• หากคิดจะใช้ 🐯#เสือ ต้องให้พื้นที่แล้วปล่อยไปล่าเหยื่อมาให้ ❌ไม่ต้องบังคับหรือกำหนดวิธี เพราะเสือคือ #นักล่า
    .
    หากคิดจะใช้ 🐃#ควาย ต้องให้หญ้าเพียงพอแล้วใช้ไถนาควายนั้นมี #ความอึดถึกทน แต่ต้องคอยจูง
    .
    หากคิดจะใช้ 🐶#หมา ต้องให้อาหารและความสนิทและหมานั้นมี 😻#ความภักดีประจบซื่อสัตย์ และชอบเลียเจ้านาย
    .
    คนที่ไม่เข้าใจจะชอบ 🐯#ใช้เสือ อย่างควาย 🐃#ใช้ควาย อย่างกับหมา 🐶#ใช้หมา อย่างเสือ
    หากคิดจะใช้ 🐯#เสือ ต้องให้พื้นที่แล้วปล่อยไปล่าเหยื่อมาให้ ❌ไม่ต้องบังคับหรือกำหนดวิธี เพราะเสือคือ #นักล่า . หากคิดจะใช้ 🐃#ควาย ต้องให้หญ้าเพียงพอแล้วใช้ไถนาควายนั้นมี #ความอึดถึกทน แต่ต้องคอยจูง . หากคิดจะใช้ 🐶#หมา ต้องให้อาหารและความสนิทและหมานั้นมี 😻#ความภักดีประจบซื่อสัตย์ และชอบเลียเจ้านาย . คนที่ไม่เข้าใจจะชอบ 🐯#ใช้เสือ อย่างควาย 🐃#ใช้ควาย อย่างกับหมา 🐶#ใช้หมา อย่างเสือ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..นี้คือความจริงทั้งหมด,อย่าตอแหลบิดค่าจริงใดๆอีกเลย.,ยกเลิกสัมปทานบ่อปิโตรเลียมทั้งหมดในแผ่นดินไทยที่ถูกปล้นไปได้แล้วจากmouข้อตกลงทาสห่าเหวตกลงลับๆห่าใดๆก็เถอะ,ควรจบทั้งหมด สู่ยุคใหม่กันจริงที่ทุกๆตารางนิ้วคืออธิปไตยไทยของแท้.
    ..จบสิ้นความยากจนเสียที,ไม่ก็ล่มสลายสิ้นชาติไทยไปทั้งหมดเถอะ,งี่เง่ากากกระจอกทั้งหมดนัก.
    ..คนไทยสมควรปฏิวัติด้วยมือคนภาคประชาชนเองมั้ย เหี้ยรอแต่ทหารทำซากอะไร ยึดทรัพย์นักการเมืองทั้งหมดบวกข้าราชการเลวจริงๆเสียที,ทหารทำมาทั้งหมด กาก&กระจอกบวกเสียของมาก ไร้สมองโง่เขลาที่มองไม่ออกว่า บ่อน้ำมันคือตัวปัญหาทั้งหมดของชาติที่แพงทั้งแผ่นดินบวกยากจนทุกๆคนไทยธรรมดาด้วย,กระจุกร่ำรวยโคตรพ่อโคตรแมร่งมันเฉพาะเดอะแก๊งเดอะก๊กบางกลุ่ม อาทิชนชั้นปกครองเหี้ยๆหน้าเดิมๆ,มันสมควรจบความชั่วเลวนี้ได้แล้ว อธิปไตยเหนือแผ่นดินไทยยังรักษาห่าเหวไม่ได้ตามอดีตเขียนลงไว้แล้ว เกาะกูดอีก ให้สัญชาติพม่าง่ายๆหรือต่างด้าวต่างๆมาสร้างกลโกลาหลแตกแยกในบ้านในเมืองไทย แย่งชิงงานคนไทยทั้งปกติพื้นฐานอีก,นี้คือการปกครองที่เลว ถีบออกไปเถอะ.,เพราะเราคนไทยได้ผู้นำเลว แล้วระบบจัดการชนชั้นปกครองเลวนี้ไม่เด็ดขาดจริง,ประหารต้องประหารได้ด้วย แต่ก็เหี้ย จนก่อเกิดปัญหาสาระพัดต่อเชื้อชั่วเลวสืบทอดมิจบสิ้นนับจากคณะ2475มาถึงปัจจุบันก็ว่า,
    ..ประเด็นตอนนี้ถ้าสายปกครองทั้งกมดคือเผ่าพันธุ์เลวสายแรปทีเลี่ยนชั่วจริง ต้องกำจัดทิ้งด้วยเช่นกัน .โลกต้องมีนักล่าปีศาจซาตานเพื่อปกป้องคนดีด้วย,ผู้เสียสละโคตรๆเลยล่ะ ตนทำภาระกิจเพื่อให้อีกคนบรรลุธรรมสะดวกก็ว่า,แมร่งถ้าทั้งแผ่นดินไทยมีแต่สงครามยิงระเบิดกันทุกๆวัน ข้าวปลาอาหารขาดแคลนไร้มีแดกในแต่ละวัน ทุกๆตารางนิ้วทั่วไทยเป็นหมด,จะบันเทิงทุกข์ขนาดไหนล่ะ สะดวกบรรลุธรรมโคตรพ่อโคตรแมร่งท่านนะสิ,สถาบันไปวัดเลยล่ะทุกๆสถาบัน ฝันเลยจะอยู่สุขสบายห่าอะไรได้ เผลอๆหนีออกนอกประเทศโน้น ทั้งชนชั้นปกครองทั้งหมดแบบสีหนุไง,หรือใดๆที่ไหนล่ะ คนอำมาตย์ก็บินหนีก่อนใครด้วย เจ้าสัวคนร่ำรวยยิ่งชิงหนีตั้งแต่แรกก่อนเพื่อน สร้างบ้านหรูๆยิ่งใหญ่กว่าวังที่เมืองนอกก็ตรึม,ซวยคือคนจนยากจนชนธรรมดามิใช่ชนชั้นปกครองห่าอะไรแบบพวกเหี้ยๆนี้ พอบ้านเมืองสงบก็กลับมาสะแตกต่อ ผูกขาดสาระพัดทำประโยชน์แดกทุกๆตารางนิ้วทั่วไทยยิ่งกว่าเก่า,สงครามโลกครั้งที่1ที่2มิได้สอนบทเรียนห่าใดๆบวกไปทำmouตกลงลับๆขายชาติขายอธิปไตยแก่ฝรั่งตะวันตกอีก ซึ่งมันทาสมันปล้นมันเอาเปรียบแผ่นดินไทยตน,โมฆะคือจบ ทำสงครามระหว่างชาติแบบเปิดเผยกันไปเลยก็ได้,ขลาดเขลาเหี้ยอะไร ตายทั้งแผ่นดินไทย มันจะย้ายคนมันมาอยู่ก็เหี้ยมันสิ,อย่างน้อยทั้งคนไทยหมดประเทศได้ต่อสู้,นี้จึงถีบๆชนชั้นปกครองแบบใจหมาใจกากๆออกจากการปกครองเถอะ,ปกครองให้คนของประเทศไทยตนอยากจน ผีบ้าเท่านั้นล่ะ จะผีบ้าให้คนผีบ้ามาปกครองทำซากอะไร,เราคนไทยไม่ต้องทำงานก็อยู่อย่างสบายๆ,ต่อยอดทำเครื่องพิมพ์ตังเข้าประเทศได้มากมาย เผลอไม่ขุดทรัพยากรมีค่าอะไรที่ไร้ความจำเป็นบ้าตังอะไรมากมายก็ได้ คนปกครองจริงๆนะ,ขี้ขลาด กากหรือกระจอก ใจขลาดเขลาก็ว่า เพียงคนไทยสามัคคีรวมใจเป็นหนึ่งเดียวมันจบความชั่วเลวทั้งระบบได้หมด.ตกงานจะไม่มี มีแต่ตกใจในความร่ำรวยนะสิ,ชาติเรามันรวยโคตรๆจริงๆนะ,แต่เหี้ยกิ่งก่าปกครองเลยถูกทำให้ยากจน.
    ..นี้คือความจริงทั้งหมด,อย่าตอแหลบิดค่าจริงใดๆอีกเลย.,ยกเลิกสัมปทานบ่อปิโตรเลียมทั้งหมดในแผ่นดินไทยที่ถูกปล้นไปได้แล้วจากmouข้อตกลงทาสห่าเหวตกลงลับๆห่าใดๆก็เถอะ,ควรจบทั้งหมด สู่ยุคใหม่กันจริงที่ทุกๆตารางนิ้วคืออธิปไตยไทยของแท้. ..จบสิ้นความยากจนเสียที,ไม่ก็ล่มสลายสิ้นชาติไทยไปทั้งหมดเถอะ,งี่เง่ากากกระจอกทั้งหมดนัก. ..คนไทยสมควรปฏิวัติด้วยมือคนภาคประชาชนเองมั้ย เหี้ยรอแต่ทหารทำซากอะไร ยึดทรัพย์นักการเมืองทั้งหมดบวกข้าราชการเลวจริงๆเสียที,ทหารทำมาทั้งหมด กาก&กระจอกบวกเสียของมาก ไร้สมองโง่เขลาที่มองไม่ออกว่า บ่อน้ำมันคือตัวปัญหาทั้งหมดของชาติที่แพงทั้งแผ่นดินบวกยากจนทุกๆคนไทยธรรมดาด้วย,กระจุกร่ำรวยโคตรพ่อโคตรแมร่งมันเฉพาะเดอะแก๊งเดอะก๊กบางกลุ่ม อาทิชนชั้นปกครองเหี้ยๆหน้าเดิมๆ,มันสมควรจบความชั่วเลวนี้ได้แล้ว อธิปไตยเหนือแผ่นดินไทยยังรักษาห่าเหวไม่ได้ตามอดีตเขียนลงไว้แล้ว เกาะกูดอีก ให้สัญชาติพม่าง่ายๆหรือต่างด้าวต่างๆมาสร้างกลโกลาหลแตกแยกในบ้านในเมืองไทย แย่งชิงงานคนไทยทั้งปกติพื้นฐานอีก,นี้คือการปกครองที่เลว ถีบออกไปเถอะ.,เพราะเราคนไทยได้ผู้นำเลว แล้วระบบจัดการชนชั้นปกครองเลวนี้ไม่เด็ดขาดจริง,ประหารต้องประหารได้ด้วย แต่ก็เหี้ย จนก่อเกิดปัญหาสาระพัดต่อเชื้อชั่วเลวสืบทอดมิจบสิ้นนับจากคณะ2475มาถึงปัจจุบันก็ว่า, ..ประเด็นตอนนี้ถ้าสายปกครองทั้งกมดคือเผ่าพันธุ์เลวสายแรปทีเลี่ยนชั่วจริง ต้องกำจัดทิ้งด้วยเช่นกัน .โลกต้องมีนักล่าปีศาจซาตานเพื่อปกป้องคนดีด้วย,ผู้เสียสละโคตรๆเลยล่ะ ตนทำภาระกิจเพื่อให้อีกคนบรรลุธรรมสะดวกก็ว่า,แมร่งถ้าทั้งแผ่นดินไทยมีแต่สงครามยิงระเบิดกันทุกๆวัน ข้าวปลาอาหารขาดแคลนไร้มีแดกในแต่ละวัน ทุกๆตารางนิ้วทั่วไทยเป็นหมด,จะบันเทิงทุกข์ขนาดไหนล่ะ สะดวกบรรลุธรรมโคตรพ่อโคตรแมร่งท่านนะสิ,สถาบันไปวัดเลยล่ะทุกๆสถาบัน ฝันเลยจะอยู่สุขสบายห่าอะไรได้ เผลอๆหนีออกนอกประเทศโน้น ทั้งชนชั้นปกครองทั้งหมดแบบสีหนุไง,หรือใดๆที่ไหนล่ะ คนอำมาตย์ก็บินหนีก่อนใครด้วย เจ้าสัวคนร่ำรวยยิ่งชิงหนีตั้งแต่แรกก่อนเพื่อน สร้างบ้านหรูๆยิ่งใหญ่กว่าวังที่เมืองนอกก็ตรึม,ซวยคือคนจนยากจนชนธรรมดามิใช่ชนชั้นปกครองห่าอะไรแบบพวกเหี้ยๆนี้ พอบ้านเมืองสงบก็กลับมาสะแตกต่อ ผูกขาดสาระพัดทำประโยชน์แดกทุกๆตารางนิ้วทั่วไทยยิ่งกว่าเก่า,สงครามโลกครั้งที่1ที่2มิได้สอนบทเรียนห่าใดๆบวกไปทำmouตกลงลับๆขายชาติขายอธิปไตยแก่ฝรั่งตะวันตกอีก ซึ่งมันทาสมันปล้นมันเอาเปรียบแผ่นดินไทยตน,โมฆะคือจบ ทำสงครามระหว่างชาติแบบเปิดเผยกันไปเลยก็ได้,ขลาดเขลาเหี้ยอะไร ตายทั้งแผ่นดินไทย มันจะย้ายคนมันมาอยู่ก็เหี้ยมันสิ,อย่างน้อยทั้งคนไทยหมดประเทศได้ต่อสู้,นี้จึงถีบๆชนชั้นปกครองแบบใจหมาใจกากๆออกจากการปกครองเถอะ,ปกครองให้คนของประเทศไทยตนอยากจน ผีบ้าเท่านั้นล่ะ จะผีบ้าให้คนผีบ้ามาปกครองทำซากอะไร,เราคนไทยไม่ต้องทำงานก็อยู่อย่างสบายๆ,ต่อยอดทำเครื่องพิมพ์ตังเข้าประเทศได้มากมาย เผลอไม่ขุดทรัพยากรมีค่าอะไรที่ไร้ความจำเป็นบ้าตังอะไรมากมายก็ได้ คนปกครองจริงๆนะ,ขี้ขลาด กากหรือกระจอก ใจขลาดเขลาก็ว่า เพียงคนไทยสามัคคีรวมใจเป็นหนึ่งเดียวมันจบความชั่วเลวทั้งระบบได้หมด.ตกงานจะไม่มี มีแต่ตกใจในความร่ำรวยนะสิ,ชาติเรามันรวยโคตรๆจริงๆนะ,แต่เหี้ยกิ่งก่าปกครองเลยถูกทำให้ยากจน.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • อัยการ..#รหัสนรก

    นาย ชยพล สามีของ นาง ธภัทร์ (หรือ แป้ง) มีอาชีพหลักคือ อัยการ อาชีพเสริมเป็นเครือข่ายของ The Icon รหัส 170293

    อัยการ ชยพล ได้รหัสหลัก 1.7 แสน จาก 6 แสนกว่ารหัส ถ้าสมมติรหัสรันตามวันที่เข้าร่วม

    อัยการ ชยพล ก็เข้าร่วมกับ The Icon เป็นคนที่ 170315 ส่วนแป้ง ผู้เป็นภรรยาเข้าร่วมเป็นคนที่ 93590

    แป้งอยู่ระดับ Wisdom ส่วนระดับของอัยการชยพลเรายังไม่มีข้อมูลที่ชัดๆ แต่จากตัวเลขรหัสที่เข้าร่วมอัยการชยพลอย่างต่ำๆต้องอยู่ระดับ Pattinum ย้ำว่าอย่างต่ำๆ

    พรีสสสสส คุณเป็นนักกฏหมายเป็นถึงทนายแผ่นดินที่ความรู้ไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้พิพากษาสักเท่าไหร่เลย แล้วนึกไงถึงเข้าร่วมกับบริษัท The Icon .?

    ถ้าอยากหงายการ์ด“เพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์” คุณต้องลาออกอย่างเป็นทางการเสียก่อน มันถึงจะน่ารับฟังหน่อย

    รู้ยัง.? ที่ภรรยาคุณมีลูกข่ายมากกว่า 2 พันคนนั่นน่ะส่วนมากเขาเชื่อว่าธุรกิจ the icon มันไม่โกงแน่ๆเพราะ.?

    ชาวบ้าน..ส่วนหนึ่งเขาเห็นว่าภรรยาคุณมีสามีเป็นถึงอัยการ..ซึ่งคือตัวคุณ

    ชาวบ้าน..อีกส่วนหนึ่งเขาเห็นอัยการยังมีรหัสทำธุรกิจกับ the icon เขาก็โดดเข้าร่วม

    ชาวบ้าน..อีกส่วนหนึ่งเขาเห็นคุณ 2 ผัวเมียเอาคุณแม่(รหัส 170435)เข้าร่วมด้วย เขาก็ยิ่งเชื่อพวกคุณจนจนหมดหัวใจ

    ที่มันตลกร้ายจริงๆคือ..#พวกคุณพยายามทำตัวเป็นเหยื่อตาใสๆ

    ทั้งๆที่ความจริงแล้วเป็นคู่หูนักล่าระดับพระกาฬ เจนจัดข้อกฏหมาย มีความรู้เรื่องจิตวิทยา..เมื่อออกล่าต้องได้เหยื่อ

    เมื่อวาน..แป้ง พาผู้เสียหายกลุ่มหนึ่งไปที่ ปคบ.ก็แอบงงกับผู้เสียหายอยู่เหมือนกัน ว่าเขาคิดอะไรกันอยู่.?

    มาจนถึงขั้นนี้แล้วพวกคุณยังไม่ตื่นรู้กันอีกเหรอครับเนี่ย 😅 ว่าแป้งกับอัยการคือตัวการหลักที่ทำให้พวกคุณเสียเงิน.?

    ถ้าอยากได้เงินคืน จงตั้งสติให้ดีที่สุดในชีวิต แล้วก็ลองคิดดูว่า แป้งกับสามี เขากำลังช่วยตัวเองหรือกำลังช่วยพวกคุณ.?

    สวัสดี
    @ไร้เงา แต่เร้าตรีน

    อัยการ..#รหัสนรก นาย ชยพล สามีของ นาง ธภัทร์ (หรือ แป้ง) มีอาชีพหลักคือ อัยการ อาชีพเสริมเป็นเครือข่ายของ The Icon รหัส 170293 อัยการ ชยพล ได้รหัสหลัก 1.7 แสน จาก 6 แสนกว่ารหัส ถ้าสมมติรหัสรันตามวันที่เข้าร่วม อัยการ ชยพล ก็เข้าร่วมกับ The Icon เป็นคนที่ 170315 ส่วนแป้ง ผู้เป็นภรรยาเข้าร่วมเป็นคนที่ 93590 แป้งอยู่ระดับ Wisdom ส่วนระดับของอัยการชยพลเรายังไม่มีข้อมูลที่ชัดๆ แต่จากตัวเลขรหัสที่เข้าร่วมอัยการชยพลอย่างต่ำๆต้องอยู่ระดับ Pattinum ย้ำว่าอย่างต่ำๆ พรีสสสสส คุณเป็นนักกฏหมายเป็นถึงทนายแผ่นดินที่ความรู้ไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้พิพากษาสักเท่าไหร่เลย แล้วนึกไงถึงเข้าร่วมกับบริษัท The Icon .? ถ้าอยากหงายการ์ด“เพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์” คุณต้องลาออกอย่างเป็นทางการเสียก่อน มันถึงจะน่ารับฟังหน่อย รู้ยัง.? ที่ภรรยาคุณมีลูกข่ายมากกว่า 2 พันคนนั่นน่ะส่วนมากเขาเชื่อว่าธุรกิจ the icon มันไม่โกงแน่ๆเพราะ.? ชาวบ้าน..ส่วนหนึ่งเขาเห็นว่าภรรยาคุณมีสามีเป็นถึงอัยการ..ซึ่งคือตัวคุณ ชาวบ้าน..อีกส่วนหนึ่งเขาเห็นอัยการยังมีรหัสทำธุรกิจกับ the icon เขาก็โดดเข้าร่วม ชาวบ้าน..อีกส่วนหนึ่งเขาเห็นคุณ 2 ผัวเมียเอาคุณแม่(รหัส 170435)เข้าร่วมด้วย เขาก็ยิ่งเชื่อพวกคุณจนจนหมดหัวใจ ที่มันตลกร้ายจริงๆคือ..#พวกคุณพยายามทำตัวเป็นเหยื่อตาใสๆ ทั้งๆที่ความจริงแล้วเป็นคู่หูนักล่าระดับพระกาฬ เจนจัดข้อกฏหมาย มีความรู้เรื่องจิตวิทยา..เมื่อออกล่าต้องได้เหยื่อ เมื่อวาน..แป้ง พาผู้เสียหายกลุ่มหนึ่งไปที่ ปคบ.ก็แอบงงกับผู้เสียหายอยู่เหมือนกัน ว่าเขาคิดอะไรกันอยู่.? มาจนถึงขั้นนี้แล้วพวกคุณยังไม่ตื่นรู้กันอีกเหรอครับเนี่ย 😅 ว่าแป้งกับอัยการคือตัวการหลักที่ทำให้พวกคุณเสียเงิน.? ถ้าอยากได้เงินคืน จงตั้งสติให้ดีที่สุดในชีวิต แล้วก็ลองคิดดูว่า แป้งกับสามี เขากำลังช่วยตัวเองหรือกำลังช่วยพวกคุณ.? สวัสดี @ไร้เงา แต่เร้าตรีน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇮🇷 การปฏิวัติเพื่อมนุษยชาติ 🇮🇷

    การปฏิวัติที่เป็นแบบอย่างให้กับแกนต่อต้านการกดขี่ทั่วโลก

    ผลของการปฏิวัติอิสลามที่มีต่อการเมืองระดับโลก......

    เหตุใดการปฏิวัติอิสลามจึงมีความสำคัญ ?

    และส่งผลกระทบต่อการเมืองระดับโลกอย่างไร ?

    เหตุการณ์ที่อุบัติขึ้นส่วนใหญ่ส่งผลกระทบเพียงชั่วครู่ชั่วคราวต่อโลก เนื่องมาจากมีเหตุการณ์สำคัญๆ เกิดขึ้นพร้อมกันมากเกินไป บางอย่างเกิดขึ้นตามธรรมชาติ เช่น อุทกภัย แผ่นดินไหว และความอดอยาก ในขณะที่บางอย่างเกิดจากฝีมือมนุษย์

    สงครามเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ มากมาย เช่น ความตาย การทำลายล้าง การอพยพผู้คน และความอดอยาก อย่างไรก็ตาม ยังมีเหตุการณ์อื่นๆ ที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงในสังคม

    การปฏิวัติอิสลามในอิหร่านเป็นปรากฏการณ์หนึ่งที่ยังไม่ค่อยมีการวิเคราะห์ผลกระทบอย่างเหมาะสม สาเหตุมาจากการต่อต้านและการโฆษณาชวนเชื่อเชิงลบที่เกิดขึ้นในหมู่จักรวรรดินิยมและไซออนิสต์

    การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน แตกต่างจากขบวนการเสรีภาพในช่วงก่อนๆ ที่เพียงแค่โอนอำนาจจากนักล่าอาณานิคมยุโรปไปยังหุ่นเชิดของพวกเขาในสังคมท้องถิ่น การปฏิวัติอิสลามทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้งในสังคม

    ระเบียบโลกในยุคปัจจุบันถูกกำหนดขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง สงครามอันเลวร้ายนี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบล้านคน โดยที่สหภาพโซเวียตมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากที่สุด

    สงครามดังกล่าวได้ทำลายล้างยุโรปไปเป็นจำนวนมาก มหาอำนาจอาณานิคมอย่างอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน เนเธอร์แลนด์ อิตาลี และแม้แต่เบลเยียมซึ่งเป็นประเทศเล็กๆ ต่างก็หมดอำนาจไป มหาอำนาจเพียงหนึ่งเดียวที่ยังคงดำรงอยู่คือสหรัฐอเมริกา

    มหาอำนาจยุโรปจำเป็นต้องสละการครอบครองอาณานิคมในเอเชียและแอฟริกา เนื่องจากไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไป

    การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในประเทศต่างๆก็คือ พวกเขาถูกเปลี่ยนมือจากการควบคุมของนักล่าอาณานิคมชาวยุโรปไปอยู่ในมือของลุงแซม ซึ่งกลายเป็นผู้โหดร้ายยิ่งกว่าในการแสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากรของพวกเขา

    ฐานทัพทหารสหรัฐฯ จำนวนมากรอบอ่าวเปอร์เซียและภูมิภาคเอเชียตะวันตกเป็นหลักฐานที่เพียงพอที่แสดงให้เห็นถึงธรรมชาติที่โลภมากของอเมริกา

    สหภาพโซเวียตได้ดำเนินตามแนวทางที่แตกต่างจากแนวทางของตะวันตกโดยรวมที่นำโดยสหรัฐอเมริกา แต่แนวคิดคอมมิวนิสต์ก็เป็นผลผลิตของความคิดทางการเมืองของตะวันตกเช่นกัน ดังนั้น จึงเกิดขั้วตรงข้ามสองขั้วจากรากฐานเดียวกัน ซึ่งประเทศต่างๆ ต่างมาบรรจบกัน

    สิ่งที่แปลกใหม่เกี่ยวกับการปฏิวัติอิสลามในอิหร่านก็คือการหลุดพ้นจากการควบคุมของกลุ่มประเทศที่มีอำนาจในโลกตะวันตก นอกจากนี้ก็ยังไม่เข้าร่วมโดยทันทีกับกลุ่มที่นำโดยสหภาพโซเวียตเหมือนที่เกิดขึ้นกับประเทศอื่นๆ

    อิหร่านหวนคืนสู่รากเหง้าของตนเองนั่นคืออิสลาม ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความเป็นปฏิปักษ์กันอย่างมากระหว่างมหาอำนาจทั้งในโลกตะวันตกและโลกตะวันออก

    ไม่นานหลังจากชัยชนะของการปฏิวัติอิสลามในอิหร่าน อิมามโคมัยนี (รฎ) ได้ออกคำประกาศสองประการที่สั่นสะเทือนโลก

    ประการแรก มุสลิมต้องสามัคคีกันเพื่อปลดปล่อยอัลกุดส์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ มัสยิดอัลอักซอและเป็นกิบลัตแรกของมุสลิม ซึ่งประการแรกนี้ถูกมองว่าเป็นการท้าทายโดยตรงต่อกลุ่มผู้ตั้งถิ่นฐานที่เป็นอาณานิคมไซออนิสต์

    ประการที่สอง การส่งออกการปฏิวัติอิสลามไปยังประเทศอื่นๆ ซึ่งก็ถูกมองว่าเป็นการท้าทายต่อระบอบการปกครองบนชายฝั่งตะวันตกของอ่าวเปอร์เซีย

    แนวคิดในการส่งออกการปฏิวัติถูกเข้าใจผิดโดยระบอบการปกครองเหล่านี้ พวกเขาคิดว่ากองกำลังปฏิวัติของอิหร่านจะไหลบ่าข้ามพรมแดนและเข้ายึดครองอาณาจักรที่สั่นคลอนของพวกเขา ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้น

    ในหลายสิบปีที่ผ่านมา การส่งออกการปฏิวัติหมายถึงการส่งออกแนวคิดและได้รับการนำไปใช้โดยผู้คนในสังคมนั้นๆ

    รัฐบาลอาหรับซึ่งได้รับการสนับสนุนจากมหาอำนาจจักรวรรดินิยม ได้เปิดฉากสงครามอันเลวร้ายต่อสาธารณรัฐอิสลามโดยระบอบ ซัดดัม ฮุสเซน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทั่วโลก เป้าหมายของมันคือการทำลายสาธารณรัฐอิสลาม !!!

    หลังจากนั้นไม่นาน สภาความร่วมมืออ่าวอาหรับ (GCC) ก็ถูกจัดตั้งขึ้นตามคำสั่งของชาติตะวันตก และด้วยจุดมุ่งหมายเฉพาะเจาะจงเพื่อทำลายสาธารณรัฐอิสลามผ่านสงครามเศรษฐกิจ

    แปดปีที่สาธารณรัฐอิสลาม ผู้นำการปฏิวัติและประชาชนของสาธารณรัฐอิสลามสามารถต้านทานการโจมตีจากนานาชาติได้เพียงลำพัง พวกเขาได้ปกป้องดินแดนทุกตารางนิ้วและป้องกันการปฏิวัติด้วยการเสียสละอย่างมากมาย การป้องกันอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาได้ปลูกฝังความกลัวให้กับศัตรูจนไม่กล้าที่จะรุกรานสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านด้วยกองกำลังภาคพื้นดินอีกเลย

    ประเด็นการส่งออกของการปฏิวัติอิสลาม การเคลื่อนไหวแรกๆเกิดขึ้นในสถานที่ที่ไม่มีใครคาดคิด นั่นคือเลบานอน ซึ่งขบวนการฮิซบุลลอฮ์ได้ก่อตั้งขึ้นเพื่อเผชิญหน้ากับผู้ยึดครองไซออนิสต์และสร้างความอัปยศให้กับไซออนิสต์อิสราเอลจนถึงทุกวันนี้

    แนวคิดปฏิวัติของอิหร่านถูกส่งออกไปยังปาเลสไตน์ ซึ่งการต่อต้านในฉนวนกาซาก็เป็นผลโดยตรงจากการแพร่กระจายแนวคิดปฏิวัติจากอิหร่าน แม้แต่นักวิจารณ์ชาวอิสราเอลหลายคนก็ยอมรับว่าอิสราเอลพ่ายแพ้ทางทหารต่อฮามาสและญิฮาดอิสลาม อิสราเอลได้สังหารพลเรือนชาวปาเลสไตน์ผู้บริสุทธิ์หลายหมื่นคนอย่างโหดเหี้ยมและป่าเถื่อนที่สุด

    พื้นที่ที่แนวคิดปฏิวัติของอิหร่านแพร่หลายออกไป ได้แก่ อิรักและเยเมน ในซีเรีย กองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติของอิหร่าน (IRGC)มีบทบาทสำคัญในการป้องกันไม่ให้รัฐบาลในกรุงดามัสกัสล่มสลาย ซึ่งเผชิญกับแผนการสมคบคิดที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มไซออนิสต์ของสหรัฐฯ และซาอุดีอาระเบียมานานกว่าสิบปี

    แนวคิดปฏิวัติของอิหร่านได้แพร่กระจายไปถึงอเมริกาใต้ ไปถึงบริเวณหลังบ้านของสหรัฐฯ

    นับเป็นเวลากว่าศตวรรษแล้วที่สหรัฐฯ ได้รักษาอเมริกาใต้ไว้เป็นเขตอิทธิพลเฉพาะของตนในการแสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากร

    ทุกวันนี้ หลายๆประเทศ เช่น เวเนซุเอลา นิการากัว และโบลิเวีย ได้หลุดพ้นจากอำนาจการครอบงำของสหรัฐฯ และกำลังกำหนดเส้นทางอิสระ ซึ่งสิ่งนี้จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากปราศจากความร่วมมืออย่างแข็งขันของอิหร่าน

    การล่มสลายของระเบียบโลกขั้วเดียวที่นำโดยสหรัฐฯ เป็นผลโดยตรงจากการแพร่กระจายแนวคิดปฏิวัติของอิหร่าน

    "สิ่งนี้บ่งชี้ว่า เมื่อมีผู้นำที่ จริงใจ ซื่อสัตย์ มีความมุ่งมั่นที่ยึดหลักความยุติธรรมและความเป็นธรรมของศาสนาเป็นตัวตั้งแล้ว ก็ไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องน่าแปลก ที่คนจำนวนน้อยจะสามารถเอาชนะอำนาจแห่งการกดขี่ที่แม้จะติดอาวุธหนักเพียงใดได้"
    🇮🇷 การปฏิวัติเพื่อมนุษยชาติ 🇮🇷 การปฏิวัติที่เป็นแบบอย่างให้กับแกนต่อต้านการกดขี่ทั่วโลก ผลของการปฏิวัติอิสลามที่มีต่อการเมืองระดับโลก...... เหตุใดการปฏิวัติอิสลามจึงมีความสำคัญ ? และส่งผลกระทบต่อการเมืองระดับโลกอย่างไร ? เหตุการณ์ที่อุบัติขึ้นส่วนใหญ่ส่งผลกระทบเพียงชั่วครู่ชั่วคราวต่อโลก เนื่องมาจากมีเหตุการณ์สำคัญๆ เกิดขึ้นพร้อมกันมากเกินไป บางอย่างเกิดขึ้นตามธรรมชาติ เช่น อุทกภัย แผ่นดินไหว และความอดอยาก ในขณะที่บางอย่างเกิดจากฝีมือมนุษย์ สงครามเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ มากมาย เช่น ความตาย การทำลายล้าง การอพยพผู้คน และความอดอยาก อย่างไรก็ตาม ยังมีเหตุการณ์อื่นๆ ที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงในสังคม การปฏิวัติอิสลามในอิหร่านเป็นปรากฏการณ์หนึ่งที่ยังไม่ค่อยมีการวิเคราะห์ผลกระทบอย่างเหมาะสม สาเหตุมาจากการต่อต้านและการโฆษณาชวนเชื่อเชิงลบที่เกิดขึ้นในหมู่จักรวรรดินิยมและไซออนิสต์ การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน แตกต่างจากขบวนการเสรีภาพในช่วงก่อนๆ ที่เพียงแค่โอนอำนาจจากนักล่าอาณานิคมยุโรปไปยังหุ่นเชิดของพวกเขาในสังคมท้องถิ่น การปฏิวัติอิสลามทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้งในสังคม ระเบียบโลกในยุคปัจจุบันถูกกำหนดขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง สงครามอันเลวร้ายนี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบล้านคน โดยที่สหภาพโซเวียตมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากที่สุด สงครามดังกล่าวได้ทำลายล้างยุโรปไปเป็นจำนวนมาก มหาอำนาจอาณานิคมอย่างอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน เนเธอร์แลนด์ อิตาลี และแม้แต่เบลเยียมซึ่งเป็นประเทศเล็กๆ ต่างก็หมดอำนาจไป มหาอำนาจเพียงหนึ่งเดียวที่ยังคงดำรงอยู่คือสหรัฐอเมริกา มหาอำนาจยุโรปจำเป็นต้องสละการครอบครองอาณานิคมในเอเชียและแอฟริกา เนื่องจากไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไป การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในประเทศต่างๆก็คือ พวกเขาถูกเปลี่ยนมือจากการควบคุมของนักล่าอาณานิคมชาวยุโรปไปอยู่ในมือของลุงแซม ซึ่งกลายเป็นผู้โหดร้ายยิ่งกว่าในการแสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากรของพวกเขา ฐานทัพทหารสหรัฐฯ จำนวนมากรอบอ่าวเปอร์เซียและภูมิภาคเอเชียตะวันตกเป็นหลักฐานที่เพียงพอที่แสดงให้เห็นถึงธรรมชาติที่โลภมากของอเมริกา สหภาพโซเวียตได้ดำเนินตามแนวทางที่แตกต่างจากแนวทางของตะวันตกโดยรวมที่นำโดยสหรัฐอเมริกา แต่แนวคิดคอมมิวนิสต์ก็เป็นผลผลิตของความคิดทางการเมืองของตะวันตกเช่นกัน ดังนั้น จึงเกิดขั้วตรงข้ามสองขั้วจากรากฐานเดียวกัน ซึ่งประเทศต่างๆ ต่างมาบรรจบกัน สิ่งที่แปลกใหม่เกี่ยวกับการปฏิวัติอิสลามในอิหร่านก็คือการหลุดพ้นจากการควบคุมของกลุ่มประเทศที่มีอำนาจในโลกตะวันตก นอกจากนี้ก็ยังไม่เข้าร่วมโดยทันทีกับกลุ่มที่นำโดยสหภาพโซเวียตเหมือนที่เกิดขึ้นกับประเทศอื่นๆ อิหร่านหวนคืนสู่รากเหง้าของตนเองนั่นคืออิสลาม ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความเป็นปฏิปักษ์กันอย่างมากระหว่างมหาอำนาจทั้งในโลกตะวันตกและโลกตะวันออก ไม่นานหลังจากชัยชนะของการปฏิวัติอิสลามในอิหร่าน อิมามโคมัยนี (รฎ) ได้ออกคำประกาศสองประการที่สั่นสะเทือนโลก ประการแรก มุสลิมต้องสามัคคีกันเพื่อปลดปล่อยอัลกุดส์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ มัสยิดอัลอักซอและเป็นกิบลัตแรกของมุสลิม ซึ่งประการแรกนี้ถูกมองว่าเป็นการท้าทายโดยตรงต่อกลุ่มผู้ตั้งถิ่นฐานที่เป็นอาณานิคมไซออนิสต์ ประการที่สอง การส่งออกการปฏิวัติอิสลามไปยังประเทศอื่นๆ ซึ่งก็ถูกมองว่าเป็นการท้าทายต่อระบอบการปกครองบนชายฝั่งตะวันตกของอ่าวเปอร์เซีย แนวคิดในการส่งออกการปฏิวัติถูกเข้าใจผิดโดยระบอบการปกครองเหล่านี้ พวกเขาคิดว่ากองกำลังปฏิวัติของอิหร่านจะไหลบ่าข้ามพรมแดนและเข้ายึดครองอาณาจักรที่สั่นคลอนของพวกเขา ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้น ในหลายสิบปีที่ผ่านมา การส่งออกการปฏิวัติหมายถึงการส่งออกแนวคิดและได้รับการนำไปใช้โดยผู้คนในสังคมนั้นๆ รัฐบาลอาหรับซึ่งได้รับการสนับสนุนจากมหาอำนาจจักรวรรดินิยม ได้เปิดฉากสงครามอันเลวร้ายต่อสาธารณรัฐอิสลามโดยระบอบ ซัดดัม ฮุสเซน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทั่วโลก เป้าหมายของมันคือการทำลายสาธารณรัฐอิสลาม !!! หลังจากนั้นไม่นาน สภาความร่วมมืออ่าวอาหรับ (GCC) ก็ถูกจัดตั้งขึ้นตามคำสั่งของชาติตะวันตก และด้วยจุดมุ่งหมายเฉพาะเจาะจงเพื่อทำลายสาธารณรัฐอิสลามผ่านสงครามเศรษฐกิจ แปดปีที่สาธารณรัฐอิสลาม ผู้นำการปฏิวัติและประชาชนของสาธารณรัฐอิสลามสามารถต้านทานการโจมตีจากนานาชาติได้เพียงลำพัง พวกเขาได้ปกป้องดินแดนทุกตารางนิ้วและป้องกันการปฏิวัติด้วยการเสียสละอย่างมากมาย การป้องกันอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาได้ปลูกฝังความกลัวให้กับศัตรูจนไม่กล้าที่จะรุกรานสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านด้วยกองกำลังภาคพื้นดินอีกเลย ประเด็นการส่งออกของการปฏิวัติอิสลาม การเคลื่อนไหวแรกๆเกิดขึ้นในสถานที่ที่ไม่มีใครคาดคิด นั่นคือเลบานอน ซึ่งขบวนการฮิซบุลลอฮ์ได้ก่อตั้งขึ้นเพื่อเผชิญหน้ากับผู้ยึดครองไซออนิสต์และสร้างความอัปยศให้กับไซออนิสต์อิสราเอลจนถึงทุกวันนี้ แนวคิดปฏิวัติของอิหร่านถูกส่งออกไปยังปาเลสไตน์ ซึ่งการต่อต้านในฉนวนกาซาก็เป็นผลโดยตรงจากการแพร่กระจายแนวคิดปฏิวัติจากอิหร่าน แม้แต่นักวิจารณ์ชาวอิสราเอลหลายคนก็ยอมรับว่าอิสราเอลพ่ายแพ้ทางทหารต่อฮามาสและญิฮาดอิสลาม อิสราเอลได้สังหารพลเรือนชาวปาเลสไตน์ผู้บริสุทธิ์หลายหมื่นคนอย่างโหดเหี้ยมและป่าเถื่อนที่สุด พื้นที่ที่แนวคิดปฏิวัติของอิหร่านแพร่หลายออกไป ได้แก่ อิรักและเยเมน ในซีเรีย กองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติของอิหร่าน (IRGC)มีบทบาทสำคัญในการป้องกันไม่ให้รัฐบาลในกรุงดามัสกัสล่มสลาย ซึ่งเผชิญกับแผนการสมคบคิดที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มไซออนิสต์ของสหรัฐฯ และซาอุดีอาระเบียมานานกว่าสิบปี แนวคิดปฏิวัติของอิหร่านได้แพร่กระจายไปถึงอเมริกาใต้ ไปถึงบริเวณหลังบ้านของสหรัฐฯ นับเป็นเวลากว่าศตวรรษแล้วที่สหรัฐฯ ได้รักษาอเมริกาใต้ไว้เป็นเขตอิทธิพลเฉพาะของตนในการแสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากร ทุกวันนี้ หลายๆประเทศ เช่น เวเนซุเอลา นิการากัว และโบลิเวีย ได้หลุดพ้นจากอำนาจการครอบงำของสหรัฐฯ และกำลังกำหนดเส้นทางอิสระ ซึ่งสิ่งนี้จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากปราศจากความร่วมมืออย่างแข็งขันของอิหร่าน การล่มสลายของระเบียบโลกขั้วเดียวที่นำโดยสหรัฐฯ เป็นผลโดยตรงจากการแพร่กระจายแนวคิดปฏิวัติของอิหร่าน "สิ่งนี้บ่งชี้ว่า เมื่อมีผู้นำที่ จริงใจ ซื่อสัตย์ มีความมุ่งมั่นที่ยึดหลักความยุติธรรมและความเป็นธรรมของศาสนาเป็นตัวตั้งแล้ว ก็ไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องน่าแปลก ที่คนจำนวนน้อยจะสามารถเอาชนะอำนาจแห่งการกดขี่ที่แม้จะติดอาวุธหนักเพียงใดได้"
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 74 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปลาลิงคอด เป็นปลานักล่า ขนาดใหญ่สุดน้ำหนักประมาณ 35 kg ยาวประมาณ 150 cm เนื้อปลาแน่น ลีน คล้ายปลาเก๋า มีกลิ่นปลาอ่อนๆ ปลาลิงคอดนั้นเป็นพันธุ์ที่เราสามารถพบเห็นตัวที่มีเนื้อสีฟ้าหรื อเทอร์ควอยซ์ได้ถึง 20% สีของเนื้อเหล่านี้เกิดขึ้นจากอาหารของมันที่อุดมไปด้วยคลอโ รฟิลล์ แต่สีเหล่านี้อาจจะหายไประหว่างการนำมาปรุงอาหาร นิยม ..
    ปลาลิงคอด เป็นปลานักล่า ขนาดใหญ่สุดน้ำหนักประมาณ 35 kg ยาวประมาณ 150 cm เนื้อปลาแน่น ลีน คล้ายปลาเก๋า มีกลิ่นปลาอ่อนๆ ปลาลิงคอดนั้นเป็นพันธุ์ที่เราสามารถพบเห็นตัวที่มีเนื้อสีฟ้าหรื อเทอร์ควอยซ์ได้ถึง 20% สีของเนื้อเหล่านี้เกิดขึ้นจากอาหารของมันที่อุดมไปด้วยคลอโ รฟิลล์ แต่สีเหล่านี้อาจจะหายไประหว่างการนำมาปรุงอาหาร นิยม ..
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 19 0 รีวิว
  • อินเดียเริ่มรู้แล้วว่าชาติไหนที่สร้างกลุ่มก่อการร้ายป่วนอินเดียและบังกลาเทศ:

    ตอนนี้ รัฐบาลอินเดียเริ่มรู้แล้วว่าชาตินักล่าอาณานิคมตะวันตกตัวยงแห่งยุคสร้างกลุ่มก่อการร้ายชื่อ Hizb-ut-Tahrir เพื่อป่วนอินเดียและบังกลาเทศ สร้างเสร็จแล้ว ก็ส่งสมาชิกที่พวกตนฝึกให้เข้าไปเป็นนักศึกษา จัดตั้งเครือข่ายภายในมหาวิทยาลัยต่างๆ ของประเทศที่เป็นเป้าหมายเพื่อสร้างและปลุกระดมมวลชน ให้นักศึกษาเหล่านีจัดกิจกรรมป่วนรัฐบาลเพื่อหาทางแบ่งแยกดินแดน

    ขณะนี้ ประเทศนักล่าอาณานิคมตัวยงกำลังอยากตั้งฐานทัพที่บังกลาเทศเพื่อปิดล้อมจีนฝั่งมหาสมุทรอินเดีย

    เมืองไทยก็เช่นกันครับ ผมสันนิษฐานมานานว่ากลุ่มก่อการร้าย BRN ก็น่าจะถูกชาตินักล่าอาณานิคมนี่แหละจัดตั้ง ภายใต้การบงการของกลุ่มยิวไซออนิสต์ ไม่ใช่มุสลิมแท้ เป็นกลุ่มก่อการร้ายที่สายลับชาตินักล่าอาณานิคมจัดตั้งขึ้นมา มุสลิมที่ปักหลักอยู่ในประเทศไทยมานาน กับกลุ่มมุสลิมที่อพยพเข้ามาใหม่สาย BRN จึงมีนิสัยแตกต่างกันมาก และพวกนี้ก็มี NGOs สายตะวันตกคอยช่วยเหลือด้วย

    โดยปรกติ รัฐบาลรัสเซีย เกาหลีเหนือ อิหร่านและจีนไม่ค่อยนิยมเจรจากับกลุ่มก่อการร้าย มีแต่กวาดล้างอย่างเดียว ในขณะที่กลุ่มชาตินักล่าอาณานิคมตะวันตก เน้นเจรจากับกลุ่มก่อการร้ายเพราะพวกตนเป็นคนสร้างกลุ่มก่อการร้ายขึ้นมาเอง จึงไม่ต้องการให้รัฐบาลไหนๆ ปราบอย่างเด็ดขาด จึงต้องเขียนตำราให้ใช้วิธีเจรจาแทน เพื่อมิให้กลุ่มก่อการร้ายถูกกวาดล้างโดยง่าย เห็นได้จากกลุ่มก่อการร้ายในประเทศอาฟริกาซึ่งปราบเท่าไหร่ก็ไม่หมดสักที รัฐบาลอาฟริกาหลายประเทศต้องให้รัสเซียส่งกลุ่มวากเนอร์มาช่วยปราบจึงหมดลงได้
    ประเทศไทยในขณะนี้ ผมสงสัยว่าสถานการณ์กำลังอยู่ในลักษณะว่า

    ๑. มีกลุ่มก่อการร้ายซึ่งผมสันนิษฐานว่าชาตินักล่าอาณานิคมตัวยงสร้างขึ้น ต่อหน้าสาธารณชนเป็นกลุ่มมุสลิมเทียมแต่เบื้องหลังคือกลุ่มก่อการร้าย

    ๒.มีนักวิชาการที่ปรึกษาความมั่นคงที่จบจากตะวันตกคอยให้คำแนะนำรัฐบาล เน้นเจรจากับกลุ่มก่อการร้ายแทนการปราบปราม

    ๓.มีรัฐบาลและทหารที่โปรตะวันตกใช้ตำราปราบกลุ่มก่อการร้ายแบบตะวันตกมาแก้ปัญหา กลุ่มก่อการร้ายในภาคใต้ก็เลยไม่หมดสักที

    หรือปล่าว? ผมแค่สันนิษฐานเอาจากแง่มุมหนึ่งนะครับ


    ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์

    อินเดียเริ่มรู้แล้วว่าชาติไหนที่สร้างกลุ่มก่อการร้ายป่วนอินเดียและบังกลาเทศ: ตอนนี้ รัฐบาลอินเดียเริ่มรู้แล้วว่าชาตินักล่าอาณานิคมตะวันตกตัวยงแห่งยุคสร้างกลุ่มก่อการร้ายชื่อ Hizb-ut-Tahrir เพื่อป่วนอินเดียและบังกลาเทศ สร้างเสร็จแล้ว ก็ส่งสมาชิกที่พวกตนฝึกให้เข้าไปเป็นนักศึกษา จัดตั้งเครือข่ายภายในมหาวิทยาลัยต่างๆ ของประเทศที่เป็นเป้าหมายเพื่อสร้างและปลุกระดมมวลชน ให้นักศึกษาเหล่านีจัดกิจกรรมป่วนรัฐบาลเพื่อหาทางแบ่งแยกดินแดน ขณะนี้ ประเทศนักล่าอาณานิคมตัวยงกำลังอยากตั้งฐานทัพที่บังกลาเทศเพื่อปิดล้อมจีนฝั่งมหาสมุทรอินเดีย เมืองไทยก็เช่นกันครับ ผมสันนิษฐานมานานว่ากลุ่มก่อการร้าย BRN ก็น่าจะถูกชาตินักล่าอาณานิคมนี่แหละจัดตั้ง ภายใต้การบงการของกลุ่มยิวไซออนิสต์ ไม่ใช่มุสลิมแท้ เป็นกลุ่มก่อการร้ายที่สายลับชาตินักล่าอาณานิคมจัดตั้งขึ้นมา มุสลิมที่ปักหลักอยู่ในประเทศไทยมานาน กับกลุ่มมุสลิมที่อพยพเข้ามาใหม่สาย BRN จึงมีนิสัยแตกต่างกันมาก และพวกนี้ก็มี NGOs สายตะวันตกคอยช่วยเหลือด้วย โดยปรกติ รัฐบาลรัสเซีย เกาหลีเหนือ อิหร่านและจีนไม่ค่อยนิยมเจรจากับกลุ่มก่อการร้าย มีแต่กวาดล้างอย่างเดียว ในขณะที่กลุ่มชาตินักล่าอาณานิคมตะวันตก เน้นเจรจากับกลุ่มก่อการร้ายเพราะพวกตนเป็นคนสร้างกลุ่มก่อการร้ายขึ้นมาเอง จึงไม่ต้องการให้รัฐบาลไหนๆ ปราบอย่างเด็ดขาด จึงต้องเขียนตำราให้ใช้วิธีเจรจาแทน เพื่อมิให้กลุ่มก่อการร้ายถูกกวาดล้างโดยง่าย เห็นได้จากกลุ่มก่อการร้ายในประเทศอาฟริกาซึ่งปราบเท่าไหร่ก็ไม่หมดสักที รัฐบาลอาฟริกาหลายประเทศต้องให้รัสเซียส่งกลุ่มวากเนอร์มาช่วยปราบจึงหมดลงได้ ประเทศไทยในขณะนี้ ผมสงสัยว่าสถานการณ์กำลังอยู่ในลักษณะว่า ๑. มีกลุ่มก่อการร้ายซึ่งผมสันนิษฐานว่าชาตินักล่าอาณานิคมตัวยงสร้างขึ้น ต่อหน้าสาธารณชนเป็นกลุ่มมุสลิมเทียมแต่เบื้องหลังคือกลุ่มก่อการร้าย ๒.มีนักวิชาการที่ปรึกษาความมั่นคงที่จบจากตะวันตกคอยให้คำแนะนำรัฐบาล เน้นเจรจากับกลุ่มก่อการร้ายแทนการปราบปราม ๓.มีรัฐบาลและทหารที่โปรตะวันตกใช้ตำราปราบกลุ่มก่อการร้ายแบบตะวันตกมาแก้ปัญหา กลุ่มก่อการร้ายในภาคใต้ก็เลยไม่หมดสักที หรือปล่าว? ผมแค่สันนิษฐานเอาจากแง่มุมหนึ่งนะครับ ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่วยกันต่อต้านสงครามข่าวหน่อยครับ:

    ช่วงนี้มีการรับปริญญาที่มหิดล จึงหยุดทำงานที่บ้านและมีเวลาทำคลิปให้ดู ๑ คลิป ดูแล้วก็แชร์กันหน่อยนะครับ ขณะนี้ประเทศนักล่าอาณานิคมตะวันตกกำลังทำสงครามข่าวเพื่อล้างสมองคนไทย

    มีสื่อสำนักต่างๆ มาแอบอ่านข่าวและดูคลิปผมก็เยอะแต่ไม่ค่อยแชร์ แฟนเพจหลายๆ คนก็ยุให้ผมทำคลิปโน่นคลิปนี่เป็นประจำ แต่พอทำให้ดูแล้วก็ขี้เกียจแชร์ คนไทยส่วนใหญ่จึงยังถูกล้างสมองด้วยข่าวเท็จจากสื่อกระแสหลักของตะวันตกเหมือนเดิม เพราะประเทศไทยมีแต่ประชากรที่ชอบอยู่เฉยๆ เมื่อเห็นภัยคุกคามจากต่างชาติแบบนี้แหละครับ ประเทศจึงถูกยิวไซออนิสต์ควบคุมสื่อกระแสหลักได้มาจนบัดนี้

    ลดทิฐิมานะและโมหะลงกันหน่อยแล้วช่วยกันแชร์ครับ คนไทยจะได้เห็นข่าวอีกด้านกันมากยิ่งขึ้น

    https://www.youtube.com/watch?v=FvVQeemq…

    ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์
    ช่วยกันต่อต้านสงครามข่าวหน่อยครับ: ช่วงนี้มีการรับปริญญาที่มหิดล จึงหยุดทำงานที่บ้านและมีเวลาทำคลิปให้ดู ๑ คลิป ดูแล้วก็แชร์กันหน่อยนะครับ ขณะนี้ประเทศนักล่าอาณานิคมตะวันตกกำลังทำสงครามข่าวเพื่อล้างสมองคนไทย มีสื่อสำนักต่างๆ มาแอบอ่านข่าวและดูคลิปผมก็เยอะแต่ไม่ค่อยแชร์ แฟนเพจหลายๆ คนก็ยุให้ผมทำคลิปโน่นคลิปนี่เป็นประจำ แต่พอทำให้ดูแล้วก็ขี้เกียจแชร์ คนไทยส่วนใหญ่จึงยังถูกล้างสมองด้วยข่าวเท็จจากสื่อกระแสหลักของตะวันตกเหมือนเดิม เพราะประเทศไทยมีแต่ประชากรที่ชอบอยู่เฉยๆ เมื่อเห็นภัยคุกคามจากต่างชาติแบบนี้แหละครับ ประเทศจึงถูกยิวไซออนิสต์ควบคุมสื่อกระแสหลักได้มาจนบัดนี้ ลดทิฐิมานะและโมหะลงกันหน่อยแล้วช่วยกันแชร์ครับ คนไทยจะได้เห็นข่าวอีกด้านกันมากยิ่งขึ้น https://www.youtube.com/watch?v=FvVQeemq… ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 รีวิว
  • สาธุชนไม่ต้องกังวลกับสงครามในตะวันออกกลางมาก:

    คนไทยที่อยู่ในประเทศไทย ไม่มีอะไรต้องไปกังวลกับสงครามระหว่างอิหร่านกับอิสราเอล เพราะวลาดิเมียร์ ปูตินได้ยื่นมือเข้าไปช่วยอิหร่านแล้ว อิหร่านมีแต่จะแกร่งขึ้นมาเป็นมหาอำนาจให้โลกมุสลิมได้พึ่งมาในอนาคต แม้จะมีพวกผู้นำประเทศสายสุหนี่หลายคนยอมเป็นทาสอิสราเอลกับอเมริกามาช้านานก็ตาม

    แต่หลังจากเห็นกองทัพอิหร่านถล่มอิสราเอลได้อย่างขาดลอย นิสัยขี้ขลาดของผู้นำมุสลิมสุหนี่ก็มั่นใจในอิหร่านมากยิ่งขึ้น หันมาให้ความร่วมมือกับอิหร่านมากยิ่งขึ้น

    ปูตินเคยคำรามในสมัยที่มูอัมมาร์ กัดดาฟีถูกชาตินักล่าอาณานิคมตะวันตกสังหารว่าถ้ารัสเซียฟื้นตัวได้เร็วกว่านี้ เขาจะไม่ยอมให้กัดดาฟีถูกจักรวรรดิ์นิยมอเมริกาสังหารและทำลายรัฐบาลลิเบียได้เลย

    ต่อมา เมื่อประธานาธิบดีอัสสาดของซีเรียซึ่งถูกอิสราเอลและอเมริกาหาทางบ่อนทำลาย ไล่ลงจากตำแหน่งและยึดประเทศมาขอร้องให้ช่วย รัสเซียก็สามารถทำให้อัสสาดอยู่ในตำแหน่งประธานาธิบดีและสร้างชาติขึ้นมาใหม่ได้จนถึงทุกวันนี้

    ตอนนี้ ปูตินยังให้คำปรึกษาทีมงานที่กำลังหาทางกู้ชาติลิเบียอยู่อย่างใกล้ชิดและได้ส่งนักรบวากเนอร์เข้าลิเบียแล้ว ขณะเดียวกันก็ให้คำปรึกษารัฐบาลอิรัก ให้คำปรึกษาปาเลสไตน์ ฯลฯ รวมทั้งให้ความช่วยเหลือแก่อิหร่าน

    ทุกท่านวางใจได้เลยว่าอิหร่านจะไม่มีทางเป็นรองอิสราเอลและจักรวรรดิ์นิยมอเมริกาเด็ดขาด ยิ่งอิสราเอลยิงนิวเคลียร์ถล่มอิหร่านเมื่อใด

    จำคำพูดของผมเอาไว้ว่าอิสราเอลและอเมริกาจะสะบักสะบอมและล่มสลายกันเร็วขึ้นเมื่อนั้น ผมพูดจากความรู้บนพื้นฐานข้อมูลที่ผมมี ไม่ใช่ความเห็น ลอยๆ อย่างที่หลายคนชอบแสดงทางสื่อ

    ส่วนคนไทยในอิสราเอล ผมเตือนแล้วว่าควรจะรักษาชีวิตและเดินทางออกมาเสียเพราะไม่ปลอดภัย ไม่ควรเสี่ยงชีวิตตนเองในประเทศนี้ เพราะคนยิวไซออนิสต์จำนวนมากจะมองตนเองว่าเป็นคนที่พระเจ้าเลือกและมองคนนับถือศาสนาอื่นชาติพันธุ์อื่นๆ เป็นมนุษย์แค่ครึ่งเดียวหรือเหยียดเป็นแค่สัตว์เดรัจฉานไปก็มี

    สรุปแล้ว ในสายตาชาวยิวไซออนิสต์จำนวนมาก กรรมกรต่างชาติทั้งหลายเป็นแค่ทาสรับใช้ให้ชีวิตพวกยิวไซออนิสต์ดีขึ้นเท่านั้น ซึ่งพวกยิวไซออนิสต์จะเรียกคนพวกนี้ว่า *โกยิม* หากคนงานต่างชาติที่อยู่ที่นั่นดูเป็นสาวสวย เป็นที่ถูกกิเลสขึ้นมา หลายๆ คนก็จะหาทางข่มขืนเสียด้วยซ้ำถ้าไม่ระวังตัว เป็นข่าวมาแล้วด้วย

    ตราบใดที่ยังมีแรงทำงานให้เขาได้ เขาก็จะเห็นค่าและให้เงิน แต่ไม่มีทางที่คนพวกนี้หรือรัฐบาลคนพวกนี้จะมาดูแลเอาใจใส่ ห่วงใยความปลอดภัย ถามสารทุกข์สุขดิบ เอื้ออารีต่อกรรมกรต่างชาติเหมือนที่คนไทยทำกับคนต่างชาติในประเทศไทย จะอยู่หรือไม่อยู่ที่นั่น ตัดสินใจกันเอาเอง

    ส่วนตัวผมมองข้ามสงครามระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านไปแล้วว่าอิหร่านชนะ แม้จะเสียหายเช่นกันก็ตาม และผมก็มองเห็นแสงสว่างของประเทศปาเลสไตน์ ภายใต้การวางแผนช่วยเหลือของวลาดิเมียร์ ปูตินว่าไม่กี่ปีข้างหน้า ประเทศปาเลสไตน์จะมีขึ้นแน่นอน ที่ผ่านมา ชาตินักล่าอาณานิคมตะวันตก นำโดยอเมริกา มองข้ามสติปัญญาและความสามารถของปูตินไปมาก

    ตอนนี้ ขอให้รอดูผลของสงครามระหว่างอิสราเอลและอิหร่านอย่างใจเย็นไปจนจบก็พอครับ


    ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธิ์นันท์
    สาธุชนไม่ต้องกังวลกับสงครามในตะวันออกกลางมาก: คนไทยที่อยู่ในประเทศไทย ไม่มีอะไรต้องไปกังวลกับสงครามระหว่างอิหร่านกับอิสราเอล เพราะวลาดิเมียร์ ปูตินได้ยื่นมือเข้าไปช่วยอิหร่านแล้ว อิหร่านมีแต่จะแกร่งขึ้นมาเป็นมหาอำนาจให้โลกมุสลิมได้พึ่งมาในอนาคต แม้จะมีพวกผู้นำประเทศสายสุหนี่หลายคนยอมเป็นทาสอิสราเอลกับอเมริกามาช้านานก็ตาม แต่หลังจากเห็นกองทัพอิหร่านถล่มอิสราเอลได้อย่างขาดลอย นิสัยขี้ขลาดของผู้นำมุสลิมสุหนี่ก็มั่นใจในอิหร่านมากยิ่งขึ้น หันมาให้ความร่วมมือกับอิหร่านมากยิ่งขึ้น ปูตินเคยคำรามในสมัยที่มูอัมมาร์ กัดดาฟีถูกชาตินักล่าอาณานิคมตะวันตกสังหารว่าถ้ารัสเซียฟื้นตัวได้เร็วกว่านี้ เขาจะไม่ยอมให้กัดดาฟีถูกจักรวรรดิ์นิยมอเมริกาสังหารและทำลายรัฐบาลลิเบียได้เลย ต่อมา เมื่อประธานาธิบดีอัสสาดของซีเรียซึ่งถูกอิสราเอลและอเมริกาหาทางบ่อนทำลาย ไล่ลงจากตำแหน่งและยึดประเทศมาขอร้องให้ช่วย รัสเซียก็สามารถทำให้อัสสาดอยู่ในตำแหน่งประธานาธิบดีและสร้างชาติขึ้นมาใหม่ได้จนถึงทุกวันนี้ ตอนนี้ ปูตินยังให้คำปรึกษาทีมงานที่กำลังหาทางกู้ชาติลิเบียอยู่อย่างใกล้ชิดและได้ส่งนักรบวากเนอร์เข้าลิเบียแล้ว ขณะเดียวกันก็ให้คำปรึกษารัฐบาลอิรัก ให้คำปรึกษาปาเลสไตน์ ฯลฯ รวมทั้งให้ความช่วยเหลือแก่อิหร่าน ทุกท่านวางใจได้เลยว่าอิหร่านจะไม่มีทางเป็นรองอิสราเอลและจักรวรรดิ์นิยมอเมริกาเด็ดขาด ยิ่งอิสราเอลยิงนิวเคลียร์ถล่มอิหร่านเมื่อใด จำคำพูดของผมเอาไว้ว่าอิสราเอลและอเมริกาจะสะบักสะบอมและล่มสลายกันเร็วขึ้นเมื่อนั้น ผมพูดจากความรู้บนพื้นฐานข้อมูลที่ผมมี ไม่ใช่ความเห็น ลอยๆ อย่างที่หลายคนชอบแสดงทางสื่อ ส่วนคนไทยในอิสราเอล ผมเตือนแล้วว่าควรจะรักษาชีวิตและเดินทางออกมาเสียเพราะไม่ปลอดภัย ไม่ควรเสี่ยงชีวิตตนเองในประเทศนี้ เพราะคนยิวไซออนิสต์จำนวนมากจะมองตนเองว่าเป็นคนที่พระเจ้าเลือกและมองคนนับถือศาสนาอื่นชาติพันธุ์อื่นๆ เป็นมนุษย์แค่ครึ่งเดียวหรือเหยียดเป็นแค่สัตว์เดรัจฉานไปก็มี สรุปแล้ว ในสายตาชาวยิวไซออนิสต์จำนวนมาก กรรมกรต่างชาติทั้งหลายเป็นแค่ทาสรับใช้ให้ชีวิตพวกยิวไซออนิสต์ดีขึ้นเท่านั้น ซึ่งพวกยิวไซออนิสต์จะเรียกคนพวกนี้ว่า *โกยิม* หากคนงานต่างชาติที่อยู่ที่นั่นดูเป็นสาวสวย เป็นที่ถูกกิเลสขึ้นมา หลายๆ คนก็จะหาทางข่มขืนเสียด้วยซ้ำถ้าไม่ระวังตัว เป็นข่าวมาแล้วด้วย ตราบใดที่ยังมีแรงทำงานให้เขาได้ เขาก็จะเห็นค่าและให้เงิน แต่ไม่มีทางที่คนพวกนี้หรือรัฐบาลคนพวกนี้จะมาดูแลเอาใจใส่ ห่วงใยความปลอดภัย ถามสารทุกข์สุขดิบ เอื้ออารีต่อกรรมกรต่างชาติเหมือนที่คนไทยทำกับคนต่างชาติในประเทศไทย จะอยู่หรือไม่อยู่ที่นั่น ตัดสินใจกันเอาเอง ส่วนตัวผมมองข้ามสงครามระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านไปแล้วว่าอิหร่านชนะ แม้จะเสียหายเช่นกันก็ตาม และผมก็มองเห็นแสงสว่างของประเทศปาเลสไตน์ ภายใต้การวางแผนช่วยเหลือของวลาดิเมียร์ ปูตินว่าไม่กี่ปีข้างหน้า ประเทศปาเลสไตน์จะมีขึ้นแน่นอน ที่ผ่านมา ชาตินักล่าอาณานิคมตะวันตก นำโดยอเมริกา มองข้ามสติปัญญาและความสามารถของปูตินไปมาก ตอนนี้ ขอให้รอดูผลของสงครามระหว่างอิสราเอลและอิหร่านอย่างใจเย็นไปจนจบก็พอครับ ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธิ์นันท์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🤠#เวียดนามเหนือและเวียดนามใต้จะแบ่งแยกประเทศอีกครั้งหรือไม่ ตอน01🤠

    ในปี 1975 เวียดนามเหนือและเวียดนามใต้รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน

    แม้ว่าเวียดนามจะรวมเป็นหนึ่งเดียว แต่เวียดนามก็ค่อย ๆ พัฒนาโครงสร้างอำนาจสูงสุดที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองในทางการเมือง และในช่วงหลายปีที่ผ่านมายังได้ก่อให้เกิดสิ่งที่โลกภายนอกเรียกว่าโครงสร้าง "รถเทียมม้าสี่ตัว"

    สิ่งที่เรียกว่า"รถเทียมม้าสี่ตัว" กล่าวคือ มีสี่คนดำรงตำแหน่งเลขาธิการทั่วไป ประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี และประธานรัฐสภาเวียดนาม ตามลำดับ และแทบจะไม่มีปรากฏการณ์ทำงวนควบตำแหน่งเกิดขึ้นเลย

    นี่เป็นระบบสมดุลเหนือใต้ที่มีเอกลักษณ์และยังเป็นกฎที่ไม่ได้เขียนไว้สำหรับองค์ประกอบของอำนาจ

    ไม่เพียงเท่านี้ โดยทั่วไปแล้วผู้นำจากทางเหนือจะทำหน้าที่เป็นเลขาธิการทั่วไป เพื่อให้แน่ใจว่าเวียดกงจะไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเมือง พร้อมทั้งรักษาความสัมพันธ์กับจีนซึ่งเป็นเพื่อนบ้านทางตอนเหนือของประเทศให้มีเสถียรภาพ

    และนายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำที่กระตือรือร้นใส่ใจในทางเศรษฐกิจซึ่งมาจากภาคใต้ รับผิดชอบงานเศรษฐกิจและการปฏิรูปเศรษฐกิจ

    โครงสร้างอำนาจนี้ดูมีเสถียรภาพ แต่จริงๆ แล้วเป็นผลมาจากการแลกเปลี่ยนและการประนีประนอมกันหลายครั้งในแวดวงการเมืองเวียดนาม และไม่มีเสถียรภาพมากนัก ในขณะที่การปฏิรูปของเวียดนามยังคงลึกซึ้งยิ่งขึ้น การต่อสู้เพื่ออำนาจและความขัดแย้งระหว่างกลุ่มจะทวีความรุนแรงมากขึ้น

    สิ่งนี้จะมีผลกระทบอย่างมากต่อความแตกต่างระหว่างเวียดนามเหนือและเวียดนามใต้

    ส่งผลให้เศรษฐกิจการเมืองของเวียดนามแสดงออกถึงความแตกแยก

    ทางตอนเหนือซึ่งมีฮานอยเป็นศูนย์กลางทางการเมือง มีแนวโน้มไปทางลัทธิสังคมนิยมมากกว่า ในขณะที่ทางตอนใต้ที่มีโฮจิมินห์ซิตี้ ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นเมืองไซง่อนเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ และเป็นสังคมทุนนิยมมากกว่า

    โฮจิมินห์ซิตี้ยังเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของเวียดนามและเป็นแรงผลักดันหลักในการพัฒนาอย่างรวดเร็วของเวียดนาม

    ภูมิทัศน์ทางการเมืองในปัจจุบันในเวียดนามก็เป็นสถานการณ์ที่ขับเคลื่อนด้วย"รถเทียมม้าสี่ตัว"เช่นกัน ในสถานการณ์ที่ต้องคำนึงถึงภาคเหนือและภาคใต้ ทั้งภาคเหนือและภาคใต้มักจะผลัดกันรับผิดชอบดูแลซึ่งกันและกัน ดังนั้นด้วยความแตกต่างอย่างมากระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ,เวียดนามจะแตกแยกอีกไหม?

    ในความเป็นจริง ในช่วงต้นศตวรรษที่ 17 เวียดนามอยู่ในยุคแห่งการแบ่งแยกและการเผชิญหน้าระหว่างเหนือและใต้มาเป็นเวลานาน เนื่องจากการแตกแยกในระยะยาว ช่องว่างและความบาดหมางระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ของเวียดนาม ก็กว้างขึ้นเรื่อยๆ

    หากดูแผนที่ของเวียดนามจะพบว่าภูมิประเทศของเวียดนามนั้นยาวและแคบ เป็นรูปตัว S มีความยาวจากเหนือจรดใต้ 1,600 กิโลเมตร และจุดที่แคบที่สุดจากตะวันออกไปตะวันตกเพียง 50 กิโลเมตร เหมือนงูยาวที่เกาะอยู่ในคาบสมุทรอินโดจีน

    เนื่องจากลำตัวของงูยาวตัวนี้เรียวเกินไป จึงสามารถตัดที่เอวได้อย่างง่ายดาย ทำให้เกิดสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างเหนือและใต้

    ในฐานะเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดของจีน เวียดนามตอนเหนือเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนของจีนมายาวนาน จนกระทั่งสมัยห้าราชวงศ์และสิบอาณาจักร(五代十国) เวียดนามถือโอกาสจากการแตกแยกล่มสลายของจีน ปลดตนเองจากการควบคุมของจีนและสถาปนาประเทศเอกราช

    บางทีอาจเป็นเพราะการแยกทางระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ในระยะยาว เวียดนามยังเผชิญการเผชิญหน้าระหว่างเหนือ-ใต้เช่นเดียวกับราชวงศ์ใต้และราชวงศ์เหนือ(南北朝)ของจีน และไม่ใช่แค่ครั้งเดียว

    ในปีคริสตศักราช 1428 จักรพรรดิเล ท้าย โต๋( Lê Thái Tổ 黎太祖)มีพระนามเดิมว่า เล เหล่ย (Lê Lợi, 黎利)ได้สถาปนาราชวงศ์เหิ่วเล(Later Lê dynasty後黎朝)ขึ้นในเมืองทังล็อง(Thăng Long升龙)ซึ่งปัจจุบันคือฮานอย หนึ่งร้อยปีหลังจากการสถาปนาประเทศ เจ้าหน้าที่ข้าราชการผู้มีอำนาจในราชวงศ์เหิ่วเล(Later Lê dynasty後黎朝)ได้แย่งชิงบัลลังก์ ประกาศตนเป็นจักรพรรดิ์ และสังหารหมู่ตระกูลราชวงศ์ และสถาปนาราชวงศ์ราชวงศ์หมัก (เหนือ)( Nhà Mạc 莫朝)

    แต่ต่อมาขุนนางผู้ภักดี ตระกูลเหงียน(Nguyen阮)แห่งราชวงศ์เหิ่วเล(Later Lê dynasty後黎朝)ได้พบทายาทของราชวงศ์เหิ่วเล(Later Lê dynasty後黎朝)ทางตอนใต้ของเวียดนาม ให้เคารพเขาในฐานะจักรพรรดิ และสถาปนาราชวงศ์ ราชวงศ์เหิ่วเล(Later Lê dynasty後黎朝) ขึ้นมาใหม่ ก่อให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างระบอบการปกครองทางเหนือและทางใต้

    ในช่วงการแบ่งแยกเหนือใต้ ระบอบแบ่งแยกดินแดนในท้องถิ่นก็ประสบกับเหตุการณ์ต่างๆ เช่น การสูญเสียอำนาจและการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองอำนาจทางการเมือง

    ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 17 ถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 เวียดนามก็อยู่ในช่วงแห่งการแบ่งแยกเนื่องจากข้อพิพาทระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ภาคเหนือและภาคใต้ได้ทำสงครามกันหลายครั้ง อย่างไรก็ตาม เป็นการยากที่จะกำหนดผลลัพธ์ของการแพ้ชนะ และในท้ายที่สุดพวกเขาก็ได้แต่กำหนดเขตแดน ก่อให้เกิดสถานการณ์ของ ภาคใต้ตระกูลเหงียน(Nguyen阮)และภาคเหนือตระกูลตรินห์(Trinh鄭)

    ผู้ปกครองเหงียน (Nguyen阮)ทางตอนใต้เติบโตในช่วงกลางศตวรรษที่ 16 และก่อตั้งขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 17 การปกครองของพวกเขากินเวลานานถึงสองศตวรรษและใช้มาตรการต่างๆ มากมายในด้านการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และด้านอื่นๆ

    การต่อต้านและการแบ่งแยกโดยพฤตินัยนี้ทำให้ความแตกต่างระหว่างเวียดนามเหนือและเวียดนามใต้รุนแรงขึ้น และยังส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการเมือง เศรษฐกิจ และแม้แต่วัฒนธรรมของเวียดนามในรุ่นต่อ ๆ ไป

    เมื่อพูดถึงเวียดนามยังเป็นเช่นนี้ การแบ่งแยกภาคเหนือและภาคใต้ในระยะยาวย่อมนำไปสู่ความแตกต่างในด้านวัฒนธรรมและประเพณีความแตกต่างเหล่านี้สะท้อนถึงความหลากหลายของประเทศในยามสงบอย่างแน่นอน

    อย่างไรก็ตาม เมื่อสถานการณ์ระหว่างประเทศและในประเทศไม่มั่นคง ก็อาจเป็นอันตรายที่ซ่อนอยู่และสามารถถูกเอารัดเอาเปรียบได้ง่ายโดยผู้ที่มีเจตนาร้าย ทำให้เกิดสถานการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้

    ในยุคปัจจุบัน เวียดนามถูกแบ่งออกเป็นเวียดนามใต้และเวียดนามเหนืออีกครั้ง ก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างเหนือ-ใต้โดยพฤตินัย

    แต่เช่นเดียวกับจีน เนื่องจากความเคยชินทางประวัติศาสตร์ เวียดนามมีประสบการณ์ในการรวมชาติเหนือและภาคใต้เข้าด้วยกัน พลังการรวมเข้าสู่ศูนย์กลางของชาติในประเทศนั้นแข็งแกร่งมาก และในที่สุดประเทศก็รวมเป็นหนึ่งเดียวในช่วงกลางทศวรรษ 1970

    แม้ว่าจะมีความแตกต่างอย่างมากระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ของเวียดนามเนื่องด้วยเหตุผลทางประวัติศาสตร์ การแทรกแซงของอาณานิคมของยุโรปและการมาถึงของยุคอาณานิคมทำให้การแบ่งแยกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้รุนแรงขึ้น

    ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ชาวฝรั่งเศสมีความสนใจเวียดนามดินแดนมหาสมบัติแห่งนี้ และขยายอาณาเขตอาณานิคมของตนมาถึงที่นี่ ในเวลานั้น รัฐบาลชิง(清)เป็นเจ้านครสมัยศักดินา (Suzerain宗主国) ของเวียดนาม แต่ด้วยการลงนามใน “สนธิสัญญาเทียนจิน (The Treaty of Tianjin中法新約)” รัฐบาลชิง(清)ที่ล้าหลังและไร้ความสามารถถูกบังคับให้สละอำนาจของเจ้านครสมัยศักดินา (suzerainty宗主权)ของตน

    ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1884 ฝรั่งเศสและเวียดนามลงนามในสนธิสัญญาเว้(The Treaty of Huế顺化条约)ซึ่งถือเป็นการล่มสลายของเวียดนามโดยสมบูรณ์ อาณานิคมฝรั่งเศสในอินโดจีน( Indochina印度支那) และการสถาปนาผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นจุดเริ่มต้นสู่ยุคอาณานิคมของเวียดนาม

    เพื่อให้ปกครองอาณานิคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ชาวฝรั่งเศสจึงใช้กลยุทธ์ "แบ่งแยกและปกครอง"และแบ่งเวียดนามออกเป็นสามส่วน ได้แก่ เขตแดนตอนเหนือ.....ตังเกี๋ย (Tonkin东京) เขตแดนตอนกลาง.....อันนัม(Annam安南)และเขตแดนตอนใต้.....โคชินชินา(Cochinchina交趾支那)

    ยิ่งไปกว่านั้น เขตแดนตอนใต้ยังเป็นดินแดนที่อยู่ภายใต้เขตอำนาจของฝรั่งเศสโดยตรง เขตแดนตอนกลางเป็นรัฐในอารักขา และเขตแดนตอนเหนือเป็นกึ่งอารักขา

    ตามบทบัญญัติของสนธิสัญญาเว้(The Treaty of Huế顺化条约)ฝรั่งเศสได้จัดตั้ง "ระบบการอารักขา(protectorate保护)" ในตังเกี๋ย (Tonkin东京)และอันนัม(Annam安南) ซึ่งอนุญาตให้ราชวงศ์ตระกูลเหงียน(Nguyen阮)ปกครองในนาม โดยแท้จริงแล้วจักรพรรดิได้กลายเป็นหุ่นเชิดไปแล้ว

    จากมุมมองของระบบการเมืองเวียดนามโดยพื้นฐานแล้วแบ่งออกเป็นสองส่วน ทางใต้เป็นดินแดนภายใต้เขตอำนาจของฝรั่งเศสโดยตรง และทางเหนือเป็นระบอบการปกครองหุ่นเชิดภายใต้การควบคุมของฝรั่งเศส

    ด้วยการแทรกแซงของฝรั่งเศสความแตกต่างระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ของเวียดนามเริ่มปรากฏให้เห็นชัดเจน ประกอบกับปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมทางภูมิศาสตร์ระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ เช่น ทางตอนเหนือส่วนใหญ่เป็นภูเขา

    ในขณะที่ภาคใต้มีภูมิประเทศที่ราบเรียบ และยังมีอ่าวทะเลธรรมชาติและสวยงามเหมาะกับท่าเรือมากมายหลายแห่ง ส่งผลให้เกิดสถานการณ์ที่กองกำลังต่างชาติที่รุกรานส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในภาคใต้ ในขณะที่กองกำลังต่อต้านแห่งชาติของเวียดนามกระจุกตัวอยู่ที่ภาคเหนือ

    ก่อนการมาถึงของฝรั่งเศส ระบบรัฐของเวียดนามเป็นแบบรวมศูนย์ นอกจากนี้ยังเป็นไปตามแบบอย่างของจีนในการคัดเลือกข้าราชการผ่านระบบการสอบของจักรพรรดิ(科举制) ระบบการศึกษาส่วนใหญ่เป็นการศึกษาแบบโรงเรียนเอกชน และเรื่องของอุดมการณ์ยังคงเป็นวัฒนธรรมขงจื๊อแบบดั้งเดิม

    อย่างไรก็ตาม ด้วยการมาถึงของนักล่าอาณานิคม อุดมการณ์ตัวหลักของเวียดนามก็ได้รับผลกระทบ และความแตกต่างในระดับภูมิภาคก็เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาของการเผชิญหน้าระหว่างเวียดนามใต้และเวียดนามเหนือเมื่อชาวอเมริกันเข้ามาแทรกแซง เนื่องจากระบบการเมืองที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง อุดมการณ์และวัฒนธรรมเหล่านี้ทำให้ความแตกต่างที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

    ดังจะเห็นได้จากคาบสมุทรเกาหลีที่ภาคเหนือและภาคใต้ยังคงมีความขัดแย้งกันอยู่

    หลังจากที่ฝรั่งเศสสถาปนาการปกครองอาณานิคมแล้ว ฝรั่งเศสย่อมดำเนินนโยบายการดูดซึมหลอมสลายอาณานิคมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เผยแพร่ความคิดอุดมการณ์และวัฒนธรรมของเจ้านครสมัยศักดินา (Suzerain宗主国) และดำเนินการล่าอาณานิคมทางวัฒนธรรม เพื่อจัดหาอาวุธทางอุดมการณ์อันทรงพลังเพื่อเสริมสร้างและรวบรวมการปกครองให้เข้าด้วยกันของอาณานิคม

    ชาวฝรั่งเศสก็เช่นกัน เพื่อเสริมสร้างการควบคุมเวียดนามและฝึกอบรมนักแปล ฝรั่งเศสได้เปิดโรงเรียนสองภาษาในเวียดนามตอนใต้ และกำหนดนโยบาย "การดูดซึมหลอมสลาย" ขึ้นในปี ค.ศ. 1897 เพื่อเตรียมขยายการศึกษาแนวรูปแบบฝรั่งเศสสมัยใหม่ไปยังทุกหนทุกแห่งของภาคใต้ .

    อย่างไรก็ตาม ทางภาคเหนือยังอยู่ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิราชวงศ์ตระกูลเหงียน(Nguyen阮) ดังนั้นการสอบคัดเลือกโดยการสอบของจักรพรรดิ(科举制)แบบดั้งเดิมจึงยังคงถูกนำมาใช้ในภูมิภาคนี้ และการศึกษายังคงขึ้นอยู่กับระบบการสอบของจักรพรรดิ(科举制)เป็นหลัก พลังของการศึกษาสไตล์แบบตะวันตกนั้นยังอ่อนแอมาก

    เป็นที่น่าสังเกตว่าระบบการสอบของจักรพรรดิ(科举制)ของเวียดนามจนกระทั่งปีค.ศ. 1919 จึงค่อยถูกยกเลิก ซึ่งช้ากว่าจีนถึงสิบสี่ปี จากสิ่งเหล่านี้ยังแสดงให้เห็นถึงความแตกแยกและความแตกต่างในด้านการศึกษาระหว่างภาคเหนือและภาคใต้

    ความแตกต่างในระบบการศึกษานี้นำไปสู่ความแตกต่างทางความคิดอุดมการณ์ระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ผลกระทบของความแตกต่างนี้มีมายาวนานและกว้างขวาง

    ในช่วงทศวรรษที่ 1940 เวียดนามตอนใต้ซึ่งได้รับอิทธิพลผลกระทบอย่างลึกซึ้งจากการศึกษาของตะวันตก ลัทธิขงจื๊อแบบคลาสสิกถูกละทิ้งไปนานแล้ว และเริ่มคิดถึงแนวคิดสมัยใหม่ เช่น วิทยาศาสตร์ ความสามารถพิเศษ และอารยธรรม อย่างไรก็ตาม ครอบครัวข้าราชการท้องถิ่นในภาคเหนือยังคงถือว่าลัทธิขงจื๊อเป็นวัฒนธรรมและถือเป็นสมบัติ

    หลังจากที่ชาวอเมริกันรับช่วงต่อจากฝรั่งเศสในฐานะผู้ควบคุมที่แท้จริงของเวียดนามใต้ พวกเขายังคงมุ่งเน้นไปที่การปฏิบัติจริงและความคิดริเริ่มของนักเรียน ส่งเสริมการฝึกฝนผู้มีความสามารถในภาคใต้ ในขณะที่ภาคเหนือเน้นปลูกฝังความรักชาติและการรู้หนังสือการอ่านออกเขียนได้ และเสนอให้เผยแพร่การศึกษาแก่คนส่วนใหญ่ของประชาชนในหมู่คนทำงาน

    กล่าวได้ง่ายๆว่า เวียดนามทางภาคใต้สิ่งที่ดำเนินการคือการศึกษาชั้นยอดระดับหัวกะทิ และมุ่งเน้นไปที่การปลูกฝังความสามารถพิเศษของบุคคล ในขณะที่วัตถุประสงค์หลักของการศึกษาในภาคเหนือคือการเผยแพร่ระดับมาตรฐานการรู้หนังสือ

    ลำดับความสำคัญที่แตกต่างกันระหว่างภาคเหนือและภาคใต้นำไปสู่การขยายความแตกต่างทางอุดมการณ์และวัฒนธรรมระหว่างภาคเหนือและภาคใต้โดยทั่วไป โดยทั่วไปแล้วเวียดนามทางภาคใต้ได้รับอิทธิพลเปลี่ยนแปลงเอนเอียงไปทางตะวันตก ในขณะที่เวียดนามทางภาคเหนือได้รับอิทธิพลอย่างลึกซึ้งจากแนวคิดคอมมิวนิสต์ การแตกแยกจากกันและความแตกต่างเช่นนี้ แม้หลังจากการรวมตัวกันของภาคเหนือและภาคใต้อีกครั้ง เนื่องจากความเคยชินเฉื่อยชาและความสนใจทางประวัติศาสตร์รวมทั้งผลประโยขน์ต่างๆ ทั้งสองก็ไม่สามารถเชื่อมโยงกันได้ในเวลาอันสั้น

    ใครก็ตามที่คุ้นเคยกับเวียดนามจะรู้ดีว่าช่องว่างระหว่างเวียดนามเหนือและใต้นั้นค่อนข้างใหญ่ และช่องว่างก็มีแนวโน้มกว้างขึ้นเรื่อยๆ ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น เวียดนามตอนเหนือส่วนใหณ่เป็นภูเขา ภาคใต้มีภูมิประเทศเป็นที่ราบเรียบ และมีอ่าวทะเลเหมาะกับทำท่าเรือและสถานที่ท่องเที่ยวรีสอร์ทที่ดีเยี่ยมหลายแห่ง ซึ่งทำให้สภาพเงื่อนไขการพัฒนาเศรษฐกิจในภาคใต้โดยธรรมชาติแล้วดีกว่าทางภาคเหนือ

    เช่นเดียวกับจีน โฮจิมินห์ซิตี้ทางตอนใต้เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของเวียดนามในฐานะเมืองหลวงของเวียดนามใต้

    ก่อนการรวมตัวของประเทศ โฮจิมินห์ซิตี้เป็นที่รู้จักในนามไซ่ง่อน เป็นศูนย์กลางการปกครองและเขตปกครองหลายแห่งของมหาอำนาจตะวันตก และยังเป็นที่รู้จักในชื่อ "ปารีสน้อยแห่งตะวันออก"

    😎โปรดติดตามบทความ #เวียดนามเหนือและเวียดนามใต้จะแบ่งแยกประเทศอีกครั้งหรือไม่ ตอน02 ที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า😎

    🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰


    🤠#เวียดนามเหนือและเวียดนามใต้จะแบ่งแยกประเทศอีกครั้งหรือไม่ ตอน01🤠 ในปี 1975 เวียดนามเหนือและเวียดนามใต้รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน แม้ว่าเวียดนามจะรวมเป็นหนึ่งเดียว แต่เวียดนามก็ค่อย ๆ พัฒนาโครงสร้างอำนาจสูงสุดที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองในทางการเมือง และในช่วงหลายปีที่ผ่านมายังได้ก่อให้เกิดสิ่งที่โลกภายนอกเรียกว่าโครงสร้าง "รถเทียมม้าสี่ตัว" สิ่งที่เรียกว่า"รถเทียมม้าสี่ตัว" กล่าวคือ มีสี่คนดำรงตำแหน่งเลขาธิการทั่วไป ประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี และประธานรัฐสภาเวียดนาม ตามลำดับ และแทบจะไม่มีปรากฏการณ์ทำงวนควบตำแหน่งเกิดขึ้นเลย นี่เป็นระบบสมดุลเหนือใต้ที่มีเอกลักษณ์และยังเป็นกฎที่ไม่ได้เขียนไว้สำหรับองค์ประกอบของอำนาจ ไม่เพียงเท่านี้ โดยทั่วไปแล้วผู้นำจากทางเหนือจะทำหน้าที่เป็นเลขาธิการทั่วไป เพื่อให้แน่ใจว่าเวียดกงจะไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเมือง พร้อมทั้งรักษาความสัมพันธ์กับจีนซึ่งเป็นเพื่อนบ้านทางตอนเหนือของประเทศให้มีเสถียรภาพ และนายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำที่กระตือรือร้นใส่ใจในทางเศรษฐกิจซึ่งมาจากภาคใต้ รับผิดชอบงานเศรษฐกิจและการปฏิรูปเศรษฐกิจ โครงสร้างอำนาจนี้ดูมีเสถียรภาพ แต่จริงๆ แล้วเป็นผลมาจากการแลกเปลี่ยนและการประนีประนอมกันหลายครั้งในแวดวงการเมืองเวียดนาม และไม่มีเสถียรภาพมากนัก ในขณะที่การปฏิรูปของเวียดนามยังคงลึกซึ้งยิ่งขึ้น การต่อสู้เพื่ออำนาจและความขัดแย้งระหว่างกลุ่มจะทวีความรุนแรงมากขึ้น สิ่งนี้จะมีผลกระทบอย่างมากต่อความแตกต่างระหว่างเวียดนามเหนือและเวียดนามใต้ ส่งผลให้เศรษฐกิจการเมืองของเวียดนามแสดงออกถึงความแตกแยก ทางตอนเหนือซึ่งมีฮานอยเป็นศูนย์กลางทางการเมือง มีแนวโน้มไปทางลัทธิสังคมนิยมมากกว่า ในขณะที่ทางตอนใต้ที่มีโฮจิมินห์ซิตี้ ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นเมืองไซง่อนเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ และเป็นสังคมทุนนิยมมากกว่า โฮจิมินห์ซิตี้ยังเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของเวียดนามและเป็นแรงผลักดันหลักในการพัฒนาอย่างรวดเร็วของเวียดนาม ภูมิทัศน์ทางการเมืองในปัจจุบันในเวียดนามก็เป็นสถานการณ์ที่ขับเคลื่อนด้วย"รถเทียมม้าสี่ตัว"เช่นกัน ในสถานการณ์ที่ต้องคำนึงถึงภาคเหนือและภาคใต้ ทั้งภาคเหนือและภาคใต้มักจะผลัดกันรับผิดชอบดูแลซึ่งกันและกัน ดังนั้นด้วยความแตกต่างอย่างมากระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ,เวียดนามจะแตกแยกอีกไหม? ในความเป็นจริง ในช่วงต้นศตวรรษที่ 17 เวียดนามอยู่ในยุคแห่งการแบ่งแยกและการเผชิญหน้าระหว่างเหนือและใต้มาเป็นเวลานาน เนื่องจากการแตกแยกในระยะยาว ช่องว่างและความบาดหมางระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ของเวียดนาม ก็กว้างขึ้นเรื่อยๆ หากดูแผนที่ของเวียดนามจะพบว่าภูมิประเทศของเวียดนามนั้นยาวและแคบ เป็นรูปตัว S มีความยาวจากเหนือจรดใต้ 1,600 กิโลเมตร และจุดที่แคบที่สุดจากตะวันออกไปตะวันตกเพียง 50 กิโลเมตร เหมือนงูยาวที่เกาะอยู่ในคาบสมุทรอินโดจีน เนื่องจากลำตัวของงูยาวตัวนี้เรียวเกินไป จึงสามารถตัดที่เอวได้อย่างง่ายดาย ทำให้เกิดสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างเหนือและใต้ ในฐานะเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดของจีน เวียดนามตอนเหนือเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนของจีนมายาวนาน จนกระทั่งสมัยห้าราชวงศ์และสิบอาณาจักร(五代十国) เวียดนามถือโอกาสจากการแตกแยกล่มสลายของจีน ปลดตนเองจากการควบคุมของจีนและสถาปนาประเทศเอกราช บางทีอาจเป็นเพราะการแยกทางระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ในระยะยาว เวียดนามยังเผชิญการเผชิญหน้าระหว่างเหนือ-ใต้เช่นเดียวกับราชวงศ์ใต้และราชวงศ์เหนือ(南北朝)ของจีน และไม่ใช่แค่ครั้งเดียว ในปีคริสตศักราช 1428 จักรพรรดิเล ท้าย โต๋( Lê Thái Tổ 黎太祖)มีพระนามเดิมว่า เล เหล่ย (Lê Lợi, 黎利)ได้สถาปนาราชวงศ์เหิ่วเล(Later Lê dynasty後黎朝)ขึ้นในเมืองทังล็อง(Thăng Long升龙)ซึ่งปัจจุบันคือฮานอย หนึ่งร้อยปีหลังจากการสถาปนาประเทศ เจ้าหน้าที่ข้าราชการผู้มีอำนาจในราชวงศ์เหิ่วเล(Later Lê dynasty後黎朝)ได้แย่งชิงบัลลังก์ ประกาศตนเป็นจักรพรรดิ์ และสังหารหมู่ตระกูลราชวงศ์ และสถาปนาราชวงศ์ราชวงศ์หมัก (เหนือ)( Nhà Mạc 莫朝) แต่ต่อมาขุนนางผู้ภักดี ตระกูลเหงียน(Nguyen阮)แห่งราชวงศ์เหิ่วเล(Later Lê dynasty後黎朝)ได้พบทายาทของราชวงศ์เหิ่วเล(Later Lê dynasty後黎朝)ทางตอนใต้ของเวียดนาม ให้เคารพเขาในฐานะจักรพรรดิ และสถาปนาราชวงศ์ ราชวงศ์เหิ่วเล(Later Lê dynasty後黎朝) ขึ้นมาใหม่ ก่อให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างระบอบการปกครองทางเหนือและทางใต้ ในช่วงการแบ่งแยกเหนือใต้ ระบอบแบ่งแยกดินแดนในท้องถิ่นก็ประสบกับเหตุการณ์ต่างๆ เช่น การสูญเสียอำนาจและการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองอำนาจทางการเมือง ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 17 ถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 เวียดนามก็อยู่ในช่วงแห่งการแบ่งแยกเนื่องจากข้อพิพาทระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ภาคเหนือและภาคใต้ได้ทำสงครามกันหลายครั้ง อย่างไรก็ตาม เป็นการยากที่จะกำหนดผลลัพธ์ของการแพ้ชนะ และในท้ายที่สุดพวกเขาก็ได้แต่กำหนดเขตแดน ก่อให้เกิดสถานการณ์ของ ภาคใต้ตระกูลเหงียน(Nguyen阮)และภาคเหนือตระกูลตรินห์(Trinh鄭) ผู้ปกครองเหงียน (Nguyen阮)ทางตอนใต้เติบโตในช่วงกลางศตวรรษที่ 16 และก่อตั้งขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 17 การปกครองของพวกเขากินเวลานานถึงสองศตวรรษและใช้มาตรการต่างๆ มากมายในด้านการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และด้านอื่นๆ การต่อต้านและการแบ่งแยกโดยพฤตินัยนี้ทำให้ความแตกต่างระหว่างเวียดนามเหนือและเวียดนามใต้รุนแรงขึ้น และยังส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการเมือง เศรษฐกิจ และแม้แต่วัฒนธรรมของเวียดนามในรุ่นต่อ ๆ ไป เมื่อพูดถึงเวียดนามยังเป็นเช่นนี้ การแบ่งแยกภาคเหนือและภาคใต้ในระยะยาวย่อมนำไปสู่ความแตกต่างในด้านวัฒนธรรมและประเพณีความแตกต่างเหล่านี้สะท้อนถึงความหลากหลายของประเทศในยามสงบอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม เมื่อสถานการณ์ระหว่างประเทศและในประเทศไม่มั่นคง ก็อาจเป็นอันตรายที่ซ่อนอยู่และสามารถถูกเอารัดเอาเปรียบได้ง่ายโดยผู้ที่มีเจตนาร้าย ทำให้เกิดสถานการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ ในยุคปัจจุบัน เวียดนามถูกแบ่งออกเป็นเวียดนามใต้และเวียดนามเหนืออีกครั้ง ก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างเหนือ-ใต้โดยพฤตินัย แต่เช่นเดียวกับจีน เนื่องจากความเคยชินทางประวัติศาสตร์ เวียดนามมีประสบการณ์ในการรวมชาติเหนือและภาคใต้เข้าด้วยกัน พลังการรวมเข้าสู่ศูนย์กลางของชาติในประเทศนั้นแข็งแกร่งมาก และในที่สุดประเทศก็รวมเป็นหนึ่งเดียวในช่วงกลางทศวรรษ 1970 แม้ว่าจะมีความแตกต่างอย่างมากระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ของเวียดนามเนื่องด้วยเหตุผลทางประวัติศาสตร์ การแทรกแซงของอาณานิคมของยุโรปและการมาถึงของยุคอาณานิคมทำให้การแบ่งแยกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้รุนแรงขึ้น ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ชาวฝรั่งเศสมีความสนใจเวียดนามดินแดนมหาสมบัติแห่งนี้ และขยายอาณาเขตอาณานิคมของตนมาถึงที่นี่ ในเวลานั้น รัฐบาลชิง(清)เป็นเจ้านครสมัยศักดินา (Suzerain宗主国) ของเวียดนาม แต่ด้วยการลงนามใน “สนธิสัญญาเทียนจิน (The Treaty of Tianjin中法新約)” รัฐบาลชิง(清)ที่ล้าหลังและไร้ความสามารถถูกบังคับให้สละอำนาจของเจ้านครสมัยศักดินา (suzerainty宗主权)ของตน ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1884 ฝรั่งเศสและเวียดนามลงนามในสนธิสัญญาเว้(The Treaty of Huế顺化条约)ซึ่งถือเป็นการล่มสลายของเวียดนามโดยสมบูรณ์ อาณานิคมฝรั่งเศสในอินโดจีน( Indochina印度支那) และการสถาปนาผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นจุดเริ่มต้นสู่ยุคอาณานิคมของเวียดนาม เพื่อให้ปกครองอาณานิคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ชาวฝรั่งเศสจึงใช้กลยุทธ์ "แบ่งแยกและปกครอง"และแบ่งเวียดนามออกเป็นสามส่วน ได้แก่ เขตแดนตอนเหนือ.....ตังเกี๋ย (Tonkin东京) เขตแดนตอนกลาง.....อันนัม(Annam安南)และเขตแดนตอนใต้.....โคชินชินา(Cochinchina交趾支那) ยิ่งไปกว่านั้น เขตแดนตอนใต้ยังเป็นดินแดนที่อยู่ภายใต้เขตอำนาจของฝรั่งเศสโดยตรง เขตแดนตอนกลางเป็นรัฐในอารักขา และเขตแดนตอนเหนือเป็นกึ่งอารักขา ตามบทบัญญัติของสนธิสัญญาเว้(The Treaty of Huế顺化条约)ฝรั่งเศสได้จัดตั้ง "ระบบการอารักขา(protectorate保护)" ในตังเกี๋ย (Tonkin东京)และอันนัม(Annam安南) ซึ่งอนุญาตให้ราชวงศ์ตระกูลเหงียน(Nguyen阮)ปกครองในนาม โดยแท้จริงแล้วจักรพรรดิได้กลายเป็นหุ่นเชิดไปแล้ว จากมุมมองของระบบการเมืองเวียดนามโดยพื้นฐานแล้วแบ่งออกเป็นสองส่วน ทางใต้เป็นดินแดนภายใต้เขตอำนาจของฝรั่งเศสโดยตรง และทางเหนือเป็นระบอบการปกครองหุ่นเชิดภายใต้การควบคุมของฝรั่งเศส ด้วยการแทรกแซงของฝรั่งเศสความแตกต่างระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ของเวียดนามเริ่มปรากฏให้เห็นชัดเจน ประกอบกับปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมทางภูมิศาสตร์ระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ เช่น ทางตอนเหนือส่วนใหญ่เป็นภูเขา ในขณะที่ภาคใต้มีภูมิประเทศที่ราบเรียบ และยังมีอ่าวทะเลธรรมชาติและสวยงามเหมาะกับท่าเรือมากมายหลายแห่ง ส่งผลให้เกิดสถานการณ์ที่กองกำลังต่างชาติที่รุกรานส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในภาคใต้ ในขณะที่กองกำลังต่อต้านแห่งชาติของเวียดนามกระจุกตัวอยู่ที่ภาคเหนือ ก่อนการมาถึงของฝรั่งเศส ระบบรัฐของเวียดนามเป็นแบบรวมศูนย์ นอกจากนี้ยังเป็นไปตามแบบอย่างของจีนในการคัดเลือกข้าราชการผ่านระบบการสอบของจักรพรรดิ(科举制) ระบบการศึกษาส่วนใหญ่เป็นการศึกษาแบบโรงเรียนเอกชน และเรื่องของอุดมการณ์ยังคงเป็นวัฒนธรรมขงจื๊อแบบดั้งเดิม อย่างไรก็ตาม ด้วยการมาถึงของนักล่าอาณานิคม อุดมการณ์ตัวหลักของเวียดนามก็ได้รับผลกระทบ และความแตกต่างในระดับภูมิภาคก็เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาของการเผชิญหน้าระหว่างเวียดนามใต้และเวียดนามเหนือเมื่อชาวอเมริกันเข้ามาแทรกแซง เนื่องจากระบบการเมืองที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง อุดมการณ์และวัฒนธรรมเหล่านี้ทำให้ความแตกต่างที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ดังจะเห็นได้จากคาบสมุทรเกาหลีที่ภาคเหนือและภาคใต้ยังคงมีความขัดแย้งกันอยู่ หลังจากที่ฝรั่งเศสสถาปนาการปกครองอาณานิคมแล้ว ฝรั่งเศสย่อมดำเนินนโยบายการดูดซึมหลอมสลายอาณานิคมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เผยแพร่ความคิดอุดมการณ์และวัฒนธรรมของเจ้านครสมัยศักดินา (Suzerain宗主国) และดำเนินการล่าอาณานิคมทางวัฒนธรรม เพื่อจัดหาอาวุธทางอุดมการณ์อันทรงพลังเพื่อเสริมสร้างและรวบรวมการปกครองให้เข้าด้วยกันของอาณานิคม ชาวฝรั่งเศสก็เช่นกัน เพื่อเสริมสร้างการควบคุมเวียดนามและฝึกอบรมนักแปล ฝรั่งเศสได้เปิดโรงเรียนสองภาษาในเวียดนามตอนใต้ และกำหนดนโยบาย "การดูดซึมหลอมสลาย" ขึ้นในปี ค.ศ. 1897 เพื่อเตรียมขยายการศึกษาแนวรูปแบบฝรั่งเศสสมัยใหม่ไปยังทุกหนทุกแห่งของภาคใต้ . อย่างไรก็ตาม ทางภาคเหนือยังอยู่ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิราชวงศ์ตระกูลเหงียน(Nguyen阮) ดังนั้นการสอบคัดเลือกโดยการสอบของจักรพรรดิ(科举制)แบบดั้งเดิมจึงยังคงถูกนำมาใช้ในภูมิภาคนี้ และการศึกษายังคงขึ้นอยู่กับระบบการสอบของจักรพรรดิ(科举制)เป็นหลัก พลังของการศึกษาสไตล์แบบตะวันตกนั้นยังอ่อนแอมาก เป็นที่น่าสังเกตว่าระบบการสอบของจักรพรรดิ(科举制)ของเวียดนามจนกระทั่งปีค.ศ. 1919 จึงค่อยถูกยกเลิก ซึ่งช้ากว่าจีนถึงสิบสี่ปี จากสิ่งเหล่านี้ยังแสดงให้เห็นถึงความแตกแยกและความแตกต่างในด้านการศึกษาระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ความแตกต่างในระบบการศึกษานี้นำไปสู่ความแตกต่างทางความคิดอุดมการณ์ระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ผลกระทบของความแตกต่างนี้มีมายาวนานและกว้างขวาง ในช่วงทศวรรษที่ 1940 เวียดนามตอนใต้ซึ่งได้รับอิทธิพลผลกระทบอย่างลึกซึ้งจากการศึกษาของตะวันตก ลัทธิขงจื๊อแบบคลาสสิกถูกละทิ้งไปนานแล้ว และเริ่มคิดถึงแนวคิดสมัยใหม่ เช่น วิทยาศาสตร์ ความสามารถพิเศษ และอารยธรรม อย่างไรก็ตาม ครอบครัวข้าราชการท้องถิ่นในภาคเหนือยังคงถือว่าลัทธิขงจื๊อเป็นวัฒนธรรมและถือเป็นสมบัติ หลังจากที่ชาวอเมริกันรับช่วงต่อจากฝรั่งเศสในฐานะผู้ควบคุมที่แท้จริงของเวียดนามใต้ พวกเขายังคงมุ่งเน้นไปที่การปฏิบัติจริงและความคิดริเริ่มของนักเรียน ส่งเสริมการฝึกฝนผู้มีความสามารถในภาคใต้ ในขณะที่ภาคเหนือเน้นปลูกฝังความรักชาติและการรู้หนังสือการอ่านออกเขียนได้ และเสนอให้เผยแพร่การศึกษาแก่คนส่วนใหญ่ของประชาชนในหมู่คนทำงาน กล่าวได้ง่ายๆว่า เวียดนามทางภาคใต้สิ่งที่ดำเนินการคือการศึกษาชั้นยอดระดับหัวกะทิ และมุ่งเน้นไปที่การปลูกฝังความสามารถพิเศษของบุคคล ในขณะที่วัตถุประสงค์หลักของการศึกษาในภาคเหนือคือการเผยแพร่ระดับมาตรฐานการรู้หนังสือ ลำดับความสำคัญที่แตกต่างกันระหว่างภาคเหนือและภาคใต้นำไปสู่การขยายความแตกต่างทางอุดมการณ์และวัฒนธรรมระหว่างภาคเหนือและภาคใต้โดยทั่วไป โดยทั่วไปแล้วเวียดนามทางภาคใต้ได้รับอิทธิพลเปลี่ยนแปลงเอนเอียงไปทางตะวันตก ในขณะที่เวียดนามทางภาคเหนือได้รับอิทธิพลอย่างลึกซึ้งจากแนวคิดคอมมิวนิสต์ การแตกแยกจากกันและความแตกต่างเช่นนี้ แม้หลังจากการรวมตัวกันของภาคเหนือและภาคใต้อีกครั้ง เนื่องจากความเคยชินเฉื่อยชาและความสนใจทางประวัติศาสตร์รวมทั้งผลประโยขน์ต่างๆ ทั้งสองก็ไม่สามารถเชื่อมโยงกันได้ในเวลาอันสั้น ใครก็ตามที่คุ้นเคยกับเวียดนามจะรู้ดีว่าช่องว่างระหว่างเวียดนามเหนือและใต้นั้นค่อนข้างใหญ่ และช่องว่างก็มีแนวโน้มกว้างขึ้นเรื่อยๆ ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น เวียดนามตอนเหนือส่วนใหณ่เป็นภูเขา ภาคใต้มีภูมิประเทศเป็นที่ราบเรียบ และมีอ่าวทะเลเหมาะกับทำท่าเรือและสถานที่ท่องเที่ยวรีสอร์ทที่ดีเยี่ยมหลายแห่ง ซึ่งทำให้สภาพเงื่อนไขการพัฒนาเศรษฐกิจในภาคใต้โดยธรรมชาติแล้วดีกว่าทางภาคเหนือ เช่นเดียวกับจีน โฮจิมินห์ซิตี้ทางตอนใต้เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของเวียดนามในฐานะเมืองหลวงของเวียดนามใต้ ก่อนการรวมตัวของประเทศ โฮจิมินห์ซิตี้เป็นที่รู้จักในนามไซ่ง่อน เป็นศูนย์กลางการปกครองและเขตปกครองหลายแห่งของมหาอำนาจตะวันตก และยังเป็นที่รู้จักในชื่อ "ปารีสน้อยแห่งตะวันออก" 😎โปรดติดตามบทความ #เวียดนามเหนือและเวียดนามใต้จะแบ่งแยกประเทศอีกครั้งหรือไม่ ตอน02 ที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า😎 🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1211 มุมมอง 0 รีวิว
  • ระวังเทคโนโลยีตะวันตกให้ดี:

    ปลายเดือนกรกฎาคม นายอิสมาอิล ฮันนิเยห์ หัวหน้ากลุ่มฮามาสถูกสังหารเพราะไปเล่น Whatsapp ซึ่งเป็น App ของยิวไซออนิสต์

    ต่อมา เราก็ได้ข่าวว่ามอสสาดไปสืบพฤติกรรมการใช้ชีวิตในเลบานอน จนได้พบว่าชาวเลบานอนนิยมใช้เพจเจอร์ที่ผลิตในไต้หวันซึ่งจ้างบริษัทในฮังการี่ชื่อ BAC Consulting KFT ผลิตเพจเจอร์ให้ จึงขออนุญาตบริษัทนี้ฝังอุปกรณ์ที่ทำให้เกิดระเบิดไว้ที่เพจเจอร์เพื่อสังหารชาวเลบานอนที่ใช้

    มอสสาดซึ่งเป็นหน่วยสืบราชการลับของกลุ่มยิวไซออนิสต์ที่วางแผนจัดระเบียบโลกพยายามรวบรวมจุดอ่อนของทุกประเทศเป็น big data เอาไว้ เพื่อการปฏิบัติการในอนาคต

    ปัจจุบันนี้ กำลังหันมาเล่นเก็บข้อมูลกับแอป AI กับบริษัทดังๆ ต่างๆ เพราะคนนิยมเล่น ระวังให้ดีครับ หน่วยความมั่นคงของไทยยังอ่อนหัดมาก ตามไม่ทันหรอกครับ ต้องเลือกอ่านข่าวและระวังกันเอง

    เมื่อก่อน ผมเคยใช้ไอโฟน แต่พอนึกถึงข่าว 9/11 และรู้เรื่องการเมืองระหว่างประเทศมากขึ้น ผมเปลี่ยนไปใช้ยี่ห้ออื่น คนละค่าย เพราะเครื่องโทรศัพท์จากชาตินักล่าอาณานิคมทั้งหลายเก็บรายละเอียดข้อมูลผู้ใช้ด้วย ต้องระมัดระวังกันให้ดี

    ผมไม่ฉีดวัคซีนเพราะผมรู้ว่าตะวันตกมีแผนใช้อาวุธชีวภาพ รวมทั้งวัคซีนด้วยนี่แหละ แต่จะเขียนให้คนทั่วไปอ่าน ความรู้ระหว่างคนที่รู้กับคนที่ไม่ค่อยสนใจเรียนรู้ห่างกันมาก เขียนยังไงก็คงไม่เชื่อ เพราะถูกล้างสมองมาเยอะ ผมจึงแนะนำให้แก่เฉพาะคนที่เป็นระดับบัวสามเหล่าแรกที่มาติดตามอ่านเท่านั้นซึ่งมีน้อยมากในสังคมไทย ใครตกเป็นเหยื่อแล้วตายหรือเป็นอัมพาตก็ถือเป็นกรรมของใครของมันไป

    เหมือนๆ กับอาหารจำพวก fast food นั่นแหละครับ ผมเคยเตือนเอาไว้ว่าผสมด้วยสาร GMOs ที่สามารถทำให้อายุสั้นลงหรือระบบเจริญพันธุ์แย่ลงได้ ใครจะเชื่อก็เชื่อ ไม่เชื่อก็ตามใจครับ


    ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์
    ระวังเทคโนโลยีตะวันตกให้ดี: ปลายเดือนกรกฎาคม นายอิสมาอิล ฮันนิเยห์ หัวหน้ากลุ่มฮามาสถูกสังหารเพราะไปเล่น Whatsapp ซึ่งเป็น App ของยิวไซออนิสต์ ต่อมา เราก็ได้ข่าวว่ามอสสาดไปสืบพฤติกรรมการใช้ชีวิตในเลบานอน จนได้พบว่าชาวเลบานอนนิยมใช้เพจเจอร์ที่ผลิตในไต้หวันซึ่งจ้างบริษัทในฮังการี่ชื่อ BAC Consulting KFT ผลิตเพจเจอร์ให้ จึงขออนุญาตบริษัทนี้ฝังอุปกรณ์ที่ทำให้เกิดระเบิดไว้ที่เพจเจอร์เพื่อสังหารชาวเลบานอนที่ใช้ มอสสาดซึ่งเป็นหน่วยสืบราชการลับของกลุ่มยิวไซออนิสต์ที่วางแผนจัดระเบียบโลกพยายามรวบรวมจุดอ่อนของทุกประเทศเป็น big data เอาไว้ เพื่อการปฏิบัติการในอนาคต ปัจจุบันนี้ กำลังหันมาเล่นเก็บข้อมูลกับแอป AI กับบริษัทดังๆ ต่างๆ เพราะคนนิยมเล่น ระวังให้ดีครับ หน่วยความมั่นคงของไทยยังอ่อนหัดมาก ตามไม่ทันหรอกครับ ต้องเลือกอ่านข่าวและระวังกันเอง เมื่อก่อน ผมเคยใช้ไอโฟน แต่พอนึกถึงข่าว 9/11 และรู้เรื่องการเมืองระหว่างประเทศมากขึ้น ผมเปลี่ยนไปใช้ยี่ห้ออื่น คนละค่าย เพราะเครื่องโทรศัพท์จากชาตินักล่าอาณานิคมทั้งหลายเก็บรายละเอียดข้อมูลผู้ใช้ด้วย ต้องระมัดระวังกันให้ดี ผมไม่ฉีดวัคซีนเพราะผมรู้ว่าตะวันตกมีแผนใช้อาวุธชีวภาพ รวมทั้งวัคซีนด้วยนี่แหละ แต่จะเขียนให้คนทั่วไปอ่าน ความรู้ระหว่างคนที่รู้กับคนที่ไม่ค่อยสนใจเรียนรู้ห่างกันมาก เขียนยังไงก็คงไม่เชื่อ เพราะถูกล้างสมองมาเยอะ ผมจึงแนะนำให้แก่เฉพาะคนที่เป็นระดับบัวสามเหล่าแรกที่มาติดตามอ่านเท่านั้นซึ่งมีน้อยมากในสังคมไทย ใครตกเป็นเหยื่อแล้วตายหรือเป็นอัมพาตก็ถือเป็นกรรมของใครของมันไป เหมือนๆ กับอาหารจำพวก fast food นั่นแหละครับ ผมเคยเตือนเอาไว้ว่าผสมด้วยสาร GMOs ที่สามารถทำให้อายุสั้นลงหรือระบบเจริญพันธุ์แย่ลงได้ ใครจะเชื่อก็เชื่อ ไม่เชื่อก็ตามใจครับ ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์
    Like
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 519 มุมมอง 0 รีวิว
  • พรรคเดโมแครตเสนอชื่อ กมลา แฮร์ริสและทิม วอลซ์ ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตาอย่างเป็นทางการ วอลซ์มีพื้นฐานประสบการณ์เป็นครู เคยสอนที่จีน ทำให้เขาพูดภาษาจีนกลางได้และ ยังเรียกร้องให้มีเงินทุนเพื่อวิจัยการบำบัดด้วยกัญชาทางการแพทย์สำหรับทหารผ่านศึกที่ต่อสู้กับโรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญและความเจ็บปวดเรื้อรัง

    7 สิงหาคม 2567-ในแถลงการณ์ พรรคเดโมแครตระบุว่าผู้แทนการประชุมใหญ่ 99 เปอร์เซ็นต์สนับสนุนให้แฮร์ริสลงคะแนนเสียงซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อวันจันทร์ วอลซ์ "ได้รับการรับรอง" ให้เป็นคู่ตัวแทนในการเลือกตั้งของเธอโดยมินยาน มัวร์ ประธานการประชุมใหญ่

    พรรคยังคงวางแผนที่จะจัด "พิธีการเรียกชื่อ" ในชิคาโกในช่วงปลายเดือนนี้ แม้ว่าจะไม่มีการผูกมัดเหมือนปีที่แล้วก็ตาม

    ขณะทึ่ พรรคเดโมแครตบางคนกลัวว่าการฟ้องร้องอาจทำให้ผู้สมัครของตนต้องออกจากการลงคะแนนเสียง กรณี ความรุนแรงปะทุขึ้นหลังจากที่ตำรวจสังหาร George Floyd ในมินนิอาโปลิสเมื่อเดือนพฤษภาคม 2020 เหตุการณ์ดังกล่าวนำไปสู่การประท้วงต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติและความรุนแรงของตำรวจทั่วประเทศ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันออกรายงานในช่วงปลายปี โดยวิพากษ์วิจารณ์การบริหารของวอลซ์ที่ไม่เข้าแทรกแซงอย่างรวดเร็วพอที่จะป้องกันการปล้นสะดมและวางเพลิง

    แม้ว่าแฮร์ริสจะไม่คาดว่าจะชนะคะแนนเสียงเลือกตั้ง 17 เสียงของรัฐโอไฮโอ แต่พรรคยังมีการเลือกตั้งอื่นๆ ตามมา พวกเขากลัวว่าความผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับผู้สมัครคนสำคัญอาจส่งผลต่อการแข่งขันที่สูสีเพื่อชิงที่นั่งในวุฒิสภา ซึ่งพรรคจะต้องรักษาโอกาสที่แท้จริงในการรักษาการควบคุมสภาแห่งนั้นของรัฐสภาไว้

    รายงานข่าว Politico ระบุว่า 55 สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ Tim Walz ผู้ได้รับเลือกจาก Kamala Harris ให้ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี
    ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตาเคยทำงานในกองกำลังป้องกันประเทศและเป็นครูมัธยมศึกษาตอนปลาย ก่อนที่จะเข้าสู่วงการเมืองในช่วงต้นทศวรรษปี 2000

    1.Walz เกิดที่เวสต์พอยต์ เมืองในเนแบรสกาที่มีประชากรเพียง 3,500 คน แต่เขาเติบโตในเมืองที่เล็กกว่าชื่อบิวต์

    2.Walz สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมบิวต์ในปี 1982 “ผมมาจากเมืองที่มีประชากร 400 คน มีเด็ก 24 คนในหนึ่งห้อง ลูกพี่ลูกน้อง 12 คน ทำฟาร์ม มีเรื่องแบบนี้ด้วย”

    3.Walz ยกย่องการเติบโตในชนบทของเขาว่าเป็นจุดเริ่มต้นของค่านิยมของเขา: “เมืองเล็กๆ แห่งนี้มีบริการแบบนั้นและมีโรงเรียนรัฐบาลที่มีครูของรัฐ ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้ผมมานั่งอยู่ที่นี่จนถึงทุกวันนี้ เรื่องราวเหล่านี้เกิดขึ้นจริงในเมืองเล็กๆ”

    4.Walz เข้าร่วมกองกำลังป้องกันประเทศเมื่ออายุได้ 17 ปี

    5.ในสำนักงานรัฐสภาของเขา Walz ได้จัดแสดงเหรียญ "ท้าทาย" หลายร้อยเหรียญที่เขาสะสมและแลกเปลี่ยนมาหลายปีทั่วโลก

    6.พ่อของ Walz ซึ่งเป็นผู้บริหารโรงเรียน เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอดเมื่อ Walz อายุได้ 19 ปี Walz กล่าวว่าช่วงเวลานี้จุดประกายความคิดของเขาเกี่ยวกับการเข้าถึงบริการดูแลสุขภาพ: “สัปดาห์สุดท้ายของชีวิตพ่อทำให้แม่ของผมต้องกลับไปทำงานเป็นเวลาสิบปีเพื่อชำระหนี้โรงพยาบาล”

    7.Walz สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาสังคมศาสตร์จาก Chadron State College ในปี 1989 เขาได้รับปริญญาโทสาขาความเป็นผู้นำทางการศึกษาจาก Minnesota State University, Mankato ในปี 2001

    8.หลังจากเรียนจบวิทยาลัย เขาใช้เวลาหนึ่งปีในการสอนที่ประเทศจีน ก่อนจะกลับมาทำงานเต็มเวลาในกองทัพ เขาเดินทางไปประเทศจีนกับกลุ่มครูชาวอเมริกันกลุ่มแรกที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาล เพื่อสอนในโรงเรียนมัธยมของจีน

    9.เขายังคงพูดภาษาจีนกลางได้

    10.เขาสอนหนังสือในเขตสงวน Pine Ridge ในเซาท์ดาโคตา “ผมบอกกับผู้คนว่าการจัดการโรงอาหารของโรงเรียนมัธยมมาหลายปีช่วยฝึกให้ผมรับมือกับความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้นในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.”

    11.เขาเลื่อนยศเป็นจ่าสิบเอก ก่อนจะเกษียณจากกองพันปืนใหญ่ภาคสนามที่ 1-125 ในปี 2005 เขาทำหน้าที่ทั้งหมด 24 ปี

    12.Walz ได้พบกับ Gwen Whipple ซึ่งเป็นภรรยาในอนาคตของเขา ซึ่งเป็นชาวมินนิโซตาโดยกำเนิด เนื่องจากทั้งคู่เป็นครูโรงเรียนมัธยมในห้องเรียนชั่วคราว สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งกล่าวว่าเธอรู้สึกไม่พอใจที่เขาส่งเสียงดังรบกวนห้องเรียนของเธอ

    13.ในที่สุดทั้งสองก็ย้ายไปที่เมือง Mankato รัฐมินนิโซตา ซึ่งทั้งคู่ทำงานที่โรงเรียนมัธยม Mankato West “Gwen ชอบใช้ชีวิตในมินนิโซตาตอนใต้มาก เราคว้าโอกาสที่จะย้ายไปที่เมือง Mankato และเริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยกัน”

    14.Walz สอนภูมิศาสตร์และเป็นโค้ชฟุตบอลในโรงเรียนมัธยม “ฉันไม่รู้ว่าครูภูมิศาสตร์ในโรงเรียนมัธยมทุกคนคาดหวังว่าจะได้อยู่ในตำแหน่งนี้ในสักวันหนึ่งหรือไม่”

    15.เขาเป็นที่ปรึกษาคณะสำหรับกลุ่มพันธมิตรเกย์-กลุ่มแรกของโรงเรียนในปี 1999

    16.Walz วัย 60 ปี ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าดูแก่กว่าวัย Walz ตอบโต้เรื่องนี้ในรายการ X โดยกล่าวว่าเป็นเพราะเขา "ดูแลโรงอาหารมา 20 ปี คุณไม่สามารถออกจากงานนั้นโดยมีผมเต็มหัว เชื่อฉันเถอะ"

    17.เขามีลูกสองคนคือ Hope และ Gus Hope เพิ่งจบการศึกษาจากวิทยาลัยในมอนทานา และ Gus กำลังเรียนอยู่ในโรงเรียนมัธยมของรัฐในเซนต์พอล

    18.ลูกทั้งสองคนเกิดจากกระบวนการ IVF และการรักษาภาวะมีบุตรยาก: "มีเหตุผลที่เราตั้งชื่อ [ลูกสาวของเรา] ว่า Hope"

    19.งานแรกของ Walz ในแวดวงการเมืองคือเป็นสมาชิกแคมเปญหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของอดีตวุฒิสมาชิกรัฐแมสซาชูเซตส์ John Kerry ในปี 2004 แคมเปญดังกล่าวจ้างเขาให้เป็นผู้ประสานงานแคมเปญระดับมณฑลและผู้ประสานงานระดับมณฑลของทหารผ่านศึกสำหรับเคอร์รี

    20.เขาบอกว่าเขาได้รับแรงบันดาลใจให้เข้าร่วมแคมเปญของเคอร์รีหลังจากที่เขาพาเด็กนักเรียนมัธยมปลายกลุ่มหนึ่งไปร่วมชุมนุมหาเสียงของจอร์จ ดับเบิลยู บุช และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ซักถามนักเรียนคนหนึ่งของเขาเนื่องจากเขามีสติกเกอร์ของเคอร์รีติดอยู่บนกระเป๋าสตางค์

    21.วอลซ์ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาคองเกรสครั้งแรกในปี 2549 ซึ่งถือเป็นการพลิกกลับสถานการณ์ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎรในปีนั้น เขตเลือกตั้งซึ่งเป็นที่ตั้งของทั้งคลินิกเมโยและบริษัทแปรรูปเนื้อฮอร์เมล เคยลงคะแนนเสียงให้กับจอร์จ ดับเบิลยู บุชมาแล้วถึงสองครั้ง

    22.เขาเป็นทหารเกณฑ์ที่มียศสูงสุดที่เคยรับใช้ในสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ และเป็นสมาชิกพรรคเดโมแครต-เกษตรกร-แรงงานของรัฐมินนิโซตาคนที่สี่ที่เป็นตัวแทนของเขตเลือกตั้งของเขา 23.
    Walz เอาชนะ Gil Gutknecht สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกันคนปัจจุบันได้สำเร็จ แม้ว่าเขาจะใช้เงินน้อยกว่าเกือบครึ่งล้านดอลลาร์ก็ตาม

    24.Walz ชนะการเลือกตั้งซ้ำอีก 5 ครั้งในเขตที่ 1 ของมินนิโซตา ซึ่งเป็นเขตชนบทส่วนใหญ่และอนุรักษ์นิยม โดยดำรงตำแหน่งในสภาผู้แทนราษฎรเป็นเวลา 12 ปี

    25.เมื่อ Walz เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร Walz ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานร่วมกับ Paul Hodes สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากรัฐนิวแฮมป์เชียร์

    26.เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกอาวุโสของคณะกรรมการกิจการทหารผ่านศึกของสภาผู้แทนราษฎรในปี 2017 โดยเขาเน้นที่ประเด็นต่างๆ เช่น สุขภาพจิตของทหารผ่านศึก การฆ่าตัวตาย และการจัดการความเจ็บปวด นอกจากนี้ เขายังเรียกร้องให้มีเงินทุนเพื่อวิจัยการบำบัดด้วยกัญชาทางการแพทย์สำหรับทหารผ่านศึกที่ต่อสู้กับโรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญและความเจ็บปวดเรื้อรัง

    27.ร่างกฎหมายมากกว่าครึ่งหนึ่งที่ Walz ร่วมสนับสนุนระหว่างปี 2015-2017 ได้รับการเสนอโดยผู้ที่ไม่ใช่พรรคเดโมแครต

    28.ครั้งหนึ่ง Walz เคยได้รับคะแนน "A" จาก National Rifle Association และการรับรองของกลุ่ม ในปี 2016 นิตยสาร Guns & Ammo ได้รวมเขาไว้ในรายชื่อนักการเมือง 20 อันดับแรกสำหรับผู้เป็นเจ้าของปืน

    29.ต่อมา เขาประณาม NRA และสนับสนุนมาตรการควบคุมปืน เช่น การห้ามใช้อาวุธจู่โจม ในช่วงหาเสียงครั้งแรกเพื่อชิงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐในปี 2018 NRA ได้ลดระดับคะแนนของเขาลงอย่างสิ้นเชิง "ผมได้รับคะแนน A จาก NRA ตอนนี้ผมได้ F ตลอดเลย และผมก็หลับสบาย"

    30.ไม่นานหลังจากเหตุการณ์ยิงกันที่ลาสเวกัสในปี 2017 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 59 ราย เขาบริจาคเงินบริจาคหาเสียงจาก NRA ให้กับองค์กรไม่แสวงหากำไรที่ช่วยเหลือครอบครัวของทหารที่เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะปฏิบัติหน้าที่

    31.Walz เป็นนักล่าตัวยงและเยาะเย้ย JD Vance ที่พูดถึงปืนในขณะที่ "ฉันรับรองได้ว่าเขายิงไก่ฟ้าไม่ได้เหมือนฉัน"

    32.ในปี 2019 Walz ออกจากสภาเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าการรัฐมินนิโซตา เขาเอาชนะ Jeff Johnson จากพรรครีพับลิกันไปมากกว่า 11 คะแนน

    33.Walz มักจะปกป้องนโยบายของเขา เช่น ร่างกฎหมายอาหารกลางวันในโรงเรียนทั่วไปที่ลงนามในกฎหมายของรัฐมินนิโซตาเมื่อต้นปีนี้ โดยอ้างว่าเป็นสามัญสำนึก "ช่างเป็นสัตว์ประหลาด! เด็กๆ กินอิ่มและอิ่มท้องเพื่อที่พวกเขาจะได้ไปเรียนรู้ และผู้หญิงก็ตัดสินใจเรื่องการดูแลสุขภาพของตัวเอง" Walz พูดติดตลก

    34.ความรุนแรงปะทุขึ้นหลังจากที่ตำรวจสังหาร George Floyd ในมินนิอาโปลิสเมื่อเดือนพฤษภาคม 2020 เหตุการณ์ดังกล่าวนำไปสู่การประท้วงต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติและความรุนแรงของตำรวจทั่วประเทศ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันออกรายงานในช่วงปลายปี โดยวิพากษ์วิจารณ์การบริหารของวอลซ์ที่ไม่เข้าแทรกแซงอย่างรวดเร็วพอที่จะป้องกันการปล้นสะดมและวางเพลิง “ฉันเชื่ออย่างแน่นอนว่าการบริหารของเรา ไม่ว่าจะเป็นกองกำลังป้องกันประเทศ ตำรวจทางหลวง หรือกรมทรัพยากรธรรมชาติ บุคลากรแนวหน้าของเราตอบสนองอย่างมีเกียรติและกล้าหาญ พวกเขาช่วยชีวิตคนไว้ได้” วอลซ์กล่าว “รายงานด้านเดียวที่ออกมาก่อนการเลือกตั้งไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก แต่ถ้ามีคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ ฉันก็จะใช้แน่นอน”

    35.ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา วอลซ์ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้เผยแพร่แนวทางการโจมตีล่าสุดของพรรคเดโมแครตต่อบัตรลงคะแนนของพรรครีพับลิกัน เมื่อเขาเรียกทรัมป์และแวนซ์ว่า “คนพวกนี้ประหลาดจริงๆ”

    36.เขาให้สัมภาษณ์กับ POLITICO ในปี 2023 ว่า “เมื่อเราลงแข่งกับพรรครีพับลิกันทั่วไป การแข่งขันของเรามักจะสูสีกันมาก แต่ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า [พรรครีพับลิกันทั่วไป] พวกนี้ประหลาด เมื่อพวกเขาเริ่มลงสมัคร ความแปลกประหลาดของพวกเขาก็ปรากฏขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ได้รับการเสนอชื่อในฝั่งตรงข้าม ฉันไม่คิดว่ามันจะน่าแปลกใจขนาดนั้น”

    37.Walz บอกกับ The New York Times ว่าความคิดเห็นของเขาเกี่ยวกับความแปลกประหลาดนั้นเกี่ยวกับ Trump และ Vance ไม่ใช่พรรครีพับลิกันโดยทั่วไป “และคำว่า ‘แปลกประหลาด’ นั้นเฉพาะตัวเขาเท่านั้น ฉันไม่ได้พูดถึงพรรครีพับลิกันอย่างแน่นอน ฉันไม่ได้พูดถึงคนที่อยู่ในการชุมนุมเหล่านั้น ฉันได้ยินเรื่องนี้มาจากเพื่อนพรรครีพับลิกันของฉัน เพราะว่าคนที่อยู่ในการชุมนุมเหล่านั้นคือคนที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากข้อความที่เรากำลังส่งถึง”

    38.เมื่อปีที่แล้ว บารัค โอบามายกย่อง Walz เมื่อพรรคเดโมแครต-เกษตรกร-แรงงานของมินนิโซตาได้ควบคุมคฤหาสน์ของผู้ว่าการ รัฐสภา และวุฒิสภาของรัฐ

    39.Walz พบกับรองผู้ว่าการรัฐ Peggy Flanagan เป็นครั้งแรกเมื่อเขาเข้าร่วม Wellstone Action ซึ่งก่อตั้งขึ้นหลังจากการเสียชีวิตของวุฒิสมาชิก Paul Wellstone ในปี 2002 เพื่อฝึกอบรมผู้จัดงาน นักเคลื่อนไหว และผู้สมัครรับเลือกตั้งที่มีแนวคิดก้าวหน้า “ฉันไปที่นั่นและได้พบกับผู้ฝึกสอนสาวที่ยอดเยี่ยมซึ่งกลายเป็น Peggy Flanagan นั่นคือจุดเริ่มต้นมิตรภาพของเรา”

    40.หลังจากที่รัฐมินนิโซตาประกาศให้กัญชาเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจถูกกฎหมายเมื่อปีที่แล้ว Walz ได้แต่งตั้งเจ้าของร้านขายกัญชาให้เป็นผู้กำกับดูแลกัญชาชั้นนำของรัฐ วันรุ่งขึ้น Erin DuPree ผู้ประกอบการด้านกัญชาได้ลาออกจากตำแหน่งหลังจากที่ Star Tribune รายงานว่าเธอขายผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฎหมายในร้านกัญชาของเธอและถูกยึดภาษีของรัฐบาลกลางและถูกตัดสินจำคุก ต่อมาสำนักงานผู้ตรวจสอบนิติบัญญัติ ซึ่งเป็นหน่วยงานตรวจสอบของรัฐบาลมินนิโซตาที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดได้พบว่าสำนักงานของผู้ว่าการรัฐได้ละเลยขั้นตอนการตรวจสอบประวัติพื้นฐานบางขั้นตอนก่อนที่จะแต่งตั้ง DuPree

    41.ในเดือนธันวาคม 2023 วอลซ์ได้รับเลือกให้เป็นประธานสมาคมผู้ว่าการรัฐของพรรคเดโมแครต ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการปกป้องและเพิ่มส่วนแบ่งของผู้บริหารสูงสุดของพรรคในแต่ละรัฐ “ตอนนี้ฉันเชื่อมั่นอย่างยิ่งแล้วว่าผู้ว่าการรัฐสามารถสร้างความแตกต่างได้ เราเห็นสิ่งนี้ในมินนิโซตา เราเห็นสิ่งนี้ในมิชิแกน เราเห็นสิ่งนี้ในโคโลราโด เราเห็นว่ารัฐทั้งสามแห่งนี้ทำให้ชีวิตของผู้คนดีขึ้น”

    42.เครื่องดื่มที่เขาเลือกคือ Diet Mountain Dew เขาถูกจับข้อหาเมาแล้วขับในเนแบรสกาในปี 1995 ก่อนที่จะเลิกดื่ม

    43.วอลซ์เป็นนักวิ่งที่เข้าร่วมการแข่งขันหลายรายการในเมืองแฝดของมินนิโซตา: “ฉันพบว่าแม้กระทั่งก่อนเกิดเหตุการณ์ที่กดดันที่สุด หากฉันออกไปวิ่ง ฉันจะสงบและมีสติมากขึ้น”

    44.เขาชอบซ่อมแซม International Scout สีน้ำเงินแบบวินเทจของเขา ซึ่งเป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อที่บริษัท International Harvester หยุดผลิตในปี 1980

    45.เขามีป้ายทะเบียนพิเศษที่เขียนว่า “ONE MN” ซึ่งเป็นสโลแกนหาเสียงของเขาในการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าการรัฐ

    46.Walz สัญญากับ Gus ลูกชายของเขาว่าจะเลี้ยงสุนัขหากเขาชนะการเลือกตั้งในปี 2019 เมื่อมีการประกาศผลการเลือกตั้ง Gus ก็อุทานออกมาว่า “ฉันจะเลี้ยงสุนัข!” Walz ทำตามสัญญาโดยรับ Scout ซึ่งเป็นสุนัขพันธุ์ลาบราดอร์ผสมสีดำมาเลี้ยงในช่วงปลายปี

    47.Walz และ Scout มักจะไปเยี่ยมสวนสาธารณะสำหรับสุนัขใน Twin Cities โดยไม่ต้องจูงสายจูงในตอนเช้าทุกวัน

    48.Walz ลงนามในร่างกฎหมายเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อขยายสิทธิในการลงคะแนนเสียงให้กับผู้ที่เคยต้องโทษจำคุกประมาณ 55,000 คน

    49.Walz ได้พบกับเอกอัครราชทูตยูเครนประจำสหรัฐอเมริกาเพื่อลงนามในจดหมายแสดงความเข้าใจซึ่งสร้างความร่วมมือทางการเกษตรระหว่างมินนิโซตาและภูมิภาคทางตอนเหนือของยูเครนที่เรียกว่าเชอร์นิฮิฟ “เมื่อเราขับไล่พวกรัสเซียออกไปแล้ว เราก็จะมีความร่วมมือกัน” Walz กล่าว “มันเป็นการแสดงมิตรภาพที่สำคัญจริงๆ และเป็นการแสดงความสัมพันธ์ที่สำคัญจริงๆ”

    50.ในปี 2023 Walz ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อปกป้องการเข้าถึงการดูแลที่ยืนยันเพศ “ในขณะที่รัฐต่างๆ ทั่วประเทศเคลื่อนไหวเพื่อห้ามการเข้าถึงการดูแลที่ยืนยันเพศ เราต้องการให้ชาวมินนิโซตาที่เป็น LGBTQ รู้ว่าพวกเขาจะยังคงปลอดภัย ได้รับการคุ้มครอง และได้รับการต้อนรับในมินนิโซตาต่อไป” Walz กล่าว

    51.อาหารจานร้อนมันฝรั่งทอดของเขา ซึ่งเป็นอาหารไม่เป็นทางการของมินนิโซตา เป็นแชมป์รายการอาหารจานร้อนของคณะผู้แทนรัฐสภามินนิโซตาถึงสามสมัย เขาชนะในปี 2013, 2014 และ 2016

    52.เขาประกาศตัวเองว่าเป็นนักอ่านนิยายวิทยาศาสตร์แฟนตาซีเมื่อพูดถึงหนังสือ “ผมเพิ่งอ่านซีรีส์ Mortal Engines จบไป ผมอ่านนิยายสำหรับวัยรุ่นหลายเล่มเพราะผมอ่านกับลูกๆ ผมอ่านเล่มนั้นกับ Gus” เขากล่าวในปี 2019 “และผมเพิ่งอ่านเล่มหนึ่งจบซึ่งผมไม่แนะนำให้อ่านเพราะมันน่ากลัวมาก: Command and Control หนังสือเล่มนี้บอกเล่าประวัติศาสตร์คลังอาวุธนิวเคลียร์ของอเมริกา”

    53.เพลงโปรดของเขาโดย Bob Dylan หนึ่งในคนดังที่โด่งดังที่สุดของรัฐมินนิโซตาคือเพลง “Forever Young” ซึ่งมี “ข้อความอมตะจากพ่อถึงลูกชาย” ตามที่ Walz กล่าว

    54.เขามีความสุขกับการได้ดื่มนมไม่อั้นที่งาน Minnesota State Fair มากจนถึงขนาดที่เขาอาสาทำงานที่บูธในปี 2022

    55.Walz เป็นคนมองโลกในแง่ดี แต่เมื่อพูดถึงรัฐบาล เขาพยายามวางแผนรับมือสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด “ผมคิดว่าผู้คนควรคาดหวังให้รัฐบาลมีแนวคิดก้าวหน้าและคาดการณ์ล่วงหน้า” เขากล่าวขณะเข้ารับตำแหน่งในปี 2019 “หลายๆ สิ่งที่ผู้คนมองว่าเป็นอุบัติเหตุหรือโอกาส แท้จริงแล้วเป็นเพียงการวางแผนและคาดการณ์ล่วงหน้าที่ไม่ดี”

    ที่มา : Politico.com

    #Thaitimes
    พรรคเดโมแครตเสนอชื่อ กมลา แฮร์ริสและทิม วอลซ์ ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตาอย่างเป็นทางการ วอลซ์มีพื้นฐานประสบการณ์เป็นครู เคยสอนที่จีน ทำให้เขาพูดภาษาจีนกลางได้และ ยังเรียกร้องให้มีเงินทุนเพื่อวิจัยการบำบัดด้วยกัญชาทางการแพทย์สำหรับทหารผ่านศึกที่ต่อสู้กับโรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญและความเจ็บปวดเรื้อรัง 7 สิงหาคม 2567-ในแถลงการณ์ พรรคเดโมแครตระบุว่าผู้แทนการประชุมใหญ่ 99 เปอร์เซ็นต์สนับสนุนให้แฮร์ริสลงคะแนนเสียงซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อวันจันทร์ วอลซ์ "ได้รับการรับรอง" ให้เป็นคู่ตัวแทนในการเลือกตั้งของเธอโดยมินยาน มัวร์ ประธานการประชุมใหญ่ พรรคยังคงวางแผนที่จะจัด "พิธีการเรียกชื่อ" ในชิคาโกในช่วงปลายเดือนนี้ แม้ว่าจะไม่มีการผูกมัดเหมือนปีที่แล้วก็ตาม ขณะทึ่ พรรคเดโมแครตบางคนกลัวว่าการฟ้องร้องอาจทำให้ผู้สมัครของตนต้องออกจากการลงคะแนนเสียง กรณี ความรุนแรงปะทุขึ้นหลังจากที่ตำรวจสังหาร George Floyd ในมินนิอาโปลิสเมื่อเดือนพฤษภาคม 2020 เหตุการณ์ดังกล่าวนำไปสู่การประท้วงต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติและความรุนแรงของตำรวจทั่วประเทศ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันออกรายงานในช่วงปลายปี โดยวิพากษ์วิจารณ์การบริหารของวอลซ์ที่ไม่เข้าแทรกแซงอย่างรวดเร็วพอที่จะป้องกันการปล้นสะดมและวางเพลิง แม้ว่าแฮร์ริสจะไม่คาดว่าจะชนะคะแนนเสียงเลือกตั้ง 17 เสียงของรัฐโอไฮโอ แต่พรรคยังมีการเลือกตั้งอื่นๆ ตามมา พวกเขากลัวว่าความผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับผู้สมัครคนสำคัญอาจส่งผลต่อการแข่งขันที่สูสีเพื่อชิงที่นั่งในวุฒิสภา ซึ่งพรรคจะต้องรักษาโอกาสที่แท้จริงในการรักษาการควบคุมสภาแห่งนั้นของรัฐสภาไว้ รายงานข่าว Politico ระบุว่า 55 สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ Tim Walz ผู้ได้รับเลือกจาก Kamala Harris ให้ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตาเคยทำงานในกองกำลังป้องกันประเทศและเป็นครูมัธยมศึกษาตอนปลาย ก่อนที่จะเข้าสู่วงการเมืองในช่วงต้นทศวรรษปี 2000 1.Walz เกิดที่เวสต์พอยต์ เมืองในเนแบรสกาที่มีประชากรเพียง 3,500 คน แต่เขาเติบโตในเมืองที่เล็กกว่าชื่อบิวต์ 2.Walz สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมบิวต์ในปี 1982 “ผมมาจากเมืองที่มีประชากร 400 คน มีเด็ก 24 คนในหนึ่งห้อง ลูกพี่ลูกน้อง 12 คน ทำฟาร์ม มีเรื่องแบบนี้ด้วย” 3.Walz ยกย่องการเติบโตในชนบทของเขาว่าเป็นจุดเริ่มต้นของค่านิยมของเขา: “เมืองเล็กๆ แห่งนี้มีบริการแบบนั้นและมีโรงเรียนรัฐบาลที่มีครูของรัฐ ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้ผมมานั่งอยู่ที่นี่จนถึงทุกวันนี้ เรื่องราวเหล่านี้เกิดขึ้นจริงในเมืองเล็กๆ” 4.Walz เข้าร่วมกองกำลังป้องกันประเทศเมื่ออายุได้ 17 ปี 5.ในสำนักงานรัฐสภาของเขา Walz ได้จัดแสดงเหรียญ "ท้าทาย" หลายร้อยเหรียญที่เขาสะสมและแลกเปลี่ยนมาหลายปีทั่วโลก 6.พ่อของ Walz ซึ่งเป็นผู้บริหารโรงเรียน เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอดเมื่อ Walz อายุได้ 19 ปี Walz กล่าวว่าช่วงเวลานี้จุดประกายความคิดของเขาเกี่ยวกับการเข้าถึงบริการดูแลสุขภาพ: “สัปดาห์สุดท้ายของชีวิตพ่อทำให้แม่ของผมต้องกลับไปทำงานเป็นเวลาสิบปีเพื่อชำระหนี้โรงพยาบาล” 7.Walz สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาสังคมศาสตร์จาก Chadron State College ในปี 1989 เขาได้รับปริญญาโทสาขาความเป็นผู้นำทางการศึกษาจาก Minnesota State University, Mankato ในปี 2001 8.หลังจากเรียนจบวิทยาลัย เขาใช้เวลาหนึ่งปีในการสอนที่ประเทศจีน ก่อนจะกลับมาทำงานเต็มเวลาในกองทัพ เขาเดินทางไปประเทศจีนกับกลุ่มครูชาวอเมริกันกลุ่มแรกที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาล เพื่อสอนในโรงเรียนมัธยมของจีน 9.เขายังคงพูดภาษาจีนกลางได้ 10.เขาสอนหนังสือในเขตสงวน Pine Ridge ในเซาท์ดาโคตา “ผมบอกกับผู้คนว่าการจัดการโรงอาหารของโรงเรียนมัธยมมาหลายปีช่วยฝึกให้ผมรับมือกับความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้นในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.” 11.เขาเลื่อนยศเป็นจ่าสิบเอก ก่อนจะเกษียณจากกองพันปืนใหญ่ภาคสนามที่ 1-125 ในปี 2005 เขาทำหน้าที่ทั้งหมด 24 ปี 12.Walz ได้พบกับ Gwen Whipple ซึ่งเป็นภรรยาในอนาคตของเขา ซึ่งเป็นชาวมินนิโซตาโดยกำเนิด เนื่องจากทั้งคู่เป็นครูโรงเรียนมัธยมในห้องเรียนชั่วคราว สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งกล่าวว่าเธอรู้สึกไม่พอใจที่เขาส่งเสียงดังรบกวนห้องเรียนของเธอ 13.ในที่สุดทั้งสองก็ย้ายไปที่เมือง Mankato รัฐมินนิโซตา ซึ่งทั้งคู่ทำงานที่โรงเรียนมัธยม Mankato West “Gwen ชอบใช้ชีวิตในมินนิโซตาตอนใต้มาก เราคว้าโอกาสที่จะย้ายไปที่เมือง Mankato และเริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยกัน” 14.Walz สอนภูมิศาสตร์และเป็นโค้ชฟุตบอลในโรงเรียนมัธยม “ฉันไม่รู้ว่าครูภูมิศาสตร์ในโรงเรียนมัธยมทุกคนคาดหวังว่าจะได้อยู่ในตำแหน่งนี้ในสักวันหนึ่งหรือไม่” 15.เขาเป็นที่ปรึกษาคณะสำหรับกลุ่มพันธมิตรเกย์-กลุ่มแรกของโรงเรียนในปี 1999 16.Walz วัย 60 ปี ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าดูแก่กว่าวัย Walz ตอบโต้เรื่องนี้ในรายการ X โดยกล่าวว่าเป็นเพราะเขา "ดูแลโรงอาหารมา 20 ปี คุณไม่สามารถออกจากงานนั้นโดยมีผมเต็มหัว เชื่อฉันเถอะ" 17.เขามีลูกสองคนคือ Hope และ Gus Hope เพิ่งจบการศึกษาจากวิทยาลัยในมอนทานา และ Gus กำลังเรียนอยู่ในโรงเรียนมัธยมของรัฐในเซนต์พอล 18.ลูกทั้งสองคนเกิดจากกระบวนการ IVF และการรักษาภาวะมีบุตรยาก: "มีเหตุผลที่เราตั้งชื่อ [ลูกสาวของเรา] ว่า Hope" 19.งานแรกของ Walz ในแวดวงการเมืองคือเป็นสมาชิกแคมเปญหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของอดีตวุฒิสมาชิกรัฐแมสซาชูเซตส์ John Kerry ในปี 2004 แคมเปญดังกล่าวจ้างเขาให้เป็นผู้ประสานงานแคมเปญระดับมณฑลและผู้ประสานงานระดับมณฑลของทหารผ่านศึกสำหรับเคอร์รี 20.เขาบอกว่าเขาได้รับแรงบันดาลใจให้เข้าร่วมแคมเปญของเคอร์รีหลังจากที่เขาพาเด็กนักเรียนมัธยมปลายกลุ่มหนึ่งไปร่วมชุมนุมหาเสียงของจอร์จ ดับเบิลยู บุช และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ซักถามนักเรียนคนหนึ่งของเขาเนื่องจากเขามีสติกเกอร์ของเคอร์รีติดอยู่บนกระเป๋าสตางค์ 21.วอลซ์ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาคองเกรสครั้งแรกในปี 2549 ซึ่งถือเป็นการพลิกกลับสถานการณ์ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎรในปีนั้น เขตเลือกตั้งซึ่งเป็นที่ตั้งของทั้งคลินิกเมโยและบริษัทแปรรูปเนื้อฮอร์เมล เคยลงคะแนนเสียงให้กับจอร์จ ดับเบิลยู บุชมาแล้วถึงสองครั้ง 22.เขาเป็นทหารเกณฑ์ที่มียศสูงสุดที่เคยรับใช้ในสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ และเป็นสมาชิกพรรคเดโมแครต-เกษตรกร-แรงงานของรัฐมินนิโซตาคนที่สี่ที่เป็นตัวแทนของเขตเลือกตั้งของเขา 23. Walz เอาชนะ Gil Gutknecht สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกันคนปัจจุบันได้สำเร็จ แม้ว่าเขาจะใช้เงินน้อยกว่าเกือบครึ่งล้านดอลลาร์ก็ตาม 24.Walz ชนะการเลือกตั้งซ้ำอีก 5 ครั้งในเขตที่ 1 ของมินนิโซตา ซึ่งเป็นเขตชนบทส่วนใหญ่และอนุรักษ์นิยม โดยดำรงตำแหน่งในสภาผู้แทนราษฎรเป็นเวลา 12 ปี 25.เมื่อ Walz เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร Walz ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานร่วมกับ Paul Hodes สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากรัฐนิวแฮมป์เชียร์ 26.เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกอาวุโสของคณะกรรมการกิจการทหารผ่านศึกของสภาผู้แทนราษฎรในปี 2017 โดยเขาเน้นที่ประเด็นต่างๆ เช่น สุขภาพจิตของทหารผ่านศึก การฆ่าตัวตาย และการจัดการความเจ็บปวด นอกจากนี้ เขายังเรียกร้องให้มีเงินทุนเพื่อวิจัยการบำบัดด้วยกัญชาทางการแพทย์สำหรับทหารผ่านศึกที่ต่อสู้กับโรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญและความเจ็บปวดเรื้อรัง 27.ร่างกฎหมายมากกว่าครึ่งหนึ่งที่ Walz ร่วมสนับสนุนระหว่างปี 2015-2017 ได้รับการเสนอโดยผู้ที่ไม่ใช่พรรคเดโมแครต 28.ครั้งหนึ่ง Walz เคยได้รับคะแนน "A" จาก National Rifle Association และการรับรองของกลุ่ม ในปี 2016 นิตยสาร Guns & Ammo ได้รวมเขาไว้ในรายชื่อนักการเมือง 20 อันดับแรกสำหรับผู้เป็นเจ้าของปืน 29.ต่อมา เขาประณาม NRA และสนับสนุนมาตรการควบคุมปืน เช่น การห้ามใช้อาวุธจู่โจม ในช่วงหาเสียงครั้งแรกเพื่อชิงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐในปี 2018 NRA ได้ลดระดับคะแนนของเขาลงอย่างสิ้นเชิง "ผมได้รับคะแนน A จาก NRA ตอนนี้ผมได้ F ตลอดเลย และผมก็หลับสบาย" 30.ไม่นานหลังจากเหตุการณ์ยิงกันที่ลาสเวกัสในปี 2017 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 59 ราย เขาบริจาคเงินบริจาคหาเสียงจาก NRA ให้กับองค์กรไม่แสวงหากำไรที่ช่วยเหลือครอบครัวของทหารที่เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะปฏิบัติหน้าที่ 31.Walz เป็นนักล่าตัวยงและเยาะเย้ย JD Vance ที่พูดถึงปืนในขณะที่ "ฉันรับรองได้ว่าเขายิงไก่ฟ้าไม่ได้เหมือนฉัน" 32.ในปี 2019 Walz ออกจากสภาเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าการรัฐมินนิโซตา เขาเอาชนะ Jeff Johnson จากพรรครีพับลิกันไปมากกว่า 11 คะแนน 33.Walz มักจะปกป้องนโยบายของเขา เช่น ร่างกฎหมายอาหารกลางวันในโรงเรียนทั่วไปที่ลงนามในกฎหมายของรัฐมินนิโซตาเมื่อต้นปีนี้ โดยอ้างว่าเป็นสามัญสำนึก "ช่างเป็นสัตว์ประหลาด! เด็กๆ กินอิ่มและอิ่มท้องเพื่อที่พวกเขาจะได้ไปเรียนรู้ และผู้หญิงก็ตัดสินใจเรื่องการดูแลสุขภาพของตัวเอง" Walz พูดติดตลก 34.ความรุนแรงปะทุขึ้นหลังจากที่ตำรวจสังหาร George Floyd ในมินนิอาโปลิสเมื่อเดือนพฤษภาคม 2020 เหตุการณ์ดังกล่าวนำไปสู่การประท้วงต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติและความรุนแรงของตำรวจทั่วประเทศ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันออกรายงานในช่วงปลายปี โดยวิพากษ์วิจารณ์การบริหารของวอลซ์ที่ไม่เข้าแทรกแซงอย่างรวดเร็วพอที่จะป้องกันการปล้นสะดมและวางเพลิง “ฉันเชื่ออย่างแน่นอนว่าการบริหารของเรา ไม่ว่าจะเป็นกองกำลังป้องกันประเทศ ตำรวจทางหลวง หรือกรมทรัพยากรธรรมชาติ บุคลากรแนวหน้าของเราตอบสนองอย่างมีเกียรติและกล้าหาญ พวกเขาช่วยชีวิตคนไว้ได้” วอลซ์กล่าว “รายงานด้านเดียวที่ออกมาก่อนการเลือกตั้งไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก แต่ถ้ามีคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ ฉันก็จะใช้แน่นอน” 35.ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา วอลซ์ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้เผยแพร่แนวทางการโจมตีล่าสุดของพรรคเดโมแครตต่อบัตรลงคะแนนของพรรครีพับลิกัน เมื่อเขาเรียกทรัมป์และแวนซ์ว่า “คนพวกนี้ประหลาดจริงๆ” 36.เขาให้สัมภาษณ์กับ POLITICO ในปี 2023 ว่า “เมื่อเราลงแข่งกับพรรครีพับลิกันทั่วไป การแข่งขันของเรามักจะสูสีกันมาก แต่ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า [พรรครีพับลิกันทั่วไป] พวกนี้ประหลาด เมื่อพวกเขาเริ่มลงสมัคร ความแปลกประหลาดของพวกเขาก็ปรากฏขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ได้รับการเสนอชื่อในฝั่งตรงข้าม ฉันไม่คิดว่ามันจะน่าแปลกใจขนาดนั้น” 37.Walz บอกกับ The New York Times ว่าความคิดเห็นของเขาเกี่ยวกับความแปลกประหลาดนั้นเกี่ยวกับ Trump และ Vance ไม่ใช่พรรครีพับลิกันโดยทั่วไป “และคำว่า ‘แปลกประหลาด’ นั้นเฉพาะตัวเขาเท่านั้น ฉันไม่ได้พูดถึงพรรครีพับลิกันอย่างแน่นอน ฉันไม่ได้พูดถึงคนที่อยู่ในการชุมนุมเหล่านั้น ฉันได้ยินเรื่องนี้มาจากเพื่อนพรรครีพับลิกันของฉัน เพราะว่าคนที่อยู่ในการชุมนุมเหล่านั้นคือคนที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากข้อความที่เรากำลังส่งถึง” 38.เมื่อปีที่แล้ว บารัค โอบามายกย่อง Walz เมื่อพรรคเดโมแครต-เกษตรกร-แรงงานของมินนิโซตาได้ควบคุมคฤหาสน์ของผู้ว่าการ รัฐสภา และวุฒิสภาของรัฐ 39.Walz พบกับรองผู้ว่าการรัฐ Peggy Flanagan เป็นครั้งแรกเมื่อเขาเข้าร่วม Wellstone Action ซึ่งก่อตั้งขึ้นหลังจากการเสียชีวิตของวุฒิสมาชิก Paul Wellstone ในปี 2002 เพื่อฝึกอบรมผู้จัดงาน นักเคลื่อนไหว และผู้สมัครรับเลือกตั้งที่มีแนวคิดก้าวหน้า “ฉันไปที่นั่นและได้พบกับผู้ฝึกสอนสาวที่ยอดเยี่ยมซึ่งกลายเป็น Peggy Flanagan นั่นคือจุดเริ่มต้นมิตรภาพของเรา” 40.หลังจากที่รัฐมินนิโซตาประกาศให้กัญชาเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจถูกกฎหมายเมื่อปีที่แล้ว Walz ได้แต่งตั้งเจ้าของร้านขายกัญชาให้เป็นผู้กำกับดูแลกัญชาชั้นนำของรัฐ วันรุ่งขึ้น Erin DuPree ผู้ประกอบการด้านกัญชาได้ลาออกจากตำแหน่งหลังจากที่ Star Tribune รายงานว่าเธอขายผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฎหมายในร้านกัญชาของเธอและถูกยึดภาษีของรัฐบาลกลางและถูกตัดสินจำคุก ต่อมาสำนักงานผู้ตรวจสอบนิติบัญญัติ ซึ่งเป็นหน่วยงานตรวจสอบของรัฐบาลมินนิโซตาที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดได้พบว่าสำนักงานของผู้ว่าการรัฐได้ละเลยขั้นตอนการตรวจสอบประวัติพื้นฐานบางขั้นตอนก่อนที่จะแต่งตั้ง DuPree 41.ในเดือนธันวาคม 2023 วอลซ์ได้รับเลือกให้เป็นประธานสมาคมผู้ว่าการรัฐของพรรคเดโมแครต ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการปกป้องและเพิ่มส่วนแบ่งของผู้บริหารสูงสุดของพรรคในแต่ละรัฐ “ตอนนี้ฉันเชื่อมั่นอย่างยิ่งแล้วว่าผู้ว่าการรัฐสามารถสร้างความแตกต่างได้ เราเห็นสิ่งนี้ในมินนิโซตา เราเห็นสิ่งนี้ในมิชิแกน เราเห็นสิ่งนี้ในโคโลราโด เราเห็นว่ารัฐทั้งสามแห่งนี้ทำให้ชีวิตของผู้คนดีขึ้น” 42.เครื่องดื่มที่เขาเลือกคือ Diet Mountain Dew เขาถูกจับข้อหาเมาแล้วขับในเนแบรสกาในปี 1995 ก่อนที่จะเลิกดื่ม 43.วอลซ์เป็นนักวิ่งที่เข้าร่วมการแข่งขันหลายรายการในเมืองแฝดของมินนิโซตา: “ฉันพบว่าแม้กระทั่งก่อนเกิดเหตุการณ์ที่กดดันที่สุด หากฉันออกไปวิ่ง ฉันจะสงบและมีสติมากขึ้น” 44.เขาชอบซ่อมแซม International Scout สีน้ำเงินแบบวินเทจของเขา ซึ่งเป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อที่บริษัท International Harvester หยุดผลิตในปี 1980 45.เขามีป้ายทะเบียนพิเศษที่เขียนว่า “ONE MN” ซึ่งเป็นสโลแกนหาเสียงของเขาในการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าการรัฐ 46.Walz สัญญากับ Gus ลูกชายของเขาว่าจะเลี้ยงสุนัขหากเขาชนะการเลือกตั้งในปี 2019 เมื่อมีการประกาศผลการเลือกตั้ง Gus ก็อุทานออกมาว่า “ฉันจะเลี้ยงสุนัข!” Walz ทำตามสัญญาโดยรับ Scout ซึ่งเป็นสุนัขพันธุ์ลาบราดอร์ผสมสีดำมาเลี้ยงในช่วงปลายปี 47.Walz และ Scout มักจะไปเยี่ยมสวนสาธารณะสำหรับสุนัขใน Twin Cities โดยไม่ต้องจูงสายจูงในตอนเช้าทุกวัน 48.Walz ลงนามในร่างกฎหมายเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อขยายสิทธิในการลงคะแนนเสียงให้กับผู้ที่เคยต้องโทษจำคุกประมาณ 55,000 คน 49.Walz ได้พบกับเอกอัครราชทูตยูเครนประจำสหรัฐอเมริกาเพื่อลงนามในจดหมายแสดงความเข้าใจซึ่งสร้างความร่วมมือทางการเกษตรระหว่างมินนิโซตาและภูมิภาคทางตอนเหนือของยูเครนที่เรียกว่าเชอร์นิฮิฟ “เมื่อเราขับไล่พวกรัสเซียออกไปแล้ว เราก็จะมีความร่วมมือกัน” Walz กล่าว “มันเป็นการแสดงมิตรภาพที่สำคัญจริงๆ และเป็นการแสดงความสัมพันธ์ที่สำคัญจริงๆ” 50.ในปี 2023 Walz ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อปกป้องการเข้าถึงการดูแลที่ยืนยันเพศ “ในขณะที่รัฐต่างๆ ทั่วประเทศเคลื่อนไหวเพื่อห้ามการเข้าถึงการดูแลที่ยืนยันเพศ เราต้องการให้ชาวมินนิโซตาที่เป็น LGBTQ รู้ว่าพวกเขาจะยังคงปลอดภัย ได้รับการคุ้มครอง และได้รับการต้อนรับในมินนิโซตาต่อไป” Walz กล่าว 51.อาหารจานร้อนมันฝรั่งทอดของเขา ซึ่งเป็นอาหารไม่เป็นทางการของมินนิโซตา เป็นแชมป์รายการอาหารจานร้อนของคณะผู้แทนรัฐสภามินนิโซตาถึงสามสมัย เขาชนะในปี 2013, 2014 และ 2016 52.เขาประกาศตัวเองว่าเป็นนักอ่านนิยายวิทยาศาสตร์แฟนตาซีเมื่อพูดถึงหนังสือ “ผมเพิ่งอ่านซีรีส์ Mortal Engines จบไป ผมอ่านนิยายสำหรับวัยรุ่นหลายเล่มเพราะผมอ่านกับลูกๆ ผมอ่านเล่มนั้นกับ Gus” เขากล่าวในปี 2019 “และผมเพิ่งอ่านเล่มหนึ่งจบซึ่งผมไม่แนะนำให้อ่านเพราะมันน่ากลัวมาก: Command and Control หนังสือเล่มนี้บอกเล่าประวัติศาสตร์คลังอาวุธนิวเคลียร์ของอเมริกา” 53.เพลงโปรดของเขาโดย Bob Dylan หนึ่งในคนดังที่โด่งดังที่สุดของรัฐมินนิโซตาคือเพลง “Forever Young” ซึ่งมี “ข้อความอมตะจากพ่อถึงลูกชาย” ตามที่ Walz กล่าว 54.เขามีความสุขกับการได้ดื่มนมไม่อั้นที่งาน Minnesota State Fair มากจนถึงขนาดที่เขาอาสาทำงานที่บูธในปี 2022 55.Walz เป็นคนมองโลกในแง่ดี แต่เมื่อพูดถึงรัฐบาล เขาพยายามวางแผนรับมือสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด “ผมคิดว่าผู้คนควรคาดหวังให้รัฐบาลมีแนวคิดก้าวหน้าและคาดการณ์ล่วงหน้า” เขากล่าวขณะเข้ารับตำแหน่งในปี 2019 “หลายๆ สิ่งที่ผู้คนมองว่าเป็นอุบัติเหตุหรือโอกาส แท้จริงแล้วเป็นเพียงการวางแผนและคาดการณ์ล่วงหน้าที่ไม่ดี” ที่มา : Politico.com #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1123 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตัดหญ้าบ้านลัคกี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะลัคกี้เป็นหมาล่าเนื้อตัวฉกาด อดีตของลักกี้โชกโชนในสมัยที่นายพรานยังออกล่าสัตว์ป่าได้อย่างอิสระ ลัคกี้คือเต็งหนึ่งในด้านการกระโจนตะครุบเหยื่อจนแดดิ้น เขียดตะปาดทุกตัวไม่เคยพ้นคมเขี้ยวลัคกี้ แต่นั่นแหละด้วยเหตุที่โชกโชนแต่เขียดเหยื่อจึงถูกพรานอัปเปหิจากพงไพรมาเป็นหมาบ้าน แต่ถึงกระนั้นสัญชาติหมานักล่าก็มิได้จางหายไปจากสายเลือดอันข้นครั่ก
    "ลิต นายตัดหญ้าให้สะกิดตูดเขียดที่มันหลบอยู่ใต้ใบบัง พอมันกระโดดขึ้นมาเราจะขย้ำมันเอง วันนี้เรากับนายคงได้เนื้อรสเด็ดจนอิ่มโขแน่ ๆ ลิตเอ๊ย !"
    #นี่แหละจึงเป็นเหตุให้ตัดหญ้าไม่เสร็จกสักที !
    ตัดหญ้าบ้านลัคกี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะลัคกี้เป็นหมาล่าเนื้อตัวฉกาด อดีตของลักกี้โชกโชนในสมัยที่นายพรานยังออกล่าสัตว์ป่าได้อย่างอิสระ ลัคกี้คือเต็งหนึ่งในด้านการกระโจนตะครุบเหยื่อจนแดดิ้น เขียดตะปาดทุกตัวไม่เคยพ้นคมเขี้ยวลัคกี้ แต่นั่นแหละด้วยเหตุที่โชกโชนแต่เขียดเหยื่อจึงถูกพรานอัปเปหิจากพงไพรมาเป็นหมาบ้าน แต่ถึงกระนั้นสัญชาติหมานักล่าก็มิได้จางหายไปจากสายเลือดอันข้นครั่ก "ลิต นายตัดหญ้าให้สะกิดตูดเขียดที่มันหลบอยู่ใต้ใบบัง พอมันกระโดดขึ้นมาเราจะขย้ำมันเอง วันนี้เรากับนายคงได้เนื้อรสเด็ดจนอิ่มโขแน่ ๆ ลิตเอ๊ย !" #นี่แหละจึงเป็นเหตุให้ตัดหญ้าไม่เสร็จกสักที !
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 291 มุมมอง 0 รีวิว