• #ภาควิชาสรีรวิทยา #คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล #มหาวิทยาลัยมหิดล
    ขอแสดงความยินดีกับบุคลากรและนักศึกษาห้องปฏิบัติการอณูชีววิทยา 1 และ 6 และห้องปฏิบัติการย้อมเนื้อเยื่อ 2 ภาควิชาสรีรวิทยา ในโอกาสที่ได้รับการรับรองความปลอดภัยห้องปฏิบัติการตามมาตรฐาน ESPReL โดยเป็นผลจากการประเมินแบบ peer evaluation ระยะที่ 1 ภายใต้การกำกับของสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ผ่านโครงการของศูนย์บริหารจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม (COSHEM) มหาวิทยาลัยมหิดล ในงาน Safety Day ครั้งที่ 9: MU Safety – Preparing for the Unexpected เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568
    #ภาควิชาสรีรวิทยา #คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล #มหาวิทยาลัยมหิดล ขอแสดงความยินดีกับบุคลากรและนักศึกษาห้องปฏิบัติการอณูชีววิทยา 1 และ 6 และห้องปฏิบัติการย้อมเนื้อเยื่อ 2 ภาควิชาสรีรวิทยา ในโอกาสที่ได้รับการรับรองความปลอดภัยห้องปฏิบัติการตามมาตรฐาน ESPReL โดยเป็นผลจากการประเมินแบบ peer evaluation ระยะที่ 1 ภายใต้การกำกับของสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ผ่านโครงการของศูนย์บริหารจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม (COSHEM) มหาวิทยาลัยมหิดล ในงาน Safety Day ครั้งที่ 9: MU Safety – Preparing for the Unexpected เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประชาสัมพันธ์การเปิดรับสมัครผู้สนใจเข้าศึกษาหลักสูตรสรีรวิทยาการแพทย์ (นานาชาติ) ประจำปีการศึกษา 2568

    ภาควิชาสรีรวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดสอนหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต และ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาสรีรวิทยาการแพทย์ (นานาชาติ) โดยเปิดรับสมัครผู้สนใจศึกษาในหลักสูตรฯ ปีการศึกษา 2568 ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 พฤษภาคม 2568 ทางเว็บไซต์บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล https://graduate.mahidol.ac.th/thai

    สอบถามรายละเอียดได้ที่ คุณสุนทรี มีชำนาญ
    โทร. 0-2419-8770
    email: soontaree.mee@mahidol.ac.th
    ประชาสัมพันธ์การเปิดรับสมัครผู้สนใจเข้าศึกษาหลักสูตรสรีรวิทยาการแพทย์ (นานาชาติ) ประจำปีการศึกษา 2568 ภาควิชาสรีรวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดสอนหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต และ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาสรีรวิทยาการแพทย์ (นานาชาติ) โดยเปิดรับสมัครผู้สนใจศึกษาในหลักสูตรฯ ปีการศึกษา 2568 ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 พฤษภาคม 2568 ทางเว็บไซต์บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล https://graduate.mahidol.ac.th/thai สอบถามรายละเอียดได้ที่ คุณสุนทรี มีชำนาญ โทร. 0-2419-8770 email: soontaree.mee@mahidol.ac.th
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 100 มุมมอง 0 รีวิว
  • โจ๊ก-ดร.นิด ศีลเสมอกัน เอี่ยวทำวิทยานิพนธ์
    .
    คดีโกงสอบครั้งประวัติศาสตร์ ของคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งมีนักวิชาการระดับดอกเตอร์ของมหาวิทยาลัยมหิดล ตกเป็นผู้ต้องหา ส่อเค้าจะยาวเป็นหนังชีวิต

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000038316

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    โจ๊ก-ดร.นิด ศีลเสมอกัน เอี่ยวทำวิทยานิพนธ์ . คดีโกงสอบครั้งประวัติศาสตร์ ของคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งมีนักวิชาการระดับดอกเตอร์ของมหาวิทยาลัยมหิดล ตกเป็นผู้ต้องหา ส่อเค้าจะยาวเป็นหนังชีวิต อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000038316 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Angry
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 708 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปูมหลัง “ดร.นิด” ที่แท้แค่แม่ค้าขายน้ำ ก่อนผันตัวเป็นเลขาฯ หลังร่วมเรียนหลักสูตรดังรุ่นเดียวกับ “บิ๊กโจ๊ก”
    .
    นอกจากนี้ เมื่อดำเนินการตรวจสอบข้อมูลการประกอบอาชีพที่ ดร.นิด เคยทำปรากฏพบว่า เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2562 รักษาการแทนรองอธิการบดีฝ่ายสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ปฏิบัติหน้าที่แทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล เคยประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกบุคคลเข้าเป็นผู้ประกอบการร้านค้า เพื่อประกอบกิจการภายในพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การดูแลของกองกายภาพและสิ่งแวดล้อม ให้ นางขนิษฐา เลิศบรรเจิดวงศ์ เปิดร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม บริเวณ MU Garden ซึ่งเท่ากับว่าสถานะของ ดรนิด เป็นเพียงอดีตนักศึกษาที่เคยสำเร็จการศึกษา และเป็นแม่ค้าอาหารและน้ำดื่มในมหาวิทยาลัยมหิดล เท่านั้นไม่มีสิทธิ์จัดการเรียน การสอน นิสิตนักศึกษาภายในมหาวิทยาลัยมหิดล หรือสถาบันอื่นๆ แต่ประการใด

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000038197

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ปูมหลัง “ดร.นิด” ที่แท้แค่แม่ค้าขายน้ำ ก่อนผันตัวเป็นเลขาฯ หลังร่วมเรียนหลักสูตรดังรุ่นเดียวกับ “บิ๊กโจ๊ก” . นอกจากนี้ เมื่อดำเนินการตรวจสอบข้อมูลการประกอบอาชีพที่ ดร.นิด เคยทำปรากฏพบว่า เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2562 รักษาการแทนรองอธิการบดีฝ่ายสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ปฏิบัติหน้าที่แทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล เคยประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกบุคคลเข้าเป็นผู้ประกอบการร้านค้า เพื่อประกอบกิจการภายในพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การดูแลของกองกายภาพและสิ่งแวดล้อม ให้ นางขนิษฐา เลิศบรรเจิดวงศ์ เปิดร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม บริเวณ MU Garden ซึ่งเท่ากับว่าสถานะของ ดรนิด เป็นเพียงอดีตนักศึกษาที่เคยสำเร็จการศึกษา และเป็นแม่ค้าอาหารและน้ำดื่มในมหาวิทยาลัยมหิดล เท่านั้นไม่มีสิทธิ์จัดการเรียน การสอน นิสิตนักศึกษาภายในมหาวิทยาลัยมหิดล หรือสถาบันอื่นๆ แต่ประการใด อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000038197 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 691 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาควิชาสรีรวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
    ขอแสดงความยินดีกับ อ. นพ.ฆนัท จันทรทองดี
    เนื่องในโอกาสที่สำเร็จการศึกษาระดับปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขา Medical Science
    จากมหาวิทยาลัย Linköping, ราชอาณาจักรสวีเดน
    ภาควิชาสรีรวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ขอแสดงความยินดีกับ อ. นพ.ฆนัท จันทรทองดี เนื่องในโอกาสที่สำเร็จการศึกษาระดับปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขา Medical Science จากมหาวิทยาลัย Linköping, ราชอาณาจักรสวีเดน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 221 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2568 เวลา 12.30 น. นายแพทย์ เฉก ธนะสิริ ได้ถึงแก่กรรมอย่างสงบที่บ้านพัก สิริอายุ 99 ปี ทั้งนี้ นายแพทย์ เฉก ได้แสดงความประสงค์บริจาคร่างกายให้แก่โรงพยาบาลศิริราช เพื่อใช้ในการศึกษาและเป็น ‘อาจารย์ใหญ่’ แก่นักศึกษาแพทย์ ตามเจตนารมณ์ในการอุทิศตนเพื่อวงการแพทย์และสาธารณประโยชน์ จึงงดการจัดพิธีสวดอภิธรรมและพิธีศพรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า นายแพทย์ เฉก เกิดเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2468 ที่กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรของหลวงจินดาสหกิจ (ละม้าย ธนะสิริ) กับนางประวัติ จินดาสหกิจ (สกุลเดิม สหัสสานนท์) สมรสกับแพทย์หญิง วิลิศ วีรานุวัตติ์ มีบุตรสาวชื่อ เฉลยลัคน์นายแพทย์ เฉก จบการศึกษาจากโรงเรียนเทพศิรินทร์ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ปริญญาตรีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ปริญญาโทคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และศึกษาต่อด้านสาธารณสุขศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์ รัฐแมริแลนด์ สหรัฐอเมริกานายแพทย์ เฉก รับราชการกองควบคุมกามโรคและคุดทะราด กรมอนามัย เป็นนายแพทย์อนามัยจังหวัดนครราชสีมา เป็นผู้อำนวยการสำนักอนามัย (นักบริหาร 10) กรุงเทพมหานคร และเป็นรองปลัดกรุงเทพมหานคร (นักบริหาร 10) เคยได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในปี พ.ศ. 2516 กรรมการอำนวยการสภาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรรมการวางแผนสาธารณสุขแห่งชาติ กรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย นายกสมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย นายกสมาคมศิษย์เก่าแพทย์ศิริราช ผู้ก่อตั้งมูลนิธิฟื้นฟูส่งเสริมการแพทย์ไทยเดิม และได้รับรางวัลมหิดลทยากร จาก สมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมหิดล ประจำปี พ.ศ. 2546 เจ้าของรางวัลนราธิป ประจำปี พ.ศ. 2549 และรางวัลผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปี 2564 ของกรมกิจการผู้สูงอายุ และผู้เขียนหนังสือ ‘อายุ 120 ปี ทำไมจะทำให้ไม่ได้’
    เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2568 เวลา 12.30 น. นายแพทย์ เฉก ธนะสิริ ได้ถึงแก่กรรมอย่างสงบที่บ้านพัก สิริอายุ 99 ปี ทั้งนี้ นายแพทย์ เฉก ได้แสดงความประสงค์บริจาคร่างกายให้แก่โรงพยาบาลศิริราช เพื่อใช้ในการศึกษาและเป็น ‘อาจารย์ใหญ่’ แก่นักศึกษาแพทย์ ตามเจตนารมณ์ในการอุทิศตนเพื่อวงการแพทย์และสาธารณประโยชน์ จึงงดการจัดพิธีสวดอภิธรรมและพิธีศพรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า นายแพทย์ เฉก เกิดเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2468 ที่กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรของหลวงจินดาสหกิจ (ละม้าย ธนะสิริ) กับนางประวัติ จินดาสหกิจ (สกุลเดิม สหัสสานนท์) สมรสกับแพทย์หญิง วิลิศ วีรานุวัตติ์ มีบุตรสาวชื่อ เฉลยลัคน์นายแพทย์ เฉก จบการศึกษาจากโรงเรียนเทพศิรินทร์ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ปริญญาตรีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ปริญญาโทคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และศึกษาต่อด้านสาธารณสุขศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์ รัฐแมริแลนด์ สหรัฐอเมริกานายแพทย์ เฉก รับราชการกองควบคุมกามโรคและคุดทะราด กรมอนามัย เป็นนายแพทย์อนามัยจังหวัดนครราชสีมา เป็นผู้อำนวยการสำนักอนามัย (นักบริหาร 10) กรุงเทพมหานคร และเป็นรองปลัดกรุงเทพมหานคร (นักบริหาร 10) เคยได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในปี พ.ศ. 2516 กรรมการอำนวยการสภาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรรมการวางแผนสาธารณสุขแห่งชาติ กรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย นายกสมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย นายกสมาคมศิษย์เก่าแพทย์ศิริราช ผู้ก่อตั้งมูลนิธิฟื้นฟูส่งเสริมการแพทย์ไทยเดิม และได้รับรางวัลมหิดลทยากร จาก สมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมหิดล ประจำปี พ.ศ. 2546 เจ้าของรางวัลนราธิป ประจำปี พ.ศ. 2549 และรางวัลผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปี 2564 ของกรมกิจการผู้สูงอายุ และผู้เขียนหนังสือ ‘อายุ 120 ปี ทำไมจะทำให้ไม่ได้’
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 503 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอเรียนเชิญสมาชิกสรีรวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทย บุคลากรทางการแพทย์ สาธารณสุข วิทยาศาสตร์การแพทย์ นิสิต นักศึกษา ผู้สนใจร่วมประชุมอบรมสรีรวิทยา-พยาธิสรีรวิทยา ครั้งที่ 42 ประจำปี 2568
    "ภาวะเปราะบาง: จากงานวิจัยสู่การปฏิบัติ | Frailty: From Bench to Bedside"
    วันพฤหัสบดีที่ 1 และ วันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม 2568 ณ ห้องบรรยายอวย เกตุสิงห์ อาคารศรีสวรินทิรา ชั้น 3 คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
    เปิดรับลงทะทะเบียน วันที่ 1 มีนาคม - 21 เมษายน 2568
    ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://ps.si.mahidol.ac.th/pps42
    ขอเรียนเชิญสมาชิกสรีรวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทย บุคลากรทางการแพทย์ สาธารณสุข วิทยาศาสตร์การแพทย์ นิสิต นักศึกษา ผู้สนใจร่วมประชุมอบรมสรีรวิทยา-พยาธิสรีรวิทยา ครั้งที่ 42 ประจำปี 2568 "ภาวะเปราะบาง: จากงานวิจัยสู่การปฏิบัติ | Frailty: From Bench to Bedside" วันพฤหัสบดีที่ 1 และ วันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม 2568 ณ ห้องบรรยายอวย เกตุสิงห์ อาคารศรีสวรินทิรา ชั้น 3 คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดรับลงทะทะเบียน วันที่ 1 มีนาคม - 21 เมษายน 2568 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://ps.si.mahidol.ac.th/pps42
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 289 มุมมอง 0 รีวิว
  • 17/3/68

    #ข่าวประชาสัมพันธ์

    รพ.รามาฯ #ขอรับบริจาคเลือด
    #หลังไฟไหม้ทำคลังเลือดเสียหาย
    #กระทบการผ่าตัดคนไข้

    ความคืบหน้าเหตุพลิงไหม้ ภายในชั้น 2 อาคาร 1 ซึ่งเป็นอาคารหลัก โรงพยาบาลรามาธิบดี ถนนพระราม 6 เขตราชเทวี ซึ่งเป็นอาคาร 9 ชั้น โดยต้นเพลิง อยู่ใกล้กับห้องตรวจเลือดและตู้เก็บความเย็น ก่อนลุกลามไปยังโต๊ะทำงานและเอกสาร เจ้าหน้าที่ต้องตัดกระแสไฟฟ้า ใช้เวลาฉีดน้ำสกัด กว่า 20 นาที ก่อนจะควบคุมเพลิงไว้ได้

    ขณะนี้ยังคงมีกลิ่นควันไฟอยู่ภายโรงพยาบาล เจ้าหน้าเร่งกำจัดกลิ่นควันไม่ให้กระทบกับผู้ที่มาใช้บริการ เเละโดยเฉพาะคนไข้ที่เข้ารักษา โดยมีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยซึ่งมีทั้งเด็กทารกเเรกเกิดและผู้สูงอายุ ไปอยู่ในอาคารที่ปลอดภัย ตั้งเเต่เมื่อคืนที่เกิดเหตุ มีแพทย์และพยาบาล ดูแลอย่างใกล้ชิด รวมถึงการเคลื่อนย้ายเครื่องมือเเพทย์บางส่วน แม้จะควบคุมเพลิงได้แล้ว แต่อาคารนี้เป็นที่รวมของแผนกต่างๆ ในการให้บริการในโรงพยาบาล ทั้งคลังเลือด เอ็กซเรย์ ห้องคลอด และ 2 ห้องผ่าตัด จึงต้องปิดทำการชั่วคราว

    ด้าน พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง (ผบก.พฐก.) นำเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบ ภายในที่เกิดเหตุไฟไหม้ เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดของเพลิงไหม้ ขณะที่มีรายงานจากทาง ผู้กำกับการสถานีตำรวจพญาไท เปิดเผยว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากระบบไฟฟ้า เพราะดูจากกล้องวงจรปิด พบว่ามีการเกิดประกายไฟ จึงมุ่งไปที่ไฟฟ้าลัดวงจร

    ผลกระทบที่เกิดขึ้น คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ปัจจุบันสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ยังไม่มีรายงานผู้ป่วยของโรงพยาบาลรามาธิบดี ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ โรงพยาบาลรามาธิบดีจะของดให้บริการภายในอาคารหลัก (อาคาร 1) ทั้งหมด งดให้บริการผู้ป่วยใหม่ที่ห้องฉุกเฉินสำหรับงานเวชระเบียนการบริจาคโลหิต จุดเจาะเลือด ขอให้ใช้บริการที่อาคารสมเด็จพระเทพรัตน์แทน ส่วนอาคารสมเด็จพระเทพรัตน์เบื้องต้นเปิดให้บริการตามปกติ โดยหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่วิศวกร จะเข้าการตรวจสอบโครงสร้างของอาคารเพื่อความปลอดภัย

    ขณะเดียวกัน เวลานี้ ทางโรงพยาบาลฯ นำโดย ศ.คลินิก นพ.อาทิตย์ อังกานนท์ คณบดีเเพทยศาสตร์์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ,รศ.นพ.อมร วิจิตพาวรรณ ผู้ช่วยคณะบดีฝ่ายกายภาพเเละสิ่งอำนวยความสะดวก ,ผศ. นพ. ปริย พรรณเชษฐ์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาล

    โดย ศ.คลินิก นพ.อาทิตย์ อังกานนท์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้เมื่อช่วงค่ำ 19.20 น. ภายในอาคาร 1 ซึ่งเป็นอาคารหลัก ที่บริเวณชั้น 2 ของ อาคารนี้ สร้างมา 60 ปี ที่เกิดเหตุอาคารสำนักงานรังสีวิทยา แผนกเอ็กซเรย์ ใกล้คลังเลือดเเละคลังเเลปพยาธิวิทยา เเจ้งกลุ่มควันขึ้นไปชั้น 3-4 มีคนป่วยจำนวนมาก โดยพบว่ากลุ่มควันไฟได้กระจายหลายจุดไปทั่วอาคาร จึงได้เร่งอพยพเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่อยู่ใน อาคารประมาณ 500 เตียง ออกจากพื้นที่ ไปในพื้นที่ปลอดภัยก่อน โดยมีการย้ายผู้ป่วยในอาคารด้านทิศใต้ ไปในโซนทิศเหนือของโรงพยาบาล ทั้งคนไข้ที่อยู่ในไอซียู ผู้ป่วยทั่วไป โดยได้รับความร่วมมือจาก ทหาร ตำรวจ บุคคลากรเคลื่อนย้าย ใช้เวลาควบคุมเพลิง 1 ชั่วโมง คุมเพลิงได้ เเละนำคนไข้กลับมาฝั่งเหนือกลับมาทั้งหมด พร้อมประสานโรงพยาบาลใกล้เคียง โรงพยาบาลพระมงกุฏ และโรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน เเต่มี 2 ตึกของโรงพยาบาล ที่ไม่ได้รับผลกระทบ จึงยังไม่จำเป็น โรงพยาบาลสามารถดูเเลคนไข้ทั้งหมด

    สำหรับผลกระทบ ห้องชั้น 2 ชั้น 3 ชั้น 4 พยาธิ เเละห้องรังสีวิทยา ห้องคลอด ห้องผ่าตัด ปิดการทำการไปก่อน เเละจำกัดคนไข้ที่จะเข้ารับการบริการ ไม่สามารถรับผู้ป่วยใหม่จนกว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติ จะรักษาคนไข้เดิม คนที่นัดไว้ อาจทำให้คนไข้ไม่ได้รับความสะดวกบ้าง

    ครั้งนี้โชคดี ผู้ป่วยทุกคนได้รับการปลอดภัย ไม่มีใครบาดเจ็บและกลับมารักษาตามเเผนเดิม มีเพียงเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ที่กลับเข้าไปช่วยผู้ตกค้าง ได้รับบาดเจ็บ จนสำลักควัน ออกซิเจนในร่างกายน้อยลง คาร์บอนมอนออกไซด์ เข้าไปในปอด เเต่ยืนยันว่าที่มเเพทย์ จะช่วยให้กลับมาปลอดภัยได้ ส่วนเรื่องของรังสีกัมมันตภาพรั่วไหล ยืนยันว่าไม่มีรังสีรั่วไหล เพราะไม่มีการเปิดสวิต์ไฟ และไม่ใช่ที่เก็บกัมมันตภาพรังสี

    ส่วนผลกระทบด้านคลังเลือด ในช่วงเพลิงไหม้มีความจำเป็นต้องดับไฟ เมื่อเลือดไม่เย็นจะเสียภายในไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งพบว่าเลือดเสียหายทั้งหมดรวม 100 ยูนิต ทำให้เลือดที่มีอยู่น้อยลงไป ต้องใช้เลือดในการผ่าตัดอย่างประหยัด ปกติจะใช้ 10-20 ยูนิตในการผ่าตัด คลังเลือดดังกล่าวเป็นคลังเลือดใหญ่ของโรงพยาบาล เเต่ยังมีคลังเลือดสำรองขนาดเล็กสำรองอยู่ จึงมีความจำเป็นต้องประชาสัมพันธ์ในการรับบริจาคเลือด สำหรับการผ่าตัดที่ต้องใช้เลือดปริมาณมาก เช่น การปลูกถ่ายตับ การผ่าตัดหัวใจ ยังสามารถเลื่อนออกไปก่อนได้

    สำหรับความเสียหายของอาคารที่เกิดเพลิงไหม้ พบว่าเป็นห้องที่ขนาด 50 ตาราเมตร ส่วนใหญ่ภายในเป็นอุปกรณ์สำนักงาน เเละ เอกสาร เเต่ที่มีความกังสลคือ อุปการณ์เเพทย์ที่มีความละเอียดอ่อน ในการตรวจวิเคราะห์กล้องจุลทรรศน์ที่อยู่ชั้น 3-4 ได้รับความเสียหายจากเขม่าควัน จากการการฉีดน้ำ จึงจำเป็นที่จะต้องมีการตรวจสอบเย่างละเอียด จึงยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายได้อย่างชัดเจน

    สำหรับการกลับมาให้บริการของโรงพยาบาล จะรีบดำเนินการให้กลับมาเปิดใช้บริการได้อย่างเร็วที่สุด เบื้องต้นต้องมีการตรวจสอบระบบไฟ ระบบเเอร์ คาดว่าใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์

    ด้าน พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง (ผบก.พฐก.) เปิดเผยในเบื้องต้นว่า โรงพยาบาลจัดการได้อย่างดีเยี่ยม วันนี้นำทีมฟิสิกส์เข้ามาหาสาเหตุ พบต้นเพลิง จุดที่มีการสปาร์คของไฟ บนฝ้าเพดาน ที่เป็นอาคารเก่า มีการรีโนเวทบ่อยครั้ง พบรอยสปาร์ค พบสายไฟหลอมละลาย จึงมุ่งไปที่ไฟฟ้าลัดวงจร จะนำสายไฟไปตรวจสอบหาสาเหตุที่เเท้จริง มั่นใจว่าไม่ใช่การวางเพลิง เพราะลักษณะการเกิดเพลิงไหม้มีความเเตกต่างกัน ยืนยันว่าไม่ใช่การด่วนสรุป เเละจะนำผลการตรวจสายไฟ รวมถึงจุดต้นเพลิง เทียบเคียงกับกล้องวงจรปิด ว่าเป็นจุดเดียวกันกับจุดที่พบสายไฟหลอมละลายหรือไม่

    ขณะที่ รศ.ศิริวัฒน์ ไชยชนะ นำทีมวิศกร จากวิศกรรมสถานเเห่งประเทศไทย ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุสภาพอาคาร เบื้องต้นจากการใช้วิธีการสำรวจโครงสร้าง ด้วยสายตา ทางกายภาพพบว่าอาคารยังคงปกติ เเต่อาจมีความสียหายบ้างในบ้างจุด โดยเฉพาะพื้นห้องอาคารชั้น 3 จากความร้อน ส่วนการตรวจสอบเชิงลึก จะนำอุปกรณ์ เพื่อออกมาเป็นค่าตัวเลข เเละทำการโหลดเทส หรือ การตรวจสอบการรับน้ำหนัก เพื่อสร้างความมั่นใจในการกลับใช้งาน

    #รับบริจาคเลือด
    #โรงพยาบาลรามาธิบดี #ไฟไหม้

    cr:ฝันดีฝันเด่น
    17/3/68 #ข่าวประชาสัมพันธ์ รพ.รามาฯ #ขอรับบริจาคเลือด #หลังไฟไหม้ทำคลังเลือดเสียหาย #กระทบการผ่าตัดคนไข้ ความคืบหน้าเหตุพลิงไหม้ ภายในชั้น 2 อาคาร 1 ซึ่งเป็นอาคารหลัก โรงพยาบาลรามาธิบดี ถนนพระราม 6 เขตราชเทวี ซึ่งเป็นอาคาร 9 ชั้น โดยต้นเพลิง อยู่ใกล้กับห้องตรวจเลือดและตู้เก็บความเย็น ก่อนลุกลามไปยังโต๊ะทำงานและเอกสาร เจ้าหน้าที่ต้องตัดกระแสไฟฟ้า ใช้เวลาฉีดน้ำสกัด กว่า 20 นาที ก่อนจะควบคุมเพลิงไว้ได้ ขณะนี้ยังคงมีกลิ่นควันไฟอยู่ภายโรงพยาบาล เจ้าหน้าเร่งกำจัดกลิ่นควันไม่ให้กระทบกับผู้ที่มาใช้บริการ เเละโดยเฉพาะคนไข้ที่เข้ารักษา โดยมีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยซึ่งมีทั้งเด็กทารกเเรกเกิดและผู้สูงอายุ ไปอยู่ในอาคารที่ปลอดภัย ตั้งเเต่เมื่อคืนที่เกิดเหตุ มีแพทย์และพยาบาล ดูแลอย่างใกล้ชิด รวมถึงการเคลื่อนย้ายเครื่องมือเเพทย์บางส่วน แม้จะควบคุมเพลิงได้แล้ว แต่อาคารนี้เป็นที่รวมของแผนกต่างๆ ในการให้บริการในโรงพยาบาล ทั้งคลังเลือด เอ็กซเรย์ ห้องคลอด และ 2 ห้องผ่าตัด จึงต้องปิดทำการชั่วคราว ด้าน พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง (ผบก.พฐก.) นำเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบ ภายในที่เกิดเหตุไฟไหม้ เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดของเพลิงไหม้ ขณะที่มีรายงานจากทาง ผู้กำกับการสถานีตำรวจพญาไท เปิดเผยว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากระบบไฟฟ้า เพราะดูจากกล้องวงจรปิด พบว่ามีการเกิดประกายไฟ จึงมุ่งไปที่ไฟฟ้าลัดวงจร ผลกระทบที่เกิดขึ้น คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ปัจจุบันสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ยังไม่มีรายงานผู้ป่วยของโรงพยาบาลรามาธิบดี ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ โรงพยาบาลรามาธิบดีจะของดให้บริการภายในอาคารหลัก (อาคาร 1) ทั้งหมด งดให้บริการผู้ป่วยใหม่ที่ห้องฉุกเฉินสำหรับงานเวชระเบียนการบริจาคโลหิต จุดเจาะเลือด ขอให้ใช้บริการที่อาคารสมเด็จพระเทพรัตน์แทน ส่วนอาคารสมเด็จพระเทพรัตน์เบื้องต้นเปิดให้บริการตามปกติ โดยหลังจากนี้ เจ้าหน้าที่วิศวกร จะเข้าการตรวจสอบโครงสร้างของอาคารเพื่อความปลอดภัย ขณะเดียวกัน เวลานี้ ทางโรงพยาบาลฯ นำโดย ศ.คลินิก นพ.อาทิตย์ อังกานนท์ คณบดีเเพทยศาสตร์์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ,รศ.นพ.อมร วิจิตพาวรรณ ผู้ช่วยคณะบดีฝ่ายกายภาพเเละสิ่งอำนวยความสะดวก ,ผศ. นพ. ปริย พรรณเชษฐ์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาล โดย ศ.คลินิก นพ.อาทิตย์ อังกานนท์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้เมื่อช่วงค่ำ 19.20 น. ภายในอาคาร 1 ซึ่งเป็นอาคารหลัก ที่บริเวณชั้น 2 ของ อาคารนี้ สร้างมา 60 ปี ที่เกิดเหตุอาคารสำนักงานรังสีวิทยา แผนกเอ็กซเรย์ ใกล้คลังเลือดเเละคลังเเลปพยาธิวิทยา เเจ้งกลุ่มควันขึ้นไปชั้น 3-4 มีคนป่วยจำนวนมาก โดยพบว่ากลุ่มควันไฟได้กระจายหลายจุดไปทั่วอาคาร จึงได้เร่งอพยพเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่อยู่ใน อาคารประมาณ 500 เตียง ออกจากพื้นที่ ไปในพื้นที่ปลอดภัยก่อน โดยมีการย้ายผู้ป่วยในอาคารด้านทิศใต้ ไปในโซนทิศเหนือของโรงพยาบาล ทั้งคนไข้ที่อยู่ในไอซียู ผู้ป่วยทั่วไป โดยได้รับความร่วมมือจาก ทหาร ตำรวจ บุคคลากรเคลื่อนย้าย ใช้เวลาควบคุมเพลิง 1 ชั่วโมง คุมเพลิงได้ เเละนำคนไข้กลับมาฝั่งเหนือกลับมาทั้งหมด พร้อมประสานโรงพยาบาลใกล้เคียง โรงพยาบาลพระมงกุฏ และโรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน เเต่มี 2 ตึกของโรงพยาบาล ที่ไม่ได้รับผลกระทบ จึงยังไม่จำเป็น โรงพยาบาลสามารถดูเเลคนไข้ทั้งหมด สำหรับผลกระทบ ห้องชั้น 2 ชั้น 3 ชั้น 4 พยาธิ เเละห้องรังสีวิทยา ห้องคลอด ห้องผ่าตัด ปิดการทำการไปก่อน เเละจำกัดคนไข้ที่จะเข้ารับการบริการ ไม่สามารถรับผู้ป่วยใหม่จนกว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติ จะรักษาคนไข้เดิม คนที่นัดไว้ อาจทำให้คนไข้ไม่ได้รับความสะดวกบ้าง ครั้งนี้โชคดี ผู้ป่วยทุกคนได้รับการปลอดภัย ไม่มีใครบาดเจ็บและกลับมารักษาตามเเผนเดิม มีเพียงเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ที่กลับเข้าไปช่วยผู้ตกค้าง ได้รับบาดเจ็บ จนสำลักควัน ออกซิเจนในร่างกายน้อยลง คาร์บอนมอนออกไซด์ เข้าไปในปอด เเต่ยืนยันว่าที่มเเพทย์ จะช่วยให้กลับมาปลอดภัยได้ ส่วนเรื่องของรังสีกัมมันตภาพรั่วไหล ยืนยันว่าไม่มีรังสีรั่วไหล เพราะไม่มีการเปิดสวิต์ไฟ และไม่ใช่ที่เก็บกัมมันตภาพรังสี ส่วนผลกระทบด้านคลังเลือด ในช่วงเพลิงไหม้มีความจำเป็นต้องดับไฟ เมื่อเลือดไม่เย็นจะเสียภายในไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งพบว่าเลือดเสียหายทั้งหมดรวม 100 ยูนิต ทำให้เลือดที่มีอยู่น้อยลงไป ต้องใช้เลือดในการผ่าตัดอย่างประหยัด ปกติจะใช้ 10-20 ยูนิตในการผ่าตัด คลังเลือดดังกล่าวเป็นคลังเลือดใหญ่ของโรงพยาบาล เเต่ยังมีคลังเลือดสำรองขนาดเล็กสำรองอยู่ จึงมีความจำเป็นต้องประชาสัมพันธ์ในการรับบริจาคเลือด สำหรับการผ่าตัดที่ต้องใช้เลือดปริมาณมาก เช่น การปลูกถ่ายตับ การผ่าตัดหัวใจ ยังสามารถเลื่อนออกไปก่อนได้ สำหรับความเสียหายของอาคารที่เกิดเพลิงไหม้ พบว่าเป็นห้องที่ขนาด 50 ตาราเมตร ส่วนใหญ่ภายในเป็นอุปกรณ์สำนักงาน เเละ เอกสาร เเต่ที่มีความกังสลคือ อุปการณ์เเพทย์ที่มีความละเอียดอ่อน ในการตรวจวิเคราะห์กล้องจุลทรรศน์ที่อยู่ชั้น 3-4 ได้รับความเสียหายจากเขม่าควัน จากการการฉีดน้ำ จึงจำเป็นที่จะต้องมีการตรวจสอบเย่างละเอียด จึงยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายได้อย่างชัดเจน สำหรับการกลับมาให้บริการของโรงพยาบาล จะรีบดำเนินการให้กลับมาเปิดใช้บริการได้อย่างเร็วที่สุด เบื้องต้นต้องมีการตรวจสอบระบบไฟ ระบบเเอร์ คาดว่าใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ด้าน พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง (ผบก.พฐก.) เปิดเผยในเบื้องต้นว่า โรงพยาบาลจัดการได้อย่างดีเยี่ยม วันนี้นำทีมฟิสิกส์เข้ามาหาสาเหตุ พบต้นเพลิง จุดที่มีการสปาร์คของไฟ บนฝ้าเพดาน ที่เป็นอาคารเก่า มีการรีโนเวทบ่อยครั้ง พบรอยสปาร์ค พบสายไฟหลอมละลาย จึงมุ่งไปที่ไฟฟ้าลัดวงจร จะนำสายไฟไปตรวจสอบหาสาเหตุที่เเท้จริง มั่นใจว่าไม่ใช่การวางเพลิง เพราะลักษณะการเกิดเพลิงไหม้มีความเเตกต่างกัน ยืนยันว่าไม่ใช่การด่วนสรุป เเละจะนำผลการตรวจสายไฟ รวมถึงจุดต้นเพลิง เทียบเคียงกับกล้องวงจรปิด ว่าเป็นจุดเดียวกันกับจุดที่พบสายไฟหลอมละลายหรือไม่ ขณะที่ รศ.ศิริวัฒน์ ไชยชนะ นำทีมวิศกร จากวิศกรรมสถานเเห่งประเทศไทย ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุสภาพอาคาร เบื้องต้นจากการใช้วิธีการสำรวจโครงสร้าง ด้วยสายตา ทางกายภาพพบว่าอาคารยังคงปกติ เเต่อาจมีความสียหายบ้างในบ้างจุด โดยเฉพาะพื้นห้องอาคารชั้น 3 จากความร้อน ส่วนการตรวจสอบเชิงลึก จะนำอุปกรณ์ เพื่อออกมาเป็นค่าตัวเลข เเละทำการโหลดเทส หรือ การตรวจสอบการรับน้ำหนัก เพื่อสร้างความมั่นใจในการกลับใช้งาน #รับบริจาคเลือด #โรงพยาบาลรามาธิบดี #ไฟไหม้ cr:ฝันดีฝันเด่น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1033 มุมมอง 0 รีวิว
  • จับตา“ชาวยิวในปาย” เบื้องหลัง นักท่องเที่ยว หรือแผนยุทธศาสตร์ระยะยาว? โดย ผศ.ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
    3 มีนาคม 2568 #อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน กลายเป็นจุดสนใจ เมื่อมีรายงานถึงจำนวน #นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล ที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดสังเกต จุดนี้เชื่อมโยงกับข้อกังวลในวงกว้างเกี่ยวกับบทบาทของ #กลุ่มทุนไซออนิสต์ หลายฝ่ายมองว่าอาจไม่ได้เป็นเพียงการท่องเที่ยวธรรมดา แต่เป็นส่วนหนึ่งของ #ยุทธศาสตร์ขยายอิทธิพลในภูมิภาค
    .
    ปัญหาของชาวยิว ตนต้องการ *เตือนสติ* ชาวไทยเอาไว้ว่ากรณีชาวยิวที่อำเภอปาย แม่ฮ่องสอน ควรจะมองภาพรวมใหญ่ไว้บ้างว่า...
    .
    1. ประเทศไทย เป็นเป้าหมายหนึ่งของ 'กลุ่มทุนยิวไซออนิสต์' ซึ่งอยู่เบื้องหลัง #รัฐบาลอเมริกา ที่จะยึดครอง คนพวกนี้ต้องการ #สร้างฐานทัพในประเทศไทย และใช้ประเทศไทยเป็นที่ #ตั้งอาวุธนิวเคลียร์ เพื่อจ่อจี #นอีกแห่ง
    .
    2. รัฐบาลอเมริกาซึ่งมีกลุ่มทุนยิวไซออนิสต์อยู่เบื้องหลังเคย #ขอใช้สนามบินอู่ตะเภา เป็นฐานทัพ แต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาไม่ให้มาแล้ว
    .
    3. ในเวลาเดียวกัน อเมริกาก็หันไปสนับสนุนนาง #อองซานซูจี โดยทุ่มเงินจาก #USAID เข้าไปช่วยหาเสียงและซื้อเสียง #กองทัพเมียนมา จับทางได้ว่าอเมริกาต้องการเข้ามามีอิทธิพลในเมียนมาและกำลังใช้เงินจาก USAID ซื้อเสียง จึงยึดอำนาจเสีย รัฐบาลอเมริกาจึงหันไป #ติดอาวุธชนกลุ่มน้อย ให้รบกบกองทัพรัฐบาลพม่าแทน จึงเกิดมีปัญหาสู้รบกันและทำให้มีผู้อพยพเข้าสู่ประเทศไทยมากจนถึงเดี๋ยวนี้
    .
    4. สำหรับประเทศไทย อเมริกาเดินเกมขยาย #สถานกงสุลในเชียงใหม่ ให้ใหญ่โตขึ้น เพื่อรองรับคนทำงานเข้ามาใหม่ให้ได้จำนวนมากขึ้น
    .
    ผมสงสัยว่ากลุ่มคนที่จะเพิ่มเข้ามาทำงานในสถานกงสุล ก็น่าจะเป็น #เครือข่ายซีไอเอ ที่จะมาปฏิบัติการในไทยและเมียนมา ซึ่งอเมริกาต้องการจำนวนคนมากขึ้นกับภารกิจเชิงรุก รวมทั้งเจ้าหน้าที่ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้ #นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล เดินทางเข้ามาไทยมากยิ่งขึ้นตามมาในอนาคต
    ต้องไม่ลืมว่าหนังสือพิมพ์ #Haarets ของอิสราเอลรายงานชัดเจนว่าขณะนี้ ชาวยิวกำลังหันมาสนใจประเทศไทยมากยิ่งขึ้น
    .
    5. ความจริงประการหนึ่งก็คือขณะนี้ รัฐบาลอเมริกาและ #อังกฤษ ทำงานรับใช้ #ยิว อย่างเต็มที่ อเมริกาทุ่มให้เครือข่ายซีไอเอไปรับใช้ ส่วนอังกฤษทุ่มเครือข่าย #MI6 ให้ทำงานรับใช้ยิวในประเทศต่างๆ มาก
    .
    จึงไม่น่าแปลกอะไรที่จะมีนักท่องเที่ยวอิสราเอล อังกฤษและอเมริกาในอำเภอปายมากกว่าในที่อื่นๆ โดยที่นักท่องเที่ยวเหล่านี้ ส่วนหนึ่งอาจเป็น #สายลับ ที่เข้ามาสังเกตการณ์และทำงานร่วมกันเพื่อหาทางวางรากฐานให้ชาวยิวอพยพมาอยู่เมืองไทยอย่างถาวรก็ได้ เพราะการว่าจ้างคนไทยให้เป็นนอมินีซื้อที่ดินให้คนเหล่านี้ยึดครอง ทำได้ง่ายอยู่แล้ว
    .
    6. อเมริกายังเดินเกม จัดตั้ง #ศูนย์ข้อมูลกูเกิลในจังหวัดชลบุรี อีกแห่ง
    ข้อมูลระดับพื้นฐานที่คนไทยควรจะรู้ ก็คือ #กูเกิล เกิดมาจากหน่วยงาน #ซีไอเอ (ตามข่าวในภาพประกอบ) ขณะนี้ รัฐบาลอเมริกาและอิสราเอลใช้กูเกิลเป็นเครื่องมือช่วยกวาดล้างชาวปาเลสไตน์และปล้นแผ่นดินปาเลสไตน์อยู่
    .
    เมื่อมีการขอจัดตั้งศูนย์ข้อมูลกูเกิล ไม่มีเสียงทักท้วงหรือคัดค้านใดๆ จากเลขาธิการ #สมช. ของไทย #กระทรวงมหาดไทย และ #กระทรวงการต่างประเทศเลย แสดงให้เห็นว่าสามองค์กรหลักนี้ไม่ระแวงหรือสงสัยอะไรเลยเพราะข้อมูลเกี่ยวกับกูเกิลไม่มีมากพอ
    .
    การจัดตั้งศูนย์ข้อมูลกูเกิลในจังหวัดชลบุรี อาจเป็นไปได้ว่าเป็นการจัดตั้งเครือข่ายซีไอเอและ #มอสสาด (#Mossad หน่วยงานข่าวกรองและปฏิบัติการพิเศษของอิสราเอล) ในประเทศไทย เพื่อรวบรวม #BigData คนในแถบ #ตะวันออกเฉียงใต้ เอาไว้ด้วยจุดประสงค์บางอย่างนั่นเอง
    .
    อย่าลืมความจริงที่คนไทยก็รู้มานานแล้วว่า ประเทศนักล่าอาณานิคมตะวันตก กำลังวางยุทธศาสตร์แบ่งแยกประเทศไทย ทั้งที่ #สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งใน #ภาคอีสาน และทั้งในพื้นที่ภาคเหนือเพื่อตนเองจะได้เข้ามามีบทบาทควบคุมประเทศแถบนี้มากยิ่งขึ้น
    .
    ประเทศเล็กๆ หลายประเทศในขณะนี้ตกเป็นอาณานิคมของอเมริกาและอิสราเอล ซึ่งมียิวอยู่เบื้องหลังก็เพราะมีหน่วยงานสภาความมั่นคงแห่งชาติและมีนักการเมืองที่ดูแลผลประโยชน์ประเทศชาติพากัน *โง่* และตั้งตนในความประมาทนี่แหละ!
    .
    จับตา“ชาวยิวในปาย” เบื้องหลัง นักท่องเที่ยว หรือแผนยุทธศาสตร์ระยะยาว? โดย ผศ.ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล 3 มีนาคม 2568 #อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน กลายเป็นจุดสนใจ เมื่อมีรายงานถึงจำนวน #นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล ที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดสังเกต จุดนี้เชื่อมโยงกับข้อกังวลในวงกว้างเกี่ยวกับบทบาทของ #กลุ่มทุนไซออนิสต์ หลายฝ่ายมองว่าอาจไม่ได้เป็นเพียงการท่องเที่ยวธรรมดา แต่เป็นส่วนหนึ่งของ #ยุทธศาสตร์ขยายอิทธิพลในภูมิภาค . ปัญหาของชาวยิว ตนต้องการ *เตือนสติ* ชาวไทยเอาไว้ว่ากรณีชาวยิวที่อำเภอปาย แม่ฮ่องสอน ควรจะมองภาพรวมใหญ่ไว้บ้างว่า... . 1. ประเทศไทย เป็นเป้าหมายหนึ่งของ 'กลุ่มทุนยิวไซออนิสต์' ซึ่งอยู่เบื้องหลัง #รัฐบาลอเมริกา ที่จะยึดครอง คนพวกนี้ต้องการ #สร้างฐานทัพในประเทศไทย และใช้ประเทศไทยเป็นที่ #ตั้งอาวุธนิวเคลียร์ เพื่อจ่อจี #นอีกแห่ง . 2. รัฐบาลอเมริกาซึ่งมีกลุ่มทุนยิวไซออนิสต์อยู่เบื้องหลังเคย #ขอใช้สนามบินอู่ตะเภา เป็นฐานทัพ แต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาไม่ให้มาแล้ว . 3. ในเวลาเดียวกัน อเมริกาก็หันไปสนับสนุนนาง #อองซานซูจี โดยทุ่มเงินจาก #USAID เข้าไปช่วยหาเสียงและซื้อเสียง #กองทัพเมียนมา จับทางได้ว่าอเมริกาต้องการเข้ามามีอิทธิพลในเมียนมาและกำลังใช้เงินจาก USAID ซื้อเสียง จึงยึดอำนาจเสีย รัฐบาลอเมริกาจึงหันไป #ติดอาวุธชนกลุ่มน้อย ให้รบกบกองทัพรัฐบาลพม่าแทน จึงเกิดมีปัญหาสู้รบกันและทำให้มีผู้อพยพเข้าสู่ประเทศไทยมากจนถึงเดี๋ยวนี้ . 4. สำหรับประเทศไทย อเมริกาเดินเกมขยาย #สถานกงสุลในเชียงใหม่ ให้ใหญ่โตขึ้น เพื่อรองรับคนทำงานเข้ามาใหม่ให้ได้จำนวนมากขึ้น . ผมสงสัยว่ากลุ่มคนที่จะเพิ่มเข้ามาทำงานในสถานกงสุล ก็น่าจะเป็น #เครือข่ายซีไอเอ ที่จะมาปฏิบัติการในไทยและเมียนมา ซึ่งอเมริกาต้องการจำนวนคนมากขึ้นกับภารกิจเชิงรุก รวมทั้งเจ้าหน้าที่ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้ #นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล เดินทางเข้ามาไทยมากยิ่งขึ้นตามมาในอนาคต ต้องไม่ลืมว่าหนังสือพิมพ์ #Haarets ของอิสราเอลรายงานชัดเจนว่าขณะนี้ ชาวยิวกำลังหันมาสนใจประเทศไทยมากยิ่งขึ้น . 5. ความจริงประการหนึ่งก็คือขณะนี้ รัฐบาลอเมริกาและ #อังกฤษ ทำงานรับใช้ #ยิว อย่างเต็มที่ อเมริกาทุ่มให้เครือข่ายซีไอเอไปรับใช้ ส่วนอังกฤษทุ่มเครือข่าย #MI6 ให้ทำงานรับใช้ยิวในประเทศต่างๆ มาก . จึงไม่น่าแปลกอะไรที่จะมีนักท่องเที่ยวอิสราเอล อังกฤษและอเมริกาในอำเภอปายมากกว่าในที่อื่นๆ โดยที่นักท่องเที่ยวเหล่านี้ ส่วนหนึ่งอาจเป็น #สายลับ ที่เข้ามาสังเกตการณ์และทำงานร่วมกันเพื่อหาทางวางรากฐานให้ชาวยิวอพยพมาอยู่เมืองไทยอย่างถาวรก็ได้ เพราะการว่าจ้างคนไทยให้เป็นนอมินีซื้อที่ดินให้คนเหล่านี้ยึดครอง ทำได้ง่ายอยู่แล้ว . 6. อเมริกายังเดินเกม จัดตั้ง #ศูนย์ข้อมูลกูเกิลในจังหวัดชลบุรี อีกแห่ง ข้อมูลระดับพื้นฐานที่คนไทยควรจะรู้ ก็คือ #กูเกิล เกิดมาจากหน่วยงาน #ซีไอเอ (ตามข่าวในภาพประกอบ) ขณะนี้ รัฐบาลอเมริกาและอิสราเอลใช้กูเกิลเป็นเครื่องมือช่วยกวาดล้างชาวปาเลสไตน์และปล้นแผ่นดินปาเลสไตน์อยู่ . เมื่อมีการขอจัดตั้งศูนย์ข้อมูลกูเกิล ไม่มีเสียงทักท้วงหรือคัดค้านใดๆ จากเลขาธิการ #สมช. ของไทย #กระทรวงมหาดไทย และ #กระทรวงการต่างประเทศเลย แสดงให้เห็นว่าสามองค์กรหลักนี้ไม่ระแวงหรือสงสัยอะไรเลยเพราะข้อมูลเกี่ยวกับกูเกิลไม่มีมากพอ . การจัดตั้งศูนย์ข้อมูลกูเกิลในจังหวัดชลบุรี อาจเป็นไปได้ว่าเป็นการจัดตั้งเครือข่ายซีไอเอและ #มอสสาด (#Mossad หน่วยงานข่าวกรองและปฏิบัติการพิเศษของอิสราเอล) ในประเทศไทย เพื่อรวบรวม #BigData คนในแถบ #ตะวันออกเฉียงใต้ เอาไว้ด้วยจุดประสงค์บางอย่างนั่นเอง . อย่าลืมความจริงที่คนไทยก็รู้มานานแล้วว่า ประเทศนักล่าอาณานิคมตะวันตก กำลังวางยุทธศาสตร์แบ่งแยกประเทศไทย ทั้งที่ #สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งใน #ภาคอีสาน และทั้งในพื้นที่ภาคเหนือเพื่อตนเองจะได้เข้ามามีบทบาทควบคุมประเทศแถบนี้มากยิ่งขึ้น . ประเทศเล็กๆ หลายประเทศในขณะนี้ตกเป็นอาณานิคมของอเมริกาและอิสราเอล ซึ่งมียิวอยู่เบื้องหลังก็เพราะมีหน่วยงานสภาความมั่นคงแห่งชาติและมีนักการเมืองที่ดูแลผลประโยชน์ประเทศชาติพากัน *โง่* และตั้งตนในความประมาทนี่แหละ! .
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1730 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอเรียนเชิญสมาชิกสรีรวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทย บุคลากรทางการแพทย์ สาธารณสุข วิทยาศาสตร์การแพทย์ นิสิต นักศึกษา ผู้สนใจร่วมประชุมอบรมสรีรวิทยา-พยาธิสรีรวิทยา ครั้งที่ 42 ประจำปี 2568
    "ภาวะเปราะบาง: จากงานวิจัยสู่การปฏิบัติ | Frailty: From Bench to Bedside"
    วันพฤหัสบดีที่ 1 และ วันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม 2568 ณ ห้องบรรยายอวย เกตุสิงห์ อาคารศรีสวรินทิรา ชั้น 3 คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
    เปิดรับลงทะทะเบียน วันที่ 1 มีนาคม - 8 เมษายน 2568
    ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://ps.si.mahidol.ac.th/pst42_frailty_from_bench_to_bedside
    ขอเรียนเชิญสมาชิกสรีรวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทย บุคลากรทางการแพทย์ สาธารณสุข วิทยาศาสตร์การแพทย์ นิสิต นักศึกษา ผู้สนใจร่วมประชุมอบรมสรีรวิทยา-พยาธิสรีรวิทยา ครั้งที่ 42 ประจำปี 2568 "ภาวะเปราะบาง: จากงานวิจัยสู่การปฏิบัติ | Frailty: From Bench to Bedside" วันพฤหัสบดีที่ 1 และ วันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม 2568 ณ ห้องบรรยายอวย เกตุสิงห์ อาคารศรีสวรินทิรา ชั้น 3 คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดรับลงทะทะเบียน วันที่ 1 มีนาคม - 8 เมษายน 2568 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://ps.si.mahidol.ac.th/pst42_frailty_from_bench_to_bedside
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 444 มุมมอง 0 รีวิว
  • ครูวาฬ สอนเปียโน​ กีตาร์​ ​ตามบ้าน และออนไลน์
    สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี หลักสูตรดุริยางคศาสตรบัณฑิต (ดศ.บ.) วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อปีพ.ศ. 2555

    สาขาวิชาที่รับสอน :
    1. ปฏิบัติเครื่องดนตรี Piano สำหรับดนตรีคลาสสิค และดนตรีสมัยนิยม
    2. ปฏิบัติเครื่องดนตรี Guitar สำหรับดนตรีคลาสสิค และดนตรีสมัยนิยม
    3. ทฤษฎีดนตรีตะวันตก Western Music Theory
    4. การฝึกโสตและการอ่านโน้ต Ear Training And Sight-Singing
    5. ลักษณะของจังหวะ ควบคู่กับเครื่องกำกับจังหวะ Rhythm Concept With Metronome

    รูปแบบการสอน และสถานที่รับสอน :
    1. Private Teaching บริเวณที่พักอาศัยของผู้เรียน ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร และในจังหวัดนนทบุรี
    2. Online Teaching หรือ Learn From Home ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยการใช้ Web and Video Conferencing Application ต่างๆ เช่น Google Meets, Cisco Webex, Zoom, Line ฯลฯ ในทุกจังหวัดของประเทศไทย และต่างประเทศ

    วัตถุประสงค์ของการสอน :
    1. ให้ผู้เรียนสามารถสอบเข้าศึกษาต่อในสาขาวิชาดนตรี ระดับเตรียมอุดมฯ และระดับปริญญาตรี, การสอบตามเกณฑ์ในระดับต่างๆ และการสอบเทียบทางด้านดนตรี
    2. ให้ผู้เรียนมีความผ่อนคลาย สบายอารมณ์ การสังสรรค์ และงานอดิเรก
    3. ให้ผู้เรียนสามารถประกอบอาชีพดนตรีในอนาคต
    4. ให้ผู้เรียนมีความเข้าใจ และความรู้ ที่เพียงพอในศาสตร์ด้านดนตรี

    * หัวข้อหลักในการเรียน การสอน​ :
    1. เทคนิคพื้นฐาน Basic ต่างๆ ตั้งแต่ท่าทาง, การจัดระเบียบ, รูปลักษณ์, ลักษณะที่ดี และถูกต้อง
    2. วิธีการเล่นดนตรี การซ้อมดนตรีที่ดี มีประสิทธิภาพ ถูกวิธี และเป็นระบบ เช่น ความสบาย, การ Save พลัง และการป้องกันการบาดเจ็บได้ดี
    3. Mindset ระบบความคิด, Attitude ทัศนคติ, การวางแผน Plan, วิธีคิด, ความสัมพันธ์ และการคิดล่วงหน้า
    4. เทคนิคในการอ่านโน้ตดนตรี
    5. การให้ความสำคัญกับคุณภาพเสียง มิติเสียงที่ควรจะเป็น และทิศทางประโยคของบทเพลง
    6. เทคนิคการบรรเลงเครื่องดนตรี การควบคุมเสียง และความต่อเนื่องในการเล่นอย่างมั่นใจ ไม่สะดุดและติดขัด
    7. ความเที่ยงตรงของจังหวะ, ความเร็วของจังหวะ Tempo มีความคงที่ และระดับเสียงที่ถูกต้อง
    8. การเล่นดนตรี ร่วมกับผู้อื่น เพื่อพัฒนาโสตประสาท การรักษาจังหวะ และอารมณ์เพลง ให้มีประสิทธิภาพ
    9. การบริหารการจัดการ และการก้าวข้ามผ่านอุปสรรค
    และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อปูพื้นฐานทักษะเหล่านี้ ให้แข็งแรง แข็งแกร่ง ไปจนถึงสามารถเล่นเพลงได้ทุกเพลงในโลก ที่มีโน้ตเพลงอยู่ข้างหน้าเรา อย่างมีประสิทธิภาพ

    ประสบการณ์การทำงานและการสอน :
    1. เข้าร่วมคณะนักร้องเสียงประสาน Mahidol Symphonic Choir เมื่อปีพ.ศ. 2551 - 2552 ผ่านการแสดงร้องเสียงประสานในบทเพลง
    - Ludwig van Beethoven, "An die Freude" (Ode to Joy) from Symphony No.9, Op.125 "Choral" (1882) และ​ Carl Orff's Carmina Burana​ ร่วมกับวงดุริยางค์ฟีลฮาร์โมนิกแห่งประเทศไทย หรือ Thailand Philharmonic Orchestra
    - Johannes Brahms's Ein Deutshes Requiem
    - Puccini's Messa di Gloria
    2. ผู้ช่วยคณะกรรมการคุมสอบเข้าศึกษาต่อในระดับเตรียมอุดมดนตรี และระดับปริญญาตรี วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เ​​มื่อปีพ.ศ. 2552
    3. รับสอนตามสถาบันสอนดนตรี, โรงเรียนสอนดนตรี, ที่พักอาศัยของผู้เรียน และที่พักอาศัยของครูผู้สอน ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2555 ถึงปัจจุบัน

    ประวัติการฝึกอบรม :
    1. เข้าร่วมอบรมโครงการ "การใช้ดนตรีเพื่อพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม" วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ ม.มหิดล เมื่อปีพ.ศ. 2553
    2. เข้าร่วมอบรมหลักสูตร "พัฒนาผู้นำองค์กรนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล MU Leadership Program" รุ่นที่ 1 เมื่อปีพ.ศ. 2553
    3. ผ่านการอบรมออนไลน์ "โควิด19 และระบาดวิทยา" โดยศาสตราจารย์ นพ. ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปีพ.ศ. 2564
    4. ผ่านการอบรมออนไลน์ "ชีวิตวิถีใหม่และความฉลาดทางดิจิทัล New Normal Life and Digital Quotient" โดยรองศาสตราจารย์ ยืน ภู่วรวรรณ ผู้ทรงคุณวุฒิมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในปีพ.ศ. 2564
    5. ผ่านการอบรมออนไลน์ "โครงการความร่วมมือทางวิชาการเพื่อพัฒนาบุคลากรทางไซเบอร์" สำหรับบุคคลทั่วไป "หลักสูตรเสริมสร้างการรับรู้ที่แข็งแกร่งด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ Build a Strong Security Awareness Program" โดยสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) และบริษัท เทรนด์ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด ในปีพ.ศ. 2564
    6. เข้าร่วมอบรมออนไลน์ "Thailand National Cyber Week 2021 เพื่อพัฒนาองค์ความรู้และทักษะด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์" โดยสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ในปีพ.ศ. 2564

    คุณลักษณะ :
    ใจเย็น ใส่ใจในรายละเอียด สามารถปรับแก้ไขเนื้อหา เรื่องราวต่างๆ ให้เหมาะสมตามสถานการณ์ของแต่ละบุคคล รวมถึงการฝึกระเบียบวินัยเบื้องต้นต่อตนเองและผู้อื่น ให้ความสำคัญกับสุขอนามัย ทั้งแนวทางการดูแล การจัดการ การปฏิบัติ การป้องกัน ระหว่างผู้เรียนและผู้สอน ให้ดีมีประสิทธิภาพมากที่สุด

    คุณสมบัติของผู้เรียน :
    มีเครื่องดนตรีเป็นของตนเอง ทุกเพศ ทุกเชื้อชาติ ตั้งแต่วัยมัธยมต้น​ อายุ​ 12​ ปี​, วัยมัธยมปลาย, วัยมหาวิทยาลัย, วัยผู้ใหญ่, วัยกลางคน และวัยผู้สูงอายุ​ อายุ​ 60​ ปีขึ้นไป

    สนใจสมัครเรียน :
    ติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 081-483-5190
    ถ้าไม่มีสัญญานตอบรับ หรือไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนั้น สามารถไปที่เว็บไซต์ https://bestkru.com/39158 ได้เช่นกัน และรอการติดต่อกลับ จากครูวาฬได้ ทั้ง 2 ช่องทางครับ

    ขอบคุณครับ
    ครูวาฬ สอนเปียโน​ กีตาร์​ ​ตามบ้าน และออนไลน์ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี หลักสูตรดุริยางคศาสตรบัณฑิต (ดศ.บ.) วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อปีพ.ศ. 2555 สาขาวิชาที่รับสอน : 1. ปฏิบัติเครื่องดนตรี Piano สำหรับดนตรีคลาสสิค และดนตรีสมัยนิยม 2. ปฏิบัติเครื่องดนตรี Guitar สำหรับดนตรีคลาสสิค และดนตรีสมัยนิยม 3. ทฤษฎีดนตรีตะวันตก Western Music Theory 4. การฝึกโสตและการอ่านโน้ต Ear Training And Sight-Singing 5. ลักษณะของจังหวะ ควบคู่กับเครื่องกำกับจังหวะ Rhythm Concept With Metronome รูปแบบการสอน และสถานที่รับสอน : 1. Private Teaching บริเวณที่พักอาศัยของผู้เรียน ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร และในจังหวัดนนทบุรี 2. Online Teaching หรือ Learn From Home ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยการใช้ Web and Video Conferencing Application ต่างๆ เช่น Google Meets, Cisco Webex, Zoom, Line ฯลฯ ในทุกจังหวัดของประเทศไทย และต่างประเทศ วัตถุประสงค์ของการสอน : 1. ให้ผู้เรียนสามารถสอบเข้าศึกษาต่อในสาขาวิชาดนตรี ระดับเตรียมอุดมฯ และระดับปริญญาตรี, การสอบตามเกณฑ์ในระดับต่างๆ และการสอบเทียบทางด้านดนตรี 2. ให้ผู้เรียนมีความผ่อนคลาย สบายอารมณ์ การสังสรรค์ และงานอดิเรก 3. ให้ผู้เรียนสามารถประกอบอาชีพดนตรีในอนาคต 4. ให้ผู้เรียนมีความเข้าใจ และความรู้ ที่เพียงพอในศาสตร์ด้านดนตรี * หัวข้อหลักในการเรียน การสอน​ : 1. เทคนิคพื้นฐาน Basic ต่างๆ ตั้งแต่ท่าทาง, การจัดระเบียบ, รูปลักษณ์, ลักษณะที่ดี และถูกต้อง 2. วิธีการเล่นดนตรี การซ้อมดนตรีที่ดี มีประสิทธิภาพ ถูกวิธี และเป็นระบบ เช่น ความสบาย, การ Save พลัง และการป้องกันการบาดเจ็บได้ดี 3. Mindset ระบบความคิด, Attitude ทัศนคติ, การวางแผน Plan, วิธีคิด, ความสัมพันธ์ และการคิดล่วงหน้า 4. เทคนิคในการอ่านโน้ตดนตรี 5. การให้ความสำคัญกับคุณภาพเสียง มิติเสียงที่ควรจะเป็น และทิศทางประโยคของบทเพลง 6. เทคนิคการบรรเลงเครื่องดนตรี การควบคุมเสียง และความต่อเนื่องในการเล่นอย่างมั่นใจ ไม่สะดุดและติดขัด 7. ความเที่ยงตรงของจังหวะ, ความเร็วของจังหวะ Tempo มีความคงที่ และระดับเสียงที่ถูกต้อง 8. การเล่นดนตรี ร่วมกับผู้อื่น เพื่อพัฒนาโสตประสาท การรักษาจังหวะ และอารมณ์เพลง ให้มีประสิทธิภาพ 9. การบริหารการจัดการ และการก้าวข้ามผ่านอุปสรรค และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อปูพื้นฐานทักษะเหล่านี้ ให้แข็งแรง แข็งแกร่ง ไปจนถึงสามารถเล่นเพลงได้ทุกเพลงในโลก ที่มีโน้ตเพลงอยู่ข้างหน้าเรา อย่างมีประสิทธิภาพ ประสบการณ์การทำงานและการสอน : 1. เข้าร่วมคณะนักร้องเสียงประสาน Mahidol Symphonic Choir เมื่อปีพ.ศ. 2551 - 2552 ผ่านการแสดงร้องเสียงประสานในบทเพลง - Ludwig van Beethoven, "An die Freude" (Ode to Joy) from Symphony No.9, Op.125 "Choral" (1882) และ​ Carl Orff's Carmina Burana​ ร่วมกับวงดุริยางค์ฟีลฮาร์โมนิกแห่งประเทศไทย หรือ Thailand Philharmonic Orchestra - Johannes Brahms's Ein Deutshes Requiem - Puccini's Messa di Gloria 2. ผู้ช่วยคณะกรรมการคุมสอบเข้าศึกษาต่อในระดับเตรียมอุดมดนตรี และระดับปริญญาตรี วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เ​​มื่อปีพ.ศ. 2552 3. รับสอนตามสถาบันสอนดนตรี, โรงเรียนสอนดนตรี, ที่พักอาศัยของผู้เรียน และที่พักอาศัยของครูผู้สอน ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2555 ถึงปัจจุบัน ประวัติการฝึกอบรม : 1. เข้าร่วมอบรมโครงการ "การใช้ดนตรีเพื่อพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม" วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ ม.มหิดล เมื่อปีพ.ศ. 2553 2. เข้าร่วมอบรมหลักสูตร "พัฒนาผู้นำองค์กรนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล MU Leadership Program" รุ่นที่ 1 เมื่อปีพ.ศ. 2553 3. ผ่านการอบรมออนไลน์ "โควิด19 และระบาดวิทยา" โดยศาสตราจารย์ นพ. ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปีพ.ศ. 2564 4. ผ่านการอบรมออนไลน์ "ชีวิตวิถีใหม่และความฉลาดทางดิจิทัล New Normal Life and Digital Quotient" โดยรองศาสตราจารย์ ยืน ภู่วรวรรณ ผู้ทรงคุณวุฒิมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในปีพ.ศ. 2564 5. ผ่านการอบรมออนไลน์ "โครงการความร่วมมือทางวิชาการเพื่อพัฒนาบุคลากรทางไซเบอร์" สำหรับบุคคลทั่วไป "หลักสูตรเสริมสร้างการรับรู้ที่แข็งแกร่งด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ Build a Strong Security Awareness Program" โดยสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) และบริษัท เทรนด์ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด ในปีพ.ศ. 2564 6. เข้าร่วมอบรมออนไลน์ "Thailand National Cyber Week 2021 เพื่อพัฒนาองค์ความรู้และทักษะด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์" โดยสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ในปีพ.ศ. 2564 คุณลักษณะ : ใจเย็น ใส่ใจในรายละเอียด สามารถปรับแก้ไขเนื้อหา เรื่องราวต่างๆ ให้เหมาะสมตามสถานการณ์ของแต่ละบุคคล รวมถึงการฝึกระเบียบวินัยเบื้องต้นต่อตนเองและผู้อื่น ให้ความสำคัญกับสุขอนามัย ทั้งแนวทางการดูแล การจัดการ การปฏิบัติ การป้องกัน ระหว่างผู้เรียนและผู้สอน ให้ดีมีประสิทธิภาพมากที่สุด คุณสมบัติของผู้เรียน : มีเครื่องดนตรีเป็นของตนเอง ทุกเพศ ทุกเชื้อชาติ ตั้งแต่วัยมัธยมต้น​ อายุ​ 12​ ปี​, วัยมัธยมปลาย, วัยมหาวิทยาลัย, วัยผู้ใหญ่, วัยกลางคน และวัยผู้สูงอายุ​ อายุ​ 60​ ปีขึ้นไป สนใจสมัครเรียน : ติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 081-483-5190 ถ้าไม่มีสัญญานตอบรับ หรือไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนั้น สามารถไปที่เว็บไซต์ https://bestkru.com/39158 ได้เช่นกัน และรอการติดต่อกลับ จากครูวาฬได้ ทั้ง 2 ช่องทางครับ ขอบคุณครับ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1052 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตามที่หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสรีรวิทยาการแพทย์ (หลักสูตรนานาชาติ) คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เปิดรายวิชา SIPS521 PHYSIOLOGICAL BIOCHEMISTRY (2 หน่วยกิต) สำหรับนักศึกษาบัณฑิตศึกษา บุคคลทั่วไป หรือ ผู้ที่กำลังศึกษาทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ระดับปริญญาตรี นั้น

    ในการนี้ หลักสูตรฯ จึงขอประชาสัมพันธ์การรับสมัครนักศึกษาบัณฑิตศึกษาที่สนใจศึกษา SIPS521 PHYSIOLOGICAL BIOCHEMISTRY (2 หน่วยกิต) ประจำภาคการเรียนที่ 2/2567 โดยจะจัดการเรียนผ่านระบบออนไลน์ (เรียนอิสระ) หรือสอนสดนอกเวลาทำการ (ผ่านระบบ ZOOM) ระหว่างวันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ – เสาร์ 24 พฤษภาคม 2568 ซึ่งผู้สนใจสามารถลงทะเบียนตั้งแต่วันนี้ – อาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 ผ่านทางบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล (MAP-C) ตามรายละเอียดที่แนบ หรือ คลิกที่ https://graduate.mahidol.ac.th/MAP-2021/CourseList.php?ID=4357

    ทั้งนี้ หากท่านสนใจศึกษา หรือ ต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ คุณสุนทรี มีชำนาญ โทร: 02 419 7577 หรือ E-mail: soontaree.mee@mahidol.edu
    ตามที่หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสรีรวิทยาการแพทย์ (หลักสูตรนานาชาติ) คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เปิดรายวิชา SIPS521 PHYSIOLOGICAL BIOCHEMISTRY (2 หน่วยกิต) สำหรับนักศึกษาบัณฑิตศึกษา บุคคลทั่วไป หรือ ผู้ที่กำลังศึกษาทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ระดับปริญญาตรี นั้น ในการนี้ หลักสูตรฯ จึงขอประชาสัมพันธ์การรับสมัครนักศึกษาบัณฑิตศึกษาที่สนใจศึกษา SIPS521 PHYSIOLOGICAL BIOCHEMISTRY (2 หน่วยกิต) ประจำภาคการเรียนที่ 2/2567 โดยจะจัดการเรียนผ่านระบบออนไลน์ (เรียนอิสระ) หรือสอนสดนอกเวลาทำการ (ผ่านระบบ ZOOM) ระหว่างวันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ – เสาร์ 24 พฤษภาคม 2568 ซึ่งผู้สนใจสามารถลงทะเบียนตั้งแต่วันนี้ – อาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 ผ่านทางบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล (MAP-C) ตามรายละเอียดที่แนบ หรือ คลิกที่ https://graduate.mahidol.ac.th/MAP-2021/CourseList.php?ID=4357 ทั้งนี้ หากท่านสนใจศึกษา หรือ ต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ คุณสุนทรี มีชำนาญ โทร: 02 419 7577 หรือ E-mail: soontaree.mee@mahidol.edu
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 605 มุมมอง 0 รีวิว
  • 14/1/68

    ซุปเปอร์ฟู้ด! 5 ธัญพืชคุณค่าโภชนาการใยอาหารสูง มีส่วนช่วยควบคุมน้ำหนัก

    ซุปเปอร์ฟู้ด (Superfood) อาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพในปริมาณสูงเมื่อเทียบกับปริมาณที่บริโภค โดยซุปเปอร์ฟู้ดมักจะช่วยบำรุงร่างกาย เสริมภูมิคุ้มกัน และลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่าง ๆ วันนี้อยากให้ทุกคนรู้จักธัญพืชที่เป็นซุปเปอร์ฟู้ด หาซื้อง่าย ดีต่อสุขภาพ ช่วยให้ไฟเบอร์ช่วยเรื่องการขับถ่าย รักษาสมดุลสุขภาพ
    5 ธัญพืชซุปเปอร์ฟู้ด

    1.เมล็ดเจีย (Chia Seeds)
    ข้อมูลการศึกษาวิจัยพบว่าในเมล็ดเจียมีกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัว โอเมก้า-3 อยู่ร้อยละ 62.48

    และมีกรดไลโนเลอิก (linoleic acid : LA) หรือโอเมก้า-6 อยู่ร้อยละ 22.43 ของกรดไขมันทั้งหมดในเมล็ดเจีย นอกจากนี้ยังมี แคลเซียม ฟอสฟอรัส แมกเนเซียม และสารต้านอนุมูลอิสระ อีกด้วย ในกระแสช่วงนี้มีผู้นิยมบริโภคเมล็ดเจียเพื่อลดน้ำหนักซึ่งจากการศึกษาวิจัยทางคลินิก พบว่าการรับประทานเมล็ดเจียขนาด 35 - 40 ก./วัน สามารถลดความระดับความดันโลหิต ระดับน้ำตาล ระดับไขมันในเลือด และลดน้ำหนักได้ แต่การศึกษายังมีไม่มากพอที่จะสรุปได้อย่างชัดเจน

    2.ควินัว (Quinoa)
    มีโปรตีนสูง ที่มีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและมีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลายด้าน เช่น เป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพสูงที่มีกรดอะมิโนจำเป็นครบทั้ง 9 ชนิด มีแร่ธาตุสำคัญและอุดมไปด้วยวิตามิน ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานหรือผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก มีใยอาหารสูง
    นอกจากนี้ ควินัวเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่แพ้กลูเตนหรือผู้ที่ต้องการลดการบริโภคกลูเตน มีไขมันชนิดดี เช่น กรดไขมันโอเมก้า-3 และโอเมก้า-6 ที่ช่วยเสริมสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังและช่วยควบคุมน้ำหนักด้วย

    3.เมล็ดแฟลกซ์ (Flaxseeds)
    แหล่งของลิกแนน (สารต้านอนุมูลอิสระ)กรดไขมันโอเมก้า 3 ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล LDL (คอเลสเตอรอลไม่ดี) มีไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำและไม่ละลายน้ำช่วยปรับสมดุลระบบย่อยอาหาร อาจช่วยลดความเสี่ยง มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ และมะเร็งต่อมลูกหมาก

    4.ลูกเดือย (Job’s Tears)
    จัดเป็นธัญพืชที่มีคุณค่าทางอาหารสูง เพราะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับร่างกาย นอกจากนี้ยังมีกรดอะมิโนหลายชนิดที่สูงกว่าความต้องตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก เช่น กรดกลูตามิก ลิวซีน อะลานีน โปรลีน วาลีน ฟินิลอะลานีน ไอโซลิวซีน อาร์จีนีน เป็นต้น และยังมีกรดไขมันจำเป็นชนิดที่ไม่อิ่มตัว อย่างเช่น กรดลิโนเลอิก กรดโอเลอิก และกรดไขมันชนิดอิ่มตัว อย่างเช่น ปาลมิติกและสเตียริก อีกด้วย ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส ช่วยบำรุงสายตา
    แหล่งอาหารที่ควรกินหลังออกกำลังกาย พลังงาน-คาร์บ-โปรตีน เสริมครบสุขภาพแข็งแรง

    5.ข้าวกล้อง (Brown Rice)

    ส่งผลดีต่อลูกน้อยในครรภ์และสุขภาพคุณแม่มากมาย ถือเป็นหนึ่งในอาหารกลุ่มให้พลังงาน ข้าวกล้องเป็นข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี เมื่อรับประทานข้าวกล้องเป็นประจำ จะช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ป้องกันการเกิดปากนกกระจอก เนื่องจากมีวิตามินบี 2บรรเทาอาการอ่อนเพลีย มีธาตุเหล็กมากเป็น 2 เท่า ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง มีแคลเซียมจำเป็นที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับ ช่วยให้กระดูกแข็งแรง และยังช่วยป้องกันการเกิดตะคริว ซึ่งคุณแม่ตั้งครรภ์กว่า 90% ต้องเผชิญมีไขมันที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย ในข้าวกล้องเป็นไขมันดีที่ไม่มีคอเลสเตอรอล (Cholesterol)มีเส้นใยอาหาร ซึ่งช่วยในเรื่องของอาการท้องผูกและมะเร็งลำไส้ มีโปรตีนมากกว่า 20-30% ช่วยเสริมสร้างร่างกาย ซ่อมแซมเซลล์ส่วนที่สึกหรอ แป้งมีน้อยกว่าข้าวขาว ช่วยลดความอ้วน ส่วนคนที่ผอมก็แข็งแรงยิ่งขึ้น
    อย่างไรก็ตามควรเลือกกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนไม่มากไปไม่น้อยไป ในผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือ แพ้อาหาร ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน
    ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพบาบาลพญาไท พหลโยธิน,medthai และ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
    แหล่งอาหารที่ควรกินหลังออกกำลังกาย พลังงาน-คาร์บ-โปรตีน เสริมครบสุขภาพแข็งแรง
    14/1/68 ซุปเปอร์ฟู้ด! 5 ธัญพืชคุณค่าโภชนาการใยอาหารสูง มีส่วนช่วยควบคุมน้ำหนัก ซุปเปอร์ฟู้ด (Superfood) อาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพในปริมาณสูงเมื่อเทียบกับปริมาณที่บริโภค โดยซุปเปอร์ฟู้ดมักจะช่วยบำรุงร่างกาย เสริมภูมิคุ้มกัน และลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่าง ๆ วันนี้อยากให้ทุกคนรู้จักธัญพืชที่เป็นซุปเปอร์ฟู้ด หาซื้อง่าย ดีต่อสุขภาพ ช่วยให้ไฟเบอร์ช่วยเรื่องการขับถ่าย รักษาสมดุลสุขภาพ 5 ธัญพืชซุปเปอร์ฟู้ด 1.เมล็ดเจีย (Chia Seeds) ข้อมูลการศึกษาวิจัยพบว่าในเมล็ดเจียมีกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัว โอเมก้า-3 อยู่ร้อยละ 62.48 และมีกรดไลโนเลอิก (linoleic acid : LA) หรือโอเมก้า-6 อยู่ร้อยละ 22.43 ของกรดไขมันทั้งหมดในเมล็ดเจีย นอกจากนี้ยังมี แคลเซียม ฟอสฟอรัส แมกเนเซียม และสารต้านอนุมูลอิสระ อีกด้วย ในกระแสช่วงนี้มีผู้นิยมบริโภคเมล็ดเจียเพื่อลดน้ำหนักซึ่งจากการศึกษาวิจัยทางคลินิก พบว่าการรับประทานเมล็ดเจียขนาด 35 - 40 ก./วัน สามารถลดความระดับความดันโลหิต ระดับน้ำตาล ระดับไขมันในเลือด และลดน้ำหนักได้ แต่การศึกษายังมีไม่มากพอที่จะสรุปได้อย่างชัดเจน 2.ควินัว (Quinoa) มีโปรตีนสูง ที่มีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและมีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลายด้าน เช่น เป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพสูงที่มีกรดอะมิโนจำเป็นครบทั้ง 9 ชนิด มีแร่ธาตุสำคัญและอุดมไปด้วยวิตามิน ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานหรือผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก มีใยอาหารสูง นอกจากนี้ ควินัวเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่แพ้กลูเตนหรือผู้ที่ต้องการลดการบริโภคกลูเตน มีไขมันชนิดดี เช่น กรดไขมันโอเมก้า-3 และโอเมก้า-6 ที่ช่วยเสริมสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังและช่วยควบคุมน้ำหนักด้วย 3.เมล็ดแฟลกซ์ (Flaxseeds) แหล่งของลิกแนน (สารต้านอนุมูลอิสระ)กรดไขมันโอเมก้า 3 ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล LDL (คอเลสเตอรอลไม่ดี) มีไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำและไม่ละลายน้ำช่วยปรับสมดุลระบบย่อยอาหาร อาจช่วยลดความเสี่ยง มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ และมะเร็งต่อมลูกหมาก 4.ลูกเดือย (Job’s Tears) จัดเป็นธัญพืชที่มีคุณค่าทางอาหารสูง เพราะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับร่างกาย นอกจากนี้ยังมีกรดอะมิโนหลายชนิดที่สูงกว่าความต้องตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก เช่น กรดกลูตามิก ลิวซีน อะลานีน โปรลีน วาลีน ฟินิลอะลานีน ไอโซลิวซีน อาร์จีนีน เป็นต้น และยังมีกรดไขมันจำเป็นชนิดที่ไม่อิ่มตัว อย่างเช่น กรดลิโนเลอิก กรดโอเลอิก และกรดไขมันชนิดอิ่มตัว อย่างเช่น ปาลมิติกและสเตียริก อีกด้วย ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส ช่วยบำรุงสายตา แหล่งอาหารที่ควรกินหลังออกกำลังกาย พลังงาน-คาร์บ-โปรตีน เสริมครบสุขภาพแข็งแรง 5.ข้าวกล้อง (Brown Rice) ส่งผลดีต่อลูกน้อยในครรภ์และสุขภาพคุณแม่มากมาย ถือเป็นหนึ่งในอาหารกลุ่มให้พลังงาน ข้าวกล้องเป็นข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี เมื่อรับประทานข้าวกล้องเป็นประจำ จะช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ป้องกันการเกิดปากนกกระจอก เนื่องจากมีวิตามินบี 2บรรเทาอาการอ่อนเพลีย มีธาตุเหล็กมากเป็น 2 เท่า ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง มีแคลเซียมจำเป็นที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับ ช่วยให้กระดูกแข็งแรง และยังช่วยป้องกันการเกิดตะคริว ซึ่งคุณแม่ตั้งครรภ์กว่า 90% ต้องเผชิญมีไขมันที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย ในข้าวกล้องเป็นไขมันดีที่ไม่มีคอเลสเตอรอล (Cholesterol)มีเส้นใยอาหาร ซึ่งช่วยในเรื่องของอาการท้องผูกและมะเร็งลำไส้ มีโปรตีนมากกว่า 20-30% ช่วยเสริมสร้างร่างกาย ซ่อมแซมเซลล์ส่วนที่สึกหรอ แป้งมีน้อยกว่าข้าวขาว ช่วยลดความอ้วน ส่วนคนที่ผอมก็แข็งแรงยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามควรเลือกกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนไม่มากไปไม่น้อยไป ในผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือ แพ้อาหาร ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพบาบาลพญาไท พหลโยธิน,medthai และ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล แหล่งอาหารที่ควรกินหลังออกกำลังกาย พลังงาน-คาร์บ-โปรตีน เสริมครบสุขภาพแข็งแรง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1030 มุมมอง 0 รีวิว
  • เร่งค้นหานักศึกษา-อาจารย์ 10 คน เดินหลงป่าเมืองกาญจนบุรี หาทางออกไม่ได้ ล่าสุดพบแล้วกำลังเร่งให้การช่วยเหลือนำกลับ ด้าน ที่ ปรึกษารองอธิการบดีฝ่ายวิทยาเขตกาญจนบุรี มหาวิทยาลัยมหิดล เผยไม่ได้หลงป่า แต่ท้องฟ้าเริ่มจะมืดแล้ว จึงเกรงว่าจะนำคณะกลับออกมาไม่ทัน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000123881

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    เร่งค้นหานักศึกษา-อาจารย์ 10 คน เดินหลงป่าเมืองกาญจนบุรี หาทางออกไม่ได้ ล่าสุดพบแล้วกำลังเร่งให้การช่วยเหลือนำกลับ ด้าน ที่ ปรึกษารองอธิการบดีฝ่ายวิทยาเขตกาญจนบุรี มหาวิทยาลัยมหิดล เผยไม่ได้หลงป่า แต่ท้องฟ้าเริ่มจะมืดแล้ว จึงเกรงว่าจะนำคณะกลับออกมาไม่ทัน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000123881 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Yay
    14
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1156 มุมมอง 0 รีวิว
  • โรงพยาบาลธนบุรี สลัดภาพหมอบุญ

    กลุ่มโรงพยาบาลธนบุรี ภายใต้ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG อำนาจเบ็ดเสร็จไม่ได้เป็นของกลุ่มหมอบุญ นพ.บุญ วนาสิน ที่หลบหนีคดีฉ้อโกงและฟอกเงินไปอยู่ต่างประเทศอีกต่อไป แต่กลุ่มโรงพยาบาลรามคำแหง (RAM) ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่งใน THG ภายใต้การนำของ นพ.เอื้อชาติ กาญจนพิทักษ์ กำลังเข้ามากอบกู้สถานการณ์ แม้ยี่ห้อหมอบุญกับโรงพยาบาลธนบุรี จะกระทบความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ยังไม่เคยใช้บริการก็ตาม

    ก่อนหน้านี้มีการแต่งตั้ง ศ.คลินิก นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช และอดีตรองคณบดีฝ่ายพันธกิจบริการทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล มาเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลธนบุรี หลังเกษียณอายุงานเมื่อไม่นานมานี้ แต่ก็เป็นคณะกรรมการบริษัทฯ ในเครือ THG มาตั้งแต่ปี 2559

    นพ.วิศิษฎ์ ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ระบุว่าในปี 2568 จะเปิดคลินิกเฉพาะทาง เริ่มจากคลินิกการนอนหลับ ต่อด้วยกลุ่มเด็กแรกเกิด กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ พร้อมกับเน้นกลุ่มลูกค้าผู้ป่วยที่มีประกันสุขภาพ ลูกค้าองค์กร และผู้ป่วยต่างชาติจากโรงพยาบาลธนบุรีบำรุงเมือง อีกด้านหนึ่ง จะเปิดอาคารผู้ป่วยนอกแห่งใหม่ต้นปี 2568 ดึงบุคลากรรุ่นใหม่ Gen Z เข้ามาเสริมทัพ เปลี่ยนระบบค่าตอบแทนใหม่ และสร้างอินฟลูเอนเซอร์จากบุคลากรในโรงพยาบาล

    สำหรับโครงการของ นพ.บุญที่เกี่ยวข้องกับ THG มีเพียงโครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ เท่านั้นที่ใช้เงินบริษัทลงทุน ไม่ใช่เงินส่วนตัวของ นพ.บุญ ส่วนธุรกิจทางการแพทย์ 5 โครงการที่ไม่มีอยู่จริง นพ.บุญทำเองไม่เกี่ยวกับ THG ด้านศูนย์มะเร็งย่านปิ่นเกล้า และแผนการสร้างโรงพยาบาลในเวียดนาม หลังบริษัทฯ ทำเอ็มโอยูช่วงปี 2565-2566 เมื่อพิจารณาความเป็นไปได้อย่างละเอียดแล้วจึงตัดสินใจไม่ลงทุนทั้งสองโครงการ

    นพ.บุญได้ลาออกจาก THG มาตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค. 2565 จึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารงาน ส่วนนางจารุวรรณ วนาสิน อดีตภรรยา และ น.ส.นลิน วนาสิน บุตรสาว นพ.บุญ แม้ยังไม่ได้แจ้งขอลาออกจากกรรมการบริษัทฯ และยังไม่ขาดคุณสมบัติเนื่องจากคดียังไม่ถึงที่สุด แต่ทั้งสองไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้มีอำนาจ จึงไม่มีอำนาจกระทำการใดๆ ในนามบริษัทฯ และการดำเนินงานของบริษัทฯ ยังเป็นปกติ

    ปัจจุบัน นางจารุวรรณถือหุ้น THG จำนวน 14.22% บริษัท ราชธานีพัฒนาการ (2014) จำกัด ถือหุ้น 3.70% น.ส.ณวรา กุญชร ณ อยุธยา อดีตลูกสะใภ้ถือหุ้น 3.03% และ นพ.บุญ ถือหุ้น 0.68% ส่วน น.ส.นลินให้การกับตำรวจว่ามีเพียง 10,000 หุ้นเท่านั้น

    #Newskit
    โรงพยาบาลธนบุรี สลัดภาพหมอบุญ กลุ่มโรงพยาบาลธนบุรี ภายใต้ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG อำนาจเบ็ดเสร็จไม่ได้เป็นของกลุ่มหมอบุญ นพ.บุญ วนาสิน ที่หลบหนีคดีฉ้อโกงและฟอกเงินไปอยู่ต่างประเทศอีกต่อไป แต่กลุ่มโรงพยาบาลรามคำแหง (RAM) ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่งใน THG ภายใต้การนำของ นพ.เอื้อชาติ กาญจนพิทักษ์ กำลังเข้ามากอบกู้สถานการณ์ แม้ยี่ห้อหมอบุญกับโรงพยาบาลธนบุรี จะกระทบความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ยังไม่เคยใช้บริการก็ตาม ก่อนหน้านี้มีการแต่งตั้ง ศ.คลินิก นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช และอดีตรองคณบดีฝ่ายพันธกิจบริการทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล มาเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลธนบุรี หลังเกษียณอายุงานเมื่อไม่นานมานี้ แต่ก็เป็นคณะกรรมการบริษัทฯ ในเครือ THG มาตั้งแต่ปี 2559 นพ.วิศิษฎ์ ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ระบุว่าในปี 2568 จะเปิดคลินิกเฉพาะทาง เริ่มจากคลินิกการนอนหลับ ต่อด้วยกลุ่มเด็กแรกเกิด กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ พร้อมกับเน้นกลุ่มลูกค้าผู้ป่วยที่มีประกันสุขภาพ ลูกค้าองค์กร และผู้ป่วยต่างชาติจากโรงพยาบาลธนบุรีบำรุงเมือง อีกด้านหนึ่ง จะเปิดอาคารผู้ป่วยนอกแห่งใหม่ต้นปี 2568 ดึงบุคลากรรุ่นใหม่ Gen Z เข้ามาเสริมทัพ เปลี่ยนระบบค่าตอบแทนใหม่ และสร้างอินฟลูเอนเซอร์จากบุคลากรในโรงพยาบาล สำหรับโครงการของ นพ.บุญที่เกี่ยวข้องกับ THG มีเพียงโครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ เท่านั้นที่ใช้เงินบริษัทลงทุน ไม่ใช่เงินส่วนตัวของ นพ.บุญ ส่วนธุรกิจทางการแพทย์ 5 โครงการที่ไม่มีอยู่จริง นพ.บุญทำเองไม่เกี่ยวกับ THG ด้านศูนย์มะเร็งย่านปิ่นเกล้า และแผนการสร้างโรงพยาบาลในเวียดนาม หลังบริษัทฯ ทำเอ็มโอยูช่วงปี 2565-2566 เมื่อพิจารณาความเป็นไปได้อย่างละเอียดแล้วจึงตัดสินใจไม่ลงทุนทั้งสองโครงการ นพ.บุญได้ลาออกจาก THG มาตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค. 2565 จึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารงาน ส่วนนางจารุวรรณ วนาสิน อดีตภรรยา และ น.ส.นลิน วนาสิน บุตรสาว นพ.บุญ แม้ยังไม่ได้แจ้งขอลาออกจากกรรมการบริษัทฯ และยังไม่ขาดคุณสมบัติเนื่องจากคดียังไม่ถึงที่สุด แต่ทั้งสองไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้มีอำนาจ จึงไม่มีอำนาจกระทำการใดๆ ในนามบริษัทฯ และการดำเนินงานของบริษัทฯ ยังเป็นปกติ ปัจจุบัน นางจารุวรรณถือหุ้น THG จำนวน 14.22% บริษัท ราชธานีพัฒนาการ (2014) จำกัด ถือหุ้น 3.70% น.ส.ณวรา กุญชร ณ อยุธยา อดีตลูกสะใภ้ถือหุ้น 3.03% และ นพ.บุญ ถือหุ้น 0.68% ส่วน น.ส.นลินให้การกับตำรวจว่ามีเพียง 10,000 หุ้นเท่านั้น #Newskit
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1199 มุมมอง 0 รีวิว
  • ใบบัวบก หรือ ภาษาล้านนา เรียกว่า”ผักหนอก” นอกจากจะนำมาจิ้มน้ำพริก หรือคั้นน้ำใบบัวบก ที่หอมเย็นแก้ร้อนใน

    คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และโรงพยาบาลศิริราช ค้นพบว่า ใบบัวบก มีสารไตรเทอร์ปินอยด์ ไกลโคไซด์ เมื่อใช้ที่ความเข้มข้นเพียง 1% ใช้เป็นยาทาภายนอก มีคุณสมบัติช่วยเร่งการสมานแผลทั้งในแนวลึกและแนวกว้างได้ดีกว่ายาต้านการอักเสบอื่นๆ โดยเฉพาะยาปฏิชีวนะ (Antibiotics) หรือสตีรอยด์ (Steroid) ซึ่งมีผลเพียงรักษาตามพยาธิสภาพ แต่ไม่ช่วยเร่งการสมานแผล...
    ใบบัวบก หรือ ภาษาล้านนา เรียกว่า”ผักหนอก” นอกจากจะนำมาจิ้มน้ำพริก หรือคั้นน้ำใบบัวบก ที่หอมเย็นแก้ร้อนใน คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และโรงพยาบาลศิริราช ค้นพบว่า ใบบัวบก มีสารไตรเทอร์ปินอยด์ ไกลโคไซด์ เมื่อใช้ที่ความเข้มข้นเพียง 1% ใช้เป็นยาทาภายนอก มีคุณสมบัติช่วยเร่งการสมานแผลทั้งในแนวลึกและแนวกว้างได้ดีกว่ายาต้านการอักเสบอื่นๆ โดยเฉพาะยาปฏิชีวนะ (Antibiotics) หรือสตีรอยด์ (Steroid) ซึ่งมีผลเพียงรักษาตามพยาธิสภาพ แต่ไม่ช่วยเร่งการสมานแผล...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 497 มุมมอง 0 รีวิว
  • คำแนะนำที่มีประโยชน์มาก ต่อการถนอมอวัยวะของร่างกายเราให้มีอายุการใช้งานยืนนาน จากภรรยาคุณหมอ พรชัย มาตังคสมบัติ รุ่นพี่ที่เคารพรักและนับถือ

    วิธียืดอายุ 10 อวัยวะให้อยู่ยาวนานจนกว่าท่านจะหมดอายุขัย (ไม่เสื่อมพังก่อนวันตาย เพราะเสื่อมพังไปก่อนตาย…ท่านต้องอยู่อย่างทรมาน…ไร้คุณภาพชีวิตที่ดี)

    ~ เราเคยชินกับความรู้ที่ว่า …อวัยวะจะเสื่อม…ไปตามเวลา …วิธีการยืดอายุอวัยวะ…มีร้อยแปดพันประการ …แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ ดร.โรแนน แฟคโทรา แห่งสถาบันการแพทย์ Cleveland Clinic ประเทศสหรัฐอเมริกา …เสนอ…สุดยอดวิธียืดอายุอวัยวะต่างๆ …ไว้ในนิตยสาร Times ดังนี้

    1. สมอง : หลังอายุ 70 ปี จะเริ่มพบความผิดปกติ…ที่เกิดจากความเสื่อมของสมอง …ซึ่งมักเกิดขึ้นอย่างช้าๆ …ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างฉับพลันในคราวเดียว
    ~ จะยืดอายุสมอง…ให้อยู่ยาวนานได้อย่างไร :
    (1) นิวโรบิกส์ เอ็กเซอร์ไซส์ (Neurobics Exercise) หรือ…การทำกิจกรรมที่ต้องใช้มือทั้ง 2 ข้าง …ทำงานประสานกัน เช่น ทำสวน เย็บผ้า ทำกับข้าว ช่วยให้สมองทั้งซีกซ้าย…และขวาได้รับการกระตุ้นและทำงานไปพร้อมกัน
    (2) กิน ปลาทะเล ถั่วเปลือกแข็ง และธัญพืช แหล่งสุดยอดสารอาหารบำรุงเป็นประจำ
    (3) ฝึกเจริญสติก่อนนอน …ใช้วิธีกำหนดรู้ลมหายใจเข้าและออก… จนกว่าจะหลับ …ช่วยลดความเครียดและทำให้สมองปลอดโปร่งในวันรุ่งขึ้น

    2. ดวงตา : หลังอายุ 40 ปี ต่อจากนั้น ทุกๆ ปี ดวงตา จอประสาตา เลนส์ตาจะเสื่อมลง ในอัตราที่ไม่สม่ำเสมอ ขึ้นอยู่กับรูปแบบกิจกรรมในชีวิตประจำวัน
    ~ จะยืดอายุดวงตา…ให้อยู่ยาวนานได้อย่างไร :
    (1) สวมแว่นกันแดด ก่อนทำกิจกรรมกลางแจ้งทุกครั้ง (2) ผู้ที่ทำงานกับคอมพิวเตอร์ ควรพักสายทุกๆ 45 นาที อย่างน้อย 5-10 นาที
    (3)งดใช้โทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตก่อนนอน

    3. หู : หลังอายุ 60 ปี การได้ยินจะค่อยๆ ลดลงทุกปี …และทุกๆ 1 ใน 3 คนมีปัญหาเรื่องการได้ยินเมื่อเข้าสู่วัยนี้
    ~ จะยืดอายุหู… ให้อยู่ยาวนานได้อย่างไร :
    (1) หลีกเลี่ยงการทำงาน…หรืออาศัยอยู่ในที่ๆ มีเสียงดัง …หากจำเป็นต้องใส่เครื่องป้องกัน
    (2) งดสั่งน้ำมูกแรงๆ …หรือ กลั้นจาม …เพราะอาจทำให้เยื่อแก้วหูมีปัญหา
    (3) งดแคะหูเอง …เพราะขี้หู…เป็นขี้ผึ้งรักษาความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ …การแคะหู…ทำให้เกิดการอักเสบและเยื่อแก้วหูฉีกขาดได้

    4. ปอด : หลังอายุ 30 ปี ต่อจากนั้น ทุกๆ ปี ประสิทธิภาพการทำงานของปอดจะลดลงราวร้อยละ 1
    ~ จะยืดอายุปอด…ให้อยู่ยาวนานได้อย่างไร :
    (1) ว่ายน้ำ หรือ วิ่ง อย่างน้อยวันละ 45 นาที – 1 ชั่วโมง
    (2) ใช้สมุนไพรไทยปรับธาตุ …จิบยาตรีผลา …ก่อนอาหารเช้า-เย็น ครั้งละ 1 แก้ว มีสรรพคุณช่วยปรับธาตุ …บำรุงปอด แก้ไอ ลดเสมหะได้
    (3) หลีกเลี่ยง ควันธูป …ควันจากการประกอบอาหาร ฝุ่นขนาดเล็ก และสารเคมีที่มีไอระเหยต่างๆ

    5. หัวใจ : หลังอายุ 65 ปี จะเริ่มมีโอกาสเป็นโรคหัวใจ …เนื่องจากกล้ามเนื้อหัวใจที่ลดลง…สวนทางกับอัตราการหนาตัวของผนังหัวใจที่เพิ่มขึ้น…เมื่ออายุเฉลี่ยเพิ่มขึ้นทุกๆ 10 ปี อัตราการสูบฉีดโลหิตสูงสุด…จะลดลงราวร้อยละ 10
    ~ จะยืดอายุหัวใจ…ให้อยู่ยาวนานได้อย่างไร :
    (1) งดอาหารหวาน มัน เค็ม …รักษาความดันโลหิต…และน้ำหนักตัว…ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
    (2) ว่ายน้ำ …เดิน …วิ่ง …โยคะ …ร่วมถึงการยกน้ำหนัก …ช่วยให้หัวใจทำงานต่อเนื่อง กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรง
    (3) ปลูกต้นไม้ …ไปทำกิจกรรมในสวนสาธารณะ …หรือหากิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายทำ …ผู้ที่มีงานอดิเรกเหล่านี้ …มีความเสี่ยงโรคหัวใจน้อยกว่าคนทั่วไป

    6. ไต : หลังอายุ 50 ปี ไตจะเริ่มเสื่อมลงทีละน้อยๆ …จนกระทั่งไตวาย
    ~ จะยืดอายุไต…ให้อยู่ยาวนานได้อย่างไร :
    (1) ดื่มน้ำให้เพียงพอ …สถาบันการแพทย์แห่งสหรัฐอเมริกา (Institute of Medicine : IOM) ระบุว่า …ผู้ชายอายุ 19 ปีขึ้นไป …ต้องดื่มน้ำถึง 13 แก้วต่อวัน ขณะที่ผู้หญิงวัยเดียวกัน…ต้องการน้ำวันละ 9 แก้ว
    (2) งดปรุงแต่งรสอาหารโดยไม่จำเป็น …ไม่ว่าจะเป็น น้ำตาล เกลือ หรือซอสต่างๆ
    (3) ควบคุมน้ำหนักตัว และ…ความดันโลหิตไม่ให้เกินเกณฑ์มาตรฐาน

    7. สำไส้ : หลังอายุ 60 ปี …ปุ่มเล็กๆ ที่ทำหน้าที่ดูดซึมสารอาหารในลำไส้เล็ก…จะบางลง …ร่างกายจึงดูดซึมสารอาหารได้น้อยลงตามไปด้วย
    ~ จะยืดอายุลำไส้…ให้อยู่ยาวนานได้อย่างไร :
    (1) กินอาหารที่ย่อยง่าย เช่น ปลา ถั่ว เห็ด รวมถึงผักผลไม้ให้มากขึ้น… หลีกเลี่ยงอาหารทอด ปิ้ง ย่าง
    (2) กินโยเกิร์ต 1 ถ้วยทุกวัน… เสริมโปรไบโอติก… เพิ่มปริมาณแบคทีเรียดีในลำไส้
    (3) ฝึกโยคะ 4 ท่า …ช่วยระบบย่อยทุกเช้าหลังตื่นนอน …ดังนี้ ท่าแมว ท่าสุนัข ท่าสามเหลี่ยม ท่าสะพาน …และปิดท้ายด้วยท่าศพ …ครั้งละ 3-5 ลมหายใจ …แต่ละท่าทำ 5 ครั้ง นับเป็น 1 เซ็ต

    8. ผิวหนัง : หลังอายุ 18 ปี ต่อจากนั้น ทุกๆ ปี คอลลาเจน…และอิลาสติน…ในผิวหนังจะลดลงประมาณร้อยละ 1
    ~ จะยืดอายุผิวหนัง…ให้อยู่ยาวนานได้อย่างไร :
    (1) ทาครีมกันแดด…ที่มีส่วนผสมของไทเทเนียม…หรือสังกะสีเป็นประจำ
    (2) กินถั่วเปลือกแข็ง …ผลไม้ตระกูลส้ม…และเบอร์รี่ เป็นประจำ
    (3) มาร์คหน้าด้วยโยเกิร์ตผสมข้าวโอ๊ต …หรือ ใช้วุ้นจากว่านหางจระเข้ เพื่อฟื้นฟูผิวหลังออกแดดเสมอ

    9. กระดูก : หลังอายุ 35 ปี ต่อจากนั้นทุกๆ ปี…ความหนาแน่นของมวลกระดูกจะลดลงราวร้อยละ 1 และ…จะมีอัตราลดลงเร็วขึ้น…เมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน (ในเพศหญิง)…หรือ…เข้าสู่วัยทองในเพศชาย
    ~ จะยืดอายุกระดูก…ให้อยู่ยาวนานได้อย่างไร
    (1) ยกน้ำหนัก หรือ กระโดดขึ้น-ลง 20 ครั้ง วันละ 2 เซ็ต (ถ้ากระดูกเข่าดี)
    (2) เพิ่มเมนูไทยๆ เปี่ยมแคลเซียม เช่น …น้ำพริกกะปิ…ปลาทูทอดกับ…ผักสด อย่างน้อย 3-4 มื้อต่อสัปดาห์
    (3) ระวังการใช้ยาสเตียรอยด์…และยาลูกกลอน…ที่มีผลทำให้กระดูกพรุน…กระดูกแตกหักง่าย

    10. กล้ามเนื้อ : หลังอายุ 40 ปี ต่อจากนั้นทุกๆ ปี มวลกล้ามเนื้อจะลดลง…และเปลี่ยนเป็นไขมัน …อัตรานั้นไม่สม่ำเสมอ…ขึ้นอยู่กับรูปแบบกิจกรรมในชีวิตประจำวัน
    ~ จะยืดอายุกล้ามเนื้อ…ให้อยู่ยาวนานได้อย่างไร :
    (1) วิดพื้น สวอท ทำ 15 -20 ครั้ง นับเป็น 1 เซ็ต ทำทุกวันอย่างน้อยครั้งละ 2 เซ็ต
    (2) ยกน้ำหนัก ทำ 15 -20 ครั้ง นับเป็น 1 เซ็ต ทำทุกวันอย่างน้อยครั้งละ 2 เซ็ต

    # สุดท้าย การกินอาหาร…ควรกินอาหาร…ที่มีสารแอนติออกซิแดนท์สูง …เช่น ผักหลากสี …ผลไม้รสเปรี้ยว …รสฝาดขม …ช่วยชะลอกระบวนการเสื่อมของเซลล์ตามปกติได้ …อย่าลืมเสริมด้วย …การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ …การทำสมาธิ …และหาโอกาสออกไปพักผ่อน…ท่ามกลางธรรมชาติ …เพื่อลดความเครียด (ความเครียด…เป็นตัวการเร่งให้เกิดกระบวนการเสื่อมของเซลล์) เท่านี้…ก็ช่วยยืดอายุให้อวัยวะต่างๆ ให้มีอายุใช้งานยาวนาน…ไปถึงวันตายได้เช่นกัน

    Cr. รศ. ดร. ภญ. อรพรรณ มาตังคสมบัติ อดีต คณบดี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
    คำแนะนำที่มีประโยชน์มาก ต่อการถนอมอวัยวะของร่างกายเราให้มีอายุการใช้งานยืนนาน จากภรรยาคุณหมอ พรชัย มาตังคสมบัติ รุ่นพี่ที่เคารพรักและนับถือ วิธียืดอายุ 10 อวัยวะให้อยู่ยาวนานจนกว่าท่านจะหมดอายุขัย (ไม่เสื่อมพังก่อนวันตาย เพราะเสื่อมพังไปก่อนตาย…ท่านต้องอยู่อย่างทรมาน…ไร้คุณภาพชีวิตที่ดี) ~ เราเคยชินกับความรู้ที่ว่า …อวัยวะจะเสื่อม…ไปตามเวลา …วิธีการยืดอายุอวัยวะ…มีร้อยแปดพันประการ …แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ ดร.โรแนน แฟคโทรา แห่งสถาบันการแพทย์ Cleveland Clinic ประเทศสหรัฐอเมริกา …เสนอ…สุดยอดวิธียืดอายุอวัยวะต่างๆ …ไว้ในนิตยสาร Times ดังนี้ 1. สมอง : หลังอายุ 70 ปี จะเริ่มพบความผิดปกติ…ที่เกิดจากความเสื่อมของสมอง …ซึ่งมักเกิดขึ้นอย่างช้าๆ …ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างฉับพลันในคราวเดียว ~ จะยืดอายุสมอง…ให้อยู่ยาวนานได้อย่างไร : (1) นิวโรบิกส์ เอ็กเซอร์ไซส์ (Neurobics Exercise) หรือ…การทำกิจกรรมที่ต้องใช้มือทั้ง 2 ข้าง …ทำงานประสานกัน เช่น ทำสวน เย็บผ้า ทำกับข้าว ช่วยให้สมองทั้งซีกซ้าย…และขวาได้รับการกระตุ้นและทำงานไปพร้อมกัน (2) กิน ปลาทะเล ถั่วเปลือกแข็ง และธัญพืช แหล่งสุดยอดสารอาหารบำรุงเป็นประจำ (3) ฝึกเจริญสติก่อนนอน …ใช้วิธีกำหนดรู้ลมหายใจเข้าและออก… จนกว่าจะหลับ …ช่วยลดความเครียดและทำให้สมองปลอดโปร่งในวันรุ่งขึ้น 2. ดวงตา : หลังอายุ 40 ปี ต่อจากนั้น ทุกๆ ปี ดวงตา จอประสาตา เลนส์ตาจะเสื่อมลง ในอัตราที่ไม่สม่ำเสมอ ขึ้นอยู่กับรูปแบบกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ~ จะยืดอายุดวงตา…ให้อยู่ยาวนานได้อย่างไร : (1) สวมแว่นกันแดด ก่อนทำกิจกรรมกลางแจ้งทุกครั้ง (2) ผู้ที่ทำงานกับคอมพิวเตอร์ ควรพักสายทุกๆ 45 นาที อย่างน้อย 5-10 นาที (3)งดใช้โทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตก่อนนอน 3. หู : หลังอายุ 60 ปี การได้ยินจะค่อยๆ ลดลงทุกปี …และทุกๆ 1 ใน 3 คนมีปัญหาเรื่องการได้ยินเมื่อเข้าสู่วัยนี้ ~ จะยืดอายุหู… ให้อยู่ยาวนานได้อย่างไร : (1) หลีกเลี่ยงการทำงาน…หรืออาศัยอยู่ในที่ๆ มีเสียงดัง …หากจำเป็นต้องใส่เครื่องป้องกัน (2) งดสั่งน้ำมูกแรงๆ …หรือ กลั้นจาม …เพราะอาจทำให้เยื่อแก้วหูมีปัญหา (3) งดแคะหูเอง …เพราะขี้หู…เป็นขี้ผึ้งรักษาความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ …การแคะหู…ทำให้เกิดการอักเสบและเยื่อแก้วหูฉีกขาดได้ 4. ปอด : หลังอายุ 30 ปี ต่อจากนั้น ทุกๆ ปี ประสิทธิภาพการทำงานของปอดจะลดลงราวร้อยละ 1 ~ จะยืดอายุปอด…ให้อยู่ยาวนานได้อย่างไร : (1) ว่ายน้ำ หรือ วิ่ง อย่างน้อยวันละ 45 นาที – 1 ชั่วโมง (2) ใช้สมุนไพรไทยปรับธาตุ …จิบยาตรีผลา …ก่อนอาหารเช้า-เย็น ครั้งละ 1 แก้ว มีสรรพคุณช่วยปรับธาตุ …บำรุงปอด แก้ไอ ลดเสมหะได้ (3) หลีกเลี่ยง ควันธูป …ควันจากการประกอบอาหาร ฝุ่นขนาดเล็ก และสารเคมีที่มีไอระเหยต่างๆ 5. หัวใจ : หลังอายุ 65 ปี จะเริ่มมีโอกาสเป็นโรคหัวใจ …เนื่องจากกล้ามเนื้อหัวใจที่ลดลง…สวนทางกับอัตราการหนาตัวของผนังหัวใจที่เพิ่มขึ้น…เมื่ออายุเฉลี่ยเพิ่มขึ้นทุกๆ 10 ปี อัตราการสูบฉีดโลหิตสูงสุด…จะลดลงราวร้อยละ 10 ~ จะยืดอายุหัวใจ…ให้อยู่ยาวนานได้อย่างไร : (1) งดอาหารหวาน มัน เค็ม …รักษาความดันโลหิต…และน้ำหนักตัว…ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ (2) ว่ายน้ำ …เดิน …วิ่ง …โยคะ …ร่วมถึงการยกน้ำหนัก …ช่วยให้หัวใจทำงานต่อเนื่อง กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรง (3) ปลูกต้นไม้ …ไปทำกิจกรรมในสวนสาธารณะ …หรือหากิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายทำ …ผู้ที่มีงานอดิเรกเหล่านี้ …มีความเสี่ยงโรคหัวใจน้อยกว่าคนทั่วไป 6. ไต : หลังอายุ 50 ปี ไตจะเริ่มเสื่อมลงทีละน้อยๆ …จนกระทั่งไตวาย ~ จะยืดอายุไต…ให้อยู่ยาวนานได้อย่างไร : (1) ดื่มน้ำให้เพียงพอ …สถาบันการแพทย์แห่งสหรัฐอเมริกา (Institute of Medicine : IOM) ระบุว่า …ผู้ชายอายุ 19 ปีขึ้นไป …ต้องดื่มน้ำถึง 13 แก้วต่อวัน ขณะที่ผู้หญิงวัยเดียวกัน…ต้องการน้ำวันละ 9 แก้ว (2) งดปรุงแต่งรสอาหารโดยไม่จำเป็น …ไม่ว่าจะเป็น น้ำตาล เกลือ หรือซอสต่างๆ (3) ควบคุมน้ำหนักตัว และ…ความดันโลหิตไม่ให้เกินเกณฑ์มาตรฐาน 7. สำไส้ : หลังอายุ 60 ปี …ปุ่มเล็กๆ ที่ทำหน้าที่ดูดซึมสารอาหารในลำไส้เล็ก…จะบางลง …ร่างกายจึงดูดซึมสารอาหารได้น้อยลงตามไปด้วย ~ จะยืดอายุลำไส้…ให้อยู่ยาวนานได้อย่างไร : (1) กินอาหารที่ย่อยง่าย เช่น ปลา ถั่ว เห็ด รวมถึงผักผลไม้ให้มากขึ้น… หลีกเลี่ยงอาหารทอด ปิ้ง ย่าง (2) กินโยเกิร์ต 1 ถ้วยทุกวัน… เสริมโปรไบโอติก… เพิ่มปริมาณแบคทีเรียดีในลำไส้ (3) ฝึกโยคะ 4 ท่า …ช่วยระบบย่อยทุกเช้าหลังตื่นนอน …ดังนี้ ท่าแมว ท่าสุนัข ท่าสามเหลี่ยม ท่าสะพาน …และปิดท้ายด้วยท่าศพ …ครั้งละ 3-5 ลมหายใจ …แต่ละท่าทำ 5 ครั้ง นับเป็น 1 เซ็ต 8. ผิวหนัง : หลังอายุ 18 ปี ต่อจากนั้น ทุกๆ ปี คอลลาเจน…และอิลาสติน…ในผิวหนังจะลดลงประมาณร้อยละ 1 ~ จะยืดอายุผิวหนัง…ให้อยู่ยาวนานได้อย่างไร : (1) ทาครีมกันแดด…ที่มีส่วนผสมของไทเทเนียม…หรือสังกะสีเป็นประจำ (2) กินถั่วเปลือกแข็ง …ผลไม้ตระกูลส้ม…และเบอร์รี่ เป็นประจำ (3) มาร์คหน้าด้วยโยเกิร์ตผสมข้าวโอ๊ต …หรือ ใช้วุ้นจากว่านหางจระเข้ เพื่อฟื้นฟูผิวหลังออกแดดเสมอ 9. กระดูก : หลังอายุ 35 ปี ต่อจากนั้นทุกๆ ปี…ความหนาแน่นของมวลกระดูกจะลดลงราวร้อยละ 1 และ…จะมีอัตราลดลงเร็วขึ้น…เมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน (ในเพศหญิง)…หรือ…เข้าสู่วัยทองในเพศชาย ~ จะยืดอายุกระดูก…ให้อยู่ยาวนานได้อย่างไร (1) ยกน้ำหนัก หรือ กระโดดขึ้น-ลง 20 ครั้ง วันละ 2 เซ็ต (ถ้ากระดูกเข่าดี) (2) เพิ่มเมนูไทยๆ เปี่ยมแคลเซียม เช่น …น้ำพริกกะปิ…ปลาทูทอดกับ…ผักสด อย่างน้อย 3-4 มื้อต่อสัปดาห์ (3) ระวังการใช้ยาสเตียรอยด์…และยาลูกกลอน…ที่มีผลทำให้กระดูกพรุน…กระดูกแตกหักง่าย 10. กล้ามเนื้อ : หลังอายุ 40 ปี ต่อจากนั้นทุกๆ ปี มวลกล้ามเนื้อจะลดลง…และเปลี่ยนเป็นไขมัน …อัตรานั้นไม่สม่ำเสมอ…ขึ้นอยู่กับรูปแบบกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ~ จะยืดอายุกล้ามเนื้อ…ให้อยู่ยาวนานได้อย่างไร : (1) วิดพื้น สวอท ทำ 15 -20 ครั้ง นับเป็น 1 เซ็ต ทำทุกวันอย่างน้อยครั้งละ 2 เซ็ต (2) ยกน้ำหนัก ทำ 15 -20 ครั้ง นับเป็น 1 เซ็ต ทำทุกวันอย่างน้อยครั้งละ 2 เซ็ต # สุดท้าย การกินอาหาร…ควรกินอาหาร…ที่มีสารแอนติออกซิแดนท์สูง …เช่น ผักหลากสี …ผลไม้รสเปรี้ยว …รสฝาดขม …ช่วยชะลอกระบวนการเสื่อมของเซลล์ตามปกติได้ …อย่าลืมเสริมด้วย …การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ …การทำสมาธิ …และหาโอกาสออกไปพักผ่อน…ท่ามกลางธรรมชาติ …เพื่อลดความเครียด (ความเครียด…เป็นตัวการเร่งให้เกิดกระบวนการเสื่อมของเซลล์) เท่านี้…ก็ช่วยยืดอายุให้อวัยวะต่างๆ ให้มีอายุใช้งานยาวนาน…ไปถึงวันตายได้เช่นกัน Cr. รศ. ดร. ภญ. อรพรรณ มาตังคสมบัติ อดีต คณบดี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1585 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๗ เวลา ๑๗.๐๘ น.
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เนื่องใน “วันมหิดล” ประจำปี ๒๕๖๗ ณ โรงพยาบาลศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร
    เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึง ศาสตราจารย์อภิชาติ อัศวรมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ศาสตราจารย์ปิยะมิตร ศรีธรา อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ศาสตราจารย์ยงยุทธ ศิริวัฒนอักษร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช และผู้บริหารคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงวางพวงมาลาส่วนพระองค์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ ทรงกราบ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงวางพวงมาลาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพวงมาลาส่วนพระองค์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ ทรงกราบ เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปถวายราชสักการะพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ณ ศาลาศิริราช ๑๐๐ ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงวางพุ่มดอกไม้ส่วนพระองค์ ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ ทรงกราบ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงวางพุ่มดอกไม้ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพุ่มดอกไม้ส่วนพระองค์ ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ ทรงกราบ ต่อจากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายของที่ระลึก แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รองศาสตราจารย์ นันทกร ทองแตง รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษและองค์กรสัมพันธ์เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายของที่ระลึก แด่สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี จากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ศาสตราจารย์อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กราบบังคมทูลรายงาน และกราบบังคมทูลเบิกผู้ให้การสนับสนุนการจัดงาน ผู้มีอุปการคุณ และผู้ทำคุณประโยชน์ แก่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานโล่ที่ระลึกและของที่ระลึกตามลำดับ สมควรแก่เวลา จึงเสด็จพระราชดำเนินไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ
    “วันมหิดล” ตรงกับวันที่ ๒๔ กันยายน ของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก “พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย” และ “พระบิดาแห่งการสาธารณสุขไทย” ด้วยทรงประกอบพระราชกรณียกิจอันเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชนชาวไทย โดยเฉพาะในด้านการแพทย์และการสาธารณสุข ทรงอุทิศกำลังพระวรกาย และพระปรีชาสามารถ ตลอดจนทรัพย์สินส่วนพระองค์เพื่อการแพทย์ไทย ส่งผลให้กิจการแพทย์และสาธารณสุขของไทยเจริญก้าวหน้า อีกทั้งได้ประกาศยกย่องจากองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ให้ทรงเป็นบุคคลสำคัญของโลกด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ การแพทย์ การพยาบาลและการสาธารณสุข เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงเปี่ยมล้นด้วยพระเมตตา ในการวางรากฐานระบบการศึกษาที่เป็นประโยชน์ต่อวงการแพทย์ การสาธารณสุขของประเทศให้เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าตราบจนทุกวันนี้
    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    Cr. FB : พระลาน
    วันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๗ เวลา ๑๗.๐๘ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เนื่องใน “วันมหิดล” ประจำปี ๒๕๖๗ ณ โรงพยาบาลศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึง ศาสตราจารย์อภิชาติ อัศวรมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ศาสตราจารย์ปิยะมิตร ศรีธรา อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ศาสตราจารย์ยงยุทธ ศิริวัฒนอักษร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช และผู้บริหารคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงวางพวงมาลาส่วนพระองค์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ ทรงกราบ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงวางพวงมาลาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพวงมาลาส่วนพระองค์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ ทรงกราบ เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปถวายราชสักการะพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ณ ศาลาศิริราช ๑๐๐ ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงวางพุ่มดอกไม้ส่วนพระองค์ ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ ทรงกราบ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงวางพุ่มดอกไม้ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพุ่มดอกไม้ส่วนพระองค์ ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ ทรงกราบ ต่อจากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายของที่ระลึก แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รองศาสตราจารย์ นันทกร ทองแตง รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษและองค์กรสัมพันธ์เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายของที่ระลึก แด่สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี จากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ศาสตราจารย์อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กราบบังคมทูลรายงาน และกราบบังคมทูลเบิกผู้ให้การสนับสนุนการจัดงาน ผู้มีอุปการคุณ และผู้ทำคุณประโยชน์ แก่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานโล่ที่ระลึกและของที่ระลึกตามลำดับ สมควรแก่เวลา จึงเสด็จพระราชดำเนินไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ “วันมหิดล” ตรงกับวันที่ ๒๔ กันยายน ของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก “พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย” และ “พระบิดาแห่งการสาธารณสุขไทย” ด้วยทรงประกอบพระราชกรณียกิจอันเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชนชาวไทย โดยเฉพาะในด้านการแพทย์และการสาธารณสุข ทรงอุทิศกำลังพระวรกาย และพระปรีชาสามารถ ตลอดจนทรัพย์สินส่วนพระองค์เพื่อการแพทย์ไทย ส่งผลให้กิจการแพทย์และสาธารณสุขของไทยเจริญก้าวหน้า อีกทั้งได้ประกาศยกย่องจากองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ให้ทรงเป็นบุคคลสำคัญของโลกด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ การแพทย์ การพยาบาลและการสาธารณสุข เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงเปี่ยมล้นด้วยพระเมตตา ในการวางรากฐานระบบการศึกษาที่เป็นประโยชน์ต่อวงการแพทย์ การสาธารณสุขของประเทศให้เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าตราบจนทุกวันนี้ #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida Cr. FB : พระลาน
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1092 มุมมอง 0 รีวิว
  • Kave Salaya : เคฟ ศาลายา
    คอนโด Kave Salaya เป็นคอนโดติดถนนใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อนสถานีศาลายา ตั้งอยู่ที่ ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ใกล้กับมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา

    ** จุดเด่น **
    - ติดถนนใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้า ใกล้สถานศึกษาหลายแห่ง
    - เป็นอาคารสูง 7 ชั้น มีห้องชุดทั้งหมด 588 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต
    - ออกแบบภายนอกอาคารแปลกตา ทันสมัย
    - มีพื้นที่ส่วนกลางมากมายกว่า 32 ฟังก์ชั่น
    - มีระบบรักษาความปลอดภัยและเทคโนโลยีทันสมัย

    **สิ่งอำนวยความสะดวก**

    BUILDING A: LEARNING

    - Co-Idea Space
    - Creative Lobby
    - Meeting Chamber
    - Meeting Lounge
    - Learning Hub
    - Working Pods
    - Sky Terrace
    - Sky Cinema
    - Sky Amphitheater
    - KAVE Viewpoint

    BUILDING B: REST & RELAX

    - Sharing Lobby
    - Smart Laundry Lounge
    - Board Game Arena
    - Console & VR Room
    - Music Studio
    - KAVE Theater
    - Fun Space

    BUILDING C: ACTIVE

    - Pulse Pool
    - Hydro Massage
    - Jet Pool
    - Botanic Garden
    - The Gym
    - Health Station
    - Fit Studio
    - Co-Kitchen
    - KAVE Cafe
    - Jacuzzi Seat

    FACILITY ON GROUND

    - The Common Ground
    - Valley Forest
    - Sunken Lawn
    - Hidden Bar
    - Misty Falls
    - SUPERIOR SECURITY & TECHNOLOGY

    ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. & CCTV
    ระบบ Key Card เข้าออก, ระบบลิฟท์ล็อกชั้น และ Digital Door Lock
    บริการ Shuttle Service รับ-ส่ง หน้ามหาวิทยาลัย ประตู 5
    Smart Locker 24 ชม.
    High-Speed Wi-Fi Internet

    **สถานที่ใกล้เคียง**

    - 7-11 : 80 ม.
    - mini Big C : 160 ม.
    - Lotus’s Express : 500 ม.
    - KFC Drive Thru : 600 ม.
    - Makro ศาลายา : 700 ม.
    - The Salaya : 1.2 กม.
    - ตลาดศาลายา : 1.5 กม.
    - China Town ศาลายา : 1.6 กม.
    - ตลาดกิเลน : 2.3 กม.
    - ตลาดนัดเฮียใช้ : 2.6 กม.
    - Lotus ศาลายา : 5 กม.
    - Central ศาลายา : 5.3 กม.
    - Home Pro พุทธมณฑลสาย 5 : 5.7 กม.
    - Brio Mall สาย 4 : 8.6 กม.
    - ตลาดธนบุรี สนามหลวง 2 : 9.7 กม.
    - ตลาดเวิลด์มาร์เก็ต : 10 กม.
    - The Paseo Park กาญจนาฯ : 14 กม.
    - Design Village พุทธมณฑล (Starbucks ,Gourmet Market ,Uniqlo ,JYSK) : 15.4 กม.
    - บุญถาวร พุทธมณฑล : 15.4 กม.
    - ตลาดนัดเซฟเซ็นเตอร์ : 15.8 กม.
    - Plus Mall Lotus บางใหญ่ : 16.9 กม.
    - SC Plaza ,ตลาดสายใต้ใหม่ : 19 กม.
    - The Crystal Park ราชพฤกษ์ : 19 กม.
    - ม.มหิดล ศาลายา : 750 ม.
    - รร.มหิดลวิทยานุสรณ์ : 850 ม.
    - วิทยาลัยนาฏศิลป์ สถาบันบัณฑิต พัฒนศิลป์ : 1.1 กม.
    - รร.สาธิตนานาชาติ ม.มหิดล : 1.5 กม.
    - ม.ราชมงคลรัตนโกสินทร์ฯ : 2 กม.
    - ม.มหามกุฏราชวิทยาลัย : 2.2 กม.
    - รร.สาธิตกรุงเทพธนบุรี : 6.5 กม.
    - ม.กรุงเทพธนบุรี : 6.9 กม.
    - รร.เพลินพัฒนา : 11.7 กม.
    - รร.กสิณธร อาคาเดมี่ : 12.3 กม.
    - รร.สารสาสน์วิเทศธนบุรี : 13.4 กม.
    - รร.อัสสัมชัญธนบุรี : 13.9 กม.
    - รร.อนุบาลนานาชาติ Hummingbird : 15.2 กม.
    - รพ.ศาลายา : 1.3 กม.
    - รพ.พุทธมณฑล : 3.4 กม.
    - ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก : 4.4 กม.
    - รพ.ธนบุรี 2 : 15.1 กม.
    - รพ.เกษมราษฎร์บางแค : 17.1 กม.
    - รพ.เจ้าพระยา : 22.6 กม.
    - รพ.ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ : 22.8 กม.
    - สถานีตำรวจภูธรพุทธมณฑล : 1 กม.
    - พุทธมณฑล : 4.3 กม.
    - กรมยุทธศึกษาทหารเรือ : 600 ม.
    - สำนักช่างสิบหมู่ : 2.3 กม.
    - JKN Global Media (JKN) : 8.3 กม.

    ----------------------
    สนใจสอบถามข้อมูลที่
    โทร.081-822-6553
    รับซื้อ ฝากขายที่ดิน บ้าน คอนโด อสังหาริมทรัพย์
    ทุกชนิด “ฟรี” ค่าใช้จ่ายจนกว่าจะขายได้
    พร้อมทั้งทำเรื่องยื่นกู้สินเชื่อ
    จนถึงโอนกรรมสิทธิ์ ณ กรมที่ดิน
    Kave Salaya : เคฟ ศาลายา คอนโด Kave Salaya เป็นคอนโดติดถนนใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อนสถานีศาลายา ตั้งอยู่ที่ ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ใกล้กับมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ** จุดเด่น ** - ติดถนนใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้า ใกล้สถานศึกษาหลายแห่ง - เป็นอาคารสูง 7 ชั้น มีห้องชุดทั้งหมด 588 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต - ออกแบบภายนอกอาคารแปลกตา ทันสมัย - มีพื้นที่ส่วนกลางมากมายกว่า 32 ฟังก์ชั่น - มีระบบรักษาความปลอดภัยและเทคโนโลยีทันสมัย **สิ่งอำนวยความสะดวก** BUILDING A: LEARNING - Co-Idea Space - Creative Lobby - Meeting Chamber - Meeting Lounge - Learning Hub - Working Pods - Sky Terrace - Sky Cinema - Sky Amphitheater - KAVE Viewpoint BUILDING B: REST & RELAX - Sharing Lobby - Smart Laundry Lounge - Board Game Arena - Console & VR Room - Music Studio - KAVE Theater - Fun Space BUILDING C: ACTIVE - Pulse Pool - Hydro Massage - Jet Pool - Botanic Garden - The Gym - Health Station - Fit Studio - Co-Kitchen - KAVE Cafe - Jacuzzi Seat FACILITY ON GROUND - The Common Ground - Valley Forest - Sunken Lawn - Hidden Bar - Misty Falls - SUPERIOR SECURITY & TECHNOLOGY ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. & CCTV ระบบ Key Card เข้าออก, ระบบลิฟท์ล็อกชั้น และ Digital Door Lock บริการ Shuttle Service รับ-ส่ง หน้ามหาวิทยาลัย ประตู 5 Smart Locker 24 ชม. High-Speed Wi-Fi Internet **สถานที่ใกล้เคียง** - 7-11 : 80 ม. - mini Big C : 160 ม. - Lotus’s Express : 500 ม. - KFC Drive Thru : 600 ม. - Makro ศาลายา : 700 ม. - The Salaya : 1.2 กม. - ตลาดศาลายา : 1.5 กม. - China Town ศาลายา : 1.6 กม. - ตลาดกิเลน : 2.3 กม. - ตลาดนัดเฮียใช้ : 2.6 กม. - Lotus ศาลายา : 5 กม. - Central ศาลายา : 5.3 กม. - Home Pro พุทธมณฑลสาย 5 : 5.7 กม. - Brio Mall สาย 4 : 8.6 กม. - ตลาดธนบุรี สนามหลวง 2 : 9.7 กม. - ตลาดเวิลด์มาร์เก็ต : 10 กม. - The Paseo Park กาญจนาฯ : 14 กม. - Design Village พุทธมณฑล (Starbucks ,Gourmet Market ,Uniqlo ,JYSK) : 15.4 กม. - บุญถาวร พุทธมณฑล : 15.4 กม. - ตลาดนัดเซฟเซ็นเตอร์ : 15.8 กม. - Plus Mall Lotus บางใหญ่ : 16.9 กม. - SC Plaza ,ตลาดสายใต้ใหม่ : 19 กม. - The Crystal Park ราชพฤกษ์ : 19 กม. - ม.มหิดล ศาลายา : 750 ม. - รร.มหิดลวิทยานุสรณ์ : 850 ม. - วิทยาลัยนาฏศิลป์ สถาบันบัณฑิต พัฒนศิลป์ : 1.1 กม. - รร.สาธิตนานาชาติ ม.มหิดล : 1.5 กม. - ม.ราชมงคลรัตนโกสินทร์ฯ : 2 กม. - ม.มหามกุฏราชวิทยาลัย : 2.2 กม. - รร.สาธิตกรุงเทพธนบุรี : 6.5 กม. - ม.กรุงเทพธนบุรี : 6.9 กม. - รร.เพลินพัฒนา : 11.7 กม. - รร.กสิณธร อาคาเดมี่ : 12.3 กม. - รร.สารสาสน์วิเทศธนบุรี : 13.4 กม. - รร.อัสสัมชัญธนบุรี : 13.9 กม. - รร.อนุบาลนานาชาติ Hummingbird : 15.2 กม. - รพ.ศาลายา : 1.3 กม. - รพ.พุทธมณฑล : 3.4 กม. - ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก : 4.4 กม. - รพ.ธนบุรี 2 : 15.1 กม. - รพ.เกษมราษฎร์บางแค : 17.1 กม. - รพ.เจ้าพระยา : 22.6 กม. - รพ.ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ : 22.8 กม. - สถานีตำรวจภูธรพุทธมณฑล : 1 กม. - พุทธมณฑล : 4.3 กม. - กรมยุทธศึกษาทหารเรือ : 600 ม. - สำนักช่างสิบหมู่ : 2.3 กม. - JKN Global Media (JKN) : 8.3 กม. ---------------------- สนใจสอบถามข้อมูลที่ โทร.081-822-6553 รับซื้อ ฝากขายที่ดิน บ้าน คอนโด อสังหาริมทรัพย์ ทุกชนิด “ฟรี” ค่าใช้จ่ายจนกว่าจะขายได้ พร้อมทั้งทำเรื่องยื่นกู้สินเชื่อ จนถึงโอนกรรมสิทธิ์ ณ กรมที่ดิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1211 มุมมอง 0 รีวิว
  • "กางเขนแดงหัวใจขาว"
    ประพันธ์ทำนองและเรียบเรียงดนตรี โดย รัฐกรณ์ โกมล
    ประพันธ์คำร้อง โดย ชาตรี ทับละม่อม
    ขับร้อง โดย ธนพร แวกประยูร (ปาน ธนพร)
    ==========================
    .
    โอกาสนี้ขอถวายพระพรชัยมงคล
    ขอพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนานตลอดกาลตลอดไป
    .
    -=== ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ===-
    ปวงข้าพระพุทธเจ้าคณะทำงานโครงการ
    ==========================
    .
    โครงการบทเพลงเทิดพระเกียรติ คีตามาลัยเทิดไท้พระพันปี
    .
    สมาคมนักเรียนเก่า ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ • สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส • สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับคณะทำงานจิตอาสาอันประกอบด้วยคณะนักแต่งเพลงนำโดย พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ศิลปินศิลปาธร สาขาดนตรีปี ๒๕๖๐ คณะศิลปินนักร้องที่เคยถวายงานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถฯ ศิลปินสาขาทัศนศิลป์และคณะบุคคลผู้มีความจงรักภักดี ได้ริเริ่มร่วมมือกันจัดทำโครงการบทเพลงเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ภายใต้ชื่อโครงการว่า “คีตามาลัย เทิดไท้พระพันปี” โดยมีจุดประสงค์เพื่อเผยแผ่เรื่องราวพระราชกรณียกิจอันน่าประทับใจและทรงคุณูปการต่ออาณาประชาราษฎร์ชาวไทยและแผ่นดินไทยมาเป็นเวลายาวนาน ผ่านทางบทเพลงที่สร้างสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษจำนวนทั้งสิ้น ๑๐ เพลง อีกทั้งยังเป็นการเทิดพระเกียรติพระองค์ท่านเนื่องในวาระอันเป็นมหาศุภมงคลทรงมีพระชนมพรรษาครบ ๙๐ พรรษาในปีพุทธศักราช ๒๕๖๕ ที่ผ่านไปอีกด้วย
    .
    คณะทำงานโครงการประกอบด้วย
    .
    = ผู้สนับสนุนโครงการหลัก =
    สมาคมนักเรียนเก่า ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์
    สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส
    สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม
    .
    = ที่ปรึกษาโครงการ =
    นาตยา นันทวนิช
    ณัฐจารวี ธันยวานิชย์กุล
    สมศักดิ์ ตรีเทพวิจิตร
    ปิยฉัตร เตชะสุนทโรวาท
    สมยศ เกียรติอร่ามกุล
    ประสพ เรียงเงิน
    พ.ต.ต.สุทศธวรรศ อารีย์รัตนะนคร
    กฤษณะ บุญญภัทโร
    นายแพทย์อานนท์ โชติรสนิรมิต
    ดร.ชัยภัฏ จันทร์วิไล
    .
    = ผู้สนับสนุนห้องบันทึกเสียง =
    คณิต พฤกษ์พระกานต์ (ห้องบันทึกเสียงบัตเตอร์ฟลาย สตูดิโอ - กรุงเทพ)
    วีระ วัฒนะจันทรกุล (ห้องบันทึกเสียงคอน โมโต้ สตูดิโอ - เชียงใหม่)
    รัฐกรณ์ โกมล (ห้องบันทึกเสียงสายน้ำตัวโน๊ต สตูดิโอ - กรุงเทพ)
    จรินพร สนิทวงศ์ ณ อยุธยา (ห้องบันทึกเสียงฮัมมิ่ง เฮ้าส์ สตูดิโอ - กรุงเทพ)
    .
    ภาพปกพระฉายาสาทิสลักษณ์ วาดโดยศิลปินอาสา : นิติกร กรัยวิเชียร
    โปสการ์ดภาพพระฉายาสาทิสลักษณ์ จำนวน ๑๐ ภาพ วาดโดยศิลปินอาสา : สุวิทย์ ใจป้อม
    ปกข้อมูลด้านในภาพพระฉายาสาทิสลักษณ์ วาดโดยศิลปินอาสา : ปันนรัตน์ บวรภัคพาณิช
    .
    = ผู้อำนวยการผลิต =
    พ.ต.อ.ศุภชัชจ์ เปี่ยมมนัส
    .
    = ประสานงานโครงการและสื่อประชาสัมพันธ์ =
    พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล ศรีสง่า
    อนุรักษ์ ภูมิทรัพย์
    .
    มิวสิคไดเร็คเตอร์ : พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
    โปรดิวเซอร์ : รัฐกรณ์ โกมล และ ชาตรี ทับละม่อม
    บันทึกเสียง : เกรียงไกร กุศลจริยากูล และ รัฐกรณ์ โกมล
    มิกซ์เสียง : พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา และ รัฐกรณ์ โกมล
    ประสานงานการผลิต : โอฬาร เนตรหาญ เสนีย์ สอนเย็น และ กฤตภาส สุภาพ
    .
    ==========================
    .
    ขอขอบพระคุณ ภาพวิดิโอประกอบบทเพลงด้วยความอนุเคราะห์จาก
    - คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
    - โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
    - โรงพยาบาลยันฮี
    - โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
    .
    "กางเขนแดงหัวใจขาว" ประพันธ์ทำนองและเรียบเรียงดนตรี โดย รัฐกรณ์ โกมล ประพันธ์คำร้อง โดย ชาตรี ทับละม่อม ขับร้อง โดย ธนพร แวกประยูร (ปาน ธนพร) ========================== . โอกาสนี้ขอถวายพระพรชัยมงคล ขอพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนานตลอดกาลตลอดไป . -=== ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ===- ปวงข้าพระพุทธเจ้าคณะทำงานโครงการ ========================== . โครงการบทเพลงเทิดพระเกียรติ คีตามาลัยเทิดไท้พระพันปี . สมาคมนักเรียนเก่า ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ • สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส • สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับคณะทำงานจิตอาสาอันประกอบด้วยคณะนักแต่งเพลงนำโดย พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ศิลปินศิลปาธร สาขาดนตรีปี ๒๕๖๐ คณะศิลปินนักร้องที่เคยถวายงานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถฯ ศิลปินสาขาทัศนศิลป์และคณะบุคคลผู้มีความจงรักภักดี ได้ริเริ่มร่วมมือกันจัดทำโครงการบทเพลงเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ภายใต้ชื่อโครงการว่า “คีตามาลัย เทิดไท้พระพันปี” โดยมีจุดประสงค์เพื่อเผยแผ่เรื่องราวพระราชกรณียกิจอันน่าประทับใจและทรงคุณูปการต่ออาณาประชาราษฎร์ชาวไทยและแผ่นดินไทยมาเป็นเวลายาวนาน ผ่านทางบทเพลงที่สร้างสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษจำนวนทั้งสิ้น ๑๐ เพลง อีกทั้งยังเป็นการเทิดพระเกียรติพระองค์ท่านเนื่องในวาระอันเป็นมหาศุภมงคลทรงมีพระชนมพรรษาครบ ๙๐ พรรษาในปีพุทธศักราช ๒๕๖๕ ที่ผ่านไปอีกด้วย . คณะทำงานโครงการประกอบด้วย . = ผู้สนับสนุนโครงการหลัก = สมาคมนักเรียนเก่า ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม . = ที่ปรึกษาโครงการ = นาตยา นันทวนิช ณัฐจารวี ธันยวานิชย์กุล สมศักดิ์ ตรีเทพวิจิตร ปิยฉัตร เตชะสุนทโรวาท สมยศ เกียรติอร่ามกุล ประสพ เรียงเงิน พ.ต.ต.สุทศธวรรศ อารีย์รัตนะนคร กฤษณะ บุญญภัทโร นายแพทย์อานนท์ โชติรสนิรมิต ดร.ชัยภัฏ จันทร์วิไล . = ผู้สนับสนุนห้องบันทึกเสียง = คณิต พฤกษ์พระกานต์ (ห้องบันทึกเสียงบัตเตอร์ฟลาย สตูดิโอ - กรุงเทพ) วีระ วัฒนะจันทรกุล (ห้องบันทึกเสียงคอน โมโต้ สตูดิโอ - เชียงใหม่) รัฐกรณ์ โกมล (ห้องบันทึกเสียงสายน้ำตัวโน๊ต สตูดิโอ - กรุงเทพ) จรินพร สนิทวงศ์ ณ อยุธยา (ห้องบันทึกเสียงฮัมมิ่ง เฮ้าส์ สตูดิโอ - กรุงเทพ) . ภาพปกพระฉายาสาทิสลักษณ์ วาดโดยศิลปินอาสา : นิติกร กรัยวิเชียร โปสการ์ดภาพพระฉายาสาทิสลักษณ์ จำนวน ๑๐ ภาพ วาดโดยศิลปินอาสา : สุวิทย์ ใจป้อม ปกข้อมูลด้านในภาพพระฉายาสาทิสลักษณ์ วาดโดยศิลปินอาสา : ปันนรัตน์ บวรภัคพาณิช . = ผู้อำนวยการผลิต = พ.ต.อ.ศุภชัชจ์ เปี่ยมมนัส . = ประสานงานโครงการและสื่อประชาสัมพันธ์ = พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล ศรีสง่า อนุรักษ์ ภูมิทรัพย์ . มิวสิคไดเร็คเตอร์ : พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา โปรดิวเซอร์ : รัฐกรณ์ โกมล และ ชาตรี ทับละม่อม บันทึกเสียง : เกรียงไกร กุศลจริยากูล และ รัฐกรณ์ โกมล มิกซ์เสียง : พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา และ รัฐกรณ์ โกมล ประสานงานการผลิต : โอฬาร เนตรหาญ เสนีย์ สอนเย็น และ กฤตภาส สุภาพ . ========================== . ขอขอบพระคุณ ภาพวิดิโอประกอบบทเพลงด้วยความอนุเคราะห์จาก - คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล - โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ - โรงพยาบาลยันฮี - โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ .
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1551 มุมมอง 136 0 รีวิว
  • ระบบล่ม ! รพ.ศิริราชแจ้งระบบคอมพิวเตอร์ล่ม ใช้การไม่ได้บางส่วน งดให้บริการผู้ป่วยที่นัดหมายไว้ได้

    8 สิงหาคม 2567-รายงานข่าวจาก มหาวิทยาลัยมหิดล คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล แจ้งว่า
    ”เรียนผู้รับบริการทุกท่านทราบขณะนี้ระบบคอมพิวเตอร์ของรพ.ศิริราช "ใช้การไม่ได้'ทำให้ไม่สามารถให้บริการผู้ป่วยที่นัดหมายไว้ได้ตามปกติ ทางรพ.กำลังดำเนินแก้ไขอย่างเร่งด่วนและมีความจำเป็นต้องงดให้บริการผู้ป่วยที่นัดหมายไว้ล่วงหน้า และจะแจ้งการนัดหมายใหม่ให้ทราบภายหลัง
    รพ.ศิริราชขออภัยอย่างสูงในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น“

    เหตุขัดข้องทางเทคนิคครั้งใหญ่ซึ่งส่งผลกระทบระบบคอมพิวเตอร์ของ รพ.ศิริราชวันนี้ เคยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่เกิดผลกระทบจากกรณีที่ "CrowdStrike" บริษัทรักษาความปลอดภัยไซเบอร์มีการอัปเดตเนื้อหา จนทำให้ ระบบWindow ของหน่วยงานที่ลง Crowdstrike Sensor ทั่วโลก พบปัญหาจอฟ้า BSOD หลังจากการอัปเดตล่าสุด

    11.23 น.ศิริราชได้แจ้งอัพเดตสถานการณ์ว่า "ไม่มีการรั่วไหล"ของข้อมูลส่วนตัวของผู้ป่วย“ โดยระบุว่า เรียนผู้รับบริการทุกท่านทราบ จากปัญหาของระบบคอมพิวเตอร์ของรพ.ศิริราชในวันนี้
    พบว่าเกิดจากความขัดข้องของระบบบางประการ โดย
    "ไม่มีการรั่วไหล"ของข้อมูลส่วนตัวของผู้ป่วย
    รพ.ศิริราชขอขอบพระคุณผู้รับบริการและผู้ให้ความอนุเคราะห์ ช่วยเผยแพร่ข้อมูล และให้กำลังใจในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ด้วยความชาบซึ้งใจยิ่ง”

    #Thaitime
    ระบบล่ม ! รพ.ศิริราชแจ้งระบบคอมพิวเตอร์ล่ม ใช้การไม่ได้บางส่วน งดให้บริการผู้ป่วยที่นัดหมายไว้ได้ 8 สิงหาคม 2567-รายงานข่าวจาก มหาวิทยาลัยมหิดล คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล แจ้งว่า ”เรียนผู้รับบริการทุกท่านทราบขณะนี้ระบบคอมพิวเตอร์ของรพ.ศิริราช "ใช้การไม่ได้'ทำให้ไม่สามารถให้บริการผู้ป่วยที่นัดหมายไว้ได้ตามปกติ ทางรพ.กำลังดำเนินแก้ไขอย่างเร่งด่วนและมีความจำเป็นต้องงดให้บริการผู้ป่วยที่นัดหมายไว้ล่วงหน้า และจะแจ้งการนัดหมายใหม่ให้ทราบภายหลัง รพ.ศิริราชขออภัยอย่างสูงในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น“ เหตุขัดข้องทางเทคนิคครั้งใหญ่ซึ่งส่งผลกระทบระบบคอมพิวเตอร์ของ รพ.ศิริราชวันนี้ เคยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่เกิดผลกระทบจากกรณีที่ "CrowdStrike" บริษัทรักษาความปลอดภัยไซเบอร์มีการอัปเดตเนื้อหา จนทำให้ ระบบWindow ของหน่วยงานที่ลง Crowdstrike Sensor ทั่วโลก พบปัญหาจอฟ้า BSOD หลังจากการอัปเดตล่าสุด 11.23 น.ศิริราชได้แจ้งอัพเดตสถานการณ์ว่า "ไม่มีการรั่วไหล"ของข้อมูลส่วนตัวของผู้ป่วย“ โดยระบุว่า เรียนผู้รับบริการทุกท่านทราบ จากปัญหาของระบบคอมพิวเตอร์ของรพ.ศิริราชในวันนี้ พบว่าเกิดจากความขัดข้องของระบบบางประการ โดย "ไม่มีการรั่วไหล"ของข้อมูลส่วนตัวของผู้ป่วย รพ.ศิริราชขอขอบพระคุณผู้รับบริการและผู้ให้ความอนุเคราะห์ ช่วยเผยแพร่ข้อมูล และให้กำลังใจในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ด้วยความชาบซึ้งใจยิ่ง” #Thaitime
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 592 มุมมอง 0 รีวิว