• อนุทิน ลงนามตั้งคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายเร่งด่วน ดึง "ธงทอง จันทรางศุ" นั่งประธานกรรมการ
    https://www.thai-tai.tv/news/22003/
    .
    #ไทยไท #อนุทิน #ปฏิรูปกฎหมาย #ธงทองจันทรางศุ #SET #TDRI #บวรศักดิ์อุวรรณโณ
    อนุทิน ลงนามตั้งคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายเร่งด่วน ดึง "ธงทอง จันทรางศุ" นั่งประธานกรรมการ https://www.thai-tai.tv/news/22003/ . #ไทยไท #อนุทิน #ปฏิรูปกฎหมาย #ธงทองจันทรางศุ #SET #TDRI #บวรศักดิ์อุวรรณโณ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..น่าสงสารไทบ้าน&ชาวนาตาดำๆแบบคนไทยเราจริงๆ,ไร้การส่งเสริมสนับสนุนชาวนาจริง,ปุ๋ยแพง ต้นทุนแพง ราคาขายให้พ่อค้าก็ได้แค่ราคากิโลกรัมละไม่กี่บาท จนราคาข้าวตกต่ำมากๆในปัจจุบัน กก.ละ800บาทแบบเห็ดเผาะก็ไม่,กก.ละ40บาทแบบพ่อค้าคนกลางอัดใส่ถุงขายส่งก็ไม่ เดินกดราคากันไม่เกิน10บาทต่อกก. 15บาทต่อกก.หรือ15,000บาทต่อตันของข้าวนาปีปัจจุบันก็ไร้เห็น,อวยให้แต่นายทุนนอมินีต่างชาติพวกทำนาปรังก็ว่า ซึ่งเอาเข้าจริงๆนะนาปรังส่วนใหญ่จริงๆคือของต่างชาติส่วนมากทำ,คนไทยจริงๆไม่เท่าไรบวกกดราคาข้าวนาปรังคนไทยแท้ๆที่ไม่ใช่นอมินีต่างชาติอีก,
    ..อ้างp.m2.5เพื่อควบคุมวิถีคนเกษตรชาวไทยเรา ไปเพิ่มต้นทุนการผลิตอีก ไทบ้านส่วนมากเขาอยู่โคกอยู่ลุ่มกระทบหมด เอาตังที่ไหนไปจ้างกำจัดไถ่ฟางกัน ปั่นนาก็ใช้ตัง ไถ่ฟางปั่นฟางแช่น้ำก็ใช้ตัง ค่าน้ำมันดูดน้ำอีก บางพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่มีน้ำหรอก พวกหินแฮ่ดินนาดินแดงยิ่งโหดโคกภูเต็มๆวัวควายก็ไม่มี อัดขายฟางก็ใช้ตัง คนซื้อจริงก็ไม่กี่ที่กี่เขตแหล่งวัวควายนั้นๆ จะฟางก็เถอะ หญ้าในนาในคันนาเขาอีกตรึม ลำบากแน่นอนเมื่อฤดูการทำนาใหม่มาถึง,สิบปีร้อยปีไม่มีปัญหาp.m.2.5ชาวนาก็ทำนาปกติเรื่อยมา จริงๆคืออุตสาหกรรมต่างหากบวกพ่นพิษเต็มท้องฟ้าอีกที่เจาะจงคนเมืองกรุง คนอำนาจกรุงที่โง่เขลาก็เสือกออกกฎหมายกดขี่ประชาชนควบคุมสบายใจทำลายวิถีพึ่งพาตนเองในตัวช่วยนายทุนนะสิ,เกษตรคือแหล่งหาอาหารของทุกๆชีวิต บ้านใดเมืองใดทำลายวิถีเกษตรตนแสดงว่าบ้านเมืองนั้นล่มสะลายล้มเหลวในการปกครองของตนทันที ประชาชนจะสิ้นการดูแลพึ่งพาตนเองหาเลี้ยงชีพดำรงชีพแก่ตนเองไม่ได้ กำแพงบีบกั้นเพิ่มทางปิดมากขึ้นเรื่อยๆทุนสามานย์จะได้ประโยชน์ในที่สุดทั้งขีัข้าทาสแรงงานทาสวังวนตังเพื่อซื้อกินอยู่จะอยู่ในการควบคุมของมัน เพราะร้านที่ซื้อกินอยู่ก็ร้านพวกนายทุนอีก ไม่มีร้านชาวบ้านเลยสักร้าน อาหารไก่หมูก็ไม่มีชาวบ้านไหนปลูกเลี้ยงไก่หมูมาขายในชุมชนได้อีกเพราะนายทุนเขียนกฎหมายสร้างกำแพงเงื่อนไขการเลี้ยงไก่เลี้ยงหมูมาขายแข่งกันตนดักไว้หมดแล้ว,ชาวบ้านจะอิสระทำนั้นนี้แบบเดิมๆฝันไปเลย,พืชผักอาหารรัฐฐะเองคือคนทรยศประชาชนในครอบคีัวตนเอง,ไม่ควบคุมพ่อค้าคนกลางที่เอาเปรียบกดขี่ราคาสินค้าเกษตรคนไทยตน ไม่ส่งเสริมสนับสนุนเทคโนโลยีต้นทุนต่ำใดๆให้เข้าถึงสะดวกสบายในกระบวนการผลิตทำสร้างแหล่งอาหาร ต้นทุนรอบด้านคนเกษตรไทยถูกปั่นราคาจนสูงขึ้นจากนายทุนกำหนดราคาเอง มันยังกก.ละ0.90บาทเลยพะสาอย่างอื่น เดิมในอดีตสูงสุงกว่า5บาทต่อกก.,ที่ดินมากมายจริงๆรัฐควรปฏิรูปกฎหมายที่ดินกันจริงๆฉีกกฎหมายเก่าทั้งหมดทิ้งไป เขียนใหม่ว่า อาทิเช่น ชาวบ้านคนไทยสามารถมีที่ดินได้สูงสุดคนละไม่เกิน30ไร่รวมกันทุกๆแปลงทุกๆพื้นที่ครอบครองทั่วประเทศไทย,เอกชนบริษัทต่างๆก็ด้วยไม่ว่าสถานะกิจการอะไรใดๆแบบมหาชนก็ชั่ง สามารถมีที่ดินได้ไม่เกิน100ไร่ทุกๆกรณีในการดำเนินกิจการทำตังทำค้าขายใดๆ,ต่างชาติใดๆคนต่างชาติใดทุกๆกรณี ไม่มีสิทธิถือครองมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินไทยทุกๆกรณี,แม้เช่าที่ดินก็ต้องได้รับอนุญาตจากชุมชนท้องถิ่นนั้นๆลงประชามติทุกๆปีประเมินสิทธิ์ว่าไม่เป็นภัยอันตรายต่อชุมชนนั้นๆตลอดถึงความมั่นคงของชาติด้วย,ปัจจุบันเลอะเทอะมาก โรงงานจีนโรงงานต่างชาติเต็มแผ่นดินไทยไปหมดคือต้นเหตุp.m2.5ที่แท้จริงและมุกชื่อนี้มีการเรียกมาไม่กี่ปีนี้เองอีกด้วย ปูทางเพื้อควบคุมผ่านกฎหมายคาร์บอนเครดิตที่พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศจัดวางแผนควบคุมคนไทยทั้งประเทศแค่นั้น,
    ..จริงๆดูชัดๆแบบมหาภาคคือต้องการทำลายแหล่งอาหารคนไทยด้านการเกษตรภายในชาติไทยทั้งหมดนี้ล่ะมิให้สามารถพึ่งพาตนเองได้,โดยรัฐบาลเลวทายาทคณะกบฎ2475ปูสร้างทำไว้ถึงปัจจุบันแค่นั้น เช่นนั้นบ่อน้ำมันไทยจะยกให้ต่างชาติทำสินค้าแพงทั้งแผ่นดินได้อย่างไร,โจมตีอาหารคู่ขนานทำลายโจมตีภายในด้านอื่นๆให้ประเทศไทยเราอ่อนแอลงย่อมง่ายมากในยุคปัจจุบันนี้ที่ขนาดอดีตนายกคนเก่ายังหลุดไปเพราะข้อหาไม่ซื่อสัตย์นี้เอง,คาสิโนจะเอาให้ได้อีก ,ปั่นป่วนสร้างโกลาหลความไม่สงบสุขรอบทิศเพราะตัดกำลังการตั้งรับคนเจ้าหน้าที่คนดีคนไทยเราอีกให้แตกทัพไปตั้งขบวนตั้งรับศึกหลายทิศทางให้สับสนให้ได้,ตัดกำลังก็ว่า,จึงจริงๆเมื่อไร้ความเกรงใจและทรยศชาติไทยแผ่นดินไทยชัดเจนขนาดนี้แล้ว ตัดตอนถีบลงจากอำนาจที่ถือที่สร้างปั่นป่วนไปวันๆนี้ลงเถอะ ,ความสงบสุขมากมายหลายด้านมิติจะกลับมาแล้วเคลียร์กำจัดปัญหาอื่นๆทิ้งทีละตัวได้อย่างง่ายดายในอนาคตแน่นอน,
    ..ในมุมการอาหารความมั่นคงทางชีวิตด้านอาหารคนไทย เช่นข้าวคือหัวใจหลักคนไทยโดยพื้นฐานของชาติแล้วต้องนายกพระราชทานให้รีบเร่งช่วยเหลือส่งเสริมสายงานเกษตรอย่างเต็มที่ ยุบธกส.ทิ้งไปเลย ยุบกระทรวงเกษตรด้วยล้างอำนาจตำแหน่งอิทธิพลเก่าทั้งหมดได้ทันที,ตั้งกระทรวงพืช&สัตว์ไทยแทน,ตรงตัวเลย ค่อยแยกย่อยลงไป ยุบสภาเกษตรกรแห่งชาติทิ้งด้วย ไร้ค่าราคา,ไม่สร้างประโยชน์จริงอะไร สิ้นเปลืองงบหลวง,ตั้งกองทุนตลาดชุมชนสากลแต่ละหมู่บ้านขึ้นทุกๆหมู่บ้านเป็นเครือข่ายจริงจังใน7-8หมื่นหมู่บ้านชุมชนนั้นทั้งตลาดออฟไลน์และออนไลน์ช่วยสร้างระบบให้ในตัวรองรับการค้าขายชาวบ้านทั่วไทยระดับสากลทั่วโลกก็ได้อีก,ขายสินค้าเกษตรร่วมกันเป็นหลัก&สินค้าอุปโภคบริโภคอื่นทั้งหมดทั้งหลายอิสระเสรีส่งเสริมสัมมาอาชีพคนไทยเป็นรองร่วมกันเป็นเครือข่าย แน่นอนเม็ดเงินมหาศาลกว่า100ล้านล้านบาทต่อปีสะพัดจะหมุนเวียนจริงในเครือข่ายชุมชนคนไทยเราจริง พึ่งพาตนเองเป็นเครือข่ายกันและกัน สู่ชาติพึ่งพาตนเองได้ทันทีด้วย ทุกๆคนไทยจะยืนด้วยขาตนเองในทุกๆสัมมาอาชีพโดยมีฐานที่แข็งแกร่งด้านความมั่นคงทางอาหารเราอยู่พื้นรองรับไว้หมดว่าทุกๆคนไทยมีอาหารราคาถูกไม่แพงกินตลอดชีวิตแน่นอนคู่ขนานความร่ำรวยมั่งคั่งทางวัตถุธาตุบวกศีลธรรมดีงามในใจคนไทยเรามีเป็นพื้นฐานปกติดีอยู่แล้วอีกด้วย,ใครจะมาสร้างชาติไทยได้ดีเยี่ยมจริงกว่าคนไทยเราล่ะบนแผ่นดินไทยเราเองนี้อีกด้วย.
    https://youtube.com/shorts/dvQ5mdyo9EM?si=dTfhGMXBP1h1rzkH
    ..น่าสงสารไทบ้าน&ชาวนาตาดำๆแบบคนไทยเราจริงๆ,ไร้การส่งเสริมสนับสนุนชาวนาจริง,ปุ๋ยแพง ต้นทุนแพง ราคาขายให้พ่อค้าก็ได้แค่ราคากิโลกรัมละไม่กี่บาท จนราคาข้าวตกต่ำมากๆในปัจจุบัน กก.ละ800บาทแบบเห็ดเผาะก็ไม่,กก.ละ40บาทแบบพ่อค้าคนกลางอัดใส่ถุงขายส่งก็ไม่ เดินกดราคากันไม่เกิน10บาทต่อกก. 15บาทต่อกก.หรือ15,000บาทต่อตันของข้าวนาปีปัจจุบันก็ไร้เห็น,อวยให้แต่นายทุนนอมินีต่างชาติพวกทำนาปรังก็ว่า ซึ่งเอาเข้าจริงๆนะนาปรังส่วนใหญ่จริงๆคือของต่างชาติส่วนมากทำ,คนไทยจริงๆไม่เท่าไรบวกกดราคาข้าวนาปรังคนไทยแท้ๆที่ไม่ใช่นอมินีต่างชาติอีก, ..อ้างp.m2.5เพื่อควบคุมวิถีคนเกษตรชาวไทยเรา ไปเพิ่มต้นทุนการผลิตอีก ไทบ้านส่วนมากเขาอยู่โคกอยู่ลุ่มกระทบหมด เอาตังที่ไหนไปจ้างกำจัดไถ่ฟางกัน ปั่นนาก็ใช้ตัง ไถ่ฟางปั่นฟางแช่น้ำก็ใช้ตัง ค่าน้ำมันดูดน้ำอีก บางพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่มีน้ำหรอก พวกหินแฮ่ดินนาดินแดงยิ่งโหดโคกภูเต็มๆวัวควายก็ไม่มี อัดขายฟางก็ใช้ตัง คนซื้อจริงก็ไม่กี่ที่กี่เขตแหล่งวัวควายนั้นๆ จะฟางก็เถอะ หญ้าในนาในคันนาเขาอีกตรึม ลำบากแน่นอนเมื่อฤดูการทำนาใหม่มาถึง,สิบปีร้อยปีไม่มีปัญหาp.m.2.5ชาวนาก็ทำนาปกติเรื่อยมา จริงๆคืออุตสาหกรรมต่างหากบวกพ่นพิษเต็มท้องฟ้าอีกที่เจาะจงคนเมืองกรุง คนอำนาจกรุงที่โง่เขลาก็เสือกออกกฎหมายกดขี่ประชาชนควบคุมสบายใจทำลายวิถีพึ่งพาตนเองในตัวช่วยนายทุนนะสิ,เกษตรคือแหล่งหาอาหารของทุกๆชีวิต บ้านใดเมืองใดทำลายวิถีเกษตรตนแสดงว่าบ้านเมืองนั้นล่มสะลายล้มเหลวในการปกครองของตนทันที ประชาชนจะสิ้นการดูแลพึ่งพาตนเองหาเลี้ยงชีพดำรงชีพแก่ตนเองไม่ได้ กำแพงบีบกั้นเพิ่มทางปิดมากขึ้นเรื่อยๆทุนสามานย์จะได้ประโยชน์ในที่สุดทั้งขีัข้าทาสแรงงานทาสวังวนตังเพื่อซื้อกินอยู่จะอยู่ในการควบคุมของมัน เพราะร้านที่ซื้อกินอยู่ก็ร้านพวกนายทุนอีก ไม่มีร้านชาวบ้านเลยสักร้าน อาหารไก่หมูก็ไม่มีชาวบ้านไหนปลูกเลี้ยงไก่หมูมาขายในชุมชนได้อีกเพราะนายทุนเขียนกฎหมายสร้างกำแพงเงื่อนไขการเลี้ยงไก่เลี้ยงหมูมาขายแข่งกันตนดักไว้หมดแล้ว,ชาวบ้านจะอิสระทำนั้นนี้แบบเดิมๆฝันไปเลย,พืชผักอาหารรัฐฐะเองคือคนทรยศประชาชนในครอบคีัวตนเอง,ไม่ควบคุมพ่อค้าคนกลางที่เอาเปรียบกดขี่ราคาสินค้าเกษตรคนไทยตน ไม่ส่งเสริมสนับสนุนเทคโนโลยีต้นทุนต่ำใดๆให้เข้าถึงสะดวกสบายในกระบวนการผลิตทำสร้างแหล่งอาหาร ต้นทุนรอบด้านคนเกษตรไทยถูกปั่นราคาจนสูงขึ้นจากนายทุนกำหนดราคาเอง มันยังกก.ละ0.90บาทเลยพะสาอย่างอื่น เดิมในอดีตสูงสุงกว่า5บาทต่อกก.,ที่ดินมากมายจริงๆรัฐควรปฏิรูปกฎหมายที่ดินกันจริงๆฉีกกฎหมายเก่าทั้งหมดทิ้งไป เขียนใหม่ว่า อาทิเช่น ชาวบ้านคนไทยสามารถมีที่ดินได้สูงสุดคนละไม่เกิน30ไร่รวมกันทุกๆแปลงทุกๆพื้นที่ครอบครองทั่วประเทศไทย,เอกชนบริษัทต่างๆก็ด้วยไม่ว่าสถานะกิจการอะไรใดๆแบบมหาชนก็ชั่ง สามารถมีที่ดินได้ไม่เกิน100ไร่ทุกๆกรณีในการดำเนินกิจการทำตังทำค้าขายใดๆ,ต่างชาติใดๆคนต่างชาติใดทุกๆกรณี ไม่มีสิทธิถือครองมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินไทยทุกๆกรณี,แม้เช่าที่ดินก็ต้องได้รับอนุญาตจากชุมชนท้องถิ่นนั้นๆลงประชามติทุกๆปีประเมินสิทธิ์ว่าไม่เป็นภัยอันตรายต่อชุมชนนั้นๆตลอดถึงความมั่นคงของชาติด้วย,ปัจจุบันเลอะเทอะมาก โรงงานจีนโรงงานต่างชาติเต็มแผ่นดินไทยไปหมดคือต้นเหตุp.m2.5ที่แท้จริงและมุกชื่อนี้มีการเรียกมาไม่กี่ปีนี้เองอีกด้วย ปูทางเพื้อควบคุมผ่านกฎหมายคาร์บอนเครดิตที่พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศจัดวางแผนควบคุมคนไทยทั้งประเทศแค่นั้น, ..จริงๆดูชัดๆแบบมหาภาคคือต้องการทำลายแหล่งอาหารคนไทยด้านการเกษตรภายในชาติไทยทั้งหมดนี้ล่ะมิให้สามารถพึ่งพาตนเองได้,โดยรัฐบาลเลวทายาทคณะกบฎ2475ปูสร้างทำไว้ถึงปัจจุบันแค่นั้น เช่นนั้นบ่อน้ำมันไทยจะยกให้ต่างชาติทำสินค้าแพงทั้งแผ่นดินได้อย่างไร,โจมตีอาหารคู่ขนานทำลายโจมตีภายในด้านอื่นๆให้ประเทศไทยเราอ่อนแอลงย่อมง่ายมากในยุคปัจจุบันนี้ที่ขนาดอดีตนายกคนเก่ายังหลุดไปเพราะข้อหาไม่ซื่อสัตย์นี้เอง,คาสิโนจะเอาให้ได้อีก ,ปั่นป่วนสร้างโกลาหลความไม่สงบสุขรอบทิศเพราะตัดกำลังการตั้งรับคนเจ้าหน้าที่คนดีคนไทยเราอีกให้แตกทัพไปตั้งขบวนตั้งรับศึกหลายทิศทางให้สับสนให้ได้,ตัดกำลังก็ว่า,จึงจริงๆเมื่อไร้ความเกรงใจและทรยศชาติไทยแผ่นดินไทยชัดเจนขนาดนี้แล้ว ตัดตอนถีบลงจากอำนาจที่ถือที่สร้างปั่นป่วนไปวันๆนี้ลงเถอะ ,ความสงบสุขมากมายหลายด้านมิติจะกลับมาแล้วเคลียร์กำจัดปัญหาอื่นๆทิ้งทีละตัวได้อย่างง่ายดายในอนาคตแน่นอน, ..ในมุมการอาหารความมั่นคงทางชีวิตด้านอาหารคนไทย เช่นข้าวคือหัวใจหลักคนไทยโดยพื้นฐานของชาติแล้วต้องนายกพระราชทานให้รีบเร่งช่วยเหลือส่งเสริมสายงานเกษตรอย่างเต็มที่ ยุบธกส.ทิ้งไปเลย ยุบกระทรวงเกษตรด้วยล้างอำนาจตำแหน่งอิทธิพลเก่าทั้งหมดได้ทันที,ตั้งกระทรวงพืช&สัตว์ไทยแทน,ตรงตัวเลย ค่อยแยกย่อยลงไป ยุบสภาเกษตรกรแห่งชาติทิ้งด้วย ไร้ค่าราคา,ไม่สร้างประโยชน์จริงอะไร สิ้นเปลืองงบหลวง,ตั้งกองทุนตลาดชุมชนสากลแต่ละหมู่บ้านขึ้นทุกๆหมู่บ้านเป็นเครือข่ายจริงจังใน7-8หมื่นหมู่บ้านชุมชนนั้นทั้งตลาดออฟไลน์และออนไลน์ช่วยสร้างระบบให้ในตัวรองรับการค้าขายชาวบ้านทั่วไทยระดับสากลทั่วโลกก็ได้อีก,ขายสินค้าเกษตรร่วมกันเป็นหลัก&สินค้าอุปโภคบริโภคอื่นทั้งหมดทั้งหลายอิสระเสรีส่งเสริมสัมมาอาชีพคนไทยเป็นรองร่วมกันเป็นเครือข่าย แน่นอนเม็ดเงินมหาศาลกว่า100ล้านล้านบาทต่อปีสะพัดจะหมุนเวียนจริงในเครือข่ายชุมชนคนไทยเราจริง พึ่งพาตนเองเป็นเครือข่ายกันและกัน สู่ชาติพึ่งพาตนเองได้ทันทีด้วย ทุกๆคนไทยจะยืนด้วยขาตนเองในทุกๆสัมมาอาชีพโดยมีฐานที่แข็งแกร่งด้านความมั่นคงทางอาหารเราอยู่พื้นรองรับไว้หมดว่าทุกๆคนไทยมีอาหารราคาถูกไม่แพงกินตลอดชีวิตแน่นอนคู่ขนานความร่ำรวยมั่งคั่งทางวัตถุธาตุบวกศีลธรรมดีงามในใจคนไทยเรามีเป็นพื้นฐานปกติดีอยู่แล้วอีกด้วย,ใครจะมาสร้างชาติไทยได้ดีเยี่ยมจริงกว่าคนไทยเราล่ะบนแผ่นดินไทยเราเองนี้อีกด้วย. https://youtube.com/shorts/dvQ5mdyo9EM?si=dTfhGMXBP1h1rzkH
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 925 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปัตตานี - ญาติผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบร่วมกับเครือข่ายอ่านแถงการณ์ 20 ปีตากใบ ชี้ไม่พอใจ-หมดศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรม เรียกร้องยูเอ็น-ศาลอาญาระหว่างประเทศเข้ามาตรวจสอบ ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงใหม่

    วานนี้ (25 ต.ค.) เวลา 17.00 น. ที่ Patani Art Space อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ก่อนที่คดีสลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2547 จะหมดอายุความ ญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้ร่วมกันอ่านแถลงการณ์พร้อมกับเครือข่ายภาคประชาสังคมที่ร่วมจัดงาน เช่น สมัชชาประชาสังคมเพื่อสันติภาพ รำลึก 20 ปี ตากใบ

    ad

    แถลงการณ์ดังกล่าว ระบุว่า “คดีตากใบ: การสร้างความยุติธรรมและความรับผิดชอบร่วมกัน” โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นต่อประชาชนผู้ชุมนุมอย่างสันติที่อำเภอตากใบจังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2547 คืออาชญากรรมที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำต่อประชาชนอย่างโหดเหี้ยมและไม่มีผู้รับผิดชอบต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนดังกล่าว

    “เป็นเวลา 20 ปีที่ประชาชนไม่ได้รับความยุติธรรม แต่ผู้บงการกลับลอยนวลพ้นผิด ทำให้พี่น้องและญาติผู้สูญเสีย รวมถึงประชาชน ปาตานี/ชายแดนภาคใต้ มีความไม่พอใจและหมดศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรม”

    ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์จากเหตุการณ์ที่ตากใบ ในวาระครบรอบ 20 ปี แถลงการณ์ฉบับในวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ซึ่งเป็นวันที่คดีความหมดอายุ จึงมีข้อเรียกร้องสำคัญดังนี้

    1.ให้รัฐบาลสอบสวนเหตุการณ์ในระดับนานาชาติ โดยร้องขอให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเข้ามาตรวจสอบ หรือขอให้ศาลอาญาระหว่างประเทศ (International Criminal Court - ICC) เข้ามามีส่วนในการพิจารณาคดีที่เกี่ยวกับอาชญากรรมต่อมนุษยชาติหรือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เพราะเข้าข่ายกฎหมายระหว่างประเทศ เรื่องการใช้ความรุนแรงที่เกินกว่าเหตุโดยรัฐในเหตุการณ์ตากใบ เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน

    2.ให้รัฐบาลไทยปฏิบัติตามข้อตกลงระหว่างประเทศที่เคยลงนาม โดยเฉพาะกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง และสนับสนุนการจัดตั้งกลไกเพื่อตรวจสอบการละเมิดสิทธิและความเป็นธรรมในกรณีอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และให้ผู้มีอำนาจรัฐตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงใหม่ โดยคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมานี้ต้องมีความเป็นกลางและเป็นอิสระจากฝ่ายการเมือง

    3.ให้รัฐบาลประณามการลอยนวลของผู้กระทำความผิด (Impunity) รัฐบาลควรเน้นย้ำให้เห็นว่าความล้มเหลวในการดำเนินการกับผู้กระทำความผิดตามกฎหมายในระดับชาติ เป็นตัวอย่างของการลอยนวลของผู้กระทำผิด ซึ่งเป็นปัญหาที่กระทบต่อความเป็นธรรมในระดับสากล ต้องให้ตระหนักถึงความจำเป็นในการปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมของไทย

    “เราขอยืนยันข้อเรียกร้องเหล่านี้ ด้วยเจตจำนงที่มุ่งมั่นและเปิดกว้างต่อผู้มีอำนาจในรัฐบาลและผู้บริหารข้าราชการในพื้นที่ โดยเรามีความเชื่อมั่นว่า การแสวงหาความยุติธรรมในกรณีนี้ ไม่ใช่เพียงเรื่องของการลงโทษผู้กระทำผิด แต่คือการสร้างระบบที่เข้มแข็งเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อสังคมและประเทศชาติ

    “เราขอเรียกร้องให้มีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับความยุติธรรมที่แท้จริง พร้อมทั้งสร้างความเปลี่ยนแปลงในการบริหารจัดการในพื้นที่ภาคใต้ ที่เคารพต่อสิทธิมนุษยชนและ ความเท่าเทียมของทุกฝ่าย”

    #MGROnline #ตากใบ
    ปัตตานี - ญาติผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบร่วมกับเครือข่ายอ่านแถงการณ์ 20 ปีตากใบ ชี้ไม่พอใจ-หมดศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรม เรียกร้องยูเอ็น-ศาลอาญาระหว่างประเทศเข้ามาตรวจสอบ ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงใหม่ วานนี้ (25 ต.ค.) เวลา 17.00 น. ที่ Patani Art Space อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ก่อนที่คดีสลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2547 จะหมดอายุความ ญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้ร่วมกันอ่านแถลงการณ์พร้อมกับเครือข่ายภาคประชาสังคมที่ร่วมจัดงาน เช่น สมัชชาประชาสังคมเพื่อสันติภาพ รำลึก 20 ปี ตากใบ ad แถลงการณ์ดังกล่าว ระบุว่า “คดีตากใบ: การสร้างความยุติธรรมและความรับผิดชอบร่วมกัน” โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นต่อประชาชนผู้ชุมนุมอย่างสันติที่อำเภอตากใบจังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2547 คืออาชญากรรมที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำต่อประชาชนอย่างโหดเหี้ยมและไม่มีผู้รับผิดชอบต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนดังกล่าว “เป็นเวลา 20 ปีที่ประชาชนไม่ได้รับความยุติธรรม แต่ผู้บงการกลับลอยนวลพ้นผิด ทำให้พี่น้องและญาติผู้สูญเสีย รวมถึงประชาชน ปาตานี/ชายแดนภาคใต้ มีความไม่พอใจและหมดศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรม” ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์จากเหตุการณ์ที่ตากใบ ในวาระครบรอบ 20 ปี แถลงการณ์ฉบับในวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ซึ่งเป็นวันที่คดีความหมดอายุ จึงมีข้อเรียกร้องสำคัญดังนี้ 1.ให้รัฐบาลสอบสวนเหตุการณ์ในระดับนานาชาติ โดยร้องขอให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเข้ามาตรวจสอบ หรือขอให้ศาลอาญาระหว่างประเทศ (International Criminal Court - ICC) เข้ามามีส่วนในการพิจารณาคดีที่เกี่ยวกับอาชญากรรมต่อมนุษยชาติหรือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เพราะเข้าข่ายกฎหมายระหว่างประเทศ เรื่องการใช้ความรุนแรงที่เกินกว่าเหตุโดยรัฐในเหตุการณ์ตากใบ เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน 2.ให้รัฐบาลไทยปฏิบัติตามข้อตกลงระหว่างประเทศที่เคยลงนาม โดยเฉพาะกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง และสนับสนุนการจัดตั้งกลไกเพื่อตรวจสอบการละเมิดสิทธิและความเป็นธรรมในกรณีอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และให้ผู้มีอำนาจรัฐตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงใหม่ โดยคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมานี้ต้องมีความเป็นกลางและเป็นอิสระจากฝ่ายการเมือง 3.ให้รัฐบาลประณามการลอยนวลของผู้กระทำความผิด (Impunity) รัฐบาลควรเน้นย้ำให้เห็นว่าความล้มเหลวในการดำเนินการกับผู้กระทำความผิดตามกฎหมายในระดับชาติ เป็นตัวอย่างของการลอยนวลของผู้กระทำผิด ซึ่งเป็นปัญหาที่กระทบต่อความเป็นธรรมในระดับสากล ต้องให้ตระหนักถึงความจำเป็นในการปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมของไทย “เราขอยืนยันข้อเรียกร้องเหล่านี้ ด้วยเจตจำนงที่มุ่งมั่นและเปิดกว้างต่อผู้มีอำนาจในรัฐบาลและผู้บริหารข้าราชการในพื้นที่ โดยเรามีความเชื่อมั่นว่า การแสวงหาความยุติธรรมในกรณีนี้ ไม่ใช่เพียงเรื่องของการลงโทษผู้กระทำผิด แต่คือการสร้างระบบที่เข้มแข็งเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อสังคมและประเทศชาติ “เราขอเรียกร้องให้มีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับความยุติธรรมที่แท้จริง พร้อมทั้งสร้างความเปลี่ยนแปลงในการบริหารจัดการในพื้นที่ภาคใต้ ที่เคารพต่อสิทธิมนุษยชนและ ความเท่าเทียมของทุกฝ่าย” #MGROnline #ตากใบ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 730 มุมมอง 0 รีวิว
  • #แอมแนสตี้เหิมสั่งศาลรัฐธรรมนูญเปลี่ยนคำตัดสินยุบพรรค
    แอมแนสตี้ องค์กรต่างชาติที่มีพฤติกรรมสนับสนุน
    พฤติกรรมของพรรคก้าวไกล พรรคที่ได้รับการพิจารณา
    ตัดสินว่าเป็นพรรคที่ล้มล้างการปกครองนั้น
    พบว่าหลังศาลรัฐธรรมนูญแห่งราชอณาจักรไทยได้ทำการตัดสิน
    แอมแนสตี้ ได้ออกแถลงการที่เป็นการก้าวล่วงอำนาจตุลาการของประเทศไทย
    โดยมีเนื้อหาดังนี้
    นที่ 7 ส.ค. 67 ดีโพรซ มูเชนา ผู้อำนวยการอาวุโส แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่เห็นชอบกับการยุบพรรคก้าวไกล เป็นการตัดสินใจที่ไร้ความชอบธรรม ซึ่งเผยให้เห็นความเพิกเฉยโดยสิ้นเชิงของทางการไทย ต่อพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศที่ไทย
    “การยุบพรรคการเมือง เพียงเพราะเสนอให้ปฏิรูปกฎหมาย ถือเป็นการละเมิดอย่างร้ายแรงต่อสิทธิในเสรีภาพการแสดงออกและการสมาคม เป็นการละเมิดต่อสมาชิกรัฐสภา ซึ่งเพียงแต่เสนอกฎหมายตามหน้าที่เท่านั้น”
    “การคุกคามอย่างต่อเนื่องของทางการไทยต่อนักการเมืองฝ่ายค้าน เป็นภาพสะท้อนถึงความย้อนแย้งอย่างสิ้นเชิงกับคำมั่นสัญญาด้านสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยประกาศ เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำโลกด้านสิทธิมนุษยชน โดยการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ทางการไทยต้องกลับคำวินิจฉัยที่สั่งให้ยุบพรรคอย่างเร่งด่วน และยุติการใช้กฎหมายเป็นอาวุธ เพื่อข่มขู่และคุกคามผู้วิจารณ์ นักปกป้องสิทธิมนุษยชน และนักการเมืองฝ่ายค้าน”
    เพจคิงส์โพธิ์แดงและปวงชนไทยผู้ภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตย์
    จึงเรียนถึงรัฐบาลไทย และกองทัพไทยได้พิจารณาในการดำเนินการกับองค์กรดังกล่าว ที่มีเป้าหมายที่ชัดเจนในกาาคุกคามอำนาจอธิปไตยของประเทศ รวมถึงเป็นผู้สนับสนุนให้กลุ่มคนสร้างความสับสนวุ่นวายเพื่อการล้มล้างการปกครองระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
    มิเช่นนั้นแล้ว หากปล่อยให้องค์กรแอมแนสตี้ ยังคงมีพฤติการเช่นนี้อยู่คงเกิดผลเสียหายต่อเอกราชและความมั่นคงของประเทศไทยอย่างแน่นอน
    ฝากแฟนเพจคิงส์โพธิ์แดงช่วยส่งต่อไป
    ให้รัฐบาลและกองทัพไทยได้รับรู้รับทราบและดำเนินการหยุดยั้งแอมแนสตี้อย่างถาวรต่อไป
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #แอมแนสตี้เหิมสั่งศาลรัฐธรรมนูญเปลี่ยนคำตัดสินยุบพรรค แอมแนสตี้ องค์กรต่างชาติที่มีพฤติกรรมสนับสนุน พฤติกรรมของพรรคก้าวไกล พรรคที่ได้รับการพิจารณา ตัดสินว่าเป็นพรรคที่ล้มล้างการปกครองนั้น พบว่าหลังศาลรัฐธรรมนูญแห่งราชอณาจักรไทยได้ทำการตัดสิน แอมแนสตี้ ได้ออกแถลงการที่เป็นการก้าวล่วงอำนาจตุลาการของประเทศไทย โดยมีเนื้อหาดังนี้ นที่ 7 ส.ค. 67 ดีโพรซ มูเชนา ผู้อำนวยการอาวุโส แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่เห็นชอบกับการยุบพรรคก้าวไกล เป็นการตัดสินใจที่ไร้ความชอบธรรม ซึ่งเผยให้เห็นความเพิกเฉยโดยสิ้นเชิงของทางการไทย ต่อพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศที่ไทย “การยุบพรรคการเมือง เพียงเพราะเสนอให้ปฏิรูปกฎหมาย ถือเป็นการละเมิดอย่างร้ายแรงต่อสิทธิในเสรีภาพการแสดงออกและการสมาคม เป็นการละเมิดต่อสมาชิกรัฐสภา ซึ่งเพียงแต่เสนอกฎหมายตามหน้าที่เท่านั้น” “การคุกคามอย่างต่อเนื่องของทางการไทยต่อนักการเมืองฝ่ายค้าน เป็นภาพสะท้อนถึงความย้อนแย้งอย่างสิ้นเชิงกับคำมั่นสัญญาด้านสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยประกาศ เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำโลกด้านสิทธิมนุษยชน โดยการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ทางการไทยต้องกลับคำวินิจฉัยที่สั่งให้ยุบพรรคอย่างเร่งด่วน และยุติการใช้กฎหมายเป็นอาวุธ เพื่อข่มขู่และคุกคามผู้วิจารณ์ นักปกป้องสิทธิมนุษยชน และนักการเมืองฝ่ายค้าน” เพจคิงส์โพธิ์แดงและปวงชนไทยผู้ภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตย์ จึงเรียนถึงรัฐบาลไทย และกองทัพไทยได้พิจารณาในการดำเนินการกับองค์กรดังกล่าว ที่มีเป้าหมายที่ชัดเจนในกาาคุกคามอำนาจอธิปไตยของประเทศ รวมถึงเป็นผู้สนับสนุนให้กลุ่มคนสร้างความสับสนวุ่นวายเพื่อการล้มล้างการปกครองระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข มิเช่นนั้นแล้ว หากปล่อยให้องค์กรแอมแนสตี้ ยังคงมีพฤติการเช่นนี้อยู่คงเกิดผลเสียหายต่อเอกราชและความมั่นคงของประเทศไทยอย่างแน่นอน ฝากแฟนเพจคิงส์โพธิ์แดงช่วยส่งต่อไป ให้รัฐบาลและกองทัพไทยได้รับรู้รับทราบและดำเนินการหยุดยั้งแอมแนสตี้อย่างถาวรต่อไป #คิงส์โพธิ์แดง
    Like
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1047 มุมมอง 0 รีวิว