เรื่องเล่าจากข่าว: Node.js 2025 – จาก CommonJS สู่โลกใหม่ที่สะอาดกว่าและฉลาดกว่า
ในปี 2025 Node.js ได้เปลี่ยนโฉมไปอย่างมากจากยุคที่เต็มไปด้วย callback และ require แบบ CommonJS สู่ยุคใหม่ที่ใช้ ES Modules (ESM) เป็นมาตรฐาน พร้อมรองรับฟีเจอร์ระดับเว็บเบราว์เซอร์ เช่น fetch API และ top-level await โดยไม่ต้องพึ่งพาไลบรารีภายนอกอีกต่อไป
การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่แค่เรื่อง syntax แต่เป็นการปรับแนวคิดการพัฒนาให้สอดคล้องกับมาตรฐานเว็บสมัยใหม่ ทำให้โค้ดสะอาดขึ้น เข้าใจง่ายขึ้น และลดความซับซ้อนในการจัดการ dependency
นอกจากนี้ Node.js ยังนำเสนอแนวทางใหม่ในการจัดการกับ asynchronous data ผ่าน async iteration และการใช้ Proxy-based observables เพื่อสร้างระบบ reactive โดยไม่ต้องพึ่ง state management ที่ยุ่งยาก
ES Modules (ESM) กลายเป็นมาตรฐานใหม่แทน CommonJS
ใช้ import/export แทน require/module.exports
รองรับ static analysis และ tree-shaking ได้ดีขึ้น
ใช้ node: prefix เพื่อแยก built-in modules ออกจาก npm packages
เช่น import { readFile } from 'node:fs/promises'
ลดความสับสนและเพิ่มความชัดเจนในการจัดการ dependency
รองรับ top-level await โดยไม่ต้องใช้ async wrapper function
ทำให้โค้ด initialization ง่ายขึ้นและอ่านง่ายขึ้น
เหมาะกับการโหลด config หรือข้อมูลก่อนเริ่มเซิร์ฟเวอร์
Fetch API ถูกนำมาใช้ใน Node.js โดยไม่ต้องติดตั้ง axios หรือ node-fetch
รองรับการเรียก HTTP แบบ native
มีฟีเจอร์ timeout และ cancellation ในตัว
แนวคิด async iteration และ for-await-of กลายเป็นมาตรฐานในการจัดการ stream
เหมาะกับ real-time data และ paginated APIs
ลดการพึ่งพาไลบรารีภายนอก
Proxy-based observables เริ่มได้รับความนิยมในการสร้างระบบ reactive
ใช้ JavaScript Proxy เพื่อสังเกตการเปลี่ยนแปลงของ state
ลด boilerplate และไม่ต้องใช้ state management library หนัก ๆ
Deno กำลังกลายเป็น runtime เสริมที่น่าสนใจควบคู่กับ Node.js
ใช้ ESM เป็นหลักตั้งแต่ต้น
มีระบบ permission และ security ที่เข้มงวดกว่า
Serverless architecture ยังคงนิยมใช้ Node.js เป็นหลักในปี 2025
รองรับ AWS Lambda, Vercel, Cloudflare Workers
เหมาะกับแอปพลิเคชันที่ต้องการความเร็วและความยืดหยุ่น
JavaScript กำลังพัฒนา pattern matching แบบ native
คล้ายกับ switch statement ที่อ่านง่ายและทรงพลัง
อยู่ในขั้น proposal แต่เป็นเทรนด์ที่ควรจับตามอง
https://kashw1n.com/blog/nodejs-2025/
ในปี 2025 Node.js ได้เปลี่ยนโฉมไปอย่างมากจากยุคที่เต็มไปด้วย callback และ require แบบ CommonJS สู่ยุคใหม่ที่ใช้ ES Modules (ESM) เป็นมาตรฐาน พร้อมรองรับฟีเจอร์ระดับเว็บเบราว์เซอร์ เช่น fetch API และ top-level await โดยไม่ต้องพึ่งพาไลบรารีภายนอกอีกต่อไป
การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่แค่เรื่อง syntax แต่เป็นการปรับแนวคิดการพัฒนาให้สอดคล้องกับมาตรฐานเว็บสมัยใหม่ ทำให้โค้ดสะอาดขึ้น เข้าใจง่ายขึ้น และลดความซับซ้อนในการจัดการ dependency
นอกจากนี้ Node.js ยังนำเสนอแนวทางใหม่ในการจัดการกับ asynchronous data ผ่าน async iteration และการใช้ Proxy-based observables เพื่อสร้างระบบ reactive โดยไม่ต้องพึ่ง state management ที่ยุ่งยาก
ES Modules (ESM) กลายเป็นมาตรฐานใหม่แทน CommonJS
ใช้ import/export แทน require/module.exports
รองรับ static analysis และ tree-shaking ได้ดีขึ้น
ใช้ node: prefix เพื่อแยก built-in modules ออกจาก npm packages
เช่น import { readFile } from 'node:fs/promises'
ลดความสับสนและเพิ่มความชัดเจนในการจัดการ dependency
รองรับ top-level await โดยไม่ต้องใช้ async wrapper function
ทำให้โค้ด initialization ง่ายขึ้นและอ่านง่ายขึ้น
เหมาะกับการโหลด config หรือข้อมูลก่อนเริ่มเซิร์ฟเวอร์
Fetch API ถูกนำมาใช้ใน Node.js โดยไม่ต้องติดตั้ง axios หรือ node-fetch
รองรับการเรียก HTTP แบบ native
มีฟีเจอร์ timeout และ cancellation ในตัว
แนวคิด async iteration และ for-await-of กลายเป็นมาตรฐานในการจัดการ stream
เหมาะกับ real-time data และ paginated APIs
ลดการพึ่งพาไลบรารีภายนอก
Proxy-based observables เริ่มได้รับความนิยมในการสร้างระบบ reactive
ใช้ JavaScript Proxy เพื่อสังเกตการเปลี่ยนแปลงของ state
ลด boilerplate และไม่ต้องใช้ state management library หนัก ๆ
Deno กำลังกลายเป็น runtime เสริมที่น่าสนใจควบคู่กับ Node.js
ใช้ ESM เป็นหลักตั้งแต่ต้น
มีระบบ permission และ security ที่เข้มงวดกว่า
Serverless architecture ยังคงนิยมใช้ Node.js เป็นหลักในปี 2025
รองรับ AWS Lambda, Vercel, Cloudflare Workers
เหมาะกับแอปพลิเคชันที่ต้องการความเร็วและความยืดหยุ่น
JavaScript กำลังพัฒนา pattern matching แบบ native
คล้ายกับ switch statement ที่อ่านง่ายและทรงพลัง
อยู่ในขั้น proposal แต่เป็นเทรนด์ที่ควรจับตามอง
https://kashw1n.com/blog/nodejs-2025/
🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: Node.js 2025 – จาก CommonJS สู่โลกใหม่ที่สะอาดกว่าและฉลาดกว่า
ในปี 2025 Node.js ได้เปลี่ยนโฉมไปอย่างมากจากยุคที่เต็มไปด้วย callback และ require แบบ CommonJS สู่ยุคใหม่ที่ใช้ ES Modules (ESM) เป็นมาตรฐาน พร้อมรองรับฟีเจอร์ระดับเว็บเบราว์เซอร์ เช่น fetch API และ top-level await โดยไม่ต้องพึ่งพาไลบรารีภายนอกอีกต่อไป
การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่แค่เรื่อง syntax แต่เป็นการปรับแนวคิดการพัฒนาให้สอดคล้องกับมาตรฐานเว็บสมัยใหม่ ทำให้โค้ดสะอาดขึ้น เข้าใจง่ายขึ้น และลดความซับซ้อนในการจัดการ dependency
นอกจากนี้ Node.js ยังนำเสนอแนวทางใหม่ในการจัดการกับ asynchronous data ผ่าน async iteration และการใช้ Proxy-based observables เพื่อสร้างระบบ reactive โดยไม่ต้องพึ่ง state management ที่ยุ่งยาก
✅ ES Modules (ESM) กลายเป็นมาตรฐานใหม่แทน CommonJS
➡️ ใช้ import/export แทน require/module.exports
➡️ รองรับ static analysis และ tree-shaking ได้ดีขึ้น
✅ ใช้ node: prefix เพื่อแยก built-in modules ออกจาก npm packages
➡️ เช่น import { readFile } from 'node:fs/promises'
➡️ ลดความสับสนและเพิ่มความชัดเจนในการจัดการ dependency
✅ รองรับ top-level await โดยไม่ต้องใช้ async wrapper function
➡️ ทำให้โค้ด initialization ง่ายขึ้นและอ่านง่ายขึ้น
➡️ เหมาะกับการโหลด config หรือข้อมูลก่อนเริ่มเซิร์ฟเวอร์
✅ Fetch API ถูกนำมาใช้ใน Node.js โดยไม่ต้องติดตั้ง axios หรือ node-fetch
➡️ รองรับการเรียก HTTP แบบ native
➡️ มีฟีเจอร์ timeout และ cancellation ในตัว
✅ แนวคิด async iteration และ for-await-of กลายเป็นมาตรฐานในการจัดการ stream
➡️ เหมาะกับ real-time data และ paginated APIs
➡️ ลดการพึ่งพาไลบรารีภายนอก
✅ Proxy-based observables เริ่มได้รับความนิยมในการสร้างระบบ reactive
➡️ ใช้ JavaScript Proxy เพื่อสังเกตการเปลี่ยนแปลงของ state
➡️ ลด boilerplate และไม่ต้องใช้ state management library หนัก ๆ
✅ Deno กำลังกลายเป็น runtime เสริมที่น่าสนใจควบคู่กับ Node.js
➡️ ใช้ ESM เป็นหลักตั้งแต่ต้น
➡️ มีระบบ permission และ security ที่เข้มงวดกว่า
✅ Serverless architecture ยังคงนิยมใช้ Node.js เป็นหลักในปี 2025
➡️ รองรับ AWS Lambda, Vercel, Cloudflare Workers
➡️ เหมาะกับแอปพลิเคชันที่ต้องการความเร็วและความยืดหยุ่น
✅ JavaScript กำลังพัฒนา pattern matching แบบ native
➡️ คล้ายกับ switch statement ที่อ่านง่ายและทรงพลัง
➡️ อยู่ในขั้น proposal แต่เป็นเทรนด์ที่ควรจับตามอง
https://kashw1n.com/blog/nodejs-2025/
0 Comments
0 Shares
14 Views
0 Reviews