• ภูมิธรรม ยันไร้ปัญหา 4 ประมงไทยที่ถูกเมียนมาจับไป 16/12/67 #ภูมิธรรม #ชาวประมงไทย #เมียนมา #รองนายกฯ
    ภูมิธรรม ยันไร้ปัญหา 4 ประมงไทยที่ถูกเมียนมาจับไป 16/12/67 #ภูมิธรรม #ชาวประมงไทย #เมียนมา #รองนายกฯ
    Like
    Angry
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 494 มุมมอง 40 0 รีวิว
  • พรรคร่วมฯ ลา ครม.จริง แจ้งไว้ก่อนแล้วไร้นัยยะ ไม่สน 'ทักษิณ' ตะเพิด
    .
    การสัมมนาโครงการเสริมศักยภาพ ส.ส.และบุคลากรทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย ปรากฎว่าไฮไลท์สำคัญไปอยู่ที่การขึ้นพูดของ 'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีเนื้อหาส่วนหนึ่งพาดพิงแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเนื่องจากพบว่ามีรัฐมนตรีลาการประชุมคณะรัฐมนตรีถึง 7 คน ซึ่งแสดงออกถึงการไม่จริงใจ
    .
    นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุว่า นายทักษิณไม่น่าจะหมายถึงพรรคภูมิใจไทย เนื่องจากในวันดังกล่าวได้เข้าพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามอาการ และไม่ทราบว่ามีการเลื่อนการประชุมเป็นวันพุธที่ 11 ธันวาคม เนื่องจากปกติการประชุมคณะรัฐมนตรีจะประชุมทุกวันอังคาร โดยระหว่างพบแพทย์เพื่อทำการตรวจนั้น นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพท์เพื่อตามให้เข้าประชุม เนื่องจากมีการพิจารณากฎหมายสำคัญ หลังจากตรวจเสร็จ ก็รีบเข้าประชุม ครม.ทันที อีกทั้งรัฐมนตรีหลายคนของพรรคก็เข้าร่วมประชุมในวันนั้น เว้นแต่ผู้ที่ติดภารกิจราชการ จึงไม่อยากให้เชื่อมโยงมาถึงพรรคภูมิใจไทย
    .
    "พรรคภูมิใจไทย รับสัญญาณจากนายกรัฐมนตรี คือ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เพราะนางสาวแพทองธาร คือ หัวหน้ารัฐบาล ท่านทักษิณ พูดถึงพรรคที่ไม่เข้าร่วมประชุม ผมก็ไม่นำพาไปฟังอะไรมาก เพราะผมก็ไปร่วมประชุม" นายอนุทิน กล่าว
    .
    นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค รวมทั้งนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้แจ้งลาประชุม ครม.ต่อสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ไว้ล่วงหน้าแล้ว เนื่องจากติดภารกิจ
    .
    ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม มั่นใจว่า ความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาลยังคงราบรื่น แม้นายทักษิณ จะมีการพูดเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม สำหรับส่วนตัวม่ทราบว่าการพูดของนายทักษิณเป็นการเตือนถึงพรรคร่วมรัฐฐาลหรือไม่ พราะท่านไม่ได้มีบทบาทหน้าที่เกี่ยวข้อง แต่เมื่อท่านพูดมา เราก็รับฟังว่าเป็นอย่างไร ถือเป็นความเห็นของผู้มีอาวุโสทางการเมืองที่จะเห็นว่าวิธีการเช่นนี้มีความเหมาะสมหรือไม่ ก็วิพากษ์วิจารณ์มา เพราะท่านเป็นบุคคลที่ติดตามการเมือง
    ...............
    Sondhi X
    พรรคร่วมฯ ลา ครม.จริง แจ้งไว้ก่อนแล้วไร้นัยยะ ไม่สน 'ทักษิณ' ตะเพิด . การสัมมนาโครงการเสริมศักยภาพ ส.ส.และบุคลากรทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย ปรากฎว่าไฮไลท์สำคัญไปอยู่ที่การขึ้นพูดของ 'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีเนื้อหาส่วนหนึ่งพาดพิงแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเนื่องจากพบว่ามีรัฐมนตรีลาการประชุมคณะรัฐมนตรีถึง 7 คน ซึ่งแสดงออกถึงการไม่จริงใจ . นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุว่า นายทักษิณไม่น่าจะหมายถึงพรรคภูมิใจไทย เนื่องจากในวันดังกล่าวได้เข้าพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามอาการ และไม่ทราบว่ามีการเลื่อนการประชุมเป็นวันพุธที่ 11 ธันวาคม เนื่องจากปกติการประชุมคณะรัฐมนตรีจะประชุมทุกวันอังคาร โดยระหว่างพบแพทย์เพื่อทำการตรวจนั้น นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพท์เพื่อตามให้เข้าประชุม เนื่องจากมีการพิจารณากฎหมายสำคัญ หลังจากตรวจเสร็จ ก็รีบเข้าประชุม ครม.ทันที อีกทั้งรัฐมนตรีหลายคนของพรรคก็เข้าร่วมประชุมในวันนั้น เว้นแต่ผู้ที่ติดภารกิจราชการ จึงไม่อยากให้เชื่อมโยงมาถึงพรรคภูมิใจไทย . "พรรคภูมิใจไทย รับสัญญาณจากนายกรัฐมนตรี คือ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เพราะนางสาวแพทองธาร คือ หัวหน้ารัฐบาล ท่านทักษิณ พูดถึงพรรคที่ไม่เข้าร่วมประชุม ผมก็ไม่นำพาไปฟังอะไรมาก เพราะผมก็ไปร่วมประชุม" นายอนุทิน กล่าว . นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค รวมทั้งนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้แจ้งลาประชุม ครม.ต่อสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ไว้ล่วงหน้าแล้ว เนื่องจากติดภารกิจ . ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม มั่นใจว่า ความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาลยังคงราบรื่น แม้นายทักษิณ จะมีการพูดเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม สำหรับส่วนตัวม่ทราบว่าการพูดของนายทักษิณเป็นการเตือนถึงพรรคร่วมรัฐฐาลหรือไม่ พราะท่านไม่ได้มีบทบาทหน้าที่เกี่ยวข้อง แต่เมื่อท่านพูดมา เราก็รับฟังว่าเป็นอย่างไร ถือเป็นความเห็นของผู้มีอาวุโสทางการเมืองที่จะเห็นว่าวิธีการเช่นนี้มีความเหมาะสมหรือไม่ ก็วิพากษ์วิจารณ์มา เพราะท่านเป็นบุคคลที่ติดตามการเมือง ............... Sondhi X
    Haha
    Like
    5
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 461 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘บ้านเพื่อคนไทย’บนที่ดินรถไฟ อสังหาฯจากพ่อสู่ลูก

    1 ใน 5 นโยบายที่รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประกาศว่าจะเกิดขึ้นในปี 2568 คือ โครงการบ้านเพื่อคนไทย (Public Housing) คอนโดมิเนียมและเฟอร์นิเจอร์พร้อมเข้าอยู่ ใกล้รถไฟฟ้า ให้สิทธิคนไทยที่ไม่เคยมีบ้านมาก่อน ผ่อนเริ่มต้นที่ 4,000 บาทต่อเดือน ระยะเวลา 30 ปี มีห้องน้ำ ไฟฟ้า สาธารณูปโภค ระบบรักษาความปลอดภัย ถ้าจ่ายครบยอดได้สิทธิ์ถือครอง 99 ปี

    นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันการซื้อบ้านราคา 2 ล้านบาทไม่มีแล้ว อยากให้นักศึกษาจบใหม่ (First Jobber) มีบ้านเป็นของตนเอง โดยจะใช้พื้นที่ของรัฐบาลที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ใกล้ตัวเมือง ใกล้รถไฟฟ้า ปีหน้าจะมีห้องตัวอย่างให้ดู มอบหมายให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม ทำงานร่วมกัน

    ด้านนายสุริยะ กล่าวว่า จะใช้ที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ในการก่อสร้าง โดยจะเปิดตัวบ้านตัวอย่างในวันที่ 20 ม.ค. 2568 ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ จากนั้นจะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียน เริ่มต้น 4 แห่ง ได้แก่ ย่านบางนา ธนบุรี เชียงราก และ จ.เชียงใหม่ ประมาณ 1,000 ยูนิต แต่หากจะโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้อื่นอาศัยต่อ ผู้จับจองต้องอาศัยแล้วอย่างน้อย 5 ปี

    ปัจจุบันการรถไฟฯ มีที่ดินเชิงพาณิชย์ (Non Core) ทั้งหมด 38,469 ไร่ ทำสัญญาแล้ว 12,233 สัญญา

    อย่างไรก็ตาม บ้านเพื่อคนไทย แตกต่างจากโครงการบ้านเอื้ออาทร สมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดา เมื่อปี 2547 ซึ่งรับผิดชอบโดยการเคหะแห่งชาติ เพราะเป็นการจัดซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว บ้านแถว และบ้านแฝดสำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ผ่อนชำระกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) โดยมีเป้าหมายสร้างบ้านทั่วประเทศ 1 ล้านหลัง

    แม้ระยะแรกมีผู้สนใจจองบ้านล้นหลามต้องจับสลาก แต่ต่อมาขายไม่ออก หลายทำเลไกลปืนเที่ยง การคมนาคมลำบาก ต้องใช้รถยนต์หรือจักรยานยนต์ส่วนตัว บางโครงการผู้รับเหมาหยุดก่อสร้างไปดื้อๆ เช่น บ้านเอื้ออาทรสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ถูกปล่อยทิ้งร้างกว่า 10 ปี ไม่นับรวมเปิดช่องให้ทุจริต หนึ่งในนั้นคือนายวัฒนา เมืองสุข รมว.พัฒนาสังคมฯ ถูกศาลสั่งจำคุก 99 ปี

    ถึงกระนั้น ลักษณะบ้านเพื่อคนไทยเป็นการเช่าระยะยาว สูงสุด 99 ปี บนที่ดินของรัฐซึ้งซื้อขายไม่ได้ ไม่มีโฉนดที่ดินหรือกรรมสิทธิ์ในห้องชุด เมื่อเทียบกับบ้านเอื้ออาทร ที่หากผ่อนกับ ธอส. มาแล้ว 5 ปี สามารถทำเรื่องโอนให้เป็นของผู้ซื้อได้ แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ คุณภาพชีวิตที่ต้องวัดดวงในระยะยาว เหมือนกับโครงการบ้านเอื้ออาทร ที่ประสบปัญหาที่จอดรถไม่เพียงพอ

    #Newskit
    ‘บ้านเพื่อคนไทย’บนที่ดินรถไฟ อสังหาฯจากพ่อสู่ลูก 1 ใน 5 นโยบายที่รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประกาศว่าจะเกิดขึ้นในปี 2568 คือ โครงการบ้านเพื่อคนไทย (Public Housing) คอนโดมิเนียมและเฟอร์นิเจอร์พร้อมเข้าอยู่ ใกล้รถไฟฟ้า ให้สิทธิคนไทยที่ไม่เคยมีบ้านมาก่อน ผ่อนเริ่มต้นที่ 4,000 บาทต่อเดือน ระยะเวลา 30 ปี มีห้องน้ำ ไฟฟ้า สาธารณูปโภค ระบบรักษาความปลอดภัย ถ้าจ่ายครบยอดได้สิทธิ์ถือครอง 99 ปี นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันการซื้อบ้านราคา 2 ล้านบาทไม่มีแล้ว อยากให้นักศึกษาจบใหม่ (First Jobber) มีบ้านเป็นของตนเอง โดยจะใช้พื้นที่ของรัฐบาลที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ใกล้ตัวเมือง ใกล้รถไฟฟ้า ปีหน้าจะมีห้องตัวอย่างให้ดู มอบหมายให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม ทำงานร่วมกัน ด้านนายสุริยะ กล่าวว่า จะใช้ที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ในการก่อสร้าง โดยจะเปิดตัวบ้านตัวอย่างในวันที่ 20 ม.ค. 2568 ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ จากนั้นจะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียน เริ่มต้น 4 แห่ง ได้แก่ ย่านบางนา ธนบุรี เชียงราก และ จ.เชียงใหม่ ประมาณ 1,000 ยูนิต แต่หากจะโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้อื่นอาศัยต่อ ผู้จับจองต้องอาศัยแล้วอย่างน้อย 5 ปี ปัจจุบันการรถไฟฯ มีที่ดินเชิงพาณิชย์ (Non Core) ทั้งหมด 38,469 ไร่ ทำสัญญาแล้ว 12,233 สัญญา อย่างไรก็ตาม บ้านเพื่อคนไทย แตกต่างจากโครงการบ้านเอื้ออาทร สมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดา เมื่อปี 2547 ซึ่งรับผิดชอบโดยการเคหะแห่งชาติ เพราะเป็นการจัดซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว บ้านแถว และบ้านแฝดสำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ผ่อนชำระกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) โดยมีเป้าหมายสร้างบ้านทั่วประเทศ 1 ล้านหลัง แม้ระยะแรกมีผู้สนใจจองบ้านล้นหลามต้องจับสลาก แต่ต่อมาขายไม่ออก หลายทำเลไกลปืนเที่ยง การคมนาคมลำบาก ต้องใช้รถยนต์หรือจักรยานยนต์ส่วนตัว บางโครงการผู้รับเหมาหยุดก่อสร้างไปดื้อๆ เช่น บ้านเอื้ออาทรสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ถูกปล่อยทิ้งร้างกว่า 10 ปี ไม่นับรวมเปิดช่องให้ทุจริต หนึ่งในนั้นคือนายวัฒนา เมืองสุข รมว.พัฒนาสังคมฯ ถูกศาลสั่งจำคุก 99 ปี ถึงกระนั้น ลักษณะบ้านเพื่อคนไทยเป็นการเช่าระยะยาว สูงสุด 99 ปี บนที่ดินของรัฐซึ้งซื้อขายไม่ได้ ไม่มีโฉนดที่ดินหรือกรรมสิทธิ์ในห้องชุด เมื่อเทียบกับบ้านเอื้ออาทร ที่หากผ่อนกับ ธอส. มาแล้ว 5 ปี สามารถทำเรื่องโอนให้เป็นของผู้ซื้อได้ แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ คุณภาพชีวิตที่ต้องวัดดวงในระยะยาว เหมือนกับโครงการบ้านเอื้ออาทร ที่ประสบปัญหาที่จอดรถไม่เพียงพอ #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 322 มุมมอง 0 รีวิว
  • “คมนาคม” เร่งอัพเกรดสนามบินภูมิภาค ชูศักยภาพหนุน ”ฮับ” การบิน.จากนโยบายรัฐบาลที่ต้องการผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาค (Aviation Hub) โดยมุ่งเน้นไปที่ สนามบินหลักอย่าง ”สุวรรณภูมิ และ ภูเก็ต” ส่วนสนามบินภูมิภาคที่กรมท่าอากาศยาน (ทย.) ดูแล ฝ่ายนโยบายกลับไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าที่ควร ทั้งที่สนามบินหลายแห่งมีความสำคัญในการรองรับการเดินทางภายในประเทศและช่วยกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว และสนับสนุนให้ไทยก้าวสู่ Aviation Hub ได้ตามเป้าหมาย ซึ่งหลังจากที่ ”สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รองนายกฯและรมว.คมนาคม โดยมอบหมายให้ “มนพร เจริญศรี” รมช.คมนาคมกำกับดูแล กรมท่าอากาศยาน การพัฒนาปรับปรุงสนามบินภูมิภาค มีความชัดเจนอย่างมาก.@แก้ด่วน ”ความสะอาด จัดระเบียบพื้นที่” ยกเครื่องบริการนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลกรมท่าอากาศยาน (ทย.) ได้มีการลงพื้นที่สนามบินเพื่อตรวจเยี่ยมการดำเนินงานแห่งแรก คือ สนามบินกระบี่ เพราะเป็นสนามบินที่ถือว่า มีผู้โดยสารและเที่ยวบิน และมีรายได้สูงสุดของทย. จากนั้นได้ไปตรวจเยี่ยมสนามบินอุดรธานีและสนามบินพิษณุโลก.ปัญหาที่พบเป็นเรื่องการให้บริการ เช่น ความสะอาดต่างๆ ห้องน้ำ พื้นที่ร้านค้าไม่เป็นระเบียบ พื้นที่บริการผู้โดยสารเก้าอี้พักคอย ที่จอดรถไม่เพียงพอ มีสภาพทรุดโทรม รวมไปถึงระบบขนส่งเชื่อมต่อจากสนามบินไปในเมืองและแหล่งท่องเที่ยว และการให้บริการของพนักงาน หลังตรวจสนามบินกระบี่ได้มีข้อสั่งการให้แก้ไขเร่งด่วน ได้แก่.1. จัดให้มีจุดเช็คอิน เพิ่มประสิทธิภาพตรวจค้นสัมภาระ ปรับรุงและเพิ่มเติมป้ายบอกทาง เร่งรัดเปิดบริการสะพานเทียบเครื่องบิน. 2. จัดระเบียบพื้นที่ภายในอาคารและการจัดหารายได้เพิ่มเติม พื้นที่เช่าเคาเตอร์รถเช่า และร้านค้าขายของ เป็นต้น.3. ปรับปรุงให้ท่าอากาศยานมีชีวิต เช่น การจัดพื้นที่สีเขียว การเปิดเพลงเพื่อเพิ่มบรรยากกาศในแต่ละเทศกาล จัดพื้นที่เช็คอิน.4. รักษาความสะอาด เช่น ห้องน้ำ กระจก ลิฟต์ และพื้นที่ให้บริการต่างๆ.5. เร่งรัดงานก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารในประเทศ และเตรียมเปิดให้บริการ.อ่านเพิ่มเติม>>https://mgronline.com/business/detail/9670000118025.#คมนาคม #อัพเกรด #สนามบินภูมิภาค #กรมท่าอากาศยาน
    “คมนาคม” เร่งอัพเกรดสนามบินภูมิภาค ชูศักยภาพหนุน ”ฮับ” การบิน.จากนโยบายรัฐบาลที่ต้องการผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาค (Aviation Hub) โดยมุ่งเน้นไปที่ สนามบินหลักอย่าง ”สุวรรณภูมิ และ ภูเก็ต” ส่วนสนามบินภูมิภาคที่กรมท่าอากาศยาน (ทย.) ดูแล ฝ่ายนโยบายกลับไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าที่ควร ทั้งที่สนามบินหลายแห่งมีความสำคัญในการรองรับการเดินทางภายในประเทศและช่วยกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว และสนับสนุนให้ไทยก้าวสู่ Aviation Hub ได้ตามเป้าหมาย ซึ่งหลังจากที่ ”สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รองนายกฯและรมว.คมนาคม โดยมอบหมายให้ “มนพร เจริญศรี” รมช.คมนาคมกำกับดูแล กรมท่าอากาศยาน การพัฒนาปรับปรุงสนามบินภูมิภาค มีความชัดเจนอย่างมาก.@แก้ด่วน ”ความสะอาด จัดระเบียบพื้นที่” ยกเครื่องบริการนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลกรมท่าอากาศยาน (ทย.) ได้มีการลงพื้นที่สนามบินเพื่อตรวจเยี่ยมการดำเนินงานแห่งแรก คือ สนามบินกระบี่ เพราะเป็นสนามบินที่ถือว่า มีผู้โดยสารและเที่ยวบิน และมีรายได้สูงสุดของทย. จากนั้นได้ไปตรวจเยี่ยมสนามบินอุดรธานีและสนามบินพิษณุโลก.ปัญหาที่พบเป็นเรื่องการให้บริการ เช่น ความสะอาดต่างๆ ห้องน้ำ พื้นที่ร้านค้าไม่เป็นระเบียบ พื้นที่บริการผู้โดยสารเก้าอี้พักคอย ที่จอดรถไม่เพียงพอ มีสภาพทรุดโทรม รวมไปถึงระบบขนส่งเชื่อมต่อจากสนามบินไปในเมืองและแหล่งท่องเที่ยว และการให้บริการของพนักงาน หลังตรวจสนามบินกระบี่ได้มีข้อสั่งการให้แก้ไขเร่งด่วน ได้แก่.1. จัดให้มีจุดเช็คอิน เพิ่มประสิทธิภาพตรวจค้นสัมภาระ ปรับรุงและเพิ่มเติมป้ายบอกทาง เร่งรัดเปิดบริการสะพานเทียบเครื่องบิน. 2. จัดระเบียบพื้นที่ภายในอาคารและการจัดหารายได้เพิ่มเติม พื้นที่เช่าเคาเตอร์รถเช่า และร้านค้าขายของ เป็นต้น.3. ปรับปรุงให้ท่าอากาศยานมีชีวิต เช่น การจัดพื้นที่สีเขียว การเปิดเพลงเพื่อเพิ่มบรรยากกาศในแต่ละเทศกาล จัดพื้นที่เช็คอิน.4. รักษาความสะอาด เช่น ห้องน้ำ กระจก ลิฟต์ และพื้นที่ให้บริการต่างๆ.5. เร่งรัดงานก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารในประเทศ และเตรียมเปิดให้บริการ.อ่านเพิ่มเติม>>https://mgronline.com/business/detail/9670000118025.#คมนาคม #อัพเกรด #สนามบินภูมิภาค #กรมท่าอากาศยาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 199 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงแนวคิดการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ของรัฐบาล จากที่ปัจจุบันเก็บอยู่ที่อัตรา 7% ว่า นายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงในเรื่องนี้ ซึ่งรัฐบาลกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาศึกษา อย่างไรก็ดี ต้องรอให้มีข้อสรุปที่ชัดเจนออกมาก่อน เนื่องจากขณะนี้ยังอยู่ในกระบวนการ

    "ยังอยู่ในกระบวนการ กำลังจะทำ และคำนึงถึงหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้น ซึ่งเราประคองมาระยะหนึ่งแล้ว ต้องดูว่าเป็นไปต่อได้ในระดับไหน อย่างไร แค่ไหน" นายภูมิธรรม กล่าว

    พร้อมปฏิเสธว่า แนวคิดการปรับขึ้นภาษีไม่ได้เป็นไปตามที่มีการวิจารณ์ว่ารัฐบาลถังแตก เพราะนำเงินไปใช้กับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แต่กระบวนการปรับโครงสร้างการจัดเก็บภาษี จะต้องทำให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย และเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทุกหน่วย ซึ่งเป็นหน้าที่ของกระทรวงการคลังที่จะไปพิจารณา

    "ส่วนสำคัญอยู่ที่ว่าทำอย่างไรให้พี่น้องประชาชนไม่เดือดร้อนมากที่สุด เพียงแต่ว่าให้กระบวนการภาษีเป็นธรรมมากขึ้น" รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าว

    พร้อมระบุว่า หากจะมีการปรับขึ้นภาษีจริงนั้น ต้องให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เป็นผู้ชี้แจง เพราะมีข้อมูลทั้งระบบอยู่แล้ว เชื่อว่าหากมีความพร้อม และมีข้อสรุปที่ชัดเจน กระทรวงการคลังคงจะออกมาชี้แจงให้รับทราบ

    "ถ้านายพิชัยพร้อม และตัดสินใจเมื่อไร หรือมีข้อสรุปที่ชัดเจนคงมีการชี้แจงออกมา แต่ยืนยันว่านายกรัฐมนตรีและรัฐบาลคำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก ถ้าไม่เป็นปัญหาใดๆ" นายภูมิธรรม กล่าว

    #MGROnline #ภาษีเงินได้15 #ภาษี #Vat15
    นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงแนวคิดการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ของรัฐบาล จากที่ปัจจุบันเก็บอยู่ที่อัตรา 7% ว่า นายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงในเรื่องนี้ ซึ่งรัฐบาลกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาศึกษา อย่างไรก็ดี ต้องรอให้มีข้อสรุปที่ชัดเจนออกมาก่อน เนื่องจากขณะนี้ยังอยู่ในกระบวนการ • "ยังอยู่ในกระบวนการ กำลังจะทำ และคำนึงถึงหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้น ซึ่งเราประคองมาระยะหนึ่งแล้ว ต้องดูว่าเป็นไปต่อได้ในระดับไหน อย่างไร แค่ไหน" นายภูมิธรรม กล่าว • พร้อมปฏิเสธว่า แนวคิดการปรับขึ้นภาษีไม่ได้เป็นไปตามที่มีการวิจารณ์ว่ารัฐบาลถังแตก เพราะนำเงินไปใช้กับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แต่กระบวนการปรับโครงสร้างการจัดเก็บภาษี จะต้องทำให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย และเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทุกหน่วย ซึ่งเป็นหน้าที่ของกระทรวงการคลังที่จะไปพิจารณา • "ส่วนสำคัญอยู่ที่ว่าทำอย่างไรให้พี่น้องประชาชนไม่เดือดร้อนมากที่สุด เพียงแต่ว่าให้กระบวนการภาษีเป็นธรรมมากขึ้น" รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าว • พร้อมระบุว่า หากจะมีการปรับขึ้นภาษีจริงนั้น ต้องให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เป็นผู้ชี้แจง เพราะมีข้อมูลทั้งระบบอยู่แล้ว เชื่อว่าหากมีความพร้อม และมีข้อสรุปที่ชัดเจน กระทรวงการคลังคงจะออกมาชี้แจงให้รับทราบ • "ถ้านายพิชัยพร้อม และตัดสินใจเมื่อไร หรือมีข้อสรุปที่ชัดเจนคงมีการชี้แจงออกมา แต่ยืนยันว่านายกรัฐมนตรีและรัฐบาลคำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก ถ้าไม่เป็นปัญหาใดๆ" นายภูมิธรรม กล่าว • #MGROnline #ภาษีเงินได้15 #ภาษี #Vat15
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 195 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไร่ภูนับดาว แถลงการณ์ยันไม่ใช่รีสอร์ต ไม่เกี่ยวข้องกับหวานใจอดีตรองนายกฯ ตั้งบนที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 ถูกต้อง จัดตั้งเป็นศูนย์การเรียนรู้ฯ เพื่อกิจการโคนม ด้านชาวเน็ตแห่ถามถึงคาเฟ่และลานกางเต็นท์

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000116914

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ไร่ภูนับดาว แถลงการณ์ยันไม่ใช่รีสอร์ต ไม่เกี่ยวข้องกับหวานใจอดีตรองนายกฯ ตั้งบนที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 ถูกต้อง จัดตั้งเป็นศูนย์การเรียนรู้ฯ เพื่อกิจการโคนม ด้านชาวเน็ตแห่ถามถึงคาเฟ่และลานกางเต็นท์ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000116914 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Haha
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1023 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เลขาธิเกร_กปปส เอกนัฏ อวย #น้องเมีย_อิยุต
    ชี้ เข้าใจ #แพทองธาร ยังไม่ลงพื้นที่ เหตุติดภารกิจ
    ครม. สัญจร ฟื้นฟูท่องเที่ยวภาคเหนือ ซึ่งนายกฯ
    เป็นห่วงประชาชนทุกที่ มีการส่ง #อนุทิน รองนายกฯ
    พลเอกณัฐพล รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่ ซึ่งตนก็ได้
    ตามลงไปด้วย
    #เลขาธิเกร_กปปส เอกนัฏ อวย #น้องเมีย_อิยุต ชี้ เข้าใจ #แพทองธาร ยังไม่ลงพื้นที่ เหตุติดภารกิจ ครม. สัญจร ฟื้นฟูท่องเที่ยวภาคเหนือ ซึ่งนายกฯ เป็นห่วงประชาชนทุกที่ มีการส่ง #อนุทิน รองนายกฯ พลเอกณัฐพล รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่ ซึ่งตนก็ได้ ตามลงไปด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 237 มุมมอง 22 0 รีวิว
  • ไม่รู้ลุงเสรีพิรุธผู้หิวตำแหน่งรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง พกความมั่นใจจากไหน ว่าบิ๊กโจ๊ก จะได้กลับมาเป็นตำรวจอีก ส่วนไอ่ที่อ้างว่าให้ดูคดีเสรีพิรุธเป็นตัวอย่างนั้น ก็แตกต่างกันลิบลับ เพราะเสรีไม่มีพิรุธในคดีฟอกเvิน และเว็บpนัน ผิดกับโจ๊กที่หลักฐานพันรอบตัว
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    ไม่รู้ลุงเสรีพิรุธผู้หิวตำแหน่งรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง พกความมั่นใจจากไหน ว่าบิ๊กโจ๊ก จะได้กลับมาเป็นตำรวจอีก ส่วนไอ่ที่อ้างว่าให้ดูคดีเสรีพิรุธเป็นตัวอย่างนั้น ก็แตกต่างกันลิบลับ เพราะเสรีไม่มีพิรุธในคดีฟอกเvิน และเว็บpนัน ผิดกับโจ๊กที่หลักฐานพันรอบตัว #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    Like
    4
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 264 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลุงบ้านป่า เก้าอี้ร้อน หวานใจถูกตรวจสอบเส้นเงิน
    คนบ้านป่าคงร้อนรุ่มใจยิ่งนัก หลังทําท่าว่ากล่องดวงใจคนสําคัญ กําลังจะโดนฝ่ายตรงข้ามการเมืองไล่ทุบหนักเพราะจากเดิมเป็นแค่กระแสข่าวว่าทางตํารวจ ดีเอฟไอ ปปง จะดําเนินคดีหวานใจ บิ๊กเนมการเมืองอดีตรองนายกรัฐมนตรีเพราะพบเส้นทางการเงินหวานใจคนดังกล่าว ไปพันกับธุรกิจ ธุรกรรมการทํารีสอร์ทหรูในไร่แห่งหนึ่งที่สระบุรี
    ที่เคยถูกตรวจสอบพบว่าบุกรุกที่ สปก โดยเป็นข่าวมาได้หลายสัปดาห์แล้วแต่ก็ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น แต่เรื่องนี้กลับมาร้อนแรงขึ้นทันทีหลังบิ๊กเต่า รองผู้บัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง ยอมรับว่าตอนนี้ตํารวจได้ร่วมกับปปช ปปทและธนดล สุวรรณฤทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตร สืบสวนทางลึกเพื่อขยายผลกรณีก่อนหน้านี้ เข้าตรวจสอบรีสอร์ทหรูแห่งหนึ่ง จังหวัดสระบุรี บุกรุกครอบครองที่ สปก โดยไม่ชอบ ต่อมามีการขยายผลพบเส้นการเงิน ผู้บริหารรีสอร์ท โยงถึงบุคคลใกล้ชิดของผู้ใหญ่ในพรรคการเมืองพรรคหนึ่งประมาณ 10ล้านบาทเชื่อมโยงหวานใจบิ๊กเนมคนดังกล่าว
    โดยเส้นทางเงินเกิดขึ้นในช่วงพรรคการเมืองของผู้ใหญ่คนดังกล่าวกําลังมีอํานาจอันเป็นท่าทีของบิ๊กเต่า ที่สอดประสานเล่นคีย์โน้ตเดียวกับธนดล สุวรรณฤทธิ์ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรตั้งแต่ยุคร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่าเป็นรัฐมนตรีเกษตร
    ธนดลออกมาระบุว่ามีการขยายผลการตรวจสอบรีสอร์ทดังกล่าวพบว่าเรื่องนี้มีหวานใจอดีตรองนายกฯ เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยพร้อม บอกให้จับตาเดือนธันวาคมนี้จะมีข่าวใหญ่อ้างว่าตรวจสอบแล้วพบเส้นทางการเงิน ที่ถูกโอนจากบริษัทของนักธุรกิจผู้บริหารรีสอร์ทเข้าบัญชีของหญิงคนสนิท 5 ครั้งในวันเดียวกัน ครั้งละ 2,000,000รวม เป็นเงิน 10,000,000 โอนมาเป็นเงินติดล้อเพื่อเลี่ยงการตรวจสอบ จับอาการทั้งธนดล เด็กปั้นธรรมนัสที่แตกหักบ้านป่ารอยต่อแล้วเลือกอยู่กับ ทักษิณ ชินวัตรที่ ส่งธนดล เดินหน้าตรวจสอบหวานใจบิ๊กเนมการเมืองคนดังกล่าว
    แวดวงการเมืองรู้กันดีว่าใครคือ หวานใจบิ๊กการเมืองคนดังกล่าว แค่ไปแกะรอยข่าวคําให้สัมภาษณ์ของ ดร นฤมล รัฐมนตรีเกษตร ที่สื่อถามถึงเรื่องการตรวจสอบการรุกที่ สปก ที่สระบุรี โดยสื่อเอ่ยชื่อ พล อ ประวิตร วงษ์สุวรรณอย่างน้อย 2 รอบปรากฏว่าด็อกเตอร์นฤมล อดีตคนพลังประชารัฐที่เข้าออกบ้านป่ารอยต่อแบบไม่ต้องจองคิวนัด แม้จะอ้ําๆอึงๆที่เจอคําถามเอ่ยชื่อถึงอดีตบอสการเมืองของตัวเองแบบตรงตรง แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรเพียงแต่ออกตัวตีกรรเชียงชิ่งว่ายังไม่ได้รับรายงานโดยไม่ได้ปฏิเสธหลังสื่อ ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    ลุงบ้านป่า เก้าอี้ร้อน หวานใจถูกตรวจสอบเส้นเงิน คนบ้านป่าคงร้อนรุ่มใจยิ่งนัก หลังทําท่าว่ากล่องดวงใจคนสําคัญ กําลังจะโดนฝ่ายตรงข้ามการเมืองไล่ทุบหนักเพราะจากเดิมเป็นแค่กระแสข่าวว่าทางตํารวจ ดีเอฟไอ ปปง จะดําเนินคดีหวานใจ บิ๊กเนมการเมืองอดีตรองนายกรัฐมนตรีเพราะพบเส้นทางการเงินหวานใจคนดังกล่าว ไปพันกับธุรกิจ ธุรกรรมการทํารีสอร์ทหรูในไร่แห่งหนึ่งที่สระบุรี ที่เคยถูกตรวจสอบพบว่าบุกรุกที่ สปก โดยเป็นข่าวมาได้หลายสัปดาห์แล้วแต่ก็ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น แต่เรื่องนี้กลับมาร้อนแรงขึ้นทันทีหลังบิ๊กเต่า รองผู้บัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง ยอมรับว่าตอนนี้ตํารวจได้ร่วมกับปปช ปปทและธนดล สุวรรณฤทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตร สืบสวนทางลึกเพื่อขยายผลกรณีก่อนหน้านี้ เข้าตรวจสอบรีสอร์ทหรูแห่งหนึ่ง จังหวัดสระบุรี บุกรุกครอบครองที่ สปก โดยไม่ชอบ ต่อมามีการขยายผลพบเส้นการเงิน ผู้บริหารรีสอร์ท โยงถึงบุคคลใกล้ชิดของผู้ใหญ่ในพรรคการเมืองพรรคหนึ่งประมาณ 10ล้านบาทเชื่อมโยงหวานใจบิ๊กเนมคนดังกล่าว โดยเส้นทางเงินเกิดขึ้นในช่วงพรรคการเมืองของผู้ใหญ่คนดังกล่าวกําลังมีอํานาจอันเป็นท่าทีของบิ๊กเต่า ที่สอดประสานเล่นคีย์โน้ตเดียวกับธนดล สุวรรณฤทธิ์ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรตั้งแต่ยุคร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่าเป็นรัฐมนตรีเกษตร ธนดลออกมาระบุว่ามีการขยายผลการตรวจสอบรีสอร์ทดังกล่าวพบว่าเรื่องนี้มีหวานใจอดีตรองนายกฯ เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยพร้อม บอกให้จับตาเดือนธันวาคมนี้จะมีข่าวใหญ่อ้างว่าตรวจสอบแล้วพบเส้นทางการเงิน ที่ถูกโอนจากบริษัทของนักธุรกิจผู้บริหารรีสอร์ทเข้าบัญชีของหญิงคนสนิท 5 ครั้งในวันเดียวกัน ครั้งละ 2,000,000รวม เป็นเงิน 10,000,000 โอนมาเป็นเงินติดล้อเพื่อเลี่ยงการตรวจสอบ จับอาการทั้งธนดล เด็กปั้นธรรมนัสที่แตกหักบ้านป่ารอยต่อแล้วเลือกอยู่กับ ทักษิณ ชินวัตรที่ ส่งธนดล เดินหน้าตรวจสอบหวานใจบิ๊กเนมการเมืองคนดังกล่าว แวดวงการเมืองรู้กันดีว่าใครคือ หวานใจบิ๊กการเมืองคนดังกล่าว แค่ไปแกะรอยข่าวคําให้สัมภาษณ์ของ ดร นฤมล รัฐมนตรีเกษตร ที่สื่อถามถึงเรื่องการตรวจสอบการรุกที่ สปก ที่สระบุรี โดยสื่อเอ่ยชื่อ พล อ ประวิตร วงษ์สุวรรณอย่างน้อย 2 รอบปรากฏว่าด็อกเตอร์นฤมล อดีตคนพลังประชารัฐที่เข้าออกบ้านป่ารอยต่อแบบไม่ต้องจองคิวนัด แม้จะอ้ําๆอึงๆที่เจอคําถามเอ่ยชื่อถึงอดีตบอสการเมืองของตัวเองแบบตรงตรง แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรเพียงแต่ออกตัวตีกรรเชียงชิ่งว่ายังไม่ได้รับรายงานโดยไม่ได้ปฏิเสธหลังสื่อ ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 325 มุมมอง 0 รีวิว
  • "บิ๊กป้อม" ให้สัมภาษณ์สื่อทางโทรศัพท์ แจงปม นางสาว ช.คนข้างกาย มีเอี่ยวรีสอร์ตรุกที่ดิน ส.ป.ก.ตอบสั้นๆ ไม่มีอะไร ไม่เคยทำผิดอะไร ก่อนตัดสาย

    วันนี้(3 ธ.ค.) เมื่อเวลา 12.15 น.จากกรณีที่มีข่าวไร่ภูนับดาว จ.สระบุรี บุกรุกที่ดิน ส.ป.ก.และเชื่อมโยงไปถึง นางสาว ช. คนข้างกายอดีตรองนายกฯ ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์หา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี หัวพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เพื่อขอสัมภาษณ์ โดยพยายามถามถึงเรื่องดังกล่าว ซึ่ง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มีอะไร ไม่เคยทำอะไรผิดเลย

    เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่าจะชี้แจงหรือแจ้งความดำเนินคดีกับคนที่ออกมาแฉหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ถามกลับ ว่า อะไรนะ

    ผู้สื่อข่าวพยายามอธิบายคำถามดังกล่าวอีก แต่ปรากฎว่า พล.อ.ประวิตร ได้ตัดสายโทรศัพท์ไปแล้ว

    #MGROnline #บิ๊กป้อม
    "บิ๊กป้อม" ให้สัมภาษณ์สื่อทางโทรศัพท์ แจงปม นางสาว ช.คนข้างกาย มีเอี่ยวรีสอร์ตรุกที่ดิน ส.ป.ก.ตอบสั้นๆ ไม่มีอะไร ไม่เคยทำผิดอะไร ก่อนตัดสาย • วันนี้(3 ธ.ค.) เมื่อเวลา 12.15 น.จากกรณีที่มีข่าวไร่ภูนับดาว จ.สระบุรี บุกรุกที่ดิน ส.ป.ก.และเชื่อมโยงไปถึง นางสาว ช. คนข้างกายอดีตรองนายกฯ ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์หา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี หัวพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เพื่อขอสัมภาษณ์ โดยพยายามถามถึงเรื่องดังกล่าว ซึ่ง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มีอะไร ไม่เคยทำอะไรผิดเลย • เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่าจะชี้แจงหรือแจ้งความดำเนินคดีกับคนที่ออกมาแฉหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ถามกลับ ว่า อะไรนะ • ผู้สื่อข่าวพยายามอธิบายคำถามดังกล่าวอีก แต่ปรากฎว่า พล.อ.ประวิตร ได้ตัดสายโทรศัพท์ไปแล้ว • #MGROnline #บิ๊กป้อม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 193 มุมมอง 0 รีวิว
  • คนในรัฐบาลนั่งไม่ติด กลัว "สนธิ" ลงถนน ต้าน MOU 2544 รัฐยกอธิปไตยไทยให้เขมร.คนในรัฐบาลนั่งไม่ติด กลัวว่าผมจะลงถนนต้าน MOU 2544 ผมอยากพูดอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้คนที่ออกมาต่อต้านผม ฟังไม่ได้ศัพท์ จับไม่ได้กระเดียด จะได้เข้าใจ ผมสรุปสั้นๆ ก็แล้วกัน ผมจะชวนพ่อแม่พี่น้องทั้งหลายลุกขึ้นมาต่อต้านรัฐบาล หากรัฐบาลกระทำการอันใดก็ตามในเรื่อง MOU 2544 ที่เป็นการส่อเจตนาที่ยอมเสียอำนาจอธิปไตยทางทะเลของเราให้กับฝ่ายเขมร นั่นล่ะ ผมถือว่าเป็นเรื่องเป็นราวกับผมแล้ว และผมเชื่อว่าก็จะเป็นเรื่องเป็นราวกับท่านผู้ชมด้วย ที่รักชาติ รักบ้านรักเมือง รักพระมหากษัตริย์.เดิมทีเรากำหนดว่าผมจะไปยื่นหนังสือให้กับท่านนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ในวันที่ 2 คือวันจันทร์ที่จะถึงนี้ แต่เผอิญทนายความผมบอกว่าวันที่ 2 ผมติดภารกิจที่ศาล ตกลงเราจะเลื่อนไปเป็นวันที่ 9 ธันวาคม เวลา 10.00 น. ผมและอาจารย์ปานเทพ จะเดินทางไปยื่นหนังสือให้ท่านนายกรัฐมนตรีชี้แจงกรณี MOU ไทย-กัมพูชา 2544 พร้อมกับกล่าวหารัฐบาลชุดนี้ด้วยว่า ให้ระวังว่ากำลังจะมีการกระทำที่เป็นการยกอธิปไตยรอบเกาะกูดให้กัมพูชาอย่างไม่ถูกต้อง ถ้าท่านผู้ชมสนใจ อยากไปยื่นหนังสือ ก็ไปได้ แต่ท่านอย่าไปชุมนุมบนท้องถนนนะครับ.ความเคลื่อนไหวของผมไปกระตุกต่อมของรัฐบาลเพื่อไทย แต่ละคนดาหน้าออกมาพูดถึงเรื่องการลงถนนกันใหญ่ ตั้งแต่คุณภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรัฐมนตรีกลาโหม เปรยแกมขู่ผม คุณภูมิธรรมนี่ความจำสั้น สมัยที่พวกเสื้อแดงของคุณออกมาประท้วง ประเทศชาติทั้งประเทศ ทั้งเผาบ้านเผาเมือง มิหนำซ้ำ คุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ก็รีบออกมา แล้วก็ยังมีคนอย่างเช่นคุณชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ และอีกท่านหนึ่ง คือ คุณพายัพ ปั้นเกตุ อดีตหัวหน้า นปช.ตอนนี้มีบทบาทมาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี คุณบอกว่าการต่อสู้ การทำให้ประเทศชาติต้องวุ่นวายถดถอยไปนั้น ถ้าคุณพูดมีความหมายอย่างนี้ ก็แปลว่าคุณเห็นด้วยกับอำนาจทางการเมืองที่ทำให้การฉ้อราษฎร์บังหลวงเกิดขึ้นได้จากคนที่มีอำนาจทางการเมือง ใช่หรือเปล่า .คุณรู้ไหม 2548 ที่ผมออกมา มาถึง 2566 สิบแปดปี ที่ผมสู้ ความจริงที่มีหนึ่งเดียวก็เลยปรากฏออกมาในประกาศราชกิจจานุเบกษาเมื่อสิงหาคม 2566 ที่ “นายคุณ”กลับมาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ ยอมรับสารภาพผิดการทุจริตคอร์รัปชันเป็นเรื่องๆ นี่เป็นหลักฐานเป็นประจักษ์พยานทางประวัติศาสตร์ที่ปรากฏในราชกิจจานุเบกษา จะโกหกอะไร โกหกได้ แต่โกหกความจริงที่ปรากฏในราชกิจจานุเบกษาได้อย่างไร นั่นข้อแรก. ประวัติศาสตร์มักจะย้อนรอย ความไม่โปร่งใสของรัฐบาลชุดอุ๊งอิ๊งค์ ที่ได้รับอิทธิพลจากนายคุณ คือพ่อเขา นี่ผมยังไม่ได้พูดเรื่องการรักษาตัวบนชั้น 14 คุณก็รู้ว่านายคุณโกงเวลาติดคุก ผมคิดในใจว่ามันทุเรศ ปล่อยให้ชาวบ้านเขารุมเหยียบกันดีกว่า.แล้วพฤติกรรมต่างๆ ของนายคุณ รวมทั้งท่านนายกฯ แพทองธาร ก็พูดตลอดเวลา ว่าทะเลาะกันทำไมเรื่องพื้นที่ เอาสัมปทานมาแบ่งกัน 50-50 ใครเป็นคนพูด คุณณัฐวุฒิ คุณพายัพ ปั้นเกตุ คุณชูศักดิ์ ศิรินิล คุณภูมิธรรม เวชยชัย ใครเป็นคนพูด "ต้องแบ่งกัน 50-50" ทั้งนายคุณพูด ทั้งลูกสาวคนเล็กสุดที่รักของนายคุณก็พูด และความสนิทสนมระหว่างสมเด็จฮุน เซน ซึ่งเป็นบิดาของฮุน มาแณต นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน กับนายคุณ สนิทสนมมากอย่างที่ไม่จำเป็นต้องอธิบาย มันเห็นได้ชัด ทำให้คนเขาอนุมานได้ และเขาเกิดความไม่ไว้วางใจพวกคุณ.ผมจะเรียนให้ทราบ ตั้งแต่วันแรก ปี 2548 ที่ผมตัดสินใจจะลงถนนสู้กับนายคุณ คุณไปดูคลิปเก่าๆ ไปดูข้อมูลเก่าๆ คุณจะจำได้ว่าผมพูดว่าอย่างนี้ จำใส่ใจไว้นะ คุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผมบอกว่า ถึงจะเป็นผมเพียงคนเดียวออกมาสู้ ผมก็จะสู้ ผมพูดอย่างนี้ครับ เรื่องนี้ก็เช่นกัน ถึงจะเป็นผมคนเดียว ผมก็จะออกมา ผมเอาความจริงที่มีหนึ่งเดียวให้กับประชาชนเขาทราบ และผมเชื่อว่ามีประชาชนคนไทยอีกจำนวนไม่น้อยเลยที่เขาเห็นด้วยว่าผมทำถูกต้อง นี่คือสมบัติของชาติ
    คนในรัฐบาลนั่งไม่ติด กลัว "สนธิ" ลงถนน ต้าน MOU 2544 รัฐยกอธิปไตยไทยให้เขมร.คนในรัฐบาลนั่งไม่ติด กลัวว่าผมจะลงถนนต้าน MOU 2544 ผมอยากพูดอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้คนที่ออกมาต่อต้านผม ฟังไม่ได้ศัพท์ จับไม่ได้กระเดียด จะได้เข้าใจ ผมสรุปสั้นๆ ก็แล้วกัน ผมจะชวนพ่อแม่พี่น้องทั้งหลายลุกขึ้นมาต่อต้านรัฐบาล หากรัฐบาลกระทำการอันใดก็ตามในเรื่อง MOU 2544 ที่เป็นการส่อเจตนาที่ยอมเสียอำนาจอธิปไตยทางทะเลของเราให้กับฝ่ายเขมร นั่นล่ะ ผมถือว่าเป็นเรื่องเป็นราวกับผมแล้ว และผมเชื่อว่าก็จะเป็นเรื่องเป็นราวกับท่านผู้ชมด้วย ที่รักชาติ รักบ้านรักเมือง รักพระมหากษัตริย์.เดิมทีเรากำหนดว่าผมจะไปยื่นหนังสือให้กับท่านนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ในวันที่ 2 คือวันจันทร์ที่จะถึงนี้ แต่เผอิญทนายความผมบอกว่าวันที่ 2 ผมติดภารกิจที่ศาล ตกลงเราจะเลื่อนไปเป็นวันที่ 9 ธันวาคม เวลา 10.00 น. ผมและอาจารย์ปานเทพ จะเดินทางไปยื่นหนังสือให้ท่านนายกรัฐมนตรีชี้แจงกรณี MOU ไทย-กัมพูชา 2544 พร้อมกับกล่าวหารัฐบาลชุดนี้ด้วยว่า ให้ระวังว่ากำลังจะมีการกระทำที่เป็นการยกอธิปไตยรอบเกาะกูดให้กัมพูชาอย่างไม่ถูกต้อง ถ้าท่านผู้ชมสนใจ อยากไปยื่นหนังสือ ก็ไปได้ แต่ท่านอย่าไปชุมนุมบนท้องถนนนะครับ.ความเคลื่อนไหวของผมไปกระตุกต่อมของรัฐบาลเพื่อไทย แต่ละคนดาหน้าออกมาพูดถึงเรื่องการลงถนนกันใหญ่ ตั้งแต่คุณภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรัฐมนตรีกลาโหม เปรยแกมขู่ผม คุณภูมิธรรมนี่ความจำสั้น สมัยที่พวกเสื้อแดงของคุณออกมาประท้วง ประเทศชาติทั้งประเทศ ทั้งเผาบ้านเผาเมือง มิหนำซ้ำ คุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ก็รีบออกมา แล้วก็ยังมีคนอย่างเช่นคุณชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ และอีกท่านหนึ่ง คือ คุณพายัพ ปั้นเกตุ อดีตหัวหน้า นปช.ตอนนี้มีบทบาทมาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี คุณบอกว่าการต่อสู้ การทำให้ประเทศชาติต้องวุ่นวายถดถอยไปนั้น ถ้าคุณพูดมีความหมายอย่างนี้ ก็แปลว่าคุณเห็นด้วยกับอำนาจทางการเมืองที่ทำให้การฉ้อราษฎร์บังหลวงเกิดขึ้นได้จากคนที่มีอำนาจทางการเมือง ใช่หรือเปล่า .คุณรู้ไหม 2548 ที่ผมออกมา มาถึง 2566 สิบแปดปี ที่ผมสู้ ความจริงที่มีหนึ่งเดียวก็เลยปรากฏออกมาในประกาศราชกิจจานุเบกษาเมื่อสิงหาคม 2566 ที่ “นายคุณ”กลับมาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ ยอมรับสารภาพผิดการทุจริตคอร์รัปชันเป็นเรื่องๆ นี่เป็นหลักฐานเป็นประจักษ์พยานทางประวัติศาสตร์ที่ปรากฏในราชกิจจานุเบกษา จะโกหกอะไร โกหกได้ แต่โกหกความจริงที่ปรากฏในราชกิจจานุเบกษาได้อย่างไร นั่นข้อแรก. ประวัติศาสตร์มักจะย้อนรอย ความไม่โปร่งใสของรัฐบาลชุดอุ๊งอิ๊งค์ ที่ได้รับอิทธิพลจากนายคุณ คือพ่อเขา นี่ผมยังไม่ได้พูดเรื่องการรักษาตัวบนชั้น 14 คุณก็รู้ว่านายคุณโกงเวลาติดคุก ผมคิดในใจว่ามันทุเรศ ปล่อยให้ชาวบ้านเขารุมเหยียบกันดีกว่า.แล้วพฤติกรรมต่างๆ ของนายคุณ รวมทั้งท่านนายกฯ แพทองธาร ก็พูดตลอดเวลา ว่าทะเลาะกันทำไมเรื่องพื้นที่ เอาสัมปทานมาแบ่งกัน 50-50 ใครเป็นคนพูด คุณณัฐวุฒิ คุณพายัพ ปั้นเกตุ คุณชูศักดิ์ ศิรินิล คุณภูมิธรรม เวชยชัย ใครเป็นคนพูด "ต้องแบ่งกัน 50-50" ทั้งนายคุณพูด ทั้งลูกสาวคนเล็กสุดที่รักของนายคุณก็พูด และความสนิทสนมระหว่างสมเด็จฮุน เซน ซึ่งเป็นบิดาของฮุน มาแณต นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน กับนายคุณ สนิทสนมมากอย่างที่ไม่จำเป็นต้องอธิบาย มันเห็นได้ชัด ทำให้คนเขาอนุมานได้ และเขาเกิดความไม่ไว้วางใจพวกคุณ.ผมจะเรียนให้ทราบ ตั้งแต่วันแรก ปี 2548 ที่ผมตัดสินใจจะลงถนนสู้กับนายคุณ คุณไปดูคลิปเก่าๆ ไปดูข้อมูลเก่าๆ คุณจะจำได้ว่าผมพูดว่าอย่างนี้ จำใส่ใจไว้นะ คุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผมบอกว่า ถึงจะเป็นผมเพียงคนเดียวออกมาสู้ ผมก็จะสู้ ผมพูดอย่างนี้ครับ เรื่องนี้ก็เช่นกัน ถึงจะเป็นผมคนเดียว ผมก็จะออกมา ผมเอาความจริงที่มีหนึ่งเดียวให้กับประชาชนเขาทราบ และผมเชื่อว่ามีประชาชนคนไทยอีกจำนวนไม่น้อยเลยที่เขาเห็นด้วยว่าผมทำถูกต้อง นี่คือสมบัติของชาติ
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 364 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาคใต้น้ำท่วม นายกฯไปเหนือ ขอโปรดเข้าใจ
    .
    สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ในภาพรวมถือว่ายังคงน่าเป็นห่วงพอสมควร โดนายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความกดอากาศสูงกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีน ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ทําให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากระหว่างวันที่ 22 พ.ย. - 1 ธันวาคม 67 ปัจจุบันมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ 1. นครศรีธรรมราช 2.พัทลุง 3.สตูล 4.สงขลา 5.ปัตตานี 6.ยะลา 7.นราธิวาส รวม 78 อำเภอ 508 ตำบล 3,387 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 617,386 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 12 ราย
    .
    ผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่ได้มีเพียงเฉพาะประชาชนเท่านั้น เพราะแม้แต่ปศุสัตว์ที่ประชาชนเลี้ยงไว้เพื่อทำการเกษตรก็ได้รับผลกระทบไม่ต่างกัน โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานว่า มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย 9 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร นครศรีธรรมราช พัทลุง นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา สตูล และตรัง จำนวน 71 อำเภอ 425 ตำบล 2,235 หมู่บ้าน มีเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ 117,400 ราย สัตว์ในพื้นที่น้ำท่วม 5,753,340 ตัว แบ่งเป็น โค 215,925 ตัว กระบือ 8,453 ตัว สุกร 75,164 ตัว แพะ/แกะ 135,775 ตัว และสัตว์ปีก 5,318,023 ตัว
    .
    ขณะที่ อีกด้านมีเสียงวิจารณ์ต่อท่าทีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการเอาใจใส่ต่อการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมภาคใต้ เนื่องจากระหว่างประชาชนทางตอนใต้ของประเทศกำลังรอคอยความช่วยเหลือจากรัฐบาล แต่ปรากฎว่านายกฯยังคงความสำคัญกับการตรวจราชการในพื้นที่ตอนเหนือของประเทศไทย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่พรรคเพื่อไทยมีฐานเสียง
    .
    ในเรื่องนี้ นายกฯ ชี้แจงว่า ตั้งแต่เกิดเหตุได้ส่งรองนายกฯและรัฐมนตรี ลงพื้นที่ และจากการลงพื้นที่เชียงรายวันนี้ได้พูดคุยกับธนาคารต่างๆ ถึงมาตรการช่วยเหลือภายหลังอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย และจะนำมาตรการดังกล่าวไปใช้ช่วยเหลือในพื้นที่จังหวัดภาคใต้
    .
    “โอ๊ย คำว่าละเลยภาคใต้ สามีเป็นคนใต้ ครอบครัวสามีเป็นคนใต้ ถ้าละเลยคนใต้ ไม่รักคนใต้ แต่งงานคนใต้ไม่ได้ และวันที่เกิดเรื่อง แจกจ่ายงานประสานทั้งหมด ตั้งแต่กลางคืนไลน์คุยกัน โทรคุยกัน ทำทุกอย่าง แต่การมาการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) เราวางแผนกันเป็นเดือน เพื่อมาฟื้นฟูพื้นที่ภาคเหนือ ให้รู้ว่าเราพร้อมกลับไปเป็นพื้นที่ท่องเที่ยว เป็นการฟื้นฟูพื้นที่ ซึ่งจำเป็นต้องมาเหมือนกัน" นายกฯ อธิบาย
    .............
    Sondhi X
    ภาคใต้น้ำท่วม นายกฯไปเหนือ ขอโปรดเข้าใจ . สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ในภาพรวมถือว่ายังคงน่าเป็นห่วงพอสมควร โดนายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความกดอากาศสูงกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีน ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ทําให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากระหว่างวันที่ 22 พ.ย. - 1 ธันวาคม 67 ปัจจุบันมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ 1. นครศรีธรรมราช 2.พัทลุง 3.สตูล 4.สงขลา 5.ปัตตานี 6.ยะลา 7.นราธิวาส รวม 78 อำเภอ 508 ตำบล 3,387 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 617,386 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 12 ราย . ผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่ได้มีเพียงเฉพาะประชาชนเท่านั้น เพราะแม้แต่ปศุสัตว์ที่ประชาชนเลี้ยงไว้เพื่อทำการเกษตรก็ได้รับผลกระทบไม่ต่างกัน โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานว่า มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย 9 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร นครศรีธรรมราช พัทลุง นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา สตูล และตรัง จำนวน 71 อำเภอ 425 ตำบล 2,235 หมู่บ้าน มีเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ 117,400 ราย สัตว์ในพื้นที่น้ำท่วม 5,753,340 ตัว แบ่งเป็น โค 215,925 ตัว กระบือ 8,453 ตัว สุกร 75,164 ตัว แพะ/แกะ 135,775 ตัว และสัตว์ปีก 5,318,023 ตัว . ขณะที่ อีกด้านมีเสียงวิจารณ์ต่อท่าทีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการเอาใจใส่ต่อการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมภาคใต้ เนื่องจากระหว่างประชาชนทางตอนใต้ของประเทศกำลังรอคอยความช่วยเหลือจากรัฐบาล แต่ปรากฎว่านายกฯยังคงความสำคัญกับการตรวจราชการในพื้นที่ตอนเหนือของประเทศไทย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่พรรคเพื่อไทยมีฐานเสียง . ในเรื่องนี้ นายกฯ ชี้แจงว่า ตั้งแต่เกิดเหตุได้ส่งรองนายกฯและรัฐมนตรี ลงพื้นที่ และจากการลงพื้นที่เชียงรายวันนี้ได้พูดคุยกับธนาคารต่างๆ ถึงมาตรการช่วยเหลือภายหลังอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย และจะนำมาตรการดังกล่าวไปใช้ช่วยเหลือในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ . “โอ๊ย คำว่าละเลยภาคใต้ สามีเป็นคนใต้ ครอบครัวสามีเป็นคนใต้ ถ้าละเลยคนใต้ ไม่รักคนใต้ แต่งงานคนใต้ไม่ได้ และวันที่เกิดเรื่อง แจกจ่ายงานประสานทั้งหมด ตั้งแต่กลางคืนไลน์คุยกัน โทรคุยกัน ทำทุกอย่าง แต่การมาการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) เราวางแผนกันเป็นเดือน เพื่อมาฟื้นฟูพื้นที่ภาคเหนือ ให้รู้ว่าเราพร้อมกลับไปเป็นพื้นที่ท่องเที่ยว เป็นการฟื้นฟูพื้นที่ ซึ่งจำเป็นต้องมาเหมือนกัน" นายกฯ อธิบาย ............. Sondhi X
    Like
    Sad
    Haha
    Angry
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 727 มุมมอง 0 รีวิว
  • คนในรัฐบาลนั่งไม่ติด กลัว "สนธิ" ลงถนน ต้าน MOU 2544 รัฐยกอธิปไตยไทยให้เขมร
    .
    คนในรัฐบาลนั่งไม่ติด กลัวว่าผมจะลงถนนต้าน MOU 2544 ผมอยากพูดอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้คนที่ออกมาต่อต้านผม ฟังไม่ได้ศัพท์ จับไม่ได้กระเดียด จะได้เข้าใจ ผมสรุปสั้นๆ ก็แล้วกัน ผมจะชวนพ่อแม่พี่น้องทั้งหลายลุกขึ้นมาต่อต้านรัฐบาล หากรัฐบาลกระทำการอันใดก็ตามในเรื่อง MOU 2544 ที่เป็นการส่อเจตนาที่ยอมเสียอำนาจอธิปไตยทางทะเลของเราให้กับฝ่ายเขมร นั่นล่ะ ผมถือว่าเป็นเรื่องเป็นราวกับผมแล้ว และผมเชื่อว่าก็จะเป็นเรื่องเป็นราวกับท่านผู้ชมด้วย ที่รักชาติ รักบ้านรักเมือง รักพระมหากษัตริย์
    .
    เดิมทีเรากำหนดว่าผมจะไปยื่นหนังสือให้กับท่านนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ในวันที่ 2 คือวันจันทร์ที่จะถึงนี้ แต่เผอิญทนายความผมบอกว่าวันที่ 2 ผมติดภารกิจที่ศาล ตกลงเราจะเลื่อนไปเป็นวันที่ 9 ธันวาคม เวลา 10.00 น. ผมและอาจารย์ปานเทพ จะเดินทางไปยื่นหนังสือให้ท่านนายกรัฐมนตรีชี้แจงกรณี MOU ไทย-กัมพูชา 2544 พร้อมกับกล่าวหารัฐบาลชุดนี้ด้วยว่า ให้ระวังว่ากำลังจะมีการกระทำที่เป็นการยกอธิปไตยรอบเกาะกูดให้กัมพูชาอย่างไม่ถูกต้อง ถ้าท่านผู้ชมสนใจ อยากไปยื่นหนังสือ ก็ไปได้ แต่ท่านอย่าไปชุมนุมบนท้องถนนนะครับ
    .
    ความเคลื่อนไหวของผมไปกระตุกต่อมของรัฐบาลเพื่อไทย แต่ละคนดาหน้าออกมาพูดถึงเรื่องการลงถนนกันใหญ่ ตั้งแต่คุณภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรัฐมนตรีกลาโหม เปรยแกมขู่ผม คุณภูมิธรรมนี่ความจำสั้น สมัยที่พวกเสื้อแดงของคุณออกมาประท้วง ประเทศชาติทั้งประเทศ ทั้งเผาบ้านเผาเมือง มิหนำซ้ำ คุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ก็รีบออกมา แล้วก็ยังมีคนอย่างเช่นคุณชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ และอีกท่านหนึ่ง คือ คุณพายัพ ปั้นเกตุ อดีตหัวหน้า นปช.ตอนนี้มีบทบาทมาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี คุณบอกว่าการต่อสู้ การทำให้ประเทศชาติต้องวุ่นวายถดถอยไปนั้น ถ้าคุณพูดมีความหมายอย่างนี้ ก็แปลว่าคุณเห็นด้วยกับอำนาจทางการเมืองที่ทำให้การฉ้อราษฎร์บังหลวงเกิดขึ้นได้จากคนที่มีอำนาจทางการเมือง ใช่หรือเปล่า
    .
    คุณรู้ไหม 2548 ที่ผมออกมา มาถึง 2566 สิบแปดปี ที่ผมสู้ ความจริงที่มีหนึ่งเดียวก็เลยปรากฏออกมาในประกาศราชกิจจานุเบกษาเมื่อสิงหาคม 2566 ที่ “นายคุณ”กลับมาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ ยอมรับสารภาพผิดการทุจริตคอร์รัปชันเป็นเรื่องๆ นี่เป็นหลักฐานเป็นประจักษ์พยานทางประวัติศาสตร์ที่ปรากฏในราชกิจจานุเบกษา จะโกหกอะไร โกหกได้ แต่โกหกความจริงที่ปรากฏในราชกิจจานุเบกษาได้อย่างไร นั่นข้อแรก
    .
    ประวัติศาสตร์มักจะย้อนรอย ความไม่โปร่งใสของรัฐบาลชุดอุ๊งอิ๊งค์ ที่ได้รับอิทธิพลจากนายคุณ คือพ่อเขา นี่ผมยังไม่ได้พูดเรื่องการรักษาตัวบนชั้น 14 คุณก็รู้ว่านายคุณโกงเวลาติดคุก ผมคิดในใจว่ามันทุเรศ ปล่อยให้ชาวบ้านเขารุมเหยียบกันดีกว่า
    .
    แล้วพฤติกรรมต่างๆ ของนายคุณ รวมทั้งท่านนายกฯ แพทองธาร ก็พูดตลอดเวลา ว่าทะเลาะกันทำไมเรื่องพื้นที่ เอาสัมปทานมาแบ่งกัน 50-50 ใครเป็นคนพูด คุณณัฐวุฒิ คุณพายัพ ปั้นเกตุ คุณชูศักดิ์ ศิรินิล คุณภูมิธรรม เวชยชัย ใครเป็นคนพูด "ต้องแบ่งกัน 50-50" ทั้งนายคุณพูด ทั้งลูกสาวคนเล็กสุดที่รักของนายคุณก็พูด และความสนิทสนมระหว่างสมเด็จฮุน เซน ซึ่งเป็นบิดาของฮุน มาแณต นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน กับนายคุณ สนิทสนมมากอย่างที่ไม่จำเป็นต้องอธิบาย มันเห็นได้ชัด ทำให้คนเขาอนุมานได้ และเขาเกิดความไม่ไว้วางใจพวกคุณ
    .
    ผมจะเรียนให้ทราบ ตั้งแต่วันแรก ปี 2548 ที่ผมตัดสินใจจะลงถนนสู้กับนายคุณ คุณไปดูคลิปเก่าๆ ไปดูข้อมูลเก่าๆ คุณจะจำได้ว่าผมพูดว่าอย่างนี้ จำใส่ใจไว้นะ คุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผมบอกว่า ถึงจะเป็นผมเพียงคนเดียวออกมาสู้ ผมก็จะสู้ ผมพูดอย่างนี้ครับ เรื่องนี้ก็เช่นกัน ถึงจะเป็นผมคนเดียว ผมก็จะออกมา ผมเอาความจริงที่มีหนึ่งเดียวให้กับประชาชนเขาทราบ และผมเชื่อว่ามีประชาชนคนไทยอีกจำนวนไม่น้อยเลยที่เขาเห็นด้วยว่าผมทำถูกต้อง นี่คือสมบัติของชาติ
    คนในรัฐบาลนั่งไม่ติด กลัว "สนธิ" ลงถนน ต้าน MOU 2544 รัฐยกอธิปไตยไทยให้เขมร . คนในรัฐบาลนั่งไม่ติด กลัวว่าผมจะลงถนนต้าน MOU 2544 ผมอยากพูดอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้คนที่ออกมาต่อต้านผม ฟังไม่ได้ศัพท์ จับไม่ได้กระเดียด จะได้เข้าใจ ผมสรุปสั้นๆ ก็แล้วกัน ผมจะชวนพ่อแม่พี่น้องทั้งหลายลุกขึ้นมาต่อต้านรัฐบาล หากรัฐบาลกระทำการอันใดก็ตามในเรื่อง MOU 2544 ที่เป็นการส่อเจตนาที่ยอมเสียอำนาจอธิปไตยทางทะเลของเราให้กับฝ่ายเขมร นั่นล่ะ ผมถือว่าเป็นเรื่องเป็นราวกับผมแล้ว และผมเชื่อว่าก็จะเป็นเรื่องเป็นราวกับท่านผู้ชมด้วย ที่รักชาติ รักบ้านรักเมือง รักพระมหากษัตริย์ . เดิมทีเรากำหนดว่าผมจะไปยื่นหนังสือให้กับท่านนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ในวันที่ 2 คือวันจันทร์ที่จะถึงนี้ แต่เผอิญทนายความผมบอกว่าวันที่ 2 ผมติดภารกิจที่ศาล ตกลงเราจะเลื่อนไปเป็นวันที่ 9 ธันวาคม เวลา 10.00 น. ผมและอาจารย์ปานเทพ จะเดินทางไปยื่นหนังสือให้ท่านนายกรัฐมนตรีชี้แจงกรณี MOU ไทย-กัมพูชา 2544 พร้อมกับกล่าวหารัฐบาลชุดนี้ด้วยว่า ให้ระวังว่ากำลังจะมีการกระทำที่เป็นการยกอธิปไตยรอบเกาะกูดให้กัมพูชาอย่างไม่ถูกต้อง ถ้าท่านผู้ชมสนใจ อยากไปยื่นหนังสือ ก็ไปได้ แต่ท่านอย่าไปชุมนุมบนท้องถนนนะครับ . ความเคลื่อนไหวของผมไปกระตุกต่อมของรัฐบาลเพื่อไทย แต่ละคนดาหน้าออกมาพูดถึงเรื่องการลงถนนกันใหญ่ ตั้งแต่คุณภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรัฐมนตรีกลาโหม เปรยแกมขู่ผม คุณภูมิธรรมนี่ความจำสั้น สมัยที่พวกเสื้อแดงของคุณออกมาประท้วง ประเทศชาติทั้งประเทศ ทั้งเผาบ้านเผาเมือง มิหนำซ้ำ คุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ก็รีบออกมา แล้วก็ยังมีคนอย่างเช่นคุณชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ และอีกท่านหนึ่ง คือ คุณพายัพ ปั้นเกตุ อดีตหัวหน้า นปช.ตอนนี้มีบทบาทมาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี คุณบอกว่าการต่อสู้ การทำให้ประเทศชาติต้องวุ่นวายถดถอยไปนั้น ถ้าคุณพูดมีความหมายอย่างนี้ ก็แปลว่าคุณเห็นด้วยกับอำนาจทางการเมืองที่ทำให้การฉ้อราษฎร์บังหลวงเกิดขึ้นได้จากคนที่มีอำนาจทางการเมือง ใช่หรือเปล่า . คุณรู้ไหม 2548 ที่ผมออกมา มาถึง 2566 สิบแปดปี ที่ผมสู้ ความจริงที่มีหนึ่งเดียวก็เลยปรากฏออกมาในประกาศราชกิจจานุเบกษาเมื่อสิงหาคม 2566 ที่ “นายคุณ”กลับมาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ ยอมรับสารภาพผิดการทุจริตคอร์รัปชันเป็นเรื่องๆ นี่เป็นหลักฐานเป็นประจักษ์พยานทางประวัติศาสตร์ที่ปรากฏในราชกิจจานุเบกษา จะโกหกอะไร โกหกได้ แต่โกหกความจริงที่ปรากฏในราชกิจจานุเบกษาได้อย่างไร นั่นข้อแรก . ประวัติศาสตร์มักจะย้อนรอย ความไม่โปร่งใสของรัฐบาลชุดอุ๊งอิ๊งค์ ที่ได้รับอิทธิพลจากนายคุณ คือพ่อเขา นี่ผมยังไม่ได้พูดเรื่องการรักษาตัวบนชั้น 14 คุณก็รู้ว่านายคุณโกงเวลาติดคุก ผมคิดในใจว่ามันทุเรศ ปล่อยให้ชาวบ้านเขารุมเหยียบกันดีกว่า . แล้วพฤติกรรมต่างๆ ของนายคุณ รวมทั้งท่านนายกฯ แพทองธาร ก็พูดตลอดเวลา ว่าทะเลาะกันทำไมเรื่องพื้นที่ เอาสัมปทานมาแบ่งกัน 50-50 ใครเป็นคนพูด คุณณัฐวุฒิ คุณพายัพ ปั้นเกตุ คุณชูศักดิ์ ศิรินิล คุณภูมิธรรม เวชยชัย ใครเป็นคนพูด "ต้องแบ่งกัน 50-50" ทั้งนายคุณพูด ทั้งลูกสาวคนเล็กสุดที่รักของนายคุณก็พูด และความสนิทสนมระหว่างสมเด็จฮุน เซน ซึ่งเป็นบิดาของฮุน มาแณต นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน กับนายคุณ สนิทสนมมากอย่างที่ไม่จำเป็นต้องอธิบาย มันเห็นได้ชัด ทำให้คนเขาอนุมานได้ และเขาเกิดความไม่ไว้วางใจพวกคุณ . ผมจะเรียนให้ทราบ ตั้งแต่วันแรก ปี 2548 ที่ผมตัดสินใจจะลงถนนสู้กับนายคุณ คุณไปดูคลิปเก่าๆ ไปดูข้อมูลเก่าๆ คุณจะจำได้ว่าผมพูดว่าอย่างนี้ จำใส่ใจไว้นะ คุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผมบอกว่า ถึงจะเป็นผมเพียงคนเดียวออกมาสู้ ผมก็จะสู้ ผมพูดอย่างนี้ครับ เรื่องนี้ก็เช่นกัน ถึงจะเป็นผมคนเดียว ผมก็จะออกมา ผมเอาความจริงที่มีหนึ่งเดียวให้กับประชาชนเขาทราบ และผมเชื่อว่ามีประชาชนคนไทยอีกจำนวนไม่น้อยเลยที่เขาเห็นด้วยว่าผมทำถูกต้อง นี่คือสมบัติของชาติ
    Like
    5
    2 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 766 มุมมอง 0 รีวิว
  • “บิ๊กป้อม”งานเข้าอี๊กกก!ที่ปรึกษารมว.เกษตรฯปูดปม"หวานใจ"อดีตรองนายกฯรุกที่สปก. 30/11/67 #บิ๊กป้อม #หวานใจบิ๊กการเมือง #รีสอร์ทรุกที่สปก.
    “บิ๊กป้อม”งานเข้าอี๊กกก!ที่ปรึกษารมว.เกษตรฯปูดปม"หวานใจ"อดีตรองนายกฯรุกที่สปก. 30/11/67 #บิ๊กป้อม #หวานใจบิ๊กการเมือง #รีสอร์ทรุกที่สปก.
    Like
    Haha
    6
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1217 มุมมอง 79 0 รีวิว
  • รมว.เกษตรและสหกรณ์ เผยยังไม่ได้รับรายงาน หวานใจอดีตรองนายกฯ มีส่วนเกี่ยวข้องกับรีสอร์ตที่บุกรุกที่ดิน ส.ป.ก. แต่ยืนยันใครทำผิดรุกที่ ส.ป.ก.ฟันไม่เลี้ยง

    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000115187

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    รมว.เกษตรและสหกรณ์ เผยยังไม่ได้รับรายงาน หวานใจอดีตรองนายกฯ มีส่วนเกี่ยวข้องกับรีสอร์ตที่บุกรุกที่ดิน ส.ป.ก. แต่ยืนยันใครทำผิดรุกที่ ส.ป.ก.ฟันไม่เลี้ยง อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000115187 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1097 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 27-11-67
    .
    วันนี้คุณสนธิมีหลายประเด็นมาเล่าให้ฟังด้วยกัน ทั้งเรื่องที่จะไปยื่นเรื่องที่ทำเนียบรัฐบาลให้ชี้แจงเอ็มโอยูไทย-กัมพูชา 2544 ซึ่งสร้างความปั่นป่วนให้กับ คนในทำเนียบรัฐบาลมากไม่ว่าจะเป็น "อ้วน" ภูมิธรรม รองนายกฯ, "หนู" อนุทิน, "เต้น" ณัฐวุฒิ, ความคืบหน้าของคดีฉ้อโกงพี่อ้อย และความเป็นอยู่ของ "ทนายตั้ม" ษิทราในเรือนจำ รวมไปถึง "หมอบุญ" และ การจับกุม "จ๊อบ สามารถ" ในคดีกรรโชกทรัพย์บอส ดิ ไอคอนด้วย
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=Kwv7EzOhgTI
    สนธิเล่าเรื่อง 27-11-67 . วันนี้คุณสนธิมีหลายประเด็นมาเล่าให้ฟังด้วยกัน ทั้งเรื่องที่จะไปยื่นเรื่องที่ทำเนียบรัฐบาลให้ชี้แจงเอ็มโอยูไทย-กัมพูชา 2544 ซึ่งสร้างความปั่นป่วนให้กับ คนในทำเนียบรัฐบาลมากไม่ว่าจะเป็น "อ้วน" ภูมิธรรม รองนายกฯ, "หนู" อนุทิน, "เต้น" ณัฐวุฒิ, ความคืบหน้าของคดีฉ้อโกงพี่อ้อย และความเป็นอยู่ของ "ทนายตั้ม" ษิทราในเรือนจำ รวมไปถึง "หมอบุญ" และ การจับกุม "จ๊อบ สามารถ" ในคดีกรรโชกทรัพย์บอส ดิ ไอคอนด้วย . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=Kwv7EzOhgTI
    Like
    Love
    5
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 397 มุมมอง 0 รีวิว
  • ธรณีสงฆ์อัลไพน์ถึงเขากระโดงในเกมการเมือง.การออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของรัฐมนตรีหลายคนที่เกี่ยวกับที่ดินเขากระโดงในช่วงนี้ อาจจะไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ .จู่ๆ หลังจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล ไปลงนามข้อตกลงกับกัมพูชาหลายเรื่อง ในการนำผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไปประชุมกัมพูชานั้น ในข้อที่ 8 ของข้อตกลง มีข้อความชัดเจนว่ารัฐบาลของสองประเทศจะเร่งรัดคณะกรรมการปักปันเขตแดนเจรจาทำการปักปันเขตแดนกันต่อไปโดยเร็ว ข้อตกลงดังกล่าวจึงกระเทือนแกนนำพรรคเพื่อไทยอย่างร้ายแรง .แผลลึกแผลนี้ยังไม่ทันสมาน ก็เกิดแผลสองขึ้น จู่ๆ กระทรวงมหาดไทยในอำนาจของหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล และ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ แกนนำคนสำคัญของพรรคภูมิใจไทย มีคำสั่งให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินมรดก "ยายเนื่อม" เสียทั้งสิ้น ซึ่งเป็นคำสั่งทางปกครองทางกฎหมาย เป็นผลทำให้บรรดาผู้ที่ซื้อที่ดินและบ้านหลายร้อยราย รวมทั้งบริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ ซึ่งเป็นเจ้าของสนามกอล์ฟอัลไพน์ และนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ เป็นกรรมการมาก่อน ต้องอยู่ภายใต้การบังคับของกฎหมายที่ต้องฟ้องคดีต่อศาลปกครอง ขอให้เพิกถอนคำสั่งนี้เสียภายใน 90 วัน มิฉะนั้นแล้วจะถือว่าเป็นอันยุติว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ธรณีสงฆ์ จะเป็นผลทำให้นายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ ต้องตกเก้าอี้และยังถูกเพิกถอนสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต.แผลใจแผลนี้นับว่าเจ็บมาก ดังนั้น ไม่ถึง 3 วันต่อมา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็ออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่าคำพิพากษาคดีเขากระโดงของศาลฎีกา และศาลปกครองสูงสุดถือเป็นที่สุดแล้ว ผูกพันทุกส่วนราชการที่จะต้องเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินเขากระโดง 5,083 ไร่ ให้เป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทยตามคำพิพากษานั้น เป็นการแถลงกระทบถึงใครที่กำลังสั่งการอธิบดีกรมที่ดินอย่างแน่นอน.พอ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แถลงไม่ขาดคำ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ก็เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนทันที ว่าได้มีคำสั่งให้การรถไฟแห่งประเทศไทยดำเนินการตามคำพิพากษา เข้าครอบครองที่ดินเขากระโดง ซึ่งเป็นของการรถไฟฯ ตามคำพิพากษา.เมื่อสองรัฐมนตรีแถลงไปในแนวทางเดียวกัน ย่อมกระเทือนกระทรวงมหาดไทย กรมที่ดิน ท่ามกลางเสียงเฮ และความทุเรศทุรังที่ประชาชนมีต่อกระทรวงมหาดไทย.วันถัดมา นายอนุทิน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รีบออกมาแถลง แถว่าจะไม่มีการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์เขากระโดง หมายความว่าที่ดินเขากระโดง 5,083 ไร่ ที่รัชกาลที่ 5 พระราชทานแก่การรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อใช้ประโยชน์ในกิจการรถไฟ และรัชกาลที่ 6 ได้ตราพระราชกฤษฎีกามอบที่ดินนี้ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย ซ้ำเข้าไปอีก เป็นอันว่าใช้บังคับไม่ได้ ท่านผู้ชมว่ามันทุเรศไหม .มีประเด็นหนึ่งที่น่าสงสัย คือ ท่าทีขึงขังและแข็งกร้าวของสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นการเล่นสงครามประสาททางการเมืองหรือเปล่า พุ่งเป้าไปที่พรรคภูมิใจไทยโดยตรง เนื่องจากเวลานี้พรรคภูมิใจไทยเอง อยู่ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลที่ขี่คอพรรคเพื่อไทยอยู่ ยิ่งพรรคภูมิใจไทยใหญ่คับรัฐบาลมากเท่าไร พรรคเพื่อไทยก็ต้องตกที่นั่งลำบากเท่านั้น.ไม่ทราบว่าท่านรองนายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล ได้รับทราบปัญหานี้หรือเปล่า เพราะคุณเองเป็นคนที่อยู่นอกวงการ แต่ได้รับพระราชทานเครื่องราชฯ จุลจอมเกล้า นี่คุณกำลังตบหน้าพระราชกฤษฎีกาที่รัชกาลที่ 6 ออกมาประกาศว่าที่ดินนี้เป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย
    ธรณีสงฆ์อัลไพน์ถึงเขากระโดงในเกมการเมือง.การออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของรัฐมนตรีหลายคนที่เกี่ยวกับที่ดินเขากระโดงในช่วงนี้ อาจจะไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ .จู่ๆ หลังจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล ไปลงนามข้อตกลงกับกัมพูชาหลายเรื่อง ในการนำผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไปประชุมกัมพูชานั้น ในข้อที่ 8 ของข้อตกลง มีข้อความชัดเจนว่ารัฐบาลของสองประเทศจะเร่งรัดคณะกรรมการปักปันเขตแดนเจรจาทำการปักปันเขตแดนกันต่อไปโดยเร็ว ข้อตกลงดังกล่าวจึงกระเทือนแกนนำพรรคเพื่อไทยอย่างร้ายแรง .แผลลึกแผลนี้ยังไม่ทันสมาน ก็เกิดแผลสองขึ้น จู่ๆ กระทรวงมหาดไทยในอำนาจของหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล และ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ แกนนำคนสำคัญของพรรคภูมิใจไทย มีคำสั่งให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินมรดก "ยายเนื่อม" เสียทั้งสิ้น ซึ่งเป็นคำสั่งทางปกครองทางกฎหมาย เป็นผลทำให้บรรดาผู้ที่ซื้อที่ดินและบ้านหลายร้อยราย รวมทั้งบริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ ซึ่งเป็นเจ้าของสนามกอล์ฟอัลไพน์ และนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ เป็นกรรมการมาก่อน ต้องอยู่ภายใต้การบังคับของกฎหมายที่ต้องฟ้องคดีต่อศาลปกครอง ขอให้เพิกถอนคำสั่งนี้เสียภายใน 90 วัน มิฉะนั้นแล้วจะถือว่าเป็นอันยุติว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ธรณีสงฆ์ จะเป็นผลทำให้นายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ ต้องตกเก้าอี้และยังถูกเพิกถอนสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต.แผลใจแผลนี้นับว่าเจ็บมาก ดังนั้น ไม่ถึง 3 วันต่อมา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็ออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่าคำพิพากษาคดีเขากระโดงของศาลฎีกา และศาลปกครองสูงสุดถือเป็นที่สุดแล้ว ผูกพันทุกส่วนราชการที่จะต้องเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินเขากระโดง 5,083 ไร่ ให้เป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทยตามคำพิพากษานั้น เป็นการแถลงกระทบถึงใครที่กำลังสั่งการอธิบดีกรมที่ดินอย่างแน่นอน.พอ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แถลงไม่ขาดคำ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ก็เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนทันที ว่าได้มีคำสั่งให้การรถไฟแห่งประเทศไทยดำเนินการตามคำพิพากษา เข้าครอบครองที่ดินเขากระโดง ซึ่งเป็นของการรถไฟฯ ตามคำพิพากษา.เมื่อสองรัฐมนตรีแถลงไปในแนวทางเดียวกัน ย่อมกระเทือนกระทรวงมหาดไทย กรมที่ดิน ท่ามกลางเสียงเฮ และความทุเรศทุรังที่ประชาชนมีต่อกระทรวงมหาดไทย.วันถัดมา นายอนุทิน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รีบออกมาแถลง แถว่าจะไม่มีการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์เขากระโดง หมายความว่าที่ดินเขากระโดง 5,083 ไร่ ที่รัชกาลที่ 5 พระราชทานแก่การรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อใช้ประโยชน์ในกิจการรถไฟ และรัชกาลที่ 6 ได้ตราพระราชกฤษฎีกามอบที่ดินนี้ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย ซ้ำเข้าไปอีก เป็นอันว่าใช้บังคับไม่ได้ ท่านผู้ชมว่ามันทุเรศไหม .มีประเด็นหนึ่งที่น่าสงสัย คือ ท่าทีขึงขังและแข็งกร้าวของสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นการเล่นสงครามประสาททางการเมืองหรือเปล่า พุ่งเป้าไปที่พรรคภูมิใจไทยโดยตรง เนื่องจากเวลานี้พรรคภูมิใจไทยเอง อยู่ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลที่ขี่คอพรรคเพื่อไทยอยู่ ยิ่งพรรคภูมิใจไทยใหญ่คับรัฐบาลมากเท่าไร พรรคเพื่อไทยก็ต้องตกที่นั่งลำบากเท่านั้น.ไม่ทราบว่าท่านรองนายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล ได้รับทราบปัญหานี้หรือเปล่า เพราะคุณเองเป็นคนที่อยู่นอกวงการ แต่ได้รับพระราชทานเครื่องราชฯ จุลจอมเกล้า นี่คุณกำลังตบหน้าพระราชกฤษฎีกาที่รัชกาลที่ 6 ออกมาประกาศว่าที่ดินนี้เป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย
    Like
    Sad
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 660 มุมมอง 0 รีวิว
  • รองนายกฯ เยี่ยม ปปง. เร่งตามทรัพย์“ดิไอคอน” พบความเสียหายสูง ด้านเลขาฯ ปปง. เผย ยึดทรัพย์แล้ว 320 ล้าน-คดี “ทนายตั้ม” อยู่ระหว่างตรวจสอบทรัพย์จากกระทำผิด

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000110976

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    รองนายกฯ เยี่ยม ปปง. เร่งตามทรัพย์“ดิไอคอน” พบความเสียหายสูง ด้านเลขาฯ ปปง. เผย ยึดทรัพย์แล้ว 320 ล้าน-คดี “ทนายตั้ม” อยู่ระหว่างตรวจสอบทรัพย์จากกระทำผิด อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000110976 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    11
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1103 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลุดรัฐบาล หลุดรองนายกฯ แต่ยังด้านนอนบ้านหลวง ใช้น้ำไฟฟรี มีกองทัพปกป้อง อย่าให้คนต้องทวงคืนบ้านป่า ทวงคืนบ้านโอลิมปิก-อัมพวัน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #บิ๊กป้อม
    หลุดรัฐบาล หลุดรองนายกฯ แต่ยังด้านนอนบ้านหลวง ใช้น้ำไฟฟรี มีกองทัพปกป้อง อย่าให้คนต้องทวงคืนบ้านป่า ทวงคืนบ้านโอลิมปิก-อัมพวัน #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #บิ๊กป้อม
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 292 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าว 4 พ.ย.

    เลื่อนเคาะเลือกประธาน ธปท. 'กิตติรัตน์' ตัวเต็งแต่มีชนัก เหตุคดีขายข้าวติดตัว
    .
    วันที่ 4 พฤศจิกายน เป็นวันที่บรรดาคนในแวดวงการเงินการธนาคารต่างจับตาไปที่การประชุมคณะกรรมการสรรหาประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ เนื่องจากมีชื่อของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นตัวเต็งคนสำคัญที่มีโอกาสคว้าเก้าอี้ตัวนี้ไปครอง
    .
    นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาฯ เปิดเผยว่า คณะกรรมการสรรหาฯ จะมีการประชุมในวันจันทร์ที่ 4 พ.ย.นี้เวลา 14.00 น.เพื่อประชุมลงมติว่าจะคัดเลือกบุคคลใดเป็นประธานบอร์ดธปท.คนใหม่ ซึ่งยืนยันว่ากรรมการสรรหาฯแต่ละคนมีความคิดเป็นอิสระของตัวเอง และต้องเป็นไปตามหลักการ คือ บุคคลที่จะได้รับเลือกมีคุณสมบัติครบถ้วนหรือไม่ และมีลักษณะต้องห้ามหรือไม่ มีส่วนได้เสียอย่างมีนัยยะสำคัญกับธปท.หรือไม่ โดยลักษณะต้องห้ามนั้นมีหลายกรณี เช่น ต้องไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน ต้องไม่เป็นข้าราชการการเมือง ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมือง หรือมีตำแหน่งในคณะทำงานของพรรคการเมือง ส่วนเรื่องคุณสมบัติ จะต้องมีความรู้ความสามารถที่เกี่ยวข้องกับกิจการของธปท.และต้องไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสียหรือขัดแย้งทางผลประโยชน์กับธปท.
    .
    ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่าคณะกรรมการสรรหาฯ ได้มีการให้เจ้าหน้าที่และฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการสรรหาฯไปตรวจสอบหาข้อมูลคุณสมบัติของผู้ได้รับการเสนอชื่อทั้งสามคน คือนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯและอดีตรมว.คลัง ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกุลิศ สมบัติศิริ อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน อดีตอธิบดีกรมศุลกากร -อดีตผอ.สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) อดีตผู้ตรวจกระทรวงการคลัง และนายสุรพล นิติไกรพจน์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยผลการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามต่างๆ เบื้องต้นพบว่าทั้งสามคนยังไม่มีกรณีต้องห้ามตามกฎหมาย แม้ว่าในกรณีของทั้งนายกุลิศ และ นายกิตติรัตน์ จะต่างเคยเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีในอดีตมาก่อนก็ตาม เนื่องจากเป็นเพียงที่ปรึกษาทั่วไปไม่มีเงินเดือน และไม่ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินเหมือนกับข้าราชการเมืองตามกฎหมาย อีกทั้งนายกิตติรัตน์ได้พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแล้ว
    .
    อย่างไรก็ตาม ในกรณีของนายกิตติรัตน์นั้นมีประเด็นที่คณะกรรมการสรรหาฯต้องพิจารณาเป็นพิเศษ คือ ก่อนหน้านี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.มีมติให้อุทธรณ์คดีขายข้าวอินโดนีเซียหรือคดี BULOG อินโดนีเซีย ที่นายกิตติรัตน์เคยตกเป็นจำเลยต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ ซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาของอัยการสูงสุดในฐานะโจทก์ฟ้องคดีว่าจะเห็นด้วยกับป.ป.ช.หรือไม่ จึงต้องรอดูว่าคณะกรรมการสรรหาฯจะมีมุมมองต่อเรื่องนี้อย่างไร
    .
    ข่าวแจ้งว่า นายสถิตย์ ได้สั่งเลือกประชุมกรรมการสรรหาจากบ่าย2โมงวันนี้ ไปก่อน
    ..............
    Sondhi X
    ข่าว 4 พ.ย. เลื่อนเคาะเลือกประธาน ธปท. 'กิตติรัตน์' ตัวเต็งแต่มีชนัก เหตุคดีขายข้าวติดตัว . วันที่ 4 พฤศจิกายน เป็นวันที่บรรดาคนในแวดวงการเงินการธนาคารต่างจับตาไปที่การประชุมคณะกรรมการสรรหาประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ เนื่องจากมีชื่อของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นตัวเต็งคนสำคัญที่มีโอกาสคว้าเก้าอี้ตัวนี้ไปครอง . นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาฯ เปิดเผยว่า คณะกรรมการสรรหาฯ จะมีการประชุมในวันจันทร์ที่ 4 พ.ย.นี้เวลา 14.00 น.เพื่อประชุมลงมติว่าจะคัดเลือกบุคคลใดเป็นประธานบอร์ดธปท.คนใหม่ ซึ่งยืนยันว่ากรรมการสรรหาฯแต่ละคนมีความคิดเป็นอิสระของตัวเอง และต้องเป็นไปตามหลักการ คือ บุคคลที่จะได้รับเลือกมีคุณสมบัติครบถ้วนหรือไม่ และมีลักษณะต้องห้ามหรือไม่ มีส่วนได้เสียอย่างมีนัยยะสำคัญกับธปท.หรือไม่ โดยลักษณะต้องห้ามนั้นมีหลายกรณี เช่น ต้องไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน ต้องไม่เป็นข้าราชการการเมือง ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมือง หรือมีตำแหน่งในคณะทำงานของพรรคการเมือง ส่วนเรื่องคุณสมบัติ จะต้องมีความรู้ความสามารถที่เกี่ยวข้องกับกิจการของธปท.และต้องไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสียหรือขัดแย้งทางผลประโยชน์กับธปท. . ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่าคณะกรรมการสรรหาฯ ได้มีการให้เจ้าหน้าที่และฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการสรรหาฯไปตรวจสอบหาข้อมูลคุณสมบัติของผู้ได้รับการเสนอชื่อทั้งสามคน คือนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯและอดีตรมว.คลัง ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกุลิศ สมบัติศิริ อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน อดีตอธิบดีกรมศุลกากร -อดีตผอ.สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) อดีตผู้ตรวจกระทรวงการคลัง และนายสุรพล นิติไกรพจน์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยผลการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามต่างๆ เบื้องต้นพบว่าทั้งสามคนยังไม่มีกรณีต้องห้ามตามกฎหมาย แม้ว่าในกรณีของทั้งนายกุลิศ และ นายกิตติรัตน์ จะต่างเคยเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีในอดีตมาก่อนก็ตาม เนื่องจากเป็นเพียงที่ปรึกษาทั่วไปไม่มีเงินเดือน และไม่ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินเหมือนกับข้าราชการเมืองตามกฎหมาย อีกทั้งนายกิตติรัตน์ได้พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแล้ว . อย่างไรก็ตาม ในกรณีของนายกิตติรัตน์นั้นมีประเด็นที่คณะกรรมการสรรหาฯต้องพิจารณาเป็นพิเศษ คือ ก่อนหน้านี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.มีมติให้อุทธรณ์คดีขายข้าวอินโดนีเซียหรือคดี BULOG อินโดนีเซีย ที่นายกิตติรัตน์เคยตกเป็นจำเลยต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ ซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาของอัยการสูงสุดในฐานะโจทก์ฟ้องคดีว่าจะเห็นด้วยกับป.ป.ช.หรือไม่ จึงต้องรอดูว่าคณะกรรมการสรรหาฯจะมีมุมมองต่อเรื่องนี้อย่างไร . ข่าวแจ้งว่า นายสถิตย์ ได้สั่งเลือกประชุมกรรมการสรรหาจากบ่าย2โมงวันนี้ ไปก่อน .............. Sondhi X
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 911 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผบช.ก.เข้าพบรองนายกฯ สรุปโอนสำนวนคดี "ดิไอคอนกรุ๊ป" ทั้งหมดให้ดีเอสไอ ด้านคณะสืบสวนสอบสวน บช.ก.หารือรายละเอียดกันอีกครั้ง

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000103472

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ผบช.ก.เข้าพบรองนายกฯ สรุปโอนสำนวนคดี "ดิไอคอนกรุ๊ป" ทั้งหมดให้ดีเอสไอ ด้านคณะสืบสวนสอบสวน บช.ก.หารือรายละเอียดกันอีกครั้ง อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000103472 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Sad
    19
    4 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2957 มุมมอง 1 รีวิว
  • 23 ตุลาคม 2567-นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการ ออกบทความเรื่องล่าสุด "ยุบพรรคเพื่อไทย??? : ความชอบธรรมและความเป็นไปได้ทางกฎหมาย" ในลักษณะถาม-ตอบ มีเนื้อหาว่า

    ถาม ทำไมจะไปยุบพรรคเพื่อไทยโดยอ้างว่าถูกทักษิณครอบงำ ก็เขาเป็นคนตั้งพรรค
    รวมผู้คนมาตั้งแต่แรก แล้วใจคอจะไม่ให้ฟังกันบ้างเลยหรืออย่างไร
    ตอบ ทักษิณถูกจำคุกตามคำพิพากษาคดีคอร์รัปชัน สิ้นสิทธิทางการเมืองเป็นคนนอกพรรคเพื่อไทยไปแล้ว เขาจะพูดจะแนะนำอะไร คณะกรรมการพรรคก็ยังรับฟังได้กฎหมายไม่ห้าม แต่ต้องไม่ถึงขั้นถูกครอบงำถึงขนาดขาดอิสระ ทักษิณชี้นกเป็นไม้ ก็ยอมหมด อย่างนี้กฎหมายรับไม่ได้

    ถาม แล้วมันผิดที่ตรงไหน ที่ไปฟังทักษิณ
    ตอบ พรรคการเมืองมีตัวตนอยู่ที่ “ความคิด” ประชาธิปไตยเสนอกันที่ความคิด เมื่อความคิดใครชนะคนนั้นต้องเป็นคนทำ รัฐธรรมนูญไทยเอาจริงถึงขั้นบังคับให้ สส.ต้องสังกัดพรรค และพรรคต้องเสนอชื่อนายกฯไว้ล่วงหน้าเลย
    เมื่อพรรคคือ “ความคิด” พรรคจึงต้องคิดเองตัดสินใจเอง จะเป็นแค่หุ่นเชิดของคนนอกพรรคไม่ได้ ถ้ายอมให้เชิดกันอย่างนี้ได้ ประชาธิปไตยในพรรคก็พลอยจะสิ้นความหมายไปด้วย

    ถาม กกต.ต้องพิสูจน์อะไรให้ศาลรัฐธรรมนูญเห็นบ้าง ว่าพรรคเพื่อไทยถูกทักษิณครอบงำ
    ตอบ อะไรที่เป็นอำนาจของคณะกรรมการพรรค ถ้าพิสูจน์ว่าทักษิณสั่งได้ ก็โดนหมดล่ะครับ ทั้งการกำหนดนโยบายทางการเมือง, การตั้งคณะกรรมการบริหาร,การคัดเลือกส่งคนลงสมัคร สส., การเข้าร่วมรัฐบาล, การเลือกผู้เหมาะสมเป็นรัฐมนตรี, การเสนอร่างกฎหมาย เหล่านี้ล้วนเกิดเป็นเรื่องกล่าวหาได้ทั้งนั้น

    ถาม แล้วชัดเจนถึงขนาดไหนล่ะครับ ถึงจะฟังได้ว่าเป็นการ “ครอบงำ” ผมเห็นคนพรรคเพื่อไทยเขาท้าทายว่า มีพยานหลักฐานชัดเจนไหมว่า เมื่อวันนั้นวันนี้ ทักษิณสั่งนายโน้นนายนี้ใหทำอย่างนั้นอย่างนี้
    ตอบ นี่ไม่ใช่คดีอาญา แต่เป็นคดีคุ้มครองประชาธิปไตยในบ้านเมือง ถ้าพรรคใดยอมตนเป็นหุ่นให้อิทธิพลทุจริต เราก็ต้องยุบพรรคนั้น ถ้าพยานหลักฐานมันแวดล้อมให้เชื่อได้เช่นนั้น ทั้งตั้งลูกสาวเป็นหัวหน้าพรรคโดยไม่มีที่มาที่ไปทางคุณสมบัติ ทั้งเรื่องที่ทักษิณโผล่หน้ามาชี้แจงนโยบายพรรคต่อคนทั้งประเทศ ทั้งเรื่องมีบทบาทคัดคนลงสมัคร นายก อบจ.หรือ สส.สั่งเปลี่ยนโผให้เป็นโน้นคนนี้ หรือแม้กระทั่งเรียกทุกพรรคมาประชุมจันทร์ส่องหล้า แล้วตกลงตั้งรัฐบาลในสูตรเดิม ทั้งหมดนี้ ถ้าคุณเป็นศาลรัฐธรรมนูญ คุณว่ามันพอหรือไม่ ที่จะตัดสินว่าพรรคเพื่อไทยอยู่ใต้บงการของคนชื่อทักษิณ

    ถาม ถ้ามองเป็นเรื่องบงการกันอย่างนี้ การที่พรรคร่วมรัฐบาลแห่ไปพบทักษิณที่บ้านจันทร์ส่องหล้าแล้วตกลงร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทยต่อไปเหมือนเดิม ก็ไม่ใช่เรื่องต้องถูกยุบพรรคใช่ไหมครับ
    ตอบ ถูกต้องครับ พรรคเหล่านี้เขาแค่ไปคุยแล้วตกลงกับทักษิณว่าเราจะรักษาสูตรรัฐบาลไว้ต่อไปเท่านั้นหรือไม่ นี่เป็นเริ่องไปเจรจาตกลง ไม่ใช่เรื่องอยู่ใต้บงการทักษิณแต่อย่างใด
    คุณต้องเข้าใจให้ชัดเจนว่า ความผิดมันไม่ใช่อยู่ที่เห็นตรงกับทักษิณ หรือไปคุยกับทักษิณ แต่มันอยู่ตรงที่ความสัมพันธ์ทางอำนาจว่ามีพรรคไหนไปอยู่ใต้บงการเขาหรือไม่ ซึ่งตรงนี้ไม่มีพรรคร่วมรัฐบาลใดนอกจากเพื่อไทยเท่านั้น ที่มีปัญหาว่าไปเป็นขี้ข้าเขาแบบนั้นหรือไม่

    ถาม แล้ว กกต. ฟ้องศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคเพื่อไทยเลยได้ไหมครับ ข้างพรรคเพื่อไทยจะเถียงอะไรก็ให้ไปว่ากันในศาล
    ตอบ งานนี้เป็นเรื่องชี้ขาดกันด้วยพยานแวดล้อม ถ้าพยานหลักฐานแต่ละเรื่องมันล้อมเข้ามาจนชัดเจน และรู้กันทั่วไป เพียงเท่านี้ กกต.ก็ฟ้องได้แล้วครับว่า แต่ละพฤติการณ์ประกอบกันเข้ามาให้เชื่อได้แล้วว่า ทักษิณคือผู้ครอบครองพรรคเพื่อไทย

    ถาม เห็น รองนายกฯภูมิธรรม เขาบอกว่าไม่น่ามาร้องเรียนอะไรกันเลย รัฐบาลลุยจนเศรษฐกิจกำลังจะฟื้นอยู่แล้ว
    ตอบ ฟื้นจริงไหม? ฟื้นเพื่อใคร? มีใครที่ครอบงำพรรคแล้วรอเสวยประโยชน์อยู่โดยทุจริตหรือไม่ ทั้งเรื่อง สัมปทานบ่อน และ เจรจาพื้นที่ทับซ้อนกับเขมร?
    ตรงนี้เป็นปัญหาความสะอาด ความเลว ความชั่ว ในระบบรัฐบาล ที่ต้องเคลียร์ให้ได้ชัดเจนจริงๆ
    เศรษฐกิจมันฟื้นจากพื้นฐานที่สกปรกไม่ได้ รู้จักมียางอายกันบ้างเถิดครับ

    https://www.thaipost.net/hi-light/677990/

    #Thaitimes
    23 ตุลาคม 2567-นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการ ออกบทความเรื่องล่าสุด "ยุบพรรคเพื่อไทย??? : ความชอบธรรมและความเป็นไปได้ทางกฎหมาย" ในลักษณะถาม-ตอบ มีเนื้อหาว่า ถาม ทำไมจะไปยุบพรรคเพื่อไทยโดยอ้างว่าถูกทักษิณครอบงำ ก็เขาเป็นคนตั้งพรรค รวมผู้คนมาตั้งแต่แรก แล้วใจคอจะไม่ให้ฟังกันบ้างเลยหรืออย่างไร ตอบ ทักษิณถูกจำคุกตามคำพิพากษาคดีคอร์รัปชัน สิ้นสิทธิทางการเมืองเป็นคนนอกพรรคเพื่อไทยไปแล้ว เขาจะพูดจะแนะนำอะไร คณะกรรมการพรรคก็ยังรับฟังได้กฎหมายไม่ห้าม แต่ต้องไม่ถึงขั้นถูกครอบงำถึงขนาดขาดอิสระ ทักษิณชี้นกเป็นไม้ ก็ยอมหมด อย่างนี้กฎหมายรับไม่ได้ ถาม แล้วมันผิดที่ตรงไหน ที่ไปฟังทักษิณ ตอบ พรรคการเมืองมีตัวตนอยู่ที่ “ความคิด” ประชาธิปไตยเสนอกันที่ความคิด เมื่อความคิดใครชนะคนนั้นต้องเป็นคนทำ รัฐธรรมนูญไทยเอาจริงถึงขั้นบังคับให้ สส.ต้องสังกัดพรรค และพรรคต้องเสนอชื่อนายกฯไว้ล่วงหน้าเลย เมื่อพรรคคือ “ความคิด” พรรคจึงต้องคิดเองตัดสินใจเอง จะเป็นแค่หุ่นเชิดของคนนอกพรรคไม่ได้ ถ้ายอมให้เชิดกันอย่างนี้ได้ ประชาธิปไตยในพรรคก็พลอยจะสิ้นความหมายไปด้วย ถาม กกต.ต้องพิสูจน์อะไรให้ศาลรัฐธรรมนูญเห็นบ้าง ว่าพรรคเพื่อไทยถูกทักษิณครอบงำ ตอบ อะไรที่เป็นอำนาจของคณะกรรมการพรรค ถ้าพิสูจน์ว่าทักษิณสั่งได้ ก็โดนหมดล่ะครับ ทั้งการกำหนดนโยบายทางการเมือง, การตั้งคณะกรรมการบริหาร,การคัดเลือกส่งคนลงสมัคร สส., การเข้าร่วมรัฐบาล, การเลือกผู้เหมาะสมเป็นรัฐมนตรี, การเสนอร่างกฎหมาย เหล่านี้ล้วนเกิดเป็นเรื่องกล่าวหาได้ทั้งนั้น ถาม แล้วชัดเจนถึงขนาดไหนล่ะครับ ถึงจะฟังได้ว่าเป็นการ “ครอบงำ” ผมเห็นคนพรรคเพื่อไทยเขาท้าทายว่า มีพยานหลักฐานชัดเจนไหมว่า เมื่อวันนั้นวันนี้ ทักษิณสั่งนายโน้นนายนี้ใหทำอย่างนั้นอย่างนี้ ตอบ นี่ไม่ใช่คดีอาญา แต่เป็นคดีคุ้มครองประชาธิปไตยในบ้านเมือง ถ้าพรรคใดยอมตนเป็นหุ่นให้อิทธิพลทุจริต เราก็ต้องยุบพรรคนั้น ถ้าพยานหลักฐานมันแวดล้อมให้เชื่อได้เช่นนั้น ทั้งตั้งลูกสาวเป็นหัวหน้าพรรคโดยไม่มีที่มาที่ไปทางคุณสมบัติ ทั้งเรื่องที่ทักษิณโผล่หน้ามาชี้แจงนโยบายพรรคต่อคนทั้งประเทศ ทั้งเรื่องมีบทบาทคัดคนลงสมัคร นายก อบจ.หรือ สส.สั่งเปลี่ยนโผให้เป็นโน้นคนนี้ หรือแม้กระทั่งเรียกทุกพรรคมาประชุมจันทร์ส่องหล้า แล้วตกลงตั้งรัฐบาลในสูตรเดิม ทั้งหมดนี้ ถ้าคุณเป็นศาลรัฐธรรมนูญ คุณว่ามันพอหรือไม่ ที่จะตัดสินว่าพรรคเพื่อไทยอยู่ใต้บงการของคนชื่อทักษิณ ถาม ถ้ามองเป็นเรื่องบงการกันอย่างนี้ การที่พรรคร่วมรัฐบาลแห่ไปพบทักษิณที่บ้านจันทร์ส่องหล้าแล้วตกลงร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทยต่อไปเหมือนเดิม ก็ไม่ใช่เรื่องต้องถูกยุบพรรคใช่ไหมครับ ตอบ ถูกต้องครับ พรรคเหล่านี้เขาแค่ไปคุยแล้วตกลงกับทักษิณว่าเราจะรักษาสูตรรัฐบาลไว้ต่อไปเท่านั้นหรือไม่ นี่เป็นเริ่องไปเจรจาตกลง ไม่ใช่เรื่องอยู่ใต้บงการทักษิณแต่อย่างใด คุณต้องเข้าใจให้ชัดเจนว่า ความผิดมันไม่ใช่อยู่ที่เห็นตรงกับทักษิณ หรือไปคุยกับทักษิณ แต่มันอยู่ตรงที่ความสัมพันธ์ทางอำนาจว่ามีพรรคไหนไปอยู่ใต้บงการเขาหรือไม่ ซึ่งตรงนี้ไม่มีพรรคร่วมรัฐบาลใดนอกจากเพื่อไทยเท่านั้น ที่มีปัญหาว่าไปเป็นขี้ข้าเขาแบบนั้นหรือไม่ ถาม แล้ว กกต. ฟ้องศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคเพื่อไทยเลยได้ไหมครับ ข้างพรรคเพื่อไทยจะเถียงอะไรก็ให้ไปว่ากันในศาล ตอบ งานนี้เป็นเรื่องชี้ขาดกันด้วยพยานแวดล้อม ถ้าพยานหลักฐานแต่ละเรื่องมันล้อมเข้ามาจนชัดเจน และรู้กันทั่วไป เพียงเท่านี้ กกต.ก็ฟ้องได้แล้วครับว่า แต่ละพฤติการณ์ประกอบกันเข้ามาให้เชื่อได้แล้วว่า ทักษิณคือผู้ครอบครองพรรคเพื่อไทย ถาม เห็น รองนายกฯภูมิธรรม เขาบอกว่าไม่น่ามาร้องเรียนอะไรกันเลย รัฐบาลลุยจนเศรษฐกิจกำลังจะฟื้นอยู่แล้ว ตอบ ฟื้นจริงไหม? ฟื้นเพื่อใคร? มีใครที่ครอบงำพรรคแล้วรอเสวยประโยชน์อยู่โดยทุจริตหรือไม่ ทั้งเรื่อง สัมปทานบ่อน และ เจรจาพื้นที่ทับซ้อนกับเขมร? ตรงนี้เป็นปัญหาความสะอาด ความเลว ความชั่ว ในระบบรัฐบาล ที่ต้องเคลียร์ให้ได้ชัดเจนจริงๆ เศรษฐกิจมันฟื้นจากพื้นฐานที่สกปรกไม่ได้ รู้จักมียางอายกันบ้างเถิดครับ https://www.thaipost.net/hi-light/677990/ #Thaitimes
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 722 มุมมอง 0 รีวิว
  • เคาะแล้ว เก้าอี้ เลขาฯ สมช.คนใหม่ คนในผงาดในรอบสิบปี
    .
    ผลการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช) วันนี้ 4 ตุลาคม ที่มี ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธาน
    .
    ถูกจับตามองอย่างมากว่า ที่ประชุมจะลงมติให้เสนอชื่อใครเป็น “เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) “คนใหม่ แทน พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์

    โดยหลังการประชุม ภูมิธรรม ยังคงอุบไต๋ ไม่บอกว่า จะเสนอชื่อใครเข้าที่ประชุมครม.อังคารนี้(วันที่8 ตุลาคม)แต่บอกว่า ได้รายชื่อแล้ว และข่าวสะพัดในช่วงเย็น ว่า คนที่จะได้รับการเสนอชื่อก็คือ คนในสมช. ไม่มีข้ามห้วย แบบหลายปีที่ผ่านมา
    .
    โดยนายภูมิธรรม กล่าวหลังการประชุมว่า เนื่องจากเวลาล่วงเลยมาแล้วจึงจำเป็นต้องรีบ เพื่อให้งานต่างๆ ขับเคลื่อนต่อได้ โดยจะมีข้อเสนอให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีว่าจะมีความเห็นอะไร อย่างไร ซึ่งกระบวนการยังไม่จบสิ้น ต้องคุยและหารือกันอีกเรื่อง โดยพยายามจะนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ให้ได้ในวันอังคารนี้
    .
    เมื่อถามว่า เลขาธิการสมช.คนใหม่ เป็นทหารหรือพลเรือน เคาะแล้วหรือยัง นายภูมิธรรม กล่าวว่า เคาะแล้วแต่ยังบอกไม่ได้
    ต่อข้อถามว่า จะเป็นคนใน สมช.หรือไม่ เพราะที่ผ่านมาเวลาเป็นคนนอก รองนายกฯ ภูมิธรรม กล่าวว่า อย่าไปมองว่าคนนอกจะเป็นอย่างนั้น เพราะอยู่ที่ความจำเป็นและสถานการณ์ของแต่ละช่วง ทุกคนที่มาก็รับผิดชอบในหน้าที่ของตน แต่ว่าความเหมาะสมในแต่ละสถานการณ์หรืออะไรต่างๆ ก็ดี ไม่ว่าจะเป็นคนนอกหรือคนในที่เคยเป็นมาก็สามารถทำได้ดีทั้งนั้น
    .
    เมื่อถามย้ำว่า ระบุให้ชัดได้หรือไม่ว่า เป็นคนในสมช. แต่ยังไม่บอกว่าเป็นใคร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ระบุไม่ได้ จนกว่าการตัดสินใจจะเกิดขึ้น
    .
    ส่วนกระแสข่าวระบุว่า ชื่อนายฉัตรชัย บางชวด รองเลขาธิการสมช. มาแรง นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็เป็นข่าว อันนั้นก็เรื่องของข่าว โดยการเสนอชื่อ เป็นการให้เลือก โดยมีมากกว่า1 ชื่อ ซึ่งอำนาจสูงสุดอยู่ที่คณะรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรี
    .
    สำหรับเก้าอี้ เลขาธิการสมช.ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา พบว่า เป็นการข้ามห้วยมาทั้งหมด ทั้งจากทหารและตำรวจ ที่มาเอาตำแหน่งเลขาธิการสมช. โดยเลขาธิการสมช.คนสุดท้ายที่เป็นพลเรือนและเป็นลูกหม้อของสมช.คือ นายอนุสิษฐ คุณากร ที่ทำหน้าที่หนึ่งปี คือในช่วง1 ตุลาคม พ.ศ. 2557ถึง 30 กันยายน พ.ศ. 2558
    .
    หลังจากนั้น เลขาธิการสมช. ก็มาจาก คนนอก ข้ามห้วยมาตลอดเกือบสิบปี ไล่เรียงกันมาดังนี้
    .
    พลเอก ทวีป เนตรนิยม 1 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ถึง 30 กันยายน พ.ศ. 2560
    พลเอก วัลลภ รักเสนาะ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2560ถึง 30 กันยายน พ.ศ. 2562
    พลเอก สมศักดิ์ รุ่งสิตา 1 ตุลาคม พ.ศ. 2562ถึง 30 กันยายน พ.ศ. 2563
    พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2563ถึง 30 กันยายน พ.ศ. 2564 ปัจจุบันเป็นรมช.กลาโหม
    .
    พลเอก สุพจน์ มาลานิยม 1 ตุลาคม พ.ศ. 2564ถึง 30 กันยายน พ.ศ. 2566
    พลตำรวจเอก รอย อิงคไพโรจน์ 19 มีนาคม พ.ศ. 2567 ถึง 30 กันยายน พ.ศ. 2567
    .
    อย่างไรก็ตาม ข่าวบางกระแสรายงานว่า ในที่ประชุมบอร์ดสมช. ที่พิจารณาเรื่องดังกล่าว มีการพิจารณารายชื่อคนที่จะถูกเสนอชื่อเป็นเลขาธิการสมช. จากคนใน โดยมีแคนดิเดตสามคนที่เป็นรองเลขาธิการสมช.เรียงตามลำดับอาวุโส คือ นายฉัตรชัย บางชวด นายรัชกรณ์ นภาพรพิพัฒน์ และนายวรณัฐ คงเมือง
    .
    โดยมีข่าวบางกระบอกว่า นายฉัตรชัย บางชวด จะถูกเสนอชื่อเป็นเลขาธิการ สมช.คนใหม่ แต่นายภูมิธรรม จะนำเรื่องนี้ไปหารือกับ นส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯก่อน
    ซึ่งก็คาดว่า ยังไง แพทองธาร ก็ต้อง มีการปรึกษา สอบถามท่าทีจากทักษิณ ชินวัตรก่อน ว่าจะไฟเขียวหรือไม่
    .................
    Sondhi X
    เคาะแล้ว เก้าอี้ เลขาฯ สมช.คนใหม่ คนในผงาดในรอบสิบปี . ผลการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช) วันนี้ 4 ตุลาคม ที่มี ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธาน . ถูกจับตามองอย่างมากว่า ที่ประชุมจะลงมติให้เสนอชื่อใครเป็น “เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) “คนใหม่ แทน พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ โดยหลังการประชุม ภูมิธรรม ยังคงอุบไต๋ ไม่บอกว่า จะเสนอชื่อใครเข้าที่ประชุมครม.อังคารนี้(วันที่8 ตุลาคม)แต่บอกว่า ได้รายชื่อแล้ว และข่าวสะพัดในช่วงเย็น ว่า คนที่จะได้รับการเสนอชื่อก็คือ คนในสมช. ไม่มีข้ามห้วย แบบหลายปีที่ผ่านมา . โดยนายภูมิธรรม กล่าวหลังการประชุมว่า เนื่องจากเวลาล่วงเลยมาแล้วจึงจำเป็นต้องรีบ เพื่อให้งานต่างๆ ขับเคลื่อนต่อได้ โดยจะมีข้อเสนอให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีว่าจะมีความเห็นอะไร อย่างไร ซึ่งกระบวนการยังไม่จบสิ้น ต้องคุยและหารือกันอีกเรื่อง โดยพยายามจะนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ให้ได้ในวันอังคารนี้ . เมื่อถามว่า เลขาธิการสมช.คนใหม่ เป็นทหารหรือพลเรือน เคาะแล้วหรือยัง นายภูมิธรรม กล่าวว่า เคาะแล้วแต่ยังบอกไม่ได้ ต่อข้อถามว่า จะเป็นคนใน สมช.หรือไม่ เพราะที่ผ่านมาเวลาเป็นคนนอก รองนายกฯ ภูมิธรรม กล่าวว่า อย่าไปมองว่าคนนอกจะเป็นอย่างนั้น เพราะอยู่ที่ความจำเป็นและสถานการณ์ของแต่ละช่วง ทุกคนที่มาก็รับผิดชอบในหน้าที่ของตน แต่ว่าความเหมาะสมในแต่ละสถานการณ์หรืออะไรต่างๆ ก็ดี ไม่ว่าจะเป็นคนนอกหรือคนในที่เคยเป็นมาก็สามารถทำได้ดีทั้งนั้น . เมื่อถามย้ำว่า ระบุให้ชัดได้หรือไม่ว่า เป็นคนในสมช. แต่ยังไม่บอกว่าเป็นใคร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ระบุไม่ได้ จนกว่าการตัดสินใจจะเกิดขึ้น . ส่วนกระแสข่าวระบุว่า ชื่อนายฉัตรชัย บางชวด รองเลขาธิการสมช. มาแรง นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็เป็นข่าว อันนั้นก็เรื่องของข่าว โดยการเสนอชื่อ เป็นการให้เลือก โดยมีมากกว่า1 ชื่อ ซึ่งอำนาจสูงสุดอยู่ที่คณะรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรี . สำหรับเก้าอี้ เลขาธิการสมช.ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา พบว่า เป็นการข้ามห้วยมาทั้งหมด ทั้งจากทหารและตำรวจ ที่มาเอาตำแหน่งเลขาธิการสมช. โดยเลขาธิการสมช.คนสุดท้ายที่เป็นพลเรือนและเป็นลูกหม้อของสมช.คือ นายอนุสิษฐ คุณากร ที่ทำหน้าที่หนึ่งปี คือในช่วง1 ตุลาคม พ.ศ. 2557ถึง 30 กันยายน พ.ศ. 2558 . หลังจากนั้น เลขาธิการสมช. ก็มาจาก คนนอก ข้ามห้วยมาตลอดเกือบสิบปี ไล่เรียงกันมาดังนี้ . พลเอก ทวีป เนตรนิยม 1 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ถึง 30 กันยายน พ.ศ. 2560 พลเอก วัลลภ รักเสนาะ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2560ถึง 30 กันยายน พ.ศ. 2562 พลเอก สมศักดิ์ รุ่งสิตา 1 ตุลาคม พ.ศ. 2562ถึง 30 กันยายน พ.ศ. 2563 พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2563ถึง 30 กันยายน พ.ศ. 2564 ปัจจุบันเป็นรมช.กลาโหม . พลเอก สุพจน์ มาลานิยม 1 ตุลาคม พ.ศ. 2564ถึง 30 กันยายน พ.ศ. 2566 พลตำรวจเอก รอย อิงคไพโรจน์ 19 มีนาคม พ.ศ. 2567 ถึง 30 กันยายน พ.ศ. 2567 . อย่างไรก็ตาม ข่าวบางกระแสรายงานว่า ในที่ประชุมบอร์ดสมช. ที่พิจารณาเรื่องดังกล่าว มีการพิจารณารายชื่อคนที่จะถูกเสนอชื่อเป็นเลขาธิการสมช. จากคนใน โดยมีแคนดิเดตสามคนที่เป็นรองเลขาธิการสมช.เรียงตามลำดับอาวุโส คือ นายฉัตรชัย บางชวด นายรัชกรณ์ นภาพรพิพัฒน์ และนายวรณัฐ คงเมือง . โดยมีข่าวบางกระบอกว่า นายฉัตรชัย บางชวด จะถูกเสนอชื่อเป็นเลขาธิการ สมช.คนใหม่ แต่นายภูมิธรรม จะนำเรื่องนี้ไปหารือกับ นส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯก่อน ซึ่งก็คาดว่า ยังไง แพทองธาร ก็ต้อง มีการปรึกษา สอบถามท่าทีจากทักษิณ ชินวัตรก่อน ว่าจะไฟเขียวหรือไม่ ................. Sondhi X
    Like
    10
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 1031 มุมมอง 1 รีวิว
  • ผูกข้อมือทุกปี เต็มที่ก็รองนายกฯ แต่ถ้าผูกรอบเขากระโดง อาจถึงนายกฯ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    ผูกข้อมือทุกปี เต็มที่ก็รองนายกฯ แต่ถ้าผูกรอบเขากระโดง อาจถึงนายกฯ #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Haha
    Love
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 714 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣️ มาเป็นรองนายกฯ ด้วยคุณสมบัติอะไร ภูมิธรรมชี้ หากประชาชนนำเงินหมื่นไปใช้หนี้นอกระบบถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล
    #7ดอกจิก
    ♣️ มาเป็นรองนายกฯ ด้วยคุณสมบัติอะไร ภูมิธรรมชี้ หากประชาชนนำเงินหมื่นไปใช้หนี้นอกระบบถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล #7ดอกจิก
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 264 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts