• เปลี่ยนสี!?!

    บิล เกตส์ แสดงความยินดีต่อทรัมป์ และหวังว่าจะจับมือไปด้วยกัน!

    ช่วงหาเสียงเลือกตั้งเขาบริจาคเงินมากถึง 50 ล้านเหรียญ สนับสนุนการเสนอตัวชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของคามาลา แฮร์ริส
    เปลี่ยนสี!?! บิล เกตส์ แสดงความยินดีต่อทรัมป์ และหวังว่าจะจับมือไปด้วยกัน! ช่วงหาเสียงเลือกตั้งเขาบริจาคเงินมากถึง 50 ล้านเหรียญ สนับสนุนการเสนอตัวชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของคามาลา แฮร์ริส
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • สวัสดีครับ ทักทาย เพื่อนๆใน App ของไทยเองครับ เราจะสนับสนุน แอปไทยไปด้วยกัน
    สวัสดีครับ ทักทาย เพื่อนๆใน App ของไทยเองครับ เราจะสนับสนุน แอปไทยไปด้วยกัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 12 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ว๊าปดำดินไปด้วยกันมั๊ยโยม
    เชื่ออาตมา โยมไม่นาน
    โดนปลดจากพระ และเข้าซังเต
    ว๊าปดำดินตอนนี้ยังทัน
    ชิตังเมโป้ง ว๊าป
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ว๊าปดำดินไปด้วยกันมั๊ยโยม เชื่ออาตมา โยมไม่นาน โดนปลดจากพระ และเข้าซังเต ว๊าปดำดินตอนนี้ยังทัน ชิตังเมโป้ง ว๊าป #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 375 มุมมอง 0 รีวิว
  • พูดแบบนี้ ถ้าตั้มเข้าครุก ก็ไปด้วยกันเลยนะ จุ๊กกรู๊
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    #ทนายตั้ม
    #จรุ๊กกรู้
    พูดแบบนี้ ถ้าตั้มเข้าครุก ก็ไปด้วยกันเลยนะ จุ๊กกรู๊ #คิงส์โพธิ์ดำ #ทนายตั้ม #จรุ๊กกรู้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 46 0 รีวิว
  • ‘สมรักษ์’ เปิดใจ รับ หย่าภรรยาได้ 2 เดือนเศษ ยืนยันไม่มีการข่มขืน ไม่มีการสำเร็จความใคร่ สาว 17 ปี เจอกันในที่เที่ยว แล้วพากันตามเข้าโรงแรม ถอดเสื้อผ้า กอดหอมกัน ก่อนถามอายุ พอรู้ว่า 17 ปี ก็หยุด ไม่ขอยุ่งด้วย ก่อนหลับไป จนถูกถ่ายภาพแบล็กเมล์
    ขอนแก่น: วันที่ 10 ธ.ค.66 กรณีเยาวชนหญิงอายุ 17 ปี เข้าแจ้งความ กล่าวหากระทำอนาจาร-ล่วงละเมิดทางเพศในโรงแรม เมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 10 ธ.ค.2566 ผู้สื่อข่าวช่อง 3 โทรศัพท์สอบถามไปยัง นายสมรักษ์ คำสิงห์ ที่ถูกกล่าวหา โดยสมรักษ์กล่าวกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า ตนเองมาเที่ยวตามประสาคนเที่ยวทั่วไป ส่วนน้องเค้าก็มาเที่ยวของน้องเค้า และมาที่โต๊ะเดียวกัน ก่อนจะตามกันไปที่โรงแรม ซึ่งในเรื่องนี้ก็ต้องรอพิสูจน์ ยืนยันว่าตนไม่ได้ข่มขืนใคร และไม่ได้มีเพศสัมพันธ์แต่อย่างใด ในคืนนั้นมีเพียงการถอดเสื้อผ้า และหอมกอดกันธรรมดา ก่อนจะถามอายุว่าเท่าไหร่ พอบอกว่า 17 พอรู้ก็ตกใจเลย จึงบอกว่าไม่ได้ๆ หยุดตรงนั้น เดี๋ยวตื่นแล้วจะไปส่ง ก่อนจะนอนหลับอยู่บนเตียงไปเลยตรงนั้น

    สมรักษ์ยอมรับว่า ตนได้เซ็นใบหย่ากับภรรยา ประมาณ 2 เดือนกว่าๆ แล้ว

    ”วันเกิดเหตุ ไปเที่ยวร้านอาหารตามประสาของผม ส่วนฝ่ายหญิงก็มากับกลุ่มของเขา แต่มานั่งสังสรรค์ที่โต๊ะของผมด้วย ก่อนจะตามไปโรงแรมกับผม ยอมรับว่า เมื่อไปถึงโรงแรมแล้ว มีการกอดหอมและถอดเสื้อผ้า แต่ยังไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กัน เพราะตนถามฝ่ายหญิงก่อนว่าอายุเท่าไหร่ เมื่อฝ่ายหญิงตอบว่า อายุ 17 ตนก็สะดุ้งและรีบบอกว่า “ไม่ได้ๆ หนูนอนพักผ่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมไปส่ง” จากนั้นตนก็นอนหลับไป แต่ไม่รู้ว่าฝ่ายหญิงถ่ายรูปตนตอนหลับไว้และไปแจ้งความ ไม่รู้ว่าใครแบล็คเมล์ใคร“ สมรักษ์กล่าว

    “ไปโรงแรมด้วยกันจริง นอนด้วยกันในห้อง และมารู้ว่าอายุ 17 ตอนที่ถึงโรงแรมแล้ว เรื่องการฉุดกระชากขึ้นรถนั้นไม่มีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น เพราะมีกล้องวงจรปิดอยู่แล้ว ยืนยันไม่มีการฉุดกระชากแต่อย่างใด ผมเองไม่อยากพูดเยอะเพราะน้องก็เป็นเด็ก” สมรักษ์กล่าว

    ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่สถานบันเทิง ริมถนนประชาสำราญ พบว่า มีการตรวจบัตรของนักท่องเที่ยว ที่จะเดินทางเข้ามาใช้บริการเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย ของทางภาครัฐ ที่ไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้ามาใช้บริการ และเป็นสถานที่ที่นักชกเหรียญทองมวยโอลิมปิก ได้เข้ามาใช้บริการเมื่อคืนที่ผ่านมา ก่อนที่จะถูกหญิงสาววัย 17 ปี เข้าแจ้งความกับตำรวจ ว่าถูกนักชกฮีโร่ล่วงละเมิดทางเพศ

    ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับผู้ดูแลร้านทราบว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ฮีโร่เหรียญทองมวยโอลิมปิกได้เข้ามาใช้บริการจริง และได้มีการได้พูดคุยกับทางสมรักษ์ และก็เห็นกลุ่มของหญิงสาววัย 17 ปี ได้เข้ามาขอถ่ายรูปและพูดคุยจริง แต่หลังจากนั้นก็ไม่ทราบว่าได้ไปด้วยกันหรือไม่ เพราะตนเองก็ต้องดูแลร้าน แต่ยอมรับว่าสมรักษ์ มักจะมาที่ร้านเป็นประจำ

    ขณะที่ข้อมูลจากโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น โดยผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับพนักงานต้อนรับทราบว่า เมื่อวานนี้สมรักษ์ได้มาเปิดห้องพักที่โรงแรมแห่งนี้จริง โดยปกติแล้วโรงแรมแห่งนี้ ไม่ใช่โรงแรมที่สมรักษ์จะมาพักเป็นประจำ แต่โรงแรมที่นายสมรักษ์พักบ่อยๆ เต็ม เนื่องจากมีเด็กนักเรียนมาสอบแกท-แพท โดยจุดต้อนรับแขกหน้าโรงแรมจะปิดในช่วงเวลาประมาณ 01:00 น. ทำให้ไม่มีใครเห็น ในช่วงที่สมรักษ์และหญิงวัย 17 ปี เดินเข้ามาในโรงแรม รวมถึงไม่มีใครเห็นในช่วงที่ออกไปนอกโรงแรมด้วย

    สำหรับความคืบหน้าของคดี พนักงานสอบสวนได้เข้ามาเก็บภาพวงจรปิด ทั้งที่สถานบันเทิงและที่โรงแรม เพื่อใช้เป็นหลักฐาน เพื่อจะได้เตรียมออกหมายเรียกสมรักษ์มาพบพนักงานสอบสวนต่อไป
    ‘สมรักษ์’ เปิดใจ รับ หย่าภรรยาได้ 2 เดือนเศษ ยืนยันไม่มีการข่มขืน ไม่มีการสำเร็จความใคร่ สาว 17 ปี เจอกันในที่เที่ยว แล้วพากันตามเข้าโรงแรม ถอดเสื้อผ้า กอดหอมกัน ก่อนถามอายุ พอรู้ว่า 17 ปี ก็หยุด ไม่ขอยุ่งด้วย ก่อนหลับไป จนถูกถ่ายภาพแบล็กเมล์ ขอนแก่น: วันที่ 10 ธ.ค.66 กรณีเยาวชนหญิงอายุ 17 ปี เข้าแจ้งความ กล่าวหากระทำอนาจาร-ล่วงละเมิดทางเพศในโรงแรม เมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 10 ธ.ค.2566 ผู้สื่อข่าวช่อง 3 โทรศัพท์สอบถามไปยัง นายสมรักษ์ คำสิงห์ ที่ถูกกล่าวหา โดยสมรักษ์กล่าวกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า ตนเองมาเที่ยวตามประสาคนเที่ยวทั่วไป ส่วนน้องเค้าก็มาเที่ยวของน้องเค้า และมาที่โต๊ะเดียวกัน ก่อนจะตามกันไปที่โรงแรม ซึ่งในเรื่องนี้ก็ต้องรอพิสูจน์ ยืนยันว่าตนไม่ได้ข่มขืนใคร และไม่ได้มีเพศสัมพันธ์แต่อย่างใด ในคืนนั้นมีเพียงการถอดเสื้อผ้า และหอมกอดกันธรรมดา ก่อนจะถามอายุว่าเท่าไหร่ พอบอกว่า 17 พอรู้ก็ตกใจเลย จึงบอกว่าไม่ได้ๆ หยุดตรงนั้น เดี๋ยวตื่นแล้วจะไปส่ง ก่อนจะนอนหลับอยู่บนเตียงไปเลยตรงนั้น สมรักษ์ยอมรับว่า ตนได้เซ็นใบหย่ากับภรรยา ประมาณ 2 เดือนกว่าๆ แล้ว ”วันเกิดเหตุ ไปเที่ยวร้านอาหารตามประสาของผม ส่วนฝ่ายหญิงก็มากับกลุ่มของเขา แต่มานั่งสังสรรค์ที่โต๊ะของผมด้วย ก่อนจะตามไปโรงแรมกับผม ยอมรับว่า เมื่อไปถึงโรงแรมแล้ว มีการกอดหอมและถอดเสื้อผ้า แต่ยังไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กัน เพราะตนถามฝ่ายหญิงก่อนว่าอายุเท่าไหร่ เมื่อฝ่ายหญิงตอบว่า อายุ 17 ตนก็สะดุ้งและรีบบอกว่า “ไม่ได้ๆ หนูนอนพักผ่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมไปส่ง” จากนั้นตนก็นอนหลับไป แต่ไม่รู้ว่าฝ่ายหญิงถ่ายรูปตนตอนหลับไว้และไปแจ้งความ ไม่รู้ว่าใครแบล็คเมล์ใคร“ สมรักษ์กล่าว “ไปโรงแรมด้วยกันจริง นอนด้วยกันในห้อง และมารู้ว่าอายุ 17 ตอนที่ถึงโรงแรมแล้ว เรื่องการฉุดกระชากขึ้นรถนั้นไม่มีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น เพราะมีกล้องวงจรปิดอยู่แล้ว ยืนยันไม่มีการฉุดกระชากแต่อย่างใด ผมเองไม่อยากพูดเยอะเพราะน้องก็เป็นเด็ก” สมรักษ์กล่าว ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่สถานบันเทิง ริมถนนประชาสำราญ พบว่า มีการตรวจบัตรของนักท่องเที่ยว ที่จะเดินทางเข้ามาใช้บริการเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย ของทางภาครัฐ ที่ไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้ามาใช้บริการ และเป็นสถานที่ที่นักชกเหรียญทองมวยโอลิมปิก ได้เข้ามาใช้บริการเมื่อคืนที่ผ่านมา ก่อนที่จะถูกหญิงสาววัย 17 ปี เข้าแจ้งความกับตำรวจ ว่าถูกนักชกฮีโร่ล่วงละเมิดทางเพศ ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับผู้ดูแลร้านทราบว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ฮีโร่เหรียญทองมวยโอลิมปิกได้เข้ามาใช้บริการจริง และได้มีการได้พูดคุยกับทางสมรักษ์ และก็เห็นกลุ่มของหญิงสาววัย 17 ปี ได้เข้ามาขอถ่ายรูปและพูดคุยจริง แต่หลังจากนั้นก็ไม่ทราบว่าได้ไปด้วยกันหรือไม่ เพราะตนเองก็ต้องดูแลร้าน แต่ยอมรับว่าสมรักษ์ มักจะมาที่ร้านเป็นประจำ ขณะที่ข้อมูลจากโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น โดยผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับพนักงานต้อนรับทราบว่า เมื่อวานนี้สมรักษ์ได้มาเปิดห้องพักที่โรงแรมแห่งนี้จริง โดยปกติแล้วโรงแรมแห่งนี้ ไม่ใช่โรงแรมที่สมรักษ์จะมาพักเป็นประจำ แต่โรงแรมที่นายสมรักษ์พักบ่อยๆ เต็ม เนื่องจากมีเด็กนักเรียนมาสอบแกท-แพท โดยจุดต้อนรับแขกหน้าโรงแรมจะปิดในช่วงเวลาประมาณ 01:00 น. ทำให้ไม่มีใครเห็น ในช่วงที่สมรักษ์และหญิงวัย 17 ปี เดินเข้ามาในโรงแรม รวมถึงไม่มีใครเห็นในช่วงที่ออกไปนอกโรงแรมด้วย สำหรับความคืบหน้าของคดี พนักงานสอบสวนได้เข้ามาเก็บภาพวงจรปิด ทั้งที่สถานบันเทิงและที่โรงแรม เพื่อใช้เป็นหลักฐาน เพื่อจะได้เตรียมออกหมายเรียกสมรักษ์มาพบพนักงานสอบสวนต่อไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • TikTokEventpass เคลียร์บ้านรับสิ้นปี! แจกพิกัด ที่บริจาคของที่ไม่ใช้ ส่งต่อให้คน ที่ขาดแคลน รวมมาครบทั้งเสื้อผ้า หนังสือ ของเล่น ตุ๊กตา เครื่องเขียน เครื่องใช้ ใครมี่ของเก่าสภาพ ดี หรือของที่เลิกใช้แล้ว อาจเป็น ประโยชน์ต่ออีกหลายคนได้นะ มาส ร้างสังคมแห่งการให้ไปด้วยกัน~ #Eventpass #แบ่งปัน #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    TikTokEventpass เคลียร์บ้านรับสิ้นปี! แจกพิกัด ที่บริจาคของที่ไม่ใช้ ส่งต่อให้คน ที่ขาดแคลน รวมมาครบทั้งเสื้อผ้า หนังสือ ของเล่น ตุ๊กตา เครื่องเขียน เครื่องใช้ ใครมี่ของเก่าสภาพ ดี หรือของที่เลิกใช้แล้ว อาจเป็น ประโยชน์ต่ออีกหลายคนได้นะ มาส ร้างสังคมแห่งการให้ไปด้วยกัน~ #Eventpass #แบ่งปัน #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 313 มุมมอง 0 รีวิว
  • วัดเทพพิทักษ์ ปุณณาราม อีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่โดดเด่น ริมถนนมิตรภาพช่วงกลางดงโคราช สำหรับคนที่มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนาต้องหาโอกาศเดินขึ้นไปกราบ(หลวงพ่อขาว)ส้กครั้ง หรือคู่หนุ่มสาวที่ต้องการพิสูตรรักแท้ ก็ต้องมาเดินขึ้นบันไดที่มีความชันหลายร้อยขั้นไปด้วยกัน แต่ถ้าหากท่านใดไม่สะดวกที่จะขึ้นไป ก็สามารถกราบสการะข้างล่างได้ครับ
    #เที่ยวไทย#เที่ยววันธรรมดา#THAITIMES
    วัดเทพพิทักษ์ ปุณณาราม อีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่โดดเด่น ริมถนนมิตรภาพช่วงกลางดงโคราช สำหรับคนที่มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนาต้องหาโอกาศเดินขึ้นไปกราบ(หลวงพ่อขาว)ส้กครั้ง หรือคู่หนุ่มสาวที่ต้องการพิสูตรรักแท้ ก็ต้องมาเดินขึ้นบันไดที่มีความชันหลายร้อยขั้นไปด้วยกัน แต่ถ้าหากท่านใดไม่สะดวกที่จะขึ้นไป ก็สามารถกราบสการะข้างล่างได้ครับ #เที่ยวไทย#เที่ยววันธรรมดา#THAITIMES
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 293 มุมมอง 109 1 รีวิว
  • ไปด้วยกัน ! ทนายบอสพอลเตรียมฟ้อง 5 แม่ทีม The Icon (28/10/67) #news1 #ทนายบอสพอล #ฟ้อง5แม่ทีมTheIcon
    ไปด้วยกัน ! ทนายบอสพอลเตรียมฟ้อง 5 แม่ทีม The Icon (28/10/67) #news1 #ทนายบอสพอล #ฟ้อง5แม่ทีมTheIcon
    Like
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1958 มุมมอง 575 0 รีวิว
  • ..นี้คือหมากล้างสมองคนไทยคนเกษตรอีกตัว,โยนหินถามทางมานานกว่าสิบๆแล้ว จากธนาคารต้นไม้นั้นเอง ผันมาสู่คาร์บอนเครดิต กัดกินสู่การควบคุมที่ละขั้น&แบบเนียนๆโดยเอาตังมาล่อ,อนาคตจะมีธนาคารนายทุนปล่อยเงินกู้คาร์บอนเครดิตแก่ประชาชนเหมือนกับตังเราเลย เพื่อสร้างสภาพคล่องในการดำรงขีวิตและใช้ชีวิต,คนไทยเรากำลังเอาเชือกมารัดคอตัวเอง เอาโซ่มาผูกขาตนเองให้ไร้อิสระภาพจากการล้างสมองของนักวิชาการรับจ้างหรือหลงผิด พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศคือตัวพ่อจะควบคุมทัังหมดรวมถึงคาร์บอนเครดิตเป็นหนึ่งในบริบทเชื่อมตังดิจิดัลคาร์บอนเครดิตก็ได้ อีลิทเอาคาร์บอนเครดิตส่งมอบให้กันเช่นนายAตั้งธนาคารคาร์บอนเครดิตที่รับมาจากอีลิทให้เครดิตมาสัก100ล้านล้านคาร์บอนเครดิตไว้ปล่อยกู้ให้ประชาชนไปจ่ายเครดิตคาร์บอนในชีวิตประจำวัน เงินเดือนในอนาคคก็จะจ่ายเป็นคาร์บอนเครดิต,จะขายสินค้าเกษตรก็ซื้อหรือจ่ายเป็นคาร์บอนเครดิต,ขึ้นรถลงเรือเดินทางทานอาหารต้องจ่ายเป็นคาร์บอนเครดิต คนไม่มีป่ามีนามีต้นไม้ก็จะกู้หรือดิ้นรนหาคาร์บอนเครดิต,จากนั้นก็มีตลาดหุ้นคาร์บอนเครดิต บริษัทต่างที่เข้าตลาดหุ้นก็ขับเคลื่อนด้วยคาร์บอนเครดิต ปั่นราคากันสไตล์ตลาดsetนี้ล่ะ,ใครร่ำรวยและควบคุมมนุษย์ก็อีลิทนี้ล่ะ ย้ายหมากย้ายตังจากกระเป๋าซ้ายเข้ากระเป๋าขวาเหมือนเดิมแค่เปลี่ยนวิธีเล่น แล้วทั้งหมดถูกควบคุมที่คนเดียวคืออีลิทนั้นล่ะ แต่ทาสรุ่นใหม่คือคนที่ตกหลุมคาร์บอนเครดิตนี้ล่ะ,เขาฉลาดสร้างภาพทางคนเกษตรก่อน เข้าใจง่ายๆว่าจะได้ตัง มุกหาเสียงเดิมๆชวนจากเหยื่อล่อด้วยตัง เหยื่อกระโดดคาบกินอาหารมันเต็มที่ดีใจเหมือนปลาได้น้ำตอนแรก จะอนาถเมื่อนานๆไปเหมือนกบถูกต้มบนหม้อที่เร่งไฟที่ละนิดจนเมื่อรู้ว่าเดือดทนไม่ได้ก็เกือบสุกในพริบตาปิดฝาปรุงทำอาหารอย่สงเชือดนิ่มๆ,อีลิทเขาสนุก เล่นสนุกๆกับมนุษย์เฉยๆ มันไม่มีอะไรทำแค่นั้นเพราะไปเก่งที่จักรวาลอื่นไม่ได้เพราะกากกว่าเขา,เลยหนีมาหลบซ่อนบนโลกเรายึดโลกเรา ตัดแต่งdnaเราจนสนุก ของเล่นมัน,เพราะเราโง่กว่าเขามากเช่นกัน,ทางเดียวคือบรรลุจิตวิญญาณแบบไทยๆเราเป็นเช่นพ่อแม่ครูบาอาจารย์นำทางเรา กษัตริย์ผู้ทรงธรรมนำทางเรา จึงพอต่อกรกันได้และการตื่นรู้ค่าจริงด้วยบนสังคมไทยเราต้องมีก่อนเพื่อจะก่อสามัคคีทั้งประเทศได้ จึงพอเดินร่วมกันฟันฝ่าอุปสรรคทั้งแผ่นดินไทยเราได้,ผู้นำที่กากๆจะมานำไม่ได้ต้องถีบออกไปเพราะศึกนีัสำคัญมาก เราไปด้วยกันหมดนั้นเองในชื่อว่าคนไทยนีัก่อน,ชาติอื่นก็เกินการควบคุมของเราแต่ประสานร่วมมือจับมือกันจริงจังทั้งโลกได้ยิ่งดี,ศัตรูคือมารอีลิทจะถูกสแกนกำจัดได้ง่ายขึ้นบนโลกเราที่พวกมันยึดครองไป,เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆมันคือชีวิตเลยล่ะ แบบฉีดวัคซีนนั้นล่ะตาย&ถูกลดประชากรทัังโลกรวมทั้งไทยด้วยอย่างชัดเจน,มันฆ่าคนไทยและชาวโลกจริงๆ,พันธมิตรอดีตเสื้อเหลืองเองยังพลาด ยังไปพากันฉีดวัคซีน ซึ่งผิดวิสัยมากว่าจะไม่รู้ได้อย่างไร,แถมชี้ชวนไปร่วมรณรงค์การฉีดอีกแม้กั๊กอยู่ในยุคนั้นแต่บริบทแจังเตือนแจ้งต่อต้านการฉีดไร้ความจริงจังอย่างชัดเจนเงียบหมด,จุดยืนว่าคนไทยคนเสื้อเหลืองเราอย่าฉีดนะไม่มีเลย,สันติอโศกเองก็ฉีดกันตรึม จึงน่าผิดหวังในการข่าวแจ้งเตือนมากในยุคๆนั้นเริ่มต้น,เพราะชื่อเสียงมากคนติดตามเยอะจะมีคนรับฟังถึงขั้นเชื่อกันระวังภัยช่วยกันได้ดี,หลังๆจึงค่อยออกมาบอกถึงพิษภัยมันแต่ก็สายเกินไปเพราะฉีดกันครบหมดแล้ว,สุดท้ายอ.ปานเทพจึงค่อยเปิดตัวแรงชัดเจนออกมา,น่าผิดหวังจริงๆหากพูดกันตรง ระดับม.รังสิตการข่าวไม่น่าพลาด ทั้งในและทางต่างประเทศที่เปิดกว้างข้อมูลการแฉพิษภัยของวัคซีน,เพราะทั้งอ.ธีระวัฒน์อ.ปานเทพโดดเด่นจากกัญชาเสรีมาแล้วคนติดตามเยอะมาก ยุคภัยโควิดยังตกใจว่าทำไมไม่ออกมาร่วมต่อต้านภัยจากวัคซีนmRNAนี้ หลังๆจึงเข้าใจว่าติดสัญญารับทุน,ถูกปิดปากสายเนียนๆก็ว่า,แต่ก็ยังดี ที่แอคชั่นในปัจจุบัน ,การผิดพลาดคือความตายของทัังประเทศ องค์ภาเราก็โดน อ.สุจริตบินตรงมาเลยก็ว่า,สายวังการข่าวกากมาก,ไม่น่าผิดพลาดได้เลยด้วยอะไรๆล้ำๆตรึมกว่าคนบ้านนอกชนบท เครื่องมือคนมีความรู้จบสูงๆภาษาต่างชาติภาษาฝรั่งเต็มภูมิเต็มวังรอบด้าน ทหารองค์รักษ์ข่าวกรอกต้องสุดยอดถึงภัยร้ายแรงระดับปกป้องชาติให้พ้นภัยได้ แต่ตกต่ำตกประเมินไร้ประสิทธิภาพมาก,องค์ภาเราเลยโดนด้วย,เพราะพระองค์ท่านกำลังขับเคลื่อนกองทุนแม่ของแผ่นดิน น่าจะไปได้ดีด้วย.ต้องหยุดชะงักเลย.
    ..พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศมันคือภัยความมั่นคงทางอิสระภาพชีวิตคนไทยมาก ไม่ต่างจากพรบ.ปิโตรเลียมเลย,ทาสทางพลังงานนั้น,แต่นี้หนักกว่าเพราะคือกลไกการปกครองประเทศทั้งหมด,อันตรายมาก นัยยะเป็นภัยรอบทิศทาง.
    ..คาร์บอนเครดิตเป็นเดอะแก๊งหนึ่งที่สมคบคิดร่วมสุมหัวกันใหญ่มาก,เอกชนหรือหน่วยงานใด รับงานมาจริงๆต้องถูกกำจัดตัดตอนทั้งหมดทันทีรวมถึงบุคคลด้วยต้องไปวัดเพราะจิตสำนึกรู้ดีรู้ชั่ว รู้ผิดรู้ถูกไม่มีในสันดานจริตจิตมันแล้ว หายนะพิบัติภัยของแผ่นดินเลยนะแต่เดอะแก๊งพวกมันนี้ตั้งใจอย่างเต็มที่ให้บรรลุผลงานตามเป้าหมายมันนั้นเอง.,ภัยต่อชาติต่อคนไทยจะเก็บไว้ทำซากอะไร.
    ..นี้คือหมากล้างสมองคนไทยคนเกษตรอีกตัว,โยนหินถามทางมานานกว่าสิบๆแล้ว จากธนาคารต้นไม้นั้นเอง ผันมาสู่คาร์บอนเครดิต กัดกินสู่การควบคุมที่ละขั้น&แบบเนียนๆโดยเอาตังมาล่อ,อนาคตจะมีธนาคารนายทุนปล่อยเงินกู้คาร์บอนเครดิตแก่ประชาชนเหมือนกับตังเราเลย เพื่อสร้างสภาพคล่องในการดำรงขีวิตและใช้ชีวิต,คนไทยเรากำลังเอาเชือกมารัดคอตัวเอง เอาโซ่มาผูกขาตนเองให้ไร้อิสระภาพจากการล้างสมองของนักวิชาการรับจ้างหรือหลงผิด พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศคือตัวพ่อจะควบคุมทัังหมดรวมถึงคาร์บอนเครดิตเป็นหนึ่งในบริบทเชื่อมตังดิจิดัลคาร์บอนเครดิตก็ได้ อีลิทเอาคาร์บอนเครดิตส่งมอบให้กันเช่นนายAตั้งธนาคารคาร์บอนเครดิตที่รับมาจากอีลิทให้เครดิตมาสัก100ล้านล้านคาร์บอนเครดิตไว้ปล่อยกู้ให้ประชาชนไปจ่ายเครดิตคาร์บอนในชีวิตประจำวัน เงินเดือนในอนาคคก็จะจ่ายเป็นคาร์บอนเครดิต,จะขายสินค้าเกษตรก็ซื้อหรือจ่ายเป็นคาร์บอนเครดิต,ขึ้นรถลงเรือเดินทางทานอาหารต้องจ่ายเป็นคาร์บอนเครดิต คนไม่มีป่ามีนามีต้นไม้ก็จะกู้หรือดิ้นรนหาคาร์บอนเครดิต,จากนั้นก็มีตลาดหุ้นคาร์บอนเครดิต บริษัทต่างที่เข้าตลาดหุ้นก็ขับเคลื่อนด้วยคาร์บอนเครดิต ปั่นราคากันสไตล์ตลาดsetนี้ล่ะ,ใครร่ำรวยและควบคุมมนุษย์ก็อีลิทนี้ล่ะ ย้ายหมากย้ายตังจากกระเป๋าซ้ายเข้ากระเป๋าขวาเหมือนเดิมแค่เปลี่ยนวิธีเล่น แล้วทั้งหมดถูกควบคุมที่คนเดียวคืออีลิทนั้นล่ะ แต่ทาสรุ่นใหม่คือคนที่ตกหลุมคาร์บอนเครดิตนี้ล่ะ,เขาฉลาดสร้างภาพทางคนเกษตรก่อน เข้าใจง่ายๆว่าจะได้ตัง มุกหาเสียงเดิมๆชวนจากเหยื่อล่อด้วยตัง เหยื่อกระโดดคาบกินอาหารมันเต็มที่ดีใจเหมือนปลาได้น้ำตอนแรก จะอนาถเมื่อนานๆไปเหมือนกบถูกต้มบนหม้อที่เร่งไฟที่ละนิดจนเมื่อรู้ว่าเดือดทนไม่ได้ก็เกือบสุกในพริบตาปิดฝาปรุงทำอาหารอย่สงเชือดนิ่มๆ,อีลิทเขาสนุก เล่นสนุกๆกับมนุษย์เฉยๆ มันไม่มีอะไรทำแค่นั้นเพราะไปเก่งที่จักรวาลอื่นไม่ได้เพราะกากกว่าเขา,เลยหนีมาหลบซ่อนบนโลกเรายึดโลกเรา ตัดแต่งdnaเราจนสนุก ของเล่นมัน,เพราะเราโง่กว่าเขามากเช่นกัน,ทางเดียวคือบรรลุจิตวิญญาณแบบไทยๆเราเป็นเช่นพ่อแม่ครูบาอาจารย์นำทางเรา กษัตริย์ผู้ทรงธรรมนำทางเรา จึงพอต่อกรกันได้และการตื่นรู้ค่าจริงด้วยบนสังคมไทยเราต้องมีก่อนเพื่อจะก่อสามัคคีทั้งประเทศได้ จึงพอเดินร่วมกันฟันฝ่าอุปสรรคทั้งแผ่นดินไทยเราได้,ผู้นำที่กากๆจะมานำไม่ได้ต้องถีบออกไปเพราะศึกนีัสำคัญมาก เราไปด้วยกันหมดนั้นเองในชื่อว่าคนไทยนีัก่อน,ชาติอื่นก็เกินการควบคุมของเราแต่ประสานร่วมมือจับมือกันจริงจังทั้งโลกได้ยิ่งดี,ศัตรูคือมารอีลิทจะถูกสแกนกำจัดได้ง่ายขึ้นบนโลกเราที่พวกมันยึดครองไป,เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆมันคือชีวิตเลยล่ะ แบบฉีดวัคซีนนั้นล่ะตาย&ถูกลดประชากรทัังโลกรวมทั้งไทยด้วยอย่างชัดเจน,มันฆ่าคนไทยและชาวโลกจริงๆ,พันธมิตรอดีตเสื้อเหลืองเองยังพลาด ยังไปพากันฉีดวัคซีน ซึ่งผิดวิสัยมากว่าจะไม่รู้ได้อย่างไร,แถมชี้ชวนไปร่วมรณรงค์การฉีดอีกแม้กั๊กอยู่ในยุคนั้นแต่บริบทแจังเตือนแจ้งต่อต้านการฉีดไร้ความจริงจังอย่างชัดเจนเงียบหมด,จุดยืนว่าคนไทยคนเสื้อเหลืองเราอย่าฉีดนะไม่มีเลย,สันติอโศกเองก็ฉีดกันตรึม จึงน่าผิดหวังในการข่าวแจ้งเตือนมากในยุคๆนั้นเริ่มต้น,เพราะชื่อเสียงมากคนติดตามเยอะจะมีคนรับฟังถึงขั้นเชื่อกันระวังภัยช่วยกันได้ดี,หลังๆจึงค่อยออกมาบอกถึงพิษภัยมันแต่ก็สายเกินไปเพราะฉีดกันครบหมดแล้ว,สุดท้ายอ.ปานเทพจึงค่อยเปิดตัวแรงชัดเจนออกมา,น่าผิดหวังจริงๆหากพูดกันตรง ระดับม.รังสิตการข่าวไม่น่าพลาด ทั้งในและทางต่างประเทศที่เปิดกว้างข้อมูลการแฉพิษภัยของวัคซีน,เพราะทั้งอ.ธีระวัฒน์อ.ปานเทพโดดเด่นจากกัญชาเสรีมาแล้วคนติดตามเยอะมาก ยุคภัยโควิดยังตกใจว่าทำไมไม่ออกมาร่วมต่อต้านภัยจากวัคซีนmRNAนี้ หลังๆจึงเข้าใจว่าติดสัญญารับทุน,ถูกปิดปากสายเนียนๆก็ว่า,แต่ก็ยังดี ที่แอคชั่นในปัจจุบัน ,การผิดพลาดคือความตายของทัังประเทศ องค์ภาเราก็โดน อ.สุจริตบินตรงมาเลยก็ว่า,สายวังการข่าวกากมาก,ไม่น่าผิดพลาดได้เลยด้วยอะไรๆล้ำๆตรึมกว่าคนบ้านนอกชนบท เครื่องมือคนมีความรู้จบสูงๆภาษาต่างชาติภาษาฝรั่งเต็มภูมิเต็มวังรอบด้าน ทหารองค์รักษ์ข่าวกรอกต้องสุดยอดถึงภัยร้ายแรงระดับปกป้องชาติให้พ้นภัยได้ แต่ตกต่ำตกประเมินไร้ประสิทธิภาพมาก,องค์ภาเราเลยโดนด้วย,เพราะพระองค์ท่านกำลังขับเคลื่อนกองทุนแม่ของแผ่นดิน น่าจะไปได้ดีด้วย.ต้องหยุดชะงักเลย. ..พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศมันคือภัยความมั่นคงทางอิสระภาพชีวิตคนไทยมาก ไม่ต่างจากพรบ.ปิโตรเลียมเลย,ทาสทางพลังงานนั้น,แต่นี้หนักกว่าเพราะคือกลไกการปกครองประเทศทั้งหมด,อันตรายมาก นัยยะเป็นภัยรอบทิศทาง. ..คาร์บอนเครดิตเป็นเดอะแก๊งหนึ่งที่สมคบคิดร่วมสุมหัวกันใหญ่มาก,เอกชนหรือหน่วยงานใด รับงานมาจริงๆต้องถูกกำจัดตัดตอนทั้งหมดทันทีรวมถึงบุคคลด้วยต้องไปวัดเพราะจิตสำนึกรู้ดีรู้ชั่ว รู้ผิดรู้ถูกไม่มีในสันดานจริตจิตมันแล้ว หายนะพิบัติภัยของแผ่นดินเลยนะแต่เดอะแก๊งพวกมันนี้ตั้งใจอย่างเต็มที่ให้บรรลุผลงานตามเป้าหมายมันนั้นเอง.,ภัยต่อชาติต่อคนไทยจะเก็บไว้ทำซากอะไร.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 454 มุมมอง 255 0 รีวิว
  • ♣️ ผู้เสียหายบอกเองว่า บอสมินนี่แหละตัวดี หลอกล่อให้หาลูกทีม 200 คน อวดรถหรู-ปิระมิด อ้างอยากให้ลูกข่ายรวยไปด้วยกัน ใครที่กำลังจะสงสารเธอ ลองคิดดูใหม่ ว่าใครน่าสงสารกว่ากัน คนหลอกที่กำลังชดใช้กรรม หรือคนถูกหลอกที่เหมือนตายทั้งเป็น
    #7ดอกจิก
    #บอสมิน
    ♣️ ผู้เสียหายบอกเองว่า บอสมินนี่แหละตัวดี หลอกล่อให้หาลูกทีม 200 คน อวดรถหรู-ปิระมิด อ้างอยากให้ลูกข่ายรวยไปด้วยกัน ใครที่กำลังจะสงสารเธอ ลองคิดดูใหม่ ว่าใครน่าสงสารกว่ากัน คนหลอกที่กำลังชดใช้กรรม หรือคนถูกหลอกที่เหมือนตายทั้งเป็น #7ดอกจิก #บอสมิน
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 227 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตอนฉันอายุ20ปี เคยคิดอยากมีลูกชายสักคนแต่ไม่ต้องการมีแฟนคือเด็กหลอดแก้วประมาณนั้น เพื่อให้เขาทำความฝันให้ฉันคือบวชตลอดชีวิตข้ามฝั่งให้ได้และโปรดคน ความคิดก็จะวนคิดอยู่แบบนั้น🔄"ต่อมาคืนหนึ่งฉันก็หลับและฝันว่ามีเสียงๆหนึ่งพูดว่าเธอจะให้ลูกเธอเกิดใน"กาลียุคเช่นนี้หรือ ภาพปรากฎเห็นคนกินคนด้วยกันเหมือนสัตว์ล่าเนื้อ เลือดนองพื้นท่วมถึง"ตาตุ่มช้าง🐘"ภาพมันน่ากลัวสลดหดหู่จริงๆตื่นจากฝันก็เลยเปลี่ยนความคิดๆว่ามันไม่ยุติธรรมที่จะให้ใครมาทำความฝันให้ใคร เพราะทุกคนต่างก็มีฝันของตนเอง เพื่อนให้หนังสือตัวกูของกูมาหนึ่งเล่ม ฉันอ่านจบในไม่กี่นาทีและอ่านวนหลายรอบ จนคิดว่าเราต้องศึกษาคำสอนอย่างจริงจังว่ามีอัจฉริยะมนุษย์ ที่ตรัสรู้ธรรมเช่นนี้อยู่จริงๆหรือหาหนังสือหลวงพ่อพุทธทาสมาอ่านหลายเล่ม "แม่ฉันชอบสร้างพระไตรปิฎกถวายวัดฉันสงสัยถามแม่ว่ามีอะไรดีในนั้น"แม่บอกอ่านเองซิ ฉันตัดสินใจอ่านโห😯ทึ่งมากคนอะไรจะฉลาดขนาดนี้ "❤นึกรักพระพุทธเจ้าขึ้นมาเลยว่าถ้ามีคนรักก็อยากได้บุคคลเช่นนี้ถ้ามีลูกก็อยากมีลูกเช่นนี้ถ้าไม่มีก็ไม่มีคู่ดีก่วา"เพราะตอนเด็กๆฉันถามตัวเองบ่อยครั้งว่าฉันเกิดมาทำไมมาจากไหน เคยถามแม่ว่าโลกนี้สุดขอบโลกอยู่ตรงไหนอยากเดินออกไปจากโลกนี้ ฉันเห็นพ่อแม่มีปากเสียงกันบ่อยๆฉันคิดเองนะตอนนั้นว่า ความรักถ้ามันทำให้ทุกข์จะรักกันทำไม ฉันบอกกับแม่ว่าถ้าต้องทนอยู่กันเพื่อลูกไม่ต้องนะ ชีวิตคนเรามันสั้นควรหาความสุขให้ตัวเองบ้างจากนั้นพ่อกับแม่ก็เลิกกันฉันเป็นลูกคนเล็กของบ้าน ฉันมีโลกที่แคบมากเพราะไม่ชอบเที่ยวพ่อต้องจ้างให้ไปเที่ยวเพื่อจะอยู่กับแม่สองคนบ้าง😉 แต่ชอบอยู่บ้านฟังธรรมอ่าน📚หนังสือ(โลกส่วนตัวสูง)จึงไม่ค่อยมีประสบการณ์ชีวิตนอกบ้านเลย พอทำงานไปเที่ยวบ้านเพื่อนเห็นครอบครัวเขาทะเลาะกันรุนแรง เลยคิดว่าอ้าวเราคิดว่าเป็นเฉพาะบ้านเราซะอีกโหบ้านคนอื่นหนักก่วาเราอีกเขามีลงไม้ลงมือกันด้วย บ้านเราไม่เคยมีๆแต่พ่อทะเลาะบ่นอยู่คนเดียวแม่ไม่เคยเถียงกลับสักคำ แม่นิ่งอย่างเดียว(ฉันมีส่วนผสมของพ่อๆเป็นคนใจดีอ่อนโยนสุภาพ"ถ้าไม่ดื่ม"ส่วนแม่เป็นผู้หญิงแกร่งเป็นผู้นำเข้มแข็งอดทนสูง)ที่ไหนถ้ามีการทะเลาะกันฉันจะเดินหนีทันที ไม่มีการมุงดูเด็ดขาดไม่ชอบ#อาจารย์สนธิพูดทัชใจฉันมากคือทุกคนต้องเรียนรู้ประสบการณ์ด้วยตัวเองเพราะให้กันไม่ได้ แนะนำได้แต่ประสบการณ์สุข,ทุกข์..ของใครของมัน..."อ่านเจอคำสอนหลวงพ่อพุทธทาส ว่า"อะไรที่ไม่เคยผ่านเข้ามาในชีวิตอย่าคิดว่าจะเข้าใจ"ฉันเข้าใจเลย ชีวิตคนเราเกิดมาเพื่อเรียนรู้บททดสอบเหมือนแบบฝึกหัด แล้วจะเข้าใจในบริบทด้วยตัวเราเอง พระพุทธเจ้าสอนให้ดูที่ต้นเหตุจึงรู้ว่าไม่มีอะไรที่ต้องกลัวถ้าเรารู้จักจิตใจตนเองจริงๆทุกสิ่งเกิดขึ้นแล้วก็ดับไปไม่ได้ตั้งอยู่ตลอดกาล ฉันก็จะเรียนรู้บททดสอบชีวิตไปเรื่อยๆและก็หวังให้ตัวเองเข้มแข็งและผ่านมันไปให้ได้จนก่วาลมหายใจสุดท้าย สันตติส่งต่อจิตอีกดวงในร่างใหม่ต่อไป ชาตินี้ฉันยังไม่มีกำลังมากพอที่จะข้ามฝั่ง🏊‍♀️ได้หรอกรู้ตัว สู้ไปด้วยกันนะทุกคน✌ " bkk Th 21102567 "รักพ่อแม่และครอบครัวมากๆ💞"แม้จากไปแล้วแต่อยู่ใน❤📣 miss you......
    ตอนฉันอายุ20ปี เคยคิดอยากมีลูกชายสักคนแต่ไม่ต้องการมีแฟนคือเด็กหลอดแก้วประมาณนั้น เพื่อให้เขาทำความฝันให้ฉันคือบวชตลอดชีวิตข้ามฝั่งให้ได้และโปรดคน ความคิดก็จะวนคิดอยู่แบบนั้น🔄"ต่อมาคืนหนึ่งฉันก็หลับและฝันว่ามีเสียงๆหนึ่งพูดว่าเธอจะให้ลูกเธอเกิดใน"กาลียุคเช่นนี้หรือ ภาพปรากฎเห็นคนกินคนด้วยกันเหมือนสัตว์ล่าเนื้อ เลือดนองพื้นท่วมถึง"ตาตุ่มช้าง🐘"ภาพมันน่ากลัวสลดหดหู่จริงๆตื่นจากฝันก็เลยเปลี่ยนความคิดๆว่ามันไม่ยุติธรรมที่จะให้ใครมาทำความฝันให้ใคร เพราะทุกคนต่างก็มีฝันของตนเอง เพื่อนให้หนังสือตัวกูของกูมาหนึ่งเล่ม ฉันอ่านจบในไม่กี่นาทีและอ่านวนหลายรอบ จนคิดว่าเราต้องศึกษาคำสอนอย่างจริงจังว่ามีอัจฉริยะมนุษย์ ที่ตรัสรู้ธรรมเช่นนี้อยู่จริงๆหรือหาหนังสือหลวงพ่อพุทธทาสมาอ่านหลายเล่ม "แม่ฉันชอบสร้างพระไตรปิฎกถวายวัดฉันสงสัยถามแม่ว่ามีอะไรดีในนั้น"แม่บอกอ่านเองซิ ฉันตัดสินใจอ่านโห😯ทึ่งมากคนอะไรจะฉลาดขนาดนี้ "❤นึกรักพระพุทธเจ้าขึ้นมาเลยว่าถ้ามีคนรักก็อยากได้บุคคลเช่นนี้ถ้ามีลูกก็อยากมีลูกเช่นนี้ถ้าไม่มีก็ไม่มีคู่ดีก่วา"เพราะตอนเด็กๆฉันถามตัวเองบ่อยครั้งว่าฉันเกิดมาทำไมมาจากไหน เคยถามแม่ว่าโลกนี้สุดขอบโลกอยู่ตรงไหนอยากเดินออกไปจากโลกนี้ ฉันเห็นพ่อแม่มีปากเสียงกันบ่อยๆฉันคิดเองนะตอนนั้นว่า ความรักถ้ามันทำให้ทุกข์จะรักกันทำไม ฉันบอกกับแม่ว่าถ้าต้องทนอยู่กันเพื่อลูกไม่ต้องนะ ชีวิตคนเรามันสั้นควรหาความสุขให้ตัวเองบ้างจากนั้นพ่อกับแม่ก็เลิกกันฉันเป็นลูกคนเล็กของบ้าน ฉันมีโลกที่แคบมากเพราะไม่ชอบเที่ยวพ่อต้องจ้างให้ไปเที่ยวเพื่อจะอยู่กับแม่สองคนบ้าง😉 แต่ชอบอยู่บ้านฟังธรรมอ่าน📚หนังสือ(โลกส่วนตัวสูง)จึงไม่ค่อยมีประสบการณ์ชีวิตนอกบ้านเลย พอทำงานไปเที่ยวบ้านเพื่อนเห็นครอบครัวเขาทะเลาะกันรุนแรง เลยคิดว่าอ้าวเราคิดว่าเป็นเฉพาะบ้านเราซะอีกโหบ้านคนอื่นหนักก่วาเราอีกเขามีลงไม้ลงมือกันด้วย บ้านเราไม่เคยมีๆแต่พ่อทะเลาะบ่นอยู่คนเดียวแม่ไม่เคยเถียงกลับสักคำ แม่นิ่งอย่างเดียว(ฉันมีส่วนผสมของพ่อๆเป็นคนใจดีอ่อนโยนสุภาพ"ถ้าไม่ดื่ม"ส่วนแม่เป็นผู้หญิงแกร่งเป็นผู้นำเข้มแข็งอดทนสูง)ที่ไหนถ้ามีการทะเลาะกันฉันจะเดินหนีทันที ไม่มีการมุงดูเด็ดขาดไม่ชอบ#อาจารย์สนธิพูดทัชใจฉันมากคือทุกคนต้องเรียนรู้ประสบการณ์ด้วยตัวเองเพราะให้กันไม่ได้ แนะนำได้แต่ประสบการณ์สุข,ทุกข์..ของใครของมัน..."อ่านเจอคำสอนหลวงพ่อพุทธทาส ว่า"อะไรที่ไม่เคยผ่านเข้ามาในชีวิตอย่าคิดว่าจะเข้าใจ"ฉันเข้าใจเลย ชีวิตคนเราเกิดมาเพื่อเรียนรู้บททดสอบเหมือนแบบฝึกหัด แล้วจะเข้าใจในบริบทด้วยตัวเราเอง พระพุทธเจ้าสอนให้ดูที่ต้นเหตุจึงรู้ว่าไม่มีอะไรที่ต้องกลัวถ้าเรารู้จักจิตใจตนเองจริงๆทุกสิ่งเกิดขึ้นแล้วก็ดับไปไม่ได้ตั้งอยู่ตลอดกาล ฉันก็จะเรียนรู้บททดสอบชีวิตไปเรื่อยๆและก็หวังให้ตัวเองเข้มแข็งและผ่านมันไปให้ได้จนก่วาลมหายใจสุดท้าย สันตติส่งต่อจิตอีกดวงในร่างใหม่ต่อไป ชาตินี้ฉันยังไม่มีกำลังมากพอที่จะข้ามฝั่ง🏊‍♀️ได้หรอกรู้ตัว สู้ไปด้วยกันนะทุกคน✌ " bkk Th 21102567 "รักพ่อแม่และครอบครัวมากๆ💞"แม้จากไปแล้วแต่อยู่ใน❤📣 miss you......
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว
  • มันน่าจะใกล้ถึง จุดระเบิด เต็มที!!!...สำหรับความเป็นไปของโลกทุกวันนี้ ไม่ว่าจะดูจากแนวรบยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง หรือแม้แต่ทะเลจีนใต้ก็ตามที แต่สำหรับ บ้านเรา นั้น ใครต่อใครดูๆ จะหันไปสนใจหนักไปทางเรื่องดิไอค่ง ไอคอน เรื่องบอสโน่น บอสนี่ซะเป็นหลัก ส่วนจะก่อให้เกิดประโยชน์โพดผลต่อส่วนรวม ต่อสังคมมาก-น้อยขนาดไหน อันนั้นคงต้องว่าไปตาม รสนิยม ของใคร-ของมันก็แล้วกัน...

    แต่สำหรับผู้ที่รักบ้าน-รักเมือง ห่วงบ้าน-ห่วงเมือง...ก็น่าที่จะเริ่มคิดๆ เอาไว้ก่อนล่วงหน้า ว่าโอกาสที่ ผลกระทบ ต่างๆ นานา มันจะอุบัติขึ้นมาในรูปไหน? แบบไหน? ควรที่จะเตรียมตัวรับมือ รับสภาพ กันในลักษณะไหน? อย่างไร? เพราะเอาแค่เฉพาะ ราคาน้ำมัน ที่อาจเตลิดเปิดเปิงไปเป็นร้อยๆ ดอลลาร์

    120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อย่างที่ใครๆ เขาว่า แค่นี้ก็น่าจะรากเขียว-รากเหลือง อ้วกแตก-อ้วกแตน ไปพอสมควรแล้ว แต่ก็อย่างที่เคยมีผู้อุปมา-อุปไมยถึงความเป็นไปของสังคมไทย ของ ระบบ-ระบอบ ในบ้านเมือง ที่อาจไม่ต่างไปจากกองฟืนแห้งๆ ที่ถูกวางสุมเอาไว้ทั่วทุกซอก ทุกมุม โอกาสที่ ประกายไฟ จากไฟสงคราม มันจะกลายเป็นตัวจุดปะทุให้แต่ละสิ่ง-แต่ละอย่าง ต้องมีอัน เตร๊งเตรง...เตร่งต๋อย ไฟไหม้มูลฝอยดังพรึ่บบ์บ์บ์ ก็ใช่ว่าจะไม่มีเอาเสียเลย...

    โดยสิ่งที่ต้องถือว่าเป็น สิ่งสำคัญ เอามากๆ ไม่ว่าสำหรับบ้านไหน-เมืองไหน ในการรับมือกับผลกระทบต่างๆ นานา ก็คงหนีไม่พ้นไปจากความร่วมมือ-ร่วมใจ หรือสิ่งที่ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 9 ท่านทรงเรียกว่า ความรู้รัก-สามัคคี นั่นเอง และเป็นสิ่งที่คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้เลย ว่าค่อนข้างจะเหือดหาย แห้งแล้ง เอามากๆ สำหรับสังคมไทย โดยเฉพาะนับแต่ช่วง ทศวรรษแห่งความมืดมน หรือเมื่อกว่าสิบๆ ปีที่แล้วเป็นต้นมา ยิ่งเมื่อต้องเจอกับความ ก้าวหน้า-ก้าวไกล ทางเทคโนโลยี ที่สามารถฉีกกระชากสังคมแต่ละสังคม ให้ย่อยแยก แตกกระจาย ไปเป็นชิ้นๆ เกิด ช่องว่างระหว่างวัย ชนิดต่อยังไงก็แทบต่อไม่ติด โอกาสที่จะร่วมแรง-ร่วมใจ ก้าวผ่าน วิกฤต ในแต่ละช่วง แต่ละระยะ มันจึงออกจะยากเย็น แสนเข็ญ อยู่พอสมควร...

    และด้วยเหตุเท่าที่ผ่านมา...จะโดยเพราะ ตบะ-บารมี ของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 9 หรือ พระสยามเทวาธิราช ก็แล้วแต่จะคิด หลายต่อหลายวิกฤต จึงถูกคลี่คลาย ผ่อนคลาย จากหนักไปเป็นเบา ได้อย่างน่าทึ่ง น่าประทับใจเอามากๆ ชนิดแม้แต่คนต่างบ้าน-ต่างเมือง ยังอด อัศจรรย์ใจ ต่อความยืดหยุ่น ประนีประนอม แห่ง ความเป็นไทย ภายในสังคมไทย ขึ้นมาไม่ได้ โดยเฉพาะการให้ความยอมรับ การยินยอม พร้อมใจ ต่อ ศูนย์รวมจิตใจ ที่อุบัติขึ้นมาโดย พระบารมี ไม่ใช่ด้วย พระราชอำนาจ และได้ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญในการคลี่คลายวิกฤตต่างๆ นานา ได้อย่างเป็นมรรค เป็นผล...

    แต่เมื่อสิ่งเหล่านี้ต้องสิ้นสุด ยุติ ลงไปตาม กฎเกณฑ์แห่งธรรมชาติ ...อะไร??? ที่จะเข้ามาเป็นสิ่งทดแทน เป็นตัวช่วยประคับประคอง ในแต่ละห้วง แต่ละระยะ ที่เกิดวิกฤต อันนี้นี่แหละ...ที่คงต้องช่วยกันคิด ช่วยกันตระเตรียมรับมือเอาไว้ในแต่ละด้าน โดยไม่ว่าสิ่งเหล่านั้นมันจะออกไปทาง อนุรักษนิยม หรือ เสรีนิยม ก็ตาม แต่ถ้าสามารถช่วยประคับประคอง ช่วยคลี่คลายวิกฤตแต่ละรูป แต่ละแบบ ย่อมต้องถือเป็นสิ่งที่มีคุณค่า มีราคา ไปด้วยกันทั้งนั้น อันเป็นสิ่งที่บรรดาผู้รักบ้านรักเมือง ห่วงบ้าน ห่วงเมือง ทั้งหลาย ไม่ควรคิดที่จะปฏิเสธ...

    การสร้าง ความรู้รัก-สามัคคี ภายใต้สังคมสมัยใหม่ ที่เต็มไปด้วยความย่อยแยก แตกกระจาย ย่อมเป็นอะไรที่ยากเย็น แสนเข็ญ เอามากๆ และยิ่งภายใต้ภาวะวิกฤตที่เข้ามากระหน่ำ ซ้ำเติม ยิ่งแทบทำให้ไม่เห็นทางออก-ทางไป เอาเลยก็ว่าได้ แต่ก็นั่นแหละ...ด้วยเหตุเพราะมีแต่สิ่งนี้เท่านั้น ที่พอจะช่วยผ่อนหนักเป็นเบา ช่วยประคับประคองสังคมแต่ละสังคมให้พอรอดพ้นปากเหยี่ยว-ปากกาได้มั่ง ดังนั้น...ไม่ว่าจะยากขนาดไหน ไม่ว่ายังแทบมองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ แต่ถ้ามุ่งมั่น และเพียรพยายาม พร้อมที่จะสืบทอด ต่อยอด ในสิ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านทรงได้บำเพ็ญเพียร ได้ทรงแสดงให้เห็นเป็นแบบอย่าง ตัวอย่าง ไว้แล้ว อย่างน้อย...ก็น่าจะพอช่วยให้บ้านเมืองไม่ถึงกับต้อง แตกสลาย ลงไปต่อหน้า-ต่อตา.

    https://www.thaipost.net/columnist-people/676550/

    #Thaitimes
    มันน่าจะใกล้ถึง จุดระเบิด เต็มที!!!...สำหรับความเป็นไปของโลกทุกวันนี้ ไม่ว่าจะดูจากแนวรบยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง หรือแม้แต่ทะเลจีนใต้ก็ตามที แต่สำหรับ บ้านเรา นั้น ใครต่อใครดูๆ จะหันไปสนใจหนักไปทางเรื่องดิไอค่ง ไอคอน เรื่องบอสโน่น บอสนี่ซะเป็นหลัก ส่วนจะก่อให้เกิดประโยชน์โพดผลต่อส่วนรวม ต่อสังคมมาก-น้อยขนาดไหน อันนั้นคงต้องว่าไปตาม รสนิยม ของใคร-ของมันก็แล้วกัน... แต่สำหรับผู้ที่รักบ้าน-รักเมือง ห่วงบ้าน-ห่วงเมือง...ก็น่าที่จะเริ่มคิดๆ เอาไว้ก่อนล่วงหน้า ว่าโอกาสที่ ผลกระทบ ต่างๆ นานา มันจะอุบัติขึ้นมาในรูปไหน? แบบไหน? ควรที่จะเตรียมตัวรับมือ รับสภาพ กันในลักษณะไหน? อย่างไร? เพราะเอาแค่เฉพาะ ราคาน้ำมัน ที่อาจเตลิดเปิดเปิงไปเป็นร้อยๆ ดอลลาร์ 120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อย่างที่ใครๆ เขาว่า แค่นี้ก็น่าจะรากเขียว-รากเหลือง อ้วกแตก-อ้วกแตน ไปพอสมควรแล้ว แต่ก็อย่างที่เคยมีผู้อุปมา-อุปไมยถึงความเป็นไปของสังคมไทย ของ ระบบ-ระบอบ ในบ้านเมือง ที่อาจไม่ต่างไปจากกองฟืนแห้งๆ ที่ถูกวางสุมเอาไว้ทั่วทุกซอก ทุกมุม โอกาสที่ ประกายไฟ จากไฟสงคราม มันจะกลายเป็นตัวจุดปะทุให้แต่ละสิ่ง-แต่ละอย่าง ต้องมีอัน เตร๊งเตรง...เตร่งต๋อย ไฟไหม้มูลฝอยดังพรึ่บบ์บ์บ์ ก็ใช่ว่าจะไม่มีเอาเสียเลย... โดยสิ่งที่ต้องถือว่าเป็น สิ่งสำคัญ เอามากๆ ไม่ว่าสำหรับบ้านไหน-เมืองไหน ในการรับมือกับผลกระทบต่างๆ นานา ก็คงหนีไม่พ้นไปจากความร่วมมือ-ร่วมใจ หรือสิ่งที่ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 9 ท่านทรงเรียกว่า ความรู้รัก-สามัคคี นั่นเอง และเป็นสิ่งที่คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้เลย ว่าค่อนข้างจะเหือดหาย แห้งแล้ง เอามากๆ สำหรับสังคมไทย โดยเฉพาะนับแต่ช่วง ทศวรรษแห่งความมืดมน หรือเมื่อกว่าสิบๆ ปีที่แล้วเป็นต้นมา ยิ่งเมื่อต้องเจอกับความ ก้าวหน้า-ก้าวไกล ทางเทคโนโลยี ที่สามารถฉีกกระชากสังคมแต่ละสังคม ให้ย่อยแยก แตกกระจาย ไปเป็นชิ้นๆ เกิด ช่องว่างระหว่างวัย ชนิดต่อยังไงก็แทบต่อไม่ติด โอกาสที่จะร่วมแรง-ร่วมใจ ก้าวผ่าน วิกฤต ในแต่ละช่วง แต่ละระยะ มันจึงออกจะยากเย็น แสนเข็ญ อยู่พอสมควร... และด้วยเหตุเท่าที่ผ่านมา...จะโดยเพราะ ตบะ-บารมี ของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 9 หรือ พระสยามเทวาธิราช ก็แล้วแต่จะคิด หลายต่อหลายวิกฤต จึงถูกคลี่คลาย ผ่อนคลาย จากหนักไปเป็นเบา ได้อย่างน่าทึ่ง น่าประทับใจเอามากๆ ชนิดแม้แต่คนต่างบ้าน-ต่างเมือง ยังอด อัศจรรย์ใจ ต่อความยืดหยุ่น ประนีประนอม แห่ง ความเป็นไทย ภายในสังคมไทย ขึ้นมาไม่ได้ โดยเฉพาะการให้ความยอมรับ การยินยอม พร้อมใจ ต่อ ศูนย์รวมจิตใจ ที่อุบัติขึ้นมาโดย พระบารมี ไม่ใช่ด้วย พระราชอำนาจ และได้ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญในการคลี่คลายวิกฤตต่างๆ นานา ได้อย่างเป็นมรรค เป็นผล... แต่เมื่อสิ่งเหล่านี้ต้องสิ้นสุด ยุติ ลงไปตาม กฎเกณฑ์แห่งธรรมชาติ ...อะไร??? ที่จะเข้ามาเป็นสิ่งทดแทน เป็นตัวช่วยประคับประคอง ในแต่ละห้วง แต่ละระยะ ที่เกิดวิกฤต อันนี้นี่แหละ...ที่คงต้องช่วยกันคิด ช่วยกันตระเตรียมรับมือเอาไว้ในแต่ละด้าน โดยไม่ว่าสิ่งเหล่านั้นมันจะออกไปทาง อนุรักษนิยม หรือ เสรีนิยม ก็ตาม แต่ถ้าสามารถช่วยประคับประคอง ช่วยคลี่คลายวิกฤตแต่ละรูป แต่ละแบบ ย่อมต้องถือเป็นสิ่งที่มีคุณค่า มีราคา ไปด้วยกันทั้งนั้น อันเป็นสิ่งที่บรรดาผู้รักบ้านรักเมือง ห่วงบ้าน ห่วงเมือง ทั้งหลาย ไม่ควรคิดที่จะปฏิเสธ... การสร้าง ความรู้รัก-สามัคคี ภายใต้สังคมสมัยใหม่ ที่เต็มไปด้วยความย่อยแยก แตกกระจาย ย่อมเป็นอะไรที่ยากเย็น แสนเข็ญ เอามากๆ และยิ่งภายใต้ภาวะวิกฤตที่เข้ามากระหน่ำ ซ้ำเติม ยิ่งแทบทำให้ไม่เห็นทางออก-ทางไป เอาเลยก็ว่าได้ แต่ก็นั่นแหละ...ด้วยเหตุเพราะมีแต่สิ่งนี้เท่านั้น ที่พอจะช่วยผ่อนหนักเป็นเบา ช่วยประคับประคองสังคมแต่ละสังคมให้พอรอดพ้นปากเหยี่ยว-ปากกาได้มั่ง ดังนั้น...ไม่ว่าจะยากขนาดไหน ไม่ว่ายังแทบมองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ แต่ถ้ามุ่งมั่น และเพียรพยายาม พร้อมที่จะสืบทอด ต่อยอด ในสิ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านทรงได้บำเพ็ญเพียร ได้ทรงแสดงให้เห็นเป็นแบบอย่าง ตัวอย่าง ไว้แล้ว อย่างน้อย...ก็น่าจะพอช่วยให้บ้านเมืองไม่ถึงกับต้อง แตกสลาย ลงไปต่อหน้า-ต่อตา. https://www.thaipost.net/columnist-people/676550/ #Thaitimes
    WWW.THAIPOST.NET
    ศูนย์รวมจิตใจในยาม 'วิกฤต'
    มันน่าจะใกล้ถึง จุดระเบิด เต็มที!!!...สำหรับความเป็นไปของโลกทุกวันนี้ ไม่ว่าจะดูจากแนวรบยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง หรือแม้แต่ทะเลจีนใต้ก็ตามที แต่สำหรับ บ้านเรา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 253 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'บอสพอล' ไม่ยอมตายเดี่ยวส่งสัญญาณลากบอสดาราร่วมรับกรรมไปด้วยกัน : ข่าวลึกปมลับ 15/10/67
    'บอสพอล' ไม่ยอมตายเดี่ยวส่งสัญญาณลากบอสดาราร่วมรับกรรมไปด้วยกัน : ข่าวลึกปมลับ 15/10/67
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 184 มุมมอง 155 0 รีวิว
  • กองทัพจีนจัดการซ้อมรบเป็นเวลา 1 วัน โดยส่งทั้งเครื่องบินรบและเรือรบเข้าล้อมไต้หวัน ในปฏิบัติการที่แดนมังกรระบุว่าเป็นการส่งคำเตือนอย่างดุดัน ไปถึงกองกำลังของ “พวกนักแบ่งแยกดินแดน” ซึ่งกำลังรณรงค์เรียกร้องเอกราชของเกาะแห่งนี้
    .
    กระทรวงกลาโหมของจีนยังสำทับว่าจะลงมือใช้ปฏิบัติการกับไต้หวันเพิ่มมากกว่านี้อีกถ้าหากเห็นว่าจำเป็น “จวบจนกระทั่งประเด็นปัญหาไต้หวันได้รับการแก้ไขคลี่คลายอย่างสมบูรณ์” พร้อมกับระบุว่าการซ้อมรบคราวนี้คือการเพิ่มแรงกดดันใส่พวกที่เรียกร้องให้ไต้หวันเป็นเอกราช
    .
    ไต้หวันซึ่งเพิ่งมีการปกครองแบบประชาธิปไตยตะวันตกโดยได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯและพวกชาติตะวันตกอื่นๆ เมื่อไม่กี่สิบปีมานี้เอง ตั้งท่าเตรียมการรับมือกับการซ้อมรบแสดงความโกรธเกรี้ยวเช่นนี้ของปักกิ่ง ตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีไล่ จิงเต๋อ กล่าวปราศรัยเนื่องในวันชาติสาธารณรัฐจีน 10 ตุลาคมที่ผ่านมา ในลักษณะท้าทายจีน กระนั้นก็มีนักวิเคราะห์บางรายมองว่า การปฏิบัติการทางทหารของปักกิ่งในวันจันทร์ (14) ดูจะอยู่ในลักษณะผ่านการขบคิดไตร่ตรอง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้จีนกลายเป็นประเด็นร้อนแรงในการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งเหลืออีกเพียงครึ่งเดือนเศษๆ ก็จะถึงวันเลือกตั้ง 5 พฤศจิกายนแล้ว
    .
    คำปราศรัยของ ไล่ ถูกปักกิ่งประณามอย่างรุนแรงหลังจากเขากล่าวว่า จีนไม่มีสิทธิใดๆ ที่จะเป็นตัวแทนของไต้หวัน ถึงแม้เวลาเดียวกันเขาก็เสนอที่จะร่วมมือกับปักกิ่งในประเด็นปัญหาระดับโลกต่างๆ
    .
    ขณะที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน เหมา หนิง กล่าวตอบโต้ไทเปในวันจันทร์ว่า การประกาศเอกราชของไต้หวันกับสันติภาพในช่องแคบไต้หวันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถไปด้วยกันได้
    .
    ทางด้านกองบัญชาการยุทธบริเวณภาคตะวันออกของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน ซึ่งพื้นที่รับผิดชอบครอบคลุมเกาะไต้หวัน แถลงให้รายละเอียดว่า ปฏิบัติการซ้อมรบใหญ่ครั้งนี้ ซึ่งใช้ชื่อรหัสว่า “ดาบประสาน-2024บี” (Joint Sword-2024B) จัดขึ้นในบริเวณช่องแคบไต้หวัน ทั้งทางด้านเหนือ ใต้ และตะวันออกของเกาะไต้หวัน โดยมีเป้าหมายเป็นการเตือนอย่างขึงขังต่อการดำเนินการต่างๆ ของพวกแบ่งแยกดินแดนในไต้หวัน พร้อมย้ำว่า การซ้อมรบนี้ถูกกฎหมายและมีความจำเป็นสำหรับการปกป้องอธิปไตยแห่งรัฐและความเป็นเอกภาพของจีน
    .
    ในตอนแรกทางกองบัญชาการไม่มีการประกาศว่าการซ้อมรบครั้งนี้จะสิ้นสุดเมื่อใด แต่เมื่อย่างเข้าคืนวันจันทร์ กองบัญชาการแห่งนี้ก็ประกาศว่าการซ้อมสิ้นสุดลงแล้ว อีกทั้งไม่ได้มีการประกาศจะมีการซ้อมรบขนาดใหญ่ใดๆ ต่อไปอีก
    .
    ก่อนหน้านั้น ทางกองบัญชาการแห่งนี้ได้เผยแพร่แผนที่ฉบับหนึ่งซึ่งแสดงพื้นที่ 9 แห่งรอบๆ เกาะไต้หวันที่เป็นพื้นที่ของการฝึกคราวนี้ โดย 2 พื้นที่อยู่ทางชายฝั่งด้านตะวันออกของเกาะ, 3 พิ้นที่อยู่ทางชายฝั่งตะวันตก, 1 พื้นที่อยู่ทางตอนเหนือ, และอีก 3 พื้นที่อยู่รอบๆ หมู่เกาะเล็กๆ ซึ่งอยู่ติดกับชายฝั่งของจีนและไต้หวันเป็นผู้ควบคุมเอาไว้
    .
    คำแถลงของกองบัญชาการระบุอีกว่า เรือรบของจีนมีการจัดกระบวนหลายกระบวน รวมถึงพวกเรือพิฆาตและเครื่องบินมีการเคลื่อนกำลังเข้าใกล้เกาะไต้หวัน ใน “การเข้าไปประชิดใกล้ๆ จากทิศทางต่างๆ หลายทิศทาง”, โดยมุ่งโฟกัสที่การตรวจการณ์ความพร้อมรบของกองกำลังทางทะเล-ทางอากาศ, การเข้าปิดล้อมท่าเรือแห่งสำคัญๆ และพื้นที่สำคัญๆ, และการโจมตีใส่พวกเป้าหมายทั้งที่อยู่ในทะเลและทางภาคพื้นดิน
    .
    นอกจากนั้น เรือบรรทุกเครื่องบิน “เหลียวหนิง” ของจีนพร้อมหมู่เรือสนับสนุน ก็ได้เข้าร่วมการฝึกที่บริเวณด้านตะวันออกของเกาะไต้หวัน กองบัญชาการแห่งนี้ประกาศ โดยนี่เป็นความเคลื่อนไหวที่กองทัพไต้หวันเฝ้าจับตามองเป็นพิเศษ
    .
    อย่างไรก็ดี ฝ่ายทหารของจีนไม่มีการประกาศว่า มีการฝึกซ้อมยิงด้วยกระสุนจริง หรือมีการประกาศเขตห้ามบินใดๆ และแหล่งข่าวความมั่นคงของไต้หวันรายหนึ่งบอกว่า ไม่มีสัญญาณใดๆ ว่ามีการยิงขีปนาวุธ
    .
    ถึงแม้สื่อภาครัฐของจีนรายงานว่า กองกำลังจรวดของจีนได้จัดการฝึกยิงขีปนาวุธจำลอง เวลาเดียวกันนั้นพวกเครื่องบินขับไล่ก็ “ดำเนินการโจมตีเพื่อเปิดพื้นที่ระเบียงทางอากาศแห่งต่างๆ” ส่วนเครื่องบินทิ้งระเบิดดำเนินการตามภารกิจพิสัยไกล
    .
    ขณะเดียวกัน หน่วยยามฝั่งจีนโอบล้อมไต้หวันและเริ่มการลาดตระเวนใกล้เกาะหมาจู่และเกาะตงหยินของไต้หวัน และเข้าสู่น่านน้ำควบคุมของเกาะหมาจู่เป็นครั้งแรกเพื่อแสดงการละเมิดพรมแดนที่ทางการไต้หวันกำหนดอย่างสมบูรณ์
    .
    เครือข่ายโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีนรายงานว่า ในอนาคตปักกิ่งอาจทำการลาดตระเวนเพื่อบังคับใช้กฎหมายรอบเกาะหมาจู่เป็นประจำ
    .
    พันโทฟู่ เจิ้งหนาน นักวิจัยของสถาบันบัณฑิตวิทยาการทหารของจีน ชี้ว่า การซ้อมรบอาจเปลี่ยนจากการฝึกซ้อมเป็นการสู้รบได้ทุกเมื่อ หากไต้หวันยังยั่วยุอีก
    .
    ทางด้านไต้หวันนั้น ประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ ที่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนพฤษภาคม ประกาศปกป้องประชาธิปไตยและความมั่นคงของชาติ นอกจากนั้นไล่ยังเรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ
    .
    กระทรวงกลาโหมไต้หวันแถลงในวันจันทร์ว่า เกาะรอบนอกที่อยู่ภายใต้การปกครองของไต้หวันเตรียมพร้อมระดับสูงสุด และเครื่องบิน เรือรบ และทหาร รวมถึงหน่วยยามฝั่งจะตอบโต้สถานการณ์ที่เป็นปฏิปักษ์ตามกฎการปะทะ
    .
    อย่างไรก็ดี ผู้คนในไทเปส่วนใหญ่ดูเหมือนไม่ตื่นตกใจกับเหตุการณ์นี้ เนื่องจากจีนซ้อมรบอยู่บ่อยๆ
    .
    ส่วนที่วอชิงตัน เจ้าหน้าที่คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เผยว่า กำลังจับตาการซ้อมรบของจีนอย่างใกล้ชิด
    .
    แมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เรียกร้องให้จีนใช้ความอดกลั้นและหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ ที่อาจบ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน ซึ่งมีความสำคัญต่อสันติภาพและความมั่งคั่งของภูมิภาค
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000099218
    ..............
    Sondhi X
    กองทัพจีนจัดการซ้อมรบเป็นเวลา 1 วัน โดยส่งทั้งเครื่องบินรบและเรือรบเข้าล้อมไต้หวัน ในปฏิบัติการที่แดนมังกรระบุว่าเป็นการส่งคำเตือนอย่างดุดัน ไปถึงกองกำลังของ “พวกนักแบ่งแยกดินแดน” ซึ่งกำลังรณรงค์เรียกร้องเอกราชของเกาะแห่งนี้ . กระทรวงกลาโหมของจีนยังสำทับว่าจะลงมือใช้ปฏิบัติการกับไต้หวันเพิ่มมากกว่านี้อีกถ้าหากเห็นว่าจำเป็น “จวบจนกระทั่งประเด็นปัญหาไต้หวันได้รับการแก้ไขคลี่คลายอย่างสมบูรณ์” พร้อมกับระบุว่าการซ้อมรบคราวนี้คือการเพิ่มแรงกดดันใส่พวกที่เรียกร้องให้ไต้หวันเป็นเอกราช . ไต้หวันซึ่งเพิ่งมีการปกครองแบบประชาธิปไตยตะวันตกโดยได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯและพวกชาติตะวันตกอื่นๆ เมื่อไม่กี่สิบปีมานี้เอง ตั้งท่าเตรียมการรับมือกับการซ้อมรบแสดงความโกรธเกรี้ยวเช่นนี้ของปักกิ่ง ตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีไล่ จิงเต๋อ กล่าวปราศรัยเนื่องในวันชาติสาธารณรัฐจีน 10 ตุลาคมที่ผ่านมา ในลักษณะท้าทายจีน กระนั้นก็มีนักวิเคราะห์บางรายมองว่า การปฏิบัติการทางทหารของปักกิ่งในวันจันทร์ (14) ดูจะอยู่ในลักษณะผ่านการขบคิดไตร่ตรอง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้จีนกลายเป็นประเด็นร้อนแรงในการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งเหลืออีกเพียงครึ่งเดือนเศษๆ ก็จะถึงวันเลือกตั้ง 5 พฤศจิกายนแล้ว . คำปราศรัยของ ไล่ ถูกปักกิ่งประณามอย่างรุนแรงหลังจากเขากล่าวว่า จีนไม่มีสิทธิใดๆ ที่จะเป็นตัวแทนของไต้หวัน ถึงแม้เวลาเดียวกันเขาก็เสนอที่จะร่วมมือกับปักกิ่งในประเด็นปัญหาระดับโลกต่างๆ . ขณะที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน เหมา หนิง กล่าวตอบโต้ไทเปในวันจันทร์ว่า การประกาศเอกราชของไต้หวันกับสันติภาพในช่องแคบไต้หวันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถไปด้วยกันได้ . ทางด้านกองบัญชาการยุทธบริเวณภาคตะวันออกของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน ซึ่งพื้นที่รับผิดชอบครอบคลุมเกาะไต้หวัน แถลงให้รายละเอียดว่า ปฏิบัติการซ้อมรบใหญ่ครั้งนี้ ซึ่งใช้ชื่อรหัสว่า “ดาบประสาน-2024บี” (Joint Sword-2024B) จัดขึ้นในบริเวณช่องแคบไต้หวัน ทั้งทางด้านเหนือ ใต้ และตะวันออกของเกาะไต้หวัน โดยมีเป้าหมายเป็นการเตือนอย่างขึงขังต่อการดำเนินการต่างๆ ของพวกแบ่งแยกดินแดนในไต้หวัน พร้อมย้ำว่า การซ้อมรบนี้ถูกกฎหมายและมีความจำเป็นสำหรับการปกป้องอธิปไตยแห่งรัฐและความเป็นเอกภาพของจีน . ในตอนแรกทางกองบัญชาการไม่มีการประกาศว่าการซ้อมรบครั้งนี้จะสิ้นสุดเมื่อใด แต่เมื่อย่างเข้าคืนวันจันทร์ กองบัญชาการแห่งนี้ก็ประกาศว่าการซ้อมสิ้นสุดลงแล้ว อีกทั้งไม่ได้มีการประกาศจะมีการซ้อมรบขนาดใหญ่ใดๆ ต่อไปอีก . ก่อนหน้านั้น ทางกองบัญชาการแห่งนี้ได้เผยแพร่แผนที่ฉบับหนึ่งซึ่งแสดงพื้นที่ 9 แห่งรอบๆ เกาะไต้หวันที่เป็นพื้นที่ของการฝึกคราวนี้ โดย 2 พื้นที่อยู่ทางชายฝั่งด้านตะวันออกของเกาะ, 3 พิ้นที่อยู่ทางชายฝั่งตะวันตก, 1 พื้นที่อยู่ทางตอนเหนือ, และอีก 3 พื้นที่อยู่รอบๆ หมู่เกาะเล็กๆ ซึ่งอยู่ติดกับชายฝั่งของจีนและไต้หวันเป็นผู้ควบคุมเอาไว้ . คำแถลงของกองบัญชาการระบุอีกว่า เรือรบของจีนมีการจัดกระบวนหลายกระบวน รวมถึงพวกเรือพิฆาตและเครื่องบินมีการเคลื่อนกำลังเข้าใกล้เกาะไต้หวัน ใน “การเข้าไปประชิดใกล้ๆ จากทิศทางต่างๆ หลายทิศทาง”, โดยมุ่งโฟกัสที่การตรวจการณ์ความพร้อมรบของกองกำลังทางทะเล-ทางอากาศ, การเข้าปิดล้อมท่าเรือแห่งสำคัญๆ และพื้นที่สำคัญๆ, และการโจมตีใส่พวกเป้าหมายทั้งที่อยู่ในทะเลและทางภาคพื้นดิน . นอกจากนั้น เรือบรรทุกเครื่องบิน “เหลียวหนิง” ของจีนพร้อมหมู่เรือสนับสนุน ก็ได้เข้าร่วมการฝึกที่บริเวณด้านตะวันออกของเกาะไต้หวัน กองบัญชาการแห่งนี้ประกาศ โดยนี่เป็นความเคลื่อนไหวที่กองทัพไต้หวันเฝ้าจับตามองเป็นพิเศษ . อย่างไรก็ดี ฝ่ายทหารของจีนไม่มีการประกาศว่า มีการฝึกซ้อมยิงด้วยกระสุนจริง หรือมีการประกาศเขตห้ามบินใดๆ และแหล่งข่าวความมั่นคงของไต้หวันรายหนึ่งบอกว่า ไม่มีสัญญาณใดๆ ว่ามีการยิงขีปนาวุธ . ถึงแม้สื่อภาครัฐของจีนรายงานว่า กองกำลังจรวดของจีนได้จัดการฝึกยิงขีปนาวุธจำลอง เวลาเดียวกันนั้นพวกเครื่องบินขับไล่ก็ “ดำเนินการโจมตีเพื่อเปิดพื้นที่ระเบียงทางอากาศแห่งต่างๆ” ส่วนเครื่องบินทิ้งระเบิดดำเนินการตามภารกิจพิสัยไกล . ขณะเดียวกัน หน่วยยามฝั่งจีนโอบล้อมไต้หวันและเริ่มการลาดตระเวนใกล้เกาะหมาจู่และเกาะตงหยินของไต้หวัน และเข้าสู่น่านน้ำควบคุมของเกาะหมาจู่เป็นครั้งแรกเพื่อแสดงการละเมิดพรมแดนที่ทางการไต้หวันกำหนดอย่างสมบูรณ์ . เครือข่ายโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีนรายงานว่า ในอนาคตปักกิ่งอาจทำการลาดตระเวนเพื่อบังคับใช้กฎหมายรอบเกาะหมาจู่เป็นประจำ . พันโทฟู่ เจิ้งหนาน นักวิจัยของสถาบันบัณฑิตวิทยาการทหารของจีน ชี้ว่า การซ้อมรบอาจเปลี่ยนจากการฝึกซ้อมเป็นการสู้รบได้ทุกเมื่อ หากไต้หวันยังยั่วยุอีก . ทางด้านไต้หวันนั้น ประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ ที่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนพฤษภาคม ประกาศปกป้องประชาธิปไตยและความมั่นคงของชาติ นอกจากนั้นไล่ยังเรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ . กระทรวงกลาโหมไต้หวันแถลงในวันจันทร์ว่า เกาะรอบนอกที่อยู่ภายใต้การปกครองของไต้หวันเตรียมพร้อมระดับสูงสุด และเครื่องบิน เรือรบ และทหาร รวมถึงหน่วยยามฝั่งจะตอบโต้สถานการณ์ที่เป็นปฏิปักษ์ตามกฎการปะทะ . อย่างไรก็ดี ผู้คนในไทเปส่วนใหญ่ดูเหมือนไม่ตื่นตกใจกับเหตุการณ์นี้ เนื่องจากจีนซ้อมรบอยู่บ่อยๆ . ส่วนที่วอชิงตัน เจ้าหน้าที่คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เผยว่า กำลังจับตาการซ้อมรบของจีนอย่างใกล้ชิด . แมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เรียกร้องให้จีนใช้ความอดกลั้นและหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ ที่อาจบ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน ซึ่งมีความสำคัญต่อสันติภาพและความมั่งคั่งของภูมิภาค . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000099218 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 862 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌧️ ฝนตกแบบนี้ อย่าให้ราน้ำค้างมาเล่นงานเมล่อนของเรา! 🍈

    สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาวสวนเมล่อน! 👋 อากาศช่วงนี้แปรปรวนสุดๆ เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝน ทำเอาเมล่อนของเราสับสนไปหมด 😅 แถมยังเป็นสภาพที่ราน้ำค้างชอบมากๆ ด้วย! แต่ไม่ต้องกังวลไปครับ เรามีวิธีรับมือแบบเด็ดๆ มาฝาก

    🦸‍♂️ ซุปเปอร์ฮีโร่ของเรา: ไตรโคบิวพลัส!
    วิธีใช้ง่ายๆ แบบมืออาชีพ:
    1. ป้องกัน: พ่นทุกๆ 5 วัน สม่ำเสมอ
    2. กำจัด: ถ้าเจอการระบาด ให้พ่นถี่ขึ้นเป็นทุก 3 วัน

    💡 เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย:
    • พ่นตอนเช้าหรือเย็น จะได้ผลดีที่สุด
    • อย่าลืมพ่นใต้ใบด้วยนะ ราน้ำค้างชอบหลบอยู่ตรงนั้น
    • ถ้าฝนตกหนัก อาจต้องพ่นซ้ำ เพราะอาจโดนชะล้างไป

    🌈 ข้อดีของไตรโคบิวพลัส:
    • ปลอดภัย ไม่มีสารเคมีตกค้าง
    • ใช้ได้ทั้งป้องกันและกำจัด
    • เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และแมลงที่เป็นประโยชน์

    👨‍🌾 คำแนะนำจากใจ ลิตเติ้ลฟาร์ม:
    "อย่าประมาทกับราน้ำค้างนะครับ มันแพร่กระจายเร็วมาก! การป้องกันไว้ก่อน ดีกว่ามารักษาทีหลังเยอะเลย"

    🛒 สนใจ ไตรโคบิวพลัส ของแท้ คุณภาพเยี่ยม:
    • แชทมาคุยกันได้เลย ยินดีให้คำปรึกษาฟรี!
    • หรือโทร: 093-696-2692 (สายด่วน สวนเมล่อน 😉)

    มาสู้กับราน้ำค้างไปด้วยกันนะครับ! 💪 เมล่อนของเราต้องรอด! 🍈✨

    #ราน้ำค้าง #เมล่อน #ไตรโคบิวพลัส #เกษตรปลอดภัย #ลิตเติ้ลฟาร์ม #ฤดูฝน
    🌧️ ฝนตกแบบนี้ อย่าให้ราน้ำค้างมาเล่นงานเมล่อนของเรา! 🍈 สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาวสวนเมล่อน! 👋 อากาศช่วงนี้แปรปรวนสุดๆ เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝน ทำเอาเมล่อนของเราสับสนไปหมด 😅 แถมยังเป็นสภาพที่ราน้ำค้างชอบมากๆ ด้วย! แต่ไม่ต้องกังวลไปครับ เรามีวิธีรับมือแบบเด็ดๆ มาฝาก 🦸‍♂️ ซุปเปอร์ฮีโร่ของเรา: ไตรโคบิวพลัส! วิธีใช้ง่ายๆ แบบมืออาชีพ: 1. ป้องกัน: พ่นทุกๆ 5 วัน สม่ำเสมอ 2. กำจัด: ถ้าเจอการระบาด ให้พ่นถี่ขึ้นเป็นทุก 3 วัน 💡 เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย: • พ่นตอนเช้าหรือเย็น จะได้ผลดีที่สุด • อย่าลืมพ่นใต้ใบด้วยนะ ราน้ำค้างชอบหลบอยู่ตรงนั้น • ถ้าฝนตกหนัก อาจต้องพ่นซ้ำ เพราะอาจโดนชะล้างไป 🌈 ข้อดีของไตรโคบิวพลัส: • ปลอดภัย ไม่มีสารเคมีตกค้าง • ใช้ได้ทั้งป้องกันและกำจัด • เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และแมลงที่เป็นประโยชน์ 👨‍🌾 คำแนะนำจากใจ ลิตเติ้ลฟาร์ม: "อย่าประมาทกับราน้ำค้างนะครับ มันแพร่กระจายเร็วมาก! การป้องกันไว้ก่อน ดีกว่ามารักษาทีหลังเยอะเลย" 🛒 สนใจ ไตรโคบิวพลัส ของแท้ คุณภาพเยี่ยม: • แชทมาคุยกันได้เลย ยินดีให้คำปรึกษาฟรี! • หรือโทร: 093-696-2692 (สายด่วน สวนเมล่อน 😉) มาสู้กับราน้ำค้างไปด้วยกันนะครับ! 💪 เมล่อนของเราต้องรอด! 🍈✨ #ราน้ำค้าง #เมล่อน #ไตรโคบิวพลัส #เกษตรปลอดภัย #ลิตเติ้ลฟาร์ม #ฤดูฝน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 38 0 รีวิว
  • ไมเคิล ชาเฟล..มหาเทพในตำนาน ผู้ร่ำรวยบนความฉิบหายของคนอื่น

    ท้าวความ..สมัยไมเคิลอายุได้ 16 ปี เรียนอยู่เอแบค ไมเคิลได้ไปรู้จักกับ Herbalife ในปี 2546

    ยุคนั้นคนยังไม่ค่อยรู้จัก Facebook (Facebook เปิดให้บริการครั้งแรก 2547) ยังไม่มีการยิงโฆษณา

    ไมเคิล..คือผู้มาก่อนกาลเวลาเหนือผู้ใด เรียกว่ายุคที่ยังไม่มีการขายของออนไลน์เลย Herbalife ก็คือสินค้า MLM ธรรมดา

    แต่..ไมเคิล มองออกว่าโลกออนไลน์มีพลังมากกว่าการชวนคนแบบเจอหน้าในออฟไลน์ จึงคิดแผนการตลาดขึ้นมาด้วยการที่ให้คนชวนคนบน FB.

    ต้องเข้าใจนะว่าไม่มีการยิงโฆษณาใดๆ เพราะมันเป็นยุคแรกของโลก Social แทนที่คนจะได้คุยกัน แบ่งปันเรื่องราวตามที่ Mark มันออกแบบมาต้องการให้ FB.เป็นเหมือนชุมชนเพื่อน

    แต่..ไมเคิลมันรู้ว่าสามารถเอา FB.มาเป็นร้านค้าได้ด้วยการโพสต์และแชร์ไปเรื่อยๆ ยุคนั้น Algorithm ของ FB.ยังไม่ได้ฉลาดเหมือนทุกวันนี้เลย

    ตอนนั้น FB.เพิ่งเริ่มต้นตั้งไข่ มีแต่แผนจะร่ำรวยดันตัวเองเข้าตลาดหลักทรัพย์ เลยไม่ได้สนใจในการพัฒนา AI.ตรวจจับการทำ Content ซ้ำๆ

    ถ้าพูดกันถึงยุคนี้ถ้าเราโพสต์ Content ซ้ำๆ จะโดน Algorithm ของ FB.แบนทันที เหมือนที่เราเคยเห็นตอนที่คนแชร์คลิปเพลงของ Lisa แล้ว FB.แบนนั่นแหละ

    AI มันทำหน้าที่ของมัน เพราะมันคิดว่าเป็นการกระหน่ำ Spam ระบบ หรือระบบกำลังโดนโจมตี

    แต่ยุคของไมเคิลนั้นโล่งสบาย เพราะทุกคนทำอะไรก็ได้ จะสแปมยังไงก็ได้ดังนั้นมันจึงตั้ง Herbalife Thailand ขึ้นมา

    แล้วจัดสัมมนา โดยมีหลักในการ Motivate ที่ไม่เหมือนใคร ฉีกกฎทุกกฎของคนทำ MLM ในประเทศไทย

    ไมเคิล..เก่งเรื่อง NLP ล้างสมองคนได้ ไม่ต้องมีอะไร แค่บอกว่าทำกับมันแล้วรวย วิธี Sponsor ของมันสุดติ่งมาก

    ยุคนั้น..เป็นการชวนคนแบบโพสต์ออนไลน์แล้วให้สมาชิกลากคนมาฟัง นั่งรถไฟฟ้าไปที่ศูนย์อบรมของมัน แล้วมันก็เข้าปิดการขายได้แบบ Conversion กระหน่ำจุกๆเลย
    ---------

    แผนประทุษกรรมของ..ไมเคิล

    เปิดตัวด้วยความเร้าใจ เดินเข้ามาในห้องแล้วโชว์ Black Berry แล้วถามคนในห้องว่าโทรศัพท์นี้แพงไหม ทุกคนตอบว่าแพง

    จากนั้นมันก็เขวี้ยงโทรศัพท์ Black Berry ไปที่กำแพงให้แตกแล้วพูดด้วยเสียงนิ่มๆว่า "ถ้าคุณทำธุรกิจกับผม คุณจะซื้อ Black Berry อีกกี่รอบก็ได้" ถถถ🤣

    แค่นี้ก็ทำ First Impression ให้คนในห้องแม่งตะลึงได้แล้ว จากนั้นมันก็จะใช้กลยุทธการปิดการขายโดยใช้หลักการที่เรียกว่า..ทฤษฏีห้องเปล่า

    คือทุกคนย่อมไม่มีเงินลงทุน มันบอกว่าก็ลองมองไปยังของในห้องที่คุณอยู่หรือบ้านที่คุณอยู่สิ

    คุณมีอะไรขายได้เอามาลงทุนกับผมแล้วจะรวย ขายได้ ขายให้หมด เอาเงินสดมาลงทุนกับผม แล้วผมจะพาคุณรวยไปด้วยกัน.?

    ได้ผล..คนแห่ซื้อของแม่งอย่างกับลดแลกแจกแถม เพราะอยากได้ Black Berry กี่รอบก็ได้ตามที่มันแสดง Action ให้ดู ว่าคนรวย เงินแค่นี้จิ๊บๆ

    ไมเคิล..สอนให้คนทำการตลาดด้วยการแนะนำสินค้าบน FB.ด้วยการโพสต์ และแชร์ และให้ทุกคนเริ่มต้นซื้อสินค้าของมัน

    เปิดบิลขั้นต่ำ 25,000 บาท สูงๆก็หลักแสน หลังเปิดบิลแล้วก็จะได้สต็อกของเต็มห้องหลังจากเข้าสู่วังวน“ทฤษฏีห้องเปล่า”เรียบร้อยแล้ว

    เปลี่ยนจากทรัพย์ที่มีเป็นสินค้า Herbalife เพราะคุณจะรวยไปด้วยกันกับไมเคิล ยุคนั้นเป็นยุคตื่นทอง คนไม่เคยเจออะไรแบบนี้

    เลยคิดเอาเองว่า..นี่แหละวะคือทางออกของ Passive Income และนั่นคือจุดเริ่มต้นความรวยของ..ไมเคิล ชาเฟล

    ไมเคิล..มีรถ Super Car ขับหลังจากนั้นไม่นาน รวยเร็ว รวยไว อายุน้อยร้อยล้านของแท้ แต่คนอื่นฉิบหายช่างมัน

    ใครอยากรอดตายให้ชวนคนมาต่อตูดถึงจะได้ค่าหัวคิวเปิดบิล..แชร์ลูกโซ่ชัดๆ

    ไมเคิล..เริ่มรวยหลักร้อยล้าน มันก็เริ่มคิดอยากจะมีในสิ่งที่เศรษฐีทั่วไปเขามีกันบางคนอยากได้นาฬิกาแพงๆ มันมีแล้ว

    บางคนอยากได้รถหรู มันมีแล้ว บ้านหลังใหญ่ มันมีแล้ว สิ่งที่ไมเคิลฝันนั้นสุดโต่งขึ้นตามลำดับ

    ไมเคิล..ฝันอยากได้เฮลิคอปเตอร์มันบอกเพื่อนๆว่า รถมันกระจอก กูจะมีเฮลิคอปเตอร์เอาไว้บินจากกรุงเทพไปพัทยาและ..กูจะทำให้ได้

    รอติดตาม ep.2

    สวัสดี
    @ไร้เงา แต่เร้าตรีน
    ไมเคิล ชาเฟล..มหาเทพในตำนาน ผู้ร่ำรวยบนความฉิบหายของคนอื่น ท้าวความ..สมัยไมเคิลอายุได้ 16 ปี เรียนอยู่เอแบค ไมเคิลได้ไปรู้จักกับ Herbalife ในปี 2546 ยุคนั้นคนยังไม่ค่อยรู้จัก Facebook (Facebook เปิดให้บริการครั้งแรก 2547) ยังไม่มีการยิงโฆษณา ไมเคิล..คือผู้มาก่อนกาลเวลาเหนือผู้ใด เรียกว่ายุคที่ยังไม่มีการขายของออนไลน์เลย Herbalife ก็คือสินค้า MLM ธรรมดา แต่..ไมเคิล มองออกว่าโลกออนไลน์มีพลังมากกว่าการชวนคนแบบเจอหน้าในออฟไลน์ จึงคิดแผนการตลาดขึ้นมาด้วยการที่ให้คนชวนคนบน FB. ต้องเข้าใจนะว่าไม่มีการยิงโฆษณาใดๆ เพราะมันเป็นยุคแรกของโลก Social แทนที่คนจะได้คุยกัน แบ่งปันเรื่องราวตามที่ Mark มันออกแบบมาต้องการให้ FB.เป็นเหมือนชุมชนเพื่อน แต่..ไมเคิลมันรู้ว่าสามารถเอา FB.มาเป็นร้านค้าได้ด้วยการโพสต์และแชร์ไปเรื่อยๆ ยุคนั้น Algorithm ของ FB.ยังไม่ได้ฉลาดเหมือนทุกวันนี้เลย ตอนนั้น FB.เพิ่งเริ่มต้นตั้งไข่ มีแต่แผนจะร่ำรวยดันตัวเองเข้าตลาดหลักทรัพย์ เลยไม่ได้สนใจในการพัฒนา AI.ตรวจจับการทำ Content ซ้ำๆ ถ้าพูดกันถึงยุคนี้ถ้าเราโพสต์ Content ซ้ำๆ จะโดน Algorithm ของ FB.แบนทันที เหมือนที่เราเคยเห็นตอนที่คนแชร์คลิปเพลงของ Lisa แล้ว FB.แบนนั่นแหละ AI มันทำหน้าที่ของมัน เพราะมันคิดว่าเป็นการกระหน่ำ Spam ระบบ หรือระบบกำลังโดนโจมตี แต่ยุคของไมเคิลนั้นโล่งสบาย เพราะทุกคนทำอะไรก็ได้ จะสแปมยังไงก็ได้ดังนั้นมันจึงตั้ง Herbalife Thailand ขึ้นมา แล้วจัดสัมมนา โดยมีหลักในการ Motivate ที่ไม่เหมือนใคร ฉีกกฎทุกกฎของคนทำ MLM ในประเทศไทย ไมเคิล..เก่งเรื่อง NLP ล้างสมองคนได้ ไม่ต้องมีอะไร แค่บอกว่าทำกับมันแล้วรวย วิธี Sponsor ของมันสุดติ่งมาก ยุคนั้น..เป็นการชวนคนแบบโพสต์ออนไลน์แล้วให้สมาชิกลากคนมาฟัง นั่งรถไฟฟ้าไปที่ศูนย์อบรมของมัน แล้วมันก็เข้าปิดการขายได้แบบ Conversion กระหน่ำจุกๆเลย --------- แผนประทุษกรรมของ..ไมเคิล เปิดตัวด้วยความเร้าใจ เดินเข้ามาในห้องแล้วโชว์ Black Berry แล้วถามคนในห้องว่าโทรศัพท์นี้แพงไหม ทุกคนตอบว่าแพง จากนั้นมันก็เขวี้ยงโทรศัพท์ Black Berry ไปที่กำแพงให้แตกแล้วพูดด้วยเสียงนิ่มๆว่า "ถ้าคุณทำธุรกิจกับผม คุณจะซื้อ Black Berry อีกกี่รอบก็ได้" ถถถ🤣 แค่นี้ก็ทำ First Impression ให้คนในห้องแม่งตะลึงได้แล้ว จากนั้นมันก็จะใช้กลยุทธการปิดการขายโดยใช้หลักการที่เรียกว่า..ทฤษฏีห้องเปล่า คือทุกคนย่อมไม่มีเงินลงทุน มันบอกว่าก็ลองมองไปยังของในห้องที่คุณอยู่หรือบ้านที่คุณอยู่สิ คุณมีอะไรขายได้เอามาลงทุนกับผมแล้วจะรวย ขายได้ ขายให้หมด เอาเงินสดมาลงทุนกับผม แล้วผมจะพาคุณรวยไปด้วยกัน.? ได้ผล..คนแห่ซื้อของแม่งอย่างกับลดแลกแจกแถม เพราะอยากได้ Black Berry กี่รอบก็ได้ตามที่มันแสดง Action ให้ดู ว่าคนรวย เงินแค่นี้จิ๊บๆ ไมเคิล..สอนให้คนทำการตลาดด้วยการแนะนำสินค้าบน FB.ด้วยการโพสต์ และแชร์ และให้ทุกคนเริ่มต้นซื้อสินค้าของมัน เปิดบิลขั้นต่ำ 25,000 บาท สูงๆก็หลักแสน หลังเปิดบิลแล้วก็จะได้สต็อกของเต็มห้องหลังจากเข้าสู่วังวน“ทฤษฏีห้องเปล่า”เรียบร้อยแล้ว เปลี่ยนจากทรัพย์ที่มีเป็นสินค้า Herbalife เพราะคุณจะรวยไปด้วยกันกับไมเคิล ยุคนั้นเป็นยุคตื่นทอง คนไม่เคยเจออะไรแบบนี้ เลยคิดเอาเองว่า..นี่แหละวะคือทางออกของ Passive Income และนั่นคือจุดเริ่มต้นความรวยของ..ไมเคิล ชาเฟล ไมเคิล..มีรถ Super Car ขับหลังจากนั้นไม่นาน รวยเร็ว รวยไว อายุน้อยร้อยล้านของแท้ แต่คนอื่นฉิบหายช่างมัน ใครอยากรอดตายให้ชวนคนมาต่อตูดถึงจะได้ค่าหัวคิวเปิดบิล..แชร์ลูกโซ่ชัดๆ ไมเคิล..เริ่มรวยหลักร้อยล้าน มันก็เริ่มคิดอยากจะมีในสิ่งที่เศรษฐีทั่วไปเขามีกันบางคนอยากได้นาฬิกาแพงๆ มันมีแล้ว บางคนอยากได้รถหรู มันมีแล้ว บ้านหลังใหญ่ มันมีแล้ว สิ่งที่ไมเคิลฝันนั้นสุดโต่งขึ้นตามลำดับ ไมเคิล..ฝันอยากได้เฮลิคอปเตอร์มันบอกเพื่อนๆว่า รถมันกระจอก กูจะมีเฮลิคอปเตอร์เอาไว้บินจากกรุงเทพไปพัทยาและ..กูจะทำให้ได้ รอติดตาม ep.2 สวัสดี @ไร้เงา แต่เร้าตรีน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/watch?v=HqUffJM6ZBs
    บทสนทนาการพบกันและทักทาย
    (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้)
    แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาการพบกันและทักทาย
    มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ

    #listeningtest #listening #conversations

    The conversations from the clip :
    Mark: Hi Sara! It’s been a while. How have you been?
    Sara: Hi Mark! I know, right? I’ve been really busy with work. How about you?
    Mark: Same here! Work has kept me on my toes. Have you been up to anything fun lately?
    Sara: I actually went hiking last weekend. It was refreshing!
    Mark: That sounds amazing! Where did you go hiking?
    Sara: I went to Green Mountain. The views were breathtaking!
    Mark: I’ve heard great things about that place. I need to check it out.
    Sara: You definitely should! We could go together sometime.
    Mark: I’d love that! Are you planning any more outdoor activities?
    Sara: Yes, I’m thinking about going camping next month.
    Mark: That sounds like a great idea! I’d be interested in joining.
    Sara: The more, the merrier! We can make a fun trip out of it.
    Mark: For sure! I’ll bring the snacks!
    Sara: Perfect! I’ll handle the tents and gear.
    Mark: Awesome! Let’s finalize the details soon.

    มาร์ค: สวัสดีซาร่า! ไม่ได้เจอกันนานเลย คุณเป็นยังไงบ้าง?
    ซาร่า: สวัสดีมาร์ค! ใช่ไหม? ฉันยุ่งมากกับงานเลย คุณล่ะ?
    มาร์ค: เหมือนกันเลย! งานทำให้ฉันต้องเคลื่อนไหวตลอดเวลา คุณมีอะไรสนุก ๆ ทำบ้างไหมช่วงนี้?
    ซาร่า: จริง ๆ แล้วฉันไปเดินเขามาเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว รู้สึกสดชื่นมาก!
    มาร์ค: ฟังดูดีมาก! คุณไปเดินที่ไหนเหรอ?
    ซาร่า: ฉันไปที่เขียวมอนเทน วิวที่นั่นสวยงามมาก!
    มาร์ค: ฉันเคยได้ยินเรื่องดี ๆ เกี่ยวกับที่นั่น ต้องไปลองสักครั้งแล้วล่ะ
    ซาร่า: คุณควรไปนะ! เราอาจไปด้วยกันสักครั้ง
    มาร์ค: ฉันยินดีเลย! คุณมีแผนจะทำกิจกรรมกลางแจ้งอะไรเพิ่มเติมไหม?
    ซาร่า: ใช่ ฉันคิดจะไปตั้งแคมป์เดือนหน้า
    มาร์ค: ฟังดูเป็นความคิดที่ดีมาก! ฉันสนใจที่จะเข้าร่วมด้วย
    ซาร่า: ยิ่งมากยิ่งสนุก! เราสามารถทำให้เป็นทริปที่สนุกได้
    มาร์ค: แน่นอน! ฉันจะเอาขนมไปด้วย!
    ซาร่า: เยี่ยมเลย! ฉันจะจัดเต็นท์และอุปกรณ์ให้
    มาร์ค: สุดยอด! เรามาสรุป รายละเอียดกันเร็ว ๆ นี้

    Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้)

    Busy (บิซ-ซี) adj. แปลว่า ยุ่ง
    Work (เวิร์ก) n. แปลว่า งาน
    Hiking (ไฮ-คิง) n. แปลว่า การเดินป่า
    Refreshing (รีเฟรช-ซิ่ง) adj. แปลว่า สดชื่น
    Views (วิว) n. แปลว่า ทิวทัศน์, วิว
    Breathtaking (เบรธ-เทค-คิง) adj. แปลว่า น่าทึ่ง, น่าตื่นตาตื่นใจ
    Check it out (เช็ค อิท เอาท) v. แปลว่า ไปดู, ไปตรวจสอบ
    Outdoor activities (เอาท์ดอร์ แอค-ทิ-วิตีส) n. แปลว่า กิจกรรมกลางแจ้ง
    Camping (แคม-ปิง) n. แปลว่า การตั้งแคมป์
    Merrier (เมอรีเออร์) adj. แปลว่า สนุกสนานมากขึ้น
    Snacks (สแน็คส์) n. แปลว่า ขนมขบเคี้ยว
    Tents (เทนท์) n. แปลว่า เต็นท์
    Gear (เกียร์) n. แปลว่า อุปกรณ์
    Finalize (ฟาย-นัลซ์) v. แปลว่า สรุป, ตัดสินใจ
    Details (ดี-เทลส์) n. แปลว่า รายละเอียด
    https://www.youtube.com/watch?v=HqUffJM6ZBs บทสนทนาการพบกันและทักทาย (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้) แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาการพบกันและทักทาย มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ #listeningtest #listening #conversations The conversations from the clip : Mark: Hi Sara! It’s been a while. How have you been? Sara: Hi Mark! I know, right? I’ve been really busy with work. How about you? Mark: Same here! Work has kept me on my toes. Have you been up to anything fun lately? Sara: I actually went hiking last weekend. It was refreshing! Mark: That sounds amazing! Where did you go hiking? Sara: I went to Green Mountain. The views were breathtaking! Mark: I’ve heard great things about that place. I need to check it out. Sara: You definitely should! We could go together sometime. Mark: I’d love that! Are you planning any more outdoor activities? Sara: Yes, I’m thinking about going camping next month. Mark: That sounds like a great idea! I’d be interested in joining. Sara: The more, the merrier! We can make a fun trip out of it. Mark: For sure! I’ll bring the snacks! Sara: Perfect! I’ll handle the tents and gear. Mark: Awesome! Let’s finalize the details soon. มาร์ค: สวัสดีซาร่า! ไม่ได้เจอกันนานเลย คุณเป็นยังไงบ้าง? ซาร่า: สวัสดีมาร์ค! ใช่ไหม? ฉันยุ่งมากกับงานเลย คุณล่ะ? มาร์ค: เหมือนกันเลย! งานทำให้ฉันต้องเคลื่อนไหวตลอดเวลา คุณมีอะไรสนุก ๆ ทำบ้างไหมช่วงนี้? ซาร่า: จริง ๆ แล้วฉันไปเดินเขามาเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว รู้สึกสดชื่นมาก! มาร์ค: ฟังดูดีมาก! คุณไปเดินที่ไหนเหรอ? ซาร่า: ฉันไปที่เขียวมอนเทน วิวที่นั่นสวยงามมาก! มาร์ค: ฉันเคยได้ยินเรื่องดี ๆ เกี่ยวกับที่นั่น ต้องไปลองสักครั้งแล้วล่ะ ซาร่า: คุณควรไปนะ! เราอาจไปด้วยกันสักครั้ง มาร์ค: ฉันยินดีเลย! คุณมีแผนจะทำกิจกรรมกลางแจ้งอะไรเพิ่มเติมไหม? ซาร่า: ใช่ ฉันคิดจะไปตั้งแคมป์เดือนหน้า มาร์ค: ฟังดูเป็นความคิดที่ดีมาก! ฉันสนใจที่จะเข้าร่วมด้วย ซาร่า: ยิ่งมากยิ่งสนุก! เราสามารถทำให้เป็นทริปที่สนุกได้ มาร์ค: แน่นอน! ฉันจะเอาขนมไปด้วย! ซาร่า: เยี่ยมเลย! ฉันจะจัดเต็นท์และอุปกรณ์ให้ มาร์ค: สุดยอด! เรามาสรุป รายละเอียดกันเร็ว ๆ นี้ Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้) Busy (บิซ-ซี) adj. แปลว่า ยุ่ง Work (เวิร์ก) n. แปลว่า งาน Hiking (ไฮ-คิง) n. แปลว่า การเดินป่า Refreshing (รีเฟรช-ซิ่ง) adj. แปลว่า สดชื่น Views (วิว) n. แปลว่า ทิวทัศน์, วิว Breathtaking (เบรธ-เทค-คิง) adj. แปลว่า น่าทึ่ง, น่าตื่นตาตื่นใจ Check it out (เช็ค อิท เอาท) v. แปลว่า ไปดู, ไปตรวจสอบ Outdoor activities (เอาท์ดอร์ แอค-ทิ-วิตีส) n. แปลว่า กิจกรรมกลางแจ้ง Camping (แคม-ปิง) n. แปลว่า การตั้งแคมป์ Merrier (เมอรีเออร์) adj. แปลว่า สนุกสนานมากขึ้น Snacks (สแน็คส์) n. แปลว่า ขนมขบเคี้ยว Tents (เทนท์) n. แปลว่า เต็นท์ Gear (เกียร์) n. แปลว่า อุปกรณ์ Finalize (ฟาย-นัลซ์) v. แปลว่า สรุป, ตัดสินใจ Details (ดี-เทลส์) n. แปลว่า รายละเอียด
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌧️ เตรียมรับมือฤดูฝน! ป้องกันราน้ำค้างในเมล่อนอย่างไรให้ได้ผล

    สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาวสวนเมล่อน 👋 ฤดูฝนมาแล้ว! หลายคนคงกังวลเรื่องโรคราน้ำค้างใช่ไหมครับ? วันนี้ผมมีเคล็ดลับดีๆ มาฝากกัน 🌱

    ทำไมฤดูฝนถึงต้องระวังเป็นพิเศษ? 🤔
    • ฝนตกบ่อย อากาศปิด
    • ความชื้นสูงสุดๆ
    • เชื้อราชอบมาก! เป็นสวรรค์ของมันเลย 😅

    👨‍🌾 วิธีรับมือแบบมืออาชีพ:
    1. ป้องกันก่อนปลูก (สำคัญมาก!)
    • พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในโรงเรือน 5-7 วันก่อนปลูก
    • คิดซะว่าเป็นการ "Big Cleaning" บ้านให้เมล่อนของเรา 🏠

    2. ระหว่างปลูก
    • พ่นไตรโคบิวพลัสสม่ำเสมอ - เจ้านี่เป็นซูเปอร์ฮีโร่เลยครับ! 🦸‍♂️
    • สังเกตอาการผิดปกติทุกวัน

    🔄 ถ้าเจอปัญหาซ้ำๆ ทุกรอบการปลูก ต้องปรับ 3 อย่าง:
    1. ระบบให้น้ำ - บางทีให้น้ำมากไป น้อยไป หรือผิดเวลา
    2. การใช้ชีวภัณฑ์ - อาจต้องปรับสูตร หรือความถี่
    3. พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อรอบๆ โรงเรือนด้วย - ป้องกันศัตรูจากภายนอก

    💡 เกร็ดความรู้: การระบายอากาศที่ดีช่วยลดความชื้นได้เยอะมาก! ลองปรับมุ้งข้างโรงเรือนดูนะครับ

    🏆 ที่ลิตเติ้ลฟาร์ม เรามีครบ:
    • ปุ๋ย AB คุณภาพเยี่ยม - สูตรพิเศษสำหรับเมล่อนโดยเฉพาะ
    • ธาตุอาหารครบครัน
    • ชีวภัณฑ์ป้องกันโรคและแมลงที่ผ่านการทดสอบแล้ว

    ✨ พิเศษ! เรามีทีมงานที่พร้อมให้คำปรึกษาตลอดการปลูก เหมือนมีโค้ชส่วนตัวคอยดูแลสวนเมล่อนของคุณ

    📞 อยากปรึกษาเรื่องการปลูกเมล่อน หรือสนใจสินค้า:
    • แชทมาคุยกันได้เลย
    • หรือโทร: 093-696-2691

    มาสู้กับฤดูฝนไปด้วยกันนะครับ! 💪🌈

    #เมล่อน #โรคพืช #เกษตรอัจฉริยะ #ลิตเติ้ลฟาร์ม #ฤดูฝน
    🌧️ เตรียมรับมือฤดูฝน! ป้องกันราน้ำค้างในเมล่อนอย่างไรให้ได้ผล สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาวสวนเมล่อน 👋 ฤดูฝนมาแล้ว! หลายคนคงกังวลเรื่องโรคราน้ำค้างใช่ไหมครับ? วันนี้ผมมีเคล็ดลับดีๆ มาฝากกัน 🌱 ทำไมฤดูฝนถึงต้องระวังเป็นพิเศษ? 🤔 • ฝนตกบ่อย อากาศปิด • ความชื้นสูงสุดๆ • เชื้อราชอบมาก! เป็นสวรรค์ของมันเลย 😅 👨‍🌾 วิธีรับมือแบบมืออาชีพ: 1. ป้องกันก่อนปลูก (สำคัญมาก!) • พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในโรงเรือน 5-7 วันก่อนปลูก • คิดซะว่าเป็นการ "Big Cleaning" บ้านให้เมล่อนของเรา 🏠 2. ระหว่างปลูก • พ่นไตรโคบิวพลัสสม่ำเสมอ - เจ้านี่เป็นซูเปอร์ฮีโร่เลยครับ! 🦸‍♂️ • สังเกตอาการผิดปกติทุกวัน 🔄 ถ้าเจอปัญหาซ้ำๆ ทุกรอบการปลูก ต้องปรับ 3 อย่าง: 1. ระบบให้น้ำ - บางทีให้น้ำมากไป น้อยไป หรือผิดเวลา 2. การใช้ชีวภัณฑ์ - อาจต้องปรับสูตร หรือความถี่ 3. พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อรอบๆ โรงเรือนด้วย - ป้องกันศัตรูจากภายนอก 💡 เกร็ดความรู้: การระบายอากาศที่ดีช่วยลดความชื้นได้เยอะมาก! ลองปรับมุ้งข้างโรงเรือนดูนะครับ 🏆 ที่ลิตเติ้ลฟาร์ม เรามีครบ: • ปุ๋ย AB คุณภาพเยี่ยม - สูตรพิเศษสำหรับเมล่อนโดยเฉพาะ • ธาตุอาหารครบครัน • ชีวภัณฑ์ป้องกันโรคและแมลงที่ผ่านการทดสอบแล้ว ✨ พิเศษ! เรามีทีมงานที่พร้อมให้คำปรึกษาตลอดการปลูก เหมือนมีโค้ชส่วนตัวคอยดูแลสวนเมล่อนของคุณ 📞 อยากปรึกษาเรื่องการปลูกเมล่อน หรือสนใจสินค้า: • แชทมาคุยกันได้เลย • หรือโทร: 093-696-2691 มาสู้กับฤดูฝนไปด้วยกันนะครับ! 💪🌈 #เมล่อน #โรคพืช #เกษตรอัจฉริยะ #ลิตเติ้ลฟาร์ม #ฤดูฝน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผีกิเลส ผีราคะ มันสิงในมนุษย์ง่ายดายว่องไว สิงไปจนตายไปด้วยกัน ระวังนะ
    ผีกิเลส ผีราคะ มันสิงในมนุษย์ง่ายดายว่องไว สิงไปจนตายไปด้วยกัน ระวังนะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไปร่วมงาน 7 ตุลาคมสู้ไปด้วยกัน ร่วมเป็นกำลังใจให้กันและกัน ร่วมใช้เหตุและสร้างเหตุปัจจัยที่ดี ขององค์รวม แห่งการขับเคลื่อนการต่อสู้ให้ไปสู่ชัยชนะได้อย่างแน่นอน ได้พบกับคุณพี่ชัยพรรณประภาสวัฒ ได้แลกเปลี่ยนกันบ้าง
    ไปร่วมงาน 7 ตุลาคมสู้ไปด้วยกัน ร่วมเป็นกำลังใจให้กันและกัน ร่วมใช้เหตุและสร้างเหตุปัจจัยที่ดี ขององค์รวม แห่งการขับเคลื่อนการต่อสู้ให้ไปสู่ชัยชนะได้อย่างแน่นอน ได้พบกับคุณพี่ชัยพรรณประภาสวัฒ ได้แลกเปลี่ยนกันบ้าง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • 08-10-67/01 : หมี CNN / "ตีแสกหน้า" EP.11

    01. เละเป็นโจ๊ก! ฐานทัพทหารยิวที่ไฮฟา แตกกระเจิง ยิวหนีตายวุ่นทั้งเมือง
    02. อียิวช็อค! รัสเซีย จีน หนุนอิหร่าน ของหนักโคตรไฮเทคมา อียิวชะงัก!
    03. อีอุ๋งอุ๋งเริ่มเข้าใจสัจธรรม! โดนลงแขก กูมาทำไมเนี่ย? นับถอยหลังยุบ!
    04. เกาะกูด แค่สร้างประเด็น เบี่ยงเบนควาย จบน่ะ เรื่องหนักกำลังมา ศาลชี้
    05. ชาวกีวีเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง ไม่เหมือนเดิม เพราะอียิวหนีตายย้ายสิง
    06. หมูเด้งระดับจักรวาล ทำเงินเข้าไทยทะลุ ฮิปโปมีค่ามากกว่าไทยบัดซบ
    07. แบมือขอเคยตัว ยังไม่ยุบสภา หาเสียงแจกอีก แหกเข้าไป โดนทั้งเข่ง
    08. ชัดยัง? ศาลไม่มีอยู่จริงในตะวันตก เงินซื้อแชมป์ได้ จ่ายหนักเอาถ้วยไป
    09. ฮามาสคึกถล่มเทลอาวีฟยับ! เปิดทางให้ยกพลขึ้นบกสะดวกโยธินบูรณะ
    10. กระแสปั่นมาเต็ม จีน-ยิว จะไปด้วยกัน? อ๋อ..เหรอ? ใครล่ะ เจ๊งเพราะจีน?
    11. อีเศษฝรั่งนกรู้? หยุดส่งอาวุธให้ยิว หยุดส่ง หรือไม่เหลือจะส่งจ๊ะ ดีออก?
    12. ไบ้แดร๊ก อีสวิงกิ้ง อีฟินน์ คึกสัปดาห์ก่อน วันนี้ ISKANDER ตึงเต็มพื้นที่
    13. NATO EU ถอยแล้ว รัสเซียแค่เก็บงาน ใครจะโง่ส่งคนไปตายฟรี จบจริง!
    14. อ้างผบ.อิหร่านตายในเบรุต วันนี้เดินถนนเฉย นี่คือ "PROPAGANDA"
    15. โพลอเมริกันแฉยับ มะกันจ่ายภาษีเอาไปจ่ายแต่สงคราม โถ..ไอ้ควาย!
    16. ครูเสดใกล้จะสะเด็ดน้ำแล้ว ลูกใหญ่ต้องมา ขึ้นบกต้องเพี๊ยบ ฆ่าถึงที่!
    17. คนเบื่ออีกรมกา(กาลกิณี)กี เก่งสร้างเรื่อง ปิดถนนซูปเปอร์คาร์ ซัดเละ!
    18. สาวไส้ทัวร์ชิน ตระกูลชินถือหุ้นใหญ่ เรื่องเหี้ยๆ อัปรีย์มักมาจากมันเสมอ
    19. EU โง่ ขึ้นภาษี EV จีน 45% จีนสวนกลับเจ็บ! จีนครองพลังงานสะอาด
    20. ยังไม่ทันจะเลือกตั้ง CIVIL WAR มาแต่ไกล อยากฆ่ากันจนตัวสั่น เชิญ

    หมายเหตุ : โลกตอแหล โลกการละคร อย่าอินเยอะ ตั้งสติ นิ่งให้เป็น สงบให้ได้ น้ำเย็นอยู่ที่ใจ ใกล้หมดกลียุค โอกาสสุดท้าย ช่วงโปรไฟไหม้ เหี้ยต้องแสดงความอัปรีย์จัญไรออกมาให้สุดติ่งกระดิ่งเหี้ย อย่าไปห้าม เอาออกมาให้หมด เปิดหน้าให้หมด เชื้อชั่วมันต้องดิ้นพล่านหนีตาย อเมริกา อิสราเอล อังกฤษ ไม่ฉิบหาย โลกก็ไปต่อไม่ได้ ขั้วใหม่ประกาศศักดาชัด กติกาโลกใหม่เกิดเต็มตรีน ควายอยู่กับควาย คนอยู่ส่วนคน แยกสเปซี่ชัด ไร้ประโยชน์ต่อโลก ต่อแผ่นดินเกิด ก็ตายห่าไปซะ หนักแผ่นดิน ช่วงนี้ ไล่ล่าเหี้ยกันเมามันส์ทั้งโลก เหี้ยสู้ตาย แล้วได้ตายสมใจนึกวังบูรพา ไม่ล่อนุ๊กก็จบได้ มันไปไม่ถึงฝั่ง เพราะเค้าไม่อนุญาต ขั้วใหม่คิดถูก ฆ่าเหี้ยไม่ใช้แค่อาวุธ แต่ต้องใช้ปัญญา ถึงจะชนะเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแท้จริง! ส่วนเหี้ยก็ต้องชดใช้กรรม ตายห่าไปซะน่ะ โลกเบาขึ้นเยอะ ทั้งเหี้ยไทย เหี้ยโลก ไปหมด!

    หมี CNN(หมากล้อมจีนฉลุย หมากรุกพิฆาตรัสเซียกระหน่ำ อาหรับลงแขกยิว สันดานยิวเหี้ยของแท้ ลากขี้ข้าไปตายโหงตายห่าหมดเกลี้ยง ขอบคุณ ไม่เปลืองแรงขยี้ มาตายหมู่ร่วมกัน ให้กูฆ่าได้อย่างเมามันส์ถึงใจ! นี่คือเหตุผลว่าทำไม ไม่ต้องรีบบุกไปฆ่าเหี้ยถึงรัง เดี๋ยวเหี้ยมันจะดาหน้ามาตายห่าถึงที่เอง ทุกอย่างมีค่าใช้จ่าย ที่มาว่าทำไม รมต.กลาโหมถึงเป็นนักบัญชี นักเศรษฐศาสตร์ นักการเงินโลก เพราะคำนวณทุกอย่างแม่นยำ ใครหนี้เยอะ ก็สิ้นชาติไงจ๊ะ? บทเรียนครั้งก่อนหลังโซเวียตล่มสลาย ดาบนี้คืนสนองมรึงเต็มตรีนนี่แหละ "รัสปูติน" ตัวจริง เสียงจริง ทั้ง ใหญ่(ยิ่งใหญ่ จัดใหญ่) ยาว(วิสัยทัศน์กว้างไกล) แข็ง(แกร่งทั่วแผ่น ทั้งเศรษฐกิจ การเงิน การทหาร) ใครที่ไม่เรียนรู้ประวัติศาสตร์ ทำสงครามย่อมมีแต่แพ้ สิ่งที่อียิวไม่เข้าใจ คือฆ่ามันง่าย แต่สดุดีมันยาก ไม่แปลกชาวโลกเทใจให้ขั้วใหม่หมดทั้งเผ่าพันธุ์ สติมี ปัญญาเกิด จำไว้)
    08 ตุลาคม 67
    10.35 น.

    https://linevoom.line.me/post/1172836132031765373

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    08-10-67/01 : หมี CNN / "ตีแสกหน้า" EP.11 01. เละเป็นโจ๊ก! ฐานทัพทหารยิวที่ไฮฟา แตกกระเจิง ยิวหนีตายวุ่นทั้งเมือง 02. อียิวช็อค! รัสเซีย จีน หนุนอิหร่าน ของหนักโคตรไฮเทคมา อียิวชะงัก! 03. อีอุ๋งอุ๋งเริ่มเข้าใจสัจธรรม! โดนลงแขก กูมาทำไมเนี่ย? นับถอยหลังยุบ! 04. เกาะกูด แค่สร้างประเด็น เบี่ยงเบนควาย จบน่ะ เรื่องหนักกำลังมา ศาลชี้ 05. ชาวกีวีเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง ไม่เหมือนเดิม เพราะอียิวหนีตายย้ายสิง 06. หมูเด้งระดับจักรวาล ทำเงินเข้าไทยทะลุ ฮิปโปมีค่ามากกว่าไทยบัดซบ 07. แบมือขอเคยตัว ยังไม่ยุบสภา หาเสียงแจกอีก แหกเข้าไป โดนทั้งเข่ง 08. ชัดยัง? ศาลไม่มีอยู่จริงในตะวันตก เงินซื้อแชมป์ได้ จ่ายหนักเอาถ้วยไป 09. ฮามาสคึกถล่มเทลอาวีฟยับ! เปิดทางให้ยกพลขึ้นบกสะดวกโยธินบูรณะ 10. กระแสปั่นมาเต็ม จีน-ยิว จะไปด้วยกัน? อ๋อ..เหรอ? ใครล่ะ เจ๊งเพราะจีน? 11. อีเศษฝรั่งนกรู้? หยุดส่งอาวุธให้ยิว หยุดส่ง หรือไม่เหลือจะส่งจ๊ะ ดีออก? 12. ไบ้แดร๊ก อีสวิงกิ้ง อีฟินน์ คึกสัปดาห์ก่อน วันนี้ ISKANDER ตึงเต็มพื้นที่ 13. NATO EU ถอยแล้ว รัสเซียแค่เก็บงาน ใครจะโง่ส่งคนไปตายฟรี จบจริง! 14. อ้างผบ.อิหร่านตายในเบรุต วันนี้เดินถนนเฉย นี่คือ "PROPAGANDA" 15. โพลอเมริกันแฉยับ มะกันจ่ายภาษีเอาไปจ่ายแต่สงคราม โถ..ไอ้ควาย! 16. ครูเสดใกล้จะสะเด็ดน้ำแล้ว ลูกใหญ่ต้องมา ขึ้นบกต้องเพี๊ยบ ฆ่าถึงที่! 17. คนเบื่ออีกรมกา(กาลกิณี)กี เก่งสร้างเรื่อง ปิดถนนซูปเปอร์คาร์ ซัดเละ! 18. สาวไส้ทัวร์ชิน ตระกูลชินถือหุ้นใหญ่ เรื่องเหี้ยๆ อัปรีย์มักมาจากมันเสมอ 19. EU โง่ ขึ้นภาษี EV จีน 45% จีนสวนกลับเจ็บ! จีนครองพลังงานสะอาด 20. ยังไม่ทันจะเลือกตั้ง CIVIL WAR มาแต่ไกล อยากฆ่ากันจนตัวสั่น เชิญ หมายเหตุ : โลกตอแหล โลกการละคร อย่าอินเยอะ ตั้งสติ นิ่งให้เป็น สงบให้ได้ น้ำเย็นอยู่ที่ใจ ใกล้หมดกลียุค โอกาสสุดท้าย ช่วงโปรไฟไหม้ เหี้ยต้องแสดงความอัปรีย์จัญไรออกมาให้สุดติ่งกระดิ่งเหี้ย อย่าไปห้าม เอาออกมาให้หมด เปิดหน้าให้หมด เชื้อชั่วมันต้องดิ้นพล่านหนีตาย อเมริกา อิสราเอล อังกฤษ ไม่ฉิบหาย โลกก็ไปต่อไม่ได้ ขั้วใหม่ประกาศศักดาชัด กติกาโลกใหม่เกิดเต็มตรีน ควายอยู่กับควาย คนอยู่ส่วนคน แยกสเปซี่ชัด ไร้ประโยชน์ต่อโลก ต่อแผ่นดินเกิด ก็ตายห่าไปซะ หนักแผ่นดิน ช่วงนี้ ไล่ล่าเหี้ยกันเมามันส์ทั้งโลก เหี้ยสู้ตาย แล้วได้ตายสมใจนึกวังบูรพา ไม่ล่อนุ๊กก็จบได้ มันไปไม่ถึงฝั่ง เพราะเค้าไม่อนุญาต ขั้วใหม่คิดถูก ฆ่าเหี้ยไม่ใช้แค่อาวุธ แต่ต้องใช้ปัญญา ถึงจะชนะเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแท้จริง! ส่วนเหี้ยก็ต้องชดใช้กรรม ตายห่าไปซะน่ะ โลกเบาขึ้นเยอะ ทั้งเหี้ยไทย เหี้ยโลก ไปหมด! หมี CNN(หมากล้อมจีนฉลุย หมากรุกพิฆาตรัสเซียกระหน่ำ อาหรับลงแขกยิว สันดานยิวเหี้ยของแท้ ลากขี้ข้าไปตายโหงตายห่าหมดเกลี้ยง ขอบคุณ ไม่เปลืองแรงขยี้ มาตายหมู่ร่วมกัน ให้กูฆ่าได้อย่างเมามันส์ถึงใจ! นี่คือเหตุผลว่าทำไม ไม่ต้องรีบบุกไปฆ่าเหี้ยถึงรัง เดี๋ยวเหี้ยมันจะดาหน้ามาตายห่าถึงที่เอง ทุกอย่างมีค่าใช้จ่าย ที่มาว่าทำไม รมต.กลาโหมถึงเป็นนักบัญชี นักเศรษฐศาสตร์ นักการเงินโลก เพราะคำนวณทุกอย่างแม่นยำ ใครหนี้เยอะ ก็สิ้นชาติไงจ๊ะ? บทเรียนครั้งก่อนหลังโซเวียตล่มสลาย ดาบนี้คืนสนองมรึงเต็มตรีนนี่แหละ "รัสปูติน" ตัวจริง เสียงจริง ทั้ง ใหญ่(ยิ่งใหญ่ จัดใหญ่) ยาว(วิสัยทัศน์กว้างไกล) แข็ง(แกร่งทั่วแผ่น ทั้งเศรษฐกิจ การเงิน การทหาร) ใครที่ไม่เรียนรู้ประวัติศาสตร์ ทำสงครามย่อมมีแต่แพ้ สิ่งที่อียิวไม่เข้าใจ คือฆ่ามันง่าย แต่สดุดีมันยาก ไม่แปลกชาวโลกเทใจให้ขั้วใหม่หมดทั้งเผ่าพันธุ์ สติมี ปัญญาเกิด จำไว้) 08 ตุลาคม 67 10.35 น. https://linevoom.line.me/post/1172836132031765373 ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 0 รีวิว
  • อ่านเอาเรื่อง Ep.79 : วอร์เกม 2002

    ในปี 2002 กองทัพสหรัฐเกิดความคิดขึ้นว่า อยากจะสมมติสถานการณ์การรบ หรือ ”วอร์เกม“ ว่าถ้าเกิดกองทัพสหรัฐต้องรบกับอิหร่านแบบเต็มรูปแบบแล้ว ผลการรบจะออกมาเป็นอย่างไร ใครจะสูญเสียเท่าไร

    กระทรวงกลาโหมสหรัฐหรือ “เพนตากอน” จึงทุ่มงบประมาณไป 250 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อเล่นวอร์เกมนี้ ซึ่งก็มีทั้งการใช้เรือรบและเครื่องบินรบ ทหารจริงกว่า 13,000 คนเข้าร่วม และผสมกับการใช้คอมพิวเตอร์จำลองการรบหรือซิมูเลเตอร์ด้วยครับ

    เป็นวอร์เกมที่ใช้งบประมาณมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของเพนตากอน

    การฝึกนี้ชื่อว่า “มิลเลนเนียม ชาเล้นจ์ 2002“ ครับ เพนตากอนกำหนดไว้ว่าเขาจะเล่นวอร์เกมส์นี้กัน 14 วันถ้วน

    ในการฝึกนี้เขาแบ่งออกเป็นสองฝ่าย คือ ฝ่ายน้ำเงินซึ่งหมายถึงกองทัพสหรัฐ นำโดยกองทัพเรือ

    ส่วนฝ่ายแดง คือ ฝ่ายอิหร่าน เพนตากอนเขาได้ตั้งพลเรือโทพอล แวน ริพเพอร์ มาเป็นแม่ทัพฝ่ายแดง ซึ่งนายพลผู้นี้ท่านเป็นทหารนาวิกโยธินอเมริกันที่เกษียณอายุแล้วครับ

    เงื่อนไขในการรบก็คือ ”อยู่ดีๆก็เกิดสงครามขึ้นซะยังงั้นแหละ“ นั่นหมายความว่า ในท้องทะเลก็ยังมีเรือสินค้า เรือเดินสมุทรแล่นไปแล่นมาอยู่ ไม่มีใครได้ทันตั้งตัว

    และไฮไลท์ซึ่งเป็นมูลเหตุของวอร์เกมนี้คือ ให้ฝ่ายแดง(อิหร่าน)ใช้อาวุธและยุทธวิธีโลว์เทคในการรบ

    เพราะเพนตากอนอยากรู้ว่า ถ้ากองทัพสหรัฐต้องมาเจอกองทัพศัตรูที่ใช้อาวุธแสวงเครื่องและยุทโธปกรณ์ที่โลว์เทค หรือ Asymmetric warfare แล้ว กองทัพสหรัฐจะเป็นอย่างไร

    โดยเพนตากอนบอกท่านนายพลริพเพอร์ หรือ แม่ทัพฝ่ายแดงว่า “เล่นได้เต็มที่แบบ Free play เลย”

    ผลที่ได้คือ…
    .
    .
    .
    เปิดฉากมาวันแรกปุ๊บ ฝ่ายน้ำเงินหรือสหรัฐก็ส่งสาส์นมายังฝ่ายแดงตามธรรมเนียมว่า “พลานุภาพกำลังรบและรี้พลของฝ่ายข้าพเจ้านั้นเหนือกว่าท่านมากมายนัก ขอให้ท่านจงยอมแพ้แต่โดยดีเถิด หาไม่แล้วอาณาประชาราษฎร์จะได้ยาก”

    ท่านนายพลริพเพอร์ก็ไม่ได้ยอมแพ้ และเริ่มเล่นยุทธวิธีที่เตรียมไว้คือ ใช้รถมอเตอร์ไซค์ในการนำสาร ไม่มีการใช้วิทยุใดๆทั้งสิ้น เพื่อไม่ให้กองทัพสหรัฐดักฟังหรือแจมระบบสื่อสารได้

    บรรดาฝูงรถมอเตอร์ไซค์พวกนี้นำคำสั่งของนายพลริพเพอร์วิ่งไปยังกองเรือเร็วขนาดเล็กที่บรรทุกมิสไซล์จอดเทียบอยู่ตามท่าเรือต่างๆ

    เมื่อรับคำสั่งปุ๊บบรรดาเรือสปีดโบ๊ทเหล่านี้ก็พร้อมใจกันแล่นมุ่งหน้าไปยังกองเรือสหรัฐที่ลอยลำอยู่นอกชายฝั่งอิหร่าน

    ด้วยความที่วอร์เกมนี้ระบุว่า “อยู่ดีๆสงครามก็ปะทุ” ทำให้กองทัพเรือสหรัฐต้องแล่นเรือเข้ามาลอยลำใกล้ชายฝั่งอิหร่านมากกว่าปกติ เพราะต้องเว้นระยะห่างจากเส้นทางเรือสินค้าครับ

    เมื่อฝูงเรือสปีดโบ๊ทฝ่ายแดงแล่นเข้ามาได้ระยะยิงปุ๊บ ก็พร้อมใจกันระดมยิงขีปนาวุธห่าใหญ่ใส่กองเรือสหรัฐ จำนวนขีปนาวุธนี้มากมายท่วมท้นเสียจนระบบเรด้าร์และระบบป้องกันของเรือรบสหรัฐเอาไม่อยู่

    นอกจากนี้ยังมีเรือสปีดโบ๊ทบางลำใช้วิธีกามิกาเซ่ คือ บรรทุกระเบิดแล้วพุ่งเข้าชนเรือรบสหรัฐเพื่อให้ระเบิดไปด้วยกัน

    ผลที่ได้คือ เรือรบสหรัฐจมไป 16 ลำ เป็นเรือบรรทุกเครื่องบิน 1 ลำ เรือยกพลขึ้นบก 5 ลำ และเรือลาดตระเวนอีก 10 ลำ

    จากนั้นท่านนายพลริพเพอร์ก็ใช้กระจกสะท้อนแสง เพื่อส่งสัญญาณให้เครื่องบินรบฝ่ายแดงขึ้นบิน ซึ่งเป็นวิธีดั้งเดิมที่ใช้ในสงครามโลกครั้งที่สองครับ

    คีย์สำคัญคือ ฝ่ายแดงไม่ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เลยไม่ว่าจะเป็นวิทยุหรือเรด้าร์ ทำให้ฝ่ายสหรัฐไม่สามารถแจมหรือสแกนหาที่ตั้งสถานีเรด้าร์ได้

    ภายใน 24 ชั่วโมงแรกของวอร์เกม เรือของกองทัพเรือฝ่ายสหรัฐจมไป 16 ลำ ซึ่งถ้าเป็นเหตุการณ์จริงๆแล้ว จะหมายถึงชีวิตของทหาร 20,000 คนเลยเชียว
    .
    .
    .
    เมื่อการณ์เป็นเช่นนี้ แม่ทัพน้ำเงินหรือฝ่ายสหรัฐก็เต้นผาง โวยกับแม่ทัพฝ่ายแดงว่า “ยูฆ่าไอตายตั้งแต่วันแรก แล้วเวลาที่เหลืออีก 13 วันไอจะทำอะไรล่ะ เอางี้ละกันเรามารีสตาร์ทเริ่มเล่นกันใหม่ก็แล้วกัน“

    แล้วก็มีการแก้บทในวอร์เกมใหม่ว่า ให้ฝ่ายแดงเปิดใช้สถานีเรด้าร์ เพื่อที่ฝ่ายสหรัฐจะได้สแกนหาเจอและส่งเครื่องบินเข้าไปถล่มได้สะดวก ตามด้วยส่งทหารกองพลพลร่มที่ 82 กระโดดร่มลงไปยังที่หมาย

    ในระหว่างนี้ คนคุมวอร์เกมได้บอกแม่ทัพฝ่ายแดงว่าห้ามยิงเครื่องบินสหรัฐที่บินเข้ามา แม่ทัพฝ่ายแดงหรือนายพลริพเพอร์จึงไม่พอใจอย่างมากที่วอร์เกมนี้ไม่สมจริงและไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้แต่ต้น

    เมื่อสคริปท์ได้เปลี่ยนไปเพื่อการันตีว่าฝ่ายน้ำเงินหรือสหรัฐจะต้องเป็นฝ่ายชนะเท่านั้น นายพลริพเพอร์จึงประท้วงด้วยการขอถอนตัวออกจากวอร์เกมกลางคัน เพราะท่านบอกว่า “เปลืองเงิน”

    ตามมาด้วยวิวาทะของแม่ทัพทั้งสองฝ่ายในวอร์เกมนี้ ต่างฝ่ายต่างด่ากันคนละนิดละหน่อยพอหอมปากหอมคอ

    ส่วนเพนตากอนนั้นก็ออกมาแถลงว่า บทเรียนที่ได้จากวอร์เกมนี้จะถูกส่งไปให้ผู้บังคับบัญชาสูงสุดเพื่อพัฒนาหลักนิยมในการรบต่อไปในอนาคต
    .
    .
    .
    ที่ผมนำเรื่องนี้มาเล่าก็เพราะอยากจะเล่าว่า ในเวลานี้ก็เกิดเหตุการณ์ใกล้เคียงกับในวอร์เกมดังกล่าวขึ้นจริงๆที่แถวเยเมนครับ

    อย่างที่เราทราบว่า เยเมนนั้นเป็นที่มั่นของพวกกองโจรฮูติ ซึ่งพวกฮูตินี้ได้ยึดครองชายฝั่งทะเลตรงปากทางเข้าทะเลแดง

    ทะเลแดงนี้เป็นเส้นทางเดินเรือสำคัญของเรือสินค้าจำนวนมหาศาลครับ พวกฮูตินี้เริ่มมีอิทธิพลตรงปากทางเข้าทะเลแดงและยิงจรวดไปจมเรือสินค้าหลายๆลำตั้งแต่ปี 2023 ที่ผ่านมา

    กองทัพเรือสหรัฐส่งกองเรือบรรทุกเครื่องบินเข้าไปคุ้มครองความปลอดภัยของเรือสินค้า ส่วนทางยุโรปก็ส่งกองทัพเรือผสมหลายๆชาติเข้าไปเช่นกัน

    แต่ฝ่ายฮูติก็ไม่ได้สนใจใยดี ยังคงยิงจรวดใส่เรือสินค้าเล่นไปอย่างนั้นมาได้ 6 เดือนแล้ว เกิดเหตุร้ายกับเรือสินค้านับได้ 100 กว่าเหตุการณ์

    แม้กองเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐจะพร้อมรบเต็มที่ แต่ก็ยังกล้าๆกลัวๆที่จะเปิดฉากถล่มฮูติเต็มเหนี่ยว เพราะมันจะดูเป็นการขี่ช้างจับตั๊กแตน

    ด้วยเหตุว่าอาวุธของฮูตินั้นเป็นอาวุธราคาประหยัดแต่มีประสิทธิภาพ เช่น ขีปนาวุธที่ยิงได้เป็นระยะ 200-300 กิโลเมตรและโดรนติดอาวุธราคาไม่เกินลำละ 2,000 ดอลล่าร์ ทั้งหมดนี้ได้รับสปอนเซอร์จากอิหร่านซึ่งเป็นเจ้าพ่อแห่งการก๊อปปี้และสร้างอาวุธราคาถูกได้ทีละมากๆ

    ส่วนอาวุธของฝ่ายสหรัฐนั้นราคาแพง เช่น ขีปนาวุธครูซลูกหนึ่งราคาไม่ต่ำกว่า 1-4 ล้านดอลล่าร์

    เรือพิฆาตของสหรัฐลำหนึ่ง ราคา 2 พันล้านดอลล่าร์ และค่าใช้จ่ายในการที่จะทำให้มันแล่นเป็นเรือรบอยู่ได้ก็ตกเดือนละ 7 ล้านเหรียญ

    การรบระหว่างกองทัพสหรัฐกับกองโจรฮูติ จึงไม่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจโดยสิ้นเชิง เพราะเผลอๆเรือรบแพงๆอาจโดนขีปนาวุธราคาถูกยิงจมเอาได้ง่ายๆ

    .....เอามาเล่าสู่กันฟังครับ…..


    นัทแนะ
    อ่านเอาเรื่อง Ep.79 : วอร์เกม 2002 ในปี 2002 กองทัพสหรัฐเกิดความคิดขึ้นว่า อยากจะสมมติสถานการณ์การรบ หรือ ”วอร์เกม“ ว่าถ้าเกิดกองทัพสหรัฐต้องรบกับอิหร่านแบบเต็มรูปแบบแล้ว ผลการรบจะออกมาเป็นอย่างไร ใครจะสูญเสียเท่าไร กระทรวงกลาโหมสหรัฐหรือ “เพนตากอน” จึงทุ่มงบประมาณไป 250 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อเล่นวอร์เกมนี้ ซึ่งก็มีทั้งการใช้เรือรบและเครื่องบินรบ ทหารจริงกว่า 13,000 คนเข้าร่วม และผสมกับการใช้คอมพิวเตอร์จำลองการรบหรือซิมูเลเตอร์ด้วยครับ เป็นวอร์เกมที่ใช้งบประมาณมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของเพนตากอน การฝึกนี้ชื่อว่า “มิลเลนเนียม ชาเล้นจ์ 2002“ ครับ เพนตากอนกำหนดไว้ว่าเขาจะเล่นวอร์เกมส์นี้กัน 14 วันถ้วน ในการฝึกนี้เขาแบ่งออกเป็นสองฝ่าย คือ ฝ่ายน้ำเงินซึ่งหมายถึงกองทัพสหรัฐ นำโดยกองทัพเรือ ส่วนฝ่ายแดง คือ ฝ่ายอิหร่าน เพนตากอนเขาได้ตั้งพลเรือโทพอล แวน ริพเพอร์ มาเป็นแม่ทัพฝ่ายแดง ซึ่งนายพลผู้นี้ท่านเป็นทหารนาวิกโยธินอเมริกันที่เกษียณอายุแล้วครับ เงื่อนไขในการรบก็คือ ”อยู่ดีๆก็เกิดสงครามขึ้นซะยังงั้นแหละ“ นั่นหมายความว่า ในท้องทะเลก็ยังมีเรือสินค้า เรือเดินสมุทรแล่นไปแล่นมาอยู่ ไม่มีใครได้ทันตั้งตัว และไฮไลท์ซึ่งเป็นมูลเหตุของวอร์เกมนี้คือ ให้ฝ่ายแดง(อิหร่าน)ใช้อาวุธและยุทธวิธีโลว์เทคในการรบ เพราะเพนตากอนอยากรู้ว่า ถ้ากองทัพสหรัฐต้องมาเจอกองทัพศัตรูที่ใช้อาวุธแสวงเครื่องและยุทโธปกรณ์ที่โลว์เทค หรือ Asymmetric warfare แล้ว กองทัพสหรัฐจะเป็นอย่างไร โดยเพนตากอนบอกท่านนายพลริพเพอร์ หรือ แม่ทัพฝ่ายแดงว่า “เล่นได้เต็มที่แบบ Free play เลย” ผลที่ได้คือ… . . . เปิดฉากมาวันแรกปุ๊บ ฝ่ายน้ำเงินหรือสหรัฐก็ส่งสาส์นมายังฝ่ายแดงตามธรรมเนียมว่า “พลานุภาพกำลังรบและรี้พลของฝ่ายข้าพเจ้านั้นเหนือกว่าท่านมากมายนัก ขอให้ท่านจงยอมแพ้แต่โดยดีเถิด หาไม่แล้วอาณาประชาราษฎร์จะได้ยาก” ท่านนายพลริพเพอร์ก็ไม่ได้ยอมแพ้ และเริ่มเล่นยุทธวิธีที่เตรียมไว้คือ ใช้รถมอเตอร์ไซค์ในการนำสาร ไม่มีการใช้วิทยุใดๆทั้งสิ้น เพื่อไม่ให้กองทัพสหรัฐดักฟังหรือแจมระบบสื่อสารได้ บรรดาฝูงรถมอเตอร์ไซค์พวกนี้นำคำสั่งของนายพลริพเพอร์วิ่งไปยังกองเรือเร็วขนาดเล็กที่บรรทุกมิสไซล์จอดเทียบอยู่ตามท่าเรือต่างๆ เมื่อรับคำสั่งปุ๊บบรรดาเรือสปีดโบ๊ทเหล่านี้ก็พร้อมใจกันแล่นมุ่งหน้าไปยังกองเรือสหรัฐที่ลอยลำอยู่นอกชายฝั่งอิหร่าน ด้วยความที่วอร์เกมนี้ระบุว่า “อยู่ดีๆสงครามก็ปะทุ” ทำให้กองทัพเรือสหรัฐต้องแล่นเรือเข้ามาลอยลำใกล้ชายฝั่งอิหร่านมากกว่าปกติ เพราะต้องเว้นระยะห่างจากเส้นทางเรือสินค้าครับ เมื่อฝูงเรือสปีดโบ๊ทฝ่ายแดงแล่นเข้ามาได้ระยะยิงปุ๊บ ก็พร้อมใจกันระดมยิงขีปนาวุธห่าใหญ่ใส่กองเรือสหรัฐ จำนวนขีปนาวุธนี้มากมายท่วมท้นเสียจนระบบเรด้าร์และระบบป้องกันของเรือรบสหรัฐเอาไม่อยู่ นอกจากนี้ยังมีเรือสปีดโบ๊ทบางลำใช้วิธีกามิกาเซ่ คือ บรรทุกระเบิดแล้วพุ่งเข้าชนเรือรบสหรัฐเพื่อให้ระเบิดไปด้วยกัน ผลที่ได้คือ เรือรบสหรัฐจมไป 16 ลำ เป็นเรือบรรทุกเครื่องบิน 1 ลำ เรือยกพลขึ้นบก 5 ลำ และเรือลาดตระเวนอีก 10 ลำ จากนั้นท่านนายพลริพเพอร์ก็ใช้กระจกสะท้อนแสง เพื่อส่งสัญญาณให้เครื่องบินรบฝ่ายแดงขึ้นบิน ซึ่งเป็นวิธีดั้งเดิมที่ใช้ในสงครามโลกครั้งที่สองครับ คีย์สำคัญคือ ฝ่ายแดงไม่ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เลยไม่ว่าจะเป็นวิทยุหรือเรด้าร์ ทำให้ฝ่ายสหรัฐไม่สามารถแจมหรือสแกนหาที่ตั้งสถานีเรด้าร์ได้ ภายใน 24 ชั่วโมงแรกของวอร์เกม เรือของกองทัพเรือฝ่ายสหรัฐจมไป 16 ลำ ซึ่งถ้าเป็นเหตุการณ์จริงๆแล้ว จะหมายถึงชีวิตของทหาร 20,000 คนเลยเชียว . . . เมื่อการณ์เป็นเช่นนี้ แม่ทัพน้ำเงินหรือฝ่ายสหรัฐก็เต้นผาง โวยกับแม่ทัพฝ่ายแดงว่า “ยูฆ่าไอตายตั้งแต่วันแรก แล้วเวลาที่เหลืออีก 13 วันไอจะทำอะไรล่ะ เอางี้ละกันเรามารีสตาร์ทเริ่มเล่นกันใหม่ก็แล้วกัน“ แล้วก็มีการแก้บทในวอร์เกมใหม่ว่า ให้ฝ่ายแดงเปิดใช้สถานีเรด้าร์ เพื่อที่ฝ่ายสหรัฐจะได้สแกนหาเจอและส่งเครื่องบินเข้าไปถล่มได้สะดวก ตามด้วยส่งทหารกองพลพลร่มที่ 82 กระโดดร่มลงไปยังที่หมาย ในระหว่างนี้ คนคุมวอร์เกมได้บอกแม่ทัพฝ่ายแดงว่าห้ามยิงเครื่องบินสหรัฐที่บินเข้ามา แม่ทัพฝ่ายแดงหรือนายพลริพเพอร์จึงไม่พอใจอย่างมากที่วอร์เกมนี้ไม่สมจริงและไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้แต่ต้น เมื่อสคริปท์ได้เปลี่ยนไปเพื่อการันตีว่าฝ่ายน้ำเงินหรือสหรัฐจะต้องเป็นฝ่ายชนะเท่านั้น นายพลริพเพอร์จึงประท้วงด้วยการขอถอนตัวออกจากวอร์เกมกลางคัน เพราะท่านบอกว่า “เปลืองเงิน” ตามมาด้วยวิวาทะของแม่ทัพทั้งสองฝ่ายในวอร์เกมนี้ ต่างฝ่ายต่างด่ากันคนละนิดละหน่อยพอหอมปากหอมคอ ส่วนเพนตากอนนั้นก็ออกมาแถลงว่า บทเรียนที่ได้จากวอร์เกมนี้จะถูกส่งไปให้ผู้บังคับบัญชาสูงสุดเพื่อพัฒนาหลักนิยมในการรบต่อไปในอนาคต . . . ที่ผมนำเรื่องนี้มาเล่าก็เพราะอยากจะเล่าว่า ในเวลานี้ก็เกิดเหตุการณ์ใกล้เคียงกับในวอร์เกมดังกล่าวขึ้นจริงๆที่แถวเยเมนครับ อย่างที่เราทราบว่า เยเมนนั้นเป็นที่มั่นของพวกกองโจรฮูติ ซึ่งพวกฮูตินี้ได้ยึดครองชายฝั่งทะเลตรงปากทางเข้าทะเลแดง ทะเลแดงนี้เป็นเส้นทางเดินเรือสำคัญของเรือสินค้าจำนวนมหาศาลครับ พวกฮูตินี้เริ่มมีอิทธิพลตรงปากทางเข้าทะเลแดงและยิงจรวดไปจมเรือสินค้าหลายๆลำตั้งแต่ปี 2023 ที่ผ่านมา กองทัพเรือสหรัฐส่งกองเรือบรรทุกเครื่องบินเข้าไปคุ้มครองความปลอดภัยของเรือสินค้า ส่วนทางยุโรปก็ส่งกองทัพเรือผสมหลายๆชาติเข้าไปเช่นกัน แต่ฝ่ายฮูติก็ไม่ได้สนใจใยดี ยังคงยิงจรวดใส่เรือสินค้าเล่นไปอย่างนั้นมาได้ 6 เดือนแล้ว เกิดเหตุร้ายกับเรือสินค้านับได้ 100 กว่าเหตุการณ์ แม้กองเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐจะพร้อมรบเต็มที่ แต่ก็ยังกล้าๆกลัวๆที่จะเปิดฉากถล่มฮูติเต็มเหนี่ยว เพราะมันจะดูเป็นการขี่ช้างจับตั๊กแตน ด้วยเหตุว่าอาวุธของฮูตินั้นเป็นอาวุธราคาประหยัดแต่มีประสิทธิภาพ เช่น ขีปนาวุธที่ยิงได้เป็นระยะ 200-300 กิโลเมตรและโดรนติดอาวุธราคาไม่เกินลำละ 2,000 ดอลล่าร์ ทั้งหมดนี้ได้รับสปอนเซอร์จากอิหร่านซึ่งเป็นเจ้าพ่อแห่งการก๊อปปี้และสร้างอาวุธราคาถูกได้ทีละมากๆ ส่วนอาวุธของฝ่ายสหรัฐนั้นราคาแพง เช่น ขีปนาวุธครูซลูกหนึ่งราคาไม่ต่ำกว่า 1-4 ล้านดอลล่าร์ เรือพิฆาตของสหรัฐลำหนึ่ง ราคา 2 พันล้านดอลล่าร์ และค่าใช้จ่ายในการที่จะทำให้มันแล่นเป็นเรือรบอยู่ได้ก็ตกเดือนละ 7 ล้านเหรียญ การรบระหว่างกองทัพสหรัฐกับกองโจรฮูติ จึงไม่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจโดยสิ้นเชิง เพราะเผลอๆเรือรบแพงๆอาจโดนขีปนาวุธราคาถูกยิงจมเอาได้ง่ายๆ .....เอามาเล่าสู่กันฟังครับ….. นัทแนะ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 55 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ประกาศแต่งตั้ง ทาคายูกิ นิชิกายะ ชาวญี่ปุ่น วัย 51 ปี เข้ามาทำหน้าที่ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี⁣

    3 ตุลาคม 2567- รายงานข่าวระบุว่าทาคายูกิ นิชิกายะ ได้บรรลุการเจรจาเงื่อนไขสัญญากับ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เรียบร้อยแล้ว หลังจากเดินทางมาถึงประเทศไทย ในช่วงต้นเดือน กันยายนนี้ ก่อนจะร่วมเดินทางไปกับทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ที่ประเทศเวียดนาม ในโปรแกรมฟีฟ่า เดย์ พร้อมกับ มาซาทาดะ อิชิอิ เพื่อเรียนรู้ และ ทำความรู้จักกับผู้เล่นไทยทันที

    ด้าน ทาคายูกิ นิชิกายะ กุนซือชาวญี่ปุ่น วัย 51 ปี เผยถึงการได้รับตำแหน่งนี้ว่า “ผมรู้สึกเป็นเกียรติ และมีความสุขมากที่ได้มาอยู่ที่นี่ ขอบคุณสำหรับโอกาสจากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ โดยเฉพาะกับ นายกสมาคมฯ (นวลพรรณ ล่ำซำ)

    ที่ติดต่อผมเข้ามาโดยตรง ทำให้ผมรู้สึกได้ถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อผม ทั้งหมดนี้จึงเป็นการตัดสินใจที่ง่ายมาก และอย่างที่บอก ผมยินดีอย่างมาก

    ส่วนกับ โค้ชอิชิอิ เรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ผมอยากทำงานร่วมกับ โค้ชอิชิอิ เราจะพยายามสนับสนุนซึ่งกันและกัน รวมถึงพัฒนาไปฟุตบอลไทยไปด้วยกัน ทั้งนี้ ฝากแฟนบอลช่วยเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ”

    #Thaitimes
    สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ประกาศแต่งตั้ง ทาคายูกิ นิชิกายะ ชาวญี่ปุ่น วัย 51 ปี เข้ามาทำหน้าที่ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี⁣ 3 ตุลาคม 2567- รายงานข่าวระบุว่าทาคายูกิ นิชิกายะ ได้บรรลุการเจรจาเงื่อนไขสัญญากับ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เรียบร้อยแล้ว หลังจากเดินทางมาถึงประเทศไทย ในช่วงต้นเดือน กันยายนนี้ ก่อนจะร่วมเดินทางไปกับทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ที่ประเทศเวียดนาม ในโปรแกรมฟีฟ่า เดย์ พร้อมกับ มาซาทาดะ อิชิอิ เพื่อเรียนรู้ และ ทำความรู้จักกับผู้เล่นไทยทันที ด้าน ทาคายูกิ นิชิกายะ กุนซือชาวญี่ปุ่น วัย 51 ปี เผยถึงการได้รับตำแหน่งนี้ว่า “ผมรู้สึกเป็นเกียรติ และมีความสุขมากที่ได้มาอยู่ที่นี่ ขอบคุณสำหรับโอกาสจากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ โดยเฉพาะกับ นายกสมาคมฯ (นวลพรรณ ล่ำซำ) ที่ติดต่อผมเข้ามาโดยตรง ทำให้ผมรู้สึกได้ถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อผม ทั้งหมดนี้จึงเป็นการตัดสินใจที่ง่ายมาก และอย่างที่บอก ผมยินดีอย่างมาก ส่วนกับ โค้ชอิชิอิ เรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ผมอยากทำงานร่วมกับ โค้ชอิชิอิ เราจะพยายามสนับสนุนซึ่งกันและกัน รวมถึงพัฒนาไปฟุตบอลไทยไปด้วยกัน ทั้งนี้ ฝากแฟนบอลช่วยเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ” #Thaitimes
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 531 มุมมอง 0 รีวิว
  • งานประธานาธิบดีพี่เค้าก็ทำมาแล้ว……แต่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่พี่ปูเขาทำ………หนักกว่าเป็นสองเท่าค่าาาา ติ่งขาาาาา…!!!!

    ตอนสิบเก้า………เส้นทางที่หวาดเสียวกับการล่มจม……ผ่านมาได้อย่างสวยงามเพราะยึดหลักว่า……ต้องพึ่งตัวเอง………!!!

    หลังจากที่ทุกคนเป็นปลื้มกับความอู้ฟู่อยู่ได้ไม่นาน
    วันที่ 5 กันยายน 2008 เป็นวันที่บริษัทเงินทุนยักษ์ใหญ่สหรัฐอเมริกา Lehman Brothers ล้มละลายพังครืนลงอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ที่ดึงเศรษฐกิจโลกอ่อนยวบไปด้วย
    แม้แต่รัสเซียก็ไม่พ้น น้ำมันราคาตกต่ำกว่า $100 หุ้นร่วงลงติดพื้น
    ภายในสองเดือนของวิกฤติ เงินได้ไหลออกจากประเทศเป็นแสนล้าน เหล่ามหาเศรษฐีชิงกันขายรถหรู ขายเรือสำราญ
    เครื่องบินส่วนตัว
    รัฐบาลถอนเงินจากกองทุนต่างๆมาอุด แต่แทบไม่ได้ช่วยอะไร
    โรงงานปิดรายวัน คนงานไม่ได้รับเงินเดือน
    บารมีของปูตินที่เพิ่งใสสว่างราวดวงตะวัน……หม่นแสงลงอย่างดึงไว้ไม่อยู่
    แปดปี……ที่เขาเป็นประธานาธิบดี เวลามีเหตุร้ายเกิดขึ้น……
    คนที่รับหน้าในชั้นแรกคือ นายกรัฐมนตรี
    ซึ่งมันเป็นตำแหน่งที่เขาดำรงอยู่ในยามนี้ หมายถึงว่า เขาต้องแก้ปัญหานี้ด้วยตัวเองทั้งหมด

    เดือนตุลาคม……เขาเรียกประชุมสภา พร้อมเผชิญหน้ากับฝ่ายค้าน (ฝ่ายซ้าย) ที่หัวหน้าคือ Gennady Zyuganov ที่รอโอกาสที่จะเชือดเขาให้เป็นชิ้นๆได้ทุกเมื่อ หรือ รอโอกาสที่จะขอข้อแลกเปลี่ยนที่เป็นผลบวกกับพรรคของตัวเอง
    แต่ครั้งนี้ Gennady กลับมาแปลก……เขาวางข้อขัดแย้งไว้
    และให้ข้อคิดว่า……
    “เมื่อครั้งที่เกิดเศรษฐกิจล่มสลายในปี 1929 (ตลาดหุ้นอเมริกาพังพินาศ หรือ the Great Depression ล่มต่อเนื่องไปหลายปี
    จนต่อมาประธานาธิบดี Franklin Delano Roosevelt ได้ส่งทีมกู้เศรษฐกิจมารัสเซีย เพื่อดูลาดเลา และ มาดูความเป็นไปของเรา เพราะทางรัสเซียไม่มีผลกระทบอะไร……”
    ปูตินจึงได้สติ……เขาตอบว่า
    “จริงซิ……เพราะเราไม่เอาเงินของเราไปผูกกับตลาดหุ้นบ้าๆนั่น
    และ เราไม่ได้ใช้เงิน หรือ ลงทุนตามเขา……”

    ปูตินและทีมเศรษฐกิจจึงรีบหารือกันในการอุดรอยรั่วเป็นอันดับแรก
    นั่นคือ การที่เงินไหลออกเพราะเหล่าพ่อค้ามหาเศรษฐีทั้งหลายที่เอาเงินไปไว้ตามเกาะต่างๆ และ ธนาคารต่างประเทศ
    และมาฉวยโอกาสโมเมทำเป็นจนตามน้ำในตอนขาลงของสภาพคล่องของประเทศ
    เพราะโรงงานต่างๆกันปิดตัวระนาว…ในช่วงต้นปี 2009

    โดยเฉพาะในเดือนกรกฏาคม ที่เมืองอุตสาหกรรม Pikalevo ที่เป็นโรงงานอะลูมิเนียมส่วนใหญ่ที่มีแรงงานหลายหมื่นคน ที่ไม่ได้จ่ายเงินเดือนพนักงาน ที่กำลังจะเกิดการจลาจลอยู่รอมร่อ
    ปูตินและคณะบุกไปถึงที่……เขาเรียกเหล่าเจ้าของทั้งหมดมาประชุม และเตรียมสัญญามาให้ลงชื่อ……ว่า
    จะต้องจ่ายเงินเดือนพนักงานทุกคนภายใน 24 ชั่วโมง
    ที่เหลือ…ถ้ายังอยากอยู่ในธุรกิจ ต้องเข้ามารับนโยบายจากรัฐถ้าไม่เปิดโรงงาน………รัฐบาลจะเข้ามาบริหารเอง
    หนึ่งในกลุ่มเจ้าของโรงงานนั้น คือ Oleg Deripaska ที่เปรียบเสมือนเพื่อนสนิทของปูตินมาแต่ไหนแต่ไร ที่ปูตินก็ไม่ไว้หน้า
    จิกตัวมาให้เซ็นชื่อ….และทวงปากกาคืนจาก Oleg!!!

    ~~มีวีดีโอบันทึกภาพจากเหตุการณ์จริง แต่ในความเห็นส่วนตัว ดิฉันคิดว่าเป็นการทำโปรประกันดาของปูติน เพื่อลดกระแสกดดันจากภาคประชาชนชาวแรงงานที่ชุมนุมรออยู่
    ข้างนอก ลุ้นว่าจะได้รับเงินเดือนหรือเปล่า…ปูตินคงคุยนอกรอบกับพวกเจ้าของนี้แล้ว เมื่อตกลงกันได้ เลยต้องออกข่าวเรียกคืนเครดิตให้รัฐบาล

    ปูตินที่เหมือนกับทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี และ ประธานาธิบดีในเงา…ใช้เวลาทำงานทั้งหมดเกี่ยวกับสางกิจการเหล่าโรงงานอันเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในรัสเซีย อย่างแร่ Nepheline
    ที่เป็นวัตถุดิบที่สำคัญ ที่โรงงานจะต้องใช้เกิดขาดแคลน
    เขาสั่งขบวนเที่ยวรถไฟด่วน ลำเลียงมาจาก Kola Peninsular
    อัดฉีดเงินช่วยเหลือประชาชน
    และแทนที่เขาจะทำการเปิดตลาดเพื่อที่จะจะดูดเงินจากการค้า
    หรือทำสัญญาซื้อขายแบบยอมเสียเปรียบเพื่อที่จะได้เงินเข้าประเทศกับกลุ่มยุโรปหรืออเมริกา………
    เขาไม่ทำ…………!!!
    ใครต่อใครต่างพากันประหลาดใจ……เพราะถ้าไม่ทำก็มองไม่เห็นทางรอด พวกเขาไม่เข้าใจว่าปูตินจะพาชาติพ้นวิกฤตินี้ไปได้อย่างไร??

    แต่ปูตินเขาเห็นว่า….ที่ประเทศได้รับผลกระทบอย่างแรงเช่นนี้
    เพราะอเมริกาได้เดินหมากผิด (หรืออาจตั้งใจ) ทำให้ใครต่อเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส จนแทบจะสิ้นชาติ
    ฉะนั้น…เขาเลือกที่จะปิดตลาดการค้าทางฝั่งตะวันตก ค้าขายแต่กับกลุ่มเบลารุส และกลุ่มคาซัคสถาน แบบพอให้การเคลื่อนไหวของกระแสเงินไปในทิศทางที่ปลอดภัย และไม่เสียเปรียบ

    กลางปี 2009 ราคาน้ำมันดีดกลับขึ้นมา หุ้นก็ขึ้นตาม
    ทุกอย่างกลับขึ้นมาเป็นเกือบปรกติ
    เมื่อมาถึง 2010 อะไรที่เคยหาย เคยพร่องไป กลับหลั่งไหลเข้ามาเต็มคลังอีกครั้ง ดีเกินหน้ายุโรปและอเมริกาด้วยซ้ำ
    ประสบการณ์ที่เกิดขึ้น……ได้บอกกับปูตินว่า ……
    ถ้ามาถึงเรื่องเงิน…ต้องไม่ฝากอนาคตไว้กับใครเลย ต้องถือเอง
    บริการเอง เอาประโยชน์ของชาติและคนในชาติเป็นหลัก

    จากการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของรัสเซียนี้ เมื่อการประชุม WTO (World Trade Organization) จึงได้เชิญรัสเซียเข้าร่วมประชุมด้วย ปูตินตอบรับโดยมีข้อแม้ว่า เขาจะไปเป็นคณะ ไม่ใช่ไปคนเดียว คณะที่ว่านั้น คือ ตัวแทนจากเบลารุส และ คาซัคสถาน
    กรรมาธิการหลายคนไม่เข้าใจ…ว่า ทำไม…?
    ในเมื่อรัสเซียจะต้องทำการซื้อขายกับทางตะวันตกมากกว่า…
    แต่ปูตินยืนยันว่า….จะต้องไปเป็นกลุ่มเท่านั้น…!!
    (เพราะเมื่อตกอับก็ยังอยู่เคียงข้างกัน พอได้โอกาสค้าขาย ก็ต้องไปด้วยกัน…)

    จากนั้น ปูตินจึงหันมาทำงานในเรื่องการก่อสร้างที่ Sochi อย่างเต็มตัว เพราะเขาทุ่มเงินกว่าสามพันล้านหรียญ ที่จะสร้างให้ออกมาสวยงามสมใจ
    นอกจากพื้นที่แข่งสกีแล้ว เขาได้สร้างอีกหลายอาคารสำหรับเป็นที่แข่งขันระหว่างมหาวิทยาลัย และหมู่บ้านนักกีฬาที่ทันสมัย
    รวมทั้งพัฒนาปรับปรุงเส้นทางรถไฟ Baikal-Amur Mainline ที่พาดยาว จาก Moscow ถึง ฝั่งตะวันออก Vladivostok ให้ทันสมัยและเป็นสายท่องเที่ยวที่จะดึงดูดความสนใจ
    เขาทุ่มเทกับเรื่องโอลิมปิกนี้มาก เพราะการก่อสร้างได้ชะงักงันไปในช่วงฝืดเคือง พอกลับมาจับทำต่อ……ก็ต้องงบประมาณการก่อสร้างบานปลาย……
    ที่ปูตินเรียกทุกฝ่ายมารายงานการใช้เงินกันอย่างละเอียด
    และทุกฝ่ายที่ว่ามานั้น……ล้วนแล้วแต่เป็นเพื่อนรักคนสนิทแทบทั้งสิ้น
    ในช่วงนี้คือช่วงที่มีการแฉโพยในเรื่องการคอรัปชั่นของรัฐบาลอย่างหนาหูจากฝ่ายตรงข้าม
    เพราะเป็นการสร้างเมกะโปรเจ็คหลายๆงานพร้อมกัน……
    แต่ปูติน…ยังคงทำเฉยกับข่าวเหล่านี้…
    เพราะในช่วงฤดูร้อนของปี 2010 ที่เกิดไฟป่าขึ้นที่ชายขอบมอสโคว์ ที่เริ่มรุนแรงขึ้น ประชาชนเดือดร้อนจนถึงขนาดตำหนิรัฐบาลออกสื่ออย่างไม่เกรงใจ ในเรื่องการล่าช้าของการดำเนินการดับไฟ และ เรื่องคอรัปชั่นที่กำลังเป็นข่าว เนื่องจากรัฐบาลเมดเวเดฟ กำลังสร้างศูนย์เทคโนโลยี Skolkovo ที่ทันสมัยใหญ่อลังการ ……
    แต่ประชาชนถามถึง……รถดับเพลิง ที่ควรจะมีมากกว่าศูนย์บ้าบออะไรนั่น…
    ปธน. เมดเวเดฟ ยังอยู่ในช่วงพักร้อนที่ทะเลดำ……
    ปูตินเป็นพระเอกอีกแล้ว เขาเตรียมตัวพร้อม ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปกับนักบินที่บินออกไปเป็นฝูงตั๊กแตน บัญชาการดับไฟ โปรยน้ำและสารเคมีติดต่อกันสองวัน……คุมไฟป่าได้อย่างหมดจด………
    คราวนี้……เสียงคะแนนนิยมจากหมู่สาวๆมาแบบถล่มทะลาย
    (เพราะอินเตอร์เน็ต) ทุกคนมองเห็นปูตินวัย 58 เป็นไอดอลที่สุดเซ็กซี่……กลายเป็นชายในฝัน (ซะงั้น)

    ชายในฝันที่ว่านี้…ก็ไม่ใช่เบา……!!!
    วันหนึ่งในการประชุมที่ กรุงเคียฟ เกี่ยวกับเรื่องการรวมทุนของสายการบินยูเครนเข้ากับ United Aviation Co. ของรัสเซีย
    ทุกคนสังเกตเห็นว่า ใบหน้าของปูตินที่ออกในทีวี แน่นไปด้วยเมคอัพ แต่น่าจะเป็นการให้แสง……เลยดูเปลี่ยนไป
    จนนักข่าวแอบมาเม้าท์กันว่า มีรอยช้ำที่ขอบตา……ผมหนาขึ้น…ตีนกาหายไป……หน้าผากตึงขึ้น……หางตาไม่ตก……
    ว้าววววว………นี่ไปศัลย์มาชัดๆ……
    แต่ทุกคนก็ยังชื่นชม เพราะ เขาบอกว่า
    “ใครๆก็อยากได้ผู้นำที่ดูดีด้วยกันทั้งนั้นแหละ……”

    ส่วนประธานาธิบดี เมดเวเดฟ……ที่มีนโยบาย Forward Russia…!! นั้น ก็ทำงานส่วนใหญ่กับการประสานกับประธานาธิบดี บารัค โอบามา เพราะค่อนข้างจะคุยกันรู้เรื่องในเรื่องของนิวเคลียร์เพื่อสันติ…รวมทั้งโปรเจ็คในการค้าขายที่ไม่ค่อยเป็นข่าว นอกจากอ่านแถลงการณ์โน่นนี่

    แต่การเล่นละครก็”ต้องมี”ให้ชาวโลกเห็นว่า ประธานาธิบดีรัสเซียก็มี”ปาก”เหมือนกัน…คือ ในวันตัดสินคดีของอภิมหาเศรษฐีรูปงาม Mikhail Khodorkovsky (หรือที่เคยเรียกย่อว่า MK) ที่ถูกจำคุกเกือบปี
    ก่อนวันขึ้นศาล ปูตินได้โทรศัพท์ออกทีวี ในวันที่ 16 ธันวาคม
    ให้ความเห็นในเรื่องนี้อย่างดุเดือดว่า ……เป็นโจรก็ต้องติดคุก ยิ่งเป็นมหาโจรที่ปล้นทรัพยากรไปจากแผ่นดิน……มันก็ต้องรับโทษให้สาสม เหมือนอย่างนักลงทุนอเมริกัน Bernard Madoff
    ที่ศาลในอเมริกาได้ตัดสินให้จำคุก 150 ปี……”
    ปูตินกล่าวต่อไปด้วยอารมณ์โกรธที่ระงับไม่อยู่……ว่า
    “ไอ้หมอนี่ เป็นคนสั่งการในการสังหารนายกเทศมนตรีเมือง Nefteyugansk (ที่ควบคุมเขตโรงกลั่นน้ำมันของ Yukos ของ MK) และ ผู้หญิงคนหนึ่งในมอสโคว์ที่ไม่ยอมเซ็นโฉนดที่ดินให้……มันกำจัดคนที่ขวางทางทุกคนด้วยวิธีที่ทารุณสุดโหด……”
    การกร้าวของปูตินในฐานะนายกรัฐมนตรีคราวนี้ มันออกจะ”ล้ำ” ไป เพราะแพร่ออกไปทุกมุมโลก

    ต่อมา…เมดเวเดฟ ต้องรีบแก้สถานะการณ์โดยการแสดงเป็นฝ่ายตรงข้ามกับปูติน……เขาไม่เห็นด้วยกับการที่ “ใครคนหนึ่ง”
    จะเที่ยวไปพิพากษาความผิดของใครได้ นอกเหนือไปจากศาลสถิตยุติธรรม
    สรุปว่า MK ได้ถูกตัดสินจำคุก 13 ปี (แต่ติดจริงๆแค่ไม่กี่ปี เพราะต้องยอมซื้ออิสรภาพเพื่อที่จะได้ออกไปนอกประเทศด้วยทรัพย์สินที่มีแทบทั้งหมดในรัสเซีย…)
    จึงจัดได้ว่า…MK ที่มีที่อยู่ทั่วไปในยุโรปและอเมริกา……

    เขาคือ ศัตรูนอกประเทศที่ชัดเจนของปูตินในทุกวันนี้……!!!


    Wiwanda W. Vichit
    งานประธานาธิบดีพี่เค้าก็ทำมาแล้ว……แต่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่พี่ปูเขาทำ………หนักกว่าเป็นสองเท่าค่าาาา ติ่งขาาาาา…!!!! ตอนสิบเก้า………เส้นทางที่หวาดเสียวกับการล่มจม……ผ่านมาได้อย่างสวยงามเพราะยึดหลักว่า……ต้องพึ่งตัวเอง………!!! หลังจากที่ทุกคนเป็นปลื้มกับความอู้ฟู่อยู่ได้ไม่นาน วันที่ 5 กันยายน 2008 เป็นวันที่บริษัทเงินทุนยักษ์ใหญ่สหรัฐอเมริกา Lehman Brothers ล้มละลายพังครืนลงอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ที่ดึงเศรษฐกิจโลกอ่อนยวบไปด้วย แม้แต่รัสเซียก็ไม่พ้น น้ำมันราคาตกต่ำกว่า $100 หุ้นร่วงลงติดพื้น ภายในสองเดือนของวิกฤติ เงินได้ไหลออกจากประเทศเป็นแสนล้าน เหล่ามหาเศรษฐีชิงกันขายรถหรู ขายเรือสำราญ เครื่องบินส่วนตัว รัฐบาลถอนเงินจากกองทุนต่างๆมาอุด แต่แทบไม่ได้ช่วยอะไร โรงงานปิดรายวัน คนงานไม่ได้รับเงินเดือน บารมีของปูตินที่เพิ่งใสสว่างราวดวงตะวัน……หม่นแสงลงอย่างดึงไว้ไม่อยู่ แปดปี……ที่เขาเป็นประธานาธิบดี เวลามีเหตุร้ายเกิดขึ้น…… คนที่รับหน้าในชั้นแรกคือ นายกรัฐมนตรี ซึ่งมันเป็นตำแหน่งที่เขาดำรงอยู่ในยามนี้ หมายถึงว่า เขาต้องแก้ปัญหานี้ด้วยตัวเองทั้งหมด เดือนตุลาคม……เขาเรียกประชุมสภา พร้อมเผชิญหน้ากับฝ่ายค้าน (ฝ่ายซ้าย) ที่หัวหน้าคือ Gennady Zyuganov ที่รอโอกาสที่จะเชือดเขาให้เป็นชิ้นๆได้ทุกเมื่อ หรือ รอโอกาสที่จะขอข้อแลกเปลี่ยนที่เป็นผลบวกกับพรรคของตัวเอง แต่ครั้งนี้ Gennady กลับมาแปลก……เขาวางข้อขัดแย้งไว้ และให้ข้อคิดว่า…… “เมื่อครั้งที่เกิดเศรษฐกิจล่มสลายในปี 1929 (ตลาดหุ้นอเมริกาพังพินาศ หรือ the Great Depression ล่มต่อเนื่องไปหลายปี จนต่อมาประธานาธิบดี Franklin Delano Roosevelt ได้ส่งทีมกู้เศรษฐกิจมารัสเซีย เพื่อดูลาดเลา และ มาดูความเป็นไปของเรา เพราะทางรัสเซียไม่มีผลกระทบอะไร……” ปูตินจึงได้สติ……เขาตอบว่า “จริงซิ……เพราะเราไม่เอาเงินของเราไปผูกกับตลาดหุ้นบ้าๆนั่น และ เราไม่ได้ใช้เงิน หรือ ลงทุนตามเขา……” ปูตินและทีมเศรษฐกิจจึงรีบหารือกันในการอุดรอยรั่วเป็นอันดับแรก นั่นคือ การที่เงินไหลออกเพราะเหล่าพ่อค้ามหาเศรษฐีทั้งหลายที่เอาเงินไปไว้ตามเกาะต่างๆ และ ธนาคารต่างประเทศ และมาฉวยโอกาสโมเมทำเป็นจนตามน้ำในตอนขาลงของสภาพคล่องของประเทศ เพราะโรงงานต่างๆกันปิดตัวระนาว…ในช่วงต้นปี 2009 โดยเฉพาะในเดือนกรกฏาคม ที่เมืองอุตสาหกรรม Pikalevo ที่เป็นโรงงานอะลูมิเนียมส่วนใหญ่ที่มีแรงงานหลายหมื่นคน ที่ไม่ได้จ่ายเงินเดือนพนักงาน ที่กำลังจะเกิดการจลาจลอยู่รอมร่อ ปูตินและคณะบุกไปถึงที่……เขาเรียกเหล่าเจ้าของทั้งหมดมาประชุม และเตรียมสัญญามาให้ลงชื่อ……ว่า จะต้องจ่ายเงินเดือนพนักงานทุกคนภายใน 24 ชั่วโมง ที่เหลือ…ถ้ายังอยากอยู่ในธุรกิจ ต้องเข้ามารับนโยบายจากรัฐถ้าไม่เปิดโรงงาน………รัฐบาลจะเข้ามาบริหารเอง หนึ่งในกลุ่มเจ้าของโรงงานนั้น คือ Oleg Deripaska ที่เปรียบเสมือนเพื่อนสนิทของปูตินมาแต่ไหนแต่ไร ที่ปูตินก็ไม่ไว้หน้า จิกตัวมาให้เซ็นชื่อ….และทวงปากกาคืนจาก Oleg!!! ~~มีวีดีโอบันทึกภาพจากเหตุการณ์จริง แต่ในความเห็นส่วนตัว ดิฉันคิดว่าเป็นการทำโปรประกันดาของปูติน เพื่อลดกระแสกดดันจากภาคประชาชนชาวแรงงานที่ชุมนุมรออยู่ ข้างนอก ลุ้นว่าจะได้รับเงินเดือนหรือเปล่า…ปูตินคงคุยนอกรอบกับพวกเจ้าของนี้แล้ว เมื่อตกลงกันได้ เลยต้องออกข่าวเรียกคืนเครดิตให้รัฐบาล ปูตินที่เหมือนกับทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี และ ประธานาธิบดีในเงา…ใช้เวลาทำงานทั้งหมดเกี่ยวกับสางกิจการเหล่าโรงงานอันเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในรัสเซีย อย่างแร่ Nepheline ที่เป็นวัตถุดิบที่สำคัญ ที่โรงงานจะต้องใช้เกิดขาดแคลน เขาสั่งขบวนเที่ยวรถไฟด่วน ลำเลียงมาจาก Kola Peninsular อัดฉีดเงินช่วยเหลือประชาชน และแทนที่เขาจะทำการเปิดตลาดเพื่อที่จะจะดูดเงินจากการค้า หรือทำสัญญาซื้อขายแบบยอมเสียเปรียบเพื่อที่จะได้เงินเข้าประเทศกับกลุ่มยุโรปหรืออเมริกา……… เขาไม่ทำ…………!!! ใครต่อใครต่างพากันประหลาดใจ……เพราะถ้าไม่ทำก็มองไม่เห็นทางรอด พวกเขาไม่เข้าใจว่าปูตินจะพาชาติพ้นวิกฤตินี้ไปได้อย่างไร?? แต่ปูตินเขาเห็นว่า….ที่ประเทศได้รับผลกระทบอย่างแรงเช่นนี้ เพราะอเมริกาได้เดินหมากผิด (หรืออาจตั้งใจ) ทำให้ใครต่อเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส จนแทบจะสิ้นชาติ ฉะนั้น…เขาเลือกที่จะปิดตลาดการค้าทางฝั่งตะวันตก ค้าขายแต่กับกลุ่มเบลารุส และกลุ่มคาซัคสถาน แบบพอให้การเคลื่อนไหวของกระแสเงินไปในทิศทางที่ปลอดภัย และไม่เสียเปรียบ กลางปี 2009 ราคาน้ำมันดีดกลับขึ้นมา หุ้นก็ขึ้นตาม ทุกอย่างกลับขึ้นมาเป็นเกือบปรกติ เมื่อมาถึง 2010 อะไรที่เคยหาย เคยพร่องไป กลับหลั่งไหลเข้ามาเต็มคลังอีกครั้ง ดีเกินหน้ายุโรปและอเมริกาด้วยซ้ำ ประสบการณ์ที่เกิดขึ้น……ได้บอกกับปูตินว่า …… ถ้ามาถึงเรื่องเงิน…ต้องไม่ฝากอนาคตไว้กับใครเลย ต้องถือเอง บริการเอง เอาประโยชน์ของชาติและคนในชาติเป็นหลัก จากการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของรัสเซียนี้ เมื่อการประชุม WTO (World Trade Organization) จึงได้เชิญรัสเซียเข้าร่วมประชุมด้วย ปูตินตอบรับโดยมีข้อแม้ว่า เขาจะไปเป็นคณะ ไม่ใช่ไปคนเดียว คณะที่ว่านั้น คือ ตัวแทนจากเบลารุส และ คาซัคสถาน กรรมาธิการหลายคนไม่เข้าใจ…ว่า ทำไม…? ในเมื่อรัสเซียจะต้องทำการซื้อขายกับทางตะวันตกมากกว่า… แต่ปูตินยืนยันว่า….จะต้องไปเป็นกลุ่มเท่านั้น…!! (เพราะเมื่อตกอับก็ยังอยู่เคียงข้างกัน พอได้โอกาสค้าขาย ก็ต้องไปด้วยกัน…) จากนั้น ปูตินจึงหันมาทำงานในเรื่องการก่อสร้างที่ Sochi อย่างเต็มตัว เพราะเขาทุ่มเงินกว่าสามพันล้านหรียญ ที่จะสร้างให้ออกมาสวยงามสมใจ นอกจากพื้นที่แข่งสกีแล้ว เขาได้สร้างอีกหลายอาคารสำหรับเป็นที่แข่งขันระหว่างมหาวิทยาลัย และหมู่บ้านนักกีฬาที่ทันสมัย รวมทั้งพัฒนาปรับปรุงเส้นทางรถไฟ Baikal-Amur Mainline ที่พาดยาว จาก Moscow ถึง ฝั่งตะวันออก Vladivostok ให้ทันสมัยและเป็นสายท่องเที่ยวที่จะดึงดูดความสนใจ เขาทุ่มเทกับเรื่องโอลิมปิกนี้มาก เพราะการก่อสร้างได้ชะงักงันไปในช่วงฝืดเคือง พอกลับมาจับทำต่อ……ก็ต้องงบประมาณการก่อสร้างบานปลาย…… ที่ปูตินเรียกทุกฝ่ายมารายงานการใช้เงินกันอย่างละเอียด และทุกฝ่ายที่ว่ามานั้น……ล้วนแล้วแต่เป็นเพื่อนรักคนสนิทแทบทั้งสิ้น ในช่วงนี้คือช่วงที่มีการแฉโพยในเรื่องการคอรัปชั่นของรัฐบาลอย่างหนาหูจากฝ่ายตรงข้าม เพราะเป็นการสร้างเมกะโปรเจ็คหลายๆงานพร้อมกัน…… แต่ปูติน…ยังคงทำเฉยกับข่าวเหล่านี้… เพราะในช่วงฤดูร้อนของปี 2010 ที่เกิดไฟป่าขึ้นที่ชายขอบมอสโคว์ ที่เริ่มรุนแรงขึ้น ประชาชนเดือดร้อนจนถึงขนาดตำหนิรัฐบาลออกสื่ออย่างไม่เกรงใจ ในเรื่องการล่าช้าของการดำเนินการดับไฟ และ เรื่องคอรัปชั่นที่กำลังเป็นข่าว เนื่องจากรัฐบาลเมดเวเดฟ กำลังสร้างศูนย์เทคโนโลยี Skolkovo ที่ทันสมัยใหญ่อลังการ …… แต่ประชาชนถามถึง……รถดับเพลิง ที่ควรจะมีมากกว่าศูนย์บ้าบออะไรนั่น… ปธน. เมดเวเดฟ ยังอยู่ในช่วงพักร้อนที่ทะเลดำ…… ปูตินเป็นพระเอกอีกแล้ว เขาเตรียมตัวพร้อม ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปกับนักบินที่บินออกไปเป็นฝูงตั๊กแตน บัญชาการดับไฟ โปรยน้ำและสารเคมีติดต่อกันสองวัน……คุมไฟป่าได้อย่างหมดจด……… คราวนี้……เสียงคะแนนนิยมจากหมู่สาวๆมาแบบถล่มทะลาย (เพราะอินเตอร์เน็ต) ทุกคนมองเห็นปูตินวัย 58 เป็นไอดอลที่สุดเซ็กซี่……กลายเป็นชายในฝัน (ซะงั้น) ชายในฝันที่ว่านี้…ก็ไม่ใช่เบา……!!! วันหนึ่งในการประชุมที่ กรุงเคียฟ เกี่ยวกับเรื่องการรวมทุนของสายการบินยูเครนเข้ากับ United Aviation Co. ของรัสเซีย ทุกคนสังเกตเห็นว่า ใบหน้าของปูตินที่ออกในทีวี แน่นไปด้วยเมคอัพ แต่น่าจะเป็นการให้แสง……เลยดูเปลี่ยนไป จนนักข่าวแอบมาเม้าท์กันว่า มีรอยช้ำที่ขอบตา……ผมหนาขึ้น…ตีนกาหายไป……หน้าผากตึงขึ้น……หางตาไม่ตก…… ว้าววววว………นี่ไปศัลย์มาชัดๆ…… แต่ทุกคนก็ยังชื่นชม เพราะ เขาบอกว่า “ใครๆก็อยากได้ผู้นำที่ดูดีด้วยกันทั้งนั้นแหละ……” ส่วนประธานาธิบดี เมดเวเดฟ……ที่มีนโยบาย Forward Russia…!! นั้น ก็ทำงานส่วนใหญ่กับการประสานกับประธานาธิบดี บารัค โอบามา เพราะค่อนข้างจะคุยกันรู้เรื่องในเรื่องของนิวเคลียร์เพื่อสันติ…รวมทั้งโปรเจ็คในการค้าขายที่ไม่ค่อยเป็นข่าว นอกจากอ่านแถลงการณ์โน่นนี่ แต่การเล่นละครก็”ต้องมี”ให้ชาวโลกเห็นว่า ประธานาธิบดีรัสเซียก็มี”ปาก”เหมือนกัน…คือ ในวันตัดสินคดีของอภิมหาเศรษฐีรูปงาม Mikhail Khodorkovsky (หรือที่เคยเรียกย่อว่า MK) ที่ถูกจำคุกเกือบปี ก่อนวันขึ้นศาล ปูตินได้โทรศัพท์ออกทีวี ในวันที่ 16 ธันวาคม ให้ความเห็นในเรื่องนี้อย่างดุเดือดว่า ……เป็นโจรก็ต้องติดคุก ยิ่งเป็นมหาโจรที่ปล้นทรัพยากรไปจากแผ่นดิน……มันก็ต้องรับโทษให้สาสม เหมือนอย่างนักลงทุนอเมริกัน Bernard Madoff ที่ศาลในอเมริกาได้ตัดสินให้จำคุก 150 ปี……” ปูตินกล่าวต่อไปด้วยอารมณ์โกรธที่ระงับไม่อยู่……ว่า “ไอ้หมอนี่ เป็นคนสั่งการในการสังหารนายกเทศมนตรีเมือง Nefteyugansk (ที่ควบคุมเขตโรงกลั่นน้ำมันของ Yukos ของ MK) และ ผู้หญิงคนหนึ่งในมอสโคว์ที่ไม่ยอมเซ็นโฉนดที่ดินให้……มันกำจัดคนที่ขวางทางทุกคนด้วยวิธีที่ทารุณสุดโหด……” การกร้าวของปูตินในฐานะนายกรัฐมนตรีคราวนี้ มันออกจะ”ล้ำ” ไป เพราะแพร่ออกไปทุกมุมโลก ต่อมา…เมดเวเดฟ ต้องรีบแก้สถานะการณ์โดยการแสดงเป็นฝ่ายตรงข้ามกับปูติน……เขาไม่เห็นด้วยกับการที่ “ใครคนหนึ่ง” จะเที่ยวไปพิพากษาความผิดของใครได้ นอกเหนือไปจากศาลสถิตยุติธรรม สรุปว่า MK ได้ถูกตัดสินจำคุก 13 ปี (แต่ติดจริงๆแค่ไม่กี่ปี เพราะต้องยอมซื้ออิสรภาพเพื่อที่จะได้ออกไปนอกประเทศด้วยทรัพย์สินที่มีแทบทั้งหมดในรัสเซีย…) จึงจัดได้ว่า…MK ที่มีที่อยู่ทั่วไปในยุโรปและอเมริกา…… เขาคือ ศัตรูนอกประเทศที่ชัดเจนของปูตินในทุกวันนี้……!!! Wiwanda W. Vichit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 137 มุมมอง 0 รีวิว
  • 😍พร้อมครับ และเราจะก้าวเดินไปด้วยกัน.
    😍พร้อมครับ และเราจะก้าวเดินไปด้วยกัน.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts