• The Science Behind the Tablet—How Oral Solid Dosage Forms Are Engineered

    Oral solid dosage forms are often perceived as simple, everyday objects, yet each tablet and capsule represents a complex engineering marvel. The creation of these pharmaceuticals relies on a deep understanding of chemistry, physics, and human biology. The ultimate goal is to ensure that when a patient takes a pill, it behaves in a predictable and beneficial way inside the body.


    Reference - https://www.marketresearchfuture.com/reports/oral-solid-dosage-pharmaceutical-market-24531
    The Science Behind the Tablet—How Oral Solid Dosage Forms Are Engineered Oral solid dosage forms are often perceived as simple, everyday objects, yet each tablet and capsule represents a complex engineering marvel. The creation of these pharmaceuticals relies on a deep understanding of chemistry, physics, and human biology. The ultimate goal is to ensure that when a patient takes a pill, it behaves in a predictable and beneficial way inside the body. Reference - https://www.marketresearchfuture.com/reports/oral-solid-dosage-pharmaceutical-market-24531
    WWW.MARKETRESEARCHFUTURE.COM
    Oral Solid Dosage Pharmaceutical Market Growth Report 2035
    Oral Solid Dosage Pharmaceutical Market growth is projected to reach USD 1508.59 Billion, at a 6.92% CAGR by driving industry size analysis, 2025 to 2035
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251212 #TechRadar

    Adobe เปิด Photoshop ฟรีใน ChatGPT
    ตอนนี้ใครๆ ก็สามารถใช้ Photoshop ได้โดยไม่ต้องมีทักษะด้านกราฟิกเลย เพราะ Adobe ได้รวมเอา Photoshop, Express และ Acrobat เข้าไปอยู่ใน ChatGPT ให้ใช้งานฟรีทั้งหมด เพียงพิมพ์สิ่งที่ต้องการด้วยภาษาธรรมชาติ ระบบก็จะช่วยแก้ไขภาพหรือสร้างเอกสารให้ทันที เช่น การปรับแสงสี ใส่เอฟเฟกต์ หรือแม้แต่รวมไฟล์ PDF หลายไฟล์เป็นหนึ่งเดียว จุดเด่นคือมีตัวเลือกปรับแต่งผ่านแถบควบคุม ทำให้ผู้ใช้สามารถแก้ไขได้ตามใจโดยไม่ต้องเปิดโปรแกรมเต็มรูปแบบ ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ ChatGPT ไม่ใช่แค่เครื่องมือสร้างเนื้อหา แต่กลายเป็นพื้นที่ทำงานด้านการออกแบบและเอกสารครบวงจร
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/adobe-photoshop-is-now-built-into-chatgpt-for-free-and-you-dont-need-graphic-design-skills-to-use-it

    Google ออกแพตช์ฉุกเฉินแก้ช่องโหว่ Zero-Day บน Chrome
    Google ได้ปล่อยการอัปเดตเพื่อแก้ไขช่องโหว่ร้ายแรงบน Chrome ที่ถูกโจมตีจริงแล้วในโลกออนไลน์ นี่ถือเป็นครั้งที่ 8 ของปีที่บริษัทต้องแก้ Zero-Day โดยช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับการจัดการหน่วยความจำใน LibANGLE ซึ่งอาจทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าควบคุมเครื่องจากระยะไกลได้ การอัปเดตได้ทยอยปล่อยให้ผู้ใช้แล้ว และ Google ยังคงไม่เปิดเผยรายละเอียดเชิงลึกเพื่อป้องกันไม่ให้แฮกเกอร์นำไปใช้ต่อ
    https://www.techradar.com/pro/security/google-releases-emergency-fix-for-yet-another-zero-day

    สายการบินรัสเซีย Aeroflot ถูกโจมตีผ่านบริษัทซอฟต์แวร์ภายนอก
    เหตุการณ์โจมตีไซเบอร์ที่ทำให้สายการบิน Aeroflot ต้องหยุดบินหลายสิบเที่ยวเมื่อเดือนกรกฎาคม ถูกเปิดเผยว่าเกิดจากการโจมตีแบบ Supply Chain ผ่านบริษัท Bakka Soft ที่พัฒนาแอปและระบบให้กับสายการบิน โดยผู้โจมตีใช้ช่องโหว่ที่ไม่มีการป้องกันด้วย 2FA และติดตั้งมัลแวร์จำนวนมากในระบบ ทำให้เที่ยวบินต้องหยุดชะงักและสร้างความเสียหายหลายล้านดอลลาร์ แม้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่รายงานนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการพึ่งพาผู้ให้บริการภายนอก
    https://www.techradar.com/pro/security/russian-airline-hack-came-through-third-party-tech-vendor

    สวิตเซอร์แลนด์ถอยร่างกฎหมายขยายการสอดส่อง หลังถูกต้านหนัก
    รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ต้องกลับมาทบทวนร่างกฎหมายที่ต้องการขยายการสอดส่องจากผู้ให้บริการโทรคมนาคมไปยังแพลตฟอร์มอื่น เช่น แอปแชท โซเชียลมีเดีย และ VPN หลังจากถูกต่อต้านอย่างหนักจากบริษัทเทคโนโลยีและนักการเมืองท้องถิ่น ผู้ให้บริการอย่าง Proton และ Threema ชี้ว่ากฎหมายนี้จะกระทบต่อความเป็นส่วนตัวและการเข้ารหัสที่ปลอดภัย แม้การถอยครั้งนี้ถือเป็นชัยชนะชั่วคราว แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ารัฐบาลยังคงมีความตั้งใจจะผลักดันการสอดส่องต่อไป
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/switzerland-will-revise-proposed-law-change-after-backlash-from-tech-industry

    Disney จับมือ OpenAI เปิดทางให้ Sora ใช้ตัวละครดัง
    Disney สร้างความฮือฮาด้วยการเซ็นสัญญา 3 ปีร่วมกับ OpenAI เพื่อให้ Sora ซึ่งเป็นเครื่องมือสร้างวิดีโอด้วย AI สามารถใช้ตัวละครจาก Disney, Pixar, Marvel และ Star Wars ได้ พร้อมลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ใน OpenAI นี่ถือเป็นการเปลี่ยนท่าทีครั้งใหญ่ เพราะที่ผ่านมา Disney เข้มงวดมากกับการใช้ตัวละครของตน การร่วมมือครั้งนี้จะทำให้แฟนๆ สามารถสร้างคอนเทนต์ที่มี Mickey Mouse, Elsa หรือแม้แต่ตัวละครจาก Star Wars ปรากฏในผลงาน AI ได้ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/disney-and-openai-are-set-to-open-the-vault-to-sora-yet-an-ai-mickey-feels-like-magic-lost

    Nvidia พัฒนาซอฟต์แวร์ใหม่เพื่อติดตามชิปหลังพบการลักลอบ
    หลังจากมีการค้นพบการลักลอบขนส่งชิป Nvidia ได้ออกซอฟต์แวร์ใหม่ที่ช่วยติดตามเส้นทางการเคลื่อนไหวของชิป เพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ว่าชิปแต่ละตัวถูกส่งไปที่ใดบ้าง เทคโนโลยีนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อป้องกันการนำชิปไปใช้ในทางที่ผิด เช่น การนำไปใช้ในอุตสาหกรรมที่ถูกควบคุมหรือประเทศที่มีข้อจำกัดทางการค้า ถือเป็นการเสริมความปลอดภัยและความโปร่งใสในห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    https://www.techradar.com/pro/nvidia-develops-new-software-to-help-track-chips-following-smuggling-discovery

    Mullvad ยุติการสนับสนุน OpenVPN บนเดสก์ท็อป หันไปใช้ WireGuard แทน
    บริการ VPN ชื่อดัง Mullvad ประกาศเลิกใช้ OpenVPN บนเดสก์ท็อปทั้งหมด และบังคับให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ WireGuard ซึ่งมีความเร็วและความปลอดภัยสูงกว่า การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นเพราะ WireGuard มีโครงสร้างที่ทันสมัยและง่ายต่อการบำรุงรักษา ทำให้ Mullvad สามารถให้บริการที่เสถียรและปลอดภัยมากขึ้น แม้ผู้ใช้บางรายอาจต้องปรับตัว แต่บริษัทเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะเป็นผลดีในระยะยาว
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/mullvad-retires-openvpn-support-on-desktop-pushing-all-users-to-wireguard

    ICO ปรับ LastPass 1.2 ล้านปอนด์ หลังข้อมูลผู้ใช้รั่วไหล
    สำนักงานคุ้มครองข้อมูลของสหราชอาณาจักร (ICO) ได้สั่งปรับ LastPass เป็นเงิน 1.2 ล้านปอนด์ จากเหตุการณ์ข้อมูลผู้ใช้กว่า 1.6 ล้านรายถูกละเมิดในปี 2022 โดยการโจมตีเกิดจากการที่แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลสำรองของบริษัทผ่านบัญชีพนักงานที่ถูกเจาะ การปรับครั้งนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองข้อมูล และเป็นการเตือนให้บริษัทด้านความปลอดภัยต้องรักษามาตรฐานสูงสุด
    https://www.techradar.com/pro/security/ico-levies-gbp1-2-million-fine-against-lastpass-data-breach-compromised-info-on-1-6-million-users

    โครงสร้างพื้นฐาน HPC และ AI กำลังบรรจบกัน
    บทความนี้พูดถึงการที่โครงสร้างพื้นฐานด้าน High Performance Computing (HPC) และ AI กำลังถูกพัฒนาให้ทำงานร่วมกันมากขึ้น เพื่อรองรับงานที่ต้องใช้การประมวลผลมหาศาล เช่น การวิจัยทางวิทยาศาสตร์และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก แนวโน้มนี้ทำให้เกิดสถาปัตยกรรมใหม่ที่สามารถรองรับทั้งงาน HPC และ AI ได้ในระบบเดียว ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน
    https://www.techradar.com/pro/hpc-and-ai-converging-infrastructures

    ค่าใช้จ่ายแฝงจากช่องว่างด้าน Cloud Sovereignty
    รายงานนี้ชี้ให้เห็นว่าการที่หลายองค์กรยังไม่สามารถควบคุมข้อมูลบนคลาวด์ได้อย่างสมบูรณ์ ก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายแฝงจำนวนมาก ทั้งในด้านความเสี่ยงทางกฎหมาย ความปลอดภัย และการปฏิบัติตามข้อบังคับ การขาดความเป็นอิสระในการจัดการข้อมูลทำให้บริษัทต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเพื่อป้องกันหรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น จึงเป็นการกระตุ้นให้หลายองค์กรหันมาให้ความสำคัญกับ Cloud Sovereignty มากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/quantifying-the-hidden-costs-of-cloud-sovereignty-gaps

    หุ้น Oracle ร่วงหลังเผยแผนลงทุน AI เพิ่มอีก 15 พันล้านดอลลาร์
    ราคาหุ้นของ Oracle ตกลงทันทีหลังบริษัทประกาศว่าจะเพิ่มงบลงทุนด้าน AI อีก 15 พันล้านดอลลาร์ นักลงทุนกังวลว่าการใช้จ่ายมหาศาลนี้อาจกระทบต่อผลกำไรระยะสั้น แม้บริษัทเชื่อว่าการลงทุนจะช่วยเสริมศักยภาพด้านคลาวด์และแข่งขันกับคู่แข่งรายใหญ่ได้ในอนาคต แต่ตลาดกลับตอบสนองด้วยความระมัดระวัง ทำให้หุ้นปรับตัวลงอย่างเห็นได้ชัด
    https://www.techradar.com/pro/oracle-shares-drop-after-usd15bn-higher-ai-spending-revealed

    แฮกเกอร์ใช้ฟีเจอร์ของ Mimecast แจกฟิชชิ่งลิงก์นับพัน
    มีการค้นพบว่าฟีเจอร์ Secure-Link ของ Mimecast ถูกนำไปใช้โดยแฮกเกอร์เพื่อส่งฟิชชิ่งอีเมลจำนวนมาก โดยฟีเจอร์ที่ควรจะช่วยป้องกันกลับถูกใช้เป็นช่องทางให้ผู้โจมตีสร้างลิงก์ที่ดูเหมือนปลอดภัย ทำให้ผู้ใช้หลงเชื่อและกรอกข้อมูลส่วนตัว การโจมตีนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงที่แม้แต่เครื่องมือด้านความปลอดภัยก็อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดได้
    https://www.techradar.com/pro/security/hackers-distribute-thousands-of-phishing-attacks-through-mimecasts-secure-link-feature

    OpenAI ดึงตัว CEO ของ Slack มาเป็น Chief Revenue Officer
    OpenAI ประกาศแต่งตั้ง Lidiane Jones อดีต CEO ของ Slack เข้ามารับตำแหน่ง Chief Revenue Officer เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านการสร้างรายได้และการขยายธุรกิจ การย้ายครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เพราะ Jones มีประสบการณ์ในการบริหารแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้จำนวนมหาศาล และคาดว่าจะช่วยให้ OpenAI สามารถต่อยอดโมเดลธุรกิจได้อย่างมั่นคง
    https://www.techradar.com/pro/open-ai-poaches-slack-ceo-as-its-chief-revenue-officer

    ทดลองใช้ Photoshop ใน ChatGPT – ฟีเจอร์ฟรีที่ทรงพลัง
    ผู้เขียนบทความได้ลองใช้ Photoshop ที่ถูกรวมเข้ามาใน ChatGPT และพบว่ามันใช้งานง่ายมาก เพียงอัปโหลดภาพแล้วพิมพ์คำสั่ง เช่น “ทำให้ภาพเป็นขาวดำ” ระบบก็จะแสดงผลพร้อมแถบปรับความเข้มให้เลือกต่อทันที นอกจากนี้ยังสามารถใส่เอฟเฟกต์ต่างๆ เช่น Halftone หรือ Glitch ได้โดยไม่ต้องมีทักษะด้านกราฟิก ถือเป็นการยกระดับ ChatGPT ให้กลายเป็นเครื่องมือสร้างสรรค์ที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/i-tried-photoshop-in-chatgpt-its-an-awesome-free-ai-superpower

    Google DeepMind จับมือรัฐบาลอังกฤษเพื่อวิจัยพลังงานสะอาดและวิทยาศาสตร์
    Google DeepMind ได้ลงนามความร่วมมือกับรัฐบาลสหราชอาณาจักรเพื่อพัฒนาโครงการด้านวิทยาศาสตร์และพลังงานสะอาด โดยตั้งเป้าที่จะใช้ AI ในการค้นหาวิธีแก้ปัญหาที่ซับซ้อน เช่น การผลิตพลังงานที่มีประสิทธิภาพและการวิจัยทางวิทยาศาสตร์เชิงลึก ความร่วมมือนี้สะท้อนถึงบทบาทของ AI ที่ไม่เพียงแต่ใช้ในธุรกิจ แต่ยังสามารถช่วยแก้ปัญหาสำคัญระดับโลกได้
    https://www.techradar.com/pro/google-deepmind-partners-with-the-uk-government-for-science-breakthroughs-cleaner-energy

    Opera Neon เปิดตัวพร้อมฟีเจอร์ AI Subscription
    Opera ได้เปิดตัว Opera Neon ซึ่งเป็นบริการ AI subscription ที่มาพร้อมฟีเจอร์หลากหลายสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความสามารถเพิ่มเติมจากเบราว์เซอร์ทั่วไป ผู้เขียนบทความมองว่าบริการนี้คุ้มค่าที่จะจ่าย เพราะมันรวมเครื่องมือ AI ที่ช่วยทั้งการทำงานและความบันเทิง เช่น การสร้างคอนเทนต์ การช่วยค้นหา และการปรับแต่งการใช้งานอินเทอร์เน็ตให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ ถือเป็นการยกระดับเบราว์เซอร์ให้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่มีมูลค่าเพิ่ม
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/opera-neon-is-now-available-and-i-think-its-an-ai-subscription-worth-paying-for

    มือถือ Android รุ่นใหม่สำหรับคนที่คิดถึง Xperia Play และ N-Gage
    มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟน Android รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อคนที่ยังคิดถึงเครื่องเล่นเกมมือถือยุคเก่าอย่าง Xperia Play และ Nokia N-Gage โดยมือถือรุ่นนี้มาพร้อมปุ่มควบคุมเกมแบบจริงจัง ทำให้ผู้ใช้สามารถเล่นเกมได้อย่างสะดวกและสนุกเหมือนเครื่องเล่นเกมพกพาในอดีต ถือเป็นการผสมผสานระหว่างสมาร์ทโฟนสมัยใหม่กับความ怀旧ของเกมเมอร์ยุคก่อน
    https://www.techradar.com/phones/android/this-new-android-phone-is-designed-for-everyone-who-misses-the-xperia-play-and-n-gage

    Microsoft ปรับปรุง Windows 11 และ Phone Link ให้ดีขึ้น
    Microsoft ได้หยุดการอัปเดตที่ทำให้ Windows 11 มีปัญหาบ่อยครั้ง และหันมาเน้นการปรับปรุงฟีเจอร์ Phone Link ให้ใช้งานร่วมกับแอป Android ได้ดียิ่งขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อมือถือกับคอมพิวเตอร์ได้สะดวกขึ้น เช่น การใช้แอป Android บน PC โดยตรง ถือเป็นการพัฒนาเพื่อให้ Windows 11 มีเสถียรภาพและตอบโจทย์การใช้งานจริงมากขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/windows/microsoft-stops-breaking-windows-11-instead-it-just-made-phone-link-even-better-with-android-apps

    NordVPN ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยจากผู้ตรวจสอบอิสระอีกครั้ง
    NordVPN ได้รับการตรวจสอบจากผู้ตรวจสอบอิสระเพื่อยืนยันความปลอดภัยของระบบ และผลการตรวจสอบก็ออกมาว่าบริการยังคงรักษามาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดไว้ได้ การตรวจสอบนี้ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้ว่า VPN ที่พวกเขาใช้นั้นมีความน่าเชื่อถือและปลอดภัยจริง
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/independent-auditors-inspect-nordvpns-security-once-again-heres-what-they-found

    Android เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ช่วยชีวิต – แชร์วิดีโอสดกับทีมกู้ภัย
    Android ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแชร์วิดีโอสดกับทีมกู้ภัยในกรณีฉุกเฉิน ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาเพื่อเพิ่มโอกาสในการช่วยชีวิต โดยทีมกู้ภัยสามารถเห็นสถานการณ์จริงผ่านกล้องมือถือของผู้ประสบเหตุ ทำให้สามารถให้คำแนะนำหรือเข้าช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ถือเป็นการใช้เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้โดยตรง
    https://www.techradar.com/phones/android/android-just-got-a-life-saving-upgrade-that-lets-you-share-live-video-with-emergency-rescuers-heres-how-it-works

    ข้อมูลลูกค้า 16TB รั่วไหลจากบริษัทด้านการตลาด
    มีการค้นพบการรั่วไหลของข้อมูลขนาดใหญ่ถึง 16TB ซึ่งเป็นข้อมูลลูกค้าจำนวนมหาศาลจากบริษัทที่ทำธุรกิจด้านการสร้างฐานข้อมูลลูกค้า ข้อมูลที่รั่วไหลประกอบด้วยข้อมูลติดต่อและรายละเอียดเชิงธุรกิจที่อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด เหตุการณ์นี้ถือเป็นหนึ่งในกรณีข้อมูลรั่วไหลที่ใหญ่ที่สุด และเป็นการเตือนให้องค์กรต้องเข้มงวดกับการจัดการข้อมูลมากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/16tb-of-corporate-intelligence-data-exposed-in-one-of-the-largest-lead-generation-dataset-leaks
    📌📡🔵 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🔵📡📌 #รวมข่าวIT #20251212 #TechRadar 🖌️ Adobe เปิด Photoshop ฟรีใน ChatGPT ตอนนี้ใครๆ ก็สามารถใช้ Photoshop ได้โดยไม่ต้องมีทักษะด้านกราฟิกเลย เพราะ Adobe ได้รวมเอา Photoshop, Express และ Acrobat เข้าไปอยู่ใน ChatGPT ให้ใช้งานฟรีทั้งหมด เพียงพิมพ์สิ่งที่ต้องการด้วยภาษาธรรมชาติ ระบบก็จะช่วยแก้ไขภาพหรือสร้างเอกสารให้ทันที เช่น การปรับแสงสี ใส่เอฟเฟกต์ หรือแม้แต่รวมไฟล์ PDF หลายไฟล์เป็นหนึ่งเดียว จุดเด่นคือมีตัวเลือกปรับแต่งผ่านแถบควบคุม ทำให้ผู้ใช้สามารถแก้ไขได้ตามใจโดยไม่ต้องเปิดโปรแกรมเต็มรูปแบบ ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ ChatGPT ไม่ใช่แค่เครื่องมือสร้างเนื้อหา แต่กลายเป็นพื้นที่ทำงานด้านการออกแบบและเอกสารครบวงจร 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/adobe-photoshop-is-now-built-into-chatgpt-for-free-and-you-dont-need-graphic-design-skills-to-use-it 🛡️ Google ออกแพตช์ฉุกเฉินแก้ช่องโหว่ Zero-Day บน Chrome Google ได้ปล่อยการอัปเดตเพื่อแก้ไขช่องโหว่ร้ายแรงบน Chrome ที่ถูกโจมตีจริงแล้วในโลกออนไลน์ นี่ถือเป็นครั้งที่ 8 ของปีที่บริษัทต้องแก้ Zero-Day โดยช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับการจัดการหน่วยความจำใน LibANGLE ซึ่งอาจทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าควบคุมเครื่องจากระยะไกลได้ การอัปเดตได้ทยอยปล่อยให้ผู้ใช้แล้ว และ Google ยังคงไม่เปิดเผยรายละเอียดเชิงลึกเพื่อป้องกันไม่ให้แฮกเกอร์นำไปใช้ต่อ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/google-releases-emergency-fix-for-yet-another-zero-day ✈️ สายการบินรัสเซีย Aeroflot ถูกโจมตีผ่านบริษัทซอฟต์แวร์ภายนอก เหตุการณ์โจมตีไซเบอร์ที่ทำให้สายการบิน Aeroflot ต้องหยุดบินหลายสิบเที่ยวเมื่อเดือนกรกฎาคม ถูกเปิดเผยว่าเกิดจากการโจมตีแบบ Supply Chain ผ่านบริษัท Bakka Soft ที่พัฒนาแอปและระบบให้กับสายการบิน โดยผู้โจมตีใช้ช่องโหว่ที่ไม่มีการป้องกันด้วย 2FA และติดตั้งมัลแวร์จำนวนมากในระบบ ทำให้เที่ยวบินต้องหยุดชะงักและสร้างความเสียหายหลายล้านดอลลาร์ แม้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่รายงานนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการพึ่งพาผู้ให้บริการภายนอก 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/russian-airline-hack-came-through-third-party-tech-vendor 🇨🇭 สวิตเซอร์แลนด์ถอยร่างกฎหมายขยายการสอดส่อง หลังถูกต้านหนัก รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ต้องกลับมาทบทวนร่างกฎหมายที่ต้องการขยายการสอดส่องจากผู้ให้บริการโทรคมนาคมไปยังแพลตฟอร์มอื่น เช่น แอปแชท โซเชียลมีเดีย และ VPN หลังจากถูกต่อต้านอย่างหนักจากบริษัทเทคโนโลยีและนักการเมืองท้องถิ่น ผู้ให้บริการอย่าง Proton และ Threema ชี้ว่ากฎหมายนี้จะกระทบต่อความเป็นส่วนตัวและการเข้ารหัสที่ปลอดภัย แม้การถอยครั้งนี้ถือเป็นชัยชนะชั่วคราว แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ารัฐบาลยังคงมีความตั้งใจจะผลักดันการสอดส่องต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/switzerland-will-revise-proposed-law-change-after-backlash-from-tech-industry 🎬 Disney จับมือ OpenAI เปิดทางให้ Sora ใช้ตัวละครดัง Disney สร้างความฮือฮาด้วยการเซ็นสัญญา 3 ปีร่วมกับ OpenAI เพื่อให้ Sora ซึ่งเป็นเครื่องมือสร้างวิดีโอด้วย AI สามารถใช้ตัวละครจาก Disney, Pixar, Marvel และ Star Wars ได้ พร้อมลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ใน OpenAI นี่ถือเป็นการเปลี่ยนท่าทีครั้งใหญ่ เพราะที่ผ่านมา Disney เข้มงวดมากกับการใช้ตัวละครของตน การร่วมมือครั้งนี้จะทำให้แฟนๆ สามารถสร้างคอนเทนต์ที่มี Mickey Mouse, Elsa หรือแม้แต่ตัวละครจาก Star Wars ปรากฏในผลงาน AI ได้ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/disney-and-openai-are-set-to-open-the-vault-to-sora-yet-an-ai-mickey-feels-like-magic-lost 💻 Nvidia พัฒนาซอฟต์แวร์ใหม่เพื่อติดตามชิปหลังพบการลักลอบ หลังจากมีการค้นพบการลักลอบขนส่งชิป Nvidia ได้ออกซอฟต์แวร์ใหม่ที่ช่วยติดตามเส้นทางการเคลื่อนไหวของชิป เพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ว่าชิปแต่ละตัวถูกส่งไปที่ใดบ้าง เทคโนโลยีนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อป้องกันการนำชิปไปใช้ในทางที่ผิด เช่น การนำไปใช้ในอุตสาหกรรมที่ถูกควบคุมหรือประเทศที่มีข้อจำกัดทางการค้า ถือเป็นการเสริมความปลอดภัยและความโปร่งใสในห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/nvidia-develops-new-software-to-help-track-chips-following-smuggling-discovery 🔒 Mullvad ยุติการสนับสนุน OpenVPN บนเดสก์ท็อป หันไปใช้ WireGuard แทน บริการ VPN ชื่อดัง Mullvad ประกาศเลิกใช้ OpenVPN บนเดสก์ท็อปทั้งหมด และบังคับให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ WireGuard ซึ่งมีความเร็วและความปลอดภัยสูงกว่า การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นเพราะ WireGuard มีโครงสร้างที่ทันสมัยและง่ายต่อการบำรุงรักษา ทำให้ Mullvad สามารถให้บริการที่เสถียรและปลอดภัยมากขึ้น แม้ผู้ใช้บางรายอาจต้องปรับตัว แต่บริษัทเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะเป็นผลดีในระยะยาว 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/mullvad-retires-openvpn-support-on-desktop-pushing-all-users-to-wireguard 💰 ICO ปรับ LastPass 1.2 ล้านปอนด์ หลังข้อมูลผู้ใช้รั่วไหล สำนักงานคุ้มครองข้อมูลของสหราชอาณาจักร (ICO) ได้สั่งปรับ LastPass เป็นเงิน 1.2 ล้านปอนด์ จากเหตุการณ์ข้อมูลผู้ใช้กว่า 1.6 ล้านรายถูกละเมิดในปี 2022 โดยการโจมตีเกิดจากการที่แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลสำรองของบริษัทผ่านบัญชีพนักงานที่ถูกเจาะ การปรับครั้งนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองข้อมูล และเป็นการเตือนให้บริษัทด้านความปลอดภัยต้องรักษามาตรฐานสูงสุด 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/ico-levies-gbp1-2-million-fine-against-lastpass-data-breach-compromised-info-on-1-6-million-users ⚙️ โครงสร้างพื้นฐาน HPC และ AI กำลังบรรจบกัน บทความนี้พูดถึงการที่โครงสร้างพื้นฐานด้าน High Performance Computing (HPC) และ AI กำลังถูกพัฒนาให้ทำงานร่วมกันมากขึ้น เพื่อรองรับงานที่ต้องใช้การประมวลผลมหาศาล เช่น การวิจัยทางวิทยาศาสตร์และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก แนวโน้มนี้ทำให้เกิดสถาปัตยกรรมใหม่ที่สามารถรองรับทั้งงาน HPC และ AI ได้ในระบบเดียว ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน 🔗 https://www.techradar.com/pro/hpc-and-ai-converging-infrastructures ☁️ ค่าใช้จ่ายแฝงจากช่องว่างด้าน Cloud Sovereignty รายงานนี้ชี้ให้เห็นว่าการที่หลายองค์กรยังไม่สามารถควบคุมข้อมูลบนคลาวด์ได้อย่างสมบูรณ์ ก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายแฝงจำนวนมาก ทั้งในด้านความเสี่ยงทางกฎหมาย ความปลอดภัย และการปฏิบัติตามข้อบังคับ การขาดความเป็นอิสระในการจัดการข้อมูลทำให้บริษัทต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเพื่อป้องกันหรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น จึงเป็นการกระตุ้นให้หลายองค์กรหันมาให้ความสำคัญกับ Cloud Sovereignty มากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/quantifying-the-hidden-costs-of-cloud-sovereignty-gaps 📉 หุ้น Oracle ร่วงหลังเผยแผนลงทุน AI เพิ่มอีก 15 พันล้านดอลลาร์ ราคาหุ้นของ Oracle ตกลงทันทีหลังบริษัทประกาศว่าจะเพิ่มงบลงทุนด้าน AI อีก 15 พันล้านดอลลาร์ นักลงทุนกังวลว่าการใช้จ่ายมหาศาลนี้อาจกระทบต่อผลกำไรระยะสั้น แม้บริษัทเชื่อว่าการลงทุนจะช่วยเสริมศักยภาพด้านคลาวด์และแข่งขันกับคู่แข่งรายใหญ่ได้ในอนาคต แต่ตลาดกลับตอบสนองด้วยความระมัดระวัง ทำให้หุ้นปรับตัวลงอย่างเห็นได้ชัด 🔗 https://www.techradar.com/pro/oracle-shares-drop-after-usd15bn-higher-ai-spending-revealed 🎣 แฮกเกอร์ใช้ฟีเจอร์ของ Mimecast แจกฟิชชิ่งลิงก์นับพัน มีการค้นพบว่าฟีเจอร์ Secure-Link ของ Mimecast ถูกนำไปใช้โดยแฮกเกอร์เพื่อส่งฟิชชิ่งอีเมลจำนวนมาก โดยฟีเจอร์ที่ควรจะช่วยป้องกันกลับถูกใช้เป็นช่องทางให้ผู้โจมตีสร้างลิงก์ที่ดูเหมือนปลอดภัย ทำให้ผู้ใช้หลงเชื่อและกรอกข้อมูลส่วนตัว การโจมตีนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงที่แม้แต่เครื่องมือด้านความปลอดภัยก็อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดได้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/hackers-distribute-thousands-of-phishing-attacks-through-mimecasts-secure-link-feature 👔 OpenAI ดึงตัว CEO ของ Slack มาเป็น Chief Revenue Officer OpenAI ประกาศแต่งตั้ง Lidiane Jones อดีต CEO ของ Slack เข้ามารับตำแหน่ง Chief Revenue Officer เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านการสร้างรายได้และการขยายธุรกิจ การย้ายครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เพราะ Jones มีประสบการณ์ในการบริหารแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้จำนวนมหาศาล และคาดว่าจะช่วยให้ OpenAI สามารถต่อยอดโมเดลธุรกิจได้อย่างมั่นคง 🔗 https://www.techradar.com/pro/open-ai-poaches-slack-ceo-as-its-chief-revenue-officer 🖼️ ทดลองใช้ Photoshop ใน ChatGPT – ฟีเจอร์ฟรีที่ทรงพลัง ผู้เขียนบทความได้ลองใช้ Photoshop ที่ถูกรวมเข้ามาใน ChatGPT และพบว่ามันใช้งานง่ายมาก เพียงอัปโหลดภาพแล้วพิมพ์คำสั่ง เช่น “ทำให้ภาพเป็นขาวดำ” ระบบก็จะแสดงผลพร้อมแถบปรับความเข้มให้เลือกต่อทันที นอกจากนี้ยังสามารถใส่เอฟเฟกต์ต่างๆ เช่น Halftone หรือ Glitch ได้โดยไม่ต้องมีทักษะด้านกราฟิก ถือเป็นการยกระดับ ChatGPT ให้กลายเป็นเครื่องมือสร้างสรรค์ที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/i-tried-photoshop-in-chatgpt-its-an-awesome-free-ai-superpower ⚡ Google DeepMind จับมือรัฐบาลอังกฤษเพื่อวิจัยพลังงานสะอาดและวิทยาศาสตร์ Google DeepMind ได้ลงนามความร่วมมือกับรัฐบาลสหราชอาณาจักรเพื่อพัฒนาโครงการด้านวิทยาศาสตร์และพลังงานสะอาด โดยตั้งเป้าที่จะใช้ AI ในการค้นหาวิธีแก้ปัญหาที่ซับซ้อน เช่น การผลิตพลังงานที่มีประสิทธิภาพและการวิจัยทางวิทยาศาสตร์เชิงลึก ความร่วมมือนี้สะท้อนถึงบทบาทของ AI ที่ไม่เพียงแต่ใช้ในธุรกิจ แต่ยังสามารถช่วยแก้ปัญหาสำคัญระดับโลกได้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/google-deepmind-partners-with-the-uk-government-for-science-breakthroughs-cleaner-energy 🎨 Opera Neon เปิดตัวพร้อมฟีเจอร์ AI Subscription Opera ได้เปิดตัว Opera Neon ซึ่งเป็นบริการ AI subscription ที่มาพร้อมฟีเจอร์หลากหลายสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความสามารถเพิ่มเติมจากเบราว์เซอร์ทั่วไป ผู้เขียนบทความมองว่าบริการนี้คุ้มค่าที่จะจ่าย เพราะมันรวมเครื่องมือ AI ที่ช่วยทั้งการทำงานและความบันเทิง เช่น การสร้างคอนเทนต์ การช่วยค้นหา และการปรับแต่งการใช้งานอินเทอร์เน็ตให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ ถือเป็นการยกระดับเบราว์เซอร์ให้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่มีมูลค่าเพิ่ม 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/opera-neon-is-now-available-and-i-think-its-an-ai-subscription-worth-paying-for 📱 มือถือ Android รุ่นใหม่สำหรับคนที่คิดถึง Xperia Play และ N-Gage มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟน Android รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อคนที่ยังคิดถึงเครื่องเล่นเกมมือถือยุคเก่าอย่าง Xperia Play และ Nokia N-Gage โดยมือถือรุ่นนี้มาพร้อมปุ่มควบคุมเกมแบบจริงจัง ทำให้ผู้ใช้สามารถเล่นเกมได้อย่างสะดวกและสนุกเหมือนเครื่องเล่นเกมพกพาในอดีต ถือเป็นการผสมผสานระหว่างสมาร์ทโฟนสมัยใหม่กับความ怀旧ของเกมเมอร์ยุคก่อน 🔗 https://www.techradar.com/phones/android/this-new-android-phone-is-designed-for-everyone-who-misses-the-xperia-play-and-n-gage 🔗 Microsoft ปรับปรุง Windows 11 และ Phone Link ให้ดีขึ้น Microsoft ได้หยุดการอัปเดตที่ทำให้ Windows 11 มีปัญหาบ่อยครั้ง และหันมาเน้นการปรับปรุงฟีเจอร์ Phone Link ให้ใช้งานร่วมกับแอป Android ได้ดียิ่งขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อมือถือกับคอมพิวเตอร์ได้สะดวกขึ้น เช่น การใช้แอป Android บน PC โดยตรง ถือเป็นการพัฒนาเพื่อให้ Windows 11 มีเสถียรภาพและตอบโจทย์การใช้งานจริงมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/microsoft-stops-breaking-windows-11-instead-it-just-made-phone-link-even-better-with-android-apps 🔍 NordVPN ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยจากผู้ตรวจสอบอิสระอีกครั้ง NordVPN ได้รับการตรวจสอบจากผู้ตรวจสอบอิสระเพื่อยืนยันความปลอดภัยของระบบ และผลการตรวจสอบก็ออกมาว่าบริการยังคงรักษามาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดไว้ได้ การตรวจสอบนี้ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้ว่า VPN ที่พวกเขาใช้นั้นมีความน่าเชื่อถือและปลอดภัยจริง 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/independent-auditors-inspect-nordvpns-security-once-again-heres-what-they-found 🚨 Android เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ช่วยชีวิต – แชร์วิดีโอสดกับทีมกู้ภัย Android ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแชร์วิดีโอสดกับทีมกู้ภัยในกรณีฉุกเฉิน ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาเพื่อเพิ่มโอกาสในการช่วยชีวิต โดยทีมกู้ภัยสามารถเห็นสถานการณ์จริงผ่านกล้องมือถือของผู้ประสบเหตุ ทำให้สามารถให้คำแนะนำหรือเข้าช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ถือเป็นการใช้เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้โดยตรง 🔗 https://www.techradar.com/phones/android/android-just-got-a-life-saving-upgrade-that-lets-you-share-live-video-with-emergency-rescuers-heres-how-it-works 📂 ข้อมูลลูกค้า 16TB รั่วไหลจากบริษัทด้านการตลาด มีการค้นพบการรั่วไหลของข้อมูลขนาดใหญ่ถึง 16TB ซึ่งเป็นข้อมูลลูกค้าจำนวนมหาศาลจากบริษัทที่ทำธุรกิจด้านการสร้างฐานข้อมูลลูกค้า ข้อมูลที่รั่วไหลประกอบด้วยข้อมูลติดต่อและรายละเอียดเชิงธุรกิจที่อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด เหตุการณ์นี้ถือเป็นหนึ่งในกรณีข้อมูลรั่วไหลที่ใหญ่ที่สุด และเป็นการเตือนให้องค์กรต้องเข้มงวดกับการจัดการข้อมูลมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/16tb-of-corporate-intelligence-data-exposed-in-one-of-the-largest-lead-generation-dataset-leaks
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 511 มุมมอง 0 รีวิว
  • Disney ลงทุนครั้งใหญ่ใน OpenAI

    ดิสนีย์ประกาศลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ ใน OpenAI และทำข้อตกลงการอนุญาตใช้สิทธิ์เป็นเวลา 3 ปี เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสร้างวิดีโอด้วยตัวละครกว่า 200 ตัวจาก Disney, Pixar, Marvel และ Star Wars ผ่านแอป Sora ที่เปิดตัวไปเมื่อกันยายนที่ผ่านมา การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงการที่ดิสนีย์ต้องการใช้ Generative AI ขยายการเล่าเรื่องในรูปแบบใหม่ ๆ โดยยังคงเคารพสิทธิ์ของผู้สร้างและผลงาน

    ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์
    นอกจากการอนุญาตให้ใช้ตัวละคร ดิสนีย์ยังจะนำ ChatGPT มาใช้ภายในองค์กรเพื่อสร้างเครื่องมือและประสบการณ์ใหม่ ๆ รวมถึงได้รับสิทธิ์ซื้อหุ้นเพิ่มใน OpenAI การจับมือครั้งนี้ทำให้ดิสนีย์ไม่เพียงเป็นผู้ลงทุน แต่ยังเป็น ลูกค้ารายใหญ่ ของ OpenAI ด้วย ซึ่งอาจเปลี่ยนวิธีการผลิตคอนเทนต์และการสื่อสารภายในบริษัท

    การปกป้องลิขสิทธิ์
    ก่อนหน้านี้ ดิสนีย์เคยส่งจดหมาย Cease and Desist ไปยัง Google และ Character.AI รวมถึงฟ้อง Midjourney เรื่องการใช้ตัวละครโดยไม่ได้รับอนุญาต การลงทุนครั้งนี้จึงสะท้อนว่า ดิสนีย์ไม่ได้ปฏิเสธ AI แต่เลือกที่จะ ควบคุมและร่วมมือ กับแพลตฟอร์มที่สามารถสร้างรายได้และปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาไปพร้อมกัน

    การใช้งานจริงและอนาคต
    ผู้ใช้ Sora และ ChatGPT Images จะสามารถสร้างวิดีโอและภาพด้วยตัวละครดัง เช่น Mickey Mouse, Ariel, Cinderella, Iron Man และ Darth Vader โดยจะมีการคัดเลือกคลิปบางส่วนไปเผยแพร่บน Disney+ อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงนี้ไม่ครอบคลุม เสียงและหน้าตาของนักแสดงจริง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาลิขสิทธิ์และการละเมิดสิทธิ์บุคคล

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Disney ลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ใน OpenAI
    ทำข้อตกลงอนุญาตใช้สิทธิ์ 3 ปีสำหรับตัวละครกว่า 200 ตัว

    ผู้ใช้ Sora และ ChatGPT Images สามารถสร้างคอนเทนต์ด้วยตัวละคร Disney
    ตัวละครที่ใช้ได้ เช่น Mickey Mouse, Ariel, Cinderella, Iron Man, Darth Vader

    Disney จะใช้ ChatGPT ภายในองค์กร
    เพื่อสร้างเครื่องมือและประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้พนักงาน

    คลิปจาก Sora จะถูกเผยแพร่บน Disney+
    ขยายการเข้าถึงคอนเทนต์ AI สู่ผู้ชมทั่วโลก

    ความเสี่ยงด้านลิขสิทธิ์ยังคงมีอยู่
    Disney เคยฟ้อง Midjourney และส่งจดหมายเตือน Google, Character.AI เรื่องการใช้ตัวละครโดยไม่ได้รับอนุญาต

    การใช้ตัวละครไม่ครอบคลุมเสียงและหน้าตานักแสดงจริง
    เพื่อหลีกเลี่ยงการละเมิดสิทธิ์บุคคลและปัญหาทางกฎหมาย

    https://www.cnbc.com/2025/12/11/disney-openai-sora-characters-video.html
    🎬 Disney ลงทุนครั้งใหญ่ใน OpenAI ดิสนีย์ประกาศลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ ใน OpenAI และทำข้อตกลงการอนุญาตใช้สิทธิ์เป็นเวลา 3 ปี เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสร้างวิดีโอด้วยตัวละครกว่า 200 ตัวจาก Disney, Pixar, Marvel และ Star Wars ผ่านแอป Sora ที่เปิดตัวไปเมื่อกันยายนที่ผ่านมา การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงการที่ดิสนีย์ต้องการใช้ Generative AI ขยายการเล่าเรื่องในรูปแบบใหม่ ๆ โดยยังคงเคารพสิทธิ์ของผู้สร้างและผลงาน 🤝 ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ นอกจากการอนุญาตให้ใช้ตัวละคร ดิสนีย์ยังจะนำ ChatGPT มาใช้ภายในองค์กรเพื่อสร้างเครื่องมือและประสบการณ์ใหม่ ๆ รวมถึงได้รับสิทธิ์ซื้อหุ้นเพิ่มใน OpenAI การจับมือครั้งนี้ทำให้ดิสนีย์ไม่เพียงเป็นผู้ลงทุน แต่ยังเป็น ลูกค้ารายใหญ่ ของ OpenAI ด้วย ซึ่งอาจเปลี่ยนวิธีการผลิตคอนเทนต์และการสื่อสารภายในบริษัท ⚖️ การปกป้องลิขสิทธิ์ ก่อนหน้านี้ ดิสนีย์เคยส่งจดหมาย Cease and Desist ไปยัง Google และ Character.AI รวมถึงฟ้อง Midjourney เรื่องการใช้ตัวละครโดยไม่ได้รับอนุญาต การลงทุนครั้งนี้จึงสะท้อนว่า ดิสนีย์ไม่ได้ปฏิเสธ AI แต่เลือกที่จะ ควบคุมและร่วมมือ กับแพลตฟอร์มที่สามารถสร้างรายได้และปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาไปพร้อมกัน 📺 การใช้งานจริงและอนาคต ผู้ใช้ Sora และ ChatGPT Images จะสามารถสร้างวิดีโอและภาพด้วยตัวละครดัง เช่น Mickey Mouse, Ariel, Cinderella, Iron Man และ Darth Vader โดยจะมีการคัดเลือกคลิปบางส่วนไปเผยแพร่บน Disney+ อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงนี้ไม่ครอบคลุม เสียงและหน้าตาของนักแสดงจริง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาลิขสิทธิ์และการละเมิดสิทธิ์บุคคล 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Disney ลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ใน OpenAI ➡️ ทำข้อตกลงอนุญาตใช้สิทธิ์ 3 ปีสำหรับตัวละครกว่า 200 ตัว ✅ ผู้ใช้ Sora และ ChatGPT Images สามารถสร้างคอนเทนต์ด้วยตัวละคร Disney ➡️ ตัวละครที่ใช้ได้ เช่น Mickey Mouse, Ariel, Cinderella, Iron Man, Darth Vader ✅ Disney จะใช้ ChatGPT ภายในองค์กร ➡️ เพื่อสร้างเครื่องมือและประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้พนักงาน ✅ คลิปจาก Sora จะถูกเผยแพร่บน Disney+ ➡️ ขยายการเข้าถึงคอนเทนต์ AI สู่ผู้ชมทั่วโลก ‼️ ความเสี่ยงด้านลิขสิทธิ์ยังคงมีอยู่ ⛔ Disney เคยฟ้อง Midjourney และส่งจดหมายเตือน Google, Character.AI เรื่องการใช้ตัวละครโดยไม่ได้รับอนุญาต ‼️ การใช้ตัวละครไม่ครอบคลุมเสียงและหน้าตานักแสดงจริง ⛔ เพื่อหลีกเลี่ยงการละเมิดสิทธิ์บุคคลและปัญหาทางกฎหมาย https://www.cnbc.com/2025/12/11/disney-openai-sora-characters-video.html
    WWW.CNBC.COM
    Disney making $1 billion investment in OpenAI, will allow characters on Sora AI video generator
    Disney is investing in OpenAI and has licensed its iconic characters like Mickey Mouse, Ariel and Iron Man to be used in the Sora AI video generator.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Intel เก็บ NEX ไว้ในบริษัท – เสริมพลังการบูรณาการเพื่ออนาคต AI และดาต้าเซ็นเตอร์"

    Intel เคยพิจารณาขายหรือแยกแผนก Networking and Communications (NEX) ออกมาเป็นธุรกิจอิสระ แต่หลังการประเมินเชิงกลยุทธ์ บริษัทตัดสินใจเก็บไว้ภายใน โดยให้เหตุผลว่า การบูรณาการระหว่างซิลิคอน ซอฟต์แวร์ และระบบ จะสร้างคุณค่าให้ลูกค้าได้มากกว่า และช่วยเพิ่มรายได้ต่อระบบที่ขาย.

    NEX เป็นหนึ่งใน “อัญมณี” ของ Intel ที่แม้ไม่โด่งดังเท่าซีพียู แต่มีบทบาทสำคัญในตลาด เช่น Ethernet controllers, Wi-Fi controllers, IPUs (Infrastructure Processing Units), และซอฟต์แวร์จัดการเครือข่าย ซึ่งถูกใช้งานตั้งแต่พีซีทั่วไปไปจนถึงโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมและดาต้าเซ็นเตอร์.

    แม้ NEX จะสร้างรายได้กว่า 1.6 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 ปี 2024 แต่การเติบโตยังชะลอตัว อย่างไรก็ตาม Intel มองว่าการเก็บไว้จะช่วยเสริม ecosystem ของบริษัท โดยเฉพาะเมื่อสามารถขายซีพียู Xeon ควบคู่กับ Ethernet และ IPU ได้ในแพ็กเกจเดียว เพิ่มมูลค่าต่อระบบ.

    การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลัง Intel ได้รับเงินสนับสนุนกว่า 8.9 พันล้านดอลลาร์จากรัฐบาลสหรัฐฯ และอีกหลายพันล้านจาก SoftBank และ Nvidia ทำให้บริษัทมีสภาพคล่องเพียงพอโดยไม่จำเป็นต้องขาย NEX เพื่อหาเงินสดในระยะสั้น.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    Intel ตัดสินใจไม่ขายแผนก NEX หลังการประเมินเชิงกลยุทธ์
    NEX ผลิต Ethernet, Wi-Fi, IPU และซอฟต์แวร์จัดการเครือข่าย
    รายได้ Q4 2024 อยู่ที่ 1.6 พันล้านดอลลาร์ กำไร 300 ล้านดอลลาร์
    Intel ได้เงินสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ และพันธมิตร ทำให้ไม่จำเป็นต้องขาย

    ข้อมูลเสริมจาก Internet
    ตลาด Ethernet และ IPU กำลังเติบโตตามความต้องการ AI และ Cloud Computing
    คู่แข่งสำคัญในตลาดนี้คือ Broadcom, Marvell และ Nvidia (ผ่าน Mellanox)
    การบูรณาการเครือข่ายกับซีพียูเป็นแนวทางที่ช่วยเพิ่มรายได้ต่อระบบให้ผู้ผลิตชิป

    คำเตือนจากข่าว
    NEX ยังเติบโตช้าเมื่อเทียบกับธุรกิจหลักของ Intel
    หากการบูรณาการไม่สร้างผลลัพธ์จริง อาจกลายเป็นภาระต้นทุน
    ตลาดเครือข่ายแข่งขันสูง อาจทำให้ Intel ต้องลงทุนเพิ่มเพื่อรักษาส่วนแบ่ง

    https://www.tomshardware.com/networking/intel-drops-plans-to-sell-networking-and-communication-division-says-keeping-nex-in-house-will-strengthen-integration-and-customer-offerings
    🌐 "Intel เก็บ NEX ไว้ในบริษัท – เสริมพลังการบูรณาการเพื่ออนาคต AI และดาต้าเซ็นเตอร์" Intel เคยพิจารณาขายหรือแยกแผนก Networking and Communications (NEX) ออกมาเป็นธุรกิจอิสระ แต่หลังการประเมินเชิงกลยุทธ์ บริษัทตัดสินใจเก็บไว้ภายใน โดยให้เหตุผลว่า การบูรณาการระหว่างซิลิคอน ซอฟต์แวร์ และระบบ จะสร้างคุณค่าให้ลูกค้าได้มากกว่า และช่วยเพิ่มรายได้ต่อระบบที่ขาย. NEX เป็นหนึ่งใน “อัญมณี” ของ Intel ที่แม้ไม่โด่งดังเท่าซีพียู แต่มีบทบาทสำคัญในตลาด เช่น Ethernet controllers, Wi-Fi controllers, IPUs (Infrastructure Processing Units), และซอฟต์แวร์จัดการเครือข่าย ซึ่งถูกใช้งานตั้งแต่พีซีทั่วไปไปจนถึงโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมและดาต้าเซ็นเตอร์. แม้ NEX จะสร้างรายได้กว่า 1.6 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 ปี 2024 แต่การเติบโตยังชะลอตัว อย่างไรก็ตาม Intel มองว่าการเก็บไว้จะช่วยเสริม ecosystem ของบริษัท โดยเฉพาะเมื่อสามารถขายซีพียู Xeon ควบคู่กับ Ethernet และ IPU ได้ในแพ็กเกจเดียว เพิ่มมูลค่าต่อระบบ. การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลัง Intel ได้รับเงินสนับสนุนกว่า 8.9 พันล้านดอลลาร์จากรัฐบาลสหรัฐฯ และอีกหลายพันล้านจาก SoftBank และ Nvidia ทำให้บริษัทมีสภาพคล่องเพียงพอโดยไม่จำเป็นต้องขาย NEX เพื่อหาเงินสดในระยะสั้น. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ Intel ตัดสินใจไม่ขายแผนก NEX หลังการประเมินเชิงกลยุทธ์ ➡️ NEX ผลิต Ethernet, Wi-Fi, IPU และซอฟต์แวร์จัดการเครือข่าย ➡️ รายได้ Q4 2024 อยู่ที่ 1.6 พันล้านดอลลาร์ กำไร 300 ล้านดอลลาร์ ➡️ Intel ได้เงินสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ และพันธมิตร ทำให้ไม่จำเป็นต้องขาย ✅ ข้อมูลเสริมจาก Internet ➡️ ตลาด Ethernet และ IPU กำลังเติบโตตามความต้องการ AI และ Cloud Computing ➡️ คู่แข่งสำคัญในตลาดนี้คือ Broadcom, Marvell และ Nvidia (ผ่าน Mellanox) ➡️ การบูรณาการเครือข่ายกับซีพียูเป็นแนวทางที่ช่วยเพิ่มรายได้ต่อระบบให้ผู้ผลิตชิป ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ NEX ยังเติบโตช้าเมื่อเทียบกับธุรกิจหลักของ Intel ⛔ หากการบูรณาการไม่สร้างผลลัพธ์จริง อาจกลายเป็นภาระต้นทุน ⛔ ตลาดเครือข่ายแข่งขันสูง อาจทำให้ Intel ต้องลงทุนเพิ่มเพื่อรักษาส่วนแบ่ง https://www.tomshardware.com/networking/intel-drops-plans-to-sell-networking-and-communication-division-says-keeping-nex-in-house-will-strengthen-integration-and-customer-offerings
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 234 มุมมอง 0 รีวิว
  • GNU Linux-Libre 6.18 Kernel สำหรับสายเสรีภาพซอฟต์แวร์

    โครงการ GNU Linux-Libre ประกาศเปิดตัว Kernel รุ่น 6.18 ซึ่งพัฒนาต่อยอดจาก Linux Kernel 6.18 โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ใช้ที่รักเสรีภาพซอฟต์แวร์สามารถใช้งานระบบที่ 100% ปราศจากโค้ด proprietary ได้อย่างมั่นใจ การอัปเดตครั้งนี้เน้นการทำความสะอาด (deblob) ไดรเวอร์ใหม่ ๆ ที่ถูกเพิ่มเข้ามาใน Linux 6.18 เช่น FourSemi digital audio amplifier, TI TAS2783 speaker amplifier, และ Qualcomm GENI Serial Engine

    นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงการทำความสะอาดสำหรับไดรเวอร์ที่มีการเปลี่ยนแปลง upstream เช่น Nova-Core, Intel XE, TI PRU Ethernet, และ Marvell WiFi-Ex รวมถึงการถอดการ deblob ของ TI WL1273 FM Radio driver เนื่องจากถูกลบออกไปแล้วใน upstream และการปรับตำแหน่ง deblob สำหรับ Lantiq GSWIP driver

    การอัปเดตยังครอบคลุมการทำความสะอาด devicetree files สำหรับอุปกรณ์จาก Qualcomm, Mediatek และ TI ARM64 ซึ่งช่วยให้ระบบ GNU/Linux ที่ใช้ Kernel นี้สามารถทำงานได้โดยไม่พึ่งพาโค้ด proprietary ใด ๆ ถือเป็นการยกระดับความเข้มงวดในการรักษาเสรีภาพของผู้ใช้และนักพัฒนา

    ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลด compressed tarballs ของ GNU Linux-Libre 6.18 ได้จากเว็บไซต์ทางการ รวมถึงมีแพ็กเกจพร้อมใช้งานสำหรับดิสโทรสาย Debian (DEB) และ Red Hat (RPM) ผ่านโครงการ Freesh และ RPM Freedom ทำให้สามารถติดตั้งได้แทบทุกดิสโทร ไม่ว่าจะใช้แทน Kernel มาตรฐานหรือใช้งานควบคู่กัน

    สรุปสาระสำคัญ
    การทำความสะอาดไดรเวอร์ใหม่
    FourSemi digital audio amplifier
    TI TAS2783 speaker amplifier
    Qualcomm GENI Serial Engine

    การปรับปรุง deblob ไดรเวอร์เดิม
    Nova-Core, Intel XE, TI PRU Ethernet, Marvell WiFi-Ex
    TI WL1273 FM Radio driver ถูกถอดออก upstream
    Lantiq GSWIP driver ปรับตำแหน่ง deblob

    การทำความสะอาด devicetree files
    Qualcomm, Mediatek และ TI ARM64 devices

    การเผยแพร่และติดตั้ง
    มี compressed tarballs ให้ดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ทางการ
    มีแพ็กเกจ DEB และ RPM ผ่าน Freesh และ RPM Freedom

    ข้อควรระวัง
    ผู้ใช้ที่ต้องการไดรเวอร์ proprietary อาจพบข้อจำกัดในการใช้งาน
    การใช้ Kernel นี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการระบบ 100% free software เท่านั้น

    https://9to5linux.com/gnu-linux-libre-6-18-kernel-released-for-software-freedom-lovers
    🐧 GNU Linux-Libre 6.18 Kernel สำหรับสายเสรีภาพซอฟต์แวร์ โครงการ GNU Linux-Libre ประกาศเปิดตัว Kernel รุ่น 6.18 ซึ่งพัฒนาต่อยอดจาก Linux Kernel 6.18 โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ใช้ที่รักเสรีภาพซอฟต์แวร์สามารถใช้งานระบบที่ 100% ปราศจากโค้ด proprietary ได้อย่างมั่นใจ การอัปเดตครั้งนี้เน้นการทำความสะอาด (deblob) ไดรเวอร์ใหม่ ๆ ที่ถูกเพิ่มเข้ามาใน Linux 6.18 เช่น FourSemi digital audio amplifier, TI TAS2783 speaker amplifier, และ Qualcomm GENI Serial Engine นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงการทำความสะอาดสำหรับไดรเวอร์ที่มีการเปลี่ยนแปลง upstream เช่น Nova-Core, Intel XE, TI PRU Ethernet, และ Marvell WiFi-Ex รวมถึงการถอดการ deblob ของ TI WL1273 FM Radio driver เนื่องจากถูกลบออกไปแล้วใน upstream และการปรับตำแหน่ง deblob สำหรับ Lantiq GSWIP driver การอัปเดตยังครอบคลุมการทำความสะอาด devicetree files สำหรับอุปกรณ์จาก Qualcomm, Mediatek และ TI ARM64 ซึ่งช่วยให้ระบบ GNU/Linux ที่ใช้ Kernel นี้สามารถทำงานได้โดยไม่พึ่งพาโค้ด proprietary ใด ๆ ถือเป็นการยกระดับความเข้มงวดในการรักษาเสรีภาพของผู้ใช้และนักพัฒนา ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลด compressed tarballs ของ GNU Linux-Libre 6.18 ได้จากเว็บไซต์ทางการ รวมถึงมีแพ็กเกจพร้อมใช้งานสำหรับดิสโทรสาย Debian (DEB) และ Red Hat (RPM) ผ่านโครงการ Freesh และ RPM Freedom ทำให้สามารถติดตั้งได้แทบทุกดิสโทร ไม่ว่าจะใช้แทน Kernel มาตรฐานหรือใช้งานควบคู่กัน 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การทำความสะอาดไดรเวอร์ใหม่ ➡️ FourSemi digital audio amplifier ➡️ TI TAS2783 speaker amplifier ➡️ Qualcomm GENI Serial Engine ✅ การปรับปรุง deblob ไดรเวอร์เดิม ➡️ Nova-Core, Intel XE, TI PRU Ethernet, Marvell WiFi-Ex ➡️ TI WL1273 FM Radio driver ถูกถอดออก upstream ➡️ Lantiq GSWIP driver ปรับตำแหน่ง deblob ✅ การทำความสะอาด devicetree files ➡️ Qualcomm, Mediatek และ TI ARM64 devices ✅ การเผยแพร่และติดตั้ง ➡️ มี compressed tarballs ให้ดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ทางการ ➡️ มีแพ็กเกจ DEB และ RPM ผ่าน Freesh และ RPM Freedom ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ ผู้ใช้ที่ต้องการไดรเวอร์ proprietary อาจพบข้อจำกัดในการใช้งาน ⛔ การใช้ Kernel นี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการระบบ 100% free software เท่านั้น https://9to5linux.com/gnu-linux-libre-6-18-kernel-released-for-software-freedom-lovers
    9TO5LINUX.COM
    GNU Linux-Libre 6.18 Kernel Released for Software Freedom Lovers - 9to5Linux
    GNU Linux-libre 6.18 kernel is now available for download based on Linux kernel 6.18 targeted at those who seek 100% freedom for their PCs.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • Radeon 8060S โชว์พลัง! เกมเมอร์ตะลึงกับ iGPU บน Ryzen AI Max 395+ เล่นเกม 1080p ลื่นไหลทุกค่าย

    YouTuber ชื่อดัง RandomGaminginHD ได้ทดสอบ Minisforum MS-S1 Max ที่ใช้ APU รุ่นท็อป Ryzen AI Max 395+ พร้อม iGPU Radeon 8060S และผลลัพธ์ก็เกินคาด: เล่นเกม AAA ที่ 1080p ได้อย่างลื่นไหลโดยไม่ต้องใช้การ์ดจอแยก!

    Ryzen AI Max 395+ ถูกออกแบบมาเพื่อประมวลผลงาน AI แต่กลับกลายเป็น “สัตว์ร้าย” ด้านเกม ด้วย iGPU Radeon 8060S ที่มี 40 CUs และ 2,560 shader cores มากกว่า PlayStation 5 เสียอีก! แถมยังจับคู่กับ LPDDR5X บัส 256-bit ทำให้ประสิทธิภาพเทียบชั้น RTX 4060 ได้ในบางกรณี

    RandomGaminginHD ทดสอบเกมดังหลายเกมที่ 1080p และผลลัพธ์น่าทึ่ง:
    Counter Strike 2: 263 FPS
    Kingdom Come Deliverance 2: 90 FPS
    Red Dead Redemption 2: 82 FPS
    Battlefield 6: 86 FPS
    Cyberpunk 2077 (RT Ultra): 45 FPS
    GTA 5 Enhanced: 77 FPS
    Marvel Rivals: 79 FPS
    Elden Ring: 60 FPS (เต็มเพดานเกม)
    Borderlands 4: 55 FPS
    Outer Worlds 2: 65 FPS

    แม้บางเกมจะใช้การตั้งค่ากราฟิกต่ำหรือปิดฟีเจอร์บางอย่าง เช่น global illumination หรือ ray tracing แต่ก็ยังให้ประสบการณ์เล่นเกมที่ดีเกินคาดสำหรับ iGPU

    Ryzen AI Max 395+ ยังสามารถรัน LLM ขนาดใหญ่ได้ และมีประสิทธิภาพด้าน AI สูงกว่า RTX 4090 ถึง 2 เท่าในด้าน tokens per second ซึ่งทำให้มันกลายเป็น APU ที่ “เกินตัว” ทั้งด้านเกมและงาน AI

    Ryzen AI Max 395+ มาพร้อม iGPU Radeon 8060S
    มี 40 CUs และ 2,560 shader cores
    ใช้ LPDDR5X บัส 256-bit
    ประสิทธิภาพเทียบชั้น RTX 4060 ในบางกรณี

    จุดเด่นของ APU Ryzen AI Max 395+
    รัน LLM ได้ดีเยี่ยม
    ประสิทธิภาพด้าน AI สูงกว่า RTX 4090 ถึง 2 เท่า
    เหมาะกับงาน AI และเกมในเครื่องขนาดเล็ก

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/strix-halo-radeon-8060s-benchmarked-in-games-delivers-butter-smooth-1080p-performance-ryzen-ai-max-395-apu-is-a-pretty-solid-gaming-offering
    🎮🔥 Radeon 8060S โชว์พลัง! เกมเมอร์ตะลึงกับ iGPU บน Ryzen AI Max 395+ เล่นเกม 1080p ลื่นไหลทุกค่าย YouTuber ชื่อดัง RandomGaminginHD ได้ทดสอบ Minisforum MS-S1 Max ที่ใช้ APU รุ่นท็อป Ryzen AI Max 395+ พร้อม iGPU Radeon 8060S และผลลัพธ์ก็เกินคาด: เล่นเกม AAA ที่ 1080p ได้อย่างลื่นไหลโดยไม่ต้องใช้การ์ดจอแยก! Ryzen AI Max 395+ ถูกออกแบบมาเพื่อประมวลผลงาน AI แต่กลับกลายเป็น “สัตว์ร้าย” ด้านเกม ด้วย iGPU Radeon 8060S ที่มี 40 CUs และ 2,560 shader cores มากกว่า PlayStation 5 เสียอีก! แถมยังจับคู่กับ LPDDR5X บัส 256-bit ทำให้ประสิทธิภาพเทียบชั้น RTX 4060 ได้ในบางกรณี RandomGaminginHD ทดสอบเกมดังหลายเกมที่ 1080p และผลลัพธ์น่าทึ่ง: 🎗️ Counter Strike 2: 263 FPS 🎗️ Kingdom Come Deliverance 2: 90 FPS 🎗️ Red Dead Redemption 2: 82 FPS 🎗️ Battlefield 6: 86 FPS 🎗️ Cyberpunk 2077 (RT Ultra): 45 FPS 🎗️ GTA 5 Enhanced: 77 FPS 🎗️ Marvel Rivals: 79 FPS 🎗️ Elden Ring: 60 FPS (เต็มเพดานเกม) 🎗️ Borderlands 4: 55 FPS 🎗️ Outer Worlds 2: 65 FPS แม้บางเกมจะใช้การตั้งค่ากราฟิกต่ำหรือปิดฟีเจอร์บางอย่าง เช่น global illumination หรือ ray tracing แต่ก็ยังให้ประสบการณ์เล่นเกมที่ดีเกินคาดสำหรับ iGPU Ryzen AI Max 395+ ยังสามารถรัน LLM ขนาดใหญ่ได้ และมีประสิทธิภาพด้าน AI สูงกว่า RTX 4090 ถึง 2 เท่าในด้าน tokens per second ซึ่งทำให้มันกลายเป็น APU ที่ “เกินตัว” ทั้งด้านเกมและงาน AI ✅ Ryzen AI Max 395+ มาพร้อม iGPU Radeon 8060S ➡️ มี 40 CUs และ 2,560 shader cores ➡️ ใช้ LPDDR5X บัส 256-bit ➡️ ประสิทธิภาพเทียบชั้น RTX 4060 ในบางกรณี ✅ จุดเด่นของ APU Ryzen AI Max 395+ ➡️ รัน LLM ได้ดีเยี่ยม ➡️ ประสิทธิภาพด้าน AI สูงกว่า RTX 4090 ถึง 2 เท่า ➡️ เหมาะกับงาน AI และเกมในเครื่องขนาดเล็ก https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/strix-halo-radeon-8060s-benchmarked-in-games-delivers-butter-smooth-1080p-performance-ryzen-ai-max-395-apu-is-a-pretty-solid-gaming-offering
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 355 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel เปิด Pop-up Store 5 เมืองทั่วโลก โชว์พลัง AI PC พร้อมเผยโฉมชิป Panther Lake ที่มิวนิก!

    Intel เปิดตัว “AI Experience Store” ใน 5 เมืองใหญ่ทั่วโลก ได้แก่ นิวยอร์ก ลอนดอน ปารีส มิวนิก และโซล เพื่อโปรโมตโน้ตบุ๊ก AI จากแบรนด์ชั้นนำช่วงเทศกาลช้อปปิ้งปลายปี โดยมีทั้ง Asus, Acer, Dell, HP, Lenovo, LG, Microsoft, MSI, Samsung และ Google ร่วมจัดแสดงผลิตภัณฑ์

    ร้าน Pop-up ของ Intel ไม่ได้มีแค่โน้ตบุ๊กทำงานทั่วไปหรือ Chromebook เท่านั้น แต่ยังมีโซนเกมที่ให้ผู้เข้าชมทดลองเล่นเกมดังอย่าง Clair Obscur: Expedition 33, Marvel Rivals และ Battlefield 6 บนเครื่องที่ใช้ชิป AI รุ่นล่าสุด

    แม้ร้านในนิวยอร์กจะเน้นโชว์เครื่องที่มีวางขายอยู่แล้ว แต่ที่มิวนิกกลับมีเซอร์ไพรส์ เมื่อ YouTuber สายเทคโนโลยี “High Yield” พบโน้ตบุ๊กที่ใช้ชิป “Panther Lake” ซึ่งยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ

    Panther Lake คือชิปรุ่นใหม่ของ Intel ที่ใช้กระบวนการผลิต 18A ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล้ำหน้าที่สุดของบริษัท คาดว่าจะมีประสิทธิภาพสูงกว่า Lunar Lake ถึง 50% ที่ระดับพลังงานเท่ากัน และจะเป็นหัวใจสำคัญของโน้ตบุ๊ก AI รุ่นถัดไป

    อย่างไรก็ตาม แม้ Intel จะพยายามผลักดันแบรนด์ “AI PC” อย่างหนัก แต่ยอดขายกลับยังไม่เป็นไปตามคาด โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับชิปรุ่นเก่าอย่าง Raptor Lake ที่ยังขายดีกว่า และการสิ้นสุดการสนับสนุน Windows 10 ที่ควรเป็นแรงผลักดันให้ผู้ใช้เปลี่ยนเครื่องใหม่ กลับกลายเป็นว่าผู้บริโภคจำนวนมากเลือกหันไปใช้ Mac แทน

    Intel เปิด Pop-up Store ใน 5 เมืองใหญ่ทั่วโลก
    นิวยอร์ก, ลอนดอน, ปารีส, มิวนิก, โซล
    จัดแสดงโน้ตบุ๊ก AI จากแบรนด์ชั้นนำ
    มีโซนเกมให้ทดลองเล่นเกมใหม่ล่าสุด

    การพบชิป Panther Lake ที่มิวนิก
    พบในโน้ตบุ๊กบางรุ่นที่จัดแสดง
    ใช้กระบวนการผลิต 18A ของ Intel
    ประสิทธิภาพสูงกว่า Lunar Lake ถึง 50% ที่พลังงานเท่ากัน

    ความพยายามของ Intel ในการโปรโมต AI PC
    ใช้แบรนด์ “AI Experience” เพื่อดึงดูดผู้บริโภค
    ชูจุดขายด้านการทำงาน, การเรียนรู้, การสร้างสรรค์ และการเล่นเกม

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-opens-pop-up-stores-across-five-cities-featuring-ai-pcs-from-laptop-manufacturers-we-stopped-by-the-nyc-store-and-one-visitor-in-munich-found-panther-lake
    🏬💻 Intel เปิด Pop-up Store 5 เมืองทั่วโลก โชว์พลัง AI PC พร้อมเผยโฉมชิป Panther Lake ที่มิวนิก! Intel เปิดตัว “AI Experience Store” ใน 5 เมืองใหญ่ทั่วโลก ได้แก่ นิวยอร์ก ลอนดอน ปารีส มิวนิก และโซล เพื่อโปรโมตโน้ตบุ๊ก AI จากแบรนด์ชั้นนำช่วงเทศกาลช้อปปิ้งปลายปี โดยมีทั้ง Asus, Acer, Dell, HP, Lenovo, LG, Microsoft, MSI, Samsung และ Google ร่วมจัดแสดงผลิตภัณฑ์ ร้าน Pop-up ของ Intel ไม่ได้มีแค่โน้ตบุ๊กทำงานทั่วไปหรือ Chromebook เท่านั้น แต่ยังมีโซนเกมที่ให้ผู้เข้าชมทดลองเล่นเกมดังอย่าง Clair Obscur: Expedition 33, Marvel Rivals และ Battlefield 6 บนเครื่องที่ใช้ชิป AI รุ่นล่าสุด แม้ร้านในนิวยอร์กจะเน้นโชว์เครื่องที่มีวางขายอยู่แล้ว แต่ที่มิวนิกกลับมีเซอร์ไพรส์ เมื่อ YouTuber สายเทคโนโลยี “High Yield” พบโน้ตบุ๊กที่ใช้ชิป “Panther Lake” ซึ่งยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ Panther Lake คือชิปรุ่นใหม่ของ Intel ที่ใช้กระบวนการผลิต 18A ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล้ำหน้าที่สุดของบริษัท คาดว่าจะมีประสิทธิภาพสูงกว่า Lunar Lake ถึง 50% ที่ระดับพลังงานเท่ากัน และจะเป็นหัวใจสำคัญของโน้ตบุ๊ก AI รุ่นถัดไป อย่างไรก็ตาม แม้ Intel จะพยายามผลักดันแบรนด์ “AI PC” อย่างหนัก แต่ยอดขายกลับยังไม่เป็นไปตามคาด โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับชิปรุ่นเก่าอย่าง Raptor Lake ที่ยังขายดีกว่า และการสิ้นสุดการสนับสนุน Windows 10 ที่ควรเป็นแรงผลักดันให้ผู้ใช้เปลี่ยนเครื่องใหม่ กลับกลายเป็นว่าผู้บริโภคจำนวนมากเลือกหันไปใช้ Mac แทน ✅ Intel เปิด Pop-up Store ใน 5 เมืองใหญ่ทั่วโลก ➡️ นิวยอร์ก, ลอนดอน, ปารีส, มิวนิก, โซล ➡️ จัดแสดงโน้ตบุ๊ก AI จากแบรนด์ชั้นนำ ➡️ มีโซนเกมให้ทดลองเล่นเกมใหม่ล่าสุด ✅ การพบชิป Panther Lake ที่มิวนิก ➡️ พบในโน้ตบุ๊กบางรุ่นที่จัดแสดง ➡️ ใช้กระบวนการผลิต 18A ของ Intel ➡️ ประสิทธิภาพสูงกว่า Lunar Lake ถึง 50% ที่พลังงานเท่ากัน ✅ ความพยายามของ Intel ในการโปรโมต AI PC ➡️ ใช้แบรนด์ “AI Experience” เพื่อดึงดูดผู้บริโภค ➡️ ชูจุดขายด้านการทำงาน, การเรียนรู้, การสร้างสรรค์ และการเล่นเกม https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-opens-pop-up-stores-across-five-cities-featuring-ai-pcs-from-laptop-manufacturers-we-stopped-by-the-nyc-store-and-one-visitor-in-munich-found-panther-lake
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 381 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ESUN: พันธมิตรเทคโนโลยีใหญ่เปิดตัว Ethernet มาตรฐานใหม่ ท้าชน InfiniBand สำหรับยุค AI”

    Meta, Nvidia, OpenAI และ AMD รวมพลังกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำอีกหลายราย เปิดตัวโครงการ ESUN (Ethernet for Scale-Up Networking) ภายใต้การนำของ Open Compute Project (OCP) เพื่อพัฒนา Ethernet แบบเปิดสำหรับการเชื่อมต่อภายในคลัสเตอร์ AI ขนาดใหญ่ โดยมีเป้าหมายเพื่อแข่งขันกับ InfiniBand ซึ่งครองตลาดอยู่กว่า 80% ในระบบ GPU และ accelerator

    ESUN จะทำงานร่วมกับ Ultra Ethernet Consortium และ IEEE 802.3 เพื่อกำหนดมาตรฐานใหม่ที่ครอบคลุมพฤติกรรมของสวิตช์ โปรโตคอล header การจัดการ error และการส่งข้อมูลแบบ lossless พร้อมศึกษาผลกระทบต่อ load balancing และ memory ordering ในระบบที่ใช้ GPU เป็นหลัก

    จุดประสงค์ของ ESUN
    พัฒนา Ethernet แบบเปิดสำหรับคลัสเตอร์ AI ขนาดใหญ่
    ลดความซับซ้อนของระบบ interconnect ด้วยมาตรฐานที่คุ้นเคย
    ลดต้นทุนและเพิ่มความสามารถในการปรับขยายระบบ

    พันธมิตรในโครงการ ESUN
    Meta, Nvidia, OpenAI, AMD, Cisco, Microsoft, Oracle
    Arista, ARM, Broadcom, HPE, Marvell และอื่น ๆ
    ทำงานร่วมกับ Ultra Ethernet Consortium และ IEEE 802.3

    เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง
    Broadcom Tomahawk Ultra switch รองรับ 77 พันล้านแพ็กเก็ตต่อวินาที
    Nvidia Spectrum-X รวม Ethernet กับ acceleration hardware
    OCP เคยทดลอง Ethernet transport ผ่าน SUE-T (SUE-Transport)

    ข้อดีของ Ethernet สำหรับ AI
    คุ้นเคยกับวิศวกรทั่วไปมากกว่า InfiniBand
    มีความสามารถในการปรับขยายและ interoperability สูง
    ลดต้นทุนและความซับซ้อนในการจัดการระบบ

    คำเตือนและข้อจำกัด
    InfiniBand ยังเหนือกว่าในด้าน latency และ reliability สำหรับงาน AI หนัก
    ESUN ต้องพิสูจน์ตัวเองใน workload ที่ต้องการความแม่นยำสูง
    การเปลี่ยนจากระบบเดิมต้องใช้เวลาและการลงทุนมหาศาล

    https://www.techradar.com/pro/meta-joins-nvidia-openai-and-amd-to-launch-ethernet-for-scale-up-network-esun-competes-with-infiniband-but-will-work-with-ultra-ethernet-consortium
    🌐 “ESUN: พันธมิตรเทคโนโลยีใหญ่เปิดตัว Ethernet มาตรฐานใหม่ ท้าชน InfiniBand สำหรับยุค AI” Meta, Nvidia, OpenAI และ AMD รวมพลังกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำอีกหลายราย เปิดตัวโครงการ ESUN (Ethernet for Scale-Up Networking) ภายใต้การนำของ Open Compute Project (OCP) เพื่อพัฒนา Ethernet แบบเปิดสำหรับการเชื่อมต่อภายในคลัสเตอร์ AI ขนาดใหญ่ โดยมีเป้าหมายเพื่อแข่งขันกับ InfiniBand ซึ่งครองตลาดอยู่กว่า 80% ในระบบ GPU และ accelerator ESUN จะทำงานร่วมกับ Ultra Ethernet Consortium และ IEEE 802.3 เพื่อกำหนดมาตรฐานใหม่ที่ครอบคลุมพฤติกรรมของสวิตช์ โปรโตคอล header การจัดการ error และการส่งข้อมูลแบบ lossless พร้อมศึกษาผลกระทบต่อ load balancing และ memory ordering ในระบบที่ใช้ GPU เป็นหลัก ✅ จุดประสงค์ของ ESUN ➡️ พัฒนา Ethernet แบบเปิดสำหรับคลัสเตอร์ AI ขนาดใหญ่ ➡️ ลดความซับซ้อนของระบบ interconnect ด้วยมาตรฐานที่คุ้นเคย ➡️ ลดต้นทุนและเพิ่มความสามารถในการปรับขยายระบบ ✅ พันธมิตรในโครงการ ESUN ➡️ Meta, Nvidia, OpenAI, AMD, Cisco, Microsoft, Oracle ➡️ Arista, ARM, Broadcom, HPE, Marvell และอื่น ๆ ➡️ ทำงานร่วมกับ Ultra Ethernet Consortium และ IEEE 802.3 ✅ เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ➡️ Broadcom Tomahawk Ultra switch รองรับ 77 พันล้านแพ็กเก็ตต่อวินาที ➡️ Nvidia Spectrum-X รวม Ethernet กับ acceleration hardware ➡️ OCP เคยทดลอง Ethernet transport ผ่าน SUE-T (SUE-Transport) ✅ ข้อดีของ Ethernet สำหรับ AI ➡️ คุ้นเคยกับวิศวกรทั่วไปมากกว่า InfiniBand ➡️ มีความสามารถในการปรับขยายและ interoperability สูง ➡️ ลดต้นทุนและความซับซ้อนในการจัดการระบบ ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ InfiniBand ยังเหนือกว่าในด้าน latency และ reliability สำหรับงาน AI หนัก ⛔ ESUN ต้องพิสูจน์ตัวเองใน workload ที่ต้องการความแม่นยำสูง ⛔ การเปลี่ยนจากระบบเดิมต้องใช้เวลาและการลงทุนมหาศาล https://www.techradar.com/pro/meta-joins-nvidia-openai-and-amd-to-launch-ethernet-for-scale-up-network-esun-competes-with-infiniband-but-will-work-with-ultra-ethernet-consortium
    WWW.TECHRADAR.COM
    Tech bigwigs want to rewrite the future of AI networking with open Ethernet
    Engineers hope Ethernet can simplify complex GPU interconnect systems
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 286 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Intel Arc B580 กลับมาแรง! อัปเดตไดรเวอร์ใหม่แก้ปัญหา CPU Overhead — เกมเมอร์สายประหยัดมีเฮ”

    Intel Arc B580 ซึ่งเคยถูกมองว่าเป็น GPU ราคาประหยัดที่มีข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมื่อใช้งานร่วมกับ CPU รุ่นเก่า เช่น Ryzen 5 5600 หรือแม้แต่ Ryzen 5 2600 ล่าสุดได้รับการอัปเดตไดรเวอร์เวอร์ชันใหม่ (7028) ที่ช่วยลดปัญหา CPU overhead ได้อย่างเห็นผลในหลายเกมยอดนิยม

    ก่อนหน้านี้ Arc B580 มีปัญหาเมื่อใช้งานกับ CPU ที่ไม่ใช่รุ่นล่าสุด โดยเฉพาะในเกมที่มีการประมวลผลหนัก เช่น Marvel’s Spider-Man Remastered และ Cyberpunk 2077 ซึ่งทำให้เฟรมเรตตกอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับ GPU จาก AMD หรือ NVIDIA ในระดับเดียวกัน

    แต่หลังจากการอัปเดตไดรเวอร์ล่าสุดในเดือนสิงหาคม 2025 ปัญหานี้ได้รับการแก้ไขในหลายเกม โดยเฉพาะ Spider-Man Remastered ที่เฟรมเรตเฉลี่ยเพิ่มขึ้นถึง 36% และเฟรมเรตต่ำสุด (1% low) เพิ่มขึ้นถึง 43% เมื่อใช้งานร่วมกับ Ryzen 5 5600

    Cyberpunk 2077: Phantom Liberty ก็แสดงผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน และเกมอื่น ๆ เช่น Dying Light: The Beast, Marvel Rivals, Kingdom Come: Deliverance II และ Borderlands 4 ก็มีการปรับปรุงประสิทธิภาพเมื่อใช้กับ CPU ระดับกลาง

    แม้ว่า Ryzen 5 2600 ยังมีปัญหาอยู่บ้าง แต่สำหรับผู้ใช้ Ryzen 5 5600 และ CPU ระดับใกล้เคียงกัน Arc B580 กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อราคาลดลงเหลือเพียง $249 พร้อมหน่วยความจำ 12GB ซึ่งหาไม่ได้ใน GPU ค่ายอื่นในช่วงราคานี้

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Intel Arc B580 ได้รับการอัปเดตไดรเวอร์เวอร์ชัน 7028 ในเดือนสิงหาคม 2025
    ปรับปรุงประสิทธิภาพเมื่อใช้งานร่วมกับ CPU รุ่นเก่า โดยเฉพาะ Ryzen 5 5600
    Spider-Man Remastered เฟรมเรตเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 36% และ 1% low เพิ่มขึ้น 43%
    Cyberpunk 2077 และเกมอื่น ๆ แสดงผลลัพธ์ดีขึ้นอย่างชัดเจน
    ปัญหา CPU overhead ลดลงในหลายเกมยอดนิยม
    Arc B580 มีหน่วยความจำ 12GB และราคาล่าสุดอยู่ที่ $249
    เป็น GPU ราคาประหยัดที่เริ่มน่าสนใจสำหรับผู้ใช้ CPU ระดับกลาง

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    CPU overhead คือภาระการประมวลผลที่เกิดจากการจัดการคำสั่งระหว่าง CPU และ GPU
    Ryzen 5 5600 ยังเป็น CPU ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มเกมเมอร์สายประหยัด
    การอัปเดตไดรเวอร์แบบเจาะจงเกม (game-specific optimization) เป็นแนวทางที่ NVIDIA และ AMD ใช้มานาน
    Arc B580 เป็นหนึ่งใน GPU ที่ Intel พยายามผลักดันเพื่อแข่งขันในตลาดกลาง
    การมีหน่วยความจำ 12GB ทำให้ Arc B580 เหมาะกับเกม AAA และงาน AI เบื้องต้น

    https://wccftech.com/intel-arc-b580-receives-huge-performance-gains-in-some-titles-as-new-drivers-migitate-cpu-overhead-to-a-good-extent/
    🎮 “Intel Arc B580 กลับมาแรง! อัปเดตไดรเวอร์ใหม่แก้ปัญหา CPU Overhead — เกมเมอร์สายประหยัดมีเฮ” Intel Arc B580 ซึ่งเคยถูกมองว่าเป็น GPU ราคาประหยัดที่มีข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมื่อใช้งานร่วมกับ CPU รุ่นเก่า เช่น Ryzen 5 5600 หรือแม้แต่ Ryzen 5 2600 ล่าสุดได้รับการอัปเดตไดรเวอร์เวอร์ชันใหม่ (7028) ที่ช่วยลดปัญหา CPU overhead ได้อย่างเห็นผลในหลายเกมยอดนิยม ก่อนหน้านี้ Arc B580 มีปัญหาเมื่อใช้งานกับ CPU ที่ไม่ใช่รุ่นล่าสุด โดยเฉพาะในเกมที่มีการประมวลผลหนัก เช่น Marvel’s Spider-Man Remastered และ Cyberpunk 2077 ซึ่งทำให้เฟรมเรตตกอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับ GPU จาก AMD หรือ NVIDIA ในระดับเดียวกัน แต่หลังจากการอัปเดตไดรเวอร์ล่าสุดในเดือนสิงหาคม 2025 ปัญหานี้ได้รับการแก้ไขในหลายเกม โดยเฉพาะ Spider-Man Remastered ที่เฟรมเรตเฉลี่ยเพิ่มขึ้นถึง 36% และเฟรมเรตต่ำสุด (1% low) เพิ่มขึ้นถึง 43% เมื่อใช้งานร่วมกับ Ryzen 5 5600 Cyberpunk 2077: Phantom Liberty ก็แสดงผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน และเกมอื่น ๆ เช่น Dying Light: The Beast, Marvel Rivals, Kingdom Come: Deliverance II และ Borderlands 4 ก็มีการปรับปรุงประสิทธิภาพเมื่อใช้กับ CPU ระดับกลาง แม้ว่า Ryzen 5 2600 ยังมีปัญหาอยู่บ้าง แต่สำหรับผู้ใช้ Ryzen 5 5600 และ CPU ระดับใกล้เคียงกัน Arc B580 กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อราคาลดลงเหลือเพียง $249 พร้อมหน่วยความจำ 12GB ซึ่งหาไม่ได้ใน GPU ค่ายอื่นในช่วงราคานี้ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Intel Arc B580 ได้รับการอัปเดตไดรเวอร์เวอร์ชัน 7028 ในเดือนสิงหาคม 2025 ➡️ ปรับปรุงประสิทธิภาพเมื่อใช้งานร่วมกับ CPU รุ่นเก่า โดยเฉพาะ Ryzen 5 5600 ➡️ Spider-Man Remastered เฟรมเรตเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 36% และ 1% low เพิ่มขึ้น 43% ➡️ Cyberpunk 2077 และเกมอื่น ๆ แสดงผลลัพธ์ดีขึ้นอย่างชัดเจน ➡️ ปัญหา CPU overhead ลดลงในหลายเกมยอดนิยม ➡️ Arc B580 มีหน่วยความจำ 12GB และราคาล่าสุดอยู่ที่ $249 ➡️ เป็น GPU ราคาประหยัดที่เริ่มน่าสนใจสำหรับผู้ใช้ CPU ระดับกลาง ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ CPU overhead คือภาระการประมวลผลที่เกิดจากการจัดการคำสั่งระหว่าง CPU และ GPU ➡️ Ryzen 5 5600 ยังเป็น CPU ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มเกมเมอร์สายประหยัด ➡️ การอัปเดตไดรเวอร์แบบเจาะจงเกม (game-specific optimization) เป็นแนวทางที่ NVIDIA และ AMD ใช้มานาน ➡️ Arc B580 เป็นหนึ่งใน GPU ที่ Intel พยายามผลักดันเพื่อแข่งขันในตลาดกลาง ➡️ การมีหน่วยความจำ 12GB ทำให้ Arc B580 เหมาะกับเกม AAA และงาน AI เบื้องต้น https://wccftech.com/intel-arc-b580-receives-huge-performance-gains-in-some-titles-as-new-drivers-migitate-cpu-overhead-to-a-good-extent/
    WCCFTECH.COM
    Intel Arc B580 Receives Huge Performance Gains In Some Titles As New Drivers Mitigate CPU Overhead To A Good Extent
    Intel has been continuously delivering newer driver updates, which have seemingly mitigated the CPU Overhead problems for Arc B580.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 342 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Stan Lee กลับมาอีกครั้งในรูปแบบ AI Hologram — เทคโนโลยีปลุกตำนานสู่ชีวิตใหม่ที่ L.A. Comic Con”

    ในงาน L.A. Comic Con ปี 2025 ที่จัดขึ้น ณ Los Angeles Convention Center ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษกับ “Stan Lee Experience” — การปรากฏตัวของ Stan Lee ผู้สร้างฮีโร่ระดับตำนานอย่าง Spider-Man, Iron Man, Hulk และ Thor ในรูปแบบ AI hologram ที่สามารถพูดคุยและตอบคำถามแฟน ๆ ได้แบบเรียลไทม์

    แม้ Stan Lee จะเสียชีวิตไปในปี 2018 ด้วยวัย 95 ปี แต่ด้วยความร่วมมือระหว่าง Proto Hologram และ Hyperreal ทีมงานสามารถสร้าง “Holo Stan” ขึ้นมาโดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และภาพจากการปรากฏตัวของเขาในงานต่าง ๆ ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา เพื่อให้คำพูดและบุคลิกของเขายังคง “เป็นตัวเขา” อย่างแท้จริง

    ผู้เข้าร่วมงานสามารถเข้าไปในบูธขนาด 1,500 ตารางฟุตเพื่อพูดคุยกับ Holo Stan ได้โดยตรง เช่น ถามว่า “คุณคิดอย่างไรกับ X-Men ที่เชื่อมโยงกับขบวนการสิทธิพลเมือง?” หรือ “ถ้าเลือกฮีโร่หนึ่งคนมาช่วยโลกวันนี้ คุณจะเลือกใคร?” ซึ่งคำตอบของเขาคือ Spider-Man พร้อมคำพูดที่อบอุ่นว่า “ฮีโร่ที่แท้จริงคือพวกคุณ — แฟน ๆ ที่ทำให้เรื่องราวเหล่านี้ยังมีชีวิตอยู่”

    แม้หลายคนจะรู้สึกตื่นเต้นกับการได้พบ Stan Lee อีกครั้งในรูปแบบใหม่ แต่ก็มีเสียงวิจารณ์จากบางกลุ่มที่มองว่าเป็นการ “ไม่ให้เขาได้พักผ่อน” และตั้งคำถามถึงขอบเขตของการใช้ AI กับบุคคลที่ล่วงลับไปแล้ว

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Stan Lee ปรากฏตัวในรูปแบบ AI hologram ที่ L.A. Comic Con ปี 2025
    ใช้เทคโนโลยีจาก Proto Hologram และ Hyperreal ในการสร้าง “Holo Stan”
    Hologram ถูกฝึกจากภาพและเสียงของ Stan Lee ตลอดชีวิตการทำงาน
    ผู้เข้าร่วมสามารถพูดคุยกับ Holo Stan ได้แบบเรียลไทม์ในบูธขนาด 1,500 ตารางฟุต
    คำพูดของ Holo Stan ถูกควบคุมให้ไม่ออกนอกบริบทจากสิ่งที่ Stan เคยพูดจริง
    โครงการนี้ได้รับการอนุมัติจาก Stan Lee Universe และอดีตผู้บริหาร Marvel
    Holo Stan กล่าวถึงความรักที่มีต่อแฟน ๆ และความหวังในโลกผ่านฮีโร่
    มีการใช้เทคโนโลยี “guardrails” เพื่อป้องกันไม่ให้ AI พูดสิ่งที่ไม่เหมาะสม
    ผู้ชมสามารถถ่ายภาพและพูดคุยกับ Holo Stan ได้เหมือนพบตัวจริง

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Proto Hologram เคยใช้เทคโนโลยีนี้โปรโมตภาพยนตร์ เช่น The Conjuring และ Minecraft Movie
    Hyperreal เป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการสร้าง digital humans ด้วย AI
    Stan Lee เคยปรากฏตัวในภาพยนตร์ Marvel ทุกเรื่องก่อนเสียชีวิต
    การใช้ AI hologram เริ่มแพร่หลายในวงการบันเทิง เช่น Elvis, Whitney Houston และ ABBA
    การสร้าง “digital legacy” กำลังกลายเป็นเทรนด์ใหม่ในการอนุรักษ์บุคคลสำคัญ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/27/ai-hologram-of-spider-man-creator-stan-lee-debuts-at-la-comic-con
    🕹️ “Stan Lee กลับมาอีกครั้งในรูปแบบ AI Hologram — เทคโนโลยีปลุกตำนานสู่ชีวิตใหม่ที่ L.A. Comic Con” ในงาน L.A. Comic Con ปี 2025 ที่จัดขึ้น ณ Los Angeles Convention Center ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษกับ “Stan Lee Experience” — การปรากฏตัวของ Stan Lee ผู้สร้างฮีโร่ระดับตำนานอย่าง Spider-Man, Iron Man, Hulk และ Thor ในรูปแบบ AI hologram ที่สามารถพูดคุยและตอบคำถามแฟน ๆ ได้แบบเรียลไทม์ แม้ Stan Lee จะเสียชีวิตไปในปี 2018 ด้วยวัย 95 ปี แต่ด้วยความร่วมมือระหว่าง Proto Hologram และ Hyperreal ทีมงานสามารถสร้าง “Holo Stan” ขึ้นมาโดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และภาพจากการปรากฏตัวของเขาในงานต่าง ๆ ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา เพื่อให้คำพูดและบุคลิกของเขายังคง “เป็นตัวเขา” อย่างแท้จริง ผู้เข้าร่วมงานสามารถเข้าไปในบูธขนาด 1,500 ตารางฟุตเพื่อพูดคุยกับ Holo Stan ได้โดยตรง เช่น ถามว่า “คุณคิดอย่างไรกับ X-Men ที่เชื่อมโยงกับขบวนการสิทธิพลเมือง?” หรือ “ถ้าเลือกฮีโร่หนึ่งคนมาช่วยโลกวันนี้ คุณจะเลือกใคร?” ซึ่งคำตอบของเขาคือ Spider-Man พร้อมคำพูดที่อบอุ่นว่า “ฮีโร่ที่แท้จริงคือพวกคุณ — แฟน ๆ ที่ทำให้เรื่องราวเหล่านี้ยังมีชีวิตอยู่” แม้หลายคนจะรู้สึกตื่นเต้นกับการได้พบ Stan Lee อีกครั้งในรูปแบบใหม่ แต่ก็มีเสียงวิจารณ์จากบางกลุ่มที่มองว่าเป็นการ “ไม่ให้เขาได้พักผ่อน” และตั้งคำถามถึงขอบเขตของการใช้ AI กับบุคคลที่ล่วงลับไปแล้ว ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Stan Lee ปรากฏตัวในรูปแบบ AI hologram ที่ L.A. Comic Con ปี 2025 ➡️ ใช้เทคโนโลยีจาก Proto Hologram และ Hyperreal ในการสร้าง “Holo Stan” ➡️ Hologram ถูกฝึกจากภาพและเสียงของ Stan Lee ตลอดชีวิตการทำงาน ➡️ ผู้เข้าร่วมสามารถพูดคุยกับ Holo Stan ได้แบบเรียลไทม์ในบูธขนาด 1,500 ตารางฟุต ➡️ คำพูดของ Holo Stan ถูกควบคุมให้ไม่ออกนอกบริบทจากสิ่งที่ Stan เคยพูดจริง ➡️ โครงการนี้ได้รับการอนุมัติจาก Stan Lee Universe และอดีตผู้บริหาร Marvel ➡️ Holo Stan กล่าวถึงความรักที่มีต่อแฟน ๆ และความหวังในโลกผ่านฮีโร่ ➡️ มีการใช้เทคโนโลยี “guardrails” เพื่อป้องกันไม่ให้ AI พูดสิ่งที่ไม่เหมาะสม ➡️ ผู้ชมสามารถถ่ายภาพและพูดคุยกับ Holo Stan ได้เหมือนพบตัวจริง ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Proto Hologram เคยใช้เทคโนโลยีนี้โปรโมตภาพยนตร์ เช่น The Conjuring และ Minecraft Movie ➡️ Hyperreal เป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการสร้าง digital humans ด้วย AI ➡️ Stan Lee เคยปรากฏตัวในภาพยนตร์ Marvel ทุกเรื่องก่อนเสียชีวิต ➡️ การใช้ AI hologram เริ่มแพร่หลายในวงการบันเทิง เช่น Elvis, Whitney Houston และ ABBA ➡️ การสร้าง “digital legacy” กำลังกลายเป็นเทรนด์ใหม่ในการอนุรักษ์บุคคลสำคัญ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/27/ai-hologram-of-spider-man-creator-stan-lee-debuts-at-la-comic-con
    WWW.THESTAR.COM.MY
    AI hologram of Spider-Man creator Stan Lee debuts at L.A. Comic Con
    LOS ANGELES (Reuters) -Wearing a green sweater and tan pants against a bright blue screen, Marvel comic book superhero creator Stan Lee will return to L.A. Comic Con in holographic form to meet fans of his characters including Spider-Man, Hulk, Iron Man and Thor.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 432 มุมมอง 0 รีวิว
  • “AMD เปิดตัว ‘1000 FPS Club’ — ซีพียู X3D รุ่นใหม่ทะลุขีดจำกัดเฟรมเรตในเกมอีสปอร์ต พร้อมท้าทายขีดจำกัดของจอภาพ”

    AMD สร้างกระแสฮือฮาในวงการเกมอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว “1000 FPS Club” ซึ่งเป็นกลุ่มซีพียูรุ่นใหม่จากตระกูล Ryzen 9000X3D ที่สามารถทำเฟรมเรตทะลุ 1000 FPS ในเกมอีสปอร์ตยอดนิยม เช่น Counter-Strike 2, Valorant, League of Legends, PUBG, Naraka: Bladepoint และ Marvel Rivals2 โดยสมาชิกของคลับนี้ประกอบด้วย Ryzen 7 9800X3D, Ryzen 9 9950X3D และ Ryzen 9 9955HX3D สำหรับโน้ตบุ๊ก

    ความสำเร็จนี้เกิดจากเทคโนโลยี 3D V-Cache ที่เพิ่มแคชบน CCD ทำให้การประมวลผลเร็วขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยการทดสอบใช้ความละเอียด 1080p พร้อม RAM 6000 MT/s CL30 และปิดฟีเจอร์ Virtualization กับ Smart Access Memory เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

    อย่างไรก็ตาม การทำเฟรมเรตระดับนี้ยังต้องพึ่ง GPU ระดับสูง โดยเฉพาะ GeForce RTX 5080 และ RTX 5090D ซึ่งสามารถทำได้ครบทั้ง 6 เกมเมื่อจับคู่กับซีพียูของ AMD ส่วน Radeon RX 9070 XT ของ AMD เองทำได้เพียงใน Valorant และ LoL3

    แม้จะไม่มีจอภาพ 1000Hz วางขายในตลาดตอนนี้ แต่ AMD ก็ใช้โอกาสนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของซีพียูในยุค Zen 5 ที่พร้อมรองรับอนาคตของเกมที่ต้องการความเร็วระดับสูงสุด โดยเฉพาะในสายอีสปอร์ตที่ “เฟรมเรตคือชัยชนะ”

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    AMD เปิดตัว “1000 FPS Club” สำหรับซีพียู Ryzen 9000X3D รุ่นใหม่
    สมาชิกประกอบด้วย Ryzen 7 9800X3D, Ryzen 9 9950X3D และ Ryzen 9 9955HX3D
    ทำเฟรมเรตทะลุ 1000 FPS ใน 6 เกมอีสปอร์ตยอดนิยมที่ความละเอียด 1080p
    ใช้ RAM 6000 MT/s CL30 และปิด SAM กับ Virtualization เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

    การจับคู่กับ GPU และผลลัพธ์
    RTX 5080 และ RTX 5090D สามารถทำได้ครบทั้ง 6 เกมเมื่อจับคู่กับซีพียู X3D
    Radeon RX 9070 XT ทำได้เพียงใน Valorant และ League of Legends
    Ryzen 9 9950X3D และ 9800X3D เป็นตัวเลือกหลักในการทดสอบ
    Ryzen 9 9955HX3D ถูกกล่าวถึงแต่ไม่มีผลการทดสอบอย่างเป็นทางการ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    เทคโนโลยี 3D V-Cache เพิ่มประสิทธิภาพเกมโดยเฉพาะในงานที่ใช้แคชหนัก
    จอภาพ 1000Hz ยังไม่มีวางขาย แต่มีการพัฒนา เช่น จอ OLED 720Hz และจอ 750Hz จาก HKC
    การทดสอบใช้ Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 และปิดฟีเจอร์ที่ลดประสิทธิภาพ
    การทำเฟรมเรตสูงในเกมอีสปอร์ตช่วยลด input lag และเพิ่มความแม่นยำในการแข่งขัน

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-claims-three-of-its-x3d-cpus-can-hit-1000-fps-in-esports-games-ryzen-7-9800x3d-ryzen-9-9950x3d-and-9955hx3d-are-in-the-1000-fps-club
    🔥 “AMD เปิดตัว ‘1000 FPS Club’ — ซีพียู X3D รุ่นใหม่ทะลุขีดจำกัดเฟรมเรตในเกมอีสปอร์ต พร้อมท้าทายขีดจำกัดของจอภาพ” AMD สร้างกระแสฮือฮาในวงการเกมอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว “1000 FPS Club” ซึ่งเป็นกลุ่มซีพียูรุ่นใหม่จากตระกูล Ryzen 9000X3D ที่สามารถทำเฟรมเรตทะลุ 1000 FPS ในเกมอีสปอร์ตยอดนิยม เช่น Counter-Strike 2, Valorant, League of Legends, PUBG, Naraka: Bladepoint และ Marvel Rivals2 โดยสมาชิกของคลับนี้ประกอบด้วย Ryzen 7 9800X3D, Ryzen 9 9950X3D และ Ryzen 9 9955HX3D สำหรับโน้ตบุ๊ก ความสำเร็จนี้เกิดจากเทคโนโลยี 3D V-Cache ที่เพิ่มแคชบน CCD ทำให้การประมวลผลเร็วขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยการทดสอบใช้ความละเอียด 1080p พร้อม RAM 6000 MT/s CL30 และปิดฟีเจอร์ Virtualization กับ Smart Access Memory เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด อย่างไรก็ตาม การทำเฟรมเรตระดับนี้ยังต้องพึ่ง GPU ระดับสูง โดยเฉพาะ GeForce RTX 5080 และ RTX 5090D ซึ่งสามารถทำได้ครบทั้ง 6 เกมเมื่อจับคู่กับซีพียูของ AMD ส่วน Radeon RX 9070 XT ของ AMD เองทำได้เพียงใน Valorant และ LoL3 แม้จะไม่มีจอภาพ 1000Hz วางขายในตลาดตอนนี้ แต่ AMD ก็ใช้โอกาสนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของซีพียูในยุค Zen 5 ที่พร้อมรองรับอนาคตของเกมที่ต้องการความเร็วระดับสูงสุด โดยเฉพาะในสายอีสปอร์ตที่ “เฟรมเรตคือชัยชนะ” ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ AMD เปิดตัว “1000 FPS Club” สำหรับซีพียู Ryzen 9000X3D รุ่นใหม่ ➡️ สมาชิกประกอบด้วย Ryzen 7 9800X3D, Ryzen 9 9950X3D และ Ryzen 9 9955HX3D ➡️ ทำเฟรมเรตทะลุ 1000 FPS ใน 6 เกมอีสปอร์ตยอดนิยมที่ความละเอียด 1080p ➡️ ใช้ RAM 6000 MT/s CL30 และปิด SAM กับ Virtualization เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ✅ การจับคู่กับ GPU และผลลัพธ์ ➡️ RTX 5080 และ RTX 5090D สามารถทำได้ครบทั้ง 6 เกมเมื่อจับคู่กับซีพียู X3D ➡️ Radeon RX 9070 XT ทำได้เพียงใน Valorant และ League of Legends ➡️ Ryzen 9 9950X3D และ 9800X3D เป็นตัวเลือกหลักในการทดสอบ ➡️ Ryzen 9 9955HX3D ถูกกล่าวถึงแต่ไม่มีผลการทดสอบอย่างเป็นทางการ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ เทคโนโลยี 3D V-Cache เพิ่มประสิทธิภาพเกมโดยเฉพาะในงานที่ใช้แคชหนัก ➡️ จอภาพ 1000Hz ยังไม่มีวางขาย แต่มีการพัฒนา เช่น จอ OLED 720Hz และจอ 750Hz จาก HKC ➡️ การทดสอบใช้ Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 และปิดฟีเจอร์ที่ลดประสิทธิภาพ ➡️ การทำเฟรมเรตสูงในเกมอีสปอร์ตช่วยลด input lag และเพิ่มความแม่นยำในการแข่งขัน https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-claims-three-of-its-x3d-cpus-can-hit-1000-fps-in-esports-games-ryzen-7-9800x3d-ryzen-9-9950x3d-and-9955hx3d-are-in-the-1000-fps-club
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 320 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อ Intel ตัดสินใจ “ตัดแขน” เพื่อรักษาหัวใจ

    ลองจินตนาการว่าคุณเป็นบริษัทที่เคยครองโลกด้านชิป PC แต่วันนี้ยอดขายตกต่ำ กำไรหาย และคู่แข่งอย่าง NVIDIA กับ AMD กำลังแซงหน้า — คุณจะทำยังไง?

    Intel ภายใต้การนำของ CEO คนใหม่ Lip-Bu Tan เลือกใช้วิธี “ตัดส่วนที่ไม่ใช่หัวใจ” เพื่อรักษาแกนหลักของธุรกิจ โดยล่าสุดประกาศแยกธุรกิจเครือข่ายและการสื่อสาร (Network & Edge Group หรือ NEX) ออกเป็นบริษัทอิสระ พร้อมเปิดรับนักลงทุนภายนอก

    NEX เคยสร้างรายได้ถึง $5.8 พันล้านในปี 2024 หรือประมาณ 11% ของรายได้รวมของ Intel แต่ถูกมองว่าไม่ใช่ “แกนหลัก” ในยุคที่ AI และชิป PC กลับมาเป็นจุดแข็งที่ต้องเร่งฟื้นฟู

    Intel จะยังคงถือหุ้นบางส่วนในบริษัทใหม่ เพื่อเก็บเกี่ยวผลตอบแทนในอนาคต แต่จะไม่บริหารโดยตรงอีกต่อไป

    Intel เตรียมแยกธุรกิจเครือข่ายและการสื่อสารออกเป็นบริษัทอิสระ
    หน่วยงาน NEX เคยสร้างรายได้ $5.8 พันล้านในปี 2024
    คิดเป็น 11% ของรายได้รวมของ Intel

    CEO Lip-Bu Tan ใช้กลยุทธ์ “Back to Core”
    เน้นธุรกิจหลักคือชิป PC และศูนย์ข้อมูล
    ลดการลงทุนในธุรกิจที่ไม่ใช่แกนหลัก เช่น telecom infrastructure

    Intel จะยังคงเป็น “ผู้ลงทุนหลัก” ในบริษัทใหม่
    คล้ายกับกรณีขายหุ้น Altera ให้ Silver Lake
    เปิดรับนักลงทุนภายนอกเพื่อเร่งการเติบโต

    เป้าหมายคือการฟื้นฟูกำไรและลดต้นทุน
    Intel ขาดทุนต่อเนื่อง 6 ไตรมาส รวม $1.25 พันล้านในไตรมาสล่าสุด
    มีแผนลดค่าใช้จ่าย $10 พันล้าน และปลดพนักงาน 20,000 คน

    การแยก NEX จะช่วยให้ Intel โฟกัสกับ AI และโรงงานผลิตชิป
    เงินที่ได้จะนำไปลงทุนในโรงงานที่โอไฮโอและ R&D ด้าน AI
    ตั้งเป้าให้ธุรกิจ foundry มีกำไรภายในปี 2030

    บริษัทใหม่จะเน้น Ethernet, edge security และ AI networking
    แข่งกับ Broadcom, Marvell, AMD และ NVIDIA
    มีอิสระในการตัดสินใจและนวัตกรรมเร็วขึ้น

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/26/intel-to-separate-networking-unit-as-new-ceo-tan-overhauls-business
    🧠 เรื่องเล่าจากข่าว: เมื่อ Intel ตัดสินใจ “ตัดแขน” เพื่อรักษาหัวใจ ลองจินตนาการว่าคุณเป็นบริษัทที่เคยครองโลกด้านชิป PC แต่วันนี้ยอดขายตกต่ำ กำไรหาย และคู่แข่งอย่าง NVIDIA กับ AMD กำลังแซงหน้า — คุณจะทำยังไง? Intel ภายใต้การนำของ CEO คนใหม่ Lip-Bu Tan เลือกใช้วิธี “ตัดส่วนที่ไม่ใช่หัวใจ” เพื่อรักษาแกนหลักของธุรกิจ โดยล่าสุดประกาศแยกธุรกิจเครือข่ายและการสื่อสาร (Network & Edge Group หรือ NEX) ออกเป็นบริษัทอิสระ พร้อมเปิดรับนักลงทุนภายนอก NEX เคยสร้างรายได้ถึง $5.8 พันล้านในปี 2024 หรือประมาณ 11% ของรายได้รวมของ Intel แต่ถูกมองว่าไม่ใช่ “แกนหลัก” ในยุคที่ AI และชิป PC กลับมาเป็นจุดแข็งที่ต้องเร่งฟื้นฟู Intel จะยังคงถือหุ้นบางส่วนในบริษัทใหม่ เพื่อเก็บเกี่ยวผลตอบแทนในอนาคต แต่จะไม่บริหารโดยตรงอีกต่อไป ✅ Intel เตรียมแยกธุรกิจเครือข่ายและการสื่อสารออกเป็นบริษัทอิสระ ➡️ หน่วยงาน NEX เคยสร้างรายได้ $5.8 พันล้านในปี 2024 ➡️ คิดเป็น 11% ของรายได้รวมของ Intel ✅ CEO Lip-Bu Tan ใช้กลยุทธ์ “Back to Core” ➡️ เน้นธุรกิจหลักคือชิป PC และศูนย์ข้อมูล ➡️ ลดการลงทุนในธุรกิจที่ไม่ใช่แกนหลัก เช่น telecom infrastructure ✅ Intel จะยังคงเป็น “ผู้ลงทุนหลัก” ในบริษัทใหม่ ➡️ คล้ายกับกรณีขายหุ้น Altera ให้ Silver Lake ➡️ เปิดรับนักลงทุนภายนอกเพื่อเร่งการเติบโต ✅ เป้าหมายคือการฟื้นฟูกำไรและลดต้นทุน ➡️ Intel ขาดทุนต่อเนื่อง 6 ไตรมาส รวม $1.25 พันล้านในไตรมาสล่าสุด ➡️ มีแผนลดค่าใช้จ่าย $10 พันล้าน และปลดพนักงาน 20,000 คน ✅ การแยก NEX จะช่วยให้ Intel โฟกัสกับ AI และโรงงานผลิตชิป ➡️ เงินที่ได้จะนำไปลงทุนในโรงงานที่โอไฮโอและ R&D ด้าน AI ➡️ ตั้งเป้าให้ธุรกิจ foundry มีกำไรภายในปี 2030 ✅ บริษัทใหม่จะเน้น Ethernet, edge security และ AI networking ➡️ แข่งกับ Broadcom, Marvell, AMD และ NVIDIA ➡️ มีอิสระในการตัดสินใจและนวัตกรรมเร็วขึ้น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/26/intel-to-separate-networking-unit-as-new-ceo-tan-overhauls-business
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Intel to separate networking unit as new CEO Tan overhauls business
    (Reuters) -Intel is planning to separate its networking and communications unit into a stand-alone company and has begun the process of identifying investors, the chipmaker said on Friday, as new CEO Lip-Bu Tan looks to streamline its operations.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 407 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากเบรกที่ไม่ปล่อยฝุ่น: เมื่อรถยนต์ไฟฟ้าช่วยให้เมืองหายใจสะอาดขึ้น

    งานวิจัยจาก EIT Urban Mobility ที่สำรวจในลอนดอน, มิลาน และบาร์เซโลนา พบว่า:
    - รถยนต์ไฟฟ้าลดฝุ่นเบรกได้ถึง 83%
    - ฝุ่นเบรกเป็นแหล่ง PM10 ที่สำคัญในเมือง โดยคิดเป็น 55% ของมลพิษจากการจราจรที่ไม่ใช่ไอเสีย
    - ฝุ่นเหล่านี้มีขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน และบางครั้งต่ำกว่า 100 นาโนเมตร — สามารถเข้าสู่ปอดลึกและก่อให้เกิดการอักเสบ

    เทคโนโลยีเบื้องหลังคือ regenerative braking:
    - ใช้มอเตอร์หมุนย้อนกลับเพื่อชะลอรถ และเปลี่ยนพลังงานกลับไปเก็บในแบตเตอรี่
    - ลดการใช้เบรกแบบแรงเสียดทานลงครึ่งหนึ่ง
    - ยืดอายุแบตเตอรี่และลดการปล่อยฝุ่นโลหะ เช่น ทองแดง, เหล็ก, สังกะสี

    แม้จะมีข้อกังวลเรื่องน้ำหนักของ BEVs ที่อาจทำให้ยางสึกเร็วขึ้น แต่การศึกษาพบว่า:
    - ฝุ่นจากเบรกมีแนวโน้มฟุ้งกระจายมากกว่าฝุ่นจากยาง
    - เมื่อรวมฝุ่นจากยาง, เบรก และพื้นถนน BEVs ยังปล่อยฝุ่นน้อยกว่ารถน้ำมันถึง 38% — ยังไม่รวมการไม่มีท่อไอเสีย

    ผลกระทบเชิงสุขภาพ:
    - ฝุ่นเบรกที่มีทองแดงสูงก่อให้เกิด oxidative stress เทียบเท่าหรือมากกว่าฝุ่นดีเซล
    - ส่งผลต่อผู้มีรายได้น้อยในเมือง ซึ่งมักอยู่ในพื้นที่ที่มีมลพิษสูง
    - แสดงถึงความจำเป็นในการเข้าถึงรถสะอาดอย่างเท่าเทียม

    นโยบายในอนาคต:
    - Euro 7 เตรียมออกมาตรฐานใหม่สำหรับฝุ่นจากเบรกและยาง
    - ผู้ผลิตเริ่มใช้เบรกแบบ enclosed drum และยางสูตรลดการสึกหรอ
    - การเปลี่ยนจากรถส่วนตัวไปสู่ระบบขนส่งสาธารณะจะลดฝุ่นได้ถึง 5 เท่า

    https://modernengineeringmarvels.com/2025/07/22/surprising-science-how-electric-cars-quietly-transform-urban-air/
    🎙️ เรื่องเล่าจากเบรกที่ไม่ปล่อยฝุ่น: เมื่อรถยนต์ไฟฟ้าช่วยให้เมืองหายใจสะอาดขึ้น งานวิจัยจาก EIT Urban Mobility ที่สำรวจในลอนดอน, มิลาน และบาร์เซโลนา พบว่า: - รถยนต์ไฟฟ้าลดฝุ่นเบรกได้ถึง 83% - ฝุ่นเบรกเป็นแหล่ง PM10 ที่สำคัญในเมือง โดยคิดเป็น 55% ของมลพิษจากการจราจรที่ไม่ใช่ไอเสีย - ฝุ่นเหล่านี้มีขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน และบางครั้งต่ำกว่า 100 นาโนเมตร — สามารถเข้าสู่ปอดลึกและก่อให้เกิดการอักเสบ เทคโนโลยีเบื้องหลังคือ regenerative braking: - ใช้มอเตอร์หมุนย้อนกลับเพื่อชะลอรถ และเปลี่ยนพลังงานกลับไปเก็บในแบตเตอรี่ - ลดการใช้เบรกแบบแรงเสียดทานลงครึ่งหนึ่ง - ยืดอายุแบตเตอรี่และลดการปล่อยฝุ่นโลหะ เช่น ทองแดง, เหล็ก, สังกะสี แม้จะมีข้อกังวลเรื่องน้ำหนักของ BEVs ที่อาจทำให้ยางสึกเร็วขึ้น แต่การศึกษาพบว่า: - ฝุ่นจากเบรกมีแนวโน้มฟุ้งกระจายมากกว่าฝุ่นจากยาง - เมื่อรวมฝุ่นจากยาง, เบรก และพื้นถนน BEVs ยังปล่อยฝุ่นน้อยกว่ารถน้ำมันถึง 38% — ยังไม่รวมการไม่มีท่อไอเสีย ผลกระทบเชิงสุขภาพ: - ฝุ่นเบรกที่มีทองแดงสูงก่อให้เกิด oxidative stress เทียบเท่าหรือมากกว่าฝุ่นดีเซล - ส่งผลต่อผู้มีรายได้น้อยในเมือง ซึ่งมักอยู่ในพื้นที่ที่มีมลพิษสูง - แสดงถึงความจำเป็นในการเข้าถึงรถสะอาดอย่างเท่าเทียม นโยบายในอนาคต: - Euro 7 เตรียมออกมาตรฐานใหม่สำหรับฝุ่นจากเบรกและยาง - ผู้ผลิตเริ่มใช้เบรกแบบ enclosed drum และยางสูตรลดการสึกหรอ - การเปลี่ยนจากรถส่วนตัวไปสู่ระบบขนส่งสาธารณะจะลดฝุ่นได้ถึง 5 เท่า https://modernengineeringmarvels.com/2025/07/22/surprising-science-how-electric-cars-quietly-transform-urban-air/
    MODERNENGINEERINGMARVELS.COM
    Surprising Science: How Electric Cars Quietly Transform Urban Air
    “It’s not just the tailpipe y’all,” joked one Electrek commenter, alluding to the black discolorations on alloy wheels visible proof of a less infamous city pollutant: brake dust. For d…
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 687 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลองนึกภาพว่าในอดีต ตลาดเซิร์ฟเวอร์เต็มไปด้วย CPU x86 จาก Intel หรือ AMD เป็นหลัก แต่วันนี้เรากำลังเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ — เพราะ AI ต้องการ "พลังประมวลผลแบบเฉพาะทาง" มากขึ้นเรื่อย ๆ → ทำให้เซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ AI GPU + ชิป Arm พุ่งแรง โดยเฉพาะ Nvidia Grace + Blackwell (GB200) ที่อัด GPU ถึง 8 ตัวต่อเครื่อง!

    แค่เซิร์ฟเวอร์ตระกูลนี้เพียงกลุ่มเดียวก็กลายเป็น “ตัวจุดพลุ” ให้ยอดขายเซิร์ฟเวอร์ Arm โตขึ้น 70% เทียบปีต่อปี → แม้จะยังมีส่วนแบ่งแค่ 21.1% ของยอดส่งมอบเครื่องรวม แต่ก็เป็นก้าวกระโดดที่ใหญ่ที่สุดของ Arm ในตลาดเซิร์ฟเวอร์

    และมันยังไม่หยุดแค่นี้ — เพราะ IDC คาดว่า:
    - ตลาดเซิร์ฟเวอร์รวมจะโตจาก $249B (2024) → $588B (2029)
    - โดยเซิร์ฟเวอร์ AI แบบ Accelerated จะกินส่วนแบ่งครึ่งหนึ่ง
    - และเซิร์ฟเวอร์ Arm จะโตจาก $32B → $103B ใน 5 ปี!
    - ในอนาคตยังมีโอกาสเห็นซีพียูจาก Qualcomm, Marvell, MediaTek หรือ Fujitsu ร่วมวงด้วย

    ส่วนผู้นำตลาดคืออเมริกา คิดเป็น 62% ของมูลค่าตลาดเซิร์ฟเวอร์ปี 2025 — เพราะเป็นศูนย์กลางการสร้าง AI Infrastructure พร้อมเทเงินลงในโครงการระดับ Stargate หรือ AGI อย่างต่อเนื่อง

    ตลาดเซิร์ฟเวอร์ไตรมาสแรกปี 2025 พุ่งถึง $95.2B — โตขึ้น 134% จากปีก่อนหน้า  
    • การเติบโตเร็วที่สุดที่เคยบันทึกมา  
    • ขับเคลื่อนโดยเซิร์ฟเวอร์ AI ที่มี GPU แบบเร่งความเร็ว (Accelerated Servers)

    ยอดจัดส่งเซิร์ฟเวอร์ Arm โตขึ้น 70% YoY — ส่วนใหญ่เป็นของ Nvidia GB200 NVL72  
    • ใช้ซีพียู Grace + GPU Blackwell (B200)  
    • มี GPU 8 ตัวต่อเครื่อง

    ปี 2025 คาดการณ์ตลาดเซิร์ฟเวอร์รวม $366B แบ่งเป็น:  
    • x86: $283.9B (โต 39.9%)  
    • Non-x86 (รวม Arm): $82B (โต 63.7%)

    Arm คาดจะกิน 21.1% ของยอดเครื่องเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลกภายในสิ้นปี 2025  
    • แม้ยังห่างเป้าหมาย 50% แต่ถือเป็นการเติบโตที่มั่นคง

    ตลาด Arm-accelerated servers จะโตจาก $32B → $103B ในปี 2029  
    • ขับเคลื่อนด้วย AI แบบ reasoning model, LLM, AGI

    ตลาดใหญ่สุดคือสหรัฐฯ (โต 59.7%) > จีน (โต 39.5%) > ญี่ปุ่น (33.9%)

    https://www.tomshardware.com/desktops/servers/nvidias-arm-chips-rapidly-gain-share-in-server-market-as-ai-booms-nvidias-arm-powered-gb200-servers-surge-as-market-reaches-a-record-usd95-billion-in-the-first-quarter
    ลองนึกภาพว่าในอดีต ตลาดเซิร์ฟเวอร์เต็มไปด้วย CPU x86 จาก Intel หรือ AMD เป็นหลัก แต่วันนี้เรากำลังเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ — เพราะ AI ต้องการ "พลังประมวลผลแบบเฉพาะทาง" มากขึ้นเรื่อย ๆ → ทำให้เซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ AI GPU + ชิป Arm พุ่งแรง โดยเฉพาะ Nvidia Grace + Blackwell (GB200) ที่อัด GPU ถึง 8 ตัวต่อเครื่อง! แค่เซิร์ฟเวอร์ตระกูลนี้เพียงกลุ่มเดียวก็กลายเป็น “ตัวจุดพลุ” ให้ยอดขายเซิร์ฟเวอร์ Arm โตขึ้น 70% เทียบปีต่อปี → แม้จะยังมีส่วนแบ่งแค่ 21.1% ของยอดส่งมอบเครื่องรวม แต่ก็เป็นก้าวกระโดดที่ใหญ่ที่สุดของ Arm ในตลาดเซิร์ฟเวอร์ และมันยังไม่หยุดแค่นี้ — เพราะ IDC คาดว่า: - ตลาดเซิร์ฟเวอร์รวมจะโตจาก $249B (2024) → $588B (2029) - โดยเซิร์ฟเวอร์ AI แบบ Accelerated จะกินส่วนแบ่งครึ่งหนึ่ง - และเซิร์ฟเวอร์ Arm จะโตจาก $32B → $103B ใน 5 ปี! - ในอนาคตยังมีโอกาสเห็นซีพียูจาก Qualcomm, Marvell, MediaTek หรือ Fujitsu ร่วมวงด้วย ส่วนผู้นำตลาดคืออเมริกา คิดเป็น 62% ของมูลค่าตลาดเซิร์ฟเวอร์ปี 2025 — เพราะเป็นศูนย์กลางการสร้าง AI Infrastructure พร้อมเทเงินลงในโครงการระดับ Stargate หรือ AGI อย่างต่อเนื่อง ✅ ตลาดเซิร์ฟเวอร์ไตรมาสแรกปี 2025 พุ่งถึง $95.2B — โตขึ้น 134% จากปีก่อนหน้า   • การเติบโตเร็วที่สุดที่เคยบันทึกมา   • ขับเคลื่อนโดยเซิร์ฟเวอร์ AI ที่มี GPU แบบเร่งความเร็ว (Accelerated Servers) ✅ ยอดจัดส่งเซิร์ฟเวอร์ Arm โตขึ้น 70% YoY — ส่วนใหญ่เป็นของ Nvidia GB200 NVL72   • ใช้ซีพียู Grace + GPU Blackwell (B200)   • มี GPU 8 ตัวต่อเครื่อง ✅ ปี 2025 คาดการณ์ตลาดเซิร์ฟเวอร์รวม $366B แบ่งเป็น:   • x86: $283.9B (โต 39.9%)   • Non-x86 (รวม Arm): $82B (โต 63.7%) ✅ Arm คาดจะกิน 21.1% ของยอดเครื่องเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลกภายในสิ้นปี 2025   • แม้ยังห่างเป้าหมาย 50% แต่ถือเป็นการเติบโตที่มั่นคง ✅ ตลาด Arm-accelerated servers จะโตจาก $32B → $103B ในปี 2029   • ขับเคลื่อนด้วย AI แบบ reasoning model, LLM, AGI ✅ ตลาดใหญ่สุดคือสหรัฐฯ (โต 59.7%) > จีน (โต 39.5%) > ญี่ปุ่น (33.9%) https://www.tomshardware.com/desktops/servers/nvidias-arm-chips-rapidly-gain-share-in-server-market-as-ai-booms-nvidias-arm-powered-gb200-servers-surge-as-market-reaches-a-record-usd95-billion-in-the-first-quarter
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 411 มุมมอง 0 รีวิว
  • FSR หรือ FidelityFX Super Resolution ของ AMD เป็นเทคโนโลยี upscaling แบบ AI ช่วยให้เกมรันที่เฟรมเรตสูงขึ้นบนความละเอียดสูง โดยยังรักษาคุณภาพภาพให้ดูชัดใกล้เคียง 4K แท้ ๆ ซึ่งคู่แข่งของมันคือ DLSS ของ NVIDIA ที่มี Tensor Core พิเศษอยู่บนการ์ด

    ปัญหาคือ… FSR 4 (รุ่นล่าสุด) ยังรองรับเฉพาะการ์ดจอ RX 9000 ซีรีส์ที่มีฮาร์ดแวร์ใหม่ที่ใช้ FP8 (floating point 8-bit) แต่ผู้ใช้งาน Reddit นามว่า Virtual-Cobbler-9930 พบว่า Mesa เวอร์ชันล่าสุดบน Linux สามารถ “จำลอง” ความสามารถ FP8 ด้วย FP16 แทน ทำให้ RX 7900 XTX (รุ่นปีที่แล้ว) สามารถใช้งาน FSR 4 ได้!

    เค้าใช้เครื่องมือชื่อ OptiScaler DLL injection ซึ่งแต่เดิมเคยใช้บังคับให้เกมรองรับ DLSS 2 หรือ XeSS ได้ แล้วใช้คำสั่งไม่กี่บรรทัดก็เปิดใช้งาน FSR 4 ในเกมต่าง ๆ ได้เลย

    ทดสอบแล้วพบว่าเกมอย่าง Cyberpunk 2077, Oblivion, และ Marvel Rivals รันได้จริง — โดยเฉพาะ Cyberpunk ได้ภาพที่คมกว่าตอนใช้ FSR 3.1 เยอะเลยครับ (ใบไม้ พุ่มไม้ ชัดขึ้น) แม้จะแลกกับ fps ที่ตกไป 33% จาก 85 เหลือ 56 — ซึ่งก็ยังเล่นได้ลื่นอยู่

    ผู้ใช้ Reddit ดัดแปลงให้ RX 7900 XTX ใช้งาน FSR 4 ได้ โดยไม่รองรับจาก AMD โดยตรง  
    • ใช้ Mesa ใหม่บน Linux ที่จำลอง FP8 ผ่าน FP16  
    • ใช้ OptiScaler DLL injection บังคับให้เกมรองรับ FSR 4

    ทดสอบแล้วทำงานได้จริงในเกมดัง เช่น Cyberpunk 2077 และ Oblivion  
    • คุณภาพดีขึ้นกว่าตอนใช้ FSR 3.1  
    • ภาพชัดขึ้น โดยเฉพาะ detail พุ่มไม้และใบไม้

    การลด fps มีอยู่แต่ยังอยู่ในระดับเล่นได้  
    • Cyberpunk: จาก 85 → 56 fps  
    • Oblivion: จาก 46 → 36 fps

    ผู้ใช้ทดสอบด้วย Ryzen 7 7700X (จำกัดไฟแค่ 65W), 128GB DDR5 บน Arch Linux  
    • แสดงว่าระบบไม่ต้องแรงแบบสุดทางก็เปิดใช้ได้

    คาดว่าภายในเดือนสิงหาคม Mesa จะออกเวอร์ชันเสถียรที่รวม patch นี้อัตโนมัติ  
    • เว้นแต่ว่า AMD จะขอให้ปิดฟีเจอร์นี้ออกจากโค้ด

    FSR 4 ที่ดัดแปลงใช้งานนี้ “ไม่ได้รับการรับรอง” จาก AMD  
    • อาจมีบั๊ก ความไม่เข้ากัน หรือประสิทธิภาพไม่เสถียร

    การฉีด DLL (DLL injection) อาจถูกแอนตี้ไวรัสหรือระบบความปลอดภัยมองว่าเป็นภัย  
    • ควรใช้อย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะกับเกมที่มีระบบต่อต้านโกง

    คุณภาพที่ได้สูงขึ้น แต่ถ้ารันความละเอียดต่ำกว่า 4K เช่น 1080p จะไม่มีประโยชน์ชัดเจน  
    • เหมาะสำหรับผู้ที่เล่นเกมระดับ 4K เท่านั้น

    อาจส่งผลกระทบต่อท่าทีของ AMD ต่อชุมชนนักพัฒนา  
    • หาก AMD เห็นว่าการดัดแปลงนี้ขัดกับแนวทางบริษัท อาจสั่งถอนฟีเจอร์ออกจาก Mesa

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/enthusiast-hacks-fsr-4-onto-rx-7000-series-gpu-without-official-amd-support-returns-better-quality-but-slightly-lower-fps-than-fsr-3-1
    FSR หรือ FidelityFX Super Resolution ของ AMD เป็นเทคโนโลยี upscaling แบบ AI ช่วยให้เกมรันที่เฟรมเรตสูงขึ้นบนความละเอียดสูง โดยยังรักษาคุณภาพภาพให้ดูชัดใกล้เคียง 4K แท้ ๆ ซึ่งคู่แข่งของมันคือ DLSS ของ NVIDIA ที่มี Tensor Core พิเศษอยู่บนการ์ด ปัญหาคือ… FSR 4 (รุ่นล่าสุด) ยังรองรับเฉพาะการ์ดจอ RX 9000 ซีรีส์ที่มีฮาร์ดแวร์ใหม่ที่ใช้ FP8 (floating point 8-bit) แต่ผู้ใช้งาน Reddit นามว่า Virtual-Cobbler-9930 พบว่า Mesa เวอร์ชันล่าสุดบน Linux สามารถ “จำลอง” ความสามารถ FP8 ด้วย FP16 แทน ทำให้ RX 7900 XTX (รุ่นปีที่แล้ว) สามารถใช้งาน FSR 4 ได้! เค้าใช้เครื่องมือชื่อ OptiScaler DLL injection ซึ่งแต่เดิมเคยใช้บังคับให้เกมรองรับ DLSS 2 หรือ XeSS ได้ แล้วใช้คำสั่งไม่กี่บรรทัดก็เปิดใช้งาน FSR 4 ในเกมต่าง ๆ ได้เลย ทดสอบแล้วพบว่าเกมอย่าง Cyberpunk 2077, Oblivion, และ Marvel Rivals รันได้จริง — โดยเฉพาะ Cyberpunk ได้ภาพที่คมกว่าตอนใช้ FSR 3.1 เยอะเลยครับ (ใบไม้ พุ่มไม้ ชัดขึ้น) แม้จะแลกกับ fps ที่ตกไป 33% จาก 85 เหลือ 56 — ซึ่งก็ยังเล่นได้ลื่นอยู่ ✅ ผู้ใช้ Reddit ดัดแปลงให้ RX 7900 XTX ใช้งาน FSR 4 ได้ โดยไม่รองรับจาก AMD โดยตรง   • ใช้ Mesa ใหม่บน Linux ที่จำลอง FP8 ผ่าน FP16   • ใช้ OptiScaler DLL injection บังคับให้เกมรองรับ FSR 4 ✅ ทดสอบแล้วทำงานได้จริงในเกมดัง เช่น Cyberpunk 2077 และ Oblivion   • คุณภาพดีขึ้นกว่าตอนใช้ FSR 3.1   • ภาพชัดขึ้น โดยเฉพาะ detail พุ่มไม้และใบไม้ ✅ การลด fps มีอยู่แต่ยังอยู่ในระดับเล่นได้   • Cyberpunk: จาก 85 → 56 fps   • Oblivion: จาก 46 → 36 fps ✅ ผู้ใช้ทดสอบด้วย Ryzen 7 7700X (จำกัดไฟแค่ 65W), 128GB DDR5 บน Arch Linux   • แสดงว่าระบบไม่ต้องแรงแบบสุดทางก็เปิดใช้ได้ ✅ คาดว่าภายในเดือนสิงหาคม Mesa จะออกเวอร์ชันเสถียรที่รวม patch นี้อัตโนมัติ   • เว้นแต่ว่า AMD จะขอให้ปิดฟีเจอร์นี้ออกจากโค้ด ‼️ FSR 4 ที่ดัดแปลงใช้งานนี้ “ไม่ได้รับการรับรอง” จาก AMD   • อาจมีบั๊ก ความไม่เข้ากัน หรือประสิทธิภาพไม่เสถียร ‼️ การฉีด DLL (DLL injection) อาจถูกแอนตี้ไวรัสหรือระบบความปลอดภัยมองว่าเป็นภัย   • ควรใช้อย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะกับเกมที่มีระบบต่อต้านโกง ‼️ คุณภาพที่ได้สูงขึ้น แต่ถ้ารันความละเอียดต่ำกว่า 4K เช่น 1080p จะไม่มีประโยชน์ชัดเจน   • เหมาะสำหรับผู้ที่เล่นเกมระดับ 4K เท่านั้น ‼️ อาจส่งผลกระทบต่อท่าทีของ AMD ต่อชุมชนนักพัฒนา   • หาก AMD เห็นว่าการดัดแปลงนี้ขัดกับแนวทางบริษัท อาจสั่งถอนฟีเจอร์ออกจาก Mesa https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/enthusiast-hacks-fsr-4-onto-rx-7000-series-gpu-without-official-amd-support-returns-better-quality-but-slightly-lower-fps-than-fsr-3-1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 374 มุมมอง 0 รีวิว
  • From Trainee To Bias: The Big 16 K-Pop Slang Terms To Know

    K-pop is the name of a pop music sensation that originated in South Korea and is sweeping the globe. From its energetic choreography and music to the beauty of its idols, K-pop (or K for Korea combined with pop) has entranced international and Korean fans alike—and chances are you’ve heard it, hummed it, or danced to it. (Did you catch BTS’ “Friends” playing in the Marvel movie Eternals? And who knew Clifford the Dog was also a K-pop stan? At least, his trailer made it seem so.)

    Emerging from the 1990s, K-pop has created a unique fandom culture along the way. Fans have indulged fully in this media, creating their own celebrations, traditions, and—of course—slang. All of this can overwhelm the casual listener trying out K-pop sounds, and I have to admit, I once thought this fandom was a little over the top. But I’ve since been won over—after all, being a fan of a group like Red Velvet is no different from being a fan of Ariana Grande.

    To get you started, I am providing a short guide to K-pop’s complex terminology. Whether you’re interested in K-pop, saw BTS on the news, or have friends who listen to all of the above, here are a few terms to know.

    Please note: these words are used mainly by English-speaking international fans and are found across fan Twitters, Instagrams, TikToks and Tumblrs.

    bias
    In K-pop slang, a bias is a member in a group that you like or relate to the most. K-pop fans collect merchandise—for example, photocards (more on that later)—of their biases. Fans use this term to learn more about other fans.

    Example: Who is your Twice bias? (And you’d answer with your favorite.)

    biaswrecker
    Although fans have their fundamental biases, it doesn’t mean that a bias is monogamous. Most fans with biases will have their biaswreckers, too. These wreckers are members in a group that make you question who your true bias is.

    sasaeng
    One group of people widely looked down upon are sasaengs (사생팬) or sasaeng fans. This slang derives from a Korean word (sa for “private” and saeng for “life”) that refers to an obsessive fan who stalks or otherwise violates the privacy of a Korean idol. Sasaengs tend to own fan pages, and some say they operate much like the American tabloids of the 2000s.

    comeback
    When an idol group releases new music, it’s called a comeback. Comebacks usually take place every few months and include new promotions, hair colors, styles, music, etc. Era is another word used in this fandom to describe a comeback.

    Example: Did you hear that BTS are having a comeback in June?

    nugu
    This word literally means “Who?” in Korean, and is used by fans to describe small and relatively unknown idol groups. A group like IVE would not be described as a nugu (누구) but the girl group Weki Meki would.

    visual
    In K-pop, there are roles for each idol in a group, including a role as visual. The visual role is assigned by the company to the member or members in a group who best fit a strict Korean beauty standard. Fans also debate who they believe the visual to be in each group. For example, Jin is the official visual of the group BTS, but many consider Taehyung to fit the role. This harsh beauty standard prizes small facial features, cuteness, and specific measurements of the face, body, eyes, and much more.

    aegyo
    Aegyo (애교) can be used to describe K-pop idols (both male and female) who are acting cute and childlike. Aegyo moves require specific word choices, vocal tones, and both facial and body gestures. Aegyo (often translated as “cuteness”) is usually meant to show a flirtatious side of idols and is also used by the general Korean population.

    Example: The judges made Felix do aegyo as a punishment for losing the game.

    maknae
    Another Korean word that has been adopted into international fan spaces is maknae (막내) or “youngest person.” This slang is used to describe the youngest member of a group. The term maknae, much like visual, is a role a member takes on.

    trainee
    When an idol is training before they debut, they are considered a trainee. These trainees usually take part in promotions, trying to gain popularity before their debut. Trainees typically are under contract and fulfill years of rigorous training to be able to match the abilities of many idols you see today.

    subunit
    In some idol groups subunits are formed. These units comprise a few members in a group who create their own music or albums. Some groups, such as LOONA and NCT, use subunits as their concept. This term can also describe two or three members in a group who have a similar skill or talent (like a vocal or dance unit).

    antis
    Anti or anti-fan is used to describe people who hate an artist or group so much that they seem to follow their activities and content as much or more than a fan would. Some of these antis display sasaeng behavior, dedicating themselves completely to taking down or hate speech idols. These hate campaigns contain criticizing and insulting language. Shockingly, some antis have gone so far as hurting idols in real life.

    delulu
    This term is short for delusional, and it’s used to mock fans who believe they’ll date, marry, or befriend their favorite idol. The word can describe a fan who devotes an unhealthy amount of time and energy to an idol. You could say becoming a delulu is a first step on the pipeline towards sasaeng and usually includes behavior similar to said sasaeng.

    Example: Did you see that guy talking about how he and Nayeon are dating? He’s such a delulu.

    solo stan
    When a fan of an idol group only stans a single member, they are a self-proclaimed solo stan or are labeled as such by others in the community. A solo stan might hate other members in a group, which is why the term has a negative connotation in the community. The word solo stan also can describe someone who’s a fan of a singular idol (like Sunmi or IU) who does not participate in idol groups.

    photocard
    Photocards (or pocas or PCs) are typically 3” by 2” pieces of glossy paper photos included in a K-pop albums and prized by fans. They may not sound like much to the average joe, but to the average Jimin fan, these pictures are worth hundreds to thousands of dollars.

    the Big 3
    In Korea, idols are contracted under companies. The Big 3 describes the main three corporations that famous idols usually sign under. These three companies are HYBE Entertainment (previously known as BigHit Entertainment), with groups like BTS and TXT; SM Entertainment, with groups like Girls Generation and Aespa; and YG Entertainment, producing groups like BLACKPINK and iKON. The Big 3 not only produce idols but also sign and manage actors. JYP Entertainment can also be considered as part of the Big 3 (HYBE is a relative newcomer to the list), leading some to use the term “Big 4.”

    netizen
    The term netizen does generally mean an internet user, but it’s used in K-pop to refer to Korean fans who are online intensively. These fans or anti-fans are internet sleuths and usually the ones to create scandals and/or help in proving rumors wrong or right about specific idols. Netizens (or also K-netizens) hold power in the idol industry; companies want these internet personas to view their idols in a positive light and do their best to prevent scandals that might mobilize netizens.

    © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    From Trainee To Bias: The Big 16 K-Pop Slang Terms To Know K-pop is the name of a pop music sensation that originated in South Korea and is sweeping the globe. From its energetic choreography and music to the beauty of its idols, K-pop (or K for Korea combined with pop) has entranced international and Korean fans alike—and chances are you’ve heard it, hummed it, or danced to it. (Did you catch BTS’ “Friends” playing in the Marvel movie Eternals? And who knew Clifford the Dog was also a K-pop stan? At least, his trailer made it seem so.) Emerging from the 1990s, K-pop has created a unique fandom culture along the way. Fans have indulged fully in this media, creating their own celebrations, traditions, and—of course—slang. All of this can overwhelm the casual listener trying out K-pop sounds, and I have to admit, I once thought this fandom was a little over the top. But I’ve since been won over—after all, being a fan of a group like Red Velvet is no different from being a fan of Ariana Grande. To get you started, I am providing a short guide to K-pop’s complex terminology. Whether you’re interested in K-pop, saw BTS on the news, or have friends who listen to all of the above, here are a few terms to know. Please note: these words are used mainly by English-speaking international fans and are found across fan Twitters, Instagrams, TikToks and Tumblrs. bias In K-pop slang, a bias is a member in a group that you like or relate to the most. K-pop fans collect merchandise—for example, photocards (more on that later)—of their biases. Fans use this term to learn more about other fans. Example: Who is your Twice bias? (And you’d answer with your favorite.) biaswrecker Although fans have their fundamental biases, it doesn’t mean that a bias is monogamous. Most fans with biases will have their biaswreckers, too. These wreckers are members in a group that make you question who your true bias is. sasaeng One group of people widely looked down upon are sasaengs (사생팬) or sasaeng fans. This slang derives from a Korean word (sa for “private” and saeng for “life”) that refers to an obsessive fan who stalks or otherwise violates the privacy of a Korean idol. Sasaengs tend to own fan pages, and some say they operate much like the American tabloids of the 2000s. comeback When an idol group releases new music, it’s called a comeback. Comebacks usually take place every few months and include new promotions, hair colors, styles, music, etc. Era is another word used in this fandom to describe a comeback. Example: Did you hear that BTS are having a comeback in June? nugu This word literally means “Who?” in Korean, and is used by fans to describe small and relatively unknown idol groups. A group like IVE would not be described as a nugu (누구) but the girl group Weki Meki would. visual In K-pop, there are roles for each idol in a group, including a role as visual. The visual role is assigned by the company to the member or members in a group who best fit a strict Korean beauty standard. Fans also debate who they believe the visual to be in each group. For example, Jin is the official visual of the group BTS, but many consider Taehyung to fit the role. This harsh beauty standard prizes small facial features, cuteness, and specific measurements of the face, body, eyes, and much more. aegyo Aegyo (애교) can be used to describe K-pop idols (both male and female) who are acting cute and childlike. Aegyo moves require specific word choices, vocal tones, and both facial and body gestures. Aegyo (often translated as “cuteness”) is usually meant to show a flirtatious side of idols and is also used by the general Korean population. Example: The judges made Felix do aegyo as a punishment for losing the game. maknae Another Korean word that has been adopted into international fan spaces is maknae (막내) or “youngest person.” This slang is used to describe the youngest member of a group. The term maknae, much like visual, is a role a member takes on. trainee When an idol is training before they debut, they are considered a trainee. These trainees usually take part in promotions, trying to gain popularity before their debut. Trainees typically are under contract and fulfill years of rigorous training to be able to match the abilities of many idols you see today. subunit In some idol groups subunits are formed. These units comprise a few members in a group who create their own music or albums. Some groups, such as LOONA and NCT, use subunits as their concept. This term can also describe two or three members in a group who have a similar skill or talent (like a vocal or dance unit). antis Anti or anti-fan is used to describe people who hate an artist or group so much that they seem to follow their activities and content as much or more than a fan would. Some of these antis display sasaeng behavior, dedicating themselves completely to taking down or hate speech idols. These hate campaigns contain criticizing and insulting language. Shockingly, some antis have gone so far as hurting idols in real life. delulu This term is short for delusional, and it’s used to mock fans who believe they’ll date, marry, or befriend their favorite idol. The word can describe a fan who devotes an unhealthy amount of time and energy to an idol. You could say becoming a delulu is a first step on the pipeline towards sasaeng and usually includes behavior similar to said sasaeng. Example: Did you see that guy talking about how he and Nayeon are dating? He’s such a delulu. solo stan When a fan of an idol group only stans a single member, they are a self-proclaimed solo stan or are labeled as such by others in the community. A solo stan might hate other members in a group, which is why the term has a negative connotation in the community. The word solo stan also can describe someone who’s a fan of a singular idol (like Sunmi or IU) who does not participate in idol groups. photocard Photocards (or pocas or PCs) are typically 3” by 2” pieces of glossy paper photos included in a K-pop albums and prized by fans. They may not sound like much to the average joe, but to the average Jimin fan, these pictures are worth hundreds to thousands of dollars. the Big 3 In Korea, idols are contracted under companies. The Big 3 describes the main three corporations that famous idols usually sign under. These three companies are HYBE Entertainment (previously known as BigHit Entertainment), with groups like BTS and TXT; SM Entertainment, with groups like Girls Generation and Aespa; and YG Entertainment, producing groups like BLACKPINK and iKON. The Big 3 not only produce idols but also sign and manage actors. JYP Entertainment can also be considered as part of the Big 3 (HYBE is a relative newcomer to the list), leading some to use the term “Big 4.” netizen The term netizen does generally mean an internet user, but it’s used in K-pop to refer to Korean fans who are online intensively. These fans or anti-fans are internet sleuths and usually the ones to create scandals and/or help in proving rumors wrong or right about specific idols. Netizens (or also K-netizens) hold power in the idol industry; companies want these internet personas to view their idols in a positive light and do their best to prevent scandals that might mobilize netizens. © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1483 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจเรมี เรนเนอร์ เปิดใจถึงความรู้สึก ‘โล่งใจอย่างยิ่ง’ ที่เขาสัมผัสได้ขณะ ‘ตาย’ ระหว่างอุบัติเหตุรถกวาดหิมะสุดสยอง

    ดาราดังจากจักรวาล Marvel ได้เผยในบันทึกความทรงจำของเขาชื่อ My Next Breath ว่าเขาเคย ‘ตาย’ ชั่วขณะระหว่างอุบัติเหตุรถกวาดหิมะในวันปีใหม่ ปี 2023 ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เขากระดูกหักกว่า 30 จุด และแพทย์ยังบอกว่าเขารอดมาได้อย่างหวุดหวิด เพราะกระดูกหักห่างจากอวัยวะสำคัญหรือเส้นประสาทหลักเพียงไม่กี่มิลลิเมตร

    เรนเนอร์ วัย 54 ปี ถูกล้อรถกวาดหิมะหนักกว่า 14,000 ปอนด์ทับร่าง ขณะพยายามช่วยหลานชายชื่ออเล็กซ์จากอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยเขาเขียนเล่าในบันทึกความทรงจำว่า เขา ‘ตาย’ ไปชั่วครู่ราว 30 นาทีหลังจากนั้น ขณะที่นอนอยู่บนหิมะหน้าบ้าน รอเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาถึงบนภูเขาเซียร์รา เนวาดา

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000050268

    #MGROnline #เจเรมีเรนเนอร์
    เจเรมี เรนเนอร์ เปิดใจถึงความรู้สึก ‘โล่งใจอย่างยิ่ง’ ที่เขาสัมผัสได้ขณะ ‘ตาย’ ระหว่างอุบัติเหตุรถกวาดหิมะสุดสยอง • ดาราดังจากจักรวาล Marvel ได้เผยในบันทึกความทรงจำของเขาชื่อ My Next Breath ว่าเขาเคย ‘ตาย’ ชั่วขณะระหว่างอุบัติเหตุรถกวาดหิมะในวันปีใหม่ ปี 2023 ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เขากระดูกหักกว่า 30 จุด และแพทย์ยังบอกว่าเขารอดมาได้อย่างหวุดหวิด เพราะกระดูกหักห่างจากอวัยวะสำคัญหรือเส้นประสาทหลักเพียงไม่กี่มิลลิเมตร • เรนเนอร์ วัย 54 ปี ถูกล้อรถกวาดหิมะหนักกว่า 14,000 ปอนด์ทับร่าง ขณะพยายามช่วยหลานชายชื่ออเล็กซ์จากอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยเขาเขียนเล่าในบันทึกความทรงจำว่า เขา ‘ตาย’ ไปชั่วครู่ราว 30 นาทีหลังจากนั้น ขณะที่นอนอยู่บนหิมะหน้าบ้าน รอเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาถึงบนภูเขาเซียร์รา เนวาดา • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000050268 • #MGROnline #เจเรมีเรนเนอร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 496 มุมมอง 0 รีวิว
  • Marvell Technology คาดการณ์ว่ารายได้ไตรมาสที่สองจะสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการชิป AI แบบกำหนดเองที่เพิ่มขึ้นในศูนย์ข้อมูล

    Marvell เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากการเติบโตของตลาด AI โดยเฉพาะในกลุ่ม hyperscalers ที่ต้องการขยายโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับงานประมวลผล AI นอกจากนี้ บริษัทกำลังมองหาโอกาสใหม่ ๆ ในตลาดศูนย์ข้อมูลระดับประเทศและตลาดเกิดใหม่

    นักวิเคราะห์จาก CFRA Research ระบุว่า ธุรกิจชิปแบบกำหนดเองจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการเติบโตในอีก 3-5 ปีข้างหน้า แม้ว่าจะมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำกว่า

    ข้อมูลจากข่าว
    - Marvell คาดการณ์รายได้ไตรมาสที่สองอยู่ที่ 2 พันล้านเหรียญ สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 1.98 พันล้านเหรียญ
    - รายได้จากกลุ่มศูนย์ข้อมูลคิดเป็น 76% ของรายได้ทั้งหมด โดยอยู่ที่ 1.44 พันล้านเหรียญ ในไตรมาสแรก
    - ธุรกิจเครือข่ายสำหรับองค์กรและผู้ให้บริการโทรคมนาคมเริ่มฟื้นตัว หลังจากช่วงปรับลดสินค้าคงคลัง
    - Marvell เลื่อนการประชุมนักลงทุนออกไป เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ตลาดผู้บริโภคยังคงอ่อนแอ โดยรายได้ลดลง 29% เนื่องจากความต้องการเกมที่ลดลงตามฤดูกาล
    - กลุ่มอุตสาหกรรมก็เผชิญกับความท้าทาย โดยรายได้ลดลง 12% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
    - หุ้นของ Marvell ลดลงประมาณ 2% ในการซื้อขายหลังตลาดปิด แม้ว่าจะมีแนวโน้มรายได้ที่ดีขึ้น
    - ต้องจับตาดูการประชุมเกี่ยวกับชิปแบบกำหนดเองในวันที่ 17 มิถุนายน ซึ่งอาจเปิดเผยโอกาสใหม่ ๆ ในตลาด

    Marvell กำลังใช้ประโยชน์จากกระแส AI เพื่อขยายธุรกิจชิปแบบกำหนดเอง แต่ยังต้องเผชิญกับความท้าทายในตลาดผู้บริโภคและอุตสาหกรรม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/30/chipmaker-marvell-forecasts-second-quarter-revenue-above-estimates
    Marvell Technology คาดการณ์ว่ารายได้ไตรมาสที่สองจะสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการชิป AI แบบกำหนดเองที่เพิ่มขึ้นในศูนย์ข้อมูล Marvell เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากการเติบโตของตลาด AI โดยเฉพาะในกลุ่ม hyperscalers ที่ต้องการขยายโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับงานประมวลผล AI นอกจากนี้ บริษัทกำลังมองหาโอกาสใหม่ ๆ ในตลาดศูนย์ข้อมูลระดับประเทศและตลาดเกิดใหม่ นักวิเคราะห์จาก CFRA Research ระบุว่า ธุรกิจชิปแบบกำหนดเองจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการเติบโตในอีก 3-5 ปีข้างหน้า แม้ว่าจะมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำกว่า ✅ ข้อมูลจากข่าว - Marvell คาดการณ์รายได้ไตรมาสที่สองอยู่ที่ 2 พันล้านเหรียญ สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 1.98 พันล้านเหรียญ - รายได้จากกลุ่มศูนย์ข้อมูลคิดเป็น 76% ของรายได้ทั้งหมด โดยอยู่ที่ 1.44 พันล้านเหรียญ ในไตรมาสแรก - ธุรกิจเครือข่ายสำหรับองค์กรและผู้ให้บริการโทรคมนาคมเริ่มฟื้นตัว หลังจากช่วงปรับลดสินค้าคงคลัง - Marvell เลื่อนการประชุมนักลงทุนออกไป เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ตลาดผู้บริโภคยังคงอ่อนแอ โดยรายได้ลดลง 29% เนื่องจากความต้องการเกมที่ลดลงตามฤดูกาล - กลุ่มอุตสาหกรรมก็เผชิญกับความท้าทาย โดยรายได้ลดลง 12% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า - หุ้นของ Marvell ลดลงประมาณ 2% ในการซื้อขายหลังตลาดปิด แม้ว่าจะมีแนวโน้มรายได้ที่ดีขึ้น - ต้องจับตาดูการประชุมเกี่ยวกับชิปแบบกำหนดเองในวันที่ 17 มิถุนายน ซึ่งอาจเปิดเผยโอกาสใหม่ ๆ ในตลาด Marvell กำลังใช้ประโยชน์จากกระแส AI เพื่อขยายธุรกิจชิปแบบกำหนดเอง แต่ยังต้องเผชิญกับความท้าทายในตลาดผู้บริโภคและอุตสาหกรรม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/30/chipmaker-marvell-forecasts-second-quarter-revenue-above-estimates
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Marvell forecasts second-quarter revenue above estimates on strong demand for custom AI chips
    (Reuters) -Marvell Technology forecast second-quarter revenue above Wall Street estimates on Thursday, betting on strong demand for its custom chips powering artificial intelligence workloads in data centers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 378 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel ได้ขายหุ้น 51% ของธุรกิจ FPGA Altera ให้กับ Silver Lake ในมูลค่า 4.46 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการปรับโครงสร้างธุรกิจและเพิ่มความคล่องตัวทางการเงิน

    Intel ขายหุ้นส่วนใหญ่ของ Altera ให้ Silver Lake
    - การขายหุ้นครั้งนี้ทำให้ Altera กลายเป็น บริษัท FPGA อิสระที่ใหญ่ที่สุดในโลก
    - Intel ยังคงถือหุ้น 49% และจะได้รับผลประโยชน์จากการเติบโตของ Altera

    เป้าหมายของ Altera หลังแยกตัว
    - มุ่งเน้นการพัฒนา FPGA สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์, การบิน, การสื่อสาร และ AI
    - ขยายตลาดไปยัง แพลตฟอร์มคลาวด์, ระบบ Edge และเครือข่ายไร้สายยุคใหม่

    ผลกระทบต่อ Intel
    - ลดความซับซ้อนในการดำเนินงาน และมุ่งเน้นธุรกิจหลัก เช่น CPU, GPU และการผลิตชิป
    - ปรับโครงสร้างทางการเงินเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

    การเปลี่ยนแปลงผู้บริหารของ Altera
    - Raghib Hussain จะเข้ารับตำแหน่ง CEO ของ Altera ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2025
    - เขาเคยเป็นประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีของ Marvell และมีประสบการณ์ในบริษัทชั้นนำ เช่น Cisco และ Cadence

    ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม
    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม FPGA
    - Altera อาจต้องเผชิญการแข่งขันที่รุนแรงจาก Xilinx (AMD) และ Lattice Semiconductor
    - ต้องติดตามว่า Altera จะสามารถขยายตลาดได้เร็วแค่ไหนหลังแยกตัว

    แนวโน้มของ Intel หลังขายหุ้น Altera
    - Intel อาจใช้เงินจากดีลนี้เพื่อ ลงทุนในธุรกิจชิปและโรงงานผลิต
    - ต้องจับตาว่า Intel จะปรับกลยุทธ์อย่างไรเพื่อแข่งขันกับ TSMC และ Samsung

    ความท้าทายด้านการบริหารจัดการ
    - Silver Lake ต้องวางแผนให้ Altera เติบโตอย่างมั่นคง โดยไม่กระทบต่อความสัมพันธ์กับ Intel
    - ต้องดูว่า Altera จะสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาด FPGA ได้หรือไม่

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/intel-sells-51-percent-of-altera-fpga-business-to-silver-lake-for-usd4-46-billion
    Intel ได้ขายหุ้น 51% ของธุรกิจ FPGA Altera ให้กับ Silver Lake ในมูลค่า 4.46 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการปรับโครงสร้างธุรกิจและเพิ่มความคล่องตัวทางการเงิน ✅ Intel ขายหุ้นส่วนใหญ่ของ Altera ให้ Silver Lake - การขายหุ้นครั้งนี้ทำให้ Altera กลายเป็น บริษัท FPGA อิสระที่ใหญ่ที่สุดในโลก - Intel ยังคงถือหุ้น 49% และจะได้รับผลประโยชน์จากการเติบโตของ Altera ✅ เป้าหมายของ Altera หลังแยกตัว - มุ่งเน้นการพัฒนา FPGA สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์, การบิน, การสื่อสาร และ AI - ขยายตลาดไปยัง แพลตฟอร์มคลาวด์, ระบบ Edge และเครือข่ายไร้สายยุคใหม่ ✅ ผลกระทบต่อ Intel - ลดความซับซ้อนในการดำเนินงาน และมุ่งเน้นธุรกิจหลัก เช่น CPU, GPU และการผลิตชิป - ปรับโครงสร้างทางการเงินเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ✅ การเปลี่ยนแปลงผู้บริหารของ Altera - Raghib Hussain จะเข้ารับตำแหน่ง CEO ของ Altera ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2025 - เขาเคยเป็นประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีของ Marvell และมีประสบการณ์ในบริษัทชั้นนำ เช่น Cisco และ Cadence ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม FPGA - Altera อาจต้องเผชิญการแข่งขันที่รุนแรงจาก Xilinx (AMD) และ Lattice Semiconductor - ต้องติดตามว่า Altera จะสามารถขยายตลาดได้เร็วแค่ไหนหลังแยกตัว ℹ️ แนวโน้มของ Intel หลังขายหุ้น Altera - Intel อาจใช้เงินจากดีลนี้เพื่อ ลงทุนในธุรกิจชิปและโรงงานผลิต - ต้องจับตาว่า Intel จะปรับกลยุทธ์อย่างไรเพื่อแข่งขันกับ TSMC และ Samsung ℹ️ ความท้าทายด้านการบริหารจัดการ - Silver Lake ต้องวางแผนให้ Altera เติบโตอย่างมั่นคง โดยไม่กระทบต่อความสัมพันธ์กับ Intel - ต้องดูว่า Altera จะสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาด FPGA ได้หรือไม่ https://www.tomshardware.com/tech-industry/intel-sells-51-percent-of-altera-fpga-business-to-silver-lake-for-usd4-46-billion
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 582 มุมมอง 0 รีวิว
  • “โปร่งใส ตรวจสอบได้ และเข้าถึงง่าย”: กระจกบานใหญ่จาก Bundestag สู่สภาไทย

    ในขณะที่การเมืองไทยยังคงติดหล่มแห่งความไม่โปร่งใส การซื้อเสียง ความไม่รับผิดชอบ และการลอยตัวของผู้มีอำนาจเหนือประชาชน ประเทศเยอรมนีกลับสร้างต้นแบบของความซื่อสัตย์สุจริตไว้ตรงกลางกรุงเบอร์ลิน

    Bundestag หรือรัฐสภาเยอรมัน ที่สะท้อนหลักประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

    ตัวอาคาร Reichstag ไม่ได้มีดีแค่ความอลังการทางสถาปัตยกรรม แต่คือคำประกาศเจตนารมณ์แห่งความโปร่งใส โดมแก้วเหนือห้องประชุมคือการบอกกับประชาชนว่า “พวกคุณมีสิทธิ์รู้ เห็น และตรวจสอบได้ทุกการเคลื่อนไหวของเรา” ผู้แทนราษฎรที่นั่งอยู่ภายใต้แสงธรรมชาติจากโดมแก้วนั้น จึงไม่มีที่ให้ซ่อน ไม่มีเงามืดให้แอบแฝง

    ขณะที่เมืองไทยกลับเต็มไปด้วย "โดมทึบ" ที่ประชาชนไม่มีวันมองผ่านได้ ห้องประชุมที่ถูกใช้เป็นเวทีลิเก ผลาญงบประมาณและโต้เถียงกันเพื่อผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม มากกว่าจะออกกฎหมายที่ตอบสนองต่อเสียงของประชาชน

    นักการเมืองไทยบางคนกลัวความโปร่งใสเหมือนผีเห็นแสงแดด กลัวการตรวจสอบเหมือนขโมยกลัวกล้องวงจรปิด เพราะพวกเขาไม่ได้มองว่าตัวเองเป็น "ผู้รับใช้ประชาชน" แต่เป็นเจ้าของอำนาจ

    ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ประเทศไทยจะสร้าง "Reichstag ทางจิตวิญญาณ" — ที่ไม่ต้องใช้กระจกจริงมาติด แต่ใช้หลักคิดแห่งความโปร่งใส เปิดเผย และเคารพประชาชนอย่างแท้จริง

    ความโปร่งใสไม่ใช่แค่เครื่องประดับของระบอบประชาธิปไตย แต่มันคือหัวใจของมัน ถ้าไม่มีหัวใจนี้ สภาก็ไม่ต่างอะไรจากโรงละครที่แสดงละครซ้ำซากเรื่องเดียว — “อำนาจเป็นของข้า ประชาชนจงเงียบ”

    #thawornboonyawan
    #คนไทยต้องรอด
    #คนดีสำคัญกว่าทุกสิ่ง
    Credit image : Twontrot Boon

    “Transparency, Accountability, and Accessibility”: A Giant Mirror from the Bundestag to Thailand’s Parliament

    While Thai politics remains mired in a culture of opacity, vote-buying, irresponsibility, and the detachment of power from the people, Germany has built a powerful symbol of integrity in the heart of Berlin — the Bundestag, or German federal parliament, which embodies the true essence of democracy.

    The Reichstag building is more than an architectural marvel; it is a declaration of transparency. The glass dome above the parliamentary chamber sends a clear message to the public: “You have the right to see, know, and scrutinize every action we take.” Lawmakers sit beneath natural light, visible from above — there is nowhere to hide, no shadow to scheme in.

    In contrast, Thailand is shrouded in “opaque domes” through which the people can never see. Parliamentary halls have become theatrical stages — wasting public funds and bickering over special interests rather than legislating in the people's best interest.

    Some Thai politicians fear transparency like ghosts fear daylight. They fear scrutiny the way thieves fear surveillance cameras. Because deep down, they don't see themselves as public servants — but as power-holders.

    Isn’t it time for Thailand to build its own “spiritual Reichstag”? Not with physical glass, but with a mindset rooted in openness, honesty, and deep respect for the people.

    Transparency is not a decorative feature of democracy — it is its heart. Without that heart, the parliament is nothing more than a stage for a tired play, endlessly repeating the same act: “Power belongs to us; the people must stay silent.”
    “โปร่งใส ตรวจสอบได้ และเข้าถึงง่าย”: กระจกบานใหญ่จาก Bundestag สู่สภาไทย ในขณะที่การเมืองไทยยังคงติดหล่มแห่งความไม่โปร่งใส การซื้อเสียง ความไม่รับผิดชอบ และการลอยตัวของผู้มีอำนาจเหนือประชาชน ประเทศเยอรมนีกลับสร้างต้นแบบของความซื่อสัตย์สุจริตไว้ตรงกลางกรุงเบอร์ลิน Bundestag หรือรัฐสภาเยอรมัน ที่สะท้อนหลักประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ตัวอาคาร Reichstag ไม่ได้มีดีแค่ความอลังการทางสถาปัตยกรรม แต่คือคำประกาศเจตนารมณ์แห่งความโปร่งใส โดมแก้วเหนือห้องประชุมคือการบอกกับประชาชนว่า “พวกคุณมีสิทธิ์รู้ เห็น และตรวจสอบได้ทุกการเคลื่อนไหวของเรา” ผู้แทนราษฎรที่นั่งอยู่ภายใต้แสงธรรมชาติจากโดมแก้วนั้น จึงไม่มีที่ให้ซ่อน ไม่มีเงามืดให้แอบแฝง ขณะที่เมืองไทยกลับเต็มไปด้วย "โดมทึบ" ที่ประชาชนไม่มีวันมองผ่านได้ ห้องประชุมที่ถูกใช้เป็นเวทีลิเก ผลาญงบประมาณและโต้เถียงกันเพื่อผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม มากกว่าจะออกกฎหมายที่ตอบสนองต่อเสียงของประชาชน นักการเมืองไทยบางคนกลัวความโปร่งใสเหมือนผีเห็นแสงแดด กลัวการตรวจสอบเหมือนขโมยกลัวกล้องวงจรปิด เพราะพวกเขาไม่ได้มองว่าตัวเองเป็น "ผู้รับใช้ประชาชน" แต่เป็นเจ้าของอำนาจ ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ประเทศไทยจะสร้าง "Reichstag ทางจิตวิญญาณ" — ที่ไม่ต้องใช้กระจกจริงมาติด แต่ใช้หลักคิดแห่งความโปร่งใส เปิดเผย และเคารพประชาชนอย่างแท้จริง ความโปร่งใสไม่ใช่แค่เครื่องประดับของระบอบประชาธิปไตย แต่มันคือหัวใจของมัน ถ้าไม่มีหัวใจนี้ สภาก็ไม่ต่างอะไรจากโรงละครที่แสดงละครซ้ำซากเรื่องเดียว — “อำนาจเป็นของข้า ประชาชนจงเงียบ” #thawornboonyawan #คนไทยต้องรอด #คนดีสำคัญกว่าทุกสิ่ง Credit image : Twontrot Boon “Transparency, Accountability, and Accessibility”: A Giant Mirror from the Bundestag to Thailand’s Parliament While Thai politics remains mired in a culture of opacity, vote-buying, irresponsibility, and the detachment of power from the people, Germany has built a powerful symbol of integrity in the heart of Berlin — the Bundestag, or German federal parliament, which embodies the true essence of democracy. The Reichstag building is more than an architectural marvel; it is a declaration of transparency. The glass dome above the parliamentary chamber sends a clear message to the public: “You have the right to see, know, and scrutinize every action we take.” Lawmakers sit beneath natural light, visible from above — there is nowhere to hide, no shadow to scheme in. In contrast, Thailand is shrouded in “opaque domes” through which the people can never see. Parliamentary halls have become theatrical stages — wasting public funds and bickering over special interests rather than legislating in the people's best interest. Some Thai politicians fear transparency like ghosts fear daylight. They fear scrutiny the way thieves fear surveillance cameras. Because deep down, they don't see themselves as public servants — but as power-holders. Isn’t it time for Thailand to build its own “spiritual Reichstag”? Not with physical glass, but with a mindset rooted in openness, honesty, and deep respect for the people. Transparency is not a decorative feature of democracy — it is its heart. Without that heart, the parliament is nothing more than a stage for a tired play, endlessly repeating the same act: “Power belongs to us; the people must stay silent.”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1549 มุมมอง 0 รีวิว
  • Infineon ซื้อธุรกิจ Ethernet ยานยนต์จาก Marvell ด้วยมูลค่า 2.5 พันล้านดอลลาร์ เพื่อตอบรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าและระบบอัตโนมัติ ธุรกิจใหม่นี้คาดว่าจะสร้างรายได้และกำไรขั้นต้นสูง พร้อมผลักดันให้ Infineon เป็นผู้นำในระบบการเชื่อมต่อข้อมูลสำหรับยานยนต์

    ผลตอบแทนทางธุรกิจ:
    - ธุรกิจ Ethernet ยานยนต์ที่ได้มาจาก Marvell คาดการณ์ว่าจะสร้างรายได้ประมาณ 225–250 ล้านดอลลาร์ ในปี 2025 พร้อมกำไรขั้นต้นสูงถึง 60%

    การสนับสนุนทางการเงิน:
    - Infineon จะใช้เงินทุนจากธนาคารและเพิ่มหนี้สินเพื่อจัดการดีลนี้ และคาดว่าการซื้อขายจะเสร็จสิ้นภายในปีนี้

    เสริมแกร่งในกลุ่มตลาดยานยนต์:
    - Ethernet ยานยนต์ถือเป็นหัวใจสำคัญในระบบการเชื่อมต่อของรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์อัตโนมัติ ที่ต้องการการส่งข้อมูลที่รวดเร็วและเชื่อถือได้

    อุตสาหกรรมยานยนต์ในยุคของการเปลี่ยนแปลง:
    - การเพิ่มการลงทุนในเทคโนโลยี Ethernet ยานยนต์ช่วยตอบสนองต่อแนวโน้มรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ที่ใช้ AI ในการควบคุม
    - ความร่วมมือระหว่าง Infineon และ Marvell สะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวในอุตสาหกรรมที่ต้องการนวัตกรรมและการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/08/infineon-technologies-to-buy-marvell039s-auto-ethernet-business-for-25-billion
    Infineon ซื้อธุรกิจ Ethernet ยานยนต์จาก Marvell ด้วยมูลค่า 2.5 พันล้านดอลลาร์ เพื่อตอบรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าและระบบอัตโนมัติ ธุรกิจใหม่นี้คาดว่าจะสร้างรายได้และกำไรขั้นต้นสูง พร้อมผลักดันให้ Infineon เป็นผู้นำในระบบการเชื่อมต่อข้อมูลสำหรับยานยนต์ ✅ ผลตอบแทนทางธุรกิจ: - ธุรกิจ Ethernet ยานยนต์ที่ได้มาจาก Marvell คาดการณ์ว่าจะสร้างรายได้ประมาณ 225–250 ล้านดอลลาร์ ในปี 2025 พร้อมกำไรขั้นต้นสูงถึง 60% ✅ การสนับสนุนทางการเงิน: - Infineon จะใช้เงินทุนจากธนาคารและเพิ่มหนี้สินเพื่อจัดการดีลนี้ และคาดว่าการซื้อขายจะเสร็จสิ้นภายในปีนี้ ✅ เสริมแกร่งในกลุ่มตลาดยานยนต์: - Ethernet ยานยนต์ถือเป็นหัวใจสำคัญในระบบการเชื่อมต่อของรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์อัตโนมัติ ที่ต้องการการส่งข้อมูลที่รวดเร็วและเชื่อถือได้ ✅ อุตสาหกรรมยานยนต์ในยุคของการเปลี่ยนแปลง: - การเพิ่มการลงทุนในเทคโนโลยี Ethernet ยานยนต์ช่วยตอบสนองต่อแนวโน้มรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ที่ใช้ AI ในการควบคุม - ความร่วมมือระหว่าง Infineon และ Marvell สะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวในอุตสาหกรรมที่ต้องการนวัตกรรมและการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/08/infineon-technologies-to-buy-marvell039s-auto-ethernet-business-for-25-billion
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Infineon Technologies to buy Marvell's auto ethernet business for $2.5 billion
    (Reuters) - German chipmaker Infineon Technologies said on Monday it would buy Marvell Technology's automotive ethernet business for about $2.5 billion in cash, to expand its microcontroller segment.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 399 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าทุกประเภท 10% และเพิ่มภาษีสินค้าจาก 60 ประเทศ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก จีนโดนหนักสุดด้วยภาษีนำเข้ารวมกว่า 54% หุ้นเทคโนโลยีตกหนัก โดยเฉพาะ Apple, Nvidia และ Tesla นักวิเคราะห์เตือนว่าการขึ้นภาษีครั้งนี้อาจนำไปสู่ สงครามการค้าครั้งใหญ่ และราคาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อาจพุ่งสูงขึ้น

    เศรษฐกิจโลกอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย
    - นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า การขึ้นภาษีครั้งนี้อาจกระตุ้นสงครามการค้าแบบตอบโต้
    - มีการคาดการณ์ว่าหลายประเทศ อาจต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยภายในปีหน้า

    ตลาดหุ้นร่วงหนัก หลังข่าวภาษีใหม่ประกาศออกมา
    - หุ้นเทคโนโลยีร่วงอย่างหนัก โดย Apple ลดลง 9% และ Nasdaq Composite ลดลงกว่า 5%
    - Microsoft และ Alphabet ลดลงประมาณ 2% ขณะที่ Nvidia และ Tesla ลดลง 5%

    ภาษีสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยี—ชิปคอมพิวเตอร์รอดจากภาษี แต่เพียงชั่วคราว
    - ชิปคอมพิวเตอร์และทองแดง ยังคงได้รับการยกเว้น แต่คาดว่า ภาษีสำหรับเซมิคอนดักเตอร์จะถูกเพิ่มเข้ามาในภายหลัง
    - หุ้นของ Marvell, Arm และ Micron ลดลงกว่า 8% ขณะที่ AMD ลดลง 4%

    ภาษีสูงสุดสำหรับประเทศคู่ค้า—จีนโดนหนักสุด
    - สินค้าจากจีนจะต้องเผชิญกับ อัตราภาษีรวมกว่า 54% ซึ่งสูงกว่าภาษีนำเข้าเดิมอย่างมาก
    - ประเทศอื่นที่ได้รับผลกระทบหนัก ได้แก่ เวียดนาม (46%) และกัมพูชา (49%)

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมไอทีและผู้บริโภค
    - สินค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น สมาร์ทโฟน, แล็ปท็อป, ทีวี และคอมพิวเตอร์ อาจมีราคาสูงขึ้น
    - Amazon อาจได้รับผลกระทบหนัก เนื่องจาก ทรัมป์เตรียมยกเลิกข้อยกเว้นสินค้าราคาต่ำกว่า $800 ที่เคยได้รับการปลอดภาษี

    การตอบโต้จาก EU และจีน
    - ทั้ง สหภาพยุโรปและจีนเตรียมดำเนินมาตรการตอบโต้ แต่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เรียกร้องให้ประเทศอื่น ยอมรับการขึ้นภาษีเป็นมาตรฐานใหม่

    https://www.techspot.com/news/107402-trump-tariffs-could-prove-nuclear-bomb-international-trade.html
    ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าทุกประเภท 10% และเพิ่มภาษีสินค้าจาก 60 ประเทศ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก จีนโดนหนักสุดด้วยภาษีนำเข้ารวมกว่า 54% หุ้นเทคโนโลยีตกหนัก โดยเฉพาะ Apple, Nvidia และ Tesla นักวิเคราะห์เตือนว่าการขึ้นภาษีครั้งนี้อาจนำไปสู่ สงครามการค้าครั้งใหญ่ และราคาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อาจพุ่งสูงขึ้น ✅ เศรษฐกิจโลกอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย - นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า การขึ้นภาษีครั้งนี้อาจกระตุ้นสงครามการค้าแบบตอบโต้ - มีการคาดการณ์ว่าหลายประเทศ อาจต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยภายในปีหน้า ✅ ตลาดหุ้นร่วงหนัก หลังข่าวภาษีใหม่ประกาศออกมา - หุ้นเทคโนโลยีร่วงอย่างหนัก โดย Apple ลดลง 9% และ Nasdaq Composite ลดลงกว่า 5% - Microsoft และ Alphabet ลดลงประมาณ 2% ขณะที่ Nvidia และ Tesla ลดลง 5% ✅ ภาษีสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยี—ชิปคอมพิวเตอร์รอดจากภาษี แต่เพียงชั่วคราว - ชิปคอมพิวเตอร์และทองแดง ยังคงได้รับการยกเว้น แต่คาดว่า ภาษีสำหรับเซมิคอนดักเตอร์จะถูกเพิ่มเข้ามาในภายหลัง - หุ้นของ Marvell, Arm และ Micron ลดลงกว่า 8% ขณะที่ AMD ลดลง 4% ✅ ภาษีสูงสุดสำหรับประเทศคู่ค้า—จีนโดนหนักสุด - สินค้าจากจีนจะต้องเผชิญกับ อัตราภาษีรวมกว่า 54% ซึ่งสูงกว่าภาษีนำเข้าเดิมอย่างมาก - ประเทศอื่นที่ได้รับผลกระทบหนัก ได้แก่ เวียดนาม (46%) และกัมพูชา (49%) ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมไอทีและผู้บริโภค - สินค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น สมาร์ทโฟน, แล็ปท็อป, ทีวี และคอมพิวเตอร์ อาจมีราคาสูงขึ้น - Amazon อาจได้รับผลกระทบหนัก เนื่องจาก ทรัมป์เตรียมยกเลิกข้อยกเว้นสินค้าราคาต่ำกว่า $800 ที่เคยได้รับการปลอดภาษี ✅ การตอบโต้จาก EU และจีน - ทั้ง สหภาพยุโรปและจีนเตรียมดำเนินมาตรการตอบโต้ แต่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เรียกร้องให้ประเทศอื่น ยอมรับการขึ้นภาษีเป็นมาตรฐานใหม่ https://www.techspot.com/news/107402-trump-tariffs-could-prove-nuclear-bomb-international-trade.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Trump's tariffs could prove to be a "nuclear bomb" on international trade and tech imports, experts warn
    This aggressive escalation of Trump's trade wars could mean higher prices on virtually every product Americans purchase from overseas. Worse, analysts predict the tariffs could trigger recessions...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 651 มุมมอง 0 รีวิว
  • นี่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการเกม โดย Niantic ผู้พัฒนาเกม Pokémon Go ได้ประกาศขายแผนกเกมของตนให้กับ Scopely ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Savvy Games Group ที่มีรัฐบาลซาอุดีอาระเบียหนุนหลัง การซื้อขายครั้งนี้มีมูลค่าสูงถึง 3.5 พันล้านดอลลาร์

    ในดีลนี้ Scopely จะได้ครอบครองเกมดังอย่าง Pokémon Go, Monster Hunter Now และ Pikmin Bloom รวมถึงทีมพัฒนาภายในของ Niantic และแอปเสริมต่าง ๆ เช่น Campfire และ Wayfarer อย่างไรก็ตาม Niantic จะยังคงดำเนินธุรกิจด้าน AI เชิงพื้นที่ (Geospatial AI) ต่อไปผ่านบริษัทลูกที่ชื่อ Niantic Spatial ซึ่งจะพัฒนาธุรกิจในด้านอื่นแทน

    ย้อนรอยความสำเร็จและปัญหาของ Pokémon Go Pokémon Go เคยสร้างปรากฏการณ์ระดับโลกเมื่อเปิดตัวในปี 2016 โดยมียอดดาวน์โหลดสูงสุดในสัปดาห์แรก มีผู้เล่นกว่า 500 ล้านคนในปีแรก และทำรายได้ทะลุพันล้านดอลลาร์ต่อปี แต่ในช่วงล็อกดาวน์ปี 2020 ความนิยมของเกมลดลง เนื่องจากข้อจำกัดในการเล่นเกมนอกสถานที่ ซึ่งเป็นจุดเด่นของเกม อย่างไรก็ตาม Niantic ระบุว่าในปี 2024 แผนกเกมยังคงมีผู้เล่นมากกว่า 30 ล้านคนต่อเดือน และทำรายได้มากกว่าพันล้านดอลลาร์

    ทิศทางใหม่กับ Scopely Scopely ถูกวิจารณ์ว่าใช้กลยุทธ์สร้างรายได้แบบ "Pay-to-Win" ในเกมหลายเกม เช่น Marvel Strike Force และ Star Trek Fleet Command ผู้เล่น Pokémon Go จำนวนหนึ่งแสดงความไม่พอใจและขู่ว่าจะเลิกเล่น หากเกมต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้เสียสมดุล

    ภาพรวมของซาอุดีอาระเบียในอุตสาหกรรมเกม รัฐบาลซาอุดีอาระเบียมีเป้าหมายชัดเจนที่จะเป็นศูนย์กลางระดับโลกในอุตสาหกรรมเกม โดยใช้ Public Investment Fund (PIF) ในการลงทุนในบริษัทเกมชั้นนำ เช่น Nintendo, Activision Blizzard และ EA ซึ่งสะท้อนถึงกลยุทธ์ระยะยาวในการเสริมสร้างบทบาทในตลาดนี้

    https://www.techspot.com/news/107118-pokmon-go-developer-niantic-sell-gaming-division-saudi.html
    นี่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการเกม โดย Niantic ผู้พัฒนาเกม Pokémon Go ได้ประกาศขายแผนกเกมของตนให้กับ Scopely ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Savvy Games Group ที่มีรัฐบาลซาอุดีอาระเบียหนุนหลัง การซื้อขายครั้งนี้มีมูลค่าสูงถึง 3.5 พันล้านดอลลาร์ ในดีลนี้ Scopely จะได้ครอบครองเกมดังอย่าง Pokémon Go, Monster Hunter Now และ Pikmin Bloom รวมถึงทีมพัฒนาภายในของ Niantic และแอปเสริมต่าง ๆ เช่น Campfire และ Wayfarer อย่างไรก็ตาม Niantic จะยังคงดำเนินธุรกิจด้าน AI เชิงพื้นที่ (Geospatial AI) ต่อไปผ่านบริษัทลูกที่ชื่อ Niantic Spatial ซึ่งจะพัฒนาธุรกิจในด้านอื่นแทน ย้อนรอยความสำเร็จและปัญหาของ Pokémon Go Pokémon Go เคยสร้างปรากฏการณ์ระดับโลกเมื่อเปิดตัวในปี 2016 โดยมียอดดาวน์โหลดสูงสุดในสัปดาห์แรก มีผู้เล่นกว่า 500 ล้านคนในปีแรก และทำรายได้ทะลุพันล้านดอลลาร์ต่อปี แต่ในช่วงล็อกดาวน์ปี 2020 ความนิยมของเกมลดลง เนื่องจากข้อจำกัดในการเล่นเกมนอกสถานที่ ซึ่งเป็นจุดเด่นของเกม อย่างไรก็ตาม Niantic ระบุว่าในปี 2024 แผนกเกมยังคงมีผู้เล่นมากกว่า 30 ล้านคนต่อเดือน และทำรายได้มากกว่าพันล้านดอลลาร์ ทิศทางใหม่กับ Scopely Scopely ถูกวิจารณ์ว่าใช้กลยุทธ์สร้างรายได้แบบ "Pay-to-Win" ในเกมหลายเกม เช่น Marvel Strike Force และ Star Trek Fleet Command ผู้เล่น Pokémon Go จำนวนหนึ่งแสดงความไม่พอใจและขู่ว่าจะเลิกเล่น หากเกมต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้เสียสมดุล ภาพรวมของซาอุดีอาระเบียในอุตสาหกรรมเกม รัฐบาลซาอุดีอาระเบียมีเป้าหมายชัดเจนที่จะเป็นศูนย์กลางระดับโลกในอุตสาหกรรมเกม โดยใช้ Public Investment Fund (PIF) ในการลงทุนในบริษัทเกมชั้นนำ เช่น Nintendo, Activision Blizzard และ EA ซึ่งสะท้อนถึงกลยุทธ์ระยะยาวในการเสริมสร้างบทบาทในตลาดนี้ https://www.techspot.com/news/107118-pokmon-go-developer-niantic-sell-gaming-division-saudi.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Pokémon Go developer Niantic to sell gaming division to Saudi-owned Scopely for $3.5 billion
    Scopely is also acquiring Niantic's internal development teams and companion apps for Pokémon Go – Campfire and Wayfarer. Peridot and Ingress, which also use the Wayfarer mapping...
    Yay
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 755 มุมมอง 0 รีวิว
  • Explore The Wide Expanse Of Synonyms For “Multiverse”

    All of space as we know it makes up the universe. The universe is gargantuan and is home to an untold number of galaxies, stars, and planets. But what if there were two universes? Or five? Or five hundred? We aren’t just talking about the universe anymore. We are talking about the multiverse, the theoretical collection of our universe plus all those other universes out there (including the one that has an evil version of you, but with a goatee—or is clean-shaven if you already have a goatee). Multiverse is a term used both in science and science fiction to refer to the idea of other existing universes. It’s not the only such term, though. We’ve scoured the lexicological multiverse to find a collection of ways that we refer to the possible worlds beyond.

    parallel universes

    The term parallel universe is used in science to refer to other hypothetical universes that exist alongside ours. We can’t see or interact with these universes in any way; they don’t exist in our universe, but they may exist … somewhere. Scientists have many theories about parallel universes. One of the more popular theories is that every possibility that could have happened has—in another parallel universe somewhere.

    megaverse

    The term megaverse is used, particularly in science fiction, to refer to a humongous universe that contains many multiverses within it. This grandiose-sounding word is often used to refer collectively to all of the parallel universes and multiverses that exist within a given fictional reality or possibly even within our own.

    omniverse

    A megaverse isn’t big enough for you? Then, you need an omniverse. The word omniverse is often used in science fiction to refer to all of reality and includes all of the universes, multiverses, pocket dimensions, celestial realms, and anything else that makes up existence. In comic books, Marvel and Marvel fans collectively refer to all universes that have existed and will ever exist (including our reality and other fictional multiverses) as the omniverse. So while Spider-Man (a Marvel character) and Batman (DC) may not exist in the same universe, multiverse, or megaverse, they (and every other fictional character) are part of the omniverse.

    other dimensions

    In science and mathematics, the term dimension is used to describe space and time. For example, our everyday lives involve three spatial dimensions (height, width, and depth) and time exists as the fourth dimension.

    In science fiction, technology often allows people to discover other dimensions and use them to explore places that we can’t while limited to only the four dimensions we know about. The places that this technology allows them to travel to are often referred to as “other dimensions” or a fifth dimension. Because these travelers are already breaking the laws of physics, these other dimensions can often get pretty weird and abstract.

    alternate realities

    The abstract word reality is used to collectively describe everything that exists or isn’t fictional. An alternate reality is a reality that exists beyond the one we experience right now. In popular culture, this term is often used interchangeably with similar words, like parallel universe. Because alternate realities are not the same reality we know, they don’t follow the laws of physics and can be pretty magical. For example, the Harry Potter series takes place in an alternate reality of our world in which witches, wizards, and magical creatures are real.

    parallel timelines

    The word timeline is used to describe a chronological series of events. For example, the Egyptian empire existed thousands of years ago in our timeline. A major theme in popular culture is the possibility of parallel or alternate timelines. The most common and basic version of this concept describes time as a tree with major events causing time to split into multiple branches, each branch containing the timelines that include the different possible outcomes of that event.

    The concept of parallel and alternate timelines can often get very confusing, particularly in fiction featuring time travel that explores changes in history due to these alternate timelines. Less seriously, the idea of parallel timelines is often jokingly used to explain the Mandela Effect (when a large number of people share a false memory) and the Berenstein (not Berenstain) Bears books we all remember reading in what was clearly an alternate timeline.

    alternate planes of existence

    The word plane is generally used in mathematics to refer to a flat two-dimensional surface. Outside of math, the word plane is sometimes used to describe alternate realities or “planes of existence” as if they were planes of glass placed alongside each other. For example, Buddhist teachings include the idea of 31 “planes” or “lands” that a person travels through in the cycle of life and death: our mortal plane and 30 others that belong to spiritual beings.

    In popular culture, the word plane is often used to refer to alternate words that are home to strange creatures or different rules of reality. For example, Dungeons and Dragons has a strange Plane of Mirrors that is home to dangerous monsters and allows travel through mirrors.

    other realms

    The word realm refers to a region where something happens. In our real world, the word realm is sometimes used in the phrase quantum realm to refer to the subatomic part of reality that is home to very small and very confusing things. In brief, the quantum realm seems to be a place where normally impossible things may be possible, such as particles existing in multiple places at once.

    Outside of science, the word realm is often used in popular culture, theology, spiritual, and paranormal science to refer to places beyond our reality. For example, the idea of a spirit realm that is home to ghosts and souls of the dead is common in religion and spirituality. Other stories and belief systems tell of realms beyond our world, such as the realm of fairies, the realm of elves, or the realms of gods such as Olympus or Asgard.

    isekai

    Isekai, which translates to “different word” or “another world,” is a popular Japanese fiction genre that features characters who are transported from our world to another one. Isekai stories are similar to classic stories, like Alice in Wonderland or The Wizard of Oz, in which a character winds up in a strange new world.

    In isekai fiction, sometimes characters travel back in time or travel to those alternate timelines we mentioned before. Some other possible destinations in isekai stories include the demon realm, a classical medieval fantasy world with dragons and magic, or even the world of a video game.

    Based on how often it comes up in popular culture, the possibility that other universes besides our own exist somewhere has mesmerized us for quite a long time. This idea is also still a frequent topic of discussion among scientists, too, which has led to theories like the many-worlds interpretation that try to explain how a multiverse might work if it is actually real. If you are curious as to what science has to say about all this multiverse madness, check out our discussion of the language about the multiverse.

    Copyright 2025, AAKKHRA, All Rights Reserved.
    Explore The Wide Expanse Of Synonyms For “Multiverse” All of space as we know it makes up the universe. The universe is gargantuan and is home to an untold number of galaxies, stars, and planets. But what if there were two universes? Or five? Or five hundred? We aren’t just talking about the universe anymore. We are talking about the multiverse, the theoretical collection of our universe plus all those other universes out there (including the one that has an evil version of you, but with a goatee—or is clean-shaven if you already have a goatee). Multiverse is a term used both in science and science fiction to refer to the idea of other existing universes. It’s not the only such term, though. We’ve scoured the lexicological multiverse to find a collection of ways that we refer to the possible worlds beyond. parallel universes The term parallel universe is used in science to refer to other hypothetical universes that exist alongside ours. We can’t see or interact with these universes in any way; they don’t exist in our universe, but they may exist … somewhere. Scientists have many theories about parallel universes. One of the more popular theories is that every possibility that could have happened has—in another parallel universe somewhere. megaverse The term megaverse is used, particularly in science fiction, to refer to a humongous universe that contains many multiverses within it. This grandiose-sounding word is often used to refer collectively to all of the parallel universes and multiverses that exist within a given fictional reality or possibly even within our own. omniverse A megaverse isn’t big enough for you? Then, you need an omniverse. The word omniverse is often used in science fiction to refer to all of reality and includes all of the universes, multiverses, pocket dimensions, celestial realms, and anything else that makes up existence. In comic books, Marvel and Marvel fans collectively refer to all universes that have existed and will ever exist (including our reality and other fictional multiverses) as the omniverse. So while Spider-Man (a Marvel character) and Batman (DC) may not exist in the same universe, multiverse, or megaverse, they (and every other fictional character) are part of the omniverse. other dimensions In science and mathematics, the term dimension is used to describe space and time. For example, our everyday lives involve three spatial dimensions (height, width, and depth) and time exists as the fourth dimension. In science fiction, technology often allows people to discover other dimensions and use them to explore places that we can’t while limited to only the four dimensions we know about. The places that this technology allows them to travel to are often referred to as “other dimensions” or a fifth dimension. Because these travelers are already breaking the laws of physics, these other dimensions can often get pretty weird and abstract. alternate realities The abstract word reality is used to collectively describe everything that exists or isn’t fictional. An alternate reality is a reality that exists beyond the one we experience right now. In popular culture, this term is often used interchangeably with similar words, like parallel universe. Because alternate realities are not the same reality we know, they don’t follow the laws of physics and can be pretty magical. For example, the Harry Potter series takes place in an alternate reality of our world in which witches, wizards, and magical creatures are real. parallel timelines The word timeline is used to describe a chronological series of events. For example, the Egyptian empire existed thousands of years ago in our timeline. A major theme in popular culture is the possibility of parallel or alternate timelines. The most common and basic version of this concept describes time as a tree with major events causing time to split into multiple branches, each branch containing the timelines that include the different possible outcomes of that event. The concept of parallel and alternate timelines can often get very confusing, particularly in fiction featuring time travel that explores changes in history due to these alternate timelines. Less seriously, the idea of parallel timelines is often jokingly used to explain the Mandela Effect (when a large number of people share a false memory) and the Berenstein (not Berenstain) Bears books we all remember reading in what was clearly an alternate timeline. alternate planes of existence The word plane is generally used in mathematics to refer to a flat two-dimensional surface. Outside of math, the word plane is sometimes used to describe alternate realities or “planes of existence” as if they were planes of glass placed alongside each other. For example, Buddhist teachings include the idea of 31 “planes” or “lands” that a person travels through in the cycle of life and death: our mortal plane and 30 others that belong to spiritual beings. In popular culture, the word plane is often used to refer to alternate words that are home to strange creatures or different rules of reality. For example, Dungeons and Dragons has a strange Plane of Mirrors that is home to dangerous monsters and allows travel through mirrors. other realms The word realm refers to a region where something happens. In our real world, the word realm is sometimes used in the phrase quantum realm to refer to the subatomic part of reality that is home to very small and very confusing things. In brief, the quantum realm seems to be a place where normally impossible things may be possible, such as particles existing in multiple places at once. Outside of science, the word realm is often used in popular culture, theology, spiritual, and paranormal science to refer to places beyond our reality. For example, the idea of a spirit realm that is home to ghosts and souls of the dead is common in religion and spirituality. Other stories and belief systems tell of realms beyond our world, such as the realm of fairies, the realm of elves, or the realms of gods such as Olympus or Asgard. isekai Isekai, which translates to “different word” or “another world,” is a popular Japanese fiction genre that features characters who are transported from our world to another one. Isekai stories are similar to classic stories, like Alice in Wonderland or The Wizard of Oz, in which a character winds up in a strange new world. In isekai fiction, sometimes characters travel back in time or travel to those alternate timelines we mentioned before. Some other possible destinations in isekai stories include the demon realm, a classical medieval fantasy world with dragons and magic, or even the world of a video game. Based on how often it comes up in popular culture, the possibility that other universes besides our own exist somewhere has mesmerized us for quite a long time. This idea is also still a frequent topic of discussion among scientists, too, which has led to theories like the many-worlds interpretation that try to explain how a multiverse might work if it is actually real. If you are curious as to what science has to say about all this multiverse madness, check out our discussion of the language about the multiverse. Copyright 2025, AAKKHRA, All Rights Reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1522 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD ได้เปิดตัวเทคโนโลยี FSR 4 สำหรับการเพิ่มคุณภาพภาพเกม ซึ่งจะสามารถรองรับเกมมากกว่า 30 เกมเมื่อเปิดตัว และมีแผนที่จะรองรับถึง 75 เกมภายในสิ้นปีนี้

    FSR 4 (FidelityFX Super Resolution 4) เป็นเทคโนโลยีการเพิ่มความละเอียดของภาพที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อสร้างภาพที่คมชัดและมีรายละเอียดสูงขึ้นจากภาพต้นฉบับที่มีความละเอียดต่ำกว่า โดยเทคโนโลยีนี้จะถูกใช้ร่วมกับกราฟิกการ์ด Radeon RX 9070 รุ่นใหม่ที่ AMD จะเปิดตัวในเร็วๆ นี้

    มีการรายงานว่าเกมที่คาดว่าจะรองรับ FSR 4 ตั้งแต่เปิดตัว ได้แก่:
    - Call of Duty: Black Ops 6
    - Marvel Rivals
    - Civilization 7
    - Horizon Zero Dawn Remastered
    - และอีกหลายเกม

    นอกจากนี้, FSR 4 ยังมีการปรับปรุงคุณภาพภาพอย่างมีนัยสำคัญจาก FSR 3.1 เช่นในเกม Ratchet & Clank: Rift Apart ที่ถูกนำมาแสดงในงาน CES ล่าสุด ความสามารถในการเพิ่มความละเอียดของ FSR 4 ทำให้ภาพเกมมีคุณภาพใกล้เคียงกับ Nvidia DLSS ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่คล้ายกันของคู่แข่ง

    การที่ AMD ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการสร้างภาพใหม่จากข้อมูลเดิมช่วยให้เกมมีประสิทธิภาพและความสวยงามที่ดีขึ้น โดยไม่ต้องใช้พลังงานมากเกินไป ทำให้การเล่นเกมบนกราฟิกการ์ดของ AMD มีประสิทธิภาพสูงขึ้น

    นอกจากเกมที่รองรับอย่างเป็นทางการแล้ว ผู้ใช้ยังสามารถปรับใช้ FSR 4 ในเกมที่รองรับ FSR 3.1 โดยการเปิดใช้งานผ่านตัวเลือกในเกม ทำให้มีเกมหลายร้อยเกมที่อาจรองรับ FSR 4 ในอนาคต

    https://www.techspot.com/news/106956-amd-fsr4-support-over-30-games-launch-75.html
    AMD ได้เปิดตัวเทคโนโลยี FSR 4 สำหรับการเพิ่มคุณภาพภาพเกม ซึ่งจะสามารถรองรับเกมมากกว่า 30 เกมเมื่อเปิดตัว และมีแผนที่จะรองรับถึง 75 เกมภายในสิ้นปีนี้ FSR 4 (FidelityFX Super Resolution 4) เป็นเทคโนโลยีการเพิ่มความละเอียดของภาพที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อสร้างภาพที่คมชัดและมีรายละเอียดสูงขึ้นจากภาพต้นฉบับที่มีความละเอียดต่ำกว่า โดยเทคโนโลยีนี้จะถูกใช้ร่วมกับกราฟิกการ์ด Radeon RX 9070 รุ่นใหม่ที่ AMD จะเปิดตัวในเร็วๆ นี้ มีการรายงานว่าเกมที่คาดว่าจะรองรับ FSR 4 ตั้งแต่เปิดตัว ได้แก่: - Call of Duty: Black Ops 6 - Marvel Rivals - Civilization 7 - Horizon Zero Dawn Remastered - และอีกหลายเกม นอกจากนี้, FSR 4 ยังมีการปรับปรุงคุณภาพภาพอย่างมีนัยสำคัญจาก FSR 3.1 เช่นในเกม Ratchet & Clank: Rift Apart ที่ถูกนำมาแสดงในงาน CES ล่าสุด ความสามารถในการเพิ่มความละเอียดของ FSR 4 ทำให้ภาพเกมมีคุณภาพใกล้เคียงกับ Nvidia DLSS ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่คล้ายกันของคู่แข่ง การที่ AMD ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการสร้างภาพใหม่จากข้อมูลเดิมช่วยให้เกมมีประสิทธิภาพและความสวยงามที่ดีขึ้น โดยไม่ต้องใช้พลังงานมากเกินไป ทำให้การเล่นเกมบนกราฟิกการ์ดของ AMD มีประสิทธิภาพสูงขึ้น นอกจากเกมที่รองรับอย่างเป็นทางการแล้ว ผู้ใช้ยังสามารถปรับใช้ FSR 4 ในเกมที่รองรับ FSR 3.1 โดยการเปิดใช้งานผ่านตัวเลือกในเกม ทำให้มีเกมหลายร้อยเกมที่อาจรองรับ FSR 4 ในอนาคต https://www.techspot.com/news/106956-amd-fsr4-support-over-30-games-launch-75.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    AMD FSR 4 to support over 30 games at launch, 75 by the end of the year
    VideoCardz has leaked more information regarding AMD's upcoming Radeon RX 9070 graphics cards. The outlet recently published an allegedly official list of around 35 games supporting the...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 410 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts