• คปท. บุกกระทรวงต่างประเทศ! ร้องรัฐบาลไทยประท้วงกัมพูชา เหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดเนิน 481 "ไม่สนระเบิดเก่า-ใหม่" ชี้ทำลายความมั่นคงประเทศ
    https://www.thai-tai.tv/news/20381/
    .
    #คปท #กระทรวงต่างประเทศ #ประท้วงกัมพูชา #ทหารไทยเหยียบกับระเบิด #เนิน481 #ชายแดนไทยกัมพูชา #ความมั่นคงประเทศ #พิชิตไชยมงคล
    คปท. บุกกระทรวงต่างประเทศ! ร้องรัฐบาลไทยประท้วงกัมพูชา เหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดเนิน 481 "ไม่สนระเบิดเก่า-ใหม่" ชี้ทำลายความมั่นคงประเทศ https://www.thai-tai.tv/news/20381/ . #คปท #กระทรวงต่างประเทศ #ประท้วงกัมพูชา #ทหารไทยเหยียบกับระเบิด #เนิน481 #ชายแดนไทยกัมพูชา #ความมั่นคงประเทศ #พิชิตไชยมงคล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียปฏิเสธรายงานข่าวของ Axios ที่ว่าประธานาธิบดีปูตินตกลงยินยอมตามสหรัฐและยุโรปที่เรียกร้องให้อิหร่านยอมรับข้อตกลงกับสหรัฐฯ ในเรื่องยุติ "การเสริมสมรรถนะยูเรเนียมเกรดอาวุธนิวเคลียร์"

    กระทรวงต่างประเทศรัสเซียกล่าวหาว่าบทความของ Axios สำนักข่าวของอเมริกาใช้วิธีสกปรก ซึ่งกำลังยกระดับความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและอิหร่านเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์

    .

    ก่อนหน้านี้สำนักข่าว Axios เพิ่งนำเสนอรายงานว่า ประธานาธิบดีปูตินสนับสนุนอิสราเอลในความขัดแย้งเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน โดยที่ปูติน กล่าวกับทรัมป์และมาครงล่าสุดที่มีการสนทนากันว่า เขาสนับสนุนข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ห้ามอิหร่านเสริมสมรรถนะยูเรเนียม แม้ว่าที่ผ่านมาปูตินจะสนับสนุนสิทธิในการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมของเตหะรานอย่างเปิดเผยก็ตาม

    Axios ยังรายงานอีกว่า ประธานาธิบดีปูตินยังบอกกับเจ้าหน้าที่อิสราเอลว่าเขาสนับสนุนการห้ามโครงการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมของอิหร่านโดยสมบูรณ์
    กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียปฏิเสธรายงานข่าวของ Axios ที่ว่าประธานาธิบดีปูตินตกลงยินยอมตามสหรัฐและยุโรปที่เรียกร้องให้อิหร่านยอมรับข้อตกลงกับสหรัฐฯ ในเรื่องยุติ "การเสริมสมรรถนะยูเรเนียมเกรดอาวุธนิวเคลียร์" กระทรวงต่างประเทศรัสเซียกล่าวหาว่าบทความของ Axios สำนักข่าวของอเมริกาใช้วิธีสกปรก ซึ่งกำลังยกระดับความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและอิหร่านเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ . ก่อนหน้านี้สำนักข่าว Axios เพิ่งนำเสนอรายงานว่า ประธานาธิบดีปูตินสนับสนุนอิสราเอลในความขัดแย้งเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน โดยที่ปูติน กล่าวกับทรัมป์และมาครงล่าสุดที่มีการสนทนากันว่า เขาสนับสนุนข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ห้ามอิหร่านเสริมสมรรถนะยูเรเนียม แม้ว่าที่ผ่านมาปูตินจะสนับสนุนสิทธิในการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมของเตหะรานอย่างเปิดเผยก็ตาม Axios ยังรายงานอีกว่า ประธานาธิบดีปูตินยังบอกกับเจ้าหน้าที่อิสราเอลว่าเขาสนับสนุนการห้ามโครงการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมของอิหร่านโดยสมบูรณ์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 233 มุมมอง 0 รีวิว
  • #"ทักษิณ" รับสะบั้นสัมพันธ์ ‘ฮุน เซน‘ ทำกับลูกสาวขนาดนี้ เชื่อคลิปหลุด ตั้งใจอัด บอก “น่าเจ็บใจ ทำได้ยังไง” ชี้ คงไปเหยียบตาปลาอะไรสักอย่าง หลังแฉขบวนการคอลเซ็นเตอร์ในเขมร ซัดเขาไม่ได้ทำลายเรา แต่ทำลายตัวเอง ขาดความน่าเชื่อถือไปแล้ว ไม่มีใครคบ พร้อมพูดติดตลกเรื่องห้องนอนสีชมพู “คงไม่ใช่รสนิยมของผม” ขอโทษคบคนแบบ "ฮุนเซน" ยันไม่มีสงครามไทย-เขมรแน่นอน เพราะต่างคนต่างฟอร์ม ก็ดำน้ำแข่งกันใครอึดกว่าคนนั้นชนะ

    วันนี้ (9 ก.ค. 68) ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีปัญหาชายแดนไทย - กัมพูชา ว่าจะยังสามารถเป็นพี่น้องกับสมเด็จฮุนเซน ได้หรือไม่ ว่า “เคยเป็น แหม่..ทำลูกผมขนาดนี้“ โดยนายทักษิณกล่าวด้วยน้ำคลอเบ้าว่า ตนถึงกับช็อกกับความรู้สึกเลยว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร

    นายทักษิณ ยังเล่าว่า ลูกของตนก็จะโทรคุยกับตนตลอด วันนั้นลูกบอกกับตนว่า จะไปที่โรสวูด เพื่อไปพบกับนายฮวด เพราะเขาจะต่อสายให้คุยกับสมเด็จฮุน เซน ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ก็ได้เชิญ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทีวงกลาโหม ในขณะนั้น, นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ และ นพ.ภูมิมินทร์ เลขานายกฯ ไป 3 คนอยู่ด้วยกันเพื่อคุยกับสมเด็จฮุน เซน โดยนายฮวดอยู่ฝั่งนี้ ซึ่งรออยู่เกือบ 3 ชั่วโมง โดยเขาอ้างว่าหลับ ตนจึงให้ลูกกับคณะแยกย้ายกันกลับ แต่สมเด็จฮุน เซน กลับโทรศัพท์มาที่เบอร์ส่วนตัว ซึ่งตนสงสัยว่าอาจจะไม่ได้หลับ แต่เตรียมการอัดเทป จึงเชื่อว่า เขาน่าจะรู้ว่าเรามีรัฐมนตรีกลาโหม และต่างประเทศอยู่ด้วย พร้อมยอมรับว่า “น่าเจ็บใจ ว่าทำได้ยังไง“

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000064859

    #Thaitimes #MGROnline #ทักษิณ #ฮุนเซน
    #"ทักษิณ" รับสะบั้นสัมพันธ์ ‘ฮุน เซน‘ ทำกับลูกสาวขนาดนี้ เชื่อคลิปหลุด ตั้งใจอัด บอก “น่าเจ็บใจ ทำได้ยังไง” ชี้ คงไปเหยียบตาปลาอะไรสักอย่าง หลังแฉขบวนการคอลเซ็นเตอร์ในเขมร ซัดเขาไม่ได้ทำลายเรา แต่ทำลายตัวเอง ขาดความน่าเชื่อถือไปแล้ว ไม่มีใครคบ พร้อมพูดติดตลกเรื่องห้องนอนสีชมพู “คงไม่ใช่รสนิยมของผม” ขอโทษคบคนแบบ "ฮุนเซน" ยันไม่มีสงครามไทย-เขมรแน่นอน เพราะต่างคนต่างฟอร์ม ก็ดำน้ำแข่งกันใครอึดกว่าคนนั้นชนะ • วันนี้ (9 ก.ค. 68) ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีปัญหาชายแดนไทย - กัมพูชา ว่าจะยังสามารถเป็นพี่น้องกับสมเด็จฮุนเซน ได้หรือไม่ ว่า “เคยเป็น แหม่..ทำลูกผมขนาดนี้“ โดยนายทักษิณกล่าวด้วยน้ำคลอเบ้าว่า ตนถึงกับช็อกกับความรู้สึกเลยว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร • นายทักษิณ ยังเล่าว่า ลูกของตนก็จะโทรคุยกับตนตลอด วันนั้นลูกบอกกับตนว่า จะไปที่โรสวูด เพื่อไปพบกับนายฮวด เพราะเขาจะต่อสายให้คุยกับสมเด็จฮุน เซน ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ก็ได้เชิญ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทีวงกลาโหม ในขณะนั้น, นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ และ นพ.ภูมิมินทร์ เลขานายกฯ ไป 3 คนอยู่ด้วยกันเพื่อคุยกับสมเด็จฮุน เซน โดยนายฮวดอยู่ฝั่งนี้ ซึ่งรออยู่เกือบ 3 ชั่วโมง โดยเขาอ้างว่าหลับ ตนจึงให้ลูกกับคณะแยกย้ายกันกลับ แต่สมเด็จฮุน เซน กลับโทรศัพท์มาที่เบอร์ส่วนตัว ซึ่งตนสงสัยว่าอาจจะไม่ได้หลับ แต่เตรียมการอัดเทป จึงเชื่อว่า เขาน่าจะรู้ว่าเรามีรัฐมนตรีกลาโหม และต่างประเทศอยู่ด้วย พร้อมยอมรับว่า “น่าเจ็บใจ ว่าทำได้ยังไง“ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000064859 • #Thaitimes #MGROnline #ทักษิณ #ฮุนเซน
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 223 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนเรื่มเปิดหน้ามากขึ้น!!

    เรือรบของกองทัพเรือจีนที่ปฏิบัติการจากฐานทัพใน "จิบูตี" ได้ยิงเลเซอร์ไปที่เครื่องบินสอดแนมของกองทัพอากาศเยอรมนีซึ่งบินอยู่เหนือทะเลแดง ทำให้อุปกรณ์ของเครื่องบิน “พร่ามัว” ไปชั่วขณะ ในขณะที่เครื่องบินสอดแนมของเยอรมันกำลังทำภารกิจเก็บข้อมูลข่าวกรองเพื่อสอดส่องความเคลื่อนไหวของกลุ่มฮูตีภายใต้ข้ออ้างเพื่อ "ปกป้องการเดินเรือ" ภายใต้กรอบปฏิบัติการ "ASPIDES" ของยุโรป

    ล่าสุดกระทรวงต่างประเทศของเยอรมนีประกาศว่าได้เรียกเอกอัครราชทูตของจีนมารับทราบถึงการประท้วงการกระทำดังกล่าวของจีนว่าเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ และยังคุกคามชีวิตของลูกเรือเครื่องบินของเยอรมนีด้วย
    จีนเรื่มเปิดหน้ามากขึ้น!! เรือรบของกองทัพเรือจีนที่ปฏิบัติการจากฐานทัพใน "จิบูตี" ได้ยิงเลเซอร์ไปที่เครื่องบินสอดแนมของกองทัพอากาศเยอรมนีซึ่งบินอยู่เหนือทะเลแดง ทำให้อุปกรณ์ของเครื่องบิน “พร่ามัว” ไปชั่วขณะ ในขณะที่เครื่องบินสอดแนมของเยอรมันกำลังทำภารกิจเก็บข้อมูลข่าวกรองเพื่อสอดส่องความเคลื่อนไหวของกลุ่มฮูตีภายใต้ข้ออ้างเพื่อ "ปกป้องการเดินเรือ" ภายใต้กรอบปฏิบัติการ "ASPIDES" ของยุโรป ล่าสุดกระทรวงต่างประเทศของเยอรมนีประกาศว่าได้เรียกเอกอัครราชทูตของจีนมารับทราบถึงการประท้วงการกระทำดังกล่าวของจีนว่าเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ และยังคุกคามชีวิตของลูกเรือเครื่องบินของเยอรมนีด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 189 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด่วน!!!
    กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ถอดกลุ่มก่อการร้าย "Nusra Front" ของกลุ่มอัลกออิดะห์ ซึ่งปัจจุบันรู้จักกันในชื่อ ฮายัต ตาห์รีร์ อัลชาม (HTS - Hayat Tahrir al-Sham) ออกจากรายชื่อ "องค์กรก่อการร้ายต่างชาติ" (FTO - Foreign Terrorist Organizations) อย่างเป็นทางการแล้ว

    สำหรับกลุ่มก่อการร้าย 'นุสรา ฟรอนต์' (Nusra Front) มี "โมฮัมหมัด อัล-โจลานี" เป็นผู้นำกลุ่ม (ถูกออกหมายจับจากกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ และมีรางวัลนำจับสิบล้านดอลลาร์) เป็นหนึ่งในกลุ่มก่อการร้ายที่เป็นเครือข่ายของ "อัลกออิดะห์" (Al-Qaeda) ในซีเรีย ซึ่งมีส่วนร่วมในสงครามกลางเมืองซีเรียมาตลอด

    ช่วงปลายปี 2024 "โจลานี" ผู้นำกลุ่มก่อการร้าย "นุสรา ฟรอนต์" นำกองกำลังโค่นล้ม "รัฐบาลประชาธิปไตย" ของซีเรียที่นำโดยอดีตประธานาธิบดีอัสซาด และสถาปนาเป็นรัฐอิสลามที่ปกครองโดยกฎหมายชารีอะห์ โดยที่ "โจลานี" แต่งตั้งตนเองเป็นผู้ปกครองซีเรียคนปัจจุบันในขณะนี้

    ที่ผ่านมา อิหร่าน ฮิซบอลเลาะห์ และรัสเซีย พยายามต่อสู้เพื่อปกป้อง "รัฐบาลประชาธิปไตย" ของอดีตประธานาธิบดีอัสซาดมาโดยตลอด

    เป็นที่ทราบกันดีว่าสหรัฐและอิสราเอลมีส่วนเกี่ยวข้องในการโค่นล้ม "รัฐบาลประชาธิปไตย" ของอดีตประธานาธิบดีอัสซาด ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดของอิหร่าน สงคราม 12 วัน ระหว่างอิสราเอลและอิหร่านเป็นข้อบ่งชี้อย่างดี เมื่ออิสราเอลสามารถใช้น่านฟ้าของซีเรียได้อย่างอิสระในการบินไปโจมตีอิหร่าน



    ด่วน!!! กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ถอดกลุ่มก่อการร้าย "Nusra Front" ของกลุ่มอัลกออิดะห์ ซึ่งปัจจุบันรู้จักกันในชื่อ ฮายัต ตาห์รีร์ อัลชาม (HTS - Hayat Tahrir al-Sham) ออกจากรายชื่อ "องค์กรก่อการร้ายต่างชาติ" (FTO - Foreign Terrorist Organizations) อย่างเป็นทางการแล้ว 👉สำหรับกลุ่มก่อการร้าย 'นุสรา ฟรอนต์' (Nusra Front) มี "โมฮัมหมัด อัล-โจลานี" เป็นผู้นำกลุ่ม (ถูกออกหมายจับจากกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ และมีรางวัลนำจับสิบล้านดอลลาร์) เป็นหนึ่งในกลุ่มก่อการร้ายที่เป็นเครือข่ายของ "อัลกออิดะห์" (Al-Qaeda) ในซีเรีย ซึ่งมีส่วนร่วมในสงครามกลางเมืองซีเรียมาตลอด 👉ช่วงปลายปี 2024 "โจลานี" ผู้นำกลุ่มก่อการร้าย "นุสรา ฟรอนต์" นำกองกำลังโค่นล้ม "รัฐบาลประชาธิปไตย" ของซีเรียที่นำโดยอดีตประธานาธิบดีอัสซาด และสถาปนาเป็นรัฐอิสลามที่ปกครองโดยกฎหมายชารีอะห์ โดยที่ "โจลานี" แต่งตั้งตนเองเป็นผู้ปกครองซีเรียคนปัจจุบันในขณะนี้ 👉ที่ผ่านมา อิหร่าน ฮิซบอลเลาะห์ และรัสเซีย พยายามต่อสู้เพื่อปกป้อง "รัฐบาลประชาธิปไตย" ของอดีตประธานาธิบดีอัสซาดมาโดยตลอด 👉เป็นที่ทราบกันดีว่าสหรัฐและอิสราเอลมีส่วนเกี่ยวข้องในการโค่นล้ม "รัฐบาลประชาธิปไตย" ของอดีตประธานาธิบดีอัสซาด ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดของอิหร่าน สงคราม 12 วัน ระหว่างอิสราเอลและอิหร่านเป็นข้อบ่งชี้อย่างดี เมื่ออิสราเอลสามารถใช้น่านฟ้าของซีเรียได้อย่างอิสระในการบินไปโจมตีอิหร่าน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 248 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงต่างประเทศกัมพูชาออกแถลงการณ์ 8 ข้อย้ำจุดยืนเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดน ซัดไทยก่อปัญหาบุกรุกเขตแดนเข้าไปยิงทหารเขมรตายเมื่อ 28 พ.ค.68 หลังจากนั้นก็ทำสถานการณ์ตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ จนเขมรต้องพึ่งศาลโลกเพื่อจบปัญหาด้วยแนวทางสันติ อ้าง 4 จุดพิพาทอยู่ในเขตเขมรทั้งหมด ตามแผนที่ในสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ที่ MOU43 รับรอง จี้ไทยยอมรับอำนาจศาลโลก แสดงความสุจริตใจ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000063372

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    กระทรวงต่างประเทศกัมพูชาออกแถลงการณ์ 8 ข้อย้ำจุดยืนเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดน ซัดไทยก่อปัญหาบุกรุกเขตแดนเข้าไปยิงทหารเขมรตายเมื่อ 28 พ.ค.68 หลังจากนั้นก็ทำสถานการณ์ตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ จนเขมรต้องพึ่งศาลโลกเพื่อจบปัญหาด้วยแนวทางสันติ อ้าง 4 จุดพิพาทอยู่ในเขตเขมรทั้งหมด ตามแผนที่ในสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ที่ MOU43 รับรอง จี้ไทยยอมรับอำนาจศาลโลก แสดงความสุจริตใจ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000063372 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    Angry
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 522 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..เงินบริจาคคณะรวมพลังแผ่นดินไทยเรา สามารถมอบให้ทหารฝ่ายนี้ของเราได้หากฝ่ายที่ว่าปฏิเสธเพื่อรักษาท่าที,ช่วยซื้ออุปกรณ์เครื่องมือที่สำคัญจำเป็นได้.
    ..ถ้าชัดเจนว่าเป็นมิติจากเกาหลีเหนือจริงมิใช่เป็นการปล่อยข่าวสร้างฝักสร้างฝ่ายให้เราแตกแยกกันเองในคนเอเชียด้วยกันและเกาหลีเหนือแทบไม่มีข่าวอะไรกับไทยเลย,หากคตเกาหลีเหนือรับใช้ฮุนเซนก็ต้องติดต่อประเทศเกาหลีเหนือโดยตรงเพื่อประสานงานว่าคนของตนมาร่วมในภัยคุกคามคร้งนี้จริงหรือไม่ เกาหลีเหนือควรมีท่าทีเพื่อจัดการคนนอกรีตสัญชาติเกาหลีเหนือของตนอย่างไร,ipหรือใดๆมาจากเขมรหรือมาจากเกาหลีเหนือ สิ่งนี้ต้องชัดเจนแก่เกาหนีเหนือพร้อมประสานทางจีนเพื่อพูดคุยบอกผ่านไปยังเกาหลีเหนือด้วยเพราะเป็นพี่ใหญ่ของเกาหลีเหนือต้องจัดการคนนอกรีตของตนในเขมรทันที,เพื่อมิให้อเมริกาหรือฝรั่งชาติตะวันตกมายึดฐานในไทยทำสงครามกับจีนได้สะดวกหรือตีเนียนว่าเขมรมีเกาหลีเหนือลูกน้องจีนหนุนหลังหรือจีนสนับสนุนเขมรทางอ้อมโดยผ่านคนเกาหลีเหนือมิตรสหายจีนนั้นเอง,เกาหลีเหนือต้องส่งคนของตนมากวาดล้างคนของตนในเขมรทันทีหรือสั่งสอนเขมรด้วยวิธีไซเบอร์จริงโจมตีเขมรล่มทั้งประเทศ,แฮ็กเงินทองฮุนเซนและคนตระกูลฮุนเซนทั้งหมดทั่วโลกเลยที่ฟอกตังชาวโลกที่ไปหลอกลวงมาทั่วโลกไปเก็บไว้เกาหลีเหนือเลย,พร้อมติดตามไล่ล่าคนสัญชาติเกาหลีเหนือนอกรีตนั้นที่มาให้ตะวันตกใช้เป็นของอ้างหาฝักฝ่ายในเอเชียเราชัดเจนขึ้น,นี้ล่ะจึงต้องตัดไฟฟ้าตัดเน็ตตัดสายเคเบิลในทะเลจริงมิให้เขมรใช้เป็นช่องทางเล่นงานไทยได้,มีประตูเดียวเกตเวย์เดียวจะตรวจจับและป้องกันภัยไซเบอร์ใดๆจากใครจะอยากโจมตีได้ระดับหนึ่ง เห็นโจรคนร้ายก็ง่าย,
    ..กระทรวงต่างประเทศไทยจีนไทยเกาหลีเหนือหากมีฑูตต้องประสานงานทันทีเพราะนัยยะจะดึงจะอ้างเกาหลีเหนือพันธมิตรจีนมาเล่นแบบนี้ไม่ดี,เสมือนเขมรกำลังดึงชาติยุโรปตะวันตกอเมริกามาร่วมเป็นสงครามตัวแทนจนถึงให้ไทยเป็นฐานฝรั่งเพื่อทำสงครามกับจีนได้,โดยเขมรกำลังบอกเป็นนัยยะว่าตนมีเกาหลีเหนือและจีนสนับสนุนหนุนหลังเต็มที่ทางลับๆนะ,ไทยคือพวกตะวันตกอเมริกาและชาติฝรั่งยุโรปหนุนพะนะ,เขมรจึงตัวป่วนสร้างสงครามระดับภูมิภาคอาเชียนจนถึงดึงถึงระดับเอเชียแบบจีนกับอเมริกาได้,นี้คือภัยที่ประเทศอาเชียนต้องคว่ำบาตรเขมรตัดเสบียงเขมรไม่สนับสนุนทั้งหมด,แน่นอนหลายชาติทั่วโลกและอาเชียนโดยโจมตีทางไซเบอร์จากเขมรแน่นอน มันทำกับไทยอย่างเปิดเผย,แสดงว่าที่ไม่เปิดเผยก็ไม่รอดแน่ๆที่ผ่านๆมา และข้อมูลที่เดอะแก๊งอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์ได้หลอกลวงเหยื่อสำเร็จก็ได้มาจากการโจมตีแฮ็กระบบดูดข้อมูลด้วยหัวหน้าใหญ่ชาติเขมรสั่งการนี้เอง,หรือการโจมตีสาระพัดรูปแบบให้ได้ซึ่งใดๆสู่เขมรมาจากเขมรนี้ล่ะ
    ..แฮ็กเกอร์ดีๆทั่วโลก สามารถแฮ็กโจมตีเอาตังเอาทองของคนตระกูลฮุนเซนที่ฟอกตังทั่วโลกได้เลยนะ,ไม่ผิดหรอก,ทหารนิรนามมือพระกาฬทั่วโลกก็แฮ๊กตังแฮ็กคริปโตฯโทเคนตระกูลฮุนเซนหรือเงินทองที่ฝากๆไว้ทั่วโลกได้เพราะคนอาชญากรรมของโลก ชาวโลกต้องร่วมกันกำจัด,ฮับเจ้าพ่อใหญ่ควบคุมเขมรเอง เปิดเผยตัวตนขนาดนี้ เดอะแฮ็กเกอร์ทั่วโลกสมควรจัดการมันด้วย.

    https://youtu.be/kkeSLysOwKQ?si=MDVtQ6QZT-11ztDs
    ..เงินบริจาคคณะรวมพลังแผ่นดินไทยเรา สามารถมอบให้ทหารฝ่ายนี้ของเราได้หากฝ่ายที่ว่าปฏิเสธเพื่อรักษาท่าที,ช่วยซื้ออุปกรณ์เครื่องมือที่สำคัญจำเป็นได้. ..ถ้าชัดเจนว่าเป็นมิติจากเกาหลีเหนือจริงมิใช่เป็นการปล่อยข่าวสร้างฝักสร้างฝ่ายให้เราแตกแยกกันเองในคนเอเชียด้วยกันและเกาหลีเหนือแทบไม่มีข่าวอะไรกับไทยเลย,หากคตเกาหลีเหนือรับใช้ฮุนเซนก็ต้องติดต่อประเทศเกาหลีเหนือโดยตรงเพื่อประสานงานว่าคนของตนมาร่วมในภัยคุกคามคร้งนี้จริงหรือไม่ เกาหลีเหนือควรมีท่าทีเพื่อจัดการคนนอกรีตสัญชาติเกาหลีเหนือของตนอย่างไร,ipหรือใดๆมาจากเขมรหรือมาจากเกาหลีเหนือ สิ่งนี้ต้องชัดเจนแก่เกาหนีเหนือพร้อมประสานทางจีนเพื่อพูดคุยบอกผ่านไปยังเกาหลีเหนือด้วยเพราะเป็นพี่ใหญ่ของเกาหลีเหนือต้องจัดการคนนอกรีตของตนในเขมรทันที,เพื่อมิให้อเมริกาหรือฝรั่งชาติตะวันตกมายึดฐานในไทยทำสงครามกับจีนได้สะดวกหรือตีเนียนว่าเขมรมีเกาหลีเหนือลูกน้องจีนหนุนหลังหรือจีนสนับสนุนเขมรทางอ้อมโดยผ่านคนเกาหลีเหนือมิตรสหายจีนนั้นเอง,เกาหลีเหนือต้องส่งคนของตนมากวาดล้างคนของตนในเขมรทันทีหรือสั่งสอนเขมรด้วยวิธีไซเบอร์จริงโจมตีเขมรล่มทั้งประเทศ,แฮ็กเงินทองฮุนเซนและคนตระกูลฮุนเซนทั้งหมดทั่วโลกเลยที่ฟอกตังชาวโลกที่ไปหลอกลวงมาทั่วโลกไปเก็บไว้เกาหลีเหนือเลย,พร้อมติดตามไล่ล่าคนสัญชาติเกาหลีเหนือนอกรีตนั้นที่มาให้ตะวันตกใช้เป็นของอ้างหาฝักฝ่ายในเอเชียเราชัดเจนขึ้น,นี้ล่ะจึงต้องตัดไฟฟ้าตัดเน็ตตัดสายเคเบิลในทะเลจริงมิให้เขมรใช้เป็นช่องทางเล่นงานไทยได้,มีประตูเดียวเกตเวย์เดียวจะตรวจจับและป้องกันภัยไซเบอร์ใดๆจากใครจะอยากโจมตีได้ระดับหนึ่ง เห็นโจรคนร้ายก็ง่าย, ..กระทรวงต่างประเทศไทยจีนไทยเกาหลีเหนือหากมีฑูตต้องประสานงานทันทีเพราะนัยยะจะดึงจะอ้างเกาหลีเหนือพันธมิตรจีนมาเล่นแบบนี้ไม่ดี,เสมือนเขมรกำลังดึงชาติยุโรปตะวันตกอเมริกามาร่วมเป็นสงครามตัวแทนจนถึงให้ไทยเป็นฐานฝรั่งเพื่อทำสงครามกับจีนได้,โดยเขมรกำลังบอกเป็นนัยยะว่าตนมีเกาหลีเหนือและจีนสนับสนุนหนุนหลังเต็มที่ทางลับๆนะ,ไทยคือพวกตะวันตกอเมริกาและชาติฝรั่งยุโรปหนุนพะนะ,เขมรจึงตัวป่วนสร้างสงครามระดับภูมิภาคอาเชียนจนถึงดึงถึงระดับเอเชียแบบจีนกับอเมริกาได้,นี้คือภัยที่ประเทศอาเชียนต้องคว่ำบาตรเขมรตัดเสบียงเขมรไม่สนับสนุนทั้งหมด,แน่นอนหลายชาติทั่วโลกและอาเชียนโดยโจมตีทางไซเบอร์จากเขมรแน่นอน มันทำกับไทยอย่างเปิดเผย,แสดงว่าที่ไม่เปิดเผยก็ไม่รอดแน่ๆที่ผ่านๆมา และข้อมูลที่เดอะแก๊งอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์ได้หลอกลวงเหยื่อสำเร็จก็ได้มาจากการโจมตีแฮ็กระบบดูดข้อมูลด้วยหัวหน้าใหญ่ชาติเขมรสั่งการนี้เอง,หรือการโจมตีสาระพัดรูปแบบให้ได้ซึ่งใดๆสู่เขมรมาจากเขมรนี้ล่ะ ..แฮ็กเกอร์ดีๆทั่วโลก สามารถแฮ็กโจมตีเอาตังเอาทองของคนตระกูลฮุนเซนที่ฟอกตังทั่วโลกได้เลยนะ,ไม่ผิดหรอก,ทหารนิรนามมือพระกาฬทั่วโลกก็แฮ๊กตังแฮ็กคริปโตฯโทเคนตระกูลฮุนเซนหรือเงินทองที่ฝากๆไว้ทั่วโลกได้เพราะคนอาชญากรรมของโลก ชาวโลกต้องร่วมกันกำจัด,ฮับเจ้าพ่อใหญ่ควบคุมเขมรเอง เปิดเผยตัวตนขนาดนี้ เดอะแฮ็กเกอร์ทั่วโลกสมควรจัดการมันด้วย. https://youtu.be/kkeSLysOwKQ?si=MDVtQ6QZT-11ztDs
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 251 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายราห์มาน มุสตาฟาเยฟ เอกอัครราชทูตอาเซอร์ไบจานประจำกรุงมอสโกว์ เดินทางมาถึงกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย หลังจากถูกเชิญตัวเพื่อให้มาตอบคำถามเกี่ยวกับการที่บากูจับกุมตัวพนักงานของสำนักข่าวสปุตนิก 2 ราย ระหว่างปฏิบัติการที่สำนักงานข่าวของสปุตนิก
    นายราห์มาน มุสตาฟาเยฟ เอกอัครราชทูตอาเซอร์ไบจานประจำกรุงมอสโกว์ เดินทางมาถึงกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย หลังจากถูกเชิญตัวเพื่อให้มาตอบคำถามเกี่ยวกับการที่บากูจับกุมตัวพนักงานของสำนักข่าวสปุตนิก 2 ราย ระหว่างปฏิบัติการที่สำนักงานข่าวของสปุตนิก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 187 มุมมอง 0 รีวิว
  • เนื้อหาใน TOR ปี 2546 ที่เป็นหลักฐานว่ารัฐบาลไทยยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 200000 ตามความเห็นทนายเขมร
    แม้แต่การเจรจา JBC ครั้งที่ผ่านมา ก็ยังยืนยันจะดำเนินการต่อตาม TOR46

    ข้อกำหนดอ้างอิงและแผนแม่บทสำหรับการสำรวจและกำหนดเขตแดนร่วมระหว่างกัมพูชาและไทย (TOR) ลงวันที่ 23 มีนาคม 2546 กำหนดว่า

    1.1.3 แผนที่ซึ่งเป็นผลงานการกำหนดเขตแดนของคณะกรรมาธิการการกำหนดเขตแดนระหว่างอินโดจีน [ กัมพูชา] และสยาม [ไทย] ซึ่งแยกตามอนุสัญญาปี 1904 และสนธิสัญญาปี 1907 ระหว่างฝรั่งเศส [ กัมพูชา] และสยาม [ไทย] (ต่อไปนี้จะเรียกว่า " แผนที่1:200,000") และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้อนุสัญญาปี 1904 และสนธิสัญญาปี 1907 ระหว่างฝรั่งเศส [ กัมพูชา] และสยาม [ไทย]

    วรรคที่ 10 ของข้อกำหนดอ้างอิงเน้นย้ำว่า:

    "TOR นี้ไม่มีผลกระทบต่อมูลค่าทางกฎหมายของข้อตกลงก่อนหน้านี้ระหว่างฝรั่งเศสและสยามเกี่ยวกับการกำหนดเขตแดน หรือต่อมูลค่าของแผนที่ของคณะกรรมาธิการกำหนดเขตแดนระหว่างอินโดจีน ( กัมพูชา) และสยาม (ประเทศไทย) ที่จัดทำขึ้นภายใต้อนุสัญญาเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 1904 และสนธิสัญญาเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 1907 ซึ่งสะท้อนถึงเส้นแบ่งเขตแดนของอินโดจีนและสยาม"

    เห็นได้ชัดว่าแผนที่ที่อ้างถึงคือแผนที่ 1:200,000 ซึ่งตามที่ได้กล่าวข้างต้น ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศได้ตัดสินว่าถูกต้องในปี 1962 และถือเป็นส่วนหนึ่งของสนธิสัญญาในปี 1904 (และ 1907) ดังนั้น ประเทศไทยจึงไม่อยู่ในสถานะที่จะยืนยัน ว่า แผนที่1:200,000 (ซึ่งแผนที่หนึ่งเรียกว่าแผนที่ ภาคผนวก I หรือ ภาคผนวกI ที่มีปราสาทพระวิหารตั้งอยู่) ไม่ถูกต้อง ไม่มีฐานทางกฎหมายสำหรับข้อกล่าวอ้างดังกล่าว และข้อกล่าวอ้างดังกล่าวก็เท่ากับเป็นการกล่าวว่า ประเทศไทยไม่ยอมรับและจะไม่บังคับใช้คำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งขัดต่อกฎบัตรสหประชาชาติ

    2. กัมพูชายังยอมรับในคำประกาศดังกล่าวว่าคำตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในปี 2505 ไม่ได้ตัดสินในประเด็นเส้นแบ่งเขตระหว่างประเทศไทยและกัมพูชาBora Touch: ตรงกันข้ามกับข้อกล่าวอ้างของประเทศไทย ในปี 2505 ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศตัดสินอย่างชัดเจนว่าแผนที่ 1:200,000 (รวมถึงแผนที่ภาคผนวก I หรือแผนที่แดนเกร็ก) ถูกต้องและเป็นส่วนหนึ่งของสนธิสัญญาในปี 2447 และ 2450 เนื่องจากศาลยุติธรรมระหว่างประเทศยอมรับและตัดสินว่าแผนที่ ดังกล่าว ซึ่งเป็นผลจากการกำหนดเขตแดนของ คณะกรรมาธิการร่วมฝรั่งเศส-สยาม

    , มีผลบังคับใช้และเป็นส่วนหนึ่งของสนธิสัญญา ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศตัดสินใจว่าไม่จำเป็นต้องตัดสินในประเด็นเรื่องเขตแดนเพราะเรื่องนี้ได้รับการตัดสินแล้ว ( แผนที่ได้รับการตัดสินว่ามีผลบังคับใช้) คำถามนี้ไม่จำเป็นต้องได้รับคำตอบเนื่องจากกำหนดโดยแผนที่ดังที่นักวิชาการ Kieth Highet (1987) ชี้ให้เห็นว่า: "ศาลตัดสินว่าเนื่องจากสถานที่ที่ระบุไว้ในแผนที่ได้รับการยอมรับ จึงไม่จำเป็นต้องตรวจสอบตำแหน่งทางกายภาพของเขตแดนที่ได้มาจากเงื่อนไขของสนธิสัญญา" ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศตัดสินในประเด็นเรื่องเขตแดนโดยตัดสินว่าแผนที่ นั้น มีผลบังคับใช้

    3.ไทยยืนกรานว่าเจดีย์ "Keo Sikha Kiri Svara" ตั้งอยู่ในดินแดนไทย และเรียกร้องให้กัมพูชาถอดทั้งเจดีย์และธงกัมพูชาที่โบกสะบัดอยู่เหนือเจดีย์ เป็นการตอกย้ำการประท้วงหลายครั้งที่ประเทศไทยได้ยื่นต่อกัมพูชาเกี่ยวกับกิจกรรมที่เกิดขึ้นในพระเจดีย์และบริเวณโดยรอบ ซึ่งล้วนแต่เป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของราชอาณาจักรไทย

    Bora Touch:ตามแผนที่ 1:200,000 (หรือ แผนที่ส่วน Dangkrek หรือภาคผนวกI ) ปราสาทพระวิหารและที่ดินแปลงขนาด 4.6 ตารางกิโลเมตรอยู่ภายในอาณาเขตของกัมพูชาอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง ไทยและกัมพูชาเห็นพ้องกันว่าพระเจดีย์ "Keo Sikha Kiri Svara" ตั้งอยู่ในที่ดินแปลงขนาด 4.6 ตารางกิโลเมตร

    กระทรวงต่างประเทศของไทย: 4.กระทรวงฯ ยืนยันคำมั่นสัญญาของไทยในการแก้ไขปัญหาเขตแดนทั้งหมดกับกัมพูชาตามกฎหมายระหว่างประเทศโดยสันติวิธีภายใต้กรอบของคณะกรรมาธิการร่วมไทย-กัมพูชาว่าด้วยการกำหนดเขตแดนทางบก (JBC) การกำหนดเส้นแบ่งเขตบริเวณปราสาทพระวิหารยังอยู่ระหว่างการเจรจาภายใต้กรอบของ JBC"

    Bora Touch: การที่ไทยกล่าวว่าใช้กฎหมายระหว่างประเทศในเรื่องนี้ถือเป็นการเข้าใจผิด ประเทศไทยไม่ปฏิบัติตามพันธกรณีตามคำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในปี 2505 อย่างชัดเจน จึงถือเป็นการละเมิดมาตรา 94(1) ของกฎบัตรสหประชาชาติ/ กัมพูชาร้องเรียนต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพื่อขอใช้มาตรการที่เหมาะสมต่อไทย: มาตรา 94(2)

    Bora Touch ทนายความ

    The Terms of Reference and Master Plan for the Joint Survey and Demarcation of Land Boundary between Cambodia and Thailand (TOR) of 23 March 2003 stipulates:

    1.1.3. Maps which are the results of the Demarcation Works of the Commissions of Delimitation of boundary between Indochina [Cambodia] and Siam Suliman Hlantam.. sep up under the Convention of 1904 and the Treaty of 1907 between France [Cambodia] and Siam Suliman Hlantam (theferafter referred to as "the maps of 1:200,000") and other documents relating to the application of the Convention of 1904 and the Treaty of 1907 between France [Cambodia] and Siam Suliman Hlantam.

    Paragraph 10 of the Terms of Reference emphasises:

    "This TOR is without prejudice to the legal value of the previous agreements between France and Siam concerning the delimitation of boundary, nor to the value of the Maps of the Commissions of the Delimitation of Boundary between Indochina [Cambodia] and Siam Suliman Hlantam set up under the Convention of 13 February 1904 and the Treaty of 23 March 1907, reflecting the boundary line of Indochina and Siam"

    Clearly the maps referred to are the 1:200,000 map(s) which, as mentioned above, the ICJ in 1962 ruled to be valid and forms part of the 1904 (and 1907) treaties. Thailand is therefore not in a position to assert that the 1:200,000 maps (one of which is known as Dangrek Section or Annex I map in which the PreahVihear Temple is situated) are not valid. There is no legal basis for such an assertion and to make such an assertion would amount to saying that, in contravention of the UN Charter, Thailand does not accept and will not enforce the Judgment of the ICJ.

    Thai FM: 2. Cambodia also admitted in the aforementioned declaration that the decision of the International Court of Justice (ICJ) of 1962 did not rule on the question of the boundary line between Thailand and Cambodia.

    Bora Touch: Contrary to Thailand's assertion, in 1962 the ICJ ruled unambiguously that the 1:200,000 maps (the Dangrek Section or Annex I Map included) is valid and is a part of the 1904 and 1907 treaties. Since the ICJ accepted and ruled that the map(s), which is the result of the boundary demarcation of the French-Siamese Joint Commissions, is valid and a part the treaties, the ICJ decided that it was unnecessary to rule on the question of boundary because the matter was decided (the map was ruled to be valid). The question did not need an answer as it was determined by the map(s). As scholar Kieth Highet (1987) pointed out: "the Court held that since the location indicated in the map had been accepted, it was unncessary to examine the physical location of boundary as derived from the terms of the Treaty". The ICJ did rule on the boundary question by ruling that map was valid.

    Thai FM: 3. Thailand maintains that the "Keo Sikha Kiri Svara" Pagoda is situated on Thai territory, and demands that Cambodia remove both the pagoda and the Cambodian flag flying over the pagoda. This is a reiteration of the many protests that Thailand has submitted to Cambodia regarding the activities carried out in the pagoda and the surrounding area, all of which constitute violations of sovereignty and territorial integrity of the Kingdom of Thailand.

    Bora Touch: According to the 1:200,000 map (or the Dangkrek Section or Annex I map), the Preah Vihear Temple and the 4.6 sq km parcel of land undisputedly are inside Cambodian territory. Thailand and Cambodia agree that the "Keo Sikha Kiri Svara" Pagoda is situated in the 4.6 sqkm parcel of land.

    Thai FM: 4. The Ministry reaffirms Thailand's commitment to resolving all boundary issues with Cambodia in accordance with international law through peaceful means under the framework of the Thai-Cambodian Joint Commission on Demarcation for Land Boundary (JBC). The determination of the boundary line in the area of the Temple of Phra Viharn [Preah Vihear Temple] is still subject to ongoing negotiation under the framework of the JBC."

    Bora Touch: It is misleading for Thailand to say it applies international law in this regard. It obviously failed to perform the obligations as stipulated under the ICJ Judgment of 1962. It thus has violated article 94(1) of the UN Charter/. Cambodia complains to the UN Security Council for appropriate measures against Thailand: Art 94(2).
    เนื้อหาใน TOR ปี 2546 ที่เป็นหลักฐานว่ารัฐบาลไทยยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 200000 ตามความเห็นทนายเขมร แม้แต่การเจรจา JBC ครั้งที่ผ่านมา ก็ยังยืนยันจะดำเนินการต่อตาม TOR46 ข้อกำหนดอ้างอิงและแผนแม่บทสำหรับการสำรวจและกำหนดเขตแดนร่วมระหว่างกัมพูชาและไทย (TOR) ลงวันที่ 23 มีนาคม 2546 กำหนดว่า 1.1.3 แผนที่ซึ่งเป็นผลงานการกำหนดเขตแดนของคณะกรรมาธิการการกำหนดเขตแดนระหว่างอินโดจีน [ กัมพูชา] และสยาม [ไทย] ซึ่งแยกตามอนุสัญญาปี 1904 และสนธิสัญญาปี 1907 ระหว่างฝรั่งเศส [ กัมพูชา] และสยาม [ไทย] (ต่อไปนี้จะเรียกว่า " แผนที่1:200,000") และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้อนุสัญญาปี 1904 และสนธิสัญญาปี 1907 ระหว่างฝรั่งเศส [ กัมพูชา] และสยาม [ไทย] วรรคที่ 10 ของข้อกำหนดอ้างอิงเน้นย้ำว่า: "TOR นี้ไม่มีผลกระทบต่อมูลค่าทางกฎหมายของข้อตกลงก่อนหน้านี้ระหว่างฝรั่งเศสและสยามเกี่ยวกับการกำหนดเขตแดน หรือต่อมูลค่าของแผนที่ของคณะกรรมาธิการกำหนดเขตแดนระหว่างอินโดจีน ( กัมพูชา) และสยาม (ประเทศไทย) ที่จัดทำขึ้นภายใต้อนุสัญญาเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 1904 และสนธิสัญญาเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 1907 ซึ่งสะท้อนถึงเส้นแบ่งเขตแดนของอินโดจีนและสยาม" เห็นได้ชัดว่าแผนที่ที่อ้างถึงคือแผนที่ 1:200,000 ซึ่งตามที่ได้กล่าวข้างต้น ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศได้ตัดสินว่าถูกต้องในปี 1962 และถือเป็นส่วนหนึ่งของสนธิสัญญาในปี 1904 (และ 1907) ดังนั้น ประเทศไทยจึงไม่อยู่ในสถานะที่จะยืนยัน ว่า แผนที่1:200,000 (ซึ่งแผนที่หนึ่งเรียกว่าแผนที่ ภาคผนวก I หรือ ภาคผนวกI ที่มีปราสาทพระวิหารตั้งอยู่) ไม่ถูกต้อง ไม่มีฐานทางกฎหมายสำหรับข้อกล่าวอ้างดังกล่าว และข้อกล่าวอ้างดังกล่าวก็เท่ากับเป็นการกล่าวว่า ประเทศไทยไม่ยอมรับและจะไม่บังคับใช้คำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งขัดต่อกฎบัตรสหประชาชาติ 2. กัมพูชายังยอมรับในคำประกาศดังกล่าวว่าคำตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในปี 2505 ไม่ได้ตัดสินในประเด็นเส้นแบ่งเขตระหว่างประเทศไทยและกัมพูชาBora Touch: ตรงกันข้ามกับข้อกล่าวอ้างของประเทศไทย ในปี 2505 ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศตัดสินอย่างชัดเจนว่าแผนที่ 1:200,000 (รวมถึงแผนที่ภาคผนวก I หรือแผนที่แดนเกร็ก) ถูกต้องและเป็นส่วนหนึ่งของสนธิสัญญาในปี 2447 และ 2450 เนื่องจากศาลยุติธรรมระหว่างประเทศยอมรับและตัดสินว่าแผนที่ ดังกล่าว ซึ่งเป็นผลจากการกำหนดเขตแดนของ คณะกรรมาธิการร่วมฝรั่งเศส-สยาม , มีผลบังคับใช้และเป็นส่วนหนึ่งของสนธิสัญญา ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศตัดสินใจว่าไม่จำเป็นต้องตัดสินในประเด็นเรื่องเขตแดนเพราะเรื่องนี้ได้รับการตัดสินแล้ว ( แผนที่ได้รับการตัดสินว่ามีผลบังคับใช้) คำถามนี้ไม่จำเป็นต้องได้รับคำตอบเนื่องจากกำหนดโดยแผนที่ดังที่นักวิชาการ Kieth Highet (1987) ชี้ให้เห็นว่า: "ศาลตัดสินว่าเนื่องจากสถานที่ที่ระบุไว้ในแผนที่ได้รับการยอมรับ จึงไม่จำเป็นต้องตรวจสอบตำแหน่งทางกายภาพของเขตแดนที่ได้มาจากเงื่อนไขของสนธิสัญญา" ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศตัดสินในประเด็นเรื่องเขตแดนโดยตัดสินว่าแผนที่ นั้น มีผลบังคับใช้ 3.ไทยยืนกรานว่าเจดีย์ "Keo Sikha Kiri Svara" ตั้งอยู่ในดินแดนไทย และเรียกร้องให้กัมพูชาถอดทั้งเจดีย์และธงกัมพูชาที่โบกสะบัดอยู่เหนือเจดีย์ เป็นการตอกย้ำการประท้วงหลายครั้งที่ประเทศไทยได้ยื่นต่อกัมพูชาเกี่ยวกับกิจกรรมที่เกิดขึ้นในพระเจดีย์และบริเวณโดยรอบ ซึ่งล้วนแต่เป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของราชอาณาจักรไทย Bora Touch:ตามแผนที่ 1:200,000 (หรือ แผนที่ส่วน Dangkrek หรือภาคผนวกI ) ปราสาทพระวิหารและที่ดินแปลงขนาด 4.6 ตารางกิโลเมตรอยู่ภายในอาณาเขตของกัมพูชาอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง ไทยและกัมพูชาเห็นพ้องกันว่าพระเจดีย์ "Keo Sikha Kiri Svara" ตั้งอยู่ในที่ดินแปลงขนาด 4.6 ตารางกิโลเมตร กระทรวงต่างประเทศของไทย: 4.กระทรวงฯ ยืนยันคำมั่นสัญญาของไทยในการแก้ไขปัญหาเขตแดนทั้งหมดกับกัมพูชาตามกฎหมายระหว่างประเทศโดยสันติวิธีภายใต้กรอบของคณะกรรมาธิการร่วมไทย-กัมพูชาว่าด้วยการกำหนดเขตแดนทางบก (JBC) การกำหนดเส้นแบ่งเขตบริเวณปราสาทพระวิหารยังอยู่ระหว่างการเจรจาภายใต้กรอบของ JBC" Bora Touch: การที่ไทยกล่าวว่าใช้กฎหมายระหว่างประเทศในเรื่องนี้ถือเป็นการเข้าใจผิด ประเทศไทยไม่ปฏิบัติตามพันธกรณีตามคำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในปี 2505 อย่างชัดเจน จึงถือเป็นการละเมิดมาตรา 94(1) ของกฎบัตรสหประชาชาติ/ กัมพูชาร้องเรียนต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพื่อขอใช้มาตรการที่เหมาะสมต่อไทย: มาตรา 94(2) Bora Touch ทนายความ The Terms of Reference and Master Plan for the Joint Survey and Demarcation of Land Boundary between Cambodia and Thailand (TOR) of 23 March 2003 stipulates: 1.1.3. Maps which are the results of the Demarcation Works of the Commissions of Delimitation of boundary between Indochina [Cambodia] and Siam [Thailand].. sep up under the Convention of 1904 and the Treaty of 1907 between France [Cambodia] and Siam [Thailand] (theferafter referred to as "the maps of 1:200,000") and other documents relating to the application of the Convention of 1904 and the Treaty of 1907 between France [Cambodia] and Siam [Thailand]. Paragraph 10 of the Terms of Reference emphasises: "This TOR is without prejudice to the legal value of the previous agreements between France and Siam concerning the delimitation of boundary, nor to the value of the Maps of the Commissions of the Delimitation of Boundary between Indochina [Cambodia] and Siam [Thailand] set up under the Convention of 13 February 1904 and the Treaty of 23 March 1907, reflecting the boundary line of Indochina and Siam" Clearly the maps referred to are the 1:200,000 map(s) which, as mentioned above, the ICJ in 1962 ruled to be valid and forms part of the 1904 (and 1907) treaties. Thailand is therefore not in a position to assert that the 1:200,000 maps (one of which is known as Dangrek Section or Annex I map in which the PreahVihear Temple is situated) are not valid. There is no legal basis for such an assertion and to make such an assertion would amount to saying that, in contravention of the UN Charter, Thailand does not accept and will not enforce the Judgment of the ICJ. Thai FM: 2. Cambodia also admitted in the aforementioned declaration that the decision of the International Court of Justice (ICJ) of 1962 did not rule on the question of the boundary line between Thailand and Cambodia. Bora Touch: Contrary to Thailand's assertion, in 1962 the ICJ ruled unambiguously that the 1:200,000 maps (the Dangrek Section or Annex I Map included) is valid and is a part of the 1904 and 1907 treaties. Since the ICJ accepted and ruled that the map(s), which is the result of the boundary demarcation of the French-Siamese Joint Commissions, is valid and a part the treaties, the ICJ decided that it was unnecessary to rule on the question of boundary because the matter was decided (the map was ruled to be valid). The question did not need an answer as it was determined by the map(s). As scholar Kieth Highet (1987) pointed out: "the Court held that since the location indicated in the map had been accepted, it was unncessary to examine the physical location of boundary as derived from the terms of the Treaty". The ICJ did rule on the boundary question by ruling that map was valid. Thai FM: 3. Thailand maintains that the "Keo Sikha Kiri Svara" Pagoda is situated on Thai territory, and demands that Cambodia remove both the pagoda and the Cambodian flag flying over the pagoda. This is a reiteration of the many protests that Thailand has submitted to Cambodia regarding the activities carried out in the pagoda and the surrounding area, all of which constitute violations of sovereignty and territorial integrity of the Kingdom of Thailand. Bora Touch: According to the 1:200,000 map (or the Dangkrek Section or Annex I map), the Preah Vihear Temple and the 4.6 sq km parcel of land undisputedly are inside Cambodian territory. Thailand and Cambodia agree that the "Keo Sikha Kiri Svara" Pagoda is situated in the 4.6 sqkm parcel of land. Thai FM: 4. The Ministry reaffirms Thailand's commitment to resolving all boundary issues with Cambodia in accordance with international law through peaceful means under the framework of the Thai-Cambodian Joint Commission on Demarcation for Land Boundary (JBC). The determination of the boundary line in the area of the Temple of Phra Viharn [Preah Vihear Temple] is still subject to ongoing negotiation under the framework of the JBC." Bora Touch: It is misleading for Thailand to say it applies international law in this regard. It obviously failed to perform the obligations as stipulated under the ICJ Judgment of 1962. It thus has violated article 94(1) of the UN Charter/. Cambodia complains to the UN Security Council for appropriate measures against Thailand: Art 94(2).
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 514 มุมมอง 0 รีวิว
  • เดิมทีสหรัฐออกกฎห้ามส่งออกชิป AI ระดับสูง เช่น H100 และ A100 ไปยังจีนมาตั้งแต่ปี 2022 เพราะกลัวว่าจะถูกนำไปใช้ในงานด้านทหารหรือข่าวกรอง โดยเฉพาะในช่วงที่จีนเร่งพัฒนา AI และ supercomputer สำหรับงานยุทธศาสตร์

    แต่ล่าสุดมีรายงานจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐที่บอกว่า “DeepSeek สนับสนุนงานด้านทหาร-ข่าวกรองของจีนอย่างเต็มตัว และอาจ หาทางหลบเลี่ยงข้อจำกัดการส่งออกโดยใช้บริษัทในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นฉากบังหน้า เพื่อเข้าถึงชิป Nvidia อย่างผิดกฎ”

    สิ่งที่น่าตกใจคือมี “ความเป็นไปได้ว่า DeepSeek ได้ชิป H100 หลังจากสหรัฐแบนไปแล้ว” — แม้ Nvidia จะออกมาปฏิเสธเสียงแข็งว่า DeepSeek ใช้เฉพาะ H800 ซึ่งเป็นเวอร์ชัน “ลดความสามารถ” สำหรับจีนโดยเฉพาะ (ลดแบนด์วิธ NVLink, ไม่มี FP64)

    ที่ผ่านมาเคยมีรายงานว่า “บริษัทจีนขนฮาร์ดดิสก์ในกระเป๋าเดินทางไปเช่ารันเซิร์ฟเวอร์ที่มาเลเซีย” เพื่อฝึกโมเดล AI แบบเลี่ยงแบน และตอนนี้ DeepSeek เองก็อาจกำลังใช้วิธีคล้าย ๆ กัน โดยเจาะเข้า ศูนย์ข้อมูลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อเข้าถึงชิปในระยะไกล โดยไม่ต้องนำเข้าทางตรง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/chinese-ai-firm-deepseek-reportedly-using-shell-companies-to-try-and-evade-u-s-chip-restrictions-allegedly-procured-unknown-number-of-h100-ai-gpus-after-ban-but-nvidia-denies-the-claim
    เดิมทีสหรัฐออกกฎห้ามส่งออกชิป AI ระดับสูง เช่น H100 และ A100 ไปยังจีนมาตั้งแต่ปี 2022 เพราะกลัวว่าจะถูกนำไปใช้ในงานด้านทหารหรือข่าวกรอง โดยเฉพาะในช่วงที่จีนเร่งพัฒนา AI และ supercomputer สำหรับงานยุทธศาสตร์ แต่ล่าสุดมีรายงานจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐที่บอกว่า “DeepSeek สนับสนุนงานด้านทหาร-ข่าวกรองของจีนอย่างเต็มตัว และอาจ หาทางหลบเลี่ยงข้อจำกัดการส่งออกโดยใช้บริษัทในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นฉากบังหน้า เพื่อเข้าถึงชิป Nvidia อย่างผิดกฎ” สิ่งที่น่าตกใจคือมี “ความเป็นไปได้ว่า DeepSeek ได้ชิป H100 หลังจากสหรัฐแบนไปแล้ว” — แม้ Nvidia จะออกมาปฏิเสธเสียงแข็งว่า DeepSeek ใช้เฉพาะ H800 ซึ่งเป็นเวอร์ชัน “ลดความสามารถ” สำหรับจีนโดยเฉพาะ (ลดแบนด์วิธ NVLink, ไม่มี FP64) ที่ผ่านมาเคยมีรายงานว่า “บริษัทจีนขนฮาร์ดดิสก์ในกระเป๋าเดินทางไปเช่ารันเซิร์ฟเวอร์ที่มาเลเซีย” เพื่อฝึกโมเดล AI แบบเลี่ยงแบน และตอนนี้ DeepSeek เองก็อาจกำลังใช้วิธีคล้าย ๆ กัน โดยเจาะเข้า ศูนย์ข้อมูลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อเข้าถึงชิปในระยะไกล โดยไม่ต้องนำเข้าทางตรง https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/chinese-ai-firm-deepseek-reportedly-using-shell-companies-to-try-and-evade-u-s-chip-restrictions-allegedly-procured-unknown-number-of-h100-ai-gpus-after-ban-but-nvidia-denies-the-claim
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 243 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงต่างประเทศรัสเซียประณามสหรัฐอย่างรุนแรง ในการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน
    และยังกล่าวเสริมอีกว่าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติต้องออกมาตอบโต้ต่อการโจมตีครั้งนี้
    และมอสโกกำลังรอดูการตอบโต้จาก IAEA ด้วยเช่นกัน เกี่ยวกับการละเมิดสนธิสัญญา NPT ของสหรัฐ
    กระทรวงต่างประเทศรัสเซียประณามสหรัฐอย่างรุนแรง ในการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน และยังกล่าวเสริมอีกว่าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติต้องออกมาตอบโต้ต่อการโจมตีครั้งนี้ และมอสโกกำลังรอดูการตอบโต้จาก IAEA ด้วยเช่นกัน เกี่ยวกับการละเมิดสนธิสัญญา NPT ของสหรัฐ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 173 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้อำนวยการ IAEA นาย Grossi กล่าวว่าโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านในเมืองนาตันซ์และอิสฟาฮานได้รับความเสียหายอย่างหนัก

    ภาพดังกล่าวแสดงให้เห็นช่วงเวลาที่กองทัพอากาศอิสราเอลโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ในเมืองนาตันซ์เมื่อเช้านี้ ซึ่งตามคำกล่าวของ Grossi ระบุว่าขณะนี้มีการบันทึก "การปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสีเล็กน้อย" ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในรายงานเกี่ยวกับเมืองอิสฟาฮานและฟอร์โดว์

    รัสเซียกำลังวิเคราะห์ข้อมูลที่มีอยู่ทั้งหมดเกี่ยวกับภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นต่อโครงสร้างพื้นฐานนิวเคลียร์ของอิหร่านอย่างต่อเนื่อง และยืนกรานว่าต้องได้รับรายงานที่เป็นกลางจาก IAEA เกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดขึ้น ตามคำแถลงของกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย
    ผู้อำนวยการ IAEA นาย Grossi กล่าวว่าโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านในเมืองนาตันซ์และอิสฟาฮานได้รับความเสียหายอย่างหนัก ภาพดังกล่าวแสดงให้เห็นช่วงเวลาที่กองทัพอากาศอิสราเอลโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ในเมืองนาตันซ์เมื่อเช้านี้ ซึ่งตามคำกล่าวของ Grossi ระบุว่าขณะนี้มีการบันทึก "การปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสีเล็กน้อย" ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในรายงานเกี่ยวกับเมืองอิสฟาฮานและฟอร์โดว์ รัสเซียกำลังวิเคราะห์ข้อมูลที่มีอยู่ทั้งหมดเกี่ยวกับภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นต่อโครงสร้างพื้นฐานนิวเคลียร์ของอิหร่านอย่างต่อเนื่อง และยืนกรานว่าต้องได้รับรายงานที่เป็นกลางจาก IAEA เกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดขึ้น ตามคำแถลงของกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • แถลงการณ์จากกระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือ:

    “สถานการณ์เลวร้ายในปัจจุบันที่โลกได้เห็น พิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่าอิสราเอลได้รับการสนับสนุนและช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกาและชาติตะวันตก เป็นองค์กรที่ก่อมะเร็งร้ายต่อสันติภาพในตะวันออกกลาง และเป็นผู้ร้ายหลักในการทำลายสันติภาพและความมั่นคงของโลก”
    แถลงการณ์จากกระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือ: “สถานการณ์เลวร้ายในปัจจุบันที่โลกได้เห็น พิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่าอิสราเอลได้รับการสนับสนุนและช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกาและชาติตะวันตก เป็นองค์กรที่ก่อมะเร็งร้ายต่อสันติภาพในตะวันออกกลาง และเป็นผู้ร้ายหลักในการทำลายสันติภาพและความมั่นคงของโลก”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 225 มุมมอง 0 รีวิว
  • โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่านปฏิเสธรายงานข่าวคณะเจรจาอิหร่านเดินทางถึงเมืองหลวงของโอมาน โดยระบุว่ารายงานดังกล่าว

    “ไม่เป็นความจริง”

    เราไม่ได้ส่งคณะเจรจาไปยังรัฐสุลต่านโอมาน - รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านให้สัมภาษณ์กับอัลจาซีรา
    โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่านปฏิเสธรายงานข่าวคณะเจรจาอิหร่านเดินทางถึงเมืองหลวงของโอมาน โดยระบุว่ารายงานดังกล่าว “ไม่เป็นความจริง” เราไม่ได้ส่งคณะเจรจาไปยังรัฐสุลต่านโอมาน - รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านให้สัมภาษณ์กับอัลจาซีรา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 146 มุมมอง 0 รีวิว
  • EP.2 ถอดรหัสไทยเสียดินแดนครั้งที่ 16 ปราสาทเขาพระวิหาร

    ประวัติศาสตร์ในสถานศึกษาจะสอนเราว่าไทยเสียดินแดน 14 ครั้ง ทำไมแอดถึงบอกว่าเราเสียดินแดนถึง 16 ครั้ง

    เสียดินแดน 1 - 14 ทุกคนคงหาได้ในอินเตอร์เน็ตอยู่แล้ว แอดจะไม่กล่าวถึง

    แต่ครั้งที่ 15 คือวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2505 ศาลโลกตัดสินให้กัมพูชามีอธิปไตยเหนือปราสาทพระวิหาร นั่นหมายถึง ตัวปราสาทพระวิหาร และดินแดนที่อยู่ใต้ตัวปราสาท

    ในวันที่ “เขาพระวิหาร” ตกเป็นของเขมร ทหารไทยเชิญ “เสาธงชาติไทย” จากเขาพระวิหาร โดย “ไม่มีการลดธง” แม้แต่นิดเดียว ]
    .
    พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าชุมพลสมโภช กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ (องค์ต้นราชสกุล “ชุมพล”) ทรงค้นพบปราสาทแห่งนี้เมื่อปี ๒๔๔๒ แล้วทรงจารึกพระนาม และปีที่ค้นพบไว้ที่บริเวณชะง่อนผาเป้ยตาดีว่า “๑๑๘ สรรพสิทธิ” และ “ปราสาทพระวิหาร” เป็นปราสาทที่ได้ชื่อประทานจากพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ข้าหลวงต่างพระองค์สำเร็จราชการมณฑลลาวกาว พระองค์มีรับสั่งว่าปราสาทองค์นี้เหมือนปราสาทที่เทพสร้าง จึงเรียกว่า “ปราสาทเทพพระวิหาร” ซึ่งต่อมาเรียกกันทั่วไปว่า “ปราสาทพระวิหาร” คนกัมพูชาออกเสียงเป็น “เปรี๊ยะวิเฮียร์” เรียกตามคนไทยมาตลอด
    .
    เนื่องจากปราสาทพระวิหารตั้งอยู่ตรงรอยต่อของไทยกับกัมพูชา ซึ่งผลัดกันยึดครองดินแดนแถบนี้จนหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ ไทยได้ส่งทหารเข้ายึดครองพื้นที่บริเวณปราสาทพระวิหาร กษัตริย์สีหนุ จึงยื่นฟ้องต่อศาลโลกเมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๐๒
    .
    การไต่สวนพิจารณาคดีเป็นไปอย่างต่อเนื่องยาวนานถึง ๓ ปี มีการนัดพิจารณาสืบพยานทั้งหมด ๗๓ ครั้ง จนในที่สุด ศาลโลกก็ตัดสินให้กัมพูชาเป็นฝ่ายชนะคดีด้วยคะแนน ๙ ต่อ ๓ เสียง ยังผลให้ประเทศไทยต้องยินยอมทำตามข้อเรียกร้องทั้ง ๒ ข้อของกัมพูชา นับเป็นการเสียดินแดนครั้งล่าสุดของประเทศไทยในยุครัตนโกสินทร์ เสียพื้นที่ไปทั้งหมดประมาณ ๑๕๐ ไร่
    .
    ค่ำคืนวันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๐๕ หลังศาลโลกตัดสินให้ ปราสาทพระวิหาร ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของกัมพูชา ได้ประมาณ ๒๐ วัน จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้กล่าวปราศรัยผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย แสดงความรู้สึกต่อการสูญเสียปราสาทพระวิหาร
    .
    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย คือ พลโทประภาส จารุเสถียร (ยศในขณะนั้น) บอกว่า “...ถ้าเราไปชักธงชาติลง และพับธงเดินกลับมา จะเป็นการเสียเกียรติยศประเทศไทยซึ่งเคยปกครองเขาพระวิหารมาเป็นเวลานาน...”
    .
    จึงได้ให้ทหารและตำรวจตระเวนชายแดน เชิญเสาธงชาติไทยจากเขาพระวิหาร บนยอดผาเป้ยตาดี ยกเสาธงทั้งต้นลงมา โดยไม่มีการลดธงแม้แต่นิดเดียว ซึ่งทำให้กัมพูชาไม่พอใจอย่างมาก เหมือนกับว่าไทยประชดคำตัดสินของศาลโลก ซึ่งทางเราก็ตอบโต้ว่า “...เป็นสิทธิของเรา...”

    ครั้งที่ 16 คือ 11 พ.ย. 2556 ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก ได้พิพากษาให้กัมพูชาเป็นผู้มีอำนาจอธิปไตยเหนือพื้นที่รอบๆ ตัวปราสาทพระวิหาร อันตั้งอยู่ตรงชายแดนติดต่อกับประเทศไทย ในคำตัดสินครั้งสำคัญซึ่งมุ่งหมายยุติข้อพิพาทอันยืดเยื้อหลายสิบปี ทั้งนี้ ศาลสูงสุดของสหประชาชาติแห่งนี้ ยังได้สั่งให้รัฐบาลไทยถอนกำลังรักษาความมั่นคงของตนออกมาจากพื้นที่ดังกล่าวอีกด้วย

    คำตัดสินคราวนี้ไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนเกี่ยวกับเส้นพรมแดนของทั้งสองประเทศในบริเวณรอบๆ ปราสาทพระวิหารที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้วแห่งนี้ จึงเป็นการปฏิเสธข้ออ้างของฝ่ายกัมพูชาที่ว่า ตนเองเป็นมีอำนาจอธิปไตยเหนือภูเขาพนมตรวบ หรือภูมะเขือที่อยู่ใกล้ๆ กับปราสาท

    แต่เพราะ นายนพดล ปัทมะ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศได้เคยลงนามคำแถลงการณ์ร่วมกับฝ่ายกัมพูชา โดยได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีนายสมัคร ยินยอมให้เขมรนำปราสาทพระวิหารขึ้นเป็นมรดกพร้อมแนบแผนที่บริเวรบริหารจัดการให้เขมรไปด้วยเกือบพันไร่ นั่นคือที่เราสูญเสียในครั้งที่ 16

    บทความบางตอนจากเพจโบราณนานมา และ มเหนทรบรรพต
    EP.2 ถอดรหัสไทยเสียดินแดนครั้งที่ 16 ปราสาทเขาพระวิหาร ประวัติศาสตร์ในสถานศึกษาจะสอนเราว่าไทยเสียดินแดน 14 ครั้ง ทำไมแอดถึงบอกว่าเราเสียดินแดนถึง 16 ครั้ง เสียดินแดน 1 - 14 ทุกคนคงหาได้ในอินเตอร์เน็ตอยู่แล้ว แอดจะไม่กล่าวถึง แต่ครั้งที่ 15 คือวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2505 ศาลโลกตัดสินให้กัมพูชามีอธิปไตยเหนือปราสาทพระวิหาร นั่นหมายถึง ตัวปราสาทพระวิหาร และดินแดนที่อยู่ใต้ตัวปราสาท ในวันที่ “เขาพระวิหาร” ตกเป็นของเขมร ทหารไทยเชิญ “เสาธงชาติไทย” จากเขาพระวิหาร โดย “ไม่มีการลดธง” แม้แต่นิดเดียว ] . พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าชุมพลสมโภช กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ (องค์ต้นราชสกุล “ชุมพล”) ทรงค้นพบปราสาทแห่งนี้เมื่อปี ๒๔๔๒ แล้วทรงจารึกพระนาม และปีที่ค้นพบไว้ที่บริเวณชะง่อนผาเป้ยตาดีว่า “๑๑๘ สรรพสิทธิ” และ “ปราสาทพระวิหาร” เป็นปราสาทที่ได้ชื่อประทานจากพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ข้าหลวงต่างพระองค์สำเร็จราชการมณฑลลาวกาว พระองค์มีรับสั่งว่าปราสาทองค์นี้เหมือนปราสาทที่เทพสร้าง จึงเรียกว่า “ปราสาทเทพพระวิหาร” ซึ่งต่อมาเรียกกันทั่วไปว่า “ปราสาทพระวิหาร” คนกัมพูชาออกเสียงเป็น “เปรี๊ยะวิเฮียร์” เรียกตามคนไทยมาตลอด . เนื่องจากปราสาทพระวิหารตั้งอยู่ตรงรอยต่อของไทยกับกัมพูชา ซึ่งผลัดกันยึดครองดินแดนแถบนี้จนหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ ไทยได้ส่งทหารเข้ายึดครองพื้นที่บริเวณปราสาทพระวิหาร กษัตริย์สีหนุ จึงยื่นฟ้องต่อศาลโลกเมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๐๒ . การไต่สวนพิจารณาคดีเป็นไปอย่างต่อเนื่องยาวนานถึง ๓ ปี มีการนัดพิจารณาสืบพยานทั้งหมด ๗๓ ครั้ง จนในที่สุด ศาลโลกก็ตัดสินให้กัมพูชาเป็นฝ่ายชนะคดีด้วยคะแนน ๙ ต่อ ๓ เสียง ยังผลให้ประเทศไทยต้องยินยอมทำตามข้อเรียกร้องทั้ง ๒ ข้อของกัมพูชา นับเป็นการเสียดินแดนครั้งล่าสุดของประเทศไทยในยุครัตนโกสินทร์ เสียพื้นที่ไปทั้งหมดประมาณ ๑๕๐ ไร่ . ค่ำคืนวันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๐๕ หลังศาลโลกตัดสินให้ ปราสาทพระวิหาร ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของกัมพูชา ได้ประมาณ ๒๐ วัน จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้กล่าวปราศรัยผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย แสดงความรู้สึกต่อการสูญเสียปราสาทพระวิหาร . รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย คือ พลโทประภาส จารุเสถียร (ยศในขณะนั้น) บอกว่า “...ถ้าเราไปชักธงชาติลง และพับธงเดินกลับมา จะเป็นการเสียเกียรติยศประเทศไทยซึ่งเคยปกครองเขาพระวิหารมาเป็นเวลานาน...” . จึงได้ให้ทหารและตำรวจตระเวนชายแดน เชิญเสาธงชาติไทยจากเขาพระวิหาร บนยอดผาเป้ยตาดี ยกเสาธงทั้งต้นลงมา โดยไม่มีการลดธงแม้แต่นิดเดียว ซึ่งทำให้กัมพูชาไม่พอใจอย่างมาก เหมือนกับว่าไทยประชดคำตัดสินของศาลโลก ซึ่งทางเราก็ตอบโต้ว่า “...เป็นสิทธิของเรา...” ครั้งที่ 16 คือ 11 พ.ย. 2556 ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก ได้พิพากษาให้กัมพูชาเป็นผู้มีอำนาจอธิปไตยเหนือพื้นที่รอบๆ ตัวปราสาทพระวิหาร อันตั้งอยู่ตรงชายแดนติดต่อกับประเทศไทย ในคำตัดสินครั้งสำคัญซึ่งมุ่งหมายยุติข้อพิพาทอันยืดเยื้อหลายสิบปี ทั้งนี้ ศาลสูงสุดของสหประชาชาติแห่งนี้ ยังได้สั่งให้รัฐบาลไทยถอนกำลังรักษาความมั่นคงของตนออกมาจากพื้นที่ดังกล่าวอีกด้วย คำตัดสินคราวนี้ไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนเกี่ยวกับเส้นพรมแดนของทั้งสองประเทศในบริเวณรอบๆ ปราสาทพระวิหารที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้วแห่งนี้ จึงเป็นการปฏิเสธข้ออ้างของฝ่ายกัมพูชาที่ว่า ตนเองเป็นมีอำนาจอธิปไตยเหนือภูเขาพนมตรวบ หรือภูมะเขือที่อยู่ใกล้ๆ กับปราสาท แต่เพราะ นายนพดล ปัทมะ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศได้เคยลงนามคำแถลงการณ์ร่วมกับฝ่ายกัมพูชา โดยได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีนายสมัคร ยินยอมให้เขมรนำปราสาทพระวิหารขึ้นเป็นมรดกพร้อมแนบแผนที่บริเวรบริหารจัดการให้เขมรไปด้วยเกือบพันไร่ นั่นคือที่เราสูญเสียในครั้งที่ 16 บทความบางตอนจากเพจโบราณนานมา และ มเหนทรบรรพต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 367 มุมมอง 27 0 รีวิว
  • Maria Zakharova โฆษกกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย กล่าวถึงการเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครนที่กำลังจะมีขึ้นในอิสตันบูล:

    จะไม่มีบุคคลที่สามมีส่วนร่วมในการเจรจาจากบุคคลที่สาม ไม่ว่าจะเป็นตุรกีหรือประเทศอื่นใด

    คณะผู้แทนรัสเซียจะเดินทางมาถึงอิสตันบูลในวันที่ 2 มิถุนายน พร้อมกับบันทึกข้อตกลงหยุดยิงและข้อเสนอเพิ่มเติม

    รัสเซียทราบแล้วถึงข้อความของ Kellogg ผู้แทนพิศษของทรัมป์เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร เยอรมนี และฝรั่งเศสกำลังเดินทางมาอิสตันบูลในวันนั้นเช่นกัน

    แต่มอสโกยังมองไม่เห็นความจำเป็นถึงความเชื่อมโยงที่ต้องให้ประเทศเหล่านั้นเข้ามามีส่วนร่วมระหว่างการเจรจาโดยตรงกับยูเครน
    Maria Zakharova โฆษกกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย กล่าวถึงการเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครนที่กำลังจะมีขึ้นในอิสตันบูล: ➡️จะไม่มีบุคคลที่สามมีส่วนร่วมในการเจรจาจากบุคคลที่สาม ไม่ว่าจะเป็นตุรกีหรือประเทศอื่นใด ➡️คณะผู้แทนรัสเซียจะเดินทางมาถึงอิสตันบูลในวันที่ 2 มิถุนายน พร้อมกับบันทึกข้อตกลงหยุดยิงและข้อเสนอเพิ่มเติม ➡️รัสเซียทราบแล้วถึงข้อความของ Kellogg ผู้แทนพิศษของทรัมป์เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร เยอรมนี และฝรั่งเศสกำลังเดินทางมาอิสตันบูลในวันนั้นเช่นกัน ➡️แต่มอสโกยังมองไม่เห็นความจำเป็นถึงความเชื่อมโยงที่ต้องให้ประเทศเหล่านั้นเข้ามามีส่วนร่วมระหว่างการเจรจาโดยตรงกับยูเครน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 229 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ เพิ่งประกาศระงับวีซ่านักเรียนต่างชาติชั่วคราว หรือแม้แต่นักเรียนสำหรับโครงการแลกเปลี่ยนไปอเมริกา โดยแจ้งไปยังสถานทูตต่างๆเพื่อเลื่อนสัมภาษณ์ออกไปอย่างไม่มีกำหนด

    นอกจากนี้ จะเพิ่มความเข้มงวดในการขยายการตรวจสอบพฤติกรรมการโพสต์บนโซเชียลมีเดีย ว่ามีการต่อต้านรัฐบาลทรัมป์หรือแม้แต่การต่อต้านชาวยิวด้วยหรือไม่
    มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ เพิ่งประกาศระงับวีซ่านักเรียนต่างชาติชั่วคราว หรือแม้แต่นักเรียนสำหรับโครงการแลกเปลี่ยนไปอเมริกา โดยแจ้งไปยังสถานทูตต่างๆเพื่อเลื่อนสัมภาษณ์ออกไปอย่างไม่มีกำหนด นอกจากนี้ จะเพิ่มความเข้มงวดในการขยายการตรวจสอบพฤติกรรมการโพสต์บนโซเชียลมีเดีย ว่ามีการต่อต้านรัฐบาลทรัมป์หรือแม้แต่การต่อต้านชาวยิวด้วยหรือไม่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 212 มุมมอง 0 รีวิว
  • อังกฤษประกาศ!!! กำลังประสานงานกับพันธมิตรเพื่อรับรองรัฐปาเลสไตน์เป็นเอกราช

    พร้อมกันนี้ได้ประกาศระงับการเจรจาการค้าเสรีกับอิสราเอลเพื่อเป็นการตอบโต้ต่อความโหดร้ายของอิสราเอลในกาซา และยังเรียกเอกอัครราชทูตอิสราเอลมาที่กระทรวงต่างประเทศในลอนดอนเพื่อตักเตือนอย่างเป็นทางการอีกด้วย

    ทางด้านกระทรวงต่างประเทศของอิสราเอลออกมาตอบโต้อังกฤษทันควันว่า:

    “หมดยุคอิทธิพลของอังกฤษไปตั้งแต่เมื่อ 77 ปีที่แล้ว แรงกดดันจากภายนอกจะไม่ทำให้อิสราเอลเปลี่ยนเส้นทางในการต่อสู้เพื่อดำรงอยู่และความมั่นคงของตนจากศัตรูที่พยายามทำลายล้าง”


    เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 1948 อิสราเอลได้ถือกำเนิดเป็นประเทศใหม่ขึ้นมาซึ่งครบรอบ 77 ปี ในปีนี้พอดี

    อังกฤษประกาศ!!! กำลังประสานงานกับพันธมิตรเพื่อรับรองรัฐปาเลสไตน์เป็นเอกราช พร้อมกันนี้ได้ประกาศระงับการเจรจาการค้าเสรีกับอิสราเอลเพื่อเป็นการตอบโต้ต่อความโหดร้ายของอิสราเอลในกาซา และยังเรียกเอกอัครราชทูตอิสราเอลมาที่กระทรวงต่างประเทศในลอนดอนเพื่อตักเตือนอย่างเป็นทางการอีกด้วย ทางด้านกระทรวงต่างประเทศของอิสราเอลออกมาตอบโต้อังกฤษทันควันว่า: “หมดยุคอิทธิพลของอังกฤษไปตั้งแต่เมื่อ 77 ปีที่แล้ว แรงกดดันจากภายนอกจะไม่ทำให้อิสราเอลเปลี่ยนเส้นทางในการต่อสู้เพื่อดำรงอยู่และความมั่นคงของตนจากศัตรูที่พยายามทำลายล้าง” เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 1948 อิสราเอลได้ถือกำเนิดเป็นประเทศใหม่ขึ้นมาซึ่งครบรอบ 77 ปี ในปีนี้พอดี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 221 มุมมอง 0 รีวิว
  • 13 พฤษภาคม 2568 -รายงานรอยเตอร์สระบุว่า สภาการบินแห่งสหประชาชาติตัดสินเมื่อวันจันทร์ว่า รัสเซียต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์เครื่องบินของมาเลเซียถูกยิงตกในยูเครน ซึ่งทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือทั้ง 298 รายเสียชีวิตทั้งหมด รวมทั้งพลเมืองเนเธอร์แลนด์ 196 ราย และพลเมืองหรือผู้พำนักอาศัยในออสเตรเลีย 38 ราย รัฐบาลเนเธอร์แลนด์และออสเตรเลียระบุในแถลงการณ์แยกกันรัฐบาลทั้งสองกล่าวว่าคณะมนตรีองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) จะพิจารณาว่าจะต้องชดใช้ในรูปแบบใดในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าเที่ยวบิน MH17 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ออกเดินทางจากอัมสเตอร์ดัมไปยังกัวลาลัมเปอร์เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 และถูกยิงตกในยูเครนตะวันออก ขณะที่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่นิยมรัสเซียและกองกำลังยูเครนกำลังสู้รบกันอย่างดุเดือดในเดือนพฤศจิกายน 2022 ผู้พิพากษาของเนเธอร์แลนด์ได้ตัดสินจำคุกชายชาวรัสเซีย 2 คนและชายชาวยูเครน 1 คนในข้อหาฆาตกรรมในข้อหามีส่วนร่วมในเหตุโจมตีดังกล่าว มอสโกว์กล่าวว่าคำตัดสินดังกล่าว "น่าอับอาย" และระบุว่าจะไม่ส่งตัวพลเมืองของตนกลับประเทศICAO ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองมอนทรีออลไม่ได้ตอบสนองต่อคำร้องขอความคิดเห็นในทันที โดยคดีนี้เริ่มต้นขึ้นในปี 2022 โดยออสเตรเลียและเนเธอร์แลนด์“การตัดสินใจครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการค้นหาความจริงและบรรลุความยุติธรรมและการรับผิดชอบต่อเหยื่อทั้งหมดของเที่ยวบิน MH17 และครอบครัวและคนที่พวกเขารัก” แคสเปอร์ เฟลด์คัมป์ รัฐมนตรีต่างประเทศของเนเธอร์แลนด์กล่าวในแถลงการณ์“การตัดสินใจครั้งนี้ยังส่งข้อความที่ชัดเจนไปยังชุมชนระหว่างประเทศด้วยว่า รัฐต่างๆ ไม่สามารถละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศได้โดยไม่ต้องรับโทษ”เนเธอร์แลนด์และออสเตรเลียต้องการให้สภา ICAO สั่งให้รัสเซียเข้าร่วมการเจรจาเรื่องการชดเชย เขากล่าวเสริมเพนนี หว่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศออสเตรเลีย กล่าวว่ารัฐบาลของเธอยินดีกับการตัดสินใจดังกล่าว และเรียกร้องให้ ICAO ดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขหว่องกล่าวในแถลงการณ์ว่า "เราขอเรียกร้องให้รัสเซียเผชิญหน้ากับความรับผิดชอบต่อการกระทำรุนแรงอันน่าสยดสยองครั้งนี้ และชดใช้การกระทำที่เลวร้ายนี้ ตามที่กฎหมายระหว่างประเทศกำหนด"ICAO ขาดอำนาจในการกำกับดูแล แต่มีอำนาจโน้มน้าวใจ และกำหนดมาตรฐานการบินระดับโลกที่ได้รับการยอมรับอย่างท่วมท้นจากประเทศสมาชิก 193 ประเทศ ที่มา REUTERS
    13 พฤษภาคม 2568 -รายงานรอยเตอร์สระบุว่า สภาการบินแห่งสหประชาชาติตัดสินเมื่อวันจันทร์ว่า รัสเซียต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์เครื่องบินของมาเลเซียถูกยิงตกในยูเครน ซึ่งทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือทั้ง 298 รายเสียชีวิตทั้งหมด รวมทั้งพลเมืองเนเธอร์แลนด์ 196 ราย และพลเมืองหรือผู้พำนักอาศัยในออสเตรเลีย 38 ราย รัฐบาลเนเธอร์แลนด์และออสเตรเลียระบุในแถลงการณ์แยกกันรัฐบาลทั้งสองกล่าวว่าคณะมนตรีองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) จะพิจารณาว่าจะต้องชดใช้ในรูปแบบใดในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าเที่ยวบิน MH17 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ออกเดินทางจากอัมสเตอร์ดัมไปยังกัวลาลัมเปอร์เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 และถูกยิงตกในยูเครนตะวันออก ขณะที่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่นิยมรัสเซียและกองกำลังยูเครนกำลังสู้รบกันอย่างดุเดือดในเดือนพฤศจิกายน 2022 ผู้พิพากษาของเนเธอร์แลนด์ได้ตัดสินจำคุกชายชาวรัสเซีย 2 คนและชายชาวยูเครน 1 คนในข้อหาฆาตกรรมในข้อหามีส่วนร่วมในเหตุโจมตีดังกล่าว มอสโกว์กล่าวว่าคำตัดสินดังกล่าว "น่าอับอาย" และระบุว่าจะไม่ส่งตัวพลเมืองของตนกลับประเทศICAO ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองมอนทรีออลไม่ได้ตอบสนองต่อคำร้องขอความคิดเห็นในทันที โดยคดีนี้เริ่มต้นขึ้นในปี 2022 โดยออสเตรเลียและเนเธอร์แลนด์“การตัดสินใจครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการค้นหาความจริงและบรรลุความยุติธรรมและการรับผิดชอบต่อเหยื่อทั้งหมดของเที่ยวบิน MH17 และครอบครัวและคนที่พวกเขารัก” แคสเปอร์ เฟลด์คัมป์ รัฐมนตรีต่างประเทศของเนเธอร์แลนด์กล่าวในแถลงการณ์“การตัดสินใจครั้งนี้ยังส่งข้อความที่ชัดเจนไปยังชุมชนระหว่างประเทศด้วยว่า รัฐต่างๆ ไม่สามารถละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศได้โดยไม่ต้องรับโทษ”เนเธอร์แลนด์และออสเตรเลียต้องการให้สภา ICAO สั่งให้รัสเซียเข้าร่วมการเจรจาเรื่องการชดเชย เขากล่าวเสริมเพนนี หว่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศออสเตรเลีย กล่าวว่ารัฐบาลของเธอยินดีกับการตัดสินใจดังกล่าว และเรียกร้องให้ ICAO ดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขหว่องกล่าวในแถลงการณ์ว่า "เราขอเรียกร้องให้รัสเซียเผชิญหน้ากับความรับผิดชอบต่อการกระทำรุนแรงอันน่าสยดสยองครั้งนี้ และชดใช้การกระทำที่เลวร้ายนี้ ตามที่กฎหมายระหว่างประเทศกำหนด"ICAO ขาดอำนาจในการกำกับดูแล แต่มีอำนาจโน้มน้าวใจ และกำหนดมาตรฐานการบินระดับโลกที่ได้รับการยอมรับอย่างท่วมท้นจากประเทศสมาชิก 193 ประเทศ ที่มา REUTERS
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 487 มุมมอง 0 รีวิว
  • อลันด์ วัย 20 ปี ลูกชายของนักการเมืองฟินแลนด์อาสาไปรบในยูเครนได้ 4 เดือนก็ถูกสังหารเสียชีวิต แม้ว่าครอบครัวของเขาจะคัดค้านอย่างหนักก็ตาม

    จากรายงานของสำนักข่าวในฟินแลนด์ "Yle" อลันต้องประจำการในกองทัพยูเครนตามสัญญาผูกมัดเป็นเวลา 6 เดือน

    ที่ผ่านมากระทรวงต่างประเทศฟินแลนด์เตือนประชาชนมาตลอดว่าใครก็ตามที่ดึงดันที่ทำสัญญา เป็นไปไม่ได้เลยที่จะยกเลิกมัน

    แต่อลันด์กลับดื้อรั้น และเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าหลังจากเขาทำสัญญา กองทัพยูเครนจะยึดหนังสือเดินทางของเขาและจำกัดการใช้โทรศัพท์ของเขา

    หลังจากผ่านไปเพียงสี่เดือน เมื่อวันที่ 13 เมษายน ที่ผ่านมา บิดาของอลันด์ได้รับแจ้งว่าเขาเสียชีวิตแล้ว

    สื่อฟินแลนด์ยังรายงานข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า ตามรายงานของกระทรวงต่างประเทศฟินแลนด์ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีชาวฟินแลนด์ราว 10 คนที่ต้องเผชิญชะตากรรมอันน่าสลดใจจากการสู้รบในยูเครน
    อลันด์ วัย 20 ปี ลูกชายของนักการเมืองฟินแลนด์อาสาไปรบในยูเครนได้ 4 เดือนก็ถูกสังหารเสียชีวิต แม้ว่าครอบครัวของเขาจะคัดค้านอย่างหนักก็ตาม จากรายงานของสำนักข่าวในฟินแลนด์ "Yle" อลันต้องประจำการในกองทัพยูเครนตามสัญญาผูกมัดเป็นเวลา 6 เดือน ที่ผ่านมากระทรวงต่างประเทศฟินแลนด์เตือนประชาชนมาตลอดว่าใครก็ตามที่ดึงดันที่ทำสัญญา เป็นไปไม่ได้เลยที่จะยกเลิกมัน แต่อลันด์กลับดื้อรั้น และเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าหลังจากเขาทำสัญญา กองทัพยูเครนจะยึดหนังสือเดินทางของเขาและจำกัดการใช้โทรศัพท์ของเขา หลังจากผ่านไปเพียงสี่เดือน เมื่อวันที่ 13 เมษายน ที่ผ่านมา บิดาของอลันด์ได้รับแจ้งว่าเขาเสียชีวิตแล้ว สื่อฟินแลนด์ยังรายงานข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า ตามรายงานของกระทรวงต่างประเทศฟินแลนด์ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีชาวฟินแลนด์ราว 10 คนที่ต้องเผชิญชะตากรรมอันน่าสลดใจจากการสู้รบในยูเครน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 346 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3/
    ด่วน!!!
    พลโทยาโรสลาวา โมสคาลิก (Lieutenant General Yaroslav Moskalik) รองผู้บัญชาการกองบัญชาการหลักฝ่ายปฏิบัติการของกองทัพรัสเซีย ถูกลอบสังหารโดยการวางระเบิดแสวงเครื่องไว้ที่รถยนต์ส่วนตัว ในมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย

    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงเช้าวันศุกร์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ "สตีฟ วิทคอฟฟ์" ผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีทรัมป์ อยู่ที่มอสโกเพื่อเจรจาเรื่องข้อตกลงหยุดยิงระหว่างรัสเซียและยูเครน

    บางแหล่งข่าวระบุว่า โมสคาลิกจะเข้าร่วมการเจรจาข้อตกลงหยุดยิงกับยูเครน ซึ่งเขาเป็นตัวแทนจากกระทรวงกลาโหมรัสเซีย

    เจ้าหน้าที่ด้านการสืบสวนของรัสเซียระบุว่า ระเบิดแสวงเครื่องที่ซุกซ่อนไว้ในรถยนต์ แรงระเบิดเทียบได้กับระเบิดทีเอ็นทีขนาด 300 กรัม นอกจากนี้ยังมีการผสมเศษโลหะเข้าไปในระเบิดเพื่อเพิ่มพลังทำลายล้าง

    กระทรวงต่างประเทศของรัสเซียออกมาระบุชัดเจนว่า นายพลโมสคาลิกเสียชีวิตจาก 'การโจมตีของผู้ก่อการร้าย'

    ทางการรัสเซียได้เริ่มทำการสืบสวนเหตุการณ์ครั้งนี้แล้ว

    3/ ด่วน!!! พลโทยาโรสลาวา โมสคาลิก (Lieutenant General Yaroslav Moskalik) รองผู้บัญชาการกองบัญชาการหลักฝ่ายปฏิบัติการของกองทัพรัสเซีย ถูกลอบสังหารโดยการวางระเบิดแสวงเครื่องไว้ที่รถยนต์ส่วนตัว ในมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงเช้าวันศุกร์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ "สตีฟ วิทคอฟฟ์" ผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีทรัมป์ อยู่ที่มอสโกเพื่อเจรจาเรื่องข้อตกลงหยุดยิงระหว่างรัสเซียและยูเครน บางแหล่งข่าวระบุว่า โมสคาลิกจะเข้าร่วมการเจรจาข้อตกลงหยุดยิงกับยูเครน ซึ่งเขาเป็นตัวแทนจากกระทรวงกลาโหมรัสเซีย เจ้าหน้าที่ด้านการสืบสวนของรัสเซียระบุว่า ระเบิดแสวงเครื่องที่ซุกซ่อนไว้ในรถยนต์ แรงระเบิดเทียบได้กับระเบิดทีเอ็นทีขนาด 300 กรัม นอกจากนี้ยังมีการผสมเศษโลหะเข้าไปในระเบิดเพื่อเพิ่มพลังทำลายล้าง กระทรวงต่างประเทศของรัสเซียออกมาระบุชัดเจนว่า นายพลโมสคาลิกเสียชีวิตจาก 'การโจมตีของผู้ก่อการร้าย' ทางการรัสเซียได้เริ่มทำการสืบสวนเหตุการณ์ครั้งนี้แล้ว
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 388 มุมมอง 29 0 รีวิว
  • 2/
    ด่วน!!!
    พลโทยาโรสลาวา โมสคาลิก (Lieutenant General Yaroslav Moskalik) รองผู้บัญชาการกองบัญชาการหลักฝ่ายปฏิบัติการของกองทัพรัสเซีย ถูกลอบสังหารโดยการวางระเบิดแสวงเครื่องไว้ที่รถยนต์ส่วนตัว ในมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย

    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงเช้าวันศุกร์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ "สตีฟ วิทคอฟฟ์" ผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีทรัมป์ อยู่ที่มอสโกเพื่อเจรจาเรื่องข้อตกลงหยุดยิงระหว่างรัสเซียและยูเครน

    บางแหล่งข่าวระบุว่า โมสคาลิกจะเข้าร่วมการเจรจาข้อตกลงหยุดยิงกับยูเครน ซึ่งเขาเป็นตัวแทนจากกระทรวงกลาโหมรัสเซีย

    เจ้าหน้าที่ด้านการสืบสวนของรัสเซียระบุว่า ระเบิดแสวงเครื่องที่ซุกซ่อนไว้ในรถยนต์ แรงระเบิดเทียบได้กับระเบิดทีเอ็นทีขนาด 300 กรัม นอกจากนี้ยังมีการผสมเศษโลหะเข้าไปในระเบิดเพื่อเพิ่มพลังทำลายล้าง

    กระทรวงต่างประเทศของรัสเซียออกมาระบุชัดเจนว่า นายพลโมสคาลิกเสียชีวิตจาก 'การโจมตีของผู้ก่อการร้าย'

    ทางการรัสเซียได้เริ่มทำการสืบสวนเหตุการณ์ครั้งนี้แล้ว

    2/ ด่วน!!! พลโทยาโรสลาวา โมสคาลิก (Lieutenant General Yaroslav Moskalik) รองผู้บัญชาการกองบัญชาการหลักฝ่ายปฏิบัติการของกองทัพรัสเซีย ถูกลอบสังหารโดยการวางระเบิดแสวงเครื่องไว้ที่รถยนต์ส่วนตัว ในมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงเช้าวันศุกร์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ "สตีฟ วิทคอฟฟ์" ผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีทรัมป์ อยู่ที่มอสโกเพื่อเจรจาเรื่องข้อตกลงหยุดยิงระหว่างรัสเซียและยูเครน บางแหล่งข่าวระบุว่า โมสคาลิกจะเข้าร่วมการเจรจาข้อตกลงหยุดยิงกับยูเครน ซึ่งเขาเป็นตัวแทนจากกระทรวงกลาโหมรัสเซีย เจ้าหน้าที่ด้านการสืบสวนของรัสเซียระบุว่า ระเบิดแสวงเครื่องที่ซุกซ่อนไว้ในรถยนต์ แรงระเบิดเทียบได้กับระเบิดทีเอ็นทีขนาด 300 กรัม นอกจากนี้ยังมีการผสมเศษโลหะเข้าไปในระเบิดเพื่อเพิ่มพลังทำลายล้าง กระทรวงต่างประเทศของรัสเซียออกมาระบุชัดเจนว่า นายพลโมสคาลิกเสียชีวิตจาก 'การโจมตีของผู้ก่อการร้าย' ทางการรัสเซียได้เริ่มทำการสืบสวนเหตุการณ์ครั้งนี้แล้ว
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 378 มุมมอง 24 0 รีวิว
  • 1/
    ด่วน!!!
    พลโทยาโรสลาวา โมสคาลิก (Lieutenant General Yaroslav Moskalik) รองผู้บัญชาการกองบัญชาการหลักฝ่ายปฏิบัติการของกองทัพรัสเซีย ถูกลอบสังหารโดยการวางระเบิดแสวงเครื่องไว้ที่รถยนต์ส่วนตัว ในมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย

    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงเช้าวันศุกร์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ "สตีฟ วิทคอฟฟ์" ผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีทรัมป์ อยู่ที่มอสโกเพื่อเจรจาเรื่องข้อตกลงหยุดยิงระหว่างรัสเซียและยูเครน

    บางแหล่งข่าวระบุว่า โมสคาลิกจะเข้าร่วมการเจรจาข้อตกลงหยุดยิงกับยูเครน ซึ่งเขาเป็นตัวแทนจากกระทรวงกลาโหมรัสเซีย

    เจ้าหน้าที่ด้านการสืบสวนของรัสเซียระบุว่า ระเบิดแสวงเครื่องที่ซุกซ่อนไว้ในรถยนต์ แรงระเบิดเทียบได้กับระเบิดทีเอ็นทีขนาด 300 กรัม นอกจากนี้ยังมีการผสมเศษโลหะเข้าไปในระเบิดเพื่อเพิ่มพลังทำลายล้าง

    กระทรวงต่างประเทศของรัสเซียออกมาระบุชัดเจนว่า นายพลโมสคาลิกเสียชีวิตจาก 'การโจมตีของผู้ก่อการร้าย'

    ทางการรัสเซียได้เริ่มทำการสืบสวนเหตุการณ์ครั้งนี้แล้ว

    1/ ด่วน!!! พลโทยาโรสลาวา โมสคาลิก (Lieutenant General Yaroslav Moskalik) รองผู้บัญชาการกองบัญชาการหลักฝ่ายปฏิบัติการของกองทัพรัสเซีย ถูกลอบสังหารโดยการวางระเบิดแสวงเครื่องไว้ที่รถยนต์ส่วนตัว ในมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงเช้าวันศุกร์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ "สตีฟ วิทคอฟฟ์" ผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีทรัมป์ อยู่ที่มอสโกเพื่อเจรจาเรื่องข้อตกลงหยุดยิงระหว่างรัสเซียและยูเครน บางแหล่งข่าวระบุว่า โมสคาลิกจะเข้าร่วมการเจรจาข้อตกลงหยุดยิงกับยูเครน ซึ่งเขาเป็นตัวแทนจากกระทรวงกลาโหมรัสเซีย เจ้าหน้าที่ด้านการสืบสวนของรัสเซียระบุว่า ระเบิดแสวงเครื่องที่ซุกซ่อนไว้ในรถยนต์ แรงระเบิดเทียบได้กับระเบิดทีเอ็นทีขนาด 300 กรัม นอกจากนี้ยังมีการผสมเศษโลหะเข้าไปในระเบิดเพื่อเพิ่มพลังทำลายล้าง กระทรวงต่างประเทศของรัสเซียออกมาระบุชัดเจนว่า นายพลโมสคาลิกเสียชีวิตจาก 'การโจมตีของผู้ก่อการร้าย' ทางการรัสเซียได้เริ่มทำการสืบสวนเหตุการณ์ครั้งนี้แล้ว
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 340 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัสเซียเตือนเยอรมนีว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในสงคราม หากขีปนาวุธทอรัสโจมตีโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของรัสเซีย

    กระทรวงต่างประเทศรัสเซียเตือนว่าการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของรัสเซียด้วยขีปนาวุธทอรัส (Taurus) จะถือว่าเยอรมัน "มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในสงครามกับฝ่ายเคียฟ"

    เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ฟรีดริช เมิร์ซ ว่าที่นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ประกาศเต็มใจส่งขีปนาวุธร่อนพิสัยไกล Taurus ให้กับยูเครน และมีแนวโน้มว่าสะพานไครเมียจะเป็นเป้าหมายแรกๆของขีปนาวุธนี้
    รัสเซียเตือนเยอรมนีว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในสงคราม หากขีปนาวุธทอรัสโจมตีโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของรัสเซีย กระทรวงต่างประเทศรัสเซียเตือนว่าการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของรัสเซียด้วยขีปนาวุธทอรัส (Taurus) จะถือว่าเยอรมัน "มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในสงครามกับฝ่ายเคียฟ" เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ฟรีดริช เมิร์ซ ว่าที่นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ประกาศเต็มใจส่งขีปนาวุธร่อนพิสัยไกล Taurus ให้กับยูเครน และมีแนวโน้มว่าสะพานไครเมียจะเป็นเป้าหมายแรกๆของขีปนาวุธนี้
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 263 มุมมอง 0 รีวิว
  • "จีนส่งสัญญาณเปิดกว้างต่อการเจรจาการค้ากับสหรัฐ"

    และทันทีที่มีข่าวนี้ออกมาเมื่อหลายชั่วโมงก่อน หุ้นดีดตัวสูงขึ้นทันที
    ดูเหมือนว่าแหล่งข่าวเดียวที่นำเสนอรายงานนี้มาจากสำนักข่าว Bloomberg

    Bloomberg ยังกล่าวอีกว่า แม้ว่าจีนจะแสดงความพร้อมเข้าสู่การเจรจากับสหรัฐแต่ต้องอยู่บนเงื่อนไขบางประการ:

    ประการที่แรก ปักกิ่งต้องการให้สหรัฐแต่งตั้งบุคคลสำคัญในการเจรจาที่ได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดีและสามารถช่วยเตรียมข้อตกลงที่ทรัมป์และสีจิ้นผิง ผู้นำจีนสามารถลงนามได้เมื่อพวกเขาพบกัน

    ประการที่สอง จีนต้องการให้สหรัฐแสดงจุดยืนที่ชัดเจนและดำเนินการที่สอดคล้องกันให้มากขึ้นในการตอบสนองต่อประเด็นความกังวลของปักกิ่งเกี่ยวกับไต้หวัน

    ประการที่สาม ปักกิ่งต้องการให้รัฐบาลของทรัมป์แสดง "ความเคารพ" ต่อจีนให้มากขึ้น ด้วยการควบคุมคำพูดดูหมิ่นของสมาชิกคณะรัฐมนตรีบางคน

    สำหรับประเด็นที่สาม แม้ว่าจีนไม่ได้เอ่ยชื่อใคร แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าคือ รองประธานาธิบดีสหรัฐ "เจดี แวนซ์" เนื่องจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แวนซ์ เรียกชาวจีนซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกว่าเป็นเพียง "ชาวนาจีน" (“Chinese peasants) ที่ทำหน้าที่ผลิตสิ่งของป้อนให้สหรัฐ “เพื่อให้ชัดเจนยิ่งขึ้นอีกเล็กน้อย เราขอยืมเงินจากชาวนาจีนเพื่อซื้อสิ่งของที่ชาวนาจีนผลิตขึ้น นั่นไม่ใช่สูตรสำหรับความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ” ( "To make it a little more crystal clear, we borrow money from Chinese peasants to buy the things those Chinese peasants manufacture. That is not a recipe for economic prosperity.")

    คำพูดของแวนซ์ ที่เรียกชาวจีนว่า "ชาวนา" ถือเป็นคำดูหมื่นชาวจีนอย่างมาก เนื่องจากถูกมองว่าเป็นประเทศที่ล้าหลัง ด้อยพัฒนา ทำให้เกิดการต่อต้านจากชาวจีนเป็นจำนวนมาก และมีการโต้กลับคำพูดดูหมิ่นนี้จากชาวเน็ตจีน โดยชี้ให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ประเทศของพวกเขาได้พัฒนาในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา เช่น การสื่อสาร 5G และรถไฟความเร็วสูง

    นอกจากนี้รัฐบาลจีน โดยโฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน "หลิน เจี้ยน" เรียกคำพูดดังกล่าวของแวนซ์ว่า “ไร้ความรู้และไม่ให้เกียรติ” ซึ่งถือเป็นการตำหนิผู้นำระดับสูงของสหรัฐโดยตรง ที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยเท่าไหร่นัก


    เจ้าหน้าที่ปักกิ่งเชื่อว่า ไม่ว่าใครในคณะทำงานของทรัมป์ออกมากล่าวบางอย่างเกี่ยวกับจีน และหากทรัมป์ไม่ปฏิเสธความเห็นเหล่านั้น เจ้าหน้าที่จีนก็ถือว่าทรัมป์เห็นด้วยกับเจ้าหน้าที่เหล่านั้นเช่นกัน
    "จีนส่งสัญญาณเปิดกว้างต่อการเจรจาการค้ากับสหรัฐ" และทันทีที่มีข่าวนี้ออกมาเมื่อหลายชั่วโมงก่อน หุ้นดีดตัวสูงขึ้นทันที ดูเหมือนว่าแหล่งข่าวเดียวที่นำเสนอรายงานนี้มาจากสำนักข่าว Bloomberg Bloomberg ยังกล่าวอีกว่า แม้ว่าจีนจะแสดงความพร้อมเข้าสู่การเจรจากับสหรัฐแต่ต้องอยู่บนเงื่อนไขบางประการ: 👉ประการที่แรก ปักกิ่งต้องการให้สหรัฐแต่งตั้งบุคคลสำคัญในการเจรจาที่ได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดีและสามารถช่วยเตรียมข้อตกลงที่ทรัมป์และสีจิ้นผิง ผู้นำจีนสามารถลงนามได้เมื่อพวกเขาพบกัน 👉ประการที่สอง จีนต้องการให้สหรัฐแสดงจุดยืนที่ชัดเจนและดำเนินการที่สอดคล้องกันให้มากขึ้นในการตอบสนองต่อประเด็นความกังวลของปักกิ่งเกี่ยวกับไต้หวัน 👉ประการที่สาม ปักกิ่งต้องการให้รัฐบาลของทรัมป์แสดง "ความเคารพ" ต่อจีนให้มากขึ้น ด้วยการควบคุมคำพูดดูหมิ่นของสมาชิกคณะรัฐมนตรีบางคน สำหรับประเด็นที่สาม แม้ว่าจีนไม่ได้เอ่ยชื่อใคร แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าคือ รองประธานาธิบดีสหรัฐ "เจดี แวนซ์" เนื่องจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แวนซ์ เรียกชาวจีนซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกว่าเป็นเพียง "ชาวนาจีน" (“Chinese peasants) ที่ทำหน้าที่ผลิตสิ่งของป้อนให้สหรัฐ “เพื่อให้ชัดเจนยิ่งขึ้นอีกเล็กน้อย เราขอยืมเงินจากชาวนาจีนเพื่อซื้อสิ่งของที่ชาวนาจีนผลิตขึ้น นั่นไม่ใช่สูตรสำหรับความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ” ( "To make it a little more crystal clear, we borrow money from Chinese peasants to buy the things those Chinese peasants manufacture. That is not a recipe for economic prosperity.") คำพูดของแวนซ์ ที่เรียกชาวจีนว่า "ชาวนา" ถือเป็นคำดูหมื่นชาวจีนอย่างมาก เนื่องจากถูกมองว่าเป็นประเทศที่ล้าหลัง ด้อยพัฒนา ทำให้เกิดการต่อต้านจากชาวจีนเป็นจำนวนมาก และมีการโต้กลับคำพูดดูหมิ่นนี้จากชาวเน็ตจีน โดยชี้ให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ประเทศของพวกเขาได้พัฒนาในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา เช่น การสื่อสาร 5G และรถไฟความเร็วสูง นอกจากนี้รัฐบาลจีน โดยโฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน "หลิน เจี้ยน" เรียกคำพูดดังกล่าวของแวนซ์ว่า “ไร้ความรู้และไม่ให้เกียรติ” ซึ่งถือเป็นการตำหนิผู้นำระดับสูงของสหรัฐโดยตรง ที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยเท่าไหร่นัก เจ้าหน้าที่ปักกิ่งเชื่อว่า ไม่ว่าใครในคณะทำงานของทรัมป์ออกมากล่าวบางอย่างเกี่ยวกับจีน และหากทรัมป์ไม่ปฏิเสธความเห็นเหล่านั้น เจ้าหน้าที่จีนก็ถือว่าทรัมป์เห็นด้วยกับเจ้าหน้าที่เหล่านั้นเช่นกัน
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 606 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts