ฮ็อป อินน์ สปินออฟ ขยายโรงแรมทั่วเอเชีย
สปินออฟ (Spin-off) คือการนำบริษัทย่อยหรือบริษัทร่วม แยกออกมาจากบริษัทแม่ ที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อให้มีความอิสระในการบริหารงาน สามารถระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้นครั้งแรกให้แก่ประชาชน (IPO) และเพิ่มทางเลือกให้แก่นักลงทุน ตัวอย่างเช่น บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ที่แยกออกมาจาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP ที่แยกออกมาจาก บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC (เครื่องหมายการค้า SCG)
บริษัท เอราวัณ ฮ็อป อินน์ จำกัด เจ้าของโรงแรทฮ็อป อินน์ (Hop Inn) บัดเจ็ทโฮเทลที่มีสาขามากกว่า 70 แห่ง ห้องพักรวมกว่า 7,000 ห้องใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น กำลังมีแผนจะสปินออฟออกจากบริษัทแม่ คือ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW โดยคาดว่าจะยื่นเสนอบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 2570 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า อีกทั้งได้พันธมิตรเชิงกลยุทธ์ คือ ลาพิส ฮอสปิทอลิตี้ พีทีอี ลิมิเต็ด (Lapis Hospitality Pte. Ltd.) บริษัทที่บริหารจัดการโดยกองทุนลอมบาร์ด เอเชีย วี, แอล.พี. (Lombard Asia V, L.P.) เข้าร่วมลงทุน 16.09% มูลค่า 700 ล้านบาท
น.ส.พิชานันท์ บุญพร้อมกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจโรงแรม กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่ 10 ของโรงแรมฮ็อป อินน์ ทำได้ตามแผนทั้งการขยายสาขาและรักษาคุณภาพบริการ ในปี 2030 มีเป้าหมายจะขึ้นเป็นเครือข่ายโรงแรมบัดเจ็ทที่ดีที่สุดในเอเซียแปซิฟิค โดยจะขยายเครือข่ายโรงแรมเพิ่มอย่างน้อยในอีก 3 ประเทศ ขณะที่ น.ส.นลินี กฤษฎาวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารธุรกิจโรงแรม กล่าวว่า บริษัทฯ มีนโยบายที่เป็นเจ้าของและบริหารโรงแรมทั้งหมดเอง เพื่อรักษาคุณภาพให้ได้ 100% ของทั้งเครือ โดย 95% เป็นโรงแรมที่สร้างขึ้นมาใหม่ ให้บริการลูกค้ามากกว่า 2.5 ล้านคนต่อปี มีความพร้อมที่จะมอบการบริการที่ดีมีคุณภาพ ในทุกประเทศที่ไปขยาย และมั่นใจว่าแบรนด์จะเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
อนึ่ง โรงแรมฮ็อป อินน์ เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2557 ที่สาขาหนองคายและมุกดาหาร กระทั่งขยายสาขาไปยังประเทศฟิลิปปินส์ในปี 2559 และญี่ปุ่นในปี 2566 สำหรับไตรมาส 4 ปี 2567 มีแผนเปิดสาขาสงขลาและพะเยา ก่อนหน้านี้กำลังศึกษาเปิดสาขาเพิ่มในประเทศอื่นๆ เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย
#Newskit #HopInn
สปินออฟ (Spin-off) คือการนำบริษัทย่อยหรือบริษัทร่วม แยกออกมาจากบริษัทแม่ ที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อให้มีความอิสระในการบริหารงาน สามารถระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้นครั้งแรกให้แก่ประชาชน (IPO) และเพิ่มทางเลือกให้แก่นักลงทุน ตัวอย่างเช่น บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ที่แยกออกมาจาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP ที่แยกออกมาจาก บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC (เครื่องหมายการค้า SCG)
บริษัท เอราวัณ ฮ็อป อินน์ จำกัด เจ้าของโรงแรทฮ็อป อินน์ (Hop Inn) บัดเจ็ทโฮเทลที่มีสาขามากกว่า 70 แห่ง ห้องพักรวมกว่า 7,000 ห้องใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น กำลังมีแผนจะสปินออฟออกจากบริษัทแม่ คือ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW โดยคาดว่าจะยื่นเสนอบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 2570 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า อีกทั้งได้พันธมิตรเชิงกลยุทธ์ คือ ลาพิส ฮอสปิทอลิตี้ พีทีอี ลิมิเต็ด (Lapis Hospitality Pte. Ltd.) บริษัทที่บริหารจัดการโดยกองทุนลอมบาร์ด เอเชีย วี, แอล.พี. (Lombard Asia V, L.P.) เข้าร่วมลงทุน 16.09% มูลค่า 700 ล้านบาท
น.ส.พิชานันท์ บุญพร้อมกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจโรงแรม กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่ 10 ของโรงแรมฮ็อป อินน์ ทำได้ตามแผนทั้งการขยายสาขาและรักษาคุณภาพบริการ ในปี 2030 มีเป้าหมายจะขึ้นเป็นเครือข่ายโรงแรมบัดเจ็ทที่ดีที่สุดในเอเซียแปซิฟิค โดยจะขยายเครือข่ายโรงแรมเพิ่มอย่างน้อยในอีก 3 ประเทศ ขณะที่ น.ส.นลินี กฤษฎาวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารธุรกิจโรงแรม กล่าวว่า บริษัทฯ มีนโยบายที่เป็นเจ้าของและบริหารโรงแรมทั้งหมดเอง เพื่อรักษาคุณภาพให้ได้ 100% ของทั้งเครือ โดย 95% เป็นโรงแรมที่สร้างขึ้นมาใหม่ ให้บริการลูกค้ามากกว่า 2.5 ล้านคนต่อปี มีความพร้อมที่จะมอบการบริการที่ดีมีคุณภาพ ในทุกประเทศที่ไปขยาย และมั่นใจว่าแบรนด์จะเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
อนึ่ง โรงแรมฮ็อป อินน์ เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2557 ที่สาขาหนองคายและมุกดาหาร กระทั่งขยายสาขาไปยังประเทศฟิลิปปินส์ในปี 2559 และญี่ปุ่นในปี 2566 สำหรับไตรมาส 4 ปี 2567 มีแผนเปิดสาขาสงขลาและพะเยา ก่อนหน้านี้กำลังศึกษาเปิดสาขาเพิ่มในประเทศอื่นๆ เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย
#Newskit #HopInn
ฮ็อป อินน์ สปินออฟ ขยายโรงแรมทั่วเอเชีย
สปินออฟ (Spin-off) คือการนำบริษัทย่อยหรือบริษัทร่วม แยกออกมาจากบริษัทแม่ ที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อให้มีความอิสระในการบริหารงาน สามารถระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้นครั้งแรกให้แก่ประชาชน (IPO) และเพิ่มทางเลือกให้แก่นักลงทุน ตัวอย่างเช่น บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ที่แยกออกมาจาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP ที่แยกออกมาจาก บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC (เครื่องหมายการค้า SCG)
บริษัท เอราวัณ ฮ็อป อินน์ จำกัด เจ้าของโรงแรทฮ็อป อินน์ (Hop Inn) บัดเจ็ทโฮเทลที่มีสาขามากกว่า 70 แห่ง ห้องพักรวมกว่า 7,000 ห้องใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น กำลังมีแผนจะสปินออฟออกจากบริษัทแม่ คือ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW โดยคาดว่าจะยื่นเสนอบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 2570 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า อีกทั้งได้พันธมิตรเชิงกลยุทธ์ คือ ลาพิส ฮอสปิทอลิตี้ พีทีอี ลิมิเต็ด (Lapis Hospitality Pte. Ltd.) บริษัทที่บริหารจัดการโดยกองทุนลอมบาร์ด เอเชีย วี, แอล.พี. (Lombard Asia V, L.P.) เข้าร่วมลงทุน 16.09% มูลค่า 700 ล้านบาท
น.ส.พิชานันท์ บุญพร้อมกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจโรงแรม กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่ 10 ของโรงแรมฮ็อป อินน์ ทำได้ตามแผนทั้งการขยายสาขาและรักษาคุณภาพบริการ ในปี 2030 มีเป้าหมายจะขึ้นเป็นเครือข่ายโรงแรมบัดเจ็ทที่ดีที่สุดในเอเซียแปซิฟิค โดยจะขยายเครือข่ายโรงแรมเพิ่มอย่างน้อยในอีก 3 ประเทศ ขณะที่ น.ส.นลินี กฤษฎาวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารธุรกิจโรงแรม กล่าวว่า บริษัทฯ มีนโยบายที่เป็นเจ้าของและบริหารโรงแรมทั้งหมดเอง เพื่อรักษาคุณภาพให้ได้ 100% ของทั้งเครือ โดย 95% เป็นโรงแรมที่สร้างขึ้นมาใหม่ ให้บริการลูกค้ามากกว่า 2.5 ล้านคนต่อปี มีความพร้อมที่จะมอบการบริการที่ดีมีคุณภาพ ในทุกประเทศที่ไปขยาย และมั่นใจว่าแบรนด์จะเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
อนึ่ง โรงแรมฮ็อป อินน์ เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2557 ที่สาขาหนองคายและมุกดาหาร กระทั่งขยายสาขาไปยังประเทศฟิลิปปินส์ในปี 2559 และญี่ปุ่นในปี 2566 สำหรับไตรมาส 4 ปี 2567 มีแผนเปิดสาขาสงขลาและพะเยา ก่อนหน้านี้กำลังศึกษาเปิดสาขาเพิ่มในประเทศอื่นๆ เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย
#Newskit #HopInn