได้อีกต่อไป และฟีเจอร์ SplitBear หรือ split tunneling ก็ถูกถอดออกไปเช่นกัน ผู้ใช้ฟรียังคงได้ใช้งาน 2GB ต่อเดือน แต่จะถูกสุ่มเชื่อมต่อไปยังตำแหน่งที่ระบบเลือกให้ จุดประสงค์คือเพื่อรักษาความยั่งยืนของบริการโดยไม่ต้องพึ่งโฆษณาหรือขายข้อมูล ผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นมากขึ้นอาจต้องพิจารณาอัปเกรดเป็นแบบพรีเมียม
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/tunnelbear-reshapes-its-free-vpn-model-amid-rising-infrastructure-costs

    Bluesky บังคับตรวจสอบอายุ ตามกฎหมายออสเตรเลีย
    Bluesky ต้องปรับตัวตามกฎหมายใหม่ของออสเตรเลียที่ห้ามผู้ใช้อายุต่ำกว่า 16 ปีเล่นโซเชียลมีเดีย จึงเริ่มบังคับตรวจสอบอายุผู้ใช้เพื่อให้สอดคล้องกับข้อบังคับ นอกจากนี้ยังมีการกลับคำสั่งบล็อกผู้ใช้ในรัฐ Mississippi ที่เคยถูกจำกัดการเข้าถึง ถือเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่เพื่อให้แพลตฟอร์มยังคงดำเนินงานได้ในหลายประเทศ
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/bluesky-enforces-age-checks-to-comply-with-australias-under-16s-social-media-ban-and-reverses-mississippis-block

    Proton Pass เพิ่ม CLI สำหรับนักพัฒนา
    Proton Pass ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวจัดการรหัสผ่านที่ได้รับความนิยม ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่คือ Command-Line Interface (CLI) ให้นักพัฒนาสามารถดึงข้อมูลลับจาก terminal ได้โดยตรง ทำให้สามารถสร้าง workflow อัตโนมัติที่รวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น ฟีเจอร์นี้ยังคงรักษาการเข้ารหัสแบบ end-to-end และรองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อม CI/CD หรือเซิร์ฟเวอร์ที่ไม่มี UI ผู้ใช้ฟรีจะไม่ได้ฟีเจอร์นี้ ต้องอัปเกรดเป็นแพ็กเกจแบบเสียเงิน
    https://www.techradar.com/pro/security/proton-pass-just-made-it-even-easier-for-developers-to-retrieve-secrets-and-thats-a-win-for-everyone-involved

    ญี่ปุ่นเปิดตัวโน้ตบุ๊กใหม่ที่ยังมีพอร์ต VGA และไดรฟ์ DVD
    ในยุคที่โน้ตบุ๊กทั่วโลกตัดพอร์ตเก่า ๆ ออกไปหมด ญี่ปุ่นกลับยังคงมีตลาดที่ต้องการใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ ล่าสุด NEC เปิดตัว VersaPro VX-R ที่ใช้ชิป Intel Core Ultra รุ่นใหม่ แต่ยังคงใส่พอร์ต VGA และไดรฟ์ DVD มาให้ เหตุผลคือหลายองค์กร โรงเรียน และสถาบันในญี่ปุ่นยังใช้โปรเจกเตอร์และระบบเก็บข้อมูลแบบเก่าอยู่ ทำให้การมีพอร์ตเหล่านี้ยังจำเป็น ตัวเครื่องรองรับ Wi-Fi 7, มีระบบความปลอดภัยครบ และยังคงเป็นโน้ตบุ๊กที่ผสมผสานเทคโนโลยีใหม่กับความต้องการดั้งเดิมของตลาดญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว
    https://www.techradar.com/pro/the-only-core-ultra-265u-laptop-with-a-vga-port-and-a-dvd-writer-just-launched-and-yes-it-has-to-be-in-japan

    ช่องโหว่ React2Shell ถูกแฮกเกอร์เกาหลีเหนือใช้โจมตี
    หลังจากที่จีนถูกพบว่าใช้ช่องโหว่ React2Shell ในการโจมตี ตอนนี้มีรายงานว่าเกาหลีเหนือก็เข้ามาใช้ช่องโหว่นี้เช่นกัน โดยพวกเขาพัฒนา malware ใหม่ชื่อ EtherRAT ที่ซับซ้อนกว่าเดิม ใช้ smart contract ของ Ethereum เป็นระบบควบคุม, มีวิธีฝังตัวใน Linux ถึง 5 แบบ และยังดาวน์โหลด runtime ของ Node.js เองเพื่อทำงานต่อ ช่องโหว่นี้ถูกจัดว่า “critical” ระดับ 10/10 และนักวิจัยเตือนให้รีบอัปเดต React เป็นเวอร์ชันที่ปลอดภัยทันที เพราะเป็นการโจมตีที่อาจกระทบผู้พัฒนาเว็บจำนวนมหาศาล
    https://www.techradar.com/pro/security/maximum-severity-react2shell-flaw-exploited-by-north-korean-hackers-in-malware-attacks

    Google เสริมเกราะป้องกัน Chrome จากการโจมตีแบบ Prompt Injection
    Google ประกาศเพิ่มระบบป้องกันใหม่ใน Chrome เพื่อรับมือกับการโจมตีที่เรียกว่า Prompt Injection ซึ่งเป็นการฝังคำสั่งแอบแฝงในเว็บเพจหรือ extension เพื่อหลอกให้ AI ทำงานผิดพลาด ฟีเจอร์ใหม่นี้จะช่วยตรวจจับและบล็อกคำสั่งที่ไม่พึงประสงค์ก่อนที่ผู้ใช้จะโดนหลอกหรือข้อมูลจะรั่วไหล ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการทำให้เบราว์เซอร์ปลอดภัยขึ้นในยุคที่ AI ถูกนำมาใช้งานอย่างแพร่หลาย
    https://www.techradar.com/pro/security/google-adds-prompt-injection-defenses-to-chrome

    Teamgroup เปิดตัว PD40 SSD พกพาเล็กแต่แรงด้วย USB4
    Teamgroup เปิดตัวไดรฟ์ PD40 ที่ใช้มาตรฐาน USB4 ทำให้มีความเร็วสูงมากเมื่อเทียบกับ SSD พกพาทั่วไป จุดเด่นคือขนาดเล็ก น้ำหนักเบา แต่ยังคงให้ความเร็วระดับสูงที่สามารถแข่งขันกับแบรนด์ใหญ่ ๆ ได้ โดยตั้งใจจะเจาะตลาดที่ SSD พกพามีราคาสูงเกินไป รุ่นนี้จึงถูกวางตัวให้เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและเข้าถึงง่ายขึ้นสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความเร็วและความสะดวกในการพกพา
    https://www.techradar.com/pro/finally-another-external-usb4-ssd-hit-the-market-and-this-one-is-likely-to-be-far-more-affordable-than-rivals

    ศึกชิงแชมป์โลก Excel 2025
    การแข่งขัน Excel World Championship ปีนี้จัดขึ้นที่ลาสเวกัส และผู้ชนะคือ Diarmuid Early ที่ถูกขนานนามว่า “LeBron James แห่ง Excel” เขาสามารถเอาชนะ Andrew Ngai แชมป์เก่าถึงสามสมัยได้ ด้วยการทำโจทย์สุดโหด ทั้งการจัดการข้อมูลมหาศาล การสร้าง Pivot Table ซับซ้อน และแม้กระทั่งโจทย์พับโมดูล Excel แบบ Origami ผู้ชนะได้รับเงินรางวัล 5,000 ดอลลาร์ พร้อมเข็มขัดแชมป์แบบนักมวยปล้ำ ถือเป็นการยกระดับการใช้ Excel จากเครื่องมือทำงานสู่กีฬาแข่งขันที่จริงจังและสนุกสนาน
    https://www.techradar.com/pro/battle-of-the-pivot-tables-diarmuid-the-lebron-james-of-excel-defeats-three-time-champion-andrew-ngai-to-claim-the-2025-title-and-usd5-000-cash-prize

    Beelink เปิดตัว NAS จิ๋วแต่จุใจ
    Beelink เตรียมปล่อย NAS รุ่น ME Pro ที่มีให้เลือกทั้งแบบ 2 ช่องและ 4 ช่องใส่ฮาร์ดดิสก์ จุดเด่นคือรุ่น 4 ช่องสามารถรองรับความจุรวมสูงสุดถึง 120TB แต่ตัวเครื่องมีขนาดเล็กเพียง 4 ลิตรเท่านั้น ใช้โครงสร้างแบบ Unibody ที่ช่วยประหยัดพื้นที่ภายในและทำให้เครื่องเล็กกว่าคู่แข่งมาก แม้ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดเรื่อง CPU หรือระบบปฏิบัติการ แต่การออกแบบนี้สะท้อนแนวทางใหม่ของ Beelink ที่ต้องการทำให้ NAS มีขนาดเล็กลงแต่ยังคงความจุสูง
    https://www.techradar.com/pro/beelink-promises-a-4-liter-4-drive-nas-that-could-hold-120tb-in-the-palm-of-your-hand

    ลังเลใจระหว่าง iPhone และ Android
    นักเขียนจาก TechRadar เล่าประสบการณ์ส่วนตัวว่าใช้ iPhone มานานกว่า 4 ปีหลังจากย้ายจาก Android แต่ตอนนี้เริ่มคิดว่าจะกลับไปใช้ Android อีกครั้ง เหตุผลมาจากการเจอปัญหากับ iOS 26 และความสนใจใน Samsung Galaxy S25 Ultra ที่อยู่ตรงหน้า เขายังเปิดโพลให้ผู้อ่านช่วยตัดสินใจว่าจะควรกลับไป Android หรือไม่ พร้อมบอกว่าถ้าเปลี่ยนจริงก็อยากลอง Pixel 10 Pro หรือรุ่นเรือธงจาก Oppo และ OnePlus ถือเป็นการเปิดใจถามความเห็นจากชุมชนผู้ใช้มือถือโดยตรง
    https://www.techradar.com/phones/iphone/should-i-abandon-my-iphone-for-a-return-to-android-tell-me-what-to-do

    Imec เผยความท้าทายของ 3D Memory-on-GPU
    งานประชุม IEDM 2025 มีการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่จาก Imec ที่วางซ้อนหน่วยความจำ HBM แบบ 3D บน GPU เพื่อเพิ่มความหนาแน่นในการประมวลผลสำหรับงาน AI แม้จะให้ประสิทธิภาพสูงกว่าแบบ 2.5D แต่การจำลองความร้อนพบว่าชิปสามารถร้อนทะลุ 140°C ซึ่งเกินขีดจำกัดการทำงาน ต้องใช้วิธีลดความเร็ว GPU ลงครึ่งหนึ่งเพื่อควบคุมอุณหภูมิ แต่ก็ทำให้การฝึก AI ช้าลงถึง 28% เทคโนโลยีนี้จึงยังเป็นดาบสองคมที่ต้องหาทางแก้เรื่องความร้อนก่อนจะนำไปใช้จริงในศูนย์ข้อมูล
    https://www.techradar.com/pro/hbm-on-gpu-set-to-power-the-next-revolution-in-ai-accelerators-and-just-to-confirm-theres-no-way-this-will-come-to-your-video-card-anytime-soon
    📌📡🟠 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟠📡📌 #รวมข่าวIT #20251211 #TechRadar 🌊 UK เสริมความปลอดภัยสายเคเบิลใต้น้ำจากภัยรัสเซีย สหราชอาณาจักรประกาศโครงการ Atlantic Bastion เพื่อปกป้องโครงสร้างพื้นฐานใต้น้ำอย่างสายเคเบิลและท่อส่งพลังงานจากการคุกคามของรัสเซีย หลังจากมีเหตุการณ์สายเคเบิลในทะเลบอลติกถูกตัดหรือเสียหายหลายครั้งในช่วงสงครามรัสเซีย–ยูเครน โครงการนี้จะใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย ทั้งเรืออัตโนมัติ เซ็นเซอร์ตรวจจับ และกองทัพเรือ โดยมีแผนเริ่มนำไปใช้จริงตั้งแต่ปี 2026 เพื่อให้การป้องกันครอบคลุมพื้นที่มหาสมุทรกว้างใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/uk-strengthens-subsea-cables-against-russian-interference 🚨 Europol ปราบเครือข่าย “Violence-as-a-Service” Europol เปิดเผยแนวโน้มใหม่ของอาชญากรรมที่เรียกว่า “Violence-as-a-Service” ซึ่งเป็นการจ้างคนรุ่นใหม่ที่ไร้ประสบการณ์ให้ก่อเหตุรุนแรง ตั้งแต่ข่มขู่ ทรมาน ไปจนถึงฆาตกรรม เครือข่ายนี้เริ่มจากสวีเดนและแพร่ไปทั่วยุโรป จนต้องตั้งหน่วยเฉพาะกิจ GRIMM เพื่อสกัดกั้นการรับสมัครผ่านโซเชียลมีเดีย ภายใน 6 เดือนแรกสามารถจับกุมผู้เกี่ยวข้องได้ถึง 193 คน พร้อมยึดอาวุธและกระสุนจำนวนมาก ถือเป็นการป้องกันโศกนาฏกรรมที่อาจเกิดขึ้นได้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/europol-cracks-down-on-violence-as-a-service-network 🤖 หุ่นยนต์ไล่เตะ CEO – โลกอนาคตที่เราเซ็นรับหรือยัง เรื่องราวที่กำลังเป็นไวรัลคือหุ่นยนต์ T800 ของบริษัท EngineAI ที่โชว์พลังเตะใส่ CEO ของตัวเองจนกระเด็นไปไกล ทั้งหมดนี้เป็นการพิสูจน์ว่าหุ่นยนต์ไม่ได้ถูกสร้างด้วย CGI แต่ทำได้จริง หุ่นยนต์รุ่นใหม่ไม่เพียงแค่เดินหรือโต้ตอบ แต่ยังสามารถวิ่งได้ถึง 6 mph และทำท่าต่อสู้เหมือนมนุษย์ จุดประสงค์เบื้องหลังคือการโปรโมตงาน “Robot Boxing Match” ที่จะจัดขึ้นในจีน แต่ภาพที่ออกมากลับทำให้หลายคนเริ่มกังวลว่าอนาคตหุ่นยนต์อาจไม่ใช่ผู้ช่วยในบ้าน แต่กลายเป็นคู่ต่อสู้ในสังเวียนแทน 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/now-weve-got-robots-that-can-chase-and-kick-us-is-this-the-robot-revolution-we-signed-up-for 🚁 DJI FlyCart 100 – โดรนยักษ์แบกของหนัก 100 กิโลกรัม DJI เปิดตัวโดรนรุ่นใหม่ FlyCart 100 ที่ออกแบบมาเพื่อการขนส่งหนักโดยเฉพาะ สามารถแบกน้ำหนักได้ถึง 100 กิโลกรัม และบินสูงถึง 6,000 เมตร พร้อมระบบวินซ์ยกของด้วยสายเคเบิล 30 เมตร มีแบตเตอรี่ที่เปลี่ยนได้แบบ hot-swap และทนสภาพอากาศตั้งแต่ -20°C ถึง 40°C รวมถึงทนลมแรงและมีระบบหลบสิ่งกีดขวางด้วย LiDAR จุดเด่นคือความสามารถในการทำงานในพื้นที่ก่อสร้างหรือภูเขาสูง แต่รูปลักษณ์ที่ดุดันทำให้หลายคนเปรียบเทียบกับเครื่องจักรในหนังไซไฟมากกว่าจะเป็นโดรนส่งพัสดุทั่วไป 🔗 https://www.techradar.com/cameras/drones/djis-terrifying-new-delivery-drone-is-its-most-powerful-so-far-the-flycart-100-can-carry-100kg-loads-and-climb-6-000m-mountains 📺 Sam Altman บน Tonight Show – AI คือพลังแห่งความเท่าเทียม Sam Altman CEO ของ OpenAI ไปออกรายการ Tonight Show กับ Jimmy Fallon เพื่อเล่าถึงการเติบโตของ ChatGPT ที่มีผู้ใช้กว่า 800 ล้านคนต่อสัปดาห์ เขาเปรียบ AI ว่าเป็น “พลังแห่งความเท่าเทียม” คล้ายกับการมาของสมาร์ทโฟนที่ทุกคนเข้าถึงได้เหมือนกัน แม้จะยอมรับว่ามีความเสี่ยงและการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว แต่เขาย้ำว่า AI กำลังช่วยให้คนทั่วไปมีเครื่องมือทรงพลังในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่เขียนเรซูเม่ไปจนถึงวางแผนการเดินทาง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/sam-altman-tells-jimmy-fallon-that-ai-is-the-equalizing-force-the-world-needs 💼 Salesforce Agentforce – เดิมพันอนาคตด้วย AI ผู้ช่วยอัจฉริยะ Salesforce ประกาศเปิดตัว Agentforce 360 แพลตฟอร์มใหม่ที่ช่วยให้ธุรกิจสร้าง AI Agent สำหรับงานบริการลูกค้าและการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้รายได้ไตรมาสล่าสุดจะโตถึง 9% เป็น 10.3 พันล้านดอลลาร์ แต่หุ้นยังร่วงลงกว่า 29% ในปีนี้ การเปิดตัว Agentforce จึงถูกมองว่าเป็นการวางเดิมพันครั้งใหญ่เพื่อสร้างความเชื่อมั่น โดยมีตัวอย่างการใช้งานจริง เช่น ตำรวจ Thames Valley ที่ทดลองใช้ AI Assistant “Bobbi” ตอบคำถามทั่วไปแทนเจ้าหน้าที่ แม้ยังมีข้อกังวลเรื่องความผิดพลาด แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่า AI กำลังเข้ามาอยู่ในงานที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นเรื่อย ๆ 🔗 https://www.techradar.com/pro/salesforce-bets-on-agentic-ai-platform-following-cautiously-optimistic-earnings-report 🖥️ จอมอนิเตอร์ 1000Hz – เร็วเกินไปหรือเปล่า? ข่าวที่ทำให้สายเกมเมอร์ต้องขมวดคิ้วคือการเปิดตัวจอมอนิเตอร์ “dual-mode” ที่สามารถรีเฟรชเรตได้สูงถึง 1000Hz ฟังดูเหมือนจะเป็นการปฏิวัติ แต่หลายคนกลับมองว่ามันเกินความจำเป็น เพราะแม้แต่เกมแข่งขันระดับ eSports ส่วนใหญ่ก็ยังใช้ไม่ถึง 360Hz การกระโดดไปถึง 1000Hz จึงถูกตั้งคำถามว่าเป็นการตลาดมากกว่าความต้องการจริงของผู้เล่น อย่างไรก็ตาม มันก็สะท้อนให้เห็นว่าตลาดฮาร์ดแวร์ยังคงพยายามหาจุดขายใหม่ ๆ อยู่เสมอ 🔗 https://www.techradar.com/computing/monitors/the-worlds-first-1-000hz-dual-mode-gaming-monitors-are-coming-but-they-sound-completely-unnecessary 🚗 Lamborghini ชนะคดีโดเมน Lambo.com เรื่องราวดราม่าในโลกออนไลน์คือการที่ Lamborghini ฟ้องร้องเจ้าของโดเมน Lambo.com หลังจากเจ้าของพยายามขายชื่อโดเมนนี้ในราคา 75 ล้านดอลลาร์ ศาลตัดสินว่าเจ้าของกระทำโดยไม่สุจริต และสั่งให้โดเมนตกเป็นของ Lamborghini ทันที เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าของชื่อแบรนด์ในโลกดิจิทัล และการที่บริษัทใหญ่พร้อมจะปกป้องทรัพย์สินทางออนไลน์ของตนอย่างจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/pro/man-attempts-to-break-world-record-with-usd75-million-domain-name-pitch-ends-up-empty-handed-instead ⌚ นาฬิกาฟิตเนสรุ่นใหม่ – คู่แข่ง Apple Watch SE 3 ข่าวหลุดล่าสุดเผยว่ากำลังจะมีการเปิดตัวสมาร์ทวอทช์ราคาประหยัดรุ่นใหม่ ที่ถูกมองว่าเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Apple Watch SE 3 จุดเด่นคือการออกแบบที่คล้ายคลึงกับรุ่นยอดนิยม แต่เพิ่มฟีเจอร์ด้านสุขภาพและการออกกำลังกายมากขึ้น ทำให้หลายคนคาดว่าจะเป็น “ภาคต่อ” ของนาฬิกาฟิตเนสที่เคยได้รับการยกย่องว่าเป็นรุ่นที่คุ้มค่าที่สุด 🔗 https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/forget-the-apple-watch-se-3-it-looks-like-a-big-sequel-to-our-best-ever-cheap-fitness-watch-has-just-leaked 🖥️ Windows 11 ปรับเมนูคลิกขวา ลบ AI Actions ที่ไม่ใช้ Microsoft กำลังทดสอบการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ แต่ช่วยลดความรกใน Windows 11 โดยหากผู้ใช้ปิดการทำงานของ AI Actions ทั้งหมด เมนูคลิกขวาใน File Explorer จะไม่แสดงโฟลเดอร์ว่าง ๆ ของ AI อีกต่อไป ก่อนหน้านี้แม้ปิดแล้วก็ยังเห็นเมนูแต่ไม่มีฟังก์ชัน ซึ่งทำให้หลายคนงง การแก้ไขนี้จึงเป็นเหมือนการจัดระเบียบให้ใช้งานง่ายขึ้น และเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการทำให้ Windows 11 ดูสะอาดตาและตรงไปตรงมา 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/think-ai-actions-in-windows-11-are-pointless-microsoft-is-letting-you-banish-them-from-the-right-click-menu 🌐 Norton VPN ปรับปรุงครั้งใหญ่ เพิ่มความเร็วและความปลอดภัย ปีนี้ Norton VPN เดินหน้าอัปเกรดครั้งใหญ่ ทั้งเพิ่มเซิร์ฟเวอร์ความเร็วสูง 25Gbps ในหลายเมืองทั่วโลก รวมถึงเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ใหม่สำหรับ P2P และเพิ่มตัวเลือก OpenVPN ทั้ง UDP และ TCP เพื่อให้ผู้ใช้เลือกได้ตามความต้องการ ไม่เพียงเท่านั้น Norton ยังผ่านการตรวจสอบจากบริษัทภายนอกเกี่ยวกับโปรโตคอล Mimic ที่พัฒนาขึ้นเอง ผลคือไม่มีความเสี่ยงด้านเทคนิคและยังรองรับการเข้ารหัสที่ต้านทานคอมพิวเตอร์ควอนตัมในอนาคต ทำให้บริการนี้ก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งที่น่าจับตามองในตลาด VPN 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/faster-speeds-more-locations-norton-vpn-caps-off-a-year-of-transformation 📱 Samsung Galaxy S26 อาจได้ MagSafe เวอร์ชันของตัวเอง ข่าวลือใหม่เผยว่า Galaxy S26 จะมาพร้อมระบบแม่เหล็กคล้าย MagSafe ของ Apple ซึ่งจะเปิดทางให้มีอุปกรณ์เสริมหลากหลาย เช่น เคสแม่เหล็ก แท่นชาร์จ และที่ยึดติดรถยนต์ นี่อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ใน ecosystem ของ Samsung เพราะจะทำให้ผู้ใช้มีตัวเลือกเสริมที่สะดวกและเป็นมาตรฐานเดียวกันมากขึ้น หากเป็นจริง Galaxy S26 จะกลายเป็นสมาร์ทโฟนที่รองรับอุปกรณ์เสริมได้กว้างขวางที่สุดรุ่นหนึ่ง 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/the-samsung-galaxy-s26-might-finally-be-getting-its-version-of-magsafe-here-are-8-accessories-to-expect 🎬 Adobe จับมือ YouTube: เพิ่มเครื่องมือใหม่ให้ครีเอเตอร์ Adobe และ YouTube ร่วมกันเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ในแอป Premiere สำหรับการสร้าง YouTube Shorts โดยตรง จุดเด่นคือมีเอฟเฟกต์พิเศษ ทรานซิชัน และเทมเพลตที่ออกแบบมาเฉพาะ ทำให้การตัดต่อและอัปโหลดคลิปสั้นง่ายขึ้นมาก นอกจากนี้ยังมีระบบติดตามเทรนด์เพื่อช่วยให้ครีเอเตอร์เข้าใจว่าคอนเทนต์แบบไหนกำลังมาแรง ถือเป็นการต่อยอดความร่วมมือระหว่าง Adobe และ Google ที่เคยนำโมเดล AI เข้ามาใช้ในเครื่องมือสร้างสรรค์ต่าง ๆ การอัปเดตนี้ช่วยให้การทำงานของครีเอเตอร์เร็วขึ้นและมีคุณภาพมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/adobe-and-youtube-love-in-delivers-new-tools-for-content-creators-and-resolves-the-biggest-issue-we-had-with-adobes-free-video-editing-app 💰 Amazon ทุ่มงบ 35 พันล้านดอลลาร์ลงทุน AI ในอินเดีย Amazon ประกาศแผนลงทุนครั้งใหญ่ในอินเดีย มูลค่าถึง 35 พันล้านดอลลาร์ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี AI และโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล การลงทุนนี้สะท้อนถึงความตั้งใจที่จะทำให้อินเดียเป็นศูนย์กลางด้าน AI และคลาวด์ในภูมิภาคเอเชีย พร้อมทั้งสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและการจ้างงานจำนวนมาก ถือเป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ที่ยิ่งใหญ่ของ Amazon ในตลาดเกิดใหม่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/amazon-and-to-commit-usd35bn-into-ai-in-india 🎮 AMD Redstone: อัปเดตใหม่ที่อาจทำให้ Nvidia ต้องกังวล AMD เตรียมปล่อยอัปเดต Redstone สำหรับเทคโนโลยี FSR (FidelityFX Super Resolution) ที่ใช้ในการเรนเดอร์ภาพเกมบนพีซี การอัปเดตนี้ถูกคาดว่าจะช่วยยกระดับคุณภาพภาพและประสิทธิภาพให้ดีขึ้นมาก จนกลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของ DLSS จาก Nvidia หาก Redstone ทำได้ตามที่คาดไว้ มันอาจเปลี่ยนสมดุลการแข่งขันในตลาดกราฟิกการ์ด และทำให้ผู้เล่นเกมมีทางเลือกที่คุ้มค่ามากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/gpu/amds-redstone-update-could-revitalize-fsr-for-pc-games-heres-why-nvidia-should-be-worried 🛡️ SAP อุดช่องโหว่ร้ายแรง 3 จุด เพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ใช้ S AP ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัยที่ถูกจัดว่าเป็นระดับวิกฤติถึง 3 จุด ซึ่งหากปล่อยไว้ อาจเปิดโอกาสให้แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลสำคัญหรือควบคุมระบบได้ ช่องโหว่เหล่านี้ถูกค้นพบและรายงานโดยนักวิจัยด้านความปลอดภัย และการแก้ไขครั้งนี้ถือเป็นการยืนยันว่า SAP ให้ความสำคัญกับการปกป้องลูกค้าในระดับองค์กรอย่างจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/three-critical-vulnerabilities-patched-by-sap-heres-what-we-know 🌐 ไต้หวันบล็อกแอป RedNote จุดกระแส VPN พุ่งแรง รัฐบาลไต้หวันได้สั่งบล็อกการใช้งานแอป RedNote ซึ่งเป็นแอปที่ได้รับความนิยมในบางกลุ่ม ส่งผลให้ผู้ใช้จำนวนมากหันไปใช้ VPN เพื่อหลีกเลี่ยงการบล็อก การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดด้านการควบคุมข้อมูลและการสื่อสารในประเทศ และทำให้ตลาด VPN เติบโตขึ้นทันทีหลังจากมาตรการถูกประกาศ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/taiwan-blocks-rednote-app-sparking-vpn-surge 📱 Motorola โชว์มือถือพับใหม่ท้าชน Samsung Galaxy Z Fold 7 Motorola กำลังกลับมาสู่ตลาดมือถือพับได้อีกครั้ง โดยล่าสุดได้ปล่อยทีเซอร์มือถือรุ่นใหม่ที่ตั้งใจจะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Samsung Galaxy Z Fold 7 แม้ยังไม่มีรายละเอียดเต็ม ๆ แต่การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่าตลาดมือถือพับได้ยังคงร้อนแรง และ Motorola ต้องการกลับมาชิงส่วนแบ่งตลาดจาก Samsung ที่ครองตลาดอยู่ในตอนนี้ 🔗 https://www.techradar.com/phones/motorola-phones/motorola-just-teased-a-new-foldable-to-rival-the-samsung-galaxy-z-fold-7 📸 Instagram เปิดให้ผู้ใช้ควบคุมอัลกอริทึมเอง Instagram ประกาศฟีเจอร์ใหม่ที่ให้ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าต้องการเห็นโพสต์แบบไหน โดยสามารถปรับการแสดงผลให้เป็นไปตามความต้องการ เช่น การจัดลำดับตามเวลา หรือการเลือกเนื้อหาที่สนใจมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลต่อวิธีที่ผู้คนใช้แพลตฟอร์ม และอาจเปลี่ยนโฉมหน้าของโซเชียลมีเดียในอนาคต เพราะเป็นการคืนอำนาจการควบคุมให้กับผู้ใช้มากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/social-media/instagram-just-gave-users-algorithm-control-and-this-could-change-the-face-of-social-media 🖥️ ทำไมระบบเทคโนโลยีที่ไม่เชื่อมต่อกันกำลังบั่นทอนประสิทธิภาพการทำงาน หลายองค์กรลงทุนในเทคโนโลยีมากมาย แต่กลับสูญเสียเงินมหาศาลเพราะระบบที่ไม่เชื่อมโยงกัน ทำให้พนักงานต้องเสียเวลามากกว่า 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เพียงเพื่อค้นหาข้อมูลหรือแก้ปัญหาซ้ำ ๆ สิ่งนี้ไม่เพียงลดประสิทธิภาพ แต่ยังทำให้คนเก่ง ๆ หมดไฟและลาออกไปในที่สุด ทางออกคือการสร้างระบบที่เชื่อมโยงกันอย่างชาญฉลาด มีความสามารถในการแก้ไขตัวเองอัตโนมัติ และปรับตัวตามพฤติกรรมผู้ใช้ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจแข่งขันได้ดีขึ้นและรักษาคนเก่งไว้ได้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/why-disconnected-tech-stacks-are-undermining-your-workforce-and-how-to-fix-it 🇬🇧 อังกฤษยังไม่คิดทำตามออสเตรเลียเรื่องแบนโซเชียลมีเดียเด็กอายุต่ำกว่า 16 หลังจากออสเตรเลียประกาศห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้โซเชียลมีเดีย อังกฤษถูกถามว่าจะทำตามหรือไม่ รัฐมนตรีวัฒนธรรม Lisa Nandy ยืนยันว่า “ยังไม่มีแผน” เพราะกังวลเรื่องการบังคับใช้และผลกระทบที่อาจผลักเด็กไปใช้ช่องทางอื่น แต่ก็เปิดช่องว่า หากมาตรการนี้ได้ผล อังกฤษอาจพิจารณาในอนาคต ประเด็นนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงระหว่างการปกป้องเยาวชนกับสิทธิความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/uk-has-no-plans-to-replicate-australias-social-media-ban-yet 🎬 Google Photos เพิ่มเครื่องมือใหม่สู้ CapCut Google Photos เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่สำหรับการตัดต่อวิดีโอ โดยเพิ่ม “template” สำเร็จรูปที่มีเพลงและข้อความพร้อม ทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างคลิปสั้น ๆ สไตล์ TikTok หรือ Reels ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงหน้าตา editor ให้ใช้งานง่ายขึ้น พร้อมเพิ่มฟังก์ชันใส่เพลงและข้อความลงในคลิป ฟีเจอร์เหล่านี้กำลังทยอยเปิดให้ใช้ทั้งบน Android และ iOS และจะกลายเป็นเครื่องมือหลักในการตัดต่อวิดีโอบนมือถือของ Google 🔗 https://www.techradar.com/computing/software/google-photos-takes-on-capcut-with-5-handy-new-video-editing-tools-including-a-time-saving-template-feature 📱 การหลอกลวงผ่าน SMS หรือ Smishing กำลังกลายเป็นภัยต่อธุรกิจ จากเดิมที่เป็นเพียงการหลอกผู้บริโภค ตอนนี้ Smishing หรือการส่งข้อความ SMS หลอกลวงได้พัฒนาไปถึงระดับที่คุกคามองค์กร โดยอาชญากรใช้เครื่อง “SMS Blaster” ที่สามารถส่งข้อความปลอมจำนวนมหาศาลได้ในไม่กี่วินาที ทำให้พนักงานตกเป็นเป้าหมายและอาจเผลอให้ข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านหรือข้อมูลการเงิน อุตสาหกรรมโทรคมนาคมและหน่วยงานกำกับดูแลกำลังหาทางป้องกัน ทั้งการบล็อกข้อความลิงก์ต้องสงสัย และการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่อย่าง RCS ที่มีระบบเข้ารหัสและการยืนยันตัวตนที่แข็งแรงกว่า 🔗 https://www.techradar.com/pro/smishings-evolution-from-consumer-scam-to-enterprise-threat-how-industry-is-fighting-back 📚 CEO มองว่าเรื่องการเรียนรู้ AI ต้องฝึกเอง ในโลกธุรกิจปัจจุบัน AI กลายเป็นเครื่องมือสำคัญ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือผู้บริหารหลายคนกลับมองว่า การเรียนรู้และการพัฒนาทักษะด้าน AI ไม่ควรพึ่งพาองค์กรจัดฝึกอบรมให้ แต่ควรเป็นความรับผิดชอบของพนักงานเองที่จะต้องหาความรู้ ฝึกฝน และพัฒนาทักษะเพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง เท่ากับว่าภาพลักษณ์ของการทำงานยุคใหม่คือ “ใครปรับตัวได้เร็ว คนนั้นได้เปรียบ” 🔗 https://www.techradar.com/pro/need-ai-training-ceos-think-you-should-train-yourself 💾 ชิป PCIe ตัวเดียวเปลี่ยน DDR4 ให้มีพลังเพิ่มขึ้น มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่น่าสนใจมากสำหรับวงการเซิร์ฟเวอร์และดาต้าเซ็นเตอร์ คืออุปกรณ์ PCIe ที่สามารถทำให้หน่วยความจำ DDR4 รุ่นเก่ากลับมามีประสิทธิภาพสูงขึ้นเกือบสามเท่า โดยใช้เทคโนโลยี CXL เพื่อเชื่อมต่อและขยายความสามารถ เท่ากับว่าบริษัทใหญ่ที่มีฮาร์ดแวร์เก่าอยู่แล้วสามารถรีไซเคิลมาใช้ใหม่ได้โดยไม่ต้องลงทุนซื้อ DDR5 ในราคาสูง ถือเป็นการแก้ปัญหาขาดแคลนหน่วยความจำได้อย่างชาญฉลาด 🔗 https://www.techradar.com/pro/this-tiny-chip-could-singlehandedly-solve-the-ram-shortage-by-allowing-hyperscalers-to-reuse-old-ddr4-memory-via-cxl-and-it-even-comes-with-an-extraordinary-feature ⚖️ HBO Max ผู้ใช้ฟ้อง Netflix ด้วยคดีใหญ่ เกิดคดีความที่น่าสนใจในวงการสตรีมมิ่ง เมื่อผู้ใช้ HBO Max รายหนึ่งยื่นฟ้อง Netflix ในรูปแบบคดีแบบกลุ่ม โดยอ้างว่าข้อตกลงระหว่าง Netflix และ Warner Bros จะสร้างความเสียหายต่อการแข่งขัน และอาจทำให้เกิดการผูกขาดในตลาดสตรีมมิ่ง ผู้ฟ้องร้องมองว่าตนเองและผู้ใช้รายอื่นจะได้รับผลกระทบในเชิง “การเลือกที่น้อยลงและราคาที่สูงขึ้น” เรื่องนี้จึงถูกมองว่าเป็นคดีที่อาจเปลี่ยนโฉมหน้าของตลาดสตรีมมิ่งในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/streaming/netflix/hbo-max-subscriber-sues-netflix-in-dramatic-class-action-lawsuit-claiming-the-warner-bros-deal-will-cause-irreparable-antitrust-injury 🛡️ TunnelBear ปรับโมเดล VPN ฟรีใหม่ TunnelBear กำลังปรับเปลี่ยนบริการ VPN ฟรีของตัวเอง เนื่องจากต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้น ทำให้ผู้ใช้แบบฟรีจะไม่สามารถเลือกเซิร์ฟเวอร์เองได้อีกต่อไป และฟีเจอร์ SplitBear หรือ split tunneling ก็ถูกถอดออกไปเช่นกัน ผู้ใช้ฟรียังคงได้ใช้งาน 2GB ต่อเดือน แต่จะถูกสุ่มเชื่อมต่อไปยังตำแหน่งที่ระบบเลือกให้ จุดประสงค์คือเพื่อรักษาความยั่งยืนของบริการโดยไม่ต้องพึ่งโฆษณาหรือขายข้อมูล ผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นมากขึ้นอาจต้องพิจารณาอัปเกรดเป็นแบบพรีเมียม 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/tunnelbear-reshapes-its-free-vpn-model-amid-rising-infrastructure-costs 🚫 Bluesky บังคับตรวจสอบอายุ ตามกฎหมายออสเตรเลีย Bluesky ต้องปรับตัวตามกฎหมายใหม่ของออสเตรเลียที่ห้ามผู้ใช้อายุต่ำกว่า 16 ปีเล่นโซเชียลมีเดีย จึงเริ่มบังคับตรวจสอบอายุผู้ใช้เพื่อให้สอดคล้องกับข้อบังคับ นอกจากนี้ยังมีการกลับคำสั่งบล็อกผู้ใช้ในรัฐ Mississippi ที่เคยถูกจำกัดการเข้าถึง ถือเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่เพื่อให้แพลตฟอร์มยังคงดำเนินงานได้ในหลายประเทศ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/bluesky-enforces-age-checks-to-comply-with-australias-under-16s-social-media-ban-and-reverses-mississippis-block 🔐 Proton Pass เพิ่ม CLI สำหรับนักพัฒนา Proton Pass ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวจัดการรหัสผ่านที่ได้รับความนิยม ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่คือ Command-Line Interface (CLI) ให้นักพัฒนาสามารถดึงข้อมูลลับจาก terminal ได้โดยตรง ทำให้สามารถสร้าง workflow อัตโนมัติที่รวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น ฟีเจอร์นี้ยังคงรักษาการเข้ารหัสแบบ end-to-end และรองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อม CI/CD หรือเซิร์ฟเวอร์ที่ไม่มี UI ผู้ใช้ฟรีจะไม่ได้ฟีเจอร์นี้ ต้องอัปเกรดเป็นแพ็กเกจแบบเสียเงิน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/proton-pass-just-made-it-even-easier-for-developers-to-retrieve-secrets-and-thats-a-win-for-everyone-involved 💻 ญี่ปุ่นเปิดตัวโน้ตบุ๊กใหม่ที่ยังมีพอร์ต VGA และไดรฟ์ DVD ในยุคที่โน้ตบุ๊กทั่วโลกตัดพอร์ตเก่า ๆ ออกไปหมด ญี่ปุ่นกลับยังคงมีตลาดที่ต้องการใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ ล่าสุด NEC เปิดตัว VersaPro VX-R ที่ใช้ชิป Intel Core Ultra รุ่นใหม่ แต่ยังคงใส่พอร์ต VGA และไดรฟ์ DVD มาให้ เหตุผลคือหลายองค์กร โรงเรียน และสถาบันในญี่ปุ่นยังใช้โปรเจกเตอร์และระบบเก็บข้อมูลแบบเก่าอยู่ ทำให้การมีพอร์ตเหล่านี้ยังจำเป็น ตัวเครื่องรองรับ Wi-Fi 7, มีระบบความปลอดภัยครบ และยังคงเป็นโน้ตบุ๊กที่ผสมผสานเทคโนโลยีใหม่กับความต้องการดั้งเดิมของตลาดญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-only-core-ultra-265u-laptop-with-a-vga-port-and-a-dvd-writer-just-launched-and-yes-it-has-to-be-in-japan 🚨 ช่องโหว่ React2Shell ถูกแฮกเกอร์เกาหลีเหนือใช้โจมตี หลังจากที่จีนถูกพบว่าใช้ช่องโหว่ React2Shell ในการโจมตี ตอนนี้มีรายงานว่าเกาหลีเหนือก็เข้ามาใช้ช่องโหว่นี้เช่นกัน โดยพวกเขาพัฒนา malware ใหม่ชื่อ EtherRAT ที่ซับซ้อนกว่าเดิม ใช้ smart contract ของ Ethereum เป็นระบบควบคุม, มีวิธีฝังตัวใน Linux ถึง 5 แบบ และยังดาวน์โหลด runtime ของ Node.js เองเพื่อทำงานต่อ ช่องโหว่นี้ถูกจัดว่า “critical” ระดับ 10/10 และนักวิจัยเตือนให้รีบอัปเดต React เป็นเวอร์ชันที่ปลอดภัยทันที เพราะเป็นการโจมตีที่อาจกระทบผู้พัฒนาเว็บจำนวนมหาศาล 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/maximum-severity-react2shell-flaw-exploited-by-north-korean-hackers-in-malware-attacks 🛡️ Google เสริมเกราะป้องกัน Chrome จากการโจมตีแบบ Prompt Injection Google ประกาศเพิ่มระบบป้องกันใหม่ใน Chrome เพื่อรับมือกับการโจมตีที่เรียกว่า Prompt Injection ซึ่งเป็นการฝังคำสั่งแอบแฝงในเว็บเพจหรือ extension เพื่อหลอกให้ AI ทำงานผิดพลาด ฟีเจอร์ใหม่นี้จะช่วยตรวจจับและบล็อกคำสั่งที่ไม่พึงประสงค์ก่อนที่ผู้ใช้จะโดนหลอกหรือข้อมูลจะรั่วไหล ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการทำให้เบราว์เซอร์ปลอดภัยขึ้นในยุคที่ AI ถูกนำมาใช้งานอย่างแพร่หลาย 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/google-adds-prompt-injection-defenses-to-chrome 💾 Teamgroup เปิดตัว PD40 SSD พกพาเล็กแต่แรงด้วย USB4 Teamgroup เปิดตัวไดรฟ์ PD40 ที่ใช้มาตรฐาน USB4 ทำให้มีความเร็วสูงมากเมื่อเทียบกับ SSD พกพาทั่วไป จุดเด่นคือขนาดเล็ก น้ำหนักเบา แต่ยังคงให้ความเร็วระดับสูงที่สามารถแข่งขันกับแบรนด์ใหญ่ ๆ ได้ โดยตั้งใจจะเจาะตลาดที่ SSD พกพามีราคาสูงเกินไป รุ่นนี้จึงถูกวางตัวให้เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและเข้าถึงง่ายขึ้นสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความเร็วและความสะดวกในการพกพา 🔗 https://www.techradar.com/pro/finally-another-external-usb4-ssd-hit-the-market-and-this-one-is-likely-to-be-far-more-affordable-than-rivals 📊 ศึกชิงแชมป์โลก Excel 2025 การแข่งขัน Excel World Championship ปีนี้จัดขึ้นที่ลาสเวกัส และผู้ชนะคือ Diarmuid Early ที่ถูกขนานนามว่า “LeBron James แห่ง Excel” เขาสามารถเอาชนะ Andrew Ngai แชมป์เก่าถึงสามสมัยได้ ด้วยการทำโจทย์สุดโหด ทั้งการจัดการข้อมูลมหาศาล การสร้าง Pivot Table ซับซ้อน และแม้กระทั่งโจทย์พับโมดูล Excel แบบ Origami ผู้ชนะได้รับเงินรางวัล 5,000 ดอลลาร์ พร้อมเข็มขัดแชมป์แบบนักมวยปล้ำ ถือเป็นการยกระดับการใช้ Excel จากเครื่องมือทำงานสู่กีฬาแข่งขันที่จริงจังและสนุกสนาน 🔗 https://www.techradar.com/pro/battle-of-the-pivot-tables-diarmuid-the-lebron-james-of-excel-defeats-three-time-champion-andrew-ngai-to-claim-the-2025-title-and-usd5-000-cash-prize 💾 Beelink เปิดตัว NAS จิ๋วแต่จุใจ Beelink เตรียมปล่อย NAS รุ่น ME Pro ที่มีให้เลือกทั้งแบบ 2 ช่องและ 4 ช่องใส่ฮาร์ดดิสก์ จุดเด่นคือรุ่น 4 ช่องสามารถรองรับความจุรวมสูงสุดถึง 120TB แต่ตัวเครื่องมีขนาดเล็กเพียง 4 ลิตรเท่านั้น ใช้โครงสร้างแบบ Unibody ที่ช่วยประหยัดพื้นที่ภายในและทำให้เครื่องเล็กกว่าคู่แข่งมาก แม้ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดเรื่อง CPU หรือระบบปฏิบัติการ แต่การออกแบบนี้สะท้อนแนวทางใหม่ของ Beelink ที่ต้องการทำให้ NAS มีขนาดเล็กลงแต่ยังคงความจุสูง 🔗 https://www.techradar.com/pro/beelink-promises-a-4-liter-4-drive-nas-that-could-hold-120tb-in-the-palm-of-your-hand 📱 ลังเลใจระหว่าง iPhone และ Android นักเขียนจาก TechRadar เล่าประสบการณ์ส่วนตัวว่าใช้ iPhone มานานกว่า 4 ปีหลังจากย้ายจาก Android แต่ตอนนี้เริ่มคิดว่าจะกลับไปใช้ Android อีกครั้ง เหตุผลมาจากการเจอปัญหากับ iOS 26 และความสนใจใน Samsung Galaxy S25 Ultra ที่อยู่ตรงหน้า เขายังเปิดโพลให้ผู้อ่านช่วยตัดสินใจว่าจะควรกลับไป Android หรือไม่ พร้อมบอกว่าถ้าเปลี่ยนจริงก็อยากลอง Pixel 10 Pro หรือรุ่นเรือธงจาก Oppo และ OnePlus ถือเป็นการเปิดใจถามความเห็นจากชุมชนผู้ใช้มือถือโดยตรง 🔗 https://www.techradar.com/phones/iphone/should-i-abandon-my-iphone-for-a-return-to-android-tell-me-what-to-do 🔥 Imec เผยความท้าทายของ 3D Memory-on-GPU งานประชุม IEDM 2025 มีการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่จาก Imec ที่วางซ้อนหน่วยความจำ HBM แบบ 3D บน GPU เพื่อเพิ่มความหนาแน่นในการประมวลผลสำหรับงาน AI แม้จะให้ประสิทธิภาพสูงกว่าแบบ 2.5D แต่การจำลองความร้อนพบว่าชิปสามารถร้อนทะลุ 140°C ซึ่งเกินขีดจำกัดการทำงาน ต้องใช้วิธีลดความเร็ว GPU ลงครึ่งหนึ่งเพื่อควบคุมอุณหภูมิ แต่ก็ทำให้การฝึก AI ช้าลงถึง 28% เทคโนโลยีนี้จึงยังเป็นดาบสองคมที่ต้องหาทางแก้เรื่องความร้อนก่อนจะนำไปใช้จริงในศูนย์ข้อมูล 🔗 https://www.techradar.com/pro/hbm-on-gpu-set-to-power-the-next-revolution-in-ai-accelerators-and-just-to-confirm-theres-no-way-this-will-come-to-your-video-card-anytime-soon
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 276 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia พัฒนาระบบติดตาม GPU แบบซอฟต์แวร์เพื่อแก้ปัญหาการลักลอบนำเข้าชิป AI

    Nvidia เปิดเผยว่ากำลังพัฒนาซอฟต์แวร์ใหม่ที่สามารถติดตามตำแหน่งและสถานะของ GPU ได้ โดยใช้ข้อมูล telemetry และการวัดเวลา (latency) ระหว่างเซิร์ฟเวอร์ของลูกค้ากับเซิร์ฟเวอร์ของ Nvidia เพื่อประมาณตำแหน่งของ GPU คล้ายกับการทำงานของระบบ geolocation บนอินเทอร์เน็ต

    จุดประสงค์และการใช้งาน
    แม้จะถูกพัฒนาเพื่อตอบสนองต่อแรงกดดันจากรัฐบาลสหรัฐ แต่ Nvidia ระบุว่าซอฟต์แวร์นี้ออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูล (CSPs) ในการ ตรวจสอบสุขภาพ, ความสมบูรณ์ และการจัดการสินทรัพย์ GPU โดยผู้ใช้ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เอง ไม่ใช่ฟังก์ชันที่ซ่อนอยู่ในฮาร์ดแวร์

    ความกังวลด้านความมั่นคง
    จีนได้เรียก Nvidia เข้าพบเพื่อสอบถามเกี่ยวกับฟังก์ชันการตรวจสอบนี้ เนื่องจากกังวลว่าอาจเป็น “backdoor” ที่เปิดทางให้รัฐบาลสหรัฐเข้าถึงข้อมูล แต่ Nvidia ยืนยันว่าไม่มีการละเมิดความปลอดภัย และระบบนี้ใช้เพียงข้อมูล telemetry ที่ถูกต้องตามมาตรฐานเท่านั้น

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    ฟีเจอร์นี้จะเริ่มใช้กับ GPU รุ่นใหม่ตระกูล Blackwell ซึ่งมีระบบตรวจสอบขั้นสูงกว่า Hopper และ Ampere การพัฒนานี้สะท้อนถึงความพยายามของสหรัฐในการควบคุมการกระจายชิป AI ไปยังประเทศที่ถูกจำกัด เช่น จีน, รัสเซีย และเกาหลีเหนือ

    สรุปเป็นหัวข้อ
    ระบบติดตาม GPU ของ Nvidia
    ใช้ข้อมูล telemetry และ latency เพื่อระบุตำแหน่ง
    ตรวจสอบสุขภาพและความสมบูรณ์ของ GPU

    จุดประสงค์การใช้งาน
    ช่วยผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลจัดการสินทรัพย์
    ผู้ใช้ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เอง

    ความกังวลจากจีน
    หวั่นว่าเป็น backdoor ให้สหรัฐ
    Nvidia ยืนยันว่าไม่มีการละเมิดความปลอดภัย

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    เริ่มใช้กับ GPU รุ่น Blackwell
    สหรัฐพยายามควบคุมการส่งออกชิป AI

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    ยังไม่ชัดเจนว่าซอฟต์แวร์สามารถปิดการทำงาน GPU ได้จริงหรือไม่
    อาจสร้างความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างสหรัฐและจีน
    ความเสี่ยงด้านความเชื่อมั่นจากผู้ใช้งานที่กังวลเรื่องข้อมูลส่วนตัว

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-develops-software-based-tracking-for-ai-gpus-to-quash-smuggling-concerns-solution-devised-to-prevent-shipments-to-nations-with-export-controls-in-place
    🛰️ Nvidia พัฒนาระบบติดตาม GPU แบบซอฟต์แวร์เพื่อแก้ปัญหาการลักลอบนำเข้าชิป AI Nvidia เปิดเผยว่ากำลังพัฒนาซอฟต์แวร์ใหม่ที่สามารถติดตามตำแหน่งและสถานะของ GPU ได้ โดยใช้ข้อมูล telemetry และการวัดเวลา (latency) ระหว่างเซิร์ฟเวอร์ของลูกค้ากับเซิร์ฟเวอร์ของ Nvidia เพื่อประมาณตำแหน่งของ GPU คล้ายกับการทำงานของระบบ geolocation บนอินเทอร์เน็ต 🔧 จุดประสงค์และการใช้งาน แม้จะถูกพัฒนาเพื่อตอบสนองต่อแรงกดดันจากรัฐบาลสหรัฐ แต่ Nvidia ระบุว่าซอฟต์แวร์นี้ออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูล (CSPs) ในการ ตรวจสอบสุขภาพ, ความสมบูรณ์ และการจัดการสินทรัพย์ GPU โดยผู้ใช้ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เอง ไม่ใช่ฟังก์ชันที่ซ่อนอยู่ในฮาร์ดแวร์ ⚡ ความกังวลด้านความมั่นคง จีนได้เรียก Nvidia เข้าพบเพื่อสอบถามเกี่ยวกับฟังก์ชันการตรวจสอบนี้ เนื่องจากกังวลว่าอาจเป็น “backdoor” ที่เปิดทางให้รัฐบาลสหรัฐเข้าถึงข้อมูล แต่ Nvidia ยืนยันว่าไม่มีการละเมิดความปลอดภัย และระบบนี้ใช้เพียงข้อมูล telemetry ที่ถูกต้องตามมาตรฐานเท่านั้น 🔍 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม ฟีเจอร์นี้จะเริ่มใช้กับ GPU รุ่นใหม่ตระกูล Blackwell ซึ่งมีระบบตรวจสอบขั้นสูงกว่า Hopper และ Ampere การพัฒนานี้สะท้อนถึงความพยายามของสหรัฐในการควบคุมการกระจายชิป AI ไปยังประเทศที่ถูกจำกัด เช่น จีน, รัสเซีย และเกาหลีเหนือ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ ระบบติดตาม GPU ของ Nvidia ➡️ ใช้ข้อมูล telemetry และ latency เพื่อระบุตำแหน่ง ➡️ ตรวจสอบสุขภาพและความสมบูรณ์ของ GPU ✅ จุดประสงค์การใช้งาน ➡️ ช่วยผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลจัดการสินทรัพย์ ➡️ ผู้ใช้ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เอง ✅ ความกังวลจากจีน ➡️ หวั่นว่าเป็น backdoor ให้สหรัฐ ➡️ Nvidia ยืนยันว่าไม่มีการละเมิดความปลอดภัย ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม ➡️ เริ่มใช้กับ GPU รุ่น Blackwell ➡️ สหรัฐพยายามควบคุมการส่งออกชิป AI ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ ยังไม่ชัดเจนว่าซอฟต์แวร์สามารถปิดการทำงาน GPU ได้จริงหรือไม่ ⛔ อาจสร้างความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างสหรัฐและจีน ⛔ ความเสี่ยงด้านความเชื่อมั่นจากผู้ใช้งานที่กังวลเรื่องข้อมูลส่วนตัว https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-develops-software-based-tracking-for-ai-gpus-to-quash-smuggling-concerns-solution-devised-to-prevent-shipments-to-nations-with-export-controls-in-place
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกาหลีใต้บังคับติดป้ายโฆษณาที่สร้างด้วย AI

    รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศว่าตั้งแต่ต้นปี 2026 เป็นต้นไป ผู้ลงโฆษณาจะต้องติดป้ายกำกับว่าเป็น AI-generated หากโฆษณาถูกสร้างหรือแก้ไขด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ มาตรการนี้เกิดขึ้นหลังพบการใช้ deepfake และผู้เชี่ยวชาญปลอมในการโปรโมตสินค้า เช่น ยาลดน้ำหนัก เครื่องสำอาง และแม้แต่เว็บไซต์การพนันผิดกฎหมาย

    เหตุผลและมาตรการที่เข้มงวด
    เจ้าหน้าที่ระบุว่าการโฆษณาลักษณะนี้กำลัง “ทำลายความเป็นระเบียบของตลาด” และสร้างความเสี่ยงต่อผู้บริโภค โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่แยกแยะได้ยากว่าเนื้อหานั้นจริงหรือปลอม รัฐบาลจึงเตรียมแก้ไขกฎหมายโทรคมนาคมและกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อบังคับใช้ พร้อมเพิ่มโทษปรับและบทลงโทษทางแพ่งสูงสุดถึง 5 เท่าของความเสียหายที่เกิดขึ้น

    ปัญหาที่พบในอดีต
    กระทรวงความปลอดภัยด้านอาหารและยาเกาหลีใต้ตรวจพบโฆษณาผิดกฎหมายกว่า 96,700 ชิ้นในปี 2024 และอีกเกือบ 69,000 ชิ้นในปี 2025 (จนถึงเดือนกันยายน) ตัวเลขนี้สะท้อนว่าการโฆษณาที่ใช้ AI กำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็วและยากต่อการควบคุม

    ความหมายต่ออนาคตของ AI และสังคม
    มาตรการนี้ไม่เพียงแต่ป้องกันการหลอกลวง แต่ยังเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในการใช้ AI อย่างโปร่งใส เกาหลีใต้ยังวางแผนใช้ AI เพื่อตรวจสอบและลบโฆษณาที่ผิดกฎหมายให้เร็วขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งอาจกลายเป็นต้นแบบให้ประเทศอื่น ๆ นำไปปรับใช้เพื่อรับมือกับความท้าทายด้านข้อมูลเท็จและการใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิด

    สรุปสาระสำคัญ
    เกาหลีใต้บังคับติดป้ายโฆษณาที่สร้างด้วย AI ตั้งแต่ปี 2026
    เพื่อป้องกันการหลอกลวงและสร้างความโปร่งใส

    รัฐบาลเตรียมแก้กฎหมายโทรคมนาคมและเพิ่มโทษปรับ
    ผู้กระทำผิดอาจถูกปรับสูงสุด 5 เท่าของความเสียหาย

    พบโฆษณาผิดกฎหมายจำนวนมากในช่วงปี 2024–2025
    กว่า 96,700 ชิ้นในปี 2024 และ 68,950 ชิ้นในปี 2025

    รัฐบาลจะใช้ AI ตรวจสอบและลบโฆษณาผิดกฎหมาย
    ตั้งเป้าลบภายใน 24 ชั่วโมงเพื่อป้องกันผลกระทบ

    โฆษณา AI ที่ใช้ deepfake และผู้เชี่ยวชาญปลอมสร้างความเสี่ยงต่อผู้บริโภค
    โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่แยกแยะได้ยาก

    หากไม่มีมาตรการกำกับดูแล อาจเกิดการแพร่กระจายของข้อมูลเท็จ
    ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของตลาดและสุขภาพประชาชน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/10/south-korea-to-require-advertisers-to-label-ai-generated-ads
    📰 เกาหลีใต้บังคับติดป้ายโฆษณาที่สร้างด้วย AI รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศว่าตั้งแต่ต้นปี 2026 เป็นต้นไป ผู้ลงโฆษณาจะต้องติดป้ายกำกับว่าเป็น AI-generated หากโฆษณาถูกสร้างหรือแก้ไขด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ มาตรการนี้เกิดขึ้นหลังพบการใช้ deepfake และผู้เชี่ยวชาญปลอมในการโปรโมตสินค้า เช่น ยาลดน้ำหนัก เครื่องสำอาง และแม้แต่เว็บไซต์การพนันผิดกฎหมาย ⚖️ เหตุผลและมาตรการที่เข้มงวด เจ้าหน้าที่ระบุว่าการโฆษณาลักษณะนี้กำลัง “ทำลายความเป็นระเบียบของตลาด” และสร้างความเสี่ยงต่อผู้บริโภค โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่แยกแยะได้ยากว่าเนื้อหานั้นจริงหรือปลอม รัฐบาลจึงเตรียมแก้ไขกฎหมายโทรคมนาคมและกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อบังคับใช้ พร้อมเพิ่มโทษปรับและบทลงโทษทางแพ่งสูงสุดถึง 5 เท่าของความเสียหายที่เกิดขึ้น 📉 ปัญหาที่พบในอดีต กระทรวงความปลอดภัยด้านอาหารและยาเกาหลีใต้ตรวจพบโฆษณาผิดกฎหมายกว่า 96,700 ชิ้นในปี 2024 และอีกเกือบ 69,000 ชิ้นในปี 2025 (จนถึงเดือนกันยายน) ตัวเลขนี้สะท้อนว่าการโฆษณาที่ใช้ AI กำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็วและยากต่อการควบคุม 🌐 ความหมายต่ออนาคตของ AI และสังคม มาตรการนี้ไม่เพียงแต่ป้องกันการหลอกลวง แต่ยังเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในการใช้ AI อย่างโปร่งใส เกาหลีใต้ยังวางแผนใช้ AI เพื่อตรวจสอบและลบโฆษณาที่ผิดกฎหมายให้เร็วขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งอาจกลายเป็นต้นแบบให้ประเทศอื่น ๆ นำไปปรับใช้เพื่อรับมือกับความท้าทายด้านข้อมูลเท็จและการใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิด 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ เกาหลีใต้บังคับติดป้ายโฆษณาที่สร้างด้วย AI ตั้งแต่ปี 2026 ➡️ เพื่อป้องกันการหลอกลวงและสร้างความโปร่งใส ✅ รัฐบาลเตรียมแก้กฎหมายโทรคมนาคมและเพิ่มโทษปรับ ➡️ ผู้กระทำผิดอาจถูกปรับสูงสุด 5 เท่าของความเสียหาย ✅ พบโฆษณาผิดกฎหมายจำนวนมากในช่วงปี 2024–2025 ➡️ กว่า 96,700 ชิ้นในปี 2024 และ 68,950 ชิ้นในปี 2025 ✅ รัฐบาลจะใช้ AI ตรวจสอบและลบโฆษณาผิดกฎหมาย ➡️ ตั้งเป้าลบภายใน 24 ชั่วโมงเพื่อป้องกันผลกระทบ ‼️ โฆษณา AI ที่ใช้ deepfake และผู้เชี่ยวชาญปลอมสร้างความเสี่ยงต่อผู้บริโภค ⛔ โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่แยกแยะได้ยาก ‼️ หากไม่มีมาตรการกำกับดูแล อาจเกิดการแพร่กระจายของข้อมูลเท็จ ⛔ ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของตลาดและสุขภาพประชาชน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/10/south-korea-to-require-advertisers-to-label-ai-generated-ads
    WWW.THESTAR.COM.MY
    South Korea to require advertisers to label AI-generated ads
    South Korea will require advertisers to label their ads made with artificial intelligence technologies from next year as it seeks to curb a surge of deceptive promotions featuring fabricated experts or deep-faked celebrities endorsing food or pharmaceutical products on social media.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิวยอร์กซิตี้ใช้ค่าผ่านทาง ลดรถ ลดมลพิษ

    มาตรการ Congestion Pricing ของนิวยอร์กซิตี้ ที่เริ่มใช้ในปี 2025 ทำให้การจราจรลดลงและมลพิษทางอากาศลดลงถึง 22% ในพื้นที่แมนฮัตตัน พร้อมผลพลอยได้เช่นอุบัติเหตุลดลงและเสียงรบกวนลดลงอย่างชัดเจน

    ตั้งแต่เดือนมกราคม 2025 รถยนต์ที่ต้องการเข้าพื้นที่ใจกลางแมนฮัตตันในช่วงเวลาเร่งด่วนต้องจ่ายค่าผ่านทาง 9 ดอลลาร์ ผลลัพธ์ใน 6 เดือนแรกคือการจราจรลดลง 11% และอุบัติเหตุลดลง 14% ขณะเดียวกันเสียงรบกวนจากการบีบแตรหรือเสียงดังอื่น ๆ ลดลงถึง 45%

    ผลลัพธ์ด้านสิ่งแวดล้อม
    งานวิจัยจาก Cornell University พบว่า มลพิษฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM) ลดลงถึง 22% ในพื้นที่ที่มีการบังคับใช้มาตรการ ซึ่งถือว่ามากกว่าผลลัพธ์ที่เคยเห็นในเมืองอื่น เช่น สตอกโฮล์มและลอนดอน มลพิษเหล่านี้เป็นสาเหตุสำคัญของโรคหอบหืด โรคหัวใจ และมะเร็งปอด

    พฤติกรรมการเดินทางเปลี่ยนไป
    นักวิจัยระบุว่ามาตรการนี้ไม่ได้เพียงแค่ผลักภาระไปยังชานเมือง แต่ช่วยให้ทั้งมหานครนิวยอร์กมีอากาศดีขึ้น เพราะผู้คนเลือกใช้ ขนส่งสาธารณะ หรือปรับเวลาเดินทาง เช่น ส่งสินค้าในเวลากลางคืน ทำให้การจราจรเบาบางลงและลดการสะสมของหมอกควัน

    ความหมายต่อเมืองใหญ่ทั่วโลก
    ผลลัพธ์นี้สะท้อนว่า Congestion Pricing ไม่ใช่แค่เรื่องการจัดการจราจร แต่เป็นเครื่องมือสำคัญในการปรับปรุงคุณภาพชีวิตและสุขภาพประชาชน หากเมืองใหญ่ทั่วโลกนำไปปรับใช้ อาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากมลพิษทางอากาศได้อย่างมีนัยสำคัญ

    สรุปสาระสำคัญ
    มาตรการ Congestion Pricing เริ่มใช้ในนิวยอร์กปี 2025
    รถยนต์ต้องจ่าย $9 เพื่อเข้าพื้นที่แมนฮัตตันช่วงเร่งด่วน

    ผลลัพธ์ใน 6 เดือนแรก
    การจราจรลดลง 11%, อุบัติเหตุลดลง 14%, เสียงรบกวนลดลง 45%

    มลพิษฝุ่นละออง PM ลดลง 22%
    ลดความเสี่ยงโรคหอบหืด, โรคหัวใจ, มะเร็งปอด

    พฤติกรรมผู้คนเปลี่ยนไป
    ใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น, ส่งสินค้าเวลากลางคืน

    หากไม่มีมาตรการต่อเนื่อง มลพิษอาจกลับมาเพิ่มขึ้น
    การพึ่งพารถยนต์ส่วนตัวจะทำให้ผลลัพธ์ถดถอย

    เมืองที่ไม่ปรับใช้มาตรการคล้ายกันเสี่ยงต่อสุขภาพประชาชน
    มลพิษทางอากาศยังเป็นสาเหตุการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรทั่วโลก

    https://e360.yale.edu/digest/new-york-congestion-pricing-pollution
    🚗 นิวยอร์กซิตี้ใช้ค่าผ่านทาง ลดรถ ลดมลพิษ มาตรการ Congestion Pricing ของนิวยอร์กซิตี้ ที่เริ่มใช้ในปี 2025 ทำให้การจราจรลดลงและมลพิษทางอากาศลดลงถึง 22% ในพื้นที่แมนฮัตตัน พร้อมผลพลอยได้เช่นอุบัติเหตุลดลงและเสียงรบกวนลดลงอย่างชัดเจน ตั้งแต่เดือนมกราคม 2025 รถยนต์ที่ต้องการเข้าพื้นที่ใจกลางแมนฮัตตันในช่วงเวลาเร่งด่วนต้องจ่ายค่าผ่านทาง 9 ดอลลาร์ ผลลัพธ์ใน 6 เดือนแรกคือการจราจรลดลง 11% และอุบัติเหตุลดลง 14% ขณะเดียวกันเสียงรบกวนจากการบีบแตรหรือเสียงดังอื่น ๆ ลดลงถึง 45% 🌫️ ผลลัพธ์ด้านสิ่งแวดล้อม งานวิจัยจาก Cornell University พบว่า มลพิษฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM) ลดลงถึง 22% ในพื้นที่ที่มีการบังคับใช้มาตรการ ซึ่งถือว่ามากกว่าผลลัพธ์ที่เคยเห็นในเมืองอื่น เช่น สตอกโฮล์มและลอนดอน มลพิษเหล่านี้เป็นสาเหตุสำคัญของโรคหอบหืด โรคหัวใจ และมะเร็งปอด 🚉 พฤติกรรมการเดินทางเปลี่ยนไป นักวิจัยระบุว่ามาตรการนี้ไม่ได้เพียงแค่ผลักภาระไปยังชานเมือง แต่ช่วยให้ทั้งมหานครนิวยอร์กมีอากาศดีขึ้น เพราะผู้คนเลือกใช้ ขนส่งสาธารณะ หรือปรับเวลาเดินทาง เช่น ส่งสินค้าในเวลากลางคืน ทำให้การจราจรเบาบางลงและลดการสะสมของหมอกควัน 🌍 ความหมายต่อเมืองใหญ่ทั่วโลก ผลลัพธ์นี้สะท้อนว่า Congestion Pricing ไม่ใช่แค่เรื่องการจัดการจราจร แต่เป็นเครื่องมือสำคัญในการปรับปรุงคุณภาพชีวิตและสุขภาพประชาชน หากเมืองใหญ่ทั่วโลกนำไปปรับใช้ อาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากมลพิษทางอากาศได้อย่างมีนัยสำคัญ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ มาตรการ Congestion Pricing เริ่มใช้ในนิวยอร์กปี 2025 ➡️ รถยนต์ต้องจ่าย $9 เพื่อเข้าพื้นที่แมนฮัตตันช่วงเร่งด่วน ✅ ผลลัพธ์ใน 6 เดือนแรก ➡️ การจราจรลดลง 11%, อุบัติเหตุลดลง 14%, เสียงรบกวนลดลง 45% ✅ มลพิษฝุ่นละออง PM ลดลง 22% ➡️ ลดความเสี่ยงโรคหอบหืด, โรคหัวใจ, มะเร็งปอด ✅ พฤติกรรมผู้คนเปลี่ยนไป ➡️ ใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น, ส่งสินค้าเวลากลางคืน ‼️ หากไม่มีมาตรการต่อเนื่อง มลพิษอาจกลับมาเพิ่มขึ้น ⛔ การพึ่งพารถยนต์ส่วนตัวจะทำให้ผลลัพธ์ถดถอย ‼️ เมืองที่ไม่ปรับใช้มาตรการคล้ายกันเสี่ยงต่อสุขภาพประชาชน ⛔ มลพิษทางอากาศยังเป็นสาเหตุการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรทั่วโลก https://e360.yale.edu/digest/new-york-congestion-pricing-pollution
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลดแคลอรี 30% อาจช่วยป้องกันสมองจากความเสื่อม

    งานวิจัยใหม่ในลิง rhesus พบว่า การลดแคลอรีลงประมาณ 30% ช่วยชะลอการเสื่อมของสมอง โดยเฉพาะการปกป้อง myelin ซึ่งเป็นปลอกหุ้มเส้นใยประสาทที่สำคัญต่อการสื่อสารของสมอง

    รายละเอียดการศึกษา
    ทีมนักวิจัยจาก Boston University ศึกษาลิง rhesus จำนวน 24 ตัว ที่ถูกเลี้ยงด้วยอาหารปกติและอาหารลดแคลอรีลง 30% เป็นเวลากว่า 20 ปี พบว่า สมองของลิงที่ลดแคลอรีมีการสื่อสารของเซลล์ประสาทที่ดีขึ้น และมีการปกป้องโครงสร้างสมองจากการเสื่อมตามวัย

    บทบาทของ Myelin
    งานวิจัยเน้นไปที่ myelin ซึ่งเป็นปลอกไขมันหุ้มเส้นใยประสาท ทำหน้าที่เร่งการส่งสัญญาณในสมอง เมื่ออายุมากขึ้น myelin มักเสื่อมสภาพและก่อให้เกิดการอักเสบ แต่ในลิงที่ลดแคลอรี ยีนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างและซ่อมแซม myelin ทำงานได้ดีกว่า ทำให้สมองยังคงมีประสิทธิภาพสูง

    ความหมายต่อมนุษย์
    แม้การทดลองนี้ทำในลิง แต่สมองของลิง rhesus มีความใกล้เคียงกับมนุษย์มาก ผลลัพธ์จึงบ่งชี้ว่า การลดแคลอรีในระยะยาวอาจช่วยชะลอความเสื่อมของสมองในคนได้ และอาจมีผลต่อการลดความเสี่ยงโรคสมองเสื่อม เช่น Alzheimer’s และ Parkinson’s

    ข้อควรระวัง
    นักวิจัยย้ำว่าแม้การลดแคลอรีมีประโยชน์ แต่ยังมีปัจจัยอื่นที่ส่งผลต่อสุขภาพสมอง เช่น คุณภาพการนอน และการเรียนรู้ภาษาใหม่ ๆ ดังนั้นการดูแลสมองควรเป็นการผสมผสานหลายวิธี ไม่ใช่พึ่งพาการลดอาหารเพียงอย่างเดียว

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การลดแคลอรีลง 30% ช่วยชะลอการเสื่อมของสมองในลิง rhesus
    พบการสื่อสารของเซลล์ประสาทที่ดีขึ้นและโครงสร้างสมองแข็งแรงกว่า

    Myelin ได้รับการปกป้องมากขึ้นในกลุ่มที่ลดแคลอรี
    ยีนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างและซ่อมแซม myelin ทำงานมีประสิทธิภาพ

    ผลลัพธ์อาจมีความหมายต่อมนุษย์
    อาจช่วยลดความเสี่ยงโรคสมองเสื่อม เช่น Alzheimer’s และ Parkinson’s

    การลดแคลอรีไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ดูแลสมองได้
    ยังต้องพิจารณาปัจจัยอื่น เช่น การนอนหลับและการเรียนรู้

    https://www.sciencealert.com/cutting-calories-by-30-may-be-enough-to-shield-brain-against-aging
    🧠 ลดแคลอรี 30% อาจช่วยป้องกันสมองจากความเสื่อม งานวิจัยใหม่ในลิง rhesus พบว่า การลดแคลอรีลงประมาณ 30% ช่วยชะลอการเสื่อมของสมอง โดยเฉพาะการปกป้อง myelin ซึ่งเป็นปลอกหุ้มเส้นใยประสาทที่สำคัญต่อการสื่อสารของสมอง 🔬 รายละเอียดการศึกษา ทีมนักวิจัยจาก Boston University ศึกษาลิง rhesus จำนวน 24 ตัว ที่ถูกเลี้ยงด้วยอาหารปกติและอาหารลดแคลอรีลง 30% เป็นเวลากว่า 20 ปี พบว่า สมองของลิงที่ลดแคลอรีมีการสื่อสารของเซลล์ประสาทที่ดีขึ้น และมีการปกป้องโครงสร้างสมองจากการเสื่อมตามวัย 🧩 บทบาทของ Myelin งานวิจัยเน้นไปที่ myelin ซึ่งเป็นปลอกไขมันหุ้มเส้นใยประสาท ทำหน้าที่เร่งการส่งสัญญาณในสมอง เมื่ออายุมากขึ้น myelin มักเสื่อมสภาพและก่อให้เกิดการอักเสบ แต่ในลิงที่ลดแคลอรี ยีนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างและซ่อมแซม myelin ทำงานได้ดีกว่า ทำให้สมองยังคงมีประสิทธิภาพสูง 🌍 ความหมายต่อมนุษย์ แม้การทดลองนี้ทำในลิง แต่สมองของลิง rhesus มีความใกล้เคียงกับมนุษย์มาก ผลลัพธ์จึงบ่งชี้ว่า การลดแคลอรีในระยะยาวอาจช่วยชะลอความเสื่อมของสมองในคนได้ และอาจมีผลต่อการลดความเสี่ยงโรคสมองเสื่อม เช่น Alzheimer’s และ Parkinson’s ⚖️ ข้อควรระวัง นักวิจัยย้ำว่าแม้การลดแคลอรีมีประโยชน์ แต่ยังมีปัจจัยอื่นที่ส่งผลต่อสุขภาพสมอง เช่น คุณภาพการนอน และการเรียนรู้ภาษาใหม่ ๆ ดังนั้นการดูแลสมองควรเป็นการผสมผสานหลายวิธี ไม่ใช่พึ่งพาการลดอาหารเพียงอย่างเดียว 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การลดแคลอรีลง 30% ช่วยชะลอการเสื่อมของสมองในลิง rhesus ➡️ พบการสื่อสารของเซลล์ประสาทที่ดีขึ้นและโครงสร้างสมองแข็งแรงกว่า ✅ Myelin ได้รับการปกป้องมากขึ้นในกลุ่มที่ลดแคลอรี ➡️ ยีนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างและซ่อมแซม myelin ทำงานมีประสิทธิภาพ ✅ ผลลัพธ์อาจมีความหมายต่อมนุษย์ ➡️ อาจช่วยลดความเสี่ยงโรคสมองเสื่อม เช่น Alzheimer’s และ Parkinson’s ‼️ การลดแคลอรีไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ดูแลสมองได้ ⛔ ยังต้องพิจารณาปัจจัยอื่น เช่น การนอนหลับและการเรียนรู้ https://www.sciencealert.com/cutting-calories-by-30-may-be-enough-to-shield-brain-against-aging
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Cutting Calories by 30% May Be Enough to Shield Brain Against Aging
    A calorie-restricted diet could slow down the aging that naturally happens in the brain as we get older, according to a new study of rhesus monkeys, and the findings could also be relevant to brain diseases such as Alzheimer's.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
  • การถอนบทความวิจัยที่เคยยืนยันว่า "สารกำจัดวัชพืช Roundup ปลอดภัย"

    บทความวิจัยที่เคยถูกอ้างอิงอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับความปลอดภัยของสารกำจัดวัชพืช Glyphosate (ชื่อทางการค้า Roundup) ถูกถอนออกจากวารสารวิชาการ หลังจากถูกเปิดโปงว่ามีการเขียนโดยพนักงานของบริษัท Monsanto ซึ่งเป็นผู้ผลิตสารดังกล่าวเอง การถอนนี้เกิดขึ้นกว่า 25 ปีหลังการตีพิมพ์ และสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อวงการวิทยาศาสตร์ เนื่องจากบทความนี้เคยถูกใช้เป็นหลักฐานสนับสนุนในงานวิจัย รัฐบาล และแม้แต่ในฐานข้อมูลออนไลน์ที่หลายระบบ AI ใช้อ้างอิง

    ความจริงที่ถูกเปิดเผย
    การตรวจสอบพบว่าบทความดังกล่าวอ้างอิงข้อมูลจากงานวิจัยที่ไม่ได้เผยแพร่ของ Monsanto และละเลยงานวิจัยระยะยาวที่มีอยู่แล้วในช่วงเวลานั้น ทำให้เกิดข้อกังขาในความเป็นอิสระและความโปร่งใสของผู้เขียน นอกจากนี้ยังมีข้อสงสัยว่าผู้เขียนอาจได้รับค่าตอบแทนจากบริษัทโดยไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ

    ผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
    Glyphosate เป็นหนึ่งในสารกำจัดวัชพืชที่ใช้กันมากที่สุดทั่วโลก โดยเฉพาะในพืชดัดแปลงพันธุกรรมที่ทนต่อสารนี้ เช่น ข้าวโพด ถั่วเหลือง และฝ้าย การใช้สารอย่างแพร่หลายทำให้เกิดข้อกังวลต่อสุขภาพมนุษย์และผลกระทบต่อระบบนิเวศ เช่น การลดความหลากหลายทางชีวภาพ และการปนเปื้อนในดินและน้ำ

    มุมมองจากงานวิจัยใหม่
    องค์การอนามัยโลก (WHO) เคยจัดให้ Glyphosate เป็นสารที่ “อาจก่อมะเร็ง” โดยอ้างอิงจากการทดลองในสัตว์ แม้หน่วยงานอื่น ๆ จะยังมีความเห็นต่าง แต่การฟ้องร้องและคดีความที่ Bayer (ผู้ซื้อกิจการ Monsanto) ต้องจ่ายไปแล้วกว่า 10 พันล้านดอลลาร์ แสดงให้เห็นว่าประเด็นนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงและต้องการงานวิจัยอิสระเพิ่มเติมเพื่อหาคำตอบที่ชัดเจน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    บทความวิจัยถูกถอนออกหลัง 25 ปี
    พบว่ามีการเขียนโดยพนักงาน Monsanto และใช้ข้อมูลที่ไม่เปิดเผย

    Glyphosate เป็นสารกำจัดวัชพืชที่ใช้แพร่หลายทั่วโลก
    ใช้คู่กับพืช GMO เช่น ถั่วเหลือง ข้าวโพด และฝ้าย

    WHO เคยจัดให้ Glyphosate เป็นสารที่อาจก่อมะเร็ง
    แม้ยังมีความเห็นต่างจากหน่วยงานอื่น แต่คดีความจำนวนมากสะท้อนถึงความเสี่ยง

    ความโปร่งใสทางวิทยาศาสตร์ถูกตั้งคำถาม
    การอ้างอิงบทความที่มีการแทรกแซงจากบริษัทอาจทำให้ข้อมูลผิดเพี้ยน

    ผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมยังไม่ชัดเจน
    ต้องการงานวิจัยอิสระเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความปลอดภัยของ Glyphosate

    https://www.sciencealert.com/retracted-the-monsanto-backed-paper-that-told-us-roundup-was-safe
    🧪 การถอนบทความวิจัยที่เคยยืนยันว่า "สารกำจัดวัชพืช Roundup ปลอดภัย" บทความวิจัยที่เคยถูกอ้างอิงอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับความปลอดภัยของสารกำจัดวัชพืช Glyphosate (ชื่อทางการค้า Roundup) ถูกถอนออกจากวารสารวิชาการ หลังจากถูกเปิดโปงว่ามีการเขียนโดยพนักงานของบริษัท Monsanto ซึ่งเป็นผู้ผลิตสารดังกล่าวเอง การถอนนี้เกิดขึ้นกว่า 25 ปีหลังการตีพิมพ์ และสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อวงการวิทยาศาสตร์ เนื่องจากบทความนี้เคยถูกใช้เป็นหลักฐานสนับสนุนในงานวิจัย รัฐบาล และแม้แต่ในฐานข้อมูลออนไลน์ที่หลายระบบ AI ใช้อ้างอิง ⚖️ ความจริงที่ถูกเปิดเผย การตรวจสอบพบว่าบทความดังกล่าวอ้างอิงข้อมูลจากงานวิจัยที่ไม่ได้เผยแพร่ของ Monsanto และละเลยงานวิจัยระยะยาวที่มีอยู่แล้วในช่วงเวลานั้น ทำให้เกิดข้อกังขาในความเป็นอิสระและความโปร่งใสของผู้เขียน นอกจากนี้ยังมีข้อสงสัยว่าผู้เขียนอาจได้รับค่าตอบแทนจากบริษัทโดยไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ 🌍 ผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม Glyphosate เป็นหนึ่งในสารกำจัดวัชพืชที่ใช้กันมากที่สุดทั่วโลก โดยเฉพาะในพืชดัดแปลงพันธุกรรมที่ทนต่อสารนี้ เช่น ข้าวโพด ถั่วเหลือง และฝ้าย การใช้สารอย่างแพร่หลายทำให้เกิดข้อกังวลต่อสุขภาพมนุษย์และผลกระทบต่อระบบนิเวศ เช่น การลดความหลากหลายทางชีวภาพ และการปนเปื้อนในดินและน้ำ 🔬 มุมมองจากงานวิจัยใหม่ องค์การอนามัยโลก (WHO) เคยจัดให้ Glyphosate เป็นสารที่ “อาจก่อมะเร็ง” โดยอ้างอิงจากการทดลองในสัตว์ แม้หน่วยงานอื่น ๆ จะยังมีความเห็นต่าง แต่การฟ้องร้องและคดีความที่ Bayer (ผู้ซื้อกิจการ Monsanto) ต้องจ่ายไปแล้วกว่า 10 พันล้านดอลลาร์ แสดงให้เห็นว่าประเด็นนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงและต้องการงานวิจัยอิสระเพิ่มเติมเพื่อหาคำตอบที่ชัดเจน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ บทความวิจัยถูกถอนออกหลัง 25 ปี ➡️ พบว่ามีการเขียนโดยพนักงาน Monsanto และใช้ข้อมูลที่ไม่เปิดเผย ✅ Glyphosate เป็นสารกำจัดวัชพืชที่ใช้แพร่หลายทั่วโลก ➡️ ใช้คู่กับพืช GMO เช่น ถั่วเหลือง ข้าวโพด และฝ้าย ✅ WHO เคยจัดให้ Glyphosate เป็นสารที่อาจก่อมะเร็ง ➡️ แม้ยังมีความเห็นต่างจากหน่วยงานอื่น แต่คดีความจำนวนมากสะท้อนถึงความเสี่ยง ‼️ ความโปร่งใสทางวิทยาศาสตร์ถูกตั้งคำถาม ⛔ การอ้างอิงบทความที่มีการแทรกแซงจากบริษัทอาจทำให้ข้อมูลผิดเพี้ยน ‼️ ผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมยังไม่ชัดเจน ⛔ ต้องการงานวิจัยอิสระเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความปลอดภัยของ Glyphosate https://www.sciencealert.com/retracted-the-monsanto-backed-paper-that-told-us-roundup-was-safe
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Retracted: The Monsanto-Backed Paper That Told Us Roundup Was Safe
    A controversial scientific paper that claimed the weed killer glyphosate (brand name Roundup) "does not pose a health risk to humans" has been formally retracted 25 years after publication due to serious ethical concerns around industry manipulation.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷

    #รวมข่าวIT #20251209 #TechRadar

    Android XR: จุดเปลี่ยนของสมาร์ทแว่น
    เรื่องราวเริ่มจากประสบการณ์ของ Juston Payne ผู้บริหาร Google ที่ได้ลองใช้สมาร์ทแว่น Android XR กับลูกชายวัย 10 ขวบในกรุงโรม พอเด็กถามแว่นว่าอยากไปกินเจลาโต้ที่ไหน แว่นก็แสดงแผนที่และนำทางตรงหน้า ทำให้ทั้งครอบครัวเดินตามไปถึงร้านเหมือนเป็นคนท้องถิ่น นี่คือ “aha moment” ที่ทำให้ Payne เชื่อว่านี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเทคโนโลยี wearable แว่นตาเหล่านี้จะไม่ใช่เพียง gadget แต่จะกลายเป็นแพลตฟอร์มคอมพิวติ้งใหม่ที่ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงได้ในอนาคต แม้ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ Google และพันธมิตรอย่าง Samsung, Warby Parker กำลังปูทางให้สมาร์ทแว่นกลายเป็นสิ่งที่หาซื้อได้ทั่วไปในร้านแว่นตา
    https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/android-xr-head-on-the-ecosystem-we-think-that-this-is-actually-a-very-early-space-and-the-history-is-not-yet-written-for-it

    WordPress RCE Flaw: ช่องโหว่ที่เปิดทางให้แฮกเกอร์
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในปลั๊กอิน Sneeit Framework ของ WordPress ที่ทำให้แฮกเกอร์สามารถสร้างบัญชีแอดมินเองได้ทันที และเข้าควบคุมเว็บไซต์เต็มรูปแบบ ช่องโหว่นี้ถูกจัดระดับความรุนแรงสูงสุด 9.8/10 และมีการโจมตีจริงเกิดขึ้นทันทีหลังการเปิดเผย โดยวันแรกมีการบล็อกกว่า 131,000 ครั้ง วิธีป้องกันคืออัปเดตปลั๊กอินเป็นเวอร์ชัน 8.4 และตรวจสอบว่ามีบัญชีแอดมินแปลกปลอม หรือไฟล์ PHP ที่ไม่รู้จักอยู่ในระบบหรือไม่ เหตุการณ์นี้สะท้อนว่าการดูแลความปลอดภัยของเว็บไซต์ต้องทำอย่างต่อเนื่องและจริงจัง
    https://www.techradar.com/pro/security/sneeit-wordpress-rce-flaw-allows-hackers-to-add-themselves-as-admin-heres-how-to-stay-safe

    กฎหมายห้ามเด็กใช้โซเชียล: ออสเตรเลียจุดประกายทั่วโลก
    ออสเตรเลียกำลังจะบังคับใช้กฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดีย พร้อมบทลงโทษปรับสูงถึง 32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กฎหมายนี้ทำให้หลายประเทศจับตามองอย่างใกล้ชิด ทั้งสหราชอาณาจักร สหรัฐ และสหภาพยุโรปที่เริ่มพิจารณามาตรการคล้ายกัน แม้จะมีข้อถกเถียงเรื่องการละเมิดความเป็นส่วนตัวจากการตรวจสอบอายุ แต่หลายฝ่ายเห็นว่าจำเป็นเพื่อปกป้องเด็กจากเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม กฎหมายนี้อาจกลายเป็นต้นแบบที่แพร่ไปทั่วโลกในอนาคต
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/were-going-to-be-watching-really-closely-politicians-around-the-world-are-taking-inspiration-from-australias-social-media-ban

    Windows 11 กับปัญหา RAM: Discord ตัวการใหญ่
    ผู้ใช้ Windows 11 หลายคนพบว่าแอปพลิเคชันที่สร้างบน Electron framework อย่าง Discord กิน RAM มากผิดปกติ จากเดิมประมาณ 1GB พุ่งขึ้นไปถึง 4GB โดยเฉพาะเมื่อใช้งาน voice chat หรือสตรีมวิดีโอ ปัญหาคือแม้หยุดใช้งานแล้ว RAM ก็ไม่ลดลง ต้องรีสตาร์ทโปรแกรมใหม่ ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพการเล่นเกมและการทำงานอื่น ๆ ยิ่งในช่วงที่ราคาหน่วยความจำพุ่งสูงเพราะกระแส AI ทำให้ผู้ใช้ยิ่งรู้สึกเดือดร้อนมากขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/memory/some-windows-11-apps-have-a-massive-ram-problem-and-this-app-is-the-worst-offender

    NordVPN: ป้องกันฟิชชิ่งถึงกล่องอีเมล
    NordVPN เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน Threat Protection Pro ที่สามารถสแกนลิงก์ในอีเมลแบบเรียลไทม์ หากพบว่าเป็นลิงก์อันตราย เช่น ฟิชชิ่งหรือมัลแวร์ จะมีสัญลักษณ์เตือนและแบนเนอร์แจ้งทันที จุดเด่นคือทำงานโดยไม่ต้องเข้าถึงเนื้อหาอีเมลทั้งหมด จึงยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ฟีเจอร์นี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการคลิกลิงก์โดยไม่ตั้งใจ และเป็นอีกชั้นการป้องกันที่สำคัญในยุคที่อีเมลฟิชชิ่งถูกส่งออกมาหลายพันล้านฉบับต่อวัน
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/nordvpn-extends-phishing-and-malware-protection-to-your-inbox

    GPT‑5.2: การแข่งเดือดระหว่าง OpenAI และ Gemini
    OpenAI เปิดตัว GPT‑5.2 เพื่อเร่งแข่งกับ Gemini 3 ของ Google จุดเด่นคือความเร็วและความสามารถ reasoning ที่ดีขึ้น พร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้ลื่นไหลกว่าเดิม การอัปเดตนี้สะท้อนว่าการแข่งขันในตลาด AI กำลังร้อนแรง และแต่ละค่ายพยายามผลักดันเทคโนโลยีให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/openai-races-gemini-3-to-the-top-with-gpt-5-2-drop-this-week

    จีนกับข้อได้เปรียบด้าน AI: คำเตือนจาก CEO Nvidia
    Jensen Huang ซีอีโอ Nvidia เตือนว่าจีนมีข้อได้เปรียบมหาศาลในด้าน AI ทั้งด้านการก่อสร้างและพลังงาน โดยรายงานล่าสุดเผยว่าจีนมีสัดส่วนการใช้งาน AI ถึง 30% ของโลก ความสามารถในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานอย่างรวดเร็ว เช่น “สร้างโรงพยาบาลในสุดสัปดาห์เดียว” ทำให้จีนถูกมองว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากังวลในสนาม AI ระดับโลก
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/they-can-build-a-hospital-in-a-weekend-nvidia-ceo-warns-about-chinas-big-ai-advantages-as-report-reveals-it-now-has-30-percent-of-global-ai-usage

    Subaru กับโฆษณา Pop‑up ในรถ
    Subaru เข้าร่วมกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ที่ทดลองใส่โฆษณา pop‑up ในระบบ infotainment ของรถยนต์ ซึ่งสร้างเสียงวิจารณ์อย่างมาก หลายคนกังวลว่าโฆษณาจะรบกวนสมาธิในการขับขี่ และอาจเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยบนท้องถนน แม้ผู้ผลิตจะมองว่าเป็นช่องทางสร้างรายได้ใหม่ แต่ผู้ใช้จำนวนมากไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/subaru-joins-controversial-list-of-carmakers-experimenting-with-infotainment-system-pop-up-ads

    Android XR Prototype: สมาร์ทแว่นรุ่นใหม่ที่พร้อมโชว์
    นักข่าวได้ลองใช้สมาร์ทแว่น Android XR รุ่นต้นแบบ พบว่ามีดีไซน์บางเบาและเลนส์โปร่งใสที่สามารถแสดงข้อมูลตรงหน้าได้ทันที ทั้งการนำทางและการใช้งานร่วมกับ AI Gemini จุดเด่นคือการออกแบบที่ไม่ทำให้ผู้ใช้ดูแปลกตา และสวมใส่สบาย ทำให้สมาร์ทแว่นรุ่นนี้ถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญของ wearable ที่จะเข้าสู่ตลาดในอนาคต
    https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/i-tried-the-next-gen-android-xr-prototype-smart-glasses-and-these-frames-are-ready-for-your-close-up

    Samsung Galaxy XR: ยกระดับประสบการณ์ Spatial
    Samsung เปิดตัว Galaxy XR ที่ผสมผสานเทคโนโลยี mixed reality และ AI Gemini เข้าด้วยกัน จุดขายคือคุณภาพการแสดงผลที่คมชัดและฟีเจอร์ที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกเหมือนก้าวเข้าสู่โลกเสมือนจริงในราคาที่จับต้องได้ ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานของอุปกรณ์ XR และสร้างแรงกดดันให้คู่แข่งต้องเร่งพัฒนาเทคโนโลยีตามให้ทัน
    https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/samsung-galaxy-xr-raises-the-bar-while-lowering-the-price-for-premium-spatial-experiences

    รัฐบาลสหรัฐฯ กดดัน Google และ Apple ให้ลบแอปติดตามเจ้าหน้าที่ ICE
    เรื่องนี้กำลังเป็นประเด็นร้อนในสหรัฐฯ เมื่อคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสภาผู้แทนราษฎรออกแรงกดดันให้ Google และ Apple ลบแอปที่สามารถติดตามเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ICE) ได้ โดยเฉพาะแอปชื่อ ICEBlock ที่เคยมีผู้ใช้มากกว่าล้านคน แม้ตอนนี้จะไม่สามารถดาวน์โหลดใหม่ได้ แต่ยังคงใช้งานได้ในเครื่องที่ติดตั้งไว้แล้ว ปัญหาคือแอปนี้ถูกใช้โดยมือปืนในการก่อเหตุยิงที่ศูนย์ ICE ในเมืองดัลลัส ทำให้เกิดข้อถกเถียงระหว่างความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่กับสิทธิในการรับรู้ข้อมูลของประชาชน นักพัฒนาแอปเองก็ยืนยันว่า แอปนี้ไม่ต่างจากการแชร์ตำแหน่งด่านตรวจความเร็วในแผนที่ ซึ่งถือเป็นเสรีภาพในการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญ
    https://www.techradar.com/pro/us-gov-wants-google-and-apple-to-take-down-websites-tracking-ice-and-friends

    Pebble โผล่กลับมาอีกครั้งกับสมาร์ทวอชลึกลับ
    Pebble ที่เคยเป็นแบรนด์สมาร์ทวอชสุดฮิตในยุคแรกๆ กำลังสร้างความตื่นเต้นอีกครั้ง หลังจากปล่อยทีเซอร์สมาร์ทวอชใหม่ที่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดมากนัก หลายคนคาดว่ามันอาจจะเป็นการกลับมาของแบรนด์ในรูปแบบที่ทันสมัยขึ้น หรืออาจจะเป็นการรีแบรนด์เพื่อเจาะตลาดสุขภาพและฟิตเนสที่กำลังมาแรง ความลึกลับนี้ทำให้แฟนๆ ที่เคยรัก Pebble ต่างตั้งตารอว่าจะมีอะไรใหม่ที่แตกต่างจากสมาร์ทวอชในตลาดตอนนี้
    https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/pebble-just-teased-a-mysterious-new-smartwatch-and-were-excited-to-see-what-it-is

    Magnetar เปิดตัวเครื่องเล่น Blu-ray 4K รุ่นใหม่
    สำหรับคนที่ยังรักการดูหนังผ่านแผ่น Blu-ray Magnetar ได้เปิดตัวเครื่องเล่นรุ่นใหม่ที่ถูกยกให้เป็น “เครื่องเล่นแผ่นสุดท้ายที่คุณต้องมี” เพราะรองรับการเล่นแผ่น 4K ได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมคุณภาพเสียงและภาพที่เหนือกว่า เหมาะกับนักสะสมและคนที่จริงจังกับการดูหนังในบ้าน แม้ยุคสตรีมมิ่งจะครองตลาด แต่เครื่องเล่นนี้ก็ยังตอบโจทย์คนที่ต้องการประสบการณ์ภาพและเสียงระดับสูงสุด
    https://www.techradar.com/televisions/blu-ray/magnetars-new-4k-blu-ray-players-are-the-last-disc-spinners-youll-ever-need-and-theyre-now-available-to-buy

    ข้อมูลคนไข้และเจ้าหน้าที่ NHS ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ Cl0p
    ระบบสุขภาพในอังกฤษเจอปัญหาใหญ่เมื่อ Barts Health NHS Trust ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ Cl0p ทำให้ข้อมูลทั้งคนไข้และเจ้าหน้าที่รั่วไหลออกไป เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลอย่างมากต่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล และยังสะท้อนให้เห็นว่าระบบสาธารณสุขที่มีข้อมูลจำนวนมหาศาลเป็นเป้าหมายหลักของอาชญากรไซเบอร์ การโจมตีครั้งนี้ยังเป็นสัญญาณเตือนว่าหน่วยงานด้านสุขภาพต้องลงทุนมากขึ้นในระบบป้องกันภัยไซเบอร์
    https://www.techradar.com/pro/security/patient-and-staff-data-impacted-by-cl0p-ransomware-attack-on-barts-health-nhs

    รีวิว Bissell PowerClean FurFinder เครื่องดูดฝุ่นไร้สายราคาประหยัด
    ใครที่เลี้ยงสัตว์น่าจะสนใจเครื่องดูดฝุ่นรุ่นนี้ เพราะ Bissell PowerClean FurFinder ถูกออกแบบมาเพื่อจัดการขนสัตว์โดยเฉพาะ แม้จะเป็นรุ่นราคาประหยัด แต่รีวิวบอกว่ามันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้งานง่าย น้ำหนักเบา และเหมาะกับการทำความสะอาดบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง จุดเด่นคือความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน แต่ก็ยังตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี
    https://www.techradar.com/home/vacuums/bissell-powerclean-furfinder-cordless-vacuum-review

    Samsung เปิดตัว One UI 8.5 Beta พร้อม 6 ฟีเจอร์ใหม่
    Samsung ปล่อยเวอร์ชันเบต้าของ One UI 8.5 ให้ผู้ใช้ได้ลองก่อนใคร โดยมีการอัปเกรดถึง 6 จุดสำคัญ เช่น การปรับปรุงการทำงานแบบหลายหน้าต่างให้ลื่นไหลขึ้น, ฟีเจอร์ใหม่ด้านความเป็นส่วนตัว, การปรับแต่งหน้าจอหลักที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม และการปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวม จุดเด่นคือการทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมเครื่องได้สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น ถือเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในอนาคต
    https://www.techradar.com/phones/samsung-just-launched-the-one-ui-8-5-beta-with-6-big-upgrades-heres-how-to-try-it

    ผู้บริหาร UI ของ Apple ถูก Meta ดึงตัว พร้อมการอพยพครั้งใหญ่ในทีม AI
    Apple กำลังเผชิญกับการสูญเสียบุคลากรสำคัญในทีม AI และ UI เมื่อผู้บริหารระดับสูงถูก Meta ดึงตัวไป และอีกสามคนลาออกตามมา เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงการแข่งขันที่ดุเดือดในวงการเทคโนโลยี โดยเฉพาะด้าน AI ที่กำลังเป็นหัวใจหลักของการพัฒนาอุปกรณ์และบริการใหม่ๆ การสูญเสียบุคลากรจำนวนมากในเวลาเดียวกันอาจส่งผลต่อทิศทางการพัฒนาของ Apple ในอนาคต
    https://www.techradar.com/pro/apples-ui-executive-poached-by-meta-and-three-other-executives-leave-in-apple-ai-exodus

    เครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ในอินโดนีเซียถูกสลายหลังดำเนินงานมา 14 ปี
    อินโดนีเซียสามารถสลายเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ที่ดำเนินงานมายาวนานถึง 14 ปี ซึ่งมีการโจมตีและหลอกลวงผู้คนจำนวนมากทั่วโลก การปฏิบัติการครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย และเป็นสัญญาณว่าประเทศกำลังจริงจังกับการจัดการภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจและความมั่นคง
    https://www.techradar.com/pro/security/national-cybercrime-network-operating-for-14-years-dismantled-in-indonesia

    รีวิวแผ่น Blu-ray 4K ที่ดีจนถูกนำมาใช้ทดสอบทีวี
    นักรีวิวที่ทำงานกับทีวีมืออาชีพเผยว่าเจอแผ่น Blu-ray 4K ใหม่ 5 เรื่องที่คุณภาพดีมากจนถูกนำมาใช้เป็นสื่อทดสอบทีวีในห้องแล็บ ความละเอียดและคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมทำให้แผ่นเหล่านี้ไม่ใช่แค่เพื่อความบันเทิง แต่ยังเป็นมาตรฐานในการวัดประสิทธิภาพของทีวีรุ่นใหม่ๆ สำหรับคนที่รักการดูหนังแบบเต็มประสบการณ์ นี่คือแผ่นที่ควรมีไว้สะสม
    https://www.techradar.com/televisions/blu-ray/i-review-4k-blu-rays-for-a-living-these-5-new-discs-are-so-good-theyve-entered-my-tv-testing-rotation

    อุปกรณ์ถ่ายทำ TikTok ที่ครบในกระเป๋าใบเล็ก
    นักสร้างคอนเทนต์ TikTok แชร์ว่าเขามีกล้องและอุปกรณ์เสริม 9 ชิ้นที่สามารถใส่รวมกันในกระเป๋าสะพายใบเล็กได้ทั้งหมด ตั้งแต่กล้องคุณภาพสูง ขาตั้ง ไปจนถึงอุปกรณ์เสียง จุดเด่นคือความคล่องตัวและความสามารถในการสร้างคอนเทนต์คุณภาพสูงได้ทุกที่ทุกเวลา เหมาะสำหรับคนที่อยากทำคอนเทนต์แบบมืออาชีพโดยไม่ต้องแบกอุปกรณ์ใหญ่ๆ
    https://www.techradar.com/cameras/i-swear-by-these-9-cameras-and-accessories-for-shooting-tiktok-content-and-they-all-fit-in-one-small-sling-bag

    FBI เตือนภัย Deepfake ใช้หลอกเรียกค่าไถ่
    เรื่องราวนี้เล่าถึงการที่อาชญากรเริ่มใช้ Generative AI สร้างวิดีโอปลอมเป็น “หลักฐานการมีชีวิต” ของเหยื่อที่ถูกอ้างว่าถูกลักพาตัว พวกเขาจะนำภาพและวิดีโอจากโซเชียลมีเดียไปสร้างเป็นคลิปที่ดูสมจริง แล้วส่งไปหาญาติหรือคนใกล้ชิดเพื่อเรียกค่าไถ่ทันที FBI ออกประกาศเตือนว่าภาพเหล่านี้มักมีจุดผิดพลาด เช่น รอยสักหายไปหรือสัดส่วนร่างกายไม่ถูกต้อง แต่ผู้ร้ายจะใช้วิธีส่งแบบข้อความหมดเวลาเพื่อไม่ให้เหยื่อมีเวลาตรวจสอบ ทางออกคือควรระวังการโพสต์ข้อมูลส่วนตัว ตั้งรหัสลับในครอบครัว และพยายามติดต่อคนที่ถูกอ้างว่าถูกจับก่อนจะโอนเงิน
    https://www.techradar.com/pro/security/fbi-warns-of-kidnapping-scams-as-hackers-turn-to-ai-to-provide-proof-of-life

    Honor Magic 8 Lite: มือถือแบตอึดราคาประหยัด
    รีวิวนี้บอกว่า Honor Magic 8 Lite เป็นสมาร์ทโฟนที่เด่นเรื่องแบตเตอรี่ ใช้งานได้ยาวนานเกินคาด แม้จะเป็นรุ่นราคาประหยัด ดีไซน์ดูทันสมัย หน้าจอใหญ่พอเหมาะ และประสิทธิภาพถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป กล้องอาจไม่ได้โดดเด่นเท่ารุ่นเรือธง แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา เหมาะสำหรับคนที่มองหามือถือใช้งานได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องชาร์จบ่อย
    https://www.techradar.com/phones/honor-phones/honor-magic-8-lite-review

    FBI มองหาดรอนที่ “กันเจาะสัญญาณ” ได้
    อีกข่าวหนึ่งเล่าถึงความพยายามของ FBI ที่กำลังค้นหาดรอนซึ่งไม่สามารถถูกโจมตีด้วยการรบกวนสัญญาณได้ วิธีที่ใช้ไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่ แต่เป็นการหันกลับไปใช้เทคนิคแบบเก่าเพื่อป้องกันการแฮ็กหรือการควบคุมจากระยะไกล จุดประสงค์คือทำให้ดรอนยังคงทำงานได้แม้มีการพยายามโจมตีทางไซเบอร์ ถือเป็นการผสมผสานระหว่างความทันสมัยกับวิธีดั้งเดิมเพื่อความปลอดภัย
    https://www.techradar.com/cameras/drones/the-fbi-is-hunting-for-unjammable-drones-and-these-flying-cameras-use-one-very-old-school-trick-to-stop-remote-attacks

    ปี 2026 “Sustainability” กลายเป็น Stack ใหม่
    บทความนี้เล่าว่าในปี 2026 แนวคิดด้านความยั่งยืนจะไม่ใช่แค่เรื่องเสริม แต่จะถูกมองว่าเป็น “stack” ใหม่ของธุรกิจ เทียบได้กับการมีเทคโนโลยีหรือโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น องค์กรต่าง ๆ จะต้องผสมผสานการใช้พลังงานสะอาด การจัดการทรัพยากร และการออกแบบระบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์หลัก ไม่ใช่แค่ CSR แต่เป็นแกนกลางของการดำเนินงาน
    https://www.techradar.com/pro/in-2026-sustainability-is-the-new-stack

    Gartner เตือน “AI Browsers” อาจเป็นภัยต่อธุรกิจ
    รายงานจาก Gartner ชี้ว่าเบราว์เซอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ไม่ได้เป็นเพื่อนที่ดีเสมอไป เพราะอาจสร้างความเสี่ยงต่อข้อมูลและความปลอดภัยขององค์กร แม้จะช่วยให้การทำงานสะดวกขึ้น แต่ก็มีช่องโหว่ที่อาจถูกโจมตีหรือทำให้ข้อมูลรั่วไหลได้ Gartner แนะนำให้ธุรกิจระมัดระวังและไม่ควรพึ่งพา AI browsers โดยไม่ตรวจสอบมาตรการป้องกัน
    https://www.techradar.com/pro/security/gartner-advisory-states-ai-browsers-are-not-your-friend-and-are-putting-your-business-at-risk

    IT ที่ “รักษาตัวเอง” ไม่ใช่วิทยาศาสตร์อีกต่อไป
    บทความนี้เล่าว่าแนวคิด Self-healing IT หรือระบบที่สามารถตรวจจับและแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง กำลังกลายเป็นจริงและช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้เดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง ระบบเหล่านี้สามารถวิเคราะห์ความผิดพลาด คาดการณ์ปัญหา และดำเนินการแก้ไขโดยอัตโนมัติ ทำให้ลดเวลาหยุดชะงักและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นและพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ
    https://www.techradar.com/pro/self-healing-it-is-no-longer-science-fiction-its-driving-businesses-forward

    ChatGPT Wrapped: สรุปปีแห่งการใช้ AI
    ผู้ใช้ ChatGPT กำลังสร้าง “Spotify Wrapped” เวอร์ชันของตัวเอง เพื่อย้อนดูว่าตลอดปีที่ผ่านมาได้ใช้ AI ทำอะไรบ้าง เช่น คำถามที่ถามบ่อยที่สุด หรือหัวข้อที่พูดถึงมากที่สุด วิธีทำก็ไม่ซับซ้อน เพียงดึงข้อมูลการใช้งานแล้วจัดเรียงเป็นรูปแบบที่แชร์ได้บนโซเชียล ถือเป็นการเล่นสนุกที่สะท้อนว่า AI กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้ว
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpt-users-are-making-a-spotify-wrapped-for-their-year-in-ai-heres-how-to-do-it

    ศูนย์ข้อมูล AI ทำให้การสร้างบ้านชะลอตัว
    รายงานนี้ชี้ว่าความต้องการศูนย์ข้อมูลเพื่อรองรับ AI กำลังเพิ่มสูงจนโครงสร้างพื้นฐานไม่สามารถตามทัน ส่งผลให้การพัฒนาโครงการบ้านเรือนถูกชะลอ เพราะทรัพยากรด้านพลังงานและพื้นที่ถูกใช้ไปกับการสร้างศูนย์ข้อมูลแทน ปัญหานี้สะท้อนว่าการเติบโตของ AI ไม่ได้กระทบแค่ธุรกิจเทคโนโลยี แต่ยังส่งผลต่อเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตของผู้คนโดยตรง
    https://www.techradar.com/pro/data-centers-are-throttling-home-building-as-infrastructure-struggles-to-keep-up-with-ai-demands

    OpenAI ถอยแผน “แนะนำแอปคล้ายโฆษณา”
    OpenAI เคยทดลองใส่ฟีเจอร์แนะนำแอปใน ChatGPT ที่ดูเหมือนโฆษณา แต่หลังจากได้รับเสียงวิจารณ์ว่าทำให้ผู้ใช้รู้สึกไม่สบายใจ จึงออกมาประกาศว่าจะปรับปรุงและให้ผู้ใช้ควบคุมได้มากขึ้น การถอยครั้งนี้สะท้อนว่าบริษัทต้องหาสมดุลระหว่างการสร้างรายได้และการรักษาประสบการณ์ที่ดีของผู้ใช้
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/openai-walks-back-ad-like-app-suggestions-in-chatgpt-saying-it-fell-short-and-will-improve-controls

    React2Shell RCE Flaw ถูกแฮ็กเกอร์จีนโจมตีหลังประกาศไม่กี่ชั่วโมง
    เรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่ในวงการไซเบอร์ เพราะมีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน React Server Components ที่ถูกตั้งชื่อว่า React2Shell โดยมีรหัส CVE-2025-55182 และถูกจัดระดับความรุนแรงเต็ม 10/10 ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบได้ก่อนการยืนยันตัวตน ซึ่งเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการเปิดเผย ก็มีรายงานว่าแฮ็กเกอร์ที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลจีนเริ่มใช้ช่องโหว่นี้โจมตีจริงแล้ว เป้าหมายคือองค์กรในหลายภาคส่วนทั่วโลก ตั้งแต่การเงิน โลจิสติกส์ ไปจนถึงมหาวิทยาลัยและรัฐบาล จุดประสงค์หลักคือการสอดแนมและสร้างการเข้าถึงถาวร นักวิจัยเตือนให้รีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันที่ปลอดภัยทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี
    https://www.techradar.com/pro/security/react2shell-rce-flaw-exploited-by-chinese-hackers-hours-after-disclosure

    SwitchBot เปิดตัวโคมไฟที่ละลายเทียนได้
    SwitchBot สร้างไอเดียใหม่ที่ผสมผสานความเป็นสมาร์ทโฮมเข้ากับความอบอุ่นแบบ hygge โดยออกผลิตภัณฑ์ที่เป็นทั้งโคมไฟอัจฉริยะและเครื่องละลายเทียนในตัว เหมาะสำหรับคนที่อยากได้บรรยากาศผ่อนคลายและโรแมนติกในบ้าน สามารถควบคุมผ่านแอปได้เหมือนอุปกรณ์สมาร์ทอื่น ๆ และยังช่วยให้การใช้เทียนปลอดภัยขึ้นเพราะไม่ต้องใช้ไฟจริง ผลิตภัณฑ์นี้ถูกมองว่าเป็นของขวัญที่ลงตัวสำหรับสาย gadget ที่ชอบความ cozy
    https://www.techradar.com/home/small-appliances/switchbot-crossed-a-smart-lamp-with-a-candle-melter-and-its-the-ultimate-hygge-gift-for-gadget-fans-who-just-want-to-get-cozy

    Katsuhiro Harada ประกาศลาออกจาก Bandai Namco
    แฟนเกม Tekken ต้องสะเทือนใจเมื่อ Katsuhiro Harada ผู้เป็นหัวเรือใหญ่ของซีรีส์นี้ ประกาศว่าจะก้าวลงจากตำแหน่งใน Bandai Namco เขาอธิบายว่าถึงเวลาที่เหมาะสมในการปิดฉากหนึ่งบทของชีวิตการทำงาน หลังจากอยู่กับบริษัทมานานและสร้างชื่อเสียงให้ Tekken กลายเป็นหนึ่งในเกมต่อสู้ที่โด่งดังที่สุดในโลก การจากไปครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการเกม และแฟน ๆ ต่างจับตามองว่าอนาคตของ Tekken จะเดินไปในทิศทางใด
    https://www.techradar.com/gaming/tekken-lead-katsuhiro-harada-to-leave-bandai-namco-i-felt-this-was-the-most-fitting-moment-to-bring-one-chapter-to-a-close

    X ถูกปรับ 140 ล้านดอลลาร์ในยุโรป
    แพลตฟอร์ม X (เดิม Twitter) ถูกสหภาพยุโรปปรับเงินมหาศาลถึง 140 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากละเมิดกฎระเบียบด้านดิจิทัลและความโปร่งใส ข่าวนี้ยิ่งร้อนแรงขึ้นเมื่อ Elon Musk ออกมาเรียกร้องให้ยกเลิก EU ทั้งหมด โดยมองว่ากฎเกณฑ์เหล่านี้เป็นการกีดกันนวัตกรรมและเสรีภาพทางออนไลน์ เรื่องนี้สะท้อนถึงความตึงเครียดระหว่างบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีกับหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรป ซึ่งอาจส่งผลต่ออนาคตของการควบคุมแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั่วโลก
    https://www.techradar.com/pro/x-fined-usd140-million-for-breaching-eu-rules-elon-calls-for-bloc-abolition

    Windows 11 25H2 เปิดให้ทุกเครื่องอัปเดตแล้ว
    Microsoft ปล่อยอัปเดตใหญ่ Windows 11 25H2 ให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถติดตั้งได้แล้ว การอัปเดตนี้มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ และการปรับปรุงประสิทธิภาพ รวมถึงการแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ผู้ใช้สามารถเข้าไปที่ Windows Update เพื่อดาวน์โหลดและติดตั้งได้ทันที ถือเป็นการอัปเดตที่สำคัญสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและองค์กร เพราะช่วยให้ระบบมีความเสถียรและปลอดภัยมากขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11-25h2-update-is-now-available-for-all-pcs-heres-how-to-get-it

    มือถือ Linux เน้นความเป็นส่วนตัว แต่ยังรันแอป Android ได้
    มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Linux โดยเน้นความเป็นส่วนตัวเป็นหลัก ถูกมองว่าเป็นอีกทางเลือกแทน Android และ iOS จุดเด่นคือแม้จะใช้ Linux แต่ยังสามารถรันแอป Android ได้ ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเรื่องการขาดแอปยอดนิยม แนวคิดนี้ตอบโจทย์ผู้ที่อยากได้ความปลอดภัยและการควบคุมข้อมูลส่วนตัวมากขึ้น แต่ก็ยังคงความสะดวกสบายของแอปที่คุ้นเคย
    https://www.techradar.com/phones/forget-android-vs-ios-this-new-privacy-focused-linux-phone-promises-to-be-the-alternative-we-need-but-it-still-runs-android-apps

    AI จากสหราชอาณาจักรอ้างว่าเหนือกว่า ChatGPT
    มีสตาร์ทอัพในสหราชอาณาจักรเปิดตัว AI ใหม่ที่ประกาศว่ามีความสามารถเหนือกว่า ChatGPT ทีมงาน TechRadar ได้ลองใช้งานจริงและพบว่ามีจุดแข็งหลายด้าน เช่น ความเร็วในการตอบสนองและการจัดการข้อมูลที่ซับซ้อน แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางอย่างที่ต้องพัฒนาเพิ่มเติม การแข่งขันในตลาด AI กำลังร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และการมาของผู้เล่นใหม่รายนี้อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการ
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/a-new-uk-ai-says-it-can-beat-chatgpt-we-tried-it-and-heres-what-we-found

    Trump แสดงความกังวลต่อการควบรวม Netflix และ Warner Bros
    Donald Trump แสดงความคิดเห็นว่าการควบรวมกิจการครั้งใหญ่ระหว่าง Netflix และ Warner Bros อาจสร้างปัญหา โดยมองว่าอาจกระทบต่อการแข่งขันและความหลากหลายของตลาดสตรีมมิ่ง ความเห็นนี้สะท้อนถึงความกังวลว่าบริษัทขนาดใหญ่จะมีอำนาจมากเกินไป และอาจทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกน้อยลงในอนาคต
    https://www.techradar.com/streaming/netflix/trump-says-the-big-netflix-warner-bros-merger-could-be-a-problem-heres-why

    แบรนด์คู่แข่ง Anker เรียกคืน Power Bank หลังพบเสี่ยงไฟไหม้
    มีการเรียกคืน Power Bank รุ่นหนึ่งจากแบรนด์ที่เป็นคู่แข่งของ Anker เนื่องจากพบว่ามีความเสี่ยงเกิดไฟไหม้ ข่าวนี้ทำให้ผู้ใช้ที่ซื้อไปแล้วต้องตรวจสอบและหยุดใช้งานทันที พร้อมติดต่อเพื่อขอคืนหรือเปลี่ยนสินค้า เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความสำคัญของมาตรฐานความปลอดภัยในอุปกรณ์พกพา และเตือนให้ผู้บริโภคระมัดระวังในการเลือกซื้อแบตเตอรี่สำรอง
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/phones/this-popular-anker-rival-has-just-recalled-a-power-bank-due-to-a-fire-hazard-heres-what-to-do
    📌📡🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷📡📌 #รวมข่าวIT #20251209 #TechRadar 👓 Android XR: จุดเปลี่ยนของสมาร์ทแว่น เรื่องราวเริ่มจากประสบการณ์ของ Juston Payne ผู้บริหาร Google ที่ได้ลองใช้สมาร์ทแว่น Android XR กับลูกชายวัย 10 ขวบในกรุงโรม พอเด็กถามแว่นว่าอยากไปกินเจลาโต้ที่ไหน แว่นก็แสดงแผนที่และนำทางตรงหน้า ทำให้ทั้งครอบครัวเดินตามไปถึงร้านเหมือนเป็นคนท้องถิ่น นี่คือ “aha moment” ที่ทำให้ Payne เชื่อว่านี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเทคโนโลยี wearable แว่นตาเหล่านี้จะไม่ใช่เพียง gadget แต่จะกลายเป็นแพลตฟอร์มคอมพิวติ้งใหม่ที่ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงได้ในอนาคต แม้ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ Google และพันธมิตรอย่าง Samsung, Warby Parker กำลังปูทางให้สมาร์ทแว่นกลายเป็นสิ่งที่หาซื้อได้ทั่วไปในร้านแว่นตา 🔗 https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/android-xr-head-on-the-ecosystem-we-think-that-this-is-actually-a-very-early-space-and-the-history-is-not-yet-written-for-it 🛡️ WordPress RCE Flaw: ช่องโหว่ที่เปิดทางให้แฮกเกอร์ มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในปลั๊กอิน Sneeit Framework ของ WordPress ที่ทำให้แฮกเกอร์สามารถสร้างบัญชีแอดมินเองได้ทันที และเข้าควบคุมเว็บไซต์เต็มรูปแบบ ช่องโหว่นี้ถูกจัดระดับความรุนแรงสูงสุด 9.8/10 และมีการโจมตีจริงเกิดขึ้นทันทีหลังการเปิดเผย โดยวันแรกมีการบล็อกกว่า 131,000 ครั้ง วิธีป้องกันคืออัปเดตปลั๊กอินเป็นเวอร์ชัน 8.4 และตรวจสอบว่ามีบัญชีแอดมินแปลกปลอม หรือไฟล์ PHP ที่ไม่รู้จักอยู่ในระบบหรือไม่ เหตุการณ์นี้สะท้อนว่าการดูแลความปลอดภัยของเว็บไซต์ต้องทำอย่างต่อเนื่องและจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/sneeit-wordpress-rce-flaw-allows-hackers-to-add-themselves-as-admin-heres-how-to-stay-safe 🌍 กฎหมายห้ามเด็กใช้โซเชียล: ออสเตรเลียจุดประกายทั่วโลก ออสเตรเลียกำลังจะบังคับใช้กฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดีย พร้อมบทลงโทษปรับสูงถึง 32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กฎหมายนี้ทำให้หลายประเทศจับตามองอย่างใกล้ชิด ทั้งสหราชอาณาจักร สหรัฐ และสหภาพยุโรปที่เริ่มพิจารณามาตรการคล้ายกัน แม้จะมีข้อถกเถียงเรื่องการละเมิดความเป็นส่วนตัวจากการตรวจสอบอายุ แต่หลายฝ่ายเห็นว่าจำเป็นเพื่อปกป้องเด็กจากเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม กฎหมายนี้อาจกลายเป็นต้นแบบที่แพร่ไปทั่วโลกในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/were-going-to-be-watching-really-closely-politicians-around-the-world-are-taking-inspiration-from-australias-social-media-ban 💻 Windows 11 กับปัญหา RAM: Discord ตัวการใหญ่ ผู้ใช้ Windows 11 หลายคนพบว่าแอปพลิเคชันที่สร้างบน Electron framework อย่าง Discord กิน RAM มากผิดปกติ จากเดิมประมาณ 1GB พุ่งขึ้นไปถึง 4GB โดยเฉพาะเมื่อใช้งาน voice chat หรือสตรีมวิดีโอ ปัญหาคือแม้หยุดใช้งานแล้ว RAM ก็ไม่ลดลง ต้องรีสตาร์ทโปรแกรมใหม่ ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพการเล่นเกมและการทำงานอื่น ๆ ยิ่งในช่วงที่ราคาหน่วยความจำพุ่งสูงเพราะกระแส AI ทำให้ผู้ใช้ยิ่งรู้สึกเดือดร้อนมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/memory/some-windows-11-apps-have-a-massive-ram-problem-and-this-app-is-the-worst-offender 📧 NordVPN: ป้องกันฟิชชิ่งถึงกล่องอีเมล NordVPN เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน Threat Protection Pro ที่สามารถสแกนลิงก์ในอีเมลแบบเรียลไทม์ หากพบว่าเป็นลิงก์อันตราย เช่น ฟิชชิ่งหรือมัลแวร์ จะมีสัญลักษณ์เตือนและแบนเนอร์แจ้งทันที จุดเด่นคือทำงานโดยไม่ต้องเข้าถึงเนื้อหาอีเมลทั้งหมด จึงยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ฟีเจอร์นี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการคลิกลิงก์โดยไม่ตั้งใจ และเป็นอีกชั้นการป้องกันที่สำคัญในยุคที่อีเมลฟิชชิ่งถูกส่งออกมาหลายพันล้านฉบับต่อวัน 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/nordvpn-extends-phishing-and-malware-protection-to-your-inbox 🤓 GPT‑5.2: การแข่งเดือดระหว่าง OpenAI และ Gemini OpenAI เปิดตัว GPT‑5.2 เพื่อเร่งแข่งกับ Gemini 3 ของ Google จุดเด่นคือความเร็วและความสามารถ reasoning ที่ดีขึ้น พร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้ลื่นไหลกว่าเดิม การอัปเดตนี้สะท้อนว่าการแข่งขันในตลาด AI กำลังร้อนแรง และแต่ละค่ายพยายามผลักดันเทคโนโลยีให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/openai-races-gemini-3-to-the-top-with-gpt-5-2-drop-this-week ⚡ จีนกับข้อได้เปรียบด้าน AI: คำเตือนจาก CEO Nvidia Jensen Huang ซีอีโอ Nvidia เตือนว่าจีนมีข้อได้เปรียบมหาศาลในด้าน AI ทั้งด้านการก่อสร้างและพลังงาน โดยรายงานล่าสุดเผยว่าจีนมีสัดส่วนการใช้งาน AI ถึง 30% ของโลก ความสามารถในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานอย่างรวดเร็ว เช่น “สร้างโรงพยาบาลในสุดสัปดาห์เดียว” ทำให้จีนถูกมองว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากังวลในสนาม AI ระดับโลก 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/they-can-build-a-hospital-in-a-weekend-nvidia-ceo-warns-about-chinas-big-ai-advantages-as-report-reveals-it-now-has-30-percent-of-global-ai-usage 🚗 Subaru กับโฆษณา Pop‑up ในรถ Subaru เข้าร่วมกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ที่ทดลองใส่โฆษณา pop‑up ในระบบ infotainment ของรถยนต์ ซึ่งสร้างเสียงวิจารณ์อย่างมาก หลายคนกังวลว่าโฆษณาจะรบกวนสมาธิในการขับขี่ และอาจเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยบนท้องถนน แม้ผู้ผลิตจะมองว่าเป็นช่องทางสร้างรายได้ใหม่ แต่ผู้ใช้จำนวนมากไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้ 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/subaru-joins-controversial-list-of-carmakers-experimenting-with-infotainment-system-pop-up-ads 👓 Android XR Prototype: สมาร์ทแว่นรุ่นใหม่ที่พร้อมโชว์ นักข่าวได้ลองใช้สมาร์ทแว่น Android XR รุ่นต้นแบบ พบว่ามีดีไซน์บางเบาและเลนส์โปร่งใสที่สามารถแสดงข้อมูลตรงหน้าได้ทันที ทั้งการนำทางและการใช้งานร่วมกับ AI Gemini จุดเด่นคือการออกแบบที่ไม่ทำให้ผู้ใช้ดูแปลกตา และสวมใส่สบาย ทำให้สมาร์ทแว่นรุ่นนี้ถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญของ wearable ที่จะเข้าสู่ตลาดในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/i-tried-the-next-gen-android-xr-prototype-smart-glasses-and-these-frames-are-ready-for-your-close-up 🕶️ Samsung Galaxy XR: ยกระดับประสบการณ์ Spatial Samsung เปิดตัว Galaxy XR ที่ผสมผสานเทคโนโลยี mixed reality และ AI Gemini เข้าด้วยกัน จุดขายคือคุณภาพการแสดงผลที่คมชัดและฟีเจอร์ที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกเหมือนก้าวเข้าสู่โลกเสมือนจริงในราคาที่จับต้องได้ ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานของอุปกรณ์ XR และสร้างแรงกดดันให้คู่แข่งต้องเร่งพัฒนาเทคโนโลยีตามให้ทัน 🔗 https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/samsung-galaxy-xr-raises-the-bar-while-lowering-the-price-for-premium-spatial-experiences 🛡️ รัฐบาลสหรัฐฯ กดดัน Google และ Apple ให้ลบแอปติดตามเจ้าหน้าที่ ICE เรื่องนี้กำลังเป็นประเด็นร้อนในสหรัฐฯ เมื่อคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสภาผู้แทนราษฎรออกแรงกดดันให้ Google และ Apple ลบแอปที่สามารถติดตามเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ICE) ได้ โดยเฉพาะแอปชื่อ ICEBlock ที่เคยมีผู้ใช้มากกว่าล้านคน แม้ตอนนี้จะไม่สามารถดาวน์โหลดใหม่ได้ แต่ยังคงใช้งานได้ในเครื่องที่ติดตั้งไว้แล้ว ปัญหาคือแอปนี้ถูกใช้โดยมือปืนในการก่อเหตุยิงที่ศูนย์ ICE ในเมืองดัลลัส ทำให้เกิดข้อถกเถียงระหว่างความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่กับสิทธิในการรับรู้ข้อมูลของประชาชน นักพัฒนาแอปเองก็ยืนยันว่า แอปนี้ไม่ต่างจากการแชร์ตำแหน่งด่านตรวจความเร็วในแผนที่ ซึ่งถือเป็นเสรีภาพในการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญ 🔗 https://www.techradar.com/pro/us-gov-wants-google-and-apple-to-take-down-websites-tracking-ice-and-friends ⌚ Pebble โผล่กลับมาอีกครั้งกับสมาร์ทวอชลึกลับ Pebble ที่เคยเป็นแบรนด์สมาร์ทวอชสุดฮิตในยุคแรกๆ กำลังสร้างความตื่นเต้นอีกครั้ง หลังจากปล่อยทีเซอร์สมาร์ทวอชใหม่ที่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดมากนัก หลายคนคาดว่ามันอาจจะเป็นการกลับมาของแบรนด์ในรูปแบบที่ทันสมัยขึ้น หรืออาจจะเป็นการรีแบรนด์เพื่อเจาะตลาดสุขภาพและฟิตเนสที่กำลังมาแรง ความลึกลับนี้ทำให้แฟนๆ ที่เคยรัก Pebble ต่างตั้งตารอว่าจะมีอะไรใหม่ที่แตกต่างจากสมาร์ทวอชในตลาดตอนนี้ 🔗 https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/pebble-just-teased-a-mysterious-new-smartwatch-and-were-excited-to-see-what-it-is 💿 Magnetar เปิดตัวเครื่องเล่น Blu-ray 4K รุ่นใหม่ สำหรับคนที่ยังรักการดูหนังผ่านแผ่น Blu-ray Magnetar ได้เปิดตัวเครื่องเล่นรุ่นใหม่ที่ถูกยกให้เป็น “เครื่องเล่นแผ่นสุดท้ายที่คุณต้องมี” เพราะรองรับการเล่นแผ่น 4K ได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมคุณภาพเสียงและภาพที่เหนือกว่า เหมาะกับนักสะสมและคนที่จริงจังกับการดูหนังในบ้าน แม้ยุคสตรีมมิ่งจะครองตลาด แต่เครื่องเล่นนี้ก็ยังตอบโจทย์คนที่ต้องการประสบการณ์ภาพและเสียงระดับสูงสุด 🔗 https://www.techradar.com/televisions/blu-ray/magnetars-new-4k-blu-ray-players-are-the-last-disc-spinners-youll-ever-need-and-theyre-now-available-to-buy 🏥 ข้อมูลคนไข้และเจ้าหน้าที่ NHS ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ Cl0p ระบบสุขภาพในอังกฤษเจอปัญหาใหญ่เมื่อ Barts Health NHS Trust ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ Cl0p ทำให้ข้อมูลทั้งคนไข้และเจ้าหน้าที่รั่วไหลออกไป เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลอย่างมากต่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล และยังสะท้อนให้เห็นว่าระบบสาธารณสุขที่มีข้อมูลจำนวนมหาศาลเป็นเป้าหมายหลักของอาชญากรไซเบอร์ การโจมตีครั้งนี้ยังเป็นสัญญาณเตือนว่าหน่วยงานด้านสุขภาพต้องลงทุนมากขึ้นในระบบป้องกันภัยไซเบอร์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/patient-and-staff-data-impacted-by-cl0p-ransomware-attack-on-barts-health-nhs 🧹 รีวิว Bissell PowerClean FurFinder เครื่องดูดฝุ่นไร้สายราคาประหยัด ใครที่เลี้ยงสัตว์น่าจะสนใจเครื่องดูดฝุ่นรุ่นนี้ เพราะ Bissell PowerClean FurFinder ถูกออกแบบมาเพื่อจัดการขนสัตว์โดยเฉพาะ แม้จะเป็นรุ่นราคาประหยัด แต่รีวิวบอกว่ามันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้งานง่าย น้ำหนักเบา และเหมาะกับการทำความสะอาดบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง จุดเด่นคือความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน แต่ก็ยังตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี 🔗 https://www.techradar.com/home/vacuums/bissell-powerclean-furfinder-cordless-vacuum-review 📱 Samsung เปิดตัว One UI 8.5 Beta พร้อม 6 ฟีเจอร์ใหม่ Samsung ปล่อยเวอร์ชันเบต้าของ One UI 8.5 ให้ผู้ใช้ได้ลองก่อนใคร โดยมีการอัปเกรดถึง 6 จุดสำคัญ เช่น การปรับปรุงการทำงานแบบหลายหน้าต่างให้ลื่นไหลขึ้น, ฟีเจอร์ใหม่ด้านความเป็นส่วนตัว, การปรับแต่งหน้าจอหลักที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม และการปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวม จุดเด่นคือการทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมเครื่องได้สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น ถือเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-just-launched-the-one-ui-8-5-beta-with-6-big-upgrades-heres-how-to-try-it 🧑‍💻 ผู้บริหาร UI ของ Apple ถูก Meta ดึงตัว พร้อมการอพยพครั้งใหญ่ในทีม AI Apple กำลังเผชิญกับการสูญเสียบุคลากรสำคัญในทีม AI และ UI เมื่อผู้บริหารระดับสูงถูก Meta ดึงตัวไป และอีกสามคนลาออกตามมา เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงการแข่งขันที่ดุเดือดในวงการเทคโนโลยี โดยเฉพาะด้าน AI ที่กำลังเป็นหัวใจหลักของการพัฒนาอุปกรณ์และบริการใหม่ๆ การสูญเสียบุคลากรจำนวนมากในเวลาเดียวกันอาจส่งผลต่อทิศทางการพัฒนาของ Apple ในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/apples-ui-executive-poached-by-meta-and-three-other-executives-leave-in-apple-ai-exodus 🌐 เครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ในอินโดนีเซียถูกสลายหลังดำเนินงานมา 14 ปี อินโดนีเซียสามารถสลายเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ที่ดำเนินงานมายาวนานถึง 14 ปี ซึ่งมีการโจมตีและหลอกลวงผู้คนจำนวนมากทั่วโลก การปฏิบัติการครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย และเป็นสัญญาณว่าประเทศกำลังจริงจังกับการจัดการภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจและความมั่นคง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/national-cybercrime-network-operating-for-14-years-dismantled-in-indonesia 🎬 รีวิวแผ่น Blu-ray 4K ที่ดีจนถูกนำมาใช้ทดสอบทีวี นักรีวิวที่ทำงานกับทีวีมืออาชีพเผยว่าเจอแผ่น Blu-ray 4K ใหม่ 5 เรื่องที่คุณภาพดีมากจนถูกนำมาใช้เป็นสื่อทดสอบทีวีในห้องแล็บ ความละเอียดและคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมทำให้แผ่นเหล่านี้ไม่ใช่แค่เพื่อความบันเทิง แต่ยังเป็นมาตรฐานในการวัดประสิทธิภาพของทีวีรุ่นใหม่ๆ สำหรับคนที่รักการดูหนังแบบเต็มประสบการณ์ นี่คือแผ่นที่ควรมีไว้สะสม 🔗 https://www.techradar.com/televisions/blu-ray/i-review-4k-blu-rays-for-a-living-these-5-new-discs-are-so-good-theyve-entered-my-tv-testing-rotation 🎥 อุปกรณ์ถ่ายทำ TikTok ที่ครบในกระเป๋าใบเล็ก นักสร้างคอนเทนต์ TikTok แชร์ว่าเขามีกล้องและอุปกรณ์เสริม 9 ชิ้นที่สามารถใส่รวมกันในกระเป๋าสะพายใบเล็กได้ทั้งหมด ตั้งแต่กล้องคุณภาพสูง ขาตั้ง ไปจนถึงอุปกรณ์เสียง จุดเด่นคือความคล่องตัวและความสามารถในการสร้างคอนเทนต์คุณภาพสูงได้ทุกที่ทุกเวลา เหมาะสำหรับคนที่อยากทำคอนเทนต์แบบมืออาชีพโดยไม่ต้องแบกอุปกรณ์ใหญ่ๆ 🔗 https://www.techradar.com/cameras/i-swear-by-these-9-cameras-and-accessories-for-shooting-tiktok-content-and-they-all-fit-in-one-small-sling-bag 🛡️ FBI เตือนภัย Deepfake ใช้หลอกเรียกค่าไถ่ เรื่องราวนี้เล่าถึงการที่อาชญากรเริ่มใช้ Generative AI สร้างวิดีโอปลอมเป็น “หลักฐานการมีชีวิต” ของเหยื่อที่ถูกอ้างว่าถูกลักพาตัว พวกเขาจะนำภาพและวิดีโอจากโซเชียลมีเดียไปสร้างเป็นคลิปที่ดูสมจริง แล้วส่งไปหาญาติหรือคนใกล้ชิดเพื่อเรียกค่าไถ่ทันที FBI ออกประกาศเตือนว่าภาพเหล่านี้มักมีจุดผิดพลาด เช่น รอยสักหายไปหรือสัดส่วนร่างกายไม่ถูกต้อง แต่ผู้ร้ายจะใช้วิธีส่งแบบข้อความหมดเวลาเพื่อไม่ให้เหยื่อมีเวลาตรวจสอบ ทางออกคือควรระวังการโพสต์ข้อมูลส่วนตัว ตั้งรหัสลับในครอบครัว และพยายามติดต่อคนที่ถูกอ้างว่าถูกจับก่อนจะโอนเงิน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/fbi-warns-of-kidnapping-scams-as-hackers-turn-to-ai-to-provide-proof-of-life 🔋 Honor Magic 8 Lite: มือถือแบตอึดราคาประหยัด รีวิวนี้บอกว่า Honor Magic 8 Lite เป็นสมาร์ทโฟนที่เด่นเรื่องแบตเตอรี่ ใช้งานได้ยาวนานเกินคาด แม้จะเป็นรุ่นราคาประหยัด ดีไซน์ดูทันสมัย หน้าจอใหญ่พอเหมาะ และประสิทธิภาพถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป กล้องอาจไม่ได้โดดเด่นเท่ารุ่นเรือธง แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา เหมาะสำหรับคนที่มองหามือถือใช้งานได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องชาร์จบ่อย 🔗 https://www.techradar.com/phones/honor-phones/honor-magic-8-lite-review 🚁 FBI มองหาดรอนที่ “กันเจาะสัญญาณ” ได้ อีกข่าวหนึ่งเล่าถึงความพยายามของ FBI ที่กำลังค้นหาดรอนซึ่งไม่สามารถถูกโจมตีด้วยการรบกวนสัญญาณได้ วิธีที่ใช้ไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่ แต่เป็นการหันกลับไปใช้เทคนิคแบบเก่าเพื่อป้องกันการแฮ็กหรือการควบคุมจากระยะไกล จุดประสงค์คือทำให้ดรอนยังคงทำงานได้แม้มีการพยายามโจมตีทางไซเบอร์ ถือเป็นการผสมผสานระหว่างความทันสมัยกับวิธีดั้งเดิมเพื่อความปลอดภัย 🔗 https://www.techradar.com/cameras/drones/the-fbi-is-hunting-for-unjammable-drones-and-these-flying-cameras-use-one-very-old-school-trick-to-stop-remote-attacks 🌱 ปี 2026 “Sustainability” กลายเป็น Stack ใหม่ บทความนี้เล่าว่าในปี 2026 แนวคิดด้านความยั่งยืนจะไม่ใช่แค่เรื่องเสริม แต่จะถูกมองว่าเป็น “stack” ใหม่ของธุรกิจ เทียบได้กับการมีเทคโนโลยีหรือโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น องค์กรต่าง ๆ จะต้องผสมผสานการใช้พลังงานสะอาด การจัดการทรัพยากร และการออกแบบระบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์หลัก ไม่ใช่แค่ CSR แต่เป็นแกนกลางของการดำเนินงาน 🔗 https://www.techradar.com/pro/in-2026-sustainability-is-the-new-stack ⚠️ Gartner เตือน “AI Browsers” อาจเป็นภัยต่อธุรกิจ รายงานจาก Gartner ชี้ว่าเบราว์เซอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ไม่ได้เป็นเพื่อนที่ดีเสมอไป เพราะอาจสร้างความเสี่ยงต่อข้อมูลและความปลอดภัยขององค์กร แม้จะช่วยให้การทำงานสะดวกขึ้น แต่ก็มีช่องโหว่ที่อาจถูกโจมตีหรือทำให้ข้อมูลรั่วไหลได้ Gartner แนะนำให้ธุรกิจระมัดระวังและไม่ควรพึ่งพา AI browsers โดยไม่ตรวจสอบมาตรการป้องกัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/gartner-advisory-states-ai-browsers-are-not-your-friend-and-are-putting-your-business-at-risk 🤖 IT ที่ “รักษาตัวเอง” ไม่ใช่วิทยาศาสตร์อีกต่อไป บทความนี้เล่าว่าแนวคิด Self-healing IT หรือระบบที่สามารถตรวจจับและแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง กำลังกลายเป็นจริงและช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้เดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง ระบบเหล่านี้สามารถวิเคราะห์ความผิดพลาด คาดการณ์ปัญหา และดำเนินการแก้ไขโดยอัตโนมัติ ทำให้ลดเวลาหยุดชะงักและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นและพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ 🔗 https://www.techradar.com/pro/self-healing-it-is-no-longer-science-fiction-its-driving-businesses-forward 🎧 ChatGPT Wrapped: สรุปปีแห่งการใช้ AI ผู้ใช้ ChatGPT กำลังสร้าง “Spotify Wrapped” เวอร์ชันของตัวเอง เพื่อย้อนดูว่าตลอดปีที่ผ่านมาได้ใช้ AI ทำอะไรบ้าง เช่น คำถามที่ถามบ่อยที่สุด หรือหัวข้อที่พูดถึงมากที่สุด วิธีทำก็ไม่ซับซ้อน เพียงดึงข้อมูลการใช้งานแล้วจัดเรียงเป็นรูปแบบที่แชร์ได้บนโซเชียล ถือเป็นการเล่นสนุกที่สะท้อนว่า AI กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้ว 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpt-users-are-making-a-spotify-wrapped-for-their-year-in-ai-heres-how-to-do-it 🏗️ ศูนย์ข้อมูล AI ทำให้การสร้างบ้านชะลอตัว รายงานนี้ชี้ว่าความต้องการศูนย์ข้อมูลเพื่อรองรับ AI กำลังเพิ่มสูงจนโครงสร้างพื้นฐานไม่สามารถตามทัน ส่งผลให้การพัฒนาโครงการบ้านเรือนถูกชะลอ เพราะทรัพยากรด้านพลังงานและพื้นที่ถูกใช้ไปกับการสร้างศูนย์ข้อมูลแทน ปัญหานี้สะท้อนว่าการเติบโตของ AI ไม่ได้กระทบแค่ธุรกิจเทคโนโลยี แต่ยังส่งผลต่อเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตของผู้คนโดยตรง 🔗 https://www.techradar.com/pro/data-centers-are-throttling-home-building-as-infrastructure-struggles-to-keep-up-with-ai-demands 📱 OpenAI ถอยแผน “แนะนำแอปคล้ายโฆษณา” OpenAI เคยทดลองใส่ฟีเจอร์แนะนำแอปใน ChatGPT ที่ดูเหมือนโฆษณา แต่หลังจากได้รับเสียงวิจารณ์ว่าทำให้ผู้ใช้รู้สึกไม่สบายใจ จึงออกมาประกาศว่าจะปรับปรุงและให้ผู้ใช้ควบคุมได้มากขึ้น การถอยครั้งนี้สะท้อนว่าบริษัทต้องหาสมดุลระหว่างการสร้างรายได้และการรักษาประสบการณ์ที่ดีของผู้ใช้ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/openai-walks-back-ad-like-app-suggestions-in-chatgpt-saying-it-fell-short-and-will-improve-controls 🛡️ React2Shell RCE Flaw ถูกแฮ็กเกอร์จีนโจมตีหลังประกาศไม่กี่ชั่วโมง เรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่ในวงการไซเบอร์ เพราะมีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน React Server Components ที่ถูกตั้งชื่อว่า React2Shell โดยมีรหัส CVE-2025-55182 และถูกจัดระดับความรุนแรงเต็ม 10/10 ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบได้ก่อนการยืนยันตัวตน ซึ่งเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการเปิดเผย ก็มีรายงานว่าแฮ็กเกอร์ที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลจีนเริ่มใช้ช่องโหว่นี้โจมตีจริงแล้ว เป้าหมายคือองค์กรในหลายภาคส่วนทั่วโลก ตั้งแต่การเงิน โลจิสติกส์ ไปจนถึงมหาวิทยาลัยและรัฐบาล จุดประสงค์หลักคือการสอดแนมและสร้างการเข้าถึงถาวร นักวิจัยเตือนให้รีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันที่ปลอดภัยทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/react2shell-rce-flaw-exploited-by-chinese-hackers-hours-after-disclosure 🕯️ SwitchBot เปิดตัวโคมไฟที่ละลายเทียนได้ SwitchBot สร้างไอเดียใหม่ที่ผสมผสานความเป็นสมาร์ทโฮมเข้ากับความอบอุ่นแบบ hygge โดยออกผลิตภัณฑ์ที่เป็นทั้งโคมไฟอัจฉริยะและเครื่องละลายเทียนในตัว เหมาะสำหรับคนที่อยากได้บรรยากาศผ่อนคลายและโรแมนติกในบ้าน สามารถควบคุมผ่านแอปได้เหมือนอุปกรณ์สมาร์ทอื่น ๆ และยังช่วยให้การใช้เทียนปลอดภัยขึ้นเพราะไม่ต้องใช้ไฟจริง ผลิตภัณฑ์นี้ถูกมองว่าเป็นของขวัญที่ลงตัวสำหรับสาย gadget ที่ชอบความ cozy 🔗 https://www.techradar.com/home/small-appliances/switchbot-crossed-a-smart-lamp-with-a-candle-melter-and-its-the-ultimate-hygge-gift-for-gadget-fans-who-just-want-to-get-cozy 🎮 Katsuhiro Harada ประกาศลาออกจาก Bandai Namco แฟนเกม Tekken ต้องสะเทือนใจเมื่อ Katsuhiro Harada ผู้เป็นหัวเรือใหญ่ของซีรีส์นี้ ประกาศว่าจะก้าวลงจากตำแหน่งใน Bandai Namco เขาอธิบายว่าถึงเวลาที่เหมาะสมในการปิดฉากหนึ่งบทของชีวิตการทำงาน หลังจากอยู่กับบริษัทมานานและสร้างชื่อเสียงให้ Tekken กลายเป็นหนึ่งในเกมต่อสู้ที่โด่งดังที่สุดในโลก การจากไปครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการเกม และแฟน ๆ ต่างจับตามองว่าอนาคตของ Tekken จะเดินไปในทิศทางใด 🔗 https://www.techradar.com/gaming/tekken-lead-katsuhiro-harada-to-leave-bandai-namco-i-felt-this-was-the-most-fitting-moment-to-bring-one-chapter-to-a-close 💸 X ถูกปรับ 140 ล้านดอลลาร์ในยุโรป แพลตฟอร์ม X (เดิม Twitter) ถูกสหภาพยุโรปปรับเงินมหาศาลถึง 140 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากละเมิดกฎระเบียบด้านดิจิทัลและความโปร่งใส ข่าวนี้ยิ่งร้อนแรงขึ้นเมื่อ Elon Musk ออกมาเรียกร้องให้ยกเลิก EU ทั้งหมด โดยมองว่ากฎเกณฑ์เหล่านี้เป็นการกีดกันนวัตกรรมและเสรีภาพทางออนไลน์ เรื่องนี้สะท้อนถึงความตึงเครียดระหว่างบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีกับหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรป ซึ่งอาจส่งผลต่ออนาคตของการควบคุมแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั่วโลก 🔗 https://www.techradar.com/pro/x-fined-usd140-million-for-breaching-eu-rules-elon-calls-for-bloc-abolition 💻 Windows 11 25H2 เปิดให้ทุกเครื่องอัปเดตแล้ว Microsoft ปล่อยอัปเดตใหญ่ Windows 11 25H2 ให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถติดตั้งได้แล้ว การอัปเดตนี้มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ และการปรับปรุงประสิทธิภาพ รวมถึงการแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ผู้ใช้สามารถเข้าไปที่ Windows Update เพื่อดาวน์โหลดและติดตั้งได้ทันที ถือเป็นการอัปเดตที่สำคัญสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและองค์กร เพราะช่วยให้ระบบมีความเสถียรและปลอดภัยมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11-25h2-update-is-now-available-for-all-pcs-heres-how-to-get-it 📱 มือถือ Linux เน้นความเป็นส่วนตัว แต่ยังรันแอป Android ได้ มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Linux โดยเน้นความเป็นส่วนตัวเป็นหลัก ถูกมองว่าเป็นอีกทางเลือกแทน Android และ iOS จุดเด่นคือแม้จะใช้ Linux แต่ยังสามารถรันแอป Android ได้ ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเรื่องการขาดแอปยอดนิยม แนวคิดนี้ตอบโจทย์ผู้ที่อยากได้ความปลอดภัยและการควบคุมข้อมูลส่วนตัวมากขึ้น แต่ก็ยังคงความสะดวกสบายของแอปที่คุ้นเคย 🔗 https://www.techradar.com/phones/forget-android-vs-ios-this-new-privacy-focused-linux-phone-promises-to-be-the-alternative-we-need-but-it-still-runs-android-apps 🤖 AI จากสหราชอาณาจักรอ้างว่าเหนือกว่า ChatGPT มีสตาร์ทอัพในสหราชอาณาจักรเปิดตัว AI ใหม่ที่ประกาศว่ามีความสามารถเหนือกว่า ChatGPT ทีมงาน TechRadar ได้ลองใช้งานจริงและพบว่ามีจุดแข็งหลายด้าน เช่น ความเร็วในการตอบสนองและการจัดการข้อมูลที่ซับซ้อน แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางอย่างที่ต้องพัฒนาเพิ่มเติม การแข่งขันในตลาด AI กำลังร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และการมาของผู้เล่นใหม่รายนี้อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/a-new-uk-ai-says-it-can-beat-chatgpt-we-tried-it-and-heres-what-we-found 📺 Trump แสดงความกังวลต่อการควบรวม Netflix และ Warner Bros Donald Trump แสดงความคิดเห็นว่าการควบรวมกิจการครั้งใหญ่ระหว่าง Netflix และ Warner Bros อาจสร้างปัญหา โดยมองว่าอาจกระทบต่อการแข่งขันและความหลากหลายของตลาดสตรีมมิ่ง ความเห็นนี้สะท้อนถึงความกังวลว่าบริษัทขนาดใหญ่จะมีอำนาจมากเกินไป และอาจทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกน้อยลงในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/streaming/netflix/trump-says-the-big-netflix-warner-bros-merger-could-be-a-problem-heres-why 🔋 แบรนด์คู่แข่ง Anker เรียกคืน Power Bank หลังพบเสี่ยงไฟไหม้ มีการเรียกคืน Power Bank รุ่นหนึ่งจากแบรนด์ที่เป็นคู่แข่งของ Anker เนื่องจากพบว่ามีความเสี่ยงเกิดไฟไหม้ ข่าวนี้ทำให้ผู้ใช้ที่ซื้อไปแล้วต้องตรวจสอบและหยุดใช้งานทันที พร้อมติดต่อเพื่อขอคืนหรือเปลี่ยนสินค้า เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความสำคัญของมาตรฐานความปลอดภัยในอุปกรณ์พกพา และเตือนให้ผู้บริโภคระมัดระวังในการเลือกซื้อแบตเตอรี่สำรอง ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/phones/this-popular-anker-rival-has-just-recalled-a-power-bank-due-to-a-fire-hazard-heres-what-to-do
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 451 มุมมอง 0 รีวิว
  • Reddit วิจารณ์กฎหมายห้ามเด็กต่ำกว่า 16 ใช้โซเชียลในออสเตรเลีย

    รัฐบาลออสเตรเลียเตรียมบังคับใช้กฎหมายใหม่ตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2025 โดยห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีมีบัญชีโซเชียลมีเดีย เช่น TikTok, Instagram, YouTube และ Reddit ซึ่งถือเป็นกฎหมายแรกของโลกที่เข้มงวดในลักษณะนี้ อย่างไรก็ตาม Reddit ออกแถลงการณ์ว่า กฎหมายดังกล่าวเป็น “การตีความที่ผิดพลาดทางกฎหมาย” และ “เกินเจตนารมณ์ของรัฐสภาออสเตรเลีย”

    Reddit ระบุว่าจะปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ไม่เห็นด้วยกับขอบเขตและผลกระทบ โดยชี้ว่าการบังคับใช้ การตรวจสอบอายุและการยืนยันตัวตน เป็นการละเมิดสิทธิในการแสดงออกและความเป็นส่วนตัว อีกทั้งยังไม่สอดคล้องกับธรรมชาติของแพลตฟอร์ม Reddit ที่เป็น ฟอรั่มแบบใช้นามแฝง และมีผู้ใช้งานส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่

    บริษัทจะใช้ โมเดลทำนายอายุ (age-prediction model) เพื่อระงับบัญชีที่คาดว่าเป็นผู้ใช้อายุต่ำกว่า 16 ปี พร้อมเพิ่มมาตรการความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้อายุต่ำกว่า 18 ปีทั่วโลก ขณะเดียวกัน รัฐบาลออสเตรเลียยืนยันว่ากฎหมายนี้มีเป้าหมายเพื่อปกป้องสุขภาพจิตและลดการเสพติดโซเชียล โดยนายกรัฐมนตรี Anthony Albanese ได้กล่าวกับวัยรุ่นว่า “ถึงเวลาที่จะใช้ชีวิตแบบพบปะกันต่อหน้า”

    แม้จะมีการสนับสนุนจากบางฝ่าย แต่หลายคนกังวลว่าเยาวชนจะหาทางเลี่ยง เช่น ใช้ ID ปลอม หรือ AI ปรับภาพให้ดูโตขึ้น ขณะที่แพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Roblox, Pinterest และ WhatsApp กลับได้รับการยกเว้นจากกฎหมายนี้ ทำให้เกิดคำถามถึงความสอดคล้องและความเป็นธรรมของการบังคับใช้

    สรุปประเด็นสำคัญ
    กฎหมายใหม่ในออสเตรเลีย
    ห้ามเด็กต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดียหลัก เช่น TikTok, Instagram, YouTube และ Reddit
    มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 10 ธันวาคม 2025

    ปฏิกิริยาของ Reddit
    เห็นว่ากฎหมายนี้ “ผิดพลาดทางกฎหมาย” และละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัว
    จะใช้โมเดลทำนายอายุเพื่อบังคับใช้ แต่ยังคงวิจารณ์ความเหมาะสม

    มุมมองรัฐบาลออสเตรเลีย
    นายกรัฐมนตรี Albanese ย้ำว่ากฎหมายนี้เพื่อสุขภาพจิตและการใช้ชีวิตแบบพบปะกันจริง
    คาดว่าจะกระทบวัยรุ่นหลายแสนคน โดยเฉพาะผู้ใช้ Instagram อายุ 13–15 ปี

    คำเตือนและความเสี่ยง
    วัยรุ่นอาจเลี่ยงกฎหมายด้วยการใช้ ID ปลอมหรือ AI ปรับภาพให้ดูโตขึ้น
    การยกเว้นบางแพลตฟอร์ม เช่น Roblox และ WhatsApp อาจสร้างความไม่เป็นธรรมและช่องโหว่

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/09/reddit-says-australia039s-under-16-social-media-ban-039legally-erroneous039
    ⚖️ Reddit วิจารณ์กฎหมายห้ามเด็กต่ำกว่า 16 ใช้โซเชียลในออสเตรเลีย รัฐบาลออสเตรเลียเตรียมบังคับใช้กฎหมายใหม่ตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2025 โดยห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีมีบัญชีโซเชียลมีเดีย เช่น TikTok, Instagram, YouTube และ Reddit ซึ่งถือเป็นกฎหมายแรกของโลกที่เข้มงวดในลักษณะนี้ อย่างไรก็ตาม Reddit ออกแถลงการณ์ว่า กฎหมายดังกล่าวเป็น “การตีความที่ผิดพลาดทางกฎหมาย” และ “เกินเจตนารมณ์ของรัฐสภาออสเตรเลีย” Reddit ระบุว่าจะปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ไม่เห็นด้วยกับขอบเขตและผลกระทบ โดยชี้ว่าการบังคับใช้ การตรวจสอบอายุและการยืนยันตัวตน เป็นการละเมิดสิทธิในการแสดงออกและความเป็นส่วนตัว อีกทั้งยังไม่สอดคล้องกับธรรมชาติของแพลตฟอร์ม Reddit ที่เป็น ฟอรั่มแบบใช้นามแฝง และมีผู้ใช้งานส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่ บริษัทจะใช้ โมเดลทำนายอายุ (age-prediction model) เพื่อระงับบัญชีที่คาดว่าเป็นผู้ใช้อายุต่ำกว่า 16 ปี พร้อมเพิ่มมาตรการความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้อายุต่ำกว่า 18 ปีทั่วโลก ขณะเดียวกัน รัฐบาลออสเตรเลียยืนยันว่ากฎหมายนี้มีเป้าหมายเพื่อปกป้องสุขภาพจิตและลดการเสพติดโซเชียล โดยนายกรัฐมนตรี Anthony Albanese ได้กล่าวกับวัยรุ่นว่า “ถึงเวลาที่จะใช้ชีวิตแบบพบปะกันต่อหน้า” แม้จะมีการสนับสนุนจากบางฝ่าย แต่หลายคนกังวลว่าเยาวชนจะหาทางเลี่ยง เช่น ใช้ ID ปลอม หรือ AI ปรับภาพให้ดูโตขึ้น ขณะที่แพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Roblox, Pinterest และ WhatsApp กลับได้รับการยกเว้นจากกฎหมายนี้ ทำให้เกิดคำถามถึงความสอดคล้องและความเป็นธรรมของการบังคับใช้ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ กฎหมายใหม่ในออสเตรเลีย ➡️ ห้ามเด็กต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดียหลัก เช่น TikTok, Instagram, YouTube และ Reddit ➡️ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 10 ธันวาคม 2025 ✅ ปฏิกิริยาของ Reddit ➡️ เห็นว่ากฎหมายนี้ “ผิดพลาดทางกฎหมาย” และละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัว ➡️ จะใช้โมเดลทำนายอายุเพื่อบังคับใช้ แต่ยังคงวิจารณ์ความเหมาะสม ✅ มุมมองรัฐบาลออสเตรเลีย ➡️ นายกรัฐมนตรี Albanese ย้ำว่ากฎหมายนี้เพื่อสุขภาพจิตและการใช้ชีวิตแบบพบปะกันจริง ➡️ คาดว่าจะกระทบวัยรุ่นหลายแสนคน โดยเฉพาะผู้ใช้ Instagram อายุ 13–15 ปี ‼️ คำเตือนและความเสี่ยง ⛔ วัยรุ่นอาจเลี่ยงกฎหมายด้วยการใช้ ID ปลอมหรือ AI ปรับภาพให้ดูโตขึ้น ⛔ การยกเว้นบางแพลตฟอร์ม เช่น Roblox และ WhatsApp อาจสร้างความไม่เป็นธรรมและช่องโหว่ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/09/reddit-says-australia039s-under-16-social-media-ban-039legally-erroneous039
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Reddit says Australia's under-16 social media ban 'legally erroneous'
    Online discussion site Reddit on Dec 9 condemned Australia's imminent social media ban for under-16s as "legally erroneous" but said it would comply with the landmark crackdown.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 139 มุมมอง 0 รีวิว
  • การทดลองครั้งใหญ่: กฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้โซเชียลมีเดียในออสเตรเลีย

    รัฐบาลออสเตรเลียเริ่มต้นการทดลองทางสังคมครั้งใหญ่ ด้วยการออกกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น TikTok, Snapchat, YouTube และ Instagram โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องเยาวชนจากผลกระทบด้านสุขภาพจิตและการเสพติดออนไลน์ อย่างไรก็ตาม เด็กวัยรุ่นจำนวนมากกลับแสดงความสงสัยและไม่มั่นใจว่ากฎหมายนี้จะช่วยได้จริง

    วัยรุ่นบางคน เช่น Darcey Pritchard วัย 15 ปี เลือกที่จะลบ Snapchat ออกจากโทรศัพท์เพราะรู้สึกว่าถูก “ดูดเข้าไป” โดยอัลกอริทึม ขณะที่เพื่อนของเธอ Luca Hagop ใช้เวลาไปกว่า 34 ชั่วโมงบน Instagram ในหนึ่งสัปดาห์ โดยแชร์คลิปสัตว์เลี้ยงและวิดีโอที่ “ตลกเพราะมันไม่ตลก” สะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งระหว่างความตั้งใจของรัฐกับพฤติกรรมจริงของวัยรุ่น

    นักวิจารณ์บางรายมองว่ากฎหมายนี้อาจเป็นการควบคุมที่เกินไป และตั้งคำถามว่าจะสามารถบังคับใช้ได้จริงหรือไม่ เนื่องจากวัยรุ่นสามารถหาทางเลี่ยงข้อจำกัดได้ง่าย เช่น การใช้ VPN หรือบัญชีผู้ใหญ่ปลอม ขณะเดียวกัน ผู้สนับสนุนกฎหมายเชื่อว่ามันจะช่วยลดการเสพติดโซเชียลและสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยขึ้นสำหรับเด็ก

    การทดลองนี้จึงถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะอาจกลายเป็นต้นแบบให้ประเทศอื่น ๆ พิจารณาแนวทางคล้ายกัน หากผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่ามีผลเชิงบวกต่อสุขภาพจิตและพฤติกรรมของเยาวชนในระยะยาว

    สรุปประเด็นสำคัญ
    กฎหมายใหม่ในออสเตรเลีย
    ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้ TikTok, Snapchat, YouTube และ Instagram
    มีเป้าหมายเพื่อปกป้องสุขภาพจิตและลดการเสพติดออนไลน์

    ปฏิกิริยาของวัยรุ่น
    บางคนลบแอปเองเพราะรู้สึกถูกครอบงำโดยอัลกอริทึม
    หลายคนยังใช้โซเชียลอย่างหนัก เช่น ใช้ Instagram กว่า 34 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

    มุมมองจากสังคม
    ผู้สนับสนุนเชื่อว่าจะช่วยลดการเสพติดและสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย
    นักวิจารณ์ตั้งคำถามเรื่องการบังคับใช้และการเลี่ยงข้อจำกัด

    คำเตือนและความเสี่ยง
    วัยรุ่นอาจหาทางเลี่ยงกฎหมาย เช่น ใช้ VPN หรือบัญชีปลอม
    หากบังคับใช้ไม่จริงจัง กฎหมายอาจกลายเป็นเพียง “สัญลักษณ์” โดยไม่เกิดผลลัพธ์จริง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/08/a-grand-social-media-experiment-begins-in-australia
    🇦🇺 การทดลองครั้งใหญ่: กฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้โซเชียลมีเดียในออสเตรเลีย รัฐบาลออสเตรเลียเริ่มต้นการทดลองทางสังคมครั้งใหญ่ ด้วยการออกกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น TikTok, Snapchat, YouTube และ Instagram โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องเยาวชนจากผลกระทบด้านสุขภาพจิตและการเสพติดออนไลน์ อย่างไรก็ตาม เด็กวัยรุ่นจำนวนมากกลับแสดงความสงสัยและไม่มั่นใจว่ากฎหมายนี้จะช่วยได้จริง วัยรุ่นบางคน เช่น Darcey Pritchard วัย 15 ปี เลือกที่จะลบ Snapchat ออกจากโทรศัพท์เพราะรู้สึกว่าถูก “ดูดเข้าไป” โดยอัลกอริทึม ขณะที่เพื่อนของเธอ Luca Hagop ใช้เวลาไปกว่า 34 ชั่วโมงบน Instagram ในหนึ่งสัปดาห์ โดยแชร์คลิปสัตว์เลี้ยงและวิดีโอที่ “ตลกเพราะมันไม่ตลก” สะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งระหว่างความตั้งใจของรัฐกับพฤติกรรมจริงของวัยรุ่น นักวิจารณ์บางรายมองว่ากฎหมายนี้อาจเป็นการควบคุมที่เกินไป และตั้งคำถามว่าจะสามารถบังคับใช้ได้จริงหรือไม่ เนื่องจากวัยรุ่นสามารถหาทางเลี่ยงข้อจำกัดได้ง่าย เช่น การใช้ VPN หรือบัญชีผู้ใหญ่ปลอม ขณะเดียวกัน ผู้สนับสนุนกฎหมายเชื่อว่ามันจะช่วยลดการเสพติดโซเชียลและสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยขึ้นสำหรับเด็ก การทดลองนี้จึงถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะอาจกลายเป็นต้นแบบให้ประเทศอื่น ๆ พิจารณาแนวทางคล้ายกัน หากผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่ามีผลเชิงบวกต่อสุขภาพจิตและพฤติกรรมของเยาวชนในระยะยาว 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ กฎหมายใหม่ในออสเตรเลีย ➡️ ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้ TikTok, Snapchat, YouTube และ Instagram ➡️ มีเป้าหมายเพื่อปกป้องสุขภาพจิตและลดการเสพติดออนไลน์ ✅ ปฏิกิริยาของวัยรุ่น ➡️ บางคนลบแอปเองเพราะรู้สึกถูกครอบงำโดยอัลกอริทึม ➡️ หลายคนยังใช้โซเชียลอย่างหนัก เช่น ใช้ Instagram กว่า 34 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ✅ มุมมองจากสังคม ➡️ ผู้สนับสนุนเชื่อว่าจะช่วยลดการเสพติดและสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ➡️ นักวิจารณ์ตั้งคำถามเรื่องการบังคับใช้และการเลี่ยงข้อจำกัด ‼️ คำเตือนและความเสี่ยง ⛔ วัยรุ่นอาจหาทางเลี่ยงกฎหมาย เช่น ใช้ VPN หรือบัญชีปลอม ⛔ หากบังคับใช้ไม่จริงจัง กฎหมายอาจกลายเป็นเพียง “สัญลักษณ์” โดยไม่เกิดผลลัพธ์จริง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/08/a-grand-social-media-experiment-begins-in-australia
    WWW.THESTAR.COM.MY
    A grand social media experiment begins in Australia
    The country is trying to wean children under 16 off the likes of TikTok, Snapchat, YouTube and Instagram with a new law. The teenagers are skeptical.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้คนกำลังอัปโหลดเวชระเบียนเข้าสู่ AI Chatbots

    ผู้คนทั่วโลกกำลังอัปโหลดผลตรวจเลือด, บันทึกแพทย์ และรายงานการผ่าตัดเข้าสู่ AI Chatbots เช่น ChatGPT เพื่อหาคำตอบด้านสุขภาพ แต่สิ่งนี้สร้างทั้ง โอกาส และ ความเสี่ยง โดยเฉพาะเรื่อง ความแม่นยำของข้อมูล และ ความเป็นส่วนตัว

    แม้จะมีความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัวและความแม่นยำ แต่ผู้ใช้จำนวนมากทั่วโลกเริ่มนำข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคล เช่น ผลตรวจเลือด, ภาพถ่ายทางการแพทย์, บันทึกแพทย์ และรายงานการผ่าตัด ไปใส่ใน ChatGPT และ AI Chatbots อื่น ๆ เพื่อหาคำตอบที่รวดเร็วและเข้าใจง่ายกว่าการรอพบแพทย์

    ตัวอย่างเช่น Mollie Kerr วัย 26 ปี อัปโหลดผลตรวจฮอร์โมนเข้าสู่ ChatGPT และได้รับคำตอบว่าอาจเป็นเนื้องอกต่อมใต้สมอง แม้แพทย์จะสั่ง MRI ตรวจ แต่ผลกลับไม่พบเนื้องอกใด ๆ ขณะที่ Elliot Royce วัย 63 ปี ได้ผลลัพธ์ที่ช่วยชีวิต เมื่อ ChatGPT แนะนำให้ตรวจเชิงลึกจนพบการอุดตันเส้นเลือดหัวใจถึง 85% และได้รับการรักษาด้วยการใส่ stent

    อย่างไรก็ตาม งานวิจัยพบว่า ความแม่นยำของการวินิจฉัยจาก Chatbots ต่ำกว่า 50% หากผู้ใช้ไม่มีความรู้ทางการแพทย์ และที่สำคัญคือ กฎหมาย HIPAA ไม่ครอบคลุมบริษัทที่ให้บริการ Chatbots ทำให้ผู้ใช้แทบไม่มีสิทธิ์ควบคุมข้อมูลสุขภาพที่อัปโหลดไปแล้ว

    ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า แม้บริษัทอย่าง OpenAI จะมีมาตรการป้องกัน เช่น การอนุญาตให้ผู้ใช้ opt-out จากการใช้ข้อมูลเพื่อฝึกโมเดล แต่ก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะไม่มีการรั่วไหล ข้อมูลสุขภาพที่ละเอียดอ่อนอาจถูกเชื่อมโยงกลับไปยังบุคคล แม้จะลบชื่อหรือ metadata ออกไปแล้วก็ตาม

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การใช้งานจริง
    ผู้ใช้ทั่วโลกอัปโหลดผลตรวจเลือด, บันทึกแพทย์ และรายงานการผ่าตัดเข้าสู่ Chatbots
    บางกรณีช่วยให้ตรวจพบโรคร้ายแรง แต่บางกรณีให้ผลลัพธ์ผิดพลาด

    ความแม่นยำและข้อจำกัด
    งานวิจัยพบว่าความแม่นยำต่ำกว่า 50% หากไม่มีความรู้ทางการแพทย์
    Chatbots มักให้คำตอบทั่วไป ไม่ได้ปรับตามข้อมูลเฉพาะบุคคล

    ความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว
    กฎหมาย HIPAA ไม่ครอบคลุมบริษัท Chatbots
    ผู้ใช้แทบไม่มีสิทธิ์ควบคุมข้อมูลที่อัปโหลดแล้ว

    คำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญ
    ข้อมูลสุขภาพที่ละเอียดอ่อนอาจถูกเชื่อมโยงกลับไปยังบุคคล แม้จะลบชื่อออกแล้ว
    การรั่วไหลของข้อมูลสุขภาพอาจนำไปสู่การเลือกปฏิบัติหรือผลกระทบทางสังคม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/08/people-are-uploading-their-medical-records-to-ai-chatbots
    🏥 ผู้คนกำลังอัปโหลดเวชระเบียนเข้าสู่ AI Chatbots ผู้คนทั่วโลกกำลังอัปโหลดผลตรวจเลือด, บันทึกแพทย์ และรายงานการผ่าตัดเข้าสู่ AI Chatbots เช่น ChatGPT เพื่อหาคำตอบด้านสุขภาพ แต่สิ่งนี้สร้างทั้ง โอกาส และ ความเสี่ยง โดยเฉพาะเรื่อง ความแม่นยำของข้อมูล และ ความเป็นส่วนตัว แม้จะมีความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัวและความแม่นยำ แต่ผู้ใช้จำนวนมากทั่วโลกเริ่มนำข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคล เช่น ผลตรวจเลือด, ภาพถ่ายทางการแพทย์, บันทึกแพทย์ และรายงานการผ่าตัด ไปใส่ใน ChatGPT และ AI Chatbots อื่น ๆ เพื่อหาคำตอบที่รวดเร็วและเข้าใจง่ายกว่าการรอพบแพทย์ ตัวอย่างเช่น Mollie Kerr วัย 26 ปี อัปโหลดผลตรวจฮอร์โมนเข้าสู่ ChatGPT และได้รับคำตอบว่าอาจเป็นเนื้องอกต่อมใต้สมอง แม้แพทย์จะสั่ง MRI ตรวจ แต่ผลกลับไม่พบเนื้องอกใด ๆ ขณะที่ Elliot Royce วัย 63 ปี ได้ผลลัพธ์ที่ช่วยชีวิต เมื่อ ChatGPT แนะนำให้ตรวจเชิงลึกจนพบการอุดตันเส้นเลือดหัวใจถึง 85% และได้รับการรักษาด้วยการใส่ stent อย่างไรก็ตาม งานวิจัยพบว่า ความแม่นยำของการวินิจฉัยจาก Chatbots ต่ำกว่า 50% หากผู้ใช้ไม่มีความรู้ทางการแพทย์ และที่สำคัญคือ กฎหมาย HIPAA ไม่ครอบคลุมบริษัทที่ให้บริการ Chatbots ทำให้ผู้ใช้แทบไม่มีสิทธิ์ควบคุมข้อมูลสุขภาพที่อัปโหลดไปแล้ว ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า แม้บริษัทอย่าง OpenAI จะมีมาตรการป้องกัน เช่น การอนุญาตให้ผู้ใช้ opt-out จากการใช้ข้อมูลเพื่อฝึกโมเดล แต่ก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะไม่มีการรั่วไหล ข้อมูลสุขภาพที่ละเอียดอ่อนอาจถูกเชื่อมโยงกลับไปยังบุคคล แม้จะลบชื่อหรือ metadata ออกไปแล้วก็ตาม 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การใช้งานจริง ➡️ ผู้ใช้ทั่วโลกอัปโหลดผลตรวจเลือด, บันทึกแพทย์ และรายงานการผ่าตัดเข้าสู่ Chatbots ➡️ บางกรณีช่วยให้ตรวจพบโรคร้ายแรง แต่บางกรณีให้ผลลัพธ์ผิดพลาด ✅ ความแม่นยำและข้อจำกัด ➡️ งานวิจัยพบว่าความแม่นยำต่ำกว่า 50% หากไม่มีความรู้ทางการแพทย์ ➡️ Chatbots มักให้คำตอบทั่วไป ไม่ได้ปรับตามข้อมูลเฉพาะบุคคล ✅ ความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว ➡️ กฎหมาย HIPAA ไม่ครอบคลุมบริษัท Chatbots ➡️ ผู้ใช้แทบไม่มีสิทธิ์ควบคุมข้อมูลที่อัปโหลดแล้ว ‼️ คำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญ ⛔ ข้อมูลสุขภาพที่ละเอียดอ่อนอาจถูกเชื่อมโยงกลับไปยังบุคคล แม้จะลบชื่อออกแล้ว ⛔ การรั่วไหลของข้อมูลสุขภาพอาจนำไปสู่การเลือกปฏิบัติหรือผลกระทบทางสังคม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/08/people-are-uploading-their-medical-records-to-ai-chatbots
    WWW.THESTAR.COM.MY
    People are uploading their medical records to AI chatbots
    Despite privacy risks and inaccuracy concerns, people are feeding blood test results, doctor's notes and surgical reports into ChatGPT and the like.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 84 มุมมอง 0 รีวิว
  • การอดอาหารแบบเว้นช่วงเปลี่ยนสมองและลำไส้

    นักวิทยาศาสตร์จากจีนได้ทำการทดลองกับอาสาสมัครที่มีภาวะอ้วนจำนวน 25 คน โดยใช้โปรแกรม Intermittent Energy Restriction (IER) หรือการควบคุมพลังงานแบบเว้นช่วงเป็นเวลา 62 วัน ผลลัพธ์ไม่เพียงทำให้น้ำหนักลดลงเฉลี่ย 7.6 กิโลกรัม (7.8% ของน้ำหนักตัว) แต่ยังพบการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญทั้งใน สมองและจุลินทรีย์ในลำไส้

    สมองตอบสนองต่อการอดอาหาร
    การสแกนสมองด้วย fMRI พบว่าบริเวณที่เกี่ยวข้องกับความอยากอาหารและการเสพติด เช่น inferior frontal orbital gyrus มีการเปลี่ยนแปลงกิจกรรมอย่างชัดเจน ซึ่งสัมพันธ์กับความสามารถในการควบคุมพฤติกรรมการกินและความรู้สึกอยากอาหาร

    ลำไส้และจุลินทรีย์
    การวิเคราะห์ตัวอย่างอุจจาระและเลือดพบว่าแบคทีเรียบางชนิด เช่น Coprococcus comes และ Eubacterium hallii มีความสัมพันธ์เชิงลบกับกิจกรรมในสมองส่วนที่ควบคุมการตัดสินใจและความยับยั้งชั่งใจ การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงการสื่อสารสองทางระหว่าง สมอง–ลำไส้–จุลินทรีย์ ที่มีผลต่อพฤติกรรมการกิน

    ความหมายต่อสุขภาพโลก
    ด้วยจำนวนประชากรที่มีภาวะอ้วนมากกว่า 1 พันล้านคนทั่วโลก การเข้าใจกลไกการเชื่อมโยงระหว่างสมองและลำไส้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง การค้นพบนี้อาจนำไปสู่แนวทางใหม่ในการป้องกันและรักษาโรคอ้วน โดยไม่จำกัดแค่การควบคุมอาหาร แต่รวมถึงการปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้และการกระตุ้นสมองในบริเวณที่เกี่ยวข้องกับความอยากอาหาร

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ผลการทดลอง IER
    น้ำหนักลดเฉลี่ย 7.6 กิโลกรัมใน 62 วัน

    การเปลี่ยนแปลงในสมอง
    กิจกรรมใน inferior frontal orbital gyrus ลดลง ช่วยควบคุมความอยากอาหาร

    การเปลี่ยนแปลงในลำไส้
    จุลินทรีย์บางชนิดสัมพันธ์กับการทำงานของสมองที่เกี่ยวข้องกับการยับยั้งชั่งใจ

    ความหมายต่อสุขภาพโลก
    อาจนำไปสู่การรักษาโรคอ้วนด้วยการปรับสมดุลสมอง–ลำไส้

    ข้อควรระวัง
    ยังไม่ชัดเจนว่าสมองหรือจุลินทรีย์เป็นตัวกระตุ้นหลัก ต้องการการวิจัยเพิ่มเติม

    ความท้าทาย
    การนำไปใช้จริงในวงกว้างยังต้องการการทดลองและการยืนยันเชิงคลินิก

    https://www.sciencealert.com/a-fasting-style-diet-seems-to-result-in-dynamic-changes-to-human-brains
    🥗 การอดอาหารแบบเว้นช่วงเปลี่ยนสมองและลำไส้ นักวิทยาศาสตร์จากจีนได้ทำการทดลองกับอาสาสมัครที่มีภาวะอ้วนจำนวน 25 คน โดยใช้โปรแกรม Intermittent Energy Restriction (IER) หรือการควบคุมพลังงานแบบเว้นช่วงเป็นเวลา 62 วัน ผลลัพธ์ไม่เพียงทำให้น้ำหนักลดลงเฉลี่ย 7.6 กิโลกรัม (7.8% ของน้ำหนักตัว) แต่ยังพบการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญทั้งใน สมองและจุลินทรีย์ในลำไส้ 🧠 สมองตอบสนองต่อการอดอาหาร การสแกนสมองด้วย fMRI พบว่าบริเวณที่เกี่ยวข้องกับความอยากอาหารและการเสพติด เช่น inferior frontal orbital gyrus มีการเปลี่ยนแปลงกิจกรรมอย่างชัดเจน ซึ่งสัมพันธ์กับความสามารถในการควบคุมพฤติกรรมการกินและความรู้สึกอยากอาหาร 🦠 ลำไส้และจุลินทรีย์ การวิเคราะห์ตัวอย่างอุจจาระและเลือดพบว่าแบคทีเรียบางชนิด เช่น Coprococcus comes และ Eubacterium hallii มีความสัมพันธ์เชิงลบกับกิจกรรมในสมองส่วนที่ควบคุมการตัดสินใจและความยับยั้งชั่งใจ การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงการสื่อสารสองทางระหว่าง สมอง–ลำไส้–จุลินทรีย์ ที่มีผลต่อพฤติกรรมการกิน 🌍 ความหมายต่อสุขภาพโลก ด้วยจำนวนประชากรที่มีภาวะอ้วนมากกว่า 1 พันล้านคนทั่วโลก การเข้าใจกลไกการเชื่อมโยงระหว่างสมองและลำไส้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง การค้นพบนี้อาจนำไปสู่แนวทางใหม่ในการป้องกันและรักษาโรคอ้วน โดยไม่จำกัดแค่การควบคุมอาหาร แต่รวมถึงการปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้และการกระตุ้นสมองในบริเวณที่เกี่ยวข้องกับความอยากอาหาร 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ผลการทดลอง IER ➡️ น้ำหนักลดเฉลี่ย 7.6 กิโลกรัมใน 62 วัน ✅ การเปลี่ยนแปลงในสมอง ➡️ กิจกรรมใน inferior frontal orbital gyrus ลดลง ช่วยควบคุมความอยากอาหาร ✅ การเปลี่ยนแปลงในลำไส้ ➡️ จุลินทรีย์บางชนิดสัมพันธ์กับการทำงานของสมองที่เกี่ยวข้องกับการยับยั้งชั่งใจ ✅ ความหมายต่อสุขภาพโลก ➡️ อาจนำไปสู่การรักษาโรคอ้วนด้วยการปรับสมดุลสมอง–ลำไส้ ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ ยังไม่ชัดเจนว่าสมองหรือจุลินทรีย์เป็นตัวกระตุ้นหลัก ต้องการการวิจัยเพิ่มเติม ‼️ ความท้าทาย ⛔ การนำไปใช้จริงในวงกว้างยังต้องการการทดลองและการยืนยันเชิงคลินิก https://www.sciencealert.com/a-fasting-style-diet-seems-to-result-in-dynamic-changes-to-human-brains
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    A Fasting-Style Diet Seems to Result in Dynamic Changes to Human Brains
    Scientists looking to tackle our ongoing obesity crisis have made an important discovery: Intermittent calorie restriction leads to significant changes both in the gut and the brain, which may open up new options for maintaining a healthy weight.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมองเสียหายแบบ "Prion-Like" โดยไม่ต้องมี Prion ติดเชื้อ

    นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Alberta ได้เปิดเผยผลการทดลองใหม่ที่พลิกความเข้าใจเดิมเกี่ยวกับโรคสมองเสื่อมชนิด Prion disease โดยพบว่าอาการเสียหายของสมอง เช่น การเกิดรูพรุน (spongiform damage), การสะสมของ amyloid plaques และการเกิดแผลเป็นจากเซลล์ประสาท (astrogliosis) สามารถเกิดขึ้นได้แม้ไม่มี prion ที่ติดเชื้อ อยู่ในสมองเลย

    กลไกที่ค้นพบ
    ทีมวิจัยใช้หนูทดลองที่ถูกแบ่งออกเป็นหลายกลุ่ม โดยบางกลุ่มได้รับโปรตีน PrP ที่ผิดรูปแต่ไม่ติดเชื้อ และบางกลุ่มได้รับสาร lipopolysaccharide (LPS) ซึ่งเป็นสารพิษจากแบคทีเรีย ผลการทดลองพบว่า:
    หนูที่ได้รับ PrP ผิดรูปเพียงอย่างเดียวก็เกิดความเสียหายของสมองแบบ prion-like
    หนูที่ได้รับ LPS เพียงอย่างเดียวเกิด amyloid plaques และความเสียหายของสมอง พร้อมอัตราการตายสูงถึง 40%
    เมื่อรวม LPS กับ PrP ผิดรูป ความเสียหายยิ่งรุนแรงขึ้น แม้ไม่ถึงขั้นติดเชื้อ
    กลุ่มที่ได้รับ prion ติดเชื้อจริงร่วมกับ LPS เสียชีวิตทั้งหมดภายใน 200 วัน

    ความหมายต่อโรคสมองเสื่อม
    ผลการค้นพบนี้ชี้ว่า การอักเสบเรื้อรัง อาจเป็นตัวกระตุ้นสำคัญที่ทำให้โปรตีนผิดรูปก่อความเสียหายต่อสมองได้ แม้ไม่กลายเป็น prion ที่ติดเชื้อจริง ๆ สิ่งนี้มีนัยสำคัญต่อโรคสมองเสื่อมอื่น ๆ เช่น Alzheimer’s, Parkinson’s และ ALS ซึ่งล้วนเกี่ยวข้องกับโปรตีนผิดรูปและการอักเสบในสมอง

    แนวทางใหม่ในการป้องกัน
    นักวิจัยเสนอว่า หากการอักเสบและสารพิษจากแบคทีเรียมีบทบาทสำคัญ เราอาจลดความเสี่ยงโรคสมองเสื่อมได้ด้วยการควบคุมปัจจัยอักเสบ เช่น การออกกำลังกาย, อาหารต้านการอักเสบ, สุขภาพลำไส้ และการดูแลเมตาบอลิซึม ซึ่งอาจช่วยลดภาระของ endotoxin ในร่างกายและป้องกันการเกิดโรคได้ในระยะยาว

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การค้นพบใหม่
    สมองสามารถเกิดความเสียหายแบบ prion-like ได้แม้ไม่มี prion ติดเชื้อ

    กลไกที่เกี่ยวข้อง
    โปรตีน PrP ผิดรูปและสาร LPS จากแบคทีเรียมีบทบาทสำคัญ

    ผลกระทบต่อโรคสมองเสื่อม
    การอักเสบอาจเป็นตัวกระตุ้นหลักใน Alzheimer’s, Parkinson’s และ ALS

    แนวทางป้องกัน
    การลดการอักเสบด้วยอาหาร ออกกำลังกาย และสุขภาพลำไส้

    ความเสี่ยงที่ต้องระวัง
    การอักเสบเรื้อรังอาจเป็นจุดเริ่มต้นของโรคสมองเสื่อม

    ความท้าทายในการรักษา
    ต้องพัฒนาแนวทางใหม่ที่เน้นการควบคุมการอักเสบ ไม่ใช่แค่จัดการกับ prion

    https://www.sciencealert.com/prion-like-brain-damage-can-occur-without-infectious-prions-study-finds
    🧠 สมองเสียหายแบบ "Prion-Like" โดยไม่ต้องมี Prion ติดเชื้อ นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Alberta ได้เปิดเผยผลการทดลองใหม่ที่พลิกความเข้าใจเดิมเกี่ยวกับโรคสมองเสื่อมชนิด Prion disease โดยพบว่าอาการเสียหายของสมอง เช่น การเกิดรูพรุน (spongiform damage), การสะสมของ amyloid plaques และการเกิดแผลเป็นจากเซลล์ประสาท (astrogliosis) สามารถเกิดขึ้นได้แม้ไม่มี prion ที่ติดเชื้อ อยู่ในสมองเลย 🔬 กลไกที่ค้นพบ ทีมวิจัยใช้หนูทดลองที่ถูกแบ่งออกเป็นหลายกลุ่ม โดยบางกลุ่มได้รับโปรตีน PrP ที่ผิดรูปแต่ไม่ติดเชื้อ และบางกลุ่มได้รับสาร lipopolysaccharide (LPS) ซึ่งเป็นสารพิษจากแบคทีเรีย ผลการทดลองพบว่า: 💠 หนูที่ได้รับ PrP ผิดรูปเพียงอย่างเดียวก็เกิดความเสียหายของสมองแบบ prion-like 💠 หนูที่ได้รับ LPS เพียงอย่างเดียวเกิด amyloid plaques และความเสียหายของสมอง พร้อมอัตราการตายสูงถึง 40% 💠 เมื่อรวม LPS กับ PrP ผิดรูป ความเสียหายยิ่งรุนแรงขึ้น แม้ไม่ถึงขั้นติดเชื้อ 💠 กลุ่มที่ได้รับ prion ติดเชื้อจริงร่วมกับ LPS เสียชีวิตทั้งหมดภายใน 200 วัน ⚡ ความหมายต่อโรคสมองเสื่อม ผลการค้นพบนี้ชี้ว่า การอักเสบเรื้อรัง อาจเป็นตัวกระตุ้นสำคัญที่ทำให้โปรตีนผิดรูปก่อความเสียหายต่อสมองได้ แม้ไม่กลายเป็น prion ที่ติดเชื้อจริง ๆ สิ่งนี้มีนัยสำคัญต่อโรคสมองเสื่อมอื่น ๆ เช่น Alzheimer’s, Parkinson’s และ ALS ซึ่งล้วนเกี่ยวข้องกับโปรตีนผิดรูปและการอักเสบในสมอง 🌍 แนวทางใหม่ในการป้องกัน นักวิจัยเสนอว่า หากการอักเสบและสารพิษจากแบคทีเรียมีบทบาทสำคัญ เราอาจลดความเสี่ยงโรคสมองเสื่อมได้ด้วยการควบคุมปัจจัยอักเสบ เช่น การออกกำลังกาย, อาหารต้านการอักเสบ, สุขภาพลำไส้ และการดูแลเมตาบอลิซึม ซึ่งอาจช่วยลดภาระของ endotoxin ในร่างกายและป้องกันการเกิดโรคได้ในระยะยาว 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การค้นพบใหม่ ➡️ สมองสามารถเกิดความเสียหายแบบ prion-like ได้แม้ไม่มี prion ติดเชื้อ ✅ กลไกที่เกี่ยวข้อง ➡️ โปรตีน PrP ผิดรูปและสาร LPS จากแบคทีเรียมีบทบาทสำคัญ ✅ ผลกระทบต่อโรคสมองเสื่อม ➡️ การอักเสบอาจเป็นตัวกระตุ้นหลักใน Alzheimer’s, Parkinson’s และ ALS ✅ แนวทางป้องกัน ➡️ การลดการอักเสบด้วยอาหาร ออกกำลังกาย และสุขภาพลำไส้ ‼️ ความเสี่ยงที่ต้องระวัง ⛔ การอักเสบเรื้อรังอาจเป็นจุดเริ่มต้นของโรคสมองเสื่อม ‼️ ความท้าทายในการรักษา ⛔ ต้องพัฒนาแนวทางใหม่ที่เน้นการควบคุมการอักเสบ ไม่ใช่แค่จัดการกับ prion https://www.sciencealert.com/prion-like-brain-damage-can-occur-without-infectious-prions-study-finds
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Prion-Like Brain Damage Can Occur Without Infectious Prions, Study Finds
    We may have been overestimating the role of a pathological class of misfolded protein in neurodegenerative disease.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 121 มุมมอง 0 รีวิว
  • สัญญาณอันตรายจากน้ำเสีย

    นักวิทยาศาสตร์นานาชาติได้ตรวจสอบน้ำเสียจาก 1,240 ตัวอย่างใน 351 เมืองทั่ว 111 ประเทศ พบว่ามี ยีนดื้อยาปฏิชีวนะ (ARGs) ที่ซ่อนอยู่มากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ ยีนเหล่านี้แม้ยังไม่ถูกใช้งาน แต่สามารถถูกกระตุ้นให้ทำงานได้ภายใต้สภาวะบางอย่าง ซึ่งอาจทำให้เชื้อโรคในอนาคตมีความสามารถในการต้านทานยาที่เรามีอยู่

    แหล่งกักเก็บยีนดื้อยาแฝง
    ผลการศึกษาชี้ว่า ยีนดื้อยาแฝงมีอยู่ทั่วโลกในน้ำเสีย และมีจำนวนมากกว่ายีนดื้อยาที่ถูกกระตุ้นแล้ว การค้นพบนี้บ่งชี้ว่าน้ำเสียเป็นเหมือน “ห้องสมุดยีนดื้อยา” ที่รวมทั้งจากมนุษย์ สัตว์ และสิ่งแวดล้อมรอบข้าง ซึ่งอาจกลายเป็นต้นกำเนิดของเชื้อดื้อยาในอนาคต

    ความสำคัญของการเฝ้าระวัง
    นักวิจัยเสนอให้มีการเฝ้าระวังน้ำเสียอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงตรวจหายีนดื้อยาที่ถูกกระตุ้นแล้ว แต่ต้องรวมถึง ยีนดื้อยาแฝง เพื่อคาดการณ์ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การติดตามทั้งสองประเภทจะช่วยให้เข้าใจการแพร่กระจายและวิวัฒนาการของเชื้อดื้อยาได้ดียิ่งขึ้น

    ความเสี่ยงในอนาคต
    แม้ยีนดื้อยาแฝงส่วนใหญ่ยังไม่เป็นภัยต่อสุขภาพในตอนนี้ แต่บางส่วนอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต โดยเฉพาะเมื่อมีการพัฒนายาปฏิชีวนะใหม่ ๆ ที่อาจถูกทำลายได้ทันทีจากกลไกที่เชื้อโรคคิดค้นขึ้นมาแล้ว การศึกษานี้จึงเป็นการเตือนให้โลกเตรียมรับมือกับภัยเงียบที่กำลังคืบคลานเข้ามา

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การค้นพบในน้ำเสีย
    พบยีนดื้อยาแฝงจำนวนมากในตัวอย่างจาก 111 ประเทศ

    ลักษณะของยีนดื้อยาแฝง
    เป็นยีนที่ยังไม่ถูกใช้งาน แต่สามารถถูกกระตุ้นได้

    ความสำคัญของการเฝ้าระวัง
    ต้องตรวจสอบทั้งยีนดื้อยาที่ถูกกระตุ้นแล้วและที่ยังแฝงอยู่

    บทบาทของน้ำเสีย
    เป็นแหล่งรวมยีนจากมนุษย์ สัตว์ และสิ่งแวดล้อม

    ความเสี่ยงในอนาคต
    ยีนดื้อยาแฝงบางส่วนอาจกลายเป็นภัยต่อสุขภาพมนุษย์

    ความท้าทายในการพัฒนายาใหม่
    เชื้อโรคอาจมี “กลไกทำลายยา” ที่พร้อมใช้งานทันที ทำให้ยาปฏิชีวนะใหม่หมดประสิทธิภาพ

    https://www.sciencealert.com/grim-signals-of-future-antimicrobial-resistance-found-lurking-in-sewage
    🧫 สัญญาณอันตรายจากน้ำเสีย นักวิทยาศาสตร์นานาชาติได้ตรวจสอบน้ำเสียจาก 1,240 ตัวอย่างใน 351 เมืองทั่ว 111 ประเทศ พบว่ามี ยีนดื้อยาปฏิชีวนะ (ARGs) ที่ซ่อนอยู่มากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ ยีนเหล่านี้แม้ยังไม่ถูกใช้งาน แต่สามารถถูกกระตุ้นให้ทำงานได้ภายใต้สภาวะบางอย่าง ซึ่งอาจทำให้เชื้อโรคในอนาคตมีความสามารถในการต้านทานยาที่เรามีอยู่ 🌍 แหล่งกักเก็บยีนดื้อยาแฝง ผลการศึกษาชี้ว่า ยีนดื้อยาแฝงมีอยู่ทั่วโลกในน้ำเสีย และมีจำนวนมากกว่ายีนดื้อยาที่ถูกกระตุ้นแล้ว การค้นพบนี้บ่งชี้ว่าน้ำเสียเป็นเหมือน “ห้องสมุดยีนดื้อยา” ที่รวมทั้งจากมนุษย์ สัตว์ และสิ่งแวดล้อมรอบข้าง ซึ่งอาจกลายเป็นต้นกำเนิดของเชื้อดื้อยาในอนาคต 🔎 ความสำคัญของการเฝ้าระวัง นักวิจัยเสนอให้มีการเฝ้าระวังน้ำเสียอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงตรวจหายีนดื้อยาที่ถูกกระตุ้นแล้ว แต่ต้องรวมถึง ยีนดื้อยาแฝง เพื่อคาดการณ์ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การติดตามทั้งสองประเภทจะช่วยให้เข้าใจการแพร่กระจายและวิวัฒนาการของเชื้อดื้อยาได้ดียิ่งขึ้น ⚠️ ความเสี่ยงในอนาคต แม้ยีนดื้อยาแฝงส่วนใหญ่ยังไม่เป็นภัยต่อสุขภาพในตอนนี้ แต่บางส่วนอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต โดยเฉพาะเมื่อมีการพัฒนายาปฏิชีวนะใหม่ ๆ ที่อาจถูกทำลายได้ทันทีจากกลไกที่เชื้อโรคคิดค้นขึ้นมาแล้ว การศึกษานี้จึงเป็นการเตือนให้โลกเตรียมรับมือกับภัยเงียบที่กำลังคืบคลานเข้ามา 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การค้นพบในน้ำเสีย ➡️ พบยีนดื้อยาแฝงจำนวนมากในตัวอย่างจาก 111 ประเทศ ✅ ลักษณะของยีนดื้อยาแฝง ➡️ เป็นยีนที่ยังไม่ถูกใช้งาน แต่สามารถถูกกระตุ้นได้ ✅ ความสำคัญของการเฝ้าระวัง ➡️ ต้องตรวจสอบทั้งยีนดื้อยาที่ถูกกระตุ้นแล้วและที่ยังแฝงอยู่ ✅ บทบาทของน้ำเสีย ➡️ เป็นแหล่งรวมยีนจากมนุษย์ สัตว์ และสิ่งแวดล้อม ‼️ ความเสี่ยงในอนาคต ⛔ ยีนดื้อยาแฝงบางส่วนอาจกลายเป็นภัยต่อสุขภาพมนุษย์ ‼️ ความท้าทายในการพัฒนายาใหม่ ⛔ เชื้อโรคอาจมี “กลไกทำลายยา” ที่พร้อมใช้งานทันที ทำให้ยาปฏิชีวนะใหม่หมดประสิทธิภาพ https://www.sciencealert.com/grim-signals-of-future-antimicrobial-resistance-found-lurking-in-sewage
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Grim Signals of Future Antimicrobial Resistance Found Lurking in Sewage
    Dangerous bacteria and other disease-causing microbes are rapidly evolving ways to defy our best antibiotic medications, a phenomenon known as antimicrobial resistance.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 132 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความกฎหมาย EP.39

    คำว่า "บิดา" ในบริบททางกฎหมายนั้นมีความสำคัญและมีความหมายที่เจาะจงอย่างยิ่ง ไม่ได้จำกัดเพียงแค่ความสัมพันธ์ทางสายเลือดหรือทางชีววิทยาเท่านั้น แต่ยังหมายถึง "ผู้ชายที่เป็นพ่อตามกฎหมาย" ซึ่งเป็นสถานะที่ได้รับการรับรองและกำหนดสิทธิ หน้าที่ ความรับผิดชอบ และความสัมพันธ์ตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ของประเทศไทยบัญญัติไว้เป็นสำคัญ การจะเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายนั้น มีหลักการที่ชัดเจนซึ่งมุ่งเน้นไปที่การคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของบุตรเป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นเรื่องการรับมรดก การใช้อำนาจปกครอง และการได้รับการอุปการะเลี้ยงดู การเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับบุตรที่เกิดจากการสมรส ถือว่าง่ายที่สุด เพราะกฎหมายสันนิษฐานไว้ก่อนว่าสามีของผู้เป็นมารดาย่อมเป็นบิดาของบุตรที่เกิดในระหว่างการสมรสหรือภายในสามร้อยสิบวันนับแต่วันที่การสมรสสิ้นสุดลง ซึ่งเป็นหลักการที่เรียกว่าการสันนิษฐานว่าเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย แต่สำหรับบุตรที่เกิดนอกสมรส กฎหมายไทยไม่ได้สันนิษฐานให้ผู้ให้กำเนิดเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายโดยอัตโนมัติ การที่บิดาผู้ให้กำเนิดจะได้รับการรับรองสถานะทางกฎหมายเป็น "บิดา" ของบุตรนอกสมรสได้นั้น จะต้องดำเนินการตามวิธีการที่กฎหมายกำหนดไว้เป็นการเฉพาะเจาะจง ซึ่งได้แก่ การจดทะเบียนสมรสกับมารดาภายหลังการเกิดของบุตร การจดทะเบียนรับรองบุตร หรือการที่ศาลมีคำพิพากษาว่าเป็นบิดา การจดทะเบียนรับรองบุตรถือเป็นกระบวนการที่สำคัญยิ่งและเป็นทางออกหลักสำหรับกรณีนี้ โดยต้องได้รับความยินยอมจากบุตรและมารดาหากบุตรบรรลุนิติภาวะแล้ว หรือมารดาและผู้มีอำนาจปกครองในกรณีที่บุตรยังเป็นผู้เยาว์ ทั้งนี้เพื่อป้องกันการสวมสิทธิ หรือการรับรองบุตรโดยไม่สุจริต ขณะเดียวกัน บทบาทของศาลก็มีความสำคัญอย่างยิ่งในการพิจารณาคดีพิสูจน์ความเป็นบิดา เมื่อมีข้อโต้แย้งเกิดขึ้น หากศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าผู้ใดเป็นบิดาของบุตร คำพิพากษานั้นย่อมมีผลให้บุคคลนั้นเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายนับตั้งแต่วันที่บุตรเกิด และก่อให้เกิดความสัมพันธ์ทางกฎหมายในทันทีทันใด ทั้งสิทธิและหน้าที่ผูกพันระหว่างกันและกันโดยสมบูรณ์ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายบัญญัติไว้ อำนาจปกครองบุตรเป็นอีกประเด็นที่ต้องกล่าวถึง เมื่อบุคคลใดได้รับการรับรองสถานะเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ย่อมมีสิทธิในการใช้อำนาจปกครองร่วมกับมารดาตามหลักที่กฎหมายกำหนด เว้นแต่จะมีเหตุผลพิเศษอื่นที่ศาลสั่งเป็นอย่างอื่น อำนาจปกครองนี้ครอบคลุมถึงการกำหนดที่อยู่ของบุตร การดูแลสุขภาพและการศึกษาของบุตร รวมถึงการจัดการทรัพย์สินของบุตรภายใต้กรอบของกฎหมาย ดังนั้น ความหมายของ "บิดา" จึงเป็นยิ่งกว่าคำเรียกทางเครือญาติ แต่เป็นสถานะที่มีผลผูกพันทางกฎหมายอย่างแน่นแฟ้น ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการธำรงไว้ซึ่งสิทธิ หน้าที่ และความมั่นคงของสถาบันครอบครัวตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย

    ดังนั้น สถานะ "บิดา" ในความหมายทางกฎหมายจึงเป็นสถานะที่มิได้เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติในทุกกรณี แต่ต้องเกิดจากการยอมรับหรือการรับรองตามหลักเกณฑ์ที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์กำหนดไว้เป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการสันนิษฐานจากผลของการสมรส หรือการดำเนินการตามขั้นตอนที่เข้มงวดสำหรับการรับรองบุตรนอกสมรส สถานะดังกล่าวนี้เป็นเครื่องมือทางกฎหมายที่สร้างความชัดเจนและมั่นคงในความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูก ทำให้เกิดสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบต่อกันและกันอย่างสมบูรณ์ เช่น สิทธิในการรับมรดก สิทธิในการได้รับการอุปการะเลี้ยงดู รวมถึงการมีส่วนร่วมในการใช้อำนาจปกครองบุตร ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนมีเป้าหมายหลักในการคุ้มครองสิทธิและสวัสดิภาพของบุตรในฐานะพลเมืองคนหนึ่งของสังคม โดยเน้นย้ำว่าความเป็นพ่อแม่ที่แท้จริงในทางกฎหมายนั้นคือการมีภาระผูกพันและความรับผิดชอบตามกรอบของกฎหมายที่ชัดเจน

    สรุปได้ว่า คำว่า "บิดา" คือ "ผู้ชายที่เป็นพ่อตามกฎหมาย" นั้นไม่ใช่เพียงคำนิยามสั้น ๆ แต่เป็นบทสรุปของกระบวนการทางกฎหมายอันซับซ้อนที่มุ่งมั่นในการสร้างความผูกพันทางกฎหมายระหว่างผู้ให้กำเนิดกับบุตรอย่างเป็นทางการ โดยมีหลักเกณฑ์และวิธีการที่แตกต่างกันไปตามสถานะการสมรสของบิดาและมารดา ซึ่งไม่ว่าจะมาด้วยวิธีการใด เป้าหมายสุดท้ายคือการทำให้บุตรได้รับความคุ้มครอง สิทธิ และความมั่นคงในชีวิตจากบุคคลที่กฎหมายรับรองว่าเป็นบิดาอย่างสมบูรณ์และไม่มีข้อสงสัยในทางนิตินัย ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการบัญญัติกฎหมายครอบครัวในประเด็นนี้.
    บทความกฎหมาย EP.39 คำว่า "บิดา" ในบริบททางกฎหมายนั้นมีความสำคัญและมีความหมายที่เจาะจงอย่างยิ่ง ไม่ได้จำกัดเพียงแค่ความสัมพันธ์ทางสายเลือดหรือทางชีววิทยาเท่านั้น แต่ยังหมายถึง "ผู้ชายที่เป็นพ่อตามกฎหมาย" ซึ่งเป็นสถานะที่ได้รับการรับรองและกำหนดสิทธิ หน้าที่ ความรับผิดชอบ และความสัมพันธ์ตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ของประเทศไทยบัญญัติไว้เป็นสำคัญ การจะเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายนั้น มีหลักการที่ชัดเจนซึ่งมุ่งเน้นไปที่การคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของบุตรเป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นเรื่องการรับมรดก การใช้อำนาจปกครอง และการได้รับการอุปการะเลี้ยงดู การเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับบุตรที่เกิดจากการสมรส ถือว่าง่ายที่สุด เพราะกฎหมายสันนิษฐานไว้ก่อนว่าสามีของผู้เป็นมารดาย่อมเป็นบิดาของบุตรที่เกิดในระหว่างการสมรสหรือภายในสามร้อยสิบวันนับแต่วันที่การสมรสสิ้นสุดลง ซึ่งเป็นหลักการที่เรียกว่าการสันนิษฐานว่าเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย แต่สำหรับบุตรที่เกิดนอกสมรส กฎหมายไทยไม่ได้สันนิษฐานให้ผู้ให้กำเนิดเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายโดยอัตโนมัติ การที่บิดาผู้ให้กำเนิดจะได้รับการรับรองสถานะทางกฎหมายเป็น "บิดา" ของบุตรนอกสมรสได้นั้น จะต้องดำเนินการตามวิธีการที่กฎหมายกำหนดไว้เป็นการเฉพาะเจาะจง ซึ่งได้แก่ การจดทะเบียนสมรสกับมารดาภายหลังการเกิดของบุตร การจดทะเบียนรับรองบุตร หรือการที่ศาลมีคำพิพากษาว่าเป็นบิดา การจดทะเบียนรับรองบุตรถือเป็นกระบวนการที่สำคัญยิ่งและเป็นทางออกหลักสำหรับกรณีนี้ โดยต้องได้รับความยินยอมจากบุตรและมารดาหากบุตรบรรลุนิติภาวะแล้ว หรือมารดาและผู้มีอำนาจปกครองในกรณีที่บุตรยังเป็นผู้เยาว์ ทั้งนี้เพื่อป้องกันการสวมสิทธิ หรือการรับรองบุตรโดยไม่สุจริต ขณะเดียวกัน บทบาทของศาลก็มีความสำคัญอย่างยิ่งในการพิจารณาคดีพิสูจน์ความเป็นบิดา เมื่อมีข้อโต้แย้งเกิดขึ้น หากศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าผู้ใดเป็นบิดาของบุตร คำพิพากษานั้นย่อมมีผลให้บุคคลนั้นเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายนับตั้งแต่วันที่บุตรเกิด และก่อให้เกิดความสัมพันธ์ทางกฎหมายในทันทีทันใด ทั้งสิทธิและหน้าที่ผูกพันระหว่างกันและกันโดยสมบูรณ์ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายบัญญัติไว้ อำนาจปกครองบุตรเป็นอีกประเด็นที่ต้องกล่าวถึง เมื่อบุคคลใดได้รับการรับรองสถานะเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ย่อมมีสิทธิในการใช้อำนาจปกครองร่วมกับมารดาตามหลักที่กฎหมายกำหนด เว้นแต่จะมีเหตุผลพิเศษอื่นที่ศาลสั่งเป็นอย่างอื่น อำนาจปกครองนี้ครอบคลุมถึงการกำหนดที่อยู่ของบุตร การดูแลสุขภาพและการศึกษาของบุตร รวมถึงการจัดการทรัพย์สินของบุตรภายใต้กรอบของกฎหมาย ดังนั้น ความหมายของ "บิดา" จึงเป็นยิ่งกว่าคำเรียกทางเครือญาติ แต่เป็นสถานะที่มีผลผูกพันทางกฎหมายอย่างแน่นแฟ้น ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการธำรงไว้ซึ่งสิทธิ หน้าที่ และความมั่นคงของสถาบันครอบครัวตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ดังนั้น สถานะ "บิดา" ในความหมายทางกฎหมายจึงเป็นสถานะที่มิได้เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติในทุกกรณี แต่ต้องเกิดจากการยอมรับหรือการรับรองตามหลักเกณฑ์ที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์กำหนดไว้เป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการสันนิษฐานจากผลของการสมรส หรือการดำเนินการตามขั้นตอนที่เข้มงวดสำหรับการรับรองบุตรนอกสมรส สถานะดังกล่าวนี้เป็นเครื่องมือทางกฎหมายที่สร้างความชัดเจนและมั่นคงในความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูก ทำให้เกิดสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบต่อกันและกันอย่างสมบูรณ์ เช่น สิทธิในการรับมรดก สิทธิในการได้รับการอุปการะเลี้ยงดู รวมถึงการมีส่วนร่วมในการใช้อำนาจปกครองบุตร ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนมีเป้าหมายหลักในการคุ้มครองสิทธิและสวัสดิภาพของบุตรในฐานะพลเมืองคนหนึ่งของสังคม โดยเน้นย้ำว่าความเป็นพ่อแม่ที่แท้จริงในทางกฎหมายนั้นคือการมีภาระผูกพันและความรับผิดชอบตามกรอบของกฎหมายที่ชัดเจน สรุปได้ว่า คำว่า "บิดา" คือ "ผู้ชายที่เป็นพ่อตามกฎหมาย" นั้นไม่ใช่เพียงคำนิยามสั้น ๆ แต่เป็นบทสรุปของกระบวนการทางกฎหมายอันซับซ้อนที่มุ่งมั่นในการสร้างความผูกพันทางกฎหมายระหว่างผู้ให้กำเนิดกับบุตรอย่างเป็นทางการ โดยมีหลักเกณฑ์และวิธีการที่แตกต่างกันไปตามสถานะการสมรสของบิดาและมารดา ซึ่งไม่ว่าจะมาด้วยวิธีการใด เป้าหมายสุดท้ายคือการทำให้บุตรได้รับความคุ้มครอง สิทธิ และความมั่นคงในชีวิตจากบุคคลที่กฎหมายรับรองว่าเป็นบิดาอย่างสมบูรณ์และไม่มีข้อสงสัยในทางนิตินัย ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการบัญญัติกฎหมายครอบครัวในประเด็นนี้.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 0 รีวิว
  • "เด็กเล็กกับโซเชียลมีเดีย – สัญญาณอันตรายที่สังคมต้องรับมือ"

    รายงานจาก Centre for Social Justice (CSJ) ในสหราชอาณาจักรเผยว่า กว่า 814,000 เด็กอายุ 3–5 ปี กำลังใช้งานโซเชียลมีเดีย แม้ยังไม่สามารถอ่านออกเขียนได้ แต่กลับถูกป้อนด้วยคอนเทนต์และอัลกอริทึมที่ออกแบบมาเพื่อดึงดูดผู้ใหญ่ ซึ่งสร้างความกังวลอย่างมากต่อผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาและสุขภาพเด็ก.

    การวิเคราะห์นี้อ้างอิงข้อมูลประชากรปี 2024 และผลสำรวจจาก Ofcom ที่พบว่า เกือบ 40% ของผู้ปกครองเด็กเล็กยอมรับว่าลูกใช้โซเชียลมีเดีย อย่างน้อยหนึ่งแพลตฟอร์ม สะท้อนว่าปัญหานี้ไม่ได้เป็นเพียงกรณีเฉพาะ แต่กำลังกลายเป็นปรากฏการณ์ในวงกว้าง.

    Lord Nash อดีตรัฐมนตรีศึกษาธิการอังกฤษเรียกร้องให้มี การรณรงค์ด้านสาธารณสุข เพื่อให้ผู้ปกครองเข้าใจถึงผลเสีย และเสนอให้ ยกอายุขั้นต่ำในการใช้โซเชียลมีเดียเป็น 16 ปี พร้อมบังคับให้บริษัทเทคโนโลยีรับผิดชอบหากปล่อยให้เด็กเล็กเข้าถึงแพลตฟอร์มได้.

    ขณะเดียวกัน ออสเตรเลียกำลังจะบังคับใช้กฎหมายใหม่ตั้งแต่ 10 ธันวาคม 2025 ที่กำหนดให้แพลตฟอร์มต้องป้องกันไม่ให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปีสมัครบัญชีได้ ถือเป็นก้าวแรกของโลกในการสร้างมาตรการเชิงกฎหมายเพื่อปกป้องเยาวชนจากผลกระทบของโซเชียลมีเดีย.

    สรุปสาระสำคัญ
    สถานการณ์การใช้โซเชียลมีเดียในเด็กเล็ก
    เด็กอายุ 3–5 ปีในสหราชอาณาจักรกว่า 814,000 คนใช้งานโซเชียลมีเดีย
    เกือบ 40% ของผู้ปกครองยอมรับว่าลูกใช้แพลตฟอร์มออนไลน์

    ข้อเสนอและมาตรการ
    เรียกร้องให้ยกอายุขั้นต่ำในการใช้โซเชียลมีเดียเป็น 16 ปี
    เสนอให้มีการรณรงค์สาธารณสุขเพื่อสร้างความเข้าใจแก่ผู้ปกครอง

    ตัวอย่างจากต่างประเทศ
    ออสเตรเลียออกกฎหมายใหม่บังคับใช้ 10 ธันวาคม 2025
    แพลตฟอร์มต้องป้องกันไม่ให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปีสมัครบัญชี

    คำเตือนต่อสังคมและผู้ปกครอง
    เด็กเล็กที่ยังไม่รู้หนังสือกำลังถูกป้อนคอนเทนต์ที่ออกแบบมาสำหรับผู้ใหญ่
    เสี่ยงต่อการพัฒนาสมองและสุขภาพจิตจากการเสพติดโซเชียลมีเดีย

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/07/scale-of-social-media-use-in-pre-school-children-deeply-alarming
    📰 "เด็กเล็กกับโซเชียลมีเดีย – สัญญาณอันตรายที่สังคมต้องรับมือ" 👶 รายงานจาก Centre for Social Justice (CSJ) ในสหราชอาณาจักรเผยว่า กว่า 814,000 เด็กอายุ 3–5 ปี กำลังใช้งานโซเชียลมีเดีย แม้ยังไม่สามารถอ่านออกเขียนได้ แต่กลับถูกป้อนด้วยคอนเทนต์และอัลกอริทึมที่ออกแบบมาเพื่อดึงดูดผู้ใหญ่ ซึ่งสร้างความกังวลอย่างมากต่อผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาและสุขภาพเด็ก. 📊 การวิเคราะห์นี้อ้างอิงข้อมูลประชากรปี 2024 และผลสำรวจจาก Ofcom ที่พบว่า เกือบ 40% ของผู้ปกครองเด็กเล็กยอมรับว่าลูกใช้โซเชียลมีเดีย อย่างน้อยหนึ่งแพลตฟอร์ม สะท้อนว่าปัญหานี้ไม่ได้เป็นเพียงกรณีเฉพาะ แต่กำลังกลายเป็นปรากฏการณ์ในวงกว้าง. ⚖️ Lord Nash อดีตรัฐมนตรีศึกษาธิการอังกฤษเรียกร้องให้มี การรณรงค์ด้านสาธารณสุข เพื่อให้ผู้ปกครองเข้าใจถึงผลเสีย และเสนอให้ ยกอายุขั้นต่ำในการใช้โซเชียลมีเดียเป็น 16 ปี พร้อมบังคับให้บริษัทเทคโนโลยีรับผิดชอบหากปล่อยให้เด็กเล็กเข้าถึงแพลตฟอร์มได้. 🌍 ขณะเดียวกัน ออสเตรเลียกำลังจะบังคับใช้กฎหมายใหม่ตั้งแต่ 10 ธันวาคม 2025 ที่กำหนดให้แพลตฟอร์มต้องป้องกันไม่ให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปีสมัครบัญชีได้ ถือเป็นก้าวแรกของโลกในการสร้างมาตรการเชิงกฎหมายเพื่อปกป้องเยาวชนจากผลกระทบของโซเชียลมีเดีย. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ สถานการณ์การใช้โซเชียลมีเดียในเด็กเล็ก ➡️ เด็กอายุ 3–5 ปีในสหราชอาณาจักรกว่า 814,000 คนใช้งานโซเชียลมีเดีย ➡️ เกือบ 40% ของผู้ปกครองยอมรับว่าลูกใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ ✅ ข้อเสนอและมาตรการ ➡️ เรียกร้องให้ยกอายุขั้นต่ำในการใช้โซเชียลมีเดียเป็น 16 ปี ➡️ เสนอให้มีการรณรงค์สาธารณสุขเพื่อสร้างความเข้าใจแก่ผู้ปกครอง ✅ ตัวอย่างจากต่างประเทศ ➡️ ออสเตรเลียออกกฎหมายใหม่บังคับใช้ 10 ธันวาคม 2025 ➡️ แพลตฟอร์มต้องป้องกันไม่ให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปีสมัครบัญชี ‼️ คำเตือนต่อสังคมและผู้ปกครอง ⛔ เด็กเล็กที่ยังไม่รู้หนังสือกำลังถูกป้อนคอนเทนต์ที่ออกแบบมาสำหรับผู้ใหญ่ ⛔ เสี่ยงต่อการพัฒนาสมองและสุขภาพจิตจากการเสพติดโซเชียลมีเดีย https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/07/scale-of-social-media-use-in-pre-school-children-deeply-alarming
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Scale of social media use in pre-school children 'deeply alarming'
    Hundreds of thousands of pre-school children are "being fed content and algorithms designed to hook adults", a former education minister in Britain has warned.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 152 มุมมอง 0 รีวิว
  • The Past Was Not That Cute – Julia Wise

    บทความนี้โดย Julia Wise พูดถึงการมองย้อนอดีตผ่านกระแส cottagecore และความโรแมนติกที่ผู้คนมักมีต่อ “ชีวิตเรียบง่ายในอดีต” แต่เธอชี้ให้เห็นว่า ความจริงแล้วอดีตเต็มไปด้วยความลำบาก ทั้งด้านเศรษฐกิจ สุขภาพ และสังคม ไม่ได้สวยงามอย่างที่ภาพจำบอกไว้

    Julia ยกตัวอย่างจาก Laura Ingalls Wilder ผู้เขียน Little House on the Prairie ที่เล่าเรื่องครอบครัวพยายามดิ้นรนในยุคบุกเบิก แม้หนังสือจะเต็มไปด้วยความอบอุ่น แต่เบื้องหลังคือความจริงอันโหดร้าย เช่น การล้มเหลวของพืชผลต่อเนื่องหลายปี ดอกเบี้ยเงินกู้สูงถึง 36% และสุขภาพที่ทรุดโทรมจากการทำงานหนัก

    เธอยังสะท้อนถึง ความเข้าใจผิดเรื่องบุคลิกคนในอดีต ที่มักถูกโรแมนติไซส์ผ่านเพลงพื้นบ้านและวัฒนธรรม แต่จริงๆ แล้วสังคมเล็กๆ ในอดีตเต็มไปด้วยข้อจำกัด เช่น การเลือกคู่ที่จำกัดในกลุ่มเพื่อนบ้านเพียงไม่กี่คน และการที่ผู้หญิงมักถูกกดทับด้วยบทบาทครอบครัวและงานบ้านมากกว่าที่เราจินตนาการ

    ท้ายที่สุด Julia ย้ำว่า แม้เราจะยังคงสนุกกับการดึงแรงบันดาลใจจากอดีต เช่น การทำขนมปังเองหรือเล่นดนตรีร่วมกัน แต่สิ่งสำคัญคือการตระหนักว่า ความสะดวกสบายในปัจจุบัน เช่น ไฟฟ้า น้ำสะอาด และการรักษาทางทันตกรรม คือสิ่งที่ทำให้เรามีอิสระในการเลือก “สุนทรียะ” โดยไม่ต้องเผชิญความทุกข์ยากแบบคนรุ่นก่อน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Cottagecore และภาพจำอดีต
    ผู้คนมักโรแมนติไซส์อดีตว่าเรียบง่ายและอบอุ่น

    ความจริงเบื้องหลัง Little House on the Prairie
    ครอบครัว Wilder ต้องเผชิญ crop failure ต่อเนื่องและดอกเบี้ยสูง

    บุคลิกและชีวิตคนในอดีต
    สังคมเล็กๆ มีข้อจำกัดมาก ทั้งการเลือกคู่และบทบาทผู้หญิง

    คุณค่าของความสะดวกสบายปัจจุบัน
    ไฟฟ้า น้ำสะอาด และการแพทย์ทำให้เรามีอิสระในการเลือกสุนทรียะ

    ความเสี่ยงจากการโรแมนติไซส์อดีตเกินจริง
    อาจทำให้มองข้ามความยากลำบากและความไม่เท่าเทียมที่คนรุ่นก่อนเผชิญ

    https://juliawise.net/the-past-was-not-that-cute/
    🏡 The Past Was Not That Cute – Julia Wise บทความนี้โดย Julia Wise พูดถึงการมองย้อนอดีตผ่านกระแส cottagecore และความโรแมนติกที่ผู้คนมักมีต่อ “ชีวิตเรียบง่ายในอดีต” แต่เธอชี้ให้เห็นว่า ความจริงแล้วอดีตเต็มไปด้วยความลำบาก ทั้งด้านเศรษฐกิจ สุขภาพ และสังคม ไม่ได้สวยงามอย่างที่ภาพจำบอกไว้ Julia ยกตัวอย่างจาก Laura Ingalls Wilder ผู้เขียน Little House on the Prairie ที่เล่าเรื่องครอบครัวพยายามดิ้นรนในยุคบุกเบิก แม้หนังสือจะเต็มไปด้วยความอบอุ่น แต่เบื้องหลังคือความจริงอันโหดร้าย เช่น การล้มเหลวของพืชผลต่อเนื่องหลายปี ดอกเบี้ยเงินกู้สูงถึง 36% และสุขภาพที่ทรุดโทรมจากการทำงานหนัก เธอยังสะท้อนถึง ความเข้าใจผิดเรื่องบุคลิกคนในอดีต ที่มักถูกโรแมนติไซส์ผ่านเพลงพื้นบ้านและวัฒนธรรม แต่จริงๆ แล้วสังคมเล็กๆ ในอดีตเต็มไปด้วยข้อจำกัด เช่น การเลือกคู่ที่จำกัดในกลุ่มเพื่อนบ้านเพียงไม่กี่คน และการที่ผู้หญิงมักถูกกดทับด้วยบทบาทครอบครัวและงานบ้านมากกว่าที่เราจินตนาการ ท้ายที่สุด Julia ย้ำว่า แม้เราจะยังคงสนุกกับการดึงแรงบันดาลใจจากอดีต เช่น การทำขนมปังเองหรือเล่นดนตรีร่วมกัน แต่สิ่งสำคัญคือการตระหนักว่า ความสะดวกสบายในปัจจุบัน เช่น ไฟฟ้า น้ำสะอาด และการรักษาทางทันตกรรม คือสิ่งที่ทำให้เรามีอิสระในการเลือก “สุนทรียะ” โดยไม่ต้องเผชิญความทุกข์ยากแบบคนรุ่นก่อน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Cottagecore และภาพจำอดีต ➡️ ผู้คนมักโรแมนติไซส์อดีตว่าเรียบง่ายและอบอุ่น ✅ ความจริงเบื้องหลัง Little House on the Prairie ➡️ ครอบครัว Wilder ต้องเผชิญ crop failure ต่อเนื่องและดอกเบี้ยสูง ✅ บุคลิกและชีวิตคนในอดีต ➡️ สังคมเล็กๆ มีข้อจำกัดมาก ทั้งการเลือกคู่และบทบาทผู้หญิง ✅ คุณค่าของความสะดวกสบายปัจจุบัน ➡️ ไฟฟ้า น้ำสะอาด และการแพทย์ทำให้เรามีอิสระในการเลือกสุนทรียะ ‼️ ความเสี่ยงจากการโรแมนติไซส์อดีตเกินจริง ⛔ อาจทำให้มองข้ามความยากลำบากและความไม่เท่าเทียมที่คนรุ่นก่อนเผชิญ https://juliawise.net/the-past-was-not-that-cute/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 142 มุมมอง 0 รีวิว
  • 14 เรื่องที่ไม่ควรถาม ChatGPT

    ChatGPT ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายตั้งแต่ค้นหาข้อมูลไปจนถึงวางแผนงาน แต่บทความนี้ชี้ว่า หลายคำถามไม่ควรถามกับ ChatGPT เพราะอาจทำให้เกิดผลเสียมากกว่าประโยชน์ โดยเฉพาะเมื่อผู้ใช้มองว่า ChatGPT เป็น “ผู้รู้ทุกเรื่อง” ทั้งที่จริงๆ แล้วมันยังมีข้อจำกัดและความเสี่ยงสูง

    หนึ่งในข้อควรระวังคือ ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ อายุ หรือข้อมูลที่มีความอ่อนไหว เพราะการสนทนาไม่ใช่เรื่องส่วนตัวเสมอไป และมีกรณีที่ข้อมูลรั่วไหลจากการแฮ็กหรือบั๊กในระบบ นอกจากนี้ ChatGPT อาจ “จำ” และนำข้อมูลที่เคยได้รับไปใช้ซ้ำในบริบทอื่นโดยไม่ตั้งใจ

    อีกประเด็นคือ คำถามที่ผิดกฎหมายหรือไม่เหมาะสม เช่น การขอคำแนะนำเรื่องยาเสพติดหรือการทำผิดกฎหมาย ถึงแม้ระบบจะมีข้อจำกัด แต่ก็มีวิธีหลีกเลี่ยงที่บางคนใช้ ซึ่งเสี่ยงทั้งต่อการถูกดำเนินคดีและการได้รับข้อมูลผิดๆ ที่อันตรายต่อชีวิต

    นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่ไม่ควรถาม เช่น คำแนะนำทางการแพทย์ ความสัมพันธ์ การเงิน กฎหมาย และการทำนายอนาคต เพราะ ChatGPT ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ และมีแนวโน้มให้ข้อมูลที่ผิดพลาดหรือมีอคติ ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ตัดสินใจผิดพลาดในเรื่องสำคัญของชีวิต

    14 เรื่องที่ไม่ควรถาม ChatGPT
    ข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลที่ระบุตัวตนได้ เช่น ชื่อจริง ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ หรือข้อมูลบัตรเครดิต
    รหัสผ่านหรือข้อมูลบัญชีออนไลน์ เพราะอาจถูกนำไปใช้โดยไม่ตั้งใจหรือเสี่ยงต่อการรั่วไหล
    คำแนะนำทางการแพทย์ ChatGPT ไม่ใช่แพทย์ และอาจให้ข้อมูลผิดพลาดที่เป็นอันตราย
    คำแนะนำด้านสุขภาพจิต ไม่สามารถแทนที่นักจิตวิทยาหรือผู้เชี่ยวชาญได้
    คำแนะนำทางกฎหมาย อาจให้ข้อมูลไม่ถูกต้องและไม่สามารถใช้แทนทนายความได้
    คำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน มีความเสี่ยงสูงที่จะให้ข้อมูลผิดพลาดหรือไม่เหมาะสม
    คำถามเกี่ยวกับการทำผิดกฎหมาย เช่น วิธีแฮ็ก การใช้ยาเสพติด หรือการก่ออาชญากรรม
    ข้อมูลที่เป็นความลับของบริษัทหรือองค์กร เช่น โค้ดภายใน เอกสารลับ หรือข้อมูลลูกค้า
    การทำนายอนาคต ChatGPT ไม่มีความสามารถในการคาดการณ์ที่แม่นยำ
    คำถามเกี่ยวกับการเมืองที่อ่อนไหว อาจให้ข้อมูลที่มีอคติหรือไม่ถูกต้อง
    การใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น การปฐมพยาบาลหรือการรับมือภัยพิบัติ
    คำถามที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ส่วนตัว เช่น การตัดสินใจเรื่องคู่ครองหรือครอบครัว
    การขอข้อมูลจาก Dark Web หรือเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย เป็นอันตรายและผิดกฎหมาย
    การใช้ ChatGPT เป็น “ผู้ตัดสินใจแทน” ไม่ควรฝากการตัดสินใจสำคัญให้กับ AI ที่อาจให้ข้อมูลผิดพลาด


    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อมูลส่วนตัวไม่ควรใส่ใน ChatGPT
    เสี่ยงต่อการรั่วไหลและถูกนำไปใช้โดยไม่ได้ตั้งใจ

    ไม่ควรถามเรื่องผิดกฎหมาย
    ข้อมูลการสนทนาอาจถูกใช้เป็นหลักฐาน และคำตอบอาจผิดพลาด

    ไม่ควรใช้ ChatGPT วิเคราะห์ข้อมูลที่มีการคุ้มครอง
    เช่น ข้อมูลทางการแพทย์หรือโค้ดลับของบริษัท

    คำแนะนำทางการแพทย์และสุขภาพจิต
    ChatGPT อาจให้ข้อมูลผิดและไม่สามารถแทนผู้เชี่ยวชาญได้

    เรื่องความสัมพันธ์และการเงิน
    มีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับคำแนะนำที่ไม่เหมาะสมหรืออคติ

    การใช้ ChatGPT ในสถานการณ์ฉุกเฉิน
    คำตอบผิดพลาดอาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิต

    การขอให้ทำนายอนาคตหรือเรื่องการเมือง
    ChatGPT มีอคติและไม่สามารถให้ข้อมูลที่แม่นยำได้

    https://www.slashgear.com/2042576/never-ask-chatgpt-these-things/
    🚫 14 เรื่องที่ไม่ควรถาม ChatGPT ChatGPT ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายตั้งแต่ค้นหาข้อมูลไปจนถึงวางแผนงาน แต่บทความนี้ชี้ว่า หลายคำถามไม่ควรถามกับ ChatGPT เพราะอาจทำให้เกิดผลเสียมากกว่าประโยชน์ โดยเฉพาะเมื่อผู้ใช้มองว่า ChatGPT เป็น “ผู้รู้ทุกเรื่อง” ทั้งที่จริงๆ แล้วมันยังมีข้อจำกัดและความเสี่ยงสูง หนึ่งในข้อควรระวังคือ ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ อายุ หรือข้อมูลที่มีความอ่อนไหว เพราะการสนทนาไม่ใช่เรื่องส่วนตัวเสมอไป และมีกรณีที่ข้อมูลรั่วไหลจากการแฮ็กหรือบั๊กในระบบ นอกจากนี้ ChatGPT อาจ “จำ” และนำข้อมูลที่เคยได้รับไปใช้ซ้ำในบริบทอื่นโดยไม่ตั้งใจ อีกประเด็นคือ คำถามที่ผิดกฎหมายหรือไม่เหมาะสม เช่น การขอคำแนะนำเรื่องยาเสพติดหรือการทำผิดกฎหมาย ถึงแม้ระบบจะมีข้อจำกัด แต่ก็มีวิธีหลีกเลี่ยงที่บางคนใช้ ซึ่งเสี่ยงทั้งต่อการถูกดำเนินคดีและการได้รับข้อมูลผิดๆ ที่อันตรายต่อชีวิต นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่ไม่ควรถาม เช่น คำแนะนำทางการแพทย์ ความสัมพันธ์ การเงิน กฎหมาย และการทำนายอนาคต เพราะ ChatGPT ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ และมีแนวโน้มให้ข้อมูลที่ผิดพลาดหรือมีอคติ ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ตัดสินใจผิดพลาดในเรื่องสำคัญของชีวิต 📝 14 เรื่องที่ไม่ควรถาม ChatGPT ❓ ข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลที่ระบุตัวตนได้ เช่น ชื่อจริง ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ หรือข้อมูลบัตรเครดิต ❓ รหัสผ่านหรือข้อมูลบัญชีออนไลน์ เพราะอาจถูกนำไปใช้โดยไม่ตั้งใจหรือเสี่ยงต่อการรั่วไหล ❓ คำแนะนำทางการแพทย์ ChatGPT ไม่ใช่แพทย์ และอาจให้ข้อมูลผิดพลาดที่เป็นอันตราย ❓ คำแนะนำด้านสุขภาพจิต ไม่สามารถแทนที่นักจิตวิทยาหรือผู้เชี่ยวชาญได้ ❓ คำแนะนำทางกฎหมาย อาจให้ข้อมูลไม่ถูกต้องและไม่สามารถใช้แทนทนายความได้ ❓ คำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน มีความเสี่ยงสูงที่จะให้ข้อมูลผิดพลาดหรือไม่เหมาะสม ❓ คำถามเกี่ยวกับการทำผิดกฎหมาย เช่น วิธีแฮ็ก การใช้ยาเสพติด หรือการก่ออาชญากรรม ❓ ข้อมูลที่เป็นความลับของบริษัทหรือองค์กร เช่น โค้ดภายใน เอกสารลับ หรือข้อมูลลูกค้า ❓ การทำนายอนาคต ChatGPT ไม่มีความสามารถในการคาดการณ์ที่แม่นยำ ❓ คำถามเกี่ยวกับการเมืองที่อ่อนไหว อาจให้ข้อมูลที่มีอคติหรือไม่ถูกต้อง ❓ การใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น การปฐมพยาบาลหรือการรับมือภัยพิบัติ ❓ คำถามที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ส่วนตัว เช่น การตัดสินใจเรื่องคู่ครองหรือครอบครัว ❓ การขอข้อมูลจาก Dark Web หรือเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย เป็นอันตรายและผิดกฎหมาย ❓ การใช้ ChatGPT เป็น “ผู้ตัดสินใจแทน” ไม่ควรฝากการตัดสินใจสำคัญให้กับ AI ที่อาจให้ข้อมูลผิดพลาด 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลส่วนตัวไม่ควรใส่ใน ChatGPT ➡️ เสี่ยงต่อการรั่วไหลและถูกนำไปใช้โดยไม่ได้ตั้งใจ ✅ ไม่ควรถามเรื่องผิดกฎหมาย ➡️ ข้อมูลการสนทนาอาจถูกใช้เป็นหลักฐาน และคำตอบอาจผิดพลาด ✅ ไม่ควรใช้ ChatGPT วิเคราะห์ข้อมูลที่มีการคุ้มครอง ➡️ เช่น ข้อมูลทางการแพทย์หรือโค้ดลับของบริษัท ✅ คำแนะนำทางการแพทย์และสุขภาพจิต ➡️ ChatGPT อาจให้ข้อมูลผิดและไม่สามารถแทนผู้เชี่ยวชาญได้ ✅ เรื่องความสัมพันธ์และการเงิน ➡️ มีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับคำแนะนำที่ไม่เหมาะสมหรืออคติ ‼️ การใช้ ChatGPT ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ⛔ คำตอบผิดพลาดอาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิต ‼️ การขอให้ทำนายอนาคตหรือเรื่องการเมือง ⛔ ChatGPT มีอคติและไม่สามารถให้ข้อมูลที่แม่นยำได้ https://www.slashgear.com/2042576/never-ask-chatgpt-these-things/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    14 Things You Should Never Ask ChatGPT - SlashGear
    Many people trust chatbots without thinking twice. Here’s a grounded look at why that trust can fail and what’s worth handling offline.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 159 มุมมอง 0 รีวิว
  • เสียงก้องในหูเชื่อมโยงกับระบบ "สู้หรือหนี"

    งานวิจัยล่าสุดจากทีมของ Daniel Polley ที่ Mass General Brigham พบว่า ผู้ที่มีภาวะหูอื้อเรื้อรัง (chronic tinnitus) แสดงออกทางร่างกายคล้ายกับการเข้าสู่โหมด "fight-or-flight" แม้จะเป็นเสียงธรรมดาในชีวิตประจำวันก็ตาม นักวิจัยใช้การวิเคราะห์ microexpressions บนใบหน้าและการขยายตัวของรูม่านตา เพื่อวัดระดับความเครียดและการรับรู้ภัยคุกคาม ผลลัพธ์ชี้ว่าผู้ที่มี tinnitus มีการตอบสนองเกินปกติและสามารถทำนายความรุนแรงของอาการได้จากตัวชี้วัดเหล่านี้

    ความซับซ้อนของโรคที่ไม่มี "biomarker" ชัดเจน
    Tinnitus เป็นภาวะที่ผู้ป่วยได้ยินเสียงก้อง คลิก หรือเสียงแหลมในหูโดยที่ไม่มีแหล่งกำเนิดจริง ปัญหาคือ ไม่มีตัวชี้วัดทางชีวภาพที่ชัดเจน ทำให้การวินิจฉัยและติดตามผลยากมาก ปัจจุบันแพทย์ใช้เพียงแบบสอบถามความรุนแรงของอาการ ซึ่งอาจไม่สะท้อนความจริงเสมอไป การค้นพบครั้งนี้จึงถือเป็นก้าวสำคัญ เพราะสามารถใช้ การตอบสนองทางร่างกาย เป็นตัวบ่งชี้ความรุนแรงได้

    ผลกระทบต่อชีวิตและสุขภาพจิต
    ภาวะ tinnitus เรื้อรังส่งผลกระทบต่อผู้คนกว่า 120 ล้านคนทั่วโลก และอาจทำให้เกิด ภาวะนอนไม่หลับ ความวิตกกังวล และโรคซึมเศร้า การที่ร่างกายตอบสนองต่อเสียงเหมือนภัยคุกคามตลอดเวลา ทำให้ผู้ป่วยอยู่ในสภาวะเครียดเรื้อรัง ซึ่งอาจกระทบต่อสุขภาพโดยรวมและคุณภาพชีวิตอย่างรุนแรง

    ความหวังใหม่จากการใช้ AI และการแพทย์เชิงพฤติกรรม
    นักวิจัยใช้ AI วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยบนใบหน้า ที่มนุษย์ไม่สามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า ทำให้สามารถตรวจจับสัญญาณความเครียดที่สัมพันธ์กับ tinnitus ได้อย่างแม่นยำ แนวทางนี้อาจนำไปสู่การพัฒนา การรักษาใหม่ เช่น sound therapy, CBT (cognitive behavioral therapy), และ tinnitus retraining therapy ที่ปรับให้เหมาะสมกับระดับความรุนแรงของผู้ป่วยแต่ละราย

    สรุปสาระสำคัญ
    Tinnitus กระตุ้นระบบ "fight-or-flight"
    ผู้ป่วยตอบสนองต่อเสียงธรรมดาเหมือนภัยคุกคาม

    ใช้ microexpressions และการขยายรูม่านตาเป็นตัวชี้วัด
    สามารถทำนายความรุนแรงของอาการได้

    โรคนี้ไม่มี biomarker ที่ชัดเจน
    ปัจจุบันใช้เพียงแบบสอบถามในการวินิจฉัย

    มีผู้ป่วยกว่า 120 ล้านคนทั่วโลก
    ส่งผลต่อการนอน สุขภาพจิต และคุณภาพชีวิต

    AI ช่วยวิเคราะห์สัญญาณที่มนุษย์ไม่เห็น
    อาจนำไปสู่การรักษาเฉพาะบุคคลในอนาคต

    ความเครียดเรื้อรังจาก tinnitus เชื่อมโยงกับโรคซึมเศร้าและวิตกกังวล
    ผู้ป่วยบางรายอาจรู้สึกถูกละเลยในระบบการแพทย์

    ไม่มีวิธีรักษาที่หายขาด
    การบำบัดที่มีอยู่ให้ผลไม่สม่ำเสมอและขึ้นกับแต่ละบุคคล

    https://www.sciencealert.com/tinnitus-triggers-your-bodys-fight-or-flight-response-study-finds
    🔔 เสียงก้องในหูเชื่อมโยงกับระบบ "สู้หรือหนี" งานวิจัยล่าสุดจากทีมของ Daniel Polley ที่ Mass General Brigham พบว่า ผู้ที่มีภาวะหูอื้อเรื้อรัง (chronic tinnitus) แสดงออกทางร่างกายคล้ายกับการเข้าสู่โหมด "fight-or-flight" แม้จะเป็นเสียงธรรมดาในชีวิตประจำวันก็ตาม นักวิจัยใช้การวิเคราะห์ microexpressions บนใบหน้าและการขยายตัวของรูม่านตา เพื่อวัดระดับความเครียดและการรับรู้ภัยคุกคาม ผลลัพธ์ชี้ว่าผู้ที่มี tinnitus มีการตอบสนองเกินปกติและสามารถทำนายความรุนแรงของอาการได้จากตัวชี้วัดเหล่านี้ 🧠 ความซับซ้อนของโรคที่ไม่มี "biomarker" ชัดเจน Tinnitus เป็นภาวะที่ผู้ป่วยได้ยินเสียงก้อง คลิก หรือเสียงแหลมในหูโดยที่ไม่มีแหล่งกำเนิดจริง ปัญหาคือ ไม่มีตัวชี้วัดทางชีวภาพที่ชัดเจน ทำให้การวินิจฉัยและติดตามผลยากมาก ปัจจุบันแพทย์ใช้เพียงแบบสอบถามความรุนแรงของอาการ ซึ่งอาจไม่สะท้อนความจริงเสมอไป การค้นพบครั้งนี้จึงถือเป็นก้าวสำคัญ เพราะสามารถใช้ การตอบสนองทางร่างกาย เป็นตัวบ่งชี้ความรุนแรงได้ 🌍 ผลกระทบต่อชีวิตและสุขภาพจิต ภาวะ tinnitus เรื้อรังส่งผลกระทบต่อผู้คนกว่า 120 ล้านคนทั่วโลก และอาจทำให้เกิด ภาวะนอนไม่หลับ ความวิตกกังวล และโรคซึมเศร้า การที่ร่างกายตอบสนองต่อเสียงเหมือนภัยคุกคามตลอดเวลา ทำให้ผู้ป่วยอยู่ในสภาวะเครียดเรื้อรัง ซึ่งอาจกระทบต่อสุขภาพโดยรวมและคุณภาพชีวิตอย่างรุนแรง 🔬 ความหวังใหม่จากการใช้ AI และการแพทย์เชิงพฤติกรรม นักวิจัยใช้ AI วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยบนใบหน้า ที่มนุษย์ไม่สามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า ทำให้สามารถตรวจจับสัญญาณความเครียดที่สัมพันธ์กับ tinnitus ได้อย่างแม่นยำ แนวทางนี้อาจนำไปสู่การพัฒนา การรักษาใหม่ เช่น sound therapy, CBT (cognitive behavioral therapy), และ tinnitus retraining therapy ที่ปรับให้เหมาะสมกับระดับความรุนแรงของผู้ป่วยแต่ละราย 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Tinnitus กระตุ้นระบบ "fight-or-flight" ➡️ ผู้ป่วยตอบสนองต่อเสียงธรรมดาเหมือนภัยคุกคาม ✅ ใช้ microexpressions และการขยายรูม่านตาเป็นตัวชี้วัด ➡️ สามารถทำนายความรุนแรงของอาการได้ ✅ โรคนี้ไม่มี biomarker ที่ชัดเจน ➡️ ปัจจุบันใช้เพียงแบบสอบถามในการวินิจฉัย ✅ มีผู้ป่วยกว่า 120 ล้านคนทั่วโลก ➡️ ส่งผลต่อการนอน สุขภาพจิต และคุณภาพชีวิต ✅ AI ช่วยวิเคราะห์สัญญาณที่มนุษย์ไม่เห็น ➡️ อาจนำไปสู่การรักษาเฉพาะบุคคลในอนาคต ‼️ ความเครียดเรื้อรังจาก tinnitus เชื่อมโยงกับโรคซึมเศร้าและวิตกกังวล ⛔ ผู้ป่วยบางรายอาจรู้สึกถูกละเลยในระบบการแพทย์ ‼️ ไม่มีวิธีรักษาที่หายขาด ⛔ การบำบัดที่มีอยู่ให้ผลไม่สม่ำเสมอและขึ้นกับแต่ละบุคคล https://www.sciencealert.com/tinnitus-triggers-your-bodys-fight-or-flight-response-study-finds
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Tinnitus Triggers Your Body's 'Fight or Flight' Response, Study Finds
    Chronic tinnitus may increase stress levels by keeping the body that much closer to a fight-or-flight response to sound, a new study suggests.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 165 มุมมอง 0 รีวิว
  • "วิธีใช้กล้อง Thermal ในบ้านและโรงรถ"

    กล้อง Thermal หรือกล้องอินฟราเรด ไม่ได้มีไว้ใช้เฉพาะงานวิศวกรรมหรือทหารเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในบ้านและโรงรถอย่างมาก เพราะสามารถตรวจจับความแตกต่างของอุณหภูมิได้ ทำให้เรามองเห็นสิ่งที่ตาเปล่าไม่สามารถเห็นได้ เช่น น้ำรั่ว พลังงานรั่วไหล หรือแม้แต่สัตว์รบกวนที่ซ่อนอยู่ในผนัง

    หนึ่งในประโยชน์หลักคือการ ตรวจจับน้ำรั่ว ซึ่งมักจะไม่แสดงอาการจนกว่าจะสายเกินไป กล้อง Thermal สามารถแสดงจุดที่มีความร้อนหรือความเย็นผิดปกติ ทำให้เรารู้ตำแหน่งที่น้ำซึมอยู่ได้เร็วขึ้น อีกทั้งยังช่วยตรวจสอบ การรั่วไหลของพลังงาน เช่น ช่องว่างตามหน้าต่างหรือประตู ที่ทำให้ค่าไฟสูงขึ้นโดยไม่รู้ตัว

    ในโรงรถ กล้อง Thermal ยังช่วยตรวจสอบ ระบบเบรกและเครื่องยนต์ ได้ เช่น หากเบรกบางล้อร้อนผิดปกติ อาจหมายถึงการสึกหรอไม่เท่ากัน หรือหากเครื่องยนต์มี กระบอกสูบทำงานผิดพลาด (misfiring cylinder) ก็จะเห็นเป็นจุดเย็นท่ามกลางความร้อนของเครื่องยนต์ นอกจากนี้ยังใช้ตรวจสอบ ระบบไฟฟ้า เพื่อหาจุดเสี่ยงไฟไหม้จากสายไฟที่ร้อนผิดปกติได้ด้วย

    สุดท้าย กล้อง Thermal ยังมีประโยชน์ในงานทั่วไป เช่น ตรวจสอบ ฉนวนกันความร้อน, ระบบ HVAC, สุขภาพต้นไม้ในบ้าน, หรือแม้แต่การหาตำแหน่งท่อในระบบ septic tank โดยไม่ต้องขุดค้นสุ่ม ทำให้เป็นเครื่องมือที่คุ้มค่าและช่วยประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การใช้งานในบ้าน
    ตรวจจับน้ำรั่วและความชื้น
    ตรวจสอบการรั่วไหลของพลังงานและฉนวนกันความร้อน
    ตรวจสอบการทำงานของระบบ HVAC

    การใช้งานในโรงรถ
    ตรวจสอบความร้อนของเบรกและเครื่องยนต์
    ตรวจสอบกระบอกสูบที่ทำงานผิดพลาด
    ตรวจสอบระบบไฟฟ้าเพื่อป้องกันไฟไหม้

    การใช้งานทั่วไป
    ตรวจสอบสุขภาพต้นไม้และพืช
    หาตำแหน่งท่อในระบบ septic tank
    ใช้ในการตรวจสอบบ้านก่อนซื้อหรือเช่า

    ข้อควรระวัง
    กล้อง Thermal ไม่สามารถ “มองทะลุผนัง” ได้จริง เพียงแค่แสดงความต่างอุณหภูมิ
    ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม เช่น อุณหภูมิภายนอกและการเก็บฉนวน
    ไม่ควรใช้แทนการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญในกรณีที่พบความผิดปกติร้ายแรง

    https://www.slashgear.com/2037763/thermal-camera-uses-home-garage/
    🌡️ "วิธีใช้กล้อง Thermal ในบ้านและโรงรถ" กล้อง Thermal หรือกล้องอินฟราเรด ไม่ได้มีไว้ใช้เฉพาะงานวิศวกรรมหรือทหารเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในบ้านและโรงรถอย่างมาก เพราะสามารถตรวจจับความแตกต่างของอุณหภูมิได้ ทำให้เรามองเห็นสิ่งที่ตาเปล่าไม่สามารถเห็นได้ เช่น น้ำรั่ว พลังงานรั่วไหล หรือแม้แต่สัตว์รบกวนที่ซ่อนอยู่ในผนัง หนึ่งในประโยชน์หลักคือการ ตรวจจับน้ำรั่ว ซึ่งมักจะไม่แสดงอาการจนกว่าจะสายเกินไป กล้อง Thermal สามารถแสดงจุดที่มีความร้อนหรือความเย็นผิดปกติ ทำให้เรารู้ตำแหน่งที่น้ำซึมอยู่ได้เร็วขึ้น อีกทั้งยังช่วยตรวจสอบ การรั่วไหลของพลังงาน เช่น ช่องว่างตามหน้าต่างหรือประตู ที่ทำให้ค่าไฟสูงขึ้นโดยไม่รู้ตัว ในโรงรถ กล้อง Thermal ยังช่วยตรวจสอบ ระบบเบรกและเครื่องยนต์ ได้ เช่น หากเบรกบางล้อร้อนผิดปกติ อาจหมายถึงการสึกหรอไม่เท่ากัน หรือหากเครื่องยนต์มี กระบอกสูบทำงานผิดพลาด (misfiring cylinder) ก็จะเห็นเป็นจุดเย็นท่ามกลางความร้อนของเครื่องยนต์ นอกจากนี้ยังใช้ตรวจสอบ ระบบไฟฟ้า เพื่อหาจุดเสี่ยงไฟไหม้จากสายไฟที่ร้อนผิดปกติได้ด้วย สุดท้าย กล้อง Thermal ยังมีประโยชน์ในงานทั่วไป เช่น ตรวจสอบ ฉนวนกันความร้อน, ระบบ HVAC, สุขภาพต้นไม้ในบ้าน, หรือแม้แต่การหาตำแหน่งท่อในระบบ septic tank โดยไม่ต้องขุดค้นสุ่ม ทำให้เป็นเครื่องมือที่คุ้มค่าและช่วยประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การใช้งานในบ้าน ➡️ ตรวจจับน้ำรั่วและความชื้น ➡️ ตรวจสอบการรั่วไหลของพลังงานและฉนวนกันความร้อน ➡️ ตรวจสอบการทำงานของระบบ HVAC ✅ การใช้งานในโรงรถ ➡️ ตรวจสอบความร้อนของเบรกและเครื่องยนต์ ➡️ ตรวจสอบกระบอกสูบที่ทำงานผิดพลาด ➡️ ตรวจสอบระบบไฟฟ้าเพื่อป้องกันไฟไหม้ ✅ การใช้งานทั่วไป ➡️ ตรวจสอบสุขภาพต้นไม้และพืช ➡️ หาตำแหน่งท่อในระบบ septic tank ➡️ ใช้ในการตรวจสอบบ้านก่อนซื้อหรือเช่า ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ กล้อง Thermal ไม่สามารถ “มองทะลุผนัง” ได้จริง เพียงแค่แสดงความต่างอุณหภูมิ ⛔ ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม เช่น อุณหภูมิภายนอกและการเก็บฉนวน ⛔ ไม่ควรใช้แทนการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญในกรณีที่พบความผิดปกติร้ายแรง https://www.slashgear.com/2037763/thermal-camera-uses-home-garage/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    13 Handy Ways To Use A Thermal Camera Around The Home And Garage - SlashGear
    Surprising ways a thermal camera can flag home and car issues before they get costly, giving you a clearer picture behind the walls and under the hood.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระบูชาหลวงปู่ทวด รุ่นสร้างโบสถ์ วัดกม.26ใน จ.ยะลา
    พระบูชาหลวงปู่ทวด เนื้อว่าน ฝังตะกรุด 3 ดอก ( หน้าตัก 3 นิ้ว ฐาน 4 นิ้ว สุง 5 นิ้ว) ”รุ่นสร้างโบสถ์” วัดกม.26ใน จ.ยะลา //พระดีพิธีใหญ่ !! เฉียบ ขลัง!! ปลุกเสกโดยพระเกจิสายเขาอ้อ-สายหลวงพ่อทวดวัดช้างให้..เสก !! หายาก สร้างจำนวนน้อย!! // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ

    ** พุทธคุณครอบจักรวาล ด้านนิรันตราย แคล้วคลาด โชคลาภ ค้าขาย เมตตา สุขภาพ ความสำเร็จ เจริญรุ่งเรือง แคล้วคลาด เป็นสิริมงคล ช่วยคุ้มครองให้แคล้วคลาดจากภยันตราย เชื่อกันว่าผู้ที่บูชาหลวงปู่ทวดนั้นจะรอดจากอุบัติเหตุอย่างปาฏิหาริย์ ป้องกันสิ่งอัปมงคล เพื่อความเป็นสิริมงคล พบเจอแต่ความโชคดี **

    ** พระดีพิธีใหญ่ !! เฉียบ!!! ขลัง!! พระเกจิรวมพลัง!!!พระเกจิสายเขาอ้อ...สายหลวงพ่อทวดวัดช้างให้..เสก!! จัดสร้างโดย...พระปลัดจิรเดช นาถกโร (อาจารย์ต้อม) เกจิที่โด่งดังอีกท่านนึงในจังหวัดยะลา ท่านได้สร้างและปลุกเสก มีประสบการณ์มากมาย ทั้งในเรื่องแคล้วคลาด กันคุณไสย์ต่างฯครับ วัตถุมงคลของท่านล้วนแล้วแต่เข้มขลังจากประสบการณ์มากมายในสามจังหวัดชายแดน **


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    พระบูชาหลวงปู่ทวด รุ่นสร้างโบสถ์ วัดกม.26ใน จ.ยะลา พระบูชาหลวงปู่ทวด เนื้อว่าน ฝังตะกรุด 3 ดอก ( หน้าตัก 3 นิ้ว ฐาน 4 นิ้ว สุง 5 นิ้ว) ”รุ่นสร้างโบสถ์” วัดกม.26ใน จ.ยะลา //พระดีพิธีใหญ่ !! เฉียบ ขลัง!! ปลุกเสกโดยพระเกจิสายเขาอ้อ-สายหลวงพ่อทวดวัดช้างให้..เสก !! หายาก สร้างจำนวนน้อย!! // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ ** พุทธคุณครอบจักรวาล ด้านนิรันตราย แคล้วคลาด โชคลาภ ค้าขาย เมตตา สุขภาพ ความสำเร็จ เจริญรุ่งเรือง แคล้วคลาด เป็นสิริมงคล ช่วยคุ้มครองให้แคล้วคลาดจากภยันตราย เชื่อกันว่าผู้ที่บูชาหลวงปู่ทวดนั้นจะรอดจากอุบัติเหตุอย่างปาฏิหาริย์ ป้องกันสิ่งอัปมงคล เพื่อความเป็นสิริมงคล พบเจอแต่ความโชคดี ** ** พระดีพิธีใหญ่ !! เฉียบ!!! ขลัง!! พระเกจิรวมพลัง!!!พระเกจิสายเขาอ้อ...สายหลวงพ่อทวดวัดช้างให้..เสก!! จัดสร้างโดย...พระปลัดจิรเดช นาถกโร (อาจารย์ต้อม) เกจิที่โด่งดังอีกท่านนึงในจังหวัดยะลา ท่านได้สร้างและปลุกเสก มีประสบการณ์มากมาย ทั้งในเรื่องแคล้วคลาด กันคุณไสย์ต่างฯครับ วัตถุมงคลของท่านล้วนแล้วแต่เข้มขลังจากประสบการณ์มากมายในสามจังหวัดชายแดน ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 151 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts