• Foxconn บริษัทผลิตอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นผู้ประกอบ iPhone รายหลักของ Apple ได้ประกาศรายได้สูงสุดในไตรมาสแรกของปี 2025 ด้วยตัวเลขมหาศาลกว่า 49.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (T$1.64 ล้านล้าน) ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 24.2% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการสินค้าด้าน AI และระบบคลาวด์

    ✅ รายได้สูงสุดในประวัติศาสตร์
    - รายได้ในเดือนมีนาคมทำลายสถิติด้วยการเติบโต 23.4% (T$552.1 พันล้าน)
    - กลุ่มผลิตภัณฑ์คลาวด์และเครือข่ายเติบโตโดดเด่น เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากตลาด AI

    ✅ การเจริญเติบโตในผลิตภัณฑ์ผู้บริโภคอัจฉริยะ
    - รายได้จาก iPhone และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ผู้บริโภคอื่น ๆ มีการเติบโตในระดับคงที่เมื่อเทียบกับปีก่อน

    ✅ ผลกระทบจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ
    - ประธานาธิบดี Donald Trump ได้กำหนดภาษีเพิ่มเติมสูงถึง 54% สำหรับสินค้าจากจีน และ 32% สำหรับสินค้าจากไต้หวัน แม้ Foxconn มีฐานการผลิตในหลายประเทศ แต่ยังคงได้รับผลกระทบในระดับหนึ่ง
    - โรงงานที่ใหญ่ที่สุดของ Foxconn ตั้งอยู่ในเมือง Zhengzhou ประเทศจีน ซึ่งเป็นฐานการผลิต iPhone ระดับโลก

    ✅ การคาดการณ์และคำเตือนของ Foxconn
    - Foxconn คาดว่ารายได้จะเติบโตขึ้นในไตรมาสที่สองนี้ แต่เตือนว่า สถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองโลก ยังมีความไม่แน่นอนที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

    ✅ ความผันผวนในหุ้นเทคโนโลยี
    - แม้หุ้นของ Foxconn เพิ่มขึ้น 76% ในปี 2024 แต่ปีนี้ลดลง 17% อันเนื่องมาจากความกังวลในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/05/foxconn-reports-record-first-quarter-revenue
    Foxconn บริษัทผลิตอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นผู้ประกอบ iPhone รายหลักของ Apple ได้ประกาศรายได้สูงสุดในไตรมาสแรกของปี 2025 ด้วยตัวเลขมหาศาลกว่า 49.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (T$1.64 ล้านล้าน) ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 24.2% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการสินค้าด้าน AI และระบบคลาวด์ ✅ รายได้สูงสุดในประวัติศาสตร์ - รายได้ในเดือนมีนาคมทำลายสถิติด้วยการเติบโต 23.4% (T$552.1 พันล้าน) - กลุ่มผลิตภัณฑ์คลาวด์และเครือข่ายเติบโตโดดเด่น เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากตลาด AI ✅ การเจริญเติบโตในผลิตภัณฑ์ผู้บริโภคอัจฉริยะ - รายได้จาก iPhone และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ผู้บริโภคอื่น ๆ มีการเติบโตในระดับคงที่เมื่อเทียบกับปีก่อน ✅ ผลกระทบจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ - ประธานาธิบดี Donald Trump ได้กำหนดภาษีเพิ่มเติมสูงถึง 54% สำหรับสินค้าจากจีน และ 32% สำหรับสินค้าจากไต้หวัน แม้ Foxconn มีฐานการผลิตในหลายประเทศ แต่ยังคงได้รับผลกระทบในระดับหนึ่ง - โรงงานที่ใหญ่ที่สุดของ Foxconn ตั้งอยู่ในเมือง Zhengzhou ประเทศจีน ซึ่งเป็นฐานการผลิต iPhone ระดับโลก ✅ การคาดการณ์และคำเตือนของ Foxconn - Foxconn คาดว่ารายได้จะเติบโตขึ้นในไตรมาสที่สองนี้ แต่เตือนว่า สถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองโลก ยังมีความไม่แน่นอนที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ✅ ความผันผวนในหุ้นเทคโนโลยี - แม้หุ้นของ Foxconn เพิ่มขึ้น 76% ในปี 2024 แต่ปีนี้ลดลง 17% อันเนื่องมาจากความกังวลในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/05/foxconn-reports-record-first-quarter-revenue
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Foxconn reports record Q1 revenue, says it must closely watch global politics
    TAIPEI (Reuters) -Taiwan's Foxconn, the world's largest contract electronics maker, posted its highest first-quarter revenue ever on strong demand for artificial intelligence products but said it would need to closely watch global politics.
    0 Comments 0 Shares 75 Views 0 Reviews
  • ในขณะที่คอมพิวเตอร์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นบิลบอร์ดหรือจอแสดงผลในพื้นที่สาธารณะ บางครั้งมันก็เผยด้าน 'ฮา' หรือ 'เฟล' ให้เราได้เห็น เช่น BSOD บนจอโฆษณาขนาดใหญ่ หรือข้อความข้อผิดพลาดที่ไม่ตั้งใจถูกฉายให้ผู้คนเห็น การพึ่งพาเทคโนโลยีทำให้เราต้องระวังและรับมือกับข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด ซึ่งบางครั้งมันก็เป็นเรื่องตลกและน่าจดจำในสายตาของผู้คน

    ต่อไปนี้คือ 20 เหตุการณ์ที่สร้างเสียงหัวเราะและความแปลกใจเกี่ยวกับข้อผิดพลาดของคอมพิวเตอร์ในพื้นที่สาธารณะ:

    1) จอโฆษณา Blue Screen of Death (BSOD): ป้ายโฆษณาดิจิทัลที่แสดงภาพชายถือหน้าจอ กลับมีข้อความ BSOD ที่ไม่ตั้งใจ
    2) Linux Boot Screen โผล่กลางโชว์น้ำพุ: หน้าจอ boot ของ Linux ถูกฉายเข้าไปในน้ำพุ ดูคล้ายประตูมิติ
    3) หน้าจอ EV Charging Station เผยระบบ: หน้าจอแสดง OpenVPN ในสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในเยอรมนี
    4) Chrome PDF Viewer ล้มเหลวระหว่างการพิมพ์: หน้าจอแสดง “Sad Puzzle Piece” บนกระดาษเปล่า
    5) Blue Screen of Death บนเรือ USS Enterprise: ระบบ Windows ในโชว์ Star Trek ล้มเหลวแสดง BSOD
    6) Sphere of Death ที่ห้าง: จอดิจิทัลทรงกลมในห้างเปลี่ยนเป็น BSOD สร้างภาพที่เหมือนงานศิลปะ
    7) Death Star เวอร์ชัน Windows: จอดิจิทัลที่แสดง Windows shutdown ถูกเปรียบเทียบเป็น Death Star จาก Star Wars
    8) ป้ายโฆษณากับข้อความหาคู่: แอดมินป้ายดิจิทัลโพสต์ข้อความส่วนตัวเพื่อหาคู่บนจอโฆษณา
    9) Crystal Ball เต็มไปด้วยข้อผิดพลาด: ลูกแก้วเวทมนตร์ในนิทรรศการ Harry Potter แสดงหน้าจอ error ของ macOS
    10) BSOD ที่ห้องประสาทสัมผัสในโรงเรียน: จอทั้งหมดในห้องแสดง BSOD พร้อมกัน
    11) Low Disk Space บนป้ายโฆษณา: Billboard แสดงข้อความเตือนพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเต็ม
    12) โรงภาพยนตร์ขนาดเล็กแต่ผิดพลาด: ข้อความเอียงผิดทิศทางที่โรงหนังจิ๋ว
    13) Windows รีบูตกลางถ่ายทอดสด: จอแสดงข้อความ Windows Update ระหว่างรายการทีวีสด
    14) ระบบคิดเงินล้มเหลวเพราะ Windows ไม่ Activate: สถานีเก็บค่าผ่านทางแสดงข้อผิดพลาดเกี่ยวกับการ activate Windows
    15) พื้นหลัง Windows 7 ในห้าง: ห้างกรุงเทพฯ แสดง Desktop Background แทนโฆษณา
    16) Error Message ที่สถานีรถไฟ: หน้าจอแสดงข้อความ error แนะนำให้รีบูต
    17) Linux เตือนเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง: ระบบบริการสถานีรถมีข้อความ Linux command
    18) เครื่องชั่งน้ำหนักล้มเหลวในซุปเปอร์มาร์เก็ต: ระบบ Linux แสดงข้อผิดพลาดที่เครื่องชั่ง
    19) หน้าจอ Ubuntu CLI ในพื้นที่สาธารณะ: จอ CLI ของ Ubuntu แทนโฆษณา
    20) QuickTime Update ขัดจังหวะแสงไฟคริสต์มาส: ระบบ QuickTime เกิด error ระหว่างโชว์ไฟคริสต์มาส

    https://www.neowin.net/news/20-times-computers-embarrassed-themselves-with-public-bsods-and-goof-ups/
    ในขณะที่คอมพิวเตอร์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นบิลบอร์ดหรือจอแสดงผลในพื้นที่สาธารณะ บางครั้งมันก็เผยด้าน 'ฮา' หรือ 'เฟล' ให้เราได้เห็น เช่น BSOD บนจอโฆษณาขนาดใหญ่ หรือข้อความข้อผิดพลาดที่ไม่ตั้งใจถูกฉายให้ผู้คนเห็น การพึ่งพาเทคโนโลยีทำให้เราต้องระวังและรับมือกับข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด ซึ่งบางครั้งมันก็เป็นเรื่องตลกและน่าจดจำในสายตาของผู้คน ต่อไปนี้คือ 20 เหตุการณ์ที่สร้างเสียงหัวเราะและความแปลกใจเกี่ยวกับข้อผิดพลาดของคอมพิวเตอร์ในพื้นที่สาธารณะ: 1) จอโฆษณา Blue Screen of Death (BSOD): ป้ายโฆษณาดิจิทัลที่แสดงภาพชายถือหน้าจอ กลับมีข้อความ BSOD ที่ไม่ตั้งใจ 2) Linux Boot Screen โผล่กลางโชว์น้ำพุ: หน้าจอ boot ของ Linux ถูกฉายเข้าไปในน้ำพุ ดูคล้ายประตูมิติ 3) หน้าจอ EV Charging Station เผยระบบ: หน้าจอแสดง OpenVPN ในสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในเยอรมนี 4) Chrome PDF Viewer ล้มเหลวระหว่างการพิมพ์: หน้าจอแสดง “Sad Puzzle Piece” บนกระดาษเปล่า 5) Blue Screen of Death บนเรือ USS Enterprise: ระบบ Windows ในโชว์ Star Trek ล้มเหลวแสดง BSOD 6) Sphere of Death ที่ห้าง: จอดิจิทัลทรงกลมในห้างเปลี่ยนเป็น BSOD สร้างภาพที่เหมือนงานศิลปะ 7) Death Star เวอร์ชัน Windows: จอดิจิทัลที่แสดง Windows shutdown ถูกเปรียบเทียบเป็น Death Star จาก Star Wars 8) ป้ายโฆษณากับข้อความหาคู่: แอดมินป้ายดิจิทัลโพสต์ข้อความส่วนตัวเพื่อหาคู่บนจอโฆษณา 9) Crystal Ball เต็มไปด้วยข้อผิดพลาด: ลูกแก้วเวทมนตร์ในนิทรรศการ Harry Potter แสดงหน้าจอ error ของ macOS 10) BSOD ที่ห้องประสาทสัมผัสในโรงเรียน: จอทั้งหมดในห้องแสดง BSOD พร้อมกัน 11) Low Disk Space บนป้ายโฆษณา: Billboard แสดงข้อความเตือนพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเต็ม 12) โรงภาพยนตร์ขนาดเล็กแต่ผิดพลาด: ข้อความเอียงผิดทิศทางที่โรงหนังจิ๋ว 13) Windows รีบูตกลางถ่ายทอดสด: จอแสดงข้อความ Windows Update ระหว่างรายการทีวีสด 14) ระบบคิดเงินล้มเหลวเพราะ Windows ไม่ Activate: สถานีเก็บค่าผ่านทางแสดงข้อผิดพลาดเกี่ยวกับการ activate Windows 15) พื้นหลัง Windows 7 ในห้าง: ห้างกรุงเทพฯ แสดง Desktop Background แทนโฆษณา 16) Error Message ที่สถานีรถไฟ: หน้าจอแสดงข้อความ error แนะนำให้รีบูต 17) Linux เตือนเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง: ระบบบริการสถานีรถมีข้อความ Linux command 18) เครื่องชั่งน้ำหนักล้มเหลวในซุปเปอร์มาร์เก็ต: ระบบ Linux แสดงข้อผิดพลาดที่เครื่องชั่ง 19) หน้าจอ Ubuntu CLI ในพื้นที่สาธารณะ: จอ CLI ของ Ubuntu แทนโฆษณา 20) QuickTime Update ขัดจังหวะแสงไฟคริสต์มาส: ระบบ QuickTime เกิด error ระหว่างโชว์ไฟคริสต์มาส https://www.neowin.net/news/20-times-computers-embarrassed-themselves-with-public-bsods-and-goof-ups/
    WWW.NEOWIN.NET
    20 times computers embarrassed themselves with public BSODs and goof-ups
    We have seen them time and again: BSODs, error screens, and other embarrassing stuff computers have done in public. Here are 20 of them.
    0 Comments 0 Shares 77 Views 0 Reviews
  • Ways To Say You’re Sorry

    You may have been friends with someone for years, but it only takes a second to damage that friendship with the wrong word or two. Now that you’ve made the mess, it’s time to clean it up with a well chosen apology. There are different ways to say you’re sorry, of course.

    Let’s examine the words and a few of the situations they’re most suited for. Hopefully you won’t find yourself in too many of these jams, but let’s face it. We’re all human, and we all make mistakes—whether it’s breaking a window or forgetting you were supposed to meet someone for that Valentine’s Day lunch. Whoops. Pro Tip: don’t forget to be sincere when saying you’re sorry.

    I’m Sorry
    You’re expressing regret for your actions. Sorry means “feeling regret, compunction, sympathy, pity.” Emotion comes into play with this one when it’s used as a verbal cue. If you just backed into someone’s car, you hop out and say it with a lot of emphasis. Or, if you merely bump someone on the subway as you head for the door, proper etiquette dictates you simply nod and give a quick sorry as you exit. No need to belabor that one. Depending on the situation, adding words extremely or sincerely may help (and if you’re using those additional words, then yes—get flowers or candy on the speed dial, it’s better late than never).

    Elton John thinks this word is a tough one.

    I Apologize
    Pretty much in line with number one on our list, when you apologize, you “offer an apology or excuse for some fault, insult, failure, or injury.” This word is used in formal situations, but is equally at home in an informal context.

    It’s All My Fault
    You’re drawing deep from the well of sincerity here. You’re taking all the blame; you’re all in. You’re confessing one’s faults.

    I Regret
    If you use the word regret in an apology statement, it sounds a bit too formal and seems rather, oh what’s the word—insincere? Then again, inflection and circumstance come into play. In the World Wars, the military would send telegrams to families who lost loved ones, using this phrase. There’s no doubt they were sincere, and it brought them straight to the point.

    Beg Pardon
    We cite beg pardon as “an expression of apology (used especially in the phrase with no beg-pardons).” However, this one seems a bit off the mark, does it not? The phrase I beg your pardon seems more useful when used as a statement of indignation when someone cuts in front of you in the movie line. So…maybe you’re not actually sorry (ending the phrase with an upward inflection is key). 1960s singer Lynn Anderson never promised anyone a rose garden, so she went on begging people’s pardon’s all the way to the top of the pops.

    I’m Sorry (Textspeak Version)
    This being 2017 and all, we’re adding some versions you can use in phone messenger form. If you’d like to tap something appropriate (you’re still too scared or too busy to meet them face to face) SMSTXTs suggests: apologies r in order and then add whatever transgression has been committed: 4 ruining ur day, 4 making u feel bad, 4 always being late, 4 not showing up, etc.

    My Bad
    Quite popular as an informal way of getting yourself off the hook, my bad works wonders. You admit it, it’s done, let’s move on, not a big deal.

    Forgive Me
    You’ve really gone and done it. You’re not even in the doghouse anymore—Fido kicked you out of there, too. Our top reference to forgive is “to grant pardon for or remission of (an offense, debt, etc.); absolve.”

    Thank You
    Throwing you a curve with this one, of course. Try it sometime, maybe in something like the following situation. According to The Muse, “If someone points out a small typo in the rough draft of a presentation you put together or helps you wipe up some coffee you spilled on the conference table, a ‘thanks’ is more in order than a ‘sorry.’ Neither situation is dire, and showing someone you appreciate the help is better than having his or her confidence in you diminished.”

    I’m Sorry (Emoji Version)
    If you just can’t find the right words (even after reading the rest of this list) maybe firing off a few choice emoji would work better for you. Be our guest.
    emojis

    ©2025 AAKKHRA All Rights Reserved.
    Ways To Say You’re Sorry You may have been friends with someone for years, but it only takes a second to damage that friendship with the wrong word or two. Now that you’ve made the mess, it’s time to clean it up with a well chosen apology. There are different ways to say you’re sorry, of course. Let’s examine the words and a few of the situations they’re most suited for. Hopefully you won’t find yourself in too many of these jams, but let’s face it. We’re all human, and we all make mistakes—whether it’s breaking a window or forgetting you were supposed to meet someone for that Valentine’s Day lunch. Whoops. Pro Tip: don’t forget to be sincere when saying you’re sorry. I’m Sorry You’re expressing regret for your actions. Sorry means “feeling regret, compunction, sympathy, pity.” Emotion comes into play with this one when it’s used as a verbal cue. If you just backed into someone’s car, you hop out and say it with a lot of emphasis. Or, if you merely bump someone on the subway as you head for the door, proper etiquette dictates you simply nod and give a quick sorry as you exit. No need to belabor that one. Depending on the situation, adding words extremely or sincerely may help (and if you’re using those additional words, then yes—get flowers or candy on the speed dial, it’s better late than never). Elton John thinks this word is a tough one. I Apologize Pretty much in line with number one on our list, when you apologize, you “offer an apology or excuse for some fault, insult, failure, or injury.” This word is used in formal situations, but is equally at home in an informal context. It’s All My Fault You’re drawing deep from the well of sincerity here. You’re taking all the blame; you’re all in. You’re confessing one’s faults. I Regret If you use the word regret in an apology statement, it sounds a bit too formal and seems rather, oh what’s the word—insincere? Then again, inflection and circumstance come into play. In the World Wars, the military would send telegrams to families who lost loved ones, using this phrase. There’s no doubt they were sincere, and it brought them straight to the point. Beg Pardon We cite beg pardon as “an expression of apology (used especially in the phrase with no beg-pardons).” However, this one seems a bit off the mark, does it not? The phrase I beg your pardon seems more useful when used as a statement of indignation when someone cuts in front of you in the movie line. So…maybe you’re not actually sorry (ending the phrase with an upward inflection is key). 1960s singer Lynn Anderson never promised anyone a rose garden, so she went on begging people’s pardon’s all the way to the top of the pops. I’m Sorry (Textspeak Version) This being 2017 and all, we’re adding some versions you can use in phone messenger form. If you’d like to tap something appropriate (you’re still too scared or too busy to meet them face to face) SMSTXTs suggests: apologies r in order and then add whatever transgression has been committed: 4 ruining ur day, 4 making u feel bad, 4 always being late, 4 not showing up, etc. My Bad Quite popular as an informal way of getting yourself off the hook, my bad works wonders. You admit it, it’s done, let’s move on, not a big deal. Forgive Me You’ve really gone and done it. You’re not even in the doghouse anymore—Fido kicked you out of there, too. Our top reference to forgive is “to grant pardon for or remission of (an offense, debt, etc.); absolve.” Thank You Throwing you a curve with this one, of course. Try it sometime, maybe in something like the following situation. According to The Muse, “If someone points out a small typo in the rough draft of a presentation you put together or helps you wipe up some coffee you spilled on the conference table, a ‘thanks’ is more in order than a ‘sorry.’ Neither situation is dire, and showing someone you appreciate the help is better than having his or her confidence in you diminished.” I’m Sorry (Emoji Version) If you just can’t find the right words (even after reading the rest of this list) maybe firing off a few choice emoji would work better for you. Be our guest. emojis ©2025 AAKKHRA All Rights Reserved.
    0 Comments 0 Shares 123 Views 0 Reviews
  • บริษัท L&T Semiconductor Technologies (LTSCT) สตาร์ตอัปผู้ผลิตชิปจากอินเดียที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัท Larsen & Toubro ได้เปิดเผยแผนการก่อสร้างโรงงานผลิตชิป (fab) มูลค่ามหาศาลกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ ในอินเดีย ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นก่อนปี 2027 ทั้งนี้ รัฐบาลอินเดียจะสนับสนุนโครงการดังกล่าวผ่านโครงการเงินอุดหนุนที่มีมูลค่าสูงถึง 90% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด

    ✅ เงื่อนไขสำคัญต่อความสำเร็จของโครงการ
    - LTSCT ตั้งเป้าทำรายได้ 1 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ภายในปีงบประมาณ 2026–2027 เพื่อกระตุ้นให้โครงการ fab นี้เริ่มต้นขึ้น
    - บริษัทเริ่มต้นผลิตชิปเชิงพาณิชย์ในช่วงครึ่งหลังของปี 2025

    ✅ ผลิตภัณฑ์หลักที่อยู่ระหว่างการพัฒนา
    - LTSCT มุ่งเน้นการออกแบบ MEMS sensors, RF chips, smart power devices และ analog ICs ที่ตอบโจทย์อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก

    ✅ โอกาสจากโครงการอุดหนุนเซมิคอนดักเตอร์ของรัฐบาลอินเดีย
    - โครงการสนับสนุนมูลค่า 10,000 ล้านดอลลาร์ ของรัฐบาลอินเดีย เปิดโอกาสให้บริษัทท้องถิ่นเข้าถึงทรัพยากรและเงินทุนในการพัฒนาตลาดเซมิคอนดักเตอร์
    - การสนับสนุนในระดับนี้ถือว่า สูงกว่ามาตรฐานทั่วไปของโลกอย่างมาก

    ✅ เป้าหมายระยะยาว: สู่การเป็น Integrated Device Manufacturer (IDM)
    - LTSCT วางแผนเปลี่ยนบทบาทจากการเป็นบริษัท fabless designer ไปสู่การเป็น Integrated Device Manufacturer (IDM) เพื่อควบคุมกระบวนการผลิตชิปตั้งแต่ต้นจนจบ

    ✅ การสนับสนุนจากบริษัทแม่
    - LTSCT ได้รับเงินทุนมากกว่า 300 ล้านดอลลาร์ เพื่อใช้ในการออกแบบชิป และตั้งเป้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ชิปจำนวน 15 รุ่น ภายในปี 2027

    https://www.techradar.com/pro/fabless-chip-startup-backed-by-multi-billion-indian-company-wants-to-build-a-usd10bn-fab-in-india-before-2027
    บริษัท L&T Semiconductor Technologies (LTSCT) สตาร์ตอัปผู้ผลิตชิปจากอินเดียที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัท Larsen & Toubro ได้เปิดเผยแผนการก่อสร้างโรงงานผลิตชิป (fab) มูลค่ามหาศาลกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ ในอินเดีย ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นก่อนปี 2027 ทั้งนี้ รัฐบาลอินเดียจะสนับสนุนโครงการดังกล่าวผ่านโครงการเงินอุดหนุนที่มีมูลค่าสูงถึง 90% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด ✅ เงื่อนไขสำคัญต่อความสำเร็จของโครงการ - LTSCT ตั้งเป้าทำรายได้ 1 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ภายในปีงบประมาณ 2026–2027 เพื่อกระตุ้นให้โครงการ fab นี้เริ่มต้นขึ้น - บริษัทเริ่มต้นผลิตชิปเชิงพาณิชย์ในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 ✅ ผลิตภัณฑ์หลักที่อยู่ระหว่างการพัฒนา - LTSCT มุ่งเน้นการออกแบบ MEMS sensors, RF chips, smart power devices และ analog ICs ที่ตอบโจทย์อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก ✅ โอกาสจากโครงการอุดหนุนเซมิคอนดักเตอร์ของรัฐบาลอินเดีย - โครงการสนับสนุนมูลค่า 10,000 ล้านดอลลาร์ ของรัฐบาลอินเดีย เปิดโอกาสให้บริษัทท้องถิ่นเข้าถึงทรัพยากรและเงินทุนในการพัฒนาตลาดเซมิคอนดักเตอร์ - การสนับสนุนในระดับนี้ถือว่า สูงกว่ามาตรฐานทั่วไปของโลกอย่างมาก ✅ เป้าหมายระยะยาว: สู่การเป็น Integrated Device Manufacturer (IDM) - LTSCT วางแผนเปลี่ยนบทบาทจากการเป็นบริษัท fabless designer ไปสู่การเป็น Integrated Device Manufacturer (IDM) เพื่อควบคุมกระบวนการผลิตชิปตั้งแต่ต้นจนจบ ✅ การสนับสนุนจากบริษัทแม่ - LTSCT ได้รับเงินทุนมากกว่า 300 ล้านดอลลาร์ เพื่อใช้ในการออกแบบชิป และตั้งเป้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ชิปจำนวน 15 รุ่น ภายในปี 2027 https://www.techradar.com/pro/fabless-chip-startup-backed-by-multi-billion-indian-company-wants-to-build-a-usd10bn-fab-in-india-before-2027
    0 Comments 0 Shares 94 Views 0 Reviews
  • Copilot Vision คือฟีเจอร์ใหม่ที่ทำให้ผู้ช่วย AI ใน Windows ฉลาดขึ้น โดยเข้าใจบริบทแอปพลิเคชันที่ใช้งานอยู่และแนะนำวิธีการทำงานได้ตรงจุด แม้ว่าฟีเจอร์นี้ยังอยู่ระหว่างการพัฒนา แต่การสาธิตที่แสดงการช่วยชี้จุดในแอปพลิเคชันต่าง ๆ ชี้ให้เห็นถึงศักยภาพที่อาจเปลี่ยนวิธีการทำงานใน Windows ของเราไปอย่างถาวร

    ✅ Copilot Vision ช่วยให้งานง่ายขึ้นโดยไม่ขัดจังหวะการทำงาน
    - ผู้ใช้สามารถ เปิดใช้งาน Copilot Vision ผ่านไอคอนบนหน้าจอหรือปุ่มเฉพาะบนคีย์บอร์ด เพื่อให้ AI แสดงรายการแอปพลิเคชันที่กำลังใช้งาน
    - ความสามารถนี้ช่วยให้ Copilot เข้าใจว่าผู้ใช้กำลังทำงานอะไร และสามารถตอบคำถามหรือแนะนำได้ตรงกับบริบท เช่น การออกแบบ 3D บน Blender หรือการปรับแต่งวิดีโอบน Clipchamp

    ✅ การแสดงคำแนะนำแบบโต้ตอบในอนาคต
    - Copilot Vision ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาเพื่อเพิ่มฟีเจอร์ที่ แสดงลูกศรแนะนำตำแหน่งในแอปพลิเคชัน เช่น การเพิ่มการเปลี่ยนผ่านวิดีโอใน Clipchamp หรือการค้นหาเครื่องมือเฉพาะใน Photoshop
    - เทคโนโลยีใหม่นี้เปรียบเหมือน "Clippy ยุคใหม่" ที่ช่วยนำทางงานอย่างชาญฉลาด

    ✅ รองรับการใช้งานด้วยเสียงและข้อความ
    - ผู้ใช้สามารถตั้งคำถาม เช่น "จะทำให้งานออกแบบนี้ดูคลาสสิกขึ้นได้อย่างไร" หรือ "ไอคอนเพิ่มหมายเหตุอยู่ที่ไหน" โดย AI จะปรับคำตอบตามแอปและโครงการที่เปิดอยู่

    ✅ อนาคตของ Copilot Vision:
    - แม้ว่าฟีเจอร์ปัจจุบันจะสามารถระบุและเข้าใจบริบทแอปพลิเคชันได้แล้ว แต่ Microsoft กำลังพัฒนาให้ Copilot Vision ทำงานร่วมกับอินเทอร์เฟซของแอปได้ดียิ่งขึ้น และเพิ่มการช่วยเหลือในรูปแบบภาพ
    - การอัปเดตที่ก้าวหน้ากว่านี้ยังไม่มีกรอบเวลาที่แน่ชัด แต่จากการสาธิต คาดว่าไม่นานเกินรอ

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/i-tried-copilot-vision-and-it-could-change-how-you-use-windows-forever
    Copilot Vision คือฟีเจอร์ใหม่ที่ทำให้ผู้ช่วย AI ใน Windows ฉลาดขึ้น โดยเข้าใจบริบทแอปพลิเคชันที่ใช้งานอยู่และแนะนำวิธีการทำงานได้ตรงจุด แม้ว่าฟีเจอร์นี้ยังอยู่ระหว่างการพัฒนา แต่การสาธิตที่แสดงการช่วยชี้จุดในแอปพลิเคชันต่าง ๆ ชี้ให้เห็นถึงศักยภาพที่อาจเปลี่ยนวิธีการทำงานใน Windows ของเราไปอย่างถาวร ✅ Copilot Vision ช่วยให้งานง่ายขึ้นโดยไม่ขัดจังหวะการทำงาน - ผู้ใช้สามารถ เปิดใช้งาน Copilot Vision ผ่านไอคอนบนหน้าจอหรือปุ่มเฉพาะบนคีย์บอร์ด เพื่อให้ AI แสดงรายการแอปพลิเคชันที่กำลังใช้งาน - ความสามารถนี้ช่วยให้ Copilot เข้าใจว่าผู้ใช้กำลังทำงานอะไร และสามารถตอบคำถามหรือแนะนำได้ตรงกับบริบท เช่น การออกแบบ 3D บน Blender หรือการปรับแต่งวิดีโอบน Clipchamp ✅ การแสดงคำแนะนำแบบโต้ตอบในอนาคต - Copilot Vision ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาเพื่อเพิ่มฟีเจอร์ที่ แสดงลูกศรแนะนำตำแหน่งในแอปพลิเคชัน เช่น การเพิ่มการเปลี่ยนผ่านวิดีโอใน Clipchamp หรือการค้นหาเครื่องมือเฉพาะใน Photoshop - เทคโนโลยีใหม่นี้เปรียบเหมือน "Clippy ยุคใหม่" ที่ช่วยนำทางงานอย่างชาญฉลาด ✅ รองรับการใช้งานด้วยเสียงและข้อความ - ผู้ใช้สามารถตั้งคำถาม เช่น "จะทำให้งานออกแบบนี้ดูคลาสสิกขึ้นได้อย่างไร" หรือ "ไอคอนเพิ่มหมายเหตุอยู่ที่ไหน" โดย AI จะปรับคำตอบตามแอปและโครงการที่เปิดอยู่ ✅ อนาคตของ Copilot Vision: - แม้ว่าฟีเจอร์ปัจจุบันจะสามารถระบุและเข้าใจบริบทแอปพลิเคชันได้แล้ว แต่ Microsoft กำลังพัฒนาให้ Copilot Vision ทำงานร่วมกับอินเทอร์เฟซของแอปได้ดียิ่งขึ้น และเพิ่มการช่วยเหลือในรูปแบบภาพ - การอัปเดตที่ก้าวหน้ากว่านี้ยังไม่มีกรอบเวลาที่แน่ชัด แต่จากการสาธิต คาดว่าไม่นานเกินรอ https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/i-tried-copilot-vision-and-it-could-change-how-you-use-windows-forever
    0 Comments 0 Shares 70 Views 0 Reviews
  • MangoBoost และ AMD Instinct MI300X GPUs สร้างสถิติใหม่ในมาตรฐาน MLPerf Inference ด้วยผลลัพธ์ที่เหนือกว่าระบบ H100 จาก NVIDIA ทั้งในด้านประสิทธิภาพและต้นทุน ซอฟต์แวร์ Mango LLMBoost ไม่เพียงแต่รองรับการวิเคราะห์ AI ที่รวดเร็วเท่านั้น แต่ยังใช้งานได้ง่ายทั้งในองค์กรและคลาวด์ ความร่วมมือระหว่าง MangoBoost และ AMD ผลักดันให้เกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่คุ้มค่าและทรงพลังที่สุดในตลาด

    ✅ ประสิทธิภาพที่เหนือชั้น
    - Mango LLMBoost ทำได้ถึง 103,182 tokens ต่อวินาที (TPS) ในโหมด offline inference และ 93,039 TPS ในโหมด server inference
    - ผลลัพธ์เหล่านี้เหนือกว่าการใช้ NVIDIA H100 GPUs ซึ่งทำได้ 82,749 TPS ในการเปรียบเทียบเดียวกัน

    ✅ ประหยัดค่าใช้จ่ายสูงถึง 62%
    - AMD MI300X GPUs มีราคาต่ำกว่า NVIDIA H100 GPUs อย่างมีนัยสำคัญ โดยอยู่ที่ $15,000–$17,000 เมื่อเทียบกับ $32,000–$40,000
    - Mango LLMBoost + MI300X ยังสร้างประสิทธิภาพการวิเคราะห์ต่อ 1,000 ดอลลาร์ สูงกว่า H100-based system ถึง 2.8 เท่า

    ✅ ซอฟต์แวร์ MLOps ที่ปรับขนาดและใช้งานง่าย
    - Mango LLMBoost สนับสนุนโมเดล AI มากกว่า 50 โมเดล เช่น Llama, DeepSeek และ Qwen
    - สามารถใช้งานได้ทั้ง บนคลาวด์และเซิร์ฟเวอร์องค์กร พร้อมระบบ deployment ที่ง่ายเพียง คำสั่งเดียวใน Docker

    ความร่วมมือกับ AMD และก้าวต่อไปของ MangoBoost:
    ✅ การใช้ ROCm Software Stack
    - MangoBoost ร่วมมือกับ AMD เพื่อผลักดันขีดความสามารถของ MI300X GPUs ในการใช้งานแบบ multi-node clusters
    ✅ ความคุ้มค่าด้าน AI Infrastructure
    - MangoBoost ยังมีโซลูชันเสริม เช่น Mango GPUBoost สำหรับงาน training และ inference แบบ multi-node และ Mango StorageBoost สำหรับการจัดการระบบจัดเก็บข้อมูล AI

    https://www.techpowerup.com/335079/mangoboost-achieves-record-breaking-mlperf-inference-v5-0-results-with-amd-instinct-mi300x
    MangoBoost และ AMD Instinct MI300X GPUs สร้างสถิติใหม่ในมาตรฐาน MLPerf Inference ด้วยผลลัพธ์ที่เหนือกว่าระบบ H100 จาก NVIDIA ทั้งในด้านประสิทธิภาพและต้นทุน ซอฟต์แวร์ Mango LLMBoost ไม่เพียงแต่รองรับการวิเคราะห์ AI ที่รวดเร็วเท่านั้น แต่ยังใช้งานได้ง่ายทั้งในองค์กรและคลาวด์ ความร่วมมือระหว่าง MangoBoost และ AMD ผลักดันให้เกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่คุ้มค่าและทรงพลังที่สุดในตลาด ✅ ประสิทธิภาพที่เหนือชั้น - Mango LLMBoost ทำได้ถึง 103,182 tokens ต่อวินาที (TPS) ในโหมด offline inference และ 93,039 TPS ในโหมด server inference - ผลลัพธ์เหล่านี้เหนือกว่าการใช้ NVIDIA H100 GPUs ซึ่งทำได้ 82,749 TPS ในการเปรียบเทียบเดียวกัน ✅ ประหยัดค่าใช้จ่ายสูงถึง 62% - AMD MI300X GPUs มีราคาต่ำกว่า NVIDIA H100 GPUs อย่างมีนัยสำคัญ โดยอยู่ที่ $15,000–$17,000 เมื่อเทียบกับ $32,000–$40,000 - Mango LLMBoost + MI300X ยังสร้างประสิทธิภาพการวิเคราะห์ต่อ 1,000 ดอลลาร์ สูงกว่า H100-based system ถึง 2.8 เท่า ✅ ซอฟต์แวร์ MLOps ที่ปรับขนาดและใช้งานง่าย - Mango LLMBoost สนับสนุนโมเดล AI มากกว่า 50 โมเดล เช่น Llama, DeepSeek และ Qwen - สามารถใช้งานได้ทั้ง บนคลาวด์และเซิร์ฟเวอร์องค์กร พร้อมระบบ deployment ที่ง่ายเพียง คำสั่งเดียวใน Docker ความร่วมมือกับ AMD และก้าวต่อไปของ MangoBoost: ✅ การใช้ ROCm Software Stack - MangoBoost ร่วมมือกับ AMD เพื่อผลักดันขีดความสามารถของ MI300X GPUs ในการใช้งานแบบ multi-node clusters ✅ ความคุ้มค่าด้าน AI Infrastructure - MangoBoost ยังมีโซลูชันเสริม เช่น Mango GPUBoost สำหรับงาน training และ inference แบบ multi-node และ Mango StorageBoost สำหรับการจัดการระบบจัดเก็บข้อมูล AI https://www.techpowerup.com/335079/mangoboost-achieves-record-breaking-mlperf-inference-v5-0-results-with-amd-instinct-mi300x
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    MangoBoost Achieves Record-Breaking MLPerf Inference v5.0 Results with AMD Instinct MI300X
    MangoBoost, a provider of cutting-edge system solutions designed to maximize AI data center efficiency, has set a new industry benchmark with its latest MLPerf Inference v5.0 submission. The company's Mango LLMBoost AI Enterprise MLOps software has demonstrated unparalleled performance on AMD Instin...
    0 Comments 0 Shares 82 Views 0 Reviews
  • จากรายงานของ GitGuardian พบว่าการใช้ AI เช่น Copilot ในการช่วยเขียนโค้ดในโปรเจ็กต์นั้น แม้ว่าจะเพิ่มความรวดเร็วและประสิทธิภาพในการทำงาน แต่กลับมีแนวโน้มที่ทำให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยมากขึ้น อัตราการรั่วไหลของข้อมูลลับ (API Keys, Passwords, และ Tokens) ใน repository ที่ใช้งาน Copilot สูงกว่าปกติถึง 40%

    ✅ ความเสี่ยงในการรั่วไหลของ Secrets เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
    - GitGuardian พบว่าใน repository ที่ใช้งาน Copilot 6.4% มีความเสี่ยงด้าน API Keys หรือข้อมูลลับ เมื่อเทียบกับ 4.6% ในโปรเจ็กต์ทั่วไป
    - การใช้ Copilot อาจดึงดูดนักพัฒนาให้เลือก ความรวดเร็ว มากกว่าการทำให้โค้ดปลอดภัย

    ✅ ปัญหาจาก LLM และโมเดลการเรียนรู้ AI
    - David Benas จาก Black Duck กล่าวว่าโมเดล AI เช่น LLM มัก มีข้อบกพร่องที่สะท้อนจากฐานข้อมูลที่ใช้ในการฝึก
    - ข้อผิดพลาด เช่น การเขียนโค้ดที่ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยหรือการใส่ข้อมูลลับในรูปแบบที่เข้าถึงง่าย

    ✅ การจัดการและการฝึกอบรมเพื่อป้องกันความเสี่ยง
    - ผู้เชี่ยวชาญเน้นย้ำว่าการฝึกอบรมให้กับนักพัฒนา เช่น การใช้ Secrets Manager และการ Inject Credentials อย่างปลอดภัย จะช่วยลดความเสี่ยงได้
    - Chris Wood เสนอให้องค์กร สร้างมาตรการความปลอดภัยเชิงรุก เช่น การใช้เครื่องมือตรวจจับ Secrets และการทำ Code Review อย่างละเอียด

    ✅ ผลกระทบของการจัดการที่ล่าช้า
    - พบว่า 70% ของ Secrets ที่หลุดรั่วจะยังคงใช้งานได้ถึง 2 ปีหลังการรั่วไหล
    - ปัญหานี้เกิดจากความยากลำบากในการแก้ไขและหมุนเวียน Credentials

    https://www.csoonline.com/article/3953927/ai-programming-copilots-are-worsening-code-security-and-leaking-more-secrets.html
    จากรายงานของ GitGuardian พบว่าการใช้ AI เช่น Copilot ในการช่วยเขียนโค้ดในโปรเจ็กต์นั้น แม้ว่าจะเพิ่มความรวดเร็วและประสิทธิภาพในการทำงาน แต่กลับมีแนวโน้มที่ทำให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยมากขึ้น อัตราการรั่วไหลของข้อมูลลับ (API Keys, Passwords, และ Tokens) ใน repository ที่ใช้งาน Copilot สูงกว่าปกติถึง 40% ✅ ความเสี่ยงในการรั่วไหลของ Secrets เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง - GitGuardian พบว่าใน repository ที่ใช้งาน Copilot 6.4% มีความเสี่ยงด้าน API Keys หรือข้อมูลลับ เมื่อเทียบกับ 4.6% ในโปรเจ็กต์ทั่วไป - การใช้ Copilot อาจดึงดูดนักพัฒนาให้เลือก ความรวดเร็ว มากกว่าการทำให้โค้ดปลอดภัย ✅ ปัญหาจาก LLM และโมเดลการเรียนรู้ AI - David Benas จาก Black Duck กล่าวว่าโมเดล AI เช่น LLM มัก มีข้อบกพร่องที่สะท้อนจากฐานข้อมูลที่ใช้ในการฝึก - ข้อผิดพลาด เช่น การเขียนโค้ดที่ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยหรือการใส่ข้อมูลลับในรูปแบบที่เข้าถึงง่าย ✅ การจัดการและการฝึกอบรมเพื่อป้องกันความเสี่ยง - ผู้เชี่ยวชาญเน้นย้ำว่าการฝึกอบรมให้กับนักพัฒนา เช่น การใช้ Secrets Manager และการ Inject Credentials อย่างปลอดภัย จะช่วยลดความเสี่ยงได้ - Chris Wood เสนอให้องค์กร สร้างมาตรการความปลอดภัยเชิงรุก เช่น การใช้เครื่องมือตรวจจับ Secrets และการทำ Code Review อย่างละเอียด ✅ ผลกระทบของการจัดการที่ล่าช้า - พบว่า 70% ของ Secrets ที่หลุดรั่วจะยังคงใช้งานได้ถึง 2 ปีหลังการรั่วไหล - ปัญหานี้เกิดจากความยากลำบากในการแก้ไขและหมุนเวียน Credentials https://www.csoonline.com/article/3953927/ai-programming-copilots-are-worsening-code-security-and-leaking-more-secrets.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    AI programming copilots are worsening code security and leaking more secrets
    Copilot-enabled repos are 40% more likely to contain API keys, passwords, or tokens — just one of several issues security leaders must address as AI-generated code proliferates.
    0 Comments 0 Shares 59 Views 0 Reviews
  • GitHub อัปเดตระบบ GHAS เพื่อช่วยป้องกันข้อมูลลับหลุดรั่วออกสู่สาธารณะ โดยเพิ่มฟีเจอร์ Point-in-Time Scan ที่ช่วยสแกนข้อมูลใน repositories ต่าง ๆ พร้อมทั้งผลลัพธ์ที่ดาวน์โหลดได้ในรูปแบบ CSV file นอกจากนี้ GitHub ยังแยก GHAS ออกเป็น subscriptions ที่ปรับให้เหมาะสมกับองค์กรทุกขนาด และเพิ่มฟีเจอร์ Push Protection ที่ช่วยบล็อก commit ที่มี secrets โดยอัตโนมัติ

    ✅ ฟีเจอร์สแกนแบบ Point-in-Time สำหรับผลลัพธ์ที่แม่นยำ
    - GitHub เปิดตัว Point-in-Time Scan ที่ช่วยให้องค์กรค้นหา ข้อมูลลับที่อาจถูกเปิดเผย ได้ทั้งใน public, private และ archived repositories
    - ผลลัพธ์สแกนสามารถดาวน์โหลดได้ในรูปแบบ CSV file เพื่อการวิเคราะห์เพิ่มเติม

    ✅ เพิ่มการเข้าถึง GHAS สำหรับองค์กรขนาดเล็กและกลาง
    - GitHub ได้แยก GHAS ออกเป็น Secret Protection และ Code Security subscriptions เพื่อให้เหมาะสมกับองค์กรทุกขนาด
    - การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยลดต้นทุนสำหรับองค์กรที่ต้องการลงทุนในฟีเจอร์สแกนความปลอดภัย

    ✅ ฟีเจอร์ Push Protection เพื่อป้องกันการ commit ข้อมูลลับโดยไม่ตั้งใจ
    - ฟีเจอร์นี้ ตรวจจับและบล็อก commit ที่มี secrets ก่อนเข้าสู่ production
    - เปิดให้ใช้งานโดยอัตโนมัติสำหรับลูกค้า Enterprise ตั้งแต่ปี 2024

    ✅ การปรับปรุง GHAS ให้เข้าถึงได้สำหรับสมาชิกทีมที่เคยใช้งานได้เฉพาะ Enterprise เท่านั้น
    - GitHub ได้เพิ่ม GHAS เป็นฟีเจอร์ใน Team subscription เพื่อเปิดโอกาสให้ทีมพัฒนาขนาดเล็กเข้าถึงฟีเจอร์นี้

    https://www.infoworld.com/article/3953663/github-upgrades-tooling-to-help-developers-stop-leaking-secrets.html
    GitHub อัปเดตระบบ GHAS เพื่อช่วยป้องกันข้อมูลลับหลุดรั่วออกสู่สาธารณะ โดยเพิ่มฟีเจอร์ Point-in-Time Scan ที่ช่วยสแกนข้อมูลใน repositories ต่าง ๆ พร้อมทั้งผลลัพธ์ที่ดาวน์โหลดได้ในรูปแบบ CSV file นอกจากนี้ GitHub ยังแยก GHAS ออกเป็น subscriptions ที่ปรับให้เหมาะสมกับองค์กรทุกขนาด และเพิ่มฟีเจอร์ Push Protection ที่ช่วยบล็อก commit ที่มี secrets โดยอัตโนมัติ ✅ ฟีเจอร์สแกนแบบ Point-in-Time สำหรับผลลัพธ์ที่แม่นยำ - GitHub เปิดตัว Point-in-Time Scan ที่ช่วยให้องค์กรค้นหา ข้อมูลลับที่อาจถูกเปิดเผย ได้ทั้งใน public, private และ archived repositories - ผลลัพธ์สแกนสามารถดาวน์โหลดได้ในรูปแบบ CSV file เพื่อการวิเคราะห์เพิ่มเติม ✅ เพิ่มการเข้าถึง GHAS สำหรับองค์กรขนาดเล็กและกลาง - GitHub ได้แยก GHAS ออกเป็น Secret Protection และ Code Security subscriptions เพื่อให้เหมาะสมกับองค์กรทุกขนาด - การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยลดต้นทุนสำหรับองค์กรที่ต้องการลงทุนในฟีเจอร์สแกนความปลอดภัย ✅ ฟีเจอร์ Push Protection เพื่อป้องกันการ commit ข้อมูลลับโดยไม่ตั้งใจ - ฟีเจอร์นี้ ตรวจจับและบล็อก commit ที่มี secrets ก่อนเข้าสู่ production - เปิดให้ใช้งานโดยอัตโนมัติสำหรับลูกค้า Enterprise ตั้งแต่ปี 2024 ✅ การปรับปรุง GHAS ให้เข้าถึงได้สำหรับสมาชิกทีมที่เคยใช้งานได้เฉพาะ Enterprise เท่านั้น - GitHub ได้เพิ่ม GHAS เป็นฟีเจอร์ใน Team subscription เพื่อเปิดโอกาสให้ทีมพัฒนาขนาดเล็กเข้าถึงฟีเจอร์นี้ https://www.infoworld.com/article/3953663/github-upgrades-tooling-to-help-developers-stop-leaking-secrets.html
    WWW.INFOWORLD.COM
    GitHub upgrades tooling to help developers stop leaking secrets
    Developers get free and targeted advanced secret scanning features on GitHub to protect organizations from exposed secrets.
    0 Comments 0 Shares 63 Views 0 Reviews
  • ในงานฉลองครบรอบ 50 ปีของ Microsoft เกิดการประท้วงจากพนักงานที่กล่าวหา Microsoft ในการสนับสนุนการละเมิดสิทธิมนุษยชนผ่านเทคโนโลยี AI โดยเฉพาะในปาเลสไตน์ พนักงานที่ประท้วงชี้ว่า AI ของ Microsoft ถูกนำไปใช้เพื่อเพิ่มความรุนแรงในกาซา และเรียกร้องให้หยุดข้อตกลงกับกองทัพอิสราเอล ซึ่งเป็นคำกล่าวหาที่สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับชื่อเสียงของบริษัทในระดับโลก

    ✅ ข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการใช้งาน AI ในกิจการทางทหาร
    - Ibtihal กล่าวว่าผลงานด้าน AI ที่เธอมีส่วนร่วม ถูกใช้เพื่อ สนับสนุนการทำงานของกองทัพอิสราเอล เช่น การสอดแนม การแปล และการกำหนดเป้าหมายที่เพิ่มความรุนแรงในกาซา
    - มีการอ้างอิงถึง ข้อตกลงมูลค่า $133 ล้าน ระหว่าง Microsoft และกระทรวงกลาโหมอิสราเอล

    ✅ การประท้วงที่เกิดจากความไม่โปร่งใสภายในองค์กร
    - Ibtihal กล่าวว่าพนักงานกลุ่ม อาหรับ ปาเลสไตน์ และมุสลิมใน Microsoft ถูกกดดันไม่ให้แสดงความเห็นต่าง
    - ในอีเมลที่เธอส่งถึงพนักงานหลายพันคน เธอยืนยันว่า Microsoft ต้อง รับผิดชอบต่อการกระทำของ AI ที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน

    ✅ ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับปัญหามนุษยธรรมในปาเลสไตน์
    - Ibtihal กล่าวถึง ความสูญเสียของพลเรือนจากการโจมตีในกาซาที่ทำให้เสียชีวิตกว่า 300,000 คนใน 1.5 ปีที่ผ่านมา
    - เธอเน้นย้ำว่าเทคโนโลยี AI ของ Microsoft ถูกนำไปใช้เพื่อเพิ่มความรุนแรงในพื้นที่ โดยขัดแย้งกับจุดยืนด้านสิทธิมนุษยชนของบริษัทเอง

    ✅ การเคลื่อนไหวเพื่อหยุดการสนับสนุนการละเมิดสิทธิมนุษยชน
    - Ibtihal เรียกร้องให้ Microsoft หยุดขายเทคโนโลยีให้กองทัพอิสราเอล และสนับสนุนการเคลื่อนไหวเพื่อความยุติธรรมทางสังคม
    - เธอยังอ้างว่า AI ของ Microsoft ถูกออกแบบเพื่อเป้าหมายที่ไม่เหมาะสม เช่น การสอดแนมแพทย์และนักข่าว

    https://www.neowin.net/news/microsoft-using-ai-for-war-and-genocide-cried-protesting-staff-at-50th-anniversary-event/
    ในงานฉลองครบรอบ 50 ปีของ Microsoft เกิดการประท้วงจากพนักงานที่กล่าวหา Microsoft ในการสนับสนุนการละเมิดสิทธิมนุษยชนผ่านเทคโนโลยี AI โดยเฉพาะในปาเลสไตน์ พนักงานที่ประท้วงชี้ว่า AI ของ Microsoft ถูกนำไปใช้เพื่อเพิ่มความรุนแรงในกาซา และเรียกร้องให้หยุดข้อตกลงกับกองทัพอิสราเอล ซึ่งเป็นคำกล่าวหาที่สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับชื่อเสียงของบริษัทในระดับโลก ✅ ข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการใช้งาน AI ในกิจการทางทหาร - Ibtihal กล่าวว่าผลงานด้าน AI ที่เธอมีส่วนร่วม ถูกใช้เพื่อ สนับสนุนการทำงานของกองทัพอิสราเอล เช่น การสอดแนม การแปล และการกำหนดเป้าหมายที่เพิ่มความรุนแรงในกาซา - มีการอ้างอิงถึง ข้อตกลงมูลค่า $133 ล้าน ระหว่าง Microsoft และกระทรวงกลาโหมอิสราเอล ✅ การประท้วงที่เกิดจากความไม่โปร่งใสภายในองค์กร - Ibtihal กล่าวว่าพนักงานกลุ่ม อาหรับ ปาเลสไตน์ และมุสลิมใน Microsoft ถูกกดดันไม่ให้แสดงความเห็นต่าง - ในอีเมลที่เธอส่งถึงพนักงานหลายพันคน เธอยืนยันว่า Microsoft ต้อง รับผิดชอบต่อการกระทำของ AI ที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน ✅ ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับปัญหามนุษยธรรมในปาเลสไตน์ - Ibtihal กล่าวถึง ความสูญเสียของพลเรือนจากการโจมตีในกาซาที่ทำให้เสียชีวิตกว่า 300,000 คนใน 1.5 ปีที่ผ่านมา - เธอเน้นย้ำว่าเทคโนโลยี AI ของ Microsoft ถูกนำไปใช้เพื่อเพิ่มความรุนแรงในพื้นที่ โดยขัดแย้งกับจุดยืนด้านสิทธิมนุษยชนของบริษัทเอง ✅ การเคลื่อนไหวเพื่อหยุดการสนับสนุนการละเมิดสิทธิมนุษยชน - Ibtihal เรียกร้องให้ Microsoft หยุดขายเทคโนโลยีให้กองทัพอิสราเอล และสนับสนุนการเคลื่อนไหวเพื่อความยุติธรรมทางสังคม - เธอยังอ้างว่า AI ของ Microsoft ถูกออกแบบเพื่อเป้าหมายที่ไม่เหมาะสม เช่น การสอดแนมแพทย์และนักข่าว https://www.neowin.net/news/microsoft-using-ai-for-war-and-genocide-cried-protesting-staff-at-50th-anniversary-event/
    WWW.NEOWIN.NET
    "Microsoft using AI for war and genocide" cried protesting staff at 50th anniversary event
    Amidst the Microsoft 50-year anniversary celebration, an employee raised a protest claiming Microsoft is using AI for war and genocide.
    0 Comments 0 Shares 57 Views 0 Reviews
  • Nvidia ช่วยแก้ปัญหาไดรเวอร์ AMD บน Linux แม้ตัวเองกำลังเจอปัญหาไดรเวอร์บน Windows สำหรับ RTX 50 Series โดยปัญหาเกิดจากการเปิด DMA bounce buffers ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพเกม การแก้ไข commit ที่ไม่เหมาะสมช่วยคืนค่าการทำงานที่สมบูรณ์ นอกจากนี้ ชุมชน Linux และวิศวกรจากหลายบริษัทร่วมมือกันอย่างดีในการช่วยแก้ไข

    ✅ ข้อผิดพลาดเกิดจากการ commit ก่อนหน้าของ Nvidia เอง
    - Bert Karwatzki ซึ่งเป็นผู้แจ้งปัญหาพบว่า เกม Stellaris บน Steam มีอาการโหลดช้า และการควบคุมด้วยคีย์บอร์ดหรือเมาส์ล้มเหลว
    - การ revert commit ที่มีปัญหาแก้ไขอาการนี้ได้

    ✅ KASLR คืออะไร และส่งผลอย่างไรต่อ DMA
    - KASLR (Kernel Address Space Layout Randomization) เป็น ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่ช่วยปกป้องหน่วยความจำโดยเปลี่ยนตำแหน่ง kernel แบบสุ่ม
    - เมื่อปิด KASLR ระบบ DMA อาจเกิดข้อผิดพลาด โดยเฉพาะเมื่อ private memory ถูกเพิ่มผ่าน add_pages()

    ✅ การเปลี่ยนแปลงช่วยแก้ไขการใช้ DMA zone อย่างไม่เหมาะสม
    - ก่อนหน้า DMA32 zone ถูกใช้ในการจัดสรร GPU allocations ซึ่งทำให้ ประสิทธิภาพของเกมลดลงอย่างมาก
    - แพตช์แก้ไขช่วยคืนค่าประสิทธิภาพให้ระบบ

    ✅ บทบาทของ Linux Community
    - การแก้ไขนี้เป็นตัวอย่าง ความร่วมมือของชุมชน Linux และวิศวกรจากหลากหลายบริษัท
    - Nvidia และ AMD ต่างแสดงให้เห็นถึง ความพร้อมในการช่วยเหลือแก้ปัญหานอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ตนเอง

    https://www.neowin.net/news/nvidia-just-fixed-an-amd-linux-bug-while-it-struggles-itself-with-windows-driver-issues/
    Nvidia ช่วยแก้ปัญหาไดรเวอร์ AMD บน Linux แม้ตัวเองกำลังเจอปัญหาไดรเวอร์บน Windows สำหรับ RTX 50 Series โดยปัญหาเกิดจากการเปิด DMA bounce buffers ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพเกม การแก้ไข commit ที่ไม่เหมาะสมช่วยคืนค่าการทำงานที่สมบูรณ์ นอกจากนี้ ชุมชน Linux และวิศวกรจากหลายบริษัทร่วมมือกันอย่างดีในการช่วยแก้ไข ✅ ข้อผิดพลาดเกิดจากการ commit ก่อนหน้าของ Nvidia เอง - Bert Karwatzki ซึ่งเป็นผู้แจ้งปัญหาพบว่า เกม Stellaris บน Steam มีอาการโหลดช้า และการควบคุมด้วยคีย์บอร์ดหรือเมาส์ล้มเหลว - การ revert commit ที่มีปัญหาแก้ไขอาการนี้ได้ ✅ KASLR คืออะไร และส่งผลอย่างไรต่อ DMA - KASLR (Kernel Address Space Layout Randomization) เป็น ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่ช่วยปกป้องหน่วยความจำโดยเปลี่ยนตำแหน่ง kernel แบบสุ่ม - เมื่อปิด KASLR ระบบ DMA อาจเกิดข้อผิดพลาด โดยเฉพาะเมื่อ private memory ถูกเพิ่มผ่าน add_pages() ✅ การเปลี่ยนแปลงช่วยแก้ไขการใช้ DMA zone อย่างไม่เหมาะสม - ก่อนหน้า DMA32 zone ถูกใช้ในการจัดสรร GPU allocations ซึ่งทำให้ ประสิทธิภาพของเกมลดลงอย่างมาก - แพตช์แก้ไขช่วยคืนค่าประสิทธิภาพให้ระบบ ✅ บทบาทของ Linux Community - การแก้ไขนี้เป็นตัวอย่าง ความร่วมมือของชุมชน Linux และวิศวกรจากหลากหลายบริษัท - Nvidia และ AMD ต่างแสดงให้เห็นถึง ความพร้อมในการช่วยเหลือแก้ปัญหานอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ตนเอง https://www.neowin.net/news/nvidia-just-fixed-an-amd-linux-bug-while-it-struggles-itself-with-windows-driver-issues/
    WWW.NEOWIN.NET
    Nvidia just fixed an AMD Linux bug while it struggles itself with Windows driver issues
    An Nvidia engineer has helped resolve an AMD driver issue while it itself deals with Windows problems. There's some back-story here.
    0 Comments 0 Shares 50 Views 0 Reviews
  • Microsoft กำลังเลิกใช้ window.external.getHostEnvironmentValue ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยให้เว็บไซต์ดึงข้อมูลเบราว์เซอร์และอุปกรณ์ของผู้ใช้ได้ง่าย แต่แทนที่ด้วย User-Agent Client Hints API ที่เน้นความเป็นส่วนตัวมากกว่า วิธีใหม่นี้ ช่วยลดการระบุตัวตนผู้ใช้ แต่ยังให้ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการปรับปรุงเว็บไซต์ Microsoft จะดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไป และมีแผนเลิกใช้อย่างสมบูรณ์ใน เดือนตุลาคม 2025

    ✅ วิธีใหม่ช่วยลดการระบุตัวตนผู้ใช้หรือ “User Fingerprinting”
    - User-Agent Client Hints API ช่วยให้เบราว์เซอร์เลือกตอบสนองข้อมูลเพียงบางส่วนตามระดับความจำเป็น
    - ระบบใหม่นี้มี ตัวเลือกที่ควบคุมได้และต้องผ่านการอนุมัติจากผู้ใช้ในกรณีข้อมูลที่ละเอียดอ่อน

    ✅ วิธีการเลิกใช้งานแบบค่อยเป็นค่อยไป
    - Microsoft กำหนด 3 ขั้นตอนสำคัญ ในการเลิกใช้งาน window.external.getHostEnvironmentValue:
    - Edge 135 (เมษายน 2025): เริ่มแจ้งเตือนนักพัฒนาใน DevTools Console
    - Edge 137 (พฤษภาคม 2025): ปิดใช้งาน แต่เปิดให้เว็บไซต์ร้องขอส่วนขยายชั่วคราว
    - Edge 141 (ตุลาคม 2025): เลิกใช้งานอย่างเต็มรูปแบบ

    ✅ ข้อดีของ User-Agent Client Hints API
    - ช่วยลดข้อมูลส่วนตัวที่เว็บไซต์เก็บไป แต่ยังให้ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการ เพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์
    - มีการควบคุมระดับสิทธิ์และความโปร่งใสมากขึ้น เมื่อเทียบกับวิธีเก่า

    ✅ Microsoft เปิดให้ร้องขอส่วนขยายชั่วคราวสำหรับเว็บไซต์ที่ยังต้องใช้วิธีเดิม
    - เว็บไซต์ที่ยังต้องพึ่งพาวิธีเก่าจะสามารถ ร้องขอส่วนขยายชั่วคราวได้ในช่วงเวลาหนึ่ง

    https://www.neowin.net/news/microsoft-is-killing-something-inside-edge-but-its-to-improve-user-data-privacy/
    Microsoft กำลังเลิกใช้ window.external.getHostEnvironmentValue ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยให้เว็บไซต์ดึงข้อมูลเบราว์เซอร์และอุปกรณ์ของผู้ใช้ได้ง่าย แต่แทนที่ด้วย User-Agent Client Hints API ที่เน้นความเป็นส่วนตัวมากกว่า วิธีใหม่นี้ ช่วยลดการระบุตัวตนผู้ใช้ แต่ยังให้ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการปรับปรุงเว็บไซต์ Microsoft จะดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไป และมีแผนเลิกใช้อย่างสมบูรณ์ใน เดือนตุลาคม 2025 ✅ วิธีใหม่ช่วยลดการระบุตัวตนผู้ใช้หรือ “User Fingerprinting” - User-Agent Client Hints API ช่วยให้เบราว์เซอร์เลือกตอบสนองข้อมูลเพียงบางส่วนตามระดับความจำเป็น - ระบบใหม่นี้มี ตัวเลือกที่ควบคุมได้และต้องผ่านการอนุมัติจากผู้ใช้ในกรณีข้อมูลที่ละเอียดอ่อน ✅ วิธีการเลิกใช้งานแบบค่อยเป็นค่อยไป - Microsoft กำหนด 3 ขั้นตอนสำคัญ ในการเลิกใช้งาน window.external.getHostEnvironmentValue: - Edge 135 (เมษายน 2025): เริ่มแจ้งเตือนนักพัฒนาใน DevTools Console - Edge 137 (พฤษภาคม 2025): ปิดใช้งาน แต่เปิดให้เว็บไซต์ร้องขอส่วนขยายชั่วคราว - Edge 141 (ตุลาคม 2025): เลิกใช้งานอย่างเต็มรูปแบบ ✅ ข้อดีของ User-Agent Client Hints API - ช่วยลดข้อมูลส่วนตัวที่เว็บไซต์เก็บไป แต่ยังให้ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการ เพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์ - มีการควบคุมระดับสิทธิ์และความโปร่งใสมากขึ้น เมื่อเทียบกับวิธีเก่า ✅ Microsoft เปิดให้ร้องขอส่วนขยายชั่วคราวสำหรับเว็บไซต์ที่ยังต้องใช้วิธีเดิม - เว็บไซต์ที่ยังต้องพึ่งพาวิธีเก่าจะสามารถ ร้องขอส่วนขยายชั่วคราวได้ในช่วงเวลาหนึ่ง https://www.neowin.net/news/microsoft-is-killing-something-inside-edge-but-its-to-improve-user-data-privacy/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft is killing something inside Edge but it's to improve user data privacy
    Microsoft is improving user data privacy in Edge by moving on from the way it collects user-related browser and device data.
    0 Comments 0 Shares 52 Views 0 Reviews
  • ประธานาธิบดีทรัมป์ โพสต์คลิปวิดีโอการโจมตีกลุ่มฮูตีในเยเมน และยังประกาศอีกว่า “They will never sink our ships again.”

    ตามความหมายของทรัมป์ อาจจะหมายถึงโดรนตรวจการณ์และโจมตี MQ-9 “Reaper”


    อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับลักษณะของการชุมนุม โดยบางแหล่งข่าวอ้างว่า นี่อาจเป็นการประชุมของชนเผ่าพลเรือนเพื่อเฉลิมฉลองวันอีด อัล ฟิฏร์ (Eid al-Fitr)


    นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวถึงประสิทธิภาพของการดำเนินการทางทหารของสหรัฐฯ ต่อกลุ่มฮูตีซึ่งยังคงเป็นหัวข้อถกเถียง เนื่องจากที่ผ่านมากระทรวงกลาโหมสหรัฐเองก็ยอมรับว่ามีความท้าทายในเยเมน รวมถึงความสำเร็จที่จำกัดในการโจมตีจากอาวุธระยะไกลที่ลดประสิทธิภาพลง
    ประธานาธิบดีทรัมป์ โพสต์คลิปวิดีโอการโจมตีกลุ่มฮูตีในเยเมน และยังประกาศอีกว่า “They will never sink our ships again.” ตามความหมายของทรัมป์ อาจจะหมายถึงโดรนตรวจการณ์และโจมตี MQ-9 “Reaper” อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับลักษณะของการชุมนุม โดยบางแหล่งข่าวอ้างว่า นี่อาจเป็นการประชุมของชนเผ่าพลเรือนเพื่อเฉลิมฉลองวันอีด อัล ฟิฏร์ (Eid al-Fitr) นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวถึงประสิทธิภาพของการดำเนินการทางทหารของสหรัฐฯ ต่อกลุ่มฮูตีซึ่งยังคงเป็นหัวข้อถกเถียง เนื่องจากที่ผ่านมากระทรวงกลาโหมสหรัฐเองก็ยอมรับว่ามีความท้าทายในเยเมน รวมถึงความสำเร็จที่จำกัดในการโจมตีจากอาวุธระยะไกลที่ลดประสิทธิภาพลง
    Like
    Sad
    2
    0 Comments 0 Shares 122 Views 0 Reviews
  • ถามผู้มีประสบการณ์ไปหาหมอ โรงพยาบาลรัฐ ว่า รอนานไหม เวลาเจอคุณหมอกี่นาที เอกสารการป่วยไหม แบบพฤติกรรม กับสายตา และสิ่งแวดล้อม ทำให้ฟังแล้วห่อเหี่ยวใจ ที่ทำไมมันนานเกินกี่เท่านาที ที่เราไปพบหมอ ที่วินิจฉัยความคืบหน้า ฟังคุณเปลวสีเงิน สื่อแทนเรา

    https://youtu.be/jcaK4Ea6QXw?si=deVVi5hHahNgnZmf
    ถามผู้มีประสบการณ์ไปหาหมอ โรงพยาบาลรัฐ ว่า รอนานไหม เวลาเจอคุณหมอกี่นาที เอกสารการป่วยไหม แบบพฤติกรรม กับสายตา และสิ่งแวดล้อม ทำให้ฟังแล้วห่อเหี่ยวใจ ที่ทำไมมันนานเกินกี่เท่านาที ที่เราไปพบหมอ ที่วินิจฉัยความคืบหน้า ฟังคุณเปลวสีเงิน สื่อแทนเรา https://youtu.be/jcaK4Ea6QXw?si=deVVi5hHahNgnZmf
    0 Comments 0 Shares 64 Views 0 Reviews
  • 04-04-68/03 : หมี CNN / มรึงนี่แหละ..ตัวดี! อีฮาว๊าย ต้องการ $9000 ล้านไปทำอาไยเหยอ? แหม..ออกมาต่อต้านนักเรียนยิวเชียวน่ะ จัดฉากไม่เนียน เคาะกะลาเรียกเรตติ้งไม่เลิก กูจะบอกความจริงให้ มหา'ลัย TOP10 อเมริกา เจ้าของเป็นยิวทั้งนั้น ไอ้สัส! ดังนั้น วิชาการไม่ต้องถาม เรียนไปเหอะ บูชายิวเป็นพระเจ้า กลุ่มเหี้ย ELITE ก็มาจากสมาคมศิษย์เก่าไอ้พวกนี้แหละ ก่อตั้งกันเป็นชมรมแดร๊กเนื้อมนุษย์ไงล่ะ เหมือนในหนังเปีะเด๊ะ DRAMA อียิวในมหา'ลัย ของมรึงเอง มรึงคิดว่า อยู่ดีดี ใครจะยอมให้เกิด ใช่! อียิว มันชอบเล่นหนังแขก โปรดเมตตา สงสารยิวเหอะ วันนี้ ยังไม่มีแผ่นดินใครตกถึงท้องเลย ดีออก? หลัง WWII ทั่วโลกแห่ประณามเหี้ยนาซี ปลอบประโลมอียิว นี่มันหนังน้ำเน่าดาวพระศุกร์บ้านกูชัดๆ พ่วงบ้านทรายทองเข้าไปด้วย แต่ใครจะรู้ นีโอนาซีใหม่ อียิวเป็นคนสร้างขึ้นมา เพื่อทำลายชาวบาวาเรี่ยนไม่ให้ได้ผุดได้เกิดอีก เหี้ยของจริง ไม่พูดเยอะ การเอาคืนที่เจ็บแสบ แถมทั้งแผ่นดินอินทรีเหล็ก ระดับหอคอย ยิวมันซื้อไว้หมดแล้ว นักการเมือง ศาล ขบวนการยุติธรรมต้นน้ำ มันเหมาหมด ทุกวันนี้ ภาษีชาวอินทรีเหล็ก มีเพื่อไว้ปกป้องยิวไงล่ะ ลูกหลานบาวาเรี่ยนกลายเป็นทาสอียิวที่มรึงเคยไล่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ซะงั้น ละครการเมืองโลก มีไปทั่ว ไม่เว้นแม้แต่ในมหา'ลัย ผู้นำประเทศมาจากไหน ก็ไอ้มหา'ลัยอียิวเหี้ยเนี่ยแหละ แล้วมรึงคิดว่ามันจะรักษาผลประโยชน์แผ่นดินหรือของอียิวมากกว่ากันล่ะ? จนอีทรัมปป์โผล่มาเนี่ยแหละ เพราะโดนก่อน จึงเอาคืน กูไม่ตาย มรึงก็ม้วย แลกกันไปเลย แต่สุดท้าย หากต้านไม่ไหว มรึงก็จะถูกกลืนกินไปเหมือนกับผีปธน.รุ่นพี่ ไงล่ะ? DEEP STATE มันเกาะกินอเมริกามาเป็น 100 ปี ไม่ใช่ใครจะล้มมันง่ายดาย มรึงเห็นมั้ยล่ะ อีลอน มัคก์ หมดประโยชน์ก็ถีบหัวส่ง อีทรัมปป์มันทนมานานแล้ว พอได้ขึ้นแท่น เอาลูกมาเล่นในห้องรูปไข่ แยกซีนกูซะงั้น จบงานก็เชือดทิ้ง ถามว่าใครโง่? หุ้นเทสล่าร่วงไปเท่าไหร่ กระแสต่อต้าน อีลอน มัคก์ กระจายไปทั่วโลก นี่ไง สิ่งที่มรึงต้องจ่าย หากหวังจะเล่นการเมือง ไอ้อีหน้าไหนก็ตาม จากเคยดีดี เล่นการเมือง กลายร่างหมด เพราะอำนาจ ไม่เคยให้คุณใครทั้งนั้น ไม่มีสติ ไม่มีปัญญา มรึงจะแพ้ภัยตัวเอง

    White House to review billions in Harvard funding สหรัฐจะพิจารณาเงินหลายพันล้านในกองทุน Harvard

    ------------------------------------------------------------------------—
    RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : สหรัฐจะพิจารณาเงินหลายพันล้านในกองทุน Harvard

    รัฐบาลสหรัฐประกาศว่า กำลังพิจารณาเงิน 9 พันล้านดอลลาร์ในเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลและสัญญาที่ให้กับมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดซึ่งกล่าวหาว่า มหาวิทยาลัยไม่สามารถแก้ปัญหาการต่อต้านชาวยิวในมหาวิทยาลัย

    การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเพื่อตอบโต้วิธีการที่มหาวิทยาลัยต่างๆ จัดการการประท้วงของนักเรียนที่สนับสนุนชาวปาเลสไตน์ต่อการโจมตีจากอิสราเอลในกาซ่าในปีที่แล้ว

    เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐกล่าวในแถลงการณ์ว่า กำลังพิจารณาสัญญา 255 พันล้านดอลลาร์ระหว่างมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและรัฐบาลสหรัฐเพื่อทำให้มั่นใจว่ามีการปฏิบัติตามกฎหมายสิทธิพลเมือง นอกจากนั้น เงินทุนจำนวน 8.7 พันล้านดอลลาร์ที่จะให้กับมหาวิทยาลัยและผู้ที่เป็นสมาชิกของมหาวิทยาลัยจะได้รับการตรวจสอบ

    เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กระทรวงยุติธรรมก่อตั้งกองกำลังที่ทำหน้าที่หลายด้านซึ่งให้ความสำคัญกับการต่อต้านอิสราเอลพร้อมความสำคัญอันดับแรกที่มีการต่อต้านในโรงเรียนและมหาวิทยาลัย เจ้าหน้าที่ระบุว่า พวกเขาจะประสานงานเรื่องการบังคับใช้กฎหมายรัฐบาลและ “กำจัด” พฤติกรรมที่ต่อต้านอิสราเอลในมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ

    เมื่อเดือนที่แล้ว กลุ่มดังกล่าวตัดเงินในกองทุนมหาลัย Columbia 400 ล้านดอลลาร์และขู่ที่จะไม่ให้เงินหลายพันล้านหากไม่รวบรวมรายการคำร้องจากรัฐบาลสหรัฐ

    ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยโคลัมเบียตกลงเรื่องความเปลี่ยนแปลงที่มีการเสนอซึ่งได้รับคำชมจากองค์กรชาวยิว ขณะที่ทำให้เกิดคำวิจารณ์จากผู้สนับสนุนเสรีภาพในการพูดที่มองว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงซึ่งเป็นการเอาชนะของรัฐบาล

    อเลน การ์เบอร์ประธานมหาวิทยาลัย ฮาร์วาร์ดยอมรับว่า การต่อต้านชาวยิวที่เกิดขึ้นในมหาลัยแคมบริดจ์ แต่ระบุว่า มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดดำเนินมาตรการเพื่อรับมือสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว

    การกวาดล้างเกิดขึ้นหลังการประท้วงที่สนับสนุนชาวปาเลสไตน์ที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วในมหาวิทยาลัยทั่วสหรัฐพร้อมนักเรียนที่เรียกร้องให้สหรัฐหยุดสนับสนุนอิสราเอลต่อสงครามในกาซ่า

    อิสราเอลเริ่มโจมตีกาซ่าหลังการโจมตีของกลุ่มฮามาสในอิสราเอลเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2023 ชาวปาเลสไตน์กว่า 50,000 เสียชีวิตจากการปฏิบัติการทางทหารตามรายงานของกระทรวงสาธารณสุขกาซ่า มหาวิทยาลัยโคลัมเบียเป็นจุดศูนย์กลางของการประท้วงในสหรัฐรวมถึงมหาลัย ยูซี เบิร์กเลย์มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด มหาวิทยาลัยเยล มหาวิทยาลัยมิชิแกน และมหาลัยนอร์ทเวสเทิร์น

    https://www.rt.com/news/615095-harvard-funding-review-trump/

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    04-04-68/03 : หมี CNN / มรึงนี่แหละ..ตัวดี! อีฮาว๊าย ต้องการ $9000 ล้านไปทำอาไยเหยอ? แหม..ออกมาต่อต้านนักเรียนยิวเชียวน่ะ จัดฉากไม่เนียน เคาะกะลาเรียกเรตติ้งไม่เลิก กูจะบอกความจริงให้ มหา'ลัย TOP10 อเมริกา เจ้าของเป็นยิวทั้งนั้น ไอ้สัส! ดังนั้น วิชาการไม่ต้องถาม เรียนไปเหอะ บูชายิวเป็นพระเจ้า กลุ่มเหี้ย ELITE ก็มาจากสมาคมศิษย์เก่าไอ้พวกนี้แหละ ก่อตั้งกันเป็นชมรมแดร๊กเนื้อมนุษย์ไงล่ะ เหมือนในหนังเปีะเด๊ะ DRAMA อียิวในมหา'ลัย ของมรึงเอง มรึงคิดว่า อยู่ดีดี ใครจะยอมให้เกิด ใช่! อียิว มันชอบเล่นหนังแขก โปรดเมตตา สงสารยิวเหอะ วันนี้ ยังไม่มีแผ่นดินใครตกถึงท้องเลย ดีออก? หลัง WWII ทั่วโลกแห่ประณามเหี้ยนาซี ปลอบประโลมอียิว นี่มันหนังน้ำเน่าดาวพระศุกร์บ้านกูชัดๆ พ่วงบ้านทรายทองเข้าไปด้วย แต่ใครจะรู้ นีโอนาซีใหม่ อียิวเป็นคนสร้างขึ้นมา เพื่อทำลายชาวบาวาเรี่ยนไม่ให้ได้ผุดได้เกิดอีก เหี้ยของจริง ไม่พูดเยอะ การเอาคืนที่เจ็บแสบ แถมทั้งแผ่นดินอินทรีเหล็ก ระดับหอคอย ยิวมันซื้อไว้หมดแล้ว นักการเมือง ศาล ขบวนการยุติธรรมต้นน้ำ มันเหมาหมด ทุกวันนี้ ภาษีชาวอินทรีเหล็ก มีเพื่อไว้ปกป้องยิวไงล่ะ ลูกหลานบาวาเรี่ยนกลายเป็นทาสอียิวที่มรึงเคยไล่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ซะงั้น ละครการเมืองโลก มีไปทั่ว ไม่เว้นแม้แต่ในมหา'ลัย ผู้นำประเทศมาจากไหน ก็ไอ้มหา'ลัยอียิวเหี้ยเนี่ยแหละ แล้วมรึงคิดว่ามันจะรักษาผลประโยชน์แผ่นดินหรือของอียิวมากกว่ากันล่ะ? จนอีทรัมปป์โผล่มาเนี่ยแหละ เพราะโดนก่อน จึงเอาคืน กูไม่ตาย มรึงก็ม้วย แลกกันไปเลย แต่สุดท้าย หากต้านไม่ไหว มรึงก็จะถูกกลืนกินไปเหมือนกับผีปธน.รุ่นพี่ ไงล่ะ? DEEP STATE มันเกาะกินอเมริกามาเป็น 100 ปี ไม่ใช่ใครจะล้มมันง่ายดาย มรึงเห็นมั้ยล่ะ อีลอน มัคก์ หมดประโยชน์ก็ถีบหัวส่ง อีทรัมปป์มันทนมานานแล้ว พอได้ขึ้นแท่น เอาลูกมาเล่นในห้องรูปไข่ แยกซีนกูซะงั้น จบงานก็เชือดทิ้ง ถามว่าใครโง่? หุ้นเทสล่าร่วงไปเท่าไหร่ กระแสต่อต้าน อีลอน มัคก์ กระจายไปทั่วโลก นี่ไง สิ่งที่มรึงต้องจ่าย หากหวังจะเล่นการเมือง ไอ้อีหน้าไหนก็ตาม จากเคยดีดี เล่นการเมือง กลายร่างหมด เพราะอำนาจ ไม่เคยให้คุณใครทั้งนั้น ไม่มีสติ ไม่มีปัญญา มรึงจะแพ้ภัยตัวเอง White House to review billions in Harvard funding สหรัฐจะพิจารณาเงินหลายพันล้านในกองทุน Harvard ------------------------------------------------------------------------— RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : สหรัฐจะพิจารณาเงินหลายพันล้านในกองทุน Harvard รัฐบาลสหรัฐประกาศว่า กำลังพิจารณาเงิน 9 พันล้านดอลลาร์ในเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลและสัญญาที่ให้กับมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดซึ่งกล่าวหาว่า มหาวิทยาลัยไม่สามารถแก้ปัญหาการต่อต้านชาวยิวในมหาวิทยาลัย การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเพื่อตอบโต้วิธีการที่มหาวิทยาลัยต่างๆ จัดการการประท้วงของนักเรียนที่สนับสนุนชาวปาเลสไตน์ต่อการโจมตีจากอิสราเอลในกาซ่าในปีที่แล้ว เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐกล่าวในแถลงการณ์ว่า กำลังพิจารณาสัญญา 255 พันล้านดอลลาร์ระหว่างมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและรัฐบาลสหรัฐเพื่อทำให้มั่นใจว่ามีการปฏิบัติตามกฎหมายสิทธิพลเมือง นอกจากนั้น เงินทุนจำนวน 8.7 พันล้านดอลลาร์ที่จะให้กับมหาวิทยาลัยและผู้ที่เป็นสมาชิกของมหาวิทยาลัยจะได้รับการตรวจสอบ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กระทรวงยุติธรรมก่อตั้งกองกำลังที่ทำหน้าที่หลายด้านซึ่งให้ความสำคัญกับการต่อต้านอิสราเอลพร้อมความสำคัญอันดับแรกที่มีการต่อต้านในโรงเรียนและมหาวิทยาลัย เจ้าหน้าที่ระบุว่า พวกเขาจะประสานงานเรื่องการบังคับใช้กฎหมายรัฐบาลและ “กำจัด” พฤติกรรมที่ต่อต้านอิสราเอลในมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ เมื่อเดือนที่แล้ว กลุ่มดังกล่าวตัดเงินในกองทุนมหาลัย Columbia 400 ล้านดอลลาร์และขู่ที่จะไม่ให้เงินหลายพันล้านหากไม่รวบรวมรายการคำร้องจากรัฐบาลสหรัฐ ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยโคลัมเบียตกลงเรื่องความเปลี่ยนแปลงที่มีการเสนอซึ่งได้รับคำชมจากองค์กรชาวยิว ขณะที่ทำให้เกิดคำวิจารณ์จากผู้สนับสนุนเสรีภาพในการพูดที่มองว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงซึ่งเป็นการเอาชนะของรัฐบาล อเลน การ์เบอร์ประธานมหาวิทยาลัย ฮาร์วาร์ดยอมรับว่า การต่อต้านชาวยิวที่เกิดขึ้นในมหาลัยแคมบริดจ์ แต่ระบุว่า มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดดำเนินมาตรการเพื่อรับมือสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว การกวาดล้างเกิดขึ้นหลังการประท้วงที่สนับสนุนชาวปาเลสไตน์ที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วในมหาวิทยาลัยทั่วสหรัฐพร้อมนักเรียนที่เรียกร้องให้สหรัฐหยุดสนับสนุนอิสราเอลต่อสงครามในกาซ่า อิสราเอลเริ่มโจมตีกาซ่าหลังการโจมตีของกลุ่มฮามาสในอิสราเอลเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2023 ชาวปาเลสไตน์กว่า 50,000 เสียชีวิตจากการปฏิบัติการทางทหารตามรายงานของกระทรวงสาธารณสุขกาซ่า มหาวิทยาลัยโคลัมเบียเป็นจุดศูนย์กลางของการประท้วงในสหรัฐรวมถึงมหาลัย ยูซี เบิร์กเลย์มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด มหาวิทยาลัยเยล มหาวิทยาลัยมิชิแกน และมหาลัยนอร์ทเวสเทิร์น https://www.rt.com/news/615095-harvard-funding-review-trump/ ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    WWW.RT.COM
    White House to review billions in Harvard funding
    The White House has accused the university of failing to adequately address anti-Semitism on its campus
    0 Comments 0 Shares 253 Views 0 Reviews
  • JetKVM เป็นอุปกรณ์ KVM over IP แบบโอเพ่นซอร์สที่ระดมทุนได้กว่า $4.3 ล้านบน Kickstarter อุปกรณ์นี้ช่วยให้ผู้ใช้ ควบคุมคอมพิวเตอร์จากระยะไกลผ่านเว็บเบราว์เซอร์ โดยใช้ HDMI และ USB นอกจากนี้ JetKVM ยังมาพร้อมกับการเชื่อมต่อผ่าน Cloud เพื่อเพิ่มความปลอดภัย และมีพอร์ต RJ11 ที่สามารถใช้สำหรับการควบคุมเซ็นเซอร์หรือพลังงาน ATX ปัจจุบันอุปกรณ์ยังสามารถสั่งซื้อได้ในราคา $69 แม้แคมเปญ Kickstarter จะปิดไปแล้ว

    ✅ ระดมทุนเกินเป้าหมายหลายเท่าตัว—Kickstarter ปิดระดมทุนที่ $4.3 ล้าน
    - JetKVM ตั้งเป้าหมายระดมทุนเพียง $50,000 แต่สามารถทะลุเป้าหมายกว่า 87 เท่า
    - ผู้สนับสนุน 31,598 รายให้การสนับสนุนอุปกรณ์นี้

    ✅ รองรับการควบคุมคอมพิวเตอร์แบบเต็มรูปแบบผ่านเว็บเบราว์เซอร์
    - JetKVM ใช้พอร์ต HDMI สำหรับดึงวิดีโอ และพอร์ต USB เพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ควบคุม
    - ผู้ใช้สามารถเข้าถึงคอมพิวเตอร์จากระยะไกลได้ แม้ในกรณีที่เครื่องไม่ตอบสนอง

    ✅ สเปคของอุปกรณ์—ขับเคลื่อนด้วย RockChip RV1106G3 พร้อมระบบปฏิบัติการ Linux
    - ใช้ ARM Cortex-A7 ความเร็ว 1.0GHz พร้อมรองรับการเข้ารหัสวิดีโอแบบ H.264 และ H.265
    - มี RAM 256MB และที่เก็บข้อมูลแบบ eMMC ขนาด 16GB

    ✅ การเชื่อมต่อผ่าน JetKVM Cloud เพื่อเพิ่มความปลอดภัย
    - รองรับ WebRTC เพื่อให้ผู้ใช้เชื่อมต่อแบบเข้ารหัสผ่านเซิร์ฟเวอร์เฉพาะ

    ✅ RJ11 extension port เป็นจุดเด่นที่ไม่ค่อยพบในอุปกรณ์ประเภทนี้
    - RJ11 รองรับ การเชื่อมต่อเซ็นเซอร์, ระบบควบคุมพลังงาน ATX และการเข้าถึงคอนโซลแบบอนุกรม

    ✅ ผู้ใช้ยังสามารถเป็น "Late Backer" และสั่งซื้อได้ในราคา $69
    - แม้แคมเปญ Kickstarter จะสิ้นสุดลงแล้ว แต่ผู้ที่สนใจยังสามารถสั่งซื้อได้

    https://www.techradar.com/pro/jetkvm-is-an-exciting-tiny-open-source-kvm-over-ip-module-that-sold-almost-100-000-units-and-it-even-has-a-rare-rj11-port
    JetKVM เป็นอุปกรณ์ KVM over IP แบบโอเพ่นซอร์สที่ระดมทุนได้กว่า $4.3 ล้านบน Kickstarter อุปกรณ์นี้ช่วยให้ผู้ใช้ ควบคุมคอมพิวเตอร์จากระยะไกลผ่านเว็บเบราว์เซอร์ โดยใช้ HDMI และ USB นอกจากนี้ JetKVM ยังมาพร้อมกับการเชื่อมต่อผ่าน Cloud เพื่อเพิ่มความปลอดภัย และมีพอร์ต RJ11 ที่สามารถใช้สำหรับการควบคุมเซ็นเซอร์หรือพลังงาน ATX ปัจจุบันอุปกรณ์ยังสามารถสั่งซื้อได้ในราคา $69 แม้แคมเปญ Kickstarter จะปิดไปแล้ว ✅ ระดมทุนเกินเป้าหมายหลายเท่าตัว—Kickstarter ปิดระดมทุนที่ $4.3 ล้าน - JetKVM ตั้งเป้าหมายระดมทุนเพียง $50,000 แต่สามารถทะลุเป้าหมายกว่า 87 เท่า - ผู้สนับสนุน 31,598 รายให้การสนับสนุนอุปกรณ์นี้ ✅ รองรับการควบคุมคอมพิวเตอร์แบบเต็มรูปแบบผ่านเว็บเบราว์เซอร์ - JetKVM ใช้พอร์ต HDMI สำหรับดึงวิดีโอ และพอร์ต USB เพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ควบคุม - ผู้ใช้สามารถเข้าถึงคอมพิวเตอร์จากระยะไกลได้ แม้ในกรณีที่เครื่องไม่ตอบสนอง ✅ สเปคของอุปกรณ์—ขับเคลื่อนด้วย RockChip RV1106G3 พร้อมระบบปฏิบัติการ Linux - ใช้ ARM Cortex-A7 ความเร็ว 1.0GHz พร้อมรองรับการเข้ารหัสวิดีโอแบบ H.264 และ H.265 - มี RAM 256MB และที่เก็บข้อมูลแบบ eMMC ขนาด 16GB ✅ การเชื่อมต่อผ่าน JetKVM Cloud เพื่อเพิ่มความปลอดภัย - รองรับ WebRTC เพื่อให้ผู้ใช้เชื่อมต่อแบบเข้ารหัสผ่านเซิร์ฟเวอร์เฉพาะ ✅ RJ11 extension port เป็นจุดเด่นที่ไม่ค่อยพบในอุปกรณ์ประเภทนี้ - RJ11 รองรับ การเชื่อมต่อเซ็นเซอร์, ระบบควบคุมพลังงาน ATX และการเข้าถึงคอนโซลแบบอนุกรม ✅ ผู้ใช้ยังสามารถเป็น "Late Backer" และสั่งซื้อได้ในราคา $69 - แม้แคมเปญ Kickstarter จะสิ้นสุดลงแล้ว แต่ผู้ที่สนใจยังสามารถสั่งซื้อได้ https://www.techradar.com/pro/jetkvm-is-an-exciting-tiny-open-source-kvm-over-ip-module-that-sold-almost-100-000-units-and-it-even-has-a-rare-rj11-port
    0 Comments 0 Shares 145 Views 0 Reviews
  • ช่องโหว่ใน API ของแอป Call Filter ของ Verizon ช่วยให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงประวัติการโทรของหมายเลขอื่นได้ แม้ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงบัญชี ช่องโหว่นี้พบในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 และถูกแก้ไขในเดือนมีนาคม แต่ ผู้ใช้ยังคงต้องระวังความเสี่ยง นักวิจัยเตือนว่า ข้อมูลโทรเข้าอาจถูกใช้ติดตามเป้าหมาย เช่น นักข่าว หรือฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล โดย Verizon ไม่เปิดเผยว่าช่องโหว่นี้ถูกใช้ในการโจมตีมาก่อนหรือไม่

    ✅ ช่องโหว่นี้เกิดจากการตั้งค่า API ที่ไม่ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์
    - นักวิจัย Evan Connelly พบว่า API ของแอป Call Filter อนุญาตให้ผู้ใช้ดึงข้อมูลประวัติการโทรได้โดยไม่ต้องตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ของเจ้าของบัญชี
    - หมายความว่า ผู้โจมตีสามารถร้องขอข้อมูลของหมายเลขอื่นและดูรายการสายเรียกเข้าของเป้าหมายได้

    ✅ Call Filter เป็นแอปที่มีผู้ใช้หลายล้านคน เนื่องจากติดตั้งมากับอุปกรณ์ Verizon
    - แอปนี้ช่วยให้ผู้ใช้ บล็อกสายสแปม, ดูข้อมูลผู้โทร และกรองสายที่มีความเสี่ยงสูง
    - ยังมี เวอร์ชันพรีเมียมที่เพิ่มฟีเจอร์ เช่น การค้นหาสแปมและควบคุมสายโทรเข้าแบบละเอียด

    ✅ ช่องโหว่สามารถใช้เป็นเครื่องมือสอดแนมบุคคลสำคัญ
    - แม้การดูประวัติการโทรอาจไม่ดูอันตรายในตอนแรก แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ข้อมูลนี้สามารถถูกใช้สร้างโปรไฟล์ผู้ใช้งานได้
    - แฮกเกอร์สามารถ ติดตามกิจกรรมประจำวัน, วิเคราะห์ความสัมพันธ์ และเฝ้าระวังบุคคลเป้าหมาย เช่น นักข่าว, ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล และผู้มีอิทธิพลทางการเมือง

    ✅ Verizon ได้แก้ไขช่องโหว่แล้ว แต่ไม่เปิดเผยว่าถูกใช้โจมตีไปแล้วหรือไม่
    - ช่องโหว่ถูกแก้ไขในเดือนมีนาคม 2025 แต่ ยังไม่มีข้อมูลว่าเคยถูกใช้โจมตีจริงมาก่อนหรือไม่
    - ผู้ใช้ควร ตรวจสอบการตั้งค่าความปลอดภัยของตนและเปลี่ยนรหัสผ่านอย่างสม่ำเสมอ

    https://www.techradar.com/pro/security/verizon-security-flaw-could-allow-hackers-to-view-entire-call-history
    ช่องโหว่ใน API ของแอป Call Filter ของ Verizon ช่วยให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงประวัติการโทรของหมายเลขอื่นได้ แม้ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงบัญชี ช่องโหว่นี้พบในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 และถูกแก้ไขในเดือนมีนาคม แต่ ผู้ใช้ยังคงต้องระวังความเสี่ยง นักวิจัยเตือนว่า ข้อมูลโทรเข้าอาจถูกใช้ติดตามเป้าหมาย เช่น นักข่าว หรือฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล โดย Verizon ไม่เปิดเผยว่าช่องโหว่นี้ถูกใช้ในการโจมตีมาก่อนหรือไม่ ✅ ช่องโหว่นี้เกิดจากการตั้งค่า API ที่ไม่ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ - นักวิจัย Evan Connelly พบว่า API ของแอป Call Filter อนุญาตให้ผู้ใช้ดึงข้อมูลประวัติการโทรได้โดยไม่ต้องตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ของเจ้าของบัญชี - หมายความว่า ผู้โจมตีสามารถร้องขอข้อมูลของหมายเลขอื่นและดูรายการสายเรียกเข้าของเป้าหมายได้ ✅ Call Filter เป็นแอปที่มีผู้ใช้หลายล้านคน เนื่องจากติดตั้งมากับอุปกรณ์ Verizon - แอปนี้ช่วยให้ผู้ใช้ บล็อกสายสแปม, ดูข้อมูลผู้โทร และกรองสายที่มีความเสี่ยงสูง - ยังมี เวอร์ชันพรีเมียมที่เพิ่มฟีเจอร์ เช่น การค้นหาสแปมและควบคุมสายโทรเข้าแบบละเอียด ✅ ช่องโหว่สามารถใช้เป็นเครื่องมือสอดแนมบุคคลสำคัญ - แม้การดูประวัติการโทรอาจไม่ดูอันตรายในตอนแรก แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ข้อมูลนี้สามารถถูกใช้สร้างโปรไฟล์ผู้ใช้งานได้ - แฮกเกอร์สามารถ ติดตามกิจกรรมประจำวัน, วิเคราะห์ความสัมพันธ์ และเฝ้าระวังบุคคลเป้าหมาย เช่น นักข่าว, ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล และผู้มีอิทธิพลทางการเมือง ✅ Verizon ได้แก้ไขช่องโหว่แล้ว แต่ไม่เปิดเผยว่าถูกใช้โจมตีไปแล้วหรือไม่ - ช่องโหว่ถูกแก้ไขในเดือนมีนาคม 2025 แต่ ยังไม่มีข้อมูลว่าเคยถูกใช้โจมตีจริงมาก่อนหรือไม่ - ผู้ใช้ควร ตรวจสอบการตั้งค่าความปลอดภัยของตนและเปลี่ยนรหัสผ่านอย่างสม่ำเสมอ https://www.techradar.com/pro/security/verizon-security-flaw-could-allow-hackers-to-view-entire-call-history
    0 Comments 0 Shares 116 Views 0 Reviews
  • ร้านค้าในเวียดนามเผยเซิร์ฟเวอร์ AI มูลค่า $30,000 ที่ใช้ RTX 5090 ถึง 7 ตัว พร้อมพลังงาน 4,000 วัตต์และหน่วยความจำ 224GB สถาปัตยกรรม Blackwell ช่วยให้ RTX 5090 เหมาะกับงาน AI แม้ราคาต่อการ์ดสูงถึง $4,000 นักพัฒนายอมลงทุนเพราะประสิทธิภาพที่เหนือกว่า อย่างไรก็ตาม Nvidia มุ่งขาย AI Accelerators มากกว่าการ์ดเกม ทำให้ RTX 5090 หาได้ยากและราคาสูง ตลาดมือสองอาจเป็นทางเลือกสำหรับคนที่มองหาการ์ดที่คุ้มค่ากว่า

    ✅ RTX 5090 มาพร้อมสถาปัตยกรรม Blackwell—ออกแบบเพื่อ AI โดยเฉพาะ
    - รองรับ รูปแบบข้อมูลที่มีความแม่นยำต่ำกว่า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ AI
    - แม้ราคาต่อการ์ดสูงถึง $4,000 นักพัฒนา AI ก็ยังยอมลงทุนเพราะประสิทธิภาพที่เหนือกว่า

    ✅ เซิร์ฟเวอร์นี้ใช้โครงสร้างแบบ “Open-Air GPU Frame”
    - ใช้ PCIe riser cables เชื่อมต่อ GPU แต่ละตัว
    - ใช้ Super Flower Leadex 2000W PSUs หลายตัวเพื่อรองรับกำลังไฟ

    ✅ หน่วยความจำรวม 224GB ไม่ใช่ “Unified Memory”
    - นักพัฒนาต้องใช้เทคนิค Model Parallelism เพื่อแบ่งงานระหว่าง GPU
    - ต่างจาก Blackwell Workstation Cards ที่มี VRAM สูงถึง 96GB ซึ่งเหมาะกับโมเดลที่มีพารามิเตอร์ซับซ้อน

    ✅ ราคา GPU สูงขึ้น เพราะ Nvidia เน้นขาย AI Accelerators มากกว่าการ์ดเกม
    - Nvidia ใช้ เวเฟอร์จาก TSMC กับ B100/B200/B300 มากกว่าผลิต RTX
    - ทำให้การ์ดเกม หาได้ยากและราคาสูงกว่าปกติ

    ✅ ตลาด GPU มือสองเริ่มน่าสนใจ
    - รุ่นเก่าอย่าง RTX 4090 ที่มี 48GB VRAM ได้รับความนิยมในจีน
    - อาจต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนกว่าราคาการ์ดใหม่จะปรับตัว

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/seven-rtx-5090-gpus-power-ai-server-worth-over-usd30-000-over-4000w-of-power-and-224gb-of-memory-in-a-single-frame
    ร้านค้าในเวียดนามเผยเซิร์ฟเวอร์ AI มูลค่า $30,000 ที่ใช้ RTX 5090 ถึง 7 ตัว พร้อมพลังงาน 4,000 วัตต์และหน่วยความจำ 224GB สถาปัตยกรรม Blackwell ช่วยให้ RTX 5090 เหมาะกับงาน AI แม้ราคาต่อการ์ดสูงถึง $4,000 นักพัฒนายอมลงทุนเพราะประสิทธิภาพที่เหนือกว่า อย่างไรก็ตาม Nvidia มุ่งขาย AI Accelerators มากกว่าการ์ดเกม ทำให้ RTX 5090 หาได้ยากและราคาสูง ตลาดมือสองอาจเป็นทางเลือกสำหรับคนที่มองหาการ์ดที่คุ้มค่ากว่า ✅ RTX 5090 มาพร้อมสถาปัตยกรรม Blackwell—ออกแบบเพื่อ AI โดยเฉพาะ - รองรับ รูปแบบข้อมูลที่มีความแม่นยำต่ำกว่า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ AI - แม้ราคาต่อการ์ดสูงถึง $4,000 นักพัฒนา AI ก็ยังยอมลงทุนเพราะประสิทธิภาพที่เหนือกว่า ✅ เซิร์ฟเวอร์นี้ใช้โครงสร้างแบบ “Open-Air GPU Frame” - ใช้ PCIe riser cables เชื่อมต่อ GPU แต่ละตัว - ใช้ Super Flower Leadex 2000W PSUs หลายตัวเพื่อรองรับกำลังไฟ ✅ หน่วยความจำรวม 224GB ไม่ใช่ “Unified Memory” - นักพัฒนาต้องใช้เทคนิค Model Parallelism เพื่อแบ่งงานระหว่าง GPU - ต่างจาก Blackwell Workstation Cards ที่มี VRAM สูงถึง 96GB ซึ่งเหมาะกับโมเดลที่มีพารามิเตอร์ซับซ้อน ✅ ราคา GPU สูงขึ้น เพราะ Nvidia เน้นขาย AI Accelerators มากกว่าการ์ดเกม - Nvidia ใช้ เวเฟอร์จาก TSMC กับ B100/B200/B300 มากกว่าผลิต RTX - ทำให้การ์ดเกม หาได้ยากและราคาสูงกว่าปกติ ✅ ตลาด GPU มือสองเริ่มน่าสนใจ - รุ่นเก่าอย่าง RTX 4090 ที่มี 48GB VRAM ได้รับความนิยมในจีน - อาจต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนกว่าราคาการ์ดใหม่จะปรับตัว https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/seven-rtx-5090-gpus-power-ai-server-worth-over-usd30-000-over-4000w-of-power-and-224gb-of-memory-in-a-single-frame
    0 Comments 0 Shares 108 Views 0 Reviews
  • Kevin Scott ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี (CTO) ของ Microsoft เชื่อว่า 95% ของโค้ดโปรแกรมทั้งหมดจะถูกสร้างโดย AI ภายในปี 2030 อย่างไรก็ตาม เขายืนยันว่า มนุษย์ยังคงมีบทบาทสำคัญ โดยเปลี่ยนจากการเป็นผู้เขียนโค้ด มาเป็น ผู้ควบคุมและกำกับ AI เพื่อสร้างซอฟต์แวร์

    ✅ บทบาทของนักพัฒนาเปลี่ยนไปสู่ “AI Orchestrator”
    - แทนที่จะเขียนโค้ดด้วยตนเอง นักพัฒนาจะใช้ AI ในการช่วยสร้างโค้ด
    - งานหลักของนักพัฒนาคือ การให้คำสั่ง (Prompts) และตรวจสอบ AI เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ

    ✅ AI ยังคงมีข้อจำกัดด้านความจำและการเรียนรู้จากบริบทเดิม
    - Scott ชี้ว่า AI ยังไม่สามารถ จำการสนทนาและปรับตัวตามพฤติกรรมผู้ใช้ได้ดีนัก
    - อย่างไรก็ตาม อนาคต AI จะสามารถเรียนรู้จากการโต้ตอบที่ผ่านมาได้มากขึ้น

    ✅ CEO ของ IBM และ Salesforce มีมุมมองต่างออกไปเกี่ยวกับ AI ในวงการโค้ดดิ้ง
    - Arvind Krishna CEO ของ IBM เชื่อว่า AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแทนการแทนที่นักพัฒนา โดยประเมินว่า AI จะสร้างได้ 20-30% ของโค้ดเท่านั้น
    - Marc Benioff CEO ของ Salesforce มองว่า AI อาจทำให้บริษัทลดการจ้างงานนักพัฒนาแบบดั้งเดิมลง ในปี 2025

    ✅ Anthropic เชื่อว่า AI อาจสร้าง 90% ของโค้ดได้ภายใน 6 เดือน
    - Dario Amodei CEO ของ Anthropic มีมุมมองที่เร็วและรุนแรงกว่า Microsoft โดยเชื่อว่า AI จะสามารถ สร้างโค้ดเกือบทั้งหมดได้ภายในเวลาเพียง 6 เดือน

    https://www.techspot.com/news/107411-microsoft-cto-predicts-ai-generate-95-percent-code.html
    Kevin Scott ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี (CTO) ของ Microsoft เชื่อว่า 95% ของโค้ดโปรแกรมทั้งหมดจะถูกสร้างโดย AI ภายในปี 2030 อย่างไรก็ตาม เขายืนยันว่า มนุษย์ยังคงมีบทบาทสำคัญ โดยเปลี่ยนจากการเป็นผู้เขียนโค้ด มาเป็น ผู้ควบคุมและกำกับ AI เพื่อสร้างซอฟต์แวร์ ✅ บทบาทของนักพัฒนาเปลี่ยนไปสู่ “AI Orchestrator” - แทนที่จะเขียนโค้ดด้วยตนเอง นักพัฒนาจะใช้ AI ในการช่วยสร้างโค้ด - งานหลักของนักพัฒนาคือ การให้คำสั่ง (Prompts) และตรวจสอบ AI เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ ✅ AI ยังคงมีข้อจำกัดด้านความจำและการเรียนรู้จากบริบทเดิม - Scott ชี้ว่า AI ยังไม่สามารถ จำการสนทนาและปรับตัวตามพฤติกรรมผู้ใช้ได้ดีนัก - อย่างไรก็ตาม อนาคต AI จะสามารถเรียนรู้จากการโต้ตอบที่ผ่านมาได้มากขึ้น ✅ CEO ของ IBM และ Salesforce มีมุมมองต่างออกไปเกี่ยวกับ AI ในวงการโค้ดดิ้ง - Arvind Krishna CEO ของ IBM เชื่อว่า AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแทนการแทนที่นักพัฒนา โดยประเมินว่า AI จะสร้างได้ 20-30% ของโค้ดเท่านั้น - Marc Benioff CEO ของ Salesforce มองว่า AI อาจทำให้บริษัทลดการจ้างงานนักพัฒนาแบบดั้งเดิมลง ในปี 2025 ✅ Anthropic เชื่อว่า AI อาจสร้าง 90% ของโค้ดได้ภายใน 6 เดือน - Dario Amodei CEO ของ Anthropic มีมุมมองที่เร็วและรุนแรงกว่า Microsoft โดยเชื่อว่า AI จะสามารถ สร้างโค้ดเกือบทั้งหมดได้ภายในเวลาเพียง 6 เดือน https://www.techspot.com/news/107411-microsoft-cto-predicts-ai-generate-95-percent-code.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Microsoft CTO predicts AI will generate 95% of code by 2030
    Microsoft CTO Kevin Scott predicted that 95 percent of programming code will be AI-generated by 2030. However, he quickly clarified that this does not signal the end...
    0 Comments 0 Shares 87 Views 0 Reviews
  • ภัยคุกคามไซเบอร์พุ่งเป้าอุปกรณ์ Juniper, Cisco และ Palo Alto Networks—เตือนผู้ดูแลระบบเร่งแก้ไขช่องโหว่ 🔒🌐

    นักวิจัยพบว่ามีการโจมตีอุปกรณ์เครือข่ายจาก Juniper, Cisco และ Palo Alto Networks โดยใช้ช่องโหว่จากรหัสผ่านเริ่มต้นและการไม่อัปเดตแพตช์ แฮกเกอร์พยายามเข้าถึงระบบเพื่อโจมตีหรือใช้เป็นฐานขุดคริปโต องค์กรควร เปลี่ยนรหัสผ่านเริ่มต้น, อัปเดตแพตช์ และเสริมความปลอดภัยด้วย Firewall เพื่อป้องกันภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้น

    ✅ Juniper Networks ถูกโจมตีด้วยการใช้รหัสผ่านเริ่มต้น
    - แฮกเกอร์ใช้รหัสผ่านเริ่มต้น “t128” และ “128tRoutes” เพื่อพยายามเข้าถึงอุปกรณ์ Session Smart Routing (SSR)
    - นักวิจัยชี้ว่า ผู้ดูแลระบบควรเปลี่ยนรหัสผ่านทันที เพื่อป้องกันการโจมตี

    ✅ ช่องโหว่ใน Cisco Smart Licensing Utility (SLU)
    - Cisco เปิดเผยช่องโหว่ใน SLU ตั้งแต่เดือนกันยายน 2024 และออกแพตช์แก้ไข
    - อย่างไรก็ตาม ยังมีอุปกรณ์ที่ไม่ได้อัปเดต ทำให้แฮกเกอร์พยายามโจมตีผ่านช่องโหว่นี้

    ✅ การสแกนระบบของ Palo Alto Networks เพิ่มขึ้นอย่างมาก
    - นักวิจัยจาก GreyNoise พบว่ามีการสแกนระบบ GlobalProtect portals ของ Palo Alto Networks จาก IP addresses กว่า 24,000 แห่ง
    - การโจมตีส่วนใหญ่มาจาก สหรัฐฯ และแคนาดา โดยมีเป้าหมายเพื่อค้นหาช่องโหว่ใหม่

    ✅ คำแนะนำสำหรับองค์กร
    - เปลี่ยนรหัสผ่านเริ่มต้น และตรวจสอบการตั้งค่าความปลอดภัยของอุปกรณ์
    - อัปเดตแพตช์ล่าสุด เพื่อปิดช่องโหว่ที่อาจถูกใช้ในการโจมตี
    - ใช้ Firewall และระบบตรวจจับภัยคุกคาม เพื่อป้องกันการโจมตีในอนาคต

    https://www.csoonline.com/article/3953828/surge-in-threat-actors-scanning-juniper-cisco-and-palo-alto-networks-devices.html
    ภัยคุกคามไซเบอร์พุ่งเป้าอุปกรณ์ Juniper, Cisco และ Palo Alto Networks—เตือนผู้ดูแลระบบเร่งแก้ไขช่องโหว่ 🔒🌐 นักวิจัยพบว่ามีการโจมตีอุปกรณ์เครือข่ายจาก Juniper, Cisco และ Palo Alto Networks โดยใช้ช่องโหว่จากรหัสผ่านเริ่มต้นและการไม่อัปเดตแพตช์ แฮกเกอร์พยายามเข้าถึงระบบเพื่อโจมตีหรือใช้เป็นฐานขุดคริปโต องค์กรควร เปลี่ยนรหัสผ่านเริ่มต้น, อัปเดตแพตช์ และเสริมความปลอดภัยด้วย Firewall เพื่อป้องกันภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้น ✅ Juniper Networks ถูกโจมตีด้วยการใช้รหัสผ่านเริ่มต้น - แฮกเกอร์ใช้รหัสผ่านเริ่มต้น “t128” และ “128tRoutes” เพื่อพยายามเข้าถึงอุปกรณ์ Session Smart Routing (SSR) - นักวิจัยชี้ว่า ผู้ดูแลระบบควรเปลี่ยนรหัสผ่านทันที เพื่อป้องกันการโจมตี ✅ ช่องโหว่ใน Cisco Smart Licensing Utility (SLU) - Cisco เปิดเผยช่องโหว่ใน SLU ตั้งแต่เดือนกันยายน 2024 และออกแพตช์แก้ไข - อย่างไรก็ตาม ยังมีอุปกรณ์ที่ไม่ได้อัปเดต ทำให้แฮกเกอร์พยายามโจมตีผ่านช่องโหว่นี้ ✅ การสแกนระบบของ Palo Alto Networks เพิ่มขึ้นอย่างมาก - นักวิจัยจาก GreyNoise พบว่ามีการสแกนระบบ GlobalProtect portals ของ Palo Alto Networks จาก IP addresses กว่า 24,000 แห่ง - การโจมตีส่วนใหญ่มาจาก สหรัฐฯ และแคนาดา โดยมีเป้าหมายเพื่อค้นหาช่องโหว่ใหม่ ✅ คำแนะนำสำหรับองค์กร - เปลี่ยนรหัสผ่านเริ่มต้น และตรวจสอบการตั้งค่าความปลอดภัยของอุปกรณ์ - อัปเดตแพตช์ล่าสุด เพื่อปิดช่องโหว่ที่อาจถูกใช้ในการโจมตี - ใช้ Firewall และระบบตรวจจับภัยคุกคาม เพื่อป้องกันการโจมตีในอนาคต https://www.csoonline.com/article/3953828/surge-in-threat-actors-scanning-juniper-cisco-and-palo-alto-networks-devices.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Surge in threat actors scanning Juniper, Cisco, and Palo Alto Networks devices
    Admins need to change default credentials promptly on Juniper SSR, patch Cisco SLU, warns SANS Institute.
    0 Comments 0 Shares 88 Views 0 Reviews
  • Microsoft เผยว่าการออกแบบ Windows 8 ไม่ได้อิงจากความเห็นของผู้ใช้เพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากแนวคิดและสัญชาตญาณของนักออกแบบ พวกเขาต้องการสร้าง Metro UI ที่แตกต่าง โดยเน้นข้อมูลและการเคลื่อนไหวในระบบ อย่างไรก็ตาม การลบปุ่ม Start ใน Windows 8 เคยสร้างกระแสวิจารณ์หนัก และ Microsoft ต้องนำกลับมาใน Windows 8.1 ปัจจุบันบริษัทมุ่งเน้นการปรับดีไซน์ที่สมดุลระหว่างความต้องการของผู้ใช้และแนวคิดภายใน

    ✅ Metro UI ใน Windows 8 เกิดจากการทดลองด้านดีไซน์
    - Harold Gomez อดีตนักออกแบบ UI ของ Microsoft เผยว่า ทีมไม่ได้พึ่งพาความเห็นของลูกค้าเพียงอย่างเดียว
    - การออกแบบ Metro UI มุ่งเน้น การจัดวางข้อมูล, รูปแบบตัวอักษร และการเคลื่อนไหวใน UI

    ✅ Windows 8 เคยถูกวิจารณ์หนักเรื่องการลบปุ่ม Start
    - การทดลองปรับดีไซน์ครั้งใหญ่ส่งผลให้ ผู้ใช้ไม่พอใจเรื่องการไม่มีปุ่ม Start
    - Microsoft ต้องนำปุ่ม Start กลับมาใน Windows 8.1 หลังเกิดกระแสวิจารณ์

    ✅ นักออกแบบของ Microsoft เชื่อว่าการสร้าง UI ที่ดีต้องผสานแนวคิดของทีมเข้ากับข้อมูลผู้ใช้
    - พวกเขาต้อง คำนึงถึงความต้องการของลูกค้า แต่ก็ต้องมีวิสัยทัศน์ของตัวเอง เพื่อสร้างสิ่งใหม่ที่แตกต่าง

    ✅ Microsoft ฉลองครบรอบ 50 ปี—ย้อนรอยวิวัฒนาการของ Windows
    - งานนี้ยังได้พูดถึง การเปลี่ยนแปลงดีไซน์จาก Windows XP, Windows 7 ไปจนถึง Windows 11
    - บิล เกตส์ก็ร่วมฉลองด้วยการเผยโค้ดต้นฉบับของ Altair BASIC

    https://www.neowin.net/news/microsoft-says-user-feedback-alone-would-have-never-made-modern-windows-design-as-special/
    Microsoft เผยว่าการออกแบบ Windows 8 ไม่ได้อิงจากความเห็นของผู้ใช้เพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากแนวคิดและสัญชาตญาณของนักออกแบบ พวกเขาต้องการสร้าง Metro UI ที่แตกต่าง โดยเน้นข้อมูลและการเคลื่อนไหวในระบบ อย่างไรก็ตาม การลบปุ่ม Start ใน Windows 8 เคยสร้างกระแสวิจารณ์หนัก และ Microsoft ต้องนำกลับมาใน Windows 8.1 ปัจจุบันบริษัทมุ่งเน้นการปรับดีไซน์ที่สมดุลระหว่างความต้องการของผู้ใช้และแนวคิดภายใน ✅ Metro UI ใน Windows 8 เกิดจากการทดลองด้านดีไซน์ - Harold Gomez อดีตนักออกแบบ UI ของ Microsoft เผยว่า ทีมไม่ได้พึ่งพาความเห็นของลูกค้าเพียงอย่างเดียว - การออกแบบ Metro UI มุ่งเน้น การจัดวางข้อมูล, รูปแบบตัวอักษร และการเคลื่อนไหวใน UI ✅ Windows 8 เคยถูกวิจารณ์หนักเรื่องการลบปุ่ม Start - การทดลองปรับดีไซน์ครั้งใหญ่ส่งผลให้ ผู้ใช้ไม่พอใจเรื่องการไม่มีปุ่ม Start - Microsoft ต้องนำปุ่ม Start กลับมาใน Windows 8.1 หลังเกิดกระแสวิจารณ์ ✅ นักออกแบบของ Microsoft เชื่อว่าการสร้าง UI ที่ดีต้องผสานแนวคิดของทีมเข้ากับข้อมูลผู้ใช้ - พวกเขาต้อง คำนึงถึงความต้องการของลูกค้า แต่ก็ต้องมีวิสัยทัศน์ของตัวเอง เพื่อสร้างสิ่งใหม่ที่แตกต่าง ✅ Microsoft ฉลองครบรอบ 50 ปี—ย้อนรอยวิวัฒนาการของ Windows - งานนี้ยังได้พูดถึง การเปลี่ยนแปลงดีไซน์จาก Windows XP, Windows 7 ไปจนถึง Windows 11 - บิล เกตส์ก็ร่วมฉลองด้วยการเผยโค้ดต้นฉบับของ Altair BASIC https://www.neowin.net/news/microsoft-says-user-feedback-alone-would-have-never-made-modern-windows-design-as-special/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft says user feedback alone would have never made modern Windows design as "special"
    Microsoft recently discussed the evolution of Windows design over time, and it made some interesting remarks along the way.
    0 Comments 0 Shares 93 Views 0 Reviews
  • Microsoft กำลังปรับโฉม Start Menu ของ Windows 11 ให้มีดีไซน์แบบเลื่อนเดี่ยว ทำให้เข้าถึงแอปได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องกดปุ่ม “All Apps” อีกต่อไป แค่เลื่อนลงก็เห็นทั้งหมด นอกจากนี้ยังสามารถปิด “Recommended” ได้แล้ว และมีการขยายขนาด Start Menu เพื่อให้ดูเป็นระเบียบมากขึ้น ผู้ใช้ที่ต้องการลองฟีเจอร์ใหม่นี้สามารถเปิดใช้งานผ่าน ViveTool ใน Dev และ Beta Builds ได้เลย

    1️⃣ ดาวน์โหลด ViveTool จาก GitHub และแตกไฟล์ไปยังโฟลเดอร์ที่เข้าถึงง่าย เช่น C:\ViveTool
    2️⃣ เปิด Command Prompt ในโหมด Administrator
    3️⃣ ไปยังโฟลเดอร์ที่มี ViveTool โดยใช้คำสั่ง: cd C:\ViveTool
    4️⃣ เปิดใช้งานฟีเจอร์ใหม่ของ Start Menu โดยพิมพ์คำสั่งต่อไปนี้แล้วกด Enter:
    =========================================
    vivetool /enable /id:49402389,49221331,47205210,48433719
    =========================================
    5️⃣ รีสตาร์ทเครื่อง เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงมีผล

    หลังจากทำตามขั้นตอนนี้ Start Menu ใหม่จะเปิดใช้งาน และคุณสามารถทดลองใช้งานได้ทันที!

    https://www.neowin.net/news/windows-11-is-getting-a-massive-start-menu-redesign-that-people-might-actually-love/
    Microsoft กำลังปรับโฉม Start Menu ของ Windows 11 ให้มีดีไซน์แบบเลื่อนเดี่ยว ทำให้เข้าถึงแอปได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องกดปุ่ม “All Apps” อีกต่อไป แค่เลื่อนลงก็เห็นทั้งหมด นอกจากนี้ยังสามารถปิด “Recommended” ได้แล้ว และมีการขยายขนาด Start Menu เพื่อให้ดูเป็นระเบียบมากขึ้น ผู้ใช้ที่ต้องการลองฟีเจอร์ใหม่นี้สามารถเปิดใช้งานผ่าน ViveTool ใน Dev และ Beta Builds ได้เลย 1️⃣ ดาวน์โหลด ViveTool จาก GitHub และแตกไฟล์ไปยังโฟลเดอร์ที่เข้าถึงง่าย เช่น C:\ViveTool 2️⃣ เปิด Command Prompt ในโหมด Administrator 3️⃣ ไปยังโฟลเดอร์ที่มี ViveTool โดยใช้คำสั่ง: cd C:\ViveTool 4️⃣ เปิดใช้งานฟีเจอร์ใหม่ของ Start Menu โดยพิมพ์คำสั่งต่อไปนี้แล้วกด Enter: ========================================= vivetool /enable /id:49402389,49221331,47205210,48433719 ========================================= 5️⃣ รีสตาร์ทเครื่อง เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงมีผล หลังจากทำตามขั้นตอนนี้ Start Menu ใหม่จะเปิดใช้งาน และคุณสามารถทดลองใช้งานได้ทันที! https://www.neowin.net/news/windows-11-is-getting-a-massive-start-menu-redesign-that-people-might-actually-love/
    WWW.NEOWIN.NET
    Windows 11 is getting a massive Start menu redesign that people might actually love
    Microsoft is finally preparing some seriously big upgrades for the Start menu in Windows 11, and you can already check them out in the latest updates.
    0 Comments 0 Shares 71 Views 0 Reviews
  • เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Microsoft ฉลองครบรอบ 50 ปี ของบริษัท และ บิล เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้ง ได้ทำให้การเฉลิมฉลองนี้พิเศษยิ่งขึ้นด้วยการ เผยแพร่โค้ดต้นฉบับของ Altair BASIC ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์แรกของ Microsoft

    ✅ Altair BASIC เป็นซอฟต์แวร์ที่ปูทางให้ Microsoft เติบโต
    - ซอฟต์แวร์นี้ถูกพัฒนาโดย บิล เกตส์ และพอล อัลเลน ในปี 1975
    - เป็นโปรแกรมที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ควบคุมคอมพิวเตอร์ Altair 8800 ซึ่งขับเคลื่อนด้วยชิป Intel 8080

    ✅ โค้ดต้นฉบับมีความยาวถึง 157 หน้า
    - เขียนในภาษา Intel 8080 Assembly ซึ่งเป็นภาษาระดับล่างที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญสูง
    - เกตส์กล่าวว่าเป็น “โค้ดที่เจ๋งที่สุด” ที่เขาเคยเขียน

    ✅ Microsoft ในยุคแรกใช้ชื่อว่า "Micro-Soft"
    - ในช่วงต้นของการก่อตั้ง Microsoft ยังใช้เครื่องหมายขีดกลางในชื่อ (Micro-Soft) ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นชื่อที่เรารู้จักในปัจจุบัน

    ✅ Microsoft พัฒนาไปไกลจากจุดเริ่มต้น
    - จากการสร้าง Altair BASIC ไมโครซอฟท์ขยายไปสู่ Windows, Office, Xbox และ AI
    - เกตส์กล่าวถึงผลงานของ Steve Ballmer, Satya Nadella และพนักงานทุกคนที่ช่วยพัฒนา Microsoft ตลอด 50 ปี

    https://www.neowin.net/news/before-office-windows-xbox-bill-gates-shares-original-microsoft-code-on-its-50th-year/
    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Microsoft ฉลองครบรอบ 50 ปี ของบริษัท และ บิล เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้ง ได้ทำให้การเฉลิมฉลองนี้พิเศษยิ่งขึ้นด้วยการ เผยแพร่โค้ดต้นฉบับของ Altair BASIC ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์แรกของ Microsoft ✅ Altair BASIC เป็นซอฟต์แวร์ที่ปูทางให้ Microsoft เติบโต - ซอฟต์แวร์นี้ถูกพัฒนาโดย บิล เกตส์ และพอล อัลเลน ในปี 1975 - เป็นโปรแกรมที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ควบคุมคอมพิวเตอร์ Altair 8800 ซึ่งขับเคลื่อนด้วยชิป Intel 8080 ✅ โค้ดต้นฉบับมีความยาวถึง 157 หน้า - เขียนในภาษา Intel 8080 Assembly ซึ่งเป็นภาษาระดับล่างที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญสูง - เกตส์กล่าวว่าเป็น “โค้ดที่เจ๋งที่สุด” ที่เขาเคยเขียน ✅ Microsoft ในยุคแรกใช้ชื่อว่า "Micro-Soft" - ในช่วงต้นของการก่อตั้ง Microsoft ยังใช้เครื่องหมายขีดกลางในชื่อ (Micro-Soft) ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นชื่อที่เรารู้จักในปัจจุบัน ✅ Microsoft พัฒนาไปไกลจากจุดเริ่มต้น - จากการสร้าง Altair BASIC ไมโครซอฟท์ขยายไปสู่ Windows, Office, Xbox และ AI - เกตส์กล่าวถึงผลงานของ Steve Ballmer, Satya Nadella และพนักงานทุกคนที่ช่วยพัฒนา Microsoft ตลอด 50 ปี https://www.neowin.net/news/before-office-windows-xbox-bill-gates-shares-original-microsoft-code-on-its-50th-year/
    WWW.NEOWIN.NET
    "Before Office, Windows, Xbox", Bill Gates shares original Microsoft code on its 50th year
    Microsoft's co-founder Bill Gates has shared the original Altair Basic source code that led to the formation of the tech giant that it is today.
    0 Comments 0 Shares 86 Views 0 Reviews
  • Microsoft เปิดตัว Windows App บน Android เพื่อแทนที่ Remote Desktop โดยรวมบริการ Virtualization ไว้ในแอปเดียว มี UI ใหม่ รองรับ Chrome OS และเพิ่มระบบ Passkey เพื่อความปลอดภัย แอป Remote Desktop จะถูกยกเลิกใน 27 พฤษภาคม 2025 ขณะที่ Windows App ได้รับการใช้งานไปแล้วกว่า 425 ล้านชั่วโมง แต่บางคนยังไม่ชอบชื่อใหม่เพราะฟังดูสับสน

    ✅ Windows App เป็นศูนย์กลางของบริการ Virtualization ทั้งหมดของ Microsoft
    - รวมการเข้าถึง Windows 365, Azure Virtual Desktop, Microsoft Dev Box และ Remote Desktop ไว้ในแอปเดียว

    ✅ การปรับปรุง UI และฟีเจอร์ใหม่
    - รองรับ Chrome OS (เวอร์ชัน Android)
    - เพิ่มระบบ Passkey Authentication เพื่อความปลอดภัยที่ดีขึ้น

    ✅ Remote Desktop จะถูกยกเลิกในวันที่ 27 พฤษภาคม 2025
    - ผู้ใช้ Windows ต้องเปลี่ยนไปใช้ Windows App จาก Microsoft Store

    ✅ Windows App มียอดใช้งานมากกว่า 425 ล้านชั่วโมงแล้ว
    - Microsoft ระบุว่าได้รับการตอบรับดี แต่บางคนยังไม่ชอบชื่อแอปใหม่ เพราะฟังดูสับสนมากกว่า Remote Desktop

    https://www.neowin.net/news/windows-app-is-now-available-on-android-replaces-remote-desktop/
    Microsoft เปิดตัว Windows App บน Android เพื่อแทนที่ Remote Desktop โดยรวมบริการ Virtualization ไว้ในแอปเดียว มี UI ใหม่ รองรับ Chrome OS และเพิ่มระบบ Passkey เพื่อความปลอดภัย แอป Remote Desktop จะถูกยกเลิกใน 27 พฤษภาคม 2025 ขณะที่ Windows App ได้รับการใช้งานไปแล้วกว่า 425 ล้านชั่วโมง แต่บางคนยังไม่ชอบชื่อใหม่เพราะฟังดูสับสน ✅ Windows App เป็นศูนย์กลางของบริการ Virtualization ทั้งหมดของ Microsoft - รวมการเข้าถึง Windows 365, Azure Virtual Desktop, Microsoft Dev Box และ Remote Desktop ไว้ในแอปเดียว ✅ การปรับปรุง UI และฟีเจอร์ใหม่ - รองรับ Chrome OS (เวอร์ชัน Android) - เพิ่มระบบ Passkey Authentication เพื่อความปลอดภัยที่ดีขึ้น ✅ Remote Desktop จะถูกยกเลิกในวันที่ 27 พฤษภาคม 2025 - ผู้ใช้ Windows ต้องเปลี่ยนไปใช้ Windows App จาก Microsoft Store ✅ Windows App มียอดใช้งานมากกว่า 425 ล้านชั่วโมงแล้ว - Microsoft ระบุว่าได้รับการตอบรับดี แต่บางคนยังไม่ชอบชื่อแอปใหม่ เพราะฟังดูสับสนมากกว่า Remote Desktop https://www.neowin.net/news/windows-app-is-now-available-on-android-replaces-remote-desktop/
    WWW.NEOWIN.NET
    Windows App is now available on Android, replaces Remote Desktop
    Say goodbye to the Remote Desktop app on Android, as Microsoft replaces it with the new Windows App.
    0 Comments 0 Shares 101 Views 0 Reviews
  • 3/
    มีรายงานเครื่องบินทิ้งระเบิดความเร็วเหนือเสียงTu-22M3 ตกในเขต Usolsky ของแคว้นอีร์คุตสค์ (Irkutsk) ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุดในไซบีเรีย

    ▪️ กระทรวงกลาโหมของรัสเซียรายงานว่า ขณะกำลังทำการบินตามกำหนดการปกติ เกิดความผิดพลาดทางเทคนิค ทำให้เครื่องบินตกในพื้นที่ว่างเปล่า ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบถึงความเสียหายใดๆในพื้นที่นั้น และลูกเรือ 4 คน สามารถออกจากเครื่องได้ แต่ 1 รายเสียชีวิตในเวลาต่อมา


    ▪️ ทางด้านนาย Igor Kobzev ผู้ว่าการเขต Irkutsk รายงานว่า ขณะเครื่องบินตก ได้เกี่ยวเข้ากับสายไฟ ทำให้บ้านเรือน 210 หลัง รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกทางด้านไฟฟ้าส่วนกลางไม่มีไฟฟ้าให้บริการ

    ▪️ ภาพวิดีโอจากที่เกิดเหตุเครื่องบินตก และหนึ่งในนักบินที่รอดชีวิต

    ▪️ ภาพนิ่งเป็นภาพประกอบเนื้อหา

    3/ มีรายงานเครื่องบินทิ้งระเบิดความเร็วเหนือเสียงTu-22M3 ตกในเขต Usolsky ของแคว้นอีร์คุตสค์ (Irkutsk) ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุดในไซบีเรีย ▪️ กระทรวงกลาโหมของรัสเซียรายงานว่า ขณะกำลังทำการบินตามกำหนดการปกติ เกิดความผิดพลาดทางเทคนิค ทำให้เครื่องบินตกในพื้นที่ว่างเปล่า ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบถึงความเสียหายใดๆในพื้นที่นั้น และลูกเรือ 4 คน สามารถออกจากเครื่องได้ แต่ 1 รายเสียชีวิตในเวลาต่อมา ▪️ ทางด้านนาย Igor Kobzev ผู้ว่าการเขต Irkutsk รายงานว่า ขณะเครื่องบินตก ได้เกี่ยวเข้ากับสายไฟ ทำให้บ้านเรือน 210 หลัง รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกทางด้านไฟฟ้าส่วนกลางไม่มีไฟฟ้าให้บริการ ▪️ ภาพวิดีโอจากที่เกิดเหตุเครื่องบินตก และหนึ่งในนักบินที่รอดชีวิต ▪️ ภาพนิ่งเป็นภาพประกอบเนื้อหา
    0 Comments 0 Shares 162 Views 14 0 Reviews
  • 2/
    มีรายงานเครื่องบินทิ้งระเบิดความเร็วเหนือเสียงTu-22M3 ตกในเขต Usolsky ของแคว้นอีร์คุตสค์ (Irkutsk) ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุดในไซบีเรีย

    ▪️ กระทรวงกลาโหมของรัสเซียรายงานว่า ขณะกำลังทำการบินตามกำหนดการปกติ เกิดความผิดพลาดทางเทคนิค ทำให้เครื่องบินตกในพื้นที่ว่างเปล่า ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบถึงความเสียหายใดๆในพื้นที่นั้น และลูกเรือ 4 คน สามารถออกจากเครื่องได้ แต่ 1 รายเสียชีวิตในเวลาต่อมา


    ▪️ ทางด้านนาย Igor Kobzev ผู้ว่าการเขต Irkutsk รายงานว่า ขณะเครื่องบินตก ได้เกี่ยวเข้ากับสายไฟ ทำให้บ้านเรือน 210 หลัง รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกทางด้านไฟฟ้าส่วนกลางไม่มีไฟฟ้าให้บริการ

    ▪️ ภาพวิดีโอจากที่เกิดเหตุเครื่องบินตก และหนึ่งในนักบินที่รอดชีวิต

    ▪️ ภาพนิ่งเป็นภาพประกอบเนื้อหา

    2/ มีรายงานเครื่องบินทิ้งระเบิดความเร็วเหนือเสียงTu-22M3 ตกในเขต Usolsky ของแคว้นอีร์คุตสค์ (Irkutsk) ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุดในไซบีเรีย ▪️ กระทรวงกลาโหมของรัสเซียรายงานว่า ขณะกำลังทำการบินตามกำหนดการปกติ เกิดความผิดพลาดทางเทคนิค ทำให้เครื่องบินตกในพื้นที่ว่างเปล่า ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบถึงความเสียหายใดๆในพื้นที่นั้น และลูกเรือ 4 คน สามารถออกจากเครื่องได้ แต่ 1 รายเสียชีวิตในเวลาต่อมา ▪️ ทางด้านนาย Igor Kobzev ผู้ว่าการเขต Irkutsk รายงานว่า ขณะเครื่องบินตก ได้เกี่ยวเข้ากับสายไฟ ทำให้บ้านเรือน 210 หลัง รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกทางด้านไฟฟ้าส่วนกลางไม่มีไฟฟ้าให้บริการ ▪️ ภาพวิดีโอจากที่เกิดเหตุเครื่องบินตก และหนึ่งในนักบินที่รอดชีวิต ▪️ ภาพนิ่งเป็นภาพประกอบเนื้อหา
    0 Comments 0 Shares 162 Views 19 0 Reviews
More Results