• สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย ร่วมกับ จังหวัดนครราชสีมา และสโมสรกีฬาวอลเลย์บอลจังหวัดนครราชสีมา
    ขอเชิญชวนแฟนวอลเลย์บอลรับชมการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง BYD ซี วี ลีก ครั้งที่ 5 ปี 2025 (2025 BYD SEA V League 5th) สัปดาห์ที่ 1
    ณ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช จังหวัดนครราชสีมา
    ระหว่างวันที่ 1-3 สิงหาคม 2568
    พบกับ วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ครั้งแรกภายใต้การนำของ "โค้ชอ๊อต" เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร หัวหน้าผู้ฝึกสอนที่กลับคุมทีมอีกครั้ง และจะเป็นการคุมทัพลงแข่งขันในเมืองไทย และที่ จังหวัดนครราชสีมา เป็นครั้งแรก ในปี 2568 และ เฝิง คุน อดีตมือเซตทีมชาติจีน พร้อมด้วยนักตบทีมชาติไทย นำโดย อัจฉราพร คงยศ กัปตันทีม, ชัชชุอร โมกศรี, ทัดดาว นึกแจ้ง, พรพรรณ เกิดปราชญ์, พิมพิชยา ก๊กรัมย์, ศศิภาพร จันทวิสูตร, ดลพร สินโพธิ์, วริศรา สีทาเลิศ
    ทัพสาวไทย จะดวลกับ 3 ชาติยักษ์ใหญ่ในอาเซียน ประกอบไปด้วย ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย และคู่ปรับสำคัญอย่าง เวียดนาม อีกทั้งยังเป็นการกลับมาแข่งขัน ณ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช อีกครั้ง หลังจากสนามแห่งนี้เคยใช้จัดแข่งขันรายการนี้ครั้งแรก เมื่อปี 2019
    สำหรับการจำหน่ายบัตรเข้าชมการแข่งขัน จะมีการแจ้งให้ทราบอีกครั้งในภายหลัง อีกทั้งแฟนวอลเลย์บอล ยังสามารถรับชมการถ่ายทอดสด ได้ผ่านทางช่อง one หมายเลข 31
    โปรแกรมการแข่งขัน
    วันที่ 1 สิงหาคม 2568
    13.30 น. อินโดนีเซีย พบ เวียดนาม
    17.00 น. ฟิลิปปินส์ พบ ไทย
    วันที่ 2 สิงหาคม 2568
    13.30 น. เวียดนาม พบ ฟิลิปปินส์
    17.00 น. ไทย พบ อินโดนีเซีย
    วันที่ 3 สิงหาคม 2568
    13.30 น. ฟิลิปปินส์ พบ อินโดนีเซีย
    17.00 น. ไทย พบ เวียดนาม

    #NakhonratchasimaQminCVC
    #Catdevil
    #SEAVLeague2025
    #5thBYDSEAVLeague2025
    📣สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย ร่วมกับ จังหวัดนครราชสีมา และสโมสรกีฬาวอลเลย์บอลจังหวัดนครราชสีมา 🏐 ✨ขอเชิญชวนแฟนวอลเลย์บอลรับชมการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง BYD ซี วี ลีก ครั้งที่ 5 ปี 2025 (2025 BYD SEA V League 5th) สัปดาห์ที่ 1 🏐 📍ณ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช จังหวัดนครราชสีมา 🗓️ระหว่างวันที่ 1-3 สิงหาคม 2568 พบกับ วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ครั้งแรกภายใต้การนำของ "โค้ชอ๊อต" เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร หัวหน้าผู้ฝึกสอนที่กลับคุมทีมอีกครั้ง และจะเป็นการคุมทัพลงแข่งขันในเมืองไทย และที่ จังหวัดนครราชสีมา เป็นครั้งแรก ในปี 2568 และ เฝิง คุน อดีตมือเซตทีมชาติจีน พร้อมด้วยนักตบทีมชาติไทย นำโดย อัจฉราพร คงยศ กัปตันทีม, ชัชชุอร โมกศรี, ทัดดาว นึกแจ้ง, พรพรรณ เกิดปราชญ์, พิมพิชยา ก๊กรัมย์, ศศิภาพร จันทวิสูตร, ดลพร สินโพธิ์, วริศรา สีทาเลิศ ทัพสาวไทย จะดวลกับ 3 ชาติยักษ์ใหญ่ในอาเซียน ประกอบไปด้วย ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย และคู่ปรับสำคัญอย่าง เวียดนาม อีกทั้งยังเป็นการกลับมาแข่งขัน ณ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช อีกครั้ง หลังจากสนามแห่งนี้เคยใช้จัดแข่งขันรายการนี้ครั้งแรก เมื่อปี 2019 สำหรับการจำหน่ายบัตรเข้าชมการแข่งขัน จะมีการแจ้งให้ทราบอีกครั้งในภายหลัง อีกทั้งแฟนวอลเลย์บอล ยังสามารถรับชมการถ่ายทอดสด ได้ผ่านทางช่อง one หมายเลข 31 โปรแกรมการแข่งขัน 🗓️วันที่ 1 สิงหาคม 2568 13.30 น. อินโดนีเซีย พบ เวียดนาม 17.00 น. ฟิลิปปินส์ พบ ไทย 🗓️วันที่ 2 สิงหาคม 2568 13.30 น. เวียดนาม พบ ฟิลิปปินส์ 17.00 น. ไทย พบ อินโดนีเซีย 🗓️วันที่ 3 สิงหาคม 2568 13.30 น. ฟิลิปปินส์ พบ อินโดนีเซีย 17.00 น. ไทย พบ เวียดนาม #NakhonratchasimaQminCVC #Catdevil #SEAVLeague2025 #5thBYDSEAVLeague2025
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • สรุปเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากยูเครนเปิดฉากโจมตีครั้งใหญ่ต่อเป้าหมายด้วยขีปนาวุธหลายสิบลูกในเขตโดเนตสค์ (Donetsk) เขตรอสตอฟ (Rostov) และเขตครัสโนดาร์ (Krasnodar)

    โดยใช้เครื่องบิน Mirage-2000 จำนวน 2 ลำ เครื่องบิน F-16 จำนวน 4 ลำ เครื่องบิน Su-24 จำนวน 2 ลำ เครื่องบิน Su-27 จำนวน 1 ลำ และเครื่องบิน MiG-29 จำนวน 1 ลำ เข้าร่วมการโจมตีดังกล่าว

    ขีปนาวุธร่อน Storm Shadow อย่างน้อย 4 ลูก โจมตีสำนักงานใหญ่ของรัสเซียในเมืองโดเนตสค์ มีการบันทึกการตกกระทบอย่างน้อย 2 ครั้งที่นั่น สอดคล้องกับรายงานของรัสเซีย ที่สามารถสกัดกั้นได้ และมี 2 ลูกตกใส่ตลาดโดเน็ตสก์

    ขีปนาวุธ Storm Shadow อีกจำนวน 4 ลูก บินผ่านเขตทางตอนเหนือของไครเมียไปทางเขตครัสโนดาร์ ก่อนจะหายไป ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะถูกยิงสกัดกั้นจากทางรัสเซีย เนื่องจากไม่มีรายงานการตกกระทบเป้าหมายพื้นดิน

    ขีปนาวุธอีก 3 ลูก ยังบินผ่านเขตลูฮันสค์ (Luhansk) ไปทางฐานทัพอากาศมิลเลอโรโว แต่ถูกยิงสกัดกั้นจากฝ่ายรัสเซียอีกเช่นกัน แหล่งข่าวหลายแห่งรายงานว่านี่คือขีปนาวุธร่อน Taurus ซึ่งหากเป็นความจริง ก็ยืนยันได้ว่าเยอรมนีส่งขีปนาวุธเหล่านี้ไปที่ยูเครนเมื่อนานมาแล้ว

    นอกจากนี้ ยังพบว่ามีขีปนาวุธ HIMARS GMLRS โจมตีเมือง Yasynuvata ในเขต Donetsk
    สรุปเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากยูเครนเปิดฉากโจมตีครั้งใหญ่ต่อเป้าหมายด้วยขีปนาวุธหลายสิบลูกในเขตโดเนตสค์ (Donetsk) เขตรอสตอฟ (Rostov) และเขตครัสโนดาร์ (Krasnodar) โดยใช้เครื่องบิน Mirage-2000 จำนวน 2 ลำ เครื่องบิน F-16 จำนวน 4 ลำ เครื่องบิน Su-24 จำนวน 2 ลำ เครื่องบิน Su-27 จำนวน 1 ลำ และเครื่องบิน MiG-29 จำนวน 1 ลำ เข้าร่วมการโจมตีดังกล่าว 👉ขีปนาวุธร่อน Storm Shadow อย่างน้อย 4 ลูก โจมตีสำนักงานใหญ่ของรัสเซียในเมืองโดเนตสค์ มีการบันทึกการตกกระทบอย่างน้อย 2 ครั้งที่นั่น สอดคล้องกับรายงานของรัสเซีย ที่สามารถสกัดกั้นได้ และมี 2 ลูกตกใส่ตลาดโดเน็ตสก์ 👉ขีปนาวุธ Storm Shadow อีกจำนวน 4 ลูก บินผ่านเขตทางตอนเหนือของไครเมียไปทางเขตครัสโนดาร์ ก่อนจะหายไป ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะถูกยิงสกัดกั้นจากทางรัสเซีย เนื่องจากไม่มีรายงานการตกกระทบเป้าหมายพื้นดิน 👉ขีปนาวุธอีก 3 ลูก ยังบินผ่านเขตลูฮันสค์ (Luhansk) ไปทางฐานทัพอากาศมิลเลอโรโว แต่ถูกยิงสกัดกั้นจากฝ่ายรัสเซียอีกเช่นกัน แหล่งข่าวหลายแห่งรายงานว่านี่คือขีปนาวุธร่อน Taurus ซึ่งหากเป็นความจริง ก็ยืนยันได้ว่าเยอรมนีส่งขีปนาวุธเหล่านี้ไปที่ยูเครนเมื่อนานมาแล้ว 👉นอกจากนี้ ยังพบว่ามีขีปนาวุธ HIMARS GMLRS โจมตีเมือง Yasynuvata ในเขต Donetsk
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 0 รีวิว
  • Meta เคยเป็นบริษัทที่ขับเคลื่อนอินเทอร์เน็ตสมัยใหม่ — มี Facebook ครองโลก, ซื้อ Instagram มาต่อยอด, ทุ่มเงินซื้อ WhatsApp พร้อมสัญญาว่าจะไม่มีโฆษณา…แต่สุดท้ายทุกอย่างกำลังย้อนกลับ

    WhatsApp ตอนนี้มีโฆษณา Metaverse ทุ่มเงินหลายพันล้านเหรียญ → ยังไม่เห็นผล Libra (คริปโตของ Meta) → ตาย แม้แต่ AI — LLaMA ยังตามหลัง ChatGPT, Claude และ Gemini อยู่หลายร้อยแต้ม

    นักเขียนบทความนี้ (Howard Yu) วิเคราะห์ว่า Mark Zuckerberg เรียนรู้เชิงธุรกิจเก่งมาก แต่ “ไม่เคยเรียนรู้จากผลกระทบที่ Meta ก่อในสังคม” เช่น การถูกใช้เป็นเครื่องมือปลุกปั่น, ปัญหาสุขภาพจิตวัยรุ่น, และกรณีรุนแรงอย่างความขัดแย้งในเมียนมา

    บทวิเคราะห์เปรียบเทียบ Mark กับ Steve Jobs ไว้อย่างน่าสนใจ:
    - Jobs เคยผิดพลาด, เคยล้ม, เคยถูกไล่ออกจาก Apple
    - แต่เขากลับมาใหม่ด้วยการ “เติบโตทางจิตใจ” ไม่ใช่แค่ทางเทคโนโลยี
    - เขายอมฟังคนอื่น, สร้างทีมที่เก่งกว่า, ไม่พยายามควบคุมทุกอย่าง → และสร้าง Apple ยุคใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเขาเอง

    ส่วน Zuckerberg ใช้อำนาจหุ้นพิเศษ (super-voting shares) ทำให้ไม่มีใครปลดเขาได้ → ไม่มีแรงกดดันให้เติบโต เปลี่ยนแปลง หรือยอมรับความผิดพลาด → ผลลัพธ์คือ Meta วนลูปเดิม ๆ — ปรับ feed เพิ่ม engagement → ขายโฆษณา → repeat

    Meta เคยล้มเหลวหลายโปรเจกต์ใหญ่:  
    • Facebook phone → ล้มเหลว  
    • Free Basics → ถูกแบนในอินเดีย  
    • Libra → ถูกต่อต้านโดยรัฐบาล  
    • Metaverse → ทุ่มเงินมหาศาล แต่ยังไม่คืนทุน

    AI ของ Meta (LLaMA 4) ยังตามหลัง OpenAI (ChatGPT), Anthropic (Claude), Google (Gemini)  
    • คะแนน Elo ห่างคู่แข่งหลายสิบถึงหลายร้อยแต้ม  
    • แม้ใช้ open-source เป็นยุทธศาสตร์หลัก แต่ยังไม่ดึงใจนักพัฒนาเท่าที่ควร

    ผู้เขียนชี้ว่า Zuckerberg ไม่เคยเรียนรู้จาก ‘ผลเสียต่อสังคม’ ที่ Meta สร้างไว้:  
    • กรณี Facebook ในเมียนมา → ปล่อยให้ Hate speech ลุกลาม  
    • Facebook ถูกใช้ในการปลุกระดม, ปั่นเลือกตั้ง (Cambridge Analytica)  
    • ระบบโฆษณาใช้ microtargeting เพื่อกด turnout กลุ่มเป้าหมายบางกลุ่ม

    โครงสร้างอำนาจของ Meta = Zuckerberg คุมทุกอย่าง:  
    • เขาถือหุ้น 13% แต่มีสิทธิ์โหวตกว่า 50%  
    • ไม่มีใครปลดเขาได้ จึงไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบต่อใคร

    เปรียบเทียบกับ Steve Jobs:  
    • Jobs ล้มเหลว, ถูกไล่ออกจาก Apple  
    • แต่กลับมาใหม่แบบถ่อมตนและเรียนรู้  
    • สร้างวัฒนธรรมที่ Apple แข็งแรงพอจะอยู่ได้แม้เขาจากไป

    Meta แม้จะยังทำเงินได้มากจากโฆษณา แต่กำลัง “ไร้วิสัยทัศน์ที่สดใหม่” สำหรับโลกยุคหลังโฆษณา

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/01/why-mark-zuckerberg-and-meta-cant-build-the-future
    Meta เคยเป็นบริษัทที่ขับเคลื่อนอินเทอร์เน็ตสมัยใหม่ — มี Facebook ครองโลก, ซื้อ Instagram มาต่อยอด, ทุ่มเงินซื้อ WhatsApp พร้อมสัญญาว่าจะไม่มีโฆษณา…แต่สุดท้ายทุกอย่างกำลังย้อนกลับ WhatsApp ตอนนี้มีโฆษณา Metaverse ทุ่มเงินหลายพันล้านเหรียญ → ยังไม่เห็นผล Libra (คริปโตของ Meta) → ตาย แม้แต่ AI — LLaMA ยังตามหลัง ChatGPT, Claude และ Gemini อยู่หลายร้อยแต้ม นักเขียนบทความนี้ (Howard Yu) วิเคราะห์ว่า Mark Zuckerberg เรียนรู้เชิงธุรกิจเก่งมาก แต่ “ไม่เคยเรียนรู้จากผลกระทบที่ Meta ก่อในสังคม” เช่น การถูกใช้เป็นเครื่องมือปลุกปั่น, ปัญหาสุขภาพจิตวัยรุ่น, และกรณีรุนแรงอย่างความขัดแย้งในเมียนมา บทวิเคราะห์เปรียบเทียบ Mark กับ Steve Jobs ไว้อย่างน่าสนใจ: - Jobs เคยผิดพลาด, เคยล้ม, เคยถูกไล่ออกจาก Apple - แต่เขากลับมาใหม่ด้วยการ “เติบโตทางจิตใจ” ไม่ใช่แค่ทางเทคโนโลยี - เขายอมฟังคนอื่น, สร้างทีมที่เก่งกว่า, ไม่พยายามควบคุมทุกอย่าง → และสร้าง Apple ยุคใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเขาเอง ส่วน Zuckerberg ใช้อำนาจหุ้นพิเศษ (super-voting shares) ทำให้ไม่มีใครปลดเขาได้ → ไม่มีแรงกดดันให้เติบโต เปลี่ยนแปลง หรือยอมรับความผิดพลาด → ผลลัพธ์คือ Meta วนลูปเดิม ๆ — ปรับ feed เพิ่ม engagement → ขายโฆษณา → repeat ✅ Meta เคยล้มเหลวหลายโปรเจกต์ใหญ่:   • Facebook phone → ล้มเหลว   • Free Basics → ถูกแบนในอินเดีย   • Libra → ถูกต่อต้านโดยรัฐบาล   • Metaverse → ทุ่มเงินมหาศาล แต่ยังไม่คืนทุน ✅ AI ของ Meta (LLaMA 4) ยังตามหลัง OpenAI (ChatGPT), Anthropic (Claude), Google (Gemini)   • คะแนน Elo ห่างคู่แข่งหลายสิบถึงหลายร้อยแต้ม   • แม้ใช้ open-source เป็นยุทธศาสตร์หลัก แต่ยังไม่ดึงใจนักพัฒนาเท่าที่ควร ✅ ผู้เขียนชี้ว่า Zuckerberg ไม่เคยเรียนรู้จาก ‘ผลเสียต่อสังคม’ ที่ Meta สร้างไว้:   • กรณี Facebook ในเมียนมา → ปล่อยให้ Hate speech ลุกลาม   • Facebook ถูกใช้ในการปลุกระดม, ปั่นเลือกตั้ง (Cambridge Analytica)   • ระบบโฆษณาใช้ microtargeting เพื่อกด turnout กลุ่มเป้าหมายบางกลุ่ม ✅ โครงสร้างอำนาจของ Meta = Zuckerberg คุมทุกอย่าง:   • เขาถือหุ้น 13% แต่มีสิทธิ์โหวตกว่า 50%   • ไม่มีใครปลดเขาได้ จึงไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบต่อใคร ✅ เปรียบเทียบกับ Steve Jobs:   • Jobs ล้มเหลว, ถูกไล่ออกจาก Apple   • แต่กลับมาใหม่แบบถ่อมตนและเรียนรู้   • สร้างวัฒนธรรมที่ Apple แข็งแรงพอจะอยู่ได้แม้เขาจากไป ✅ Meta แม้จะยังทำเงินได้มากจากโฆษณา แต่กำลัง “ไร้วิสัยทัศน์ที่สดใหม่” สำหรับโลกยุคหลังโฆษณา https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/01/why-mark-zuckerberg-and-meta-cant-build-the-future
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Why Mark Zuckerberg and Meta can't build the future
    Here's how absolute power trapped Facebook's parent company — and how Steve Jobs broke free.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อคืนที่ผ่านมายูเครนโจมตีไปที่ตลาดกลางเมืองโดเนตสค์ (Donetsk) ด้วยขีปนาวุธสตอร์มแชโดว์ (Storm shadow) มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 2 ราย

    ขีปนาวุธ 4 ลูกถูกยิงตกโดยระบบป้องกันภัยทางอากาศ น่าเสียดายที่อีก 2 ลูก ตกใส่ตลาดโดยตรงจนเกิดไฟไหม้รุนแรง
    เมื่อคืนที่ผ่านมายูเครนโจมตีไปที่ตลาดกลางเมืองโดเนตสค์ (Donetsk) ด้วยขีปนาวุธสตอร์มแชโดว์ (Storm shadow) มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 2 ราย ขีปนาวุธ 4 ลูกถูกยิงตกโดยระบบป้องกันภัยทางอากาศ น่าเสียดายที่อีก 2 ลูก ตกใส่ตลาดโดยตรงจนเกิดไฟไหม้รุนแรง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 20 0 รีวิว
  • ใครเคยเหนื่อยกับการตามแผนโปรเจกต์ในทีม หรืออัปเดตสถานะหลายงานใน Planner วันละหลายรอบ...ข่าวนี้คือข่าวดีเลยครับ

    Microsoft เพิ่งเพิ่มฟีเจอร์เด็ด 4 รายการให้ Planner ซึ่งมี 3 อย่างเป็นของ Project Manager Agent — ผู้ช่วยจัดการแผนงานที่ใช้ AI ช่วยคุณตั้งเป้าหมาย, แตกงานย่อย, และส่งการแจ้งเตือนความคืบหน้าแบบ real-time

    จากเดิม Project Manager Agent แจ้งเตือนแค่ใน Teams — ตอนนี้ขยายมาสู่ อีเมลแล้วด้วย เพิ่มฟีเจอร์ สรุปรายงานสถานะงานอัตโนมัติ (status report) — บอก progress, risk, next step ให้พร้อม รองรับ มากกว่า 40 ภาษา เทียบเท่า Copilot 365 แล้ว (ยกเว้นอาหรับ/ฮิบรูซึ่งกำลังจะตามมา)

    และที่หลายคนรอคอยคือ… Planner แบบพื้นฐานตอนนี้สามารถ แก้ไขหลาย Task พร้อมกันได้แล้ว! แค่ไปที่ Grid view แล้วลากเลือกงานที่ต้องการ กด Ctrl + ลูกศรขึ้น/ลง เพื่อปรับข้อมูลได้ในครั้งเดียว — จะเปลี่ยนชื่อ, วันเริ่มต้น, วันสิ้นสุด, ความสำคัญ, ผู้รับผิดชอบ ก็ทำพร้อมกันได้เลย!

    Project Manager Agent แจ้งเตือนผ่านอีเมล  
    • จากเดิมแจ้งใน Teams อย่างเดียว → ขยายสู่ email  
    • สะดวกสำหรับคนที่ไม่ได้อยู่ใน Teams ตลอดเวลา

    สามารถสรุปรายงานสถานะแผนอัตโนมัติ (Status Report)  
    • รายงาน progress, milestones, risk, next step  
    • ตอนนี้เปิดใช้งานใน Public Preview สำหรับผู้ใช้ภาษาอังกฤษก่อน

    รองรับการใช้งานมากกว่า 40 ภาษา  
    • เหมือนกับ Copilot 365  
    • ยกเว้นภาษาอาหรับและฮิบรูที่จะตามมาในสัปดาห์นี้

    สามารถแก้ไขหลาย Task พร้อมกัน (Bulk Editing)  
    • ทำใน Grid View ได้  
    • เลือกหลายแถวแล้วใช้ Ctrl + Up/Down แก้ไขแบบกลุ่ม  
    • ปรับ status, priority, due/start date, assignee ได้รวดเร็ว

    Microsoft เตรียมย้ายผู้ใช้งานทั้งหมดจาก Project for the web ไปยัง Planner เริ่ม 1 ส.ค. นี้

    https://www.neowin.net/news/microsoft-planner-gets-bulk-editing-feature-and-three-improvements-for-project-manager-agent/
    ใครเคยเหนื่อยกับการตามแผนโปรเจกต์ในทีม หรืออัปเดตสถานะหลายงานใน Planner วันละหลายรอบ...ข่าวนี้คือข่าวดีเลยครับ Microsoft เพิ่งเพิ่มฟีเจอร์เด็ด 4 รายการให้ Planner ซึ่งมี 3 อย่างเป็นของ Project Manager Agent — ผู้ช่วยจัดการแผนงานที่ใช้ AI ช่วยคุณตั้งเป้าหมาย, แตกงานย่อย, และส่งการแจ้งเตือนความคืบหน้าแบบ real-time 📨 จากเดิม Project Manager Agent แจ้งเตือนแค่ใน Teams — ตอนนี้ขยายมาสู่ อีเมลแล้วด้วย 📊 เพิ่มฟีเจอร์ สรุปรายงานสถานะงานอัตโนมัติ (status report) — บอก progress, risk, next step ให้พร้อม 🌍 รองรับ มากกว่า 40 ภาษา เทียบเท่า Copilot 365 แล้ว (ยกเว้นอาหรับ/ฮิบรูซึ่งกำลังจะตามมา) และที่หลายคนรอคอยคือ… Planner แบบพื้นฐานตอนนี้สามารถ แก้ไขหลาย Task พร้อมกันได้แล้ว! แค่ไปที่ Grid view แล้วลากเลือกงานที่ต้องการ กด Ctrl + ลูกศรขึ้น/ลง เพื่อปรับข้อมูลได้ในครั้งเดียว — จะเปลี่ยนชื่อ, วันเริ่มต้น, วันสิ้นสุด, ความสำคัญ, ผู้รับผิดชอบ ก็ทำพร้อมกันได้เลย! ✅ Project Manager Agent แจ้งเตือนผ่านอีเมล   • จากเดิมแจ้งใน Teams อย่างเดียว → ขยายสู่ email   • สะดวกสำหรับคนที่ไม่ได้อยู่ใน Teams ตลอดเวลา ✅ สามารถสรุปรายงานสถานะแผนอัตโนมัติ (Status Report)   • รายงาน progress, milestones, risk, next step   • ตอนนี้เปิดใช้งานใน Public Preview สำหรับผู้ใช้ภาษาอังกฤษก่อน ✅ รองรับการใช้งานมากกว่า 40 ภาษา   • เหมือนกับ Copilot 365   • ยกเว้นภาษาอาหรับและฮิบรูที่จะตามมาในสัปดาห์นี้ ✅ สามารถแก้ไขหลาย Task พร้อมกัน (Bulk Editing)   • ทำใน Grid View ได้   • เลือกหลายแถวแล้วใช้ Ctrl + Up/Down แก้ไขแบบกลุ่ม   • ปรับ status, priority, due/start date, assignee ได้รวดเร็ว ✅ Microsoft เตรียมย้ายผู้ใช้งานทั้งหมดจาก Project for the web ไปยัง Planner เริ่ม 1 ส.ค. นี้ https://www.neowin.net/news/microsoft-planner-gets-bulk-editing-feature-and-three-improvements-for-project-manager-agent/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft Planner gets bulk editing feature and three improvements for Project Manager agent
    Microsoft has announced four new updates for Microsoft Planner. One of the changes is a bulk editing feature while the rest improve the Project Manager agent.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลายคนอาจไม่รู้ว่า Microsoft Edge มีเวอร์ชัน “for Business” ด้วย — มันไม่ใช่แค่ Edge ธรรมดา แต่เป็น เบราว์เซอร์ที่มีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย, การจัดการ, และ AI เสริมมาสำหรับองค์กร โดยเฉพาะ

    ล่าสุด Microsoft ออกบล็อกโพสต์ชื่อว่า “Better browser security starts with Edge for Business – and you” พร้อมเปิดเผยว่า:

    “เราขอให้พาร์ตเนอร์ด้านไอทีและความปลอดภัยทั่วโลก ช่วยโปรโมต Edge for Business โดยใส่เป็นส่วนหนึ่งของแพ็กเกจโซลูชันองค์กรที่ขายให้ลูกค้า”

    พูดง่าย ๆ คือ เขาอยากให้ทุกบริษัทที่ขายบริการความปลอดภัย, MSP, MSSP หรือ ISV ใส่ Edge for Business ไปในแพ็กเกจด้วย เหมือนกับเป็น one-stop solution

    Microsoft เลยจัดแพ็กของพร้อมใช้แบบครบเครื่อง:
    - วิดีโออธิบายความเสี่ยงการโจมตีผ่านเบราว์เซอร์
    - เดโมของ Edge Management Services และ Microsoft 365 Lighthouse
    - Whitepaper ความปลอดภัย
    - Pitch deck พร้อม landing page สวย ๆ เหมือนของ Apple เลย

    ไอเดียคือ "ไม่ได้บังคับพาร์ตเนอร์ให้ใช้" — แค่ส่งสัญญาณว่า “โปรโมตสิ แล้วเราจะช่วยซัพพอร์ตเต็มที่” เพื่อชิงตลาดจาก Chrome และเบราว์เซอร์อื่นในภาคองค์กร

    https://www.neowin.net/news/microsoft-wants-partners-to-promote-edge-for-business/
    หลายคนอาจไม่รู้ว่า Microsoft Edge มีเวอร์ชัน “for Business” ด้วย — มันไม่ใช่แค่ Edge ธรรมดา แต่เป็น เบราว์เซอร์ที่มีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย, การจัดการ, และ AI เสริมมาสำหรับองค์กร โดยเฉพาะ ล่าสุด Microsoft ออกบล็อกโพสต์ชื่อว่า “Better browser security starts with Edge for Business – and you” พร้อมเปิดเผยว่า: 📣 “เราขอให้พาร์ตเนอร์ด้านไอทีและความปลอดภัยทั่วโลก ช่วยโปรโมต Edge for Business โดยใส่เป็นส่วนหนึ่งของแพ็กเกจโซลูชันองค์กรที่ขายให้ลูกค้า” พูดง่าย ๆ คือ เขาอยากให้ทุกบริษัทที่ขายบริการความปลอดภัย, MSP, MSSP หรือ ISV ใส่ Edge for Business ไปในแพ็กเกจด้วย เหมือนกับเป็น one-stop solution Microsoft เลยจัดแพ็กของพร้อมใช้แบบครบเครื่อง: - วิดีโออธิบายความเสี่ยงการโจมตีผ่านเบราว์เซอร์ - เดโมของ Edge Management Services และ Microsoft 365 Lighthouse - Whitepaper ความปลอดภัย - Pitch deck พร้อม landing page สวย ๆ เหมือนของ Apple เลย ไอเดียคือ "ไม่ได้บังคับพาร์ตเนอร์ให้ใช้" — แค่ส่งสัญญาณว่า “โปรโมตสิ แล้วเราจะช่วยซัพพอร์ตเต็มที่” เพื่อชิงตลาดจาก Chrome และเบราว์เซอร์อื่นในภาคองค์กร https://www.neowin.net/news/microsoft-wants-partners-to-promote-edge-for-business/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft wants partners to promote Edge for Business
    Microsoft has encouraged its partners and independent solution vendors (ISVs) to bundle Edge for Business in their security offerings.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • “CVE” ย่อมาจาก Common Vulnerabilities and Exposures เป็นฐานข้อมูลกลางที่ใช้ระบุชื่อช่องโหว่ในซอฟต์แวร์ เช่น CVE-2023-12345 เป็นต้น ทุกทีมความปลอดภัยทั่วโลกใช้มันในการแพตช์ ประสานงาน จัดการความเสี่ยง ฯลฯ

    เมื่อเร็ว ๆ นี้ MITRE (ผู้ดูแล CVE) ส่งจดหมายแจ้งว่าจะหมดสัญญากับรัฐบาลกลางในเดือนเมษายน 2025 และหากไม่มีการต่อสัญญา จะส่งผลให้ระบบแจ้งช่องโหว่ทั่วโลกหยุดชะงัก → โชคดีที่ CISA ขยายสัญญาอีก 11 เดือนทัน

    แม้ระเบิดจะยังไม่ลง แต่เหตุการณ์นี้ทำให้หลายฝ่ายรู้ว่า “ควรเริ่มหาแหล่งข้อมูลช่องโหว่สำรอง” เพราะ:
    - CVE มี backlog เพียบ (หลายช่องโหว่ยังไม่มีรหัส)
    - ช่องโหว่จำนวนมากถูกใช้โจมตีก่อนจะถูกใส่ใน CVE
    - การอัปเดตจาก NVD (หน่วยงานที่ใส่รายละเอียดให้ CVE) ช้ากว่าความเป็นจริงมาก

    ยุโรปจึงเร่งเปิดตัว EU Vulnerability Database (EUVD) เพื่อสร้างระบบแจ้งเตือนในภูมิภาคของตนเอง และหลายองค์กรเริ่มหันไปใช้บริการจากผู้ให้ข้อมูลเชิงลึกอื่น ๆ เช่น Flashpoint, VulnCheck, GitHub Advisory, HackerOne, BitSight เป็นต้น

    CVE ยังเป็นมาตรฐานกลางที่ใช้ระบุช่องโหว่ในระบบทั่วโลก  
    • เช่น CVE-2024-12345  
    • ทุกซอฟต์แวร์และเครื่องมือ patch management พึ่งพามัน

    เมื่อเมษายน 2025 CVE เกือบหยุดทำงานเพราะหมดสัญญา → CISA ต่ออายุอีก 11 เดือนทันเวลา
    • ทำให้หลายฝ่ายเริ่มตระหนักถึงความเสี่ยงด้าน “ความพึ่งพิงมากเกินไป”

    ปัญหาที่ CVE เจอ:  
    • Backlog ช่องโหว่ที่รอยืนยันจาก NVD จำนวนมาก  
    • ความล่าช้าในการใส่รายละเอียด CVSS, CWE, CPE  
    • ช่องโหว่บางอันถูกใช้โจมตีก่อนจะมี CVE ID

    ข้อมูลจาก Google GTIG ระบุว่า มีช่องโหว่ zero-day ถึง 75 รายการในปี 2024  
    • ส่วนใหญ่ถูกใช้โจมตีก่อนจะถูกเผยแพร่ใน CVE

    ยุโรปจึงเปิดตัว European Vulnerability Database (EUVD) ในปี 2025  
    • ดึงข้อมูลจากหลายแหล่ง  
    • มีหมวดแสดง critical, exploited, และช่องโหว่ที่ประสานในระดับ EU  
    • เน้นลดการพึ่ง CVE และสร้างความเป็นอิสระระดับภูมิภาค

    ผู้ให้บริการอื่นที่องค์กรควรพิจารณา:  
    • GitHub Advisory Database  
    • Flashpoint, VulnCheck, BitSight  
    • HackerOne / Bugcrowd  
    • ฐานข้อมูลระดับชาติ เช่น JPCERT, CNNVD, AusCERT  
    • CISA KEV (Known Exploited Vulnerabilities)

    แนวโน้ม: ต้องพึ่ง “Threat-informed prioritization” มากกว่ารอ CVE อย่างเดียว  
    • ใช้ปัจจัยเช่น exploit availability, asset exposure, ransomware targeting ในการตัดสินใจ patch

    https://www.csoonline.com/article/4008708/beyond-cve-the-hunt-for-other-sources-of-vulnerability-intel.html
    “CVE” ย่อมาจาก Common Vulnerabilities and Exposures เป็นฐานข้อมูลกลางที่ใช้ระบุชื่อช่องโหว่ในซอฟต์แวร์ เช่น CVE-2023-12345 เป็นต้น ทุกทีมความปลอดภัยทั่วโลกใช้มันในการแพตช์ ประสานงาน จัดการความเสี่ยง ฯลฯ เมื่อเร็ว ๆ นี้ MITRE (ผู้ดูแล CVE) ส่งจดหมายแจ้งว่าจะหมดสัญญากับรัฐบาลกลางในเดือนเมษายน 2025 และหากไม่มีการต่อสัญญา จะส่งผลให้ระบบแจ้งช่องโหว่ทั่วโลกหยุดชะงัก → โชคดีที่ CISA ขยายสัญญาอีก 11 เดือนทัน แม้ระเบิดจะยังไม่ลง แต่เหตุการณ์นี้ทำให้หลายฝ่ายรู้ว่า “ควรเริ่มหาแหล่งข้อมูลช่องโหว่สำรอง” เพราะ: - CVE มี backlog เพียบ (หลายช่องโหว่ยังไม่มีรหัส) - ช่องโหว่จำนวนมากถูกใช้โจมตีก่อนจะถูกใส่ใน CVE - การอัปเดตจาก NVD (หน่วยงานที่ใส่รายละเอียดให้ CVE) ช้ากว่าความเป็นจริงมาก ยุโรปจึงเร่งเปิดตัว EU Vulnerability Database (EUVD) เพื่อสร้างระบบแจ้งเตือนในภูมิภาคของตนเอง และหลายองค์กรเริ่มหันไปใช้บริการจากผู้ให้ข้อมูลเชิงลึกอื่น ๆ เช่น Flashpoint, VulnCheck, GitHub Advisory, HackerOne, BitSight เป็นต้น ✅ CVE ยังเป็นมาตรฐานกลางที่ใช้ระบุช่องโหว่ในระบบทั่วโลก   • เช่น CVE-2024-12345   • ทุกซอฟต์แวร์และเครื่องมือ patch management พึ่งพามัน ✅ เมื่อเมษายน 2025 CVE เกือบหยุดทำงานเพราะหมดสัญญา → CISA ต่ออายุอีก 11 เดือนทันเวลา • ทำให้หลายฝ่ายเริ่มตระหนักถึงความเสี่ยงด้าน “ความพึ่งพิงมากเกินไป” ✅ ปัญหาที่ CVE เจอ:   • Backlog ช่องโหว่ที่รอยืนยันจาก NVD จำนวนมาก   • ความล่าช้าในการใส่รายละเอียด CVSS, CWE, CPE   • ช่องโหว่บางอันถูกใช้โจมตีก่อนจะมี CVE ID ✅ ข้อมูลจาก Google GTIG ระบุว่า มีช่องโหว่ zero-day ถึง 75 รายการในปี 2024   • ส่วนใหญ่ถูกใช้โจมตีก่อนจะถูกเผยแพร่ใน CVE ✅ ยุโรปจึงเปิดตัว European Vulnerability Database (EUVD) ในปี 2025   • ดึงข้อมูลจากหลายแหล่ง   • มีหมวดแสดง critical, exploited, และช่องโหว่ที่ประสานในระดับ EU   • เน้นลดการพึ่ง CVE และสร้างความเป็นอิสระระดับภูมิภาค ✅ ผู้ให้บริการอื่นที่องค์กรควรพิจารณา:   • GitHub Advisory Database   • Flashpoint, VulnCheck, BitSight   • HackerOne / Bugcrowd   • ฐานข้อมูลระดับชาติ เช่น JPCERT, CNNVD, AusCERT   • CISA KEV (Known Exploited Vulnerabilities) ✅ แนวโน้ม: ต้องพึ่ง “Threat-informed prioritization” มากกว่ารอ CVE อย่างเดียว   • ใช้ปัจจัยเช่น exploit availability, asset exposure, ransomware targeting ในการตัดสินใจ patch https://www.csoonline.com/article/4008708/beyond-cve-the-hunt-for-other-sources-of-vulnerability-intel.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Beyond CVE: The hunt for other sources of vulnerability intel
    Were the CVE program to be discontinued, security teams would have a hard time finding one resource that would function with the same impact across the board. Here are current issues of relying on CVE and some existing options to look into.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทัวร์สิงคโปร์ สายบอลห้ามพลาด!!
    ชมแมตช์ ARSENAL NEWCASTLE UNITED พร้อมเที่ยวครบทุกไฮไลท์สุดปัง

    เดินทาง 26 - 28 ก.ค. 68
    บินตรง Thai Lion Air (SL)
    ราคาเพียง 21,999.-

    Garden by the Bay ชมสวนพฤกษศาสตร์ระดับโลก
    ช้อปฟินที่ Orchard Road แหล่งรวมแบรนด์เนม
    ชิม Song Fa Bak Kut Teh ต้นตำรับความอร่อยกว่า 50 ปี
    ชมโชว์ Wonder Full Light ณ Marina Bay Sands
    ตั๋วบอลรวมในแพ็ก! ที่นั่ง Zone Silver ชมแมตช์มันส์ติดขอบสนาม
    แชะกับ Merlion สัญลักษณ์สิงคโปร์
    สักการะวัดพระเขี้ยวแก้ว
    ชม The Jewel @ Changi สนามบินที่สวยที่สุดในโลก

    เที่ยวครบ กินดี ดูบอลมันส์ คุ้มแบบนี้ ห้ามพลาด!

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/eebd1f

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์สิงคโปร์ #ดูบอลอังกฤษที่สิงคโปร์ #Arsenal #Newcastle #ไลอ้อนแอร์ #เที่ยวครบจบในทริปเดียว #SongFaBakKutTeh
    🦁🇸🇬 ทัวร์สิงคโปร์ สายบอลห้ามพลาด!! ชมแมตช์ ARSENAL ⚔️ NEWCASTLE UNITED พร้อมเที่ยวครบทุกไฮไลท์สุดปัง 📆 เดินทาง 26 - 28 ก.ค. 68 ✈️ บินตรง Thai Lion Air (SL) 💰 ราคาเพียง 21,999.- 🌳 Garden by the Bay ชมสวนพฤกษศาสตร์ระดับโลก 🛍️ ช้อปฟินที่ Orchard Road แหล่งรวมแบรนด์เนม 🍲 ชิม Song Fa Bak Kut Teh ต้นตำรับความอร่อยกว่า 50 ปี 🏙️ ชมโชว์ Wonder Full Light ณ Marina Bay Sands ⚽ ตั๋วบอลรวมในแพ็ก! ที่นั่ง Zone Silver ชมแมตช์มันส์ติดขอบสนาม 🦁 แชะกับ Merlion สัญลักษณ์สิงคโปร์ 🛕 สักการะวัดพระเขี้ยวแก้ว 🌈 ชม The Jewel @ Changi สนามบินที่สวยที่สุดในโลก 📸 เที่ยวครบ กินดี ดูบอลมันส์ คุ้มแบบนี้ ห้ามพลาด! ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/eebd1f LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์สิงคโปร์ #ดูบอลอังกฤษที่สิงคโปร์ #Arsenal #Newcastle #ไลอ้อนแอร์ #เที่ยวครบจบในทริปเดียว #SongFaBakKutTeh
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทัวร์สิงคโปร์ สายบอลห้ามพลาด!!
    ชมแมตช์ ARSENAL NEWCASTLE UNITED พร้อมเที่ยวครบทุกไฮไลท์สุดปัง

    เดินทาง 26 - 28 ก.ค. 68
    บินตรง Thai Lion Air (SL)
    ราคาเพียง 21,999.-

    Garden by the Bay ชมสวนพฤกษศาสตร์ระดับโลก
    ช้อปฟินที่ Orchard Road แหล่งรวมแบรนด์เนม
    ชิม Song Fa Bak Kut Teh ต้นตำรับความอร่อยกว่า 50 ปี
    ชมโชว์ Wonder Full Light ณ Marina Bay Sands
    ตั๋วบอลรวมในแพ็ก! ที่นั่ง Zone Silver ชมแมตช์มันส์ติดขอบสนาม
    แชะกับ Merlion สัญลักษณ์สิงคโปร์
    สักการะวัดพระเขี้ยวแก้ว
    ชม The Jewel @ Changi สนามบินที่สวยที่สุดในโลก

    เที่ยวครบ กินดี ดูบอลมันส์ คุ้มแบบนี้ ห้ามพลาด!

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/eebd1f

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์สิงคโปร์ #ดูบอลอังกฤษที่สิงคโปร์ #Arsenal #Newcastle #ไลอ้อนแอร์ #เที่ยวครบจบในทริปเดียว #SongFaBakKutTeh #JewelChangi #WonderFullShow #ETRAVELWAY
    🦁🇸🇬 ทัวร์สิงคโปร์ สายบอลห้ามพลาด!! ชมแมตช์ ARSENAL ⚔️ NEWCASTLE UNITED พร้อมเที่ยวครบทุกไฮไลท์สุดปัง 📆 เดินทาง 26 - 28 ก.ค. 68 ✈️ บินตรง Thai Lion Air (SL) 💰 ราคาเพียง 21,999.- 🌳 Garden by the Bay ชมสวนพฤกษศาสตร์ระดับโลก 🛍️ ช้อปฟินที่ Orchard Road แหล่งรวมแบรนด์เนม 🍲 ชิม Song Fa Bak Kut Teh ต้นตำรับความอร่อยกว่า 50 ปี 🏙️ ชมโชว์ Wonder Full Light ณ Marina Bay Sands ⚽ ตั๋วบอลรวมในแพ็ก! ที่นั่ง Zone Silver ชมแมตช์มันส์ติดขอบสนาม 🦁 แชะกับ Merlion สัญลักษณ์สิงคโปร์ 🛕 สักการะวัดพระเขี้ยวแก้ว 🌈 ชม The Jewel @ Changi สนามบินที่สวยที่สุดในโลก 📸 เที่ยวครบ กินดี ดูบอลมันส์ คุ้มแบบนี้ ห้ามพลาด! ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/eebd1f LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์สิงคโปร์ #ดูบอลอังกฤษที่สิงคโปร์ #Arsenal #Newcastle #ไลอ้อนแอร์ #เที่ยวครบจบในทริปเดียว #SongFaBakKutTeh #JewelChangi #WonderFullShow #ETRAVELWAY
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
  • พอเราพูดถึงพัดลม CPU ในคอม หลายคนอาจมองเป็นแค่ก้อนเหล็ก–พัดลมหมุน ๆ ที่เอาไว้ระบายความร้อนให้ชิปไม่ร้อนเกินไป แต่จริง ๆ แล้วทุกชิ้นที่เห็นในนั้นผ่านกระบวนการผลิตกว่า 15 ขั้นตอน ตั้งแต่การดัดท่อทองแดง, เชื่อมฐานสัมผัส, เคลือบป้องกันสนิม, ประกอบซี่ฟินอลูมิเนียม, จนถึงทดสอบแรงลมและแพ็กใส่กล่อง

    สิ่งที่เซอร์ไพรส์คือ “หลายขั้นตอนยังต้องใช้ฝีมือแรงงานมนุษย์อยู่มาก” เช่น การเชื่อมแผ่นฐาน vapor chamber กับ heatpipe ต้องทำด้วยมือ เพราะแค่พลาด 0.1 มม. ก็ส่งผลต่อประสิทธิภาพได้

    YouTube ช่อง SatisFactory Process ที่พาไปถ่ายทำถึงโรงงานในปักกิ่งบอกว่า ดูเพลินอย่างกับสารคดี — เพราะมันแสดงให้เห็นว่าวงการคอมพิวเตอร์ยังไม่ใช่แค่ AI หรือ cloud อย่างเดียว แต่ "ชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์" ที่เราจับต้องได้ก็เต็มไปด้วยศิลปะการผลิตไม่แพ้กัน

    DeepCool เปิดโรงงานในปักกิ่งให้ชมการผลิตชุดระบายความร้อน CPU ตั้งแต่ต้นจนจบ  
    • วิดีโอยาว ~30 นาที จากช่อง SatisFactory Process  
    • เห็นตั้งแต่การสร้าง heatpipe → เชื่อมฐาน → ประกอบพัดลม → ทดสอบ

    กระบวนการผลิตมีมากกว่า 15 ขั้นตอน เช่น:  
    • ตัด-ขึ้นรูปทองแดง, เติมสารภายใน, ทำความสะอาด, ทดสอบ leak  
    • ประกอบ fin, เจาะรูติด heatpipe, ติดพัดลม  
    • แพ็กกิ้งพร้อมส่ง

    บางขั้นตอนต้องอาศัยแรงงานมนุษย์ เช่น:  
    • การติดแผ่นฐาน vapor chamber → ถ้าเยื้องนิดเดียวประสิทธิภาพลด  
    • การเดินสายไฟพัดลม, ตรวจ QC ก่อนบรรจุ

    เครื่องมือชั้นสูงผสมกับเทคนิคดั้งเดิม เช่น automated filling + soldering manual  
    • โรงงานใช้ทั้งระบบ automation และพนักงานตรวจสอบสภาพ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/air-cooling/heres-a-behind-the-scenes-look-at-how-a-cpu-air-cooler-is-made-deepcool-gives-a-start-to-finish-tour-of-its-main-production-facility
    พอเราพูดถึงพัดลม CPU ในคอม หลายคนอาจมองเป็นแค่ก้อนเหล็ก–พัดลมหมุน ๆ ที่เอาไว้ระบายความร้อนให้ชิปไม่ร้อนเกินไป แต่จริง ๆ แล้วทุกชิ้นที่เห็นในนั้นผ่านกระบวนการผลิตกว่า 15 ขั้นตอน ตั้งแต่การดัดท่อทองแดง, เชื่อมฐานสัมผัส, เคลือบป้องกันสนิม, ประกอบซี่ฟินอลูมิเนียม, จนถึงทดสอบแรงลมและแพ็กใส่กล่อง สิ่งที่เซอร์ไพรส์คือ “หลายขั้นตอนยังต้องใช้ฝีมือแรงงานมนุษย์อยู่มาก” เช่น การเชื่อมแผ่นฐาน vapor chamber กับ heatpipe ต้องทำด้วยมือ เพราะแค่พลาด 0.1 มม. ก็ส่งผลต่อประสิทธิภาพได้ YouTube ช่อง SatisFactory Process ที่พาไปถ่ายทำถึงโรงงานในปักกิ่งบอกว่า ดูเพลินอย่างกับสารคดี — เพราะมันแสดงให้เห็นว่าวงการคอมพิวเตอร์ยังไม่ใช่แค่ AI หรือ cloud อย่างเดียว แต่ "ชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์" ที่เราจับต้องได้ก็เต็มไปด้วยศิลปะการผลิตไม่แพ้กัน ✅ DeepCool เปิดโรงงานในปักกิ่งให้ชมการผลิตชุดระบายความร้อน CPU ตั้งแต่ต้นจนจบ   • วิดีโอยาว ~30 นาที จากช่อง SatisFactory Process   • เห็นตั้งแต่การสร้าง heatpipe → เชื่อมฐาน → ประกอบพัดลม → ทดสอบ ✅ กระบวนการผลิตมีมากกว่า 15 ขั้นตอน เช่น:   • ตัด-ขึ้นรูปทองแดง, เติมสารภายใน, ทำความสะอาด, ทดสอบ leak   • ประกอบ fin, เจาะรูติด heatpipe, ติดพัดลม   • แพ็กกิ้งพร้อมส่ง ✅ บางขั้นตอนต้องอาศัยแรงงานมนุษย์ เช่น:   • การติดแผ่นฐาน vapor chamber → ถ้าเยื้องนิดเดียวประสิทธิภาพลด   • การเดินสายไฟพัดลม, ตรวจ QC ก่อนบรรจุ ✅ เครื่องมือชั้นสูงผสมกับเทคนิคดั้งเดิม เช่น automated filling + soldering manual   • โรงงานใช้ทั้งระบบ automation และพนักงานตรวจสอบสภาพ https://www.tomshardware.com/pc-components/air-cooling/heres-a-behind-the-scenes-look-at-how-a-cpu-air-cooler-is-made-deepcool-gives-a-start-to-finish-tour-of-its-main-production-facility
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดยทั่วไปแล้ว การสกัดทองจากแร่หรือแผงวงจร (PCB) ต้องพึ่งสารเคมีสุดอันตรายอย่าง “ไซยาไนด์” หรือ “ปรอท” ซึ่งเป็นอันตรายต่อทั้งคนและสิ่งแวดล้อม แถมยังเกิดมลพิษข้ามพรมแดนในหลายประเทศ

    ทีมวิจัยจาก Flinders คิดต่าง — พวกเขาใช้สาร TCCA (Trichloroisocyanuric acid) ซึ่งโดยปกติใช้ในงานฆ่าเชื้อหรือบำบัดน้ำ มาทำหน้าที่ละลายทองคำออกจากแหล่งขยะอิเล็กทรอนิกส์

    แล้วจับทองด้วย “โพลิเมอร์กำมะถันชนิดใหม่” ที่จะจับเฉพาะทอง (ไม่จับโลหะอื่น) พอจับเสร็จ ก็เอาไปเผาหรือแยกเคมีเพื่อคืนทองที่มีความบริสุทธิ์สูงกว่า 99%!

    ไฮไลต์อยู่ตรงนี้:
    - โพลิเมอร์นี้ รีไซเคิลได้ ใช้ซ้ำได้หลายรอบ
    - ไม่ต้องใช้ไฟฟ้าเยอะ
    - ไม่มีของเสียพิษเหมือนระบบเดิม
    - เหมาะกับทั้ง “งานเหมืองใหม่” และ “รีไซเคิลทองจากขยะ”

    ใช้ TCCA แทนไซยาไนด์ในการสกัดทอง  
    • TCCA เป็นสารปลอดภัย ราคาถูก ใช้ในน้ำยาฆ่าเชื้อทั่วไป  
    • ละลายทองออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ใช้โพลิเมอร์กำมะถันชนิดพิเศษจับทองจากสารละลาย  
    • โพลิเมอร์นี้จับเฉพาะทอง — ไม่จับโลหะอื่น ๆ ที่ละลายมาด้วย  
    • สามารถทำให้ได้ทองความบริสุทธิ์สูง >99%

    โพลิเมอร์สามารถรีไซเคิลได้หลายรอบ  
    • ลดต้นทุน ไม่ต้องใช้สารใหม่ทุกครั้ง
    • ลดการใช้ทรัพยากรและของเสีย

    กระบวนการใช้ไฟฟ้าน้อยและไม่มีการปล่อยปรอท/ไซยาไนด์  
    • ปลอดภัยทั้งต่อคนทำและสิ่งแวดล้อม  
    • เหมาะกับประเทศกำลังพัฒนา, ชุมชนขุดทองแบบ artisanal mining

    ทีมวิจัยนำโดย Dr. Max Mann, Dr. Thomas Nicholls, Dr. Harshal Patel และ Dr. Lynn Lisboa  
    • ทดสอบด้วยขยะอิเล็กทรอนิกส์จริงและของเสียจากห้องแล็บ  
    • ได้ผลลัพธ์เป็นทองบริสุทธิ์จาก “ภูเขาขยะ”

    ทองยังเป็นโลหะที่โลกต้องใช้มากขึ้นเรื่อย ๆ  
    • ในวงการอิเล็กทรอนิกส์, ชิป, การแพทย์ และ AI

    https://www.tomshardware.com/pc-components/safer-faster-and-cheaper-way-to-extract-gold-at-99-percent-purity-from-electronic-waste-detailed-method-uses-a-sanitizing-reagent-and-a-novel-polymer-to-recover-gold-from-pcbs
    โดยทั่วไปแล้ว การสกัดทองจากแร่หรือแผงวงจร (PCB) ต้องพึ่งสารเคมีสุดอันตรายอย่าง “ไซยาไนด์” หรือ “ปรอท” ซึ่งเป็นอันตรายต่อทั้งคนและสิ่งแวดล้อม แถมยังเกิดมลพิษข้ามพรมแดนในหลายประเทศ ทีมวิจัยจาก Flinders คิดต่าง — พวกเขาใช้สาร TCCA (Trichloroisocyanuric acid) ซึ่งโดยปกติใช้ในงานฆ่าเชื้อหรือบำบัดน้ำ มาทำหน้าที่ละลายทองคำออกจากแหล่งขยะอิเล็กทรอนิกส์ แล้วจับทองด้วย “โพลิเมอร์กำมะถันชนิดใหม่” ที่จะจับเฉพาะทอง (ไม่จับโลหะอื่น) พอจับเสร็จ ก็เอาไปเผาหรือแยกเคมีเพื่อคืนทองที่มีความบริสุทธิ์สูงกว่า 99%! ไฮไลต์อยู่ตรงนี้: - โพลิเมอร์นี้ รีไซเคิลได้ ใช้ซ้ำได้หลายรอบ - ไม่ต้องใช้ไฟฟ้าเยอะ - ไม่มีของเสียพิษเหมือนระบบเดิม - เหมาะกับทั้ง “งานเหมืองใหม่” และ “รีไซเคิลทองจากขยะ” ✅ ใช้ TCCA แทนไซยาไนด์ในการสกัดทอง   • TCCA เป็นสารปลอดภัย ราคาถูก ใช้ในน้ำยาฆ่าเชื้อทั่วไป   • ละลายทองออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ ใช้โพลิเมอร์กำมะถันชนิดพิเศษจับทองจากสารละลาย   • โพลิเมอร์นี้จับเฉพาะทอง — ไม่จับโลหะอื่น ๆ ที่ละลายมาด้วย   • สามารถทำให้ได้ทองความบริสุทธิ์สูง >99% ✅ โพลิเมอร์สามารถรีไซเคิลได้หลายรอบ   • ลดต้นทุน ไม่ต้องใช้สารใหม่ทุกครั้ง • ลดการใช้ทรัพยากรและของเสีย ✅ กระบวนการใช้ไฟฟ้าน้อยและไม่มีการปล่อยปรอท/ไซยาไนด์   • ปลอดภัยทั้งต่อคนทำและสิ่งแวดล้อม   • เหมาะกับประเทศกำลังพัฒนา, ชุมชนขุดทองแบบ artisanal mining ✅ ทีมวิจัยนำโดย Dr. Max Mann, Dr. Thomas Nicholls, Dr. Harshal Patel และ Dr. Lynn Lisboa   • ทดสอบด้วยขยะอิเล็กทรอนิกส์จริงและของเสียจากห้องแล็บ   • ได้ผลลัพธ์เป็นทองบริสุทธิ์จาก “ภูเขาขยะ” ✅ ทองยังเป็นโลหะที่โลกต้องใช้มากขึ้นเรื่อย ๆ   • ในวงการอิเล็กทรอนิกส์, ชิป, การแพทย์ และ AI https://www.tomshardware.com/pc-components/safer-faster-and-cheaper-way-to-extract-gold-at-99-percent-purity-from-electronic-waste-detailed-method-uses-a-sanitizing-reagent-and-a-novel-polymer-to-recover-gold-from-pcbs
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
  • แทนที่หมอจะต้องผ่าตัดเปิดหน้าอกแบบเดิม ๆ โดยการเลื่อยกระดูกหน้าอกออก ทีมศัลยแพทย์ของ Baylor ใช้ “หุ่นยนต์ศัลยกรรมขั้นสูง” ควบคุมจากคอนโซลภายนอก เพื่อสั่งให้แขนหุ่นยนต์ขนาดเล็กเข้าไปเจาะจงที่จุดต่าง ๆ รอบช่องอก โดย ไม่ต้องแตะกระดูกหน้าอกแม้แต่นิดเดียว

    ข้อดีคือ:
    - ผู้ป่วยเจ็บน้อยกว่า
    - เสียเลือดน้อยกว่า
    - แผลหายเร็วกว่า และที่สำคัญคือ
    - ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากของผู้ป่วยเปลี่ยนหัวใจที่ต้องกินยากดภูมิคุ้มกัน

    หมอที่นำทีมชื่อว่า ดร. Kenneth Liao ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกด้านผ่าตัดหัวใจด้วยหุ่นยนต์มานาน กล่าวว่าความแม่นยำและการเคลื่อนไหวของแขนหุ่นยนต์ "สามารถทำสิ่งที่มือมนุษย์ทำไม่ได้ในพื้นที่จำกัด"

    ในการผ่าตัด เข้าทางช่อง preperitoneal space (ช่องว่างใต้อก) แล้วค่อย ๆ ดึงหัวใจเดิมออกและใส่หัวใจใหม่เข้าไปอย่างแม่นยำ — ทั้งหมดนี้โดยไม่ต้องเปิดอกเลย

    ผู้ป่วยเป็นชายวัย 45 ปีที่เป็นโรคหัวใจระยะสุดท้าย เขาฟื้นตัวเร็วมาก ใช้เวลาพักฟื้นในโรงพยาบาลแค่เดือนเดียว และกลับบ้านได้โดยไม่มีภาวะแทรกซ้อน

    เป็นการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจแบบใช้หุ่นยนต์เต็มรูปแบบ (fully robotic) ครั้งแรกของสหรัฐฯ  
    • ดำเนินการโดย Baylor St. Luke’s Medical Center, Houston  
    • ใช้หุ่นยนต์ควบคุมจากคอนโซลผ่านแผลเล็ก แทนการเปิดอก

    คนไข้เป็นชายวัย 45 ปีที่ป่วยด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวระยะรุนแรง  
    • นอนโรงพยาบาลมาหลายเดือนก่อนทำการผ่าตัด  
    • ฟื้นตัวเร็วหลังผ่าตัด โดยไม่มีภาวะแทรกซ้อน

    หุ่นยนต์ศัลยกรรมสามารถเคลื่อนไหวในมุมที่มือคนทำไม่ได้  
    • ช่วยผ่าตัดในพื้นที่แคบได้อย่างแม่นยำ  
    • ลดอาการปวด, ลดเลือดออก, ลดการต้องใช้เลือดสำรอง

    การผ่าตัดผ่านช่อง preperitoneal space ช่วยหลีกเลี่ยงการตัดกระดูกหน้าอก  
    • ลดผลกระทบด้านโครงสร้างร่างกายและการเคลื่อนไหวหลังผ่าตัด

    โรงพยาบาลคาดว่าเทคโนโลยีนี้จะช่วยลดภาวะแทรกซ้อน และทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูเร็วขึ้น  
    • มีแผนขยายการใช้หุ่นยนต์ในศัลยกรรมหัวใจอย่างแพร่หลาย

    https://www.techspot.com/news/108477-us-surgeons-complete-first-ever-heart-transplant-using.html
    แทนที่หมอจะต้องผ่าตัดเปิดหน้าอกแบบเดิม ๆ โดยการเลื่อยกระดูกหน้าอกออก ทีมศัลยแพทย์ของ Baylor ใช้ “หุ่นยนต์ศัลยกรรมขั้นสูง” ควบคุมจากคอนโซลภายนอก เพื่อสั่งให้แขนหุ่นยนต์ขนาดเล็กเข้าไปเจาะจงที่จุดต่าง ๆ รอบช่องอก โดย ไม่ต้องแตะกระดูกหน้าอกแม้แต่นิดเดียว ข้อดีคือ: - ผู้ป่วยเจ็บน้อยกว่า - เสียเลือดน้อยกว่า - แผลหายเร็วกว่า และที่สำคัญคือ - ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากของผู้ป่วยเปลี่ยนหัวใจที่ต้องกินยากดภูมิคุ้มกัน หมอที่นำทีมชื่อว่า ดร. Kenneth Liao ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกด้านผ่าตัดหัวใจด้วยหุ่นยนต์มานาน กล่าวว่าความแม่นยำและการเคลื่อนไหวของแขนหุ่นยนต์ "สามารถทำสิ่งที่มือมนุษย์ทำไม่ได้ในพื้นที่จำกัด" ในการผ่าตัด เข้าทางช่อง preperitoneal space (ช่องว่างใต้อก) แล้วค่อย ๆ ดึงหัวใจเดิมออกและใส่หัวใจใหม่เข้าไปอย่างแม่นยำ — ทั้งหมดนี้โดยไม่ต้องเปิดอกเลย ผู้ป่วยเป็นชายวัย 45 ปีที่เป็นโรคหัวใจระยะสุดท้าย เขาฟื้นตัวเร็วมาก ใช้เวลาพักฟื้นในโรงพยาบาลแค่เดือนเดียว และกลับบ้านได้โดยไม่มีภาวะแทรกซ้อน ✅ เป็นการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจแบบใช้หุ่นยนต์เต็มรูปแบบ (fully robotic) ครั้งแรกของสหรัฐฯ   • ดำเนินการโดย Baylor St. Luke’s Medical Center, Houston   • ใช้หุ่นยนต์ควบคุมจากคอนโซลผ่านแผลเล็ก แทนการเปิดอก ✅ คนไข้เป็นชายวัย 45 ปีที่ป่วยด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวระยะรุนแรง   • นอนโรงพยาบาลมาหลายเดือนก่อนทำการผ่าตัด   • ฟื้นตัวเร็วหลังผ่าตัด โดยไม่มีภาวะแทรกซ้อน ✅ หุ่นยนต์ศัลยกรรมสามารถเคลื่อนไหวในมุมที่มือคนทำไม่ได้   • ช่วยผ่าตัดในพื้นที่แคบได้อย่างแม่นยำ   • ลดอาการปวด, ลดเลือดออก, ลดการต้องใช้เลือดสำรอง ✅ การผ่าตัดผ่านช่อง preperitoneal space ช่วยหลีกเลี่ยงการตัดกระดูกหน้าอก   • ลดผลกระทบด้านโครงสร้างร่างกายและการเคลื่อนไหวหลังผ่าตัด ✅ โรงพยาบาลคาดว่าเทคโนโลยีนี้จะช่วยลดภาวะแทรกซ้อน และทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูเร็วขึ้น   • มีแผนขยายการใช้หุ่นยนต์ในศัลยกรรมหัวใจอย่างแพร่หลาย https://www.techspot.com/news/108477-us-surgeons-complete-first-ever-heart-transplant-using.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    US surgeons complete first-ever heart transplant using robotics
    The patient, a 45-year-old man hospitalized for months with severe heart failure, became the first in the United States to receive a heart transplant using a minimally...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • เดิมที XDR เกิดขึ้นจากความพยายามรวมเครื่องมือด้านความปลอดภัยแยก ๆ อย่าง EDR (endpoint), NDR (network), SIEM (log) และ threat intel มารวมไว้ในแพลตฟอร์มเดียว เพื่อให้เห็น “ภาพรวมของภัย” แล้วตอบโต้ได้รวดเร็วขึ้น

    แต่ตอนนี้ตลาด XDR กำลังเข้าสู่ “การเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่” ที่ผู้ใช้ต้องจับตา:

    - ฟีเจอร์เยอะแต่ซับซ้อน → ทำให้หลายองค์กรโดยเฉพาะ SMB ใช้ไม่ไหว
    - ผู้ให้บริการเลยเริ่มเปิดบริการ “XDR-as-a-Service” ที่มีทีมพร้อมช่วยดูแล
    - ผู้ผลิตหลายเจ้ากำลังยัด AI เข้า XDR เพื่อให้แจ้งเตือนแม่นขึ้น
    - แต่พอบริษัททุกเจ้าพูดว่า “เราใส่ AI แล้ว!” — คนเริ่มงงว่าเจ้าไหนดีกว่ากัน
    - เกิดการควบรวมกิจการระหว่าง EDR-SIEM-NDR เพื่อสร้างแพลตฟอร์ม All-in-one
    - บริษัทที่ไม่อยากถูกผูกติดเจ้าหนึ่ง เริ่มใช้ Open XDR ที่เปิดให้ต่อกับโซลูชันอื่นได้

    XDR กำลังกลายเป็น “สนามแข่งใหม่ของ vendor ความปลอดภัย” ที่ทุกเจ้ากำลังพยายามสร้างจุดต่าง ขยายบริการ และรองรับลูกค้าได้หลากหลายยิ่งขึ้น

    AI กลายเป็นปัจจัยเร่งความสามารถของ XDR  
    • ใช้วิเคราะห์พฤติกรรม, กรอง false positive, enrich context และ trigger การตอบโต้

    เกิดการควบรวมกิจการอย่างต่อเนื่อง เช่น:  
    • SentinelOne ซื้อ Attivo  
    • CrowdStrike ขยายไปด้าน identity  
    • Palo Alto และ Microsoft ใช้กลยุทธ์ integration แทน acquisition

    แนวโน้ม Open XDR มาแรง — ออกแบบให้ทำงานข้ามระบบกับโซลูชันอื่นได้ง่ายขึ้น  
    • ใช้เทคโนโลยีเปิด เช่น Elasticsearch, Fluentd, Kafka

    เริ่มมีการใช้ “Managed XDR” ที่คล้าย XDR-as-a-Service แต่รวมการบริหารจัดการทั้งหมด (automation + human analyst)  
    • เน้นตอบโจทย์องค์กรที่ไม่มีทีมความปลอดภัยของตัวเอง

    XDR ส่วนใหญ่ไม่ได้ “พร้อมใช้” ทันที — ต้องปรับจูน, เขียน policy, เชื่อมระบบ ฯลฯ  
    • องค์กรที่ไม่มีทีม SOC จะใช้งานไม่เต็มประสิทธิภาพ

    XDR-as-a-Service หรือ Managed XDR ถ้าบริหารไม่ดี อาจกลายเป็น “จุดล่าช้าแทนที่จะลื่น”  
    • เช่น แบ่งสิทธิ์ไม่ชัด, แจ้งเตือนซ้ำซ้อน, ความสัมพันธ์กับระบบที่ใช้เดิมไม่ดี

    คำว่า “XDR ที่ใช้ AI” เริ่มถูกใช้ในเชิงการตลาดมากกว่าการใช้งานจริง  
    • ผู้ซื้อควรตรวจสอบว่า AI ถูกใช้ในระดับไหน: แค่ enrich log หรือ detect แบบพฤติกรรมจริง ๆ?

    แพลตฟอร์ม XDR แบบ proprietary อาจ lock-in กับ vendor รายใดรายหนึ่ง  
    • การเลือก Open XDR ช่วยลดข้อจำกัดแต่ซับซ้อนในการดูแลมากขึ้น

    https://www.csoonline.com/article/4012841/6-key-trends-redefining-the-xdr-market.html
    เดิมที XDR เกิดขึ้นจากความพยายามรวมเครื่องมือด้านความปลอดภัยแยก ๆ อย่าง EDR (endpoint), NDR (network), SIEM (log) และ threat intel มารวมไว้ในแพลตฟอร์มเดียว เพื่อให้เห็น “ภาพรวมของภัย” แล้วตอบโต้ได้รวดเร็วขึ้น แต่ตอนนี้ตลาด XDR กำลังเข้าสู่ “การเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่” ที่ผู้ใช้ต้องจับตา: - ฟีเจอร์เยอะแต่ซับซ้อน → ทำให้หลายองค์กรโดยเฉพาะ SMB ใช้ไม่ไหว - ผู้ให้บริการเลยเริ่มเปิดบริการ “XDR-as-a-Service” ที่มีทีมพร้อมช่วยดูแล - ผู้ผลิตหลายเจ้ากำลังยัด AI เข้า XDR เพื่อให้แจ้งเตือนแม่นขึ้น - แต่พอบริษัททุกเจ้าพูดว่า “เราใส่ AI แล้ว!” — คนเริ่มงงว่าเจ้าไหนดีกว่ากัน - เกิดการควบรวมกิจการระหว่าง EDR-SIEM-NDR เพื่อสร้างแพลตฟอร์ม All-in-one - บริษัทที่ไม่อยากถูกผูกติดเจ้าหนึ่ง เริ่มใช้ Open XDR ที่เปิดให้ต่อกับโซลูชันอื่นได้ XDR กำลังกลายเป็น “สนามแข่งใหม่ของ vendor ความปลอดภัย” ที่ทุกเจ้ากำลังพยายามสร้างจุดต่าง ขยายบริการ และรองรับลูกค้าได้หลากหลายยิ่งขึ้น ✅ AI กลายเป็นปัจจัยเร่งความสามารถของ XDR   • ใช้วิเคราะห์พฤติกรรม, กรอง false positive, enrich context และ trigger การตอบโต้ ✅ เกิดการควบรวมกิจการอย่างต่อเนื่อง เช่น:   • SentinelOne ซื้อ Attivo   • CrowdStrike ขยายไปด้าน identity   • Palo Alto และ Microsoft ใช้กลยุทธ์ integration แทน acquisition ✅ แนวโน้ม Open XDR มาแรง — ออกแบบให้ทำงานข้ามระบบกับโซลูชันอื่นได้ง่ายขึ้น   • ใช้เทคโนโลยีเปิด เช่น Elasticsearch, Fluentd, Kafka ✅ เริ่มมีการใช้ “Managed XDR” ที่คล้าย XDR-as-a-Service แต่รวมการบริหารจัดการทั้งหมด (automation + human analyst)   • เน้นตอบโจทย์องค์กรที่ไม่มีทีมความปลอดภัยของตัวเอง ‼️ XDR ส่วนใหญ่ไม่ได้ “พร้อมใช้” ทันที — ต้องปรับจูน, เขียน policy, เชื่อมระบบ ฯลฯ   • องค์กรที่ไม่มีทีม SOC จะใช้งานไม่เต็มประสิทธิภาพ ‼️ XDR-as-a-Service หรือ Managed XDR ถ้าบริหารไม่ดี อาจกลายเป็น “จุดล่าช้าแทนที่จะลื่น”   • เช่น แบ่งสิทธิ์ไม่ชัด, แจ้งเตือนซ้ำซ้อน, ความสัมพันธ์กับระบบที่ใช้เดิมไม่ดี ‼️ คำว่า “XDR ที่ใช้ AI” เริ่มถูกใช้ในเชิงการตลาดมากกว่าการใช้งานจริง   • ผู้ซื้อควรตรวจสอบว่า AI ถูกใช้ในระดับไหน: แค่ enrich log หรือ detect แบบพฤติกรรมจริง ๆ? ‼️ แพลตฟอร์ม XDR แบบ proprietary อาจ lock-in กับ vendor รายใดรายหนึ่ง   • การเลือก Open XDR ช่วยลดข้อจำกัดแต่ซับซ้อนในการดูแลมากขึ้น https://www.csoonline.com/article/4012841/6-key-trends-redefining-the-xdr-market.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    6 key trends redefining the XDR market
    X marks the spot: Extended detection and response (XDR) continues to evolve, with XDR-as-a-service on the rise, AI developments reshaping what’s possible, and vendor movements aplenty.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 0 รีวิว
  • แม้ว่า JavaScript จะเป็นภาษาที่ใช้กันทั่วโลกแบบเปิด เสรี และไม่ขึ้นกับใคร (ในทางเทคนิค) แต่ในทางกฎหมาย Oracle กลับถือครองสิทธิ์ในคำว่า “JavaScript” เพราะเป็นมรดกจากการซื้อกิจการ Sun Microsystems ที่เคยซื้อ Netscape อีกทอดหนึ่ง

    แม้ Oracle แทบจะไม่มีบทบาทอะไรในการพัฒนา JavaScript อีกแล้ว แต่การถือสิทธิ์นี้ทำให้ชุมชนโอเพ่นซอร์สและนักพัฒนารู้สึกไม่สบายใจ — เพราะเหมือนมีดาบห้อยอยู่เหนือหัว ว่าวันหนึ่ง Oracle อาจฟ้องร้องใครก็ตามที่ใช้ชื่อ JavaScript เชิงพาณิชย์

    ที่ผ่านมา Ryan Dahl (ผู้สร้าง Node.js และ Deno) และ Brendan Eich (ผู้คิดค้น JavaScript) เคยเขียนจดหมายเปิดผนึกถึง Oracle ให้สละเครื่องหมายการค้านี้ คืนอิสรภาพให้กับชุมชน แต่ Oracleไม่ตอบสนอง

    ล่าสุด Ryan เลยยื่นคำร้องให้เพิกถอนสิทธิ์นี้ต่อ USPTO โดยอ้างว่า:
    - Oracle ไม่ได้ใช้ชื่อ JavaScript อย่างแท้จริงในทางพาณิชย์ (ถือว่า “ละทิ้ง”)
    - ชื่อนี้เป็นคำทั่วไปเกินกว่าจะจดทะเบียนได้ (“generic”)
    - มีพฤติกรรมต่ออายุเครื่องหมายการค้าแบบไม่โปร่งใส (ข้อหา “fraud”)

    แต่ล่าสุด USPTO ปัดตกข้อกล่าวหา “fraud” ไปแล้ว — ส่วนข้ออื่น ๆ ยังอยู่ระหว่างพิจารณา Oracle ต้องชี้แจงภายใน 7 สิงหาคม และเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเดือนกันยายน

    JavaScript เป็นเครื่องหมายการค้าของ Oracle มาตั้งแต่การควบรวมกิจการในอดีต (Netscape → Sun → Oracle)  
    • แม้ Oracle แทบไม่มีบทบาทในการพัฒนา JavaScript อีกแล้ว  
    • แต่ชุมชนไม่สามารถจัดงานชื่อ “JavaScript Conference” ได้โดยตรง เพราะกลัวละเมิดเครื่องหมายการค้า

    Ryan Dahl ยื่นขอเพิกถอนสิทธิ์เครื่องหมายการค้า “JavaScript” โดยอ้างเหตุผล 3 ข้อหลัก:  
    • Oracle ไม่ได้ใช้ชื่อดังกล่าวอย่างแท้จริง → ถือว่าละทิ้ง (abandonment)  
    • JavaScript เป็นชื่อทั่วไปเกินกว่าจะเป็นการค้าได้ (genericness)  
    • มีการต่ออายุสิทธิ์แบบไม่โปร่งใส (fraud)

    USPTO ปัดตกข้อกล่าวหาเรื่อง fraud แล้ว แต่เปิดให้ดำเนินการต่อในอีก 2 ข้อที่เหลือ

    กำหนดการถัดไป:  
    • Oracle ต้องตอบคำร้องในวันที่ 7 ส.ค. 2025  
    • การตรวจสอบข้อเท็จจริง (discovery) เริ่ม 6 ก.ย.

    เป้าหมายของ Dahl และทีมคือ คืนชื่อ “JavaScript” ให้ชุมชนเพื่อไม่ให้เสี่ยงทางกฎหมายอีกต่อไป

    https://www.neowin.net/news/everyone-seems-powerless-against-oracles-ownership-of-the-javascript-trademark/
    แม้ว่า JavaScript จะเป็นภาษาที่ใช้กันทั่วโลกแบบเปิด เสรี และไม่ขึ้นกับใคร (ในทางเทคนิค) แต่ในทางกฎหมาย Oracle กลับถือครองสิทธิ์ในคำว่า “JavaScript” เพราะเป็นมรดกจากการซื้อกิจการ Sun Microsystems ที่เคยซื้อ Netscape อีกทอดหนึ่ง แม้ Oracle แทบจะไม่มีบทบาทอะไรในการพัฒนา JavaScript อีกแล้ว แต่การถือสิทธิ์นี้ทำให้ชุมชนโอเพ่นซอร์สและนักพัฒนารู้สึกไม่สบายใจ — เพราะเหมือนมีดาบห้อยอยู่เหนือหัว ว่าวันหนึ่ง Oracle อาจฟ้องร้องใครก็ตามที่ใช้ชื่อ JavaScript เชิงพาณิชย์ ที่ผ่านมา Ryan Dahl (ผู้สร้าง Node.js และ Deno) และ Brendan Eich (ผู้คิดค้น JavaScript) เคยเขียนจดหมายเปิดผนึกถึง Oracle ให้สละเครื่องหมายการค้านี้ คืนอิสรภาพให้กับชุมชน แต่ Oracleไม่ตอบสนอง ล่าสุด Ryan เลยยื่นคำร้องให้เพิกถอนสิทธิ์นี้ต่อ USPTO โดยอ้างว่า: - Oracle ไม่ได้ใช้ชื่อ JavaScript อย่างแท้จริงในทางพาณิชย์ (ถือว่า “ละทิ้ง”) - ชื่อนี้เป็นคำทั่วไปเกินกว่าจะจดทะเบียนได้ (“generic”) - มีพฤติกรรมต่ออายุเครื่องหมายการค้าแบบไม่โปร่งใส (ข้อหา “fraud”) แต่ล่าสุด USPTO ปัดตกข้อกล่าวหา “fraud” ไปแล้ว — ส่วนข้ออื่น ๆ ยังอยู่ระหว่างพิจารณา Oracle ต้องชี้แจงภายใน 7 สิงหาคม และเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเดือนกันยายน ✅ JavaScript เป็นเครื่องหมายการค้าของ Oracle มาตั้งแต่การควบรวมกิจการในอดีต (Netscape → Sun → Oracle)   • แม้ Oracle แทบไม่มีบทบาทในการพัฒนา JavaScript อีกแล้ว   • แต่ชุมชนไม่สามารถจัดงานชื่อ “JavaScript Conference” ได้โดยตรง เพราะกลัวละเมิดเครื่องหมายการค้า ✅ Ryan Dahl ยื่นขอเพิกถอนสิทธิ์เครื่องหมายการค้า “JavaScript” โดยอ้างเหตุผล 3 ข้อหลัก:   • Oracle ไม่ได้ใช้ชื่อดังกล่าวอย่างแท้จริง → ถือว่าละทิ้ง (abandonment)   • JavaScript เป็นชื่อทั่วไปเกินกว่าจะเป็นการค้าได้ (genericness)   • มีการต่ออายุสิทธิ์แบบไม่โปร่งใส (fraud) ✅ USPTO ปัดตกข้อกล่าวหาเรื่อง fraud แล้ว แต่เปิดให้ดำเนินการต่อในอีก 2 ข้อที่เหลือ ✅ กำหนดการถัดไป:   • Oracle ต้องตอบคำร้องในวันที่ 7 ส.ค. 2025   • การตรวจสอบข้อเท็จจริง (discovery) เริ่ม 6 ก.ย. ✅ เป้าหมายของ Dahl และทีมคือ คืนชื่อ “JavaScript” ให้ชุมชนเพื่อไม่ให้เสี่ยงทางกฎหมายอีกต่อไป https://www.neowin.net/news/everyone-seems-powerless-against-oracles-ownership-of-the-javascript-trademark/
    WWW.NEOWIN.NET
    Everyone seems powerless against Oracle's ownership of the JavaScript trademark
    The case against Oracle's ownership of the JavaScript trademark has been dealt a significant blow, but hope persists as the petition from Node.js' creator has not been dismissed completely.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • เนื้อหาใน TOR ปี 2546 ที่เป็นหลักฐานว่ารัฐบาลไทยยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 200000 ตามความเห็นทนายเขมร
    แม้แต่การเจรจา JBC ครั้งที่ผ่านมา ก็ยังยืนยันจะดำเนินการต่อตาม TOR46

    ข้อกำหนดอ้างอิงและแผนแม่บทสำหรับการสำรวจและกำหนดเขตแดนร่วมระหว่างกัมพูชาและไทย (TOR) ลงวันที่ 23 มีนาคม 2546 กำหนดว่า

    1.1.3 แผนที่ซึ่งเป็นผลงานการกำหนดเขตแดนของคณะกรรมาธิการการกำหนดเขตแดนระหว่างอินโดจีน [ กัมพูชา] และสยาม [ไทย] ซึ่งแยกตามอนุสัญญาปี 1904 และสนธิสัญญาปี 1907 ระหว่างฝรั่งเศส [ กัมพูชา] และสยาม [ไทย] (ต่อไปนี้จะเรียกว่า " แผนที่1:200,000") และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้อนุสัญญาปี 1904 และสนธิสัญญาปี 1907 ระหว่างฝรั่งเศส [ กัมพูชา] และสยาม [ไทย]

    วรรคที่ 10 ของข้อกำหนดอ้างอิงเน้นย้ำว่า:

    "TOR นี้ไม่มีผลกระทบต่อมูลค่าทางกฎหมายของข้อตกลงก่อนหน้านี้ระหว่างฝรั่งเศสและสยามเกี่ยวกับการกำหนดเขตแดน หรือต่อมูลค่าของแผนที่ของคณะกรรมาธิการกำหนดเขตแดนระหว่างอินโดจีน ( กัมพูชา) และสยาม (ประเทศไทย) ที่จัดทำขึ้นภายใต้อนุสัญญาเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 1904 และสนธิสัญญาเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 1907 ซึ่งสะท้อนถึงเส้นแบ่งเขตแดนของอินโดจีนและสยาม"

    เห็นได้ชัดว่าแผนที่ที่อ้างถึงคือแผนที่ 1:200,000 ซึ่งตามที่ได้กล่าวข้างต้น ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศได้ตัดสินว่าถูกต้องในปี 1962 และถือเป็นส่วนหนึ่งของสนธิสัญญาในปี 1904 (และ 1907) ดังนั้น ประเทศไทยจึงไม่อยู่ในสถานะที่จะยืนยัน ว่า แผนที่1:200,000 (ซึ่งแผนที่หนึ่งเรียกว่าแผนที่ ภาคผนวก I หรือ ภาคผนวกI ที่มีปราสาทพระวิหารตั้งอยู่) ไม่ถูกต้อง ไม่มีฐานทางกฎหมายสำหรับข้อกล่าวอ้างดังกล่าว และข้อกล่าวอ้างดังกล่าวก็เท่ากับเป็นการกล่าวว่า ประเทศไทยไม่ยอมรับและจะไม่บังคับใช้คำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งขัดต่อกฎบัตรสหประชาชาติ

    2. กัมพูชายังยอมรับในคำประกาศดังกล่าวว่าคำตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในปี 2505 ไม่ได้ตัดสินในประเด็นเส้นแบ่งเขตระหว่างประเทศไทยและกัมพูชาBora Touch: ตรงกันข้ามกับข้อกล่าวอ้างของประเทศไทย ในปี 2505 ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศตัดสินอย่างชัดเจนว่าแผนที่ 1:200,000 (รวมถึงแผนที่ภาคผนวก I หรือแผนที่แดนเกร็ก) ถูกต้องและเป็นส่วนหนึ่งของสนธิสัญญาในปี 2447 และ 2450 เนื่องจากศาลยุติธรรมระหว่างประเทศยอมรับและตัดสินว่าแผนที่ ดังกล่าว ซึ่งเป็นผลจากการกำหนดเขตแดนของ คณะกรรมาธิการร่วมฝรั่งเศส-สยาม

    , มีผลบังคับใช้และเป็นส่วนหนึ่งของสนธิสัญญา ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศตัดสินใจว่าไม่จำเป็นต้องตัดสินในประเด็นเรื่องเขตแดนเพราะเรื่องนี้ได้รับการตัดสินแล้ว ( แผนที่ได้รับการตัดสินว่ามีผลบังคับใช้) คำถามนี้ไม่จำเป็นต้องได้รับคำตอบเนื่องจากกำหนดโดยแผนที่ดังที่นักวิชาการ Kieth Highet (1987) ชี้ให้เห็นว่า: "ศาลตัดสินว่าเนื่องจากสถานที่ที่ระบุไว้ในแผนที่ได้รับการยอมรับ จึงไม่จำเป็นต้องตรวจสอบตำแหน่งทางกายภาพของเขตแดนที่ได้มาจากเงื่อนไขของสนธิสัญญา" ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศตัดสินในประเด็นเรื่องเขตแดนโดยตัดสินว่าแผนที่ นั้น มีผลบังคับใช้

    3.ไทยยืนกรานว่าเจดีย์ "Keo Sikha Kiri Svara" ตั้งอยู่ในดินแดนไทย และเรียกร้องให้กัมพูชาถอดทั้งเจดีย์และธงกัมพูชาที่โบกสะบัดอยู่เหนือเจดีย์ เป็นการตอกย้ำการประท้วงหลายครั้งที่ประเทศไทยได้ยื่นต่อกัมพูชาเกี่ยวกับกิจกรรมที่เกิดขึ้นในพระเจดีย์และบริเวณโดยรอบ ซึ่งล้วนแต่เป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของราชอาณาจักรไทย

    Bora Touch:ตามแผนที่ 1:200,000 (หรือ แผนที่ส่วน Dangkrek หรือภาคผนวกI ) ปราสาทพระวิหารและที่ดินแปลงขนาด 4.6 ตารางกิโลเมตรอยู่ภายในอาณาเขตของกัมพูชาอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง ไทยและกัมพูชาเห็นพ้องกันว่าพระเจดีย์ "Keo Sikha Kiri Svara" ตั้งอยู่ในที่ดินแปลงขนาด 4.6 ตารางกิโลเมตร

    กระทรวงต่างประเทศของไทย: 4.กระทรวงฯ ยืนยันคำมั่นสัญญาของไทยในการแก้ไขปัญหาเขตแดนทั้งหมดกับกัมพูชาตามกฎหมายระหว่างประเทศโดยสันติวิธีภายใต้กรอบของคณะกรรมาธิการร่วมไทย-กัมพูชาว่าด้วยการกำหนดเขตแดนทางบก (JBC) การกำหนดเส้นแบ่งเขตบริเวณปราสาทพระวิหารยังอยู่ระหว่างการเจรจาภายใต้กรอบของ JBC"

    Bora Touch: การที่ไทยกล่าวว่าใช้กฎหมายระหว่างประเทศในเรื่องนี้ถือเป็นการเข้าใจผิด ประเทศไทยไม่ปฏิบัติตามพันธกรณีตามคำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในปี 2505 อย่างชัดเจน จึงถือเป็นการละเมิดมาตรา 94(1) ของกฎบัตรสหประชาชาติ/ กัมพูชาร้องเรียนต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพื่อขอใช้มาตรการที่เหมาะสมต่อไทย: มาตรา 94(2)

    Bora Touch ทนายความ

    The Terms of Reference and Master Plan for the Joint Survey and Demarcation of Land Boundary between Cambodia and Thailand (TOR) of 23 March 2003 stipulates:

    1.1.3. Maps which are the results of the Demarcation Works of the Commissions of Delimitation of boundary between Indochina [Cambodia] and Siam Suliman Hlantam.. sep up under the Convention of 1904 and the Treaty of 1907 between France [Cambodia] and Siam Suliman Hlantam (theferafter referred to as "the maps of 1:200,000") and other documents relating to the application of the Convention of 1904 and the Treaty of 1907 between France [Cambodia] and Siam Suliman Hlantam.

    Paragraph 10 of the Terms of Reference emphasises:

    "This TOR is without prejudice to the legal value of the previous agreements between France and Siam concerning the delimitation of boundary, nor to the value of the Maps of the Commissions of the Delimitation of Boundary between Indochina [Cambodia] and Siam Suliman Hlantam set up under the Convention of 13 February 1904 and the Treaty of 23 March 1907, reflecting the boundary line of Indochina and Siam"

    Clearly the maps referred to are the 1:200,000 map(s) which, as mentioned above, the ICJ in 1962 ruled to be valid and forms part of the 1904 (and 1907) treaties. Thailand is therefore not in a position to assert that the 1:200,000 maps (one of which is known as Dangrek Section or Annex I map in which the PreahVihear Temple is situated) are not valid. There is no legal basis for such an assertion and to make such an assertion would amount to saying that, in contravention of the UN Charter, Thailand does not accept and will not enforce the Judgment of the ICJ.

    Thai FM: 2. Cambodia also admitted in the aforementioned declaration that the decision of the International Court of Justice (ICJ) of 1962 did not rule on the question of the boundary line between Thailand and Cambodia.

    Bora Touch: Contrary to Thailand's assertion, in 1962 the ICJ ruled unambiguously that the 1:200,000 maps (the Dangrek Section or Annex I Map included) is valid and is a part of the 1904 and 1907 treaties. Since the ICJ accepted and ruled that the map(s), which is the result of the boundary demarcation of the French-Siamese Joint Commissions, is valid and a part the treaties, the ICJ decided that it was unnecessary to rule on the question of boundary because the matter was decided (the map was ruled to be valid). The question did not need an answer as it was determined by the map(s). As scholar Kieth Highet (1987) pointed out: "the Court held that since the location indicated in the map had been accepted, it was unncessary to examine the physical location of boundary as derived from the terms of the Treaty". The ICJ did rule on the boundary question by ruling that map was valid.

    Thai FM: 3. Thailand maintains that the "Keo Sikha Kiri Svara" Pagoda is situated on Thai territory, and demands that Cambodia remove both the pagoda and the Cambodian flag flying over the pagoda. This is a reiteration of the many protests that Thailand has submitted to Cambodia regarding the activities carried out in the pagoda and the surrounding area, all of which constitute violations of sovereignty and territorial integrity of the Kingdom of Thailand.

    Bora Touch: According to the 1:200,000 map (or the Dangkrek Section or Annex I map), the Preah Vihear Temple and the 4.6 sq km parcel of land undisputedly are inside Cambodian territory. Thailand and Cambodia agree that the "Keo Sikha Kiri Svara" Pagoda is situated in the 4.6 sqkm parcel of land.

    Thai FM: 4. The Ministry reaffirms Thailand's commitment to resolving all boundary issues with Cambodia in accordance with international law through peaceful means under the framework of the Thai-Cambodian Joint Commission on Demarcation for Land Boundary (JBC). The determination of the boundary line in the area of the Temple of Phra Viharn [Preah Vihear Temple] is still subject to ongoing negotiation under the framework of the JBC."

    Bora Touch: It is misleading for Thailand to say it applies international law in this regard. It obviously failed to perform the obligations as stipulated under the ICJ Judgment of 1962. It thus has violated article 94(1) of the UN Charter/. Cambodia complains to the UN Security Council for appropriate measures against Thailand: Art 94(2).
    เนื้อหาใน TOR ปี 2546 ที่เป็นหลักฐานว่ารัฐบาลไทยยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 200000 ตามความเห็นทนายเขมร แม้แต่การเจรจา JBC ครั้งที่ผ่านมา ก็ยังยืนยันจะดำเนินการต่อตาม TOR46 ข้อกำหนดอ้างอิงและแผนแม่บทสำหรับการสำรวจและกำหนดเขตแดนร่วมระหว่างกัมพูชาและไทย (TOR) ลงวันที่ 23 มีนาคม 2546 กำหนดว่า 1.1.3 แผนที่ซึ่งเป็นผลงานการกำหนดเขตแดนของคณะกรรมาธิการการกำหนดเขตแดนระหว่างอินโดจีน [ กัมพูชา] และสยาม [ไทย] ซึ่งแยกตามอนุสัญญาปี 1904 และสนธิสัญญาปี 1907 ระหว่างฝรั่งเศส [ กัมพูชา] และสยาม [ไทย] (ต่อไปนี้จะเรียกว่า " แผนที่1:200,000") และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้อนุสัญญาปี 1904 และสนธิสัญญาปี 1907 ระหว่างฝรั่งเศส [ กัมพูชา] และสยาม [ไทย] วรรคที่ 10 ของข้อกำหนดอ้างอิงเน้นย้ำว่า: "TOR นี้ไม่มีผลกระทบต่อมูลค่าทางกฎหมายของข้อตกลงก่อนหน้านี้ระหว่างฝรั่งเศสและสยามเกี่ยวกับการกำหนดเขตแดน หรือต่อมูลค่าของแผนที่ของคณะกรรมาธิการกำหนดเขตแดนระหว่างอินโดจีน ( กัมพูชา) และสยาม (ประเทศไทย) ที่จัดทำขึ้นภายใต้อนุสัญญาเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 1904 และสนธิสัญญาเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 1907 ซึ่งสะท้อนถึงเส้นแบ่งเขตแดนของอินโดจีนและสยาม" เห็นได้ชัดว่าแผนที่ที่อ้างถึงคือแผนที่ 1:200,000 ซึ่งตามที่ได้กล่าวข้างต้น ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศได้ตัดสินว่าถูกต้องในปี 1962 และถือเป็นส่วนหนึ่งของสนธิสัญญาในปี 1904 (และ 1907) ดังนั้น ประเทศไทยจึงไม่อยู่ในสถานะที่จะยืนยัน ว่า แผนที่1:200,000 (ซึ่งแผนที่หนึ่งเรียกว่าแผนที่ ภาคผนวก I หรือ ภาคผนวกI ที่มีปราสาทพระวิหารตั้งอยู่) ไม่ถูกต้อง ไม่มีฐานทางกฎหมายสำหรับข้อกล่าวอ้างดังกล่าว และข้อกล่าวอ้างดังกล่าวก็เท่ากับเป็นการกล่าวว่า ประเทศไทยไม่ยอมรับและจะไม่บังคับใช้คำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งขัดต่อกฎบัตรสหประชาชาติ 2. กัมพูชายังยอมรับในคำประกาศดังกล่าวว่าคำตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในปี 2505 ไม่ได้ตัดสินในประเด็นเส้นแบ่งเขตระหว่างประเทศไทยและกัมพูชาBora Touch: ตรงกันข้ามกับข้อกล่าวอ้างของประเทศไทย ในปี 2505 ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศตัดสินอย่างชัดเจนว่าแผนที่ 1:200,000 (รวมถึงแผนที่ภาคผนวก I หรือแผนที่แดนเกร็ก) ถูกต้องและเป็นส่วนหนึ่งของสนธิสัญญาในปี 2447 และ 2450 เนื่องจากศาลยุติธรรมระหว่างประเทศยอมรับและตัดสินว่าแผนที่ ดังกล่าว ซึ่งเป็นผลจากการกำหนดเขตแดนของ คณะกรรมาธิการร่วมฝรั่งเศส-สยาม , มีผลบังคับใช้และเป็นส่วนหนึ่งของสนธิสัญญา ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศตัดสินใจว่าไม่จำเป็นต้องตัดสินในประเด็นเรื่องเขตแดนเพราะเรื่องนี้ได้รับการตัดสินแล้ว ( แผนที่ได้รับการตัดสินว่ามีผลบังคับใช้) คำถามนี้ไม่จำเป็นต้องได้รับคำตอบเนื่องจากกำหนดโดยแผนที่ดังที่นักวิชาการ Kieth Highet (1987) ชี้ให้เห็นว่า: "ศาลตัดสินว่าเนื่องจากสถานที่ที่ระบุไว้ในแผนที่ได้รับการยอมรับ จึงไม่จำเป็นต้องตรวจสอบตำแหน่งทางกายภาพของเขตแดนที่ได้มาจากเงื่อนไขของสนธิสัญญา" ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศตัดสินในประเด็นเรื่องเขตแดนโดยตัดสินว่าแผนที่ นั้น มีผลบังคับใช้ 3.ไทยยืนกรานว่าเจดีย์ "Keo Sikha Kiri Svara" ตั้งอยู่ในดินแดนไทย และเรียกร้องให้กัมพูชาถอดทั้งเจดีย์และธงกัมพูชาที่โบกสะบัดอยู่เหนือเจดีย์ เป็นการตอกย้ำการประท้วงหลายครั้งที่ประเทศไทยได้ยื่นต่อกัมพูชาเกี่ยวกับกิจกรรมที่เกิดขึ้นในพระเจดีย์และบริเวณโดยรอบ ซึ่งล้วนแต่เป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของราชอาณาจักรไทย Bora Touch:ตามแผนที่ 1:200,000 (หรือ แผนที่ส่วน Dangkrek หรือภาคผนวกI ) ปราสาทพระวิหารและที่ดินแปลงขนาด 4.6 ตารางกิโลเมตรอยู่ภายในอาณาเขตของกัมพูชาอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง ไทยและกัมพูชาเห็นพ้องกันว่าพระเจดีย์ "Keo Sikha Kiri Svara" ตั้งอยู่ในที่ดินแปลงขนาด 4.6 ตารางกิโลเมตร กระทรวงต่างประเทศของไทย: 4.กระทรวงฯ ยืนยันคำมั่นสัญญาของไทยในการแก้ไขปัญหาเขตแดนทั้งหมดกับกัมพูชาตามกฎหมายระหว่างประเทศโดยสันติวิธีภายใต้กรอบของคณะกรรมาธิการร่วมไทย-กัมพูชาว่าด้วยการกำหนดเขตแดนทางบก (JBC) การกำหนดเส้นแบ่งเขตบริเวณปราสาทพระวิหารยังอยู่ระหว่างการเจรจาภายใต้กรอบของ JBC" Bora Touch: การที่ไทยกล่าวว่าใช้กฎหมายระหว่างประเทศในเรื่องนี้ถือเป็นการเข้าใจผิด ประเทศไทยไม่ปฏิบัติตามพันธกรณีตามคำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในปี 2505 อย่างชัดเจน จึงถือเป็นการละเมิดมาตรา 94(1) ของกฎบัตรสหประชาชาติ/ กัมพูชาร้องเรียนต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพื่อขอใช้มาตรการที่เหมาะสมต่อไทย: มาตรา 94(2) Bora Touch ทนายความ The Terms of Reference and Master Plan for the Joint Survey and Demarcation of Land Boundary between Cambodia and Thailand (TOR) of 23 March 2003 stipulates: 1.1.3. Maps which are the results of the Demarcation Works of the Commissions of Delimitation of boundary between Indochina [Cambodia] and Siam [Thailand].. sep up under the Convention of 1904 and the Treaty of 1907 between France [Cambodia] and Siam [Thailand] (theferafter referred to as "the maps of 1:200,000") and other documents relating to the application of the Convention of 1904 and the Treaty of 1907 between France [Cambodia] and Siam [Thailand]. Paragraph 10 of the Terms of Reference emphasises: "This TOR is without prejudice to the legal value of the previous agreements between France and Siam concerning the delimitation of boundary, nor to the value of the Maps of the Commissions of the Delimitation of Boundary between Indochina [Cambodia] and Siam [Thailand] set up under the Convention of 13 February 1904 and the Treaty of 23 March 1907, reflecting the boundary line of Indochina and Siam" Clearly the maps referred to are the 1:200,000 map(s) which, as mentioned above, the ICJ in 1962 ruled to be valid and forms part of the 1904 (and 1907) treaties. Thailand is therefore not in a position to assert that the 1:200,000 maps (one of which is known as Dangrek Section or Annex I map in which the PreahVihear Temple is situated) are not valid. There is no legal basis for such an assertion and to make such an assertion would amount to saying that, in contravention of the UN Charter, Thailand does not accept and will not enforce the Judgment of the ICJ. Thai FM: 2. Cambodia also admitted in the aforementioned declaration that the decision of the International Court of Justice (ICJ) of 1962 did not rule on the question of the boundary line between Thailand and Cambodia. Bora Touch: Contrary to Thailand's assertion, in 1962 the ICJ ruled unambiguously that the 1:200,000 maps (the Dangrek Section or Annex I Map included) is valid and is a part of the 1904 and 1907 treaties. Since the ICJ accepted and ruled that the map(s), which is the result of the boundary demarcation of the French-Siamese Joint Commissions, is valid and a part the treaties, the ICJ decided that it was unnecessary to rule on the question of boundary because the matter was decided (the map was ruled to be valid). The question did not need an answer as it was determined by the map(s). As scholar Kieth Highet (1987) pointed out: "the Court held that since the location indicated in the map had been accepted, it was unncessary to examine the physical location of boundary as derived from the terms of the Treaty". The ICJ did rule on the boundary question by ruling that map was valid. Thai FM: 3. Thailand maintains that the "Keo Sikha Kiri Svara" Pagoda is situated on Thai territory, and demands that Cambodia remove both the pagoda and the Cambodian flag flying over the pagoda. This is a reiteration of the many protests that Thailand has submitted to Cambodia regarding the activities carried out in the pagoda and the surrounding area, all of which constitute violations of sovereignty and territorial integrity of the Kingdom of Thailand. Bora Touch: According to the 1:200,000 map (or the Dangkrek Section or Annex I map), the Preah Vihear Temple and the 4.6 sq km parcel of land undisputedly are inside Cambodian territory. Thailand and Cambodia agree that the "Keo Sikha Kiri Svara" Pagoda is situated in the 4.6 sqkm parcel of land. Thai FM: 4. The Ministry reaffirms Thailand's commitment to resolving all boundary issues with Cambodia in accordance with international law through peaceful means under the framework of the Thai-Cambodian Joint Commission on Demarcation for Land Boundary (JBC). The determination of the boundary line in the area of the Temple of Phra Viharn [Preah Vihear Temple] is still subject to ongoing negotiation under the framework of the JBC." Bora Touch: It is misleading for Thailand to say it applies international law in this regard. It obviously failed to perform the obligations as stipulated under the ICJ Judgment of 1962. It thus has violated article 94(1) of the UN Charter/. Cambodia complains to the UN Security Council for appropriate measures against Thailand: Art 94(2).
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 147 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Their” vs. “There” vs. “They’re”: Do You Know The Difference?

    The trio of their, there, and they’re can flummox writers of all levels. It’s confusing; they are homophones, meaning they have the same pronunciation (sound) but differ in meaning and derivation (origin).

    Even though they sound the same, they aren’t spelled the same … cue the noticeable errors! Let’s explore the correct usages of the three.

    How do you use their, there, and they’re?

    These three words serve many functions.

    When to use their

    Their is the possessive case of the pronoun they, meaning belonging to them. As in:

    • They left their cell phones at home.

    Their is generally plural, but it is increasingly accepted in place of the singular his or her after words such as someone:

    • Someone left their book on the table.

    When to use there

    There is an adverb that means in or at that place. In this sense, there is essentially the opposite of here. This is what’s known as an adverb of place, which answers the question where an action is taking place. Many common adverbs end in -ly, like quickly, usually, and completely, but not all adverbs do.

    • She is there now.

    There is also used as a pronoun introducing the subject of a sentence or clause:

    • There is still hope.

    When to use they’re

    They’re is a contraction of the words they and are.

    •They’re mastering the differences between three homophones!

    Take a hint from the spelling!

    If you find yourself coming up blank when trying to determine which one to use, take a hint from the spelling of each:

    • There has the word heir in it, which can act as a reminder that the term indicates possession.
    • There has the word here in it. There is the choice when talking about places, whether figurative or literal.
    • They’re has an apostrophe, which means it’s the product of two words: they are. If you can substitute they are into your sentence and retain the meaning, then they’re is the correct homophone to use.

    © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    “Their” vs. “There” vs. “They’re”: Do You Know The Difference? The trio of their, there, and they’re can flummox writers of all levels. It’s confusing; they are homophones, meaning they have the same pronunciation (sound) but differ in meaning and derivation (origin). Even though they sound the same, they aren’t spelled the same … cue the noticeable errors! Let’s explore the correct usages of the three. How do you use their, there, and they’re? These three words serve many functions. When to use their Their is the possessive case of the pronoun they, meaning belonging to them. As in: • They left their cell phones at home. Their is generally plural, but it is increasingly accepted in place of the singular his or her after words such as someone: • Someone left their book on the table. When to use there There is an adverb that means in or at that place. In this sense, there is essentially the opposite of here. This is what’s known as an adverb of place, which answers the question where an action is taking place. Many common adverbs end in -ly, like quickly, usually, and completely, but not all adverbs do. • She is there now. There is also used as a pronoun introducing the subject of a sentence or clause: • There is still hope. When to use they’re They’re is a contraction of the words they and are. •They’re mastering the differences between three homophones! Take a hint from the spelling! If you find yourself coming up blank when trying to determine which one to use, take a hint from the spelling of each: • There has the word heir in it, which can act as a reminder that the term indicates possession. • There has the word here in it. There is the choice when talking about places, whether figurative or literal. • They’re has an apostrophe, which means it’s the product of two words: they are. If you can substitute they are into your sentence and retain the meaning, then they’re is the correct homophone to use. © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 120 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีงบ 1,000 บาท จะซื้ออะไรในงานบ้านและสวน Shopping Week 2025 ได้บ้าง?
    เราเดินจริง ช้อปจริง ได้ทั้งไม้ประดับ ของตกแต่งบ้าน และปุ๋ยบำรุงครบสูตร
    คุ้มมาก! แถมบางชิ้นมีโปรโมชั่นซื้อแถมด้วย!
    ใครยังไม่มา อย่าพลาดนะคะ

    อิมแพ็ค เมืองทองธานี Hall 11
    G55-G57, G84-G86 Living Zone
    🗓 21–29 มิ.ย. 2568 | 10:00–21:00 น.
    #บ้านและสวนShoppingWeek2568 #ทีพีไอ #ของแต่งบ้าน #ปุ๋ยอินทรีย์ #งานแฟร์
    มีงบ 1,000 บาท จะซื้ออะไรในงานบ้านและสวน Shopping Week 2025 ได้บ้าง? เราเดินจริง ช้อปจริง ได้ทั้งไม้ประดับ ของตกแต่งบ้าน และปุ๋ยบำรุงครบสูตร 🌿✨ คุ้มมาก! แถมบางชิ้นมีโปรโมชั่นซื้อแถมด้วย! ใครยังไม่มา อย่าพลาดนะคะ 📍 อิมแพ็ค เมืองทองธานี Hall 11 🎯 G55-G57, G84-G86 Living Zone 🗓 21–29 มิ.ย. 2568 | ⏰ 10:00–21:00 น. #บ้านและสวนShoppingWeek2568 #ทีพีไอ #ของแต่งบ้าน #ปุ๋ยอินทรีย์ #งานแฟร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ก่อนหน้านี้เรามักเห็นจีนใช้ชิป Intel หรือ AMD เป็นหลักในดาต้าเซ็นเตอร์ หรือหน่วยงานวิจัย แต่ รัฐบาลจีนก็กระตุ้นอย่างหนักให้พัฒนา “ชิปพื้นบ้าน (homegrown)” ขึ้นมาใช้เองในระยะยาว โดย Loongson คือหนึ่งในบริษัทที่ถือธงนำทัพด้านนี้

    ล่าสุดพวกเขาเปิดตัว Loongson 3E6000 ซึ่งใช้สถาปัตยกรรม LoongArch 6000 พร้อมแกนประมวลผล LA664 รวมทั้งหมด 64 คอร์ 128 เธรด, ความเร็วสูงสุด 2.2 GHz, แคช 32MB และรองรับ DDR4-3200 แบบ quad-channel

    จุดน่าสนใจคือ ตัวชิปนี้ใช้เทคนิค “quad-chiplet” คือรวม 4 ชิปย่อยเชื่อมกันด้วยเทคโนโลยีที่ชื่อ LoongLink (คล้ายกับ Infinity Fabric หรือ NVLink) — ทำให้สร้างชิป 64 คอร์ได้แม้กระบวนการผลิตของจีนจะยังตามหลังตะวันตก

    แม้ยังมีจุดอ่อนด้าน floating-point แต่ผลการทดสอบใน Spec CPU 2017 ระบุว่า Loongson 3E6000 ทำคะแนน integer ได้สูงกว่า Xeon 8380 ถึง 35% (แต่แพ้ในด้าน floating-point อยู่ 14%)

    และที่สำคัญ…Loongson ยังพัฒนาแผนถัดไปไว้แล้ว เช่นรุ่น 3B6600 (8 คอร์, 3GHz) และ 3B7000 (แรงกว่านี้อีก) ที่ใช้คอร์รุ่นใหม่ LA864 ซึ่งหวังว่าจะชน Intel Raptor Lake หรือ AMD Zen 4 ได้เลยครับ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/new-homegrown-china-server-chips-unveiled-with-impressive-specs-loongsons-3c6000-cpu-comes-armed-with-64-cores-128-threads-and-performance-to-rival-xeon-8380
    ก่อนหน้านี้เรามักเห็นจีนใช้ชิป Intel หรือ AMD เป็นหลักในดาต้าเซ็นเตอร์ หรือหน่วยงานวิจัย แต่ รัฐบาลจีนก็กระตุ้นอย่างหนักให้พัฒนา “ชิปพื้นบ้าน (homegrown)” ขึ้นมาใช้เองในระยะยาว โดย Loongson คือหนึ่งในบริษัทที่ถือธงนำทัพด้านนี้ ล่าสุดพวกเขาเปิดตัว Loongson 3E6000 ซึ่งใช้สถาปัตยกรรม LoongArch 6000 พร้อมแกนประมวลผล LA664 รวมทั้งหมด 64 คอร์ 128 เธรด, ความเร็วสูงสุด 2.2 GHz, แคช 32MB และรองรับ DDR4-3200 แบบ quad-channel จุดน่าสนใจคือ ตัวชิปนี้ใช้เทคนิค “quad-chiplet” คือรวม 4 ชิปย่อยเชื่อมกันด้วยเทคโนโลยีที่ชื่อ LoongLink (คล้ายกับ Infinity Fabric หรือ NVLink) — ทำให้สร้างชิป 64 คอร์ได้แม้กระบวนการผลิตของจีนจะยังตามหลังตะวันตก แม้ยังมีจุดอ่อนด้าน floating-point แต่ผลการทดสอบใน Spec CPU 2017 ระบุว่า Loongson 3E6000 ทำคะแนน integer ได้สูงกว่า Xeon 8380 ถึง 35% (แต่แพ้ในด้าน floating-point อยู่ 14%) และที่สำคัญ…Loongson ยังพัฒนาแผนถัดไปไว้แล้ว เช่นรุ่น 3B6600 (8 คอร์, 3GHz) และ 3B7000 (แรงกว่านี้อีก) ที่ใช้คอร์รุ่นใหม่ LA864 ซึ่งหวังว่าจะชน Intel Raptor Lake หรือ AMD Zen 4 ได้เลยครับ https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/new-homegrown-china-server-chips-unveiled-with-impressive-specs-loongsons-3c6000-cpu-comes-armed-with-64-cores-128-threads-and-performance-to-rival-xeon-8380
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปกติ SSD ที่ใช้ NAND แบบ QLC มักจะราคาถูกและความจุเยอะ แต่มีปัญหาเรื่อง “เขียนข้อมูลช้า” และความทนทานต่ำกว่า TLC หรือ MLC แบบดั้งเดิม โดยเฉพาะเมื่อ SLC cache หมด

    Micron เลยเสนอทางออกใหม่ในรุ่น 2600 — ด้วยแนวคิดที่ว่า "ไม่ต้องใช้ SLC cache อย่างเดียว...แต่เปลี่ยนพื้นที่ NAND ไป-มาเป็น SLC → TLC → QLC ตามสถานการณ์"

    โดยเทคนิค Adaptive Write Technology จะทำแบบนี้:
    - เริ่มเขียนข้อมูลใหม่ใน SLC mode (เร็วที่สุด)
    - เมื่อ SLC cache เต็ม → เปลี่ยนเป็น TLC mode ชั่วคราว
    - เมื่อ TLC เต็ม → เก็บข้อมูลไว้ใน QLC mode ขณะ idle แล้วคืนพื้นที่ SLC/TLC มารอใช้งานใหม่

    ผลคือ SSD สามารถวิ่งเร็วได้ ต่อเนื่องแม้ไม่มี DRAM แถมลด latency ได้ระดับ 12–50 ไมโครวินาทีเท่านั้น — ถือว่าเร็วมากสำหรับ QLC ครับ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/ssds/micron-2600-qlc-ssd-uses-flexible-caching-to-offer-tlc-like-performance-7-200-mb-s-reads-and-6-500-mb-s-writes-push-the-limits-of-pcie-4-0
    ปกติ SSD ที่ใช้ NAND แบบ QLC มักจะราคาถูกและความจุเยอะ แต่มีปัญหาเรื่อง “เขียนข้อมูลช้า” และความทนทานต่ำกว่า TLC หรือ MLC แบบดั้งเดิม โดยเฉพาะเมื่อ SLC cache หมด Micron เลยเสนอทางออกใหม่ในรุ่น 2600 — ด้วยแนวคิดที่ว่า "ไม่ต้องใช้ SLC cache อย่างเดียว...แต่เปลี่ยนพื้นที่ NAND ไป-มาเป็น SLC → TLC → QLC ตามสถานการณ์" โดยเทคนิค Adaptive Write Technology จะทำแบบนี้: - เริ่มเขียนข้อมูลใหม่ใน SLC mode (เร็วที่สุด) - เมื่อ SLC cache เต็ม → เปลี่ยนเป็น TLC mode ชั่วคราว - เมื่อ TLC เต็ม → เก็บข้อมูลไว้ใน QLC mode ขณะ idle แล้วคืนพื้นที่ SLC/TLC มารอใช้งานใหม่ ผลคือ SSD สามารถวิ่งเร็วได้ ต่อเนื่องแม้ไม่มี DRAM แถมลด latency ได้ระดับ 12–50 ไมโครวินาทีเท่านั้น — ถือว่าเร็วมากสำหรับ QLC ครับ https://www.tomshardware.com/pc-components/ssds/micron-2600-qlc-ssd-uses-flexible-caching-to-offer-tlc-like-performance-7-200-mb-s-reads-and-6-500-mb-s-writes-push-the-limits-of-pcie-4-0
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 113 มุมมอง 0 รีวิว
  • น้ำรั่วแค่ไหนก็เอาอยู่!
    เดินลุยฝนมา...เพื่อสิ่งนี้ M680 TPI WATER PLUG หยุดน้ำรั่วใน 5 นาที ด้วยคุณสมบัติ เซ็ตตัวได้ในน้ำ และ บนอากาศ

    ของจริงต้องมาพิสูจน์ที่ #บ้านและสวนShoppingWeek2025

    พิกัด : อิมแพ็ค เมืองทองธานี Hall 11
    บูธ G55-G57,G84-G86 Living Zone
    วันนี้-29 มิถุนายน 2568 เท่านั้น
    เวลา 10:00 - 21:00 น.
    💧 น้ำรั่วแค่ไหนก็เอาอยู่! ☔ เดินลุยฝนมา...เพื่อสิ่งนี้ M680 TPI WATER PLUG หยุดน้ำรั่วใน 5 นาที ด้วยคุณสมบัติ เซ็ตตัวได้ในน้ำ และ บนอากาศ ของจริงต้องมาพิสูจน์ที่ #บ้านและสวนShoppingWeek2025 พิกัด : อิมแพ็ค เมืองทองธานี Hall 11 บูธ G55-G57,G84-G86 Living Zone วันนี้-29 มิถุนายน 2568 เท่านั้น เวลา 10:00 - 21:00 น.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 132 มุมมอง 2 0 รีวิว
  • สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี
    ทรงฉลองพระองค์ไทยสากล ผ้าไหมพื้นเรียบ
    .
    ผ้าไหมพื้นเรียบ เป็นการทอแบบขัด เป็นวิธีการเบื้องต้นของการทอผ้าทุกชนิด คือมีเส้นพุ่งและเส้นยืนซึ่งอาจเป็นเส้นเดียวกันหรือต่างสีกัน ซึ่งจะทำให้เกิดลวดลายในเนื้อผ้าต่างกัน เช่น การทอเส้นยืนสลับสีก็จะเกิดผ้าลายริ้วทางยาว หรือถ้าทอเส้นพุ่งสลับสีก็จะได้ผ้าลายขวาง การทอเส้นยืนและเส้นพุ่งสลับสีก็จะได้ลายตาราง เป็นต้น ผ้าไหมที่ใช้เทคนิคการทอขัด เรียงตามความหนาของเนื้อผ้า เช่น ไม่ได้มีการควบเส้นใยเพิ่มเข้าไป ผ้าไหมสองเส้น หมายถึง ผ้าไหมที่ทอขัดด้วยเส้นยืนเส้นเดียว ส่วนเส้นพุ่งจะมีการควบเส้นไหมเพิ่มเป็นสองเส้น เนื้อผ้าจะมีความหนามากกว่าผ้าไหมหนึ่งเส้น
    ----
    HER MAJESTY QUEEN SUTHIDA WEARS
    ROYAL ATTIRE IN THAI SILK
    .
    Thai silk is a polished weave. It is the basic method of weaving all kinds. That is, there is a weft line and a stand line, which may be the same line or different colors. This will cause patterns in different fabrics, for example, weaving warp lines and alternating colors will produce long stripes. Or if weaving the weft lines and alternating colors, we will get a striped fabric. The weaving of warp and weft lines alternating colors will result in a grid pattern, etc. Silk that uses polished weaving techniques. Sorted according to the thickness of the fabric, for example, without adding more fibers. Two-strand silk refers to silk that is woven with a single warp thread. As for the weft line, there will be two more silk threads merged. The fabric will be one strand thicker than silk.
    ____________________________________
    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    Cr. FB : สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี : We Love Her Majesty Queen Suthida Fanpage
    สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงฉลองพระองค์ไทยสากล ผ้าไหมพื้นเรียบ . ผ้าไหมพื้นเรียบ เป็นการทอแบบขัด เป็นวิธีการเบื้องต้นของการทอผ้าทุกชนิด คือมีเส้นพุ่งและเส้นยืนซึ่งอาจเป็นเส้นเดียวกันหรือต่างสีกัน ซึ่งจะทำให้เกิดลวดลายในเนื้อผ้าต่างกัน เช่น การทอเส้นยืนสลับสีก็จะเกิดผ้าลายริ้วทางยาว หรือถ้าทอเส้นพุ่งสลับสีก็จะได้ผ้าลายขวาง การทอเส้นยืนและเส้นพุ่งสลับสีก็จะได้ลายตาราง เป็นต้น ผ้าไหมที่ใช้เทคนิคการทอขัด เรียงตามความหนาของเนื้อผ้า เช่น ไม่ได้มีการควบเส้นใยเพิ่มเข้าไป ผ้าไหมสองเส้น หมายถึง ผ้าไหมที่ทอขัดด้วยเส้นยืนเส้นเดียว ส่วนเส้นพุ่งจะมีการควบเส้นไหมเพิ่มเป็นสองเส้น เนื้อผ้าจะมีความหนามากกว่าผ้าไหมหนึ่งเส้น ---- HER MAJESTY QUEEN SUTHIDA WEARS ROYAL ATTIRE IN THAI SILK . Thai silk is a polished weave. It is the basic method of weaving all kinds. That is, there is a weft line and a stand line, which may be the same line or different colors. This will cause patterns in different fabrics, for example, weaving warp lines and alternating colors will produce long stripes. Or if weaving the weft lines and alternating colors, we will get a striped fabric. The weaving of warp and weft lines alternating colors will result in a grid pattern, etc. Silk that uses polished weaving techniques. Sorted according to the thickness of the fabric, for example, without adding more fibers. Two-strand silk refers to silk that is woven with a single warp thread. As for the weft line, there will be two more silk threads merged. The fabric will be one strand thicker than silk. ____________________________________ #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida Cr. FB : สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี : We Love Her Majesty Queen Suthida Fanpage
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชุดตรวจการณ์นาวิกโยธินใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    ชุดตรวจการณ์นาวิกโยธินใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 225 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลองจินตนาการว่าเดินเข้าไปในคาเฟ่ ไม่ได้พกมือถือ ไม่มีเงินสด แต่คุณแค่ พูดเบา ๆ ว่า “จ่ายด้วย Alipay” ผ่านแว่นตา — แล้วระบบก็ชำระเงินให้ทันที

    นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงแล้วในฮ่องกง! โดย Alipay+ ร่วมกับ Meizu ทำ การทดลองจ่ายเงินซื้อของผ่านแว่นตาอัจฉริยะ “StarV Snap” เป็นครั้งแรกในโลก ผ่านระบบของ AlipayHK การชำระเงินสามารถทำได้ทั้ง สแกน QR code หรือใช้เสียงพูด ผ่านระบบ AI ที่ตรวจจับ เสียง, ความตั้งใจ (intent) และ ลายเสียง (voiceprint) ของผู้ใช้

    แว่นตายังรองรับ NFC และกล้องที่ช่วยประมวลผลร่วมกับระบบของ Alipay+ ได้อีกหลายรูปแบบ ซึ่งในอนาคตจะขยายไปยังพาร์ตเนอร์ทั่วโลกในปี 2025

    แม้ตอนนี้ยังเป็นของใหม่ที่ดูเหมือน “สำหรับสายเทคโนฯ ล้ำ ๆ เท่านั้น” แต่ผู้บริหารของ Ant Group ก็มั่นใจว่า แว่นตาอัจฉริยะจะกลายเป็นสมาร์ตดีไวซ์รุ่นถัดไปที่มาแทนมือถือ

    Alipay+ และ Meizu ทดลองชำระเงินผ่านแว่นตาอัจฉริยะ StarV Snap สำเร็จครั้งแรกที่ฮ่องกง  
    • ใช้ระบบของ AlipayHK  
    • ชำระผ่านการพูดหรือสแกน QR บนแว่น

    ระบบของ Alipay+ ใช้ AI ในการรู้จำเสียง, ความตั้งใจ และลายเสียงเพื่อความปลอดภัย  
    • ช่วยให้การยืนยันตัวตนและสั่งจ่ายเงินผ่านเสียงทำได้จริง

    แว่นตา Meizu มีหน้าจอแสดงผลแบบ optical waveguide + ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน + กล้องในตัว  
    • สามารถใช้งานร่วมกับ NFC และบริการอื่น ๆ ของ Alipay+

    Alipay+ เตรียมขยายฟีเจอร์นี้ไปยังพาร์ตเนอร์ทั่วโลกภายในปี 2025

    Peng Guo ผู้บริหาร Meizu กล่าวว่า นี่เป็นการ “กำหนดมาตรฐานใหม่” ของการชำระเงินผ่านอุปกรณ์สวมใส่  
    • ทำให้ AR glasses ไม่ใช่แค่ gadget แต่เป็นเครื่องมือใช้งานได้จริง

    https://www.techradar.com/pro/forgot-your-smartphone-no-problem-heres-the-first-smart-glasses-that-can-pay-for-your-coffee
    ลองจินตนาการว่าเดินเข้าไปในคาเฟ่ ไม่ได้พกมือถือ ไม่มีเงินสด แต่คุณแค่ พูดเบา ๆ ว่า “จ่ายด้วย Alipay” ผ่านแว่นตา — แล้วระบบก็ชำระเงินให้ทันที นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงแล้วในฮ่องกง! โดย Alipay+ ร่วมกับ Meizu ทำ การทดลองจ่ายเงินซื้อของผ่านแว่นตาอัจฉริยะ “StarV Snap” เป็นครั้งแรกในโลก ผ่านระบบของ AlipayHK การชำระเงินสามารถทำได้ทั้ง สแกน QR code หรือใช้เสียงพูด ผ่านระบบ AI ที่ตรวจจับ เสียง, ความตั้งใจ (intent) และ ลายเสียง (voiceprint) ของผู้ใช้ แว่นตายังรองรับ NFC และกล้องที่ช่วยประมวลผลร่วมกับระบบของ Alipay+ ได้อีกหลายรูปแบบ ซึ่งในอนาคตจะขยายไปยังพาร์ตเนอร์ทั่วโลกในปี 2025 แม้ตอนนี้ยังเป็นของใหม่ที่ดูเหมือน “สำหรับสายเทคโนฯ ล้ำ ๆ เท่านั้น” แต่ผู้บริหารของ Ant Group ก็มั่นใจว่า แว่นตาอัจฉริยะจะกลายเป็นสมาร์ตดีไวซ์รุ่นถัดไปที่มาแทนมือถือ ✅ Alipay+ และ Meizu ทดลองชำระเงินผ่านแว่นตาอัจฉริยะ StarV Snap สำเร็จครั้งแรกที่ฮ่องกง   • ใช้ระบบของ AlipayHK   • ชำระผ่านการพูดหรือสแกน QR บนแว่น ✅ ระบบของ Alipay+ ใช้ AI ในการรู้จำเสียง, ความตั้งใจ และลายเสียงเพื่อความปลอดภัย   • ช่วยให้การยืนยันตัวตนและสั่งจ่ายเงินผ่านเสียงทำได้จริง ✅ แว่นตา Meizu มีหน้าจอแสดงผลแบบ optical waveguide + ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน + กล้องในตัว   • สามารถใช้งานร่วมกับ NFC และบริการอื่น ๆ ของ Alipay+ ✅ Alipay+ เตรียมขยายฟีเจอร์นี้ไปยังพาร์ตเนอร์ทั่วโลกภายในปี 2025 ✅ Peng Guo ผู้บริหาร Meizu กล่าวว่า นี่เป็นการ “กำหนดมาตรฐานใหม่” ของการชำระเงินผ่านอุปกรณ์สวมใส่   • ทำให้ AR glasses ไม่ใช่แค่ gadget แต่เป็นเครื่องมือใช้งานได้จริง https://www.techradar.com/pro/forgot-your-smartphone-no-problem-heres-the-first-smart-glasses-that-can-pay-for-your-coffee
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • บ้านสวย สวนร่มรื่น เริ่มต้นที่วัสดุดี!
    มาเจอกันที่ บูธ TPI ในงาน บ้านและสวน Shopping Week 2025
    พบสินค้าเพื่อบ้านและสวนครบครัน ทั้งวัสดุก่อสร้าง สี วัสดุตกแต่ง และนวัตกรรมยั่งยืน
    พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ และคำแนะนำดี ๆ จากทีมผู้เชี่ยวชาญ

    พิกัด : อิมแพ็ค เมืองทองธานี Hall 11
    บูธ G55-G57,G84-G86 Living Zone
    🗓 วันที่ 21-29 มิถุนายน 2568
    เวลา 10:00 - 21:00 น.

    อย่าลืมแวะมานะครับ แล้วมาสร้างแรงบันดาลใจให้ “บ้านในฝัน” ของคุณไปพร้อมกันกับ TPI

    #บ้านและสวนShoppingWeek2025 #TPILivingZone #วัสดุก่อสร้างเพื่อบ้านและสวน #ทีพีไอครบจบในบูธเดียว
    🏡 บ้านสวย สวนร่มรื่น เริ่มต้นที่วัสดุดี! มาเจอกันที่ บูธ TPI ในงาน บ้านและสวน Shopping Week 2025 พบสินค้าเพื่อบ้านและสวนครบครัน ทั้งวัสดุก่อสร้าง สี วัสดุตกแต่ง และนวัตกรรมยั่งยืน พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ และคำแนะนำดี ๆ จากทีมผู้เชี่ยวชาญ 📍 พิกัด : อิมแพ็ค เมืองทองธานี Hall 11 🎯 บูธ G55-G57,G84-G86 Living Zone 🗓 วันที่ 21-29 มิถุนายน 2568 ⏰ เวลา 10:00 - 21:00 น. อย่าลืมแวะมานะครับ แล้วมาสร้างแรงบันดาลใจให้ “บ้านในฝัน” ของคุณไปพร้อมกันกับ TPI 💚 #บ้านและสวนShoppingWeek2025 #TPILivingZone #วัสดุก่อสร้างเพื่อบ้านและสวน #ทีพีไอครบจบในบูธเดียว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 94 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องราวเริ่มจาก Chetal และพวก 2 คน ใช้เทคนิค social engineering ปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ Google/Yahoo หลอกเหยื่อจากวอชิงตัน ดี.ซี. จนสามารถขโมย Bitcoin จำนวน 4,100 เหรียญ มูลค่าราว $245 ล้าน (และตอนนี้ขึ้นมาเกือบ $440 ล้านแล้ว!)

    จากนั้นเขาใช้เงินที่ได้ไปใช้ชีวิตหรูหราทั้งซื้อรถ, เช่าคฤหาสน์, ปาร์ตี้ไนต์คลับ และเครื่องเพชร — จนกลายเป็นเป้าสายตาแบบเต็ม ๆ

    และเรื่องดันบานปลาย เมื่อ พ่อแม่ของ Chetal ถูกกลุ่มอาชญากรจากฟลอริดารุมทำร้าย-ลักพาตัว แบบกลางวันแสก ๆ ด้วยการเอารถชน, มัดมือ, ยัดใส่รถตู้ — แต่โชคดีที่มีเจ้าหน้าที่ FBI นอกเครื่องแบบอยู่ใกล้ ๆ และช่วยได้ทัน

    ต่อมา FBI บุกค้นบ้าน พบเงินสด $500,000 และคริปโตอีก $39 ล้าน ซ้ำยังพบว่า Chetal เคยก่อเหตุแบบเดียวกันอีกเกือบ 50 ครั้ง รวมรายได้อีก $3 ล้าน

    ตอนนี้ Chetal ยอมรับผิดและให้ความร่วมมือกับทางการ เพื่อแลกกับโทษที่เบาลง — แต่อาจต้องติดคุก 19–24 ปี, ถูกปรับสูงสุด $500,000 และอาจ ถูกเนรเทศกลับอินเดีย เพราะเป็นผู้ย้ายถิ่นตั้งแต่ยังเด็ก

    ข้อมูลจากข่าว:
    Veer Chetal และพรรคพวกขโมย Bitcoin จำนวน 4,100 BTC มูลค่า $245 ล้าน ในเดือนส.ค. 2024  
    • ใช้การหลอกลวงแบบ social engineering ด้วยการปลอมเป็นเจ้าหน้าที่บริการเว็บชื่อดัง

    หลังการขโมย Chetal ใช้ชีวิตฟุ่มเฟือย  
    • ซื้อรถหรู, เครื่องเพชร, เช่าคฤหาสน์ และปาร์ตี้อย่างรื่นเริง

    พ่อแม่ของเขาถูกกลุ่มชายจากฟลอริดาลักพาตัวกลางวันแสก ๆ ด้วยความรุนแรง  
    • โชคดีที่มี FBI อยู่ในเหตุการณ์ ทำให้ช่วยไว้ได้ทัน

    FBI ค้นบ้านพบ $500,000 เงินสด และ crypto อีก $39 ล้าน  
    • ตรวจพบว่ามีคดีคล้ายกันอีก 50 ครั้ง รวมเงิน $3 ล้าน

    Chetal ยอมรับผิดข้อหาฉ้อโกงและฟอกเงิน  
    • เตรียมรับโทษจำคุก 19–24 ปี และปรับ $50,000–$500,000 พร้อมชดใช้เหยื่อ  
    • อาจถูกเนรเทศกลับอินเดีย เพราะไม่ใช่พลเมืองสหรัฐฯ

    พ่อของเขาถูกไล่ออกจาก Morgan Stanley จากเหตุผลเกี่ยวกับคดีนี้

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptocurrency/man-behind-usd245m-bitcoin-theft-has-bizarre-tale-that-includes-kidnapped-parents-fraud-and-money-laundering-suspect-now-faces-up-to-24-years-in-prison-half-million-dollar-fine-and-possible-deportation-to-india
    เรื่องราวเริ่มจาก Chetal และพวก 2 คน ใช้เทคนิค social engineering ปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ Google/Yahoo หลอกเหยื่อจากวอชิงตัน ดี.ซี. จนสามารถขโมย Bitcoin จำนวน 4,100 เหรียญ มูลค่าราว $245 ล้าน (และตอนนี้ขึ้นมาเกือบ $440 ล้านแล้ว!) จากนั้นเขาใช้เงินที่ได้ไปใช้ชีวิตหรูหราทั้งซื้อรถ, เช่าคฤหาสน์, ปาร์ตี้ไนต์คลับ และเครื่องเพชร — จนกลายเป็นเป้าสายตาแบบเต็ม ๆ และเรื่องดันบานปลาย เมื่อ พ่อแม่ของ Chetal ถูกกลุ่มอาชญากรจากฟลอริดารุมทำร้าย-ลักพาตัว แบบกลางวันแสก ๆ ด้วยการเอารถชน, มัดมือ, ยัดใส่รถตู้ — แต่โชคดีที่มีเจ้าหน้าที่ FBI นอกเครื่องแบบอยู่ใกล้ ๆ และช่วยได้ทัน ต่อมา FBI บุกค้นบ้าน พบเงินสด $500,000 และคริปโตอีก $39 ล้าน ซ้ำยังพบว่า Chetal เคยก่อเหตุแบบเดียวกันอีกเกือบ 50 ครั้ง รวมรายได้อีก $3 ล้าน ตอนนี้ Chetal ยอมรับผิดและให้ความร่วมมือกับทางการ เพื่อแลกกับโทษที่เบาลง — แต่อาจต้องติดคุก 19–24 ปี, ถูกปรับสูงสุด $500,000 และอาจ ถูกเนรเทศกลับอินเดีย เพราะเป็นผู้ย้ายถิ่นตั้งแต่ยังเด็ก ✅ ข้อมูลจากข่าว: ✅ Veer Chetal และพรรคพวกขโมย Bitcoin จำนวน 4,100 BTC มูลค่า $245 ล้าน ในเดือนส.ค. 2024   • ใช้การหลอกลวงแบบ social engineering ด้วยการปลอมเป็นเจ้าหน้าที่บริการเว็บชื่อดัง ✅ หลังการขโมย Chetal ใช้ชีวิตฟุ่มเฟือย   • ซื้อรถหรู, เครื่องเพชร, เช่าคฤหาสน์ และปาร์ตี้อย่างรื่นเริง ✅ พ่อแม่ของเขาถูกกลุ่มชายจากฟลอริดาลักพาตัวกลางวันแสก ๆ ด้วยความรุนแรง   • โชคดีที่มี FBI อยู่ในเหตุการณ์ ทำให้ช่วยไว้ได้ทัน ✅ FBI ค้นบ้านพบ $500,000 เงินสด และ crypto อีก $39 ล้าน   • ตรวจพบว่ามีคดีคล้ายกันอีก 50 ครั้ง รวมเงิน $3 ล้าน ✅ Chetal ยอมรับผิดข้อหาฉ้อโกงและฟอกเงิน   • เตรียมรับโทษจำคุก 19–24 ปี และปรับ $50,000–$500,000 พร้อมชดใช้เหยื่อ   • อาจถูกเนรเทศกลับอินเดีย เพราะไม่ใช่พลเมืองสหรัฐฯ ✅ พ่อของเขาถูกไล่ออกจาก Morgan Stanley จากเหตุผลเกี่ยวกับคดีนี้ https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptocurrency/man-behind-usd245m-bitcoin-theft-has-bizarre-tale-that-includes-kidnapped-parents-fraud-and-money-laundering-suspect-now-faces-up-to-24-years-in-prison-half-million-dollar-fine-and-possible-deportation-to-india
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Man behind $245m Bitcoin theft has bizarre tale that includes kidnapped parents, fraud, and money laundering — suspect now faces up to 24 years in prison, half-million-dollar fine, and possible deportation to India
    Connecticut man’s parents were kidnapped shortly after the BTC theft. The father allegedly lost his job at Morgan Stanley due to his son’s nefarious activities.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 179 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts