รัฐสภาอิหร่านเพิ่งประชุมด่วนวันนี้เพื่ออนุมัติ "ข้อตกลงหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมรอบด้านกับรัสเซีย"
👉ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย และประธานาธิบดีมาซูด เปเซชเคียน ของอิหร่านได้ลงนามในระดับผู้นำประเทศของทั้งสองฝ่ายในสนธิสัญญาความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมรอบด้านเมื่อวันที่17 ม.ค. 2025
👉หลังจากนั้นสภาดูมาของรัสเซีย (สภาผู้แทนราษฎร หรือสภาล่าง) ได้มีมติอนุมัติสนธิสัญญาฉบับดังกล่าวเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2025
👉ต่อมาสภาสหพันธรัฐ (วุฒิสภา หรือสภาสูง) มีมติอนุมัติสนธิสัญญาดังกล่าวเมื่อวันที่ 16 เม.ย. 2025
👉แต่ทางอิหร่านที่นำโดยประธานาธิบดีเปเซชเคียน ไม่มีการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการส่งเรื่องต่อให้รัฐสภาอิหร่านอนุมัติสนธิสัญญาดังกล่าว
👉หลังจากอิหร่านถูกโจมตีจากอิสราเอลมาได้สามวัน จนกระทั่งวันนี้จึงได้มีการนัดประชุมวาระเร่งด่วนเพื่อให้สภาอนุมัติสนธิสัญญาฉบับดังกล่าว
👉หลังการลงนามในระดับผู้นำทั้งสองเมื่อเดือนม.ค. ปธน.ปูตินได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของสนธิสัญญาดังกล่าว ซึ่งระบุถึง “เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่” ในการกระชับความร่วมมือในระยะยาว พร้อมกับเสริมว่าสนธิสัญญาดังกล่าวได้รับการออกแบบมาเพื่อสร้างเงื่อนไขที่มั่นคงสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืนของทั้งสองชาติและของภูมิภาคยูเรเชียทั้งหมด
👉เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวไว้เมื่อเดือนเมษายนว่า “ปัจจัยสำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและอิหร่านคือสนธิสัญญาความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างครอบคลุมระหว่างรัสเซียและอิหร่าน สนธิสัญญาดังกล่าวจะยืนยันความปรารถนาของทั้งสองฝ่ายในการร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้นในด้านการป้องกันประเทศและการโต้ตอบเพื่อผลประโยชน์ของสันติภาพและความมั่นคงในระดับภูมิภาคและระดับโลก”
👉ภายใต้สนธิสัญญาดังกล่าว จะเป็นการกระชับและขยายความสัมพันธ์ในทุก ๆ ด้านที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน ตลอดจนเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศ รวมถึงประสานงานกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลกอย่างใกล้ชิด โดยสอดคล้องกับความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านในระยะยาว
👉ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย และประธานาธิบดีมาซูด เปเซชเคียน ของอิหร่านได้ลงนามในระดับผู้นำประเทศของทั้งสองฝ่ายในสนธิสัญญาความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมรอบด้านเมื่อวันที่17 ม.ค. 2025
👉หลังจากนั้นสภาดูมาของรัสเซีย (สภาผู้แทนราษฎร หรือสภาล่าง) ได้มีมติอนุมัติสนธิสัญญาฉบับดังกล่าวเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2025
👉ต่อมาสภาสหพันธรัฐ (วุฒิสภา หรือสภาสูง) มีมติอนุมัติสนธิสัญญาดังกล่าวเมื่อวันที่ 16 เม.ย. 2025
👉แต่ทางอิหร่านที่นำโดยประธานาธิบดีเปเซชเคียน ไม่มีการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการส่งเรื่องต่อให้รัฐสภาอิหร่านอนุมัติสนธิสัญญาดังกล่าว
👉หลังจากอิหร่านถูกโจมตีจากอิสราเอลมาได้สามวัน จนกระทั่งวันนี้จึงได้มีการนัดประชุมวาระเร่งด่วนเพื่อให้สภาอนุมัติสนธิสัญญาฉบับดังกล่าว
👉หลังการลงนามในระดับผู้นำทั้งสองเมื่อเดือนม.ค. ปธน.ปูตินได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของสนธิสัญญาดังกล่าว ซึ่งระบุถึง “เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่” ในการกระชับความร่วมมือในระยะยาว พร้อมกับเสริมว่าสนธิสัญญาดังกล่าวได้รับการออกแบบมาเพื่อสร้างเงื่อนไขที่มั่นคงสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืนของทั้งสองชาติและของภูมิภาคยูเรเชียทั้งหมด
👉เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวไว้เมื่อเดือนเมษายนว่า “ปัจจัยสำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและอิหร่านคือสนธิสัญญาความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างครอบคลุมระหว่างรัสเซียและอิหร่าน สนธิสัญญาดังกล่าวจะยืนยันความปรารถนาของทั้งสองฝ่ายในการร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้นในด้านการป้องกันประเทศและการโต้ตอบเพื่อผลประโยชน์ของสันติภาพและความมั่นคงในระดับภูมิภาคและระดับโลก”
👉ภายใต้สนธิสัญญาดังกล่าว จะเป็นการกระชับและขยายความสัมพันธ์ในทุก ๆ ด้านที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน ตลอดจนเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศ รวมถึงประสานงานกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลกอย่างใกล้ชิด โดยสอดคล้องกับความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านในระยะยาว
รัฐสภาอิหร่านเพิ่งประชุมด่วนวันนี้เพื่ออนุมัติ "ข้อตกลงหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมรอบด้านกับรัสเซีย"
👉ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย และประธานาธิบดีมาซูด เปเซชเคียน ของอิหร่านได้ลงนามในระดับผู้นำประเทศของทั้งสองฝ่ายในสนธิสัญญาความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมรอบด้านเมื่อวันที่17 ม.ค. 2025
👉หลังจากนั้นสภาดูมาของรัสเซีย (สภาผู้แทนราษฎร หรือสภาล่าง) ได้มีมติอนุมัติสนธิสัญญาฉบับดังกล่าวเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2025
👉ต่อมาสภาสหพันธรัฐ (วุฒิสภา หรือสภาสูง) มีมติอนุมัติสนธิสัญญาดังกล่าวเมื่อวันที่ 16 เม.ย. 2025
👉แต่ทางอิหร่านที่นำโดยประธานาธิบดีเปเซชเคียน ไม่มีการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการส่งเรื่องต่อให้รัฐสภาอิหร่านอนุมัติสนธิสัญญาดังกล่าว
👉หลังจากอิหร่านถูกโจมตีจากอิสราเอลมาได้สามวัน จนกระทั่งวันนี้จึงได้มีการนัดประชุมวาระเร่งด่วนเพื่อให้สภาอนุมัติสนธิสัญญาฉบับดังกล่าว
👉หลังการลงนามในระดับผู้นำทั้งสองเมื่อเดือนม.ค. ปธน.ปูตินได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของสนธิสัญญาดังกล่าว ซึ่งระบุถึง “เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่” ในการกระชับความร่วมมือในระยะยาว พร้อมกับเสริมว่าสนธิสัญญาดังกล่าวได้รับการออกแบบมาเพื่อสร้างเงื่อนไขที่มั่นคงสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืนของทั้งสองชาติและของภูมิภาคยูเรเชียทั้งหมด
👉เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวไว้เมื่อเดือนเมษายนว่า “ปัจจัยสำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและอิหร่านคือสนธิสัญญาความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างครอบคลุมระหว่างรัสเซียและอิหร่าน สนธิสัญญาดังกล่าวจะยืนยันความปรารถนาของทั้งสองฝ่ายในการร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้นในด้านการป้องกันประเทศและการโต้ตอบเพื่อผลประโยชน์ของสันติภาพและความมั่นคงในระดับภูมิภาคและระดับโลก”
👉ภายใต้สนธิสัญญาดังกล่าว จะเป็นการกระชับและขยายความสัมพันธ์ในทุก ๆ ด้านที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน ตลอดจนเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศ รวมถึงประสานงานกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลกอย่างใกล้ชิด โดยสอดคล้องกับความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านในระยะยาว
