• ป.ป.ช. รับสำนวนคดีสินบน 40 ล้านบาท ปม สส.ไชยชนก โยงเงินเคลียร์เว็บพนันออนไลน์
    https://www.thai-tai.tv/news/22146/
    .
    #ไทยไท #ไชยชนกชิดชอบ #สินบน40ล้าน #ปปช #เว็บพนันออนไลน์ #บก.ป.

    ป.ป.ช. รับสำนวนคดีสินบน 40 ล้านบาท ปม สส.ไชยชนก โยงเงินเคลียร์เว็บพนันออนไลน์ https://www.thai-tai.tv/news/22146/ . #ไทยไท #ไชยชนกชิดชอบ #สินบน40ล้าน #ปปช #เว็บพนันออนไลน์ #บก.ป.
    0 Comments 0 Shares 39 Views 0 Reviews
  • ๒ตำรวจกองปราบควบคุมตัว "อดีตพระอลงกต-หมอบี" ฝากขังศาลผัดแรก พร้อมค้านประกันตัว เกรงหลบหนี-ยุ่งเกี่ยวพยานหลักฐาน ด้านอดีเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุยิ้มแย้มปัดตอบคำถามผู้สื่อข่าว

    วันนี้ (27 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. พนักงานสอบสวนกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม (กก.1 บก.ป.) ได้ควบคุมตัว อดีตพระราชวิสุทธิประชานาถ หรือหลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ที่ จ 81/2568 ลง 22 สิงหาคม 2568 ข้อหา"เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำจัดการหรือรักษาทรัพย์ใด

    เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิขอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคนโดยการตกลงกันตั้งแต่

    สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน" และ นายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หรือ "หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ" เจ้าของเพจ "งมงาย สไตล์หมอบี" ไปฝากขังศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ

    โดยอดีตหลวงอลงกต สวมเสื้อผ้าสีกรัก (น้ำตาลเข้ม) คล้ายจีวรพระสงฆ์สายธรรมยุติกนิกาย โดยคลุมผ้าสีคล้ายจีวรพระ ซึ่งขณะกำลังเดินขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหา อดีตหลวงพ่ออลงกต มีสีหน้ายิ้มแย้ม โบกมือทักทายผู้สื่อข่าวที่มารอทำข่าวจำนวนมาก

    เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีอะไรจะชี้แจงไหม, รับสารภาพหรือปฏิเสธ,จะกลับมาบวชอีกไหม แต่อดีตหลวงพ่ออลงกต ได้ปฏิเสธที่ตอบคำถามสื่อมวลชนแต่อย่างใด ก่อนเจ้าหน้าที่นำขึ้นรถส่งศาลต่อไป

    ทั้งนี้ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประตัวผู้ต้องหาทั้งสองรายเนื่องจากเกรงจะหลบหนีและเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000081678

    #MGROnline #อดีตพระอลงกต #หมอบี #หมอบีทูตสื่อวิญญาณ #วัดพระบาทน้ำพุ #หลวงพ่ออลงกต
    ๒ตำรวจกองปราบควบคุมตัว "อดีตพระอลงกต-หมอบี" ฝากขังศาลผัดแรก พร้อมค้านประกันตัว เกรงหลบหนี-ยุ่งเกี่ยวพยานหลักฐาน ด้านอดีเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุยิ้มแย้มปัดตอบคำถามผู้สื่อข่าว • วันนี้ (27 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. พนักงานสอบสวนกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม (กก.1 บก.ป.) ได้ควบคุมตัว อดีตพระราชวิสุทธิประชานาถ หรือหลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ที่ จ 81/2568 ลง 22 สิงหาคม 2568 ข้อหา"เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำจัดการหรือรักษาทรัพย์ใด • เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิขอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคนโดยการตกลงกันตั้งแต่ • สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน" และ นายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หรือ "หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ" เจ้าของเพจ "งมงาย สไตล์หมอบี" ไปฝากขังศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ • โดยอดีตหลวงอลงกต สวมเสื้อผ้าสีกรัก (น้ำตาลเข้ม) คล้ายจีวรพระสงฆ์สายธรรมยุติกนิกาย โดยคลุมผ้าสีคล้ายจีวรพระ ซึ่งขณะกำลังเดินขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหา อดีตหลวงพ่ออลงกต มีสีหน้ายิ้มแย้ม โบกมือทักทายผู้สื่อข่าวที่มารอทำข่าวจำนวนมาก • เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีอะไรจะชี้แจงไหม, รับสารภาพหรือปฏิเสธ,จะกลับมาบวชอีกไหม แต่อดีตหลวงพ่ออลงกต ได้ปฏิเสธที่ตอบคำถามสื่อมวลชนแต่อย่างใด ก่อนเจ้าหน้าที่นำขึ้นรถส่งศาลต่อไป • ทั้งนี้ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประตัวผู้ต้องหาทั้งสองรายเนื่องจากเกรงจะหลบหนีและเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000081678 • #MGROnline #อดีตพระอลงกต #หมอบี #หมอบีทูตสื่อวิญญาณ #วัดพระบาทน้ำพุ #หลวงพ่ออลงกต
    0 Comments 0 Shares 594 Views 0 Reviews
  • ผบก.ป.เผยนาทีรวบ"หลวงพ่ออลงกต"ขณะเตรียมหลบหนี -ด้านทนายยันเจ้าตัวไม่เครียดแต่เหนื่อยเพราะอดหลับอดนอน เตรียมหลักทรัพย์ยื่นประกันตัวชั้นสอบสวน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000081213

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ผบก.ป.เผยนาทีรวบ"หลวงพ่ออลงกต"ขณะเตรียมหลบหนี -ด้านทนายยันเจ้าตัวไม่เครียดแต่เหนื่อยเพราะอดหลับอดนอน เตรียมหลักทรัพย์ยื่นประกันตัวชั้นสอบสวน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000081213 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 432 Views 0 Reviews
  • รอง ผบก.ป.เผย กองปราบเดินหน้าขุดคุ้ยเงินบริจาค“หมอบี-วัดพระบาทน้ำพุ” ว่า นำเงินทำบุญใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ เร่งสอบเส้นทางการเงิน-ที่ดินคนสนิทเจ้าอาวาส 2,000 ไร่-รถหรู ส่อเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน-ฟอกเงิน-ม.157 เตรียมพิจารณาประสาน ปปง.ร่วมตรวจสอบด้วย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000076267

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    รอง ผบก.ป.เผย กองปราบเดินหน้าขุดคุ้ยเงินบริจาค“หมอบี-วัดพระบาทน้ำพุ” ว่า นำเงินทำบุญใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ เร่งสอบเส้นทางการเงิน-ที่ดินคนสนิทเจ้าอาวาส 2,000 ไร่-รถหรู ส่อเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน-ฟอกเงิน-ม.157 เตรียมพิจารณาประสาน ปปง.ร่วมตรวจสอบด้วย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000076267 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 847 Views 0 Reviews
  • พระธรรมวชิรานุวัตร เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ชิงมอบตัวตำรวจสอบสวนกลาง แจงปมยักยอกเงินวัด 300 ล้านบาท แทงพนันออนไลน์ แฉยืมเงินวัดอื่นไปทั่ว เผยตำรวจแฝงตัวหาข่าวในวัดเกือบ 8 เดือน จนรวบรวมหลักฐานเตรียมดำเนินคดี

    วันนี้ (16 พ.ค.)ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.)เมื่อเวลา 10.00 น. พระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) อายุ 70 ปี เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จ.นครปฐม เจ้าคณะภาค 14 พร้อมด้วยทนายความ และ คณะพระผู้ติดตามเดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. เพื่อเข้ามอบตัวแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังทราบเรื่องว่าตนเองกำลังจะถูกดำเนินคดีในความผิดฐานทุจริตยักยอกเงินวัดจำนวน 300 ล้านบาท

    สำหรับการเข้ามอบตัวของพระธรรมวชิรานุวัตร ครั้งนี้ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. ได้รับเรื่องร้องเรียนว่า พระธรรมวชิรานุวัตร ซึ่งมีตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และ เป็นเจ้าคณะภาค 14 แต่กลับมีพฤติกรรมยักยอกเงินของวัดไปเล่นพนันออนไลน์ จึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแส โดยส่งสายลับเข้าไปแฝงตัวอยู่ในวัดนานกว่า 8 เดือน จนกระทั่งพิสูจน์ทราบแน่ชัดแล้วว่า พระธรรมวชิรานุวัตร มีพฤติกรรมตามที่ถูกร้องเรียนจริง

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000045290

    #MGROnline #วัดไร่ขิง #เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง #บาคาร่า
    พระธรรมวชิรานุวัตร เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ชิงมอบตัวตำรวจสอบสวนกลาง แจงปมยักยอกเงินวัด 300 ล้านบาท แทงพนันออนไลน์ แฉยืมเงินวัดอื่นไปทั่ว เผยตำรวจแฝงตัวหาข่าวในวัดเกือบ 8 เดือน จนรวบรวมหลักฐานเตรียมดำเนินคดี • วันนี้ (16 พ.ค.)ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.)เมื่อเวลา 10.00 น. พระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) อายุ 70 ปี เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จ.นครปฐม เจ้าคณะภาค 14 พร้อมด้วยทนายความ และ คณะพระผู้ติดตามเดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. เพื่อเข้ามอบตัวแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังทราบเรื่องว่าตนเองกำลังจะถูกดำเนินคดีในความผิดฐานทุจริตยักยอกเงินวัดจำนวน 300 ล้านบาท • สำหรับการเข้ามอบตัวของพระธรรมวชิรานุวัตร ครั้งนี้ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. ได้รับเรื่องร้องเรียนว่า พระธรรมวชิรานุวัตร ซึ่งมีตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และ เป็นเจ้าคณะภาค 14 แต่กลับมีพฤติกรรมยักยอกเงินของวัดไปเล่นพนันออนไลน์ จึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแส โดยส่งสายลับเข้าไปแฝงตัวอยู่ในวัดนานกว่า 8 เดือน จนกระทั่งพิสูจน์ทราบแน่ชัดแล้วว่า พระธรรมวชิรานุวัตร มีพฤติกรรมตามที่ถูกร้องเรียนจริง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000045290 • #MGROnline #วัดไร่ขิง #เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง #บาคาร่า
    0 Comments 0 Shares 498 Views 0 Reviews
  • รอง ผบก.ป.เผยสอบเหยื่อไฮโซกำมะลอไปแล้ว 5 ปากเตรียมเรียกสอบอีกหลายปาก ขอเวลารวบรวมหลักฐานเพื่อให้สำนวนคดีรัดกุม

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000034377

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    รอง ผบก.ป.เผยสอบเหยื่อไฮโซกำมะลอไปแล้ว 5 ปากเตรียมเรียกสอบอีกหลายปาก ขอเวลารวบรวมหลักฐานเพื่อให้สำนวนคดีรัดกุม อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000034377 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    4
    0 Comments 0 Shares 864 Views 0 Reviews
  • กองปราบบุกทลายเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ SBOBET รวบ 13 ผู้ต้องหายึดเงินสด 7 ล้าน-ทรัพย์สินรวม 20 ล้านบาท พบเปิดมา 10 ปี เงินหมุนเวียน 1.6 พันล้าน เตรียมนำเฉลี่ยคืนเหยื่อ "อ.อ๊อด ตี่ลี่ฮวงจุ้ย" ลูกค้า VIP ของเว็บฯ

    วันนี้ (3 มี.ค. ) ที่ กองปราบปราม ( บก.ป.) พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. และ เจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ป. ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการ “ตี่ลี่ ภาค 2 เซียนพนัน VIP ถังแตก ทลายเครือข่ายเว็บพนัน SBOBET” หลังนำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 3 จุด ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร และ จ.ปทุมธานี ก่อนสามารถจับกุม นายธนะพัฒน์ อายุ 58 ปี เอเยนต์ เว็บไซต์พนันออนไลน์ SBOBET พร้อมทีมงานบริหารจัดการเว็บ ,แอดมิน ,บัญชีม้า และ บุคคลที่ได้รับผลประโยชน์ รวม 13 ราย ในจำนวนนี้มีผู้ต้องที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำจากคดีอื่น 1 ราย

    พร้อมกันนี้ยังได้ตรวจยึดของกลาง หลายรายการประกอบด้วย เงินสด 7 ล้านบาท รถยนต์ BMW X3 จำนวน 1 คัน รถยนต์ Toyota Alphard 1 คัน รถยนต์มิซูบิชิ ปาเจโร่ 1 คัน ตุ๊กตาแบร์บริค 5 ตัว พระเครื่อง 132 องค์ นาฬิกาหรู 3 เรือน รถจักรยานยนต์ 1 คัน อาวุธปืน 2 กระบอก โทรศัพท์มือถือ 18 เครื่อง สมุดบัญชีเงินฝาก รวม 49 เล่ม คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง ไอแพด 3 เครื่อง เครื่องนับเงิน 1 เครื่อง เอกสารฝาก-ถอนเงิน และ เอกสารประกอบหลักฐานอื่นๆ อีกจำนวนมาก รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดกว่า 20 ล้านบาท

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000020653

    #MGROnline #กองปราบ #เครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ #SBOBET
    กองปราบบุกทลายเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ SBOBET รวบ 13 ผู้ต้องหายึดเงินสด 7 ล้าน-ทรัพย์สินรวม 20 ล้านบาท พบเปิดมา 10 ปี เงินหมุนเวียน 1.6 พันล้าน เตรียมนำเฉลี่ยคืนเหยื่อ "อ.อ๊อด ตี่ลี่ฮวงจุ้ย" ลูกค้า VIP ของเว็บฯ • วันนี้ (3 มี.ค. ) ที่ กองปราบปราม ( บก.ป.) พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. และ เจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ป. ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการ “ตี่ลี่ ภาค 2 เซียนพนัน VIP ถังแตก ทลายเครือข่ายเว็บพนัน SBOBET” หลังนำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 3 จุด ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร และ จ.ปทุมธานี ก่อนสามารถจับกุม นายธนะพัฒน์ อายุ 58 ปี เอเยนต์ เว็บไซต์พนันออนไลน์ SBOBET พร้อมทีมงานบริหารจัดการเว็บ ,แอดมิน ,บัญชีม้า และ บุคคลที่ได้รับผลประโยชน์ รวม 13 ราย ในจำนวนนี้มีผู้ต้องที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำจากคดีอื่น 1 ราย • พร้อมกันนี้ยังได้ตรวจยึดของกลาง หลายรายการประกอบด้วย เงินสด 7 ล้านบาท รถยนต์ BMW X3 จำนวน 1 คัน รถยนต์ Toyota Alphard 1 คัน รถยนต์มิซูบิชิ ปาเจโร่ 1 คัน ตุ๊กตาแบร์บริค 5 ตัว พระเครื่อง 132 องค์ นาฬิกาหรู 3 เรือน รถจักรยานยนต์ 1 คัน อาวุธปืน 2 กระบอก โทรศัพท์มือถือ 18 เครื่อง สมุดบัญชีเงินฝาก รวม 49 เล่ม คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง ไอแพด 3 เครื่อง เครื่องนับเงิน 1 เครื่อง เอกสารฝาก-ถอนเงิน และ เอกสารประกอบหลักฐานอื่นๆ อีกจำนวนมาก รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดกว่า 20 ล้านบาท • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000020653 • #MGROnline #กองปราบ #เครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ #SBOBET
    0 Comments 0 Shares 1150 Views 0 Reviews
  • กองปราบหอบสำนวนคดีสังหาร "สจ.โต้ง" 18 แฟ้ม 7,969 แผ่น ส่งฟ้องอัยการ รอง ผบก.ป. มั่นใจหลักฐานมัด "โกทร- ลูกสมุน" ดิ้นไม่หลุดแน่! เผยปมสังหารมาจากเรื่องการเมืองท้องถิ่น

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000018570

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    กองปราบหอบสำนวนคดีสังหาร "สจ.โต้ง" 18 แฟ้ม 7,969 แผ่น ส่งฟ้องอัยการ รอง ผบก.ป. มั่นใจหลักฐานมัด "โกทร- ลูกสมุน" ดิ้นไม่หลุดแน่! เผยปมสังหารมาจากเรื่องการเมืองท้องถิ่น อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000018570 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 1043 Views 0 Reviews
  • รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผยสำนักงานคดีพิเศษ สั่งฟ้องทนายตั้ม ฉ้อโกง-ฟอกเงิน ทั้งสำนวนทำผิดในประเทศและนอกประเทศ รวมทั้งภรรยา พี่สาว และพวก รวมทั้งพนักงานโชว์รูมรถยนต์ รวมผู้ต้องหา 7 ราย พร้อมขอศาลสั่งให้กลุ่มผู้ต้องหาชดใช้เงินคุณอ้อย ทั้งแอปฯ หวยออนไลน์ ส่วนต่างรถเบนซ์ และสแกมเมอร์ทิพย์ รวม 111 ล้านบาท
    .
    วันนี้ (30 ม.ค.) นายกุญช์ฐาน์ ทัดทูน รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับสำนวนการสอบสวนคดีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม จากพนักงานสอบสวนกองปราบปราม จำนวน 2 สำนวน เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2568 และได้มีคำสั่งตั้งคณะทำงานร่วมกันพิจารณา บัดนี้ สำนักงานคดีพิเศษ ได้พิจารณาสำนวนดังกล่าวและมีคำสั่ง ได้แก่ สำนวนที่ 1 (สำนวนที่กระทำความผิดในราชอาณาจักร กรณีการออกแบบโรงแรม) ที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ เศรษฐีชาว อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และ พ.ต.ต.สันติชัย ศรีสวัสดิ์ สารวัตร กก.3 บก.ป. ผู้กล่าวหา กับนายษิทรา และ น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ หรือดาว พี่สาวภรรยานายษิทรา พนักงานอัยการสั่งฟ้อง นายษิทรา ผู้ต้องหาที่ 1 ฐานฉ้อโกง ร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 341 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 (18), 5, 9 วรรคสอง และมาตรา 60 และสั่งฟ้อง น.ส.ปิณฑิรา ผู้ต้องหาที่ 2 ฐานร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และ และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 (18), 5, 9 วรรคสอง และมาตรา 60
    .
    สำนวนที่ 2 น.ส.จตุพร กับพวกรวม 4 คน ผู้กล่าวหา นายษิทรา, นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยานายษิทรา, นายนุวัฒน์ ยงยุทธ กับ น.ส.สารินี นุชนารถ สองสามีภรรยากรณีร่วมกันหลอกลวงว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ, น.ส.ปิณฑิรา พี่สาวภรรยานายษิทรา, น.ส.แก้วสวรรค์ สุขผล และ น.ส.วมนันพัทธ์ รามธีรพัฒน์ พนักงานโชว์รูมรถยนต์ รวมผู้ต้องหา 7 ราย เหตุเกิดระหว่างวันที่ 16 ก.พ. 2566 ถึงวันที่ 6 ก.พ. 2567 ในหลายท้องที่ในราชอาณาจักร เขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประเทศจีน และประเทศฝรั่งเศส เกี่ยวพันกัน สำนวนคดีนี้เป็นความผิดที่กระทำนอกราชอาณาจักรไทย ซึ่งกฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจการสอบสวนของอัยการสูงสุด โดยอัยการสูงสุดได้มอบหมายให้พนักงานอัยการสำนักงานการสอบสวน ทำการสอบสวนร่วมกับพนักงานสืบสวนสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งอัยการสูงสุด มีคำสั่งดังนี้
    .
    1. สั่งฟ้องนายษิทรา ผู้ต้องหาที่ 1 ฐานฉ้อโกง (กรณีหลอกให้ลงทุนทำแอปพลิเคชันซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลออนไลน์) ฉ้อโกงโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นปลอมเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธิปลอม (กรณีหลอกลวงเพื่อให้ได้รับค่าส่วนต่างในการซื้อรถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์ รุ่น จี 400) ร่วมกันฉ้อโกง, โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง, ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย, ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น, ร่วมกันใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น, รู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น ร่วมกันแจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิด (กรณีร่วมกันหลอกลวงว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ), สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน (ในความผิดมูลฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ) ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3, 83, 84, 91, 137, 173, 264, 265, 267, 268, 341, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1), พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (18), 5, 6, 9, 60, 
    .
    2. สั่งฟ้องนางปทิตตา ผู้ต้องหาที่ 2 และ น.ส.ปิณฑิรา ผู้ต้องหาที่ 5 ฐานสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน (ในความผิดมูลฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ) ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (18), 5, 6, 9, 60  
    .
    3. สั่งฟ้องนายนุวัฒน์ ผู้ต้องหาที่ 3 และ น.ส.สารินี ผู้ต้องหาที่ 4 ฐานร่วมกันฉ้อโกง โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง, ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย, รู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น ร่วมกันแจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิด, ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐานโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น, ร่วมกันใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น (กรณีร่วมกันหลอกลวงว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ), สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน (ในความผิดมูลฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ) ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91, 137, 173, 267, 268, 341, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1), พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (18), 5, 6, 9, 60,        
    .
    4. สั่งฟ้อง น.ส.แก้วสวรรค์ ผู้ต้องหาที่ 6 และ น.ส.มนันพัทธ์ ผู้ต้องหาที่ 7 ฐานร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 264, 265 
    .
    5. ขอศาลสั่งให้นายษิทรา ผู้ต้องหาที่ 1 คืนหรือชดใช้เงิน จำนวน 72,597,764.70 บาท แก่ผู้เสียหาย กรณีหลอกให้ลงทุนทำแอปพลิเคชันซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลออนไลน์ และกรณีหลอกลวงเพื่อให้ได้รับค่าส่วนต่างในการซื้อรถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์ รุ่น จี 400 และขอศาลสั่งให้ผู้ต้องหาที่ 1, ที่ 3 และที่ 4 ร่วมกันคืนหรือชดใช้เงินอีก จำนวน 39,000,000 บาท แก่ผู้เสียหาย กรณีร่วมกันหลอกลวงว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009738
    .........
    Sondhi X
    รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผยสำนักงานคดีพิเศษ สั่งฟ้องทนายตั้ม ฉ้อโกง-ฟอกเงิน ทั้งสำนวนทำผิดในประเทศและนอกประเทศ รวมทั้งภรรยา พี่สาว และพวก รวมทั้งพนักงานโชว์รูมรถยนต์ รวมผู้ต้องหา 7 ราย พร้อมขอศาลสั่งให้กลุ่มผู้ต้องหาชดใช้เงินคุณอ้อย ทั้งแอปฯ หวยออนไลน์ ส่วนต่างรถเบนซ์ และสแกมเมอร์ทิพย์ รวม 111 ล้านบาท . วันนี้ (30 ม.ค.) นายกุญช์ฐาน์ ทัดทูน รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับสำนวนการสอบสวนคดีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม จากพนักงานสอบสวนกองปราบปราม จำนวน 2 สำนวน เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2568 และได้มีคำสั่งตั้งคณะทำงานร่วมกันพิจารณา บัดนี้ สำนักงานคดีพิเศษ ได้พิจารณาสำนวนดังกล่าวและมีคำสั่ง ได้แก่ สำนวนที่ 1 (สำนวนที่กระทำความผิดในราชอาณาจักร กรณีการออกแบบโรงแรม) ที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ เศรษฐีชาว อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และ พ.ต.ต.สันติชัย ศรีสวัสดิ์ สารวัตร กก.3 บก.ป. ผู้กล่าวหา กับนายษิทรา และ น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ หรือดาว พี่สาวภรรยานายษิทรา พนักงานอัยการสั่งฟ้อง นายษิทรา ผู้ต้องหาที่ 1 ฐานฉ้อโกง ร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 341 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 (18), 5, 9 วรรคสอง และมาตรา 60 และสั่งฟ้อง น.ส.ปิณฑิรา ผู้ต้องหาที่ 2 ฐานร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และ และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 (18), 5, 9 วรรคสอง และมาตรา 60 . สำนวนที่ 2 น.ส.จตุพร กับพวกรวม 4 คน ผู้กล่าวหา นายษิทรา, นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยานายษิทรา, นายนุวัฒน์ ยงยุทธ กับ น.ส.สารินี นุชนารถ สองสามีภรรยากรณีร่วมกันหลอกลวงว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ, น.ส.ปิณฑิรา พี่สาวภรรยานายษิทรา, น.ส.แก้วสวรรค์ สุขผล และ น.ส.วมนันพัทธ์ รามธีรพัฒน์ พนักงานโชว์รูมรถยนต์ รวมผู้ต้องหา 7 ราย เหตุเกิดระหว่างวันที่ 16 ก.พ. 2566 ถึงวันที่ 6 ก.พ. 2567 ในหลายท้องที่ในราชอาณาจักร เขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประเทศจีน และประเทศฝรั่งเศส เกี่ยวพันกัน สำนวนคดีนี้เป็นความผิดที่กระทำนอกราชอาณาจักรไทย ซึ่งกฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจการสอบสวนของอัยการสูงสุด โดยอัยการสูงสุดได้มอบหมายให้พนักงานอัยการสำนักงานการสอบสวน ทำการสอบสวนร่วมกับพนักงานสืบสวนสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งอัยการสูงสุด มีคำสั่งดังนี้ . 1. สั่งฟ้องนายษิทรา ผู้ต้องหาที่ 1 ฐานฉ้อโกง (กรณีหลอกให้ลงทุนทำแอปพลิเคชันซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลออนไลน์) ฉ้อโกงโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นปลอมเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธิปลอม (กรณีหลอกลวงเพื่อให้ได้รับค่าส่วนต่างในการซื้อรถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์ รุ่น จี 400) ร่วมกันฉ้อโกง, โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง, ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย, ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น, ร่วมกันใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น, รู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น ร่วมกันแจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิด (กรณีร่วมกันหลอกลวงว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ), สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน (ในความผิดมูลฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ) ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3, 83, 84, 91, 137, 173, 264, 265, 267, 268, 341, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1), พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (18), 5, 6, 9, 60,  . 2. สั่งฟ้องนางปทิตตา ผู้ต้องหาที่ 2 และ น.ส.ปิณฑิรา ผู้ต้องหาที่ 5 ฐานสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน (ในความผิดมูลฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ) ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (18), 5, 6, 9, 60   . 3. สั่งฟ้องนายนุวัฒน์ ผู้ต้องหาที่ 3 และ น.ส.สารินี ผู้ต้องหาที่ 4 ฐานร่วมกันฉ้อโกง โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง, ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย, รู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น ร่วมกันแจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิด, ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐานโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น, ร่วมกันใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น (กรณีร่วมกันหลอกลวงว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ), สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน (ในความผิดมูลฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ) ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91, 137, 173, 267, 268, 341, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1), พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (18), 5, 6, 9, 60,         . 4. สั่งฟ้อง น.ส.แก้วสวรรค์ ผู้ต้องหาที่ 6 และ น.ส.มนันพัทธ์ ผู้ต้องหาที่ 7 ฐานร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 264, 265  . 5. ขอศาลสั่งให้นายษิทรา ผู้ต้องหาที่ 1 คืนหรือชดใช้เงิน จำนวน 72,597,764.70 บาท แก่ผู้เสียหาย กรณีหลอกให้ลงทุนทำแอปพลิเคชันซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลออนไลน์ และกรณีหลอกลวงเพื่อให้ได้รับค่าส่วนต่างในการซื้อรถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์ รุ่น จี 400 และขอศาลสั่งให้ผู้ต้องหาที่ 1, ที่ 3 และที่ 4 ร่วมกันคืนหรือชดใช้เงินอีก จำนวน 39,000,000 บาท แก่ผู้เสียหาย กรณีร่วมกันหลอกลวงว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009738 ......... Sondhi X
    Like
    Love
    Yay
    41
    0 Comments 0 Shares 3404 Views 2 Reviews
  • ส่งสำนวน "ทนายตั้ม-พวก" ฉ้อโกง-ฟอกเงิน 4 คดีให้อัยการแล้ว เคาะสั่งฟ้องต่อศาลก่อนครบฝากขัง
    .
    กองปราบฯ ส่งสำนวนคดีทนายตั้มร่วมฉ้อโกง-ฟอกเงิน ให้อัยการพิเศษสั่งฟ้องต่อศาลก่อนสิ้นเดือนนี้ ครบกำหนดฝากขัง 30 ม.ค.นี้ พบมีผู้ต้องหาเพิ่มอีก 2 คน เป็นพนักงานโชว์รูมปลอมเอกสาร ส่วนคดีพินัยกรรมยังไม่พบทุจริต
    .
    วันนี้ (17 ม.ค.) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชเาภิเษก พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ นามพุทธา ผกก.สอบสวน กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พร้อมคณะพนักงานสอบสวน บก.ป. นำสำนวนการสอบสวนที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย ผู้เสียหายได้กล่าวหา นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม อายุ 44 ปี กับพวกรวม 7 คน คดีร่วมกันฉ้อโกง และฟอกเงิน มีสำนวนรวม 9,317 แผ่น พร้อมความเห็นทางสมควรสั่งฟ้องนายษิทรา, นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด อายุ 41 ปี ภรรยาทนายตั้ม, น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ พี่สาวภรรยาของทนายตั้ม, นายนุวัฒน์ ยงยุทธ หรือนุ อายุ 34 ปี คนสนิททนายตั้ม, น.ส.สารินี นุชนารถ อายุ 32 ปี แฟนสาวของนุ และพนักงานของโชว์รูมรถยนต์ 2 คน ที่ร่วมมือกับทนายตั้มในการปลอมแปลงเอกสาร รวมผู้ต้องหา 7 คน ในคดีฉ้อโกง, ร่วมกันฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน ไปมอบให้นายณัฐพงษ์ พุฒแก้ว รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ นายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานคดีพิเศษ เป็นผู้รับสำนวนการสอบสวนไว้พิจารณา
    .
    พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ กล่าวว่า สำนวนคดีทนายตั้มแบ่งเป็น 2 สำนวน คือ สำนวนที่กระทำความผิดในราชอาณาจักร และกระทำผิดนอกราชอาณาจักร โดยการกระทำผิดนอกราชอาณาจักรมี 3 เรื่อง คือ ฉ้อโกงเกี่ยวกับแพลตฟอร์มสลากออนไลน์ ความเสียหาย 71 ล้านบาทเศษ, คดีกระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ ความเสียหาย 39 ล้านบาทเศษ และสำนวนคดีซื้อรถเบนซ์ จี 400 เพื่อรับประโยชน์จากเงินส่วนต่าง จำนวน 1,530,000 บาท ส่วนการกระทำผิดในราชอาณาจักร คดีการออกแบบโรงแรม ได้ส่วนต่าง 5,500,000 บาท สำหรับการส่งสำนวน 4 เรื่อง มีผู้ต้องหาทั้งหมด 7 คนที่ร่วมกับทนายตั้มทำการฉ้อโกง ฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน
    .
    โดยวันนี้มีผู้ต้องหาที่กระทำความผิดในการปลอมเอกสารที่จะต้องเข้ามาพบกับพนักงานอัยการ โดยมีการแจ้งความเพิ่มมา 2 คน เป็นการปลอมเอกสารเกี่ยวกับการซื้อรถเบนซ์ โดยผู้ต้องหาทั้งสองกระทำผิดในส่วนของการปลอมใบเสร็จการซื้อรถเบนซ์ แต่รายละเอียดอยู่ในสำนวน ไม่ขอเปิดเผย ส่วน น.ส.ปิณฑิรา พี่สาวภรรยาของทนายตั้ม ที่ได้รับการประกันตัวอยู่ในอำนาจการควบคุมของศาล จึงไม่ได้ส่งตัววันนี้ ที่ผ่านมาทางพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนตามที่ทนายตั้มได้ร้องขอให้มีการสอบสวนในพยานหลักฐานเพิ่มเติม ถือว่าเป็นการให้ความเป็นธรรมแก่ตัวผู้ต้องหาแล้ว
    .
    ส่วนคดีพินัยกรรม พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ กล่าวว่า ยังไม่ปรากฎข้อเท็จจริงว่ามีการทุจริตเข้ามา แต่ถ้าการสืบสวนพบว่ามีพยานหลักฐานเชื่อมโยงการกระทำความผิด ก็จะสอบสวนต่อไป
    .
    ด้านนายณัฐพงษ์ กล่าวว่า หลังจากการรับมอบสำนวนแล้ว ทางพนักงานอัยการจะส่งมอบให้สำนักงานอัยการพิเศษฝ่าย 1 ไปพิจารณาเพื่อตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาให้เสร็จภายในระยะเวลาฝากขังผัดสุดท้าย วันที่ 30 ม.ค.นี้ สำหรับคดีที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักรนั้น เมื่อผลการพิจารณาเสร็จสิ้นแล้วจะต้องส่งให้ทางอัยการสูงสุดเป็นผู้พิจารณาอีกครั้งหนึ่งตามขั้นตอนของกฎหมาย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000005180
    .........
    Sondhi X
    ส่งสำนวน "ทนายตั้ม-พวก" ฉ้อโกง-ฟอกเงิน 4 คดีให้อัยการแล้ว เคาะสั่งฟ้องต่อศาลก่อนครบฝากขัง . กองปราบฯ ส่งสำนวนคดีทนายตั้มร่วมฉ้อโกง-ฟอกเงิน ให้อัยการพิเศษสั่งฟ้องต่อศาลก่อนสิ้นเดือนนี้ ครบกำหนดฝากขัง 30 ม.ค.นี้ พบมีผู้ต้องหาเพิ่มอีก 2 คน เป็นพนักงานโชว์รูมปลอมเอกสาร ส่วนคดีพินัยกรรมยังไม่พบทุจริต . วันนี้ (17 ม.ค.) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชเาภิเษก พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ นามพุทธา ผกก.สอบสวน กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พร้อมคณะพนักงานสอบสวน บก.ป. นำสำนวนการสอบสวนที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย ผู้เสียหายได้กล่าวหา นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม อายุ 44 ปี กับพวกรวม 7 คน คดีร่วมกันฉ้อโกง และฟอกเงิน มีสำนวนรวม 9,317 แผ่น พร้อมความเห็นทางสมควรสั่งฟ้องนายษิทรา, นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด อายุ 41 ปี ภรรยาทนายตั้ม, น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ พี่สาวภรรยาของทนายตั้ม, นายนุวัฒน์ ยงยุทธ หรือนุ อายุ 34 ปี คนสนิททนายตั้ม, น.ส.สารินี นุชนารถ อายุ 32 ปี แฟนสาวของนุ และพนักงานของโชว์รูมรถยนต์ 2 คน ที่ร่วมมือกับทนายตั้มในการปลอมแปลงเอกสาร รวมผู้ต้องหา 7 คน ในคดีฉ้อโกง, ร่วมกันฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน ไปมอบให้นายณัฐพงษ์ พุฒแก้ว รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ นายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานคดีพิเศษ เป็นผู้รับสำนวนการสอบสวนไว้พิจารณา . พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ กล่าวว่า สำนวนคดีทนายตั้มแบ่งเป็น 2 สำนวน คือ สำนวนที่กระทำความผิดในราชอาณาจักร และกระทำผิดนอกราชอาณาจักร โดยการกระทำผิดนอกราชอาณาจักรมี 3 เรื่อง คือ ฉ้อโกงเกี่ยวกับแพลตฟอร์มสลากออนไลน์ ความเสียหาย 71 ล้านบาทเศษ, คดีกระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ ความเสียหาย 39 ล้านบาทเศษ และสำนวนคดีซื้อรถเบนซ์ จี 400 เพื่อรับประโยชน์จากเงินส่วนต่าง จำนวน 1,530,000 บาท ส่วนการกระทำผิดในราชอาณาจักร คดีการออกแบบโรงแรม ได้ส่วนต่าง 5,500,000 บาท สำหรับการส่งสำนวน 4 เรื่อง มีผู้ต้องหาทั้งหมด 7 คนที่ร่วมกับทนายตั้มทำการฉ้อโกง ฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน . โดยวันนี้มีผู้ต้องหาที่กระทำความผิดในการปลอมเอกสารที่จะต้องเข้ามาพบกับพนักงานอัยการ โดยมีการแจ้งความเพิ่มมา 2 คน เป็นการปลอมเอกสารเกี่ยวกับการซื้อรถเบนซ์ โดยผู้ต้องหาทั้งสองกระทำผิดในส่วนของการปลอมใบเสร็จการซื้อรถเบนซ์ แต่รายละเอียดอยู่ในสำนวน ไม่ขอเปิดเผย ส่วน น.ส.ปิณฑิรา พี่สาวภรรยาของทนายตั้ม ที่ได้รับการประกันตัวอยู่ในอำนาจการควบคุมของศาล จึงไม่ได้ส่งตัววันนี้ ที่ผ่านมาทางพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนตามที่ทนายตั้มได้ร้องขอให้มีการสอบสวนในพยานหลักฐานเพิ่มเติม ถือว่าเป็นการให้ความเป็นธรรมแก่ตัวผู้ต้องหาแล้ว . ส่วนคดีพินัยกรรม พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ กล่าวว่า ยังไม่ปรากฎข้อเท็จจริงว่ามีการทุจริตเข้ามา แต่ถ้าการสืบสวนพบว่ามีพยานหลักฐานเชื่อมโยงการกระทำความผิด ก็จะสอบสวนต่อไป . ด้านนายณัฐพงษ์ กล่าวว่า หลังจากการรับมอบสำนวนแล้ว ทางพนักงานอัยการจะส่งมอบให้สำนักงานอัยการพิเศษฝ่าย 1 ไปพิจารณาเพื่อตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาให้เสร็จภายในระยะเวลาฝากขังผัดสุดท้าย วันที่ 30 ม.ค.นี้ สำหรับคดีที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักรนั้น เมื่อผลการพิจารณาเสร็จสิ้นแล้วจะต้องส่งให้ทางอัยการสูงสุดเป็นผู้พิจารณาอีกครั้งหนึ่งตามขั้นตอนของกฎหมาย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000005180 ......... Sondhi X
    Like
    Love
    13
    0 Comments 0 Shares 2654 Views 0 Reviews
  • กองปราบเรียก "สจ.จอย" สอบยิบปมสังหาร "สจ.โต้ง" เชื่อรู้ข้อมูลขัดแย้งกับ"โกทร"มากที่สุด เผยอยากให้ผู้เกี่ยวข้องรับโทษทั้งหมด ทนายปัด สจ.โต้งเอี่ยวเว็บพนัน เตรียมพิจารณาดำเนินคดีคนปล่อยข่าว

    วันนี้ ( 2 ม.ค.) ที่ กองปราบปราม น.ส.ภาภัช อัญชสาณิชมน หรือ สจ.จอย ภรรยาของนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ที่ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพักของนายสุนทร วิลาวัลย์ หรือโกทรพร้อมด้วยนายนิติศักดิ์ มีขวด ทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.2 บก.ป.เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมเป็นครั้งแรกภายหลังจากมีการโอนคดีมาอยู่ในความรับผิดชอบของกองปราบปราม นอกจากนี้ทาง สจ.จอย ยังถือเป็นพยานปากสำคัญที่รู้ถึงความสัมพันธ์ และข้อขัดแย้งระหว่างผู้ตายและนายสุนทร ผู้ต้องหามากที่สุดอีกด้วย

    นายนิติศักดิ์ กล่าวว่า ภายหลังจากกองปราบปรามรับโอนคดีมาแล้วก็น่าจะมีการตรวจสอบความเรียบร้อยของสำนวนไปบ้างแล้ว ซึ่งน่าจะพบว่ามีประเด็นไหนบ้างที่จะต้องสอบปากคำเพิ่มเติม จึงทำให้ต้องเรียกตัว สจ.จอย มาสอบปากคำเพิ่ม ส่วนประเด็นที่จะต้องสอบปากคำเพิ่มเติมนั้นตนมองว่าเป็นเพราะ สจ.จอย มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับ สจ.โต้ง เนื่องจากเป็นภรรยา ก็น่าจะรู้รายละเอียด ข้อมูลในคดีมากกว่าคนอื่น ส่วนประเด็นการสอบสวนยังไม่ได้คุยรายละเอียด แต่หลัก ๆ ก็น่าจะมาจากรูปคดีทั้งหมดว่า มีอะไรเป็นเหตุจูงใจในการฆ่าหรือรู้เห็นในส่วนของการตายของ สจ.โต้ง เรื่องใดบ้าง ก็ต้องดูว่าทางตำรวจติดใจในประเด็นไหนเพิ่มบ้าง หรือมีบุคคลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องเพิ่มหรือไม่ ก็ต้องรอให้กองปราบปรามสรุปคดีให้ชัดเจนก่อน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9680000000407

    #MGROnline #สจจอย #สจโต้ง #โกทร
    กองปราบเรียก "สจ.จอย" สอบยิบปมสังหาร "สจ.โต้ง" เชื่อรู้ข้อมูลขัดแย้งกับ"โกทร"มากที่สุด เผยอยากให้ผู้เกี่ยวข้องรับโทษทั้งหมด ทนายปัด สจ.โต้งเอี่ยวเว็บพนัน เตรียมพิจารณาดำเนินคดีคนปล่อยข่าว • วันนี้ ( 2 ม.ค.) ที่ กองปราบปราม น.ส.ภาภัช อัญชสาณิชมน หรือ สจ.จอย ภรรยาของนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ที่ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพักของนายสุนทร วิลาวัลย์ หรือโกทรพร้อมด้วยนายนิติศักดิ์ มีขวด ทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.2 บก.ป.เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมเป็นครั้งแรกภายหลังจากมีการโอนคดีมาอยู่ในความรับผิดชอบของกองปราบปราม นอกจากนี้ทาง สจ.จอย ยังถือเป็นพยานปากสำคัญที่รู้ถึงความสัมพันธ์ และข้อขัดแย้งระหว่างผู้ตายและนายสุนทร ผู้ต้องหามากที่สุดอีกด้วย • นายนิติศักดิ์ กล่าวว่า ภายหลังจากกองปราบปรามรับโอนคดีมาแล้วก็น่าจะมีการตรวจสอบความเรียบร้อยของสำนวนไปบ้างแล้ว ซึ่งน่าจะพบว่ามีประเด็นไหนบ้างที่จะต้องสอบปากคำเพิ่มเติม จึงทำให้ต้องเรียกตัว สจ.จอย มาสอบปากคำเพิ่ม ส่วนประเด็นที่จะต้องสอบปากคำเพิ่มเติมนั้นตนมองว่าเป็นเพราะ สจ.จอย มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับ สจ.โต้ง เนื่องจากเป็นภรรยา ก็น่าจะรู้รายละเอียด ข้อมูลในคดีมากกว่าคนอื่น ส่วนประเด็นการสอบสวนยังไม่ได้คุยรายละเอียด แต่หลัก ๆ ก็น่าจะมาจากรูปคดีทั้งหมดว่า มีอะไรเป็นเหตุจูงใจในการฆ่าหรือรู้เห็นในส่วนของการตายของ สจ.โต้ง เรื่องใดบ้าง ก็ต้องดูว่าทางตำรวจติดใจในประเด็นไหนเพิ่มบ้าง หรือมีบุคคลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องเพิ่มหรือไม่ ก็ต้องรอให้กองปราบปรามสรุปคดีให้ชัดเจนก่อน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000000407 • #MGROnline #สจจอย #สจโต้ง #โกทร
    0 Comments 0 Shares 618 Views 0 Reviews
  • บช.ก.ร่วมอัยการประชุมคดี "ทนายตั้ม"โกง "พี่อ้อย" นัดแรก หารืออุดช่องโหว่ปิดทางไม่ให้ผู้ต้องหาดิ้นหลุด ตั้งกรอบเวลาสรุปสำนวนภายใน 6 ม.ค.นี้ ก่อนส่งอัยการสูงสุดสั่งฟ้องคดี

    วันนี้ (23 ธ.ค.) ที่ กองปราบปราม พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. พล.ต.ต. มนตรี เทศขัน ผบก.ป.พร้อมด้วยคณะพนักงานสอบสวน ร่วมกับนายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รอง อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน ประชุมคดี นาย ษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ฉ้อโกง น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ พี่อ้อย เพื่อร่วมกันทำสำนวนคดีเป็นนัดแรก เนื่องจากมีการส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดพิจารณาและเล็งเห็นว่าพฤติการณ์ของทนายตั้ม เข้าข่ายเป็นคดีนอกราชอาณาจักร ทำให้ต้องมีคณะทำงานของอัยการร่วมสอบสวน

    นายวัชรินทร์ เปิดเผยว่า จากการตรวจดูสำนวน พิจารณาพยานหลักฐานที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้สอบสวนไปแล้วทั้งหมดพบว่ามีความละเอียดเรียบร้อยดี แต่ในความเห็นของอัยการก็ยังมีอีกหลายประเด็นที่จำเป็นต้องสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อให้สำนวนเกิดความสมบูรณ์ รัดกุม และไม่เป็นช่องโหว่ให้ผู้ต้องหานำมาเป็นข้อต่อสู้ในชั้นศาลได้ ซึ่งเบื้องต้นจะต้องมีการเรียก คุณอ้อย และ คุณน้อย เลขาคนสนิท รวมถึงพยานบางส่วนมาสอบปากคำเพิ่มเติม

    นายวัชรินทร์ กล่าวต่อว่า กระบวนการทำสำนวนทั้งหมดจะต้องแล้วเสร็จประมาณวันที่ 6 มกราคม ซึ่งเป็นช่วงขึ้นฝากขังผัดที่ 6 ของผู้ต้องหา และสำนวนจะต้องถูกส่งให้อัยการสูงสุดเป็นผู้สั่งคดีแต่เพียงผู้เดียว และสุดท้ายหากพบความผิดข้อหาอื่น ๆ ก็จะต้องมีการแจ้งข้อหากับทนายตั้มและผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติมในเรือนจำ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000122919

    #MGROnline #ทนายตั้ม #พี่อ้อย
    บช.ก.ร่วมอัยการประชุมคดี "ทนายตั้ม"โกง "พี่อ้อย" นัดแรก หารืออุดช่องโหว่ปิดทางไม่ให้ผู้ต้องหาดิ้นหลุด ตั้งกรอบเวลาสรุปสำนวนภายใน 6 ม.ค.นี้ ก่อนส่งอัยการสูงสุดสั่งฟ้องคดี • วันนี้ (23 ธ.ค.) ที่ กองปราบปราม พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. พล.ต.ต. มนตรี เทศขัน ผบก.ป.พร้อมด้วยคณะพนักงานสอบสวน ร่วมกับนายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รอง อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน ประชุมคดี นาย ษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ฉ้อโกง น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ พี่อ้อย เพื่อร่วมกันทำสำนวนคดีเป็นนัดแรก เนื่องจากมีการส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดพิจารณาและเล็งเห็นว่าพฤติการณ์ของทนายตั้ม เข้าข่ายเป็นคดีนอกราชอาณาจักร ทำให้ต้องมีคณะทำงานของอัยการร่วมสอบสวน • นายวัชรินทร์ เปิดเผยว่า จากการตรวจดูสำนวน พิจารณาพยานหลักฐานที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้สอบสวนไปแล้วทั้งหมดพบว่ามีความละเอียดเรียบร้อยดี แต่ในความเห็นของอัยการก็ยังมีอีกหลายประเด็นที่จำเป็นต้องสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อให้สำนวนเกิดความสมบูรณ์ รัดกุม และไม่เป็นช่องโหว่ให้ผู้ต้องหานำมาเป็นข้อต่อสู้ในชั้นศาลได้ ซึ่งเบื้องต้นจะต้องมีการเรียก คุณอ้อย และ คุณน้อย เลขาคนสนิท รวมถึงพยานบางส่วนมาสอบปากคำเพิ่มเติม • นายวัชรินทร์ กล่าวต่อว่า กระบวนการทำสำนวนทั้งหมดจะต้องแล้วเสร็จประมาณวันที่ 6 มกราคม ซึ่งเป็นช่วงขึ้นฝากขังผัดที่ 6 ของผู้ต้องหา และสำนวนจะต้องถูกส่งให้อัยการสูงสุดเป็นผู้สั่งคดีแต่เพียงผู้เดียว และสุดท้ายหากพบความผิดข้อหาอื่น ๆ ก็จะต้องมีการแจ้งข้อหากับทนายตั้มและผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติมในเรือนจำ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000122919 • #MGROnline #ทนายตั้ม #พี่อ้อย
    0 Comments 0 Shares 805 Views 0 Reviews
  • พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เผย “โกทร และพวก” อยู่ในเรือนจำจังหวัดนครนายก ส่วนอำนาจย้ายผู้ต้องขังอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน บก.ป. ดำเนินการ ส่วนการพักโทษไม่สามารถเกิดขึ้นได้เพราะยังไม่ใช่ผู้ต้องขังเด็ดขาด

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000122465

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เผย “โกทร และพวก” อยู่ในเรือนจำจังหวัดนครนายก ส่วนอำนาจย้ายผู้ต้องขังอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน บก.ป. ดำเนินการ ส่วนการพักโทษไม่สามารถเกิดขึ้นได้เพราะยังไม่ใช่ผู้ต้องขังเด็ดขาด อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000122465 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Haha
    4
    0 Comments 0 Shares 1318 Views 0 Reviews
  • "อัจฉริยะ" เมีย "ส.จ.โต้ง" ร้องกองปราบรับโอนสำนวนคดีคลี่ปมการตาย พร้อมขอกำลังคุ้มครองพยาน หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม เชื่อ "โกทร" อยู่เบื้องหลังบงการฆ่า

    วันนี้ (13 ธ.ค. ) ที่ กองปราบปราม น.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมนหรือ ส.จ.จอย ภรรยา นาย​ชัยเมศร์​ สิทธิสนิทพงศ์​ หรือ ส.จ.โต้งที่ถูกยิงเสียชีวิต และ บุตรชาย พร้อมด้วย นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นายนิติศักดิ์ มีขวด หรือ ทนายเอี้ยง เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สุเทพ โตอิ้ม รอง ผบก.ป. เพื่อยื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ขอให้รับโอนสำนวนคดีการเสียชีวิตของ นายชัยเมศร์ หรือ ส.จ.โต้ง ที่ถูกยิงตายในบ้านพักของ นายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี มาอยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจกองปราบปรามเนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่จ.ปราจีนบุรี

    นายนิติศักดิ์ กล่าวว่า อดีตตนเคยเป็นทนายความให้กับ ส.จ.โต้ง หลังเกิดเหตุ น.ส.ณภาภัช หรือ ส.จ.จอย ได้ติดต่อมาหา เพราะเขาอยู่ในพื้นที่ เป็นกังวลเรื่องความปลอดภัย และ เกรงว่าคดีจะโดนแทรกแซงทางจากผู้มีอิทธิพล ไม่ใช่ว่าตำรวจท้องที่ทำงานไม่ได้ ซึ่งเราก็ชื่นชมเพราะหลังเกิดเหตุสามารถจับกุมคนร้ายได้ทันควัน แต่เนื่องจากคดีนี้มีนักการเมืองท้องถิ่นเข้ามาเกี่ยวข้อง อีกทั้งยังมีความคุ้นเคยกับตำรวจท้องที่ ทาง น.ส.ณภาภัช จึงอยากให้กองปราบที่เป็นหน่วยงานจากส่วนกลางรับโอนสำนวนคดีมาดำเนินการแทน ผิดถูกว่าไปตามข้อเท็จจริง ใครที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องก็ต้องถูกดำเนินคดีให้หมด

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000119808

    #MGROnline #สจโต้ง #สจปราจีนบุรี
    "อัจฉริยะ" เมีย "ส.จ.โต้ง" ร้องกองปราบรับโอนสำนวนคดีคลี่ปมการตาย พร้อมขอกำลังคุ้มครองพยาน หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม เชื่อ "โกทร" อยู่เบื้องหลังบงการฆ่า วันนี้ (13 ธ.ค. ) ที่ กองปราบปราม น.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมนหรือ ส.จ.จอย ภรรยา นาย​ชัยเมศร์​ สิทธิสนิทพงศ์​ หรือ ส.จ.โต้งที่ถูกยิงเสียชีวิต และ บุตรชาย พร้อมด้วย นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นายนิติศักดิ์ มีขวด หรือ ทนายเอี้ยง เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สุเทพ โตอิ้ม รอง ผบก.ป. เพื่อยื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ขอให้รับโอนสำนวนคดีการเสียชีวิตของ นายชัยเมศร์ หรือ ส.จ.โต้ง ที่ถูกยิงตายในบ้านพักของ นายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี มาอยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจกองปราบปรามเนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่จ.ปราจีนบุรี นายนิติศักดิ์ กล่าวว่า อดีตตนเคยเป็นทนายความให้กับ ส.จ.โต้ง หลังเกิดเหตุ น.ส.ณภาภัช หรือ ส.จ.จอย ได้ติดต่อมาหา เพราะเขาอยู่ในพื้นที่ เป็นกังวลเรื่องความปลอดภัย และ เกรงว่าคดีจะโดนแทรกแซงทางจากผู้มีอิทธิพล ไม่ใช่ว่าตำรวจท้องที่ทำงานไม่ได้ ซึ่งเราก็ชื่นชมเพราะหลังเกิดเหตุสามารถจับกุมคนร้ายได้ทันควัน แต่เนื่องจากคดีนี้มีนักการเมืองท้องถิ่นเข้ามาเกี่ยวข้อง อีกทั้งยังมีความคุ้นเคยกับตำรวจท้องที่ ทาง น.ส.ณภาภัช จึงอยากให้กองปราบที่เป็นหน่วยงานจากส่วนกลางรับโอนสำนวนคดีมาดำเนินการแทน ผิดถูกว่าไปตามข้อเท็จจริง ใครที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องก็ต้องถูกดำเนินคดีให้หมด • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000119808 • #MGROnline #สจโต้ง #สจปราจีนบุรี
    0 Comments 0 Shares 879 Views 0 Reviews
  • บริษัทไทยยินตัน คู่กรณี "เชน ธนา"เข้าให้ปากคำกองปราบเพิ่มเติม คดีถูกโกงค่าจ้างผลิตสินค้า 79 ล้านบาท เผยเจ้าตัวถอนเงินออกในนามส่วนตัวนับ 100 ล้าน ซ้ำพยายามสู้ให้เป็นคดีแพ่ง เพื่อปัดภาระหนี้ให้เป็นของบริษัท

    วันนี้ ( 9 ธ.ค.) ที่ กองปราบปราม นายนริศ วิทยาวรากรณ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทไทยยินตัน จำกัด พร้อมทนายความ เดินทางเข้าพบ พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมในคดีที่เคยแจ้งความเอาผิด นายธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ หรือ เชน ธนา อดีตศิลปินนักร้องชื่อดัง ซีอีโอบริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด ฉ้อโกงค่าผลิตอาหารเสริม จำนวน 79 ล้านบาท

    นายนริศ กล่าวว่า วันนี้มาให้ปากคำเพิ่มเติมในบางประเด็นตามคำสั่งของอัยการ ที่อยากได้พยานหลักฐานเพิ่มเติม ส่วนประเด็นที่คู่กรณีเคยยื่นฟ้องทางบริษัทว่าผลิตสินค้าไม่ตรงตามที่ตกลง เบื้องต้นศาลชั้นต้นมีคำวินิจฉัยว่าคุณภาพสินค้าของเราเป็นไปตามที่ตกลงไว้ พร้อมให้คู่กรณีชำระค่าสินค้าเต็มตามจำนวน พร้อมดอกเบี้ย ขณะนี้ทราบว่าทางฝั่งคู่กรณีอยู่ระหว่างยื่นอุทธรณ์

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000118256

    #MGROnline #ฉ้อโกงค่าผลิตอาหารเสริม #อมาโด้ #เชนธนา
    บริษัทไทยยินตัน คู่กรณี "เชน ธนา"เข้าให้ปากคำกองปราบเพิ่มเติม คดีถูกโกงค่าจ้างผลิตสินค้า 79 ล้านบาท เผยเจ้าตัวถอนเงินออกในนามส่วนตัวนับ 100 ล้าน ซ้ำพยายามสู้ให้เป็นคดีแพ่ง เพื่อปัดภาระหนี้ให้เป็นของบริษัท • วันนี้ ( 9 ธ.ค.) ที่ กองปราบปราม นายนริศ วิทยาวรากรณ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทไทยยินตัน จำกัด พร้อมทนายความ เดินทางเข้าพบ พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมในคดีที่เคยแจ้งความเอาผิด นายธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ หรือ เชน ธนา อดีตศิลปินนักร้องชื่อดัง ซีอีโอบริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด ฉ้อโกงค่าผลิตอาหารเสริม จำนวน 79 ล้านบาท • นายนริศ กล่าวว่า วันนี้มาให้ปากคำเพิ่มเติมในบางประเด็นตามคำสั่งของอัยการ ที่อยากได้พยานหลักฐานเพิ่มเติม ส่วนประเด็นที่คู่กรณีเคยยื่นฟ้องทางบริษัทว่าผลิตสินค้าไม่ตรงตามที่ตกลง เบื้องต้นศาลชั้นต้นมีคำวินิจฉัยว่าคุณภาพสินค้าของเราเป็นไปตามที่ตกลงไว้ พร้อมให้คู่กรณีชำระค่าสินค้าเต็มตามจำนวน พร้อมดอกเบี้ย ขณะนี้ทราบว่าทางฝั่งคู่กรณีอยู่ระหว่างยื่นอุทธรณ์ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000118256 • #MGROnline #ฉ้อโกงค่าผลิตอาหารเสริม #อมาโด้ #เชนธนา
    0 Comments 0 Shares 671 Views 0 Reviews
  • รอง ผบก.ป.เผยไม่หนักใจ แม้ "ฟิล์ม รัฐภูมิ" ยืนกรานปฏิเสธ มั่นใจพยานหลักฐานครบถ้วน เตรียมบุกเรือนจำ แจ้งข้อหา "เจ๊พัช" ในข้อหาเดียวกัน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000117790

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    รอง ผบก.ป.เผยไม่หนักใจ แม้ "ฟิล์ม รัฐภูมิ" ยืนกรานปฏิเสธ มั่นใจพยานหลักฐานครบถ้วน เตรียมบุกเรือนจำ แจ้งข้อหา "เจ๊พัช" ในข้อหาเดียวกัน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000117790 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    12
    0 Comments 0 Shares 1372 Views 0 Reviews
  • ผบก.ป.เผย "ฟิล์ม รัฐภูมิ" ยังไม่ติดต่อเข้ารับทราบข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์ บอสดิไอคอน ตามหมายเรียก 6 ธ.ค.นี้ ยันไม่ประมาทส่งนักสืบเฝ้าระวังป้องกันหนีออกนอกประเทศ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000116371

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ผบก.ป.เผย "ฟิล์ม รัฐภูมิ" ยังไม่ติดต่อเข้ารับทราบข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์ บอสดิไอคอน ตามหมายเรียก 6 ธ.ค.นี้ ยันไม่ประมาทส่งนักสืบเฝ้าระวังป้องกันหนีออกนอกประเทศ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000116371 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Haha
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 1522 Views 0 Reviews
  • ผบก.ป. เผยแจ้งเพิ่ม 7 ข้อหา "ทนายตั้ม" โกง "พี่อ้อย" 39 ล้าน ส่วน "นุ-แซน" ก็ไม่รอด ยันแจ้งรายงานทรัพย์สินบ้าน-ที่ดิน 8 รายการรถหรู 4 คัน ไปยัง ป.ป.ง. แล้ว
    .
    วันนี้ ( 3 ธ.ค.) ที่ กองปราบปราม พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. เปิดเผยความคืบหน้าคดี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้มว่า เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมาทางพนักงานสอบสวนได้เข้าไปแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในประเด็นเรื่องเงิน 39 ล้านบาทของ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือพี่อ้อย กับทนายตั้มในเรือนจำเป็นที่เรียบร้อย โดยมีการแจ้งข้อหาทั้งหมดรวมแล้ว 7 ข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ, ร่วมกันแจ้งความเท็จ , ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบฟอกเงิน โดยทั้งหมดมีความเกี่ยวข้องกับกรณีเงิน 71 ล้านบาท, ส่วนต่างค่าออกแบบ 5.5 ล้านบาท, ค่ารถเบนซ์ 1.5 ล้านบาท และเงิน 39 ล้านบาท ซึ่งขณะที่ไปแจ้งข้อหาเพิ่มเติมนั้นทางทนายตั้มให้การปฏิเสธ และมีการกล่าวอ้างว่ามีพยานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งส่วนนี้ก็อยู่ในขั้นตอนที่ทางตำรวจจะต้องดำเนินการต่อ นอกจากนี้ก็เตรียมเข้าแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับ นายนุวัฒน์ ยงยุทธ หรือนุ และน.ส.สารินี นุชนารถ หรือสา คนสนิททนายตั้ม อีกด้วย
    .
    ผบก.ป.กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้อายัดเงินในบัญชีของทนายตั้ม 28 ล้านบาท โดยเป็นเงินที่เชื่อมโยงถึงเงิน 71 ล้านบาทจากพี่อ้อย รวมถึงมีการยึดรถหรูของทนายตั้มและนายนุวัฒน์ และยึดรถเบนซ์ของ น.ส.สารินี นอกจากนี้ยังมีการแจ้งรายงานทรัพย์สินเป็นรถ 4 คันและบ้านกับที่ดินรวม 8 รายการ ของทนายตั้มไปยัง ป.ป.ง. แล้ว
    .
    เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุใดคดีนี้ถึงเป็นคดีนอกราชอาณาจักร พล.ต.ต.มนตรี กล่าวว่า เพราะมีพฤติการณ์กระทำผิดส่วนหนึ่งส่วนใดที่อยู่นอกราชอาณาจักร ในเรื่องการหลอกลวงหรือการส่งเอกสารต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร โดยบช.ก.ได้มีการแจ้งกับทางอัยการสูงสุดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งในการสืบสวนสอบสวน ทางตำรวจทำทุกมิติ โดยตอนนี้มีความคืบหน้ากว่า 80 เปอร์เซ็นต์ และอยู่ในระหว่างเก็บรายละเอียดรวบรวมข้อมูลทางคดี คาดว่าใช้เวลาอีกไม่นาน และอาจจะมีการดำเนินคดีกับคนอื่นเพิ่มเติม แต่ในส่วนเรื่องพินัยกรรมของพี่อ้อย ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษในประเด็นนี้ และสำหรับคดีนี้จะเร่งรัดการสรุปสำนวนคดีให้ทันในฝาก 3 แต่หากไม่ทันก็จะอยู่ในประมาณฝาก 4
    ..............
    Sondhi X
    ผบก.ป. เผยแจ้งเพิ่ม 7 ข้อหา "ทนายตั้ม" โกง "พี่อ้อย" 39 ล้าน ส่วน "นุ-แซน" ก็ไม่รอด ยันแจ้งรายงานทรัพย์สินบ้าน-ที่ดิน 8 รายการรถหรู 4 คัน ไปยัง ป.ป.ง. แล้ว . วันนี้ ( 3 ธ.ค.) ที่ กองปราบปราม พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. เปิดเผยความคืบหน้าคดี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้มว่า เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมาทางพนักงานสอบสวนได้เข้าไปแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในประเด็นเรื่องเงิน 39 ล้านบาทของ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือพี่อ้อย กับทนายตั้มในเรือนจำเป็นที่เรียบร้อย โดยมีการแจ้งข้อหาทั้งหมดรวมแล้ว 7 ข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ, ร่วมกันแจ้งความเท็จ , ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบฟอกเงิน โดยทั้งหมดมีความเกี่ยวข้องกับกรณีเงิน 71 ล้านบาท, ส่วนต่างค่าออกแบบ 5.5 ล้านบาท, ค่ารถเบนซ์ 1.5 ล้านบาท และเงิน 39 ล้านบาท ซึ่งขณะที่ไปแจ้งข้อหาเพิ่มเติมนั้นทางทนายตั้มให้การปฏิเสธ และมีการกล่าวอ้างว่ามีพยานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งส่วนนี้ก็อยู่ในขั้นตอนที่ทางตำรวจจะต้องดำเนินการต่อ นอกจากนี้ก็เตรียมเข้าแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับ นายนุวัฒน์ ยงยุทธ หรือนุ และน.ส.สารินี นุชนารถ หรือสา คนสนิททนายตั้ม อีกด้วย . ผบก.ป.กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้อายัดเงินในบัญชีของทนายตั้ม 28 ล้านบาท โดยเป็นเงินที่เชื่อมโยงถึงเงิน 71 ล้านบาทจากพี่อ้อย รวมถึงมีการยึดรถหรูของทนายตั้มและนายนุวัฒน์ และยึดรถเบนซ์ของ น.ส.สารินี นอกจากนี้ยังมีการแจ้งรายงานทรัพย์สินเป็นรถ 4 คันและบ้านกับที่ดินรวม 8 รายการ ของทนายตั้มไปยัง ป.ป.ง. แล้ว . เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุใดคดีนี้ถึงเป็นคดีนอกราชอาณาจักร พล.ต.ต.มนตรี กล่าวว่า เพราะมีพฤติการณ์กระทำผิดส่วนหนึ่งส่วนใดที่อยู่นอกราชอาณาจักร ในเรื่องการหลอกลวงหรือการส่งเอกสารต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร โดยบช.ก.ได้มีการแจ้งกับทางอัยการสูงสุดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งในการสืบสวนสอบสวน ทางตำรวจทำทุกมิติ โดยตอนนี้มีความคืบหน้ากว่า 80 เปอร์เซ็นต์ และอยู่ในระหว่างเก็บรายละเอียดรวบรวมข้อมูลทางคดี คาดว่าใช้เวลาอีกไม่นาน และอาจจะมีการดำเนินคดีกับคนอื่นเพิ่มเติม แต่ในส่วนเรื่องพินัยกรรมของพี่อ้อย ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษในประเด็นนี้ และสำหรับคดีนี้จะเร่งรัดการสรุปสำนวนคดีให้ทันในฝาก 3 แต่หากไม่ทันก็จะอยู่ในประมาณฝาก 4 .............. Sondhi X
    Like
    Wow
    Haha
    11
    0 Comments 0 Shares 1650 Views 0 Reviews
  • ผบก.ป. เผยแจ้งเพิ่ม 7 ข้อหา "ทนายตั้ม" โกง "พี่อ้อย" 39 ล้าน ส่วน "นุ-แซน" ก็ไม่รอด ยันแจ้งรายงานทรัพย์สินบ้าน-ที่ดิน 8 รายการรถหรู 4 คัน ไปยัง ป.ป.ง. แล้ว

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000116313

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ผบก.ป. เผยแจ้งเพิ่ม 7 ข้อหา "ทนายตั้ม" โกง "พี่อ้อย" 39 ล้าน ส่วน "นุ-แซน" ก็ไม่รอด ยันแจ้งรายงานทรัพย์สินบ้าน-ที่ดิน 8 รายการรถหรู 4 คัน ไปยัง ป.ป.ง. แล้ว อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000116313 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    8
    0 Comments 0 Shares 1320 Views 0 Reviews
  • เมีย "ทนายตั้ม" นอนคุกต่อ! ไม่ได้ประกัน ศาลยกเหตุผล การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ด้าน "ทนายอาคม" เผย จะไม่ยื่นประกันอีก จนกว่าการสอบสวนมีความคืบหน้า
    .
    เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (29 พ.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ภายหลังศาลนัดไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ที่นายอาคม คงสวัสดิ์ ทนายความของนางปทิตตา หรือ"เดือน" เบี้ยบังเกิด อายุ 42 ปี ภรรยาของ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกงและฟอกเงิน ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ 500,000 บาท พร้อมขอเพิ่มหลักทรัพย์เป็น 1 ล้านบาท ขอปล่อยชั่วคราว นางปทิตตา ไปเมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยศาลได้เบิกตัวนางปทิตตาจากทัณฑสถานหญิงกลาง มาเบิกความเป็นพยาน 1 ปาก ในขณะที่พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป.ผู้คัดค้าน เข้าเบิกความ 1 ปาก ต่อมาเวลา 14.30 น. ศาลมีคำสั่งยกคำร้องขอปล่อยชั่วคราวของนางปทิตตา เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น
    .
    นายอาคม ทนายความของนางปทิตตา เมียทนายตั้ม ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ศาลมองว่าการสืบสวนยังไม่เสร็จสิ้น จึงได้ยกคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ซึ่งศาลไม่ได้ระบุประเด็นที่ยกคำร้องขอปล่อยชั่วคราว แต่จะต้องมีการสืบสวนขยายผลในเรื่องของเงินจาก 39 ล้านที่นำไปใช้เกี่ยวกับบ้าน จึงควรจะสืบสวนในส่วนนี้ให้เสร็จสิ้นเสียก่อน อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ตนเองจะยังไม่ยื่นประกันตัวนางปทิตตา หรือ "เดือน" ภรรยาทนายตั้ม อีก จะรอจนกว่าเวลาที่เหมาะสม เพราะหากยื่นประกันตัวบ่อย จะกลายเป็นช้ำ ส่วนประเด็นเกี่ยวกับเรื่องที่พนักงานสอบสวนยื่นคัดค้านการประกันตัวเพราะมีกรณีไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานเรื่องของการลบแชทพูดคุยกับอดีตคนขับรถ ทนายความยืนยันว่า นางปทิตตาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง เป็นการกระทำของนายษิทราเพียงคนเดียว
    .
    นายอาคม กล่าวต่อว่า ในส่วนความผิดของนางปทิตตา หรือ เดือน สามารถฝากขังได้เต็มที่ 7 ครั้ง 84 วัน ส่วนจะมีการยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในการฝากขังครั้งที่ 3 อีกหรือไม่นั้น ตนอาจจะยังไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว เพราะแม้จะสามารถมายื่นประกันได้ทุกวัน แต่ตนเห็นคำสั่งศาลออกมาในรูปแบบนี้ จึงอยากให้การสอบสวนพยานหลักฐานมีความคืบหน้าไปมากกว่าเดิมเสียก่อน
    .
    นายอาคม กล่าวอีกว่า ตนคงไม่เข้าไปคุยกับทนายตั้มอีกเพราะน่าจะคุยกันครบแล้ว งานที่เหลือคือต้องกลับไปคุยกับญาติว่าจะอุทธรณ์คำสั่งศาลหรือไม่
    .
    เมื่อถามว่า การทำงานของตนจะสิ้นสุดในส่วนไหน หรือจนกว่านางปทิตตาจะได้ประกันตัว
    .
    นายอาคม กล่าวว่า การทำงานของตนจะสิ้นสุดภายในชั้นสอบสวนแน่นอนจะไม่เกินไปกว่านี้อีก ส่วนประเด็นที่จะทำหน้าที่จนกว่านางปทิตตาจะได้รับการประกันตัวหรือไม่นั้น ตรงส่วนนี้ตอบยาก เพราะถ้าฝากขังครบ 84 วัน นางปทิตตาอาจจะยังไม่ได้รับการประกันตัวก็ได้ เพราะตนทำหน้าที่แค่ชั้นสอบสวนเพียงอย่างเดียว
    ..............
    Sondhi X
    เมีย "ทนายตั้ม" นอนคุกต่อ! ไม่ได้ประกัน ศาลยกเหตุผล การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ด้าน "ทนายอาคม" เผย จะไม่ยื่นประกันอีก จนกว่าการสอบสวนมีความคืบหน้า . เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (29 พ.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ภายหลังศาลนัดไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ที่นายอาคม คงสวัสดิ์ ทนายความของนางปทิตตา หรือ"เดือน" เบี้ยบังเกิด อายุ 42 ปี ภรรยาของ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกงและฟอกเงิน ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ 500,000 บาท พร้อมขอเพิ่มหลักทรัพย์เป็น 1 ล้านบาท ขอปล่อยชั่วคราว นางปทิตตา ไปเมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยศาลได้เบิกตัวนางปทิตตาจากทัณฑสถานหญิงกลาง มาเบิกความเป็นพยาน 1 ปาก ในขณะที่พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป.ผู้คัดค้าน เข้าเบิกความ 1 ปาก ต่อมาเวลา 14.30 น. ศาลมีคำสั่งยกคำร้องขอปล่อยชั่วคราวของนางปทิตตา เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น . นายอาคม ทนายความของนางปทิตตา เมียทนายตั้ม ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ศาลมองว่าการสืบสวนยังไม่เสร็จสิ้น จึงได้ยกคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ซึ่งศาลไม่ได้ระบุประเด็นที่ยกคำร้องขอปล่อยชั่วคราว แต่จะต้องมีการสืบสวนขยายผลในเรื่องของเงินจาก 39 ล้านที่นำไปใช้เกี่ยวกับบ้าน จึงควรจะสืบสวนในส่วนนี้ให้เสร็จสิ้นเสียก่อน อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ตนเองจะยังไม่ยื่นประกันตัวนางปทิตตา หรือ "เดือน" ภรรยาทนายตั้ม อีก จะรอจนกว่าเวลาที่เหมาะสม เพราะหากยื่นประกันตัวบ่อย จะกลายเป็นช้ำ ส่วนประเด็นเกี่ยวกับเรื่องที่พนักงานสอบสวนยื่นคัดค้านการประกันตัวเพราะมีกรณีไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานเรื่องของการลบแชทพูดคุยกับอดีตคนขับรถ ทนายความยืนยันว่า นางปทิตตาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง เป็นการกระทำของนายษิทราเพียงคนเดียว . นายอาคม กล่าวต่อว่า ในส่วนความผิดของนางปทิตตา หรือ เดือน สามารถฝากขังได้เต็มที่ 7 ครั้ง 84 วัน ส่วนจะมีการยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในการฝากขังครั้งที่ 3 อีกหรือไม่นั้น ตนอาจจะยังไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว เพราะแม้จะสามารถมายื่นประกันได้ทุกวัน แต่ตนเห็นคำสั่งศาลออกมาในรูปแบบนี้ จึงอยากให้การสอบสวนพยานหลักฐานมีความคืบหน้าไปมากกว่าเดิมเสียก่อน . นายอาคม กล่าวอีกว่า ตนคงไม่เข้าไปคุยกับทนายตั้มอีกเพราะน่าจะคุยกันครบแล้ว งานที่เหลือคือต้องกลับไปคุยกับญาติว่าจะอุทธรณ์คำสั่งศาลหรือไม่ . เมื่อถามว่า การทำงานของตนจะสิ้นสุดในส่วนไหน หรือจนกว่านางปทิตตาจะได้ประกันตัว . นายอาคม กล่าวว่า การทำงานของตนจะสิ้นสุดภายในชั้นสอบสวนแน่นอนจะไม่เกินไปกว่านี้อีก ส่วนประเด็นที่จะทำหน้าที่จนกว่านางปทิตตาจะได้รับการประกันตัวหรือไม่นั้น ตรงส่วนนี้ตอบยาก เพราะถ้าฝากขังครบ 84 วัน นางปทิตตาอาจจะยังไม่ได้รับการประกันตัวก็ได้ เพราะตนทำหน้าที่แค่ชั้นสอบสวนเพียงอย่างเดียว .............. Sondhi X
    Like
    13
    0 Comments 0 Shares 1422 Views 0 Reviews
  • รอง ผบก.ป.เผยกำลังรวบรวมหลักฐานพิจารณาดำเนินคดี"แตม" น้อง "ทนายตั้ม" เอี่ยวโกงเบนซ์ "พี่อ้อย" ส่วน "เล็ก" คนขับรถให้การเป็นประโยชน์ เชื่อทำตามคำสั่งเจ้านาย

    วันนี้ (28 พ.ย.) ที่ กองปราบปราม พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. กล่าวถึงความคืบหน้าคดี ฉ้อโกงเงิน 39 ล้านบาทของน.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ พี่อ้อยว่า ในส่วนของนายเล็ก คนขับรถของ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ที่พบว่าขับรถไปขนเงิน 39 ล้าน เบื้องต้นนายเล็กให้การครบถ้วนทุกอย่าง ซึ่งตรงกับพยานหลักฐานที่ตำรวจมี จึงเชื่อได้ว่านายเล็กเป็นเพียงลูกน้อง ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่จะทำตามคำสั่งเจ้านาย แต่หากพบว่านายเล็กปกปิดข้อมูล อาจถูกแจ้งข้อกล่างหาเดียวกับ น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ หรือดาว พี่สาวของภรรยานายษิทรา แต่ขณะนี้นายเล็กยังไม่ได้เข้าข่าย

    พ.ต.อ.เอนก กล่าวอีกว่า ที่ น.ส.ปิณฑิรา ถูกแจ้งข้อกล่าวหา เพราะให้การปกปิดในหลายประเด็น ที่มีส่วนได้ส่วนเสียในประเด็นนี้ และมีพฤติการณ์ที่ไม่เหมือนนายเล็ก จึงถูกแจ้งข้อกล่าวหาไป ขณะที่ "แตม" น้องของทนายตั้มที่ถูกระบุว่า มีส่วนกับหลักฐานปลอมในเรื่องรถเบนซ์ของ พี่อ้อย อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มากน้อยเพียงใดหากพบข้อมูลว่ามีส่วนกระทำความผิดก็อาจจะพิจารณาดำเนินคดีด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ภายในสัปดาห์หน้าตนจะลงมาดูภาพรวมของคดีดังกล่าว และอาจจะเรียกตัวนายเล็กมาสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนพิจารณาว่าจะแจ้งข้อกล่าวหาใครเพิ่มเติมหรือไม่ต่อไป

    #MGROnline #แตม #ทนายตั้ม #โกงเบนซ์ #พี่อ้อย

    รอง ผบก.ป.เผยกำลังรวบรวมหลักฐานพิจารณาดำเนินคดี"แตม" น้อง "ทนายตั้ม" เอี่ยวโกงเบนซ์ "พี่อ้อย" ส่วน "เล็ก" คนขับรถให้การเป็นประโยชน์ เชื่อทำตามคำสั่งเจ้านาย • วันนี้ (28 พ.ย.) ที่ กองปราบปราม พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. กล่าวถึงความคืบหน้าคดี ฉ้อโกงเงิน 39 ล้านบาทของน.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ พี่อ้อยว่า ในส่วนของนายเล็ก คนขับรถของ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ที่พบว่าขับรถไปขนเงิน 39 ล้าน เบื้องต้นนายเล็กให้การครบถ้วนทุกอย่าง ซึ่งตรงกับพยานหลักฐานที่ตำรวจมี จึงเชื่อได้ว่านายเล็กเป็นเพียงลูกน้อง ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่จะทำตามคำสั่งเจ้านาย แต่หากพบว่านายเล็กปกปิดข้อมูล อาจถูกแจ้งข้อกล่างหาเดียวกับ น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ หรือดาว พี่สาวของภรรยานายษิทรา แต่ขณะนี้นายเล็กยังไม่ได้เข้าข่าย • พ.ต.อ.เอนก กล่าวอีกว่า ที่ น.ส.ปิณฑิรา ถูกแจ้งข้อกล่าวหา เพราะให้การปกปิดในหลายประเด็น ที่มีส่วนได้ส่วนเสียในประเด็นนี้ และมีพฤติการณ์ที่ไม่เหมือนนายเล็ก จึงถูกแจ้งข้อกล่าวหาไป ขณะที่ "แตม" น้องของทนายตั้มที่ถูกระบุว่า มีส่วนกับหลักฐานปลอมในเรื่องรถเบนซ์ของ พี่อ้อย อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มากน้อยเพียงใดหากพบข้อมูลว่ามีส่วนกระทำความผิดก็อาจจะพิจารณาดำเนินคดีด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ภายในสัปดาห์หน้าตนจะลงมาดูภาพรวมของคดีดังกล่าว และอาจจะเรียกตัวนายเล็กมาสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนพิจารณาว่าจะแจ้งข้อกล่าวหาใครเพิ่มเติมหรือไม่ต่อไป • #MGROnline #แตม #ทนายตั้ม #โกงเบนซ์ #พี่อ้อย
    0 Comments 0 Shares 890 Views 0 Reviews
  • "พี่อ้อย" โร่ให้ให้ปากคำกองปราบคดีถูก "ทนายตั้ม"โกงเพิ่มเติม ตำรวจเตรียมสอบประเด็นพินัยกรรมสอดไส้ ด้าน รอง ผบช.ก.เผยสอบครั้งนี้เป็นขั้นตอนสำคัญในการรวบรวมข้อมูลเพื่อความชัดเจนของคดี

    วันนี้ ( 20 พ.ย.) ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. กล่าวว่า วันนี้ได้เชิญ น.ส. จตุพร อุบลเลิศ หรือ "พี่อ้อย" มาให้ปากคำเพิ่มเติมกรณีเงิน 71 ล้านบาท ที่ถูก นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ฉ้อโกง โดยเน้นตรวจสอบคำให้การก่อนหน้านี้ว่ามีส่วนใดขาดตกบกพร่อง และเพื่อให้สำนวนการสอบสวนครบถ้วนสมบูรณ์และสำหรับประเด็นเรื่องพินัยกรรมที่ทนายตั้มเป็นผู้จัดการมรดก ในการสืบสวนที่ผ่านมาไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ในวันนี้อาจมีการสอบถามเพิ่มเติมว่าพินัยกรรมเกี่ยวข้องกับคดีในส่วนใดหรือไม่ ทั้งนี้ การเชิญให้ปากคำวันนี้มีเพียงพี่อ้อยที่ตำรวจนัดหมายมาเพียงคนเดียวเท่านั้น การให้ปากคำครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญในการรวบรวมข้อมูลเพื่อความชัดเจนในคดีที่อยู่ระหว่างดำเนินการ

    ต่อมาเมื่อเวลา 10.15 น. พี่อ้อย พร้อมผู้ติดตาม อีก 3 คน เดินทางมาถึงยัง บก.ป. โดยเข้าทางด้านหลังของอาคาร ผ่านลานจอดรถชั้น 2 ก่อนเข้าสู่ห้องพนักงานสอบสวน ซึ่งตัวของพี่อ้อยปรากฏตัวในชุดแจ็คเก็ตสีขาวและหมวกสีชมพู โดยผู้ติดตาม 3 คน ยังถือถุงอาหารจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าเตรียมไว้สำหรับการรับประทานระหว่างการสอบปากคำ เนื่องจากกระบวนการอาจใช้เวลานานหลายชั่วโมง

    #MGROnline #พี่อ้อย #ทนายตั้ม #พินัยกรรม
    "พี่อ้อย" โร่ให้ให้ปากคำกองปราบคดีถูก "ทนายตั้ม"โกงเพิ่มเติม ตำรวจเตรียมสอบประเด็นพินัยกรรมสอดไส้ ด้าน รอง ผบช.ก.เผยสอบครั้งนี้เป็นขั้นตอนสำคัญในการรวบรวมข้อมูลเพื่อความชัดเจนของคดี • วันนี้ ( 20 พ.ย.) ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. กล่าวว่า วันนี้ได้เชิญ น.ส. จตุพร อุบลเลิศ หรือ "พี่อ้อย" มาให้ปากคำเพิ่มเติมกรณีเงิน 71 ล้านบาท ที่ถูก นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ฉ้อโกง โดยเน้นตรวจสอบคำให้การก่อนหน้านี้ว่ามีส่วนใดขาดตกบกพร่อง และเพื่อให้สำนวนการสอบสวนครบถ้วนสมบูรณ์และสำหรับประเด็นเรื่องพินัยกรรมที่ทนายตั้มเป็นผู้จัดการมรดก ในการสืบสวนที่ผ่านมาไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ในวันนี้อาจมีการสอบถามเพิ่มเติมว่าพินัยกรรมเกี่ยวข้องกับคดีในส่วนใดหรือไม่ ทั้งนี้ การเชิญให้ปากคำวันนี้มีเพียงพี่อ้อยที่ตำรวจนัดหมายมาเพียงคนเดียวเท่านั้น การให้ปากคำครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญในการรวบรวมข้อมูลเพื่อความชัดเจนในคดีที่อยู่ระหว่างดำเนินการ • ต่อมาเมื่อเวลา 10.15 น. พี่อ้อย พร้อมผู้ติดตาม อีก 3 คน เดินทางมาถึงยัง บก.ป. โดยเข้าทางด้านหลังของอาคาร ผ่านลานจอดรถชั้น 2 ก่อนเข้าสู่ห้องพนักงานสอบสวน ซึ่งตัวของพี่อ้อยปรากฏตัวในชุดแจ็คเก็ตสีขาวและหมวกสีชมพู โดยผู้ติดตาม 3 คน ยังถือถุงอาหารจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าเตรียมไว้สำหรับการรับประทานระหว่างการสอบปากคำ เนื่องจากกระบวนการอาจใช้เวลานานหลายชั่วโมง • #MGROnline #พี่อ้อย #ทนายตั้ม #พินัยกรรม
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 713 Views 0 Reviews
  • ตำรวจกองปราบนัดหมาย"เชน ธนา-ภรรยา"ส่งสำนวนคดีฉ้อโกง 79 ล้านบาท ให้พนักงานอัยการ 26 พ.ย. นี้

    วันนี้ (19 พ.ย. ) ที่กองปราบปรามพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีบริษัทรับผลิตอาหารเสริมแห่งหนึ่ง แจ้งความดำเนินคดีกับ นายธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ หรือเชน ธนาอดีตนักแสดงและนักร้องบอยแบนด์วง Nice 2 Meet U และ นางกณิการ์ ภูศรี ภรรยา ในความผิดฐานฉ้อโกงเงินค่าผลิตจำนวน 79 ล้านบาทว่า เมื่อวานที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อหา กับ นายธนาตรัยฉัตร กับ นางกณิการ์ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้ อยู่ระหว่างรอผลตรวจลายพิมพ์นิ้วมือกองทะเบียนประวัติอาชญากร จากนั้นจะนัดให้ผู้ต้องหาทั้งสองมาพบอีกครั้งในวันที่ 26 พ.ย. เพื่อนำตัวพร้อมสำนวนส่งอัยการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป เนื่องจากก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานบุคคลต่าง ๆ ไว้ครบถ้วนหมดแล้ว

    #MGROnline #เชนธนา
    ตำรวจกองปราบนัดหมาย"เชน ธนา-ภรรยา"ส่งสำนวนคดีฉ้อโกง 79 ล้านบาท ให้พนักงานอัยการ 26 พ.ย. นี้ • วันนี้ (19 พ.ย. ) ที่กองปราบปรามพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีบริษัทรับผลิตอาหารเสริมแห่งหนึ่ง แจ้งความดำเนินคดีกับ นายธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ หรือเชน ธนาอดีตนักแสดงและนักร้องบอยแบนด์วง Nice 2 Meet U และ นางกณิการ์ ภูศรี ภรรยา ในความผิดฐานฉ้อโกงเงินค่าผลิตจำนวน 79 ล้านบาทว่า เมื่อวานที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อหา กับ นายธนาตรัยฉัตร กับ นางกณิการ์ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้ อยู่ระหว่างรอผลตรวจลายพิมพ์นิ้วมือกองทะเบียนประวัติอาชญากร จากนั้นจะนัดให้ผู้ต้องหาทั้งสองมาพบอีกครั้งในวันที่ 26 พ.ย. เพื่อนำตัวพร้อมสำนวนส่งอัยการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป เนื่องจากก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานบุคคลต่าง ๆ ไว้ครบถ้วนหมดแล้ว • #MGROnline #เชนธนา
    0 Comments 0 Shares 698 Views 0 Reviews
  • MGR Online - ทนายวิฑูรย์ เผยมาเข้าเยี่ยม "บอสพอล" ในเรือนจำฯ เซ็นมอบอำนาจดำเนินคดี "เจ๊พัช-ฟิล์ม" ข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์ และพยายามฉ้อโกง เรียกรับเงิน 20 ล.

    วันนี้ (19 พ.ย.) เวลา 11.00 น. บริเวณด้านหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ "บอสพอล" เปิดเผยก่อนเข้าเยี่ยมลูกความ ว่า วันนี้มีทีมทนายได้นำหนังสือมอบอำนาจเข้าไปให้กับบอสพอลเซ็นเอกสารมอบอำนาจในการดำเนินคดีกับ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือ "เจ๊พัช" และ นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ "ฟิล์ม" หลังปรากฏคลิปเสียงจ่ายเงิน 20 ล้านบาท ออกรายการดัง หากเอกสารเสร็จสิ้นทันวันนี้จะเดินทางไปกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ทันที

    นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ส่วนข้อหากำลังพิจารณา คือ พยายามกรรโชกทรัพย์ และพยายามฉ้อโกง แต่ทีมทนายมีความเห็นว่าน่าจะเข้าข่ายข้อหาพยายามฉ้อโกงมากกว่า แต่ทางตำรวจชี้แจงว่าข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์ เพราะมีหลักฐานการข่มขู่ว่าถ้าไม่จ่ายเงินจะมีปัญหา และอ้างว่าหนุ่ม กรรชัย จะเขียนสคริปต์โจมตีบริษัทฯ ตามในไฟล์คลิปเสียง โดยทาง บอสปัน พูดคุยกับ น.ส.กฤษอนงค์ ในนาม บริษัท ดิไอคอน ที่เป็นผู้เสียหาย นอกจากนี้ ในส่วนคดีหมิ่นประมาทของ “หนุ่ม กรรชัย” เป็นอีกคดีหนึ่ง แต่ใช้พยานชุดเดียวกัน ทั้งนี้ จะออกหมายเรียกหรือหมายจับ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

    นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า กรณี นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ทีมทนายความเข้าแจ้งความพร้อมให้ปากคำครบแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสอนว่าจะออกหมายเรียกหรือหมายจับ มีการแจ้งข้อหา หมิ่นประมาณ , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และร่วมกันให้การเท็จ ส่วนประเด็น น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ส่งทนายแจ้งความ น.ส.กฤษอนงค์ หลังแอบอ้างชื่อก็แยกเป็นอีกเรื่อง ช่วงเกิดระหว่าง มิ.ย.-ก.ค. คนละเหตุการณ์กับรายการข่าวดัง

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000111215

    #MGROnline #กฤษอนงค์ #ฟิล์มรัฐภูมิ #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup #บอสพอล
    MGR Online - ทนายวิฑูรย์ เผยมาเข้าเยี่ยม "บอสพอล" ในเรือนจำฯ เซ็นมอบอำนาจดำเนินคดี "เจ๊พัช-ฟิล์ม" ข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์ และพยายามฉ้อโกง เรียกรับเงิน 20 ล. • วันนี้ (19 พ.ย.) เวลา 11.00 น. บริเวณด้านหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ "บอสพอล" เปิดเผยก่อนเข้าเยี่ยมลูกความ ว่า วันนี้มีทีมทนายได้นำหนังสือมอบอำนาจเข้าไปให้กับบอสพอลเซ็นเอกสารมอบอำนาจในการดำเนินคดีกับ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือ "เจ๊พัช" และ นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ "ฟิล์ม" หลังปรากฏคลิปเสียงจ่ายเงิน 20 ล้านบาท ออกรายการดัง หากเอกสารเสร็จสิ้นทันวันนี้จะเดินทางไปกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ทันที • นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ส่วนข้อหากำลังพิจารณา คือ พยายามกรรโชกทรัพย์ และพยายามฉ้อโกง แต่ทีมทนายมีความเห็นว่าน่าจะเข้าข่ายข้อหาพยายามฉ้อโกงมากกว่า แต่ทางตำรวจชี้แจงว่าข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์ เพราะมีหลักฐานการข่มขู่ว่าถ้าไม่จ่ายเงินจะมีปัญหา และอ้างว่าหนุ่ม กรรชัย จะเขียนสคริปต์โจมตีบริษัทฯ ตามในไฟล์คลิปเสียง โดยทาง บอสปัน พูดคุยกับ น.ส.กฤษอนงค์ ในนาม บริษัท ดิไอคอน ที่เป็นผู้เสียหาย นอกจากนี้ ในส่วนคดีหมิ่นประมาทของ “หนุ่ม กรรชัย” เป็นอีกคดีหนึ่ง แต่ใช้พยานชุดเดียวกัน ทั้งนี้ จะออกหมายเรียกหรือหมายจับ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ • นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า กรณี นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ทีมทนายความเข้าแจ้งความพร้อมให้ปากคำครบแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสอนว่าจะออกหมายเรียกหรือหมายจับ มีการแจ้งข้อหา หมิ่นประมาณ , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และร่วมกันให้การเท็จ ส่วนประเด็น น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ส่งทนายแจ้งความ น.ส.กฤษอนงค์ หลังแอบอ้างชื่อก็แยกเป็นอีกเรื่อง ช่วงเกิดระหว่าง มิ.ย.-ก.ค. คนละเหตุการณ์กับรายการข่าวดัง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000111215 • #MGROnline #กฤษอนงค์ #ฟิล์มรัฐภูมิ #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup #บอสพอล
    0 Comments 0 Shares 2017 Views 0 Reviews
  • "เชน ธนา" อดีตนักร้องดังโร่พบกองปราบรับทราบข้อหาฉ้อโกง 79 ล้าน ร่ำไห้ยอมรับเครียด มองเป็นคดีแพ่ง แต่กลับถูกดำเนินคดีอาญา เผยสินค้าทุกชิ้นยังอยู่ในโกดัง ที่ไม่นำมาขายเพราะบริษัทคู่กรณีผลิตไม่ตรงปกจนถูก อย.สั่งห้ามโฆษณา•วันนี้ (18 พ.ย.) ที่ กองปราบปราม นายธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ หรือเชน ธนา อดีตนักแสดงและนักร้องบอยแบนด์วงNice 2 Meet U พร้อมด้วยนางกณิการ์ ภูศรี ภรรยา เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ตามหมายเรียกครั้งที่ 2 เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา "ฉ้อโกง" หลังถูกบริษัทรับผลิตอาหารเสริมแห่งหนึ่ง แจ้งความดำเนินคดีในความผิดฐานฉ้อโกงเงินค่าผลิตสินค้าอาหารเสริมจำนวน 79 ล้านบาท•นายธนาตรัยฉัตร กล่าวว่า วันนี้เดินทางเข้ามาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก กรณีที่ก่อนหน้านี้มีบริษัท ท. แจ้งความดำเนินคดีกับตนและภรรยาในเรื่องการฉ้อโกงเงินค่าผลิตสินค้าจำนวน 79 ล้านบาท เบื้องต้นให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เนื่องจากสินค้าทั้งหมดยังอยู่ และไม่ได้นำไปขาย เดิมทีคดีนี้พนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากมองว่าเป็นคดีแพ่งตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค. 65 ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นมองว่าเป็นเรื่องทางธุรกิจ หากศาลแพ่งมองว่าตนเป็นหนี้ก็ยินดีที่จะจ่าย แต่ต่อมาทางอัยการกลับมีความเห็นสั่งให้ฟ้องในข้อหาฉ้อโกง พร้อมทำหนังสือให้ทางพนักงานสอบสวนเรียกให้มาเข้าพบเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา•คลิกรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000110972•#MGROnline #เชนธนา
    "เชน ธนา" อดีตนักร้องดังโร่พบกองปราบรับทราบข้อหาฉ้อโกง 79 ล้าน ร่ำไห้ยอมรับเครียด มองเป็นคดีแพ่ง แต่กลับถูกดำเนินคดีอาญา เผยสินค้าทุกชิ้นยังอยู่ในโกดัง ที่ไม่นำมาขายเพราะบริษัทคู่กรณีผลิตไม่ตรงปกจนถูก อย.สั่งห้ามโฆษณา•วันนี้ (18 พ.ย.) ที่ กองปราบปราม นายธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ หรือเชน ธนา อดีตนักแสดงและนักร้องบอยแบนด์วงNice 2 Meet U พร้อมด้วยนางกณิการ์ ภูศรี ภรรยา เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ตามหมายเรียกครั้งที่ 2 เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา "ฉ้อโกง" หลังถูกบริษัทรับผลิตอาหารเสริมแห่งหนึ่ง แจ้งความดำเนินคดีในความผิดฐานฉ้อโกงเงินค่าผลิตสินค้าอาหารเสริมจำนวน 79 ล้านบาท•นายธนาตรัยฉัตร กล่าวว่า วันนี้เดินทางเข้ามาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก กรณีที่ก่อนหน้านี้มีบริษัท ท. แจ้งความดำเนินคดีกับตนและภรรยาในเรื่องการฉ้อโกงเงินค่าผลิตสินค้าจำนวน 79 ล้านบาท เบื้องต้นให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เนื่องจากสินค้าทั้งหมดยังอยู่ และไม่ได้นำไปขาย เดิมทีคดีนี้พนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากมองว่าเป็นคดีแพ่งตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค. 65 ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นมองว่าเป็นเรื่องทางธุรกิจ หากศาลแพ่งมองว่าตนเป็นหนี้ก็ยินดีที่จะจ่าย แต่ต่อมาทางอัยการกลับมีความเห็นสั่งให้ฟ้องในข้อหาฉ้อโกง พร้อมทำหนังสือให้ทางพนักงานสอบสวนเรียกให้มาเข้าพบเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา•คลิกรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000110972•#MGROnline #เชนธนา
    Like
    Angry
    2
    0 Comments 0 Shares 713 Views 0 Reviews
More Results