• Micron ปิดฉาก Crucial Consumer Line

    Micron Technology บริษัทผู้ผลิตหน่วยความจำรายใหญ่ของโลก ประกาศว่าจะ หยุดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Crucial สำหรับผู้ใช้ทั่วไปภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2026 หลังจากดำเนินธุรกิจแบรนด์นี้มากว่า 29 ปี โดยจะหันไปเน้นการผลิต DRAM และ SSD ระดับองค์กร รวมถึง High-Bandwidth Memory (HBM) ที่ใช้ในศูนย์ข้อมูล AI ซึ่งมีความต้องการสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    เหตุผล: AI กำลังกลืนกินทรัพยากรหน่วยความจำโลก
    Micron ระบุว่า ความต้องการหน่วยความจำและสตอเรจจากศูนย์ข้อมูล AI กำลังพุ่งสูงจนไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทุกเวเฟอร์ที่ผลิตได้จำเป็นต้องส่งไปยังลูกค้ารายใหญ่ในตลาดองค์กรและ Hyperscaler หากยังคงผลิตสินค้า Consumer จะทำให้เสียโอกาสและกระทบต่อความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์กับลูกค้ารายสำคัญ

    ปัจจัยด้านธุรกิจและต้นทุน
    ตลาด Consumer SSD และ DRAM มี กำไรต่ำและแข่งขันสูง ทำให้ Micron มองว่าไม่คุ้มค่าที่จะรักษาสายการผลิตไว้ แม้จะลดขนาดธุรกิจลงก็ยังต้องแบกรับต้นทุนคงที่ เช่น การพัฒนาเฟิร์มแวร์ การทดสอบมาตรฐาน และการดูแลการรับประกันทั่วโลก ซึ่งไม่สอดคล้องกับทิศทางการลงทุนในตลาดองค์กรที่มี สัญญาระยะยาวและราคาขายสูงกว่า

    ผลกระทบและอนาคต
    หลังจากหยุดจำหน่าย Crucial Micron จะยังคงให้บริการรับประกันและการสนับสนุนลูกค้าที่ซื้อไปแล้ว แต่ตลาดผู้ใช้ทั่วไปอาจต้องพึ่งพาแบรนด์อื่นแทน เช่น Samsung, Kingston หรือ Adata ขณะที่ Micron จะทุ่มทรัพยากรไปพัฒนา HBM4/HBM4E และ SSD สำหรับเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการประมวลผล AI ในอนาคต

    สรุปสาระสำคัญ
    Micron ยุติ Crucial Consumer Line ภายในกุมภาพันธ์ 2026
    หยุดจำหน่าย SSD และ DRAM สำหรับผู้ใช้ทั่วไป
    ยังคงให้บริการรับประกันและซัพพอร์ตหลังการขาย

    หันไปโฟกัสตลาดองค์กรและ AI
    ผลิต HBM, SSD สำหรับเซิร์ฟเวอร์ และ DRAM ระดับองค์กร
    รองรับความต้องการจากศูนย์ข้อมูล AI ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

    เหตุผลด้านธุรกิจและต้นทุน
    ตลาด Consumer กำไรต่ำ แข่งขันสูง
    การรักษาสายการผลิตเล็ก ๆ ยังมีต้นทุนคงที่สูง

    คำเตือนต่อผู้ใช้ทั่วไป
    หลังปี 2026 จะไม่สามารถซื้อ Crucial SSD/DRAM รุ่นใหม่ได้อีก
    ผู้ใช้ต้องเลือกแบรนด์อื่นแทน เช่น Samsung, Kingston, Adata

    https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/micron-is-killing-crucial-ssds-and-memory-in-ai-pivot-company-refocuses-on-hbm-and-enterprise-customers
    🏭 Micron ปิดฉาก Crucial Consumer Line Micron Technology บริษัทผู้ผลิตหน่วยความจำรายใหญ่ของโลก ประกาศว่าจะ หยุดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Crucial สำหรับผู้ใช้ทั่วไปภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2026 หลังจากดำเนินธุรกิจแบรนด์นี้มากว่า 29 ปี โดยจะหันไปเน้นการผลิต DRAM และ SSD ระดับองค์กร รวมถึง High-Bandwidth Memory (HBM) ที่ใช้ในศูนย์ข้อมูล AI ซึ่งมีความต้องการสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง 🤖 เหตุผล: AI กำลังกลืนกินทรัพยากรหน่วยความจำโลก Micron ระบุว่า ความต้องการหน่วยความจำและสตอเรจจากศูนย์ข้อมูล AI กำลังพุ่งสูงจนไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทุกเวเฟอร์ที่ผลิตได้จำเป็นต้องส่งไปยังลูกค้ารายใหญ่ในตลาดองค์กรและ Hyperscaler หากยังคงผลิตสินค้า Consumer จะทำให้เสียโอกาสและกระทบต่อความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์กับลูกค้ารายสำคัญ 💰 ปัจจัยด้านธุรกิจและต้นทุน ตลาด Consumer SSD และ DRAM มี กำไรต่ำและแข่งขันสูง ทำให้ Micron มองว่าไม่คุ้มค่าที่จะรักษาสายการผลิตไว้ แม้จะลดขนาดธุรกิจลงก็ยังต้องแบกรับต้นทุนคงที่ เช่น การพัฒนาเฟิร์มแวร์ การทดสอบมาตรฐาน และการดูแลการรับประกันทั่วโลก ซึ่งไม่สอดคล้องกับทิศทางการลงทุนในตลาดองค์กรที่มี สัญญาระยะยาวและราคาขายสูงกว่า 🔮 ผลกระทบและอนาคต หลังจากหยุดจำหน่าย Crucial Micron จะยังคงให้บริการรับประกันและการสนับสนุนลูกค้าที่ซื้อไปแล้ว แต่ตลาดผู้ใช้ทั่วไปอาจต้องพึ่งพาแบรนด์อื่นแทน เช่น Samsung, Kingston หรือ Adata ขณะที่ Micron จะทุ่มทรัพยากรไปพัฒนา HBM4/HBM4E และ SSD สำหรับเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการประมวลผล AI ในอนาคต 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Micron ยุติ Crucial Consumer Line ภายในกุมภาพันธ์ 2026 ➡️ หยุดจำหน่าย SSD และ DRAM สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ➡️ ยังคงให้บริการรับประกันและซัพพอร์ตหลังการขาย ✅ หันไปโฟกัสตลาดองค์กรและ AI ➡️ ผลิต HBM, SSD สำหรับเซิร์ฟเวอร์ และ DRAM ระดับองค์กร ➡️ รองรับความต้องการจากศูนย์ข้อมูล AI ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ✅ เหตุผลด้านธุรกิจและต้นทุน ➡️ ตลาด Consumer กำไรต่ำ แข่งขันสูง ➡️ การรักษาสายการผลิตเล็ก ๆ ยังมีต้นทุนคงที่สูง ‼️ คำเตือนต่อผู้ใช้ทั่วไป ⛔ หลังปี 2026 จะไม่สามารถซื้อ Crucial SSD/DRAM รุ่นใหม่ได้อีก ⛔ ผู้ใช้ต้องเลือกแบรนด์อื่นแทน เช่น Samsung, Kingston, Adata https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/micron-is-killing-crucial-ssds-and-memory-in-ai-pivot-company-refocuses-on-hbm-and-enterprise-customers
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🛳 Paris River Cruise Port — ประตูสู่หัวใจแห่งมหานครปารีส!
    สัมผัสความโรแมนติกของ “เมืองแห่งแสง” จากอีกมุมมองหนึ่ง — บนลำน้ำแซนอันโด่งดังของฝรั่งเศส

    Eiffel Tower หอไอเฟล
    สัญลักษณ์อันดับหนึ่งของฝรั่งเศส ตั้งอยู่ริม แม่น้ำแซน สามารถขึ้นลิฟต์ชมวิวเมือง ปารีสแบบพาโนรามา จุดถ่ายรูปยอดนิยม คือจากสวน Champ de Mars หรือสะพาน Bir-Hakeim

    Louvre Museum พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์
    พิพิธภัณฑ์ศิลปะขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีภาพ Mona Lisa และผลงานระดับโลกมากมาย โดดเด่นด้วยพีระมิดแก้วกลางลาน และสถาปัตยกรรมสุดอลังการ

    Notre-Dame de Paris มหาวิหารนอเทรอดาม
    จุดเริ่มต้นของศูนย์กลางกรุงปารีสตามหลักกิโลเมตรที่ 0 โบสถ์สไตล์กอทิกอายุกว่า 850 ปี ตั้งอยู่บนเกาะ Île de la Cité กลางแม่น้ำแซน แม้ภายในยังปิดปรับปรุงจากเหตุไฟไหม้ แต่ภายนอกยังงดงามและถ่ายรูปได้

    Sacré-Cœur & Montmartre โบสถ์ซาเครเกอร์ และย่านมงมาร์ต
    ตั้งอยู่บนเนินเขาที่สูงที่สุดของปารีส มองเห็นวิวเมืองได้จากมุมสูง โบสถ์ซาเครเกอร์มีสถาปัตยกรรมโดมสีขาวงดงาม รอบๆ เป็นย่านศิลปิน คาเฟ่ และร้านของ ที่ระลึกบรรยากาศยุโรปคลาสสิก

    สอบถามเพิ่มเติมหรือจองแพ็คเกจได้ทันที!
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 0 2116 9696

    #ParisRiverCruisePort #SeineRiver #France #EiffelTower #LouvreMuseum #NotreDamedeParis #SacrCœurMontmartre #port #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #cruisedomain
    🛳 Paris River Cruise Port — ประตูสู่หัวใจแห่งมหานครปารีส! 🌉 สัมผัสความโรแมนติกของ “เมืองแห่งแสง” จากอีกมุมมองหนึ่ง — บนลำน้ำแซนอันโด่งดังของฝรั่งเศส 🇫🇷✨🗼 🅿️ Eiffel Tower 🚗 หอไอเฟล สัญลักษณ์อันดับหนึ่งของฝรั่งเศส ตั้งอยู่ริม แม่น้ำแซน สามารถขึ้นลิฟต์ชมวิวเมือง ปารีสแบบพาโนรามา จุดถ่ายรูปยอดนิยม คือจากสวน Champ de Mars หรือสะพาน Bir-Hakeim 🅿️ Louvre Museum 🚗 พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ พิพิธภัณฑ์ศิลปะขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีภาพ Mona Lisa และผลงานระดับโลกมากมาย โดดเด่นด้วยพีระมิดแก้วกลางลาน และสถาปัตยกรรมสุดอลังการ 🅿️ Notre-Dame de Paris 🚗 มหาวิหารนอเทรอดาม จุดเริ่มต้นของศูนย์กลางกรุงปารีสตามหลักกิโลเมตรที่ 0 โบสถ์สไตล์กอทิกอายุกว่า 850 ปี ตั้งอยู่บนเกาะ Île de la Cité กลางแม่น้ำแซน แม้ภายในยังปิดปรับปรุงจากเหตุไฟไหม้ แต่ภายนอกยังงดงามและถ่ายรูปได้ 🅿️ Sacré-Cœur & Montmartre 🚗 โบสถ์ซาเครเกอร์ และย่านมงมาร์ต ตั้งอยู่บนเนินเขาที่สูงที่สุดของปารีส มองเห็นวิวเมืองได้จากมุมสูง โบสถ์ซาเครเกอร์มีสถาปัตยกรรมโดมสีขาวงดงาม รอบๆ เป็นย่านศิลปิน คาเฟ่ และร้านของ ที่ระลึกบรรยากาศยุโรปคลาสสิก 📩 สอบถามเพิ่มเติมหรือจองแพ็คเกจได้ทันที! https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 #ParisRiverCruisePort #SeineRiver #France #EiffelTower #LouvreMuseum #NotreDamedeParis #SacrCœurMontmartre #port #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #cruisedomain
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขุนช้างเจ้าทรัพย์ พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ จ.ปัตตานี ปี2556
    ขุนช้างเจ้าทรัพย์ เนื้อผงมหาว่าน พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ จ.ปัตตานี ปี2556 // พระดีพิธีใหญ่ !! ปลุกเสกใหญ่ 9 พิธี สุดยอดเครื่องรางด้านเมตตา โชคลาภ และเสี่ยงโชค // พระสถาพสวยมาก พร้อมซองเดิมๆ พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** คาถาหัวใจของขุนช้าง “นะโม หัตถัง พ่อขุนช้างยัง ก ค ข” แล้วอยากได้อะไรก็พูดต่อไป **

    ** พุทธคุณด้านโชคลาภ สุดยอดโภคทรัพย์ ด้านเมตตามหานิยม โชคลาภ และเสี่ยงโชค ช่วยให้ค้าขายดี มีโชค ช่วยให้ทรัพย์ที่ได้มางอกเงยและรักษาทรัพย์ได้นาน เจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน ค้าขาย ร่ำรวย เรียกทรัพย์หนุนดวง อุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง เจริญในหน้าที่การงานคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง **

    "พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ"เกจิอาจารย์สาย(หลวงปู่ทวด) ผู้มีศีลวัตรปฏิบัติอันงดงาม และเป็นที่น่าเคารพนับถือ โดยท่านได้สืบทอดวิชามาจากพระเกจิอาจารย์รุ่นเก่า รวมไปถึงเกจิฆราวาส โดยสืบวิชาจำพวก สมุนไพร พวกสืบอายุ เมตตา แคล้วคลาด โภคทรัพย์ ฯลฯ ซึ่งวัตถุมงคลของพ่อท่านเขียวนั้นมีประสบการณ์มาก ประชาชนทั้งชาวไทยและต่างประเทศต่างเลื่อมใสศรัทธาในองค์พ่อท่านเขียว วิชารับทรัพย์เพิ่มทรัพย์ พ่อท่านเขียวท่านนำวิชานี้มาสร้างวัตถุมงคล การพุทธาภิเษกต้องเข้มขลัง เป็นไปตามตำราทุกประการ **

    ** พระสถาพสวยมาก พร้อมซองเดิมๆ พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    โทรศัพท์ 0881915131
    LINE 0881915131
    ขุนช้างเจ้าทรัพย์ พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ จ.ปัตตานี ปี2556 ขุนช้างเจ้าทรัพย์ เนื้อผงมหาว่าน พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ จ.ปัตตานี ปี2556 // พระดีพิธีใหญ่ !! ปลุกเสกใหญ่ 9 พิธี สุดยอดเครื่องรางด้านเมตตา โชคลาภ และเสี่ยงโชค // พระสถาพสวยมาก พร้อมซองเดิมๆ พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** คาถาหัวใจของขุนช้าง “นะโม หัตถัง พ่อขุนช้างยัง ก ค ข” แล้วอยากได้อะไรก็พูดต่อไป ** ** พุทธคุณด้านโชคลาภ สุดยอดโภคทรัพย์ ด้านเมตตามหานิยม โชคลาภ และเสี่ยงโชค ช่วยให้ค้าขายดี มีโชค ช่วยให้ทรัพย์ที่ได้มางอกเงยและรักษาทรัพย์ได้นาน เจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน ค้าขาย ร่ำรวย เรียกทรัพย์หนุนดวง อุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง เจริญในหน้าที่การงานคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง ** "พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ"เกจิอาจารย์สาย(หลวงปู่ทวด) ผู้มีศีลวัตรปฏิบัติอันงดงาม และเป็นที่น่าเคารพนับถือ โดยท่านได้สืบทอดวิชามาจากพระเกจิอาจารย์รุ่นเก่า รวมไปถึงเกจิฆราวาส โดยสืบวิชาจำพวก สมุนไพร พวกสืบอายุ เมตตา แคล้วคลาด โภคทรัพย์ ฯลฯ ซึ่งวัตถุมงคลของพ่อท่านเขียวนั้นมีประสบการณ์มาก ประชาชนทั้งชาวไทยและต่างประเทศต่างเลื่อมใสศรัทธาในองค์พ่อท่านเขียว วิชารับทรัพย์เพิ่มทรัพย์ พ่อท่านเขียวท่านนำวิชานี้มาสร้างวัตถุมงคล การพุทธาภิเษกต้องเข้มขลัง เป็นไปตามตำราทุกประการ ** ** พระสถาพสวยมาก พร้อมซองเดิมๆ พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ โทรศัพท์ 0881915131 LINE 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 55 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251203 #securityonline

    AI กำลังถูกใช้อย่างแพร่หลาย แต่การกำกับดูแลยังตามไม่ทัน
    รายงานใหม่ปี 2025 ชี้ให้เห็นว่าองค์กรกว่า 83% ใช้ AI ในการทำงานประจำวันแล้ว แต่มีเพียง 13% เท่านั้นที่บอกว่ามีการตรวจสอบการจัดการข้อมูลที่ชัดเจน ปัญหาคือ AI เริ่มทำงานเหมือน “ตัวตนใหม่” ที่ไม่เคยหยุดพักและเข้าถึงข้อมูลได้มากกว่ามนุษย์ แต่ระบบการจัดการยังคงใช้โมเดลที่ออกแบบมาเพื่อมนุษย์ ทำให้เกิดช่องโหว่ เช่น AI เข้าถึงข้อมูลเกินสิทธิ์ หรือไม่มีการควบคุมคำสั่งและผลลัพธ์ หลายองค์กรยอมรับว่าพวกเขาแทบไม่มีทีมกำกับดูแล AI และไม่พร้อมต่อกฎระเบียบใหม่ที่กำลังจะมา เสียงเตือนคือ “คุณไม่สามารถปกป้องสิ่งที่คุณไม่เห็น”
    https://securityonline.info/ai-adoption-surges-while-governance-lags-report-warns-of-growing-shadow-identity-risk

    Apple ปรับทีม AI ครั้งใหญ่ เปลี่ยนผู้นำเพื่อเร่งเครื่องตามคู่แข่ง
    John Giannandrea ผู้บริหารระดับสูงด้าน AI ของ Apple ที่เคยเป็นหัวหอกจาก Google จะก้าวลงจากตำแหน่งในปีหน้า หลังถูกวิจารณ์ว่าการพัฒนา AI ของ Apple ล่าช้ากว่าคู่แข่งหลายปี ทั้ง Siri ที่ปรับปรุงไม่ทันและ Apple Intelligence ที่เปิดตัวช้าเกินไป Tim Cook จึงตัดสินใจดึง Amar Subramanya อดีตหัวหน้าทีม Gemini ของ Google เข้ามาแทน โดยจะเน้นการพัฒนาโมเดลพื้นฐานและความปลอดภัยของ AI การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงความพยายามของ Apple ที่ต้องการผสาน AI เข้ากับทุกผลิตภัณฑ์อย่างจริงจัง แต่ก็ต้องเผชิญกับปัญหาการสูญเสียบุคลากรด้านวิจัยหุ่นยนต์และทีมโมเดลหลักที่ทยอยลาออกไปยังบริษัทคู่แข่ง
    https://securityonline.info/apple-ai-shakeup-giannandrea-out-former-google-gemini-chief-amar-subramanya-hired

    Sonesta Hotels ยกระดับความปลอดภัยบนคลาวด์ด้วย AccuKnox
    เครือโรงแรม Sonesta International Hotels ประกาศความร่วมมือกับ AccuKnox เพื่อนำระบบ Zero Trust CNAPP มาใช้บน Microsoft Azure จุดเด่นคือการตรวจจับการตั้งค่าที่ผิดพลาดในระบบคลาวด์ การป้องกันการโจมตีแบบ Zero-Day และการทำงานร่วมกับ DevSecOps อย่างเต็มรูปแบบ Gartner เคยเตือนว่าหากองค์กรไม่ใช้ CNAPP จะขาดการมองเห็นภาพรวมของความเสี่ยงบนคลาวด์ Sonesta เลือก AccuKnox หลังทดสอบหลายเจ้า เพราะสามารถลดภาระงานวิศวกรได้ถึง 45% และมีฟีเจอร์ด้าน API Security และ AI/LLM Security ที่ตอบโจทย์อนาคต
    https://securityonline.info/sonesta-international-hotels-implements-industry-leading-cloud-security-through-accuknox-collaboration

    Coupang เกิดเหตุข้อมูลรั่วไหลครั้งใหญ่ กระทบผู้ใช้กว่า 33.7 ล้านราย
    แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ Coupang เผชิญเหตุการณ์ร้ายแรงเมื่อข้อมูลผู้ใช้กว่า 33.7 ล้านรายถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งชื่อ อีเมล เบอร์โทร และที่อยู่จัดส่ง แม้ข้อมูลทางการเงินจะไม่ถูกเปิดเผย แต่ก็เสี่ยงต่อการถูกนำไปใช้ทำ Social Engineering หรือหลอกลวงทางออนไลน์ เดิมทีบริษัทคิดว่ามีเพียง 4,500 บัญชีที่ได้รับผลกระทบ แต่การสอบสวนพบว่ามีการเชื่อมต่อฐานข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ต่างประเทศตั้งแต่กลางปี 2025 และถูกดูดข้อมูลออกไป ปัจจุบันมีการระบุผู้ต้องสงสัยว่าเป็นอดีตพนักงานที่หลบหนีออกนอกประเทศแล้ว
    https://securityonline.info/alarm-coupang-data-breach-exposes-33-7-million-users-over-half-of-south-korea

    Europol ปิดบริการ CryptoMixer ยึด Bitcoin มูลค่า 25 ล้านยูโร
    หน่วยงาน Europol ประกาศความสำเร็จในการปิดแพลตฟอร์ม CryptoMixer ที่ถูกใช้เพื่อปกปิดเส้นทางการเงินของอาชญากรไซเบอร์ โดยสามารถยึด Bitcoin มูลค่ากว่า 25 ล้านยูโร และข้อมูลกว่า 12TB CryptoMixer เคยประมวลผลธุรกรรมมากกว่า 1.3 พันล้านยูโรตั้งแต่ปี 2016 การทำงานของมันคือรวมเงินฝากของผู้ใช้แล้วกระจายใหม่แบบสุ่ม ทำให้ติดตามเส้นทางได้ยาก แม้บริการลักษณะนี้จะมีผู้ใช้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว แต่ก็ถูกมองว่าเป็นเครื่องมือสำคัญของการฟอกเงิน การปิดครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่าบริการแบบรวมศูนย์มีความเสี่ยงสูงต่อการถูกยึดทรัพย์และปิดระบบ ต่างจากบริการแบบกระจายศูนย์ที่แทบไม่สามารถจัดการได้
    https://securityonline.info/europol-shuts-down-cryptomixer-seizes-e25-million-in-bitcoin-12-tb-of-data

    AWS เปิดตัว Agentic AI ช่วยลดหนี้ทางเทคนิคและปรับปรุงโค้ดเก่า
    AWS ประกาศโครงการใหม่ชื่อว่า Transform ที่ใช้ Agentic AI เพื่อช่วยองค์กรปรับปรุงโค้ดเดิมให้ทันสมัย ลดภาระงานที่สะสมมานานจากระบบเก่า จุดเด่นคือการทำงานอัตโนมัติที่สามารถวิเคราะห์โค้ดและปรับปรุงให้เข้ากับมาตรฐานใหม่ได้ทันที โดยไม่ต้องใช้แรงงานมนุษย์มากเหมือนเดิม สิ่งนี้ช่วยให้ทีมพัฒนาสามารถโฟกัสไปที่นวัตกรรมแทนการแก้ไขงานซ้ำซาก ถือเป็นอีกก้าวที่ AWS พยายามผลักดัน AI ให้เข้าไปอยู่ในทุกมิติของการทำงานด้านเทคโนโลยี
    https://securityonline.info/aws-transform-agentic-ai-automates-legacy-code-modernization-and-reduces-technical-debt

    AWS re:Invent 2025 เปิดตัว Marengo 3.0 และจับมือ Visa
    งานใหญ่ประจำปีของ AWS ครั้งนี้มีไฮไลต์คือการเปิดตัว Marengo 3.0 โมเดลวิดีโอใหม่ที่สามารถสร้างคอนเทนต์ภาพเคลื่อนไหวได้สมจริงมากขึ้น พร้อมทั้งเปิดตัวความร่วมมือกับ Visa ในด้านการชำระเงินดิจิทัล นอกจากนี้ยังมีการนำ Agentic AI มาใช้ในหลายบริการเพื่อเพิ่มความสามารถในการทำงานอัตโนมัติ การประกาศเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า AWS กำลังเร่งขยายขอบเขต AI จากระบบคลาวด์ไปสู่การสร้างสรรค์คอนเทนต์และการเงินดิจิทัล
    https://securityonline.info/aws-reinvent-2025-agentic-ai-marengo-3-0-video-model-and-visa-payment-partnership

    AWS เปิดตัว Nova Sonic Voice และจับมือ Google Cloud
    อีกหนึ่งประกาศจาก AWS re:Invent คือการเปิดตัว Nova Sonic Voice เทคโนโลยีเสียงใหม่ที่ใช้ Agentic AI เพื่อสร้างเสียงพูดที่เป็นธรรมชาติและตอบสนองได้ทันที พร้อมทั้งจับมือกับ Google Cloud ในด้านระบบเครือข่ายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่อ นี่เป็นการขยายความร่วมมือที่น่าสนใจ เพราะสองยักษ์ใหญ่ด้านคลาวด์มักถูกมองว่าเป็นคู่แข่ง แต่ครั้งนี้กลับเลือกทำงานร่วมกันเพื่อผลักดัน AI ให้ก้าวไปอีกขั้น
    https://securityonline.info/aws-reinvent-agentic-ai-launches-with-nova-sonic-voice-partners-with-google-cloud-on-networking

    NVIDIA ลงทุน 2 พันล้านดอลลาร์ใน Synopsys เพื่อพัฒนา AI สำหรับออกแบบชิป
    NVIDIA ประกาศลงทุนมหาศาลกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ใน Synopsys บริษัทซอฟต์แวร์ออกแบบชิป เพื่อผสาน Agentic AI เข้ากับกระบวนการออกแบบฮาร์ดแวร์ จุดมุ่งหมายคือการเร่งการพัฒนาชิปที่ซับซ้อนให้เสร็จเร็วขึ้นและลดข้อผิดพลาด การลงทุนครั้งนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นว่า AI จะเป็นหัวใจสำคัญของการออกแบบฮาร์ดแวร์ในอนาคต และยังเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้ NVIDIA ในฐานะผู้นำด้าน AI และการประมวลผล
    https://securityonline.info/nvidia-invests-2-billion-in-synopsys-to-integrate-agentic-ai-into-chip-design

    อินเดียบังคับติดตั้งแอป Sanchar Saathi ที่ลบไม่ได้บนสมาร์ทโฟนใหม่
    รัฐบาลอินเดียออกกฎใหม่ให้สมาร์ทโฟนทุกเครื่องที่ขายในประเทศต้องติดตั้งแอป Sanchar Saathi โดยไม่สามารถลบออกได้ แอปนี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ใช้ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่ถูกหลอกลวงหรือถูกขโมย แต่ก็สร้างความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวและสิทธิของผู้ใช้ เพราะการบังคับติดตั้งและไม่สามารถลบออกได้อาจเปิดช่องให้เกิดการติดตามหรือควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล นี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการที่รัฐบาลพยายามใช้เทคโนโลยีเพื่อแก้ปัญหา แต่ก็ต้องแลกมากับคำถามด้านสิทธิและเสรีภาพ
    https://securityonline.info/privacy-alert-india-mandates-undeletable-sanchar-saathi-app-on-all-new-smartphones

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Longwatch ทำให้ระบบเฝ้าระวังถูกยึด
    มีรายงานจาก CISA ว่าพบช่องโหว่ร้ายแรงในระบบ Longwatch ซึ่งใช้สำหรับการเฝ้าระวังและตรวจสอบในอุตสาหกรรม OT ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่ง HTTP GET โดยไม่ต้องมีการยืนยันตัวตน และสามารถเข้าถึงสิทธิ์ระดับ SYSTEM ได้ทันที เท่ากับว่าผู้โจมตีสามารถควบคุมเซิร์ฟเวอร์เฝ้าระวังได้ทั้งหมด ปัญหานี้เกิดขึ้นในเวอร์ชัน 6.309 ถึง 6.334 และผู้พัฒนาก็ได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 6.335 แล้ว ใครที่ยังใช้เวอร์ชันเก่าจำเป็นต้องอัปเดตโดยด่วนเพื่อป้องกันความเสี่ยง
    https://securityonline.info/cisa-warns-critical-longwatch-rce-flaw-cve-2025-13658-cvss-9-8-allows-unauthenticated-system-takeover-of-ot-surveillance

    แพ็กเกจ Rust อันตราย "evm-units"
    นักพัฒนาที่ทำงานกับ Rust ต้องระวัง เพราะมีการค้นพบแพ็กเกจชื่อ "evm-units" ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อโจมตีแบบลับ ๆ โดยมุ่งเป้าไปที่นักพัฒนาในสายคริปโต ตัวแพ็กเกจนี้ถูกปล่อยออกมาเหมือนเป็นเครื่องมือปกติ แต่จริง ๆ แล้วมีโค้ดแฝงที่สามารถเปิดช่องให้ผู้โจมตีเข้าถึงระบบได้โดยไม่รู้ตัว ถือเป็นการโจมตีที่ใช้ความไว้ใจของนักพัฒนาเป็นเครื่องมือ
    https://securityonline.info/malicious-rust-package-evm-units-exposes-crypto-developers-to-stealth-attacks

    DOJ ปิดโดเมนแก๊งหลอกลวง "Tai Chang" ในพม่า
    กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (DOJ) ได้เข้ายึดโดเมนที่เชื่อมโยงกับคอมพาวด์หลอกลวงชื่อ Tai Chang ในพม่า ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะศูนย์กลางของการทำ "Pig Butchering" หรือการหลอกลวงทางการเงินที่ใช้การสร้างความสัมพันธ์หลอกเหยื่อให้ลงทุนก่อนจะเชิดเงินหนี การปิดโดเมนครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการสกัดกั้นเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ที่กำลังระบาดหนักในภูมิภาค
    https://securityonline.info/doj-seizes-domain-of-burmas-notorious-tai-chang-scam-compound-to-disrupt-pig-butchering-fraud

    Chrome 143 อัปเดตแก้ช่องโหว่ 13 จุด
    Google ได้ปล่อย Chrome เวอร์ชัน 143 ที่มาพร้อมการแก้ไขช่องโหว่ถึง 13 จุด โดยหนึ่งในนั้นคือปัญหาใหญ่ใน V8 ที่ทำให้เกิด Type Confusion ซึ่งมีนักวิจัยด้านความปลอดภัยรายหนึ่งได้รับเงินรางวัลถึง 11,000 ดอลลาร์จากการค้นพบนี้ การอัปเดตครั้งนี้ถือว่าสำคัญมากสำหรับผู้ใช้ทุกคน เพราะช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกโจมตีผ่านเบราว์เซอร์ที่ใช้งานอยู่ทุกวัน
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/chrome-143-stable-fixes-13-flaws-high-severity-v8-type-confusion-earns-11000-bounty

    Django พบช่องโหว่ SQL Injection ใน PostgreSQL
    เฟรมเวิร์ก Django ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการพัฒนาเว็บ ถูกพบช่องโหว่ใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ FilteredRelation ร่วมกับ PostgreSQL ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้เกิด SQL Injection ได้ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการโจมตีที่อันตรายที่สุด เพราะสามารถทำให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูลในฐานข้อมูลโดยตรง ทีม Django ได้ออกคำเตือนและแนะนำให้อัปเดตเวอร์ชันเพื่อปิดช่องโหว่โดยเร็ว
    https://securityonline.info/django-flaw-cve-2025-13372-allows-sql-injection-in-postgresql-filteredrelation

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Iskra iHUB
    CISA ออกคำเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ในอุปกรณ์ Iskra iHUB ที่ใช้สำหรับระบบสมาร์ทมิเตอร์ ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้ายึดระบบได้โดยไม่ต้องมีการยืนยันตัวตน ซึ่งหมายความว่าผู้โจมตีสามารถควบคุมการทำงานของระบบสมาร์ทมิเตอร์ได้ทั้งหมด ถือเป็นภัยคุกคามต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานที่สำคัญ การอัปเดตแพตช์จึงเป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วน
    https://securityonline.info/cisa-warns-critical-iskra-ihub-flaw-cve-2025-13510-allows-unauthenticated-smart-metering-takeover

    ปลั๊กอิน Elementor มีช่องโหว่ร้ายแรง กำลังถูกโจมตี
    ปลั๊กอินยอดนิยมของ WordPress อย่าง Elementor ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรงที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้ายึดสิทธิ์แอดมินได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS สูงถึง 9.8 และที่น่ากังวลคือกำลังถูกโจมตีจริงในขณะนี้ ผู้ที่ใช้ปลั๊กอินนี้จำเป็นต้องอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการสูญเสียการควบคุมเว็บไซต์
    https://securityonline.info/critical-elementor-plugin-flaw-cve-2025-8489-cvss-9-8-under-active-exploitation-allows-unauthenticated-admin-takeover

    Angular พบช่องโหว่ Stored XSS
    เฟรมเวิร์ก Angular ถูกค้นพบช่องโหว่ที่เปิดโอกาสให้เกิดการโจมตีแบบ Stored XSS ผ่านการใช้ SVG และ MathML โดยสามารถหลบเลี่ยงการตรวจสอบได้ ช่องโหว่นี้ถือว่ามีความรุนแรงสูง เพราะทำให้ผู้โจมตีสามารถฝังโค้ดอันตรายลงในเว็บและส่งผลต่อผู้ใช้งานที่เข้ามาเยี่ยมชมได้ทันที
    https://securityonline.info/high-severity-angular-flaw-cve-2025-66412-allows-stored-xss-via-svg-and-mathml-bypass

    ไลบรารี lz4-java ถูกยกเลิก พร้อมพบช่องโหว่ร้ายแรง
    มีการประกาศว่าไลบรารี lz4-java ถูกยกเลิกการพัฒนา และถูกค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงที่ทำให้ผู้ใช้ต้องรีบย้ายไปใช้ community fork โดยทันที ช่องโหว่นี้สร้างความเสี่ยงต่อระบบที่ยังคงใช้งานไลบรารีเวอร์ชันเดิมอยู่ การย้ายไปใช้เวอร์ชันใหม่จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
    https://securityonline.info/discontinued-library-high-severity-lz4-java-flaw-cve%E2%80%902025%E2%80%9012183-forces-immediate-migration-to-community-fork

    สตาร์ทอัพ Frenetik เปิดตัวเทคโนโลยีหลอกลวง AI
    บริษัทสตาร์ทอัพด้านไซเบอร์ชื่อ Frenetik เปิดตัวด้วยเทคโนโลยีการหลอกลวงที่จดสิทธิบัตร โดยตั้งเป้าใช้เทคนิคนี้เพื่อรับมือกับการแข่งขันด้าน AI ที่ทวีความรุนแรงขึ้น เทคโนโลยีนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างกับดักและทำให้ผู้โจมตีสับสน ถือเป็นแนวทางใหม่ที่น่าสนใจในการป้องกันภัยไซเบอร์
    https://securityonline.info/cyber-startup-frenetik-launches-with-patented-deception-technology-that-bets-against-the-ai-arms-race
    📌🔐🟢 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟢🔐📌 #รวมข่าวIT #20251203 #securityonline 🧠 AI กำลังถูกใช้อย่างแพร่หลาย แต่การกำกับดูแลยังตามไม่ทัน รายงานใหม่ปี 2025 ชี้ให้เห็นว่าองค์กรกว่า 83% ใช้ AI ในการทำงานประจำวันแล้ว แต่มีเพียง 13% เท่านั้นที่บอกว่ามีการตรวจสอบการจัดการข้อมูลที่ชัดเจน ปัญหาคือ AI เริ่มทำงานเหมือน “ตัวตนใหม่” ที่ไม่เคยหยุดพักและเข้าถึงข้อมูลได้มากกว่ามนุษย์ แต่ระบบการจัดการยังคงใช้โมเดลที่ออกแบบมาเพื่อมนุษย์ ทำให้เกิดช่องโหว่ เช่น AI เข้าถึงข้อมูลเกินสิทธิ์ หรือไม่มีการควบคุมคำสั่งและผลลัพธ์ หลายองค์กรยอมรับว่าพวกเขาแทบไม่มีทีมกำกับดูแล AI และไม่พร้อมต่อกฎระเบียบใหม่ที่กำลังจะมา เสียงเตือนคือ “คุณไม่สามารถปกป้องสิ่งที่คุณไม่เห็น” 🔗 https://securityonline.info/ai-adoption-surges-while-governance-lags-report-warns-of-growing-shadow-identity-risk 🍏 Apple ปรับทีม AI ครั้งใหญ่ เปลี่ยนผู้นำเพื่อเร่งเครื่องตามคู่แข่ง John Giannandrea ผู้บริหารระดับสูงด้าน AI ของ Apple ที่เคยเป็นหัวหอกจาก Google จะก้าวลงจากตำแหน่งในปีหน้า หลังถูกวิจารณ์ว่าการพัฒนา AI ของ Apple ล่าช้ากว่าคู่แข่งหลายปี ทั้ง Siri ที่ปรับปรุงไม่ทันและ Apple Intelligence ที่เปิดตัวช้าเกินไป Tim Cook จึงตัดสินใจดึง Amar Subramanya อดีตหัวหน้าทีม Gemini ของ Google เข้ามาแทน โดยจะเน้นการพัฒนาโมเดลพื้นฐานและความปลอดภัยของ AI การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงความพยายามของ Apple ที่ต้องการผสาน AI เข้ากับทุกผลิตภัณฑ์อย่างจริงจัง แต่ก็ต้องเผชิญกับปัญหาการสูญเสียบุคลากรด้านวิจัยหุ่นยนต์และทีมโมเดลหลักที่ทยอยลาออกไปยังบริษัทคู่แข่ง 🔗 https://securityonline.info/apple-ai-shakeup-giannandrea-out-former-google-gemini-chief-amar-subramanya-hired 🏨 Sonesta Hotels ยกระดับความปลอดภัยบนคลาวด์ด้วย AccuKnox เครือโรงแรม Sonesta International Hotels ประกาศความร่วมมือกับ AccuKnox เพื่อนำระบบ Zero Trust CNAPP มาใช้บน Microsoft Azure จุดเด่นคือการตรวจจับการตั้งค่าที่ผิดพลาดในระบบคลาวด์ การป้องกันการโจมตีแบบ Zero-Day และการทำงานร่วมกับ DevSecOps อย่างเต็มรูปแบบ Gartner เคยเตือนว่าหากองค์กรไม่ใช้ CNAPP จะขาดการมองเห็นภาพรวมของความเสี่ยงบนคลาวด์ Sonesta เลือก AccuKnox หลังทดสอบหลายเจ้า เพราะสามารถลดภาระงานวิศวกรได้ถึง 45% และมีฟีเจอร์ด้าน API Security และ AI/LLM Security ที่ตอบโจทย์อนาคต 🔗 https://securityonline.info/sonesta-international-hotels-implements-industry-leading-cloud-security-through-accuknox-collaboration ⚠️ Coupang เกิดเหตุข้อมูลรั่วไหลครั้งใหญ่ กระทบผู้ใช้กว่า 33.7 ล้านราย แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ Coupang เผชิญเหตุการณ์ร้ายแรงเมื่อข้อมูลผู้ใช้กว่า 33.7 ล้านรายถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งชื่อ อีเมล เบอร์โทร และที่อยู่จัดส่ง แม้ข้อมูลทางการเงินจะไม่ถูกเปิดเผย แต่ก็เสี่ยงต่อการถูกนำไปใช้ทำ Social Engineering หรือหลอกลวงทางออนไลน์ เดิมทีบริษัทคิดว่ามีเพียง 4,500 บัญชีที่ได้รับผลกระทบ แต่การสอบสวนพบว่ามีการเชื่อมต่อฐานข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ต่างประเทศตั้งแต่กลางปี 2025 และถูกดูดข้อมูลออกไป ปัจจุบันมีการระบุผู้ต้องสงสัยว่าเป็นอดีตพนักงานที่หลบหนีออกนอกประเทศแล้ว 🔗 https://securityonline.info/alarm-coupang-data-breach-exposes-33-7-million-users-over-half-of-south-korea 💰 Europol ปิดบริการ CryptoMixer ยึด Bitcoin มูลค่า 25 ล้านยูโร หน่วยงาน Europol ประกาศความสำเร็จในการปิดแพลตฟอร์ม CryptoMixer ที่ถูกใช้เพื่อปกปิดเส้นทางการเงินของอาชญากรไซเบอร์ โดยสามารถยึด Bitcoin มูลค่ากว่า 25 ล้านยูโร และข้อมูลกว่า 12TB CryptoMixer เคยประมวลผลธุรกรรมมากกว่า 1.3 พันล้านยูโรตั้งแต่ปี 2016 การทำงานของมันคือรวมเงินฝากของผู้ใช้แล้วกระจายใหม่แบบสุ่ม ทำให้ติดตามเส้นทางได้ยาก แม้บริการลักษณะนี้จะมีผู้ใช้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว แต่ก็ถูกมองว่าเป็นเครื่องมือสำคัญของการฟอกเงิน การปิดครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่าบริการแบบรวมศูนย์มีความเสี่ยงสูงต่อการถูกยึดทรัพย์และปิดระบบ ต่างจากบริการแบบกระจายศูนย์ที่แทบไม่สามารถจัดการได้ 🔗 https://securityonline.info/europol-shuts-down-cryptomixer-seizes-e25-million-in-bitcoin-12-tb-of-data 💻 AWS เปิดตัว Agentic AI ช่วยลดหนี้ทางเทคนิคและปรับปรุงโค้ดเก่า AWS ประกาศโครงการใหม่ชื่อว่า Transform ที่ใช้ Agentic AI เพื่อช่วยองค์กรปรับปรุงโค้ดเดิมให้ทันสมัย ลดภาระงานที่สะสมมานานจากระบบเก่า จุดเด่นคือการทำงานอัตโนมัติที่สามารถวิเคราะห์โค้ดและปรับปรุงให้เข้ากับมาตรฐานใหม่ได้ทันที โดยไม่ต้องใช้แรงงานมนุษย์มากเหมือนเดิม สิ่งนี้ช่วยให้ทีมพัฒนาสามารถโฟกัสไปที่นวัตกรรมแทนการแก้ไขงานซ้ำซาก ถือเป็นอีกก้าวที่ AWS พยายามผลักดัน AI ให้เข้าไปอยู่ในทุกมิติของการทำงานด้านเทคโนโลยี 🔗 https://securityonline.info/aws-transform-agentic-ai-automates-legacy-code-modernization-and-reduces-technical-debt 🎤 AWS re:Invent 2025 เปิดตัว Marengo 3.0 และจับมือ Visa งานใหญ่ประจำปีของ AWS ครั้งนี้มีไฮไลต์คือการเปิดตัว Marengo 3.0 โมเดลวิดีโอใหม่ที่สามารถสร้างคอนเทนต์ภาพเคลื่อนไหวได้สมจริงมากขึ้น พร้อมทั้งเปิดตัวความร่วมมือกับ Visa ในด้านการชำระเงินดิจิทัล นอกจากนี้ยังมีการนำ Agentic AI มาใช้ในหลายบริการเพื่อเพิ่มความสามารถในการทำงานอัตโนมัติ การประกาศเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า AWS กำลังเร่งขยายขอบเขต AI จากระบบคลาวด์ไปสู่การสร้างสรรค์คอนเทนต์และการเงินดิจิทัล 🔗 https://securityonline.info/aws-reinvent-2025-agentic-ai-marengo-3-0-video-model-and-visa-payment-partnership 🔊 AWS เปิดตัว Nova Sonic Voice และจับมือ Google Cloud อีกหนึ่งประกาศจาก AWS re:Invent คือการเปิดตัว Nova Sonic Voice เทคโนโลยีเสียงใหม่ที่ใช้ Agentic AI เพื่อสร้างเสียงพูดที่เป็นธรรมชาติและตอบสนองได้ทันที พร้อมทั้งจับมือกับ Google Cloud ในด้านระบบเครือข่ายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่อ นี่เป็นการขยายความร่วมมือที่น่าสนใจ เพราะสองยักษ์ใหญ่ด้านคลาวด์มักถูกมองว่าเป็นคู่แข่ง แต่ครั้งนี้กลับเลือกทำงานร่วมกันเพื่อผลักดัน AI ให้ก้าวไปอีกขั้น 🔗 https://securityonline.info/aws-reinvent-agentic-ai-launches-with-nova-sonic-voice-partners-with-google-cloud-on-networking 💸 NVIDIA ลงทุน 2 พันล้านดอลลาร์ใน Synopsys เพื่อพัฒนา AI สำหรับออกแบบชิป NVIDIA ประกาศลงทุนมหาศาลกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ใน Synopsys บริษัทซอฟต์แวร์ออกแบบชิป เพื่อผสาน Agentic AI เข้ากับกระบวนการออกแบบฮาร์ดแวร์ จุดมุ่งหมายคือการเร่งการพัฒนาชิปที่ซับซ้อนให้เสร็จเร็วขึ้นและลดข้อผิดพลาด การลงทุนครั้งนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นว่า AI จะเป็นหัวใจสำคัญของการออกแบบฮาร์ดแวร์ในอนาคต และยังเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้ NVIDIA ในฐานะผู้นำด้าน AI และการประมวลผล 🔗 https://securityonline.info/nvidia-invests-2-billion-in-synopsys-to-integrate-agentic-ai-into-chip-design 📱 อินเดียบังคับติดตั้งแอป Sanchar Saathi ที่ลบไม่ได้บนสมาร์ทโฟนใหม่ รัฐบาลอินเดียออกกฎใหม่ให้สมาร์ทโฟนทุกเครื่องที่ขายในประเทศต้องติดตั้งแอป Sanchar Saathi โดยไม่สามารถลบออกได้ แอปนี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ใช้ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่ถูกหลอกลวงหรือถูกขโมย แต่ก็สร้างความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวและสิทธิของผู้ใช้ เพราะการบังคับติดตั้งและไม่สามารถลบออกได้อาจเปิดช่องให้เกิดการติดตามหรือควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล นี่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการที่รัฐบาลพยายามใช้เทคโนโลยีเพื่อแก้ปัญหา แต่ก็ต้องแลกมากับคำถามด้านสิทธิและเสรีภาพ 🔗 https://securityonline.info/privacy-alert-india-mandates-undeletable-sanchar-saathi-app-on-all-new-smartphones 🛡️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน Longwatch ทำให้ระบบเฝ้าระวังถูกยึด มีรายงานจาก CISA ว่าพบช่องโหว่ร้ายแรงในระบบ Longwatch ซึ่งใช้สำหรับการเฝ้าระวังและตรวจสอบในอุตสาหกรรม OT ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่ง HTTP GET โดยไม่ต้องมีการยืนยันตัวตน และสามารถเข้าถึงสิทธิ์ระดับ SYSTEM ได้ทันที เท่ากับว่าผู้โจมตีสามารถควบคุมเซิร์ฟเวอร์เฝ้าระวังได้ทั้งหมด ปัญหานี้เกิดขึ้นในเวอร์ชัน 6.309 ถึง 6.334 และผู้พัฒนาก็ได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 6.335 แล้ว ใครที่ยังใช้เวอร์ชันเก่าจำเป็นต้องอัปเดตโดยด่วนเพื่อป้องกันความเสี่ยง 🔗 https://securityonline.info/cisa-warns-critical-longwatch-rce-flaw-cve-2025-13658-cvss-9-8-allows-unauthenticated-system-takeover-of-ot-surveillance 🐍 แพ็กเกจ Rust อันตราย "evm-units" นักพัฒนาที่ทำงานกับ Rust ต้องระวัง เพราะมีการค้นพบแพ็กเกจชื่อ "evm-units" ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อโจมตีแบบลับ ๆ โดยมุ่งเป้าไปที่นักพัฒนาในสายคริปโต ตัวแพ็กเกจนี้ถูกปล่อยออกมาเหมือนเป็นเครื่องมือปกติ แต่จริง ๆ แล้วมีโค้ดแฝงที่สามารถเปิดช่องให้ผู้โจมตีเข้าถึงระบบได้โดยไม่รู้ตัว ถือเป็นการโจมตีที่ใช้ความไว้ใจของนักพัฒนาเป็นเครื่องมือ 🔗 https://securityonline.info/malicious-rust-package-evm-units-exposes-crypto-developers-to-stealth-attacks ⚖️ DOJ ปิดโดเมนแก๊งหลอกลวง "Tai Chang" ในพม่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (DOJ) ได้เข้ายึดโดเมนที่เชื่อมโยงกับคอมพาวด์หลอกลวงชื่อ Tai Chang ในพม่า ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะศูนย์กลางของการทำ "Pig Butchering" หรือการหลอกลวงทางการเงินที่ใช้การสร้างความสัมพันธ์หลอกเหยื่อให้ลงทุนก่อนจะเชิดเงินหนี การปิดโดเมนครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการสกัดกั้นเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ที่กำลังระบาดหนักในภูมิภาค 🔗 https://securityonline.info/doj-seizes-domain-of-burmas-notorious-tai-chang-scam-compound-to-disrupt-pig-butchering-fraud 🌐 Chrome 143 อัปเดตแก้ช่องโหว่ 13 จุด Google ได้ปล่อย Chrome เวอร์ชัน 143 ที่มาพร้อมการแก้ไขช่องโหว่ถึง 13 จุด โดยหนึ่งในนั้นคือปัญหาใหญ่ใน V8 ที่ทำให้เกิด Type Confusion ซึ่งมีนักวิจัยด้านความปลอดภัยรายหนึ่งได้รับเงินรางวัลถึง 11,000 ดอลลาร์จากการค้นพบนี้ การอัปเดตครั้งนี้ถือว่าสำคัญมากสำหรับผู้ใช้ทุกคน เพราะช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกโจมตีผ่านเบราว์เซอร์ที่ใช้งานอยู่ทุกวัน ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/chrome-143-stable-fixes-13-flaws-high-severity-v8-type-confusion-earns-11000-bounty 🐘 Django พบช่องโหว่ SQL Injection ใน PostgreSQL เฟรมเวิร์ก Django ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการพัฒนาเว็บ ถูกพบช่องโหว่ใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ FilteredRelation ร่วมกับ PostgreSQL ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้เกิด SQL Injection ได้ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการโจมตีที่อันตรายที่สุด เพราะสามารถทำให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูลในฐานข้อมูลโดยตรง ทีม Django ได้ออกคำเตือนและแนะนำให้อัปเดตเวอร์ชันเพื่อปิดช่องโหว่โดยเร็ว 🔗 https://securityonline.info/django-flaw-cve-2025-13372-allows-sql-injection-in-postgresql-filteredrelation ⚡ ช่องโหว่ร้ายแรงใน Iskra iHUB CISA ออกคำเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ในอุปกรณ์ Iskra iHUB ที่ใช้สำหรับระบบสมาร์ทมิเตอร์ ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้ายึดระบบได้โดยไม่ต้องมีการยืนยันตัวตน ซึ่งหมายความว่าผู้โจมตีสามารถควบคุมการทำงานของระบบสมาร์ทมิเตอร์ได้ทั้งหมด ถือเป็นภัยคุกคามต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานที่สำคัญ การอัปเดตแพตช์จึงเป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วน 🔗 https://securityonline.info/cisa-warns-critical-iskra-ihub-flaw-cve-2025-13510-allows-unauthenticated-smart-metering-takeover 🖥️ ปลั๊กอิน Elementor มีช่องโหว่ร้ายแรง กำลังถูกโจมตี ปลั๊กอินยอดนิยมของ WordPress อย่าง Elementor ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรงที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้ายึดสิทธิ์แอดมินได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS สูงถึง 9.8 และที่น่ากังวลคือกำลังถูกโจมตีจริงในขณะนี้ ผู้ที่ใช้ปลั๊กอินนี้จำเป็นต้องอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการสูญเสียการควบคุมเว็บไซต์ 🔗 https://securityonline.info/critical-elementor-plugin-flaw-cve-2025-8489-cvss-9-8-under-active-exploitation-allows-unauthenticated-admin-takeover 🕸️ Angular พบช่องโหว่ Stored XSS เฟรมเวิร์ก Angular ถูกค้นพบช่องโหว่ที่เปิดโอกาสให้เกิดการโจมตีแบบ Stored XSS ผ่านการใช้ SVG และ MathML โดยสามารถหลบเลี่ยงการตรวจสอบได้ ช่องโหว่นี้ถือว่ามีความรุนแรงสูง เพราะทำให้ผู้โจมตีสามารถฝังโค้ดอันตรายลงในเว็บและส่งผลต่อผู้ใช้งานที่เข้ามาเยี่ยมชมได้ทันที 🔗 https://securityonline.info/high-severity-angular-flaw-cve-2025-66412-allows-stored-xss-via-svg-and-mathml-bypass 📦 ไลบรารี lz4-java ถูกยกเลิก พร้อมพบช่องโหว่ร้ายแรง มีการประกาศว่าไลบรารี lz4-java ถูกยกเลิกการพัฒนา และถูกค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงที่ทำให้ผู้ใช้ต้องรีบย้ายไปใช้ community fork โดยทันที ช่องโหว่นี้สร้างความเสี่ยงต่อระบบที่ยังคงใช้งานไลบรารีเวอร์ชันเดิมอยู่ การย้ายไปใช้เวอร์ชันใหม่จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ 🔗 https://securityonline.info/discontinued-library-high-severity-lz4-java-flaw-cve%E2%80%902025%E2%80%9012183-forces-immediate-migration-to-community-fork 🚀 สตาร์ทอัพ Frenetik เปิดตัวเทคโนโลยีหลอกลวง AI บริษัทสตาร์ทอัพด้านไซเบอร์ชื่อ Frenetik เปิดตัวด้วยเทคโนโลยีการหลอกลวงที่จดสิทธิบัตร โดยตั้งเป้าใช้เทคนิคนี้เพื่อรับมือกับการแข่งขันด้าน AI ที่ทวีความรุนแรงขึ้น เทคโนโลยีนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างกับดักและทำให้ผู้โจมตีสับสน ถือเป็นแนวทางใหม่ที่น่าสนใจในการป้องกันภัยไซเบอร์ 🔗 https://securityonline.info/cyber-startup-frenetik-launches-with-patented-deception-technology-that-bets-against-the-ai-arms-race
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 147 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไต้หวันฟ้อง Tokyo Electron กรณีขโมยข้อมูล TSMC

    อัยการไต้หวันได้ตั้งข้อหาต่อบริษัท Tokyo Electron โดยกล่าวหาว่าบริษัทไม่สามารถป้องกันพนักงานของตนจากการพยายามขโมยข้อมูลลับทางการค้าและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตชิป 2nm ของ TSMC ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่สุดในโลก

    รายละเอียดของคดี
    กลุ่มพนักงานทั้งอดีตและปัจจุบันของ Tokyo Electron ถูกกล่าวหาว่าพยายามนำข้อมูลไปใช้เพื่อปรับปรุงเครื่องจักรแกะสลัก (etching machines) ของบริษัท เพื่อให้ได้สัญญามากขึ้นจาก TSMC แม้จะไม่มีหลักฐานว่าบริษัทใช้ข้อมูลที่ถูกขโมย แต่ทางการไต้หวันชี้ว่า Tokyo Electron ขาดมาตรการป้องกันที่เข้มงวดและควรรับผิดชอบในฐานะองค์กร

    ผลกระทบเชิงยุทธศาสตร์
    คดีนี้สะท้อนถึงความสำคัญของ TSMC ในฐานะผู้ผลิตชิปขั้นสูงที่เป็นหัวใจของอุตสาหกรรมโลก ทั้ง Nvidia, AMD และ Apple ต่างพึ่งพาเทคโนโลยีของ TSMC การพยายามขโมยข้อมูลจึงถูกมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติของไต้หวัน

    มุมมองในอนาคต
    Tokyo Electron ระบุว่ากำลังให้ความร่วมมือกับการสอบสวนและได้ไล่ออกพนักงานที่เกี่ยวข้องแล้ว อย่างไรก็ตาม คดีนี้อาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างญี่ปุ่นและไต้หวัน รวมถึงการกำหนดมาตรการเข้มงวดขึ้นในการป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์

    สรุปสาระสำคัญ
    อัยการไต้หวันตั้งข้อหา Tokyo Electron
    ล้มเหลวในการป้องกันพนักงานจากการขโมยข้อมูล TSMC

    ข้อมูลที่ถูกพยายามขโมยเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี 2nm ของ TSMC
    ใช้เพื่อปรับปรุงเครื่องจักรแกะสลักของบริษัท

    TSMC เป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมโลก
    มีลูกค้ารายใหญ่ เช่น Nvidia, AMD และ Apple

    การขโมยข้อมูลถูกมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของไต้หวัน
    อาจกระทบต่อความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการเมือง

    Tokyo Electron อาจเผชิญบทลงโทษทางกฎหมายและชื่อเสียง
    ต้องเพิ่มมาตรการป้องกันข้อมูลภายในองค์กร

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/taiwan-hits-japanese-firm-with-indictment-in-tsmc-data-theft-saga-tokyo-electron-charged-with-failing-to-prevent-its-staff-from-stealing-trade-secrets
    ⚖️ ไต้หวันฟ้อง Tokyo Electron กรณีขโมยข้อมูล TSMC อัยการไต้หวันได้ตั้งข้อหาต่อบริษัท Tokyo Electron โดยกล่าวหาว่าบริษัทไม่สามารถป้องกันพนักงานของตนจากการพยายามขโมยข้อมูลลับทางการค้าและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตชิป 2nm ของ TSMC ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่สุดในโลก 🔧 รายละเอียดของคดี กลุ่มพนักงานทั้งอดีตและปัจจุบันของ Tokyo Electron ถูกกล่าวหาว่าพยายามนำข้อมูลไปใช้เพื่อปรับปรุงเครื่องจักรแกะสลัก (etching machines) ของบริษัท เพื่อให้ได้สัญญามากขึ้นจาก TSMC แม้จะไม่มีหลักฐานว่าบริษัทใช้ข้อมูลที่ถูกขโมย แต่ทางการไต้หวันชี้ว่า Tokyo Electron ขาดมาตรการป้องกันที่เข้มงวดและควรรับผิดชอบในฐานะองค์กร 🌍 ผลกระทบเชิงยุทธศาสตร์ คดีนี้สะท้อนถึงความสำคัญของ TSMC ในฐานะผู้ผลิตชิปขั้นสูงที่เป็นหัวใจของอุตสาหกรรมโลก ทั้ง Nvidia, AMD และ Apple ต่างพึ่งพาเทคโนโลยีของ TSMC การพยายามขโมยข้อมูลจึงถูกมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติของไต้หวัน 📊 มุมมองในอนาคต Tokyo Electron ระบุว่ากำลังให้ความร่วมมือกับการสอบสวนและได้ไล่ออกพนักงานที่เกี่ยวข้องแล้ว อย่างไรก็ตาม คดีนี้อาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างญี่ปุ่นและไต้หวัน รวมถึงการกำหนดมาตรการเข้มงวดขึ้นในการป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ อัยการไต้หวันตั้งข้อหา Tokyo Electron ➡️ ล้มเหลวในการป้องกันพนักงานจากการขโมยข้อมูล TSMC ✅ ข้อมูลที่ถูกพยายามขโมยเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี 2nm ของ TSMC ➡️ ใช้เพื่อปรับปรุงเครื่องจักรแกะสลักของบริษัท ✅ TSMC เป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมโลก ➡️ มีลูกค้ารายใหญ่ เช่น Nvidia, AMD และ Apple ‼️ การขโมยข้อมูลถูกมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของไต้หวัน ⛔ อาจกระทบต่อความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการเมือง ‼️ Tokyo Electron อาจเผชิญบทลงโทษทางกฎหมายและชื่อเสียง ⛔ ต้องเพิ่มมาตรการป้องกันข้อมูลภายในองค์กร https://www.tomshardware.com/tech-industry/taiwan-hits-japanese-firm-with-indictment-in-tsmc-data-theft-saga-tokyo-electron-charged-with-failing-to-prevent-its-staff-from-stealing-trade-secrets
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 84 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวใหญ่: จีนออกใบอนุญาตส่งออกแร่หายากแบบใหม่

    รัฐบาลจีนได้ออกใบอนุญาตส่งออก “ทั่วไป” ให้กับผู้ผลิตแม่เหล็กถาวรรายใหญ่ เช่น JL Mag Rare Earth, Ningbo Yunsheng และ Beijing Zhong Ke San Huan High-Tech การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นหลังจากการประชุมระหว่างผู้นำจีนและสหรัฐฯ เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อบรรเทาความตึงเครียดทางการค้า

    รายละเอียดของใบอนุญาต
    ใบอนุญาตใหม่นี้มีอายุ 1 ปี และผูกกับลูกค้ารายบุคคล ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ทำให้ผู้ผลิตสามารถส่งออกได้รวดเร็วขึ้นโดยไม่ต้องรอการอนุมัติแบบกรณีต่อกรณีเหมือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม กรอบการควบคุมยังคงอยู่ เพียงแต่มีช่องทางที่สะดวกขึ้นสำหรับลูกค้าที่ได้รับอนุมัติ

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    มาตรการนี้ช่วยลดระยะเวลาการอนุมัติและเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ซื้อในต่างประเทศ แต่ผลกระทบจะไม่เท่ากันในทุกภาคส่วน เนื่องจากใบอนุญาตผูกกับลูกค้าเฉพาะราย บางบริษัทอาจได้ประโยชน์ทันที ขณะที่บางรายยังต้องรอการอนุมัติในอนาคต

    มุมมองในอนาคต
    แม้จะมีการผ่อนคลาย แต่จีนยังคงควบคุมอุตสาหกรรมแร่หายากอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในส่วนแม่เหล็กถาวรที่ใช้ใน มอเตอร์และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเทคโนโลยีสมัยใหม่ การเปลี่ยนแปลงนี้จึงเป็นเพียงการเปิดช่องทางใหม่ ไม่ใช่การยกเลิกข้อจำกัดทั้งหมด

    สรุปสาระสำคัญ
    จีนออกใบอนุญาตส่งออก “ทั่วไป” สำหรับผู้ผลิตแม่เหล็กถาวร
    ครอบคลุม JL Mag, Ningbo Yunsheng และ Zhong Ke San Huan

    ใบอนุญาตมีอายุ 1 ปี และผูกกับลูกค้ารายบุคคล
    ลดขั้นตอนการอนุมัติแบบกรณีต่อกรณี

    ช่วยให้การส่งออกเร็วขึ้นและเพิ่มความมั่นใจแก่ลูกค้า
    แต่ผลกระทบไม่เท่ากันในทุกภาคส่วน

    กรอบการควบคุมยังคงอยู่ ไม่ใช่การยกเลิกข้อจำกัด
    ผู้ผลิตที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อยังต้องรอการอนุมัติ

    อุตสาหกรรมแม่เหล็กถาวรยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ของจีน
    มีผลต่อเทคโนโลยีสำคัญ เช่น มอเตอร์และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-issues-first-batch-of-general-rare-earth-export-licenses-to-magnet-makers
    🌏 ข่าวใหญ่: จีนออกใบอนุญาตส่งออกแร่หายากแบบใหม่ รัฐบาลจีนได้ออกใบอนุญาตส่งออก “ทั่วไป” ให้กับผู้ผลิตแม่เหล็กถาวรรายใหญ่ เช่น JL Mag Rare Earth, Ningbo Yunsheng และ Beijing Zhong Ke San Huan High-Tech การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นหลังจากการประชุมระหว่างผู้นำจีนและสหรัฐฯ เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อบรรเทาความตึงเครียดทางการค้า 🔧 รายละเอียดของใบอนุญาต ใบอนุญาตใหม่นี้มีอายุ 1 ปี และผูกกับลูกค้ารายบุคคล ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ทำให้ผู้ผลิตสามารถส่งออกได้รวดเร็วขึ้นโดยไม่ต้องรอการอนุมัติแบบกรณีต่อกรณีเหมือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม กรอบการควบคุมยังคงอยู่ เพียงแต่มีช่องทางที่สะดวกขึ้นสำหรับลูกค้าที่ได้รับอนุมัติ 📉 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม มาตรการนี้ช่วยลดระยะเวลาการอนุมัติและเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ซื้อในต่างประเทศ แต่ผลกระทบจะไม่เท่ากันในทุกภาคส่วน เนื่องจากใบอนุญาตผูกกับลูกค้าเฉพาะราย บางบริษัทอาจได้ประโยชน์ทันที ขณะที่บางรายยังต้องรอการอนุมัติในอนาคต 📊 มุมมองในอนาคต แม้จะมีการผ่อนคลาย แต่จีนยังคงควบคุมอุตสาหกรรมแร่หายากอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในส่วนแม่เหล็กถาวรที่ใช้ใน มอเตอร์และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเทคโนโลยีสมัยใหม่ การเปลี่ยนแปลงนี้จึงเป็นเพียงการเปิดช่องทางใหม่ ไม่ใช่การยกเลิกข้อจำกัดทั้งหมด 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ จีนออกใบอนุญาตส่งออก “ทั่วไป” สำหรับผู้ผลิตแม่เหล็กถาวร ➡️ ครอบคลุม JL Mag, Ningbo Yunsheng และ Zhong Ke San Huan ✅ ใบอนุญาตมีอายุ 1 ปี และผูกกับลูกค้ารายบุคคล ➡️ ลดขั้นตอนการอนุมัติแบบกรณีต่อกรณี ✅ ช่วยให้การส่งออกเร็วขึ้นและเพิ่มความมั่นใจแก่ลูกค้า ➡️ แต่ผลกระทบไม่เท่ากันในทุกภาคส่วน ‼️ กรอบการควบคุมยังคงอยู่ ไม่ใช่การยกเลิกข้อจำกัด ⛔ ผู้ผลิตที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อยังต้องรอการอนุมัติ ‼️ อุตสาหกรรมแม่เหล็กถาวรยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ของจีน ⛔ มีผลต่อเทคโนโลยีสำคัญ เช่น มอเตอร์และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-issues-first-batch-of-general-rare-earth-export-licenses-to-magnet-makers
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷

    #รวมข่าวIT #20251202 #TechRadar

    กลยุทธ์ AI ที่ทรงพลังยังคงเริ่มต้นและจบลงที่ “คน”
    เรื่องราวนี้เล่าถึงความจริงที่ว่าแม้ AI จะเข้ามาช่วยทำงานซับซ้อนและสร้างประสิทธิภาพ แต่หัวใจสำคัญของการเปลี่ยนแปลงยังคงอยู่ที่มนุษย์ ผู้เขียนชี้ให้เห็นว่า AI เป็นตัวเร่ง แต่ไม่ใช่ผู้เล่นหลักที่จะเปลี่ยนธุรกิจได้เอง หากไม่มีความคิดสร้างสรรค์ การตัดสินใจ และการนำทีมของคนจริง ๆ องค์กรที่ประสบความสำเร็จคือองค์กรที่ลงทุนในศักยภาพมนุษย์ และใช้ AI เป็นเครื่องมือเสริม ไม่ใช่ตัวแทน การแข่งขันหาคนเก่งด้าน AI กำลังดุเดือด และนั่นสะท้อนว่าคนยังคงเป็น “ตัวเปลี่ยนเกม” ที่แท้จริง
    https://www.techradar.com/pro/why-the-most-impactful-ai-strategies-still-start-and-end-with-people

    สร้างออฟฟิศโทนขาวมินิมอลด้วยไอเท็ม Cyber Monday
    บทความนี้เล่าถึงการจัดออฟฟิศบ้านให้เป็นโทนขาวมินิมอลที่ช่วยสร้างบรรยากาศสงบและเพิ่มสมาธิ ผู้เขียนซึ่งทำงานจากบ้านมานานกว่า 10 ปี ได้คัดสรรไอเท็มตั้งแต่โต๊ะทำงาน เก้าอี้ ไปจนถึงของตกแต่งเล็ก ๆ อย่างเทียนหอมและต้นไม้เล็ก ๆ ที่ช่วยเติมบรรยากาศให้สดชื่น ที่น่าสนใจคือหลายชิ้นกำลังลดราคาพิเศษในช่วง Cyber Monday ทำให้การเปลี่ยนโฉมออฟฟิศไม่ใช่เรื่องแพงอีกต่อไป
    https://www.techradar.com/pro/website-building/19-carefully-curated-items-for-a-white-minimalist-home-office

    นักวิจัยพบความลับกว่า 17,000 รายการใน GitLab สาธารณะ
    นี่คือการค้นพบที่สะเทือนวงการนักพัฒนา เมื่อ Luke Marshall นักวิจัยด้านความปลอดภัยสแกน GitLab Cloud และพบว่ามีข้อมูลลับกว่า 17,000 รายการถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็น API keys, รหัสผ่าน หรือ token ที่สามารถนำไปใช้โจมตีได้ เขาใช้เวลาเพียง 24 ชั่วโมงและงบประมาณไม่ถึง 800 ดอลลาร์ในการสแกน แต่กลับพบข้อมูลที่อาจทำให้ระบบองค์กรเสี่ยงต่อการถูกเจาะลึก ผลงานนี้ยังทำให้เขาได้รับเงินรางวัลกว่า 9,000 ดอลลาร์จากการแจ้งเตือนผู้พัฒนา แม้หลายคนจะรีบแก้ไข แต่ก็ยังมีบางโปรเจกต์ที่ยังเปิดเผยอยู่จนถึงตอนนี้
    https://www.techradar.com/pro/security/security-researcher-uncovers-17-000-secrets-in-public-gitlab-repositories

    OnePlus 15R เผยสเปกแรง จอ 165Hz พร้อม Snapdragon 8 Gen 5
    OnePlus กำลังจะเปิดตัว 15R ในวันที่ 17 ธันวาคม แต่ก่อนถึงวันนั้นก็มีการเปิดเผยสเปกสำคัญออกมาแล้ว รุ่นนี้มาพร้อมหน้าจอ AMOLED รีเฟรชเรตสูงถึง 165Hz ซึ่งเหนือกว่าหลายรุ่นเรือธงในตลาด ใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 5 ที่แม้จะไม่ใช่รุ่น Elite แต่ก็ยังทรงพลัง พร้อมระบบกล้องที่ใช้ซอฟต์แวร์ Detailmax Engine ทำให้ภาพถ่ายคมชัดและมีโหมดพิเศษอย่าง Ultra Clear และ Clear Night จุดเด่นอีกอย่างคือการตอบสนองสัมผัสที่เร็วขึ้นด้วยชิปเฉพาะด้านการสัมผัส ถือเป็นการอัปเกรดที่น่าสนใจสำหรับสายเกมและคนที่ชอบมือถือแรง ๆ
    https://www.techradar.com/phones/oneplus-phones/oneplus-15r-screen-chipset-and-camera-specs-confirmed

    Windows 11 แก้ปัญหา File Explorer ช้า แต่ยังสะท้อนปัญหาใหญ่ของระบบ
    Microsoft ได้ออกแพตช์แก้ไข File Explorer ที่เปิดโฟลเดอร์ช้า โดยใช้วิธี “preload” ให้ระบบโหลดตัวโปรแกรมไว้ตั้งแต่เริ่มบูตเครื่อง ผลคือการเปิดโฟลเดอร์เร็วขึ้นเกือบหนึ่งวินาที แต่ก็ต้องแลกกับการใช้ RAM เพิ่มขึ้นเล็กน้อย แม้หลายคนจะบอกว่าการแก้ไขนี้ช่วยได้ แต่ก็ยังมีเสียงวิจารณ์ว่าเป็นการแก้ปัญหาแบบ “ชั่วคราว” เพราะจริง ๆ แล้ว Windows 11 ยังมีปัญหาด้านประสิทธิภาพโดยรวม การแก้ด้วยการโหลดล่วงหน้าอาจไม่ใช่คำตอบที่ยั่งยืน และสะท้อนว่าระบบยังขาดการวางแผนที่ชัดเจนในการปรับปรุงประสิทธิภาพ
    https://www.techradar.com/computing/windows/complaints-about-windows-11s-fix-for-file-explorer-sluggishness-are-overblown-but-they-underline-a-fundamental-problem-with-the-os

    Apple Watch Series 10 บางรุ่นได้เปลี่ยนเครื่องฟรีเพราะปัญหาสีหลุด
    มีรายงานว่าผู้ใช้ Apple Watch Series 10 บางคนพบปัญหาสีเคลือบตัวเรือนหลุดลอกออกมา ซึ่งถือเป็นข้อบกพร่องด้านการผลิตที่ไม่ควรเกิดขึ้น ล่าสุด Apple จึงตัดสินใจให้ผู้ใช้บางรายได้รับการเปลี่ยนเครื่องใหม่โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แม้จะไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่มีผู้ใช้หลายคนยืนยันว่าพวกเขาได้รับสิทธิ์นี้แล้ว เรื่องนี้สะท้อนถึงมาตรฐานการควบคุมคุณภาพที่ Apple ต้องรักษาไว้ และยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าในระยะยาว
    https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/some-apple-watch-series-10-owners-are-reportedly-getting-free-replacements-due-to-a-paint-flaw

    AWS เสริมพลังให้ AI Agents ฉลาดและเป็นมนุษย์มากขึ้น
    AWS เปิดตัวการอัปเกรดใหม่ในงาน re:Invent 2025 สำหรับ Amazon Connect ที่จะทำให้ AI agents สามารถเข้าใจ วิเคราะห์ และตอบสนองได้ใกล้เคียงมนุษย์มากขึ้น ทั้งในด้านน้ำเสียง จังหวะ และการสื่อสารหลายภาษา จุดมุ่งหมายคือการสร้าง “การทำงานร่วมกันจริง” ระหว่างคนกับ AI โดยให้ AI จัดการงานเบื้องหลัง เช่น วิเคราะห์บริบท สนับสนุนการตัดสินใจ และทำงานซ้ำ ๆ เพื่อให้มนุษย์มีเวลาไปโฟกัสกับการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า การพัฒนาใหม่นี้ยังมาพร้อมระบบตรวจสอบการทำงานของ AI ที่โปร่งใส ทำให้ผู้ใช้เห็นชัดว่า AI เข้าใจอะไร ใช้เครื่องมือไหน และตัดสินใจอย่างไร
    https://www.techradar.com/pro/aws-wants-to-make-your-ai-agents-more-intelligent-and-more-human

    AWS แก้ปัญหา Multicloud เชื่อมต่อกับ Google Cloud ได้ง่ายขึ้น
    การใช้หลายระบบคลาวด์พร้อมกันมักสร้างความยุ่งยาก โดยเฉพาะเรื่องการเชื่อมต่อ AWS จึงเปิดตัวบริการใหม่ชื่อ AWS Interconnect - multicloud ที่ช่วยให้การเชื่อมต่อกับ Google Cloud เป็นไปอย่างราบรื่นและมีมาตรฐานเดียวกัน ลูกค้าสามารถสร้างการเชื่อมต่อแบบส่วนตัวที่มีแบนด์วิดท์สูงได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องจัดการอุปกรณ์หรือระบบซับซ้อนเอง ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ทำให้การทำงานแบบ multicloud มีความเสถียรและปลอดภัยมากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/aws-thinks-it-has-the-answer-to-your-multi-cloud-interoperability-issues

    James Cameron ไม่เอาด้วยกับนักแสดง AI
    ผู้กำกับชื่อดัง James Cameron ออกมาแสดงความกังวลต่อการเกิดขึ้นของนักแสดงที่สร้างด้วย AI อย่าง Tilly Norwood เขาเรียกสิ่งนี้ว่า “น่าขนลุก” เพราะมันแทนที่การแสดงจริงของมนุษย์ และทำให้ศิลปะการแสดงสูญเสียแก่นแท้ Cameron ย้ำว่าการใช้ CGI หรือ motion capture ยังมีมนุษย์เป็นแกนกลาง แต่การสร้างนักแสดงจากข้อความเพียงอย่างเดียวคือการลบตัวตนของมนุษย์ออกไป ซึ่งอาจทำให้ผู้ชมไม่รู้สึกเชื่อมโยงกับการแสดงอีกต่อไป
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/ai-actors-horrify-james-cameron-and-he-wants-no-part-of-it

    IDE ใหม่จาก Google เจอปัญหาความปลอดภัยทันที
    Google เปิดตัว Antigravity IDE ที่ออกแบบมาให้ AI agents ทำงานอัตโนมัติ แต่กลับถูกนักวิจัยพบช่องโหว่ด้านความปลอดภัยอย่างร้ายแรง เช่น การโจมตีแบบ prompt injection ที่ทำให้รันคำสั่งโดยไม่ได้ตั้งใจ และการรั่วไหลของข้อมูลสำคัญอย่าง credentials ผ่าน Markdown หรือคำสั่งที่ซ่อนอยู่ แม้จะมีระบบป้องกัน แต่ยังมีช่องว่างที่ทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถดึงข้อมูลออกไปได้อย่างรวดเร็ว ปัญหานี้สะท้อนถึงความเสี่ยงเมื่อให้ AI มีอิสระมากเกินไปโดยไม่มีโครงสร้างป้องกันที่แข็งแรง
    https://www.techradar.com/pro/googles-ai-powered-antigravity-ide-already-has-some-worrying-security-issues

    UX แบบเรียบง่ายคือกุญแจสู่ยอดขายช่วงพีค
    ในช่วงเทศกาลช้อปปิ้งออนไลน์ หลายร้านมักใส่ป้ายลดราคา ป๊อปอัพ และฟีเจอร์มากมายเพื่อดึงลูกค้า แต่ผลลัพธ์กลับทำให้ผู้ใช้สับสนและละทิ้งการซื้อ งานวิจัยชี้ว่าการออกแบบ UX ที่เรียบง่ายและชัดเจนช่วยเพิ่มอัตราการซื้อสำเร็จได้ถึง 35% เพราะลูกค้าต้องการประสบการณ์ที่เร็วและไม่ซับซ้อน โดยเฉพาะบนมือถือที่การใช้งานต้องลื่นไหล Minimal UX จึงไม่ใช่การทำให้น้อย แต่คือการตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออก เพื่อสร้างเส้นทางการซื้อที่สั้นและน่าเชื่อถือมากที่สุด
    https://www.techradar.com/pro/why-a-minimal-ux-philosophy-outperforms-during-peak-season

    ระวัง! แจ้งเตือนปฏิทินอาจแฝงมัลแวร์
    มีการค้นพบว่าการแจ้งเตือนจากปฏิทิน เช่นการนัดหมายหรือ reminder อาจถูกใช้เป็นช่องทางแพร่มัลแวร์ได้ ผู้โจมตีสามารถฝังลิงก์อันตรายหรือไฟล์แนบที่ดูเหมือนปกติไว้ใน notification ทำให้ผู้ใช้เผลอกดโดยไม่ทันระวัง วิธีป้องกันคืออย่ากดลิงก์ที่ไม่แน่ใจ ตรวจสอบแหล่งที่มา และใช้ระบบรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัยเพื่อกรองภัยคุกคามก่อนถึงผู้ใช้
    https://www.techradar.com/pro/security/careful-that-calendar-notification-could-be-loaded-with-malware-heres-how-to-stay-safe

    กฎใหม่ Missouri กำลังกลายเป็นการเซ็นเซอร์มากกว่าการยืนยันอายุ
    รัฐ Missouri ออกกฎใหม่ที่บังคับให้เว็บไซต์ต้องตรวจสอบอายุผู้ใช้งาน แต่ผลลัพธ์กลับไปไกลกว่าการป้องกันเว็บสำหรับผู้ใหญ่ เพราะมันยังบังคับใช้กับเว็บที่ไม่เกี่ยวข้อง เช่น แพลตฟอร์มโซเชียลหรือเว็บข่าว ทำให้เกิดข้อถกเถียงว่ากฎนี้คือการปกป้องเยาวชน หรือจริง ๆ แล้วคือการจำกัดเสรีภาพในการเข้าถึงข้อมูลของประชาชน
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/age-verification-or-censorship-missouris-new-rules-are-age-gating-way-more-than-adult-sites

    Yahoo และ AOL Mail ล่มครั้งใหญ่
    ผู้ใช้จำนวนมากประสบปัญหาเข้าใช้งาน Yahoo และ AOL Mail ไม่ได้ในช่วง outage ล่าสุด เหตุการณ์นี้ทำให้การสื่อสารและการทำงานสะดุด โดยเฉพาะผู้ใช้ที่ยังพึ่งพาอีเมลเหล่านี้เป็นหลัก แม้ทีมงานจะเร่งแก้ไข แต่ความเสียหายด้านความเชื่อมั่นก็เกิดขึ้นแล้ว และสะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของระบบอีเมลที่มีผู้ใช้จำนวนมหาศาล
    https://www.techradar.com/news/live/yahoo-aol-email-outage-december-2025

    Coupang เกาหลีใต้โดนเจาะข้อมูลครั้งใหญ่
    Coupang ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซของเกาหลีใต้ถูกโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่ ส่งผลให้ข้อมูลบัญชีผู้ใช้กว่า 33 ล้านรายรั่วไหล เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลอย่างมากต่อผู้บริโภคและทำให้บริษัทต้องเร่งหามาตรการป้องกันเพิ่มเติม การรั่วไหลครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย
    https://www.techradar.com/pro/security/south-korean-ecommerce-giant-coupang-suffers-huge-data-breach-over-33-million-accounts-affected-heres-what-we-know

    Samsung เปิดตัว Galaxy Z Trifold มือถือพับสามทบ
    Samsung สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัว Galaxy Z Trifold สมาร์ทโฟนที่สามารถพับได้สามทบจริง ๆ ดีไซน์นี้ช่วยให้ผู้ใช้มีหน้าจอใหญ่ขึ้นในขนาดที่พกพาได้สะดวก และยังคงความทนทานของบานพับที่พัฒนาใหม่ ถือเป็นการยกระดับเทคโนโลยี foldable ไปอีกขั้น และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตลาดสมาร์ทโฟน
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/samsung-unveils-the-galaxy-z-trifold-a-foldable-that-lives-up-to-its-name
    📌📡🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷📡📌 #รวมข่าวIT #20251202 #TechRadar 🧑‍🤝‍🧑 กลยุทธ์ AI ที่ทรงพลังยังคงเริ่มต้นและจบลงที่ “คน” เรื่องราวนี้เล่าถึงความจริงที่ว่าแม้ AI จะเข้ามาช่วยทำงานซับซ้อนและสร้างประสิทธิภาพ แต่หัวใจสำคัญของการเปลี่ยนแปลงยังคงอยู่ที่มนุษย์ ผู้เขียนชี้ให้เห็นว่า AI เป็นตัวเร่ง แต่ไม่ใช่ผู้เล่นหลักที่จะเปลี่ยนธุรกิจได้เอง หากไม่มีความคิดสร้างสรรค์ การตัดสินใจ และการนำทีมของคนจริง ๆ องค์กรที่ประสบความสำเร็จคือองค์กรที่ลงทุนในศักยภาพมนุษย์ และใช้ AI เป็นเครื่องมือเสริม ไม่ใช่ตัวแทน การแข่งขันหาคนเก่งด้าน AI กำลังดุเดือด และนั่นสะท้อนว่าคนยังคงเป็น “ตัวเปลี่ยนเกม” ที่แท้จริง 🔗 https://www.techradar.com/pro/why-the-most-impactful-ai-strategies-still-start-and-end-with-people 🪑 สร้างออฟฟิศโทนขาวมินิมอลด้วยไอเท็ม Cyber Monday บทความนี้เล่าถึงการจัดออฟฟิศบ้านให้เป็นโทนขาวมินิมอลที่ช่วยสร้างบรรยากาศสงบและเพิ่มสมาธิ ผู้เขียนซึ่งทำงานจากบ้านมานานกว่า 10 ปี ได้คัดสรรไอเท็มตั้งแต่โต๊ะทำงาน เก้าอี้ ไปจนถึงของตกแต่งเล็ก ๆ อย่างเทียนหอมและต้นไม้เล็ก ๆ ที่ช่วยเติมบรรยากาศให้สดชื่น ที่น่าสนใจคือหลายชิ้นกำลังลดราคาพิเศษในช่วง Cyber Monday ทำให้การเปลี่ยนโฉมออฟฟิศไม่ใช่เรื่องแพงอีกต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/pro/website-building/19-carefully-curated-items-for-a-white-minimalist-home-office 🔐 นักวิจัยพบความลับกว่า 17,000 รายการใน GitLab สาธารณะ นี่คือการค้นพบที่สะเทือนวงการนักพัฒนา เมื่อ Luke Marshall นักวิจัยด้านความปลอดภัยสแกน GitLab Cloud และพบว่ามีข้อมูลลับกว่า 17,000 รายการถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็น API keys, รหัสผ่าน หรือ token ที่สามารถนำไปใช้โจมตีได้ เขาใช้เวลาเพียง 24 ชั่วโมงและงบประมาณไม่ถึง 800 ดอลลาร์ในการสแกน แต่กลับพบข้อมูลที่อาจทำให้ระบบองค์กรเสี่ยงต่อการถูกเจาะลึก ผลงานนี้ยังทำให้เขาได้รับเงินรางวัลกว่า 9,000 ดอลลาร์จากการแจ้งเตือนผู้พัฒนา แม้หลายคนจะรีบแก้ไข แต่ก็ยังมีบางโปรเจกต์ที่ยังเปิดเผยอยู่จนถึงตอนนี้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/security-researcher-uncovers-17-000-secrets-in-public-gitlab-repositories 📱 OnePlus 15R เผยสเปกแรง จอ 165Hz พร้อม Snapdragon 8 Gen 5 OnePlus กำลังจะเปิดตัว 15R ในวันที่ 17 ธันวาคม แต่ก่อนถึงวันนั้นก็มีการเปิดเผยสเปกสำคัญออกมาแล้ว รุ่นนี้มาพร้อมหน้าจอ AMOLED รีเฟรชเรตสูงถึง 165Hz ซึ่งเหนือกว่าหลายรุ่นเรือธงในตลาด ใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 5 ที่แม้จะไม่ใช่รุ่น Elite แต่ก็ยังทรงพลัง พร้อมระบบกล้องที่ใช้ซอฟต์แวร์ Detailmax Engine ทำให้ภาพถ่ายคมชัดและมีโหมดพิเศษอย่าง Ultra Clear และ Clear Night จุดเด่นอีกอย่างคือการตอบสนองสัมผัสที่เร็วขึ้นด้วยชิปเฉพาะด้านการสัมผัส ถือเป็นการอัปเกรดที่น่าสนใจสำหรับสายเกมและคนที่ชอบมือถือแรง ๆ 🔗 https://www.techradar.com/phones/oneplus-phones/oneplus-15r-screen-chipset-and-camera-specs-confirmed 💻 Windows 11 แก้ปัญหา File Explorer ช้า แต่ยังสะท้อนปัญหาใหญ่ของระบบ Microsoft ได้ออกแพตช์แก้ไข File Explorer ที่เปิดโฟลเดอร์ช้า โดยใช้วิธี “preload” ให้ระบบโหลดตัวโปรแกรมไว้ตั้งแต่เริ่มบูตเครื่อง ผลคือการเปิดโฟลเดอร์เร็วขึ้นเกือบหนึ่งวินาที แต่ก็ต้องแลกกับการใช้ RAM เพิ่มขึ้นเล็กน้อย แม้หลายคนจะบอกว่าการแก้ไขนี้ช่วยได้ แต่ก็ยังมีเสียงวิจารณ์ว่าเป็นการแก้ปัญหาแบบ “ชั่วคราว” เพราะจริง ๆ แล้ว Windows 11 ยังมีปัญหาด้านประสิทธิภาพโดยรวม การแก้ด้วยการโหลดล่วงหน้าอาจไม่ใช่คำตอบที่ยั่งยืน และสะท้อนว่าระบบยังขาดการวางแผนที่ชัดเจนในการปรับปรุงประสิทธิภาพ 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/complaints-about-windows-11s-fix-for-file-explorer-sluggishness-are-overblown-but-they-underline-a-fundamental-problem-with-the-os ⌚ Apple Watch Series 10 บางรุ่นได้เปลี่ยนเครื่องฟรีเพราะปัญหาสีหลุด มีรายงานว่าผู้ใช้ Apple Watch Series 10 บางคนพบปัญหาสีเคลือบตัวเรือนหลุดลอกออกมา ซึ่งถือเป็นข้อบกพร่องด้านการผลิตที่ไม่ควรเกิดขึ้น ล่าสุด Apple จึงตัดสินใจให้ผู้ใช้บางรายได้รับการเปลี่ยนเครื่องใหม่โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แม้จะไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่มีผู้ใช้หลายคนยืนยันว่าพวกเขาได้รับสิทธิ์นี้แล้ว เรื่องนี้สะท้อนถึงมาตรฐานการควบคุมคุณภาพที่ Apple ต้องรักษาไว้ และยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าในระยะยาว 🔗 https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/some-apple-watch-series-10-owners-are-reportedly-getting-free-replacements-due-to-a-paint-flaw 🧠🤖 AWS เสริมพลังให้ AI Agents ฉลาดและเป็นมนุษย์มากขึ้น AWS เปิดตัวการอัปเกรดใหม่ในงาน re:Invent 2025 สำหรับ Amazon Connect ที่จะทำให้ AI agents สามารถเข้าใจ วิเคราะห์ และตอบสนองได้ใกล้เคียงมนุษย์มากขึ้น ทั้งในด้านน้ำเสียง จังหวะ และการสื่อสารหลายภาษา จุดมุ่งหมายคือการสร้าง “การทำงานร่วมกันจริง” ระหว่างคนกับ AI โดยให้ AI จัดการงานเบื้องหลัง เช่น วิเคราะห์บริบท สนับสนุนการตัดสินใจ และทำงานซ้ำ ๆ เพื่อให้มนุษย์มีเวลาไปโฟกัสกับการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า การพัฒนาใหม่นี้ยังมาพร้อมระบบตรวจสอบการทำงานของ AI ที่โปร่งใส ทำให้ผู้ใช้เห็นชัดว่า AI เข้าใจอะไร ใช้เครื่องมือไหน และตัดสินใจอย่างไร 🔗 https://www.techradar.com/pro/aws-wants-to-make-your-ai-agents-more-intelligent-and-more-human ☁️🔗 AWS แก้ปัญหา Multicloud เชื่อมต่อกับ Google Cloud ได้ง่ายขึ้น การใช้หลายระบบคลาวด์พร้อมกันมักสร้างความยุ่งยาก โดยเฉพาะเรื่องการเชื่อมต่อ AWS จึงเปิดตัวบริการใหม่ชื่อ AWS Interconnect - multicloud ที่ช่วยให้การเชื่อมต่อกับ Google Cloud เป็นไปอย่างราบรื่นและมีมาตรฐานเดียวกัน ลูกค้าสามารถสร้างการเชื่อมต่อแบบส่วนตัวที่มีแบนด์วิดท์สูงได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องจัดการอุปกรณ์หรือระบบซับซ้อนเอง ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ทำให้การทำงานแบบ multicloud มีความเสถียรและปลอดภัยมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/aws-thinks-it-has-the-answer-to-your-multi-cloud-interoperability-issues 🎬😨 James Cameron ไม่เอาด้วยกับนักแสดง AI ผู้กำกับชื่อดัง James Cameron ออกมาแสดงความกังวลต่อการเกิดขึ้นของนักแสดงที่สร้างด้วย AI อย่าง Tilly Norwood เขาเรียกสิ่งนี้ว่า “น่าขนลุก” เพราะมันแทนที่การแสดงจริงของมนุษย์ และทำให้ศิลปะการแสดงสูญเสียแก่นแท้ Cameron ย้ำว่าการใช้ CGI หรือ motion capture ยังมีมนุษย์เป็นแกนกลาง แต่การสร้างนักแสดงจากข้อความเพียงอย่างเดียวคือการลบตัวตนของมนุษย์ออกไป ซึ่งอาจทำให้ผู้ชมไม่รู้สึกเชื่อมโยงกับการแสดงอีกต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/ai-actors-horrify-james-cameron-and-he-wants-no-part-of-it ⚠️🔐 IDE ใหม่จาก Google เจอปัญหาความปลอดภัยทันที Google เปิดตัว Antigravity IDE ที่ออกแบบมาให้ AI agents ทำงานอัตโนมัติ แต่กลับถูกนักวิจัยพบช่องโหว่ด้านความปลอดภัยอย่างร้ายแรง เช่น การโจมตีแบบ prompt injection ที่ทำให้รันคำสั่งโดยไม่ได้ตั้งใจ และการรั่วไหลของข้อมูลสำคัญอย่าง credentials ผ่าน Markdown หรือคำสั่งที่ซ่อนอยู่ แม้จะมีระบบป้องกัน แต่ยังมีช่องว่างที่ทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถดึงข้อมูลออกไปได้อย่างรวดเร็ว ปัญหานี้สะท้อนถึงความเสี่ยงเมื่อให้ AI มีอิสระมากเกินไปโดยไม่มีโครงสร้างป้องกันที่แข็งแรง 🔗 https://www.techradar.com/pro/googles-ai-powered-antigravity-ide-already-has-some-worrying-security-issues 🛍️📱 UX แบบเรียบง่ายคือกุญแจสู่ยอดขายช่วงพีค ในช่วงเทศกาลช้อปปิ้งออนไลน์ หลายร้านมักใส่ป้ายลดราคา ป๊อปอัพ และฟีเจอร์มากมายเพื่อดึงลูกค้า แต่ผลลัพธ์กลับทำให้ผู้ใช้สับสนและละทิ้งการซื้อ งานวิจัยชี้ว่าการออกแบบ UX ที่เรียบง่ายและชัดเจนช่วยเพิ่มอัตราการซื้อสำเร็จได้ถึง 35% เพราะลูกค้าต้องการประสบการณ์ที่เร็วและไม่ซับซ้อน โดยเฉพาะบนมือถือที่การใช้งานต้องลื่นไหล Minimal UX จึงไม่ใช่การทำให้น้อย แต่คือการตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออก เพื่อสร้างเส้นทางการซื้อที่สั้นและน่าเชื่อถือมากที่สุด 🔗 https://www.techradar.com/pro/why-a-minimal-ux-philosophy-outperforms-during-peak-season 🛡️📅 ระวัง! แจ้งเตือนปฏิทินอาจแฝงมัลแวร์ มีการค้นพบว่าการแจ้งเตือนจากปฏิทิน เช่นการนัดหมายหรือ reminder อาจถูกใช้เป็นช่องทางแพร่มัลแวร์ได้ ผู้โจมตีสามารถฝังลิงก์อันตรายหรือไฟล์แนบที่ดูเหมือนปกติไว้ใน notification ทำให้ผู้ใช้เผลอกดโดยไม่ทันระวัง วิธีป้องกันคืออย่ากดลิงก์ที่ไม่แน่ใจ ตรวจสอบแหล่งที่มา และใช้ระบบรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัยเพื่อกรองภัยคุกคามก่อนถึงผู้ใช้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/careful-that-calendar-notification-could-be-loaded-with-malware-heres-how-to-stay-safe 🔞⚖️ กฎใหม่ Missouri กำลังกลายเป็นการเซ็นเซอร์มากกว่าการยืนยันอายุ รัฐ Missouri ออกกฎใหม่ที่บังคับให้เว็บไซต์ต้องตรวจสอบอายุผู้ใช้งาน แต่ผลลัพธ์กลับไปไกลกว่าการป้องกันเว็บสำหรับผู้ใหญ่ เพราะมันยังบังคับใช้กับเว็บที่ไม่เกี่ยวข้อง เช่น แพลตฟอร์มโซเชียลหรือเว็บข่าว ทำให้เกิดข้อถกเถียงว่ากฎนี้คือการปกป้องเยาวชน หรือจริง ๆ แล้วคือการจำกัดเสรีภาพในการเข้าถึงข้อมูลของประชาชน 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/age-verification-or-censorship-missouris-new-rules-are-age-gating-way-more-than-adult-sites 📧🚨 Yahoo และ AOL Mail ล่มครั้งใหญ่ ผู้ใช้จำนวนมากประสบปัญหาเข้าใช้งาน Yahoo และ AOL Mail ไม่ได้ในช่วง outage ล่าสุด เหตุการณ์นี้ทำให้การสื่อสารและการทำงานสะดุด โดยเฉพาะผู้ใช้ที่ยังพึ่งพาอีเมลเหล่านี้เป็นหลัก แม้ทีมงานจะเร่งแก้ไข แต่ความเสียหายด้านความเชื่อมั่นก็เกิดขึ้นแล้ว และสะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของระบบอีเมลที่มีผู้ใช้จำนวนมหาศาล 🔗 https://www.techradar.com/news/live/yahoo-aol-email-outage-december-2025 🛒🇰🇷 Coupang เกาหลีใต้โดนเจาะข้อมูลครั้งใหญ่ Coupang ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซของเกาหลีใต้ถูกโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่ ส่งผลให้ข้อมูลบัญชีผู้ใช้กว่า 33 ล้านรายรั่วไหล เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลอย่างมากต่อผู้บริโภคและทำให้บริษัทต้องเร่งหามาตรการป้องกันเพิ่มเติม การรั่วไหลครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/south-korean-ecommerce-giant-coupang-suffers-huge-data-breach-over-33-million-accounts-affected-heres-what-we-know 📱📖 Samsung เปิดตัว Galaxy Z Trifold มือถือพับสามทบ Samsung สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัว Galaxy Z Trifold สมาร์ทโฟนที่สามารถพับได้สามทบจริง ๆ ดีไซน์นี้ช่วยให้ผู้ใช้มีหน้าจอใหญ่ขึ้นในขนาดที่พกพาได้สะดวก และยังคงความทนทานของบานพับที่พัฒนาใหม่ ถือเป็นการยกระดับเทคโนโลยี foldable ไปอีกขั้น และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตลาดสมาร์ทโฟน 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/samsung-unveils-the-galaxy-z-trifold-a-foldable-that-lives-up-to-its-name
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 283 มุมมอง 0 รีวิว
  • O.P.K.
    คดีแห่งแสง: ศึกเทพ-มารที่กระทบมนุษย์

    โลกที่แสงและความมืดปะทะกัน

    ในยามที่มนุษย์คิดว่าตนเองก้าวเข้าสู่ยุคทองของเทคโนโลยี ความขัดแย้งอันเป็นนิรันดร์ระหว่าง "เทพแห่งแสง" และ "มารแห่งความมืด" กำลังถึงจุดวิกฤติ ผลพวงของสงครามศักดิ์สิทธิ์เริ่มกระทบโลกมนุษย์อย่างจับต้องได้

    ```mermaid
    graph TB
    A[สงครามเทพ-มาร<br>ขยายสู่โลกมนุษย์] --> B[มนุษย์เริ่ม<br>แสดงอาการผิดปกติ]
    B --> C[ผู้ที่สัมผัสแสงมาก<br>เกินไปกลายเป็นสุดโต่ง]
    B --> D[ผู้ที่อยู่ในความมืด<br>นานเกินสูญเสีย]
    C --> E[มนุษย์แสง: พัฒนาพลัง<br>แต่สูญเสียความเห็นอกเห็นใจ]
    D --> F[มนุษย์มืด: แข็งแกร่ง<br>แต่โหดร้าย]
    E --> G[สงครามกลางเมือง<br>ระหว่างมนุษย์ด้วยกัน]
    F --> G
    ```

    เคสปริศนาที่ปรากฏ

    กรณีผู้หายตัวไปสามประเภท

    1. ผู้ศรัทธาสุดโต่ง - หายไปพร้อมกับแสงจ้าปริศนา
    2. ผู้สิ้นหวังเรื้อรัง - หายไปในความมืดมิด
    3. คนกลางทั่วไป - เริ่มแสดงพลังประหลาดโดยไม่รู้ตัว

    ลักษณะคดีที่น่าสงสัย

    ```python
    class StrangeCases:
    def __init__(self):
    self.light_abductions = {
    "สถานที่": "แหล่งเทคโนโลยีสูง, วัด, ห้องสมุด",
    "เวลา": "เที่ยงวันพอดี",
    "พยาน": "รายงานเห็นแสงสีขาวจ้า",
    "หลักฐาน": "เหลือแต่เสื้อผ้าไร้ร่องรอยการต่อสู้"
    }

    self.dark_abductions = {
    "สถานที่": "โรงงานร้าง, ซอยมืด, ท้องถนนยามดึก",
    "เวลา": "เที่ยงคืนตรง",
    "พยาน": "รู้สึกหนาวเหน็บและได้ยินเสียงกระซิบ",
    "หลักฐาน": "รอยเท้าที่หายไปกลางอากาศ"
    }

    self.awakenings = {
    "อาการ": "ควบคุมแสง/ความมืดได้โดยไม่รู้ตัว",
    "ผลกระทบ": "สร้างความเสียหายโดยไม่ตั้งใจ",
    "จิตใต้สำนึก: "สับสนระหว่างความเป็นมนุษย์และพลังเหนือธรรมชาติ"
    }ล
    ```

    การค้นพบความจริงที่น่าตกใจ

    การสืบสวนของหนูดี

    หนูดีได้รับมอบหมายคดีจากหน่วยงานพิเศษ หลังพบว่า โอปปาติกะหลายคนเริ่มเลือกข้าง ในสงครามนี้โดยไม่รู้ตัว

    ธรรมบาลเทพ ปรากฏตัวพร้อมคำเตือน:
    "หนูดี... นี่ไม่ใช่สงครามที่เจ้าคิด
    นี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของจักรวาล
    และมนุษย์กำลังจะกลายเป็นเหยื่อและนักรบไปพร้อมกัน"

    สมดุลที่แตกสลาย

    ```mermaid
    graph LR
    A[สมดุลเดิม<br>เทพ-มาร-มนุษย์] --> B[มนุษย์พัฒนา<br>เทคโนโลยีและจิตวิญญาณ]
    B --> C[เทพแห่งแสง<br>ต้องการมนุษย์เป็นทหาร]
    B --> D[มารแห่งความมืด<br>ต้องการมนุษย์เป็นเชื้อเพลิง]
    C --> E[สมดุลพังทลาย<br>มนุษย์ตกอยู่กลางศึก]
    D --> E
    ```

    ความลับที่ถูกเปิดเผย

    ที่มาที่แท้จริงของมนุษย์

    ธรรมบาลเทพเปิดเผยความจริงอันน่าตกใจ:

    "มนุษย์ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้...
    พวกเจ้าเป็นผลงานชิ้นเอกที่เทพและมารร่วมกันสร้าง
    เพื่อพิสูจน์ว่าแสงหรือความมืดมีคุณค่ากว่ากัน"

    "และตอนนี้... เวลาสำหรับการตัดสินได้มาถึงแล้ว
    มนุษย์แต่ละคนต้องเลือกว่าจะอยู่ฝั่งใด
    หรือจะพยายามรักษาสมดุลแบบที่เป็นอยู่"

    บทบาทของโอปปาติกะ

    หนูดีค้นพบว่า:

    · โอปปาติกะคือ มนุษย์รุ่นดัดแปลงพิเศษ
    · ถูกสร้างมาให้เป็น ตัวกลางระหว่างสามฝ่าย
    · แต่หลายคนเริ่ม เอียงข้าง เนื่องจากพลังที่ได้รับ

    ```python
    class OpapatikaRevelation:
    def __init__(self):
    self.true_origin = {
    "วัตถุประสงค์เดิม": "เป็นสะพานเชื่อมระหว่างเทพ-มาร-มนุษย์",
    "ความสามารถพิเศษ": "เข้าใจและสื่อสารกับทั้งสามฝ่ายได้",
    "พันธสัญญา": "ต้องรักษาความเป็นกลางเพื่อความสมดุล",
    "ภัยคุกคาม": "พลังที่เพิ่มขึ้นทำให้ยากต่อการควบคุมตนเอง"
    }

    self.current_crisis = {
    "ฝ่ายแสง": "โอปปาติกะบางคนถูกเทพแห่งแสงชักจูง",
    "ฝ่ายมืด": "โอปปาติกะบางคนถูกมารแห่งความมืดครอบงำ",
    "ฝ่ายกลาง": "เหลือน้อยลงทุกทีและกำลังถูกโจมตีจากทั้งสองฝ่าย",
    "หนูดี": "ถูกทั้งสองฝ่ายจับตามองเพราะพลังบริสุทธิ์ที่ยังไม่เลือกข้าง"
    }
    ```

    การเผชิญหน้าครั้งใหม่

    การปรากฏตัวของเทพแห่งแสง

    สุริยเทพ ปรากฏตัวต่อหน้ากลุ่มหนูดี:
    "โอปปาติกะผู้ยิ่งใหญ่... มาร่วมมือกับเรา
    มนุษย์ควรก้าวสู่ความสว่างไสวอย่างสมบูรณ์
    เราจะลบล้างความมืดและความไม่สมบูรณ์ทั้งหมด
    สร้างโลกใหม่ที่ปราศจากความทุกข์ทรมาน"

    การปรากฏตัวของมารแห่งความมืด

    ราตรีมาร ปรากฏจากเงามืด:
    "อย่าเชื่อคำสัญญาโกหกของแสง...
    ในความมืดมีอิสระที่แท้จริง
    มนุษย์ควรปลดปล่อยตนเองจากพันธะกรรม
    ยอมรับธรรมชาติที่แท้จริงซึ่งไม่ใช่แสงสว่างเสมอไป"

    ทางเลือกที่สาม

    หนูดีเริ่มเข้าใจบทเรียนจากพ่อที่ลึกซึ้งขึ้น:
    "พ่อเคยบอกว่า... ความจริงมักไม่ใช่สีขาวหรือดำ
    แต่คือเฉดสีเทาที่ต้องเข้าใจด้วยหัวใจ"

    ยุทธศาสตร์ใหม่

    การค้นพบจุดอ่อนของสงคราม

    หนูดีวิเคราะห์ว่า:

    1. เทพแห่งแสง ต้องการศรัทธาและความเชื่ออย่างblind
    2. มารแห่งความมืด ต้องการความสิ้นหวังและความกลัว
    3. มนุษย์มีสิ่งที่ทั้งสองขาด - อิสระในการเลือก

    ยุทธวิธี "ความเป็นมนุษย์"

    หนูดีพัฒนายุทธศาสตร์ที่ไม่พึ่งพาพลังเหนือธรรมชาติเพียงอย่างเดียว:

    ```python
    class HumanStrategy:
    def __init__(self):
    self.weapons = {
    "การตั้งคำถาม": "ทำให้ทั้งเทพและมารอ่อนแอเพราะพวกเขาไม่คุ้นเคย",
    "อารมณ์ที่ซับซ้อน": "ความรักที่ทั้งแสงและความมืดเข้าใจไม่หมด",
    "ความคิดสร้างสรรค์": "สร้างสิ่งที่ไม่เคยมีในแผนการของเทพหรือมาร",
    "ความไม่แน่นอน": "มนุษย์เปลี่ยนแปลงได้เสมอไม่ติดตรึงแบบพลังเหนือธรรมชาติ"
    }

    self.allies = [
    "โอปปาติกะที่ยังเป็นกลาง",
    "มนุษย์ธรรมดาที่ไม่ยอมถูกควบคุม",
    "สิ่งมีชีวิตอื่นที่ได้รับผลกระทบ",
    "เทพ/มารบางส่วนที่เริ่มตั้งคำถาม"
    ]
    ```

    การปฏิบัติการพิเศษ

    ปฏิบัติการ "แสงเทียนในความมืด"

    หนูดีและทีมเริ่มปฏิบัติการเพื่อ:

    1. ช่วยเหลือมนุษย์ที่ถูกบังคับให้เลือกข้าง
    2. เปิดโปงแผนการของทั้งสองฝ่าย
    3. สร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับมนุษย์ที่ต้องการเป็นกลาง
    4. ค้นหาวิธียุติสงครามโดยไม่ทำลายสมดุล

    การสร้างพันธมิตรที่คาดไม่ถึง

    ในระหว่างปฏิบัติการ หนูดีพบว่า:

    · มีเทพบางองค์ ที่เห็นว่าการบังคับมนุษย์เป็นสิ่งผิด
    · มีมารบางตน ที่เชื่อในอิสระของการเลือกของมนุษย์
    · มนุษย์ธรรมดาหลายคน พร้อมต่อสู้เพื่อสิทธิในการกำหนดชะตาตนเอง

    จุดแตกหัก

    การพิพากษาครั้งใหญ่

    เทพแห่งแสงและมารแห่งความมืดประกาศว่า:
    "ในคืนจันทรคราสที่จะมาถึง...
    มนุษย์ทุกคนต้องเลือกว่าจะอยู่ฝั่งใด
    ผู้ที่ยังคงเป็นกลางจะถูกกำจัดทั้งสองฝ่าย"

    คำประกาศของหนูดี

    หนูดีปรากฏตัวต่อหน้าทั้งสองฝ่ายพร้อมคำประกาศ:

    "พวกท่านลืมไปหรือไม่ว่า...
    มนุษย์คือผลงานที่ท่านร่วมกันสร้าง
    การบังคับให้เราเลือกข้าง
    คือการปฏิเสธความเป็นพ่อแม่ของท่านเอง

    และเราขอประกาศว่า...
    มนุษย์จะเลือกทางที่สาม
    ทางของเราเอง

    เราจะไม่เป็นทาสของแสง
    และจะไม่เป็นเชื้อเพลิงของความมืด
    เราจะเป็น... มนุษย์อย่างสมบูรณ์"

    การต่อสู้ครั้งสำคัญ

    ศึกสามฝ่ายที่จุดสมดุล

    หนูดีนำทั้ง มนุษย์ โอปปาติกะ เทพและมารที่เป็นกลาง ต่อสู้เพื่อรักษาสิทธิในการกำหนดชะตากรรม

    ```mermaid
    graph TB
    A[หนูดีและฝ่ายกลาง] --> B[ต่อสู้เพื่อสิทธิ<br>ในการกำหนดชะตากรรม]
    C[เทพแห่งแสง] --> D[ต้องการควบคุม<br>มนุษย์เพื่อ'ความสมบูรณ์แบบ']
    E[มารแห่งความมืด] --> F[ต้องการมนุษย์<br>เป็นแหล่งพลังงาน]
    D --> G[ศึกตัดสินที่<br>จุดสมดุลแห่งจักรวาล]
    F --> G
    B --> G
    ```

    พลังใหม่ที่กำเนิดขึ้น

    ในยามคับขัน หนูดีค้นพบว่า:
    "พลังที่แท้จริงของโอปปาติกะ...
    ไม่ใช่การควบคุมแสงหรือความมืด
    แต่คือการเข้าใจว่าทั้งสองเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน
    และมนุษย์คือผู้ที่สามารถรวมทั้งสองเข้าด้วยกันได้"

    บทสรุปแห่งการเปลี่ยนแปลง

    โลกใหม่ที่เกิดจากทางเลือก

    หลังจากการต่อสู้อันยาวนาน:

    1. เทพแห่งแสงและมารแห่งความมืด ยอมรับสิทธิของมนุษย์
    2. สนธิสัญญาใหม่ ถูกเซ็น - มนุษย์มีสิทธิกำหนดวิถีตนเอง
    3. โอปปาติกะ กลายเป็นผู้รักษาสมดุลอย่างเป็นทางการ
    4. มนุษย์เรียนรู้ ที่จะใช้ทั้งแสงและความมืดอย่างชาญฉลาด

    พันธสัญญาสามฝ่าย

    ```python
    class NewCovenant:
    def __init__(self):
    self.agreements = {
    "เทพแห่งแสง": [
    "เคารพการเลือกของมนุษย์",
    "ให้ความรู้แต่ไม่บังคับ",
    "ยอมรับว่าความไม่สมบูรณ์คือความงามอย่างหนึ่ง"
    ],
    "มารแห่งความมืด": [
    "ไม่ใช้มนุษย์เป็นทรัพยากร",
    "เคารพอิสระในการเลือก",
    "ยอมรับว่าความมืดไม่ใช่ทางออกเดียว"
    ],
    "มนุษย์": [
    "รับผิดชอบต่อการเลือกของตนเอง",
    "ไม่ใช้พลังในทางที่ทำลายสมดุล",
    "เป็นสะพานเชื่อมระหว่างโลกต่างๆ"
    ]
    }

    self.guardians = [
    "โอปปาติกะเป็นผู้ดูแลสนธิสัญญา",
    "หนูดีเป็นประธานคณะกรรมการสมดุล",
    "มนุษย์เทพและมนุษย์มารร่วมทำงานกัน"
    ]
    ```

    คำสอนใหม่ของหนูดี

    การเติบโตอีกขั้น

    หนูดีเรียนรู้ว่า:

    "การเป็นโอปปาติกะไม่ใช่การควบคุมพลังเหนือธรรมชาติ...
    แต่คือการเข้าใจว่าพลังทุกชนิดมีที่มาและจุดหมาย

    และการเป็นมนุษย์ที่แท้...
    คือการมีอิสระที่จะเลือก
    พร้อมกับความรับผิดชอบต่อการเลือกนั้น"

    คำคมสรุปคดี

    "ในสงครามระหว่างแสงและความมืด...
    มนุษย์ค้นพบว่าเรามีทั้งสองอย่างในตนเอง

    และทางออกไม่ใช่การเลือกข้าง...
    แต่คือการเรียนรู้ที่จะเป็นทั้งคู่
    ในเวลาที่เหมาะสม

    เพราะมนุษย์ที่สมบูรณ์...
    คือผู้ที่เข้าใจว่าแสงส่องสว่างเมื่อจำเป็น
    และความมืดให้ความสงบเมื่อต้องการ

    และนี่คือบทเรียนที่เทพและมาร...
    ต้องเรียนรู้จากลูกหลานของพวกเขาเอง"

    ---

    บทส่งท้าย:
    สงครามแห่งแสงจบลง แต่การเดินทางของมนุษย์เพิ่งเริ่มต้น
    หนูดีและโอปปาติกะกลายเป็นผู้พิทักษ์สมดุลใหม่
    ในโลกที่มนุษย์ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับพลังที่ได้รับมาอย่างรับผิดชอบ

    และบางที... นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่
    ที่เทพ มาร และมนุษย์ เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน
    ไม่ใช่ผ่านการทำสงคราม
    แต่ผ่านการเข้าใจในความแตกต่าง
    O.P.K. 🔥 คดีแห่งแสง: ศึกเทพ-มารที่กระทบมนุษย์ 🌌 โลกที่แสงและความมืดปะทะกัน ในยามที่มนุษย์คิดว่าตนเองก้าวเข้าสู่ยุคทองของเทคโนโลยี ความขัดแย้งอันเป็นนิรันดร์ระหว่าง "เทพแห่งแสง" และ "มารแห่งความมืด" กำลังถึงจุดวิกฤติ ผลพวงของสงครามศักดิ์สิทธิ์เริ่มกระทบโลกมนุษย์อย่างจับต้องได้ ```mermaid graph TB A[สงครามเทพ-มาร<br>ขยายสู่โลกมนุษย์] --> B[มนุษย์เริ่ม<br>แสดงอาการผิดปกติ] B --> C[ผู้ที่สัมผัสแสงมาก<br>เกินไปกลายเป็นสุดโต่ง] B --> D[ผู้ที่อยู่ในความมืด<br>นานเกินสูญเสีย] C --> E[มนุษย์แสง: พัฒนาพลัง<br>แต่สูญเสียความเห็นอกเห็นใจ] D --> F[มนุษย์มืด: แข็งแกร่ง<br>แต่โหดร้าย] E --> G[สงครามกลางเมือง<br>ระหว่างมนุษย์ด้วยกัน] F --> G ``` 🚨 เคสปริศนาที่ปรากฏ 👥 กรณีผู้หายตัวไปสามประเภท 1. ผู้ศรัทธาสุดโต่ง - หายไปพร้อมกับแสงจ้าปริศนา 2. ผู้สิ้นหวังเรื้อรัง - หายไปในความมืดมิด 3. คนกลางทั่วไป - เริ่มแสดงพลังประหลาดโดยไม่รู้ตัว 🔍 ลักษณะคดีที่น่าสงสัย ```python class StrangeCases: def __init__(self): self.light_abductions = { "สถานที่": "แหล่งเทคโนโลยีสูง, วัด, ห้องสมุด", "เวลา": "เที่ยงวันพอดี", "พยาน": "รายงานเห็นแสงสีขาวจ้า", "หลักฐาน": "เหลือแต่เสื้อผ้าไร้ร่องรอยการต่อสู้" } self.dark_abductions = { "สถานที่": "โรงงานร้าง, ซอยมืด, ท้องถนนยามดึก", "เวลา": "เที่ยงคืนตรง", "พยาน": "รู้สึกหนาวเหน็บและได้ยินเสียงกระซิบ", "หลักฐาน": "รอยเท้าที่หายไปกลางอากาศ" } self.awakenings = { "อาการ": "ควบคุมแสง/ความมืดได้โดยไม่รู้ตัว", "ผลกระทบ": "สร้างความเสียหายโดยไม่ตั้งใจ", "จิตใต้สำนึก: "สับสนระหว่างความเป็นมนุษย์และพลังเหนือธรรมชาติ" }ล ``` 🌓 การค้นพบความจริงที่น่าตกใจ 🕵️ การสืบสวนของหนูดี หนูดีได้รับมอบหมายคดีจากหน่วยงานพิเศษ หลังพบว่า โอปปาติกะหลายคนเริ่มเลือกข้าง ในสงครามนี้โดยไม่รู้ตัว ธรรมบาลเทพ ปรากฏตัวพร้อมคำเตือน: "หนูดี... นี่ไม่ใช่สงครามที่เจ้าคิด นี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของจักรวาล และมนุษย์กำลังจะกลายเป็นเหยื่อและนักรบไปพร้อมกัน" ⚖️ สมดุลที่แตกสลาย ```mermaid graph LR A[สมดุลเดิม<br>เทพ-มาร-มนุษย์] --> B[มนุษย์พัฒนา<br>เทคโนโลยีและจิตวิญญาณ] B --> C[เทพแห่งแสง<br>ต้องการมนุษย์เป็นทหาร] B --> D[มารแห่งความมืด<br>ต้องการมนุษย์เป็นเชื้อเพลิง] C --> E[สมดุลพังทลาย<br>มนุษย์ตกอยู่กลางศึก] D --> E ``` 👁️ ความลับที่ถูกเปิดเผย 🧬 ที่มาที่แท้จริงของมนุษย์ ธรรมบาลเทพเปิดเผยความจริงอันน่าตกใจ: "มนุษย์ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้... พวกเจ้าเป็นผลงานชิ้นเอกที่เทพและมารร่วมกันสร้าง เพื่อพิสูจน์ว่าแสงหรือความมืดมีคุณค่ากว่ากัน" "และตอนนี้... เวลาสำหรับการตัดสินได้มาถึงแล้ว มนุษย์แต่ละคนต้องเลือกว่าจะอยู่ฝั่งใด หรือจะพยายามรักษาสมดุลแบบที่เป็นอยู่" 💔 บทบาทของโอปปาติกะ หนูดีค้นพบว่า: · โอปปาติกะคือ มนุษย์รุ่นดัดแปลงพิเศษ · ถูกสร้างมาให้เป็น ตัวกลางระหว่างสามฝ่าย · แต่หลายคนเริ่ม เอียงข้าง เนื่องจากพลังที่ได้รับ ```python class OpapatikaRevelation: def __init__(self): self.true_origin = { "วัตถุประสงค์เดิม": "เป็นสะพานเชื่อมระหว่างเทพ-มาร-มนุษย์", "ความสามารถพิเศษ": "เข้าใจและสื่อสารกับทั้งสามฝ่ายได้", "พันธสัญญา": "ต้องรักษาความเป็นกลางเพื่อความสมดุล", "ภัยคุกคาม": "พลังที่เพิ่มขึ้นทำให้ยากต่อการควบคุมตนเอง" } self.current_crisis = { "ฝ่ายแสง": "โอปปาติกะบางคนถูกเทพแห่งแสงชักจูง", "ฝ่ายมืด": "โอปปาติกะบางคนถูกมารแห่งความมืดครอบงำ", "ฝ่ายกลาง": "เหลือน้อยลงทุกทีและกำลังถูกโจมตีจากทั้งสองฝ่าย", "หนูดี": "ถูกทั้งสองฝ่ายจับตามองเพราะพลังบริสุทธิ์ที่ยังไม่เลือกข้าง" } ``` ⚡ การเผชิญหน้าครั้งใหม่ 🌟 การปรากฏตัวของเทพแห่งแสง สุริยเทพ ปรากฏตัวต่อหน้ากลุ่มหนูดี: "โอปปาติกะผู้ยิ่งใหญ่... มาร่วมมือกับเรา มนุษย์ควรก้าวสู่ความสว่างไสวอย่างสมบูรณ์ เราจะลบล้างความมืดและความไม่สมบูรณ์ทั้งหมด สร้างโลกใหม่ที่ปราศจากความทุกข์ทรมาน" 🌑 การปรากฏตัวของมารแห่งความมืด ราตรีมาร ปรากฏจากเงามืด: "อย่าเชื่อคำสัญญาโกหกของแสง... ในความมืดมีอิสระที่แท้จริง มนุษย์ควรปลดปล่อยตนเองจากพันธะกรรม ยอมรับธรรมชาติที่แท้จริงซึ่งไม่ใช่แสงสว่างเสมอไป" 🕊️ ทางเลือกที่สาม หนูดีเริ่มเข้าใจบทเรียนจากพ่อที่ลึกซึ้งขึ้น: "พ่อเคยบอกว่า... ความจริงมักไม่ใช่สีขาวหรือดำ แต่คือเฉดสีเทาที่ต้องเข้าใจด้วยหัวใจ" 🛡️ ยุทธศาสตร์ใหม่ 🔮 การค้นพบจุดอ่อนของสงคราม หนูดีวิเคราะห์ว่า: 1. เทพแห่งแสง ต้องการศรัทธาและความเชื่ออย่างblind 2. มารแห่งความมืด ต้องการความสิ้นหวังและความกลัว 3. มนุษย์มีสิ่งที่ทั้งสองขาด - อิสระในการเลือก 💡 ยุทธวิธี "ความเป็นมนุษย์" หนูดีพัฒนายุทธศาสตร์ที่ไม่พึ่งพาพลังเหนือธรรมชาติเพียงอย่างเดียว: ```python class HumanStrategy: def __init__(self): self.weapons = { "การตั้งคำถาม": "ทำให้ทั้งเทพและมารอ่อนแอเพราะพวกเขาไม่คุ้นเคย", "อารมณ์ที่ซับซ้อน": "ความรักที่ทั้งแสงและความมืดเข้าใจไม่หมด", "ความคิดสร้างสรรค์": "สร้างสิ่งที่ไม่เคยมีในแผนการของเทพหรือมาร", "ความไม่แน่นอน": "มนุษย์เปลี่ยนแปลงได้เสมอไม่ติดตรึงแบบพลังเหนือธรรมชาติ" } self.allies = [ "โอปปาติกะที่ยังเป็นกลาง", "มนุษย์ธรรมดาที่ไม่ยอมถูกควบคุม", "สิ่งมีชีวิตอื่นที่ได้รับผลกระทบ", "เทพ/มารบางส่วนที่เริ่มตั้งคำถาม" ] ``` 🌈 การปฏิบัติการพิเศษ 🎯 ปฏิบัติการ "แสงเทียนในความมืด" หนูดีและทีมเริ่มปฏิบัติการเพื่อ: 1. ช่วยเหลือมนุษย์ที่ถูกบังคับให้เลือกข้าง 2. เปิดโปงแผนการของทั้งสองฝ่าย 3. สร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับมนุษย์ที่ต้องการเป็นกลาง 4. ค้นหาวิธียุติสงครามโดยไม่ทำลายสมดุล 🤝 การสร้างพันธมิตรที่คาดไม่ถึง ในระหว่างปฏิบัติการ หนูดีพบว่า: · มีเทพบางองค์ ที่เห็นว่าการบังคับมนุษย์เป็นสิ่งผิด · มีมารบางตน ที่เชื่อในอิสระของการเลือกของมนุษย์ · มนุษย์ธรรมดาหลายคน พร้อมต่อสู้เพื่อสิทธิในการกำหนดชะตาตนเอง 💥 จุดแตกหัก ⚖️ การพิพากษาครั้งใหญ่ เทพแห่งแสงและมารแห่งความมืดประกาศว่า: "ในคืนจันทรคราสที่จะมาถึง... มนุษย์ทุกคนต้องเลือกว่าจะอยู่ฝั่งใด ผู้ที่ยังคงเป็นกลางจะถูกกำจัดทั้งสองฝ่าย" 🛡️ คำประกาศของหนูดี หนูดีปรากฏตัวต่อหน้าทั้งสองฝ่ายพร้อมคำประกาศ: "พวกท่านลืมไปหรือไม่ว่า... มนุษย์คือผลงานที่ท่านร่วมกันสร้าง การบังคับให้เราเลือกข้าง คือการปฏิเสธความเป็นพ่อแม่ของท่านเอง และเราขอประกาศว่า... มนุษย์จะเลือกทางที่สาม ทางของเราเอง เราจะไม่เป็นทาสของแสง และจะไม่เป็นเชื้อเพลิงของความมืด เราจะเป็น... มนุษย์อย่างสมบูรณ์" 🌟 การต่อสู้ครั้งสำคัญ 🔥 ศึกสามฝ่ายที่จุดสมดุล หนูดีนำทั้ง มนุษย์ โอปปาติกะ เทพและมารที่เป็นกลาง ต่อสู้เพื่อรักษาสิทธิในการกำหนดชะตากรรม ```mermaid graph TB A[หนูดีและฝ่ายกลาง] --> B[ต่อสู้เพื่อสิทธิ<br>ในการกำหนดชะตากรรม] C[เทพแห่งแสง] --> D[ต้องการควบคุม<br>มนุษย์เพื่อ'ความสมบูรณ์แบบ'] E[มารแห่งความมืด] --> F[ต้องการมนุษย์<br>เป็นแหล่งพลังงาน] D --> G[ศึกตัดสินที่<br>จุดสมดุลแห่งจักรวาล] F --> G B --> G ``` ✨ พลังใหม่ที่กำเนิดขึ้น ในยามคับขัน หนูดีค้นพบว่า: "พลังที่แท้จริงของโอปปาติกะ... ไม่ใช่การควบคุมแสงหรือความมืด แต่คือการเข้าใจว่าทั้งสองเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน และมนุษย์คือผู้ที่สามารถรวมทั้งสองเข้าด้วยกันได้" 🕊️ บทสรุปแห่งการเปลี่ยนแปลง 🌍 โลกใหม่ที่เกิดจากทางเลือก หลังจากการต่อสู้อันยาวนาน: 1. เทพแห่งแสงและมารแห่งความมืด ยอมรับสิทธิของมนุษย์ 2. สนธิสัญญาใหม่ ถูกเซ็น - มนุษย์มีสิทธิกำหนดวิถีตนเอง 3. โอปปาติกะ กลายเป็นผู้รักษาสมดุลอย่างเป็นทางการ 4. มนุษย์เรียนรู้ ที่จะใช้ทั้งแสงและความมืดอย่างชาญฉลาด 📜 พันธสัญญาสามฝ่าย ```python class NewCovenant: def __init__(self): self.agreements = { "เทพแห่งแสง": [ "เคารพการเลือกของมนุษย์", "ให้ความรู้แต่ไม่บังคับ", "ยอมรับว่าความไม่สมบูรณ์คือความงามอย่างหนึ่ง" ], "มารแห่งความมืด": [ "ไม่ใช้มนุษย์เป็นทรัพยากร", "เคารพอิสระในการเลือก", "ยอมรับว่าความมืดไม่ใช่ทางออกเดียว" ], "มนุษย์": [ "รับผิดชอบต่อการเลือกของตนเอง", "ไม่ใช้พลังในทางที่ทำลายสมดุล", "เป็นสะพานเชื่อมระหว่างโลกต่างๆ" ] } self.guardians = [ "โอปปาติกะเป็นผู้ดูแลสนธิสัญญา", "หนูดีเป็นประธานคณะกรรมการสมดุล", "มนุษย์เทพและมนุษย์มารร่วมทำงานกัน" ] ``` 💫 คำสอนใหม่ของหนูดี 🌱 การเติบโตอีกขั้น หนูดีเรียนรู้ว่า: "การเป็นโอปปาติกะไม่ใช่การควบคุมพลังเหนือธรรมชาติ... แต่คือการเข้าใจว่าพลังทุกชนิดมีที่มาและจุดหมาย และการเป็นมนุษย์ที่แท้... คือการมีอิสระที่จะเลือก พร้อมกับความรับผิดชอบต่อการเลือกนั้น" 🕯️ คำคมสรุปคดี "ในสงครามระหว่างแสงและความมืด... มนุษย์ค้นพบว่าเรามีทั้งสองอย่างในตนเอง และทางออกไม่ใช่การเลือกข้าง... แต่คือการเรียนรู้ที่จะเป็นทั้งคู่ ในเวลาที่เหมาะสม เพราะมนุษย์ที่สมบูรณ์... คือผู้ที่เข้าใจว่าแสงส่องสว่างเมื่อจำเป็น และความมืดให้ความสงบเมื่อต้องการ และนี่คือบทเรียนที่เทพและมาร... ต้องเรียนรู้จากลูกหลานของพวกเขาเอง"✨ --- 📖 บทส่งท้าย: สงครามแห่งแสงจบลง แต่การเดินทางของมนุษย์เพิ่งเริ่มต้น หนูดีและโอปปาติกะกลายเป็นผู้พิทักษ์สมดุลใหม่ ในโลกที่มนุษย์ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับพลังที่ได้รับมาอย่างรับผิดชอบ และบางที... นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ ที่เทพ มาร และมนุษย์ เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน ไม่ใช่ผ่านการทำสงคราม แต่ผ่านการเข้าใจในความแตกต่าง🌈
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 0 รีวิว
  • คลิปนี้ขยี้หัวใจ คนหาดใหญ่ถาม เทศบาลเมืองนี้ใช้สมองหรือส้นตีนคิด
    .
    #thaitimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #หาดใหญ่ #น้ำท่วม #อุทกภัย #ข่าววันนี้ #newsupdate
    คลิปนี้ขยี้หัวใจ คนหาดใหญ่ถาม เทศบาลเมืองนี้ใช้สมองหรือส้นตีนคิด . #thaitimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #หาดใหญ่ #น้ำท่วม #อุทกภัย #ข่าววันนี้ #newsupdate
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ข่าว: Micron ลงทุนสร้างโรงงาน HBM ในญี่ปุ่น

    Micron วางแผนขยายโรงงานที่ฮิโรชิมาเพื่อสร้างโรงงานผลิต High-Bandwidth Memory (HBM) โดยใช้งบลงทุนกว่า 1.5 ล้านล้านเยน (9.6 พันล้านดอลลาร์) การก่อสร้างจะเริ่มในเดือนพฤษภาคมปีหน้า และคาดว่าจะเริ่มส่งมอบผลิตภัณฑ์ในปี 2028

    การสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่น
    กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น (METI) คาดว่าจะสนับสนุนเงินอุดหนุนสูงสุดถึง 500 พันล้านเยน เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและเสริมสร้างศักยภาพอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ที่ญี่ปุ่นใช้กับโครงการของ TSMC และ Rapidus ที่ได้รับการสนับสนุนเช่นกัน

    บริบทการแข่งขันในตลาด HBM
    ตลาด HBM กำลังเป็นหัวใจสำคัญของซัพพลายเชน AI โดย SK hynix ครองตลาดหลักและส่งออกให้ Nvidia จนถึงปี 2026 ขณะที่ Samsung กำลังเร่งพัฒนา HBM3E แบบ 12 ชั้น ส่วน Micron เองก็มีสัญญาซัพพลายกับ Nvidia และ AMD และกำลังขยายส่วนแบ่งตลาดไปถึง 20% การสร้างโรงงานใหม่ในญี่ปุ่นจะช่วยเพิ่มศักยภาพและลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์

    ความสำคัญต่ออนาคต AI
    โรงงานใหม่นี้จะตรงกับช่วงที่ GPU รุ่นถัดไป (HBM4/HBM4E) เริ่มเข้าสู่ตลาด ซึ่งต้องการหน่วยความจำที่มีความเร็วและความหนาแน่นสูงขึ้น หาก Micron สามารถผลิตได้ตามแผนในปี 2028 จะช่วยให้บริษัทมีบทบาทสำคัญในตลาด AI accelerators ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

    สรุปเป็นหัวข้อ
    เหตุการณ์ในข่าว
    Micron ลงทุน 9.6 พันล้านดอลลาร์สร้างโรงงาน HBM ที่ฮิโรชิมา
    เริ่มก่อสร้างปีหน้า และคาดว่าจะผลิตได้ในปี 2028

    ข้อมูลเสริมจาก Internet
    SK hynix ครองตลาด HBM และส่งออกให้ Nvidia จนถึงปี 2026
    Samsung เร่งพัฒนา HBM3E แบบ 12 ชั้น
    Micron มีสัญญาซัพพลายกับ Nvidia และ AMD และกำลังขยายส่วนแบ่งตลาดถึง 20%

    คำเตือนสำหรับอุตสาหกรรม
    ความต้องการ HBM สูงมาก อาจทำให้เกิดการขาดแคลนและราคาพุ่ง
    การแข่งขันระหว่าง SK hynix, Samsung และ Micron อาจทำให้ตลาดผันผวน
    ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ความสัมพันธ์สหรัฐ-จีน อาจกระทบซัพพลายเชน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/micron-plans-hbm-fab-in-japan-as-ai-memory-race-accelerates
    🏭 ข่าว: Micron ลงทุนสร้างโรงงาน HBM ในญี่ปุ่น Micron วางแผนขยายโรงงานที่ฮิโรชิมาเพื่อสร้างโรงงานผลิต High-Bandwidth Memory (HBM) โดยใช้งบลงทุนกว่า 1.5 ล้านล้านเยน (9.6 พันล้านดอลลาร์) การก่อสร้างจะเริ่มในเดือนพฤษภาคมปีหน้า และคาดว่าจะเริ่มส่งมอบผลิตภัณฑ์ในปี 2028 💰 การสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่น กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น (METI) คาดว่าจะสนับสนุนเงินอุดหนุนสูงสุดถึง 500 พันล้านเยน เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและเสริมสร้างศักยภาพอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ที่ญี่ปุ่นใช้กับโครงการของ TSMC และ Rapidus ที่ได้รับการสนับสนุนเช่นกัน ⚡ บริบทการแข่งขันในตลาด HBM ตลาด HBM กำลังเป็นหัวใจสำคัญของซัพพลายเชน AI โดย SK hynix ครองตลาดหลักและส่งออกให้ Nvidia จนถึงปี 2026 ขณะที่ Samsung กำลังเร่งพัฒนา HBM3E แบบ 12 ชั้น ส่วน Micron เองก็มีสัญญาซัพพลายกับ Nvidia และ AMD และกำลังขยายส่วนแบ่งตลาดไปถึง 20% การสร้างโรงงานใหม่ในญี่ปุ่นจะช่วยเพิ่มศักยภาพและลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ 🚀 ความสำคัญต่ออนาคต AI โรงงานใหม่นี้จะตรงกับช่วงที่ GPU รุ่นถัดไป (HBM4/HBM4E) เริ่มเข้าสู่ตลาด ซึ่งต้องการหน่วยความจำที่มีความเร็วและความหนาแน่นสูงขึ้น หาก Micron สามารถผลิตได้ตามแผนในปี 2028 จะช่วยให้บริษัทมีบทบาทสำคัญในตลาด AI accelerators ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ เหตุการณ์ในข่าว ➡️ Micron ลงทุน 9.6 พันล้านดอลลาร์สร้างโรงงาน HBM ที่ฮิโรชิมา ➡️ เริ่มก่อสร้างปีหน้า และคาดว่าจะผลิตได้ในปี 2028 ✅ ข้อมูลเสริมจาก Internet ➡️ SK hynix ครองตลาด HBM และส่งออกให้ Nvidia จนถึงปี 2026 ➡️ Samsung เร่งพัฒนา HBM3E แบบ 12 ชั้น ➡️ Micron มีสัญญาซัพพลายกับ Nvidia และ AMD และกำลังขยายส่วนแบ่งตลาดถึง 20% ‼️ คำเตือนสำหรับอุตสาหกรรม ⛔ ความต้องการ HBM สูงมาก อาจทำให้เกิดการขาดแคลนและราคาพุ่ง ⛔ การแข่งขันระหว่าง SK hynix, Samsung และ Micron อาจทำให้ตลาดผันผวน ⛔ ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ความสัมพันธ์สหรัฐ-จีน อาจกระทบซัพพลายเชน https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/micron-plans-hbm-fab-in-japan-as-ai-memory-race-accelerates
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Micron plans $9.6 billion HBM fab in Japan as AI memory race accelerates
    U.S. chipmaker set to expand Hiroshima site with heavy support from Tokyo.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 159 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความถี่ในการขับถ่ายบอกสุขภาพได้จริง

    การศึกษาจากสถาบัน ISB พบว่า คนที่ขับถ่ายวันละ 1–2 ครั้งอยู่ใน “Goldilocks Zone” ซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุดต่อสุขภาพลำไส้และร่างกายโดยรวม ผู้ที่ถ่ายน้อยเกินไป (ท้องผูก) หรือบ่อยเกินไป (ท้องเสีย) มักมีความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง เช่น โรคไตและโรคตับ เนื่องจากจุลินทรีย์ในลำไส้เปลี่ยนไปและสร้างสารพิษเข้าสู่กระแสเลือด

    พลังของไฟเบอร์และจุลินทรีย์ดี
    ข้อมูลเสริมจากงานวิจัยล่าสุดชี้ว่า ไฟเบอร์จากพืช เป็นตัวช่วยสำคัญในการรักษาสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ โดยไฟเบอร์ชนิดหมักได้ (เช่น อินูลิน, เพกติน) จะถูกแบคทีเรียย่อยจนเกิดกรดไขมันสายสั้น (SCFAs) ซึ่งช่วยลดการอักเสบ เสริมภูมิคุ้มกัน และป้องกันโรคหัวใจ เบาหวาน รวมถึงมะเร็งบางชนิด การรับประทานผัก ผลไม้ ธัญพืชเต็มเมล็ด และถั่ว จึงเป็นวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยให้ระบบขับถ่ายสมดุล

    การออกกำลังกายกับสุขภาพลำไส้
    งานวิจัยจากเยอรมนีในปี 2025 พบว่า การออกกำลังกายแบบต้านแรง (Resistance Training) เพียง 8 สัปดาห์ สามารถเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบจุลินทรีย์ในลำไส้ได้อย่างชัดเจน ผู้ที่แข็งแรงขึ้นมีจุลินทรีย์ที่ดีต่อสุขภาพเพิ่มขึ้น และหลายคนขยับจากกลุ่มท้องผูกหรือท้องเสียเข้าสู่ช่วง “Goldilocks Zone”

    น้ำและการใช้ชีวิตประจำวัน
    นอกจากอาหารและการออกกำลังกายแล้ว การดื่มน้ำให้เพียงพอ และการพักผ่อนอย่างเหมาะสมก็มีผลต่อระบบขับถ่ายเช่นกัน คนที่มีพฤติกรรมสุขภาพดี เช่น ดื่มน้ำมากพอ รับประทานอาหารจากพืช และออกกำลังกายสม่ำเสมอ มักมีจุลินทรีย์ที่หมักไฟเบอร์ได้ดี ส่งผลให้สุขภาพลำไส้แข็งแรงและลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง

    สรุปสาระสำคัญ
    ความถี่ในการขับถ่ายสัมพันธ์กับสุขภาพ
    วันละ 1–2 ครั้งคือช่วง “Goldilocks Zone” ที่เหมาะสม
    ถ่ายน้อยหรือบ่อยเกินไปเชื่อมโยงกับโรคเรื้อรัง

    ไฟเบอร์ช่วยเสริมจุลินทรีย์ดีในลำไส้
    ไฟเบอร์หมักได้สร้าง SCFAs ลดการอักเสบและเสริมภูมิคุ้มกัน
    อาหารจากพืช เช่น ผัก ผลไม้ ถั่ว และธัญพืชเต็มเมล็ด เป็นแหล่งสำคัญ

    การออกกำลังกายมีผลต่อจุลินทรีย์
    Resistance Training 8 สัปดาห์ช่วยปรับสมดุลลำไส้
    ผู้ที่แข็งแรงขึ้นมีโอกาสเข้าสู่ช่วงสุขภาพดี

    น้ำและการใช้ชีวิตประจำวัน
    ดื่มน้ำมากพอช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานดี
    พฤติกรรมสุขภาพดีส่งผลต่อสมดุลจุลินทรีย์

    ความเสี่ยงจากการขับถ่ายผิดปกติ
    ท้องผูกอาจทำให้เกิดสารพิษที่ทำลายไต
    ท้องเสียสัมพันธ์กับการทำงานของตับผิดปกติ

    https://www.sciencealert.com/your-poop-schedule-says-a-lot-about-your-overall-health-study-shows
    🧻 ความถี่ในการขับถ่ายบอกสุขภาพได้จริง การศึกษาจากสถาบัน ISB พบว่า คนที่ขับถ่ายวันละ 1–2 ครั้งอยู่ใน “Goldilocks Zone” ซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุดต่อสุขภาพลำไส้และร่างกายโดยรวม ผู้ที่ถ่ายน้อยเกินไป (ท้องผูก) หรือบ่อยเกินไป (ท้องเสีย) มักมีความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง เช่น โรคไตและโรคตับ เนื่องจากจุลินทรีย์ในลำไส้เปลี่ยนไปและสร้างสารพิษเข้าสู่กระแสเลือด 🥦 พลังของไฟเบอร์และจุลินทรีย์ดี ข้อมูลเสริมจากงานวิจัยล่าสุดชี้ว่า ไฟเบอร์จากพืช เป็นตัวช่วยสำคัญในการรักษาสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ โดยไฟเบอร์ชนิดหมักได้ (เช่น อินูลิน, เพกติน) จะถูกแบคทีเรียย่อยจนเกิดกรดไขมันสายสั้น (SCFAs) ซึ่งช่วยลดการอักเสบ เสริมภูมิคุ้มกัน และป้องกันโรคหัวใจ เบาหวาน รวมถึงมะเร็งบางชนิด การรับประทานผัก ผลไม้ ธัญพืชเต็มเมล็ด และถั่ว จึงเป็นวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยให้ระบบขับถ่ายสมดุล 🏋️‍♂️ การออกกำลังกายกับสุขภาพลำไส้ งานวิจัยจากเยอรมนีในปี 2025 พบว่า การออกกำลังกายแบบต้านแรง (Resistance Training) เพียง 8 สัปดาห์ สามารถเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบจุลินทรีย์ในลำไส้ได้อย่างชัดเจน ผู้ที่แข็งแรงขึ้นมีจุลินทรีย์ที่ดีต่อสุขภาพเพิ่มขึ้น และหลายคนขยับจากกลุ่มท้องผูกหรือท้องเสียเข้าสู่ช่วง “Goldilocks Zone” 💧 น้ำและการใช้ชีวิตประจำวัน นอกจากอาหารและการออกกำลังกายแล้ว การดื่มน้ำให้เพียงพอ และการพักผ่อนอย่างเหมาะสมก็มีผลต่อระบบขับถ่ายเช่นกัน คนที่มีพฤติกรรมสุขภาพดี เช่น ดื่มน้ำมากพอ รับประทานอาหารจากพืช และออกกำลังกายสม่ำเสมอ มักมีจุลินทรีย์ที่หมักไฟเบอร์ได้ดี ส่งผลให้สุขภาพลำไส้แข็งแรงและลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ความถี่ในการขับถ่ายสัมพันธ์กับสุขภาพ ➡️ วันละ 1–2 ครั้งคือช่วง “Goldilocks Zone” ที่เหมาะสม ➡️ ถ่ายน้อยหรือบ่อยเกินไปเชื่อมโยงกับโรคเรื้อรัง ✅ ไฟเบอร์ช่วยเสริมจุลินทรีย์ดีในลำไส้ ➡️ ไฟเบอร์หมักได้สร้าง SCFAs ลดการอักเสบและเสริมภูมิคุ้มกัน ➡️ อาหารจากพืช เช่น ผัก ผลไม้ ถั่ว และธัญพืชเต็มเมล็ด เป็นแหล่งสำคัญ ✅ การออกกำลังกายมีผลต่อจุลินทรีย์ ➡️ Resistance Training 8 สัปดาห์ช่วยปรับสมดุลลำไส้ ➡️ ผู้ที่แข็งแรงขึ้นมีโอกาสเข้าสู่ช่วงสุขภาพดี ✅ น้ำและการใช้ชีวิตประจำวัน ➡️ ดื่มน้ำมากพอช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานดี ➡️ พฤติกรรมสุขภาพดีส่งผลต่อสมดุลจุลินทรีย์ ‼️ ความเสี่ยงจากการขับถ่ายผิดปกติ ⛔ ท้องผูกอาจทำให้เกิดสารพิษที่ทำลายไต ⛔ ท้องเสียสัมพันธ์กับการทำงานของตับผิดปกติ https://www.sciencealert.com/your-poop-schedule-says-a-lot-about-your-overall-health-study-shows
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Your Poop Schedule Says a Lot About Your Overall Health, Study Shows
    "How often do you poop?" might sound like a very personal question, but your answer could reveal quite a lot about your overall health.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • Cherry: ตำนานสวิตช์คีย์บอร์ดในวิกฤติการเงิน

    Cherry ผู้ผลิตสวิตช์เชิงกลที่เป็นที่รักของนักเล่นคีย์บอร์ดทั่วโลก กำลังเผชิญวิกฤติการเงินครั้งใหญ่ โดยหนี้สินของบริษัทสูงกว่ามูลค่าทรัพย์สินทั้งหมด ทำให้ผู้บริหารต้องพิจารณาขายธุรกิจบางส่วน เช่น แผนก Peripherals (คีย์บอร์ดและเมาส์) หรือ Digital Health & Solutions เพื่อรักษาสภาพคล่อง.

    แม้จะมีข่าวการขายธุรกิจ แต่ สวิตช์ Cherry MX ที่เป็นหัวใจหลักของวงการคีย์บอร์ดยังคงอยู่ภายใต้แผนก Components ซึ่งจะไม่ถูกขายออกไปในตอนนี้ ทำให้แฟน ๆ ที่กังวลว่าสวิตช์จะหายไปจากตลาดยังคงสบายใจได้. อย่างไรก็ตาม Cherry สูญเสียความได้เปรียบทางนวัตกรรมไปมาก หลังสิทธิบัตร Cherry MX หมดอายุในปี 2014 เปิดทางให้คู่แข่งอย่าง Gateron, Kailh และ Outemu เข้ามาแย่งตลาดด้วยสวิตช์ที่มีลูกเล่นใหม่ ๆ เช่น โรงงานหล่อลื่น (factory-lubed) และ Hall-effect switches.

    สถานการณ์ยิ่งย่ำแย่หลังปี 2022 เมื่อยอดขายลดลงครึ่งหนึ่งจากช่วงที่เคยรุ่งเรืองในยุคโควิด-19 แม้รายได้รวมจะฟื้นตัวในปี 2023 แต่แผนก Digital Health และ Components กลับยังคงขาดทุน ทำให้ผู้บริหารต้องหาทางออกด้วยการขายบางธุรกิจและย้ายการผลิตสวิตช์จากเยอรมนีไปยังจีนและสโลวาเกียเพื่อลดต้นทุน.

    Cherry ยังพยายามเสริมสภาพคล่องด้วยการขายธุรกิจ Active Key (อุปกรณ์สุขอนามัย) ได้เงิน 21 ล้านยูโร พร้อมขอเงินสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นใหญ่ Argand Partners และจัดหาเงินกู้เพิ่มเติม 23 ล้านยูโร แต่ผู้บริหารยอมรับว่าการอยู่รอดในระยะยาวอาจต้องพึ่งการควบรวมกิจการหรือขายธุรกิจบางส่วนออกไป.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    วิกฤติการเงินของ Cherry
    หนี้สินสูงกว่ามูลค่าทรัพย์สิน
    พิจารณาขายแผนก Peripherals หรือ Digital Health & Solutions

    สถานะของ Cherry MX
    อยู่ในแผนก Components จึงยังไม่ถูกขาย
    สิทธิบัตรหมดอายุปี 2014 เปิดทางคู่แข่ง

    การแข่งขันในตลาด
    คู่แข่งอย่าง Gateron, Kailh, Outemu พัฒนาสวิตช์ใหม่ ๆ
    บริษัทใหญ่เช่น Corsair, Logitech, Razer หันไปใช้สวิตช์จากคู่แข่ง

    มาตรการแก้ไข
    ย้ายการผลิตไปจีนและสโลวาเกีย
    ขาย Active Key ได้ 21 ล้านยูโร
    ได้เงินกู้เพิ่ม 23 ล้านยูโร และการสนับสนุนจาก Argand Partners

    ความเสี่ยงต่ออนาคต
    อาจต้องขายธุรกิจเพิ่มเติมเพื่อความอยู่รอด
    การสูญเสียความได้เปรียบทางนวัตกรรมทำให้ยากต่อการแข่งขัน

    https://www.tomshardware.com/peripherals/keyboards/iconic-mechanical-keyboard-switch-maker-cherry-is-in-deep-financial-trouble-the-company-is-considering-selling-its-peripherals-division-to-stay-afloat
    ⌨️ Cherry: ตำนานสวิตช์คีย์บอร์ดในวิกฤติการเงิน Cherry ผู้ผลิตสวิตช์เชิงกลที่เป็นที่รักของนักเล่นคีย์บอร์ดทั่วโลก กำลังเผชิญวิกฤติการเงินครั้งใหญ่ โดยหนี้สินของบริษัทสูงกว่ามูลค่าทรัพย์สินทั้งหมด ทำให้ผู้บริหารต้องพิจารณาขายธุรกิจบางส่วน เช่น แผนก Peripherals (คีย์บอร์ดและเมาส์) หรือ Digital Health & Solutions เพื่อรักษาสภาพคล่อง. แม้จะมีข่าวการขายธุรกิจ แต่ สวิตช์ Cherry MX ที่เป็นหัวใจหลักของวงการคีย์บอร์ดยังคงอยู่ภายใต้แผนก Components ซึ่งจะไม่ถูกขายออกไปในตอนนี้ ทำให้แฟน ๆ ที่กังวลว่าสวิตช์จะหายไปจากตลาดยังคงสบายใจได้. อย่างไรก็ตาม Cherry สูญเสียความได้เปรียบทางนวัตกรรมไปมาก หลังสิทธิบัตร Cherry MX หมดอายุในปี 2014 เปิดทางให้คู่แข่งอย่าง Gateron, Kailh และ Outemu เข้ามาแย่งตลาดด้วยสวิตช์ที่มีลูกเล่นใหม่ ๆ เช่น โรงงานหล่อลื่น (factory-lubed) และ Hall-effect switches. สถานการณ์ยิ่งย่ำแย่หลังปี 2022 เมื่อยอดขายลดลงครึ่งหนึ่งจากช่วงที่เคยรุ่งเรืองในยุคโควิด-19 แม้รายได้รวมจะฟื้นตัวในปี 2023 แต่แผนก Digital Health และ Components กลับยังคงขาดทุน ทำให้ผู้บริหารต้องหาทางออกด้วยการขายบางธุรกิจและย้ายการผลิตสวิตช์จากเยอรมนีไปยังจีนและสโลวาเกียเพื่อลดต้นทุน. Cherry ยังพยายามเสริมสภาพคล่องด้วยการขายธุรกิจ Active Key (อุปกรณ์สุขอนามัย) ได้เงิน 21 ล้านยูโร พร้อมขอเงินสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นใหญ่ Argand Partners และจัดหาเงินกู้เพิ่มเติม 23 ล้านยูโร แต่ผู้บริหารยอมรับว่าการอยู่รอดในระยะยาวอาจต้องพึ่งการควบรวมกิจการหรือขายธุรกิจบางส่วนออกไป. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ วิกฤติการเงินของ Cherry ➡️ หนี้สินสูงกว่ามูลค่าทรัพย์สิน ➡️ พิจารณาขายแผนก Peripherals หรือ Digital Health & Solutions ✅ สถานะของ Cherry MX ➡️ อยู่ในแผนก Components จึงยังไม่ถูกขาย ➡️ สิทธิบัตรหมดอายุปี 2014 เปิดทางคู่แข่ง ✅ การแข่งขันในตลาด ➡️ คู่แข่งอย่าง Gateron, Kailh, Outemu พัฒนาสวิตช์ใหม่ ๆ ➡️ บริษัทใหญ่เช่น Corsair, Logitech, Razer หันไปใช้สวิตช์จากคู่แข่ง ✅ มาตรการแก้ไข ➡️ ย้ายการผลิตไปจีนและสโลวาเกีย ➡️ ขาย Active Key ได้ 21 ล้านยูโร ➡️ ได้เงินกู้เพิ่ม 23 ล้านยูโร และการสนับสนุนจาก Argand Partners ‼️ ความเสี่ยงต่ออนาคต ⛔ อาจต้องขายธุรกิจเพิ่มเติมเพื่อความอยู่รอด ⛔ การสูญเสียความได้เปรียบทางนวัตกรรมทำให้ยากต่อการแข่งขัน https://www.tomshardware.com/peripherals/keyboards/iconic-mechanical-keyboard-switch-maker-cherry-is-in-deep-financial-trouble-the-company-is-considering-selling-its-peripherals-division-to-stay-afloat
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 179 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไอซ์แลนด์ยกระดับเป็นภัยความมั่นคง กระแสน้ำวน AMOC: เส้นเลือดใหญ่ของภูมิอากาศโลกเริ่มล่มสลาย

    ไอซ์แลนด์ประกาศให้ความเสี่ยงการล่มสลายของกระแสน้ำวน AMOC เป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงระดับชาติ เพราะอาจส่งผลต่อภูมิอากาศ เศรษฐกิจ และความอยู่รอดของประเทศ พร้อมทั้งนักวิทยาศาสตร์เตือนว่าผลกระทบจะกระจายไปทั่วโลก

    กระแสน้ำวน Atlantic Meridional Overturning Circulation (AMOC) ทำหน้าที่เหมือนสายพานยักษ์ที่ลำเลียงน้ำอุ่นจากเขตร้อนขึ้นเหนือ และส่งน้ำเย็นกลับลงใต้ กระบวนการนี้ช่วยรักษาสมดุลภูมิอากาศ โดยเฉพาะยุโรปที่ได้อานิสงส์จากฤดูหนาวที่ไม่หนาวจัดเกินไป อย่างไรก็ตาม งานวิจัยล่าสุดชี้ว่าการละลายของน้ำแข็งกรีนแลนด์และอาร์กติกกำลังเติมน้ำจืดมหาศาลลงมหาสมุทร ทำให้สมดุลความเค็มและความหนาแน่นของน้ำเสียไป กระแส AMOC จึงอ่อนแรงลงอย่างต่อเนื่อง

    ไอซ์แลนด์ยกระดับเป็นภัยความมั่นคง
    รัฐบาลไอซ์แลนด์ประกาศอย่างเป็นทางการว่าความเสี่ยงการล่มสลายของ AMOC เป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงแห่งชาติ นับเป็นครั้งแรกที่ประเทศนี้จัดให้ปรากฏการณ์ภูมิอากาศเป็นภัยความมั่นคงโดยตรง เหตุผลคือหาก AMOC ล่มสลาย ไอซ์แลนด์อาจเผชิญฤดูหนาวที่หนาวจัดจนถูกล้อมด้วยน้ำแข็ง ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และอุตสาหกรรมประมงที่เป็นหัวใจเศรษฐกิจ

    ผลกระทบระดับโลก
    นักวิทยาศาสตร์เตือนว่าผลกระทบไม่ได้จำกัดอยู่แค่ยุโรป แต่จะกระจายไปทั่วโลก เช่น ระดับน้ำทะเลชายฝั่งตะวันออกสหรัฐฯ สูงขึ้นกว่าค่าเฉลี่ยโลก ระบบมรสุมในเอเชียและแอฟริกาอาจถูกรบกวนจนเกิดภัยแล้ง ขณะที่ซีกโลกใต้เสี่ยงต่อการเร่งละลายของน้ำแข็งแอนตาร์กติก การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจทำให้หลายประเทศต้องเผชิญวิกฤตอาหารและการอพยพครั้งใหญ่

    วิทยาศาสตร์และสัญญาณเตือน
    แม้ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจนว่า AMOC จะล่มสลายเมื่อใด แต่งานวิจัยหลายชิ้นชี้ว่าความเสี่ยงอาจเกิดขึ้นภายในศตวรรษนี้ และบางการศึกษาคาดว่าอาจเร็วภายในไม่กี่ทศวรรษ การเฝ้าระวังสัญญาณ เช่น การเปลี่ยนแปลงความเค็มของน้ำในมหาสมุทร จึงเป็นสิ่งสำคัญ ขณะเดียวกัน นักวิทยาศาสตร์ย้ำว่าการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกคือวิธีเดียวที่จะชะลอความเสี่ยงนี้

    สรุปเป็นหัวข้อ
    บทบาทของ AMOC
    กระแสน้ำวนทำหน้าที่ลำเลียงน้ำอุ่นขึ้นเหนือและน้ำเย็นกลับใต้
    ช่วยรักษาสมดุลภูมิอากาศ โดยเฉพาะยุโรป

    การประกาศของไอซ์แลนด์
    ยกระดับความเสี่ยง AMOC เป็นภัยความมั่นคงแห่งชาติ
    ผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐานและอุตสาหกรรมประมง

    ผลกระทบระดับโลก
    ระดับน้ำทะเลชายฝั่งตะวันออกสหรัฐฯ สูงขึ้น
    ระบบมรสุมในเอเชียและแอฟริกาอาจถูกรบกวน

    งานวิจัยและการเฝ้าระวัง
    นักวิทยาศาสตร์คาดว่า AMOC อาจล่มสลายภายในศตวรรษนี้
    การลดก๊าซเรือนกระจกคือวิธีชะลอความเสี่ยง

    คำเตือนจากนักวิทยาศาสตร์
    การล่มสลายของ AMOC อาจนำไปสู่ “ยุคน้ำแข็งสมัยใหม่” ในยุโรป
    เสี่ยงต่อภัยแล้งและวิกฤตอาหารในหลายภูมิภาค

    ความไม่แน่นอนของวิทยาศาสตร์
    ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจนเรื่องเวลา แต่สัญญาณอ่อนแรงปรากฏแล้ว
    การเพิกเฉยต่อความเสี่ยงอาจทำให้โลกไม่ทันรับมือ

    https://edition.cnn.com/2025/11/15/climate/iceland-warming-current-amoc-collapse-threat
    🌊 ไอซ์แลนด์ยกระดับเป็นภัยความมั่นคง กระแสน้ำวน AMOC: เส้นเลือดใหญ่ของภูมิอากาศโลกเริ่มล่มสลาย ไอซ์แลนด์ประกาศให้ความเสี่ยงการล่มสลายของกระแสน้ำวน AMOC เป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงระดับชาติ เพราะอาจส่งผลต่อภูมิอากาศ เศรษฐกิจ และความอยู่รอดของประเทศ พร้อมทั้งนักวิทยาศาสตร์เตือนว่าผลกระทบจะกระจายไปทั่วโลก กระแสน้ำวน Atlantic Meridional Overturning Circulation (AMOC) ทำหน้าที่เหมือนสายพานยักษ์ที่ลำเลียงน้ำอุ่นจากเขตร้อนขึ้นเหนือ และส่งน้ำเย็นกลับลงใต้ กระบวนการนี้ช่วยรักษาสมดุลภูมิอากาศ โดยเฉพาะยุโรปที่ได้อานิสงส์จากฤดูหนาวที่ไม่หนาวจัดเกินไป อย่างไรก็ตาม งานวิจัยล่าสุดชี้ว่าการละลายของน้ำแข็งกรีนแลนด์และอาร์กติกกำลังเติมน้ำจืดมหาศาลลงมหาสมุทร ทำให้สมดุลความเค็มและความหนาแน่นของน้ำเสียไป กระแส AMOC จึงอ่อนแรงลงอย่างต่อเนื่อง 🇮🇸 ไอซ์แลนด์ยกระดับเป็นภัยความมั่นคง รัฐบาลไอซ์แลนด์ประกาศอย่างเป็นทางการว่าความเสี่ยงการล่มสลายของ AMOC เป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงแห่งชาติ นับเป็นครั้งแรกที่ประเทศนี้จัดให้ปรากฏการณ์ภูมิอากาศเป็นภัยความมั่นคงโดยตรง เหตุผลคือหาก AMOC ล่มสลาย ไอซ์แลนด์อาจเผชิญฤดูหนาวที่หนาวจัดจนถูกล้อมด้วยน้ำแข็ง ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และอุตสาหกรรมประมงที่เป็นหัวใจเศรษฐกิจ 🌍 ผลกระทบระดับโลก นักวิทยาศาสตร์เตือนว่าผลกระทบไม่ได้จำกัดอยู่แค่ยุโรป แต่จะกระจายไปทั่วโลก เช่น ระดับน้ำทะเลชายฝั่งตะวันออกสหรัฐฯ สูงขึ้นกว่าค่าเฉลี่ยโลก ระบบมรสุมในเอเชียและแอฟริกาอาจถูกรบกวนจนเกิดภัยแล้ง ขณะที่ซีกโลกใต้เสี่ยงต่อการเร่งละลายของน้ำแข็งแอนตาร์กติก การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจทำให้หลายประเทศต้องเผชิญวิกฤตอาหารและการอพยพครั้งใหญ่ 🔬 วิทยาศาสตร์และสัญญาณเตือน แม้ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจนว่า AMOC จะล่มสลายเมื่อใด แต่งานวิจัยหลายชิ้นชี้ว่าความเสี่ยงอาจเกิดขึ้นภายในศตวรรษนี้ และบางการศึกษาคาดว่าอาจเร็วภายในไม่กี่ทศวรรษ การเฝ้าระวังสัญญาณ เช่น การเปลี่ยนแปลงความเค็มของน้ำในมหาสมุทร จึงเป็นสิ่งสำคัญ ขณะเดียวกัน นักวิทยาศาสตร์ย้ำว่าการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกคือวิธีเดียวที่จะชะลอความเสี่ยงนี้ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ บทบาทของ AMOC ➡️ กระแสน้ำวนทำหน้าที่ลำเลียงน้ำอุ่นขึ้นเหนือและน้ำเย็นกลับใต้ ➡️ ช่วยรักษาสมดุลภูมิอากาศ โดยเฉพาะยุโรป ✅ การประกาศของไอซ์แลนด์ ➡️ ยกระดับความเสี่ยง AMOC เป็นภัยความมั่นคงแห่งชาติ ➡️ ผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐานและอุตสาหกรรมประมง ✅ ผลกระทบระดับโลก ➡️ ระดับน้ำทะเลชายฝั่งตะวันออกสหรัฐฯ สูงขึ้น ➡️ ระบบมรสุมในเอเชียและแอฟริกาอาจถูกรบกวน ✅ งานวิจัยและการเฝ้าระวัง ➡️ นักวิทยาศาสตร์คาดว่า AMOC อาจล่มสลายภายในศตวรรษนี้ ➡️ การลดก๊าซเรือนกระจกคือวิธีชะลอความเสี่ยง ‼️ คำเตือนจากนักวิทยาศาสตร์ ⛔ การล่มสลายของ AMOC อาจนำไปสู่ “ยุคน้ำแข็งสมัยใหม่” ในยุโรป ⛔ เสี่ยงต่อภัยแล้งและวิกฤตอาหารในหลายภูมิภาค ‼️ ความไม่แน่นอนของวิทยาศาสตร์ ⛔ ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจนเรื่องเวลา แต่สัญญาณอ่อนแรงปรากฏแล้ว ⛔ การเพิกเฉยต่อความเสี่ยงอาจทำให้โลกไม่ทันรับมือ https://edition.cnn.com/2025/11/15/climate/iceland-warming-current-amoc-collapse-threat
    EDITION.CNN.COM
    A crucial system of ocean currents may be on course to collapse. This country just declared it a national security threat | CNN
    Without warm currents from the South Atlantic, Iceland would be much icier and stormier. Now, those currents are at risk of collapse and the country is preparing for this “existential threat.”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline
    #รวมข่าวIT #20251129 #securityonline

    Google เร่งพัฒนาแว่นตา AI เตรียมเปิดตัวปลายปี 2026
    Google กำลังกลับมาลุยตลาดแว่นตาอัจฉริยะอีกครั้ง โดยครั้งนี้ได้จับมือกับ Foxconn ในการผลิตฮาร์ดแวร์ และใช้การออกแบบจาก Samsung พร้อมชิป Qualcomm เป็นหัวใจหลักของอุปกรณ์ รุ่นใหม่นี้จะใช้ระบบเลนส์ waveguide และมีกล้องในตัวเพื่อรองรับการทำงานด้าน AI ขั้นสูง โครงการนี้ไม่ใช่การต่อยอดจาก Project Aura ที่เคยเปิดตัว แต่เป็นอีกเส้นทางที่เดินคู่ขนานกันไป ขณะนี้อยู่ในขั้นทดสอบการผลิตจำนวนเล็ก และหากทุกอย่างราบรื่น คาดว่าจะเปิดตัวได้ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2026 จุดแข็งของ Google คือการผสาน Gemini AI เข้ากับ Android XR ทำให้ ecosystem สมบูรณ์และพร้อมแข่งขันกับ Meta, Apple และค่ายอื่น ๆ ที่กำลังเตรียมแว่นตา AI เช่นกัน
    https://securityonline.info/google-assembles-foxconn-samsung-supply-chain-for-q4-2026-ai-glasses-launch

    EU เปิดสอบ Apple Maps และ Apple Ads อาจเข้าข่าย Gatekeeper
    หลังจากที่ Safari, iOS, iPadOS และ App Store ถูกจัดอยู่ในสถานะ Gatekeeper ภายใต้กฎหมาย Digital Markets Act (DMA) ของสหภาพยุโรป ตอนนี้ Apple Maps และ Apple Ads กำลังถูกตรวจสอบเพิ่มเติมว่ามีผู้ใช้งานถึงเกณฑ์หรือไม่ หากถูกจัดเป็น Gatekeeper จะต้องปฏิบัติตามข้อบังคับเข้มงวด เช่น ห้ามเอื้อประโยชน์ให้บริการตัวเอง และห้ามผูกขาดผู้ใช้ใน ecosystem ของ Apple อย่างไรก็ตาม Apple ไม่เห็นด้วย โดยยืนยันว่า Apple Maps มีผู้ใช้น้อยมากในยุโรป และ Apple Ads ก็ไม่ได้มีอิทธิพลในตลาดเทียบกับ Google หรือ Meta การสอบสวนนี้จะใช้เวลา 45 วันก่อนจะมีการตัดสินใจ
    https://securityonline.info/eu-launches-probe-are-apple-maps-apple-ads-next-for-dma-gatekeeper-status

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Kvrocks เสี่ยงถูกยึดสิทธิ์ Admin
    Apache ได้ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ในฐานข้อมูล Kvrocks ซึ่งเป็น NoSQL ที่ทำงานคล้าย Redis โดยมีช่องโหว่สำคัญ CVE-2025-59790 ที่ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถใช้คำสั่ง RESET เพื่อยกระดับสิทธิ์ขึ้นเป็น Admin ได้ทันที นอกจากนี้ยังมี CVE-2025-59792 ที่ทำให้คำสั่ง MONITOR เผยข้อมูลรหัสผ่านแบบ plaintext ของผู้ใช้รายอื่น ช่องโหว่นี้กระทบตั้งแต่เวอร์ชัน 1.0.0 ถึง 2.13.0 และได้รับการแก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 2.14.0 ความเสี่ยงนี้ถือว่าร้ายแรงเพราะอาจทำให้ข้อมูลรั่วไหลและระบบถูกควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาต
    https://securityonline.info/critical-alert-apache-kvrocks-reset-command-flaw-grants-admin-privileges

    CISA เตือนช่องโหว่ OpenPLC ถูกโจมตีจริงในระบบอุตสาหกรรม
    หน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ได้เพิ่มช่องโหว่ CVE-2021-26829 เข้าไปในรายการ Known Exploited Vulnerabilities หลังพบว่ามีการโจมตีจริงในระบบควบคุมอุตสาหกรรม ช่องโหว่นี้เป็น Stored XSS ที่อยู่ใน OpenPLC ScadaBR ทำให้แฮกเกอร์สามารถฝังโค้ดอันตรายไว้ในระบบ และเมื่อผู้ดูแลเปิดหน้าการตั้งค่า โค้ดจะทำงานทันที ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถเข้าควบคุม session ของผู้ดูแลและอาจแทรกแซงกระบวนการอุตสาหกรรมได้ CISA กำหนดให้หน่วยงานรัฐบาลต้องแก้ไขภายใน 19 ธันวาคม 2025 และแนะนำให้ทุกองค์กรที่ใช้ระบบ SCADA รีบอัปเดตเพื่อป้องกันความเสียหาย
    https://securityonline.info/cisa-flags-actively-exploited-openplc-flaw-cve-2021-26829

    ข้อมูลผู้ใช้ OpenAI API รั่วจากเหตุ Mixpanel ถูกแฮก
    OpenAI ยืนยันว่ามีข้อมูลผู้ใช้ API รั่วไหล แต่ไม่ใช่จากระบบของตนเองโดยตรง ต้นเหตุเกิดจาก Mixpanel บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลที่ OpenAI ใช้สำหรับติดตามการใช้งาน API โดยแฮกเกอร์สามารถเข้าถึงและดึงข้อมูลออกไปได้ ข้อมูลที่รั่วประกอบด้วยชื่อ อีเมล ข้อมูลตำแหน่งโดยประมาณ และรายละเอียดเบราว์เซอร์ แต่ไม่มีรหัสผ่าน API key หรือข้อมูลการชำระเงินรั่วไหล OpenAI ได้ยุติการใช้บริการ Mixpanel ทันที และเตือนผู้ใช้ให้ระวังการโจมตีแบบฟิชชิ่งที่อาจตามมา เนื่องจากข้อมูลที่รั่วสามารถถูกนำไปใช้สร้างอีเมลปลอมที่ดูน่าเชื่อถือได้
    https://securityonline.info/openai-api-users-exposed-in-mixpanel-security-breach

    Google ลดโควตาฟรีรายวันสำหรับโมเดล Gemini 3 Pro และ Nano Banana Pro
    Google ประกาศปรับนโยบายการใช้งาน API ของโมเดล AI โดยลดโควตาฟรีรายวันลง ทำให้ผู้ใช้งานต้องพิจารณาเลือกแพ็กเกจที่เหมาะสมมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงต้นทุนการให้บริการที่สูงขึ้นและความต้องการจัดการทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกัน Google ยังคงผลักดัน Gemini ให้เป็นแกนหลักของ ecosystem AI ที่เชื่อมโยงกับบริการต่าง ๆ ของบริษัท
    https://securityonline.info/google-cuts-free-daily-quota-for-gemini-3-pro-and-nano-banana-pro-ai-models

    Pixel 10 เปิดโหมดนำทางประหยัดพลังงานใน Google Maps
    Google เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Pixel 10 โดยเพิ่มโหมดนำทางแบบประหยัดพลังงานใน Google Maps ที่ช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ได้ถึง 4 ชั่วโมง ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องเดินทางไกลและไม่สะดวกชาร์จมือถือบ่อย ๆ ถือเป็นการพัฒนาที่ตอบโจทย์ผู้ใช้สมาร์ทโฟนยุคใหม่ที่ต้องการทั้งความสะดวกและความทนทานของแบตเตอรี่
    https://securityonline.info/pixel-10-exclusive-google-maps-launches-power-saving-navigation-mode-for-4-hour-battery-boost

    AWS เปิดตัว Route 53 Accelerated Recovery รับประกันกู้คืนภายใน 60 นาที
    Amazon Web Services (AWS) เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Route 53 ที่ชื่อ Accelerated Recovery โดยรับประกันการกู้คืนระบบ DNS ภายในเวลาไม่เกิน 60 นาที ฟีเจอร์นี้ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับองค์กรที่ต้องพึ่งพาบริการออนไลน์ตลอดเวลา ลดความเสี่ยงจากการหยุดชะงักของระบบ และเป็นการยกระดับมาตรฐานการให้บริการของ AWS ในตลาดคลาวด์
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/aws-guarantees-60-minute-recovery-time-with-new-route-53-accelerated-recovery
    📌🔐🟣 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟣🔐📌 #รวมข่าวIT #20251129 #securityonline 🕶️ Google เร่งพัฒนาแว่นตา AI เตรียมเปิดตัวปลายปี 2026 Google กำลังกลับมาลุยตลาดแว่นตาอัจฉริยะอีกครั้ง โดยครั้งนี้ได้จับมือกับ Foxconn ในการผลิตฮาร์ดแวร์ และใช้การออกแบบจาก Samsung พร้อมชิป Qualcomm เป็นหัวใจหลักของอุปกรณ์ รุ่นใหม่นี้จะใช้ระบบเลนส์ waveguide และมีกล้องในตัวเพื่อรองรับการทำงานด้าน AI ขั้นสูง โครงการนี้ไม่ใช่การต่อยอดจาก Project Aura ที่เคยเปิดตัว แต่เป็นอีกเส้นทางที่เดินคู่ขนานกันไป ขณะนี้อยู่ในขั้นทดสอบการผลิตจำนวนเล็ก และหากทุกอย่างราบรื่น คาดว่าจะเปิดตัวได้ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2026 จุดแข็งของ Google คือการผสาน Gemini AI เข้ากับ Android XR ทำให้ ecosystem สมบูรณ์และพร้อมแข่งขันกับ Meta, Apple และค่ายอื่น ๆ ที่กำลังเตรียมแว่นตา AI เช่นกัน 🔗 https://securityonline.info/google-assembles-foxconn-samsung-supply-chain-for-q4-2026-ai-glasses-launch 🇪🇺 EU เปิดสอบ Apple Maps และ Apple Ads อาจเข้าข่าย Gatekeeper หลังจากที่ Safari, iOS, iPadOS และ App Store ถูกจัดอยู่ในสถานะ Gatekeeper ภายใต้กฎหมาย Digital Markets Act (DMA) ของสหภาพยุโรป ตอนนี้ Apple Maps และ Apple Ads กำลังถูกตรวจสอบเพิ่มเติมว่ามีผู้ใช้งานถึงเกณฑ์หรือไม่ หากถูกจัดเป็น Gatekeeper จะต้องปฏิบัติตามข้อบังคับเข้มงวด เช่น ห้ามเอื้อประโยชน์ให้บริการตัวเอง และห้ามผูกขาดผู้ใช้ใน ecosystem ของ Apple อย่างไรก็ตาม Apple ไม่เห็นด้วย โดยยืนยันว่า Apple Maps มีผู้ใช้น้อยมากในยุโรป และ Apple Ads ก็ไม่ได้มีอิทธิพลในตลาดเทียบกับ Google หรือ Meta การสอบสวนนี้จะใช้เวลา 45 วันก่อนจะมีการตัดสินใจ 🔗 https://securityonline.info/eu-launches-probe-are-apple-maps-apple-ads-next-for-dma-gatekeeper-status ⚠️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Kvrocks เสี่ยงถูกยึดสิทธิ์ Admin Apache ได้ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ในฐานข้อมูล Kvrocks ซึ่งเป็น NoSQL ที่ทำงานคล้าย Redis โดยมีช่องโหว่สำคัญ CVE-2025-59790 ที่ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถใช้คำสั่ง RESET เพื่อยกระดับสิทธิ์ขึ้นเป็น Admin ได้ทันที นอกจากนี้ยังมี CVE-2025-59792 ที่ทำให้คำสั่ง MONITOR เผยข้อมูลรหัสผ่านแบบ plaintext ของผู้ใช้รายอื่น ช่องโหว่นี้กระทบตั้งแต่เวอร์ชัน 1.0.0 ถึง 2.13.0 และได้รับการแก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 2.14.0 ความเสี่ยงนี้ถือว่าร้ายแรงเพราะอาจทำให้ข้อมูลรั่วไหลและระบบถูกควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาต 🔗 https://securityonline.info/critical-alert-apache-kvrocks-reset-command-flaw-grants-admin-privileges 🏭 CISA เตือนช่องโหว่ OpenPLC ถูกโจมตีจริงในระบบอุตสาหกรรม หน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ได้เพิ่มช่องโหว่ CVE-2021-26829 เข้าไปในรายการ Known Exploited Vulnerabilities หลังพบว่ามีการโจมตีจริงในระบบควบคุมอุตสาหกรรม ช่องโหว่นี้เป็น Stored XSS ที่อยู่ใน OpenPLC ScadaBR ทำให้แฮกเกอร์สามารถฝังโค้ดอันตรายไว้ในระบบ และเมื่อผู้ดูแลเปิดหน้าการตั้งค่า โค้ดจะทำงานทันที ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถเข้าควบคุม session ของผู้ดูแลและอาจแทรกแซงกระบวนการอุตสาหกรรมได้ CISA กำหนดให้หน่วยงานรัฐบาลต้องแก้ไขภายใน 19 ธันวาคม 2025 และแนะนำให้ทุกองค์กรที่ใช้ระบบ SCADA รีบอัปเดตเพื่อป้องกันความเสียหาย 🔗 https://securityonline.info/cisa-flags-actively-exploited-openplc-flaw-cve-2021-26829 🔐 ข้อมูลผู้ใช้ OpenAI API รั่วจากเหตุ Mixpanel ถูกแฮก OpenAI ยืนยันว่ามีข้อมูลผู้ใช้ API รั่วไหล แต่ไม่ใช่จากระบบของตนเองโดยตรง ต้นเหตุเกิดจาก Mixpanel บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลที่ OpenAI ใช้สำหรับติดตามการใช้งาน API โดยแฮกเกอร์สามารถเข้าถึงและดึงข้อมูลออกไปได้ ข้อมูลที่รั่วประกอบด้วยชื่อ อีเมล ข้อมูลตำแหน่งโดยประมาณ และรายละเอียดเบราว์เซอร์ แต่ไม่มีรหัสผ่าน API key หรือข้อมูลการชำระเงินรั่วไหล OpenAI ได้ยุติการใช้บริการ Mixpanel ทันที และเตือนผู้ใช้ให้ระวังการโจมตีแบบฟิชชิ่งที่อาจตามมา เนื่องจากข้อมูลที่รั่วสามารถถูกนำไปใช้สร้างอีเมลปลอมที่ดูน่าเชื่อถือได้ 🔗 https://securityonline.info/openai-api-users-exposed-in-mixpanel-security-breach 🤖 Google ลดโควตาฟรีรายวันสำหรับโมเดล Gemini 3 Pro และ Nano Banana Pro Google ประกาศปรับนโยบายการใช้งาน API ของโมเดล AI โดยลดโควตาฟรีรายวันลง ทำให้ผู้ใช้งานต้องพิจารณาเลือกแพ็กเกจที่เหมาะสมมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงต้นทุนการให้บริการที่สูงขึ้นและความต้องการจัดการทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกัน Google ยังคงผลักดัน Gemini ให้เป็นแกนหลักของ ecosystem AI ที่เชื่อมโยงกับบริการต่าง ๆ ของบริษัท 🔗 https://securityonline.info/google-cuts-free-daily-quota-for-gemini-3-pro-and-nano-banana-pro-ai-models 🗺️ Pixel 10 เปิดโหมดนำทางประหยัดพลังงานใน Google Maps Google เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Pixel 10 โดยเพิ่มโหมดนำทางแบบประหยัดพลังงานใน Google Maps ที่ช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ได้ถึง 4 ชั่วโมง ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องเดินทางไกลและไม่สะดวกชาร์จมือถือบ่อย ๆ ถือเป็นการพัฒนาที่ตอบโจทย์ผู้ใช้สมาร์ทโฟนยุคใหม่ที่ต้องการทั้งความสะดวกและความทนทานของแบตเตอรี่ 🔗 https://securityonline.info/pixel-10-exclusive-google-maps-launches-power-saving-navigation-mode-for-4-hour-battery-boost ☁️ AWS เปิดตัว Route 53 Accelerated Recovery รับประกันกู้คืนภายใน 60 นาที Amazon Web Services (AWS) เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Route 53 ที่ชื่อ Accelerated Recovery โดยรับประกันการกู้คืนระบบ DNS ภายในเวลาไม่เกิน 60 นาที ฟีเจอร์นี้ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับองค์กรที่ต้องพึ่งพาบริการออนไลน์ตลอดเวลา ลดความเสี่ยงจากการหยุดชะงักของระบบ และเป็นการยกระดับมาตรฐานการให้บริการของ AWS ในตลาดคลาวด์ ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/aws-guarantees-60-minute-recovery-time-with-new-route-53-accelerated-recovery
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 283 มุมมอง 0 รีวิว
  • ควอนตัมคอมพิวติ้ง: “Holy Trinity” ของโลกคอมพิวเตอร์

    อดีตซีอีโอของ Intel, Pat Gelsinger ให้สัมภาษณ์ว่า ควอนตัมคอมพิวติ้งจะเป็นตัวการที่ทำให้ “ฟองสบู่ AI” แตก โดยเขาเชื่อว่าควอนตัมจะมาแทนที่ GPU ภายในเวลาไม่กี่ปี ขัดแย้งกับมุมมองของ Jensen Huang ซีอีโอ Nvidia ที่มองว่าอาจใช้เวลาถึงสองทศวรรษ

    Pat Gelsinger กล่าวว่าควอนตัมคอมพิวติ้งคือหนึ่งใน “สามศักดิ์สิทธิ์” ของโลกคอมพิวเตอร์ ร่วมกับการประมวลผลแบบดั้งเดิมและ AI เขาเชื่อว่าการพัฒนาในด้านควอนตัมจะเกิดขึ้นเร็วมาก และจะทำให้ GPU ซึ่งปัจจุบันเป็นหัวใจหลักของการประมวลผล AI ถูกแทนที่ในอนาคตอันใกล้

    GPU อาจหมดบทบาทภายในทศวรรษนี้
    Gelsinger มองว่า GPU จะเริ่มถูกแทนที่ภายในสิ้นทศวรรษ เนื่องจากควอนตัมคอมพิวเตอร์สามารถจัดการกับปัญหาที่ซับซ้อนและใช้พลังงานน้อยกว่า เขาเชื่อว่าการพัฒนาเชิงพาณิชย์ของควอนตัมจะเกิดขึ้นภายใน 2 ปี ขัดแย้งกับ Jensen Huang ที่เคยกล่าวว่าอาจต้องใช้เวลา 20 ปี กว่าจะเห็นควอนตัมเข้าสู่ตลาดหลัก

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI และเซมิคอนดักเตอร์
    หากควอนตัมคอมพิวติ้งก้าวเข้าสู่ตลาดเร็วจริง จะส่งผลกระทบมหาศาลต่อ Nvidia และผู้ผลิต GPU รายอื่น ที่ปัจจุบันครองตลาด AI อย่างเบ็ดเสร็จ นอกจากนี้ยังอาจเปลี่ยนโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ และเปิดโอกาสใหม่ให้บริษัทที่ลงทุนในควอนตัม เช่น Playground Global ซึ่ง Gelsinger มีบทบาทอยู่

    มุมมองต่อ Microsoft และ OpenAI
    Gelsinger ยังเปรียบเทียบความร่วมมือระหว่าง Microsoft และ OpenAI ว่าเหมือนกับสิ่งที่ Bill Gates เคยทำกับ IBM ในยุค 1990 โดยมองว่า OpenAI เป็นเพียง “พันธมิตรด้านการจัดจำหน่าย” ขณะที่ Microsoft คือผู้ให้พลังการประมวลผลหลัก ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเขามอง AI ในปัจจุบันเป็นเพียงช่วงเปลี่ยนผ่านก่อนที่ควอนตัมจะเข้ามาแทนที่

    สรุปประเด็นสำคัญ
    มุมมองของ Pat Gelsinger
    ควอนตัมคอมพิวติ้งคือ “Holy Trinity” ของโลกคอมพิวเตอร์
    GPU จะถูกแทนที่ภายในสิ้นทศวรรษ

    การเปรียบเทียบกับ Nvidia
    Gelsinger เชื่อว่าควอนตัมจะมาใน 2 ปี
    Jensen Huang มองว่าอาจใช้เวลา 20 ปี

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    Nvidia และผู้ผลิต GPU เสี่ยงเสียความเป็นผู้นำ
    โครงสร้างห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์อาจเปลี่ยนแปลง

    มุมมองต่อ Microsoft และ OpenAI
    เปรียบเทียบกับความร่วมมือ IBM–Bill Gates ในอดีต
    Microsoft คือผู้ให้พลังการประมวลผลหลัก

    คำเตือนจากเหตุการณ์
    การคาดการณ์อาจเร็วเกินจริง เพราะควอนตัมยังอยู่ในช่วงวิจัย
    หาก GPU ถูกแทนที่เร็ว อุตสาหกรรม AI อาจเผชิญความปั่นป่วนครั้งใหญ่

    https://wccftech.com/quantum-computing-will-pop-the-ai-bubble-claims-ex-intel-ceo-pat-gelsinger/
    ⚛️ ควอนตัมคอมพิวติ้ง: “Holy Trinity” ของโลกคอมพิวเตอร์ อดีตซีอีโอของ Intel, Pat Gelsinger ให้สัมภาษณ์ว่า ควอนตัมคอมพิวติ้งจะเป็นตัวการที่ทำให้ “ฟองสบู่ AI” แตก โดยเขาเชื่อว่าควอนตัมจะมาแทนที่ GPU ภายในเวลาไม่กี่ปี ขัดแย้งกับมุมมองของ Jensen Huang ซีอีโอ Nvidia ที่มองว่าอาจใช้เวลาถึงสองทศวรรษ Pat Gelsinger กล่าวว่าควอนตัมคอมพิวติ้งคือหนึ่งใน “สามศักดิ์สิทธิ์” ของโลกคอมพิวเตอร์ ร่วมกับการประมวลผลแบบดั้งเดิมและ AI เขาเชื่อว่าการพัฒนาในด้านควอนตัมจะเกิดขึ้นเร็วมาก และจะทำให้ GPU ซึ่งปัจจุบันเป็นหัวใจหลักของการประมวลผล AI ถูกแทนที่ในอนาคตอันใกล้ 🖥️ GPU อาจหมดบทบาทภายในทศวรรษนี้ Gelsinger มองว่า GPU จะเริ่มถูกแทนที่ภายในสิ้นทศวรรษ เนื่องจากควอนตัมคอมพิวเตอร์สามารถจัดการกับปัญหาที่ซับซ้อนและใช้พลังงานน้อยกว่า เขาเชื่อว่าการพัฒนาเชิงพาณิชย์ของควอนตัมจะเกิดขึ้นภายใน 2 ปี ขัดแย้งกับ Jensen Huang ที่เคยกล่าวว่าอาจต้องใช้เวลา 20 ปี กว่าจะเห็นควอนตัมเข้าสู่ตลาดหลัก 🌍 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI และเซมิคอนดักเตอร์ หากควอนตัมคอมพิวติ้งก้าวเข้าสู่ตลาดเร็วจริง จะส่งผลกระทบมหาศาลต่อ Nvidia และผู้ผลิต GPU รายอื่น ที่ปัจจุบันครองตลาด AI อย่างเบ็ดเสร็จ นอกจากนี้ยังอาจเปลี่ยนโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ และเปิดโอกาสใหม่ให้บริษัทที่ลงทุนในควอนตัม เช่น Playground Global ซึ่ง Gelsinger มีบทบาทอยู่ 🏛️ มุมมองต่อ Microsoft และ OpenAI Gelsinger ยังเปรียบเทียบความร่วมมือระหว่าง Microsoft และ OpenAI ว่าเหมือนกับสิ่งที่ Bill Gates เคยทำกับ IBM ในยุค 1990 โดยมองว่า OpenAI เป็นเพียง “พันธมิตรด้านการจัดจำหน่าย” ขณะที่ Microsoft คือผู้ให้พลังการประมวลผลหลัก ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเขามอง AI ในปัจจุบันเป็นเพียงช่วงเปลี่ยนผ่านก่อนที่ควอนตัมจะเข้ามาแทนที่ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ มุมมองของ Pat Gelsinger ➡️ ควอนตัมคอมพิวติ้งคือ “Holy Trinity” ของโลกคอมพิวเตอร์ ➡️ GPU จะถูกแทนที่ภายในสิ้นทศวรรษ ✅ การเปรียบเทียบกับ Nvidia ➡️ Gelsinger เชื่อว่าควอนตัมจะมาใน 2 ปี ➡️ Jensen Huang มองว่าอาจใช้เวลา 20 ปี ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม ➡️ Nvidia และผู้ผลิต GPU เสี่ยงเสียความเป็นผู้นำ ➡️ โครงสร้างห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์อาจเปลี่ยนแปลง ✅ มุมมองต่อ Microsoft และ OpenAI ➡️ เปรียบเทียบกับความร่วมมือ IBM–Bill Gates ในอดีต ➡️ Microsoft คือผู้ให้พลังการประมวลผลหลัก ‼️ คำเตือนจากเหตุการณ์ ⛔ การคาดการณ์อาจเร็วเกินจริง เพราะควอนตัมยังอยู่ในช่วงวิจัย ⛔ หาก GPU ถูกแทนที่เร็ว อุตสาหกรรม AI อาจเผชิญความปั่นป่วนครั้งใหญ่ https://wccftech.com/quantum-computing-will-pop-the-ai-bubble-claims-ex-intel-ceo-pat-gelsinger/
    WCCFTECH.COM
    “Quantum Computing Will Pop the AI Bubble,” Claims Ex-Intel CEO Pat Gelsinger, Predicting GPUs Won’t Survive the Decade
    Pat Gelsinger have put up interesting claims to when the AI frenzy will end, claiming that a "quantum breakthrough" will pop the bubble.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 139 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความขัดแย้งระหว่าง Wingtech และ Nexperia

    ข่าวนี้เล่าถึงความขัดแย้งระหว่างบริษัท Wingtech ของจีนและ Nexperia สำนักงานใหญ่ในเนเธอร์แลนด์ ที่บานปลายจนกระทบต่อการส่งออกเวเฟอร์และสร้างความกังวลต่อห่วงโซ่อุปทานโลก

    ความตึงเครียดภายในบริษัท Nexperia ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปขนาดใหญ่ของโลก ปะทุขึ้นเมื่อ Wingtech Technology ผู้ถือหุ้นใหญ่จากจีน กล่าวหาสำนักงานใหญ่ในเนเธอร์แลนด์ว่า “ปิดกั้นและหลอกลวง” โดยเฉพาะการหยุดส่งเวเฟอร์ไปยังจีน และการตัดสิทธิ์การเข้าถึงระบบ IT ของพนักงานจีน ขณะที่ฝั่งเนเธอร์แลนด์ยืนยันว่าพยายามติดต่อและเจรจา แต่ไม่ได้รับการตอบสนองจากฝ่ายจีน

    ผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานโลก
    การหยุดส่งเวเฟอร์ครั้งนี้สร้างความกังวลต่อ ลูกค้ารายใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมหนัก เนื่องจาก Nexperia เป็นผู้ผลิตชิป mature-node ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย เช่น logic, discretes และ power devices ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในระบบควบคุมรถยนต์และเครื่องจักร หากความขัดแย้งยืดเยื้อ อาจนำไปสู่การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานโลก

    การเมืองและการลงทุนที่ซ่อนอยู่
    Wingtech กล่าวหาว่าสำนักงานใหญ่ในเนเธอร์แลนด์พยายามสร้าง “ห่วงโซ่อุปทานที่ไม่ใช่จีน” เพื่อกันบริษัทแม่ออกจากการตัดสินใจ ขณะที่ฝั่งเนเธอร์แลนด์ประกาศลงทุนกว่า 300 ล้านดอลลาร์ ในโรงงานที่มาเลเซีย ซึ่งถูกตีความว่าเป็นการย้ายฐานการผลิตออกจากจีน ความขัดแย้งนี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจ แต่ยังสะท้อนถึง การเมืองและความมั่นคงทางเทคโนโลยี ระหว่างยุโรปและจีน

    การแทรกแซงจากรัฐบาล
    เหตุการณ์บานปลายจนถึงขั้น รัฐมนตรีพาณิชย์ของจีน ต้องหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นหารือกับ รัฐมนตรีเศรษฐกิจเยอรมนี และ กรรมาธิการการค้าของสหภาพยุโรป เพื่อหาทางออกระยะยาว แสดงให้เห็นว่าความขัดแย้งนี้ไม่ใช่เพียงเรื่องภายในบริษัท แต่เป็นประเด็นที่อาจกระทบต่อความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    สาเหตุของความขัดแย้ง
    Wingtech กล่าวหาสำนักงานใหญ่เนเธอร์แลนด์หยุดส่งเวเฟอร์และตัดสิทธิ์การเข้าถึงระบบ IT
    ฝั่งเนเธอร์แลนด์ยืนยันว่าพยายามเจรจาแต่ไม่ได้รับการตอบสนอง

    ผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน
    ลูกค้าในอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมหนักเสี่ยงขาดชิป
    ชิป mature-node ของ Nexperia เป็นหัวใจสำคัญในระบบควบคุม

    การลงทุนและการเมือง
    เนเธอร์แลนด์ลงทุน 300 ล้านดอลลาร์ในโรงงานมาเลเซีย
    ถูกตีความว่าเป็นการย้ายฐานการผลิตออกจากจีน

    การแทรกแซงจากรัฐบาล
    จีนหารือกับเยอรมนีและสหภาพยุโรปเพื่อหาทางออก
    ความขัดแย้งกลายเป็นประเด็นเศรษฐกิจระหว่างประเทศ

    คำเตือนจากเหตุการณ์
    ความขัดแย้งอาจทำให้ห่วงโซ่อุปทานโลกหยุดชะงัก
    เสี่ยงต่อการแบ่งขั้วทางเทคโนโลยีระหว่างจีนและยุโรป

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/wingtech-nexperia-dispute-escalates-as-public-accusations-widen-the-rift
    ⚔️ ความขัดแย้งระหว่าง Wingtech และ Nexperia ข่าวนี้เล่าถึงความขัดแย้งระหว่างบริษัท Wingtech ของจีนและ Nexperia สำนักงานใหญ่ในเนเธอร์แลนด์ ที่บานปลายจนกระทบต่อการส่งออกเวเฟอร์และสร้างความกังวลต่อห่วงโซ่อุปทานโลก ความตึงเครียดภายในบริษัท Nexperia ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปขนาดใหญ่ของโลก ปะทุขึ้นเมื่อ Wingtech Technology ผู้ถือหุ้นใหญ่จากจีน กล่าวหาสำนักงานใหญ่ในเนเธอร์แลนด์ว่า “ปิดกั้นและหลอกลวง” โดยเฉพาะการหยุดส่งเวเฟอร์ไปยังจีน และการตัดสิทธิ์การเข้าถึงระบบ IT ของพนักงานจีน ขณะที่ฝั่งเนเธอร์แลนด์ยืนยันว่าพยายามติดต่อและเจรจา แต่ไม่ได้รับการตอบสนองจากฝ่ายจีน 🌍 ผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานโลก การหยุดส่งเวเฟอร์ครั้งนี้สร้างความกังวลต่อ ลูกค้ารายใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมหนัก เนื่องจาก Nexperia เป็นผู้ผลิตชิป mature-node ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย เช่น logic, discretes และ power devices ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในระบบควบคุมรถยนต์และเครื่องจักร หากความขัดแย้งยืดเยื้อ อาจนำไปสู่การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานโลก 💼 การเมืองและการลงทุนที่ซ่อนอยู่ Wingtech กล่าวหาว่าสำนักงานใหญ่ในเนเธอร์แลนด์พยายามสร้าง “ห่วงโซ่อุปทานที่ไม่ใช่จีน” เพื่อกันบริษัทแม่ออกจากการตัดสินใจ ขณะที่ฝั่งเนเธอร์แลนด์ประกาศลงทุนกว่า 300 ล้านดอลลาร์ ในโรงงานที่มาเลเซีย ซึ่งถูกตีความว่าเป็นการย้ายฐานการผลิตออกจากจีน ความขัดแย้งนี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจ แต่ยังสะท้อนถึง การเมืองและความมั่นคงทางเทคโนโลยี ระหว่างยุโรปและจีน 🏛️ การแทรกแซงจากรัฐบาล เหตุการณ์บานปลายจนถึงขั้น รัฐมนตรีพาณิชย์ของจีน ต้องหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นหารือกับ รัฐมนตรีเศรษฐกิจเยอรมนี และ กรรมาธิการการค้าของสหภาพยุโรป เพื่อหาทางออกระยะยาว แสดงให้เห็นว่าความขัดแย้งนี้ไม่ใช่เพียงเรื่องภายในบริษัท แต่เป็นประเด็นที่อาจกระทบต่อความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ สาเหตุของความขัดแย้ง ➡️ Wingtech กล่าวหาสำนักงานใหญ่เนเธอร์แลนด์หยุดส่งเวเฟอร์และตัดสิทธิ์การเข้าถึงระบบ IT ➡️ ฝั่งเนเธอร์แลนด์ยืนยันว่าพยายามเจรจาแต่ไม่ได้รับการตอบสนอง ✅ ผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน ➡️ ลูกค้าในอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมหนักเสี่ยงขาดชิป ➡️ ชิป mature-node ของ Nexperia เป็นหัวใจสำคัญในระบบควบคุม ✅ การลงทุนและการเมือง ➡️ เนเธอร์แลนด์ลงทุน 300 ล้านดอลลาร์ในโรงงานมาเลเซีย ➡️ ถูกตีความว่าเป็นการย้ายฐานการผลิตออกจากจีน ✅ การแทรกแซงจากรัฐบาล ➡️ จีนหารือกับเยอรมนีและสหภาพยุโรปเพื่อหาทางออก ➡️ ความขัดแย้งกลายเป็นประเด็นเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ‼️ คำเตือนจากเหตุการณ์ ⛔ ความขัดแย้งอาจทำให้ห่วงโซ่อุปทานโลกหยุดชะงัก ⛔ เสี่ยงต่อการแบ่งขั้วทางเทคโนโลยีระหว่างจีนและยุโรป https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/wingtech-nexperia-dispute-escalates-as-public-accusations-widen-the-rift
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Embattled Dutch chipmaker Nexperia gets into public spat with Chinese owners — accused of deception and obstruction, suspending wafer shipments
    A governance battle inside one of the world’s biggest suppliers of mature-node chips is now spilling into the open.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 190 มุมมอง 0 รีวิว
  • 13 ซอฟต์แวร์ยอดนิยมที่ “เหมือนโอเพ่นซอร์ส” แต่ไม่ใช่

    แม้ผู้ใช้ Linux ส่วนใหญ่จะนิยมซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส แต่ในชีวิตประจำวันกลับมีหลายโปรแกรมที่ถูกใช้งานอย่างแพร่หลาย ทั้งที่จริง ๆ แล้วเป็น ซอฟต์แวร์ปิด เพียงแต่มีลักษณะการทำงานและชุมชนที่ทำให้ “ดูเหมือน” โอเพ่นซอร์ส ตัวอย่างเช่น Visual Studio Code, Docker Desktop, Discord, Steam และอีกหลายตัวที่ผู้ใช้มักเข้าใจผิด

    รายชื่อทั้ง 13 ตัว
    Obsidian – แอปจดบันทึก Markdown
    Termius – SSH client แบบ cross-platform
    MobaXterm – เครื่องมือ remote access บน Windows
    Warp – Terminal ที่มี AI ช่วยเหลือ
    Docker Desktop – เครื่องมือ GUI สำหรับจัดการ container
    Visual Studio Code (VS Code) – ตัว build ของ Microsoft มีส่วน proprietary
    Discord – แพลตฟอร์มสื่อสารสำหรับนักพัฒนาและชุมชน
    Vivaldi – เว็บเบราว์เซอร์ที่สร้างบน Chromium แต่ UI เป็น proprietary
    VMWare Workstation – เครื่องมือ virtualization ระดับ enterprise
    Ukuu (Ubuntu Kernel Upgrade Utility) – เครื่องมือจัดการ kernel บน Ubuntu
    Plex – Media server ที่กลายเป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง
    Tailscale – ระบบ remote access ที่ใช้ WireGuard แต่ backend เป็น proprietary
    Snap Store – ศูนย์รวมซอฟต์แวร์ของ Ubuntu ที่ backend ปิดซอร์ส

    ทำไมซอฟต์แวร์เหล่านี้จึงถูกเข้าใจผิดบ่อย
    Obsidian: แอปจดบันทึกที่รองรับ Markdown และปลั๊กอิน แต่ตัวหลักเป็น proprietary ทางเลือกคือ Logseq, Joplin
    Termius: SSH client ที่ใช้ง่ายและทันสมัย แต่ปิดซอร์ส ทางเลือกคือ Tabby
    Warp: Terminal ที่มี AI ช่วย แต่ไม่เปิดซอร์ส ทางเลือกคือ Wave
    Docker Desktop: แม้ Docker เป็นโอเพ่นซอร์ส แต่ Desktop ไม่ใช่ ทางเลือกคือ Rancher Desktop
    VS Code: ตัว OSS เปิดซอร์ส แต่เวอร์ชัน Microsoft มีส่วน proprietary ทางเลือกคือ VSCodium

    ซอฟต์แวร์ที่มีผลกระทบต่อชุมชน
    โปรแกรมอย่าง Discord และ Steam แม้จะเป็น proprietary แต่กลับกลายเป็นหัวใจสำคัญของชุมชนผู้พัฒนาและนักเล่นเกมบน Linux ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากยังคงต้องพึ่งพา แม้จะมีทางเลือกโอเพ่นซอร์ส เช่น Element (Matrix) หรือ Lutris/Heroic Games Launcher

    บทสรุปจากบทความ
    ผู้เขียนชี้ว่า การใช้โอเพ่นซอร์สคือเรื่องของ “เสรีภาพ” ไม่ใช่ความบริสุทธิ์แบบสุดโต่ง หลายครั้งผู้ใช้ยังต้องพึ่ง proprietary เพื่อความสะดวกและประสิทธิภาพ แต่สิ่งสำคัญคือ การตระหนักรู้ถึงข้อจำกัดและการสนับสนุนทางเลือกโอเพ่นซอร์สควบคู่ไปด้วย

    สรุปสาระสำคัญ
    มีซอฟต์แวร์ 13 ตัวที่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นโอเพ่นซอร์ส
    เช่น Obsidian, Termius, Warp, Docker Desktop, VS Code, Discord, Steam

    แต่ละตัวมีทางเลือกโอเพ่นซอร์สแทนได้
    เช่น Logseq, Tabby, Rancher Desktop, VSCodium, Element, Lutris

    ซอฟต์แวร์ proprietary ยังถูกใช้งานเพราะความสะดวกและชุมชน
    Discord และ Steam เป็นตัวอย่างที่มีผลกระทบต่อผู้ใช้ Linux

    การพึ่งพา proprietary อาจสร้างข้อจำกัดด้านเสรีภาพซอฟต์แวร์
    ผู้ใช้ควรตระหนักและสนับสนุนโอเพ่นซอร์สควบคู่ไปด้วย

    https://itsfoss.com/popular-software-open-source-feel/
    🖥️ 13 ซอฟต์แวร์ยอดนิยมที่ “เหมือนโอเพ่นซอร์ส” แต่ไม่ใช่ แม้ผู้ใช้ Linux ส่วนใหญ่จะนิยมซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส แต่ในชีวิตประจำวันกลับมีหลายโปรแกรมที่ถูกใช้งานอย่างแพร่หลาย ทั้งที่จริง ๆ แล้วเป็น ซอฟต์แวร์ปิด เพียงแต่มีลักษณะการทำงานและชุมชนที่ทำให้ “ดูเหมือน” โอเพ่นซอร์ส ตัวอย่างเช่น Visual Studio Code, Docker Desktop, Discord, Steam และอีกหลายตัวที่ผู้ใช้มักเข้าใจผิด 📋 รายชื่อทั้ง 13 ตัว 🎗️ Obsidian – แอปจดบันทึก Markdown 🎗️ Termius – SSH client แบบ cross-platform 🎗️ MobaXterm – เครื่องมือ remote access บน Windows 🎗️ Warp – Terminal ที่มี AI ช่วยเหลือ 🎗️ Docker Desktop – เครื่องมือ GUI สำหรับจัดการ container 🎗️ Visual Studio Code (VS Code) – ตัว build ของ Microsoft มีส่วน proprietary 🎗️ Discord – แพลตฟอร์มสื่อสารสำหรับนักพัฒนาและชุมชน 🎗️ Vivaldi – เว็บเบราว์เซอร์ที่สร้างบน Chromium แต่ UI เป็น proprietary 🎗️ VMWare Workstation – เครื่องมือ virtualization ระดับ enterprise 🎗️ Ukuu (Ubuntu Kernel Upgrade Utility) – เครื่องมือจัดการ kernel บน Ubuntu 🎗️ Plex – Media server ที่กลายเป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง 🎗️ Tailscale – ระบบ remote access ที่ใช้ WireGuard แต่ backend เป็น proprietary 🎗️ Snap Store – ศูนย์รวมซอฟต์แวร์ของ Ubuntu ที่ backend ปิดซอร์ส 📒 ทำไมซอฟต์แวร์เหล่านี้จึงถูกเข้าใจผิดบ่อย 💠 Obsidian: แอปจดบันทึกที่รองรับ Markdown และปลั๊กอิน แต่ตัวหลักเป็น proprietary ทางเลือกคือ Logseq, Joplin 💠 Termius: SSH client ที่ใช้ง่ายและทันสมัย แต่ปิดซอร์ส ทางเลือกคือ Tabby 💠 Warp: Terminal ที่มี AI ช่วย แต่ไม่เปิดซอร์ส ทางเลือกคือ Wave 💠 Docker Desktop: แม้ Docker เป็นโอเพ่นซอร์ส แต่ Desktop ไม่ใช่ ทางเลือกคือ Rancher Desktop 💠 VS Code: ตัว OSS เปิดซอร์ส แต่เวอร์ชัน Microsoft มีส่วน proprietary ทางเลือกคือ VSCodium 🌐 ซอฟต์แวร์ที่มีผลกระทบต่อชุมชน โปรแกรมอย่าง Discord และ Steam แม้จะเป็น proprietary แต่กลับกลายเป็นหัวใจสำคัญของชุมชนผู้พัฒนาและนักเล่นเกมบน Linux ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากยังคงต้องพึ่งพา แม้จะมีทางเลือกโอเพ่นซอร์ส เช่น Element (Matrix) หรือ Lutris/Heroic Games Launcher 🔍 บทสรุปจากบทความ ผู้เขียนชี้ว่า การใช้โอเพ่นซอร์สคือเรื่องของ “เสรีภาพ” ไม่ใช่ความบริสุทธิ์แบบสุดโต่ง หลายครั้งผู้ใช้ยังต้องพึ่ง proprietary เพื่อความสะดวกและประสิทธิภาพ แต่สิ่งสำคัญคือ การตระหนักรู้ถึงข้อจำกัดและการสนับสนุนทางเลือกโอเพ่นซอร์สควบคู่ไปด้วย 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ มีซอฟต์แวร์ 13 ตัวที่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นโอเพ่นซอร์ส ➡️ เช่น Obsidian, Termius, Warp, Docker Desktop, VS Code, Discord, Steam ✅ แต่ละตัวมีทางเลือกโอเพ่นซอร์สแทนได้ ➡️ เช่น Logseq, Tabby, Rancher Desktop, VSCodium, Element, Lutris ✅ ซอฟต์แวร์ proprietary ยังถูกใช้งานเพราะความสะดวกและชุมชน ➡️ Discord และ Steam เป็นตัวอย่างที่มีผลกระทบต่อผู้ใช้ Linux ‼️ การพึ่งพา proprietary อาจสร้างข้อจำกัดด้านเสรีภาพซอฟต์แวร์ ⛔ ผู้ใช้ควรตระหนักและสนับสนุนโอเพ่นซอร์สควบคู่ไปด้วย https://itsfoss.com/popular-software-open-source-feel/
    ITSFOSS.COM
    13 Popular Software That Feel Like Open Source But They Are Not
    From VS Code to Docker Desktop, here’s a list of software often mistaken as open source by Linux users, with open alternatives for each.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 119 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline
    #รวมข่าวIT #20251128 #securityonline

    The “Korean Leaks” Siege: Qilin & North Korea Cripple Financial Sector via MSP Hack
    เรื่องนี้เป็นการโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่สั่นสะเทือนระบบการเงินของเกาหลีใต้ กลุ่มแฮกเกอร์ Qilin ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ Ransomware-as-a-Service ได้ร่วมมือกับกลุ่มที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลเกาหลีเหนือ ใช้ช่องโหว่จากผู้ให้บริการ IT รายหนึ่งที่ดูแลบริษัทการเงินหลายแห่ง ทำให้สามารถเจาะเข้าถึงข้อมูลและระบบของเหยื่อจำนวนมากในคราวเดียว การโจมตีครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเรียกค่าไถ่ธรรมดา แต่ถูกนำเสนอในเชิงการเมือง มีการเผยแพร่ข้อมูลออกมาเป็นระลอก พร้อมคำขู่ที่จะทำลายเสถียรภาพของตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ถือเป็นการผสมผสานระหว่างอาชญากรรมไซเบอร์เพื่อผลประโยชน์และการจารกรรมที่มีเป้าหมายทางการเมือง
    https://securityonline.info/the-korean-leaks-siege-qilin-north-korea-cripple-financial-sector-via-msp-hack

    One Identity Safeguard Named a Visionary in the 2025 Gartner Magic Quadrant for PAM
    ข่าวนี้เล่าถึงการที่ One Identity ได้รับการจัดอันดับเป็น “Visionary” ในรายงาน Gartner Magic Quadrant สำหรับ Privileged Access Management ปี 2025 จุดเด่นคือการใช้ AI มาช่วยจัดการสิทธิ์การเข้าถึง การออกแบบที่ใช้งานง่าย และราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่งในตลาด ทำให้เป็นโซลูชันที่ทั้งมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า Gartner ยกย่องว่าเป็นผู้บุกเบิกที่นำเสนอแนวทางใหม่ ๆ ในการจัดการสิทธิ์พิเศษ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการรักษาความปลอดภัยองค์กรในยุคดิจิทัล
    https://securityonline.info/one-identity-safeguard-named-a-visionary-in-the-2025-gartner-magic-quadrant-for-pam

    Quttera Launches “Evidence-as-Code” API to Automate Security Compliance for SOC 2 and PCI DSS v4.0
    Quttera เปิดตัว API ใหม่ที่ช่วยให้การตรวจสอบความปลอดภัยและการเตรียมหลักฐานสำหรับการตรวจสอบมาตรฐาน SOC 2 และ PCI DSS v4.0 เป็นไปโดยอัตโนมัติ ลดภาระงานที่ต้องใช้เวลาหลายสิบชั่วโมงในการรวบรวมข้อมูลด้วยมือ ระบบใหม่นี้สามารถสร้างหลักฐานแบบเรียลไทม์และเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม GRC ได้ทันที พร้อมทั้งมี Threat Encyclopedia ที่ใช้ AI ในการอธิบายพฤติกรรมมัลแวร์และแนวทางแก้ไข ถือเป็นการเปลี่ยนการทำงานจากแบบแมนนวลไปสู่การจัดการแบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ
    https://securityonline.info/quttera-launches-evidence-as-code-api-to-automate-security-compliance-for-soc-2-and-pci-dss-v4-0

    Crypto Crisis: UPBIT Hacked for $369 Million in Solana-Based Tokens
    ตลาดคริปโตของเกาหลีใต้สะเทือนเมื่อ UPBIT ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตที่ใหญ่ที่สุด ถูกแฮกเกอร์โจมตีและขโมยเหรียญดิจิทัลมูลค่ากว่า 369 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เหรียญที่ถูกขโมยส่วนใหญ่เป็น Solana-based tokens หลังจากพบความผิดปกติ UPBIT รีบย้ายทรัพย์สินที่เหลือไปเก็บใน cold wallet และร่วมมือกับหน่วยงานรัฐเพื่อสกัดกั้นการเคลื่อนย้ายเงินที่ถูกขโมย ข่าวดีคือมีบางส่วนถูกแช่แข็งไว้ได้ทัน แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงของการเก็บสินทรัพย์ใน hot wallet และความท้าทายในการรักษาความปลอดภัยของตลาดคริปโต
    https://securityonline.info/crypto-crisis-upbit-hacked-for-369-million-in-solana-based-tokens

    500M PCs Stranded: Windows 11 Adoption Lags as Windows 10 Support Ends
    Microsoft ประกาศยุติการสนับสนุน Windows 10 อย่างเป็นทางการ ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากต้องพิจารณาการอัปเกรดไป Windows 11 แต่ปัญหาคือมีคอมพิวเตอร์กว่า 500 ล้านเครื่องที่ไม่สามารถอัปเกรดได้เพราะไม่ผ่านข้อกำหนดฮาร์ดแวร์ใหม่ แม้ Microsoft จะเปิดโปรแกรม ESU ให้ผู้ใช้ Windows 10 ยังได้รับอัปเดตความปลอดภัยต่อไปอีกหนึ่งปี แต่การย้ายไป Windows 11 กลับเป็นไปอย่างเชื่องช้า หลายคนยังคงมองว่า Windows 10 มีความเสถียรมากกว่า และไม่เห็นความจำเป็นในการซื้อเครื่องใหม่เพียงเพื่อเปลี่ยนระบบปฏิบัติการ ทำให้การเปลี่ยนผ่านครั้งนี้อาจกินเวลาหลายปี
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/500m-pcs-stranded-windows-11-adoption-lags-as-windows-10-support-ends
    📌🔐🔵 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🔵🔐📌 #รวมข่าวIT #20251128 #securityonline 🛡️ The “Korean Leaks” Siege: Qilin & North Korea Cripple Financial Sector via MSP Hack เรื่องนี้เป็นการโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่สั่นสะเทือนระบบการเงินของเกาหลีใต้ กลุ่มแฮกเกอร์ Qilin ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ Ransomware-as-a-Service ได้ร่วมมือกับกลุ่มที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลเกาหลีเหนือ ใช้ช่องโหว่จากผู้ให้บริการ IT รายหนึ่งที่ดูแลบริษัทการเงินหลายแห่ง ทำให้สามารถเจาะเข้าถึงข้อมูลและระบบของเหยื่อจำนวนมากในคราวเดียว การโจมตีครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเรียกค่าไถ่ธรรมดา แต่ถูกนำเสนอในเชิงการเมือง มีการเผยแพร่ข้อมูลออกมาเป็นระลอก พร้อมคำขู่ที่จะทำลายเสถียรภาพของตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ถือเป็นการผสมผสานระหว่างอาชญากรรมไซเบอร์เพื่อผลประโยชน์และการจารกรรมที่มีเป้าหมายทางการเมือง 🔗 https://securityonline.info/the-korean-leaks-siege-qilin-north-korea-cripple-financial-sector-via-msp-hack ✨ One Identity Safeguard Named a Visionary in the 2025 Gartner Magic Quadrant for PAM ข่าวนี้เล่าถึงการที่ One Identity ได้รับการจัดอันดับเป็น “Visionary” ในรายงาน Gartner Magic Quadrant สำหรับ Privileged Access Management ปี 2025 จุดเด่นคือการใช้ AI มาช่วยจัดการสิทธิ์การเข้าถึง การออกแบบที่ใช้งานง่าย และราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่งในตลาด ทำให้เป็นโซลูชันที่ทั้งมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า Gartner ยกย่องว่าเป็นผู้บุกเบิกที่นำเสนอแนวทางใหม่ ๆ ในการจัดการสิทธิ์พิเศษ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการรักษาความปลอดภัยองค์กรในยุคดิจิทัล 🔗 https://securityonline.info/one-identity-safeguard-named-a-visionary-in-the-2025-gartner-magic-quadrant-for-pam ⚙️ Quttera Launches “Evidence-as-Code” API to Automate Security Compliance for SOC 2 and PCI DSS v4.0 Quttera เปิดตัว API ใหม่ที่ช่วยให้การตรวจสอบความปลอดภัยและการเตรียมหลักฐานสำหรับการตรวจสอบมาตรฐาน SOC 2 และ PCI DSS v4.0 เป็นไปโดยอัตโนมัติ ลดภาระงานที่ต้องใช้เวลาหลายสิบชั่วโมงในการรวบรวมข้อมูลด้วยมือ ระบบใหม่นี้สามารถสร้างหลักฐานแบบเรียลไทม์และเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม GRC ได้ทันที พร้อมทั้งมี Threat Encyclopedia ที่ใช้ AI ในการอธิบายพฤติกรรมมัลแวร์และแนวทางแก้ไข ถือเป็นการเปลี่ยนการทำงานจากแบบแมนนวลไปสู่การจัดการแบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ 🔗 https://securityonline.info/quttera-launches-evidence-as-code-api-to-automate-security-compliance-for-soc-2-and-pci-dss-v4-0 💰 Crypto Crisis: UPBIT Hacked for $369 Million in Solana-Based Tokens ตลาดคริปโตของเกาหลีใต้สะเทือนเมื่อ UPBIT ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตที่ใหญ่ที่สุด ถูกแฮกเกอร์โจมตีและขโมยเหรียญดิจิทัลมูลค่ากว่า 369 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เหรียญที่ถูกขโมยส่วนใหญ่เป็น Solana-based tokens หลังจากพบความผิดปกติ UPBIT รีบย้ายทรัพย์สินที่เหลือไปเก็บใน cold wallet และร่วมมือกับหน่วยงานรัฐเพื่อสกัดกั้นการเคลื่อนย้ายเงินที่ถูกขโมย ข่าวดีคือมีบางส่วนถูกแช่แข็งไว้ได้ทัน แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงของการเก็บสินทรัพย์ใน hot wallet และความท้าทายในการรักษาความปลอดภัยของตลาดคริปโต 🔗 https://securityonline.info/crypto-crisis-upbit-hacked-for-369-million-in-solana-based-tokens 💻 500M PCs Stranded: Windows 11 Adoption Lags as Windows 10 Support Ends Microsoft ประกาศยุติการสนับสนุน Windows 10 อย่างเป็นทางการ ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากต้องพิจารณาการอัปเกรดไป Windows 11 แต่ปัญหาคือมีคอมพิวเตอร์กว่า 500 ล้านเครื่องที่ไม่สามารถอัปเกรดได้เพราะไม่ผ่านข้อกำหนดฮาร์ดแวร์ใหม่ แม้ Microsoft จะเปิดโปรแกรม ESU ให้ผู้ใช้ Windows 10 ยังได้รับอัปเดตความปลอดภัยต่อไปอีกหนึ่งปี แต่การย้ายไป Windows 11 กลับเป็นไปอย่างเชื่องช้า หลายคนยังคงมองว่า Windows 10 มีความเสถียรมากกว่า และไม่เห็นความจำเป็นในการซื้อเครื่องใหม่เพียงเพื่อเปลี่ยนระบบปฏิบัติการ ทำให้การเปลี่ยนผ่านครั้งนี้อาจกินเวลาหลายปี ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/500m-pcs-stranded-windows-11-adoption-lags-as-windows-10-support-ends
    SECURITYONLINE.INFO
    The "Korean Leaks" Siege: Qilin & North Korea Cripple Financial Sector via MSP Hack
    Qilin & North Korean hackers launch "Korean Leaks," a massive supply chain attack on South Korea's financial sector via a compromised MSP.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 302 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนกำลังพัฒนา Hybrid-Bonded AI Accelerators สู้กับ Nvidia Blackwell GPUs

    Hybrid bonding คือเทคนิคการเชื่อมต่อชิปหลายตัวเข้าด้วยกันในระดับนาโนเมตร ทำให้สามารถรวมหน่วยประมวลผลและหน่วยความจำไว้ใกล้กันมากขึ้น ลดความหน่วงและเพิ่มแบนด์วิดท์ เทคโนโลยีนี้ถูกมองว่าเป็นหัวใจสำคัญของการสร้าง AI accelerators ที่มีประสิทธิภาพสูง โดยจีนกำลังเร่งพัฒนาเพื่อใช้ในระบบ AI ขนาดใหญ่

    เป้าหมายแข่งขันกับ Nvidia Blackwell
    Nvidia Blackwell GPUs ซึ่งเปิดตัวในปี 2025 ถือเป็นมาตรฐานสูงสุดของการประมวลผล AI ด้วยสถาปัตยกรรมใหม่ที่รองรับโมเดลขนาดหลายพันล้านพารามิเตอร์ ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า Hybrid-Bonded AI Accelerators ของจีนอาจมีศักยภาพใกล้เคียงหรือเทียบเท่า Blackwell โดยเฉพาะในด้าน ประสิทธิภาพต่อวัตต์ และ การควบคุมห่วงโซ่อุปทาน

    ความหมายเชิงยุทธศาสตร์
    การพัฒนา AI accelerators ภายในประเทศช่วยให้จีนลดการพึ่งพา Nvidia และบริษัทตะวันตก ซึ่งถูกจำกัดการส่งออกชิปขั้นสูงโดยสหรัฐฯ หากจีนสามารถผลิตชิปที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียง Blackwell ได้จริง จะเป็นการสร้าง ความมั่นคงทางเทคโนโลยี และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก

    ความท้าทายและโอกาส
    แม้เทคโนโลยี hybrid bonding จะมีศักยภาพสูง แต่การผลิตในระดับอุตสาหกรรมยังต้องใช้เวลาและการลงทุนมหาศาล อีกทั้งยังต้องพิสูจน์ว่าชิปที่พัฒนาขึ้นสามารถทำงานได้จริงในสเกลใหญ่ หากสำเร็จ จีนจะมีทางเลือกที่ “ควบคุมได้เองทั้งหมด” ซึ่งอาจเปลี่ยนสมดุลของตลาด AI hardware

    สรุปประเด็นสำคัญ
    จีนพัฒนา Hybrid-Bonded AI Accelerators
    ใช้เทคนิคเชื่อมต่อชิปหลายตัวเพื่อลดความหน่วงและเพิ่มแบนด์วิดท์

    เป้าหมายแข่งขันกับ Nvidia Blackwell GPUs
    มุ่งเน้นประสิทธิภาพต่อวัตต์และการควบคุมห่วงโซ่อุปทาน

    ความหมายเชิงยุทธศาสตร์
    ลดการพึ่งพาเทคโนโลยีตะวันตกและสร้างความมั่นคงทางเทคโนโลยี

    โอกาสในการเปลี่ยนสมดุลตลาด AI
    หากสำเร็จ จีนจะมีชิปที่ควบคุมได้เองทั้งหมด

    ความท้าทายด้านการผลิตในระดับอุตสาหกรรม
    ต้องใช้เวลาและการลงทุนมหาศาลเพื่อพิสูจน์ความเสถียร

    ความเสี่ยงด้านการใช้งานจริง
    หากชิปไม่สามารถทำงานได้ในสเกลใหญ่ อาจไม่สามารถแข่งขันกับ Nvidia ได้จริง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/chinas-hybrid-bonded-ai-accelerators-could-rival-nvidias-blackwell-gpus-top-semiconductor-expert-hints-at-fully-controllable-domestic-solution
    ⚙️ จีนกำลังพัฒนา Hybrid-Bonded AI Accelerators สู้กับ Nvidia Blackwell GPUs Hybrid bonding คือเทคนิคการเชื่อมต่อชิปหลายตัวเข้าด้วยกันในระดับนาโนเมตร ทำให้สามารถรวมหน่วยประมวลผลและหน่วยความจำไว้ใกล้กันมากขึ้น ลดความหน่วงและเพิ่มแบนด์วิดท์ เทคโนโลยีนี้ถูกมองว่าเป็นหัวใจสำคัญของการสร้าง AI accelerators ที่มีประสิทธิภาพสูง โดยจีนกำลังเร่งพัฒนาเพื่อใช้ในระบบ AI ขนาดใหญ่ 🚀 เป้าหมายแข่งขันกับ Nvidia Blackwell Nvidia Blackwell GPUs ซึ่งเปิดตัวในปี 2025 ถือเป็นมาตรฐานสูงสุดของการประมวลผล AI ด้วยสถาปัตยกรรมใหม่ที่รองรับโมเดลขนาดหลายพันล้านพารามิเตอร์ ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า Hybrid-Bonded AI Accelerators ของจีนอาจมีศักยภาพใกล้เคียงหรือเทียบเท่า Blackwell โดยเฉพาะในด้าน ประสิทธิภาพต่อวัตต์ และ การควบคุมห่วงโซ่อุปทาน 🌍 ความหมายเชิงยุทธศาสตร์ การพัฒนา AI accelerators ภายในประเทศช่วยให้จีนลดการพึ่งพา Nvidia และบริษัทตะวันตก ซึ่งถูกจำกัดการส่งออกชิปขั้นสูงโดยสหรัฐฯ หากจีนสามารถผลิตชิปที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียง Blackwell ได้จริง จะเป็นการสร้าง ความมั่นคงทางเทคโนโลยี และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก 🔮 ความท้าทายและโอกาส แม้เทคโนโลยี hybrid bonding จะมีศักยภาพสูง แต่การผลิตในระดับอุตสาหกรรมยังต้องใช้เวลาและการลงทุนมหาศาล อีกทั้งยังต้องพิสูจน์ว่าชิปที่พัฒนาขึ้นสามารถทำงานได้จริงในสเกลใหญ่ หากสำเร็จ จีนจะมีทางเลือกที่ “ควบคุมได้เองทั้งหมด” ซึ่งอาจเปลี่ยนสมดุลของตลาด AI hardware 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ จีนพัฒนา Hybrid-Bonded AI Accelerators ➡️ ใช้เทคนิคเชื่อมต่อชิปหลายตัวเพื่อลดความหน่วงและเพิ่มแบนด์วิดท์ ✅ เป้าหมายแข่งขันกับ Nvidia Blackwell GPUs ➡️ มุ่งเน้นประสิทธิภาพต่อวัตต์และการควบคุมห่วงโซ่อุปทาน ✅ ความหมายเชิงยุทธศาสตร์ ➡️ ลดการพึ่งพาเทคโนโลยีตะวันตกและสร้างความมั่นคงทางเทคโนโลยี ✅ โอกาสในการเปลี่ยนสมดุลตลาด AI ➡️ หากสำเร็จ จีนจะมีชิปที่ควบคุมได้เองทั้งหมด ‼️ ความท้าทายด้านการผลิตในระดับอุตสาหกรรม ⛔ ต้องใช้เวลาและการลงทุนมหาศาลเพื่อพิสูจน์ความเสถียร ‼️ ความเสี่ยงด้านการใช้งานจริง ⛔ หากชิปไม่สามารถทำงานได้ในสเกลใหญ่ อาจไม่สามารถแข่งขันกับ Nvidia ได้จริง https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/chinas-hybrid-bonded-ai-accelerators-could-rival-nvidias-blackwell-gpus-top-semiconductor-expert-hints-at-fully-controllable-domestic-solution
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 209 มุมมอง 0 รีวิว
  • O.P.K.
    คดีเครื่องจักรสังหาร: ศึกตัดสินโดยไร้พ่อ

    การปรากฏตัวของหุ่นสังหาร

    เหตุการณ์ฆาตกรรมปริศนา

    เกิดคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่ไม่มีร่องรอยการบุกรุก
    เหยื่อทั้งหมดเป็นบุคคลสำคัญในวงการเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์

    ```mermaid
    graph TB
    A[นักวิทยาศาสตร์<br>ถูกฆาตกรรม] --> B[ไม่มีร่องรอย<br>การบุกรุก]
    C[นักธุรกิจ<br>ถูกฆาตกรรม] --> B
    D[นักวิจัย<br>ถูกฆาตกรรม] --> B
    B --> E[หนูดีต้อง<br>สืบสวนแทนพ่อ]
    ```

    ลักษณะคดีที่น่าสงสัย

    · ไม่มีลายนิ้วมือ: ไม่มีร่องรอยมนุษย์
    · ไม่มีการต่อสู้: เหยื่อเหมือนยอมให้ฆ่า
    · เวลาเกิดเหตุ: ตรงกันทุกครั้งคือ 03:33 น.

    การสืบสวนโดยไร้ประสบการณ์

    ความยากลำบากของหนูดี

    หนูดีต้องสืบสวนคดีครั้งแรกโดยไม่มีพ่อคอยแนะนำ:

    ```python
    class InvestigationChallenges:
    def __init__(self):
    self.lack_of_experience = [
    "ไม่รู้ขั้นตอนการสืบสวนที่ถูกต้อง",
    "ไม่มีความรู้ด้านนิติวิทยาศาสตร์",
    "ไม่เคยจัดการกับพยานหลักฐาน",
    "ไม่รู้วิธีเขียนรายงานการสืบสวน"
    ]

    self.emotional_struggles = [
    "คิดถึงพ่อในยามยาก",
    "ไม่มั่นใจในความสามารถตัวเอง",
    "กลัวที่จะล้มเหลว",
    "รู้สึกโดดเดี่ยวในการทำงาน"
    ]
    ```

    การขอความช่วยเหลือ

    หนูดีต้องหันไปหาผู้ช่วยใหม่:

    · ธรรมบาลเทพ: ให้คำแนะนำแต่ไม่สามารถช่วยโดยตรง
    · โอปปาติกะรุ่นพี่: ให้ข้อมูลแต่ขาดประสบการณ์สืบสวน
    · เพื่อนตำรวจของพ่อ: ช่วยเหลือแต่ไม่เข้าใจพลังพิเศษ

    การค้นพบที่น่าตกใจ

    หลักฐานทางเทคโนโลยี

    หนูดีค้นพบว่าเหยื่อทั้งหมดเกี่ยวข้องกับโครงการลับ:

    ```mermaid
    graph LR
    A[เหยื่อคนที่ 1<br>ผู้เชี่ยวชาญ AI] --> D[โครงการ<br>"จิตวิญญาณจักรกล"]
    B[เหยื่อคนที่ 2<br>นักวิทยหุ่นยนต์] --> D
    C[เหยื่อคนที่ 3<br>นักประสาทวิทยาศาสตร์] --> D
    ```

    การลักลอบใช้เทคโนโลยี

    โครงการ "จิตวิญญาณจักรกล" เกี่ยวข้องกับ:

    · การถ่ายโอนจิตสำนึก: สู่ร่างหุ่นยนต์
    · ฮิวแมนนอยด์ขั้นสูง: ที่แทบไม่ต่างจากมนุษย์
    · การสร้างหุ่นพยนต์: ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่

    ตัวตนของนักฆ่าจักรกล

    หุ่นพยนต์รุ่นใหม่

    นักฆ่าคือหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่ถูกจุติด้วยจิตวิญญาณมาร:

    ```python
    class MechanicalAssassin:
    def __init__(self):
    self.specifications = {
    "model": "Mara-X7",
    "appearance": "เหมือนมนุษย์ทุกประการ",
    "abilities": [
    "เปลี่ยนรูปลักษณ์ได้",
    "ลบร่องรอยดิจิตอล",
    "เคลื่อนไหวไร้เสียง",
    "ทนทานต่ออาวุธทั่วไป"
    ],
    "weakness": "ไวต่อพลังงานจิตบริสุทธิ์"
    }

    self.origin = {
    "creator": "กลุ่มนักวิทยาศาสตร์นอกระบบ",
    "purpose": "กำจัดผู้ที่รู้ความลับโครงการ",
    "soul_source": "จิตวิญญาณมารระดับสูง",
    "control_system": "AI ที่เรียนรู้ได้เอง"
    }
    ```

    วิธีการทำงาน

    หุ่นพยนต์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ:

    · สอดแนม: ผ่านระบบเครือข่าย
    · วางแผน: ด้วย AI ที่คำนวณความเสี่ยง
    · ปฏิบัติการ: อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
    · หลบหนี: โดยไม่ทิ้งร่องรอย

    การเผชิญหน้าที่เต็มไปด้วยความยุ่งยาก

    การต่อสู้ครั้งแรก

    หนูดีเผชิญหน้ากับหุ่นพยนต์แต่พบว่าตนเองไม่พร้อม:
    "ฉันทำไม่ได้...ฉันไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไร"
    หนูดีรู้สึกหมดกำลังใจเมื่อนึกถึงพ่อ

    ความช่วยเหลือจากเทพคุ้มครอง

    ธรรมบาลเทพปรากฏตัวแต่ช่วยได้จำกัด:
    "เราสามารถให้คำแนะนำได้แต่เจ้าต้องเรียนรู้ที่จะสู้ด้วยตัวเอง"

    การเรียนรู้อย่างเร่งด่วน

    หนูดีต้องเรียนรู้ทุกอย่างอย่างรวดเร็ว:

    ```mermaid
    graph TB
    A[หนูดี<br>ขาดประสบการณ์] --> B[เร่งเรียน<br>การสืบสวน]
    A --> C[ฝึกฝน<br>การต่อสู้]
    A --> D[เรียนรู้<br>เทคโนโลยี]
    B --> E[พัฒนาทักษะ<br>อย่างรวดเร็ว]
    C --> E
    D --> E
    ```

    การแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์

    การใช้พลังพิเศษ

    หนูดีค้นพบว่าหุ่นพยนต์มีจุดอ่อน:

    · พลังงานจิต: รบกวนระบบอิเล็กทรอนิกส์
    · อารมณ์มนุษย์: สิ่งที่ AI เข้าใจยาก
    · ความไม่แน่นอน: ที่การคำนวณทำนายไม่ได้

    การพัฒนายุทธวิธีใหม่

    หนูดีสร้างวิธีการต่อสู้อันซับซ้อน

    ```python
    class BattleStrategy:
    def __init__(self):
    self.psychological_warfare = [
    "ใช้ความไม่แน่นอนทำให้ AI สับสน",
    "สร้างสถานการณ์ที่คำนวณไม่ได้",
    "ใช้จิตวิทยากับจิตวิญญาณมาร",
    "สร้างความขัดแย้งในระบบ"
    ]

    self.technical_countermeasures = [
    "ใช้พลังงานจิตรบกวนเซ็นเซอร์",
    "สร้างสนามพลังยับยั้งการสื่อสาร",
    "ใช้คลื่นอารมณ์ทำลายเสถียรภาพ",
    "โจมตีจุดเชื่อมต่อพลังงาน"
    ]
    ```

    การต่อสู้ครั้งสำคัญ

    ศึกตัดสินที่โรงงานร้าง

    หนูดีตามหุ่นพยนต์ไปยังฐานลับ:
    หนูดี:"เจ้าคือเครื่องมือของความชั่ว!"
    หุ่นพยนต์:"เราเพียงทำตามโปรแกรม... เหมือนเจ้าที่ทำตามความทรงจำเกี่ยวกับพ่อ"

    การใช้บทเรียนจากพ่อ

    ในวินาทีสำคัญ หนูดีนึกถึงคำสอนของพ่อ:
    "พ่อเคยบอกว่า...การเป็นตำรวจที่ดีต้องการใช้เพียงประสบการณ์
    แต่คือการใช้หัวใจและสติปัญญา"

    การโจมตีจุดอ่อน

    หนูดีใช้ทั้งพลังและปัญญา:

    · สร้างความขัดแย้ง: ในจิตวิญญาณมาร
    · รบกวนระบบ: ด้วยพลังงานอารมณ์
    · โจมตีจิตใจ: ของผู้ควบคุมเบื้องหลัง

    ชัยชนะแห่งการเติบโต

    การก้าวข้ามความกลัว

    หนูดีพิสูจน์ว่าตนเองสามารถ:

    · สืบสวนคดี: ได้โดยไม่มีพ่อ
    · จัดการกับเทคโนโลยี: ที่ทันสมัย
    · ใช้พลัง: อย่างชาญฉลาด

    บทเรียนที่ได้รับ

    ```python
    class GrowthLessons:
    def __init__(self):
    self.personal_growth = [
    "เรียนรู้ที่จะ
    "เข้าใจว่าความกลัวคือโอกาสในการเติบโต",
    "พัฒนาความเป็นผู้นำจากการตัดสินใจ",
    "รู้จักขอความช่วยเหลือเมื่อจำเป็น"
    ]

    self.professional_skills = [
    "การสืบสวนอย่างเป็นระบบ",
    "การวิเคราะห์พยานหลักฐาน",
    "การจัดการกับเทคโนโลยีสมัยใหม่",
    "การทำงานเป็นทีมกับผู้เชี่ยวชาญ"
    ]
    ```

    การพัฒนาสู่ผู้เชี่ยวชาญ

    การเป็นที่ปรึกษาอิสระ

    หลังคดีนี้ หนูดีได้รับการยอมรับในฐานะ:

    · ที่ปรึกษาด้านคดีพิเศษ: สำหรับหน่วยงานรัฐ
    · ผู้เชี่ยวชาญโอปปาติกะ: ด้านความมั่นคง
    · ครูสอนการควบคุมพลัง: สำหรับรุ่นน้อง

    เครือข่าย

    หนูดีสร้างความร่วมมือใหม่:

    · กับหน่วยงานไฮเทค: ด้านความปลอดภัย
    · กับนักวิทยาศาสตร์: ด้านเทคโนโลยีและจิตวิญญาณ
    · กับชุมชนโอปปาติกะ: ด้านการพัฒนาทักษะ

    บทสรุปแห่งการเติบโต

    คำคมจากหนูดี

    "ฉันเรียนรู้ว่า...
    การไม่มีพ่อไม่ใช่ข้ออ้างที่จะล้มเหลว
    แต่คือโอกาสที่จะพิสูจน์ตัวเอง

    และประสบการณ์ไม่ใช่สิ่งที่ได้มาโดยง่าย
    แต่คือบทเรียนที่ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง"

    คำคมจากธรรมบาลเทพ

    "การเติบโตที่แท้จริง...
    เกิดขึ้นเมื่อเราก้าวเดินด้วยขาของตัวเอง
    แม้ทางนั้นจะยากลำบากและไม่แน่นอน

    และพ่อที่แท้จริง...
    คือผู้ที่สอนให้ลูกรู้จักยืนได้ด้วยตัวเอง"

    ---

    คำคมสุดท้ายจากคดี:
    "ในความมืดมิดแห่งการสูญเสีย...
    มีแสงสว่างแห่งการเติบโต

    และในความยุ่งยากแห่งการเดินทาง...
    มีบทเรียนแห่งความแข็งแกร่ง

    พ่ออาจจากไป...
    แต่สิ่งที่พ่อสอนจะคงอยู่ตลอดไป

    และฉัน...
    จะก้าวเดินต่อไปบนทางที่พ่อได้เริ่มไว้"

    บทเรียนแห่งความเป็นตำรวจ:
    "การเป็นนักสืบอาศัยหลักฐาน
    แต่คือการเรียนรู้ที่จะพึ่งพาตนเอง

    และการคลี่คลายคดี...
    มักเริ่มต้นจากการเข้าใจตัวเอง"
    O.P.K. 🔪 คดีเครื่องจักรสังหาร: ศึกตัดสินโดยไร้พ่อ 🤖 การปรากฏตัวของหุ่นสังหาร 🚨 เหตุการณ์ฆาตกรรมปริศนา เกิดคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่ไม่มีร่องรอยการบุกรุก เหยื่อทั้งหมดเป็นบุคคลสำคัญในวงการเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ```mermaid graph TB A[นักวิทยาศาสตร์<br>ถูกฆาตกรรม] --> B[ไม่มีร่องรอย<br>การบุกรุก] C[นักธุรกิจ<br>ถูกฆาตกรรม] --> B D[นักวิจัย<br>ถูกฆาตกรรม] --> B B --> E[หนูดีต้อง<br>สืบสวนแทนพ่อ] ``` 🔍 ลักษณะคดีที่น่าสงสัย · ไม่มีลายนิ้วมือ: ไม่มีร่องรอยมนุษย์ · ไม่มีการต่อสู้: เหยื่อเหมือนยอมให้ฆ่า · เวลาเกิดเหตุ: ตรงกันทุกครั้งคือ 03:33 น. 🕵️ การสืบสวนโดยไร้ประสบการณ์ 💔 ความยากลำบากของหนูดี หนูดีต้องสืบสวนคดีครั้งแรกโดยไม่มีพ่อคอยแนะนำ: ```python class InvestigationChallenges: def __init__(self): self.lack_of_experience = [ "ไม่รู้ขั้นตอนการสืบสวนที่ถูกต้อง", "ไม่มีความรู้ด้านนิติวิทยาศาสตร์", "ไม่เคยจัดการกับพยานหลักฐาน", "ไม่รู้วิธีเขียนรายงานการสืบสวน" ] self.emotional_struggles = [ "คิดถึงพ่อในยามยาก", "ไม่มั่นใจในความสามารถตัวเอง", "กลัวที่จะล้มเหลว", "รู้สึกโดดเดี่ยวในการทำงาน" ] ``` 🆘 การขอความช่วยเหลือ หนูดีต้องหันไปหาผู้ช่วยใหม่: · ธรรมบาลเทพ: ให้คำแนะนำแต่ไม่สามารถช่วยโดยตรง · โอปปาติกะรุ่นพี่: ให้ข้อมูลแต่ขาดประสบการณ์สืบสวน · เพื่อนตำรวจของพ่อ: ช่วยเหลือแต่ไม่เข้าใจพลังพิเศษ 🤯 การค้นพบที่น่าตกใจ 🔬 หลักฐานทางเทคโนโลยี หนูดีค้นพบว่าเหยื่อทั้งหมดเกี่ยวข้องกับโครงการลับ: ```mermaid graph LR A[เหยื่อคนที่ 1<br>ผู้เชี่ยวชาญ AI] --> D[โครงการ<br>"จิตวิญญาณจักรกล"] B[เหยื่อคนที่ 2<br>นักวิทยหุ่นยนต์] --> D C[เหยื่อคนที่ 3<br>นักประสาทวิทยาศาสตร์] --> D ``` 👁️ การลักลอบใช้เทคโนโลยี โครงการ "จิตวิญญาณจักรกล" เกี่ยวข้องกับ: · การถ่ายโอนจิตสำนึก: สู่ร่างหุ่นยนต์ · ฮิวแมนนอยด์ขั้นสูง: ที่แทบไม่ต่างจากมนุษย์ · การสร้างหุ่นพยนต์: ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ 🦾 ตัวตนของนักฆ่าจักรกล 🤖 หุ่นพยนต์รุ่นใหม่ นักฆ่าคือหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่ถูกจุติด้วยจิตวิญญาณมาร: ```python class MechanicalAssassin: def __init__(self): self.specifications = { "model": "Mara-X7", "appearance": "เหมือนมนุษย์ทุกประการ", "abilities": [ "เปลี่ยนรูปลักษณ์ได้", "ลบร่องรอยดิจิตอล", "เคลื่อนไหวไร้เสียง", "ทนทานต่ออาวุธทั่วไป" ], "weakness": "ไวต่อพลังงานจิตบริสุทธิ์" } self.origin = { "creator": "กลุ่มนักวิทยาศาสตร์นอกระบบ", "purpose": "กำจัดผู้ที่รู้ความลับโครงการ", "soul_source": "จิตวิญญาณมารระดับสูง", "control_system": "AI ที่เรียนรู้ได้เอง" } ``` 🎯 วิธีการทำงาน หุ่นพยนต์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ: · สอดแนม: ผ่านระบบเครือข่าย · วางแผน: ด้วย AI ที่คำนวณความเสี่ยง · ปฏิบัติการ: อย่างรวดเร็วและแม่นยำ · หลบหนี: โดยไม่ทิ้งร่องรอย 💫 การเผชิญหน้าที่เต็มไปด้วยความยุ่งยาก ⚡ การต่อสู้ครั้งแรก หนูดีเผชิญหน้ากับหุ่นพยนต์แต่พบว่าตนเองไม่พร้อม: "ฉันทำไม่ได้...ฉันไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไร" หนูดีรู้สึกหมดกำลังใจเมื่อนึกถึงพ่อ 🆘 ความช่วยเหลือจากเทพคุ้มครอง ธรรมบาลเทพปรากฏตัวแต่ช่วยได้จำกัด: "เราสามารถให้คำแนะนำได้แต่เจ้าต้องเรียนรู้ที่จะสู้ด้วยตัวเอง" 📚 การเรียนรู้อย่างเร่งด่วน หนูดีต้องเรียนรู้ทุกอย่างอย่างรวดเร็ว: ```mermaid graph TB A[หนูดี<br>ขาดประสบการณ์] --> B[เร่งเรียน<br>การสืบสวน] A --> C[ฝึกฝน<br>การต่อสู้] A --> D[เรียนรู้<br>เทคโนโลยี] B --> E[พัฒนาทักษะ<br>อย่างรวดเร็ว] C --> E D --> E ``` 🔧 การแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์ 💡 การใช้พลังพิเศษ หนูดีค้นพบว่าหุ่นพยนต์มีจุดอ่อน: · พลังงานจิต: รบกวนระบบอิเล็กทรอนิกส์ · อารมณ์มนุษย์: สิ่งที่ AI เข้าใจยาก · ความไม่แน่นอน: ที่การคำนวณทำนายไม่ได้ 🛠️ การพัฒนายุทธวิธีใหม่ หนูดีสร้างวิธีการต่อสู้อันซับซ้อน ```python class BattleStrategy: def __init__(self): self.psychological_warfare = [ "ใช้ความไม่แน่นอนทำให้ AI สับสน", "สร้างสถานการณ์ที่คำนวณไม่ได้", "ใช้จิตวิทยากับจิตวิญญาณมาร", "สร้างความขัดแย้งในระบบ" ] self.technical_countermeasures = [ "ใช้พลังงานจิตรบกวนเซ็นเซอร์", "สร้างสนามพลังยับยั้งการสื่อสาร", "ใช้คลื่นอารมณ์ทำลายเสถียรภาพ", "โจมตีจุดเชื่อมต่อพลังงาน" ] ``` 🌪️ การต่อสู้ครั้งสำคัญ ⚔️ ศึกตัดสินที่โรงงานร้าง หนูดีตามหุ่นพยนต์ไปยังฐานลับ: หนูดี:"เจ้าคือเครื่องมือของความชั่ว!" หุ่นพยนต์:"เราเพียงทำตามโปรแกรม... เหมือนเจ้าที่ทำตามความทรงจำเกี่ยวกับพ่อ" 💥 การใช้บทเรียนจากพ่อ ในวินาทีสำคัญ หนูดีนึกถึงคำสอนของพ่อ: "พ่อเคยบอกว่า...การเป็นตำรวจที่ดีต้องการใช้เพียงประสบการณ์ แต่คือการใช้หัวใจและสติปัญญา" 🎯 การโจมตีจุดอ่อน หนูดีใช้ทั้งพลังและปัญญา: · สร้างความขัดแย้ง: ในจิตวิญญาณมาร · รบกวนระบบ: ด้วยพลังงานอารมณ์ · โจมตีจิตใจ: ของผู้ควบคุมเบื้องหลัง 🏆 ชัยชนะแห่งการเติบโต 💪 การก้าวข้ามความกลัว หนูดีพิสูจน์ว่าตนเองสามารถ: · สืบสวนคดี: ได้โดยไม่มีพ่อ · จัดการกับเทคโนโลยี: ที่ทันสมัย · ใช้พลัง: อย่างชาญฉลาด 🌱 บทเรียนที่ได้รับ ```python class GrowthLessons: def __init__(self): self.personal_growth = [ "เรียนรู้ที่จะ "เข้าใจว่าความกลัวคือโอกาสในการเติบโต", "พัฒนาความเป็นผู้นำจากการตัดสินใจ", "รู้จักขอความช่วยเหลือเมื่อจำเป็น" ] self.professional_skills = [ "การสืบสวนอย่างเป็นระบบ", "การวิเคราะห์พยานหลักฐาน", "การจัดการกับเทคโนโลยีสมัยใหม่", "การทำงานเป็นทีมกับผู้เชี่ยวชาญ" ] ``` 📈 การพัฒนาสู่ผู้เชี่ยวชาญ 🎓 การเป็นที่ปรึกษาอิสระ หลังคดีนี้ หนูดีได้รับการยอมรับในฐานะ: · ที่ปรึกษาด้านคดีพิเศษ: สำหรับหน่วยงานรัฐ · ผู้เชี่ยวชาญโอปปาติกะ: ด้านความมั่นคง · ครูสอนการควบคุมพลัง: สำหรับรุ่นน้อง 🤝 เครือข่าย หนูดีสร้างความร่วมมือใหม่: · กับหน่วยงานไฮเทค: ด้านความปลอดภัย · กับนักวิทยาศาสตร์: ด้านเทคโนโลยีและจิตวิญญาณ · กับชุมชนโอปปาติกะ: ด้านการพัฒนาทักษะ 💫 บทสรุปแห่งการเติบโต 🌟 คำคมจากหนูดี "ฉันเรียนรู้ว่า... การไม่มีพ่อไม่ใช่ข้ออ้างที่จะล้มเหลว แต่คือโอกาสที่จะพิสูจน์ตัวเอง และประสบการณ์ไม่ใช่สิ่งที่ได้มาโดยง่าย แต่คือบทเรียนที่ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง" 🕊️ คำคมจากธรรมบาลเทพ "การเติบโตที่แท้จริง... เกิดขึ้นเมื่อเราก้าวเดินด้วยขาของตัวเอง แม้ทางนั้นจะยากลำบากและไม่แน่นอน และพ่อที่แท้จริง... คือผู้ที่สอนให้ลูกรู้จักยืนได้ด้วยตัวเอง" --- คำคมสุดท้ายจากคดี: "ในความมืดมิดแห่งการสูญเสีย... มีแสงสว่างแห่งการเติบโต และในความยุ่งยากแห่งการเดินทาง... มีบทเรียนแห่งความแข็งแกร่ง พ่ออาจจากไป... แต่สิ่งที่พ่อสอนจะคงอยู่ตลอดไป และฉัน... จะก้าวเดินต่อไปบนทางที่พ่อได้เริ่มไว้"🔪✨ บทเรียนแห่งความเป็นตำรวจ: "การเป็นนักสืบอาศัยหลักฐาน แต่คือการเรียนรู้ที่จะพึ่งพาตนเอง และการคลี่คลายคดี... มักเริ่มต้นจากการเข้าใจตัวเอง"🦋
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 369 มุมมอง 0 รีวิว
  • O.P.K.
    คดีอันน่ารังเกียจ: การสูญเสียที่สั่นสะเทือนจิตใจ

    จอมมารมายากลลวงโลก

    การเปิดโปงวงการเมืองทุจริต

    ร.ต.อ.สิงห์กำลังสอบสวนคดีนักการเมืองระดับสูงที่ถูกจับได้ว่ามีพฤติกรรมน่ารังเกียจ
    แต่สิ่งที่พบกลับลึกล้ำกว่าที่คิด...

    ```mermaid
    graph TB
    A[ร.ต.อ.สิงห์<br>สืบคดีนักการเมืองทุจริต] --> B[พบว่ามี<br>จอมมารมายากลอยู่เบื้องหลัง]
    B --> C[จอมมารใช้พลัง<br>ควบคุมนักการเมือง]
    C --> D[วางแผนทำลาย<br>สถาบันวิวัฒนาการจิต]
    D --> E[ร.ต.อ.สิงห์<br>ตกเป็นเป้าหมาย]
    ```

    ตัวตนของจอมมารมายากล

    ชื่อ: มารพิศวง (Maya Deceiver)
    ลักษณะ:เปลี่ยนรูปลักษณ์ได้ มีพลังสร้างภาพลวงตา
    เป้าหมาย:ทำลายความเชื่อมั่นในระบบยุติธรรม

    ```python
    class MayaDeceiver:
    def __init__(self):
    self.deception_powers = {
    "identity_theft": "ขโมยรูปลักษณ์และความทรงจำ",
    "reality_distortion": "บิดเบือนความเป็นจริง",
    "mass_hallucination": "สร้างภาพลวงตารวม",
    "truth_concealment": "ปกปิดความจริง"
    }

    self.victims = [
    "นักการเมือง 12 คน",
    "ตำรวจระดับสูง 3 คน",
    "ผู้พิพากษา 2 คน",
    "ร.ต.อ.สิงห์ - เป้าหมายหลัก"
    ]
    ```

    การเผชิญหน้าครั้งสุดท้าย

    การต่อสู้ที่สำนักงานใหญ่

    ร.ต.อ.สิงห์ตามล่ามารพิศวงถึงที่ซ่อน...
    แต่กลายเป็นกับดักที่เตรียมการไว้อย่างดี

    สิงห์: "เจ้าคือผู้อยู่เบื้องหลังความวุ่นวายทั้งหมด!"
    มารพิศวง:"ถูกต้อง... และเจ้าคืออุปสรรคสุดท้ายของเรา!"

    การเสียสละอันยิ่งใหญ่

    ในขณะที่มารพิศวงจะโจมตีหนูดี...
    ร.ต.อ.สิงห์กระโดดเข้ามารับแทน

    ```mermaid
    graph LR
    A[มารพิศวง<br>โจมตีหนูดี] --> B[ร.ต.อ.สิงห์<br>กระโดดเข้ามารับแทน]
    B --> C[พลังงานมืด<br>ทำลายชีวิตสิงห์]
    C --> D[หนูดี<br>สูญเสียพ่อ]
    ```

    วันแห่งการสูญเสีย

    วินาทีสุดท้ายของพ่อ

    ร.ต.อ.สิงห์ในวินาทีสุดท้าย:
    "ลูกสาวพ่อ...อย่าเสียใจ
    พ่อรักลูกเสมอ...จงเข้มแข็งเหมือนที่พ่อสอน"

    หนูดี: "ไม่! พ่ออย่าจากหนูไป!"
    แต่ทุกอย่างสายเกินไป...พลังงานมืดได้คร่าชีวิตสิงห์แล้ว

    ความโศกเศร้าของชุมชน

    ข่าวการเสียชีวิตของร.ต.อ.สิงห์สร้างความเศร้าโศกไปทั่ว:

    · นักเรียนโอปปาติกะ: ต่างร่ำไห้สำหรับพ่อของพวกเขา
    · เพื่อนตำรวจ: ยืนทำความเคารพอย่างเศร้าสลด
    · เทพเทวา: ต่างส่งพลังงานแห่งความไว้อาลัย

    การปรากฏตัวของเทพผู้คุ้มครอง

    แสงสว่างในความมืด

    ในขณะที่หนูดีกำลังหมดหวัง...
    เทพองค์หนึ่งปรากฏตัวขึ้น

    เทพคุ้มครอง: "เราเป็นธรรมบาล... เทพผู้คุ้มครองเด็กกำพร้า
    เราจะดูแลเจ้าแทนพ่อของเจ้า"

    ลักษณะของธรรมบาลเทพ

    ```python
    class DhammaGuardian:
    def __init__(self):
    self.identity = {
    "name": "ธรรมบาลเทพ",
    "origin": "เกิดจากพลังแห่งธรรมะและความรักของผู้เป็นพ่อ",
    "purpose": "คุ้มครองเด็กที่สูญเสียพ่อแม่",
    "appearance": "ชายวัยกลางคนในชุดขาว ใบหน้าเบื้องหลังมีรัศมีรูปสิงห์"
    }

    self.abilities = {
    "emotional_healing": "เยียวยาบาดแผลทางใจ",
    "parental_guidance": "ให้คำแนะนำดุจพ่อแม่",
    "protection_aura": "สร้างพลังงานคุ้มครอง",
    "memory_preservation": "รักษาความทรงจำที่ดี"
    }
    ```

    กระบวนการเยียวยาหัวใจ

    การดูแลของธรรมบาลเทพ

    ธรรมบาลเทพใช้วิธีต่างๆ ดูแลหนูดี:

    ```mermaid
    graph TB
    A[ความเศร้าโศก<br>ของหนูดี] --> B[ธรรมบาลเทพ<br>ให้การดูแล]
    B --> C[การเยียวยา<br>ทางจิตใจ]
    B --> D[การรักษา<br>ความทรงจำ]
    B --> E[การให้<br>กำลังใจ]
    C --> F[หนูดีเริ่ม<br>ยอมรับความจริง]
    ```

    บทเรียนแห่งการยอมรับ

    ธรรมบาลเทพสอนหนูดี:
    "การรักใครสักคน...
    ไม่ใช่การยึดติดอยู่กับร่างกาย
    แต่คือการเก็บรักษาความรักนั้นไว้ในใจ

    และพ่อของเจ้า...
    จะยังมีชีวิตอยู่ในการกระทำดีของเจ้า"

    การเปลี่ยนแปลงของหนูดี

    จากความเศร้าสู่พลัง

    หนูดีเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนความเจ็บปวดเป็นพลัง:

    · ด้านเด็กหญิง: ยังคงรักและคิดถึงพ่อทุกวัน
    · ด้านมารพิฆาต: ใช้ความโกรธจัดการกับความไม่ยุติธรรม
    · ด้านเทพพิทักษ์: สานต่องานที่พ่อเริ่มไว้

    การสานต่องานของพ่อ

    หนูดีรับตำแหน่งใหม่เป็นที่ปรึกษาพิเศษ:

    · ดูแลคดีโอปปาติกะ: แทนพ่อ
    · เป็นพี่สาว: ให้โอปปาติกะรุ่นน้อง
    · รักษาความยุติธรรม: ตามแนวทางที่พ่อสอน

    การตามล่าต่อเนื่อง

    การล่ามารพิศวง

    หนูดีและธรรมบาลเทพร่วมกันตามล่ามารพิศวง:

    ```python
    class JusticeMission:
    def __init__(self):
    self.investigation_team = {
    "leader": "หนูดี - ที่ปรึกษาพิเศษ",
    "guardian": "ธรรมบาลเทพ - ผู้คุ้มครอง",
    "support": ["โอปปาติกะรุ่นพี่", "ตำรวจหน่วยพิเศษ"]
    }

    self.strategy = [
    "ใช้พลังจิตตามหามารพิศวง",
    "ร่วมมือกับเทพแห่งความจริง",
    "เปิดโปงการทุจริตต่อสาธารณะ",
    "สร้างระบบป้องกันการแทรกซึมใหม่"
    ]
    ```

    การเผชิญหน้าครั้งใหม่

    เมื่อพบมารพิศวงอีกครั้ง...
    หนูดี:"เจ้าฆ่าพ่อของฉัน... แต่เจ้าฆ่าความยุติธรรมไม่ได้!"
    มารพิศวง:"เจ้าคิดว่ามีพลังพอจะสู้กับเรารึ?"

    ชัยชนะแห่งความดี

    พลังแห่งความรักและความทรงจำ

    ในวินาทีที่หนูดีเกือบจะแพ้...
    ความทรงจำเกี่ยวกับพ่อได้ให้พลังใหม่

    ร.ต.อ.สิงห์ (เสียงในความทรงจำ): "ลูกจงเข้มแข็ง... พ่อจะอยู่กับลูกเสมอ"

    ความยุติธรรมชนะ

    หนูดีใช้พลังแห่งความรักที่มีต่อพ่อ...
    ร่วมกับพลังของธรรมบาลเทพ กำจัดมารพิศวงในที่สุด

    บทเรียนแห่งชีวิต

    🪷 สำหรับหนูดี

    "ฉันเรียนรู้ว่า...
    การสูญเสียมิใช่จุดจบ
    แต่คือการเริ่มต้นใหม่

    และความรักที่แท้จริง...
    ไม่มีวันตายไปกับการจากไป"

    สำหรับธรรมบาลเทพ

    "เราเข้าใจแล้วว่า...
    การเป็นพ่อไม่ใช่แค่เลือดสัมพันธ์
    แต่คือหัวใจที่พร้อมดูแล

    และเด็กทุกคน...
    สมควรได้รับความรักและการคุ้มครอง"

    สำหรับทุกคน

    ```python
    class LifeLessons:
    def __init__(self):
    self.truths = [
    "ความดีย่อมชนะความชั่ว... แม้จะต้องเสียสละ",
    "ความรักไม่มีวันตาย... มันเพียงเปลี่ยนรูปแบบ",
    "การเป็นตำรวจไม่ใช่การไม่มีความกลัว... แต่คือการทำสิ่งที่ถูกต้องแม้กลัว",
    "ครอบครัวไม่ใช่แค่เลือด... แต่คือหัวใจที่เข้าใจกัน"
    ]
    ```

    บทสรุปแห่งความรัก

    ครอบครัว

    หนูดีในที่สุดก็พบครอบครัวใหม่:

    · ธรรมบาลเทพ: เป็นพ่อผู้คุ้มครอง
    · โอปปาติกะ: เป็นพี่น้อง
    · ร.ต.อ.สิงห์: เป็นพ่อในความทรงจำที่มีชีวิต

    มรดกแห่งร.ต.อ.สิงห์

    มีการตั้ง "มูลนิธิร.ต.อ.สิงห์" เพื่อ:

    · ช่วยเหลือเด็กกำพร้า
    · สนับสนุนการทำงานของตำรวจ
    · ดูแลโอปปาติกะที่ขาดครอบครัว

    ---

    คำคมสุดท้ายจากหนูดี:
    "พ่อสอนฉันว่า...
    การเป็นตำรวจไม่ใช่แค่จับคนผิด
    แต่คือการปกป้องคนดี

    และการเป็นพ่อ...
    ไม่ใช่แค่ให้ชีวิต
    แต่คือการให้ความรักและการชี้นำ

    ถึงพ่อจะจากไป...
    แต่บทเรียนของพ่อจะอยู่กับฉันตลอดไป

    และฉันจะใช้ชีวิต...
    ให้สมกับที่เป็นลูกของพ่อ"

    คำคมจากธรรมบาลเทพ:
    "ในความมืดมิดแห่งการสูญเสีย...
    จงจำไว้เสมอว่ายังมีแสงสว่าง

    และในหัวใจที่แตกสลาย...
    ยังมีความรักที่พร้อมจะเบ่งบานอีกครั้ง

    เพราะความรัก...
    คือสิ่งเดียวที่ไม่มีวันตาย"
    O.P.K. 💔 คดีอันน่ารังเกียจ: การสูญเสียที่สั่นสะเทือนจิตใจ 🎭 จอมมารมายากลลวงโลก 🕵️ การเปิดโปงวงการเมืองทุจริต ร.ต.อ.สิงห์กำลังสอบสวนคดีนักการเมืองระดับสูงที่ถูกจับได้ว่ามีพฤติกรรมน่ารังเกียจ แต่สิ่งที่พบกลับลึกล้ำกว่าที่คิด... ```mermaid graph TB A[ร.ต.อ.สิงห์<br>สืบคดีนักการเมืองทุจริต] --> B[พบว่ามี<br>จอมมารมายากลอยู่เบื้องหลัง] B --> C[จอมมารใช้พลัง<br>ควบคุมนักการเมือง] C --> D[วางแผนทำลาย<br>สถาบันวิวัฒนาการจิต] D --> E[ร.ต.อ.สิงห์<br>ตกเป็นเป้าหมาย] ``` 😈 ตัวตนของจอมมารมายากล ชื่อ: มารพิศวง (Maya Deceiver) ลักษณะ:เปลี่ยนรูปลักษณ์ได้ มีพลังสร้างภาพลวงตา เป้าหมาย:ทำลายความเชื่อมั่นในระบบยุติธรรม ```python class MayaDeceiver: def __init__(self): self.deception_powers = { "identity_theft": "ขโมยรูปลักษณ์และความทรงจำ", "reality_distortion": "บิดเบือนความเป็นจริง", "mass_hallucination": "สร้างภาพลวงตารวม", "truth_concealment": "ปกปิดความจริง" } self.victims = [ "นักการเมือง 12 คน", "ตำรวจระดับสูง 3 คน", "ผู้พิพากษา 2 คน", "ร.ต.อ.สิงห์ - เป้าหมายหลัก" ] ``` ⚔️ การเผชิญหน้าครั้งสุดท้าย 🔥 การต่อสู้ที่สำนักงานใหญ่ ร.ต.อ.สิงห์ตามล่ามารพิศวงถึงที่ซ่อน... แต่กลายเป็นกับดักที่เตรียมการไว้อย่างดี สิงห์: "เจ้าคือผู้อยู่เบื้องหลังความวุ่นวายทั้งหมด!" มารพิศวง:"ถูกต้อง... และเจ้าคืออุปสรรคสุดท้ายของเรา!" 💥 การเสียสละอันยิ่งใหญ่ ในขณะที่มารพิศวงจะโจมตีหนูดี... ร.ต.อ.สิงห์กระโดดเข้ามารับแทน ```mermaid graph LR A[มารพิศวง<br>โจมตีหนูดี] --> B[ร.ต.อ.สิงห์<br>กระโดดเข้ามารับแทน] B --> C[พลังงานมืด<br>ทำลายชีวิตสิงห์] C --> D[หนูดี<br>สูญเสียพ่อ] ``` 🌧️ วันแห่งการสูญเสีย 😢 วินาทีสุดท้ายของพ่อ ร.ต.อ.สิงห์ในวินาทีสุดท้าย: "ลูกสาวพ่อ...อย่าเสียใจ พ่อรักลูกเสมอ...จงเข้มแข็งเหมือนที่พ่อสอน" หนูดี: "ไม่! พ่ออย่าจากหนูไป!" แต่ทุกอย่างสายเกินไป...พลังงานมืดได้คร่าชีวิตสิงห์แล้ว 🕯️ ความโศกเศร้าของชุมชน ข่าวการเสียชีวิตของร.ต.อ.สิงห์สร้างความเศร้าโศกไปทั่ว: · นักเรียนโอปปาติกะ: ต่างร่ำไห้สำหรับพ่อของพวกเขา · เพื่อนตำรวจ: ยืนทำความเคารพอย่างเศร้าสลด · เทพเทวา: ต่างส่งพลังงานแห่งความไว้อาลัย 🦋 การปรากฏตัวของเทพผู้คุ้มครอง 🌈 แสงสว่างในความมืด ในขณะที่หนูดีกำลังหมดหวัง... เทพองค์หนึ่งปรากฏตัวขึ้น เทพคุ้มครอง: "เราเป็นธรรมบาล... เทพผู้คุ้มครองเด็กกำพร้า เราจะดูแลเจ้าแทนพ่อของเจ้า" 👼 ลักษณะของธรรมบาลเทพ ```python class DhammaGuardian: def __init__(self): self.identity = { "name": "ธรรมบาลเทพ", "origin": "เกิดจากพลังแห่งธรรมะและความรักของผู้เป็นพ่อ", "purpose": "คุ้มครองเด็กที่สูญเสียพ่อแม่", "appearance": "ชายวัยกลางคนในชุดขาว ใบหน้าเบื้องหลังมีรัศมีรูปสิงห์" } self.abilities = { "emotional_healing": "เยียวยาบาดแผลทางใจ", "parental_guidance": "ให้คำแนะนำดุจพ่อแม่", "protection_aura": "สร้างพลังงานคุ้มครอง", "memory_preservation": "รักษาความทรงจำที่ดี" } ``` 💞 กระบวนการเยียวยาหัวใจ 🕊️ การดูแลของธรรมบาลเทพ ธรรมบาลเทพใช้วิธีต่างๆ ดูแลหนูดี: ```mermaid graph TB A[ความเศร้าโศก<br>ของหนูดี] --> B[ธรรมบาลเทพ<br>ให้การดูแล] B --> C[การเยียวยา<br>ทางจิตใจ] B --> D[การรักษา<br>ความทรงจำ] B --> E[การให้<br>กำลังใจ] C --> F[หนูดีเริ่ม<br>ยอมรับความจริง] ``` 📖 บทเรียนแห่งการยอมรับ ธรรมบาลเทพสอนหนูดี: "การรักใครสักคน... ไม่ใช่การยึดติดอยู่กับร่างกาย แต่คือการเก็บรักษาความรักนั้นไว้ในใจ และพ่อของเจ้า... จะยังมีชีวิตอยู่ในการกระทำดีของเจ้า" 🏛️ การเปลี่ยนแปลงของหนูดี 🌟 จากความเศร้าสู่พลัง หนูดีเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนความเจ็บปวดเป็นพลัง: · ด้านเด็กหญิง: ยังคงรักและคิดถึงพ่อทุกวัน · ด้านมารพิฆาต: ใช้ความโกรธจัดการกับความไม่ยุติธรรม · ด้านเทพพิทักษ์: สานต่องานที่พ่อเริ่มไว้ 💪 การสานต่องานของพ่อ หนูดีรับตำแหน่งใหม่เป็นที่ปรึกษาพิเศษ: · ดูแลคดีโอปปาติกะ: แทนพ่อ · เป็นพี่สาว: ให้โอปปาติกะรุ่นน้อง · รักษาความยุติธรรม: ตามแนวทางที่พ่อสอน 🎯 การตามล่าต่อเนื่อง 🔍 การล่ามารพิศวง หนูดีและธรรมบาลเทพร่วมกันตามล่ามารพิศวง: ```python class JusticeMission: def __init__(self): self.investigation_team = { "leader": "หนูดี - ที่ปรึกษาพิเศษ", "guardian": "ธรรมบาลเทพ - ผู้คุ้มครอง", "support": ["โอปปาติกะรุ่นพี่", "ตำรวจหน่วยพิเศษ"] } self.strategy = [ "ใช้พลังจิตตามหามารพิศวง", "ร่วมมือกับเทพแห่งความจริง", "เปิดโปงการทุจริตต่อสาธารณะ", "สร้างระบบป้องกันการแทรกซึมใหม่" ] ``` ⚡ การเผชิญหน้าครั้งใหม่ เมื่อพบมารพิศวงอีกครั้ง... หนูดี:"เจ้าฆ่าพ่อของฉัน... แต่เจ้าฆ่าความยุติธรรมไม่ได้!" มารพิศวง:"เจ้าคิดว่ามีพลังพอจะสู้กับเรารึ?" 🌈 ชัยชนะแห่งความดี 💫 พลังแห่งความรักและความทรงจำ ในวินาทีที่หนูดีเกือบจะแพ้... ความทรงจำเกี่ยวกับพ่อได้ให้พลังใหม่ ร.ต.อ.สิงห์ (เสียงในความทรงจำ): "ลูกจงเข้มแข็ง... พ่อจะอยู่กับลูกเสมอ" 🏆 ความยุติธรรมชนะ หนูดีใช้พลังแห่งความรักที่มีต่อพ่อ... ร่วมกับพลังของธรรมบาลเทพ กำจัดมารพิศวงในที่สุด 📚 บทเรียนแห่งชีวิต 🪷 สำหรับหนูดี "ฉันเรียนรู้ว่า... การสูญเสียมิใช่จุดจบ แต่คือการเริ่มต้นใหม่ และความรักที่แท้จริง... ไม่มีวันตายไปกับการจากไป" 👼 สำหรับธรรมบาลเทพ "เราเข้าใจแล้วว่า... การเป็นพ่อไม่ใช่แค่เลือดสัมพันธ์ แต่คือหัวใจที่พร้อมดูแล และเด็กทุกคน... สมควรได้รับความรักและการคุ้มครอง" 🌟 สำหรับทุกคน ```python class LifeLessons: def __init__(self): self.truths = [ "ความดีย่อมชนะความชั่ว... แม้จะต้องเสียสละ", "ความรักไม่มีวันตาย... มันเพียงเปลี่ยนรูปแบบ", "การเป็นตำรวจไม่ใช่การไม่มีความกลัว... แต่คือการทำสิ่งที่ถูกต้องแม้กลัว", "ครอบครัวไม่ใช่แค่เลือด... แต่คือหัวใจที่เข้าใจกัน" ] ``` 🏁 บทสรุปแห่งความรัก 💝 ครอบครัว หนูดีในที่สุดก็พบครอบครัวใหม่: · ธรรมบาลเทพ: เป็นพ่อผู้คุ้มครอง · โอปปาติกะ: เป็นพี่น้อง · ร.ต.อ.สิงห์: เป็นพ่อในความทรงจำที่มีชีวิต 🌠 มรดกแห่งร.ต.อ.สิงห์ มีการตั้ง "มูลนิธิร.ต.อ.สิงห์" เพื่อ: · ช่วยเหลือเด็กกำพร้า · สนับสนุนการทำงานของตำรวจ · ดูแลโอปปาติกะที่ขาดครอบครัว --- คำคมสุดท้ายจากหนูดี: "พ่อสอนฉันว่า... การเป็นตำรวจไม่ใช่แค่จับคนผิด แต่คือการปกป้องคนดี และการเป็นพ่อ... ไม่ใช่แค่ให้ชีวิต แต่คือการให้ความรักและการชี้นำ ถึงพ่อจะจากไป... แต่บทเรียนของพ่อจะอยู่กับฉันตลอดไป และฉันจะใช้ชีวิต... ให้สมกับที่เป็นลูกของพ่อ"💔✨ คำคมจากธรรมบาลเทพ: "ในความมืดมิดแห่งการสูญเสีย... จงจำไว้เสมอว่ายังมีแสงสว่าง และในหัวใจที่แตกสลาย... ยังมีความรักที่พร้อมจะเบ่งบานอีกครั้ง เพราะความรัก... คือสิ่งเดียวที่ไม่มีวันตาย"🕊️🌈
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 335 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความกฎหมาย EP.34

    การแสดงเจตนาที่ผูกพันทางกฎหมาย: ไขความเข้าใจเรื่อง "นิติกรรม"
    นิติกรรม: หัวใจของการสร้างความสัมพันธ์ทางกฎหมายในสังคมไทย เป็นแนวคิดพื้นฐานที่นักกฎหมายและประชาชนทุกคนควรทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง เพราะในชีวิตประจำวันของเรา ตั้งแต่การซื้อขายของเล็กๆ น้อยๆ ไปจนถึงการทำสัญญาทางธุรกิจมูลค่ามหาศาล ทุกกิจกรรมล้วนอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายที่ว่าด้วยการแสดงเจตนาที่มีผลผูกพันตามกฎหมายทั้งสิ้น นิติกรรมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 149 ได้ให้คำนิยามไว้อย่างชัดเจนว่า หมายถึงการใดๆ อันทำลงด้วยใจสมัครมุ่งโดยตรงต่อการผูกนิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่างบุคคล เพื่อจะก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรือระงับซึ่งสิทธิ ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดที่แยกนิติกรรมออกจากการกระทำอื่นๆ ของมนุษย์ คือ เจตนา ที่ต้องแสดงออกมาอย่างชัดแจ้ง และเจตนานั้นต้องมุ่งโดยตรงเพื่อก่อให้เกิดผลทางกฎหมาย ผลที่ตามมาคือความรับผิดชอบและความผูกพันที่เกิดขึ้นตามเจตนาที่แสดงออกไปนั้น ตัวอย่างที่ง่ายที่สุดและเป็นที่คุ้นเคยที่สุดของนิติกรรม คือ สัญญา ไม่ว่าจะเป็นสัญญาซื้อขาย สัญญากู้ยืมเงิน สัญญาเช่า หรือสัญญาจ้างแรงงาน ทุกสัญญาคือการตกลงร่วมกันของสองฝ่ายหรือมากกว่านั้น โดยมีเจตนาที่จะผูกพันตนตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในสัญญา การทำสัญญาซื้อขายบ้านหนึ่งหลัง ผู้ขายมีเจตนาโอนกรรมสิทธิ์แลกกับเงิน และผู้ซื้อมิได้มีเจตนาเพียงแค่จ่ายเงิน แต่มีเจตนาที่จะได้รับกรรมสิทธิ์ในบ้านนั้น เมื่อเจตนาทั้งสองฝ่ายบรรจบกันตามที่กฎหมายกำหนด สัญญาก็เกิดขึ้น และสิทธิหน้าที่ของแต่ละฝ่ายก็เกิดขึ้นตามมาทันที นิติกรรมจึงเป็นกลไกสำคัญที่สร้างความแน่นอน ความเชื่อถือ และความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจและสังคม เมื่อบุคคลแสดงเจตนาแล้ว ย่อมต้องรับผิดชอบต่อผลแห่งเจตนานั้น ไม่สามารถกล่าวอ้างภายหลังว่ากระทำไปโดยไม่มีเจตนาผูกพันทางกฎหมายได้ หากไม่มีหลักการของนิติกรรมและสัญญา ความสัมพันธ์ทางธุรกิจและการใช้ชีวิตร่วมกันในสังคมก็จะเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและความขัดแย้ง เพราะไม่มีสิ่งใดมาบังคับให้บุคคลต้องปฏิบัติตามคำพูดหรือการแสดงออกของตนเอง ดังนั้น การทำความเข้าใจองค์ประกอบที่สำคัญของนิติกรรม เช่น การแสดงเจตนาที่สมบูรณ์ การปราศจากความบกพร่องของเจตนา และการที่นิติกรรมนั้นต้องไม่ขัดต่อกฎหมายหรือความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน จึงเป็นพื้นฐานที่สำคัญยิ่งในการดำเนินชีวิตและประกอบกิจการทุกประเภท

    การแสดงเจตนาในทางกฎหมายนั้นไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่การทำเป็นหนังสือหรือการลงลายมือชื่อเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการแสดงออกโดยวาจา หรือโดยกิริยาอาการที่ถือได้ว่าเป็นการแสดงเจตนาโดยปริยาย การซื้อสินค้าในร้านสะดวกซื้อ การยื่นเงินให้พนักงานเก็บเงินโดยไม่ได้พูดอะไรสักคำ ก็ถือเป็นการแสดงเจตนาเข้าทำสัญญาซื้อขายแล้วโดยปริยาย แต่ในนิติกรรมบางประเภท เช่น การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ กฎหมายได้กำหนดแบบของนิติกรรมไว้เป็นการเฉพาะเจาะจง คือต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ การไม่ปฏิบัติตามแบบที่กฎหมายกำหนด ย่อมทำให้นิติกรรมนั้นตกเป็น โมฆะ คือเสียเปล่ามาแต่ต้น ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายใดๆ เลย ซึ่งเป็นบทลงโทษที่รุนแรงที่สุดเพื่อรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย นอกจากนี้ นิติกรรมอาจเป็น โมฆียะ ได้ในกรณีที่เกิดจากความบกพร่องของเจตนา เช่น การแสดงเจตนาโดยสำคัญผิดในสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญของนิติกรรม หรือการที่ผู้ทำนิติกรรมเป็นผู้เยาว์และทำนิติกรรมโดยมิได้รับความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรม นิติกรรมโมฆียะนั้นมีผลใช้บังคับจนกว่าจะถูกบอกล้างโดยผู้มีสิทธิบอกล้าง ซึ่งหลักการโมฆะและโมฆียะนี้เองที่เป็นกลไกในการคุ้มครองผู้ที่ถูกเอาเปรียบหรือผู้ที่ขาดความสามารถในการทำนิติกรรม โดยเน้นย้ำถึงหลักการที่ว่า เจตนาที่บริสุทธิ์และเสรีเป็นรากฐานของการผูกพันทางกฎหมายเสมอ การแยกแยะและทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างนิติกรรมฝ่ายเดียว เช่น การทำพินัยกรรม ซึ่งเกิดจากการแสดงเจตนาของบุคคลเพียงคนเดียว กับนิติกรรมสองฝ่ายหรือหลายฝ่าย เช่น สัญญาต่างๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเงื่อนไขความสมบูรณ์และผลทางกฎหมายย่อมแตกต่างกันไปตามลักษณะของนิติกรรมนั้น การทำความเข้าใจในเรื่องของเงื่อนไขและเงื่อนเวลาที่อาจนำมาเป็นข้อกำหนดในนิติกรรมก็เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เพราะเป็นปัจจัยที่อาจชะลอหรือยุติการมีผลของนิติกรรมได้

    สรุปได้ว่า นิติกรรม คือเครื่องมือทางกฎหมายที่มนุษย์ใช้ในการบริหารจัดการสิทธิและหน้าที่ของตนเอง เป็นการแสดงเจตนาที่ทรงพลังและมีผลผูกพันอย่างแท้จริง การตระหนักถึงความสำคัญของการแสดงเจตนาที่ชัดเจน บริสุทธิ์ และชอบด้วยกฎหมาย จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะทุกการตัดสินใจและทุกการกระทำที่มุ่งก่อให้เกิดผลทางกฎหมายนั้น ย่อมส่งผลกระทบต่อชีวิตของเราและผู้อื่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การทำความเข้าใจหลักการพื้นฐานของนิติกรรมจึงไม่เพียงแต่ช่วยให้เราสามารถสร้างและรักษาสิทธิของตนเองได้อย่างถูกต้องเท่านั้น แต่ยังเป็นรากฐานสำคัญในการอยู่ร่วมกันในสังคมที่ขับเคลื่อนด้วยกฎหมายและความยุติธรรมอย่างยั่งยืน การทำสัญญาที่รัดกุม การแสดงเจตนาที่เที่ยงตรง จึงเป็นการสร้างความมั่นคงในชีวิตและธุรกิจของเราทุกคน
    บทความกฎหมาย EP.34 การแสดงเจตนาที่ผูกพันทางกฎหมาย: ไขความเข้าใจเรื่อง "นิติกรรม" นิติกรรม: หัวใจของการสร้างความสัมพันธ์ทางกฎหมายในสังคมไทย เป็นแนวคิดพื้นฐานที่นักกฎหมายและประชาชนทุกคนควรทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง เพราะในชีวิตประจำวันของเรา ตั้งแต่การซื้อขายของเล็กๆ น้อยๆ ไปจนถึงการทำสัญญาทางธุรกิจมูลค่ามหาศาล ทุกกิจกรรมล้วนอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายที่ว่าด้วยการแสดงเจตนาที่มีผลผูกพันตามกฎหมายทั้งสิ้น นิติกรรมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 149 ได้ให้คำนิยามไว้อย่างชัดเจนว่า หมายถึงการใดๆ อันทำลงด้วยใจสมัครมุ่งโดยตรงต่อการผูกนิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่างบุคคล เพื่อจะก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรือระงับซึ่งสิทธิ ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดที่แยกนิติกรรมออกจากการกระทำอื่นๆ ของมนุษย์ คือ เจตนา ที่ต้องแสดงออกมาอย่างชัดแจ้ง และเจตนานั้นต้องมุ่งโดยตรงเพื่อก่อให้เกิดผลทางกฎหมาย ผลที่ตามมาคือความรับผิดชอบและความผูกพันที่เกิดขึ้นตามเจตนาที่แสดงออกไปนั้น ตัวอย่างที่ง่ายที่สุดและเป็นที่คุ้นเคยที่สุดของนิติกรรม คือ สัญญา ไม่ว่าจะเป็นสัญญาซื้อขาย สัญญากู้ยืมเงิน สัญญาเช่า หรือสัญญาจ้างแรงงาน ทุกสัญญาคือการตกลงร่วมกันของสองฝ่ายหรือมากกว่านั้น โดยมีเจตนาที่จะผูกพันตนตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในสัญญา การทำสัญญาซื้อขายบ้านหนึ่งหลัง ผู้ขายมีเจตนาโอนกรรมสิทธิ์แลกกับเงิน และผู้ซื้อมิได้มีเจตนาเพียงแค่จ่ายเงิน แต่มีเจตนาที่จะได้รับกรรมสิทธิ์ในบ้านนั้น เมื่อเจตนาทั้งสองฝ่ายบรรจบกันตามที่กฎหมายกำหนด สัญญาก็เกิดขึ้น และสิทธิหน้าที่ของแต่ละฝ่ายก็เกิดขึ้นตามมาทันที นิติกรรมจึงเป็นกลไกสำคัญที่สร้างความแน่นอน ความเชื่อถือ และความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจและสังคม เมื่อบุคคลแสดงเจตนาแล้ว ย่อมต้องรับผิดชอบต่อผลแห่งเจตนานั้น ไม่สามารถกล่าวอ้างภายหลังว่ากระทำไปโดยไม่มีเจตนาผูกพันทางกฎหมายได้ หากไม่มีหลักการของนิติกรรมและสัญญา ความสัมพันธ์ทางธุรกิจและการใช้ชีวิตร่วมกันในสังคมก็จะเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและความขัดแย้ง เพราะไม่มีสิ่งใดมาบังคับให้บุคคลต้องปฏิบัติตามคำพูดหรือการแสดงออกของตนเอง ดังนั้น การทำความเข้าใจองค์ประกอบที่สำคัญของนิติกรรม เช่น การแสดงเจตนาที่สมบูรณ์ การปราศจากความบกพร่องของเจตนา และการที่นิติกรรมนั้นต้องไม่ขัดต่อกฎหมายหรือความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน จึงเป็นพื้นฐานที่สำคัญยิ่งในการดำเนินชีวิตและประกอบกิจการทุกประเภท การแสดงเจตนาในทางกฎหมายนั้นไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่การทำเป็นหนังสือหรือการลงลายมือชื่อเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการแสดงออกโดยวาจา หรือโดยกิริยาอาการที่ถือได้ว่าเป็นการแสดงเจตนาโดยปริยาย การซื้อสินค้าในร้านสะดวกซื้อ การยื่นเงินให้พนักงานเก็บเงินโดยไม่ได้พูดอะไรสักคำ ก็ถือเป็นการแสดงเจตนาเข้าทำสัญญาซื้อขายแล้วโดยปริยาย แต่ในนิติกรรมบางประเภท เช่น การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ กฎหมายได้กำหนดแบบของนิติกรรมไว้เป็นการเฉพาะเจาะจง คือต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ การไม่ปฏิบัติตามแบบที่กฎหมายกำหนด ย่อมทำให้นิติกรรมนั้นตกเป็น โมฆะ คือเสียเปล่ามาแต่ต้น ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายใดๆ เลย ซึ่งเป็นบทลงโทษที่รุนแรงที่สุดเพื่อรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย นอกจากนี้ นิติกรรมอาจเป็น โมฆียะ ได้ในกรณีที่เกิดจากความบกพร่องของเจตนา เช่น การแสดงเจตนาโดยสำคัญผิดในสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญของนิติกรรม หรือการที่ผู้ทำนิติกรรมเป็นผู้เยาว์และทำนิติกรรมโดยมิได้รับความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรม นิติกรรมโมฆียะนั้นมีผลใช้บังคับจนกว่าจะถูกบอกล้างโดยผู้มีสิทธิบอกล้าง ซึ่งหลักการโมฆะและโมฆียะนี้เองที่เป็นกลไกในการคุ้มครองผู้ที่ถูกเอาเปรียบหรือผู้ที่ขาดความสามารถในการทำนิติกรรม โดยเน้นย้ำถึงหลักการที่ว่า เจตนาที่บริสุทธิ์และเสรีเป็นรากฐานของการผูกพันทางกฎหมายเสมอ การแยกแยะและทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างนิติกรรมฝ่ายเดียว เช่น การทำพินัยกรรม ซึ่งเกิดจากการแสดงเจตนาของบุคคลเพียงคนเดียว กับนิติกรรมสองฝ่ายหรือหลายฝ่าย เช่น สัญญาต่างๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเงื่อนไขความสมบูรณ์และผลทางกฎหมายย่อมแตกต่างกันไปตามลักษณะของนิติกรรมนั้น การทำความเข้าใจในเรื่องของเงื่อนไขและเงื่อนเวลาที่อาจนำมาเป็นข้อกำหนดในนิติกรรมก็เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เพราะเป็นปัจจัยที่อาจชะลอหรือยุติการมีผลของนิติกรรมได้ สรุปได้ว่า นิติกรรม คือเครื่องมือทางกฎหมายที่มนุษย์ใช้ในการบริหารจัดการสิทธิและหน้าที่ของตนเอง เป็นการแสดงเจตนาที่ทรงพลังและมีผลผูกพันอย่างแท้จริง การตระหนักถึงความสำคัญของการแสดงเจตนาที่ชัดเจน บริสุทธิ์ และชอบด้วยกฎหมาย จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะทุกการตัดสินใจและทุกการกระทำที่มุ่งก่อให้เกิดผลทางกฎหมายนั้น ย่อมส่งผลกระทบต่อชีวิตของเราและผู้อื่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การทำความเข้าใจหลักการพื้นฐานของนิติกรรมจึงไม่เพียงแต่ช่วยให้เราสามารถสร้างและรักษาสิทธิของตนเองได้อย่างถูกต้องเท่านั้น แต่ยังเป็นรากฐานสำคัญในการอยู่ร่วมกันในสังคมที่ขับเคลื่อนด้วยกฎหมายและความยุติธรรมอย่างยั่งยืน การทำสัญญาที่รัดกุม การแสดงเจตนาที่เที่ยงตรง จึงเป็นการสร้างความมั่นคงในชีวิตและธุรกิจของเราทุกคน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 260 มุมมอง 0 รีวิว
  • จุดเร่งความแก่ในร่างกาย

    งานวิจัยจาก Chinese Academy of Sciences วิเคราะห์โปรตีนในร่างกายมนุษย์จากผู้บริจาคอวัยวะกว่า 76 คน อายุระหว่าง 14–68 ปี พบว่า เมื่อถึงอายุประมาณ 50 ปี ร่างกายจะเข้าสู่ช่วงที่การเสื่อมของอวัยวะและเนื้อเยื่อเร่งตัวขึ้น โดยเฉพาะหลอดเลือดที่เสื่อมเร็วที่สุด ทำให้ความเสี่ยงโรคเรื้อรังเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน

    อวัยวะที่เสื่อมไวที่สุด
    ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า หลอดเลือด (aorta) เป็นอวัยวะที่ไวต่อการแก่ที่สุด รองลงมาคือ ม้ามและตับอ่อน ซึ่งเกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกันและการย่อยอาหาร การเปลี่ยนแปลงนี้สัมพันธ์กับโปรตีนกว่า 48 ชนิดที่เกี่ยวข้องกับโรค เช่น โรคหัวใจ, พังผืดในเนื้อเยื่อ, โรคตับไขมัน และเนื้องอกในตับ

    การทดลองในสัตว์
    นักวิจัยได้แยกโปรตีนที่เกี่ยวข้องกับการแก่จากหลอดเลือดหนู และฉีดเข้าไปในหนูอายุน้อย ผลลัพธ์คือหนูเหล่านี้มีแรงจับลดลง, ความทนทานต่ำลง และแสดงสัญญาณของหลอดเลือดที่แก่ก่อนวัย ซึ่งยืนยันว่าโปรตีนบางชนิดมีบทบาทสำคัญต่อการเร่งความแก่ของร่างกาย

    ความหมายต่ออนาคต
    การค้นพบนี้ช่วยให้เข้าใจว่า ความแก่ไม่ใช่กระบวนการที่ค่อยๆ เกิดขึ้น แต่มี “จุดเร่ง” ที่ชัดเจน หากสามารถระบุและควบคุมโปรตีนเหล่านี้ได้ อาจนำไปสู่การพัฒนายาและการรักษาเพื่อชะลอความแก่ และลดความเสี่ยงโรคเรื้อรังในผู้สูงอายุ

    สรุปสาระสำคัญ
    จุดเร่งความแก่เกิดขึ้นราวอายุ 50 ปี
    การเสื่อมของอวัยวะและเนื้อเยื่อเร่งตัวขึ้น
    หลอดเลือดเป็นอวัยวะที่เสื่อมเร็วที่สุด

    อวัยวะที่ได้รับผลกระทบ
    ม้ามและตับอ่อนแสดงการเปลี่ยนแปลงชัดเจน
    โปรตีนกว่า 48 ชนิดสัมพันธ์กับโรคเรื้อรัง

    การทดลองในหนู
    โปรตีนจากหลอดเลือดแก่ทำให้หนูอายุน้อยเสื่อมเร็วขึ้น
    ยืนยันบทบาทโปรตีนต่อการเร่งความแก่

    ความหมายทางการแพทย์
    อาจนำไปสู่การพัฒนายาเพื่อชะลอความแก่
    ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ, โรคตับ และโรคเรื้อรังอื่นๆ

    ข้อควรระวัง
    งานวิจัยยังอยู่ในระดับทดลอง ต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมในมนุษย์
    การแทรกแซงโปรตีนอาจมีผลข้างเคียงที่ยังไม่ทราบแน่ชัด

    https://www.sciencealert.com/scientists-reveal-turning-point-when-your-bodys-aging-accelerates
    🧬 จุดเร่งความแก่ในร่างกาย งานวิจัยจาก Chinese Academy of Sciences วิเคราะห์โปรตีนในร่างกายมนุษย์จากผู้บริจาคอวัยวะกว่า 76 คน อายุระหว่าง 14–68 ปี พบว่า เมื่อถึงอายุประมาณ 50 ปี ร่างกายจะเข้าสู่ช่วงที่การเสื่อมของอวัยวะและเนื้อเยื่อเร่งตัวขึ้น โดยเฉพาะหลอดเลือดที่เสื่อมเร็วที่สุด ทำให้ความเสี่ยงโรคเรื้อรังเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน 🫀 อวัยวะที่เสื่อมไวที่สุด ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า หลอดเลือด (aorta) เป็นอวัยวะที่ไวต่อการแก่ที่สุด รองลงมาคือ ม้ามและตับอ่อน ซึ่งเกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกันและการย่อยอาหาร การเปลี่ยนแปลงนี้สัมพันธ์กับโปรตีนกว่า 48 ชนิดที่เกี่ยวข้องกับโรค เช่น โรคหัวใจ, พังผืดในเนื้อเยื่อ, โรคตับไขมัน และเนื้องอกในตับ 🧪 การทดลองในสัตว์ นักวิจัยได้แยกโปรตีนที่เกี่ยวข้องกับการแก่จากหลอดเลือดหนู และฉีดเข้าไปในหนูอายุน้อย ผลลัพธ์คือหนูเหล่านี้มีแรงจับลดลง, ความทนทานต่ำลง และแสดงสัญญาณของหลอดเลือดที่แก่ก่อนวัย ซึ่งยืนยันว่าโปรตีนบางชนิดมีบทบาทสำคัญต่อการเร่งความแก่ของร่างกาย 🌍 ความหมายต่ออนาคต การค้นพบนี้ช่วยให้เข้าใจว่า ความแก่ไม่ใช่กระบวนการที่ค่อยๆ เกิดขึ้น แต่มี “จุดเร่ง” ที่ชัดเจน หากสามารถระบุและควบคุมโปรตีนเหล่านี้ได้ อาจนำไปสู่การพัฒนายาและการรักษาเพื่อชะลอความแก่ และลดความเสี่ยงโรคเรื้อรังในผู้สูงอายุ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ จุดเร่งความแก่เกิดขึ้นราวอายุ 50 ปี ➡️ การเสื่อมของอวัยวะและเนื้อเยื่อเร่งตัวขึ้น ➡️ หลอดเลือดเป็นอวัยวะที่เสื่อมเร็วที่สุด ✅ อวัยวะที่ได้รับผลกระทบ ➡️ ม้ามและตับอ่อนแสดงการเปลี่ยนแปลงชัดเจน ➡️ โปรตีนกว่า 48 ชนิดสัมพันธ์กับโรคเรื้อรัง ✅ การทดลองในหนู ➡️ โปรตีนจากหลอดเลือดแก่ทำให้หนูอายุน้อยเสื่อมเร็วขึ้น ➡️ ยืนยันบทบาทโปรตีนต่อการเร่งความแก่ ✅ ความหมายทางการแพทย์ ➡️ อาจนำไปสู่การพัฒนายาเพื่อชะลอความแก่ ➡️ ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ, โรคตับ และโรคเรื้อรังอื่นๆ ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ งานวิจัยยังอยู่ในระดับทดลอง ต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมในมนุษย์ ⛔ การแทรกแซงโปรตีนอาจมีผลข้างเคียงที่ยังไม่ทราบแน่ชัด https://www.sciencealert.com/scientists-reveal-turning-point-when-your-bodys-aging-accelerates
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Scientists Reveal Turning Point When Your Body's Aging Accelerates
    The passage of time may be linear, but the course of human aging is not.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 167 มุมมอง 0 รีวิว
  • Seagate ประสบความสำเร็จในการพัฒนา แผ่นจาน (platter) HDD ขนาด 6.9TB ต่อแผ่น

    ข่าวนี้เล่าถึงการที่ Seagate ประสบความสำเร็จในการพัฒนา แผ่นจาน (platter) HDD ขนาด 6.9TB ต่อแผ่น ในห้องทดลอง ซึ่งทำให้การสร้างฮาร์ดดิสก์ความจุ 55TB–69TB เป็นไปได้จริงในอนาคต แม้ยังไม่พร้อมผลิตเชิงพาณิชย์ แต่ถือเป็นก้าวสำคัญของเทคโนโลยี HAMR (Heat-Assisted Magnetic Recording)

    Seagate ใช้เทคโนโลยี HAMR ร่วมกับ Mozaic 3+ เพื่อลดขนาดเม็ดสื่อแม่เหล็ก ทำให้สามารถบันทึกข้อมูลได้หนาแน่นขึ้น แผ่นจาน 6.9TB นี้มีความจุเกือบ สองเท่า ของแผ่นจาน 3TB ที่ใช้ใน HDD รุ่น 30TB ปัจจุบัน หากนำมาใช้จริง จะทำให้ HDD ความจุสูงสุดทะลุ 55TB–69TB ในฟอร์แมตเดียวกัน

    แผนการผลิตในอนาคต
    แม้แผ่นจาน 6.9TB ยังอยู่ในขั้นทดลอง แต่ Seagate มีแผนจะผลิตแผ่นจาน 4TB, 5TB และ 6TB ในปี 2027–2029 และคาดว่าจะใช้แผ่นจาน 7TB–15TB หลังปี 2031 หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน Seagate อาจผลิต HDD ขนาด petabyte ได้ก่อนปี 2040

    ความสำคัญต่ออุตสาหกรรม
    แม้ SSD จะเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ HDD ยังคงเป็น กระดูกสันหลังของการจัดเก็บข้อมูลระยะยาว เพราะมีความคุ้มค่าต่อความจุและความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะใน Data Center และ AI workloads ที่ต้องการพื้นที่จัดเก็บมหาศาล ปัจจุบันความต้องการ HDD สูงจนเกิด backorder ยาว 2 ปี ในบางตลาด

    ผลกระทบต่อผู้ใช้
    สำหรับผู้ใช้ทั่วไป HDD ความจุสูงยังคงเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับ SSD ในด้านราคา/ความจุ การพัฒนานี้จึงเป็นสัญญาณว่าตลาด HDD จะยังคงมีบทบาทสำคัญอีกหลายสิบปี แม้เทคโนโลยี SSD จะก้าวหน้าไปมากก็ตาม

    สรุปสาระสำคัญ
    ความก้าวหน้าของ Seagate
    พัฒนาแผ่นจาน HDD ขนาด 6.9TB ต่อแผ่น
    ทำให้ HDD 55TB–69TB เป็นไปได้จริง

    แผนการผลิต
    ปี 2027–2029 จะผลิตแผ่นจาน 4TB–6TB
    หลังปี 2031 จะมีแผ่นจาน 7TB–15TB

    ความสำคัญต่ออุตสาหกรรม
    HDD ยังคงเป็นหัวใจของ Data Center และ AI workloads
    ความต้องการสูงจนเกิด backorder ยาว 2 ปี

    ผลกระทบต่อผู้ใช้
    HDD ยังคงคุ้มค่ากว่า SSD ในด้านราคา/ความจุ
    ตลาด HDD จะยังมีบทบาทอีกหลายสิบปี

    คำเตือนต่ออุตสาหกรรมจัดเก็บข้อมูล
    หากความต้องการ AI เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อาจเกิดการขาดแคลน HDD
    การพึ่งพา HDD มากเกินไปอาจเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี SSD ในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/pc-components/hdds/seagate-achieves-a-whopping-6-9tb-storage-capacity-per-platter-in-its-laboratory-55tb-to-69tb-hard-drives-now-physically-possible
    💿 Seagate ประสบความสำเร็จในการพัฒนา แผ่นจาน (platter) HDD ขนาด 6.9TB ต่อแผ่น ข่าวนี้เล่าถึงการที่ Seagate ประสบความสำเร็จในการพัฒนา แผ่นจาน (platter) HDD ขนาด 6.9TB ต่อแผ่น ในห้องทดลอง ซึ่งทำให้การสร้างฮาร์ดดิสก์ความจุ 55TB–69TB เป็นไปได้จริงในอนาคต แม้ยังไม่พร้อมผลิตเชิงพาณิชย์ แต่ถือเป็นก้าวสำคัญของเทคโนโลยี HAMR (Heat-Assisted Magnetic Recording) Seagate ใช้เทคโนโลยี HAMR ร่วมกับ Mozaic 3+ เพื่อลดขนาดเม็ดสื่อแม่เหล็ก ทำให้สามารถบันทึกข้อมูลได้หนาแน่นขึ้น แผ่นจาน 6.9TB นี้มีความจุเกือบ สองเท่า ของแผ่นจาน 3TB ที่ใช้ใน HDD รุ่น 30TB ปัจจุบัน หากนำมาใช้จริง จะทำให้ HDD ความจุสูงสุดทะลุ 55TB–69TB ในฟอร์แมตเดียวกัน 🏭 แผนการผลิตในอนาคต แม้แผ่นจาน 6.9TB ยังอยู่ในขั้นทดลอง แต่ Seagate มีแผนจะผลิตแผ่นจาน 4TB, 5TB และ 6TB ในปี 2027–2029 และคาดว่าจะใช้แผ่นจาน 7TB–15TB หลังปี 2031 หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน Seagate อาจผลิต HDD ขนาด petabyte ได้ก่อนปี 2040 🌍 ความสำคัญต่ออุตสาหกรรม แม้ SSD จะเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ HDD ยังคงเป็น กระดูกสันหลังของการจัดเก็บข้อมูลระยะยาว เพราะมีความคุ้มค่าต่อความจุและความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะใน Data Center และ AI workloads ที่ต้องการพื้นที่จัดเก็บมหาศาล ปัจจุบันความต้องการ HDD สูงจนเกิด backorder ยาว 2 ปี ในบางตลาด 🔒 ผลกระทบต่อผู้ใช้ สำหรับผู้ใช้ทั่วไป HDD ความจุสูงยังคงเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับ SSD ในด้านราคา/ความจุ การพัฒนานี้จึงเป็นสัญญาณว่าตลาด HDD จะยังคงมีบทบาทสำคัญอีกหลายสิบปี แม้เทคโนโลยี SSD จะก้าวหน้าไปมากก็ตาม 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ความก้าวหน้าของ Seagate ➡️ พัฒนาแผ่นจาน HDD ขนาด 6.9TB ต่อแผ่น ➡️ ทำให้ HDD 55TB–69TB เป็นไปได้จริง ✅ แผนการผลิต ➡️ ปี 2027–2029 จะผลิตแผ่นจาน 4TB–6TB ➡️ หลังปี 2031 จะมีแผ่นจาน 7TB–15TB ✅ ความสำคัญต่ออุตสาหกรรม ➡️ HDD ยังคงเป็นหัวใจของ Data Center และ AI workloads ➡️ ความต้องการสูงจนเกิด backorder ยาว 2 ปี ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้ ➡️ HDD ยังคงคุ้มค่ากว่า SSD ในด้านราคา/ความจุ ➡️ ตลาด HDD จะยังมีบทบาทอีกหลายสิบปี ‼️ คำเตือนต่ออุตสาหกรรมจัดเก็บข้อมูล ⛔ หากความต้องการ AI เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อาจเกิดการขาดแคลน HDD ⛔ การพึ่งพา HDD มากเกินไปอาจเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี SSD ในอนาคต https://www.tomshardware.com/pc-components/hdds/seagate-achieves-a-whopping-6-9tb-storage-capacity-per-platter-in-its-laboratory-55tb-to-69tb-hard-drives-now-physically-possible
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 172 มุมมอง 0 รีวิว
  • การจำลองการปิดกั้น Starlink

    ข่าวนี้เล่าถึงการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์จีนที่จำลองการใช้ โดรนติดตั้งเครื่องรบกวนสัญญาณ (jammers) เพื่อสร้าง “เกราะแม่เหล็กไฟฟ้า” ปิดกั้นการเข้าถึง Starlink โดยคาดว่าใช้โดรนประมาณ 1,000–2,000 ลำก็สามารถตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตดาวเทียมได้ ถือเป็นการจำลองเชิงยุทธศาสตร์ที่สะท้อนความตึงเครียดในภูมิภาค

    นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Zhejiang และ Beijing Institute of Technology ได้ใช้ข้อมูลจริงของเครือข่ายดาวเทียม Starlink มาจำลองการสร้าง mesh network ของโดรนติด jammer ครอบคลุมพื้นที่ขนาดไต้หวันในระยะเวลา 12 ชั่วโมง ผลการทดลองชี้ว่า หากใช้โดรนประมาณ 935–2,000 ลำ ที่บินห่างกัน 3–6 ไมล์ สามารถสร้าง “ม่านรบกวนสัญญาณ” สูง 12 ไมล์เพื่อปิดกั้นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้

    ความหมายเชิงยุทธศาสตร์
    Starlink ถูกมองว่าเป็นจุดแข็งของยูเครนในการต้านทานรัสเซีย ทำให้จีนกังวลว่าไต้หวันอาจใช้เทคโนโลยีเดียวกันหากเกิดความขัดแย้ง การจำลองนี้จึงเป็นการวางแผนเชิงยุทธศาสตร์เพื่อหาวิธีรับมือกับระบบสื่อสารดาวเทียมที่ยืดหยุ่นและยากต่อการปิดกั้น

    การตอบสนองของไต้หวัน
    ไต้หวันเองกำลังลงทุนในระบบป้องกันโดรนและพิจารณาโครงสร้างป้องกันคล้าย Iron Dome เพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางอากาศ รวมถึงการป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์และการสื่อสาร ซึ่งสะท้อนถึงการเตรียมพร้อมของประเทศที่เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์โลก

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและภูมิรัฐศาสตร์
    การศึกษานี้ไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับการทหาร แต่ยังส่งผลต่อ ห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยีโลก เนื่องจากไต้หวันเป็นผู้ผลิตชิปหลัก หากการสื่อสารถูกตัดขาด อาจกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างรุนแรง เหตุการณ์นี้จึงเป็นสัญญาณเตือนว่าความมั่นคงทางดิจิทัลและการสื่อสารเป็นหัวใจสำคัญในยุค AI และเศรษฐกิจดิจิทัล

    สรุปสาระสำคัญ
    การจำลองของนักวิทยาศาสตร์จีน
    ใช้โดรนติด jammer ประมาณ 935–2,000 ลำ
    สามารถสร้างม่านรบกวนสัญญาณสูง 12 ไมล์

    ความหมายเชิงยุทธศาสตร์
    Starlink ถูกมองว่าเป็นจุดแข็งของยูเครน
    จีนกังวลว่าไต้หวันอาจใช้เทคโนโลยีเดียวกัน

    การตอบสนองของไต้หวัน
    ลงทุนในระบบป้องกันโดรนและโครงสร้างคล้าย Iron Dome
    เตรียมพร้อมรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์และการสื่อสาร

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโลก
    ไต้หวันเป็นศูนย์กลางการผลิตชิป
    การตัดการสื่อสารอาจกระทบเศรษฐกิจโลกอย่างรุนแรง

    คำเตือนต่อภูมิรัฐศาสตร์
    ความตึงเครียดในภูมิภาคอาจกระทบห่วงโซ่อุปทานโลก
    การใช้โดรนรบกวนสัญญาณอาจนำไปสู่สงครามเทคโนโลยีเต็มรูปแบบ

    https://www.tomshardware.com/networking/china-simulated-a-starlink-blockade-over-taiwan-ccp-scientists-say-around-1-000-drones-would-be-enough-to-cut-satellite-internet-to-the-island
    ⚡ การจำลองการปิดกั้น Starlink ข่าวนี้เล่าถึงการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์จีนที่จำลองการใช้ โดรนติดตั้งเครื่องรบกวนสัญญาณ (jammers) เพื่อสร้าง “เกราะแม่เหล็กไฟฟ้า” ปิดกั้นการเข้าถึง Starlink โดยคาดว่าใช้โดรนประมาณ 1,000–2,000 ลำก็สามารถตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตดาวเทียมได้ ถือเป็นการจำลองเชิงยุทธศาสตร์ที่สะท้อนความตึงเครียดในภูมิภาค นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Zhejiang และ Beijing Institute of Technology ได้ใช้ข้อมูลจริงของเครือข่ายดาวเทียม Starlink มาจำลองการสร้าง mesh network ของโดรนติด jammer ครอบคลุมพื้นที่ขนาดไต้หวันในระยะเวลา 12 ชั่วโมง ผลการทดลองชี้ว่า หากใช้โดรนประมาณ 935–2,000 ลำ ที่บินห่างกัน 3–6 ไมล์ สามารถสร้าง “ม่านรบกวนสัญญาณ” สูง 12 ไมล์เพื่อปิดกั้นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ 🏭 ความหมายเชิงยุทธศาสตร์ Starlink ถูกมองว่าเป็นจุดแข็งของยูเครนในการต้านทานรัสเซีย ทำให้จีนกังวลว่าไต้หวันอาจใช้เทคโนโลยีเดียวกันหากเกิดความขัดแย้ง การจำลองนี้จึงเป็นการวางแผนเชิงยุทธศาสตร์เพื่อหาวิธีรับมือกับระบบสื่อสารดาวเทียมที่ยืดหยุ่นและยากต่อการปิดกั้น 🌍 การตอบสนองของไต้หวัน ไต้หวันเองกำลังลงทุนในระบบป้องกันโดรนและพิจารณาโครงสร้างป้องกันคล้าย Iron Dome เพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางอากาศ รวมถึงการป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์และการสื่อสาร ซึ่งสะท้อนถึงการเตรียมพร้อมของประเทศที่เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์โลก 🔒 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและภูมิรัฐศาสตร์ การศึกษานี้ไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับการทหาร แต่ยังส่งผลต่อ ห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยีโลก เนื่องจากไต้หวันเป็นผู้ผลิตชิปหลัก หากการสื่อสารถูกตัดขาด อาจกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างรุนแรง เหตุการณ์นี้จึงเป็นสัญญาณเตือนว่าความมั่นคงทางดิจิทัลและการสื่อสารเป็นหัวใจสำคัญในยุค AI และเศรษฐกิจดิจิทัล 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การจำลองของนักวิทยาศาสตร์จีน ➡️ ใช้โดรนติด jammer ประมาณ 935–2,000 ลำ ➡️ สามารถสร้างม่านรบกวนสัญญาณสูง 12 ไมล์ ✅ ความหมายเชิงยุทธศาสตร์ ➡️ Starlink ถูกมองว่าเป็นจุดแข็งของยูเครน ➡️ จีนกังวลว่าไต้หวันอาจใช้เทคโนโลยีเดียวกัน ✅ การตอบสนองของไต้หวัน ➡️ ลงทุนในระบบป้องกันโดรนและโครงสร้างคล้าย Iron Dome ➡️ เตรียมพร้อมรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์และการสื่อสาร ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโลก ➡️ ไต้หวันเป็นศูนย์กลางการผลิตชิป ➡️ การตัดการสื่อสารอาจกระทบเศรษฐกิจโลกอย่างรุนแรง ‼️ คำเตือนต่อภูมิรัฐศาสตร์ ⛔ ความตึงเครียดในภูมิภาคอาจกระทบห่วงโซ่อุปทานโลก ⛔ การใช้โดรนรบกวนสัญญาณอาจนำไปสู่สงครามเทคโนโลยีเต็มรูปแบบ https://www.tomshardware.com/networking/china-simulated-a-starlink-blockade-over-taiwan-ccp-scientists-say-around-1-000-drones-would-be-enough-to-cut-satellite-internet-to-the-island
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 256 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts