เรื่องเล่าจาก Granny และโรงอาหาร
ผู้เขียนเล่าถึงคุณยาย Beulah Culpepper หรือ Granny ที่เริ่มทำงานเป็นแม่ครัวโรงเรียนตั้งแต่อายุ 43 ปี หลังจากเลี้ยงลูก 8 คน เธอใช้ทักษะการทำอาหารพื้นบ้าน เช่น ซุปผัก ขนมปังยีสต์ และคุกกี้เนยถั่ว เพื่อดูแลเด็ก ๆ ใน Blue Ridge, Georgia แม้ต้องใช้วัตถุดิบราคาถูกอย่าง “government cheese” แต่ Granny เชื่อในหลักการ “ไม่มีเด็กคนไหนควรออกจากโรงอาหารไปอย่างหิวโหย”.
บทบาทแม่ครัวโรงเรียนยุคใหม่
บทความยังสะท้อนถึงแม่ครัวโรงเรียนรุ่นใหม่ เช่น Stephanie Dillard ที่ทำงานเพื่อให้เด็ก ๆ ได้กินอาหารสดจากท้องถิ่น เช่น ส้ม satsuma, สตรอว์เบอร์รี และไส้กรอก Conecuh เธอเน้นว่า “ความสุขที่สุดคือการได้รู้ว่าเราให้อาหารที่ดีต่อสุขภาพแก่เด็ก ๆ” แต่ก็ยอมรับว่าการทำอาหารสดต้องการ งบประมาณและการสนับสนุนมากขึ้น.
การเมืองและอาหารกลางวัน
นโยบายอาหารกลางวันในสหรัฐฯ ถูกกำหนดโดยกฎหมายและการเมือง เช่น National School Lunch Act ปี 1946 และโครงการ Healthy, Hunger-Free Kids Act ของ Michelle Obama ที่เคยถูกวิจารณ์และลดทอนโดยฝ่ายอนุรักษ์นิยม ปัจจุบันแม้มีการผลักดันให้ใช้วัตถุดิบสดและลดอาหารแปรรูป แต่การตัดงบประมาณของรัฐบาลกลางกลับทำให้โครงการ “farm-to-school” หลายแห่งต้องหยุดชะงัก.
ความคิดสร้างสรรค์เพื่อชุมชน
แม่ครัวบางคนยังหาวิธีใหม่ ๆ เช่น “Chow Bus” ที่ดัดแปลงรถโรงเรียนเป็นครัวเคลื่อนที่ แจกอาหารและหนังสือให้เด็ก ๆ ในช่วงฤดูร้อน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ความพยายามเหล่านี้สะท้อนว่าโรงอาหารไม่ใช่แค่ที่กินข้าว แต่คือ หัวใจของโรงเรียนและชุมชน.
สรุปสาระสำคัญ
Granny และแม่ครัวรุ่นเก่า
ใช้ทักษะพื้นบ้านทำอาหารให้เด็ก ๆ
ยึดหลัก “ไม่มีเด็กคนไหนควรหิวโหย”
แม่ครัวรุ่นใหม่
ผลักดันอาหารสดจากท้องถิ่น
ต้องการงบประมาณเพิ่มเพื่อทำอาหารจากวัตถุดิบสด
การเมืองและนโยบาย
กฎหมายอาหารกลางวันมีผลต่อเมนูและงบประมาณ
การตัดงบทำให้โครงการ farm-to-school สะดุด
ความคิดสร้างสรรค์เพื่อชุมชน
โครงการ Chow Bus แจกอาหารและหนังสือ
โรงอาหารคือหัวใจของโรงเรียนและชุมชน
ความท้าทาย
งบประมาณไม่เพียงพอสำหรับอาหารสด
การเมืองทำให้โครงการดี ๆ ถูกยกเลิก
https://bittersoutherner.com/issue-no-12/all-praise-to-the-lunch-ladies
ผู้เขียนเล่าถึงคุณยาย Beulah Culpepper หรือ Granny ที่เริ่มทำงานเป็นแม่ครัวโรงเรียนตั้งแต่อายุ 43 ปี หลังจากเลี้ยงลูก 8 คน เธอใช้ทักษะการทำอาหารพื้นบ้าน เช่น ซุปผัก ขนมปังยีสต์ และคุกกี้เนยถั่ว เพื่อดูแลเด็ก ๆ ใน Blue Ridge, Georgia แม้ต้องใช้วัตถุดิบราคาถูกอย่าง “government cheese” แต่ Granny เชื่อในหลักการ “ไม่มีเด็กคนไหนควรออกจากโรงอาหารไปอย่างหิวโหย”.
บทบาทแม่ครัวโรงเรียนยุคใหม่
บทความยังสะท้อนถึงแม่ครัวโรงเรียนรุ่นใหม่ เช่น Stephanie Dillard ที่ทำงานเพื่อให้เด็ก ๆ ได้กินอาหารสดจากท้องถิ่น เช่น ส้ม satsuma, สตรอว์เบอร์รี และไส้กรอก Conecuh เธอเน้นว่า “ความสุขที่สุดคือการได้รู้ว่าเราให้อาหารที่ดีต่อสุขภาพแก่เด็ก ๆ” แต่ก็ยอมรับว่าการทำอาหารสดต้องการ งบประมาณและการสนับสนุนมากขึ้น.
การเมืองและอาหารกลางวัน
นโยบายอาหารกลางวันในสหรัฐฯ ถูกกำหนดโดยกฎหมายและการเมือง เช่น National School Lunch Act ปี 1946 และโครงการ Healthy, Hunger-Free Kids Act ของ Michelle Obama ที่เคยถูกวิจารณ์และลดทอนโดยฝ่ายอนุรักษ์นิยม ปัจจุบันแม้มีการผลักดันให้ใช้วัตถุดิบสดและลดอาหารแปรรูป แต่การตัดงบประมาณของรัฐบาลกลางกลับทำให้โครงการ “farm-to-school” หลายแห่งต้องหยุดชะงัก.
ความคิดสร้างสรรค์เพื่อชุมชน
แม่ครัวบางคนยังหาวิธีใหม่ ๆ เช่น “Chow Bus” ที่ดัดแปลงรถโรงเรียนเป็นครัวเคลื่อนที่ แจกอาหารและหนังสือให้เด็ก ๆ ในช่วงฤดูร้อน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ความพยายามเหล่านี้สะท้อนว่าโรงอาหารไม่ใช่แค่ที่กินข้าว แต่คือ หัวใจของโรงเรียนและชุมชน.
สรุปสาระสำคัญ
Granny และแม่ครัวรุ่นเก่า
ใช้ทักษะพื้นบ้านทำอาหารให้เด็ก ๆ
ยึดหลัก “ไม่มีเด็กคนไหนควรหิวโหย”
แม่ครัวรุ่นใหม่
ผลักดันอาหารสดจากท้องถิ่น
ต้องการงบประมาณเพิ่มเพื่อทำอาหารจากวัตถุดิบสด
การเมืองและนโยบาย
กฎหมายอาหารกลางวันมีผลต่อเมนูและงบประมาณ
การตัดงบทำให้โครงการ farm-to-school สะดุด
ความคิดสร้างสรรค์เพื่อชุมชน
โครงการ Chow Bus แจกอาหารและหนังสือ
โรงอาหารคือหัวใจของโรงเรียนและชุมชน
ความท้าทาย
งบประมาณไม่เพียงพอสำหรับอาหารสด
การเมืองทำให้โครงการดี ๆ ถูกยกเลิก
https://bittersoutherner.com/issue-no-12/all-praise-to-the-lunch-ladies
🍲 เรื่องเล่าจาก Granny และโรงอาหาร
ผู้เขียนเล่าถึงคุณยาย Beulah Culpepper หรือ Granny ที่เริ่มทำงานเป็นแม่ครัวโรงเรียนตั้งแต่อายุ 43 ปี หลังจากเลี้ยงลูก 8 คน เธอใช้ทักษะการทำอาหารพื้นบ้าน เช่น ซุปผัก ขนมปังยีสต์ และคุกกี้เนยถั่ว เพื่อดูแลเด็ก ๆ ใน Blue Ridge, Georgia แม้ต้องใช้วัตถุดิบราคาถูกอย่าง “government cheese” แต่ Granny เชื่อในหลักการ “ไม่มีเด็กคนไหนควรออกจากโรงอาหารไปอย่างหิวโหย”.
🏫 บทบาทแม่ครัวโรงเรียนยุคใหม่
บทความยังสะท้อนถึงแม่ครัวโรงเรียนรุ่นใหม่ เช่น Stephanie Dillard ที่ทำงานเพื่อให้เด็ก ๆ ได้กินอาหารสดจากท้องถิ่น เช่น ส้ม satsuma, สตรอว์เบอร์รี และไส้กรอก Conecuh เธอเน้นว่า “ความสุขที่สุดคือการได้รู้ว่าเราให้อาหารที่ดีต่อสุขภาพแก่เด็ก ๆ” แต่ก็ยอมรับว่าการทำอาหารสดต้องการ งบประมาณและการสนับสนุนมากขึ้น.
🌱 การเมืองและอาหารกลางวัน
นโยบายอาหารกลางวันในสหรัฐฯ ถูกกำหนดโดยกฎหมายและการเมือง เช่น National School Lunch Act ปี 1946 และโครงการ Healthy, Hunger-Free Kids Act ของ Michelle Obama ที่เคยถูกวิจารณ์และลดทอนโดยฝ่ายอนุรักษ์นิยม ปัจจุบันแม้มีการผลักดันให้ใช้วัตถุดิบสดและลดอาหารแปรรูป แต่การตัดงบประมาณของรัฐบาลกลางกลับทำให้โครงการ “farm-to-school” หลายแห่งต้องหยุดชะงัก.
🚍 ความคิดสร้างสรรค์เพื่อชุมชน
แม่ครัวบางคนยังหาวิธีใหม่ ๆ เช่น “Chow Bus” ที่ดัดแปลงรถโรงเรียนเป็นครัวเคลื่อนที่ แจกอาหารและหนังสือให้เด็ก ๆ ในช่วงฤดูร้อน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ความพยายามเหล่านี้สะท้อนว่าโรงอาหารไม่ใช่แค่ที่กินข้าว แต่คือ หัวใจของโรงเรียนและชุมชน.
📌 สรุปสาระสำคัญ
✅ Granny และแม่ครัวรุ่นเก่า
➡️ ใช้ทักษะพื้นบ้านทำอาหารให้เด็ก ๆ
➡️ ยึดหลัก “ไม่มีเด็กคนไหนควรหิวโหย”
✅ แม่ครัวรุ่นใหม่
➡️ ผลักดันอาหารสดจากท้องถิ่น
➡️ ต้องการงบประมาณเพิ่มเพื่อทำอาหารจากวัตถุดิบสด
✅ การเมืองและนโยบาย
➡️ กฎหมายอาหารกลางวันมีผลต่อเมนูและงบประมาณ
➡️ การตัดงบทำให้โครงการ farm-to-school สะดุด
✅ ความคิดสร้างสรรค์เพื่อชุมชน
➡️ โครงการ Chow Bus แจกอาหารและหนังสือ
➡️ โรงอาหารคือหัวใจของโรงเรียนและชุมชน
‼️ ความท้าทาย
⛔ งบประมาณไม่เพียงพอสำหรับอาหารสด
⛔ การเมืองทำให้โครงการดี ๆ ถูกยกเลิก
https://bittersoutherner.com/issue-no-12/all-praise-to-the-lunch-ladies
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
35 มุมมอง
0 รีวิว