• ทนายบอสพอลรีบถามหาความรับผิดชอบ บอสแซม-บอสมิน ทั้งที่ DSI กำลังพิจารณาว่าเห็นแย้งกับอัยการไหม ยังมีเวลาอีก 30 วัน ซึ่งอาจเห็นให้สั่งฟ้องก็ได้
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    ทนายบอสพอลรีบถามหาความรับผิดชอบ บอสแซม-บอสมิน ทั้งที่ DSI กำลังพิจารณาว่าเห็นแย้งกับอัยการไหม ยังมีเวลาอีก 30 วัน ซึ่งอาจเห็นให้สั่งฟ้องก็ได้ #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 205 มุมมอง 0 รีวิว
  • โฆษกดีเอสไอ เผย อัยการสั่งไม่ฟ้อง "บอสมิน-บอสแซม" คดีดิไอคอน ต้องพิจารณาสำนวนก่อนว่ามีความเห็นแย้งหรือไม่ ภายใน 30 วัน ก่อนส่งอัยการสูงสุดเป็นผู้ชี้ขาด

    วันนี้ (8 ม.ค.) พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยถึงกรณีอัยการคดีพิเศษ มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องนายยุรนันท์ ภมรมนตรี หรือ "บอสแซม" ผู้ต้องหาที่ 17 และ น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี หรือ "บอสมีน" ผู้ต้องหาที่ 18 ทุกข้อกล่าวหาในคดีบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป ว่า โดยขบวนการการทางกฏหมายพนักงานอัยการจะส่งคำสั่งไม่ฟ้องพร้อมความเห็นและเหตุผลกลับมาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ จากนั้น กรมฯ จะพิจารณาว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยตามที่อัยการแจ้งมา ถ้ากรณีเห็นด้วยคำสั่งไม่ฟ้องนั้นก็เด็ดขาดถือว่าจบ แต่ถ้าเห็นว่ายังมีเหตุผลที่ควรจะฟ้องอยู่ก็จะมีความเห็นแย้งไปตามขั้นตอน ซึ่งจะไปที่อัยการสูงสุดให้เป็นผู้ชี้ขาด

    "โดยระเบียบภายในดีเอสไอจะพิจารณาความเห็นแย้งหรือไม่แย้งภายใน 30 วัน ซึ่งจะดูจากตัวสำนวนและเหตุผลที่มี ดูข้อเท็จจริงและข้อกฏหมาย หากเห็นว่ายังมีเหตุผลที่ควรให้ศาลพิจารณาเราก็แย้งไป ต้องขอดูรายละเอียดก่อนว่าอัยการมีความเห็นอย่างไร เป็นกระบวนการพิจารณาในชั้นอัยการ ถามว่าสิ้นสุดหรือยังก็ตอบว่ายังเพราะยังมีขั้นตอนความเห็นแย้งได้อยู่"

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000002226

    #MGROnline #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup #บอสพอล #บอสหมอเอก #กันต์กันตถาวร #มินพีชญา #แซมยุรนันท์
    โฆษกดีเอสไอ เผย อัยการสั่งไม่ฟ้อง "บอสมิน-บอสแซม" คดีดิไอคอน ต้องพิจารณาสำนวนก่อนว่ามีความเห็นแย้งหรือไม่ ภายใน 30 วัน ก่อนส่งอัยการสูงสุดเป็นผู้ชี้ขาด • วันนี้ (8 ม.ค.) พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยถึงกรณีอัยการคดีพิเศษ มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องนายยุรนันท์ ภมรมนตรี หรือ "บอสแซม" ผู้ต้องหาที่ 17 และ น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี หรือ "บอสมีน" ผู้ต้องหาที่ 18 ทุกข้อกล่าวหาในคดีบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป ว่า โดยขบวนการการทางกฏหมายพนักงานอัยการจะส่งคำสั่งไม่ฟ้องพร้อมความเห็นและเหตุผลกลับมาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ จากนั้น กรมฯ จะพิจารณาว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยตามที่อัยการแจ้งมา ถ้ากรณีเห็นด้วยคำสั่งไม่ฟ้องนั้นก็เด็ดขาดถือว่าจบ แต่ถ้าเห็นว่ายังมีเหตุผลที่ควรจะฟ้องอยู่ก็จะมีความเห็นแย้งไปตามขั้นตอน ซึ่งจะไปที่อัยการสูงสุดให้เป็นผู้ชี้ขาด • "โดยระเบียบภายในดีเอสไอจะพิจารณาความเห็นแย้งหรือไม่แย้งภายใน 30 วัน ซึ่งจะดูจากตัวสำนวนและเหตุผลที่มี ดูข้อเท็จจริงและข้อกฏหมาย หากเห็นว่ายังมีเหตุผลที่ควรให้ศาลพิจารณาเราก็แย้งไป ต้องขอดูรายละเอียดก่อนว่าอัยการมีความเห็นอย่างไร เป็นกระบวนการพิจารณาในชั้นอัยการ ถามว่าสิ้นสุดหรือยังก็ตอบว่ายังเพราะยังมีขั้นตอนความเห็นแย้งได้อยู่" • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000002226 • #MGROnline #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup #บอสพอล #บอสหมอเอก #กันต์กันตถาวร #มินพีชญา #แซมยุรนันท์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 322 มุมมอง 0 รีวิว
  • โฆษกอัยการสูงสุด แถลงสั่งฟ้อง ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวก 17 ราย แต่สั่งไม่ฟ้อง แซม ยุรนันท์ - มีน พีชญา ดาราสาว เหตุพยานหลักฐานยังไม่เพียงพอ ส่งอธ.ดีเอสไอเห็นแย้งหรือไม่
    .
    วันนี้ (8 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. นายศักดิ์เกษม นิไทรโยค ผู้ตรวจการอัยการ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงข่าวว่า ตามที่สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับสำนวนจากพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567 คดีระหว่าง นายณัฏฐ์ ธนาพิพัฒน์ดลภัค กับพวก ผู้กล่าวหาบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด โดยนายวรัตน์พล วรัทย์รกุล ผู้ต้องหาที่ 1 กับพวกรวม 19 คน ข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรง ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงดำเนินกิจการใน ลักษณะที่เป็นการชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในการประกอบธุรกิจโดยตกลงว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าวซึ่งคำนวณจากจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้นโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต" เหตุเกิดระหว่างวันที่ 12 สิงหาคม 2563 ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2567 ใน ท้องที่แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร และหลายท้องที่ทั่วราชอาณาจักรต่อเนื่องกัน คิดเป็นค่าเสียหายรวมประมาณ 649,912,290 บาท นั้น
    .
    เนื่องจากคดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมากและเป็นคดีที่ประชาชนและสื่อมวลชนให้ความสนใจ ถือเป็นคดีสำคัญตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด จึงได้มีคำสั่งตั้งคณะทำงานร่วมกันพิจารณา บัดนี้สำนักงานคดีพิเศษได้พิจารณาสำนวนดังกล่าวแล้วมีความเห็นและคำสั่ง ดังนี้
    .
    1. สั่งฟ้อง บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด โดยนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล กรรมการผู้มีอำนาจ ผู้ต้องหาที่ 1,นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ผู้ต้องหาที่ 2, นายจิระวัฒน์ แสงภักดี หรือบอสแล็ป ผู้ต้องหาที่ 3,นายกลด เศรษฐนันท์ หรือบอสปีเตอร์ ผู้ต้องหาที่ 4, น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร หรือบอสปัน ผู้ต้องหาที่ 5,นายฐานานนท์ หิรัญไชยวรรณ หรือบอสหมอเอก ผูตองหาที่ 6, น.สนัฐปสรณ์ ฉัตรธนสรณ์ หรือบอสสวย ผู้ต้องหาที่ 7,น.ส.ญาสิกัญจณ์ เอกชิสนุพงศ์ หรือบอสโซดา ผู้ตองหาที่ 8, นายนันทธรัฐ เชาวนปรีชา หรือบอสโอม ผู้ต้องหาที่ 9,นายธวิณทรภัส ภูพัฒนรินทร์ หรือบอสวิน ผูตองหาที่ 10, น.ส.กนกธร ปูรณะสุคนธ์ หรือบอสแม่หญิง ผู้ต้องหาที่ 11,น.ส.เสาวภา วงษ์สาขา หรือบอสอูมมี ผู้ต้องหาที่ 12, นายเชษฐ์ณภัฏ อภิพัฒนกานต์ หรือบอสทอมมี่ ผู้ต้องหาที่ 13,นายหัสยานนท์ เอกชิสนุพงศ์ หรือบอสป๊อบ ผู้ต้องหาที่ 14, นางวิไลลักษณ์ ยาวิชัย หรือบอสจอย ผู้ต้องหาที่ 15,นายธนะโรจน์ ธิติจริยาวัชร์ หรือบอสออฟ ผู้ต้องหาที่ 16 และนายกันต์ กันตถาวร หรือบอสกันต์ ผู้ต้องหาที่ 19ตามข้อกล่าวหา
    .
    ฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็ง โดยประการ ที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงดำเนินกิจการในลักษณะที่เป็นการชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในการประกอบ ธุรกิจโดยตกลงว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าวซึ่งคำนวณจากจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้นโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต" ตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 มาตรา 3, 19, 20, 38, 46, 47, 54, พระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560 มาตรา 3, 6, 18, 23 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83, 91, 341, 343 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 พระราชบัญญัติแก้ไขเพามเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 มาตรา 4 พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527มาตรา 3, 4, 5, 9, 11/1, 12, 15 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนพ.ศ. 2534 มาตรา 3 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน (ฉบับที่ 2)
    พ.ศ. 2545 มาตรา 3, 4, 5 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวกับความรับผิดในทางอาญาของ ผู้แทนนิติบุคคล พ.ศ. 2560 พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 8 ตามความเห็นพนักงานสอบสวน
    .
    2. สั่งไม่ฟ้อง นายยุรนันท์ ภมรมนตรี หรือบอสแชม ผู้ต้องหาที่ 17 และ น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี หรือบอสมีน ผู้ต้องหาที่ 18 ตามข้อกล่าวหา ฐาน "ร่วมกันน้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้า สู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรง ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงดำเนินกิจการในลักษณะที่เป็นการชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในการประกอบธุรกิจโดยตกลงว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าว ซึ่งคำนวณจากจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้นโดยผ่าฝืนต่อกฎหมาย, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต" ตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 มาตรา 3, 19, 20, 38, 46, 47, 54,พระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560 มาตรา 3, 6, 18, 23 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83, 91, 341, 343 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4พระราชบัญญัติแก่ไขเพามเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 มาตรา 4 พระราชกำหนดการกูยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 มาตรา 3, 4, 5, 9, 11/1, 12, 15 พระราชบัญญัติแก่ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2534 มาตรา 3 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการ กูยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 มาตรา 3, 4, 5 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวกับความรับผิดในทางอาญาของผู้แทนนิติบุคคล พ.ศ. 2560 พระราชบัญญัติวาด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 8 แย้งความเห็นพนักงานสอบสวนผู้ต้องหาที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ มีคำสั่งฟ้องตามความเห็นของพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษนั้น พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ จะได้ดำเนินการยื่นฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 17 ต่อศาลอาญาใน วันนี้
    .
    ส่วนผู้ต้องหาที่ 17 และ 18 ซึ่งพนักงานอัยการสำนักคดีพิเศษ มีคำสั่งไม่ฟ้องนั้น พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ จะได้ดำเนินการยื่นคำร้องขอปล่อยตัวผู้ต้องหาต่อศาลอาญาและจะดำเนินการส่งสำนวนพร้อมความเห็นและคำสั่งไม่ฟ้องไปยังอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อพิจารณาว่าจะมีความเห็นแย้งในคำสั่งไม่ฟ้องหรือไม่ตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ต่อไป
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000002167
    .........
    Sondhi X
    โฆษกอัยการสูงสุด แถลงสั่งฟ้อง ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวก 17 ราย แต่สั่งไม่ฟ้อง แซม ยุรนันท์ - มีน พีชญา ดาราสาว เหตุพยานหลักฐานยังไม่เพียงพอ ส่งอธ.ดีเอสไอเห็นแย้งหรือไม่ . วันนี้ (8 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. นายศักดิ์เกษม นิไทรโยค ผู้ตรวจการอัยการ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงข่าวว่า ตามที่สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับสำนวนจากพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567 คดีระหว่าง นายณัฏฐ์ ธนาพิพัฒน์ดลภัค กับพวก ผู้กล่าวหาบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด โดยนายวรัตน์พล วรัทย์รกุล ผู้ต้องหาที่ 1 กับพวกรวม 19 คน ข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรง ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงดำเนินกิจการใน ลักษณะที่เป็นการชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในการประกอบธุรกิจโดยตกลงว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าวซึ่งคำนวณจากจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้นโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต" เหตุเกิดระหว่างวันที่ 12 สิงหาคม 2563 ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2567 ใน ท้องที่แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร และหลายท้องที่ทั่วราชอาณาจักรต่อเนื่องกัน คิดเป็นค่าเสียหายรวมประมาณ 649,912,290 บาท นั้น . เนื่องจากคดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมากและเป็นคดีที่ประชาชนและสื่อมวลชนให้ความสนใจ ถือเป็นคดีสำคัญตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด จึงได้มีคำสั่งตั้งคณะทำงานร่วมกันพิจารณา บัดนี้สำนักงานคดีพิเศษได้พิจารณาสำนวนดังกล่าวแล้วมีความเห็นและคำสั่ง ดังนี้ . 1. สั่งฟ้อง บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด โดยนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล กรรมการผู้มีอำนาจ ผู้ต้องหาที่ 1,นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ผู้ต้องหาที่ 2, นายจิระวัฒน์ แสงภักดี หรือบอสแล็ป ผู้ต้องหาที่ 3,นายกลด เศรษฐนันท์ หรือบอสปีเตอร์ ผู้ต้องหาที่ 4, น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร หรือบอสปัน ผู้ต้องหาที่ 5,นายฐานานนท์ หิรัญไชยวรรณ หรือบอสหมอเอก ผูตองหาที่ 6, น.สนัฐปสรณ์ ฉัตรธนสรณ์ หรือบอสสวย ผู้ต้องหาที่ 7,น.ส.ญาสิกัญจณ์ เอกชิสนุพงศ์ หรือบอสโซดา ผู้ตองหาที่ 8, นายนันทธรัฐ เชาวนปรีชา หรือบอสโอม ผู้ต้องหาที่ 9,นายธวิณทรภัส ภูพัฒนรินทร์ หรือบอสวิน ผูตองหาที่ 10, น.ส.กนกธร ปูรณะสุคนธ์ หรือบอสแม่หญิง ผู้ต้องหาที่ 11,น.ส.เสาวภา วงษ์สาขา หรือบอสอูมมี ผู้ต้องหาที่ 12, นายเชษฐ์ณภัฏ อภิพัฒนกานต์ หรือบอสทอมมี่ ผู้ต้องหาที่ 13,นายหัสยานนท์ เอกชิสนุพงศ์ หรือบอสป๊อบ ผู้ต้องหาที่ 14, นางวิไลลักษณ์ ยาวิชัย หรือบอสจอย ผู้ต้องหาที่ 15,นายธนะโรจน์ ธิติจริยาวัชร์ หรือบอสออฟ ผู้ต้องหาที่ 16 และนายกันต์ กันตถาวร หรือบอสกันต์ ผู้ต้องหาที่ 19ตามข้อกล่าวหา . ฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็ง โดยประการ ที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงดำเนินกิจการในลักษณะที่เป็นการชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในการประกอบ ธุรกิจโดยตกลงว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าวซึ่งคำนวณจากจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้นโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต" ตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 มาตรา 3, 19, 20, 38, 46, 47, 54, พระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560 มาตรา 3, 6, 18, 23 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83, 91, 341, 343 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 พระราชบัญญัติแก้ไขเพามเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 มาตรา 4 พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527มาตรา 3, 4, 5, 9, 11/1, 12, 15 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนพ.ศ. 2534 มาตรา 3 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 มาตรา 3, 4, 5 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวกับความรับผิดในทางอาญาของ ผู้แทนนิติบุคคล พ.ศ. 2560 พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 8 ตามความเห็นพนักงานสอบสวน . 2. สั่งไม่ฟ้อง นายยุรนันท์ ภมรมนตรี หรือบอสแชม ผู้ต้องหาที่ 17 และ น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี หรือบอสมีน ผู้ต้องหาที่ 18 ตามข้อกล่าวหา ฐาน "ร่วมกันน้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้า สู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรง ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงดำเนินกิจการในลักษณะที่เป็นการชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในการประกอบธุรกิจโดยตกลงว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าว ซึ่งคำนวณจากจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้นโดยผ่าฝืนต่อกฎหมาย, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต" ตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 มาตรา 3, 19, 20, 38, 46, 47, 54,พระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560 มาตรา 3, 6, 18, 23 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83, 91, 341, 343 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4พระราชบัญญัติแก่ไขเพามเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 มาตรา 4 พระราชกำหนดการกูยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 มาตรา 3, 4, 5, 9, 11/1, 12, 15 พระราชบัญญัติแก่ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2534 มาตรา 3 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการ กูยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 มาตรา 3, 4, 5 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวกับความรับผิดในทางอาญาของผู้แทนนิติบุคคล พ.ศ. 2560 พระราชบัญญัติวาด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 8 แย้งความเห็นพนักงานสอบสวนผู้ต้องหาที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ มีคำสั่งฟ้องตามความเห็นของพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษนั้น พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ จะได้ดำเนินการยื่นฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 17 ต่อศาลอาญาใน วันนี้ . ส่วนผู้ต้องหาที่ 17 และ 18 ซึ่งพนักงานอัยการสำนักคดีพิเศษ มีคำสั่งไม่ฟ้องนั้น พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ จะได้ดำเนินการยื่นคำร้องขอปล่อยตัวผู้ต้องหาต่อศาลอาญาและจะดำเนินการส่งสำนวนพร้อมความเห็นและคำสั่งไม่ฟ้องไปยังอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อพิจารณาว่าจะมีความเห็นแย้งในคำสั่งไม่ฟ้องหรือไม่ตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ต่อไป . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000002167 ......... Sondhi X
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1004 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฟ้องทะลุเรือนจำ เคนโด้ไม่ทนฟ้องเอาผิดทนายวิฑูรย์-บอสพอล (07/08/67) #news1 #เคนโด้ไม่ทน #ดิไอคอน #ทนายบอลพอล
    ฟ้องทะลุเรือนจำ เคนโด้ไม่ทนฟ้องเอาผิดทนายวิฑูรย์-บอสพอล (07/08/67) #news1 #เคนโด้ไม่ทน #ดิไอคอน #ทนายบอลพอล
    Like
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1420 มุมมอง 47 0 รีวิว
  • ผู้เสียหายคดี "18 บอส" -บริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป ฉ้อโกงประชาชน รวมตัวยื่นคัดค้านไม่ให้ศาลอาญาปล่อยชั่วคราว สยบข่าวลือ"ทนาย"โพสต์ให้ประกัน 5 แสนบาท

    ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (3 ม.ค.) นายสุรเดช จะระนะธัมโม อายุ 65 ปี และ น.ส.พัชริศา เพียรพนัสสัก อายุ 54 ปี เป็นผู้เสียหายในคดีถูก "บอสพอล" นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล กับพวก 18 คน ร่วมกับบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด รวมเป็น 19 ราย กระทำผิดฐานฉ้อโกงประชาชนและความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯฉ้อโกงประชาชน พร้อมกลุ่มผู้เสียหายจำนวน 10 คน นำเอกสารคำร้องขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราว นายวรภัทรกับพวกผู้ต้องหาทั้งหมด

    น.ส.พัชริศา กล่าวว่า กลุ่มผู้เสียหายจากทุก ๆ กลุ่มที่ส่งรายชื่อเข้ามา 355 คน ร่วมกันยื่นคัดค้านการปล่อยชั่วคราวกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด ขณะนี้เหมือนสงครามจิตวิทยา เพราะทั้งฝ่ายทางบริษัท ดิ ไอคอนได้มีการปลุกระดมให้มีการถอนแจ้งความ ด้วยเงื่อนไขใดตนไม่ทราบ แต่สิ่งที่เราทำได้คือ การมายื่นคำร้องขอคัดค้าน พวกเราบางคนหมดเนื้อหมดตัวลำบากพอแล้ว ไม่มีเงินที่จะไปจ้างทนายความแต่อย่างใด ขอใช้ช่องทางตามกฎหมายในขอคัดค้านการประกันตัวจนกว่าจะคดีถึงสิ้นสุด ตนเห็นว่า มีการปลุกระดมปลุกปั่นไม่เคยเจอมาก่อนที่จะมีการยุ่งเหยิง วุ่นวาย มีการแจ้งความแล้วก็ไปขอถอนแจ้งความ ทั้งที่ไม่สามารถทำได้เป็นการไปให้บันทึกปากคำใหม่ แน่นอนว่าจะต้องมี 1 ครั้งที่เป็นเท็จ แต่ตนไม่ขอก้าวล่วงเนื่องจากเป็นเรื่องของตัวบทกฎหมายว่า เจ้าหน้าที่บ้านเมืองจะพิจารณาอย่างไร ตนเชื่อว่าความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว แค่ทนายความไปรับคำสั่งจากผู้ต้องหาในห้องขังในเรือนจำออกมาก็ปั่นป่วนผู้เสียหายมากมายแล้ว ขนาดยังไม่ออกมายังบอกว่า จะฟ้องผู้เสียหายทุกคน ถ้าได้ประกันออกมาไม่รู้จะวุ่นวายมากกว่านี้ขนาดไหน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000000665

    #MGROnline #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup #บอสพอล #บอสหมอเอก #กันต์กันตถาวร #มินพีชญา #แซมยุรนันท์
    ผู้เสียหายคดี "18 บอส" -บริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป ฉ้อโกงประชาชน รวมตัวยื่นคัดค้านไม่ให้ศาลอาญาปล่อยชั่วคราว สยบข่าวลือ"ทนาย"โพสต์ให้ประกัน 5 แสนบาท • ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (3 ม.ค.) นายสุรเดช จะระนะธัมโม อายุ 65 ปี และ น.ส.พัชริศา เพียรพนัสสัก อายุ 54 ปี เป็นผู้เสียหายในคดีถูก "บอสพอล" นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล กับพวก 18 คน ร่วมกับบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด รวมเป็น 19 ราย กระทำผิดฐานฉ้อโกงประชาชนและความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯฉ้อโกงประชาชน พร้อมกลุ่มผู้เสียหายจำนวน 10 คน นำเอกสารคำร้องขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราว นายวรภัทรกับพวกผู้ต้องหาทั้งหมด • น.ส.พัชริศา กล่าวว่า กลุ่มผู้เสียหายจากทุก ๆ กลุ่มที่ส่งรายชื่อเข้ามา 355 คน ร่วมกันยื่นคัดค้านการปล่อยชั่วคราวกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด ขณะนี้เหมือนสงครามจิตวิทยา เพราะทั้งฝ่ายทางบริษัท ดิ ไอคอนได้มีการปลุกระดมให้มีการถอนแจ้งความ ด้วยเงื่อนไขใดตนไม่ทราบ แต่สิ่งที่เราทำได้คือ การมายื่นคำร้องขอคัดค้าน พวกเราบางคนหมดเนื้อหมดตัวลำบากพอแล้ว ไม่มีเงินที่จะไปจ้างทนายความแต่อย่างใด ขอใช้ช่องทางตามกฎหมายในขอคัดค้านการประกันตัวจนกว่าจะคดีถึงสิ้นสุด ตนเห็นว่า มีการปลุกระดมปลุกปั่นไม่เคยเจอมาก่อนที่จะมีการยุ่งเหยิง วุ่นวาย มีการแจ้งความแล้วก็ไปขอถอนแจ้งความ ทั้งที่ไม่สามารถทำได้เป็นการไปให้บันทึกปากคำใหม่ แน่นอนว่าจะต้องมี 1 ครั้งที่เป็นเท็จ แต่ตนไม่ขอก้าวล่วงเนื่องจากเป็นเรื่องของตัวบทกฎหมายว่า เจ้าหน้าที่บ้านเมืองจะพิจารณาอย่างไร ตนเชื่อว่าความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว แค่ทนายความไปรับคำสั่งจากผู้ต้องหาในห้องขังในเรือนจำออกมาก็ปั่นป่วนผู้เสียหายมากมายแล้ว ขนาดยังไม่ออกมายังบอกว่า จะฟ้องผู้เสียหายทุกคน ถ้าได้ประกันออกมาไม่รู้จะวุ่นวายมากกว่านี้ขนาดไหน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000000665 • #MGROnline #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup #บอสพอล #บอสหมอเอก #กันต์กันตถาวร #มินพีชญา #แซมยุรนันท์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 374 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตามนโยบาย “เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ของ “บอสพอล” ล่าสุด คดี ดิ ไอคอน กำลังจะแจ้งจับดีเจคนดังอีกคน

    #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ #ดิไอคอน #บอสพอล #ดีเจหนุ่ม

    ตามนโยบาย “เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ของ “บอสพอล” ล่าสุด คดี ดิ ไอคอน กำลังจะแจ้งจับดีเจคนดังอีกคน #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ #ดิไอคอน #บอสพอล #ดีเจหนุ่ม
    Like
    Haha
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1062 มุมมอง 33 1 รีวิว
  • ตัวแทนจำหน่ายสินค้า "ดิไอคอน กรุ๊ป" ยื่นหลักฐานถอนเเจ้งความบรรดา 18 บอส คดีฉ้อโกง ให้ อสส.พิจารณา ยันไม่ได้ถูกบังคับ แต่ธุรกิจขายสินค้าจริง

    วันนี้ (24 ธ.ค.) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.เเจ้งวัฒนะ ตัวแทนจำหน่ายสินค้า ดิไอคอน กรุ๊ป ที่เคยแจ้งความคดี ดิ ไอคอน กรุ๊ป ได้นำเอารายงานประจำวันผู้ที่เคยแจ้งความไว้ และขอถอนแจ้งความกับพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม ส่งมอบให้สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อแสดงเจตนารมย์ว่า มีความประสงค์ในการถอนแจ้งความ จึงอยากให้อัยการสูงสุดดำเนินการให้พนักงานสอบสวนดีเอสไอบันทึกสอบปากคำพยานทุกฝ่ายที่เคยให้การไว้ใหม่ให้ถูกต้องตามข้อเท็จจริง เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการสั่งคดีของพนักงานอัยการผู้รับผิดชอบคดี

    ซึ่งวันนี้กลุ่มตัวเเทนได้นำเอกสาร มายื่นประกอบการพิจารณา คือ
    1.บันทึกประจำวันแสดงเจตนาขอให้การเพิ่มเติม เพื่อให้ตรงตามข้อเท็จจริง
    2.เอกสารเป็นพยานให้บุคคลในคดี ดิ ไอคอน กรุ๊ป
    3.เอกสารบันทึกแสดงข้อเท็จจริงอันเป็นประโยชน์แก่ผู้ต้องหา เพิ่มเติม
    4.เอกสารรับรองการประกันตัว นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล

    โดยกลุ่มตัวแทน บอกว่า กลุ่มบุคคลที่มีความประสงค์จะถอนแจ้งความตอนนี้รวมตัวกันได้หลักร้อยคน ทุกคนยืนยันว่า การรวมตัวเพื่อร้องเรียนกรณีนี้ ไม่มีการถูกบังคับแต่อย่างใด ซึ่งทุกคนในตอนนั้นที่ตัดสินใจไปแจ้งความ สาเหตุ เพราะเกรงกลัวว่าจะมีความผิดไปด้วย เนื่องจากเข้าใจผิดว่า ดิ ไอคอน กรุ๊ป เป็นธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ถ้าไม่แจ้งความจะมีความผิดไปด้วย ทั้งที่จริงเป็นธุรกิจถูกกฎหมายสามารถสร้างรายได้ได้จริง ไม่ได้เกิดความเสียหายแต่อย่างใด แต่ตอนนั้นเข้าใจว่าถ้าไม่แจ้งความจะมีความผิด จึงไปแจ้งความความ เพราะกลัวว่าจะมีความผิดไปด้วย

    ซึ่งก่อนหน้านี้ได้รวมตัวกันไปถอนแจ้งความที่กองบังคับการปราบปรามปราบแล้ว แต่พนักงานสอบสวนไม่ให้ถอนแจ้งความ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000123346

    #MGROnline #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup
    ตัวแทนจำหน่ายสินค้า "ดิไอคอน กรุ๊ป" ยื่นหลักฐานถอนเเจ้งความบรรดา 18 บอส คดีฉ้อโกง ให้ อสส.พิจารณา ยันไม่ได้ถูกบังคับ แต่ธุรกิจขายสินค้าจริง • วันนี้ (24 ธ.ค.) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.เเจ้งวัฒนะ ตัวแทนจำหน่ายสินค้า ดิไอคอน กรุ๊ป ที่เคยแจ้งความคดี ดิ ไอคอน กรุ๊ป ได้นำเอารายงานประจำวันผู้ที่เคยแจ้งความไว้ และขอถอนแจ้งความกับพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม ส่งมอบให้สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อแสดงเจตนารมย์ว่า มีความประสงค์ในการถอนแจ้งความ จึงอยากให้อัยการสูงสุดดำเนินการให้พนักงานสอบสวนดีเอสไอบันทึกสอบปากคำพยานทุกฝ่ายที่เคยให้การไว้ใหม่ให้ถูกต้องตามข้อเท็จจริง เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการสั่งคดีของพนักงานอัยการผู้รับผิดชอบคดี • ซึ่งวันนี้กลุ่มตัวเเทนได้นำเอกสาร มายื่นประกอบการพิจารณา คือ 1.บันทึกประจำวันแสดงเจตนาขอให้การเพิ่มเติม เพื่อให้ตรงตามข้อเท็จจริง 2.เอกสารเป็นพยานให้บุคคลในคดี ดิ ไอคอน กรุ๊ป 3.เอกสารบันทึกแสดงข้อเท็จจริงอันเป็นประโยชน์แก่ผู้ต้องหา เพิ่มเติม 4.เอกสารรับรองการประกันตัว นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล • โดยกลุ่มตัวแทน บอกว่า กลุ่มบุคคลที่มีความประสงค์จะถอนแจ้งความตอนนี้รวมตัวกันได้หลักร้อยคน ทุกคนยืนยันว่า การรวมตัวเพื่อร้องเรียนกรณีนี้ ไม่มีการถูกบังคับแต่อย่างใด ซึ่งทุกคนในตอนนั้นที่ตัดสินใจไปแจ้งความ สาเหตุ เพราะเกรงกลัวว่าจะมีความผิดไปด้วย เนื่องจากเข้าใจผิดว่า ดิ ไอคอน กรุ๊ป เป็นธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ถ้าไม่แจ้งความจะมีความผิดไปด้วย ทั้งที่จริงเป็นธุรกิจถูกกฎหมายสามารถสร้างรายได้ได้จริง ไม่ได้เกิดความเสียหายแต่อย่างใด แต่ตอนนั้นเข้าใจว่าถ้าไม่แจ้งความจะมีความผิด จึงไปแจ้งความความ เพราะกลัวว่าจะมีความผิดไปด้วย • ซึ่งก่อนหน้านี้ได้รวมตัวกันไปถอนแจ้งความที่กองบังคับการปราบปรามปราบแล้ว แต่พนักงานสอบสวนไม่ให้ถอนแจ้งความ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000123346 • #MGROnline #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 303 มุมมอง 0 รีวิว
  • อัยการคดีพิเศษ รับสำนวน "ดิไอคอน กรุ๊ป" ลั่นสั่งคดีได้ก่อนครบฝากขังครั้งสุดท้าย ยันไม่หนักใจสั่งคดีดาราดัง มูลค่าความเสียหายจำนวนมาก

    เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (23 ธ.ค.) ที่สำนักอัยการคดีพิเศษ ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ( ดีเอสไอ) นำโดย ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ท.อนุรักษ์ โรจน์นิรันดร์กิจ ผู้อำนวยการกองคดีคุ้มครองผู้บริโภค พร้อมด้วย พ.ต.ต. วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สรุปสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง นายวรัตน์พล หรือบอสพอล กับพวก18 ราย ร่วมกับบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด กับพวกรวมเป็น 19 ราย กระทำผิดฐานฉ้อโกงประชาชนและความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ

    โดยวันนี้พนักงานสอบสวนได้นำพยานเอกสาร 348,209 แผ่น พยานบุคคล 8,071 ปาก มีผู้เสียหายจำนวน 7,875 ราย มูลค่าความเสียหาย จำนวน 1,644 ล้านบาท มาส่งมอบให้ นางเยาวลักษณ์ นนทแก้วอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ พร้อมคณะประกอบด้วย นายสรกฤช งามวงษ์วาน อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 และนายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด พ.ต.ท.ปัณณฑัต บุญอินทร์อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมรับสำนวนคดีนี้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000122994

    #MGROnline #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup
    อัยการคดีพิเศษ รับสำนวน "ดิไอคอน กรุ๊ป" ลั่นสั่งคดีได้ก่อนครบฝากขังครั้งสุดท้าย ยันไม่หนักใจสั่งคดีดาราดัง มูลค่าความเสียหายจำนวนมาก • เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (23 ธ.ค.) ที่สำนักอัยการคดีพิเศษ ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ( ดีเอสไอ) นำโดย ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ท.อนุรักษ์ โรจน์นิรันดร์กิจ ผู้อำนวยการกองคดีคุ้มครองผู้บริโภค พร้อมด้วย พ.ต.ต. วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สรุปสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง นายวรัตน์พล หรือบอสพอล กับพวก18 ราย ร่วมกับบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด กับพวกรวมเป็น 19 ราย กระทำผิดฐานฉ้อโกงประชาชนและความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ • โดยวันนี้พนักงานสอบสวนได้นำพยานเอกสาร 348,209 แผ่น พยานบุคคล 8,071 ปาก มีผู้เสียหายจำนวน 7,875 ราย มูลค่าความเสียหาย จำนวน 1,644 ล้านบาท มาส่งมอบให้ นางเยาวลักษณ์ นนทแก้วอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ พร้อมคณะประกอบด้วย นายสรกฤช งามวงษ์วาน อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 และนายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด พ.ต.ท.ปัณณฑัต บุญอินทร์อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมรับสำนวนคดีนี้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000122994 • #MGROnline #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 332 มุมมอง 0 รีวิว
  • สื่อทำเนียบฯ ตั้งฉายา ปี67 “รัฐบาล(พ่อ)เลี้ยง”, ฉายานายกฯ “แพทองโพย“ 7 รมต.ติดโผ ”บิ๊กอ้วน,อนุทิน,ทวี“ - พ่วง3รมต.โลกลืม
    .
    เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า การตั้งฉายารัฐบาล และรัฐมนตรีประจำปี ของผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล เป็นธรรมเนียมที่ยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมานานของผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของสื่อมวลชนต่อการทำงานของรัฐบาล โดยปราศจากอคติส่วนตัว ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล จึงมีมติร่วมกันตั้งฉายารัฐบาล รัฐมนตรี และวาทะแห่งปี ประจำปี 2567 ดังนี้
    .
    ฉายารัฐบาล รัฐบาล“พ่อ“เลี้ยง
    ด้วยความเป็น “พ่อ” ของหัวหน้ารัฐบาล ยี่ห้อ "ทักษิณ ชินวัตร" ขึ้นชื่อดีกรีความรักลูกไม่น้อยหน้าใคร ทั้งปกป้อง เลี้ยงดู อุ้มชู ปูทาง จนได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำประเทศ เป็นลูกไม้หล่นใต้ต้น ที่มี DNA
    เดียวกันเป๊ะ จนไม่พ้นเสียงครหา รัฐบาลนี้ "พ่อคิด ลูกทำ"
    และไม่ใช่แค่การเลี้ยงดูลูกในสนามการเมืองเท่านั้น ยังลามไปถึงวาทะเลี้ยง "มาม่า" พรรคร่วมรัฐบาล ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า จนสะเทือนเลื่อนลั่น สะท้อนบทแบ็กอัพที่ไม่ใช่เลี้ยงลูกตัวเองเท่านั้น แต่เลี้ยงรัฐบาลให้เดินอยู่ในรอยด้วย
    .
    1.น.ส.แพทองธาร ชินวัตร
    ฉายา แพทองโพย
    ล้อมาจากชื่อของนายกฯ
    “แพทองธาร” กับประเด็นดรามา "ไอแพด" คู่ใจ โพยยุคไอที ถือติดมือได้ทุกที่ เป็นเอกลักษณ์ประจำตัว พกโพยเครื่องเดียวอ่าน จด โหลดข้อมูลเสร็จสรรพ จนเกิดเสียงวิจารณ์ถึงความเหมาะสมเมื่อยกขึ้นอ่าน ระหว่างพบผู้นำ แขกต่างชาติ กลายเป็นประเด็นตอบโต้เผ็ดร้อนกับชาวเน็ต และตอกย้ำแบบโนสนโนแคร์ด้วยภาพชูไอแพดคู่ใจ ระหว่างร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน หรือแม้แต่ยกไอแพด ขึ้นอ่านแถลงข่าวการระบายน้ำภาคเหนือ ลงสู่แม่น้ำโขง จนถูกวิจารณ์ยกใหญ่
    .
    2.นายภูมิธรรม​ เวชย​ชัย​ รองนายก​รัฐมนตรี​ และ​รมว.กลาโหม
    ฉายา สหายใหญ่ใส่บู๊ต
    รองนายกรัฐมนตรี คนที่ 1 ติดโผได้รับฉายาไม่ไม่ขาด
    “สหายใหญ่” ในเหตุการณ์ 6 ต.ค.2519 วันนั้น สู่ "บิ๊กอ้วน" แห่งกองทัพไทยในวันนี้ ปรับโฉมกุนซือการเมือง มายกมือตะเบ๊ะ เสื้อตึงเป๊ะ ใส่
    "ท็อปบูต"นั่งเก้าอี้กลาโหม จากที่เคยอยู่กันคนละฝั่ง วันนี้ต้องคุมบังเหียนมาทำงานร่วมกับเหล่าทหาร ส่งท้ายปีจับมือท็อปบู้ตพากันลงพื้นที่ช่วยน้ำท่วม และยังต้องรับบทหนัก ถึงหนักมาก คอยระวังหลังให้กับ "นายกฯอิ๊งค์" อีกด้วย
    .
    3.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย
    ฉายา ภูมิใจขวาง
    นอกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี คนที่ 3 ยังสวมหมวกหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ทำงาน 3 เดือนใน “รัฐบาลแพทองธาร” สร้างสีสันจากบุคลิกและสไตล์การพูดหยิกแกมหยอก พร้อมสโลแกนขอทำงานไม่ขัดแย้งใคร แต่นับจากลงเรือร่วมรัฐบาล มียกมือค้านทั้งร่างกฎหมายสกัดรัฐประหาร ของสส.พรรคแกนนำ ล่าสุดโหวตสวนร่างพ.ร.บ.ประชามติ เห็นต่างจาก
    พรรครัฐบาล ต้องจับตาบทบาทจากนี้“รมต.หนู“จะปล่อยของ โชว์ลีลา สร้างผลงาน ให้ประทับใจอย่างไร
    .
    4. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาครองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน
    ฉายา พีระพัง
    พังอุดมการณ์จากพรรคขั้วตรงข้าม “ชินวัตร“ ตกลงปลงใจมาจับมือร่วมรัฐบาล “นายกฯอิ๊งค์“คว้าเก้าอี้รัฐมนตรีคุมกระทรวงใหญ่ ถูกคาดหวังจะมาแก้ปมเรื่องพลังงาน ให้ชาวบ้านได้ใช้น้ำมันถูกลง เจ้าตัวยังหมายมั่นปั้นมือประกาศแก้กฎหมายรื้อโครงสร้างภาษีน้ำมัน จนเปลี่ยนหัวหน้ารัฐบาลแล้ว ก็ยังไม่ชัดเจน หรือจะซุ่มทำเงียบๆ งานนี้สังคมช่วยลุ้นจะทำได้ทันรัฐบาลนี้ หรือจะพังพับไปก่อน
    ด้านงานการเมืองยุค “หัวหน้าพี“คุมบังเหียน “รวมไทยสร้างชาติ”ดูยิ่งโลว์โปรไฟล์ จัดกิจกรรมพรรคได้เงียบกริบตามสไตล์ จนเกิดกระแสข่าวรอยร้าวภายใน ถูกจับจ้องถึงสัมพันธภาพกับลูกพรรค จะกอดคอรักกันนานแค่ไหน
    .
    5.พ.ต.อ.ทวี​ สอดส่อง​รมว.ยุติธรรม
    ฉายา ทวีไอพี
    ล็อกเป้าคุมเก้าอี้กระทรวงยุติธรรม เรียกได้ว่าเลื่อยขาเก้าอี้ไม่มีสั่น ไม่บอกก็รู้ว่า “นายใหญ่” ไว้ใจแค่ไหน นับตั้งแต่ภารกิจพานายใหญ่กลับบ้าน ถึงอีพี 2 ส่งนายใหญ่ขึ้น “ชั้น 14” ครองเตียง “วีไอพี” แทนนอนเรือนจำถึงได้พักโทษ ทำให้สังคมมองว่าเป็นนักโทษวีไอพี
    ต่อเนื่องที่เร่งออกระเบียบคุมตัวนอกเรือนจำ เสียงลือ
    แซ่ดเตรียมปูทางสำหรับ “วีไอพีหญิง“ตามรอยพี่ชายหรือไม่ เมื่อเดินงานเข้าตา พ.ต.อ.ทวี น่าจะถือบัตรวีไอพี ยึดเก้าอี้รัฐมนตรี ไปอีกยาว
    .
    6.นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
    ฉายา ประชาธิเป๋
    แปะยี่ห้อ “ประชาธิปัตย์” รั้งตำแหน่งหัวหน้าพรรค ประกาศพาค่ายสะตอกลับมายิ่งใหญ่ ไปๆมาๆ พลิกหนีบทฝ่ายค้าน ไม่ติดอดีต ไม่ฟาดฟันทางการเมือง กลืนอุดมการณ์คู่ปรับนับทศวรรษกับ “เพื่อไทย” กระโดดมาร่วมรัฐบาล เดินเป๋จากเส้นทางอุดมการณ์กว่า 70 ปี จนได้ตั๋วคุมงานกระทรวงใหญ่ แต่ผลงาน ได้เห็นเค้าแค่ลางๆยังไม่ชัดเจน
    .
    7.นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม
    ฉายา รวม(เพื่อ)ไทยอ้างชาติ
    เรื่องจริงหรือฝัน ทำบรรดาแม่ยก แทบไม่เชื่อสายตา ว่า "ขิง เอกนัฏ" คีย์แมนรทสช.ต้องยอมทำเพื่อชาติ ประกาศร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย เคลียร์ประเด็นคุณสมบัติคนเคยมีคดี ก่อนนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีแบบใสๆ ภายใต้การนำของ"คนชินวัตร“ลั่นในใจไม่ลบ ไม่เคยลืมอดีต ก่อนยก
    วาทะเด็ด “ต้องทำงานโดยคิดถึงบ้านเมืองเป็นหลัก ถ้าคิดถึงบ้านเมือง ก็ทำงานร่วมกันได้” ทิ้งอดีตไว้ข้างหลัง เร่งโชว์ผลงานเดินเครื่องกวาดล้างโรงงานเถื่อน สารเคมีอันตราย ให้เข้าตาประชาชน
    .
    8.น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
    ฉายา จิราพอ(ล)
    จาก สส.รุ่นใหม่ดาวเด่นในสภา พูดจาฉะฉาน ถูกคาดหวังจะเฉิดฉายเมื่อนั่งเก้าอี้รัฐมนตรี ช่วยปรับโฉมงานของรัฐบาล เพราะคุมทั้งสื่อรัฐ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ. )แต่งานกลับเดินไปเนิบๆ
    สังคมมาถึงบางอ้อว่ารมต.น้ำ นั่งคุมสคบ.จากคดีดัง “ดิไอคอน กรุ๊ป”และ “บอสพอล” ถึงได้จังหวะโชว์ผลงาน ทั้งที่ขึ้นชั้นรมต.มาตั้งแต่ปลายรัฐบาลเศรษฐา จนถูกตั้งคำถามเรื่องการทำงาน ขึ้นปีใหม่จะเร่งเครื่องไปต่อ หรือพอใจจะทำงานเงียบๆ แบบสโลไลฟ์
    .
    กลุ่ม “รมต.โลกลืม”
    นายสุชาติ ชมกลิ่นรมช.พาณิชย์
    พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ
    นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช. พาณิชย์
    ทั้ง3คน มีบทบาท ได้คุมกระทรวงเกรดเอ ทั้งเรื่องการค้าและการศึกษา ผ่านเก้าอี้รมต.ที่เป็นประตูปูทาง
    สร้างงานให้โดดเด่นได้ แต่ผลงาน3 เดือนในรัฐบาล กลับไม่เปรี้ยงแต่เงียบกริบ จนประชาชนเรียกหาให้สตาร์ทเครื่อง ตีปี๊บผลงาน รับศักราชใหม่ สลัดครหารัฐมนตรีโลกลืม
    .
    วาทะแห่งปี “สามีเป็นคนใต้”
    น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ในระหว่างการลงพื้นติดตามการฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำท่วม อ.แม่สาย จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.2567 ซึ่งถูกตั้งคำถามจากสังคม เปรียบเทียบการลงพื้นที่เพื่อฟื้นฟูภาคเหนือของนายกฯแต่อาจละเลยพี่น้องภาคใต้ ที่ถูกน้ำท่วม
    นายกฯชี้แจงย้ำหนักแน่น ไม่ได้ละเลยคนใต้ ด้วยประโยคว่า “โอ้ คำว่าละเลยภาคใต้ สามีเป็นคนใต้ ครอบครัวสามีเป็นคนใต้ ถ้าละเลยคนใต้ ไม่รักคนใต้ แต่งงานคนใต้ไม่ได้นะคะ”ยืนยันคำตอบจากใจ ไม่ได้เลือกปฏิบัติกับประชาชนภาคใด เพราะเป็นนายกฯของคนทั้งประเทศ
    .
    คำตอบของนายกฯยังไม่ใช่เหตุผลที่ตรงใจชาวโซเชียล จึงไม่วายถูกตั้งข้อสงสัยว่าเหตุที่ไม่ลงใต้ เพราะภาคใต้ไม่ใช่ฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย ไร้ที่นั่งสส.มานาน ถึงกับถามย้ำๆขอฟังชัดๆ จะลงใต้เมื่อไหร่ กระทั่งนายกฯกลับจากเยือนประเทศมาเลเซีย ช่วงฝนเทภาคใต้รอบสอง จึงเปลี่ยนใจ บินลงพื้นที่จ.นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี ในวันที่ 17 ธ.ค.2567 จากที่ตั้งใจจะลงไปในช่วงการฟื้นฟู
    .
    ขึ้นศักราชใหม่ หัวหน้ารัฐบาลประกาศ “โอกาสไทย ทำได้จริง” เป็นคำมั่นที่ประชาชน รอติดตาม
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000122816
    ..............
    Sondhi X
    สื่อทำเนียบฯ ตั้งฉายา ปี67 “รัฐบาล(พ่อ)เลี้ยง”, ฉายานายกฯ “แพทองโพย“ 7 รมต.ติดโผ ”บิ๊กอ้วน,อนุทิน,ทวี“ - พ่วง3รมต.โลกลืม . เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า การตั้งฉายารัฐบาล และรัฐมนตรีประจำปี ของผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล เป็นธรรมเนียมที่ยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมานานของผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของสื่อมวลชนต่อการทำงานของรัฐบาล โดยปราศจากอคติส่วนตัว ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล จึงมีมติร่วมกันตั้งฉายารัฐบาล รัฐมนตรี และวาทะแห่งปี ประจำปี 2567 ดังนี้ . ฉายารัฐบาล รัฐบาล“พ่อ“เลี้ยง ด้วยความเป็น “พ่อ” ของหัวหน้ารัฐบาล ยี่ห้อ "ทักษิณ ชินวัตร" ขึ้นชื่อดีกรีความรักลูกไม่น้อยหน้าใคร ทั้งปกป้อง เลี้ยงดู อุ้มชู ปูทาง จนได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำประเทศ เป็นลูกไม้หล่นใต้ต้น ที่มี DNA เดียวกันเป๊ะ จนไม่พ้นเสียงครหา รัฐบาลนี้ "พ่อคิด ลูกทำ" และไม่ใช่แค่การเลี้ยงดูลูกในสนามการเมืองเท่านั้น ยังลามไปถึงวาทะเลี้ยง "มาม่า" พรรคร่วมรัฐบาล ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า จนสะเทือนเลื่อนลั่น สะท้อนบทแบ็กอัพที่ไม่ใช่เลี้ยงลูกตัวเองเท่านั้น แต่เลี้ยงรัฐบาลให้เดินอยู่ในรอยด้วย . 1.น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ฉายา แพทองโพย ล้อมาจากชื่อของนายกฯ “แพทองธาร” กับประเด็นดรามา "ไอแพด" คู่ใจ โพยยุคไอที ถือติดมือได้ทุกที่ เป็นเอกลักษณ์ประจำตัว พกโพยเครื่องเดียวอ่าน จด โหลดข้อมูลเสร็จสรรพ จนเกิดเสียงวิจารณ์ถึงความเหมาะสมเมื่อยกขึ้นอ่าน ระหว่างพบผู้นำ แขกต่างชาติ กลายเป็นประเด็นตอบโต้เผ็ดร้อนกับชาวเน็ต และตอกย้ำแบบโนสนโนแคร์ด้วยภาพชูไอแพดคู่ใจ ระหว่างร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน หรือแม้แต่ยกไอแพด ขึ้นอ่านแถลงข่าวการระบายน้ำภาคเหนือ ลงสู่แม่น้ำโขง จนถูกวิจารณ์ยกใหญ่ . 2.นายภูมิธรรม​ เวชย​ชัย​ รองนายก​รัฐมนตรี​ และ​รมว.กลาโหม ฉายา สหายใหญ่ใส่บู๊ต รองนายกรัฐมนตรี คนที่ 1 ติดโผได้รับฉายาไม่ไม่ขาด “สหายใหญ่” ในเหตุการณ์ 6 ต.ค.2519 วันนั้น สู่ "บิ๊กอ้วน" แห่งกองทัพไทยในวันนี้ ปรับโฉมกุนซือการเมือง มายกมือตะเบ๊ะ เสื้อตึงเป๊ะ ใส่ "ท็อปบูต"นั่งเก้าอี้กลาโหม จากที่เคยอยู่กันคนละฝั่ง วันนี้ต้องคุมบังเหียนมาทำงานร่วมกับเหล่าทหาร ส่งท้ายปีจับมือท็อปบู้ตพากันลงพื้นที่ช่วยน้ำท่วม และยังต้องรับบทหนัก ถึงหนักมาก คอยระวังหลังให้กับ "นายกฯอิ๊งค์" อีกด้วย . 3.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ฉายา ภูมิใจขวาง นอกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี คนที่ 3 ยังสวมหมวกหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ทำงาน 3 เดือนใน “รัฐบาลแพทองธาร” สร้างสีสันจากบุคลิกและสไตล์การพูดหยิกแกมหยอก พร้อมสโลแกนขอทำงานไม่ขัดแย้งใคร แต่นับจากลงเรือร่วมรัฐบาล มียกมือค้านทั้งร่างกฎหมายสกัดรัฐประหาร ของสส.พรรคแกนนำ ล่าสุดโหวตสวนร่างพ.ร.บ.ประชามติ เห็นต่างจาก พรรครัฐบาล ต้องจับตาบทบาทจากนี้“รมต.หนู“จะปล่อยของ โชว์ลีลา สร้างผลงาน ให้ประทับใจอย่างไร . 4. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาครองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ฉายา พีระพัง พังอุดมการณ์จากพรรคขั้วตรงข้าม “ชินวัตร“ ตกลงปลงใจมาจับมือร่วมรัฐบาล “นายกฯอิ๊งค์“คว้าเก้าอี้รัฐมนตรีคุมกระทรวงใหญ่ ถูกคาดหวังจะมาแก้ปมเรื่องพลังงาน ให้ชาวบ้านได้ใช้น้ำมันถูกลง เจ้าตัวยังหมายมั่นปั้นมือประกาศแก้กฎหมายรื้อโครงสร้างภาษีน้ำมัน จนเปลี่ยนหัวหน้ารัฐบาลแล้ว ก็ยังไม่ชัดเจน หรือจะซุ่มทำเงียบๆ งานนี้สังคมช่วยลุ้นจะทำได้ทันรัฐบาลนี้ หรือจะพังพับไปก่อน ด้านงานการเมืองยุค “หัวหน้าพี“คุมบังเหียน “รวมไทยสร้างชาติ”ดูยิ่งโลว์โปรไฟล์ จัดกิจกรรมพรรคได้เงียบกริบตามสไตล์ จนเกิดกระแสข่าวรอยร้าวภายใน ถูกจับจ้องถึงสัมพันธภาพกับลูกพรรค จะกอดคอรักกันนานแค่ไหน . 5.พ.ต.อ.ทวี​ สอดส่อง​รมว.ยุติธรรม ฉายา ทวีไอพี ล็อกเป้าคุมเก้าอี้กระทรวงยุติธรรม เรียกได้ว่าเลื่อยขาเก้าอี้ไม่มีสั่น ไม่บอกก็รู้ว่า “นายใหญ่” ไว้ใจแค่ไหน นับตั้งแต่ภารกิจพานายใหญ่กลับบ้าน ถึงอีพี 2 ส่งนายใหญ่ขึ้น “ชั้น 14” ครองเตียง “วีไอพี” แทนนอนเรือนจำถึงได้พักโทษ ทำให้สังคมมองว่าเป็นนักโทษวีไอพี ต่อเนื่องที่เร่งออกระเบียบคุมตัวนอกเรือนจำ เสียงลือ แซ่ดเตรียมปูทางสำหรับ “วีไอพีหญิง“ตามรอยพี่ชายหรือไม่ เมื่อเดินงานเข้าตา พ.ต.อ.ทวี น่าจะถือบัตรวีไอพี ยึดเก้าอี้รัฐมนตรี ไปอีกยาว . 6.นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฉายา ประชาธิเป๋ แปะยี่ห้อ “ประชาธิปัตย์” รั้งตำแหน่งหัวหน้าพรรค ประกาศพาค่ายสะตอกลับมายิ่งใหญ่ ไปๆมาๆ พลิกหนีบทฝ่ายค้าน ไม่ติดอดีต ไม่ฟาดฟันทางการเมือง กลืนอุดมการณ์คู่ปรับนับทศวรรษกับ “เพื่อไทย” กระโดดมาร่วมรัฐบาล เดินเป๋จากเส้นทางอุดมการณ์กว่า 70 ปี จนได้ตั๋วคุมงานกระทรวงใหญ่ แต่ผลงาน ได้เห็นเค้าแค่ลางๆยังไม่ชัดเจน . 7.นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ฉายา รวม(เพื่อ)ไทยอ้างชาติ เรื่องจริงหรือฝัน ทำบรรดาแม่ยก แทบไม่เชื่อสายตา ว่า "ขิง เอกนัฏ" คีย์แมนรทสช.ต้องยอมทำเพื่อชาติ ประกาศร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย เคลียร์ประเด็นคุณสมบัติคนเคยมีคดี ก่อนนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีแบบใสๆ ภายใต้การนำของ"คนชินวัตร“ลั่นในใจไม่ลบ ไม่เคยลืมอดีต ก่อนยก วาทะเด็ด “ต้องทำงานโดยคิดถึงบ้านเมืองเป็นหลัก ถ้าคิดถึงบ้านเมือง ก็ทำงานร่วมกันได้” ทิ้งอดีตไว้ข้างหลัง เร่งโชว์ผลงานเดินเครื่องกวาดล้างโรงงานเถื่อน สารเคมีอันตราย ให้เข้าตาประชาชน . 8.น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ฉายา จิราพอ(ล) จาก สส.รุ่นใหม่ดาวเด่นในสภา พูดจาฉะฉาน ถูกคาดหวังจะเฉิดฉายเมื่อนั่งเก้าอี้รัฐมนตรี ช่วยปรับโฉมงานของรัฐบาล เพราะคุมทั้งสื่อรัฐ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ. )แต่งานกลับเดินไปเนิบๆ สังคมมาถึงบางอ้อว่ารมต.น้ำ นั่งคุมสคบ.จากคดีดัง “ดิไอคอน กรุ๊ป”และ “บอสพอล” ถึงได้จังหวะโชว์ผลงาน ทั้งที่ขึ้นชั้นรมต.มาตั้งแต่ปลายรัฐบาลเศรษฐา จนถูกตั้งคำถามเรื่องการทำงาน ขึ้นปีใหม่จะเร่งเครื่องไปต่อ หรือพอใจจะทำงานเงียบๆ แบบสโลไลฟ์ . กลุ่ม “รมต.โลกลืม” นายสุชาติ ชมกลิ่นรมช.พาณิชย์ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช. พาณิชย์ ทั้ง3คน มีบทบาท ได้คุมกระทรวงเกรดเอ ทั้งเรื่องการค้าและการศึกษา ผ่านเก้าอี้รมต.ที่เป็นประตูปูทาง สร้างงานให้โดดเด่นได้ แต่ผลงาน3 เดือนในรัฐบาล กลับไม่เปรี้ยงแต่เงียบกริบ จนประชาชนเรียกหาให้สตาร์ทเครื่อง ตีปี๊บผลงาน รับศักราชใหม่ สลัดครหารัฐมนตรีโลกลืม . วาทะแห่งปี “สามีเป็นคนใต้” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ในระหว่างการลงพื้นติดตามการฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำท่วม อ.แม่สาย จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.2567 ซึ่งถูกตั้งคำถามจากสังคม เปรียบเทียบการลงพื้นที่เพื่อฟื้นฟูภาคเหนือของนายกฯแต่อาจละเลยพี่น้องภาคใต้ ที่ถูกน้ำท่วม นายกฯชี้แจงย้ำหนักแน่น ไม่ได้ละเลยคนใต้ ด้วยประโยคว่า “โอ้ คำว่าละเลยภาคใต้ สามีเป็นคนใต้ ครอบครัวสามีเป็นคนใต้ ถ้าละเลยคนใต้ ไม่รักคนใต้ แต่งงานคนใต้ไม่ได้นะคะ”ยืนยันคำตอบจากใจ ไม่ได้เลือกปฏิบัติกับประชาชนภาคใด เพราะเป็นนายกฯของคนทั้งประเทศ . คำตอบของนายกฯยังไม่ใช่เหตุผลที่ตรงใจชาวโซเชียล จึงไม่วายถูกตั้งข้อสงสัยว่าเหตุที่ไม่ลงใต้ เพราะภาคใต้ไม่ใช่ฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย ไร้ที่นั่งสส.มานาน ถึงกับถามย้ำๆขอฟังชัดๆ จะลงใต้เมื่อไหร่ กระทั่งนายกฯกลับจากเยือนประเทศมาเลเซีย ช่วงฝนเทภาคใต้รอบสอง จึงเปลี่ยนใจ บินลงพื้นที่จ.นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี ในวันที่ 17 ธ.ค.2567 จากที่ตั้งใจจะลงไปในช่วงการฟื้นฟู . ขึ้นศักราชใหม่ หัวหน้ารัฐบาลประกาศ “โอกาสไทย ทำได้จริง” เป็นคำมั่นที่ประชาชน รอติดตาม . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000122816 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Wow
    8
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1118 มุมมอง 1 รีวิว
  • #บอสพอลยังโดนกรรมตามสนองรัวๆ
    อยู่ผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย
    ติดถูกแดน 10 ก็ไม่พอ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #บอสพอลยังโดนกรรมตามสนองรัวๆ อยู่ผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย ติดถูกแดน 10 ก็ไม่พอ #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 175 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ทนายวิฑูรย์” เผยเข้าเยี่ยม "บอสพอล" แจ้งข่าว “สามารถ” ถูกฝากขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ คดีฟอกเงิน ยันไม่มีปัญหาต่อกัน ส่วนคำให้การ "ดิไอคอน" มอบดีเอสไอเรียบร้อย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000116464

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “ทนายวิฑูรย์” เผยเข้าเยี่ยม "บอสพอล" แจ้งข่าว “สามารถ” ถูกฝากขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ คดีฟอกเงิน ยันไม่มีปัญหาต่อกัน ส่วนคำให้การ "ดิไอคอน" มอบดีเอสไอเรียบร้อย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000116464 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1000 มุมมอง 1 รีวิว
  • ทนาย "บอสพอล" โร่แจ้งความดำเนินคดี "ทนายตั้ม" ผิด พ.ร.บ.คอมพ์ฯ กรณีเรียกรับเงิน7.5 ล้านบาท พร้อมอวยพร "ฟิล์มรัฐภูมิ" ขอให้โชคดี”

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000115988

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ทนาย "บอสพอล" โร่แจ้งความดำเนินคดี "ทนายตั้ม" ผิด พ.ร.บ.คอมพ์ฯ กรณีเรียกรับเงิน7.5 ล้านบาท พร้อมอวยพร "ฟิล์มรัฐภูมิ" ขอให้โชคดี” อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000115988 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Haha
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1005 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทนายวิฑูรย์จ่อฟ้องทนายตั้มผิด พ.ร.บ.คอมฯ ปมอ้างเจรจาบอสพอล 02/12/67 #ทนายวิฑูรย์ #ทนายตั้ม #บอสพอล #ดิไอคอน
    ทนายวิฑูรย์จ่อฟ้องทนายตั้มผิด พ.ร.บ.คอมฯ ปมอ้างเจรจาบอสพอล 02/12/67 #ทนายวิฑูรย์ #ทนายตั้ม #บอสพอล #ดิไอคอน
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1012 มุมมอง 58 0 รีวิว
  • ทนาย "บอสพอล" โร่แจ้งความดำเนินคดี "ทนายตั้ม" ผิด พ.ร.บ.คอมพ์ฯ กรณีเรียกรับเงิน7.5 ล้านบาท พร้อมอวยพร "ฟิล์มรัฐภูมิ" ขอให้โชคดี”

    วันนี้ (2 ธ.ค. ) ที่ กองปราบปราม นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ได้นำบันทึกที่มีการถอดไฟล์เสียง 6 ชั่วโมง มามอบให้พนักงานสอบสวน ใช้เป็นหลักฐานกรณีของ น.ส.กฤษอนงค์ หรือเจ๊พัช เรียกรับสินบนจากบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป ว่า มีประโยคไหนที่เข้าข่ายกรรโชกทรัพย์ บริษัทดิไอคอนกรุ๊ป หรือเข้าข่ายคดีอื่นอีกหรือไม่ โดยไฟล์เสียงดังกล่าวยังมีการพาดพิงว่าจะสามารถเคลียร์กับหน่วยงานราชการที่กำกับดูแลบริษัทดิไอคอนกรุ๊ปอยู่ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐระดับผู้อำนวยการอีกด้วย

    นอกจากนี้ยังมีการอ้างถึงอีกหนึ่งหน่วยงาน คือ ดีเอสไอ ผู้สื่อข่าวจึงถามว่าบุคคลสำคัญที่ถูกนำมาอ้างชื่อเป็นบุคคลใดบ้าง มีถึง 10 คนหรือไม่ นายวิฑูรย์ ระบุว่าไม่ถึง 10 คน แต่มีจำนวนหลายคนที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งหลายคนได้มีการเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีเป็นที่เรียบร้อยด้วย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000115988

    #MGROnline #บอสพอล #ทนายตั้ม #ฟิล์มรัฐภูมิ #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup
    ทนาย "บอสพอล" โร่แจ้งความดำเนินคดี "ทนายตั้ม" ผิด พ.ร.บ.คอมพ์ฯ กรณีเรียกรับเงิน7.5 ล้านบาท พร้อมอวยพร "ฟิล์มรัฐภูมิ" ขอให้โชคดี” • วันนี้ (2 ธ.ค. ) ที่ กองปราบปราม นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ได้นำบันทึกที่มีการถอดไฟล์เสียง 6 ชั่วโมง มามอบให้พนักงานสอบสวน ใช้เป็นหลักฐานกรณีของ น.ส.กฤษอนงค์ หรือเจ๊พัช เรียกรับสินบนจากบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป ว่า มีประโยคไหนที่เข้าข่ายกรรโชกทรัพย์ บริษัทดิไอคอนกรุ๊ป หรือเข้าข่ายคดีอื่นอีกหรือไม่ โดยไฟล์เสียงดังกล่าวยังมีการพาดพิงว่าจะสามารถเคลียร์กับหน่วยงานราชการที่กำกับดูแลบริษัทดิไอคอนกรุ๊ปอยู่ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐระดับผู้อำนวยการอีกด้วย • นอกจากนี้ยังมีการอ้างถึงอีกหนึ่งหน่วยงาน คือ ดีเอสไอ ผู้สื่อข่าวจึงถามว่าบุคคลสำคัญที่ถูกนำมาอ้างชื่อเป็นบุคคลใดบ้าง มีถึง 10 คนหรือไม่ นายวิฑูรย์ ระบุว่าไม่ถึง 10 คน แต่มีจำนวนหลายคนที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งหลายคนได้มีการเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีเป็นที่เรียบร้อยด้วย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000115988 • #MGROnline #บอสพอล #ทนายตั้ม #ฟิล์มรัฐภูมิ #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 496 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เคยได้ยินบอสพอลพูดอะไรทำนองนี้
    อยู่ผิดช่อง 10 ปี ก็ไม่รวย
    พี่โทนี่ก็เลยจัดให้ เลือกมาจะเอาช่องไหน
    nbt มั๊ย tpbs มั๊ย แขบอก อุ๊ยว็อยซ์สิงเพียบ
    ไม่ไหวสู้รบปรบมือค่าาาา
    นี่เลย ท็อปนิวส์ วันนี้แทรกเวลาคนรักเจ้าได้
    อนาคต เป็นผอ.แม่มเลย อสมท พี่โทนี่ก็เคยจัดมาแล้ว
    "อิ๊บอ๋ายแล้ว ท็อปนิวส์ที่อนาคตจะมีแขเป็น ผอ"
    บังลัยไส้เลี้ยว
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #เคยได้ยินบอสพอลพูดอะไรทำนองนี้ อยู่ผิดช่อง 10 ปี ก็ไม่รวย พี่โทนี่ก็เลยจัดให้ เลือกมาจะเอาช่องไหน nbt มั๊ย tpbs มั๊ย แขบอก อุ๊ยว็อยซ์สิงเพียบ ไม่ไหวสู้รบปรบมือค่าาาา นี่เลย ท็อปนิวส์ วันนี้แทรกเวลาคนรักเจ้าได้ อนาคต เป็นผอ.แม่มเลย อสมท พี่โทนี่ก็เคยจัดมาแล้ว "อิ๊บอ๋ายแล้ว ท็อปนิวส์ที่อนาคตจะมีแขเป็น ผอ" บังลัยไส้เลี้ยว #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    Like
    Angry
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 520 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทนายวิฑูรย์ เตรียมยื่น ป.ป.ช. เอาผิดเจ้าหน้าที่สำนักเศรษฐกิจการคลัง ให้ข้อมูลเท็จ "ดิไอคอน" เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ แจงเอกสารกู้ยืมเงิน-ทำบุญ เป็นแค่คนนำให้ "บอสพอล" เซ็นเท่านั้น

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000114634

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ทนายวิฑูรย์ เตรียมยื่น ป.ป.ช. เอาผิดเจ้าหน้าที่สำนักเศรษฐกิจการคลัง ให้ข้อมูลเท็จ "ดิไอคอน" เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ แจงเอกสารกู้ยืมเงิน-ทำบุญ เป็นแค่คนนำให้ "บอสพอล" เซ็นเท่านั้น อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000114634 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    7
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1330 มุมมอง 0 รีวิว
  • โฆษกดีเอสไอ แจงคดีแชร์ลูกโซ่ 18 บอส "ดิไอคอน" เตรียมสรุปสำนวนส่งอัยการ ธ.ค.นี้ ส่วนทนายบอสพอล จะร้อง ป.ป.ช. ไม่หนักใจเพราะปฏิบัติตามหน้าที่

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000114548

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    โฆษกดีเอสไอ แจงคดีแชร์ลูกโซ่ 18 บอส "ดิไอคอน" เตรียมสรุปสำนวนส่งอัยการ ธ.ค.นี้ ส่วนทนายบอสพอล จะร้อง ป.ป.ช. ไม่หนักใจเพราะปฏิบัติตามหน้าที่ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000114548 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1213 มุมมอง 0 รีวิว
  • แม่สามารถตอบงงๆ บอสพอลโอนมาจริงถึงจะเงินเทาแต่ฉันก็โอนคืนไปแล้ว ผ่าง! นั่นแหละเรียกว่าฟอก อิป้าอ้วน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    แม่สามารถตอบงงๆ บอสพอลโอนมาจริงถึงจะเงินเทาแต่ฉันก็โอนคืนไปแล้ว ผ่าง! นั่นแหละเรียกว่าฟอก อิป้าอ้วน #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 279 มุมมอง 0 รีวิว
  • งานงอก เส้นเงินสามารถ ไม่ใช่แค่บอสพอล แต่มีเส้นเงิน
    จากเว็ป Pนัน โด้ย
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    งานงอก เส้นเงินสามารถ ไม่ใช่แค่บอสพอล แต่มีเส้นเงิน จากเว็ป Pนัน โด้ย #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 296 มุมมอง 0 รีวิว
  • บล.คิงส์ฟอร์ด-หมอบุญ..ที่แท้คนกันเอง / สุนันท์ ศรีจันทราแถลงการณ์ด่วนของบริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด ปฏิเสธว่า ไม่เคยเกี่ยวข้อง รวมถึงไม่เคยทำสัญญาใดๆ หรือการเป็นที่ปรึกษาโครงการ และไม่เคยให้พนักงานของบริษัทไปแนะนำหรือชักชวนนักลงทุนมาร่วมลงทุนในโครงการของ "หมอบุญ วนาสิน" ถูกลดน้ำหนักความน่าเชื่อถือลงในทันทีหลังจากสื่อผู้จัดการออนไลน์ ตีแผ่ภาพนายประจวบ ศิริรัตน์บุญขจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด นั่งบนโต๊ะถ่ายรูปคู่กับหมอบุญ ในการเซ็นสัญญา หมอบุญ แต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน นำบริษัท ไทย เมดิคัล โกลฟ จำกัด เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นการเซ็นสัญญารับเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท ไทย เมดิคัล โกลฟ จำกัด ซึ่งหมอบุญถือหุ้นใหญ่ เกิดขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม 2563 แต่ทั้ง บล.คิงส์ฟอร์ดและหมอบุญ ไปไม่ถึงจุดหมายปลายทาง ไม่สามารถผลักดันบริษัท ไทย เมดิคัล โกลฟเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นได้ และบริษัทแห่งนี้ก็เงียบหายไปตามกาลเวลาภาพนายประจวบ ที่ปรากฏหราร่วมโต๊ะเซ็นสัญญารับเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เป็นหลักฐานยืนยันว่า ผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด รู้จักหมอบุญเป็นอย่างดี รู้จักกันมาหลายปี และเคยร่วมธุรกรรมกันมาแล้วแต่ความสัมพันธ์จะต่อเนื่อง และเชื่อมโยงมาถึงการกู้เงินและการชักชวนนักลงทุนมาลงทุนในโครงการต่างๆ ของหมอบุญ ซึ่งหลอกลวงฉ้อโกงประชาชนหรือไม่ เป็นเรื่องที่ตำรวจจะสอบสวนขยายผลจนสิ้นสงสัยว่าผู้ร่วมขบวนการฉ้อโกงประชาชนกับหมอบุญ สร้างความเสียหายระดับหมื่นล้านบาท และยังมีความผิดฐานฟอกเงินเข้าไปด้วย มีเพียง 9 คนที่ถูกออกหมายจับแล้ว ไม่มีคนอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือร่วมในแก๊งโกงของหมอบุญอีกคดีแชร์ลูกโซ่ดิไอคอนของบอสพอล ตำรวจสอบสวนขยายผล จนมีผู้ต้องหาที่ถูกจับคุมตัวจำนวนมาก รวมทั้งเหล่าดาราชื่อดังคดีฉ้อโกงของหมอบุญ ผู้ต้องหาอาจไม่ได้มีเพียงหมอบุญ และพวกรวม 9 คนเท่านั้นไม่น่าแปลกใจว่า ทำไมบริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ดต้องดิ้นพล่าน ออกแถลงการณ์ด่วน ปฏิเสธไม่เคยทำสัญญาใด ไม่เคยเกี่ยวกับกับการชักชวนคนมาลงทุนในโครงการต่างๆ ของหมอบุญเพราะผู้ต้องหาที่ถูกตำรวจจับกุมตัวแล้ว 8 คน มีพนักงานระดับสูงของบริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด ติดร่างแหไปด้วย 2 คน คือนางอัจจิมา พาณิชย์เกรียงไกร และนายภาคย์ วัฒนาพร ซึ่งเคยเป็นคณะผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด ชุดที่นายประจวบเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ น.ส.ชญานี โปรขันเงิน เป็นกรรมการผู้จัดการนางอัจจิมา และนายภาคย์ เข้าร่วมธุรกรรม ชักชวนให้นักลงทุนมาร่วมลงทุนในโครงการหมอบุญ โดยผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ดคนอื่นๆ ไม่มีส่วนรู้เห็นจริงหรือไม่ คำตอบอยู่ที่ผลการสอบสวนของตำรวจนางอัจจิมา และนายภาคย์ ในฐานะพนักงานระดับสูงของบริษัทหลักทรัพย์ ย่อมมีความน่าเชื่อถือ และสามารถทำหน้าที่เป็นเหมือนแม่ข่ายแชร์ลูกโซ่ ชักชวนให้ลูกค้ามาลงทุนในโครงการหมอบุญได้ง่ายแต่บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด ประกาศตัดตอนนางอัจจิมา และนายภาคย์แล้ว โดยสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ และตั้งคณะกรรมการสอบสวนพนักงานทั้งสองคน จนกว่าข้อเท็จจริงต่างๆ จะปรากฏตำรวจได้สอบเค้นนางอัจจิมา และนายภาคย์ เพื่อขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการหลอกต้มประชาชนของหมอบุญแล้ว และได้ข้อมูลที่เชื่อมโยงผู้อยู่ในข่ายร่วมขบวนการเพิ่มเติม เพียงแต่รอรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีขบวนการหลอกลวงประชาชน ความเสียหายนับหมื่นล้านบาท ผู้เสียหายนับไม่ถ้วน ผู้ต้องหาอาจไม่จบลงที่หมอบุญ และพวกรวม 9 คนเท่านั้น แต่อาจมีหมายจับเพิ่ม ซึ่งไม่รู้ว่า ใครบ้างที่จะเดินเข้าคุกตาม 8 ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมแล้วคดีหมอบุญ ยังต้องลุ้นระทึกกันต่อไปว่า การสอบสวนขยายผลของตำรวจ จะนำไปสู่การออกหมายจับใครต่อใครบ้าง และบริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ดพ้นมลทินไปแล้วจริงหรือไม่https://mgronline.com/stockmarket/detail/9670000114116
    บล.คิงส์ฟอร์ด-หมอบุญ..ที่แท้คนกันเอง / สุนันท์ ศรีจันทราแถลงการณ์ด่วนของบริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด ปฏิเสธว่า ไม่เคยเกี่ยวข้อง รวมถึงไม่เคยทำสัญญาใดๆ หรือการเป็นที่ปรึกษาโครงการ และไม่เคยให้พนักงานของบริษัทไปแนะนำหรือชักชวนนักลงทุนมาร่วมลงทุนในโครงการของ "หมอบุญ วนาสิน" ถูกลดน้ำหนักความน่าเชื่อถือลงในทันทีหลังจากสื่อผู้จัดการออนไลน์ ตีแผ่ภาพนายประจวบ ศิริรัตน์บุญขจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด นั่งบนโต๊ะถ่ายรูปคู่กับหมอบุญ ในการเซ็นสัญญา หมอบุญ แต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน นำบริษัท ไทย เมดิคัล โกลฟ จำกัด เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นการเซ็นสัญญารับเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท ไทย เมดิคัล โกลฟ จำกัด ซึ่งหมอบุญถือหุ้นใหญ่ เกิดขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม 2563 แต่ทั้ง บล.คิงส์ฟอร์ดและหมอบุญ ไปไม่ถึงจุดหมายปลายทาง ไม่สามารถผลักดันบริษัท ไทย เมดิคัล โกลฟเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นได้ และบริษัทแห่งนี้ก็เงียบหายไปตามกาลเวลาภาพนายประจวบ ที่ปรากฏหราร่วมโต๊ะเซ็นสัญญารับเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เป็นหลักฐานยืนยันว่า ผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด รู้จักหมอบุญเป็นอย่างดี รู้จักกันมาหลายปี และเคยร่วมธุรกรรมกันมาแล้วแต่ความสัมพันธ์จะต่อเนื่อง และเชื่อมโยงมาถึงการกู้เงินและการชักชวนนักลงทุนมาลงทุนในโครงการต่างๆ ของหมอบุญ ซึ่งหลอกลวงฉ้อโกงประชาชนหรือไม่ เป็นเรื่องที่ตำรวจจะสอบสวนขยายผลจนสิ้นสงสัยว่าผู้ร่วมขบวนการฉ้อโกงประชาชนกับหมอบุญ สร้างความเสียหายระดับหมื่นล้านบาท และยังมีความผิดฐานฟอกเงินเข้าไปด้วย มีเพียง 9 คนที่ถูกออกหมายจับแล้ว ไม่มีคนอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือร่วมในแก๊งโกงของหมอบุญอีกคดีแชร์ลูกโซ่ดิไอคอนของบอสพอล ตำรวจสอบสวนขยายผล จนมีผู้ต้องหาที่ถูกจับคุมตัวจำนวนมาก รวมทั้งเหล่าดาราชื่อดังคดีฉ้อโกงของหมอบุญ ผู้ต้องหาอาจไม่ได้มีเพียงหมอบุญ และพวกรวม 9 คนเท่านั้นไม่น่าแปลกใจว่า ทำไมบริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ดต้องดิ้นพล่าน ออกแถลงการณ์ด่วน ปฏิเสธไม่เคยทำสัญญาใด ไม่เคยเกี่ยวกับกับการชักชวนคนมาลงทุนในโครงการต่างๆ ของหมอบุญเพราะผู้ต้องหาที่ถูกตำรวจจับกุมตัวแล้ว 8 คน มีพนักงานระดับสูงของบริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด ติดร่างแหไปด้วย 2 คน คือนางอัจจิมา พาณิชย์เกรียงไกร และนายภาคย์ วัฒนาพร ซึ่งเคยเป็นคณะผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด ชุดที่นายประจวบเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ น.ส.ชญานี โปรขันเงิน เป็นกรรมการผู้จัดการนางอัจจิมา และนายภาคย์ เข้าร่วมธุรกรรม ชักชวนให้นักลงทุนมาร่วมลงทุนในโครงการหมอบุญ โดยผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ดคนอื่นๆ ไม่มีส่วนรู้เห็นจริงหรือไม่ คำตอบอยู่ที่ผลการสอบสวนของตำรวจนางอัจจิมา และนายภาคย์ ในฐานะพนักงานระดับสูงของบริษัทหลักทรัพย์ ย่อมมีความน่าเชื่อถือ และสามารถทำหน้าที่เป็นเหมือนแม่ข่ายแชร์ลูกโซ่ ชักชวนให้ลูกค้ามาลงทุนในโครงการหมอบุญได้ง่ายแต่บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด ประกาศตัดตอนนางอัจจิมา และนายภาคย์แล้ว โดยสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ และตั้งคณะกรรมการสอบสวนพนักงานทั้งสองคน จนกว่าข้อเท็จจริงต่างๆ จะปรากฏตำรวจได้สอบเค้นนางอัจจิมา และนายภาคย์ เพื่อขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการหลอกต้มประชาชนของหมอบุญแล้ว และได้ข้อมูลที่เชื่อมโยงผู้อยู่ในข่ายร่วมขบวนการเพิ่มเติม เพียงแต่รอรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีขบวนการหลอกลวงประชาชน ความเสียหายนับหมื่นล้านบาท ผู้เสียหายนับไม่ถ้วน ผู้ต้องหาอาจไม่จบลงที่หมอบุญ และพวกรวม 9 คนเท่านั้น แต่อาจมีหมายจับเพิ่ม ซึ่งไม่รู้ว่า ใครบ้างที่จะเดินเข้าคุกตาม 8 ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมแล้วคดีหมอบุญ ยังต้องลุ้นระทึกกันต่อไปว่า การสอบสวนขยายผลของตำรวจ จะนำไปสู่การออกหมายจับใครต่อใครบ้าง และบริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ดพ้นมลทินไปแล้วจริงหรือไม่https://mgronline.com/stockmarket/detail/9670000114116
    Like
    Yay
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 523 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจ้าหน้าที่ดีเอสไอคุมตัว ‘สามารถ” พร้อมแม่ ฝากขังศาลอาญา คดีร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน‘ดิไอคอน’ พร้อมยื่นค้านประกัน หลังพบพฤติการณ์ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เจ้าตัวตะโกนลั่น ไม่ได้รับความเป็นธรรม อ้างเงิน "บอสพอล" โอนมาทำบุญ

    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000113654

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    เจ้าหน้าที่ดีเอสไอคุมตัว ‘สามารถ” พร้อมแม่ ฝากขังศาลอาญา คดีร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน‘ดิไอคอน’ พร้อมยื่นค้านประกัน หลังพบพฤติการณ์ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เจ้าตัวตะโกนลั่น ไม่ได้รับความเป็นธรรม อ้างเงิน "บอสพอล" โอนมาทำบุญ อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000113654 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1161 มุมมอง 0 รีวิว
  • #อ้างบอสพอลให้ยืม
    เช็ด จะรอดยังไงฟร๊ะเนี่ย
    เต้า อ้วง
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    #อ้างบอสพอลให้ยืม เช็ด จะรอดยังไงฟร๊ะเนี่ย เต้า อ้วง #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 314 มุมมอง 0 รีวิว
  • สามารถยังไหว ปฏิเสธทุกข้อหา อ้าง เงินบอสพอลที่เข้ามา "เงินยืม" อุ๊ย!!
    ยืมเพื่อนอีกรายแล้ว
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    สามารถยังไหว ปฏิเสธทุกข้อหา อ้าง เงินบอสพอลที่เข้ามา "เงินยืม" อุ๊ย!! ยืมเพื่อนอีกรายแล้ว #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 307 มุมมอง 0 รีวิว
  • อธิบดีดีเอสไอเผยเข้าค้นเป้าหมาย 2 จุด จับกุมสองแม่ลูก “วิลาวัลย์-สามารถ” พัวพันฟอกเงินดิไอคอน ยึดรถตู้อัลพาร์ด 1 คัน พร้อมเอกสารบัญชีการเงิน พบมีเงินผ่านเข้าบัญชีแม่กว่า 100 ล้านจากหลายแหล่ง เร่งขยายผล ส่วน "บอสพอล" โอนเข้า 2.5 ล้านบาท อ้างทำบุญ จริงหรือไม่ตรวจสอบได้อยู่แล้ว

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000113340

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    อธิบดีดีเอสไอเผยเข้าค้นเป้าหมาย 2 จุด จับกุมสองแม่ลูก “วิลาวัลย์-สามารถ” พัวพันฟอกเงินดิไอคอน ยึดรถตู้อัลพาร์ด 1 คัน พร้อมเอกสารบัญชีการเงิน พบมีเงินผ่านเข้าบัญชีแม่กว่า 100 ล้านจากหลายแหล่ง เร่งขยายผล ส่วน "บอสพอล" โอนเข้า 2.5 ล้านบาท อ้างทำบุญ จริงหรือไม่ตรวจสอบได้อยู่แล้ว อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000113340 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    15
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1334 มุมมอง 1 รีวิว
  • อธิบดีดีเอสไอเผยเข้าค้นเป้าหมาย 2 จุด จับกุมสองแม่ลูก “วิลาวัลย์-สามารถ” พัวพันฟอกเงินดิไอคอน ยึดรถตู้อัลพาร์ด 1 คัน พร้อมเอกสารบัญชีการเงิน พบมีเงินผ่านเข้าบัญชีแม่กว่า 100 ล้านจากหลายแหล่ง เร่งขยายผล ส่วน "บอสพอล" โอนเข้า 2.5 ล้านบาท อ้างทำบุญ จริงหรือไม่ตรวจสอบได้อยู่แล้ว

    วันนี้ (25 พ.ย.) เวลา 14.00 น. ณ อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยผลการปฏิบัติการตรวจค้นเป้าหมาย 2 จุด คือ บ้านพักของ นายสามารถ เจนชัยจิตรวณิช ภายในโครงการบ้านหรูแห่งหนึ่งบนถนนราชพฤกษ์ ส่วนจุดที่ 2 คอนโดมิเนียม พื้นที่เขตราชเทวี กรุงเทพฯ พร้อมจับกุม นางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ อายุ 62 ปี แม่ของนายสามารถ ในข้อหาร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ในคดีพิเศษที่ 115/2567 (คดีฟอกเงินทางอาญา กรณี บริษัทดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด)

    พ.ต.ต.ยุทธนา เปิดเผยว่า จากการปฏิบัติการของดีเอสไอสามารถตรวจยึดสิ่งของที่อาจใช้เป็นพยานหลักฐานได้ โดยคดีพิเศษที่ 115/2567 ขอศาลออกหมายจับทั้ง 3 บุคคล ประกอบด้วย 1.นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล 2.นายสามารถ เจนชัยจิตรวณิช และ 3.นางนางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ สืบเนื่องมาจากมีการรวบรวมพยานหลักฐานพบว่ามีการเงินระดมของบรรดาสมาชิกไปยังบัญชีของ บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ก่อนโอนต่อไปยังบุคคลในหมายจับหลายทอด ดังนั้น พฤติการณ์ดังกล่าวนี้ คือ การโอนหรือรับโอนเงิน เพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพทรัพย์สิน หรือเพื่อปกปิดอำพรางซุกซ่อนลักษณะแท้จริงของการได้มาซึ่งทรัพย์สิน จึงเข้าข่ายความผิดอาญาฐานร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000113340

    #MGROnline #อธิบดีดีเอสไอ #ดีเอสไอ #สามารถเจนชัยจิตรวณิช #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup #บอสพอล
    อธิบดีดีเอสไอเผยเข้าค้นเป้าหมาย 2 จุด จับกุมสองแม่ลูก “วิลาวัลย์-สามารถ” พัวพันฟอกเงินดิไอคอน ยึดรถตู้อัลพาร์ด 1 คัน พร้อมเอกสารบัญชีการเงิน พบมีเงินผ่านเข้าบัญชีแม่กว่า 100 ล้านจากหลายแหล่ง เร่งขยายผล ส่วน "บอสพอล" โอนเข้า 2.5 ล้านบาท อ้างทำบุญ จริงหรือไม่ตรวจสอบได้อยู่แล้ว • วันนี้ (25 พ.ย.) เวลา 14.00 น. ณ อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยผลการปฏิบัติการตรวจค้นเป้าหมาย 2 จุด คือ บ้านพักของ นายสามารถ เจนชัยจิตรวณิช ภายในโครงการบ้านหรูแห่งหนึ่งบนถนนราชพฤกษ์ ส่วนจุดที่ 2 คอนโดมิเนียม พื้นที่เขตราชเทวี กรุงเทพฯ พร้อมจับกุม นางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ อายุ 62 ปี แม่ของนายสามารถ ในข้อหาร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ในคดีพิเศษที่ 115/2567 (คดีฟอกเงินทางอาญา กรณี บริษัทดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด) • พ.ต.ต.ยุทธนา เปิดเผยว่า จากการปฏิบัติการของดีเอสไอสามารถตรวจยึดสิ่งของที่อาจใช้เป็นพยานหลักฐานได้ โดยคดีพิเศษที่ 115/2567 ขอศาลออกหมายจับทั้ง 3 บุคคล ประกอบด้วย 1.นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล 2.นายสามารถ เจนชัยจิตรวณิช และ 3.นางนางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ สืบเนื่องมาจากมีการรวบรวมพยานหลักฐานพบว่ามีการเงินระดมของบรรดาสมาชิกไปยังบัญชีของ บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ก่อนโอนต่อไปยังบุคคลในหมายจับหลายทอด ดังนั้น พฤติการณ์ดังกล่าวนี้ คือ การโอนหรือรับโอนเงิน เพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพทรัพย์สิน หรือเพื่อปกปิดอำพรางซุกซ่อนลักษณะแท้จริงของการได้มาซึ่งทรัพย์สิน จึงเข้าข่ายความผิดอาญาฐานร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000113340 • #MGROnline #อธิบดีดีเอสไอ #ดีเอสไอ #สามารถเจนชัยจิตรวณิช #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup #บอสพอล
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 653 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts