“RSS กลับมาอีกครั้งในปี 2025 — เมื่อผู้ใช้เบื่ออัลกอริทึมและโหยหาการควบคุมเนื้อหาด้วยตัวเอง”
ในยุคที่โซเชียลมีเดียเต็มไปด้วยอัลกอริทึมที่คัดกรองเนื้อหาแทนผู้ใช้ เสียงเรียกร้องให้กลับไปใช้ระบบที่ “ผู้ใช้ควบคุมเอง” กำลังดังขึ้นอีกครั้ง และ RSS (Really Simple Syndication) ก็กลับมาเป็นพระเอกที่หลายคนลืมไป
บทความจาก Tom Burkert ชี้ให้เห็นว่า RSS ไม่ใช่แค่เทคโนโลยีเก่า แต่เป็น “โครงสร้างพื้นฐานของเว็บที่ดี” ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามเนื้อหาจากแหล่งที่ตนเลือกได้โดยตรง โดยไม่ต้องผ่านการคัดกรองของแพลตฟอร์มกลาง ไม่ว่าจะเป็นบล็อก ข่าว หรือพอดแคสต์ — ถ้ามี RSS feed ก็สามารถรวมมาอ่านในที่เดียวได้ทันที
Burkert เน้นย้ำว่า RSS คือการ “ควบคุมการรับรู้” ที่แท้จริง เพราะผู้ใช้เลือกเองว่าจะติดตามใคร ไม่ใช่ให้แพลตฟอร์มเลือกให้ และยังปลอดภัยจากการติดตามพฤติกรรมหรือโฆษณาแบบเจาะจง เพราะ RSS ไม่ต้องใช้บัญชี ไม่เก็บข้อมูล และไม่มีการแทรกโฆษณา
ในขณะที่หลายเว็บไซต์เลิกให้บริการ RSS feed ด้วยเหตุผลด้านการตลาดและการควบคุม traffic ก็มีเครื่องมือใหม่อย่าง RSS.app ที่ช่วยสร้าง feed จากเว็บไซต์ที่ไม่มี RSS ได้ ทำให้ผู้ใช้สามารถกลับมารวบรวมเนื้อหาได้อย่างอิสระอีกครั้ง
การกลับมาของ RSS ยังสะท้อนถึงแนวโน้มของ “เว็บแบบกระจายศูนย์” ที่ไม่พึ่งพาแพลตฟอร์มใหญ่ และเปิดโอกาสให้ผู้ใช้เป็นเจ้าของการรับรู้ของตัวเองอย่างแท้จริง
ข้อมูลสำคัญจากข่าว
RSS เป็นระบบติดตามเนื้อหาที่ผู้ใช้ควบคุมเองได้โดยไม่ผ่านอัลกอริทึม
ผู้ใช้สามารถรวมเนื้อหาจากหลายแหล่งไว้ในที่เดียว เช่น ข่าว บล็อก พอดแคสต์
RSS ไม่ต้องใช้บัญชี ไม่เก็บข้อมูล และไม่มีโฆษณาเจาะจง
Tom Burkert ยกย่อง RSS ว่าเป็น “โครงสร้างพื้นฐานของเว็บที่ดี”
RSS.app ช่วยสร้าง feed จากเว็บไซต์ที่ไม่มี RSS ได้
การใช้ RSS สะท้อนแนวโน้มของเว็บแบบกระจายศูนย์ที่ผู้ใช้เป็นเจ้าของการรับรู้
RSS ช่วยลดการพึ่งพาแพลตฟอร์มกลางและเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการติดตามเนื้อหา
ข้อมูลเสริมจากภายนอก
RSS เริ่มต้นในยุค 90s และเคยเป็นเทคโนโลยีหลักในการติดตามเนื้อหาเว็บ
การลดลงของ RSS เกิดจากการเติบโตของโซเชียลมีเดียและแอปมือถือ
OPML คือไฟล์ที่ใช้รวม feed หลายรายการไว้ในที่เดียว
Feed reader เช่น Feedly, Inoreader, NetNewsWire ยังได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ใช้เฉพาะ
การกลับมาใช้ RSS ช่วยเพิ่ม productivity และลดการเสพเนื้อหาที่ไม่จำเป็น
https://blog.burkert.me/posts/in_praise_of_syndication/
ในยุคที่โซเชียลมีเดียเต็มไปด้วยอัลกอริทึมที่คัดกรองเนื้อหาแทนผู้ใช้ เสียงเรียกร้องให้กลับไปใช้ระบบที่ “ผู้ใช้ควบคุมเอง” กำลังดังขึ้นอีกครั้ง และ RSS (Really Simple Syndication) ก็กลับมาเป็นพระเอกที่หลายคนลืมไป
บทความจาก Tom Burkert ชี้ให้เห็นว่า RSS ไม่ใช่แค่เทคโนโลยีเก่า แต่เป็น “โครงสร้างพื้นฐานของเว็บที่ดี” ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามเนื้อหาจากแหล่งที่ตนเลือกได้โดยตรง โดยไม่ต้องผ่านการคัดกรองของแพลตฟอร์มกลาง ไม่ว่าจะเป็นบล็อก ข่าว หรือพอดแคสต์ — ถ้ามี RSS feed ก็สามารถรวมมาอ่านในที่เดียวได้ทันที
Burkert เน้นย้ำว่า RSS คือการ “ควบคุมการรับรู้” ที่แท้จริง เพราะผู้ใช้เลือกเองว่าจะติดตามใคร ไม่ใช่ให้แพลตฟอร์มเลือกให้ และยังปลอดภัยจากการติดตามพฤติกรรมหรือโฆษณาแบบเจาะจง เพราะ RSS ไม่ต้องใช้บัญชี ไม่เก็บข้อมูล และไม่มีการแทรกโฆษณา
ในขณะที่หลายเว็บไซต์เลิกให้บริการ RSS feed ด้วยเหตุผลด้านการตลาดและการควบคุม traffic ก็มีเครื่องมือใหม่อย่าง RSS.app ที่ช่วยสร้าง feed จากเว็บไซต์ที่ไม่มี RSS ได้ ทำให้ผู้ใช้สามารถกลับมารวบรวมเนื้อหาได้อย่างอิสระอีกครั้ง
การกลับมาของ RSS ยังสะท้อนถึงแนวโน้มของ “เว็บแบบกระจายศูนย์” ที่ไม่พึ่งพาแพลตฟอร์มใหญ่ และเปิดโอกาสให้ผู้ใช้เป็นเจ้าของการรับรู้ของตัวเองอย่างแท้จริง
ข้อมูลสำคัญจากข่าว
RSS เป็นระบบติดตามเนื้อหาที่ผู้ใช้ควบคุมเองได้โดยไม่ผ่านอัลกอริทึม
ผู้ใช้สามารถรวมเนื้อหาจากหลายแหล่งไว้ในที่เดียว เช่น ข่าว บล็อก พอดแคสต์
RSS ไม่ต้องใช้บัญชี ไม่เก็บข้อมูล และไม่มีโฆษณาเจาะจง
Tom Burkert ยกย่อง RSS ว่าเป็น “โครงสร้างพื้นฐานของเว็บที่ดี”
RSS.app ช่วยสร้าง feed จากเว็บไซต์ที่ไม่มี RSS ได้
การใช้ RSS สะท้อนแนวโน้มของเว็บแบบกระจายศูนย์ที่ผู้ใช้เป็นเจ้าของการรับรู้
RSS ช่วยลดการพึ่งพาแพลตฟอร์มกลางและเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการติดตามเนื้อหา
ข้อมูลเสริมจากภายนอก
RSS เริ่มต้นในยุค 90s และเคยเป็นเทคโนโลยีหลักในการติดตามเนื้อหาเว็บ
การลดลงของ RSS เกิดจากการเติบโตของโซเชียลมีเดียและแอปมือถือ
OPML คือไฟล์ที่ใช้รวม feed หลายรายการไว้ในที่เดียว
Feed reader เช่น Feedly, Inoreader, NetNewsWire ยังได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ใช้เฉพาะ
การกลับมาใช้ RSS ช่วยเพิ่ม productivity และลดการเสพเนื้อหาที่ไม่จำเป็น
https://blog.burkert.me/posts/in_praise_of_syndication/
📡 “RSS กลับมาอีกครั้งในปี 2025 — เมื่อผู้ใช้เบื่ออัลกอริทึมและโหยหาการควบคุมเนื้อหาด้วยตัวเอง”
ในยุคที่โซเชียลมีเดียเต็มไปด้วยอัลกอริทึมที่คัดกรองเนื้อหาแทนผู้ใช้ เสียงเรียกร้องให้กลับไปใช้ระบบที่ “ผู้ใช้ควบคุมเอง” กำลังดังขึ้นอีกครั้ง และ RSS (Really Simple Syndication) ก็กลับมาเป็นพระเอกที่หลายคนลืมไป
บทความจาก Tom Burkert ชี้ให้เห็นว่า RSS ไม่ใช่แค่เทคโนโลยีเก่า แต่เป็น “โครงสร้างพื้นฐานของเว็บที่ดี” ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามเนื้อหาจากแหล่งที่ตนเลือกได้โดยตรง โดยไม่ต้องผ่านการคัดกรองของแพลตฟอร์มกลาง ไม่ว่าจะเป็นบล็อก ข่าว หรือพอดแคสต์ — ถ้ามี RSS feed ก็สามารถรวมมาอ่านในที่เดียวได้ทันที
Burkert เน้นย้ำว่า RSS คือการ “ควบคุมการรับรู้” ที่แท้จริง เพราะผู้ใช้เลือกเองว่าจะติดตามใคร ไม่ใช่ให้แพลตฟอร์มเลือกให้ และยังปลอดภัยจากการติดตามพฤติกรรมหรือโฆษณาแบบเจาะจง เพราะ RSS ไม่ต้องใช้บัญชี ไม่เก็บข้อมูล และไม่มีการแทรกโฆษณา
ในขณะที่หลายเว็บไซต์เลิกให้บริการ RSS feed ด้วยเหตุผลด้านการตลาดและการควบคุม traffic ก็มีเครื่องมือใหม่อย่าง RSS.app ที่ช่วยสร้าง feed จากเว็บไซต์ที่ไม่มี RSS ได้ ทำให้ผู้ใช้สามารถกลับมารวบรวมเนื้อหาได้อย่างอิสระอีกครั้ง
การกลับมาของ RSS ยังสะท้อนถึงแนวโน้มของ “เว็บแบบกระจายศูนย์” ที่ไม่พึ่งพาแพลตฟอร์มใหญ่ และเปิดโอกาสให้ผู้ใช้เป็นเจ้าของการรับรู้ของตัวเองอย่างแท้จริง
✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว
➡️ RSS เป็นระบบติดตามเนื้อหาที่ผู้ใช้ควบคุมเองได้โดยไม่ผ่านอัลกอริทึม
➡️ ผู้ใช้สามารถรวมเนื้อหาจากหลายแหล่งไว้ในที่เดียว เช่น ข่าว บล็อก พอดแคสต์
➡️ RSS ไม่ต้องใช้บัญชี ไม่เก็บข้อมูล และไม่มีโฆษณาเจาะจง
➡️ Tom Burkert ยกย่อง RSS ว่าเป็น “โครงสร้างพื้นฐานของเว็บที่ดี”
➡️ RSS.app ช่วยสร้าง feed จากเว็บไซต์ที่ไม่มี RSS ได้
➡️ การใช้ RSS สะท้อนแนวโน้มของเว็บแบบกระจายศูนย์ที่ผู้ใช้เป็นเจ้าของการรับรู้
➡️ RSS ช่วยลดการพึ่งพาแพลตฟอร์มกลางและเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการติดตามเนื้อหา
✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก
➡️ RSS เริ่มต้นในยุค 90s และเคยเป็นเทคโนโลยีหลักในการติดตามเนื้อหาเว็บ
➡️ การลดลงของ RSS เกิดจากการเติบโตของโซเชียลมีเดียและแอปมือถือ
➡️ OPML คือไฟล์ที่ใช้รวม feed หลายรายการไว้ในที่เดียว
➡️ Feed reader เช่น Feedly, Inoreader, NetNewsWire ยังได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ใช้เฉพาะ
➡️ การกลับมาใช้ RSS ช่วยเพิ่ม productivity และลดการเสพเนื้อหาที่ไม่จำเป็น
https://blog.burkert.me/posts/in_praise_of_syndication/
0 Comments
0 Shares
62 Views
0 Reviews