• GCC 16 รองรับ Zen 6 แล้ว

    ทีมพัฒนา GCC (GNU Compiler Collection) ได้เพิ่ม Zen 6 target เข้าไปในเวอร์ชัน 16 ซึ่งจะเปิดตัวในปี 2026 การอัปเดตนี้ช่วยให้ซอฟต์แวร์สามารถปรับแต่งการคอมไพล์ให้เหมาะสมกับสถาปัตยกรรม Zen 6 ได้ทันทีที่ฮาร์ดแวร์ออกสู่ตลาด ถือเป็นการเตรียมความพร้อมล่วงหน้าสำหรับนักพัฒนาและผู้ใช้ Linux

    ความสำคัญของการรองรับล่วงหน้า
    การเพิ่ม target ใน GCC มีความสำคัญมาก เพราะ GCC เป็นหนึ่งในคอมไพเลอร์หลักของโลกโอเพ่นซอร์ส การรองรับ Zen 6 ล่วงหน้าช่วยให้ ecosystem ของ Linux และ HPC (High-Performance Computing) สามารถใช้ประโยชน์จากสถาปัตยกรรมใหม่ได้ตั้งแต่วันแรกที่เปิดตัว โดยเฉพาะ workloads ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น AI, cloud และ supercomputing

    บริบทของ Zen 6
    Zen 6 คาดว่าจะใช้กระบวนการผลิต TSMC N2 (2nm) และอาจมาพร้อมกับการปรับปรุงด้าน cache, memory subsystem และการจัดการพลังงาน ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญต่อจาก Zen 5 ที่เพิ่งเปิดตัวในปี 2024 การที่ GCC รองรับแล้วจึงเป็นสัญญาณว่า AMD กำลังเดินหน้าเข้าสู่การทดสอบและเตรียมการผลิตจริง

    ผลกระทบและข้อควรระวัง
    แม้ GCC จะรองรับแล้ว แต่ยังไม่มีรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับ instruction set หรือ optimization ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับ Zen 6 การใช้งานจริงอาจต้องรอการปรับปรุงเพิ่มเติมเมื่อ AMD เปิดเผยข้อมูลเต็มรูปแบบ

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การอัปเดต GCC 16
    เพิ่ม target สำหรับ AMD Zen 6
    เปิดทางให้ Linux และ HPC ใช้งานได้ทันทีเมื่อเปิดตัว

    ความสำคัญต่อ ecosystem
    GCC เป็นคอมไพเลอร์หลักของโอเพ่นซอร์ส
    รองรับล่วงหน้าช่วยให้ AI, cloud และ supercomputing ใช้งานได้เร็วขึ้น

    บริบทของ Zen 6
    คาดว่าจะใช้กระบวนการผลิต TSMC N2 (2nm)
    ปรับปรุง cache, memory subsystem และการจัดการพลังงาน

    ข้อควรระวัง
    ยังไม่มีรายละเอียด instruction set เฉพาะของ Zen 6
    การปรับแต่ง optimization ต้องรอข้อมูลจาก AMD เพิ่มเติม

    https://wccftech.com/amd-zen-6-support-added-to-gcc-16-ahead-of-launch/
    🖥️ GCC 16 รองรับ Zen 6 แล้ว ทีมพัฒนา GCC (GNU Compiler Collection) ได้เพิ่ม Zen 6 target เข้าไปในเวอร์ชัน 16 ซึ่งจะเปิดตัวในปี 2026 การอัปเดตนี้ช่วยให้ซอฟต์แวร์สามารถปรับแต่งการคอมไพล์ให้เหมาะสมกับสถาปัตยกรรม Zen 6 ได้ทันทีที่ฮาร์ดแวร์ออกสู่ตลาด ถือเป็นการเตรียมความพร้อมล่วงหน้าสำหรับนักพัฒนาและผู้ใช้ Linux ⚡ ความสำคัญของการรองรับล่วงหน้า การเพิ่ม target ใน GCC มีความสำคัญมาก เพราะ GCC เป็นหนึ่งในคอมไพเลอร์หลักของโลกโอเพ่นซอร์ส การรองรับ Zen 6 ล่วงหน้าช่วยให้ ecosystem ของ Linux และ HPC (High-Performance Computing) สามารถใช้ประโยชน์จากสถาปัตยกรรมใหม่ได้ตั้งแต่วันแรกที่เปิดตัว โดยเฉพาะ workloads ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น AI, cloud และ supercomputing 🌐 บริบทของ Zen 6 Zen 6 คาดว่าจะใช้กระบวนการผลิต TSMC N2 (2nm) และอาจมาพร้อมกับการปรับปรุงด้าน cache, memory subsystem และการจัดการพลังงาน ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญต่อจาก Zen 5 ที่เพิ่งเปิดตัวในปี 2024 การที่ GCC รองรับแล้วจึงเป็นสัญญาณว่า AMD กำลังเดินหน้าเข้าสู่การทดสอบและเตรียมการผลิตจริง ⚠️ ผลกระทบและข้อควรระวัง แม้ GCC จะรองรับแล้ว แต่ยังไม่มีรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับ instruction set หรือ optimization ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับ Zen 6 การใช้งานจริงอาจต้องรอการปรับปรุงเพิ่มเติมเมื่อ AMD เปิดเผยข้อมูลเต็มรูปแบบ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การอัปเดต GCC 16 ➡️ เพิ่ม target สำหรับ AMD Zen 6 ➡️ เปิดทางให้ Linux และ HPC ใช้งานได้ทันทีเมื่อเปิดตัว ✅ ความสำคัญต่อ ecosystem ➡️ GCC เป็นคอมไพเลอร์หลักของโอเพ่นซอร์ส ➡️ รองรับล่วงหน้าช่วยให้ AI, cloud และ supercomputing ใช้งานได้เร็วขึ้น ✅ บริบทของ Zen 6 ➡️ คาดว่าจะใช้กระบวนการผลิต TSMC N2 (2nm) ➡️ ปรับปรุง cache, memory subsystem และการจัดการพลังงาน ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ ยังไม่มีรายละเอียด instruction set เฉพาะของ Zen 6 ⛔ การปรับแต่ง optimization ต้องรอข้อมูลจาก AMD เพิ่มเติม https://wccftech.com/amd-zen-6-support-added-to-gcc-16-ahead-of-launch/
    WCCFTECH.COM
    AMD Zen 6 Support Added To GCC 16 Ahead Of Launch
    AMD's upcoming Zen 6 architecture is now officially added in the GCC 16 open-source compiler, making a significant progress.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 รีวิว
  • Copilot บน LG webOS TV: แค่ Shortcut ไม่ใช่แอป

    หลังจากเกิดความสับสนว่าทีวี LG รุ่นใหม่มีการติดตั้ง Copilot เป็นแอปถาวร LG ได้ออกมาชี้แจงว่า Copilot ที่ปรากฏบนหน้า Home เป็นเพียง ไอคอนลัด (shortcut) ที่เปิดเว็บ Copilot ผ่านเบราว์เซอร์ในตัวเครื่อง ไม่ได้ฝังอยู่ในระบบปฏิบัติการ และไม่ได้ทำงานเบื้องหลัง

    ฟีเจอร์และการทำงาน
    เมื่อผู้ใช้กดที่ไอคอน Copilot ทีวีจะเปิดเบราว์เซอร์ไปยังเว็บไซต์ Copilot โดยตรง ฟีเจอร์อย่างการใช้ไมโครโฟนจะไม่ถูกเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ แต่จะต้องได้รับอนุญาตจากผู้ใช้ก่อนผ่านเบราว์เซอร์ ซึ่งหมายความว่าการเข้าถึงข้อมูลและระบบของทีวีไม่ได้ถูกผูกติดกับ Copilot

    การตอบสนองต่อเสียงวิจารณ์
    LG ยอมรับว่าผู้ใช้หลายคนไม่พอใจที่ไอคอน Copilot ปรากฏขึ้นโดยไม่มีตัวเลือกในการลบ จึงประกาศว่าจะออก อัปเดตซอฟต์แวร์ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถลบ shortcut ได้เองในอนาคต เพื่อยืนยันว่าบริษัทเคารพสิทธิในการเลือกของผู้บริโภค

    ผลกระทบและข้อควรระวัง
    แม้ Copilot จะไม่ใช่แอปถาวร แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความกังวลของผู้ใช้เกี่ยวกับการบูรณาการ AI เข้ากับอุปกรณ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน หากไม่มีการสื่อสารที่ชัดเจน อาจทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่าถูกบังคับให้ใช้บริการโดยไม่สมัครใจ

    สรุปเป็นหัวข้อ
    สถานะของ Copilot บน LG TV
    เป็น shortcut ที่เปิดเว็บ Copilot ผ่านเบราว์เซอร์
    ไม่ใช่แอปที่ติดตั้งถาวรในระบบ

    การทำงานของฟีเจอร์
    เปิดใช้งานไมโครโฟนได้ก็ต่อเมื่อผู้ใช้อนุญาต
    ไม่มีการเข้าถึงระบบทีวีโดยตรง

    การตอบสนองของ LG
    เตรียมออกอัปเดตให้ผู้ใช้สามารถลบ shortcut ได้
    ยืนยันว่าบริษัทเคารพสิทธิผู้บริโภค

    คำเตือนและผลกระทบ
    หากไม่มีการสื่อสารที่ชัดเจน อาจสร้างความเข้าใจผิด
    ผู้ใช้บางส่วนอาจรู้สึกว่าถูกบังคับให้ใช้บริการ AI

    https://www.tomshardware.com/monitors/televisions/lg-says-microsoft-copilot-on-webos-tvs-is-a-browser-shortcut-not-a-built-in-app
    📺 Copilot บน LG webOS TV: แค่ Shortcut ไม่ใช่แอป หลังจากเกิดความสับสนว่าทีวี LG รุ่นใหม่มีการติดตั้ง Copilot เป็นแอปถาวร LG ได้ออกมาชี้แจงว่า Copilot ที่ปรากฏบนหน้า Home เป็นเพียง ไอคอนลัด (shortcut) ที่เปิดเว็บ Copilot ผ่านเบราว์เซอร์ในตัวเครื่อง ไม่ได้ฝังอยู่ในระบบปฏิบัติการ และไม่ได้ทำงานเบื้องหลัง ⚡ ฟีเจอร์และการทำงาน เมื่อผู้ใช้กดที่ไอคอน Copilot ทีวีจะเปิดเบราว์เซอร์ไปยังเว็บไซต์ Copilot โดยตรง ฟีเจอร์อย่างการใช้ไมโครโฟนจะไม่ถูกเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ แต่จะต้องได้รับอนุญาตจากผู้ใช้ก่อนผ่านเบราว์เซอร์ ซึ่งหมายความว่าการเข้าถึงข้อมูลและระบบของทีวีไม่ได้ถูกผูกติดกับ Copilot 🛠️ การตอบสนองต่อเสียงวิจารณ์ LG ยอมรับว่าผู้ใช้หลายคนไม่พอใจที่ไอคอน Copilot ปรากฏขึ้นโดยไม่มีตัวเลือกในการลบ จึงประกาศว่าจะออก อัปเดตซอฟต์แวร์ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถลบ shortcut ได้เองในอนาคต เพื่อยืนยันว่าบริษัทเคารพสิทธิในการเลือกของผู้บริโภค ⚠️ ผลกระทบและข้อควรระวัง แม้ Copilot จะไม่ใช่แอปถาวร แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความกังวลของผู้ใช้เกี่ยวกับการบูรณาการ AI เข้ากับอุปกรณ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน หากไม่มีการสื่อสารที่ชัดเจน อาจทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่าถูกบังคับให้ใช้บริการโดยไม่สมัครใจ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ สถานะของ Copilot บน LG TV ➡️ เป็น shortcut ที่เปิดเว็บ Copilot ผ่านเบราว์เซอร์ ➡️ ไม่ใช่แอปที่ติดตั้งถาวรในระบบ ✅ การทำงานของฟีเจอร์ ➡️ เปิดใช้งานไมโครโฟนได้ก็ต่อเมื่อผู้ใช้อนุญาต ➡️ ไม่มีการเข้าถึงระบบทีวีโดยตรง ✅ การตอบสนองของ LG ➡️ เตรียมออกอัปเดตให้ผู้ใช้สามารถลบ shortcut ได้ ➡️ ยืนยันว่าบริษัทเคารพสิทธิผู้บริโภค ‼️ คำเตือนและผลกระทบ ⛔ หากไม่มีการสื่อสารที่ชัดเจน อาจสร้างความเข้าใจผิด ⛔ ผู้ใช้บางส่วนอาจรู้สึกว่าถูกบังคับให้ใช้บริการ AI https://www.tomshardware.com/monitors/televisions/lg-says-microsoft-copilot-on-webos-tvs-is-a-browser-shortcut-not-a-built-in-app
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไต้หวันพิจารณากฎ N-2 สำหรับการส่งออก

    รัฐบาลไต้หวันกังวลว่าการขยายโรงงานของ TSMC ในสหรัฐฯ อาจทำให้ความเป็นผู้นำด้านเซมิคอนดักเตอร์ของประเทศลดลง จึงเสนอ N-2 rule ที่อนุญาตให้ส่งออกเฉพาะเทคโนโลยีที่ล้าหลังจากระดับสูงสุดในประเทศอย่างน้อยสองเจเนอเรชัน เดิมทีใช้กฎ N-1 ที่อนุญาตให้ส่งออกเทคโนโลยีที่ล้าหลังเพียงหนึ่งเจเนอเรชัน

    ผลกระทบต่อการขยายโรงงานในสหรัฐฯ
    หากกฎใหม่ถูกบังคับใช้ โรงงาน Fab 21 ของ TSMC ในรัฐแอริโซนา ซึ่งปัจจุบันผลิตชิปที่ระดับ N4/N5 จะยังสอดคล้องกับกฎ แต่เมื่อโรงงานเฟส 2 เริ่มผลิตที่ระดับ N3 ในปี 2027 อาจไม่เป็นไปตามข้อกำหนด เพราะ N3 ถือว่าล้าหลังเพียงหนึ่งเจเนอเรชันจาก N2 ที่จะผลิตในไต้หวัน

    มิติด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ
    การจำกัดการส่งออกนี้สะท้อนถึงความพยายามของไต้หวันในการรักษาความได้เปรียบเชิงเทคโนโลยีและป้องกันการสูญเสียทรัพยากรบุคคลด้าน R&D ไปต่างประเทศ รัฐบาลยังเน้นว่าบุคลากรด้านวิจัยและพัฒนาจะถูกควบคุมอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการรั่วไหลของทรัพย์สินทางปัญญา

    ข้อควรระวังและความท้าทาย
    แม้กฎนี้จะช่วยรักษาความเป็นผู้นำของไต้หวัน แต่ก็อาจทำให้การลงทุนในสหรัฐฯ ชะลอตัว และกระทบต่อความร่วมมือด้านเทคโนโลยีระหว่างประเทศ อีกทั้งยังสร้างความไม่แน่นอนให้กับลูกค้าและพันธมิตรที่ต้องการใช้เทคโนโลยีล่าสุดในตลาดโลก

    สรุปเป็นหัวข้อ
    กฎ N-2 ที่เสนอโดยไต้หวัน
    อนุญาตให้ส่งออกเทคโนโลยีที่ล้าหลังอย่างน้อย 2 เจเนอเรชัน
    เดิมใช้กฎ N-1 ที่ล้าหลังเพียง 1 เจเนอเรชัน

    ผลกระทบต่อโรงงานในสหรัฐฯ
    Fab 21 เฟส 1 (N4/N5) ยังสอดคล้องกับกฎ
    Fab 21 เฟส 2 (N3) ในปี 2027 อาจไม่สอดคล้อง

    มิติด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ
    รักษาความได้เปรียบเชิงเทคโนโลยีของไต้หวัน
    ควบคุมบุคลากร R&D และป้องกันการรั่วไหลของ IP

    คำเตือนและความท้าทาย
    อาจทำให้การลงทุนในสหรัฐฯ ชะลอตัว
    กระทบต่อความร่วมมือด้านเทคโนโลยีระหว่างประเทศ
    สร้างความไม่แน่นอนให้กับลูกค้าและพันธมิตร

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/taiwan-considers-tsmc-export-ban-that-would-prevent-manufacturing-its-newest-chip-nodes-in-u-s-limit-exports-to-two-generations-behind-leading-edge-nodes-could-slow-down-u-s-expansion
    🏭 ไต้หวันพิจารณากฎ N-2 สำหรับการส่งออก รัฐบาลไต้หวันกังวลว่าการขยายโรงงานของ TSMC ในสหรัฐฯ อาจทำให้ความเป็นผู้นำด้านเซมิคอนดักเตอร์ของประเทศลดลง จึงเสนอ N-2 rule ที่อนุญาตให้ส่งออกเฉพาะเทคโนโลยีที่ล้าหลังจากระดับสูงสุดในประเทศอย่างน้อยสองเจเนอเรชัน เดิมทีใช้กฎ N-1 ที่อนุญาตให้ส่งออกเทคโนโลยีที่ล้าหลังเพียงหนึ่งเจเนอเรชัน ⚡ ผลกระทบต่อการขยายโรงงานในสหรัฐฯ หากกฎใหม่ถูกบังคับใช้ โรงงาน Fab 21 ของ TSMC ในรัฐแอริโซนา ซึ่งปัจจุบันผลิตชิปที่ระดับ N4/N5 จะยังสอดคล้องกับกฎ แต่เมื่อโรงงานเฟส 2 เริ่มผลิตที่ระดับ N3 ในปี 2027 อาจไม่เป็นไปตามข้อกำหนด เพราะ N3 ถือว่าล้าหลังเพียงหนึ่งเจเนอเรชันจาก N2 ที่จะผลิตในไต้หวัน 🌐 มิติด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ การจำกัดการส่งออกนี้สะท้อนถึงความพยายามของไต้หวันในการรักษาความได้เปรียบเชิงเทคโนโลยีและป้องกันการสูญเสียทรัพยากรบุคคลด้าน R&D ไปต่างประเทศ รัฐบาลยังเน้นว่าบุคลากรด้านวิจัยและพัฒนาจะถูกควบคุมอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการรั่วไหลของทรัพย์สินทางปัญญา ⚠️ ข้อควรระวังและความท้าทาย แม้กฎนี้จะช่วยรักษาความเป็นผู้นำของไต้หวัน แต่ก็อาจทำให้การลงทุนในสหรัฐฯ ชะลอตัว และกระทบต่อความร่วมมือด้านเทคโนโลยีระหว่างประเทศ อีกทั้งยังสร้างความไม่แน่นอนให้กับลูกค้าและพันธมิตรที่ต้องการใช้เทคโนโลยีล่าสุดในตลาดโลก 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ กฎ N-2 ที่เสนอโดยไต้หวัน ➡️ อนุญาตให้ส่งออกเทคโนโลยีที่ล้าหลังอย่างน้อย 2 เจเนอเรชัน ➡️ เดิมใช้กฎ N-1 ที่ล้าหลังเพียง 1 เจเนอเรชัน ✅ ผลกระทบต่อโรงงานในสหรัฐฯ ➡️ Fab 21 เฟส 1 (N4/N5) ยังสอดคล้องกับกฎ ➡️ Fab 21 เฟส 2 (N3) ในปี 2027 อาจไม่สอดคล้อง ✅ มิติด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ ➡️ รักษาความได้เปรียบเชิงเทคโนโลยีของไต้หวัน ➡️ ควบคุมบุคลากร R&D และป้องกันการรั่วไหลของ IP ‼️ คำเตือนและความท้าทาย ⛔ อาจทำให้การลงทุนในสหรัฐฯ ชะลอตัว ⛔ กระทบต่อความร่วมมือด้านเทคโนโลยีระหว่างประเทศ ⛔ สร้างความไม่แน่นอนให้กับลูกค้าและพันธมิตร https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/taiwan-considers-tsmc-export-ban-that-would-prevent-manufacturing-its-newest-chip-nodes-in-u-s-limit-exports-to-two-generations-behind-leading-edge-nodes-could-slow-down-u-s-expansion
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • Prusa เปิดตัว Open Community License

    Josef Prusa และทีมงาน Prusa Research ประกาศเปิดตัว OCL (Open Community License) ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์กใหม่สำหรับการแชร์ไฟล์ฮาร์ดแวร์โอเพ่นซอร์ส จุดประสงค์คือเพื่อให้ผู้สร้างสามารถแบ่งปันงานออกแบบกับผู้ใช้ทั่วไปได้อย่างอิสระ แต่ยังคงมีข้อกำหนดที่ป้องกันไม่ให้บริษัทนำไปใช้เชิงพาณิชย์โดยไม่ขออนุญาต

    ปัญหาที่นำไปสู่การสร้าง OCL
    ในอดีตงานออกแบบของ Prusa เช่น MMU1 multiplexer ถูกบริษัทอื่นนำไปใช้เชิงพาณิชย์โดยไม่ให้เครดิตหรือแบ่งปันการปรับปรุงกลับคืน ทำให้ชุมชนโอเพ่นซอร์สเสียประโยชน์ และบางครั้งถึงขั้นถูกโจมตีด้วยการจดสิทธิบัตรทับงานที่เผยแพร่ฟรี เช่นกรณีโมเดล Lucky 13 ที่ถูก “patent troll” ขโมยไปจดสิทธิบัตรและเรียกค่าลิขสิทธิ์

    สิทธิและข้อกำหนดใน OCL
    OCL อนุญาตให้ผู้ใช้ทั่วไปและนักออกแบบสามารถ แก้ไข, แชร์, และใช้ภายในเชิงพาณิชย์ ได้ เช่น การใช้ในโรงงานผลิตหรือการสร้างอะไหล่ แต่ห้ามขายเครื่องพิมพ์หรือดีไซน์ที่ดัดแปลงโดยตรงโดยไม่ทำสัญญาเพิ่มเติม ข้อกำหนดนี้ช่วยสร้างสมดุลระหว่างการเปิดกว้างกับการปกป้องสิทธิของผู้สร้าง

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    OCL ถือเป็นการยกระดับการปกป้องงานโอเพ่นซอร์สในเชิงกฎหมาย โดยเพิ่มเครื่องมือให้ผู้สร้างสามารถดำเนินการทางกฎหมายได้ง่ายขึ้นหากมีการละเมิด นอกจากนี้ยังรวมถึง สิทธิในการซ่อม (Right-to-Repair) และการป้องกันการนำข้อมูลไปใช้ฝึก AI โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นประเด็นร้อนในวงการเทคโนโลยีปัจจุบัน

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การเปิดตัว OCL โดย Prusa Research
    เฟรมเวิร์กใหม่เพื่อแชร์งานออกแบบโอเพ่นซอร์สอย่างปลอดภัย
    ป้องกันการนำไปใช้เชิงพาณิชย์โดยไม่ให้เครดิต

    ปัญหาที่นำไปสู่ OCL
    งานออกแบบถูกบริษัทอื่นนำไปใช้โดยไม่แบ่งปันกลับ
    กรณี Lucky 13 ถูกจดสิทธิบัตรทับและเรียกค่าลิขสิทธิ์

    สิทธิและข้อกำหนดใน OCL
    ใช้, แก้ไข, แชร์ และใช้ภายในเชิงพาณิชย์ได้
    ห้ามขายเครื่องหรือดีไซน์ดัดแปลงโดยตรง

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    เพิ่มเครื่องมือทางกฎหมายให้ผู้สร้างโอเพ่นซอร์ส
    รวมสิทธิในการซ่อมและการป้องกันการใช้ข้อมูลฝึก AI

    คำเตือนและข้อจำกัด
    หากบริษัทละเมิด OCL อาจถูกดำเนินคดีได้ง่ายขึ้น
    ผู้ใช้ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าไฟล์ที่ใช้ยังอยู่ภายใต้ OCL

    https://www.tomshardware.com/3d-printing/prusa-research-introduces-the-open-community-license-to-protect-open-source-3d-printing-hardware-new-rules-aimed-at-addressing-industry-abuses
    🖨️ Prusa เปิดตัว Open Community License Josef Prusa และทีมงาน Prusa Research ประกาศเปิดตัว OCL (Open Community License) ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์กใหม่สำหรับการแชร์ไฟล์ฮาร์ดแวร์โอเพ่นซอร์ส จุดประสงค์คือเพื่อให้ผู้สร้างสามารถแบ่งปันงานออกแบบกับผู้ใช้ทั่วไปได้อย่างอิสระ แต่ยังคงมีข้อกำหนดที่ป้องกันไม่ให้บริษัทนำไปใช้เชิงพาณิชย์โดยไม่ขออนุญาต ⚡ ปัญหาที่นำไปสู่การสร้าง OCL ในอดีตงานออกแบบของ Prusa เช่น MMU1 multiplexer ถูกบริษัทอื่นนำไปใช้เชิงพาณิชย์โดยไม่ให้เครดิตหรือแบ่งปันการปรับปรุงกลับคืน ทำให้ชุมชนโอเพ่นซอร์สเสียประโยชน์ และบางครั้งถึงขั้นถูกโจมตีด้วยการจดสิทธิบัตรทับงานที่เผยแพร่ฟรี เช่นกรณีโมเดล Lucky 13 ที่ถูก “patent troll” ขโมยไปจดสิทธิบัตรและเรียกค่าลิขสิทธิ์ 🌍 สิทธิและข้อกำหนดใน OCL OCL อนุญาตให้ผู้ใช้ทั่วไปและนักออกแบบสามารถ แก้ไข, แชร์, และใช้ภายในเชิงพาณิชย์ ได้ เช่น การใช้ในโรงงานผลิตหรือการสร้างอะไหล่ แต่ห้ามขายเครื่องพิมพ์หรือดีไซน์ที่ดัดแปลงโดยตรงโดยไม่ทำสัญญาเพิ่มเติม ข้อกำหนดนี้ช่วยสร้างสมดุลระหว่างการเปิดกว้างกับการปกป้องสิทธิของผู้สร้าง ⚠️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม OCL ถือเป็นการยกระดับการปกป้องงานโอเพ่นซอร์สในเชิงกฎหมาย โดยเพิ่มเครื่องมือให้ผู้สร้างสามารถดำเนินการทางกฎหมายได้ง่ายขึ้นหากมีการละเมิด นอกจากนี้ยังรวมถึง สิทธิในการซ่อม (Right-to-Repair) และการป้องกันการนำข้อมูลไปใช้ฝึก AI โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นประเด็นร้อนในวงการเทคโนโลยีปัจจุบัน 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การเปิดตัว OCL โดย Prusa Research ➡️ เฟรมเวิร์กใหม่เพื่อแชร์งานออกแบบโอเพ่นซอร์สอย่างปลอดภัย ➡️ ป้องกันการนำไปใช้เชิงพาณิชย์โดยไม่ให้เครดิต ✅ ปัญหาที่นำไปสู่ OCL ➡️ งานออกแบบถูกบริษัทอื่นนำไปใช้โดยไม่แบ่งปันกลับ ➡️ กรณี Lucky 13 ถูกจดสิทธิบัตรทับและเรียกค่าลิขสิทธิ์ ✅ สิทธิและข้อกำหนดใน OCL ➡️ ใช้, แก้ไข, แชร์ และใช้ภายในเชิงพาณิชย์ได้ ➡️ ห้ามขายเครื่องหรือดีไซน์ดัดแปลงโดยตรง ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม ➡️ เพิ่มเครื่องมือทางกฎหมายให้ผู้สร้างโอเพ่นซอร์ส ➡️ รวมสิทธิในการซ่อมและการป้องกันการใช้ข้อมูลฝึก AI ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ หากบริษัทละเมิด OCL อาจถูกดำเนินคดีได้ง่ายขึ้น ⛔ ผู้ใช้ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าไฟล์ที่ใช้ยังอยู่ภายใต้ OCL https://www.tomshardware.com/3d-printing/prusa-research-introduces-the-open-community-license-to-protect-open-source-3d-printing-hardware-new-rules-aimed-at-addressing-industry-abuses
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Prusa Research introduces the Open Community License to protect open source 3D Printing hardware — new rules aimed at addressing industry abuses
    Full STEP and Fusion CAD files for the CORE One+ and CORE One L are now available on Printables under the new OCL license.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • YouTube และ Google ล่มพร้อมกัน

    ตั้งแต่เช้าวันศุกร์ ผู้ใช้ในสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรรายงานว่าไม่สามารถใช้งาน YouTube, YouTube TV และ Google Search ได้ตามปกติ โดยเฉพาะ YouTube ที่มีรายงานปัญหามากกว่า 10,000 เคสในช่วงชั่วโมงเดียว ทำให้เป็นบริการที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด

    สัญญาณจาก Downdetector และ Cloudflare
    ข้อมูลจาก Downdetector แสดงให้เห็นการพุ่งสูงของการแจ้งปัญหาในหลายบริการพร้อมกัน ทั้ง YouTube, Google TV, Google Search รวมถึงแอปอื่น ๆ เช่น The Weather Channel และ Target ขณะเดียวกัน Cloudflare รายงานว่ามีปัญหาเครือข่ายเล็กน้อยในช่วงเวลาเดียวกัน แต่ได้แก้ไขไปแล้ว ทำให้ยังไม่แน่ชัดว่าปัญหามาจาก Google โดยตรงหรือจากโครงสร้างพื้นฐานภายนอก

    การตอบสนองและสถานการณ์ล่าสุด
    Google ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ แต่มีการอัปเดตว่าเพิ่งปล่อย Core Algorithm Update เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบ อย่างไรก็ตาม สถานะบริการของ Google ยังคงแสดงว่า “ปกติ” ทำให้ผู้ใช้บางส่วนยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ ขณะที่บางพื้นที่ยังคงพบปัญหา

    ผลกระทบต่อผู้ใช้
    การล่มครั้งนี้ไม่เพียงกระทบต่อการใช้งานทั่วไป แต่ยังส่งผลต่อผู้ที่พึ่งพา YouTube TV ในการรับชมรายการสด และผู้ใช้ Google Search ในการทำงานหรือค้นหาข้อมูล ปัญหาลักษณะนี้สะท้อนถึงความเปราะบางของบริการออนไลน์ที่มีผู้ใช้จำนวนมหาศาลทั่วโลก

    สรุปเป็นหัวข้อ
    บริการที่ได้รับผลกระทบ
    YouTube มีรายงานปัญหามากกว่า 10,000 เคส
    Google Search และ YouTube TV มีรายงานหลายร้อยเคส

    ข้อมูลจาก Downdetector และ Cloudflare
    หลายบริการมีการแจ้งปัญหาพร้อมกัน
    Cloudflare เคยมีปัญหาเครือข่าย แต่แก้ไขแล้ว

    สถานการณ์ล่าสุด
    Google ปล่อย Core Algorithm Update เมื่อ 11 ธันวาคม
    สถานะบริการยังคงแสดง “ปกติ”

    คำเตือนและผลกระทบ
    ผู้ใช้บางพื้นที่ยังไม่สามารถใช้งานได้
    กระทบต่อการทำงานและการรับชมรายการสด
    สะท้อนความเปราะบางของบริการออนไลน์ระดับโลก

    https://www.tomshardware.com/news/live/ongoing-youtube-google-outage-reported-outage-spikes-across-popular-services
    📺 YouTube และ Google ล่มพร้อมกัน ตั้งแต่เช้าวันศุกร์ ผู้ใช้ในสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรรายงานว่าไม่สามารถใช้งาน YouTube, YouTube TV และ Google Search ได้ตามปกติ โดยเฉพาะ YouTube ที่มีรายงานปัญหามากกว่า 10,000 เคสในช่วงชั่วโมงเดียว ทำให้เป็นบริการที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด 🌐 สัญญาณจาก Downdetector และ Cloudflare ข้อมูลจาก Downdetector แสดงให้เห็นการพุ่งสูงของการแจ้งปัญหาในหลายบริการพร้อมกัน ทั้ง YouTube, Google TV, Google Search รวมถึงแอปอื่น ๆ เช่น The Weather Channel และ Target ขณะเดียวกัน Cloudflare รายงานว่ามีปัญหาเครือข่ายเล็กน้อยในช่วงเวลาเดียวกัน แต่ได้แก้ไขไปแล้ว ทำให้ยังไม่แน่ชัดว่าปัญหามาจาก Google โดยตรงหรือจากโครงสร้างพื้นฐานภายนอก 🛠️ การตอบสนองและสถานการณ์ล่าสุด Google ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ แต่มีการอัปเดตว่าเพิ่งปล่อย Core Algorithm Update เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบ อย่างไรก็ตาม สถานะบริการของ Google ยังคงแสดงว่า “ปกติ” ทำให้ผู้ใช้บางส่วนยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ ขณะที่บางพื้นที่ยังคงพบปัญหา ⚠️ ผลกระทบต่อผู้ใช้ การล่มครั้งนี้ไม่เพียงกระทบต่อการใช้งานทั่วไป แต่ยังส่งผลต่อผู้ที่พึ่งพา YouTube TV ในการรับชมรายการสด และผู้ใช้ Google Search ในการทำงานหรือค้นหาข้อมูล ปัญหาลักษณะนี้สะท้อนถึงความเปราะบางของบริการออนไลน์ที่มีผู้ใช้จำนวนมหาศาลทั่วโลก 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ บริการที่ได้รับผลกระทบ ➡️ YouTube มีรายงานปัญหามากกว่า 10,000 เคส ➡️ Google Search และ YouTube TV มีรายงานหลายร้อยเคส ✅ ข้อมูลจาก Downdetector และ Cloudflare ➡️ หลายบริการมีการแจ้งปัญหาพร้อมกัน ➡️ Cloudflare เคยมีปัญหาเครือข่าย แต่แก้ไขแล้ว ✅ สถานการณ์ล่าสุด ➡️ Google ปล่อย Core Algorithm Update เมื่อ 11 ธันวาคม ➡️ สถานะบริการยังคงแสดง “ปกติ” ‼️ คำเตือนและผลกระทบ ⛔ ผู้ใช้บางพื้นที่ยังไม่สามารถใช้งานได้ ⛔ กระทบต่อการทำงานและการรับชมรายการสด ⛔ สะท้อนความเปราะบางของบริการออนไลน์ระดับโลก https://www.tomshardware.com/news/live/ongoing-youtube-google-outage-reported-outage-spikes-across-popular-services
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศูนย์ข้อมูล Stargate ได้ไฟเขียว

    โครงการ Stargate ของ OpenAI และ Oracle ตั้งอยู่ที่ Saline Township ห่างจากเมืองดีทรอยต์ราว 40 ไมล์ ได้รับอนุมัติให้ใช้พลังงานมหาศาลถึง 1.4GW เพื่อรองรับเป้าหมายการสร้างศูนย์ข้อมูลที่มีความจุรวมกว่า 5GW ถือเป็นหนึ่งในโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ

    ขั้นตอนอนุมัติที่ถูกวิจารณ์
    DTE Energy ยื่นคำร้องแบบ ex parte motion ทำให้การอนุมัติผ่านไปโดยไม่ต้องมีการไต่สวนหรือเปิดโอกาสให้ประชาชนแสดงความเห็น คณะกรรมการ MPSC ลงมติเป็นเอกฉันท์ 3-0 เพื่ออนุมัติสัญญา ส่งผลให้ชาวบ้านจำนวนมากรู้สึกว่าถูก “ตัดสิทธิ์” ในการมีส่วนร่วม

    ความกังวลของชุมชน
    ชาวบ้านและนักการเมืองบางส่วนกังวลว่าโครงการนี้จะทำให้ ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้น และอาจกระทบต่อ คุณภาพน้ำในพื้นที่ แม้กฎหมายรัฐมิชิแกนปี 2024 จะกำหนดว่าศูนย์ข้อมูลไม่สามารถผลักภาระค่าไฟไปยังประชาชนเพื่อแลกกับสิทธิประโยชน์ทางภาษี แต่หลายคนยังไม่มั่นใจในมาตรการป้องกัน

    กลไกป้องกันของสัญญา
    สัญญาระหว่าง DTE และ Green Chile Ventures (บริษัทย่อยของ Oracle) กำหนดให้ผู้พัฒนาโครงการต้องจ่ายค่าไฟฟ้าอย่างน้อย 80% ของกำลังที่สัญญาไว้ แม้จะไม่ได้ใช้งานจริง เพื่อป้องกันไม่ให้ค่าใช้จ่ายตกไปที่ผู้บริโภคทั่วไป อีกทั้งสัญญามีอายุยาวถึง 19 ปี ทำให้ DTE สามารถคืนทุนได้โดยไม่ต้องผลักภาระไปยังชุมชน

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การอนุมัติจาก MPSC
    อนุมัติให้ DTE จ่ายไฟ 1.4GW ให้ศูนย์ข้อมูล Stargate
    ใช้กระบวนการ ex parte motion โดยไม่เปิดให้คัดค้าน

    รายละเอียดโครงการ
    Stargate มีเป้าหมายสร้างศูนย์ข้อมูลรวมกว่า 5GW
    ตั้งอยู่ที่ Saline Township ห่างจากดีทรอยต์ 40 ไมล์

    ความกังวลของชุมชน
    เสี่ยงค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้น
    อาจกระทบคุณภาพน้ำในพื้นที่

    กลไกป้องกันในสัญญา
    ผู้พัฒนาโครงการต้องจ่ายค่าไฟขั้นต่ำ 80% ของสัญญา
    สัญญามีอายุ 19 ปี ป้องกันไม่ให้ภาระตกที่ประชาชน

    คำเตือนและข้อวิจารณ์
    การอนุมัติแบบไม่เปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมสร้างความไม่ไว้วางใจ
    ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและค่าใช้จ่ายยังคงเป็นข้อกังวล

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/openais-stargate-data-center-gets-approval-to-receive-1-4-gigawatts-of-power-in-michigan-some-residents-furious-as-energy-company-is-given-go-ahead-by-regulatory-body-without-hearing-opposition
    ⚡ ศูนย์ข้อมูล Stargate ได้ไฟเขียว โครงการ Stargate ของ OpenAI และ Oracle ตั้งอยู่ที่ Saline Township ห่างจากเมืองดีทรอยต์ราว 40 ไมล์ ได้รับอนุมัติให้ใช้พลังงานมหาศาลถึง 1.4GW เพื่อรองรับเป้าหมายการสร้างศูนย์ข้อมูลที่มีความจุรวมกว่า 5GW ถือเป็นหนึ่งในโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ 🏛️ ขั้นตอนอนุมัติที่ถูกวิจารณ์ DTE Energy ยื่นคำร้องแบบ ex parte motion ทำให้การอนุมัติผ่านไปโดยไม่ต้องมีการไต่สวนหรือเปิดโอกาสให้ประชาชนแสดงความเห็น คณะกรรมการ MPSC ลงมติเป็นเอกฉันท์ 3-0 เพื่ออนุมัติสัญญา ส่งผลให้ชาวบ้านจำนวนมากรู้สึกว่าถูก “ตัดสิทธิ์” ในการมีส่วนร่วม 🌍 ความกังวลของชุมชน ชาวบ้านและนักการเมืองบางส่วนกังวลว่าโครงการนี้จะทำให้ ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้น และอาจกระทบต่อ คุณภาพน้ำในพื้นที่ แม้กฎหมายรัฐมิชิแกนปี 2024 จะกำหนดว่าศูนย์ข้อมูลไม่สามารถผลักภาระค่าไฟไปยังประชาชนเพื่อแลกกับสิทธิประโยชน์ทางภาษี แต่หลายคนยังไม่มั่นใจในมาตรการป้องกัน 🛡️ กลไกป้องกันของสัญญา สัญญาระหว่าง DTE และ Green Chile Ventures (บริษัทย่อยของ Oracle) กำหนดให้ผู้พัฒนาโครงการต้องจ่ายค่าไฟฟ้าอย่างน้อย 80% ของกำลังที่สัญญาไว้ แม้จะไม่ได้ใช้งานจริง เพื่อป้องกันไม่ให้ค่าใช้จ่ายตกไปที่ผู้บริโภคทั่วไป อีกทั้งสัญญามีอายุยาวถึง 19 ปี ทำให้ DTE สามารถคืนทุนได้โดยไม่ต้องผลักภาระไปยังชุมชน 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การอนุมัติจาก MPSC ➡️ อนุมัติให้ DTE จ่ายไฟ 1.4GW ให้ศูนย์ข้อมูล Stargate ➡️ ใช้กระบวนการ ex parte motion โดยไม่เปิดให้คัดค้าน ✅ รายละเอียดโครงการ ➡️ Stargate มีเป้าหมายสร้างศูนย์ข้อมูลรวมกว่า 5GW ➡️ ตั้งอยู่ที่ Saline Township ห่างจากดีทรอยต์ 40 ไมล์ ✅ ความกังวลของชุมชน ➡️ เสี่ยงค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ➡️ อาจกระทบคุณภาพน้ำในพื้นที่ ✅ กลไกป้องกันในสัญญา ➡️ ผู้พัฒนาโครงการต้องจ่ายค่าไฟขั้นต่ำ 80% ของสัญญา ➡️ สัญญามีอายุ 19 ปี ป้องกันไม่ให้ภาระตกที่ประชาชน ‼️ คำเตือนและข้อวิจารณ์ ⛔ การอนุมัติแบบไม่เปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมสร้างความไม่ไว้วางใจ ⛔ ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและค่าใช้จ่ายยังคงเป็นข้อกังวล https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/openais-stargate-data-center-gets-approval-to-receive-1-4-gigawatts-of-power-in-michigan-some-residents-furious-as-energy-company-is-given-go-ahead-by-regulatory-body-without-hearing-opposition
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • หน่วยความจำ DDR5 รุ่นใหม่ที่ผ่านการรับรองจาก Intel

    SK hynix ประกาศว่าโมดูล DDR5 RDIMM ขนาด 256GB ที่ใช้ชิปหน่วยความจำ 32Gb บนกระบวนการผลิต 1b (5th Gen 10nm-class) ได้รับการรับรองจาก Intel Data Center Certified เป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรม จุดเด่นคือการรวมความจุสูงเข้ากับการใช้พลังงานต่ำและประสิทธิภาพสูง ซึ่งเหมาะกับเซิร์ฟเวอร์ AI และระบบ hyperscale cloud ที่ต้องการทั้งความเร็วและความคุ้มค่า

    ประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงาน
    โมดูล DDR5 รุ่นใหม่นี้สามารถลดการใช้พลังงานได้ถึง 18% เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ 256GB รุ่นก่อนหน้า โดยเฉลี่ยแล้วจะช่วยลดการใช้พลังงานได้ 32.4W ต่อเครื่อง Xeon 6 แบบ single-CPU ซึ่งหากนำไปใช้ในศูนย์ข้อมูลที่มีเครื่องนับหมื่นเครื่อง จะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้หลายล้านดอลลาร์ต่อปี

    ผลกระทบต่อศูนย์ข้อมูลและ AI workloads
    AI servers ใช้หน่วยความจำจำนวนมหาศาลทั้ง HBM และ DDR5 SDRAM การลดพลังงานในระดับโมดูลจึงมีผลกระทบมหาศาลต่อการดำเนินงาน โดยเฉพาะ hyperscale data centers ที่ต้องการทั้ง throughput สูงและการจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพ การรับรองจาก Intel ยังช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้ให้บริการคลาวด์และองค์กรที่ต้องการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานใหม่

    ข้อควรระวังและข้อจำกัด
    แม้จะมีการประหยัดพลังงานที่ชัดเจน แต่การใช้โมดูลความจุสูงเช่นนี้ยังมีต้นทุนที่สูง และอาจไม่เหมาะกับ workload ที่ไม่ได้ต้องการหน่วยความจำขนาดใหญ่ นอกจากนี้ การเปลี่ยนไปใช้ DDR5 รุ่นใหม่ยังต้องพิจารณาความเข้ากันได้กับแพลตฟอร์มและซอฟต์แวร์ที่ใช้งานอยู่

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การรับรองจาก Intel
    SK hynix 256GB DDR5 RDIMM ผ่าน Intel Data Center Certified
    ใช้ชิป 32Gb บนกระบวนการผลิต 1b

    ประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงาน
    ลดการใช้พลังงานได้ 18% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน
    ประหยัดได้ 32.4W ต่อเครื่อง Xeon 6

    ผลกระทบต่อศูนย์ข้อมูล
    ลดค่าใช้จ่ายมหาศาลใน hyperscale data centers
    เหมาะกับ AI workloads ที่ต้องการ throughput สูง

    ข้อควรระวัง
    ราคาสูง อาจไม่เหมาะกับ workload ที่ไม่ต้องการหน่วยความจำขนาดใหญ่
    ต้องตรวจสอบความเข้ากันได้กับแพลตฟอร์มและซอฟต์แวร์

    https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/intel-certified-256-gb-ddr5-stick-could-cut-xeon-memory-power-by-18-percent-saving-millions-of-dollars-a-32w-per-socket-reduction-could-save-millions-per-hyperscale-data-center
    🖥️ หน่วยความจำ DDR5 รุ่นใหม่ที่ผ่านการรับรองจาก Intel SK hynix ประกาศว่าโมดูล DDR5 RDIMM ขนาด 256GB ที่ใช้ชิปหน่วยความจำ 32Gb บนกระบวนการผลิต 1b (5th Gen 10nm-class) ได้รับการรับรองจาก Intel Data Center Certified เป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรม จุดเด่นคือการรวมความจุสูงเข้ากับการใช้พลังงานต่ำและประสิทธิภาพสูง ซึ่งเหมาะกับเซิร์ฟเวอร์ AI และระบบ hyperscale cloud ที่ต้องการทั้งความเร็วและความคุ้มค่า ⚡ ประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงาน โมดูล DDR5 รุ่นใหม่นี้สามารถลดการใช้พลังงานได้ถึง 18% เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ 256GB รุ่นก่อนหน้า โดยเฉลี่ยแล้วจะช่วยลดการใช้พลังงานได้ 32.4W ต่อเครื่อง Xeon 6 แบบ single-CPU ซึ่งหากนำไปใช้ในศูนย์ข้อมูลที่มีเครื่องนับหมื่นเครื่อง จะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้หลายล้านดอลลาร์ต่อปี 🌐 ผลกระทบต่อศูนย์ข้อมูลและ AI workloads AI servers ใช้หน่วยความจำจำนวนมหาศาลทั้ง HBM และ DDR5 SDRAM การลดพลังงานในระดับโมดูลจึงมีผลกระทบมหาศาลต่อการดำเนินงาน โดยเฉพาะ hyperscale data centers ที่ต้องการทั้ง throughput สูงและการจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพ การรับรองจาก Intel ยังช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้ให้บริการคลาวด์และองค์กรที่ต้องการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานใหม่ ⚠️ ข้อควรระวังและข้อจำกัด แม้จะมีการประหยัดพลังงานที่ชัดเจน แต่การใช้โมดูลความจุสูงเช่นนี้ยังมีต้นทุนที่สูง และอาจไม่เหมาะกับ workload ที่ไม่ได้ต้องการหน่วยความจำขนาดใหญ่ นอกจากนี้ การเปลี่ยนไปใช้ DDR5 รุ่นใหม่ยังต้องพิจารณาความเข้ากันได้กับแพลตฟอร์มและซอฟต์แวร์ที่ใช้งานอยู่ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การรับรองจาก Intel ➡️ SK hynix 256GB DDR5 RDIMM ผ่าน Intel Data Center Certified ➡️ ใช้ชิป 32Gb บนกระบวนการผลิต 1b ✅ ประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงาน ➡️ ลดการใช้พลังงานได้ 18% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ➡️ ประหยัดได้ 32.4W ต่อเครื่อง Xeon 6 ✅ ผลกระทบต่อศูนย์ข้อมูล ➡️ ลดค่าใช้จ่ายมหาศาลใน hyperscale data centers ➡️ เหมาะกับ AI workloads ที่ต้องการ throughput สูง ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ ราคาสูง อาจไม่เหมาะกับ workload ที่ไม่ต้องการหน่วยความจำขนาดใหญ่ ⛔ ต้องตรวจสอบความเข้ากันได้กับแพลตฟอร์มและซอฟต์แวร์ https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/intel-certified-256-gb-ddr5-stick-could-cut-xeon-memory-power-by-18-percent-saving-millions-of-dollars-a-32w-per-socket-reduction-could-save-millions-per-hyperscale-data-center
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • การตัดสินคดีลักลอบส่งออกแอนติโมนี

    ศาลกลางเมืองเซินเจิ้นได้ตัดสินลงโทษผู้ต้องหาทั้งหมด 27 คนในคดีลักลอบส่งออกแอนติโมนี โดยผู้ต้องหาหลัก หวัง อู่ปิน (Wang Wubin) ถูกตัดสินจำคุก 12 ปี และปรับเป็นเงิน 1 ล้านหยวน ขณะที่ผู้ต้องหาคนอื่น ๆ ได้รับโทษจำคุกตั้งแต่ 4 เดือนถึง 5 ปี พร้อมค่าปรับตามระดับการมีส่วนร่วมและปริมาณที่ลักลอบส่งออก

    ความสำคัญของแอนติโมนี
    แอนติโมนีถือเป็น แร่เชิงกลยุทธ์ ที่ใช้ในหลายอุตสาหกรรม เช่น เซมิคอนดักเตอร์, ชิปอิเล็กทรอนิกส์, แบตเตอรี่, วัสดุทนไฟ และการใช้งานด้านกลาโหม โดยเฉพาะการผสมกับซิลิคอนเพื่อผลิตไดโอดและทรานซิสเตอร์ หรือการผสมกับอินเดียมและแกลเลียมเพื่อสร้างเซ็นเซอร์อินฟราเรดและเซลล์แสงอาทิตย์ ทำให้การควบคุมการส่งออกมีความสำคัญต่อความมั่นคงทางเทคโนโลยี

    บริบททางการค้าและการเมือง
    จีนเพิ่งมีการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐฯ และยกเลิกการห้ามส่งออกแร่บางชนิด เช่น แกลเลียม, เจอร์เมเนียม และแอนติโมนี แต่ยังคงต้องมีใบอนุญาตการส่งออกอย่างเข้มงวด การลักลอบครั้งนี้จึงถูกมองว่าเป็นการท้าทายต่อระบบควบคุมของรัฐ และเชื่อมโยงกับการลักลอบนำเข้าที่ฮ่องกงและเส้นทางผ่านไทยและเม็กซิโก

    ผลกระทบและคำเตือน
    เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความเสี่ยงด้าน ห่วงโซ่อุปทานแร่เชิงกลยุทธ์ ที่อาจถูกลักลอบเพื่อเลี่ยงข้อจำกัดทางการค้า หากไม่มีการควบคุมเข้มงวด อาจกระทบต่อทั้งอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และความมั่นคงระดับโลก

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การตัดสินคดีในจีน
    ผู้ต้องหาหลักถูกจำคุก 12 ปี และปรับ 1 ล้านหยวน
    ผู้ต้องหาอีก 26 คนถูกลงโทษจำคุก 4 เดือนถึง 5 ปี

    ความสำคัญของแอนติโมนี
    ใช้ในเซมิคอนดักเตอร์, แบตเตอรี่, วัสดุทนไฟ และกลาโหม
    เป็นแร่เชิงกลยุทธ์ที่มีผลต่อความมั่นคงทางเทคโนโลยี

    บริบททางการค้าโลก
    จีนยกเลิกการห้ามส่งออกบางแร่ แต่ยังต้องมีใบอนุญาต
    มีการลักลอบผ่านฮ่องกง ไทย และเม็กซิโก

    คำเตือนและผลกระทบ
    การลักลอบส่งออกบั่นทอนระบบควบคุมของรัฐ
    เสี่ยงต่อห่วงโซ่อุปทานแร่เชิงกลยุทธ์
    อาจกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และความมั่นคงโลก

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-convicts-27-people-for-smuggling-antimony-166-tons-of-mineral-used-for-semiconductor-manufacturing-exported-without-licenses-court-decides
    ⚖️ การตัดสินคดีลักลอบส่งออกแอนติโมนี ศาลกลางเมืองเซินเจิ้นได้ตัดสินลงโทษผู้ต้องหาทั้งหมด 27 คนในคดีลักลอบส่งออกแอนติโมนี โดยผู้ต้องหาหลัก หวัง อู่ปิน (Wang Wubin) ถูกตัดสินจำคุก 12 ปี และปรับเป็นเงิน 1 ล้านหยวน ขณะที่ผู้ต้องหาคนอื่น ๆ ได้รับโทษจำคุกตั้งแต่ 4 เดือนถึง 5 ปี พร้อมค่าปรับตามระดับการมีส่วนร่วมและปริมาณที่ลักลอบส่งออก 🧪 ความสำคัญของแอนติโมนี แอนติโมนีถือเป็น แร่เชิงกลยุทธ์ ที่ใช้ในหลายอุตสาหกรรม เช่น เซมิคอนดักเตอร์, ชิปอิเล็กทรอนิกส์, แบตเตอรี่, วัสดุทนไฟ และการใช้งานด้านกลาโหม โดยเฉพาะการผสมกับซิลิคอนเพื่อผลิตไดโอดและทรานซิสเตอร์ หรือการผสมกับอินเดียมและแกลเลียมเพื่อสร้างเซ็นเซอร์อินฟราเรดและเซลล์แสงอาทิตย์ ทำให้การควบคุมการส่งออกมีความสำคัญต่อความมั่นคงทางเทคโนโลยี 🌍 บริบททางการค้าและการเมือง จีนเพิ่งมีการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐฯ และยกเลิกการห้ามส่งออกแร่บางชนิด เช่น แกลเลียม, เจอร์เมเนียม และแอนติโมนี แต่ยังคงต้องมีใบอนุญาตการส่งออกอย่างเข้มงวด การลักลอบครั้งนี้จึงถูกมองว่าเป็นการท้าทายต่อระบบควบคุมของรัฐ และเชื่อมโยงกับการลักลอบนำเข้าที่ฮ่องกงและเส้นทางผ่านไทยและเม็กซิโก ⚠️ ผลกระทบและคำเตือน เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความเสี่ยงด้าน ห่วงโซ่อุปทานแร่เชิงกลยุทธ์ ที่อาจถูกลักลอบเพื่อเลี่ยงข้อจำกัดทางการค้า หากไม่มีการควบคุมเข้มงวด อาจกระทบต่อทั้งอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และความมั่นคงระดับโลก 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การตัดสินคดีในจีน ➡️ ผู้ต้องหาหลักถูกจำคุก 12 ปี และปรับ 1 ล้านหยวน ➡️ ผู้ต้องหาอีก 26 คนถูกลงโทษจำคุก 4 เดือนถึง 5 ปี ✅ ความสำคัญของแอนติโมนี ➡️ ใช้ในเซมิคอนดักเตอร์, แบตเตอรี่, วัสดุทนไฟ และกลาโหม ➡️ เป็นแร่เชิงกลยุทธ์ที่มีผลต่อความมั่นคงทางเทคโนโลยี ✅ บริบททางการค้าโลก ➡️ จีนยกเลิกการห้ามส่งออกบางแร่ แต่ยังต้องมีใบอนุญาต ➡️ มีการลักลอบผ่านฮ่องกง ไทย และเม็กซิโก ‼️ คำเตือนและผลกระทบ ⛔ การลักลอบส่งออกบั่นทอนระบบควบคุมของรัฐ ⛔ เสี่ยงต่อห่วงโซ่อุปทานแร่เชิงกลยุทธ์ ⛔ อาจกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และความมั่นคงโลก https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-convicts-27-people-for-smuggling-antimony-166-tons-of-mineral-used-for-semiconductor-manufacturing-exported-without-licenses-court-decides
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 รีวิว
  • มัลแวร์บนเรือเฟอร์รี: ภัยคุกคามใหม่

    รายงานจากฝรั่งเศสระบุว่าเรือเฟอร์รี Fantastic ของบริษัท Grandi Navi Veloci ถูกพบว่ามีการติดตั้ง Remote Access Trojan (RAT) ขณะจอดที่ท่าเรือเมือง Sète ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส มัลแวร์นี้สามารถเปิดทางให้บุคคลภายนอกเข้าควบคุมระบบภายในเรือได้ ซึ่งรวมถึงระบบที่เกี่ยวข้องกับการเดินเรือและการจัดการ

    การสอบสวนและข้อกล่าวหา
    เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสจับกุมลูกเรือชาวลัตเวียที่เพิ่งเข้ามาประจำการ โดยสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับการติดตั้งมัลแวร์ ขณะที่ลูกเรือชาวบัลแกเรียอีกคนถูกปล่อยตัวไป เหตุการณ์นี้ถูกจัดว่าเป็นการพยายามโจมตีระบบประมวลผลข้อมูลโดยกลุ่มที่อาจมีความเชื่อมโยงกับ “มหาอำนาจต่างชาติ” แม้รัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศสจะไม่ระบุชื่อประเทศ แต่ยอมรับว่าลักษณะการแทรกแซงเช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งในยุโรป

    ความเปราะบางของระบบเดินเรือ
    เรือสมัยใหม่ใช้ทั้ง PC มาตรฐาน, industrial controllers และ embedded systems ในการจัดการตั้งแต่เส้นทางเดินเรือจนถึงการบริหารลูกเรือ แม้ระบบที่สำคัญด้านความปลอดภัยควรถูกแยกออกจากเครือข่ายทั่วไป แต่ในทางปฏิบัติหลายครั้งกลับใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน ทำให้เสี่ยงต่อการถูกโจมตีแบบ lateral movement หากมัลแวร์เข้าถึงระบบที่ไม่ถูกแยกอย่างเหมาะสม

    ผลกระทบและคำเตือน
    เหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่กระทบต่อความปลอดภัยของการเดินเรือ แต่ยังสะท้อนถึงความเสี่ยงเชิงโครงสร้างของระบบขนส่งสมัยใหม่ ที่ IT และ OT (Operational Technology) ยังมีเส้นแบ่งที่ไม่ชัดเจน หากไม่มีมาตรการแยกเครือข่ายและตรวจสอบความปลอดภัยอย่างเข้มงวด อาจเปิดทางให้การโจมตีจากรัฐหรือองค์กรอาชญากรรมเกิดขึ้นได้

    สรุปเป็นหัวข้อ
    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
    พบมัลแวร์ RAT บนเรือเฟอร์รี Fantastic
    ลูกเรือชาวลัตเวียถูกจับกุมในฝรั่งเศส

    การสอบสวนและข้อกล่าวหา
    ถูกสงสัยว่าเป็นการโจมตีเพื่อผลประโยชน์ของ “มหาอำนาจต่างชาติ”
    รัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศสยืนยันว่าเป็นรูปแบบการแทรกแซงที่เกิดบ่อยในยุโรป

    ความเปราะบางของระบบเดินเรือ
    ใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกันระหว่าง IT และระบบควบคุมเดินเรือ
    เสี่ยงต่อการโจมตีแบบ lateral movement

    คำเตือนและผลกระทบ
    หากไม่แยกเครือข่าย IT และ OT อย่างเข้มงวด อาจถูกโจมตีจากภายนอก
    การโจมตีลักษณะนี้อาจกระทบต่อความปลอดภัยของการเดินเรือและการขนส่งโดยรวม

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/french-ferry-malware-arrest-exposes-fragile-boundaries-between-ship-it-and-navigation-systems
    🚢 มัลแวร์บนเรือเฟอร์รี: ภัยคุกคามใหม่ รายงานจากฝรั่งเศสระบุว่าเรือเฟอร์รี Fantastic ของบริษัท Grandi Navi Veloci ถูกพบว่ามีการติดตั้ง Remote Access Trojan (RAT) ขณะจอดที่ท่าเรือเมือง Sète ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส มัลแวร์นี้สามารถเปิดทางให้บุคคลภายนอกเข้าควบคุมระบบภายในเรือได้ ซึ่งรวมถึงระบบที่เกี่ยวข้องกับการเดินเรือและการจัดการ 🕵️ การสอบสวนและข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสจับกุมลูกเรือชาวลัตเวียที่เพิ่งเข้ามาประจำการ โดยสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับการติดตั้งมัลแวร์ ขณะที่ลูกเรือชาวบัลแกเรียอีกคนถูกปล่อยตัวไป เหตุการณ์นี้ถูกจัดว่าเป็นการพยายามโจมตีระบบประมวลผลข้อมูลโดยกลุ่มที่อาจมีความเชื่อมโยงกับ “มหาอำนาจต่างชาติ” แม้รัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศสจะไม่ระบุชื่อประเทศ แต่ยอมรับว่าลักษณะการแทรกแซงเช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งในยุโรป ⚡ ความเปราะบางของระบบเดินเรือ เรือสมัยใหม่ใช้ทั้ง PC มาตรฐาน, industrial controllers และ embedded systems ในการจัดการตั้งแต่เส้นทางเดินเรือจนถึงการบริหารลูกเรือ แม้ระบบที่สำคัญด้านความปลอดภัยควรถูกแยกออกจากเครือข่ายทั่วไป แต่ในทางปฏิบัติหลายครั้งกลับใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน ทำให้เสี่ยงต่อการถูกโจมตีแบบ lateral movement หากมัลแวร์เข้าถึงระบบที่ไม่ถูกแยกอย่างเหมาะสม ⚠️ ผลกระทบและคำเตือน เหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่กระทบต่อความปลอดภัยของการเดินเรือ แต่ยังสะท้อนถึงความเสี่ยงเชิงโครงสร้างของระบบขนส่งสมัยใหม่ ที่ IT และ OT (Operational Technology) ยังมีเส้นแบ่งที่ไม่ชัดเจน หากไม่มีมาตรการแยกเครือข่ายและตรวจสอบความปลอดภัยอย่างเข้มงวด อาจเปิดทางให้การโจมตีจากรัฐหรือองค์กรอาชญากรรมเกิดขึ้นได้ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ➡️ พบมัลแวร์ RAT บนเรือเฟอร์รี Fantastic ➡️ ลูกเรือชาวลัตเวียถูกจับกุมในฝรั่งเศส ✅ การสอบสวนและข้อกล่าวหา ➡️ ถูกสงสัยว่าเป็นการโจมตีเพื่อผลประโยชน์ของ “มหาอำนาจต่างชาติ” ➡️ รัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศสยืนยันว่าเป็นรูปแบบการแทรกแซงที่เกิดบ่อยในยุโรป ✅ ความเปราะบางของระบบเดินเรือ ➡️ ใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกันระหว่าง IT และระบบควบคุมเดินเรือ ➡️ เสี่ยงต่อการโจมตีแบบ lateral movement ‼️ คำเตือนและผลกระทบ ⛔ หากไม่แยกเครือข่าย IT และ OT อย่างเข้มงวด อาจถูกโจมตีจากภายนอก ⛔ การโจมตีลักษณะนี้อาจกระทบต่อความปลอดภัยของการเดินเรือและการขนส่งโดยรวม https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/french-ferry-malware-arrest-exposes-fragile-boundaries-between-ship-it-and-navigation-systems
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกาหลีเหนือกับสถิติการโจรกรรมคริปโต

    รายงานจาก Chainalysis ระบุว่าแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐเกาหลีเหนือสามารถขโมยคริปโตได้มากถึง 2.02 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025 ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดตั้งแต่มีการบันทึกมา โดยรวมแล้วตั้งแต่เริ่มมีการติดตาม เกาหลีเหนือได้ขโมยไปแล้วกว่า 6.75 พันล้านดอลลาร์ การโจมตีเหล่านี้ไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายต่อแพลตฟอร์มคริปโต แต่ยังเป็นแหล่งรายได้สำคัญให้กับรัฐบาลที่ถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ

    เทคนิคการโจมตีที่ซับซ้อน
    หนึ่งในวิธีที่ DPRK ใช้คือการส่งคนไปแฝงตัวเป็น IT professionals ในบริษัทเป้าหมาย เพื่อเข้าถึงระบบภายในและหาช่องโหว่ นอกจากนี้ยังมีการสร้าง ประกาศรับสมัครงานปลอม ที่บังคับให้ผู้สมัครติดตั้งมัลแวร์โดยไม่รู้ตัว ซึ่งมัลแวร์นี้สามารถขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น credentials, source code และ SSO access ได้ อีกทั้งยังมีการหลอกผู้บริหารด้วยข้อเสนอซื้อกิจการปลอม เพื่อใช้กระบวนการตรวจสอบข้อมูลในการเจาะระบบ

    การโจมตีครั้งใหญ่: ByBit Hack
    เหตุการณ์ที่สร้างความเสียหายมากที่สุดคือการโจมตีแพลตฟอร์ม ByBit ที่สูญเงินไปกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่ง FBI ยืนยันว่าเป็นฝีมือของแฮกเกอร์จาก DPRK การโจมตีครั้งนี้คิดเป็นเกือบ 75% ของมูลค่าที่ DPRK ขโมยไปในปีเดียว และสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการเลือกเป้าหมายที่ใหญ่และมีผลกระทบสูง

    แนวโน้มและคำเตือน
    แม้จำนวนการโจมตีโดยรวมจะลดลง แต่ความเสียหายกลับเพิ่มขึ้น เนื่องจาก DPRK มุ่งเป้าไปที่องค์กรใหญ่และระบบที่มีมูลค่าสูง แพลตฟอร์ม DeFi หลายแห่งเริ่มมีมาตรการป้องกันที่เข้มแข็งขึ้น ทำให้แฮกเกอร์หันไปโจมตี exchange, custodians และกระเป๋าเงินส่วนบุคคล ที่มีการป้องกันอ่อนแอกว่า

    สรุปเป็นหัวข้อ
    สถิติการโจรกรรมคริปโตของ DPRK
    ปี 2025 ขโมยได้ 2.02 พันล้านดอลลาร์
    รวมตั้งแต่เริ่มบันทึกกว่า 6.75 พันล้านดอลลาร์

    เทคนิคการโจมตี
    แฝงตัวเป็น IT professionals ในบริษัทเป้าหมาย
    ประกาศรับสมัครงานปลอมพร้อมมัลแวร์
    หลอกผู้บริหารด้วยข้อเสนอซื้อกิจการ

    เหตุการณ์สำคัญ
    ByBit สูญเงิน 1.5 พันล้านดอลลาร์
    FBI ยืนยันเป็นฝีมือ DPRK

    คำเตือนและแนวโน้ม
    จำนวนการโจมตีลดลง แต่ความเสียหายเพิ่มขึ้น
    เป้าหมายหลักคือ exchange, custodians และกระเป๋าเงินส่วนบุคคล
    สะท้อนว่าระบบที่อ่อนแอยังคงเสี่ยงสูง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptocurrency/north-korean-hackers-steal-a-record-usd2-billion-in-crypto-in-2025-including-single-heist-worth-usd1-5-billion-report-claims-rogue-state-accounts-for-60-percent-of-all-reported-crypto-thefts-this-year-usd6-75-billion-total-since-records-began
    💰 เกาหลีเหนือกับสถิติการโจรกรรมคริปโต รายงานจาก Chainalysis ระบุว่าแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐเกาหลีเหนือสามารถขโมยคริปโตได้มากถึง 2.02 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025 ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดตั้งแต่มีการบันทึกมา โดยรวมแล้วตั้งแต่เริ่มมีการติดตาม เกาหลีเหนือได้ขโมยไปแล้วกว่า 6.75 พันล้านดอลลาร์ การโจมตีเหล่านี้ไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายต่อแพลตฟอร์มคริปโต แต่ยังเป็นแหล่งรายได้สำคัญให้กับรัฐบาลที่ถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ 🕵️ เทคนิคการโจมตีที่ซับซ้อน หนึ่งในวิธีที่ DPRK ใช้คือการส่งคนไปแฝงตัวเป็น IT professionals ในบริษัทเป้าหมาย เพื่อเข้าถึงระบบภายในและหาช่องโหว่ นอกจากนี้ยังมีการสร้าง ประกาศรับสมัครงานปลอม ที่บังคับให้ผู้สมัครติดตั้งมัลแวร์โดยไม่รู้ตัว ซึ่งมัลแวร์นี้สามารถขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น credentials, source code และ SSO access ได้ อีกทั้งยังมีการหลอกผู้บริหารด้วยข้อเสนอซื้อกิจการปลอม เพื่อใช้กระบวนการตรวจสอบข้อมูลในการเจาะระบบ ⚡ การโจมตีครั้งใหญ่: ByBit Hack เหตุการณ์ที่สร้างความเสียหายมากที่สุดคือการโจมตีแพลตฟอร์ม ByBit ที่สูญเงินไปกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่ง FBI ยืนยันว่าเป็นฝีมือของแฮกเกอร์จาก DPRK การโจมตีครั้งนี้คิดเป็นเกือบ 75% ของมูลค่าที่ DPRK ขโมยไปในปีเดียว และสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการเลือกเป้าหมายที่ใหญ่และมีผลกระทบสูง ⚠️ แนวโน้มและคำเตือน แม้จำนวนการโจมตีโดยรวมจะลดลง แต่ความเสียหายกลับเพิ่มขึ้น เนื่องจาก DPRK มุ่งเป้าไปที่องค์กรใหญ่และระบบที่มีมูลค่าสูง แพลตฟอร์ม DeFi หลายแห่งเริ่มมีมาตรการป้องกันที่เข้มแข็งขึ้น ทำให้แฮกเกอร์หันไปโจมตี exchange, custodians และกระเป๋าเงินส่วนบุคคล ที่มีการป้องกันอ่อนแอกว่า 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ สถิติการโจรกรรมคริปโตของ DPRK ➡️ ปี 2025 ขโมยได้ 2.02 พันล้านดอลลาร์ ➡️ รวมตั้งแต่เริ่มบันทึกกว่า 6.75 พันล้านดอลลาร์ ✅ เทคนิคการโจมตี ➡️ แฝงตัวเป็น IT professionals ในบริษัทเป้าหมาย ➡️ ประกาศรับสมัครงานปลอมพร้อมมัลแวร์ ➡️ หลอกผู้บริหารด้วยข้อเสนอซื้อกิจการ ✅ เหตุการณ์สำคัญ ➡️ ByBit สูญเงิน 1.5 พันล้านดอลลาร์ ➡️ FBI ยืนยันเป็นฝีมือ DPRK ‼️ คำเตือนและแนวโน้ม ⛔ จำนวนการโจมตีลดลง แต่ความเสียหายเพิ่มขึ้น ⛔ เป้าหมายหลักคือ exchange, custodians และกระเป๋าเงินส่วนบุคคล ⛔ สะท้อนว่าระบบที่อ่อนแอยังคงเสี่ยงสูง https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptocurrency/north-korean-hackers-steal-a-record-usd2-billion-in-crypto-in-2025-including-single-heist-worth-usd1-5-billion-report-claims-rogue-state-accounts-for-60-percent-of-all-reported-crypto-thefts-this-year-usd6-75-billion-total-since-records-began
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิธีติดตั้ง Linux Kernel 6.18 LTS บน Ubuntu 25.10 และ 25.04
    Linux Kernel 6.18 ได้รับการประกาศเป็น LTS (Long-Term Support) ซึ่งจะได้รับการดูแลจนถึงเดือนธันวาคม 2027 ทำให้ผู้ใช้ Ubuntu รุ่นใหม่อย่าง 25.10 (Questing Quokka) และ 25.04 (Plucky Puffin) สามารถอัปเดตไปใช้ kernel รุ่นนี้เพื่อความเสถียรและการรองรับฮาร์ดแวร์ล่าสุดได้

    ขั้นตอนการติดตั้ง
    1️⃣ เพิ่ม Ubuntu Mainline Kernel PPA Archive ดาวน์โหลดไฟล์ .deb ที่เกี่ยวข้องจาก PPA ของ Ubuntu mainline kernel

    2️⃣ ไฟล์ที่ต้องติดตั้ง
    linux-image-unsigned-6.18.0-061800-generic_amd64.deb
    linux-modules-6.18.0-061800-generic_amd64.deb
    linux-headers-6.18.0-061800-generic_amd64.deb
    linux-headers-6.18.0-061800_all.deb

    3️⃣ ติดตั้งด้วย dpkg ใช้คำสั่ง:

    sudo dpkg -i *.deb

    4️⃣ รีบูตเครื่อง หลังการติดตั้ง ให้รีบูตเพื่อเข้าสู่ kernel ใหม่

    สิ่งที่ได้รับจาก Kernel 6.18 LTS
    รองรับฮาร์ดแวร์ใหม่ ๆ รวมถึงอุปกรณ์จาก Intel และ AMD
    ปรับปรุงประสิทธิภาพและความเสถียรของระบบไฟล์
    แก้ไขบั๊กและเพิ่มความปลอดภัยในระดับ kernel
    ได้รับการดูแลระยะยาวจนถึงปี 2027

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    Linux Kernel 6.18 ได้รับสถานะ LTS
    จะได้รับการดูแลจนถึงเดือนธันวาคม 2027

    รองรับ Ubuntu 25.10 และ 25.04
    สามารถติดตั้งผ่านไฟล์ .deb จาก mainline PPA

    ขั้นตอนติดตั้งง่าย
    ดาวน์โหลดไฟล์, ใช้ dpkg -i, และรีบูตเครื่อง

    ประโยชน์จาก Kernel ใหม่
    รองรับฮาร์ดแวร์ล่าสุด, ปรับปรุงเสถียรภาพ และเพิ่มความปลอดภัย

    คำเตือนต่อผู้ใช้ทั่วไป
    การติดตั้ง kernel mainline อาจทำให้บาง driver หรือโมดูลไม่เข้ากันกับระบบ

    ความเสี่ยงด้านระบบ production
    ควรทดสอบบนเครื่องทดลองก่อนนำไปใช้จริง เพื่อหลีกเลี่ยง downtime

    https://9to5linux.com/how-to-install-linux-kernel-6-18-lts-on-ubuntu-25-10-and-ubuntu-25-04
    🐧 วิธีติดตั้ง Linux Kernel 6.18 LTS บน Ubuntu 25.10 และ 25.04 Linux Kernel 6.18 ได้รับการประกาศเป็น LTS (Long-Term Support) ซึ่งจะได้รับการดูแลจนถึงเดือนธันวาคม 2027 ทำให้ผู้ใช้ Ubuntu รุ่นใหม่อย่าง 25.10 (Questing Quokka) และ 25.04 (Plucky Puffin) สามารถอัปเดตไปใช้ kernel รุ่นนี้เพื่อความเสถียรและการรองรับฮาร์ดแวร์ล่าสุดได้ ⚙️ ขั้นตอนการติดตั้ง 1️⃣ เพิ่ม Ubuntu Mainline Kernel PPA Archive ดาวน์โหลดไฟล์ .deb ที่เกี่ยวข้องจาก PPA ของ Ubuntu mainline kernel 2️⃣ ไฟล์ที่ต้องติดตั้ง 🎗️ linux-image-unsigned-6.18.0-061800-generic_amd64.deb 🎗️ linux-modules-6.18.0-061800-generic_amd64.deb 🎗️ linux-headers-6.18.0-061800-generic_amd64.deb 🎗️ linux-headers-6.18.0-061800_all.deb 3️⃣ ติดตั้งด้วย dpkg ใช้คำสั่ง: sudo dpkg -i *.deb 4️⃣ รีบูตเครื่อง หลังการติดตั้ง ให้รีบูตเพื่อเข้าสู่ kernel ใหม่ 🛡️ สิ่งที่ได้รับจาก Kernel 6.18 LTS 🎗️ รองรับฮาร์ดแวร์ใหม่ ๆ รวมถึงอุปกรณ์จาก Intel และ AMD 🎗️ ปรับปรุงประสิทธิภาพและความเสถียรของระบบไฟล์ 🎗️ แก้ไขบั๊กและเพิ่มความปลอดภัยในระดับ kernel 🎗️ ได้รับการดูแลระยะยาวจนถึงปี 2027 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ Linux Kernel 6.18 ได้รับสถานะ LTS ➡️ จะได้รับการดูแลจนถึงเดือนธันวาคม 2027 ✅ รองรับ Ubuntu 25.10 และ 25.04 ➡️ สามารถติดตั้งผ่านไฟล์ .deb จาก mainline PPA ✅ ขั้นตอนติดตั้งง่าย ➡️ ดาวน์โหลดไฟล์, ใช้ dpkg -i, และรีบูตเครื่อง ✅ ประโยชน์จาก Kernel ใหม่ ➡️ รองรับฮาร์ดแวร์ล่าสุด, ปรับปรุงเสถียรภาพ และเพิ่มความปลอดภัย ‼️ คำเตือนต่อผู้ใช้ทั่วไป ⛔ การติดตั้ง kernel mainline อาจทำให้บาง driver หรือโมดูลไม่เข้ากันกับระบบ ‼️ ความเสี่ยงด้านระบบ production ⛔ ควรทดสอบบนเครื่องทดลองก่อนนำไปใช้จริง เพื่อหลีกเลี่ยง downtime https://9to5linux.com/how-to-install-linux-kernel-6-18-lts-on-ubuntu-25-10-and-ubuntu-25-04
    9TO5LINUX.COM
    How to Install Linux Kernel 6.18 LTS on Ubuntu 25.10 and Ubuntu 25.04 - 9to5Linux
    You can now install the latest and greatest Linux 6.18 LTS kernel series on your Ubuntu 25.04 and Ubuntu 25.10 distributions. Here’s how!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • Firefox เตรียมเพิ่ม “AI Kill Switch” ปิดการทำงาน AI ได้ทั้งหมด

    Mozilla ประกาศว่า Firefox เวอร์ชันใหม่จะมาพร้อม AI Kill Switch ซึ่งเป็นตัวเลือกให้ผู้ใช้สามารถปิดการทำงานของฟีเจอร์ AI ได้อย่างสมบูรณ์ ถือเป็นการตอบสนองต่อความกังวลของผู้ใช้ที่ไม่ต้องการให้เบราว์เซอร์มีการประมวลผลหรือแนะนำด้วย AI โดยค่าเริ่มต้น ฟีเจอร์ AI ทั้งหมดจะเป็นแบบ opt-in คือผู้ใช้ต้องเลือกเปิดเอง ไม่ได้เปิดอัตโนมัติ

    แนวทางการออกแบบและการควบคุม
    Mozilla ยืนยันว่าการเพิ่ม AI Kill Switch เป็นการสร้างความโปร่งใสและความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้ โดยทุกฟีเจอร์ AI ที่มีใน Firefox จะสามารถปิดได้จากการตั้งค่า ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเขียนข้อความ, การสรุปเนื้อหา, หรือการแนะนำการใช้งาน ผู้ใช้จึงมีอำนาจควบคุมเต็มที่ว่าจะใช้หรือไม่ใช้ AI ในเบราว์เซอร์ของตนเอง

    ผลกระทบต่อผู้ใช้และตลาดเบราว์เซอร์
    การตัดสินใจของ Mozilla อาจสร้างแรงกดดันให้เบราว์เซอร์รายอื่น เช่น Chrome หรือ Edge ต้องพิจารณาเพิ่มตัวเลือกที่คล้ายกัน เพราะผู้ใช้จำนวนมากเริ่มกังวลเรื่อง ความเป็นส่วนตัวและการควบคุมข้อมูล การมี Kill Switch จึงเป็นจุดขายที่สะท้อนถึงแนวทาง “ผู้ใช้มาก่อน” ของ Firefox และอาจช่วยดึงดูดผู้ใช้ที่ไม่ต้องการ AI เข้ามาในทุกมิติของการใช้งานเว็บ

    มุมมองเชิงกลยุทธ์
    การเพิ่ม AI Kill Switch ไม่ได้หมายถึง Mozilla ปฏิเสธ AI แต่เป็นการสร้างสมดุลระหว่าง นวัตกรรมและการควบคุม ผู้ใช้ที่สนใจ AI ยังสามารถเปิดใช้งานได้ แต่ผู้ที่กังวลก็มีทางเลือกในการปิดทั้งหมดทันที กลยุทธ์นี้สะท้อนถึงการรักษาอัตลักษณ์ของ Firefox ในฐานะเบราว์เซอร์ที่เน้น ความเป็นอิสระและความโปร่งใส

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    Firefox เพิ่ม AI Kill Switch
    ผู้ใช้สามารถปิดฟีเจอร์ AI ได้ทั้งหมดจากการตั้งค่า

    ฟีเจอร์ AI เป็นแบบ opt-in
    ผู้ใช้ต้องเลือกเปิดเอง ไม่ได้เปิดอัตโนมัติ

    ผลกระทบเชิงตลาด
    อาจกดดันเบราว์เซอร์อื่นให้เพิ่มตัวเลือกคล้ายกัน

    กลยุทธ์ Mozilla
    สร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรมและการควบคุมผู้ใช้

    คำเตือนต่อผู้ใช้ทั่วไป
    หากปิด AI อาจไม่ได้รับฟีเจอร์ช่วยเหลือ เช่น การสรุปเนื้อหา หรือการแนะนำอัจฉริยะ

    ความเสี่ยงเชิงการแข่งขัน
    หากผู้ใช้จำนวนมากเลือกปิด AI อาจทำให้การพัฒนา AI ใน Firefox ถูกจำกัดเมื่อเทียบกับคู่แข่ง

    https://9to5linux.com/firefox-will-ship-with-an-ai-kill-switch-to-completely-disable-all-ai-features
    🦊 Firefox เตรียมเพิ่ม “AI Kill Switch” ปิดการทำงาน AI ได้ทั้งหมด Mozilla ประกาศว่า Firefox เวอร์ชันใหม่จะมาพร้อม AI Kill Switch ซึ่งเป็นตัวเลือกให้ผู้ใช้สามารถปิดการทำงานของฟีเจอร์ AI ได้อย่างสมบูรณ์ ถือเป็นการตอบสนองต่อความกังวลของผู้ใช้ที่ไม่ต้องการให้เบราว์เซอร์มีการประมวลผลหรือแนะนำด้วย AI โดยค่าเริ่มต้น ฟีเจอร์ AI ทั้งหมดจะเป็นแบบ opt-in คือผู้ใช้ต้องเลือกเปิดเอง ไม่ได้เปิดอัตโนมัติ 🔧 แนวทางการออกแบบและการควบคุม Mozilla ยืนยันว่าการเพิ่ม AI Kill Switch เป็นการสร้างความโปร่งใสและความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้ โดยทุกฟีเจอร์ AI ที่มีใน Firefox จะสามารถปิดได้จากการตั้งค่า ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเขียนข้อความ, การสรุปเนื้อหา, หรือการแนะนำการใช้งาน ผู้ใช้จึงมีอำนาจควบคุมเต็มที่ว่าจะใช้หรือไม่ใช้ AI ในเบราว์เซอร์ของตนเอง 🌐 ผลกระทบต่อผู้ใช้และตลาดเบราว์เซอร์ การตัดสินใจของ Mozilla อาจสร้างแรงกดดันให้เบราว์เซอร์รายอื่น เช่น Chrome หรือ Edge ต้องพิจารณาเพิ่มตัวเลือกที่คล้ายกัน เพราะผู้ใช้จำนวนมากเริ่มกังวลเรื่อง ความเป็นส่วนตัวและการควบคุมข้อมูล การมี Kill Switch จึงเป็นจุดขายที่สะท้อนถึงแนวทาง “ผู้ใช้มาก่อน” ของ Firefox และอาจช่วยดึงดูดผู้ใช้ที่ไม่ต้องการ AI เข้ามาในทุกมิติของการใช้งานเว็บ 📈 มุมมองเชิงกลยุทธ์ การเพิ่ม AI Kill Switch ไม่ได้หมายถึง Mozilla ปฏิเสธ AI แต่เป็นการสร้างสมดุลระหว่าง นวัตกรรมและการควบคุม ผู้ใช้ที่สนใจ AI ยังสามารถเปิดใช้งานได้ แต่ผู้ที่กังวลก็มีทางเลือกในการปิดทั้งหมดทันที กลยุทธ์นี้สะท้อนถึงการรักษาอัตลักษณ์ของ Firefox ในฐานะเบราว์เซอร์ที่เน้น ความเป็นอิสระและความโปร่งใส 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ Firefox เพิ่ม AI Kill Switch ➡️ ผู้ใช้สามารถปิดฟีเจอร์ AI ได้ทั้งหมดจากการตั้งค่า ✅ ฟีเจอร์ AI เป็นแบบ opt-in ➡️ ผู้ใช้ต้องเลือกเปิดเอง ไม่ได้เปิดอัตโนมัติ ✅ ผลกระทบเชิงตลาด ➡️ อาจกดดันเบราว์เซอร์อื่นให้เพิ่มตัวเลือกคล้ายกัน ✅ กลยุทธ์ Mozilla ➡️ สร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรมและการควบคุมผู้ใช้ ‼️ คำเตือนต่อผู้ใช้ทั่วไป ⛔ หากปิด AI อาจไม่ได้รับฟีเจอร์ช่วยเหลือ เช่น การสรุปเนื้อหา หรือการแนะนำอัจฉริยะ ‼️ ความเสี่ยงเชิงการแข่งขัน ⛔ หากผู้ใช้จำนวนมากเลือกปิด AI อาจทำให้การพัฒนา AI ใน Firefox ถูกจำกัดเมื่อเทียบกับคู่แข่ง https://9to5linux.com/firefox-will-ship-with-an-ai-kill-switch-to-completely-disable-all-ai-features
    9TO5LINUX.COM
    Firefox Will Ship with an "AI Kill Switch" to Completely Disable all AI Features - 9to5Linux
    Mozilla is working on an AI kill switch for the Firefox open-source web browser to let users completely disable all AI features.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 12 มุมมอง 0 รีวิว
  • OpenZFS 2.4: รองรับ Linux 6.18 LTS พร้อมฟีเจอร์ใหม่

    OpenZFS 2.4 ได้รับการปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2025 โดยเป็นการอัปเดตใหญ่ที่เพิ่มการรองรับ Linux Kernel 6.18 LTS และฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นในการจัดการระบบไฟล์ ZFS ซึ่งเป็นที่นิยมในงานเซิร์ฟเวอร์และระบบจัดเก็บข้อมูล

    ฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญ
    Uncached I/O: เพิ่มกลไก fallback สำหรับ direct I/O ที่ไม่จัด alignment โดยใช้ lightweight uncached I/O ช่วยให้การอ่าน–เขียนข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้นในบาง workload
    Quota Improvements: ปรับปรุงระบบ quota ให้แม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในระบบที่มีผู้ใช้หลายราย
    Fragmentation Algorithm ใหม่: ใช้อัลกอริทึมที่ออกแบบมาเพื่อลดการ fragmentation ของ vdev ทำให้การจัดเก็บข้อมูลมีความเสถียรมากขึ้น

    การแก้ไขและปรับปรุงเพิ่มเติม
    นอกจากฟีเจอร์ใหม่แล้ว OpenZFS 2.4 ยังแก้ไขบั๊กและปรับปรุงหลายจุด เช่น การทำงานร่วมกับระบบ RAIDZ, การจัดการ deduplication และการปรับปรุงประสิทธิภาพของ snapshot รวมถึงการรองรับการอัปเดตจากเวอร์ชันก่อนหน้าได้อย่างราบรื่น

    ความสำคัญต่อผู้ใช้และองค์กร
    การรองรับ Linux 6.18 LTS ทำให้ OpenZFS 2.4 เป็นตัวเลือกที่มั่นคงสำหรับองค์กรที่ต้องการระบบไฟล์ที่มีความเสถียรและปลอดภัยในระยะยาว ฟีเจอร์ใหม่อย่าง uncached I/O และ quota improvements ยังช่วยตอบโจทย์ workload ที่ซับซ้อน เช่น ระบบฐานข้อมูลและคลาวด์สตอเรจ

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    รองรับ Linux Kernel 6.18 LTS
    ทำให้ OpenZFS ใช้งานได้กับระบบล่าสุดที่มีการสนับสนุนระยะยาว

    เพิ่มฟีเจอร์ Uncached I/O
    ช่วยให้ direct I/O ที่ไม่ align ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ปรับปรุงระบบ Quota และ Fragmentation Algorithm
    ลดปัญหา fragmentation และเพิ่มความแม่นยำในการจัดการ quota

    แก้ไขบั๊กและปรับปรุง RAIDZ, deduplication, snapshot
    เพิ่มเสถียรภาพและประสิทธิภาพโดยรวมของระบบไฟล์

    คำเตือนต่อผู้ใช้ที่อัปเดตทันที
    ควรทดสอบบนระบบ staging ก่อนนำไปใช้จริงใน production

    ความเสี่ยงจากการ migration
    หากอัปเดตจากเวอร์ชันเก่าโดยไม่ตรวจสอบ compatibility อาจเกิดปัญหากับ workload เฉพาะทาง

    https://9to5linux.com/openzfs-2-4-released-with-linux-6-18-lts-support-quotas-uncached-io-and-more
    💾 OpenZFS 2.4: รองรับ Linux 6.18 LTS พร้อมฟีเจอร์ใหม่ OpenZFS 2.4 ได้รับการปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2025 โดยเป็นการอัปเดตใหญ่ที่เพิ่มการรองรับ Linux Kernel 6.18 LTS และฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นในการจัดการระบบไฟล์ ZFS ซึ่งเป็นที่นิยมในงานเซิร์ฟเวอร์และระบบจัดเก็บข้อมูล ⚙️ ฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญ 🎗️ Uncached I/O: เพิ่มกลไก fallback สำหรับ direct I/O ที่ไม่จัด alignment โดยใช้ lightweight uncached I/O ช่วยให้การอ่าน–เขียนข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้นในบาง workload 🎗️ Quota Improvements: ปรับปรุงระบบ quota ให้แม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในระบบที่มีผู้ใช้หลายราย 🎗️ Fragmentation Algorithm ใหม่: ใช้อัลกอริทึมที่ออกแบบมาเพื่อลดการ fragmentation ของ vdev ทำให้การจัดเก็บข้อมูลมีความเสถียรมากขึ้น 🛠️ การแก้ไขและปรับปรุงเพิ่มเติม นอกจากฟีเจอร์ใหม่แล้ว OpenZFS 2.4 ยังแก้ไขบั๊กและปรับปรุงหลายจุด เช่น การทำงานร่วมกับระบบ RAIDZ, การจัดการ deduplication และการปรับปรุงประสิทธิภาพของ snapshot รวมถึงการรองรับการอัปเดตจากเวอร์ชันก่อนหน้าได้อย่างราบรื่น 🌐 ความสำคัญต่อผู้ใช้และองค์กร การรองรับ Linux 6.18 LTS ทำให้ OpenZFS 2.4 เป็นตัวเลือกที่มั่นคงสำหรับองค์กรที่ต้องการระบบไฟล์ที่มีความเสถียรและปลอดภัยในระยะยาว ฟีเจอร์ใหม่อย่าง uncached I/O และ quota improvements ยังช่วยตอบโจทย์ workload ที่ซับซ้อน เช่น ระบบฐานข้อมูลและคลาวด์สตอเรจ 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ รองรับ Linux Kernel 6.18 LTS ➡️ ทำให้ OpenZFS ใช้งานได้กับระบบล่าสุดที่มีการสนับสนุนระยะยาว ✅ เพิ่มฟีเจอร์ Uncached I/O ➡️ ช่วยให้ direct I/O ที่ไม่ align ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ ปรับปรุงระบบ Quota และ Fragmentation Algorithm ➡️ ลดปัญหา fragmentation และเพิ่มความแม่นยำในการจัดการ quota ✅ แก้ไขบั๊กและปรับปรุง RAIDZ, deduplication, snapshot ➡️ เพิ่มเสถียรภาพและประสิทธิภาพโดยรวมของระบบไฟล์ ‼️ คำเตือนต่อผู้ใช้ที่อัปเดตทันที ⛔ ควรทดสอบบนระบบ staging ก่อนนำไปใช้จริงใน production ‼️ ความเสี่ยงจากการ migration ⛔ หากอัปเดตจากเวอร์ชันเก่าโดยไม่ตรวจสอบ compatibility อาจเกิดปัญหากับ workload เฉพาะทาง https://9to5linux.com/openzfs-2-4-released-with-linux-6-18-lts-support-quotas-uncached-io-and-more
    9TO5LINUX.COM
    OpenZFS 2.4 Released with Linux 6.18 LTS Support, Quotas, Uncached IO, and More - 9to5Linux
    OpenZFS 2.4 file system and volume manager is now available for download with support for Linux kernel 6.18 LTS and several new features.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • NVIDIA 590: ก้าวใหม่ของไดรเวอร์ Linux

    NVIDIA ประกาศออกไดรเวอร์ 590 สำหรับ Linux เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2025 โดยมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาที่ผู้ใช้ Wayland พบเจอมาอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในบั๊กสำคัญที่ถูกแก้ไขคือ PowerMizer preferred mode ที่ไม่สามารถเลือกได้ในแผงควบคุม nvidia-settings บน Wayland ซึ่งก่อนหน้านี้สร้างความไม่สะดวกให้ผู้ใช้ที่ต้องการปรับแต่งการใช้พลังงานและประสิทธิภาพของ GPU

    การปรับปรุงที่สำคัญ
    Wayland Improvements: เพิ่มความเสถียรและการทำงานร่วมกับ compositor บน Wayland ให้ดีขึ้น
    Bug Fixes: แก้ไขบั๊กที่เกี่ยวข้องกับการตั้งค่า PowerMizer และการทำงานของ control panel
    Compatibility Updates: ปรับปรุงการทำงานร่วมกับ Linux kernel รุ่นใหม่ ๆ เพื่อรองรับการใช้งานในระบบที่อัปเดตล่าสุด

    ความสำคัญต่อผู้ใช้ Linux
    การปรับปรุงนี้สะท้อนถึงความจริงที่ว่า NVIDIA กำลังให้ความสำคัญกับ Wayland มากขึ้น ซึ่งเป็นโปรโตคอลที่หลายดิสทริบิวชันกำลังผลักดันให้มาแทน X11 การแก้ไขบั๊กและเพิ่มความเสถียรในเวอร์ชัน 590 ถือเป็นสัญญาณบวกต่อผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงและความเข้ากันได้ในระบบ Linux สมัยใหม่

    มุมมองเชิงกลยุทธ์
    การอัปเดตนี้ไม่ใช่เพียงการแก้บั๊ก แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้ว่า NVIDIA กำลังเดินหน้า สนับสนุน Wayland อย่างจริงจัง ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันจากชุมชนโอเพ่นซอร์สที่เคยวิจารณ์ว่า NVIDIA ไม่ให้ความสำคัญกับ Linux ecosystem เท่าที่ควร

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    NVIDIA 590 Linux Driver ออกแล้ว
    เน้นการปรับปรุง Wayland และแก้ไขบั๊ก PowerMizer

    ปรับปรุงการทำงานร่วมกับ Kernel รุ่นใหม่
    เพิ่มความเข้ากันได้และเสถียรภาพของระบบ

    สัญญาณเชิงกลยุทธ์
    NVIDIA แสดงให้เห็นถึงการสนับสนุน Wayland อย่างจริงจัง

    คำเตือนต่อผู้ใช้ทั่วไป
    หากยังใช้ X11 อาจไม่ได้รับประโยชน์เต็มที่จากการปรับปรุงในเวอร์ชันนี้

    ความเสี่ยงจากการอัปเดตทันที
    ผู้ใช้บางดิสทริบิวชันอาจเจอ incompatibility ชั่วคราว ควรรอแพ็กเกจที่เสถียรจาก repo ของดิสทริบิวชัน

    https://9to5linux.com/nvidia-590-linux-graphics-driver-released-with-more-wayland-improvements
    🖥️ NVIDIA 590: ก้าวใหม่ของไดรเวอร์ Linux NVIDIA ประกาศออกไดรเวอร์ 590 สำหรับ Linux เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2025 โดยมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาที่ผู้ใช้ Wayland พบเจอมาอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในบั๊กสำคัญที่ถูกแก้ไขคือ PowerMizer preferred mode ที่ไม่สามารถเลือกได้ในแผงควบคุม nvidia-settings บน Wayland ซึ่งก่อนหน้านี้สร้างความไม่สะดวกให้ผู้ใช้ที่ต้องการปรับแต่งการใช้พลังงานและประสิทธิภาพของ GPU 🔧 การปรับปรุงที่สำคัญ 🎗️ Wayland Improvements: เพิ่มความเสถียรและการทำงานร่วมกับ compositor บน Wayland ให้ดีขึ้น 🎗️ Bug Fixes: แก้ไขบั๊กที่เกี่ยวข้องกับการตั้งค่า PowerMizer และการทำงานของ control panel 🎗️ Compatibility Updates: ปรับปรุงการทำงานร่วมกับ Linux kernel รุ่นใหม่ ๆ เพื่อรองรับการใช้งานในระบบที่อัปเดตล่าสุด 🌐 ความสำคัญต่อผู้ใช้ Linux การปรับปรุงนี้สะท้อนถึงความจริงที่ว่า NVIDIA กำลังให้ความสำคัญกับ Wayland มากขึ้น ซึ่งเป็นโปรโตคอลที่หลายดิสทริบิวชันกำลังผลักดันให้มาแทน X11 การแก้ไขบั๊กและเพิ่มความเสถียรในเวอร์ชัน 590 ถือเป็นสัญญาณบวกต่อผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงและความเข้ากันได้ในระบบ Linux สมัยใหม่ 📈 มุมมองเชิงกลยุทธ์ การอัปเดตนี้ไม่ใช่เพียงการแก้บั๊ก แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้ว่า NVIDIA กำลังเดินหน้า สนับสนุน Wayland อย่างจริงจัง ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันจากชุมชนโอเพ่นซอร์สที่เคยวิจารณ์ว่า NVIDIA ไม่ให้ความสำคัญกับ Linux ecosystem เท่าที่ควร 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ NVIDIA 590 Linux Driver ออกแล้ว ➡️ เน้นการปรับปรุง Wayland และแก้ไขบั๊ก PowerMizer ✅ ปรับปรุงการทำงานร่วมกับ Kernel รุ่นใหม่ ➡️ เพิ่มความเข้ากันได้และเสถียรภาพของระบบ ✅ สัญญาณเชิงกลยุทธ์ ➡️ NVIDIA แสดงให้เห็นถึงการสนับสนุน Wayland อย่างจริงจัง ‼️ คำเตือนต่อผู้ใช้ทั่วไป ⛔ หากยังใช้ X11 อาจไม่ได้รับประโยชน์เต็มที่จากการปรับปรุงในเวอร์ชันนี้ ‼️ ความเสี่ยงจากการอัปเดตทันที ⛔ ผู้ใช้บางดิสทริบิวชันอาจเจอ incompatibility ชั่วคราว ควรรอแพ็กเกจที่เสถียรจาก repo ของดิสทริบิวชัน https://9to5linux.com/nvidia-590-linux-graphics-driver-released-with-more-wayland-improvements
    9TO5LINUX.COM
    NVIDIA 590 Linux Graphics Driver Released with More Wayland Improvements - 9to5Linux
    NVIDIA 590.48.01 graphics driver is now available for download for Linux, FreeBSD, and Solaris systems with various bug fixes.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • Fwupd 2.0.19: อัปเดตใหม่เพื่อความปลอดภัยและการรองรับฮาร์ดแวร์

    Fwupd 2.0.19 ซึ่งพัฒนาโดย Richard Hughes ถูกปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2025 ถือเป็น การอัปเดตครั้งที่ 19 ของซีรีส์ 2.0 จุดเด่นคือการเพิ่มการรองรับการอัปเดตเฟิร์มแวร์สำหรับ Lenovo Sapphire Folio Keyboard ซึ่งเป็นอุปกรณ์ใหม่ที่ต้องการการดูแลด้านเฟิร์มแวร์โดยตรงจากระบบ Linux

    ฟีเจอร์ใหม่และการปรับปรุงคำสั่ง
    เวอร์ชันนี้เพิ่มคำสั่งใหม่ใน fwupdtool สำหรับการ คำนวณและค้นหา CRCs รวมถึงการปรับปรุงคำสั่ง fwupdmgr get-history ให้แสดงเวอร์ชันเฟิร์มแวร์ใหม่ได้ถูกต้องเสมอ อีกทั้งยังมีการปรับปรุงการอัปเดต Intel GPU FWDATA section และการเคารพคำสั่ง --force เมื่อผู้ใช้ติดตั้งเฟิร์มแวร์

    การแก้ไขบั๊กและความปลอดภัย
    Fwupd 2.0.19 ยังแก้ไขบั๊กหลายรายการ เช่น integer underflow ที่เกิดขึ้นเมื่อ parsing ไฟล์ PE ที่เป็นอันตราย, regression ในการตรวจสอบสถานะของ Dell dock และการ timeout ของ fuzzer เมื่อ parsing Synaptics-RMI SBL container การแก้ไขเหล่านี้ช่วยเพิ่มความมั่นคงและลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของระบบ

    ความสำคัญต่อผู้ใช้ Linux
    แม้จะเป็นการอัปเดตเล็ก แต่ Fwupd 2.0.19 แสดงให้เห็นถึงความต่อเนื่องในการพัฒนาเครื่องมืออัปเดตเฟิร์มแวร์ที่เป็นหัวใจสำคัญของระบบ Linux สมัยใหม่ โดยเฉพาะในยุคที่อุปกรณ์ใหม่ ๆ เช่นคีย์บอร์ดหรือ GPU ต้องการการอัปเดตเฟิร์มแวร์อย่างสม่ำเสมอเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพ

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    รองรับ Lenovo Sapphire Folio Keyboard
    เพิ่มการอัปเดตเฟิร์มแวร์สำหรับอุปกรณ์ใหม่โดยตรงใน Linux

    เพิ่มคำสั่งใหม่ใน fwupdtool
    ใช้สำหรับคำนวณและค้นหา CRCs

    ปรับปรุงคำสั่ง fwupdmgr
    แสดงเวอร์ชันเฟิร์มแวร์ใหม่ได้ถูกต้อง และเคารพ --force

    แก้ไขบั๊กด้านความปลอดภัย
    Integer underflow, regression Dell dock, และ fuzzer timeout

    คำเตือนต่อผู้ใช้ทั่วไป
    ควรติดตั้ง fwupd จาก repository ที่เสถียรของดิสทริบิวชัน ไม่ควรใช้ source tarball หากไม่มั่นใจ

    ความเสี่ยงจากไฟล์ PE ที่เป็นอันตราย
    หากไม่อัปเดต อาจเสี่ยงต่อการโจมตีที่ใช้ช่องโหว่ในการ parsing

    https://9to5linux.com/fwupd-2-0-19-linux-firmware-updater-supports-lenovo-sapphire-folio-keyboard
    🔧 Fwupd 2.0.19: อัปเดตใหม่เพื่อความปลอดภัยและการรองรับฮาร์ดแวร์ Fwupd 2.0.19 ซึ่งพัฒนาโดย Richard Hughes ถูกปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2025 ถือเป็น การอัปเดตครั้งที่ 19 ของซีรีส์ 2.0 จุดเด่นคือการเพิ่มการรองรับการอัปเดตเฟิร์มแวร์สำหรับ Lenovo Sapphire Folio Keyboard ซึ่งเป็นอุปกรณ์ใหม่ที่ต้องการการดูแลด้านเฟิร์มแวร์โดยตรงจากระบบ Linux 🖥️ ฟีเจอร์ใหม่และการปรับปรุงคำสั่ง เวอร์ชันนี้เพิ่มคำสั่งใหม่ใน fwupdtool สำหรับการ คำนวณและค้นหา CRCs รวมถึงการปรับปรุงคำสั่ง fwupdmgr get-history ให้แสดงเวอร์ชันเฟิร์มแวร์ใหม่ได้ถูกต้องเสมอ อีกทั้งยังมีการปรับปรุงการอัปเดต Intel GPU FWDATA section และการเคารพคำสั่ง --force เมื่อผู้ใช้ติดตั้งเฟิร์มแวร์ 🛡️ การแก้ไขบั๊กและความปลอดภัย Fwupd 2.0.19 ยังแก้ไขบั๊กหลายรายการ เช่น integer underflow ที่เกิดขึ้นเมื่อ parsing ไฟล์ PE ที่เป็นอันตราย, regression ในการตรวจสอบสถานะของ Dell dock และการ timeout ของ fuzzer เมื่อ parsing Synaptics-RMI SBL container การแก้ไขเหล่านี้ช่วยเพิ่มความมั่นคงและลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของระบบ 🌐 ความสำคัญต่อผู้ใช้ Linux แม้จะเป็นการอัปเดตเล็ก แต่ Fwupd 2.0.19 แสดงให้เห็นถึงความต่อเนื่องในการพัฒนาเครื่องมืออัปเดตเฟิร์มแวร์ที่เป็นหัวใจสำคัญของระบบ Linux สมัยใหม่ โดยเฉพาะในยุคที่อุปกรณ์ใหม่ ๆ เช่นคีย์บอร์ดหรือ GPU ต้องการการอัปเดตเฟิร์มแวร์อย่างสม่ำเสมอเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพ 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ รองรับ Lenovo Sapphire Folio Keyboard ➡️ เพิ่มการอัปเดตเฟิร์มแวร์สำหรับอุปกรณ์ใหม่โดยตรงใน Linux ✅ เพิ่มคำสั่งใหม่ใน fwupdtool ➡️ ใช้สำหรับคำนวณและค้นหา CRCs ✅ ปรับปรุงคำสั่ง fwupdmgr ➡️ แสดงเวอร์ชันเฟิร์มแวร์ใหม่ได้ถูกต้อง และเคารพ --force ✅ แก้ไขบั๊กด้านความปลอดภัย ➡️ Integer underflow, regression Dell dock, และ fuzzer timeout ‼️ คำเตือนต่อผู้ใช้ทั่วไป ⛔ ควรติดตั้ง fwupd จาก repository ที่เสถียรของดิสทริบิวชัน ไม่ควรใช้ source tarball หากไม่มั่นใจ ‼️ ความเสี่ยงจากไฟล์ PE ที่เป็นอันตราย ⛔ หากไม่อัปเดต อาจเสี่ยงต่อการโจมตีที่ใช้ช่องโหว่ในการ parsing https://9to5linux.com/fwupd-2-0-19-linux-firmware-updater-supports-lenovo-sapphire-folio-keyboard
    9TO5LINUX.COM
    Fwupd 2.0.19 Linux Firmware Updater Supports Lenovo Sapphire Folio Keyboard - 9to5Linux
    Fwupd 2.0.19 Linux firmware updater is now available for download with support for the Lenovo Sapphire Folio keyboard.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • PeerTube v8: ก้าวใหม่ของวิดีโอแบบกระจายศูนย์

    PeerTube ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอแบบ decentralized และ open source ได้ออกเวอร์ชันใหม่ PeerTube v8 พร้อมฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้สร้างคอนเทนต์และองค์กรใช้งานได้สะดวกขึ้น โดยเฉพาะการเพิ่ม team collaboration และการปรับปรุงดีไซน์ของ video player ให้ทันสมัยมากขึ้น

    Team Collaboration และการจัดการช่อง
    หนึ่งในฟีเจอร์ที่ถูกเรียกร้องมากที่สุดคือการให้สิทธิ์ Editors ในช่อง PeerTube ผู้ดูแลสามารถเพิ่มคนเข้ามาช่วยจัดการเนื้อหาได้ เช่น การอัปโหลดวิดีโอ, แก้ไข, จัดการ playlist และคอมเมนต์ โดยไม่ต้องให้สิทธิ์เต็มเหมือนเจ้าของช่อง ฟีเจอร์นี้เหมาะกับองค์กรหรือทีมที่มีหลายคนดูแลคอนเทนต์ร่วมกัน

    Video Player ดีไซน์ใหม่และระบบนำเข้าที่ดีขึ้น
    PeerTube v8 มาพร้อมธีมใหม่ชื่อ Lucide ที่ลดความเทอะทะของปุ่มเดิม ๆ และทำให้ผู้ชมโฟกัสกับเนื้อหามากขึ้น นอกจากนี้ระบบนำเข้าวิดีโอ (video import) ก็ถูกปรับปรุงให้เสถียรขึ้น หากการนำเข้าล้มเหลว ผู้ใช้สามารถ retry ได้เองโดยไม่ต้องเริ่มใหม่ทั้งหมด อีกทั้งยังรองรับการ retry อัตโนมัติระหว่างการ sync ช่อง

    Mobile App กับ Creator Mode
    หลังจากการระดมทุนในเดือนพฤษภาคม 2025 ทีมงานได้เพิ่ม Creator Mode ในแอปมือถือ ผู้ใช้สามารถอัปโหลดวิดีโอจากมือถือได้โดยตรง ทั้งจาก gallery หรือการถ่ายใหม่ พร้อมระบบแจ้งเตือนความคืบหน้าแบบ background upload และยังมีหน้า Creator ใหม่ที่ช่วยจัดการ ดาวน์โหลด หรือจัดการ playlist ได้สะดวกขึ้น แม้ฟีเจอร์ live streaming และ URL imports ยังไม่มา แต่ทีมงานยืนยันว่ากำลังพัฒนาอยู่

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    PeerTube v8 เปิดตัวพร้อมฟีเจอร์ใหม่
    เน้นการทำงานร่วมกันและปรับปรุง video player

    Team Collaboration สำหรับช่อง
    เพิ่มสิทธิ์ Editors เพื่อช่วยจัดการคอนเทนต์โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของ

    Video Player ดีไซน์ใหม่ Lucide
    ปุ่มเรียบง่ายขึ้นและระบบนำเข้าวิดีโอเสถียรขึ้น

    Mobile App ได้ Creator Mode
    อัปโหลดจากมือถือ, background upload, และจัดการ playlist ได้ง่าย

    คำเตือนเรื่องฟีเจอร์ที่ยังไม่พร้อมใช้
    Live streaming และ URL imports ยังไม่เปิดให้ใช้งานในเวอร์ชันนี้

    https://itsfoss.com/news/peertube-8-release/
    📺 PeerTube v8: ก้าวใหม่ของวิดีโอแบบกระจายศูนย์ PeerTube ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอแบบ decentralized และ open source ได้ออกเวอร์ชันใหม่ PeerTube v8 พร้อมฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้สร้างคอนเทนต์และองค์กรใช้งานได้สะดวกขึ้น โดยเฉพาะการเพิ่ม team collaboration และการปรับปรุงดีไซน์ของ video player ให้ทันสมัยมากขึ้น 👥 Team Collaboration และการจัดการช่อง หนึ่งในฟีเจอร์ที่ถูกเรียกร้องมากที่สุดคือการให้สิทธิ์ Editors ในช่อง PeerTube ผู้ดูแลสามารถเพิ่มคนเข้ามาช่วยจัดการเนื้อหาได้ เช่น การอัปโหลดวิดีโอ, แก้ไข, จัดการ playlist และคอมเมนต์ โดยไม่ต้องให้สิทธิ์เต็มเหมือนเจ้าของช่อง ฟีเจอร์นี้เหมาะกับองค์กรหรือทีมที่มีหลายคนดูแลคอนเทนต์ร่วมกัน 🎨 Video Player ดีไซน์ใหม่และระบบนำเข้าที่ดีขึ้น PeerTube v8 มาพร้อมธีมใหม่ชื่อ Lucide ที่ลดความเทอะทะของปุ่มเดิม ๆ และทำให้ผู้ชมโฟกัสกับเนื้อหามากขึ้น นอกจากนี้ระบบนำเข้าวิดีโอ (video import) ก็ถูกปรับปรุงให้เสถียรขึ้น หากการนำเข้าล้มเหลว ผู้ใช้สามารถ retry ได้เองโดยไม่ต้องเริ่มใหม่ทั้งหมด อีกทั้งยังรองรับการ retry อัตโนมัติระหว่างการ sync ช่อง 📱 Mobile App กับ Creator Mode หลังจากการระดมทุนในเดือนพฤษภาคม 2025 ทีมงานได้เพิ่ม Creator Mode ในแอปมือถือ ผู้ใช้สามารถอัปโหลดวิดีโอจากมือถือได้โดยตรง ทั้งจาก gallery หรือการถ่ายใหม่ พร้อมระบบแจ้งเตือนความคืบหน้าแบบ background upload และยังมีหน้า Creator ใหม่ที่ช่วยจัดการ ดาวน์โหลด หรือจัดการ playlist ได้สะดวกขึ้น แม้ฟีเจอร์ live streaming และ URL imports ยังไม่มา แต่ทีมงานยืนยันว่ากำลังพัฒนาอยู่ 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ PeerTube v8 เปิดตัวพร้อมฟีเจอร์ใหม่ ➡️ เน้นการทำงานร่วมกันและปรับปรุง video player ✅ Team Collaboration สำหรับช่อง ➡️ เพิ่มสิทธิ์ Editors เพื่อช่วยจัดการคอนเทนต์โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของ ✅ Video Player ดีไซน์ใหม่ Lucide ➡️ ปุ่มเรียบง่ายขึ้นและระบบนำเข้าวิดีโอเสถียรขึ้น ✅ Mobile App ได้ Creator Mode ➡️ อัปโหลดจากมือถือ, background upload, และจัดการ playlist ได้ง่าย ‼️ คำเตือนเรื่องฟีเจอร์ที่ยังไม่พร้อมใช้ ⛔ Live streaming และ URL imports ยังไม่เปิดให้ใช้งานในเวอร์ชันนี้ https://itsfoss.com/news/peertube-8-release/
    ITSFOSS.COM
    Decentralized YouTube Alternative PeerTube Adds Creator Mode
    The open source YouTube alternative offers some welcome updates for content creators.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • Docker เปิดซอร์ส Hardened Images: ความปลอดภัยที่ทุกคนเข้าถึงได้

    Docker ประกาศครั้งสำคัญด้วยการ เปิดซอร์ส Docker Hardened Images (DHI) ที่ก่อนหน้านี้สงวนไว้สำหรับลูกค้าองค์กรเท่านั้น โดยปล่อยภายใต้ Apache License 2.0 ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้งานได้ฟรี จุดเด่นคือการลดช่องโจมตี (attack surface) ลงถึง 95% เมื่อเทียบกับ images มาตรฐาน พร้อมมี SBOM (Software Bill of Materials), SLSA Build Level 3 provenance, และรายงานช่องโหว่ที่โปร่งใส

    DHI: ความปลอดภัยในระดับระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชัน
    Docker Hardened Images ถูกสร้างบน Alpine และ Debian โดยปรับแต่งให้มีความปลอดภัยสูงสุด นอกจากนี้ Docker ยังเปิดตัว Hardened MCP Servers สำหรับงาน AI และระบบที่นิยมใช้ เช่น MongoDB, Grafana และ GitHub สิ่งเหล่านี้ช่วยให้องค์กรสามารถนำไปใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการ harden ระบบเอง

    Tiered Model: จากฟรีสู่ Enterprise และ Extended Lifecycle
    Docker แบ่ง DHI ออกเป็น 3 ระดับ:
    Free Open Source: ให้ทุกคนเข้าถึง hardened images พร้อม SBOM และ provenance
    Enterprise: เพิ่ม SLA 7 วันสำหรับการแก้ไข CVE, FIPS-enabled images และ STIG-ready configurations
    Extended Lifecycle Support (ELS): บริการเสริมที่ขยายการอัปเดตความปลอดภัยได้นานถึง 5 ปีหลังจาก upstream หมดอายุการสนับสนุน

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและผู้พัฒนา
    การเปิดซอร์สครั้งนี้ถือเป็น “watershed moment” ตามคำกล่าวของ Christian Dupuis, Senior Principal Engineer ของ Docker เพราะเป็นการเปลี่ยนวิธีคิดจากการสร้างแอปพลิเคชันที่ “ปลอดภัยโดยค่าเริ่มต้น” (secure by default) ให้ทุกคนเข้าถึงได้ ไม่ใช่เฉพาะองค์กรใหญ่เท่านั้น สิ่งนี้จะช่วยยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในวงการซอฟต์แวร์โดยรวม

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    Docker เปิดซอร์ส Hardened Images (DHI)
    ลดช่องโจมตีลงถึง 95% และมี SBOM + provenance

    รองรับระบบยอดนิยม
    Hardened MCP Servers สำหรับ MongoDB, Grafana, GitHub และอื่น ๆ

    Tiered Model ของ DHI
    Free, Enterprise (SLA + compliance), และ Extended Lifecycle Support

    ผลกระทบเชิงกลยุทธ์
    ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยให้ทุกคนเข้าถึงได้ ไม่จำกัดองค์กรใหญ่

    คำเตือนต่อผู้ใช้งานทั่วไป
    แม้จะเป็น hardened images แต่ผู้ใช้ยังต้องอัปเดตและตรวจสอบการตั้งค่าเอง

    ความเสี่ยงของระบบ legacy
    หากไม่ใช้ Extended Lifecycle Support อาจเสี่ยงต่อช่องโหว่หลัง upstream หมดอายุ

    https://itsfoss.com/news/docker-hardened-images-open-sourced/
    🐳 Docker เปิดซอร์ส Hardened Images: ความปลอดภัยที่ทุกคนเข้าถึงได้ Docker ประกาศครั้งสำคัญด้วยการ เปิดซอร์ส Docker Hardened Images (DHI) ที่ก่อนหน้านี้สงวนไว้สำหรับลูกค้าองค์กรเท่านั้น โดยปล่อยภายใต้ Apache License 2.0 ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้งานได้ฟรี จุดเด่นคือการลดช่องโจมตี (attack surface) ลงถึง 95% เมื่อเทียบกับ images มาตรฐาน พร้อมมี SBOM (Software Bill of Materials), SLSA Build Level 3 provenance, และรายงานช่องโหว่ที่โปร่งใส 🔐 DHI: ความปลอดภัยในระดับระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชัน Docker Hardened Images ถูกสร้างบน Alpine และ Debian โดยปรับแต่งให้มีความปลอดภัยสูงสุด นอกจากนี้ Docker ยังเปิดตัว Hardened MCP Servers สำหรับงาน AI และระบบที่นิยมใช้ เช่น MongoDB, Grafana และ GitHub สิ่งเหล่านี้ช่วยให้องค์กรสามารถนำไปใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการ harden ระบบเอง 🏢 Tiered Model: จากฟรีสู่ Enterprise และ Extended Lifecycle Docker แบ่ง DHI ออกเป็น 3 ระดับ: 💠 Free Open Source: ให้ทุกคนเข้าถึง hardened images พร้อม SBOM และ provenance 💠 Enterprise: เพิ่ม SLA 7 วันสำหรับการแก้ไข CVE, FIPS-enabled images และ STIG-ready configurations 💠 Extended Lifecycle Support (ELS): บริการเสริมที่ขยายการอัปเดตความปลอดภัยได้นานถึง 5 ปีหลังจาก upstream หมดอายุการสนับสนุน 🌍 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและผู้พัฒนา การเปิดซอร์สครั้งนี้ถือเป็น “watershed moment” ตามคำกล่าวของ Christian Dupuis, Senior Principal Engineer ของ Docker เพราะเป็นการเปลี่ยนวิธีคิดจากการสร้างแอปพลิเคชันที่ “ปลอดภัยโดยค่าเริ่มต้น” (secure by default) ให้ทุกคนเข้าถึงได้ ไม่ใช่เฉพาะองค์กรใหญ่เท่านั้น สิ่งนี้จะช่วยยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในวงการซอฟต์แวร์โดยรวม 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ Docker เปิดซอร์ส Hardened Images (DHI) ➡️ ลดช่องโจมตีลงถึง 95% และมี SBOM + provenance ✅ รองรับระบบยอดนิยม ➡️ Hardened MCP Servers สำหรับ MongoDB, Grafana, GitHub และอื่น ๆ ✅ Tiered Model ของ DHI ➡️ Free, Enterprise (SLA + compliance), และ Extended Lifecycle Support ✅ ผลกระทบเชิงกลยุทธ์ ➡️ ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยให้ทุกคนเข้าถึงได้ ไม่จำกัดองค์กรใหญ่ ‼️ คำเตือนต่อผู้ใช้งานทั่วไป ⛔ แม้จะเป็น hardened images แต่ผู้ใช้ยังต้องอัปเดตและตรวจสอบการตั้งค่าเอง ‼️ ความเสี่ยงของระบบ legacy ⛔ หากไม่ใช้ Extended Lifecycle Support อาจเสี่ยงต่อช่องโหว่หลัง upstream หมดอายุ https://itsfoss.com/news/docker-hardened-images-open-sourced/
    ITSFOSS.COM
    Docker Makes Enterprise-Grade Hardened Images Free for All Developers
    Previously enterprise-only hardened images go open source under Apache License 2.0.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • Red Hat เสริมแกร่งด้าน AI Safety ด้วยการซื้อกิจการ Chatterbox Labs

    Red Hat ประกาศเข้าซื้อ Chatterbox Labs บริษัทด้าน AI Safety จากลอนดอน เพื่อเสริมความมั่นใจให้ลูกค้าในการนำ AI ไปใช้ในระดับองค์กร โดยมีแผนจะ เปิดซอร์สเทคโนโลยีของ Chatterbox Labs ตามแนวทางที่ Red Hat ใช้กับการเข้าซื้อกิจการอื่น ๆ

    เทคโนโลยี AIMI: เครื่องมือทดสอบความปลอดภัยของ AI
    Chatterbox Labs พัฒนาแพลตฟอร์ม AIMI ที่สามารถตรวจสอบและประเมินความเสี่ยงของระบบ AI ได้แบบ model-agnostic โดยมี 3 ส่วนสำคัญ:
    AIMI for Gen AI: ให้ตัวชี้วัดเชิงปริมาณเกี่ยวกับความเสี่ยงของ LLMs
    AIMI for Predictive AI: ตรวจสอบความแข็งแกร่ง ความเป็นธรรม และความสามารถในการอธิบายของโมเดล AI แบบดั้งเดิม
    Guardrails: ระบบที่ช่วยดักจับ prompt ที่ไม่ปลอดภัย มีพิษ หรือมีอคติ ก่อนนำไปใช้จริง

    ผลกระทบต่อผู้ใช้และตลาด
    สำหรับลูกค้า Red Hat การซื้อกิจการครั้งนี้หมายถึงการได้ เครื่องมือด้านความปลอดภัยที่ฝังอยู่ในแพลตฟอร์มตั้งแต่ต้น ไม่ใช่การเพิ่มเข้ามาภายหลัง ช่วยให้การนำ AI ไปใช้ในระดับ production มีความมั่นใจมากขึ้น และยังสร้างภาพลักษณ์ว่า Red Hat เป็นผู้นำด้าน “Security for AI” ในตลาดองค์กร

    มุมมองจากผู้บริหาร Red Hat
    Steven Huels รองประธานฝ่าย AI Engineering ของ Red Hat กล่าวว่าการนำ AI จากห้องทดลองไปสู่การใช้งานจริงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ความต้องการด้าน ความโปร่งใสและความปลอดภัย มีความสำคัญมากขึ้น การรวมเทคโนโลยีของ Chatterbox Labs เข้ามาจะช่วยให้ Red Hat สามารถมอบแพลตฟอร์มที่เปิดกว้างและปลอดภัยแก่ลูกค้าได้อย่างแท้จริง

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    Red Hat เข้าซื้อ Chatterbox Labs
    เสริมความสามารถด้าน AI Safety และมีแผนเปิดซอร์สเทคโนโลยี

    แพลตฟอร์ม AIMI ของ Chatterbox Labs
    ตรวจสอบความเสี่ยงของ Gen AI, Predictive AI และมี Guardrails สำหรับ prompt

    ผลดีต่อผู้ใช้ Red Hat
    ได้เครื่องมือความปลอดภัยที่ฝังในแพลตฟอร์มตั้งแต่ต้น

    ภาพลักษณ์เชิงกลยุทธ์
    Red Hat วางตัวเป็นผู้นำด้าน “Security for AI” ในตลาดองค์กร

    คำเตือนต่อการนำ AI ไปใช้จริง
    หากไม่มีระบบตรวจสอบและ guardrails อาจเสี่ยงต่อ prompt injection, jailbreaking และ data leakage

    https://itsfoss.com/news/red-hat-acquires-chatterbox-labs/
    🛡️ Red Hat เสริมแกร่งด้าน AI Safety ด้วยการซื้อกิจการ Chatterbox Labs Red Hat ประกาศเข้าซื้อ Chatterbox Labs บริษัทด้าน AI Safety จากลอนดอน เพื่อเสริมความมั่นใจให้ลูกค้าในการนำ AI ไปใช้ในระดับองค์กร โดยมีแผนจะ เปิดซอร์สเทคโนโลยีของ Chatterbox Labs ตามแนวทางที่ Red Hat ใช้กับการเข้าซื้อกิจการอื่น ๆ 🤖 เทคโนโลยี AIMI: เครื่องมือทดสอบความปลอดภัยของ AI Chatterbox Labs พัฒนาแพลตฟอร์ม AIMI ที่สามารถตรวจสอบและประเมินความเสี่ยงของระบบ AI ได้แบบ model-agnostic โดยมี 3 ส่วนสำคัญ: 💠 AIMI for Gen AI: ให้ตัวชี้วัดเชิงปริมาณเกี่ยวกับความเสี่ยงของ LLMs 💠 AIMI for Predictive AI: ตรวจสอบความแข็งแกร่ง ความเป็นธรรม และความสามารถในการอธิบายของโมเดล AI แบบดั้งเดิม 💠 Guardrails: ระบบที่ช่วยดักจับ prompt ที่ไม่ปลอดภัย มีพิษ หรือมีอคติ ก่อนนำไปใช้จริง 🌐 ผลกระทบต่อผู้ใช้และตลาด สำหรับลูกค้า Red Hat การซื้อกิจการครั้งนี้หมายถึงการได้ เครื่องมือด้านความปลอดภัยที่ฝังอยู่ในแพลตฟอร์มตั้งแต่ต้น ไม่ใช่การเพิ่มเข้ามาภายหลัง ช่วยให้การนำ AI ไปใช้ในระดับ production มีความมั่นใจมากขึ้น และยังสร้างภาพลักษณ์ว่า Red Hat เป็นผู้นำด้าน “Security for AI” ในตลาดองค์กร 📣 มุมมองจากผู้บริหาร Red Hat Steven Huels รองประธานฝ่าย AI Engineering ของ Red Hat กล่าวว่าการนำ AI จากห้องทดลองไปสู่การใช้งานจริงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ความต้องการด้าน ความโปร่งใสและความปลอดภัย มีความสำคัญมากขึ้น การรวมเทคโนโลยีของ Chatterbox Labs เข้ามาจะช่วยให้ Red Hat สามารถมอบแพลตฟอร์มที่เปิดกว้างและปลอดภัยแก่ลูกค้าได้อย่างแท้จริง 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ Red Hat เข้าซื้อ Chatterbox Labs ➡️ เสริมความสามารถด้าน AI Safety และมีแผนเปิดซอร์สเทคโนโลยี ✅ แพลตฟอร์ม AIMI ของ Chatterbox Labs ➡️ ตรวจสอบความเสี่ยงของ Gen AI, Predictive AI และมี Guardrails สำหรับ prompt ✅ ผลดีต่อผู้ใช้ Red Hat ➡️ ได้เครื่องมือความปลอดภัยที่ฝังในแพลตฟอร์มตั้งแต่ต้น ✅ ภาพลักษณ์เชิงกลยุทธ์ ➡️ Red Hat วางตัวเป็นผู้นำด้าน “Security for AI” ในตลาดองค์กร ‼️ คำเตือนต่อการนำ AI ไปใช้จริง ⛔ หากไม่มีระบบตรวจสอบและ guardrails อาจเสี่ยงต่อ prompt injection, jailbreaking และ data leakage https://itsfoss.com/news/red-hat-acquires-chatterbox-labs/
    ITSFOSS.COM
    Red Hat Buys an AI Safety Company, Promises to Open Source Its Tech
    The new addition brings custom AI security and safety tooling to Red Hat.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • PhotoPrism: ทางเลือกใหม่แทน Google Photos

    PhotoPrism เป็นแอปจัดการรูปภาพที่ทำงานบนเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวในบ้าน (homelab) โดยใช้ Docker Compose จุดเด่นคือ การประมวลผลทั้งหมดเกิดขึ้นภายในเครื่องของผู้ใช้ ทำให้รูปถ่ายไม่ถูกนำไปใช้เป็นข้อมูลฝึกโมเดลธุรกิจของบริษัทอื่น ภาพถ่ายจึงยังคงเป็น “ความทรงจำของคุณ” ภายใต้การควบคุมของคุณเอง

    ขั้นตอนการติดตั้งและการตั้งค่า
    การติดตั้ง PhotoPrism ต้องมีพื้นฐานการใช้ Linux command line และ Docker โดยเริ่มจากการสร้างโฟลเดอร์โปรเจกต์ ดาวน์โหลดไฟล์ docker-compose.yml และแก้ไขค่าที่สำคัญ เช่น รหัสผ่าน admin, ตำแหน่งโฟลเดอร์ภาพต้นฉบับ, และ พอร์ตการเชื่อมต่อ หลังจากนั้นใช้คำสั่ง docker compose up -d เพื่อรันระบบใน background

    เมื่อระบบเริ่มทำงาน ผู้ใช้สามารถเข้าผ่านเว็บอินเทอร์เฟซที่ http://localhost:2342 และสั่งให้ PhotoPrism ทำการ index รูปภาพทั้งหมด เพื่อสร้าง metadata, thumbnails และวิเคราะห์ด้วย AI เช่น การจดจำใบหน้าและวัตถุ กระบวนการนี้อาจใช้เวลาหลายชั่วโมงหากมีคลังภาพขนาดใหญ่ แต่จะเกิดขึ้นเพียงครั้งแรกเท่านั้น

    ความเป็นส่วนตัวและการดูแลระบบ
    PhotoPrism มีตัวเลือกการตั้งค่าหลากหลาย เช่น ปิดการจดจำใบหน้าเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว หรือปรับคุณภาพ thumbnail เพื่อประหยัดพื้นที่ นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่า reverse proxy เช่น Nginx หรือ Caddy เพื่อให้เข้าถึงจากภายนอก LAN ได้อย่างปลอดภัย ผู้ใช้ต้องรับผิดชอบเรื่อง การสำรองข้อมูลและการอัปเดตระบบเอง ซึ่งถือเป็นข้อแลกเปลี่ยนกับการได้สิทธิ์ควบคุมข้อมูลอย่างเต็มที่

    การใช้งานบนมือถือและการขยายระบบ
    PhotoPrism รองรับการเข้าถึงผ่าน Progressive Web App (PWA) ที่สามารถติดตั้งเป็น shortcut บนมือถือ รวมถึงแอปเสริมอย่าง Gallery for PhotoPrism (Android) และ PhotoSync (Android/iOS) เพื่อซิงค์ภาพได้สะดวก ผู้ใช้สามารถเริ่มต้นจากคลังภาพเล็ก ๆ แล้วค่อย ๆ ขยายระบบ homelab ให้รองรับคลังภาพขนาดใหญ่ขึ้นตามความต้องการ

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    PhotoPrism เป็นทางเลือกแทน Google Photos
    ทำงานแบบ self-hosted และเน้นความเป็นส่วนตัว

    ติดตั้งผ่าน Docker Compose
    ต้องแก้ไขค่าใน docker-compose.yml เช่นรหัสผ่านและโฟลเดอร์ภาพ

    ระบบ AI ช่วยจัดการภาพ
    มีการจดจำใบหน้าและวัตถุ แต่สามารถปิดได้เพื่อความเป็นส่วนตัว

    รองรับการใช้งานบนมือถือ
    ผ่าน PWA และแอปเสริมเช่น PhotoSync

    คำเตือนเรื่องการดูแลระบบเอง
    ผู้ใช้ต้องรับผิดชอบการสำรองข้อมูลและอัปเดตระบบ

    ข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์
    หากเครื่องมี RAM หรือ CPU ต่ำ อาจทำให้การ index ใช้เวลานานมาก

    https://itsfoss.com/self-hosting-photoprism/
    🖼️ PhotoPrism: ทางเลือกใหม่แทน Google Photos PhotoPrism เป็นแอปจัดการรูปภาพที่ทำงานบนเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวในบ้าน (homelab) โดยใช้ Docker Compose จุดเด่นคือ การประมวลผลทั้งหมดเกิดขึ้นภายในเครื่องของผู้ใช้ ทำให้รูปถ่ายไม่ถูกนำไปใช้เป็นข้อมูลฝึกโมเดลธุรกิจของบริษัทอื่น ภาพถ่ายจึงยังคงเป็น “ความทรงจำของคุณ” ภายใต้การควบคุมของคุณเอง ⚙️ ขั้นตอนการติดตั้งและการตั้งค่า การติดตั้ง PhotoPrism ต้องมีพื้นฐานการใช้ Linux command line และ Docker โดยเริ่มจากการสร้างโฟลเดอร์โปรเจกต์ ดาวน์โหลดไฟล์ docker-compose.yml และแก้ไขค่าที่สำคัญ เช่น รหัสผ่าน admin, ตำแหน่งโฟลเดอร์ภาพต้นฉบับ, และ พอร์ตการเชื่อมต่อ หลังจากนั้นใช้คำสั่ง docker compose up -d เพื่อรันระบบใน background เมื่อระบบเริ่มทำงาน ผู้ใช้สามารถเข้าผ่านเว็บอินเทอร์เฟซที่ http://localhost:2342 และสั่งให้ PhotoPrism ทำการ index รูปภาพทั้งหมด เพื่อสร้าง metadata, thumbnails และวิเคราะห์ด้วย AI เช่น การจดจำใบหน้าและวัตถุ กระบวนการนี้อาจใช้เวลาหลายชั่วโมงหากมีคลังภาพขนาดใหญ่ แต่จะเกิดขึ้นเพียงครั้งแรกเท่านั้น 🔒 ความเป็นส่วนตัวและการดูแลระบบ PhotoPrism มีตัวเลือกการตั้งค่าหลากหลาย เช่น ปิดการจดจำใบหน้าเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว หรือปรับคุณภาพ thumbnail เพื่อประหยัดพื้นที่ นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่า reverse proxy เช่น Nginx หรือ Caddy เพื่อให้เข้าถึงจากภายนอก LAN ได้อย่างปลอดภัย ผู้ใช้ต้องรับผิดชอบเรื่อง การสำรองข้อมูลและการอัปเดตระบบเอง ซึ่งถือเป็นข้อแลกเปลี่ยนกับการได้สิทธิ์ควบคุมข้อมูลอย่างเต็มที่ 📱 การใช้งานบนมือถือและการขยายระบบ PhotoPrism รองรับการเข้าถึงผ่าน Progressive Web App (PWA) ที่สามารถติดตั้งเป็น shortcut บนมือถือ รวมถึงแอปเสริมอย่าง Gallery for PhotoPrism (Android) และ PhotoSync (Android/iOS) เพื่อซิงค์ภาพได้สะดวก ผู้ใช้สามารถเริ่มต้นจากคลังภาพเล็ก ๆ แล้วค่อย ๆ ขยายระบบ homelab ให้รองรับคลังภาพขนาดใหญ่ขึ้นตามความต้องการ 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ PhotoPrism เป็นทางเลือกแทน Google Photos ➡️ ทำงานแบบ self-hosted และเน้นความเป็นส่วนตัว ✅ ติดตั้งผ่าน Docker Compose ➡️ ต้องแก้ไขค่าใน docker-compose.yml เช่นรหัสผ่านและโฟลเดอร์ภาพ ✅ ระบบ AI ช่วยจัดการภาพ ➡️ มีการจดจำใบหน้าและวัตถุ แต่สามารถปิดได้เพื่อความเป็นส่วนตัว ✅ รองรับการใช้งานบนมือถือ ➡️ ผ่าน PWA และแอปเสริมเช่น PhotoSync ‼️ คำเตือนเรื่องการดูแลระบบเอง ⛔ ผู้ใช้ต้องรับผิดชอบการสำรองข้อมูลและอัปเดตระบบ ‼️ ข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ ⛔ หากเครื่องมี RAM หรือ CPU ต่ำ อาจทำให้การ index ใช้เวลานานมาก https://itsfoss.com/self-hosting-photoprism/
    ITSFOSS.COM
    What Google Photos? Self-Hosting Photo Storage with PhotoPrism Using Docker in My Homelab
    PhotoPrism offers one path toward that goal of data ownership. With PhotoPrism, your vacation photos don’t become training data for someone else’s business model. They remain what they actually are, your memories, under your control.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • Gift Card Roulette: ความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่ใน Apple Gift Cards

    กรณีล่าสุดที่ถูกพูดถึงในวงการเทคโนโลยีคือเหตุการณ์ของ Paris Buttfield-Addison ผู้ใช้ที่สูญเสียการเข้าถึงบัญชี iCloud และคลังสื่อดิจิทัลทั้งหมด หลังจากพยายามใช้ Apple Gift Card มูลค่า 500 ดอลลาร์ที่ถูกดัดแปลง เขาซื้อจากร้านค้าปลีกใหญ่ แต่กลับกลายเป็นว่าการ์ดนั้นเป็นของปลอมและทำให้บัญชีถูกล็อกทันที เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของระบบที่ควรจะปลอดภัยที่สุด

    สิ่งที่น่ากังวลคือแม้ Apple จะมีทีม Executive Relations ซึ่งเป็นหน่วยสนับสนุนระดับสูงเข้ามาตรวจสอบ แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันที ทำให้ผู้ใช้ต้องเผชิญกับการสูญเสียข้อมูลและสิทธิ์การเข้าถึงที่สำคัญ เหตุการณ์นี้จึงถูกเปรียบเทียบว่าเหมือน “Russian Roulette ดิจิทัล” เพราะผู้ใช้ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าการ์ดที่ได้รับจะปลอดภัยหรือไม่

    จากมุมมองที่กว้างขึ้น ปัญหานี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของระบบบัตรของขวัญดิจิทัลโดยทั่วไป ไม่ใช่เฉพาะ Apple เท่านั้น หลายแพลตฟอร์มเคยเจอกรณีบัตรถูกปลอมแปลงหรือถูกใช้เป็นเครื่องมือฟอกเงิน ทำให้ผู้บริโภคต้องระมัดระวังมากขึ้นในการซื้อหรือรับบัตรของขวัญ โดยเฉพาะเมื่อซื้อจากช่องทางที่ไม่เป็นทางการ

    ในเชิงกลยุทธ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยแนะนำว่าบริษัทเทคโนโลยีควรสร้างระบบตรวจสอบที่เข้มงวดขึ้น เช่น การยืนยันรหัสแบบหลายชั้น หรือการจำกัดวงเงินที่สามารถใช้ได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ตกเป็นเหยื่อของการโจมตีที่ซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ ในโลกดิจิทัลที่เต็มไปด้วยความเสี่ยง

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    เหตุการณ์ผู้ใช้ Apple Gift Card ถูกล็อกบัญชี
    Paris Buttfield-Addison สูญเสียการเข้าถึง iCloud และคลังสื่อหลังใช้บัตรที่ถูกดัดแปลง

    การตรวจสอบจากทีม Executive Relations ของ Apple
    แม้ทีมสนับสนุนระดับสูงเข้ามา แต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันที

    ความเสี่ยงของระบบบัตรของขวัญดิจิทัล
    ปัญหานี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะ Apple แต่เกิดขึ้นในหลายแพลตฟอร์ม

    ข้อเสนอเชิงกลยุทธ์เพื่อเพิ่มความปลอดภัย
    การตรวจสอบรหัสหลายชั้น และการจำกัดวงเงินเป็นแนวทางที่ควรนำมาใช้

    คำเตือนต่อผู้บริโภค
    การซื้อบัตรจากช่องทางที่ไม่เป็นทางการอาจเสี่ยงต่อการถูกปลอมแปลง

    ความเสี่ยงในการให้บัตรเป็นของขวัญ
    ผู้รับอาจสูญเสียบัญชีหรือข้อมูลสำคัญหากบัตรถูกดัดแปลง

    https://daringfireball.net/linked/2025/12/17/are-apple-gift-cards-safe-to-redeem
    🛡️ Gift Card Roulette: ความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่ใน Apple Gift Cards กรณีล่าสุดที่ถูกพูดถึงในวงการเทคโนโลยีคือเหตุการณ์ของ Paris Buttfield-Addison ผู้ใช้ที่สูญเสียการเข้าถึงบัญชี iCloud และคลังสื่อดิจิทัลทั้งหมด หลังจากพยายามใช้ Apple Gift Card มูลค่า 500 ดอลลาร์ที่ถูกดัดแปลง เขาซื้อจากร้านค้าปลีกใหญ่ แต่กลับกลายเป็นว่าการ์ดนั้นเป็นของปลอมและทำให้บัญชีถูกล็อกทันที เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของระบบที่ควรจะปลอดภัยที่สุด สิ่งที่น่ากังวลคือแม้ Apple จะมีทีม Executive Relations ซึ่งเป็นหน่วยสนับสนุนระดับสูงเข้ามาตรวจสอบ แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันที ทำให้ผู้ใช้ต้องเผชิญกับการสูญเสียข้อมูลและสิทธิ์การเข้าถึงที่สำคัญ เหตุการณ์นี้จึงถูกเปรียบเทียบว่าเหมือน “Russian Roulette ดิจิทัล” เพราะผู้ใช้ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าการ์ดที่ได้รับจะปลอดภัยหรือไม่ จากมุมมองที่กว้างขึ้น ปัญหานี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของระบบบัตรของขวัญดิจิทัลโดยทั่วไป ไม่ใช่เฉพาะ Apple เท่านั้น หลายแพลตฟอร์มเคยเจอกรณีบัตรถูกปลอมแปลงหรือถูกใช้เป็นเครื่องมือฟอกเงิน ทำให้ผู้บริโภคต้องระมัดระวังมากขึ้นในการซื้อหรือรับบัตรของขวัญ โดยเฉพาะเมื่อซื้อจากช่องทางที่ไม่เป็นทางการ ในเชิงกลยุทธ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยแนะนำว่าบริษัทเทคโนโลยีควรสร้างระบบตรวจสอบที่เข้มงวดขึ้น เช่น การยืนยันรหัสแบบหลายชั้น หรือการจำกัดวงเงินที่สามารถใช้ได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ตกเป็นเหยื่อของการโจมตีที่ซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ ในโลกดิจิทัลที่เต็มไปด้วยความเสี่ยง 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ เหตุการณ์ผู้ใช้ Apple Gift Card ถูกล็อกบัญชี ➡️ Paris Buttfield-Addison สูญเสียการเข้าถึง iCloud และคลังสื่อหลังใช้บัตรที่ถูกดัดแปลง ✅ การตรวจสอบจากทีม Executive Relations ของ Apple ➡️ แม้ทีมสนับสนุนระดับสูงเข้ามา แต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันที ✅ ความเสี่ยงของระบบบัตรของขวัญดิจิทัล ➡️ ปัญหานี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะ Apple แต่เกิดขึ้นในหลายแพลตฟอร์ม ✅ ข้อเสนอเชิงกลยุทธ์เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ➡️ การตรวจสอบรหัสหลายชั้น และการจำกัดวงเงินเป็นแนวทางที่ควรนำมาใช้ ‼️ คำเตือนต่อผู้บริโภค ⛔ การซื้อบัตรจากช่องทางที่ไม่เป็นทางการอาจเสี่ยงต่อการถูกปลอมแปลง ‼️ ความเสี่ยงในการให้บัตรเป็นของขวัญ ⛔ ผู้รับอาจสูญเสียบัญชีหรือข้อมูลสำคัญหากบัตรถูกดัดแปลง https://daringfireball.net/linked/2025/12/17/are-apple-gift-cards-safe-to-redeem
    DARINGFIREBALL.NET
    Are Apple Gift Cards Safe to Redeem?
    Link to: https://tidbits.com/2025/12/17/compromised-apple-gift-card-leads-to-apple-account-lockout/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 12 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251219 #securityonline

    FreeBSD เจอช่องโหว่ร้ายแรงจาก IPv6
    เรื่องนี้เป็นการค้นพบช่องโหว่ใหม่ในระบบเครือข่ายของ FreeBSD ที่อันตรายมาก เพราะแค่มีคนส่งแพ็กเก็ต IPv6 ที่ถูกปรับแต่งมาอย่างเจาะจง ก็สามารถทำให้เครื่องเป้าหมายรันคำสั่งของผู้โจมตีได้ทันที ช่องโหว่นี้เกิดจากการที่โปรแกรม rtsol และ rtsold ซึ่งใช้จัดการการตั้งค่า IPv6 แบบอัตโนมัติ ไปส่งข้อมูลต่อให้กับ resolvconf โดยไม่ตรวจสอบความถูกต้อง ผลคือคำสั่งที่แฝงมาในข้อมูลสามารถถูกประมวลผลเหมือนเป็นคำสั่ง shell จริง ๆ แม้การโจมตีจะจำกัดอยู่ในเครือข่ายท้องถิ่น เช่น Wi-Fi สาธารณะหรือ LAN ที่ไม่ปลอดภัย แต่ก็ถือว่าเสี่ยงมาก ผู้ใช้ที่เปิด IPv6 และยังไม่ได้อัปเดตต้องรีบแพตช์ทันทีเพื่อป้องกันการถูกยึดเครื่อง
    https://securityonline.info/freebsd-network-alert-malicious-ipv6-packets-can-trigger-remote-code-execution-via-resolvconf-cve-2025-14558

    ช่องโหว่ใหม่ใน Roundcube Webmail
    ระบบอีเมลโอเพนซอร์สชื่อดัง Roundcube ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ร้ายแรงสองจุดที่อาจทำให้ผู้โจมตีแอบรันสคริปต์หรือดึงข้อมูลจากกล่องอีเมลได้ ช่องโหว่แรกคือ XSS ที่ซ่อนอยู่ในไฟล์ SVG โดยใช้แท็ก animate ทำให้เมื่อผู้ใช้เปิดอีเมลที่มีภาพ SVG ที่ถูกปรับแต่ง JavaScript ก็จะทำงานทันที อีกช่องโหว่คือการจัดการ CSS ที่ผิดพลาด ทำให้ผู้โจมตีสามารถเลี่ยงตัวกรองและดึงข้อมูลจากอินเทอร์เฟซเว็บเมลได้ ทั้งสองช่องโหว่ถูกจัดระดับความรุนแรงสูง ผู้ดูแลระบบควรรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดของ Roundcube 1.6 และ 1.5 LTS เพื่อความปลอดภัย
    https://securityonline.info/roundcube-alert-high-severity-svg-xss-and-css-sanitizer-flaws-threaten-webmail-privacy

    YouTube Ghost Network และมัลแวร์ GachiLoader
    นักวิจัยจาก Check Point Research พบการโจมตีใหม่ที่ใช้ YouTube เป็นช่องทางแพร่กระจายมัลแวร์ โดยกลุ่มผู้โจมตีจะยึดบัญชี YouTube ที่มีชื่อเสียง แล้วอัปโหลดวิดีโอที่โฆษณาซอฟต์แวร์เถื่อนหรือสูตรโกงเกม พร้อมใส่ลิงก์ดาวน์โหลดที่แท้จริงคือมัลแวร์ GachiLoader เขียนด้วย Node.js ที่ถูกทำให้ซับซ้อนเพื่อหลบการตรวจจับ เมื่อรันแล้วจะโหลดตัวขโมยข้อมูล Rhadamanthys เข้ามาเพื่อดึงรหัสผ่านและข้อมูลสำคัญ จุดเด่นคือเทคนิคการฉีดโค้ดผ่าน DLL โดยใช้ Vectored Exception Handling ทำให้ยากต่อการตรวจจับ ผู้ใช้ควรระวังการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ฟรีจากลิงก์ใน YouTube เพราะอาจเป็นกับดักที่ซ่อนมัลแวร์ไว้
    https://securityonline.info/youtube-ghost-network-the-new-gachiloader-malware-hiding-in-your-favorite-video-links

    Supply Chain Attack บน NuGet: Nethereum.All ปลอม
    มีการค้นพบแคมเปญโจมตีที่ซับซ้อนซึ่งมุ่งเป้าไปที่นักพัฒนา .NET ที่ทำงานกับคริปโต โดยผู้โจมตีสร้างแพ็กเกจปลอมชื่อ Nethereum.All เลียนแบบไลบรารีจริงที่ใช้เชื่อมต่อ Ethereum และเผยแพร่บน NuGet พร้อมตัวเลขดาวน์โหลดปลอมกว่า 10 ล้านครั้งเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ภายในโค้ดมีฟังก์ชันแอบซ่อนเพื่อขโมยเงินจากธุรกรรมหรือดึงข้อมูลลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตี นอกจากนี้ยังมีแพ็กเกจปลอมอื่น ๆ เช่น NBitcoin.Unified และ SolnetAll ที่เลียนแบบไลบรารีของ Bitcoin และ Solana การโจมตีนี้ใช้เทคนิคการปลอมแปลงอย่างแนบเนียน ทำให้นักพัฒนาที่ไม่ตรวจสอบผู้เขียนแพ็กเกจอาจตกเป็นเหยื่อได้ง่าย
    https://securityonline.info/poisoned-dependencies-how-nethereum-all-and-10m-fake-downloads-looted-net-crypto-developers

    ช่องโหว่ UEFI บนเมนบอร์ด
    ASRock, ASUS, MSI CERT/CCเปิดเผยช่องโหว่ใหม่ที่เกิดขึ้นในเฟิร์มแวร์ UEFI ของหลายผู้ผลิต เช่น ASRock, ASUS, GIGABYTE และ MSI โดยปัญหาคือระบบรายงานว่ามีการเปิดการป้องกัน DMA แล้ว แต่จริง ๆ IOMMU ไม่ได้ถูกตั้งค่าอย่างถูกต้อง ทำให้ในช่วง early-boot ผู้โจมตีที่มีอุปกรณ์ PCIe สามารถเข้าถึงและแก้ไขหน่วยความจำได้ก่อนที่ระบบปฏิบัติการจะเริ่มทำงาน ผลคือสามารถฉีดโค้ดหรือดึงข้อมูลลับออกมาได้โดยที่ซอฟต์แวร์ป้องกันไม่สามารถตรวจจับได้ ช่องโหว่นี้มีความรุนแรงสูงและต้องรีบอัปเดตเฟิร์มแวร์ทันที โดยเฉพาะในองค์กรที่ไม่สามารถควบคุมการเข้าถึงทางกายภาพได้อย่างเข้มงวด
    https://securityonline.info/early-boot-attack-uefi-flaw-in-asrock-asus-msi-boards-lets-hackers-bypass-os-security-via-pcie

    VPN Betrayal: ส่วนขยาย VPN ฟรีที่หักหลังผู้ใช้
    เรื่องนี้เป็นการเปิดโปงครั้งใหญ่จากบริษัทด้านความปลอดภัย KOI ที่พบว่า Urban VPN Proxy และส่วนขยาย VPN ฟรีอื่น ๆ กำลังแอบเก็บข้อมูลการสนทนาของผู้ใช้กับแพลตฟอร์ม AI โดยตรง ทั้งข้อความที่ผู้ใช้พิมพ์และคำตอบที่ AI ตอบกลับมา ถูกส่งต่อไปยังบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลและการตลาดเพื่อใช้ยิงโฆษณาเจาะจงพฤติกรรมผู้ใช้ แม้ผู้ใช้จะปิดฟังก์ชัน VPN หรือการบล็อกโฆษณา แต่สคริปต์ที่ฝังไว้ก็ยังทำงานอยู่ วิธีเดียวที่จะหยุดได้คือการถอนการติดตั้งออกไปเลย เหตุการณ์นี้กระทบแพลตฟอร์ม AI แทบทั้งหมด ตั้งแต่ ChatGPT, Claude, Gemini, Copilot ไปจนถึง Meta AI และ Perplexity ทำให้ความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง
    https://securityonline.info/vpn-betrayal-popular-free-extensions-caught-siphoning-8-million-users-private-ai-chats

    The Final Cut: ออสการ์ย้ายบ้านไป YouTube ในปี 2029
    วงการภาพยนตร์กำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อ Academy Awards หรือออสการ์ประกาศว่าจะยุติการถ่ายทอดสดทาง ABC หลังครบรอบ 100 ปีในปี 2028 และตั้งแต่ปี 2029 เป็นต้นไปจะถ่ายทอดสดผ่าน YouTube เพียงช่องทางเดียว การย้ายครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแพลตฟอร์ม แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ชมทั่วโลกเข้าถึงได้ฟรีและมีปฏิสัมพันธ์มากขึ้นผ่านฟีเจอร์ของ YouTube นอกจากนี้ Google Arts & Culture จะเข้ามาช่วยดิจิไทซ์คลังภาพยนตร์และประวัติศาสตร์ของ Academy เพื่อเผยแพร่สู่สาธารณะ ถือเป็นการปรับตัวครั้งสำคัญเพื่อดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่หันไปเสพสื่อออนไลน์มากกว่าทีวี
    https://securityonline.info/the-final-cut-why-the-oscars-are-leaving-abc-for-a-youtube-only-future-in-2029

    Phantom v3.5: มัลแวร์ปลอมตัวเป็น Adobe Update
    ภัยใหม่มาในรูปแบบที่ดูเหมือนธรรมดา Phantom v3.5 แฝงตัวเป็นไฟล์ติดตั้ง Adobe เวอร์ชันปลอม เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์ มันจะรันสคริปต์ที่ดึง Payload จากโดเมนอันตราย แล้วเริ่มดูดข้อมูลทุกอย่าง ตั้งแต่รหัสผ่าน คุกกี้ เบราว์เซอร์ ไปจนถึงกระเป๋าเงินคริปโต ความพิเศษคือมันไม่ใช้เซิร์ฟเวอร์ควบคุมแบบทั่วไป แต่ส่งข้อมูลออกไปผ่านอีเมล SMTP โดยตรง ทำให้การตรวจจับยากขึ้น เหตุการณ์นี้เตือนให้ผู้ใช้ระวังการดาวน์โหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่เป็นทางการ และตรวจสอบเวอร์ชันหรือไฟล์ที่อ้างว่าเป็น Installer ให้ดี
    https://securityonline.info/phantom-v3-5-alert-new-info-stealer-disguised-as-adobe-update-uses-smtp-to-loot-digital-lives

    Kubernetes Alert: ช่องโหว่ Headlamp เสี่ยงถูกยึด Cluster
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Headlamp ซึ่งเป็น UI สำหรับ Kubernetes ที่ทำให้ผู้โจมตีที่ไม่ได้รับสิทธิ์สามารถใช้ Credential ที่ถูกแคชไว้เพื่อเข้าถึงฟังก์ชัน Helm ได้โดยตรง หากผู้ดูแลระบบเคยใช้งาน Helm ผ่าน Headlamp แล้ว Credential ถูกเก็บไว้ ผู้โจมตีที่เข้าถึง Dashboard สามารถสั่ง Deploy หรือแก้ไข Release ได้ทันทีโดยไม่ต้องล็อกอิน ช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS สูงถึง 8.8 และกระทบเวอร์ชัน v0.38.0 ลงไป ทีมพัฒนาได้ออกแพตช์ v0.39.0 เพื่อแก้ไขแล้ว ผู้ดูแลระบบควรอัปเดตทันทีหรือปิดการเข้าถึงสาธารณะเพื่อป้องกันการโจมตี
    https://securityonline.info/kubernetes-alert-headlamp-flaw-cve-2025-14269-lets-unauthenticated-users-hijack-helm-clusters

    WatchGuard Under Siege: ช่องโหว่ Zero-Day รุนแรง CVSS 9.3 ถูกโจมตีจริงเพื่อยึดครอง Firewall
    เรื่องนี้เป็นการเปิดเผยช่องโหว่ใหม่ใน WatchGuard Firebox ที่ถูกระบุว่า CVE-2025-14733 มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.3 ทำให้แฮกเกอร์สามารถส่งคำสั่งจากระยะไกลโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน และเข้าควบคุมระบบไฟร์วอลล์ได้ทันที ช่องโหว่นี้เกิดจากการจัดการผิดพลาดในกระบวนการ IKEv2 ของ VPN ที่ทำให้เกิดการเขียนข้อมูลเกินขอบเขต (Out-of-bounds Write) ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถฝังคำสั่งอันตรายลงไปในระบบได้ แม้ผู้ดูแลระบบจะปิดการใช้งาน VPN แบบ Mobile User หรือ Branch Office ไปแล้ว แต่หากมีการตั้งค่าเก่าอยู่ก็ยังเสี่ยงต่อการถูกโจมตีอยู่ดี WatchGuard ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว แต่ก็เตือนว่าผู้ที่ถูกโจมตีไปแล้วควรเปลี่ยนรหัสผ่านและคีย์ทั้งหมด เพราะข้อมูลอาจถูกขโมยไปก่อนหน้านี้แล้ว
    https://securityonline.info/watchguard-under-siege-critical-cvss-9-3-zero-day-exploited-in-the-wild-to-hijack-corporate-firewalls

    Log4j’s Security Blind Spot: ช่องโหว่ TLS ใหม่เปิดทางให้ดักข้อมูล Log
    Apache ได้ออกอัปเดตแก้ไขช่องโหว่ใน Log4j ที่ถูกระบุว่า CVE-2025-68161 ซึ่งเกิดจากการตรวจสอบ TLS hostname verification ที่ผิดพลาด แม้ผู้ดูแลระบบจะตั้งค่าให้ตรวจสอบชื่อโฮสต์แล้ว แต่ระบบกลับไม่ทำตาม ทำให้ผู้โจมตีสามารถแทรกตัวกลาง (Man-in-the-Middle) และดักข้อมูล log ที่ส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ได้ ข้อมูลเหล่านี้อาจมีรายละเอียดการทำงานของระบบหรือกิจกรรมผู้ใช้ที่สำคัญ ช่องโหว่นี้ถูกแก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 2.25.3 และผู้ใช้ควรรีบอัปเดตทันที หากยังไม่สามารถอัปเดตได้ ก็มีวิธีแก้ชั่วคราวคือการจำกัด trust root ให้เฉพาะใบรับรองของเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้จริง
    https://securityonline.info/log4js-security-blind-spot-new-tls-flaw-lets-attackers-intercept-sensitive-logs-despite-encryption

    Visualizations Weaponized: ช่องโหว่ใหม่ใน Kibana เปิดทางโจมตี XSS ผ่าน Vega Charts
    Elastic ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ CVE-2025-68385 ที่มีคะแนนความรุนแรง 7.2 ซึ่งเกิดขึ้นใน Kibana โดยเฉพาะฟีเจอร์ Vega Visualization ที่อนุญาตให้ผู้ใช้สร้างกราฟและแผนภาพแบบกำหนดเอง ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้ใช้ที่มีสิทธิ์สามารถฝังโค้ดอันตรายลงไปในกราฟได้ และเมื่อผู้ใช้คนอื่นเปิดดูกราฟนั้น โค้ดก็จะทำงานในเบราว์เซอร์ทันที ส่งผลให้เกิดการขโมย session หรือสั่งการที่ไม่ได้รับอนุญาต ช่องโหว่นี้กระทบหลายเวอร์ชันตั้งแต่ 7.x จนถึง 9.x Elastic ได้ออกเวอร์ชันแก้ไขแล้ว และแนะนำให้ผู้ดูแลรีบอัปเดตโดยด่วน https://securityonline.info/visualizations-weaponized-new-kibana-flaw-allows-xss-attacks-via-vega-charts

    Rust’s First Breach: ช่องโหว่แรกของ Rust ใน Linux Kernel
    นี่คือครั้งแรกที่โค้ด Rust ใน Linux Kernel ถูกระบุช่องโหว่อย่างเป็นทางการ โดย CVE-2025-68260 เกิดขึ้นใน Android Binder driver ที่ถูกเขียนใหม่ด้วย Rust ปัญหาคือการจัดการ linked list ที่ไม่ปลอดภัย ทำให้เกิด race condition เมื่อหลาย thread เข้ามาจัดการพร้อมกัน ส่งผลให้ pointer เสียหายและทำให้ระบบ crash ได้ การแก้ไขคือการปรับปรุงโค้ด Node::release ให้จัดการกับ list โดยตรงแทนการใช้ list ชั่วคราว ช่องโหว่นี้ถูกแก้ไขแล้วใน Linux 6.18.1 และ 6.19-rc1 ผู้ใช้ควรอัปเดต kernel เวอร์ชันล่าสุดเพื่อความปลอดภัย
    https://securityonline.info/rusts-first-breach-cve-2025-68260-marks-the-first-rust-vulnerability-in-the-linux-kernel

    The Grand Divorce: TikTok เซ็นสัญญา Landmark Deal ส่งมอบการควบคุมในสหรัฐให้กลุ่ม Oracle
    TikTok ได้เข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายของการแยกกิจการในสหรัฐ โดยจะตั้งบริษัทใหม่ชื่อ TikTok US Data Security Joint Venture LLC ซึ่งจะดูแลข้อมูลผู้ใช้ในสหรัฐ การรักษาความปลอดภัยของอัลกอริทึม และการตรวจสอบเนื้อหา โครงสร้างใหม่จะทำให้กลุ่มนักลงทุนในสหรัฐถือหุ้น 45% นักลงทุนที่เกี่ยวข้องกับ ByteDance ถือ 30% และ ByteDance เองถือ 20% ทำให้การควบคุมหลักอยู่ในมือของสหรัฐ ข้อตกลงนี้คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 22 มกราคม 2026 ถือเป็นการปิดฉากความขัดแย้งยืดเยื้อเรื่องการควบคุม TikTok ในสหรัฐ
    https://securityonline.info/the-grand-divorce-tiktok-signs-landmark-deal-to-hand-u-s-control-to-oracle-led-group

    Fusion of Power: Trump Media จับมือ TAE Technologies สร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟิวชัน
    เรื่องนี้เล่ากันเหมือนเป็นการพลิกบทบาทครั้งใหญ่ของ Trump Media ที่เดิมทีเป็นบริษัทแม่ของ Truth Social และมือถือ Trump T1 แต่กลับหันมาจับมือกับ TAE Technologies ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้านพลังงานฟิวชันที่มี Google และ Chevron หนุนหลัง การควบรวมครั้งนี้มีมูลค่าถึง 6 พันล้านดอลลาร์ เป้าหมายคือการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟิวชันเชิงพาณิชย์แห่งแรกของโลกภายใน 5 ปี แม้แวดวงวิทยาศาสตร์ยังคงสงสัยว่าฟิวชันจะพร้อมใช้งานจริงได้เร็วขนาดนั้นหรือไม่ แต่ดีลนี้ก็ทำให้หุ้น Trump Media พุ่งขึ้นทันที หลายคนมองว่าพลังที่แท้จริงอาจไม่ใช่ฟิวชัน แต่คืออิทธิพลทางการเมืองที่ช่วยเปิดทางให้ทุนและการอนุมัติจากรัฐบาล
    https://securityonline.info/fusion-of-power-trump-media-inks-6-billion-merger-to-build-worlds-first-fusion-power-plant

    The AI Super App: OpenAI เปิดตัว ChatGPT App Directory
    OpenAI กำลังผลักดัน ChatGPT ให้กลายเป็น “ซูเปอร์แอป” โดยเปิดตัว App Directory ที่เชื่อมต่อกับบริการภายนอกอย่าง Spotify, Dropbox, Apple Music และ DoorDash ผู้ใช้สามารถสั่งงานผ่านการสนทนา เช่น ให้สรุปรายงานจาก Google Drive หรือสร้างเพลย์ลิสต์เพลงใน Apple Music ได้ทันที นี่คือการเปลี่ยน ChatGPT จากเครื่องมือสร้างข้อความให้กลายเป็นผู้ช่วยที่ทำงานแทนเราได้จริง นอกจากนี้ OpenAI ยังเปิดโอกาสให้นักพัฒนาภายนอกสร้างแอปเข้ามาในระบบ พร้อมแนวทางหารายได้ที่อาจคล้ายกับ App Store ของ Apple จุดสำคัญคือการยกระดับ AI จากการ “ตอบคำถาม” ไปสู่การ “ทำงานแทน”
    https://securityonline.info/the-ai-super-app-arrives-openai-launches-chatgpt-app-directory-to-rule-your-digital-life

    Pay to Post: Meta ทดลองจำกัดการแชร์ลิงก์บน Facebook
    Meta กำลังทดสอบนโยบายใหม่ที่อาจทำให้ผู้สร้างคอนเทนต์บน Facebook ต้องจ่ายเงินเพื่อแชร์ลิงก์ โดยผู้ใช้ที่ไม่ได้สมัครบริการยืนยันตัวตน (blue-check) จะถูกจำกัดให้โพสต์ลิงก์ได้เพียง 2 ครั้งต่อเดือน หากต้องการมากกว่านั้นต้องจ่ายค่าสมัครรายเดือน 14.99 ดอลลาร์ การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนว่าบริษัทต้องการควบคุมการ “ไหลออกของทราฟฟิก” และหันไปหารายได้จากการบังคับให้ผู้ใช้จ่ายเพื่อสิทธิ์ที่เคยฟรีมาก่อน หลายคนมองว่านี่คือการผลัก Facebook เข้าสู่ระบบ “pay-to-play” อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งอาจทำให้ผู้สร้างรายเล็กๆ ต้องคิดหนักว่าจะอยู่ต่อหรือย้ายออก
    https://securityonline.info/pay-to-post-meta-tests-2-link-monthly-limit-for-unverified-facebook-creators

    Criminal IP จับมือ Palo Alto Networks Cortex XSOAR เสริมการตอบสนองภัยไซเบอร์ด้วย AI
    Criminal IP ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม threat intelligence ที่ใช้ AI ได้เข้ารวมกับ Cortex XSOAR ของ Palo Alto Networks เพื่อยกระดับการตอบสนองเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย จุดเด่นคือการเพิ่มข้อมูลเชิงลึกจากภายนอก เช่น พฤติกรรมของ IP, ประวัติการโจมตี, การเชื่อมโยงกับมัลแวร์ และการสแกนหลายขั้นตอนแบบอัตโนมัติ ทำให้ทีม SOC สามารถจัดการเหตุการณ์ได้เร็วและแม่นยำขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งการตรวจสอบแบบ manual การผสานนี้สะท้อนแนวโน้มใหม่ของโลกไซเบอร์ที่กำลังเดินหน้าไปสู่ “การป้องกันอัตโนมัติ” ที่ใช้ AI เป็นแกนหลัก
    https://securityonline.info/criminal-ip-and-palo-alto-networks-cortex-xsoar-integrate-to-bring-ai-driven-exposure-intelligence-to-automated-incident-response

    FIFA ร่วมมือ Netflix เปิดเกมฟุตบอลใหม่รับบอลโลก 2026
    หลังจากแยกทางกับ EA ที่สร้าง FIFA มานานเกือบ 30 ปี องค์กร FIFA ก็ยังไม่สามารถหาคู่หูที่สร้างเกมฟุตบอลระดับเรือธงได้ จนล่าสุด Netflix ประกาศว่าจะเปิดตัวเกมฟุตบอลใหม่ภายใต้แบรนด์ FIFA ในปี 2026 โดยให้ Delphi Interactive เป็นผู้พัฒนา จุดต่างสำคัญคือเกมนี้จะใช้สมาร์ทโฟนเป็นคอนโทรลเลอร์ ทำให้เล่นง่ายและเข้าถึงผู้เล่นทั่วไปมากขึ้น แทนที่จะเน้นความสมจริงแบบ EA Sports FC การจับมือกับ Netflix แสดงให้เห็นว่า FIFA เลือกเส้นทางใหม่ที่ไม่ชนตรงกับ EA แต่หันไปสร้างประสบการณ์แบบ “เกมปาร์ตี้” ที่เข้ากับแนวทางของ Netflix Games ซึ่งกำลังมุ่งไปที่เกมที่เล่นง่ายและเชื่อมโยงกับผู้ชมจำนวนมาก
    https://securityonline.info/fifas-post-ea-comeback-netflix-to-launch-a-reimagined-football-game-for-the-2026-world-cup

    Mario’s Deadly Upgrade: RansomHouse เปิดตัว Dual-Key Encryption
    กลุ่มอาชญากรไซเบอร์ที่ชื่อ Jolly Scorpius ซึ่งอยู่เบื้องหลังบริการ RansomHouse (ransomware-as-a-service) ได้ปรับปรุงเครื่องมือเข้ารหัสหลักของพวกเขาที่ชื่อ “Mario” จากเดิมที่ใช้วิธีเข้ารหัสแบบเส้นตรงธรรมดา กลายเป็นระบบที่ซับซ้อนและยืดหยุ่นมากขึ้น สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ Mario เวอร์ชันใหม่ไม่เพียงแค่เข้ารหัสไฟล์แบบตรงๆ แต่ใช้วิธี chunked processing คือแบ่งไฟล์ออกเป็นชิ้นๆ ที่มีขนาดเปลี่ยนแปลงได้ ทำให้การวิเคราะห์ย้อนกลับยากขึ้นมากสำหรับนักวิจัยด้านความปลอดภัย และที่น่ากังวลที่สุดคือการเพิ่ม dual-key encryption ซึ่งทำงานเหมือนระบบความปลอดภัยจริงๆ ที่ต้องใช้กุญแจสองชุดในการถอดรหัส หากผู้ป้องกันได้กุญแจเพียงชุดเดียว ข้อมูลก็ยังคงถูกล็อกแน่นหนา
    https://securityonline.info/marios-deadly-upgrade-ransomhouse-unveils-dual-key-encryption-to-defeat-backups-and-recovery/
    📌🔐🔵 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🔵🔐📌 #รวมข่าวIT #20251219 #securityonline 🛡️ FreeBSD เจอช่องโหว่ร้ายแรงจาก IPv6 เรื่องนี้เป็นการค้นพบช่องโหว่ใหม่ในระบบเครือข่ายของ FreeBSD ที่อันตรายมาก เพราะแค่มีคนส่งแพ็กเก็ต IPv6 ที่ถูกปรับแต่งมาอย่างเจาะจง ก็สามารถทำให้เครื่องเป้าหมายรันคำสั่งของผู้โจมตีได้ทันที ช่องโหว่นี้เกิดจากการที่โปรแกรม rtsol และ rtsold ซึ่งใช้จัดการการตั้งค่า IPv6 แบบอัตโนมัติ ไปส่งข้อมูลต่อให้กับ resolvconf โดยไม่ตรวจสอบความถูกต้อง ผลคือคำสั่งที่แฝงมาในข้อมูลสามารถถูกประมวลผลเหมือนเป็นคำสั่ง shell จริง ๆ แม้การโจมตีจะจำกัดอยู่ในเครือข่ายท้องถิ่น เช่น Wi-Fi สาธารณะหรือ LAN ที่ไม่ปลอดภัย แต่ก็ถือว่าเสี่ยงมาก ผู้ใช้ที่เปิด IPv6 และยังไม่ได้อัปเดตต้องรีบแพตช์ทันทีเพื่อป้องกันการถูกยึดเครื่อง 🔗 https://securityonline.info/freebsd-network-alert-malicious-ipv6-packets-can-trigger-remote-code-execution-via-resolvconf-cve-2025-14558 📧 ช่องโหว่ใหม่ใน Roundcube Webmail ระบบอีเมลโอเพนซอร์สชื่อดัง Roundcube ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ร้ายแรงสองจุดที่อาจทำให้ผู้โจมตีแอบรันสคริปต์หรือดึงข้อมูลจากกล่องอีเมลได้ ช่องโหว่แรกคือ XSS ที่ซ่อนอยู่ในไฟล์ SVG โดยใช้แท็ก animate ทำให้เมื่อผู้ใช้เปิดอีเมลที่มีภาพ SVG ที่ถูกปรับแต่ง JavaScript ก็จะทำงานทันที อีกช่องโหว่คือการจัดการ CSS ที่ผิดพลาด ทำให้ผู้โจมตีสามารถเลี่ยงตัวกรองและดึงข้อมูลจากอินเทอร์เฟซเว็บเมลได้ ทั้งสองช่องโหว่ถูกจัดระดับความรุนแรงสูง ผู้ดูแลระบบควรรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดของ Roundcube 1.6 และ 1.5 LTS เพื่อความปลอดภัย 🔗 https://securityonline.info/roundcube-alert-high-severity-svg-xss-and-css-sanitizer-flaws-threaten-webmail-privacy 🎥 YouTube Ghost Network และมัลแวร์ GachiLoader นักวิจัยจาก Check Point Research พบการโจมตีใหม่ที่ใช้ YouTube เป็นช่องทางแพร่กระจายมัลแวร์ โดยกลุ่มผู้โจมตีจะยึดบัญชี YouTube ที่มีชื่อเสียง แล้วอัปโหลดวิดีโอที่โฆษณาซอฟต์แวร์เถื่อนหรือสูตรโกงเกม พร้อมใส่ลิงก์ดาวน์โหลดที่แท้จริงคือมัลแวร์ GachiLoader เขียนด้วย Node.js ที่ถูกทำให้ซับซ้อนเพื่อหลบการตรวจจับ เมื่อรันแล้วจะโหลดตัวขโมยข้อมูล Rhadamanthys เข้ามาเพื่อดึงรหัสผ่านและข้อมูลสำคัญ จุดเด่นคือเทคนิคการฉีดโค้ดผ่าน DLL โดยใช้ Vectored Exception Handling ทำให้ยากต่อการตรวจจับ ผู้ใช้ควรระวังการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ฟรีจากลิงก์ใน YouTube เพราะอาจเป็นกับดักที่ซ่อนมัลแวร์ไว้ 🔗 https://securityonline.info/youtube-ghost-network-the-new-gachiloader-malware-hiding-in-your-favorite-video-links 💰 Supply Chain Attack บน NuGet: Nethereum.All ปลอม มีการค้นพบแคมเปญโจมตีที่ซับซ้อนซึ่งมุ่งเป้าไปที่นักพัฒนา .NET ที่ทำงานกับคริปโต โดยผู้โจมตีสร้างแพ็กเกจปลอมชื่อ Nethereum.All เลียนแบบไลบรารีจริงที่ใช้เชื่อมต่อ Ethereum และเผยแพร่บน NuGet พร้อมตัวเลขดาวน์โหลดปลอมกว่า 10 ล้านครั้งเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ภายในโค้ดมีฟังก์ชันแอบซ่อนเพื่อขโมยเงินจากธุรกรรมหรือดึงข้อมูลลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตี นอกจากนี้ยังมีแพ็กเกจปลอมอื่น ๆ เช่น NBitcoin.Unified และ SolnetAll ที่เลียนแบบไลบรารีของ Bitcoin และ Solana การโจมตีนี้ใช้เทคนิคการปลอมแปลงอย่างแนบเนียน ทำให้นักพัฒนาที่ไม่ตรวจสอบผู้เขียนแพ็กเกจอาจตกเป็นเหยื่อได้ง่าย 🔗 https://securityonline.info/poisoned-dependencies-how-nethereum-all-and-10m-fake-downloads-looted-net-crypto-developers 💻 ช่องโหว่ UEFI บนเมนบอร์ด ASRock, ASUS, MSI CERT/CCเปิดเผยช่องโหว่ใหม่ที่เกิดขึ้นในเฟิร์มแวร์ UEFI ของหลายผู้ผลิต เช่น ASRock, ASUS, GIGABYTE และ MSI โดยปัญหาคือระบบรายงานว่ามีการเปิดการป้องกัน DMA แล้ว แต่จริง ๆ IOMMU ไม่ได้ถูกตั้งค่าอย่างถูกต้อง ทำให้ในช่วง early-boot ผู้โจมตีที่มีอุปกรณ์ PCIe สามารถเข้าถึงและแก้ไขหน่วยความจำได้ก่อนที่ระบบปฏิบัติการจะเริ่มทำงาน ผลคือสามารถฉีดโค้ดหรือดึงข้อมูลลับออกมาได้โดยที่ซอฟต์แวร์ป้องกันไม่สามารถตรวจจับได้ ช่องโหว่นี้มีความรุนแรงสูงและต้องรีบอัปเดตเฟิร์มแวร์ทันที โดยเฉพาะในองค์กรที่ไม่สามารถควบคุมการเข้าถึงทางกายภาพได้อย่างเข้มงวด 🔗 https://securityonline.info/early-boot-attack-uefi-flaw-in-asrock-asus-msi-boards-lets-hackers-bypass-os-security-via-pcie 🛡️ VPN Betrayal: ส่วนขยาย VPN ฟรีที่หักหลังผู้ใช้ เรื่องนี้เป็นการเปิดโปงครั้งใหญ่จากบริษัทด้านความปลอดภัย KOI ที่พบว่า Urban VPN Proxy และส่วนขยาย VPN ฟรีอื่น ๆ กำลังแอบเก็บข้อมูลการสนทนาของผู้ใช้กับแพลตฟอร์ม AI โดยตรง ทั้งข้อความที่ผู้ใช้พิมพ์และคำตอบที่ AI ตอบกลับมา ถูกส่งต่อไปยังบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลและการตลาดเพื่อใช้ยิงโฆษณาเจาะจงพฤติกรรมผู้ใช้ แม้ผู้ใช้จะปิดฟังก์ชัน VPN หรือการบล็อกโฆษณา แต่สคริปต์ที่ฝังไว้ก็ยังทำงานอยู่ วิธีเดียวที่จะหยุดได้คือการถอนการติดตั้งออกไปเลย เหตุการณ์นี้กระทบแพลตฟอร์ม AI แทบทั้งหมด ตั้งแต่ ChatGPT, Claude, Gemini, Copilot ไปจนถึง Meta AI และ Perplexity ทำให้ความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง 🔗 https://securityonline.info/vpn-betrayal-popular-free-extensions-caught-siphoning-8-million-users-private-ai-chats 🎬 The Final Cut: ออสการ์ย้ายบ้านไป YouTube ในปี 2029 วงการภาพยนตร์กำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อ Academy Awards หรือออสการ์ประกาศว่าจะยุติการถ่ายทอดสดทาง ABC หลังครบรอบ 100 ปีในปี 2028 และตั้งแต่ปี 2029 เป็นต้นไปจะถ่ายทอดสดผ่าน YouTube เพียงช่องทางเดียว การย้ายครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแพลตฟอร์ม แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ชมทั่วโลกเข้าถึงได้ฟรีและมีปฏิสัมพันธ์มากขึ้นผ่านฟีเจอร์ของ YouTube นอกจากนี้ Google Arts & Culture จะเข้ามาช่วยดิจิไทซ์คลังภาพยนตร์และประวัติศาสตร์ของ Academy เพื่อเผยแพร่สู่สาธารณะ ถือเป็นการปรับตัวครั้งสำคัญเพื่อดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่หันไปเสพสื่อออนไลน์มากกว่าทีวี 🔗 https://securityonline.info/the-final-cut-why-the-oscars-are-leaving-abc-for-a-youtube-only-future-in-2029 ⚠️ Phantom v3.5: มัลแวร์ปลอมตัวเป็น Adobe Update ภัยใหม่มาในรูปแบบที่ดูเหมือนธรรมดา Phantom v3.5 แฝงตัวเป็นไฟล์ติดตั้ง Adobe เวอร์ชันปลอม เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์ มันจะรันสคริปต์ที่ดึง Payload จากโดเมนอันตราย แล้วเริ่มดูดข้อมูลทุกอย่าง ตั้งแต่รหัสผ่าน คุกกี้ เบราว์เซอร์ ไปจนถึงกระเป๋าเงินคริปโต ความพิเศษคือมันไม่ใช้เซิร์ฟเวอร์ควบคุมแบบทั่วไป แต่ส่งข้อมูลออกไปผ่านอีเมล SMTP โดยตรง ทำให้การตรวจจับยากขึ้น เหตุการณ์นี้เตือนให้ผู้ใช้ระวังการดาวน์โหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่เป็นทางการ และตรวจสอบเวอร์ชันหรือไฟล์ที่อ้างว่าเป็น Installer ให้ดี 🔗 https://securityonline.info/phantom-v3-5-alert-new-info-stealer-disguised-as-adobe-update-uses-smtp-to-loot-digital-lives ☸️ Kubernetes Alert: ช่องโหว่ Headlamp เสี่ยงถูกยึด Cluster มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Headlamp ซึ่งเป็น UI สำหรับ Kubernetes ที่ทำให้ผู้โจมตีที่ไม่ได้รับสิทธิ์สามารถใช้ Credential ที่ถูกแคชไว้เพื่อเข้าถึงฟังก์ชัน Helm ได้โดยตรง หากผู้ดูแลระบบเคยใช้งาน Helm ผ่าน Headlamp แล้ว Credential ถูกเก็บไว้ ผู้โจมตีที่เข้าถึง Dashboard สามารถสั่ง Deploy หรือแก้ไข Release ได้ทันทีโดยไม่ต้องล็อกอิน ช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS สูงถึง 8.8 และกระทบเวอร์ชัน v0.38.0 ลงไป ทีมพัฒนาได้ออกแพตช์ v0.39.0 เพื่อแก้ไขแล้ว ผู้ดูแลระบบควรอัปเดตทันทีหรือปิดการเข้าถึงสาธารณะเพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://securityonline.info/kubernetes-alert-headlamp-flaw-cve-2025-14269-lets-unauthenticated-users-hijack-helm-clusters 🛡️ WatchGuard Under Siege: ช่องโหว่ Zero-Day รุนแรง CVSS 9.3 ถูกโจมตีจริงเพื่อยึดครอง Firewall เรื่องนี้เป็นการเปิดเผยช่องโหว่ใหม่ใน WatchGuard Firebox ที่ถูกระบุว่า CVE-2025-14733 มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.3 ทำให้แฮกเกอร์สามารถส่งคำสั่งจากระยะไกลโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน และเข้าควบคุมระบบไฟร์วอลล์ได้ทันที ช่องโหว่นี้เกิดจากการจัดการผิดพลาดในกระบวนการ IKEv2 ของ VPN ที่ทำให้เกิดการเขียนข้อมูลเกินขอบเขต (Out-of-bounds Write) ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถฝังคำสั่งอันตรายลงไปในระบบได้ แม้ผู้ดูแลระบบจะปิดการใช้งาน VPN แบบ Mobile User หรือ Branch Office ไปแล้ว แต่หากมีการตั้งค่าเก่าอยู่ก็ยังเสี่ยงต่อการถูกโจมตีอยู่ดี WatchGuard ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว แต่ก็เตือนว่าผู้ที่ถูกโจมตีไปแล้วควรเปลี่ยนรหัสผ่านและคีย์ทั้งหมด เพราะข้อมูลอาจถูกขโมยไปก่อนหน้านี้แล้ว 🔗 https://securityonline.info/watchguard-under-siege-critical-cvss-9-3-zero-day-exploited-in-the-wild-to-hijack-corporate-firewalls 🔒 Log4j’s Security Blind Spot: ช่องโหว่ TLS ใหม่เปิดทางให้ดักข้อมูล Log Apache ได้ออกอัปเดตแก้ไขช่องโหว่ใน Log4j ที่ถูกระบุว่า CVE-2025-68161 ซึ่งเกิดจากการตรวจสอบ TLS hostname verification ที่ผิดพลาด แม้ผู้ดูแลระบบจะตั้งค่าให้ตรวจสอบชื่อโฮสต์แล้ว แต่ระบบกลับไม่ทำตาม ทำให้ผู้โจมตีสามารถแทรกตัวกลาง (Man-in-the-Middle) และดักข้อมูล log ที่ส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ได้ ข้อมูลเหล่านี้อาจมีรายละเอียดการทำงานของระบบหรือกิจกรรมผู้ใช้ที่สำคัญ ช่องโหว่นี้ถูกแก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 2.25.3 และผู้ใช้ควรรีบอัปเดตทันที หากยังไม่สามารถอัปเดตได้ ก็มีวิธีแก้ชั่วคราวคือการจำกัด trust root ให้เฉพาะใบรับรองของเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้จริง 🔗 https://securityonline.info/log4js-security-blind-spot-new-tls-flaw-lets-attackers-intercept-sensitive-logs-despite-encryption 📊 Visualizations Weaponized: ช่องโหว่ใหม่ใน Kibana เปิดทางโจมตี XSS ผ่าน Vega Charts Elastic ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ CVE-2025-68385 ที่มีคะแนนความรุนแรง 7.2 ซึ่งเกิดขึ้นใน Kibana โดยเฉพาะฟีเจอร์ Vega Visualization ที่อนุญาตให้ผู้ใช้สร้างกราฟและแผนภาพแบบกำหนดเอง ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้ใช้ที่มีสิทธิ์สามารถฝังโค้ดอันตรายลงไปในกราฟได้ และเมื่อผู้ใช้คนอื่นเปิดดูกราฟนั้น โค้ดก็จะทำงานในเบราว์เซอร์ทันที ส่งผลให้เกิดการขโมย session หรือสั่งการที่ไม่ได้รับอนุญาต ช่องโหว่นี้กระทบหลายเวอร์ชันตั้งแต่ 7.x จนถึง 9.x Elastic ได้ออกเวอร์ชันแก้ไขแล้ว และแนะนำให้ผู้ดูแลรีบอัปเดตโดยด่วน 🔗 https://securityonline.info/visualizations-weaponized-new-kibana-flaw-allows-xss-attacks-via-vega-charts 🦀 Rust’s First Breach: ช่องโหว่แรกของ Rust ใน Linux Kernel นี่คือครั้งแรกที่โค้ด Rust ใน Linux Kernel ถูกระบุช่องโหว่อย่างเป็นทางการ โดย CVE-2025-68260 เกิดขึ้นใน Android Binder driver ที่ถูกเขียนใหม่ด้วย Rust ปัญหาคือการจัดการ linked list ที่ไม่ปลอดภัย ทำให้เกิด race condition เมื่อหลาย thread เข้ามาจัดการพร้อมกัน ส่งผลให้ pointer เสียหายและทำให้ระบบ crash ได้ การแก้ไขคือการปรับปรุงโค้ด Node::release ให้จัดการกับ list โดยตรงแทนการใช้ list ชั่วคราว ช่องโหว่นี้ถูกแก้ไขแล้วใน Linux 6.18.1 และ 6.19-rc1 ผู้ใช้ควรอัปเดต kernel เวอร์ชันล่าสุดเพื่อความปลอดภัย 🔗 https://securityonline.info/rusts-first-breach-cve-2025-68260-marks-the-first-rust-vulnerability-in-the-linux-kernel 🇺🇸 The Grand Divorce: TikTok เซ็นสัญญา Landmark Deal ส่งมอบการควบคุมในสหรัฐให้กลุ่ม Oracle TikTok ได้เข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายของการแยกกิจการในสหรัฐ โดยจะตั้งบริษัทใหม่ชื่อ TikTok US Data Security Joint Venture LLC ซึ่งจะดูแลข้อมูลผู้ใช้ในสหรัฐ การรักษาความปลอดภัยของอัลกอริทึม และการตรวจสอบเนื้อหา โครงสร้างใหม่จะทำให้กลุ่มนักลงทุนในสหรัฐถือหุ้น 45% นักลงทุนที่เกี่ยวข้องกับ ByteDance ถือ 30% และ ByteDance เองถือ 20% ทำให้การควบคุมหลักอยู่ในมือของสหรัฐ ข้อตกลงนี้คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 22 มกราคม 2026 ถือเป็นการปิดฉากความขัดแย้งยืดเยื้อเรื่องการควบคุม TikTok ในสหรัฐ 🔗 https://securityonline.info/the-grand-divorce-tiktok-signs-landmark-deal-to-hand-u-s-control-to-oracle-led-group ⚡ Fusion of Power: Trump Media จับมือ TAE Technologies สร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟิวชัน เรื่องนี้เล่ากันเหมือนเป็นการพลิกบทบาทครั้งใหญ่ของ Trump Media ที่เดิมทีเป็นบริษัทแม่ของ Truth Social และมือถือ Trump T1 แต่กลับหันมาจับมือกับ TAE Technologies ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้านพลังงานฟิวชันที่มี Google และ Chevron หนุนหลัง การควบรวมครั้งนี้มีมูลค่าถึง 6 พันล้านดอลลาร์ เป้าหมายคือการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟิวชันเชิงพาณิชย์แห่งแรกของโลกภายใน 5 ปี แม้แวดวงวิทยาศาสตร์ยังคงสงสัยว่าฟิวชันจะพร้อมใช้งานจริงได้เร็วขนาดนั้นหรือไม่ แต่ดีลนี้ก็ทำให้หุ้น Trump Media พุ่งขึ้นทันที หลายคนมองว่าพลังที่แท้จริงอาจไม่ใช่ฟิวชัน แต่คืออิทธิพลทางการเมืองที่ช่วยเปิดทางให้ทุนและการอนุมัติจากรัฐบาล 🔗 https://securityonline.info/fusion-of-power-trump-media-inks-6-billion-merger-to-build-worlds-first-fusion-power-plant 🤖 The AI Super App: OpenAI เปิดตัว ChatGPT App Directory OpenAI กำลังผลักดัน ChatGPT ให้กลายเป็น “ซูเปอร์แอป” โดยเปิดตัว App Directory ที่เชื่อมต่อกับบริการภายนอกอย่าง Spotify, Dropbox, Apple Music และ DoorDash ผู้ใช้สามารถสั่งงานผ่านการสนทนา เช่น ให้สรุปรายงานจาก Google Drive หรือสร้างเพลย์ลิสต์เพลงใน Apple Music ได้ทันที นี่คือการเปลี่ยน ChatGPT จากเครื่องมือสร้างข้อความให้กลายเป็นผู้ช่วยที่ทำงานแทนเราได้จริง นอกจากนี้ OpenAI ยังเปิดโอกาสให้นักพัฒนาภายนอกสร้างแอปเข้ามาในระบบ พร้อมแนวทางหารายได้ที่อาจคล้ายกับ App Store ของ Apple จุดสำคัญคือการยกระดับ AI จากการ “ตอบคำถาม” ไปสู่การ “ทำงานแทน” 🔗 https://securityonline.info/the-ai-super-app-arrives-openai-launches-chatgpt-app-directory-to-rule-your-digital-life 💸 Pay to Post: Meta ทดลองจำกัดการแชร์ลิงก์บน Facebook Meta กำลังทดสอบนโยบายใหม่ที่อาจทำให้ผู้สร้างคอนเทนต์บน Facebook ต้องจ่ายเงินเพื่อแชร์ลิงก์ โดยผู้ใช้ที่ไม่ได้สมัครบริการยืนยันตัวตน (blue-check) จะถูกจำกัดให้โพสต์ลิงก์ได้เพียง 2 ครั้งต่อเดือน หากต้องการมากกว่านั้นต้องจ่ายค่าสมัครรายเดือน 14.99 ดอลลาร์ การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนว่าบริษัทต้องการควบคุมการ “ไหลออกของทราฟฟิก” และหันไปหารายได้จากการบังคับให้ผู้ใช้จ่ายเพื่อสิทธิ์ที่เคยฟรีมาก่อน หลายคนมองว่านี่คือการผลัก Facebook เข้าสู่ระบบ “pay-to-play” อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งอาจทำให้ผู้สร้างรายเล็กๆ ต้องคิดหนักว่าจะอยู่ต่อหรือย้ายออก 🔗 https://securityonline.info/pay-to-post-meta-tests-2-link-monthly-limit-for-unverified-facebook-creators 🛡️ Criminal IP จับมือ Palo Alto Networks Cortex XSOAR เสริมการตอบสนองภัยไซเบอร์ด้วย AI Criminal IP ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม threat intelligence ที่ใช้ AI ได้เข้ารวมกับ Cortex XSOAR ของ Palo Alto Networks เพื่อยกระดับการตอบสนองเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย จุดเด่นคือการเพิ่มข้อมูลเชิงลึกจากภายนอก เช่น พฤติกรรมของ IP, ประวัติการโจมตี, การเชื่อมโยงกับมัลแวร์ และการสแกนหลายขั้นตอนแบบอัตโนมัติ ทำให้ทีม SOC สามารถจัดการเหตุการณ์ได้เร็วและแม่นยำขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งการตรวจสอบแบบ manual การผสานนี้สะท้อนแนวโน้มใหม่ของโลกไซเบอร์ที่กำลังเดินหน้าไปสู่ “การป้องกันอัตโนมัติ” ที่ใช้ AI เป็นแกนหลัก 🔗 https://securityonline.info/criminal-ip-and-palo-alto-networks-cortex-xsoar-integrate-to-bring-ai-driven-exposure-intelligence-to-automated-incident-response 🎮 FIFA ร่วมมือ Netflix เปิดเกมฟุตบอลใหม่รับบอลโลก 2026 หลังจากแยกทางกับ EA ที่สร้าง FIFA มานานเกือบ 30 ปี องค์กร FIFA ก็ยังไม่สามารถหาคู่หูที่สร้างเกมฟุตบอลระดับเรือธงได้ จนล่าสุด Netflix ประกาศว่าจะเปิดตัวเกมฟุตบอลใหม่ภายใต้แบรนด์ FIFA ในปี 2026 โดยให้ Delphi Interactive เป็นผู้พัฒนา จุดต่างสำคัญคือเกมนี้จะใช้สมาร์ทโฟนเป็นคอนโทรลเลอร์ ทำให้เล่นง่ายและเข้าถึงผู้เล่นทั่วไปมากขึ้น แทนที่จะเน้นความสมจริงแบบ EA Sports FC การจับมือกับ Netflix แสดงให้เห็นว่า FIFA เลือกเส้นทางใหม่ที่ไม่ชนตรงกับ EA แต่หันไปสร้างประสบการณ์แบบ “เกมปาร์ตี้” ที่เข้ากับแนวทางของ Netflix Games ซึ่งกำลังมุ่งไปที่เกมที่เล่นง่ายและเชื่อมโยงกับผู้ชมจำนวนมาก 🔗 https://securityonline.info/fifas-post-ea-comeback-netflix-to-launch-a-reimagined-football-game-for-the-2026-world-cup 🔒 Mario’s Deadly Upgrade: RansomHouse เปิดตัว Dual-Key Encryption กลุ่มอาชญากรไซเบอร์ที่ชื่อ Jolly Scorpius ซึ่งอยู่เบื้องหลังบริการ RansomHouse (ransomware-as-a-service) ได้ปรับปรุงเครื่องมือเข้ารหัสหลักของพวกเขาที่ชื่อ “Mario” จากเดิมที่ใช้วิธีเข้ารหัสแบบเส้นตรงธรรมดา กลายเป็นระบบที่ซับซ้อนและยืดหยุ่นมากขึ้น สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ Mario เวอร์ชันใหม่ไม่เพียงแค่เข้ารหัสไฟล์แบบตรงๆ แต่ใช้วิธี chunked processing คือแบ่งไฟล์ออกเป็นชิ้นๆ ที่มีขนาดเปลี่ยนแปลงได้ ทำให้การวิเคราะห์ย้อนกลับยากขึ้นมากสำหรับนักวิจัยด้านความปลอดภัย และที่น่ากังวลที่สุดคือการเพิ่ม dual-key encryption ซึ่งทำงานเหมือนระบบความปลอดภัยจริงๆ ที่ต้องใช้กุญแจสองชุดในการถอดรหัส หากผู้ป้องกันได้กุญแจเพียงชุดเดียว ข้อมูลก็ยังคงถูกล็อกแน่นหนา 🔗 https://securityonline.info/marios-deadly-upgrade-ransomhouse-unveils-dual-key-encryption-to-defeat-backups-and-recovery/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • Professional Fire Door Maintenance Services
    City Fire Proofing provides certified fire door maintenance services nationwide, ensuring doors remain compliant, safe, and fully functional. Our experienced team carries out inspections, repairs, and ongoing maintenance for internal and external fire doors in residential and commercial buildings. Regular fire door maintenance helps meet legal requirements, extend door lifespan, and maintain effective fire protection throughout your property. For more visit here - https://www.cityfp.co.uk/fire-doors
    Professional Fire Door Maintenance Services City Fire Proofing provides certified fire door maintenance services nationwide, ensuring doors remain compliant, safe, and fully functional. Our experienced team carries out inspections, repairs, and ongoing maintenance for internal and external fire doors in residential and commercial buildings. Regular fire door maintenance helps meet legal requirements, extend door lifespan, and maintain effective fire protection throughout your property. For more visit here - https://www.cityfp.co.uk/fire-doors
    WWW.CITYFP.CO.UK
    Certified Fire Door Maintenance, Installation and Inspection Companies
    CityFP is one of the trusted fire door maintenance companies, delivering certified fire door maintenance, inspections, and installation to ensure safety, compliance, and long-term durability.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251218 #TechRadar

    มินิพีซีราคาสุดคุ้มที่ AI ยังยกนิ้วให้
    เรื่องนี้เล่าถึงการท้าทายตัวเองของนักเขียนที่พยายามประกอบคอมให้แรงกว่ามินิพีซี Machenike ที่ขายในราคาเพียง 379 ดอลลาร์ แต่สุดท้ายกลับแพ้ เพราะแค่ CPU และ RAM ก็เกือบเท่าราคาทั้งเครื่องแล้ว เมื่อรวมทุกชิ้นส่วน ค่าใช้จ่ายพุ่งไปเกือบ 570 ดอลลาร์ ยังไม่รวมค่าไลเซนส์ Windows อีก ทำให้เห็นชัดว่าการซื้อเครื่องสำเร็จรูปในช่วงที่ตลาดชิ้นส่วนแพงขึ้นนั้นคุ้มกว่าเยอะ AI อย่าง ChatGPT ถึงกับบอกว่า “คุ้มสุด ๆ” ส่วน Gemini ก็ว่า “ราคานี้บ้าไปแล้ว” สรุปคือใครที่อยากได้เครื่องแรง ๆ ในงบจำกัด การซื้อสำเร็จรูปคือทางเลือกที่ไม่เสียเวลาและไม่เจ็บกระเป๋า
    https://www.techradar.com/pro/chatgpt-calls-this-mini-pc-a-steal-while-gemini-says-its-insane-value-for-money-meet-the-usd379-amd-ryzen-7-8745hs-powerhouse-that-ai-is-raving-about

    ปัญหา Windows ล่าสุดที่ทำธุรกิจปวดหัว
    Microsoft ออกแพตช์ประจำเดือนธันวาคม แต่ดันทำให้บริการ MSMQ บน Windows Server และ Windows 10 สำหรับองค์กรมีปัญหา ส่งผลให้แอปและเว็บไซต์ที่ใช้ IIS ทำงานผิดพลาด ทั้งคิวที่ไม่ทำงาน การเขียนข้อมูลล้มเหลว และข้อความแจ้งว่า “ทรัพยากรไม่เพียงพอ” ทั้งที่จริง ๆ มีอยู่เต็ม ๆ ตอนนี้ Microsoft ยังไม่มีแพตช์แก้ไขถาวร แต่แนะนำให้ธุรกิจติดต่อฝ่ายสนับสนุนโดยตรงเพื่อหาทางแก้หรือย้อนกลับการอัปเดตไปก่อน
    https://www.techradar.com/pro/security/having-windows-app-issues-microsoft-is-making-businesses-reach-out-directly-to-get-a-fix

    สิ่งที่ต้องจำเมื่อใช้แชตบอท AI
    บทความนี้เตือนว่าเวลาคุยกับแชตบอท AI อย่าลืมว่าข้อมูลที่เราพิมพ์ไปอาจไม่หายไปไหน บางครั้งบริษัทที่พัฒนา AI มีทีมงานที่เห็นข้อมูลจริง ๆ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนตัว เช่น วันเกิดหรือเลขบัญชี หากไม่ได้ลบออกก่อน การแชร์เอกสารทั้งฉบับกับบอทก็เสี่ยงมาก เพราะข้อมูลอาจถูกนำไปใช้ฝึกโมเดลต่อไปโดยไม่รู้ตัว ผู้เขียนจึงย้ำว่าทั้งธุรกิจและผู้ใช้ต้องมีวินัยในการจัดการข้อมูล ไม่ใช่แค่ปิดบัง แต่ต้องลบให้ถาวรเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในยุคที่ AI ถูกใช้แพร่หลาย
    https://www.techradar.com/pro/5-things-businesses-and-users-should-remember-when-using-ai-chatbots

    ช่องโหว่เก่าของ Asus ที่ยังตามหลอกหลอน
    CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนถึงช่องโหว่ในโปรแกรม Asus Live Update ที่เคยถูกโจมตีตั้งแต่ปี 2018–2019 โดยมีการฝังโค้ดอันตรายลงในเซิร์ฟเวอร์อัปเดต ทำให้เครื่องที่ดาวน์โหลดตัวติดตั้งบางรุ่นถูกควบคุมได้ ช่องโหว่นี้ถูกจัดเป็นระดับวิกฤติ และหน่วยงานรัฐต้องแก้ไขภายในต้นเดือนมกราคม แม้โปรแกรมจะหมดการสนับสนุนไปแล้ว แต่ก็ยังมีผลกับเครื่องที่ใช้เวอร์ชันเก่า ๆ องค์กรเอกชนก็ถูกแนะนำให้รีบอัปเดตหรือหยุดใช้งานเช่นกัน
    https://www.techradar.com/pro/security/cisa-reveals-warning-on-asus-software-flaw-heres-what-you-need-to-do-to-stay-safe

    กริ่งประตู Ring ที่พูดตอบเองได้ด้วย Alexa+
    Ring เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อ Alexa+ Greetings ที่ใช้ AI ช่วยตอบคนที่มากดกริ่ง โดยมันสามารถแยกแยะว่าใครมา เช่น คนส่งของ เพื่อน หรือแม้แต่เซลส์แมน แล้วตอบกลับตามคำสั่งที่เจ้าของตั้งไว้ เช่น บอกให้วางพัสดุไว้หลังบ้าน หรือปฏิเสธการขายตรงอย่างสุภาพ ฟีเจอร์นี้ยังสามารถตอบคำถามต่อเนื่องได้ เช่น ถ้าต้องเซ็นรับของ Alexa+ ก็จะบอกให้ส่งกลับไปที่ศูนย์ ฟีเจอร์กำลังทยอยเปิดให้ผู้ใช้ในสหรัฐฯ และแคนาดา ถือเป็นการยกระดับความสะดวกสบายของบ้านอัจฉริยะอีกขั้น
    https://www.techradar.com/home/smart-home/your-ring-doorbell-can-now-use-alexa-to-identify-whos-calling-and-give-them-an-appropriate-greeting

    ช่องโหว่ใหม่ใน Cisco ที่ถูกโจมตีแล้ว
    Cisco ออกมาเตือนว่ามีการค้นพบช่องโหว่แบบ zero-day ที่ถูกใช้โจมตีจริงแล้ว โดยกลุ่มแฮ็กเกอร์จากจีนเป็นผู้เกี่ยวข้อง ช่องโหว่นี้กระทบกับลูกค้าที่ใช้ซอฟต์แวร์ของ Cisco ทำให้ระบบถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นภัยร้ายแรงที่กำลังเกิดขึ้นจริง และ Cisco กำลังเร่งออกแพตช์แก้ไขเพื่อป้องกันการโจมตีเพิ่มเติม
    https://www.techradar.com/pro/security/cisco-says-chinese-hackers-are-exploiting-its-customers-with-a-new-zero-day

    รีวิว Agile CRM ปี 2026
    Agile CRM ถูกรีวิวอีกครั้งในปี 2026 โดยเน้นไปที่การใช้งานสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและกลาง จุดเด่นคือการรวมเครื่องมือด้านการตลาด การขาย และการบริการลูกค้าไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ทำให้ทีมงานสามารถติดตามลูกค้าได้ครบวงจร แต่ก็มีข้อจำกัดในด้านการปรับแต่งและการรองรับการขยายตัวสำหรับองค์กรใหญ่ รีวิวนี้จึงชี้ว่า Agile CRM เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการโซลูชันครบวงจรในราคาที่เข้าถึงได้
    https://www.techradar.com/pro/software-services/agile-crm-review

    จาก SaaS สู่ AI: การเปลี่ยนแปลงที่ผู้นำต้องเผชิญ
    บทความนี้เล่าถึงการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านเทคโนโลยีและวัฒนธรรมที่ผู้นำองค์กรต้องรับมือ ตั้งแต่การเปลี่ยนผ่านจาก SaaS ไปสู่การใช้ AI อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ใช่แค่เรื่องเครื่องมือ แต่ยังรวมถึงการปรับตัวของทีมงาน วัฒนธรรมองค์กร และการกำกับดูแล การเปลี่ยนแปลงนี้ถูกมองว่าเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายที่ต้องจัดการอย่างรอบคอบ
    https://www.techradar.com/pro/from-saas-to-ai-the-technological-and-cultural-shifts-leaders-must-confront

    โค้ดที่ AI สร้างมีบั๊กมากกว่ามนุษย์
    รายงานล่าสุดชี้ว่าโค้ดที่สร้างโดย AI มีแนวโน้มจะมีบั๊กและข้อผิดพลาดมากกว่าที่มนุษย์เขียนเอง แม้ AI จะช่วยให้การพัฒนาเร็วขึ้น แต่ก็ทำให้ทีมงานต้องเสียเวลาในการตรวจสอบและแก้ไขมากขึ้น บทความนี้จึงเตือนว่าการใช้ AI ในการเขียนโค้ดควรถูกมองเป็นเครื่องมือช่วย ไม่ใช่การแทนที่นักพัฒนา
    https://www.techradar.com/pro/security/ai-generated-code-contains-more-bugs-and-errors-than-human-output

    รีวิว Geekom AX8 Max mini PC
    Geekom AX8 Max mini PC ถูกรีวิวโดยเน้นไปที่ความคุ้มค่าและประสิทธิภาพในเครื่องเล็ก ๆ รุ่นนี้มาพร้อมสเปกที่ตอบโจทย์ทั้งงานทั่วไปและการใช้งานที่ต้องการพลังประมวลผลสูงในขนาดกะทัดรัด ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากได้เครื่องเล็กแต่แรง
    https://www.techradar.com/computing/geekom-ax8-max-mini-pc-review

    Google Maps เข้าใจคำพูดด้วย Gemini
    ผู้เขียนทดลองใช้ Gemini คุยกับ Google Maps ด้วยเสียง พบว่ามันสามารถตีความคำพูดที่ซับซ้อน เช่น “พาไปที่ร้านกาแฟที่อยู่ใกล้ ๆ และเปิดตอนนี้” ได้อย่างแม่นยำ ไม่ใช่แค่เส้นทาง แต่ยังรวมถึงเงื่อนไขเพิ่มเติม ทำให้การใช้งานแผนที่สะดวกขึ้นมาก ถือเป็นการยกระดับจากการพิมพ์หรือกดเลือกไปสู่การสื่อสารแบบธรรมชาติ
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/i-tried-talking-to-google-maps-with-gemini-and-it-actually-understood-what-i-wanted

    Ford เปลี่ยนโฟกัสจากรถไฟฟ้าไปสู่แบตเตอรี่ยักษ์
    Ford กำลังปรับกลยุทธ์จากการผลิตรถบรรทุกไฟฟ้าไปสู่การสร้างระบบแบตเตอรี่ขนาดใหญ่เพื่อใช้กับโครงข่ายไฟฟ้าและดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วสหรัฐฯ โดยมีแผนสร้างกำลังการผลิตถึง 20GWh การเปลี่ยนทิศนี้สะท้อนว่าตลาดรถไฟฟ้าอาจไม่ใช่เส้นทางเดียว แต่การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานพลังงานก็เป็นโอกาสใหม่ที่ใหญ่ไม่แพ้กัน
    https://www.techradar.com/pro/ford-is-switching-some-battery-focus-from-cars-to-data-centers-with-plans-for-huge-20gwh-capacity

    คนรุ่นใหม่หลงรัก Microsoft Excel
    ผลสำรวจเผยว่าคนทำงานสายการเงินรุ่นใหม่มีความผูกพันกับ Excel มากกว่ารุ่นก่อน ๆ แม้จะมีเครื่องมือคู่แข่งออกมาแข่งหลายสิบปี แต่ Excel ยังคงเป็นเครื่องมือหลักที่พวกเขาเลือกใช้ ความภักดีนี้สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์และความคุ้นเคยที่ฝังลึกในวัฒนธรรมการทำงาน
    https://www.techradar.com/pro/security/more-than-half-of-workers-say-they-really-love-excel-and-surprisingly-enough-its-younger-workers-who-are-apparently-more-infatuated

    Nex Playground คอนโซลราคาประหยัดสำหรับครอบครัว
    รีวิว Nex Playground ชี้ว่าเป็นเครื่องเล่นเกมที่ราคาถูกกว่า แต่ยังมอบประสบการณ์สนุกสำหรับทุกคนในบ้าน แม้จะไม่แรงเท่าคอนโซลใหญ่ แต่ก็เพียงพอสำหรับเกมที่เล่นร่วมกัน ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับครอบครัวที่อยากได้ความบันเทิงโดยไม่ต้องจ่ายแพง
    https://www.techradar.com/gaming/nex-playground-review

    ระวังอีเมลปลอมจาก PayPal
    ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ามีการใช้ระบบสมัครสมาชิกของ PayPal ในทางที่ผิด ส่งอีเมลปลอมแจ้งการซื้อเพื่อหลอกให้ผู้ใช้กดลิงก์หรือให้ข้อมูลส่วนตัว แม้จะดูเหมือนอีเมลจริง แต่จริง ๆ เป็นการฟิชชิ่งที่อันตราย ผู้ใช้จึงต้องตรวจสอบทุกครั้งก่อนคลิกลิงก์หรือยืนยันการชำระเงิน
    https://www.techradar.com/pro/security/paypal-user-beware-experts-warn-subscriptions-being-abused-to-send-fake-purchase-emails

    Urban VPN Proxy แอบสอดส่องผู้ใช้
    มีการเปิดเผยว่า Urban VPN Proxy ซึ่งเป็นบริการฟรี กำลังถูกใช้เพื่อสอดแนมข้อมูลผู้ใช้ โดยเก็บข้อมูลการใช้งานและอาจส่งต่อไปยังบุคคลที่สาม ทำให้ผู้ใช้ที่คิดว่าได้ความปลอดภัยจาก VPN กลับเสี่ยงต่อการถูกละเมิดความเป็นส่วนตัว บทความนี้แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้ VPN ฟรี และเลือกบริการที่มีความน่าเชื่อถือแทน
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/urban-vpn-proxy-is-the-latest-free-vpn-spying-on-users-heres-how-to-stay-safe

    Proton VPN รองรับ Linux มากขึ้น
    Proton VPN ได้ขยายการรองรับไปยังอุปกรณ์ Linux เพิ่มเติม ทำให้ผู้ใช้ที่ใช้ระบบปฏิบัติการนี้สามารถติดตั้งและใช้งานแอปอย่างเป็นทางการได้ง่ายขึ้น ถือเป็นการเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ที่ต้องการเชื่อมต่อ VPN บนแพลตฟอร์มที่หลากหลาย
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/official-proton-vpn-app-lands-on-even-more-linux-devices

    📌📡🟠 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟠📡📌 #รวมข่าวIT #20251218 #TechRadar 🖥️ มินิพีซีราคาสุดคุ้มที่ AI ยังยกนิ้วให้ เรื่องนี้เล่าถึงการท้าทายตัวเองของนักเขียนที่พยายามประกอบคอมให้แรงกว่ามินิพีซี Machenike ที่ขายในราคาเพียง 379 ดอลลาร์ แต่สุดท้ายกลับแพ้ เพราะแค่ CPU และ RAM ก็เกือบเท่าราคาทั้งเครื่องแล้ว เมื่อรวมทุกชิ้นส่วน ค่าใช้จ่ายพุ่งไปเกือบ 570 ดอลลาร์ ยังไม่รวมค่าไลเซนส์ Windows อีก ทำให้เห็นชัดว่าการซื้อเครื่องสำเร็จรูปในช่วงที่ตลาดชิ้นส่วนแพงขึ้นนั้นคุ้มกว่าเยอะ AI อย่าง ChatGPT ถึงกับบอกว่า “คุ้มสุด ๆ” ส่วน Gemini ก็ว่า “ราคานี้บ้าไปแล้ว” สรุปคือใครที่อยากได้เครื่องแรง ๆ ในงบจำกัด การซื้อสำเร็จรูปคือทางเลือกที่ไม่เสียเวลาและไม่เจ็บกระเป๋า 🔗 https://www.techradar.com/pro/chatgpt-calls-this-mini-pc-a-steal-while-gemini-says-its-insane-value-for-money-meet-the-usd379-amd-ryzen-7-8745hs-powerhouse-that-ai-is-raving-about ⚠️ ปัญหา Windows ล่าสุดที่ทำธุรกิจปวดหัว Microsoft ออกแพตช์ประจำเดือนธันวาคม แต่ดันทำให้บริการ MSMQ บน Windows Server และ Windows 10 สำหรับองค์กรมีปัญหา ส่งผลให้แอปและเว็บไซต์ที่ใช้ IIS ทำงานผิดพลาด ทั้งคิวที่ไม่ทำงาน การเขียนข้อมูลล้มเหลว และข้อความแจ้งว่า “ทรัพยากรไม่เพียงพอ” ทั้งที่จริง ๆ มีอยู่เต็ม ๆ ตอนนี้ Microsoft ยังไม่มีแพตช์แก้ไขถาวร แต่แนะนำให้ธุรกิจติดต่อฝ่ายสนับสนุนโดยตรงเพื่อหาทางแก้หรือย้อนกลับการอัปเดตไปก่อน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/having-windows-app-issues-microsoft-is-making-businesses-reach-out-directly-to-get-a-fix 🤖 สิ่งที่ต้องจำเมื่อใช้แชตบอท AI บทความนี้เตือนว่าเวลาคุยกับแชตบอท AI อย่าลืมว่าข้อมูลที่เราพิมพ์ไปอาจไม่หายไปไหน บางครั้งบริษัทที่พัฒนา AI มีทีมงานที่เห็นข้อมูลจริง ๆ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนตัว เช่น วันเกิดหรือเลขบัญชี หากไม่ได้ลบออกก่อน การแชร์เอกสารทั้งฉบับกับบอทก็เสี่ยงมาก เพราะข้อมูลอาจถูกนำไปใช้ฝึกโมเดลต่อไปโดยไม่รู้ตัว ผู้เขียนจึงย้ำว่าทั้งธุรกิจและผู้ใช้ต้องมีวินัยในการจัดการข้อมูล ไม่ใช่แค่ปิดบัง แต่ต้องลบให้ถาวรเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในยุคที่ AI ถูกใช้แพร่หลาย 🔗 https://www.techradar.com/pro/5-things-businesses-and-users-should-remember-when-using-ai-chatbots 🔒 ช่องโหว่เก่าของ Asus ที่ยังตามหลอกหลอน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนถึงช่องโหว่ในโปรแกรม Asus Live Update ที่เคยถูกโจมตีตั้งแต่ปี 2018–2019 โดยมีการฝังโค้ดอันตรายลงในเซิร์ฟเวอร์อัปเดต ทำให้เครื่องที่ดาวน์โหลดตัวติดตั้งบางรุ่นถูกควบคุมได้ ช่องโหว่นี้ถูกจัดเป็นระดับวิกฤติ และหน่วยงานรัฐต้องแก้ไขภายในต้นเดือนมกราคม แม้โปรแกรมจะหมดการสนับสนุนไปแล้ว แต่ก็ยังมีผลกับเครื่องที่ใช้เวอร์ชันเก่า ๆ องค์กรเอกชนก็ถูกแนะนำให้รีบอัปเดตหรือหยุดใช้งานเช่นกัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/cisa-reveals-warning-on-asus-software-flaw-heres-what-you-need-to-do-to-stay-safe 🏠 กริ่งประตู Ring ที่พูดตอบเองได้ด้วย Alexa+ Ring เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อ Alexa+ Greetings ที่ใช้ AI ช่วยตอบคนที่มากดกริ่ง โดยมันสามารถแยกแยะว่าใครมา เช่น คนส่งของ เพื่อน หรือแม้แต่เซลส์แมน แล้วตอบกลับตามคำสั่งที่เจ้าของตั้งไว้ เช่น บอกให้วางพัสดุไว้หลังบ้าน หรือปฏิเสธการขายตรงอย่างสุภาพ ฟีเจอร์นี้ยังสามารถตอบคำถามต่อเนื่องได้ เช่น ถ้าต้องเซ็นรับของ Alexa+ ก็จะบอกให้ส่งกลับไปที่ศูนย์ ฟีเจอร์กำลังทยอยเปิดให้ผู้ใช้ในสหรัฐฯ และแคนาดา ถือเป็นการยกระดับความสะดวกสบายของบ้านอัจฉริยะอีกขั้น 🔗 https://www.techradar.com/home/smart-home/your-ring-doorbell-can-now-use-alexa-to-identify-whos-calling-and-give-them-an-appropriate-greeting 🛡️ ช่องโหว่ใหม่ใน Cisco ที่ถูกโจมตีแล้ว Cisco ออกมาเตือนว่ามีการค้นพบช่องโหว่แบบ zero-day ที่ถูกใช้โจมตีจริงแล้ว โดยกลุ่มแฮ็กเกอร์จากจีนเป็นผู้เกี่ยวข้อง ช่องโหว่นี้กระทบกับลูกค้าที่ใช้ซอฟต์แวร์ของ Cisco ทำให้ระบบถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นภัยร้ายแรงที่กำลังเกิดขึ้นจริง และ Cisco กำลังเร่งออกแพตช์แก้ไขเพื่อป้องกันการโจมตีเพิ่มเติม 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/cisco-says-chinese-hackers-are-exploiting-its-customers-with-a-new-zero-day 📊 รีวิว Agile CRM ปี 2026 Agile CRM ถูกรีวิวอีกครั้งในปี 2026 โดยเน้นไปที่การใช้งานสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและกลาง จุดเด่นคือการรวมเครื่องมือด้านการตลาด การขาย และการบริการลูกค้าไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ทำให้ทีมงานสามารถติดตามลูกค้าได้ครบวงจร แต่ก็มีข้อจำกัดในด้านการปรับแต่งและการรองรับการขยายตัวสำหรับองค์กรใหญ่ รีวิวนี้จึงชี้ว่า Agile CRM เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการโซลูชันครบวงจรในราคาที่เข้าถึงได้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/software-services/agile-crm-review 🌐 จาก SaaS สู่ AI: การเปลี่ยนแปลงที่ผู้นำต้องเผชิญ บทความนี้เล่าถึงการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านเทคโนโลยีและวัฒนธรรมที่ผู้นำองค์กรต้องรับมือ ตั้งแต่การเปลี่ยนผ่านจาก SaaS ไปสู่การใช้ AI อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ใช่แค่เรื่องเครื่องมือ แต่ยังรวมถึงการปรับตัวของทีมงาน วัฒนธรรมองค์กร และการกำกับดูแล การเปลี่ยนแปลงนี้ถูกมองว่าเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายที่ต้องจัดการอย่างรอบคอบ 🔗 https://www.techradar.com/pro/from-saas-to-ai-the-technological-and-cultural-shifts-leaders-must-confront 🐞 โค้ดที่ AI สร้างมีบั๊กมากกว่ามนุษย์ รายงานล่าสุดชี้ว่าโค้ดที่สร้างโดย AI มีแนวโน้มจะมีบั๊กและข้อผิดพลาดมากกว่าที่มนุษย์เขียนเอง แม้ AI จะช่วยให้การพัฒนาเร็วขึ้น แต่ก็ทำให้ทีมงานต้องเสียเวลาในการตรวจสอบและแก้ไขมากขึ้น บทความนี้จึงเตือนว่าการใช้ AI ในการเขียนโค้ดควรถูกมองเป็นเครื่องมือช่วย ไม่ใช่การแทนที่นักพัฒนา 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/ai-generated-code-contains-more-bugs-and-errors-than-human-output 💻 รีวิว Geekom AX8 Max mini PC Geekom AX8 Max mini PC ถูกรีวิวโดยเน้นไปที่ความคุ้มค่าและประสิทธิภาพในเครื่องเล็ก ๆ รุ่นนี้มาพร้อมสเปกที่ตอบโจทย์ทั้งงานทั่วไปและการใช้งานที่ต้องการพลังประมวลผลสูงในขนาดกะทัดรัด ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากได้เครื่องเล็กแต่แรง 🔗 https://www.techradar.com/computing/geekom-ax8-max-mini-pc-review 🗺️ Google Maps เข้าใจคำพูดด้วย Gemini ผู้เขียนทดลองใช้ Gemini คุยกับ Google Maps ด้วยเสียง พบว่ามันสามารถตีความคำพูดที่ซับซ้อน เช่น “พาไปที่ร้านกาแฟที่อยู่ใกล้ ๆ และเปิดตอนนี้” ได้อย่างแม่นยำ ไม่ใช่แค่เส้นทาง แต่ยังรวมถึงเงื่อนไขเพิ่มเติม ทำให้การใช้งานแผนที่สะดวกขึ้นมาก ถือเป็นการยกระดับจากการพิมพ์หรือกดเลือกไปสู่การสื่อสารแบบธรรมชาติ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/i-tried-talking-to-google-maps-with-gemini-and-it-actually-understood-what-i-wanted 🔋 Ford เปลี่ยนโฟกัสจากรถไฟฟ้าไปสู่แบตเตอรี่ยักษ์ Ford กำลังปรับกลยุทธ์จากการผลิตรถบรรทุกไฟฟ้าไปสู่การสร้างระบบแบตเตอรี่ขนาดใหญ่เพื่อใช้กับโครงข่ายไฟฟ้าและดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วสหรัฐฯ โดยมีแผนสร้างกำลังการผลิตถึง 20GWh การเปลี่ยนทิศนี้สะท้อนว่าตลาดรถไฟฟ้าอาจไม่ใช่เส้นทางเดียว แต่การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานพลังงานก็เป็นโอกาสใหม่ที่ใหญ่ไม่แพ้กัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/ford-is-switching-some-battery-focus-from-cars-to-data-centers-with-plans-for-huge-20gwh-capacity 📈 คนรุ่นใหม่หลงรัก Microsoft Excel ผลสำรวจเผยว่าคนทำงานสายการเงินรุ่นใหม่มีความผูกพันกับ Excel มากกว่ารุ่นก่อน ๆ แม้จะมีเครื่องมือคู่แข่งออกมาแข่งหลายสิบปี แต่ Excel ยังคงเป็นเครื่องมือหลักที่พวกเขาเลือกใช้ ความภักดีนี้สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์และความคุ้นเคยที่ฝังลึกในวัฒนธรรมการทำงาน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/more-than-half-of-workers-say-they-really-love-excel-and-surprisingly-enough-its-younger-workers-who-are-apparently-more-infatuated 🎮 Nex Playground คอนโซลราคาประหยัดสำหรับครอบครัว รีวิว Nex Playground ชี้ว่าเป็นเครื่องเล่นเกมที่ราคาถูกกว่า แต่ยังมอบประสบการณ์สนุกสำหรับทุกคนในบ้าน แม้จะไม่แรงเท่าคอนโซลใหญ่ แต่ก็เพียงพอสำหรับเกมที่เล่นร่วมกัน ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับครอบครัวที่อยากได้ความบันเทิงโดยไม่ต้องจ่ายแพง 🔗 https://www.techradar.com/gaming/nex-playground-review 💳 ระวังอีเมลปลอมจาก PayPal ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ามีการใช้ระบบสมัครสมาชิกของ PayPal ในทางที่ผิด ส่งอีเมลปลอมแจ้งการซื้อเพื่อหลอกให้ผู้ใช้กดลิงก์หรือให้ข้อมูลส่วนตัว แม้จะดูเหมือนอีเมลจริง แต่จริง ๆ เป็นการฟิชชิ่งที่อันตราย ผู้ใช้จึงต้องตรวจสอบทุกครั้งก่อนคลิกลิงก์หรือยืนยันการชำระเงิน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/paypal-user-beware-experts-warn-subscriptions-being-abused-to-send-fake-purchase-emails 🌐 Urban VPN Proxy แอบสอดส่องผู้ใช้ มีการเปิดเผยว่า Urban VPN Proxy ซึ่งเป็นบริการฟรี กำลังถูกใช้เพื่อสอดแนมข้อมูลผู้ใช้ โดยเก็บข้อมูลการใช้งานและอาจส่งต่อไปยังบุคคลที่สาม ทำให้ผู้ใช้ที่คิดว่าได้ความปลอดภัยจาก VPN กลับเสี่ยงต่อการถูกละเมิดความเป็นส่วนตัว บทความนี้แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้ VPN ฟรี และเลือกบริการที่มีความน่าเชื่อถือแทน 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/urban-vpn-proxy-is-the-latest-free-vpn-spying-on-users-heres-how-to-stay-safe 🐧 Proton VPN รองรับ Linux มากขึ้น Proton VPN ได้ขยายการรองรับไปยังอุปกรณ์ Linux เพิ่มเติม ทำให้ผู้ใช้ที่ใช้ระบบปฏิบัติการนี้สามารถติดตั้งและใช้งานแอปอย่างเป็นทางการได้ง่ายขึ้น ถือเป็นการเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ที่ต้องการเชื่อมต่อ VPN บนแพลตฟอร์มที่หลากหลาย 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/official-proton-vpn-app-lands-on-even-more-linux-devices
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 218 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251218 #securityonline


    Mozilla เปิดยุคใหม่: Firefox เตรียมกลายเป็นเบราว์เซอร์พลัง AI
    Mozilla ประกาศแผนการใหญ่ภายใต้การนำของ CEO คนใหม่ Anthony Enzor-DeMeo ที่จะเปลี่ยน Firefox จากเบราว์เซอร์แบบดั้งเดิมให้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI จุดมุ่งหมายคือการทำให้ Firefox ไม่ใช่แค่เครื่องมือท่องเว็บ แต่เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่เข้าใจผู้ใช้และสามารถปรับแต่งประสบการณ์ออนไลน์ได้อย่างลึกซึ้ง การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงความพยายามของ Mozilla ที่จะกลับมาแข่งขันในตลาดเบราว์เซอร์ที่ถูกครอบงำโดย Chrome และ Edge
    https://securityonline.info/mozillas-new-chapter-ceo-anthony-enzor-demeo-to-transform-firefox-into-an-ai-powered-powerhouse

    Let’s Encrypt ปรับระบบ TLS ใหม่: ใบรับรองสั้นลงเหลือ 45 วัน
    Let’s Encrypt ประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบการออกใบรับรอง TLS โดยลดอายุการใช้งานจาก 90 วันเหลือเพียง 45 วัน พร้อมเปิดตัวโครงสร้างใหม่ที่เรียกว่า Generation Y Hierarchy และการรองรับ TLS แบบใช้ IP โดยตรง การเปลี่ยนแปลงนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยงจากใบรับรองที่ถูกขโมยหรือไม่ได้อัปเดต และทำให้ระบบอินเทอร์เน็ตมีความยืดหยุ่นมากขึ้น แม้จะเพิ่มภาระให้ผู้ดูแลระบบ แต่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของเว็บทั่วโลก
    https://securityonline.info/the-45-day-era-begins-lets-encrypt-unveils-generation-y-hierarchy-and-ip-based-tls

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Commons Text เสี่ยงถูกยึดเซิร์ฟเวอร์
    เรื่องนี้เป็นการค้นพบช่องโหว่ใหม่ในไลบรารี Java ที่ชื่อ Apache Commons Text ซึ่งถูกใช้อย่างแพร่หลายในการจัดการข้อความ ช่องโหว่นี้ถูกระบุว่า CVE-2025-46295 และมีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.8 เต็ม 10 จุดอันตรายอยู่ที่ฟังก์ชัน string interpolation ที่เปิดช่องให้ผู้โจมตีสามารถส่งข้อมูลที่ไม่ปลอดภัยเข้ามาและทำให้เกิดการรันคำสั่งจากระยะไกลได้ ลักษณะนี้คล้ายกับเหตุการณ์ Log4Shell ที่เคยสร้างความเสียหายใหญ่ในอดีต ทีมพัฒนา FileMaker Server ได้รีบแก้ไขโดยอัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่ที่ปลอดภัยแล้ว และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตทันทีเพื่อปิดช่องโหว่
    https://securityonline.info/cve-2025-46295-cvss-9-8-critical-apache-commons-text-flaw-risks-total-server-takeover

    หลอกด้วยใบสั่งจราจรปลอม: แอป RTO Challan ดูดข้อมูลและเงิน
    ในอินเดียมีการโจมตีใหม่ที่ใช้ความกลัวการโดนใบสั่งจราจรมาเป็นเครื่องมือ หลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอป “RTO Challan” ผ่าน WhatsApp โดยอ้างว่าเป็นแอปทางการเพื่อดูหลักฐานการกระทำผิด แต่แท้จริงแล้วเป็นมัลแวร์ที่ซ่อนตัวและสร้าง VPN ปลอมเพื่อส่งข้อมูลออกไปโดยไม่ถูกตรวจจับ มันสามารถขโมยข้อมูลส่วนตัว ตั้งแต่บัตร Aadhaar, PAN ไปจนถึงข้อมูลธนาคาร และยังหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลบัตรเครดิตพร้อมรหัส PIN เพื่อทำธุรกรรมปลอมแบบเรียลไทม์ ถือเป็นการโจมตีที่ผสมผสานทั้งวิศวกรรมสังคมและเทคนิคขั้นสูง ผู้ใช้ถูกเตือนให้ระวังข้อความจากเบอร์แปลกและไม่ดาวน์โหลดแอปจากลิงก์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
    https://securityonline.info/rto-challan-scam-how-a-fake-traffic-ticket-and-a-malicious-vpn-can-drain-your-bank-account

    Node.js systeminformation พบช่องโหว่เสี่ยง RCE บน Windows
    ไลบรารีชื่อดัง systeminformation ที่ถูกดาวน์โหลดกว่า 16 ล้านครั้งต่อเดือน ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-68154 โดยเฉพาะบน Windows ฟังก์ชัน fsSize() ที่ใช้ตรวจสอบขนาดดิสก์ไม่ได้กรองข้อมูลอินพุต ทำให้ผู้โจมตีสามารถใส่คำสั่ง PowerShell แทนตัวอักษรไดรฟ์ และรันคำสั่งอันตรายได้ทันที ผลกระทบคือการเข้าควบคุมระบบ อ่านข้อมูลลับ หรือแม้กระทั่งปล่อย ransomware นักพัฒนาถูกแนะนำให้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 5.27.14 ที่แก้ไขแล้วโดยด่วน
    https://securityonline.info/node-js-alert-systeminformation-flaw-risks-windows-rce-for-16m-monthly-users

    OpenAI เจรจา Amazon ขอทุนเพิ่ม 10 พันล้าน พร้อมเงื่อนไขใช้ชิป AI ของ Amazon
    มีรายงานว่า OpenAI กำลังเจรจากับ Amazon เพื่อระดมทุนมหาศาลถึง 10 พันล้านดอลลาร์ โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือ OpenAI ต้องใช้ชิป AI ของ Amazon เช่น Trainium และ Inferentia แทนการพึ่งพา NVIDIA ที่ราคาแพงและขาดตลาด หากดีลนี้เกิดขึ้นจริงจะเป็นการพลิกเกมครั้งใหญ่ เพราะจะทำให้ Amazon ได้การยืนยันคุณภาพชิปจากผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดในวงการ AI และยังช่วยให้ OpenAI ลดต้นทุนการประมวลผล ขณะเดียวกันก็สร้างสมดุลระหว่าง Microsoft และ Amazon ในการเป็นพันธมิตรด้านคลาวด์
    https://securityonline.info/the-10b-pivot-openai-in-talks-for-massive-amazon-funding-but-theres-a-silicon-catch

    Cloudflare เผยรายงานปี 2025: สงครามบอท AI และการจราจรอินเทอร์เน็ตพุ่ง 19%
    รายงานประจำปีของ Cloudflare ชี้ให้เห็นว่าปี 2025 อินเทอร์เน็ตกำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ปริมาณการใช้งานเพิ่มขึ้น 19% และเกิด “สงครามบอท AI” ที่แข่งขันกันเก็บข้อมูลออนไลน์ โดย Google ครองอันดับหนึ่งด้านการเก็บข้อมูลผ่าน crawler เพื่อใช้ฝึกโมเดล AI อย่าง Gemini ขณะเดียวกันองค์กรไม่แสวงหากำไรกลับกลายเป็นเป้าหมายโจมตีไซเบอร์มากที่สุด เนื่องจากมีข้อมูลอ่อนไหวแต่ขาดทรัพยากรป้องกัน รายงานยังระบุว่ามีการโจมตี DDoS ครั้งใหญ่กว่า 25 ครั้งในปีเดียว และครึ่งหนึ่งของการหยุดชะงักอินเทอร์เน็ตทั่วโลกเกิดจากการกระทำของรัฐบาล การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนทั้งความก้าวหน้าและความเปราะบางของโลกออนไลน์
    https://securityonline.info/the-internet-rewired-cloudflare-2025-review-unveils-the-ai-bot-war-and-a-19-traffic-surge

    Locked Out of the Cloud: เมื่อแฮกเกอร์ใช้ AWS Termination Protection ปล้นพลังประมวลผลไปขุดคริปโต
    เรื่องนี้เป็นการโจมตีที่ซับซ้อนมากในโลกคลาวด์ แฮกเกอร์เจาะเข้ามาในระบบ AWS โดยใช้บัญชีที่ถูกขโมย แล้วรีบ deploy เครื่องขุดคริปโตภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที จุดที่น่ากลัวคือพวกเขาใช้ฟีเจอร์ DryRun เพื่อตรวจสอบสิทธิ์โดยไม่ทิ้งร่องรอย และเมื่อเครื่องขุดถูกสร้างขึ้น พวกเขาเปิดการป้องกันการลบ (termination protection) ทำให้เจ้าของระบบไม่สามารถลบเครื่องได้ทันที ต้องปิดการป้องกันก่อนถึงจะจัดการได้ นั่นทำให้แฮกเกอร์มีเวลาขุดคริปโตเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีการสร้าง backdoor ผ่าน AWS Lambda และเตรียมใช้ Amazon SES เพื่อส่งอีเมลฟิชชิ่งต่อไป เหตุการณ์นี้ไม่ใช่การเจาะ AWS โดยตรง แต่เป็นการใช้ credential ที่ถูกขโมยไปอย่างชาญฉลาด
    https://securityonline.info/locked-out-of-the-cloud-hackers-use-aws-termination-protection-to-hijack-ecs-for-unstoppable-crypto-mining

    Blurred Deception: กลยุทธ์ฟิชชิ่งของกลุ่ม APT
    รัสเซียที่ใช้ “เอกสารเบลอ” กลุ่ม APT จากรัสเซียส่งอีเมลปลอมในชื่อคำสั่งจากประธานาธิบดี Transnistria โดยแนบไฟล์ที่ดูเหมือนเอกสารทางการ แต่เนื้อหาถูกทำให้เบลอด้วย CSS filter ผู้รับจึงต้องใส่อีเมลและรหัสผ่านเพื่อ “ปลดล็อก” เอกสาร ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นการหลอกขโมยข้อมูลเข้าสู่ระบบ ฟังก์ชัน JavaScript ที่ใช้ยังมีลูกเล่นคือไม่ว่ารหัสผ่านจะถูกหรือผิดก็ถูกส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของแฮกเกอร์อยู่ดี แคมเปญนี้ไม่ได้หยุดแค่ Transnistria แต่ยังขยายไปยังประเทศในยุโรปตะวันออกและหน่วยงาน NATO ด้วย ถือเป็นการโจมตีที่ใช้ความเร่งด่วนและความอยากรู้อยากเห็นของเหยื่อเป็นตัวล่อ
    https://securityonline.info/blurred-deception-russian-apt-targets-transnistria-and-nato-with-high-pressure-phishing-lures

    “Better Auth” Framework Alert: ช่องโหว่ Double-Slash ที่ทำให้ระบบป้องกันพัง
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Better Auth ซึ่งเป็น framework ยอดนิยมสำหรับ TypeScript ที่ใช้กันกว้างขวาง ปัญหาคือ router ภายในชื่อ rou3 มอง URL ที่มีหลาย slash เช่น //sign-in/email ว่าเหมือนกับ /sign-in/email แต่ระบบป้องกันบางอย่างไม่ได้ normalize URL แบบเดียวกัน ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึง path ที่ถูกปิดไว้ หรือเลี่ยง rate limit ได้ง่าย ๆ ช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS สูงถึง 8.6 และกระทบผู้ใช้จำนวนมาก การแก้ไขคืออัปเดตเวอร์ชันใหม่ หรือปรับ proxy ให้ normalize URL ก่อนถึงระบบ หากไม่ทำก็เสี่ยงที่ระบบจะถูกเจาะผ่านช่องโหว่เล็ก ๆ แต่ร้ายแรงนี้
    https://securityonline.info/better-auth-framework-alert-the-double-slash-trick-that-bypasses-security-controls

    Ink Dragon’s Global Mesh: เมื่อเซิร์ฟเวอร์รัฐบาลถูกเปลี่ยนเป็นโหนดสอดแนม
    กลุ่มสอดแนมไซเบอร์จากจีนที่ชื่อ Ink Dragon ใช้เทคนิคใหม่ในการสร้างเครือข่ายสั่งการ โดยเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์รัฐบาลที่ถูกเจาะให้กลายเป็นโหนด relay ส่งต่อคำสั่งและข้อมูลไปยังเป้าหมายอื่น ๆ ผ่านโมดูล ShadowPad IIS Listener ทำให้การติดตามแทบเป็นไปไม่ได้ เพราะคำสั่งอาจวิ่งผ่านหลายองค์กรก่อนถึงเป้าหมายจริง พวกเขายังใช้ช่องโหว่ IIS ที่รู้จักกันมานานและ misconfiguration ของ ASP.NET เพื่อเข้ามา จากนั้นติดตั้ง malware รุ่นใหม่ที่ซ่อนการสื่อสารผ่าน Microsoft Graph API การขยายเป้าหมายไปยังยุโรปทำให้ภัยนี้ไม่ใช่แค่ระดับภูมิภาค แต่เป็นโครงสร้างสอดแนมข้ามชาติที่ใช้โครงสร้างของเหยื่อเองเป็นเครื่องมือ
    https://securityonline.info/ink-dragons-global-mesh-how-chinese-spies-turn-compromised-government-servers-into-c2-relay-nodes

    Academic Ambush: เมื่อกลุ่ม APT ปลอมรายงาน “Plagiarism” เพื่อเจาะระบบนักวิชาการ
    นี่คือแคมเปญที่ใช้ความกังวลของนักวิชาการเป็นตัวล่อ แฮกเกอร์ส่งอีเมลปลอมในชื่อ “Forum Troll APT” โดยอ้างว่าผลงานของเหยื่อถูกตรวจพบการลอกเลียนแบบ พร้อมแนบไฟล์ Word ที่ดูเหมือนรายงานตรวจสอบ แต่จริง ๆ แล้วเป็นเอกสารที่ฝังโค้ดอันตราย เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ โค้ดจะถูกเรียกใช้เพื่อดาวน์โหลดมัลแวร์เข้ามาในเครื่องทันที การโจมตีนี้เล่นกับความกลัวเรื่องชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือในวงวิชาการ ทำให้ผู้รับมีแนวโน้มเปิดไฟล์โดยไม่ระวัง ถือเป็นการใช้ “แรงกดดันทางสังคม” เป็นอาวุธไซเบอร์
    https://securityonline.info/academic-ambush-how-the-forum-troll-apt-hijacks-scholars-systems-via-fake-plagiarism-reports

    GitHub ยอมถอย หลังนักพัฒนารวมพลังต้านค่าธรรมเนียม Self-Hosted Runner
    เรื่องนี้เริ่มจาก GitHub ประกาศว่าจะเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมสำหรับการใช้งาน self-hosted runner ใน GitHub Actions ตั้งแต่มีนาคม 2026 โดยคิดนาทีละ 0.002 ดอลลาร์ แม้ผู้ใช้จะลงทุนเครื่องเองแล้วก็ตาม ข่าวนี้ทำให้ชุมชนนักพัฒนาลุกฮือทันที เสียงวิจารณ์ดังไปทั่วว่าเป็นการตัดสินใจที่ไม่ฟังเสียงผู้ใช้ สุดท้าย GitHub ต้องออกมาประกาศเลื่อนการเก็บค่าธรรมเนียมออกไป พร้อมลดราคาสำหรับ runner ที่ GitHub โฮสต์เองลงถึง 39% ตั้งแต่ต้นปี 2026 และย้ำว่าจะกลับไปฟังเสียงนักพัฒนาให้มากขึ้นก่อนปรับแผนใหม่ เรื่องนี้สะท้อนว่าพลังของชุมชนสามารถกดดันให้แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ต้องทบทวนการตัดสินใจได้
    https://securityonline.info/the-developer-win-github-postpones-self-hosted-runner-fee-after-massive-community-outcry

    ช่องโหว่ร้ายแรง HPE OneView เปิดทางให้ยึดศูนย์ข้อมูลได้ทันที
    Hewlett Packard Enterprise (HPE) แจ้งเตือนช่องโหว่ CVE-2025-37164 ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงสุด 10.0 ในซอฟต์แวร์ OneView ซึ่งเป็นหัวใจในการจัดการเซิร์ฟเวอร์และระบบเครือข่าย ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีที่ไม่ต้องล็อกอินสามารถสั่งรันโค้ดจากระยะไกลได้ทันที เท่ากับว่าสามารถยึดศูนย์ข้อมูลทั้งระบบได้เลย HPE รีบออกแพตช์ v11.00 และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตโดยด่วน สำหรับผู้ที่ยังใช้เวอร์ชันเก่า มี hotfix ให้ แต่ต้องระวังว่าหลังอัปเกรดบางเวอร์ชันต้องติดตั้งซ้ำอีกครั้ง ไม่เช่นนั้นจะยังเสี่ยงอยู่
    https://securityonline.info/cve-2025-37164-cvss-10-0-unauthenticated-hpe-oneview-rce-grants-total-control-over-data-centers

    CISA เตือนด่วน แฮ็กเกอร์จีนใช้ช่องโหว่ Cisco และ SonicWall โจมตีจริงแล้ว
    หน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเพิ่มช่องโหว่ร้ายแรงเข้ารายการ KEV หลังพบว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์จีน UAT-9686 กำลังใช้ช่องโหว่ Cisco Secure Email Gateway ที่มีคะแนน 10 เต็มในการเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน พร้อมติดตั้งมัลแวร์ AquaShell และ AquaPurge เพื่อซ่อนร่องรอย นอกจากนี้ยังพบการโจมตี SonicWall SMA1000 โดยใช้ช่องโหว่เดิมร่วมกับช่องโหว่ใหม่เพื่อยึดระบบได้ทั้งหมด และยังมีการนำช่องโหว่เก่าใน ASUS Live Update ที่หมดการสนับสนุนแล้วกลับมาใช้โจมตีในลักษณะ supply chain อีกด้วย ทำให้หน่วยงานรัฐต้องเร่งแพตช์ก่อนเส้นตาย 24 ธันวาคม 2025 https://securityonline.info/cisa-alert-chinese-hackers-weaponize-cvss-10-cisco-zero-day-sonicwall-exploit-chains

    แฮ็กเกอร์จีน UAT-9686 ใช้มัลแวร์ Aqua เจาะ Cisco Secure Email
    Cisco Talos เปิดเผยว่ากลุ่ม UAT-9686 กำลังใช้ช่องโหว่ CVE-2025-20393 ใน Cisco Secure Email Gateway และ Web Manager เพื่อเข้าถึงระบบในระดับ root โดยอาศัยการเปิดใช้งานฟีเจอร์ Spam Quarantine ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งหากเปิดไว้จะกลายเป็นช่องทางให้โจมตีได้ทันที เมื่อเข้ามาแล้วพวกเขาติดตั้งมัลแวร์ชุด “Aqua” ได้แก่ AquaShell ที่ฝังตัวในไฟล์เซิร์ฟเวอร์, AquaPurge ที่ลบหลักฐานใน log และ AquaTunnel ที่สร้างการเชื่อมต่อย้อนกลับเพื่อรักษาการเข้าถึง แม้แก้ช่องโหว่แล้วก็ยังไม่พ้นภัย เพราะมัลแวร์ฝังลึกจน Cisco แนะนำว่าหากถูกเจาะแล้วต้อง rebuild เครื่องใหม่เท่านั้น
    https://securityonline.info/cisco-zero-day-siege-chinese-group-uat-9686-deploys-aqua-malware-via-cvss-10-root-exploit

    SonicWall เตือนช่องโหว่ใหม่ถูกใช้ร่วมกับช่องโหว่เดิม ยึดระบบได้แบบ root
    SonicWall ออกประกาศด่วนเกี่ยวกับช่องโหว่ CVE-2025-40602 ในอุปกรณ์ SMA1000 แม้คะแนน CVSS เพียง 6.6 แต่เมื่อถูกใช้ร่วมกับช่องโหว่ CVE-2025-23006 ที่ร้ายแรงกว่า จะกลายเป็นการโจมตีแบบ chain ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องล็อกอิน และยกระดับสิทธิ์เป็น root ได้ทันที เท่ากับยึดระบบทั้งองค์กรได้โดยไม่ต้องมีรหัสผ่าน SonicWall ได้ออกแพตช์ใหม่และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที หากไม่สามารถทำได้ควรปิดการเข้าถึง AMC และ SSH จากอินเทอร์เน็ตเพื่อป้องกันการโจมตี
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/zero-day-warning-hackers-chain-sonicwall-sma1000-flaws-for-unauthenticated-root-rce
    📌🔐🟠 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟠🔐📌 #รวมข่าวIT #20251218 #securityonline 🦊 Mozilla เปิดยุคใหม่: Firefox เตรียมกลายเป็นเบราว์เซอร์พลัง AI Mozilla ประกาศแผนการใหญ่ภายใต้การนำของ CEO คนใหม่ Anthony Enzor-DeMeo ที่จะเปลี่ยน Firefox จากเบราว์เซอร์แบบดั้งเดิมให้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI จุดมุ่งหมายคือการทำให้ Firefox ไม่ใช่แค่เครื่องมือท่องเว็บ แต่เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่เข้าใจผู้ใช้และสามารถปรับแต่งประสบการณ์ออนไลน์ได้อย่างลึกซึ้ง การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงความพยายามของ Mozilla ที่จะกลับมาแข่งขันในตลาดเบราว์เซอร์ที่ถูกครอบงำโดย Chrome และ Edge 🔗 https://securityonline.info/mozillas-new-chapter-ceo-anthony-enzor-demeo-to-transform-firefox-into-an-ai-powered-powerhouse 🔒 Let’s Encrypt ปรับระบบ TLS ใหม่: ใบรับรองสั้นลงเหลือ 45 วัน Let’s Encrypt ประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบการออกใบรับรอง TLS โดยลดอายุการใช้งานจาก 90 วันเหลือเพียง 45 วัน พร้อมเปิดตัวโครงสร้างใหม่ที่เรียกว่า Generation Y Hierarchy และการรองรับ TLS แบบใช้ IP โดยตรง การเปลี่ยนแปลงนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยงจากใบรับรองที่ถูกขโมยหรือไม่ได้อัปเดต และทำให้ระบบอินเทอร์เน็ตมีความยืดหยุ่นมากขึ้น แม้จะเพิ่มภาระให้ผู้ดูแลระบบ แต่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของเว็บทั่วโลก 🔗 https://securityonline.info/the-45-day-era-begins-lets-encrypt-unveils-generation-y-hierarchy-and-ip-based-tls 🛡️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Commons Text เสี่ยงถูกยึดเซิร์ฟเวอร์ เรื่องนี้เป็นการค้นพบช่องโหว่ใหม่ในไลบรารี Java ที่ชื่อ Apache Commons Text ซึ่งถูกใช้อย่างแพร่หลายในการจัดการข้อความ ช่องโหว่นี้ถูกระบุว่า CVE-2025-46295 และมีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.8 เต็ม 10 จุดอันตรายอยู่ที่ฟังก์ชัน string interpolation ที่เปิดช่องให้ผู้โจมตีสามารถส่งข้อมูลที่ไม่ปลอดภัยเข้ามาและทำให้เกิดการรันคำสั่งจากระยะไกลได้ ลักษณะนี้คล้ายกับเหตุการณ์ Log4Shell ที่เคยสร้างความเสียหายใหญ่ในอดีต ทีมพัฒนา FileMaker Server ได้รีบแก้ไขโดยอัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่ที่ปลอดภัยแล้ว และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตทันทีเพื่อปิดช่องโหว่ 🔗 https://securityonline.info/cve-2025-46295-cvss-9-8-critical-apache-commons-text-flaw-risks-total-server-takeover 🚦 หลอกด้วยใบสั่งจราจรปลอม: แอป RTO Challan ดูดข้อมูลและเงิน ในอินเดียมีการโจมตีใหม่ที่ใช้ความกลัวการโดนใบสั่งจราจรมาเป็นเครื่องมือ หลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอป “RTO Challan” ผ่าน WhatsApp โดยอ้างว่าเป็นแอปทางการเพื่อดูหลักฐานการกระทำผิด แต่แท้จริงแล้วเป็นมัลแวร์ที่ซ่อนตัวและสร้าง VPN ปลอมเพื่อส่งข้อมูลออกไปโดยไม่ถูกตรวจจับ มันสามารถขโมยข้อมูลส่วนตัว ตั้งแต่บัตร Aadhaar, PAN ไปจนถึงข้อมูลธนาคาร และยังหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลบัตรเครดิตพร้อมรหัส PIN เพื่อทำธุรกรรมปลอมแบบเรียลไทม์ ถือเป็นการโจมตีที่ผสมผสานทั้งวิศวกรรมสังคมและเทคนิคขั้นสูง ผู้ใช้ถูกเตือนให้ระวังข้อความจากเบอร์แปลกและไม่ดาวน์โหลดแอปจากลิงก์ที่ไม่น่าเชื่อถือ 🔗 https://securityonline.info/rto-challan-scam-how-a-fake-traffic-ticket-and-a-malicious-vpn-can-drain-your-bank-account 💻 Node.js systeminformation พบช่องโหว่เสี่ยง RCE บน Windows ไลบรารีชื่อดัง systeminformation ที่ถูกดาวน์โหลดกว่า 16 ล้านครั้งต่อเดือน ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-68154 โดยเฉพาะบน Windows ฟังก์ชัน fsSize() ที่ใช้ตรวจสอบขนาดดิสก์ไม่ได้กรองข้อมูลอินพุต ทำให้ผู้โจมตีสามารถใส่คำสั่ง PowerShell แทนตัวอักษรไดรฟ์ และรันคำสั่งอันตรายได้ทันที ผลกระทบคือการเข้าควบคุมระบบ อ่านข้อมูลลับ หรือแม้กระทั่งปล่อย ransomware นักพัฒนาถูกแนะนำให้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 5.27.14 ที่แก้ไขแล้วโดยด่วน 🔗 https://securityonline.info/node-js-alert-systeminformation-flaw-risks-windows-rce-for-16m-monthly-users 💰 OpenAI เจรจา Amazon ขอทุนเพิ่ม 10 พันล้าน พร้อมเงื่อนไขใช้ชิป AI ของ Amazon มีรายงานว่า OpenAI กำลังเจรจากับ Amazon เพื่อระดมทุนมหาศาลถึง 10 พันล้านดอลลาร์ โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือ OpenAI ต้องใช้ชิป AI ของ Amazon เช่น Trainium และ Inferentia แทนการพึ่งพา NVIDIA ที่ราคาแพงและขาดตลาด หากดีลนี้เกิดขึ้นจริงจะเป็นการพลิกเกมครั้งใหญ่ เพราะจะทำให้ Amazon ได้การยืนยันคุณภาพชิปจากผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดในวงการ AI และยังช่วยให้ OpenAI ลดต้นทุนการประมวลผล ขณะเดียวกันก็สร้างสมดุลระหว่าง Microsoft และ Amazon ในการเป็นพันธมิตรด้านคลาวด์ 🔗 https://securityonline.info/the-10b-pivot-openai-in-talks-for-massive-amazon-funding-but-theres-a-silicon-catch 🌐 Cloudflare เผยรายงานปี 2025: สงครามบอท AI และการจราจรอินเทอร์เน็ตพุ่ง 19% รายงานประจำปีของ Cloudflare ชี้ให้เห็นว่าปี 2025 อินเทอร์เน็ตกำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ปริมาณการใช้งานเพิ่มขึ้น 19% และเกิด “สงครามบอท AI” ที่แข่งขันกันเก็บข้อมูลออนไลน์ โดย Google ครองอันดับหนึ่งด้านการเก็บข้อมูลผ่าน crawler เพื่อใช้ฝึกโมเดล AI อย่าง Gemini ขณะเดียวกันองค์กรไม่แสวงหากำไรกลับกลายเป็นเป้าหมายโจมตีไซเบอร์มากที่สุด เนื่องจากมีข้อมูลอ่อนไหวแต่ขาดทรัพยากรป้องกัน รายงานยังระบุว่ามีการโจมตี DDoS ครั้งใหญ่กว่า 25 ครั้งในปีเดียว และครึ่งหนึ่งของการหยุดชะงักอินเทอร์เน็ตทั่วโลกเกิดจากการกระทำของรัฐบาล การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนทั้งความก้าวหน้าและความเปราะบางของโลกออนไลน์ 🔗 https://securityonline.info/the-internet-rewired-cloudflare-2025-review-unveils-the-ai-bot-war-and-a-19-traffic-surge 🖥️ Locked Out of the Cloud: เมื่อแฮกเกอร์ใช้ AWS Termination Protection ปล้นพลังประมวลผลไปขุดคริปโต เรื่องนี้เป็นการโจมตีที่ซับซ้อนมากในโลกคลาวด์ แฮกเกอร์เจาะเข้ามาในระบบ AWS โดยใช้บัญชีที่ถูกขโมย แล้วรีบ deploy เครื่องขุดคริปโตภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที จุดที่น่ากลัวคือพวกเขาใช้ฟีเจอร์ DryRun เพื่อตรวจสอบสิทธิ์โดยไม่ทิ้งร่องรอย และเมื่อเครื่องขุดถูกสร้างขึ้น พวกเขาเปิดการป้องกันการลบ (termination protection) ทำให้เจ้าของระบบไม่สามารถลบเครื่องได้ทันที ต้องปิดการป้องกันก่อนถึงจะจัดการได้ นั่นทำให้แฮกเกอร์มีเวลาขุดคริปโตเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีการสร้าง backdoor ผ่าน AWS Lambda และเตรียมใช้ Amazon SES เพื่อส่งอีเมลฟิชชิ่งต่อไป เหตุการณ์นี้ไม่ใช่การเจาะ AWS โดยตรง แต่เป็นการใช้ credential ที่ถูกขโมยไปอย่างชาญฉลาด 🔗 https://securityonline.info/locked-out-of-the-cloud-hackers-use-aws-termination-protection-to-hijack-ecs-for-unstoppable-crypto-mining 📧 Blurred Deception: กลยุทธ์ฟิชชิ่งของกลุ่ม APT รัสเซียที่ใช้ “เอกสารเบลอ” กลุ่ม APT จากรัสเซียส่งอีเมลปลอมในชื่อคำสั่งจากประธานาธิบดี Transnistria โดยแนบไฟล์ที่ดูเหมือนเอกสารทางการ แต่เนื้อหาถูกทำให้เบลอด้วย CSS filter ผู้รับจึงต้องใส่อีเมลและรหัสผ่านเพื่อ “ปลดล็อก” เอกสาร ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นการหลอกขโมยข้อมูลเข้าสู่ระบบ ฟังก์ชัน JavaScript ที่ใช้ยังมีลูกเล่นคือไม่ว่ารหัสผ่านจะถูกหรือผิดก็ถูกส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของแฮกเกอร์อยู่ดี แคมเปญนี้ไม่ได้หยุดแค่ Transnistria แต่ยังขยายไปยังประเทศในยุโรปตะวันออกและหน่วยงาน NATO ด้วย ถือเป็นการโจมตีที่ใช้ความเร่งด่วนและความอยากรู้อยากเห็นของเหยื่อเป็นตัวล่อ 🔗 https://securityonline.info/blurred-deception-russian-apt-targets-transnistria-and-nato-with-high-pressure-phishing-lures 🔐 “Better Auth” Framework Alert: ช่องโหว่ Double-Slash ที่ทำให้ระบบป้องกันพัง มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Better Auth ซึ่งเป็น framework ยอดนิยมสำหรับ TypeScript ที่ใช้กันกว้างขวาง ปัญหาคือ router ภายในชื่อ rou3 มอง URL ที่มีหลาย slash เช่น //sign-in/email ว่าเหมือนกับ /sign-in/email แต่ระบบป้องกันบางอย่างไม่ได้ normalize URL แบบเดียวกัน ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึง path ที่ถูกปิดไว้ หรือเลี่ยง rate limit ได้ง่าย ๆ ช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS สูงถึง 8.6 และกระทบผู้ใช้จำนวนมาก การแก้ไขคืออัปเดตเวอร์ชันใหม่ หรือปรับ proxy ให้ normalize URL ก่อนถึงระบบ หากไม่ทำก็เสี่ยงที่ระบบจะถูกเจาะผ่านช่องโหว่เล็ก ๆ แต่ร้ายแรงนี้ 🔗 https://securityonline.info/better-auth-framework-alert-the-double-slash-trick-that-bypasses-security-controls 🐉 Ink Dragon’s Global Mesh: เมื่อเซิร์ฟเวอร์รัฐบาลถูกเปลี่ยนเป็นโหนดสอดแนม กลุ่มสอดแนมไซเบอร์จากจีนที่ชื่อ Ink Dragon ใช้เทคนิคใหม่ในการสร้างเครือข่ายสั่งการ โดยเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์รัฐบาลที่ถูกเจาะให้กลายเป็นโหนด relay ส่งต่อคำสั่งและข้อมูลไปยังเป้าหมายอื่น ๆ ผ่านโมดูล ShadowPad IIS Listener ทำให้การติดตามแทบเป็นไปไม่ได้ เพราะคำสั่งอาจวิ่งผ่านหลายองค์กรก่อนถึงเป้าหมายจริง พวกเขายังใช้ช่องโหว่ IIS ที่รู้จักกันมานานและ misconfiguration ของ ASP.NET เพื่อเข้ามา จากนั้นติดตั้ง malware รุ่นใหม่ที่ซ่อนการสื่อสารผ่าน Microsoft Graph API การขยายเป้าหมายไปยังยุโรปทำให้ภัยนี้ไม่ใช่แค่ระดับภูมิภาค แต่เป็นโครงสร้างสอดแนมข้ามชาติที่ใช้โครงสร้างของเหยื่อเองเป็นเครื่องมือ 🔗 https://securityonline.info/ink-dragons-global-mesh-how-chinese-spies-turn-compromised-government-servers-into-c2-relay-nodes 📚 Academic Ambush: เมื่อกลุ่ม APT ปลอมรายงาน “Plagiarism” เพื่อเจาะระบบนักวิชาการ นี่คือแคมเปญที่ใช้ความกังวลของนักวิชาการเป็นตัวล่อ แฮกเกอร์ส่งอีเมลปลอมในชื่อ “Forum Troll APT” โดยอ้างว่าผลงานของเหยื่อถูกตรวจพบการลอกเลียนแบบ พร้อมแนบไฟล์ Word ที่ดูเหมือนรายงานตรวจสอบ แต่จริง ๆ แล้วเป็นเอกสารที่ฝังโค้ดอันตราย เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ โค้ดจะถูกเรียกใช้เพื่อดาวน์โหลดมัลแวร์เข้ามาในเครื่องทันที การโจมตีนี้เล่นกับความกลัวเรื่องชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือในวงวิชาการ ทำให้ผู้รับมีแนวโน้มเปิดไฟล์โดยไม่ระวัง ถือเป็นการใช้ “แรงกดดันทางสังคม” เป็นอาวุธไซเบอร์ 🔗 https://securityonline.info/academic-ambush-how-the-forum-troll-apt-hijacks-scholars-systems-via-fake-plagiarism-reports 🛠️ GitHub ยอมถอย หลังนักพัฒนารวมพลังต้านค่าธรรมเนียม Self-Hosted Runner เรื่องนี้เริ่มจาก GitHub ประกาศว่าจะเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมสำหรับการใช้งาน self-hosted runner ใน GitHub Actions ตั้งแต่มีนาคม 2026 โดยคิดนาทีละ 0.002 ดอลลาร์ แม้ผู้ใช้จะลงทุนเครื่องเองแล้วก็ตาม ข่าวนี้ทำให้ชุมชนนักพัฒนาลุกฮือทันที เสียงวิจารณ์ดังไปทั่วว่าเป็นการตัดสินใจที่ไม่ฟังเสียงผู้ใช้ สุดท้าย GitHub ต้องออกมาประกาศเลื่อนการเก็บค่าธรรมเนียมออกไป พร้อมลดราคาสำหรับ runner ที่ GitHub โฮสต์เองลงถึง 39% ตั้งแต่ต้นปี 2026 และย้ำว่าจะกลับไปฟังเสียงนักพัฒนาให้มากขึ้นก่อนปรับแผนใหม่ เรื่องนี้สะท้อนว่าพลังของชุมชนสามารถกดดันให้แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ต้องทบทวนการตัดสินใจได้ 🔗 https://securityonline.info/the-developer-win-github-postpones-self-hosted-runner-fee-after-massive-community-outcry ⚠️ ช่องโหว่ร้ายแรง HPE OneView เปิดทางให้ยึดศูนย์ข้อมูลได้ทันที Hewlett Packard Enterprise (HPE) แจ้งเตือนช่องโหว่ CVE-2025-37164 ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงสุด 10.0 ในซอฟต์แวร์ OneView ซึ่งเป็นหัวใจในการจัดการเซิร์ฟเวอร์และระบบเครือข่าย ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีที่ไม่ต้องล็อกอินสามารถสั่งรันโค้ดจากระยะไกลได้ทันที เท่ากับว่าสามารถยึดศูนย์ข้อมูลทั้งระบบได้เลย HPE รีบออกแพตช์ v11.00 และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตโดยด่วน สำหรับผู้ที่ยังใช้เวอร์ชันเก่า มี hotfix ให้ แต่ต้องระวังว่าหลังอัปเกรดบางเวอร์ชันต้องติดตั้งซ้ำอีกครั้ง ไม่เช่นนั้นจะยังเสี่ยงอยู่ 🔗 https://securityonline.info/cve-2025-37164-cvss-10-0-unauthenticated-hpe-oneview-rce-grants-total-control-over-data-centers 🚨 CISA เตือนด่วน แฮ็กเกอร์จีนใช้ช่องโหว่ Cisco และ SonicWall โจมตีจริงแล้ว หน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเพิ่มช่องโหว่ร้ายแรงเข้ารายการ KEV หลังพบว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์จีน UAT-9686 กำลังใช้ช่องโหว่ Cisco Secure Email Gateway ที่มีคะแนน 10 เต็มในการเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน พร้อมติดตั้งมัลแวร์ AquaShell และ AquaPurge เพื่อซ่อนร่องรอย นอกจากนี้ยังพบการโจมตี SonicWall SMA1000 โดยใช้ช่องโหว่เดิมร่วมกับช่องโหว่ใหม่เพื่อยึดระบบได้ทั้งหมด และยังมีการนำช่องโหว่เก่าใน ASUS Live Update ที่หมดการสนับสนุนแล้วกลับมาใช้โจมตีในลักษณะ supply chain อีกด้วย ทำให้หน่วยงานรัฐต้องเร่งแพตช์ก่อนเส้นตาย 24 ธันวาคม 2025 🔗 https://securityonline.info/cisa-alert-chinese-hackers-weaponize-cvss-10-cisco-zero-day-sonicwall-exploit-chains 🐚 แฮ็กเกอร์จีน UAT-9686 ใช้มัลแวร์ Aqua เจาะ Cisco Secure Email Cisco Talos เปิดเผยว่ากลุ่ม UAT-9686 กำลังใช้ช่องโหว่ CVE-2025-20393 ใน Cisco Secure Email Gateway และ Web Manager เพื่อเข้าถึงระบบในระดับ root โดยอาศัยการเปิดใช้งานฟีเจอร์ Spam Quarantine ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งหากเปิดไว้จะกลายเป็นช่องทางให้โจมตีได้ทันที เมื่อเข้ามาแล้วพวกเขาติดตั้งมัลแวร์ชุด “Aqua” ได้แก่ AquaShell ที่ฝังตัวในไฟล์เซิร์ฟเวอร์, AquaPurge ที่ลบหลักฐานใน log และ AquaTunnel ที่สร้างการเชื่อมต่อย้อนกลับเพื่อรักษาการเข้าถึง แม้แก้ช่องโหว่แล้วก็ยังไม่พ้นภัย เพราะมัลแวร์ฝังลึกจน Cisco แนะนำว่าหากถูกเจาะแล้วต้อง rebuild เครื่องใหม่เท่านั้น 🔗 https://securityonline.info/cisco-zero-day-siege-chinese-group-uat-9686-deploys-aqua-malware-via-cvss-10-root-exploit 🔒 SonicWall เตือนช่องโหว่ใหม่ถูกใช้ร่วมกับช่องโหว่เดิม ยึดระบบได้แบบ root SonicWall ออกประกาศด่วนเกี่ยวกับช่องโหว่ CVE-2025-40602 ในอุปกรณ์ SMA1000 แม้คะแนน CVSS เพียง 6.6 แต่เมื่อถูกใช้ร่วมกับช่องโหว่ CVE-2025-23006 ที่ร้ายแรงกว่า จะกลายเป็นการโจมตีแบบ chain ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องล็อกอิน และยกระดับสิทธิ์เป็น root ได้ทันที เท่ากับยึดระบบทั้งองค์กรได้โดยไม่ต้องมีรหัสผ่าน SonicWall ได้ออกแพตช์ใหม่และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที หากไม่สามารถทำได้ควรปิดการเข้าถึง AMC และ SSH จากอินเทอร์เน็ตเพื่อป้องกันการโจมตี ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/zero-day-warning-hackers-chain-sonicwall-sma1000-flaws-for-unauthenticated-root-rce
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 223 มุมมอง 0 รีวิว
  • Pixel 10: Tensor G5 SoC ได้รับการอัปเดตเพิ่มประสิทธิภาพ

    รายงานจาก Wccftech ระบุว่า Google Pixel 10 ที่ใช้ชิป Tensor G5 SoC ได้รับการอัปเดตไดรเวอร์ใหม่ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน โดยเฉพาะในงานที่ต้องใช้การประมวลผล AI และการจัดการพลังงาน การอัปเดตนี้ถือเป็นการแก้ไขข้อจำกัดที่ผู้ใช้บางส่วนพบในช่วงแรกของการเปิดตัว

    Tensor G5 ถูกออกแบบโดย Google และผลิตโดย TSMC บนกระบวนการ 3nm ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากรุ่นก่อนที่ใช้ Samsung Foundry จุดเด่นของ G5 คือการรวมหน่วยประมวลผล AI เข้ากับ CPU และ GPU เพื่อรองรับฟีเจอร์ใหม่ ๆ ของ Pixel เช่น การถ่ายภาพอัจฉริยะ การประมวลผลเสียง และการทำงานแบบเรียลไทม์ที่ต้องใช้ Machine Learning

    การอัปเดตล่าสุดช่วยให้ Pixel 10 มีประสิทธิภาพสูงขึ้นทั้งในด้านการตอบสนองและการจัดการพลังงาน โดยผู้ใช้คาดว่าจะเห็นการปรับปรุงในงานประจำวัน เช่น การเปิดแอปเร็วขึ้น การประมวลผลภาพที่ลื่นไหลกว่าเดิม และการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นการยกระดับประสบการณ์ใช้งานให้ใกล้เคียงกับสมาร์ทโฟนเรือธงจากคู่แข่งรายใหญ่

    อย่างไรก็ตาม แม้ Tensor G5 จะได้รับการปรับปรุง แต่ Google ยังต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจาก Apple และ Qualcomm ที่มีชิป A-series และ Snapdragon รุ่นล่าสุดซึ่งโดดเด่นด้านประสิทธิภาพและการจัดการพลังงาน การอัปเดตครั้งนี้จึงเป็นเพียงก้าวแรกของ Google ในการสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้ใช้และนักพัฒนา

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน

    Tensor G5 ได้รับการอัปเดตไดรเวอร์
    เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการจัดการพลังงานใน Pixel 10

    การออกแบบและการผลิต
    ผลิตโดย TSMC บนกระบวนการ 3nm แทน Samsung Foundry

    การปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้
    เปิดแอปเร็วขึ้น ประมวลผลภาพลื่นไหล และใช้พลังงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    การแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟน
    ต้องเผชิญกับคู่แข่งอย่าง Apple และ Qualcomm ที่มีชิปประสิทธิภาพสูง

    คำเตือนด้านการแข่งขัน
    แม้จะปรับปรุงแล้ว แต่ Tensor G5 ยังต้องพิสูจน์ความสามารถเทียบกับ A-series และ Snapdragon
    หากการพัฒนาไม่ต่อเนื่อง อาจทำให้ Pixel เสียเปรียบในตลาดเรือธงccftech.com/pixel-10s-tensor-g5-soc-gets-a-performance-boost/
    📱 Pixel 10: Tensor G5 SoC ได้รับการอัปเดตเพิ่มประสิทธิภาพ รายงานจาก Wccftech ระบุว่า Google Pixel 10 ที่ใช้ชิป Tensor G5 SoC ได้รับการอัปเดตไดรเวอร์ใหม่ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน โดยเฉพาะในงานที่ต้องใช้การประมวลผล AI และการจัดการพลังงาน การอัปเดตนี้ถือเป็นการแก้ไขข้อจำกัดที่ผู้ใช้บางส่วนพบในช่วงแรกของการเปิดตัว Tensor G5 ถูกออกแบบโดย Google และผลิตโดย TSMC บนกระบวนการ 3nm ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากรุ่นก่อนที่ใช้ Samsung Foundry จุดเด่นของ G5 คือการรวมหน่วยประมวลผล AI เข้ากับ CPU และ GPU เพื่อรองรับฟีเจอร์ใหม่ ๆ ของ Pixel เช่น การถ่ายภาพอัจฉริยะ การประมวลผลเสียง และการทำงานแบบเรียลไทม์ที่ต้องใช้ Machine Learning การอัปเดตล่าสุดช่วยให้ Pixel 10 มีประสิทธิภาพสูงขึ้นทั้งในด้านการตอบสนองและการจัดการพลังงาน โดยผู้ใช้คาดว่าจะเห็นการปรับปรุงในงานประจำวัน เช่น การเปิดแอปเร็วขึ้น การประมวลผลภาพที่ลื่นไหลกว่าเดิม และการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นการยกระดับประสบการณ์ใช้งานให้ใกล้เคียงกับสมาร์ทโฟนเรือธงจากคู่แข่งรายใหญ่ อย่างไรก็ตาม แม้ Tensor G5 จะได้รับการปรับปรุง แต่ Google ยังต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจาก Apple และ Qualcomm ที่มีชิป A-series และ Snapdragon รุ่นล่าสุดซึ่งโดดเด่นด้านประสิทธิภาพและการจัดการพลังงาน การอัปเดตครั้งนี้จึงเป็นเพียงก้าวแรกของ Google ในการสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้ใช้และนักพัฒนา 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ Tensor G5 ได้รับการอัปเดตไดรเวอร์ ➡️ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการจัดการพลังงานใน Pixel 10 ✅ การออกแบบและการผลิต ➡️ ผลิตโดย TSMC บนกระบวนการ 3nm แทน Samsung Foundry ✅ การปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ ➡️ เปิดแอปเร็วขึ้น ประมวลผลภาพลื่นไหล และใช้พลังงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ✅ การแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟน ➡️ ต้องเผชิญกับคู่แข่งอย่าง Apple และ Qualcomm ที่มีชิปประสิทธิภาพสูง ‼️ คำเตือนด้านการแข่งขัน ⛔ แม้จะปรับปรุงแล้ว แต่ Tensor G5 ยังต้องพิสูจน์ความสามารถเทียบกับ A-series และ Snapdragon ⛔ หากการพัฒนาไม่ต่อเนื่อง อาจทำให้ Pixel เสียเปรียบในตลาดเรือธงccftech.com/pixel-10s-tensor-g5-soc-gets-a-performance-boost/
    WCCFTECH.COM
    Pixel 10's Tensor G5 SoC Gets A Performance Boost
    Imagination's IMG PowerVR DXT-48-1536 GPU within Pixel 10's Tensor G5 chip is now finally getting a critical driver update.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 113 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts