• หลุดผลทดสอบบน Geekbench ของ Intel Core Ultra 7 366H (Panther Lake)

    Intel Core Ultra 7 366H (Panther Lake) ถูกทดสอบบน Geekbench เผยว่า iGPU แบบ Xe3 4 คอร์ ทำคะแนนสูงกว่า GTX 1050 Ti และ Radeon 840M แต่ยังตามหลัง Radeon 860M อยู่ราว 40%

    Core Ultra 7 366H ใช้สถาปัตยกรรม Panther Lake มี 16 คอร์ (4 Performance + 8 Efficient + 4 LP-E) ความเร็วสูงสุด 4.8 GHz พร้อมแคช L3 ขนาด 18 MB ถือเป็นรุ่นที่เน้นตลาดโน้ตบุ๊กระดับกลาง โดยยังคงใช้พลังงาน TDP 25W (Turbo 65–80W)

    iGPU Xe3 4 คอร์ เทียบกับคู่แข่ง
    ผลทดสอบ Geekbench Vulkan แสดงว่า iGPU ทำคะแนน 22,813 ซึ่งสูงกว่า GTX 1050 Ti (21,937) และ Radeon 840M (18,060) แต่ยังตามหลัง Radeon 860M (37,552) อยู่มาก จุดนี้สะท้อนว่า iGPU ของ Intel รุ่นนี้เหมาะกับงานกราฟิกทั่วไปและเกมเบา ๆ แต่ยังไม่สามารถแข่งขันกับ iGPU ระดับสูงของ AMD ได้

    ตำแหน่งในตลาด
    Core Ultra 7 366H ถูกวางไว้สำหรับ โน้ตบุ๊ก mainstream ที่ต้องการสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและราคา โดยรุ่นที่มี iGPU 10–12 คอร์ในตระกูล Panther Lake ได้แสดงผลลัพธ์ใกล้เคียง RTX 3050 แล้ว ทำให้รุ่น 366H เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าในกลุ่มกลาง แต่ไม่ใช่ตัวท็อปสำหรับงานกราฟิกหนัก

    แนวโน้มและการแข่งขัน
    แม้ Intel จะพัฒนา iGPU ให้ดีขึ้น แต่ตลาดโน้ตบุ๊กงบกลางยังคงถูกครองโดย AMD ที่มี iGPU แรงกว่าในซีรีส์ Ryzen AI 7 และ Krackan Point การแข่งขันในปี 2026 จะขึ้นอยู่กับว่า Intel สามารถผลักดัน Panther Lake รุ่นสูงให้เข้าถึงตลาดได้เร็วแค่ไหน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Core Ultra 7 366H ใช้สถาปัตยกรรม Panther Lake
    16 คอร์, 4.8 GHz, L3 18 MB, TDP 25W

    iGPU Xe3 4 คอร์ทำคะแนน 22,813 บน Geekbench Vulkan
    สูงกว่า GTX 1050 Ti และ Radeon 840M

    เหมาะกับโน้ตบุ๊ก mainstream
    สมดุลระหว่างราคาและประสิทธิภาพ แต่ไม่ใช่ตัวท็อป

    ยังตามหลัง Radeon 860M อยู่ราว 40%
    ไม่เหมาะกับงานกราฟิกหนักหรือเกม AAA ที่ต้องการพลังสูง

    AMD ยังคงครองตลาด iGPU ระดับสูง
    Intel ต้องเร่งพัฒนา Panther Lake รุ่น 10–12 คอร์เพื่อแข่งขัน

    https://wccftech.com/intel-core-ultra-7-366h-benchmarked-on-geekbench/
    📈 หลุดผลทดสอบบน Geekbench ของ Intel Core Ultra 7 366H (Panther Lake) Intel Core Ultra 7 366H (Panther Lake) ถูกทดสอบบน Geekbench เผยว่า iGPU แบบ Xe3 4 คอร์ ทำคะแนนสูงกว่า GTX 1050 Ti และ Radeon 840M แต่ยังตามหลัง Radeon 860M อยู่ราว 40% Core Ultra 7 366H ใช้สถาปัตยกรรม Panther Lake มี 16 คอร์ (4 Performance + 8 Efficient + 4 LP-E) ความเร็วสูงสุด 4.8 GHz พร้อมแคช L3 ขนาด 18 MB ถือเป็นรุ่นที่เน้นตลาดโน้ตบุ๊กระดับกลาง โดยยังคงใช้พลังงาน TDP 25W (Turbo 65–80W) 🎮 iGPU Xe3 4 คอร์ เทียบกับคู่แข่ง ผลทดสอบ Geekbench Vulkan แสดงว่า iGPU ทำคะแนน 22,813 ซึ่งสูงกว่า GTX 1050 Ti (21,937) และ Radeon 840M (18,060) แต่ยังตามหลัง Radeon 860M (37,552) อยู่มาก จุดนี้สะท้อนว่า iGPU ของ Intel รุ่นนี้เหมาะกับงานกราฟิกทั่วไปและเกมเบา ๆ แต่ยังไม่สามารถแข่งขันกับ iGPU ระดับสูงของ AMD ได้ 🖥️ ตำแหน่งในตลาด Core Ultra 7 366H ถูกวางไว้สำหรับ โน้ตบุ๊ก mainstream ที่ต้องการสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและราคา โดยรุ่นที่มี iGPU 10–12 คอร์ในตระกูล Panther Lake ได้แสดงผลลัพธ์ใกล้เคียง RTX 3050 แล้ว ทำให้รุ่น 366H เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าในกลุ่มกลาง แต่ไม่ใช่ตัวท็อปสำหรับงานกราฟิกหนัก ⚠️ แนวโน้มและการแข่งขัน แม้ Intel จะพัฒนา iGPU ให้ดีขึ้น แต่ตลาดโน้ตบุ๊กงบกลางยังคงถูกครองโดย AMD ที่มี iGPU แรงกว่าในซีรีส์ Ryzen AI 7 และ Krackan Point การแข่งขันในปี 2026 จะขึ้นอยู่กับว่า Intel สามารถผลักดัน Panther Lake รุ่นสูงให้เข้าถึงตลาดได้เร็วแค่ไหน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Core Ultra 7 366H ใช้สถาปัตยกรรม Panther Lake ➡️ 16 คอร์, 4.8 GHz, L3 18 MB, TDP 25W ✅ iGPU Xe3 4 คอร์ทำคะแนน 22,813 บน Geekbench Vulkan ➡️ สูงกว่า GTX 1050 Ti และ Radeon 840M ✅ เหมาะกับโน้ตบุ๊ก mainstream ➡️ สมดุลระหว่างราคาและประสิทธิภาพ แต่ไม่ใช่ตัวท็อป ‼️ ยังตามหลัง Radeon 860M อยู่ราว 40% ⛔ ไม่เหมาะกับงานกราฟิกหนักหรือเกม AAA ที่ต้องการพลังสูง ‼️ AMD ยังคงครองตลาด iGPU ระดับสูง ⛔ Intel ต้องเร่งพัฒนา Panther Lake รุ่น 10–12 คอร์เพื่อแข่งขัน https://wccftech.com/intel-core-ultra-7-366h-benchmarked-on-geekbench/
    WCCFTECH.COM
    Intel Core Ultra 7 366H Leaked iGPU Geekbench Benchmark Reveals 26% Higher Score Vs Radeon 840M
    Intel Panther Lake Core Ultra 7 366H was benchmarked in Geekbench Vulkan test and showed good performance uplift over Radeon 840M.
    0 Comments 0 Shares 19 Views 0 Reviews
  • Lisuan 7G106: GPU จีนรุ่นใหม่ อาจจะรองรับ Windows on ARM (WoA) เป็นเจ้าแรก

    บริษัทจีนชื่อ Lisuan เตรียมเปิดตัวการ์ดจอ 7G106 (6nm) ที่อาจเป็น GPU ตัวแรกของโลกที่รองรับ Windows on ARM (WoA) ก่อนทั้ง NVIDIA และ AMD โดยจับคู่กับซีพียู ARMv9 ของจีน และอยู่ระหว่างการผลิตเพื่อวางขายในไตรมาสแรกปี 2026

    Lisuan เปิดเผยว่า 7G106 Gaming GPU ผลิตบนเทคโนโลยี TSMC N6 (6nm) มีหน่วยความจำ 12GB GDDR6 บัส 192-bit รองรับ PCIe 4.0 x16 และใช้พลังงานสูงสุด 225W จุดเด่นคือการออกแบบเพื่อแข่งขันกับ NVIDIA GeForce RTX 60-series โดยมีจำนวน 192 TMUs และ 96 ROPs

    รองรับ Windows on ARM เป็นครั้งแรก
    สิ่งที่ทำให้ 7G106 น่าสนใจคือการถูกทดสอบร่วมกับซีพียู ARMv9 CP8180 (12 คอร์, 3.2 GHz) และสามารถรัน Windows on ARM ได้จริง นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ GPU แบบ discrete รองรับ WoA ซึ่งปกติถูกจำกัดอยู่ในโน้ตบุ๊กที่ใช้ Snapdragon X Elite เท่านั้น

    ความท้าทายด้านการผลิต
    แม้จะใช้เทคโนโลยี TSMC N6 แต่เนื่องจากข้อจำกัดด้านการส่งออกชิปไปจีน ทำให้ Lisuan อาจต้องหันไปใช้ SMIC 6nm ในอนาคต การเปลี่ยนแหล่งผลิตอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพและต้นทุน แต่ Lisuan ยืนยันว่ากำลังเข้าสู่การผลิตจำนวนมากแล้ว

    ผลกระทบต่อการแข่งขัน GPU โลก
    การที่ Lisuanสามารถเปิดตัว GPU ที่รองรับ WoA ก่อน NVIDIA และ AMD อาจทำให้ตลาด ARM-based PC ในจีนเติบโตเร็วขึ้น และสร้างแรงกดดันให้ผู้ผลิตตะวันตกต้องเร่งพัฒนาไดรเวอร์สำหรับ WoA หาก Lisuanทำสำเร็จ จะเป็นการเปลี่ยนเกมในตลาดที่ ARM กำลังได้รับความนิยมสูงขึ้น

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Lisuan 7G106 GPU ผลิตบน TSMC N6
    12GB GDDR6, PCIe 4.0, 225W TDP

    รองรับ Windows on ARM เป็นครั้งแรก
    ทดสอบกับซีพียู ARMv9 CP8180 และ WoA desktop environment

    กำลังเข้าสู่การผลิตจำนวนมาก
    คาดเปิดตัวในไตรมาสแรกปี 2026

    ข้อจำกัดด้านการผลิตจาก TSMC
    อาจต้องเปลี่ยนไปใช้ SMIC 6nm ในอนาคต

    NVIDIA และ AMD ยังไม่รองรับ WoA บน dGPU
    Lisuanอาจได้เปรียบในตลาด ARM-based PC

    https://wccftech.com/the-first-gpu-to-support-windows-on-arm-may-not-come-from-nvidia-or-amd-but-from-china-lisuan/
    🇨🇳 Lisuan 7G106: GPU จีนรุ่นใหม่ อาจจะรองรับ Windows on ARM (WoA) เป็นเจ้าแรก บริษัทจีนชื่อ Lisuan เตรียมเปิดตัวการ์ดจอ 7G106 (6nm) ที่อาจเป็น GPU ตัวแรกของโลกที่รองรับ Windows on ARM (WoA) ก่อนทั้ง NVIDIA และ AMD โดยจับคู่กับซีพียู ARMv9 ของจีน และอยู่ระหว่างการผลิตเพื่อวางขายในไตรมาสแรกปี 2026 Lisuan เปิดเผยว่า 7G106 Gaming GPU ผลิตบนเทคโนโลยี TSMC N6 (6nm) มีหน่วยความจำ 12GB GDDR6 บัส 192-bit รองรับ PCIe 4.0 x16 และใช้พลังงานสูงสุด 225W จุดเด่นคือการออกแบบเพื่อแข่งขันกับ NVIDIA GeForce RTX 60-series โดยมีจำนวน 192 TMUs และ 96 ROPs 🐧 รองรับ Windows on ARM เป็นครั้งแรก สิ่งที่ทำให้ 7G106 น่าสนใจคือการถูกทดสอบร่วมกับซีพียู ARMv9 CP8180 (12 คอร์, 3.2 GHz) และสามารถรัน Windows on ARM ได้จริง นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ GPU แบบ discrete รองรับ WoA ซึ่งปกติถูกจำกัดอยู่ในโน้ตบุ๊กที่ใช้ Snapdragon X Elite เท่านั้น 🔋 ความท้าทายด้านการผลิต แม้จะใช้เทคโนโลยี TSMC N6 แต่เนื่องจากข้อจำกัดด้านการส่งออกชิปไปจีน ทำให้ Lisuan อาจต้องหันไปใช้ SMIC 6nm ในอนาคต การเปลี่ยนแหล่งผลิตอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพและต้นทุน แต่ Lisuan ยืนยันว่ากำลังเข้าสู่การผลิตจำนวนมากแล้ว ⚠️ ผลกระทบต่อการแข่งขัน GPU โลก การที่ Lisuanสามารถเปิดตัว GPU ที่รองรับ WoA ก่อน NVIDIA และ AMD อาจทำให้ตลาด ARM-based PC ในจีนเติบโตเร็วขึ้น และสร้างแรงกดดันให้ผู้ผลิตตะวันตกต้องเร่งพัฒนาไดรเวอร์สำหรับ WoA หาก Lisuanทำสำเร็จ จะเป็นการเปลี่ยนเกมในตลาดที่ ARM กำลังได้รับความนิยมสูงขึ้น 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Lisuan 7G106 GPU ผลิตบน TSMC N6 ➡️ 12GB GDDR6, PCIe 4.0, 225W TDP ✅ รองรับ Windows on ARM เป็นครั้งแรก ➡️ ทดสอบกับซีพียู ARMv9 CP8180 และ WoA desktop environment ✅ กำลังเข้าสู่การผลิตจำนวนมาก ➡️ คาดเปิดตัวในไตรมาสแรกปี 2026 ‼️ ข้อจำกัดด้านการผลิตจาก TSMC ⛔ อาจต้องเปลี่ยนไปใช้ SMIC 6nm ในอนาคต ‼️ NVIDIA และ AMD ยังไม่รองรับ WoA บน dGPU ⛔ Lisuanอาจได้เปรียบในตลาด ARM-based PC https://wccftech.com/the-first-gpu-to-support-windows-on-arm-may-not-come-from-nvidia-or-amd-but-from-china-lisuan/
    WCCFTECH.COM
    The First Discrete GPU to Support “Windows on ARM” May Not Come From NVIDIA or AMD, but From China’s Lisuan
    Lisuan is expected to introduce its 7G106 gaming GPU soon, and it is reported to feature support for 'Windows on ARM' platform.
    0 Comments 0 Shares 19 Views 0 Reviews
  • EPYC Embedded Venice (Zen 6)

    AMD เตรียมเปิดตัวซีรีส์ EPYC Embedded 9006 Venice ที่ใช้สถาปัตยกรรม Zen 6 ผลิตบนเทคโนโลยี TSMC 2nm โดยรุ่น Embedded จะมีสูงสุด 96 คอร์ พร้อมรองรับ PCIe Gen6 และ DDR5/MRDIMM ถือเป็นรุ่นที่เน้นประสิทธิภาพสูงสำหรับงานที่ต้องการพลังการประมวลผลมาก เช่น Data center ขนาดเล็ก, Edge computing และระบบ AI inference

    EPYC Embedded Fire Range (Zen 5)
    ซีรีส์ Fire Range Embedded 2005 ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 สูงสุด 16 คอร์ รองรับ PCIe Gen5 และ DDR5-5600 โดยใช้ die เดียวกับ Ryzen 9000HX ทำให้เหมาะกับงาน Networking, Storage และ Industrial platforms จุดเด่นคือการนำชิปเดสก์ท็อปมาใช้ใหม่ในตลาด Embedded เพื่อคุมต้นทุนแต่ยังคงประสิทธิภาพสูง

    EPYC Embedded Annapurna
    ตระกูล Annapurna ถูกออกแบบมาเพื่อ Network Control planes โดยเน้น ประสิทธิภาพต่อวัตต์และต่อราคา (perf/Watt, perf/$) เหมาะสำหรับ Switches, Routers, Security appliances และ Optical transport แม้ AMD ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดสถาปัตยกรรม แต่ชัดเจนว่าเป็นรุ่นที่เน้นการใช้งานในระบบเครือข่ายที่ต้องการความเสถียรและต้นทุนต่ำ

    แนวโน้มและการเปิดตัว
    AMD คาดว่าจะเปิดตัวไลน์อัพเหล่านี้ในช่วง ปี 2026–2027 เพื่อขยายตลาด Embedded ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยจะเป็นคู่แข่งสำคัญกับ Intel และ ARM-based solutions ในตลาดที่ต้องการทั้ง พลังการประมวลผลและการประหยัดพลังงาน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    EPYC Embedded Venice (Zen 6)
    สูงสุด 96 คอร์, PCIe Gen6, DDR5/MRDIMM, ผลิตบน TSMC 2nm

    EPYC Embedded Fire Range (Zen 5)
    สูงสุด 16 คอร์, PCIe Gen5, DDR5-5600, ใช้ die จาก Ryzen 9000HX

    EPYC Embedded Annapurna
    เน้น perf/Watt และ perf/$ สำหรับ Switches, Routers และ Security appliances

    ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดสถาปัตยกรรม Annapurna
    ต้องรอติดตามข้อมูลเพิ่มเติมจาก AMD

    การเปิดตัวจริงคาดในปี 2026–2027
    ตลาด Embedded จะเป็นสมรภูมิแข่งขันใหม่กับ Intel และ ARM

    https://wccftech.com/amd-epyc-9006-embedded-venice-cpus-96-zen-6-cores-embedded-2005-fire-range-annapurna/
    🖥️ EPYC Embedded Venice (Zen 6) AMD เตรียมเปิดตัวซีรีส์ EPYC Embedded 9006 Venice ที่ใช้สถาปัตยกรรม Zen 6 ผลิตบนเทคโนโลยี TSMC 2nm โดยรุ่น Embedded จะมีสูงสุด 96 คอร์ พร้อมรองรับ PCIe Gen6 และ DDR5/MRDIMM ถือเป็นรุ่นที่เน้นประสิทธิภาพสูงสำหรับงานที่ต้องการพลังการประมวลผลมาก เช่น Data center ขนาดเล็ก, Edge computing และระบบ AI inference 🔥 EPYC Embedded Fire Range (Zen 5) ซีรีส์ Fire Range Embedded 2005 ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 สูงสุด 16 คอร์ รองรับ PCIe Gen5 และ DDR5-5600 โดยใช้ die เดียวกับ Ryzen 9000HX ทำให้เหมาะกับงาน Networking, Storage และ Industrial platforms จุดเด่นคือการนำชิปเดสก์ท็อปมาใช้ใหม่ในตลาด Embedded เพื่อคุมต้นทุนแต่ยังคงประสิทธิภาพสูง 🌐 EPYC Embedded Annapurna ตระกูล Annapurna ถูกออกแบบมาเพื่อ Network Control planes โดยเน้น ประสิทธิภาพต่อวัตต์และต่อราคา (perf/Watt, perf/$) เหมาะสำหรับ Switches, Routers, Security appliances และ Optical transport แม้ AMD ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดสถาปัตยกรรม แต่ชัดเจนว่าเป็นรุ่นที่เน้นการใช้งานในระบบเครือข่ายที่ต้องการความเสถียรและต้นทุนต่ำ ⚠️ แนวโน้มและการเปิดตัว AMD คาดว่าจะเปิดตัวไลน์อัพเหล่านี้ในช่วง ปี 2026–2027 เพื่อขยายตลาด Embedded ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยจะเป็นคู่แข่งสำคัญกับ Intel และ ARM-based solutions ในตลาดที่ต้องการทั้ง พลังการประมวลผลและการประหยัดพลังงาน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ EPYC Embedded Venice (Zen 6) ➡️ สูงสุด 96 คอร์, PCIe Gen6, DDR5/MRDIMM, ผลิตบน TSMC 2nm ✅ EPYC Embedded Fire Range (Zen 5) ➡️ สูงสุด 16 คอร์, PCIe Gen5, DDR5-5600, ใช้ die จาก Ryzen 9000HX ✅ EPYC Embedded Annapurna ➡️ เน้น perf/Watt และ perf/$ สำหรับ Switches, Routers และ Security appliances ‼️ ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดสถาปัตยกรรม Annapurna ⛔ ต้องรอติดตามข้อมูลเพิ่มเติมจาก AMD ‼️ การเปิดตัวจริงคาดในปี 2026–2027 ⛔ ตลาด Embedded จะเป็นสมรภูมิแข่งขันใหม่กับ Intel และ ARM https://wccftech.com/amd-epyc-9006-embedded-venice-cpus-96-zen-6-cores-embedded-2005-fire-range-annapurna/
    WCCFTECH.COM
    AMD EPYC "9006" Embedded Venice CPUs Rock Up To 96 "Zen 6" Cores & PCIe Gen6, EPYC Embedded 2005 "Fire Range" & Annapurna Families Confirmed Too
    AMD is preparing a range of EPYC Embedded family, such as Venice "Zen 6" series, Fire Range "Zen 5" series & Annapurna lineups.
    0 Comments 0 Shares 18 Views 0 Reviews
  • Linux บน Steam พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์

    ผลสำรวจ Steam Hardware Survey ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า Linux มีผู้ใช้งานถึง 3.2% ซึ่งถือว่าสูงที่สุดตั้งแต่มีการเก็บข้อมูลมา การเติบโตนี้สะท้อนถึงความนิยมของ Steam Deck และการสนับสนุนจากซอฟต์แวร์อย่าง Proton ที่ทำให้เกม Windows เล่นได้บน Linux อย่างราบรื่น นอกจากนี้ ความไม่พอใจต่อ Windows 11 ที่บังคับอัปเกรดและมีการแจ้งเตือนรบกวน ก็ยิ่งผลักดันให้ผู้เล่นหันมาใช้ Linux มากขึ้น

    AMD เดินหน้าท้าชน Intel
    AMD ยังคงเพิ่มส่วนแบ่งตลาด CPU อย่างต่อเนื่อง โดยในกลุ่มเกมเมอร์บน Steam มีสัดส่วนกว่า 43–44% และในบางภูมิภาค เช่น เยอรมนี AMD ครองตลาดร้านค้าปลีกเกือบทั้งหมด ความสำเร็จนี้เกิดจาก Ryzen 7000/8000 series ที่ให้จำนวนคอร์มากต่อราคา และ EPYC server chips ที่ครองรายได้เหนือ Intel ในศูนย์ข้อมูล ทำให้ AMD ไม่ใช่ผู้ตามอีกต่อไป แต่กลายเป็นคู่แข่งที่ท้าทาย Intel อย่างจริงจัง

    NVIDIA RTX 5070 ขึ้นแท่น GPU ยอดนิยม
    ในฝั่งการ์ดจอ NVIDIA RTX 5070 กำลังแซงรุ่นก่อนหน้าอย่าง RTX 4070 และติดอันดับ Top 10 GPU บน Steam ด้วยสัดส่วนราว 2.1–2.2% จุดเด่นคือสถาปัตยกรรม Blackwell ที่ให้ประสิทธิภาพสูงขึ้นและรองรับฟีเจอร์เรนเดอร์สมัยใหม่ ขณะที่ราคาวางตลาดสมเหตุสมผลกว่ารุ่นก่อน ทำให้ผู้เล่นจำนวนมากเลือกอัปเกรดเร็วผิดคาด การเติบโตนี้ยังส่งผลต่อทิศทางการพัฒนาเกม ที่สามารถใช้เทคโนโลยีกราฟิกขั้นสูงได้มากขึ้น

    ความท้าทายและความเสี่ยงในตลาด
    แม้ตัวเลขจะสดใส แต่ก็มีสัญญาณเตือน เช่น AMD RDNA 4 GPUs ยังไม่ปรากฏในผลสำรวจ ซึ่งอาจสะท้อนถึงปัญหาการผลิตหรือการยอมรับของตลาด อีกทั้ง Intel เตรียมเปิดตัว Lunar Lake ที่มุ่งเน้น AI และกราฟิกในปี 2026 ซึ่งอาจพลิกเกมการแข่งขันได้ นอกจากนี้ การแข่งขันด้านราคาอาจทำให้ทั้ง AMD และ Intel ต้องลดกำไรลงเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Linux Usage บน Steam พุ่งสูงสุด 3.2%
    ความนิยม Steam Deck และ Proton ทำให้เกม Windows เล่นได้บน Linux

    AMD เพิ่มส่วนแบ่ง CPU ในตลาดเกมเมอร์
    Ryzen และ EPYC ช่วยให้ AMD แข็งแกร่งทั้งในเดสก์ท็อปและเซิร์ฟเวอร์

    NVIDIA RTX 5070 กำลังขึ้นแท่น GPU ยอดนิยม
    สถาปัตยกรรม Blackwell และราคาที่แข่งขันได้ดึงดูดผู้ใช้จำนวนมาก

    AMD RDNA 4 ยังไม่ปรากฏในผลสำรวจ
    อาจสะท้อนถึงปัญหาการผลิตหรือการยอมรับของตลาด

    การแข่งขันด้านราคาอาจบีบกำไรของผู้ผลิต CPU
    Intel เตรียมเปิดตัว Lunar Lake ที่อาจสร้างแรงกดดันใหม่

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/linux-usage-hits-an-all-time-high-in-steam-hardware-survey-and-amd-processors-continue-their-march-against-intel
    🐧 Linux บน Steam พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ผลสำรวจ Steam Hardware Survey ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า Linux มีผู้ใช้งานถึง 3.2% ซึ่งถือว่าสูงที่สุดตั้งแต่มีการเก็บข้อมูลมา การเติบโตนี้สะท้อนถึงความนิยมของ Steam Deck และการสนับสนุนจากซอฟต์แวร์อย่าง Proton ที่ทำให้เกม Windows เล่นได้บน Linux อย่างราบรื่น นอกจากนี้ ความไม่พอใจต่อ Windows 11 ที่บังคับอัปเกรดและมีการแจ้งเตือนรบกวน ก็ยิ่งผลักดันให้ผู้เล่นหันมาใช้ Linux มากขึ้น 🔥 AMD เดินหน้าท้าชน Intel AMD ยังคงเพิ่มส่วนแบ่งตลาด CPU อย่างต่อเนื่อง โดยในกลุ่มเกมเมอร์บน Steam มีสัดส่วนกว่า 43–44% และในบางภูมิภาค เช่น เยอรมนี AMD ครองตลาดร้านค้าปลีกเกือบทั้งหมด ความสำเร็จนี้เกิดจาก Ryzen 7000/8000 series ที่ให้จำนวนคอร์มากต่อราคา และ EPYC server chips ที่ครองรายได้เหนือ Intel ในศูนย์ข้อมูล ทำให้ AMD ไม่ใช่ผู้ตามอีกต่อไป แต่กลายเป็นคู่แข่งที่ท้าทาย Intel อย่างจริงจัง 🎮 NVIDIA RTX 5070 ขึ้นแท่น GPU ยอดนิยม ในฝั่งการ์ดจอ NVIDIA RTX 5070 กำลังแซงรุ่นก่อนหน้าอย่าง RTX 4070 และติดอันดับ Top 10 GPU บน Steam ด้วยสัดส่วนราว 2.1–2.2% จุดเด่นคือสถาปัตยกรรม Blackwell ที่ให้ประสิทธิภาพสูงขึ้นและรองรับฟีเจอร์เรนเดอร์สมัยใหม่ ขณะที่ราคาวางตลาดสมเหตุสมผลกว่ารุ่นก่อน ทำให้ผู้เล่นจำนวนมากเลือกอัปเกรดเร็วผิดคาด การเติบโตนี้ยังส่งผลต่อทิศทางการพัฒนาเกม ที่สามารถใช้เทคโนโลยีกราฟิกขั้นสูงได้มากขึ้น ⚠️ ความท้าทายและความเสี่ยงในตลาด แม้ตัวเลขจะสดใส แต่ก็มีสัญญาณเตือน เช่น AMD RDNA 4 GPUs ยังไม่ปรากฏในผลสำรวจ ซึ่งอาจสะท้อนถึงปัญหาการผลิตหรือการยอมรับของตลาด อีกทั้ง Intel เตรียมเปิดตัว Lunar Lake ที่มุ่งเน้น AI และกราฟิกในปี 2026 ซึ่งอาจพลิกเกมการแข่งขันได้ นอกจากนี้ การแข่งขันด้านราคาอาจทำให้ทั้ง AMD และ Intel ต้องลดกำไรลงเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Linux Usage บน Steam พุ่งสูงสุด 3.2% ➡️ ความนิยม Steam Deck และ Proton ทำให้เกม Windows เล่นได้บน Linux ✅ AMD เพิ่มส่วนแบ่ง CPU ในตลาดเกมเมอร์ ➡️ Ryzen และ EPYC ช่วยให้ AMD แข็งแกร่งทั้งในเดสก์ท็อปและเซิร์ฟเวอร์ ✅ NVIDIA RTX 5070 กำลังขึ้นแท่น GPU ยอดนิยม ➡️ สถาปัตยกรรม Blackwell และราคาที่แข่งขันได้ดึงดูดผู้ใช้จำนวนมาก ‼️ AMD RDNA 4 ยังไม่ปรากฏในผลสำรวจ ⛔ อาจสะท้อนถึงปัญหาการผลิตหรือการยอมรับของตลาด ‼️ การแข่งขันด้านราคาอาจบีบกำไรของผู้ผลิต CPU ⛔ Intel เตรียมเปิดตัว Lunar Lake ที่อาจสร้างแรงกดดันใหม่ https://www.tomshardware.com/tech-industry/linux-usage-hits-an-all-time-high-in-steam-hardware-survey-and-amd-processors-continue-their-march-against-intel
    0 Comments 0 Shares 24 Views 0 Reviews
  • “HPE จับมือ AMD ใช้ Helios Rack Architecture สำหรับระบบ AI ปี 2026”

    Hewlett Packard Enterprise (HPE) ได้ประกาศความร่วมมือกับ AMD เพื่อนำสถาปัตยกรรม Helios rack-scale AI เข้ามาใช้ในผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ Helios ได้รับการสนับสนุนจาก OEM รายใหญ่ โดยระบบจะประกอบด้วย 72 GPU Instinct MI455X, CPU EPYC รุ่น “Venice” และสวิตช์ HPE Juniper ที่รองรับ Ultra Accelerator Link over Ethernet (UALoE) ซึ่งพัฒนาโดย Broadcom

    Helios ถูกออกแบบให้เป็นแพลตฟอร์ม AI แบบเปิด โดยใช้มาตรฐาน Open Rack Wide ของ Meta และรองรับการเชื่อมต่อ GPU ทั้งหมดใน rack ให้ทำงานร่วมกันเป็น pod เดียว จุดเด่นคือการใช้ Ethernet fabric แทน NVLink ของ Nvidia ทำให้ระบบมีความยืดหยุ่นและเข้ากับมาตรฐานอุตสาหกรรมได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งมีหน่วยความจำ HBM4 ขนาด 31TB ต่อ rack และพลังประมวลผล FP4 สูงสุดถึง 2.9 exaFLOPS

    นอกจากการนำ Helios มาใช้ในเชิงพาณิชย์แล้ว HPE ยังได้รับเลือกจาก High-Performance Computing Center Stuttgart (HLRS) ให้สร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ชื่อ “Herder” โดยใช้ GPU MI430X และ CPU Venice บนแพลตฟอร์ม Cray GX5000 ซึ่งจะส่งมอบในปี 2027 และใช้พลังงานความร้อนจากระบบระบายความร้อนเหลวไปทำความร้อนอาคารในมหาวิทยาลัย Stuttgart

    การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงการแข่งขันที่รุนแรงในตลาด AI infrastructure ระหว่าง AMD และ Nvidia โดย Helios จะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Nvidia GB200 NVL72 rack ที่ใช้ NVLink และ InfiniBand ในการเชื่อมต่อ GPU และ CPU ภายในระบบ

    สรุปเป็นหัวข้อ
    รายละเอียดสถาปัตยกรรม Helios
    ใช้มาตรฐาน Open Rack Wide ของ Meta
    72 GPU Instinct MI455X + CPU EPYC Venice
    Ethernet fabric (UALoE) แทน NVLink

    สมรรถนะ
    FP4 compute สูงสุด 2.9 exaFLOPS ต่อ rack
    หน่วยความจำ HBM4 ขนาด 31TB
    ทุก GPU เชื่อมต่อเป็น pod เดียว

    โครงการสำคัญ
    HPE Juniper switch พัฒนาโดย Broadcom
    HLRS เลือก HPE Cray GX5000 สำหรับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ “Herder”
    ใช้พลังงานความร้อนเหลือทิ้งเพื่อทำความร้อนอาคาร

    ข้อควรระวังและการแข่งขัน
    Nvidia GB200 NVL72 rack ยังครองตลาดด้วย NVLink + InfiniBand
    Helios ต้องพิสูจน์ความเสถียรและการรองรับซอฟต์แวร์ AI ecosystem
    การแข่งขันด้านพลังงานและต้นทุนอาจเป็นตัวแปรสำคัญ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/hpe-adopts-amd-helios-rack-architecture-for-2026-ai-systems
    🖥️ “HPE จับมือ AMD ใช้ Helios Rack Architecture สำหรับระบบ AI ปี 2026” Hewlett Packard Enterprise (HPE) ได้ประกาศความร่วมมือกับ AMD เพื่อนำสถาปัตยกรรม Helios rack-scale AI เข้ามาใช้ในผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ Helios ได้รับการสนับสนุนจาก OEM รายใหญ่ โดยระบบจะประกอบด้วย 72 GPU Instinct MI455X, CPU EPYC รุ่น “Venice” และสวิตช์ HPE Juniper ที่รองรับ Ultra Accelerator Link over Ethernet (UALoE) ซึ่งพัฒนาโดย Broadcom Helios ถูกออกแบบให้เป็นแพลตฟอร์ม AI แบบเปิด โดยใช้มาตรฐาน Open Rack Wide ของ Meta และรองรับการเชื่อมต่อ GPU ทั้งหมดใน rack ให้ทำงานร่วมกันเป็น pod เดียว จุดเด่นคือการใช้ Ethernet fabric แทน NVLink ของ Nvidia ทำให้ระบบมีความยืดหยุ่นและเข้ากับมาตรฐานอุตสาหกรรมได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งมีหน่วยความจำ HBM4 ขนาด 31TB ต่อ rack และพลังประมวลผล FP4 สูงสุดถึง 2.9 exaFLOPS นอกจากการนำ Helios มาใช้ในเชิงพาณิชย์แล้ว HPE ยังได้รับเลือกจาก High-Performance Computing Center Stuttgart (HLRS) ให้สร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ชื่อ “Herder” โดยใช้ GPU MI430X และ CPU Venice บนแพลตฟอร์ม Cray GX5000 ซึ่งจะส่งมอบในปี 2027 และใช้พลังงานความร้อนจากระบบระบายความร้อนเหลวไปทำความร้อนอาคารในมหาวิทยาลัย Stuttgart การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงการแข่งขันที่รุนแรงในตลาด AI infrastructure ระหว่าง AMD และ Nvidia โดย Helios จะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Nvidia GB200 NVL72 rack ที่ใช้ NVLink และ InfiniBand ในการเชื่อมต่อ GPU และ CPU ภายในระบบ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ รายละเอียดสถาปัตยกรรม Helios ➡️ ใช้มาตรฐาน Open Rack Wide ของ Meta ➡️ 72 GPU Instinct MI455X + CPU EPYC Venice ➡️ Ethernet fabric (UALoE) แทน NVLink ✅ สมรรถนะ ➡️ FP4 compute สูงสุด 2.9 exaFLOPS ต่อ rack ➡️ หน่วยความจำ HBM4 ขนาด 31TB ➡️ ทุก GPU เชื่อมต่อเป็น pod เดียว ✅ โครงการสำคัญ ➡️ HPE Juniper switch พัฒนาโดย Broadcom ➡️ HLRS เลือก HPE Cray GX5000 สำหรับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ “Herder” ➡️ ใช้พลังงานความร้อนเหลือทิ้งเพื่อทำความร้อนอาคาร ‼️ ข้อควรระวังและการแข่งขัน ⛔ Nvidia GB200 NVL72 rack ยังครองตลาดด้วย NVLink + InfiniBand ⛔ Helios ต้องพิสูจน์ความเสถียรและการรองรับซอฟต์แวร์ AI ecosystem ⛔ การแข่งขันด้านพลังงานและต้นทุนอาจเป็นตัวแปรสำคัญ https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/hpe-adopts-amd-helios-rack-architecture-for-2026-ai-systems
    0 Comments 0 Shares 56 Views 0 Reviews
  • ฟีเจอร์ใหม่ใน VLC 3.0.22

    เวอร์ชันนี้มาพร้อมกับ AMD GPU Frame Rate Doubler (Direct3D11 video filter) ที่ช่วยให้การเล่นวิดีโอมีความลื่นไหลมากขึ้น โดยเฉพาะบนการ์ดจอ AMD นอกจากนี้ยังมีการเพิ่ม dav1d-all-layers option สำหรับ AV1 decoder เพื่อรองรับการแสดงผลทุก spatial layers ของ scalable AV1 bitstream ซึ่งเป็นการปรับปรุงที่สำคัญสำหรับผู้ที่ใช้ AV1

    การสนับสนุนฟอร์แมตและการปรับปรุงอื่น ๆ
    เพิ่มการรองรับ A_ATRAC/AT1 ใน Matroska (MKV)
    รองรับการจัดการรูปภาพใน FLAC containers
    เพิ่มตัวเลือก mkv-use-chapter-codec
    เพิ่ม dark palette สำหรับ Qt interface
    รองรับการคอมไพล์ด้วย Qt 6 และเวอร์ชันใหม่ของ Qt 5
    เพิ่มการสร้าง Windows ARM64 builds

    การแก้บั๊กและปรับปรุงเสถียรภาพ
    แก้บั๊กการถอดรหัส XVID MPEG-4 ด้วย VideoToolbox
    ปรับปรุงการทำงานของ Opus channel mapping
    แก้ปัญหาการแสดงผล DVD captions (CEA-608)
    แก้บั๊กการเล่นไฟล์ ASF สั้น ๆ และการตรวจจับ VOB/AOB LPCM/MLP
    ปรับปรุงการแสดงผลไฟล์ JPEG บางประเภท
    ปิดการใช้งาน libdca, libmpeg2 และ liba52 โดยค่าเริ่มต้น เพื่อใช้ libavcodec แทน
    แก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยในหลาย demuxers และ decoders

    ความหมายต่อผู้ใช้
    การอัปเดตนี้ทำให้ VLC มีความทันสมัยและรองรับฟอร์แมตใหม่ ๆ มากขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นวิดีโอโดยเฉพาะบน GPU ของ AMD ผู้ใช้ที่ต้องการความเสถียรและการรองรับเทคโนโลยีล่าสุดควรอัปเดตทันที

    สรุปเป็นหัวข้อ
    ฟีเจอร์ใหม่
    AMD GPU Frame Rate Doubler (Direct3D11)
    dav1d-all-layers option สำหรับ AV1 decoder
    รองรับ A_ATRAC/AT1 ใน MKV และรูปภาพใน FLAC

    การปรับปรุงระบบ
    Dark palette สำหรับ Qt interface
    รองรับ Qt 6 และ Windows ARM64 builds
    ตัวเลือก mkv-use-chapter-codec

    การแก้บั๊ก
    ปรับปรุง Opus channel mapping
    แก้บั๊ก XVID MPEG-4, DVD captions และ ASF สั้น ๆ
    ปิดการใช้งาน libdca, libmpeg2, liba52 โดยค่าเริ่มต้น

    ผลต่อผู้ใช้
    ประสบการณ์การเล่นวิดีโอลื่นไหลขึ้นบน AMD GPU
    รองรับฟอร์แมตใหม่และการแสดงผลที่เสถียรขึ้น
    ปลอดภัยมากขึ้นจากการแก้ไขช่องโหว่

    คำเตือนด้านการใช้งาน
    หากไม่อัปเดต อาจพลาดฟีเจอร์ใหม่และการแก้ไขบั๊กสำคัญ
    การใช้เวอร์ชันเก่าเสี่ยงต่อช่องโหว่ด้านความปลอดภัย

    https://9to5linux.com/vlc-3-0-22-released-with-amd-gpu-frame-rate-doubler-dav1d-all-layers-option
    🎬 ฟีเจอร์ใหม่ใน VLC 3.0.22 เวอร์ชันนี้มาพร้อมกับ AMD GPU Frame Rate Doubler (Direct3D11 video filter) ที่ช่วยให้การเล่นวิดีโอมีความลื่นไหลมากขึ้น โดยเฉพาะบนการ์ดจอ AMD นอกจากนี้ยังมีการเพิ่ม dav1d-all-layers option สำหรับ AV1 decoder เพื่อรองรับการแสดงผลทุก spatial layers ของ scalable AV1 bitstream ซึ่งเป็นการปรับปรุงที่สำคัญสำหรับผู้ที่ใช้ AV1 🎵 การสนับสนุนฟอร์แมตและการปรับปรุงอื่น ๆ 💠 เพิ่มการรองรับ A_ATRAC/AT1 ใน Matroska (MKV) 💠 รองรับการจัดการรูปภาพใน FLAC containers 💠 เพิ่มตัวเลือก mkv-use-chapter-codec 💠 เพิ่ม dark palette สำหรับ Qt interface 💠 รองรับการคอมไพล์ด้วย Qt 6 และเวอร์ชันใหม่ของ Qt 5 💠 เพิ่มการสร้าง Windows ARM64 builds 🛠️ การแก้บั๊กและปรับปรุงเสถียรภาพ 🪛 แก้บั๊กการถอดรหัส XVID MPEG-4 ด้วย VideoToolbox 🪛 ปรับปรุงการทำงานของ Opus channel mapping 🪛 แก้ปัญหาการแสดงผล DVD captions (CEA-608) 🪛 แก้บั๊กการเล่นไฟล์ ASF สั้น ๆ และการตรวจจับ VOB/AOB LPCM/MLP 🪛 ปรับปรุงการแสดงผลไฟล์ JPEG บางประเภท 🪛 ปิดการใช้งาน libdca, libmpeg2 และ liba52 โดยค่าเริ่มต้น เพื่อใช้ libavcodec แทน 🪛 แก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยในหลาย demuxers และ decoders 🔮 ความหมายต่อผู้ใช้ การอัปเดตนี้ทำให้ VLC มีความทันสมัยและรองรับฟอร์แมตใหม่ ๆ มากขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นวิดีโอโดยเฉพาะบน GPU ของ AMD ผู้ใช้ที่ต้องการความเสถียรและการรองรับเทคโนโลยีล่าสุดควรอัปเดตทันที 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ ➡️ AMD GPU Frame Rate Doubler (Direct3D11) ➡️ dav1d-all-layers option สำหรับ AV1 decoder ➡️ รองรับ A_ATRAC/AT1 ใน MKV และรูปภาพใน FLAC ✅ การปรับปรุงระบบ ➡️ Dark palette สำหรับ Qt interface ➡️ รองรับ Qt 6 และ Windows ARM64 builds ➡️ ตัวเลือก mkv-use-chapter-codec ✅ การแก้บั๊ก ➡️ ปรับปรุง Opus channel mapping ➡️ แก้บั๊ก XVID MPEG-4, DVD captions และ ASF สั้น ๆ ➡️ ปิดการใช้งาน libdca, libmpeg2, liba52 โดยค่าเริ่มต้น ✅ ผลต่อผู้ใช้ ➡️ ประสบการณ์การเล่นวิดีโอลื่นไหลขึ้นบน AMD GPU ➡️ รองรับฟอร์แมตใหม่และการแสดงผลที่เสถียรขึ้น ➡️ ปลอดภัยมากขึ้นจากการแก้ไขช่องโหว่ ‼️ คำเตือนด้านการใช้งาน ⛔ หากไม่อัปเดต อาจพลาดฟีเจอร์ใหม่และการแก้ไขบั๊กสำคัญ ⛔ การใช้เวอร์ชันเก่าเสี่ยงต่อช่องโหว่ด้านความปลอดภัย https://9to5linux.com/vlc-3-0-22-released-with-amd-gpu-frame-rate-doubler-dav1d-all-layers-option
    9TO5LINUX.COM
    VLC 3.0.22 Released with AMD GPU Frame Rate Doubler, dav1d-all-layers Option - 9to5Linux
    VLC 3.0.22 open-source media player is now available for download with AMD GPU Frame Rate Doubler, a dav1d-all-layers option, and more.
    0 Comments 0 Shares 37 Views 0 Reviews
  • ไต้หวันฟ้อง Tokyo Electron กรณีขโมยข้อมูล TSMC

    อัยการไต้หวันได้ตั้งข้อหาต่อบริษัท Tokyo Electron โดยกล่าวหาว่าบริษัทไม่สามารถป้องกันพนักงานของตนจากการพยายามขโมยข้อมูลลับทางการค้าและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตชิป 2nm ของ TSMC ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่สุดในโลก

    รายละเอียดของคดี
    กลุ่มพนักงานทั้งอดีตและปัจจุบันของ Tokyo Electron ถูกกล่าวหาว่าพยายามนำข้อมูลไปใช้เพื่อปรับปรุงเครื่องจักรแกะสลัก (etching machines) ของบริษัท เพื่อให้ได้สัญญามากขึ้นจาก TSMC แม้จะไม่มีหลักฐานว่าบริษัทใช้ข้อมูลที่ถูกขโมย แต่ทางการไต้หวันชี้ว่า Tokyo Electron ขาดมาตรการป้องกันที่เข้มงวดและควรรับผิดชอบในฐานะองค์กร

    ผลกระทบเชิงยุทธศาสตร์
    คดีนี้สะท้อนถึงความสำคัญของ TSMC ในฐานะผู้ผลิตชิปขั้นสูงที่เป็นหัวใจของอุตสาหกรรมโลก ทั้ง Nvidia, AMD และ Apple ต่างพึ่งพาเทคโนโลยีของ TSMC การพยายามขโมยข้อมูลจึงถูกมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติของไต้หวัน

    มุมมองในอนาคต
    Tokyo Electron ระบุว่ากำลังให้ความร่วมมือกับการสอบสวนและได้ไล่ออกพนักงานที่เกี่ยวข้องแล้ว อย่างไรก็ตาม คดีนี้อาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างญี่ปุ่นและไต้หวัน รวมถึงการกำหนดมาตรการเข้มงวดขึ้นในการป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์

    สรุปสาระสำคัญ
    อัยการไต้หวันตั้งข้อหา Tokyo Electron
    ล้มเหลวในการป้องกันพนักงานจากการขโมยข้อมูล TSMC

    ข้อมูลที่ถูกพยายามขโมยเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี 2nm ของ TSMC
    ใช้เพื่อปรับปรุงเครื่องจักรแกะสลักของบริษัท

    TSMC เป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมโลก
    มีลูกค้ารายใหญ่ เช่น Nvidia, AMD และ Apple

    การขโมยข้อมูลถูกมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของไต้หวัน
    อาจกระทบต่อความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการเมือง

    Tokyo Electron อาจเผชิญบทลงโทษทางกฎหมายและชื่อเสียง
    ต้องเพิ่มมาตรการป้องกันข้อมูลภายในองค์กร

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/taiwan-hits-japanese-firm-with-indictment-in-tsmc-data-theft-saga-tokyo-electron-charged-with-failing-to-prevent-its-staff-from-stealing-trade-secrets
    ⚖️ ไต้หวันฟ้อง Tokyo Electron กรณีขโมยข้อมูล TSMC อัยการไต้หวันได้ตั้งข้อหาต่อบริษัท Tokyo Electron โดยกล่าวหาว่าบริษัทไม่สามารถป้องกันพนักงานของตนจากการพยายามขโมยข้อมูลลับทางการค้าและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตชิป 2nm ของ TSMC ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่สุดในโลก 🔧 รายละเอียดของคดี กลุ่มพนักงานทั้งอดีตและปัจจุบันของ Tokyo Electron ถูกกล่าวหาว่าพยายามนำข้อมูลไปใช้เพื่อปรับปรุงเครื่องจักรแกะสลัก (etching machines) ของบริษัท เพื่อให้ได้สัญญามากขึ้นจาก TSMC แม้จะไม่มีหลักฐานว่าบริษัทใช้ข้อมูลที่ถูกขโมย แต่ทางการไต้หวันชี้ว่า Tokyo Electron ขาดมาตรการป้องกันที่เข้มงวดและควรรับผิดชอบในฐานะองค์กร 🌍 ผลกระทบเชิงยุทธศาสตร์ คดีนี้สะท้อนถึงความสำคัญของ TSMC ในฐานะผู้ผลิตชิปขั้นสูงที่เป็นหัวใจของอุตสาหกรรมโลก ทั้ง Nvidia, AMD และ Apple ต่างพึ่งพาเทคโนโลยีของ TSMC การพยายามขโมยข้อมูลจึงถูกมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติของไต้หวัน 📊 มุมมองในอนาคต Tokyo Electron ระบุว่ากำลังให้ความร่วมมือกับการสอบสวนและได้ไล่ออกพนักงานที่เกี่ยวข้องแล้ว อย่างไรก็ตาม คดีนี้อาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างญี่ปุ่นและไต้หวัน รวมถึงการกำหนดมาตรการเข้มงวดขึ้นในการป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ อัยการไต้หวันตั้งข้อหา Tokyo Electron ➡️ ล้มเหลวในการป้องกันพนักงานจากการขโมยข้อมูล TSMC ✅ ข้อมูลที่ถูกพยายามขโมยเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี 2nm ของ TSMC ➡️ ใช้เพื่อปรับปรุงเครื่องจักรแกะสลักของบริษัท ✅ TSMC เป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมโลก ➡️ มีลูกค้ารายใหญ่ เช่น Nvidia, AMD และ Apple ‼️ การขโมยข้อมูลถูกมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของไต้หวัน ⛔ อาจกระทบต่อความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการเมือง ‼️ Tokyo Electron อาจเผชิญบทลงโทษทางกฎหมายและชื่อเสียง ⛔ ต้องเพิ่มมาตรการป้องกันข้อมูลภายในองค์กร https://www.tomshardware.com/tech-industry/taiwan-hits-japanese-firm-with-indictment-in-tsmc-data-theft-saga-tokyo-electron-charged-with-failing-to-prevent-its-staff-from-stealing-trade-secrets
    0 Comments 0 Shares 65 Views 0 Reviews
  • Nvidia เสียพื้นที่ให้คู่แข่งในตลาด GPU

    ตลาดการ์ดจอไตรมาส 3 ปี 2025 แสดงให้เห็นว่า Nvidia สูญเสียส่วนแบ่งตลาดเล็กน้อยให้กับ AMD และ Intel โดย Nvidia ยังครองกว่า 90% แต่ AMD และ Intel กำลังค่อย ๆ ขยับขึ้น

    รายงานล่าสุดจาก Jon Peddie Research (JPR) เผยว่าในไตรมาส 3 ปี 2025 Nvidia มีส่วนแบ่งตลาดลดลงจาก 94% เหลือ 92% แม้ยังครองตลาดแบบเกือบเบ็ดเสร็จ แต่การลดลงนี้สะท้อนถึงการเติบโตของคู่แข่ง โดยเฉพาะ AMD ที่มีการเปิดตัว Radeon RX 9000 series และ Intel ที่สามารถทะลุ 1% ส่วนแบ่งตลาด ได้เป็นครั้งแรก

    AMD และ Intel กำลังไล่บี้
    AMD ได้รับแรงหนุนจากการเปิดตัว RDNA 4-based Radeon RX 9070 XT ที่ได้รับความนิยมทั้งในสื่อและร้านค้า ทำให้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 7% ขณะที่ Intel แม้ยังเป็นผู้เล่นเล็ก แต่การทะลุ 1% ถือเป็นก้าวสำคัญในตลาดที่ถูกครองโดย Nvidia มานาน การเปลี่ยนแปลงนี้บ่งบอกว่าตลาดเริ่มมีการแข่งขันมากขึ้น

    ปัจจัยภายนอกที่กระทบตลาด
    การเติบโตของตลาด GPU ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 2.8% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ 11.4% สาเหตุหลักมาจากการ “panic buying” ในไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากความไม่แน่นอนด้านภาษี ทำให้ยอดขายถูกดึงไปก่อนหน้า ส่งผลให้การเติบโตใน Q3 ต่ำกว่าปกติ

    แนวโน้มในอนาคต
    แม้ Nvidia ยังครองตลาด แต่ JPR คาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตของตลาด GPU ระหว่างปี 2024-2029 อาจติดลบ (-0.7% CAGR) เนื่องจากความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ขับเคลื่อนโดยปัจจัยทางการเมืองและเศรษฐกิจโลก

    สรุปสาระสำคัญ
    Nvidia ยังครองตลาด GPU กว่า 92%
    ลดลงจาก 94% ในไตรมาสก่อนหน้า

    AMD เพิ่มส่วนแบ่งตลาดเป็น 7%
    ได้แรงหนุนจาก Radeon RX 9000 series

    Intel ทะลุ 1% ส่วนแบ่งตลาดเป็นครั้งแรก
    ถือเป็นก้าวสำคัญในตลาดที่แข่งขันสูง

    ตลาด GPU โตเพียง 2.8% ใน Q3 2025
    ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ 11.4%

    ความเสี่ยงจากภาษีและเศรษฐกิจโลกยังคงสูง
    อาจทำให้ตลาดเติบโตติดลบในระยะ 5 ปีข้างหน้า

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/latest-gpu-market-analysis-shows-nvidia-losing-ground-to-amd-and-intel-cracks-the-1-percent-share-milestone-for-the-first-time
    📉 Nvidia เสียพื้นที่ให้คู่แข่งในตลาด GPU ตลาดการ์ดจอไตรมาส 3 ปี 2025 แสดงให้เห็นว่า Nvidia สูญเสียส่วนแบ่งตลาดเล็กน้อยให้กับ AMD และ Intel โดย Nvidia ยังครองกว่า 90% แต่ AMD และ Intel กำลังค่อย ๆ ขยับขึ้น รายงานล่าสุดจาก Jon Peddie Research (JPR) เผยว่าในไตรมาส 3 ปี 2025 Nvidia มีส่วนแบ่งตลาดลดลงจาก 94% เหลือ 92% แม้ยังครองตลาดแบบเกือบเบ็ดเสร็จ แต่การลดลงนี้สะท้อนถึงการเติบโตของคู่แข่ง โดยเฉพาะ AMD ที่มีการเปิดตัว Radeon RX 9000 series และ Intel ที่สามารถทะลุ 1% ส่วนแบ่งตลาด ได้เป็นครั้งแรก 🔥 AMD และ Intel กำลังไล่บี้ AMD ได้รับแรงหนุนจากการเปิดตัว RDNA 4-based Radeon RX 9070 XT ที่ได้รับความนิยมทั้งในสื่อและร้านค้า ทำให้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 7% ขณะที่ Intel แม้ยังเป็นผู้เล่นเล็ก แต่การทะลุ 1% ถือเป็นก้าวสำคัญในตลาดที่ถูกครองโดย Nvidia มานาน การเปลี่ยนแปลงนี้บ่งบอกว่าตลาดเริ่มมีการแข่งขันมากขึ้น 🌍 ปัจจัยภายนอกที่กระทบตลาด การเติบโตของตลาด GPU ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 2.8% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ 11.4% สาเหตุหลักมาจากการ “panic buying” ในไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากความไม่แน่นอนด้านภาษี ทำให้ยอดขายถูกดึงไปก่อนหน้า ส่งผลให้การเติบโตใน Q3 ต่ำกว่าปกติ 📊 แนวโน้มในอนาคต แม้ Nvidia ยังครองตลาด แต่ JPR คาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตของตลาด GPU ระหว่างปี 2024-2029 อาจติดลบ (-0.7% CAGR) เนื่องจากความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ขับเคลื่อนโดยปัจจัยทางการเมืองและเศรษฐกิจโลก 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Nvidia ยังครองตลาด GPU กว่า 92% ➡️ ลดลงจาก 94% ในไตรมาสก่อนหน้า ✅ AMD เพิ่มส่วนแบ่งตลาดเป็น 7% ➡️ ได้แรงหนุนจาก Radeon RX 9000 series ✅ Intel ทะลุ 1% ส่วนแบ่งตลาดเป็นครั้งแรก ➡️ ถือเป็นก้าวสำคัญในตลาดที่แข่งขันสูง ✅ ตลาด GPU โตเพียง 2.8% ใน Q3 2025 ➡️ ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ 11.4% ‼️ ความเสี่ยงจากภาษีและเศรษฐกิจโลกยังคงสูง ⛔ อาจทำให้ตลาดเติบโตติดลบในระยะ 5 ปีข้างหน้า https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/latest-gpu-market-analysis-shows-nvidia-losing-ground-to-amd-and-intel-cracks-the-1-percent-share-milestone-for-the-first-time
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Latest GPU market analysis shows Nvidia losing ground to AMD — and Intel cracks the 1% share milestone for the first time
    JPR says Nvidia's GPU market share decreased by 1.2% in Q3'25. It still owns over 90% of the market, though.
    0 Comments 0 Shares 72 Views 0 Reviews
  • Linux Kernel 6.18 เปิดตัว พร้อมลุ้นเป็น LTS ประจำปี 2025

    Linux Kernel 6.18 ได้รับการปล่อยออกมาแล้ว โดยมีการปรับปรุงครั้งใหญ่ทั้งด้าน ฮาร์ดแวร์ใหม่, ระบบไฟล์, และความปลอดภัย ซึ่ง Linus Torvalds ยืนยันว่าแม้จะมี “เสียงรบกวนจากบั๊กฟิกซ์” มากกว่าที่คาด แต่ก็ไม่มีปัญหาที่ต้องเลื่อนการเปิดตัว ทำให้เวอร์ชันนี้ถูกมองว่าอาจกลายเป็น Long-Term Support (LTS) ของปี 2025

    หนึ่งในไฮไลต์คือการรองรับ Intel Wildcat Lake CPUs และ Panther Lake SoC Power Slider ที่ช่วยให้ผู้ใช้เลือกโหมดพลังงานได้ตามต้องการ รวมถึงการปรับปรุง Intel P-State driver และการรองรับ Intel TDX สำหรับงานด้านความปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีการเพิ่ม Device Tree สำหรับ Apple M2 Pro/Max/Ultra และโน้ตบุ๊ก Snapdragon X1 หลายรุ่น ทำให้การใช้งาน Linux บนฮาร์ดแวร์ใหม่ ๆ ราบรื่นขึ้น

    ฝั่ง AMD ก็มีการปรับปรุงสำคัญ เช่น การรองรับ EPYC Venice processors และการแก้ไขบั๊กที่กระทบ VM ขนาดใหญ่ รวมถึงการเพิ่มฟีเจอร์ Secure AVIC สำหรับ SEV-SNP VM ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพ ขณะเดียวกัน Linux 6.18 ยังเปิดตัว Tyr driver ที่เขียนด้วย Rust สำหรับ GPU Arm Mali CSF ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของการนำ Rust มาใช้ใน Kernel

    ด้านระบบไฟล์ก็มีการเปลี่ยนแปลง เช่น Bcachefs ถูกถอดออกจาก mainline หลังเกิดความขัดแย้งกับ Linus Torvalds, Btrfs ได้รับการเร่งความเร็ว ในงานอ่านข้อมูลหนัก ๆ, และ XFS เปิดใช้งานการตรวจสอบไฟล์ระบบออนไลน์โดยค่าเริ่มต้น ซึ่งช่วยเพิ่มความเสถียรและความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งาน

    สรุปสาระสำคัญ
    การรองรับฮาร์ดแวร์ใหม่
    Intel Wildcat Lake CPUs และ Panther Lake SoC Power Slider
    Apple M2 Pro/Max/Ultra และโน้ตบุ๊ก Snapdragon X1

    การปรับปรุงฝั่ง AMD
    รองรับ EPYC Venice processors และ SEV-SNP VM
    แก้ไขบั๊ก VM ขนาดใหญ่และเพิ่ม Secure AVIC

    การพัฒนา GPU และ Rust
    เปิดตัว Tyr driver สำหรับ Arm Mali CSF GPUs
    เป็น Rust-based driver ที่ยังอยู่ในขั้นทดลอง

    การเปลี่ยนแปลงระบบไฟล์
    Bcachefs ถูกถอดออกจาก mainline
    Btrfs เร็วขึ้น และ XFS เปิดใช้งานตรวจสอบออนไลน์

    คำเตือนและความเสี่ยง
    ผู้ใช้ที่พึ่งพา Bcachefs ต้องใช้ DKMS module แทน
    ฟีเจอร์ใหม่บางอย่างยังอยู่ในขั้นทดลอง อาจไม่เสถียรในงานจริง

    https://itsfoss.com/news/linux-kernel-6-18/
    🐧 Linux Kernel 6.18 เปิดตัว พร้อมลุ้นเป็น LTS ประจำปี 2025 Linux Kernel 6.18 ได้รับการปล่อยออกมาแล้ว โดยมีการปรับปรุงครั้งใหญ่ทั้งด้าน ฮาร์ดแวร์ใหม่, ระบบไฟล์, และความปลอดภัย ซึ่ง Linus Torvalds ยืนยันว่าแม้จะมี “เสียงรบกวนจากบั๊กฟิกซ์” มากกว่าที่คาด แต่ก็ไม่มีปัญหาที่ต้องเลื่อนการเปิดตัว ทำให้เวอร์ชันนี้ถูกมองว่าอาจกลายเป็น Long-Term Support (LTS) ของปี 2025 หนึ่งในไฮไลต์คือการรองรับ Intel Wildcat Lake CPUs และ Panther Lake SoC Power Slider ที่ช่วยให้ผู้ใช้เลือกโหมดพลังงานได้ตามต้องการ รวมถึงการปรับปรุง Intel P-State driver และการรองรับ Intel TDX สำหรับงานด้านความปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีการเพิ่ม Device Tree สำหรับ Apple M2 Pro/Max/Ultra และโน้ตบุ๊ก Snapdragon X1 หลายรุ่น ทำให้การใช้งาน Linux บนฮาร์ดแวร์ใหม่ ๆ ราบรื่นขึ้น ฝั่ง AMD ก็มีการปรับปรุงสำคัญ เช่น การรองรับ EPYC Venice processors และการแก้ไขบั๊กที่กระทบ VM ขนาดใหญ่ รวมถึงการเพิ่มฟีเจอร์ Secure AVIC สำหรับ SEV-SNP VM ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพ ขณะเดียวกัน Linux 6.18 ยังเปิดตัว Tyr driver ที่เขียนด้วย Rust สำหรับ GPU Arm Mali CSF ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของการนำ Rust มาใช้ใน Kernel ด้านระบบไฟล์ก็มีการเปลี่ยนแปลง เช่น Bcachefs ถูกถอดออกจาก mainline หลังเกิดความขัดแย้งกับ Linus Torvalds, Btrfs ได้รับการเร่งความเร็ว ในงานอ่านข้อมูลหนัก ๆ, และ XFS เปิดใช้งานการตรวจสอบไฟล์ระบบออนไลน์โดยค่าเริ่มต้น ซึ่งช่วยเพิ่มความเสถียรและความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งาน 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การรองรับฮาร์ดแวร์ใหม่ ➡️ Intel Wildcat Lake CPUs และ Panther Lake SoC Power Slider ➡️ Apple M2 Pro/Max/Ultra และโน้ตบุ๊ก Snapdragon X1 ✅ การปรับปรุงฝั่ง AMD ➡️ รองรับ EPYC Venice processors และ SEV-SNP VM ➡️ แก้ไขบั๊ก VM ขนาดใหญ่และเพิ่ม Secure AVIC ✅ การพัฒนา GPU และ Rust ➡️ เปิดตัว Tyr driver สำหรับ Arm Mali CSF GPUs ➡️ เป็น Rust-based driver ที่ยังอยู่ในขั้นทดลอง ✅ การเปลี่ยนแปลงระบบไฟล์ ➡️ Bcachefs ถูกถอดออกจาก mainline ➡️ Btrfs เร็วขึ้น และ XFS เปิดใช้งานตรวจสอบออนไลน์ ‼️ คำเตือนและความเสี่ยง ⛔ ผู้ใช้ที่พึ่งพา Bcachefs ต้องใช้ DKMS module แทน ⛔ ฟีเจอร์ใหม่บางอย่างยังอยู่ในขั้นทดลอง อาจไม่เสถียรในงานจริง https://itsfoss.com/news/linux-kernel-6-18/
    0 Comments 0 Shares 97 Views 0 Reviews
  • ศึกชิปขั้นสูง Apple ปะทะ NVIDIA แย่งชิงกำลังผลิต TSMC A16

    ความต้องการด้านการประมวลผล AI ที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ทำให้กำลังการผลิตชิปขั้นสูงของ TSMC กลายเป็นสมรภูมิแข่งขันที่ร้อนแรงที่สุดในโลกเทคโนโลยี โดยเฉพาะ A16 และ A14 nodes ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการประมวลผลระดับ Angstrom-class ซึ่งมีความหนาแน่นทรานซิสเตอร์สูงและประสิทธิภาพเหนือกว่า 3nm รุ่นปัจจุบัน

    Apple ในฐานะลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของ TSMC ต้องเผชิญกับการแข่งขันที่ไม่เคยมีมาก่อนจาก NVIDIA ซึ่งกำลังเร่งขยายกำลังผลิตเพื่อรองรับความต้องการ GPU สำหรับ AI และ Data Center ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นยังมีคู่แข่งรายอื่นอย่าง AMD และ MediaTek ที่พร้อมเข้าร่วมแย่งชิงกำลังผลิตเช่นกัน

    นักวิเคราะห์ชื่อดัง Ming-Chi Kuo ระบุว่า Apple กำลังพิจารณาความร่วมมือกับ Intel Foundry โดยใช้กระบวนการผลิต 18AP สำหรับชิป M-series ระดับเริ่มต้น เช่น iPad และ MacBook Air เพื่อกระจายความเสี่ยงด้านซัพพลายเชน และสงวนกำลังผลิต A16 ของ TSMC สำหรับสินค้าระดับพรีเมียมอย่าง iPhone Pro และ MacBook รุ่นสูง

    การเคลื่อนไหวนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ Apple ลดความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์และการพึ่งพา TSMC แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญของ Intel ที่จะพิสูจน์ความสามารถในการกลับมาแข่งขันในตลาด Foundry อีกครั้ง หาก Intel สามารถตอบโจทย์ Apple ได้ จะเป็นการยกระดับความน่าเชื่อถือและสร้างแรงกดดันต่อ TSMC ในระยะยาว

    สรุปสาระสำคัญ
    การแข่งขันกำลังผลิตชิปขั้นสูง
    Apple และ NVIDIA แย่งชิงกำลังผลิต A16 และ A14 ของ TSMC
    AMD และ MediaTek ก็เข้าร่วมแข่งขันเช่นกัน

    กลยุทธ์ของ Apple
    พิจารณาความร่วมมือกับ Intel Foundry ใช้ 18AP สำหรับชิป M-series ระดับเริ่มต้น
    สงวนกำลังผลิต A16 ของ TSMC สำหรับ iPhone Pro และ MacBook รุ่นสูง

    โอกาสของ Intel
    หากร่วมมือกับ Apple จะเป็นการยืนยันศักยภาพ Foundry ของ Intel
    เพิ่มแรงกดดันต่อ TSMC ในตลาดโลก

    ความเสี่ยงและคำเตือน
    ความต้องการ AI อาจทำให้ซัพพลายเชนตึงตัวและราคาชิปสูงขึ้น
    การแข่งขันรุนแรงอาจส่งผลกระทบต่อการจัดหาชิปของผู้ผลิตรายเล็ก

    https://securityonline.info/semiconductor-showdown-apple-and-nvidia-battle-for-tsmcs-a16-capacity/
    ⚔️ ศึกชิปขั้นสูง Apple ปะทะ NVIDIA แย่งชิงกำลังผลิต TSMC A16 ความต้องการด้านการประมวลผล AI ที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ทำให้กำลังการผลิตชิปขั้นสูงของ TSMC กลายเป็นสมรภูมิแข่งขันที่ร้อนแรงที่สุดในโลกเทคโนโลยี โดยเฉพาะ A16 และ A14 nodes ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการประมวลผลระดับ Angstrom-class ซึ่งมีความหนาแน่นทรานซิสเตอร์สูงและประสิทธิภาพเหนือกว่า 3nm รุ่นปัจจุบัน Apple ในฐานะลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของ TSMC ต้องเผชิญกับการแข่งขันที่ไม่เคยมีมาก่อนจาก NVIDIA ซึ่งกำลังเร่งขยายกำลังผลิตเพื่อรองรับความต้องการ GPU สำหรับ AI และ Data Center ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นยังมีคู่แข่งรายอื่นอย่าง AMD และ MediaTek ที่พร้อมเข้าร่วมแย่งชิงกำลังผลิตเช่นกัน นักวิเคราะห์ชื่อดัง Ming-Chi Kuo ระบุว่า Apple กำลังพิจารณาความร่วมมือกับ Intel Foundry โดยใช้กระบวนการผลิต 18AP สำหรับชิป M-series ระดับเริ่มต้น เช่น iPad และ MacBook Air เพื่อกระจายความเสี่ยงด้านซัพพลายเชน และสงวนกำลังผลิต A16 ของ TSMC สำหรับสินค้าระดับพรีเมียมอย่าง iPhone Pro และ MacBook รุ่นสูง การเคลื่อนไหวนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ Apple ลดความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์และการพึ่งพา TSMC แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญของ Intel ที่จะพิสูจน์ความสามารถในการกลับมาแข่งขันในตลาด Foundry อีกครั้ง หาก Intel สามารถตอบโจทย์ Apple ได้ จะเป็นการยกระดับความน่าเชื่อถือและสร้างแรงกดดันต่อ TSMC ในระยะยาว 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การแข่งขันกำลังผลิตชิปขั้นสูง ➡️ Apple และ NVIDIA แย่งชิงกำลังผลิต A16 และ A14 ของ TSMC ➡️ AMD และ MediaTek ก็เข้าร่วมแข่งขันเช่นกัน ✅ กลยุทธ์ของ Apple ➡️ พิจารณาความร่วมมือกับ Intel Foundry ใช้ 18AP สำหรับชิป M-series ระดับเริ่มต้น ➡️ สงวนกำลังผลิต A16 ของ TSMC สำหรับ iPhone Pro และ MacBook รุ่นสูง ✅ โอกาสของ Intel ➡️ หากร่วมมือกับ Apple จะเป็นการยืนยันศักยภาพ Foundry ของ Intel ➡️ เพิ่มแรงกดดันต่อ TSMC ในตลาดโลก ‼️ ความเสี่ยงและคำเตือน ⛔ ความต้องการ AI อาจทำให้ซัพพลายเชนตึงตัวและราคาชิปสูงขึ้น ⛔ การแข่งขันรุนแรงอาจส่งผลกระทบต่อการจัดหาชิปของผู้ผลิตรายเล็ก https://securityonline.info/semiconductor-showdown-apple-and-nvidia-battle-for-tsmcs-a16-capacity/
    SECURITYONLINE.INFO
    Semiconductor Showdown: Apple and NVIDIA Battle for TSMC's A16 Capacity
    Apple and NVIDIA are fiercely competing for TSMC's next-gen A16/A14 capacity. To mitigate risk, Apple is exploring using Intel's 18AP process for entry-level M-series chips.
    0 Comments 0 Shares 78 Views 0 Reviews
  • NVIDIA จับมือ TSMC ใช้เทคโนโลยี A16 สำหรับ GPU รุ่น Feynman

    รายงานล่าสุดเผยว่า NVIDIA เป็นลูกค้ารายแรกและรายเดียวของ TSMC สำหรับกระบวนการผลิต A16 (1.6nm) ซึ่งจะถูกนำมาใช้กับ GPU รุ่นใหม่ในตระกูล Feynman โดยจะต่อยอดจากรุ่น Rubin ที่วางแผนเปิดตัวในปี 2026–2027 การใช้ A16 จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านความเร็ว 8–10% ลดการใช้พลังงาน 15–20% และเพิ่มความหนาแน่นของชิป 7–10% เมื่อเทียบกับเทคโนโลยี N2P.

    เทคโนโลยี A16 ใช้โครงสร้าง Nanosheet พร้อมระบบ Super Power Rail (SPR) ที่ช่วยปรับปรุงการส่งพลังงานจากด้านหลังของชิป ทำให้เหมาะกับงาน AI และ High-Performance Computing (HPC) ซึ่งเป็นตลาดที่ NVIDIA ครองความเป็นผู้นำอยู่แล้ว การเป็นลูกค้ารายแรกยังทำให้ NVIDIA ได้สิทธิ์เข้าถึงกำลังการผลิตก่อนคู่แข่ง.

    แผนการผลิตระบุว่าโรงงาน P3 ของ TSMC ในเมืองเกาสงจะเริ่มผลิตชิป A16 ในปี 2027 เพื่อตอบสนองต่อโรดแมปของ NVIDIA ที่วางแผนเปิดตัว GPU Feynman ในปี 2028 โดยก่อนหน้านั้น NVIDIA จะใช้ชิป Rubin ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี N3P (3nm) และ Rubin Ultra ที่ใช้ N2P (2nm).

    ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่าง NVIDIA และ TSMC ในยุคที่ความต้องการชิป AI พุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง ทั้งสองบริษัทเพิ่งฉลองการผลิตเวเฟอร์ Blackwell บนแผ่นดินสหรัฐเป็นครั้งแรก และกำลังเร่งขยายกำลังผลิตเพื่อรับมือกับความต้องการมหาศาลจากตลาด AI และดาต้าเซ็นเตอร์.

    สรุปสาระสำคัญและข้อควรระวัง
    NVIDIA เป็นลูกค้ารายแรกของ TSMC สำหรับ A16
    ใช้กับ GPU รุ่น Feynman ที่คาดว่าจะเปิดตัวปี 2028
    ได้สิทธิ์เข้าถึงกำลังการผลิตก่อนคู่แข่ง

    เทคโนโลยี A16 มีประสิทธิภาพสูงกว่า N2P
    ความเร็วเพิ่มขึ้น 8–10%
    ลดการใช้พลังงาน 15–20%
    ความหนาแน่นชิปสูงขึ้น 7–10%

    โรงงาน P3 ของ TSMC จะเริ่มผลิตในปี 2027
    รองรับโรดแมป GPU Rubin และ Feynman
    สอดคล้องกับความต้องการชิป AI ที่เพิ่มขึ้น

    ความเสี่ยงด้านการแข่งขันและตลาด
    คู่แข่งอย่าง AMD, Google, Microsoft อาจเร่งพัฒนาเทคโนโลยีใหม่เพื่อตามทัน
    ความต้องการสูงอาจทำให้เกิดปัญหาคอขวดด้านซัพพลาย

    ความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมและการผลิต
    การผลิตชิปขั้นสูงใช้ทรัพยากรและพลังงานมหาศาล
    อาจกระทบต่อความยั่งยืนหากไม่มีมาตรการจัดการที่ดี

    https://wccftech.com/nvidia-first-only-customer-for-tsmc-a16-process-node-for-next-gen-feynman-gpus/
    📰 NVIDIA จับมือ TSMC ใช้เทคโนโลยี A16 สำหรับ GPU รุ่น Feynman 🔧 รายงานล่าสุดเผยว่า NVIDIA เป็นลูกค้ารายแรกและรายเดียวของ TSMC สำหรับกระบวนการผลิต A16 (1.6nm) ซึ่งจะถูกนำมาใช้กับ GPU รุ่นใหม่ในตระกูล Feynman โดยจะต่อยอดจากรุ่น Rubin ที่วางแผนเปิดตัวในปี 2026–2027 การใช้ A16 จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านความเร็ว 8–10% ลดการใช้พลังงาน 15–20% และเพิ่มความหนาแน่นของชิป 7–10% เมื่อเทียบกับเทคโนโลยี N2P. ⚡ เทคโนโลยี A16 ใช้โครงสร้าง Nanosheet พร้อมระบบ Super Power Rail (SPR) ที่ช่วยปรับปรุงการส่งพลังงานจากด้านหลังของชิป ทำให้เหมาะกับงาน AI และ High-Performance Computing (HPC) ซึ่งเป็นตลาดที่ NVIDIA ครองความเป็นผู้นำอยู่แล้ว การเป็นลูกค้ารายแรกยังทำให้ NVIDIA ได้สิทธิ์เข้าถึงกำลังการผลิตก่อนคู่แข่ง. 🏭 แผนการผลิตระบุว่าโรงงาน P3 ของ TSMC ในเมืองเกาสงจะเริ่มผลิตชิป A16 ในปี 2027 เพื่อตอบสนองต่อโรดแมปของ NVIDIA ที่วางแผนเปิดตัว GPU Feynman ในปี 2028 โดยก่อนหน้านั้น NVIDIA จะใช้ชิป Rubin ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี N3P (3nm) และ Rubin Ultra ที่ใช้ N2P (2nm). 🌍 ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่าง NVIDIA และ TSMC ในยุคที่ความต้องการชิป AI พุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง ทั้งสองบริษัทเพิ่งฉลองการผลิตเวเฟอร์ Blackwell บนแผ่นดินสหรัฐเป็นครั้งแรก และกำลังเร่งขยายกำลังผลิตเพื่อรับมือกับความต้องการมหาศาลจากตลาด AI และดาต้าเซ็นเตอร์. 📌 สรุปสาระสำคัญและข้อควรระวัง ✅ NVIDIA เป็นลูกค้ารายแรกของ TSMC สำหรับ A16 ➡️ ใช้กับ GPU รุ่น Feynman ที่คาดว่าจะเปิดตัวปี 2028 ➡️ ได้สิทธิ์เข้าถึงกำลังการผลิตก่อนคู่แข่ง ✅ เทคโนโลยี A16 มีประสิทธิภาพสูงกว่า N2P ➡️ ความเร็วเพิ่มขึ้น 8–10% ➡️ ลดการใช้พลังงาน 15–20% ➡️ ความหนาแน่นชิปสูงขึ้น 7–10% ✅ โรงงาน P3 ของ TSMC จะเริ่มผลิตในปี 2027 ➡️ รองรับโรดแมป GPU Rubin และ Feynman ➡️ สอดคล้องกับความต้องการชิป AI ที่เพิ่มขึ้น ‼️ ความเสี่ยงด้านการแข่งขันและตลาด ⛔ คู่แข่งอย่าง AMD, Google, Microsoft อาจเร่งพัฒนาเทคโนโลยีใหม่เพื่อตามทัน ⛔ ความต้องการสูงอาจทำให้เกิดปัญหาคอขวดด้านซัพพลาย ‼️ ความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมและการผลิต ⛔ การผลิตชิปขั้นสูงใช้ทรัพยากรและพลังงานมหาศาล ⛔ อาจกระทบต่อความยั่งยืนหากไม่มีมาตรการจัดการที่ดี https://wccftech.com/nvidia-first-only-customer-for-tsmc-a16-process-node-for-next-gen-feynman-gpus/
    WCCFTECH.COM
    NVIDIA Reportedly The First & Only Customer For TSMC's Bleeding-Edge A16 Process Node, Utilizing For Next-Gen GPUs
    NVIDIA is reportedly the only customer in line for TSMC's next-gen A16 process technology, eyeing it for future GPUs such as Feynman.
    0 Comments 0 Shares 138 Views 0 Reviews
  • “AMD vs Intel – ศึก CPU ปี 2025”

    การแข่งขันระหว่าง AMD และ Intel ยังคงดุเดือดในตลาดเดสก์ท็อป โดยปี 2025 AMD เปิดตัว Ryzen 9000 series (Zen 5) และรุ่น X3D ที่ใช้เทคโนโลยี 3D V-Cache ทำให้ได้เปรียบด้านเกมมิ่งอย่างชัดเจน ขณะที่ Intel เปิดตัว Core Ultra 200S (Arrow Lake) ที่เน้นสถาปัตยกรรมไฮบริด P-core + E-core เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในงาน productivity แต่กลับถูกวิจารณ์ว่าประสิทธิภาพเกมมิ่งลดลงเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน

    AMD Ryzen 9000X3D เช่น Ryzen 9 9800X3D ถูกยกให้เป็น CPU เกมมิ่งที่เร็วที่สุดในโลก ด้วยการเพิ่ม L3 cache ขนาดใหญ่ ทำให้เฟรมเรตสูงกว่า Intel ถึง 30% ในหลายเกม ขณะที่ Intel Core Ultra 7 285K แม้จะมีประสิทธิภาพ single-thread สูง แต่โครงสร้าง chiplet แบบใหม่กลับทำให้เกมมิ่งช้าลง

    ในด้าน งาน productivity และ content creation Intel ยังคงได้เปรียบในงาน single-thread ด้วย P-core ที่แรงกว่า แต่ AMD ชนะในงาน multi-thread ด้วยจำนวนคอร์ที่มากกว่าและรองรับ AVX-512 ทำให้เหมาะกับงาน render และ simulation

    ด้าน พลังงานและความร้อน AMD ได้เปรียบชัดเจนด้วยกระบวนการผลิต 4nm ของ TSMC ที่มีประสิทธิภาพต่อวัตต์สูงกว่า Intel Arrow Lake ที่ยังใช้พลังงานมากกว่า แม้ Intel จะปรับปรุงแล้วแต่ยังไม่สามารถสู้ AMD ได้ใน efficiency

    สรุปสาระสำคัญ
    AMD ได้เปรียบ
    เกมมิ่ง: Ryzen 9000X3D เร็วกว่า Intel ~30%
    Multi-thread: เหมาะกับงาน render, simulation
    พลังงาน: 4nm TSMC ประหยัดไฟและเย็นกว่า
    ความปลอดภัย: เจอช่องโหว่น้อยกว่า Intel

    Intel ได้เปรียบ
    Single-thread: P-core แรงกว่า เหมาะกับงาน latency-sensitive
    Overclocking: มี headroom สูงกว่า AMD
    ไดรเวอร์/ซอฟต์แวร์: เสถียรกว่าใน ecosystem OEM

    ข้อควรระวัง
    Intel Arrow Lake ไม่ backward-compatible กับเมนบอร์ดรุ่นเก่า (LGA 1851)
    AMD X3D แม้แรง แต่ราคาสูงกว่ารุ่นปกติ

    https://www.tomshardware.com/features/amd-vs-intel-cpus
    🖥️ “AMD vs Intel – ศึก CPU ปี 2025” การแข่งขันระหว่าง AMD และ Intel ยังคงดุเดือดในตลาดเดสก์ท็อป โดยปี 2025 AMD เปิดตัว Ryzen 9000 series (Zen 5) และรุ่น X3D ที่ใช้เทคโนโลยี 3D V-Cache ทำให้ได้เปรียบด้านเกมมิ่งอย่างชัดเจน ขณะที่ Intel เปิดตัว Core Ultra 200S (Arrow Lake) ที่เน้นสถาปัตยกรรมไฮบริด P-core + E-core เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในงาน productivity แต่กลับถูกวิจารณ์ว่าประสิทธิภาพเกมมิ่งลดลงเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน AMD Ryzen 9000X3D เช่น Ryzen 9 9800X3D ถูกยกให้เป็น CPU เกมมิ่งที่เร็วที่สุดในโลก ด้วยการเพิ่ม L3 cache ขนาดใหญ่ ทำให้เฟรมเรตสูงกว่า Intel ถึง 30% ในหลายเกม ขณะที่ Intel Core Ultra 7 285K แม้จะมีประสิทธิภาพ single-thread สูง แต่โครงสร้าง chiplet แบบใหม่กลับทำให้เกมมิ่งช้าลง ในด้าน งาน productivity และ content creation Intel ยังคงได้เปรียบในงาน single-thread ด้วย P-core ที่แรงกว่า แต่ AMD ชนะในงาน multi-thread ด้วยจำนวนคอร์ที่มากกว่าและรองรับ AVX-512 ทำให้เหมาะกับงาน render และ simulation ด้าน พลังงานและความร้อน AMD ได้เปรียบชัดเจนด้วยกระบวนการผลิต 4nm ของ TSMC ที่มีประสิทธิภาพต่อวัตต์สูงกว่า Intel Arrow Lake ที่ยังใช้พลังงานมากกว่า แม้ Intel จะปรับปรุงแล้วแต่ยังไม่สามารถสู้ AMD ได้ใน efficiency 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ AMD ได้เปรียบ ➡️ เกมมิ่ง: Ryzen 9000X3D เร็วกว่า Intel ~30% ➡️ Multi-thread: เหมาะกับงาน render, simulation ➡️ พลังงาน: 4nm TSMC ประหยัดไฟและเย็นกว่า ➡️ ความปลอดภัย: เจอช่องโหว่น้อยกว่า Intel ✅ Intel ได้เปรียบ ➡️ Single-thread: P-core แรงกว่า เหมาะกับงาน latency-sensitive ➡️ Overclocking: มี headroom สูงกว่า AMD ➡️ ไดรเวอร์/ซอฟต์แวร์: เสถียรกว่าใน ecosystem OEM ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ Intel Arrow Lake ไม่ backward-compatible กับเมนบอร์ดรุ่นเก่า (LGA 1851) ⛔ AMD X3D แม้แรง แต่ราคาสูงกว่ารุ่นปกติ https://www.tomshardware.com/features/amd-vs-intel-cpus
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Intel vs AMD: Which CPUs Are Better in 2025?
    We put Intel vs AMD in a battle of processor prowess.
    0 Comments 0 Shares 95 Views 0 Reviews
  • “AMD แย้ม Ryzen 7 9850X3D – อาจเป็น CPU เล่นเกมที่เร็วที่สุดรุ่นใหม่”

    AMD ได้มีการกล่าวถึงชื่อ Ryzen 7 9850X3D ในหน้า Drivers and Downloads ของเว็บไซต์ ทำให้เกิดการคาดการณ์ว่า บริษัทกำลังเตรียมเปิดตัวรุ่นใหม่ที่เน้นการเล่นเกมโดยเฉพาะ ปัจจุบัน Ryzen 7 9800X3D มี 8 คอร์ ความเร็วสูงสุด 5.2 GHz และ L3 cache 96MB ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็น CPU เล่นเกมที่ดีที่สุดในตลาด หากรุ่นใหม่มีหมายเลขสูงกว่า ย่อมบ่งชี้ถึงการปรับปรุงด้านประสิทธิภาพ

    สิ่งที่คาดว่าจะเปลี่ยนแปลงคือ การปรับปรุง clock speed และ boosting behavior โดยใช้เทคโนโลยีการแพ็กเกจใหม่จาก TSMC ที่ช่วยลดปัญหาความร้อน ทำให้สามารถดันความเร็วสูงขึ้นโดยไม่กระทบเสถียรภาพ นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงด้านการจัดการพลังงานและเฟิร์มแวร์ เพื่อเพิ่ม responsiveness ในงานที่ใช้เธรดน้อย เช่น เกมและงาน UI

    อย่างไรก็ตาม AMD ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเต็ม เช่น ความเร็ว base/boost ที่แน่นอน หรือวันเปิดตัว ทำให้ข้อมูลยังอยู่ในระดับ “การยืนยันการมีอยู่” เท่านั้น นักวิเคราะห์คาดว่า CPU รุ่นนี้จะยังคงใช้ 8 คอร์/16 เธรด และ L3 cache แบบ 3D V-Cache เช่นเดิม แต่จะเน้นการปรับแต่งเพื่อให้ได้ single-thread performance ที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเกมเมอร์

    สิ่งที่ต้องระวังคือ ความร้อนและการระบายความร้อน เนื่องจาก clock speed ที่สูงขึ้นจะเพิ่มความหนาแน่นของความร้อน ทำให้ผู้ใช้ต้องใช้ระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะหากต้องการดึงศักยภาพสูงสุดของ CPU รุ่นนี้

    สรุปสาระสำคัญ
    การกล่าวถึง Ryzen 7 9850X3D
    ปรากฏในหน้า Drivers ของ AMD
    คาดว่าเป็นรุ่นใหม่ที่เน้นการเล่นเกม

    คุณสมบัติที่คาดการณ์
    8 คอร์/16 เธรด พร้อม L3 cache 3D V-Cache
    ปรับปรุง clock speed และ boosting behavior
    ใช้เทคโนโลยีแพ็กเกจใหม่จาก TSMC

    เป้าหมายการปรับปรุง
    เพิ่ม single-thread performance สำหรับเกม
    ปรับปรุง responsiveness ในงานเบา

    ข้อควรระวัง
    ยังไม่มีข้อมูลสเปกเต็มหรือวันเปิดตัว
    ความร้อนสูงขึ้น อาจต้องใช้ระบบระบายความร้อนที่ดีกว่า

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-mentions-unreleased-gaming-optimized-ryzen-7-9850x3d-could-be-the-next-fastest-gaming-cpu-ever
    🖥️ “AMD แย้ม Ryzen 7 9850X3D – อาจเป็น CPU เล่นเกมที่เร็วที่สุดรุ่นใหม่” AMD ได้มีการกล่าวถึงชื่อ Ryzen 7 9850X3D ในหน้า Drivers and Downloads ของเว็บไซต์ ทำให้เกิดการคาดการณ์ว่า บริษัทกำลังเตรียมเปิดตัวรุ่นใหม่ที่เน้นการเล่นเกมโดยเฉพาะ ปัจจุบัน Ryzen 7 9800X3D มี 8 คอร์ ความเร็วสูงสุด 5.2 GHz และ L3 cache 96MB ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็น CPU เล่นเกมที่ดีที่สุดในตลาด หากรุ่นใหม่มีหมายเลขสูงกว่า ย่อมบ่งชี้ถึงการปรับปรุงด้านประสิทธิภาพ สิ่งที่คาดว่าจะเปลี่ยนแปลงคือ การปรับปรุง clock speed และ boosting behavior โดยใช้เทคโนโลยีการแพ็กเกจใหม่จาก TSMC ที่ช่วยลดปัญหาความร้อน ทำให้สามารถดันความเร็วสูงขึ้นโดยไม่กระทบเสถียรภาพ นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงด้านการจัดการพลังงานและเฟิร์มแวร์ เพื่อเพิ่ม responsiveness ในงานที่ใช้เธรดน้อย เช่น เกมและงาน UI อย่างไรก็ตาม AMD ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเต็ม เช่น ความเร็ว base/boost ที่แน่นอน หรือวันเปิดตัว ทำให้ข้อมูลยังอยู่ในระดับ “การยืนยันการมีอยู่” เท่านั้น นักวิเคราะห์คาดว่า CPU รุ่นนี้จะยังคงใช้ 8 คอร์/16 เธรด และ L3 cache แบบ 3D V-Cache เช่นเดิม แต่จะเน้นการปรับแต่งเพื่อให้ได้ single-thread performance ที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเกมเมอร์ สิ่งที่ต้องระวังคือ ความร้อนและการระบายความร้อน เนื่องจาก clock speed ที่สูงขึ้นจะเพิ่มความหนาแน่นของความร้อน ทำให้ผู้ใช้ต้องใช้ระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะหากต้องการดึงศักยภาพสูงสุดของ CPU รุ่นนี้ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การกล่าวถึง Ryzen 7 9850X3D ➡️ ปรากฏในหน้า Drivers ของ AMD ➡️ คาดว่าเป็นรุ่นใหม่ที่เน้นการเล่นเกม ✅ คุณสมบัติที่คาดการณ์ ➡️ 8 คอร์/16 เธรด พร้อม L3 cache 3D V-Cache ➡️ ปรับปรุง clock speed และ boosting behavior ➡️ ใช้เทคโนโลยีแพ็กเกจใหม่จาก TSMC ✅ เป้าหมายการปรับปรุง ➡️ เพิ่ม single-thread performance สำหรับเกม ➡️ ปรับปรุง responsiveness ในงานเบา ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ ยังไม่มีข้อมูลสเปกเต็มหรือวันเปิดตัว ⛔ ความร้อนสูงขึ้น อาจต้องใช้ระบบระบายความร้อนที่ดีกว่า https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-mentions-unreleased-gaming-optimized-ryzen-7-9850x3d-could-be-the-next-fastest-gaming-cpu-ever
    0 Comments 0 Shares 101 Views 0 Reviews
  • ข่าว: Micron ลงทุนสร้างโรงงาน HBM ในญี่ปุ่น

    Micron วางแผนขยายโรงงานที่ฮิโรชิมาเพื่อสร้างโรงงานผลิต High-Bandwidth Memory (HBM) โดยใช้งบลงทุนกว่า 1.5 ล้านล้านเยน (9.6 พันล้านดอลลาร์) การก่อสร้างจะเริ่มในเดือนพฤษภาคมปีหน้า และคาดว่าจะเริ่มส่งมอบผลิตภัณฑ์ในปี 2028

    การสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่น
    กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น (METI) คาดว่าจะสนับสนุนเงินอุดหนุนสูงสุดถึง 500 พันล้านเยน เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและเสริมสร้างศักยภาพอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ที่ญี่ปุ่นใช้กับโครงการของ TSMC และ Rapidus ที่ได้รับการสนับสนุนเช่นกัน

    บริบทการแข่งขันในตลาด HBM
    ตลาด HBM กำลังเป็นหัวใจสำคัญของซัพพลายเชน AI โดย SK hynix ครองตลาดหลักและส่งออกให้ Nvidia จนถึงปี 2026 ขณะที่ Samsung กำลังเร่งพัฒนา HBM3E แบบ 12 ชั้น ส่วน Micron เองก็มีสัญญาซัพพลายกับ Nvidia และ AMD และกำลังขยายส่วนแบ่งตลาดไปถึง 20% การสร้างโรงงานใหม่ในญี่ปุ่นจะช่วยเพิ่มศักยภาพและลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์

    ความสำคัญต่ออนาคต AI
    โรงงานใหม่นี้จะตรงกับช่วงที่ GPU รุ่นถัดไป (HBM4/HBM4E) เริ่มเข้าสู่ตลาด ซึ่งต้องการหน่วยความจำที่มีความเร็วและความหนาแน่นสูงขึ้น หาก Micron สามารถผลิตได้ตามแผนในปี 2028 จะช่วยให้บริษัทมีบทบาทสำคัญในตลาด AI accelerators ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

    สรุปเป็นหัวข้อ
    เหตุการณ์ในข่าว
    Micron ลงทุน 9.6 พันล้านดอลลาร์สร้างโรงงาน HBM ที่ฮิโรชิมา
    เริ่มก่อสร้างปีหน้า และคาดว่าจะผลิตได้ในปี 2028

    ข้อมูลเสริมจาก Internet
    SK hynix ครองตลาด HBM และส่งออกให้ Nvidia จนถึงปี 2026
    Samsung เร่งพัฒนา HBM3E แบบ 12 ชั้น
    Micron มีสัญญาซัพพลายกับ Nvidia และ AMD และกำลังขยายส่วนแบ่งตลาดถึง 20%

    คำเตือนสำหรับอุตสาหกรรม
    ความต้องการ HBM สูงมาก อาจทำให้เกิดการขาดแคลนและราคาพุ่ง
    การแข่งขันระหว่าง SK hynix, Samsung และ Micron อาจทำให้ตลาดผันผวน
    ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ความสัมพันธ์สหรัฐ-จีน อาจกระทบซัพพลายเชน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/micron-plans-hbm-fab-in-japan-as-ai-memory-race-accelerates
    🏭 ข่าว: Micron ลงทุนสร้างโรงงาน HBM ในญี่ปุ่น Micron วางแผนขยายโรงงานที่ฮิโรชิมาเพื่อสร้างโรงงานผลิต High-Bandwidth Memory (HBM) โดยใช้งบลงทุนกว่า 1.5 ล้านล้านเยน (9.6 พันล้านดอลลาร์) การก่อสร้างจะเริ่มในเดือนพฤษภาคมปีหน้า และคาดว่าจะเริ่มส่งมอบผลิตภัณฑ์ในปี 2028 💰 การสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่น กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น (METI) คาดว่าจะสนับสนุนเงินอุดหนุนสูงสุดถึง 500 พันล้านเยน เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและเสริมสร้างศักยภาพอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ที่ญี่ปุ่นใช้กับโครงการของ TSMC และ Rapidus ที่ได้รับการสนับสนุนเช่นกัน ⚡ บริบทการแข่งขันในตลาด HBM ตลาด HBM กำลังเป็นหัวใจสำคัญของซัพพลายเชน AI โดย SK hynix ครองตลาดหลักและส่งออกให้ Nvidia จนถึงปี 2026 ขณะที่ Samsung กำลังเร่งพัฒนา HBM3E แบบ 12 ชั้น ส่วน Micron เองก็มีสัญญาซัพพลายกับ Nvidia และ AMD และกำลังขยายส่วนแบ่งตลาดไปถึง 20% การสร้างโรงงานใหม่ในญี่ปุ่นจะช่วยเพิ่มศักยภาพและลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ 🚀 ความสำคัญต่ออนาคต AI โรงงานใหม่นี้จะตรงกับช่วงที่ GPU รุ่นถัดไป (HBM4/HBM4E) เริ่มเข้าสู่ตลาด ซึ่งต้องการหน่วยความจำที่มีความเร็วและความหนาแน่นสูงขึ้น หาก Micron สามารถผลิตได้ตามแผนในปี 2028 จะช่วยให้บริษัทมีบทบาทสำคัญในตลาด AI accelerators ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ เหตุการณ์ในข่าว ➡️ Micron ลงทุน 9.6 พันล้านดอลลาร์สร้างโรงงาน HBM ที่ฮิโรชิมา ➡️ เริ่มก่อสร้างปีหน้า และคาดว่าจะผลิตได้ในปี 2028 ✅ ข้อมูลเสริมจาก Internet ➡️ SK hynix ครองตลาด HBM และส่งออกให้ Nvidia จนถึงปี 2026 ➡️ Samsung เร่งพัฒนา HBM3E แบบ 12 ชั้น ➡️ Micron มีสัญญาซัพพลายกับ Nvidia และ AMD และกำลังขยายส่วนแบ่งตลาดถึง 20% ‼️ คำเตือนสำหรับอุตสาหกรรม ⛔ ความต้องการ HBM สูงมาก อาจทำให้เกิดการขาดแคลนและราคาพุ่ง ⛔ การแข่งขันระหว่าง SK hynix, Samsung และ Micron อาจทำให้ตลาดผันผวน ⛔ ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ความสัมพันธ์สหรัฐ-จีน อาจกระทบซัพพลายเชน https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/micron-plans-hbm-fab-in-japan-as-ai-memory-race-accelerates
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Micron plans $9.6 billion HBM fab in Japan as AI memory race accelerates
    U.S. chipmaker set to expand Hiroshima site with heavy support from Tokyo.
    0 Comments 0 Shares 149 Views 0 Reviews
  • Bazzite ดิสโทรเกมมิ่งมาแรง

    ข่าวนี้เล่าถึงความสำเร็จของ Linux ดิสโทร Bazzite ที่มียอดดาวน์โหลดทะลุ 1 เพตะไบต์ในเวลาเพียงเดือนเดียว หลังผู้ใช้จำนวนมากหนีจากการบังคับอัปเดต Windows 11 โดยเฉพาะกลุ่มเกมเมอร์ที่มองหาทางเลือกใหม่

    ทีมพัฒนา Bazzite ประกาศว่าในช่วง 30 วันล่าสุดมีการดาวน์โหลดไฟล์ ISO รวมกว่า 1 เพตะไบต์ หรือประมาณ 150,000 ครั้ง ตัวเลขนี้สะท้อนถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้นหลังจาก Microsoft ยุติการสนับสนุน Windows 10 และบังคับให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ Windows 11 ซึ่งหลายคนไม่พอใจ

    จุดเด่นของ Bazzite
    Bazzite ถูกออกแบบมาเพื่อเป็น ทางเลือกสำหรับเกมเมอร์ โดยมีการปรับแต่งให้รองรับเกมบน Steam และยังรองรับ Launcher อื่น ๆ เช่น Epic, GOG และ Ubisoft จุดแข็งคือมี ไดรเวอร์ล่าสุดสำหรับทั้ง Nvidia และ AMD รวมถึงตัวเลือก Desktop Environment ที่หลากหลาย ทำให้ผู้ใช้สามารถติดตั้งได้ง่ายและใช้งานได้กับเครื่องหลายประเภท

    สาระเพิ่มเติมจากโลกออนไลน์
    ข้อมูลล่าสุดเผยว่า เกือบ 90% ของเกม Windows สามารถเล่นบน Linux ได้แล้ว ผ่านเครื่องมืออย่าง Proton และ Wine ทำให้การย้ายจาก Windows มาสู่ Linux ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป นอกจากนี้ยังมีดิสโทรอื่น ๆ เช่น Zorin OS ที่ได้รับความนิยมเช่นกัน โดยมีผู้ใช้ใหม่กว่า 780,000 รายในเวลาเพียง 5 สัปดาห์หลัง Windows 10 หมดอายุการสนับสนุน

    สรุปเป็นหัวข้อ
    เหตุการณ์ในข่าว
    Bazzite มียอดดาวน์โหลดทะลุ 1 เพตะไบต์ใน 30 วัน
    ผู้ใช้จำนวนมากหนีจาก Windows 11 หลัง Windows 10 หมดอายุการสนับสนุน

    ข้อมูลเสริมจาก Internet
    เกือบ 90% ของเกม Windows เล่นได้บน Linux แล้ว
    Zorin OS ก็ได้รับความนิยมสูง มีผู้ใช้ใหม่กว่า 780,000 รายใน 5 สัปดาห์

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    การย้ายจาก Windows ไป Linux อาจมีปัญหาความเข้ากันได้กับบางโปรแกรมเฉพาะทาง
    ผู้ใช้ใหม่ควรตรวจสอบว่าเกมหรือซอฟต์แวร์ที่ต้องการรองรับจริงก่อนเปลี่ยนระบบ

    https://www.tomshardware.com/software/linux/gaming-first-linux-distro-delivers-a-petabyte-of-isos-in-one-month-as-users-avoid-forced-updates-to-windows-11-bazzite-distro-is-another-safe-haven-for-win-10-refugees
    🎮 Bazzite ดิสโทรเกมมิ่งมาแรง ข่าวนี้เล่าถึงความสำเร็จของ Linux ดิสโทร Bazzite ที่มียอดดาวน์โหลดทะลุ 1 เพตะไบต์ในเวลาเพียงเดือนเดียว หลังผู้ใช้จำนวนมากหนีจากการบังคับอัปเดต Windows 11 โดยเฉพาะกลุ่มเกมเมอร์ที่มองหาทางเลือกใหม่ ทีมพัฒนา Bazzite ประกาศว่าในช่วง 30 วันล่าสุดมีการดาวน์โหลดไฟล์ ISO รวมกว่า 1 เพตะไบต์ หรือประมาณ 150,000 ครั้ง ตัวเลขนี้สะท้อนถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้นหลังจาก Microsoft ยุติการสนับสนุน Windows 10 และบังคับให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ Windows 11 ซึ่งหลายคนไม่พอใจ 🕹️ จุดเด่นของ Bazzite Bazzite ถูกออกแบบมาเพื่อเป็น ทางเลือกสำหรับเกมเมอร์ โดยมีการปรับแต่งให้รองรับเกมบน Steam และยังรองรับ Launcher อื่น ๆ เช่น Epic, GOG และ Ubisoft จุดแข็งคือมี ไดรเวอร์ล่าสุดสำหรับทั้ง Nvidia และ AMD รวมถึงตัวเลือก Desktop Environment ที่หลากหลาย ทำให้ผู้ใช้สามารถติดตั้งได้ง่ายและใช้งานได้กับเครื่องหลายประเภท 🌍 สาระเพิ่มเติมจากโลกออนไลน์ ข้อมูลล่าสุดเผยว่า เกือบ 90% ของเกม Windows สามารถเล่นบน Linux ได้แล้ว ผ่านเครื่องมืออย่าง Proton และ Wine ทำให้การย้ายจาก Windows มาสู่ Linux ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป นอกจากนี้ยังมีดิสโทรอื่น ๆ เช่น Zorin OS ที่ได้รับความนิยมเช่นกัน โดยมีผู้ใช้ใหม่กว่า 780,000 รายในเวลาเพียง 5 สัปดาห์หลัง Windows 10 หมดอายุการสนับสนุน 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ เหตุการณ์ในข่าว ➡️ Bazzite มียอดดาวน์โหลดทะลุ 1 เพตะไบต์ใน 30 วัน ➡️ ผู้ใช้จำนวนมากหนีจาก Windows 11 หลัง Windows 10 หมดอายุการสนับสนุน ✅ ข้อมูลเสริมจาก Internet ➡️ เกือบ 90% ของเกม Windows เล่นได้บน Linux แล้ว ➡️ Zorin OS ก็ได้รับความนิยมสูง มีผู้ใช้ใหม่กว่า 780,000 รายใน 5 สัปดาห์ ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ การย้ายจาก Windows ไป Linux อาจมีปัญหาความเข้ากันได้กับบางโปรแกรมเฉพาะทาง ⛔ ผู้ใช้ใหม่ควรตรวจสอบว่าเกมหรือซอฟต์แวร์ที่ต้องการรองรับจริงก่อนเปลี่ยนระบบ https://www.tomshardware.com/software/linux/gaming-first-linux-distro-delivers-a-petabyte-of-isos-in-one-month-as-users-avoid-forced-updates-to-windows-11-bazzite-distro-is-another-safe-haven-for-win-10-refugees
    0 Comments 0 Shares 103 Views 0 Reviews
  • Fuxi A0 GPU: การ์ดจอจีนรุ่นใหม่พร้อม Ray Tracing

    บริษัท Xiang Dixian จากจีนได้เปิดตัวการ์ดจอรุ่นใหม่ชื่อ Fuxi A0 GPU ในงาน ICCAD Expo ที่เมืองเฉิงตู โดยใช้สถาปัตยกรรม Imagination DXD ซึ่งเป็นกราฟิก IP รุ่นล่าสุดจาก Imagination Technologies จุดเด่นคือการผลิตด้วยกระบวนการ 5nm ทำให้มีประสิทธิภาพสูงและรองรับฟีเจอร์ทันสมัยอย่าง Ray Tracing และ Super Resolution (Upscaling).

    การ์ดจอรุ่นนี้มาพร้อม หน่วยความจำ 12GB และคาดว่าจะให้พลังการประมวลผลสูงสุดถึง 160 TFLOPs โดยดีไซน์เป็นแบบ dual-slot, dual-fan เพื่อการระบายความร้อนที่ดีขึ้น ในงานเปิดตัวมีการสาธิตเกม Black Myth: Wukong ที่สามารถรันด้วยเฟรมเรตเฉลี่ยประมาณ 35 FPS พร้อมเปิด Ray Tracing ซึ่งถือว่าเป็นก้าวสำคัญของการ์ดจอจีนที่พยายามแข่งขันกับ NVIDIA และ AMD.

    นอกจากรุ่น A0 ที่เน้นการเล่นเกมและการเรนเดอร์แล้ว Xiang Dixian ยังเตรียมเปิดตัวรุ่น Fuxi B0 ที่จะรวม GPU เข้ากับ NPU (Neural Processing Unit) รองรับการประมวลผล FP8 เพื่อใช้งานด้าน AI โดยเฉพาะ ถือเป็นการขยายตลาดไปสู่การประมวลผลเชิงลึกและงานวิจัย.

    บริษัทมีประสบการณ์ยาวนานในการผลิตการ์ดจอจาก IP ของ Imagination เช่น XDX 121 และ XDX 151 สำหรับเดสก์ท็อป รวมถึง XDX R1900 สำหรับเวิร์กสเตชัน ทำให้ Fuxi A0 ถูกมองว่าเป็นการต่อยอดสู่การ์ดจอที่ทันสมัยและพร้อมเข้าสู่การผลิตจำนวนมากในปีหน้า.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การเปิดตัว Fuxi A0 GPU
    ใช้สถาปัตยกรรม Imagination DXD
    ผลิตด้วยเทคโนโลยี 5nm

    สเปกและประสิทธิภาพ
    หน่วยความจำ 12GB
    พลังการประมวลผลสูงสุด 160 TFLOPs
    ดีไซน์ dual-slot, dual-fan

    ฟีเจอร์เด่น
    รองรับ Ray Tracing และ Super Resolution
    รัน Black Myth: Wukong ได้ ~35 FPS

    แผนการขยาย
    รุ่น B0 จะรวม GPU + NPU รองรับ FP8 สำหรับงาน AI
    เตรียมเข้าสู่การผลิตจำนวนมากในปีหน้า

    ข้อควรระวัง
    ยังไม่ชัดเจนว่าประสิทธิภาพจะเทียบกับ NVIDIA/AMD ได้จริงหรือไม่
    เฟรมเรต 35 FPS อาจยังไม่เพียงพอสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการความลื่นไหลสูง

    https://wccftech.com/chinese-next-gen-fuxi-gpu-imagination-ip-5nm-12-gb-ray-tracing-super-res-support/
    🖥️ Fuxi A0 GPU: การ์ดจอจีนรุ่นใหม่พร้อม Ray Tracing บริษัท Xiang Dixian จากจีนได้เปิดตัวการ์ดจอรุ่นใหม่ชื่อ Fuxi A0 GPU ในงาน ICCAD Expo ที่เมืองเฉิงตู โดยใช้สถาปัตยกรรม Imagination DXD ซึ่งเป็นกราฟิก IP รุ่นล่าสุดจาก Imagination Technologies จุดเด่นคือการผลิตด้วยกระบวนการ 5nm ทำให้มีประสิทธิภาพสูงและรองรับฟีเจอร์ทันสมัยอย่าง Ray Tracing และ Super Resolution (Upscaling). การ์ดจอรุ่นนี้มาพร้อม หน่วยความจำ 12GB และคาดว่าจะให้พลังการประมวลผลสูงสุดถึง 160 TFLOPs โดยดีไซน์เป็นแบบ dual-slot, dual-fan เพื่อการระบายความร้อนที่ดีขึ้น ในงานเปิดตัวมีการสาธิตเกม Black Myth: Wukong ที่สามารถรันด้วยเฟรมเรตเฉลี่ยประมาณ 35 FPS พร้อมเปิด Ray Tracing ซึ่งถือว่าเป็นก้าวสำคัญของการ์ดจอจีนที่พยายามแข่งขันกับ NVIDIA และ AMD. นอกจากรุ่น A0 ที่เน้นการเล่นเกมและการเรนเดอร์แล้ว Xiang Dixian ยังเตรียมเปิดตัวรุ่น Fuxi B0 ที่จะรวม GPU เข้ากับ NPU (Neural Processing Unit) รองรับการประมวลผล FP8 เพื่อใช้งานด้าน AI โดยเฉพาะ ถือเป็นการขยายตลาดไปสู่การประมวลผลเชิงลึกและงานวิจัย. บริษัทมีประสบการณ์ยาวนานในการผลิตการ์ดจอจาก IP ของ Imagination เช่น XDX 121 และ XDX 151 สำหรับเดสก์ท็อป รวมถึง XDX R1900 สำหรับเวิร์กสเตชัน ทำให้ Fuxi A0 ถูกมองว่าเป็นการต่อยอดสู่การ์ดจอที่ทันสมัยและพร้อมเข้าสู่การผลิตจำนวนมากในปีหน้า. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การเปิดตัว Fuxi A0 GPU ➡️ ใช้สถาปัตยกรรม Imagination DXD ➡️ ผลิตด้วยเทคโนโลยี 5nm ✅ สเปกและประสิทธิภาพ ➡️ หน่วยความจำ 12GB ➡️ พลังการประมวลผลสูงสุด 160 TFLOPs ➡️ ดีไซน์ dual-slot, dual-fan ✅ ฟีเจอร์เด่น ➡️ รองรับ Ray Tracing และ Super Resolution ➡️ รัน Black Myth: Wukong ได้ ~35 FPS ✅ แผนการขยาย ➡️ รุ่น B0 จะรวม GPU + NPU รองรับ FP8 สำหรับงาน AI ➡️ เตรียมเข้าสู่การผลิตจำนวนมากในปีหน้า ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ ยังไม่ชัดเจนว่าประสิทธิภาพจะเทียบกับ NVIDIA/AMD ได้จริงหรือไม่ ⛔ เฟรมเรต 35 FPS อาจยังไม่เพียงพอสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการความลื่นไหลสูง https://wccftech.com/chinese-next-gen-fuxi-gpu-imagination-ip-5nm-12-gb-ray-tracing-super-res-support/
    WCCFTECH.COM
    Chinese GPU Maker Demos Its Next-Gen Fuxi A0 GPU Based on Imagination DXD GPU IP: Features 5nm Core, 12 GB VRAM, Ray Tracing & Super-Res Support
    The Chinese Fuxi A0 GPU is based on a 5nm Imagination DXD Graphics IP, offering Ray Tracing & Super Resolution support.
    0 Comments 0 Shares 125 Views 0 Reviews
  • Ubuntu 26.04 LTS: Resolute Raccoon

    Ubuntu 26.04 LTS ถือเป็นรุ่นสำคัญเพราะเป็นการเข้าสู่ยุค Wayland-only อย่างเต็มตัว โดยจะออกในวันที่ 23 เมษายน 2026 ซึ่งเป็นวันพฤหัสบดีตามธรรมเนียมของ Ubuntu ที่จะปล่อยเวอร์ชันใหม่ทุกครั้งในวันพฤหัสบดีของเดือนเมษายนหรือตุลาคม. รุ่นนี้ยังคงเป็น LTS ที่ได้รับการสนับสนุนระยะยาว เหมาะสำหรับองค์กรและผู้ใช้ที่ต้องการเสถียรภาพสูง

    GNOME 50 และการเปลี่ยนแปลงแอปหลัก
    Ubuntu 26.04 จะมาพร้อม GNOME 50 ซึ่งยังอยู่ระหว่างการพัฒนา แต่แน่นอนว่าจะมีการแทนที่แอปคลาสสิกด้วยเวอร์ชันใหม่ เช่น Showtime ที่มาแทน Totem ในฐานะวิดีโอเพลเยอร์หลัก และ Resources ที่มาแทน System Monitor เดิม การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงแนวทาง GNOME ที่ปรับปรุง UI ให้ทันสมัยและสอดคล้องกับ libadwaita.

    สถาปัตยกรรม amd64v3 และประสิทธิภาพ
    Ubuntu 26.04 จะรองรับแพ็กเกจในรูปแบบ amd64v3/x86-64-v3 สำหรับซีพียูรุ่นใหม่ที่มีชุดคำสั่งเพิ่มเติม ทำให้ประสิทธิภาพดีขึ้นเมื่อใช้งานบนฮาร์ดแวร์สมัยใหม่ แม้จะไม่ใช่ค่าเริ่มต้น แต่ผู้ใช้ที่มีเครื่องใหม่สามารถเลือกใช้เพื่อเพิ่มความเร็วได้ โดยยังคงรักษาความเข้ากันได้กับเครื่องรุ่นเก่า.

    รุ่นทดสอบและข้อควรระวัง
    Ubuntu 26.04 snapshot สำหรับการทดสอบมีให้ดาวน์โหลดแล้ว แต่ไม่เหมาะสำหรับใช้บนเครื่องหลัก เนื่องจากยังอยู่ในช่วงพัฒนา ผู้ที่สนใจควรติดตั้งบน VM หรือเครื่องสำรอง และช่วยรายงานบั๊กเพื่อปรับปรุงคุณภาพก่อนการเปิดตัวจริง.

    สรุปเป็นหัวข้อ
    กำหนดการออก Ubuntu 26.04 LTS
    เปิดตัววันที่ 23 เมษายน 2026
    เป็นรุ่น LTS รองรับระยะยาว

    ฟีเจอร์ใหม่
    GNOME 50 พร้อม UI ทันสมัย
    Showtime แทน Totem เป็นวิดีโอเพลเยอร์
    Resources แทน System Monitor เดิม

    สถาปัตยกรรม amd64v3
    รองรับชุดคำสั่งใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพ
    ไม่ใช่ค่าเริ่มต้น แต่เลือกใช้ได้บนเครื่องใหม่

    ข้อควรระวัง
    Snapshot รุ่นทดสอบไม่เหมาะกับเครื่องหลัก
    การหยุดใช้ X11 และเข้าสู่ Wayland-only อาจทำให้บางแอปยังไม่รองรับเต็มที่
    การใช้แพ็กเกจ amd64v3 บนเครื่องเก่าอาจไม่ทำงาน

    https://itsfoss.com/ubuntu-26-04-release-features/
    🦝 Ubuntu 26.04 LTS: Resolute Raccoon Ubuntu 26.04 LTS ถือเป็นรุ่นสำคัญเพราะเป็นการเข้าสู่ยุค Wayland-only อย่างเต็มตัว โดยจะออกในวันที่ 23 เมษายน 2026 ซึ่งเป็นวันพฤหัสบดีตามธรรมเนียมของ Ubuntu ที่จะปล่อยเวอร์ชันใหม่ทุกครั้งในวันพฤหัสบดีของเดือนเมษายนหรือตุลาคม. รุ่นนี้ยังคงเป็น LTS ที่ได้รับการสนับสนุนระยะยาว เหมาะสำหรับองค์กรและผู้ใช้ที่ต้องการเสถียรภาพสูง 🖥️ GNOME 50 และการเปลี่ยนแปลงแอปหลัก Ubuntu 26.04 จะมาพร้อม GNOME 50 ซึ่งยังอยู่ระหว่างการพัฒนา แต่แน่นอนว่าจะมีการแทนที่แอปคลาสสิกด้วยเวอร์ชันใหม่ เช่น Showtime ที่มาแทน Totem ในฐานะวิดีโอเพลเยอร์หลัก และ Resources ที่มาแทน System Monitor เดิม การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงแนวทาง GNOME ที่ปรับปรุง UI ให้ทันสมัยและสอดคล้องกับ libadwaita. ⚙️ สถาปัตยกรรม amd64v3 และประสิทธิภาพ Ubuntu 26.04 จะรองรับแพ็กเกจในรูปแบบ amd64v3/x86-64-v3 สำหรับซีพียูรุ่นใหม่ที่มีชุดคำสั่งเพิ่มเติม ทำให้ประสิทธิภาพดีขึ้นเมื่อใช้งานบนฮาร์ดแวร์สมัยใหม่ แม้จะไม่ใช่ค่าเริ่มต้น แต่ผู้ใช้ที่มีเครื่องใหม่สามารถเลือกใช้เพื่อเพิ่มความเร็วได้ โดยยังคงรักษาความเข้ากันได้กับเครื่องรุ่นเก่า. 🧪 รุ่นทดสอบและข้อควรระวัง Ubuntu 26.04 snapshot สำหรับการทดสอบมีให้ดาวน์โหลดแล้ว แต่ไม่เหมาะสำหรับใช้บนเครื่องหลัก เนื่องจากยังอยู่ในช่วงพัฒนา ผู้ที่สนใจควรติดตั้งบน VM หรือเครื่องสำรอง และช่วยรายงานบั๊กเพื่อปรับปรุงคุณภาพก่อนการเปิดตัวจริง. 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ กำหนดการออก Ubuntu 26.04 LTS ➡️ เปิดตัววันที่ 23 เมษายน 2026 ➡️ เป็นรุ่น LTS รองรับระยะยาว ✅ ฟีเจอร์ใหม่ ➡️ GNOME 50 พร้อม UI ทันสมัย ➡️ Showtime แทน Totem เป็นวิดีโอเพลเยอร์ ➡️ Resources แทน System Monitor เดิม ✅ สถาปัตยกรรม amd64v3 ➡️ รองรับชุดคำสั่งใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพ ➡️ ไม่ใช่ค่าเริ่มต้น แต่เลือกใช้ได้บนเครื่องใหม่ ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ Snapshot รุ่นทดสอบไม่เหมาะกับเครื่องหลัก ⛔ การหยุดใช้ X11 และเข้าสู่ Wayland-only อาจทำให้บางแอปยังไม่รองรับเต็มที่ ⛔ การใช้แพ็กเกจ amd64v3 บนเครื่องเก่าอาจไม่ทำงาน https://itsfoss.com/ubuntu-26-04-release-features/
    ITSFOSS.COM
    Ubuntu 26.04: Release Date and New Features
    The development for Ubuntu 26.04 LTS has started and it's time to start looking towards the features and changes it is bringing.
    0 Comments 0 Shares 81 Views 0 Reviews
  • ข้อมูลสเปกรั่ว Intel Xeon 696X Granite Rapids-WS

    ข่าวนี้รายงานการรั่วไหลของซีพียู Intel Xeon 696X Granite Rapids-WS ที่มาพร้อม 64 คอร์ 128 เธรด ความเร็วสูงสุด 4.6 GHz และแคช L3 ขนาด 336 MB โดยมีค่า TDP อยู่ที่ 350W ถือเป็นรุ่นเรือธงใหม่ในสายเวิร์กสเตชันที่ถูกออกแบบมาแข่งกับ AMD Threadripper

    สเปกที่รั่วไหลของ Xeon 696X
    สถาปัตยกรรม Redwood Cove P-Core
    ความเร็ว Base Clock 2.2 GHz และ Boost Clock สูงสุด 4.6 GHz
    แคช L3 ขนาด 336 MB และ L2 ขนาด 128 MB
    รองรับ 128 เธรด พร้อมค่า TDP 350W
    ถูกทดสอบบนแพลตฟอร์ม AdLink AXE-7400GRW ที่ออกแบบมาสำหรับ Granite Rapids

    ผลการทดสอบ Benchmark
    ในการทดสอบ SiSoftware Multi-Media Benchmark Xeon 696X ทำคะแนน 12,389 Mpix/s สูงกว่า Xeon W9-3495X (56 คอร์) ที่ทำได้ 8,463 Mpix/s หรือเพิ่มขึ้น 46%
    เมื่อเทียบกับ Threadripper Pro 7985WX (64 คอร์ Zen 4) Xeon 696X ยังตามหลังเล็กน้อย แต่ถือว่าใกล้เคียง
    ในคะแนนรวม CPU Xeon 696X ได้ 59.22 ซึ่งเหนือกว่า W9-3495X แต่ยังตามหลัง Threadripper Zen 4 ที่ได้ 71.82

    ความหมายต่อการแข่งขัน
    การมาของ Xeon 696X แสดงให้เห็นว่า Intel กำลังกลับมาแข่งในตลาดเวิร์กสเตชันที่ AMD ครองอยู่ ด้วยจำนวนคอร์ที่สูงและแคชขนาดใหญ่ จุดแข็งคือการเพิ่มประสิทธิภาพต่อวัตต์และการรองรับงานที่ใช้การประมวลผลหลายเธรด แต่ความท้าทายยังอยู่ที่ ราคาและความคุ้มค่า เมื่อเทียบกับคู่แข่ง

    แนวโน้มในอนาคต
    Granite Rapids-WS จะมีหลายรุ่น เช่น Xeon 698X (86 คอร์) และ Xeon 654 (18 คอร์) ซึ่งจะครอบคลุมตั้งแต่ตลาดระดับสูงไปจนถึงเวิร์กสเตชันทั่วไป หาก Intel สามารถตั้งราคาที่แข่งขันได้ อาจช่วยให้บริษัทกลับมามีส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มผู้ใช้มืออาชีพ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Xeon 696X Granite Rapids-WS รั่วไหล
    64 คอร์ 128 เธรด, Boost 4.6 GHz, แคช L3 336 MB

    ผลการทดสอบ Benchmark
    เร็วกว่า Xeon W9-3495X 46% แต่ยังตามหลัง Threadripper Zen 4

    ความหมายต่อการแข่งขัน
    Intel พยายามกลับมาแข่งกับ AMD ในตลาดเวิร์กสเตชัน

    รุ่นอื่น ๆ ในตระกูล Granite Rapids
    มีตั้งแต่ 18 คอร์ไปจนถึง 86 คอร์ ครอบคลุมหลายระดับตลาด

    ความเสี่ยงด้านราคาและความคุ้มค่า
    หากตั้งราคาสูงเกินไป อาจไม่สามารถดึงดูดผู้ใช้จาก AMD ได้

    ความท้าทายด้านประสิทธิภาพต่อวัตต์
    แม้จะดีขึ้น แต่ยังต้องพิสูจน์ว่าเหนือกว่า Threadripper ในการใช้งานจริง

    https://wccftech.com/intel-xeon-696x-granite-rapids-workstation-cpu-leak-64-cores-4-6-ghz-336-mb-cache-350w/
    ⚙️ ข้อมูลสเปกรั่ว Intel Xeon 696X Granite Rapids-WS ข่าวนี้รายงานการรั่วไหลของซีพียู Intel Xeon 696X Granite Rapids-WS ที่มาพร้อม 64 คอร์ 128 เธรด ความเร็วสูงสุด 4.6 GHz และแคช L3 ขนาด 336 MB โดยมีค่า TDP อยู่ที่ 350W ถือเป็นรุ่นเรือธงใหม่ในสายเวิร์กสเตชันที่ถูกออกแบบมาแข่งกับ AMD Threadripper ⚙️ สเปกที่รั่วไหลของ Xeon 696X 🪛 สถาปัตยกรรม Redwood Cove P-Core 🪛 ความเร็ว Base Clock 2.2 GHz และ Boost Clock สูงสุด 4.6 GHz 🪛 แคช L3 ขนาด 336 MB และ L2 ขนาด 128 MB 🪛 รองรับ 128 เธรด พร้อมค่า TDP 350W 🪛 ถูกทดสอบบนแพลตฟอร์ม AdLink AXE-7400GRW ที่ออกแบบมาสำหรับ Granite Rapids 📊 ผลการทดสอบ Benchmark 🔷 ในการทดสอบ SiSoftware Multi-Media Benchmark Xeon 696X ทำคะแนน 12,389 Mpix/s ➡️ สูงกว่า Xeon W9-3495X (56 คอร์) ที่ทำได้ 8,463 Mpix/s หรือเพิ่มขึ้น 46% 🔷 เมื่อเทียบกับ Threadripper Pro 7985WX (64 คอร์ Zen 4) Xeon 696X ยังตามหลังเล็กน้อย แต่ถือว่าใกล้เคียง 🔷 ในคะแนนรวม CPU Xeon 696X ได้ 59.22 ซึ่งเหนือกว่า W9-3495X แต่ยังตามหลัง Threadripper Zen 4 ที่ได้ 71.82 🚀 ความหมายต่อการแข่งขัน การมาของ Xeon 696X แสดงให้เห็นว่า Intel กำลังกลับมาแข่งในตลาดเวิร์กสเตชันที่ AMD ครองอยู่ ด้วยจำนวนคอร์ที่สูงและแคชขนาดใหญ่ จุดแข็งคือการเพิ่มประสิทธิภาพต่อวัตต์และการรองรับงานที่ใช้การประมวลผลหลายเธรด แต่ความท้าทายยังอยู่ที่ ราคาและความคุ้มค่า เมื่อเทียบกับคู่แข่ง 🔮 แนวโน้มในอนาคต Granite Rapids-WS จะมีหลายรุ่น เช่น Xeon 698X (86 คอร์) และ Xeon 654 (18 คอร์) ซึ่งจะครอบคลุมตั้งแต่ตลาดระดับสูงไปจนถึงเวิร์กสเตชันทั่วไป หาก Intel สามารถตั้งราคาที่แข่งขันได้ อาจช่วยให้บริษัทกลับมามีส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มผู้ใช้มืออาชีพ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Xeon 696X Granite Rapids-WS รั่วไหล ➡️ 64 คอร์ 128 เธรด, Boost 4.6 GHz, แคช L3 336 MB ✅ ผลการทดสอบ Benchmark ➡️ เร็วกว่า Xeon W9-3495X 46% แต่ยังตามหลัง Threadripper Zen 4 ✅ ความหมายต่อการแข่งขัน ➡️ Intel พยายามกลับมาแข่งกับ AMD ในตลาดเวิร์กสเตชัน ✅ รุ่นอื่น ๆ ในตระกูล Granite Rapids ➡️ มีตั้งแต่ 18 คอร์ไปจนถึง 86 คอร์ ครอบคลุมหลายระดับตลาด ‼️ ความเสี่ยงด้านราคาและความคุ้มค่า ⛔ หากตั้งราคาสูงเกินไป อาจไม่สามารถดึงดูดผู้ใช้จาก AMD ได้ ‼️ ความท้าทายด้านประสิทธิภาพต่อวัตต์ ⛔ แม้จะดีขึ้น แต่ยังต้องพิสูจน์ว่าเหนือกว่า Threadripper ในการใช้งานจริง https://wccftech.com/intel-xeon-696x-granite-rapids-workstation-cpu-leak-64-cores-4-6-ghz-336-mb-cache-350w/
    WCCFTECH.COM
    Intel Xeon 696X Granite Rapids Leak: 64 Cores, 4.6 GHz Workstation CPU Specs
    Intel's Xeon 696X CPU has leaked out, offering up to 64 cores on the Granite Rapids Workstation platform & up to 4.6 GHz clocks.
    0 Comments 0 Shares 172 Views 0 Reviews
  • IPO ครั้งใหญ่ของ Moore Threads

    บริษัท Moore Threads ผู้ผลิต GPU ของจีนที่ถูกขนานนามว่าเป็น “NVIDIA of China” ก่อนการทำ IPO มูลค่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ แต่ยังมีข้อสงสัยว่าบริษัทมีศักยภาพจริงหรือไม่เมื่อเทียบกับคู่แข่งระดับโลก

    Moore Threads เตรียมเข้าตลาดหุ้น STAR Market ที่เซี่ยงไฮ้ โดยตั้งเป้าระดมทุนกว่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็น IPO ที่ใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรม GPU ของจีน ความสนใจจากนักลงทุนสูงมาก มีผู้สมัครเข้าร่วมกว่า 4,000 ราย สะท้อนถึงความคาดหวังว่าบริษัทจะเป็นเสาหลักด้านเทคโนโลยีของประเทศ

    ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยี
    Moore Threads มีไลน์ผลิตภัณฑ์ GPU สำหรับผู้บริโภค เช่น MTT S80 และ MTT S90 รวมถึงเวิร์กสเตชัน MTT S4000 และ MTT X300 จุดเด่นคือการรองรับ PCIe Gen 5 และเทคโนโลยี MTLink ที่คล้ายกับ NVLink ของ NVIDIA อย่างไรก็ตาม ผลการทดสอบจริงยังไม่สามารถแข่งขันกับ GPU รุ่นใหม่ของ NVIDIA ได้ โดย MTT S80 มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ GTX 1050 Ti รุ่นเก่า ขณะที่ MTT S90 เพิ่งเริ่มทดสอบว่ามีระดับใกล้เคียง RTX 4060

    จุดแข็งและข้อจำกัด
    แม้ Moore Threads จะเป็นบริษัทแรกในจีนที่พัฒนา GPU ที่รองรับ AI และ HPC workloads แต่ยังขาดซอฟต์แวร์และไดรเวอร์ที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่าคู่แข่งระดับโลก การพัฒนา AI chip platform ยังอยู่ในขั้นต้น ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามว่าบริษัทสมควรได้รับฉายา “NVIDIA of China” หรือไม่

    ความหมายเชิงยุทธศาสตร์
    การผลักดัน Moore Threads สะท้อนถึงความพยายามของจีนในการสร้าง ความเป็นอิสระด้านเทคโนโลยี เพื่อลดการพึ่งพา NVIDIA และ AMD แม้ปัจจุบันยังไม่สามารถแข่งขันได้เต็มที่ แต่การระดมทุนครั้งใหญ่จะช่วยเพิ่มงบวิจัยและพัฒนา ซึ่งอาจเปลี่ยนสมดุลของตลาด GPU ในอนาคต

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Moore Threads เตรียม IPO มูลค่า 1.1 พันล้านดอลลาร์
    มีนักลงทุนสนใจเข้าร่วมกว่า 4,000 ราย

    ผลิตภัณฑ์ GPU ที่เปิดตัว
    MTT S80, S90 สำหรับผู้บริโภค และ S4000, X300 สำหรับเวิร์กสเตชัน

    เทคโนโลยีที่ใช้
    รองรับ PCIe Gen 5 และ MTLink สำหรับการเชื่อมต่อหลาย GPU

    จุดแข็งเชิงยุทธศาสตร์
    ลดการพึ่งพา NVIDIA และ AMD สร้างความมั่นคงทางเทคโนโลยี

    ข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพ
    MTT S80 ยังด้อยกว่า GPU รุ่นใหม่ของ NVIDIA และ AMD

    ปัญหาซอฟต์แวร์และไดรเวอร์
    ยังไม่สามารถแข่งขันกับ ecosystem ของ NVIDIA ได้เต็มที่

    https://wccftech.com/moore-threads-is-being-touted-as-the-nvidia-of-china-ahead-of-its-mega-ipo-but-is-the-firm-worth-of-this-title/
    💹 IPO ครั้งใหญ่ของ Moore Threads บริษัท Moore Threads ผู้ผลิต GPU ของจีนที่ถูกขนานนามว่าเป็น “NVIDIA of China” ก่อนการทำ IPO มูลค่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ แต่ยังมีข้อสงสัยว่าบริษัทมีศักยภาพจริงหรือไม่เมื่อเทียบกับคู่แข่งระดับโลก Moore Threads เตรียมเข้าตลาดหุ้น STAR Market ที่เซี่ยงไฮ้ โดยตั้งเป้าระดมทุนกว่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็น IPO ที่ใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรม GPU ของจีน ความสนใจจากนักลงทุนสูงมาก มีผู้สมัครเข้าร่วมกว่า 4,000 ราย สะท้อนถึงความคาดหวังว่าบริษัทจะเป็นเสาหลักด้านเทคโนโลยีของประเทศ 🎮 ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยี Moore Threads มีไลน์ผลิตภัณฑ์ GPU สำหรับผู้บริโภค เช่น MTT S80 และ MTT S90 รวมถึงเวิร์กสเตชัน MTT S4000 และ MTT X300 จุดเด่นคือการรองรับ PCIe Gen 5 และเทคโนโลยี MTLink ที่คล้ายกับ NVLink ของ NVIDIA อย่างไรก็ตาม ผลการทดสอบจริงยังไม่สามารถแข่งขันกับ GPU รุ่นใหม่ของ NVIDIA ได้ โดย MTT S80 มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ GTX 1050 Ti รุ่นเก่า ขณะที่ MTT S90 เพิ่งเริ่มทดสอบว่ามีระดับใกล้เคียง RTX 4060 ⚡ จุดแข็งและข้อจำกัด แม้ Moore Threads จะเป็นบริษัทแรกในจีนที่พัฒนา GPU ที่รองรับ AI และ HPC workloads แต่ยังขาดซอฟต์แวร์และไดรเวอร์ที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่าคู่แข่งระดับโลก การพัฒนา AI chip platform ยังอยู่ในขั้นต้น ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามว่าบริษัทสมควรได้รับฉายา “NVIDIA of China” หรือไม่ 🌍 ความหมายเชิงยุทธศาสตร์ การผลักดัน Moore Threads สะท้อนถึงความพยายามของจีนในการสร้าง ความเป็นอิสระด้านเทคโนโลยี เพื่อลดการพึ่งพา NVIDIA และ AMD แม้ปัจจุบันยังไม่สามารถแข่งขันได้เต็มที่ แต่การระดมทุนครั้งใหญ่จะช่วยเพิ่มงบวิจัยและพัฒนา ซึ่งอาจเปลี่ยนสมดุลของตลาด GPU ในอนาคต 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Moore Threads เตรียม IPO มูลค่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ ➡️ มีนักลงทุนสนใจเข้าร่วมกว่า 4,000 ราย ✅ ผลิตภัณฑ์ GPU ที่เปิดตัว ➡️ MTT S80, S90 สำหรับผู้บริโภค และ S4000, X300 สำหรับเวิร์กสเตชัน ✅ เทคโนโลยีที่ใช้ ➡️ รองรับ PCIe Gen 5 และ MTLink สำหรับการเชื่อมต่อหลาย GPU ✅ จุดแข็งเชิงยุทธศาสตร์ ➡️ ลดการพึ่งพา NVIDIA และ AMD สร้างความมั่นคงทางเทคโนโลยี ‼️ ข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพ ⛔ MTT S80 ยังด้อยกว่า GPU รุ่นใหม่ของ NVIDIA และ AMD ‼️ ปัญหาซอฟต์แวร์และไดรเวอร์ ⛔ ยังไม่สามารถแข่งขันกับ ecosystem ของ NVIDIA ได้เต็มที่ https://wccftech.com/moore-threads-is-being-touted-as-the-nvidia-of-china-ahead-of-its-mega-ipo-but-is-the-firm-worth-of-this-title/
    WCCFTECH.COM
    Moore Threads Is Being Touted as the “NVIDIA of China” Ahead of Its Mega-IPO, But Is the Firm Truly Worthy of the Title?
    Moore Threads is on its way to a mega-IPO in Shanghai, and some call the Chinese firm the "NVIDIA" of the region.
    0 Comments 0 Shares 168 Views 0 Reviews
  • 5 วิธีรับมือกับวิกฤตราคา RAM ที่พุ่งสูง

    บทความนี้จาก Tom’s Hardware แนะนำ 5 วิธีรับมือกับวิกฤตราคา RAM ที่พุ่งสูง โดยเน้นการใช้ทรัพยากรเดิมให้คุ้มค่า และเลือกอัปเกรดส่วนอื่น ๆ ของเครื่องแทนการลงทุนกับ DDR5 ที่แพงเกินไป

    ใช้จอภาพใหม่เพื่อดึงศักยภาพเกม
    หากยังใช้จอ 1080p 60Hz รุ่นเก่า การอัปเกรด GPU หรือ CPU อาจไม่เห็นผลชัดเจน การเปลี่ยนไปใช้จอ 1440p หรือ 4K ที่มีรีเฟรชเรตสูง จะช่วยให้ภาพคมชัดและลดภาระการทำงานของ RAM และ CPU ได้

    อัปเกรด GPU ก่อนราคาพุ่ง
    การ์ดจอรุ่นใหม่อย่าง AMD Radeon RX 9070 XT และ Nvidia RTX 5070 Ti กำลังมีราคาลดลงต่ำกว่า MSRP การซื้อในช่วงนี้ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะตลาดคาดว่าความต้องการหน่วยความจำจะกระทบราคาการ์ดจอในอนาคต

    อัปเกรด CPU บนแพลตฟอร์ม DDR4
    หากยังใช้เมนบอร์ด DDR4 การอัปเกรด CPU รุ่นใหม่ เช่น Intel Core i5-13400F สามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนไปใช้ DDR5 ที่แพงกว่า ถือเป็นการยืดอายุเครื่องโดยใช้ทรัพยากรเดิมให้คุ้มค่า

    ซื้อพีซีสำเร็จรูปแทนการประกอบเอง
    เนื่องจากราคาของ DDR5 ทำให้การประกอบเครื่องใหม่แพงกว่าซื้อพีซีสำเร็จรูป การเลือกซื้อ Gaming PC หรือ Laptop ที่มีโปรโมชั่นลดราคาช่วงนี้อาจช่วยประหยัดได้หลายร้อยดอลลาร์

    มองหาดีล Bundle ที่รวม RAM
    บางร้านค้าเช่น Newegg หรือ Micro Center มีการขาย Bundle CPU + RAM + เมนบอร์ด ที่ราคาถูกกว่าซื้อแยก แม้ส่วนใหญ่ยังเป็น DDR4 แต่ก็ช่วยลดต้นทุนและเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการอัปเกรด

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ใช้จอภาพใหม่เพื่อเพิ่มคุณภาพเกม
    1440p/4K + รีเฟรชเรตสูงช่วยลดภาระ CPU และ RAM

    อัปเกรด GPU ก่อนราคาพุ่ง
    Radeon RX 9070 XT และ RTX 5070 Ti ราคาลดลงต่ำกว่า MSRP

    อัปเกรด CPU บน DDR4
    Intel Core i5-13400F เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า

    ซื้อพีซีสำเร็จรูปแทนการประกอบเอง
    ราคาถูกกว่าการซื้อ DDR5 มาประกอบเอง

    มองหาดีล Bundle ที่รวม RAM
    ลดต้นทุนการอัปเกรดแม้ยังเป็น DDR4

    ความเสี่ยงจากราคาหน่วยความจำ
    DDR5 อาจทำให้ต้นทุนการประกอบเครื่องสูงเกินไป

    ความเสี่ยงจากการใช้จอเก่า
    GPU และ CPU ใหม่อาจไม่แสดงศักยภาพเต็มที่หากยังใช้ 1080p 60Hz

    https://www.tomshardware.com/pc-components/ram/five-smart-ways-to-ride-out-the-the-ram-price-apocalypse-get-the-most-of-your-old-ddr4-buy-a-prebuilt-or-new-gpu-before-prices-rise-get-a-better-cpu-for-your-socket-or-make-your-game-frames-look-better-with-a-new-monitor
    💰 5 วิธีรับมือกับวิกฤตราคา RAM ที่พุ่งสูง บทความนี้จาก Tom’s Hardware แนะนำ 5 วิธีรับมือกับวิกฤตราคา RAM ที่พุ่งสูง โดยเน้นการใช้ทรัพยากรเดิมให้คุ้มค่า และเลือกอัปเกรดส่วนอื่น ๆ ของเครื่องแทนการลงทุนกับ DDR5 ที่แพงเกินไป 💻 ใช้จอภาพใหม่เพื่อดึงศักยภาพเกม หากยังใช้จอ 1080p 60Hz รุ่นเก่า การอัปเกรด GPU หรือ CPU อาจไม่เห็นผลชัดเจน การเปลี่ยนไปใช้จอ 1440p หรือ 4K ที่มีรีเฟรชเรตสูง จะช่วยให้ภาพคมชัดและลดภาระการทำงานของ RAM และ CPU ได้ 🎮 อัปเกรด GPU ก่อนราคาพุ่ง การ์ดจอรุ่นใหม่อย่าง AMD Radeon RX 9070 XT และ Nvidia RTX 5070 Ti กำลังมีราคาลดลงต่ำกว่า MSRP การซื้อในช่วงนี้ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะตลาดคาดว่าความต้องการหน่วยความจำจะกระทบราคาการ์ดจอในอนาคต ⚡ อัปเกรด CPU บนแพลตฟอร์ม DDR4 หากยังใช้เมนบอร์ด DDR4 การอัปเกรด CPU รุ่นใหม่ เช่น Intel Core i5-13400F สามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนไปใช้ DDR5 ที่แพงกว่า ถือเป็นการยืดอายุเครื่องโดยใช้ทรัพยากรเดิมให้คุ้มค่า 🖥️ ซื้อพีซีสำเร็จรูปแทนการประกอบเอง เนื่องจากราคาของ DDR5 ทำให้การประกอบเครื่องใหม่แพงกว่าซื้อพีซีสำเร็จรูป การเลือกซื้อ Gaming PC หรือ Laptop ที่มีโปรโมชั่นลดราคาช่วงนี้อาจช่วยประหยัดได้หลายร้อยดอลลาร์ 📦 มองหาดีล Bundle ที่รวม RAM บางร้านค้าเช่น Newegg หรือ Micro Center มีการขาย Bundle CPU + RAM + เมนบอร์ด ที่ราคาถูกกว่าซื้อแยก แม้ส่วนใหญ่ยังเป็น DDR4 แต่ก็ช่วยลดต้นทุนและเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการอัปเกรด 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ใช้จอภาพใหม่เพื่อเพิ่มคุณภาพเกม ➡️ 1440p/4K + รีเฟรชเรตสูงช่วยลดภาระ CPU และ RAM ✅ อัปเกรด GPU ก่อนราคาพุ่ง ➡️ Radeon RX 9070 XT และ RTX 5070 Ti ราคาลดลงต่ำกว่า MSRP ✅ อัปเกรด CPU บน DDR4 ➡️ Intel Core i5-13400F เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า ✅ ซื้อพีซีสำเร็จรูปแทนการประกอบเอง ➡️ ราคาถูกกว่าการซื้อ DDR5 มาประกอบเอง ✅ มองหาดีล Bundle ที่รวม RAM ➡️ ลดต้นทุนการอัปเกรดแม้ยังเป็น DDR4 ‼️ ความเสี่ยงจากราคาหน่วยความจำ ⛔ DDR5 อาจทำให้ต้นทุนการประกอบเครื่องสูงเกินไป ‼️ ความเสี่ยงจากการใช้จอเก่า ⛔ GPU และ CPU ใหม่อาจไม่แสดงศักยภาพเต็มที่หากยังใช้ 1080p 60Hz https://www.tomshardware.com/pc-components/ram/five-smart-ways-to-ride-out-the-the-ram-price-apocalypse-get-the-most-of-your-old-ddr4-buy-a-prebuilt-or-new-gpu-before-prices-rise-get-a-better-cpu-for-your-socket-or-make-your-game-frames-look-better-with-a-new-monitor
    0 Comments 0 Shares 166 Views 0 Reviews
  • การอัปเกรด GPU อาจเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่า RAM

    ราคาของ DDR5 RAM พุ่งสูงจนบางครั้งแพงกว่า CPU รุ่นใหม่ ทำให้การอัปเกรด RAM ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนักสำหรับผู้ใช้พีซีทั่วไป บทความแนะนำว่า การเปลี่ยน GPU เป็นการลงทุนที่คุ้มค่ากว่า เพราะราคาการ์ดจอหลายรุ่นกลับลดลงถึงระดับ MSRP หรือถูกกว่า เช่น AMD Radeon RX 9070 XT และ Nvidia GeForce RTX 5070 Ti

    ความสำคัญของจอภาพ
    แม้จะได้ GPU ใหม่ แต่หากยังใช้จอ 1080p 60Hz รุ่นเก่า จะไม่สามารถเห็นความแตกต่างได้มากนัก เนื่องจากเฟรมเรตที่สูงกว่าความสามารถของจอจะถูก “ทิ้ง” ไป การใช้จอ 1440p หรือ 4K ที่มีรีเฟรชเรตสูง จะช่วยให้ GPU ทำงานเต็มประสิทธิภาพและได้ภาพที่คมชัดกว่า

    เทคโนโลยี Upscaling และ Frame Generation
    เทคโนโลยีอย่าง DLSS, FSR และ XeSS รวมถึง Frame Generation ช่วยให้ GPU สามารถสร้างเฟรมเสริมเพื่อเพิ่มความลื่นไหล โดยเฉพาะเมื่อใช้กับจอความละเอียดสูง เช่น 4K ที่มีรีเฟรชเรต 144Hz ขึ้นไป ทำให้แม้ CPU รุ่นเก่าก็ยังสามารถทำงานร่วมกับ GPU รุ่นใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ตัวอย่างการทดสอบ
    การทดสอบกับเกม Spider-Man 2 โดยใช้ Ryzen 9 5950X (CPU อายุ 5 ปี) และ Radeon RX 9070 XT พบว่า:
    ที่ 1080p GPU ถูกจำกัดการทำงาน ใช้เพียง 88%
    ที่ 1440p GPU ใช้งานได้ถึง 95% พร้อมภาพคมชัดขึ้น
    ที่ 4K + FSR + Framegen GPU ใช้งานเต็ม 99% และเฟรมเรตพุ่งถึง 164 FPS

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ราคาของ DDR5 RAM พุ่งสูง
    ทำให้การอัปเกรด GPU เป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่า

    GPU รุ่นใหม่ราคาลดลง
    เช่น Radeon RX 9070 XT และ RTX 5070 Ti

    จอภาพมีผลต่อประสิทธิภาพ
    1080p 60Hz จำกัด GPU แต่ 1440p/4K + รีเฟรชเรตสูงช่วยดึงศักยภาพเต็มที่

    เทคโนโลยี Upscaling และ Framegen
    ช่วยเพิ่มเฟรมเรตและคุณภาพภาพแม้ใช้ CPU รุ่นเก่า

    ความเสี่ยงหากใช้จอเก่า
    เฟรมเรตสูงจาก GPU จะสูญเปล่า ไม่ถูกแสดงผลจริง

    ปัญหาคอขวดจาก CPU รุ่นเก่า
    หากไม่ใช้เทคโนโลยีเสริม GPU อาจถูกจำกัดการทำงาน

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/in-the-era-of-stratospheric-ram-prices-putting-a-new-gpu-in-an-old-pc-might-be-your-best-upgrade-bet-but-be-sure-to-grab-the-right-monitor-too
    🎮 การอัปเกรด GPU อาจเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่า RAM ราคาของ DDR5 RAM พุ่งสูงจนบางครั้งแพงกว่า CPU รุ่นใหม่ ทำให้การอัปเกรด RAM ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนักสำหรับผู้ใช้พีซีทั่วไป บทความแนะนำว่า การเปลี่ยน GPU เป็นการลงทุนที่คุ้มค่ากว่า เพราะราคาการ์ดจอหลายรุ่นกลับลดลงถึงระดับ MSRP หรือถูกกว่า เช่น AMD Radeon RX 9070 XT และ Nvidia GeForce RTX 5070 Ti 🖥️ ความสำคัญของจอภาพ แม้จะได้ GPU ใหม่ แต่หากยังใช้จอ 1080p 60Hz รุ่นเก่า จะไม่สามารถเห็นความแตกต่างได้มากนัก เนื่องจากเฟรมเรตที่สูงกว่าความสามารถของจอจะถูก “ทิ้ง” ไป การใช้จอ 1440p หรือ 4K ที่มีรีเฟรชเรตสูง จะช่วยให้ GPU ทำงานเต็มประสิทธิภาพและได้ภาพที่คมชัดกว่า ⚡ เทคโนโลยี Upscaling และ Frame Generation เทคโนโลยีอย่าง DLSS, FSR และ XeSS รวมถึง Frame Generation ช่วยให้ GPU สามารถสร้างเฟรมเสริมเพื่อเพิ่มความลื่นไหล โดยเฉพาะเมื่อใช้กับจอความละเอียดสูง เช่น 4K ที่มีรีเฟรชเรต 144Hz ขึ้นไป ทำให้แม้ CPU รุ่นเก่าก็ยังสามารถทำงานร่วมกับ GPU รุ่นใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 💡 ตัวอย่างการทดสอบ การทดสอบกับเกม Spider-Man 2 โดยใช้ Ryzen 9 5950X (CPU อายุ 5 ปี) และ Radeon RX 9070 XT พบว่า: 🎗️ ที่ 1080p GPU ถูกจำกัดการทำงาน ใช้เพียง 88% 🎗️ ที่ 1440p GPU ใช้งานได้ถึง 95% พร้อมภาพคมชัดขึ้น 🎗️ ที่ 4K + FSR + Framegen GPU ใช้งานเต็ม 99% และเฟรมเรตพุ่งถึง 164 FPS 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ราคาของ DDR5 RAM พุ่งสูง ➡️ ทำให้การอัปเกรด GPU เป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่า ✅ GPU รุ่นใหม่ราคาลดลง ➡️ เช่น Radeon RX 9070 XT และ RTX 5070 Ti ✅ จอภาพมีผลต่อประสิทธิภาพ ➡️ 1080p 60Hz จำกัด GPU แต่ 1440p/4K + รีเฟรชเรตสูงช่วยดึงศักยภาพเต็มที่ ✅ เทคโนโลยี Upscaling และ Framegen ➡️ ช่วยเพิ่มเฟรมเรตและคุณภาพภาพแม้ใช้ CPU รุ่นเก่า ‼️ ความเสี่ยงหากใช้จอเก่า ⛔ เฟรมเรตสูงจาก GPU จะสูญเปล่า ไม่ถูกแสดงผลจริง ‼️ ปัญหาคอขวดจาก CPU รุ่นเก่า ⛔ หากไม่ใช้เทคโนโลยีเสริม GPU อาจถูกจำกัดการทำงาน https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/in-the-era-of-stratospheric-ram-prices-putting-a-new-gpu-in-an-old-pc-might-be-your-best-upgrade-bet-but-be-sure-to-grab-the-right-monitor-too
    0 Comments 0 Shares 133 Views 0 Reviews
  • การพัฒนา GPTPU ของ Zhonghao Xinying

    สตาร์ทอัพจีนชื่อ Zhonghao Xinying ที่ก่อตั้งโดยอดีตวิศวกร Google อ้างว่าพัฒนา General Purpose TPU (GPTPU) ได้เอง โดยมีประสิทธิภาพสูงกว่า Nvidia A100 ถึง 1.5 เท่า และใช้พลังงานน้อยลง 42% ถือเป็นก้าวสำคัญของจีนในการสร้างชิป AI โดยไม่พึ่งพาเทคโนโลยีตะวันตก

    บริษัท Zhonghao Xinying เปิดตัวชิป “Ghana” GPTPU ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในการเทรนและประมวลผลโมเดล AI โดยอ้างว่าใช้ Intellectual Property ที่พัฒนาเองทั้งหมด ไม่พึ่งพาเทคโนโลยีตะวันตก ทั้งด้านสถาปัตยกรรม ซอฟต์แวร์ และการผลิต จุดเด่นคือการออกแบบแบบ ASIC (Application-Specific Integrated Circuit) ที่ตัดส่วนการประมวลผลที่ไม่จำเป็นออกไป ทำให้ได้ประสิทธิภาพสูงขึ้น

    ประสิทธิภาพเทียบกับ Nvidia A100
    เร็วกว่า 1.5 เท่า เมื่อเทียบกับ Nvidia A100 (เปิดตัวปี 2020)
    ใช้พลังงานน้อยลง 42% โดยลดการใช้พลังงานลงเหลือ 75% ของ A100
    แม้ยังตามหลังสถาปัตยกรรมใหม่อย่าง Hopper (2022) และ Blackwell Ultra (2025) แต่ก็ถือว่าเพียงพอสำหรับตลาดภายในจีนที่ยังต้องพึ่งพา GPU รุ่นเก่า

    ความหมายเชิงยุทธศาสตร์
    การพัฒนาชิปนี้สะท้อนถึงความพยายามของจีนในการสร้าง ความเป็นอิสระด้านซิลิคอน เพื่อลดการพึ่งพา Nvidia และบริษัทตะวันตก โดยเฉพาะในช่วงที่มีข้อจำกัดด้านการส่งออกชิปขั้นสูง การมีทางเลือกภายในประเทศช่วยให้จีนสามารถเดินหน้าพัฒนา AI ได้ต่อเนื่อง

    อนาคตของตลาด AI Hardware
    แม้ GPU จาก Nvidia และ AMD จะยังครองตลาดด้วยความยืดหยุ่นสูง แต่การมาของ ASICs อย่าง GPTPU อาจเป็นทางเลือกใหม่สำหรับบริษัทที่ต้องการลดต้นทุนพลังงานและหลีกเลี่ยงข้อจำกัดการเข้าถึงฮาร์ดแวร์ตะวันตก หากชิปนี้พิสูจน์ได้จริง อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการแข่งขันใหม่ในตลาด AI

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การเปิดตัวชิป GPTPU “Ghana” โดย Zhonghao Xinying
    พัฒนาเองทั้งหมด ไม่พึ่งพาเทคโนโลยีตะวันตก

    ประสิทธิภาพเทียบกับ Nvidia A100
    เร็วกว่า 1.5 เท่า และใช้พลังงานน้อยลง 42%

    ความหมายเชิงยุทธศาสตร์
    ลดการพึ่งพา GPU ต่างชาติและสร้างความมั่นคงทางเทคโนโลยี

    ศักยภาพของ ASICs ในตลาด AI
    อาจเป็นทางเลือกใหม่แทน GPU สำหรับงานเฉพาะด้าน

    ข้อจำกัดเมื่อเทียบกับ GPU รุ่นใหม่
    ยังตามหลัง Hopper และ Blackwell Ultra ในด้านประสิทธิภาพรวม

    ความเสี่ยงด้านความน่าเชื่อถือ
    หากไม่สามารถพิสูจน์ผลลัพธ์จริง อาจถูกมองว่าเป็นการโฆษณาเกินจริง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/chinese-startup-founded-by-google-engineer-claims-to-have-developed-its-own-tpu-reportedly-1-5-times-faster-than-nvidias-a100-gpu-from-2020-42-percent-more-efficient
    🚀 การพัฒนา GPTPU ของ Zhonghao Xinying สตาร์ทอัพจีนชื่อ Zhonghao Xinying ที่ก่อตั้งโดยอดีตวิศวกร Google อ้างว่าพัฒนา General Purpose TPU (GPTPU) ได้เอง โดยมีประสิทธิภาพสูงกว่า Nvidia A100 ถึง 1.5 เท่า และใช้พลังงานน้อยลง 42% ถือเป็นก้าวสำคัญของจีนในการสร้างชิป AI โดยไม่พึ่งพาเทคโนโลยีตะวันตก บริษัท Zhonghao Xinying เปิดตัวชิป “Ghana” GPTPU ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในการเทรนและประมวลผลโมเดล AI โดยอ้างว่าใช้ Intellectual Property ที่พัฒนาเองทั้งหมด ไม่พึ่งพาเทคโนโลยีตะวันตก ทั้งด้านสถาปัตยกรรม ซอฟต์แวร์ และการผลิต จุดเด่นคือการออกแบบแบบ ASIC (Application-Specific Integrated Circuit) ที่ตัดส่วนการประมวลผลที่ไม่จำเป็นออกไป ทำให้ได้ประสิทธิภาพสูงขึ้น ⚡ ประสิทธิภาพเทียบกับ Nvidia A100 🔷 เร็วกว่า 1.5 เท่า เมื่อเทียบกับ Nvidia A100 (เปิดตัวปี 2020) 🔷 ใช้พลังงานน้อยลง 42% โดยลดการใช้พลังงานลงเหลือ 75% ของ A100 🔷 แม้ยังตามหลังสถาปัตยกรรมใหม่อย่าง Hopper (2022) และ Blackwell Ultra (2025) แต่ก็ถือว่าเพียงพอสำหรับตลาดภายในจีนที่ยังต้องพึ่งพา GPU รุ่นเก่า 🌍 ความหมายเชิงยุทธศาสตร์ การพัฒนาชิปนี้สะท้อนถึงความพยายามของจีนในการสร้าง ความเป็นอิสระด้านซิลิคอน เพื่อลดการพึ่งพา Nvidia และบริษัทตะวันตก โดยเฉพาะในช่วงที่มีข้อจำกัดด้านการส่งออกชิปขั้นสูง การมีทางเลือกภายในประเทศช่วยให้จีนสามารถเดินหน้าพัฒนา AI ได้ต่อเนื่อง 🔮 อนาคตของตลาด AI Hardware แม้ GPU จาก Nvidia และ AMD จะยังครองตลาดด้วยความยืดหยุ่นสูง แต่การมาของ ASICs อย่าง GPTPU อาจเป็นทางเลือกใหม่สำหรับบริษัทที่ต้องการลดต้นทุนพลังงานและหลีกเลี่ยงข้อจำกัดการเข้าถึงฮาร์ดแวร์ตะวันตก หากชิปนี้พิสูจน์ได้จริง อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการแข่งขันใหม่ในตลาด AI 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การเปิดตัวชิป GPTPU “Ghana” โดย Zhonghao Xinying ➡️ พัฒนาเองทั้งหมด ไม่พึ่งพาเทคโนโลยีตะวันตก ✅ ประสิทธิภาพเทียบกับ Nvidia A100 ➡️ เร็วกว่า 1.5 เท่า และใช้พลังงานน้อยลง 42% ✅ ความหมายเชิงยุทธศาสตร์ ➡️ ลดการพึ่งพา GPU ต่างชาติและสร้างความมั่นคงทางเทคโนโลยี ✅ ศักยภาพของ ASICs ในตลาด AI ➡️ อาจเป็นทางเลือกใหม่แทน GPU สำหรับงานเฉพาะด้าน ‼️ ข้อจำกัดเมื่อเทียบกับ GPU รุ่นใหม่ ⛔ ยังตามหลัง Hopper และ Blackwell Ultra ในด้านประสิทธิภาพรวม ‼️ ความเสี่ยงด้านความน่าเชื่อถือ ⛔ หากไม่สามารถพิสูจน์ผลลัพธ์จริง อาจถูกมองว่าเป็นการโฆษณาเกินจริง https://www.tomshardware.com/tech-industry/chinese-startup-founded-by-google-engineer-claims-to-have-developed-its-own-tpu-reportedly-1-5-times-faster-than-nvidias-a100-gpu-from-2020-42-percent-more-efficient
    0 Comments 0 Shares 197 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251127 #TechRadar

    รวมโน้ตบุ๊กสำหรับนักเรียนปี 2025
    ถ้าเล่าให้ฟังแบบง่าย ๆ ตอนนี้ TechRadar เขาได้จัดอันดับโน้ตบุ๊กที่เหมาะกับนักเรียนไว้หลายรุ่นเลย เริ่มจาก MacBook Air M3 ที่ยังคงเป็นตัวท็อปสำหรับการเรียน ใช้งานได้แรง แบตอึด และราคาก็ลดลงเพราะมีรุ่น M4 ออกมาแล้ว ต่อมาก็มี Acer Chromebook Plus 514 ที่เหมาะกับคนงบจำกัดแต่ยังได้เครื่องที่ทำงานลื่น ๆ สำหรับงานทั่วไป ส่วนใครชอบ ChromeOS รุ่น HP Chromebook Plus 15.6 ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ครบเครื่องและแบตทนดี สำหรับสายพกพา Microsoft Surface Laptop 13 น้ำหนักเบาและแบตยาวนานก็เป็นคำตอบ ส่วนสายครีเอทีฟที่ต้องใช้พลังมากขึ้น MacBook Air M4 รุ่นจอ 15 นิ้วก็ถูกยกให้เป็นเครื่องที่ตอบโจทย์งานกราฟิกและงานสร้างสรรค์ได้ดีมาก
    https://www.techradar.com/computing/laptops/best-student-laptops

    Google Messages เตรียมอัปเกรดใหม่
    ข่าวนี้พูดถึงการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ แต่มีประโยชน์ใน Google Messages ที่กำลังทดสอบอยู่ในโค้ดเบต้า อย่างแรกคือเวลาเซฟไฟล์รูปหรือวิดีโอจะมีปุ่ม “Open” ให้กดเปิดไฟล์ได้ทันที ต่อมาคือปุ่ม Gemini ที่จะใหญ่ขึ้นเพื่อให้คนใช้งานง่ายขึ้น และสุดท้ายคือการเปลี่ยนข้อความจาก “Location” เป็น “One-time Location” เพื่อให้ชัดเจนว่ามันแชร์ตำแหน่งแค่ครั้งเดียว ไม่ใช่แชร์ต่อเนื่อง แม้ยังไม่แน่ว่าจะเปิดใช้จริง แต่ถ้าออกมาก็น่าจะช่วยให้การใช้งานสะดวกขึ้น
    https://www.techradar.com/phones/google-messages-could-be-getting-3-useful-upgrades-soon-including-a-gemini-change

    นักพัฒนาระวัง! เว็บจัดรูปแบบโค้ดเผยข้อมูลลับ
    เรื่องนี้ค่อนข้างน่ากังวล เพราะมีการพบว่าเว็บยอดนิยมอย่าง JSONFormatter และ CodeBeautify มีฟีเจอร์ “Recent Links” ที่เปิดเผยข้อมูลที่ผู้ใช้เคยอัปโหลดไว้โดยไม่ป้องกัน ทำให้ข้อมูลสำคัญอย่างรหัสผ่าน คีย์ API หรือข้อมูลส่วนตัวหลุดออกมาได้ง่าย นักวิจัยถึงขั้นดึงข้อมูลย้อนหลังได้หลายปี และพบว่ามีทั้งข้อมูลจากหน่วยงานรัฐไปจนถึงบริษัทใหญ่ ๆ ที่เสี่ยงต่อการถูกโจมตี ซึ่งตอนนี้ก็มีผู้ไม่หวังดีเริ่มทดลองใช้ช่องโหว่นี้แล้วด้วย
    https://www.techradar.com/pro/security/top-code-formatting-sites-are-exposing-huge-amounts-of-user-data

    ธุรกิจยังติดขัดกับการทำ AI อย่างรับผิดชอบ
    รายงานจาก Experian ชี้ว่าผู้บริหารส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า “Responsible AI” จะเป็นตัวสร้างความแตกต่างในการแข่งขัน แต่ปัญหาคือหลายบริษัทยังไม่พร้อมที่จะนำไปใช้จริง ทั้งเรื่องคุณภาพข้อมูล ความรู้ทางเทคนิค และการบาลานซ์ระหว่างนวัตกรรมกับการกำกับดูแล แม้จะมีหลักการชัดเจน เช่น ความน่าเชื่อถือ การปกป้องความเป็นส่วนตัว และการลดอคติ แต่มีเพียงครึ่งหนึ่งที่บอกว่าทีมงานพร้อมจริง ๆ นักวิเคราะห์จึงแนะนำให้เริ่มจากเล็ก ๆ ทดลองก่อน แล้วค่อยขยาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและลดความเสี่ยง
    https://www.techradar.com/pro/businesses-are-struggling-to-implement-responsible-ai-but-it-could-make-all-the-difference

    Claude Opus 4.5 เปิดตัวแล้ว
    Anthropic ปล่อยโมเดลใหม่ Claude Opus 4.5 ที่บอกว่าดีขึ้นอย่าง “มีความหมาย” ทั้งเรื่องการทำงานทั่วไปและการเขียนโค้ด จุดเด่นคือมันจัดการงานจริงได้ดีขึ้น เช่น ทำอีเมล สไลด์ หรือเอกสารได้เนียนกว่าเดิม รวมถึงแก้โจทย์ที่ซับซ้อนและทำงานหลายขั้นตอนต่อเนื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังใช้พลังคำนวณน้อยลง ทำให้ทั้งผู้ใช้ทั่วไปและองค์กรได้ประโยชน์มากขึ้น แม้ยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่การพัฒนาเร็วขนาดนี้ก็แสดงให้เห็นว่าตลาด AI กำลังโตและแข่งขันกันเข้มข้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/claude/claude-opus-4-5-is-now-live-and-meaningfully-better-at-everyday-tasks-and-coding-challenges

    Nothing Phone 3: สมาร์ทโฟนเรือธงที่แตกต่าง
    Nothing เปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ Phone 3 ที่ตั้งใจจะก้าวเข้าสู่ตลาดพรีเมียมเต็มตัว ดีไซน์ยังคงความแปลกตาแบบบล็อกเหลี่ยมที่หลายคนอาจมองว่าสวยไม่เหมือนใคร แต่บางคนก็อาจรู้สึกว่ามันเทอะทะเกินไป จุดเด่นคือกล้อง 50MP ทั้งหมด 4 ตัว รวมถึงเลนส์ periscope ที่ช่วยให้ถ่ายภาพระยะไกลได้ดี แบตเตอรี่ใหญ่กว่า iPhone และ Samsung รุ่นใกล้เคียง พร้อมชาร์จเร็วกว่า จุดที่น่าสนใจคือฟีเจอร์ Glyph Matrix ที่ใช้ไฟด้านหลังมือถือแสดงข้อมูลหรือเล่นเกมเล็ก ๆ ได้ และปุ่ม Essential Key ที่ช่วยให้แคปหน้าจอหรือบันทึกวิดีโอได้ทันที ถึงแม้จะมีข้อดีหลายอย่าง แต่ราคาที่สูงขึ้นอาจทำให้แฟน ๆ รุ่นก่อนลังเล อย่างไรก็ตาม มันคือการประกาศชัดว่า Nothing อยากเป็นผู้เล่นในตลาดเรือธงจริง ๆ
    https://www.techradar.com/phones/nothing-phones/nothing-phone-3-review

    AWS มีดาต้าเซ็นเตอร์มากกว่าที่คิด
    ข้อมูลใหม่เผยว่า Amazon Web Services (AWS) อาจมีดาต้าเซ็นเตอร์มากถึง 900 แห่งทั่วโลก ซึ่งมากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้หลายเท่า การขยายตัวนี้เกิดจากความต้องการด้าน AI ที่เพิ่มสูงขึ้น AWS ไม่ได้เปิดเผยจำนวนจริง แต่ยืนยันว่ามี 38 regions และ 120 availability zones พร้อมแผนลงทุนมหาศาลในหลายประเทศ เช่น อินเดียและสหรัฐฯ จุดที่น่าสนใจคือ AWS พยายามรักษาประสิทธิภาพพลังงาน โดยอ้างว่ามีค่า Power Usage Effectiveness ดีกว่าค่าเฉลี่ยโลก และโครงสร้างพื้นฐานของตนใช้พลังงานได้คุ้มค่ากว่าการทำงานแบบ on-premises หลายเท่า
    https://www.techradar.com/pro/aws-says-it-has-around-900-data-centers-twice-as-many-as-previously-thought

    Android Desktop: ก้าวใหม่ของ Google OS
    Google กำลังพัฒนาโครงการ “Aluminium OS” ที่จะรวม Android เข้ากับ ChromeOS เพื่อสร้างระบบปฏิบัติการเดสก์ท็อปใหม่ รองรับทั้ง PC, Laptop, Tablet และ 2-in-1 จุดเด่นคือการผสาน AI เข้ามาเป็นแกนหลัก และรองรับแอป Android แบบเนทีฟโดยไม่ต้องจำลอง ทำให้การใช้งานต่อเนื่องระหว่างมือถือและเดสก์ท็อปเป็นไปอย่างราบรื่น Aluminium จะค่อย ๆ เข้ามาแทน ChromeOS แต่ยังคงอยู่คู่กันในช่วงเปลี่ยนผ่าน เป้าหมายคือการยกระดับ Chromebook และอุปกรณ์ Android ให้แข่งขันกับ Windows และ macOS ได้ในบางตลาด โดยเฉพาะด้านการศึกษาและธุรกิจ
    https://www.techradar.com/computing/desktop-pcs/android-powered-desktop-pcs-are-coming-and-i-think-theyll-be-an-exciting-step-up-from-chromeos

    Ransomware โจมตีธุรกิจที่ถูกซื้อกิจการ
    รายงานใหม่จาก ReliaQuest เผยว่าแฮกเกอร์ที่ใช้ Akira ransomware มักเจาะเข้าธุรกิจขนาดเล็กที่ถูกซื้อกิจการ โดยใช้ช่องโหว่จากอุปกรณ์ที่ถูกละเลยหรือไม่ได้รับการแพตช์ โดยเฉพาะ SonicWall SSL VPN ที่มีบัฟเฟอร์โอเวอร์โฟลว์ร้ายแรง แม้จะมีการอัปเดตแล้ว แต่หลายองค์กรยังไม่ทันปรับปรุง ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้ามาเคลื่อนไหวในระบบและเข้ารหัสข้อมูลได้ ปัญหาคือบริษัทที่ซื้อกิจการมักไม่รู้ว่ามีอุปกรณ์เสี่ยงอยู่ในเครือข่ายใหม่ ทำให้การโจมตีเกิดขึ้นง่ายและกระจายไปหลายบริษัทพร้อมกัน
    https://www.techradar.com/pro/security/ransomware-hackers-attack-smbs-being-acquired-to-try-and-gain-access-to-multiple-companies

    Chat Control: EU เห็นชอบการสแกนแชทแบบสมัครใจ
    หลังจากถกเถียงกันมากว่า 3 ปี สภาสหภาพยุโรปได้บรรลุข้อตกลงในกฎหมาย Child Sexual Abuse Regulation หรือที่ถูกเรียกว่า Chat Control โดยเปลี่ยนจากการบังคับสแกนข้อความส่วนตัวมาเป็นแบบสมัครใจ แต่ก็ยังสร้างความกังวลในหมู่ผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัว เพราะแม้จะไม่บังคับ แต่ก็เปิดช่องให้ผู้ให้บริการแชทต้องพิจารณามาตรการป้องกันการใช้แพลตฟอร์มในทางที่ผิด และอาจถูกบังคับให้พัฒนาเทคโนโลยีตรวจจับเพิ่มเติม ขณะนี้ EU เตรียมเข้าสู่การเจรจากับรัฐสภาเพื่อหาข้อสรุปสุดท้าย ซึ่งยังคงเป็นประเด็นร้อนระหว่างการปกป้องเด็กกับการรักษาสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/chat-control-eu-lawmakers-finally-agree-on-the-voluntary-scanning-of-your-private-chats

    การเชื่อมต่อ AI รุ่นใหม่: ประสิทธิภาพและการติดตั้ง
    บทความนี้พูดถึง “Next frontier” ของการเชื่อมต่อที่พร้อมสำหรับ AI โดยเน้นการทำให้โครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งในด้านการติดตั้งและการใช้งานจริง แนวคิดคือการสร้างระบบที่สามารถรองรับการประมวลผล AI ได้อย่างราบรื่น ลดความซับซ้อนในการขยายเครือข่าย และทำให้การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานคุ้มค่ามากขึ้น ผู้เขียนชี้ว่าอนาคตของการสื่อสารจะไม่ใช่แค่ความเร็ว แต่คือการจัดการทรัพยากรอย่างชาญฉลาดเพื่อรองรับการเติบโตของ AI
    https://www.techradar.com/pro/the-next-frontier-for-ai-ready-connectivity-efficiency-in-deployment

    ดีล Samsung Galaxy Tab ลดแรง
    TechRadar แนะนำดีลพิเศษสำหรับ Samsung Galaxy Tab ที่ช่วยประหยัดเงินได้หลายร้อยดอลลาร์ เหมาะสำหรับคนที่ชอบ Android มากกว่า iPadOS โดยบทความเน้นว่าตอนนี้เป็นช่วง Black Friday ที่มีโปรโมชั่นแรงที่สุดของปี ทำให้แท็บเล็ตตระกูล Galaxy Tab กลายเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า ทั้งในด้านราคาและฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลาย
    https://www.techradar.com/seasonal-sales/prefer-android-to-ipados-these-stellar-samsung-galaxy-tab-deals-will-save-you-hundreds-this-black-friday

    ChatGPT กับการพูดคุยเสียงที่สมจริง
    ผู้เขียนเล่าประสบการณ์การลองใช้ฟีเจอร์ใหม่ของ ChatGPT ที่เพิ่มการสนทนาด้วยเสียง ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนพูดคุยกับคนจริง ๆ มากขึ้น ฟีเจอร์นี้ถูกมองว่าเป็น “ชิ้นส่วนที่ขาดหายไป” ของการใช้งาน AI เพราะทำให้การโต้ตอบเป็นธรรมชาติและสะดวกกว่าเดิม แม้จะยังมีรายละเอียดที่ต้องปรับปรุง แต่โดยรวมถือว่าเป็นการพัฒนาใหญ่ที่ทำให้ AI ก้าวใกล้การใช้งานในชีวิตประจำวันมากขึ้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-new-voice-integration-feels-like-the-missing-piece-in-ai-chat-ive-tried-it-and-its-almost-perfect

    Notepad บน Windows 11 ได้ฟีเจอร์ใหม่
    Microsoft เพิ่มความสามารถใหม่ให้กับ Notepad ใน Windows 11 โดยรองรับการสร้างตารางและเสริมพลัง AI เข้าไป ฟีเจอร์นี้ทำให้ Notepad ไม่ใช่แค่โปรแกรมจดบันทึกธรรมดาอีกต่อไป แต่สามารถใช้ทำงานที่ซับซ้อนขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บางส่วนไม่พอใจ เพราะมองว่า Notepad ควรเป็นเครื่องมือที่เรียบง่าย ไม่ควรซับซ้อนเกินไป การเปลี่ยนแปลงนี้จึงกลายเป็นประเด็นถกเถียงในชุมชนผู้ใช้ Windows
    https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11s-notepad-gets-support-for-tables-and-bolstered-ai-powers-and-not-everyones-happy

    ChatGPT Voice Mode อัปเกรดครั้งใหญ่
    อีกหนึ่งบทความเกี่ยวกับ ChatGPT ที่พูดถึงการอัปเกรดโหมดเสียงครั้งใหญ่ โดยสรุปว่ามี 5 สิ่งสำคัญที่ผู้ใช้ควรรู้ เช่น ความเป็นธรรมชาติของเสียงที่ดีขึ้น ความเร็วในการตอบสนอง และการรองรับหลายภาษา การพัฒนานี้ทำให้การใช้งาน AI ผ่านเสียงมีความสมจริงและสะดวกมากขึ้น ถือเป็นการยกระดับการโต้ตอบระหว่างมนุษย์กับ AI ให้ใกล้เคียงการสนทนาจริงมากกว่าเดิม
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-voice-mode-just-got-a-major-upgrade-here-are-5-things-you-need-to-know

    อุปกรณ์ AI ของ Sam Altman ที่เหมือนกระท่อมริมทะเลสาบ แต่จริงๆ อาจเป็นการเฝ้าสอดส่อง
    Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI ออกมาเล่าว่ากำลังสร้างอุปกรณ์ AI แบบใหม่ ที่เขาเปรียบเหมือนการนั่งพักผ่อนในกระท่อมสวยๆ ริมทะเลสาบ ให้ความสงบและเรียบง่ายกว่าการใช้สมาร์ทโฟนที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย แต่เมื่อมองลึกลงไป อุปกรณ์นี้คือการเฝ้าสังเกตชีวิตผู้ใช้ตลอดเวลา ทั้งพฤติกรรม อารมณ์ และกิจวัตรประจำวัน ซึ่งอาจหมายถึงการแลกความเป็นส่วนตัวกับความสะดวกสบาย ความสงบที่ถูกขายให้เราอาจเป็นเพียงภาพลวงตา เพราะจริงๆ แล้วคือการเปิดให้ระบบเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai/sam-altman-wants-his-ai-device-to-feel-like-sitting-in-the-most-beautiful-cabin-by-a-lake-but-it-sounds-more-like-endless-surveillance

    Intel Granite Rapids-WS หลุดข้อมูล ชี้พลังเวิร์กสเตชันระดับมหึมา
    มีการรั่วไหลข้อมูลเกี่ยวกับแพลตฟอร์มใหม่ของ Intel ที่ชื่อ Granite Rapids-WS ซึ่งจะใช้ซ็อกเก็ต E2 ขนาดใหญ่ รองรับพลังงานสูงถึง 350 วัตต์ และสามารถใส่แรม DDR5 ได้ถึง 2 เทราไบต์ต่อซ็อกเก็ต จุดเด่นคือจำนวนคอร์มหาศาลถึง 86 คอร์ 172 เธรด พร้อมแคช L3 ขนาดใหญ่ และ PCIe lanes มากมายเพื่อรองรับ GPU และสตอเรจหลายตัว นี่คือการตอบโต้ AMD Threadripper ในตลาดเวิร์กสเตชันระดับสูง ที่เน้นงานเรนเดอร์ ซิมูเลชัน และการวิเคราะห์ข้อมูลหนักๆ
    https://www.techradar.com/pro/did-intels-next-big-thing-in-workstations-just-leak-ahead-of-granite-rapids-launch-report-claims-this-is-whats-next-from-troubled-chipmaker

    จีนจำลองการใช้โดรน 1,000 ตัวเพื่อบล็อก Starlink เหนือไต้หวัน
    งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยในจีนเผยการจำลองสถานการณ์ที่ใช้โดรนติดตั้งเครื่องรบกวนสัญญาณจำนวนมหาศาล เพื่อสร้าง “เกราะแม่เหล็กไฟฟ้า” ปิดกั้นอินเทอร์เน็ตดาวเทียม Starlink เหนือไต้หวัน การทดลองชี้ว่าหากใช้โดรนราว 935 ตัวที่ทำงานประสานกัน จะสามารถทำให้พื้นที่ทั้งหมดไม่สามารถเชื่อมต่อได้ แม้ในทางปฏิบัติจะมีความยากลำบากและค่าใช้จ่ายสูง แต่แนวคิดนี้สะท้อนถึงการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในสงครามอิเล็กทรอนิกส์ที่น่ากังวล
    https://www.techradar.com/tech/can-starlink-be-blocked-scary-chinese-simulation-shows-1-000-drones-can-jam-satellite-internet-over-an-island-as-large-as-taiwan

    Tuxedo ยกเลิกโน้ตบุ๊ก Linux ที่ใช้ Snapdragon X Elite หลังเจอปัญหาหนัก
    บริษัท Tuxedo ที่เชี่ยวชาญด้านเครื่อง Linux ตัดสินใจยกเลิกการพัฒนาโน้ตบุ๊กที่ใช้ชิป Snapdragon X Elite หลังจากพยายามแก้ไขปัญหามานานถึง 18 เดือน แต่ไม่สามารถทำให้ระบบทำงานได้สมบูรณ์ ปัญหามีทั้งเรื่อง BIOS, การควบคุมพัดลม, การทำงานของ KVM virtualization และการถ่ายโอนข้อมูล USB4 ที่ไม่เสถียร ผลทดสอบยังชี้ว่าแบตเตอรี่ไม่ได้ยาวนานตามที่คาดไว้ ทำให้เครื่องไม่ตอบโจทย์ผู้ใช้ Linux จริงๆ บริษัทจึงเลือกหยุดโครงการและรอดูรุ่นใหม่ Snapdragon X2 Elite ว่าจะเข้ากับ Linux ได้ดีกว่าหรือไม่
    https://www.techradar.com/pro/top-linux-pc-maker-drops-plan-for-snapdragonx-elite-powered-notebook-says-hardware-was-less-suitable-than-expected

    รีวิว RedMagic 11 Pro มือถือเกมมิ่งสุดแรงในราคาคุ้มค่า
    RedMagic 11 Pro ยังคงรักษาตำแหน่งมือถือเกมมิ่งที่คุ้มค่าที่สุด ด้วยชิป Snapdragon 8 Elite Gen 5 ที่เร็วสุดๆ พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำและพัดลมที่ออกแบบใหม่ ทำให้เล่นเกมหนักๆ ได้อย่างลื่นไหล แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7,500mAh ใช้งานได้ยาวนานหลายวัน และรองรับชาร์จไว 80W แม้จะไม่มีชาร์จไร้สาย แต่ก็ถือว่าเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่สมเหตุสมผล จุดอ่อนคือกล้องที่ยังไม่ดีนัก โดยเฉพาะการถ่ายเซลฟี่ แต่สำหรับคนที่ต้องการมือถือเล่นเกมแรงๆ ในราคาที่ไม่ถึงพันดอลลาร์ นี่คือหนึ่งในตัวเลือกที่โดดเด่นที่สุด
    https://www.techradar.com/phones/redmagic-11-pro-review

    มัลแวร์ใหม่บน macOS สร้างห่วงโซ่โจมตีที่น่าปวดหัว
    มีการค้นพบมัลแวร์รูปแบบใหม่บน macOS ที่ทำงานเป็น “chain” หรือห่วงโซ่การโจมตี โดยเริ่มจากการเจาะเข้าระบบผ่านช่องโหว่เล็กๆ แล้วค่อยๆ ขยายสิทธิ์การเข้าถึงไปเรื่อยๆ จนสามารถควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ จุดน่ากังวลคือมันสามารถหลบเลี่ยงระบบรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่ และอาจถูกใช้โจมตีองค์กรหรือผู้ใช้ทั่วไปได้อย่างรุนแรง นักวิจัยเตือนว่าผู้ใช้ควรอัปเดตระบบและระวังการดาวน์โหลดไฟล์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
    https://www.techradar.com/pro/security/new-macos-malware-chain-could-cause-a-major-security-headache-heres-what-we-know

    กล้อง Leica ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสถูกประมูลได้ 7.5 ล้านดอลลาร์
    Leica รุ่นพิเศษที่เคยเป็นของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ถูกนำออกประมูลและสร้างสถิติใหม่ด้วยราคาสูงถึง 7.5 ล้านดอลลาร์ รายได้ทั้งหมดถูกนำไปใช้เพื่อการกุศล กล้องตัวนี้มีคุณสมบัติพิเศษถึง 7 อย่างที่ไม่เหมือนใคร เช่น การออกแบบเฉพาะตัวและวัสดุที่หายาก ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในกล้องที่มีคุณค่าทางจิตใจและประวัติศาสตร์มากที่สุดในโลก
    https://www.techradar.com/cameras/this-stunning-one-off-leica-belonging-to-the-late-pope-francis-just-raised-usd7-5-million-for-charity-here-are-its-7-unique-features

    รวมกล้องคอมแพ็กที่ดีที่สุดปี 2025 พกง่าย ใช้งานสะดวก
    TechRadar จัดอันดับกล้องคอมแพ็กที่โดดเด่นที่สุดในปี 2025 สำหรับคนที่อยากได้กล้องเล็กๆ พกพาสะดวก แต่ยังให้คุณภาพภาพถ่ายที่ดีเยี่ยม รายการนี้รวมทั้งรุ่นที่เหมาะกับนักเดินทาง, คนที่ชอบถ่ายภาพสตรีท, ไปจนถึงผู้ใช้ที่ต้องการกล้องเสริมจากสมาร์ทโฟน โดยมีทั้งรุ่นราคาประหยัดและรุ่นพรีเมียมที่เน้นคุณภาพสูงสุด
    https://www.techradar.com/cameras/compact-cameras/the-best-compact-cameras

    บทความเตือนใจ: อย่าเดทกับ AI เพราะมันไม่มีวันรักคุณ
    บทความเชิงความคิดเห็นชี้ให้เห็นถึงกระแสที่บางคนเริ่มมีความสัมพันธ์เชิงอารมณ์กับ AI แต่ผู้เขียนเตือนว่า AI ไม่สามารถรักหรือมีความรู้สึกแท้จริงได้ การคาดหวังให้มันเป็นคู่ชีวิตอาจทำให้คนหลงทางและเสียสมดุลในชีวิตจริง ข้อความนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไปในด้านอารมณ์และความสัมพันธ์
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/please-dont-date-your-ai-because-it-will-never-love-you-or-pick-up-the-check

    Poco เปิดตัวมือถือเรือธงพร้อมซับวูฟเฟอร์ Bose ขนาดจิ๋ว
    Poco เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่มาพร้อมนวัตกรรมแปลกตา คือการใส่ซับวูฟเฟอร์ Bose ขนาดเล็กเข้าไปในเครื่อง เพื่อให้เสียงแบบ 2.1-channel audio แม้จะเป็นฟีเจอร์ที่น่าสนใจสำหรับคนรักเสียงเบส แต่ก็มีข้อกังวลว่าการใช้งานในพื้นที่สาธารณะ เช่น บนรถบัส อาจสร้างความรำคาญให้คนรอบข้างได้ อย่างไรก็ตาม นี่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความพยายามของ Poco ในการสร้างความแตกต่างในตลาดมือถือที่แข่งขันสูง
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/phones/poco-phones/pocos-new-flagship-phone-has-a-mini-bose-subwoofer-for-2-1-channel-audio-and-i-hope-im-not-near-one-on-the-bus
    📌📡🟠 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟠📡📌 #รวมข่าวIT #20251127 #TechRadar 💻 รวมโน้ตบุ๊กสำหรับนักเรียนปี 2025 ถ้าเล่าให้ฟังแบบง่าย ๆ ตอนนี้ TechRadar เขาได้จัดอันดับโน้ตบุ๊กที่เหมาะกับนักเรียนไว้หลายรุ่นเลย เริ่มจาก MacBook Air M3 ที่ยังคงเป็นตัวท็อปสำหรับการเรียน ใช้งานได้แรง แบตอึด และราคาก็ลดลงเพราะมีรุ่น M4 ออกมาแล้ว ต่อมาก็มี Acer Chromebook Plus 514 ที่เหมาะกับคนงบจำกัดแต่ยังได้เครื่องที่ทำงานลื่น ๆ สำหรับงานทั่วไป ส่วนใครชอบ ChromeOS รุ่น HP Chromebook Plus 15.6 ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ครบเครื่องและแบตทนดี สำหรับสายพกพา Microsoft Surface Laptop 13 น้ำหนักเบาและแบตยาวนานก็เป็นคำตอบ ส่วนสายครีเอทีฟที่ต้องใช้พลังมากขึ้น MacBook Air M4 รุ่นจอ 15 นิ้วก็ถูกยกให้เป็นเครื่องที่ตอบโจทย์งานกราฟิกและงานสร้างสรรค์ได้ดีมาก 🔗 https://www.techradar.com/computing/laptops/best-student-laptops 📱 Google Messages เตรียมอัปเกรดใหม่ ข่าวนี้พูดถึงการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ แต่มีประโยชน์ใน Google Messages ที่กำลังทดสอบอยู่ในโค้ดเบต้า อย่างแรกคือเวลาเซฟไฟล์รูปหรือวิดีโอจะมีปุ่ม “Open” ให้กดเปิดไฟล์ได้ทันที ต่อมาคือปุ่ม Gemini ที่จะใหญ่ขึ้นเพื่อให้คนใช้งานง่ายขึ้น และสุดท้ายคือการเปลี่ยนข้อความจาก “Location” เป็น “One-time Location” เพื่อให้ชัดเจนว่ามันแชร์ตำแหน่งแค่ครั้งเดียว ไม่ใช่แชร์ต่อเนื่อง แม้ยังไม่แน่ว่าจะเปิดใช้จริง แต่ถ้าออกมาก็น่าจะช่วยให้การใช้งานสะดวกขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/phones/google-messages-could-be-getting-3-useful-upgrades-soon-including-a-gemini-change 🔐 นักพัฒนาระวัง! เว็บจัดรูปแบบโค้ดเผยข้อมูลลับ เรื่องนี้ค่อนข้างน่ากังวล เพราะมีการพบว่าเว็บยอดนิยมอย่าง JSONFormatter และ CodeBeautify มีฟีเจอร์ “Recent Links” ที่เปิดเผยข้อมูลที่ผู้ใช้เคยอัปโหลดไว้โดยไม่ป้องกัน ทำให้ข้อมูลสำคัญอย่างรหัสผ่าน คีย์ API หรือข้อมูลส่วนตัวหลุดออกมาได้ง่าย นักวิจัยถึงขั้นดึงข้อมูลย้อนหลังได้หลายปี และพบว่ามีทั้งข้อมูลจากหน่วยงานรัฐไปจนถึงบริษัทใหญ่ ๆ ที่เสี่ยงต่อการถูกโจมตี ซึ่งตอนนี้ก็มีผู้ไม่หวังดีเริ่มทดลองใช้ช่องโหว่นี้แล้วด้วย 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/top-code-formatting-sites-are-exposing-huge-amounts-of-user-data 🤖 ธุรกิจยังติดขัดกับการทำ AI อย่างรับผิดชอบ รายงานจาก Experian ชี้ว่าผู้บริหารส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า “Responsible AI” จะเป็นตัวสร้างความแตกต่างในการแข่งขัน แต่ปัญหาคือหลายบริษัทยังไม่พร้อมที่จะนำไปใช้จริง ทั้งเรื่องคุณภาพข้อมูล ความรู้ทางเทคนิค และการบาลานซ์ระหว่างนวัตกรรมกับการกำกับดูแล แม้จะมีหลักการชัดเจน เช่น ความน่าเชื่อถือ การปกป้องความเป็นส่วนตัว และการลดอคติ แต่มีเพียงครึ่งหนึ่งที่บอกว่าทีมงานพร้อมจริง ๆ นักวิเคราะห์จึงแนะนำให้เริ่มจากเล็ก ๆ ทดลองก่อน แล้วค่อยขยาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและลดความเสี่ยง 🔗 https://www.techradar.com/pro/businesses-are-struggling-to-implement-responsible-ai-but-it-could-make-all-the-difference ⚡ Claude Opus 4.5 เปิดตัวแล้ว Anthropic ปล่อยโมเดลใหม่ Claude Opus 4.5 ที่บอกว่าดีขึ้นอย่าง “มีความหมาย” ทั้งเรื่องการทำงานทั่วไปและการเขียนโค้ด จุดเด่นคือมันจัดการงานจริงได้ดีขึ้น เช่น ทำอีเมล สไลด์ หรือเอกสารได้เนียนกว่าเดิม รวมถึงแก้โจทย์ที่ซับซ้อนและทำงานหลายขั้นตอนต่อเนื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังใช้พลังคำนวณน้อยลง ทำให้ทั้งผู้ใช้ทั่วไปและองค์กรได้ประโยชน์มากขึ้น แม้ยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่การพัฒนาเร็วขนาดนี้ก็แสดงให้เห็นว่าตลาด AI กำลังโตและแข่งขันกันเข้มข้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/claude/claude-opus-4-5-is-now-live-and-meaningfully-better-at-everyday-tasks-and-coding-challenges 📱 Nothing Phone 3: สมาร์ทโฟนเรือธงที่แตกต่าง Nothing เปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ Phone 3 ที่ตั้งใจจะก้าวเข้าสู่ตลาดพรีเมียมเต็มตัว ดีไซน์ยังคงความแปลกตาแบบบล็อกเหลี่ยมที่หลายคนอาจมองว่าสวยไม่เหมือนใคร แต่บางคนก็อาจรู้สึกว่ามันเทอะทะเกินไป จุดเด่นคือกล้อง 50MP ทั้งหมด 4 ตัว รวมถึงเลนส์ periscope ที่ช่วยให้ถ่ายภาพระยะไกลได้ดี แบตเตอรี่ใหญ่กว่า iPhone และ Samsung รุ่นใกล้เคียง พร้อมชาร์จเร็วกว่า จุดที่น่าสนใจคือฟีเจอร์ Glyph Matrix ที่ใช้ไฟด้านหลังมือถือแสดงข้อมูลหรือเล่นเกมเล็ก ๆ ได้ และปุ่ม Essential Key ที่ช่วยให้แคปหน้าจอหรือบันทึกวิดีโอได้ทันที ถึงแม้จะมีข้อดีหลายอย่าง แต่ราคาที่สูงขึ้นอาจทำให้แฟน ๆ รุ่นก่อนลังเล อย่างไรก็ตาม มันคือการประกาศชัดว่า Nothing อยากเป็นผู้เล่นในตลาดเรือธงจริง ๆ 🔗 https://www.techradar.com/phones/nothing-phones/nothing-phone-3-review ☁️ AWS มีดาต้าเซ็นเตอร์มากกว่าที่คิด ข้อมูลใหม่เผยว่า Amazon Web Services (AWS) อาจมีดาต้าเซ็นเตอร์มากถึง 900 แห่งทั่วโลก ซึ่งมากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้หลายเท่า การขยายตัวนี้เกิดจากความต้องการด้าน AI ที่เพิ่มสูงขึ้น AWS ไม่ได้เปิดเผยจำนวนจริง แต่ยืนยันว่ามี 38 regions และ 120 availability zones พร้อมแผนลงทุนมหาศาลในหลายประเทศ เช่น อินเดียและสหรัฐฯ จุดที่น่าสนใจคือ AWS พยายามรักษาประสิทธิภาพพลังงาน โดยอ้างว่ามีค่า Power Usage Effectiveness ดีกว่าค่าเฉลี่ยโลก และโครงสร้างพื้นฐานของตนใช้พลังงานได้คุ้มค่ากว่าการทำงานแบบ on-premises หลายเท่า 🔗 https://www.techradar.com/pro/aws-says-it-has-around-900-data-centers-twice-as-many-as-previously-thought 💻 Android Desktop: ก้าวใหม่ของ Google OS Google กำลังพัฒนาโครงการ “Aluminium OS” ที่จะรวม Android เข้ากับ ChromeOS เพื่อสร้างระบบปฏิบัติการเดสก์ท็อปใหม่ รองรับทั้ง PC, Laptop, Tablet และ 2-in-1 จุดเด่นคือการผสาน AI เข้ามาเป็นแกนหลัก และรองรับแอป Android แบบเนทีฟโดยไม่ต้องจำลอง ทำให้การใช้งานต่อเนื่องระหว่างมือถือและเดสก์ท็อปเป็นไปอย่างราบรื่น Aluminium จะค่อย ๆ เข้ามาแทน ChromeOS แต่ยังคงอยู่คู่กันในช่วงเปลี่ยนผ่าน เป้าหมายคือการยกระดับ Chromebook และอุปกรณ์ Android ให้แข่งขันกับ Windows และ macOS ได้ในบางตลาด โดยเฉพาะด้านการศึกษาและธุรกิจ 🔗 https://www.techradar.com/computing/desktop-pcs/android-powered-desktop-pcs-are-coming-and-i-think-theyll-be-an-exciting-step-up-from-chromeos 🔒 Ransomware โจมตีธุรกิจที่ถูกซื้อกิจการ รายงานใหม่จาก ReliaQuest เผยว่าแฮกเกอร์ที่ใช้ Akira ransomware มักเจาะเข้าธุรกิจขนาดเล็กที่ถูกซื้อกิจการ โดยใช้ช่องโหว่จากอุปกรณ์ที่ถูกละเลยหรือไม่ได้รับการแพตช์ โดยเฉพาะ SonicWall SSL VPN ที่มีบัฟเฟอร์โอเวอร์โฟลว์ร้ายแรง แม้จะมีการอัปเดตแล้ว แต่หลายองค์กรยังไม่ทันปรับปรุง ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้ามาเคลื่อนไหวในระบบและเข้ารหัสข้อมูลได้ ปัญหาคือบริษัทที่ซื้อกิจการมักไม่รู้ว่ามีอุปกรณ์เสี่ยงอยู่ในเครือข่ายใหม่ ทำให้การโจมตีเกิดขึ้นง่ายและกระจายไปหลายบริษัทพร้อมกัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/ransomware-hackers-attack-smbs-being-acquired-to-try-and-gain-access-to-multiple-companies 🇪🇺 Chat Control: EU เห็นชอบการสแกนแชทแบบสมัครใจ หลังจากถกเถียงกันมากว่า 3 ปี สภาสหภาพยุโรปได้บรรลุข้อตกลงในกฎหมาย Child Sexual Abuse Regulation หรือที่ถูกเรียกว่า Chat Control โดยเปลี่ยนจากการบังคับสแกนข้อความส่วนตัวมาเป็นแบบสมัครใจ แต่ก็ยังสร้างความกังวลในหมู่ผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัว เพราะแม้จะไม่บังคับ แต่ก็เปิดช่องให้ผู้ให้บริการแชทต้องพิจารณามาตรการป้องกันการใช้แพลตฟอร์มในทางที่ผิด และอาจถูกบังคับให้พัฒนาเทคโนโลยีตรวจจับเพิ่มเติม ขณะนี้ EU เตรียมเข้าสู่การเจรจากับรัฐสภาเพื่อหาข้อสรุปสุดท้าย ซึ่งยังคงเป็นประเด็นร้อนระหว่างการปกป้องเด็กกับการรักษาสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/chat-control-eu-lawmakers-finally-agree-on-the-voluntary-scanning-of-your-private-chats 🌐 การเชื่อมต่อ AI รุ่นใหม่: ประสิทธิภาพและการติดตั้ง บทความนี้พูดถึง “Next frontier” ของการเชื่อมต่อที่พร้อมสำหรับ AI โดยเน้นการทำให้โครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งในด้านการติดตั้งและการใช้งานจริง แนวคิดคือการสร้างระบบที่สามารถรองรับการประมวลผล AI ได้อย่างราบรื่น ลดความซับซ้อนในการขยายเครือข่าย และทำให้การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานคุ้มค่ามากขึ้น ผู้เขียนชี้ว่าอนาคตของการสื่อสารจะไม่ใช่แค่ความเร็ว แต่คือการจัดการทรัพยากรอย่างชาญฉลาดเพื่อรองรับการเติบโตของ AI 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-next-frontier-for-ai-ready-connectivity-efficiency-in-deployment 📱 ดีล Samsung Galaxy Tab ลดแรง TechRadar แนะนำดีลพิเศษสำหรับ Samsung Galaxy Tab ที่ช่วยประหยัดเงินได้หลายร้อยดอลลาร์ เหมาะสำหรับคนที่ชอบ Android มากกว่า iPadOS โดยบทความเน้นว่าตอนนี้เป็นช่วง Black Friday ที่มีโปรโมชั่นแรงที่สุดของปี ทำให้แท็บเล็ตตระกูล Galaxy Tab กลายเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า ทั้งในด้านราคาและฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลาย 🔗 https://www.techradar.com/seasonal-sales/prefer-android-to-ipados-these-stellar-samsung-galaxy-tab-deals-will-save-you-hundreds-this-black-friday 🎙️ ChatGPT กับการพูดคุยเสียงที่สมจริง ผู้เขียนเล่าประสบการณ์การลองใช้ฟีเจอร์ใหม่ของ ChatGPT ที่เพิ่มการสนทนาด้วยเสียง ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนพูดคุยกับคนจริง ๆ มากขึ้น ฟีเจอร์นี้ถูกมองว่าเป็น “ชิ้นส่วนที่ขาดหายไป” ของการใช้งาน AI เพราะทำให้การโต้ตอบเป็นธรรมชาติและสะดวกกว่าเดิม แม้จะยังมีรายละเอียดที่ต้องปรับปรุง แต่โดยรวมถือว่าเป็นการพัฒนาใหญ่ที่ทำให้ AI ก้าวใกล้การใช้งานในชีวิตประจำวันมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-new-voice-integration-feels-like-the-missing-piece-in-ai-chat-ive-tried-it-and-its-almost-perfect 📝 Notepad บน Windows 11 ได้ฟีเจอร์ใหม่ Microsoft เพิ่มความสามารถใหม่ให้กับ Notepad ใน Windows 11 โดยรองรับการสร้างตารางและเสริมพลัง AI เข้าไป ฟีเจอร์นี้ทำให้ Notepad ไม่ใช่แค่โปรแกรมจดบันทึกธรรมดาอีกต่อไป แต่สามารถใช้ทำงานที่ซับซ้อนขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บางส่วนไม่พอใจ เพราะมองว่า Notepad ควรเป็นเครื่องมือที่เรียบง่าย ไม่ควรซับซ้อนเกินไป การเปลี่ยนแปลงนี้จึงกลายเป็นประเด็นถกเถียงในชุมชนผู้ใช้ Windows 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11s-notepad-gets-support-for-tables-and-bolstered-ai-powers-and-not-everyones-happy 🔊 ChatGPT Voice Mode อัปเกรดครั้งใหญ่ อีกหนึ่งบทความเกี่ยวกับ ChatGPT ที่พูดถึงการอัปเกรดโหมดเสียงครั้งใหญ่ โดยสรุปว่ามี 5 สิ่งสำคัญที่ผู้ใช้ควรรู้ เช่น ความเป็นธรรมชาติของเสียงที่ดีขึ้น ความเร็วในการตอบสนอง และการรองรับหลายภาษา การพัฒนานี้ทำให้การใช้งาน AI ผ่านเสียงมีความสมจริงและสะดวกมากขึ้น ถือเป็นการยกระดับการโต้ตอบระหว่างมนุษย์กับ AI ให้ใกล้เคียงการสนทนาจริงมากกว่าเดิม 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-voice-mode-just-got-a-major-upgrade-here-are-5-things-you-need-to-know 🏞️ อุปกรณ์ AI ของ Sam Altman ที่เหมือนกระท่อมริมทะเลสาบ แต่จริงๆ อาจเป็นการเฝ้าสอดส่อง Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI ออกมาเล่าว่ากำลังสร้างอุปกรณ์ AI แบบใหม่ ที่เขาเปรียบเหมือนการนั่งพักผ่อนในกระท่อมสวยๆ ริมทะเลสาบ ให้ความสงบและเรียบง่ายกว่าการใช้สมาร์ทโฟนที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย แต่เมื่อมองลึกลงไป อุปกรณ์นี้คือการเฝ้าสังเกตชีวิตผู้ใช้ตลอดเวลา ทั้งพฤติกรรม อารมณ์ และกิจวัตรประจำวัน ซึ่งอาจหมายถึงการแลกความเป็นส่วนตัวกับความสะดวกสบาย ความสงบที่ถูกขายให้เราอาจเป็นเพียงภาพลวงตา เพราะจริงๆ แล้วคือการเปิดให้ระบบเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai/sam-altman-wants-his-ai-device-to-feel-like-sitting-in-the-most-beautiful-cabin-by-a-lake-but-it-sounds-more-like-endless-surveillance 💻 Intel Granite Rapids-WS หลุดข้อมูล ชี้พลังเวิร์กสเตชันระดับมหึมา มีการรั่วไหลข้อมูลเกี่ยวกับแพลตฟอร์มใหม่ของ Intel ที่ชื่อ Granite Rapids-WS ซึ่งจะใช้ซ็อกเก็ต E2 ขนาดใหญ่ รองรับพลังงานสูงถึง 350 วัตต์ และสามารถใส่แรม DDR5 ได้ถึง 2 เทราไบต์ต่อซ็อกเก็ต จุดเด่นคือจำนวนคอร์มหาศาลถึง 86 คอร์ 172 เธรด พร้อมแคช L3 ขนาดใหญ่ และ PCIe lanes มากมายเพื่อรองรับ GPU และสตอเรจหลายตัว นี่คือการตอบโต้ AMD Threadripper ในตลาดเวิร์กสเตชันระดับสูง ที่เน้นงานเรนเดอร์ ซิมูเลชัน และการวิเคราะห์ข้อมูลหนักๆ 🔗 https://www.techradar.com/pro/did-intels-next-big-thing-in-workstations-just-leak-ahead-of-granite-rapids-launch-report-claims-this-is-whats-next-from-troubled-chipmaker 🚁 จีนจำลองการใช้โดรน 1,000 ตัวเพื่อบล็อก Starlink เหนือไต้หวัน งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยในจีนเผยการจำลองสถานการณ์ที่ใช้โดรนติดตั้งเครื่องรบกวนสัญญาณจำนวนมหาศาล เพื่อสร้าง “เกราะแม่เหล็กไฟฟ้า” ปิดกั้นอินเทอร์เน็ตดาวเทียม Starlink เหนือไต้หวัน การทดลองชี้ว่าหากใช้โดรนราว 935 ตัวที่ทำงานประสานกัน จะสามารถทำให้พื้นที่ทั้งหมดไม่สามารถเชื่อมต่อได้ แม้ในทางปฏิบัติจะมีความยากลำบากและค่าใช้จ่ายสูง แต่แนวคิดนี้สะท้อนถึงการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในสงครามอิเล็กทรอนิกส์ที่น่ากังวล 🔗 https://www.techradar.com/tech/can-starlink-be-blocked-scary-chinese-simulation-shows-1-000-drones-can-jam-satellite-internet-over-an-island-as-large-as-taiwan 🖥️ Tuxedo ยกเลิกโน้ตบุ๊ก Linux ที่ใช้ Snapdragon X Elite หลังเจอปัญหาหนัก บริษัท Tuxedo ที่เชี่ยวชาญด้านเครื่อง Linux ตัดสินใจยกเลิกการพัฒนาโน้ตบุ๊กที่ใช้ชิป Snapdragon X Elite หลังจากพยายามแก้ไขปัญหามานานถึง 18 เดือน แต่ไม่สามารถทำให้ระบบทำงานได้สมบูรณ์ ปัญหามีทั้งเรื่อง BIOS, การควบคุมพัดลม, การทำงานของ KVM virtualization และการถ่ายโอนข้อมูล USB4 ที่ไม่เสถียร ผลทดสอบยังชี้ว่าแบตเตอรี่ไม่ได้ยาวนานตามที่คาดไว้ ทำให้เครื่องไม่ตอบโจทย์ผู้ใช้ Linux จริงๆ บริษัทจึงเลือกหยุดโครงการและรอดูรุ่นใหม่ Snapdragon X2 Elite ว่าจะเข้ากับ Linux ได้ดีกว่าหรือไม่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/top-linux-pc-maker-drops-plan-for-snapdragonx-elite-powered-notebook-says-hardware-was-less-suitable-than-expected 📱 รีวิว RedMagic 11 Pro มือถือเกมมิ่งสุดแรงในราคาคุ้มค่า RedMagic 11 Pro ยังคงรักษาตำแหน่งมือถือเกมมิ่งที่คุ้มค่าที่สุด ด้วยชิป Snapdragon 8 Elite Gen 5 ที่เร็วสุดๆ พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำและพัดลมที่ออกแบบใหม่ ทำให้เล่นเกมหนักๆ ได้อย่างลื่นไหล แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7,500mAh ใช้งานได้ยาวนานหลายวัน และรองรับชาร์จไว 80W แม้จะไม่มีชาร์จไร้สาย แต่ก็ถือว่าเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่สมเหตุสมผล จุดอ่อนคือกล้องที่ยังไม่ดีนัก โดยเฉพาะการถ่ายเซลฟี่ แต่สำหรับคนที่ต้องการมือถือเล่นเกมแรงๆ ในราคาที่ไม่ถึงพันดอลลาร์ นี่คือหนึ่งในตัวเลือกที่โดดเด่นที่สุด 🔗 https://www.techradar.com/phones/redmagic-11-pro-review 🔒 มัลแวร์ใหม่บน macOS สร้างห่วงโซ่โจมตีที่น่าปวดหัว มีการค้นพบมัลแวร์รูปแบบใหม่บน macOS ที่ทำงานเป็น “chain” หรือห่วงโซ่การโจมตี โดยเริ่มจากการเจาะเข้าระบบผ่านช่องโหว่เล็กๆ แล้วค่อยๆ ขยายสิทธิ์การเข้าถึงไปเรื่อยๆ จนสามารถควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ จุดน่ากังวลคือมันสามารถหลบเลี่ยงระบบรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่ และอาจถูกใช้โจมตีองค์กรหรือผู้ใช้ทั่วไปได้อย่างรุนแรง นักวิจัยเตือนว่าผู้ใช้ควรอัปเดตระบบและระวังการดาวน์โหลดไฟล์ที่ไม่น่าเชื่อถือ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/new-macos-malware-chain-could-cause-a-major-security-headache-heres-what-we-know 📸 กล้อง Leica ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสถูกประมูลได้ 7.5 ล้านดอลลาร์ Leica รุ่นพิเศษที่เคยเป็นของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ถูกนำออกประมูลและสร้างสถิติใหม่ด้วยราคาสูงถึง 7.5 ล้านดอลลาร์ รายได้ทั้งหมดถูกนำไปใช้เพื่อการกุศล กล้องตัวนี้มีคุณสมบัติพิเศษถึง 7 อย่างที่ไม่เหมือนใคร เช่น การออกแบบเฉพาะตัวและวัสดุที่หายาก ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในกล้องที่มีคุณค่าทางจิตใจและประวัติศาสตร์มากที่สุดในโลก 🔗 https://www.techradar.com/cameras/this-stunning-one-off-leica-belonging-to-the-late-pope-francis-just-raised-usd7-5-million-for-charity-here-are-its-7-unique-features 📷 รวมกล้องคอมแพ็กที่ดีที่สุดปี 2025 พกง่าย ใช้งานสะดวก TechRadar จัดอันดับกล้องคอมแพ็กที่โดดเด่นที่สุดในปี 2025 สำหรับคนที่อยากได้กล้องเล็กๆ พกพาสะดวก แต่ยังให้คุณภาพภาพถ่ายที่ดีเยี่ยม รายการนี้รวมทั้งรุ่นที่เหมาะกับนักเดินทาง, คนที่ชอบถ่ายภาพสตรีท, ไปจนถึงผู้ใช้ที่ต้องการกล้องเสริมจากสมาร์ทโฟน โดยมีทั้งรุ่นราคาประหยัดและรุ่นพรีเมียมที่เน้นคุณภาพสูงสุด 🔗 https://www.techradar.com/cameras/compact-cameras/the-best-compact-cameras 🤖 บทความเตือนใจ: อย่าเดทกับ AI เพราะมันไม่มีวันรักคุณ บทความเชิงความคิดเห็นชี้ให้เห็นถึงกระแสที่บางคนเริ่มมีความสัมพันธ์เชิงอารมณ์กับ AI แต่ผู้เขียนเตือนว่า AI ไม่สามารถรักหรือมีความรู้สึกแท้จริงได้ การคาดหวังให้มันเป็นคู่ชีวิตอาจทำให้คนหลงทางและเสียสมดุลในชีวิตจริง ข้อความนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไปในด้านอารมณ์และความสัมพันธ์ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/please-dont-date-your-ai-because-it-will-never-love-you-or-pick-up-the-check 🔊 Poco เปิดตัวมือถือเรือธงพร้อมซับวูฟเฟอร์ Bose ขนาดจิ๋ว Poco เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่มาพร้อมนวัตกรรมแปลกตา คือการใส่ซับวูฟเฟอร์ Bose ขนาดเล็กเข้าไปในเครื่อง เพื่อให้เสียงแบบ 2.1-channel audio แม้จะเป็นฟีเจอร์ที่น่าสนใจสำหรับคนรักเสียงเบส แต่ก็มีข้อกังวลว่าการใช้งานในพื้นที่สาธารณะ เช่น บนรถบัส อาจสร้างความรำคาญให้คนรอบข้างได้ อย่างไรก็ตาม นี่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความพยายามของ Poco ในการสร้างความแตกต่างในตลาดมือถือที่แข่งขันสูง ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/phones/poco-phones/pocos-new-flagship-phone-has-a-mini-bose-subwoofer-for-2-1-channel-audio-and-i-hope-im-not-near-one-on-the-bus
    0 Comments 0 Shares 634 Views 0 Reviews
  • Nova Lake กับ bLLC

    ข่าวนี้เล่าถึงการที่ Intel เตรียมเปิดตัวสถาปัตยกรรม Nova Lake ในปี 2026 โดยมาพร้อมเทคโนโลยี Big Last Level Cache (bLLC) ขนาดสูงสุด 144MB ซึ่งถูกมองว่าเป็นคำตอบต่อ AMD Ryzen X3D ที่ใช้ 3D V-Cache อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์นี้จะมีเฉพาะในรุ่น K-series ที่ปลดล็อกการโอเวอร์คล็อก เท่านั้น

    Nova Lake จะเป็นสถาปัตยกรรมเดสก์ท็อปใหม่ของ Intel ที่ใช้กระบวนการผลิต Intel 18A โดยมีการเพิ่ม bLLC (Big Last Level Cache) เข้าไปใน compute tile เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงข้อมูล หน่วยความจำ L3 cache จะสูงสุดถึง 144MB ซึ่งมากกว่า Ryzen 9 9950X3D ที่มี 96MB (รวม 3D V-Cache) อยู่ถึง 48MB

    เฉพาะรุ่น K-series เท่านั้น
    ข้อมูลจาก leaker ระบุว่า bLLC จะมีเฉพาะในรุ่น K-series ที่ปลดล็อกการโอเวอร์คล็อก เช่น Core Ultra 5 และ Core Ultra 9 ขณะที่รุ่น non-K อาจไม่ได้รับฟีเจอร์นี้ การเลือกจำกัดฟีเจอร์ไว้เฉพาะรุ่น high-end ทำให้ Nova Lake ถูกวางตำแหน่งเป็นคู่แข่งตรงกับ Ryzen X3D ที่เน้นเกมเมอร์และผู้ใช้ระดับสูง

    การแข่งขันกับ AMD
    AMD ใช้เทคโนโลยี 3D V-Cache ตั้งแต่ Ryzen 5000 series โดยเพิ่ม L3 cache ผ่านการวางซ้อนชิป (hybrid bonding) ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเกมอย่างชัดเจน Intel จึงต้องหาทางตอบโต้ และ bLLC คือความพยายามที่จะสร้างความได้เปรียบในตลาดเกมและงานที่ต้องการ cache ขนาดใหญ่

    ความหมายเชิงกลยุทธ์
    การที่ Intel เลือกใส่ bLLC เฉพาะรุ่น K-series อาจสะท้อนถึงกลยุทธ์การตลาดที่เน้นกลุ่มผู้ใช้ enthusiast และเกมเมอร์ที่พร้อมจ่ายแพงเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด แต่ก็อาจทำให้ผู้ใช้ทั่วไปไม่ได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่นี้

    สรุปสาระสำคัญ
    Nova Lake เปิดตัวปี 2026
    ใช้กระบวนการผลิต Intel 18A
    เพิ่ม bLLC สูงสุด 144MB

    เฉพาะรุ่น K-series
    bLLC มีเฉพาะรุ่นปลดล็อกการโอเวอร์คล็อก
    non-K series อาจไม่ได้ฟีเจอร์นี้

    การแข่งขันกับ AMD
    AMD ใช้ 3D V-Cache ตั้งแต่ Ryzen 5000
    Intel ใช้ bLLC เพื่อตอบโต้และเพิ่ม cache ขนาดใหญ่

    กลยุทธ์ของ Intel
    เน้นตลาด enthusiast และเกมเมอร์
    อาจทำให้ผู้ใช้ทั่วไปไม่ได้รับประโยชน์เต็มที่

    คำเตือนต่อผู้ใช้
    bLLC มีเฉพาะรุ่นแพง ทำให้ต้นทุนสูง
    ผู้ใช้ทั่วไปอาจไม่เห็นความแตกต่างจากรุ่น non-K

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intels-next-gen-nova-lake-will-finally-tackle-amds-ryzen-x3d-but-only-with-pricey-k-models-144mb-big-last-level-cache-response-to-3d-v-cache-will-only-come-on-unlocked-desktop-parts
    ⚡ Nova Lake กับ bLLC ข่าวนี้เล่าถึงการที่ Intel เตรียมเปิดตัวสถาปัตยกรรม Nova Lake ในปี 2026 โดยมาพร้อมเทคโนโลยี Big Last Level Cache (bLLC) ขนาดสูงสุด 144MB ซึ่งถูกมองว่าเป็นคำตอบต่อ AMD Ryzen X3D ที่ใช้ 3D V-Cache อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์นี้จะมีเฉพาะในรุ่น K-series ที่ปลดล็อกการโอเวอร์คล็อก เท่านั้น Nova Lake จะเป็นสถาปัตยกรรมเดสก์ท็อปใหม่ของ Intel ที่ใช้กระบวนการผลิต Intel 18A โดยมีการเพิ่ม bLLC (Big Last Level Cache) เข้าไปใน compute tile เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงข้อมูล หน่วยความจำ L3 cache จะสูงสุดถึง 144MB ซึ่งมากกว่า Ryzen 9 9950X3D ที่มี 96MB (รวม 3D V-Cache) อยู่ถึง 48MB 🏭 เฉพาะรุ่น K-series เท่านั้น ข้อมูลจาก leaker ระบุว่า bLLC จะมีเฉพาะในรุ่น K-series ที่ปลดล็อกการโอเวอร์คล็อก เช่น Core Ultra 5 และ Core Ultra 9 ขณะที่รุ่น non-K อาจไม่ได้รับฟีเจอร์นี้ การเลือกจำกัดฟีเจอร์ไว้เฉพาะรุ่น high-end ทำให้ Nova Lake ถูกวางตำแหน่งเป็นคู่แข่งตรงกับ Ryzen X3D ที่เน้นเกมเมอร์และผู้ใช้ระดับสูง 🌍 การแข่งขันกับ AMD AMD ใช้เทคโนโลยี 3D V-Cache ตั้งแต่ Ryzen 5000 series โดยเพิ่ม L3 cache ผ่านการวางซ้อนชิป (hybrid bonding) ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเกมอย่างชัดเจน Intel จึงต้องหาทางตอบโต้ และ bLLC คือความพยายามที่จะสร้างความได้เปรียบในตลาดเกมและงานที่ต้องการ cache ขนาดใหญ่ 🔒 ความหมายเชิงกลยุทธ์ การที่ Intel เลือกใส่ bLLC เฉพาะรุ่น K-series อาจสะท้อนถึงกลยุทธ์การตลาดที่เน้นกลุ่มผู้ใช้ enthusiast และเกมเมอร์ที่พร้อมจ่ายแพงเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด แต่ก็อาจทำให้ผู้ใช้ทั่วไปไม่ได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่นี้ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Nova Lake เปิดตัวปี 2026 ➡️ ใช้กระบวนการผลิต Intel 18A ➡️ เพิ่ม bLLC สูงสุด 144MB ✅ เฉพาะรุ่น K-series ➡️ bLLC มีเฉพาะรุ่นปลดล็อกการโอเวอร์คล็อก ➡️ non-K series อาจไม่ได้ฟีเจอร์นี้ ✅ การแข่งขันกับ AMD ➡️ AMD ใช้ 3D V-Cache ตั้งแต่ Ryzen 5000 ➡️ Intel ใช้ bLLC เพื่อตอบโต้และเพิ่ม cache ขนาดใหญ่ ✅ กลยุทธ์ของ Intel ➡️ เน้นตลาด enthusiast และเกมเมอร์ ➡️ อาจทำให้ผู้ใช้ทั่วไปไม่ได้รับประโยชน์เต็มที่ ‼️ คำเตือนต่อผู้ใช้ ⛔ bLLC มีเฉพาะรุ่นแพง ทำให้ต้นทุนสูง ⛔ ผู้ใช้ทั่วไปอาจไม่เห็นความแตกต่างจากรุ่น non-K https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intels-next-gen-nova-lake-will-finally-tackle-amds-ryzen-x3d-but-only-with-pricey-k-models-144mb-big-last-level-cache-response-to-3d-v-cache-will-only-come-on-unlocked-desktop-parts
    0 Comments 0 Shares 158 Views 0 Reviews
  • การปรับปรุงหน่วยความจำใน Arrow Lake Refresh

    Intel ยืนยันว่า Arrow Lake Refresh จะรองรับ DDR5-7200 CUDIMM ในการใช้งานแบบ 1 DIMM ต่อช่อง (1 DPC) ซึ่งเร็วกว่ารุ่น Arrow Lake เดิมที่รองรับ DDR5-6400 การเพิ่มความเร็วนี้ช่วยเพิ่ม bandwidth ของระบบ ทำให้เหมาะกับงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น AI และการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่

    ข้อจำกัดของ DIMM และ SO-DIMM
    แม้จะมีการปรับปรุงสำหรับ CUDIMM แต่ DIMM และ SO-DIMM มาตรฐานยังคงรองรับ DDR5-5600 เท่านั้น ส่วน CSODIMM (SO-DIMM ที่มี clock driver) ยังคงอยู่ที่ DDR5-6400 ไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้ทั่วไปอาจไม่ได้รับประโยชน์เต็มที่จากการอัปเกรดครั้งนี้ เว้นแต่จะใช้ CUDIMM ที่ออกแบบมาเฉพาะ

    ผลกระทบต่อผู้ใช้และตลาด
    การรองรับ DDR5-7200 จะถูกนำไปใช้เป็นจุดขายสำคัญของ Intel ในการแข่งขันกับ AMD Ryzen รุ่นใหม่ อย่างไรก็ตาม ราคาของ DDR5-7200 CUDIMM สูงมากและหายากในตลาด เนื่องจากความต้องการหน่วยความจำที่เพิ่มขึ้นจากการใช้งาน AI ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปอาจไม่สามารถเข้าถึงได้ง่าย

    ความหมายเชิงกลยุทธ์
    แม้การอัปเดตนี้จะเป็นเพียงการปรับปรุงกลางรอบ (mid-cycle refresh) แต่ก็ช่วยให้ Intel มีจุดเด่นในการแข่งขันกับ AMD โดยเฉพาะในตลาด high-end ที่ต้องการ memory bandwidth สูง การรองรับ DDR5-7200 native อาจกลายเป็นจุดขายที่ช่วยให้ Arrow Lake Refresh มีความน่าสนใจมากขึ้น

    สรุปสาระสำคัญ

    Arrow Lake Refresh รองรับ DDR5-7200 CUDIMM
    เร็วขึ้น 12.5% เมื่อเทียบกับ DDR5-6400 เดิม
    ใช้งานได้ในโหมด 1 DIMM ต่อช่อง (1 DPC)

    ข้อจำกัดของ DIMM และ SO-DIMM
    DIMM/SO-DIMM มาตรฐานยังคงที่ DDR5-5600
    CSODIMM รองรับ DDR5-6400 ไม่เปลี่ยนแปลง

    ผลกระทบต่อตลาด
    DDR5-7200 CUDIMM มีราคาสูงและหายาก
    Intel ใช้เป็นจุดขายแข่งขันกับ AMD Ryzen รุ่นใหม่

    ความหมายเชิงกลยุทธ์
    เป็น mid-cycle refresh ที่เพิ่มความน่าสนใจให้กับ Arrow Lake
    ช่วยให้ Intel มีจุดเด่นในตลาด high-end

    คำเตือนต่อผู้ใช้
    DDR5-7200 CUDIMM อาจหาซื้อยากและมีราคาสูง
    ผู้ใช้ทั่วไปอาจไม่ได้รับประโยชน์เต็มที่จากการอัปเกรด

    https://www.tomshardware.com/pc-components/ram/intel-arrow-lake-refresh-cpus-arrive-with-native-ddr5-7200-cudimm-support-12-5-percent-higher-speeds-than-initial-arrow-lake-chips
    ⚡ การปรับปรุงหน่วยความจำใน Arrow Lake Refresh Intel ยืนยันว่า Arrow Lake Refresh จะรองรับ DDR5-7200 CUDIMM ในการใช้งานแบบ 1 DIMM ต่อช่อง (1 DPC) ซึ่งเร็วกว่ารุ่น Arrow Lake เดิมที่รองรับ DDR5-6400 การเพิ่มความเร็วนี้ช่วยเพิ่ม bandwidth ของระบบ ทำให้เหมาะกับงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น AI และการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ 🏭 ข้อจำกัดของ DIMM และ SO-DIMM แม้จะมีการปรับปรุงสำหรับ CUDIMM แต่ DIMM และ SO-DIMM มาตรฐานยังคงรองรับ DDR5-5600 เท่านั้น ส่วน CSODIMM (SO-DIMM ที่มี clock driver) ยังคงอยู่ที่ DDR5-6400 ไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้ทั่วไปอาจไม่ได้รับประโยชน์เต็มที่จากการอัปเกรดครั้งนี้ เว้นแต่จะใช้ CUDIMM ที่ออกแบบมาเฉพาะ 🌍 ผลกระทบต่อผู้ใช้และตลาด การรองรับ DDR5-7200 จะถูกนำไปใช้เป็นจุดขายสำคัญของ Intel ในการแข่งขันกับ AMD Ryzen รุ่นใหม่ อย่างไรก็ตาม ราคาของ DDR5-7200 CUDIMM สูงมากและหายากในตลาด เนื่องจากความต้องการหน่วยความจำที่เพิ่มขึ้นจากการใช้งาน AI ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปอาจไม่สามารถเข้าถึงได้ง่าย 🔒 ความหมายเชิงกลยุทธ์ แม้การอัปเดตนี้จะเป็นเพียงการปรับปรุงกลางรอบ (mid-cycle refresh) แต่ก็ช่วยให้ Intel มีจุดเด่นในการแข่งขันกับ AMD โดยเฉพาะในตลาด high-end ที่ต้องการ memory bandwidth สูง การรองรับ DDR5-7200 native อาจกลายเป็นจุดขายที่ช่วยให้ Arrow Lake Refresh มีความน่าสนใจมากขึ้น 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Arrow Lake Refresh รองรับ DDR5-7200 CUDIMM ➡️ เร็วขึ้น 12.5% เมื่อเทียบกับ DDR5-6400 เดิม ➡️ ใช้งานได้ในโหมด 1 DIMM ต่อช่อง (1 DPC) ✅ ข้อจำกัดของ DIMM และ SO-DIMM ➡️ DIMM/SO-DIMM มาตรฐานยังคงที่ DDR5-5600 ➡️ CSODIMM รองรับ DDR5-6400 ไม่เปลี่ยนแปลง ✅ ผลกระทบต่อตลาด ➡️ DDR5-7200 CUDIMM มีราคาสูงและหายาก ➡️ Intel ใช้เป็นจุดขายแข่งขันกับ AMD Ryzen รุ่นใหม่ ✅ ความหมายเชิงกลยุทธ์ ➡️ เป็น mid-cycle refresh ที่เพิ่มความน่าสนใจให้กับ Arrow Lake ➡️ ช่วยให้ Intel มีจุดเด่นในตลาด high-end ‼️ คำเตือนต่อผู้ใช้ ⛔ DDR5-7200 CUDIMM อาจหาซื้อยากและมีราคาสูง ⛔ ผู้ใช้ทั่วไปอาจไม่ได้รับประโยชน์เต็มที่จากการอัปเกรด https://www.tomshardware.com/pc-components/ram/intel-arrow-lake-refresh-cpus-arrive-with-native-ddr5-7200-cudimm-support-12-5-percent-higher-speeds-than-initial-arrow-lake-chips
    0 Comments 0 Shares 109 Views 0 Reviews
More Results