• นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง”

    ตอนที่ 3 Emperor Bush !?

    George Herbert Walker Bush เป็นพวกคนรวย มาจากครอบครัวที่ทำมาหากินแถว New England ซึ่งเคยค้าขายกับอาณาจักร Reich ของ Hitler มาแล้ว และมาคบและค้า น้ำมันกับตระกูล Rockefeller เขาบอกกับคนสนิทว่า “เราชนะแล้ว” เหมือนเวลาแข่งขัน Super Bowl แล้วทีมที่ตัวเชียร์ชนะนั่นแหละ ชนะแบบนั้น ฮึกเหิมแบบนั้น มันรู้สึกว่ายิ่งใหญ่เหลือประมาณ ขนาดมีคนตั้งข้อสังเกตว่า ประธานาธิบดีอเมริกา ในยุค 1990 โดยเฉพาะนาย Bush คนนี้ เวลาจะเดินทางไปต่างประเทศ ขบวนใหญ่โตเหมือนองค์จักรพรรดิเสด็จ ฝ่ายความมั่นคงที่ยกทีมไปคุ้มกัน ดูเหมือนจะมากกว่าพลเมืองของประเทศที่ นาย Bush ไปปรากฎตัวเยี่ยมเสียอีก อเมริกากำลังฉาบตัวเองให้มีภาพเป็น ผู้ครองโลก ไม่ต่างกับสมัยนโปเลียน ตั้งตัวเองเป็นจักรพรรดิ โอ้โห ! เล่นกันเองแรงเหมือนกันนะพวกนักล่า สมันน้อยคิดในใจ

    เปล่าหรอก คนที่พูดไม่ใช่ใครอื่น เจ้าของหัวสมองที่อเมริกาบอกยอด แสนรู้ นาย Zbigniew Brzezinski เจ้าเก่านั่นเอง เขาไม่ได้พูดในฐานะคนนอก แต่พูดในฐานะคนใน และไม่ใช่ในธรรมดา แต่ในฐานะนายท้ายเรืออเมริกา ชื่อเขาไม่เคยหลุดจากการเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประธานาธิบดีมาเลย ไล่มาตั้งแต่สมัยแรกคือนาย Jimmy Carter จนเดี๋ยวนี้อายุ 90 แล้ว ยังเป็นที่ปรึกษาให้นาย Obama ด้วย
    นาย Brzezinski เป็นลูกศิษย์เอกของครูใหญ่ด้าน ภูมิศาสตร์การเมืองชาวอังกฤษ คือ Sir Halford Mackinder ซึ่งบอกว่าการแสดงความกร่างของการเป็นจักรวรรดิ มันก็คือบทสุดท้ายของการเป็นจักรวรรดิ ความกร่างนั่นแหละที่ทำให้จักรภพอังกฤษ ถึงจุดจบในศตรรษที่ 19 เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 เริ่ม

    นาย Brzezinski ยังบอกอีกว่า ไอ้ความอวดดี กดขี่และความกร่างของวอชิงตัน ในศตวรรษต่อมานี่แหละ จะทำลายอเมริกาเอง จากการที่เป็นผู้มีอำนาจใหญ่สุดหนึ่งเดียว หรือการเป็นจักรวรรดิอเมริกา แต่นาย Brzezinski นั่นเองแหละ ที่เป็นคนติดเครื่องให้อเมริกาเป็นจักรวรรดิ นักล่าหมายเลขหนึ่งครองโลก แต่เขาเตือนว่าอเมริกาจะต้องระมัดระวัง แม้ว่าจะเอาเสื้อคลุมประชาธิปไตยมาพรางตัวเองแล้วก็ตาม ก็จะต้องรักษามิตรเพื่องานใหญ่ข้างหน้า งานใหญ่นี้คือ การควบคุม Eurasia เขาไม่ได้โต้แย้งการจะเป็นจักรวรรดิอเมริกา เขาเพียงแต่เห็นต่างในวิธีการจะไปให้ถึงจุดหมาย

    Brzezinski บอกว่าเราจะไปให้ถึงจุดหมายของการเป็นจักรวรรดิอเมริกา เราต้องมีกองทัพของอเมริกาอยู่ที่ทั่วโลก วางกองกำลังไว้ทุกทวีป ครอบคลุมทุกมหาสมุทร เพิ่มการปะทะหรือการต่อสู้ในทุกที่ แบบนี้จะมีใครมาเทียบรัศมีกับอเมริกาได้ ไม่ว่าในทางการเมืองหรือกองทัพ

    และที่อเมริกาวางกองกำลังไว้แห่งหนึ่งก็คือ บริเวณพื้นที่ผืนเล็ก ๆ อยู่ในเอเซียกลาง ซึ่งเคยเป็นของสหภาพโซเวียต ที่ชื่อ Republic of Georgia นั่นแหละ ตั้งแต่ประมาณปี ค.ศ. 2003 เป็นต้นมา รัฐบาลอเมริกัน โดยคุณพ่อ Bush ได้ให้การสนับสนุนด้านกองกำลังแก่ Georgia รวมทั้งให้คำปรึกษา เป็นพี่เลี้ยง ให้กับรัฐเล็กๆ ที่ได้ประกาศตัวเป็นอิสระจากสหภาพโซเวียต ในปี 1990 มาตลอด
    คงจะเป็นการยาก ที่จะให้ใครเข้าใจเหตุการณ์ใน Georgia ในปี ค.ศ. 2008 ถ้าไม่ย้อนไปดูพฤติกรรมของอเม ริกา หลัง ค.ศ. 1990 เป็นต้นมา สมัยรัฐบาลคุณพ่อ Bush เขาหักหลังรัสเซียโดยให้ NATO ขยายตัวมาทางตะวันออก มาถึงคุณลูก Bush ก็มาสานต่อด้วยการกดดันสหภาพยุโรปและรัฐบาลของยุโรปตะวันตก ให้รับ Georgia และ Ukraine สองประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพ โซเวียตเข้าไปอยู่ในอ้อมอกของ NATO

    ต้นปี ค.ศ. 2007 อเมริกาประกาศว่า อเมริกามีแผนที่จะสร้างฐานยิงจรวด และสถานีเรดาร์ ใน 2 ประเทศที่เคยอยู่ใน Warsaw Pact และบัดนี้เป็นสมาชิกของ NATO คือ Poland และ Czech นาย Bush อ้างว่าอเมริกาต้องทำเพื่อป้องกันตัวเอง จากการโจมตีของประเทศที่พูดกันไม่รู้เรื่องเช่น Iran ข้ออ้างนี้ ถูกรัสเซียสวนกลับว่าไม่ใช่เป็นการป้องกันตัวหรอกเพื่อน แต่เป็นการแสดงการรุกคืบ เพื่อโชว์กำลังอำนาจด้านการทหารให้ Moscow ดูมากกว่า !

    เดือน ก.พ. 2007 คุณพี่ปูติน ในฐานะประธานาธิบดีของรัสเซีย ได้พูดในที่ประชุมเกี่ยวกับความมั่นคงระหว่างประเทศที่ Munich Germany ว่า วันนี้ไม่ขอพูดภาษานักการฑูต แต่ขอถามกันตรง ๆ ว่าNATO ตั้งใจจะก่อความยั่วยุ ให้เกิดความไม่ไว้วางใจกัน ระหว่างสมาชิกหรือยังไง ถามจริง ๆ เถอะ เป้าหมาย (ของการยั่วยุของ) NATO อยู่ที่ใคร และคำมั่นของบรรดาคู่สัญญาฝ่ายตะวันตก หลังเลิก Warsaw Pact นั้น มันหายไปไหนหมด

    คุณพี่ปูตินอาจจะไม่ใช่ประเภท “nice guy” แต่ที่แน่นอน คุณพี่ปูไม่ใช่คนโง่และขี้ขลาด เมื่อถึงเวลาที่จะต้องปกป้องผลประโยชน์ของชาวรัสเซีย กลิ่นของสงครามเย็นเริ่มโชยอีกครั้ง!

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    27 มิย. 2557
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง” ตอนที่ 3 Emperor Bush !? George Herbert Walker Bush เป็นพวกคนรวย มาจากครอบครัวที่ทำมาหากินแถว New England ซึ่งเคยค้าขายกับอาณาจักร Reich ของ Hitler มาแล้ว และมาคบและค้า น้ำมันกับตระกูล Rockefeller เขาบอกกับคนสนิทว่า “เราชนะแล้ว” เหมือนเวลาแข่งขัน Super Bowl แล้วทีมที่ตัวเชียร์ชนะนั่นแหละ ชนะแบบนั้น ฮึกเหิมแบบนั้น มันรู้สึกว่ายิ่งใหญ่เหลือประมาณ ขนาดมีคนตั้งข้อสังเกตว่า ประธานาธิบดีอเมริกา ในยุค 1990 โดยเฉพาะนาย Bush คนนี้ เวลาจะเดินทางไปต่างประเทศ ขบวนใหญ่โตเหมือนองค์จักรพรรดิเสด็จ ฝ่ายความมั่นคงที่ยกทีมไปคุ้มกัน ดูเหมือนจะมากกว่าพลเมืองของประเทศที่ นาย Bush ไปปรากฎตัวเยี่ยมเสียอีก อเมริกากำลังฉาบตัวเองให้มีภาพเป็น ผู้ครองโลก ไม่ต่างกับสมัยนโปเลียน ตั้งตัวเองเป็นจักรพรรดิ โอ้โห ! เล่นกันเองแรงเหมือนกันนะพวกนักล่า สมันน้อยคิดในใจ เปล่าหรอก คนที่พูดไม่ใช่ใครอื่น เจ้าของหัวสมองที่อเมริกาบอกยอด แสนรู้ นาย Zbigniew Brzezinski เจ้าเก่านั่นเอง เขาไม่ได้พูดในฐานะคนนอก แต่พูดในฐานะคนใน และไม่ใช่ในธรรมดา แต่ในฐานะนายท้ายเรืออเมริกา ชื่อเขาไม่เคยหลุดจากการเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประธานาธิบดีมาเลย ไล่มาตั้งแต่สมัยแรกคือนาย Jimmy Carter จนเดี๋ยวนี้อายุ 90 แล้ว ยังเป็นที่ปรึกษาให้นาย Obama ด้วย นาย Brzezinski เป็นลูกศิษย์เอกของครูใหญ่ด้าน ภูมิศาสตร์การเมืองชาวอังกฤษ คือ Sir Halford Mackinder ซึ่งบอกว่าการแสดงความกร่างของการเป็นจักรวรรดิ มันก็คือบทสุดท้ายของการเป็นจักรวรรดิ ความกร่างนั่นแหละที่ทำให้จักรภพอังกฤษ ถึงจุดจบในศตรรษที่ 19 เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 เริ่ม นาย Brzezinski ยังบอกอีกว่า ไอ้ความอวดดี กดขี่และความกร่างของวอชิงตัน ในศตวรรษต่อมานี่แหละ จะทำลายอเมริกาเอง จากการที่เป็นผู้มีอำนาจใหญ่สุดหนึ่งเดียว หรือการเป็นจักรวรรดิอเมริกา แต่นาย Brzezinski นั่นเองแหละ ที่เป็นคนติดเครื่องให้อเมริกาเป็นจักรวรรดิ นักล่าหมายเลขหนึ่งครองโลก แต่เขาเตือนว่าอเมริกาจะต้องระมัดระวัง แม้ว่าจะเอาเสื้อคลุมประชาธิปไตยมาพรางตัวเองแล้วก็ตาม ก็จะต้องรักษามิตรเพื่องานใหญ่ข้างหน้า งานใหญ่นี้คือ การควบคุม Eurasia เขาไม่ได้โต้แย้งการจะเป็นจักรวรรดิอเมริกา เขาเพียงแต่เห็นต่างในวิธีการจะไปให้ถึงจุดหมาย Brzezinski บอกว่าเราจะไปให้ถึงจุดหมายของการเป็นจักรวรรดิอเมริกา เราต้องมีกองทัพของอเมริกาอยู่ที่ทั่วโลก วางกองกำลังไว้ทุกทวีป ครอบคลุมทุกมหาสมุทร เพิ่มการปะทะหรือการต่อสู้ในทุกที่ แบบนี้จะมีใครมาเทียบรัศมีกับอเมริกาได้ ไม่ว่าในทางการเมืองหรือกองทัพ และที่อเมริกาวางกองกำลังไว้แห่งหนึ่งก็คือ บริเวณพื้นที่ผืนเล็ก ๆ อยู่ในเอเซียกลาง ซึ่งเคยเป็นของสหภาพโซเวียต ที่ชื่อ Republic of Georgia นั่นแหละ ตั้งแต่ประมาณปี ค.ศ. 2003 เป็นต้นมา รัฐบาลอเมริกัน โดยคุณพ่อ Bush ได้ให้การสนับสนุนด้านกองกำลังแก่ Georgia รวมทั้งให้คำปรึกษา เป็นพี่เลี้ยง ให้กับรัฐเล็กๆ ที่ได้ประกาศตัวเป็นอิสระจากสหภาพโซเวียต ในปี 1990 มาตลอด คงจะเป็นการยาก ที่จะให้ใครเข้าใจเหตุการณ์ใน Georgia ในปี ค.ศ. 2008 ถ้าไม่ย้อนไปดูพฤติกรรมของอเม ริกา หลัง ค.ศ. 1990 เป็นต้นมา สมัยรัฐบาลคุณพ่อ Bush เขาหักหลังรัสเซียโดยให้ NATO ขยายตัวมาทางตะวันออก มาถึงคุณลูก Bush ก็มาสานต่อด้วยการกดดันสหภาพยุโรปและรัฐบาลของยุโรปตะวันตก ให้รับ Georgia และ Ukraine สองประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพ โซเวียตเข้าไปอยู่ในอ้อมอกของ NATO ต้นปี ค.ศ. 2007 อเมริกาประกาศว่า อเมริกามีแผนที่จะสร้างฐานยิงจรวด และสถานีเรดาร์ ใน 2 ประเทศที่เคยอยู่ใน Warsaw Pact และบัดนี้เป็นสมาชิกของ NATO คือ Poland และ Czech นาย Bush อ้างว่าอเมริกาต้องทำเพื่อป้องกันตัวเอง จากการโจมตีของประเทศที่พูดกันไม่รู้เรื่องเช่น Iran ข้ออ้างนี้ ถูกรัสเซียสวนกลับว่าไม่ใช่เป็นการป้องกันตัวหรอกเพื่อน แต่เป็นการแสดงการรุกคืบ เพื่อโชว์กำลังอำนาจด้านการทหารให้ Moscow ดูมากกว่า ! เดือน ก.พ. 2007 คุณพี่ปูติน ในฐานะประธานาธิบดีของรัสเซีย ได้พูดในที่ประชุมเกี่ยวกับความมั่นคงระหว่างประเทศที่ Munich Germany ว่า วันนี้ไม่ขอพูดภาษานักการฑูต แต่ขอถามกันตรง ๆ ว่าNATO ตั้งใจจะก่อความยั่วยุ ให้เกิดความไม่ไว้วางใจกัน ระหว่างสมาชิกหรือยังไง ถามจริง ๆ เถอะ เป้าหมาย (ของการยั่วยุของ) NATO อยู่ที่ใคร และคำมั่นของบรรดาคู่สัญญาฝ่ายตะวันตก หลังเลิก Warsaw Pact นั้น มันหายไปไหนหมด คุณพี่ปูตินอาจจะไม่ใช่ประเภท “nice guy” แต่ที่แน่นอน คุณพี่ปูไม่ใช่คนโง่และขี้ขลาด เมื่อถึงเวลาที่จะต้องปกป้องผลประโยชน์ของชาวรัสเซีย กลิ่นของสงครามเย็นเริ่มโชยอีกครั้ง! สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 27 มิย. 2557
    0 Comments 0 Shares 115 Views 0 Reviews
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง”

    ตอนที่ 2 สวรรค์ล่ม

    ความรื่นเริงเฉลิมฉลองมันอายุสั้นจริง ๆ ยังไม่ทันที่การเก็บกวาดซากกำแพงเบอร์ลินให้สะอาดดี วอชิงตันและพวกยุโรปตะวันตก ก็มาพร้อมกับ สวรรค์บนดิน เครื่องมือ ช๊อคทางเศรษฐกิจ

    IMF มาพร้อมกับยาแรงตามสูตร การปฎิรูปตลาดการค้าเสรี (คุ้นกันใหม่คำนี้) บอก แหม ! ประเทศหลังม่านนี่มีตั้งแยะ แยกเป็น 6 ประเทศ ตาม Warsaw Pact (Bulgaria, Czecho, East Germany, Hungary, Poland และ Romania) และอีก 15 ประเทศที่อยู่ในสหภาพโซเวียต ตูจะไปจัดโปรแกรมใหม่ให้เหมาะสมกับแต่ละประเทศ 21 โปรแกรม ยังไงไหว เอางี้แล้วกัน เอาสูตรสำเร็จไปใช้แล้วกันนะ Privatization แปรรูปยังไงละคุณน้องหลังม่าน แปรมันให้หมด รัฐวิสาหกิจที่ทำอุตสาหกรรมน่ะ แล้วก็ลดค่าเงินรัสเซี่ยนรูเบิล กับเงินอะไรเรียกไม่ถูก ของหลาย ๆ ประเทศนั่นด้วย ใช้สูตรชุดนี้มันทั้งหมดแหละ แหะ แหะ สำเร็จ เออ ไม่ใช่ เสร็จแล้วครับนายท่าน !

    IMF shock therapy หรือที่สมันน้อยรู้จักกันดี คือ โปรแกรม SAP (Structural Adjustment Policies) ก็เปิดประตูกว้าง ให้นักลงทุนตะวันตกหอบกระดาษสี เขียวตีเครื่องหมายว่า In God We Trust มาเป็นกระสอบ นำโดยนาย George Soros และนักค้าเหล็กหนีคุก ชื่อ Marc Rich (แหม ! พอบอกเป็นพวกคนหนีคุก รีบเดากันเชียวนะ ว่าจะเป็นอีกชื่อนึง อยู่กันคนละเมืองครับ มาไม่ทัน ติดนัดนักร้องอยู่ ฮา ) และธนาคารพวกตะกรุมตระกราม เช่น Credit Suisse และแน่นอนต้องมี Chase เจ้าเก่าของเขามาด้วย ก็ยกทีมกันมา
    นโยบายของ IMF แสนจะเอื้อให้ไอ้พวกหัวขะโมยพวกนี้ มาชี้นิ้ว จิ้มเอา จิ้มเอา เลือกทรัพย์สินประเภทเพชรประดับมงกุฎ ของรัสเซียไปในราคาสตางค์เดียว มันจิ้มซื้อตั้งแต่พลังงานน้ำมัน ไปจนถึงพลูโตเนี่ยม เฮ้อ ! เขียนไปแล้วก็นึกว่าเขียนเรื่อง ปรส. เบื่อครับ ! เรื่องซ้ำซาก เล่นซ้ำซาก แล้วก็ยอมให้เขาต้มซ้ำซาก เมื่อไหร่มันจะมีคนรู้ แล้วรื้อฉากแบบนี้ทิ้งเสียที คนเขียนคงไม่อยู่เขียนเรื่องซ้ำซาก แบบนี้ไปอีกนานหรอก อ่าน ๆ แล้วก็จำกันไว้บ้างนะครับ เล่าให้ลูกหลานฟังกันบ้างว่า รุ่น ปู่ ย่า พ่อ แม่ ถูกเขาต้มมาอย่างไร รุ่นเจ้าก็จะโดนอย่างเดิมแหละ ถ้าไม่ลุกขึ้นตื่นกันเสียที (ปตท. นี่ก้อค้างอยู่ ข่าวว่าเรียกคนที่เป็นที่ปรึกษาการเงินตอนแปรรูป มาถามว่าการแปรรูปเป็นธรรมไหม ราคาถูกต้องไหม ฯลฯ ก็น่าจะเดาคำตอบกันได้ แบบนี้ระวังชาวบ้านเขาจะเรียกว่า เมาหมัดนะครับ ไม่อยากใช้คำแรงกว่านี้)

    กินเนื้อแล้วก็โยนกระดูกติดเนื้อมาให้ พวกที่เคยทำหน้าที่ในรัฐบาล Yeltsin ที่อเมริกาเคยต้มให้ทำการแปรรูป จนรัสเซีย ฉ.ห รอบแรก จำได้ไหมครับ จำไม่ได้ไปเอานิทานเรื่องจริง เรื่องมายากลยุทธ มาอ่านอีกทีนะครับ รายการนี้เขาเรียกว่าแจกรางวัลให้คนขายชาติ มีทุกชาติแหละครับ มากน้อยอีกเรื่องนึง ผมขอแช่งจริง ๆ ยอมบาป อย่ามาท้วง มาต่อว่าผม ใครขายชาติ ผมแช่งจริงๆ

    ผู้นำสหภาพโซเวียตคนสุดท้าย Mikhail Gorbachev ได้พยายามที่จะฟื้นสหภาพโซเวี ยตจากนโยบาย Glasnost และ Perestroika แต่ไม่สำเร็จ เขาจึงหันหัวไปทางตะวันตก นาย Bush (คนพ่อ) ปราบปลื้มตบหัว 1 ที แล้วบอกดีมาก รู้ว่าควรทำอย่างไร เพื่อเป็นการตอบแทน เราสัญญาว่า อเมริกาจะไม่ขยาย NATO ไปทางตะวันออก ไม่ไปขม้ำประเทศที่เพิ่งหลุดมาจาก Warsaw Pact โอเคไหม ?
    Gorbachev เชื่อน้ำคำของนาย Bush ว่าจะไม่ตระบัดสัตย์ (โถ !) ว่าเป็นนโยบายของรัฐบาล ระหว่างที่กำลังชุลมุลกับการเก็บสมบัติส่วนรวมไปเป็นของส่วนตัว นาย Gorbachev เลยลืมให้ นาย Bush ทำข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษร วอชิงตันบอกไม่มีปัญหา เราไม่ลืมหรอกน่า ว่าเราพูดอะไรไว้ (ทำหรือไม่ทำอีกเรื่องนึง เป็นประโยคที่นาย Gorbachev ก็คงลืมนึกอีกเช่นเดียวกัน)

    นอกจากลืมทวงสัญญาแล้ว นาย Gorbachev ยังดันไปตกปากรับคำด้วยว่า สหภาพโซเวียตผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งบัดนี้น้ำหนักลดหดตัวลงมาเหลือเป็นแค่ประเทศรัสเซียเล็ก ๆ สัญญาว่าจะค่อย ๆ รื้อถอนคลังอาวุธนิวเคลียร์ และตกลงที่จะลดจำนวนอาวุธนิวเคลียร์ อีกด้วย อเมริกาและรัสเซีย ตกลงยืนยันว่าทั้ง 2 ฝ่าย จะไม่ใช้จรวดยิ่งใส่กัน โดยลงนามในข้อตกลง Anti Ballistic Missile Treaty (ABM) 1972

    แล้วอยู่ดี ๆ เดือนธันวาคม ค.ศ. 2001 นายบุช (คนลูก) ก็แจ้งรัสเซียว่า ไอถอนตัวจากสัญญา ABM งี่เง้านั่นแล้วนะ เกลอเอ๋ย นี่เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ ที่อเมริกาถอนตัวจากข้อตกลงเกี่ยวกับเรื่องอาวุธ น่า ! ทุกอย่างมันก็มีครั้งแรกทั้งนั้นแหละ เพื่อเป็นการเปิดทางให้อเมริกาทิ้งหน่วยงาน US Missile Defense Agency มันน่างงไหมล่ะ !

    รัสเซียบอกมึนวู้ย ! รัสเซียยอมยกเลิก Warsaw Pact คู่สัญญาของ NATO รัสเซียยอมถอนทัพจากยุโรปตะวันออกและบริเวณที่เป็นสหภาพโซเวียตเดิม ทำให้รัฐเล็กรัฐน้อยที่เคยเป็นของสหภาพโซเวียตกระดี้กระด้า ที่จะเป็นอิสระตามคำโฆษณาขายสินค้าของฝ่ายที่อยู่นอกม่าน เพราะเชื่อว่า ถ้าเข้าไปเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปแล้ว จะมีชีวิตที่ซาบซ่านกว่า Republic of Georgia ก็เป็นหนึ่งในรัฐเล็กรัฐน้อย ที่เคลิ้มกับคำโฆษณาขายสินค้านั้นด้วย

    ส่วนข้อตกลงของวอชิงตัน ว่าจะไม่ขยาย NATO ไปทางตะวันออก ของนาย Bush (คนพ่อ) ก็คงเป็นเพียงลมปากที่พัดไปในสายลมจริง ๆ เพราะต่อมา นาย Clinton ก็กลายเป็นคนขี้ลืมไปด้วย อเมริกายังเดินหน้า ล่อหลอกให้ประเทศที่เคยอยู่ใน Warsaw Pact ทีละประเทศ ให้เข้ามาอยู่กับ NATO แล้วในที่สุด NATO ก็ขยายปีกมาทางตะวันออก ยาวใหญ่ขึ้นไปเรื่อย ๆ

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    27 มิย. 2557
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง” ตอนที่ 2 สวรรค์ล่ม ความรื่นเริงเฉลิมฉลองมันอายุสั้นจริง ๆ ยังไม่ทันที่การเก็บกวาดซากกำแพงเบอร์ลินให้สะอาดดี วอชิงตันและพวกยุโรปตะวันตก ก็มาพร้อมกับ สวรรค์บนดิน เครื่องมือ ช๊อคทางเศรษฐกิจ IMF มาพร้อมกับยาแรงตามสูตร การปฎิรูปตลาดการค้าเสรี (คุ้นกันใหม่คำนี้) บอก แหม ! ประเทศหลังม่านนี่มีตั้งแยะ แยกเป็น 6 ประเทศ ตาม Warsaw Pact (Bulgaria, Czecho, East Germany, Hungary, Poland และ Romania) และอีก 15 ประเทศที่อยู่ในสหภาพโซเวียต ตูจะไปจัดโปรแกรมใหม่ให้เหมาะสมกับแต่ละประเทศ 21 โปรแกรม ยังไงไหว เอางี้แล้วกัน เอาสูตรสำเร็จไปใช้แล้วกันนะ Privatization แปรรูปยังไงละคุณน้องหลังม่าน แปรมันให้หมด รัฐวิสาหกิจที่ทำอุตสาหกรรมน่ะ แล้วก็ลดค่าเงินรัสเซี่ยนรูเบิล กับเงินอะไรเรียกไม่ถูก ของหลาย ๆ ประเทศนั่นด้วย ใช้สูตรชุดนี้มันทั้งหมดแหละ แหะ แหะ สำเร็จ เออ ไม่ใช่ เสร็จแล้วครับนายท่าน ! IMF shock therapy หรือที่สมันน้อยรู้จักกันดี คือ โปรแกรม SAP (Structural Adjustment Policies) ก็เปิดประตูกว้าง ให้นักลงทุนตะวันตกหอบกระดาษสี เขียวตีเครื่องหมายว่า In God We Trust มาเป็นกระสอบ นำโดยนาย George Soros และนักค้าเหล็กหนีคุก ชื่อ Marc Rich (แหม ! พอบอกเป็นพวกคนหนีคุก รีบเดากันเชียวนะ ว่าจะเป็นอีกชื่อนึง อยู่กันคนละเมืองครับ มาไม่ทัน ติดนัดนักร้องอยู่ ฮา ) และธนาคารพวกตะกรุมตระกราม เช่น Credit Suisse และแน่นอนต้องมี Chase เจ้าเก่าของเขามาด้วย ก็ยกทีมกันมา นโยบายของ IMF แสนจะเอื้อให้ไอ้พวกหัวขะโมยพวกนี้ มาชี้นิ้ว จิ้มเอา จิ้มเอา เลือกทรัพย์สินประเภทเพชรประดับมงกุฎ ของรัสเซียไปในราคาสตางค์เดียว มันจิ้มซื้อตั้งแต่พลังงานน้ำมัน ไปจนถึงพลูโตเนี่ยม เฮ้อ ! เขียนไปแล้วก็นึกว่าเขียนเรื่อง ปรส. เบื่อครับ ! เรื่องซ้ำซาก เล่นซ้ำซาก แล้วก็ยอมให้เขาต้มซ้ำซาก เมื่อไหร่มันจะมีคนรู้ แล้วรื้อฉากแบบนี้ทิ้งเสียที คนเขียนคงไม่อยู่เขียนเรื่องซ้ำซาก แบบนี้ไปอีกนานหรอก อ่าน ๆ แล้วก็จำกันไว้บ้างนะครับ เล่าให้ลูกหลานฟังกันบ้างว่า รุ่น ปู่ ย่า พ่อ แม่ ถูกเขาต้มมาอย่างไร รุ่นเจ้าก็จะโดนอย่างเดิมแหละ ถ้าไม่ลุกขึ้นตื่นกันเสียที (ปตท. นี่ก้อค้างอยู่ ข่าวว่าเรียกคนที่เป็นที่ปรึกษาการเงินตอนแปรรูป มาถามว่าการแปรรูปเป็นธรรมไหม ราคาถูกต้องไหม ฯลฯ ก็น่าจะเดาคำตอบกันได้ แบบนี้ระวังชาวบ้านเขาจะเรียกว่า เมาหมัดนะครับ ไม่อยากใช้คำแรงกว่านี้) กินเนื้อแล้วก็โยนกระดูกติดเนื้อมาให้ พวกที่เคยทำหน้าที่ในรัฐบาล Yeltsin ที่อเมริกาเคยต้มให้ทำการแปรรูป จนรัสเซีย ฉ.ห รอบแรก จำได้ไหมครับ จำไม่ได้ไปเอานิทานเรื่องจริง เรื่องมายากลยุทธ มาอ่านอีกทีนะครับ รายการนี้เขาเรียกว่าแจกรางวัลให้คนขายชาติ มีทุกชาติแหละครับ มากน้อยอีกเรื่องนึง ผมขอแช่งจริง ๆ ยอมบาป อย่ามาท้วง มาต่อว่าผม ใครขายชาติ ผมแช่งจริงๆ ผู้นำสหภาพโซเวียตคนสุดท้าย Mikhail Gorbachev ได้พยายามที่จะฟื้นสหภาพโซเวี ยตจากนโยบาย Glasnost และ Perestroika แต่ไม่สำเร็จ เขาจึงหันหัวไปทางตะวันตก นาย Bush (คนพ่อ) ปราบปลื้มตบหัว 1 ที แล้วบอกดีมาก รู้ว่าควรทำอย่างไร เพื่อเป็นการตอบแทน เราสัญญาว่า อเมริกาจะไม่ขยาย NATO ไปทางตะวันออก ไม่ไปขม้ำประเทศที่เพิ่งหลุดมาจาก Warsaw Pact โอเคไหม ? Gorbachev เชื่อน้ำคำของนาย Bush ว่าจะไม่ตระบัดสัตย์ (โถ !) ว่าเป็นนโยบายของรัฐบาล ระหว่างที่กำลังชุลมุลกับการเก็บสมบัติส่วนรวมไปเป็นของส่วนตัว นาย Gorbachev เลยลืมให้ นาย Bush ทำข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษร วอชิงตันบอกไม่มีปัญหา เราไม่ลืมหรอกน่า ว่าเราพูดอะไรไว้ (ทำหรือไม่ทำอีกเรื่องนึง เป็นประโยคที่นาย Gorbachev ก็คงลืมนึกอีกเช่นเดียวกัน) นอกจากลืมทวงสัญญาแล้ว นาย Gorbachev ยังดันไปตกปากรับคำด้วยว่า สหภาพโซเวียตผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งบัดนี้น้ำหนักลดหดตัวลงมาเหลือเป็นแค่ประเทศรัสเซียเล็ก ๆ สัญญาว่าจะค่อย ๆ รื้อถอนคลังอาวุธนิวเคลียร์ และตกลงที่จะลดจำนวนอาวุธนิวเคลียร์ อีกด้วย อเมริกาและรัสเซีย ตกลงยืนยันว่าทั้ง 2 ฝ่าย จะไม่ใช้จรวดยิ่งใส่กัน โดยลงนามในข้อตกลง Anti Ballistic Missile Treaty (ABM) 1972 แล้วอยู่ดี ๆ เดือนธันวาคม ค.ศ. 2001 นายบุช (คนลูก) ก็แจ้งรัสเซียว่า ไอถอนตัวจากสัญญา ABM งี่เง้านั่นแล้วนะ เกลอเอ๋ย นี่เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ ที่อเมริกาถอนตัวจากข้อตกลงเกี่ยวกับเรื่องอาวุธ น่า ! ทุกอย่างมันก็มีครั้งแรกทั้งนั้นแหละ เพื่อเป็นการเปิดทางให้อเมริกาทิ้งหน่วยงาน US Missile Defense Agency มันน่างงไหมล่ะ ! รัสเซียบอกมึนวู้ย ! รัสเซียยอมยกเลิก Warsaw Pact คู่สัญญาของ NATO รัสเซียยอมถอนทัพจากยุโรปตะวันออกและบริเวณที่เป็นสหภาพโซเวียตเดิม ทำให้รัฐเล็กรัฐน้อยที่เคยเป็นของสหภาพโซเวียตกระดี้กระด้า ที่จะเป็นอิสระตามคำโฆษณาขายสินค้าของฝ่ายที่อยู่นอกม่าน เพราะเชื่อว่า ถ้าเข้าไปเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปแล้ว จะมีชีวิตที่ซาบซ่านกว่า Republic of Georgia ก็เป็นหนึ่งในรัฐเล็กรัฐน้อย ที่เคลิ้มกับคำโฆษณาขายสินค้านั้นด้วย ส่วนข้อตกลงของวอชิงตัน ว่าจะไม่ขยาย NATO ไปทางตะวันออก ของนาย Bush (คนพ่อ) ก็คงเป็นเพียงลมปากที่พัดไปในสายลมจริง ๆ เพราะต่อมา นาย Clinton ก็กลายเป็นคนขี้ลืมไปด้วย อเมริกายังเดินหน้า ล่อหลอกให้ประเทศที่เคยอยู่ใน Warsaw Pact ทีละประเทศ ให้เข้ามาอยู่กับ NATO แล้วในที่สุด NATO ก็ขยายปีกมาทางตะวันออก ยาวใหญ่ขึ้นไปเรื่อย ๆ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 27 มิย. 2557
    0 Comments 0 Shares 110 Views 0 Reviews
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง”

    ตอนที่ 1 สวรรค์บนดิน
    ระหว่างที่ลูกตาเกือบทุกคู่ของคนในโลกสวยงามใบนี้ กำลังจ้องเขม็งไปที่สนามกีฬารังนก ดีไซน์สุดยอด ของนาย Li Xinggang เพื่อดูพิธีเปิด การแข่งขันกีฬาโอลิมปิคอลังการ ที่แดนมังกรของอาเฮีย เมื่อเดือนสิงหาคม ปีค.ศ. 2008 วันนั้นบรรดาคนใหญ่คนโตคนของโลก นั่งอยู่แถวนั้นกันเกือบทั้งนั้น ตั้งแต่ใหญ่หมายเลข 1 ของโลกฝั่งหนึ่ง เช่น ประธานาธิบดี GeorgeW. Bush ตัวแสบ และคุณพี่ปูติน นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของรัสเซีย หมายเลข 1 ของโลกของฝั่งหนึ่ง ก็นั่งทำหน้าไร้อารมณ์อยู่ไม่ไกลกัน แล้วถ้ายังไม่ลืมกัน ไอ้หมาไนโจรร้าย ซึ่งนึกว่าตัวเองใหญ่เกินฟ้า ก็กระเสือกกระสนให้เชิญตนเอง เพื่อหนีปัญหาการเมืองในบ้าน ไปนั่งเสนอหน้าอยู่แถวนั้นกับเขาด้วยเหมือนกัน

    วันเดียวกันนั่นเอง ก็มีข่าวเล็ก ๆ แทรกข่าวโอลิมปิคอันยิ่งใหญ่ ออกมาว่า กองทัพของ Georgia ได้บุกเข้าไปยึดเมือง South Ossetia เรียบร้อยแล้ว
    เป็นข่าวเล็ก ๆ ที่แทบจะไม่มีใครสนใจ น้อยคนจะรู้จักว่า South Ossetia อยู่ที่ไหน บางคนไม่เคยได้ยินชื่อเลยด้วยซ้ำ แน่นอนในแดนสมันน้อย มีน้อยยิ่งกว่าน้อยที่จะรู้จัก หรือแม้แต่จะได้ยินชื่อ South Ossetia เมืองอะไรน่ะ อยู่ที่ไหนนะ รู้จักแต่ เมืองโอริสสาในนิยายเรื่องอะไรสักอย่าง เมืองเดียวกันหรือเปล่านะ ก็ใครไม่รู้ดันถอดหลักสูตร ทั้งภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ไทย ประวัติศาสตร์สากลออกจากวิชาบังคับของนักเรียนมัธยม
    กว่าจะพอรู้เรื่องว่า มันเกี่ยวกับอะไร ก็ต้องรอให้ผู้สื่อข่าวทำหน้าฉลาด มาวิเคราะห์ให้ฟังก่อนว่า ชาวโลกทั้งหลายเอ๋ย การที่ Republic of Georgia เมืองที่พวกท่าน 90% ในโลกนี้ไม่รู้จัก แต่ดันยกทัพบุกเข้าไปใน South Ossetia ที่พวกท่าน 99.99% ยิ่งไม่รู้จักน่ะนะ มันเป็นเรื่องร้ายแรงสำหรับการเมืองของโลก เทียบเท่ากับ สมัยวิกฤติเกี่ยวกับฐานยิ่งจรวดที่คิวบา เมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 1962 เชียวนะ ความขัดแย้งระหว่างมวยคู่เก่าในยุคสงครามเย็น ที่อเมริกากับสหภาพโซเวียต 2 พี่เบิ้ม ยืนเท้าสะเอว ถลึงตาใส่กันไง จำได้ไหม แต่สำหรับท่านผู้อ่านที่เกิดไม่ทัน คงไม่รู้ว่าตอนนั้น โลกเครียดกันขนาดไหน จวนเจียนจะต้องจัดกระเป๋าอพยพ (ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปไหน) หนีสงครามกันแล้ว

    พวกที่ยังจำเหตุการณ์คิวบาได้ ก็เริ่มติดตามข่าว บ่นกันพึมพำ เอาอีกแล้วหรือ จะแลกหมัดแลกจรวดกันอีกแล้วหรือ ฝ่ายวิเคราะห์ข่าวบางคนก็ไปโน่นเลย จำกันได้ไหมครับ เหมือนเมื่อคราวที่ท่านอาร์คด ยุกเฟอร์ดินานด์ รัชทายาทของราชวงศ์ Austria Hungarian ถูกพวก Serb ลอบฆ่าที่เมือง Serajevo เหตุการณ์เล็ก ๆ นั้น เป็นชนวนให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 (อันนี้ผู้ที่จำเหตุการณ์ได้คงไม่มีเหลือแล้ว เหลือแต่รุ่นคนเล่านิทาน ที่เคยรู้จากการเรียนประวัติศาสตร์สากล ตอน ม. 3) บางคนก็ออกมาพูดว่า หรือสงครามเย็นจะกลับมาใหม่ ไหนว่าจบไปแล้วไง

    วิกฤติคิวบา ปี ค.ศ. 1962 สำหรับท่านที่จำได้ เกิดขึ้นเพราะหน่วยลาดตระเวนของอเมริกา (ไม่รู้ตระเวนอยู่ในอเมริกาหรือคิวบา ชักสงสัย) ไปแอบถ่ายรูป ได้ภาพการก่อสร้างฐานยิงจรวดของโซเวียตที่คิวบา ห่างจาก Florida ไปเพียง 90 ไมล์ ระยะแค่นั้นจรวดใช้เวลาไม่กี่นาที ก็ลงกลางบ้าน กลางห้องนอนคนอเมริกัน. แบบไม่ให้คนอเมริกันมีเวลาตั้งตัว ชนิดกำลังนอนเล่นอยู่ นุ่ง กุงเกง ใส่หมวกไม่ทันแล้วกัน โลกตะลึงกับการกระทำของโซเวียต สื่ออเมริกาช่วยกันถล่ม ประธานาธิบดี Kennedy ต้องยกเลิกนัดสาว ๆ แล้วมานั่งกุมขมับกับฝ่ายมั่นคงเป็นการด่วน
    แต่คงมีน้อยคน นอกเหนือจาก Pentagon และเจ้าหน้าที่ระดับสูง (มาก) ของอเมริกาและ NATO ที่จะรู้ความจริงว่าโซเวียตไม่ได้ไปกินยาม้าที่ไหนมาหรอก ถึงได้คึกคัก กล้าหาญชาญชัยที่จะตั้งฐานยิงจรวดที่คิวบา ท้าทายอเมริกาขนาดนั้น ความจริงแล้ว มันเป็นการตอบโต้ของสหภาพโซเวียต จากการที่อเมริกา (แอบ) ไปตั้งฐานยิ่งจรวดของตัว ชื่อ Thor กับ Jupitor ไว้ที่ตุรกี หนึ่งในสมาชิกของ NATO บนบริเวณที่ใกล้ชนิดจ่อคอหอยสหภาพโซเวียต โลกไม่รู้เพราะสื่อยักษ์ใหญ่เกือบทั้งหมดของโลก อยู่ในกระเป๋าของฝ่ายตะวันตก The West คืออเมริกา อังกฤษ และยุโรปตะวันตก เรียบร้อยแล้ว

    เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่คิวบา เมื่อปี ค.ศ. 1962 เหตุการณ์ของ Georgia ปี ค.ศ. 2008 ก็เป็นผลมาจากการตั้งใจสร้างแรงกระตุ้นต่อมอารมณ์ของรัสเซีย ของฝ่ายการเมืองและกองทัพของอเมริกา

    สงครามเย็น จบลงเมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1989 โดย Mikhail Gorbachev กัดฟันประกาศต่อโลกว่าสหภาพโซเวียต ตัดสินใจที่จะไม่ส่งรถถังเข้าไปในเยอรมันตะวันออก เพื่อระงับการประท้วงรัฐบาล และยอมให้มีการทุบกำแพงเบอร์ลิน สัญญลักษณ์ของ ม่านเหล็ก “Iron Curtain” ซึ่งแบ่งยุโรปออกเป็นตะวันออกและตะวันตกทิ้งเสีย จริง ๆ แล้ว สหภาพโซเวียตกำลังอยู่ในอาการสาหัส ล้มละลาย ทั้งด้านเศรษฐกิจ การทหาร และการเมือง

    สงครามเย็นจบลง ฝ่ายตะวันตก the West และแน่นอน โดยเฉพาะอเมริกา นักล่าตัวจริงเป็นฝ่ายชนะ แค่หลอกขายสินค้ายี่ห้อ เสรีภาพ อิสรภาพ ประชาธิปไตย และความเฟื่องฟูทางเศรษฐกิจให้ชาวโลก โดยเฉพาะชาวยุโรปตะวันออก ประเทศที่เคยเป็นคอมมิวนิสต์ในยุโรปตะวันออก ก็พากันหลงเชื่อหวังน้ำบ่อหน้ากันเป็นแถว
    เมื่อสงครามเย็นจบลง วอชิงตันตีฆ้องป่าวประกาศว่า ต่อไปนี้เราจะขยายกิจการ ส่งสินค้ายี่ห้อประชาธิปไตยของเรา ไปทุกส่วนของโลก ที่เคยถูกขังอยู่ในกรงของระบอบสังคมนิยมของโซเวียตตั้งแต่สิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 และสำหรับบางประเทศหวังว่าคงรู้ตัว ว่าอยู่ในกรงเขา มาตั้งแต่สมัยปฎิวัติรัสเซียปี 1917 โน่นแน่ะ

    ประชาธิปไตยของวอชิงตันเป็นสินค้า ที่ทำกล่องใส่อย่างสวยหรู หลอกให้ซื้อง่าย ขายดีสำหรับพวกประเทศที่เกิดขึ้นใหม่ จากการที่โซเวียตล่มล้มละลายอยู่ที่ยุโรป แต่ประชาธิปไตยแท้จริงสำหรับอเมริกา คือการควบคุมเทคนิค และย้อมความคิดของมวลชน เพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ เรื่องนี้ง่ายมากสำหรับวอชิงตัน ซึ่งจัดเตรียมเครื่องมือเอาไว้พร้อม คือการควบคุมสื่อระดับโลก และการจัดการเปลี่ยนแนวทางเศรษฐกิจ โดยการกำกับควบคุมดูแลที่เล่นกันเป็นวง ร้องเพลงเดียวกัน ของ IMF และ World Bank

    วอชิงตันบอกว่าจะช่วยส่งเสริมประชาธิปไตย หลังจากการล่มละลายของโซเวียต แต่ขอโทษเป็นประชาธิปไตยแบบพิเศษ จัดให้โดยเฉพาะเลย คือ ประชาธิปไตยแบบเบ็ดเสร็จ
    ที่มีแนวทางเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม แบบอเมริกาและควบคุมโดย NATO ฮา

    โลกชื่นชมยินดี ต่างตบมือให้อเมริกาผู้มาพร้อม กับประชาธิปไตย ที่ Berlin ชาวเยอรมันคนซื่อ ทั้งตะวันตก ตะวันออก ต่างร้องเพลง เต้นรำไปบนกำแพง ที่ใน Poland, Czechoslovakia และ Hungary ก็เช่นเดียวกัน พวกที่เคยอยู่หลังม่านเหล็ก ดีใจที่จะหลุดออกมาจากม่านและได้มีชีวิตที่ดีกว่า ชีวิตที่เสรี และร่ำรวยแบบคนอเมริกัน พวกเขาเชื่อสนิทใจจากการโฆษณาชวนเชื่อของจักรวรรดิอเมริกา ที่กรอกใส่เข้าไปในหูและหัวของเขาตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา โดยสื่อของฝั่งตะวันตก เรากำลังจะมาปลดปล่อยชาวยุโรปตะวันออกผู้ทุกข์ทรมานอยู่หลังม่านเหล็ก สวรรค์บนดินกำลังจะมาถึงแล้ว พวกเขาคงคิดแบบนั้น

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    27 มิย. 2557

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง” ตอนที่ 1 สวรรค์บนดิน ระหว่างที่ลูกตาเกือบทุกคู่ของคนในโลกสวยงามใบนี้ กำลังจ้องเขม็งไปที่สนามกีฬารังนก ดีไซน์สุดยอด ของนาย Li Xinggang เพื่อดูพิธีเปิด การแข่งขันกีฬาโอลิมปิคอลังการ ที่แดนมังกรของอาเฮีย เมื่อเดือนสิงหาคม ปีค.ศ. 2008 วันนั้นบรรดาคนใหญ่คนโตคนของโลก นั่งอยู่แถวนั้นกันเกือบทั้งนั้น ตั้งแต่ใหญ่หมายเลข 1 ของโลกฝั่งหนึ่ง เช่น ประธานาธิบดี GeorgeW. Bush ตัวแสบ และคุณพี่ปูติน นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของรัสเซีย หมายเลข 1 ของโลกของฝั่งหนึ่ง ก็นั่งทำหน้าไร้อารมณ์อยู่ไม่ไกลกัน แล้วถ้ายังไม่ลืมกัน ไอ้หมาไนโจรร้าย ซึ่งนึกว่าตัวเองใหญ่เกินฟ้า ก็กระเสือกกระสนให้เชิญตนเอง เพื่อหนีปัญหาการเมืองในบ้าน ไปนั่งเสนอหน้าอยู่แถวนั้นกับเขาด้วยเหมือนกัน วันเดียวกันนั่นเอง ก็มีข่าวเล็ก ๆ แทรกข่าวโอลิมปิคอันยิ่งใหญ่ ออกมาว่า กองทัพของ Georgia ได้บุกเข้าไปยึดเมือง South Ossetia เรียบร้อยแล้ว เป็นข่าวเล็ก ๆ ที่แทบจะไม่มีใครสนใจ น้อยคนจะรู้จักว่า South Ossetia อยู่ที่ไหน บางคนไม่เคยได้ยินชื่อเลยด้วยซ้ำ แน่นอนในแดนสมันน้อย มีน้อยยิ่งกว่าน้อยที่จะรู้จัก หรือแม้แต่จะได้ยินชื่อ South Ossetia เมืองอะไรน่ะ อยู่ที่ไหนนะ รู้จักแต่ เมืองโอริสสาในนิยายเรื่องอะไรสักอย่าง เมืองเดียวกันหรือเปล่านะ ก็ใครไม่รู้ดันถอดหลักสูตร ทั้งภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ไทย ประวัติศาสตร์สากลออกจากวิชาบังคับของนักเรียนมัธยม กว่าจะพอรู้เรื่องว่า มันเกี่ยวกับอะไร ก็ต้องรอให้ผู้สื่อข่าวทำหน้าฉลาด มาวิเคราะห์ให้ฟังก่อนว่า ชาวโลกทั้งหลายเอ๋ย การที่ Republic of Georgia เมืองที่พวกท่าน 90% ในโลกนี้ไม่รู้จัก แต่ดันยกทัพบุกเข้าไปใน South Ossetia ที่พวกท่าน 99.99% ยิ่งไม่รู้จักน่ะนะ มันเป็นเรื่องร้ายแรงสำหรับการเมืองของโลก เทียบเท่ากับ สมัยวิกฤติเกี่ยวกับฐานยิ่งจรวดที่คิวบา เมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 1962 เชียวนะ ความขัดแย้งระหว่างมวยคู่เก่าในยุคสงครามเย็น ที่อเมริกากับสหภาพโซเวียต 2 พี่เบิ้ม ยืนเท้าสะเอว ถลึงตาใส่กันไง จำได้ไหม แต่สำหรับท่านผู้อ่านที่เกิดไม่ทัน คงไม่รู้ว่าตอนนั้น โลกเครียดกันขนาดไหน จวนเจียนจะต้องจัดกระเป๋าอพยพ (ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปไหน) หนีสงครามกันแล้ว พวกที่ยังจำเหตุการณ์คิวบาได้ ก็เริ่มติดตามข่าว บ่นกันพึมพำ เอาอีกแล้วหรือ จะแลกหมัดแลกจรวดกันอีกแล้วหรือ ฝ่ายวิเคราะห์ข่าวบางคนก็ไปโน่นเลย จำกันได้ไหมครับ เหมือนเมื่อคราวที่ท่านอาร์คด ยุกเฟอร์ดินานด์ รัชทายาทของราชวงศ์ Austria Hungarian ถูกพวก Serb ลอบฆ่าที่เมือง Serajevo เหตุการณ์เล็ก ๆ นั้น เป็นชนวนให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 (อันนี้ผู้ที่จำเหตุการณ์ได้คงไม่มีเหลือแล้ว เหลือแต่รุ่นคนเล่านิทาน ที่เคยรู้จากการเรียนประวัติศาสตร์สากล ตอน ม. 3) บางคนก็ออกมาพูดว่า หรือสงครามเย็นจะกลับมาใหม่ ไหนว่าจบไปแล้วไง วิกฤติคิวบา ปี ค.ศ. 1962 สำหรับท่านที่จำได้ เกิดขึ้นเพราะหน่วยลาดตระเวนของอเมริกา (ไม่รู้ตระเวนอยู่ในอเมริกาหรือคิวบา ชักสงสัย) ไปแอบถ่ายรูป ได้ภาพการก่อสร้างฐานยิงจรวดของโซเวียตที่คิวบา ห่างจาก Florida ไปเพียง 90 ไมล์ ระยะแค่นั้นจรวดใช้เวลาไม่กี่นาที ก็ลงกลางบ้าน กลางห้องนอนคนอเมริกัน. แบบไม่ให้คนอเมริกันมีเวลาตั้งตัว ชนิดกำลังนอนเล่นอยู่ นุ่ง กุงเกง ใส่หมวกไม่ทันแล้วกัน โลกตะลึงกับการกระทำของโซเวียต สื่ออเมริกาช่วยกันถล่ม ประธานาธิบดี Kennedy ต้องยกเลิกนัดสาว ๆ แล้วมานั่งกุมขมับกับฝ่ายมั่นคงเป็นการด่วน แต่คงมีน้อยคน นอกเหนือจาก Pentagon และเจ้าหน้าที่ระดับสูง (มาก) ของอเมริกาและ NATO ที่จะรู้ความจริงว่าโซเวียตไม่ได้ไปกินยาม้าที่ไหนมาหรอก ถึงได้คึกคัก กล้าหาญชาญชัยที่จะตั้งฐานยิงจรวดที่คิวบา ท้าทายอเมริกาขนาดนั้น ความจริงแล้ว มันเป็นการตอบโต้ของสหภาพโซเวียต จากการที่อเมริกา (แอบ) ไปตั้งฐานยิ่งจรวดของตัว ชื่อ Thor กับ Jupitor ไว้ที่ตุรกี หนึ่งในสมาชิกของ NATO บนบริเวณที่ใกล้ชนิดจ่อคอหอยสหภาพโซเวียต โลกไม่รู้เพราะสื่อยักษ์ใหญ่เกือบทั้งหมดของโลก อยู่ในกระเป๋าของฝ่ายตะวันตก The West คืออเมริกา อังกฤษ และยุโรปตะวันตก เรียบร้อยแล้ว เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่คิวบา เมื่อปี ค.ศ. 1962 เหตุการณ์ของ Georgia ปี ค.ศ. 2008 ก็เป็นผลมาจากการตั้งใจสร้างแรงกระตุ้นต่อมอารมณ์ของรัสเซีย ของฝ่ายการเมืองและกองทัพของอเมริกา สงครามเย็น จบลงเมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1989 โดย Mikhail Gorbachev กัดฟันประกาศต่อโลกว่าสหภาพโซเวียต ตัดสินใจที่จะไม่ส่งรถถังเข้าไปในเยอรมันตะวันออก เพื่อระงับการประท้วงรัฐบาล และยอมให้มีการทุบกำแพงเบอร์ลิน สัญญลักษณ์ของ ม่านเหล็ก “Iron Curtain” ซึ่งแบ่งยุโรปออกเป็นตะวันออกและตะวันตกทิ้งเสีย จริง ๆ แล้ว สหภาพโซเวียตกำลังอยู่ในอาการสาหัส ล้มละลาย ทั้งด้านเศรษฐกิจ การทหาร และการเมือง สงครามเย็นจบลง ฝ่ายตะวันตก the West และแน่นอน โดยเฉพาะอเมริกา นักล่าตัวจริงเป็นฝ่ายชนะ แค่หลอกขายสินค้ายี่ห้อ เสรีภาพ อิสรภาพ ประชาธิปไตย และความเฟื่องฟูทางเศรษฐกิจให้ชาวโลก โดยเฉพาะชาวยุโรปตะวันออก ประเทศที่เคยเป็นคอมมิวนิสต์ในยุโรปตะวันออก ก็พากันหลงเชื่อหวังน้ำบ่อหน้ากันเป็นแถว เมื่อสงครามเย็นจบลง วอชิงตันตีฆ้องป่าวประกาศว่า ต่อไปนี้เราจะขยายกิจการ ส่งสินค้ายี่ห้อประชาธิปไตยของเรา ไปทุกส่วนของโลก ที่เคยถูกขังอยู่ในกรงของระบอบสังคมนิยมของโซเวียตตั้งแต่สิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 และสำหรับบางประเทศหวังว่าคงรู้ตัว ว่าอยู่ในกรงเขา มาตั้งแต่สมัยปฎิวัติรัสเซียปี 1917 โน่นแน่ะ ประชาธิปไตยของวอชิงตันเป็นสินค้า ที่ทำกล่องใส่อย่างสวยหรู หลอกให้ซื้อง่าย ขายดีสำหรับพวกประเทศที่เกิดขึ้นใหม่ จากการที่โซเวียตล่มล้มละลายอยู่ที่ยุโรป แต่ประชาธิปไตยแท้จริงสำหรับอเมริกา คือการควบคุมเทคนิค และย้อมความคิดของมวลชน เพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ เรื่องนี้ง่ายมากสำหรับวอชิงตัน ซึ่งจัดเตรียมเครื่องมือเอาไว้พร้อม คือการควบคุมสื่อระดับโลก และการจัดการเปลี่ยนแนวทางเศรษฐกิจ โดยการกำกับควบคุมดูแลที่เล่นกันเป็นวง ร้องเพลงเดียวกัน ของ IMF และ World Bank วอชิงตันบอกว่าจะช่วยส่งเสริมประชาธิปไตย หลังจากการล่มละลายของโซเวียต แต่ขอโทษเป็นประชาธิปไตยแบบพิเศษ จัดให้โดยเฉพาะเลย คือ ประชาธิปไตยแบบเบ็ดเสร็จ ที่มีแนวทางเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม แบบอเมริกาและควบคุมโดย NATO ฮา โลกชื่นชมยินดี ต่างตบมือให้อเมริกาผู้มาพร้อม กับประชาธิปไตย ที่ Berlin ชาวเยอรมันคนซื่อ ทั้งตะวันตก ตะวันออก ต่างร้องเพลง เต้นรำไปบนกำแพง ที่ใน Poland, Czechoslovakia และ Hungary ก็เช่นเดียวกัน พวกที่เคยอยู่หลังม่านเหล็ก ดีใจที่จะหลุดออกมาจากม่านและได้มีชีวิตที่ดีกว่า ชีวิตที่เสรี และร่ำรวยแบบคนอเมริกัน พวกเขาเชื่อสนิทใจจากการโฆษณาชวนเชื่อของจักรวรรดิอเมริกา ที่กรอกใส่เข้าไปในหูและหัวของเขาตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา โดยสื่อของฝั่งตะวันตก เรากำลังจะมาปลดปล่อยชาวยุโรปตะวันออกผู้ทุกข์ทรมานอยู่หลังม่านเหล็ก สวรรค์บนดินกำลังจะมาถึงแล้ว พวกเขาคงคิดแบบนั้น สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 27 มิย. 2557
    0 Comments 0 Shares 118 Views 0 Reviews
  • แหกคอก ตอนที่ 8 – นักวิ่ง
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ”
    ตอนที่ 8 : นักวิ่ง
    มีกลุ่มนักคิด แล้วจะให้ดีก็ต้องมีกลุ่มคนพูด คนดำเนินการ คนวิ่งเต้นเหมือนเป็น lobbyist แต่เป็น lobbyist ระดับ cream หน้าขนมเค้ก แต่คราวนี้ไม่ใช่เค้กธรรมดาเป็นขนมเค้กประดับมงกุฎเสียด้วย ปี ค.ศ.1954 พวกคนในสังคมระดับสูง ถึงสูงมากๆ ในยุโรป อังกฤษ และอเมริกา จึงรวมตัวกันจัดตั้ง the Bilderberg Group ขึ้นที่ประเทศ Netherlands หลังจากน้ันทุกปี กลุ่มนี้จะจัดประชุมลับ มีคนเข้าร่วมประมาณ 100 กว่าคน จากบุคคลชั้นสูงในวงการเมือง ธุรกิจการเงินการธนาคาร การทหาร บรรษัทข้ามชาติใหญ่ นักวิชาการ สื่อจากอเมริกา (เหนือ) และยุโรปตะวันตก เป็นเครือข่ายของผู้ทรงอิทธิพลรวมถึงพระราชวงศ์ในยุโรปซึ่งสามารถจะคุยกันได้อย่างเปิดอก และไม่ต้องเกรงว่าจะมีการรั่วไหลของการคุย ขาประจำจะเป็นพวกหัวหน้าผู้บริหาร หรือประธานของบรรดาบรรษัทข้ามชาติ ใหญ่ๆ ในโลก บริษัทน้ำมันเช่น Royal Dutch, British Petroleum, Total SA รวมทั้งพระราชวงศ์ในยุโรป นายธนาคารระดับนานาชาติ เช่น (แน่นอน) นาย David Rockefeller ประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี และพวกธนาคารกลางของโลก Bilderberg เป็นถังความคิด แบบเปิดฝาแต่ปิดตัว ตั้งขึ้นด้วยความตั้งใจที่จะเป็นห่วงคล้อง (ชักใย) รัฐบาลกับเศรษฐกิจของยุโรปกับอเมริกา ในระหว่างสงครามเย็นให้ไปในทิศทางเดียวกัน
    ปี ค.ศ.1970 David Rockefeller เป็นประธานของ CFR และเป็นประธานกรรมการและประธานผู้บริหารของ Chase Manhattan Bank ไปเชิญนักวิชาการเข้ามาร่วมอยู่ ใน CFR (ใช่แล้วครับ เจ้าเก่า) นาย Zbigniew Brzezinski ซึ่งเขียนหนังสือ Between Two ages : Americans Role in the Tecnetronic Era บอกว่าปัจจุบันนี้ ความสนิทสนมกลมเกลียว ความร่วมมือระหว่างรัฐประเทศมันน้อยลง แทนที่จะหันหน้าเข้ามาหากัน ดันตะแคงข้างหรือหันหลังใส่กัน ขณะเดียวกันความร่วมมือระหว่างบรรษัทข้ามชาติด้วยกันมีมากขึ้น เงินมันมีแรงดึงดูดสูงกว่า ดังนั้นจึงควรมีการรวมตัวกันระหว่างประเทศที่พัฒนาแล้ว คือ ประเทศในยุโรปตะวันตก อเมริกา และญี่ปุ่น เพราะต่อจากนี้ไป ธนาคารและบรรษัทข้ามชาติทุนใหญ่ เช่น ธนาคาร บริษัท หรือ องค์กรระหว่างประเทศ จะเป็นผู้มีบทบาทใหญ่ขึ้น ในการกำหนดทิศทางการเมืองของโลกนี้
    แล้วในปี ค.ศ.1972 David Rockefeller และนาย Brzezinski ก็เสนอความคิดนี้ในที่ประชุมประจำปีของ Bilderberg หลังจากนั้นผู้ทรงอิทธิพลรุ่นใหญ่เกือบ 20 คน ก็พากันยกโขยงมาพบนาย David ที่บ้าน แล้วก็บอกว่า พร้อมแล้วครับท่าน พวกเราเห็นพ้องกันตามที่ท่านกล่อม (สั่ง !) ค.ศ.1973 Trilateral Commission ซึ่งถือเสมือนเป็นน้องน้อยของ Bilderberg ก็คลอด เป็นการเชื่อมผู้ครองโลกใน 3 ทวีป เข้าด้วยกัน ยุโรปตะวันตก อเมริกา และญี่ปุ่น
    ขอแจ้งข้อมูลปัจจุบันหน่อยครับ ผมเคยเขียนเกี่ยวกับ Trilateral Commission นี้ เมื่อตอนเขียนนิทานเรื่องมายากลยุทธและผมได้แพลมออกไปว่า มีสมาชิกของ Trilateral Commission เป็นคนไทยด้วย ผมนำชื่อมาลงทั้งหมด ปรากฎว่าหลังจากลงไปได้ไม่เท่าไหร่ เพจผม (บังเอิญ ? !)ออกอาการเหมือนถูกกวนจนเละ หน้าจอเดี๋ยวดับบ้าง เปิดไม่ได้บ้าง ข้อความที่ลงก็หายเป็น ตอนๆ โดยเฉพาะตอนที่มีรายชื่อสมาชิกคนไทยที่โด่งดัง หายแล้วหายอีก ต้องลงซ้ำลงซาก คราวนี้ต้องเขียนถึงกลุ่มนี้อีก เพื่อให้ต่อเนื่องกัน ก็เลยแวะไปเช็คข้อมูล ซึ่งก็มีท่านผู้อ่านรายหนึ่ง inbox มาบอกล่วงหน้าแล้ว (ขอบคุณนะครับ) ผลการเช็คข้อมูลล่าสุดนี้ ปรากฎว่ากรรมการชุดเก่าเปลี่ยนตัวไปกันเกือบหมด ! เขาตั้งคนอื่นมาแทน เลยขอลงรายชื่อ ทั้งเก่าทั้งใหม่ให้ชื่นชมกัน ว่าคนไทยเราก็ติดอันดับโลก แบบนี้เหมือนกัน (แหม ! ไม่กล้าอ้างความดีความชอบว่า เป็นผู้แฉจนต้องมีการเปลี่ยนตัว เดี๋ยวมีคนเชื่อ ฮา !)
    – รายชื่อเมื่อปี ค.ศ.2011
นายอานันท์ ปันยารชุน
นายณรงค์ชัย อัครเศรณี
มรว. เกษมสโมสร เกษมศรี
นายสารสิน วีรผล
ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ
    – รายชื่อใน ค.ศ.2013 (น่าจะออกมาปลายปี ค.ศ.2013 หลังจากที่เขียนนิทานมายากลยุทธ หน่อยหนึ่งครับ)
ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ (อดีตเลขาธิการอาเซียน ปริญญาโท ปริญญาเอก มหาวิทยาลัย Harvard)
นางธาริษา วัฒนเกศ (อดีตผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศ ปริญญาตรี, โท ทางเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัย เคโอะ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น)
ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวาณิชย์ (ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ปริญญาโทและเอก วิทยาการคอมพิวเตอร์ จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งโตเกียว )
นายกานต์ ตระกุลฮุน (กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ ไทย ปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตร์ (จุฬา) ปริญญาโท บริหารธุรกิจ The Georgia Institute of Technology (อเมริกา) )
    คนเล่านิทาน
30 พค. 57
    แหกคอก ตอนที่ 8 – นักวิ่ง นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ” ตอนที่ 8 : นักวิ่ง มีกลุ่มนักคิด แล้วจะให้ดีก็ต้องมีกลุ่มคนพูด คนดำเนินการ คนวิ่งเต้นเหมือนเป็น lobbyist แต่เป็น lobbyist ระดับ cream หน้าขนมเค้ก แต่คราวนี้ไม่ใช่เค้กธรรมดาเป็นขนมเค้กประดับมงกุฎเสียด้วย ปี ค.ศ.1954 พวกคนในสังคมระดับสูง ถึงสูงมากๆ ในยุโรป อังกฤษ และอเมริกา จึงรวมตัวกันจัดตั้ง the Bilderberg Group ขึ้นที่ประเทศ Netherlands หลังจากน้ันทุกปี กลุ่มนี้จะจัดประชุมลับ มีคนเข้าร่วมประมาณ 100 กว่าคน จากบุคคลชั้นสูงในวงการเมือง ธุรกิจการเงินการธนาคาร การทหาร บรรษัทข้ามชาติใหญ่ นักวิชาการ สื่อจากอเมริกา (เหนือ) และยุโรปตะวันตก เป็นเครือข่ายของผู้ทรงอิทธิพลรวมถึงพระราชวงศ์ในยุโรปซึ่งสามารถจะคุยกันได้อย่างเปิดอก และไม่ต้องเกรงว่าจะมีการรั่วไหลของการคุย ขาประจำจะเป็นพวกหัวหน้าผู้บริหาร หรือประธานของบรรดาบรรษัทข้ามชาติ ใหญ่ๆ ในโลก บริษัทน้ำมันเช่น Royal Dutch, British Petroleum, Total SA รวมทั้งพระราชวงศ์ในยุโรป นายธนาคารระดับนานาชาติ เช่น (แน่นอน) นาย David Rockefeller ประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี และพวกธนาคารกลางของโลก Bilderberg เป็นถังความคิด แบบเปิดฝาแต่ปิดตัว ตั้งขึ้นด้วยความตั้งใจที่จะเป็นห่วงคล้อง (ชักใย) รัฐบาลกับเศรษฐกิจของยุโรปกับอเมริกา ในระหว่างสงครามเย็นให้ไปในทิศทางเดียวกัน ปี ค.ศ.1970 David Rockefeller เป็นประธานของ CFR และเป็นประธานกรรมการและประธานผู้บริหารของ Chase Manhattan Bank ไปเชิญนักวิชาการเข้ามาร่วมอยู่ ใน CFR (ใช่แล้วครับ เจ้าเก่า) นาย Zbigniew Brzezinski ซึ่งเขียนหนังสือ Between Two ages : Americans Role in the Tecnetronic Era บอกว่าปัจจุบันนี้ ความสนิทสนมกลมเกลียว ความร่วมมือระหว่างรัฐประเทศมันน้อยลง แทนที่จะหันหน้าเข้ามาหากัน ดันตะแคงข้างหรือหันหลังใส่กัน ขณะเดียวกันความร่วมมือระหว่างบรรษัทข้ามชาติด้วยกันมีมากขึ้น เงินมันมีแรงดึงดูดสูงกว่า ดังนั้นจึงควรมีการรวมตัวกันระหว่างประเทศที่พัฒนาแล้ว คือ ประเทศในยุโรปตะวันตก อเมริกา และญี่ปุ่น เพราะต่อจากนี้ไป ธนาคารและบรรษัทข้ามชาติทุนใหญ่ เช่น ธนาคาร บริษัท หรือ องค์กรระหว่างประเทศ จะเป็นผู้มีบทบาทใหญ่ขึ้น ในการกำหนดทิศทางการเมืองของโลกนี้ แล้วในปี ค.ศ.1972 David Rockefeller และนาย Brzezinski ก็เสนอความคิดนี้ในที่ประชุมประจำปีของ Bilderberg หลังจากนั้นผู้ทรงอิทธิพลรุ่นใหญ่เกือบ 20 คน ก็พากันยกโขยงมาพบนาย David ที่บ้าน แล้วก็บอกว่า พร้อมแล้วครับท่าน พวกเราเห็นพ้องกันตามที่ท่านกล่อม (สั่ง !) ค.ศ.1973 Trilateral Commission ซึ่งถือเสมือนเป็นน้องน้อยของ Bilderberg ก็คลอด เป็นการเชื่อมผู้ครองโลกใน 3 ทวีป เข้าด้วยกัน ยุโรปตะวันตก อเมริกา และญี่ปุ่น ขอแจ้งข้อมูลปัจจุบันหน่อยครับ ผมเคยเขียนเกี่ยวกับ Trilateral Commission นี้ เมื่อตอนเขียนนิทานเรื่องมายากลยุทธและผมได้แพลมออกไปว่า มีสมาชิกของ Trilateral Commission เป็นคนไทยด้วย ผมนำชื่อมาลงทั้งหมด ปรากฎว่าหลังจากลงไปได้ไม่เท่าไหร่ เพจผม (บังเอิญ ? !)ออกอาการเหมือนถูกกวนจนเละ หน้าจอเดี๋ยวดับบ้าง เปิดไม่ได้บ้าง ข้อความที่ลงก็หายเป็น ตอนๆ โดยเฉพาะตอนที่มีรายชื่อสมาชิกคนไทยที่โด่งดัง หายแล้วหายอีก ต้องลงซ้ำลงซาก คราวนี้ต้องเขียนถึงกลุ่มนี้อีก เพื่อให้ต่อเนื่องกัน ก็เลยแวะไปเช็คข้อมูล ซึ่งก็มีท่านผู้อ่านรายหนึ่ง inbox มาบอกล่วงหน้าแล้ว (ขอบคุณนะครับ) ผลการเช็คข้อมูลล่าสุดนี้ ปรากฎว่ากรรมการชุดเก่าเปลี่ยนตัวไปกันเกือบหมด ! เขาตั้งคนอื่นมาแทน เลยขอลงรายชื่อ ทั้งเก่าทั้งใหม่ให้ชื่นชมกัน ว่าคนไทยเราก็ติดอันดับโลก แบบนี้เหมือนกัน (แหม ! ไม่กล้าอ้างความดีความชอบว่า เป็นผู้แฉจนต้องมีการเปลี่ยนตัว เดี๋ยวมีคนเชื่อ ฮา !) – รายชื่อเมื่อปี ค.ศ.2011
นายอานันท์ ปันยารชุน
นายณรงค์ชัย อัครเศรณี
มรว. เกษมสโมสร เกษมศรี
นายสารสิน วีรผล
ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ – รายชื่อใน ค.ศ.2013 (น่าจะออกมาปลายปี ค.ศ.2013 หลังจากที่เขียนนิทานมายากลยุทธ หน่อยหนึ่งครับ)
ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ (อดีตเลขาธิการอาเซียน ปริญญาโท ปริญญาเอก มหาวิทยาลัย Harvard)
นางธาริษา วัฒนเกศ (อดีตผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศ ปริญญาตรี, โท ทางเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัย เคโอะ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น)
ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวาณิชย์ (ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ปริญญาโทและเอก วิทยาการคอมพิวเตอร์ จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งโตเกียว )
นายกานต์ ตระกุลฮุน (กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ ไทย ปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตร์ (จุฬา) ปริญญาโท บริหารธุรกิจ The Georgia Institute of Technology (อเมริกา) ) คนเล่านิทาน
30 พค. 57
    0 Comments 0 Shares 189 Views 0 Reviews
  • แหกคอก ตอนที่ 5 – สร้างพระเจ้าองค์ใหม่
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ”
    ตอนที่ 5 : สร้างพระเจ้าองค์ใหม่
    หลัง Anglo American Establishment กอดคอจับมือกันชัดเจน เมื่อประมาณ ค.ศ.1890 ทั้ง 2 ฝ่าย ร่วมกันสร้างกลไก สร้างระบบด้านการเงินการธนาคารเป็นอันดับแรก เพื่อเอาตัวเองนำหน้าชักใยรัฐบาล และลดบทบาทของประเทศ
    ระบบธนาคารกลาง เกิดขึ้นครั้งแรก เมื่อปี ค.ศ.1694 ที่อังกฤษ เป็นการรวมตัวกันของ เครือข่ายธนาคารกลางนานาชาติ ซึ่งไม่ได้เป็นของรัฐ แต่เป็นของเอกชน ! มีผู้ถือหุ้นเป็นเอกชนคนโคตรรวย ธนาคารกลางนี้เป็นผู้อนุญาตให้ รัฐบาล (จำกันให้ดี เงินเป็นใหญ่กว่ารัฐบาล มาตั้งแต่ ค.ศ.1694 แล้ว !) ในการพิมพ์ธนบัตร เงินสกุลต่างๆ ของแต่ละประเทศ โดยอนุญาตให้กำหนดอัตราดอกเบี้ย และทำกำไรจากดอกเบี้ยนั้น ธนาคารกลางเหล่านี้ เป็นผู้ให้เงินกู้แก่รัฐบาล และผู้ประกอบการอุตสาหกรรม เท่ากับควบคุมลูกค้าใหญ่ 2 กลุ่ม 2 ขาของประเทศไปพร้อมๆ กัน ต่อมาภายหลังประมาณ ปี ค.ศ.1930 ธนาคารกลางเหล่านี้ พร้อมใจกันอยู่ในระบบที่พวกตัว เองสร้างขึ้น เรียกว่า Bank for International Settlements (BIS) ตั้งอยู่ที่เมือง Basle ในสวิสเซอร์แลนด์ เป็นธนาคารของเอกชนเช่นเดียวกัน ทำหน้าที่เป็นธนาคารกลางของเหล่าสมาชิกซึ่งเป็นธนาคารกลางต่างๆ (เขียนแล้วมึนเอง คนอ่านก็คงมึน) เอาแบบง่ายๆ BIS ธนาคารกลางตัวแม่นี้ถือหุ้นโดย ธนาคารกลางตัว ลูกๆ ทั้งหลาย ธนาคารกลางตัวลูกก็ถือหุ้นโดยพวกเอกชนคนโคตรรวยอีกต่อหนึ่ง สรุปว่า พวกคนรวยลงทุนลงขันกันเอง เพื่อตั้งธนาคารกลาง และไม่ให้ใครมายุ่ง เขาดูแลเงินของเขากันเอง ตั้งกฎกติกาเอง โดยให้แม่ BIS คุม รัฐบาลได้แต่ทำตาปริบๆ ดู หน้าจ๋อย มือกุม ก้มหน้า รับคำสั่งรับอำนาจมาจากคนรวยอีกทีหนึ่ง เข้าใจไหม คนรวยใหญ่กว่ารัฐบาล ถึงพูดกันว่าเงินเป็นพระเจ้า
    ระบบธนาคารกลางนี้ หลังจากเกิดขึ้นครั้งแรกที่ London ไปได้สวย คนรวยติดใจ จึงขยายตัวข้ามมาในทวีปยุโรปตะวันตก และกระจายทั่วไปในทวีปยุโรป การปฏิวัติในฝรั่งเศส ทำให้นโปเลียนขึ้นมามีอำนาจ และยอมให้บรรดานายทุนที่รวมตัวกันให้เงินกู้นโปเลียนไปทำการปฏิวัตินั่นแหละ จับมือร่วมกันจัดตั้งธนาคารในฝรั่งเศสขึ้น เป็นธนาคารส่วนบุคคล ที่พวกนายทุนนี้ควบคุมกันเอง รัฐบาลไม่เกี่ยว ธนาคารนี้เป็นต้นกำเนิดของตระกูลโคตรรวยทางฝั่งยุโรป คือ ตระกูล Rothshilds ชาวยิวในยุโรป ซึ่งขยายธุรกิจการเงินของตระกูล โดยการตั้งธนาคารใน London, Paris, Frankfurt, Vienna และ Naples ทำให้ตระกูลนี้ยิ่งรวยเละขึ้นไปอีก และยิ่งรวยเพิ่มขึ้น จากการไปถือหางทุกฝ่ายในการรบทุกครั้งของนโปเลียน (ต้นกำเนิดของการถือไพ่ทุกใบในการต่อสู้ มีเงินซื้อไพ่ทุกใบ มีไพ่ให้เลือกเล่นแยะ เล่นยังไงก็ชนะ ยกเว้นโคตรโง่ หรือ โคตรเลว จนเทวดาบอกมีเงินมากมายมหาศาลแค่ไหนก็ช่วยอะไรพวกเจ้าไม่ได้ ตัวอย่างกำลังมีให้เห็นในบ้านเรา !)
    นาย Carroll Quigley นักประวัติศาสตร์ นักทฤษฎี เจ้าความคิดกำเนิดแห่งศิวิไลย์ของมนุษยชาติ แห่งมหาวิทยาลัย Georgetown เขียนไว้ในหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งบรรดาสาวกทั้งหลายถือเป็นคัมภีร์ ชื่อ Tragedy and Hope บอกว่าในช่วง ค.ศ.18101850 พวกวาณิชธนกิจใน London ได้สร้าง ธนาคารแห่งอังกฤษ (Bank of England) ตลาดหุ้นและตลาดเงินแห่ง London และไม่นานหลังจากนั้น พวกเขาก็ขยายธุรกิจ โดยการสร้างธนาคารย่อยในระดับเมือง ต่างๆ ดำเนินกิจการ ในรูปแบบของธนาคารพาณิชย์ และธนาคารออมสิน รวมทั้งทำธุรกิจประกันภัย ธุรกิจ 3 อย่างนี้ มันหมุนเงิน สร้างเงินในตัวของมันเองตามวงจร เขาจึงรวมธุรกิจพวกนี้ไว้ด้วยกัน ในระดับที่ใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ จนเป็นระดับระหว่างประเทศ จากเมืองไปสู่ประเทศ และด้วยวิธีนี้พวกเขาสามารถชักใย ควบคุมการไหลเข้าออก ของเงินระหว่างประเทศ แน่นอนการดำเนินการแบบนี้ ถึงแม้ในบางครั้งอาจจะควบคุมไม่ได้เบ็ดเสร็จ แต่ก็เรียกว่ามีอิทธิพล เหนือทั้งรัฐบาลและธุรกิจอุตสาหกรรม เงินไม่มี กิจการต่างๆไม่ว่าทางการเมืองหรือธุรกิจก็เป็นง่อยเรียบร้อย ตรงไปตรงมา ไม่ต้องฉลาดมากก็คิดได้ ขอให้มีเงินไว้ก่อน !
    ในขณะเดียวกัน ทางอีกฟากหนึ่งของมหาสมุทรแอตแลนติก ในอเมริกาก็มีการรวมตัวของกลุ่มธนาคารและธุรกิจอุตสาหกรรมในลักษณะนี้เช่นเดียวกัน โดยพวก Morgans, Astors, Vanderbilts, Rockefellers และ Carnegies กลุ่มทุนพวกนี้ก็เริ่มครอบงำอุตสาหกรรมทั้งหมด ตลอดศตวรรษที่ 19 และต่อมาผลประโยชน์ของนายทุนทั้ง 2 ฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติคก็เชื่อมโยงกัน คนมีเงินก็ย่อมเลือกที่จะคบกับคนมีเงินด้วยกัน Anglo American Establishment ก็เกิดขึ้น
    คนรวยมีเงินแล้วก็อยากมีอำนาจ เป็นโรคเดียวกันทั้งนั้น ไม่มีใครต่างกัน กลับมาดูคนรวยที่อังกฤษ พวกคนรวยในอังกฤษเริ่มจับกลุ่มรวมตัวกัน เพื่อแสดงอิทธิพลของตนในระดับชาติ ช่วงนั้นนักล่าแถบนั้น กำลังรุมทิ้งเหยื่ออยู่แถวอาฟริกา ซึ่งเกือบทุกประเทศในอาฟริกา ยกเว้นเอธิโอเปีย ตกเป็นอาณานิคมของนักล่าผมทองจากอังกฤษและยุโรปทั้งสิ้น นักล่าที่มีชื่อเสียงโด่งดังในยุคนั้นคือ นาย Cecil Rhodes นักล่าชาวอังกฤษเป็นคนลงไม้ลงมือล่า แต่กระเป๋าที่อุดหนุนให้เขาปฏิบัติการล่า คือ ตระกูล Rothshilds ซึ่งในช่วงนั้น เป็นแหล่งเงินทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก นาย Cecil Rhodes เป็นคนสุดโต่งอีกคนหนึ่ง เขามองว่าอเมริกายังเป็นอาณานิ คมของจักรภพอังกฤษอยู่ จะปล่อยให้มาทำท่ารวยยะโส เดินหน้าเชิด เทียบชั้นกับอังกฤษ เจ้านายเก่าแบบนี้น่ะ มันจะมากไปหน่อยไหม นาย Rhodes มองตัวเองไม่ใช่แค่เป็นนักล่าเงินรางวัล แต่เขาเป็นนักสร้างอาณาจักร empire builder อย่าลืมเขาสร้างเมือง Rhodesia ในอาฟริกา ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น Zimbabwe
    Carroll Quigley เล่าต่อไปว่า ค.ศ.1891 คนโคตรรวยอังกฤษ 3 หนุ่ม แอบพบกัน เพื่อสมคบกันสร้างสมาคมลับ 3 หนุ่มคือนาย Cecil Rhodes, William T. Stead พี่เบิ้มแห่งวงการหนังสือพิมพ์สมัยนั้น (น่าสังเกตว่า ถ้าจะทำอะไรให้ดังต้องมีสื่อยักษ์มาร่วม มิน่าเล่า มันถึงอยากเป็นสื่อใหญ่กันทั้งนั้น ถีบตัวเองขึ้นมา จนลืมจรรยาบรรณ ฐานันดรที่ 4) และนาย Reginald Baliol Brett ซึ่งเป็นพระสหายผู้ได้รับความไว้วางใจ จากพระราชินีวิกตอเรีย แห่งจักรภพอังกฤษ และต่อมาก็ได้เป็นที่ปรึกษาผู้ มีอิทธิพลต่อพระเจ้า Edward ที่ 7 และพระเจ้า George ที่ 5 ปู่ของพระราชินีElizabeth ที่ 2 ของอังกฤษคนปัจจุบัน สมาคมลับนี้มีนาย Rhodes เป็นหัวหน้า และพระอันดับอีก 3 คน คือ นาย Stead, นาย Brett และคนสุดท้ายแต่มาแรง คือ นาย Alfred Milner
    วัตถุประสงค์ของสมาคมลับนี้ ซึ่งต่อไปจะนำฝูงโดยนาย Alfred Milner คือจัดการให้อังกฤษปกครองไปทั่วโลก ด้วยระบบของอังกฤษ ไม่ว่าจะในด้านปกครองประชาชนหรือทำการค้า พูดให้ชัด เป้าหมายคือจัดการให้อเมริกากลับมาอยู่ในอาณานิคมของอังกฤษ ใช้ระบบอังกฤษดำเนินชีวิต และอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ แนวคิดนี้ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่ม Rothshilds และกลุ่มธนาคารต่างๆ เต็มที่อย่างลับๆ
    คนเล่านิทาน
30 พค. 57
    แหกคอก ตอนที่ 5 – สร้างพระเจ้าองค์ใหม่ นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ” ตอนที่ 5 : สร้างพระเจ้าองค์ใหม่ หลัง Anglo American Establishment กอดคอจับมือกันชัดเจน เมื่อประมาณ ค.ศ.1890 ทั้ง 2 ฝ่าย ร่วมกันสร้างกลไก สร้างระบบด้านการเงินการธนาคารเป็นอันดับแรก เพื่อเอาตัวเองนำหน้าชักใยรัฐบาล และลดบทบาทของประเทศ ระบบธนาคารกลาง เกิดขึ้นครั้งแรก เมื่อปี ค.ศ.1694 ที่อังกฤษ เป็นการรวมตัวกันของ เครือข่ายธนาคารกลางนานาชาติ ซึ่งไม่ได้เป็นของรัฐ แต่เป็นของเอกชน ! มีผู้ถือหุ้นเป็นเอกชนคนโคตรรวย ธนาคารกลางนี้เป็นผู้อนุญาตให้ รัฐบาล (จำกันให้ดี เงินเป็นใหญ่กว่ารัฐบาล มาตั้งแต่ ค.ศ.1694 แล้ว !) ในการพิมพ์ธนบัตร เงินสกุลต่างๆ ของแต่ละประเทศ โดยอนุญาตให้กำหนดอัตราดอกเบี้ย และทำกำไรจากดอกเบี้ยนั้น ธนาคารกลางเหล่านี้ เป็นผู้ให้เงินกู้แก่รัฐบาล และผู้ประกอบการอุตสาหกรรม เท่ากับควบคุมลูกค้าใหญ่ 2 กลุ่ม 2 ขาของประเทศไปพร้อมๆ กัน ต่อมาภายหลังประมาณ ปี ค.ศ.1930 ธนาคารกลางเหล่านี้ พร้อมใจกันอยู่ในระบบที่พวกตัว เองสร้างขึ้น เรียกว่า Bank for International Settlements (BIS) ตั้งอยู่ที่เมือง Basle ในสวิสเซอร์แลนด์ เป็นธนาคารของเอกชนเช่นเดียวกัน ทำหน้าที่เป็นธนาคารกลางของเหล่าสมาชิกซึ่งเป็นธนาคารกลางต่างๆ (เขียนแล้วมึนเอง คนอ่านก็คงมึน) เอาแบบง่ายๆ BIS ธนาคารกลางตัวแม่นี้ถือหุ้นโดย ธนาคารกลางตัว ลูกๆ ทั้งหลาย ธนาคารกลางตัวลูกก็ถือหุ้นโดยพวกเอกชนคนโคตรรวยอีกต่อหนึ่ง สรุปว่า พวกคนรวยลงทุนลงขันกันเอง เพื่อตั้งธนาคารกลาง และไม่ให้ใครมายุ่ง เขาดูแลเงินของเขากันเอง ตั้งกฎกติกาเอง โดยให้แม่ BIS คุม รัฐบาลได้แต่ทำตาปริบๆ ดู หน้าจ๋อย มือกุม ก้มหน้า รับคำสั่งรับอำนาจมาจากคนรวยอีกทีหนึ่ง เข้าใจไหม คนรวยใหญ่กว่ารัฐบาล ถึงพูดกันว่าเงินเป็นพระเจ้า ระบบธนาคารกลางนี้ หลังจากเกิดขึ้นครั้งแรกที่ London ไปได้สวย คนรวยติดใจ จึงขยายตัวข้ามมาในทวีปยุโรปตะวันตก และกระจายทั่วไปในทวีปยุโรป การปฏิวัติในฝรั่งเศส ทำให้นโปเลียนขึ้นมามีอำนาจ และยอมให้บรรดานายทุนที่รวมตัวกันให้เงินกู้นโปเลียนไปทำการปฏิวัตินั่นแหละ จับมือร่วมกันจัดตั้งธนาคารในฝรั่งเศสขึ้น เป็นธนาคารส่วนบุคคล ที่พวกนายทุนนี้ควบคุมกันเอง รัฐบาลไม่เกี่ยว ธนาคารนี้เป็นต้นกำเนิดของตระกูลโคตรรวยทางฝั่งยุโรป คือ ตระกูล Rothshilds ชาวยิวในยุโรป ซึ่งขยายธุรกิจการเงินของตระกูล โดยการตั้งธนาคารใน London, Paris, Frankfurt, Vienna และ Naples ทำให้ตระกูลนี้ยิ่งรวยเละขึ้นไปอีก และยิ่งรวยเพิ่มขึ้น จากการไปถือหางทุกฝ่ายในการรบทุกครั้งของนโปเลียน (ต้นกำเนิดของการถือไพ่ทุกใบในการต่อสู้ มีเงินซื้อไพ่ทุกใบ มีไพ่ให้เลือกเล่นแยะ เล่นยังไงก็ชนะ ยกเว้นโคตรโง่ หรือ โคตรเลว จนเทวดาบอกมีเงินมากมายมหาศาลแค่ไหนก็ช่วยอะไรพวกเจ้าไม่ได้ ตัวอย่างกำลังมีให้เห็นในบ้านเรา !) นาย Carroll Quigley นักประวัติศาสตร์ นักทฤษฎี เจ้าความคิดกำเนิดแห่งศิวิไลย์ของมนุษยชาติ แห่งมหาวิทยาลัย Georgetown เขียนไว้ในหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งบรรดาสาวกทั้งหลายถือเป็นคัมภีร์ ชื่อ Tragedy and Hope บอกว่าในช่วง ค.ศ.18101850 พวกวาณิชธนกิจใน London ได้สร้าง ธนาคารแห่งอังกฤษ (Bank of England) ตลาดหุ้นและตลาดเงินแห่ง London และไม่นานหลังจากนั้น พวกเขาก็ขยายธุรกิจ โดยการสร้างธนาคารย่อยในระดับเมือง ต่างๆ ดำเนินกิจการ ในรูปแบบของธนาคารพาณิชย์ และธนาคารออมสิน รวมทั้งทำธุรกิจประกันภัย ธุรกิจ 3 อย่างนี้ มันหมุนเงิน สร้างเงินในตัวของมันเองตามวงจร เขาจึงรวมธุรกิจพวกนี้ไว้ด้วยกัน ในระดับที่ใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ จนเป็นระดับระหว่างประเทศ จากเมืองไปสู่ประเทศ และด้วยวิธีนี้พวกเขาสามารถชักใย ควบคุมการไหลเข้าออก ของเงินระหว่างประเทศ แน่นอนการดำเนินการแบบนี้ ถึงแม้ในบางครั้งอาจจะควบคุมไม่ได้เบ็ดเสร็จ แต่ก็เรียกว่ามีอิทธิพล เหนือทั้งรัฐบาลและธุรกิจอุตสาหกรรม เงินไม่มี กิจการต่างๆไม่ว่าทางการเมืองหรือธุรกิจก็เป็นง่อยเรียบร้อย ตรงไปตรงมา ไม่ต้องฉลาดมากก็คิดได้ ขอให้มีเงินไว้ก่อน ! ในขณะเดียวกัน ทางอีกฟากหนึ่งของมหาสมุทรแอตแลนติก ในอเมริกาก็มีการรวมตัวของกลุ่มธนาคารและธุรกิจอุตสาหกรรมในลักษณะนี้เช่นเดียวกัน โดยพวก Morgans, Astors, Vanderbilts, Rockefellers และ Carnegies กลุ่มทุนพวกนี้ก็เริ่มครอบงำอุตสาหกรรมทั้งหมด ตลอดศตวรรษที่ 19 และต่อมาผลประโยชน์ของนายทุนทั้ง 2 ฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติคก็เชื่อมโยงกัน คนมีเงินก็ย่อมเลือกที่จะคบกับคนมีเงินด้วยกัน Anglo American Establishment ก็เกิดขึ้น คนรวยมีเงินแล้วก็อยากมีอำนาจ เป็นโรคเดียวกันทั้งนั้น ไม่มีใครต่างกัน กลับมาดูคนรวยที่อังกฤษ พวกคนรวยในอังกฤษเริ่มจับกลุ่มรวมตัวกัน เพื่อแสดงอิทธิพลของตนในระดับชาติ ช่วงนั้นนักล่าแถบนั้น กำลังรุมทิ้งเหยื่ออยู่แถวอาฟริกา ซึ่งเกือบทุกประเทศในอาฟริกา ยกเว้นเอธิโอเปีย ตกเป็นอาณานิคมของนักล่าผมทองจากอังกฤษและยุโรปทั้งสิ้น นักล่าที่มีชื่อเสียงโด่งดังในยุคนั้นคือ นาย Cecil Rhodes นักล่าชาวอังกฤษเป็นคนลงไม้ลงมือล่า แต่กระเป๋าที่อุดหนุนให้เขาปฏิบัติการล่า คือ ตระกูล Rothshilds ซึ่งในช่วงนั้น เป็นแหล่งเงินทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก นาย Cecil Rhodes เป็นคนสุดโต่งอีกคนหนึ่ง เขามองว่าอเมริกายังเป็นอาณานิ คมของจักรภพอังกฤษอยู่ จะปล่อยให้มาทำท่ารวยยะโส เดินหน้าเชิด เทียบชั้นกับอังกฤษ เจ้านายเก่าแบบนี้น่ะ มันจะมากไปหน่อยไหม นาย Rhodes มองตัวเองไม่ใช่แค่เป็นนักล่าเงินรางวัล แต่เขาเป็นนักสร้างอาณาจักร empire builder อย่าลืมเขาสร้างเมือง Rhodesia ในอาฟริกา ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น Zimbabwe Carroll Quigley เล่าต่อไปว่า ค.ศ.1891 คนโคตรรวยอังกฤษ 3 หนุ่ม แอบพบกัน เพื่อสมคบกันสร้างสมาคมลับ 3 หนุ่มคือนาย Cecil Rhodes, William T. Stead พี่เบิ้มแห่งวงการหนังสือพิมพ์สมัยนั้น (น่าสังเกตว่า ถ้าจะทำอะไรให้ดังต้องมีสื่อยักษ์มาร่วม มิน่าเล่า มันถึงอยากเป็นสื่อใหญ่กันทั้งนั้น ถีบตัวเองขึ้นมา จนลืมจรรยาบรรณ ฐานันดรที่ 4) และนาย Reginald Baliol Brett ซึ่งเป็นพระสหายผู้ได้รับความไว้วางใจ จากพระราชินีวิกตอเรีย แห่งจักรภพอังกฤษ และต่อมาก็ได้เป็นที่ปรึกษาผู้ มีอิทธิพลต่อพระเจ้า Edward ที่ 7 และพระเจ้า George ที่ 5 ปู่ของพระราชินีElizabeth ที่ 2 ของอังกฤษคนปัจจุบัน สมาคมลับนี้มีนาย Rhodes เป็นหัวหน้า และพระอันดับอีก 3 คน คือ นาย Stead, นาย Brett และคนสุดท้ายแต่มาแรง คือ นาย Alfred Milner วัตถุประสงค์ของสมาคมลับนี้ ซึ่งต่อไปจะนำฝูงโดยนาย Alfred Milner คือจัดการให้อังกฤษปกครองไปทั่วโลก ด้วยระบบของอังกฤษ ไม่ว่าจะในด้านปกครองประชาชนหรือทำการค้า พูดให้ชัด เป้าหมายคือจัดการให้อเมริกากลับมาอยู่ในอาณานิคมของอังกฤษ ใช้ระบบอังกฤษดำเนินชีวิต และอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ แนวคิดนี้ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่ม Rothshilds และกลุ่มธนาคารต่างๆ เต็มที่อย่างลับๆ คนเล่านิทาน
30 พค. 57
    0 Comments 0 Shares 234 Views 0 Reviews
  • “บริการป้องกัน DDoS กลายเป็นเหยื่อของการโจมตี DDoS ขนาดมหึมา — FastNetMon ตรวจจับได้ทันก่อนระบบล่ม”

    ในเหตุการณ์ที่ชวนให้ตั้งคำถามถึงความมั่นคงของโครงสร้างอินเทอร์เน็ต บริการป้องกัน DDoS รายหนึ่งในยุโรปตะวันตกกลับกลายเป็นเป้าหมายของการโจมตี DDoS ขนาดใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ โดยมีปริมาณการโจมตีสูงถึง 1.5 พันล้านแพ็กเก็ตต่อวินาที (1.5 Gpps) ซึ่งเป็นการโจมตีแบบ UDP flood ที่มาจากอุปกรณ์ลูกค้าทั่วโลกกว่า 11,000 เครือข่าย2.

    แม้จะเป็นบริการที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันการโจมตีลักษณะนี้ แต่ครั้งนี้ก็ต้องพึ่งพาการช่วยเหลือจาก FastNetMon ซึ่งสามารถตรวจจับและบรรเทาการโจมตีได้ภายในไม่กี่วินาที ด้วยแพลตฟอร์มที่ใช้ algorithm แบบ C++ ที่ปรับแต่งมาเพื่อการวิเคราะห์ทราฟฟิกแบบเรียลไทม์

    สิ่งที่ทำให้การโจมตีครั้งนี้น่ากังวลคือการใช้ “อุปกรณ์ทั่วไปในบ้าน” เช่น เราเตอร์และ IoT ที่ถูกแฮกมาเป็นเครื่องมือโจมตี ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มใหม่ของการ weaponize อุปกรณ์ผู้บริโภคในระดับมหาศาล โดย FastNetMon เตือนว่า หากไม่มีการกรองทราฟฟิกที่ระดับ ISP การโจมตีลักษณะนี้จะยิ่งขยายตัวและควบคุมได้ยาก

    แม้จะไม่ใช่การโจมตีที่ใหญ่ที่สุดในแง่ของ bandwidth (Cloudflare เคยรับมือกับการโจมตีขนาด 11.5 Tbps และ 5.1 พันล้านแพ็กเก็ตต่อวินาที) แต่การโจมตีครั้งนี้ก็ถือเป็นหนึ่งในระดับ packet-rate ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเปิดเผยต่อสาธารณะ และเป็นสัญญาณเตือนว่าโลกไซเบอร์กำลังเข้าสู่ยุคที่การโจมตีสามารถเกิดขึ้นจากอุปกรณ์ที่เราใช้อยู่ทุกวัน

    รายละเอียดของการโจมตี DDoS ครั้งใหญ่
    เป้าหมายคือผู้ให้บริการ DDoS scrubbing ในยุโรปตะวันตก
    ปริมาณการโจมตีสูงถึง 1.5 พันล้านแพ็กเก็ตต่อวินาที (1.5 Gpps)
    ใช้เทคนิค UDP flood จากอุปกรณ์ CPE ที่ถูกแฮก เช่น IoT และเราเตอร์
    มาจากกว่า 11,000 เครือข่ายทั่วโลก — สะท้อนการกระจายตัวระดับมหาศาล

    การตอบสนองของ FastNetMon
    ใช้แพลตฟอร์ม Advanced ที่เขียนด้วย C++ สำหรับการตรวจจับแบบเรียลไทม์
    ตรวจจับได้ภายในไม่กี่วินาที — ป้องกันระบบล่มได้ทัน
    ใช้ ACL บน edge routers เพื่อบล็อกทราฟฟิกที่เป็นอันตราย
    เตือนให้มีการกรองทราฟฟิกที่ระดับ ISP เพื่อป้องกันการโจมตีในอนาคต

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Cloudflare เคยรับมือกับการโจมตีขนาด 11.5 Tbps และ 5.1 Bpps เพียงไม่กี่วันก่อนหน้า
    UDP เป็นโปรโตคอลที่นิยมใช้โจมตี เพราะไม่ต้องมี handshake แบบ TCP
    อุปกรณ์ CPE ที่ไม่ได้รับการอัปเดตหรือมีรหัสผ่านเริ่มต้น เป็นเป้าหมายหลักของการแฮก
    การโจมตีแบบ packet-rate flood มุ่งทำลาย state table และ buffer ของอุปกรณ์เครือข่าย

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/ddos-scrubbing-service-ironic-target-of-massive-attack-it-was-built-to-prevent-hit-with-1-5-billion-packets-per-second-from-more-than-11-000-distributed-networks
    🌐 “บริการป้องกัน DDoS กลายเป็นเหยื่อของการโจมตี DDoS ขนาดมหึมา — FastNetMon ตรวจจับได้ทันก่อนระบบล่ม” ในเหตุการณ์ที่ชวนให้ตั้งคำถามถึงความมั่นคงของโครงสร้างอินเทอร์เน็ต บริการป้องกัน DDoS รายหนึ่งในยุโรปตะวันตกกลับกลายเป็นเป้าหมายของการโจมตี DDoS ขนาดใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ โดยมีปริมาณการโจมตีสูงถึง 1.5 พันล้านแพ็กเก็ตต่อวินาที (1.5 Gpps) ซึ่งเป็นการโจมตีแบบ UDP flood ที่มาจากอุปกรณ์ลูกค้าทั่วโลกกว่า 11,000 เครือข่าย2. แม้จะเป็นบริการที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันการโจมตีลักษณะนี้ แต่ครั้งนี้ก็ต้องพึ่งพาการช่วยเหลือจาก FastNetMon ซึ่งสามารถตรวจจับและบรรเทาการโจมตีได้ภายในไม่กี่วินาที ด้วยแพลตฟอร์มที่ใช้ algorithm แบบ C++ ที่ปรับแต่งมาเพื่อการวิเคราะห์ทราฟฟิกแบบเรียลไทม์ สิ่งที่ทำให้การโจมตีครั้งนี้น่ากังวลคือการใช้ “อุปกรณ์ทั่วไปในบ้าน” เช่น เราเตอร์และ IoT ที่ถูกแฮกมาเป็นเครื่องมือโจมตี ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มใหม่ของการ weaponize อุปกรณ์ผู้บริโภคในระดับมหาศาล โดย FastNetMon เตือนว่า หากไม่มีการกรองทราฟฟิกที่ระดับ ISP การโจมตีลักษณะนี้จะยิ่งขยายตัวและควบคุมได้ยาก แม้จะไม่ใช่การโจมตีที่ใหญ่ที่สุดในแง่ของ bandwidth (Cloudflare เคยรับมือกับการโจมตีขนาด 11.5 Tbps และ 5.1 พันล้านแพ็กเก็ตต่อวินาที) แต่การโจมตีครั้งนี้ก็ถือเป็นหนึ่งในระดับ packet-rate ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเปิดเผยต่อสาธารณะ และเป็นสัญญาณเตือนว่าโลกไซเบอร์กำลังเข้าสู่ยุคที่การโจมตีสามารถเกิดขึ้นจากอุปกรณ์ที่เราใช้อยู่ทุกวัน ✅ รายละเอียดของการโจมตี DDoS ครั้งใหญ่ ➡️ เป้าหมายคือผู้ให้บริการ DDoS scrubbing ในยุโรปตะวันตก ➡️ ปริมาณการโจมตีสูงถึง 1.5 พันล้านแพ็กเก็ตต่อวินาที (1.5 Gpps) ➡️ ใช้เทคนิค UDP flood จากอุปกรณ์ CPE ที่ถูกแฮก เช่น IoT และเราเตอร์ ➡️ มาจากกว่า 11,000 เครือข่ายทั่วโลก — สะท้อนการกระจายตัวระดับมหาศาล ✅ การตอบสนองของ FastNetMon ➡️ ใช้แพลตฟอร์ม Advanced ที่เขียนด้วย C++ สำหรับการตรวจจับแบบเรียลไทม์ ➡️ ตรวจจับได้ภายในไม่กี่วินาที — ป้องกันระบบล่มได้ทัน ➡️ ใช้ ACL บน edge routers เพื่อบล็อกทราฟฟิกที่เป็นอันตราย ➡️ เตือนให้มีการกรองทราฟฟิกที่ระดับ ISP เพื่อป้องกันการโจมตีในอนาคต ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Cloudflare เคยรับมือกับการโจมตีขนาด 11.5 Tbps และ 5.1 Bpps เพียงไม่กี่วันก่อนหน้า ➡️ UDP เป็นโปรโตคอลที่นิยมใช้โจมตี เพราะไม่ต้องมี handshake แบบ TCP ➡️ อุปกรณ์ CPE ที่ไม่ได้รับการอัปเดตหรือมีรหัสผ่านเริ่มต้น เป็นเป้าหมายหลักของการแฮก ➡️ การโจมตีแบบ packet-rate flood มุ่งทำลาย state table และ buffer ของอุปกรณ์เครือข่าย https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/ddos-scrubbing-service-ironic-target-of-massive-attack-it-was-built-to-prevent-hit-with-1-5-billion-packets-per-second-from-more-than-11-000-distributed-networks
    0 Comments 0 Shares 178 Views 0 Reviews
  • “DDoS ระดับพันล้านแพ็กเก็ตต่อวินาที — FastNetMon ตรวจจับการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดที่เคยเปิดเผย”

    FastNetMon ผู้ให้บริการด้านความปลอดภัยเครือข่าย ประกาศตรวจพบการโจมตีแบบ DDoS ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเปิดเผยต่อสาธารณะ โดยมีอัตราการส่งข้อมูลสูงถึง 1.5 พันล้านแพ็กเก็ตต่อวินาที (1.5 Gpps) ซึ่งเป็นการโจมตีแบบ UDP flood ที่มุ่งเป้าไปยังเว็บไซต์ของผู้ให้บริการ DDoS scrubbing รายใหญ่ในยุโรปตะวันตก

    สิ่งที่น่าตกใจคือการโจมตีนี้ไม่ได้ใช้ botnet แบบเดิม แต่ใช้ “อุปกรณ์ลูกค้า” (CPE) ที่ถูกแฮก เช่น เราเตอร์และอุปกรณ์ IoT จากกว่า 11,000 เครือข่ายทั่วโลก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มใหม่ของการใช้ฮาร์ดแวร์ทั่วไปเป็นอาวุธไซเบอร์

    FastNetMon ใช้แพลตฟอร์ม Advanced ที่เขียนด้วย C++ เพื่อวิเคราะห์ทราฟฟิกแบบเรียลไทม์ และสามารถตรวจจับการโจมตีได้ภายในไม่กี่วินาที พร้อมส่งสัญญาณเตือนและเริ่มกระบวนการบรรเทาทันที โดยใช้ ACL บน edge routers และระบบ scrubbing ของลูกค้า

    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจาก Cloudflare รายงานการโจมตีแบบ volumetric ที่มีขนาดถึง 11.5 Tbps ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้โจมตีกำลังเพิ่มทั้ง “ปริมาณข้อมูล” และ “จำนวนแพ็กเก็ต” เพื่อเจาะระบบในหลายมิติพร้อมกัน

    Pavel Odintsov ผู้ก่อตั้ง FastNetMon เตือนว่า อุตสาหกรรมต้องเร่งพัฒนาเทคโนโลยีตรวจจับที่ระดับ ISP เพื่อป้องกันการโจมตีจากอุปกรณ์ที่ถูกแฮกก่อนที่มันจะขยายตัวเป็นระดับมหึมา

    รายละเอียดการโจมตี DDoS ครั้งใหญ่
    อัตราการโจมตีสูงถึง 1.5 พันล้านแพ็กเก็ตต่อวินาที (1.5 Gpps)
    เป็นการโจมตีแบบ UDP flood ที่มุ่งเป้าไปยังผู้ให้บริการ DDoS scrubbing
    ใช้อุปกรณ์ CPE ที่ถูกแฮก เช่น เราเตอร์และ IoT จากกว่า 11,000 เครือข่าย
    FastNetMon ตรวจจับได้ภายในไม่กี่วินาที และเริ่มบรรเทาทันที

    เทคโนโลยีที่ใช้ในการตรวจจับ
    FastNetMon Advanced ใช้ C++ algorithm สำหรับการวิเคราะห์แบบเรียลไทม์
    รองรับ Netflow/IPFIX, sFlow และ SPAN mode สำหรับเครือข่ายขนาดใหญ่
    ใช้ ACL บน edge routers เพื่อบล็อกทราฟฟิกที่เป็นอันตราย
    ระบบสามารถใช้ CPU ได้เต็มประสิทธิภาพในการตรวจจับแบบ high-speed

    แนวโน้มและผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    การโจมตีแบบ packet-rate flood กำลังเพิ่มขึ้นควบคู่กับ volumetric attack
    อุปกรณ์ทั่วไปถูกใช้เป็นอาวุธไซเบอร์ — ไม่ใช่แค่เซิร์ฟเวอร์หรือ botnet
    การตรวจจับที่ระดับ ISP เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อหยุดการโจมตีตั้งแต่ต้นทาง
    Cloudflare รายงานการโจมตี 11.5 Tbps เพียงไม่กี่วันก่อนหน้านี้

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    MikroTik routers และ IP cameras เป็นเป้าหมายหลักของการแฮก CPE
    การโจมตีแบบ Gpps มุ่งทำลาย state table และ buffer ของอุปกรณ์เครือข่าย
    FastNetMon Community Edition ก็สามารถตรวจจับได้ในระดับพื้นฐาน
    การโจมตีแบบนี้อาจทำให้ระบบที่มี bandwidth สูงแต่ CPU ต่ำล่มได้ทันที

    https://hackread.com/1-5-billion-packets-per-second-ddos-attack-detected-with-fastnetmon/
    🌐 “DDoS ระดับพันล้านแพ็กเก็ตต่อวินาที — FastNetMon ตรวจจับการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดที่เคยเปิดเผย” FastNetMon ผู้ให้บริการด้านความปลอดภัยเครือข่าย ประกาศตรวจพบการโจมตีแบบ DDoS ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเปิดเผยต่อสาธารณะ โดยมีอัตราการส่งข้อมูลสูงถึง 1.5 พันล้านแพ็กเก็ตต่อวินาที (1.5 Gpps) ซึ่งเป็นการโจมตีแบบ UDP flood ที่มุ่งเป้าไปยังเว็บไซต์ของผู้ให้บริการ DDoS scrubbing รายใหญ่ในยุโรปตะวันตก สิ่งที่น่าตกใจคือการโจมตีนี้ไม่ได้ใช้ botnet แบบเดิม แต่ใช้ “อุปกรณ์ลูกค้า” (CPE) ที่ถูกแฮก เช่น เราเตอร์และอุปกรณ์ IoT จากกว่า 11,000 เครือข่ายทั่วโลก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มใหม่ของการใช้ฮาร์ดแวร์ทั่วไปเป็นอาวุธไซเบอร์ FastNetMon ใช้แพลตฟอร์ม Advanced ที่เขียนด้วย C++ เพื่อวิเคราะห์ทราฟฟิกแบบเรียลไทม์ และสามารถตรวจจับการโจมตีได้ภายในไม่กี่วินาที พร้อมส่งสัญญาณเตือนและเริ่มกระบวนการบรรเทาทันที โดยใช้ ACL บน edge routers และระบบ scrubbing ของลูกค้า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจาก Cloudflare รายงานการโจมตีแบบ volumetric ที่มีขนาดถึง 11.5 Tbps ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้โจมตีกำลังเพิ่มทั้ง “ปริมาณข้อมูล” และ “จำนวนแพ็กเก็ต” เพื่อเจาะระบบในหลายมิติพร้อมกัน Pavel Odintsov ผู้ก่อตั้ง FastNetMon เตือนว่า อุตสาหกรรมต้องเร่งพัฒนาเทคโนโลยีตรวจจับที่ระดับ ISP เพื่อป้องกันการโจมตีจากอุปกรณ์ที่ถูกแฮกก่อนที่มันจะขยายตัวเป็นระดับมหึมา ✅ รายละเอียดการโจมตี DDoS ครั้งใหญ่ ➡️ อัตราการโจมตีสูงถึง 1.5 พันล้านแพ็กเก็ตต่อวินาที (1.5 Gpps) ➡️ เป็นการโจมตีแบบ UDP flood ที่มุ่งเป้าไปยังผู้ให้บริการ DDoS scrubbing ➡️ ใช้อุปกรณ์ CPE ที่ถูกแฮก เช่น เราเตอร์และ IoT จากกว่า 11,000 เครือข่าย ➡️ FastNetMon ตรวจจับได้ภายในไม่กี่วินาที และเริ่มบรรเทาทันที ✅ เทคโนโลยีที่ใช้ในการตรวจจับ ➡️ FastNetMon Advanced ใช้ C++ algorithm สำหรับการวิเคราะห์แบบเรียลไทม์ ➡️ รองรับ Netflow/IPFIX, sFlow และ SPAN mode สำหรับเครือข่ายขนาดใหญ่ ➡️ ใช้ ACL บน edge routers เพื่อบล็อกทราฟฟิกที่เป็นอันตราย ➡️ ระบบสามารถใช้ CPU ได้เต็มประสิทธิภาพในการตรวจจับแบบ high-speed ✅ แนวโน้มและผลกระทบต่ออุตสาหกรรม ➡️ การโจมตีแบบ packet-rate flood กำลังเพิ่มขึ้นควบคู่กับ volumetric attack ➡️ อุปกรณ์ทั่วไปถูกใช้เป็นอาวุธไซเบอร์ — ไม่ใช่แค่เซิร์ฟเวอร์หรือ botnet ➡️ การตรวจจับที่ระดับ ISP เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อหยุดการโจมตีตั้งแต่ต้นทาง ➡️ Cloudflare รายงานการโจมตี 11.5 Tbps เพียงไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ MikroTik routers และ IP cameras เป็นเป้าหมายหลักของการแฮก CPE ➡️ การโจมตีแบบ Gpps มุ่งทำลาย state table และ buffer ของอุปกรณ์เครือข่าย ➡️ FastNetMon Community Edition ก็สามารถตรวจจับได้ในระดับพื้นฐาน ➡️ การโจมตีแบบนี้อาจทำให้ระบบที่มี bandwidth สูงแต่ CPU ต่ำล่มได้ทันที https://hackread.com/1-5-billion-packets-per-second-ddos-attack-detected-with-fastnetmon/
    HACKREAD.COM
    1.5 billion packets per second DDoS attack detected with FastNetMon
    London, United Kingdom, 11th September 2025, CyberNewsWire
    0 Comments 0 Shares 159 Views 0 Reviews
  • แหกคอก ตอนที่ 2 – ทุ่งใหญ่
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ”
    ตอนที่ 2 : ทุ่งใหญ่
    CFR แอบทำโครงการลับๆ อย่างเงียบๆ และต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ.1939 ถึง 1945 ชื่อ War and Peace Studies ซึ่งเป็นการประสานงานร่วมมือกันระหว่างสมาชิกของ CFR กับ State Department ของรัฐบาล แต่เงินทุนที่ใช่ในการทำโครงการนี้ทั้งหมด ไม่ต้องบอกก็คงเดากันออก มาจากนายทุนโคตรรวย กระเป๋าของมูลนิธิ Rockefeller ทั้งหมด (อย่าเพิ่งเบื่อชื่อนี้นะครับ ถึงเบื่อ ก็ต้องทนเอา เพราะเขาเป็นตัวจริงเสียงจริง ในการกำกับพวกพี่เลี้ยง หรือเรียกให้ถูก น่าจะต้องใช้คำว่า เขาเป็น เจ้าของ คงไม่เป็นการแดกดันเขานัก)
    โครงการ War and Peace Studies นี้ วัตถุประสงค์หลัก คือ เพื่อสร้างให้อเมริกาเป็นจักรวรรดิอเมริกา เช่นเดียวกับ จักรวรรดิ หรือจักรภพอังกฤษ เพียงแต่จะเป็นจักรวรรดินักล่าที่วิธีการล่าต่างกัน อังกฤษเป็นนักล่าอาณานิคมที่ต้องการขยายดินแดน เพราะประเทศตัวเองเป็นเกาะเล็กเท่าปลายนิ้วก้อย ต้องการเอาประเทศของคนอื่นมาเป็นอาณานิคม เพื่อขยายอาณาจักรตัวเอง เพื่อปกครองและเพื่อใช้ทรัพยากรของเขา เพื่อสร้างความเจริญและความยิ่งใหญ่ของตนเอง แหม ! ให้ใครๆ เรียกว่า Empress of India หรือ Viceroy of Burma มันก็สมเป็นนายเหนือของอาณานิคมกร่างดีออก ภูมิใจนักหนากับประโยคที่พูดซ้ำซากว่า ดวงอาทิตย์ไม่มีวันตกในจักรภพอังกฤษ แสดงให้เห็นถึงอาณาจักรที่กว้างใหญ่ไพศาล
    แต่ผู้คิดสร้างอเมริกานักล่ารุ่นใหม่บอก คิดแบบนั้นมันไม่ฉลาดเท่าไหร่หรอก เอาไปทำไมประเทศคนอื่น ต้องไปเลี้ยงดูประชาชนพลเมืองเขาอีก ตัวเล็ก ตัวดำ ตัวเหลือง พูดกันไม่รู้เรื่อง คิดก็ต่างกัน ไม่เอาหรอก เราอย่าไปคิดเอาประเทศเขามาเป็นอาณานิคมเลยนะ ภาระมันแยะ เราแค่คิดวิธีที่จะทำอะไรก็ได้ ในแผ่นดินเขาดีกว่า ใช้ทรัพยากร ใช้คน ใช้เงิน ใช้กลอุบายทุกอย่าง ให้ผู้คนในแผ่นดินนั้น มันตกหลุมเราทุกประการ โดยเราไม่ต้องไปรับผิดชอบว่าเขาเป็นคนของเรา มันไม่ดีกว่าหรือ เราแค่อ้างว่าเราจะนำความเจริญมาให้เขา เราทำเพื่อความเจริญของโลก แค่นั้น เขาก็รีบเปิดประตูเมืองรับเรามือไม้สั่นไปหมดแล้ว
    แล้วเราอย่าไปเรียกตัวเองว่า จักรวรรดิอเมริกาด้วย มันล่อแหลม (ต่อความล้มเหลว !) ในทางตรงกันข้าม เรากลับต้องปลอมตัว (ลวงโลก) ว่า อเมริกาต่างหากที่เป็นผู้สนับสนุนให้เสรีภาพ อิสระภาพให้เกิดขึ้นกับประเทศอาณานิคม (ถือโอกาสตบหน้าอังกฤษแถมให้) ให้มีประชาธิปไตยเกิดขึ้นในโลกอันสวยงามใบนี้ และให้มีเสรีภาพในการทำมาค้าขาย ไม่มีการปิดกั้น โดยเราจะใช้กลไกที่จะเราจะตั้งขึ้นใหม่ เพื่อการนี้โดยเฉพาะ แต่โลกจะดูไม่รู้ จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน
    มันเป็นการโฆษณาชวนเชื่อ ที่สวยหรู ที่บิดเบือนความจริง ลวงโลก ที่ได้ผลอย่างยอดเยี่ยมที่สุดแห่งศตวรรษ จนบัดนี้ยังไม่มีโฆษณาชวนเชื่อใดมาลบล้างได้ !
    ตราบใดที่เศรษฐกิจของอเมริการุ่งเรือง แบงค์ดอลล่าร์สีเขียวของอเมริกา ยังเป็นแผ่นกระดาษที่โลกยอมรับและต้องการ การลวงโลกแบบนี้จะบอกว่าไม่สำเร็จ ได้อย่างไร และตราบใดที่ยุโรปตะวันตก ญี่ปุ่น ตะวันออกกลาง และเอเซียตะวันออก เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ฯลฯ ยังต้องพึ่งพากองทัพ (ที่อ้างว่า) เกรียงไกรของอเมริกาในการปกป้องภูมิภาคของตน นี่แหละคือข้อพิสูจน์ว่า จักรวรรดิอเมริกามีจริงเป็นจริง จักรวรรดิอเมริกา พี่เบิ้มหมายเลขหนึ่งของโลก ใหญ่อย่างชนิด ไม่มีใครกล้ามาท้าทาย (แน่ใจหรือเปล่า ? !)
    นอกจากนี้ โครงการ War and Peace Studies นี้ เสนอความคิด และแนวทาง (shopping list) เพื่อให้อเมริกาปฏิบัติการอีกมากมาย ภายหลังสงครามโลกสิ้นสุด ที่สำคัญคือเขากำหนด บริเวณ ของโลกใบนี้ที่อเมริกาจะต้องประทับตรา ควบคุมหรือครอบครอง เพื่อส่งเสริมให้อเมริกามีเศรษฐกิจที่แข็งแรง บริเวณที่อเมริกาจะควบคุมนี้เขาเรียกกันว่า “Grand Area” ทุ่งใหญ่สำหรับนักล่า ซึ่งอยู่ในบริเวณต่อไปนี้
– ลาตินอเมริกา (ดินแดนกว้างใหญ่ ทรัพยากรแยะ นักล่าจะเอาไว้ทำอะไร ถ้าจำไม่ได้ช่วยกลับไปอ่านนิทานมายากลยุทธอีกรอบนะครับ)
– ยุโรป ซึ่งจะต้องยับเยินหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุด (เป็นพี่เลี้ยงที่สุดเจ๋งจริงๆ คาดการณ์ได้แม่นยำเหมือนลงมือจัดการเอง ! ! เป็นการควบคุมให้ล้มอย่างมีระเบียบ ฮา)
– เหล่าอดีตอาณานิคมของจักรภพอังกฤษ (นายเหนือเจ๊ง แล้วขี้ข้าจะทำยังไง ไม่ฉวยโอกาสฉกมาตอนนี้ แล้วจะไปรอหลังสงครามโลกครั้งหน้าหรือไง)
– เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (มาแล้ว ทุ่งหญ้าของพวกเราไง ที่เหล่าสมันน้อยอยู่แบบกินอิ่ม นอนหลับ ตื่นมาก็วิ่งเล่นเต๊าะแต๊ะน่ารัก) เพราะบริเวณนี้ ยังอุดมสมบูรณ์ มีแหล่งทรัพยากรและวัตถุดิบ ที่ Great Britain และญี่ปุ่น จะได้ใช้สอย ในฐานะผู้ผลิต และเหล่าสมันน้อยในทุ่งหญ้านี้จะได้ใช้สอย ในฐานะผู้บริโภคผลผลิต ของญี่ปุ่น (โอ ! นายท่าน ช่างเก่งจริงๆ อ่านขาดล่วงหน้า ตั้งแต่ก่อนเหตุการณ์เกิดขึ้นอีกแบบนี้ ถ้านักการเมืองไทยมันรู้ว่า CFR สุดโปรดของผม มันเยี่ยมขนาดนี้นะ หมอดูอีที เห็นทีจะหมดอาชีพ มิน่าเล่าไอ้หมาไนโจรร้ายมันถึงไปใช้บริการของไอ้ก๊วนพวกนี้ !)
    ดังนั้นโปรดเข้าใจด้วย เวลาเขาพูดถึงผลประโยชน์ของอเมริกา เขาบอกว่าจะต้องนับเอา Grand Area ทุ่งใหญ่ รวมทั้งการปกป้อง คุมครองดูแลทุ่งใหญ่นี้ เข้าไปด้วย อ้าว ! สมันน้อยกลายเป็นผลประโยชน์ของเขา ตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 เลยนะ รู้ตัวกันบ้างหรือเปล่า และในที่สุดจะรวมไปถึงโจทย์ที่ว่า จะพิจารณาปกป้องเวียตนาม ให้พ้นจากลัทธิคอมมิวนิสต์ด้วย หรือไม่ นี่เขียนไว้ตั้งแต่ ค.ศ.1939 นะเนี่ย ! ศักดิ์สิทธิจริงๆ หลวงพ่อ CFR ! ผมเลื่อนตำแหน่งให้แล้ว เพราะการวิเคราะห์ แบบนี้ หมอดูคนไหนก็ไม่มีทางสู้หลวงพ่อ CFR ได้แน่นอน
    คนเล่านิทาน
29 พค. 57
    แหกคอก ตอนที่ 2 – ทุ่งใหญ่ นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ” ตอนที่ 2 : ทุ่งใหญ่ CFR แอบทำโครงการลับๆ อย่างเงียบๆ และต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ.1939 ถึง 1945 ชื่อ War and Peace Studies ซึ่งเป็นการประสานงานร่วมมือกันระหว่างสมาชิกของ CFR กับ State Department ของรัฐบาล แต่เงินทุนที่ใช่ในการทำโครงการนี้ทั้งหมด ไม่ต้องบอกก็คงเดากันออก มาจากนายทุนโคตรรวย กระเป๋าของมูลนิธิ Rockefeller ทั้งหมด (อย่าเพิ่งเบื่อชื่อนี้นะครับ ถึงเบื่อ ก็ต้องทนเอา เพราะเขาเป็นตัวจริงเสียงจริง ในการกำกับพวกพี่เลี้ยง หรือเรียกให้ถูก น่าจะต้องใช้คำว่า เขาเป็น เจ้าของ คงไม่เป็นการแดกดันเขานัก) โครงการ War and Peace Studies นี้ วัตถุประสงค์หลัก คือ เพื่อสร้างให้อเมริกาเป็นจักรวรรดิอเมริกา เช่นเดียวกับ จักรวรรดิ หรือจักรภพอังกฤษ เพียงแต่จะเป็นจักรวรรดินักล่าที่วิธีการล่าต่างกัน อังกฤษเป็นนักล่าอาณานิคมที่ต้องการขยายดินแดน เพราะประเทศตัวเองเป็นเกาะเล็กเท่าปลายนิ้วก้อย ต้องการเอาประเทศของคนอื่นมาเป็นอาณานิคม เพื่อขยายอาณาจักรตัวเอง เพื่อปกครองและเพื่อใช้ทรัพยากรของเขา เพื่อสร้างความเจริญและความยิ่งใหญ่ของตนเอง แหม ! ให้ใครๆ เรียกว่า Empress of India หรือ Viceroy of Burma มันก็สมเป็นนายเหนือของอาณานิคมกร่างดีออก ภูมิใจนักหนากับประโยคที่พูดซ้ำซากว่า ดวงอาทิตย์ไม่มีวันตกในจักรภพอังกฤษ แสดงให้เห็นถึงอาณาจักรที่กว้างใหญ่ไพศาล แต่ผู้คิดสร้างอเมริกานักล่ารุ่นใหม่บอก คิดแบบนั้นมันไม่ฉลาดเท่าไหร่หรอก เอาไปทำไมประเทศคนอื่น ต้องไปเลี้ยงดูประชาชนพลเมืองเขาอีก ตัวเล็ก ตัวดำ ตัวเหลือง พูดกันไม่รู้เรื่อง คิดก็ต่างกัน ไม่เอาหรอก เราอย่าไปคิดเอาประเทศเขามาเป็นอาณานิคมเลยนะ ภาระมันแยะ เราแค่คิดวิธีที่จะทำอะไรก็ได้ ในแผ่นดินเขาดีกว่า ใช้ทรัพยากร ใช้คน ใช้เงิน ใช้กลอุบายทุกอย่าง ให้ผู้คนในแผ่นดินนั้น มันตกหลุมเราทุกประการ โดยเราไม่ต้องไปรับผิดชอบว่าเขาเป็นคนของเรา มันไม่ดีกว่าหรือ เราแค่อ้างว่าเราจะนำความเจริญมาให้เขา เราทำเพื่อความเจริญของโลก แค่นั้น เขาก็รีบเปิดประตูเมืองรับเรามือไม้สั่นไปหมดแล้ว แล้วเราอย่าไปเรียกตัวเองว่า จักรวรรดิอเมริกาด้วย มันล่อแหลม (ต่อความล้มเหลว !) ในทางตรงกันข้าม เรากลับต้องปลอมตัว (ลวงโลก) ว่า อเมริกาต่างหากที่เป็นผู้สนับสนุนให้เสรีภาพ อิสระภาพให้เกิดขึ้นกับประเทศอาณานิคม (ถือโอกาสตบหน้าอังกฤษแถมให้) ให้มีประชาธิปไตยเกิดขึ้นในโลกอันสวยงามใบนี้ และให้มีเสรีภาพในการทำมาค้าขาย ไม่มีการปิดกั้น โดยเราจะใช้กลไกที่จะเราจะตั้งขึ้นใหม่ เพื่อการนี้โดยเฉพาะ แต่โลกจะดูไม่รู้ จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน มันเป็นการโฆษณาชวนเชื่อ ที่สวยหรู ที่บิดเบือนความจริง ลวงโลก ที่ได้ผลอย่างยอดเยี่ยมที่สุดแห่งศตวรรษ จนบัดนี้ยังไม่มีโฆษณาชวนเชื่อใดมาลบล้างได้ ! ตราบใดที่เศรษฐกิจของอเมริการุ่งเรือง แบงค์ดอลล่าร์สีเขียวของอเมริกา ยังเป็นแผ่นกระดาษที่โลกยอมรับและต้องการ การลวงโลกแบบนี้จะบอกว่าไม่สำเร็จ ได้อย่างไร และตราบใดที่ยุโรปตะวันตก ญี่ปุ่น ตะวันออกกลาง และเอเซียตะวันออก เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ฯลฯ ยังต้องพึ่งพากองทัพ (ที่อ้างว่า) เกรียงไกรของอเมริกาในการปกป้องภูมิภาคของตน นี่แหละคือข้อพิสูจน์ว่า จักรวรรดิอเมริกามีจริงเป็นจริง จักรวรรดิอเมริกา พี่เบิ้มหมายเลขหนึ่งของโลก ใหญ่อย่างชนิด ไม่มีใครกล้ามาท้าทาย (แน่ใจหรือเปล่า ? !) นอกจากนี้ โครงการ War and Peace Studies นี้ เสนอความคิด และแนวทาง (shopping list) เพื่อให้อเมริกาปฏิบัติการอีกมากมาย ภายหลังสงครามโลกสิ้นสุด ที่สำคัญคือเขากำหนด บริเวณ ของโลกใบนี้ที่อเมริกาจะต้องประทับตรา ควบคุมหรือครอบครอง เพื่อส่งเสริมให้อเมริกามีเศรษฐกิจที่แข็งแรง บริเวณที่อเมริกาจะควบคุมนี้เขาเรียกกันว่า “Grand Area” ทุ่งใหญ่สำหรับนักล่า ซึ่งอยู่ในบริเวณต่อไปนี้
– ลาตินอเมริกา (ดินแดนกว้างใหญ่ ทรัพยากรแยะ นักล่าจะเอาไว้ทำอะไร ถ้าจำไม่ได้ช่วยกลับไปอ่านนิทานมายากลยุทธอีกรอบนะครับ)
– ยุโรป ซึ่งจะต้องยับเยินหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุด (เป็นพี่เลี้ยงที่สุดเจ๋งจริงๆ คาดการณ์ได้แม่นยำเหมือนลงมือจัดการเอง ! ! เป็นการควบคุมให้ล้มอย่างมีระเบียบ ฮา)
– เหล่าอดีตอาณานิคมของจักรภพอังกฤษ (นายเหนือเจ๊ง แล้วขี้ข้าจะทำยังไง ไม่ฉวยโอกาสฉกมาตอนนี้ แล้วจะไปรอหลังสงครามโลกครั้งหน้าหรือไง)
– เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (มาแล้ว ทุ่งหญ้าของพวกเราไง ที่เหล่าสมันน้อยอยู่แบบกินอิ่ม นอนหลับ ตื่นมาก็วิ่งเล่นเต๊าะแต๊ะน่ารัก) เพราะบริเวณนี้ ยังอุดมสมบูรณ์ มีแหล่งทรัพยากรและวัตถุดิบ ที่ Great Britain และญี่ปุ่น จะได้ใช้สอย ในฐานะผู้ผลิต และเหล่าสมันน้อยในทุ่งหญ้านี้จะได้ใช้สอย ในฐานะผู้บริโภคผลผลิต ของญี่ปุ่น (โอ ! นายท่าน ช่างเก่งจริงๆ อ่านขาดล่วงหน้า ตั้งแต่ก่อนเหตุการณ์เกิดขึ้นอีกแบบนี้ ถ้านักการเมืองไทยมันรู้ว่า CFR สุดโปรดของผม มันเยี่ยมขนาดนี้นะ หมอดูอีที เห็นทีจะหมดอาชีพ มิน่าเล่าไอ้หมาไนโจรร้ายมันถึงไปใช้บริการของไอ้ก๊วนพวกนี้ !) ดังนั้นโปรดเข้าใจด้วย เวลาเขาพูดถึงผลประโยชน์ของอเมริกา เขาบอกว่าจะต้องนับเอา Grand Area ทุ่งใหญ่ รวมทั้งการปกป้อง คุมครองดูแลทุ่งใหญ่นี้ เข้าไปด้วย อ้าว ! สมันน้อยกลายเป็นผลประโยชน์ของเขา ตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 เลยนะ รู้ตัวกันบ้างหรือเปล่า และในที่สุดจะรวมไปถึงโจทย์ที่ว่า จะพิจารณาปกป้องเวียตนาม ให้พ้นจากลัทธิคอมมิวนิสต์ด้วย หรือไม่ นี่เขียนไว้ตั้งแต่ ค.ศ.1939 นะเนี่ย ! ศักดิ์สิทธิจริงๆ หลวงพ่อ CFR ! ผมเลื่อนตำแหน่งให้แล้ว เพราะการวิเคราะห์ แบบนี้ หมอดูคนไหนก็ไม่มีทางสู้หลวงพ่อ CFR ได้แน่นอน คนเล่านิทาน
29 พค. 57
    0 Comments 0 Shares 255 Views 0 Reviews
  • มายากลยุทธ ภาค 2 ตอน บทส่งท้าย

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” มายากลยุทธ ”
    บทส่งท้าย
    ไม่นานหลังจาก George Bush ได้ประกาศว่าเราจะจัดระเบียบโลกใหม่ ในปี ค.ศ. 1991 ยุทธศาสตร์ของอเมริกาที่ทยอยออกมา ก็แสดงให้เห็นถึงทิศทางเดินของอเมริกาชัดเจนขึ้น ใบประกาศหมายเลข 1 ออกมาเมื่อ ค.ศ. 1992 Defense Planning Guidance เกี่ยวกับการวางแผนด้านกองกำลังของอเมริกา เพื่อให้แน่ใจ (กับใครบ้าง?) ว่า จะไม่มีใครกล้าถลามาเป็นคู่แข่งกับอเมริกาในยุโรปตะวันตก เอเซีย หรือ บริเวณที่เคยเป็นสหภาพโซเวียตเดิม เอกสารนี้ระบุชัดเจนว่า โลกใบนี้ไม่มีใครจะมามีอำนาจเหนืออเมริกาอีกแล้ว
    ผู้ที่เป็นมันสมองในการจัดทำเอกสารนี้คือ นาย Paul Wolfowitz ซึ่งขณะนั้นรับตำแหน่งเลขาธิการด้านความมั่นคงอยู่ที่ Pentagon และต่อมาเขาได้เลื่อนเป็นผู้ช่วยรมว.กลาโหม ในสมัยรัฐบาล Bush ตัวพ่อนั่นแหละ หลังจากนั้นก็มารับตำแหน่งประธานธนาคารโลก World Bank นาย Wolf นี้เป็นสมาชิกของ Bilderberg Group, Trilateral Commission และ Council on Foreign Relations (ครบชุด 3 สถาบันผู้ทรงอิทธิพล) ปัจจุบันประจำการอยู่ที่ American Enterprise Institute ซึ่งเป็น think tank สำคัญสำหรับผู้ไม่ประสงค์จะเปิดเผยตัว
    ส่วนสำคัญของเอกสารดังกล่าว เน้นว่าการจัดระเบียบโลกใหม่ ในด้านของกองกำลังของอเมริกา จะต้องปฏิบัติการได้ เมื่อจำเป็น โดยไม่ต้องพึ่งพาหรือเล่นเป็นวงกับใคร พูดง่าย ๆ เป็นพระเอกแสดงเดี่ยว ก็ต้องเอาโลกนี้อยู่ในมือได้
    ในประดานักเลงคนละค่าย ที่จะทำให้อเมริกาคันไม้คันมือ นอกเหนือจากอิรัคและเกาหลีเหนือเจ้าประจำแล้ว ผู้ที่อเมริกาจะต้องจับตาแบบมองแบบไม่กระพริบ คือ จีนและรัสเซีย
    เมื่อ Bill Clinton เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี ต่อจาก Bush ตัวพ่อในปี ค.ศ. 1993 สายเหยี่ยวของอเมริกาไม่ได้หุบปีก แต่กลับสยายมากขึ้น ถึงกับคิด Project for New American Century หรือ PNAC อันโด่งดัง ในปี ค.ศ. 2000 เขาได้เสนอรายงาน ชื่อ Rebuilding America’s Defenses : Strategy For Us and Resources for a New Century เป็นการวางแผนสำหรับการขยับขยาย เปลี่ยนรูปแบบของกองกำลังของอเมริกา เพื่อเตรียมตัวสำหรับการเข้าสู่ทรัพยากร และการสงครามในทุกสมรภูมิ ไม่ว่าใหญ่ระดับโลก หรือเล็กระดับประเทศ
    แต่ที่น่าสนใจคือนาย Zbigniew Brzezinski (หวังว่าคงจำชื่อนี้กันได้) ผู้ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของ Trilatleral Commission ให้กับนายโคตรรวย David Rockefeller รวมทั้งเป็นสมาชิก Bilderberg Group และอยู่ในคณะกรรมการของ Amnesty International และ National Endowment for Democracy (ถ้าไม่รู้จักสถาบันหลังนี้ ลองไปถามอาจารย์แถวท่าพระจันทร์ดูได้นะครับ) รวมทั้งเป็น trustee และที่ปรึกษาของ Center for Strategic and International Studies (CSIS) ที่โด่งดังในการเป็นมันสมอง ในการวางนโยบายด้านความมั่นคงระดับสูงให้แก่อเมริกา นาย Brzenzinski นี้ ถือว่าเป็น 1 ให้ผู้กุมชะตาโลก เพราะเขามีอิทธิพลต่อความคิดของพวกนักเล่นกล ผู้มีบารมีเหนือประชาธิปไตยของอเมริกาอย่างยิ่ง ในหนังสือของเขาชื่อ The Grand Chessboard ที่ออกมาเมื่อ ปี ค.ศ. 1997 บอกว่าสำหรับอเมริกาในอนาคต จงมองไปที่ Eurasia สำหรับอีก 50 ปีข้างหน้า ความเป็นไปของโลก มันจะเริ่มหรือเกี่ยวกับพื้นที่บริเวณ Eurasia นี้แหละ ใครที่ควบคุม Eurasia ได้ ก็เหมือนกับจะควบคุมชะตาโลกได้ปริยาย และนับตั้งแต่นั้นมา นโยบายของอเมริกาก็ดูเหมือนจะไปในทิศทาง ตามที่เข็มทิศยี่ห้อนาย Bzenzinski ชี้ทางเอาไว้ทั้งสิ้น เช่นเดียวกัน กับคำพูดของนาย Kissinger เมื่อเกือบ 50 ปีก่อน


    คนเล่านิทาน
    มายากลยุทธ ภาค 2 ตอน บทส่งท้าย นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” มายากลยุทธ ” บทส่งท้าย ไม่นานหลังจาก George Bush ได้ประกาศว่าเราจะจัดระเบียบโลกใหม่ ในปี ค.ศ. 1991 ยุทธศาสตร์ของอเมริกาที่ทยอยออกมา ก็แสดงให้เห็นถึงทิศทางเดินของอเมริกาชัดเจนขึ้น ใบประกาศหมายเลข 1 ออกมาเมื่อ ค.ศ. 1992 Defense Planning Guidance เกี่ยวกับการวางแผนด้านกองกำลังของอเมริกา เพื่อให้แน่ใจ (กับใครบ้าง?) ว่า จะไม่มีใครกล้าถลามาเป็นคู่แข่งกับอเมริกาในยุโรปตะวันตก เอเซีย หรือ บริเวณที่เคยเป็นสหภาพโซเวียตเดิม เอกสารนี้ระบุชัดเจนว่า โลกใบนี้ไม่มีใครจะมามีอำนาจเหนืออเมริกาอีกแล้ว ผู้ที่เป็นมันสมองในการจัดทำเอกสารนี้คือ นาย Paul Wolfowitz ซึ่งขณะนั้นรับตำแหน่งเลขาธิการด้านความมั่นคงอยู่ที่ Pentagon และต่อมาเขาได้เลื่อนเป็นผู้ช่วยรมว.กลาโหม ในสมัยรัฐบาล Bush ตัวพ่อนั่นแหละ หลังจากนั้นก็มารับตำแหน่งประธานธนาคารโลก World Bank นาย Wolf นี้เป็นสมาชิกของ Bilderberg Group, Trilateral Commission และ Council on Foreign Relations (ครบชุด 3 สถาบันผู้ทรงอิทธิพล) ปัจจุบันประจำการอยู่ที่ American Enterprise Institute ซึ่งเป็น think tank สำคัญสำหรับผู้ไม่ประสงค์จะเปิดเผยตัว ส่วนสำคัญของเอกสารดังกล่าว เน้นว่าการจัดระเบียบโลกใหม่ ในด้านของกองกำลังของอเมริกา จะต้องปฏิบัติการได้ เมื่อจำเป็น โดยไม่ต้องพึ่งพาหรือเล่นเป็นวงกับใคร พูดง่าย ๆ เป็นพระเอกแสดงเดี่ยว ก็ต้องเอาโลกนี้อยู่ในมือได้ ในประดานักเลงคนละค่าย ที่จะทำให้อเมริกาคันไม้คันมือ นอกเหนือจากอิรัคและเกาหลีเหนือเจ้าประจำแล้ว ผู้ที่อเมริกาจะต้องจับตาแบบมองแบบไม่กระพริบ คือ จีนและรัสเซีย เมื่อ Bill Clinton เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี ต่อจาก Bush ตัวพ่อในปี ค.ศ. 1993 สายเหยี่ยวของอเมริกาไม่ได้หุบปีก แต่กลับสยายมากขึ้น ถึงกับคิด Project for New American Century หรือ PNAC อันโด่งดัง ในปี ค.ศ. 2000 เขาได้เสนอรายงาน ชื่อ Rebuilding America’s Defenses : Strategy For Us and Resources for a New Century เป็นการวางแผนสำหรับการขยับขยาย เปลี่ยนรูปแบบของกองกำลังของอเมริกา เพื่อเตรียมตัวสำหรับการเข้าสู่ทรัพยากร และการสงครามในทุกสมรภูมิ ไม่ว่าใหญ่ระดับโลก หรือเล็กระดับประเทศ แต่ที่น่าสนใจคือนาย Zbigniew Brzezinski (หวังว่าคงจำชื่อนี้กันได้) ผู้ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของ Trilatleral Commission ให้กับนายโคตรรวย David Rockefeller รวมทั้งเป็นสมาชิก Bilderberg Group และอยู่ในคณะกรรมการของ Amnesty International และ National Endowment for Democracy (ถ้าไม่รู้จักสถาบันหลังนี้ ลองไปถามอาจารย์แถวท่าพระจันทร์ดูได้นะครับ) รวมทั้งเป็น trustee และที่ปรึกษาของ Center for Strategic and International Studies (CSIS) ที่โด่งดังในการเป็นมันสมอง ในการวางนโยบายด้านความมั่นคงระดับสูงให้แก่อเมริกา นาย Brzenzinski นี้ ถือว่าเป็น 1 ให้ผู้กุมชะตาโลก เพราะเขามีอิทธิพลต่อความคิดของพวกนักเล่นกล ผู้มีบารมีเหนือประชาธิปไตยของอเมริกาอย่างยิ่ง ในหนังสือของเขาชื่อ The Grand Chessboard ที่ออกมาเมื่อ ปี ค.ศ. 1997 บอกว่าสำหรับอเมริกาในอนาคต จงมองไปที่ Eurasia สำหรับอีก 50 ปีข้างหน้า ความเป็นไปของโลก มันจะเริ่มหรือเกี่ยวกับพื้นที่บริเวณ Eurasia นี้แหละ ใครที่ควบคุม Eurasia ได้ ก็เหมือนกับจะควบคุมชะตาโลกได้ปริยาย และนับตั้งแต่นั้นมา นโยบายของอเมริกาก็ดูเหมือนจะไปในทิศทาง ตามที่เข็มทิศยี่ห้อนาย Bzenzinski ชี้ทางเอาไว้ทั้งสิ้น เช่นเดียวกัน กับคำพูดของนาย Kissinger เมื่อเกือบ 50 ปีก่อน คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 269 Views 0 Reviews
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “มายากลยุทธ”
    ภาคสอง ตอน เสกกระดาษแลกน้ำมัน
    ตอนที่ 22 : ปั่นน้ำมัน (2)
    ข่าวสำคัญที่รั่วออกมาจากที่ประชุม เมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1973 คือ มีการหารือกันในที่ประชุมว่า “หากว่า” น้ำมันเกิดขึ้นราคาไป 400% เรามีแผนที่จัดการกับเงินดอลล่าร์ที่จะไหลมาท่วมหัวเรา จากที่น้ำมันขึ้นราคาอย่างบ้าเลือดนั้น อย่างไรดี สมาชิก (ลับ) ที่เข้าประชุม (ลับ) วันนั้นก็มี CEO จาก Royal Dutch Shell, British Petroleum (BP), Total S.A, ENI, Exxon รวมทั้งบรรดานายธนาคารใหญ่ และบุคคลที่น่าสนใจ เช่น Baron Edmond de Rothschild และนาย David Rockefeller และที่น่าสนใจที่สุด คือนาย Henry Kissinger รมว.ตปท. ของอเมริกาขณะนั้น
    หลังจากนั้น ก็มีคนแอบทำข่าวหล่นให้สื่อลือกันว่า เดือนตุลาคม ปี ค.ศ. 1973 ประเทศในกลุ่มอาหรับ มีแผนที่จะบุกอิสราเอล ในวันสำคัญทางศาสนาของอิสราเอล (Yom Kippur) ข่าวนี้ทำให้เกิดความตื่นตระหนกในตลาด น้ำมันราคาพุ่งกระฉูด โลกตะวันตกที่ต้องใช้น้ำมันต่างไม่พอใจ แต่แล้วก็มีเสียงคล้าย ๆ กับ Shah ของอิหร่าน ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “…ก็ไม่แปลกนะ ที่ราคาน้ำมันจะขึ้นสูง ในเมื่อพวกยู (โลกตะวันตก) ก็ขึ้นราคาข้าวสาลีที่ขายให้พวกไอ ตั้ง 300% รวมทั้งน้ำตาลและปูนซีเมนต์ พวกยูซื้อน้ำมันดิบจากประเทศไอไป แล้วยูก็ไปกลั่นเป็นปิโตรเคมี แล้วไปขายได้ราคาแพง 100 กว่าเท่าของราคาที่จ่ายให้พวกไอ มันก็ยุติธรรมแล้วนี่นะ ต่อไปนี้พวกยูก็จ่ายค่าน้ำมันดิบสูงขึ้นอีก 10 เท่าก็แล้วกันนะ”
    แล้ววันที่ 6 ตุลาคม ค.ศ. 1973 อียิปต์และซีเรียก็บุกอิสราเอลจริง ๆ วันที่ 12 ตุลาคม ค.ศ. 1973 ประธานาธิบดี Nixon สั่งการให้ส่งอาวุธไปช่วยอิสราเอล ในขณะที่สหภาพโซเวียตส่งอาวุธให้อียิปต์และซีเรีย วันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ 1973 UN ออกมาเป็นกรรมการห้ามมวย สั่งให้ทั้ง 2 ฝ่ายยุติการหยุดยิง
    ประเทศกลุ่ม OPEC ตอบโต้ ด้วยการประกาศงดส่งน้ำมันให้แก่อเมริกา ในฐานะเป็นประเทศที่ไม่ปราถนาดีต่อกลุ่มประเทศ OPEC การประกาศงดส่งน้ำมันนี้ ลามไปถึงประเทศในยุโรป และญี่ปุ่นด้วย แต่ 5 เดือนต่อมา 17 มีนาคม ค.ศ. 1974 กลุ่ม OPEC ก็ยกเลิกการห้ามส่งน้ำมันให้อเมริกา เอะ ! ตอนแรกก็ขึงขังดีนะ ประเทศในกลุ่ม OPEC ทำเป็นจะบุกอิสราเอล แล้วก็ขึ้นราคาน้ำมันไป 400% และก็ประกาศจะงดส่งน้ำมันให้พวกเขา (อเมริกาแอนด์โก) น่ะ แล้วไง ! ไม่ทันนกกระจอกกินน้ำ 5 เดือน กลับลำเกือบไม่ทัน
    ทั้งหมดเป็นแผนที่ร่วมมือกันอย่างดี ของกลุ่มนักเล่นกล 2 คาบสมุทร เริ่มต้นตั้งแต่เล่นกลตัดเชือกผูกเงินดอลล่าห์กับทองเอาเมื่อปี ค.ศ. 1969 ตอนอเมริกาเกิดเศรษฐกิจชักกระตุก เดินถอยหลัง เงินดอลล่าห์อ่อนเหมือนแป้งเปียก จะให้มันกลับมาแข็งปั้ง พร้อมกับสร้างอำนาจให้อเมริกาน่ะ มันต้องวางแผนให้เนียนหน่อย
    นาย Kissinger นักการฑูตฝีปากดี แถมมีฐานะเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคง การที่จะยุให้พวกกลุ่มอาหรับลุกขึ้นฮึด มาเอาดินแดนศักดิ์สิทธิ์คืนจากอิสราเอล คงไม่เกินฝีปากนาย Kissinger ขณะเดียวกันก็บอกกับอิสราเอลว่า ถ้าอาหรับทำท่าจะกรีฑาทัพเข้ามาบี้ยู ไม่ต้องกลัวนะเพื่อน อเมริกาจะยืนบังลูกปืนให้ เขายุซ้ายทีขวาทีจนได้ที่ แล้วเขาก็จับหมากตัวสำคัญ คือ ซาอุดิอาระเบียกับอิหร่านให้เดินต่อ ซาอุนั้น เป็นประเทศที่มีน้ำมันมากและเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของอเมริกา อเมริกาซื้อน้ำมันจากซาอุเป็นอันดับ 1 และซาอุก็ลงทุนกับอเมริกาเป็นอันดับ 1 เหมือนกัน ส่วนอิหร่าน มีน้ำมันอันดับ 2 ก็จริง แต่อย่าลืมว่าคุณซาห์มานั่งครองบัลลังก์นกยูงได้อย่างไร ให้มาเล่นเป็นตัวประกอบ เดินไปเดินมา 2 รอบแค่นี้ เล่นไม่ได้หรือไง
    แล้วสงคราม Yom Kippur มันก็เกิดขึ้นมาเพราะแบบนี้แหละ ถ้ามันของจริงน่ะ มันจะเลิกรบกันภายใไม่กี่วันเหรอ แล้วไอ้ Embargo ห้ามส่งน้ำมันน่ะ ถามจริง ๆ เถอะ อาหรับมีทรัพย์สมบัติติดตัวอยู่อย่างเดียว คือ น้ำมัน ถ้าไม่ขายน้ำมันจะอยู่อย่างไร แล้วลูกค้ารายใหญ่นะใคร อเมริกาบวกยุโรปตะวันตก บวกญี่ปุ่นน่ะ มันกินน้ำมันเข้าไป 60% ของผู้ใช้น้ำมันทั้งโลกในตอนนั้น ถ้าคิดไม่ขายลูกค้ารายใหญ่ 60% แล้วจะไปขายใครประเทศจน ๆ ให้มันเป็นหนี้หรือไง ! ?


    คนเล่านิทาน
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “มายากลยุทธ” ภาคสอง ตอน เสกกระดาษแลกน้ำมัน ตอนที่ 22 : ปั่นน้ำมัน (2) ข่าวสำคัญที่รั่วออกมาจากที่ประชุม เมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1973 คือ มีการหารือกันในที่ประชุมว่า “หากว่า” น้ำมันเกิดขึ้นราคาไป 400% เรามีแผนที่จัดการกับเงินดอลล่าร์ที่จะไหลมาท่วมหัวเรา จากที่น้ำมันขึ้นราคาอย่างบ้าเลือดนั้น อย่างไรดี สมาชิก (ลับ) ที่เข้าประชุม (ลับ) วันนั้นก็มี CEO จาก Royal Dutch Shell, British Petroleum (BP), Total S.A, ENI, Exxon รวมทั้งบรรดานายธนาคารใหญ่ และบุคคลที่น่าสนใจ เช่น Baron Edmond de Rothschild และนาย David Rockefeller และที่น่าสนใจที่สุด คือนาย Henry Kissinger รมว.ตปท. ของอเมริกาขณะนั้น หลังจากนั้น ก็มีคนแอบทำข่าวหล่นให้สื่อลือกันว่า เดือนตุลาคม ปี ค.ศ. 1973 ประเทศในกลุ่มอาหรับ มีแผนที่จะบุกอิสราเอล ในวันสำคัญทางศาสนาของอิสราเอล (Yom Kippur) ข่าวนี้ทำให้เกิดความตื่นตระหนกในตลาด น้ำมันราคาพุ่งกระฉูด โลกตะวันตกที่ต้องใช้น้ำมันต่างไม่พอใจ แต่แล้วก็มีเสียงคล้าย ๆ กับ Shah ของอิหร่าน ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “…ก็ไม่แปลกนะ ที่ราคาน้ำมันจะขึ้นสูง ในเมื่อพวกยู (โลกตะวันตก) ก็ขึ้นราคาข้าวสาลีที่ขายให้พวกไอ ตั้ง 300% รวมทั้งน้ำตาลและปูนซีเมนต์ พวกยูซื้อน้ำมันดิบจากประเทศไอไป แล้วยูก็ไปกลั่นเป็นปิโตรเคมี แล้วไปขายได้ราคาแพง 100 กว่าเท่าของราคาที่จ่ายให้พวกไอ มันก็ยุติธรรมแล้วนี่นะ ต่อไปนี้พวกยูก็จ่ายค่าน้ำมันดิบสูงขึ้นอีก 10 เท่าก็แล้วกันนะ” แล้ววันที่ 6 ตุลาคม ค.ศ. 1973 อียิปต์และซีเรียก็บุกอิสราเอลจริง ๆ วันที่ 12 ตุลาคม ค.ศ. 1973 ประธานาธิบดี Nixon สั่งการให้ส่งอาวุธไปช่วยอิสราเอล ในขณะที่สหภาพโซเวียตส่งอาวุธให้อียิปต์และซีเรีย วันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ 1973 UN ออกมาเป็นกรรมการห้ามมวย สั่งให้ทั้ง 2 ฝ่ายยุติการหยุดยิง ประเทศกลุ่ม OPEC ตอบโต้ ด้วยการประกาศงดส่งน้ำมันให้แก่อเมริกา ในฐานะเป็นประเทศที่ไม่ปราถนาดีต่อกลุ่มประเทศ OPEC การประกาศงดส่งน้ำมันนี้ ลามไปถึงประเทศในยุโรป และญี่ปุ่นด้วย แต่ 5 เดือนต่อมา 17 มีนาคม ค.ศ. 1974 กลุ่ม OPEC ก็ยกเลิกการห้ามส่งน้ำมันให้อเมริกา เอะ ! ตอนแรกก็ขึงขังดีนะ ประเทศในกลุ่ม OPEC ทำเป็นจะบุกอิสราเอล แล้วก็ขึ้นราคาน้ำมันไป 400% และก็ประกาศจะงดส่งน้ำมันให้พวกเขา (อเมริกาแอนด์โก) น่ะ แล้วไง ! ไม่ทันนกกระจอกกินน้ำ 5 เดือน กลับลำเกือบไม่ทัน ทั้งหมดเป็นแผนที่ร่วมมือกันอย่างดี ของกลุ่มนักเล่นกล 2 คาบสมุทร เริ่มต้นตั้งแต่เล่นกลตัดเชือกผูกเงินดอลล่าห์กับทองเอาเมื่อปี ค.ศ. 1969 ตอนอเมริกาเกิดเศรษฐกิจชักกระตุก เดินถอยหลัง เงินดอลล่าห์อ่อนเหมือนแป้งเปียก จะให้มันกลับมาแข็งปั้ง พร้อมกับสร้างอำนาจให้อเมริกาน่ะ มันต้องวางแผนให้เนียนหน่อย นาย Kissinger นักการฑูตฝีปากดี แถมมีฐานะเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคง การที่จะยุให้พวกกลุ่มอาหรับลุกขึ้นฮึด มาเอาดินแดนศักดิ์สิทธิ์คืนจากอิสราเอล คงไม่เกินฝีปากนาย Kissinger ขณะเดียวกันก็บอกกับอิสราเอลว่า ถ้าอาหรับทำท่าจะกรีฑาทัพเข้ามาบี้ยู ไม่ต้องกลัวนะเพื่อน อเมริกาจะยืนบังลูกปืนให้ เขายุซ้ายทีขวาทีจนได้ที่ แล้วเขาก็จับหมากตัวสำคัญ คือ ซาอุดิอาระเบียกับอิหร่านให้เดินต่อ ซาอุนั้น เป็นประเทศที่มีน้ำมันมากและเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของอเมริกา อเมริกาซื้อน้ำมันจากซาอุเป็นอันดับ 1 และซาอุก็ลงทุนกับอเมริกาเป็นอันดับ 1 เหมือนกัน ส่วนอิหร่าน มีน้ำมันอันดับ 2 ก็จริง แต่อย่าลืมว่าคุณซาห์มานั่งครองบัลลังก์นกยูงได้อย่างไร ให้มาเล่นเป็นตัวประกอบ เดินไปเดินมา 2 รอบแค่นี้ เล่นไม่ได้หรือไง แล้วสงคราม Yom Kippur มันก็เกิดขึ้นมาเพราะแบบนี้แหละ ถ้ามันของจริงน่ะ มันจะเลิกรบกันภายใไม่กี่วันเหรอ แล้วไอ้ Embargo ห้ามส่งน้ำมันน่ะ ถามจริง ๆ เถอะ อาหรับมีทรัพย์สมบัติติดตัวอยู่อย่างเดียว คือ น้ำมัน ถ้าไม่ขายน้ำมันจะอยู่อย่างไร แล้วลูกค้ารายใหญ่นะใคร อเมริกาบวกยุโรปตะวันตก บวกญี่ปุ่นน่ะ มันกินน้ำมันเข้าไป 60% ของผู้ใช้น้ำมันทั้งโลกในตอนนั้น ถ้าคิดไม่ขายลูกค้ารายใหญ่ 60% แล้วจะไปขายใครประเทศจน ๆ ให้มันเป็นหนี้หรือไง ! ? คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 272 Views 0 Reviews
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “มายากลยุทธ”
    ภาคสอง ตอน เสกกระดาษเป็นน้ำมัน
    ตอนที่ 17 : หลอกยิวกลับบ้าน
    ค.ศ. 1870 น้ำมันของรัสเซียที่แหล่ง Baku ทำท่าจะแซง ความเป็นพี่เบิ้มของ Standard Oil ส่วนตระกูลเศรษฐีโคตรรวยฝั่งยุโรป Rothchild หลังจากส้มหล่น รวยเอารวยเอา จนถือได้ว่ากลางศตวรรษที่ 19 ตระกูลนี้รวยที่สุดในโลก มีสาขาธุรกิจการเงินการธนาคาร แผ่ขยายไปทั่วยุโรป เป็นกลุ่มบรรษัทข้ามชาติของแท้รุ่นแรก นาย Alfonse de Rothchild แอบไปลงทุนในน้ำมันของรัสเซียมาหลายสิบปีเรียบร้อยแล้ว เศรษฐีนี่สงสัยจมูกยาวเป็นพิเศษ ได้กลิ่นเงินก่อนใคร
    ปีค.ศ. 1880 Rothchild มีโรงกลั่นน้ำมันใน Baku ประมาณ 200 แห่ง ไม่แค่นั้น เขาเริ่มส่งน้ำมันไปทั่วยุโรปและตะวันออกไกล ทางรถไฟ Baku – Batumi ทำท่าว่าจะสั้นไปสำหรับการส่งน้ำมัน พวกเขาเริ่มดูเส้นทางใหม่เอี่ยม คลองสุเอช ยาว 4,000 ไมล์ น่าสนใจ ! แต่จะให้ดีต้องมีใครคุมอยู่แถวนั้น แล้วเขาก็วางแผนเรื่อง Palestine เมื่อรัฐบาลอียิปต์ล้มละลายในปี ค.ศ. 1874 รัฐบาลอังกฤษจับมือให้ Rothchild (เอะ หรือ Rothchild จับมือรัฐบาลกันแน่ ?!) ซึ่งหุ้นในบริษัท Suez Canal เวลาประชุมผู้ถือหุ้น ก็นั่งเคียงกับรัฐบาลอังกฤษ มีพระอันดับ เช่น Baring Brothers, Morgan Grenfell และ Lazard Brothers คงเห็นกันแล้วว่า พวกเศรษฐีเขาหาเงินกันยังไง !
    ตระกูล Rothchild ทำธุรกิจขยายไปตามสาขาของครอบครัวตระกูล ที่อยู่ในฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมัน และรัสเซีย เมื่อพระเจ้า Czar ตาย ลูกชายคือ Czar Nicholas ที่ 2 ขึ้นครองราชย์แทน พร้อมกันทำงานที่พ่อเริ่มไว้คือ ผลักดันให้ชาวยิวในรัสเซีย ย้ายออกไปจากรัสเซีย พวกยิวก็มุ่งหน้าไปทางยุโรปตะวันตก ยิวพวกนี้ส่วนใหญ่เป็นพวกสังคมนิยม เมื่อจะเดินเท้าเข้ายังยุโรปตะวันตก พวกเศรษฐียุโรปก็ย่อมตกใจเป็นธรรมดา โดยเฉพาะพวกที่กำลังนั่งโกยเงินอยู่ในอังกฤษ ถ้ายิวกลุ่มนี้เข้ามาก่อความวุ่นวายแถวลอนดอน ธุรกิจการค้าของเขาก็จะชะงักงัน (เห็นไหม ท่านผู้อ่านนิทาน นักธุรกิจก็คิดเป็นเท่านี้แหละ ใครจะทำอะไร เพื่ออะไร ถูกหรือผิด เขาไม่สนใจ สนใจอย่างเดียว อย่าให้การค้าของเขากระทบแล้ว เหมือนกันหมดทุกชาติ ทุกสมัย !)
    เพราะฉะนั้น Palestine คือ คำตอบ มันเป็นการล็อคสเปค ไอ้ที่อ้างว่าส่งยิวกลับบ้านน่ะ มันข่าวประเภท CNN หรือข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ ของจริงเป็นยังไง อ่านต่อไปท่านผู้อ่านนิทาน
    ตระกูล Rothchilds เป็นที่รู้กันว่า pro ยิว (pro – Zionist) แม้รัสเซียจะเขี่ยยิวออกไปจากประเทศ ไอ้พวกโคตรรวยส้มหล่นนี่ก็ยังต้องทำเป็นไม่เดือดร้อน แถมเข้าไปสนับสนุนรัสเซียต่อ เพราะมันอยากได้น้ำมันเขา เงินทองมันหอมยวนใจ แล้วตระกูลโคตรรวย 2 ฝั่งคาบสมุทร ก็หันมาจับมือกัน ปี ค.ศ. 1895 Rothchilds ก็ทำสัญญากับ Standad Oil ของ Rockefeller เพื่อตกลงแบ่งส่วนครองตลาดน้ำมันโลกกัน พวกมันนึกว่า มันเป็นเจ้าของโลกจริง ๆ
    แต่รัสเซียไม่ได้โง่ มีบ่อน้ำมันอยู่ในมือ จะให้เศรษฐีหลอกรับประทานอยู่ข้างเดียวได้ยังไง รัสเซียจึงวางเงื่อนไข กลับไปที่เศรษฐีส้มหล่น
    จะเอายังไงเพื่อน จะอุ้มยิวหรือจะเอาน้ำมัน เศรษฐีโคตรรวยทำเป็นยัวะ มันไม่เห็นแก่หน้าเราเลยนะ นึกว่ามีอำนาจแล้ว สั่งคนรวยได้หรือ เงินก็ซื้ออำนาจได้เหมือนกันนะ อย่าลืม หลังจากนั้นก็มีข่าวออกมาว่า ตระกูล Rothchild ขายหุ้นทั้งหมดที่ตนมีอยู่ในธุรกิจน้ำมันที่รัสเซีย ให้แก่ Royal Dutch Shell แต่ของจริง คือ Rothchild “ประเมิน” ไว้แล้วว่า การเมืองในรัสเซีย น่าจะเกิดปัญหาในอีกไม่กี่ปี ถือหุ้นน้ำมันไปก็เหนื่อย ขายออกมาทำกำไรก่อนดีกว่า 555 นักเล่นหุ้น ควรดูฝีมือลงทุนของตระกูลนี้ไว้ เผื่อจะส้มหล่นกันบ้าง ตั้งแต่เริ่มแรกจนบัดนี้ เขาเอาอะไรเป็นตัววัด ในการซื้อ การขาย การลงทุน
    แล้วรัสเซียก็เกิดความวุ่นวายในประเทศเป็นระลอก ๆ จริง ๆ ตามที่เศรษฐีส้มหล่น “ประเมิน”
    ปี ค.ศ. 1917 ความวุ่นวายคร้ังนี้ เริ่มมาจากการประท้วงของกรรมกร ที่ทำงานในแหล่งน้ำมันที่ Baku แล้วก็มีกองทัพของ Azerbaijan บุกเข้ามายึดบ่อน้ำมันที่ Baku ระหว่างที่กรรมกรกำลังก่อเหตุนั่นแหละ อ้าว ! โผล่มาจากไหนละ กองทัพ Azerbaijan นี่น่ะ ไม่มีใครรู้ แต่ที่รู้ หลังจาก Azerbaijan ยึด Baku ไปแล้ว ก็มีบริษัทม้ามืดชื่อ SONJ ย่อมาจาก Standard Oil of New Jersey เข้ามาทำสัญญาสำรวจน้ำมันในแถบ Baku แทน ระหว่างเกิดเหตุความวุ่นวาย บริษัทต่างชาติก็วิ่งเข้ามาแย่งซื้อสัมปทานในรัสเซีย หวังจะได้ส้มหล่นบ้าง แต่ไม่ทันเขาหรอก ส่วนใหญ่ก็ตกเป็นของ SONJ ซึ่งบัดนี้ใช้ชื่อว่า Exxon Mobile !
    มาถึงตรงนี้นักธุรกิจอย่าง J D Rockefeller และนักค้าเงินแถว Wall Street อย่าง JP Morgan ก็มองเห็นทางข้างหน้าชัดเจนว่า หนทางที่จะเหมาเข่งธุรกิจการค้า ไม่มีอะไรดีกว่า “เล่นการเมือง” และท่านผู้อ่านนิทานก็คงพอจะมองออกแล้วว่า เขาเล่นกลกันอย่างไร


    คนเล่านิทาน
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “มายากลยุทธ” ภาคสอง ตอน เสกกระดาษเป็นน้ำมัน ตอนที่ 17 : หลอกยิวกลับบ้าน ค.ศ. 1870 น้ำมันของรัสเซียที่แหล่ง Baku ทำท่าจะแซง ความเป็นพี่เบิ้มของ Standard Oil ส่วนตระกูลเศรษฐีโคตรรวยฝั่งยุโรป Rothchild หลังจากส้มหล่น รวยเอารวยเอา จนถือได้ว่ากลางศตวรรษที่ 19 ตระกูลนี้รวยที่สุดในโลก มีสาขาธุรกิจการเงินการธนาคาร แผ่ขยายไปทั่วยุโรป เป็นกลุ่มบรรษัทข้ามชาติของแท้รุ่นแรก นาย Alfonse de Rothchild แอบไปลงทุนในน้ำมันของรัสเซียมาหลายสิบปีเรียบร้อยแล้ว เศรษฐีนี่สงสัยจมูกยาวเป็นพิเศษ ได้กลิ่นเงินก่อนใคร ปีค.ศ. 1880 Rothchild มีโรงกลั่นน้ำมันใน Baku ประมาณ 200 แห่ง ไม่แค่นั้น เขาเริ่มส่งน้ำมันไปทั่วยุโรปและตะวันออกไกล ทางรถไฟ Baku – Batumi ทำท่าว่าจะสั้นไปสำหรับการส่งน้ำมัน พวกเขาเริ่มดูเส้นทางใหม่เอี่ยม คลองสุเอช ยาว 4,000 ไมล์ น่าสนใจ ! แต่จะให้ดีต้องมีใครคุมอยู่แถวนั้น แล้วเขาก็วางแผนเรื่อง Palestine เมื่อรัฐบาลอียิปต์ล้มละลายในปี ค.ศ. 1874 รัฐบาลอังกฤษจับมือให้ Rothchild (เอะ หรือ Rothchild จับมือรัฐบาลกันแน่ ?!) ซึ่งหุ้นในบริษัท Suez Canal เวลาประชุมผู้ถือหุ้น ก็นั่งเคียงกับรัฐบาลอังกฤษ มีพระอันดับ เช่น Baring Brothers, Morgan Grenfell และ Lazard Brothers คงเห็นกันแล้วว่า พวกเศรษฐีเขาหาเงินกันยังไง ! ตระกูล Rothchild ทำธุรกิจขยายไปตามสาขาของครอบครัวตระกูล ที่อยู่ในฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมัน และรัสเซีย เมื่อพระเจ้า Czar ตาย ลูกชายคือ Czar Nicholas ที่ 2 ขึ้นครองราชย์แทน พร้อมกันทำงานที่พ่อเริ่มไว้คือ ผลักดันให้ชาวยิวในรัสเซีย ย้ายออกไปจากรัสเซีย พวกยิวก็มุ่งหน้าไปทางยุโรปตะวันตก ยิวพวกนี้ส่วนใหญ่เป็นพวกสังคมนิยม เมื่อจะเดินเท้าเข้ายังยุโรปตะวันตก พวกเศรษฐียุโรปก็ย่อมตกใจเป็นธรรมดา โดยเฉพาะพวกที่กำลังนั่งโกยเงินอยู่ในอังกฤษ ถ้ายิวกลุ่มนี้เข้ามาก่อความวุ่นวายแถวลอนดอน ธุรกิจการค้าของเขาก็จะชะงักงัน (เห็นไหม ท่านผู้อ่านนิทาน นักธุรกิจก็คิดเป็นเท่านี้แหละ ใครจะทำอะไร เพื่ออะไร ถูกหรือผิด เขาไม่สนใจ สนใจอย่างเดียว อย่าให้การค้าของเขากระทบแล้ว เหมือนกันหมดทุกชาติ ทุกสมัย !) เพราะฉะนั้น Palestine คือ คำตอบ มันเป็นการล็อคสเปค ไอ้ที่อ้างว่าส่งยิวกลับบ้านน่ะ มันข่าวประเภท CNN หรือข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ ของจริงเป็นยังไง อ่านต่อไปท่านผู้อ่านนิทาน ตระกูล Rothchilds เป็นที่รู้กันว่า pro ยิว (pro – Zionist) แม้รัสเซียจะเขี่ยยิวออกไปจากประเทศ ไอ้พวกโคตรรวยส้มหล่นนี่ก็ยังต้องทำเป็นไม่เดือดร้อน แถมเข้าไปสนับสนุนรัสเซียต่อ เพราะมันอยากได้น้ำมันเขา เงินทองมันหอมยวนใจ แล้วตระกูลโคตรรวย 2 ฝั่งคาบสมุทร ก็หันมาจับมือกัน ปี ค.ศ. 1895 Rothchilds ก็ทำสัญญากับ Standad Oil ของ Rockefeller เพื่อตกลงแบ่งส่วนครองตลาดน้ำมันโลกกัน พวกมันนึกว่า มันเป็นเจ้าของโลกจริง ๆ แต่รัสเซียไม่ได้โง่ มีบ่อน้ำมันอยู่ในมือ จะให้เศรษฐีหลอกรับประทานอยู่ข้างเดียวได้ยังไง รัสเซียจึงวางเงื่อนไข กลับไปที่เศรษฐีส้มหล่น จะเอายังไงเพื่อน จะอุ้มยิวหรือจะเอาน้ำมัน เศรษฐีโคตรรวยทำเป็นยัวะ มันไม่เห็นแก่หน้าเราเลยนะ นึกว่ามีอำนาจแล้ว สั่งคนรวยได้หรือ เงินก็ซื้ออำนาจได้เหมือนกันนะ อย่าลืม หลังจากนั้นก็มีข่าวออกมาว่า ตระกูล Rothchild ขายหุ้นทั้งหมดที่ตนมีอยู่ในธุรกิจน้ำมันที่รัสเซีย ให้แก่ Royal Dutch Shell แต่ของจริง คือ Rothchild “ประเมิน” ไว้แล้วว่า การเมืองในรัสเซีย น่าจะเกิดปัญหาในอีกไม่กี่ปี ถือหุ้นน้ำมันไปก็เหนื่อย ขายออกมาทำกำไรก่อนดีกว่า 555 นักเล่นหุ้น ควรดูฝีมือลงทุนของตระกูลนี้ไว้ เผื่อจะส้มหล่นกันบ้าง ตั้งแต่เริ่มแรกจนบัดนี้ เขาเอาอะไรเป็นตัววัด ในการซื้อ การขาย การลงทุน แล้วรัสเซียก็เกิดความวุ่นวายในประเทศเป็นระลอก ๆ จริง ๆ ตามที่เศรษฐีส้มหล่น “ประเมิน” ปี ค.ศ. 1917 ความวุ่นวายคร้ังนี้ เริ่มมาจากการประท้วงของกรรมกร ที่ทำงานในแหล่งน้ำมันที่ Baku แล้วก็มีกองทัพของ Azerbaijan บุกเข้ามายึดบ่อน้ำมันที่ Baku ระหว่างที่กรรมกรกำลังก่อเหตุนั่นแหละ อ้าว ! โผล่มาจากไหนละ กองทัพ Azerbaijan นี่น่ะ ไม่มีใครรู้ แต่ที่รู้ หลังจาก Azerbaijan ยึด Baku ไปแล้ว ก็มีบริษัทม้ามืดชื่อ SONJ ย่อมาจาก Standard Oil of New Jersey เข้ามาทำสัญญาสำรวจน้ำมันในแถบ Baku แทน ระหว่างเกิดเหตุความวุ่นวาย บริษัทต่างชาติก็วิ่งเข้ามาแย่งซื้อสัมปทานในรัสเซีย หวังจะได้ส้มหล่นบ้าง แต่ไม่ทันเขาหรอก ส่วนใหญ่ก็ตกเป็นของ SONJ ซึ่งบัดนี้ใช้ชื่อว่า Exxon Mobile ! มาถึงตรงนี้นักธุรกิจอย่าง J D Rockefeller และนักค้าเงินแถว Wall Street อย่าง JP Morgan ก็มองเห็นทางข้างหน้าชัดเจนว่า หนทางที่จะเหมาเข่งธุรกิจการค้า ไม่มีอะไรดีกว่า “เล่นการเมือง” และท่านผู้อ่านนิทานก็คงพอจะมองออกแล้วว่า เขาเล่นกลกันอย่างไร คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 315 Views 0 Reviews
  • เขมรหนาวแน่นอน,เวียดนาม ลาว มีจีนมีรัสเชียพันธมิตรของจริง,เขมรมีอเมริกา มาเลย์ สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์บ๋อยอเมริกาหนุน, ไทยถล่มระเบิดเขมรอยู่แล้ว,ลาว เวียดนาม รอเก็บเกี่ยวแบ่งดินแดนพื้นที่เขมรได้เลย งานนี้ถ้าเขมรเปิดอีกรอบ เราไปสุดซอยแน่นอน เขมรต้องสิ้นชาติอย่างเดียว จะไม่ให้กลับมายั่งยุเวียดนาม ยั่วยุอยากได้ลาว หรือดินแดนไทยอีกตลอดกาล,คนรุ่นต่อไปก็ไม่ต้องมารบกับเผ่าพันธุ์เฮี้ยนี้อีก ถีบคนเขมรทั้งหมดไปอยูาเกาะของมาเลย์ทั้งหมดซึ่งกอดกันกลมชัดเจนมาก,ลาว เวียดนาม ไทยจะสงบสุขทันที ภูมิภาคนี้สามารถระงับภัยคุกคามแบบฝรั่งตะวันตกอเมริกาก็ได้อีก,เอเชียจะค่อยๆถีบฝรั่งออกไปให้หมด จะสามัคคีสร้างสันติสุขสงบสุขในเอเชียเราให้มากที่สุด ไม่เอาเปรียบกัน ไม่รังแกกัน อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข หรือใช้ไทยเป็นประเทศศูนย์กลางการค้าระดับเอเชียระดับโลกฝั่งเอเชียเราได้,เชื่อมสามัคคีเอเชียด้วยไทยคือฮับเชื่อมไมตรีจิตนี้เอง,bricsยิ่งเข้าร่วมกันอีก ชาติสมาชิกค้าขายเสรียิ่งจะตลาดมวลรวมจะขนาดไหน ตังสะพัดอาจกว่า100ล้านล้านบาทต่อวันกันเลยบนชาติสมาชิกbricsที่ค้าขายกันเอง,ทวีปแอฟริกาอัพเรเวลคนแอฟริกาไม่เฮี้ยแบบปัจจุบันยิ่งจะขนาดไหน,ชาติอาหรับอีก,เอเชียเหนือ เอเชียกลาง เอเชียใต้ เอเชียตะวันออก และเราไทยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีแลนด์บริดจ์ของไทย มีคลองคอดกระของไทย,เชื่อมทะเลอันดามันและแปซิฟิก ทะเลจีนใต้ อ่าวไทยเราจริงด้วย เม็ดสะพัดมหาศาลกว่า1,000ล้านล้านบาทต่อปีแน่นอนในชาติสมาชิกเราและbrics ถีบฝรั่งยุโรปตะวันตกหรืออเมริกาก็ได้,,เลิกค้าขายมาปล้นชิงฝั่งเอเชียเราสัก100ปีก็ยังได้.พันปีก็ไหว,อยู่ใครอยู่มันก็สบาย.

    https://youtube.com/shorts/-ggi16ZZ7ds?si=XS21Nh0t8-ukJtSt
    เขมรหนาวแน่นอน,เวียดนาม ลาว มีจีนมีรัสเชียพันธมิตรของจริง,เขมรมีอเมริกา มาเลย์ สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์บ๋อยอเมริกาหนุน, ไทยถล่มระเบิดเขมรอยู่แล้ว,ลาว เวียดนาม รอเก็บเกี่ยวแบ่งดินแดนพื้นที่เขมรได้เลย งานนี้ถ้าเขมรเปิดอีกรอบ เราไปสุดซอยแน่นอน เขมรต้องสิ้นชาติอย่างเดียว จะไม่ให้กลับมายั่งยุเวียดนาม ยั่วยุอยากได้ลาว หรือดินแดนไทยอีกตลอดกาล,คนรุ่นต่อไปก็ไม่ต้องมารบกับเผ่าพันธุ์เฮี้ยนี้อีก ถีบคนเขมรทั้งหมดไปอยูาเกาะของมาเลย์ทั้งหมดซึ่งกอดกันกลมชัดเจนมาก,ลาว เวียดนาม ไทยจะสงบสุขทันที ภูมิภาคนี้สามารถระงับภัยคุกคามแบบฝรั่งตะวันตกอเมริกาก็ได้อีก,เอเชียจะค่อยๆถีบฝรั่งออกไปให้หมด จะสามัคคีสร้างสันติสุขสงบสุขในเอเชียเราให้มากที่สุด ไม่เอาเปรียบกัน ไม่รังแกกัน อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข หรือใช้ไทยเป็นประเทศศูนย์กลางการค้าระดับเอเชียระดับโลกฝั่งเอเชียเราได้,เชื่อมสามัคคีเอเชียด้วยไทยคือฮับเชื่อมไมตรีจิตนี้เอง,bricsยิ่งเข้าร่วมกันอีก ชาติสมาชิกค้าขายเสรียิ่งจะตลาดมวลรวมจะขนาดไหน ตังสะพัดอาจกว่า100ล้านล้านบาทต่อวันกันเลยบนชาติสมาชิกbricsที่ค้าขายกันเอง,ทวีปแอฟริกาอัพเรเวลคนแอฟริกาไม่เฮี้ยแบบปัจจุบันยิ่งจะขนาดไหน,ชาติอาหรับอีก,เอเชียเหนือ เอเชียกลาง เอเชียใต้ เอเชียตะวันออก และเราไทยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีแลนด์บริดจ์ของไทย มีคลองคอดกระของไทย,เชื่อมทะเลอันดามันและแปซิฟิก ทะเลจีนใต้ อ่าวไทยเราจริงด้วย เม็ดสะพัดมหาศาลกว่า1,000ล้านล้านบาทต่อปีแน่นอนในชาติสมาชิกเราและbrics ถีบฝรั่งยุโรปตะวันตกหรืออเมริกาก็ได้,,เลิกค้าขายมาปล้นชิงฝั่งเอเชียเราสัก100ปีก็ยังได้.พันปีก็ไหว,อยู่ใครอยู่มันก็สบาย. https://youtube.com/shorts/-ggi16ZZ7ds?si=XS21Nh0t8-ukJtSt
    0 Comments 0 Shares 245 Views 0 Reviews
  • #ยกเลิกmou43และ44ทันทีเพราะคือตัวปัญหาที่แท้จริง

    ..ทหารไทยเราเสียเหลี่ยมอีกแล้วทั้งฝ่ายไทยเองและเสียเหลี่ยมฝ่ายเขมร นี้คือเดอะการปาหี่ชัดเจน.,ลากยาวดึงเกมส์เติมอาวุธรอจังหวะก็ได้อีก,กำลังสับขาหลอกทั้งจีนที่หักหลังสดๆร้อนๆและกำลังกะหักหลังอเมริกาอีกในอนาคตใกล้ๆนี้,มันจริงใจอะไรที่ไหน,จะไม่ปฏิเสธข้อเสนอใดๆเลยด้วยแต่ก็ยังมีหลายข้อที่ปฏิเสธไทย,ซึ่งสถานะมันไม่มีสถานะนั้น,
    ..จริงข้อแรกต้องระบุชัดเจนว่า
    ข้อ1.ยกเลิกmou43และ44ทันทีพร้อมทำข้อตกลงกันใหม่
    ข้อ2.ใช้1:50,000เหมือนใช้กับลาวและเวียดนามในเวลานี้ทันทีหลังจบการประชุมเจรจาวันนี้
    ข้อ3.หยุดยิงทันทีหากทหารฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งออกพ้นจากเขตแดน1:50,000นี้(คือก้าวเข้ามาในพื้นที่1:50,000ของฝั่งไทย ทหารไทยยิงทันทีไม่ต้องรอคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา,ออกพ้นพื้นที่1:50,000จึงเลิกยิงและหยุดยิงทุกๆกรณี.)นี้คือการหยุดยิงทุกๆกรณี.
    ข้อ4..ข้อ5...และข้ออื่นๆตามสบาย.

    ..คือกำลังจะเริ่มเบื่อหน่ายกับทหารไทยเราแล้วจริงๆในความไม่เด็ดขาดกับรัฐบาลชุดนี้ มามุกให้ทหารไทยเราเสียเหลี่ยมเขมรตลอด นายพลชั่วเลวทรยศยังเต็มกองทัพรวมทั้งอดีตนายทหารที่ไปทำมาหาแดกกับเขมรด้วย,ทหารไทยเราต้องจัดการขั้นเด็ดขาดจริงๆ,เรามันคนยุครุ่นน้ำหมากแล้ว ไม่อาจส่งต่อความโกลาหลวุ่นวายคนทรยศขายชาติและภัยต่ออธิปไตยไทยสู่คนไทยรุ่นลูกรุ่นหลานเราหรือรุ่นต่อๆไปได้อีกแล้ว,ให้มันจบที่รุ่นเรานี้.กำจัดกวาดล้างคนทรยศไส้ศึกแผ่นดินไทยกบฎแผ่นดินไทยจริงจังกันเสียที,มันเห็นชัดเจนว่าอดีตมันไม่จริงจังเลย แบบยุทธปืนคอที่กูรูออกมาแฉ จนเขมรล้ำดินแดนอธิปไตยไทยเป็นพื้นที่มากมายมหาศาลทั้งเสียไปกว่าสิบจุดยุทธศาสตร์อีก ซึ่งความจริงปรากฎชัดเมื่อแม่ทัพภาค2.ยึดพื้นที่คืนได้กว่าสิบจุดเช่นกัน,และยึดครองเพิ่มเติมตลอดแนวชายแดนจากอดีตที่ถอยลงมาเข้ามาทางฝั่งไทยเสียมากกว่านั้นเอง,นี้คือหลักฐานพยานชัดเจนว่าอดีตนายพลทหารไทยละเว้นการปกป้องอธิปไตยไทยอย่างซื่อสัตย์สุจริตในตำแหน่งหน้าที่การงานที่ตนปกครองตนมีอำนาจเต็มในการลงมือปฏิบัติให้อธิปไตยไทยตนดำรงอยู่เป็นปกติดีนั้นเอง,นี้มันคือผิดปกติชัดเจน ยึดคืนจากเขมรกว่าสิบจุดยุทธศาสตร์ซึ่งนี้มันคืออะไรล่ะ,
    ..การประกาศกฎอันการศึกทั่วประเทศไทยต้องเกิดขึ้นจริงจัง จนกว่าบ้านเมืองจะสงบสุขหรือคือกำหนด1:50,000 สำเร็จเสร็จสิ้นจริงลงนั้นเอง,ตัดตอนฝรั่งต่างชาติแทรกแซงก่อความโกลาหลวุ่นวายไม่หยุดหย่อนในบริเวณนี้หรือภูมิภาคดินแดนไทยกับเขมรนี้นั้นเอง,ตัดตอนการถูกใช้เป็นเครื่องมือฝ่ายมืดdeep stateชั่วฝรั่งเศสอเมริกาแทรกแซงผ่านciaหรือหน่วยงานองค์กรสากลใดๆก็ด้วยปั่นป่วนภายในอธิปไตยไทยเรา.เช่นล่าสุดหมายไทยหมายเขมรเป็นสนามสงครามตัวแทนของชาติอเมริกาฆ่าเจ้าหนี้รายใหญ่แบบจีนนั้นเอง.มาตีสนิทบวกบังคับให้ยกพังงาเป็นฐานกองทัพอเมริกาก็ด้วย หมายนัยยะกินรวบศูนย์กลางเศรษฐกิจทำตังทำเงินของประเทศอันมหาศาลด้วยเหมือนที่อเมริกาชั่วปล้นชิงแย่งชิงบ่อน้ำมันไทยสำเร็จ และเหมือนอเมริกาอีกด้วยที่ร่วมกับขี้ข้าลูกน้องนายใหญ่มันแดกบ่อน้ำมันปล้นชิงบ่อน้ำมันต่ออายุให้ชาติอเมริกาจนสำเร็จก็ว่า,คืออเมริกาฝรั่งตาแดงยักษ์มารปีศาจอสูรของจริงล่ะที่ชั่วเลวนอนจนเป็นสันดานนิสัยปกติชอบปล้นชิงใช้เล่ห์เหลี่ยมตอแหลปลิ้นปล้อนไม่ซื่อสาระพัดให้สำเร็จในเป้าหมายตน,ทุกๆความดีข้ามไปได้หมด,เพื่อบรรลุเป้าหมายแห่งตัวกูเพื่อกู ชาติอเมริกากูเป็นต้น ไทยจะเดือดร้อนยากจนประชาชนทุกข์ยากชั่วหัวมรึงกับประชาชนคนไทยโง่ๆฉลาดแบบคนอเมริกากูมีอารยะชนกูแบบอเมริกาไม่ได้กูชาติพัฒนาแล้วจึงชอบธรรมสรรหามุกมาปล้นชิงทรัพยากรโดยเสรีอิสระไม่ผิดอะไรใดๆแก่ทุกๆประเทศทั่วโลกเพราะถูกต้องตามกฎหมายภายในประเทศมรึงแล้วซึ่งกูอเมริกาก็ส่งคนของกูร่วมเขียนกฎหมายห่าเหวนั่นไม่ให้กูผิด เป็นแต่ถูกต้องอย่างเดียวแก่ชาติประเทศคือเขียนกฎหมายเอื้ออำนวยแก่ชาติกู ถูกต้องตามกฎหมายแหกตาให้พวกโง่มรึงดู,บวกสั่งขี้ข้ากูประจำประเทศไทยมรึงแม้ยึดอำนาจปฏิวัติรัฐประหารก็ห้ามมาฉีกกฎฟมายเอาเปรียบพวกประเทศไทยมรึงทุกๆกรณีนะมรึงรู้มั้ย,พรบ.ปืโตรเลียมในไทยจึงดำรงมั่นคงรักษาไว้เพื่ออธิปไตยแผ่นดินชาติอเมริกาก็ด้วย,ชาติฝรั่งยุโรปก็ด้วยสรุปในเครือข่ายยักษ์ตาแดงปีศาจฝรั่งตะวันตกชั่วๆเลวๆนี้เอง, ..สมที่รัสเชีย จีน อิหร่านจะถล่มฝรั่งยุโรปตะวันตกและอเมริกาก็ด้วย,สูญพันธุ์ทั้งแรปทีเลี่ยนใส่ชุดมนุษย์ด้วยก็ดี,อดีตเรื่อยมาตะวันตกนี้ไล่ล่าอาณานิคมแบบป่าเถื่อนบ้าคลั่ง ปล้นชิงทรัพยากรไปทั่วโลก,จุดจบพวกนี้สมควรมาถึง.วิญญาณอาฆาตแค้นมากมายในอดีตเข้าทำลายชาติยุโรปตะวันตกและอเมริกาอย่างบ้าคลั่งก็ว่า,การล่มสลายแห่งอารยะธรรมยุโรปตะวันตกหรือและอเมริกากำลังมาใกล้เร็วๆนี้ก็ได้,ถ้าไม่พลิกเป็นอย่างอื่นตามตาเนื้อธรรมดาที่เห็นตามสถานการณ์เป็นไปของปัจจุบัน.
    ..#ยึดอำนาจเถอะมหาสงครามตัวจริงรอเราอยู่.

    https://youtube.com/watch?v=UMwZemXLp3k&si=ER1H93rwMBLcnXWP
    #ยกเลิกmou43และ44ทันทีเพราะคือตัวปัญหาที่แท้จริง ..ทหารไทยเราเสียเหลี่ยมอีกแล้วทั้งฝ่ายไทยเองและเสียเหลี่ยมฝ่ายเขมร นี้คือเดอะการปาหี่ชัดเจน.,ลากยาวดึงเกมส์เติมอาวุธรอจังหวะก็ได้อีก,กำลังสับขาหลอกทั้งจีนที่หักหลังสดๆร้อนๆและกำลังกะหักหลังอเมริกาอีกในอนาคตใกล้ๆนี้,มันจริงใจอะไรที่ไหน,จะไม่ปฏิเสธข้อเสนอใดๆเลยด้วยแต่ก็ยังมีหลายข้อที่ปฏิเสธไทย,ซึ่งสถานะมันไม่มีสถานะนั้น, ..จริงข้อแรกต้องระบุชัดเจนว่า ข้อ1.ยกเลิกmou43และ44ทันทีพร้อมทำข้อตกลงกันใหม่ ข้อ2.ใช้1:50,000เหมือนใช้กับลาวและเวียดนามในเวลานี้ทันทีหลังจบการประชุมเจรจาวันนี้ ข้อ3.หยุดยิงทันทีหากทหารฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งออกพ้นจากเขตแดน1:50,000นี้(คือก้าวเข้ามาในพื้นที่1:50,000ของฝั่งไทย ทหารไทยยิงทันทีไม่ต้องรอคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา,ออกพ้นพื้นที่1:50,000จึงเลิกยิงและหยุดยิงทุกๆกรณี.)นี้คือการหยุดยิงทุกๆกรณี. ข้อ4..ข้อ5...และข้ออื่นๆตามสบาย. ..คือกำลังจะเริ่มเบื่อหน่ายกับทหารไทยเราแล้วจริงๆในความไม่เด็ดขาดกับรัฐบาลชุดนี้ มามุกให้ทหารไทยเราเสียเหลี่ยมเขมรตลอด นายพลชั่วเลวทรยศยังเต็มกองทัพรวมทั้งอดีตนายทหารที่ไปทำมาหาแดกกับเขมรด้วย,ทหารไทยเราต้องจัดการขั้นเด็ดขาดจริงๆ,เรามันคนยุครุ่นน้ำหมากแล้ว ไม่อาจส่งต่อความโกลาหลวุ่นวายคนทรยศขายชาติและภัยต่ออธิปไตยไทยสู่คนไทยรุ่นลูกรุ่นหลานเราหรือรุ่นต่อๆไปได้อีกแล้ว,ให้มันจบที่รุ่นเรานี้.กำจัดกวาดล้างคนทรยศไส้ศึกแผ่นดินไทยกบฎแผ่นดินไทยจริงจังกันเสียที,มันเห็นชัดเจนว่าอดีตมันไม่จริงจังเลย แบบยุทธปืนคอที่กูรูออกมาแฉ จนเขมรล้ำดินแดนอธิปไตยไทยเป็นพื้นที่มากมายมหาศาลทั้งเสียไปกว่าสิบจุดยุทธศาสตร์อีก ซึ่งความจริงปรากฎชัดเมื่อแม่ทัพภาค2.ยึดพื้นที่คืนได้กว่าสิบจุดเช่นกัน,และยึดครองเพิ่มเติมตลอดแนวชายแดนจากอดีตที่ถอยลงมาเข้ามาทางฝั่งไทยเสียมากกว่านั้นเอง,นี้คือหลักฐานพยานชัดเจนว่าอดีตนายพลทหารไทยละเว้นการปกป้องอธิปไตยไทยอย่างซื่อสัตย์สุจริตในตำแหน่งหน้าที่การงานที่ตนปกครองตนมีอำนาจเต็มในการลงมือปฏิบัติให้อธิปไตยไทยตนดำรงอยู่เป็นปกติดีนั้นเอง,นี้มันคือผิดปกติชัดเจน ยึดคืนจากเขมรกว่าสิบจุดยุทธศาสตร์ซึ่งนี้มันคืออะไรล่ะ, ..การประกาศกฎอันการศึกทั่วประเทศไทยต้องเกิดขึ้นจริงจัง จนกว่าบ้านเมืองจะสงบสุขหรือคือกำหนด1:50,000 สำเร็จเสร็จสิ้นจริงลงนั้นเอง,ตัดตอนฝรั่งต่างชาติแทรกแซงก่อความโกลาหลวุ่นวายไม่หยุดหย่อนในบริเวณนี้หรือภูมิภาคดินแดนไทยกับเขมรนี้นั้นเอง,ตัดตอนการถูกใช้เป็นเครื่องมือฝ่ายมืดdeep stateชั่วฝรั่งเศสอเมริกาแทรกแซงผ่านciaหรือหน่วยงานองค์กรสากลใดๆก็ด้วยปั่นป่วนภายในอธิปไตยไทยเรา.เช่นล่าสุดหมายไทยหมายเขมรเป็นสนามสงครามตัวแทนของชาติอเมริกาฆ่าเจ้าหนี้รายใหญ่แบบจีนนั้นเอง.มาตีสนิทบวกบังคับให้ยกพังงาเป็นฐานกองทัพอเมริกาก็ด้วย หมายนัยยะกินรวบศูนย์กลางเศรษฐกิจทำตังทำเงินของประเทศอันมหาศาลด้วยเหมือนที่อเมริกาชั่วปล้นชิงแย่งชิงบ่อน้ำมันไทยสำเร็จ และเหมือนอเมริกาอีกด้วยที่ร่วมกับขี้ข้าลูกน้องนายใหญ่มันแดกบ่อน้ำมันปล้นชิงบ่อน้ำมันต่ออายุให้ชาติอเมริกาจนสำเร็จก็ว่า,คืออเมริกาฝรั่งตาแดงยักษ์มารปีศาจอสูรของจริงล่ะที่ชั่วเลวนอนจนเป็นสันดานนิสัยปกติชอบปล้นชิงใช้เล่ห์เหลี่ยมตอแหลปลิ้นปล้อนไม่ซื่อสาระพัดให้สำเร็จในเป้าหมายตน,ทุกๆความดีข้ามไปได้หมด,เพื่อบรรลุเป้าหมายแห่งตัวกูเพื่อกู ชาติอเมริกากูเป็นต้น ไทยจะเดือดร้อนยากจนประชาชนทุกข์ยากชั่วหัวมรึงกับประชาชนคนไทยโง่ๆฉลาดแบบคนอเมริกากูมีอารยะชนกูแบบอเมริกาไม่ได้กูชาติพัฒนาแล้วจึงชอบธรรมสรรหามุกมาปล้นชิงทรัพยากรโดยเสรีอิสระไม่ผิดอะไรใดๆแก่ทุกๆประเทศทั่วโลกเพราะถูกต้องตามกฎหมายภายในประเทศมรึงแล้วซึ่งกูอเมริกาก็ส่งคนของกูร่วมเขียนกฎหมายห่าเหวนั่นไม่ให้กูผิด เป็นแต่ถูกต้องอย่างเดียวแก่ชาติประเทศคือเขียนกฎหมายเอื้ออำนวยแก่ชาติกู ถูกต้องตามกฎหมายแหกตาให้พวกโง่มรึงดู,บวกสั่งขี้ข้ากูประจำประเทศไทยมรึงแม้ยึดอำนาจปฏิวัติรัฐประหารก็ห้ามมาฉีกกฎฟมายเอาเปรียบพวกประเทศไทยมรึงทุกๆกรณีนะมรึงรู้มั้ย,พรบ.ปืโตรเลียมในไทยจึงดำรงมั่นคงรักษาไว้เพื่ออธิปไตยแผ่นดินชาติอเมริกาก็ด้วย,ชาติฝรั่งยุโรปก็ด้วยสรุปในเครือข่ายยักษ์ตาแดงปีศาจฝรั่งตะวันตกชั่วๆเลวๆนี้เอง, ..สมที่รัสเชีย จีน อิหร่านจะถล่มฝรั่งยุโรปตะวันตกและอเมริกาก็ด้วย,สูญพันธุ์ทั้งแรปทีเลี่ยนใส่ชุดมนุษย์ด้วยก็ดี,อดีตเรื่อยมาตะวันตกนี้ไล่ล่าอาณานิคมแบบป่าเถื่อนบ้าคลั่ง ปล้นชิงทรัพยากรไปทั่วโลก,จุดจบพวกนี้สมควรมาถึง.วิญญาณอาฆาตแค้นมากมายในอดีตเข้าทำลายชาติยุโรปตะวันตกและอเมริกาอย่างบ้าคลั่งก็ว่า,การล่มสลายแห่งอารยะธรรมยุโรปตะวันตกหรือและอเมริกากำลังมาใกล้เร็วๆนี้ก็ได้,ถ้าไม่พลิกเป็นอย่างอื่นตามตาเนื้อธรรมดาที่เห็นตามสถานการณ์เป็นไปของปัจจุบัน. ..#ยึดอำนาจเถอะมหาสงครามตัวจริงรอเราอยู่. https://youtube.com/watch?v=UMwZemXLp3k&si=ER1H93rwMBLcnXWP
    0 Comments 0 Shares 490 Views 0 Reviews
  • ทรัมป์เตรียมดับอนาถเลยถ้าเป็นฝ่ายมืดแล้วทรยศฝ่ายแสงก็ว่า,ฝ่ายแสงห่าอะไรจับมือกับฮุนเซนหมายใช้ไทยเป็นฐานรบกับจีนด้วย,ผู้นำทรยศประจำประเทศไทยก็เต็มใจทรยศไทยเต็มที่ไปเข้าร่วมสมาชิกอินโดแปซิฟิกอย่างภาคภูมิใจพะนะตามนายใหญ่deep stateสั่งขี้ข้าผู้นำไทยต้องไปเข้าร่วมนะมันว่า,
    ..เมื่อฝ่ายมืดเปิดหน้าชัดเจน ทรัมป์ถ้าฝ่ายแสงจริงก็เปิดหน้าจริงเปิดเผยได้แล้ว,ง่ายๆเมื่อรู้ชัดว่าเขมรคือฝ่ายมืดไร้มนุษยธรรมแม้ศพทหารเขมรเองมันยังไม่เก็บ เอาชาวบ้านตาสีตาสาเด็กหญิงเด็กชายไปบังคับเป็นทหารแบบเผด็จการฮุนเซน อเมริกามีหน่วยข่าวกรอกชัดเจนค่าจริงแน่นอนก็กำจัดชาติเขมรตรงเลย แหล่งอาชญากรรมโลกอีก เสือกลีลาการละครผีบ้าอีก ขัดสันดานวิสัยปกติฝ่ายแสงที่เปิดเผยพึ่งกระทำ แม้ฝ่ายมืดจะเปิดตัวหรือไม่เปิดตัวก็ต้องสร้างค่าจริงความยุติจริงดำรงมนุษยธรรมแก่ชาวโลก ไล่ล่าสังหารคนชั่วเลวจริง หรือแบบอ้างแรปทีเลี่ยนใส่ชุดมนุษย์มาแดกคนบนผิวโลกหรือลากคนไปแดกใต้ผิวโลกอุโมงค์ก็ตามแต่,อเมริกานำโดยทรัมป์ต้องแอ็คชั่นตนเองลักษณะนี้,ดูๆในปัจจุบันผีบ้าไปทั่วโลก สภากาแล็กติกผีบ้าสั่งทำทำงานบ้าทำภาระกิจผีบ้าแบบนี้นะเหรอ,จะทำลายสัญลักษณ์ซาตานยิงระเบิดทิ้งแบบเปิดเผยก็ได้ไม่ต้องอ้อมทะเลทั้ง7หรอกเสียเวลางานละครสร้างสงคราม,กะฆ่าลดประชากรโลกจริงๆเหรอก็แสดงว่าการละครนี้ที่กระสั่นสงครามล้วนฝ่ายมืดปกครองทั้งหมดควบคุมทั้งหมดสั่งทรัมป์ให้ก่อสงครามนั้นเอง,ไม่มีฝ่ายแสงห่าเหวอะไรบนโลก ไม่มีสภากาแล็กติกผีบ้าอะไรหรอกโค้ชต่างๆขายของแดกเท่านั้น,มุ่งสงครามคือสันดานดิบเดิมของต่างดาวทุกๆเผ่าพันธุ์,เช่นนั้นนีโอจะปลดปล่อยปลดล็อกกันเอง สร้างโลกใหม่เอง,ภาพรวมตอนนี้อเมริการเลวชั่วไปแล้วนั้นเองตลอดแบบฝรั่งเศสทั้งชาติยุโรปตะวันตกด้วยพวกเดียวกันหมดหมายสังหารคนเอเชียยึดปล้นชิงทรัพยากรของคนเอเชียเพื่อเอาไปดำรงชีพสร้างประโยชน์ใส่ตนแบบเอาแต่ได้และเห็นแก่ตัวสุดๆแบบทำกับไทยปล้นบ่อน้ำมันไทยหมดทั้งประเทศผ่านรูปแบบสัมปทานเกินกว่า20ครั้ง,สงครามนี้คือสงครามการอยู่รอดระหว่างคนฝรั่งกับคนเอเชียอย่างแท้จริง,โลกจะสงบสุข พวกฝรั่งตะวันตกและยุโรปต้องตายสูญพันธุ์ทั้งหมดนั้นเอง,หากเปรียบเทียบทัพสงครามดราก้อนเนี่ยนแรปทีเลี่ยนฝ่ายดีแบบสายแม่โขงสายแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งเอเชียเรา กำลังทำสงครามกับดราก้อนเนี่ยนแรปทีเลี่ยนฝ่ายชั่วเลวฝั่งตะวันตกฝั่งยุโรปนั้นเอง,คือสายเอเชียเราอ้างอิงไทย พญานาคพญาครุฑสายปกป้องพระพุทธศาสนาฝั่งไทยเอเชียกำลังทำมหาสงครามกับพญานาคพญาครุฑสายชั่วเลวมืดฝั่งตะวันตกฝรั่งยุโรปอเมริกาก็ว่า,เราคือพระราม กำลังทำสงครามกับมารปีศาจอเมริกาฝรั่งยุโรปคือยักษ์พาลชั่วเลวอสูรหลงยุคถูกทอดทิ้งหลงเหลือบนโลกก็ว่านั้นเอง เป็นต้น นี้คือมหาสงครามครั้งสุดท้ายก็ว่าได้ เดอะGodคงมีคำสั่งกวาดล้างอสูรหมู่มารที่ยังหลงเหลือแปลงร่างสร้างโกลาหลหายนะแก่โลกแน่ๆ บ๋อยขี้ข้าสมุนรับใช้ของฝ่ายมารมืดบอดอสูรปีศาจต่างดาวเลวชั่วทั้งหมดที่อยู่ในโลกใบนี้ถึงเวลากำจัดขั้นเด็ดขาดแล้วนั้นเอง เลอะเทอะมากพอแล้วนานพอแล้ว จัดระเบียบอัพเรเวลโลกได้แล้ว.



    https://youtube.com/watch?v=JyKAYwCR8Hs&si=GX-5cJO9gAkuHabT
    ทรัมป์เตรียมดับอนาถเลยถ้าเป็นฝ่ายมืดแล้วทรยศฝ่ายแสงก็ว่า,ฝ่ายแสงห่าอะไรจับมือกับฮุนเซนหมายใช้ไทยเป็นฐานรบกับจีนด้วย,ผู้นำทรยศประจำประเทศไทยก็เต็มใจทรยศไทยเต็มที่ไปเข้าร่วมสมาชิกอินโดแปซิฟิกอย่างภาคภูมิใจพะนะตามนายใหญ่deep stateสั่งขี้ข้าผู้นำไทยต้องไปเข้าร่วมนะมันว่า, ..เมื่อฝ่ายมืดเปิดหน้าชัดเจน ทรัมป์ถ้าฝ่ายแสงจริงก็เปิดหน้าจริงเปิดเผยได้แล้ว,ง่ายๆเมื่อรู้ชัดว่าเขมรคือฝ่ายมืดไร้มนุษยธรรมแม้ศพทหารเขมรเองมันยังไม่เก็บ เอาชาวบ้านตาสีตาสาเด็กหญิงเด็กชายไปบังคับเป็นทหารแบบเผด็จการฮุนเซน อเมริกามีหน่วยข่าวกรอกชัดเจนค่าจริงแน่นอนก็กำจัดชาติเขมรตรงเลย แหล่งอาชญากรรมโลกอีก เสือกลีลาการละครผีบ้าอีก ขัดสันดานวิสัยปกติฝ่ายแสงที่เปิดเผยพึ่งกระทำ แม้ฝ่ายมืดจะเปิดตัวหรือไม่เปิดตัวก็ต้องสร้างค่าจริงความยุติจริงดำรงมนุษยธรรมแก่ชาวโลก ไล่ล่าสังหารคนชั่วเลวจริง หรือแบบอ้างแรปทีเลี่ยนใส่ชุดมนุษย์มาแดกคนบนผิวโลกหรือลากคนไปแดกใต้ผิวโลกอุโมงค์ก็ตามแต่,อเมริกานำโดยทรัมป์ต้องแอ็คชั่นตนเองลักษณะนี้,ดูๆในปัจจุบันผีบ้าไปทั่วโลก สภากาแล็กติกผีบ้าสั่งทำทำงานบ้าทำภาระกิจผีบ้าแบบนี้นะเหรอ,จะทำลายสัญลักษณ์ซาตานยิงระเบิดทิ้งแบบเปิดเผยก็ได้ไม่ต้องอ้อมทะเลทั้ง7หรอกเสียเวลางานละครสร้างสงคราม,กะฆ่าลดประชากรโลกจริงๆเหรอก็แสดงว่าการละครนี้ที่กระสั่นสงครามล้วนฝ่ายมืดปกครองทั้งหมดควบคุมทั้งหมดสั่งทรัมป์ให้ก่อสงครามนั้นเอง,ไม่มีฝ่ายแสงห่าเหวอะไรบนโลก ไม่มีสภากาแล็กติกผีบ้าอะไรหรอกโค้ชต่างๆขายของแดกเท่านั้น,มุ่งสงครามคือสันดานดิบเดิมของต่างดาวทุกๆเผ่าพันธุ์,เช่นนั้นนีโอจะปลดปล่อยปลดล็อกกันเอง สร้างโลกใหม่เอง,ภาพรวมตอนนี้อเมริการเลวชั่วไปแล้วนั้นเองตลอดแบบฝรั่งเศสทั้งชาติยุโรปตะวันตกด้วยพวกเดียวกันหมดหมายสังหารคนเอเชียยึดปล้นชิงทรัพยากรของคนเอเชียเพื่อเอาไปดำรงชีพสร้างประโยชน์ใส่ตนแบบเอาแต่ได้และเห็นแก่ตัวสุดๆแบบทำกับไทยปล้นบ่อน้ำมันไทยหมดทั้งประเทศผ่านรูปแบบสัมปทานเกินกว่า20ครั้ง,สงครามนี้คือสงครามการอยู่รอดระหว่างคนฝรั่งกับคนเอเชียอย่างแท้จริง,โลกจะสงบสุข พวกฝรั่งตะวันตกและยุโรปต้องตายสูญพันธุ์ทั้งหมดนั้นเอง,หากเปรียบเทียบทัพสงครามดราก้อนเนี่ยนแรปทีเลี่ยนฝ่ายดีแบบสายแม่โขงสายแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งเอเชียเรา กำลังทำสงครามกับดราก้อนเนี่ยนแรปทีเลี่ยนฝ่ายชั่วเลวฝั่งตะวันตกฝั่งยุโรปนั้นเอง,คือสายเอเชียเราอ้างอิงไทย พญานาคพญาครุฑสายปกป้องพระพุทธศาสนาฝั่งไทยเอเชียกำลังทำมหาสงครามกับพญานาคพญาครุฑสายชั่วเลวมืดฝั่งตะวันตกฝรั่งยุโรปอเมริกาก็ว่า,เราคือพระราม กำลังทำสงครามกับมารปีศาจอเมริกาฝรั่งยุโรปคือยักษ์พาลชั่วเลวอสูรหลงยุคถูกทอดทิ้งหลงเหลือบนโลกก็ว่านั้นเอง เป็นต้น นี้คือมหาสงครามครั้งสุดท้ายก็ว่าได้ เดอะGodคงมีคำสั่งกวาดล้างอสูรหมู่มารที่ยังหลงเหลือแปลงร่างสร้างโกลาหลหายนะแก่โลกแน่ๆ บ๋อยขี้ข้าสมุนรับใช้ของฝ่ายมารมืดบอดอสูรปีศาจต่างดาวเลวชั่วทั้งหมดที่อยู่ในโลกใบนี้ถึงเวลากำจัดขั้นเด็ดขาดแล้วนั้นเอง เลอะเทอะมากพอแล้วนานพอแล้ว จัดระเบียบอัพเรเวลโลกได้แล้ว. https://youtube.com/watch?v=JyKAYwCR8Hs&si=GX-5cJO9gAkuHabT
    0 Comments 0 Shares 323 Views 0 Reviews
  • 555,เขมรเต็มๆ อเมริกาด้วย ยุคนี้คือทรัมป์ กล้าค้ำหัวร่วมมือกับเขมรแสดงว่าอเมริกาชาติประเทศนี้ปล้นชิงสูบแย่งชิงชาติอื่นทั่วโลกจนเป็นสันดานนอนในใจเช่นกัน,คบกับเขมรได้ จับมือเขมรลงใจขนาดนั้นได้ตลอดชาติประเทศฝรั่งเศสที่ใช้เขมรสูบเบียดเบียนชาติไทยมานานก็อาจถึงเวลาล่มสลายของประเทศจริงๆเช่นกันแบบอเมริกา ผลกรรมของอเมริกาของฝรั่งเศสที่กำลังรับผลของวิบากกรรมมากมายที่ไปกระทำชาวโลกทั่วโลกกำลังย้อนกลับสู่ชาติประเทศตะวันตกแล้วเช่นกัน วิญญาณอาฆาตแค้นทั่วโลกระดมความหายนะมากมายสู่อเมริกาู่ฝรั่งเศสและหรือชาติยุโรปตะวันตกเป็นอันมากหรือเศรษฐกิจยุโรปพังพินาศที่เห็นในปัจจุบันนี้เอง,จึงหมายรีเซ็ตก่อสงครามไปทั่วโลกเพื่อจะอาศัยสงครามฟื้นคืนชีพตนเองกลับมาเป็นผู้ควบคุมระบบอีกครั้ง,
    ..
    ..นี้ก็เลยเวลา1-2วันที่หมอปลายทำนายแล้วนะ,ถ้าคนเหนือมนุษย์จริงๆจะไม่ประมาทแบบนี้ในบริบทตนต่อสังคม,จะมีสติคิดอ่านควบคุมกายวาจาตนในสิ่งที่จะพูดแน่นอน,และปากตนเองสามารถชี้นำสังคมได้ด้วยเพราะเสมือนผู้คนรู้จักมากกว่าคนทั่วไปปกตินั้นเอง,ความรับผิดชอบในสิ่งที่ปากพูดออกผ่านสื่อจึงอันตรายและสำคัญมาก,จะเอามันส์ไม่ได้,พอดีในกาลจังหวะเวลากาละเทศะจริงๆ.ยิ่งนี้มิใช่เรื่องส่วนตัว ตัวต่อตัวด้วย มันระดับชาติเลยนะ,แม้เป็นจริงมีประโยชน์แต่ผิดกาลก็อย่าพูด,ไปพูดสายตรงเฉพาะบุคคลกับรองแม่ทัพ เลขาแม่ทัพหรือแม่ทัพบิ๊กกุ้งก็ได้,หาทางแก้ไขรับมือทางยุทธศาสตร์สงครามต่อไปหากแม่นจริง100%คือกูทำนายว่าเกิดขึ้นแน่นอนนั้นเอง.

    https://youtube.com/watch?v=4kw4-0EpviI&si=gk5tumKFYfG01BUp
    555,เขมรเต็มๆ อเมริกาด้วย ยุคนี้คือทรัมป์ กล้าค้ำหัวร่วมมือกับเขมรแสดงว่าอเมริกาชาติประเทศนี้ปล้นชิงสูบแย่งชิงชาติอื่นทั่วโลกจนเป็นสันดานนอนในใจเช่นกัน,คบกับเขมรได้ จับมือเขมรลงใจขนาดนั้นได้ตลอดชาติประเทศฝรั่งเศสที่ใช้เขมรสูบเบียดเบียนชาติไทยมานานก็อาจถึงเวลาล่มสลายของประเทศจริงๆเช่นกันแบบอเมริกา ผลกรรมของอเมริกาของฝรั่งเศสที่กำลังรับผลของวิบากกรรมมากมายที่ไปกระทำชาวโลกทั่วโลกกำลังย้อนกลับสู่ชาติประเทศตะวันตกแล้วเช่นกัน วิญญาณอาฆาตแค้นทั่วโลกระดมความหายนะมากมายสู่อเมริกาู่ฝรั่งเศสและหรือชาติยุโรปตะวันตกเป็นอันมากหรือเศรษฐกิจยุโรปพังพินาศที่เห็นในปัจจุบันนี้เอง,จึงหมายรีเซ็ตก่อสงครามไปทั่วโลกเพื่อจะอาศัยสงครามฟื้นคืนชีพตนเองกลับมาเป็นผู้ควบคุมระบบอีกครั้ง, .. ..นี้ก็เลยเวลา1-2วันที่หมอปลายทำนายแล้วนะ,ถ้าคนเหนือมนุษย์จริงๆจะไม่ประมาทแบบนี้ในบริบทตนต่อสังคม,จะมีสติคิดอ่านควบคุมกายวาจาตนในสิ่งที่จะพูดแน่นอน,และปากตนเองสามารถชี้นำสังคมได้ด้วยเพราะเสมือนผู้คนรู้จักมากกว่าคนทั่วไปปกตินั้นเอง,ความรับผิดชอบในสิ่งที่ปากพูดออกผ่านสื่อจึงอันตรายและสำคัญมาก,จะเอามันส์ไม่ได้,พอดีในกาลจังหวะเวลากาละเทศะจริงๆ.ยิ่งนี้มิใช่เรื่องส่วนตัว ตัวต่อตัวด้วย มันระดับชาติเลยนะ,แม้เป็นจริงมีประโยชน์แต่ผิดกาลก็อย่าพูด,ไปพูดสายตรงเฉพาะบุคคลกับรองแม่ทัพ เลขาแม่ทัพหรือแม่ทัพบิ๊กกุ้งก็ได้,หาทางแก้ไขรับมือทางยุทธศาสตร์สงครามต่อไปหากแม่นจริง100%คือกูทำนายว่าเกิดขึ้นแน่นอนนั้นเอง. https://youtube.com/watch?v=4kw4-0EpviI&si=gk5tumKFYfG01BUp
    0 Comments 0 Shares 211 Views 0 Reviews
  • ยุโรปตะวันตก "กำลังพ่ายแพ้" ในการแข่งขันทางเศรษฐกิจกับ 2 คู่แข่งสำคัญ จีนและสหรัฐฯ และกำลังประสบปัญหาขาดแคลนบริษัทที่มีความสามารถในการแข่งขันในระดับโลก จากความเห็นของเจมี ดิมอน ซีอีโอของสถาบันการเงินเจพีมอร์แกน เชส

    นับตั้งแต่ปี 2022 ครั้งที่สหภาพยุโรป(อียู) กำหนดมาตรการคว่ำบาตรอย่างครอบคลุมเล่นงานพลังงานรัสเซีย ลงโทษเกี่ยวกับความขัดแย้งในยูเครน การเติบโตทั่วทั้งกลุ่มอยู่ในภาวะซบเซา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เยอรมนี ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นพลังขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ กำลังประสบภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน

    มอสโก ระบุว่ามาตรการจำกัดต่างๆของอียูเป็นการกระทำที่นำไปสู่ความพ่ายแพ้ของตนเอง กระพือราคาพลังงานพุ่งสูงและก่อความอ่อนแอแก่เศรษฐกิจของทางกลุ่ม

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000065526

    #Thaitimes #MGROnline #ยุโรปตะวันตก #สหภาพยุโรป #อียู
    ยุโรปตะวันตก "กำลังพ่ายแพ้" ในการแข่งขันทางเศรษฐกิจกับ 2 คู่แข่งสำคัญ จีนและสหรัฐฯ และกำลังประสบปัญหาขาดแคลนบริษัทที่มีความสามารถในการแข่งขันในระดับโลก จากความเห็นของเจมี ดิมอน ซีอีโอของสถาบันการเงินเจพีมอร์แกน เชส • นับตั้งแต่ปี 2022 ครั้งที่สหภาพยุโรป(อียู) กำหนดมาตรการคว่ำบาตรอย่างครอบคลุมเล่นงานพลังงานรัสเซีย ลงโทษเกี่ยวกับความขัดแย้งในยูเครน การเติบโตทั่วทั้งกลุ่มอยู่ในภาวะซบเซา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เยอรมนี ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นพลังขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ กำลังประสบภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน • มอสโก ระบุว่ามาตรการจำกัดต่างๆของอียูเป็นการกระทำที่นำไปสู่ความพ่ายแพ้ของตนเอง กระพือราคาพลังงานพุ่งสูงและก่อความอ่อนแอแก่เศรษฐกิจของทางกลุ่ม • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000065526 • #Thaitimes #MGROnline #ยุโรปตะวันตก #สหภาพยุโรป #อียู
    0 Comments 0 Shares 381 Views 0 Reviews
  • ..เงินบริจาคคณะรวมพลังแผ่นดินไทยเรา สามารถมอบให้ทหารฝ่ายนี้ของเราได้หากฝ่ายที่ว่าปฏิเสธเพื่อรักษาท่าที,ช่วยซื้ออุปกรณ์เครื่องมือที่สำคัญจำเป็นได้.
    ..ถ้าชัดเจนว่าเป็นมิติจากเกาหลีเหนือจริงมิใช่เป็นการปล่อยข่าวสร้างฝักสร้างฝ่ายให้เราแตกแยกกันเองในคนเอเชียด้วยกันและเกาหลีเหนือแทบไม่มีข่าวอะไรกับไทยเลย,หากคตเกาหลีเหนือรับใช้ฮุนเซนก็ต้องติดต่อประเทศเกาหลีเหนือโดยตรงเพื่อประสานงานว่าคนของตนมาร่วมในภัยคุกคามคร้งนี้จริงหรือไม่ เกาหลีเหนือควรมีท่าทีเพื่อจัดการคนนอกรีตสัญชาติเกาหลีเหนือของตนอย่างไร,ipหรือใดๆมาจากเขมรหรือมาจากเกาหลีเหนือ สิ่งนี้ต้องชัดเจนแก่เกาหนีเหนือพร้อมประสานทางจีนเพื่อพูดคุยบอกผ่านไปยังเกาหลีเหนือด้วยเพราะเป็นพี่ใหญ่ของเกาหลีเหนือต้องจัดการคนนอกรีตของตนในเขมรทันที,เพื่อมิให้อเมริกาหรือฝรั่งชาติตะวันตกมายึดฐานในไทยทำสงครามกับจีนได้สะดวกหรือตีเนียนว่าเขมรมีเกาหลีเหนือลูกน้องจีนหนุนหลังหรือจีนสนับสนุนเขมรทางอ้อมโดยผ่านคนเกาหลีเหนือมิตรสหายจีนนั้นเอง,เกาหลีเหนือต้องส่งคนของตนมากวาดล้างคนของตนในเขมรทันทีหรือสั่งสอนเขมรด้วยวิธีไซเบอร์จริงโจมตีเขมรล่มทั้งประเทศ,แฮ็กเงินทองฮุนเซนและคนตระกูลฮุนเซนทั้งหมดทั่วโลกเลยที่ฟอกตังชาวโลกที่ไปหลอกลวงมาทั่วโลกไปเก็บไว้เกาหลีเหนือเลย,พร้อมติดตามไล่ล่าคนสัญชาติเกาหลีเหนือนอกรีตนั้นที่มาให้ตะวันตกใช้เป็นของอ้างหาฝักฝ่ายในเอเชียเราชัดเจนขึ้น,นี้ล่ะจึงต้องตัดไฟฟ้าตัดเน็ตตัดสายเคเบิลในทะเลจริงมิให้เขมรใช้เป็นช่องทางเล่นงานไทยได้,มีประตูเดียวเกตเวย์เดียวจะตรวจจับและป้องกันภัยไซเบอร์ใดๆจากใครจะอยากโจมตีได้ระดับหนึ่ง เห็นโจรคนร้ายก็ง่าย,
    ..กระทรวงต่างประเทศไทยจีนไทยเกาหลีเหนือหากมีฑูตต้องประสานงานทันทีเพราะนัยยะจะดึงจะอ้างเกาหลีเหนือพันธมิตรจีนมาเล่นแบบนี้ไม่ดี,เสมือนเขมรกำลังดึงชาติยุโรปตะวันตกอเมริกามาร่วมเป็นสงครามตัวแทนจนถึงให้ไทยเป็นฐานฝรั่งเพื่อทำสงครามกับจีนได้,โดยเขมรกำลังบอกเป็นนัยยะว่าตนมีเกาหลีเหนือและจีนสนับสนุนหนุนหลังเต็มที่ทางลับๆนะ,ไทยคือพวกตะวันตกอเมริกาและชาติฝรั่งยุโรปหนุนพะนะ,เขมรจึงตัวป่วนสร้างสงครามระดับภูมิภาคอาเชียนจนถึงดึงถึงระดับเอเชียแบบจีนกับอเมริกาได้,นี้คือภัยที่ประเทศอาเชียนต้องคว่ำบาตรเขมรตัดเสบียงเขมรไม่สนับสนุนทั้งหมด,แน่นอนหลายชาติทั่วโลกและอาเชียนโดยโจมตีทางไซเบอร์จากเขมรแน่นอน มันทำกับไทยอย่างเปิดเผย,แสดงว่าที่ไม่เปิดเผยก็ไม่รอดแน่ๆที่ผ่านๆมา และข้อมูลที่เดอะแก๊งอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์ได้หลอกลวงเหยื่อสำเร็จก็ได้มาจากการโจมตีแฮ็กระบบดูดข้อมูลด้วยหัวหน้าใหญ่ชาติเขมรสั่งการนี้เอง,หรือการโจมตีสาระพัดรูปแบบให้ได้ซึ่งใดๆสู่เขมรมาจากเขมรนี้ล่ะ
    ..แฮ็กเกอร์ดีๆทั่วโลก สามารถแฮ็กโจมตีเอาตังเอาทองของคนตระกูลฮุนเซนที่ฟอกตังทั่วโลกได้เลยนะ,ไม่ผิดหรอก,ทหารนิรนามมือพระกาฬทั่วโลกก็แฮ๊กตังแฮ็กคริปโตฯโทเคนตระกูลฮุนเซนหรือเงินทองที่ฝากๆไว้ทั่วโลกได้เพราะคนอาชญากรรมของโลก ชาวโลกต้องร่วมกันกำจัด,ฮับเจ้าพ่อใหญ่ควบคุมเขมรเอง เปิดเผยตัวตนขนาดนี้ เดอะแฮ็กเกอร์ทั่วโลกสมควรจัดการมันด้วย.

    https://youtu.be/kkeSLysOwKQ?si=MDVtQ6QZT-11ztDs
    ..เงินบริจาคคณะรวมพลังแผ่นดินไทยเรา สามารถมอบให้ทหารฝ่ายนี้ของเราได้หากฝ่ายที่ว่าปฏิเสธเพื่อรักษาท่าที,ช่วยซื้ออุปกรณ์เครื่องมือที่สำคัญจำเป็นได้. ..ถ้าชัดเจนว่าเป็นมิติจากเกาหลีเหนือจริงมิใช่เป็นการปล่อยข่าวสร้างฝักสร้างฝ่ายให้เราแตกแยกกันเองในคนเอเชียด้วยกันและเกาหลีเหนือแทบไม่มีข่าวอะไรกับไทยเลย,หากคตเกาหลีเหนือรับใช้ฮุนเซนก็ต้องติดต่อประเทศเกาหลีเหนือโดยตรงเพื่อประสานงานว่าคนของตนมาร่วมในภัยคุกคามคร้งนี้จริงหรือไม่ เกาหลีเหนือควรมีท่าทีเพื่อจัดการคนนอกรีตสัญชาติเกาหลีเหนือของตนอย่างไร,ipหรือใดๆมาจากเขมรหรือมาจากเกาหลีเหนือ สิ่งนี้ต้องชัดเจนแก่เกาหนีเหนือพร้อมประสานทางจีนเพื่อพูดคุยบอกผ่านไปยังเกาหลีเหนือด้วยเพราะเป็นพี่ใหญ่ของเกาหลีเหนือต้องจัดการคนนอกรีตของตนในเขมรทันที,เพื่อมิให้อเมริกาหรือฝรั่งชาติตะวันตกมายึดฐานในไทยทำสงครามกับจีนได้สะดวกหรือตีเนียนว่าเขมรมีเกาหลีเหนือลูกน้องจีนหนุนหลังหรือจีนสนับสนุนเขมรทางอ้อมโดยผ่านคนเกาหลีเหนือมิตรสหายจีนนั้นเอง,เกาหลีเหนือต้องส่งคนของตนมากวาดล้างคนของตนในเขมรทันทีหรือสั่งสอนเขมรด้วยวิธีไซเบอร์จริงโจมตีเขมรล่มทั้งประเทศ,แฮ็กเงินทองฮุนเซนและคนตระกูลฮุนเซนทั้งหมดทั่วโลกเลยที่ฟอกตังชาวโลกที่ไปหลอกลวงมาทั่วโลกไปเก็บไว้เกาหลีเหนือเลย,พร้อมติดตามไล่ล่าคนสัญชาติเกาหลีเหนือนอกรีตนั้นที่มาให้ตะวันตกใช้เป็นของอ้างหาฝักฝ่ายในเอเชียเราชัดเจนขึ้น,นี้ล่ะจึงต้องตัดไฟฟ้าตัดเน็ตตัดสายเคเบิลในทะเลจริงมิให้เขมรใช้เป็นช่องทางเล่นงานไทยได้,มีประตูเดียวเกตเวย์เดียวจะตรวจจับและป้องกันภัยไซเบอร์ใดๆจากใครจะอยากโจมตีได้ระดับหนึ่ง เห็นโจรคนร้ายก็ง่าย, ..กระทรวงต่างประเทศไทยจีนไทยเกาหลีเหนือหากมีฑูตต้องประสานงานทันทีเพราะนัยยะจะดึงจะอ้างเกาหลีเหนือพันธมิตรจีนมาเล่นแบบนี้ไม่ดี,เสมือนเขมรกำลังดึงชาติยุโรปตะวันตกอเมริกามาร่วมเป็นสงครามตัวแทนจนถึงให้ไทยเป็นฐานฝรั่งเพื่อทำสงครามกับจีนได้,โดยเขมรกำลังบอกเป็นนัยยะว่าตนมีเกาหลีเหนือและจีนสนับสนุนหนุนหลังเต็มที่ทางลับๆนะ,ไทยคือพวกตะวันตกอเมริกาและชาติฝรั่งยุโรปหนุนพะนะ,เขมรจึงตัวป่วนสร้างสงครามระดับภูมิภาคอาเชียนจนถึงดึงถึงระดับเอเชียแบบจีนกับอเมริกาได้,นี้คือภัยที่ประเทศอาเชียนต้องคว่ำบาตรเขมรตัดเสบียงเขมรไม่สนับสนุนทั้งหมด,แน่นอนหลายชาติทั่วโลกและอาเชียนโดยโจมตีทางไซเบอร์จากเขมรแน่นอน มันทำกับไทยอย่างเปิดเผย,แสดงว่าที่ไม่เปิดเผยก็ไม่รอดแน่ๆที่ผ่านๆมา และข้อมูลที่เดอะแก๊งอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์ได้หลอกลวงเหยื่อสำเร็จก็ได้มาจากการโจมตีแฮ็กระบบดูดข้อมูลด้วยหัวหน้าใหญ่ชาติเขมรสั่งการนี้เอง,หรือการโจมตีสาระพัดรูปแบบให้ได้ซึ่งใดๆสู่เขมรมาจากเขมรนี้ล่ะ ..แฮ็กเกอร์ดีๆทั่วโลก สามารถแฮ็กโจมตีเอาตังเอาทองของคนตระกูลฮุนเซนที่ฟอกตังทั่วโลกได้เลยนะ,ไม่ผิดหรอก,ทหารนิรนามมือพระกาฬทั่วโลกก็แฮ๊กตังแฮ็กคริปโตฯโทเคนตระกูลฮุนเซนหรือเงินทองที่ฝากๆไว้ทั่วโลกได้เพราะคนอาชญากรรมของโลก ชาวโลกต้องร่วมกันกำจัด,ฮับเจ้าพ่อใหญ่ควบคุมเขมรเอง เปิดเผยตัวตนขนาดนี้ เดอะแฮ็กเกอร์ทั่วโลกสมควรจัดการมันด้วย. https://youtu.be/kkeSLysOwKQ?si=MDVtQ6QZT-11ztDs
    0 Comments 0 Shares 450 Views 0 Reviews
  • ผู้นำลิทัวเนียเรียกร้องให้ประชาชนไม่เฉลิมฉลองวันแห่งชัยชนะในวันที่ 9 พฤษภาคม โดยให้ยึดมั่นตามประเพณีของยุโรป ซึ่งจะฉลองในวันที่ 8 พฤษภาคม เพราะลิทัวเนียคือชาวยุโรปแล้ว!!!

    “ผมแนะนำให้ชาวลิทัวเนียงดเว้นการฉลองในวันพรุ่งนี้ (9 พฤษภาคม) โดยให้ยึดมั่นตามประเพณีของยุโรป” ประธานาธิบดีกิตานาส เนาเซดา

    และสำหรับผู้ที่ไม่เห็นด้วย ที่ยังดื้อแพ่งเฉลิมฉลองตามประเพณีชาวรัสเซีย ซึ่งจะถือว่าเป็นการกระทำที่ “ยุยงปลุกปั่น” ประธานาธิบดีเตือนว่า หน่วยข่าวกรองและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่นๆ “จะทำหน้าที่ของตน” อย่างแข็งขัน

    นอกจากนี้ เนาเซดา ผู้นำลิทัวเนีย ยังกล่าวอีกว่า กำลังเสนอให้มีการสร้างอนุสาวรีย์เพื่อรำลึกถึงอาชญากรรมของนาซี รวมทั้งโซเวียต ในกรุงบรัสเซลส์

    ช่วงเวลาดังกล่าวจะช่วยสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับระบอบเผด็จการในศตวรรษที่ 20 ในหมู่ประชาชนในยุโรปตะวันตก เขากล่าวเสริม

    “เรากำลังดำเนินการสร้างอนุสาวรีย์ในกรุงบรัสเซลส์เพื่อรำลึกถึงอาชญากรรมของฮิตเลอร์ ไม่เพียงแต่ว่าฮิตเลอร์ทำอะไร แต่ยังรวมถึงสิ่งที่สตาลินทำด้วย เราต้องมีหลักการที่มั่นคงและต้องนำเสนอต่อประชาชนในยุโรปตะวันตก เพื่อที่พวกเขาจะได้ตื่นรู้” เนาเซดากล่าวกับผู้สื่อข่าวในเมืองมาซิไกเมื่อวันพฤหัสบดี
    ผู้นำลิทัวเนียเรียกร้องให้ประชาชนไม่เฉลิมฉลองวันแห่งชัยชนะในวันที่ 9 พฤษภาคม โดยให้ยึดมั่นตามประเพณีของยุโรป ซึ่งจะฉลองในวันที่ 8 พฤษภาคม เพราะลิทัวเนียคือชาวยุโรปแล้ว!!! “ผมแนะนำให้ชาวลิทัวเนียงดเว้นการฉลองในวันพรุ่งนี้ (9 พฤษภาคม) โดยให้ยึดมั่นตามประเพณีของยุโรป” ประธานาธิบดีกิตานาส เนาเซดา และสำหรับผู้ที่ไม่เห็นด้วย ที่ยังดื้อแพ่งเฉลิมฉลองตามประเพณีชาวรัสเซีย ซึ่งจะถือว่าเป็นการกระทำที่ “ยุยงปลุกปั่น” ประธานาธิบดีเตือนว่า หน่วยข่าวกรองและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่นๆ “จะทำหน้าที่ของตน” อย่างแข็งขัน นอกจากนี้ เนาเซดา ผู้นำลิทัวเนีย ยังกล่าวอีกว่า กำลังเสนอให้มีการสร้างอนุสาวรีย์เพื่อรำลึกถึงอาชญากรรมของนาซี รวมทั้งโซเวียต ในกรุงบรัสเซลส์ ช่วงเวลาดังกล่าวจะช่วยสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับระบอบเผด็จการในศตวรรษที่ 20 ในหมู่ประชาชนในยุโรปตะวันตก เขากล่าวเสริม “เรากำลังดำเนินการสร้างอนุสาวรีย์ในกรุงบรัสเซลส์เพื่อรำลึกถึงอาชญากรรมของฮิตเลอร์ ไม่เพียงแต่ว่าฮิตเลอร์ทำอะไร แต่ยังรวมถึงสิ่งที่สตาลินทำด้วย เราต้องมีหลักการที่มั่นคงและต้องนำเสนอต่อประชาชนในยุโรปตะวันตก เพื่อที่พวกเขาจะได้ตื่นรู้” เนาเซดากล่าวกับผู้สื่อข่าวในเมืองมาซิไกเมื่อวันพฤหัสบดี
    0 Comments 0 Shares 348 Views 0 Reviews
  • 11-04-68/03 : หมี CNN / ผู้ใหญ่เหี้ย..พาเด็กซวย! ท่าทางอียิวมันคงเครียดแค้นอีอินทรีเหล็กอย่างหนัก กะไม่ให้เหลือลูกหลานไว้สืบพันธุ์ต่อไป ลากเด็ก เยาวชนมาตายห่าให้หมด เอาให้บ้านเมืองเต็มไปด้วยกลิ่นดินปืน? ปชต.ตอแหล จะเติบโตเต็มที่ ในพื้นที่ ที่มีควายหน้าโง่เยอะที่สุด ยิ่ง EGO แรง ขาดสติ สิ้นชาติ สูญพันธุ์ง่ายดาย มรึงฆ่ากันเองตายไม่พอ ยังจะเอาลูกหลานไปตายห่าต่ออีก ให้ภาพจำในวัยเด็ก มีแต่เรื่องปืนและการเข่นฆ่า นี่เหรอ ประเทศที่พัฒนาแล้ว ขัดแย้งกับภาพลักษณ์ที่มรึงอุตส่าห์ตอแหลสร้างกันมายาวนานนับศตวรรษ อะไรน่ะ สิทธิ เสรีภาพ มนุษยชน คือเรื่องเอาไว้หลอกควายหน้าโง่จ๊ะ แผ่นดินใคร ใครก็ต้องปกป้อง ไม่ใช่เอารูปแบบการปกครองชาติหมาที่อื่นมาอ้าง แล้วปล้นแผ่นดินเค้าไปทั่ว ปชต.พ่องดิ? เรื่องสร้างความตื่นตระหนก อีโง่ยุโรปมันถนัด เพราะแท้จริงแล้ว ฝรั่งขี้ขลาดกว่าเอเซียเยอะ กลัวตาย ถึงเวลาสู้ เผ่นหางจุกตูดหมด ผิดกับสายพันธุ์สลาฟ ฮั่น และอโยธยา พุ่งเข้าใส่ ใจมันได้ ตายไม่กลัว กลัวไม่ได้สู้เพื่อแผ่นดินเกิด การปลุกฝังมันต่างกัน กว่าจะเป็นแผ่นดินพ่อทุกวันนี้ได้ เราต้องแลกกับอะไรมาเยอะ เมื่อเทคโนโลยีเอเซียก้าวกระโดดแซงหน้าไอ้อีเหี้ยตะวันตก มันถึงได้เกิดการแข็งข้อแบบนี้ไงล่ะ? ใครมันจะยอมตามหลัง ไอ้อีหน้าโง่ ที่โง่ดักดาน โง่บัดซบกว่ากู 100 เท่า กันล่ะ? ที่อียุโรปเอาเด็กมาบังหน้า กูอ่านแผนออกเลย เดาไม่ยาก ถึงเวลาจริง ดันส่งเด็ก สตรี คนชรา มายื่นแถวหน้า เพื่อขู่รัสเซีย แน่จริงยิงสิฟ่ะ? รัสเซียสุภาพบุรุษพอ เปิดโจ๊ะเจรจา แล้วค่อยเก็บไอ้พวกเหี้ยอย่างมรึงกลางที่ประชุมนั่นแหละ ชาวบ้านจะได้ไม่เดือดร้อน เอาแบบแม่นยำ เป๊ะเด๊ะ ลงกลางหัว กลางเป้า กลางตึกกันไปเลย ทหารจะฆ่าศัตรูที่เป็นทหาร เค้าไม่ฆ่าพลเรือน เหมือนที่พวกระยำสลัดหมาอย่างมรึงทำกันมาก่อนหน้า อีโปล อีไวกิ้ง รู้ตัว ไม่ตายคาตรีนเครมลิน ก็ตายคาตรีนวอชิงตัน แต่กูจะบอกให้ หากมรึงรู้ชะตากรรมตัวเอง ว่ายังไงก็ต้องเสียดินแดนแล้วไซร้ สู้อยู่กับผู้ที่เปิดช่องทางอยู่ร่วมกันดีกว่ามั้ย หากอยู่กับอีวอชิงตัน มรึงก็เป็นได้แค่ ขี้ข้ารองตรีนเท่านั้น! ลำดับอาหารอันโอชะจานโปรดของปูติน เริ่มที่อียูเครน ต่อ อีโปล+อี 3 เสือก ต่อ สแกนดิเนเวีย ต่อ ลอนดอน ทั้งหมดจบลงที่ท่อแก็สอาร์คติค เข้าเชื่อมยุโรป เอเซีย อาหรับ แอฟริกา ตอนนี้สิ่งที่ปูตินทำคือ ตัดแขน ตัดขา มรึงหมดเกลี้ยงแล้ว รอแค่บดขยี้ ไปเรื่อยๆ จนมรึงต้องยอมหมอบ บีบจนมรึงไม่มีจะแดร๊ก ไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีอาหาร และน้ำ จะอยู่กันต่อยังไง? สุดท้ายก็ต้องจบที่โต๊ะเจรจา ด้วยการแพ้สงครามอย่างไม่มีเงื่อนไข กติกาใหม่โลกถึงจะก่อเกิดสำเร็จ และนั่นคือการตัดขาดยุโรปออกจากสหรัฐ อย่างเต็มตรีน ชั่วโมงนี้ เหี้ยมันจ้องหักหลังกันเองแน่ ทำชัวร์ เพราะใครดี ใครได้ ใครรอด? หมากัดกัน ภาพที่น่าสมเพช จนมรึงแทบอ๊วก

    Germany to prepare children for war – Handelsblatt หนังสือพิมพ์ Handelsblatt ระบุว่า เยอรมนีจะเตรียมเยาวชนให้พร้อมสำหรับสงคราม

    ------------------------------------------------------------------------—
    RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : หนังสือพิมพ์ Handelsblatt ระบุว่า เยอรมนีจะเตรียมเยาวชนให้พร้อมสำหรับสงคราม

    เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ Handelsblatt รายงานจากโฆษกกระทรวงว่า กระทรวงมหาดไทยของเยอรมนีเสนอให้โรงเรียนเตรียมนักเรียนให้พร้อมกับวิกฤติต่างๆรวมถึงสงคราม

    ข้อเสนอต่อ “ความพร้อมของประชาชน” จากรัฐบาลยุโรปตะวันตกตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งและเริ่มเป็นตัวกลางในการเจรจาสันติภาพกับยูเครนซึ่งรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศเยอรมนี อันนาเลนา บาเออร์บ๊อกมองว่าเป็น “ทางตัน”

    ตามรายงาน การโจมตีของรัสเซียต่อประเทศนาโต้ “ในช่วง 4-7 ปี” ถือว่าเป็น “สถานการณ์ที่เป็นไปได้” ตามคำพูดของกองทัพ Bundeswehr

    เด็กนักเรียนควร “ได้รับการเตรียมพร้อมต่อเหตุการณ์ที่แย่ที่สุด” การฝึกซ้อมเพื่อรับมือกับวิกฤติควรอยู่ในหลักสูตรและสิ่งของจำเป็นสำหรับเหตุฉุกเฉินควรมีอยู่ทุกบ้าน

    รัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าพวกเขาอาจโจมตีประเทศนาโตัตั้งแต่ความรุนแรงจากสงครามยูเครนเมื่อ 3 ปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม การเรียกร้องเกี่ยวกับความพร้อมของประชาชนแพร่กระจายไปทั่วยุโรปและอังกฤษในสัปดาห์ที่แล้ว

    คณะกรรมาธิการยุโรปแนะนำว่า ชาวยุโรปควรกักตุนสินค้าจำเป็นรวมถึงอาหารและน้ำเพื่อให้เพียงพอสำหรับ 3 วันหากเกิดเหตุฉุกเฉิน

    โปแลนด์และนอร์เวย์ย้ำถึงมาตรการสมัยสงครามเย็นอย่างที่เก็บระเบิด ป้อมหลบภัย และการซ้อมรบทางทหารครั้งใหญ่ ขณะที่สวีเดนและฟินแลนด์มีคำแนะนำให้ประชาชนต่อการตอบโต้หากประเทศถูกโจมตี

    เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา รัฐบาลรัสเซียระบุว่า ประเทศพร้อมเจรจาหยุดยิงอย่างถาวรเพื่อยุติความขัดแย้งกับยูเครนหากมีการยืนยันว่า ยูเครนจะยอมทำตาม

    ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูตินและประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์พูดคุยทางโทรศัพท์เมื่อเดือนที่แล้วหลังรัสเซียตกลงที่จะยืดเวลาการโจมตีโรงพลังงานพร้อมการลงนามต่อข้อเสนอของยูเครน อย่างไรก็ตาม รัสเซียกล่าวหายูเครนว่าละเมิดข้อตกลงแม้จะบอกว่าพวกเขาให้เกียรติรัสเซีย

    https://www.rt.com/news/615355-germany-prepare-children-war/

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    11-04-68/03 : หมี CNN / ผู้ใหญ่เหี้ย..พาเด็กซวย! ท่าทางอียิวมันคงเครียดแค้นอีอินทรีเหล็กอย่างหนัก กะไม่ให้เหลือลูกหลานไว้สืบพันธุ์ต่อไป ลากเด็ก เยาวชนมาตายห่าให้หมด เอาให้บ้านเมืองเต็มไปด้วยกลิ่นดินปืน? ปชต.ตอแหล จะเติบโตเต็มที่ ในพื้นที่ ที่มีควายหน้าโง่เยอะที่สุด ยิ่ง EGO แรง ขาดสติ สิ้นชาติ สูญพันธุ์ง่ายดาย มรึงฆ่ากันเองตายไม่พอ ยังจะเอาลูกหลานไปตายห่าต่ออีก ให้ภาพจำในวัยเด็ก มีแต่เรื่องปืนและการเข่นฆ่า นี่เหรอ ประเทศที่พัฒนาแล้ว ขัดแย้งกับภาพลักษณ์ที่มรึงอุตส่าห์ตอแหลสร้างกันมายาวนานนับศตวรรษ อะไรน่ะ สิทธิ เสรีภาพ มนุษยชน คือเรื่องเอาไว้หลอกควายหน้าโง่จ๊ะ แผ่นดินใคร ใครก็ต้องปกป้อง ไม่ใช่เอารูปแบบการปกครองชาติหมาที่อื่นมาอ้าง แล้วปล้นแผ่นดินเค้าไปทั่ว ปชต.พ่องดิ? เรื่องสร้างความตื่นตระหนก อีโง่ยุโรปมันถนัด เพราะแท้จริงแล้ว ฝรั่งขี้ขลาดกว่าเอเซียเยอะ กลัวตาย ถึงเวลาสู้ เผ่นหางจุกตูดหมด ผิดกับสายพันธุ์สลาฟ ฮั่น และอโยธยา พุ่งเข้าใส่ ใจมันได้ ตายไม่กลัว กลัวไม่ได้สู้เพื่อแผ่นดินเกิด การปลุกฝังมันต่างกัน กว่าจะเป็นแผ่นดินพ่อทุกวันนี้ได้ เราต้องแลกกับอะไรมาเยอะ เมื่อเทคโนโลยีเอเซียก้าวกระโดดแซงหน้าไอ้อีเหี้ยตะวันตก มันถึงได้เกิดการแข็งข้อแบบนี้ไงล่ะ? ใครมันจะยอมตามหลัง ไอ้อีหน้าโง่ ที่โง่ดักดาน โง่บัดซบกว่ากู 100 เท่า กันล่ะ? ที่อียุโรปเอาเด็กมาบังหน้า กูอ่านแผนออกเลย เดาไม่ยาก ถึงเวลาจริง ดันส่งเด็ก สตรี คนชรา มายื่นแถวหน้า เพื่อขู่รัสเซีย แน่จริงยิงสิฟ่ะ? รัสเซียสุภาพบุรุษพอ เปิดโจ๊ะเจรจา แล้วค่อยเก็บไอ้พวกเหี้ยอย่างมรึงกลางที่ประชุมนั่นแหละ ชาวบ้านจะได้ไม่เดือดร้อน เอาแบบแม่นยำ เป๊ะเด๊ะ ลงกลางหัว กลางเป้า กลางตึกกันไปเลย ทหารจะฆ่าศัตรูที่เป็นทหาร เค้าไม่ฆ่าพลเรือน เหมือนที่พวกระยำสลัดหมาอย่างมรึงทำกันมาก่อนหน้า อีโปล อีไวกิ้ง รู้ตัว ไม่ตายคาตรีนเครมลิน ก็ตายคาตรีนวอชิงตัน แต่กูจะบอกให้ หากมรึงรู้ชะตากรรมตัวเอง ว่ายังไงก็ต้องเสียดินแดนแล้วไซร้ สู้อยู่กับผู้ที่เปิดช่องทางอยู่ร่วมกันดีกว่ามั้ย หากอยู่กับอีวอชิงตัน มรึงก็เป็นได้แค่ ขี้ข้ารองตรีนเท่านั้น! ลำดับอาหารอันโอชะจานโปรดของปูติน เริ่มที่อียูเครน ต่อ อีโปล+อี 3 เสือก ต่อ สแกนดิเนเวีย ต่อ ลอนดอน ทั้งหมดจบลงที่ท่อแก็สอาร์คติค เข้าเชื่อมยุโรป เอเซีย อาหรับ แอฟริกา ตอนนี้สิ่งที่ปูตินทำคือ ตัดแขน ตัดขา มรึงหมดเกลี้ยงแล้ว รอแค่บดขยี้ ไปเรื่อยๆ จนมรึงต้องยอมหมอบ บีบจนมรึงไม่มีจะแดร๊ก ไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีอาหาร และน้ำ จะอยู่กันต่อยังไง? สุดท้ายก็ต้องจบที่โต๊ะเจรจา ด้วยการแพ้สงครามอย่างไม่มีเงื่อนไข กติกาใหม่โลกถึงจะก่อเกิดสำเร็จ และนั่นคือการตัดขาดยุโรปออกจากสหรัฐ อย่างเต็มตรีน ชั่วโมงนี้ เหี้ยมันจ้องหักหลังกันเองแน่ ทำชัวร์ เพราะใครดี ใครได้ ใครรอด? หมากัดกัน ภาพที่น่าสมเพช จนมรึงแทบอ๊วก Germany to prepare children for war – Handelsblatt หนังสือพิมพ์ Handelsblatt ระบุว่า เยอรมนีจะเตรียมเยาวชนให้พร้อมสำหรับสงคราม ------------------------------------------------------------------------— RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : หนังสือพิมพ์ Handelsblatt ระบุว่า เยอรมนีจะเตรียมเยาวชนให้พร้อมสำหรับสงคราม เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ Handelsblatt รายงานจากโฆษกกระทรวงว่า กระทรวงมหาดไทยของเยอรมนีเสนอให้โรงเรียนเตรียมนักเรียนให้พร้อมกับวิกฤติต่างๆรวมถึงสงคราม ข้อเสนอต่อ “ความพร้อมของประชาชน” จากรัฐบาลยุโรปตะวันตกตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งและเริ่มเป็นตัวกลางในการเจรจาสันติภาพกับยูเครนซึ่งรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศเยอรมนี อันนาเลนา บาเออร์บ๊อกมองว่าเป็น “ทางตัน” ตามรายงาน การโจมตีของรัสเซียต่อประเทศนาโต้ “ในช่วง 4-7 ปี” ถือว่าเป็น “สถานการณ์ที่เป็นไปได้” ตามคำพูดของกองทัพ Bundeswehr เด็กนักเรียนควร “ได้รับการเตรียมพร้อมต่อเหตุการณ์ที่แย่ที่สุด” การฝึกซ้อมเพื่อรับมือกับวิกฤติควรอยู่ในหลักสูตรและสิ่งของจำเป็นสำหรับเหตุฉุกเฉินควรมีอยู่ทุกบ้าน รัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าพวกเขาอาจโจมตีประเทศนาโตัตั้งแต่ความรุนแรงจากสงครามยูเครนเมื่อ 3 ปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม การเรียกร้องเกี่ยวกับความพร้อมของประชาชนแพร่กระจายไปทั่วยุโรปและอังกฤษในสัปดาห์ที่แล้ว คณะกรรมาธิการยุโรปแนะนำว่า ชาวยุโรปควรกักตุนสินค้าจำเป็นรวมถึงอาหารและน้ำเพื่อให้เพียงพอสำหรับ 3 วันหากเกิดเหตุฉุกเฉิน โปแลนด์และนอร์เวย์ย้ำถึงมาตรการสมัยสงครามเย็นอย่างที่เก็บระเบิด ป้อมหลบภัย และการซ้อมรบทางทหารครั้งใหญ่ ขณะที่สวีเดนและฟินแลนด์มีคำแนะนำให้ประชาชนต่อการตอบโต้หากประเทศถูกโจมตี เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา รัฐบาลรัสเซียระบุว่า ประเทศพร้อมเจรจาหยุดยิงอย่างถาวรเพื่อยุติความขัดแย้งกับยูเครนหากมีการยืนยันว่า ยูเครนจะยอมทำตาม ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูตินและประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์พูดคุยทางโทรศัพท์เมื่อเดือนที่แล้วหลังรัสเซียตกลงที่จะยืดเวลาการโจมตีโรงพลังงานพร้อมการลงนามต่อข้อเสนอของยูเครน อย่างไรก็ตาม รัสเซียกล่าวหายูเครนว่าละเมิดข้อตกลงแม้จะบอกว่าพวกเขาให้เกียรติรัสเซีย https://www.rt.com/news/615355-germany-prepare-children-war/ ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    WWW.RT.COM
    Germany to prepare children for war – Handelsblatt
    The newspaper has described a Russian attack on NATO territory as “a realistic scenario,” despite Moscow’s reassurances and peace talks
    0 Comments 0 Shares 1184 Views 0 Reviews
  • สหรัฐฯอาจถอนกำลัง 10,000 นาย ออกจากยุโรปตะวันตก ตามรายงานของสำนักข่าวเอ็นบีซีนิวส์ สื่อมวลชนอเมริกาในวันอังคาร(8เม.ย.) ความเคลื่อนไหวที่ทำให้พวกนักวิเคราะห์บางส่วนแสดงความกังวลว่ามันจะยิ่งสร้างความหึกเฮิมแก่รัสเซีย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000033673

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    สหรัฐฯอาจถอนกำลัง 10,000 นาย ออกจากยุโรปตะวันตก ตามรายงานของสำนักข่าวเอ็นบีซีนิวส์ สื่อมวลชนอเมริกาในวันอังคาร(8เม.ย.) ความเคลื่อนไหวที่ทำให้พวกนักวิเคราะห์บางส่วนแสดงความกังวลว่ามันจะยิ่งสร้างความหึกเฮิมแก่รัสเซีย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000033673 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    4
    0 Comments 0 Shares 1944 Views 0 Reviews
  • เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ในวันเสาร์(1มี.ค.) ให้การต้อนรับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี อย่างอบอุ่นในกรุงลอนดอน หนึ่งวันหลังจากผู้นำยูเครน กระทบกระทั่งกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในขณะที่ สตาร์เมอร์ รวมถึงผู้นำคนอื่นๆของยุโรป แสดงจุดยืนสนับสนุนเคียฟในประเด็นพิพาทดังกล่าว ด้านประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ย้ำข้อเรียกร้องประจำการอาวุธนิวเคลียร์ปกป้องยุโรป หลังมีแนวโน้มว่าอเมริกากำลังตีตัวออกห่าง
    .
    ก่อนหน้าการประชุมซัมมิตในวันอาทิตย์(2 มี.ค.) ในกรุงลอนดอน เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางสนับสนุนยูเครน ในขณะที่เคียฟกำลังต่อสู้ป้องปรามการรุกรานของยูเครน ทาง สตาร์เมอร์ เน้นย้ำจุดยืนของเขาต่อการหนุนหลังเคียฟ "ในความเป็นหุ้นส่วนกับพันธมิตรของเรา เราต้องเตรียมพร้อมอย่างเข้มข้นสำหรับองค์ประกอบของยุโรปสำหรับการรับประกันความมั่นคง เช่นเดียวกับเดินหน้าหารือกับสหรัฐฯ"
    .
    สตาร์เมอร์ ระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ในช่วงค่ำวันเสาร์(1มี.ค.) ต่อมา "ตอนนี้มันเป็นเวลาที่เราต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อรับประกันผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับยูเครน ปกป้องความมั่นคงยุโรป และรับประกันอนาคตร่วมของเรา"
    .
    ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ ยูเครนและสหราชอาณาจักร เปิดตัวข้อตกลงกู้ยืม 2,260 ล้านปอนด์(ราว 2,840 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) สำหรับสนับสนุนแสนยานุภาพป้องกันตนเองของยูเครน ซึ่งจะเป็นการจ่ายคืนด้วยรายได้จากทรัพย์สินของรัสเซียที่อายัดไว้ "เงินทุนนี้จะมุ่งตรงเข้าสู่การผลิตอาวุธในยูเครน" เซเลนสกี โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ "นี่คือความยุติธรรมอย่างแท้จริง ใครที่เป็นคนเริ่มสงคราม ต้องเป็นคนจ่าย"
    .
    บรรดาผู้สนับสนุนพากันตะโกนเชียร์ ตอนที่ขบวนรถของเซเลนสกีเคลื่อนมาถึงบ้านพักนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักบนถนนดาวนิง เขาได้รับโอบกอดจาก สตาร์เมอร์ และทั้งคู่โพสท่าถ่ายภาพร่วมกัน ก่อนเข้าไปยังทำเนียบของผู้นำสหราชอาณาจักร
    .
    "คุณเป็นที่ต้อนรับอย่างมาก ที่นี่ในทำเนียบฯ บนถนนดาวนิง" สตาร์เมอร์บอกกับเซเลนสกี ขณะที่ เซเลนสกี ตอบกลับว่า "ผมอยากขอบคุณ คุณ ประชาชนชาวสหราชอาณาจักร สำหรับแรงสนับสนุนที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของสงคราม"
    .
    สตาร์เมอร์ และ เซเลนสกี ใช้เวลาพูดคุยกับแบบเป็นส่วนตัว เป็นเวลาราวๆ 75 นาที ก่อนโอบกอดกันอีกรอบ ตอนที่ สตาร์เมอร์ เดินทางมาส่ง เซเลนสกี ขึ้นรถ ทั้งนี้ผู้นำยูเครนมีกำหนดเข้าเฝ้าฯกษัตริย์ชาร์ลส์ในวันอาทิตย์(2มี.ค.)
    .
    ก่อนหน้านี้ในวันเสาร์(1มี.ค.) เซเลนสกี เน้นย้ำว่าแรงสนับสนุนของทรัมป์ ยังคง "มีความสำคัญยิ่ง" สำหรับยูเครน แม้โต้เถียงกันหนึ่งวันก่อนหน้า เหตุกระทบกระทั่งดังกล่าวได้ก่อคลื่นความช็อกแก่บรรดาพันธมิตรยุโรปของเคียฟ และยังคงอยู่ระหว่างการปรับตัวต่อท่าทีใหม่ของสหรัฐฯ ที่มีกับสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน
    .
    สตาร์เมอร์, โดนัลด์ ทัสก์ นายกรัฐมนตรีโปแลนด์ และ เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เป็นหนึ่งในผู้นำหลายชาติ ที่เน้นย้ำจุดยืนสนับสนุนเคียฟ หลังเหตุเซเลนสกีทะเลาะทรัมป์ ส่วน มาร์ค รุตต์ เลขาธิการนาโต ให้สัมภาษณ์กับบีบีซี เผยว่าเขาได้บอกกับ เซเลนกี ว่าจำเป็นต้องหาทางคืนสัมพันธ์อันดีกับผู้นำสหรัฐฯ
    .
    อย่างไรก็ตามในส่วนของพวกนักการเมืองรัสเซียพากันยินดีปรีดา ในนั้นรวมถึง ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดี ที่บอกว่ามันคือสิ่งที่ผู้นำยูเครน "สมควรได้รับ"
    .
    แม้ เซเลนสกี ออกจากทำเนียบขาวโดยไม่ได้ลงนามในข้อตกลงใดๆเกี่ยวกับแร่หายากของยูเครน แต่เขายืนยันว่าพร้อมลงนามในข้อตกลงดังกล่าว หากมันเป็นก้าวย่างแรกที่มุ่งหน้าสู่การรับประกันความมั่นคง "มันสำคัญยิ่งสำหรับเรา ที่ได้รับแรงสนับสนุนจากประธานาธิบดีทรัมป์ เขาต้องการยุติสงคราม แต่ไม่มีใครต้องการสันติภาพไปมากกว่าเรา" เซเลนสกี โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์
    .
    ท่ามกลางความกังวลที่มีมากขึ้นกว่า สหรัฐฯ จะยังคงให้การสนับสนุนนาโตต่อไปหรือไม่ บรรดาผู้นำยุโรปมีกำหนดพบปะหารือกันในสหราชอาณาจักรในวันอาทิตย์(2มี.ค.) ซึ่งจะมีการถกกันเกี่ยวกับความจำเป็นของยุโรป ในการยกระดับความร่วมมือด้านการป้องกันตนเอง
    .
    ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส บอกว่าเขาพร้อม "เปิดกว้างสำหรับการหารือ" เกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการป้องปรามทางนิวเคลียร์ของยุโรป "เรามีโล่ แต่พวกเขาไม่มี" มาครง ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนท้องถิ่น "และพวกเขาไม่อาจพึ่งพิงการป้องปรามทางนิวเคลียร์ของสหรัฐฯได้อีกต่อไป"
    .
    ฝรั่งเศส และ สหราชอาณาจักร เป็นเพียง 2 ชาติยุโรปตะวันตก ที่มีคลังแสงนิวเคลียร์
    .
    ฟรีดริช แมร์ซ ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนถัดไปของเยอรมนี ก็เน้นย้ำเช่นกันว่า มีความจำเป็นที่ทวีปแห่งนี้ต้องดำเนินการอย่างรวดเร็ว ในการบรรลุเป้าหมายเป็นเอกราชจากสหรัฐฯ ในด้านการป้องกันตนเอง
    .
    อย่างไรก็ตาม วิคเตอร์ ออร์บาน นายกรัฐมนตรีฮังการี สมาชิกสหภาพยุโรป พันธมิตรใกล้ชิดกับทรัมป์และวังเครมลิน ประกาศคัดค้านข้อตกลงอย่างกว้างๆใดๆของอียู เกี่ยวกับความขัดแย้งนี้ "ผมเชื่อว่าอียู ควรทำตามอย่างสหรัฐฯ ในการเข้าสู่การเจรจาโดยตรงกับรัสเซีย ในข้อตกลงหยุดยิงและสันติภาพที่ยั่งยืนในยูเครน"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020226
    ..................
    Sondhi X
    เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ในวันเสาร์(1มี.ค.) ให้การต้อนรับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี อย่างอบอุ่นในกรุงลอนดอน หนึ่งวันหลังจากผู้นำยูเครน กระทบกระทั่งกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในขณะที่ สตาร์เมอร์ รวมถึงผู้นำคนอื่นๆของยุโรป แสดงจุดยืนสนับสนุนเคียฟในประเด็นพิพาทดังกล่าว ด้านประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ย้ำข้อเรียกร้องประจำการอาวุธนิวเคลียร์ปกป้องยุโรป หลังมีแนวโน้มว่าอเมริกากำลังตีตัวออกห่าง . ก่อนหน้าการประชุมซัมมิตในวันอาทิตย์(2 มี.ค.) ในกรุงลอนดอน เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางสนับสนุนยูเครน ในขณะที่เคียฟกำลังต่อสู้ป้องปรามการรุกรานของยูเครน ทาง สตาร์เมอร์ เน้นย้ำจุดยืนของเขาต่อการหนุนหลังเคียฟ "ในความเป็นหุ้นส่วนกับพันธมิตรของเรา เราต้องเตรียมพร้อมอย่างเข้มข้นสำหรับองค์ประกอบของยุโรปสำหรับการรับประกันความมั่นคง เช่นเดียวกับเดินหน้าหารือกับสหรัฐฯ" . สตาร์เมอร์ ระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ในช่วงค่ำวันเสาร์(1มี.ค.) ต่อมา "ตอนนี้มันเป็นเวลาที่เราต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อรับประกันผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับยูเครน ปกป้องความมั่นคงยุโรป และรับประกันอนาคตร่วมของเรา" . ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ ยูเครนและสหราชอาณาจักร เปิดตัวข้อตกลงกู้ยืม 2,260 ล้านปอนด์(ราว 2,840 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) สำหรับสนับสนุนแสนยานุภาพป้องกันตนเองของยูเครน ซึ่งจะเป็นการจ่ายคืนด้วยรายได้จากทรัพย์สินของรัสเซียที่อายัดไว้ "เงินทุนนี้จะมุ่งตรงเข้าสู่การผลิตอาวุธในยูเครน" เซเลนสกี โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ "นี่คือความยุติธรรมอย่างแท้จริง ใครที่เป็นคนเริ่มสงคราม ต้องเป็นคนจ่าย" . บรรดาผู้สนับสนุนพากันตะโกนเชียร์ ตอนที่ขบวนรถของเซเลนสกีเคลื่อนมาถึงบ้านพักนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักบนถนนดาวนิง เขาได้รับโอบกอดจาก สตาร์เมอร์ และทั้งคู่โพสท่าถ่ายภาพร่วมกัน ก่อนเข้าไปยังทำเนียบของผู้นำสหราชอาณาจักร . "คุณเป็นที่ต้อนรับอย่างมาก ที่นี่ในทำเนียบฯ บนถนนดาวนิง" สตาร์เมอร์บอกกับเซเลนสกี ขณะที่ เซเลนสกี ตอบกลับว่า "ผมอยากขอบคุณ คุณ ประชาชนชาวสหราชอาณาจักร สำหรับแรงสนับสนุนที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของสงคราม" . สตาร์เมอร์ และ เซเลนสกี ใช้เวลาพูดคุยกับแบบเป็นส่วนตัว เป็นเวลาราวๆ 75 นาที ก่อนโอบกอดกันอีกรอบ ตอนที่ สตาร์เมอร์ เดินทางมาส่ง เซเลนสกี ขึ้นรถ ทั้งนี้ผู้นำยูเครนมีกำหนดเข้าเฝ้าฯกษัตริย์ชาร์ลส์ในวันอาทิตย์(2มี.ค.) . ก่อนหน้านี้ในวันเสาร์(1มี.ค.) เซเลนสกี เน้นย้ำว่าแรงสนับสนุนของทรัมป์ ยังคง "มีความสำคัญยิ่ง" สำหรับยูเครน แม้โต้เถียงกันหนึ่งวันก่อนหน้า เหตุกระทบกระทั่งดังกล่าวได้ก่อคลื่นความช็อกแก่บรรดาพันธมิตรยุโรปของเคียฟ และยังคงอยู่ระหว่างการปรับตัวต่อท่าทีใหม่ของสหรัฐฯ ที่มีกับสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน . สตาร์เมอร์, โดนัลด์ ทัสก์ นายกรัฐมนตรีโปแลนด์ และ เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เป็นหนึ่งในผู้นำหลายชาติ ที่เน้นย้ำจุดยืนสนับสนุนเคียฟ หลังเหตุเซเลนสกีทะเลาะทรัมป์ ส่วน มาร์ค รุตต์ เลขาธิการนาโต ให้สัมภาษณ์กับบีบีซี เผยว่าเขาได้บอกกับ เซเลนกี ว่าจำเป็นต้องหาทางคืนสัมพันธ์อันดีกับผู้นำสหรัฐฯ . อย่างไรก็ตามในส่วนของพวกนักการเมืองรัสเซียพากันยินดีปรีดา ในนั้นรวมถึง ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดี ที่บอกว่ามันคือสิ่งที่ผู้นำยูเครน "สมควรได้รับ" . แม้ เซเลนสกี ออกจากทำเนียบขาวโดยไม่ได้ลงนามในข้อตกลงใดๆเกี่ยวกับแร่หายากของยูเครน แต่เขายืนยันว่าพร้อมลงนามในข้อตกลงดังกล่าว หากมันเป็นก้าวย่างแรกที่มุ่งหน้าสู่การรับประกันความมั่นคง "มันสำคัญยิ่งสำหรับเรา ที่ได้รับแรงสนับสนุนจากประธานาธิบดีทรัมป์ เขาต้องการยุติสงคราม แต่ไม่มีใครต้องการสันติภาพไปมากกว่าเรา" เซเลนสกี โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ . ท่ามกลางความกังวลที่มีมากขึ้นกว่า สหรัฐฯ จะยังคงให้การสนับสนุนนาโตต่อไปหรือไม่ บรรดาผู้นำยุโรปมีกำหนดพบปะหารือกันในสหราชอาณาจักรในวันอาทิตย์(2มี.ค.) ซึ่งจะมีการถกกันเกี่ยวกับความจำเป็นของยุโรป ในการยกระดับความร่วมมือด้านการป้องกันตนเอง . ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส บอกว่าเขาพร้อม "เปิดกว้างสำหรับการหารือ" เกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการป้องปรามทางนิวเคลียร์ของยุโรป "เรามีโล่ แต่พวกเขาไม่มี" มาครง ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนท้องถิ่น "และพวกเขาไม่อาจพึ่งพิงการป้องปรามทางนิวเคลียร์ของสหรัฐฯได้อีกต่อไป" . ฝรั่งเศส และ สหราชอาณาจักร เป็นเพียง 2 ชาติยุโรปตะวันตก ที่มีคลังแสงนิวเคลียร์ . ฟรีดริช แมร์ซ ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนถัดไปของเยอรมนี ก็เน้นย้ำเช่นกันว่า มีความจำเป็นที่ทวีปแห่งนี้ต้องดำเนินการอย่างรวดเร็ว ในการบรรลุเป้าหมายเป็นเอกราชจากสหรัฐฯ ในด้านการป้องกันตนเอง . อย่างไรก็ตาม วิคเตอร์ ออร์บาน นายกรัฐมนตรีฮังการี สมาชิกสหภาพยุโรป พันธมิตรใกล้ชิดกับทรัมป์และวังเครมลิน ประกาศคัดค้านข้อตกลงอย่างกว้างๆใดๆของอียู เกี่ยวกับความขัดแย้งนี้ "ผมเชื่อว่าอียู ควรทำตามอย่างสหรัฐฯ ในการเข้าสู่การเจรจาโดยตรงกับรัสเซีย ในข้อตกลงหยุดยิงและสันติภาพที่ยั่งยืนในยูเครน" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020226 .................. Sondhi X
    Like
    Love
    Haha
    22
    1 Comments 1 Shares 1875 Views 0 Reviews
  • ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมฉุกเฉินเกี่ยวกับยูเครน หลังจากยุโรปถูกกีดกันจากสหรัฐในการเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาสันติภาพ

    ฝรั่งเศสจะเรียกประชุมผู้นำยุโรปในวันจันทร์เพื่อหารือเกี่ยวกับความมั่นคงของยูเครน หลังจากที่ทีมของทรัมป์ตัดยุโรปออกจากการเจรจากับรัสเซีย

    การประชุมดังกล่าว ซึ่งจะมีอังกฤษ เยอรมนี โปแลนด์ และเจ้าหน้าที่นาโตเข้าร่วม มีวัตถุประสงค์เพื่อสรุปบทบาทของยุโรปในการช่วยเหลือเคียฟและรักษาความปลอดภัยของยุโรปตะวันตก

    หลายปีที่ผ่านมา ประเทศที่เป็นผู้นำยุโรป เช่น ฝรั่งเศส เยอรมัน อังกฤษ พยายามมาตลอดในการออกจากอิทธิพลของสหรัฐ มาจับตาดูว่าครั้งนี้พวกเขาจะสามารถดำเนินการอย่างจริงจังได้หรือไม่
    ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมฉุกเฉินเกี่ยวกับยูเครน หลังจากยุโรปถูกกีดกันจากสหรัฐในการเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาสันติภาพ ฝรั่งเศสจะเรียกประชุมผู้นำยุโรปในวันจันทร์เพื่อหารือเกี่ยวกับความมั่นคงของยูเครน หลังจากที่ทีมของทรัมป์ตัดยุโรปออกจากการเจรจากับรัสเซีย การประชุมดังกล่าว ซึ่งจะมีอังกฤษ เยอรมนี โปแลนด์ และเจ้าหน้าที่นาโตเข้าร่วม มีวัตถุประสงค์เพื่อสรุปบทบาทของยุโรปในการช่วยเหลือเคียฟและรักษาความปลอดภัยของยุโรปตะวันตก หลายปีที่ผ่านมา ประเทศที่เป็นผู้นำยุโรป เช่น ฝรั่งเศส เยอรมัน อังกฤษ พยายามมาตลอดในการออกจากอิทธิพลของสหรัฐ มาจับตาดูว่าครั้งนี้พวกเขาจะสามารถดำเนินการอย่างจริงจังได้หรือไม่
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 525 Views 0 Reviews
  • ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เรียกร้องในวันเสาร์ (15 ก.พ.) ให้จัดตั้งกองทัพยุโรป ระบุทวีปแห่งนี้ไม่อาจแน่ใจได้อีกต่อไปว่าจะได้รับการปกป้องจากสหรัฐฯ และจะได้รับความเคารพจากวอชิงตันก็ต่อเมื่อมีกองกำลังที่เข้มแข็งเท่านั้น
    .
    เขาประกาศกร้าวด้วยว่าเคียฟจะไม่มีวันยอมรับข้อตกลงใดๆ ในการยุติสงครามรัสเซียและยูเครน ที่จัดทำลับหลังพวกเขา และคาดเดาว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย จะพยายามโน้มน้าวให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เดินทางไปยังกรุงมอสโก ร่วมพิธีสวนสนามวาระครบรอบชัยชนะในสงครามโลกครั้งที่ 2 ในวันที่ 9 พฤษภาคม "ไม่ใช่ในฐานะผู้นำที่ให้ความเคารพ แต่เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของเขาเอง"
    .
    ในถ้อยแถลงที่มีต่อที่ประชุมด้านความมั่นคงประจำปีในเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี ทางเซเลนสกี บอกว่าคำกล่าวของรองประธานาธิบดีเจ.ดี. แวนซ์ แห่งสหรัฐฯ หนึ่งวันก่อนหน้านี้ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างยุโรปกับสหรัฐฯ กำลังเปลี่ยนไป
    .
    "ขอพูดด้วยความสัตย์จริง ตอนนี้เราไม่อาจตัดความเป็นไปได้ที่อเมริกาอาจบอกปัดยุโรปในประเด็นต่างๆ ที่คุกคามพวกเขา" เซเลนสกีกล่าว ในขณะที่สงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ซึ่งจุดชนวนหนึ่งจากการรุกรานของมอสโก ใกล้ล่วงเลยเข้าสู่ปีที่ 4 แล้ว "พวกผู้นำหลายคน พูดกันว่ายุโรปจำเป็นต้องมีกองทัพและทหารของตนเอง กองทัพแห่งยุโรป และผมเชื่ออย่างจริงจังว่ามันถึงเวลาแล้ว จำเป็นต้องจัดตั้งกองทัพแห่งยุโรป"
    .
    เซเลนสกี บอกว่ากองทัพยุโรป ซึ่งจะรวมถึงยูเครน มีความจำเป็นเพื่อที่อนาคตของทวีปแห่งนี้จะพึ่งพิงเฉพาะแค่ยุโรป และการตัดสินใจต่างๆ เกี่ยวกับยุโรปจะดำเนินการในยุโรป" เขากล่าว พร้อมระบุ "อเมริกาต้องการยุโรปในฐานะตลาดหนึ่งๆ หรือไม่? ใช่ แต่ในฐานะพันธมิตรละ? ผมไม่รู้ ถ้าต้องการให้คำตอบออกมาเป็นใช่ ยุโรปจำเป็นต้องส่งเสียงเป็นหนึ่งเดียว ไม่ใช่เสียงที่แตกต่างกันนับสิบ"
    .
    เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลของทรัมป์ แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ว่าพวกเขาคาดหมายว่าบรรดาพันธมิตรยุโรปในนาโต ต้องเป็นผู้รับผิดชอบหลักสำหรับความมั่นคงของตนเอง เนื่องจากเวลานี้อเมริกาให้ลำดับความสำคัญไปที่เรื่องอื่นๆ เช่น ความมั่นคงตามชายแดนและการตอบโต้จีน
    .
    อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐฯ บอกว่าพวกเขายังคงมุ่งมั่นในพันธมิตรทหารข้ามแอตแลนติกหรือนาโต "อเมริกาจำเป็นต้องได้เห็นว่ายุโรปกำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางไหน" เซเลนสกี "ทิศทางนโยบายยุโรปไม่ควรเป็นแค่คำสัญญา แต่มันควรเป็นว่าอเมริกาต้องการยืนหยัดเคียงข้างยุโรปอย่างแข็งขัน"
    .
    ทรัมป์ สร้างความตกตะลึงแก่พันธมิตรยุโรป โดยการต่อสายพูดคุยกับปูตินเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ โดยไม่ได้มีการปรึกษาหารือกับพวกเขาล่วงหน้า พร้อมทั้งยังประกาศเริ่มเจรจาสันติภาพยูเครนในทันที ทั้งนี้ เซเลนสกี บอกกับที่ประชุม เชื่อว่ามันจะ "อันตราย" หากว่า ทรัมป์ พบปะกับ ปูติน ก่อนเขา
    .
    จนถึงตอนนี้รัฐบาลของทรัมป์กำลังสร้างความคลางแคลงใจกับบรรดาพันธมิตรยุโรปบางส่วน ว่าพวกเขากำลังยอมอ่อนข้อแก่ปูติน โดยที่ยูเครนต้องเป็นผู้ชดใช้ ก่อนการเจรจาใดๆ เริ่มต้นขึ้น ในขณะที่ความคิดเห็นจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงบางส่วนของสหรัฐฯ ก็ยิ่งเพิ่มความสับสน
    .
    ด้วยเหตุนี้ เซเลนสกี จึงเตือนพวกผู้นำยุโรปอีกรอบว่า ประเทศของพวกเขาอาจเป็นรายต่อไปที่ต้องเจอการโจมตีของรัสเซีย "ถ้าสงครามนี้ (ยูเครน-รัสเซีย) จบลงในหนทางผิดๆ ปูตินจะมีทหารที่ผ่านการสู้รบมากมาย ซึ่งไม่รู้อะไรอย่างอื่นเลย นอกเหนือจากการฆ่าและปล้นสะดม" เขากล่าว อ้างถึงรายงานข่าวกรองที่บ่งชี้ว่ารัสเซียจะส่งทหารเข้าไปยังเบลารุส พันธมิตรใกล้ชิดและอีกหนึ่งเพื่อนบ้านของยูเครนในฤดูร้อนนี้
    .
    ความร่วมมือทางทหารในบรรดาชาติยุโรปเป็นเป้าหมายหลักภายในนาโต แต่จนถึงตอนนี้รัฐบาลชาติต่างๆ ยังคงปฏิเสธเสียงเรียกร้องให้จัดตั้งกองทัพเดี่ยวของยุโรปขึ้นมา อ้างว่าการป้องกันตนเองเป็นเรื่องของอธิปไตยแห่งชาติ
    .
    เซเลนสกี โต้แย้งว่าการที่ยุโรปเสริมความเข้มแข็งด้านการทหาร ไม่ใช่จะเป็นผลดีเฉพาะกับความมั่นคง แต่ยังรวมถึงเศรษฐกิจของทวีปด้วย "มันไม่ใช่แค่เรื่องเกี่ยวกับสต๊อกอาวุธ แต่มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการจ้างงาน ความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีและแนวโน้มเศรษฐกิจสำหรับยุโรป"
    .
    อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากชาติยุโรปตะวันตกแห่งหนึ่ง ที่เป็นสมาชิกของอียู แสดงความเคลือบแคลงต่อข้อเสนอของเซเลนสกี ในการจัดตั้งกองทัพยุโรป โดยบอกว่า "มีกองทหารยุโรปอยู่แล้ว ที่เรียกกันว่านาโต"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000015321
    ..................
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เรียกร้องในวันเสาร์ (15 ก.พ.) ให้จัดตั้งกองทัพยุโรป ระบุทวีปแห่งนี้ไม่อาจแน่ใจได้อีกต่อไปว่าจะได้รับการปกป้องจากสหรัฐฯ และจะได้รับความเคารพจากวอชิงตันก็ต่อเมื่อมีกองกำลังที่เข้มแข็งเท่านั้น . เขาประกาศกร้าวด้วยว่าเคียฟจะไม่มีวันยอมรับข้อตกลงใดๆ ในการยุติสงครามรัสเซียและยูเครน ที่จัดทำลับหลังพวกเขา และคาดเดาว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย จะพยายามโน้มน้าวให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เดินทางไปยังกรุงมอสโก ร่วมพิธีสวนสนามวาระครบรอบชัยชนะในสงครามโลกครั้งที่ 2 ในวันที่ 9 พฤษภาคม "ไม่ใช่ในฐานะผู้นำที่ให้ความเคารพ แต่เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของเขาเอง" . ในถ้อยแถลงที่มีต่อที่ประชุมด้านความมั่นคงประจำปีในเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี ทางเซเลนสกี บอกว่าคำกล่าวของรองประธานาธิบดีเจ.ดี. แวนซ์ แห่งสหรัฐฯ หนึ่งวันก่อนหน้านี้ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าความสัมพันธ์ระหว่างยุโรปกับสหรัฐฯ กำลังเปลี่ยนไป . "ขอพูดด้วยความสัตย์จริง ตอนนี้เราไม่อาจตัดความเป็นไปได้ที่อเมริกาอาจบอกปัดยุโรปในประเด็นต่างๆ ที่คุกคามพวกเขา" เซเลนสกีกล่าว ในขณะที่สงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ซึ่งจุดชนวนหนึ่งจากการรุกรานของมอสโก ใกล้ล่วงเลยเข้าสู่ปีที่ 4 แล้ว "พวกผู้นำหลายคน พูดกันว่ายุโรปจำเป็นต้องมีกองทัพและทหารของตนเอง กองทัพแห่งยุโรป และผมเชื่ออย่างจริงจังว่ามันถึงเวลาแล้ว จำเป็นต้องจัดตั้งกองทัพแห่งยุโรป" . เซเลนสกี บอกว่ากองทัพยุโรป ซึ่งจะรวมถึงยูเครน มีความจำเป็นเพื่อที่อนาคตของทวีปแห่งนี้จะพึ่งพิงเฉพาะแค่ยุโรป และการตัดสินใจต่างๆ เกี่ยวกับยุโรปจะดำเนินการในยุโรป" เขากล่าว พร้อมระบุ "อเมริกาต้องการยุโรปในฐานะตลาดหนึ่งๆ หรือไม่? ใช่ แต่ในฐานะพันธมิตรละ? ผมไม่รู้ ถ้าต้องการให้คำตอบออกมาเป็นใช่ ยุโรปจำเป็นต้องส่งเสียงเป็นหนึ่งเดียว ไม่ใช่เสียงที่แตกต่างกันนับสิบ" . เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลของทรัมป์ แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ว่าพวกเขาคาดหมายว่าบรรดาพันธมิตรยุโรปในนาโต ต้องเป็นผู้รับผิดชอบหลักสำหรับความมั่นคงของตนเอง เนื่องจากเวลานี้อเมริกาให้ลำดับความสำคัญไปที่เรื่องอื่นๆ เช่น ความมั่นคงตามชายแดนและการตอบโต้จีน . อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐฯ บอกว่าพวกเขายังคงมุ่งมั่นในพันธมิตรทหารข้ามแอตแลนติกหรือนาโต "อเมริกาจำเป็นต้องได้เห็นว่ายุโรปกำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางไหน" เซเลนสกี "ทิศทางนโยบายยุโรปไม่ควรเป็นแค่คำสัญญา แต่มันควรเป็นว่าอเมริกาต้องการยืนหยัดเคียงข้างยุโรปอย่างแข็งขัน" . ทรัมป์ สร้างความตกตะลึงแก่พันธมิตรยุโรป โดยการต่อสายพูดคุยกับปูตินเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ โดยไม่ได้มีการปรึกษาหารือกับพวกเขาล่วงหน้า พร้อมทั้งยังประกาศเริ่มเจรจาสันติภาพยูเครนในทันที ทั้งนี้ เซเลนสกี บอกกับที่ประชุม เชื่อว่ามันจะ "อันตราย" หากว่า ทรัมป์ พบปะกับ ปูติน ก่อนเขา . จนถึงตอนนี้รัฐบาลของทรัมป์กำลังสร้างความคลางแคลงใจกับบรรดาพันธมิตรยุโรปบางส่วน ว่าพวกเขากำลังยอมอ่อนข้อแก่ปูติน โดยที่ยูเครนต้องเป็นผู้ชดใช้ ก่อนการเจรจาใดๆ เริ่มต้นขึ้น ในขณะที่ความคิดเห็นจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงบางส่วนของสหรัฐฯ ก็ยิ่งเพิ่มความสับสน . ด้วยเหตุนี้ เซเลนสกี จึงเตือนพวกผู้นำยุโรปอีกรอบว่า ประเทศของพวกเขาอาจเป็นรายต่อไปที่ต้องเจอการโจมตีของรัสเซีย "ถ้าสงครามนี้ (ยูเครน-รัสเซีย) จบลงในหนทางผิดๆ ปูตินจะมีทหารที่ผ่านการสู้รบมากมาย ซึ่งไม่รู้อะไรอย่างอื่นเลย นอกเหนือจากการฆ่าและปล้นสะดม" เขากล่าว อ้างถึงรายงานข่าวกรองที่บ่งชี้ว่ารัสเซียจะส่งทหารเข้าไปยังเบลารุส พันธมิตรใกล้ชิดและอีกหนึ่งเพื่อนบ้านของยูเครนในฤดูร้อนนี้ . ความร่วมมือทางทหารในบรรดาชาติยุโรปเป็นเป้าหมายหลักภายในนาโต แต่จนถึงตอนนี้รัฐบาลชาติต่างๆ ยังคงปฏิเสธเสียงเรียกร้องให้จัดตั้งกองทัพเดี่ยวของยุโรปขึ้นมา อ้างว่าการป้องกันตนเองเป็นเรื่องของอธิปไตยแห่งชาติ . เซเลนสกี โต้แย้งว่าการที่ยุโรปเสริมความเข้มแข็งด้านการทหาร ไม่ใช่จะเป็นผลดีเฉพาะกับความมั่นคง แต่ยังรวมถึงเศรษฐกิจของทวีปด้วย "มันไม่ใช่แค่เรื่องเกี่ยวกับสต๊อกอาวุธ แต่มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการจ้างงาน ความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีและแนวโน้มเศรษฐกิจสำหรับยุโรป" . อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากชาติยุโรปตะวันตกแห่งหนึ่ง ที่เป็นสมาชิกของอียู แสดงความเคลือบแคลงต่อข้อเสนอของเซเลนสกี ในการจัดตั้งกองทัพยุโรป โดยบอกว่า "มีกองทหารยุโรปอยู่แล้ว ที่เรียกกันว่านาโต" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000015321 .................. Sondhi X
    Like
    Haha
    Wow
    Sad
    15
    0 Comments 0 Shares 2109 Views 0 Reviews
  • 83 ปี แห่งการประชุมวันเซ จุดเริ่มไอน์ซัทซ์กรุพเพิน นาซีเยอรมนี ปฏิบัติการล้างบางชาวยิว


    ย้อนไปเมื่อ 83 ปี ที่ผ่านมา ในวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2485 การประชุมวันเซ (Wannsee Conference) ณ คฤหาสน์โกเบน วันเซ ชานกรุงเบอร์ลิน เยอรมนี ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญ ที่เปลี่ยนโฉมหน้า ประวัติศาสตร์โลก ไปตลอดกาล ที่นี่ ผู้นำนาซีเยอรมัน รวมถึงสมาชิกระดับสูง ของหน่วยเอสเอส (SS) และเจ้าหน้าที่ข้าราชการระดับสูง ได้ร่วมกันวางแผนเพื่อดำเนิน "การแก้ปัญหาชาวยิว ครั้งสุดท้าย" หรือ “Final Solution” ซึ่งเป็นโครงการ ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว ทั่วทวีปยุโรป

    การประชุมวันเซ จุดเริ่มต้นการล้างบาง
    การประชุมครั้งนี้ถูกจัดขึ้นโดย ไรน์ฮาร์ด ไฮดริช (Reinhard Heydrich) ผู้อำนวยการ สำนักความมั่นคงหลักไรช์ (Reich Security Main Office) โดยมีเป้าหมายเพื่อวางแผน และสร้างความร่วมมือ ระหว่างกระทรวงต่าง ๆ ของเยอรมนี ในปฏิบัติการกำจัดชาวยิว ทั่วทั้งทวีปยุโรป ไฮดริชต้องการความแน่ใจว่า หน่วยงานของรัฐทุกแห่ง เช่น กระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการต่างประเทศ จะปฏิบัติตามแผนการ ที่ถูกกำหนดอย่างชัดเจน

    นอกจากการสร้างความร่วมมือ ไฮดริชยังได้ใช้การประชุมครั้งนี้ เพื่อชี้แจงแผนการ ส่งชาวยิวในยุโรปตะวันตก ไปยังค่ายมรณะในโปแลนด์ เช่น ค่ายเอาชวิทซ์ (Auschwitz) และเทรบลินกา (Treblinka) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ “การแก้ปัญหาชาวยิว ครั้งสุดท้าย”

    ผู้เข้าร่วมการประชุม มีทั้งหมด 15 คน ซึ่งเป็นตัวแทนระดับสูง จากหลายหน่วยงาน รวมถึงผู้นำจากหน่วยเอสเอส ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ และข้าราชการระดับสูง หนึ่งในนั้นคือ อัดอล์ฟ ไอช์มันน์ (Adolf Eichmann) ผู้มีบทบาทสำคัญ ในการประสานงาน และดำเนินการขนส่งชาวยิว ไปยังค่ายมรณะ

    ในบันทึกการประชุม ที่หลงเหลือมาจากสงคราม แสดงให้เห็นว่า ผู้เข้าร่วมไม่ได้แสดงความขัดแย้ง ต่อแผนการนี้ แต่กลับสนับสนุน และมีการพูดคุย ถึงวิธีการอย่างละเอียด

    ไอน์ซัทซ์กรุพเพิน กองกำลังสังหาร ที่ปฏิบัติการในแนวรบตะวันออก
    ไอน์ซัทซ์กรุพเพิน (Einsatzgruppen) หรือ "หน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจ" เป็นกลุ่มกองกำลัง ของหน่วยเอสเอส ที่ถูกจัดตั้งขึ้น เพื่อปฏิบัติภารกิจสังหารหมู่ ในพื้นที่ที่กองทัพเยอรมันยึดครอง โดยเฉพาะในยุโรปตะวันออก หลังการรุกรานโปแลนด์ และสหภาพโซเวียต หน่วยเหล่านี้ มีหน้าที่กำจัดกลุ่มคน ที่ถูกระบุว่า เป็นภัยต่อระบอบนาซี เช่น ชาวยิว ชาวโรมานี (ยิปซี) ปัญญาชน และสมาชิกฝ่ายตรงข้าม ทางการเมือง

    ปฏิบัติการไอน์ซัทซ์กรุพเพิน
    การสังหารหมู่ส่วนใหญ่ มักเกิดขึ้นผ่านการยิงเป้า ในพื้นที่ชนบทหรือป่าลึก ตัวอย่างที่เป็นที่รู้จักคือ การสังหารหมู่ที่บาบี ยาร์ (Babi Yar) ในยูเครน เมื่อเดือนกันยายน 2484 ซึ่งมีชาวยิวมากกว่า 33,000 คน ถูกสังหารภายในเวลาเพียง 2 วัน

    ในช่วงแรก เหยื่อถูกบังคับ ให้ขุดหลุมศพของตนเอง ก่อนจะถูกยิงเป้า ต่อมานาซีเริ่มใช้วิธีการที่ "มีประสิทธิภาพมากขึ้น" เช่น การส่งเหยื่อไปยังค่ายมรณะ และสังหารในห้องรมแก๊ส

    ตามการประเมิน ของนักประวัติศาสตร์ หน่วยไอน์ซัทซ์กรุพเพิน มีส่วนรับผิดชอบ ต่อการสังหารผู้คนกว่า 2 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้ มีชาวยิวประมาณ 1.3 ล้านคน

    มาตรการสุดท้าย การล้างเผ่าพันธุ์อย่างเป็นระบบ
    บังคับใช้กฎหมาย แบ่งแยกชาวยิว
    ก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง เยอรมนีเริ่มจากการบังคับใช้ กฎหมายเนือร์นแบร์ก (Nuremberg Laws) ในปี 1935 ซึ่งแยกชาวยิว ออกจากสังคมเยอรมัน อย่างเป็นทางการ

    ตั้งเกตโต
    ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ชาวยิวถูกบังคับ ให้ย้ายไปอาศัยในเขตเกตโต (Ghetto) เช่น เกตโตวอร์ซอ (Warsaw Ghetto) ซึ่งมีสภาพความเป็นอยู่ที่แออัด และไร้มนุษยธรรม

    การเนรเทศและสังหารหมู่
    ชาวยิวถูกขนส่งใน "รถไฟมรณะ" ไปยังค่ายมรณะ เช่น เอาชวิทซ์ เพื่อถูกสังหาร ในห้องรมแก๊ส

    มาตรการสุดท้ายของนาซี นำไปสู่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวกว่า 6 ล้านคน คิดเป็นสองในสาม ของประชากรยิวในยุโรป ในขณะนั้น

    เอกสารที่หลงเหลือ
    หลังสงครามสิ้นสุดลง สำเนาพิธีสารการประชุมวันเซ ถูกค้นพบโดยฝ่ายสัมพันธมิตร และถูกนำมาใช้เป็นหลักฐานสำคัญ ในการพิจารณาคดีเนือร์นแบร์ก (Nuremberg Trials) เพื่อดำเนินคดี กับผู้นำนาซี

    สำนึกผิดและสร้างอนุสรณ์
    ปัจจุบัน อาคารที่เคยใช้จัดการประชุมวันเซ ได้ถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ และอนุสรณ์สถาน เพื่อรำลึกถึงเหยื่อ ของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

    คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
    1. การประชุมวันเซ มีผลกระทบอย่างไรต่อชาวยิว?
    การประชุมวันเซ เป็นการกำหนดแผนปฏิบัติการ สังหารหมู่ชาวยิว อย่างเป็นระบบ ทั่วทวีปยุโรป ซึ่งนำไปสู่การสูญเสียชีวิต ของชาวยิวกว่า 6 ล้านคน

    2. หน่วยไอน์ซัทซ์กรุพเพิน ทำหน้าที่อะไร?
    ไอน์ซัทซ์กรุพเพิน เป็นหน่วยกองกำลังของเอสเอส ที่มีหน้าที่ปฏิบัติการสังหารหมู่ ในยุโรปตะวันออก โดยใช้วิธีการยิงเป้า และการสังหารหมู่ในระดับใหญ่

    3. มีชาวยิวกี่คนที่เสียชีวิต ในเหตุการณ์ฮอโลคอสต์?
    ในเหตุการณ์ฮอโลคอสต์ ชาวยิวประมาณ 6 ล้านคน ถูกสังหาร รวมถึงผู้เสียชีวิตจากกลุ่มชาติพันธุ์ และชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ อีกกว่า 11 ล้านคน

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 200908 ม.ค. 2568

    #Holocaust #WannseeConference #Einsatzgruppen #FinalSolution #NaziGermany #JewishHistory #WorldWarII #Genocide #NeverAgain #HistoryMatters
    83 ปี แห่งการประชุมวันเซ จุดเริ่มไอน์ซัทซ์กรุพเพิน นาซีเยอรมนี ปฏิบัติการล้างบางชาวยิว ย้อนไปเมื่อ 83 ปี ที่ผ่านมา ในวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2485 การประชุมวันเซ (Wannsee Conference) ณ คฤหาสน์โกเบน วันเซ ชานกรุงเบอร์ลิน เยอรมนี ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญ ที่เปลี่ยนโฉมหน้า ประวัติศาสตร์โลก ไปตลอดกาล ที่นี่ ผู้นำนาซีเยอรมัน รวมถึงสมาชิกระดับสูง ของหน่วยเอสเอส (SS) และเจ้าหน้าที่ข้าราชการระดับสูง ได้ร่วมกันวางแผนเพื่อดำเนิน "การแก้ปัญหาชาวยิว ครั้งสุดท้าย" หรือ “Final Solution” ซึ่งเป็นโครงการ ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว ทั่วทวีปยุโรป การประชุมวันเซ จุดเริ่มต้นการล้างบาง การประชุมครั้งนี้ถูกจัดขึ้นโดย ไรน์ฮาร์ด ไฮดริช (Reinhard Heydrich) ผู้อำนวยการ สำนักความมั่นคงหลักไรช์ (Reich Security Main Office) โดยมีเป้าหมายเพื่อวางแผน และสร้างความร่วมมือ ระหว่างกระทรวงต่าง ๆ ของเยอรมนี ในปฏิบัติการกำจัดชาวยิว ทั่วทั้งทวีปยุโรป ไฮดริชต้องการความแน่ใจว่า หน่วยงานของรัฐทุกแห่ง เช่น กระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการต่างประเทศ จะปฏิบัติตามแผนการ ที่ถูกกำหนดอย่างชัดเจน นอกจากการสร้างความร่วมมือ ไฮดริชยังได้ใช้การประชุมครั้งนี้ เพื่อชี้แจงแผนการ ส่งชาวยิวในยุโรปตะวันตก ไปยังค่ายมรณะในโปแลนด์ เช่น ค่ายเอาชวิทซ์ (Auschwitz) และเทรบลินกา (Treblinka) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ “การแก้ปัญหาชาวยิว ครั้งสุดท้าย” ผู้เข้าร่วมการประชุม มีทั้งหมด 15 คน ซึ่งเป็นตัวแทนระดับสูง จากหลายหน่วยงาน รวมถึงผู้นำจากหน่วยเอสเอส ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ และข้าราชการระดับสูง หนึ่งในนั้นคือ อัดอล์ฟ ไอช์มันน์ (Adolf Eichmann) ผู้มีบทบาทสำคัญ ในการประสานงาน และดำเนินการขนส่งชาวยิว ไปยังค่ายมรณะ ในบันทึกการประชุม ที่หลงเหลือมาจากสงคราม แสดงให้เห็นว่า ผู้เข้าร่วมไม่ได้แสดงความขัดแย้ง ต่อแผนการนี้ แต่กลับสนับสนุน และมีการพูดคุย ถึงวิธีการอย่างละเอียด ไอน์ซัทซ์กรุพเพิน กองกำลังสังหาร ที่ปฏิบัติการในแนวรบตะวันออก ไอน์ซัทซ์กรุพเพิน (Einsatzgruppen) หรือ "หน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจ" เป็นกลุ่มกองกำลัง ของหน่วยเอสเอส ที่ถูกจัดตั้งขึ้น เพื่อปฏิบัติภารกิจสังหารหมู่ ในพื้นที่ที่กองทัพเยอรมันยึดครอง โดยเฉพาะในยุโรปตะวันออก หลังการรุกรานโปแลนด์ และสหภาพโซเวียต หน่วยเหล่านี้ มีหน้าที่กำจัดกลุ่มคน ที่ถูกระบุว่า เป็นภัยต่อระบอบนาซี เช่น ชาวยิว ชาวโรมานี (ยิปซี) ปัญญาชน และสมาชิกฝ่ายตรงข้าม ทางการเมือง ปฏิบัติการไอน์ซัทซ์กรุพเพิน การสังหารหมู่ส่วนใหญ่ มักเกิดขึ้นผ่านการยิงเป้า ในพื้นที่ชนบทหรือป่าลึก ตัวอย่างที่เป็นที่รู้จักคือ การสังหารหมู่ที่บาบี ยาร์ (Babi Yar) ในยูเครน เมื่อเดือนกันยายน 2484 ซึ่งมีชาวยิวมากกว่า 33,000 คน ถูกสังหารภายในเวลาเพียง 2 วัน ในช่วงแรก เหยื่อถูกบังคับ ให้ขุดหลุมศพของตนเอง ก่อนจะถูกยิงเป้า ต่อมานาซีเริ่มใช้วิธีการที่ "มีประสิทธิภาพมากขึ้น" เช่น การส่งเหยื่อไปยังค่ายมรณะ และสังหารในห้องรมแก๊ส ตามการประเมิน ของนักประวัติศาสตร์ หน่วยไอน์ซัทซ์กรุพเพิน มีส่วนรับผิดชอบ ต่อการสังหารผู้คนกว่า 2 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้ มีชาวยิวประมาณ 1.3 ล้านคน มาตรการสุดท้าย การล้างเผ่าพันธุ์อย่างเป็นระบบ บังคับใช้กฎหมาย แบ่งแยกชาวยิว ก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง เยอรมนีเริ่มจากการบังคับใช้ กฎหมายเนือร์นแบร์ก (Nuremberg Laws) ในปี 1935 ซึ่งแยกชาวยิว ออกจากสังคมเยอรมัน อย่างเป็นทางการ ตั้งเกตโต ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ชาวยิวถูกบังคับ ให้ย้ายไปอาศัยในเขตเกตโต (Ghetto) เช่น เกตโตวอร์ซอ (Warsaw Ghetto) ซึ่งมีสภาพความเป็นอยู่ที่แออัด และไร้มนุษยธรรม การเนรเทศและสังหารหมู่ ชาวยิวถูกขนส่งใน "รถไฟมรณะ" ไปยังค่ายมรณะ เช่น เอาชวิทซ์ เพื่อถูกสังหาร ในห้องรมแก๊ส มาตรการสุดท้ายของนาซี นำไปสู่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวกว่า 6 ล้านคน คิดเป็นสองในสาม ของประชากรยิวในยุโรป ในขณะนั้น เอกสารที่หลงเหลือ หลังสงครามสิ้นสุดลง สำเนาพิธีสารการประชุมวันเซ ถูกค้นพบโดยฝ่ายสัมพันธมิตร และถูกนำมาใช้เป็นหลักฐานสำคัญ ในการพิจารณาคดีเนือร์นแบร์ก (Nuremberg Trials) เพื่อดำเนินคดี กับผู้นำนาซี สำนึกผิดและสร้างอนุสรณ์ ปัจจุบัน อาคารที่เคยใช้จัดการประชุมวันเซ ได้ถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ และอนุสรณ์สถาน เพื่อรำลึกถึงเหยื่อ ของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ คำถามที่พบบ่อย (FAQs) 1. การประชุมวันเซ มีผลกระทบอย่างไรต่อชาวยิว? การประชุมวันเซ เป็นการกำหนดแผนปฏิบัติการ สังหารหมู่ชาวยิว อย่างเป็นระบบ ทั่วทวีปยุโรป ซึ่งนำไปสู่การสูญเสียชีวิต ของชาวยิวกว่า 6 ล้านคน 2. หน่วยไอน์ซัทซ์กรุพเพิน ทำหน้าที่อะไร? ไอน์ซัทซ์กรุพเพิน เป็นหน่วยกองกำลังของเอสเอส ที่มีหน้าที่ปฏิบัติการสังหารหมู่ ในยุโรปตะวันออก โดยใช้วิธีการยิงเป้า และการสังหารหมู่ในระดับใหญ่ 3. มีชาวยิวกี่คนที่เสียชีวิต ในเหตุการณ์ฮอโลคอสต์? ในเหตุการณ์ฮอโลคอสต์ ชาวยิวประมาณ 6 ล้านคน ถูกสังหาร รวมถึงผู้เสียชีวิตจากกลุ่มชาติพันธุ์ และชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ อีกกว่า 11 ล้านคน ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 200908 ม.ค. 2568 #Holocaust #WannseeConference #Einsatzgruppen #FinalSolution #NaziGermany #JewishHistory #WorldWarII #Genocide #NeverAgain #HistoryMatters
    0 Comments 0 Shares 1870 Views 0 Reviews
  • 'โดนัลด์ ทรัมป์' ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ส่งข้อความหา 'โวโลดิมีร์ เซเลนสกี' แห่งยูเครน ขอให้ขาเริ่มคิดทบทวนเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิงและยอมละทิ้งดินแดนต่างๆ ที่ปัจจุบันอยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซีย ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เอลปาอิส
    .
    ทรัมป์ เน้นย้ำคำสัญญาที่ว่าจะยุติความขัดแย้งยูเครนภายในวันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง แต่ยังไม่ได้ให้รายละเอียดต่างๆ ว่าแผนของเขาจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร คำประกาศของเขาก่อความกังวลในเคียฟ ที่ว่าบางทีพวกเขาอาจต้องเผชิญไม่ใช่แค่การลดระดับความช่วยเหลือเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการตรวจสอบเงินหลายหมื่นล้านดอลลาร์ ที่ยูเครนได้รับจากทำเนียบขาวภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน
    .
    "คุณมองไปที่เมืองต่างๆ เหล่านั้น บางเมืองไม่มีอาคารที่อยู่ในสภาพดีเหลืออยู่เลยแม้แต่อาคารเดียว ดังนั้น ตอนที่คุณบอกว่า ฟื้นฟูประเทศ ฟื้นฟูอะไร? นี่มันต้องใช้เวลาบูรณะฟื้นฟูกว่า 110 ปี เลยนะ" หนังสือพิมพ์สัญชาติฝรั่งเศส อ้างข้อความที่ทรัมป์ ส่งถึง เซเลนสกี จากกอล์ฟคลับของเขาในฟลอริดา เมื่อช่วงกลางสัปดาห์
    .
    ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงกลางเดือน ทรัมป์ เรียกร้องทั้งยูเครนและรัสเซียให้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงในทันที โดยเขาโพสต์ข้อความเรียกร้องบนทรัสต์โซเชียล แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเอง หลังจากพบปะกับ เซเลนสกี และประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศสในกรุงปารีส
    .
    หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานในช่วงต้นเดือนธันวาคม ทรัมป์ระบุว่ายุโรปตะวันตกควรประจำการทหารในยูเครน เพื่อสังเกตการณ์ข้อตกลงหยุดยิงใดๆ นอกจากนี้ เขายังบอกด้วยว่าอียูควรมีบทบาทหลักในการป้องกันและสนับสนุนเคียฟ ในขณะที่วอชิงตันเองจะสนับสนุนความพยายามดังกล่าวเช่นกัน แต่จะไม่ส่งกำลังพลใดๆ เข้าไป
    .
    ระหว่างการแถลงข่าวสิ้นปีในวันพฤหัสบดี (19 ธ.ค.) ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เน้นย้ำว่ามอสโกยังคงเปิดกว้างที่จะเจรจากับเคียฟโดยปราศจากการวางเงื่อนไขล่วงหน้า ยกเว้นที่เงื่อนไขที่เห็นพ้องกันก่อนหน้านี้ ณ โต๊ะเจรจาในอิสตันบูลปี 2022 ซึ่งจะพิจารณาสถานะความเป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดของยูเครน เช่นเดียวกับกำหนดข้อจำกัดบางอย่างในการประจำการอาวุธต่างชาติ นอกจากนี้ ปูติน ยังเน้นว่าการเจรจาใดๆ ดังกล่าวจำเป็นต้องเคารพความเป็นจริงในสนามรบด้วย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000122788
    ..............
    Sondhi X
    'โดนัลด์ ทรัมป์' ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ส่งข้อความหา 'โวโลดิมีร์ เซเลนสกี' แห่งยูเครน ขอให้ขาเริ่มคิดทบทวนเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิงและยอมละทิ้งดินแดนต่างๆ ที่ปัจจุบันอยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซีย ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เอลปาอิส . ทรัมป์ เน้นย้ำคำสัญญาที่ว่าจะยุติความขัดแย้งยูเครนภายในวันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง แต่ยังไม่ได้ให้รายละเอียดต่างๆ ว่าแผนของเขาจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร คำประกาศของเขาก่อความกังวลในเคียฟ ที่ว่าบางทีพวกเขาอาจต้องเผชิญไม่ใช่แค่การลดระดับความช่วยเหลือเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการตรวจสอบเงินหลายหมื่นล้านดอลลาร์ ที่ยูเครนได้รับจากทำเนียบขาวภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน . "คุณมองไปที่เมืองต่างๆ เหล่านั้น บางเมืองไม่มีอาคารที่อยู่ในสภาพดีเหลืออยู่เลยแม้แต่อาคารเดียว ดังนั้น ตอนที่คุณบอกว่า ฟื้นฟูประเทศ ฟื้นฟูอะไร? นี่มันต้องใช้เวลาบูรณะฟื้นฟูกว่า 110 ปี เลยนะ" หนังสือพิมพ์สัญชาติฝรั่งเศส อ้างข้อความที่ทรัมป์ ส่งถึง เซเลนสกี จากกอล์ฟคลับของเขาในฟลอริดา เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ . ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงกลางเดือน ทรัมป์ เรียกร้องทั้งยูเครนและรัสเซียให้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงในทันที โดยเขาโพสต์ข้อความเรียกร้องบนทรัสต์โซเชียล แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเอง หลังจากพบปะกับ เซเลนสกี และประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศสในกรุงปารีส . หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานในช่วงต้นเดือนธันวาคม ทรัมป์ระบุว่ายุโรปตะวันตกควรประจำการทหารในยูเครน เพื่อสังเกตการณ์ข้อตกลงหยุดยิงใดๆ นอกจากนี้ เขายังบอกด้วยว่าอียูควรมีบทบาทหลักในการป้องกันและสนับสนุนเคียฟ ในขณะที่วอชิงตันเองจะสนับสนุนความพยายามดังกล่าวเช่นกัน แต่จะไม่ส่งกำลังพลใดๆ เข้าไป . ระหว่างการแถลงข่าวสิ้นปีในวันพฤหัสบดี (19 ธ.ค.) ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เน้นย้ำว่ามอสโกยังคงเปิดกว้างที่จะเจรจากับเคียฟโดยปราศจากการวางเงื่อนไขล่วงหน้า ยกเว้นที่เงื่อนไขที่เห็นพ้องกันก่อนหน้านี้ ณ โต๊ะเจรจาในอิสตันบูลปี 2022 ซึ่งจะพิจารณาสถานะความเป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดของยูเครน เช่นเดียวกับกำหนดข้อจำกัดบางอย่างในการประจำการอาวุธต่างชาติ นอกจากนี้ ปูติน ยังเน้นว่าการเจรจาใดๆ ดังกล่าวจำเป็นต้องเคารพความเป็นจริงในสนามรบด้วย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000122788 .............. Sondhi X
    Like
    Wow
    6
    0 Comments 0 Shares 936 Views 0 Reviews
More Results