• นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง”

    ตอนที่ 3 Emperor Bush !?

    George Herbert Walker Bush เป็นพวกคนรวย มาจากครอบครัวที่ทำมาหากินแถว New England ซึ่งเคยค้าขายกับอาณาจักร Reich ของ Hitler มาแล้ว และมาคบและค้า น้ำมันกับตระกูล Rockefeller เขาบอกกับคนสนิทว่า “เราชนะแล้ว” เหมือนเวลาแข่งขัน Super Bowl แล้วทีมที่ตัวเชียร์ชนะนั่นแหละ ชนะแบบนั้น ฮึกเหิมแบบนั้น มันรู้สึกว่ายิ่งใหญ่เหลือประมาณ ขนาดมีคนตั้งข้อสังเกตว่า ประธานาธิบดีอเมริกา ในยุค 1990 โดยเฉพาะนาย Bush คนนี้ เวลาจะเดินทางไปต่างประเทศ ขบวนใหญ่โตเหมือนองค์จักรพรรดิเสด็จ ฝ่ายความมั่นคงที่ยกทีมไปคุ้มกัน ดูเหมือนจะมากกว่าพลเมืองของประเทศที่ นาย Bush ไปปรากฎตัวเยี่ยมเสียอีก อเมริกากำลังฉาบตัวเองให้มีภาพเป็น ผู้ครองโลก ไม่ต่างกับสมัยนโปเลียน ตั้งตัวเองเป็นจักรพรรดิ โอ้โห ! เล่นกันเองแรงเหมือนกันนะพวกนักล่า สมันน้อยคิดในใจ

    เปล่าหรอก คนที่พูดไม่ใช่ใครอื่น เจ้าของหัวสมองที่อเมริกาบอกยอด แสนรู้ นาย Zbigniew Brzezinski เจ้าเก่านั่นเอง เขาไม่ได้พูดในฐานะคนนอก แต่พูดในฐานะคนใน และไม่ใช่ในธรรมดา แต่ในฐานะนายท้ายเรืออเมริกา ชื่อเขาไม่เคยหลุดจากการเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประธานาธิบดีมาเลย ไล่มาตั้งแต่สมัยแรกคือนาย Jimmy Carter จนเดี๋ยวนี้อายุ 90 แล้ว ยังเป็นที่ปรึกษาให้นาย Obama ด้วย
    นาย Brzezinski เป็นลูกศิษย์เอกของครูใหญ่ด้าน ภูมิศาสตร์การเมืองชาวอังกฤษ คือ Sir Halford Mackinder ซึ่งบอกว่าการแสดงความกร่างของการเป็นจักรวรรดิ มันก็คือบทสุดท้ายของการเป็นจักรวรรดิ ความกร่างนั่นแหละที่ทำให้จักรภพอังกฤษ ถึงจุดจบในศตรรษที่ 19 เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 เริ่ม

    นาย Brzezinski ยังบอกอีกว่า ไอ้ความอวดดี กดขี่และความกร่างของวอชิงตัน ในศตวรรษต่อมานี่แหละ จะทำลายอเมริกาเอง จากการที่เป็นผู้มีอำนาจใหญ่สุดหนึ่งเดียว หรือการเป็นจักรวรรดิอเมริกา แต่นาย Brzezinski นั่นเองแหละ ที่เป็นคนติดเครื่องให้อเมริกาเป็นจักรวรรดิ นักล่าหมายเลขหนึ่งครองโลก แต่เขาเตือนว่าอเมริกาจะต้องระมัดระวัง แม้ว่าจะเอาเสื้อคลุมประชาธิปไตยมาพรางตัวเองแล้วก็ตาม ก็จะต้องรักษามิตรเพื่องานใหญ่ข้างหน้า งานใหญ่นี้คือ การควบคุม Eurasia เขาไม่ได้โต้แย้งการจะเป็นจักรวรรดิอเมริกา เขาเพียงแต่เห็นต่างในวิธีการจะไปให้ถึงจุดหมาย

    Brzezinski บอกว่าเราจะไปให้ถึงจุดหมายของการเป็นจักรวรรดิอเมริกา เราต้องมีกองทัพของอเมริกาอยู่ที่ทั่วโลก วางกองกำลังไว้ทุกทวีป ครอบคลุมทุกมหาสมุทร เพิ่มการปะทะหรือการต่อสู้ในทุกที่ แบบนี้จะมีใครมาเทียบรัศมีกับอเมริกาได้ ไม่ว่าในทางการเมืองหรือกองทัพ

    และที่อเมริกาวางกองกำลังไว้แห่งหนึ่งก็คือ บริเวณพื้นที่ผืนเล็ก ๆ อยู่ในเอเซียกลาง ซึ่งเคยเป็นของสหภาพโซเวียต ที่ชื่อ Republic of Georgia นั่นแหละ ตั้งแต่ประมาณปี ค.ศ. 2003 เป็นต้นมา รัฐบาลอเมริกัน โดยคุณพ่อ Bush ได้ให้การสนับสนุนด้านกองกำลังแก่ Georgia รวมทั้งให้คำปรึกษา เป็นพี่เลี้ยง ให้กับรัฐเล็กๆ ที่ได้ประกาศตัวเป็นอิสระจากสหภาพโซเวียต ในปี 1990 มาตลอด
    คงจะเป็นการยาก ที่จะให้ใครเข้าใจเหตุการณ์ใน Georgia ในปี ค.ศ. 2008 ถ้าไม่ย้อนไปดูพฤติกรรมของอเม ริกา หลัง ค.ศ. 1990 เป็นต้นมา สมัยรัฐบาลคุณพ่อ Bush เขาหักหลังรัสเซียโดยให้ NATO ขยายตัวมาทางตะวันออก มาถึงคุณลูก Bush ก็มาสานต่อด้วยการกดดันสหภาพยุโรปและรัฐบาลของยุโรปตะวันตก ให้รับ Georgia และ Ukraine สองประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพ โซเวียตเข้าไปอยู่ในอ้อมอกของ NATO

    ต้นปี ค.ศ. 2007 อเมริกาประกาศว่า อเมริกามีแผนที่จะสร้างฐานยิงจรวด และสถานีเรดาร์ ใน 2 ประเทศที่เคยอยู่ใน Warsaw Pact และบัดนี้เป็นสมาชิกของ NATO คือ Poland และ Czech นาย Bush อ้างว่าอเมริกาต้องทำเพื่อป้องกันตัวเอง จากการโจมตีของประเทศที่พูดกันไม่รู้เรื่องเช่น Iran ข้ออ้างนี้ ถูกรัสเซียสวนกลับว่าไม่ใช่เป็นการป้องกันตัวหรอกเพื่อน แต่เป็นการแสดงการรุกคืบ เพื่อโชว์กำลังอำนาจด้านการทหารให้ Moscow ดูมากกว่า !

    เดือน ก.พ. 2007 คุณพี่ปูติน ในฐานะประธานาธิบดีของรัสเซีย ได้พูดในที่ประชุมเกี่ยวกับความมั่นคงระหว่างประเทศที่ Munich Germany ว่า วันนี้ไม่ขอพูดภาษานักการฑูต แต่ขอถามกันตรง ๆ ว่าNATO ตั้งใจจะก่อความยั่วยุ ให้เกิดความไม่ไว้วางใจกัน ระหว่างสมาชิกหรือยังไง ถามจริง ๆ เถอะ เป้าหมาย (ของการยั่วยุของ) NATO อยู่ที่ใคร และคำมั่นของบรรดาคู่สัญญาฝ่ายตะวันตก หลังเลิก Warsaw Pact นั้น มันหายไปไหนหมด

    คุณพี่ปูตินอาจจะไม่ใช่ประเภท “nice guy” แต่ที่แน่นอน คุณพี่ปูไม่ใช่คนโง่และขี้ขลาด เมื่อถึงเวลาที่จะต้องปกป้องผลประโยชน์ของชาวรัสเซีย กลิ่นของสงครามเย็นเริ่มโชยอีกครั้ง!

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    27 มิย. 2557
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง” ตอนที่ 3 Emperor Bush !? George Herbert Walker Bush เป็นพวกคนรวย มาจากครอบครัวที่ทำมาหากินแถว New England ซึ่งเคยค้าขายกับอาณาจักร Reich ของ Hitler มาแล้ว และมาคบและค้า น้ำมันกับตระกูล Rockefeller เขาบอกกับคนสนิทว่า “เราชนะแล้ว” เหมือนเวลาแข่งขัน Super Bowl แล้วทีมที่ตัวเชียร์ชนะนั่นแหละ ชนะแบบนั้น ฮึกเหิมแบบนั้น มันรู้สึกว่ายิ่งใหญ่เหลือประมาณ ขนาดมีคนตั้งข้อสังเกตว่า ประธานาธิบดีอเมริกา ในยุค 1990 โดยเฉพาะนาย Bush คนนี้ เวลาจะเดินทางไปต่างประเทศ ขบวนใหญ่โตเหมือนองค์จักรพรรดิเสด็จ ฝ่ายความมั่นคงที่ยกทีมไปคุ้มกัน ดูเหมือนจะมากกว่าพลเมืองของประเทศที่ นาย Bush ไปปรากฎตัวเยี่ยมเสียอีก อเมริกากำลังฉาบตัวเองให้มีภาพเป็น ผู้ครองโลก ไม่ต่างกับสมัยนโปเลียน ตั้งตัวเองเป็นจักรพรรดิ โอ้โห ! เล่นกันเองแรงเหมือนกันนะพวกนักล่า สมันน้อยคิดในใจ เปล่าหรอก คนที่พูดไม่ใช่ใครอื่น เจ้าของหัวสมองที่อเมริกาบอกยอด แสนรู้ นาย Zbigniew Brzezinski เจ้าเก่านั่นเอง เขาไม่ได้พูดในฐานะคนนอก แต่พูดในฐานะคนใน และไม่ใช่ในธรรมดา แต่ในฐานะนายท้ายเรืออเมริกา ชื่อเขาไม่เคยหลุดจากการเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประธานาธิบดีมาเลย ไล่มาตั้งแต่สมัยแรกคือนาย Jimmy Carter จนเดี๋ยวนี้อายุ 90 แล้ว ยังเป็นที่ปรึกษาให้นาย Obama ด้วย นาย Brzezinski เป็นลูกศิษย์เอกของครูใหญ่ด้าน ภูมิศาสตร์การเมืองชาวอังกฤษ คือ Sir Halford Mackinder ซึ่งบอกว่าการแสดงความกร่างของการเป็นจักรวรรดิ มันก็คือบทสุดท้ายของการเป็นจักรวรรดิ ความกร่างนั่นแหละที่ทำให้จักรภพอังกฤษ ถึงจุดจบในศตรรษที่ 19 เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 เริ่ม นาย Brzezinski ยังบอกอีกว่า ไอ้ความอวดดี กดขี่และความกร่างของวอชิงตัน ในศตวรรษต่อมานี่แหละ จะทำลายอเมริกาเอง จากการที่เป็นผู้มีอำนาจใหญ่สุดหนึ่งเดียว หรือการเป็นจักรวรรดิอเมริกา แต่นาย Brzezinski นั่นเองแหละ ที่เป็นคนติดเครื่องให้อเมริกาเป็นจักรวรรดิ นักล่าหมายเลขหนึ่งครองโลก แต่เขาเตือนว่าอเมริกาจะต้องระมัดระวัง แม้ว่าจะเอาเสื้อคลุมประชาธิปไตยมาพรางตัวเองแล้วก็ตาม ก็จะต้องรักษามิตรเพื่องานใหญ่ข้างหน้า งานใหญ่นี้คือ การควบคุม Eurasia เขาไม่ได้โต้แย้งการจะเป็นจักรวรรดิอเมริกา เขาเพียงแต่เห็นต่างในวิธีการจะไปให้ถึงจุดหมาย Brzezinski บอกว่าเราจะไปให้ถึงจุดหมายของการเป็นจักรวรรดิอเมริกา เราต้องมีกองทัพของอเมริกาอยู่ที่ทั่วโลก วางกองกำลังไว้ทุกทวีป ครอบคลุมทุกมหาสมุทร เพิ่มการปะทะหรือการต่อสู้ในทุกที่ แบบนี้จะมีใครมาเทียบรัศมีกับอเมริกาได้ ไม่ว่าในทางการเมืองหรือกองทัพ และที่อเมริกาวางกองกำลังไว้แห่งหนึ่งก็คือ บริเวณพื้นที่ผืนเล็ก ๆ อยู่ในเอเซียกลาง ซึ่งเคยเป็นของสหภาพโซเวียต ที่ชื่อ Republic of Georgia นั่นแหละ ตั้งแต่ประมาณปี ค.ศ. 2003 เป็นต้นมา รัฐบาลอเมริกัน โดยคุณพ่อ Bush ได้ให้การสนับสนุนด้านกองกำลังแก่ Georgia รวมทั้งให้คำปรึกษา เป็นพี่เลี้ยง ให้กับรัฐเล็กๆ ที่ได้ประกาศตัวเป็นอิสระจากสหภาพโซเวียต ในปี 1990 มาตลอด คงจะเป็นการยาก ที่จะให้ใครเข้าใจเหตุการณ์ใน Georgia ในปี ค.ศ. 2008 ถ้าไม่ย้อนไปดูพฤติกรรมของอเม ริกา หลัง ค.ศ. 1990 เป็นต้นมา สมัยรัฐบาลคุณพ่อ Bush เขาหักหลังรัสเซียโดยให้ NATO ขยายตัวมาทางตะวันออก มาถึงคุณลูก Bush ก็มาสานต่อด้วยการกดดันสหภาพยุโรปและรัฐบาลของยุโรปตะวันตก ให้รับ Georgia และ Ukraine สองประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพ โซเวียตเข้าไปอยู่ในอ้อมอกของ NATO ต้นปี ค.ศ. 2007 อเมริกาประกาศว่า อเมริกามีแผนที่จะสร้างฐานยิงจรวด และสถานีเรดาร์ ใน 2 ประเทศที่เคยอยู่ใน Warsaw Pact และบัดนี้เป็นสมาชิกของ NATO คือ Poland และ Czech นาย Bush อ้างว่าอเมริกาต้องทำเพื่อป้องกันตัวเอง จากการโจมตีของประเทศที่พูดกันไม่รู้เรื่องเช่น Iran ข้ออ้างนี้ ถูกรัสเซียสวนกลับว่าไม่ใช่เป็นการป้องกันตัวหรอกเพื่อน แต่เป็นการแสดงการรุกคืบ เพื่อโชว์กำลังอำนาจด้านการทหารให้ Moscow ดูมากกว่า ! เดือน ก.พ. 2007 คุณพี่ปูติน ในฐานะประธานาธิบดีของรัสเซีย ได้พูดในที่ประชุมเกี่ยวกับความมั่นคงระหว่างประเทศที่ Munich Germany ว่า วันนี้ไม่ขอพูดภาษานักการฑูต แต่ขอถามกันตรง ๆ ว่าNATO ตั้งใจจะก่อความยั่วยุ ให้เกิดความไม่ไว้วางใจกัน ระหว่างสมาชิกหรือยังไง ถามจริง ๆ เถอะ เป้าหมาย (ของการยั่วยุของ) NATO อยู่ที่ใคร และคำมั่นของบรรดาคู่สัญญาฝ่ายตะวันตก หลังเลิก Warsaw Pact นั้น มันหายไปไหนหมด คุณพี่ปูตินอาจจะไม่ใช่ประเภท “nice guy” แต่ที่แน่นอน คุณพี่ปูไม่ใช่คนโง่และขี้ขลาด เมื่อถึงเวลาที่จะต้องปกป้องผลประโยชน์ของชาวรัสเซีย กลิ่นของสงครามเย็นเริ่มโชยอีกครั้ง! สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 27 มิย. 2557
    0 Comments 0 Shares 133 Views 0 Reviews
  • แหกคอก ตอนที่ 7 – ถังความคิด
    ทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ”
    ตอนที่ 7 : ถังความคิด
    แม้เศรษฐกิจจะอยู่ในกำมือพวกนายทุนใหญ่แล้วก็ตาม แต่พวกเขาบอกว่าแค่อยู่ในมือเรา มันไม่อยู่นาน (พวกนี้คิดรอบคอบ) เราต้องสร้างพรรคพวก ต้องทำให้สังคม โดยเฉพาะสังคมในระดับสูง เห็นคล้อยตามเราด้วย ประเภทเราว่าไงเขาต้องว่าตามกัน มันจะได้คุม (หลอก) กัน ง่ายๆ หน่อย แล้วจะทำให้พวกคนในสังคมระดับสูงเขาเห็นพ้องด้วยได้อย่างไรล่ะ คนพวกนี้ถึงแม้จะมีจำนวนไม่มาก แต่จะให้เรียกให้มาประชุมคงไม่ง่ายนักหรอก พวกเขาหยิ่งยะโสเล่นตัวกันจะตาย แต่จะให้เดินสายไปคุยด้วยทีละราย กว่าจะรู้เรื่องเห็นพ้องกันหมด พวกตูก็แก่ตายหมด ไม่ได้ครองโลกกันเสียที !
    นายทุนใหญ่ ทั้งหลายจึงสรุปว่า อย่ากระนั้นเลย พวกเราควรมอบให้ใครมันไปช่วยคิดช่วยทำให้เราดีกว่านะ รวยแล้ว อย่าต้องลงมือลงแรงเองหมด ใช้ให้ผีมันโม่แป้งแทนก็แล้วกัน แล้วพวกเขาก็ตั้งสถาบันประเภทนักคิด (think tank มาแล้ว) เพื่อให้มีหน้าที่จัดการคิด การชี้นำสังคม วิธีล้อมคอกพวกคนรวย (อื่นๆ) คนในสังคมชั้นสูงจากทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง นักเศรษฐศาสตร์ นักวิชาการ สื่อ และแม้แต่พวกคุณทหาร เข้ามารับความเข้าใจ และควบคุมความคิดของบุคคลเหล่า นั้น ให้เป็นไปในทิศทางเดียว กับที่นายทุนใหญ่ต้องการ เข้าใจไหม มันเป็นการย้อมความคิด โดยคนถูกย้อมไม่รู้ตัว ว่ากำลังถูกย้อมสมอง ย้อมความคิด เป็นไปไม่ได้น่ะ ไม่มีทางหรอก ไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะทำอะไรแบบ นั้น พวกโลกสวยคงกำลังคิดในใจ ฮา มันเป็นวิธีที่เฉียบมาก จูงจมูกคนรวย หรือคนมีอำนาจ หรือนักวิชาการด้วยกัน นี่ถือว่าสุดยอดจริงๆ หรือว่ามันก็ไม่ยากเกิน คนรวย คนมีอำนาจ นักวิชาการ ใช่ว่าจะฉลาดเสมอไป ฮา อีกหน
    ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 กลุ่มนักวิชาการชาวอเมริกัน ได้รับมอบหมายให้วาดภาพสถานการณ์ ให้ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ฟังเกี่ยวกับทางเลือกต่างๆ ของอเมริกา ในกรณีที่สงครามโลกจบและ Kaiser และจักรวรรดิเยอรมันหล่นจากบัลลังก์ นักวิชาการกลุ่มนี้เรียกว่ากลุ่ม The Inquiry เวลาวาดภาพให้ประธานาธิบดีฟัง เขามีวิธี เขาใช้วิธีเล่าผ่านคนสนิทที่ประธานาธิบดีเชื่อใจอย่างมาก (จำวิธีนี้กันไว้นะครับ เขาใช้กันทั้งนั้น ปากก็บอกผมไม่เคยเจรจา ไม่เคยพูด แต่ให้คนสนิทเป็นคนพูด ไม่ได้โกหกนี่หว่า !) นายคนสนิท ชื่อ พันเอก Edward M. House นี้สำคัญมาก เป็นผู้เดินสาส์นลับของประธานาธิบดี กับฝ่ายยุโรป ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ปี ค.ศ.1914 จนถึงช่วงที่อเมริกาเข้าไปมีส่วนด้วยในช่วง ค.ศ.1917 ปากก็บอกว่าฉันสันโดษ Isolist แต่ส่งคนเดินสาส์น จนซ่นร้องเท้าสึกไปหลายคู่ นักการเมืองก็เป็นยังงี้ทั้งนั้น และไม่ว่าพันธุ์เทศ พันธุ์ไทย ปากก็พูดไปอย่าง แล้วก็ไปทำอีก 3 อย่าง คนละเรื่องกัน ท่านนายพันเอก House นี้ เป็นคนสำคัญในการผลักและดันให้ประธานาธิบดี Wilson เห็นชอบในการที่อเมริกาจัดตั้งระบบ Federal Reserve (ตกลงคุณ House นี้ เป็นพวกใครกันแน่ !)
    กลุ่ม The Enquiry นี้เอง เป็นผู้ปูทางการสร้าง the Council on Foreign Relations (CFR) CFR เป็น think tank ถังความคิด ที่ทรงอิทธิพลสูงสุดในอเมริกาตั้งแต่เริ่มตั้งจนถึงปัจจุบัน
    เดือนพฤษภาคม ค.ศ.1919 กลุ่มนักวิชาการและนักการฑูตจากอังกฤษและอเมริกา รวมทั้งกลุ่ม The Inquiry นั่งสุมหัววางแผนกันที่โรงแรม the Majestic ในปารีส เพื่อที่จะร่วมกันตั้งสถาบันเกี่ยวกับกิจการระหว่างประเทศ โดยมีสาขาหนึ่งที่ London และอีกสาขาหนึ่งที่ New York เมื่อบรรดาพวกไปสุมหัวกลับมาถึง New York ก็รายงานผลการคุย ให้กับนักการเงินและนักกฏหมายที่ New York (นายทุนตัวจริง !) ฟัง ทุกคนไชโยโห่ตบมือเป่าปากกับข้อสรุปที่ตกลงกันมา แน่นอนคนที่ดีใจที่สุดคงไม่ใครเกิน นาย Cecil Rhodes นักล่ารุ่นเก๋า ที่แค่ซ่อนเขี้ยวของตัวเองให้มิดชิด นักล่ารุ่นกะเตาะ ก็นึกว่านักล่ารุ่นเก๋าเขี้ยวหลุดหมดปากไปแล้ว แหม ! หลอกง่ายจัง นึกว่าเด็กรุ่นใหม่ ฉลาดกว่ารุ่นโบราณ ! แต่ในที่สุดภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกัน มันคงแปร่งหูเกินกว่าคนอังกฤษจะทนฟังได้ สถาบันนักชักใย CFR เลยเปลี่ยนแผนแยกตัวเป็น 2 แขนง แต่มาจากตอเดียวกัน ต่างคนต่างไปตั้งกลุ่มของพวกตัวเอง อังกฤษกลุ่มหนึ่ง อเมริกากลุ่มหนึ่ง แต่ยังจับมือกอดแขนจิกหัวกันไว้ ยังไงก็ต้องร่วมมือใกล้ชิด ก็คิดจะครองโลกด้วยกัน
    The Milner Group ของก๊วนนาย Cecil Rhodes รับบทเป็นตัวตั้งตัวตีในการตั้ง Royal Institute of International Affairs (Chatham House) ถังความคิด think tank สัญชาติอังกฤษ ในปี ค.ศ.1919 ส่วนกลุ่ม The Inquiry ก็รับมอบหน้าที่ไปตั้ง Council of Foreign Relations think tank สัญชาติอเมริกัน ในปี ค.ศ.1921
    นอกจากนี้ ยังมีองค์กรลับที่มีแนวคิดเดียวกับ Milner Group ทยอยเกิดขึ้นอีกในหลายๆ ประเทศ เขาเรียกกลุ่มพวกนี้ว่าพวกโต๊ะ กลม เอามาจากอัศวินโต๊ะกลม Knights of the Round Table สมัย King Arthur ของอังกฤษนั่นแหละ Round Table Groups ในบรรดาพวกโต๊ะกลม โต๊ะใหญ่ในกลุ่มนี้ก็คือ Royal Institute of International Affairs (Chatham House) ที่ลดหลั่นลงมาก็มี โต๊ะกลม Canada, Australia, New Zealand, South Africa และ India จักรภพอังกฤษถึงล่มก็ยังไม่สลาย ดึงเอาลูกกะเป๋งเก่า ตามมาเข้าขบวนตั้งโต๊ะกลมด้วย กลุ่มโต๊ะกลมนี้ ก็คือ กลุ่มถังความคิด (think tank) นานาชาติรุ่นแรก ซึ่งยังดำเนินการอย่างแข็งขัน และมีอิทธิพลในแต่ละประเทศของตัว จนถึงทุกวันนี้ ในฐานะเป็นรุ่นใหญ่มีชื่อเสียงอยู่ในอันดับต้นมาตลอด รักษาตำแหน่งไว้ไม่เคยปล่อยให้ตกอันดับ
    ส่วนถังความคิดรุ่นใหญ่ในอเมริกา ที่ได้รับความนิยมตาม CFR มาติดๆ ก็มี Brookings Institution, Carnegie Endowment for International Peace, RAND Corporation, Heritage Foundation, Woodrow Wilson International Centre for Scholars, the Centre for Strategic and International Studies และ American Enterprise Institute (นักอ่านนิทานท่านใด ที่อยากรู้วิธีคิด หรืออยากรู้ว่านักล่ากำลังคิดทำอะไรอยู่ อยากติดตามด้วยตัวเองก็ค้นได้จากอากู กดชื่อตัวถัง พวกนี้แหละครับ มีเรื่องให้อ่านเพียบเลย)
    สำหรับถังความคิดที่ไม่ได้สังกัดกับอเมริกา ก็จะมี Chatham House เป็นถังหมายเลขหนึ่งของอังกฤษ เป็นที่นับหน้าถือตา มีอิทธิพล ทำนองเดียวกับ CFR, the International Institute for Strategic Studies in the UK, the German Council on Foreign Relation, the Adam Smith Institute in the UK, the Fraser Institute ใน Canada, the European Council on Foreign Relations, the International Crisis Group in Belgium และ Canadian Institute of International Affairs
    คนเล่านิทาน
30 พค. 57
    แหกคอก ตอนที่ 7 – ถังความคิด ทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ” ตอนที่ 7 : ถังความคิด แม้เศรษฐกิจจะอยู่ในกำมือพวกนายทุนใหญ่แล้วก็ตาม แต่พวกเขาบอกว่าแค่อยู่ในมือเรา มันไม่อยู่นาน (พวกนี้คิดรอบคอบ) เราต้องสร้างพรรคพวก ต้องทำให้สังคม โดยเฉพาะสังคมในระดับสูง เห็นคล้อยตามเราด้วย ประเภทเราว่าไงเขาต้องว่าตามกัน มันจะได้คุม (หลอก) กัน ง่ายๆ หน่อย แล้วจะทำให้พวกคนในสังคมระดับสูงเขาเห็นพ้องด้วยได้อย่างไรล่ะ คนพวกนี้ถึงแม้จะมีจำนวนไม่มาก แต่จะให้เรียกให้มาประชุมคงไม่ง่ายนักหรอก พวกเขาหยิ่งยะโสเล่นตัวกันจะตาย แต่จะให้เดินสายไปคุยด้วยทีละราย กว่าจะรู้เรื่องเห็นพ้องกันหมด พวกตูก็แก่ตายหมด ไม่ได้ครองโลกกันเสียที ! นายทุนใหญ่ ทั้งหลายจึงสรุปว่า อย่ากระนั้นเลย พวกเราควรมอบให้ใครมันไปช่วยคิดช่วยทำให้เราดีกว่านะ รวยแล้ว อย่าต้องลงมือลงแรงเองหมด ใช้ให้ผีมันโม่แป้งแทนก็แล้วกัน แล้วพวกเขาก็ตั้งสถาบันประเภทนักคิด (think tank มาแล้ว) เพื่อให้มีหน้าที่จัดการคิด การชี้นำสังคม วิธีล้อมคอกพวกคนรวย (อื่นๆ) คนในสังคมชั้นสูงจากทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง นักเศรษฐศาสตร์ นักวิชาการ สื่อ และแม้แต่พวกคุณทหาร เข้ามารับความเข้าใจ และควบคุมความคิดของบุคคลเหล่า นั้น ให้เป็นไปในทิศทางเดียว กับที่นายทุนใหญ่ต้องการ เข้าใจไหม มันเป็นการย้อมความคิด โดยคนถูกย้อมไม่รู้ตัว ว่ากำลังถูกย้อมสมอง ย้อมความคิด เป็นไปไม่ได้น่ะ ไม่มีทางหรอก ไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะทำอะไรแบบ นั้น พวกโลกสวยคงกำลังคิดในใจ ฮา มันเป็นวิธีที่เฉียบมาก จูงจมูกคนรวย หรือคนมีอำนาจ หรือนักวิชาการด้วยกัน นี่ถือว่าสุดยอดจริงๆ หรือว่ามันก็ไม่ยากเกิน คนรวย คนมีอำนาจ นักวิชาการ ใช่ว่าจะฉลาดเสมอไป ฮา อีกหน ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 กลุ่มนักวิชาการชาวอเมริกัน ได้รับมอบหมายให้วาดภาพสถานการณ์ ให้ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ฟังเกี่ยวกับทางเลือกต่างๆ ของอเมริกา ในกรณีที่สงครามโลกจบและ Kaiser และจักรวรรดิเยอรมันหล่นจากบัลลังก์ นักวิชาการกลุ่มนี้เรียกว่ากลุ่ม The Inquiry เวลาวาดภาพให้ประธานาธิบดีฟัง เขามีวิธี เขาใช้วิธีเล่าผ่านคนสนิทที่ประธานาธิบดีเชื่อใจอย่างมาก (จำวิธีนี้กันไว้นะครับ เขาใช้กันทั้งนั้น ปากก็บอกผมไม่เคยเจรจา ไม่เคยพูด แต่ให้คนสนิทเป็นคนพูด ไม่ได้โกหกนี่หว่า !) นายคนสนิท ชื่อ พันเอก Edward M. House นี้สำคัญมาก เป็นผู้เดินสาส์นลับของประธานาธิบดี กับฝ่ายยุโรป ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ปี ค.ศ.1914 จนถึงช่วงที่อเมริกาเข้าไปมีส่วนด้วยในช่วง ค.ศ.1917 ปากก็บอกว่าฉันสันโดษ Isolist แต่ส่งคนเดินสาส์น จนซ่นร้องเท้าสึกไปหลายคู่ นักการเมืองก็เป็นยังงี้ทั้งนั้น และไม่ว่าพันธุ์เทศ พันธุ์ไทย ปากก็พูดไปอย่าง แล้วก็ไปทำอีก 3 อย่าง คนละเรื่องกัน ท่านนายพันเอก House นี้ เป็นคนสำคัญในการผลักและดันให้ประธานาธิบดี Wilson เห็นชอบในการที่อเมริกาจัดตั้งระบบ Federal Reserve (ตกลงคุณ House นี้ เป็นพวกใครกันแน่ !) กลุ่ม The Enquiry นี้เอง เป็นผู้ปูทางการสร้าง the Council on Foreign Relations (CFR) CFR เป็น think tank ถังความคิด ที่ทรงอิทธิพลสูงสุดในอเมริกาตั้งแต่เริ่มตั้งจนถึงปัจจุบัน เดือนพฤษภาคม ค.ศ.1919 กลุ่มนักวิชาการและนักการฑูตจากอังกฤษและอเมริกา รวมทั้งกลุ่ม The Inquiry นั่งสุมหัววางแผนกันที่โรงแรม the Majestic ในปารีส เพื่อที่จะร่วมกันตั้งสถาบันเกี่ยวกับกิจการระหว่างประเทศ โดยมีสาขาหนึ่งที่ London และอีกสาขาหนึ่งที่ New York เมื่อบรรดาพวกไปสุมหัวกลับมาถึง New York ก็รายงานผลการคุย ให้กับนักการเงินและนักกฏหมายที่ New York (นายทุนตัวจริง !) ฟัง ทุกคนไชโยโห่ตบมือเป่าปากกับข้อสรุปที่ตกลงกันมา แน่นอนคนที่ดีใจที่สุดคงไม่ใครเกิน นาย Cecil Rhodes นักล่ารุ่นเก๋า ที่แค่ซ่อนเขี้ยวของตัวเองให้มิดชิด นักล่ารุ่นกะเตาะ ก็นึกว่านักล่ารุ่นเก๋าเขี้ยวหลุดหมดปากไปแล้ว แหม ! หลอกง่ายจัง นึกว่าเด็กรุ่นใหม่ ฉลาดกว่ารุ่นโบราณ ! แต่ในที่สุดภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกัน มันคงแปร่งหูเกินกว่าคนอังกฤษจะทนฟังได้ สถาบันนักชักใย CFR เลยเปลี่ยนแผนแยกตัวเป็น 2 แขนง แต่มาจากตอเดียวกัน ต่างคนต่างไปตั้งกลุ่มของพวกตัวเอง อังกฤษกลุ่มหนึ่ง อเมริกากลุ่มหนึ่ง แต่ยังจับมือกอดแขนจิกหัวกันไว้ ยังไงก็ต้องร่วมมือใกล้ชิด ก็คิดจะครองโลกด้วยกัน The Milner Group ของก๊วนนาย Cecil Rhodes รับบทเป็นตัวตั้งตัวตีในการตั้ง Royal Institute of International Affairs (Chatham House) ถังความคิด think tank สัญชาติอังกฤษ ในปี ค.ศ.1919 ส่วนกลุ่ม The Inquiry ก็รับมอบหน้าที่ไปตั้ง Council of Foreign Relations think tank สัญชาติอเมริกัน ในปี ค.ศ.1921 นอกจากนี้ ยังมีองค์กรลับที่มีแนวคิดเดียวกับ Milner Group ทยอยเกิดขึ้นอีกในหลายๆ ประเทศ เขาเรียกกลุ่มพวกนี้ว่าพวกโต๊ะ กลม เอามาจากอัศวินโต๊ะกลม Knights of the Round Table สมัย King Arthur ของอังกฤษนั่นแหละ Round Table Groups ในบรรดาพวกโต๊ะกลม โต๊ะใหญ่ในกลุ่มนี้ก็คือ Royal Institute of International Affairs (Chatham House) ที่ลดหลั่นลงมาก็มี โต๊ะกลม Canada, Australia, New Zealand, South Africa และ India จักรภพอังกฤษถึงล่มก็ยังไม่สลาย ดึงเอาลูกกะเป๋งเก่า ตามมาเข้าขบวนตั้งโต๊ะกลมด้วย กลุ่มโต๊ะกลมนี้ ก็คือ กลุ่มถังความคิด (think tank) นานาชาติรุ่นแรก ซึ่งยังดำเนินการอย่างแข็งขัน และมีอิทธิพลในแต่ละประเทศของตัว จนถึงทุกวันนี้ ในฐานะเป็นรุ่นใหญ่มีชื่อเสียงอยู่ในอันดับต้นมาตลอด รักษาตำแหน่งไว้ไม่เคยปล่อยให้ตกอันดับ ส่วนถังความคิดรุ่นใหญ่ในอเมริกา ที่ได้รับความนิยมตาม CFR มาติดๆ ก็มี Brookings Institution, Carnegie Endowment for International Peace, RAND Corporation, Heritage Foundation, Woodrow Wilson International Centre for Scholars, the Centre for Strategic and International Studies และ American Enterprise Institute (นักอ่านนิทานท่านใด ที่อยากรู้วิธีคิด หรืออยากรู้ว่านักล่ากำลังคิดทำอะไรอยู่ อยากติดตามด้วยตัวเองก็ค้นได้จากอากู กดชื่อตัวถัง พวกนี้แหละครับ มีเรื่องให้อ่านเพียบเลย) สำหรับถังความคิดที่ไม่ได้สังกัดกับอเมริกา ก็จะมี Chatham House เป็นถังหมายเลขหนึ่งของอังกฤษ เป็นที่นับหน้าถือตา มีอิทธิพล ทำนองเดียวกับ CFR, the International Institute for Strategic Studies in the UK, the German Council on Foreign Relation, the Adam Smith Institute in the UK, the Fraser Institute ใน Canada, the European Council on Foreign Relations, the International Crisis Group in Belgium และ Canadian Institute of International Affairs คนเล่านิทาน
30 พค. 57
    0 Comments 0 Shares 197 Views 0 Reviews
  • แกะรอยเก่า ตอนที่ 12
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยเก่า”
ตอนที่ 12
    ประมาณปี พ.ศ.1960 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของรัฐบาลEisenhower นาย Kenneth ขออนุญาตกระทรวงต่างประเทศอเม ริกา เดินทางมาสำรวจเมืองไทย และแถบอินโดจีนอีกรอบ (!!!) ตอนนั้น นาย Alexis Johnson เป็นฑูต และ นาย Leonard Unger เป็นผู้ช่วยฑูต ทั้ง 2 คนเป็นคนฉลาดรู้จักเมืองไทยอย่างดี เข้ ากับทหารไทยได้แบบคอหอยกับลูกกระเดือก โดยเฉพาะนาย Unger เมื่อมาถึงปรากฏว่าจอมพลสฤษดิ์ส่งนายทหารคนสนิทมารับนาย Kenneth ถึงสนามบิน จอมพลสฤษดิ์ถามเขาว่า มาทำไม นาย Kenneth บอกจะมาดูสถานการณ์ในลาวสักหน่อย หลังจากนั้นจะไปกัมพูชา ไซ่ง่อนและพม่า นาย Kenneth บอกว่า จริงๆจะมาตรวจการบ้านด้วยว่าเงินช่วยเหลือทางทหาร Military Assistance Program (MAP) ที่อเมริกาให้แต่ละประเทศ ได้ผลมากน้อยแค่ไหน จอมพลสฤษดิ์บอกว่ากลับมาแล้ว มาเล่าให้ฟังกันด้วย ปรากฎว่าส่วนใหญ่ได้ผล ยกเว้นแต่ลาว ซึ่งอเมริกาให้เงินช่วยเหลือมากกว่าไทยเสียอีก แต่อเมริกาทำท่าจะเสียลาวให้แก่คอมมิวนิสต์ (และในที่สุดก็เสียจริงๆ ! ) โดยอาจจะมีการปฏิวัติโดยลาวแดงเร็วๆนี้ ขากลับ นาย Kenneth ก็รายงานเรื่องลาวอาจมีการปฏิวัติให้จอมพลสฤษดิ์ทราบ แล้วก็เดินทางต่อลงมาที่สิงค์โปร์
    ที่สิงคโปร์ เขาได้พบกับเศรษฐีสิงคโปร์คนหนึ่งชื่อ Ko Geng Hsui ซึ่งเป็นกระเป๋าใหญ่ให้แก่นาย Lee Kwan Yew และภายหลังได้เป็นรัฐมนตรีกลาโหม นาย Ko ต้องการให้นาย Kenneth ช่วยตั้งสถาบันเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ในมหาวิทยาลัยสิงคโปร์ให้ ภายหลังนาย Kenneth ได้ลางานจากรัฐบาลอเมริกัน 1 ปี เพื่อมาจัดตั้งสถาบันนี้ให้สิงคโปร์ โดยเอาชาวยิวชื่อ Harry Benda จากมหาวิทยาลัย Yale มาช่วย สิงคโปร์จึงเป็นประเทศแรกในแถบนี้ ที่มีสถาบันการศึกษาลงลึกอย่างจริงจังเกี่ยวกับเอเซียอาคเณย์ ตกลงสิงคโปร์ไม่ได้ลอกเลียนแค่งานสงกรานต์ไปจากบ้านเรา แต่ลอกหลายอย่างรวมทั้งวิชาความรู้เกี่ยวกับภูมิภาคนี้ สิงคโปร์ประเทศที่ไม่มีรากไม่มีเหง้า ไม่มีวัฒนธรรม ประเพณีของตนเอง แต่มีคนไทยหลายคนปลาบปลื้มกับความเจริญของสิงคโปร์ จนถึงขนาดอยากให้เมืองไทยเป็นเหมือนสิงคโปร์ เศร้าครับ!
    เมื่อนาย Kenneth กลับมาถึงวอซิงตัน การเลือกตั้งประธานาธิบดีกำลังเข้มข้น แล้วนาย Kennedy ก็ชนะการเลือกตั้ง ขณะเดียวกันลาวก็อาการทรุดตามที่นาย Kenneth คาด รัฐบาล Kennedy เข้ามารับตำแหน่งใหม่ๆ ยังจับต้นไม่ชนปลาย นาย Mc Geroge Bundy จอมแสบที่ปรึกษาด้านความมั่นคง ของประธานาธิบดี Kennedy ถึงจะแสนรู้อย่างไร มาใหม่ๆก็มึนรับประทาน แนะนำสั่งการอะไรไม่ถูก ได้แต่เรียกให้นาย Kenneth ให้มาสรุปสถานการณ์ในลาวให้รัฐบาลฟังก่อนตัดสินใจ ทุกอย่างอลเวงไปหมด และนี่น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ ประธานธิบดี Kennedy ฉุนขาด ประกาศว่าหน่วยงาน National Security Council ทำงานไม่ได้ผล (คงไม่ให้ราคานาย Kenneth สักเท่าไหร่) ถ้าเขายุบหน่วยงานนี้ได้เขาจะยุบแล้ว เพียงแต่ต้องไปขออนุมัติจากสภาสูง ต้องออกกฏหมาย ฯลฯ ดังนั้นเขาจึงสั่ง “แขวน” พนักงานทุกคนในหน่วยงานรวมทั้งนาย Kenneth ด้วย และได้ยกเครื่องการทำงานสภาความมั่นคงเสียใหม่
    หลังจากโดนแขวนอยู่หลายเดือน นาย Kenneth ก็เดินแกว่งไปตามหน่วยงานต่างๆ เพื่อหาที่ลง เพราะแม้จะมีเงินเดือนกิน แต่ไม่มีเก้าอี้นั่งชูคอ แบบรัฐบาลก่อนๆ มันก็ทำให้เขาเสียรังวัดไปพอสมควร จะโม้อะไร โอ้อวดอะไร อย่างเมื่อก่อนก็ไม่ถนัดปาก ก็คนโดนแขวนอยู่มันจะให้โม้อะไร ไหว จนวันหนึ่ง นาย Walt Rostow ซึ่งเป็นผู้ช่วยของนาย McGeorge Bundy และรู้จักกับนาย Kenneth ตั้งแต่สมัยทำงานอยู่ OSS เป็นลูกน้องนาย Donovan มาด้วยกัน ก็ติดต่อนาย Kenneth บอกว่ามีงานให้ทำแล้ว ประธานาธิบดี Kennedy เห็นว่าเจ้าหน้าที่ของอเมริกาไม่ว่าทหาร หรือพลเรือน เมื่อจะต้องไปปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่เมืองใด ควรรู้เรื่องเมืองนั้นอย่างดี ไม่ใช่ไปแบบยืนหน้าเซ่อ ร้องเพลงรำวงวันคริสตมาสให้ชาวบ้านฟัง (สงสัยคุณนายเคนนี่ฑูตอเมริกาคนปัจจุบัน คงไม่เคยได้รับการอบรมอะไรเลยก่อนมาประจำเมืองไทย คุณนายถึงได้ทำตัวทุเรศปานนั้น) จึงมอบหมายให้นาย Kenneth เป็นผู้จัดการหลักสูตรอบรม เกี่ยวกับการต่อต้านเหตุการณ์ไม่สงบ (Counter Insurgency) ชื่อเต็มก็คือการต่อต้านความไม่สงบ อันเกิดจากภัยคอมมิวนิสต์ในโลกที่ 3 นั่นแหละ เป็นหลักสูตรที่จัดรวมให้สมุนนักล่าไม่ว่าจะอยู่ในเครื่องแบบใด นาย Kenneth บอกไม่มีปัญหาขอให้จัดงบแบบไม่อั้นมาแล้วกัน นักล่ากำลังฟิต เพราะฉะนั้น เท่าไรเท่ากัน จัดไปเลยย
    นาย Kenneth สารภาพว่า แรกๆ เขาก็ยังงงว่าจะทำได้อย่างไร เขาไม่ใช่ทหาร ไม่รู้เรื่องการรบ แต่เขารู้จักประเทศต่างๆ ที่คอมมิวนิสต์กำลังคุกคาม เขาจึงนำประสพการณ์ ข้อมูลที่เขาได้จากการที่เขาเคยอยู่ในเมืองไทยและการเดินทางไปสถานที่ต่างๆ และเจอผู้คนในประเทศเหล่านั้น ไม่ว่าจะระดับรัฐบาล ผู้นำประเทศ หรือชาวบ้านทั่วไป บวกกับข้อมูลจากหนังสืออีกเกือบ 2,000 เล่ม ที่เขาสะสมไว้ เอามาผสมปนเปแบบตอแหล ทำเป็นหลักสูตรสำหรับการอบรมประมาณ 2 เดือน เป็นการติวเข้มสมุนนักล่า
    ปรากฎว่าการตอแหลได้ผลดีเกินคาด เจ้านายสั่งให้เพิ่มบริเวณพื้นที่การอบรม จากครอบคลุมเฉพาะแถบเอเซีย เพิ่มลาตินอเมริกา อาฟริกา และตะวันออกกลางเข้าไปด้วย นี่มันกำลังทำสนามนักล่าขนาดใหญ่ครอบคลุมโลกนี่หว่า นักล่าหน้าใหม่มาแรงจริงๆ แต่นาย Kenneth มีภูมิมีพื้นแค่แถบอินโดจีน แต่คนพันธ์นาย Kenneth ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เสียเหลี่ยมมิชชันนารีจากเมืองตรังหมด โม้เอาไว้เยอะ เขาบอกไม่มีปัญหา เขาไปกว้านเอาอาจารย์ตามมหาวิทยาลัยใหญ่ๆ ที่มีผู้เชี่ยวชาญตามที่เจ้านายต้องการ มาช่วยกันสร้างหลักสูตรปรับพื้น สนามนักล่าจนสำเร็จ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เลิกไม่ถึง 15 ปี อเมริกานักล่าหน้าใหม่ ก็พร้อมที่ลงสนามล่า ที่ได้ส่งสมุนไปปรับพื้นทำสนาม เตรียมไว้ตามแผน โดยการอนุเคราะห์ของผู้ถูกล่าเองเสียหลายส่วน! น่าเศร้าใจจนต้องหยุดพักเขียนไปหลายวัน

    คนเล่านิทาน
    แกะรอยเก่า ตอนที่ 12 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยเก่า”
ตอนที่ 12 ประมาณปี พ.ศ.1960 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของรัฐบาลEisenhower นาย Kenneth ขออนุญาตกระทรวงต่างประเทศอเม ริกา เดินทางมาสำรวจเมืองไทย และแถบอินโดจีนอีกรอบ (!!!) ตอนนั้น นาย Alexis Johnson เป็นฑูต และ นาย Leonard Unger เป็นผู้ช่วยฑูต ทั้ง 2 คนเป็นคนฉลาดรู้จักเมืองไทยอย่างดี เข้ ากับทหารไทยได้แบบคอหอยกับลูกกระเดือก โดยเฉพาะนาย Unger เมื่อมาถึงปรากฏว่าจอมพลสฤษดิ์ส่งนายทหารคนสนิทมารับนาย Kenneth ถึงสนามบิน จอมพลสฤษดิ์ถามเขาว่า มาทำไม นาย Kenneth บอกจะมาดูสถานการณ์ในลาวสักหน่อย หลังจากนั้นจะไปกัมพูชา ไซ่ง่อนและพม่า นาย Kenneth บอกว่า จริงๆจะมาตรวจการบ้านด้วยว่าเงินช่วยเหลือทางทหาร Military Assistance Program (MAP) ที่อเมริกาให้แต่ละประเทศ ได้ผลมากน้อยแค่ไหน จอมพลสฤษดิ์บอกว่ากลับมาแล้ว มาเล่าให้ฟังกันด้วย ปรากฎว่าส่วนใหญ่ได้ผล ยกเว้นแต่ลาว ซึ่งอเมริกาให้เงินช่วยเหลือมากกว่าไทยเสียอีก แต่อเมริกาทำท่าจะเสียลาวให้แก่คอมมิวนิสต์ (และในที่สุดก็เสียจริงๆ ! ) โดยอาจจะมีการปฏิวัติโดยลาวแดงเร็วๆนี้ ขากลับ นาย Kenneth ก็รายงานเรื่องลาวอาจมีการปฏิวัติให้จอมพลสฤษดิ์ทราบ แล้วก็เดินทางต่อลงมาที่สิงค์โปร์ ที่สิงคโปร์ เขาได้พบกับเศรษฐีสิงคโปร์คนหนึ่งชื่อ Ko Geng Hsui ซึ่งเป็นกระเป๋าใหญ่ให้แก่นาย Lee Kwan Yew และภายหลังได้เป็นรัฐมนตรีกลาโหม นาย Ko ต้องการให้นาย Kenneth ช่วยตั้งสถาบันเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ในมหาวิทยาลัยสิงคโปร์ให้ ภายหลังนาย Kenneth ได้ลางานจากรัฐบาลอเมริกัน 1 ปี เพื่อมาจัดตั้งสถาบันนี้ให้สิงคโปร์ โดยเอาชาวยิวชื่อ Harry Benda จากมหาวิทยาลัย Yale มาช่วย สิงคโปร์จึงเป็นประเทศแรกในแถบนี้ ที่มีสถาบันการศึกษาลงลึกอย่างจริงจังเกี่ยวกับเอเซียอาคเณย์ ตกลงสิงคโปร์ไม่ได้ลอกเลียนแค่งานสงกรานต์ไปจากบ้านเรา แต่ลอกหลายอย่างรวมทั้งวิชาความรู้เกี่ยวกับภูมิภาคนี้ สิงคโปร์ประเทศที่ไม่มีรากไม่มีเหง้า ไม่มีวัฒนธรรม ประเพณีของตนเอง แต่มีคนไทยหลายคนปลาบปลื้มกับความเจริญของสิงคโปร์ จนถึงขนาดอยากให้เมืองไทยเป็นเหมือนสิงคโปร์ เศร้าครับ! เมื่อนาย Kenneth กลับมาถึงวอซิงตัน การเลือกตั้งประธานาธิบดีกำลังเข้มข้น แล้วนาย Kennedy ก็ชนะการเลือกตั้ง ขณะเดียวกันลาวก็อาการทรุดตามที่นาย Kenneth คาด รัฐบาล Kennedy เข้ามารับตำแหน่งใหม่ๆ ยังจับต้นไม่ชนปลาย นาย Mc Geroge Bundy จอมแสบที่ปรึกษาด้านความมั่นคง ของประธานาธิบดี Kennedy ถึงจะแสนรู้อย่างไร มาใหม่ๆก็มึนรับประทาน แนะนำสั่งการอะไรไม่ถูก ได้แต่เรียกให้นาย Kenneth ให้มาสรุปสถานการณ์ในลาวให้รัฐบาลฟังก่อนตัดสินใจ ทุกอย่างอลเวงไปหมด และนี่น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ ประธานธิบดี Kennedy ฉุนขาด ประกาศว่าหน่วยงาน National Security Council ทำงานไม่ได้ผล (คงไม่ให้ราคานาย Kenneth สักเท่าไหร่) ถ้าเขายุบหน่วยงานนี้ได้เขาจะยุบแล้ว เพียงแต่ต้องไปขออนุมัติจากสภาสูง ต้องออกกฏหมาย ฯลฯ ดังนั้นเขาจึงสั่ง “แขวน” พนักงานทุกคนในหน่วยงานรวมทั้งนาย Kenneth ด้วย และได้ยกเครื่องการทำงานสภาความมั่นคงเสียใหม่ หลังจากโดนแขวนอยู่หลายเดือน นาย Kenneth ก็เดินแกว่งไปตามหน่วยงานต่างๆ เพื่อหาที่ลง เพราะแม้จะมีเงินเดือนกิน แต่ไม่มีเก้าอี้นั่งชูคอ แบบรัฐบาลก่อนๆ มันก็ทำให้เขาเสียรังวัดไปพอสมควร จะโม้อะไร โอ้อวดอะไร อย่างเมื่อก่อนก็ไม่ถนัดปาก ก็คนโดนแขวนอยู่มันจะให้โม้อะไร ไหว จนวันหนึ่ง นาย Walt Rostow ซึ่งเป็นผู้ช่วยของนาย McGeorge Bundy และรู้จักกับนาย Kenneth ตั้งแต่สมัยทำงานอยู่ OSS เป็นลูกน้องนาย Donovan มาด้วยกัน ก็ติดต่อนาย Kenneth บอกว่ามีงานให้ทำแล้ว ประธานาธิบดี Kennedy เห็นว่าเจ้าหน้าที่ของอเมริกาไม่ว่าทหาร หรือพลเรือน เมื่อจะต้องไปปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่เมืองใด ควรรู้เรื่องเมืองนั้นอย่างดี ไม่ใช่ไปแบบยืนหน้าเซ่อ ร้องเพลงรำวงวันคริสตมาสให้ชาวบ้านฟัง (สงสัยคุณนายเคนนี่ฑูตอเมริกาคนปัจจุบัน คงไม่เคยได้รับการอบรมอะไรเลยก่อนมาประจำเมืองไทย คุณนายถึงได้ทำตัวทุเรศปานนั้น) จึงมอบหมายให้นาย Kenneth เป็นผู้จัดการหลักสูตรอบรม เกี่ยวกับการต่อต้านเหตุการณ์ไม่สงบ (Counter Insurgency) ชื่อเต็มก็คือการต่อต้านความไม่สงบ อันเกิดจากภัยคอมมิวนิสต์ในโลกที่ 3 นั่นแหละ เป็นหลักสูตรที่จัดรวมให้สมุนนักล่าไม่ว่าจะอยู่ในเครื่องแบบใด นาย Kenneth บอกไม่มีปัญหาขอให้จัดงบแบบไม่อั้นมาแล้วกัน นักล่ากำลังฟิต เพราะฉะนั้น เท่าไรเท่ากัน จัดไปเลยย นาย Kenneth สารภาพว่า แรกๆ เขาก็ยังงงว่าจะทำได้อย่างไร เขาไม่ใช่ทหาร ไม่รู้เรื่องการรบ แต่เขารู้จักประเทศต่างๆ ที่คอมมิวนิสต์กำลังคุกคาม เขาจึงนำประสพการณ์ ข้อมูลที่เขาได้จากการที่เขาเคยอยู่ในเมืองไทยและการเดินทางไปสถานที่ต่างๆ และเจอผู้คนในประเทศเหล่านั้น ไม่ว่าจะระดับรัฐบาล ผู้นำประเทศ หรือชาวบ้านทั่วไป บวกกับข้อมูลจากหนังสืออีกเกือบ 2,000 เล่ม ที่เขาสะสมไว้ เอามาผสมปนเปแบบตอแหล ทำเป็นหลักสูตรสำหรับการอบรมประมาณ 2 เดือน เป็นการติวเข้มสมุนนักล่า ปรากฎว่าการตอแหลได้ผลดีเกินคาด เจ้านายสั่งให้เพิ่มบริเวณพื้นที่การอบรม จากครอบคลุมเฉพาะแถบเอเซีย เพิ่มลาตินอเมริกา อาฟริกา และตะวันออกกลางเข้าไปด้วย นี่มันกำลังทำสนามนักล่าขนาดใหญ่ครอบคลุมโลกนี่หว่า นักล่าหน้าใหม่มาแรงจริงๆ แต่นาย Kenneth มีภูมิมีพื้นแค่แถบอินโดจีน แต่คนพันธ์นาย Kenneth ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เสียเหลี่ยมมิชชันนารีจากเมืองตรังหมด โม้เอาไว้เยอะ เขาบอกไม่มีปัญหา เขาไปกว้านเอาอาจารย์ตามมหาวิทยาลัยใหญ่ๆ ที่มีผู้เชี่ยวชาญตามที่เจ้านายต้องการ มาช่วยกันสร้างหลักสูตรปรับพื้น สนามนักล่าจนสำเร็จ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เลิกไม่ถึง 15 ปี อเมริกานักล่าหน้าใหม่ ก็พร้อมที่ลงสนามล่า ที่ได้ส่งสมุนไปปรับพื้นทำสนาม เตรียมไว้ตามแผน โดยการอนุเคราะห์ของผู้ถูกล่าเองเสียหลายส่วน! น่าเศร้าใจจนต้องหยุดพักเขียนไปหลายวัน คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 321 Views 0 Reviews
  • ♣ วงการตลาดเงินตลาดทุนตลาดหุ้น ลมแทบจับ นายกฯหนู ตั้งเพื่อนสนิท ที่พัวพันคดีอาญา เป็นรมช.คลัง เคยร่วมโกงแบงก์หมื่นกว่าล้านบาท แถมเป็นกรรมการบริษัทในกัมพูชา เครือข่ายคนสนิทฮุนเซน
    #7ดอกจิก
    ♣ วงการตลาดเงินตลาดทุนตลาดหุ้น ลมแทบจับ นายกฯหนู ตั้งเพื่อนสนิท ที่พัวพันคดีอาญา เป็นรมช.คลัง เคยร่วมโกงแบงก์หมื่นกว่าล้านบาท แถมเป็นกรรมการบริษัทในกัมพูชา เครือข่ายคนสนิทฮุนเซน #7ดอกจิก
    0 Comments 0 Shares 152 Views 0 Reviews
  • แกะรอยเก่า ตอนที่ 3

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยเก่า”
    ตอนที่ 3
    หลังจากอยู่กรุงเทพฯได้ 1 ปี นาย Kenneth และครอบครัว ก็ถูกให้ย้ายไปประจำที่นครศรีธรรมราช เขาอยู่ที่นั่น 1 ปี จากนั้นก็ย้ายมาประจำที่ตรัง รวมๆ แล้ว เขาอยู่แถวภาคใต้ของไทย ประมาณเกือบ 10 ปี ตอนที่อยู่ที่นครศรีธรรมราช เขาอาศัยอยู่ในบริเวณเดียวกับโรงเรียนสตรี ซึ่งเป็นของพวกมิชชั่นนารี ซึ่งเขาอ้างว่าเป็นที่พระราชทานจากกรมพระยาดำรงราชานุภาพ แต่เมื่อมาอยู่ตรัง เขามีบ้านแยกต่างหากจากโรงเรียน ระหว่างที่เขาอยู่ตรังเขาเดินทาง ไปทั่ว ขึ้นมาจนทับสะแก (คือหัวหินในปัจจุบัน) และลงใต้ไปถึงแหลมมาลายู เขาบอกว่าในภาคใต้ของไทย มีคนจีนอาศัยอยู่มาก และส่วนมากเป็นพวกใช้แรงงาน หรือขายของชำ บ้างก็เปิดร้านค้าเล็กๆ ในตลาด ครอบครัวเขามีคนรับใช้และคนทำอาหารเป็นชาวจีน เขาจึงหัดพูดภาษาจีนกับคนรับใช้ทุกวัน
    จากการที่เขาคุยกับคนรับใช้ชาวจีน เขารู้ว่าคนจีนเหล่านั้นไม่มีโอกาสเรียนหนังสือ ไม่มีโรงเรียนของคนจีน เขาจึงพยายามให้ทางคณะมิชชั่นนารีช่วยจัดตั้งโรงเรียนให้คนจีน โดยเอาครูมาจากกรุงเทพฯ สิงคโปร์ ปีนัง ส่วนค่าก่อสร้างเขาก็ขอรับบริจาคบ้างจากคนในจังหวัด เขาสามารถสร้างใด้ถึง 4 โรงเรียน การคลุกคลีกับคนจีน ทำให้เขาพูดภาษาจีนแต้จิ๋วได้และเทศน์เป็นภาษาจีนได้อีกด้วย การสอนภาษาของ นาย Kenneth ขยายไปตั้งแต่คอขอดกระจนถึงชายแดนมาลายู และทำให้เขาต้องเดินทางแถบนั้นบ่อยมาก โดยรถไฟ เกวียน ช้าง เรือข้ามฝั่ง เรือเล็กตามคลอง รวมทั้งที่จักรยาน และการเดินเท้าของตนเอง และเพื่อให้มีการติดต่อระหว่างสังคมไทยและจีน ซึ่งอยู่ห่างไกลกัน นาย Kenneth ลงทุนพิมพ์จดหมายเหตุรายเดือน เป็นภาษาไทยและจีน เพื่อให้คนเหล่านั้นได้ข้อมูลและข่าว (ตามที่เขาเขียน !) ต้องนับถือผู้ที่เลือกถิ่นที่ทำงานให้นาย Kenneth จริงๆ ภาคใต้น่าสนใจหลายอย่าง รวมทั้งภูมิศาสตร์ที่มีพื้นที่ยาวตลอดไป ตามอ่าวไทยของไทยจนไปถึงเขตแดนมลายู
    นาย Kenneth และครอบครัว ย้ายกลับไปอเมริกาใน ค.ศ. 1937 โดยอ้างว่า เบื่อที่จะเป็น มิชชั่นนารีแล้ว เพราะรายได้ไม่พอ (หรือภาระกิจสำเร็จได้ตามเป้า เลยเก็บฉากขนของกลับบ้านซะเฉยๆ งั้นแหละ !?) เมื่อเขากลับ เขาหอบหนังสือพิมพ์และนิตยสารที่ออกเป็นงวด ที่เกี่ยวกับเมืองไทยที่เขาเก็บสะสมไว้ ตลอด 10 ปีที่อยู่เมืองกลับไปด้วย รวมทั้งแผนที่ของเมืองไทยแสดงอาณาบริเวณต่างๆ ทั่วประเทศอย่างละเอียด ยังไม่หมดยังหอบเอาหนังสือจากห้องสมุดของไทย ทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ เท่าที่ตัวเองจะหาได้กลับไปด้วย ที่สำคัญ เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองของไทย เมื่อปี ค.ศ. 1932 (พ.ศ. 2475) นาย Kenneth บอกว่าเป็นช่วงเหตุการณ์สำคัญของประวัติศาสตร์ไทย เขาเก็บเอกสารในช่วง 5 ปี ระหว่างนั้นไว้หมด โดยตั้งใจจะเขียนหนังสือ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการปกครองของไทย (นับว่าเป็นมิชชั่นนารี “ตัวอย่าง” จริงๆ ตกลงจะมาเผยแพร่ศาสนาหรือมาทำอะไรกันแน่)
    วันหนึ่งหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อ พ.ศ.2475 ขณะที่เขาเริ่มเขียนหนังสือ เรื่อง Siam in Transition เขายังอยู่ที่ตรังกับครอบครัว มีผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นคนสนิทของนายปรีดี พนมยงค์ ตอนเป็นผู้สำเร็จราชการ เกิดอยากจะแต่งงานในโบสถ์คริสเตียน กับสาวตรังซึ่งเป็นคริสเตียน นายคนสนิทนี้ก็มาหา นาย Kenneth เพื่อขออนุญาตนาย Kenneth ให้คู่บ่าวสาวได้แต่งงานและทำพิธีในโบสถ์ นาย Kenneth ดีใจจนบอกไม่ถูก เห็นโอกาสทองลอยอยู่ข้างหน้า เขาบอกกับนายคนสนิทว่า ได้สิ ถ้าคุณหาเอกสารมาให้ผมชิ้นหนึ่ง เอกสารนั้นคือบทความเค้าโครงเศรษฐกิจ ฉบับที่นายปรีดีเขียน เพื่อจะนำมาใช้กับประเทศไทย หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง แต่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 ทรงไม่เห็นด้วย ทรงเห็นว่านายปรีดีมีแนวความคิดเช่นลัทธิคอมมิวนิสม์ ต่อมาเอกสารนั้นก็ถูกเก็บ เป็นเอกสารต้องห้าม ไม่มีใครได้เห็นอีก (นาย Kenneth นี่ต้องนับว่าเป็นนักฉวยโอกาสตัวยงจริงๆ) คงจะเป็นเพราะกำลังหน้ามืดอยากแต่งงานเต็มแก่ นายคนสนิทลงทุนไปเอาเอกสารมาให้นาย Kenneth รวมทั้งแถมรายงานการประชุมคณะอภิรัฐมนตรี ซึ่งระบุว่านายปรีดี เป็นคอมมิวนิสต์และที่ประชุมเห็นว่านายปรีดี ควรลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ
    ภายหลังเมื่อนาย Kenneth ได้เขียนหนังสือ Siam in Transition เขาได้นำเอกสารทั้ง 2 ชิ้นมาแนบท้ายหนังสือไว้ด้วย แต่หนังสือนี้ถูกห้ามขายในประเทศไทย
    หลังจากเขาได้เอกสารนี้มาไม่นาน พระองค์เจ้าธานีฯ (นาย Kenneth เขียนชื่อไว้เช่นนั้น) ทรงทราบข่าวที่นาย Kenneth ได้เอกสารนี้มา ท่านสนใจมากถึงขนาดลงทุนเดินทางจากกรุงเทพมาหานาย Kenneth ที่ตรัง เพื่อขออ่านเอกสารทั้ง 2 ชิ้น (แสดงว่าเอกสาร 2 ชิ้นนี้ต้องมีความสำคัญมากสำหรับ การเมืองของไทย แล้วมิชชั่นนารี ซึ่งไม่น่าจะยุ่งเกี่ยวกับการเมืองบ้านเรา ทำไมถึงให้ความสนใจจนลืมมรรยาท ถึงกับใช้วิธีการฉวยโอกาสอย่างคนไม่มีระดับถึงขนาดนี้!?) นาย Kenneth รู้ว่าเอกสารนี้ต้องห้าม เขาเลยเอาไปซ่อนไว้ในกองหนังสือพิมพ์ในห้องส้วมของเขาและ พระองค์เจ้าธานีฯ ก็ต้องไปนั่งอ่านเอกสาร โดยล็อคตัวเองอยู่ในส้วมของนาย Kenneth !
    หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เจ้านายหลายพระองค์ รวมทั้งกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ต้องเสด็จลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ กรมพระยาดำรงฯเสด็จไปอยู่ปีนัง เมื่อนาย Kenneth และครอบครัวจะกลับอเมริกา เขาเดินทางไปเยี่ยมท่านที่ปีนัง เขาอ้างว่าเป็นการเยี่ยมในฐานะเพื่อนเก่า ระหว่างคุยกัน เขาถามกรมพระยาดำรงฯ ว่าท่านจะยินยอมให้เขานำหนังสือที่ท่านทรงสะสมไว้ มอบให้แก่มหาวิทยาลัยในอเมริกาหรือไม่ เพราะกรมพระยาดำรงฯ ท่านเป็นเสนาบดีกระทรวงศึกษาฯ อยู่ช่วงหนึ่ง และท่านได้รับมอบหมายจากพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ให้ทรงจัดตั้งหอสมุดแห่งชาติ ซึ่งกรมพระยาดำรงฯก็จัดตั้งเรียบร้อย โดยหนังสือทุกเล่มที่อยู่ในหอสมุด ท่านก็จะมีอีกชุดหนึ่งเก็บไว้ที่ท่านเอง รวมทั้งหนังสือที่ท่านทรงสะสม เอง ที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม วรรณคดี ศาสนา ฯลฯ ของไทยและเอเซียตะวันออก มีทั้งเป็นภาษาไทย ภาษาอังกฤษและฝรั่งเศส กรมพระยาดำรงฯ ตอบว่าท่านเสียดายที่หนังสือนั้นจะไม่มีใครสนใจอีกต่อไป แต่ถ้ามีมหาวิทยาลัยที่สนใจ มีคนได้ศึกษาและมีคนอย่างนาย Kenneth ดูแลท่านก็ยินดีที่จะยกให้
    แล้วนาย Kenneth ก็นำรายชื่อหนังสือประมาณ 600 เล่ม ของกรมพระยาดำรงกลับอเมริกาไปด้วย โดยเขาอ้างว่า เขาจะนำไปจัดทำห้องสมุดไทยหรือเอเซียตะวันออก ที่มหาวิทยาลัยดังๆ ในอเมริกา ค่าเดินทางไปปีนังนี่มันคงไม่ใช่ราคาถูกๆ แต่คงจะเป็นการลงทุนที่เกินคุ้มหลายร้อยเท่า เมื่อเทียบกับรายชื่อหนังสือ 600 เล่ม ที่นาย Kenneth จะเอาไป อ้างว่าเป็นของกรมพระยาดำรงราชานุภาพ อดีตเสนาบดีกระทรวงมหาดไทยของเมืองไทยที่จะมอบให้นาย Kenneth ที่จะได้มาโดยการ “กล่อม” ซึ่งต่อมาเขาได้นำไปใช้ประโยชน์ให้แก่ตัวเองและสร้างประโยชน์ให้แก่อเมริกาอย่างมหาศาล ในการใช้เป็นต้นแบบเครื่องมือการล่าชนิดหนึ่ง!
    (หมายเหตุคนเล่านิทาน : เข้าใจว่า กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ท่านคงกำลังเศร้าพระทัย จากการเปลี่ยนแปลงการปกครอง และจากการที่คณะราษฎร์แสดงความไม่ประสงค์ดีต่อท่าน จนท่านถึงกับต้องเสด็จไปประทับอยู่ปีนัง ท่านเป็นนักประวัติศาสตร์ สนใจศึกษาหาความรู้ ทรงเก็บสะสมหนังสือเกี่ยวกับเมืองไทยไว้แยะ เมื่อคณะราษฎร์ทำการปฏิวัติ เปลี่ยนการปกครอง ซึ่งอาจจะกระทบถึงวัฒนธรรมประเพณี รวมทั้งหลักสูตรการศึกษา ฯลฯ หนังสือต่างๆ เหล่านั้น คณะราษฎร์อาจไม่เห็นประโยชน์อีกต่อไป เมื่อนาย Kenneth เข้าไปขอในจังหวะนั้น ก็ไม่น่าแปลกใจที่ท่านจะคล้อยตาม !)

    คนเล่านิทาน
    แกะรอยเก่า ตอนที่ 3 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยเก่า” ตอนที่ 3 หลังจากอยู่กรุงเทพฯได้ 1 ปี นาย Kenneth และครอบครัว ก็ถูกให้ย้ายไปประจำที่นครศรีธรรมราช เขาอยู่ที่นั่น 1 ปี จากนั้นก็ย้ายมาประจำที่ตรัง รวมๆ แล้ว เขาอยู่แถวภาคใต้ของไทย ประมาณเกือบ 10 ปี ตอนที่อยู่ที่นครศรีธรรมราช เขาอาศัยอยู่ในบริเวณเดียวกับโรงเรียนสตรี ซึ่งเป็นของพวกมิชชั่นนารี ซึ่งเขาอ้างว่าเป็นที่พระราชทานจากกรมพระยาดำรงราชานุภาพ แต่เมื่อมาอยู่ตรัง เขามีบ้านแยกต่างหากจากโรงเรียน ระหว่างที่เขาอยู่ตรังเขาเดินทาง ไปทั่ว ขึ้นมาจนทับสะแก (คือหัวหินในปัจจุบัน) และลงใต้ไปถึงแหลมมาลายู เขาบอกว่าในภาคใต้ของไทย มีคนจีนอาศัยอยู่มาก และส่วนมากเป็นพวกใช้แรงงาน หรือขายของชำ บ้างก็เปิดร้านค้าเล็กๆ ในตลาด ครอบครัวเขามีคนรับใช้และคนทำอาหารเป็นชาวจีน เขาจึงหัดพูดภาษาจีนกับคนรับใช้ทุกวัน จากการที่เขาคุยกับคนรับใช้ชาวจีน เขารู้ว่าคนจีนเหล่านั้นไม่มีโอกาสเรียนหนังสือ ไม่มีโรงเรียนของคนจีน เขาจึงพยายามให้ทางคณะมิชชั่นนารีช่วยจัดตั้งโรงเรียนให้คนจีน โดยเอาครูมาจากกรุงเทพฯ สิงคโปร์ ปีนัง ส่วนค่าก่อสร้างเขาก็ขอรับบริจาคบ้างจากคนในจังหวัด เขาสามารถสร้างใด้ถึง 4 โรงเรียน การคลุกคลีกับคนจีน ทำให้เขาพูดภาษาจีนแต้จิ๋วได้และเทศน์เป็นภาษาจีนได้อีกด้วย การสอนภาษาของ นาย Kenneth ขยายไปตั้งแต่คอขอดกระจนถึงชายแดนมาลายู และทำให้เขาต้องเดินทางแถบนั้นบ่อยมาก โดยรถไฟ เกวียน ช้าง เรือข้ามฝั่ง เรือเล็กตามคลอง รวมทั้งที่จักรยาน และการเดินเท้าของตนเอง และเพื่อให้มีการติดต่อระหว่างสังคมไทยและจีน ซึ่งอยู่ห่างไกลกัน นาย Kenneth ลงทุนพิมพ์จดหมายเหตุรายเดือน เป็นภาษาไทยและจีน เพื่อให้คนเหล่านั้นได้ข้อมูลและข่าว (ตามที่เขาเขียน !) ต้องนับถือผู้ที่เลือกถิ่นที่ทำงานให้นาย Kenneth จริงๆ ภาคใต้น่าสนใจหลายอย่าง รวมทั้งภูมิศาสตร์ที่มีพื้นที่ยาวตลอดไป ตามอ่าวไทยของไทยจนไปถึงเขตแดนมลายู นาย Kenneth และครอบครัว ย้ายกลับไปอเมริกาใน ค.ศ. 1937 โดยอ้างว่า เบื่อที่จะเป็น มิชชั่นนารีแล้ว เพราะรายได้ไม่พอ (หรือภาระกิจสำเร็จได้ตามเป้า เลยเก็บฉากขนของกลับบ้านซะเฉยๆ งั้นแหละ !?) เมื่อเขากลับ เขาหอบหนังสือพิมพ์และนิตยสารที่ออกเป็นงวด ที่เกี่ยวกับเมืองไทยที่เขาเก็บสะสมไว้ ตลอด 10 ปีที่อยู่เมืองกลับไปด้วย รวมทั้งแผนที่ของเมืองไทยแสดงอาณาบริเวณต่างๆ ทั่วประเทศอย่างละเอียด ยังไม่หมดยังหอบเอาหนังสือจากห้องสมุดของไทย ทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ เท่าที่ตัวเองจะหาได้กลับไปด้วย ที่สำคัญ เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองของไทย เมื่อปี ค.ศ. 1932 (พ.ศ. 2475) นาย Kenneth บอกว่าเป็นช่วงเหตุการณ์สำคัญของประวัติศาสตร์ไทย เขาเก็บเอกสารในช่วง 5 ปี ระหว่างนั้นไว้หมด โดยตั้งใจจะเขียนหนังสือ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการปกครองของไทย (นับว่าเป็นมิชชั่นนารี “ตัวอย่าง” จริงๆ ตกลงจะมาเผยแพร่ศาสนาหรือมาทำอะไรกันแน่) วันหนึ่งหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อ พ.ศ.2475 ขณะที่เขาเริ่มเขียนหนังสือ เรื่อง Siam in Transition เขายังอยู่ที่ตรังกับครอบครัว มีผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นคนสนิทของนายปรีดี พนมยงค์ ตอนเป็นผู้สำเร็จราชการ เกิดอยากจะแต่งงานในโบสถ์คริสเตียน กับสาวตรังซึ่งเป็นคริสเตียน นายคนสนิทนี้ก็มาหา นาย Kenneth เพื่อขออนุญาตนาย Kenneth ให้คู่บ่าวสาวได้แต่งงานและทำพิธีในโบสถ์ นาย Kenneth ดีใจจนบอกไม่ถูก เห็นโอกาสทองลอยอยู่ข้างหน้า เขาบอกกับนายคนสนิทว่า ได้สิ ถ้าคุณหาเอกสารมาให้ผมชิ้นหนึ่ง เอกสารนั้นคือบทความเค้าโครงเศรษฐกิจ ฉบับที่นายปรีดีเขียน เพื่อจะนำมาใช้กับประเทศไทย หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง แต่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 ทรงไม่เห็นด้วย ทรงเห็นว่านายปรีดีมีแนวความคิดเช่นลัทธิคอมมิวนิสม์ ต่อมาเอกสารนั้นก็ถูกเก็บ เป็นเอกสารต้องห้าม ไม่มีใครได้เห็นอีก (นาย Kenneth นี่ต้องนับว่าเป็นนักฉวยโอกาสตัวยงจริงๆ) คงจะเป็นเพราะกำลังหน้ามืดอยากแต่งงานเต็มแก่ นายคนสนิทลงทุนไปเอาเอกสารมาให้นาย Kenneth รวมทั้งแถมรายงานการประชุมคณะอภิรัฐมนตรี ซึ่งระบุว่านายปรีดี เป็นคอมมิวนิสต์และที่ประชุมเห็นว่านายปรีดี ควรลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ ภายหลังเมื่อนาย Kenneth ได้เขียนหนังสือ Siam in Transition เขาได้นำเอกสารทั้ง 2 ชิ้นมาแนบท้ายหนังสือไว้ด้วย แต่หนังสือนี้ถูกห้ามขายในประเทศไทย หลังจากเขาได้เอกสารนี้มาไม่นาน พระองค์เจ้าธานีฯ (นาย Kenneth เขียนชื่อไว้เช่นนั้น) ทรงทราบข่าวที่นาย Kenneth ได้เอกสารนี้มา ท่านสนใจมากถึงขนาดลงทุนเดินทางจากกรุงเทพมาหานาย Kenneth ที่ตรัง เพื่อขออ่านเอกสารทั้ง 2 ชิ้น (แสดงว่าเอกสาร 2 ชิ้นนี้ต้องมีความสำคัญมากสำหรับ การเมืองของไทย แล้วมิชชั่นนารี ซึ่งไม่น่าจะยุ่งเกี่ยวกับการเมืองบ้านเรา ทำไมถึงให้ความสนใจจนลืมมรรยาท ถึงกับใช้วิธีการฉวยโอกาสอย่างคนไม่มีระดับถึงขนาดนี้!?) นาย Kenneth รู้ว่าเอกสารนี้ต้องห้าม เขาเลยเอาไปซ่อนไว้ในกองหนังสือพิมพ์ในห้องส้วมของเขาและ พระองค์เจ้าธานีฯ ก็ต้องไปนั่งอ่านเอกสาร โดยล็อคตัวเองอยู่ในส้วมของนาย Kenneth ! หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เจ้านายหลายพระองค์ รวมทั้งกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ต้องเสด็จลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ กรมพระยาดำรงฯเสด็จไปอยู่ปีนัง เมื่อนาย Kenneth และครอบครัวจะกลับอเมริกา เขาเดินทางไปเยี่ยมท่านที่ปีนัง เขาอ้างว่าเป็นการเยี่ยมในฐานะเพื่อนเก่า ระหว่างคุยกัน เขาถามกรมพระยาดำรงฯ ว่าท่านจะยินยอมให้เขานำหนังสือที่ท่านทรงสะสมไว้ มอบให้แก่มหาวิทยาลัยในอเมริกาหรือไม่ เพราะกรมพระยาดำรงฯ ท่านเป็นเสนาบดีกระทรวงศึกษาฯ อยู่ช่วงหนึ่ง และท่านได้รับมอบหมายจากพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ให้ทรงจัดตั้งหอสมุดแห่งชาติ ซึ่งกรมพระยาดำรงฯก็จัดตั้งเรียบร้อย โดยหนังสือทุกเล่มที่อยู่ในหอสมุด ท่านก็จะมีอีกชุดหนึ่งเก็บไว้ที่ท่านเอง รวมทั้งหนังสือที่ท่านทรงสะสม เอง ที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม วรรณคดี ศาสนา ฯลฯ ของไทยและเอเซียตะวันออก มีทั้งเป็นภาษาไทย ภาษาอังกฤษและฝรั่งเศส กรมพระยาดำรงฯ ตอบว่าท่านเสียดายที่หนังสือนั้นจะไม่มีใครสนใจอีกต่อไป แต่ถ้ามีมหาวิทยาลัยที่สนใจ มีคนได้ศึกษาและมีคนอย่างนาย Kenneth ดูแลท่านก็ยินดีที่จะยกให้ แล้วนาย Kenneth ก็นำรายชื่อหนังสือประมาณ 600 เล่ม ของกรมพระยาดำรงกลับอเมริกาไปด้วย โดยเขาอ้างว่า เขาจะนำไปจัดทำห้องสมุดไทยหรือเอเซียตะวันออก ที่มหาวิทยาลัยดังๆ ในอเมริกา ค่าเดินทางไปปีนังนี่มันคงไม่ใช่ราคาถูกๆ แต่คงจะเป็นการลงทุนที่เกินคุ้มหลายร้อยเท่า เมื่อเทียบกับรายชื่อหนังสือ 600 เล่ม ที่นาย Kenneth จะเอาไป อ้างว่าเป็นของกรมพระยาดำรงราชานุภาพ อดีตเสนาบดีกระทรวงมหาดไทยของเมืองไทยที่จะมอบให้นาย Kenneth ที่จะได้มาโดยการ “กล่อม” ซึ่งต่อมาเขาได้นำไปใช้ประโยชน์ให้แก่ตัวเองและสร้างประโยชน์ให้แก่อเมริกาอย่างมหาศาล ในการใช้เป็นต้นแบบเครื่องมือการล่าชนิดหนึ่ง! (หมายเหตุคนเล่านิทาน : เข้าใจว่า กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ท่านคงกำลังเศร้าพระทัย จากการเปลี่ยนแปลงการปกครอง และจากการที่คณะราษฎร์แสดงความไม่ประสงค์ดีต่อท่าน จนท่านถึงกับต้องเสด็จไปประทับอยู่ปีนัง ท่านเป็นนักประวัติศาสตร์ สนใจศึกษาหาความรู้ ทรงเก็บสะสมหนังสือเกี่ยวกับเมืองไทยไว้แยะ เมื่อคณะราษฎร์ทำการปฏิวัติ เปลี่ยนการปกครอง ซึ่งอาจจะกระทบถึงวัฒนธรรมประเพณี รวมทั้งหลักสูตรการศึกษา ฯลฯ หนังสือต่างๆ เหล่านั้น คณะราษฎร์อาจไม่เห็นประโยชน์อีกต่อไป เมื่อนาย Kenneth เข้าไปขอในจังหวะนั้น ก็ไม่น่าแปลกใจที่ท่านจะคล้อยตาม !) คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 298 Views 0 Reviews
  • นี้คือสัญลักษณ์นัยยะหนึ่งของอีลิทที่เยาะเย้ยชาวโลกแบบนัยยะโควิด19ที่เยาะเย้ยชาวโลกที่ตุยตายกันจากการบังคับให้ชาวโลกฉีดวัคซีนโควิด19 ,ฝรั่งอเมริกาฝรั่งยุโรปคือโรงพยาบาลอีลิทdeep stateนั้นล่ะคือต้นแบบที่เต้นเยาะเย้ยคนทั่วอเมริกาทั่วฝรั่งยุโรปและทั่วโลก คนไม่รู้ก็ว่าเต้นให้กำลังใจคนสู้โควิดเราต้องฝ่าฟันไปด้วยกันให้ได้พะนะมันว่า จึงเป็นการเต้นให้กำลังใจ พวกคนเข้ารีตอีลิทตาเดียวนั้นมันดีใจต่างหากที่แผนลดประชากรโลกมันกำลังจะสำเร็จ,มันเยาะเย้นคนทั้งโลกมิว่า พี่ไทยเราก็ไปเต้นตามมันสะงััน,เอกชนรีตตาเดียวที่เป็นโรงพยาบาลเครือข่ายมันแม้ในโรงพยาบาลรัฐบาลเองที่มีกฎว่าห้ามญาติเยี่ยมรับคนตาย ให้เจ้าหน้าที่เผาทิ้งทันที ใครใจจะขาดก็ห้ามดูใจกันครัังสุดท้ายเผาก็ห้ามเปิดโลง,ฝรั่งมันคิดให้หมด ที่ไหนได้ มันชำแหละอวัยวะสำคัญๆเอาไปขาดเป็นว่าเล่น คลิปชำแหละอวัยวะคนตายโควิดตรึม ศพทิ้งเต็มพื้น หมอรีตตาเดียวทำกันเป็นว่าเล่น,ไส้ในอวัยวะภายในหายหมดเย็บเสร็จส่งไปเผาเลยห้ามให้ญาติเปิดออกดูก่อนเผาอ้างโควิด,แรปทีเลี่ยนมีเนื้อมนุษย์แดกกว่าพันปีแน่ๆ,แข่แข็งเก็บไว้ใต้อุโมงค์มันกว่า1,000ล้านคนที่ตายจากโควิดรวมกันทั่วโลก ไม่รวมค้ามนุษย์ค้าอวัยวะแบบโซนเขมรยูเครนปาเลสไตน์อีก ระเบิดตายทหารเขมรเชื่อว่าตอนกลางคืนมันขึ้นมาลากร่างทหารเขมรเนื้อสดๆตายใหม่ลงไปแดกอย่างอิ่มเต็มที่แน่นอน ไม่รวมเด็กๆหายในภาวะสงครามชายแดนเขมรอีกนะมีตรึมแน่นอน,
    ..อินโดฯคือciaควบคุมการปกครองดีๆแบบไทยเรานี้ล่ะ,ทั้งสภา มันสั่งให้เล่นตามบทละครที่มันกำกับได้หมด,ย่อมาไทยก็ด้วย ตอนนี้คือเดอะแก๊งเดียวกันหมด,ปาหี่การแสดงเท่านั้น,ส้มคือคนของอเมริกา น้ำเงินก็บ๋อยสีแดง,สีแดงก็คนอเมริกา,ส้ม น้ำเงิน บ๋อยโทนี่หมด ลุงตู่ก็คนของโทนี่ อเมริกาสั่งตู่เข้าอินโดแปซิฟิกนะ,เขมรยึด11จุดจนสำราญเริงใจก็ยุคตู่,เขมรแตกตื่นหนีตายเกือบไม่ทันจนรีบเจรจาหยุดยิงเพราะยุคบิ๊กกุ้งนะถีบเขมรนอนฝันหวานตกภูมะเขือตายกว่า10,000ทหารเขมรขอบอก,
    ..เอเชียเรากำลังถีบฝรั่งออกจากทวีปเรา นำโดยพี่ใหญ่มหาอำนาจทางอาวุธฝั่งเอเชียเราคือจีน รัสเชียบวกเกาหลีเหนือลูกน้องคนสนิทแขนขวาของจีน,ฝรั่งเศสสันดานเดียวกันกับเขมร คนฝรั่งโดยเนื้อแท้สันดานเดียวกันกับเขมร บ่อน้ำมันทั่วไทย.ฝรั่งก็ปล้นเราไปเป็นอันมาก เอาเปรียบสาระพัดมุกวิธีกับเราชาวเอเชีย.,อินโดฯคือทำทีว่ากูฝรั่งเชือดไก่ให้ลิงดูนะ,นี้คือผลของการขัดขืนชาวฝรั่งอย่างกู คนเอเชียต้องเป็นขี้ข้า ทาส คนรับใช้ให้ฝรั่งแบบนี้ให้เอาเปรียบได้เท่านั้น กูอยากได้อะไรบนประเทศมรึงต้องได้ ต้องให้กูมาง่ายๆรู้มั้ย,ทรัพยากรแบบบ่อน้ำมันแร่เอิร์ธกูอยากได้ก็ต้องได้อย่างง่ายๆรู้มั้ย เช่นนั้นจะเป็นลักษณะเดียวกับอินโดฯนะรู้มั้ยคนเอเชียคนอาเชียน ciaมันพูด.

    https://youtube.com/shorts/Hn0yHMjy478?si=hmdDhLJ_dZYWvhWv
    นี้คือสัญลักษณ์นัยยะหนึ่งของอีลิทที่เยาะเย้ยชาวโลกแบบนัยยะโควิด19ที่เยาะเย้ยชาวโลกที่ตุยตายกันจากการบังคับให้ชาวโลกฉีดวัคซีนโควิด19 ,ฝรั่งอเมริกาฝรั่งยุโรปคือโรงพยาบาลอีลิทdeep stateนั้นล่ะคือต้นแบบที่เต้นเยาะเย้ยคนทั่วอเมริกาทั่วฝรั่งยุโรปและทั่วโลก คนไม่รู้ก็ว่าเต้นให้กำลังใจคนสู้โควิดเราต้องฝ่าฟันไปด้วยกันให้ได้พะนะมันว่า จึงเป็นการเต้นให้กำลังใจ พวกคนเข้ารีตอีลิทตาเดียวนั้นมันดีใจต่างหากที่แผนลดประชากรโลกมันกำลังจะสำเร็จ,มันเยาะเย้นคนทั้งโลกมิว่า พี่ไทยเราก็ไปเต้นตามมันสะงััน,เอกชนรีตตาเดียวที่เป็นโรงพยาบาลเครือข่ายมันแม้ในโรงพยาบาลรัฐบาลเองที่มีกฎว่าห้ามญาติเยี่ยมรับคนตาย ให้เจ้าหน้าที่เผาทิ้งทันที ใครใจจะขาดก็ห้ามดูใจกันครัังสุดท้ายเผาก็ห้ามเปิดโลง,ฝรั่งมันคิดให้หมด ที่ไหนได้ มันชำแหละอวัยวะสำคัญๆเอาไปขาดเป็นว่าเล่น คลิปชำแหละอวัยวะคนตายโควิดตรึม ศพทิ้งเต็มพื้น หมอรีตตาเดียวทำกันเป็นว่าเล่น,ไส้ในอวัยวะภายในหายหมดเย็บเสร็จส่งไปเผาเลยห้ามให้ญาติเปิดออกดูก่อนเผาอ้างโควิด,แรปทีเลี่ยนมีเนื้อมนุษย์แดกกว่าพันปีแน่ๆ,แข่แข็งเก็บไว้ใต้อุโมงค์มันกว่า1,000ล้านคนที่ตายจากโควิดรวมกันทั่วโลก ไม่รวมค้ามนุษย์ค้าอวัยวะแบบโซนเขมรยูเครนปาเลสไตน์อีก ระเบิดตายทหารเขมรเชื่อว่าตอนกลางคืนมันขึ้นมาลากร่างทหารเขมรเนื้อสดๆตายใหม่ลงไปแดกอย่างอิ่มเต็มที่แน่นอน ไม่รวมเด็กๆหายในภาวะสงครามชายแดนเขมรอีกนะมีตรึมแน่นอน, ..อินโดฯคือciaควบคุมการปกครองดีๆแบบไทยเรานี้ล่ะ,ทั้งสภา มันสั่งให้เล่นตามบทละครที่มันกำกับได้หมด,ย่อมาไทยก็ด้วย ตอนนี้คือเดอะแก๊งเดียวกันหมด,ปาหี่การแสดงเท่านั้น,ส้มคือคนของอเมริกา น้ำเงินก็บ๋อยสีแดง,สีแดงก็คนอเมริกา,ส้ม น้ำเงิน บ๋อยโทนี่หมด ลุงตู่ก็คนของโทนี่ อเมริกาสั่งตู่เข้าอินโดแปซิฟิกนะ,เขมรยึด11จุดจนสำราญเริงใจก็ยุคตู่,เขมรแตกตื่นหนีตายเกือบไม่ทันจนรีบเจรจาหยุดยิงเพราะยุคบิ๊กกุ้งนะถีบเขมรนอนฝันหวานตกภูมะเขือตายกว่า10,000ทหารเขมรขอบอก, ..เอเชียเรากำลังถีบฝรั่งออกจากทวีปเรา นำโดยพี่ใหญ่มหาอำนาจทางอาวุธฝั่งเอเชียเราคือจีน รัสเชียบวกเกาหลีเหนือลูกน้องคนสนิทแขนขวาของจีน,ฝรั่งเศสสันดานเดียวกันกับเขมร คนฝรั่งโดยเนื้อแท้สันดานเดียวกันกับเขมร บ่อน้ำมันทั่วไทย.ฝรั่งก็ปล้นเราไปเป็นอันมาก เอาเปรียบสาระพัดมุกวิธีกับเราชาวเอเชีย.,อินโดฯคือทำทีว่ากูฝรั่งเชือดไก่ให้ลิงดูนะ,นี้คือผลของการขัดขืนชาวฝรั่งอย่างกู คนเอเชียต้องเป็นขี้ข้า ทาส คนรับใช้ให้ฝรั่งแบบนี้ให้เอาเปรียบได้เท่านั้น กูอยากได้อะไรบนประเทศมรึงต้องได้ ต้องให้กูมาง่ายๆรู้มั้ย,ทรัพยากรแบบบ่อน้ำมันแร่เอิร์ธกูอยากได้ก็ต้องได้อย่างง่ายๆรู้มั้ย เช่นนั้นจะเป็นลักษณะเดียวกับอินโดฯนะรู้มั้ยคนเอเชียคนอาเชียน ciaมันพูด. https://youtube.com/shorts/Hn0yHMjy478?si=hmdDhLJ_dZYWvhWv
    0 Comments 0 Shares 253 Views 0 Reviews
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “มายากลยุทธ”
    ภาคสอง ตอนเสกกระดาษเป็นน้ำมัน
    ตอนที่ 20 : เจ้ามือมาแล้ว
    ย้อนกลับไประหว่างที่สงครามโลกครั้งที่ 1 กำลังขับเคี้ยวกันอยู่ ประธานาธิบดีอเมริกา Woodrow Wilson นั่งบนกำแพงดูทิศทางลม ไม่ต้องการมีส่วนร่วมในสงครามพวกนักธุรกิจเห็นว่ามัวแต่นั่งดูทางลมแบบนั้น มันจะเข้าทางพวกเราหรือ ว่าแล้วพวกเขาก็รวบรวมพรรคพวก ตั้งคณะกำหนดทิศทางลมแทน ชื่อ “The Inquiry” เพื่อทำการศึกษา (ตามโผ !) และแนะนำประธานาธิบดี Wilson ว่า หาก Kaiser และจักรวรรดิเยอรมันล้มคว่ำ โลกนี้ควรจะมีทิศทางในการเดินเกมการเมืองอย่างไร การเสนอแนะของ The Inquiry ทำผ่าน Col. Edward M. House คนสนิทของประธานาธิบดี Wilson ท่านนายพัน House นี้ เป็นตัวสำคัญในการผลักดันให้เกิด Federal Reserve System
    The Inquiry นี้เองที่เป็นต้นกำเนิดของ The Council on Foreign Relations (CFR) ผู้มีอำนาจและอิทธิพลสูงสุด พวกเขาคือคนถือเข็มทิศ กำหนดทิศทางเดินของอเมริกานั่นเอง CFR เริ่มต้นจากการรวมตัวของนักวิชาการและนักการฑูตจากอังกฤษและอเมริกา เขาตกลงกันในที่ประชุมเมื่อพฤษภาคม ค.ศ. 1919 ว่า พวกเราควรจัดให้มีสถาบันร่วมมือกันระหว่างอังกฤษกับอเมริกา เพื่อ “ดูแล” เกี่ยวกับเรื่องระหว่างประเทศ (International Affairs) หลังจากนั้น ใน ค.ศ. 1921 พวกเขาก็ได้ขยายแนวร่วมไปยังกลุ่ม นักกฎหมายและนักการเงิน และร่วมกันตั้ง The Council on Foreign Relations ขึ้นในปี ค.ศ. 1921
    CFR มีเป้าหมายที่จะกำหนดที่ยืนของอเมริกาในโลกเสียใหม่ จากที่ทำแต่อุตสาหกรรมโดยลำพัง อยู่โดดเดี่ยว เปลี่ยนสภาพเป็นตัวกลไกสำคัญ ในการกำหนดทิศทางการเงินระหว่างประเทศ และกำหนดทิศทางการเดินของอเมริกาที่จะก้าวไปสู่การเป็นจักรวรรดิอเมริกา ซึ่งครอบคลุมทั้งด้านธุรกิจ การเงิน การเมืองระหว่างประเทศ การทหาร สื่อมวลชน และนักวิชาการ ในสังคมระดับสูง และทิศทางดังกล่าวจะต้องทำเป็นนโยบายระดับนานาชาติ โดยมีกลุ่มทุนใหญ่สนับสนุนอยู่ข้างหลัง
    เงินคืออำนาจ อำนาจคือเงิน อย่าถามว่าพวกเขาจะสร้างอำนาจนี้ได้จริงหรือ และเมื่อมีอำนาจแล้วจะใช้อำนาจนี้ไหม จักรวรรดิอเมริกามีจริงหรือไม่ เขาว่าถามแบบนี้ แน่นอน คนถามต้องไม่ใช่เป็นพวก CFR และไม่มีวันได้เป็น ฮา !
    แต่ก่อนจะมีอำนาจ ต้องมีเงินก่อนตามสูตร แล้วนักเล่นกล ก็คิดว่าถึงเวลาแล้วที่อเมริกาจะต้องมีธนาคารกลาง แต่เป็นธนาคารกลางที่พวกเขา ควรเป็น (เจ้ามือ) เจ้าของและควบคุม มันเป็นการร่วมมือกันระหว่างนักการเงิน 2 ฝั่งคาบสมุทร Atlantic
    J P Morgan ร่ายมนต์ให้นักการเมืองฟังว่า เหตุการณ์วิกฤติทางการเงินของอเมริกา เมื่อปี ค.ศ. 1907 น่ะ เพราะพวกคุณไม่มีระบบการเงินที่ดี รัฐบาลก็ไม่มีกระเป๋าเงินของตัวเองที่ใหญ่พอ ตอนเกิดเรื่องนะจำได้มั้ย เราน่ะ J P Morgan เป็นคนให้รัฐบาลยืมเงินนะ จะเสียหน้าแบบนั้นอีกเหรอ คำขู่ได้ผลประธานาธิบดี Wilson มือไม้สั่นรีบออก Federal Reserve Act ในปี ค.ศ. 1913 ผลของกฎหมายฉบับนี้ ทำให้อเมริกาถูกควบคุม โดยผู้มีอำนาจทางการเงิน Federal Reserve Bank หรือ “Fed” (เจ้ามือตัวจริง !) ซึ่งรัฐบาลอเมริกาไม่ได้เป็นเจ้าของ แต่ Fed สามารถที่กำหนดหลักเกณฑ์ ในการพิมพ์เงินดอลล่าร์ได้เอง โดยไม่ต้องผ่าน Congress เยี่ยมจริง ๆ!!!

    คนเล่านิทาน
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “มายากลยุทธ” ภาคสอง ตอนเสกกระดาษเป็นน้ำมัน ตอนที่ 20 : เจ้ามือมาแล้ว ย้อนกลับไประหว่างที่สงครามโลกครั้งที่ 1 กำลังขับเคี้ยวกันอยู่ ประธานาธิบดีอเมริกา Woodrow Wilson นั่งบนกำแพงดูทิศทางลม ไม่ต้องการมีส่วนร่วมในสงครามพวกนักธุรกิจเห็นว่ามัวแต่นั่งดูทางลมแบบนั้น มันจะเข้าทางพวกเราหรือ ว่าแล้วพวกเขาก็รวบรวมพรรคพวก ตั้งคณะกำหนดทิศทางลมแทน ชื่อ “The Inquiry” เพื่อทำการศึกษา (ตามโผ !) และแนะนำประธานาธิบดี Wilson ว่า หาก Kaiser และจักรวรรดิเยอรมันล้มคว่ำ โลกนี้ควรจะมีทิศทางในการเดินเกมการเมืองอย่างไร การเสนอแนะของ The Inquiry ทำผ่าน Col. Edward M. House คนสนิทของประธานาธิบดี Wilson ท่านนายพัน House นี้ เป็นตัวสำคัญในการผลักดันให้เกิด Federal Reserve System The Inquiry นี้เองที่เป็นต้นกำเนิดของ The Council on Foreign Relations (CFR) ผู้มีอำนาจและอิทธิพลสูงสุด พวกเขาคือคนถือเข็มทิศ กำหนดทิศทางเดินของอเมริกานั่นเอง CFR เริ่มต้นจากการรวมตัวของนักวิชาการและนักการฑูตจากอังกฤษและอเมริกา เขาตกลงกันในที่ประชุมเมื่อพฤษภาคม ค.ศ. 1919 ว่า พวกเราควรจัดให้มีสถาบันร่วมมือกันระหว่างอังกฤษกับอเมริกา เพื่อ “ดูแล” เกี่ยวกับเรื่องระหว่างประเทศ (International Affairs) หลังจากนั้น ใน ค.ศ. 1921 พวกเขาก็ได้ขยายแนวร่วมไปยังกลุ่ม นักกฎหมายและนักการเงิน และร่วมกันตั้ง The Council on Foreign Relations ขึ้นในปี ค.ศ. 1921 CFR มีเป้าหมายที่จะกำหนดที่ยืนของอเมริกาในโลกเสียใหม่ จากที่ทำแต่อุตสาหกรรมโดยลำพัง อยู่โดดเดี่ยว เปลี่ยนสภาพเป็นตัวกลไกสำคัญ ในการกำหนดทิศทางการเงินระหว่างประเทศ และกำหนดทิศทางการเดินของอเมริกาที่จะก้าวไปสู่การเป็นจักรวรรดิอเมริกา ซึ่งครอบคลุมทั้งด้านธุรกิจ การเงิน การเมืองระหว่างประเทศ การทหาร สื่อมวลชน และนักวิชาการ ในสังคมระดับสูง และทิศทางดังกล่าวจะต้องทำเป็นนโยบายระดับนานาชาติ โดยมีกลุ่มทุนใหญ่สนับสนุนอยู่ข้างหลัง เงินคืออำนาจ อำนาจคือเงิน อย่าถามว่าพวกเขาจะสร้างอำนาจนี้ได้จริงหรือ และเมื่อมีอำนาจแล้วจะใช้อำนาจนี้ไหม จักรวรรดิอเมริกามีจริงหรือไม่ เขาว่าถามแบบนี้ แน่นอน คนถามต้องไม่ใช่เป็นพวก CFR และไม่มีวันได้เป็น ฮา ! แต่ก่อนจะมีอำนาจ ต้องมีเงินก่อนตามสูตร แล้วนักเล่นกล ก็คิดว่าถึงเวลาแล้วที่อเมริกาจะต้องมีธนาคารกลาง แต่เป็นธนาคารกลางที่พวกเขา ควรเป็น (เจ้ามือ) เจ้าของและควบคุม มันเป็นการร่วมมือกันระหว่างนักการเงิน 2 ฝั่งคาบสมุทร Atlantic J P Morgan ร่ายมนต์ให้นักการเมืองฟังว่า เหตุการณ์วิกฤติทางการเงินของอเมริกา เมื่อปี ค.ศ. 1907 น่ะ เพราะพวกคุณไม่มีระบบการเงินที่ดี รัฐบาลก็ไม่มีกระเป๋าเงินของตัวเองที่ใหญ่พอ ตอนเกิดเรื่องนะจำได้มั้ย เราน่ะ J P Morgan เป็นคนให้รัฐบาลยืมเงินนะ จะเสียหน้าแบบนั้นอีกเหรอ คำขู่ได้ผลประธานาธิบดี Wilson มือไม้สั่นรีบออก Federal Reserve Act ในปี ค.ศ. 1913 ผลของกฎหมายฉบับนี้ ทำให้อเมริกาถูกควบคุม โดยผู้มีอำนาจทางการเงิน Federal Reserve Bank หรือ “Fed” (เจ้ามือตัวจริง !) ซึ่งรัฐบาลอเมริกาไม่ได้เป็นเจ้าของ แต่ Fed สามารถที่กำหนดหลักเกณฑ์ ในการพิมพ์เงินดอลล่าร์ได้เอง โดยไม่ต้องผ่าน Congress เยี่ยมจริง ๆ!!! คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 275 Views 0 Reviews
  • ประเทศไทยจะสงบสุขทันทีโดยไม่เกี่ยวกับเขมร,ด้วยการกำจัดนายพลทหารชั่วเลวออกจากกองทัพทหารจริงๆ,
    ..ผลงานเข้าตาคือแม่ทัพภาคที่2,
    ..ตกประเมินคือแม่ทัพภาคที่1

    ..ต้องรีเซ็ตความเข้มแข็งใหม่คือสั่งย้ายแม่ทัพภาคที่1และทีมงานคนสนิทท่านทั้งหมดออกจากพื้นที่รับผิดชอบ,ย้ายไปภาคใต้หรือภาคเหนือก็ได้ก่อน,โดยสอบสวนทั้งหมดด้วย,ย้ายลอยนั้นเองเพื่อตรวจหาความจริงต่างๆ.,ผลงานในศึกนี้บ่งบอกชัดเจนในหลายๆนัยยะ,รวมถึงอธิปไตยความมั่นคงของประเทศไทยเราเอง,สามารถทำลายฮุนเซนฮุนมาเนตในพริบตาก็ได้อีก,
    ..เราต้องเอาความจริงยกขึ้นมาพูดบนโต๊ะกันจริงๆได้แล้ว,ศึกใหญ่ยังรอเราอยู่ คือสงครามการเปลี่ยนแปลงแห่งยุคนี้ล่ะ กองทัพหากมีแค่แม่ทัพภาคที่2 และทีมงานเพื่อนฝูงคนสนิทของท่านที่รักชาติบ้านเมืองไม่กี่ท่าน มันอันตรายมากๆนะ,ทหารผีบ้ามาเล่นอำนาจการเมืองการปกครองอีก,ตอแหลไร้สัจจะอะไร สร้างภาพสวยหรูดูดีหน้าฉาก แต่หลังฉากเลวระยำอำมหิตมันใช้ไม่ได้นะ,สงครามไทยกับเขมรนี้ ได้โชว์ได้เปิดเผยทหารเลวทหารชั่วในกองทัพไทยเราเองขึ้นมาได้ไม่น้อย,สิ่งที่ปกปิดทำชั่วไว้ก็ถูกเปิดเผยขึ้น,สื่อสมควรแฉบอกประชาชนเยอะๆ เล่าเป็นนิทานก็ได้.

    https://youtube.com/shorts/W571DJeXG8A?si=vKpuI6eFewM6bk_N
    ประเทศไทยจะสงบสุขทันทีโดยไม่เกี่ยวกับเขมร,ด้วยการกำจัดนายพลทหารชั่วเลวออกจากกองทัพทหารจริงๆ, ..ผลงานเข้าตาคือแม่ทัพภาคที่2, ..ตกประเมินคือแม่ทัพภาคที่1 ..ต้องรีเซ็ตความเข้มแข็งใหม่คือสั่งย้ายแม่ทัพภาคที่1และทีมงานคนสนิทท่านทั้งหมดออกจากพื้นที่รับผิดชอบ,ย้ายไปภาคใต้หรือภาคเหนือก็ได้ก่อน,โดยสอบสวนทั้งหมดด้วย,ย้ายลอยนั้นเองเพื่อตรวจหาความจริงต่างๆ.,ผลงานในศึกนี้บ่งบอกชัดเจนในหลายๆนัยยะ,รวมถึงอธิปไตยความมั่นคงของประเทศไทยเราเอง,สามารถทำลายฮุนเซนฮุนมาเนตในพริบตาก็ได้อีก, ..เราต้องเอาความจริงยกขึ้นมาพูดบนโต๊ะกันจริงๆได้แล้ว,ศึกใหญ่ยังรอเราอยู่ คือสงครามการเปลี่ยนแปลงแห่งยุคนี้ล่ะ กองทัพหากมีแค่แม่ทัพภาคที่2 และทีมงานเพื่อนฝูงคนสนิทของท่านที่รักชาติบ้านเมืองไม่กี่ท่าน มันอันตรายมากๆนะ,ทหารผีบ้ามาเล่นอำนาจการเมืองการปกครองอีก,ตอแหลไร้สัจจะอะไร สร้างภาพสวยหรูดูดีหน้าฉาก แต่หลังฉากเลวระยำอำมหิตมันใช้ไม่ได้นะ,สงครามไทยกับเขมรนี้ ได้โชว์ได้เปิดเผยทหารเลวทหารชั่วในกองทัพไทยเราเองขึ้นมาได้ไม่น้อย,สิ่งที่ปกปิดทำชั่วไว้ก็ถูกเปิดเผยขึ้น,สื่อสมควรแฉบอกประชาชนเยอะๆ เล่าเป็นนิทานก็ได้. https://youtube.com/shorts/W571DJeXG8A?si=vKpuI6eFewM6bk_N
    0 Comments 0 Shares 278 Views 0 Reviews
  • จับพระ-สีกา! ตำรวจ บก.ปปป. ลุยจับกุม "อดีตเจ้าคณะฯ นครสวรรค์" และ "หญิงคนสนิท"...คดียักยอกเงินวัดกว่า 4.1 ล้านบาท
    https://www.thai-tai.tv/news/20946/
    .
    #คดีทุจริต #อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ #บกปปป #ปปช #ข่าวอาชญากรรม #ไทยไท

    จับพระ-สีกา! ตำรวจ บก.ปปป. ลุยจับกุม "อดีตเจ้าคณะฯ นครสวรรค์" และ "หญิงคนสนิท"...คดียักยอกเงินวัดกว่า 4.1 ล้านบาท https://www.thai-tai.tv/news/20946/ . #คดีทุจริต #อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ #บกปปป #ปปช #ข่าวอาชญากรรม #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 222 Views 0 Reviews
  • ไม่แปลกใจ,อีกช่องทางเพื่อช่วยเขมรถึงที่สุด,ฮุนเซนกับทักษิณเพื่อนสนิทโคตรๆ,คนไทยเกือบทั้งประเทศเขาตื่นแล้วก็ด้วย,จริงๆเพื่อไทยแพ้การเลือกแต่เขามองเห็นว่าก้าวไกลมาแน่,และบ๋อยเพื่อไทยด้วยสั่งได้,มุกละครถีบก้าวไกลจึงเกิดขึ้น แผนหมากนี้ก็วางสนุ็คแล้ว,จนเพื่อไทยสำเร็จเป้าหมาย,ได้เป็นรัฐบาลสมใจ,แผนให้ไทยรบกับเขมรก็จัดเตรียมรอไว้เช่นกัน,ใครก็ดูออกว่าปกป้องลูกสาวหลานอังเคิลแบบไหน,หาทางลงให้หลานอังเคิลไม่ต้องเผชิญความใดๆแบบภูมิธรรม ,ปกป้องภาพักษณ์ลูกสาวไม่ต้องเจอเผือกร้อนได้,คนสนิทภูมิธรรมจึงเป็นตัวเลือกรับบทนี้ในปัจจุบัน,ส่วนอนาคตศาลจะเล่นตามน้ำหรือตัดตอนก็ดูการตัดสินคดีคลิปนี้ล่ะ,
    ..โดรนโทนี่มีความเสี่ยงระดับสูงจริงๆหากจริงตามนี้.

    https://youtube.com/shorts/D8Vp4HdHKRg?si=wgNyT_T8xbfrFIKj
    ไม่แปลกใจ,อีกช่องทางเพื่อช่วยเขมรถึงที่สุด,ฮุนเซนกับทักษิณเพื่อนสนิทโคตรๆ,คนไทยเกือบทั้งประเทศเขาตื่นแล้วก็ด้วย,จริงๆเพื่อไทยแพ้การเลือกแต่เขามองเห็นว่าก้าวไกลมาแน่,และบ๋อยเพื่อไทยด้วยสั่งได้,มุกละครถีบก้าวไกลจึงเกิดขึ้น แผนหมากนี้ก็วางสนุ็คแล้ว,จนเพื่อไทยสำเร็จเป้าหมาย,ได้เป็นรัฐบาลสมใจ,แผนให้ไทยรบกับเขมรก็จัดเตรียมรอไว้เช่นกัน,ใครก็ดูออกว่าปกป้องลูกสาวหลานอังเคิลแบบไหน,หาทางลงให้หลานอังเคิลไม่ต้องเผชิญความใดๆแบบภูมิธรรม ,ปกป้องภาพักษณ์ลูกสาวไม่ต้องเจอเผือกร้อนได้,คนสนิทภูมิธรรมจึงเป็นตัวเลือกรับบทนี้ในปัจจุบัน,ส่วนอนาคตศาลจะเล่นตามน้ำหรือตัดตอนก็ดูการตัดสินคดีคลิปนี้ล่ะ, ..โดรนโทนี่มีความเสี่ยงระดับสูงจริงๆหากจริงตามนี้. https://youtube.com/shorts/D8Vp4HdHKRg?si=wgNyT_T8xbfrFIKj
    0 Comments 0 Shares 227 Views 0 Reviews
  • รอง ผบก.ป.เผย กองปราบเดินหน้าขุดคุ้ยเงินบริจาค“หมอบี-วัดพระบาทน้ำพุ” ว่า นำเงินทำบุญใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ เร่งสอบเส้นทางการเงิน-ที่ดินคนสนิทเจ้าอาวาส 2,000 ไร่-รถหรู ส่อเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน-ฟอกเงิน-ม.157 เตรียมพิจารณาประสาน ปปง.ร่วมตรวจสอบด้วย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000076267

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    รอง ผบก.ป.เผย กองปราบเดินหน้าขุดคุ้ยเงินบริจาค“หมอบี-วัดพระบาทน้ำพุ” ว่า นำเงินทำบุญใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ เร่งสอบเส้นทางการเงิน-ที่ดินคนสนิทเจ้าอาวาส 2,000 ไร่-รถหรู ส่อเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน-ฟอกเงิน-ม.157 เตรียมพิจารณาประสาน ปปง.ร่วมตรวจสอบด้วย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000076267 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 693 Views 0 Reviews
  • จริงๆรัฐบาลปัจจุบันก็ถือวางหมากวางสนุ็คมิให้มีนายกฯตัวจริงในไทยนะจะติดขัด ขัดขวางยุทธวีธีมากมายได้หากเกิดการปะทะยืดเยือขึ้นแบบปัจจุบันนี้,รัฐบาลนี้จะพิการไปมากนั่นเองตามหมากที่วางแผนไว้,ทั่งการมีรัฐบาลที่รักชาติรักประเทศไทยกูจะวางสนุ๊คนี้ไม่สำเร็จ ซวยแน่นอนหากจับมือกับทหารไทยพระราชาอีกที่เป็นฝ่ายตรงข้ามกู,เช่น รัฐบาลรักชาติ ออกพรก.ฉุกเฉิกขยายอายุการทำงานบิ๊กกุ้งหลังไปพูดคุยขอร้องให้อยู่ต่อช่วยเหลือประเทศออกไปสัก1ปี กูซวยแน่,และมอบบำเหน็จยศเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งในปัจจุบันอีกซึ่งกูขัดขวางหัวเด็ดตีนขาดห้ามเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่งมอบบำเหน็จอะไรๆให้คนฝ่ายตรงข้ามเราทั้งหมด,ถ้าบิ๊กกุ้ง บิ๊กปูพนามาใหญ่คับประเทศแผนกูที่วางหมากไว้จะถูกตัดตอนได้,ห้ามขยายอายุงานใดๆให้คนพวกนี้แม้ยุคยุทธปืนคอกูจะขยายอายุงานราชการให้คนของกูก็ตามแต่พวกนี้มิใช่คนของกูของเราสั่งห้ามเด็ดขาดเพราะกูจะสั่งคนสนิทกูไปนั่งแทนจากนั้นเขมรจะชนะทุกๆสมรภูมิรบทันทีเพราะสั่งการให้แพ้ได้นั้นเอง,นี้คือผลดีที่รัฐบาลนี้เป็นฝ่ายเราเพราะกูดันเองกับมือ.

    https://youtube.com/shorts/24JWxE2GwQE?si=4A1lp5TD2dw1uGIE
    จริงๆรัฐบาลปัจจุบันก็ถือวางหมากวางสนุ็คมิให้มีนายกฯตัวจริงในไทยนะจะติดขัด ขัดขวางยุทธวีธีมากมายได้หากเกิดการปะทะยืดเยือขึ้นแบบปัจจุบันนี้,รัฐบาลนี้จะพิการไปมากนั่นเองตามหมากที่วางแผนไว้,ทั่งการมีรัฐบาลที่รักชาติรักประเทศไทยกูจะวางสนุ๊คนี้ไม่สำเร็จ ซวยแน่นอนหากจับมือกับทหารไทยพระราชาอีกที่เป็นฝ่ายตรงข้ามกู,เช่น รัฐบาลรักชาติ ออกพรก.ฉุกเฉิกขยายอายุการทำงานบิ๊กกุ้งหลังไปพูดคุยขอร้องให้อยู่ต่อช่วยเหลือประเทศออกไปสัก1ปี กูซวยแน่,และมอบบำเหน็จยศเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งในปัจจุบันอีกซึ่งกูขัดขวางหัวเด็ดตีนขาดห้ามเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่งมอบบำเหน็จอะไรๆให้คนฝ่ายตรงข้ามเราทั้งหมด,ถ้าบิ๊กกุ้ง บิ๊กปูพนามาใหญ่คับประเทศแผนกูที่วางหมากไว้จะถูกตัดตอนได้,ห้ามขยายอายุงานใดๆให้คนพวกนี้แม้ยุคยุทธปืนคอกูจะขยายอายุงานราชการให้คนของกูก็ตามแต่พวกนี้มิใช่คนของกูของเราสั่งห้ามเด็ดขาดเพราะกูจะสั่งคนสนิทกูไปนั่งแทนจากนั้นเขมรจะชนะทุกๆสมรภูมิรบทันทีเพราะสั่งการให้แพ้ได้นั้นเอง,นี้คือผลดีที่รัฐบาลนี้เป็นฝ่ายเราเพราะกูดันเองกับมือ. https://youtube.com/shorts/24JWxE2GwQE?si=4A1lp5TD2dw1uGIE
    0 Comments 0 Shares 229 Views 0 Reviews
  • "คนสนิทฮุนเซน" สังเวยศึก! กองทัพไทยยัน "พล.อ.สรัย ดึ๊ก" ดับกลางสนามรบ
    https://www.thai-tai.tv/news/20597/
    .
    #พลอสรัยดึ๊ก #เสียชีวิต #ชายแดนไทยกัมพูชา #สมเด็จฮุนเซน #กองทัพกัมพูชา #ช่องบก #ไทยไท
    "คนสนิทฮุนเซน" สังเวยศึก! กองทัพไทยยัน "พล.อ.สรัย ดึ๊ก" ดับกลางสนามรบ https://www.thai-tai.tv/news/20597/ . #พลอสรัยดึ๊ก #เสียชีวิต #ชายแดนไทยกัมพูชา #สมเด็จฮุนเซน #กองทัพกัมพูชา #ช่องบก #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 160 Views 0 Reviews
  • ..อเมริการ่วมฆ่าสังหารเด็กๆไทยร่วมกับเขมรเพียงเพื่อจะจัดการจีนในท่าเรือเรียมของเขมรเท่านั้นจึงแบไต๋มองข้ามอธิปไตยอันดีงามของประชาชนคนประเทศไทย แถมตรึมมีคนสนิทของฮุนมาเนตร่วมคณะทีมทรัมป์ด้วยถือว่าอเมริกาไร้ค่าไร้ราคาสกปรกแบบเขมรเพื่อบรรลุผลเป้าหมายตนกำจัดจีนออกจากเขมรไม่มองความเป็นธรรมที่ได้ถูกเขมรรุกรานคุกคามมาอย่างยาวนานใดๆไม่ต่างจากอเมริกาช่วยอิสราเอลอย่างเปิดเผยนั้นเอง.,รู้ว่าอิสราเอลเริ่มเปิดอิหร่านก่อนเสือกสนับสนุนอิสราเอลคนที่ผิด,ทรัมป์บัดสบมาสมควรไม่เป็นที่ไว้วางใจของสภากาแล็คติกจักรวาล ต้องลงมติสภากาแล็คติกกำจัดทรัมป์ออกจามทีมพิทักษ์โลกหนึ่งในทีมคณะผู้นำผิวโลกเลย,ใช้ไม่ได้แล้ว หมายก่อสงครามโลกกระทบกับชาวโลกทุกๆคนด้วย,เหี้ยสภากาแล็คติกชัดเจนด้วย,สภาฝ่ายมืดแน่ๆประจำจักรวาล,ดำเนินนโยบายโลกส่งทรัมป์ผีบ้าปั่นป่วนไปทั่วโลก กำจัดฝ่ายมืดห่าอะไรก็ไม่กำจัด,มีเบรคพักยกแบบอิหร่านกับอิสราเอลให้จังหวะเวลาเขมรก่ออาชญากรรมให้หนักโกลาหลหนักๆในภูมิภาคนี้อีก,ก็รู้ว่าเขมรชั่วเลว จะไปช่วยห่ามันทำไม จีนก็ไม่ได้ช่วยเขมรแล้ว,เป็นกลางคือเป็นกลาง ไทยกับเขมรจบกันให้รู้ความกันเอง,อเมริกาอาจเข้าข่ายส่งเสริมสนับสนุนอาวุธแก่เขมรเองก็ได้เพื่อสร้างความขัดแย้งในไทยและกับจีนด้วยให้จีนมองเขมรอีกลักษณะหนึ่งว่ารับใช้อเมริกาแล้ว,
    ..อเมริกาคือฝ่ายเขมร รวมทั้งรัฐบาลนี้ที่สมยอมเขมรด้วย จนสะสมปัญหาพรมแดนกับเขมรมาโดยตลอด,และฝรั่งอเมริกาไม่มีความจริงใจอะไรให้ภูมิภาคนี้สงบสุขจริง,จะขายอาวุธด้วยนั้นเองให้แก่ไทยแก่เขมรระหว่างหยุดรบ ในนามชื่อว่าพัฒนาอาวุธเพื่อปกป้องตนเอง,เขมรก็จะเริ่มซื้ออาวุธกับอเมริกากับจีน ไทยก็เริ่มซื้ออาวุธเช่นกัน จากนัันไทยก็มาทำสงครามกันใหม่อีก,เลาะทั้งสองฝ่ายอีก,แล้วเจรจาหยุดยิง พักรบ อเมริกาก็ขายอาวุธตัวเก่าตัวใหม่ให้อีก เขมรก็ซื้ออีก ไทยก็ซื้ออีก แล้วกลับมาสู้รบกันใหม่,คือเจรจารักษาผลประโยชน์การขายอาวุธของฝรั่งของจีนของรัสเชียสามารถเข้าใจได้หมดบนความขัดแย้งของไทยกับเขมร,คือพวกมันฝรั่งวางหมากนี้เรื่อยมาตั้งแต่ยุคเขมรแดงจนสู่ยุคฮุนเซนล้างสมองคนเขมรให้ต้องเจาะจงมองไทยคือศัตรูของเขมรนั่นเอง คลั่งชาติเขมร จะยึดไทยเป็นของเขมรให้รับรู้ว่าเป็นเรื่องปกติของคนเขมรถึงปัจจุบันนั้นเองโดยอีลิทซาตานdeep stateวางแผนการไว้นั้นเอง,
    ..ทรัมป์อเมริกาในบริบทกับไทยถือว่าขั่วเลวมากนั้นเอง,นอกจากทรัมป์จะประกาศกำจัดdeep stateจริงในไทยถ้าทรัมป์เป็นฝ่ายดีจริงๆทำให้เห็นผลงานแก่คนไทยมิใช่ในสื่อแอบต่างๆอวยชูทรัมป์ว่าคือคนฝ่ายแสง,แสงเหี้ย!!!,ดูชัดเจนคือจะยึดพังงายึดพัทยาชลบุรีทำสงครามกับจีนชัดเจนจริงๆ,
    ..

    https://youtube.com/watch?v=f6VtjgtuCNA&si=NkJ8kuJNlruBXpNF
    ..อเมริการ่วมฆ่าสังหารเด็กๆไทยร่วมกับเขมรเพียงเพื่อจะจัดการจีนในท่าเรือเรียมของเขมรเท่านั้นจึงแบไต๋มองข้ามอธิปไตยอันดีงามของประชาชนคนประเทศไทย แถมตรึมมีคนสนิทของฮุนมาเนตร่วมคณะทีมทรัมป์ด้วยถือว่าอเมริกาไร้ค่าไร้ราคาสกปรกแบบเขมรเพื่อบรรลุผลเป้าหมายตนกำจัดจีนออกจากเขมรไม่มองความเป็นธรรมที่ได้ถูกเขมรรุกรานคุกคามมาอย่างยาวนานใดๆไม่ต่างจากอเมริกาช่วยอิสราเอลอย่างเปิดเผยนั้นเอง.,รู้ว่าอิสราเอลเริ่มเปิดอิหร่านก่อนเสือกสนับสนุนอิสราเอลคนที่ผิด,ทรัมป์บัดสบมาสมควรไม่เป็นที่ไว้วางใจของสภากาแล็คติกจักรวาล ต้องลงมติสภากาแล็คติกกำจัดทรัมป์ออกจามทีมพิทักษ์โลกหนึ่งในทีมคณะผู้นำผิวโลกเลย,ใช้ไม่ได้แล้ว หมายก่อสงครามโลกกระทบกับชาวโลกทุกๆคนด้วย,เหี้ยสภากาแล็คติกชัดเจนด้วย,สภาฝ่ายมืดแน่ๆประจำจักรวาล,ดำเนินนโยบายโลกส่งทรัมป์ผีบ้าปั่นป่วนไปทั่วโลก กำจัดฝ่ายมืดห่าอะไรก็ไม่กำจัด,มีเบรคพักยกแบบอิหร่านกับอิสราเอลให้จังหวะเวลาเขมรก่ออาชญากรรมให้หนักโกลาหลหนักๆในภูมิภาคนี้อีก,ก็รู้ว่าเขมรชั่วเลว จะไปช่วยห่ามันทำไม จีนก็ไม่ได้ช่วยเขมรแล้ว,เป็นกลางคือเป็นกลาง ไทยกับเขมรจบกันให้รู้ความกันเอง,อเมริกาอาจเข้าข่ายส่งเสริมสนับสนุนอาวุธแก่เขมรเองก็ได้เพื่อสร้างความขัดแย้งในไทยและกับจีนด้วยให้จีนมองเขมรอีกลักษณะหนึ่งว่ารับใช้อเมริกาแล้ว, ..อเมริกาคือฝ่ายเขมร รวมทั้งรัฐบาลนี้ที่สมยอมเขมรด้วย จนสะสมปัญหาพรมแดนกับเขมรมาโดยตลอด,และฝรั่งอเมริกาไม่มีความจริงใจอะไรให้ภูมิภาคนี้สงบสุขจริง,จะขายอาวุธด้วยนั้นเองให้แก่ไทยแก่เขมรระหว่างหยุดรบ ในนามชื่อว่าพัฒนาอาวุธเพื่อปกป้องตนเอง,เขมรก็จะเริ่มซื้ออาวุธกับอเมริกากับจีน ไทยก็เริ่มซื้ออาวุธเช่นกัน จากนัันไทยก็มาทำสงครามกันใหม่อีก,เลาะทั้งสองฝ่ายอีก,แล้วเจรจาหยุดยิง พักรบ อเมริกาก็ขายอาวุธตัวเก่าตัวใหม่ให้อีก เขมรก็ซื้ออีก ไทยก็ซื้ออีก แล้วกลับมาสู้รบกันใหม่,คือเจรจารักษาผลประโยชน์การขายอาวุธของฝรั่งของจีนของรัสเชียสามารถเข้าใจได้หมดบนความขัดแย้งของไทยกับเขมร,คือพวกมันฝรั่งวางหมากนี้เรื่อยมาตั้งแต่ยุคเขมรแดงจนสู่ยุคฮุนเซนล้างสมองคนเขมรให้ต้องเจาะจงมองไทยคือศัตรูของเขมรนั่นเอง คลั่งชาติเขมร จะยึดไทยเป็นของเขมรให้รับรู้ว่าเป็นเรื่องปกติของคนเขมรถึงปัจจุบันนั้นเองโดยอีลิทซาตานdeep stateวางแผนการไว้นั้นเอง, ..ทรัมป์อเมริกาในบริบทกับไทยถือว่าขั่วเลวมากนั้นเอง,นอกจากทรัมป์จะประกาศกำจัดdeep stateจริงในไทยถ้าทรัมป์เป็นฝ่ายดีจริงๆทำให้เห็นผลงานแก่คนไทยมิใช่ในสื่อแอบต่างๆอวยชูทรัมป์ว่าคือคนฝ่ายแสง,แสงเหี้ย!!!,ดูชัดเจนคือจะยึดพังงายึดพัทยาชลบุรีทำสงครามกับจีนชัดเจนจริงๆ, .. https://youtube.com/watch?v=f6VtjgtuCNA&si=NkJ8kuJNlruBXpNF
    0 Comments 0 Shares 355 Views 0 Reviews
  • ...นี้คือภาวะสงครามแล้วนะ,กฎอัยการศึกทั่วประเทศต้องเร่งรีบประกาศทันที,รัฐบาลนี้พึ่งพาอะไรไม่ได้แล้ว,ไม่เต็มที่อะไรหรอก,เพราะยืนยันผลงานจากอดีตมาแล้วมีแต่เป็นตัวถ่วง ทำให้ทหารไทยเราเสียเปรียบได้ด้วย,มีรัฐบาลก็เหมือนไม่มี,ยึดอำนาจเลย ตั้งนายกฯพระราชทานพิเศษจัดการเลย.,เขมรต้องได้รับบทเรียนหรือถูกยึดประเทศแล้วสลายให้พ้นเป็นสถานะประเทศเลย,คนเขมรในไทยสามารถเป็นไส้ศึกส่งข่าวภายในเราได้,ต้องผลักดันกลับประเทศมันให้หมด,มีสำนักงานรวมรวมข่าวภายในบนแผ่นดินไทยด้วย,มันเป็นไส้ศึกในไทยเรานี้เอง,ฑูตพวกมันสันดานยังขนาดนั้น มันแอบวางคนเตรียมพร้อมไว้แน่นอน,ตำรวจมือดีเราล็อกพิกัดมันได้เข้าจับกุมเลย,
    ..ทหารไทยเรามีแค่ประชาชนเท่านั้นจะผ่านพ้นพวกเนรคุณนี้ได้,นักการเมืองทรยศขายชาติเพื่อผลประโยชน์มันนานแล้วยิ่งเจอข้อหาจะล้างสส.สว.ทั้งสภาอีก มันโกรธแค้นแน่นอน สุ่มหัวทำลายไทยแน่นอนเพราะคดีมันตรึมรอลงดาบแล้ว จึงเป็นสงครามครั้งสุดท้ายของเดอะแก๊งมันผ่านตัวแทนประเทศเขมรนั้นเอง,แต่ตัวสั่งการจริงๆคือสทร.นั้นล่ะบอกผ่านสหายคนสนิทฮุนเซนมันถ้าสำเร็จประเทศเป็นของเขมรครึ่งหนึ่ง อ่าวไทยเอาไปเลยครึ่งอ่าว,มันจะเป็นประธานาธิบดีตอนนี้ให้ได้เพื่อปกครองประเทศไทยเบ็ดเสร็จ.
    ..เมื่อประกาศภาวะสงครามจากการรุกรานของเขมร เราชอบธรรมทันทีในการตอบโต้ต่อเนื่องถึงใจกลางประเทศมัน.,ยึดประเทศศัตรูก็ได้ทันทีในสงครามนี้,มิใช่ปะทะผีบ้ากฎปะทะกากๆนั้นอีกต่อไป,จะมีแค่ผู้แพ้กับผู้ชนะเท่านั้น,มิอาจจับมือกันได้อีกต่อไป.เขมรต้องจ่ายราคาแพงที่เปิดก่อนทั้งหมด,ลบชื่อเขมรออกจากแผนที่โลกนั้นเอง.



    https://youtube.com/watch?v=x0mZudOW7sM&si=11EchwkAbvK-q2th
    ...นี้คือภาวะสงครามแล้วนะ,กฎอัยการศึกทั่วประเทศต้องเร่งรีบประกาศทันที,รัฐบาลนี้พึ่งพาอะไรไม่ได้แล้ว,ไม่เต็มที่อะไรหรอก,เพราะยืนยันผลงานจากอดีตมาแล้วมีแต่เป็นตัวถ่วง ทำให้ทหารไทยเราเสียเปรียบได้ด้วย,มีรัฐบาลก็เหมือนไม่มี,ยึดอำนาจเลย ตั้งนายกฯพระราชทานพิเศษจัดการเลย.,เขมรต้องได้รับบทเรียนหรือถูกยึดประเทศแล้วสลายให้พ้นเป็นสถานะประเทศเลย,คนเขมรในไทยสามารถเป็นไส้ศึกส่งข่าวภายในเราได้,ต้องผลักดันกลับประเทศมันให้หมด,มีสำนักงานรวมรวมข่าวภายในบนแผ่นดินไทยด้วย,มันเป็นไส้ศึกในไทยเรานี้เอง,ฑูตพวกมันสันดานยังขนาดนั้น มันแอบวางคนเตรียมพร้อมไว้แน่นอน,ตำรวจมือดีเราล็อกพิกัดมันได้เข้าจับกุมเลย, ..ทหารไทยเรามีแค่ประชาชนเท่านั้นจะผ่านพ้นพวกเนรคุณนี้ได้,นักการเมืองทรยศขายชาติเพื่อผลประโยชน์มันนานแล้วยิ่งเจอข้อหาจะล้างสส.สว.ทั้งสภาอีก มันโกรธแค้นแน่นอน สุ่มหัวทำลายไทยแน่นอนเพราะคดีมันตรึมรอลงดาบแล้ว จึงเป็นสงครามครั้งสุดท้ายของเดอะแก๊งมันผ่านตัวแทนประเทศเขมรนั้นเอง,แต่ตัวสั่งการจริงๆคือสทร.นั้นล่ะบอกผ่านสหายคนสนิทฮุนเซนมันถ้าสำเร็จประเทศเป็นของเขมรครึ่งหนึ่ง อ่าวไทยเอาไปเลยครึ่งอ่าว,มันจะเป็นประธานาธิบดีตอนนี้ให้ได้เพื่อปกครองประเทศไทยเบ็ดเสร็จ. ..เมื่อประกาศภาวะสงครามจากการรุกรานของเขมร เราชอบธรรมทันทีในการตอบโต้ต่อเนื่องถึงใจกลางประเทศมัน.,ยึดประเทศศัตรูก็ได้ทันทีในสงครามนี้,มิใช่ปะทะผีบ้ากฎปะทะกากๆนั้นอีกต่อไป,จะมีแค่ผู้แพ้กับผู้ชนะเท่านั้น,มิอาจจับมือกันได้อีกต่อไป.เขมรต้องจ่ายราคาแพงที่เปิดก่อนทั้งหมด,ลบชื่อเขมรออกจากแผนที่โลกนั้นเอง. https://youtube.com/watch?v=x0mZudOW7sM&si=11EchwkAbvK-q2th
    0 Comments 0 Shares 303 Views 0 Reviews
  • สว.สีน้ำเงิน ดันทุรัง
    ตั้งคนสนิทศักดิ์สยาม
    เป็นตุลาการสีน้ำเงิน
    แถมเขี่ยอีกคนพ้นทาง
    เพื่อเสนอคนใหม่ให้ได้ตุลาการศาลรธน.สีน้ำเงิน2คน
    #7ดอกจิก
    สว.สีน้ำเงิน ดันทุรัง ตั้งคนสนิทศักดิ์สยาม เป็นตุลาการสีน้ำเงิน แถมเขี่ยอีกคนพ้นทาง เพื่อเสนอคนใหม่ให้ได้ตุลาการศาลรธน.สีน้ำเงิน2คน #7ดอกจิก
    0 Comments 0 Shares 188 Views 0 Reviews
  • ..อนาคตต้องมีแพลตฟอร์มให้ประชาชนกดลงมติว่า ถอดถอนข้าราชการลักษณะพ้นตำแหน่งหน้าที่ในทางราชการจะดีมากมั้ยนะ,ตั้งระดับนายกฯลงมาถึงคนข้าราชการทุกๆตำแหน่งเลย,เช่นลักษณะนี้ ประชาชนไม่พอใจในการทำหน้าที่ของนายกฯที่มีคลิปออกมาว่า ทหารคือฝ่ายตรงข้ามเรา ประชาชนลงมติอีกช่องทางหนึ่งร่วมลงชื่อกดลงมติถอดถอนนายกฯด้วย ถอดถอนทหารด้วยที่ประชาชนไม่สามารถเชื่อใจไว้วางใจในการทำหน้าที่นายพลหรือนายทหารนายตำรวจได้ สามารถกดในแพลตฟอร์มทางตรงของภาคประชาชนถอดถอนตำแหน่งหน้าที่ได้ทางตรงเลยก็ว่า,
    ..ทหารไทยเราโดนกับระเบิด ในเวลาต่อมาเสือกมีข่าวเปิดด่านรับกระแสข่าวทหารไทยเราถูกกับระเบิดด้วย ซึ่งจริงๆต้องปิดด่านถาวรเลย ตัดน้ำมันตัดไฟฟ้าตลอดพรมแดน ห้ามคนเขมรเข้าประเทศไทย ห้ามเข้าออกตลิดแนวพรมแดนทั้งหมดด้วยกฎอัยการศึกที่ตนถือในมือ,อยุธยาเสียกรุงเพราะคนในเป็นไส้ศึก ทำหน้าที่ในอำนาจตนช่วยศึกศัตรูประเทศ,เจ้าสัวนักธุรกิจใดๆกิจการใดๆปราถนาการเปิดด่านเพื่อกำไรผลประโยชน์มันกิจการมันพวกนี้ต้องถูกกำจัดตลอดตังใต้โต๊ะอาจใช้ไปไม่น้อยในการล็อบบี้ให้ด่านเปิดให้ได้,ตรวจสอบเส้นทางคนมีอำนาจสั่งเปิดด่านได้ว่ามีเงินเข้าบัญชีญาติพี่น้องน้องเมียคนสนิทคนขับรถแม่บ้านลูกน้องเก่าได้จะชัดเจนในการไม่ซื่อสัตย์ต่ออธิปไตยดินแดนไทยเราและปฏิบัติหน้าที่ที่เป็นภัยต่อกลยุทธอธิปไตยไทยเรา สมควรถูกลงโทษทั้งหมด ทั้งคนให้ทั้งคนรับที่เกี่ยวข้องทั้งหมด.

    https://youtube.com/shorts/vxdi2McSMLY?si=NGUTkhTGmxOFMmO3
    ..อนาคตต้องมีแพลตฟอร์มให้ประชาชนกดลงมติว่า ถอดถอนข้าราชการลักษณะพ้นตำแหน่งหน้าที่ในทางราชการจะดีมากมั้ยนะ,ตั้งระดับนายกฯลงมาถึงคนข้าราชการทุกๆตำแหน่งเลย,เช่นลักษณะนี้ ประชาชนไม่พอใจในการทำหน้าที่ของนายกฯที่มีคลิปออกมาว่า ทหารคือฝ่ายตรงข้ามเรา ประชาชนลงมติอีกช่องทางหนึ่งร่วมลงชื่อกดลงมติถอดถอนนายกฯด้วย ถอดถอนทหารด้วยที่ประชาชนไม่สามารถเชื่อใจไว้วางใจในการทำหน้าที่นายพลหรือนายทหารนายตำรวจได้ สามารถกดในแพลตฟอร์มทางตรงของภาคประชาชนถอดถอนตำแหน่งหน้าที่ได้ทางตรงเลยก็ว่า, ..ทหารไทยเราโดนกับระเบิด ในเวลาต่อมาเสือกมีข่าวเปิดด่านรับกระแสข่าวทหารไทยเราถูกกับระเบิดด้วย ซึ่งจริงๆต้องปิดด่านถาวรเลย ตัดน้ำมันตัดไฟฟ้าตลอดพรมแดน ห้ามคนเขมรเข้าประเทศไทย ห้ามเข้าออกตลิดแนวพรมแดนทั้งหมดด้วยกฎอัยการศึกที่ตนถือในมือ,อยุธยาเสียกรุงเพราะคนในเป็นไส้ศึก ทำหน้าที่ในอำนาจตนช่วยศึกศัตรูประเทศ,เจ้าสัวนักธุรกิจใดๆกิจการใดๆปราถนาการเปิดด่านเพื่อกำไรผลประโยชน์มันกิจการมันพวกนี้ต้องถูกกำจัดตลอดตังใต้โต๊ะอาจใช้ไปไม่น้อยในการล็อบบี้ให้ด่านเปิดให้ได้,ตรวจสอบเส้นทางคนมีอำนาจสั่งเปิดด่านได้ว่ามีเงินเข้าบัญชีญาติพี่น้องน้องเมียคนสนิทคนขับรถแม่บ้านลูกน้องเก่าได้จะชัดเจนในการไม่ซื่อสัตย์ต่ออธิปไตยดินแดนไทยเราและปฏิบัติหน้าที่ที่เป็นภัยต่อกลยุทธอธิปไตยไทยเรา สมควรถูกลงโทษทั้งหมด ทั้งคนให้ทั้งคนรับที่เกี่ยวข้องทั้งหมด. https://youtube.com/shorts/vxdi2McSMLY?si=NGUTkhTGmxOFMmO3
    0 Comments 0 Shares 368 Views 0 Reviews
  • ๒รอง ผบช.ก.เผยพบเส้นเงินโอนให้สองสีกาคนสนิท"ทิดสฤษดิ์" เร่งตรวจสอบโครงการก่อสร้างพุทธอุทยานฯ-มจร.นครสวรรค์ มูลค่านับร้อยล้าน ย้ำยังไม่มีจับพระระดับสูงกว่านี้

    วันนี้ (21 ก.ค.) ที่ กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี "ทิดสฤษดิ์" หรือ อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมว่า ในส่วนของการตรวจสอบความผิดอาญาเกี่ยวกับเรื่องทุจริต ขณะนี้พบข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และในวันนี้มีการจัดกำลังลงพื้นที่เข้าไปตรวจสอบที่จังหวัดนครสวรรค์ และ จังหวัดพิจิตร เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน

    พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวถึงกรณีตรวจสอบโครงการก่อสร้างพุทธอุทยานและโครงการอื่น ๆ ในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครสวรรค์ หรือ มจร.นครสวรรค์ ที่สร้างมานานแล้วยังไม่แล้วเสร็จ ว่า 2-3 ปีที่ผ่านมามีเรื่องร้องเรียนมาที่ บก.ปปป. ครั้งหนึ่งแล้วในการก่อสร้างอุทยานมีการระดมทุนหลายร้อยล้าน นอกจากนี้ยังมีการหยิบยืมเงินจากวัดส่วนกลางอีก ซึ่งมีการร้องเรียนว่าใช้เงินมหาศาลมาก่อสร้างนาน 10 ปี แต่ก็ยังไม่แล้วเสร็จ และยังพบว่ามีเส้นเงินสามารถจะไปซื้อที่ดินแจกให้หมอดูได้ตามที่ปรากฏเป็นข่าวแต่จะจริงหรือไม่ ไม่ทราบ และมีบ้านขนาดใหญ่, รถและทรัพย์สินอีกหลายอย่าง ตำรวจยังเห็นข้อมูลไม่หมดขอเวลาได้ทำงานก่อน เพราะยังมีบัญชีพระลูกวัดโอนให้อีกด้วย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000068580

    #Thaitimes #MGROnline #ทิดสฤษดิ์ #สองสีกา
    ๒รอง ผบช.ก.เผยพบเส้นเงินโอนให้สองสีกาคนสนิท"ทิดสฤษดิ์" เร่งตรวจสอบโครงการก่อสร้างพุทธอุทยานฯ-มจร.นครสวรรค์ มูลค่านับร้อยล้าน ย้ำยังไม่มีจับพระระดับสูงกว่านี้ • วันนี้ (21 ก.ค.) ที่ กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี "ทิดสฤษดิ์" หรือ อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมว่า ในส่วนของการตรวจสอบความผิดอาญาเกี่ยวกับเรื่องทุจริต ขณะนี้พบข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และในวันนี้มีการจัดกำลังลงพื้นที่เข้าไปตรวจสอบที่จังหวัดนครสวรรค์ และ จังหวัดพิจิตร เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน • พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวถึงกรณีตรวจสอบโครงการก่อสร้างพุทธอุทยานและโครงการอื่น ๆ ในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครสวรรค์ หรือ มจร.นครสวรรค์ ที่สร้างมานานแล้วยังไม่แล้วเสร็จ ว่า 2-3 ปีที่ผ่านมามีเรื่องร้องเรียนมาที่ บก.ปปป. ครั้งหนึ่งแล้วในการก่อสร้างอุทยานมีการระดมทุนหลายร้อยล้าน นอกจากนี้ยังมีการหยิบยืมเงินจากวัดส่วนกลางอีก ซึ่งมีการร้องเรียนว่าใช้เงินมหาศาลมาก่อสร้างนาน 10 ปี แต่ก็ยังไม่แล้วเสร็จ และยังพบว่ามีเส้นเงินสามารถจะไปซื้อที่ดินแจกให้หมอดูได้ตามที่ปรากฏเป็นข่าวแต่จะจริงหรือไม่ ไม่ทราบ และมีบ้านขนาดใหญ่, รถและทรัพย์สินอีกหลายอย่าง ตำรวจยังเห็นข้อมูลไม่หมดขอเวลาได้ทำงานก่อน เพราะยังมีบัญชีพระลูกวัดโอนให้อีกด้วย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000068580 • #Thaitimes #MGROnline #ทิดสฤษดิ์ #สองสีกา
    0 Comments 0 Shares 450 Views 0 Reviews
  • รอง ผบช.ก.เผยพบเส้นทางเงินโอนให้สองสีกาคนสนิท"ทิดสฤษดิ์" เร่งตรวจสอบโครงการก่อสร้างพุทธอุทยานฯ-มจร.นครสวรรค์ มูลค่านับร้อยล้าน ย้ำยังไม่มีจับพระระดับสูงกว่านี้

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000068580

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes


    รอง ผบช.ก.เผยพบเส้นทางเงินโอนให้สองสีกาคนสนิท"ทิดสฤษดิ์" เร่งตรวจสอบโครงการก่อสร้างพุทธอุทยานฯ-มจร.นครสวรรค์ มูลค่านับร้อยล้าน ย้ำยังไม่มีจับพระระดับสูงกว่านี้ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000068580 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    2
    0 Comments 1 Shares 522 Views 0 Reviews
  • ..มองแบบใจร่มๆประเทศไทยเรามีรัสเชีย มีจีน มีอเมริกาค่อยปกป้องรอบข้างจริงๆ พม่ามีรัสเชีย เขมรมีจีน ทำไมต้องพังงา อเมริกาทำไมไม่ไปขอดินแดนมาเลย์นะ แปลกมากเสือกมาขอพังงาเรา,อเมริกาวางสนุ๊คผิดต้องไปยืมมาเลย์โน้นเลย.ใกล้สิงคโปร์สมุนตนคนสนิทด้วย.
    ..ไทยเราหากมีผู้นำดีๆนะ จะสร้างนั้นนี้เอง ผลิตอาวุธขีปนาวุธพิสัยไกลเองเลยเพื่อปกป้องตนเองก็ได้สักแสนลูกแบบจีนแบบอเมริกา,สร้างอู่ต่อเรือเอง สร้างประตูมิติเอง สร้างอู่ยานอวกาศเอง สร้างดาวเทียมเองก็ว่า,วางรากฐานฮับโลกไว้ที่ไทย ที่แลนด์บริดจ์ฐานหลักแล้วกระจายงานสู่ทุกๆภูมิภาค,สาระพัดฮับก็ว่า,สาระพัดสภาเจรจาความสงบสันติทางสงครามทุกๆประเทศ,ที่นั่งรองรับโต๊ะเจรจาสงบศึกนั้นเอง,จากนั้นมาจับมือสามัคคีกันสร้างสรรค์โลก จรรโลงโลกให้สงบสุขร่วมกันแลกเปลี่ยนความเจริญกันและกัน ตลอดถึงอาวุธล้ำเพื่อปกป้องโลกในอนาคตจากต่างดาวใจกลางโลกมาสร้างโกลาหลวุ่นวายเองและจากนอกโลกนอกจักรวาลจริงร่วมด้วยหรือนอกโดมกำแพงน้ำแข็งก็ได้ที่มีมากมายหลากหลายอารยะเผ่าพันธุ์.,ค่าจริงต้องจบได้แล้ว,ภัยจากอารยะธรรมอื่นน่ากลัวมากกว่า,สถานะทาสจะยิ่งกว่าปัจจุบันนี้อีก.


    .https://youtu.be/cBtXFp-53rI?si=CSc6XnXcBuXpZNcH
    ..https://youtu.be/cBtXFp-53rI?si=CSc6XnXcBuXpZNcH
    ..มองแบบใจร่มๆประเทศไทยเรามีรัสเชีย มีจีน มีอเมริกาค่อยปกป้องรอบข้างจริงๆ พม่ามีรัสเชีย เขมรมีจีน ทำไมต้องพังงา อเมริกาทำไมไม่ไปขอดินแดนมาเลย์นะ แปลกมากเสือกมาขอพังงาเรา,อเมริกาวางสนุ๊คผิดต้องไปยืมมาเลย์โน้นเลย.ใกล้สิงคโปร์สมุนตนคนสนิทด้วย. ..ไทยเราหากมีผู้นำดีๆนะ จะสร้างนั้นนี้เอง ผลิตอาวุธขีปนาวุธพิสัยไกลเองเลยเพื่อปกป้องตนเองก็ได้สักแสนลูกแบบจีนแบบอเมริกา,สร้างอู่ต่อเรือเอง สร้างประตูมิติเอง สร้างอู่ยานอวกาศเอง สร้างดาวเทียมเองก็ว่า,วางรากฐานฮับโลกไว้ที่ไทย ที่แลนด์บริดจ์ฐานหลักแล้วกระจายงานสู่ทุกๆภูมิภาค,สาระพัดฮับก็ว่า,สาระพัดสภาเจรจาความสงบสันติทางสงครามทุกๆประเทศ,ที่นั่งรองรับโต๊ะเจรจาสงบศึกนั้นเอง,จากนั้นมาจับมือสามัคคีกันสร้างสรรค์โลก จรรโลงโลกให้สงบสุขร่วมกันแลกเปลี่ยนความเจริญกันและกัน ตลอดถึงอาวุธล้ำเพื่อปกป้องโลกในอนาคตจากต่างดาวใจกลางโลกมาสร้างโกลาหลวุ่นวายเองและจากนอกโลกนอกจักรวาลจริงร่วมด้วยหรือนอกโดมกำแพงน้ำแข็งก็ได้ที่มีมากมายหลากหลายอารยะเผ่าพันธุ์.,ค่าจริงต้องจบได้แล้ว,ภัยจากอารยะธรรมอื่นน่ากลัวมากกว่า,สถานะทาสจะยิ่งกว่าปัจจุบันนี้อีก. .https://youtu.be/cBtXFp-53rI?si=CSc6XnXcBuXpZNcH ..https://youtu.be/cBtXFp-53rI?si=CSc6XnXcBuXpZNcH
    0 Comments 0 Shares 293 Views 0 Reviews
  • อเล็กเซย์ เชอร์นีชอฟ (Alexey Chernyshov) ตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเอกภาพแห่งชาติของยูเครน (Ministry of National Unity) ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีทุจริตคอร์รัปชันอื้อฉาวของยูเครน

    "เชอร์นีชอฟ" ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเขาคือมือขวาคนสนิทของเซเลนสกี ถูกตั้งข้อหาใช้อำนาจในทางมิชอบเกี่ยวกับสัญญาที่น่าสงสัยในการซื้อขายที่ดินของรัฐร่วมกับผู้ร่วมขบวนการรายอื่น ส่งผลให้รัฐต้องสูญเสียงบประมาณสูงถึง 40 ล้านดอลลาร์

    ศาลกำหนดวงเงินประกันตัวไว้ที่ 2.9 ล้านยูโร (ประมาณ 110 ล้านบาท) และสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะที่เชอร์นีชอฟยืนยันจะไม่ลาออกจากตำแหน่งเช่นกัน

    ที่ผ่านมาเซเลนสกีพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อปกป้องเชอร์นีชอฟและ "เป่าคดี" นี้ออกจากระบบ แต่ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขากลับปฏิเสธที่จะปฏิบัติตาม ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่คำสั่งของเซเลนสกีถูกเพิกเฉย

    คิริลล์ บูดานอฟ (Kyrylo Budanov) หัวหน้าหน่วยข่าวกรองกลาโหม และวาซิลี่ มาริอุค (Vasiliy Maliuk) หัวหน้าหน่วยข่าวกรองกลาง แห่งสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของยูเครน คือบุคคลที่ปฏิเสธคำสั่งของเซเลนสกี

    สิ่งนี้บ่งบอกได้ถึงสถานการณ์ของเซเลนสกีที่ไม่ได้แค่สูญเสียลูกน้องคู่กายไปอีกคน แต่เขากำลังจะสูญเสียการควบคุมอำนาจทางบริหารลงไปเรื่อยๆ

    อเล็กเซย์ เชอร์นีชอฟ (Alexey Chernyshov) ตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเอกภาพแห่งชาติของยูเครน (Ministry of National Unity) ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีทุจริตคอร์รัปชันอื้อฉาวของยูเครน 👉"เชอร์นีชอฟ" ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเขาคือมือขวาคนสนิทของเซเลนสกี ถูกตั้งข้อหาใช้อำนาจในทางมิชอบเกี่ยวกับสัญญาที่น่าสงสัยในการซื้อขายที่ดินของรัฐร่วมกับผู้ร่วมขบวนการรายอื่น ส่งผลให้รัฐต้องสูญเสียงบประมาณสูงถึง 40 ล้านดอลลาร์ 👉ศาลกำหนดวงเงินประกันตัวไว้ที่ 2.9 ล้านยูโร (ประมาณ 110 ล้านบาท) และสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะที่เชอร์นีชอฟยืนยันจะไม่ลาออกจากตำแหน่งเช่นกัน 👉ที่ผ่านมาเซเลนสกีพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อปกป้องเชอร์นีชอฟและ "เป่าคดี" นี้ออกจากระบบ แต่ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขากลับปฏิเสธที่จะปฏิบัติตาม ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่คำสั่งของเซเลนสกีถูกเพิกเฉย 👉คิริลล์ บูดานอฟ (Kyrylo Budanov) หัวหน้าหน่วยข่าวกรองกลาโหม และวาซิลี่ มาริอุค (Vasiliy Maliuk) หัวหน้าหน่วยข่าวกรองกลาง แห่งสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของยูเครน คือบุคคลที่ปฏิเสธคำสั่งของเซเลนสกี 👉สิ่งนี้บ่งบอกได้ถึงสถานการณ์ของเซเลนสกีที่ไม่ได้แค่สูญเสียลูกน้องคู่กายไปอีกคน แต่เขากำลังจะสูญเสียการควบคุมอำนาจทางบริหารลงไปเรื่อยๆ
    0 Comments 0 Shares 494 Views 0 Reviews
  • ตม.สระแก้ว นำภาพใบหน้าพร้อมหมายจับ "นายก๊ก อาน” คนสนิทฮุนเซน ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีร่วมกันในลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ติดทั่วด่านชายแดนคลองลึกฯ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000065323

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ตม.สระแก้ว นำภาพใบหน้าพร้อมหมายจับ "นายก๊ก อาน” คนสนิทฮุนเซน ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีร่วมกันในลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ติดทั่วด่านชายแดนคลองลึกฯ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000065323 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 774 Views 0 Reviews
  • อายัดทรัพย์เครือข่าย 'ก๊ก อาน' 1.1 พันล้าน ออกหมายแดงล่าตัวคนสนิทฮุนเซน
    https://www.thai-tai.tv/news/20186/
    .
    #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #ค้ามนุษย์ #ปราบปรามอาชญากรรม #ตำรวจไทย #UNODC #อินเตอร์โพล #เมียนมา #กัมพูชา #ลาว #ข่าวอาชญากรรม #ประเทศไทย #อายัดทรัพย์ #ก๊กอาน
    อายัดทรัพย์เครือข่าย 'ก๊ก อาน' 1.1 พันล้าน ออกหมายแดงล่าตัวคนสนิทฮุนเซน https://www.thai-tai.tv/news/20186/ . #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #ค้ามนุษย์ #ปราบปรามอาชญากรรม #ตำรวจไทย #UNODC #อินเตอร์โพล #เมียนมา #กัมพูชา #ลาว #ข่าวอาชญากรรม #ประเทศไทย #อายัดทรัพย์ #ก๊กอาน
    0 Comments 0 Shares 394 Views 0 Reviews
  • พระผู้ใหญ่ใฝ่ราคะ เย่อกามในผ้าเหลือง

    ยุคเสื่อมพระพุทธศาสนาไทย จากเจ้าคุณแย้ม วัดไร่ขิง นครปฐม ติดพันสาวเว็บพนัน สู่ปรากฎการณ์ที่พิธีกรข่าว วารินทร์ สัจจเดว ตั้งขึ้นว่า "วันอาสาราคะลาสึกบูชา" พระสงฆ์ที่ครองสมณศักดิ์ระดับสูงหลายคณะภาค ร่วมใช้สีกาคนเดียวกันโดยมิได้นัดหมาย พร้อมใจกันลาสิกขาโดยละม่อม หลังตำรวจตรวจยึดโทรศัพท์จากสีกา พบภาพสัมพันธ์ต้องห้ามกว่า 8 หมื่นไฟล์ การันตีด้วยผลงานเจ้าอาวาสวัดดังทั่วไทย ไล่ตั้งแต่วัดตรีทศเทพ วัดปากน้ำภาษีเจริญ กรุงเทพฯ วัดพระพุทธฉาย สระบุรี วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ พิษณุโลก วัดโสธรวรารามวรวิหาร ฉะเชิงเทรา หนังสือพิมพ์หัวสีไทยรัฐถึงกับใช้คำว่า "เย่อกามในผ้าเหลือง"

    ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดยหลวงตาเต่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. เช็กหลักฐานความสัมพันธ์ระหว่างสีกากอล์ฟ วัย 35 ปี สาวคนสนิทอดีตพระเทพวชิรปาโมกข์ หรือเจ้าคุณอาชว์ อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพวรวิหาร วัย 54 ปี ลาสิกขาสายฟ้าแลบที่ จ.หนองคาย เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. แล้วพบว่าสีกากอล์ฟมีเซ็กซ์กับพระชั้นผู้ใหญ่อีกหลายรูป ตรวจค้นบ้านพบจีวรนับสิบผืน เมื่อยึดมือถือ 5 เครื่องไปตรวจสอบเป็นต้องผงะ พบคลิปพระผู้ใหญ่เย่อกามกว่า 8 หมื่นภาพ ชุดสืบสวนต้องดูกันตาแฉะ เพื่อนำไปขยายผลดำเนินคดี

    ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นทั้งข้อง แต่เมื่อเป็นปลาตัวใหญ่เลยเหม็นนานกว่า สังคมไทยในฐานะเมืองพุทธถึงกับเสื่อมศรัทธาในพระพุทธศาสนา บางคนถึงกับเลิกเข้าวัด เลิกบริจาคเงินให้กับวัด หันไปบริจาคให้โรงพยาบาลและโรงเรียนแทน ขณะเดียวกัน ยังมีการตั้งคำถามถึงการที่สาธุชนถวายเงินให้กับพระโดยตรง รวมทั้งการจัดงานประจำปีและงานบุญต่างๆ ที่ทำรายได้จากการประมูลร้านค้า และเงินบริจาคที่เป็นเงินสดจำนวนมหาศาล กลายเป็นการสร้างความมั่งคั่งแก่พระชั้นผู้ใหญ่บางรูป ต่อยอดสู่การเป็นพุทธพาณิชย์เต็มตัว ลืมเลือนแม้แต่บทสวดมนต์ "อะระหะโต ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส"

    พระไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต จ.ชัยภูมิ เตือนใจว่า แม้พระชั้นผู้ใหญ่รู้ธรรมะสูงก็ยังพลั้งเผลอได้ จึงไม่ควรประมาทในชีวิต ความสุขชั่วคราวจากการทุจริต การทำชั่วบางอย่างนำไปสู่ความล่มจม เป็นบทเรียนสอนให้ไม่ประมาท มีสติ เกิดปัญญา จะไม่นับถือพระก็ได้แต่อย่าทิ้งพระรัตนตรัย การบูชาที่แท้จริงคือการปฏิบัติบูชา อย่าเพียงแค่บูชาดอกไม้ธูปเทียน ส่วนพระราชธรรมนิเทศ (พยอม กัลยาโณ) วัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี ระบุว่า ถือเป็นเรื่องรุนแรงที่สุดในรอบ 10 ปี ปัจจัยมาจาก 3 ส. คือ สติ สตางค์ และสล็อต พร้อมขอชาวพุทธอย่าทิ้งศาสนาไว้ข้างหลัง อนาคตสังคมอาจวิกฤต

    #Newskit
    พระผู้ใหญ่ใฝ่ราคะ เย่อกามในผ้าเหลือง ยุคเสื่อมพระพุทธศาสนาไทย จากเจ้าคุณแย้ม วัดไร่ขิง นครปฐม ติดพันสาวเว็บพนัน สู่ปรากฎการณ์ที่พิธีกรข่าว วารินทร์ สัจจเดว ตั้งขึ้นว่า "วันอาสาราคะลาสึกบูชา" พระสงฆ์ที่ครองสมณศักดิ์ระดับสูงหลายคณะภาค ร่วมใช้สีกาคนเดียวกันโดยมิได้นัดหมาย พร้อมใจกันลาสิกขาโดยละม่อม หลังตำรวจตรวจยึดโทรศัพท์จากสีกา พบภาพสัมพันธ์ต้องห้ามกว่า 8 หมื่นไฟล์ การันตีด้วยผลงานเจ้าอาวาสวัดดังทั่วไทย ไล่ตั้งแต่วัดตรีทศเทพ วัดปากน้ำภาษีเจริญ กรุงเทพฯ วัดพระพุทธฉาย สระบุรี วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ พิษณุโลก วัดโสธรวรารามวรวิหาร ฉะเชิงเทรา หนังสือพิมพ์หัวสีไทยรัฐถึงกับใช้คำว่า "เย่อกามในผ้าเหลือง" ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดยหลวงตาเต่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. เช็กหลักฐานความสัมพันธ์ระหว่างสีกากอล์ฟ วัย 35 ปี สาวคนสนิทอดีตพระเทพวชิรปาโมกข์ หรือเจ้าคุณอาชว์ อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพวรวิหาร วัย 54 ปี ลาสิกขาสายฟ้าแลบที่ จ.หนองคาย เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. แล้วพบว่าสีกากอล์ฟมีเซ็กซ์กับพระชั้นผู้ใหญ่อีกหลายรูป ตรวจค้นบ้านพบจีวรนับสิบผืน เมื่อยึดมือถือ 5 เครื่องไปตรวจสอบเป็นต้องผงะ พบคลิปพระผู้ใหญ่เย่อกามกว่า 8 หมื่นภาพ ชุดสืบสวนต้องดูกันตาแฉะ เพื่อนำไปขยายผลดำเนินคดี ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นทั้งข้อง แต่เมื่อเป็นปลาตัวใหญ่เลยเหม็นนานกว่า สังคมไทยในฐานะเมืองพุทธถึงกับเสื่อมศรัทธาในพระพุทธศาสนา บางคนถึงกับเลิกเข้าวัด เลิกบริจาคเงินให้กับวัด หันไปบริจาคให้โรงพยาบาลและโรงเรียนแทน ขณะเดียวกัน ยังมีการตั้งคำถามถึงการที่สาธุชนถวายเงินให้กับพระโดยตรง รวมทั้งการจัดงานประจำปีและงานบุญต่างๆ ที่ทำรายได้จากการประมูลร้านค้า และเงินบริจาคที่เป็นเงินสดจำนวนมหาศาล กลายเป็นการสร้างความมั่งคั่งแก่พระชั้นผู้ใหญ่บางรูป ต่อยอดสู่การเป็นพุทธพาณิชย์เต็มตัว ลืมเลือนแม้แต่บทสวดมนต์ "อะระหะโต ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส" พระไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคะโต จ.ชัยภูมิ เตือนใจว่า แม้พระชั้นผู้ใหญ่รู้ธรรมะสูงก็ยังพลั้งเผลอได้ จึงไม่ควรประมาทในชีวิต ความสุขชั่วคราวจากการทุจริต การทำชั่วบางอย่างนำไปสู่ความล่มจม เป็นบทเรียนสอนให้ไม่ประมาท มีสติ เกิดปัญญา จะไม่นับถือพระก็ได้แต่อย่าทิ้งพระรัตนตรัย การบูชาที่แท้จริงคือการปฏิบัติบูชา อย่าเพียงแค่บูชาดอกไม้ธูปเทียน ส่วนพระราชธรรมนิเทศ (พยอม กัลยาโณ) วัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี ระบุว่า ถือเป็นเรื่องรุนแรงที่สุดในรอบ 10 ปี ปัจจัยมาจาก 3 ส. คือ สติ สตางค์ และสล็อต พร้อมขอชาวพุทธอย่าทิ้งศาสนาไว้ข้างหลัง อนาคตสังคมอาจวิกฤต #Newskit
    0 Comments 0 Shares 813 Views 0 Reviews
  • อินเตอร์โพลเขมรโต้ยังไม่ได้รับแจ้งจากไทย ออกหมายจับคนสนิทฮุนเซนมีเอี่ยวศูนย์สแกมเมอร์ อ้างอาจเป็นข่าวเท็จของสื่อมวลชนไทย
    https://www.thai-tai.tv/news/20143/
    .
    #อินเตอร์โพลกัมพูชา #ก๊กอาน #ศูนย์สแกมเมอร์ #ปอยเปต #ข่าวเท็จ #ความร่วมมือระหว่างประเทศ #ชายแดนไทยกัมพูชา #ฮุนเซน #การฟอกเงิน #ขแมร์ไทมส์
    อินเตอร์โพลเขมรโต้ยังไม่ได้รับแจ้งจากไทย ออกหมายจับคนสนิทฮุนเซนมีเอี่ยวศูนย์สแกมเมอร์ อ้างอาจเป็นข่าวเท็จของสื่อมวลชนไทย https://www.thai-tai.tv/news/20143/ . #อินเตอร์โพลกัมพูชา #ก๊กอาน #ศูนย์สแกมเมอร์ #ปอยเปต #ข่าวเท็จ #ความร่วมมือระหว่างประเทศ #ชายแดนไทยกัมพูชา #ฮุนเซน #การฟอกเงิน #ขแมร์ไทมส์
    0 Comments 0 Shares 426 Views 0 Reviews
More Results