• ตาย ตายก็คือการสิ้นสุดภพชาตินี้ จะอย่างไรต่อไปก็เป็นเรื่องของบุญกรรมที่ทำมา
    ตาย ตายก็คือการสิ้นสุดภพชาตินี้ จะอย่างไรต่อไปก็เป็นเรื่องของบุญกรรมที่ทำมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 26 มุมมอง 0 รีวิว
  • การรับมือกับชะตากรรม: อยู่ที่มุมมองและการกระทำของเรา

    🔹 ชะตาบางอย่าง—มีไว้ให้ฝึก "ยอมรับ"

    ✅ ยิ่งรับได้เร็ว → ยิ่งเหนื่อยน้อยลง

    มีหลายสิ่งในชีวิตที่เรา "เลือกไม่ได้" ตั้งแต่ต้น เช่น พ่อแม่ที่เกิดมา

    ถ้าหมกมุ่นแต่ความคิดว่า "อยากเกิดกับพ่อแม่คนอื่น" → ก็มีแต่ทุกข์

    หลักความเชื่อทางพุทธ: เราเกิดตามกรรม → พ่อแม่เป็นผลของกรรมที่เราเคยทำไว้

    ถ้าอยากเปลี่ยนชะตาในชาติหน้า → ต้องเปลี่ยนกรรมในชาตินี้


    💡 สัจธรรม: สิ่งที่เราสะสมทั้งชีวิต → ไม่ใช่สมบัติภายนอก แต่เป็น "กรรมใหม่" ที่จะกำหนดอนาคต


    ---

    🔹 ชะตาบางอย่าง—มีไว้ให้ฝึก "อดกลั้น"

    ✅ ถ้าไม่อดกลั้น → จะเผลอทำกรรมใหม่ที่เป็นลบ

    บางช่วงชีวิตเหมือนถูก "ทดสอบ" ด้วยเรื่องแย่ๆ อย่างต่อเนื่อง

    เช่น:

    เราไม่ประมาท แต่คนอื่นประมาทแล้วทำให้เราซวย

    เราปฏิบัติดี แต่คนอื่นกลับทำร้าย


    ถ้าเจอเรื่องร้ายแล้ว "ร้ายตอบ" → เราจะไม่เหลือ "ความดี" อยู่ในใจเลย


    💡 การอดกลั้น ไม่ได้แปลว่าต้องยอมแพ้ แต่คือการไม่ปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในวงจรของกรรมร้าย


    ---

    🔹 ชะตาบางอย่าง—มีไว้ให้ฝึก "ฮึดสู้"

    ✅ ถ้าไม่สู้ → ก็เหมือนปล่อยให้ชะตาฟ้าลิขิตเราอย่างเดียว

    บางคนเกิดมาในสภาพแวดล้อมที่ยากลำบาก → แต่ถ้าสู้ก็สามารถเปลี่ยนชีวิตได้

    บางคนเกิดมาพร้อมข้อจำกัดทางปัญญา → แต่ถ้าหมั่นเรียนรู้ ก็สามารถเข้าใจสิ่งที่เคยยากได้


    💡 ชีวิตมนุษย์คือโอกาสในการเปลี่ยนแปลง

    ถ้าคิดว่า "ชะตาเปลี่ยนไม่ได้" → จะไม่พยายาม

    แต่ถ้าคิดว่า "ชีวิตเปลี่ยนได้" → จะหาทางพัฒนา



    ---

    🔹 สรุป: วิธีรับมือกับชะตากรรม

    ✅ 1. ยอมรับสิ่งที่เปลี่ยนไม่ได้ → จะเหนื่อยน้อยลง
    ✅ 2. อดกลั้นต่อสิ่งที่กระทบจิตใจ → จะไม่ทำกรรมลบเพิ่ม
    ✅ 3. ฮึดสู้กับสิ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ → จะสร้างอนาคตที่ดีกว่าเดิม

    💡 ชีวิตไม่ใช่เรื่องของโชคชะตาล้วนๆ แต่เป็นผลของ "การกระทำของเราเอง"
    📌 อย่าปล่อยให้ชีวิตเป็นภาวะสูญเปล่า—เพราะทุกวันคือโอกาสใหม่ในการสร้าง "ชะตาใหม่"!

    การรับมือกับชะตากรรม: อยู่ที่มุมมองและการกระทำของเรา 🔹 ชะตาบางอย่าง—มีไว้ให้ฝึก "ยอมรับ" ✅ ยิ่งรับได้เร็ว → ยิ่งเหนื่อยน้อยลง มีหลายสิ่งในชีวิตที่เรา "เลือกไม่ได้" ตั้งแต่ต้น เช่น พ่อแม่ที่เกิดมา ถ้าหมกมุ่นแต่ความคิดว่า "อยากเกิดกับพ่อแม่คนอื่น" → ก็มีแต่ทุกข์ หลักความเชื่อทางพุทธ: เราเกิดตามกรรม → พ่อแม่เป็นผลของกรรมที่เราเคยทำไว้ ถ้าอยากเปลี่ยนชะตาในชาติหน้า → ต้องเปลี่ยนกรรมในชาตินี้ 💡 สัจธรรม: สิ่งที่เราสะสมทั้งชีวิต → ไม่ใช่สมบัติภายนอก แต่เป็น "กรรมใหม่" ที่จะกำหนดอนาคต --- 🔹 ชะตาบางอย่าง—มีไว้ให้ฝึก "อดกลั้น" ✅ ถ้าไม่อดกลั้น → จะเผลอทำกรรมใหม่ที่เป็นลบ บางช่วงชีวิตเหมือนถูก "ทดสอบ" ด้วยเรื่องแย่ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น: เราไม่ประมาท แต่คนอื่นประมาทแล้วทำให้เราซวย เราปฏิบัติดี แต่คนอื่นกลับทำร้าย ถ้าเจอเรื่องร้ายแล้ว "ร้ายตอบ" → เราจะไม่เหลือ "ความดี" อยู่ในใจเลย 💡 การอดกลั้น ไม่ได้แปลว่าต้องยอมแพ้ แต่คือการไม่ปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในวงจรของกรรมร้าย --- 🔹 ชะตาบางอย่าง—มีไว้ให้ฝึก "ฮึดสู้" ✅ ถ้าไม่สู้ → ก็เหมือนปล่อยให้ชะตาฟ้าลิขิตเราอย่างเดียว บางคนเกิดมาในสภาพแวดล้อมที่ยากลำบาก → แต่ถ้าสู้ก็สามารถเปลี่ยนชีวิตได้ บางคนเกิดมาพร้อมข้อจำกัดทางปัญญา → แต่ถ้าหมั่นเรียนรู้ ก็สามารถเข้าใจสิ่งที่เคยยากได้ 💡 ชีวิตมนุษย์คือโอกาสในการเปลี่ยนแปลง ถ้าคิดว่า "ชะตาเปลี่ยนไม่ได้" → จะไม่พยายาม แต่ถ้าคิดว่า "ชีวิตเปลี่ยนได้" → จะหาทางพัฒนา --- 🔹 สรุป: วิธีรับมือกับชะตากรรม ✅ 1. ยอมรับสิ่งที่เปลี่ยนไม่ได้ → จะเหนื่อยน้อยลง ✅ 2. อดกลั้นต่อสิ่งที่กระทบจิตใจ → จะไม่ทำกรรมลบเพิ่ม ✅ 3. ฮึดสู้กับสิ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ → จะสร้างอนาคตที่ดีกว่าเดิม 💡 ชีวิตไม่ใช่เรื่องของโชคชะตาล้วนๆ แต่เป็นผลของ "การกระทำของเราเอง" 📌 อย่าปล่อยให้ชีวิตเป็นภาวะสูญเปล่า—เพราะทุกวันคือโอกาสใหม่ในการสร้าง "ชะตาใหม่"!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 193 มุมมอง 0 รีวิว
  • ธรรมชาติสร้างสรรค์ วิทยาศาสตร์เป็นตัวกำหนด ทุกความอร่อยต้องมีเรื่องราว…
    ..ช็อกโกแลตคือของทานเล่นที่ทำให้ทุกคนมีความสุข…ในทุกเพศทุกวัยเพื่อสุขภาพที่ดี

    COCORA ….Premium Chocolate.
    ..Taste note: Nutty>Floral>Fruitty
    เข้มข้น กลิ่นหอม กลมกล่อม ละมุนลิ้น ไม่มีเปรี้ยว

    ความจริงที่ควรรู้กี่ยวกับ…Craft chocolate …สำหรับคนรัก Chocolate
    ..….ถ้าเป็นCraft Chocolate มันต้องเปรี้ยวสิ !!..คำนี้หลายท่านคงได้ยินกันมาจนชิน จนหลายท่านอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมมันถึงเปรี้ยว ...คราฟท์ช็อกโกแลตที่เปรี้ยวนั้น ส่วนใหญ่เกิดจากการหมักเมล็ดโกโก้ในกระบวนการแบบ Natural process ไปในทิศทางที่ไม่สมบูรณ์แบบ จนทำให้ในขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการหมักยังคงมีกรดอะซิติก(กรดนำ้ส้มสายชู)คงตกค้างอยู่ในเมล็ดจำนวนหนึ่งจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความพิถีพิถันของผู้หมัก ซึ่งขั้นตอนนี้จะทำค่อนข้างยาก การหมักโกโก้จึงเป็นงานศิลปะที่ต้องใช้ความรู้และเทคนิคทางวิทยาศาสตร์ (food science )เข้ามาช่วยและต้องมีความละเอียดความเข้าใจในทุกขั้นตอนอย่างลึกซึ้ง ส่วนใหญ่กว่า90%มักจะทำให้เกิดรสชาติที่เปรี้ยวนำเพราะไม่สามารถกำจัดกรดอะซิติกออกไปจนหมด…ความเปรี้ยวที่เกิดขึ้นนี้รสชาติจะเปรี้ยวโดดแตกต่างจากเมล็ดโกโก้ที่มีโอกาสเกิดความเปรี้ยวเล็กน้อยหรือเปรี้ยวปลายแบบรสชาติผลไม้นานาชนิดที่มี taste note เรียกว่า fruity ซึ่งรสชาตินี้จะเกิดขึ้นได้จริงๆจากการหมักที่สมบูรณ์แบบเท่านั้น เมื่อการหมักสมบูรณ์ปัจจัยปลีกย่อยอีกหลายอย่างก็ตามมากำหนดรสชาติความเป็นพื้นถิ่น เช่นสายพันธุ์เมล็ดโกโก้ที่ปลูก ,แหล่งที่ปลูก ,สภาพพื้นดินที่เป็นกรดเป็นด่าง ,ปุ๋ยที่ใ้ช้ และสภาพภูมิอากาศที่แตกต่างกันในแต่ฤดูกาล และยังมีอีกหลายด้านที่ยังคงเป็นความลับของธรรมชาติ ที่มีผลทำให้เกิดรสชาติเฉพาะในพื้นถิ่นนั้นๆ(origin) ซึ่งอาจจะได้ taste note ในอีกหลากหลายรสชาติเช่น Nutty,Herbal,Spicy,Fruity,Vegetal
    ,Dark, Sweet ซึ่งเป็นเสน่ห์ของ craft chocolate ดังนั้นความอร่อยของรสชาติที่แท้จริงของช็อกโกแลตจึงต้องมาจากวัตถุดิบที่มีคุณภาพจากต้นทาง โดยเฉพาะกระบวนการหมักที่จะเป็นตัวกำหนดรสชาติ
    ซึ่งก็ไม่ต่างจากการหมักเบียร์ หมักไวน์ หรือการหมักอาหาร ที่ยังต้องใช้เทคนิคทางด้านวิทยาศาสตร์การอาหารเข้ามาช่วย

    แตกต่างกับ Factory chocolate (กระบวนการหมักแบบDutch Proceess)ที่ต้องใช้สารเคมีโปแตสเซียม ,อัลคาไรด์ ที่มีคุณสมบัติเป็นด่าง เพื่อมาลดความเป็นกรด คือลดความเปรี้ยวเป็นหลัก รสชาติส่วนใหญ่จึงออกมาคลา้ยๆกันจนส่งผลกระทบต่อความหลากหลายของรสชาติอื่นๆ(taste note)ไปด้วย
    …ซึ่งไม่ว่าจะมาจากพื้นถิ่นไหน แถบใดของโลก สรุปได้ว่าถ้าเมล็ดที่หมักไม่สมบูรณ์ ก็จะเกิดความเปรี้ยวแบบลิ้นสัมผัสได้ว่ามันไม่ใช่รสชาติโกโก้ที่ทุกคนคุ้นเคยจนน่าแปลก ยิ่งถ้าเปรี้ยวโดดเปรี้ยวดีดแล้ว จะหารสชาติที่เป็น single origin นั้นไม่ต้องพูดถึงเพราะความเปรี้ยวจะไปลดทอน taste noteที่แท้จริง ทำให้ยากที่จะหาความชัดเจนของรสชาติโกโก้เฉพาะถิ่นนั้นๆ ซึ่งบางท่านอาจจะเข้าใจผิดในสิ่งที่รับรู้มาจากการสร้างเรื่องราวของการอ้างดินฟ้าอากาศ พื้นที่ที่ปลูก ฯลฯ ซึ่งเป็นstory ที่เป็นเรื่องเล่าถูกสร้างมาแบบไม่มีวิทยาศาสตร์มารองรับ เอาจริงๆมันก็เกี่ยวในแง่ของรสชาติพื้นถิ่น แต่คนละเรื่องกับความเปรี้ยวที่ว่านี้ อย่าลืมนะครับว่าเรากำลังทานโกโก้ที่ผ่านกระบวนการหมักแล้ว ไม่ใช่ทานผลสด ที่จะอมเปรี้ยว อมหวาน….หรือว่าบางท่านอาจหลงไหลชื่นชอบในรสชาติความแปลกใหม่ของรสชาติเปรี้ยวนำ เปรี้ยวโดด ซึ่งเป็นความชอบเฉพาะตัว จนบางท่านหลงคิดว่าเป็นรสชาติ Fruitty แต่อย่าลืมว่ามันคือ…ช็อกโกแลตที่ใส่นำ้ส้มสายชู..ดีดีนี่เอง….

    -กระบวนการหมักที่สมบูรณ์แบบ Natural process
    = เกิดรสชาติโกโก้แท้ๆอาจมี taste noteและกลิ่นที่หลากหลายของผลไม้ ดอกไม้ สมุนไพรหรือถั่วต่างๆ และไม่มีรสชาติเปรี้ยวโดดที่เกิดจากกรดนำ้ส้มสายชูตกค้าง
    -กระบวนการหมักไม่สมบูรณ์แบบ Natural process
    =โกโก้+นำ้ส้มสายชูตกค้าง ทำให้มีรสชาติเปรี้ยวนำ เปรี้ยวโดด จนสูญเสียรสชาติช็อกโกแลตที่แท้จริงไป
    -กระบวนการหมักแบบ Dutch Process = โกโก้ + โปแตสเซียม + (อัลคาไลน์) หรือสารเคมีชนิดอื่น ที่มีคุณสมบัติเป็นด่างเพื่อลดกรดจะทำให้ไม่มีรสชาติเปรี้ยว ออกแนวขมเข้มข้น กลิ่นหอม มักจะคั่วที่อุณภูมิสูงขาดจนความหลากหลายของ taste note

    **การคั่วเข้มคั่วอ่อนก็ยังมีผลต่อรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการ
    -คั่วอ่อน เมล็ดโกโก้แห้งจะมีกลิ่นหอมขึ้นระดับหนึ่ง รสชาติจะไม่เปลี่ยนแปลงไปมากยังคงได้taste note แบบดั้งเดิม และยังคงมีคุณค่าทางอาหารได้มากกว่าคั่วเข้ม
    -คั่วเข้ม รสชาติจะเข้มข้นขึ้น(dark)ออกไปทางขม(bitter) เพิ่มกลิ่นหอมของโกโก้ แต่จะเสียคุณค่าทางโภชนาการไปมากกว่า
    ….เรื่องราวทั้งหมดนี้ หวังว่าคงมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับคนรัก craft chocolate ที่ต้องการทราบความจริงที่มีหนึ่งเดียว จริงๆแล้ววิทยาศาสตร์อยู่รอบตัวเรา การใช้ศาสตร์มาคิดวิเคราะห์ ด้วยหลักของเหตุผล เราก็จะได้ทราบถึงที่มาที่ไปและเข้าใจมันอย่างแท้จริง
    …หากท่านใดคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์ ฝากกด Like กดShare ให้ผู้ที่รักและชื่นชอบ craft chocolate ได้เปิดโลกทัศน์ในโลกของโกโก้ด้วยครับ ขอบคุณครับ
    #cocora
    #craftchocolate
    #perfectfermentation
    #ไม่เปรี้ยวแน่นอน
    #rareitem

    ….ความสะอาด พิถีพิถัน คือหัวใจของเรา
    อร่อยมาจากข้างในเพราะเราใส่ใจทุกกระบวนการผลิต

    ..สุขภาพดี …แค่เพียงปลายนิ้ว
    ..ส่งตรงถึงบ้าน..ไม่มีละลายด้วยการบรรจุหีบห่ออย่างดี

    สนใจสั่งซื้อรายละเอียดตามนี้ครับ
    Inbox messenger ….จะตอบกลับโดยเร็วที่สุด ง่ายต่อการสื่อสารและต้องการข้อมูลรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติม สามารถดูเมนูได้ตามลิ้งค์ครับ

    https://www.facebook.com/share/p/1DqByxv8wA/?mibextid=wwXIfr

    ลิงค์ Lazada Shoppee (21/2/68 ปิดร้าน1วัน)

    https://s.lazada.co.th/s.Oi1un

    https://shope.ee/30OIXwR87J
    ธรรมชาติสร้างสรรค์ วิทยาศาสตร์เป็นตัวกำหนด ทุกความอร่อยต้องมีเรื่องราว… ..ช็อกโกแลตคือของทานเล่นที่ทำให้ทุกคนมีความสุข…ในทุกเพศทุกวัยเพื่อสุขภาพที่ดี COCORA ….Premium Chocolate. ..Taste note: Nutty>Floral>Fruitty เข้มข้น กลิ่นหอม กลมกล่อม ละมุนลิ้น ไม่มีเปรี้ยว ความจริงที่ควรรู้กี่ยวกับ…Craft chocolate …สำหรับคนรัก Chocolate ..….ถ้าเป็นCraft Chocolate มันต้องเปรี้ยวสิ !!..คำนี้หลายท่านคงได้ยินกันมาจนชิน จนหลายท่านอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมมันถึงเปรี้ยว ...คราฟท์ช็อกโกแลตที่เปรี้ยวนั้น ส่วนใหญ่เกิดจากการหมักเมล็ดโกโก้ในกระบวนการแบบ Natural process ไปในทิศทางที่ไม่สมบูรณ์แบบ จนทำให้ในขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการหมักยังคงมีกรดอะซิติก(กรดนำ้ส้มสายชู)คงตกค้างอยู่ในเมล็ดจำนวนหนึ่งจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความพิถีพิถันของผู้หมัก ซึ่งขั้นตอนนี้จะทำค่อนข้างยาก การหมักโกโก้จึงเป็นงานศิลปะที่ต้องใช้ความรู้และเทคนิคทางวิทยาศาสตร์ (food science )เข้ามาช่วยและต้องมีความละเอียดความเข้าใจในทุกขั้นตอนอย่างลึกซึ้ง ส่วนใหญ่กว่า90%มักจะทำให้เกิดรสชาติที่เปรี้ยวนำเพราะไม่สามารถกำจัดกรดอะซิติกออกไปจนหมด…ความเปรี้ยวที่เกิดขึ้นนี้รสชาติจะเปรี้ยวโดดแตกต่างจากเมล็ดโกโก้ที่มีโอกาสเกิดความเปรี้ยวเล็กน้อยหรือเปรี้ยวปลายแบบรสชาติผลไม้นานาชนิดที่มี taste note เรียกว่า fruity ซึ่งรสชาตินี้จะเกิดขึ้นได้จริงๆจากการหมักที่สมบูรณ์แบบเท่านั้น เมื่อการหมักสมบูรณ์ปัจจัยปลีกย่อยอีกหลายอย่างก็ตามมากำหนดรสชาติความเป็นพื้นถิ่น เช่นสายพันธุ์เมล็ดโกโก้ที่ปลูก ,แหล่งที่ปลูก ,สภาพพื้นดินที่เป็นกรดเป็นด่าง ,ปุ๋ยที่ใ้ช้ และสภาพภูมิอากาศที่แตกต่างกันในแต่ฤดูกาล และยังมีอีกหลายด้านที่ยังคงเป็นความลับของธรรมชาติ ที่มีผลทำให้เกิดรสชาติเฉพาะในพื้นถิ่นนั้นๆ(origin) ซึ่งอาจจะได้ taste note ในอีกหลากหลายรสชาติเช่น Nutty,Herbal,Spicy,Fruity,Vegetal ,Dark, Sweet ซึ่งเป็นเสน่ห์ของ craft chocolate ดังนั้นความอร่อยของรสชาติที่แท้จริงของช็อกโกแลตจึงต้องมาจากวัตถุดิบที่มีคุณภาพจากต้นทาง โดยเฉพาะกระบวนการหมักที่จะเป็นตัวกำหนดรสชาติ ซึ่งก็ไม่ต่างจากการหมักเบียร์ หมักไวน์ หรือการหมักอาหาร ที่ยังต้องใช้เทคนิคทางด้านวิทยาศาสตร์การอาหารเข้ามาช่วย แตกต่างกับ Factory chocolate (กระบวนการหมักแบบDutch Proceess)ที่ต้องใช้สารเคมีโปแตสเซียม ,อัลคาไรด์ ที่มีคุณสมบัติเป็นด่าง เพื่อมาลดความเป็นกรด คือลดความเปรี้ยวเป็นหลัก รสชาติส่วนใหญ่จึงออกมาคลา้ยๆกันจนส่งผลกระทบต่อความหลากหลายของรสชาติอื่นๆ(taste note)ไปด้วย …ซึ่งไม่ว่าจะมาจากพื้นถิ่นไหน แถบใดของโลก สรุปได้ว่าถ้าเมล็ดที่หมักไม่สมบูรณ์ ก็จะเกิดความเปรี้ยวแบบลิ้นสัมผัสได้ว่ามันไม่ใช่รสชาติโกโก้ที่ทุกคนคุ้นเคยจนน่าแปลก ยิ่งถ้าเปรี้ยวโดดเปรี้ยวดีดแล้ว จะหารสชาติที่เป็น single origin นั้นไม่ต้องพูดถึงเพราะความเปรี้ยวจะไปลดทอน taste noteที่แท้จริง ทำให้ยากที่จะหาความชัดเจนของรสชาติโกโก้เฉพาะถิ่นนั้นๆ ซึ่งบางท่านอาจจะเข้าใจผิดในสิ่งที่รับรู้มาจากการสร้างเรื่องราวของการอ้างดินฟ้าอากาศ พื้นที่ที่ปลูก ฯลฯ ซึ่งเป็นstory ที่เป็นเรื่องเล่าถูกสร้างมาแบบไม่มีวิทยาศาสตร์มารองรับ เอาจริงๆมันก็เกี่ยวในแง่ของรสชาติพื้นถิ่น แต่คนละเรื่องกับความเปรี้ยวที่ว่านี้ อย่าลืมนะครับว่าเรากำลังทานโกโก้ที่ผ่านกระบวนการหมักแล้ว ไม่ใช่ทานผลสด ที่จะอมเปรี้ยว อมหวาน….หรือว่าบางท่านอาจหลงไหลชื่นชอบในรสชาติความแปลกใหม่ของรสชาติเปรี้ยวนำ เปรี้ยวโดด ซึ่งเป็นความชอบเฉพาะตัว จนบางท่านหลงคิดว่าเป็นรสชาติ Fruitty แต่อย่าลืมว่ามันคือ…ช็อกโกแลตที่ใส่นำ้ส้มสายชู..ดีดีนี่เอง…. -กระบวนการหมักที่สมบูรณ์แบบ Natural process = เกิดรสชาติโกโก้แท้ๆอาจมี taste noteและกลิ่นที่หลากหลายของผลไม้ ดอกไม้ สมุนไพรหรือถั่วต่างๆ และไม่มีรสชาติเปรี้ยวโดดที่เกิดจากกรดนำ้ส้มสายชูตกค้าง -กระบวนการหมักไม่สมบูรณ์แบบ Natural process =โกโก้+นำ้ส้มสายชูตกค้าง ทำให้มีรสชาติเปรี้ยวนำ เปรี้ยวโดด จนสูญเสียรสชาติช็อกโกแลตที่แท้จริงไป -กระบวนการหมักแบบ Dutch Process = โกโก้ + โปแตสเซียม + (อัลคาไลน์) หรือสารเคมีชนิดอื่น ที่มีคุณสมบัติเป็นด่างเพื่อลดกรดจะทำให้ไม่มีรสชาติเปรี้ยว ออกแนวขมเข้มข้น กลิ่นหอม มักจะคั่วที่อุณภูมิสูงขาดจนความหลากหลายของ taste note **การคั่วเข้มคั่วอ่อนก็ยังมีผลต่อรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการ -คั่วอ่อน เมล็ดโกโก้แห้งจะมีกลิ่นหอมขึ้นระดับหนึ่ง รสชาติจะไม่เปลี่ยนแปลงไปมากยังคงได้taste note แบบดั้งเดิม และยังคงมีคุณค่าทางอาหารได้มากกว่าคั่วเข้ม -คั่วเข้ม รสชาติจะเข้มข้นขึ้น(dark)ออกไปทางขม(bitter) เพิ่มกลิ่นหอมของโกโก้ แต่จะเสียคุณค่าทางโภชนาการไปมากกว่า ….เรื่องราวทั้งหมดนี้ หวังว่าคงมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับคนรัก craft chocolate ที่ต้องการทราบความจริงที่มีหนึ่งเดียว จริงๆแล้ววิทยาศาสตร์อยู่รอบตัวเรา การใช้ศาสตร์มาคิดวิเคราะห์ ด้วยหลักของเหตุผล เราก็จะได้ทราบถึงที่มาที่ไปและเข้าใจมันอย่างแท้จริง …หากท่านใดคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์ ฝากกด Like กดShare ให้ผู้ที่รักและชื่นชอบ craft chocolate ได้เปิดโลกทัศน์ในโลกของโกโก้ด้วยครับ ขอบคุณครับ #cocora #craftchocolate #perfectfermentation #ไม่เปรี้ยวแน่นอน #rareitem ….ความสะอาด พิถีพิถัน คือหัวใจของเรา อร่อยมาจากข้างในเพราะเราใส่ใจทุกกระบวนการผลิต ..สุขภาพดี …แค่เพียงปลายนิ้ว ..ส่งตรงถึงบ้าน..ไม่มีละลายด้วยการบรรจุหีบห่ออย่างดี สนใจสั่งซื้อรายละเอียดตามนี้ครับ Inbox messenger ….จะตอบกลับโดยเร็วที่สุด ง่ายต่อการสื่อสารและต้องการข้อมูลรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติม สามารถดูเมนูได้ตามลิ้งค์ครับ https://www.facebook.com/share/p/1DqByxv8wA/?mibextid=wwXIfr ลิงค์ Lazada Shoppee (21/2/68 ปิดร้าน1วัน) https://s.lazada.co.th/s.Oi1un https://shope.ee/30OIXwR87J
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 336 มุมมอง 0 รีวิว
  • คำสอนทั้งหมดขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าหรือพระพุทธเจ้า เรียกว่า "พระธรรม" หรือ "ธรรมะ" ซึ่งเป็นหลักคำสอนที่ครอบคลุมทั้งด้านปรัชญา จริยธรรม และการปฏิบัติเพื่อการหลุดพ้นจากความทุกข์ โดยสรุปหลักคำสอนสำคัญของพระพุทธองค์มีดังนี้:

    ### 1. **อริยสัจ 4 (ความจริงอันประเสริฐ 4 ประการ)**
    - **ทุกข์ (ความทุกข์)**: ชีวิตเต็มไปด้วยความทุกข์ เช่น ความเกิด ความแก่ ความเจ็บป่วย ความตาย การพลัดพรากจากสิ่งที่รัก การไม่ได้สิ่งที่ปรารถนา
    - **สมุทัย (เหตุแห่งทุกข์)**: สาเหตุของความทุกข์คือตัณหา (ความอยาก) ทั้งทางกายและใจ
    - **นิโรธ (การดับทุกข์)**: การดับทุกข์สามารถทำได้ด้วยการดับตัณหา
    - **มรรค (ทางดับทุกข์)**: ทางปฏิบัติเพื่อดับทุกข์คือมรรคมีองค์ 8

    ### 2. **มรรคมีองค์ 8 (ทางสายกลาง)**
    - **สัมมาทิฏฐิ (ความเห็นชอบ)**: เข้าใจในอริยสัจ 4
    - **สัมมาสังกัปปะ (ความดำริชอบ)**: คิดในทางที่ไม่ก่อให้เกิดความทุกข์
    - **สัมมาวาจา (เจรจาชอบ)**: พูดคำจริง ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดคำหยาบ
    - **สัมมากัมมันตะ (กระทำชอบ)**: ไม่ทำบาปทั้งปวง
    - **สัมมาอาชีวะ (เลี้ยงชีพชอบ)**: เลี้ยงชีพในทางที่ถูกต้อง
    - **สัมมาวายามะ (พยายามชอบ)**: พยายามละความชั่วและทำความดี
    - **สัมมาสติ (ระลึกชอบ)**: มีสติรู้ตัวอยู่เสมอ
    - **สัมมาสมาธิ (ตั้งใจมั่นชอบ)**: ฝึกสมาธิให้จิตสงบ

    ### 3. **ไตรลักษณ์ (ลักษณะของสรรพสิ่ง)**
    - **อนิจจัง (ไม่เที่ยง)**: ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
    - **ทุกขัง (เป็นทุกข์)**: ทุกสิ่งไม่สามารถให้ความสุขที่แท้จริงได้
    - **อนัตตา (ไม่ใช่ตัวตน)**: ไม่มีสิ่งใดที่เป็นตัวตนที่แท้จริง

    ### 4. **กรรมและวิบาก**
    - การกระทำทุกอย่าง (กรรม) ย่อมส่งผล (วิบาก) ทั้งในชาตินี้และชาติหน้า
    - การทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว

    ### 5. **ขันธ์ 5 (องค์ประกอบของชีวิต)**
    - **รูป (ร่างกาย)**
    - **เวทนา (ความรู้สึก)**
    - **สัญญา (ความจำ)**
    - **สังขาร (ความคิด)**
    - **วิญญาณ (จิตสำนึก)**

    ### 6. **หลักการปฏิบัติเพื่อการหลุดพ้น**
    - **ศีล (ความประพฤติดี)**: การรักษาศีล 5 หรือศีล 8
    - **สมาธิ (จิตตั้งมั่น)**: การฝึกสมาธิเพื่อให้จิตสงบ
    - **ปัญญา (ความรู้แจ้ง)**: การเข้าใจความจริงของชีวิต

    ### 7. **พรหมวิหาร 4 (ธรรมะสำหรับการอยู่ร่วมกัน)**
    - **เมตตา (ความรัก)**
    - **กรุณา (ความสงสาร)**
    - **มุทิตา (ความยินดีในความสำเร็จของผู้อื่น)**
    - **อุเบกขา (ความวางใจเป็นกลาง)**

    ### 8. **โอวาทปาติโมกข์ (คำสอนสำคัญ)**
    - **ไม่ทำบาปทั้งปวง**
    - **ทำความดีให้ถึงพร้อม**
    - **ทำจิตใจให้ผ่องใส**

    พระพุทธเจ้าทรงสอนให้มนุษย์เข้าใจธรรมชาติของชีวิตและฝึกฝนตนเองเพื่อบรรลุถึงความหลุดพ้นจากวัฏสงสาร (การเวียนว่ายตายเกิด) โดยเน้นการปฏิบัติด้วยตนเอง ไม่เชื่อสิ่งใดโดยปราศจากเหตุผล (กาลามสูตร) และให้ใช้ปัญญาในการพิจารณาไตร่ตรองทุกสิ่ง
    คำสอนทั้งหมดขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าหรือพระพุทธเจ้า เรียกว่า "พระธรรม" หรือ "ธรรมะ" ซึ่งเป็นหลักคำสอนที่ครอบคลุมทั้งด้านปรัชญา จริยธรรม และการปฏิบัติเพื่อการหลุดพ้นจากความทุกข์ โดยสรุปหลักคำสอนสำคัญของพระพุทธองค์มีดังนี้: ### 1. **อริยสัจ 4 (ความจริงอันประเสริฐ 4 ประการ)** - **ทุกข์ (ความทุกข์)**: ชีวิตเต็มไปด้วยความทุกข์ เช่น ความเกิด ความแก่ ความเจ็บป่วย ความตาย การพลัดพรากจากสิ่งที่รัก การไม่ได้สิ่งที่ปรารถนา - **สมุทัย (เหตุแห่งทุกข์)**: สาเหตุของความทุกข์คือตัณหา (ความอยาก) ทั้งทางกายและใจ - **นิโรธ (การดับทุกข์)**: การดับทุกข์สามารถทำได้ด้วยการดับตัณหา - **มรรค (ทางดับทุกข์)**: ทางปฏิบัติเพื่อดับทุกข์คือมรรคมีองค์ 8 ### 2. **มรรคมีองค์ 8 (ทางสายกลาง)** - **สัมมาทิฏฐิ (ความเห็นชอบ)**: เข้าใจในอริยสัจ 4 - **สัมมาสังกัปปะ (ความดำริชอบ)**: คิดในทางที่ไม่ก่อให้เกิดความทุกข์ - **สัมมาวาจา (เจรจาชอบ)**: พูดคำจริง ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดคำหยาบ - **สัมมากัมมันตะ (กระทำชอบ)**: ไม่ทำบาปทั้งปวง - **สัมมาอาชีวะ (เลี้ยงชีพชอบ)**: เลี้ยงชีพในทางที่ถูกต้อง - **สัมมาวายามะ (พยายามชอบ)**: พยายามละความชั่วและทำความดี - **สัมมาสติ (ระลึกชอบ)**: มีสติรู้ตัวอยู่เสมอ - **สัมมาสมาธิ (ตั้งใจมั่นชอบ)**: ฝึกสมาธิให้จิตสงบ ### 3. **ไตรลักษณ์ (ลักษณะของสรรพสิ่ง)** - **อนิจจัง (ไม่เที่ยง)**: ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ - **ทุกขัง (เป็นทุกข์)**: ทุกสิ่งไม่สามารถให้ความสุขที่แท้จริงได้ - **อนัตตา (ไม่ใช่ตัวตน)**: ไม่มีสิ่งใดที่เป็นตัวตนที่แท้จริง ### 4. **กรรมและวิบาก** - การกระทำทุกอย่าง (กรรม) ย่อมส่งผล (วิบาก) ทั้งในชาตินี้และชาติหน้า - การทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ### 5. **ขันธ์ 5 (องค์ประกอบของชีวิต)** - **รูป (ร่างกาย)** - **เวทนา (ความรู้สึก)** - **สัญญา (ความจำ)** - **สังขาร (ความคิด)** - **วิญญาณ (จิตสำนึก)** ### 6. **หลักการปฏิบัติเพื่อการหลุดพ้น** - **ศีล (ความประพฤติดี)**: การรักษาศีล 5 หรือศีล 8 - **สมาธิ (จิตตั้งมั่น)**: การฝึกสมาธิเพื่อให้จิตสงบ - **ปัญญา (ความรู้แจ้ง)**: การเข้าใจความจริงของชีวิต ### 7. **พรหมวิหาร 4 (ธรรมะสำหรับการอยู่ร่วมกัน)** - **เมตตา (ความรัก)** - **กรุณา (ความสงสาร)** - **มุทิตา (ความยินดีในความสำเร็จของผู้อื่น)** - **อุเบกขา (ความวางใจเป็นกลาง)** ### 8. **โอวาทปาติโมกข์ (คำสอนสำคัญ)** - **ไม่ทำบาปทั้งปวง** - **ทำความดีให้ถึงพร้อม** - **ทำจิตใจให้ผ่องใส** พระพุทธเจ้าทรงสอนให้มนุษย์เข้าใจธรรมชาติของชีวิตและฝึกฝนตนเองเพื่อบรรลุถึงความหลุดพ้นจากวัฏสงสาร (การเวียนว่ายตายเกิด) โดยเน้นการปฏิบัติด้วยตนเอง ไม่เชื่อสิ่งใดโดยปราศจากเหตุผล (กาลามสูตร) และให้ใช้ปัญญาในการพิจารณาไตร่ตรองทุกสิ่ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 211 มุมมอง 0 รีวิว
  • #จับโป๊ะ...#คนตื้นธรรม : #รู้พุทธแบบตื้นๆ
    มีผู้ส่งคลิปคนตื้นธรรม...ไปบรรยายธรรมะแก่กลุ่มคนใกล้วันมาฆะบูชา...มาให้โดยกล่าวถึงโอวาทปาฏิโมกข์ที่พระพุทธตรัสไว้ในวันมาฆะบูชาว่า คือพระปาฏิโมกข์ที่พระสวดทุกกึ่งเดือน...สิ่งที่เขาพูดถูกต้องหรือไม่...สามารถจับโป๊ะว่าคนๆนี้มีความรู้เรื่องพระพุทธศาสนาแบบพื้นฐานง่ายๆเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่ มาชำแหละกันดู
    #โอวาทปาฏิโมกข์กับพระปาฏิโมกข์ต่างกันอย่างไร
    ปาฏิโมกข์ คือ มาจาก ๒ คำ คือ ปาติ(ฏิ) = เฉพาะ หรือ รักษา กับ โมกฺข แปลว่า หลุดพ้น มีความหมายว่า หลุดพ้นโดยเฉพาะกับธรรมที่รักษาความหลุดพ้น ปาฏิโมกข์มี ๒ ประเภทคือ
    ๑.#โอวาทปาฏิโมกข์ คือ หลักการใหญ่หรือหัวใจของพระพุทธศาสนา ที่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ต้องตรัสไว้หลังตรัสรู้ จึงมีคำสรุปเป็นพระบาลีว่า "เอตํ พุทฺธานสาสนํ นี่คือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย" สำหรับพระโคตมะพระพุทธเจ้าของเราตรัสไว้ในวันมาฆะบูชานี้แล
    ๒. #อาณาปาฏิโมกข์ คือ ศีลใหญ่หรือศีลหลักของภิกษุและภิกษุณี ทรงบัญญัติสิกขาบทหลังมีพระช่วงหลังประพฤติไม่ดีไม่งาม เกิดขึ้นในคณะสงฆ์ เพื่อรักษาคณะสงฆ์ และเพื่อรักษาศรัทธาจากพุทธบริษัทกลุ่มอื่น จึงบัญญัติไว้...ตอนหลังกลายเป็นสังฆกรรมที่พระสวดทุกกึ่งเดือน.. เพื่อทบทวนและสังวรระวังในศีลของตน.
    #ตื้นธรรม : #บอกโอวาทปาฏิโมกข์คือปาฏิโมกข์ศีลพระ
    คนตื้นธรรมคราวนี้ถูกจับโป๊ะชัดๆจากผู้รู้ว่า...มีความรู้เรื่องพุทธน้อยมาก...โดยการอธิบายว่า โอวาทปาฏิโมกข์ที่พระพุทธตรัสในวันมาฆะคือพระปาฏิโมกข์ที่พระสวดทุกกึ่งเดือน ผิดแบบไม่น่าให้อภัย ใครฟังหรืออ่านเรื่องนี้แล้วเฉยๆปล่อยผ่านก็แสดงว่าไม่ค่อยรู้เรื่องพระพุทธศาสนาเช่นกัน
    #โอวาทปาฏิโมกข์กับปาติโมกข์พระ : #เทียบได้จากไทม์ไลน์
    โอวาทปาฏิโมกข์ที่ตรัสกับพระอรหันต์ เอหิภิกขุอุปสัมปทา ๑,๒๕๐ รูป พระพุทธเจ้าตรัสในตอนพรรษาที่ ๑ หลังตรัสรู้ เมื่อขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ แล้วเผยแผ่ธรรมจนมีพระสาวกมากกว่า ๑,๒๕๐ รูปในวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๓
    (ประมาณ ๙ เดือน)
    ส่วนปาติโมกข์ทรงบัญญัติสิกขาบทหลังพระสุทินเสพเมถุนธรรมกับภริยาเก่าเพื่อสืบสกุล พระอรรถกถาจารย์วินิจฉัยว่าหลังพรรษาที่ ๒๐ ไปแล้วก็พิสูจน์ได้ว่า ปาติโมกข์ในวันมาฆะกับปาฏิโมกข์ศีลพระ...ไทม์ไลน์..ต่างกันแน่นอน เขามั่วนิ่ม...ชัวร์
    #ปาฏิโมกข์ทั้ง ๒ : #เนื้อหาก็แตกต่าง
    โอวาทปาฏิโมกข์ในวันมาฆะ คือ #หัวใจของพระพุทธศาสนา มี
    -#อุดมการณ์ ๓ คือ
    ขันติ นิพพาน การไม่เบียดเบียน
    -#หลักการ ๓
    ละชั่ว ทำดี ทำใจให้บริสุทธิ์
    - #วิธีการ
    ไม่พูดร้าย ไม่ทำร้าย ยึดในหลักปาฏิโมกข์ ใช้ชีวิตพอดี เน้นความสงบ หมั่นฝึกสมาธิภาวนา
    นี่คือสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์
    ส่วนพระปาฏิโมกข์คือศีลหลักพระที่พระต้องรักษามี ๒๒๗ ข้อ แบ่งไปตามนี้ ปาราชิก ๔ สังฆาทิเสส ๑๓ อนิยต ๒ นิสสัคคียปาจิตตีย์ ๓๐ ปาจิตตีย์ ๙๒ ปาฏิเทสนียะ ๔ เสขิยวัตร ๗๕ อธิกรณสมถะ ๗ ล้วนเป็นศีลของพระแทบทั้งสิ้น มันคนละอย่างกันเลย
    คนตื้นธรรมรู้ธรรมะแบบงูๆปลาๆ เอาหางมาชนหัว มั่วนิ่มไปหมด อาศัยว่าพูดเร็ว พูดมัน และคนไม่ค่อยจะรู้เรื่องพระเรื่องเจ้ากัน.. มันจึงดำน้ำโผล่มาบอกธรรมะ..ทั้งๆที่วิญญูชนผู้รู้เขาติเตียน แต่กลับด่าสวนกลับ...ไม่เคยยอมรับว่าตนสอนผิดสอนพลาดยังไง...แม้เขาจะได้อะไรบ้าง....แต่อนาคตของเขาไม่แน่นอน...เพราะเล่นกับของสูงระดับอ้างพระบรมศาสดาบ่อยๆ...หวังจะชักชวนจูงผู้ศรัทธาที่มีความรู้ไม่มาก...งานนี้คุณกำลังเล่นไฟ...ไฟนี้ไม่ใช่ไฟธรรมดา แต่คือไฟนรกโลกันต์...ทานที่เขายกมือท่วมหัวถวายด้วยศรัทธาถ้าไม่ดีจริง. อย่าว่าแต่ชาติหน้าเลย...ชาตินี้แหละ...ดูไป.
    ด้วยจิตคารวะ
    ดร.มงคล นาฏกระสูตร
    มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
    #จับโป๊ะ...#คนตื้นธรรม : #รู้พุทธแบบตื้นๆ มีผู้ส่งคลิปคนตื้นธรรม...ไปบรรยายธรรมะแก่กลุ่มคนใกล้วันมาฆะบูชา...มาให้โดยกล่าวถึงโอวาทปาฏิโมกข์ที่พระพุทธตรัสไว้ในวันมาฆะบูชาว่า คือพระปาฏิโมกข์ที่พระสวดทุกกึ่งเดือน...สิ่งที่เขาพูดถูกต้องหรือไม่...สามารถจับโป๊ะว่าคนๆนี้มีความรู้เรื่องพระพุทธศาสนาแบบพื้นฐานง่ายๆเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่ มาชำแหละกันดู #โอวาทปาฏิโมกข์กับพระปาฏิโมกข์ต่างกันอย่างไร ปาฏิโมกข์ คือ มาจาก ๒ คำ คือ ปาติ(ฏิ) = เฉพาะ หรือ รักษา กับ โมกฺข แปลว่า หลุดพ้น มีความหมายว่า หลุดพ้นโดยเฉพาะกับธรรมที่รักษาความหลุดพ้น ปาฏิโมกข์มี ๒ ประเภทคือ ๑.#โอวาทปาฏิโมกข์ คือ หลักการใหญ่หรือหัวใจของพระพุทธศาสนา ที่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ต้องตรัสไว้หลังตรัสรู้ จึงมีคำสรุปเป็นพระบาลีว่า "เอตํ พุทฺธานสาสนํ นี่คือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย" สำหรับพระโคตมะพระพุทธเจ้าของเราตรัสไว้ในวันมาฆะบูชานี้แล ๒. #อาณาปาฏิโมกข์ คือ ศีลใหญ่หรือศีลหลักของภิกษุและภิกษุณี ทรงบัญญัติสิกขาบทหลังมีพระช่วงหลังประพฤติไม่ดีไม่งาม เกิดขึ้นในคณะสงฆ์ เพื่อรักษาคณะสงฆ์ และเพื่อรักษาศรัทธาจากพุทธบริษัทกลุ่มอื่น จึงบัญญัติไว้...ตอนหลังกลายเป็นสังฆกรรมที่พระสวดทุกกึ่งเดือน.. เพื่อทบทวนและสังวรระวังในศีลของตน. #ตื้นธรรม : #บอกโอวาทปาฏิโมกข์คือปาฏิโมกข์ศีลพระ คนตื้นธรรมคราวนี้ถูกจับโป๊ะชัดๆจากผู้รู้ว่า...มีความรู้เรื่องพุทธน้อยมาก...โดยการอธิบายว่า โอวาทปาฏิโมกข์ที่พระพุทธตรัสในวันมาฆะคือพระปาฏิโมกข์ที่พระสวดทุกกึ่งเดือน ผิดแบบไม่น่าให้อภัย ใครฟังหรืออ่านเรื่องนี้แล้วเฉยๆปล่อยผ่านก็แสดงว่าไม่ค่อยรู้เรื่องพระพุทธศาสนาเช่นกัน #โอวาทปาฏิโมกข์กับปาติโมกข์พระ : #เทียบได้จากไทม์ไลน์ โอวาทปาฏิโมกข์ที่ตรัสกับพระอรหันต์ เอหิภิกขุอุปสัมปทา ๑,๒๕๐ รูป พระพุทธเจ้าตรัสในตอนพรรษาที่ ๑ หลังตรัสรู้ เมื่อขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ แล้วเผยแผ่ธรรมจนมีพระสาวกมากกว่า ๑,๒๕๐ รูปในวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๓ (ประมาณ ๙ เดือน) ส่วนปาติโมกข์ทรงบัญญัติสิกขาบทหลังพระสุทินเสพเมถุนธรรมกับภริยาเก่าเพื่อสืบสกุล พระอรรถกถาจารย์วินิจฉัยว่าหลังพรรษาที่ ๒๐ ไปแล้วก็พิสูจน์ได้ว่า ปาติโมกข์ในวันมาฆะกับปาฏิโมกข์ศีลพระ...ไทม์ไลน์..ต่างกันแน่นอน เขามั่วนิ่ม...ชัวร์ #ปาฏิโมกข์ทั้ง ๒ : #เนื้อหาก็แตกต่าง โอวาทปาฏิโมกข์ในวันมาฆะ คือ #หัวใจของพระพุทธศาสนา มี -#อุดมการณ์ ๓ คือ ขันติ นิพพาน การไม่เบียดเบียน -#หลักการ ๓ ละชั่ว ทำดี ทำใจให้บริสุทธิ์ - #วิธีการ ๖ ไม่พูดร้าย ไม่ทำร้าย ยึดในหลักปาฏิโมกข์ ใช้ชีวิตพอดี เน้นความสงบ หมั่นฝึกสมาธิภาวนา นี่คือสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ส่วนพระปาฏิโมกข์คือศีลหลักพระที่พระต้องรักษามี ๒๒๗ ข้อ แบ่งไปตามนี้ ปาราชิก ๔ สังฆาทิเสส ๑๓ อนิยต ๒ นิสสัคคียปาจิตตีย์ ๓๐ ปาจิตตีย์ ๙๒ ปาฏิเทสนียะ ๔ เสขิยวัตร ๗๕ อธิกรณสมถะ ๗ ล้วนเป็นศีลของพระแทบทั้งสิ้น มันคนละอย่างกันเลย คนตื้นธรรมรู้ธรรมะแบบงูๆปลาๆ เอาหางมาชนหัว มั่วนิ่มไปหมด อาศัยว่าพูดเร็ว พูดมัน และคนไม่ค่อยจะรู้เรื่องพระเรื่องเจ้ากัน.. มันจึงดำน้ำโผล่มาบอกธรรมะ..ทั้งๆที่วิญญูชนผู้รู้เขาติเตียน แต่กลับด่าสวนกลับ...ไม่เคยยอมรับว่าตนสอนผิดสอนพลาดยังไง...แม้เขาจะได้อะไรบ้าง....แต่อนาคตของเขาไม่แน่นอน...เพราะเล่นกับของสูงระดับอ้างพระบรมศาสดาบ่อยๆ...หวังจะชักชวนจูงผู้ศรัทธาที่มีความรู้ไม่มาก...งานนี้คุณกำลังเล่นไฟ...ไฟนี้ไม่ใช่ไฟธรรมดา แต่คือไฟนรกโลกันต์...ทานที่เขายกมือท่วมหัวถวายด้วยศรัทธาถ้าไม่ดีจริง. อย่าว่าแต่ชาติหน้าเลย...ชาตินี้แหละ...ดูไป. ด้วยจิตคารวะ ดร.มงคล นาฏกระสูตร มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 352 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวช็อกวงการบันเทิง "ต้าเอส" หนึ่งในนักแสดงหนังชุดไต้หวันสุดดัง #F4 "รักใสใส หัวใจสี่ดวง" เสียชีวิตในประเทศญี่ปุ่น ในวัย 48 ปี

    มีรายงานข่าวจากสื่อบันเทิงหลายหัวใน ฮ่องกง ไต้หวัน จีน และ ญี่ปุ่น
    โดยน้องสาว "เสี่ยวเอส" และครอบครัวของ "ต้าเอส" ได้แจ้งข่าวยืนยันการเสียชีวิต
    "ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง! ช่วงปีใหม่ ครอบครัวเรามาญี่ปุ่นกันทั้งครอบครัว พี่สาวที่รักและใจดีของฉันเธอตื่นเต้นมาก แต่น่าเสียดาย พี่สาวจากพวกเราไปเพราะไข้หวัดและปอดบวม ฉันรู้สึกขอบคุณที่ได้เกิดมาเป็นพี่น้องกันในชาตินี้ ได้ดูแลกันและกัน อยู่เคียงข้างกัน ฉันขอบคุณและจะคิดถึงพี่สาวของฉันเสมอ!

    ขอให้การเดินทางครั้งนี้ พบแต่ความสุขครับ
    RIP. ต้าเอส
    ข่าวช็อกวงการบันเทิง "ต้าเอส" หนึ่งในนักแสดงหนังชุดไต้หวันสุดดัง #F4 "รักใสใส หัวใจสี่ดวง" เสียชีวิตในประเทศญี่ปุ่น ในวัย 48 ปี มีรายงานข่าวจากสื่อบันเทิงหลายหัวใน ฮ่องกง ไต้หวัน จีน และ ญี่ปุ่น โดยน้องสาว "เสี่ยวเอส" และครอบครัวของ "ต้าเอส" ได้แจ้งข่าวยืนยันการเสียชีวิต "ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง! ช่วงปีใหม่ ครอบครัวเรามาญี่ปุ่นกันทั้งครอบครัว พี่สาวที่รักและใจดีของฉันเธอตื่นเต้นมาก แต่น่าเสียดาย พี่สาวจากพวกเราไปเพราะไข้หวัดและปอดบวม ฉันรู้สึกขอบคุณที่ได้เกิดมาเป็นพี่น้องกันในชาตินี้ ได้ดูแลกันและกัน อยู่เคียงข้างกัน ฉันขอบคุณและจะคิดถึงพี่สาวของฉันเสมอ! ขอให้การเดินทางครั้งนี้ พบแต่ความสุขครับ RIP. ต้าเอส
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 322 มุมมอง 0 รีวิว
  • อ่านเอาเรื่อง Ep.92 : อะไรคือ DeepSeek

    สองสามวันนี้มีข่าวใหญ่ชิ้นหนึ่งที่ดังไปทั่วโลกครับ นั่นคือ มีระบบเอไอชื่อ DeepSeek (ดีปซีค) ของจีนออกมาให้คนใช้ฟรีแล้วทำให้หุ้นบริษัทชิปใหญ่ๆอย่าง NVIDIA ร่วงกระจุยกระจาย

    ตอนแรกผมเห็นข่าวนี้แล้วก็ไม่เข้าใจว่าเจ้าเอไอชื่อ “ดีปซีค” นี้มันดีวิเศษอย่างไร เอไอที่ผมรู้จักก็มีแค่ “ChatGPT" ก็เลยไปค้นคว้าหาข้อมูลมาเล่าสู่กันฟังครับ

    ถ้าอ่านไม่เข้าใจก็ตัวใครตัวมันนะครับ 😉
    .
    .
    .
    คำถามแรกคือ ”เอไอโมเดล“ คืออะไร?

    ถ้าผมแปลศัพท์ตรงตัวว่า ”ปัญญาประดิษฐ์“ ก็คงเหมือนผมไม่ได้ตอบอะไร จึงขอตอบว่า เอไอเป็นระบบคอมพิวเตอร์ที่นักวิจัยเขาสร้างขึ้นมาเพื่อให้มันเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองโดยเลียนแบบการทำงานของสมองมนุษย์ครับ

    เปรียบเทียบง่ายๆก็คือ เอไอคือสมองของคนๆหนึ่ง ที่เราอยากให้เขารู้อะไร เราก็สอนหรือใส่ข้อมูลเข้าไปให้หัวเขา เช่น ถ้าอยากให้เขาแยกให้ออกระหว่างรูปภาพหมากับแมว เราก็ให้เขาดูรูปหมากับแมวเยอะๆจนเขาแยกหมาออกจากแมวได้

    ต่อมานักวิจัยก็ทดสอบเอไอว่าจะตอบถูกหรือตอบผิด แล้วก็แก้ไขกันไปเรื่อยจนมั่นใจว่าโอเคแล้วจึงปล่อยออกสู่ตลาด ซึ่งที่ผ่านมาก็มีเอไอยี่ห้อ ChatGPT ที่ออกมาให้เราใช้กันฟรีๆ

    คำถามต่อมา ”แล้วนักวิทยาศาสตร์เขาใช้คอมพิวเตอร์เลียนแบบการทำงานของสมองมนุษย์ได้ยังไง“

    คำตอบคือ ใช้หลักการเดียวกับการรับรู้ของร่างกายมนุษย์ครับ นั่นคือ เขาแบ่งขั้นตอนการทำงานของคอมพิวเตอร์เป็นส่วนๆ

    เริ่มจาก ”ตามองเห็น“ ดวงตาเราก็แยกสิ่งที่เห็นก่อนว่า เห็นรูปภาพ หรือเห็นตัวหนังสือ

    ต่อมาก็เอาสิ่งที่เห็นไปแยกแยะต่อว่าจะต้องทำอะไรต่อไป เช่น เราสั่งให้เอไอวาดรูปผู้หญิงสวยขึ้นมาหนึ่งรูป เจ้าเอไอก็จะไปดูข้อมูลจากฐานข้อมูลว่า

    ”ผู้หญิงสวยคืออะไร“
    ”อะไรคือความหมายของคำว่าสวย?“
    ”คนสั่งให้วาดเป็นคนชาติไหน?“
    ”นิยามคำว่าสวยของคนชาตินี้คืออะไร“
    “มิติสัดส่วนร่างกายที่ว่าสวยคืออะไร?“
    ”แสงเงาแบบไหนที่ช่วยทำให้สวย“

    และอื่นๆอีกมากมาย จนกระทั่งเอไอวาดรูปผู้หญิงสวยออกมาให้เราได้หนึ่งรูป
    .
    .
    .
    ดังนั้นอ่านมาถึงตอนนี้ เราๆท่านๆคงพอจะนึกออกอย่างหนึ่งว่า เอไอจะฉลาดเพียงไหนนั้น ประการหนึ่งขึ้นอยู่กับว่านักวิทยาศาสตร์เขาป้อนข้อมูลให้เอไอมากแค่ไหนและฝึกสอนทดสอบเจ้าเอไอมากแค่ไหนด้วย

    ยิ่งข้อมูลเยอะ ยิ่งฝึกและทดสอบเยอะ คุณภาพก็จะยิ่งดี

    ถ้านักวิทยาศาสตร์ใส่บทกวี บทกลอน บทเพลง เนื้อร้องและดนตรีเข้าไปให้มากๆ แล้วสอนเอไอไปว่าเพลงนี้เพราะหรือไม่เพราะด้วยเหตุอะไร เอไอก็จะสามารถเขียนเพลงที่เพราะๆออกมาได้ เพราะเอไอรู้ว่า “เพลงที่มนุษย์ว่าไพเราะนั้นเป็นแบบไหน”

    ซึ่งในตอนนี้ผมขอเล่าเพิ่มอีกอย่างหนึ่งว่า นักวิทยาศาสตร์เขาพัฒนาให้เอไอสามารถสร้างข้อมูลเก๊หรือรูปภาพปลอมๆขึ้นมาได้ด้วย เพื่อเอามาทดสอบตัวเองว่าจะแยกแยะได้ไหมว่าอันนี้คือข้อมูลเก๊

    ระบบนี้เรียกว่า GAN (Generative Adversarial Network) คือ เอไอจะแบ่งสมองตัวเองเป็นสองฝั่ง ฝั่งแรกคือตัวสร้างข้อมูลปลอมขึ้นมา (Generator) ฝั่งที่สองคือฝั่งตำรวจที่ตรวจว่าข้อมูลนี้จริงหรือปลอม (Discriminator)

    หรือ ฝั่งแรกเขียนเพลงที่ไม่เพราะออกมา อีกฝ่ายทำหน้าที่เป็นคนฟังแล้วบอกว่าเพลงนี้เพราะหรือไม่เพราะ

    สองฝั่งนี้จะประลองกำลังสู้กันไปสู้กันมาเรื่อยๆ ยิ่งสู้กันนานเข้า ฝ่ายสร้างข้อมูลก็จะเก่งขึ้น ฝ่ายตรวจสอบก็เก่งขึ้นเช่นกัน และเขาทำกันยังงี้เป็นล้านๆครั้ง

    นี่แหละครับที่เขาเรียกว่า “เอไอสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง” หรือ Machine Learning
    .
    .
    .
    ทีนี้มาถึงว่า ”แล้วดีปซีคมันดีวิเศษเหนือกว่า ChatGPT อย่างไร?“

    ถ้าตอบในมุมผู้ใช้อย่างเราที่โหลดแอปมาใช้ฟรีๆนั้น คำตอบคือ ”แทบไม่แตกต่าง“ เพราะทั้งดีปซีคและ ChatGPT นั้นฟรีและดีทั้งคู่

    ความแตกต่างจะอยู่ในเลเวลของคนที่เขาอยากสร้างระบบเอไอขึ้นมาบ้าง หรือที่เรียกว่า ”ผู้พัฒนาเอไอ หรือ Developer“

    เพราะทั้งดีปซีคและChatGPT นั้นเขาได้สร้างสิ่งเดียวกันขึ้นมา คือ “สมองที่สามารถเรียนรู้อะไรก็ได้” ตามแต่ว่าผู้พัฒนาอยากจะให้สมองนี้เรียนรู้อะไร

    แต่สมองของดีปซีคนั้นราคาถูกกว่าสมองของ ChatGPT

    เพราะดีปซีคเขียนซอฟท์แวร์ให้กระบวนการเรียนรู้ของเอไอดีปซีคมีประสิทธิภาพกว่า จับประเด็นเรียนรู้ได้เร็วกว่าโดยใช้เทคนิคที่ดีกว่า

    ทำให้ระบบดีปซีคไม่ต้องใช้ชิปประมวลผลราคาแพงๆอย่างยี่ห้อ NVIDIA รุ่น A100 และ H100 GPU ที่ราคาเป็นหมื่นดอลล่าร์ซึ่ง ChatGPT นั้นใช้อยู่เป็นร้อยๆพันๆชิ้น อันทำให้ต้นทุนการพัฒนาเอไอยี่ห้อ ChatGPT นั้นแพงหลักร้อยล้านดอลล่าร์

    ในขณะที่ดีปซีคนั้นใช้งบพัฒนาแค่ 6 ล้านดอลล่าร์

    และที่สำคัญดีปซีคนั้นเขาบอกว่า โค้ดที่เขาเขียนขึ้นมาใช้ฝึกเอไอนั้น”แจกฟรี“ครับ ใครอยากใช้ก็เอาไปพัฒนาต่อได้เลย แค่ไปหาซื้อฮาร์ดแวร์มาแล้วก็เทรนเอไอเองได้เลย

    ซึ่งทำให้ต้นทุนของผู้พัฒนาเอไอนั้นถูกลงมหาศาล ไม่ต้องเขียนโค้ดสร้างระบบเอไอขึ้นมาใหม่และไม่ต้องไปซื้อชิปแพงๆของ NVIDIA มาใช้แล้ว ใช้แต่เพียงชิปราคาประหยัดก็ได้

    เป็นเหตุให้หุ้น NVIDIA ซึ่งขายชิปแพงๆและครองตลาดนี้มานานร่วงเป็นแสนล้านดอลล่าร์

    อันเป็นที่มาของข่าวว่า “หุ้น 7 นางฟ้า” ซึ่งหมายถึงหุ้นบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของอเมริกา คือ กูเกิ้ล, เทสล่า, แอมะซอน, ไมโครซอฟท์, แอปเปิ้ล, เมต้า (เฟซบุ๊ค) และ NVIDIA ร่วงกระจุยกระจาย

    แค่เพียงเพราะจีนส่งเอไอดีปซีคซึ่งดีกว่า ถูกกว่า และฟรีออกมาในตลาด

    บางสำนักข่าวในอเมริกาเองถึงกับบอกว่า ดีปซีคนี้ออกมาทำลายตลาด (Disrupt) เอไอของอเมริกาแบบโป้งเดียวจอด

    จีนนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ ขอปรบมือให้

    …และผมขอปรบมือให้คุณผู้อ่านที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ด้วยครับ หวังว่าผมอธิบายแล้วท่านจะอ่านเข้าใจนะครับ…

    นัทแนะ
    อ่านเอาเรื่อง Ep.92 : อะไรคือ DeepSeek สองสามวันนี้มีข่าวใหญ่ชิ้นหนึ่งที่ดังไปทั่วโลกครับ นั่นคือ มีระบบเอไอชื่อ DeepSeek (ดีปซีค) ของจีนออกมาให้คนใช้ฟรีแล้วทำให้หุ้นบริษัทชิปใหญ่ๆอย่าง NVIDIA ร่วงกระจุยกระจาย ตอนแรกผมเห็นข่าวนี้แล้วก็ไม่เข้าใจว่าเจ้าเอไอชื่อ “ดีปซีค” นี้มันดีวิเศษอย่างไร เอไอที่ผมรู้จักก็มีแค่ “ChatGPT" ก็เลยไปค้นคว้าหาข้อมูลมาเล่าสู่กันฟังครับ ถ้าอ่านไม่เข้าใจก็ตัวใครตัวมันนะครับ 😉 . . . คำถามแรกคือ ”เอไอโมเดล“ คืออะไร? ถ้าผมแปลศัพท์ตรงตัวว่า ”ปัญญาประดิษฐ์“ ก็คงเหมือนผมไม่ได้ตอบอะไร จึงขอตอบว่า เอไอเป็นระบบคอมพิวเตอร์ที่นักวิจัยเขาสร้างขึ้นมาเพื่อให้มันเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองโดยเลียนแบบการทำงานของสมองมนุษย์ครับ เปรียบเทียบง่ายๆก็คือ เอไอคือสมองของคนๆหนึ่ง ที่เราอยากให้เขารู้อะไร เราก็สอนหรือใส่ข้อมูลเข้าไปให้หัวเขา เช่น ถ้าอยากให้เขาแยกให้ออกระหว่างรูปภาพหมากับแมว เราก็ให้เขาดูรูปหมากับแมวเยอะๆจนเขาแยกหมาออกจากแมวได้ ต่อมานักวิจัยก็ทดสอบเอไอว่าจะตอบถูกหรือตอบผิด แล้วก็แก้ไขกันไปเรื่อยจนมั่นใจว่าโอเคแล้วจึงปล่อยออกสู่ตลาด ซึ่งที่ผ่านมาก็มีเอไอยี่ห้อ ChatGPT ที่ออกมาให้เราใช้กันฟรีๆ คำถามต่อมา ”แล้วนักวิทยาศาสตร์เขาใช้คอมพิวเตอร์เลียนแบบการทำงานของสมองมนุษย์ได้ยังไง“ คำตอบคือ ใช้หลักการเดียวกับการรับรู้ของร่างกายมนุษย์ครับ นั่นคือ เขาแบ่งขั้นตอนการทำงานของคอมพิวเตอร์เป็นส่วนๆ เริ่มจาก ”ตามองเห็น“ ดวงตาเราก็แยกสิ่งที่เห็นก่อนว่า เห็นรูปภาพ หรือเห็นตัวหนังสือ ต่อมาก็เอาสิ่งที่เห็นไปแยกแยะต่อว่าจะต้องทำอะไรต่อไป เช่น เราสั่งให้เอไอวาดรูปผู้หญิงสวยขึ้นมาหนึ่งรูป เจ้าเอไอก็จะไปดูข้อมูลจากฐานข้อมูลว่า ”ผู้หญิงสวยคืออะไร“ ”อะไรคือความหมายของคำว่าสวย?“ ”คนสั่งให้วาดเป็นคนชาติไหน?“ ”นิยามคำว่าสวยของคนชาตินี้คืออะไร“ “มิติสัดส่วนร่างกายที่ว่าสวยคืออะไร?“ ”แสงเงาแบบไหนที่ช่วยทำให้สวย“ และอื่นๆอีกมากมาย จนกระทั่งเอไอวาดรูปผู้หญิงสวยออกมาให้เราได้หนึ่งรูป . . . ดังนั้นอ่านมาถึงตอนนี้ เราๆท่านๆคงพอจะนึกออกอย่างหนึ่งว่า เอไอจะฉลาดเพียงไหนนั้น ประการหนึ่งขึ้นอยู่กับว่านักวิทยาศาสตร์เขาป้อนข้อมูลให้เอไอมากแค่ไหนและฝึกสอนทดสอบเจ้าเอไอมากแค่ไหนด้วย ยิ่งข้อมูลเยอะ ยิ่งฝึกและทดสอบเยอะ คุณภาพก็จะยิ่งดี ถ้านักวิทยาศาสตร์ใส่บทกวี บทกลอน บทเพลง เนื้อร้องและดนตรีเข้าไปให้มากๆ แล้วสอนเอไอไปว่าเพลงนี้เพราะหรือไม่เพราะด้วยเหตุอะไร เอไอก็จะสามารถเขียนเพลงที่เพราะๆออกมาได้ เพราะเอไอรู้ว่า “เพลงที่มนุษย์ว่าไพเราะนั้นเป็นแบบไหน” ซึ่งในตอนนี้ผมขอเล่าเพิ่มอีกอย่างหนึ่งว่า นักวิทยาศาสตร์เขาพัฒนาให้เอไอสามารถสร้างข้อมูลเก๊หรือรูปภาพปลอมๆขึ้นมาได้ด้วย เพื่อเอามาทดสอบตัวเองว่าจะแยกแยะได้ไหมว่าอันนี้คือข้อมูลเก๊ ระบบนี้เรียกว่า GAN (Generative Adversarial Network) คือ เอไอจะแบ่งสมองตัวเองเป็นสองฝั่ง ฝั่งแรกคือตัวสร้างข้อมูลปลอมขึ้นมา (Generator) ฝั่งที่สองคือฝั่งตำรวจที่ตรวจว่าข้อมูลนี้จริงหรือปลอม (Discriminator) หรือ ฝั่งแรกเขียนเพลงที่ไม่เพราะออกมา อีกฝ่ายทำหน้าที่เป็นคนฟังแล้วบอกว่าเพลงนี้เพราะหรือไม่เพราะ สองฝั่งนี้จะประลองกำลังสู้กันไปสู้กันมาเรื่อยๆ ยิ่งสู้กันนานเข้า ฝ่ายสร้างข้อมูลก็จะเก่งขึ้น ฝ่ายตรวจสอบก็เก่งขึ้นเช่นกัน และเขาทำกันยังงี้เป็นล้านๆครั้ง นี่แหละครับที่เขาเรียกว่า “เอไอสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง” หรือ Machine Learning . . . ทีนี้มาถึงว่า ”แล้วดีปซีคมันดีวิเศษเหนือกว่า ChatGPT อย่างไร?“ ถ้าตอบในมุมผู้ใช้อย่างเราที่โหลดแอปมาใช้ฟรีๆนั้น คำตอบคือ ”แทบไม่แตกต่าง“ เพราะทั้งดีปซีคและ ChatGPT นั้นฟรีและดีทั้งคู่ ความแตกต่างจะอยู่ในเลเวลของคนที่เขาอยากสร้างระบบเอไอขึ้นมาบ้าง หรือที่เรียกว่า ”ผู้พัฒนาเอไอ หรือ Developer“ เพราะทั้งดีปซีคและChatGPT นั้นเขาได้สร้างสิ่งเดียวกันขึ้นมา คือ “สมองที่สามารถเรียนรู้อะไรก็ได้” ตามแต่ว่าผู้พัฒนาอยากจะให้สมองนี้เรียนรู้อะไร แต่สมองของดีปซีคนั้นราคาถูกกว่าสมองของ ChatGPT เพราะดีปซีคเขียนซอฟท์แวร์ให้กระบวนการเรียนรู้ของเอไอดีปซีคมีประสิทธิภาพกว่า จับประเด็นเรียนรู้ได้เร็วกว่าโดยใช้เทคนิคที่ดีกว่า ทำให้ระบบดีปซีคไม่ต้องใช้ชิปประมวลผลราคาแพงๆอย่างยี่ห้อ NVIDIA รุ่น A100 และ H100 GPU ที่ราคาเป็นหมื่นดอลล่าร์ซึ่ง ChatGPT นั้นใช้อยู่เป็นร้อยๆพันๆชิ้น อันทำให้ต้นทุนการพัฒนาเอไอยี่ห้อ ChatGPT นั้นแพงหลักร้อยล้านดอลล่าร์ ในขณะที่ดีปซีคนั้นใช้งบพัฒนาแค่ 6 ล้านดอลล่าร์ และที่สำคัญดีปซีคนั้นเขาบอกว่า โค้ดที่เขาเขียนขึ้นมาใช้ฝึกเอไอนั้น”แจกฟรี“ครับ ใครอยากใช้ก็เอาไปพัฒนาต่อได้เลย แค่ไปหาซื้อฮาร์ดแวร์มาแล้วก็เทรนเอไอเองได้เลย ซึ่งทำให้ต้นทุนของผู้พัฒนาเอไอนั้นถูกลงมหาศาล ไม่ต้องเขียนโค้ดสร้างระบบเอไอขึ้นมาใหม่และไม่ต้องไปซื้อชิปแพงๆของ NVIDIA มาใช้แล้ว ใช้แต่เพียงชิปราคาประหยัดก็ได้ เป็นเหตุให้หุ้น NVIDIA ซึ่งขายชิปแพงๆและครองตลาดนี้มานานร่วงเป็นแสนล้านดอลล่าร์ อันเป็นที่มาของข่าวว่า “หุ้น 7 นางฟ้า” ซึ่งหมายถึงหุ้นบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของอเมริกา คือ กูเกิ้ล, เทสล่า, แอมะซอน, ไมโครซอฟท์, แอปเปิ้ล, เมต้า (เฟซบุ๊ค) และ NVIDIA ร่วงกระจุยกระจาย แค่เพียงเพราะจีนส่งเอไอดีปซีคซึ่งดีกว่า ถูกกว่า และฟรีออกมาในตลาด บางสำนักข่าวในอเมริกาเองถึงกับบอกว่า ดีปซีคนี้ออกมาทำลายตลาด (Disrupt) เอไอของอเมริกาแบบโป้งเดียวจอด จีนนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ ขอปรบมือให้ …และผมขอปรบมือให้คุณผู้อ่านที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ด้วยครับ หวังว่าผมอธิบายแล้วท่านจะอ่านเข้าใจนะครับ… นัทแนะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 376 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประโยชน์ของการรู้อดีตชาติ และข้อควรระวัง

    1. ประโยชน์ของการรู้อดีตชาติ (เมื่อรู้ด้วยวิชชาแท้จริง)

    เป็นวิชชาแรกที่ช่วยชำแรกอวิชชา
    การระลึกชาติได้จริง (ปุพเพนิวาสานุสติญาณ) เป็นหนึ่งในวิชชาสามที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เห็นว่า "การเวียนว่ายตายเกิดมีจริง" และมีเหตุปัจจัยที่ทำให้ต้องเกิดในแต่ละภพภูมิ

    ช่วยให้เข้าใจเหตุของปัจจุบัน
    บางคนสงสัยว่าทำไมตนเองเกิดมาในครอบครัวนี้ หรือมีชีวิตที่แตกต่างจากผู้อื่น การระลึกชาติได้เองโดยการฝึกสมาธิถึงระดับลึก จะช่วยให้เห็นว่า สิ่งที่เป็นอยู่เกิดจากกรรมเก่า และสามารถแก้ไขปัจจุบันได้อย่างถูกต้อง

    ลดความหลงในตัวตน
    เมื่อเห็นว่าตัวเองเคยเกิดมาในหลายรูปแบบ ทั้งยากดีมีจน ชายหญิง หลากหลายชาติพันธุ์ ก็จะคลายความยึดติดว่าชีวิตชาตินี้เป็น "ตัวกู ของกู" ไปเอง

    2. ข้อควรระวังของการอยากรู้อดีตชาติ

    หากเป็นแค่ความอยากรู้อยากเห็น อาจพอกพูนอุปาทาน
    พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า "การไปนึกถึงอดีตชาติโดยไม่เข้าใจเหตุและผล จะทำให้ยึดติดและเสริมอัตตาทิฏฐิ" เช่น ถ้ารู้ว่าเคยเป็นกษัตริย์ อาจเกิดทิฏฐิว่าตัวเองสูงส่ง หรือหากเคยเป็นคนจน อาจเศร้าหมองติดอยู่กับความรู้สึกต่ำต้อย

    หากไปรับฟังจากผู้อื่น อาจถูกชี้นำผิดพลาด
    บางคนไปให้หมอดู หรือนักจิตสัมผัสบอกอดีตชาติ อาจได้รับข้อมูลที่ไม่ตรงกับความจริง และอาจทำให้เกิดการคิดมาก ฟุ้งซ่าน หรือยึดติดกับอดีตจนละเลยปัจจุบัน

    อาจเป็นเหตุให้หมกมุ่น จนหลงลืมปัจจุบัน
    การใช้ชีวิตที่ดีอยู่ที่ปัจจุบัน ถ้าหมกมุ่นกับอดีตมากเกินไป อาจทำให้พลาดโอกาสในการปรับปรุงตนเองในชาตินี้

    3. วิธีที่ดีที่สุดในการใช้ประโยชน์จากอดีตชาติ

    แทนที่จะพยายามไปรู้อดีตชาติ ให้สังเกต "ปัจจุบันกรรม" เพราะปัจจุบันคือผลของอดีต และสิ่งที่เราทำในปัจจุบันก็คือการสร้างอนาคต

    เจริญสติ รู้กายใจตามความเป็นจริง โดยไม่ยึดติดกับอดีต จะนำไปสู่ความพ้นทุกข์ได้เร็วกว่าการระลึกชาติ

    ถ้าระลึกอดีตชาติได้จริง (ผ่านสมาธิระดับสูง) ให้ใช้เพื่อการเข้าใจกรรม ไม่ใช่เพื่อสร้างอัตตาทิฏฐิ

    สรุป:
    ถ้าการรู้อดีตชาติช่วยให้เข้าใจกรรม และนำไปสู่การปฏิบัติที่ถูกต้อง ก็เป็นประโยชน์
    แต่ถ้าหมกมุ่นกับอดีตโดยไม่มีสติ อาจเป็นอุปสรรคต่อการพ้นทุกข์
    ดังนั้น พระพุทธเจ้าจึงทรงสอนให้ อยู่กับปัจจุบันให้ดีที่สุด เพราะปัจจุบันเป็นสิ่งที่เราปรับแก้ได้ และเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างอนาคตที่ดีกว่า
    ประโยชน์ของการรู้อดีตชาติ และข้อควรระวัง 1. ประโยชน์ของการรู้อดีตชาติ (เมื่อรู้ด้วยวิชชาแท้จริง) เป็นวิชชาแรกที่ช่วยชำแรกอวิชชา การระลึกชาติได้จริง (ปุพเพนิวาสานุสติญาณ) เป็นหนึ่งในวิชชาสามที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เห็นว่า "การเวียนว่ายตายเกิดมีจริง" และมีเหตุปัจจัยที่ทำให้ต้องเกิดในแต่ละภพภูมิ ช่วยให้เข้าใจเหตุของปัจจุบัน บางคนสงสัยว่าทำไมตนเองเกิดมาในครอบครัวนี้ หรือมีชีวิตที่แตกต่างจากผู้อื่น การระลึกชาติได้เองโดยการฝึกสมาธิถึงระดับลึก จะช่วยให้เห็นว่า สิ่งที่เป็นอยู่เกิดจากกรรมเก่า และสามารถแก้ไขปัจจุบันได้อย่างถูกต้อง ลดความหลงในตัวตน เมื่อเห็นว่าตัวเองเคยเกิดมาในหลายรูปแบบ ทั้งยากดีมีจน ชายหญิง หลากหลายชาติพันธุ์ ก็จะคลายความยึดติดว่าชีวิตชาตินี้เป็น "ตัวกู ของกู" ไปเอง 2. ข้อควรระวังของการอยากรู้อดีตชาติ หากเป็นแค่ความอยากรู้อยากเห็น อาจพอกพูนอุปาทาน พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า "การไปนึกถึงอดีตชาติโดยไม่เข้าใจเหตุและผล จะทำให้ยึดติดและเสริมอัตตาทิฏฐิ" เช่น ถ้ารู้ว่าเคยเป็นกษัตริย์ อาจเกิดทิฏฐิว่าตัวเองสูงส่ง หรือหากเคยเป็นคนจน อาจเศร้าหมองติดอยู่กับความรู้สึกต่ำต้อย หากไปรับฟังจากผู้อื่น อาจถูกชี้นำผิดพลาด บางคนไปให้หมอดู หรือนักจิตสัมผัสบอกอดีตชาติ อาจได้รับข้อมูลที่ไม่ตรงกับความจริง และอาจทำให้เกิดการคิดมาก ฟุ้งซ่าน หรือยึดติดกับอดีตจนละเลยปัจจุบัน อาจเป็นเหตุให้หมกมุ่น จนหลงลืมปัจจุบัน การใช้ชีวิตที่ดีอยู่ที่ปัจจุบัน ถ้าหมกมุ่นกับอดีตมากเกินไป อาจทำให้พลาดโอกาสในการปรับปรุงตนเองในชาตินี้ 3. วิธีที่ดีที่สุดในการใช้ประโยชน์จากอดีตชาติ แทนที่จะพยายามไปรู้อดีตชาติ ให้สังเกต "ปัจจุบันกรรม" เพราะปัจจุบันคือผลของอดีต และสิ่งที่เราทำในปัจจุบันก็คือการสร้างอนาคต เจริญสติ รู้กายใจตามความเป็นจริง โดยไม่ยึดติดกับอดีต จะนำไปสู่ความพ้นทุกข์ได้เร็วกว่าการระลึกชาติ ถ้าระลึกอดีตชาติได้จริง (ผ่านสมาธิระดับสูง) ให้ใช้เพื่อการเข้าใจกรรม ไม่ใช่เพื่อสร้างอัตตาทิฏฐิ สรุป: ถ้าการรู้อดีตชาติช่วยให้เข้าใจกรรม และนำไปสู่การปฏิบัติที่ถูกต้อง ก็เป็นประโยชน์ แต่ถ้าหมกมุ่นกับอดีตโดยไม่มีสติ อาจเป็นอุปสรรคต่อการพ้นทุกข์ ดังนั้น พระพุทธเจ้าจึงทรงสอนให้ อยู่กับปัจจุบันให้ดีที่สุด เพราะปัจจุบันเป็นสิ่งที่เราปรับแก้ได้ และเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างอนาคตที่ดีกว่า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 238 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้าพเจ้ายังไม่อยากถูกปล้นเอาความเป็นมนุษย์ออกไปจากตัวเองมากไปกว่านี้ ต่อให้มั่นใจว่าไม่ใช่คนเลวนัก คือพอมีความดีในตัวอยู่บ้างแม้นไม่มาก อย่างน้อยก็ไม่ซื้อลอตเตอรี่ ไม่เล่นหวย ไม่เล่นพนันบอล ไม่ส่งชิงโชคทายผลกีฬาและล่ารางวัล ไม่เล่นไพ่ ไม่แทงม้า ไม่หวังลาภลอยจากการพนันทุกรูปแบบ ไม่ใช่เพราะมีเงินเยอะแล้ว แต่เพราะรู้ว่าการพนันคือผีร้าย คือปีศาจ ถ้าลองยอมให้ตนเองเป็นส่วนหนึ่งของวงจรอุบาทว์ซะแล้ว มันก็จะอาละวาดทำลายล้างให้เรา รวมถึงคนรอบข้างและสังคมกลายเป็นดินแดนแห่งอนารยะ ดังนั้นจึงไม่ยินดีอยากให้เมืองไทยต้องเลวร้ายไปมากกว่าที่เป็นอยู่

    เท่าที่ในปัจจุบันก็แย่จนไม่รู้จะแย่อย่างไรแล้ว ในโลกโซเชียลเต็มไปด้วยสื่อซาตานที่แทรกซึมทั่วทุกหัวระแหง เลื่อนดูอะไรในสมาร์ตโฟนจะต้องเห็นพวกสัญลักษณ์แอบแฝงของนายทุนและแก๊งโจรมิจฉาชีพเหล่านี้เกร่อเต็มไปหมด แล้วคนไทยนี้ใช้โทรศัพท์สมาร์ตโฟนกันอย่างที่เรียกว่าอันดับต้น ๆ ของโลก ทั้งที่ประชากรน้อยกว่าประเทศอื่นอีกหลายประเทศ แม้แต่เด็กเล็กที่ไม่ควรต้องใช้ก็ยังมีสมาร์ตโฟน ที่พ่อแม่ผู้รังแกลูกหยิบยื่นให้ ด้วยเหตุนี้เยาวชนลูกหลานที่ยังไม่มีภูมิต้านทานต่อความชั่วที่ซ่อนมาหลากหลายรูปแบบ จึงง่ายมากต่อการตกเป็นเหยื่อขบวนการเหล่านี้ ที่จ้องจะดึงคนรุ่นใหม่ที่เป็นแก้วตาดวงใจของพวกท่าน ให้หลงตกไปอยู่ในนรกของการพนัน

    บางทีมันหลอกล่อมาสารพัดในลักษณะของเกมออนไลน์ การแลกเงินจริงเป็นเงินในเกม การสะสมไอเทม การซื้อสารพัดที่เมื่อเด็กหลงเข้าไปเล่นเข้าสักครั้ง ความหวังที่จะหลุดออกมาได้นั้นยากเย็นกว่าเข็นครกขึ้นเขา ยิ่งติดยิ่งห้ามใจไม่ได้ อยากหาอยากมีไปแข่งไปอวดเพื่อน มันคือปากเหวแห่งหายนะโดยแท้ ที่แน่นอนคือหากยังปล่อยให้มีการเกิดขึ้นของบ่อนกาสิโนหลายแห่งทั้วประเทศ อนาคตที่ข้าพเจ้าไม่กล้าคิดจะเกิดขึ้นและมาถึงในไม่ช้า

    เราอาจเป็นคนหนึ่งที่ถูกปล้นฆ่าได้ตลอดเวลา ไม่ว่าอยู่ภายในบ้านหรือนอกบ้านจากคนทุกเพศทุกวัย เพราะเมื่อใดที่คนไม่มีเงิน แล้วยังติดหนี้การพนัน มันผู้นั้นย่อมขายจิตวิญญาณให้แก่ปีศาจไปแล้ว และสามารถทำได้ทุกสิ่งที่คนปกติไม่กล้าทำ เพื่อจะหาเงินมาใช้หนี้

    มีเมียมีลูกยังสามารถขายแลกเงินได้ พ่อแม่ญาติพี่น้องมีหรือจะสน แม้แต่ชีวิตตนก็ยังขายตัวเป็นทาสได้ มีที่ดินก็หมดที่ดิน มีทรัพย์สินใดก็หมด เมื่อสิ้นทุกอย่างทีนี้แหละ จะเริ่มปล้นชิงวิ่งราว ขโมยสารพัด คดีทำร้ายร่างกาย ปล้น ฆ่า จะเต็มบ้านเมืองมากกว่าเดิมอย่างทวีคูณ สุดท้ายคนเป็นพ่อแม่หรือคนในครอบครัวของผีพนันก็จะได้รับผลแห่งกรรมนั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความทุกข์ทับถมใจหนักหน่วงจะถ่วงความเจริญทางธรรมของคนให้ลดน้อยถอยลง แล้วสังคมโดยรวมก็จะมีแต่ความสาหัสของบาดแผลจากพิษภัยของการพนันจนยากกอบกู้ ให้ดูประเทศเพื่อนบ้านรายล้อมรอบเราว่าเขามีสภาพอย่างไรเถิด อนาคตเราอาจจะแย่ยิ่งกว่านั้น

    ถ้ามีบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย จะเกิดนักพนันอายุน้อยขึ้นมาอีกมากมายอย่างน่ากลัว เมื่อเขาเหล่านั้นที่ยังไม่มีรายได้กลายเป็นทายาทผีพนัน ประเทศชาติก็มีแต่จะมุ่งหน้าเข้าหาความฉิบหายล่มจมในท้ายที่สุด

    ในฐานะที่ข้าพเจ้ายังเป็นพุทธมามกะที่ปฏิญาณตนนับถือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ว่าเป็นที่พึ่งที่เคารพของตนไปจนตลอดชีวิต หากยังยินดีกับการเล่นพนันอยู่ อยากให้เกิดบ่อนกาสิโนขึ้นแบบถูกกฎหมายในประเทศ นั่นแสดงว่าข้าพเจ้าเป็นคนผู้ทุรยศต่อสถาบันศาสนาที่ตนเคารพนับถือ และต่อพระศาสดา เป็นคนอกตัญญู เป็นความละอายแก่ใจตนจนเกินกว่าจะกล้าเรียกตนเป็นพุทธศาสนิกชน สู้เป็นคนไม่นับถือศาสนาเสียเลยยังดีกว่า

    เพราะศาสนาพุทธ จะไม่มีทางยอมฮั้ว อี๋อ๋อ ซูฮก ซูเอี๋ย กะลิ้มกะเหลี่ย ปากมันเลียริมฝีปาก น้ำลายไหลยืดย้อย กับความกระสันอยากในเม็ดเงินที่มาจากการพนันทั้งหลายเป็นอันขาด ไม่ว่าจะชาตินี้หรืออีกกี่ชาติ

    #คัดค้านบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย
    #thaitimes
    #บทความ
    #ข้อคิด
    #ต้านบ่อนกาสิโน
    #สร้างป่าดีกว่าสร้างบ่อน
    ข้าพเจ้ายังไม่อยากถูกปล้นเอาความเป็นมนุษย์ออกไปจากตัวเองมากไปกว่านี้ ต่อให้มั่นใจว่าไม่ใช่คนเลวนัก คือพอมีความดีในตัวอยู่บ้างแม้นไม่มาก อย่างน้อยก็ไม่ซื้อลอตเตอรี่ ไม่เล่นหวย ไม่เล่นพนันบอล ไม่ส่งชิงโชคทายผลกีฬาและล่ารางวัล ไม่เล่นไพ่ ไม่แทงม้า ไม่หวังลาภลอยจากการพนันทุกรูปแบบ ไม่ใช่เพราะมีเงินเยอะแล้ว แต่เพราะรู้ว่าการพนันคือผีร้าย คือปีศาจ ถ้าลองยอมให้ตนเองเป็นส่วนหนึ่งของวงจรอุบาทว์ซะแล้ว มันก็จะอาละวาดทำลายล้างให้เรา รวมถึงคนรอบข้างและสังคมกลายเป็นดินแดนแห่งอนารยะ ดังนั้นจึงไม่ยินดีอยากให้เมืองไทยต้องเลวร้ายไปมากกว่าที่เป็นอยู่ เท่าที่ในปัจจุบันก็แย่จนไม่รู้จะแย่อย่างไรแล้ว ในโลกโซเชียลเต็มไปด้วยสื่อซาตานที่แทรกซึมทั่วทุกหัวระแหง เลื่อนดูอะไรในสมาร์ตโฟนจะต้องเห็นพวกสัญลักษณ์แอบแฝงของนายทุนและแก๊งโจรมิจฉาชีพเหล่านี้เกร่อเต็มไปหมด แล้วคนไทยนี้ใช้โทรศัพท์สมาร์ตโฟนกันอย่างที่เรียกว่าอันดับต้น ๆ ของโลก ทั้งที่ประชากรน้อยกว่าประเทศอื่นอีกหลายประเทศ แม้แต่เด็กเล็กที่ไม่ควรต้องใช้ก็ยังมีสมาร์ตโฟน ที่พ่อแม่ผู้รังแกลูกหยิบยื่นให้ ด้วยเหตุนี้เยาวชนลูกหลานที่ยังไม่มีภูมิต้านทานต่อความชั่วที่ซ่อนมาหลากหลายรูปแบบ จึงง่ายมากต่อการตกเป็นเหยื่อขบวนการเหล่านี้ ที่จ้องจะดึงคนรุ่นใหม่ที่เป็นแก้วตาดวงใจของพวกท่าน ให้หลงตกไปอยู่ในนรกของการพนัน บางทีมันหลอกล่อมาสารพัดในลักษณะของเกมออนไลน์ การแลกเงินจริงเป็นเงินในเกม การสะสมไอเทม การซื้อสารพัดที่เมื่อเด็กหลงเข้าไปเล่นเข้าสักครั้ง ความหวังที่จะหลุดออกมาได้นั้นยากเย็นกว่าเข็นครกขึ้นเขา ยิ่งติดยิ่งห้ามใจไม่ได้ อยากหาอยากมีไปแข่งไปอวดเพื่อน มันคือปากเหวแห่งหายนะโดยแท้ ที่แน่นอนคือหากยังปล่อยให้มีการเกิดขึ้นของบ่อนกาสิโนหลายแห่งทั้วประเทศ อนาคตที่ข้าพเจ้าไม่กล้าคิดจะเกิดขึ้นและมาถึงในไม่ช้า เราอาจเป็นคนหนึ่งที่ถูกปล้นฆ่าได้ตลอดเวลา ไม่ว่าอยู่ภายในบ้านหรือนอกบ้านจากคนทุกเพศทุกวัย เพราะเมื่อใดที่คนไม่มีเงิน แล้วยังติดหนี้การพนัน มันผู้นั้นย่อมขายจิตวิญญาณให้แก่ปีศาจไปแล้ว และสามารถทำได้ทุกสิ่งที่คนปกติไม่กล้าทำ เพื่อจะหาเงินมาใช้หนี้ มีเมียมีลูกยังสามารถขายแลกเงินได้ พ่อแม่ญาติพี่น้องมีหรือจะสน แม้แต่ชีวิตตนก็ยังขายตัวเป็นทาสได้ มีที่ดินก็หมดที่ดิน มีทรัพย์สินใดก็หมด เมื่อสิ้นทุกอย่างทีนี้แหละ จะเริ่มปล้นชิงวิ่งราว ขโมยสารพัด คดีทำร้ายร่างกาย ปล้น ฆ่า จะเต็มบ้านเมืองมากกว่าเดิมอย่างทวีคูณ สุดท้ายคนเป็นพ่อแม่หรือคนในครอบครัวของผีพนันก็จะได้รับผลแห่งกรรมนั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความทุกข์ทับถมใจหนักหน่วงจะถ่วงความเจริญทางธรรมของคนให้ลดน้อยถอยลง แล้วสังคมโดยรวมก็จะมีแต่ความสาหัสของบาดแผลจากพิษภัยของการพนันจนยากกอบกู้ ให้ดูประเทศเพื่อนบ้านรายล้อมรอบเราว่าเขามีสภาพอย่างไรเถิด อนาคตเราอาจจะแย่ยิ่งกว่านั้น ถ้ามีบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย จะเกิดนักพนันอายุน้อยขึ้นมาอีกมากมายอย่างน่ากลัว เมื่อเขาเหล่านั้นที่ยังไม่มีรายได้กลายเป็นทายาทผีพนัน ประเทศชาติก็มีแต่จะมุ่งหน้าเข้าหาความฉิบหายล่มจมในท้ายที่สุด ในฐานะที่ข้าพเจ้ายังเป็นพุทธมามกะที่ปฏิญาณตนนับถือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ว่าเป็นที่พึ่งที่เคารพของตนไปจนตลอดชีวิต หากยังยินดีกับการเล่นพนันอยู่ อยากให้เกิดบ่อนกาสิโนขึ้นแบบถูกกฎหมายในประเทศ นั่นแสดงว่าข้าพเจ้าเป็นคนผู้ทุรยศต่อสถาบันศาสนาที่ตนเคารพนับถือ และต่อพระศาสดา เป็นคนอกตัญญู เป็นความละอายแก่ใจตนจนเกินกว่าจะกล้าเรียกตนเป็นพุทธศาสนิกชน สู้เป็นคนไม่นับถือศาสนาเสียเลยยังดีกว่า เพราะศาสนาพุทธ จะไม่มีทางยอมฮั้ว อี๋อ๋อ ซูฮก ซูเอี๋ย กะลิ้มกะเหลี่ย ปากมันเลียริมฝีปาก น้ำลายไหลยืดย้อย กับความกระสันอยากในเม็ดเงินที่มาจากการพนันทั้งหลายเป็นอันขาด ไม่ว่าจะชาตินี้หรืออีกกี่ชาติ #คัดค้านบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย #thaitimes #บทความ #ข้อคิด #ต้านบ่อนกาสิโน #สร้างป่าดีกว่าสร้างบ่อน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 680 มุมมอง 0 รีวิว
  • บันทึกบทความจากความรู้สึก 2
    ฉันเกลียดมนุษย์...เพราะมนุษย์มันชั่ว...
    ไม่เหมือนเทพมาร...พวกเค้าซื่อสัตย์...จริงใจ...
    คนที่มีจิตเป็นเทพมารนี้...มีน้อยมาก...ใกล้ที่จะสูญพันธุ์เข้าไปทุกทีๆ...
    คนดีหายาก...และก็ตายง่าย...
    ไม่เหมือนคนชั่ว...มีเกลื่อนกลาด...หาง่าย...ตายยาก...
    กรรมใดใครก่อ...กรรมนั้นคืนสนอง...ไม่มีผู้ใดหลีกหนีพ้นกรรมได้...ไม่มีเลย...
    ทุกคนเกิดมาล้วนต้องตาย...แต่ทำไมถึงยังมีคนที่คิดว่าตนเองนั้นไม่มีวันตาย...อยู่ยงคงกระพัน...
    ก็เพราะว่ามันลืม...ลืมไปว่าสักวันตนเองก็ต้องตายสักวัน...เหมือนกันกับคนอื่นๆเช่นกัน...
    ทุกสรรพสิ่งเกิดมาแล้ว...ก็ย่อมต้องดับไปเป็นธรรมดา...
    สัจธรรมของโลกล้วนมีอยู่มาก่อนที่มนุษย์จะเกิดเสียอีก...
    ทำไม...ทำไมถึงไม่เร่งกันทำความดี...สั่งสมบุญกุศล...บุญบารมีกัน...
    จะได้ไม่ต้องมาลำบากลำบนกัน...เหมือนกับชาตินี้เล่า...
    ทำไม...ทำไมกัน...
    มนุษย์...หนอมนุษย์...
    ปล่อยให้มันเป็นไป...ขอให้พวกมันจงเป็นไป...
    บันทึกบทความจากความรู้สึก 2 ฉันเกลียดมนุษย์...เพราะมนุษย์มันชั่ว... ไม่เหมือนเทพมาร...พวกเค้าซื่อสัตย์...จริงใจ... คนที่มีจิตเป็นเทพมารนี้...มีน้อยมาก...ใกล้ที่จะสูญพันธุ์เข้าไปทุกทีๆ... คนดีหายาก...และก็ตายง่าย... ไม่เหมือนคนชั่ว...มีเกลื่อนกลาด...หาง่าย...ตายยาก... กรรมใดใครก่อ...กรรมนั้นคืนสนอง...ไม่มีผู้ใดหลีกหนีพ้นกรรมได้...ไม่มีเลย... ทุกคนเกิดมาล้วนต้องตาย...แต่ทำไมถึงยังมีคนที่คิดว่าตนเองนั้นไม่มีวันตาย...อยู่ยงคงกระพัน... ก็เพราะว่ามันลืม...ลืมไปว่าสักวันตนเองก็ต้องตายสักวัน...เหมือนกันกับคนอื่นๆเช่นกัน... ทุกสรรพสิ่งเกิดมาแล้ว...ก็ย่อมต้องดับไปเป็นธรรมดา... สัจธรรมของโลกล้วนมีอยู่มาก่อนที่มนุษย์จะเกิดเสียอีก... ทำไม...ทำไมถึงไม่เร่งกันทำความดี...สั่งสมบุญกุศล...บุญบารมีกัน... จะได้ไม่ต้องมาลำบากลำบนกัน...เหมือนกับชาตินี้เล่า... ทำไม...ทำไมกัน... มนุษย์...หนอมนุษย์... ปล่อยให้มันเป็นไป...ขอให้พวกมันจงเป็นไป...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว
  • คำคมใหม่ แต่เป็นสัจธรรมเก่า 42
    “ความชั่ว น่ากลัวกว่า ความมืด”
    เหตุก็เพราะว่า ความมืดนั้น แค่ทำให้เรามองไม่เห็นทางหรือในสิ่งต่างๆที่อยู่รอบกายข้างตัวเรา แต่ความชั่วนั้น แม้ในความสว่างก็ยังจะทิ่มแทงใจเราอยู่เสมอๆตลอดเวลา ถึงแม้ว่าคนอื่นๆเค้านั้นจะไม่ได้รับรู้หรือไม่เห็นในการกระทำในสิ่งต่างๆของเราก็ตามที แต่พอเรามานึกคิดถึงในใจขึ้นมาได้เมื่อไหร่ ก็จะทำให้เราเจ็บปวดในการกระทำสิ่งต่างๆของเราที่ไม่ดีไม่งามไม่น่าอภัยและไม่น่าคิดที่จะกระทำลงไปเลยแม้แต่น้อยเดียว ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครสามารถที่จะล่วงรู้ในการกระทำในสิ่งต่างๆของเราที่ไม่ดีไม่งามนั้นก็ตามที แต่เราก็ไม่สามารถที่จะปิดบังจิตใจตัวตนที่แท้จริงของเรานั้นเองได้หรอกว่า เราได้กระทำการใดๆที่ไม่ดีไม่งามนั้นลงไป “สักวันมันต้องชดใช้ในสิ่งที่มันได้กระทำลงไป” เปรียบเสมือนกับ “กรรม” ซึ่งก็คือ “การกระทำ” โดยเฉพาะกรรมชั่วที่เราได้กระทำลงไปไว้แล้วนั้น สักวันนั้นจะต้องชดใช้ในกรรมเก่าในสิ่งที่เรานั้นได้เคยกระทำลงไปไว้แล้วนั้นอยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นในชาตินี้หรือจะเป็นในชาติหน้านั่นเอง หรือที่เรามักจะเรียกกันว่า “กรรมตามสนอง” (ไม่มีเว้นในแม้แต่กรรมชั่วกรรมดี) นั่นหล่ะครับ
    คำคมใหม่ แต่เป็นสัจธรรมเก่า 42 “ความชั่ว น่ากลัวกว่า ความมืด” เหตุก็เพราะว่า ความมืดนั้น แค่ทำให้เรามองไม่เห็นทางหรือในสิ่งต่างๆที่อยู่รอบกายข้างตัวเรา แต่ความชั่วนั้น แม้ในความสว่างก็ยังจะทิ่มแทงใจเราอยู่เสมอๆตลอดเวลา ถึงแม้ว่าคนอื่นๆเค้านั้นจะไม่ได้รับรู้หรือไม่เห็นในการกระทำในสิ่งต่างๆของเราก็ตามที แต่พอเรามานึกคิดถึงในใจขึ้นมาได้เมื่อไหร่ ก็จะทำให้เราเจ็บปวดในการกระทำสิ่งต่างๆของเราที่ไม่ดีไม่งามไม่น่าอภัยและไม่น่าคิดที่จะกระทำลงไปเลยแม้แต่น้อยเดียว ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครสามารถที่จะล่วงรู้ในการกระทำในสิ่งต่างๆของเราที่ไม่ดีไม่งามนั้นก็ตามที แต่เราก็ไม่สามารถที่จะปิดบังจิตใจตัวตนที่แท้จริงของเรานั้นเองได้หรอกว่า เราได้กระทำการใดๆที่ไม่ดีไม่งามนั้นลงไป “สักวันมันต้องชดใช้ในสิ่งที่มันได้กระทำลงไป” เปรียบเสมือนกับ “กรรม” ซึ่งก็คือ “การกระทำ” โดยเฉพาะกรรมชั่วที่เราได้กระทำลงไปไว้แล้วนั้น สักวันนั้นจะต้องชดใช้ในกรรมเก่าในสิ่งที่เรานั้นได้เคยกระทำลงไปไว้แล้วนั้นอยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นในชาตินี้หรือจะเป็นในชาติหน้านั่นเอง หรือที่เรามักจะเรียกกันว่า “กรรมตามสนอง” (ไม่มีเว้นในแม้แต่กรรมชั่วกรรมดี) นั่นหล่ะครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความในใจชีวิตบัดซบของฉัน
    ต่อไปนี้ฉันจะเล่าถึงความหลังในอดีตที่แสนขมขื่นและเจ็บปวดแสนสาหัสในชีวิตชาตินี้ของฉันให้กับทุกคนได้ฟังได้รับรู้กัน ประวัติศาสตร์ที่แสนเจ็บปวดของฉันในชาตินี้ว่ามันโคตรทนทุกข์ทรมานแสนสาหัสมากมายแค่ไหนเพียงใด เอ้าเมาเริ่มกันเลยโดยไม่ต้องลีลาชักช้าเยื่อนเยื้อนะ
    ฉันเกิดมาก็มีกายใจจิตที่อ่อนแอบอบบางมาตั้งแต่เด็กๆในทุกๆด้าน ทั้งกายใจจิตทั้งหมดทุกอย่างเลย น่ารันทดชิบ
    ตั้งแต่เด็กๆมาฉันก็มักจะถูกกลั่นแกล้งมาโดยตลอดจากคนอื่นๆเสมอ เพราะว่าตัวเล็กและไม่แข็งแรง แต่เพราะอยากมีเพื่อนเลยทนเอา แต่พอเริ่มทนไม่ไหวเข้าก็ร้องไห้ วิ่งกลับบ้านไปหาแม่เพียงคนเดียวในโลกนี้เท่านั้นที่รักและเข้าใจฉันเสมอมา ถึงจะมีบ้างที่แม่ไม่เข้าใจในตัวฉันก็ตามที
    พอเริ่มโตมาหน่อยฉันก็เริ่มทำตัวแปลกแยกจากผู้คนทุกคนในโลกนี้ และไม่ยุ่งสุงสิงกับใครอีกต่อไป เพราะทนไม่ไหวกับการถูกกลั่นแกล้งชิงชังจากผู้อื่น และเริ่มมีประสบการณ์และเริ่มฝึกจิตมารสังหาร และเก็บกดกดดันตัวเองระงับความโกรธเกรี้ยวกราดในผู้คนที่ชั่วร้ายเหล่านั้นไว้เรื่อยๆและเรื่อยมารอวันที่จะประทุระเบิดออกมาไม่เวลาใดก็เวลาหนึ่งเมื่อฉันพร้อมรบในสมรภูมิโลกเผ่าพันธุ์มนุษย์ชั่วร้ายที่แสนโสมมโสโครก เพื่อรอวันทำลายล้างโลกและเผ่าพันธุ์มนุษย์ให้สิ้นซากไป และให้เหลือเอาไว้เฉพาะแต่ผู้คนที่เป็นคนที่ดีอย่างแท้จริงเท่านั้น
    พอโตขึ้นมาอีกหน่อยพอเริ่มเป็นวัยรุ่น จิตมารเริ่มพลุ่งพล่านควบคุมไม่อยู่ก็เลยระเบิดพลังอาฆาตที่ชั่วร้ายออกมา มันเริ่มออกมามากขึ้นๆเรื่อยๆจนทำให้ตัวฉันเองเริ่มเป็นบ้าในสังคมผู้คนทั่วไป ฉันอาละวาดพาลไปทั่วกับทุกคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องวุ่นวายกับฉัน พอทุกคนเห็นฉันทำอย่างนี้ก็ไม่เข้าใจในตัวฉันหาว่าฉันเป็นบ้าเป็นโรคจิตโรคประสาท ทั้งๆที่ฉันไม่ได้ตั้งใจทำลงไปแถมไม่ได้ไปหาเรื่องใครก่อนเลย เป็นเพราะพวกมันมนุษย์ที่ชอบหาเรื่องก่อกวนวุ่นวายกับฉันทำให้ฉันไม่พอใจนั่นเอง ฉันเริ่มเรียนแย่ลงๆทุกทีเรื่อยๆ เพราะไม่มีอารมณ์กะจิตกะใจเรียนเลย เพราะว่ามีแต่ผู้คนเข้ามาวุ่นวายก่อกวนฉันอยู่เรื่อยๆที่โรงเรียน แต่ก็ดีใจที่อย่างน้อยก็มีเพื่อนเพียงไม่กี่คนที่เข้าใจในตัวฉันและสงสารฉัน ซึ่งเพื่อนส่วนใหญ่นั้นเลิกเป็นเพื่อนกับฉันไปเพราะไม่เข้าใจในตัวฉันนั่นเอง แต่ก็มีอยู่อย่างหนึ่งที่ทำให้ฉันนั้นประทับใจมากๆคือ คุณครูหลายๆท่านเค้าเข้าใจในตัวฉันและช่วยผลักดันช่วยเหลือฉันอย่างเต็มที่สุดความสามารถเพื่อให้ฉันนั้นได้เรียนจบในที่สุดในมัธยมปลาย และหลังจากนั้นฉันก็ได้พยายามที่จะเรียนต่อในอุดมศึกษาในหลายๆที่ แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายที่ฉันไม่สามารถเรียนจบได้เลย เป็นเพราะว่าฉันไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับเพื่อนๆผู้อื่นในชั้นเรียนได้เลย เพราะมีแต่คนที่ไม่รู้เรื่องราวของฉันและไม่เข้าใจเข้าถึงฉันได้เลย เป็นเพราะว่าฉันมันไม่เหมือนใครไม่เหมือนคนอื่นนั่นเอง และก็ไม่มีเพื่อนเก่าๆที่เข้าใจฉันเลย แถมฉันก็พึ่งจะมารู้ตัวรู้สึกในตัวเองว่าเรามันไม่เหมือนกับคนอื่น เราเป็นเด็กพิเศษ หรือเป็นคนไม่ปกติในสังคมนั่นเอง คือเป็นเด็กที่มีความผิดปกติทางสมองหรือเกี่ยวกับระบบประสาทในสมองนั่นเอง
    ฉันเริ่มไปหาหมอที่จะสามารถรักษาโรคของฉันได้ในหลายๆที่ แต่ก็ไม่มีใครที่จะสามารถรักษาฉันได้เลย เพราะพวกเค้าไม่เข้าใจในตัวฉันและไม่สามารถเข้าถึงใจของฉันได้เลย แต่ก็นับว่าเป็นโชคดีที่ฉันได้ไปพบหมอคนหนึ่งที่เป็นหมอที่มีความสามารถสูงมาก และเค้าก็เข้าใจในตัวของฉันและรักษาฉันให้ช่วยบรรเทาอาการลงได้ และเกือบจะหายเป็นปกติเหมือนกับคนผู้อื่นในสังคม ถึงแม้ว่ามันจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ก็ตามที แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันนั้นมีสติอยู่กับเนื้อกับตัวของตัวเองได้ตลอดเวลา ถ้าไม่มีใครมาหาเรื่องฉันก่อน อาการก็ไม่กำเริบออกมาหรอก ซึ่งอาการของฉันมันก็มีอยู่สองอย่างคือ อาการที่หนึ่งคือ ไม่มีผู้คนเยอะแยะพลุกพล่านนั่นเอง ส่วนอาการที่สองคือ เสียงดังนั่นเอง โดยเฉพาะเสียงของผู้คนที่ชอบทำร้ายฉันโดยการนินทาว่าร้ายฉันต่างๆนาๆ ซึ่งฉันสามารถรับรู้และรู้สึกได้จากการที่มีวิชาจิตมารสังหารนั่นเอง เพราะฉันสามารถสัมผัสได้ถึงจิตสังหารของพวกมัน
    ฉันเริ่มศึกษาในทางสายธรรมะหรือศึกษาศาสนามากขึ้นๆเรื่อยๆ ซึ่งมันทำให้ฉันรู้สึกดีและอิ่มเอิบในรสธรรม ซึ่งมันสามารถทำให้อาการโรคของฉันหายขาดได้ เพราะว่ามันคือตัวของฉันเองที่สามารถที่จะรักษาตัวเองได้นั่นเอง สาเหตุมันอยู่ที่ฉัน เพราะฉะนั้นฉันก็ต้องแก้ด้วยตนเอง ซึ่งมันอยู่ที่พลัง ฉันปรารถนาพลัง พลังที่สามารถสร้างหรือทำลายได้ในทุกๆสิ่งนั่นเองมาตั้งแต่แรกเริ่ม ซึ่งฉันมีวิชาจิตมารสังหารอยู่กับตัว มันควบคุมไม่ได้ ฉันเลยเป็นบ้า มันเป็นพลังที่ชั่วร้าย มีแต่จะทำลายทั้งกับตนเองและผู้อื่น แต่ถ้าฉันควบคุมมันได้ มันก็จะเป็นพลังที่สามารถช่วยเหลือตัวของฉันเองได้อย่างยิ่งยวด ซึ่งตอนนี้ฉันฝึกฝนวิชาจิตมารสังหารสำเร็จแล้ว และสามารถควบคุมมันได้ด้วย และตอนนี้ฉันก็ค้นพบวิชาใหม่อีกหนึ่งวิชา มันตรงกันข้ามกับจิตมารสังหารนั่นเอง มันคือวิชาจิตเทพเมตตา ซึ่งฉันยังคงฝึกฝนอยู่ในขั้นต้น มันเป็นวิชาที่ระงับความโกรธเกรี้ยวอาฆาตพยาบาททำลายของจิตมารสังหาร เวลาที่ฉันควบคุมจิตของตนเองไม่ได้ก็จะพยายามใช้จิตในด้านบวกอีกวิชาหนึ่งช่วยบรรเทาผ่อนปรนพลังด้านลบให้ไม่ทำลายตัวเองและผู้อื่นอีกต่อไปในสถานการณ์ที่คับขันนั่นเอง
    สิ่งสุดท้ายที่ฉันจะบอกก่อนจบก็คือ มีผู้คนมากมายที่เกลียดชังไม่ชอบฉันและต้องการทำร้ายทำลายฉันในทุกๆด้าน เป็นเพราะพวกเค้าไม่เข้าใจเข้าถึงตัวฉันได้ พวกนี้มีอยู่ทุกที่ทุกหนทุกแห่ง ไม่ว่าฉันจะไปที่ไหนก็เจอพวกมัน ฉันแค่อยากจะบอกว่า เวรกรรมมีจริง ใครคิดทำร้ายทำลายฉัน มันทุกผู้จักต้องได้รับคำสาปของฉันไป นั่นก็คือ ในชีวิตจะไม่มีวันมีความสุข เพราะเป็นบ้า จนกว่าจะตายไป ตายแล้วก็ยังไม่จบ จะต้องลงนรกหมกไหม้ไปด้วยกันทุกคน ฉันขอสาปแช่งพวกมัน ทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้น มันเป็นสัจธรรม
    ความในใจชีวิตบัดซบของฉัน ต่อไปนี้ฉันจะเล่าถึงความหลังในอดีตที่แสนขมขื่นและเจ็บปวดแสนสาหัสในชีวิตชาตินี้ของฉันให้กับทุกคนได้ฟังได้รับรู้กัน ประวัติศาสตร์ที่แสนเจ็บปวดของฉันในชาตินี้ว่ามันโคตรทนทุกข์ทรมานแสนสาหัสมากมายแค่ไหนเพียงใด เอ้าเมาเริ่มกันเลยโดยไม่ต้องลีลาชักช้าเยื่อนเยื้อนะ ฉันเกิดมาก็มีกายใจจิตที่อ่อนแอบอบบางมาตั้งแต่เด็กๆในทุกๆด้าน ทั้งกายใจจิตทั้งหมดทุกอย่างเลย น่ารันทดชิบ ตั้งแต่เด็กๆมาฉันก็มักจะถูกกลั่นแกล้งมาโดยตลอดจากคนอื่นๆเสมอ เพราะว่าตัวเล็กและไม่แข็งแรง แต่เพราะอยากมีเพื่อนเลยทนเอา แต่พอเริ่มทนไม่ไหวเข้าก็ร้องไห้ วิ่งกลับบ้านไปหาแม่เพียงคนเดียวในโลกนี้เท่านั้นที่รักและเข้าใจฉันเสมอมา ถึงจะมีบ้างที่แม่ไม่เข้าใจในตัวฉันก็ตามที พอเริ่มโตมาหน่อยฉันก็เริ่มทำตัวแปลกแยกจากผู้คนทุกคนในโลกนี้ และไม่ยุ่งสุงสิงกับใครอีกต่อไป เพราะทนไม่ไหวกับการถูกกลั่นแกล้งชิงชังจากผู้อื่น และเริ่มมีประสบการณ์และเริ่มฝึกจิตมารสังหาร และเก็บกดกดดันตัวเองระงับความโกรธเกรี้ยวกราดในผู้คนที่ชั่วร้ายเหล่านั้นไว้เรื่อยๆและเรื่อยมารอวันที่จะประทุระเบิดออกมาไม่เวลาใดก็เวลาหนึ่งเมื่อฉันพร้อมรบในสมรภูมิโลกเผ่าพันธุ์มนุษย์ชั่วร้ายที่แสนโสมมโสโครก เพื่อรอวันทำลายล้างโลกและเผ่าพันธุ์มนุษย์ให้สิ้นซากไป และให้เหลือเอาไว้เฉพาะแต่ผู้คนที่เป็นคนที่ดีอย่างแท้จริงเท่านั้น พอโตขึ้นมาอีกหน่อยพอเริ่มเป็นวัยรุ่น จิตมารเริ่มพลุ่งพล่านควบคุมไม่อยู่ก็เลยระเบิดพลังอาฆาตที่ชั่วร้ายออกมา มันเริ่มออกมามากขึ้นๆเรื่อยๆจนทำให้ตัวฉันเองเริ่มเป็นบ้าในสังคมผู้คนทั่วไป ฉันอาละวาดพาลไปทั่วกับทุกคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องวุ่นวายกับฉัน พอทุกคนเห็นฉันทำอย่างนี้ก็ไม่เข้าใจในตัวฉันหาว่าฉันเป็นบ้าเป็นโรคจิตโรคประสาท ทั้งๆที่ฉันไม่ได้ตั้งใจทำลงไปแถมไม่ได้ไปหาเรื่องใครก่อนเลย เป็นเพราะพวกมันมนุษย์ที่ชอบหาเรื่องก่อกวนวุ่นวายกับฉันทำให้ฉันไม่พอใจนั่นเอง ฉันเริ่มเรียนแย่ลงๆทุกทีเรื่อยๆ เพราะไม่มีอารมณ์กะจิตกะใจเรียนเลย เพราะว่ามีแต่ผู้คนเข้ามาวุ่นวายก่อกวนฉันอยู่เรื่อยๆที่โรงเรียน แต่ก็ดีใจที่อย่างน้อยก็มีเพื่อนเพียงไม่กี่คนที่เข้าใจในตัวฉันและสงสารฉัน ซึ่งเพื่อนส่วนใหญ่นั้นเลิกเป็นเพื่อนกับฉันไปเพราะไม่เข้าใจในตัวฉันนั่นเอง แต่ก็มีอยู่อย่างหนึ่งที่ทำให้ฉันนั้นประทับใจมากๆคือ คุณครูหลายๆท่านเค้าเข้าใจในตัวฉันและช่วยผลักดันช่วยเหลือฉันอย่างเต็มที่สุดความสามารถเพื่อให้ฉันนั้นได้เรียนจบในที่สุดในมัธยมปลาย และหลังจากนั้นฉันก็ได้พยายามที่จะเรียนต่อในอุดมศึกษาในหลายๆที่ แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายที่ฉันไม่สามารถเรียนจบได้เลย เป็นเพราะว่าฉันไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับเพื่อนๆผู้อื่นในชั้นเรียนได้เลย เพราะมีแต่คนที่ไม่รู้เรื่องราวของฉันและไม่เข้าใจเข้าถึงฉันได้เลย เป็นเพราะว่าฉันมันไม่เหมือนใครไม่เหมือนคนอื่นนั่นเอง และก็ไม่มีเพื่อนเก่าๆที่เข้าใจฉันเลย แถมฉันก็พึ่งจะมารู้ตัวรู้สึกในตัวเองว่าเรามันไม่เหมือนกับคนอื่น เราเป็นเด็กพิเศษ หรือเป็นคนไม่ปกติในสังคมนั่นเอง คือเป็นเด็กที่มีความผิดปกติทางสมองหรือเกี่ยวกับระบบประสาทในสมองนั่นเอง ฉันเริ่มไปหาหมอที่จะสามารถรักษาโรคของฉันได้ในหลายๆที่ แต่ก็ไม่มีใครที่จะสามารถรักษาฉันได้เลย เพราะพวกเค้าไม่เข้าใจในตัวฉันและไม่สามารถเข้าถึงใจของฉันได้เลย แต่ก็นับว่าเป็นโชคดีที่ฉันได้ไปพบหมอคนหนึ่งที่เป็นหมอที่มีความสามารถสูงมาก และเค้าก็เข้าใจในตัวของฉันและรักษาฉันให้ช่วยบรรเทาอาการลงได้ และเกือบจะหายเป็นปกติเหมือนกับคนผู้อื่นในสังคม ถึงแม้ว่ามันจะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ก็ตามที แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันนั้นมีสติอยู่กับเนื้อกับตัวของตัวเองได้ตลอดเวลา ถ้าไม่มีใครมาหาเรื่องฉันก่อน อาการก็ไม่กำเริบออกมาหรอก ซึ่งอาการของฉันมันก็มีอยู่สองอย่างคือ อาการที่หนึ่งคือ ไม่มีผู้คนเยอะแยะพลุกพล่านนั่นเอง ส่วนอาการที่สองคือ เสียงดังนั่นเอง โดยเฉพาะเสียงของผู้คนที่ชอบทำร้ายฉันโดยการนินทาว่าร้ายฉันต่างๆนาๆ ซึ่งฉันสามารถรับรู้และรู้สึกได้จากการที่มีวิชาจิตมารสังหารนั่นเอง เพราะฉันสามารถสัมผัสได้ถึงจิตสังหารของพวกมัน ฉันเริ่มศึกษาในทางสายธรรมะหรือศึกษาศาสนามากขึ้นๆเรื่อยๆ ซึ่งมันทำให้ฉันรู้สึกดีและอิ่มเอิบในรสธรรม ซึ่งมันสามารถทำให้อาการโรคของฉันหายขาดได้ เพราะว่ามันคือตัวของฉันเองที่สามารถที่จะรักษาตัวเองได้นั่นเอง สาเหตุมันอยู่ที่ฉัน เพราะฉะนั้นฉันก็ต้องแก้ด้วยตนเอง ซึ่งมันอยู่ที่พลัง ฉันปรารถนาพลัง พลังที่สามารถสร้างหรือทำลายได้ในทุกๆสิ่งนั่นเองมาตั้งแต่แรกเริ่ม ซึ่งฉันมีวิชาจิตมารสังหารอยู่กับตัว มันควบคุมไม่ได้ ฉันเลยเป็นบ้า มันเป็นพลังที่ชั่วร้าย มีแต่จะทำลายทั้งกับตนเองและผู้อื่น แต่ถ้าฉันควบคุมมันได้ มันก็จะเป็นพลังที่สามารถช่วยเหลือตัวของฉันเองได้อย่างยิ่งยวด ซึ่งตอนนี้ฉันฝึกฝนวิชาจิตมารสังหารสำเร็จแล้ว และสามารถควบคุมมันได้ด้วย และตอนนี้ฉันก็ค้นพบวิชาใหม่อีกหนึ่งวิชา มันตรงกันข้ามกับจิตมารสังหารนั่นเอง มันคือวิชาจิตเทพเมตตา ซึ่งฉันยังคงฝึกฝนอยู่ในขั้นต้น มันเป็นวิชาที่ระงับความโกรธเกรี้ยวอาฆาตพยาบาททำลายของจิตมารสังหาร เวลาที่ฉันควบคุมจิตของตนเองไม่ได้ก็จะพยายามใช้จิตในด้านบวกอีกวิชาหนึ่งช่วยบรรเทาผ่อนปรนพลังด้านลบให้ไม่ทำลายตัวเองและผู้อื่นอีกต่อไปในสถานการณ์ที่คับขันนั่นเอง สิ่งสุดท้ายที่ฉันจะบอกก่อนจบก็คือ มีผู้คนมากมายที่เกลียดชังไม่ชอบฉันและต้องการทำร้ายทำลายฉันในทุกๆด้าน เป็นเพราะพวกเค้าไม่เข้าใจเข้าถึงตัวฉันได้ พวกนี้มีอยู่ทุกที่ทุกหนทุกแห่ง ไม่ว่าฉันจะไปที่ไหนก็เจอพวกมัน ฉันแค่อยากจะบอกว่า เวรกรรมมีจริง ใครคิดทำร้ายทำลายฉัน มันทุกผู้จักต้องได้รับคำสาปของฉันไป นั่นก็คือ ในชีวิตจะไม่มีวันมีความสุข เพราะเป็นบ้า จนกว่าจะตายไป ตายแล้วก็ยังไม่จบ จะต้องลงนรกหมกไหม้ไปด้วยกันทุกคน ฉันขอสาปแช่งพวกมัน ทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้น มันเป็นสัจธรรม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 335 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภิกษุที่เลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยเดรัจฉานวิชา ผลคือ ท่านจะไม่ได้บรรลุมรรคผลนิพพาน เพราะการเลี้ยงชีพของภิกษุคือการขอ และเขาให้ด้วยศรัทธา ภิกษุจึงควรนำเวลาไปศึกษาปริยัติหรือปฏิบัติธรรม ซึ่งคือการทำธุระในพระพุทธศาสนา (คันถธุระและวิปัสสนาธุระ) หากท่านละเลยไม่นำเวลาไปปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ท่านจะห่างจากมรรคผลนิพพาน คือเดินไปคนละทางกับกิจที่ควรทำเพื่อมรรคผลนิพพาน โทษของภิกษุผู้เลี้ยงชีพด้วยเดรัจฉานวิชาจึงมีแค่นี้

    เดรัจฉานวิชาไม่ใช่อันตรายิกธรรมที่ขวางกั้นพระนิพพานนะ เพราะการขวางกั้นพระนิพพานหมายถึงชาตินี้นิพพานไม่ได้เลย มีเหตุขวางกั้น เช่น อนันตริยกรรม ผู้กระทำอนันตริยกรรม ไม่ว่าจะเพียงปฏิบัติเท่าไหร่ ก็บรรลุมรรคผลไม่ได้ เช่นเดียวกับพระเจ้าอชาติศัตรู แต่เดรัจฉานวิชาซึ่งภิกษุใช้เลี้ยงชีพ เพียงแค่ท่านเลิกเสียและหันมาปฏิบัติสติปัฏฐานท่านก็เข้าถึงพระนิพพานได้ ครูนัทจึงย้ำเสมอว่า ไม่ควรใช้คำว่า ขวางพระนิพพาน เดรัจฉานวิชาคือเป็นไปในทางขวาง เยี่ยงลำตัวสัตว์เดรัจฉาน ทางไปพระนิพานอยู่หัว ทางทำมาหากินอยู่หาง มันแค่เป็นคนละทางกัน

    พระพุทธเจ้าไม่เคยติเตียนภิกษุที่เลี้ยงชีพด้วยเดรัจฉานวิชาว่าเป็นโมฆะบุรุษ ไม่ทรงปรับอาบัติในเรื่องนี้ อาบัติจะปรับไปในเรื่องรับเงินรับทองที่เกิดจากการเลี้ยงชีพ ดังนั้นในส่วนของเดรัจฉานวิชาจึงไม่มีในส่วนของพระวินัยอาบัติ

    ถ้าเราไม่เข้าใจเรื่องนี้ เราจะรู้สึกเกลียดชังเกิดโทสะในใจ และออกมาด่าพระเหมือนที่เด็กและคนแก่คนเฒ่าอีกหลายคนทำ แนวคิดนี้ถูกปลูกฝังมาผิดๆ เนิ่นนานมาแล้วและยังคงสืบทอดต่อกันมา

    ด่าพระที่ท่านไม่ได้อาบัติถึงปาราชิก เป็นบาปกรรม เป็นโทษทางธรรมและโทษตามกฎหมาย ถ้ากราดไปหมดจะกลายเป็นดูหมิ่นคณะสงฆ์

    เราควรยึดหลักพระธรรมวินัย ไม่ใช่ยึดหลักความพอใจ ผิดถูกอย่างไรควรใช้ใจที่เป็นธรรมวิพากษ์วิจารณ์...

    #ราหูอมจันทร์ส่องหล้า

    #ผู้เฒ่าตาเดียวกับคนหน้าเหลี่ยม

    #จากซาเล้งพ่วงข้างสู่หนทางพระนิพพาน
    ภิกษุที่เลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยเดรัจฉานวิชา ผลคือ ท่านจะไม่ได้บรรลุมรรคผลนิพพาน เพราะการเลี้ยงชีพของภิกษุคือการขอ และเขาให้ด้วยศรัทธา ภิกษุจึงควรนำเวลาไปศึกษาปริยัติหรือปฏิบัติธรรม ซึ่งคือการทำธุระในพระพุทธศาสนา (คันถธุระและวิปัสสนาธุระ) หากท่านละเลยไม่นำเวลาไปปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ท่านจะห่างจากมรรคผลนิพพาน คือเดินไปคนละทางกับกิจที่ควรทำเพื่อมรรคผลนิพพาน โทษของภิกษุผู้เลี้ยงชีพด้วยเดรัจฉานวิชาจึงมีแค่นี้ เดรัจฉานวิชาไม่ใช่อันตรายิกธรรมที่ขวางกั้นพระนิพพานนะ เพราะการขวางกั้นพระนิพพานหมายถึงชาตินี้นิพพานไม่ได้เลย มีเหตุขวางกั้น เช่น อนันตริยกรรม ผู้กระทำอนันตริยกรรม ไม่ว่าจะเพียงปฏิบัติเท่าไหร่ ก็บรรลุมรรคผลไม่ได้ เช่นเดียวกับพระเจ้าอชาติศัตรู แต่เดรัจฉานวิชาซึ่งภิกษุใช้เลี้ยงชีพ เพียงแค่ท่านเลิกเสียและหันมาปฏิบัติสติปัฏฐานท่านก็เข้าถึงพระนิพพานได้ ครูนัทจึงย้ำเสมอว่า ไม่ควรใช้คำว่า ขวางพระนิพพาน เดรัจฉานวิชาคือเป็นไปในทางขวาง เยี่ยงลำตัวสัตว์เดรัจฉาน ทางไปพระนิพานอยู่หัว ทางทำมาหากินอยู่หาง มันแค่เป็นคนละทางกัน พระพุทธเจ้าไม่เคยติเตียนภิกษุที่เลี้ยงชีพด้วยเดรัจฉานวิชาว่าเป็นโมฆะบุรุษ ไม่ทรงปรับอาบัติในเรื่องนี้ อาบัติจะปรับไปในเรื่องรับเงินรับทองที่เกิดจากการเลี้ยงชีพ ดังนั้นในส่วนของเดรัจฉานวิชาจึงไม่มีในส่วนของพระวินัยอาบัติ ถ้าเราไม่เข้าใจเรื่องนี้ เราจะรู้สึกเกลียดชังเกิดโทสะในใจ และออกมาด่าพระเหมือนที่เด็กและคนแก่คนเฒ่าอีกหลายคนทำ แนวคิดนี้ถูกปลูกฝังมาผิดๆ เนิ่นนานมาแล้วและยังคงสืบทอดต่อกันมา ด่าพระที่ท่านไม่ได้อาบัติถึงปาราชิก เป็นบาปกรรม เป็นโทษทางธรรมและโทษตามกฎหมาย ถ้ากราดไปหมดจะกลายเป็นดูหมิ่นคณะสงฆ์ เราควรยึดหลักพระธรรมวินัย ไม่ใช่ยึดหลักความพอใจ ผิดถูกอย่างไรควรใช้ใจที่เป็นธรรมวิพากษ์วิจารณ์... #ราหูอมจันทร์ส่องหล้า #ผู้เฒ่าตาเดียวกับคนหน้าเหลี่ยม #จากซาเล้งพ่วงข้างสู่หนทางพระนิพพาน
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 437 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภิกษุที่เลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยเดรัจฉานวิชา ผลคือ ท่านจะไม่ได้บรรลุมรรคผลนิพพาน เพราะการเลี้ยงชีพของภิกษุคือการขอ และเขาให้ด้วยศรัทธา ภิกษุจึงควรนำเวลาไปศึกษาปริยัติหรือปฏิบัติธรรม ซึ่งคือการทำธุระในพระพุทธศาสนา (คันถธุระและวิปัสสนาธุระ) หากท่านละเลยไม่นำเวลาไปปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ท่านจะห่างจากมรรคผลนิพพาน คือเดินไปคนละทางกับกิจที่ควรทำเพื่อมรรคผลนิพพาน โทษของภิกษุผู้เลี้ยงชีพด้วยเดรัจฉานวิชาจึงมีแค่นี้

    เดรัจฉานวิชาไม่ใช่อันตรายิกธรรมที่ขวางกั้นพระนิพพานนะ เพราะการขวางกั้นพระนิพพานหมายถึงชาตินี้นิพพานไม่ได้เลย มีเหตุขวางกั้น เช่น อนันตริยกรรม ผู้กระทำอนันตริยกรรม ไม่ว่าจะเพียงปฏิบัติเท่าไหร่ ก็บรรลุมรรคผลไม่ได้ เช่นเดียวกับพระเจ้าอชาติศัตรู แต่เดรัจฉานวิชาซึ่งภิกษุใช้เลี้ยงชีพ เพียงแค่ท่านเลิกเสียและหันมาปฏิบัติสติปัฏฐานท่านก็เข้าถึงพระนิพพานได้ ครูนัทจึงย้ำเสมอว่า ไม่ควรใช้คำว่า ขวางพระนิพพาน เดรัจฉานวิชาคือเป็นไปในทางขวาง เยี่ยงลำตัวสัตว์เดรัจฉาน ทางไปพระนิพานอยู่หัว ทางทำมาหากินอยู่หาง มันแค่เป็นคนละทางกัน

    พระพุทธเจ้าไม่เคยติเตียนภิกษุที่เลี้ยงชีพด้วยเดรัจฉานวิชาว่าเป็นโมฆะบุรุษ ไม่ทรงปรับอาบัติในเรื่องนี้ อาบัติจะปรับไปในเรื่องรับเงินรับทองที่เกิดจากการเลี้ยงชีพ ดังนั้นในส่วนของเดรัจฉานวิชาจึงไม่มีในส่วนของพระวินัยอาบัติ

    ถ้าเราไม่เข้าใจเรื่องนี้ เราจะรู้สึกเกลียดชังเกิดโทสะในใจ และออกมาด่าพระเหมือนที่เด็กและคนแก่คนเฒ่าอีกหลายคนทำ แนวคิดนี้ถูกปลูกฝังมาผิดๆ เนิ่นนานมาแล้วและยังคงสืบทอดต่อกันมา

    ด่าพระที่ท่านไม่ได้อาบัติถึงปาราชิก เป็นบาปกรรม เป็นโทษทางธรรมและโทษตามกฎหมาย ถ้ากราดไปหมดจะกลายเป็นดูหมิ่นคณะสงฆ์

    เราควรยึดหลักพระธรรมวินัย ไม่ใช่ยึดหลักความพอใจ ผิดถูกอย่างไรควรใช้ใจที่เป็นธรรมวิพากษ์วิจารณ์...

    #ราหูอมจันทร์ส่องหล้า

    #ผู้เฒ่าตาเดียวกับคนหน้าเหลี่ยม

    #จากซาเล้งพ่วงข้างสู่หนทางพระนิพพาน
    ภิกษุที่เลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยเดรัจฉานวิชา ผลคือ ท่านจะไม่ได้บรรลุมรรคผลนิพพาน เพราะการเลี้ยงชีพของภิกษุคือการขอ และเขาให้ด้วยศรัทธา ภิกษุจึงควรนำเวลาไปศึกษาปริยัติหรือปฏิบัติธรรม ซึ่งคือการทำธุระในพระพุทธศาสนา (คันถธุระและวิปัสสนาธุระ) หากท่านละเลยไม่นำเวลาไปปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ท่านจะห่างจากมรรคผลนิพพาน คือเดินไปคนละทางกับกิจที่ควรทำเพื่อมรรคผลนิพพาน โทษของภิกษุผู้เลี้ยงชีพด้วยเดรัจฉานวิชาจึงมีแค่นี้ เดรัจฉานวิชาไม่ใช่อันตรายิกธรรมที่ขวางกั้นพระนิพพานนะ เพราะการขวางกั้นพระนิพพานหมายถึงชาตินี้นิพพานไม่ได้เลย มีเหตุขวางกั้น เช่น อนันตริยกรรม ผู้กระทำอนันตริยกรรม ไม่ว่าจะเพียงปฏิบัติเท่าไหร่ ก็บรรลุมรรคผลไม่ได้ เช่นเดียวกับพระเจ้าอชาติศัตรู แต่เดรัจฉานวิชาซึ่งภิกษุใช้เลี้ยงชีพ เพียงแค่ท่านเลิกเสียและหันมาปฏิบัติสติปัฏฐานท่านก็เข้าถึงพระนิพพานได้ ครูนัทจึงย้ำเสมอว่า ไม่ควรใช้คำว่า ขวางพระนิพพาน เดรัจฉานวิชาคือเป็นไปในทางขวาง เยี่ยงลำตัวสัตว์เดรัจฉาน ทางไปพระนิพานอยู่หัว ทางทำมาหากินอยู่หาง มันแค่เป็นคนละทางกัน พระพุทธเจ้าไม่เคยติเตียนภิกษุที่เลี้ยงชีพด้วยเดรัจฉานวิชาว่าเป็นโมฆะบุรุษ ไม่ทรงปรับอาบัติในเรื่องนี้ อาบัติจะปรับไปในเรื่องรับเงินรับทองที่เกิดจากการเลี้ยงชีพ ดังนั้นในส่วนของเดรัจฉานวิชาจึงไม่มีในส่วนของพระวินัยอาบัติ ถ้าเราไม่เข้าใจเรื่องนี้ เราจะรู้สึกเกลียดชังเกิดโทสะในใจ และออกมาด่าพระเหมือนที่เด็กและคนแก่คนเฒ่าอีกหลายคนทำ แนวคิดนี้ถูกปลูกฝังมาผิดๆ เนิ่นนานมาแล้วและยังคงสืบทอดต่อกันมา ด่าพระที่ท่านไม่ได้อาบัติถึงปาราชิก เป็นบาปกรรม เป็นโทษทางธรรมและโทษตามกฎหมาย ถ้ากราดไปหมดจะกลายเป็นดูหมิ่นคณะสงฆ์ เราควรยึดหลักพระธรรมวินัย ไม่ใช่ยึดหลักความพอใจ ผิดถูกอย่างไรควรใช้ใจที่เป็นธรรมวิพากษ์วิจารณ์... #ราหูอมจันทร์ส่องหล้า #ผู้เฒ่าตาเดียวกับคนหน้าเหลี่ยม #จากซาเล้งพ่วงข้างสู่หนทางพระนิพพาน
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 429 มุมมอง 0 รีวิว
  • อ่านเอาเรื่อง Ep.88 : Affirmative Action

    วันนี้อยากจะเล่าเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับ Affirmative Action ของมาเลเซียประเทศเพื่อนบ้านของเราครับ

    ในสมัยก่อนนู้น คือ ยุคก่อนปี 1950 นั้น มาเลเซีย (ตอนนั้นเรียก “มลายา”) เป็นอาณานิคมของอังกฤษอยู่ครับ อังกฤษเขาเห็นว่าที่มลายานี้ยังขาดแคลลนแรงงานอยู่มาก ก็เลยเปิดรับชาวจีนให้อพยพเข้ามาเป็นแรงงานอยู่ที่มลายา

    ชาวจีนที่อพยพมามลายานั้น ส่วนใหญ่จะมาจากมณฑลฟูเจี้ยนและกวางตุ้ง เหตุที่อพยพมาก็เพราะหนีความอดอยากและยากจนของประเทศจีนในเวลานั้นครับ

    คนจีนเหล่านี้ เบื้องแรกก็มาเป็นแรงงานทำโน่นทำนี่ แต่อยู่ๆไปก็เริ่มเรียนภาษาอังกฤษและเริ่มทำธุรกิจ ชีวิตความเป็นอยู่และรายได้เริ่มดีขึ้นด้วยความขยันตามประสาคนจีน

    นี่คือจุดเริ่มต้นของคนจีนในคาบสมุทรมลายา คิดเป็นสัดส่วนราวๆ 10% ของประชากรทั้งหมดซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมลายู

    คนอินเดียก็มีมาอยู่ที่มลายาเหมือนกัน แต่น้อยกว่าคนจีน

    ทีนี้พอถึงปี 1957 อังกฤษคืนเอกราชให้มลายา อำนาจการปกครองรัฐบาลนั้นเป็นของชาวมลายูเกือบ 100%

    ในเวลานั้น ธุรกิจสำคัญส่วนใหญ่อยู่ในมือของชาวจีน และสำคัญคือ 99% ของนักศึกษาที่เข้าเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ในมหาวิทยาลัยนั้น ล้วนมีแต่ชาวจีนทั้งสิ้น

    นักศึกษาชาวมลายูมีแค่ 1%

    ในคณะที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือ ที่เราเรียกว่า STEM นั้น ก็เป็นแบบเดียวกันคือ มีแต่นักศึกษาชาวจีน อันทำให้ชาวจีนมีความรู้สูงกว่าและเจริญงอกงามกว่าชาวมลายูทั้งๆที่ประชากรชาวจีนนั้นมีไม่ถึง 20%

    ก่อให้เกิดความเกลียดชังที่คนมลายูมีต่อคนจีน
    .
    .
    .
    ในปี 1960 รัฐบาลมาเลเซียซึ่งเป็นคนมลายูทั้งหมด จึงดำริโครงการที่ชื่อว่า Affirmative Action เพื่อช่วยชาวมลายู คือ ช่วยเหลือทุกวิถีทางที่จะเพิ่มจำนวนคนมลายูให้เข้ามหาวิทยาลัยให้ได้

    นำไปสู่การตั้งโควต้านักศึกษา ว่าจะต้องมีคนมลายูเท่านี้และจำกัดจำนวนคนจีนที่เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยของรัฐ

    และที่ช้อคสุดคือ รัฐบาลสั่งเปลี่ยนภาษาที่สอนในมหาลัย จากเดิมที่สอนเป็นภาษาอังกฤษให้เปลี่ยนเป็นภาษามลายูทั้งหมด

    คือ กีดกันคนจีนกันเต็มที่

    ทำให้นักศึกษาจีนที่เก่งๆหัวดีจำนวนมากถอดใจกับการเข้ามหาวิทยาลัย และย้ายไปเรียนที่อเมริกาและยุโรปแทน คนจีนที่มีความรู้สูงจำนวนมากย้ายออกจากมาเลเซีย

    การกีดกันเชื้อชาตินี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สิงคโปร์แยกตัวออกไปตั้งประเทศเอง และภายหลังสิงคโปร์นั้นเจริญงอกงามกว่ามาเลเซียมาก

    (ถ้าจะพูดให้ถูกคือ รัฐบาลมลายูขับไล่นายลี กวน ยูและสิงคโปร์ออกไปครับ)

    แต่กระนั้นความกดดันของรัฐบาลมลายูนี้ก็ก่อให้เกิดผลดีอยู่บ้างคือ ชาวจีนรวมตัวกันสร้างมหาวิทยาลัยเอกชนขึ้นในมาเลเซียหลายแห่ง สอนหนังสือเป็นภาษาอังกฤษเหมือนเคย เพื่อสอนให้กับชาวจีนและอินเดียที่ได้รับผลกระทบ

    และได้กลายเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำในเวลาต่อมา
    .
    .
    .
    เมื่อกาลเวลาผ่านไป 60 ปี Affirmative Action นี้ก็ยังคงอยู่ในมาเลเซียในรูปแบบของโควต้าเชื้อชาติ

    ผลของ Affirmative Action นี้ ทำให้คนมลายูมีอัตราการเรียนมหาวิทยาลัยสูงขึ้นจริง มีรายได้สูงขึ้นจริง

    แต่ว่าโครงสร้างเศรษฐกิจยังคงเหมือนเดิม

    คือ ธุรกิจและอุตสาหกรรมภาคเอกชนขนาดใหญ่ในมาเลเซียยังคงอยู่ในมือของคนจีน

    ส่วนคนมลายูนั้นส่วนใหญ่จะทำงานอยู่ในภาครัฐ ที่โดดเด่นขึ้นมาในภาคเอกชนก็มีครับ เช่น แอร์ เอเซีย ที่ก่อตั้งโดยนักธุรกิจมลายู 2 คนครับ

    ในประชากรมาเลเซีย 100 คน มีชาวมลายูราวๆ 70% ชาวจีน 20% ที่เหลือเป็นอินเดีย 8% ครับ

    เมื่อสำรวจรายได้ของคนมาเลเซียในปี 2022 ก็ได้พบว่า หากชาวจีนมีรายได้ 100 บาท ชาวมลายูจะมีรายได้ 70 บาท และชาวอินเดีย 87 บาท

    ชาวมลายูยังคงรายได้ต่ำที่สุดอยู่เช่นเคย แม้จะกีดกันชาวจีนแล้วก็ตาม
    .
    .
    .
    ที่ผมยกเรื่องโครงการ Affirmative Action ขึ้นมานี้ เพราะเป็นประเด็นที่ถูกถกเถียงกันทั่วโลกมากว่าเป็นนโยบายที่เลือกปฏิบัติ (Discrimination) ครับ

    คือ เลือกช่วยคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นพิเศษ

    จริงๆแล้วมาเลเซียลอกไอเดียนี้มาจากอเมริกาในปี 1960 ที่ปธน.จอห์น เอฟ เคนเนดี้ นำมาใช้เพื่อให้โอกาสคนดำและเชื้อชาติอื่นได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยบ้าง

    เพราะหากเอานักเรียนมาสอบแข่งขันกันจริงๆแล้ว ในเวลานั้นนักเรียนผิวขาวชนะขาดลอย เช่นเดียวกับที่นักเรียนจีนในมาเลเซียที่เก่งกว่าเด็กมลายู

    อเมริกาใช้โครงการนี้อยู่หลายรัฐบาล มีการใช้โควต้าเชื้อชาติด้วย จนกระทั่งศาลสูงของอเมริกาสั่งยกเลิกระบบนี้ในการคัดเลือกนักเรียนเข้ามหาวิทยาลัย

    และปัจจุบันอเมริกาก็เอานโยบายคล้ายๆกันนี้กลับเข้ามาใช้อีกในรูปแบบของ DEI (Diversity, Equity and Inclusion) คือ ให้เอาเชื้อชาติเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณารับคนเข้าทำงาน โดยเฉพาะในหน่วยงานรัฐบาล

    คือ ในหนึ่งองค์กรจะต้องมีคนจากทุกเชื้อชาติให้ได้มากที่สุด

    เรื่อง DEI นี้กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมา เมื่อทรัมป์ถูกพยายามลอบสังหารและมีภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจลับหญิงอ้วนที่เงอะๆงั่นๆทำอะไรไม่ถูกยืนอยู่ข้างๆทรัมป์

    ชาวเน็ทอเมริกันจึงจัดทัวร์ไปลงว่า “DEI ทำให้เราไม่ได้จ้างคนจากฝีมือและความสามารถ”
    .
    .
    .
    ผมนั่งดูๆเรื่องนี้แล้ว ก็บังเกิดความเห็นใจทั้ง 2 ฝั่ง

    คือ ผมเห็นใจคนบางกลุ่มบางเผ่าพันธุ์ว่า ถ้าเขาไม่ได้รับการช่วยเหลือเป็นพิเศษแล้ว โอกาสที่จะโงหัวขึ้นมามีชีวิตที่ดีบ้างนั้นก็แทบจะไม่มีเลย

    ในขณะเดียวกันผมก็เห็นใจคนหัวดีและคนเก่งกว่าว่า เขาตั้งใจเรียนและเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี แต่กลายเป็นต้องมาแพ้ให้กับระบบโควต้าที่ช่วยคนที่ห่วยกว่าตัวเอง

    หนทางที่ดีที่สุดของเรื่องลักษณะนี้ ผมเห็นด้วย 100% กับท่านผู้พิพากษาศาลสูงของอเมริกาชื่อ “ซานดร้า เดย์ โอคอนเนอร์”

    ท่านกล่าวว่า “Race-conscious admissions policies must be limited in time. The court expects that 25 years from now, the use of racial preferences will no longer be necessary"

    "นโยบายการเลือกรับคนโดยดูจากเชื้อชาตินั้นควรกำหนดกรอบเวลาไว้ ศาลหวังว่าในอีก 25 ปีจากนี้ไปนั้น เราไม่จำเป็นต้องเอาเรื่องเชื้อชาติมาร่วมพิจารณาอีกต่อไป“

    ท่านบันทึกไว้ในปี 2003 ครับ

    เพราะผมเห็นด้วยกับที่มีคนเคยพูดว่า “กลุ่มคนที่เคยได้รับความช่วยเหลือเป็นพิเศษหรือใช้ทางลัดมาตลอดชีวิตนั้น เมื่อถึงวันหนึ่งที่ต้องออกไปต่อสู้อย่างแฟร์ๆแล้ว คนพวกนี้ก็จะบอกว่า ”ฉันไม่ได้รับความยุติธรรม“

    …ไม่ช่วยเลยก็น่าสงสาร ช่วยมากไปก็อ่อนแอ…

    ภาพประกอบไม่เกี่ยวอะไรกับเนื้อเรื่องครับ ผมเห็นว่าสวยดีก็เลยโพสท์ไปด้วย 😉


    นัทแนะ
    อ่านเอาเรื่อง Ep.88 : Affirmative Action วันนี้อยากจะเล่าเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับ Affirmative Action ของมาเลเซียประเทศเพื่อนบ้านของเราครับ ในสมัยก่อนนู้น คือ ยุคก่อนปี 1950 นั้น มาเลเซีย (ตอนนั้นเรียก “มลายา”) เป็นอาณานิคมของอังกฤษอยู่ครับ อังกฤษเขาเห็นว่าที่มลายานี้ยังขาดแคลลนแรงงานอยู่มาก ก็เลยเปิดรับชาวจีนให้อพยพเข้ามาเป็นแรงงานอยู่ที่มลายา ชาวจีนที่อพยพมามลายานั้น ส่วนใหญ่จะมาจากมณฑลฟูเจี้ยนและกวางตุ้ง เหตุที่อพยพมาก็เพราะหนีความอดอยากและยากจนของประเทศจีนในเวลานั้นครับ คนจีนเหล่านี้ เบื้องแรกก็มาเป็นแรงงานทำโน่นทำนี่ แต่อยู่ๆไปก็เริ่มเรียนภาษาอังกฤษและเริ่มทำธุรกิจ ชีวิตความเป็นอยู่และรายได้เริ่มดีขึ้นด้วยความขยันตามประสาคนจีน นี่คือจุดเริ่มต้นของคนจีนในคาบสมุทรมลายา คิดเป็นสัดส่วนราวๆ 10% ของประชากรทั้งหมดซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมลายู คนอินเดียก็มีมาอยู่ที่มลายาเหมือนกัน แต่น้อยกว่าคนจีน ทีนี้พอถึงปี 1957 อังกฤษคืนเอกราชให้มลายา อำนาจการปกครองรัฐบาลนั้นเป็นของชาวมลายูเกือบ 100% ในเวลานั้น ธุรกิจสำคัญส่วนใหญ่อยู่ในมือของชาวจีน และสำคัญคือ 99% ของนักศึกษาที่เข้าเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ในมหาวิทยาลัยนั้น ล้วนมีแต่ชาวจีนทั้งสิ้น นักศึกษาชาวมลายูมีแค่ 1% ในคณะที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือ ที่เราเรียกว่า STEM นั้น ก็เป็นแบบเดียวกันคือ มีแต่นักศึกษาชาวจีน อันทำให้ชาวจีนมีความรู้สูงกว่าและเจริญงอกงามกว่าชาวมลายูทั้งๆที่ประชากรชาวจีนนั้นมีไม่ถึง 20% ก่อให้เกิดความเกลียดชังที่คนมลายูมีต่อคนจีน . . . ในปี 1960 รัฐบาลมาเลเซียซึ่งเป็นคนมลายูทั้งหมด จึงดำริโครงการที่ชื่อว่า Affirmative Action เพื่อช่วยชาวมลายู คือ ช่วยเหลือทุกวิถีทางที่จะเพิ่มจำนวนคนมลายูให้เข้ามหาวิทยาลัยให้ได้ นำไปสู่การตั้งโควต้านักศึกษา ว่าจะต้องมีคนมลายูเท่านี้และจำกัดจำนวนคนจีนที่เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยของรัฐ และที่ช้อคสุดคือ รัฐบาลสั่งเปลี่ยนภาษาที่สอนในมหาลัย จากเดิมที่สอนเป็นภาษาอังกฤษให้เปลี่ยนเป็นภาษามลายูทั้งหมด คือ กีดกันคนจีนกันเต็มที่ ทำให้นักศึกษาจีนที่เก่งๆหัวดีจำนวนมากถอดใจกับการเข้ามหาวิทยาลัย และย้ายไปเรียนที่อเมริกาและยุโรปแทน คนจีนที่มีความรู้สูงจำนวนมากย้ายออกจากมาเลเซีย การกีดกันเชื้อชาตินี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สิงคโปร์แยกตัวออกไปตั้งประเทศเอง และภายหลังสิงคโปร์นั้นเจริญงอกงามกว่ามาเลเซียมาก (ถ้าจะพูดให้ถูกคือ รัฐบาลมลายูขับไล่นายลี กวน ยูและสิงคโปร์ออกไปครับ) แต่กระนั้นความกดดันของรัฐบาลมลายูนี้ก็ก่อให้เกิดผลดีอยู่บ้างคือ ชาวจีนรวมตัวกันสร้างมหาวิทยาลัยเอกชนขึ้นในมาเลเซียหลายแห่ง สอนหนังสือเป็นภาษาอังกฤษเหมือนเคย เพื่อสอนให้กับชาวจีนและอินเดียที่ได้รับผลกระทบ และได้กลายเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำในเวลาต่อมา . . . เมื่อกาลเวลาผ่านไป 60 ปี Affirmative Action นี้ก็ยังคงอยู่ในมาเลเซียในรูปแบบของโควต้าเชื้อชาติ ผลของ Affirmative Action นี้ ทำให้คนมลายูมีอัตราการเรียนมหาวิทยาลัยสูงขึ้นจริง มีรายได้สูงขึ้นจริง แต่ว่าโครงสร้างเศรษฐกิจยังคงเหมือนเดิม คือ ธุรกิจและอุตสาหกรรมภาคเอกชนขนาดใหญ่ในมาเลเซียยังคงอยู่ในมือของคนจีน ส่วนคนมลายูนั้นส่วนใหญ่จะทำงานอยู่ในภาครัฐ ที่โดดเด่นขึ้นมาในภาคเอกชนก็มีครับ เช่น แอร์ เอเซีย ที่ก่อตั้งโดยนักธุรกิจมลายู 2 คนครับ ในประชากรมาเลเซีย 100 คน มีชาวมลายูราวๆ 70% ชาวจีน 20% ที่เหลือเป็นอินเดีย 8% ครับ เมื่อสำรวจรายได้ของคนมาเลเซียในปี 2022 ก็ได้พบว่า หากชาวจีนมีรายได้ 100 บาท ชาวมลายูจะมีรายได้ 70 บาท และชาวอินเดีย 87 บาท ชาวมลายูยังคงรายได้ต่ำที่สุดอยู่เช่นเคย แม้จะกีดกันชาวจีนแล้วก็ตาม . . . ที่ผมยกเรื่องโครงการ Affirmative Action ขึ้นมานี้ เพราะเป็นประเด็นที่ถูกถกเถียงกันทั่วโลกมากว่าเป็นนโยบายที่เลือกปฏิบัติ (Discrimination) ครับ คือ เลือกช่วยคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นพิเศษ จริงๆแล้วมาเลเซียลอกไอเดียนี้มาจากอเมริกาในปี 1960 ที่ปธน.จอห์น เอฟ เคนเนดี้ นำมาใช้เพื่อให้โอกาสคนดำและเชื้อชาติอื่นได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยบ้าง เพราะหากเอานักเรียนมาสอบแข่งขันกันจริงๆแล้ว ในเวลานั้นนักเรียนผิวขาวชนะขาดลอย เช่นเดียวกับที่นักเรียนจีนในมาเลเซียที่เก่งกว่าเด็กมลายู อเมริกาใช้โครงการนี้อยู่หลายรัฐบาล มีการใช้โควต้าเชื้อชาติด้วย จนกระทั่งศาลสูงของอเมริกาสั่งยกเลิกระบบนี้ในการคัดเลือกนักเรียนเข้ามหาวิทยาลัย และปัจจุบันอเมริกาก็เอานโยบายคล้ายๆกันนี้กลับเข้ามาใช้อีกในรูปแบบของ DEI (Diversity, Equity and Inclusion) คือ ให้เอาเชื้อชาติเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณารับคนเข้าทำงาน โดยเฉพาะในหน่วยงานรัฐบาล คือ ในหนึ่งองค์กรจะต้องมีคนจากทุกเชื้อชาติให้ได้มากที่สุด เรื่อง DEI นี้กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมา เมื่อทรัมป์ถูกพยายามลอบสังหารและมีภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจลับหญิงอ้วนที่เงอะๆงั่นๆทำอะไรไม่ถูกยืนอยู่ข้างๆทรัมป์ ชาวเน็ทอเมริกันจึงจัดทัวร์ไปลงว่า “DEI ทำให้เราไม่ได้จ้างคนจากฝีมือและความสามารถ” . . . ผมนั่งดูๆเรื่องนี้แล้ว ก็บังเกิดความเห็นใจทั้ง 2 ฝั่ง คือ ผมเห็นใจคนบางกลุ่มบางเผ่าพันธุ์ว่า ถ้าเขาไม่ได้รับการช่วยเหลือเป็นพิเศษแล้ว โอกาสที่จะโงหัวขึ้นมามีชีวิตที่ดีบ้างนั้นก็แทบจะไม่มีเลย ในขณะเดียวกันผมก็เห็นใจคนหัวดีและคนเก่งกว่าว่า เขาตั้งใจเรียนและเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี แต่กลายเป็นต้องมาแพ้ให้กับระบบโควต้าที่ช่วยคนที่ห่วยกว่าตัวเอง หนทางที่ดีที่สุดของเรื่องลักษณะนี้ ผมเห็นด้วย 100% กับท่านผู้พิพากษาศาลสูงของอเมริกาชื่อ “ซานดร้า เดย์ โอคอนเนอร์” ท่านกล่าวว่า “Race-conscious admissions policies must be limited in time. The court expects that 25 years from now, the use of racial preferences will no longer be necessary" "นโยบายการเลือกรับคนโดยดูจากเชื้อชาตินั้นควรกำหนดกรอบเวลาไว้ ศาลหวังว่าในอีก 25 ปีจากนี้ไปนั้น เราไม่จำเป็นต้องเอาเรื่องเชื้อชาติมาร่วมพิจารณาอีกต่อไป“ ท่านบันทึกไว้ในปี 2003 ครับ เพราะผมเห็นด้วยกับที่มีคนเคยพูดว่า “กลุ่มคนที่เคยได้รับความช่วยเหลือเป็นพิเศษหรือใช้ทางลัดมาตลอดชีวิตนั้น เมื่อถึงวันหนึ่งที่ต้องออกไปต่อสู้อย่างแฟร์ๆแล้ว คนพวกนี้ก็จะบอกว่า ”ฉันไม่ได้รับความยุติธรรม“ …ไม่ช่วยเลยก็น่าสงสาร ช่วยมากไปก็อ่อนแอ… ภาพประกอบไม่เกี่ยวอะไรกับเนื้อเรื่องครับ ผมเห็นว่าสวยดีก็เลยโพสท์ไปด้วย 😉 นัทแนะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 618 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฐานะทางการเงินและบารมีในชีวิต

    1. ทานและศีล: กำลังหนุนจากกรรมเก่า

    การทำทานและรักษาศีลในอดีตชาติ เป็น “หัวรถจักร” ที่ส่งผลต่อพื้นฐานของชีวิตในปัจจุบัน

    แต่ในปัจจุบัน ทานที่ทำใหม่มักมาในรูปแบบ “กำลังหนุน” ไม่ได้เปลี่ยนแปลงฐานะทันตาเห็น

    ดังนั้น การทำบุญในชาตินี้คือการสะสมบารมีเพื่ออนาคต ขณะเดียวกันต้องพึ่งพากรรมดีในอดีตและความพยายามในปัจจุบัน


    2. ความฉลาดในปัจจุบัน: ตัวพลิกสถานการณ์

    ผลของกรรมเก่าให้ “ความน่าจะเป็น” หรือโอกาส แต่การใช้โอกาสเหล่านั้นอย่างมีประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับการใช้ปัญญาและความพยายาม

    หากกรรมเก่าไม่สนับสนุน ต้องเริ่มสร้างหัวรถจักรใหม่ด้วยการฝึกฝนตนเองให้มีทักษะและมุมมองที่เหมาะสม



    ---

    การสร้างบารมีของเจ้านาย: ไม่ได้เกิดจากโชค แต่เกิดจากความเพียร

    3. คุณสมบัติของผู้ที่เตรียมตัวเป็นเจ้านาย

    “เต็มใจ” ทำงานหนัก: ไม่มองงานเป็นภาระ แต่มองเป็นโอกาสในการเรียนรู้และพิสูจน์ตนเอง

    “มีหัวคิด” ก้าวหน้า: คิดหาทางปรับปรุงงานให้ดีขึ้น และมองเห็นโอกาสที่คนอื่นมองไม่เห็น

    “ไม่ยอมอยู่ที่เดิม”: มีแรงขับในตัวเองที่จะพัฒนาไปสู่บทบาทที่สูงขึ้น


    4. ความเป็นเจ้านายเกิดจากอะไร?

    ความเป็นเจ้านายไม่ได้มาจากการบังคับบัญชา แต่เกิดจากความสามารถในการนำและการเสียสละ

    ผู้ที่เคยเป็นลูกจ้างที่ดี ย่อมเข้าใจความลำบากของลูกจ้าง และใช้ความเข้าใจนี้สร้างบารมีในการเป็นผู้นำ



    ---

    5. การใช้ชีวิตในปัจจุบัน: กุญแจสำคัญในการสร้างฐานะ

    กรรมเก่า: เป็นเพียงส่วนหนึ่งในการกำหนดโอกาส

    วิธีใช้ชีวิตในปัจจุบัน: เป็นตัวกำหนดว่าจะใช้โอกาสนั้นอย่างไรให้เกิดผลดี

    การขยันอดทน มีวินัย ใช้ทรัพยากรและโอกาสที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้


    6. สรุป: กรรมใหม่สร้างอนาคต

    ถ้าพื้นฐานชีวิตปัจจุบันยังไม่ดีพอ ให้เริ่มสร้างบารมีใหม่ด้วยความตั้งใจดี

    ไม่มีใครถูกกำหนดให้ติดอยู่ในฐานะเดิม หากลงมือเปลี่ยนแปลงด้วยความเพียรและปัญญา

    การเปลี่ยนฐานะและบารมี เริ่มต้นจากความคิดและการกระทำในวันนี้เอง.


    ฐานะทางการเงินและบารมีในชีวิต 1. ทานและศีล: กำลังหนุนจากกรรมเก่า การทำทานและรักษาศีลในอดีตชาติ เป็น “หัวรถจักร” ที่ส่งผลต่อพื้นฐานของชีวิตในปัจจุบัน แต่ในปัจจุบัน ทานที่ทำใหม่มักมาในรูปแบบ “กำลังหนุน” ไม่ได้เปลี่ยนแปลงฐานะทันตาเห็น ดังนั้น การทำบุญในชาตินี้คือการสะสมบารมีเพื่ออนาคต ขณะเดียวกันต้องพึ่งพากรรมดีในอดีตและความพยายามในปัจจุบัน 2. ความฉลาดในปัจจุบัน: ตัวพลิกสถานการณ์ ผลของกรรมเก่าให้ “ความน่าจะเป็น” หรือโอกาส แต่การใช้โอกาสเหล่านั้นอย่างมีประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับการใช้ปัญญาและความพยายาม หากกรรมเก่าไม่สนับสนุน ต้องเริ่มสร้างหัวรถจักรใหม่ด้วยการฝึกฝนตนเองให้มีทักษะและมุมมองที่เหมาะสม --- การสร้างบารมีของเจ้านาย: ไม่ได้เกิดจากโชค แต่เกิดจากความเพียร 3. คุณสมบัติของผู้ที่เตรียมตัวเป็นเจ้านาย “เต็มใจ” ทำงานหนัก: ไม่มองงานเป็นภาระ แต่มองเป็นโอกาสในการเรียนรู้และพิสูจน์ตนเอง “มีหัวคิด” ก้าวหน้า: คิดหาทางปรับปรุงงานให้ดีขึ้น และมองเห็นโอกาสที่คนอื่นมองไม่เห็น “ไม่ยอมอยู่ที่เดิม”: มีแรงขับในตัวเองที่จะพัฒนาไปสู่บทบาทที่สูงขึ้น 4. ความเป็นเจ้านายเกิดจากอะไร? ความเป็นเจ้านายไม่ได้มาจากการบังคับบัญชา แต่เกิดจากความสามารถในการนำและการเสียสละ ผู้ที่เคยเป็นลูกจ้างที่ดี ย่อมเข้าใจความลำบากของลูกจ้าง และใช้ความเข้าใจนี้สร้างบารมีในการเป็นผู้นำ --- 5. การใช้ชีวิตในปัจจุบัน: กุญแจสำคัญในการสร้างฐานะ กรรมเก่า: เป็นเพียงส่วนหนึ่งในการกำหนดโอกาส วิธีใช้ชีวิตในปัจจุบัน: เป็นตัวกำหนดว่าจะใช้โอกาสนั้นอย่างไรให้เกิดผลดี การขยันอดทน มีวินัย ใช้ทรัพยากรและโอกาสที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ 6. สรุป: กรรมใหม่สร้างอนาคต ถ้าพื้นฐานชีวิตปัจจุบันยังไม่ดีพอ ให้เริ่มสร้างบารมีใหม่ด้วยความตั้งใจดี ไม่มีใครถูกกำหนดให้ติดอยู่ในฐานะเดิม หากลงมือเปลี่ยนแปลงด้วยความเพียรและปัญญา การเปลี่ยนฐานะและบารมี เริ่มต้นจากความคิดและการกระทำในวันนี้เอง.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 286 มุมมอง 0 รีวิว
  • #วิธีทำบุญให้ได้บุญในชาตินี้ โดย สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี

    ขอขอบพระคุณคลิปเสียงจาก ธรรมะสอนใจ
    #วิธีทำบุญให้ได้บุญในชาตินี้ โดย สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ขอขอบพระคุณคลิปเสียงจาก ธรรมะสอนใจ
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 283 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,635
    วันศุกร์: ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๒ ปีมะโรง
    วันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๖๘ (10 January 2025)

    โอนเงินทำบุญ 30 แห่ง เป็นเงิน 600 บาท
    01. รร.งำเมืองวิทยาคม อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 10 ม.ค.68)
    02. รร.ชุมชนบ้านดู่ใต้ อ.เมือง จ.น่าน
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 10 ม.ค.68)
    03. รร.บ้านโนนหอม อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 10 ม.ค.68)
    04. รร.บ้านป่ายางตะวันตก อ.สามเงา จ.ตาก
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 10 ม.ค.68)
    05. รร.บ้านสมบูรณ์ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 10 ม.ค.68)
    06. รร.วัดเขาราษฎร์บำรุง อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 11 ม.ค.68)
    07. รร.วัดบ้านหมาก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 11 ม.ค.68)
    08. รร.บ้านชงโคสันติสุขวิทยาคาร อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 12 ม.ค.68)
    09. รร.ในเตาพิทยาคม อ.ห้วยยอด จ.ตรัง
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 13 ม.ค.68)
    10. รร.บ้านไร่เหนือ อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี
    (ทอดผ้าป่าสามัคคี 13 ม.ค.68)
    11. วัดเกาะหินตั้ง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย
    (สร้างอาคารปฏิบัติธรรม)
    12. วัดดอนชัย อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
    (สร้างศาลาปฏิบัติธรรม)
    13. วัดดวงรัตนประทีป อ.วังทอง จ.พิษณุโลก
    (สร้างศาลาปฏิบัติธรรม)
    14. วัดกลางบางพระ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม
    (สร้างศาลาอเนกประสงค์)
    15. วัดสะแก อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
    (สร้างอาคารปริยัติธรรม)
    16. วัดพนัญเชิงวรวิหาร อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา
    (สร้างอาคารเรียนสามเณร)
    17. วัดอุทุมพร อ.ปราสาท จ.สุรินทร์
    (สร้างกุฏิสงฆ์)
    18. วัดกองเงินเวฬุวัน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
    (สร้างกุฏิสงฆ์)
    19. วัดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี
    (สร้างกุฏิสงฆ์)
    20. วัดป่าเทสรังสีแก่งคอย อ.แก่งคอย จ.สระบุรี
    (สร้างห้องพักสงฆ์)
    21. วัดนาคปรก เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ
    (สร้างห้องน้ำ)
    22. วัดตระพังทองหลาง อ.เมือง จ.สุโขทัย
    (สร้างห้องน้ำ)
    23. วัดเขาช่องประดู่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
    (สร้างห้องน้ำ)
    24. วัดวังประดู่ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก
    (สร้างห้องน้ำ)
    25. วัดเขาเจริญธรรม อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์
    (สร้างห้องน้ำ)
    26. วัดบ้านหนองลาน อ.นครไทย จ.พิษณุโลก
    (สร้างห้องน้ำกุฏิพระสงฆ์)
    27. วัดโคกพิกุลเรียง อ.เมือง จ.ราชบุรี
    (สร้างศาลาธรรมสังเวช)
    28. วัดย่านขาด อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก
    (สร้างศาลาธรรมสังเวช)
    29. วัดพระธาตุวิสุทธิญาณ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่
    (สร้างเมรุ)
    30. วัดตาสุด อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ
    (สร้างหอฉัน)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    * เวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 33 วัน (75 ปี)
    เพื่อหลุดพ้นจากวัฏสงสารได้ ภายในปี พ.ศ. ๕๐๐๐
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,635 วันศุกร์: ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๒ ปีมะโรง วันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๖๘ (10 January 2025) โอนเงินทำบุญ 30 แห่ง เป็นเงิน 600 บาท 01. รร.งำเมืองวิทยาคม อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา (ทอดผ้าป่าสามัคคี 10 ม.ค.68) 02. รร.ชุมชนบ้านดู่ใต้ อ.เมือง จ.น่าน (ทอดผ้าป่าสามัคคี 10 ม.ค.68) 03. รร.บ้านโนนหอม อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี (ทอดผ้าป่าสามัคคี 10 ม.ค.68) 04. รร.บ้านป่ายางตะวันตก อ.สามเงา จ.ตาก (ทอดผ้าป่าสามัคคี 10 ม.ค.68) 05. รร.บ้านสมบูรณ์ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ (ทอดผ้าป่าสามัคคี 10 ม.ค.68) 06. รร.วัดเขาราษฎร์บำรุง อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ (ทอดผ้าป่าสามัคคี 11 ม.ค.68) 07. รร.วัดบ้านหมาก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี (ทอดผ้าป่าสามัคคี 11 ม.ค.68) 08. รร.บ้านชงโคสันติสุขวิทยาคาร อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี (ทอดผ้าป่าสามัคคี 12 ม.ค.68) 09. รร.ในเตาพิทยาคม อ.ห้วยยอด จ.ตรัง (ทอดผ้าป่าสามัคคี 13 ม.ค.68) 10. รร.บ้านไร่เหนือ อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี (ทอดผ้าป่าสามัคคี 13 ม.ค.68) 11. วัดเกาะหินตั้ง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย (สร้างอาคารปฏิบัติธรรม) 12. วัดดอนชัย อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ (สร้างศาลาปฏิบัติธรรม) 13. วัดดวงรัตนประทีป อ.วังทอง จ.พิษณุโลก (สร้างศาลาปฏิบัติธรรม) 14. วัดกลางบางพระ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม (สร้างศาลาอเนกประสงค์) 15. วัดสะแก อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา (สร้างอาคารปริยัติธรรม) 16. วัดพนัญเชิงวรวิหาร อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา (สร้างอาคารเรียนสามเณร) 17. วัดอุทุมพร อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ (สร้างกุฏิสงฆ์) 18. วัดกองเงินเวฬุวัน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี (สร้างกุฏิสงฆ์) 19. วัดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี (สร้างกุฏิสงฆ์) 20. วัดป่าเทสรังสีแก่งคอย อ.แก่งคอย จ.สระบุรี (สร้างห้องพักสงฆ์) 21. วัดนาคปรก เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ (สร้างห้องน้ำ) 22. วัดตระพังทองหลาง อ.เมือง จ.สุโขทัย (สร้างห้องน้ำ) 23. วัดเขาช่องประดู่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ (สร้างห้องน้ำ) 24. วัดวังประดู่ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก (สร้างห้องน้ำ) 25. วัดเขาเจริญธรรม อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ (สร้างห้องน้ำ) 26. วัดบ้านหนองลาน อ.นครไทย จ.พิษณุโลก (สร้างห้องน้ำกุฏิพระสงฆ์) 27. วัดโคกพิกุลเรียง อ.เมือง จ.ราชบุรี (สร้างศาลาธรรมสังเวช) 28. วัดย่านขาด อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก (สร้างศาลาธรรมสังเวช) 29. วัดพระธาตุวิสุทธิญาณ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ (สร้างเมรุ) 30. วัดตาสุด อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ (สร้างหอฉัน) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ * เวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 33 วัน (75 ปี) เพื่อหลุดพ้นจากวัฏสงสารได้ ภายในปี พ.ศ. ๕๐๐๐
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 644 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกือบสี่สิบปีที่แล้ว สามีภรรยาแต่งงานใหม่คู่หนึ่ง เดินทางไปฮันนีมูนที่แอฟริกา โดยพักแบบโฮมสเตย์ในกระโจมของหัวหน้าเผ่า ซึ่งทำหน้าที่เป็นไกด์นำเที่ยวป่าซาฟารีอีกหน้าที่หนึ่ง

    ในทริปท่องป่าวันที่เจ็ด สามีหนุ่มพลัดหลงกับคณะหายไป แม้จะติดตามค้นหาเท่าไรก็ไม่พบ กระทั่งตอนเช้าจึงพบว่า เขาอยู่บนยอดไม้ท่ามกลางฝูงไฮยีน่านับสิบรุมล้อมที่พื้นดินอยู่อย่างหิวกระหาย

    เขาและภรรยาอยู่ต่ออีกหนึ่งสัปดาห์ ก่อนลาจากกันอย่างอาลัยอาวรณ์ หัวหน้าเผ่าชี้ให้เขาดูฝูงแกะนับร้อย ซึ่งกำลังหาอาหารอยู่ข้างกระโจม แล้วอธิบายว่า

    “ธรรมชาตินี่ก็แปลก แกะควรมีขนสีขาวทั้งฝูง แต่คุณลองดูสิ มีแกะตัวหนึ่งขนกลับสีดำทั้งตัว นี่คือความประสงค์ของพระเจ้า ลาก่อน ขอให้พระเจ้ามีพระประสงค์ที่ดีต่อตัวคุณ”

    เก้าเดือนต่อมา ภรรยาของเขาจึงคลอดเด็กผู้หญิงน่ารักผิวสีดำคนหนึ่งออกมา ตามประสงค์ของพระเจ้า

    Cr. กวีเหลวไหล ๙ มค ๖๘ ขอบคุณเจ้าของภาพ
    เกือบสี่สิบปีที่แล้ว สามีภรรยาแต่งงานใหม่คู่หนึ่ง เดินทางไปฮันนีมูนที่แอฟริกา โดยพักแบบโฮมสเตย์ในกระโจมของหัวหน้าเผ่า ซึ่งทำหน้าที่เป็นไกด์นำเที่ยวป่าซาฟารีอีกหน้าที่หนึ่ง ในทริปท่องป่าวันที่เจ็ด สามีหนุ่มพลัดหลงกับคณะหายไป แม้จะติดตามค้นหาเท่าไรก็ไม่พบ กระทั่งตอนเช้าจึงพบว่า เขาอยู่บนยอดไม้ท่ามกลางฝูงไฮยีน่านับสิบรุมล้อมที่พื้นดินอยู่อย่างหิวกระหาย เขาและภรรยาอยู่ต่ออีกหนึ่งสัปดาห์ ก่อนลาจากกันอย่างอาลัยอาวรณ์ หัวหน้าเผ่าชี้ให้เขาดูฝูงแกะนับร้อย ซึ่งกำลังหาอาหารอยู่ข้างกระโจม แล้วอธิบายว่า “ธรรมชาตินี่ก็แปลก แกะควรมีขนสีขาวทั้งฝูง แต่คุณลองดูสิ มีแกะตัวหนึ่งขนกลับสีดำทั้งตัว นี่คือความประสงค์ของพระเจ้า ลาก่อน ขอให้พระเจ้ามีพระประสงค์ที่ดีต่อตัวคุณ” เก้าเดือนต่อมา ภรรยาของเขาจึงคลอดเด็กผู้หญิงน่ารักผิวสีดำคนหนึ่งออกมา ตามประสงค์ของพระเจ้า Cr. กวีเหลวไหล ๙ มค ๖๘ ขอบคุณเจ้าของภาพ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 315 มุมมอง 0 รีวิว
  • การหลุดพ้นจากบ่วงกรรมในครอบครัว

    1. รู้คุณท่าน (กตัญญู)

    เริ่มต้นจากการพิจารณาความจริง:

    พ่อแม่ให้ชีวิต ให้ร่างกายนี้แก่เรา ซึ่งเป็นพื้นฐานของโอกาสทั้งหมดในชีวิต

    หากขาดบุญคุณนี้ คุณจะไม่มีโอกาสรับรู้หรือสัมผัสความสว่างทางธรรม

    ให้อภัยในความผิดพลาดของพ่อแม่:

    เห็นว่าท่านก็เป็นมนุษย์ธรรมดาที่อาจผิดพลาดได้

    เลิกผูกพยาบาท เพราะการให้อภัยคือการปลดล็อกใจของตัวเอง

    ---

    2. สนองคุณท่าน (กตเวที)

    ทำให้พ่อแม่มีความสุข:

    ทั้งด้วยคำพูด การดูแลเอาใจใส่ และการกระทำที่แสดงถึงความรักและเคารพ

    นำพาท่านสู่ความดี:

    สนับสนุนให้พ่อแม่มีศรัทธาในสิ่งที่ถูกต้อง เช่น พระพุทธเจ้า กรรมวิบาก

    ช่วยให้พวกท่านรักษาศีล และละเว้นจากการกระทำที่ผิด

    ทำให้พ่อแม่พ้นจากความมืดบอดทางจิตใจ ไปสู่ปัญญาและความสว่าง

    ---

    3. วิธีปฏิบัติในทางธรรม

    เริ่มจากสิ่งเล็กๆ:

    ช่วยเหลือในชีวิตประจำวัน

    แผ่เมตตาให้พ่อแม่ มีความปรารถนาดีต่อพวกท่านเสมอ

    สื่อสารผ่านธรรมะ:

    วางหนังสือธรรมะ หรือสื่อที่พวกท่านสนใจ เพื่อเปิดโอกาสให้พ่อแม่เข้าถึงธรรมะ

    ใช้คำพูดที่อ่อนโยนและสร้างแรงบันดาลใจ

    ---

    4. ผลลัพธ์ของการปฏิบัติ

    เกิดความเบาสบายในจิตใจ:

    เมื่อรู้คุณและตอบแทนคุณพ่อแม่อย่างเต็มที่ จะรู้สึกเหมือนปลดบ่วงบางอย่างออกไป

    ปลูกแนวโน้มแห่งความสว่างในชีวิต:

    การทำกรรมดีต่อพ่อแม่ คือการสร้างเหตุให้ชีวิตพบเจอสิ่งดีๆ

    พ้นจากแรงดึงดูดของกรรมเดิม:

    เมื่อเราทำดีต่อพ่อแม่อย่างจริงใจ กรรมที่เป็นบ่วงรัดกับพวกท่านจะค่อยๆ คลายลง

    ---

    สรุป

    การหลุดพ้นจากแรงกรรมในครอบครัว ไม่ได้หมายความว่าต้องเปลี่ยนแปลงพ่อแม่โดยทันที แต่คือการเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยการรู้คุณ และตอบแทนคุณอย่างเต็มที่ การให้อภัยและการพยายามนำพาท่านสู่สิ่งที่ดี คือหนทางที่ช่วยให้เราหลุดพ้นจากบ่วงกรรมได้ทั้งในชาตินี้และภายภาคหน้า.
    การหลุดพ้นจากบ่วงกรรมในครอบครัว 1. รู้คุณท่าน (กตัญญู) เริ่มต้นจากการพิจารณาความจริง: พ่อแม่ให้ชีวิต ให้ร่างกายนี้แก่เรา ซึ่งเป็นพื้นฐานของโอกาสทั้งหมดในชีวิต หากขาดบุญคุณนี้ คุณจะไม่มีโอกาสรับรู้หรือสัมผัสความสว่างทางธรรม ให้อภัยในความผิดพลาดของพ่อแม่: เห็นว่าท่านก็เป็นมนุษย์ธรรมดาที่อาจผิดพลาดได้ เลิกผูกพยาบาท เพราะการให้อภัยคือการปลดล็อกใจของตัวเอง --- 2. สนองคุณท่าน (กตเวที) ทำให้พ่อแม่มีความสุข: ทั้งด้วยคำพูด การดูแลเอาใจใส่ และการกระทำที่แสดงถึงความรักและเคารพ นำพาท่านสู่ความดี: สนับสนุนให้พ่อแม่มีศรัทธาในสิ่งที่ถูกต้อง เช่น พระพุทธเจ้า กรรมวิบาก ช่วยให้พวกท่านรักษาศีล และละเว้นจากการกระทำที่ผิด ทำให้พ่อแม่พ้นจากความมืดบอดทางจิตใจ ไปสู่ปัญญาและความสว่าง --- 3. วิธีปฏิบัติในทางธรรม เริ่มจากสิ่งเล็กๆ: ช่วยเหลือในชีวิตประจำวัน แผ่เมตตาให้พ่อแม่ มีความปรารถนาดีต่อพวกท่านเสมอ สื่อสารผ่านธรรมะ: วางหนังสือธรรมะ หรือสื่อที่พวกท่านสนใจ เพื่อเปิดโอกาสให้พ่อแม่เข้าถึงธรรมะ ใช้คำพูดที่อ่อนโยนและสร้างแรงบันดาลใจ --- 4. ผลลัพธ์ของการปฏิบัติ เกิดความเบาสบายในจิตใจ: เมื่อรู้คุณและตอบแทนคุณพ่อแม่อย่างเต็มที่ จะรู้สึกเหมือนปลดบ่วงบางอย่างออกไป ปลูกแนวโน้มแห่งความสว่างในชีวิต: การทำกรรมดีต่อพ่อแม่ คือการสร้างเหตุให้ชีวิตพบเจอสิ่งดีๆ พ้นจากแรงดึงดูดของกรรมเดิม: เมื่อเราทำดีต่อพ่อแม่อย่างจริงใจ กรรมที่เป็นบ่วงรัดกับพวกท่านจะค่อยๆ คลายลง --- สรุป การหลุดพ้นจากแรงกรรมในครอบครัว ไม่ได้หมายความว่าต้องเปลี่ยนแปลงพ่อแม่โดยทันที แต่คือการเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยการรู้คุณ และตอบแทนคุณอย่างเต็มที่ การให้อภัยและการพยายามนำพาท่านสู่สิ่งที่ดี คือหนทางที่ช่วยให้เราหลุดพ้นจากบ่วงกรรมได้ทั้งในชาตินี้และภายภาคหน้า.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 340 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญหวังผล จัดเป็นทานบารมีไหม?

    การทำบุญหวังผลนั้นสามารถจัดเป็น ทานบารมี ได้ แต่มีความแตกต่างใน ระดับของบารมี และ ความละเอียดของจิต ที่แฝงอยู่ในขณะทำทาน ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ดังนี้:


    ---

    1. ทำบุญหวังผลในเชิงสัมมาทิฏฐิ

    ใจเลื่อมใสว่าทานมีผล: เชื่อว่าการทำความดี การให้ทานจะนำมาซึ่งผลดีในอนาคต เช่น ความสุข ความเจริญ หรือการเกิดในภพภูมิที่ดี

    จิตประกอบด้วยศรัทธาและเจตนาในทางกุศล: แม้มีความหวังผล แต่ยังคงเป็นความหวังในลักษณะสัมมาทิฏฐิ (ความเห็นชอบ)

    นับเป็นทานบารมีระดับต้นถึงกลาง: บุญที่เกิดขึ้นจะช่วยสร้างบารมีในระดับที่นำพาไปสู่ความดี ความสุข และความเจริญทางจิตใจและชีวิต แต่ยังไม่ถึงความละเอียดสูงสุด



    ---

    2. ทำบุญหวังผลแบบเจาะจง (จิตคับแคบ)

    ทำบุญโดยมุ่งเน้นผลตอบแทนเฉพาะเจาะจง เช่น "ฉันทำบุญนี้เพื่อให้ได้ลาภสักการะ หรือเพื่อได้สวรรค์ชั้นนั้น ชั้นนี้"

    จิตประกอบด้วยความละโมบแบบนักลงทุน: ขาดความประณีตและความเปิดกว้างในการให้ อานิสงส์ที่ได้รับจึงถูกจำกัดอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า เช่น สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ซึ่งยังคงอยู่ในขอบเขตของความเป็นปุถุชน



    ---

    3. ทำบุญโดยไม่หวังผลตอบแทน

    จิตบริสุทธิ์ เบิกบาน ไม่เลือกหน้า: ให้ด้วยความเมตตา ปรารถนาเพียงความสุขของผู้รับ โดยไม่หวังผลตอบแทน

    เกิดปีติสุขจากการทำทันที: ไม่ต้องรอผลในอนาคต เพราะจิตได้สัมผัสถึงความสุขจากการให้ตั้งแต่ขณะนั้น

    นับเป็นทานบารมีระดับสูง: อานิสงส์ของทานเช่นนี้จะส่งผลให้เกิดความสุข ความผ่องใส ทั้งในชาตินี้และชาติต่อไป และอาจนำไปสู่การเข้าถึงความละเอียดของจิตที่สูงขึ้น เช่น สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หรือสูงกว่านั้น



    ---

    สรุป: ทำบุญหวังผลเป็นทานบารมีหรือไม่?

    หากหวังผลในเชิงสัมมาทิฏฐิและไม่ละโมบจนเกินไป การทำบุญหวังผลยังคงเป็น ทานบารมี แต่ผลที่ได้รับจะคับแคบตามความคาดหวังนั้น

    หากไม่หวังผลตอบแทน จิตใจเปิดกว้าง เบิกบาน การทำบุญนั้นจะเป็น ทานบารมีระดับสูงสุด ที่ก่อให้เกิดอานิสงส์ยิ่งใหญ่ทั้งในปัจจุบันและอนาคต.


    ทำบุญหวังผล จัดเป็นทานบารมีไหม? การทำบุญหวังผลนั้นสามารถจัดเป็น ทานบารมี ได้ แต่มีความแตกต่างใน ระดับของบารมี และ ความละเอียดของจิต ที่แฝงอยู่ในขณะทำทาน ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ดังนี้: --- 1. ทำบุญหวังผลในเชิงสัมมาทิฏฐิ ใจเลื่อมใสว่าทานมีผล: เชื่อว่าการทำความดี การให้ทานจะนำมาซึ่งผลดีในอนาคต เช่น ความสุข ความเจริญ หรือการเกิดในภพภูมิที่ดี จิตประกอบด้วยศรัทธาและเจตนาในทางกุศล: แม้มีความหวังผล แต่ยังคงเป็นความหวังในลักษณะสัมมาทิฏฐิ (ความเห็นชอบ) นับเป็นทานบารมีระดับต้นถึงกลาง: บุญที่เกิดขึ้นจะช่วยสร้างบารมีในระดับที่นำพาไปสู่ความดี ความสุข และความเจริญทางจิตใจและชีวิต แต่ยังไม่ถึงความละเอียดสูงสุด --- 2. ทำบุญหวังผลแบบเจาะจง (จิตคับแคบ) ทำบุญโดยมุ่งเน้นผลตอบแทนเฉพาะเจาะจง เช่น "ฉันทำบุญนี้เพื่อให้ได้ลาภสักการะ หรือเพื่อได้สวรรค์ชั้นนั้น ชั้นนี้" จิตประกอบด้วยความละโมบแบบนักลงทุน: ขาดความประณีตและความเปิดกว้างในการให้ อานิสงส์ที่ได้รับจึงถูกจำกัดอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า เช่น สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ซึ่งยังคงอยู่ในขอบเขตของความเป็นปุถุชน --- 3. ทำบุญโดยไม่หวังผลตอบแทน จิตบริสุทธิ์ เบิกบาน ไม่เลือกหน้า: ให้ด้วยความเมตตา ปรารถนาเพียงความสุขของผู้รับ โดยไม่หวังผลตอบแทน เกิดปีติสุขจากการทำทันที: ไม่ต้องรอผลในอนาคต เพราะจิตได้สัมผัสถึงความสุขจากการให้ตั้งแต่ขณะนั้น นับเป็นทานบารมีระดับสูง: อานิสงส์ของทานเช่นนี้จะส่งผลให้เกิดความสุข ความผ่องใส ทั้งในชาตินี้และชาติต่อไป และอาจนำไปสู่การเข้าถึงความละเอียดของจิตที่สูงขึ้น เช่น สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หรือสูงกว่านั้น --- สรุป: ทำบุญหวังผลเป็นทานบารมีหรือไม่? หากหวังผลในเชิงสัมมาทิฏฐิและไม่ละโมบจนเกินไป การทำบุญหวังผลยังคงเป็น ทานบารมี แต่ผลที่ได้รับจะคับแคบตามความคาดหวังนั้น หากไม่หวังผลตอบแทน จิตใจเปิดกว้าง เบิกบาน การทำบุญนั้นจะเป็น ทานบารมีระดับสูงสุด ที่ก่อให้เกิดอานิสงส์ยิ่งใหญ่ทั้งในปัจจุบันและอนาคต.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 378 มุมมอง 0 รีวิว
  • 7/1/68

    "...ผู้มีวาสนาต่อกันเท่านั้น จึงจะผูกพันต่อกัน..."

    คุณเชื่อเรื่องวาสนาต่อกันไหม
    ทำไมคนบางคนจึงได้เป็นกัลยาณมิตร
    ต่อกัน ชี้ชวนแนะนำกันไปทำความดี
    ชวนได้โดยง่ายดาย..

    แต่กับอีกหลายคนชวนเท่าไรก็ไม่ไป
    สอนกล่าวตักเตือนก็ไม่ฟัง
    ดีกับเขาเขาก็ไม่มีวันดีตอบ
    กลับคิดว่าเราประสงค์ร้าย
    ไม่เห็นความหวังดีของเรา

    ไม่ต้องกังวลเดือดร้อนใจไป
    ทุกคนมีบุพกรรมของตนเอง ต้องเคยมีปัจจัยผูก
    ฝ่ายกุศลต่อกัน ก็จะเป็นกัลยาณมิตรกัน
    พระพุทธเจ้าก็มีสิ่งที่แม้พระองค์ก็ทำไม่ได้
    สามอย่างที่บันทึกไว้ในมหายาน

    สามประการที่ว่าคือ..

    1. ไม่สามารถโปรดสัตว์ที่ไม่มีวาสนาต่อพระองค์
    2. ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงกรรมของสัตว์
    3. ไม่สามารถโปรดสัตว์ให้สิ้นได้
    .
    วันหนึ่งพระศากยมุนีพุทธเจ้า กำลังแสดงธรรมอยู่
    แล้วทันใดนั้นพระพุทธองค์กล่าวแก่พระอานนท์ว่า
    “อานนท์เธอเอาถังน้ำใบหนึ่ง ไปเบื้องหน้า
    ตามทางจะมีหมู่บ้านแห่งหนึ่ง
    มีหญิงชรานางหนึ่งกำลังซักเสื้อผ้าอยู่
    ขอน้ำนางกลับมาถังหนึ่ง แต่จำไว้ ..
    ต้องแสดงกิริยาสุภาพกับนางด้วย”

    พระอานนท์รับคำ แล้วก็นำถังน้ำเปล่า
    เดินไปทางที่พระพุทธองค์ทรงบอก คิดในใจว่า
    เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ไม่ยากเย็นอะไร
    ก็ไปถึงหมู่บ้านแห่งนั้น เห็นสตรีชราผมขาวนางหนึ่ง
    กำลังซักผ้าอยู่จริงๆ พระอานนท์จึงกล่าวปิยวาจา
    ขอน้ำจากหญิงชรานั้นอย่างสุภาพ
    “แม่เฒ่า แม่เฒ่า ข้าอยากจะขอน้ำสักถังจะได้ไหม”

    หญิงชรานั้น เมื่อได้เห็นพระอานนท์
    เหมือนไม่รู้ไปโกรธใครมา “ไม่ได้หรอก น้ำในบ่อนี้
    ใช้ได้แต่คนที่ในหมู่บ้านนี้เท่านั้น คนอื่นห้ามตักเชียวนะ ไม่ให้ๆ” แถมยังไล่พระอานนท์อีกเสียอย่างนั้น

    พระอานนท์จะอ้อนวอนขอนางอย่างไรก็ไม่เป็นผล
    พระอานนท์สิ้นหนทาง ก็เดินถือถังเปล่ากลับไป
    เข้าเฝ้าพระพุทธองค์ แล้วแจ้งความตามที่เกิด

    พระพุทธองค์ทรงพยักหน้ารับ
    แล้วบอกให้พระอานนท์นั่งลง
    แล้วขอให้พระสารีบุตรไปทำแทน

    พระสารีบุตรก็กล่าวเช่นเดียวกัน
    “แม่เฒ่า แม่เฒ่า ข้าอยากจะขอน้ำสักถังจะได้ไหม”
    ก็น่าแปลกใจ สตรีชรานางนั้นเมื่อได้เห็นพระสารีบุตร ก็ทำหน้าเหมือนได้พบกับญาติที่ไม่ได้เจอกันเนิ่นนาน ไม่โกรธ ไม่โวยวาย แถมยังกล่าวตอบด้วยดีๆ

    “ได้ๆๆ เอาเลย ตามสบายเลยพระคุณเจ้า
    มาๆ ข้าช่วยท่านตักน้ำดีกว่า”
    ก่อนที่พระสารีบุตรจะกลับ นางก็กุลีกุจอกลับบ้าน
    รีบกลับไปเอาสิ่งของมาถวายพระสารีบุตรให้พระสารีบุตร นำกลับไปอีก เมื่อพระสารีบุตรรับน้ำมาถวายพระพุทธเจ้าแล้ว ก็บอกให้พระสารีบุตรนั่งลง

    พระอานนท์สงสัยเป็นกำลัง จึงได้ทูลถามพระพุทธเจ้า
    “ด้วยเหตุอะไร จึงเป็นเช่นนี้พระพุทธเจ้าข้า”

    "ที่นางปฏิบัติกับเจ้าทั้งสองแตกต่างกันเช่นนี้
    เพราะในชาติอันล่วงมาแล้ว สตรีชรานางนี้
    มีสภาพเป็นเดรัจฉาน เกิดเป็นหนูตัวหนึ่ง
    แล้วนางก็ตายอยู่บนถนน
    พระอานนท์ในชาตินั้นเป็นพ่อค้าผ่านทางมา
    เมื่อได้เห็นซากของหนูตัวนั้นตายอยู่
    ในใจของพระอานนท์ก็เกิดความรู้สึกสะอิดสะเอียน
    เดินเอามือปิดจมูกแล้วจากไป

    แต่ตรงกันข้ามกับพระสารีบุตร
    เมื่อพระสารีบุตรได้เห็นซากหนูตัวนั้น
    ก็ให้บังเกิดจิตเวทนาสงสาร ซ้ำยังเอาซากหนูตัวนั้น
    ไปฝังกลบอย่างดี เมื่อชาตินี้พวกเจ้าได้พบกันอีกครั้ง
    สิ่งที่นางปฏิบัติต่อเจ้าทั้งสองจึงมีความแตกต่างกันเช่นนี้"

    จิตเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เราต้องรอบคอบ
    ไม่ก้าวล่วงผู้อื่นแม้ความคิด

    จากมหาปรัชญาปารมิโตปเทศน์ มีบันทึกไว้ว่า ..
    พระพุทธเจ้าพร้อมพระอานนท์ เดินบิณฑบาต
    ในเมืองไวศาลี พระอานนท์มองเห็นสตรีนางหนึ่ง
    ยากจนข้นแค้นเป็นที่น่าสงสาร
    พระอานนท์ทูลขอให้พระพุทธองค์ไปโปรดนาง
    พระพุทธองค์ตรัสว่า “เรากับนางไม่มีเหตุปัจจัยผูกต่อกัน ดังนั้นนางก็จะไม่ศรัทธาในเรา เราก็ไม่สามารถที่จะโปรดนางได้”

    พระอานนท์รบเร้าอยู่ถึงสามครั้ง
    พระพุทธเจ้าจึงดำเนินไปหานาง เมื่อยืนต่อหน้านาง
    สตรีนางนั้นก็กลับหันหลัง ไม่สนใจพระพุทธเจ้า
    ไม่ว่าพระองค์จะเดินไปต่อหน้านางกี่ครั้ง
    นางก็จะหันหลังให้กับพระองค์ทุกครั้ง

    แม้พระพุทธองค์จะใช้ฤทธิ์ให้พระกาย
    ปรากฏขึ้นทั้งสี่ทิศพร้อมกัน สตรีนางนั้นก็ปิดตาเสีย
    ไม่มอง ไม่สนใจพระองค์

    พระอานนท์จังได้ประจักษ์แก่คำพูดของพระพุทธเจ้าที่ว่า ...
    “หากไร้วาสนา ไร้ปัจจัยผูกพันต่อกัน ไม่สามารถโปรดกันได้”

    แม้กับพระพุทธเจ้าเองก็ไม่มียกเว้น...

    Posted by Onnie 🦋
    7/1/68 "...ผู้มีวาสนาต่อกันเท่านั้น จึงจะผูกพันต่อกัน..." คุณเชื่อเรื่องวาสนาต่อกันไหม ทำไมคนบางคนจึงได้เป็นกัลยาณมิตร ต่อกัน ชี้ชวนแนะนำกันไปทำความดี ชวนได้โดยง่ายดาย.. แต่กับอีกหลายคนชวนเท่าไรก็ไม่ไป สอนกล่าวตักเตือนก็ไม่ฟัง ดีกับเขาเขาก็ไม่มีวันดีตอบ กลับคิดว่าเราประสงค์ร้าย ไม่เห็นความหวังดีของเรา ไม่ต้องกังวลเดือดร้อนใจไป ทุกคนมีบุพกรรมของตนเอง ต้องเคยมีปัจจัยผูก ฝ่ายกุศลต่อกัน ก็จะเป็นกัลยาณมิตรกัน พระพุทธเจ้าก็มีสิ่งที่แม้พระองค์ก็ทำไม่ได้ สามอย่างที่บันทึกไว้ในมหายาน สามประการที่ว่าคือ.. 1. ไม่สามารถโปรดสัตว์ที่ไม่มีวาสนาต่อพระองค์ 2. ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงกรรมของสัตว์ 3. ไม่สามารถโปรดสัตว์ให้สิ้นได้ . วันหนึ่งพระศากยมุนีพุทธเจ้า กำลังแสดงธรรมอยู่ แล้วทันใดนั้นพระพุทธองค์กล่าวแก่พระอานนท์ว่า “อานนท์เธอเอาถังน้ำใบหนึ่ง ไปเบื้องหน้า ตามทางจะมีหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีหญิงชรานางหนึ่งกำลังซักเสื้อผ้าอยู่ ขอน้ำนางกลับมาถังหนึ่ง แต่จำไว้ .. ต้องแสดงกิริยาสุภาพกับนางด้วย” พระอานนท์รับคำ แล้วก็นำถังน้ำเปล่า เดินไปทางที่พระพุทธองค์ทรงบอก คิดในใจว่า เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ไม่ยากเย็นอะไร ก็ไปถึงหมู่บ้านแห่งนั้น เห็นสตรีชราผมขาวนางหนึ่ง กำลังซักผ้าอยู่จริงๆ พระอานนท์จึงกล่าวปิยวาจา ขอน้ำจากหญิงชรานั้นอย่างสุภาพ “แม่เฒ่า แม่เฒ่า ข้าอยากจะขอน้ำสักถังจะได้ไหม” หญิงชรานั้น เมื่อได้เห็นพระอานนท์ เหมือนไม่รู้ไปโกรธใครมา “ไม่ได้หรอก น้ำในบ่อนี้ ใช้ได้แต่คนที่ในหมู่บ้านนี้เท่านั้น คนอื่นห้ามตักเชียวนะ ไม่ให้ๆ” แถมยังไล่พระอานนท์อีกเสียอย่างนั้น พระอานนท์จะอ้อนวอนขอนางอย่างไรก็ไม่เป็นผล พระอานนท์สิ้นหนทาง ก็เดินถือถังเปล่ากลับไป เข้าเฝ้าพระพุทธองค์ แล้วแจ้งความตามที่เกิด พระพุทธองค์ทรงพยักหน้ารับ แล้วบอกให้พระอานนท์นั่งลง แล้วขอให้พระสารีบุตรไปทำแทน พระสารีบุตรก็กล่าวเช่นเดียวกัน “แม่เฒ่า แม่เฒ่า ข้าอยากจะขอน้ำสักถังจะได้ไหม” ก็น่าแปลกใจ สตรีชรานางนั้นเมื่อได้เห็นพระสารีบุตร ก็ทำหน้าเหมือนได้พบกับญาติที่ไม่ได้เจอกันเนิ่นนาน ไม่โกรธ ไม่โวยวาย แถมยังกล่าวตอบด้วยดีๆ “ได้ๆๆ เอาเลย ตามสบายเลยพระคุณเจ้า มาๆ ข้าช่วยท่านตักน้ำดีกว่า” ก่อนที่พระสารีบุตรจะกลับ นางก็กุลีกุจอกลับบ้าน รีบกลับไปเอาสิ่งของมาถวายพระสารีบุตรให้พระสารีบุตร นำกลับไปอีก เมื่อพระสารีบุตรรับน้ำมาถวายพระพุทธเจ้าแล้ว ก็บอกให้พระสารีบุตรนั่งลง พระอานนท์สงสัยเป็นกำลัง จึงได้ทูลถามพระพุทธเจ้า “ด้วยเหตุอะไร จึงเป็นเช่นนี้พระพุทธเจ้าข้า” "ที่นางปฏิบัติกับเจ้าทั้งสองแตกต่างกันเช่นนี้ เพราะในชาติอันล่วงมาแล้ว สตรีชรานางนี้ มีสภาพเป็นเดรัจฉาน เกิดเป็นหนูตัวหนึ่ง แล้วนางก็ตายอยู่บนถนน พระอานนท์ในชาตินั้นเป็นพ่อค้าผ่านทางมา เมื่อได้เห็นซากของหนูตัวนั้นตายอยู่ ในใจของพระอานนท์ก็เกิดความรู้สึกสะอิดสะเอียน เดินเอามือปิดจมูกแล้วจากไป แต่ตรงกันข้ามกับพระสารีบุตร เมื่อพระสารีบุตรได้เห็นซากหนูตัวนั้น ก็ให้บังเกิดจิตเวทนาสงสาร ซ้ำยังเอาซากหนูตัวนั้น ไปฝังกลบอย่างดี เมื่อชาตินี้พวกเจ้าได้พบกันอีกครั้ง สิ่งที่นางปฏิบัติต่อเจ้าทั้งสองจึงมีความแตกต่างกันเช่นนี้" จิตเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เราต้องรอบคอบ ไม่ก้าวล่วงผู้อื่นแม้ความคิด จากมหาปรัชญาปารมิโตปเทศน์ มีบันทึกไว้ว่า .. พระพุทธเจ้าพร้อมพระอานนท์ เดินบิณฑบาต ในเมืองไวศาลี พระอานนท์มองเห็นสตรีนางหนึ่ง ยากจนข้นแค้นเป็นที่น่าสงสาร พระอานนท์ทูลขอให้พระพุทธองค์ไปโปรดนาง พระพุทธองค์ตรัสว่า “เรากับนางไม่มีเหตุปัจจัยผูกต่อกัน ดังนั้นนางก็จะไม่ศรัทธาในเรา เราก็ไม่สามารถที่จะโปรดนางได้” พระอานนท์รบเร้าอยู่ถึงสามครั้ง พระพุทธเจ้าจึงดำเนินไปหานาง เมื่อยืนต่อหน้านาง สตรีนางนั้นก็กลับหันหลัง ไม่สนใจพระพุทธเจ้า ไม่ว่าพระองค์จะเดินไปต่อหน้านางกี่ครั้ง นางก็จะหันหลังให้กับพระองค์ทุกครั้ง แม้พระพุทธองค์จะใช้ฤทธิ์ให้พระกาย ปรากฏขึ้นทั้งสี่ทิศพร้อมกัน สตรีนางนั้นก็ปิดตาเสีย ไม่มอง ไม่สนใจพระองค์ พระอานนท์จังได้ประจักษ์แก่คำพูดของพระพุทธเจ้าที่ว่า ... “หากไร้วาสนา ไร้ปัจจัยผูกพันต่อกัน ไม่สามารถโปรดกันได้” แม้กับพระพุทธเจ้าเองก็ไม่มียกเว้น... Posted by Onnie 🦋
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 363 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวแบงค์ เลสเตอร์ ดูแล้วหดหู่มากนะ
    แต่ยกย่องจิตใจแบงค์ แข็งแกร่งมาก

    เราในฐานะที่เคยถูกคนใกล้ชิดดูถูกเหยีดหยาม
    ถูกกระทำเยี่ยงทาสหรือไม่ใช่คนมีหัวนอนปลายเท้า
    เหยียดว่าเราเป็นกะหรี่ ดูถูกครอบครัวเราสารพัด
    บังคับให้เราอยู่บ้านเขาในฐานะคนใช้
    ชนชั้นที่เราเป็นอยู่คือต่ำกว่าหมาแมวที่เขาเลี้ยง
    ล่วงละเมิดทางเพศ และบังคับให้มี พสพ แบบวิตรถาร
    ใช้งานเราสารพัดโดยไม่ให้ค่าจ้าง
    โยนเศษเงินลงพื้นให้เราเก็บ
    ข่มขู่คุกคามทำร้ายร่างกายเรา
    ทำแม้กระทั่งจ้างนักสืบ ตามสืบเรา

    จนเรารู้สึกว่ามันทำมากเกินไปแล้ว
    จึงได้ตอบโต้กลับไปอย่างคนมีการศึกษาที่ดี
    คือใช้กฎหมายโดยการแจ้งความ
    และบอกทางโน้นไป ถ้ายังไม่หยุด
    ได้เจอกันในชั้นศาลแน่ ... มันก็เลยเงียบไป

    และกฎแห่งกรรมก็ไม่ทำให้ผิดหวัง
    พวกมันก็กำลังเผชิญกับความทุกข์ทรมารทางกาย
    ที่เคยทำกับเราอยู่ทุกวันนี้
    เวลาผ่านไป เราให้อภัยนะ แต่ก็สมน้ำหน้า
    ชดใช้กรรมให้หมดในชาตินี้นะคะ อย่าเพิ่งตายไว




    ข่าวแบงค์ เลสเตอร์ ดูแล้วหดหู่มากนะ แต่ยกย่องจิตใจแบงค์ แข็งแกร่งมาก เราในฐานะที่เคยถูกคนใกล้ชิดดูถูกเหยีดหยาม ถูกกระทำเยี่ยงทาสหรือไม่ใช่คนมีหัวนอนปลายเท้า เหยียดว่าเราเป็นกะหรี่ ดูถูกครอบครัวเราสารพัด บังคับให้เราอยู่บ้านเขาในฐานะคนใช้ ชนชั้นที่เราเป็นอยู่คือต่ำกว่าหมาแมวที่เขาเลี้ยง ล่วงละเมิดทางเพศ และบังคับให้มี พสพ แบบวิตรถาร ใช้งานเราสารพัดโดยไม่ให้ค่าจ้าง โยนเศษเงินลงพื้นให้เราเก็บ ข่มขู่คุกคามทำร้ายร่างกายเรา ทำแม้กระทั่งจ้างนักสืบ ตามสืบเรา จนเรารู้สึกว่ามันทำมากเกินไปแล้ว จึงได้ตอบโต้กลับไปอย่างคนมีการศึกษาที่ดี คือใช้กฎหมายโดยการแจ้งความ และบอกทางโน้นไป ถ้ายังไม่หยุด ได้เจอกันในชั้นศาลแน่ ... มันก็เลยเงียบไป และกฎแห่งกรรมก็ไม่ทำให้ผิดหวัง พวกมันก็กำลังเผชิญกับความทุกข์ทรมารทางกาย ที่เคยทำกับเราอยู่ทุกวันนี้ เวลาผ่านไป เราให้อภัยนะ แต่ก็สมน้ำหน้า ชดใช้กรรมให้หมดในชาตินี้นะคะ อย่าเพิ่งตายไว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 301 มุมมอง 0 รีวิว
  • 26-12-67/01 : หมี CNN / สัพเพเหระ เม้าท์มอย สังขยา ปลาปิ้ง EP.54 THE TRUTH NEVER DIE! ไอ้สัส! เป็นไงล่ะ? แสงโหดเกิน ความจริงผุดโผล่ทุกหย่อมหญ้า กูพูดแล้วชิมิ? ไม่ต้องไปสนใจดอก รื้อไม่รื้อคดี? เพราะความจริงปรากฎออกมาตบหน้าไอ้อีกรมกากีทั้งคอก ตบหน้าแพทย์สัดกะหมา 6 ตัว ตบหน้าศาลเจ้านนท์(รับงานเหี้ยมา) ตายห่ายกเข่ง? นิติเวชอีกากีเหี้ยเสียหมา ไม่มีในรายงาน? อะไรน่ะ มีโปรดเกล้าปลดยศข้าราชการชั่วระเนระนาด ทำไมวังจะไม่รู้ องคมนตรีไม่ได้ตาบอด ไอ้สัส! อัยกวยสูงสุดมันไม่รื้อดอก เหี้ยมันสั่งมา รื้อเมื่อไหร่มรึงโดนกันหมดยกเข่ง! ตายกันทั้งกระบวนการยุติธรรมต้นน้ำ มรึงคิดว่าภาคประชาชนโง่รึไง? เค้าจะฟ้องใหม่จ๊ะ หลักฐานมาเป็นกองทัพ "ฆาตกรรม" ฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐทั้งคอกเหี้ย ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ฟ้องไอ้อีบนเรือซ้ำอีก ให้การเท็จ เปลี่ยนแปลงรูปคดี ทั้งๆ ที่รู้ก่อนล่วงหน้าแล้วว่า "อีโมเพื่อนรักที่มรึงหักหลังเค้า ตายห่าไปแล้ว" วิญญานผีอีโม แรงอาฆาต มันถึงขั้นซูปเปอร์ไซย่าแล้วน่ะมรึง? สะกดวิญญานเหรอ? กระจอกไปแล้ว เอาไม่อยู่ ไอ้คนสะกดเนี่ย มรึงจะโดนตัวแรกก่อนใครเพื่อน? ผีอีโม ฝากมาบอก "กูจัดหนักแน่" รออะไรอยู่ล่ะ? ส่งพลังให้เธอสิ สวดมนต์ แผ่เมตตา ยิ่งมากเท่าไหร่ กรรมยิ่งเข้าไอ้อีคนทำคุณไสยทันที

    มาทรงนี้ เดาไม่ยากเลย! เมื่อกระจอกกว่า อ่อนหัดกว่าเค้า สู้ไม่ได้ เหี้ยก็หันเข็มทิศไปแดร๊กขี้ข้าเหี้ยกันเอง เปิดศึกยูเครนก็แพ้ยับ เปิดศึกเยรูซาเล็มก็เสียหมา จะเปิดแปซิฟิคก็เสียเวลา เพราะเพ่จีนยกกองเรือมาเป็นล้าน สุดท้าย หาแดร๊กกับขี้ข้า เหี้ยก็กินเหี้ยกันเอง ตามสันดานวังวนเหี้ยจ๊ะ จะปานามา จะกรีนแลนด์ ทั้งหมด ก็แค่หาบ้านใหม่ให้อียิว เพราะมันย้ายแน่ เยรูซาเล็มแตกไปนานแล้ว 20 ล้านตัวจะไปอยู่ไหน ลำบากเหี้ยขี้ข้ามะกันต้องหาบ้านเพิ่มให้อียิวมันอยู่ แต่ขอโทษน่ะ ลาตินไม่ใช่ของมรึงอีกต่อไป ขั้วใหม่ เค้าอ่านเกมส์ขาดทะลุ ถึงได้ไปตั้งฐานทัพใหญ่ และย่อย กระจายไปทั่ว โดยเฉพาะตามหมู่เกาะแคริบเบี้ยน รัสเซียซุกไว้เยอะ ดอกนี้ จะยิ่งทำให้ทั้งโลกแห่เข้า BRICS กันมากยิ่งขึ้น เพราะนอกจากได้การค้าทั้งโลกแล้ว ยังได้กองทัพอันดับ 1 โลก อย่าง SCO ช่วยคุ้มครองให้สบายตรีน 100 เหี้ยก็สู้ไม่ได้ อีโคนมก็ใช่ย่อย อดีตเคยดัดหลังเพื่อนสแกนดิเนเวียเอาตัวรอด มาวันนี้ ถูกชี้เป้าซะเอง จำเอาไว้ว่า ที่ไหนมีทรัพยากรหอมหวน อียิวไปหามรึงแน่ ยิ่งย้ายบ้าน ยิ่งต้องการความมั่นคง ปลอดภัย กรีนแลนด์มันจะมีใครไปเยี่ยมมรึงบ่อยกันล่ะ? เหมาะแก่การตั้งฐานลับ ห้องปฎิบัติการอาวุธชีวภาพ เรื่องเหี้ยๆ ทำได้สบายตรีน อีทรัมปป์เล่นตามน้ำ เพราะเป้าหมายคือ "ทรัมปป์แลนด์" แตกอเมริกา แผ่นดิน 7 ส่วนของกู แล้วกูจะหาแผ่นดินใหม่ให้มรึง เข้าใจยัง?

    ไอ้โง่! มรึงคิดจริงรึว่า ไอ้อีหน้าไหน จะมานั่งประธานบอร์ดธปท.ได้ง่ายๆ ต้องคนของวังเท่านั้น เรื่องคลัง คือเรื่องแผ่นดิน มรึงคิดว่าวังจะปล่อยให้ไอ้อีหมาล่าเนื้อที่อ้างสิทธิ์จากปชต.ตอแหล ซื้อเสียงเข้ามาฮุบเงินแผ่นดินกินฟรี ไม่งั้นอโยธยาสิ้นชาติ แตกซ้ำสองไปนานแล้ว ไอ้ควาย! หลายคนไม่รู้ บางอย่างถูกสงวนไว้ให้เฉพาะวัง เรื่องคลัง กองทัพ แผ่นดิน ไอ้อีหน้าไหนก็แตะต้องไม่ได้ กฎหมายเอามาจากรัฐธรรมนูญ แล้วรัฐธรรมนูญมาจากไหนกัน อำนาจของรัฐธรรมนูญไม่ใช่มาจากการไปปล้นอำนาจพระเจ้าแผ่นดินมาเหรอ? ตั้งแต่อดีตกาล พระเจ้าแผ่นดินคือผู้มีอำนาจสูงสุด คือกฎหมายแผ่นดินนั่นเอง ไอ้ที่เอารัฐธรรมนูญมาอ้าง ก็แค่แผนยึดอำนาจพ่อ ปชต.ตอแหล 4 วินาที ซื้อหมา ซื้อควาย ได้หมด อำนาจของพ่อมีไว้ปกครองลูก แต่อำนาจของเหี้ยโลกปชต. มีไว้ปกครองทาส ไงล่ะ? ถึงต้อง "ถวายพระราชอำนาจคืน" เพราะไม่มีใครปกครองด้วยใจ ไม่โกง ไม่กิน ไม่เอาเปรียบชาวบ้าน เหมือนพ่ออีกแล้ว เพราะทั้งหมดมันเป็นของพ่อมาตั้งแต่ต้นแล้ว ลูกเหี้ยบางตัวไปรับงานอียิวเหี้ยมาเพื่อปล้นอำนาจพ่อ "ไทยบาท" มรึงจำคำพูดกูไว้ให้ดีดี คือสกุลเงินที่มีการใช้มากที่สุดในอาเซียน และต่อไป จะใช้กันแพร่หลายทั่วโลก คลังคือของวัง และของแผ่นดิน บุญไม่มี บารมีไม่ถึง อย่าริเสนอหน้า ก็แค่หมาขี้เรื้อน ที่อยากจะขึ้นไปนอนบนเรือน

    หลายคนกังวลขอบเขตของเหี้ยไก่งวง "ออตโตมาน MY LOVE" กูจะบอกความจริงให้ ไม่มีอะไรที่ขั้วใหม่เดินหน้าแล้วไม่รัดกุม และไม่มีอะไรที่ทำไปแล้ว รัสเซีย จีน ควบคุมไม่ได้ มรึงรู้มั้ยว่า ก่อนหน้านี้ เครมลินหัวกระไดบ้านไม่แห้ง ทั้งอิหร่าน ซีเรีย ตุรกี โสมแดง แม้แต่ฮามาส ยังไปเยือน ทั้งหมดคือภาพวันนี้ไงล่ะ? อะไรที่ไก่งวงมีอยู่ตอนนี้ คือรัสเซียให้ ให้เพื่อไปทำหน้าที่ให้บรรลุเป้าหมาย เพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน มรึงอย่ามองข้าม "อิหร่าน" กูเคยบอกไปแล้วว่า ในตะวันออกกลาง กองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดไม่ใช่ ตุรกี ของนาโต้ ชาติเดียวที่ฆ่าอียิวตายห่าได้จริงนั่นคือ "อิหร่าน" มรึงรู้มั้ยว่า แนวร่วมอิหร่าน คือ "มุสลิมทั้งโลก" แอร์โดกันจะเหี้ยแค่ไหน ตุรกีจะยิ่งใหญ่เพียงใด ก็แค่ขี้ตรีนปูติน นี่คือเรื่องจริง ตุรกีรอดมาจากเงินลีร่าอ่อนค่าได้เพราะรัสเซียอุ้ม ตุรกีไม่ถูกกลืนเพราะรัสเซียคอยช่วย จัดการตุรกีง่ายนิดเดียว แค่ทุบกระปุกมัน มันก็เจ๊งแล้ว ยุทธศาสตร์ช่องแคบบอสฟอรัส และทะเลดำ จำเป็นที่รัสเซียต้องช่วยอุ้มตุรกี แผนยึดซีเรียภายนอกคือเปลือก ทุกอย่างสั่งการจากเครมลินทั้งนั้น โดยมีอิหร่าน จีน คอยหนุนหลังอยู่ กล่าวคือ เคยบอกไปแล้วว่า ตราบใดที่กองทัพรัสเซียยังอยู่ในซีเรีย อำนาจทางทหารคือรัสเซีย ไม่ใช่ไก่งวง ปูตินสู้กับชาตินาโต้ 40 ชาติหมา ยังกระทืบตายคาตรีน แค่ไก่งวงชาติเดียวมันใช่คู่ต่อกรรึ? สรุปคือซีเรียจะกลายร่างเป็นแผ่นดินอาหรับ แบ่งเค็ก แบ่งผลประโยชน์ และร่วมกันดูแล โดยเอาผู้นำซีเรียเป็นหน้าฉาก อัสซาดไม่ต้องเหนื่อยอีกแล้ว ซีเรียยุคใหม่ คืออิหร่าน รัสเซีย จีน ตุรกี นี่คือแผน ดีกว่าปล่อยให้ซีเรียเป็นเงื่อนไขที่อียิวลากยาวไม่รู้จบ ถึงต้องจัดฉากล้างบางเหี้ยทั้งแผ่นดินให้หมดไปก่อนไงล่ะ หลังเคลียร์เสร็จ ใครได้อะไร ค่อยมาว่ากัน? แผนชงซีเรียเข้า BRICS เพราะอยู่ในแผนเส้นทางสายไหม ต่อไปซีเรียก็ไม่จำเป็นต้องมีกองกำลังตัวเองให้ยุ่งยากอีกต่อไป ขาใหญ่ดูแลให้

    ปล.สิ้นปี ปีใหม่ จะมีอะไรเหยอ? เหี้ยมันจ้อง เหี้ยมันดิ้น มันไม่ปล่อยชาวโลกให้มีความสุขยืนยาวดอกน่ะ? แผนชั่วมาเต็ม แผนเหี้ยมาพร้อม ไม่ฆ่ากันให้หมดโลก อียิวนอนตายตาไม่หลับ? ช่วยสงเคราะห์กูที ละครปาหี่คั่นรายการจะเกิดขึ้นไม่รู้จบ ก่อนอีทรัมปป์จะเข้ารับสาบานตน ปี 68 คือ "เผาจริง" สรุปคือ 1.เผาเศรษฐกิจโลก 2.เผาระบบการเงินขั้วเก่า 3.เผาองค์กรสากลโลกที่ไม่มีอยู่จริง 4.เผากฎหมายโลกทั้งหมดที่มี วัดรอยตรีน กฎหมามาเต็ม 5.เผาปชต.ตอแหลราบคาบ เผยร่างจริงเผด็จการ อาชญากรโลกสุดโต่ง แต่ละทวีปจะมีวิธีรับมือที่แตกต่างกัน แค่เหี้ยตายตัวเดียว โสมรวมชาติได้สบาย จีนได้ไต้หวันคืน ปาเลสไตน์ได้แผ่นดินคานาอันคืน โจทย์ไม่ยาก แค่เหี้ยตาย โลกเปลี่ยนทันที แล้วก็ถึงเวลาของเหี้ยแล้ว ปีหน้า จีนจะเริ่มมีบทบาททางการทหารมากขึ้น โสมแดงจะเริ่มรุกคืบมากยิ่งขึ้น ยุโรปจะเริ่มกัดกันเอง จนนำไปสู่การแตก EU และ NATO นักวิทยาศาสตร์จะย้ายบ้านกันทั้งโลก ไม่ถูกฆ่า ก็ถูกอุ้ม เหี้ยจนตรอก มันจะทำอะไรได้ หากไม่เผาโลกตอนที่มันยังอยู่ นุ๊กต้องมา สูญเสียต้องมี เหตุการณ์ประวัติศาสตร์จะผุดขึ้นมากมาย บทพิสูจน์ของจริง รัสเซีย จีน จะได้รับการสูญเสียบ้าง แต่ไม่ต้องถามฝั่งเหี้ยเลย "เละเป็นโจ๊ก" ถึงเวลาโลกจะเลือกข้าง โลกถูกแบ่ง 2 ฝ่าย คนกับเหี้ย ขี้ข้ายิวเผยหน้าออกมาหมด ทุกทวีปที่แฝงตัวอยู่ ยุโรปฝั่งตะวันออกจะเปิดสงครามก่อนใคร? การปลดแอกเหี้ยคือต้องฆ่าเหี้ยทิ้งเท่านั้น นี่คือทางออก

    ปล.2 ด้านประเทศกูมี เน้นรักษาทรง เน้นความมั่นคง "พธม. จะฟื้นคืนชีพ" สงครามครั้งสุดท้ายของ "ความดี กับ ความชั่ว" ผีอีโม จะออกอาละวาดทั่วอโยธยา นายพลชั่ว กากีเลว จะแห่กันตกกระป๋อง โปรดเกล้าปลดยศเกลื่อนแผ่นดิน ส่งสัญญานชัด "มรึงมันเหี้ย" พ่อร.10 ไม่ใช่พ่อร.9 พระเดชมาเต็ม ถึงเวลาจำเป็นต้องใช้พระราชอำนาจ จะทำโดยไม่ลังเล รัฐธรรมนูญไม่ได้ใหญ่ไปกว่าพระเจ้าแผ่นดิน หากใครยังไม่รู้ มรึงจงรู้ไว้ซะ ว่าอำนาจแผ่นดิน พ่อให้มา พ่อก็เอาคืนได้ทั้งหมดเช่นกัน หากลูกมันเหี้ยเกิน ขายแผ่นดินแดร๊ก? ทุกเรื่องราวที่มรึงกับกู กังวลมาตลอดชาตินี้ วังรู้หมด และวังมีแผนรับมือมานานแล้ว เค้าเดินไปทีละตา หมากเค้าเดินไปทีละก้าว แต่มรึงเสือกจะเอาเร็วให้ได้ดั่งใจ ศัตรูมรึงไม่ธรรมดา มันคือ "ที่สุดของเหี้ยในจักรวาลมาเวล" แต่ไม่ต้องกังวล เดี๋ยววังอโยธยา จะพาเหี้ยไปทัวร์จักรวาลศรีธนญชัยเอง มรึงได้งง..เป็นไก่ตาแตกแน่ สับขาหลอก จนเหี้ยหัวหมุน แผนกระจอกชั้นหมา ที่เอาอีขะแมร์ อีหม่องมายั่วยุเนี่ย วังเค้าไม่เล่นปาหี่ดอกน่ะ ระดับวังแล้ว กูล่อตัวพ่อ ตัวแม่ เท่านั้น เพราะวังไทย ไม่ได้เดินเดียวดาย มากันหมดทั้งจักรวาล DC มรึงคิดว่า ไอ้เรื่อง KGB เก่าภาคใต้ในไทย หน่วยพิเศษ ไซเบอร์จีนภาคเหนือเนี่ย กูพูดเล่นเหรอ? ไทยเนื้อหอมซะขนาดนี้ มรึงไม่มีของขลังดีจริง จะเอาเหี้ยอะไรไปงัดกับเหี้ยได้ คิดสิจ๊ะ? หากมรึงเป็น FC หนัง FAST & FURIOUS เร็วแรงทะลุนรก กูขอบอกเลยว่า "ปีหน้าเนี่ยแหละ" อี HARDCORE มีเฮ ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ไม่มีพูดเยอะ เจอเป็นส่อง พบเป็นขยี้ ควายไทยบัดซบจะตายคาตรีน ไม่มีฟื้น กลับสู่ขุมนรกที่มรึงจากมา คนดี ศีลรักษา อยู่รอด ปลอดภัย สวรรค์บอก ได้เวลา "ชำระล้างแผ่นดินกันใหม่แล้วลูกเอ๋ย?" ไทย และอาเซียน เข้า BRICS คือเลือกข้างแล้ว ส่วนไอ้พวกแหกเหล่า อีแอบขี้ข้าเหี้ย จะถูกลดบทบาทลง อีลอดช่องหมาได้อีก หมดหนทาง เหี้ยตาย มรึงก็อยู่ไม่ได้ ที่ผ่านมาแดร๊กส่วนต่าง ทางผ่าน แต่ต่อไป ไม่ต้องผ่านมรึงอีกแล้ว มรึงยังจะเหลือเหี้ยอะไรให้ได้แดร๊กอีกล่ะ เกิดได้เพราะเหี้ย ก็จะตายเพราะเหี้ยเช่นกัน

    หมี CNN(ไอ้สัส! BOXING DAY ตี 3 มรึงจะทรมานกูไปถึงไหน เป็นทีมเด่น ทีมดัง ก็เงียะ ถ่ายทอดคาตรีน จะเช้าก็ไม่เช้า จะดึกก็ไม่ดึก แบบว่าดูเสร็จ ไปทำงานต่อเลยชิมิ? หมาแพนดี้ อีกแล้วตรู? แค่ซีรีย์จีน กูก็ตาแฉะแล้ว แล้วกูจะบ่นไปทำไมเนี่ย สุดท้าย ก็ต้องแหกตาดูอยู่ดี เพราะใจมันรัก! คืนนี้ ที่แอนฟิลด์ จุดเยือกแข็งมาแน่ หนาวสลัดผักตบ 3 แต้มพอ ไม่ต้องเยอะ ไม่เอาครึ่งโหลน่ะ เกรงใจหมาจิ้งจอกบ้าง)
    26 ธันวาคม 67
    10.27 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    ชื่อเพจ ยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อ รออีก 60 วัน "แสงสว่าง สิริแสงสว่าง"
    https://www.facebook.com/profile.php?id=100015961291594
    26-12-67/01 : หมี CNN / สัพเพเหระ เม้าท์มอย สังขยา ปลาปิ้ง EP.54 THE TRUTH NEVER DIE! ไอ้สัส! เป็นไงล่ะ? แสงโหดเกิน ความจริงผุดโผล่ทุกหย่อมหญ้า กูพูดแล้วชิมิ? ไม่ต้องไปสนใจดอก รื้อไม่รื้อคดี? เพราะความจริงปรากฎออกมาตบหน้าไอ้อีกรมกากีทั้งคอก ตบหน้าแพทย์สัดกะหมา 6 ตัว ตบหน้าศาลเจ้านนท์(รับงานเหี้ยมา) ตายห่ายกเข่ง? นิติเวชอีกากีเหี้ยเสียหมา ไม่มีในรายงาน? อะไรน่ะ มีโปรดเกล้าปลดยศข้าราชการชั่วระเนระนาด ทำไมวังจะไม่รู้ องคมนตรีไม่ได้ตาบอด ไอ้สัส! อัยกวยสูงสุดมันไม่รื้อดอก เหี้ยมันสั่งมา รื้อเมื่อไหร่มรึงโดนกันหมดยกเข่ง! ตายกันทั้งกระบวนการยุติธรรมต้นน้ำ มรึงคิดว่าภาคประชาชนโง่รึไง? เค้าจะฟ้องใหม่จ๊ะ หลักฐานมาเป็นกองทัพ "ฆาตกรรม" ฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐทั้งคอกเหี้ย ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ฟ้องไอ้อีบนเรือซ้ำอีก ให้การเท็จ เปลี่ยนแปลงรูปคดี ทั้งๆ ที่รู้ก่อนล่วงหน้าแล้วว่า "อีโมเพื่อนรักที่มรึงหักหลังเค้า ตายห่าไปแล้ว" วิญญานผีอีโม แรงอาฆาต มันถึงขั้นซูปเปอร์ไซย่าแล้วน่ะมรึง? สะกดวิญญานเหรอ? กระจอกไปแล้ว เอาไม่อยู่ ไอ้คนสะกดเนี่ย มรึงจะโดนตัวแรกก่อนใครเพื่อน? ผีอีโม ฝากมาบอก "กูจัดหนักแน่" รออะไรอยู่ล่ะ? ส่งพลังให้เธอสิ สวดมนต์ แผ่เมตตา ยิ่งมากเท่าไหร่ กรรมยิ่งเข้าไอ้อีคนทำคุณไสยทันที มาทรงนี้ เดาไม่ยากเลย! เมื่อกระจอกกว่า อ่อนหัดกว่าเค้า สู้ไม่ได้ เหี้ยก็หันเข็มทิศไปแดร๊กขี้ข้าเหี้ยกันเอง เปิดศึกยูเครนก็แพ้ยับ เปิดศึกเยรูซาเล็มก็เสียหมา จะเปิดแปซิฟิคก็เสียเวลา เพราะเพ่จีนยกกองเรือมาเป็นล้าน สุดท้าย หาแดร๊กกับขี้ข้า เหี้ยก็กินเหี้ยกันเอง ตามสันดานวังวนเหี้ยจ๊ะ จะปานามา จะกรีนแลนด์ ทั้งหมด ก็แค่หาบ้านใหม่ให้อียิว เพราะมันย้ายแน่ เยรูซาเล็มแตกไปนานแล้ว 20 ล้านตัวจะไปอยู่ไหน ลำบากเหี้ยขี้ข้ามะกันต้องหาบ้านเพิ่มให้อียิวมันอยู่ แต่ขอโทษน่ะ ลาตินไม่ใช่ของมรึงอีกต่อไป ขั้วใหม่ เค้าอ่านเกมส์ขาดทะลุ ถึงได้ไปตั้งฐานทัพใหญ่ และย่อย กระจายไปทั่ว โดยเฉพาะตามหมู่เกาะแคริบเบี้ยน รัสเซียซุกไว้เยอะ ดอกนี้ จะยิ่งทำให้ทั้งโลกแห่เข้า BRICS กันมากยิ่งขึ้น เพราะนอกจากได้การค้าทั้งโลกแล้ว ยังได้กองทัพอันดับ 1 โลก อย่าง SCO ช่วยคุ้มครองให้สบายตรีน 100 เหี้ยก็สู้ไม่ได้ อีโคนมก็ใช่ย่อย อดีตเคยดัดหลังเพื่อนสแกนดิเนเวียเอาตัวรอด มาวันนี้ ถูกชี้เป้าซะเอง จำเอาไว้ว่า ที่ไหนมีทรัพยากรหอมหวน อียิวไปหามรึงแน่ ยิ่งย้ายบ้าน ยิ่งต้องการความมั่นคง ปลอดภัย กรีนแลนด์มันจะมีใครไปเยี่ยมมรึงบ่อยกันล่ะ? เหมาะแก่การตั้งฐานลับ ห้องปฎิบัติการอาวุธชีวภาพ เรื่องเหี้ยๆ ทำได้สบายตรีน อีทรัมปป์เล่นตามน้ำ เพราะเป้าหมายคือ "ทรัมปป์แลนด์" แตกอเมริกา แผ่นดิน 7 ส่วนของกู แล้วกูจะหาแผ่นดินใหม่ให้มรึง เข้าใจยัง? ไอ้โง่! มรึงคิดจริงรึว่า ไอ้อีหน้าไหน จะมานั่งประธานบอร์ดธปท.ได้ง่ายๆ ต้องคนของวังเท่านั้น เรื่องคลัง คือเรื่องแผ่นดิน มรึงคิดว่าวังจะปล่อยให้ไอ้อีหมาล่าเนื้อที่อ้างสิทธิ์จากปชต.ตอแหล ซื้อเสียงเข้ามาฮุบเงินแผ่นดินกินฟรี ไม่งั้นอโยธยาสิ้นชาติ แตกซ้ำสองไปนานแล้ว ไอ้ควาย! หลายคนไม่รู้ บางอย่างถูกสงวนไว้ให้เฉพาะวัง เรื่องคลัง กองทัพ แผ่นดิน ไอ้อีหน้าไหนก็แตะต้องไม่ได้ กฎหมายเอามาจากรัฐธรรมนูญ แล้วรัฐธรรมนูญมาจากไหนกัน อำนาจของรัฐธรรมนูญไม่ใช่มาจากการไปปล้นอำนาจพระเจ้าแผ่นดินมาเหรอ? ตั้งแต่อดีตกาล พระเจ้าแผ่นดินคือผู้มีอำนาจสูงสุด คือกฎหมายแผ่นดินนั่นเอง ไอ้ที่เอารัฐธรรมนูญมาอ้าง ก็แค่แผนยึดอำนาจพ่อ ปชต.ตอแหล 4 วินาที ซื้อหมา ซื้อควาย ได้หมด อำนาจของพ่อมีไว้ปกครองลูก แต่อำนาจของเหี้ยโลกปชต. มีไว้ปกครองทาส ไงล่ะ? ถึงต้อง "ถวายพระราชอำนาจคืน" เพราะไม่มีใครปกครองด้วยใจ ไม่โกง ไม่กิน ไม่เอาเปรียบชาวบ้าน เหมือนพ่ออีกแล้ว เพราะทั้งหมดมันเป็นของพ่อมาตั้งแต่ต้นแล้ว ลูกเหี้ยบางตัวไปรับงานอียิวเหี้ยมาเพื่อปล้นอำนาจพ่อ "ไทยบาท" มรึงจำคำพูดกูไว้ให้ดีดี คือสกุลเงินที่มีการใช้มากที่สุดในอาเซียน และต่อไป จะใช้กันแพร่หลายทั่วโลก คลังคือของวัง และของแผ่นดิน บุญไม่มี บารมีไม่ถึง อย่าริเสนอหน้า ก็แค่หมาขี้เรื้อน ที่อยากจะขึ้นไปนอนบนเรือน หลายคนกังวลขอบเขตของเหี้ยไก่งวง "ออตโตมาน MY LOVE" กูจะบอกความจริงให้ ไม่มีอะไรที่ขั้วใหม่เดินหน้าแล้วไม่รัดกุม และไม่มีอะไรที่ทำไปแล้ว รัสเซีย จีน ควบคุมไม่ได้ มรึงรู้มั้ยว่า ก่อนหน้านี้ เครมลินหัวกระไดบ้านไม่แห้ง ทั้งอิหร่าน ซีเรีย ตุรกี โสมแดง แม้แต่ฮามาส ยังไปเยือน ทั้งหมดคือภาพวันนี้ไงล่ะ? อะไรที่ไก่งวงมีอยู่ตอนนี้ คือรัสเซียให้ ให้เพื่อไปทำหน้าที่ให้บรรลุเป้าหมาย เพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน มรึงอย่ามองข้าม "อิหร่าน" กูเคยบอกไปแล้วว่า ในตะวันออกกลาง กองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดไม่ใช่ ตุรกี ของนาโต้ ชาติเดียวที่ฆ่าอียิวตายห่าได้จริงนั่นคือ "อิหร่าน" มรึงรู้มั้ยว่า แนวร่วมอิหร่าน คือ "มุสลิมทั้งโลก" แอร์โดกันจะเหี้ยแค่ไหน ตุรกีจะยิ่งใหญ่เพียงใด ก็แค่ขี้ตรีนปูติน นี่คือเรื่องจริง ตุรกีรอดมาจากเงินลีร่าอ่อนค่าได้เพราะรัสเซียอุ้ม ตุรกีไม่ถูกกลืนเพราะรัสเซียคอยช่วย จัดการตุรกีง่ายนิดเดียว แค่ทุบกระปุกมัน มันก็เจ๊งแล้ว ยุทธศาสตร์ช่องแคบบอสฟอรัส และทะเลดำ จำเป็นที่รัสเซียต้องช่วยอุ้มตุรกี แผนยึดซีเรียภายนอกคือเปลือก ทุกอย่างสั่งการจากเครมลินทั้งนั้น โดยมีอิหร่าน จีน คอยหนุนหลังอยู่ กล่าวคือ เคยบอกไปแล้วว่า ตราบใดที่กองทัพรัสเซียยังอยู่ในซีเรีย อำนาจทางทหารคือรัสเซีย ไม่ใช่ไก่งวง ปูตินสู้กับชาตินาโต้ 40 ชาติหมา ยังกระทืบตายคาตรีน แค่ไก่งวงชาติเดียวมันใช่คู่ต่อกรรึ? สรุปคือซีเรียจะกลายร่างเป็นแผ่นดินอาหรับ แบ่งเค็ก แบ่งผลประโยชน์ และร่วมกันดูแล โดยเอาผู้นำซีเรียเป็นหน้าฉาก อัสซาดไม่ต้องเหนื่อยอีกแล้ว ซีเรียยุคใหม่ คืออิหร่าน รัสเซีย จีน ตุรกี นี่คือแผน ดีกว่าปล่อยให้ซีเรียเป็นเงื่อนไขที่อียิวลากยาวไม่รู้จบ ถึงต้องจัดฉากล้างบางเหี้ยทั้งแผ่นดินให้หมดไปก่อนไงล่ะ หลังเคลียร์เสร็จ ใครได้อะไร ค่อยมาว่ากัน? แผนชงซีเรียเข้า BRICS เพราะอยู่ในแผนเส้นทางสายไหม ต่อไปซีเรียก็ไม่จำเป็นต้องมีกองกำลังตัวเองให้ยุ่งยากอีกต่อไป ขาใหญ่ดูแลให้ ปล.สิ้นปี ปีใหม่ จะมีอะไรเหยอ? เหี้ยมันจ้อง เหี้ยมันดิ้น มันไม่ปล่อยชาวโลกให้มีความสุขยืนยาวดอกน่ะ? แผนชั่วมาเต็ม แผนเหี้ยมาพร้อม ไม่ฆ่ากันให้หมดโลก อียิวนอนตายตาไม่หลับ? ช่วยสงเคราะห์กูที ละครปาหี่คั่นรายการจะเกิดขึ้นไม่รู้จบ ก่อนอีทรัมปป์จะเข้ารับสาบานตน ปี 68 คือ "เผาจริง" สรุปคือ 1.เผาเศรษฐกิจโลก 2.เผาระบบการเงินขั้วเก่า 3.เผาองค์กรสากลโลกที่ไม่มีอยู่จริง 4.เผากฎหมายโลกทั้งหมดที่มี วัดรอยตรีน กฎหมามาเต็ม 5.เผาปชต.ตอแหลราบคาบ เผยร่างจริงเผด็จการ อาชญากรโลกสุดโต่ง แต่ละทวีปจะมีวิธีรับมือที่แตกต่างกัน แค่เหี้ยตายตัวเดียว โสมรวมชาติได้สบาย จีนได้ไต้หวันคืน ปาเลสไตน์ได้แผ่นดินคานาอันคืน โจทย์ไม่ยาก แค่เหี้ยตาย โลกเปลี่ยนทันที แล้วก็ถึงเวลาของเหี้ยแล้ว ปีหน้า จีนจะเริ่มมีบทบาททางการทหารมากขึ้น โสมแดงจะเริ่มรุกคืบมากยิ่งขึ้น ยุโรปจะเริ่มกัดกันเอง จนนำไปสู่การแตก EU และ NATO นักวิทยาศาสตร์จะย้ายบ้านกันทั้งโลก ไม่ถูกฆ่า ก็ถูกอุ้ม เหี้ยจนตรอก มันจะทำอะไรได้ หากไม่เผาโลกตอนที่มันยังอยู่ นุ๊กต้องมา สูญเสียต้องมี เหตุการณ์ประวัติศาสตร์จะผุดขึ้นมากมาย บทพิสูจน์ของจริง รัสเซีย จีน จะได้รับการสูญเสียบ้าง แต่ไม่ต้องถามฝั่งเหี้ยเลย "เละเป็นโจ๊ก" ถึงเวลาโลกจะเลือกข้าง โลกถูกแบ่ง 2 ฝ่าย คนกับเหี้ย ขี้ข้ายิวเผยหน้าออกมาหมด ทุกทวีปที่แฝงตัวอยู่ ยุโรปฝั่งตะวันออกจะเปิดสงครามก่อนใคร? การปลดแอกเหี้ยคือต้องฆ่าเหี้ยทิ้งเท่านั้น นี่คือทางออก ปล.2 ด้านประเทศกูมี เน้นรักษาทรง เน้นความมั่นคง "พธม. จะฟื้นคืนชีพ" สงครามครั้งสุดท้ายของ "ความดี กับ ความชั่ว" ผีอีโม จะออกอาละวาดทั่วอโยธยา นายพลชั่ว กากีเลว จะแห่กันตกกระป๋อง โปรดเกล้าปลดยศเกลื่อนแผ่นดิน ส่งสัญญานชัด "มรึงมันเหี้ย" พ่อร.10 ไม่ใช่พ่อร.9 พระเดชมาเต็ม ถึงเวลาจำเป็นต้องใช้พระราชอำนาจ จะทำโดยไม่ลังเล รัฐธรรมนูญไม่ได้ใหญ่ไปกว่าพระเจ้าแผ่นดิน หากใครยังไม่รู้ มรึงจงรู้ไว้ซะ ว่าอำนาจแผ่นดิน พ่อให้มา พ่อก็เอาคืนได้ทั้งหมดเช่นกัน หากลูกมันเหี้ยเกิน ขายแผ่นดินแดร๊ก? ทุกเรื่องราวที่มรึงกับกู กังวลมาตลอดชาตินี้ วังรู้หมด และวังมีแผนรับมือมานานแล้ว เค้าเดินไปทีละตา หมากเค้าเดินไปทีละก้าว แต่มรึงเสือกจะเอาเร็วให้ได้ดั่งใจ ศัตรูมรึงไม่ธรรมดา มันคือ "ที่สุดของเหี้ยในจักรวาลมาเวล" แต่ไม่ต้องกังวล เดี๋ยววังอโยธยา จะพาเหี้ยไปทัวร์จักรวาลศรีธนญชัยเอง มรึงได้งง..เป็นไก่ตาแตกแน่ สับขาหลอก จนเหี้ยหัวหมุน แผนกระจอกชั้นหมา ที่เอาอีขะแมร์ อีหม่องมายั่วยุเนี่ย วังเค้าไม่เล่นปาหี่ดอกน่ะ ระดับวังแล้ว กูล่อตัวพ่อ ตัวแม่ เท่านั้น เพราะวังไทย ไม่ได้เดินเดียวดาย มากันหมดทั้งจักรวาล DC มรึงคิดว่า ไอ้เรื่อง KGB เก่าภาคใต้ในไทย หน่วยพิเศษ ไซเบอร์จีนภาคเหนือเนี่ย กูพูดเล่นเหรอ? ไทยเนื้อหอมซะขนาดนี้ มรึงไม่มีของขลังดีจริง จะเอาเหี้ยอะไรไปงัดกับเหี้ยได้ คิดสิจ๊ะ? หากมรึงเป็น FC หนัง FAST & FURIOUS เร็วแรงทะลุนรก กูขอบอกเลยว่า "ปีหน้าเนี่ยแหละ" อี HARDCORE มีเฮ ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ไม่มีพูดเยอะ เจอเป็นส่อง พบเป็นขยี้ ควายไทยบัดซบจะตายคาตรีน ไม่มีฟื้น กลับสู่ขุมนรกที่มรึงจากมา คนดี ศีลรักษา อยู่รอด ปลอดภัย สวรรค์บอก ได้เวลา "ชำระล้างแผ่นดินกันใหม่แล้วลูกเอ๋ย?" ไทย และอาเซียน เข้า BRICS คือเลือกข้างแล้ว ส่วนไอ้พวกแหกเหล่า อีแอบขี้ข้าเหี้ย จะถูกลดบทบาทลง อีลอดช่องหมาได้อีก หมดหนทาง เหี้ยตาย มรึงก็อยู่ไม่ได้ ที่ผ่านมาแดร๊กส่วนต่าง ทางผ่าน แต่ต่อไป ไม่ต้องผ่านมรึงอีกแล้ว มรึงยังจะเหลือเหี้ยอะไรให้ได้แดร๊กอีกล่ะ เกิดได้เพราะเหี้ย ก็จะตายเพราะเหี้ยเช่นกัน หมี CNN(ไอ้สัส! BOXING DAY ตี 3 มรึงจะทรมานกูไปถึงไหน เป็นทีมเด่น ทีมดัง ก็เงียะ ถ่ายทอดคาตรีน จะเช้าก็ไม่เช้า จะดึกก็ไม่ดึก แบบว่าดูเสร็จ ไปทำงานต่อเลยชิมิ? หมาแพนดี้ อีกแล้วตรู? แค่ซีรีย์จีน กูก็ตาแฉะแล้ว แล้วกูจะบ่นไปทำไมเนี่ย สุดท้าย ก็ต้องแหกตาดูอยู่ดี เพราะใจมันรัก! คืนนี้ ที่แอนฟิลด์ จุดเยือกแข็งมาแน่ หนาวสลัดผักตบ 3 แต้มพอ ไม่ต้องเยอะ ไม่เอาครึ่งโหลน่ะ เกรงใจหมาจิ้งจอกบ้าง) 26 ธันวาคม 67 10.27 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** ชื่อเพจ ยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อ รออีก 60 วัน "แสงสว่าง สิริแสงสว่าง" https://www.facebook.com/profile.php?id=100015961291594
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 933 มุมมอง 0 รีวิว
  • 24-12-67/01 : หมี CNN / SANTA BEAR IS COMING TO TOWN ไอ้สัส! "หมีบุก" มาดิ? แสงทำงานชุดใหญ่ MOU44 จุดแตกหักล้มรัฐบาลขายชาติ เงื่อนไขลงสู่ถนน เข้าทางตรีนกองทัพทันที ประชาชนออกหน้า รถถังตามหลัง(วางแผนยึดอำนาจปชต.ปลอมมานานแล้ว) ซื้อเสียง ขายเสียงกันเข้าไปสิ สุดท้าย กองทัพกวาดควายไทยบัดซบจบทุกเม็ด ชนะทุก MATCH คดีผีอีโม ทะลุเบื้องบนแล้ว ใครอุ้ม งานนี้มีโดนเช็คบิลย้อนหลัง? อีอัยกวยสูงไม่สุดคิดหนัก เหี้ยตัวพ่อสั่งไม่รื้อคดีแน่ ปล่อยให้ความจัญไรปนเปื้อนขบวนการยุติธรรม จนนำไปสู่การกวาดล้างบางยกเข่ง ทุกองคาพยพ มันคือการวัดกำลังระหว่างอีกากีจัญไร กับตราชั่งแผ่นดิน ไม่ต้องสนใจว่า รื้อไม่รื้อ ให้ไปโฟกัสที่ความจริงจะถูกเปิดเผยออกมาจนหมดสิ้น โดยภาคประชาชน และสื่อตัวจริงเท่านั้น เพราะว่ารื้อคดี หรือไม่รื้อคดี ไม่มีความแตกต่าง เมื่อหลักฐานปรากฎชัด ออกมาแต่ละดอก ตายหมดคาหนังคาเขา ใครทำลายหลักฐาน ใครบิดเบือน ใครเปลี่ยนสำนวน มรึงจะรู้หมด? ไอ้อีทุกตัวที่ปิดบัง และสมรู้ร่วมคิดจะถูกล่อหมดยกเข่ง จะมีการฟ้องคดีใหม่ ไล่เบี้ยทุกไอ้อีตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ใครคิดว่าคดีผีอีโม จะจบดื้อๆ มรึงฝันไปเหอะ แสงทำงาน คือลากไส้เหี้ยออกมาจนหมดเกลี้ยง? สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำงาน โคตรพ่องนายพลก็แค่ขี้ตรีน! วังรู้แล้ว ประชาชนหมดศรัทธากับไอ้อีกรมกากี งานนี้ต้องบู๊ทตรีนโตเขียวจ๋าเขยิบเท่านั้น!(ใครไม่ปลื้มเขียว ขอให้รู้ว่า เขียวมีหลายกลุ่ม แต่กลุ่มที่จะทำเพื่อชาติจะดาหน้าออกมา เพราะวังสั่งตรง) มันรู้ตัวแล้วว่า กำลังจะถูกเชือด สั่งตัดตอน สั่งตัดหางขี้ข้าทันที ตัวใคร ตัวมัน หัวหน้าเหี้ยย่อมเอาตัวรอดเสมอ แต่ก็ไม่พ้นแสงดอกน่ะ?

    ดูภาพใหญ่ก่อน! ทำไมต้องส่งอีไก่งวงมากวาดต้อนซีเรีย ขับไล่กองทัพเหี้ยมะกัน และบ่อน้ำมันเคิร์ด เพื่อปูพรมแดงเข้าสู่ใจกลางเยรูซาเล็ม มันคือการปลดแอกตะวันออกกลางทั้งหมด ฐานทัพเหี้ยมะกันที่ตั้งในโลกอาหรับจะกลายเป็นเป้าหมายจากกองทัพออตโตมาน นี่เค้าเรียกว่า "หมากหนีบ" ใครจะกล้าแลกกับไก่งวงตอนนี้ กาตาร์เหรอ UAE เหรอ อีเหี้ยอูฐเหรอ? ที่ผ่านมา เหี้ยยังทำอะไรได้เยอะ เพราะยังมีฐานทัพอยู่ไงล่ะ ที่มาว่าทำไม แผนนี้จึงออกดอก เอาไก่งวงไล่จิกฐานทัพเหี้ยทั้งหมดในตะวันออกกลาง แล้วแนวร่วมจะตามมาเอง ยึดแผ่นดินคืนให้ปาเลสไตน์คือธง แต่สิ่งที่แอบแฝงได้มาคือ ปลดแอกอิทธิพลอิสราเอลในตะวันออกกลางทั้งหมด ซึ่งต้องขับไล่ฐานทัพเหี้ยทั้งหมดให้ออกไปด้วย อาหรับเดินแผนขยี้ขับไล่ในสมรภูมิรบ ส่วนรัสเซียเดินแผนจับมืออีทรัมปป์ถอนกำลังออกจากตะวันออกลาง แลกเผด็จศึก DEEP STATE เบื้องหลังเค้าเดินเกมส์อยู่หลายชั้น เมื่อแขนขาไม่มี อียิวก็อยู่ยาก บีบให้ย้ายบ้านใหม่ อีทรมัปป์เตรียมไว้ให้มรึงแล้ว แบ่งกันไปเลย แตกสหรัฐซะ นั่นคือตอบโจทย์แผนดินใหม่ยิว ตอบโจทย์หนี้ที่ไม่มีวันจ่ายได้จริง ตอบโจทย์ลดขนาดประเทศ ตั้งรัฐใหม่ ผนวกแคนาดา-สหรัฐ สรุปคือถีบเหี้ยยิวออกจากทุกภูมิภาคของโลก ให้มรึงไปอยู่รวมกันที่อเมริกาเหนือซะ ภาพเริ่มชัดพอยัง?

    ฮาแตก! จะไปยึดยุโรป ก็ถูกรัสเซียคาบเอาไปแดร๊ก จะไปยึดแอฟริกา ก็ถูกรัสเซียคาบเอาไปแดร๊กอีก จะไปยึดเอเซีย ตะวันออกกลาง ก็ถูกรัสเซีย จีน อิหร่าน คาบเอาไปแดร๊กอีกตามเคย แล้วเหี้ยจะหาแดร๊กกับใครที่ไหนต่อได้อีกล่ะ? สุดท้าย เมื่อทุกชาติพันธุ์สู้ตายไม่เกรงกลัวเหี้ยอีกต่อไป เหี้ยหมดปัญญาจะหาแดร๊กต่ออีก ก็หันไปเขมือบของในมือแทนดีก่า ที่มาว่าทำไม ปานามา สมันน้อยลาติน จะกลายเป็นเหยื่องั้นเหรอ? ถูกตอกหน้าหงาย คลองปานามา ไม่ได้มีเอาไว้ให้เหี้ยเดินเล่น? นี่ไงล่ะ เหตุผลที่กลุ่มชาติลาติน แห่พากันเข้า BRICS เวเนฯ คิวบา นิการากัว โบลิเวีย นำร่องกู้ชาติลาตินคืน รู้แล้วจะช็อค? ฐานทัพรัสเซีย จีน อิหร่าน โสมแดง กระจายอยู่ทั่วลาตินแล้วจ๊ะ ผ่านการอ้าง คุ้มครองท่อแก็ส เรือขนส่งน้ำมัน อีแซมบ้าไม่โง่ ชิ่งเหี้ยก่อนใครเพื่อน? เพราะอ่านขาด อีเมสซี่ล่มสลายแน่ กูเนี่ยแหละ จ้องจะเขมือบแผ่นดินมรึงเอามาผนวก ผู้นำเหี้ย ชาติล่มจม มรึงไม่ต้องดูไกล? ลูกหลานอีเปรองไร้วาสนา สิ้นชาติพันธุ์ เป็นได้แค่ขี้ข้ารองตรีนยิว เพราะควายมันเยอะ ที่ไหนมีควายมากกว่าคน ชาติล่มจมแน่นอน กลุ่มเศรษฐกิจลาตินใหม่ จะจับมือกับ BRICS กว่า 10 ชาติลาติน ตอนนี้ เทดอลล่าร์กันแล้ว ไม่มีลาติน ดอลล่าร์จะเอาไปขายหมาที่ไหนได้อีก ชาติขี้ข้าเหลือนับหัวได้?

    อีโปล "อย่าตอแหล" ประกาศจับอีเนรคุณทันยา ตามหมายศาลโลก หากโผล่ร่วมงานเอาชวิทซ์ เชิญมรึงไปหลอกควายต่อเหอะ ทั้งแผ่นดินอีโปล ก่อน WWII คือชุมชนยิวใหญ่ ทุกวันนี้ มันคือแผ่นดินยิวมาช้านานแล้ว จะจัดฉากศาลโลกศักดิ์สิทธิ์เหรอ? จัดฉากอีโปลยืนข้างปาเลสไตน์เหรอ? ดีออก! ชาติพันธุ์ขี้ข้ายิวไม่ตอแหล ไม่ใช่มรึง! มีแต่ควายที่เชื่อว่า ความจริงออกจากปากเหี้ยไอ้อีตะวันตกได้จริง? ทุกวันนี้ ชะตาขาด รอโดนอย่างเดียว เพราะ WAGNER ตรึงกำลังในพื้นที่หมดแล้ว รอเคียฟแตก แผนตีขึ้นเหนือมาทันที หมาที่ไหนฟ่ะ แอบตกลงกับอีเสี้ยนยา แบ่งแผ่นดินยูเครนตามพรมแดนให้อีโปลตามใบสั่งยิว แผ่นดินยูเครน แต่หัวเป็นยิว ประชากรคือนีโอนาซี มรึงคิดว่ายูเครนยังจะอยู่ต่ออีกได้มั้ยล่ะ? นี่คือคำตอบว่า "ทำไม ปูตินต้องยึดแม่งให้หมด" จะปล่อยให้เป็นเสี้ยนหนามต่อไปไม่ได้ โปรรัสเซียไม่มา ยูเครนไม่มีวันจบ คีย์อยู่แค่ตรงนี้ เท่านั้น ไม่มีทางเลือกอื่น เพราะสงครามมันจบไปนานแล้ว รู้ผลแพ้ชนะไปนานแล้ว ที่เห็นอยู่ตอนนี้ "แค่ละครปาหี่หลอกควาย"

    อะไรน่ะ ข่าวทหารทิพย์โสมแดงตายห่าเกลื่อนยูเครน ตอแหลจริงดิ? โถ..หน่วยไซเบอร์ มันออกภาคสนามซะที่ไหนกันล่ะ ส่วนไอ้หน่วยพิเศษเฮียคิมเค้าน่ะ ไล่เก็บเหี้ยนีโอนาซีเงียบกริบ อะไรน่ะ เพิ่งจะรู้เหรอ? โสมแดงมีหน่วยสไนเปอร์ชั้นเทพมาด้วย(อาวุธรัสเซียเต็มมือ) แม่นยิ่งกว่าจับวาง ยังไม่จบ SU-35s (รุ่นพิเศษ ในร่างบินรบโสมแดง) นักบินเค้าไปฝึกกันมาเป็นชาติ แล้วไอ้ควาย ทั้งอิหร่าน โสมแดง จีน เค้ามีหลักสูตรแลกเปลี่ยนกัน ใครสั่งซื้อล่ะ? กูบอกเลย วันนี้ "โสมขาว อียุ่นปี่ ไม่ใช่คู่ต่อกร" ของเค้าใหญ่กว่านั้น เล่นตัวแม่โดยตรง มรึงเคยเห็นเฮียคิม ออกไปเยี่ยมปูติน ถี่ยิบเท่าที่เคยผ่านมามั้ยล่ะ? ไปทำอะไร? ไปเซ็นต์สัญญาไงล่ะ ไอ้สัส! บอกให้มรึงรู้ตัวไว้ว่า ใครรบกับโสมแดง เท่ากับรบกับรัสเซีย จีนด้วย ดอกนี้ ถึงขั้นเยี่ยวแตก! สิ่งที่น่ากลัวกว่านุ๊กโสมแดงคือ "โดรน และขีปนาวุธร่อน" เพราะมันทำลายแสนยานุภาพศัตรูได้จริง และราบคาบ มีเป็น 1000000 ลำ ไอ้สัส ไม่ได้พูดเล่น เหมือนที่จีนมีฝูงตั๊กแตนยงโย่ นับ 1000000 ตัว ตัวจิ๋ว แต่ระเบิดได้น่ะจ๊ะ อย่าให้ไปเกาะเชียวมรึง หัวขาดกระจุย! สรุปคือ ขั้วใหม่ เมามันส์ ใช้สนามซ้อมยูเครน เป็นที่ทดสอบอาวุธใหม่เพี๊ยบ หนูทดสอบมาเต็ม กูว่าแล้ว ทำไมยืดเยื้อ ทดสอบกันพอรึยังจ๊ะ? เคียฟเหลือแต่ซากแล้วมรึง?

    ปล.ไม่ต้องถาม? อีเรือบรรทุกเครื่องบินเหี้ย แค่เข้ามาทดสอบระบบ แต่เยเมนไม่ขำด้วย โดนถล่มกลับไปยับ ผลาญงบทหารเล่น วันวันสิ้นคิด? ยุคนี้ สงครามรุ่นใหม่ มรึงยังจะใช้เรือบรรทุกเครื่องบินอยู่อีกเหรอ? ทำไงได้ ก็ของมันมีแค่นี้ หมาไม่รู้เท่าไหร่แล้ว? เหี้ยมีหนาว หลังหมอพรทิพย์ แอบชี้เป้า หลักฐานเด็ดไว้ให้อ.ปานเทพ บอกแค่ อย่าเปิด เอาไว้ล่อในชั้นศาลเท่านั้น ดอกนี้ พลิกคดีทันที! ไม่เกี่ยวกับยื่นฟ้องเรื่องอะไร มันคือจุดชี้ชัดว่าเป็น "ฆาตกรรม" คนละเรื่องกับที่ผ่านมา ฟ้องใหม่ พลิกคดีใหม่ มาแน่ หลักฐานขนกันมาเป็นห่าฝน ใครจะกล้ารับมั้ย? ตราชั่งมันเอียง เพราะเหี้ยมันหนักกว่า แต่ตอนนี้ ตราชั่งเริ่มตั้งตรง เพราะหลักฐานมัด มันหนักกว่าเหี้ย ผีอีโมพูดไม่ได้ แต่ศพพูดแทนได้หมดเปลือก ขอบคุณ อีเด สายเหลือง จรรยาบรรณโคตรพ่องมรึง เก็บไว้ให้ลูกหลานมรึงใช้เฮอะ เหี้ยได้ใจ ระยำได้โล่ ออกตัวแรง เรียกแขกเข้ามาไม่ขาดสาย แม่งแห่กันมาตรึม หลักฐานใหม่โผล่เพี๊ยบ สาย IT สายหมอ สายแพทย์ สายชันสูตร สายเคมี สายชีวะ แม่งมาครบหมด ยังโง่ได้อีก จนนายใหญ่สั่ง มรึงหุบปากได้แล้ว อีเด ไอ้สัส! เพ่อัจ เพิ่งออกมาพูด มีผู้ใหญ่ขอไว้ ไม่ให้ฟ้องอีแม่ตัวเหี้ย เพราะแม่งไม่ปกติ อ๋อ..คนไม่ปกติ แต่เสือกรับเงิน 15 ล้านเนี่ยน่ะ งั้นกูแกล้งบร๊า บ้างดีก่า? คนเป็นแม่ จะสติดี หรือไม่ดี สัญชาติญานมันมีเหมือนหมด ไม่เว้นแม้แต่สัดเดรัจฉาน ชาติก่อนกูไม่รู้ว่ามรึงเคยทำอะไรกันเอาไว้ แต่ชาตินี้ อีโมมันได้ชดใช้มรึงจนหมดสิ้นไปแล้ว ถึงตามรึงชดใช้คืนบ้างน่ะ "อีแม่จัญไร" ไทยเรามี วันแม่แห่งชาติ เพื่อระลึกพระคุณแม่ ต่อไป เราอาจจะมี "วันอีแม่จัญไร" ก็ได้ ประจานให้โลกรู้ ว่าแม้แต่สัดเดรัจฉานยังรักลูกมันเอง แต่แม่บางตัว ยิ่งกว่าเสนียดแผ่นดิน ชิงหมามาเกิด ซะอีก ดีออก?

    ปล.2 คริสต์มาส อีฟแล้ว พรุ่งนี้ ก็วัน "KISS MAK" ส่งความรัก ความหวังดี ให้กับเพื่อนมนุษย์ โดยเฉพาะ "ผีอีโม" สวดมนต์ แผ่เมตตา ให้เธอเยอะๆ กูชอบคนจริง คนกล้า ยอมตาย ไม่ยอมก้มหัวให้อำนาจมืด เพราะขู่จะฟ้องแม่งทุกตัว ทุกไอ้อี ที่หลอกกูมา ถึงได้ถูกเหี้ยตัวพ่อสั่งปิดปาก หัวใจสิงห์แบบนี้ ใครไม่รักก็บ้าแล้ว? หากวิญญาน "ผีอีโม" มีจริง ขอให้รับรู้ว่า คนไทยทั้งแผ่นดิน จะตามทวงความบริสุทธิ์ให้มรึงเอง ใครที่ร่วมมือกันหลอกมรึง ขอให้มันมีอันเป็นไป ไม่ได้ผุดได้เกิดอีก แรงอาฆาตมรึง ถึงขั้นสูงสุดแล้ว รอแค่การชำระแค้น แล้วส่งดวงวิญญานมรึงกลับบ้าน ไปหาพ่อที่มรึงรักยิ่ง ส่วนอีแม่เหี้ย ให้สวรรค์จัดการมันเองให้สาสม เวรกรรมมีจริง คนดี ต้องได้รับการเชิดชู คนกล้า ต้องได้รับการสรรเสริญ หมดยุคเหี้ยกินเมืองแล้ว ลุกขึ้นสู้ ตามไปกระทืบเหี้ย กันให้หมดทั้งแผ่นดิน พลังแผ่นดินมันมีไฟเผาผลาญเหี้ยไอ้อีทั้งหลาย ตายห่ายกคอกได้จริง เชื่อกู!

    หมี CNN(อย่าหลับเพลิน อาจได้เห็นข่าวช็อคโลก ไม่สิ้นปี ก็ต้นปีหน้า เพราะเป็นช่วงเวลาที่เหี้ยยิวมันถนัดที่สุด คือ "ทำลายความสุขของมวลมนุษยชาติ" ยิวคือสิ่งชั่วร้ายมากที่สุดที่โลกเคยมีมา ยิวแค่ 1 ตัว สามารถกินทั้งโลกได้ ยิว 100 ตัว กินจักรวาล แกแลคซี่ได้ เพราะอียิว มันคือ ความไม่รู้จักจบ ไม่เพียงพอ โลภไร้ขีดจำกัด ยิวคือศัตรูของมวลมนุษยชาติ จำไว้จงดี)
    24 ธันวาคม 67(คริสต์มาส อีฟ ขอส่งความสุขให้คนดีดี แต่จะส่งส้นตรีนให้ไอ้อีขายชาติ เหี้ยกินบ้าน กินเมืองทั้งหลาย แสงคือความจริง ความกล้า)
    11.50 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    ชื่อเพจ ยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อ รออีก 60 วัน "แสงสว่าง สิริแสงสว่าง"
    https://www.facebook.com/profile.php?id=100015961291594
    24-12-67/01 : หมี CNN / SANTA BEAR IS COMING TO TOWN ไอ้สัส! "หมีบุก" มาดิ? แสงทำงานชุดใหญ่ MOU44 จุดแตกหักล้มรัฐบาลขายชาติ เงื่อนไขลงสู่ถนน เข้าทางตรีนกองทัพทันที ประชาชนออกหน้า รถถังตามหลัง(วางแผนยึดอำนาจปชต.ปลอมมานานแล้ว) ซื้อเสียง ขายเสียงกันเข้าไปสิ สุดท้าย กองทัพกวาดควายไทยบัดซบจบทุกเม็ด ชนะทุก MATCH คดีผีอีโม ทะลุเบื้องบนแล้ว ใครอุ้ม งานนี้มีโดนเช็คบิลย้อนหลัง? อีอัยกวยสูงไม่สุดคิดหนัก เหี้ยตัวพ่อสั่งไม่รื้อคดีแน่ ปล่อยให้ความจัญไรปนเปื้อนขบวนการยุติธรรม จนนำไปสู่การกวาดล้างบางยกเข่ง ทุกองคาพยพ มันคือการวัดกำลังระหว่างอีกากีจัญไร กับตราชั่งแผ่นดิน ไม่ต้องสนใจว่า รื้อไม่รื้อ ให้ไปโฟกัสที่ความจริงจะถูกเปิดเผยออกมาจนหมดสิ้น โดยภาคประชาชน และสื่อตัวจริงเท่านั้น เพราะว่ารื้อคดี หรือไม่รื้อคดี ไม่มีความแตกต่าง เมื่อหลักฐานปรากฎชัด ออกมาแต่ละดอก ตายหมดคาหนังคาเขา ใครทำลายหลักฐาน ใครบิดเบือน ใครเปลี่ยนสำนวน มรึงจะรู้หมด? ไอ้อีทุกตัวที่ปิดบัง และสมรู้ร่วมคิดจะถูกล่อหมดยกเข่ง จะมีการฟ้องคดีใหม่ ไล่เบี้ยทุกไอ้อีตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ใครคิดว่าคดีผีอีโม จะจบดื้อๆ มรึงฝันไปเหอะ แสงทำงาน คือลากไส้เหี้ยออกมาจนหมดเกลี้ยง? สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำงาน โคตรพ่องนายพลก็แค่ขี้ตรีน! วังรู้แล้ว ประชาชนหมดศรัทธากับไอ้อีกรมกากี งานนี้ต้องบู๊ทตรีนโตเขียวจ๋าเขยิบเท่านั้น!(ใครไม่ปลื้มเขียว ขอให้รู้ว่า เขียวมีหลายกลุ่ม แต่กลุ่มที่จะทำเพื่อชาติจะดาหน้าออกมา เพราะวังสั่งตรง) มันรู้ตัวแล้วว่า กำลังจะถูกเชือด สั่งตัดตอน สั่งตัดหางขี้ข้าทันที ตัวใคร ตัวมัน หัวหน้าเหี้ยย่อมเอาตัวรอดเสมอ แต่ก็ไม่พ้นแสงดอกน่ะ? ดูภาพใหญ่ก่อน! ทำไมต้องส่งอีไก่งวงมากวาดต้อนซีเรีย ขับไล่กองทัพเหี้ยมะกัน และบ่อน้ำมันเคิร์ด เพื่อปูพรมแดงเข้าสู่ใจกลางเยรูซาเล็ม มันคือการปลดแอกตะวันออกกลางทั้งหมด ฐานทัพเหี้ยมะกันที่ตั้งในโลกอาหรับจะกลายเป็นเป้าหมายจากกองทัพออตโตมาน นี่เค้าเรียกว่า "หมากหนีบ" ใครจะกล้าแลกกับไก่งวงตอนนี้ กาตาร์เหรอ UAE เหรอ อีเหี้ยอูฐเหรอ? ที่ผ่านมา เหี้ยยังทำอะไรได้เยอะ เพราะยังมีฐานทัพอยู่ไงล่ะ ที่มาว่าทำไม แผนนี้จึงออกดอก เอาไก่งวงไล่จิกฐานทัพเหี้ยทั้งหมดในตะวันออกกลาง แล้วแนวร่วมจะตามมาเอง ยึดแผ่นดินคืนให้ปาเลสไตน์คือธง แต่สิ่งที่แอบแฝงได้มาคือ ปลดแอกอิทธิพลอิสราเอลในตะวันออกกลางทั้งหมด ซึ่งต้องขับไล่ฐานทัพเหี้ยทั้งหมดให้ออกไปด้วย อาหรับเดินแผนขยี้ขับไล่ในสมรภูมิรบ ส่วนรัสเซียเดินแผนจับมืออีทรัมปป์ถอนกำลังออกจากตะวันออกลาง แลกเผด็จศึก DEEP STATE เบื้องหลังเค้าเดินเกมส์อยู่หลายชั้น เมื่อแขนขาไม่มี อียิวก็อยู่ยาก บีบให้ย้ายบ้านใหม่ อีทรมัปป์เตรียมไว้ให้มรึงแล้ว แบ่งกันไปเลย แตกสหรัฐซะ นั่นคือตอบโจทย์แผนดินใหม่ยิว ตอบโจทย์หนี้ที่ไม่มีวันจ่ายได้จริง ตอบโจทย์ลดขนาดประเทศ ตั้งรัฐใหม่ ผนวกแคนาดา-สหรัฐ สรุปคือถีบเหี้ยยิวออกจากทุกภูมิภาคของโลก ให้มรึงไปอยู่รวมกันที่อเมริกาเหนือซะ ภาพเริ่มชัดพอยัง? ฮาแตก! จะไปยึดยุโรป ก็ถูกรัสเซียคาบเอาไปแดร๊ก จะไปยึดแอฟริกา ก็ถูกรัสเซียคาบเอาไปแดร๊กอีก จะไปยึดเอเซีย ตะวันออกกลาง ก็ถูกรัสเซีย จีน อิหร่าน คาบเอาไปแดร๊กอีกตามเคย แล้วเหี้ยจะหาแดร๊กกับใครที่ไหนต่อได้อีกล่ะ? สุดท้าย เมื่อทุกชาติพันธุ์สู้ตายไม่เกรงกลัวเหี้ยอีกต่อไป เหี้ยหมดปัญญาจะหาแดร๊กต่ออีก ก็หันไปเขมือบของในมือแทนดีก่า ที่มาว่าทำไม ปานามา สมันน้อยลาติน จะกลายเป็นเหยื่องั้นเหรอ? ถูกตอกหน้าหงาย คลองปานามา ไม่ได้มีเอาไว้ให้เหี้ยเดินเล่น? นี่ไงล่ะ เหตุผลที่กลุ่มชาติลาติน แห่พากันเข้า BRICS เวเนฯ คิวบา นิการากัว โบลิเวีย นำร่องกู้ชาติลาตินคืน รู้แล้วจะช็อค? ฐานทัพรัสเซีย จีน อิหร่าน โสมแดง กระจายอยู่ทั่วลาตินแล้วจ๊ะ ผ่านการอ้าง คุ้มครองท่อแก็ส เรือขนส่งน้ำมัน อีแซมบ้าไม่โง่ ชิ่งเหี้ยก่อนใครเพื่อน? เพราะอ่านขาด อีเมสซี่ล่มสลายแน่ กูเนี่ยแหละ จ้องจะเขมือบแผ่นดินมรึงเอามาผนวก ผู้นำเหี้ย ชาติล่มจม มรึงไม่ต้องดูไกล? ลูกหลานอีเปรองไร้วาสนา สิ้นชาติพันธุ์ เป็นได้แค่ขี้ข้ารองตรีนยิว เพราะควายมันเยอะ ที่ไหนมีควายมากกว่าคน ชาติล่มจมแน่นอน กลุ่มเศรษฐกิจลาตินใหม่ จะจับมือกับ BRICS กว่า 10 ชาติลาติน ตอนนี้ เทดอลล่าร์กันแล้ว ไม่มีลาติน ดอลล่าร์จะเอาไปขายหมาที่ไหนได้อีก ชาติขี้ข้าเหลือนับหัวได้? อีโปล "อย่าตอแหล" ประกาศจับอีเนรคุณทันยา ตามหมายศาลโลก หากโผล่ร่วมงานเอาชวิทซ์ เชิญมรึงไปหลอกควายต่อเหอะ ทั้งแผ่นดินอีโปล ก่อน WWII คือชุมชนยิวใหญ่ ทุกวันนี้ มันคือแผ่นดินยิวมาช้านานแล้ว จะจัดฉากศาลโลกศักดิ์สิทธิ์เหรอ? จัดฉากอีโปลยืนข้างปาเลสไตน์เหรอ? ดีออก! ชาติพันธุ์ขี้ข้ายิวไม่ตอแหล ไม่ใช่มรึง! มีแต่ควายที่เชื่อว่า ความจริงออกจากปากเหี้ยไอ้อีตะวันตกได้จริง? ทุกวันนี้ ชะตาขาด รอโดนอย่างเดียว เพราะ WAGNER ตรึงกำลังในพื้นที่หมดแล้ว รอเคียฟแตก แผนตีขึ้นเหนือมาทันที หมาที่ไหนฟ่ะ แอบตกลงกับอีเสี้ยนยา แบ่งแผ่นดินยูเครนตามพรมแดนให้อีโปลตามใบสั่งยิว แผ่นดินยูเครน แต่หัวเป็นยิว ประชากรคือนีโอนาซี มรึงคิดว่ายูเครนยังจะอยู่ต่ออีกได้มั้ยล่ะ? นี่คือคำตอบว่า "ทำไม ปูตินต้องยึดแม่งให้หมด" จะปล่อยให้เป็นเสี้ยนหนามต่อไปไม่ได้ โปรรัสเซียไม่มา ยูเครนไม่มีวันจบ คีย์อยู่แค่ตรงนี้ เท่านั้น ไม่มีทางเลือกอื่น เพราะสงครามมันจบไปนานแล้ว รู้ผลแพ้ชนะไปนานแล้ว ที่เห็นอยู่ตอนนี้ "แค่ละครปาหี่หลอกควาย" อะไรน่ะ ข่าวทหารทิพย์โสมแดงตายห่าเกลื่อนยูเครน ตอแหลจริงดิ? โถ..หน่วยไซเบอร์ มันออกภาคสนามซะที่ไหนกันล่ะ ส่วนไอ้หน่วยพิเศษเฮียคิมเค้าน่ะ ไล่เก็บเหี้ยนีโอนาซีเงียบกริบ อะไรน่ะ เพิ่งจะรู้เหรอ? โสมแดงมีหน่วยสไนเปอร์ชั้นเทพมาด้วย(อาวุธรัสเซียเต็มมือ) แม่นยิ่งกว่าจับวาง ยังไม่จบ SU-35s (รุ่นพิเศษ ในร่างบินรบโสมแดง) นักบินเค้าไปฝึกกันมาเป็นชาติ แล้วไอ้ควาย ทั้งอิหร่าน โสมแดง จีน เค้ามีหลักสูตรแลกเปลี่ยนกัน ใครสั่งซื้อล่ะ? กูบอกเลย วันนี้ "โสมขาว อียุ่นปี่ ไม่ใช่คู่ต่อกร" ของเค้าใหญ่กว่านั้น เล่นตัวแม่โดยตรง มรึงเคยเห็นเฮียคิม ออกไปเยี่ยมปูติน ถี่ยิบเท่าที่เคยผ่านมามั้ยล่ะ? ไปทำอะไร? ไปเซ็นต์สัญญาไงล่ะ ไอ้สัส! บอกให้มรึงรู้ตัวไว้ว่า ใครรบกับโสมแดง เท่ากับรบกับรัสเซีย จีนด้วย ดอกนี้ ถึงขั้นเยี่ยวแตก! สิ่งที่น่ากลัวกว่านุ๊กโสมแดงคือ "โดรน และขีปนาวุธร่อน" เพราะมันทำลายแสนยานุภาพศัตรูได้จริง และราบคาบ มีเป็น 1000000 ลำ ไอ้สัส ไม่ได้พูดเล่น เหมือนที่จีนมีฝูงตั๊กแตนยงโย่ นับ 1000000 ตัว ตัวจิ๋ว แต่ระเบิดได้น่ะจ๊ะ อย่าให้ไปเกาะเชียวมรึง หัวขาดกระจุย! สรุปคือ ขั้วใหม่ เมามันส์ ใช้สนามซ้อมยูเครน เป็นที่ทดสอบอาวุธใหม่เพี๊ยบ หนูทดสอบมาเต็ม กูว่าแล้ว ทำไมยืดเยื้อ ทดสอบกันพอรึยังจ๊ะ? เคียฟเหลือแต่ซากแล้วมรึง? ปล.ไม่ต้องถาม? อีเรือบรรทุกเครื่องบินเหี้ย แค่เข้ามาทดสอบระบบ แต่เยเมนไม่ขำด้วย โดนถล่มกลับไปยับ ผลาญงบทหารเล่น วันวันสิ้นคิด? ยุคนี้ สงครามรุ่นใหม่ มรึงยังจะใช้เรือบรรทุกเครื่องบินอยู่อีกเหรอ? ทำไงได้ ก็ของมันมีแค่นี้ หมาไม่รู้เท่าไหร่แล้ว? เหี้ยมีหนาว หลังหมอพรทิพย์ แอบชี้เป้า หลักฐานเด็ดไว้ให้อ.ปานเทพ บอกแค่ อย่าเปิด เอาไว้ล่อในชั้นศาลเท่านั้น ดอกนี้ พลิกคดีทันที! ไม่เกี่ยวกับยื่นฟ้องเรื่องอะไร มันคือจุดชี้ชัดว่าเป็น "ฆาตกรรม" คนละเรื่องกับที่ผ่านมา ฟ้องใหม่ พลิกคดีใหม่ มาแน่ หลักฐานขนกันมาเป็นห่าฝน ใครจะกล้ารับมั้ย? ตราชั่งมันเอียง เพราะเหี้ยมันหนักกว่า แต่ตอนนี้ ตราชั่งเริ่มตั้งตรง เพราะหลักฐานมัด มันหนักกว่าเหี้ย ผีอีโมพูดไม่ได้ แต่ศพพูดแทนได้หมดเปลือก ขอบคุณ อีเด สายเหลือง จรรยาบรรณโคตรพ่องมรึง เก็บไว้ให้ลูกหลานมรึงใช้เฮอะ เหี้ยได้ใจ ระยำได้โล่ ออกตัวแรง เรียกแขกเข้ามาไม่ขาดสาย แม่งแห่กันมาตรึม หลักฐานใหม่โผล่เพี๊ยบ สาย IT สายหมอ สายแพทย์ สายชันสูตร สายเคมี สายชีวะ แม่งมาครบหมด ยังโง่ได้อีก จนนายใหญ่สั่ง มรึงหุบปากได้แล้ว อีเด ไอ้สัส! เพ่อัจ เพิ่งออกมาพูด มีผู้ใหญ่ขอไว้ ไม่ให้ฟ้องอีแม่ตัวเหี้ย เพราะแม่งไม่ปกติ อ๋อ..คนไม่ปกติ แต่เสือกรับเงิน 15 ล้านเนี่ยน่ะ งั้นกูแกล้งบร๊า บ้างดีก่า? คนเป็นแม่ จะสติดี หรือไม่ดี สัญชาติญานมันมีเหมือนหมด ไม่เว้นแม้แต่สัดเดรัจฉาน ชาติก่อนกูไม่รู้ว่ามรึงเคยทำอะไรกันเอาไว้ แต่ชาตินี้ อีโมมันได้ชดใช้มรึงจนหมดสิ้นไปแล้ว ถึงตามรึงชดใช้คืนบ้างน่ะ "อีแม่จัญไร" ไทยเรามี วันแม่แห่งชาติ เพื่อระลึกพระคุณแม่ ต่อไป เราอาจจะมี "วันอีแม่จัญไร" ก็ได้ ประจานให้โลกรู้ ว่าแม้แต่สัดเดรัจฉานยังรักลูกมันเอง แต่แม่บางตัว ยิ่งกว่าเสนียดแผ่นดิน ชิงหมามาเกิด ซะอีก ดีออก? ปล.2 คริสต์มาส อีฟแล้ว พรุ่งนี้ ก็วัน "KISS MAK" ส่งความรัก ความหวังดี ให้กับเพื่อนมนุษย์ โดยเฉพาะ "ผีอีโม" สวดมนต์ แผ่เมตตา ให้เธอเยอะๆ กูชอบคนจริง คนกล้า ยอมตาย ไม่ยอมก้มหัวให้อำนาจมืด เพราะขู่จะฟ้องแม่งทุกตัว ทุกไอ้อี ที่หลอกกูมา ถึงได้ถูกเหี้ยตัวพ่อสั่งปิดปาก หัวใจสิงห์แบบนี้ ใครไม่รักก็บ้าแล้ว? หากวิญญาน "ผีอีโม" มีจริง ขอให้รับรู้ว่า คนไทยทั้งแผ่นดิน จะตามทวงความบริสุทธิ์ให้มรึงเอง ใครที่ร่วมมือกันหลอกมรึง ขอให้มันมีอันเป็นไป ไม่ได้ผุดได้เกิดอีก แรงอาฆาตมรึง ถึงขั้นสูงสุดแล้ว รอแค่การชำระแค้น แล้วส่งดวงวิญญานมรึงกลับบ้าน ไปหาพ่อที่มรึงรักยิ่ง ส่วนอีแม่เหี้ย ให้สวรรค์จัดการมันเองให้สาสม เวรกรรมมีจริง คนดี ต้องได้รับการเชิดชู คนกล้า ต้องได้รับการสรรเสริญ หมดยุคเหี้ยกินเมืองแล้ว ลุกขึ้นสู้ ตามไปกระทืบเหี้ย กันให้หมดทั้งแผ่นดิน พลังแผ่นดินมันมีไฟเผาผลาญเหี้ยไอ้อีทั้งหลาย ตายห่ายกคอกได้จริง เชื่อกู! หมี CNN(อย่าหลับเพลิน อาจได้เห็นข่าวช็อคโลก ไม่สิ้นปี ก็ต้นปีหน้า เพราะเป็นช่วงเวลาที่เหี้ยยิวมันถนัดที่สุด คือ "ทำลายความสุขของมวลมนุษยชาติ" ยิวคือสิ่งชั่วร้ายมากที่สุดที่โลกเคยมีมา ยิวแค่ 1 ตัว สามารถกินทั้งโลกได้ ยิว 100 ตัว กินจักรวาล แกแลคซี่ได้ เพราะอียิว มันคือ ความไม่รู้จักจบ ไม่เพียงพอ โลภไร้ขีดจำกัด ยิวคือศัตรูของมวลมนุษยชาติ จำไว้จงดี) 24 ธันวาคม 67(คริสต์มาส อีฟ ขอส่งความสุขให้คนดีดี แต่จะส่งส้นตรีนให้ไอ้อีขายชาติ เหี้ยกินบ้าน กินเมืองทั้งหลาย แสงคือความจริง ความกล้า) 11.50 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** ชื่อเพจ ยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อ รออีก 60 วัน "แสงสว่าง สิริแสงสว่าง" https://www.facebook.com/profile.php?id=100015961291594
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 991 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts