• นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” ยุทธการฝูงผึ้ง ”
    ตอนที่ 4
    สำหรับเหตุการณ์ขับไล่รัฐบาลโจรร้าย ตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2556 ถึงปัจจุบัน ICG มีรายงานออกมา 3 ครั้ง
    – ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ค.ศ. 2013 เป็นการรายงานความเคลื่อนไหวของฝ่ายที่ออกมาประท้วงรัฐบาล ใส่ข้อมูลแนวเดียวกับสื่อหัวสี ข้อมูลฟอกย้อมจนขี้เกียจเขียนถึง แค่อ่านก็ออกอาการตึงมือขึ้นมาแล้ว แต่ ICG ยังไม่มีคำวิจารณ์หรือความเห็นเสนอ
    – ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 2013 รายงานระบุว่าวิกฤติทางการเมืองเข้มข้นขึ้น เมื่อฝ่ายประท้วงเรื่องไม่รับกม.นิรโทษกรรม เปลี่ยนเป็นเรียกร้องให้รัฐบาลลาออก และขู่ว่าจะล้มการเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ และมีแผนจะยึดกรุงเทพฯ และขับไล่ระบอบทักษิณแบบขุดรากถอนโคน
    และตั้งสภาประชาชน 400 คน นายสุเทพอดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์แกนนำขู่ว่าจะ shut down กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม ค.ศ. 2014
    ฝ่ายกองทัพไม่ปฏิเสธว่าจะไม่มีการปฏิวัติ แต่ ICG ยังคงไม่มีความเห็นเสนอ
    – ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 13 มกราคม ค.ศ. 2014 ใช้หัวข้อการรายงานว่า Conflict Alert รายงานว่า การประท้วงทำท่าจะก่อให้เกิดความรุนแรง และโอกาสที่จะมีการเจรจาอย่างสันติแทบจะไม่มีเลย และผู้ประท้วงมีแนวโน้ม จะสนับสนุนให้มีการรัฐประหารโดยกองทัพ การประท้วงัไม่ให้มีการเลือกตั้ง ทำให้เห็นชัดถึงทิศทางการเมืองของประเทศไทยว่า จะเป็นแบบรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งโดยชอบ หรือเป็นการบริหารโดยสถาบันที่มีอำนาจอย่างเคย ๆ เช่น สถาบันกษัตริย์ และกองทัพ
    รายงานส่วนอื่น ถ้าไม่บอกว่าเป็นรายงานของ ICG ก็อาจจะเข้าใจผิดได้ว่า อ่านรายงานของสำนักนายกฯ (เอ้ะ ชักสงสัยใครมันเขียนให้ใครกันแน่ ! ?)
    ที่น่าสนใจเป้าหมายของรายงาน ไม่ได้พุ่งไปที่ฝ่ายประท้วงรัฐบาลอย่างเดียว แต่พ่วงเอากองทัพเข้าไปด้วยว่า ความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น เหมือนเป็นการออกแบบให้เกิดการรัฐประหาร ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าจะไม่มี กองทัพได้ทำการรัฐประหารมาแล้ว 18 ครั้ง ตั้งแต่ ค.ศ. 1932 ทั้งสำเร็จและไม่สำเร็จ และใช้กำลังอาวุธกับกลุ่มที่ออกมาแสดงความนิยมประชาธิปไตย เมื่อ ค.ศ. 1973, 1992 และ 2010 แต่ไม่เคยสักครั้งเดียว ที่จะออกมาแทรกแซงเพื่อช่วยรัฐบาลของทักษิณ!
    ICG ตบท้ายรายงานว่า ไม่มีหนทางใดที่จะนำไปสู่ความสันติ ถ้าเส้นทางนั้นไม่เคารพเสียข้างมากของผู้ลงคะแนน พร้อมกับให้คำแนะนำว่า
    – ประชาธิปัตย์ ควรจะกลับไปร่วมในขบวนการเลือกตั้ง
    – กองทัพ ต้องพยายามดูแลเหตุการณ์ความไม่สงบนี้ ตามวิถีประชาธิปไตย และสนับสนุนให้มีการเจรจาระหว่างคู่ขัดแย้ง ทั้ง 2
    – ประเทศไทย จะต้องถึงจุดที่พิจารณาให้ชัดเจนว่า จะบริหารประเทศอย่างไร ซึ่งจำเป็นต้องมีการหารือในระดับชาติ ไม่ใช่เป็นความต้องการของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และจะต้องดำเนินการควบคู่ไปกับการเลือกตั้ง
    (ผมก็ไม่แน่ใจนะครับ ว่าระหว่างรัฐบาลกับ ICG ใครมันสอนให้ใครพูดข้อความข้างต้นเพราะมันเหมือนกันจัง)
    ICG ยังสำทับอีกว่า ถ้าทุกฝ่ายเห็นพ้องกันว่า มีความจำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงความรุนแรง การหารือกันในระดับชาติถึงทางออกจากข้อขัดแย้ง ก็พอมีให้เห็นอย่างจาง ๆ แต่ว่าสำหรับกรุงเทพ ทางเลือกอื่นไม่ได้มีมากนัก ! (เขียนแบบนี้มันมีความหมายพิลึกนะ)
    ขณะนี้เขียนบทความนี้ ยังไม่รู้ว่า ICG จะทำงานได้ตามราคาคุยของนาย Evans แค่ไหน แต่อย่างน้อย พอมองเห็นว่า การทำงานของ ICG แผนก R&D ของนักล่า ได้ผลระดับหนึ่ง ในเรื่องต่อไปนี้
    – รัฐบาลภายใต้การนำของโจรร้าย และน้องสาวแสนโง่ เดินตามคำแนะนำของแผนก R&D ของนักล่า อย่างเคร่งครัด แต่ผลสำเร็จเกิดแค่ไหน คงต้องดูกันต่อไป
    – การพยายามให้โลกเข้าข้างฝ่ายที่ ICG กำลังสนับสนุนอยู่ไม่ว่าการกระทำนั้นจะเลวร้าย ไม่เป็นประชาธิปไตย ฯลฯ ขนาดไหน ได้ผลสูงและทำให้โลกตำหนิติเตียน ตั้งข้อสังเกต กับฝ่ายที่ไม่ได้เป็นตัวเล่นของ ICG จนทำให้เกิดความเข้าใจผิด สับสน งงงวย กับบทบาทและเป้าหมายของตนเองกันเป็นแถว ๆ ก็นับว่าได้ผลไม่น้อยทีเดียว

    คนเล่านิทาน
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” ยุทธการฝูงผึ้ง ” ตอนที่ 4 สำหรับเหตุการณ์ขับไล่รัฐบาลโจรร้าย ตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2556 ถึงปัจจุบัน ICG มีรายงานออกมา 3 ครั้ง – ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ค.ศ. 2013 เป็นการรายงานความเคลื่อนไหวของฝ่ายที่ออกมาประท้วงรัฐบาล ใส่ข้อมูลแนวเดียวกับสื่อหัวสี ข้อมูลฟอกย้อมจนขี้เกียจเขียนถึง แค่อ่านก็ออกอาการตึงมือขึ้นมาแล้ว แต่ ICG ยังไม่มีคำวิจารณ์หรือความเห็นเสนอ – ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 2013 รายงานระบุว่าวิกฤติทางการเมืองเข้มข้นขึ้น เมื่อฝ่ายประท้วงเรื่องไม่รับกม.นิรโทษกรรม เปลี่ยนเป็นเรียกร้องให้รัฐบาลลาออก และขู่ว่าจะล้มการเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ และมีแผนจะยึดกรุงเทพฯ และขับไล่ระบอบทักษิณแบบขุดรากถอนโคน และตั้งสภาประชาชน 400 คน นายสุเทพอดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์แกนนำขู่ว่าจะ shut down กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม ค.ศ. 2014 ฝ่ายกองทัพไม่ปฏิเสธว่าจะไม่มีการปฏิวัติ แต่ ICG ยังคงไม่มีความเห็นเสนอ – ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 13 มกราคม ค.ศ. 2014 ใช้หัวข้อการรายงานว่า Conflict Alert รายงานว่า การประท้วงทำท่าจะก่อให้เกิดความรุนแรง และโอกาสที่จะมีการเจรจาอย่างสันติแทบจะไม่มีเลย และผู้ประท้วงมีแนวโน้ม จะสนับสนุนให้มีการรัฐประหารโดยกองทัพ การประท้วงัไม่ให้มีการเลือกตั้ง ทำให้เห็นชัดถึงทิศทางการเมืองของประเทศไทยว่า จะเป็นแบบรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งโดยชอบ หรือเป็นการบริหารโดยสถาบันที่มีอำนาจอย่างเคย ๆ เช่น สถาบันกษัตริย์ และกองทัพ รายงานส่วนอื่น ถ้าไม่บอกว่าเป็นรายงานของ ICG ก็อาจจะเข้าใจผิดได้ว่า อ่านรายงานของสำนักนายกฯ (เอ้ะ ชักสงสัยใครมันเขียนให้ใครกันแน่ ! ?) ที่น่าสนใจเป้าหมายของรายงาน ไม่ได้พุ่งไปที่ฝ่ายประท้วงรัฐบาลอย่างเดียว แต่พ่วงเอากองทัพเข้าไปด้วยว่า ความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น เหมือนเป็นการออกแบบให้เกิดการรัฐประหาร ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าจะไม่มี กองทัพได้ทำการรัฐประหารมาแล้ว 18 ครั้ง ตั้งแต่ ค.ศ. 1932 ทั้งสำเร็จและไม่สำเร็จ และใช้กำลังอาวุธกับกลุ่มที่ออกมาแสดงความนิยมประชาธิปไตย เมื่อ ค.ศ. 1973, 1992 และ 2010 แต่ไม่เคยสักครั้งเดียว ที่จะออกมาแทรกแซงเพื่อช่วยรัฐบาลของทักษิณ! ICG ตบท้ายรายงานว่า ไม่มีหนทางใดที่จะนำไปสู่ความสันติ ถ้าเส้นทางนั้นไม่เคารพเสียข้างมากของผู้ลงคะแนน พร้อมกับให้คำแนะนำว่า – ประชาธิปัตย์ ควรจะกลับไปร่วมในขบวนการเลือกตั้ง – กองทัพ ต้องพยายามดูแลเหตุการณ์ความไม่สงบนี้ ตามวิถีประชาธิปไตย และสนับสนุนให้มีการเจรจาระหว่างคู่ขัดแย้ง ทั้ง 2 – ประเทศไทย จะต้องถึงจุดที่พิจารณาให้ชัดเจนว่า จะบริหารประเทศอย่างไร ซึ่งจำเป็นต้องมีการหารือในระดับชาติ ไม่ใช่เป็นความต้องการของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และจะต้องดำเนินการควบคู่ไปกับการเลือกตั้ง (ผมก็ไม่แน่ใจนะครับ ว่าระหว่างรัฐบาลกับ ICG ใครมันสอนให้ใครพูดข้อความข้างต้นเพราะมันเหมือนกันจัง) ICG ยังสำทับอีกว่า ถ้าทุกฝ่ายเห็นพ้องกันว่า มีความจำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงความรุนแรง การหารือกันในระดับชาติถึงทางออกจากข้อขัดแย้ง ก็พอมีให้เห็นอย่างจาง ๆ แต่ว่าสำหรับกรุงเทพ ทางเลือกอื่นไม่ได้มีมากนัก ! (เขียนแบบนี้มันมีความหมายพิลึกนะ) ขณะนี้เขียนบทความนี้ ยังไม่รู้ว่า ICG จะทำงานได้ตามราคาคุยของนาย Evans แค่ไหน แต่อย่างน้อย พอมองเห็นว่า การทำงานของ ICG แผนก R&D ของนักล่า ได้ผลระดับหนึ่ง ในเรื่องต่อไปนี้ – รัฐบาลภายใต้การนำของโจรร้าย และน้องสาวแสนโง่ เดินตามคำแนะนำของแผนก R&D ของนักล่า อย่างเคร่งครัด แต่ผลสำเร็จเกิดแค่ไหน คงต้องดูกันต่อไป – การพยายามให้โลกเข้าข้างฝ่ายที่ ICG กำลังสนับสนุนอยู่ไม่ว่าการกระทำนั้นจะเลวร้าย ไม่เป็นประชาธิปไตย ฯลฯ ขนาดไหน ได้ผลสูงและทำให้โลกตำหนิติเตียน ตั้งข้อสังเกต กับฝ่ายที่ไม่ได้เป็นตัวเล่นของ ICG จนทำให้เกิดความเข้าใจผิด สับสน งงงวย กับบทบาทและเป้าหมายของตนเองกันเป็นแถว ๆ ก็นับว่าได้ผลไม่น้อยทีเดียว คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 60 Views 0 Reviews
  • สัมพันธ์ลึก! เพื่อไทย-ประชาชน จับตา "ทักษิณ-ธนาธร" ดีลลับปูทางร่วมรัฐบาล? 'ส้ม' เลือก 'แดง' มองข้ามภูมิใจไทย ชี้ อุดมการณ์ต่างกัน แม้เคยขัดแย้ง แต่ปัจจุบันร่วมงานในสภา 'ส้ม' พร้อมหนุนกฎหมาย 'แดง' สร้างความเชื่อใจ จับตาอนาคต "แนวร่วมประชาธิปไตยแบบใหม่"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000083319

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    สัมพันธ์ลึก! เพื่อไทย-ประชาชน จับตา "ทักษิณ-ธนาธร" ดีลลับปูทางร่วมรัฐบาล? 'ส้ม' เลือก 'แดง' มองข้ามภูมิใจไทย ชี้ อุดมการณ์ต่างกัน แม้เคยขัดแย้ง แต่ปัจจุบันร่วมงานในสภา 'ส้ม' พร้อมหนุนกฎหมาย 'แดง' สร้างความเชื่อใจ จับตาอนาคต "แนวร่วมประชาธิปไตยแบบใหม่" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000083319 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Haha
    4
    0 Comments 0 Shares 230 Views 0 Reviews
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” ยุทธการฝูงผึ้ง ”
    ตอนที่ 3
    กลับมาที่ ICG อย่าเข้าใจผิดว่ารับหน้าที่เป็นเพียงนัก lobby ให้แก่หมาไนเท่านั้น แต่ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการ สำหรับการล่าเหยื่อให้กับกลุ่มทุนอิทธิพล นักล่าอาณานิคมยุคใหม่ (CFR) ในขณะเดียวกันด้วย ทั้งนี้จับความจากคำบอกเล่าของนาย Gareth Evans ผู้เดินอยู่ในถนนการเมืองของแดนจิงโจ้มากกว่า 20 ปี และระหว่างนั้นก็ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีเสียหลายสมัย เมื่อพ้นจากการเป็นรัฐมนตรี ก็เปลี่ยนแนวเข้ามาสู่วงการที่น่าจะทำให้ชีวิตตื่นเต้นไปกว่าเดิม จากการเป็นรัฐมนตรีอยู่ประเทศเดียว มันคงจะไม่มันเท่ากุมชะตาและชักใยหลายประเทศ คุณ Evans
    จึงไปนั่งในตำแหน่งประธานกิติมศักดิ์ของ ICG เสียเกือบ 10 ปี ตั้งแต่ ค.ศ. 2000 – 2009
    จากการแสดงปาฐกถาของคุณ Evans เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ค.ศ. 2012 ซึ่งโฆษณาสรรพคุณ ICG และจากเอกสารขององค์กร ICG เอง ทำให้เข้าใจได้ว่า องค์กรนี้ ตั้งขึ้นมาเพื่อระงับความขัดแย้งอย่างรุนแรงที่เกิดขึ้นในแต่ละประเทศ โดยที่ผู้ขัดแย้งไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธเข้ามา เพื่อแก้ไขความขัดแย้ง (น่าเชื่อถือมาก !) แต่ใช้ วิธีการอื่น (มาแบบนี้อีกแล้ว !)
    ในการแก้ไขข้อขัดแย้งรุนแรงใด พวกเขาจะทำการวิเคราะห์หาสาเหตุ ทำความเข้าใจ อย่างถี่ถ้วนแล้ว และนำมาสร้างแผน แต่อย่าเข้าใจผิดว่าพวกเขาจะเล่นบทออกหน้า พวกเขาจะอยู่หลังฉาก ดังนั้นการทำงานของพวกเขา คือ การให้คำปรึกษา ดูแลช่วยเหลือ จัดฉาก ชักใย ตามแผนที่สร้างไว้อยู่เบื้องหลัง (behind the scene) ให้แก่ผู้มีบทบาทต้องเล่นหน้าฉาก โดยมีตัวประกอบเป็นนักการเมือง นักการทหาร นัก lobby นักสังคมฯ นักสิทธิมนุษยชน สื่อสารมวลชน นักวิชาการ นักจิตวิทยา และที่สำคัญคือประชาชนของทุกท้องที่ของความขัดแย้งนั่นเอง ดังนั้นข่าวของ ICG ที่เราจะเห็นออกมากับการทำงานของเขา มันคงจะดูยากอยู่ แต่คงไม่ยากเกินการทำความเข้าใจ
    คุณ Evans เป็นคนช่างเล่าจริง แกบอกว่า ICG สามารถจะอ้างความดีความชอบ ได้ใน หลาย ๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกนี้ เช่น
    – การวิเคราะห์และวางแผน การแก้ไขเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ปากีสถาน, ที่คองโก, ที่ไฮติ
    – การแก้ไขเหตุการณ์ในเขมร, อาฟริกากลาง,บอลข่าน, อีรัคตอนเหนือ, ขบวนการเคลื่อนไหวของ Jemaah Islamiyah ในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้, ที่ Darfur (ค.ศ. 2003 – 2004) ที่ Ethiopia (ค.ศ. 2007) ที่ Kenya (ค.ศ. 2008)
    นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่คุณ Evans คุยฟุ้งว่าอยู่ในแผนที่กำลังดำเนินการ เช่น แนวคิดที่จะผ่อนคลาย การคว่ำบาตรของอิหร่านและพม่า สำหรับรายการหลังนี้ แกเล่าแบบไม่เหนียมอายว่า โลกฝั่งตะวันตก พยายามอย่างยิ่งที่จะเข้าไปช่วย พม่าเปิดประตูเมือง ยกเลิกการคว่ำบาตร เพื่อแลกกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเมืองของพม่า (ต้มตุ๋น ของแท้ !)
    แล้วสำหรับไทยแลนด์ของสมันน้อยล่ะ สถาบัน ICG นักล่าคิดอย่างไรกับเรา ? เมื่อเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ เมื่อช่วงปี ค.ศ. 2010 ที่พี่น้องเสื้อแดงพากัน พกน้ำมันมาคนละขวดกับไม้ขีดไฟอย่างใจถึง ๆ มาตั้งแคมป์กลางเมืองน่ะ ICG ระบุในรายงานเมื่อวันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 2010 ว่า การเมืองไทยล้มเหลว และไม่อยู่ในสภาพที่จะกู้กลับ สถานการณ์เลวร้าย จะนำไปสูสงครามกลางเมือง ถึงเวลาแล้วที่ Thailand จะต้องคิดขอความช่วยเหลือจากนานาอารยะประเทศ
    (มาแล้วไง!) สิ่งที่ Thailand ควรทำด่วน คือ ตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจประกอบด้วย บุคคลจากนานาชาติ ที่มีความสามารถและมีประสบการณ์เกี่ยวกับประเทศไทย มาทำหน้าที่เป็นคนกลาง ระหว่างรัฐบาล (ปชป) กับกลุ่มเสื้อแดง เพื่อป้องกันเหตุรุนแรง เช่น ยุติการปฏิบัติงานของทหาร การประท้วงควรเหลือเพียงการทำในเชิงสัญลักษณ์ คณะบุคคลนานาชาตินี้ จะทำหน้าที่จัดการให้มีรัฐบาลชั่วคราวเพื่อเตรียมการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด ผู้นำรัฐบาลควรมาจากรัฐสภา และควรจะประกอบด้วย ผู้ที่เป็นกลางและได้รับความนับถือจากสังคม (ใครหนอ?) และจะต้องมีการสอบสวนถึงกรณีปฏิบัติการ 10 เม.ย ระหว่างทหารกับกลุ่มเสื้อแดงที่มาประท้วงแถวบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
    และเมื่อทุกอย่างเริ่มเข้ารูปแล้ว สิ่งที่ควรจะรีบดำเนินการ คือแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับเดิม ซึ่งร่างขึ้นโดยอิทธิพลของทหาร
    ท่านผู้อ่านที่มีญาติเป็นทหาร ช่วยเอาไปให้อ่านตอนนี้หน่อยนะครับ เพื่อจะเข้าใจอะไรมากขึ้น และโปรดพิจารณากันเองแล้วกันว่า ข้อเสนอของ ICG มันน่าสรรเสริญเพียงใด และมีฝ่ายใดดำเนินการตามบ้าง มันคงมีการเข้าใจกันผิด ว่าราชอาณาจักรไทยของเรา ตกอยู่ในอาณัติของผู้ใดไปแล้ว !


    คนเล่านิทาน
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” ยุทธการฝูงผึ้ง ” ตอนที่ 3 กลับมาที่ ICG อย่าเข้าใจผิดว่ารับหน้าที่เป็นเพียงนัก lobby ให้แก่หมาไนเท่านั้น แต่ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการ สำหรับการล่าเหยื่อให้กับกลุ่มทุนอิทธิพล นักล่าอาณานิคมยุคใหม่ (CFR) ในขณะเดียวกันด้วย ทั้งนี้จับความจากคำบอกเล่าของนาย Gareth Evans ผู้เดินอยู่ในถนนการเมืองของแดนจิงโจ้มากกว่า 20 ปี และระหว่างนั้นก็ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีเสียหลายสมัย เมื่อพ้นจากการเป็นรัฐมนตรี ก็เปลี่ยนแนวเข้ามาสู่วงการที่น่าจะทำให้ชีวิตตื่นเต้นไปกว่าเดิม จากการเป็นรัฐมนตรีอยู่ประเทศเดียว มันคงจะไม่มันเท่ากุมชะตาและชักใยหลายประเทศ คุณ Evans จึงไปนั่งในตำแหน่งประธานกิติมศักดิ์ของ ICG เสียเกือบ 10 ปี ตั้งแต่ ค.ศ. 2000 – 2009 จากการแสดงปาฐกถาของคุณ Evans เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ค.ศ. 2012 ซึ่งโฆษณาสรรพคุณ ICG และจากเอกสารขององค์กร ICG เอง ทำให้เข้าใจได้ว่า องค์กรนี้ ตั้งขึ้นมาเพื่อระงับความขัดแย้งอย่างรุนแรงที่เกิดขึ้นในแต่ละประเทศ โดยที่ผู้ขัดแย้งไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธเข้ามา เพื่อแก้ไขความขัดแย้ง (น่าเชื่อถือมาก !) แต่ใช้ วิธีการอื่น (มาแบบนี้อีกแล้ว !) ในการแก้ไขข้อขัดแย้งรุนแรงใด พวกเขาจะทำการวิเคราะห์หาสาเหตุ ทำความเข้าใจ อย่างถี่ถ้วนแล้ว และนำมาสร้างแผน แต่อย่าเข้าใจผิดว่าพวกเขาจะเล่นบทออกหน้า พวกเขาจะอยู่หลังฉาก ดังนั้นการทำงานของพวกเขา คือ การให้คำปรึกษา ดูแลช่วยเหลือ จัดฉาก ชักใย ตามแผนที่สร้างไว้อยู่เบื้องหลัง (behind the scene) ให้แก่ผู้มีบทบาทต้องเล่นหน้าฉาก โดยมีตัวประกอบเป็นนักการเมือง นักการทหาร นัก lobby นักสังคมฯ นักสิทธิมนุษยชน สื่อสารมวลชน นักวิชาการ นักจิตวิทยา และที่สำคัญคือประชาชนของทุกท้องที่ของความขัดแย้งนั่นเอง ดังนั้นข่าวของ ICG ที่เราจะเห็นออกมากับการทำงานของเขา มันคงจะดูยากอยู่ แต่คงไม่ยากเกินการทำความเข้าใจ คุณ Evans เป็นคนช่างเล่าจริง แกบอกว่า ICG สามารถจะอ้างความดีความชอบ ได้ใน หลาย ๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกนี้ เช่น – การวิเคราะห์และวางแผน การแก้ไขเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ปากีสถาน, ที่คองโก, ที่ไฮติ – การแก้ไขเหตุการณ์ในเขมร, อาฟริกากลาง,บอลข่าน, อีรัคตอนเหนือ, ขบวนการเคลื่อนไหวของ Jemaah Islamiyah ในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้, ที่ Darfur (ค.ศ. 2003 – 2004) ที่ Ethiopia (ค.ศ. 2007) ที่ Kenya (ค.ศ. 2008) นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่คุณ Evans คุยฟุ้งว่าอยู่ในแผนที่กำลังดำเนินการ เช่น แนวคิดที่จะผ่อนคลาย การคว่ำบาตรของอิหร่านและพม่า สำหรับรายการหลังนี้ แกเล่าแบบไม่เหนียมอายว่า โลกฝั่งตะวันตก พยายามอย่างยิ่งที่จะเข้าไปช่วย พม่าเปิดประตูเมือง ยกเลิกการคว่ำบาตร เพื่อแลกกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเมืองของพม่า (ต้มตุ๋น ของแท้ !) แล้วสำหรับไทยแลนด์ของสมันน้อยล่ะ สถาบัน ICG นักล่าคิดอย่างไรกับเรา ? เมื่อเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ เมื่อช่วงปี ค.ศ. 2010 ที่พี่น้องเสื้อแดงพากัน พกน้ำมันมาคนละขวดกับไม้ขีดไฟอย่างใจถึง ๆ มาตั้งแคมป์กลางเมืองน่ะ ICG ระบุในรายงานเมื่อวันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 2010 ว่า การเมืองไทยล้มเหลว และไม่อยู่ในสภาพที่จะกู้กลับ สถานการณ์เลวร้าย จะนำไปสูสงครามกลางเมือง ถึงเวลาแล้วที่ Thailand จะต้องคิดขอความช่วยเหลือจากนานาอารยะประเทศ (มาแล้วไง!) สิ่งที่ Thailand ควรทำด่วน คือ ตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจประกอบด้วย บุคคลจากนานาชาติ ที่มีความสามารถและมีประสบการณ์เกี่ยวกับประเทศไทย มาทำหน้าที่เป็นคนกลาง ระหว่างรัฐบาล (ปชป) กับกลุ่มเสื้อแดง เพื่อป้องกันเหตุรุนแรง เช่น ยุติการปฏิบัติงานของทหาร การประท้วงควรเหลือเพียงการทำในเชิงสัญลักษณ์ คณะบุคคลนานาชาตินี้ จะทำหน้าที่จัดการให้มีรัฐบาลชั่วคราวเพื่อเตรียมการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด ผู้นำรัฐบาลควรมาจากรัฐสภา และควรจะประกอบด้วย ผู้ที่เป็นกลางและได้รับความนับถือจากสังคม (ใครหนอ?) และจะต้องมีการสอบสวนถึงกรณีปฏิบัติการ 10 เม.ย ระหว่างทหารกับกลุ่มเสื้อแดงที่มาประท้วงแถวบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และเมื่อทุกอย่างเริ่มเข้ารูปแล้ว สิ่งที่ควรจะรีบดำเนินการ คือแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับเดิม ซึ่งร่างขึ้นโดยอิทธิพลของทหาร ท่านผู้อ่านที่มีญาติเป็นทหาร ช่วยเอาไปให้อ่านตอนนี้หน่อยนะครับ เพื่อจะเข้าใจอะไรมากขึ้น และโปรดพิจารณากันเองแล้วกันว่า ข้อเสนอของ ICG มันน่าสรรเสริญเพียงใด และมีฝ่ายใดดำเนินการตามบ้าง มันคงมีการเข้าใจกันผิด ว่าราชอาณาจักรไทยของเรา ตกอยู่ในอาณัติของผู้ใดไปแล้ว ! คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 139 Views 0 Reviews
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” ยุทธการฝูงผึ้ง ”
    ตอนที่ 2
    อย่าลืมเป้าหมายของนักล่า สำหรับศตวรรษใหม่ คือ Eurasia, ไทยแลนด์ของสมันน้อย แม้จะเป็นประเทศเล็ก แต่สถานที่ตั้งอยู่ในภูมิประเทศเหมาะเจาะ แถมยังมีทรัพยากรเหลืออื้อ โดยพวกสมันน้อยไม่มีปัญญา หรือไม่รู้จักดูแลเก็บไว้ให้ลูกหลานใช้ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้นักล่าน้ำลายหก เวลาเอ่ยชื่อสมันน้อยหรือ มันน่าหม่ำออกยังงั้น อย่า อย่าเข้าใจผิดว่าพูดถึงนางสาวแสนโง่ คนนั้น คนละเรื่องกันครับ !
    นักล่าได้พยายามหาทาง เจาะเข้ามาดินแดนของสมันน้อย หลังจากทอดทิ้งไปหลังสงครามเวียตนาม มาเข้าทาง เมื่อหมาไน เห็นผิดเป็นชอบ วิ่งเข้าไปซบกลุ่มนักล่า นึกว่าเขาจะช่วยให้ตนกลับเข้าสู่อำนาจ แน่นอนนักล่าโอบอุ้มไว้ เอาไว้ใช้เป็นหมาก เข้าสู่อาหารจานใหญ่กว่า ที่นักล่าจะกินโดยไม่มีหมาไนมาขอแบ่ง ขบวนการ มันซับซ้อน จดจำไว้ นักล่าไม่เคยคิด หรือวางแผนแบบจอแบนมิติเดียว และไม่เคยเล่นไพ่ใบเดียว หรือหมากตัวเดียว
    นักล่าโอบอุ้มหมาไน ขบวนการโลกล้อมประเทศ หมาไนต้องการหรือ จัดให้ (โดยหมาไนต้องจ่ายเงินก้อนโต ฉลาดสมคำลือ) นึกว่าเพื่อประโยชน์โดด ๆ ของหมาไนหรือ คิดให้ดี ! เมื่อถึงเวลาอันควร ปฏิบัติการฝูงผึ้ง swarming ก็เกิดขึ้น
    ปฏิบัติการฝูงผึ้งออกแบบมา เพื่อให้องค์กรดอกเห็ดทำงาน องค์กรพวกนี้ หน้าฉากเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร (NGO) แต่แท้จริงแล้ว องค์กรเหล่านี้เกือบทั้งหมด ถูกตั้งขึ้นและได้รับเงินทุนสนับสนุนจากรัฐบาลอเมริกัน หรือผู้ทรงอิทธิพล CFR หรือบุคคลที่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง
    เช่น George Soros หรือบรรดาบรรษัทข้ามชาติที่เป็นเครือข่ายของ CFR ทั้งสิ้น องค์กรดอกเห็ดที่มาเดินกันพล่านแถวบ้านเราที่ออกมาล่อ ให้ฝูงผึ้งปั่นป่วนเช่น !
    – National Endowment for Democracy (NED)
    – The International Republican Institute (IRI)
    – National Democratic Institute (NDI)
    – Gene Sharp Albert Einstein Institute (AEI)
    – International Center on Nonviolent Conflict (ICNC)
    – Freedom House
    – International Crisis Group (ICG)
    เป็นต้น
    ทฤษฎีฝูงผึ้ง (swarming) เป็นทฤษฎีที่ Rand Corporation ซึ่งเป็นองค์กรที่เป็นมันสมอง (Think Tank) ของฝ่ายกองทัพอเมริกัน คิดขึ้นเมื่อ ค.ศ. 2000 อันที่จริงทฤษฎีนี้ คิดขึ้นมาเพื่อวางรูปแบบการรบ การจัดตั้งกองกำลัง และวางแผนโจมตีหรือรับมือข้าศึก แต่ต่อมาได้มีการนำมาใช้ในด้านปฏิบัติการทางสังคม และโลกของ social media
    swarming มีส่วนอย่างมากที่ทำให้ Arab Spring ก่อตัวได้อย่างรวดเร็วและกว้างขวาง เขาทำกันอย่างไร
    เขาใช้วิธีการของทำงานของฝูงผึ้งเป็นรูปแบบ โดยการสร้างขบวนการนำทางความคิดขึ้นมาก่อน (หัวเชื้อ) หลังจากนั้นขบวนการทางสื่อจะช่วยโหม ประโคม แล้วความไม่สงบก็เกิดขึ้น
    ขั้นตอนดูเหมือนง่าย ๆ แต่การจะทำให้เกิดเป็นรูปธรรม ต้องใช้ศักยภาพและเวลา ในการสร้างกลุ่มคนให้ไปตามทิศทางที่ต้องการ ดังนั้นการนำแสดงคงไม่พ้น นักการเมือง นักวิชาการ นักเคลื่อนไหว และนักสื่อสารมวลชน
    เมื่อการทำงานภายใต้ทฤษฏี ล่อฝูงผึ้ง ไปในทิศทางที่ต้องการแล้ว ขบวนการทำให้ ผึ้งแตกรัง ก็ตามมา องค์กร เช่น Gene Sharp Albert Einstein Institute, Open Society Foundation พวกนี้จะมีส่วนสำคัญในการทำให้ผึ้งแตกรัง
    Gene Sharp เป็นผู้ที่น่าสนใจศึกษา เขาเป็นผู้ก่อตั้ง Albert Einstein Institute เป็นผู้ชำนาญด้านภูมิศาสตร์การเมือง ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้รับรางวัลโนเบล ด้านสันติภาพ ถึง 3 ครั้ง (มาอีกแล้ว พวกรางวัลโนเบล !) เขาเขียนหนังสือเรื่อง วิธีก่อการปฏิวัติ How to start a Revolution หนังสือเล่มนี้ อ้างกันว่าเหมือนเป็นคัมภีร์ของการปฏิวัติรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ ในกลุ่มพวก Arab Spring จะพกติดตัวกันเลย ปี ค.ศ. 2011 มีคนเอาเรื่องของเขาไปทำหนังสารคดีชื่อ How to Start a Revolution เป็นหนังสารคดีที่ได้รางวัล เขาเล่าว่าเหตุการณ์ประท้วงของผู้ต้องการประชาธิปไตยในพม่า ก็เป็นการ ช่วยเหลือ ของกลุ่มเขา รวมทั้งเหตุการณ์ในประเทศไทย ธิเบต Latvia Lithonia Estonia Belarus และSerbia ก็ฝีมือพวกเขาทั้งนั้น นาย Gene Sharp จะเป็นผู้คิดแผน ส่วนผู้ปฏิบัติการมือขวาของเขา ชื่อนาย Peter Ackerman ซึ่งต่อมาในปี ค.ศ. 2002 ได้ก่อตั้ง International Center for Non Violent Conflict (ICNC) และ ICNC นี้เอง เป็นผู้ให้การฝึกอบรมแก่ activist ชาวอียิปต์และตูนีเซีย
    เขาเล่าในหนังสือ How to Start a Revolution ว่า พวกคุณ นึกหรือว่า Arab Spring มันจะเกิดขึ้นมาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวแบบนั้น มันได้มีการออกแบบ วางแผน และอบรมกันล่วงหน้า 2 ปี ก่อนหน้าเหตุการณ์แล้ว.. เกือบลืมบอกไป นาย Peter Ackerman นั้นเป็น CFR ครับ

    คนเล่านิทาน
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” ยุทธการฝูงผึ้ง ” ตอนที่ 2 อย่าลืมเป้าหมายของนักล่า สำหรับศตวรรษใหม่ คือ Eurasia, ไทยแลนด์ของสมันน้อย แม้จะเป็นประเทศเล็ก แต่สถานที่ตั้งอยู่ในภูมิประเทศเหมาะเจาะ แถมยังมีทรัพยากรเหลืออื้อ โดยพวกสมันน้อยไม่มีปัญญา หรือไม่รู้จักดูแลเก็บไว้ให้ลูกหลานใช้ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้นักล่าน้ำลายหก เวลาเอ่ยชื่อสมันน้อยหรือ มันน่าหม่ำออกยังงั้น อย่า อย่าเข้าใจผิดว่าพูดถึงนางสาวแสนโง่ คนนั้น คนละเรื่องกันครับ ! นักล่าได้พยายามหาทาง เจาะเข้ามาดินแดนของสมันน้อย หลังจากทอดทิ้งไปหลังสงครามเวียตนาม มาเข้าทาง เมื่อหมาไน เห็นผิดเป็นชอบ วิ่งเข้าไปซบกลุ่มนักล่า นึกว่าเขาจะช่วยให้ตนกลับเข้าสู่อำนาจ แน่นอนนักล่าโอบอุ้มไว้ เอาไว้ใช้เป็นหมาก เข้าสู่อาหารจานใหญ่กว่า ที่นักล่าจะกินโดยไม่มีหมาไนมาขอแบ่ง ขบวนการ มันซับซ้อน จดจำไว้ นักล่าไม่เคยคิด หรือวางแผนแบบจอแบนมิติเดียว และไม่เคยเล่นไพ่ใบเดียว หรือหมากตัวเดียว นักล่าโอบอุ้มหมาไน ขบวนการโลกล้อมประเทศ หมาไนต้องการหรือ จัดให้ (โดยหมาไนต้องจ่ายเงินก้อนโต ฉลาดสมคำลือ) นึกว่าเพื่อประโยชน์โดด ๆ ของหมาไนหรือ คิดให้ดี ! เมื่อถึงเวลาอันควร ปฏิบัติการฝูงผึ้ง swarming ก็เกิดขึ้น ปฏิบัติการฝูงผึ้งออกแบบมา เพื่อให้องค์กรดอกเห็ดทำงาน องค์กรพวกนี้ หน้าฉากเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร (NGO) แต่แท้จริงแล้ว องค์กรเหล่านี้เกือบทั้งหมด ถูกตั้งขึ้นและได้รับเงินทุนสนับสนุนจากรัฐบาลอเมริกัน หรือผู้ทรงอิทธิพล CFR หรือบุคคลที่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง เช่น George Soros หรือบรรดาบรรษัทข้ามชาติที่เป็นเครือข่ายของ CFR ทั้งสิ้น องค์กรดอกเห็ดที่มาเดินกันพล่านแถวบ้านเราที่ออกมาล่อ ให้ฝูงผึ้งปั่นป่วนเช่น ! – National Endowment for Democracy (NED) – The International Republican Institute (IRI) – National Democratic Institute (NDI) – Gene Sharp Albert Einstein Institute (AEI) – International Center on Nonviolent Conflict (ICNC) – Freedom House – International Crisis Group (ICG) เป็นต้น ทฤษฎีฝูงผึ้ง (swarming) เป็นทฤษฎีที่ Rand Corporation ซึ่งเป็นองค์กรที่เป็นมันสมอง (Think Tank) ของฝ่ายกองทัพอเมริกัน คิดขึ้นเมื่อ ค.ศ. 2000 อันที่จริงทฤษฎีนี้ คิดขึ้นมาเพื่อวางรูปแบบการรบ การจัดตั้งกองกำลัง และวางแผนโจมตีหรือรับมือข้าศึก แต่ต่อมาได้มีการนำมาใช้ในด้านปฏิบัติการทางสังคม และโลกของ social media swarming มีส่วนอย่างมากที่ทำให้ Arab Spring ก่อตัวได้อย่างรวดเร็วและกว้างขวาง เขาทำกันอย่างไร เขาใช้วิธีการของทำงานของฝูงผึ้งเป็นรูปแบบ โดยการสร้างขบวนการนำทางความคิดขึ้นมาก่อน (หัวเชื้อ) หลังจากนั้นขบวนการทางสื่อจะช่วยโหม ประโคม แล้วความไม่สงบก็เกิดขึ้น ขั้นตอนดูเหมือนง่าย ๆ แต่การจะทำให้เกิดเป็นรูปธรรม ต้องใช้ศักยภาพและเวลา ในการสร้างกลุ่มคนให้ไปตามทิศทางที่ต้องการ ดังนั้นการนำแสดงคงไม่พ้น นักการเมือง นักวิชาการ นักเคลื่อนไหว และนักสื่อสารมวลชน เมื่อการทำงานภายใต้ทฤษฏี ล่อฝูงผึ้ง ไปในทิศทางที่ต้องการแล้ว ขบวนการทำให้ ผึ้งแตกรัง ก็ตามมา องค์กร เช่น Gene Sharp Albert Einstein Institute, Open Society Foundation พวกนี้จะมีส่วนสำคัญในการทำให้ผึ้งแตกรัง Gene Sharp เป็นผู้ที่น่าสนใจศึกษา เขาเป็นผู้ก่อตั้ง Albert Einstein Institute เป็นผู้ชำนาญด้านภูมิศาสตร์การเมือง ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้รับรางวัลโนเบล ด้านสันติภาพ ถึง 3 ครั้ง (มาอีกแล้ว พวกรางวัลโนเบล !) เขาเขียนหนังสือเรื่อง วิธีก่อการปฏิวัติ How to start a Revolution หนังสือเล่มนี้ อ้างกันว่าเหมือนเป็นคัมภีร์ของการปฏิวัติรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ ในกลุ่มพวก Arab Spring จะพกติดตัวกันเลย ปี ค.ศ. 2011 มีคนเอาเรื่องของเขาไปทำหนังสารคดีชื่อ How to Start a Revolution เป็นหนังสารคดีที่ได้รางวัล เขาเล่าว่าเหตุการณ์ประท้วงของผู้ต้องการประชาธิปไตยในพม่า ก็เป็นการ ช่วยเหลือ ของกลุ่มเขา รวมทั้งเหตุการณ์ในประเทศไทย ธิเบต Latvia Lithonia Estonia Belarus และSerbia ก็ฝีมือพวกเขาทั้งนั้น นาย Gene Sharp จะเป็นผู้คิดแผน ส่วนผู้ปฏิบัติการมือขวาของเขา ชื่อนาย Peter Ackerman ซึ่งต่อมาในปี ค.ศ. 2002 ได้ก่อตั้ง International Center for Non Violent Conflict (ICNC) และ ICNC นี้เอง เป็นผู้ให้การฝึกอบรมแก่ activist ชาวอียิปต์และตูนีเซีย เขาเล่าในหนังสือ How to Start a Revolution ว่า พวกคุณ นึกหรือว่า Arab Spring มันจะเกิดขึ้นมาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวแบบนั้น มันได้มีการออกแบบ วางแผน และอบรมกันล่วงหน้า 2 ปี ก่อนหน้าเหตุการณ์แล้ว.. เกือบลืมบอกไป นาย Peter Ackerman นั้นเป็น CFR ครับ คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 138 Views 0 Reviews
  • พลทหาร,ประชาชนคนไทยเราถูกทำให้ยากจนดักดาน,สงครามนี้ก็เพื่อปล้นบ่อน้ำมันในอ่าวไทยเราอย่างชอบธรรม,อเมริกาและฝรั่งเศสคือหัวเรือใหญ่ชอบปล้นชิงทรัพยากรชาติอื่นๆไปทั่วโลก,ทำให้ประชาชนในชาตินั้นๆยากจนขึ้น มันร่วมมือกับการปกครองชัดเจน,เรา..ประชาชนสมควรถวายคืนพระราชอำนาจการปกครองแก่ประมุขเราก่อน ให้ประมุขเราสร้างระบบประชาธิปไตยสไตล์ไทยให้ลงตัวก่อน จึงให้มีการเลือกตั้งใหม่ดีที่สุด.

    https://youtube.com/shorts/XKba4bhRNBo?si=NTk0tlfcP2v-7VtC
    พลทหาร,ประชาชนคนไทยเราถูกทำให้ยากจนดักดาน,สงครามนี้ก็เพื่อปล้นบ่อน้ำมันในอ่าวไทยเราอย่างชอบธรรม,อเมริกาและฝรั่งเศสคือหัวเรือใหญ่ชอบปล้นชิงทรัพยากรชาติอื่นๆไปทั่วโลก,ทำให้ประชาชนในชาตินั้นๆยากจนขึ้น มันร่วมมือกับการปกครองชัดเจน,เรา..ประชาชนสมควรถวายคืนพระราชอำนาจการปกครองแก่ประมุขเราก่อน ให้ประมุขเราสร้างระบบประชาธิปไตยสไตล์ไทยให้ลงตัวก่อน จึงให้มีการเลือกตั้งใหม่ดีที่สุด. https://youtube.com/shorts/XKba4bhRNBo?si=NTk0tlfcP2v-7VtC
    0 Comments 0 Shares 65 Views 0 Reviews
  • มายากลยุทธ ภาค 2 ตอน บทส่งท้าย

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” มายากลยุทธ ”
    บทส่งท้าย
    ไม่นานหลังจาก George Bush ได้ประกาศว่าเราจะจัดระเบียบโลกใหม่ ในปี ค.ศ. 1991 ยุทธศาสตร์ของอเมริกาที่ทยอยออกมา ก็แสดงให้เห็นถึงทิศทางเดินของอเมริกาชัดเจนขึ้น ใบประกาศหมายเลข 1 ออกมาเมื่อ ค.ศ. 1992 Defense Planning Guidance เกี่ยวกับการวางแผนด้านกองกำลังของอเมริกา เพื่อให้แน่ใจ (กับใครบ้าง?) ว่า จะไม่มีใครกล้าถลามาเป็นคู่แข่งกับอเมริกาในยุโรปตะวันตก เอเซีย หรือ บริเวณที่เคยเป็นสหภาพโซเวียตเดิม เอกสารนี้ระบุชัดเจนว่า โลกใบนี้ไม่มีใครจะมามีอำนาจเหนืออเมริกาอีกแล้ว
    ผู้ที่เป็นมันสมองในการจัดทำเอกสารนี้คือ นาย Paul Wolfowitz ซึ่งขณะนั้นรับตำแหน่งเลขาธิการด้านความมั่นคงอยู่ที่ Pentagon และต่อมาเขาได้เลื่อนเป็นผู้ช่วยรมว.กลาโหม ในสมัยรัฐบาล Bush ตัวพ่อนั่นแหละ หลังจากนั้นก็มารับตำแหน่งประธานธนาคารโลก World Bank นาย Wolf นี้เป็นสมาชิกของ Bilderberg Group, Trilateral Commission และ Council on Foreign Relations (ครบชุด 3 สถาบันผู้ทรงอิทธิพล) ปัจจุบันประจำการอยู่ที่ American Enterprise Institute ซึ่งเป็น think tank สำคัญสำหรับผู้ไม่ประสงค์จะเปิดเผยตัว
    ส่วนสำคัญของเอกสารดังกล่าว เน้นว่าการจัดระเบียบโลกใหม่ ในด้านของกองกำลังของอเมริกา จะต้องปฏิบัติการได้ เมื่อจำเป็น โดยไม่ต้องพึ่งพาหรือเล่นเป็นวงกับใคร พูดง่าย ๆ เป็นพระเอกแสดงเดี่ยว ก็ต้องเอาโลกนี้อยู่ในมือได้
    ในประดานักเลงคนละค่าย ที่จะทำให้อเมริกาคันไม้คันมือ นอกเหนือจากอิรัคและเกาหลีเหนือเจ้าประจำแล้ว ผู้ที่อเมริกาจะต้องจับตาแบบมองแบบไม่กระพริบ คือ จีนและรัสเซีย
    เมื่อ Bill Clinton เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี ต่อจาก Bush ตัวพ่อในปี ค.ศ. 1993 สายเหยี่ยวของอเมริกาไม่ได้หุบปีก แต่กลับสยายมากขึ้น ถึงกับคิด Project for New American Century หรือ PNAC อันโด่งดัง ในปี ค.ศ. 2000 เขาได้เสนอรายงาน ชื่อ Rebuilding America’s Defenses : Strategy For Us and Resources for a New Century เป็นการวางแผนสำหรับการขยับขยาย เปลี่ยนรูปแบบของกองกำลังของอเมริกา เพื่อเตรียมตัวสำหรับการเข้าสู่ทรัพยากร และการสงครามในทุกสมรภูมิ ไม่ว่าใหญ่ระดับโลก หรือเล็กระดับประเทศ
    แต่ที่น่าสนใจคือนาย Zbigniew Brzezinski (หวังว่าคงจำชื่อนี้กันได้) ผู้ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของ Trilatleral Commission ให้กับนายโคตรรวย David Rockefeller รวมทั้งเป็นสมาชิก Bilderberg Group และอยู่ในคณะกรรมการของ Amnesty International และ National Endowment for Democracy (ถ้าไม่รู้จักสถาบันหลังนี้ ลองไปถามอาจารย์แถวท่าพระจันทร์ดูได้นะครับ) รวมทั้งเป็น trustee และที่ปรึกษาของ Center for Strategic and International Studies (CSIS) ที่โด่งดังในการเป็นมันสมอง ในการวางนโยบายด้านความมั่นคงระดับสูงให้แก่อเมริกา นาย Brzenzinski นี้ ถือว่าเป็น 1 ให้ผู้กุมชะตาโลก เพราะเขามีอิทธิพลต่อความคิดของพวกนักเล่นกล ผู้มีบารมีเหนือประชาธิปไตยของอเมริกาอย่างยิ่ง ในหนังสือของเขาชื่อ The Grand Chessboard ที่ออกมาเมื่อ ปี ค.ศ. 1997 บอกว่าสำหรับอเมริกาในอนาคต จงมองไปที่ Eurasia สำหรับอีก 50 ปีข้างหน้า ความเป็นไปของโลก มันจะเริ่มหรือเกี่ยวกับพื้นที่บริเวณ Eurasia นี้แหละ ใครที่ควบคุม Eurasia ได้ ก็เหมือนกับจะควบคุมชะตาโลกได้ปริยาย และนับตั้งแต่นั้นมา นโยบายของอเมริกาก็ดูเหมือนจะไปในทิศทาง ตามที่เข็มทิศยี่ห้อนาย Bzenzinski ชี้ทางเอาไว้ทั้งสิ้น เช่นเดียวกัน กับคำพูดของนาย Kissinger เมื่อเกือบ 50 ปีก่อน


    คนเล่านิทาน
    มายากลยุทธ ภาค 2 ตอน บทส่งท้าย นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” มายากลยุทธ ” บทส่งท้าย ไม่นานหลังจาก George Bush ได้ประกาศว่าเราจะจัดระเบียบโลกใหม่ ในปี ค.ศ. 1991 ยุทธศาสตร์ของอเมริกาที่ทยอยออกมา ก็แสดงให้เห็นถึงทิศทางเดินของอเมริกาชัดเจนขึ้น ใบประกาศหมายเลข 1 ออกมาเมื่อ ค.ศ. 1992 Defense Planning Guidance เกี่ยวกับการวางแผนด้านกองกำลังของอเมริกา เพื่อให้แน่ใจ (กับใครบ้าง?) ว่า จะไม่มีใครกล้าถลามาเป็นคู่แข่งกับอเมริกาในยุโรปตะวันตก เอเซีย หรือ บริเวณที่เคยเป็นสหภาพโซเวียตเดิม เอกสารนี้ระบุชัดเจนว่า โลกใบนี้ไม่มีใครจะมามีอำนาจเหนืออเมริกาอีกแล้ว ผู้ที่เป็นมันสมองในการจัดทำเอกสารนี้คือ นาย Paul Wolfowitz ซึ่งขณะนั้นรับตำแหน่งเลขาธิการด้านความมั่นคงอยู่ที่ Pentagon และต่อมาเขาได้เลื่อนเป็นผู้ช่วยรมว.กลาโหม ในสมัยรัฐบาล Bush ตัวพ่อนั่นแหละ หลังจากนั้นก็มารับตำแหน่งประธานธนาคารโลก World Bank นาย Wolf นี้เป็นสมาชิกของ Bilderberg Group, Trilateral Commission และ Council on Foreign Relations (ครบชุด 3 สถาบันผู้ทรงอิทธิพล) ปัจจุบันประจำการอยู่ที่ American Enterprise Institute ซึ่งเป็น think tank สำคัญสำหรับผู้ไม่ประสงค์จะเปิดเผยตัว ส่วนสำคัญของเอกสารดังกล่าว เน้นว่าการจัดระเบียบโลกใหม่ ในด้านของกองกำลังของอเมริกา จะต้องปฏิบัติการได้ เมื่อจำเป็น โดยไม่ต้องพึ่งพาหรือเล่นเป็นวงกับใคร พูดง่าย ๆ เป็นพระเอกแสดงเดี่ยว ก็ต้องเอาโลกนี้อยู่ในมือได้ ในประดานักเลงคนละค่าย ที่จะทำให้อเมริกาคันไม้คันมือ นอกเหนือจากอิรัคและเกาหลีเหนือเจ้าประจำแล้ว ผู้ที่อเมริกาจะต้องจับตาแบบมองแบบไม่กระพริบ คือ จีนและรัสเซีย เมื่อ Bill Clinton เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี ต่อจาก Bush ตัวพ่อในปี ค.ศ. 1993 สายเหยี่ยวของอเมริกาไม่ได้หุบปีก แต่กลับสยายมากขึ้น ถึงกับคิด Project for New American Century หรือ PNAC อันโด่งดัง ในปี ค.ศ. 2000 เขาได้เสนอรายงาน ชื่อ Rebuilding America’s Defenses : Strategy For Us and Resources for a New Century เป็นการวางแผนสำหรับการขยับขยาย เปลี่ยนรูปแบบของกองกำลังของอเมริกา เพื่อเตรียมตัวสำหรับการเข้าสู่ทรัพยากร และการสงครามในทุกสมรภูมิ ไม่ว่าใหญ่ระดับโลก หรือเล็กระดับประเทศ แต่ที่น่าสนใจคือนาย Zbigniew Brzezinski (หวังว่าคงจำชื่อนี้กันได้) ผู้ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของ Trilatleral Commission ให้กับนายโคตรรวย David Rockefeller รวมทั้งเป็นสมาชิก Bilderberg Group และอยู่ในคณะกรรมการของ Amnesty International และ National Endowment for Democracy (ถ้าไม่รู้จักสถาบันหลังนี้ ลองไปถามอาจารย์แถวท่าพระจันทร์ดูได้นะครับ) รวมทั้งเป็น trustee และที่ปรึกษาของ Center for Strategic and International Studies (CSIS) ที่โด่งดังในการเป็นมันสมอง ในการวางนโยบายด้านความมั่นคงระดับสูงให้แก่อเมริกา นาย Brzenzinski นี้ ถือว่าเป็น 1 ให้ผู้กุมชะตาโลก เพราะเขามีอิทธิพลต่อความคิดของพวกนักเล่นกล ผู้มีบารมีเหนือประชาธิปไตยของอเมริกาอย่างยิ่ง ในหนังสือของเขาชื่อ The Grand Chessboard ที่ออกมาเมื่อ ปี ค.ศ. 1997 บอกว่าสำหรับอเมริกาในอนาคต จงมองไปที่ Eurasia สำหรับอีก 50 ปีข้างหน้า ความเป็นไปของโลก มันจะเริ่มหรือเกี่ยวกับพื้นที่บริเวณ Eurasia นี้แหละ ใครที่ควบคุม Eurasia ได้ ก็เหมือนกับจะควบคุมชะตาโลกได้ปริยาย และนับตั้งแต่นั้นมา นโยบายของอเมริกาก็ดูเหมือนจะไปในทิศทาง ตามที่เข็มทิศยี่ห้อนาย Bzenzinski ชี้ทางเอาไว้ทั้งสิ้น เช่นเดียวกัน กับคำพูดของนาย Kissinger เมื่อเกือบ 50 ปีก่อน คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 157 Views 0 Reviews
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “มายากลยุทธ”
    ภาคสอง ตอน เสกกระดาษเป็นน้ำมัน
    ตอนที่ 25 : เหยื่อ (1)
    เมื่อหมดยุคประธานาธิบดี Reagan ในปี ค.ศ. 1988 นาย George H W Bush (ตัวพ่อ) ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีคนต่อไป เป็นช่วงที่หมดยุคสงครามเย็น เยอรมันตัดสินใจทุบกำแพง Berlin ออก เยอรมันตะวันออกกับตะวันตก จับมือรวมชาติพัฒนาประเทศด้วยกัน การตัดสินในเช่นนี้ ลึก ๆ แน่นอน ย่อมมีคนคัดจมูก หายใจไม่คล่องอยู่บ้าง ถ้าเศรษฐกิจของเยอรมันแข็งแรงและขยายตัวเต็มยุโรป อำนาจของอเมริกาในยุโรปก็เหมือนถูกท้าทาย นี่คือปฏิกิริยาของอเมริกาที่มีต่อทุกประเทศ ไม่ว่ามิตรหรือศัตรู อเมริกาจะมีปรอทวัดอาการของทุกชาติไว้อย่างถี่ถ้วน ถ้าชาติไหน เริ่มเจริญ ก้าวหน้าหรือมีความสำคัญ หรือเอนตัวผิดองศา ที่อเมริกาเห็นว่าน่าจะกลายเป็นคู่แข่ง หรืออุปสรรคต่ออเมริกาไม่ว่าทางใด ปรอทจะส่งสัญญาณเตือนทันที และกิจกรรมการเล่นกลก็จะเริ่มเกิดขึ้น
    อเมริกามองอาการของเยอรมันเหมือนสมัย ค.ศ. 1970 ช่วงที่อุตสาหกรรมกำลังบูม และความต้องการน้ำมันของประเทศผู้ประกอบกิจการอุตสาหกรรมก็จะสูงตามไปด้วย ค.ศ.นี้ก็ไม่ต่างกัน เยอรมันและชาติที่กำลังทำอุตสาหกรรมก็ต้องหิวน้ำมัน เพราะฉะนั้นอเมริกาต้องรีบหาทาง “กัก” น้ำมันไม่ให้ไปถึงประเทศพวกนั้น คราวนี้ใครจะเป็นเป้าหมายในการเล่นกล เพื่อให้ได้ผลตามที่อเมริกาต้องการ แล้ว Saddam ก็เป็นเหยื่อ หลังจากเปลี้ยมาจากการรบกับอิหร่านเกือบสิบปี ช่วงปี ค.ศ. 1980 – 1988 แผนการก็แบบเดิม ๆ ยุให้เขาตีกันก่อน เพื่อตัวเองจะได้เข้าไปในประเทศเขา (สมันน้อยอ่านตรงนี้ซ้ำ ๆ หน่อยนะ)
    อเมริกาเล่นกล โดยใช้ Kuwait เป็นเหยื่อล่อ Iraq ให้มากินเบ็ด Iraq งับทันที บุกเข้า Kuwait เพราะมีกรณีค้างคาใจกันอยู่หลายเรื่อง ตั้งแต่ร่วมมือกันรบอิหร่านแล้วเบี้ยวหนี้กัน ทะเลาะกันไปมาหลายเรื่อง แต่เรื่องที่ Saddam แค้นคือ Saddam กล่าวหาว่า Kuwait ขะโมยขุดน้ำมันแถวชายแดนของ Iraq แถม Kuwait ยังเกเรผลิตน้ำมันเกินข้อตกลงกันระหว่างประเทศ OPEC ซึ่งทำให้การควบคุมราคาน้ำมันในกลุ่ม OPEC มีปัญหา
    Iraq ตัดสินใจบุกคูเวตวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1990 กองทัพของ Kuwait ต้านไม่ไหวหนีไปพึ่งใบบุญ Saudi Arabia กับ Bahrain Saddam จึงประกาศเอา Kuwait ผนวกกลับมาเป็นของ Iraq
    อะไรทำให้ Saddam ตัดสินใจทะเลาะกับเพื่อนบ้าน ข่าววงในแจ้งว่า เรื่อง Saddam อยากจะเคี้ยว Kuwait ไม่ได้เป็นความลับอะไร ถึงขนาดฑูตอเมริกา ชื่อคุณนาย April Glaspie ไปเดินถามนายทหารระดับสูงของ Iraq ว่าอะไรกันค้า เตรียมรบอะไรกันค้า เห็นคุณทหาร Iraq ไปอยู่ตามชายแดนติดกับ Kuwait เต็มเลยค่า (นี่ข่าวของคุณนาย April เกี่ยวกับ Iraq นะ ไม่ใช่ของคุณนาย คริสตี้ เรื่องไทยแลนด์ แหม ! แต่มันเจ๋อเหมือนกันจัง) เสร็จแล้วคุณนาย April ก็ออกข่าวว่า เราไม่มีความเห็นเกี่ยวกับความไม่ลงรอยกัน ระหว่าง Iraq กับ Kuwait เราไม่มีความเห็นเกี่ยวกับความขัดแย้ง ระหว่างประเทศอาหรับด้วยกัน (“We have no opinion on the Arab-Arab conflicts”) ที่ยังงี้ละไม่ออกความเห็นนะ คุณนาย ความเห็นพวกฑูตนี้ มันแล้วแต่นายเขาสั่งมา แล้วเราจะต้องไปคอยถามคอยตอบทำไมนะ มันละครชัด ๆ ข่าวว่าการให้สัมภาษณ์ของคุณนาย ทำให้ Saddam เข้าใจว่าอเมริกา ไม่มีปัญหา (หรืออาจจะสนับสนุนด้วยซ้ำ) ที่ Iraq จะบุก Kuwait
    แต่เรื่องมันกลับตาลปัตร หลังจาก Saddam ถล่ม Kuwait ไปได้ 6 เดือน UN ก็ประกาศประฌาม Saddam พร้อมทั้งมีมติเอกฉันท์สั่งให้ Saddam ถอนกองทัพออกมา Saddam เฉย กลางเดือนมกราคม ค.ศ. 1991 Operation Desert Storm ของอเมริกาก็ปฎิบัติการ ชาวเราก็นั่งดูข่าวถ่ายทอดสดทาง CNN เหมือนดูหนังโรง แต่ของจริงเขาถล่มจริง ตายจริง มันเป็นเพียงการเริ่มต้นของการทำลายล้างประเทศ และประชาชนอย่างไม่มีความปราณี อยู่ 12 ปี แม้จะ (หลอกว่า) มี Operation Iraqi Freedom ตามมาให้เมื่อมีนาคม ค.ศ. 2003 จนหลาย ปีให้หลัง ยังไม่เห็นเสรีภาพของชนชาวอิรัค ทุกวันนี้พวกเขายังเรียกร้องหาประชาธิปไตยกันอยู่ เขาถูกย่ำยีจนไม่เหลือ ทั้งทรัพยากร ชีวิตผู้คนและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ไอ้พวกนักสิทธิมนุษย์ของสหประชาชาติ มันหายไปไหนหมด หรือมัวแต่ไปช่วยเขาหาบุคคลที่สมควรได้รับรางวัล Nobel สันติภาพกัน

    คนเล่านิทาน
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “มายากลยุทธ” ภาคสอง ตอน เสกกระดาษเป็นน้ำมัน ตอนที่ 25 : เหยื่อ (1) เมื่อหมดยุคประธานาธิบดี Reagan ในปี ค.ศ. 1988 นาย George H W Bush (ตัวพ่อ) ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีคนต่อไป เป็นช่วงที่หมดยุคสงครามเย็น เยอรมันตัดสินใจทุบกำแพง Berlin ออก เยอรมันตะวันออกกับตะวันตก จับมือรวมชาติพัฒนาประเทศด้วยกัน การตัดสินในเช่นนี้ ลึก ๆ แน่นอน ย่อมมีคนคัดจมูก หายใจไม่คล่องอยู่บ้าง ถ้าเศรษฐกิจของเยอรมันแข็งแรงและขยายตัวเต็มยุโรป อำนาจของอเมริกาในยุโรปก็เหมือนถูกท้าทาย นี่คือปฏิกิริยาของอเมริกาที่มีต่อทุกประเทศ ไม่ว่ามิตรหรือศัตรู อเมริกาจะมีปรอทวัดอาการของทุกชาติไว้อย่างถี่ถ้วน ถ้าชาติไหน เริ่มเจริญ ก้าวหน้าหรือมีความสำคัญ หรือเอนตัวผิดองศา ที่อเมริกาเห็นว่าน่าจะกลายเป็นคู่แข่ง หรืออุปสรรคต่ออเมริกาไม่ว่าทางใด ปรอทจะส่งสัญญาณเตือนทันที และกิจกรรมการเล่นกลก็จะเริ่มเกิดขึ้น อเมริกามองอาการของเยอรมันเหมือนสมัย ค.ศ. 1970 ช่วงที่อุตสาหกรรมกำลังบูม และความต้องการน้ำมันของประเทศผู้ประกอบกิจการอุตสาหกรรมก็จะสูงตามไปด้วย ค.ศ.นี้ก็ไม่ต่างกัน เยอรมันและชาติที่กำลังทำอุตสาหกรรมก็ต้องหิวน้ำมัน เพราะฉะนั้นอเมริกาต้องรีบหาทาง “กัก” น้ำมันไม่ให้ไปถึงประเทศพวกนั้น คราวนี้ใครจะเป็นเป้าหมายในการเล่นกล เพื่อให้ได้ผลตามที่อเมริกาต้องการ แล้ว Saddam ก็เป็นเหยื่อ หลังจากเปลี้ยมาจากการรบกับอิหร่านเกือบสิบปี ช่วงปี ค.ศ. 1980 – 1988 แผนการก็แบบเดิม ๆ ยุให้เขาตีกันก่อน เพื่อตัวเองจะได้เข้าไปในประเทศเขา (สมันน้อยอ่านตรงนี้ซ้ำ ๆ หน่อยนะ) อเมริกาเล่นกล โดยใช้ Kuwait เป็นเหยื่อล่อ Iraq ให้มากินเบ็ด Iraq งับทันที บุกเข้า Kuwait เพราะมีกรณีค้างคาใจกันอยู่หลายเรื่อง ตั้งแต่ร่วมมือกันรบอิหร่านแล้วเบี้ยวหนี้กัน ทะเลาะกันไปมาหลายเรื่อง แต่เรื่องที่ Saddam แค้นคือ Saddam กล่าวหาว่า Kuwait ขะโมยขุดน้ำมันแถวชายแดนของ Iraq แถม Kuwait ยังเกเรผลิตน้ำมันเกินข้อตกลงกันระหว่างประเทศ OPEC ซึ่งทำให้การควบคุมราคาน้ำมันในกลุ่ม OPEC มีปัญหา Iraq ตัดสินใจบุกคูเวตวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1990 กองทัพของ Kuwait ต้านไม่ไหวหนีไปพึ่งใบบุญ Saudi Arabia กับ Bahrain Saddam จึงประกาศเอา Kuwait ผนวกกลับมาเป็นของ Iraq อะไรทำให้ Saddam ตัดสินใจทะเลาะกับเพื่อนบ้าน ข่าววงในแจ้งว่า เรื่อง Saddam อยากจะเคี้ยว Kuwait ไม่ได้เป็นความลับอะไร ถึงขนาดฑูตอเมริกา ชื่อคุณนาย April Glaspie ไปเดินถามนายทหารระดับสูงของ Iraq ว่าอะไรกันค้า เตรียมรบอะไรกันค้า เห็นคุณทหาร Iraq ไปอยู่ตามชายแดนติดกับ Kuwait เต็มเลยค่า (นี่ข่าวของคุณนาย April เกี่ยวกับ Iraq นะ ไม่ใช่ของคุณนาย คริสตี้ เรื่องไทยแลนด์ แหม ! แต่มันเจ๋อเหมือนกันจัง) เสร็จแล้วคุณนาย April ก็ออกข่าวว่า เราไม่มีความเห็นเกี่ยวกับความไม่ลงรอยกัน ระหว่าง Iraq กับ Kuwait เราไม่มีความเห็นเกี่ยวกับความขัดแย้ง ระหว่างประเทศอาหรับด้วยกัน (“We have no opinion on the Arab-Arab conflicts”) ที่ยังงี้ละไม่ออกความเห็นนะ คุณนาย ความเห็นพวกฑูตนี้ มันแล้วแต่นายเขาสั่งมา แล้วเราจะต้องไปคอยถามคอยตอบทำไมนะ มันละครชัด ๆ ข่าวว่าการให้สัมภาษณ์ของคุณนาย ทำให้ Saddam เข้าใจว่าอเมริกา ไม่มีปัญหา (หรืออาจจะสนับสนุนด้วยซ้ำ) ที่ Iraq จะบุก Kuwait แต่เรื่องมันกลับตาลปัตร หลังจาก Saddam ถล่ม Kuwait ไปได้ 6 เดือน UN ก็ประกาศประฌาม Saddam พร้อมทั้งมีมติเอกฉันท์สั่งให้ Saddam ถอนกองทัพออกมา Saddam เฉย กลางเดือนมกราคม ค.ศ. 1991 Operation Desert Storm ของอเมริกาก็ปฎิบัติการ ชาวเราก็นั่งดูข่าวถ่ายทอดสดทาง CNN เหมือนดูหนังโรง แต่ของจริงเขาถล่มจริง ตายจริง มันเป็นเพียงการเริ่มต้นของการทำลายล้างประเทศ และประชาชนอย่างไม่มีความปราณี อยู่ 12 ปี แม้จะ (หลอกว่า) มี Operation Iraqi Freedom ตามมาให้เมื่อมีนาคม ค.ศ. 2003 จนหลาย ปีให้หลัง ยังไม่เห็นเสรีภาพของชนชาวอิรัค ทุกวันนี้พวกเขายังเรียกร้องหาประชาธิปไตยกันอยู่ เขาถูกย่ำยีจนไม่เหลือ ทั้งทรัพยากร ชีวิตผู้คนและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ไอ้พวกนักสิทธิมนุษย์ของสหประชาชาติ มันหายไปไหนหมด หรือมัวแต่ไปช่วยเขาหาบุคคลที่สมควรได้รับรางวัล Nobel สันติภาพกัน คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 172 Views 0 Reviews
  • ♣ เคสโดดเดี่ยวหน้าบัลลังก์ยังไม่หมด เอาไว้เป็นอุทาหรณ์พวกคลั่งประชาธิปไตยเกินขอบเขต เมื่อถึงวันต้องรับกรรม เพื่อนทะลุถุง นักการเมืองล้มล้าง กลับหายหัวไปหมด
    #7ดอกจิก
    ♣ เคสโดดเดี่ยวหน้าบัลลังก์ยังไม่หมด เอาไว้เป็นอุทาหรณ์พวกคลั่งประชาธิปไตยเกินขอบเขต เมื่อถึงวันต้องรับกรรม เพื่อนทะลุถุง นักการเมืองล้มล้าง กลับหายหัวไปหมด #7ดอกจิก
    0 Comments 0 Shares 89 Views 0 Reviews
  • มาตรการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่ขึ้นภาษีศุลกากรซึ่งจัดเก็บเอากับสินค้าเข้าของอินเดียอีกเท่าตัวจนอยู่ในระดับสูงลิ่วถึง 50% เริ่มมีผลบังคับใช้ตามกำหนดในวันพุธ (27 ส.ค.) ทำให้ความตึงเครียดระหว่าง 2 ประเทศนี้ที่ต่างถือเป็นระบอบปกครองประชาธิปไตยรายยักษ์ใหญ่ของโลก อีกทั้งถือเป็นหุ้นส่วนสำคัญทางยุทธศาสตร์ยิ่งบานปลายขยายตัว
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000082040

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    มาตรการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่ขึ้นภาษีศุลกากรซึ่งจัดเก็บเอากับสินค้าเข้าของอินเดียอีกเท่าตัวจนอยู่ในระดับสูงลิ่วถึง 50% เริ่มมีผลบังคับใช้ตามกำหนดในวันพุธ (27 ส.ค.) ทำให้ความตึงเครียดระหว่าง 2 ประเทศนี้ที่ต่างถือเป็นระบอบปกครองประชาธิปไตยรายยักษ์ใหญ่ของโลก อีกทั้งถือเป็นหุ้นส่วนสำคัญทางยุทธศาสตร์ยิ่งบานปลายขยายตัว . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000082040 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Haha
    6
    1 Comments 0 Shares 660 Views 0 Reviews
  • บ้านเมืองเราวุ่นวายทั้งหมดนี้ ในเวลานี้ ภาวะสงครามนี้ จริงๆมาจากศาลเรานี้ล่ะ,ไม่เด็ดขาดประหารชีวิต นักการเมืองเลวชั่วนี้จริงๆ ปล่อยพวกมันสร้างกระแสชั่วเลวไม่หยุดหย่อน สลับเรื่องเล่นสาระพัด ปล่อยเลยตามน้ำตามเวลาจนเกิดภัยมหันต่อชาติบ้านเมืองจริงเช่นสงครามไทยกับเขมร ถูกเขมรอาชญากรสงครามยิงระเบิดใส่เด็กๆเราตาย ครอบครัวคนไทยตายเกือบหมดครอบครัว ประชาชนผู้บริสุทธิ์บาดเจ็บล้มตายเป็นอันมากอีก,และในอนาคตอาจชักนำมหาสงครามใหญ่เข้าบ้านเข้าเมืองอีก,ทำเล่นๆเหมือนนักการเมืองไม่ได้,และจริงๆศาลสามารถรับรู้ภัยปกติเหมือนประชาชนทั่วไปรับรู้ภัยนั้นเป็นพื้นฐานสันชาตญาณความจะเกิดภัยจะเป็นภัยได้โดยเฉพาะภัยในระดับชาติระดับประเทศ ภัยด้านอธิปไตยดินแดนไทย,ศาลไม่จำเป็นให้ใครคนไทยที่ไหนร้องขอร้องเรียนก็ได้ คนในศาลก็เป็นคนไทย ถอดหัวโขนก็คนไทยปกตินี้ล่ะ มีตายเผาผีเหมือนกัน มีครอบครัวญาติพี่น้องเป็นคนไทยอาศัยอยู่บนแผ่นดินไทยเหมือนกัน สามัญสำนึกศาลหยั่งเห็นชัดเจนกับพยานแวดล้อมปกติได้เหมือนประชาชนปกติทั่วไปรับรู้ผ่านสื่อข่าวต่างๆแม้ไม่ลึกชัดเจนใช้พยานหลักฐานระดับวิทยศาสตร์นั้นๆพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงและสามารถยุ่งเกี่ยวได้ทันทีอีกด้วย ทางตรงออกนอกหน้าได้ เพราะเมื่อไม่มีแผ่นดินไทยหรือทหารรบแพ้แบบสงครามโลกกับญี่ปุ่น ศาลไทยไม่จำเป็นต้องมีตลอดญี่ปุ่นยึดประเทศไทยได้,ฉันใดคือฉันนั้น ทหารไทยหากแพ้สงครามกับเขมรมีอเมริกาหนุนจริง หายนะความเสียหายอาจประมาณการณ์มิได้,ตำตาคือmou43,44ศาลผ่านอัยการศาลดำเนินการตรวจสอบพิสูจน์ความจริงได้เพราะเกี่ยวข้องกับอธิปไตยดินแดนไทยชัดเจน ร.9ในหลวงเราใช้1:50,000ชัดเจนด้านแผนที่ทั่วราชอาณาจักร รัฐบาลยังกอดmou1:200,000ไว้ แสดงชัดเจนจะเป็นอื่นไม่ได้ ดินแดนไทยอธิปไตยไทยสูญเสียแน่นอนถึง1:150,000 มันเสียพื้นที่น้อยๆมั้ย ศาลย่อมสามารถพิสูจน์ค่าจริงสิ่งนี้ได้ แต่ศาลเราปฏิบัติสถานะน่าผิดหวังมากถึงมากที่สุด,หน้าที่ของศาลมิใช่แค่ตัดสินประชาชนทุกๆคนเพียงในประเทศเท่านั้น ต้องสามารถเป็นแม่ทัพออกมาปกป้องทั้งประเทศไทยตนเองด้วย,แล้วเราจะมีศาลประจำประเทศไทยทำมั้ย?.ข้อผิดพลาดมากคือประชาชนไม่สามารถวิจารณ์ศาลในการตัดสินคดีใดๆได้เลย ปิดปากประชาชนมาก,กฎหมายหมิ่นประมาทก็ด้วย นี้คือกฎหมายของdeep stateสากลโลกเขียนเพื่อบังคับผ่านรัฐบาลประเทศต่างๆทั่วโลกให้เอาไปปิดปากชาวโลก ประชาชนในประเทศนั้นๆ ระบบก็ส่งออกจากฝรั่ง สิ่งจึงง่ายที่จะส่งซอฟแวร์นี้มาด้วย สแกนไวรัสที่ตอต้านนั้นเองในระบบมัน,ระบบประชาธิปไตยส่งออกของฝรั่ง,ระบบเผด็จการคอมมิวนิสต์ส่งออกของฝรั่ง,ซึ่งทั้งหมดคือของdeep stateสร้างทำออกแบบหมด,เราประเทศไทยต้องสร้างระบบเราขึ้นมาเอง.,ซอฟแวร์แอปและแพลตฟอร์มต่างๆต้องสร้างเองด้วยให้เหมาะสมกับเรา.,ผู้เป็นผู้นำแห่งจิตวิญญาณของโลกอนาคต.,เรามีในหลวงนะ.

    https://youtube.com/shorts/1EEwcbBMwvc?si=Eztc9jrqMM-iTRjN
    บ้านเมืองเราวุ่นวายทั้งหมดนี้ ในเวลานี้ ภาวะสงครามนี้ จริงๆมาจากศาลเรานี้ล่ะ,ไม่เด็ดขาดประหารชีวิต นักการเมืองเลวชั่วนี้จริงๆ ปล่อยพวกมันสร้างกระแสชั่วเลวไม่หยุดหย่อน สลับเรื่องเล่นสาระพัด ปล่อยเลยตามน้ำตามเวลาจนเกิดภัยมหันต่อชาติบ้านเมืองจริงเช่นสงครามไทยกับเขมร ถูกเขมรอาชญากรสงครามยิงระเบิดใส่เด็กๆเราตาย ครอบครัวคนไทยตายเกือบหมดครอบครัว ประชาชนผู้บริสุทธิ์บาดเจ็บล้มตายเป็นอันมากอีก,และในอนาคตอาจชักนำมหาสงครามใหญ่เข้าบ้านเข้าเมืองอีก,ทำเล่นๆเหมือนนักการเมืองไม่ได้,และจริงๆศาลสามารถรับรู้ภัยปกติเหมือนประชาชนทั่วไปรับรู้ภัยนั้นเป็นพื้นฐานสันชาตญาณความจะเกิดภัยจะเป็นภัยได้โดยเฉพาะภัยในระดับชาติระดับประเทศ ภัยด้านอธิปไตยดินแดนไทย,ศาลไม่จำเป็นให้ใครคนไทยที่ไหนร้องขอร้องเรียนก็ได้ คนในศาลก็เป็นคนไทย ถอดหัวโขนก็คนไทยปกตินี้ล่ะ มีตายเผาผีเหมือนกัน มีครอบครัวญาติพี่น้องเป็นคนไทยอาศัยอยู่บนแผ่นดินไทยเหมือนกัน สามัญสำนึกศาลหยั่งเห็นชัดเจนกับพยานแวดล้อมปกติได้เหมือนประชาชนปกติทั่วไปรับรู้ผ่านสื่อข่าวต่างๆแม้ไม่ลึกชัดเจนใช้พยานหลักฐานระดับวิทยศาสตร์นั้นๆพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงและสามารถยุ่งเกี่ยวได้ทันทีอีกด้วย ทางตรงออกนอกหน้าได้ เพราะเมื่อไม่มีแผ่นดินไทยหรือทหารรบแพ้แบบสงครามโลกกับญี่ปุ่น ศาลไทยไม่จำเป็นต้องมีตลอดญี่ปุ่นยึดประเทศไทยได้,ฉันใดคือฉันนั้น ทหารไทยหากแพ้สงครามกับเขมรมีอเมริกาหนุนจริง หายนะความเสียหายอาจประมาณการณ์มิได้,ตำตาคือmou43,44ศาลผ่านอัยการศาลดำเนินการตรวจสอบพิสูจน์ความจริงได้เพราะเกี่ยวข้องกับอธิปไตยดินแดนไทยชัดเจน ร.9ในหลวงเราใช้1:50,000ชัดเจนด้านแผนที่ทั่วราชอาณาจักร รัฐบาลยังกอดmou1:200,000ไว้ แสดงชัดเจนจะเป็นอื่นไม่ได้ ดินแดนไทยอธิปไตยไทยสูญเสียแน่นอนถึง1:150,000 มันเสียพื้นที่น้อยๆมั้ย ศาลย่อมสามารถพิสูจน์ค่าจริงสิ่งนี้ได้ แต่ศาลเราปฏิบัติสถานะน่าผิดหวังมากถึงมากที่สุด,หน้าที่ของศาลมิใช่แค่ตัดสินประชาชนทุกๆคนเพียงในประเทศเท่านั้น ต้องสามารถเป็นแม่ทัพออกมาปกป้องทั้งประเทศไทยตนเองด้วย,แล้วเราจะมีศาลประจำประเทศไทยทำมั้ย?.ข้อผิดพลาดมากคือประชาชนไม่สามารถวิจารณ์ศาลในการตัดสินคดีใดๆได้เลย ปิดปากประชาชนมาก,กฎหมายหมิ่นประมาทก็ด้วย นี้คือกฎหมายของdeep stateสากลโลกเขียนเพื่อบังคับผ่านรัฐบาลประเทศต่างๆทั่วโลกให้เอาไปปิดปากชาวโลก ประชาชนในประเทศนั้นๆ ระบบก็ส่งออกจากฝรั่ง สิ่งจึงง่ายที่จะส่งซอฟแวร์นี้มาด้วย สแกนไวรัสที่ตอต้านนั้นเองในระบบมัน,ระบบประชาธิปไตยส่งออกของฝรั่ง,ระบบเผด็จการคอมมิวนิสต์ส่งออกของฝรั่ง,ซึ่งทั้งหมดคือของdeep stateสร้างทำออกแบบหมด,เราประเทศไทยต้องสร้างระบบเราขึ้นมาเอง.,ซอฟแวร์แอปและแพลตฟอร์มต่างๆต้องสร้างเองด้วยให้เหมาะสมกับเรา.,ผู้เป็นผู้นำแห่งจิตวิญญาณของโลกอนาคต.,เรามีในหลวงนะ. https://youtube.com/shorts/1EEwcbBMwvc?si=Eztc9jrqMM-iTRjN
    0 Comments 0 Shares 215 Views 0 Reviews
  • นี้คือกฎหมายหนึ่งที่สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนจริง,ประชาชนไม่สามารถใช้ระบบประชาธิปไตยร่วมลงมติเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ใดๆได้เลย บังคับใช้เองตามอำเภอใจ สภาพความเป็นจริงก็ประชาชนไม่สามารถจ่ายได้อีก,ตลอดระยะเวลาที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรจริง ถอยหลังไปสัก40-50ปี หรือ30-40ปี,ประชาชนยังใช้ชีวิตปกติสุขธรรมดา,ปัจจุบันหนักข้อมากขึ้น ประชาชนคือเหยื่อและแหล่งรายได้ทางข้อกฎหมายเสียแล้ว,เสมือนกฎหมายในปัจจุบันที่อ้างประชาชนบังหน้า ล่วงมุ่งแสวงหารายได้จากประชาชนผ่านกฎหมายข้อบังคับค่าปรับค่าธรรมเนียมสาระพัดนั้นเอง,จริงๆตำรวจจราจรมีหน้าที่สกัดจับโจรผู้ร้ายที่ปล้นจี้ชิงทรัพย์ก่ออาชญากรรมด้านร่างกายชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่ใช้ถนนเป็นที่หลบหนีจากการไล่ล่าทุกๆกรณี,ส่วนกฎหมายจราจรมากมายที่ออกมา,ไร้สาระทั้งสิ้นจากกรมขนส่งเอง,เพื่อให้การใช้ถนนในจราจรเป็นไปด้วยความเรียบร้อย,ขนส่งควบคุมตั้งแต่ต้นทางได้คือบุคคลจะซื้อรถยนต์รถมอไซค์ได้ต้องอายุเท่านี้เท่านั้น มีใบขับขี่ที่เพียงสแกนเลขบัตรก็รับรู้สถานะได้ ไม่จำเป็นต้องพกบัตรอะไรก็ได้ ส่วนสวมหมวกกันน็อคคือสิทธิอธิปไตยส่วนบุคคลใครจะใส่ไม่ใส่ก็ได้บังคับไม่ได้ รับความเสี่ยงภัยเอง.ใส่ก็ดีแก่ตัวเอง,รถไม่ได้มาตราฐานห้ามซื้อขาย,คือจบทั้งหมดที่ต้นทางหมด,แต่ปัจจุบันต้องยอมรับว่ามีเป้ามียอดจริง,
    ..การจะกำจัดตังทุจริตสิ้นซากได้คือระบบ และกำจัดคนจริงด้วย,ที่สร้างความเดือดร้อนรังแกประชาชนผ่านกฎหมาย, จริงๆต้องแจ้งล่วงหน้าแก่ประชาชนในการตั้งจุดตรวจ เพื่ออะไรด้วย,สกัดจับโจรก็ลงแพลตฟอร์มพื้นที่ตนชัดเจน ประชาชนก็ร่วมมือสังเกตุคนร้ายได้ด้วย ระบุชื่อรูปลักษณ์คดี รายละเอียดไป ปกปิดทำซากอะไร รัศมีตาประชาชนสามารถร่วมจับได้อีก.

    ..รัฐล้มเหลวจึงเขียนกฎหมายรังแกบีบบังคับประชาชนได้หรือรัฐเผด็จการภายในระบบประชาธิปไตยที่ฝ่ายคนข้าราชการรัฐเขียนตีตรากันเอง ออกมาบังคับใช้ จริงๆประชาชนสามารถลงมติร่วมกันผ่านแพลตฟอร์มสาธารณะยกเลิกกฎหมายเช่นค่าปรับ2,000นี้ได้ เช่นมีแพลตฟอร์มออนไลน์เชื่อมระบบรัฐจริง พอประชาชนลงมติคัดค้านกฎหมายนี้ร่วมกันถึง10ล้านคนออนไลน์สะสม,ภายใน1ปีหรือภายใน1ปีจริงแต่ประชาชนเรียกร้องยกเลิกทันทีโดยลงชื่อกดปุ่มจนครบคนที่10ล้านคน รุ่งขึ้นกฎหมายค่าปรับนี้สามารถยกเลิกได้ทันทีแม้ฝ่ายรัฐจะตีตรามาบังคับใช้แล้วจริงทั้งฉบับต้องเป็นตกไป,หรือประชาชนต้องการให้ข้าราชการเลวชั่วนี้พ้นอำนาจไป ร่วมกันลงชื่อครบ20ล้านคน ข้าราชการปลัดหรืออธิบดีนั้นหรือรัฐมนตรีนั้นๆต้องพ้นอำนาจพ้นตำแหน่งทันที,คือพลังมวลชนต้องสามารถแสดงพลังได้จริงในทางที่ถูกทางด้วย,ผู้ว่าในจังหวัดนั้นเลวชั่ว ประชาชนในจังหวัดนั้นๆสามารถลงมติร่วมลงชื่อเรียลไทม์ในแพลตฟอร์มแห่งชาตินั้น ครบ300,000คน ครบ5แสนคนเพราะจังหวัดนั้นๆมีประชากรแค่700,000คนหรือ1,500,000คนเอง,นายอำเภอก็ด้วยครบ2-3หมื่นคน จาก100,000กว่าคนเป็นต้นสามารถถีบผู้ว่าถีบนายอำเภอพ้นตำแหน่งข้าราชการได้เป็นต้น,แต่กฎหมายมากมายเก่ายุค รังแกกดขี่ประชาชนก็มาก ประชาชนไม่สามารถแสดงพลังตนในการจัดการปัญหาพื้นที่ตนที่กฎหมายผีบ้าใครเขียนบ้านั้นไมาสามารถฉีกทิ้งได้เลย,และกฎค่าปรับ2,000บาทนี้ก็ผีบ้าด้วย นี้คือการปล้นทรีพย์สินเงินทองจากกระเป๋าประชาชนคนไทยชัดเจนในค่าแรงแค่300-400บาทขั้นต่ำเอง.,กฎหมายนี้คือกฎหมายเผด็จการรังแกประชาชนชัดเจน ไม่ต่างจากmou43,44ที่เขียนออกมารอวันขายดินแดนและเจตนาทำให้สูญเสียดินแดนอธิปไตยชาติไทยเรา.

    ..รัฐล้มเหลว
    ..วิถีปกครองล้มเหลว

    https://youtube.com/shorts/u6yWW47NGt4?si=qsQ8EWmgYHR1e2NX
    นี้คือกฎหมายหนึ่งที่สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนจริง,ประชาชนไม่สามารถใช้ระบบประชาธิปไตยร่วมลงมติเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ใดๆได้เลย บังคับใช้เองตามอำเภอใจ สภาพความเป็นจริงก็ประชาชนไม่สามารถจ่ายได้อีก,ตลอดระยะเวลาที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรจริง ถอยหลังไปสัก40-50ปี หรือ30-40ปี,ประชาชนยังใช้ชีวิตปกติสุขธรรมดา,ปัจจุบันหนักข้อมากขึ้น ประชาชนคือเหยื่อและแหล่งรายได้ทางข้อกฎหมายเสียแล้ว,เสมือนกฎหมายในปัจจุบันที่อ้างประชาชนบังหน้า ล่วงมุ่งแสวงหารายได้จากประชาชนผ่านกฎหมายข้อบังคับค่าปรับค่าธรรมเนียมสาระพัดนั้นเอง,จริงๆตำรวจจราจรมีหน้าที่สกัดจับโจรผู้ร้ายที่ปล้นจี้ชิงทรัพย์ก่ออาชญากรรมด้านร่างกายชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่ใช้ถนนเป็นที่หลบหนีจากการไล่ล่าทุกๆกรณี,ส่วนกฎหมายจราจรมากมายที่ออกมา,ไร้สาระทั้งสิ้นจากกรมขนส่งเอง,เพื่อให้การใช้ถนนในจราจรเป็นไปด้วยความเรียบร้อย,ขนส่งควบคุมตั้งแต่ต้นทางได้คือบุคคลจะซื้อรถยนต์รถมอไซค์ได้ต้องอายุเท่านี้เท่านั้น มีใบขับขี่ที่เพียงสแกนเลขบัตรก็รับรู้สถานะได้ ไม่จำเป็นต้องพกบัตรอะไรก็ได้ ส่วนสวมหมวกกันน็อคคือสิทธิอธิปไตยส่วนบุคคลใครจะใส่ไม่ใส่ก็ได้บังคับไม่ได้ รับความเสี่ยงภัยเอง.ใส่ก็ดีแก่ตัวเอง,รถไม่ได้มาตราฐานห้ามซื้อขาย,คือจบทั้งหมดที่ต้นทางหมด,แต่ปัจจุบันต้องยอมรับว่ามีเป้ามียอดจริง, ..การจะกำจัดตังทุจริตสิ้นซากได้คือระบบ และกำจัดคนจริงด้วย,ที่สร้างความเดือดร้อนรังแกประชาชนผ่านกฎหมาย, จริงๆต้องแจ้งล่วงหน้าแก่ประชาชนในการตั้งจุดตรวจ เพื่ออะไรด้วย,สกัดจับโจรก็ลงแพลตฟอร์มพื้นที่ตนชัดเจน ประชาชนก็ร่วมมือสังเกตุคนร้ายได้ด้วย ระบุชื่อรูปลักษณ์คดี รายละเอียดไป ปกปิดทำซากอะไร รัศมีตาประชาชนสามารถร่วมจับได้อีก. ..รัฐล้มเหลวจึงเขียนกฎหมายรังแกบีบบังคับประชาชนได้หรือรัฐเผด็จการภายในระบบประชาธิปไตยที่ฝ่ายคนข้าราชการรัฐเขียนตีตรากันเอง ออกมาบังคับใช้ จริงๆประชาชนสามารถลงมติร่วมกันผ่านแพลตฟอร์มสาธารณะยกเลิกกฎหมายเช่นค่าปรับ2,000นี้ได้ เช่นมีแพลตฟอร์มออนไลน์เชื่อมระบบรัฐจริง พอประชาชนลงมติคัดค้านกฎหมายนี้ร่วมกันถึง10ล้านคนออนไลน์สะสม,ภายใน1ปีหรือภายใน1ปีจริงแต่ประชาชนเรียกร้องยกเลิกทันทีโดยลงชื่อกดปุ่มจนครบคนที่10ล้านคน รุ่งขึ้นกฎหมายค่าปรับนี้สามารถยกเลิกได้ทันทีแม้ฝ่ายรัฐจะตีตรามาบังคับใช้แล้วจริงทั้งฉบับต้องเป็นตกไป,หรือประชาชนต้องการให้ข้าราชการเลวชั่วนี้พ้นอำนาจไป ร่วมกันลงชื่อครบ20ล้านคน ข้าราชการปลัดหรืออธิบดีนั้นหรือรัฐมนตรีนั้นๆต้องพ้นอำนาจพ้นตำแหน่งทันที,คือพลังมวลชนต้องสามารถแสดงพลังได้จริงในทางที่ถูกทางด้วย,ผู้ว่าในจังหวัดนั้นเลวชั่ว ประชาชนในจังหวัดนั้นๆสามารถลงมติร่วมลงชื่อเรียลไทม์ในแพลตฟอร์มแห่งชาตินั้น ครบ300,000คน ครบ5แสนคนเพราะจังหวัดนั้นๆมีประชากรแค่700,000คนหรือ1,500,000คนเอง,นายอำเภอก็ด้วยครบ2-3หมื่นคน จาก100,000กว่าคนเป็นต้นสามารถถีบผู้ว่าถีบนายอำเภอพ้นตำแหน่งข้าราชการได้เป็นต้น,แต่กฎหมายมากมายเก่ายุค รังแกกดขี่ประชาชนก็มาก ประชาชนไม่สามารถแสดงพลังตนในการจัดการปัญหาพื้นที่ตนที่กฎหมายผีบ้าใครเขียนบ้านั้นไมาสามารถฉีกทิ้งได้เลย,และกฎค่าปรับ2,000บาทนี้ก็ผีบ้าด้วย นี้คือการปล้นทรีพย์สินเงินทองจากกระเป๋าประชาชนคนไทยชัดเจนในค่าแรงแค่300-400บาทขั้นต่ำเอง.,กฎหมายนี้คือกฎหมายเผด็จการรังแกประชาชนชัดเจน ไม่ต่างจากmou43,44ที่เขียนออกมารอวันขายดินแดนและเจตนาทำให้สูญเสียดินแดนอธิปไตยชาติไทยเรา. ..รัฐล้มเหลว ..วิถีปกครองล้มเหลว https://youtube.com/shorts/u6yWW47NGt4?si=qsQ8EWmgYHR1e2NX
    0 Comments 0 Shares 218 Views 0 Reviews
  • มายากลยุทธ ภาค 1 ตอน นักมายากลชั้นเซียน (2)

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” มายากลยุทธ ”
    ตอนที่ 12 : นักมายากลชั้นเซียน (2)
    ลาตินอเมริกา มี 19 เสียง เทียบกับยุโรปที่มี 9 เสียง จากปฏิบัติการในลาติน
    อเมริกาอยู่ 20 ปี ผลคือทำให้อิทธิพลของนักมายากล สามารถทำให้อเมริกา เป็นผู้คุมเสียงข้างมาก ในสหประชาชาติ และแน่นอนเป็นเสียงชี้ขาดใน World Bank และ IMF ด้วย ที่ดินที่สร้างสำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติ ในนครนิวยอร์คจึงเป็นอภินันทนาการจากนักมายากล
    NSSM 200 เป็นตัวอย่างของมายากลยุทธ ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ที่สามารถนำเรื่องการลดการเจริญเติบโตของประชากรในประเทศด้อยพัฒนา (หรือที่เขาพากันดัดจริต เลี่ยงไปเรียกว่าประเทศที่กำลังพัฒนา) มาเป็นนโยบายด้านความมั่นคงของประเทศ ที่มีความสำคัญระดับเร่งด่วนของอเมริกา มันเหลือเชื่อเหมือนเราดูการเล่นกลเลย ที่สามารถทำการวิจัย เรื่อง การสนับสนุนการทำหมันของมนุษย์หรือวางแผนครอบครัว ให้โยงกับประเทศเป้าหมาย ที่มีแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ ได้อย่างมหัศจรรย์เกินจะคิด
    แต่เมื่อดูจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนและหลังของช่วงเวลาปฏิบัติการ ตามแผน NSSM 200 แล้ว สิ่งที่เห็นชัด การเล่นกลทำได้แนบเนียนและได้ผล ทั้งหมดมาจากเงินและอิทธิพลของตระกูลโคตรรวย ที่พัฒนามาเป็นสถาบันผู้ทรงอิทธิพลที่สุดของอเมริกา Trilateral Commission นาย Kissinger และบรรดาผู้มีตำแหน่งสูง ๆ ในรัฐบาลอเมริกาตั้งแต่ระดับประธานาธิบดี รมว.กลาโหม รมว.ตปท. สมัยต่าง ๆ แท้จริงแล้ว แม้จะกินเงินเดือนของประเทศ แต่จริง ๆ แล้ว ดูเสมือนเขาเป็น
    ขี้ข้ารับใช้ Trilateral Commission ผู้มีบารมีเหนือประชาธิปไตยนั่นเอง
    แล้วอำนาจ Trilateral Commission ผู้มีบารมีเหนือประชาธิปไตย ก็ขยายครอบคลุมรัฐบาลอเมริกา รวมทั้งขยายไปควบคุม ประเทศส่วนใหญ่ในโลกนี้ ตามนโยบาย New World Order ตั้งแต่บัดนั้น จนถึงปัจจุบันนี้
    สมันน้อยมองออกบ้างหรือยัง ว่าเป้าหมายแท้จริงของ NSSM 200 คืออะไรและการกำหนด 13 ประเทศเพราะอะไร การเข้าไปในลาตินอเมริกา สมาคมวางแผนครอบครัวของพี่สายรุ้ง นายอานันท์ มรว.เกษมสโมสร ทั้ง 2 มีตำแหน่งอะไร ในหน่วยงานประเทศไทยบ้าง มีความสำคัญอย่างไร และอย่าลืมการวิจัยแผนพัฒนาของนายณรงค์ชัย เกี่ยวกันไหม และนายสารสิน วีระผล แห่ง CP เครือเจริญโภคภัณฑ์ ค้าเมล็ดพันธ์ุพืชมากว่า 50 ปี ใช้เมล็ดพันธ์ GMO หรือไม่ ชาวไร่ ชาวนา เราเจ๊งป่นปี่
    ขายที่ ขายไร่ กันไปเท่าไหร่ ปัจจุบันการกว้านซื้อที่ดินของในประเทศเราโดยนายทุน นักธุรกิจใหญ่ ทั้งในและต่างประเทศเกี่ยวโยงกันไหม จำได้หรือเปล่า เล่าไปแล้วว่าปัจจุบันที่ดินในประเทศไทยจำนวน 1 ใน 3 อยู่ในมือคนต่างชาติไปแล้ว ลองไปคิดเป็นการบ้านดู
    เวลาดูเขาเล่นกล อย่าแค่ตบมือชอบใจ

    คนเล่านิทาน
    มายากลยุทธ ภาค 1 ตอน นักมายากลชั้นเซียน (2) นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” มายากลยุทธ ” ตอนที่ 12 : นักมายากลชั้นเซียน (2) ลาตินอเมริกา มี 19 เสียง เทียบกับยุโรปที่มี 9 เสียง จากปฏิบัติการในลาติน อเมริกาอยู่ 20 ปี ผลคือทำให้อิทธิพลของนักมายากล สามารถทำให้อเมริกา เป็นผู้คุมเสียงข้างมาก ในสหประชาชาติ และแน่นอนเป็นเสียงชี้ขาดใน World Bank และ IMF ด้วย ที่ดินที่สร้างสำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติ ในนครนิวยอร์คจึงเป็นอภินันทนาการจากนักมายากล NSSM 200 เป็นตัวอย่างของมายากลยุทธ ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ที่สามารถนำเรื่องการลดการเจริญเติบโตของประชากรในประเทศด้อยพัฒนา (หรือที่เขาพากันดัดจริต เลี่ยงไปเรียกว่าประเทศที่กำลังพัฒนา) มาเป็นนโยบายด้านความมั่นคงของประเทศ ที่มีความสำคัญระดับเร่งด่วนของอเมริกา มันเหลือเชื่อเหมือนเราดูการเล่นกลเลย ที่สามารถทำการวิจัย เรื่อง การสนับสนุนการทำหมันของมนุษย์หรือวางแผนครอบครัว ให้โยงกับประเทศเป้าหมาย ที่มีแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ ได้อย่างมหัศจรรย์เกินจะคิด แต่เมื่อดูจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนและหลังของช่วงเวลาปฏิบัติการ ตามแผน NSSM 200 แล้ว สิ่งที่เห็นชัด การเล่นกลทำได้แนบเนียนและได้ผล ทั้งหมดมาจากเงินและอิทธิพลของตระกูลโคตรรวย ที่พัฒนามาเป็นสถาบันผู้ทรงอิทธิพลที่สุดของอเมริกา Trilateral Commission นาย Kissinger และบรรดาผู้มีตำแหน่งสูง ๆ ในรัฐบาลอเมริกาตั้งแต่ระดับประธานาธิบดี รมว.กลาโหม รมว.ตปท. สมัยต่าง ๆ แท้จริงแล้ว แม้จะกินเงินเดือนของประเทศ แต่จริง ๆ แล้ว ดูเสมือนเขาเป็น ขี้ข้ารับใช้ Trilateral Commission ผู้มีบารมีเหนือประชาธิปไตยนั่นเอง แล้วอำนาจ Trilateral Commission ผู้มีบารมีเหนือประชาธิปไตย ก็ขยายครอบคลุมรัฐบาลอเมริกา รวมทั้งขยายไปควบคุม ประเทศส่วนใหญ่ในโลกนี้ ตามนโยบาย New World Order ตั้งแต่บัดนั้น จนถึงปัจจุบันนี้ สมันน้อยมองออกบ้างหรือยัง ว่าเป้าหมายแท้จริงของ NSSM 200 คืออะไรและการกำหนด 13 ประเทศเพราะอะไร การเข้าไปในลาตินอเมริกา สมาคมวางแผนครอบครัวของพี่สายรุ้ง นายอานันท์ มรว.เกษมสโมสร ทั้ง 2 มีตำแหน่งอะไร ในหน่วยงานประเทศไทยบ้าง มีความสำคัญอย่างไร และอย่าลืมการวิจัยแผนพัฒนาของนายณรงค์ชัย เกี่ยวกันไหม และนายสารสิน วีระผล แห่ง CP เครือเจริญโภคภัณฑ์ ค้าเมล็ดพันธ์ุพืชมากว่า 50 ปี ใช้เมล็ดพันธ์ GMO หรือไม่ ชาวไร่ ชาวนา เราเจ๊งป่นปี่ ขายที่ ขายไร่ กันไปเท่าไหร่ ปัจจุบันการกว้านซื้อที่ดินของในประเทศเราโดยนายทุน นักธุรกิจใหญ่ ทั้งในและต่างประเทศเกี่ยวโยงกันไหม จำได้หรือเปล่า เล่าไปแล้วว่าปัจจุบันที่ดินในประเทศไทยจำนวน 1 ใน 3 อยู่ในมือคนต่างชาติไปแล้ว ลองไปคิดเป็นการบ้านดู เวลาดูเขาเล่นกล อย่าแค่ตบมือชอบใจ คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 198 Views 0 Reviews
  • มายากลยุทธ ภาค 1 ตอน นักมายากลชั้นเซียน (1)
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “มายากลยุทธ ”
    ตอนที่ 12 : นักมายากลชั้นเซียน (1)
    นักมายากลชั้นเซียน พวก Rockefeller ไม่ได้เข้าไปในลาตินอเมริกา เพื่อไปขายเมล็ดพันธ์พืช GMO กับแจกถุงยางเท่านั้น แต่พวกเขาเข้าไป “ซื้อ” ด้วย
    เขาหอบกระเป๋าเงิน ที่ได้กำไรจากการขายเมล็ดพันธ์พืช เอาไปเลี้ยงนักการเมือง และทหารของหลายประเทศในแถบนั้น สร้างเด็กในคาถาอยู่หลายปี ด้วยการร่วมมืออย่างดีของหน่วยงานความมั่นคงของอเมริกา ปฏิบัติการลับเกิดขึ้นหลายครั้งในประเทศต่าง ๆ ในแถบนั้น แล้วในที่สุด เด็กสร้างของเขา ก็ได้ขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศ ของหลายประเทศในกลุ่มลาตินอเมริกัน
    มันเป็นการค้า ที่ทำกำไรเกินตำราบอก เอาเงินของคนในประเทศ
ซื้อประเทศนั้นเอง !
    สมันน้อยอ่านตรงนี้กันหลาย ๆ หนหน่อยนะ !
    เขารอเวลา “อันเหมาะสม” แล้วก็ ตั้งสมาคม Trilateral Commission ขึ้นมา สมาชิกสมาคมเป็นผู้ที่เขาคัดเลือกไว้ล่วงหน้าแล้วว่า จะผลักดันให้เข้าไปทำหน้าที่ในรัฐบาล ในตำแหน่งสำคัญ ๆ ตามที่เขากำกับ
    และด้วยอำนาจ อิทธิพล และเงิน เมื่อถึงเวลา เขาก็ส่งคนของเขา เข้าไปอยู่ในแวดวงการเมือง เป็นตั้งแต่ประธานาธิบดี รัฐมนตรี นักวิชาการ และสื่อ (ขี้ข้า) และกำหนดนโยบายให้ขี้ข้าเหล่านั้น ปฎิบัติตามกลยุทธที่เขาวางไว้ทั้งหมด พร้อม ๆ กัน แต่แยกกันเล่น เหมือนคนเล่นกล หลอกให้เราดูมือซ้ายที มือขวาที โดยเราไม่รู้ตัวว่ากลนั้นสร้าง
ขึ้นมาได้อย่างไร
    เวลา “อันเหมาะสม” สำหรับ การก่อตั้ง Trilateral Commission นั้น น่าสนใจมาก ในปี ค.ศ.1973 นาย David Rockefeller ซึ่งเป็นเจ้าของความคิดการตั้งสมาคมนี้ ขณะนั้นดำรงตำแหน่งประธานของ The Council on Foreign Reations (CFR) ซึ่งถือว่าเป็นหน่วยงานมันสมอง (Think Tank) ให้กับรัฐบาลอเมริกัน มาตั้งแต่ประมาณปี คศ 1939
    แต่ช่วงปี ค.ศ. 1971 ขณะที่โลกกำลังบูมด้วยการอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในประเทศผู้ผลิต เช่น อเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น ประเทศในอีกซีกโลกอีกหนึ่ง คือ กลุ่มประเทศที่ส่งออกน้ำมัน หรือที่เรียกว่า Organization of Petroleum Exporting Countries (OPEC) ก็เกิดอาการชักกระดุก ควบคุมกันเองไม่อยู่ พากันขึ้นราคาล่วงหน้าของน้ำมันอย่างบ้าเลือด ทำให้กลุ่มผู้ประกอบอุตสาหกรรม ที่ต้องพึ่งพาน้ำมันอย่าง กลุ่ม Rockefeller และพรรคพวกในยุโรป และญี่ปุ่น ย่อมกระอักเป็นธรรมดา
    ประธานาธิบดี Nixon แก้ปัญหาด้วยการ ควบคุมราคาน้ำมันและก๊าซ ที่ผลิตและขายในประเทศ เพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ แต่ผลออกมาคนละเรื่อง บรรดาพวกคุณอาค้าน้ำมัน กลับทุ่มน้ำมันเข้ามาในตลาดอเมริกา ขายในราคาแพง ในขณะที่น้ำมันที่ผลิตและขายในอเมริกา ต้องขายในราคาถูกควบคุม
    เศรษฐีเจ้าของ Standard Oil ฉุนขาด เพราะโดน OPEC ตีตลาด แต่ที่จริงแล้ว เศรษฐีก็แอบยิ้มมุมปาก เพราะคุณอาพวกราชวงศ์ซาอุกับคูเวต และพวกบริษัทน้ำมันที่เป็นของรัฐ แถวอิหร่าน อิรัค และอัลจีเรีย ไม่รู้จะทำอะไรกับดอลล่าร์ ที่ได้รับจากการขายน้ำมัน นอกจากฝากกับธนาคาร ใหญ่ ๆ ในอเมริกาและยุโรป แน่นอน Chase Manhatlon ของตระกูล Rockefeller ก็ต้องได้ส้มหล่น ใส่ด้วย
    แต่นั่นแหละนะ ของทุกอย่างมีได้ก็มีเสีย ดูด้านเดียวมันก็บื้อไปหน่อย การประกอบธุรกิจธนาคาร ได้เงินฝากมาจะให้มันนอนเฉยอยู่ในลิ้นชักได้ยังไง ธนาคารพวกนี้ก็เอาไปปล่อยต่อให้กับประเทศเล็ก ๆ ที่ไม่มีน้ำมันของตัวเอง หรือมีแหล่ง แต่ยังไม่ได้ขุดขึ้นมา เพราะไม่รู้ว่าตัวว่ามี หรือ ถูกหลอกว่าบ้านยูไม่มี ไม่มี ประเทศพวกนี้ คนอ่านนิทานน่าจะเดาออกว่าคงอยู่ แถบเอเซียกับลาตินอเมริกานั้นแหละ
    แล้วทำไงล่ะ ประเทศพวกนี้ก็ไปกู้เงินจากธนาคาร ที่รับเงินค้าขายน้ำมันจากคุณอานั่นไง ทีนี้พอ OPEC ดันขึ้นราคาน้ำมันอย่างบ้าเลือด เงินเข้ามามหึมาก็จริง แต่ไอ้ที่ให้เขายืมไป มันก็ตัวแดงแก่มหึมาเหมือนกัน จริง ๆ ก็ไม่ใช่ปัญหาโดยตรงของรัฐบาลอเมริกา และไม่น่าจะใช่ความผิดของคุณ Nixon แก ซึ่งตอนนั้นก็หน้ามืดอยู่หลายเรื่องแล้ว แต่ก็ทำให้เศรษฐีเกิดความคิด ตามประสาคนที่โลภอยากจะเอาแต่ได้ แต่ไม่ยอมเสีย
    มันเรื่องอะไร จะทำแต่การวิจัยแนะนำรัฐบาล แล้วรัฐบาลก็ไม่ได้ทำตามที่เขาต้องการทุกเรื่อง แบบนี้มันต้อง คุมรัฐบาลให้อยู่ในกำมือไม่ดีกว่าหรือ แล้วความคิดที่จะตั้งหน่วยงานพิเศษ หรือ Trillateral จึงเกิดขึ้น และได้รวมพรรคพวกที่ทำธุรกิจน้ำมันอุตสาหกรรม และธนาคาร เข้ามาอยู่ในกระบุงเดียวกัน
    ( จริง ๆ นะ เขียนมาถึงตรงนี้ เชื่อเกือบเต็มร้อย ว่าไอ้โจรนั่น มันต้องเรียนวิธีขี้โกงระดับนโยบาย มาจากผู้มีบารมีเหนือประชาธิปไตยจริง ๆ)
    คิดดูง่าย ๆ จากเรื่องที่กำลังเกิดขึ้น แทนที่พวกเศรษฐีจะให้ธนาคารตัวเอง ให้เงินกู้กับประเทศที่กำลังพัฒนาต่อไปตามเดิม เขากลับใช้เหตุการณ์วิกฤติน้ำมันครั้งนี้ สร้างโอกาสให้พวกเขาอีกต่อ มันงกจริงๆนะ พวกเศรษฐีกลับคิดว่า ถ้าเรายกเครื่อง IMF World Bank เสียหน่อย แล้วให้องค์กรเหล่านี้เป็นเครื่องมือ รับความเสี่ยงให้กับเรา
แบบนี้เราก็มีแต่ win win solution พูดเหมือนใครหนอ !
    เขาจึงเริ่มแผนคุมสหประชาชาติ โดยการ “ซื้อเสียง”

    คนเล่านิทาน
    มายากลยุทธ ภาค 1 ตอน นักมายากลชั้นเซียน (1) นิทานเรื่องจริง เรื่อง “มายากลยุทธ ” ตอนที่ 12 : นักมายากลชั้นเซียน (1) นักมายากลชั้นเซียน พวก Rockefeller ไม่ได้เข้าไปในลาตินอเมริกา เพื่อไปขายเมล็ดพันธ์พืช GMO กับแจกถุงยางเท่านั้น แต่พวกเขาเข้าไป “ซื้อ” ด้วย เขาหอบกระเป๋าเงิน ที่ได้กำไรจากการขายเมล็ดพันธ์พืช เอาไปเลี้ยงนักการเมือง และทหารของหลายประเทศในแถบนั้น สร้างเด็กในคาถาอยู่หลายปี ด้วยการร่วมมืออย่างดีของหน่วยงานความมั่นคงของอเมริกา ปฏิบัติการลับเกิดขึ้นหลายครั้งในประเทศต่าง ๆ ในแถบนั้น แล้วในที่สุด เด็กสร้างของเขา ก็ได้ขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศ ของหลายประเทศในกลุ่มลาตินอเมริกัน มันเป็นการค้า ที่ทำกำไรเกินตำราบอก เอาเงินของคนในประเทศ
ซื้อประเทศนั้นเอง ! สมันน้อยอ่านตรงนี้กันหลาย ๆ หนหน่อยนะ ! เขารอเวลา “อันเหมาะสม” แล้วก็ ตั้งสมาคม Trilateral Commission ขึ้นมา สมาชิกสมาคมเป็นผู้ที่เขาคัดเลือกไว้ล่วงหน้าแล้วว่า จะผลักดันให้เข้าไปทำหน้าที่ในรัฐบาล ในตำแหน่งสำคัญ ๆ ตามที่เขากำกับ และด้วยอำนาจ อิทธิพล และเงิน เมื่อถึงเวลา เขาก็ส่งคนของเขา เข้าไปอยู่ในแวดวงการเมือง เป็นตั้งแต่ประธานาธิบดี รัฐมนตรี นักวิชาการ และสื่อ (ขี้ข้า) และกำหนดนโยบายให้ขี้ข้าเหล่านั้น ปฎิบัติตามกลยุทธที่เขาวางไว้ทั้งหมด พร้อม ๆ กัน แต่แยกกันเล่น เหมือนคนเล่นกล หลอกให้เราดูมือซ้ายที มือขวาที โดยเราไม่รู้ตัวว่ากลนั้นสร้าง
ขึ้นมาได้อย่างไร เวลา “อันเหมาะสม” สำหรับ การก่อตั้ง Trilateral Commission นั้น น่าสนใจมาก ในปี ค.ศ.1973 นาย David Rockefeller ซึ่งเป็นเจ้าของความคิดการตั้งสมาคมนี้ ขณะนั้นดำรงตำแหน่งประธานของ The Council on Foreign Reations (CFR) ซึ่งถือว่าเป็นหน่วยงานมันสมอง (Think Tank) ให้กับรัฐบาลอเมริกัน มาตั้งแต่ประมาณปี คศ 1939 แต่ช่วงปี ค.ศ. 1971 ขณะที่โลกกำลังบูมด้วยการอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในประเทศผู้ผลิต เช่น อเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น ประเทศในอีกซีกโลกอีกหนึ่ง คือ กลุ่มประเทศที่ส่งออกน้ำมัน หรือที่เรียกว่า Organization of Petroleum Exporting Countries (OPEC) ก็เกิดอาการชักกระดุก ควบคุมกันเองไม่อยู่ พากันขึ้นราคาล่วงหน้าของน้ำมันอย่างบ้าเลือด ทำให้กลุ่มผู้ประกอบอุตสาหกรรม ที่ต้องพึ่งพาน้ำมันอย่าง กลุ่ม Rockefeller และพรรคพวกในยุโรป และญี่ปุ่น ย่อมกระอักเป็นธรรมดา ประธานาธิบดี Nixon แก้ปัญหาด้วยการ ควบคุมราคาน้ำมันและก๊าซ ที่ผลิตและขายในประเทศ เพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ แต่ผลออกมาคนละเรื่อง บรรดาพวกคุณอาค้าน้ำมัน กลับทุ่มน้ำมันเข้ามาในตลาดอเมริกา ขายในราคาแพง ในขณะที่น้ำมันที่ผลิตและขายในอเมริกา ต้องขายในราคาถูกควบคุม เศรษฐีเจ้าของ Standard Oil ฉุนขาด เพราะโดน OPEC ตีตลาด แต่ที่จริงแล้ว เศรษฐีก็แอบยิ้มมุมปาก เพราะคุณอาพวกราชวงศ์ซาอุกับคูเวต และพวกบริษัทน้ำมันที่เป็นของรัฐ แถวอิหร่าน อิรัค และอัลจีเรีย ไม่รู้จะทำอะไรกับดอลล่าร์ ที่ได้รับจากการขายน้ำมัน นอกจากฝากกับธนาคาร ใหญ่ ๆ ในอเมริกาและยุโรป แน่นอน Chase Manhatlon ของตระกูล Rockefeller ก็ต้องได้ส้มหล่น ใส่ด้วย แต่นั่นแหละนะ ของทุกอย่างมีได้ก็มีเสีย ดูด้านเดียวมันก็บื้อไปหน่อย การประกอบธุรกิจธนาคาร ได้เงินฝากมาจะให้มันนอนเฉยอยู่ในลิ้นชักได้ยังไง ธนาคารพวกนี้ก็เอาไปปล่อยต่อให้กับประเทศเล็ก ๆ ที่ไม่มีน้ำมันของตัวเอง หรือมีแหล่ง แต่ยังไม่ได้ขุดขึ้นมา เพราะไม่รู้ว่าตัวว่ามี หรือ ถูกหลอกว่าบ้านยูไม่มี ไม่มี ประเทศพวกนี้ คนอ่านนิทานน่าจะเดาออกว่าคงอยู่ แถบเอเซียกับลาตินอเมริกานั้นแหละ แล้วทำไงล่ะ ประเทศพวกนี้ก็ไปกู้เงินจากธนาคาร ที่รับเงินค้าขายน้ำมันจากคุณอานั่นไง ทีนี้พอ OPEC ดันขึ้นราคาน้ำมันอย่างบ้าเลือด เงินเข้ามามหึมาก็จริง แต่ไอ้ที่ให้เขายืมไป มันก็ตัวแดงแก่มหึมาเหมือนกัน จริง ๆ ก็ไม่ใช่ปัญหาโดยตรงของรัฐบาลอเมริกา และไม่น่าจะใช่ความผิดของคุณ Nixon แก ซึ่งตอนนั้นก็หน้ามืดอยู่หลายเรื่องแล้ว แต่ก็ทำให้เศรษฐีเกิดความคิด ตามประสาคนที่โลภอยากจะเอาแต่ได้ แต่ไม่ยอมเสีย มันเรื่องอะไร จะทำแต่การวิจัยแนะนำรัฐบาล แล้วรัฐบาลก็ไม่ได้ทำตามที่เขาต้องการทุกเรื่อง แบบนี้มันต้อง คุมรัฐบาลให้อยู่ในกำมือไม่ดีกว่าหรือ แล้วความคิดที่จะตั้งหน่วยงานพิเศษ หรือ Trillateral จึงเกิดขึ้น และได้รวมพรรคพวกที่ทำธุรกิจน้ำมันอุตสาหกรรม และธนาคาร เข้ามาอยู่ในกระบุงเดียวกัน ( จริง ๆ นะ เขียนมาถึงตรงนี้ เชื่อเกือบเต็มร้อย ว่าไอ้โจรนั่น มันต้องเรียนวิธีขี้โกงระดับนโยบาย มาจากผู้มีบารมีเหนือประชาธิปไตยจริง ๆ) คิดดูง่าย ๆ จากเรื่องที่กำลังเกิดขึ้น แทนที่พวกเศรษฐีจะให้ธนาคารตัวเอง ให้เงินกู้กับประเทศที่กำลังพัฒนาต่อไปตามเดิม เขากลับใช้เหตุการณ์วิกฤติน้ำมันครั้งนี้ สร้างโอกาสให้พวกเขาอีกต่อ มันงกจริงๆนะ พวกเศรษฐีกลับคิดว่า ถ้าเรายกเครื่อง IMF World Bank เสียหน่อย แล้วให้องค์กรเหล่านี้เป็นเครื่องมือ รับความเสี่ยงให้กับเรา
แบบนี้เราก็มีแต่ win win solution พูดเหมือนใครหนอ ! เขาจึงเริ่มแผนคุมสหประชาชาติ โดยการ “ซื้อเสียง” คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 237 Views 0 Reviews
  • มายากลยุทธ ภาค 1 ตอน ขจัดพันธ์ด้อย

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” มายากลยุทธ ”
    ตอนที่ 9 : ขจัดพันธ์ด้อย
    หลังจากที่รัฐบาล Nixon เริ่มขบวนการทำลายเกษตรในครอบครัว ในประเทศที่กำลังพัฒนาหรือด้อยพัฒนา ด้วยการส่งเมล็ดพันธ์พืช GMO มาให้แล้ว รัฐบาล Nixon ยังให้ทำการศึกษาเกี่ยวกับการขยายตัวของประชากรโลกอีกด้วย ว่าจะมีผลกระทบต่อความมั่งคง และผลประโยชน์ของอเมริกาในต่างประเทศหรือไม่ โดยถือว่าเป็นนโยบายที่มีความสำคัญสูงสุด ทั้งนี้ก็เป็นการเดินตามแผนลับของตระกูล Rockefeller นั่นเอง
    ผู้มีบารมีเหนือประชาธิปไตยบอกว่าเรา (คืออเมริกา) เราต้องกำหนดเป็นเงื่อนไข ของการได้รับเงินช่วยเหลือประเทศด้อยพัฒนาว่า การคุมกำเนิดควรเป็นเงื่อนไข อย่างหนึ่งของการได้รับเงินช่วยเหลือ
    ขนาดเราอัดมันด้วยพืช GMO ไอ้พวกพันธ์ด้อย มันยังอยู่ดี มีลูกหัวปีท้ายปี ดังนั้นเราก็ควรหาทางกำจัด การเจริญเติบโตพวกมันเสียด้วย การออกนโยบาย National Security Study Memorandum 200 หรือ NSSM 200 ซะให้หมดเรื่อง ไม่งั้นเราจะครอบครองวัตถุดิบ ทรัพยากรธรรมชาติของพวกมันในราคาถูกได้ยังไง ถ้ามันยังอยู่กันล้นโลกอย่างงี้!
    นาย Kissinger จึงต้องใช้ลิ้นนักการฑูต ตอแหลเพื่อชาติ จนทำให้ UN รับเป็นโครงการของ UN ช่วยประชาชน
    เป็นครั้งแรก ที่การจำกัดการเจริญเติบโตของจำนวนพลเมือง ในประเทศที่กำลังพัฒนา หรือด้อยพัฒนา เป็นยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงของอเมริกา และเป็นยุทธศาสตร์ที่ต้องทำเป็นการด่วนและลับสุดยอด
    แต่ที่ซ่อนไว้ลึกอีกชั้นหนึ่ง จนคนดูมองไม่ออกคือ NSSM 200 นี้ ได้แอบสอดไส้แผนการกำจัดสายพันธ์ุด้อย เพื่อรักษาสายพันธ์ุเด่น โดยใช้การวางแผนครอบครัวบังหน้า เชื่อว่า 13 ประเทศ เป้าหมายจนถึงบัดนี้ ก็อาจยังไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นกับประเทศตน แผนการมันแสนจะทุเรศ ตามแบบของผู้มีบารมีเหนือประชาธิปไตย จริง ๆ นะ
    บราซิลเป็นตัวอย่างที่เห็นชัด หลังจากที่ได้มีการปฏิบัติการ NSSM 200 กับบราซิล มา 14 ปี กระทรวงสาธารณะสุขของบราซิล เพิ่งตื่นขึ้นมาทำการสำรวจถึงจำนวนผู้หญิงบราซิลที่เป็นหมัน
    รัฐบาลบราซิล ถึงกับช็อครับประทาน เมื่อรายงานบอกว่า 44% ของผู้หญิงบราซิลทั้งหมดที่อายุ ระหว่าง 14 ถึง 55 ปี เป็นหมันอย่างถาวร ปรากฎข้อเท็จจริงว่าพวกที่มีอายุมากกว่านั้น ได้เข้าไปทำหมันด้วยการความสมัครใจ ตามโครงการที่เริ่มเมื่อ ค.ศ.1970 กว่าๆ
    ที่น่าสนใจกว่านั้น คือ ร้อยละ 90 ของผู้หญิงบราซิลที่มีเชื้อสายอาฟริกัน ถูกทำหมัน (อันนี้รายงานไม่ได้บอกว่าสมัครใจหรือไม่) แต่น่าสนใจนะ! และการทำหมันดังกล่าว ทำโดยองค์กรต่าง ๆ ซึ่งมีทั้งเป็นสัญชาติบราซิล และองค์การ International Planned Parenthood Federation (IPPF), US Pathfinder Fund, Family Health International
    ทั้งหมดอยู่ภายใต้การแนะนำของ US Agency for International Development (USAID) ยิ่งน่าสนใจใหญ่! ที่มันทำในบ้านเขาแบบนี้ มันพัฒนาตรงไหนนะ!?

    คนเล่านิทาน
    มายากลยุทธ ภาค 1 ตอน ขจัดพันธ์ด้อย นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” มายากลยุทธ ” ตอนที่ 9 : ขจัดพันธ์ด้อย หลังจากที่รัฐบาล Nixon เริ่มขบวนการทำลายเกษตรในครอบครัว ในประเทศที่กำลังพัฒนาหรือด้อยพัฒนา ด้วยการส่งเมล็ดพันธ์พืช GMO มาให้แล้ว รัฐบาล Nixon ยังให้ทำการศึกษาเกี่ยวกับการขยายตัวของประชากรโลกอีกด้วย ว่าจะมีผลกระทบต่อความมั่งคง และผลประโยชน์ของอเมริกาในต่างประเทศหรือไม่ โดยถือว่าเป็นนโยบายที่มีความสำคัญสูงสุด ทั้งนี้ก็เป็นการเดินตามแผนลับของตระกูล Rockefeller นั่นเอง ผู้มีบารมีเหนือประชาธิปไตยบอกว่าเรา (คืออเมริกา) เราต้องกำหนดเป็นเงื่อนไข ของการได้รับเงินช่วยเหลือประเทศด้อยพัฒนาว่า การคุมกำเนิดควรเป็นเงื่อนไข อย่างหนึ่งของการได้รับเงินช่วยเหลือ ขนาดเราอัดมันด้วยพืช GMO ไอ้พวกพันธ์ด้อย มันยังอยู่ดี มีลูกหัวปีท้ายปี ดังนั้นเราก็ควรหาทางกำจัด การเจริญเติบโตพวกมันเสียด้วย การออกนโยบาย National Security Study Memorandum 200 หรือ NSSM 200 ซะให้หมดเรื่อง ไม่งั้นเราจะครอบครองวัตถุดิบ ทรัพยากรธรรมชาติของพวกมันในราคาถูกได้ยังไง ถ้ามันยังอยู่กันล้นโลกอย่างงี้! นาย Kissinger จึงต้องใช้ลิ้นนักการฑูต ตอแหลเพื่อชาติ จนทำให้ UN รับเป็นโครงการของ UN ช่วยประชาชน เป็นครั้งแรก ที่การจำกัดการเจริญเติบโตของจำนวนพลเมือง ในประเทศที่กำลังพัฒนา หรือด้อยพัฒนา เป็นยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงของอเมริกา และเป็นยุทธศาสตร์ที่ต้องทำเป็นการด่วนและลับสุดยอด แต่ที่ซ่อนไว้ลึกอีกชั้นหนึ่ง จนคนดูมองไม่ออกคือ NSSM 200 นี้ ได้แอบสอดไส้แผนการกำจัดสายพันธ์ุด้อย เพื่อรักษาสายพันธ์ุเด่น โดยใช้การวางแผนครอบครัวบังหน้า เชื่อว่า 13 ประเทศ เป้าหมายจนถึงบัดนี้ ก็อาจยังไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นกับประเทศตน แผนการมันแสนจะทุเรศ ตามแบบของผู้มีบารมีเหนือประชาธิปไตย จริง ๆ นะ บราซิลเป็นตัวอย่างที่เห็นชัด หลังจากที่ได้มีการปฏิบัติการ NSSM 200 กับบราซิล มา 14 ปี กระทรวงสาธารณะสุขของบราซิล เพิ่งตื่นขึ้นมาทำการสำรวจถึงจำนวนผู้หญิงบราซิลที่เป็นหมัน รัฐบาลบราซิล ถึงกับช็อครับประทาน เมื่อรายงานบอกว่า 44% ของผู้หญิงบราซิลทั้งหมดที่อายุ ระหว่าง 14 ถึง 55 ปี เป็นหมันอย่างถาวร ปรากฎข้อเท็จจริงว่าพวกที่มีอายุมากกว่านั้น ได้เข้าไปทำหมันด้วยการความสมัครใจ ตามโครงการที่เริ่มเมื่อ ค.ศ.1970 กว่าๆ ที่น่าสนใจกว่านั้น คือ ร้อยละ 90 ของผู้หญิงบราซิลที่มีเชื้อสายอาฟริกัน ถูกทำหมัน (อันนี้รายงานไม่ได้บอกว่าสมัครใจหรือไม่) แต่น่าสนใจนะ! และการทำหมันดังกล่าว ทำโดยองค์กรต่าง ๆ ซึ่งมีทั้งเป็นสัญชาติบราซิล และองค์การ International Planned Parenthood Federation (IPPF), US Pathfinder Fund, Family Health International ทั้งหมดอยู่ภายใต้การแนะนำของ US Agency for International Development (USAID) ยิ่งน่าสนใจใหญ่! ที่มันทำในบ้านเขาแบบนี้ มันพัฒนาตรงไหนนะ!? คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 217 Views 0 Reviews
  • ประเทศกูมี.
    บุคคลสาธารณะ.
    ..ชาวขอนแก่นที่ฟ้องภูมิธรรม อยากรู้เหมือนกันจะมีมาตราฐานด้วยใหม่,ชาวขอนแก่นออกสื่อให้รู้ด้วยว่าเรื่องถึงขั้นไหนแล้ว.
    ..นี้คือการปิดปากประชาชนชัดเจน,ขนาดไม่ได้ปกครองในระบอบคอมมิวนิสต์จริงนะนี้,คอมมิวนิสต์ภายใต้ระบอบปกครองประชาธิปไตยมั้ยนะ กฎหมายหมิ่นประมาทถือว่าเป็นกฎหมายปืดปากประชาชนชัดเจนคือกฎหมายในร่างคอมมิวนิสต์ดีๆเพื่อควบคุมปาก ความคิดของประชาชนนี้ล่ะมิให้อิสระเสรีในการแสดงออก.,คนชั่วเท่านั้นที่หวาดกลัวความจริง.




    https://youtube.com/watch?v=_tOXaoy1QxA&si=dTl7ktyRvHprhkXl
    ประเทศกูมี. บุคคลสาธารณะ. ..ชาวขอนแก่นที่ฟ้องภูมิธรรม อยากรู้เหมือนกันจะมีมาตราฐานด้วยใหม่,ชาวขอนแก่นออกสื่อให้รู้ด้วยว่าเรื่องถึงขั้นไหนแล้ว. ..นี้คือการปิดปากประชาชนชัดเจน,ขนาดไม่ได้ปกครองในระบอบคอมมิวนิสต์จริงนะนี้,คอมมิวนิสต์ภายใต้ระบอบปกครองประชาธิปไตยมั้ยนะ กฎหมายหมิ่นประมาทถือว่าเป็นกฎหมายปืดปากประชาชนชัดเจนคือกฎหมายในร่างคอมมิวนิสต์ดีๆเพื่อควบคุมปาก ความคิดของประชาชนนี้ล่ะมิให้อิสระเสรีในการแสดงออก.,คนชั่วเท่านั้นที่หวาดกลัวความจริง. https://youtube.com/watch?v=_tOXaoy1QxA&si=dTl7ktyRvHprhkXl
    0 Comments 0 Shares 127 Views 0 Reviews
  • ผีบ้าร่ายเสียยาว.อย่าว่ากันเด้อใครที่ผ่านเข้ามาในบ้านในเพจเรา.555

    ..มั่ว ระบบมั่ว,แค่อยากเก็บตังจากประชาชนให้มากๆเท่านั้น,กฎหมายลักหลับประชาชน จะหลอยหลอนออกทีหลังที่บ้านเมืองโกลาหลวุ่นวายตลอด โป๊กเกอร์คือตัวอย่าง อะไรที่ไม่สำเร็จในยุคโทนี่ สำเร็จเกือบหมดในยุคยึดอำนาจจาก กปปส.ถวายพาน,นี้ก็ด้วย พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศก็ผ่านแล้ว,นี้ก็อีกมัดมือชกตอนไทยทหารไทยและประชาชนกำลังต่อสู้กับภัยอธิปไตยชาติไทย เสือกหน้ามึนมาบังคับประกาศให้ประชาชนต้องทำตามคลังจากสมัยรัฐบาลที่ทหารเป็นฝ่ายตรงข้ามเรานะ กะผูกผันต้องทำตามนะ,เป็นท่านนี้ถ้าได้เป็นนายกฯนะจะยกเลิกทันทีเช่นกัน,ล้างระบบทั้งหมดผีบ้าออกก่อน สไตล์ซาตานอีลิทเอาตังล่อคนไทยเหมือนเดิมเพื่อตอนควายวัวแพะแกะเข้าระบบควบคุมมนุษย์มันอย่างสมบูรณ์อนาคตคงฝังชิปใส่ตัวทุกๆคนไทยเพื่อเข้าถึงสวัสดิการทั้งหมดล่ะ,คือเอาสวัสดิการมาล่อ,แบบเดอะแก๊งเงินบุญหรือเดอะแก๊งgesara nesaraตังUBIเอย ปลดหนี้สินเด็กๆนักเรียนนักศึกษาและประชาชนเอย,แนวคิดโคตรพ่อโคตรแมร่งมันมาจากอเมริกาอีกล่ะ,ล้างสมองผ่านสิ่งนี้ เพราะท้ายสุดพ่อมันตายสิ่งนี้ก็ยังไม่เห็นจริงสักที เขมรว่าสันดานโคตรตอแหลหลอกลวงแล้ว อเมริกายิ่งโคตรมหาตอแหลหลอกลวงอีก กูรูสายฝ่ายแสงไทยบอกว่าตังโอนเข้าประเทศไทยแล้วกว่า1×10¹²⁰ แค่1×10²⁰ก็บุญหัวแล้ว คนไทยจะได้ตังร่ำรวยขนาดไหน แต่ขอโทษ อเมริกาได้100,000$/เดือน ,ไทยได้25,000บาทต่อเดือนพะนะ,หรือ1,000,000บาทแค่40เดือนพอ,อเมริกาปล้นตังวาติกันได้กว่า1×10⁸⁰⁰โน้นหรือบางคนว่า1×10¹⁰⁰⁰ ,กูรูบางคนว่าประเทศไทยเป็นฮับปลดปล่อย โอนมารอกดปุ่มแล้ว1×10²⁰⁰เบื้องต้น,เริ่มหลังagenda30สำเร็จมันว่า ,ไทยคง2570เร่งเร็วขึ้น,ญี่ปุ่นปลดปล่อยnesaraแล้วพะนะ,คือมโนมากๆน่าจะเดอะแก๊งคอลเซนเตอร์เขมรนี้ล่ะ เก็งกำไรUSDสกุลรุ้งด้วยก็ว่า,ลงตามค่าครองชีพของแต่ละประเทศ,จากUBIกลายเป็นNITเสียแล้ว,แบบมุกค่าแรงอเมริกา3,000$ต่อวัน,ไทยไม่น้อยหน้าอวด300฿ต่อวันสู้โน้น,ตัดศูนย์ไม่หนึ่งตัว,สกุลแลกเปลี่ยน1$:35฿อีก มันคนละเรื่องเลย.

    ..จริงๆรัฐบาลนี้ไม่เหมาะสมในช่วงจังหวะนี้จะทำใดๆ,เพราะระบบยังไม่น่าเชื่อถือถูกแฮกเกอร์ดูดได้ปกติอยู่คือยังกากนั้นเอง,
    ..ภาษีจริงๆได้มาจากภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีปิโตรเลียมโดยส่วนใหญ่ ภาษีประชาชนจ่ายมากกว่าภาษีบริษัทนิติบุคคลอีกด้วย,รีดตังจากประชาชนดีๆนี้ล่ะ,ประชาชนไม่เกี่ยวเลยว่ารวมกันจ่ายหรือเก็บได้น้อย คนทำงานจ่ายมาก ต้องมาแบกภาระช่วยคนไม่ทำงาน ,ตรรกะนี้ถือว่าไม่สมควรมีรัฐบาลเพื่ออยู่ประจำชาติไทย,ตั้งบริษัทประเทศไทยแทนชื่อว่ารัฐบาลเถอะ,บริหารแบบบริษัทไป,หรือบริหารแบบกองทุนหมู่บ้านที่เข้มแข็งแทน เช่นกองทุนหมู่บ้านแห่งชาติแลนด์บริดจ์และคลองคอดกระเป็นต้น เป็นเจ้าของและร่วมบริหารจัดการจริง,มิใช่แบบรัฐบาลยกให้เอกชนต่างชาติหรือเอกชนไทยไปแดกตังจนร่ำรวยแบบยกบ่อน้ำมันทั่วประเทศไทยไปสำเร็จมาแล้ว,เนื้องานภาษีจริงๆคือภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีปิโตรเลียม รัฐบาลยึดอำนาจหากไม่ลดนั้นนี้ให้ต่างชาติหรือยึดทำบ่อน้ำมันเองจะพลิกเป็นร่ำรวยทันที,ภาษีบุุคคลธรรมดาจึงกากมากไม่กี่หมื่นล้านบาทต่อปี จากอดีต4-5พันล้านบาทต่อปีโดยเฉลี่ย,ส่วนภาษีนิติบุคคลยิ่งเก็บภาษีได้กากมาก3-4พันล้านบาทเอง,รัฐบาลจึงอ้างคนไทยทั้งประเทศต้องเข้าระบบภาษีทุกๆคนเพื่อป้องกันการเก็บภาษีหลุดออกจากระบบให้เก็บได้มากๆจึงเป็นตรรกขี้หมามากเล่าความเท็จโกหกแหกตาประชาชนแบบฉีดวัคซีนนั้นล่ะ ฉีดสารพิษเข้าร่างกายแท้ๆแต่รัฐบาลกลับปกปิดถึงปัจจุบัน ไม่มีความรับผิดชอบในชีวิตประชาชนเลยที่ตนทำกิจกรรมกิจการการเป็นรัฐบาลที่ผิดพลาด,นี้NITนี้ต้องการติดตามกิจกรรม สอดแนมวิถีชีวิตประชาชนแค่นั้นสังเกตุคือผีบ้าอ้างเชื่อมโยงสุขภาพจะเน้นๆกว่าสะท้อนการช่วยเหลือทางการเงิน,อนาคตคือคุณไม่มีอะไรใดๆเลย คุณจะมีความสุขนั้นล่ะ,แม้แต่ชีวิตหรือจิตวิญญาณคุณก็จะไม่เหลือ,คำว่ารัฐบาลเราต้องยกเลิกการใช้คำจริงๆ มันคือการบริหารกิจการประเทศผ่านชื่อสมมุติว่ารัฐบาลนี้ล่ะแต่ภาคประชาชนกลับไม่สามารถจัดการรัฐบาลตนเองได้,ไล่ออกรัฐบาลไม่ซื่อสัตย์ก็ไม่ได้ ยังมีพนักงานบัดสบรากงอกในบริษัทรัฐบาลนี้ปกติ ไปแค่นักการเมืองประมาณนั้นที่เชื่อว่าชั่วแต่โคตรชั่วไม่แพ้กันคือพวกรากงอกสร้างระบบเจ้าพ่ออิทธิพลทั่วเต็มบริษัทรัฐบาลนี้ล่ะ,

    ..จึงต้องล้างระบบทิ้งทั้งหมดจริงๆก่อน,ระบบภาษีล้างทิ้งทั้งหมดด้วยแล้วสร้างใหม่ สวัสดิการและภาษีที่ซ้ำๆซ้อนๆกัน เก็บเอาเปรียบคนไทยทุกๆคนจะคนธรรมดาหรือเจ้าของกิจการก็ต้องยกเลิกด้วย,ง่ายๆคือล้างกระดานใหม่ทั้งหมด.

    ..มโนเล่นๆ สมมุติไทยเข้าถึงระบบควอนตัมแล้วมีฐานมหาบิ๊กดาต้าพร้อมรับเข้าส่งออกเรียลไทม์มหาศาลแล้ว.,"บริษัทกองทุนประเทศไทย" ชื่อแทนชื่อรัฐบาลไทย,แจกมือถือควอนตัมคุณภาพสูงทุกๆคนไทยห้ามฝังชิปใส่ตัว,ทำธุรกรรมการเงินเรื่องตังจะใช้จ่ายจะรับเข้าให้ใช้มือถือแทน แน่นอนบาทคอยน์อินทนนท์มาใช้ในที่นี้จริงนั้นเอง,ตื๊ดๆตื๊ดๆรับเข้าโอนออก จ่ายออก ได้ตังมา ใช้มือถือควอนตัมนี้จบ,จะจบการทุจริตเงินมืดเงินเทาเงินเถื่อนเงินใต้โต๊ะเงินซื้อเสียงเงินขานเสียงเงินฮั๊วเงินถุงขนมตกหน้าศาล เงินแจกกล้วยในทั้งสภาได้เลยก็ว่าและเงินสาระพัดชั่วเลวระยำใดๆจะสิ้นซากหมด สามารถตามติดธุรกรรมเลวชั่วได้เรียลไทม์ทั้งหมดด้วย เป็นต้น,1คนไทย1 IDบัตรปชช.1 เลขมือถือควอนตัม 1บัญชีตังดิจิดัลบาทคอยน์อินทนนท์เท่านั้น จะมี1บาทคอยน์หรือ10ล้านล้านบาทคอยน์ก็มีได้แค่1บัญชีธนาคารตังดิจิดัลส่วนตัวเอกเทศปัจเจกบุคคลของใครของมันเฉพาะตัว,จากนั้นคุณจะอัดสวัสดิการใดๆ ล้างหนี้ประชาชนใดๆ เก็บภาษีลักษณะใดๆระบบจะรันอัตโนมัติคิดคำนวนอัตโนมัติเรียลไทม์ให้แบบเชื่อมต่อเน็ตstarlinkนั้นล่ะ อยู่ทุกๆที่ทุกๆเวลาทำทุกๆธุรกรรมการเงินได้,นี้คือการว่าด้วยตังเพียว,สามารถเก็บภาษีสินค้าอุปโภคและบริโภคอย่างเดียวก็ได้,สามารถเก็บภาษีเงินไหลเข้าตังไหลเข้ามือถือคนๆนั้นฝ่ายเดียวก็ได้เพื่อบรรลุเป้าหมายว่าคุณมีรายได้รับเข้ามาจริงแล้วต้องจ่ายส่วยจ่ายตังจ่ายภาษีให้เสียดีๆก็ว่า,เช่นเงินเข้า100บาท ระบบก็หักอัตโมัติ0.01บาทเป็นภาษีเงินเข้ารายรับรายได้ประชาชนจริง,เหลือคือ99.99บาทก็ไปรวมยอดสะสมที่มือถือนั้นสามารถตื๊ดๆใช้จ่ายออกไปได้จริงต่อไป,ใครตังเข้ามือถือหักออโต้ก็ว่า,ตลอดธุรกรรมจับจ่ายแลกเปลี่ยนโอนตังออก รับตังเข้า กระแสเงินสะพัดหมุนเวียนทั่วไทยและทั่วโลกของคนไทยค้าขายคือวันละ100ล้านล้านบาทต่อวันแบบเวอร์ๆ,ตังที่เก็บหักออโต้ได้คือ0.01ล้านล้านบาทต่อวันนั้นเอง,กรณีบวกสาระพัดจาก0.01+0.07กรณีภาษีมูลค่าเพิ่มด้วยก็คือ0.08,หรือvatแบบผีบ้าnesaraมันคิดเหมารวมที่0.14+0.01=0.15ก็สบายมาก ,จะเป็น0.15ล้านล้านบาทต่อวันหักออโต้เป็นตัวภาษีชาติไทยทันที,100วันคือ15ล้านล้านบาท,200วันคือ30ล้านล้านบาท,300วันคือ45ล้านล้านบาท,คือไม่เก็บภาษีใดๆเลย,ให้ประชาชนทำกิจกรรมเต็มที่ ใครอยากเปิดบริษัทไม่ต้องเสียภาษีนิติบุคคล,ประชาชนมนุษย์เงินเดือนใดๆไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอะไรใดๆ,และภาษีอื่นๆก็ว่า,โดยทั้งหมดค่อยๆคลายปลดไป,จนหมดจนสมดุลได้ดังเป้า ค้าขายฮับไทยระดับโลกก็ว่า,ใครมาทำธุรกรรมบนแผ่นดิน มาเปิดสาขาตั้งสำนักงานใดๆใหญ่น้อยเข้าระบบเราคือจบ,บาทคอยน์คือสกุลเงินโลกอาจไม่ผิด ใครทำธุรกรรมผ่านบาทคอยน์เสีย0.15ไปเลยก็ว่า,หรือ0.01กรณีโอนตังรับตังเข้ามือถือมิใช่ค้าขายการตลาดหรือบริษัท.,คือเสน่หาก็ว่า, นี้มโนเพียวๆ,ระบบไทยเรากากมั้ย ถ้าล้ำๆแบบทำที่ว่าได้ทันทีมั้ย,เงินมืดเงินเทาจะตายทันที,คนควบคุมตังดิจิดัลบาทคอยน์ของไทยจึงสำคัญมากๆ,เสือกคีย์ตังผีบ้าตีประเมินผีบ้าคีย์ตัวเลขสัก10ล้านล้านบาทหรือ1,000ล้านล้านบาทคอยน์บรรลัยกินทั้งระบบแน่นอนคือฟอกเงินให้ตังเทาพินาศแน่นอนนั่นเอง,ทั้งเงินใต้ดินเงินเทาเงินเถื่อนเงินที่เข้าใจว่าหนีภาษีสไตล์นักการเมืองแหกตาหรือคนราชการแหกอกว่าฉันต้องใช้NITกับประชาชนทุกๆคนนะจะจบไปทันที,ตังเถื่อนๆใต้เงินพวกนั้นจะไร้ค่่ของจริงทันที,อย่าว่าแต่หนีภาษีที่ฉันรัฐบาลอยากเก็บภาษีกับเงินห่าเหวพวกนี้เลย,บาทเดียวสลึงเดียวอาจไม่ได้เลยเพราะระบบตังดิจิดัลที่ว่าฆ่าทิ้งพวกนั้นนี้หมด,แบงค์ชาติเอาจริงจะไม่ใครในชาติไทยนี้หลบหนีการฟอกเงินได้หรอก,แบงค์ชาติเห็นหมดล่ะทุกๆธุรกรรมของใครๆ,แบงค์ชาติไม่ใช่ของคนไทยแต่เป็นของต่างชาติของอีลิทdeep stateควบคุมสั่งการและก่อตั้ง,แบงค์ชาติผีบ้าอะไรที่รัฐบาลไทยตนเข้าควบคุมสั่งการไม่ได้,แม้ไม่ใช่รัฐบาลทหารไทยเป็นฝ่สยตรงข้ามเราก็เถอะ,เป็นรัฐบาลประชาชนคนดีๆก็ตาม มันเขียนกฎหมายกติกาสาระพัดให้โทษใครก็ตามหมายจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวในกิจกรรมกิจการของเครือข่ายdeep stateสากลข้ามมาไทยยึดไทยมรุงอักเสบแน่ถูกมันจัดการนั้นเอง,
    ..วาระNITเป็นวาระหนึ่งในการควบคุมมนุษย์ของแผนagenda2030นี้ล่ะ,ด้านหนึ่งในหลายๆด้านหลายๆหมากกันผิดพลาดก็ได้ แบบคาร์บอนเครดิตหรือพรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศนั้นล่ะ.
    ..NITนี้ยังไม่มีรายละเอียดชี้แจงแก่ประชาชนชัดเจนเข้าใจตรงกันในเนื้อในใดๆเลย กะมาแบบมุกเดิมๆใช้ตังล่อ ทำแล้วได้รับเศษตังนะ บังคับมาทำไวๆเร็วด้วย,ผิดปกติประชาธิปไตย ไร้ลงมติเห็นด้วยหรือไม่แก่ประชาชน มัดมือชกโดยกระบวนฝ่ายราชการประจำอีก,ราชการประจำนี้ล่ะเหี้ยนิ่งเฉยในพื้นที่สระแก้วจนบ้านหนองจานถูกเขมรยึดทำกินเสียนานกว่า30-40ปีหลังหนีตายเขมรแดงมาไทย,ข้าราชการพื้นที่แบบนานอำเภอผู้ว่าฯจังหวัดนั้นๆละเว้นปฏิบัติหน้าที่ถีบเขมรออกจากแผ่นดินไทยชัดเจนด้วย,คือระบบราชการไทยล้มเหลวทั้งระบบในตัวมันเอง กากไร้ประสิทธิภาพด้วย ทุจริตเต็มบ้านเต็มเมืองก็มาจากหน่วยงานราชการเองตนปล่อยปะละเลยในตำแหน่งราชการปกครองจนเหี้ยถึงปัจจุบัน,มารีดไถประชาชนอีกผ่านให้ทุกๆคนเข้าระบบภาษี,เน้นเชื่อมโยงสุขภาพด้วยคือใครยังไม่ฉีดวัคซีน ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งอำนาจข้าราชการประจำกระทรวงทบวงกรมประกาศ กูจะมีสิทธิตัดสิทธิสวัสดิการมรึงๆคนไทยทั้งหมดนะหรือคนไทยคนนั้นๆถ้าขัดขืนไม่ปฏิบัติตามรัฐบอก,คือประชาชนถูกไล่ล่าถีบออกจากพวกได้นั้นเอง,หากยิ่งเจอการปกครองแบบเผด็จการฮุนเซนควบคุมระบบจะมิตายเหรอ,ขนาดกำลังทำสงคราม ยังไม่สงบสุข คลังผีบ้าเสือกกล้าหาญชิงมาประกาศห่าเหวอะไร บังคับคนในอนาคตแบบนั้น,จะมามุกแบบประกาศล่วงหน้าใส่หมวกกันน็อคล่ะ ถึงเวลากูฝ่ายราชการประจำประกาศบังคับใช้เลย,นี้คือเผด็จการจากระบบราชการไทยฝ่ายธุรการราชการไทยชัดเจน,เผลอๆคิดเล่นๆฝ่ายราชการไทยนี้ล่ะแทรกแซงระบบประชาธิปไตย ทำลายประชาธิปไตยคนไทยให้ด้อยค่า,โดยใส่คนของราชการเต็มระบบนักการเมือง,ใส่ชุดนักการเมืองจากนั้นแสดงออกสาระพัดเลวชั่วในคราบนักการเมืองที่ตนสวมใส่ว่านักการเมืองในระบบนี้เลวชั่วช้าอย่างไร แล้วมันก็เขียนกฎหมายชั่วๆเลวๆสาระพัดออกมาใช้บังคับประชาชนโดยอ้างว่านักการเมืองสั่ง นักการเมืองอนุญาตแล้วนะ,มโนในมุมหักมุมว่าเหี้ยคนข้าราชการนี้ล่ะเข้ามาเล่นการเมืองในคราบชุดนักการเมืองแล้วแดกสาระพัดสร้างความเดือดร้อนสาระพัดทิศทั่วไทยหรือคือกลุ่มอนุรักษ์นิยมอำมาตย์เจ้าพระยาขุนเจ้าผู้ดีต่างๆนี้เพื่ออะไร เพื่อตนเองจะได้มีสิทธิอันชอบธรรมคืนสถานะเดิมศักดินาเดิมผู้ดีกลับคืนมาอีกครั้ง,คือผีบ้ายศบ้าตำแหน่งบ้าปกครองให้คนเป็นทาส เห็นคนรับใช้เป็นทาสตนแล้วมีความสุขในการเหยียบมนุษย์ด้วยกันนั้นเองแบบในอดีตที่พวกนี้ชอบชมใจชื่นชูแก่ใจมันนักยิ่งนั้นเอง,เรา..ประชาชนเห็นนักการเมืองเหี้ยนี้เลวชั่วจริง เขียนกฎหมายผีบ้าจริงมากมายด้วย ยังอยากไม่ให้มีสถาบันนักการเมืองหรือสภาเลย.,นี้คือมโนเพียวๆหักมุมอีกด้าน.
    ..ปัจจุบันประเทศไทยสมควรกวาดล้างจริงจังต่อคนชั่วเลวทั้งในระบบนักการเมืองและในระบบราชการกันจริงจังจริงๆ,
    ..ผู้นำผู้ปกครองต้องสไตล์คนอารยะธรรมจักรวาลขั้นสูงลงมาเกิดในมิตินี้ที่ไทยเรา,เป็นนักปกครองมาเกิดด้วยนั้นเอง,เราปกครองกากๆมานานเกินพอแล้ว.,จนเขมรซึ่งคือแค่เขมรยังมาเหยียบประเทศไทยได้,เหยียบย้ำศักดิ์ศรีไม่พอฆ่าเด็กๆเราแบบไม่รู้ตัวด้วย,รัฐบาลชุดทหารเป็นฝ่ายจรงข้ามเราสมควรหมดอำนาจทันทีตั้งแต่ก่อนวันที่28 ก.ค.2568แล้ว,นี้คือความไม่เด็ดขาดของ ผบ.ทหารสูงสุดเรา,ถ้าส่วนตัวเป็นนายกฯจะออกพรก.ฉุกเฉินยึดอำนาจตัวเอง,จากนั้นตั้งบิ๊กปู พนา เป็น ผบ.สูงสุดเลย,รองผบ.สูงสุดคือบิ๊กกุ้ง,คุมทัพจัดการกวาดล้างเขมร เด็ดหัวฮุนเซนฮุนมาเนตทันที, ประสานลาว เวียดนามร่วมรบเพื่อจัดสรรพื้นที่เขมรจริงจัง เพราะไทยยึดเขมรเองจะน่าเกียจเกินไป,จากนั้นเริ่มปฐมบทกวาดล้างสิ่งสกปรกจริงทั้งแผ่นดินไทยจริงๆเพื่ออัพเรเวลใหม่สู่ยุคอารยะธรรมท่องจักรวาลจริงๆ.,เรื่องเขมรเป็นอะไรที่ไร้สาระมาก,ทุบทิ้งลบชื่อเขมรออกจากแผ่นที่โลกเลย.,อนาคตชื่อประเทศเขมรไม่ปรากฎในคำทำนายก็เป็นเพราะเหตุนี้ด้วยมิใช่แค่แผ่นดินเขมรมุดลงทะเลแปซิฟิกหรอกก็ว่า.

    https://youtube.com/watch?v=a1dOy2xO08k&si=aTzjrtvryMM7K4Eo

    ผีบ้าร่ายเสียยาว.อย่าว่ากันเด้อใครที่ผ่านเข้ามาในบ้านในเพจเรา.555 ..มั่ว ระบบมั่ว,แค่อยากเก็บตังจากประชาชนให้มากๆเท่านั้น,กฎหมายลักหลับประชาชน จะหลอยหลอนออกทีหลังที่บ้านเมืองโกลาหลวุ่นวายตลอด โป๊กเกอร์คือตัวอย่าง อะไรที่ไม่สำเร็จในยุคโทนี่ สำเร็จเกือบหมดในยุคยึดอำนาจจาก กปปส.ถวายพาน,นี้ก็ด้วย พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศก็ผ่านแล้ว,นี้ก็อีกมัดมือชกตอนไทยทหารไทยและประชาชนกำลังต่อสู้กับภัยอธิปไตยชาติไทย เสือกหน้ามึนมาบังคับประกาศให้ประชาชนต้องทำตามคลังจากสมัยรัฐบาลที่ทหารเป็นฝ่ายตรงข้ามเรานะ กะผูกผันต้องทำตามนะ,เป็นท่านนี้ถ้าได้เป็นนายกฯนะจะยกเลิกทันทีเช่นกัน,ล้างระบบทั้งหมดผีบ้าออกก่อน สไตล์ซาตานอีลิทเอาตังล่อคนไทยเหมือนเดิมเพื่อตอนควายวัวแพะแกะเข้าระบบควบคุมมนุษย์มันอย่างสมบูรณ์อนาคตคงฝังชิปใส่ตัวทุกๆคนไทยเพื่อเข้าถึงสวัสดิการทั้งหมดล่ะ,คือเอาสวัสดิการมาล่อ,แบบเดอะแก๊งเงินบุญหรือเดอะแก๊งgesara nesaraตังUBIเอย ปลดหนี้สินเด็กๆนักเรียนนักศึกษาและประชาชนเอย,แนวคิดโคตรพ่อโคตรแมร่งมันมาจากอเมริกาอีกล่ะ,ล้างสมองผ่านสิ่งนี้ เพราะท้ายสุดพ่อมันตายสิ่งนี้ก็ยังไม่เห็นจริงสักที เขมรว่าสันดานโคตรตอแหลหลอกลวงแล้ว อเมริกายิ่งโคตรมหาตอแหลหลอกลวงอีก กูรูสายฝ่ายแสงไทยบอกว่าตังโอนเข้าประเทศไทยแล้วกว่า1×10¹²⁰ แค่1×10²⁰ก็บุญหัวแล้ว คนไทยจะได้ตังร่ำรวยขนาดไหน แต่ขอโทษ อเมริกาได้100,000$/เดือน ,ไทยได้25,000บาทต่อเดือนพะนะ,หรือ1,000,000บาทแค่40เดือนพอ,อเมริกาปล้นตังวาติกันได้กว่า1×10⁸⁰⁰โน้นหรือบางคนว่า1×10¹⁰⁰⁰ ,กูรูบางคนว่าประเทศไทยเป็นฮับปลดปล่อย โอนมารอกดปุ่มแล้ว1×10²⁰⁰เบื้องต้น,เริ่มหลังagenda30สำเร็จมันว่า ,ไทยคง2570เร่งเร็วขึ้น,ญี่ปุ่นปลดปล่อยnesaraแล้วพะนะ,คือมโนมากๆน่าจะเดอะแก๊งคอลเซนเตอร์เขมรนี้ล่ะ เก็งกำไรUSDสกุลรุ้งด้วยก็ว่า,ลงตามค่าครองชีพของแต่ละประเทศ,จากUBIกลายเป็นNITเสียแล้ว,แบบมุกค่าแรงอเมริกา3,000$ต่อวัน,ไทยไม่น้อยหน้าอวด300฿ต่อวันสู้โน้น,ตัดศูนย์ไม่หนึ่งตัว,สกุลแลกเปลี่ยน1$:35฿อีก มันคนละเรื่องเลย. ..จริงๆรัฐบาลนี้ไม่เหมาะสมในช่วงจังหวะนี้จะทำใดๆ,เพราะระบบยังไม่น่าเชื่อถือถูกแฮกเกอร์ดูดได้ปกติอยู่คือยังกากนั้นเอง, ..ภาษีจริงๆได้มาจากภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีปิโตรเลียมโดยส่วนใหญ่ ภาษีประชาชนจ่ายมากกว่าภาษีบริษัทนิติบุคคลอีกด้วย,รีดตังจากประชาชนดีๆนี้ล่ะ,ประชาชนไม่เกี่ยวเลยว่ารวมกันจ่ายหรือเก็บได้น้อย คนทำงานจ่ายมาก ต้องมาแบกภาระช่วยคนไม่ทำงาน ,ตรรกะนี้ถือว่าไม่สมควรมีรัฐบาลเพื่ออยู่ประจำชาติไทย,ตั้งบริษัทประเทศไทยแทนชื่อว่ารัฐบาลเถอะ,บริหารแบบบริษัทไป,หรือบริหารแบบกองทุนหมู่บ้านที่เข้มแข็งแทน เช่นกองทุนหมู่บ้านแห่งชาติแลนด์บริดจ์และคลองคอดกระเป็นต้น เป็นเจ้าของและร่วมบริหารจัดการจริง,มิใช่แบบรัฐบาลยกให้เอกชนต่างชาติหรือเอกชนไทยไปแดกตังจนร่ำรวยแบบยกบ่อน้ำมันทั่วประเทศไทยไปสำเร็จมาแล้ว,เนื้องานภาษีจริงๆคือภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีปิโตรเลียม รัฐบาลยึดอำนาจหากไม่ลดนั้นนี้ให้ต่างชาติหรือยึดทำบ่อน้ำมันเองจะพลิกเป็นร่ำรวยทันที,ภาษีบุุคคลธรรมดาจึงกากมากไม่กี่หมื่นล้านบาทต่อปี จากอดีต4-5พันล้านบาทต่อปีโดยเฉลี่ย,ส่วนภาษีนิติบุคคลยิ่งเก็บภาษีได้กากมาก3-4พันล้านบาทเอง,รัฐบาลจึงอ้างคนไทยทั้งประเทศต้องเข้าระบบภาษีทุกๆคนเพื่อป้องกันการเก็บภาษีหลุดออกจากระบบให้เก็บได้มากๆจึงเป็นตรรกขี้หมามากเล่าความเท็จโกหกแหกตาประชาชนแบบฉีดวัคซีนนั้นล่ะ ฉีดสารพิษเข้าร่างกายแท้ๆแต่รัฐบาลกลับปกปิดถึงปัจจุบัน ไม่มีความรับผิดชอบในชีวิตประชาชนเลยที่ตนทำกิจกรรมกิจการการเป็นรัฐบาลที่ผิดพลาด,นี้NITนี้ต้องการติดตามกิจกรรม สอดแนมวิถีชีวิตประชาชนแค่นั้นสังเกตุคือผีบ้าอ้างเชื่อมโยงสุขภาพจะเน้นๆกว่าสะท้อนการช่วยเหลือทางการเงิน,อนาคตคือคุณไม่มีอะไรใดๆเลย คุณจะมีความสุขนั้นล่ะ,แม้แต่ชีวิตหรือจิตวิญญาณคุณก็จะไม่เหลือ,คำว่ารัฐบาลเราต้องยกเลิกการใช้คำจริงๆ มันคือการบริหารกิจการประเทศผ่านชื่อสมมุติว่ารัฐบาลนี้ล่ะแต่ภาคประชาชนกลับไม่สามารถจัดการรัฐบาลตนเองได้,ไล่ออกรัฐบาลไม่ซื่อสัตย์ก็ไม่ได้ ยังมีพนักงานบัดสบรากงอกในบริษัทรัฐบาลนี้ปกติ ไปแค่นักการเมืองประมาณนั้นที่เชื่อว่าชั่วแต่โคตรชั่วไม่แพ้กันคือพวกรากงอกสร้างระบบเจ้าพ่ออิทธิพลทั่วเต็มบริษัทรัฐบาลนี้ล่ะ, ..จึงต้องล้างระบบทิ้งทั้งหมดจริงๆก่อน,ระบบภาษีล้างทิ้งทั้งหมดด้วยแล้วสร้างใหม่ สวัสดิการและภาษีที่ซ้ำๆซ้อนๆกัน เก็บเอาเปรียบคนไทยทุกๆคนจะคนธรรมดาหรือเจ้าของกิจการก็ต้องยกเลิกด้วย,ง่ายๆคือล้างกระดานใหม่ทั้งหมด. ..มโนเล่นๆ สมมุติไทยเข้าถึงระบบควอนตัมแล้วมีฐานมหาบิ๊กดาต้าพร้อมรับเข้าส่งออกเรียลไทม์มหาศาลแล้ว.,"บริษัทกองทุนประเทศไทย" ชื่อแทนชื่อรัฐบาลไทย,แจกมือถือควอนตัมคุณภาพสูงทุกๆคนไทยห้ามฝังชิปใส่ตัว,ทำธุรกรรมการเงินเรื่องตังจะใช้จ่ายจะรับเข้าให้ใช้มือถือแทน แน่นอนบาทคอยน์อินทนนท์มาใช้ในที่นี้จริงนั้นเอง,ตื๊ดๆตื๊ดๆรับเข้าโอนออก จ่ายออก ได้ตังมา ใช้มือถือควอนตัมนี้จบ,จะจบการทุจริตเงินมืดเงินเทาเงินเถื่อนเงินใต้โต๊ะเงินซื้อเสียงเงินขานเสียงเงินฮั๊วเงินถุงขนมตกหน้าศาล เงินแจกกล้วยในทั้งสภาได้เลยก็ว่าและเงินสาระพัดชั่วเลวระยำใดๆจะสิ้นซากหมด สามารถตามติดธุรกรรมเลวชั่วได้เรียลไทม์ทั้งหมดด้วย เป็นต้น,1คนไทย1 IDบัตรปชช.1 เลขมือถือควอนตัม 1บัญชีตังดิจิดัลบาทคอยน์อินทนนท์เท่านั้น จะมี1บาทคอยน์หรือ10ล้านล้านบาทคอยน์ก็มีได้แค่1บัญชีธนาคารตังดิจิดัลส่วนตัวเอกเทศปัจเจกบุคคลของใครของมันเฉพาะตัว,จากนั้นคุณจะอัดสวัสดิการใดๆ ล้างหนี้ประชาชนใดๆ เก็บภาษีลักษณะใดๆระบบจะรันอัตโนมัติคิดคำนวนอัตโนมัติเรียลไทม์ให้แบบเชื่อมต่อเน็ตstarlinkนั้นล่ะ อยู่ทุกๆที่ทุกๆเวลาทำทุกๆธุรกรรมการเงินได้,นี้คือการว่าด้วยตังเพียว,สามารถเก็บภาษีสินค้าอุปโภคและบริโภคอย่างเดียวก็ได้,สามารถเก็บภาษีเงินไหลเข้าตังไหลเข้ามือถือคนๆนั้นฝ่ายเดียวก็ได้เพื่อบรรลุเป้าหมายว่าคุณมีรายได้รับเข้ามาจริงแล้วต้องจ่ายส่วยจ่ายตังจ่ายภาษีให้เสียดีๆก็ว่า,เช่นเงินเข้า100บาท ระบบก็หักอัตโมัติ0.01บาทเป็นภาษีเงินเข้ารายรับรายได้ประชาชนจริง,เหลือคือ99.99บาทก็ไปรวมยอดสะสมที่มือถือนั้นสามารถตื๊ดๆใช้จ่ายออกไปได้จริงต่อไป,ใครตังเข้ามือถือหักออโต้ก็ว่า,ตลอดธุรกรรมจับจ่ายแลกเปลี่ยนโอนตังออก รับตังเข้า กระแสเงินสะพัดหมุนเวียนทั่วไทยและทั่วโลกของคนไทยค้าขายคือวันละ100ล้านล้านบาทต่อวันแบบเวอร์ๆ,ตังที่เก็บหักออโต้ได้คือ0.01ล้านล้านบาทต่อวันนั้นเอง,กรณีบวกสาระพัดจาก0.01+0.07กรณีภาษีมูลค่าเพิ่มด้วยก็คือ0.08,หรือvatแบบผีบ้าnesaraมันคิดเหมารวมที่0.14+0.01=0.15ก็สบายมาก ,จะเป็น0.15ล้านล้านบาทต่อวันหักออโต้เป็นตัวภาษีชาติไทยทันที,100วันคือ15ล้านล้านบาท,200วันคือ30ล้านล้านบาท,300วันคือ45ล้านล้านบาท,คือไม่เก็บภาษีใดๆเลย,ให้ประชาชนทำกิจกรรมเต็มที่ ใครอยากเปิดบริษัทไม่ต้องเสียภาษีนิติบุคคล,ประชาชนมนุษย์เงินเดือนใดๆไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอะไรใดๆ,และภาษีอื่นๆก็ว่า,โดยทั้งหมดค่อยๆคลายปลดไป,จนหมดจนสมดุลได้ดังเป้า ค้าขายฮับไทยระดับโลกก็ว่า,ใครมาทำธุรกรรมบนแผ่นดิน มาเปิดสาขาตั้งสำนักงานใดๆใหญ่น้อยเข้าระบบเราคือจบ,บาทคอยน์คือสกุลเงินโลกอาจไม่ผิด ใครทำธุรกรรมผ่านบาทคอยน์เสีย0.15ไปเลยก็ว่า,หรือ0.01กรณีโอนตังรับตังเข้ามือถือมิใช่ค้าขายการตลาดหรือบริษัท.,คือเสน่หาก็ว่า, นี้มโนเพียวๆ,ระบบไทยเรากากมั้ย ถ้าล้ำๆแบบทำที่ว่าได้ทันทีมั้ย,เงินมืดเงินเทาจะตายทันที,คนควบคุมตังดิจิดัลบาทคอยน์ของไทยจึงสำคัญมากๆ,เสือกคีย์ตังผีบ้าตีประเมินผีบ้าคีย์ตัวเลขสัก10ล้านล้านบาทหรือ1,000ล้านล้านบาทคอยน์บรรลัยกินทั้งระบบแน่นอนคือฟอกเงินให้ตังเทาพินาศแน่นอนนั่นเอง,ทั้งเงินใต้ดินเงินเทาเงินเถื่อนเงินที่เข้าใจว่าหนีภาษีสไตล์นักการเมืองแหกตาหรือคนราชการแหกอกว่าฉันต้องใช้NITกับประชาชนทุกๆคนนะจะจบไปทันที,ตังเถื่อนๆใต้เงินพวกนั้นจะไร้ค่่ของจริงทันที,อย่าว่าแต่หนีภาษีที่ฉันรัฐบาลอยากเก็บภาษีกับเงินห่าเหวพวกนี้เลย,บาทเดียวสลึงเดียวอาจไม่ได้เลยเพราะระบบตังดิจิดัลที่ว่าฆ่าทิ้งพวกนั้นนี้หมด,แบงค์ชาติเอาจริงจะไม่ใครในชาติไทยนี้หลบหนีการฟอกเงินได้หรอก,แบงค์ชาติเห็นหมดล่ะทุกๆธุรกรรมของใครๆ,แบงค์ชาติไม่ใช่ของคนไทยแต่เป็นของต่างชาติของอีลิทdeep stateควบคุมสั่งการและก่อตั้ง,แบงค์ชาติผีบ้าอะไรที่รัฐบาลไทยตนเข้าควบคุมสั่งการไม่ได้,แม้ไม่ใช่รัฐบาลทหารไทยเป็นฝ่สยตรงข้ามเราก็เถอะ,เป็นรัฐบาลประชาชนคนดีๆก็ตาม มันเขียนกฎหมายกติกาสาระพัดให้โทษใครก็ตามหมายจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวในกิจกรรมกิจการของเครือข่ายdeep stateสากลข้ามมาไทยยึดไทยมรุงอักเสบแน่ถูกมันจัดการนั้นเอง, ..วาระNITเป็นวาระหนึ่งในการควบคุมมนุษย์ของแผนagenda2030นี้ล่ะ,ด้านหนึ่งในหลายๆด้านหลายๆหมากกันผิดพลาดก็ได้ แบบคาร์บอนเครดิตหรือพรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศนั้นล่ะ. ..NITนี้ยังไม่มีรายละเอียดชี้แจงแก่ประชาชนชัดเจนเข้าใจตรงกันในเนื้อในใดๆเลย กะมาแบบมุกเดิมๆใช้ตังล่อ ทำแล้วได้รับเศษตังนะ บังคับมาทำไวๆเร็วด้วย,ผิดปกติประชาธิปไตย ไร้ลงมติเห็นด้วยหรือไม่แก่ประชาชน มัดมือชกโดยกระบวนฝ่ายราชการประจำอีก,ราชการประจำนี้ล่ะเหี้ยนิ่งเฉยในพื้นที่สระแก้วจนบ้านหนองจานถูกเขมรยึดทำกินเสียนานกว่า30-40ปีหลังหนีตายเขมรแดงมาไทย,ข้าราชการพื้นที่แบบนานอำเภอผู้ว่าฯจังหวัดนั้นๆละเว้นปฏิบัติหน้าที่ถีบเขมรออกจากแผ่นดินไทยชัดเจนด้วย,คือระบบราชการไทยล้มเหลวทั้งระบบในตัวมันเอง กากไร้ประสิทธิภาพด้วย ทุจริตเต็มบ้านเต็มเมืองก็มาจากหน่วยงานราชการเองตนปล่อยปะละเลยในตำแหน่งราชการปกครองจนเหี้ยถึงปัจจุบัน,มารีดไถประชาชนอีกผ่านให้ทุกๆคนเข้าระบบภาษี,เน้นเชื่อมโยงสุขภาพด้วยคือใครยังไม่ฉีดวัคซีน ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งอำนาจข้าราชการประจำกระทรวงทบวงกรมประกาศ กูจะมีสิทธิตัดสิทธิสวัสดิการมรึงๆคนไทยทั้งหมดนะหรือคนไทยคนนั้นๆถ้าขัดขืนไม่ปฏิบัติตามรัฐบอก,คือประชาชนถูกไล่ล่าถีบออกจากพวกได้นั้นเอง,หากยิ่งเจอการปกครองแบบเผด็จการฮุนเซนควบคุมระบบจะมิตายเหรอ,ขนาดกำลังทำสงคราม ยังไม่สงบสุข คลังผีบ้าเสือกกล้าหาญชิงมาประกาศห่าเหวอะไร บังคับคนในอนาคตแบบนั้น,จะมามุกแบบประกาศล่วงหน้าใส่หมวกกันน็อคล่ะ ถึงเวลากูฝ่ายราชการประจำประกาศบังคับใช้เลย,นี้คือเผด็จการจากระบบราชการไทยฝ่ายธุรการราชการไทยชัดเจน,เผลอๆคิดเล่นๆฝ่ายราชการไทยนี้ล่ะแทรกแซงระบบประชาธิปไตย ทำลายประชาธิปไตยคนไทยให้ด้อยค่า,โดยใส่คนของราชการเต็มระบบนักการเมือง,ใส่ชุดนักการเมืองจากนั้นแสดงออกสาระพัดเลวชั่วในคราบนักการเมืองที่ตนสวมใส่ว่านักการเมืองในระบบนี้เลวชั่วช้าอย่างไร แล้วมันก็เขียนกฎหมายชั่วๆเลวๆสาระพัดออกมาใช้บังคับประชาชนโดยอ้างว่านักการเมืองสั่ง นักการเมืองอนุญาตแล้วนะ,มโนในมุมหักมุมว่าเหี้ยคนข้าราชการนี้ล่ะเข้ามาเล่นการเมืองในคราบชุดนักการเมืองแล้วแดกสาระพัดสร้างความเดือดร้อนสาระพัดทิศทั่วไทยหรือคือกลุ่มอนุรักษ์นิยมอำมาตย์เจ้าพระยาขุนเจ้าผู้ดีต่างๆนี้เพื่ออะไร เพื่อตนเองจะได้มีสิทธิอันชอบธรรมคืนสถานะเดิมศักดินาเดิมผู้ดีกลับคืนมาอีกครั้ง,คือผีบ้ายศบ้าตำแหน่งบ้าปกครองให้คนเป็นทาส เห็นคนรับใช้เป็นทาสตนแล้วมีความสุขในการเหยียบมนุษย์ด้วยกันนั้นเองแบบในอดีตที่พวกนี้ชอบชมใจชื่นชูแก่ใจมันนักยิ่งนั้นเอง,เรา..ประชาชนเห็นนักการเมืองเหี้ยนี้เลวชั่วจริง เขียนกฎหมายผีบ้าจริงมากมายด้วย ยังอยากไม่ให้มีสถาบันนักการเมืองหรือสภาเลย.,นี้คือมโนเพียวๆหักมุมอีกด้าน. ..ปัจจุบันประเทศไทยสมควรกวาดล้างจริงจังต่อคนชั่วเลวทั้งในระบบนักการเมืองและในระบบราชการกันจริงจังจริงๆ, ..ผู้นำผู้ปกครองต้องสไตล์คนอารยะธรรมจักรวาลขั้นสูงลงมาเกิดในมิตินี้ที่ไทยเรา,เป็นนักปกครองมาเกิดด้วยนั้นเอง,เราปกครองกากๆมานานเกินพอแล้ว.,จนเขมรซึ่งคือแค่เขมรยังมาเหยียบประเทศไทยได้,เหยียบย้ำศักดิ์ศรีไม่พอฆ่าเด็กๆเราแบบไม่รู้ตัวด้วย,รัฐบาลชุดทหารเป็นฝ่ายจรงข้ามเราสมควรหมดอำนาจทันทีตั้งแต่ก่อนวันที่28 ก.ค.2568แล้ว,นี้คือความไม่เด็ดขาดของ ผบ.ทหารสูงสุดเรา,ถ้าส่วนตัวเป็นนายกฯจะออกพรก.ฉุกเฉินยึดอำนาจตัวเอง,จากนั้นตั้งบิ๊กปู พนา เป็น ผบ.สูงสุดเลย,รองผบ.สูงสุดคือบิ๊กกุ้ง,คุมทัพจัดการกวาดล้างเขมร เด็ดหัวฮุนเซนฮุนมาเนตทันที, ประสานลาว เวียดนามร่วมรบเพื่อจัดสรรพื้นที่เขมรจริงจัง เพราะไทยยึดเขมรเองจะน่าเกียจเกินไป,จากนั้นเริ่มปฐมบทกวาดล้างสิ่งสกปรกจริงทั้งแผ่นดินไทยจริงๆเพื่ออัพเรเวลใหม่สู่ยุคอารยะธรรมท่องจักรวาลจริงๆ.,เรื่องเขมรเป็นอะไรที่ไร้สาระมาก,ทุบทิ้งลบชื่อเขมรออกจากแผ่นที่โลกเลย.,อนาคตชื่อประเทศเขมรไม่ปรากฎในคำทำนายก็เป็นเพราะเหตุนี้ด้วยมิใช่แค่แผ่นดินเขมรมุดลงทะเลแปซิฟิกหรอกก็ว่า. https://youtube.com/watch?v=a1dOy2xO08k&si=aTzjrtvryMM7K4Eo
    0 Comments 0 Shares 327 Views 0 Reviews
  • มายากลยุทธ ภาค 1 ตอน ผู้มีบารมีเหนือประชาธิปไตย
    นิทานเรื่ิองจริง เรื่อง” มายากลยุทธ ”
    ตอนที่ 6 : ผู้มีบารมีเหนือประชาธิปไตย
    Trilateral Commission เป็นองค์กรส่วนบุคคล เป็นการร่วมตัวของกลุ่มบุคคลในหลาย ๆ วงการ ซึ่งเป็นที่ยอมรับในสังคมระดับสูง (Elites) มีวัตถุประสงค์ที่จะกำหนดยุทธศาสตร์โลก ผ่านเครือข่ายนานาชาติที่เชื่อมโยงกัน ในฐานะคู่ค้าหรือหุ้นส่วนทางการค้า โดยมีตระกูล Rockefeller เป็นผู้นำกลุ่ม ซึ่งเมื่อรวมทรัพย์สิน และอิทธิพลทางการเมือง และเศรษฐกิจของพวกเขาแล้ว ไม่มีใครจะมีรัศมีและบารมี (เหนือประชาธิปไตย) มาทาบได้
    ความปรารถนาของพวกเขาคือ ต้องการจะสถาปนา สิ่งซึ่ง George H. W Bush เรียกภายหลังว่า การจัดระเบียบโลกใหม่หรือ New World Order ซึ่งมุ่งเน้นที่จะสร้างและขยายความมั่งคั่ง ภายใต้นโยบายเดียวกัน ทิศทางเดียวกัน หลักเกณฑ์เดียวกัน เสมือนมีรัฐบาลเดียว คือ Global government โดยมี Trilateral Commission เป็นผู้ปูทาง วางรูปแบบกฎระเบียบต่าง ๆ ซึ่งต่อมาในยุค ค.ศ.1990 เป็นที่รู้จักกันในนาม “Globalization” หรือ “โลกาภิวัฒน์”
    พวกเขาบอกว่า ปัจจัยที่จะทำให้อเมริกาจะเป็นมหาอำนาจครองโลกนั้น จะต้องพร้อมด้วย แก้ว 3 ประการ
    – กองทัพอันเกรียงไกร ที่ไม่มีผู้ใดจะกล้ามาท้าทาย
    – เงินสกุลดอลล่าร์ จะต้องเป็นสกุลเงินที่ใช้เป็นทุนสำรอง
    – การมีอำนาจควบคุมน้ำมันและอาหาร
    ปี ค.ศ.1973 ขณะที่บางซีกของโลกกำลังขาดแคลนอาหาร อเมริกามีอาหารเหลือกิน ประธานาธิบดี Nixon ก็กำลังยืนหน้าเขียวพิงเชือก ถูกกรรมการนับ จากสงครามเวียตนาม ทำท่าจะหลุดจากเชือกลงมากองกับพื้นเสียด้วยซ้ำ
พอดีผู้มีบารมีเหนือประชาธิปไตยจัดส่งนาย Henry Kissinger มาให้เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศและที่ปรึกษาด้านความมั่นคง
    นาย Kissinger ไม่รอช้า เสนอความเห็นกับนาย Nixon ว่า เราควรจะใช้อาหารเป็นพระเอกในด้านการฑูตนะ ควบคู่กับการแสวงหาน้ำมันไปกับภูมิศาสตร์การเมือง
    อืม! เด็กเรามันใช้ได้จริงๆ นะ ไม่เสียเวลาเลย นาย David รำพึง
    ลืมบอกไปว่าในปี ค.ศ.1950 นาย David Rockefeller เป็นคนไปคัดเลือกตัว นาย Kissinger ตั้งแต่นาย Kissinger ยังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย Harvard เพื่อให้มาทำงานในโครงการสำคัญของมูลนิธิ Rockefeller
    เริ่มเห็นภาพกันหรือยังท่านผู้อ่านนิทาน นาย Kissinger ตกลงไม่ใช่คนขี้โม้ และไม่ใช่หมอดู แต่เป็นอะไรนะ คนอ่านนิทานตอบได้น่า
    แค่นั้นยังไม่พอ เพื่อเป็นการสนองนโยบาย (ใครไม่รู้) นาย Kissinger เห็นว่า นโยบายเกี่ยวกับการเกษตรนั้นสำคัญยิ่ง ไม่ควรทิ้งให้อยู่ในความดูแลของกระทรวงการเกษตรเลย เขาเลยนำมากำกับดูแลเอง โดยบอกว่าเป็นเรื่องความมั่นคงของประเทศ
    เราต้องใช้อาหารเป็นเครื่องมือสำหรับให้รางวัลเพื่อน และลงโทษศัตรู นโยบายแบบนี้วอชิงตันก็ชอบ นาย David Rockefeller ก็พอใจ มันสมกับเป็นนักการฑูตผู้ยิ่งใหญ่จริง ๆ ไอ้คนนี้มีเสน่ห์เพราะอำนาจ ! ? !

    คนเล่านิทาน
    มายากลยุทธ ภาค 1 ตอน ผู้มีบารมีเหนือประชาธิปไตย นิทานเรื่ิองจริง เรื่อง” มายากลยุทธ ” ตอนที่ 6 : ผู้มีบารมีเหนือประชาธิปไตย Trilateral Commission เป็นองค์กรส่วนบุคคล เป็นการร่วมตัวของกลุ่มบุคคลในหลาย ๆ วงการ ซึ่งเป็นที่ยอมรับในสังคมระดับสูง (Elites) มีวัตถุประสงค์ที่จะกำหนดยุทธศาสตร์โลก ผ่านเครือข่ายนานาชาติที่เชื่อมโยงกัน ในฐานะคู่ค้าหรือหุ้นส่วนทางการค้า โดยมีตระกูล Rockefeller เป็นผู้นำกลุ่ม ซึ่งเมื่อรวมทรัพย์สิน และอิทธิพลทางการเมือง และเศรษฐกิจของพวกเขาแล้ว ไม่มีใครจะมีรัศมีและบารมี (เหนือประชาธิปไตย) มาทาบได้ ความปรารถนาของพวกเขาคือ ต้องการจะสถาปนา สิ่งซึ่ง George H. W Bush เรียกภายหลังว่า การจัดระเบียบโลกใหม่หรือ New World Order ซึ่งมุ่งเน้นที่จะสร้างและขยายความมั่งคั่ง ภายใต้นโยบายเดียวกัน ทิศทางเดียวกัน หลักเกณฑ์เดียวกัน เสมือนมีรัฐบาลเดียว คือ Global government โดยมี Trilateral Commission เป็นผู้ปูทาง วางรูปแบบกฎระเบียบต่าง ๆ ซึ่งต่อมาในยุค ค.ศ.1990 เป็นที่รู้จักกันในนาม “Globalization” หรือ “โลกาภิวัฒน์” พวกเขาบอกว่า ปัจจัยที่จะทำให้อเมริกาจะเป็นมหาอำนาจครองโลกนั้น จะต้องพร้อมด้วย แก้ว 3 ประการ – กองทัพอันเกรียงไกร ที่ไม่มีผู้ใดจะกล้ามาท้าทาย – เงินสกุลดอลล่าร์ จะต้องเป็นสกุลเงินที่ใช้เป็นทุนสำรอง – การมีอำนาจควบคุมน้ำมันและอาหาร ปี ค.ศ.1973 ขณะที่บางซีกของโลกกำลังขาดแคลนอาหาร อเมริกามีอาหารเหลือกิน ประธานาธิบดี Nixon ก็กำลังยืนหน้าเขียวพิงเชือก ถูกกรรมการนับ จากสงครามเวียตนาม ทำท่าจะหลุดจากเชือกลงมากองกับพื้นเสียด้วยซ้ำ
พอดีผู้มีบารมีเหนือประชาธิปไตยจัดส่งนาย Henry Kissinger มาให้เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศและที่ปรึกษาด้านความมั่นคง นาย Kissinger ไม่รอช้า เสนอความเห็นกับนาย Nixon ว่า เราควรจะใช้อาหารเป็นพระเอกในด้านการฑูตนะ ควบคู่กับการแสวงหาน้ำมันไปกับภูมิศาสตร์การเมือง อืม! เด็กเรามันใช้ได้จริงๆ นะ ไม่เสียเวลาเลย นาย David รำพึง ลืมบอกไปว่าในปี ค.ศ.1950 นาย David Rockefeller เป็นคนไปคัดเลือกตัว นาย Kissinger ตั้งแต่นาย Kissinger ยังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย Harvard เพื่อให้มาทำงานในโครงการสำคัญของมูลนิธิ Rockefeller เริ่มเห็นภาพกันหรือยังท่านผู้อ่านนิทาน นาย Kissinger ตกลงไม่ใช่คนขี้โม้ และไม่ใช่หมอดู แต่เป็นอะไรนะ คนอ่านนิทานตอบได้น่า แค่นั้นยังไม่พอ เพื่อเป็นการสนองนโยบาย (ใครไม่รู้) นาย Kissinger เห็นว่า นโยบายเกี่ยวกับการเกษตรนั้นสำคัญยิ่ง ไม่ควรทิ้งให้อยู่ในความดูแลของกระทรวงการเกษตรเลย เขาเลยนำมากำกับดูแลเอง โดยบอกว่าเป็นเรื่องความมั่นคงของประเทศ เราต้องใช้อาหารเป็นเครื่องมือสำหรับให้รางวัลเพื่อน และลงโทษศัตรู นโยบายแบบนี้วอชิงตันก็ชอบ นาย David Rockefeller ก็พอใจ มันสมกับเป็นนักการฑูตผู้ยิ่งใหญ่จริง ๆ ไอ้คนนี้มีเสน่ห์เพราะอำนาจ ! ? ! คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 218 Views 0 Reviews
  • มายากลยุทธ ภาค 1 ตอน เรื่องของคนโคตรรวย (1)
    นิทานเรื่ิิองจริง เรื่อง “มายากลยุทธ ”
    ตอนที่ 4 : เรื่องของคนโคตรรวย (1)
    ช่วงปี ค.ศ. 1960 ศูนย์อำนาจของอเมริกาไม่ได้อยู่ที่รัฐบาลเท่านั้น แต่ยังถูกกำกับโดยกลุ่มบุคคลซึ่งเป็นที่ยอมรับว่าเป็นชนชั้นนำของอเมริกา (Elites) พูดง่ายๆ ว่าเป็นพวกคนรวยผู้มีอิทธิพลในสังคมชั้นสูงนั่นแหละ บุคคลเหล่านี้เป็นผู้ควบคุมแนวความคิดของบรรดานักวิชาการ นักการเมือง นักธุรกิจ นักการเงินและสื่อ
    ผู้นำกลุ่มศูนย์อำนาจนี้ คือ ครอบครัว Rockefeller
    อิทธิพลของตระกูล Rockefeller มีสูงและครอบคลุมไปทั่วอย่างที่ในประวัติศาสตร์อเมริกา ยังไม่เคยมีตระกูลใดทำได้ถึงขนาดนี้ เขาใช้อะไรครอบอะไรคลุมล่ะ คนรวยเข้าใช้อะไรครอบขี้ข้า เงินไงล่ะ พี่น้อง แบบนี้เขาเรียกผู้มีบารมีเหนือประชาธิปไตย หรือเปล่านะ (ฮา)
    ตระกูล Rockefeller ร่ำรวยมาจากธุรกิจน้ำมัน (ไม่ใช่ธุระกิจมือถือ ดาวเทียม นั่นมันเศรษฐีปลายแถว อย่ามาตีเสมอ) ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 จากบริษัท Standard Oil (ซึ่งภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็น Exxon Mobil เมื่อประมาณ ปี ค.ศ. 1999) ของตระกูล ต่อมาก็ทำธุรกิจธนาคาร โดยเป็นเจ้าของธนาคาร Chase Manhattan ซึ่งเป็น 1 ในธนาคารใหญ่ระดับโลก และด้วยเงินมหาศาลของครอบครัว ตระกูลนี้ก็เริ่มเข้าไปทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรมการเกษตร และที่สำคัญได้เข้าไปมีอิทธิพลต่อนักการเมือง (ถึงว่าซิ มันต้องรวยจากน้ำมัน ถึงจะเจ๋งจริง)
    บริษัท Standard Oil ถือเป็น ผู้ครอบครองอาณาจักรธุรกิจน้ำมัน ระดับยักษ์ใหญ่จริง ๆ เป็นอาณาจักรที่ครอบครอง บ่อน้ำมันในประเทศ 20,000 แห่ง มีท่อส่งน้ำมันยาวถึง 4,000 ไมล์ รถขนส่งน้ำมัน 5,000 คัน และมีพนักงานมากกว่า 100,000 คน เป็นบริษัทที่ทำการกลั่นน้ำมัน จำนวน 80 – 90 % ของน้ำมันโลก ตลอดศตวรรษดังกล่าว
    ด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ตระกูล Rockefeller เกือบจะเป็นเจ้าของตึกส่วนใหญ่ใน New York City ซึ่งรวมถึง ตึก World Trade Centre Tower, Lincoln Centre, One Chase Manhattan Plaza และ Nelson A. Rockefeller Empire State Plaza
    นอกจากในวงการธุรกิจแล้ว ตระกูล Rockefeller ยังเป็นผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัย Chicago และมหาวิทยาลัย Philippines และเป็นผู้อุปถัมภ์ใหญ่ ให้แก่มหาวิทยาลัยชั้นนำในอเมริกา ที่เรียกว่า Ivy League ได้แก่
    – Harvard University
    – Dartmouth College
    – Princeton University
    – Standford University
    – Yale University
    – Massachusetts Institute of Technology (MIT)
    – Brown University
    – Columbia University
    – Cornell University
    etc.

    คนเล่านิทาน
    มายากลยุทธ ภาค 1 ตอน เรื่องของคนโคตรรวย (1) นิทานเรื่ิิองจริง เรื่อง “มายากลยุทธ ” ตอนที่ 4 : เรื่องของคนโคตรรวย (1) ช่วงปี ค.ศ. 1960 ศูนย์อำนาจของอเมริกาไม่ได้อยู่ที่รัฐบาลเท่านั้น แต่ยังถูกกำกับโดยกลุ่มบุคคลซึ่งเป็นที่ยอมรับว่าเป็นชนชั้นนำของอเมริกา (Elites) พูดง่ายๆ ว่าเป็นพวกคนรวยผู้มีอิทธิพลในสังคมชั้นสูงนั่นแหละ บุคคลเหล่านี้เป็นผู้ควบคุมแนวความคิดของบรรดานักวิชาการ นักการเมือง นักธุรกิจ นักการเงินและสื่อ ผู้นำกลุ่มศูนย์อำนาจนี้ คือ ครอบครัว Rockefeller อิทธิพลของตระกูล Rockefeller มีสูงและครอบคลุมไปทั่วอย่างที่ในประวัติศาสตร์อเมริกา ยังไม่เคยมีตระกูลใดทำได้ถึงขนาดนี้ เขาใช้อะไรครอบอะไรคลุมล่ะ คนรวยเข้าใช้อะไรครอบขี้ข้า เงินไงล่ะ พี่น้อง แบบนี้เขาเรียกผู้มีบารมีเหนือประชาธิปไตย หรือเปล่านะ (ฮา) ตระกูล Rockefeller ร่ำรวยมาจากธุรกิจน้ำมัน (ไม่ใช่ธุระกิจมือถือ ดาวเทียม นั่นมันเศรษฐีปลายแถว อย่ามาตีเสมอ) ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 จากบริษัท Standard Oil (ซึ่งภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็น Exxon Mobil เมื่อประมาณ ปี ค.ศ. 1999) ของตระกูล ต่อมาก็ทำธุรกิจธนาคาร โดยเป็นเจ้าของธนาคาร Chase Manhattan ซึ่งเป็น 1 ในธนาคารใหญ่ระดับโลก และด้วยเงินมหาศาลของครอบครัว ตระกูลนี้ก็เริ่มเข้าไปทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรมการเกษตร และที่สำคัญได้เข้าไปมีอิทธิพลต่อนักการเมือง (ถึงว่าซิ มันต้องรวยจากน้ำมัน ถึงจะเจ๋งจริง) บริษัท Standard Oil ถือเป็น ผู้ครอบครองอาณาจักรธุรกิจน้ำมัน ระดับยักษ์ใหญ่จริง ๆ เป็นอาณาจักรที่ครอบครอง บ่อน้ำมันในประเทศ 20,000 แห่ง มีท่อส่งน้ำมันยาวถึง 4,000 ไมล์ รถขนส่งน้ำมัน 5,000 คัน และมีพนักงานมากกว่า 100,000 คน เป็นบริษัทที่ทำการกลั่นน้ำมัน จำนวน 80 – 90 % ของน้ำมันโลก ตลอดศตวรรษดังกล่าว ด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ตระกูล Rockefeller เกือบจะเป็นเจ้าของตึกส่วนใหญ่ใน New York City ซึ่งรวมถึง ตึก World Trade Centre Tower, Lincoln Centre, One Chase Manhattan Plaza และ Nelson A. Rockefeller Empire State Plaza นอกจากในวงการธุรกิจแล้ว ตระกูล Rockefeller ยังเป็นผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัย Chicago และมหาวิทยาลัย Philippines และเป็นผู้อุปถัมภ์ใหญ่ ให้แก่มหาวิทยาลัยชั้นนำในอเมริกา ที่เรียกว่า Ivy League ได้แก่ – Harvard University – Dartmouth College – Princeton University – Standford University – Yale University – Massachusetts Institute of Technology (MIT) – Brown University – Columbia University – Cornell University etc. คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 245 Views 0 Reviews
  • ตอนนี้ศึกใต้ดินคือจีนกับอเมริกา.,โดยใช้ตัวแทนเขมรเปิดก่อนเพื่อยั่วยุไทยติดกับดักสาระพัดศึกรอบทิศด้วย ในนั้นมีไส้ศึกทรยศประจำประเทศไทยร่วมขายชาติยกไทยให้พวกนี้ด้วย.
    ..วิธีแก้ง่ายมาก ตัดตอนเลย ด้วยการยึดอำนาจจากนักการเมืองที่เป็นตัวแทนภาคประชาชนไปทางที่ผิดพลาดและล้มเหลวด้วยในปัจจุบัน ,คือไทยไม่ปลอดภัยในอธิปไตยไทยแล้วนั้นเอง,ตอนนี้เห็นง่ายๆมากคือรัฐบาลและฝ่ายค้านต้องพักบทบาททางการเมืองทันทีสัก20-30ปี,คืนรูปแบบการปกครองของฝรั่งที่ส่งออกนี้คือรูปแบบการปกครองแบบฝรั่งประชาธิปไตยนี้คืนแก่ฝรั่งยุโรปฝรั่งอเมริกาไปเสีย,สุดสิ้นตัดขาดลิขสิทธิ์ควบคุมไทยเบ็ดเสร็จด้วย,หันมาใช้ระบบธรรมาธิปไตยแทน,

    ..อเมริการบกับจีนแน่นอนเพราะเจ้าหนี้รายใหญ่ด้วย,ยึดไทยผ่านรัฐบาลกากๆนี้สบายด้วย เราไม่ไว้วางใจในรัฐบาลแล้วจากผลงานรบกับเขมรคือข้อพิสูจน์ทั้งๆที่จะจบเขมรได้แล้ว รัฐบาลกลับตาลีตาเหลือกรีบช่วยเขมรโดยทรัมป์อเมริกาเองก็รีบวิ่งเข้าช่วยเต็มที่,
    ..กองทัพอเมริกาจะมาในสถานะใดต้องขับออกผลักดันออกจากภาคใต้ไทยให้หมดทันทีโดยเร็วและจริงๆกองทัพอเมริกาทางฝั่งตะวันออกภาคตะวันออกก็ต้องขับออกเช่นกัน ใต้ดินรวงผึ้งอู่ตะเภาด้วย ขับหนีออกให้หมด,
    ..ยุคสมัยใหม่ รัฐบาลไทยแบบปัจจุบันนี้ต้องไม่มีบนแผ่นดินไทยอีกต่อไป,รัฐธรรมนูญไทยต้องเขียนใหม่ภายใต้ระบบปกครองใหม่ของไทยเราจริงๆได้แล้ว.,ของฝรั่งยิ่งใช้ของมัน มันมีแต่มาปล้นชิงจนคนไทยทั้งประเทศมีแต่จะยากจนลงไปทุกๆวัน ผ่านนักการเมืองที่มันสั่งการควบคุมได้ทั้งฝั่งฝ่ายรัฐบาลเองและฝั่งฝ่ายค้านเอง ต่างแหกตาล่อลวงความเท็จกระทำบัดสบต่อประชาชนคนไทยทั้งประเทศสิ้นดีนัันเอง.


    https://youtube.com/shorts/AD7-J7Dvxy8?si=f0jp7VRksskjOa1V
    ตอนนี้ศึกใต้ดินคือจีนกับอเมริกา.,โดยใช้ตัวแทนเขมรเปิดก่อนเพื่อยั่วยุไทยติดกับดักสาระพัดศึกรอบทิศด้วย ในนั้นมีไส้ศึกทรยศประจำประเทศไทยร่วมขายชาติยกไทยให้พวกนี้ด้วย. ..วิธีแก้ง่ายมาก ตัดตอนเลย ด้วยการยึดอำนาจจากนักการเมืองที่เป็นตัวแทนภาคประชาชนไปทางที่ผิดพลาดและล้มเหลวด้วยในปัจจุบัน ,คือไทยไม่ปลอดภัยในอธิปไตยไทยแล้วนั้นเอง,ตอนนี้เห็นง่ายๆมากคือรัฐบาลและฝ่ายค้านต้องพักบทบาททางการเมืองทันทีสัก20-30ปี,คืนรูปแบบการปกครองของฝรั่งที่ส่งออกนี้คือรูปแบบการปกครองแบบฝรั่งประชาธิปไตยนี้คืนแก่ฝรั่งยุโรปฝรั่งอเมริกาไปเสีย,สุดสิ้นตัดขาดลิขสิทธิ์ควบคุมไทยเบ็ดเสร็จด้วย,หันมาใช้ระบบธรรมาธิปไตยแทน, ..อเมริการบกับจีนแน่นอนเพราะเจ้าหนี้รายใหญ่ด้วย,ยึดไทยผ่านรัฐบาลกากๆนี้สบายด้วย เราไม่ไว้วางใจในรัฐบาลแล้วจากผลงานรบกับเขมรคือข้อพิสูจน์ทั้งๆที่จะจบเขมรได้แล้ว รัฐบาลกลับตาลีตาเหลือกรีบช่วยเขมรโดยทรัมป์อเมริกาเองก็รีบวิ่งเข้าช่วยเต็มที่, ..กองทัพอเมริกาจะมาในสถานะใดต้องขับออกผลักดันออกจากภาคใต้ไทยให้หมดทันทีโดยเร็วและจริงๆกองทัพอเมริกาทางฝั่งตะวันออกภาคตะวันออกก็ต้องขับออกเช่นกัน ใต้ดินรวงผึ้งอู่ตะเภาด้วย ขับหนีออกให้หมด, ..ยุคสมัยใหม่ รัฐบาลไทยแบบปัจจุบันนี้ต้องไม่มีบนแผ่นดินไทยอีกต่อไป,รัฐธรรมนูญไทยต้องเขียนใหม่ภายใต้ระบบปกครองใหม่ของไทยเราจริงๆได้แล้ว.,ของฝรั่งยิ่งใช้ของมัน มันมีแต่มาปล้นชิงจนคนไทยทั้งประเทศมีแต่จะยากจนลงไปทุกๆวัน ผ่านนักการเมืองที่มันสั่งการควบคุมได้ทั้งฝั่งฝ่ายรัฐบาลเองและฝั่งฝ่ายค้านเอง ต่างแหกตาล่อลวงความเท็จกระทำบัดสบต่อประชาชนคนไทยทั้งประเทศสิ้นดีนัันเอง. https://youtube.com/shorts/AD7-J7Dvxy8?si=f0jp7VRksskjOa1V
    0 Comments 0 Shares 226 Views 0 Reviews
  • ยุทธศาสตร์สร้อยไข่มุก ตอนที่ 4

    ยุทธศาสตร์สร้อยไข่มุก (4)
    เพื่อเป็นการเตรียมปฎิบัติการกระชากสร้อย ให้สมบูรณ์ อเมริกาได้ปรับปรุงฐานทัพตนเอง
    ที่ตั้งอยู่ที Okinawa ใ้ห้เป็นศูนย์กลางของกองทัพในการรับมือกับจีน
    ปี 2010 มีทหารอเมริกัน จำนวน 35,000 นาย กับ พลเรือนที่กินเงินเดือนรัฐบาล อีกจำนวน
    5,500 นาย ประจำอยู่ที่ฐานทัพนี้ ยังมีกองทัพเรือที่ 7 อยู่ที่ Yukosuku และหน่วย
    นาวิกโยธิน อยู่ที่ Okinawa กับเครื่องบินรบของกองทัพอากาศ อีก 130 ลำ อยู่ที่
    ฐานทัพอากาศ Misawa และ Kadena นี่ยังไม่นับทหารอีก 45,000 นาย ที่ประจำการอยู่ที่เกาหลีใต้
    นอกจากนี้ อเมริกายังมีฐานทัพใหญ่ แอบอยู่ที่เกาะDiego Garcia แถวมหาสมุทรอินเดีย
    ปี 1971 กองทัพอเมริกาได้ขับไล่ชาวเกาะ ที่อาศัยอยู่ที่เกาะนี้ออกไปทั้งหมด เพื่อยึดเกาะนี้สร้างฐานทัพใหญ่ และจากฐานทัพนี้แหละที่อเมริกาดำเนินภาระกิจต่ออิรัค และ อัฟกานิสถาน
    ไม่ใช่แค่นั้น ปฏิบัติการกระชากสร้อย ยังมีส่วนที่น่าสนใจยิ่ง สำหรับสมันน้อย
    เพื่อเป็นกุญแจ 2 ชั้น กันจีนไม่ให้ผงาดทาบอเมริกาสำเร็จ และเข้าถึงแหล่งน้ำมัน
    ยากขึ้น อเมริกาจึงจัดหนัก ส่งออกสินค้าประเภท “Arab Spring” ไปทั่ว
    ระหว่าง ที่ประชาชนเรือนล้าน ใน ตูนีเซีย ลิเบีย อียิปต์ และ อีกหลายๆแห่ง ทีกระหายในเสรีภาพและประชาธิปไตย เป็นเรื่องจริง แต่เขาเหล่านั้น ก็ตกเป็นเหยื่อ ของยุทธศาสตร์การสร้างความโกลาหล ที่มีการจัดให้เกิดขึ้นในโลกอิสลาม ที่อุดมด้วยน้ำมัน ตั้งแต่ ลิเบีย ในอาฟริกาเหนือ ไล่มาจนถึงซีเรียและ อิหร่าน ในตะวันออกกลาง
    แล้วแน่ใจไหมว่า สินค้าประเภท Spring นั้นจิ๊กโก๋ส่งมาให้ไทยแลนด์ด้วยหรือเปล่า ดูกันให้ดีๆแล้วกัน สมันน้อย
    ความอยากได้น้ำมันของอเมริกา และความไม่อยากให้จีนได้น้ำมัน คืบไปเกือบทุกพื้นที่ในโลก ที่มี หรือคาดว่ามีน้ำมัน
    จีนประเมินว่า ทะเลจีนใต้ มีน้ำมันดิบประมาณ 18,000ล้านตัน (เทียบกับคูเวต ที่มี
    13,000ตัน) และประเมินว่า อาจมีแหล่งน้ำมัน แถวหมู่เกาะ Spratly และ Paraceในบริเวณทะเลจีนใต้ สูงถึงประมาณ 105,000 บาเรล และทั่วบริเวณทะเลจีนใต้ อาจเป็นตัวเลขสูงถึง 213,000 บาเรล
    ไม่น่าแปลก ที่ทะเลจีนใต้ถึงเป็นประเด็นร้อน เป็นที่ต้องการของประเทศแถวนั้น รวมทั้งประเทศที่อยู่คนละฝากของโลก อเมริกา พยายามเข้าไปขัดขา โดยใช้อิทธิพลทางการค้า
    ที่มีกับเวียตนาม
    และเมื่อเดือน กรกฎาคม 2012 เวียตนาม ก็ผ่านกฏหมายกำหนดเขต
    แดนทางทะเลเสียใหม่ ซึ่งเหมารวมหมู่เกาะ Spratly และ Paracel เข้าไปด้วย ทั้งนี้โดยการสนับสนุนอย่างสุดตัว ของอเมริกา
    เพื่อให้เนียน ปี 2010 บริษัทน้ำมันใหญ่ ของอเมริกา และ อังกฤษ ได้พากันไปยื่นประมูลการ สำรวจน้ำมัน ในทะเลจีนใต้ การประมูลของ Chevron และ BP
    เป็นกลยุทธที่อเมริกา เอาไว้อ้าง สำหรับการยกทัพเข้าไปปกป้องผลประโยชน์ของตนในทะเลจีนใต้
    เล่านิทานตอน ยุทธศาสตร์สร้อยไข่มุกมา เพื่อให้คนอ่านนิทานเห็นภาพ ของ
    หมากล้อม ที่เขากำลังเล่นกันอยู่ เผื่อจะสนใจกันบ้าง
    เข้าใจหรอกว่า ตอนนี้ท่านผู้อ่านเกือบทุกคน กำลังสนใจ กลุ้มใจ ฯลฯ รวมทั้ง นั่งตากแดด ตากฝน ประกาศให้รู้ว่า เราไม่เอากฎหมายนิรโทษกรรม
    (คนเขียนนิทานก็ไม่เอาครับ)
    แต่อย่าลืมเรื่องกรณีเวียตนาม ที่ออกกฏหมายกำหนดเขตแดนทางทะเลใหม่
    แล้วนึกถึงเขมร เขาพระวิหาร และ รัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ที่ เขาเพิ่งใช้เสียงข้างมาก
    ขโมยสิทธิ ในการรับรู้ของเราไปแล้ว เมื่อวันที่ 8 พย นี้เอง รวมทั้งสินค้าส่งออกยี่ห้อ Spring กันบ้าง
    จิ๊กโก๋ ยังไม่ได้เปลี่ยนนิสัยสันดาน เล่ห์เหลียมที่ใช้ ก็ เดิมๆ เรื่องมันเหมือนใหม่ แต่ให้ตายเถอะ มันแค่เปลี่ยนฉาก เปลี่ยนตัวเล่น แค่นั้นเอง
    สวัสดีครับ

    คนเล่านิทาน
    ยุทธศาสตร์สร้อยไข่มุก ตอนที่ 4 ยุทธศาสตร์สร้อยไข่มุก (4) เพื่อเป็นการเตรียมปฎิบัติการกระชากสร้อย ให้สมบูรณ์ อเมริกาได้ปรับปรุงฐานทัพตนเอง ที่ตั้งอยู่ที Okinawa ใ้ห้เป็นศูนย์กลางของกองทัพในการรับมือกับจีน ปี 2010 มีทหารอเมริกัน จำนวน 35,000 นาย กับ พลเรือนที่กินเงินเดือนรัฐบาล อีกจำนวน 5,500 นาย ประจำอยู่ที่ฐานทัพนี้ ยังมีกองทัพเรือที่ 7 อยู่ที่ Yukosuku และหน่วย นาวิกโยธิน อยู่ที่ Okinawa กับเครื่องบินรบของกองทัพอากาศ อีก 130 ลำ อยู่ที่ ฐานทัพอากาศ Misawa และ Kadena นี่ยังไม่นับทหารอีก 45,000 นาย ที่ประจำการอยู่ที่เกาหลีใต้ นอกจากนี้ อเมริกายังมีฐานทัพใหญ่ แอบอยู่ที่เกาะDiego Garcia แถวมหาสมุทรอินเดีย ปี 1971 กองทัพอเมริกาได้ขับไล่ชาวเกาะ ที่อาศัยอยู่ที่เกาะนี้ออกไปทั้งหมด เพื่อยึดเกาะนี้สร้างฐานทัพใหญ่ และจากฐานทัพนี้แหละที่อเมริกาดำเนินภาระกิจต่ออิรัค และ อัฟกานิสถาน ไม่ใช่แค่นั้น ปฏิบัติการกระชากสร้อย ยังมีส่วนที่น่าสนใจยิ่ง สำหรับสมันน้อย เพื่อเป็นกุญแจ 2 ชั้น กันจีนไม่ให้ผงาดทาบอเมริกาสำเร็จ และเข้าถึงแหล่งน้ำมัน ยากขึ้น อเมริกาจึงจัดหนัก ส่งออกสินค้าประเภท “Arab Spring” ไปทั่ว ระหว่าง ที่ประชาชนเรือนล้าน ใน ตูนีเซีย ลิเบีย อียิปต์ และ อีกหลายๆแห่ง ทีกระหายในเสรีภาพและประชาธิปไตย เป็นเรื่องจริง แต่เขาเหล่านั้น ก็ตกเป็นเหยื่อ ของยุทธศาสตร์การสร้างความโกลาหล ที่มีการจัดให้เกิดขึ้นในโลกอิสลาม ที่อุดมด้วยน้ำมัน ตั้งแต่ ลิเบีย ในอาฟริกาเหนือ ไล่มาจนถึงซีเรียและ อิหร่าน ในตะวันออกกลาง แล้วแน่ใจไหมว่า สินค้าประเภท Spring นั้นจิ๊กโก๋ส่งมาให้ไทยแลนด์ด้วยหรือเปล่า ดูกันให้ดีๆแล้วกัน สมันน้อย ความอยากได้น้ำมันของอเมริกา และความไม่อยากให้จีนได้น้ำมัน คืบไปเกือบทุกพื้นที่ในโลก ที่มี หรือคาดว่ามีน้ำมัน จีนประเมินว่า ทะเลจีนใต้ มีน้ำมันดิบประมาณ 18,000ล้านตัน (เทียบกับคูเวต ที่มี 13,000ตัน) และประเมินว่า อาจมีแหล่งน้ำมัน แถวหมู่เกาะ Spratly และ Paraceในบริเวณทะเลจีนใต้ สูงถึงประมาณ 105,000 บาเรล และทั่วบริเวณทะเลจีนใต้ อาจเป็นตัวเลขสูงถึง 213,000 บาเรล ไม่น่าแปลก ที่ทะเลจีนใต้ถึงเป็นประเด็นร้อน เป็นที่ต้องการของประเทศแถวนั้น รวมทั้งประเทศที่อยู่คนละฝากของโลก อเมริกา พยายามเข้าไปขัดขา โดยใช้อิทธิพลทางการค้า ที่มีกับเวียตนาม และเมื่อเดือน กรกฎาคม 2012 เวียตนาม ก็ผ่านกฏหมายกำหนดเขต แดนทางทะเลเสียใหม่ ซึ่งเหมารวมหมู่เกาะ Spratly และ Paracel เข้าไปด้วย ทั้งนี้โดยการสนับสนุนอย่างสุดตัว ของอเมริกา เพื่อให้เนียน ปี 2010 บริษัทน้ำมันใหญ่ ของอเมริกา และ อังกฤษ ได้พากันไปยื่นประมูลการ สำรวจน้ำมัน ในทะเลจีนใต้ การประมูลของ Chevron และ BP เป็นกลยุทธที่อเมริกา เอาไว้อ้าง สำหรับการยกทัพเข้าไปปกป้องผลประโยชน์ของตนในทะเลจีนใต้ เล่านิทานตอน ยุทธศาสตร์สร้อยไข่มุกมา เพื่อให้คนอ่านนิทานเห็นภาพ ของ หมากล้อม ที่เขากำลังเล่นกันอยู่ เผื่อจะสนใจกันบ้าง เข้าใจหรอกว่า ตอนนี้ท่านผู้อ่านเกือบทุกคน กำลังสนใจ กลุ้มใจ ฯลฯ รวมทั้ง นั่งตากแดด ตากฝน ประกาศให้รู้ว่า เราไม่เอากฎหมายนิรโทษกรรม (คนเขียนนิทานก็ไม่เอาครับ) แต่อย่าลืมเรื่องกรณีเวียตนาม ที่ออกกฏหมายกำหนดเขตแดนทางทะเลใหม่ แล้วนึกถึงเขมร เขาพระวิหาร และ รัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ที่ เขาเพิ่งใช้เสียงข้างมาก ขโมยสิทธิ ในการรับรู้ของเราไปแล้ว เมื่อวันที่ 8 พย นี้เอง รวมทั้งสินค้าส่งออกยี่ห้อ Spring กันบ้าง จิ๊กโก๋ ยังไม่ได้เปลี่ยนนิสัยสันดาน เล่ห์เหลียมที่ใช้ ก็ เดิมๆ เรื่องมันเหมือนใหม่ แต่ให้ตายเถอะ มันแค่เปลี่ยนฉาก เปลี่ยนตัวเล่น แค่นั้นเอง สวัสดีครับ คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 325 Views 0 Reviews
  • ยุทธศาสตร์สร้อยไข่มุก ตอนที่ 2

    ยุทธศาสตร์สร้อยไข่มุก (2)
    ยุทธศาสตร์สร้อยไข่มุกอ้างว่า จีนได้นำไข่มุกงามแต่ละเม็ด มาร้อยเรียงกันเอาไว้สวมใส่
    ติดตัว ไม่มีขาย ไม่มีแบ่ง เช่น
    – บังคลาเทศ : จีนกำลังสร้างสัมพันธ์กับรัฐบาล และมีข้อตกลงที่จะเอี่ยวใช้ท่าเรือ
    ที่จิตตะกอง
    – พม่า : จีนสร้างสัมพันธ์อันดีเยี่ยมกับกองทัพ จนพม่าหลวมตัว ให้จีนสร้างฐานทัพเรือและเครื่องตรวจจับ อีเลคโทรนิกส์ เพื่อติดตามการเคลื่อนไหวทางเรือแถวอ่าวเบงกอล และบริเวณช่องแคบมะละกา นี่ยังไม่นับเงินช่วยเหลือทางทหาร อีกหลายพันล้านเหรียญ ที่จีนควักกระเป๋าให้แบบไม่เสียดาย
    – เขมร : จีนทำสัญญา ให้ความร่วมมือทางทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ เมื่อปี 2003
    รวมทั้งรวมฝึกซ้อมรบด้วยกัน เขมรเองก็ให้ความร่วมมือจีน ในการสร้างทางรถไฟ
    จากทางใต้ของจีน มาสู่ทะเล
    – ไทย : จีนเสนอเงินให้ไทย จำนวน 20,00 ล้านเหรียญ เพื่อใช้ในการสร้างคลองเป็นทางเดินเรือบริเวณคอคอดกระ ซึ่งจะทำให้เรือบรรทุกสินค้าทั้งหลาย ไม่ต้องเสียเวลา
    ไปวิ่งผ่านช่องแคบมะละกา โครงการนี้ถ้าเกิด จะทำให้จีนเพิ่มอิทธิพล และควบคุม
    ภูมิภาคนี้ได้
    แบบนี้อเมริกาย่อมไม่ยอมอยู่เฉยกับการเตรียมตัว สวมสร้อยมุกของจีน
    คุณเอามุกมาร้อยได้ เราก็กระชากให้ขาดได้เช่นกัน จีนไปทางไหน อเมริกาก็จะตามไปประกบ แบบแกะไม่ออกเลยล่ะ
    ยุทธการกระชากสร้อยจึงเริ่มขึ้นอย่างเงียบๆ แต่เอาจริง
    มุกเม็ดงาม เม็ดใหม่เพิ่งนำออกสู่ตลาด น่าขะโมยที่สุด คือพม่า
    พม่าปกครองด้วยรัฐบาลเผด็จการทหาร กว่า 40 ปี อเมริกาบอกไม่เป็นประชาธิปไตย ประกาศคว่ำบาตรทางเศรษกิจพม่า มาตั้งแต่ปี 2003
    ทำเอาประชาชนชาวพม่าจนแล้วจนอีก ต้องส่งแม่บ้านพม่าเป็นสินค้าออกสำคัญ
    แล้วไง วันดี คืนดี ปี 2012 คุณนายคลินตัน ก็บุกเข้าพม่าพร้อมกับบอกว่า พร้อมที่จะทบทวน
    เรื่อง การคว่ำบาตร แต่หลังฉากเขาลือกันว่า น่าจะเกี่ยวกับข่าวที่ว่า จีนกำลังก่อสร้างท่อส่งน้ำมันและก๊าซ จากมณทลยูนนาน (ยูนนาน อีก แล้ว!)
    มาตามเส้นทางถนนเก่าของพม่า ข้ามไปอินเดีย บังคลาเทศ ออกไปยังอ่าวเบงกอล
    หลังจากนั้นรัฐบาลพม่า เริ่มการเจรจาการค้ากับโลกตะวันตก
    ขณะเดียวกัน ก็เริ่มมีการเจรจา ปล่อยตัวคุณน้าอองซาน ซึ่งอเมริกาทั้งอุ้มทั้งชู
    ให้ มีสิทธิที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ทั้งนี้เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน กับการที่คุณนายคลินตัน ทำท่าใจดี ว่าจะพิจารณาการผ่อนคลาย การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ และนำนักลงทุนมาช่วยเพิ่มการลงทุน การผลิตในพม่า
    ฟังดูสวยหรู แต่สคริปต์มันโบราณไปหน่อยไหมคุณนาย แบบนี้ สมันน้อย ไทยแลนด์ฟังมา 50 ปีแล้ว 555

    คนเล่านิทาน
    ยุทธศาสตร์สร้อยไข่มุก ตอนที่ 2 ยุทธศาสตร์สร้อยไข่มุก (2) ยุทธศาสตร์สร้อยไข่มุกอ้างว่า จีนได้นำไข่มุกงามแต่ละเม็ด มาร้อยเรียงกันเอาไว้สวมใส่ ติดตัว ไม่มีขาย ไม่มีแบ่ง เช่น – บังคลาเทศ : จีนกำลังสร้างสัมพันธ์กับรัฐบาล และมีข้อตกลงที่จะเอี่ยวใช้ท่าเรือ ที่จิตตะกอง – พม่า : จีนสร้างสัมพันธ์อันดีเยี่ยมกับกองทัพ จนพม่าหลวมตัว ให้จีนสร้างฐานทัพเรือและเครื่องตรวจจับ อีเลคโทรนิกส์ เพื่อติดตามการเคลื่อนไหวทางเรือแถวอ่าวเบงกอล และบริเวณช่องแคบมะละกา นี่ยังไม่นับเงินช่วยเหลือทางทหาร อีกหลายพันล้านเหรียญ ที่จีนควักกระเป๋าให้แบบไม่เสียดาย – เขมร : จีนทำสัญญา ให้ความร่วมมือทางทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ เมื่อปี 2003 รวมทั้งรวมฝึกซ้อมรบด้วยกัน เขมรเองก็ให้ความร่วมมือจีน ในการสร้างทางรถไฟ จากทางใต้ของจีน มาสู่ทะเล – ไทย : จีนเสนอเงินให้ไทย จำนวน 20,00 ล้านเหรียญ เพื่อใช้ในการสร้างคลองเป็นทางเดินเรือบริเวณคอคอดกระ ซึ่งจะทำให้เรือบรรทุกสินค้าทั้งหลาย ไม่ต้องเสียเวลา ไปวิ่งผ่านช่องแคบมะละกา โครงการนี้ถ้าเกิด จะทำให้จีนเพิ่มอิทธิพล และควบคุม ภูมิภาคนี้ได้ แบบนี้อเมริกาย่อมไม่ยอมอยู่เฉยกับการเตรียมตัว สวมสร้อยมุกของจีน คุณเอามุกมาร้อยได้ เราก็กระชากให้ขาดได้เช่นกัน จีนไปทางไหน อเมริกาก็จะตามไปประกบ แบบแกะไม่ออกเลยล่ะ ยุทธการกระชากสร้อยจึงเริ่มขึ้นอย่างเงียบๆ แต่เอาจริง มุกเม็ดงาม เม็ดใหม่เพิ่งนำออกสู่ตลาด น่าขะโมยที่สุด คือพม่า พม่าปกครองด้วยรัฐบาลเผด็จการทหาร กว่า 40 ปี อเมริกาบอกไม่เป็นประชาธิปไตย ประกาศคว่ำบาตรทางเศรษกิจพม่า มาตั้งแต่ปี 2003 ทำเอาประชาชนชาวพม่าจนแล้วจนอีก ต้องส่งแม่บ้านพม่าเป็นสินค้าออกสำคัญ แล้วไง วันดี คืนดี ปี 2012 คุณนายคลินตัน ก็บุกเข้าพม่าพร้อมกับบอกว่า พร้อมที่จะทบทวน เรื่อง การคว่ำบาตร แต่หลังฉากเขาลือกันว่า น่าจะเกี่ยวกับข่าวที่ว่า จีนกำลังก่อสร้างท่อส่งน้ำมันและก๊าซ จากมณทลยูนนาน (ยูนนาน อีก แล้ว!) มาตามเส้นทางถนนเก่าของพม่า ข้ามไปอินเดีย บังคลาเทศ ออกไปยังอ่าวเบงกอล หลังจากนั้นรัฐบาลพม่า เริ่มการเจรจาการค้ากับโลกตะวันตก ขณะเดียวกัน ก็เริ่มมีการเจรจา ปล่อยตัวคุณน้าอองซาน ซึ่งอเมริกาทั้งอุ้มทั้งชู ให้ มีสิทธิที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ทั้งนี้เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน กับการที่คุณนายคลินตัน ทำท่าใจดี ว่าจะพิจารณาการผ่อนคลาย การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ และนำนักลงทุนมาช่วยเพิ่มการลงทุน การผลิตในพม่า ฟังดูสวยหรู แต่สคริปต์มันโบราณไปหน่อยไหมคุณนาย แบบนี้ สมันน้อย ไทยแลนด์ฟังมา 50 ปีแล้ว 555 คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 238 Views 0 Reviews

  • ตอน 18
    อเมริกาคิดจะทำอะไร ต้องแน่ใจว่าคุมสถานการณ์ คุมเกมได้เบ็ดเสร็จ เมื่อได้เลือกไทยแลนด์แดนสวรรค์ เป็นแหล่งประทับทรง เพื่อเอาไว้จับจ้อง เตรียมต่อกรกับจีน ถึงจะไม่เป็นงานช้างแบบสู้กับคอมมี่ ตรงไปตรงมา แต่สู้กับอาเฮียตาตี่ที่ กำลังเนื้อหอม แถมจิ๊กโก๋๋ก็ทิ้งสาวไทยไปนาน จะกลับเข้ามาก็ต้องดูดีๆ เสียเชิงอาเฮียนี่มันรับไม่ได้จริงๆ นะ
    และโปรดอย่าลืมสันดานเดิมของจิ๊กโก๋๋นักเลงนักล้วง อเมริกาไม่เคยตีตั๋วใบเดียว ไม่เคยเล่นไพ่หน้าเดียว
    จากรายงานของซีไอเอ ที่เดินสายกันให้ควักไขว้ ออกอาการว่า จิ๊กโก๋๋คิดหนัก จะเลือกใครเป็นร่างทรงดี สมัยสู้คอมมี่ จอมพลคนแปลกเป็นนายก อเมริกาก็สนับสนุน 2 นายพล เอาไว้เป็นตัวเลือกคือ นายพลเผ่า กับ นายพลสฤษดิ์ ทั้งฟูมทั้งฟัก ทั้ง 2 นายพล อยากได้อะไรก็ประเคนให้ทั้งคู่ รอดูจนแน่ใจแล้วก็เคาะโป๊ก หวยออกที่นายพลสฤษดิ์ ให้เป็นผู้นำคนต่อไปของประเทศไทยแลนด์ ภายใต้การชักใยของสหรัฐ
    คราวนี้ก็เหมือนกัน อเมริกามีตัวเลือกแยะขึ้น แต่ยากขึ้น
    มองด้านความแน่นอน สัมพันธ์เก่ามีมาต่อเนื่องกว่า 50 ปี ก็มีกลุ่มนักวิ่งผลัด แต่สมัยนี้จะไปชักใย ให้ขยับขาซ้ายย้ายขาขวา อย่างเมื่อก่อนมันไม่ได้แล้วนะ ก็ดันไปตั้ง Doctrine ของตัวเองสนับสนุนประชาธิปไตยให้บานแฉ่ง แล้วถ้าเอาพี่ทหารนักวิ่งผลัดมา ป.ว. เป็นร่างทรงน่ะ ชาวบ้านเขามินินทาเอาหรือจ๊ะ ว่า ปากว่าตาขยิบ
    จะเป็นตัวเลือกหรือเปล่ายังไม่รู้ แต่เพื่อให่แน่ใจว่านักวิ่งพลัดไม่นอกใจ ปลายปี พ.ศ. 2555/ค.ศ.2012 พี่เบิ้มก็ส่งนายลีออน เพนเนตต้า (Leon Pennetta) รมว กลาโหม มานั่งจับเข่า คุณพี่สุกำพล รมว กลาโหมของไทยตอนนั้น
    อย่าลืมนะ สมันน้อย เราอุ้มเจ้าลงเปลเห่กล่อมมากว่า 50 ปีแล้ว สมันน้อยจะไปเห็นคนอื่นดีกว่าเราได้ยังไง ว่าแล้วจากจับเข่า ก็เปลี่ยนเป็นจับมือสมันน้อย แปะโป้งทำสัญญา ซึ่งแปลงเขียนเป็นแถลงการณ์วิสัยทัศน์ร่วม (แหม! อีลูกช่างตะแบง กลัวจะเป็นหนังสือสัญญา ตามมาตรา ม190 ของรัฐธรรมนูญไง) ว่า ด้วยการเป็นหุ้นส่วนร่วมด้านความมั่นคงในศตวรรษที่ 21 ฮั่นแน่ โจ๋งครึ่มจริงๆ
    ไอ้นี่ มันเป็นการส่งสารข้าม(หัว) ไปถึงอาเฮียนี่หว่า ว่านี่เด็กของข้า ลื้ออย่ามาแหยม!
    หลังจากกำชับนักวิ่งพลัดไม่ให้แตกแถวแล้ว คราวนี้ก็ต้องมาดูนักการเมือง ที่จะใช้บริการ ซึ่งตอนนี้ก็มีอยู่ 2 พรรคใหญ่ ระหว่างพรรคแมลงสาบกับพรรคของเหลี่ยมร้าย เอาไงดีล่ะ จิ๊กโก๋๋คิดไม่ตก
    พรรคแมลงสาบนี่ จิ๊กโก๋๋รู้จักดี ตั้งกะสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ปู่เสนีย์เป็นหัวหน้าเสรีไทยฝ่ายสหรัฐ พรรคนี้เคยคิดอย่างไร ทำอย่างไร ตั้งแต่สมัยสงครามโลก เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้น สมเป็นพรรคแมลงสาปจริง ๆ หัวสมองอยู่ในกระป๋องสี่เหลี่ยม แก้ไม่หาย อุตส่าห์ปั๊ดตะนา เปลี่ยนหัวหน้าพรรคมาจนเดี๋ยวนี้ได้ good boyหน้าหล่อสายอังกฤษ
    แต่มันก็คิดเป็น ทำเป็น แบบจวนสอบได้ ซะเกือบทุกเรื่อง ขนาดแม่ยกยังลุ้นซะจนจะ ล.ด หลายตลบแล้วจิ๊กโก๋๋จะรับไหวเหร๊อ แต่มันก็ว่าง่ายดีนะ ดูตอนกู้เงิน IMF แล้วกัน 5 5 5 พวกไอรวยมาแยะนะ อ้ายน้อย
    ไม่เอาแมลงสาบแล้วจะเอาใคร
    ก็พรรคของเหลี่ยมร้ายไง เหลี่ยมร้ายไม่สนใจอาณาเขต เหลี่ยมร้ายไม่สนใจพรมแดน เหลี่ยมร้ายไม่สนใจขนบธรรมเนียมประเพณี เหลี่ยมร้ายไม่รู้จักความดีงาม เหลี่ยมร้ายไม่รู้จักคุณค่าของ สถาบัน เหลี่ยมร้ายรู้จักแต่อำนาจ การโกหก การโกงทุกรูปแบบ และทุน ทุน ทุน ไม่ว่าจะเป็น ทุนนิยมเสรี ทุนในชาติ ทุนข้ามชาติ ประชานิยม ฯลฯ ล้วนเป็นเรื่องที่เหลี่ยมรัก เหลี่ยมโปรดทั้งนั้น อืม! น่าสนใจ ความคิดคล้ายๆ กับผู้ใดหนอ
    แถม เหลี่ยมก็เคยปลาบปลื้ม จนลืมตน วิ่งไปเชิญ วิ่งไปซบคุณพ่อจิ๊กโก๋๋ มาหลายหน คุณจิ๊กโก๋๋ตัวลูก จอมกร่าง ยิ่งแล้วใหญ่ เหลี่ยมนับเป็นเพื่อนเลยนะ ลองไปหา cable ทูตอเมริกา (ที่วิกิลีกส์ Wikileaks ขวัญใจผม อภินันทนาการแก่ชาวโลก)
    มันรายงานออกมาจ้อยๆ ว่า เหลี่ยมร้าย ปลื้มจิ๊กโก๋๋ขนาดไหน โดนดุ โดนเตือนก็ไปฟ้องคุณพ่ออเมริกันทุกครั้ง แหม ตัวอยู่ไทย แต่ใจเป็นของคุณพ่อจิ๊กโก๋๋หมดแล้ว แบบนี้ไม่เลือกเป็นร่างทรงก็ใจจืดไปหน่อยนะ…
    แต่จิ๊กโก๋๋ไม่โง่ จะใช้คนอย่างเหลี่ยมร้าย มันต้องป้อนด้วย อำนาจและเงินไปตลอด แล้วมันเกิดทำใหญ่คับเกินฟ้า ชาวประชารับไม่ได้ (ก็กำลังชุมนุมขับไล่โค่นล้มอยู่นี่ไง) จิ๊กโก๋๋ จะควบคุมไหวหรือ เอ๊ะ หรือจะเข้าทาง!
    ดูประธานาธิบดีมากอส พระเจ้าชาห์แห่งอิหร่าน มูบารักของอียิปต์ ฯลฯ เป็นตัวอย่างแล้วกัน เด็กสร้างของ จิ๊กโก๋๋ทั้งนั้น ถึงจุดหนึ่งหมดประโยชน์หรือคุมไม่ได้ จิ๊กโก๋๋ก็จัดการเก็บฉาก ให้กลับบ้านเก่ากันแทบไม่ทัน บางคนแทบไม่มีเวลาแต่งศพให้สวย
    ถ้าเหลี่ยมร้ายบังเอิญโชคดี ได้อ่านนิทานเรื่องนี้ ก็อ่านตอนนี้หลายๆ เที่ยวหน่อยนะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือนกัน ยังไงก็คนเคยเห็นหน้า (ทางจอทีวี ฮา) มาหลายหน แต่หนหลังๆ นี้ บอกกันไม่อ้อมค้อมนะ ดูทุเรศ จริงๆ
    บอกได้เลยว่า การประทับทรงไทยแลนด์ของจิ๊กโก๋๋ครั้งนี้ ไม่ง่ายสะดวกโยธินเหมือนสมัยสงคราม เวียต นาม คราวนั้นบ้านเรายังไม่มีกีฬาสี และสถานการณ์ก็สร้างไว้ชัดเจน ถูกเขาขู่ว่า ถ้าไม่สู้คอมมี่ พวกยูก็อาจไม่มีแผ่น ดินเหลือให้นั่งชนไก่
    แต่ตอนนี้กะตอนนู้น มันไม่เหมือนกันนะ คราวนี้ถ้าขู่ว่าจะให้เลือก ระหว่างจิ๊กโก๋๋ผมทอง กับอาเฮียตาตี่ มันก็ไม่ง่ายนะพี่เบิ้ม ระวังมันจะพลิกล็อก
    คนไทยน่ะ นับดีๆ เผลอๆ มีกว่าครึ่งประเทศ ที่มีเชื้อสายจีนปนอยู่ ถึงแม้เขาจะไปฟอกผิวขาวทำตาโต แต่เชื้อไขข้างใน มันก็ยังเชื้อสายจีนปน ถึงเวลาตรุษจีน ก็เอาเป็ดเอาไก่ไปไหว้เจ้าปิดถนนฉลองกัน แล้วใจคอยูจะให้เขาตัดขาดจากอาม้า อาก๋ง เขาง่าย ๆ หรือ จิ๊กโก๋๋คิดให้ดีๆ
    คราวนี้ถ้าจิ๊กโก๋๋คิดว่า ซอยนี้ต้องเป็นของกูคนเดียว ไม่ให้ใครเข้ามายุ่งด้วย บอกได้คำเดียวว่าเหนื่อย เหนื่อยทั้งจิ๊กโก๋๋ และเหนื่อยทั้งสมันน้อย อเมริกาเหนื่อยอย่างไร สมัยต่อสู้กับระบอบคอมมิวนิสต์ มันขู่ให้เรากลัวว่า ระบอบคอมมิวนิสต์เป็นภัยต่อประชาธิปไตย ประชาชนไม่มีสิทธิเป็นเจ้าของทรัพย์สิน ทุกอย่างตกเป็นของรัฐ แค่นี้นายทุนเศรษฐีบ้านเราก็หน้าตก หูตูบกันหมดแล้ว ทุกคนต้องทำงานให้คอมมูน เพื่อความเท่าเทียมกัน ไม่มีการแบ่งชั้นวรรณะ คนไทยเคยอยู่สบายๆ เช้าอยากลุกก็ลุก ไม่อยากก็นอนจนตะวันตรงท้ายทอย แล้วค่อยขยับก้นย้ายออกมา ก็ไม่มีใครว่า แล้วถ้าเป็นคอมมูน มันจะมาทำท่านอนบิดขี้เกียจอย่างนี้ได้เหรอ
    ขู่แบบนี้เข้าไปทุกวัน พออเมริกาบอกว่า ไอจะกำจัดระบอบนี้ให้ออกไปจากภูมิภาคนี้ ชาวเราก็มองเขาเหมือนเทวดามาโปรด
    แต่ตอนนี้ไม่มีผีคอมมี่ให้สร้างแล้ว ของจริงที่ไทยแลนด์ควรมองคือ อาเฮียตาตี่ ไม่ได้เดินย้ายพุงมาคนเดียว แต่เกี่ยวแขนมากับเพื่อนอีกหลายพันล้านคน ในนามของ BRICS จำได้ไหม บราซิล (Brazil) รัสเซีย (Russia) อินเดีย (India) จีน (China) และแอฟริกาใต้ (South Africa) รวมทั้งหมด เกือบ สามพันล้านคน ตลาดใหญ่นะ
    แถมตอนนี้อาเฮียฟิตจัด ตั้งกลุ่มเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Cooperation Organization) หรือ SCO กับพี่ใหญ่รัสเซียและประเทศแถบรัสเซีย ที่จีนมีอาณาเขตติดต่อกันอยู่ แปลว่าถ้าอเมริกาจะมองว่าจีนเป็นศัตรู ต้องรวมเพื่อนของศัตรู เข้าไปด้วย เข้าใจไหม
    แต่ของจริงอเมริกา มองจีนอย่างไร มีระบุไว้ในเอกสาร The National Strategy Forum Review ปี ค.ศ.2011 ว่า สัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐ ในศตวรรษที่ 21 นับว่าเป็นสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่สำคัญที่สุดในโลก ส่วนหนึ่งสืบเนื่องมาจากการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของจีน และการเสื่อมถอยจากการเป็นผู้นำสุดยอด ของสหรัฐในต่างประเทศ ประกอบกับการที่จีน กำลังพยายามขยายบทบาทในเอเชียแปซิฟิก โดยใช่ว่าจะเห็นพ้องกับนโยบายของสหรัฐเสมอไป ที่สำคัญดูเหมือนว่ากระแสความไม่ไว้ใจและไม่เข้าใจระหว่างประเทศทั้ง 2 จะสูงขึ้นเป็นลำดับอ่านแล้วเป็นงง
    พูดภาษาจิ๊กโก๋๋ ให้เข้าใจง่ายๆดีกว่า สรุปว่า ไอ้จิ๊กโก๋๋มันแสดงอาการหวงรางหญ้า หวงกระดูก

    คนเล่านิทาน
     ตอน 18 อเมริกาคิดจะทำอะไร ต้องแน่ใจว่าคุมสถานการณ์ คุมเกมได้เบ็ดเสร็จ เมื่อได้เลือกไทยแลนด์แดนสวรรค์ เป็นแหล่งประทับทรง เพื่อเอาไว้จับจ้อง เตรียมต่อกรกับจีน ถึงจะไม่เป็นงานช้างแบบสู้กับคอมมี่ ตรงไปตรงมา แต่สู้กับอาเฮียตาตี่ที่ กำลังเนื้อหอม แถมจิ๊กโก๋๋ก็ทิ้งสาวไทยไปนาน จะกลับเข้ามาก็ต้องดูดีๆ เสียเชิงอาเฮียนี่มันรับไม่ได้จริงๆ นะ และโปรดอย่าลืมสันดานเดิมของจิ๊กโก๋๋นักเลงนักล้วง อเมริกาไม่เคยตีตั๋วใบเดียว ไม่เคยเล่นไพ่หน้าเดียว จากรายงานของซีไอเอ ที่เดินสายกันให้ควักไขว้ ออกอาการว่า จิ๊กโก๋๋คิดหนัก จะเลือกใครเป็นร่างทรงดี สมัยสู้คอมมี่ จอมพลคนแปลกเป็นนายก อเมริกาก็สนับสนุน 2 นายพล เอาไว้เป็นตัวเลือกคือ นายพลเผ่า กับ นายพลสฤษดิ์ ทั้งฟูมทั้งฟัก ทั้ง 2 นายพล อยากได้อะไรก็ประเคนให้ทั้งคู่ รอดูจนแน่ใจแล้วก็เคาะโป๊ก หวยออกที่นายพลสฤษดิ์ ให้เป็นผู้นำคนต่อไปของประเทศไทยแลนด์ ภายใต้การชักใยของสหรัฐ คราวนี้ก็เหมือนกัน อเมริกามีตัวเลือกแยะขึ้น แต่ยากขึ้น มองด้านความแน่นอน สัมพันธ์เก่ามีมาต่อเนื่องกว่า 50 ปี ก็มีกลุ่มนักวิ่งผลัด แต่สมัยนี้จะไปชักใย ให้ขยับขาซ้ายย้ายขาขวา อย่างเมื่อก่อนมันไม่ได้แล้วนะ ก็ดันไปตั้ง Doctrine ของตัวเองสนับสนุนประชาธิปไตยให้บานแฉ่ง แล้วถ้าเอาพี่ทหารนักวิ่งผลัดมา ป.ว. เป็นร่างทรงน่ะ ชาวบ้านเขามินินทาเอาหรือจ๊ะ ว่า ปากว่าตาขยิบ จะเป็นตัวเลือกหรือเปล่ายังไม่รู้ แต่เพื่อให่แน่ใจว่านักวิ่งพลัดไม่นอกใจ ปลายปี พ.ศ. 2555/ค.ศ.2012 พี่เบิ้มก็ส่งนายลีออน เพนเนตต้า (Leon Pennetta) รมว กลาโหม มานั่งจับเข่า คุณพี่สุกำพล รมว กลาโหมของไทยตอนนั้น อย่าลืมนะ สมันน้อย เราอุ้มเจ้าลงเปลเห่กล่อมมากว่า 50 ปีแล้ว สมันน้อยจะไปเห็นคนอื่นดีกว่าเราได้ยังไง ว่าแล้วจากจับเข่า ก็เปลี่ยนเป็นจับมือสมันน้อย แปะโป้งทำสัญญา ซึ่งแปลงเขียนเป็นแถลงการณ์วิสัยทัศน์ร่วม (แหม! อีลูกช่างตะแบง กลัวจะเป็นหนังสือสัญญา ตามมาตรา ม190 ของรัฐธรรมนูญไง) ว่า ด้วยการเป็นหุ้นส่วนร่วมด้านความมั่นคงในศตวรรษที่ 21 ฮั่นแน่ โจ๋งครึ่มจริงๆ ไอ้นี่ มันเป็นการส่งสารข้าม(หัว) ไปถึงอาเฮียนี่หว่า ว่านี่เด็กของข้า ลื้ออย่ามาแหยม! หลังจากกำชับนักวิ่งพลัดไม่ให้แตกแถวแล้ว คราวนี้ก็ต้องมาดูนักการเมือง ที่จะใช้บริการ ซึ่งตอนนี้ก็มีอยู่ 2 พรรคใหญ่ ระหว่างพรรคแมลงสาบกับพรรคของเหลี่ยมร้าย เอาไงดีล่ะ จิ๊กโก๋๋คิดไม่ตก พรรคแมลงสาบนี่ จิ๊กโก๋๋รู้จักดี ตั้งกะสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ปู่เสนีย์เป็นหัวหน้าเสรีไทยฝ่ายสหรัฐ พรรคนี้เคยคิดอย่างไร ทำอย่างไร ตั้งแต่สมัยสงครามโลก เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้น สมเป็นพรรคแมลงสาปจริง ๆ หัวสมองอยู่ในกระป๋องสี่เหลี่ยม แก้ไม่หาย อุตส่าห์ปั๊ดตะนา เปลี่ยนหัวหน้าพรรคมาจนเดี๋ยวนี้ได้ good boyหน้าหล่อสายอังกฤษ แต่มันก็คิดเป็น ทำเป็น แบบจวนสอบได้ ซะเกือบทุกเรื่อง ขนาดแม่ยกยังลุ้นซะจนจะ ล.ด หลายตลบแล้วจิ๊กโก๋๋จะรับไหวเหร๊อ แต่มันก็ว่าง่ายดีนะ ดูตอนกู้เงิน IMF แล้วกัน 5 5 5 พวกไอรวยมาแยะนะ อ้ายน้อย ไม่เอาแมลงสาบแล้วจะเอาใคร ก็พรรคของเหลี่ยมร้ายไง เหลี่ยมร้ายไม่สนใจอาณาเขต เหลี่ยมร้ายไม่สนใจพรมแดน เหลี่ยมร้ายไม่สนใจขนบธรรมเนียมประเพณี เหลี่ยมร้ายไม่รู้จักความดีงาม เหลี่ยมร้ายไม่รู้จักคุณค่าของ สถาบัน เหลี่ยมร้ายรู้จักแต่อำนาจ การโกหก การโกงทุกรูปแบบ และทุน ทุน ทุน ไม่ว่าจะเป็น ทุนนิยมเสรี ทุนในชาติ ทุนข้ามชาติ ประชานิยม ฯลฯ ล้วนเป็นเรื่องที่เหลี่ยมรัก เหลี่ยมโปรดทั้งนั้น อืม! น่าสนใจ ความคิดคล้ายๆ กับผู้ใดหนอ แถม เหลี่ยมก็เคยปลาบปลื้ม จนลืมตน วิ่งไปเชิญ วิ่งไปซบคุณพ่อจิ๊กโก๋๋ มาหลายหน คุณจิ๊กโก๋๋ตัวลูก จอมกร่าง ยิ่งแล้วใหญ่ เหลี่ยมนับเป็นเพื่อนเลยนะ ลองไปหา cable ทูตอเมริกา (ที่วิกิลีกส์ Wikileaks ขวัญใจผม อภินันทนาการแก่ชาวโลก) มันรายงานออกมาจ้อยๆ ว่า เหลี่ยมร้าย ปลื้มจิ๊กโก๋๋ขนาดไหน โดนดุ โดนเตือนก็ไปฟ้องคุณพ่ออเมริกันทุกครั้ง แหม ตัวอยู่ไทย แต่ใจเป็นของคุณพ่อจิ๊กโก๋๋หมดแล้ว แบบนี้ไม่เลือกเป็นร่างทรงก็ใจจืดไปหน่อยนะ… แต่จิ๊กโก๋๋ไม่โง่ จะใช้คนอย่างเหลี่ยมร้าย มันต้องป้อนด้วย อำนาจและเงินไปตลอด แล้วมันเกิดทำใหญ่คับเกินฟ้า ชาวประชารับไม่ได้ (ก็กำลังชุมนุมขับไล่โค่นล้มอยู่นี่ไง) จิ๊กโก๋๋ จะควบคุมไหวหรือ เอ๊ะ หรือจะเข้าทาง! ดูประธานาธิบดีมากอส พระเจ้าชาห์แห่งอิหร่าน มูบารักของอียิปต์ ฯลฯ เป็นตัวอย่างแล้วกัน เด็กสร้างของ จิ๊กโก๋๋ทั้งนั้น ถึงจุดหนึ่งหมดประโยชน์หรือคุมไม่ได้ จิ๊กโก๋๋ก็จัดการเก็บฉาก ให้กลับบ้านเก่ากันแทบไม่ทัน บางคนแทบไม่มีเวลาแต่งศพให้สวย ถ้าเหลี่ยมร้ายบังเอิญโชคดี ได้อ่านนิทานเรื่องนี้ ก็อ่านตอนนี้หลายๆ เที่ยวหน่อยนะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือนกัน ยังไงก็คนเคยเห็นหน้า (ทางจอทีวี ฮา) มาหลายหน แต่หนหลังๆ นี้ บอกกันไม่อ้อมค้อมนะ ดูทุเรศ จริงๆ บอกได้เลยว่า การประทับทรงไทยแลนด์ของจิ๊กโก๋๋ครั้งนี้ ไม่ง่ายสะดวกโยธินเหมือนสมัยสงคราม เวียต นาม คราวนั้นบ้านเรายังไม่มีกีฬาสี และสถานการณ์ก็สร้างไว้ชัดเจน ถูกเขาขู่ว่า ถ้าไม่สู้คอมมี่ พวกยูก็อาจไม่มีแผ่น ดินเหลือให้นั่งชนไก่ แต่ตอนนี้กะตอนนู้น มันไม่เหมือนกันนะ คราวนี้ถ้าขู่ว่าจะให้เลือก ระหว่างจิ๊กโก๋๋ผมทอง กับอาเฮียตาตี่ มันก็ไม่ง่ายนะพี่เบิ้ม ระวังมันจะพลิกล็อก คนไทยน่ะ นับดีๆ เผลอๆ มีกว่าครึ่งประเทศ ที่มีเชื้อสายจีนปนอยู่ ถึงแม้เขาจะไปฟอกผิวขาวทำตาโต แต่เชื้อไขข้างใน มันก็ยังเชื้อสายจีนปน ถึงเวลาตรุษจีน ก็เอาเป็ดเอาไก่ไปไหว้เจ้าปิดถนนฉลองกัน แล้วใจคอยูจะให้เขาตัดขาดจากอาม้า อาก๋ง เขาง่าย ๆ หรือ จิ๊กโก๋๋คิดให้ดีๆ คราวนี้ถ้าจิ๊กโก๋๋คิดว่า ซอยนี้ต้องเป็นของกูคนเดียว ไม่ให้ใครเข้ามายุ่งด้วย บอกได้คำเดียวว่าเหนื่อย เหนื่อยทั้งจิ๊กโก๋๋ และเหนื่อยทั้งสมันน้อย อเมริกาเหนื่อยอย่างไร สมัยต่อสู้กับระบอบคอมมิวนิสต์ มันขู่ให้เรากลัวว่า ระบอบคอมมิวนิสต์เป็นภัยต่อประชาธิปไตย ประชาชนไม่มีสิทธิเป็นเจ้าของทรัพย์สิน ทุกอย่างตกเป็นของรัฐ แค่นี้นายทุนเศรษฐีบ้านเราก็หน้าตก หูตูบกันหมดแล้ว ทุกคนต้องทำงานให้คอมมูน เพื่อความเท่าเทียมกัน ไม่มีการแบ่งชั้นวรรณะ คนไทยเคยอยู่สบายๆ เช้าอยากลุกก็ลุก ไม่อยากก็นอนจนตะวันตรงท้ายทอย แล้วค่อยขยับก้นย้ายออกมา ก็ไม่มีใครว่า แล้วถ้าเป็นคอมมูน มันจะมาทำท่านอนบิดขี้เกียจอย่างนี้ได้เหรอ ขู่แบบนี้เข้าไปทุกวัน พออเมริกาบอกว่า ไอจะกำจัดระบอบนี้ให้ออกไปจากภูมิภาคนี้ ชาวเราก็มองเขาเหมือนเทวดามาโปรด แต่ตอนนี้ไม่มีผีคอมมี่ให้สร้างแล้ว ของจริงที่ไทยแลนด์ควรมองคือ อาเฮียตาตี่ ไม่ได้เดินย้ายพุงมาคนเดียว แต่เกี่ยวแขนมากับเพื่อนอีกหลายพันล้านคน ในนามของ BRICS จำได้ไหม บราซิล (Brazil) รัสเซีย (Russia) อินเดีย (India) จีน (China) และแอฟริกาใต้ (South Africa) รวมทั้งหมด เกือบ สามพันล้านคน ตลาดใหญ่นะ แถมตอนนี้อาเฮียฟิตจัด ตั้งกลุ่มเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Cooperation Organization) หรือ SCO กับพี่ใหญ่รัสเซียและประเทศแถบรัสเซีย ที่จีนมีอาณาเขตติดต่อกันอยู่ แปลว่าถ้าอเมริกาจะมองว่าจีนเป็นศัตรู ต้องรวมเพื่อนของศัตรู เข้าไปด้วย เข้าใจไหม แต่ของจริงอเมริกา มองจีนอย่างไร มีระบุไว้ในเอกสาร The National Strategy Forum Review ปี ค.ศ.2011 ว่า สัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐ ในศตวรรษที่ 21 นับว่าเป็นสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่สำคัญที่สุดในโลก ส่วนหนึ่งสืบเนื่องมาจากการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของจีน และการเสื่อมถอยจากการเป็นผู้นำสุดยอด ของสหรัฐในต่างประเทศ ประกอบกับการที่จีน กำลังพยายามขยายบทบาทในเอเชียแปซิฟิก โดยใช่ว่าจะเห็นพ้องกับนโยบายของสหรัฐเสมอไป ที่สำคัญดูเหมือนว่ากระแสความไม่ไว้ใจและไม่เข้าใจระหว่างประเทศทั้ง 2 จะสูงขึ้นเป็นลำดับอ่านแล้วเป็นงง พูดภาษาจิ๊กโก๋๋ ให้เข้าใจง่ายๆดีกว่า สรุปว่า ไอ้จิ๊กโก๋๋มันแสดงอาการหวงรางหญ้า หวงกระดูก คนเล่านิทาน
    1 Comments 0 Shares 390 Views 0 Reviews
  • อีกรอบกับข่าวนี้,มันโคตรชัดเจนมากส่งเสบียงแก้ชาติเขมรที่กำลังเป็นภัยคุกคามดินแดนอธิปไตยไทยตนเอง,นี้ฝีมือในนามรัฐบาลเพียวๆล้วนๆ,เห็นมั้ยมันเป็นกันทั้งหมดจริงๆ,แล้วจะให้เรา..ประชาชนคิดเป็นอื่นได้อย่างไร จะไว้ใจ จะไว้วางใจในการบริหารชาติต่อไปได้อย่างไร,เขมรอยู่ดีมีสุข มีกำลังมีแรง ร่างกายสบายดีเสร็จมันก็ยิงระเบิดใส่ไทยต่อมาสู้รบกับไทยเต็มที่อีก ประชาชนคนไทยก็จะบาดเจ็บล้มตายมากมายอีก,สรุปประเทศไทยเรานี้ไม่สามารถทำให้รัฐบาลลักษณะนี้สิ้นอำนาจจริงใช่หรือไม่,แสดงว่ากฎหมายรัฐธรรมนูญเราและกฎหมายการเลือกตั้งเรามีปัญหาจริงๆ,นายกฯไม่ซื่อสัยต์พ้นสถานะนายกฯรัฐบาลทั้งชุดต้องหมดอำนาจพ้นไปทั้งชุดรัฐบาลด้วย ต้องมีการเลือกตั้งใหม่ทันที นี้คือพื้นฐานเบื้องต้นของประชาธิปไตยและนายกฯต้องเลือกตั้งกาโดยตรงจากประชาชนด้วย.

    https://youtube.com/shorts/TAmr0y8IZGo?si=flrpoo0oJLykxmbZ
    อีกรอบกับข่าวนี้,มันโคตรชัดเจนมากส่งเสบียงแก้ชาติเขมรที่กำลังเป็นภัยคุกคามดินแดนอธิปไตยไทยตนเอง,นี้ฝีมือในนามรัฐบาลเพียวๆล้วนๆ,เห็นมั้ยมันเป็นกันทั้งหมดจริงๆ,แล้วจะให้เรา..ประชาชนคิดเป็นอื่นได้อย่างไร จะไว้ใจ จะไว้วางใจในการบริหารชาติต่อไปได้อย่างไร,เขมรอยู่ดีมีสุข มีกำลังมีแรง ร่างกายสบายดีเสร็จมันก็ยิงระเบิดใส่ไทยต่อมาสู้รบกับไทยเต็มที่อีก ประชาชนคนไทยก็จะบาดเจ็บล้มตายมากมายอีก,สรุปประเทศไทยเรานี้ไม่สามารถทำให้รัฐบาลลักษณะนี้สิ้นอำนาจจริงใช่หรือไม่,แสดงว่ากฎหมายรัฐธรรมนูญเราและกฎหมายการเลือกตั้งเรามีปัญหาจริงๆ,นายกฯไม่ซื่อสัยต์พ้นสถานะนายกฯรัฐบาลทั้งชุดต้องหมดอำนาจพ้นไปทั้งชุดรัฐบาลด้วย ต้องมีการเลือกตั้งใหม่ทันที นี้คือพื้นฐานเบื้องต้นของประชาธิปไตยและนายกฯต้องเลือกตั้งกาโดยตรงจากประชาชนด้วย. https://youtube.com/shorts/TAmr0y8IZGo?si=flrpoo0oJLykxmbZ
    0 Comments 0 Shares 202 Views 0 Reviews
  • อนาคตประเทศไทยจะไม่มีบุคคลสาธารณะอีกต่อไป,จะเป็นบริษัทจำกัด ประชาขนคนใดจะมาว่ากล่าวบริษัทจำกัดไม่ได้,ฟ้องอย่างเดียว,เรากำลังอยู่ในระบบคอมมิวนิสต์ใช่หรือไม่.ประชาชนไม่สามารถพูดวาวิพากษ์วิจารณ์ว่ากล่าวด่าทออะไรได้,ป้าย ศาลาริมทางก็ด่ามันไม่ได้เพราะเป็นของสาธารณะ,ด่าของบริษัทอีกยิ่งไปกันใหญ่เพราะขนาดด่าป้ายสาธารณะไม่ได้,สมควรเก็บป้ายสาธารณะนี้อย่ามีดีกว่ามั้ย,ไฟจราจรผีบ้าอยากไฟแดงค้างก็ค้างแบบนััน อยากไฟเหลืองขึ้นก็ขึ้นไม่ไปไฟเขียว ด่าหน่อยจึงกดไฟเขียวผีบ้าขึ้น,ไฟจราจรก็ด่าไม่ได้เป็นของสาธารณะ.,ประชาธิปไตยแสดงว่ามิใช่ของสาธารณะ กฎหมายหมิ่นประมาทคือกฎหมายทำลายระบบประชาธิปไตย ควบคุมระบบประชาธิปไตย กฎหมายหมิ่นประมาทควบคุมการปกป้องตนเองของคนในสังคมชุมชนเป็นเครื่องมือควบคุมคนที่เห็นต่างคนที่เป็นภัยในระบบเสียเองที่ควบคุมง่ายๆไม่ได้ในเจตจำนงอิสระการแสดงออกของเขา,ระบบประชาธิปไตยด้านกฎหมายหมิ่นประมาทต้องยกเลิกทันที,และยกเลิกกฎหมายห้ามชุมนุมในที่สาธารณะด้วย,เพราะตัวเดียวกันกับกฎหมายหมิ่นประมาทชัดเจนมาก.

    https://youtube.com/watch?v=OIJypjHbiFo&si=t7XAJRF_wY2B7f1h
    อนาคตประเทศไทยจะไม่มีบุคคลสาธารณะอีกต่อไป,จะเป็นบริษัทจำกัด ประชาขนคนใดจะมาว่ากล่าวบริษัทจำกัดไม่ได้,ฟ้องอย่างเดียว,เรากำลังอยู่ในระบบคอมมิวนิสต์ใช่หรือไม่.ประชาชนไม่สามารถพูดวาวิพากษ์วิจารณ์ว่ากล่าวด่าทออะไรได้,ป้าย ศาลาริมทางก็ด่ามันไม่ได้เพราะเป็นของสาธารณะ,ด่าของบริษัทอีกยิ่งไปกันใหญ่เพราะขนาดด่าป้ายสาธารณะไม่ได้,สมควรเก็บป้ายสาธารณะนี้อย่ามีดีกว่ามั้ย,ไฟจราจรผีบ้าอยากไฟแดงค้างก็ค้างแบบนััน อยากไฟเหลืองขึ้นก็ขึ้นไม่ไปไฟเขียว ด่าหน่อยจึงกดไฟเขียวผีบ้าขึ้น,ไฟจราจรก็ด่าไม่ได้เป็นของสาธารณะ.,ประชาธิปไตยแสดงว่ามิใช่ของสาธารณะ กฎหมายหมิ่นประมาทคือกฎหมายทำลายระบบประชาธิปไตย ควบคุมระบบประชาธิปไตย กฎหมายหมิ่นประมาทควบคุมการปกป้องตนเองของคนในสังคมชุมชนเป็นเครื่องมือควบคุมคนที่เห็นต่างคนที่เป็นภัยในระบบเสียเองที่ควบคุมง่ายๆไม่ได้ในเจตจำนงอิสระการแสดงออกของเขา,ระบบประชาธิปไตยด้านกฎหมายหมิ่นประมาทต้องยกเลิกทันที,และยกเลิกกฎหมายห้ามชุมนุมในที่สาธารณะด้วย,เพราะตัวเดียวกันกับกฎหมายหมิ่นประมาทชัดเจนมาก. https://youtube.com/watch?v=OIJypjHbiFo&si=t7XAJRF_wY2B7f1h
    0 Comments 0 Shares 208 Views 0 Reviews
  • สถาบันนักการเมืองสุดท้ายคือตัวขัดขวางความเจริญในหลากหลายมิติของสังคมไทยทั้งประเทศ,ขัดขวางความดีงามมากมายก็ด้วยมิใช่แค่ความเจริญทางวัตถุคู่ขนานศีลธรรม,ภาคการเมืองเอาไปเอามาคือเครื่องมือทำลายประเทศไทยของต่างชาติ เป็นเครื่องมือปกครองของต่างชาติผ่านระบบที่มันออกแบบสร้างและส่งออกไปทั่วโลก,ทั้งหมดนั้นมันควบคุมกติกาเงื่อนไขในสิ่งที่มันสร้างตลอดชีพได้ด้วย,การจะทำประเทศไทยให้สงบร่มเย็นจริง ทั้งในประเทศไทยและอาเชียนหรือเอเชียเรา,ต้องร่วมใจกันทิ้งระบบนี้ทำลายระบบส่งออกนี้ของฝรั่งในทุกๆประเทศของเอเชียเราทันที ไม่ว่าจะระบบประชาธิปไตยหรือระบบเผด็จการแบบคอมมิวนิสต์ต่างล้วนมันออกแบบเพื่อสร้างความแตกแยกหมายควบคุมทั้งหมดนั้นเอง,
    ..ไทยเราต้องทุบทิ้งระบบส่งออกของฝรั่งนี้ทันทีเป็นชาติแรกของโลกที่ปลดปล่อยตนเอง,จากนั้นสร้างต้นแบบใหม่ของตนเองขึ้นมาให้เป็นค่าจริงสะท้อนความเป็นจริงในปัจจุบันหรือต้นแบบชาติแรกของโลกที่ใช้วิถีปกครองแบบอารยะธรรมจักรวาลสากลทั่วจักรวาลใช้ๆกันจริงและเป็นอารยะธรรมปกครองขั้นสูงผู้มีอารยะใช้ในสัมมาชีวิตตนทั่วจักรวาล,มโนในที่นี้คือ ระบบธรรมาธิปไตย,ธรรมเป็นใหญ่ชนะทั่วอนันตจักรวาล,คนไทยจะใช้ธรรมปกครองตนภายในใจประจำตนประจำใจทุกๆคนให้ดีที่สุดนั้นเองภายใต้อิสระเสรีบนเจตจำนงเสรีในสัมมาชีวิตและสัมมาอาชีพของแต่ละคนไทยเรานั้นเอง,ไทยเรามีต้นทุนนี้ดีงามฐานดีเป็นหลักชัยอยู่แล้วจึงง่ายและสะดวกมาก,เมื่อเราเป็นชาติแรกต้นแบบแรกของโลกทำได้สำเร็จ สามารถขยายวิถีปกครองนี้ไปทั่วอาเชียนทั่วเอเชียและทั่วโลกได้สบายแน่นอน,โลกจะสงบสุขร่มเย็นทันที,
    ..การปกครองทั้งหมดในโลกใช้ระบบที่ล้มเหลวแต่ต้น,ไม่บริสุทธิ์ด้วย,จึงทำให้ทั่วโลกโกลาหลตลอดเวลา,
    ..เรา..ประเทศไทยเปลี่ยนมันได้,ทหารพระราชาเปลี่ยนมันได้ ความสามัคคีของคนไทยทั้งประเทศสร้างมันขึ้นมาร่วมกันเองได้,ทิ้งระบบฝรั่งที่ไม่ถูกจริตจริงแก่เราไป,ความเจริญรุ่งเรืองรุ่งโรจน์จะปรากฎขึ้นทันทีแน่นอนแก่ประเทศไทยเรา.เพราะตาสติตาปัญญาตาเข้าถึงค่าจริงความจริงจะเกิดขึ้นแก่คนไทยเรานั้นเอง,ขาวดำ ดีชั่ว เราคนไทยจะตื่นรู้ชัดแจ้งนั้นเองด้วยตัวเอง,นั้นคือจะพร้อมเพรียงกันโดยมิได้นัดหมายนั้นเองก็ด้วย,ยุคศิวิไซระยะสั้นๆก่อนสิ้นพุทธกาลจะบังเกิดในชาติไทยจริงนั้นเอง,เราสามารถพลิกตัวทันกาลก็ว่า,

    กฎอัยการศึกทั่วประเทศจึงสำคัญในเวลานี้.



    https://youtube.com/watch?v=N96PG91e2YY&si=fwUhq6GqRX-21F6C
    สถาบันนักการเมืองสุดท้ายคือตัวขัดขวางความเจริญในหลากหลายมิติของสังคมไทยทั้งประเทศ,ขัดขวางความดีงามมากมายก็ด้วยมิใช่แค่ความเจริญทางวัตถุคู่ขนานศีลธรรม,ภาคการเมืองเอาไปเอามาคือเครื่องมือทำลายประเทศไทยของต่างชาติ เป็นเครื่องมือปกครองของต่างชาติผ่านระบบที่มันออกแบบสร้างและส่งออกไปทั่วโลก,ทั้งหมดนั้นมันควบคุมกติกาเงื่อนไขในสิ่งที่มันสร้างตลอดชีพได้ด้วย,การจะทำประเทศไทยให้สงบร่มเย็นจริง ทั้งในประเทศไทยและอาเชียนหรือเอเชียเรา,ต้องร่วมใจกันทิ้งระบบนี้ทำลายระบบส่งออกนี้ของฝรั่งในทุกๆประเทศของเอเชียเราทันที ไม่ว่าจะระบบประชาธิปไตยหรือระบบเผด็จการแบบคอมมิวนิสต์ต่างล้วนมันออกแบบเพื่อสร้างความแตกแยกหมายควบคุมทั้งหมดนั้นเอง, ..ไทยเราต้องทุบทิ้งระบบส่งออกของฝรั่งนี้ทันทีเป็นชาติแรกของโลกที่ปลดปล่อยตนเอง,จากนั้นสร้างต้นแบบใหม่ของตนเองขึ้นมาให้เป็นค่าจริงสะท้อนความเป็นจริงในปัจจุบันหรือต้นแบบชาติแรกของโลกที่ใช้วิถีปกครองแบบอารยะธรรมจักรวาลสากลทั่วจักรวาลใช้ๆกันจริงและเป็นอารยะธรรมปกครองขั้นสูงผู้มีอารยะใช้ในสัมมาชีวิตตนทั่วจักรวาล,มโนในที่นี้คือ ระบบธรรมาธิปไตย,ธรรมเป็นใหญ่ชนะทั่วอนันตจักรวาล,คนไทยจะใช้ธรรมปกครองตนภายในใจประจำตนประจำใจทุกๆคนให้ดีที่สุดนั้นเองภายใต้อิสระเสรีบนเจตจำนงเสรีในสัมมาชีวิตและสัมมาอาชีพของแต่ละคนไทยเรานั้นเอง,ไทยเรามีต้นทุนนี้ดีงามฐานดีเป็นหลักชัยอยู่แล้วจึงง่ายและสะดวกมาก,เมื่อเราเป็นชาติแรกต้นแบบแรกของโลกทำได้สำเร็จ สามารถขยายวิถีปกครองนี้ไปทั่วอาเชียนทั่วเอเชียและทั่วโลกได้สบายแน่นอน,โลกจะสงบสุขร่มเย็นทันที, ..การปกครองทั้งหมดในโลกใช้ระบบที่ล้มเหลวแต่ต้น,ไม่บริสุทธิ์ด้วย,จึงทำให้ทั่วโลกโกลาหลตลอดเวลา, ..เรา..ประเทศไทยเปลี่ยนมันได้,ทหารพระราชาเปลี่ยนมันได้ ความสามัคคีของคนไทยทั้งประเทศสร้างมันขึ้นมาร่วมกันเองได้,ทิ้งระบบฝรั่งที่ไม่ถูกจริตจริงแก่เราไป,ความเจริญรุ่งเรืองรุ่งโรจน์จะปรากฎขึ้นทันทีแน่นอนแก่ประเทศไทยเรา.เพราะตาสติตาปัญญาตาเข้าถึงค่าจริงความจริงจะเกิดขึ้นแก่คนไทยเรานั้นเอง,ขาวดำ ดีชั่ว เราคนไทยจะตื่นรู้ชัดแจ้งนั้นเองด้วยตัวเอง,นั้นคือจะพร้อมเพรียงกันโดยมิได้นัดหมายนั้นเองก็ด้วย,ยุคศิวิไซระยะสั้นๆก่อนสิ้นพุทธกาลจะบังเกิดในชาติไทยจริงนั้นเอง,เราสามารถพลิกตัวทันกาลก็ว่า, กฎอัยการศึกทั่วประเทศจึงสำคัญในเวลานี้. https://youtube.com/watch?v=N96PG91e2YY&si=fwUhq6GqRX-21F6C
    0 Comments 0 Shares 288 Views 0 Reviews
More Results