• เรื่องเล่าจากโลกชิป: เมื่ออดีตพนักงาน Huawei ถูกตัดสินจำคุกจากคดีลับเทคโนโลยี

    ในโลกของเซมิคอนดักเตอร์ที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด คดีล่าสุดจากประเทศจีนได้สร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ เมื่อศาลในเซี่ยงไฮ้ตัดสินจำคุกอดีตพนักงาน Huawei จำนวน 14 คน จากข้อหาขโมยข้อมูลลับด้านเทคโนโลยีชิปไปใช้ในการก่อตั้งบริษัทใหม่ชื่อ Zunpai Communication Technology

    Zhang Kun อดีตนักวิจัยจาก HiSilicon ซึ่งเป็นหน่วยงานพัฒนาชิปของ Huawei ได้ลาออกในปี 2019 และก่อตั้ง Zunpai ในปี 2021 โดยดึงอดีตเพื่อนร่วมงานมาร่วมทีม พร้อมเสนอเงินเดือนสูงและหุ้นในบริษัท แต่สิ่งที่ตามมาคือข้อกล่าวหาว่า พวกเขาได้คัดลอกข้อมูลลับก่อนลาออก และนำไปใช้ในการพัฒนาชิป Wi-Fi ของ Zunpai

    ในเดือนธันวาคม 2023 ตำรวจเซี่ยงไฮ้ได้จับกุมผู้ต้องสงสัยทั้ง 14 คน และอายัดทรัพย์สินของ Zunpai มูลค่า 95 ล้านหยวน โดยพบว่าเทคโนโลยีที่ใช้ใน Zunpai มีความคล้ายคลึงกับของ Huawei ถึง 90% แม้คำตัดสินจะยังไม่เผยแพร่สู่สาธารณะ แต่มีรายงานว่าผู้ต้องหาอาจถูกจำคุกสูงสุด 6 ปี พร้อมโทษปรับ

    คดีนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดของจีนในการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมชิปที่ถือเป็นหัวใจของเศรษฐกิจดิจิทัล และยังเป็นการเตือนว่า “การลอกเลียนเทคโนโลยี” ไม่ใช่เรื่องเล็กอีกต่อไป

    ศาลเซี่ยงไฮ้ตัดสินจำคุกอดีตพนักงาน Huawei 14 คน
    จากข้อหาขโมยข้อมูลลับด้านเทคโนโลยีชิป

    ผู้ต้องหาก่อตั้งบริษัท Zunpai เพื่อพัฒนาชิป Wi-Fi
    โดยใช้ข้อมูลจาก HiSilicon ซึ่งเป็นหน่วยงานของ Huawei

    ตำรวจพบว่าเทคโนโลยีของ Zunpai คล้ายกับของ Huawei ถึง 90%
    และอายัดทรัพย์สินมูลค่า 95 ล้านหยวน

    คำตัดสินยังไม่เผยแพร่ แต่มีรายงานว่าผู้ต้องหาอาจถูกจำคุกสูงสุด 6 ปี
    พร้อมโทษปรับทางการเงิน

    Huawei ยังไม่ออกความเห็นอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับคดีนี้
    แต่ได้ดำเนินการทางกฎหมายตั้งแต่ปี 2023

    จีนมีแนวโน้มเพิ่มความเข้มงวดในการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา
    มีผู้ถูกดำเนินคดีด้าน IP มากกว่า 21,000 คนในปี 2024

    HiSilicon เป็นหน่วยงานพัฒนาชิปของ Huawei ที่มีบทบาทสำคัญ
    โดยเฉพาะในด้านการพัฒนา AI และการสื่อสาร

    การลอกเลียนเทคโนโลยีชิปส่งผลต่อการแข่งขันในระดับโลก
    และอาจกระทบต่อความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยี

    การตั้งบริษัทใหม่โดยอดีตพนักงานเป็นเรื่องปกติในวงการเทคโนโลยี
    แต่ต้องไม่ละเมิดข้อมูลลับของบริษัทเดิม

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/14-ex-huawei-employees-handed-down-prison-sentences-in-china-accused-face-up-to-six-years-for-taking-chip-related-business-secrets-with-them-to-form-startup-zunpai
    🔐⚖️ เรื่องเล่าจากโลกชิป: เมื่ออดีตพนักงาน Huawei ถูกตัดสินจำคุกจากคดีลับเทคโนโลยี ในโลกของเซมิคอนดักเตอร์ที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด คดีล่าสุดจากประเทศจีนได้สร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ เมื่อศาลในเซี่ยงไฮ้ตัดสินจำคุกอดีตพนักงาน Huawei จำนวน 14 คน จากข้อหาขโมยข้อมูลลับด้านเทคโนโลยีชิปไปใช้ในการก่อตั้งบริษัทใหม่ชื่อ Zunpai Communication Technology Zhang Kun อดีตนักวิจัยจาก HiSilicon ซึ่งเป็นหน่วยงานพัฒนาชิปของ Huawei ได้ลาออกในปี 2019 และก่อตั้ง Zunpai ในปี 2021 โดยดึงอดีตเพื่อนร่วมงานมาร่วมทีม พร้อมเสนอเงินเดือนสูงและหุ้นในบริษัท แต่สิ่งที่ตามมาคือข้อกล่าวหาว่า พวกเขาได้คัดลอกข้อมูลลับก่อนลาออก และนำไปใช้ในการพัฒนาชิป Wi-Fi ของ Zunpai ในเดือนธันวาคม 2023 ตำรวจเซี่ยงไฮ้ได้จับกุมผู้ต้องสงสัยทั้ง 14 คน และอายัดทรัพย์สินของ Zunpai มูลค่า 95 ล้านหยวน โดยพบว่าเทคโนโลยีที่ใช้ใน Zunpai มีความคล้ายคลึงกับของ Huawei ถึง 90% แม้คำตัดสินจะยังไม่เผยแพร่สู่สาธารณะ แต่มีรายงานว่าผู้ต้องหาอาจถูกจำคุกสูงสุด 6 ปี พร้อมโทษปรับ คดีนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดของจีนในการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมชิปที่ถือเป็นหัวใจของเศรษฐกิจดิจิทัล และยังเป็นการเตือนว่า “การลอกเลียนเทคโนโลยี” ไม่ใช่เรื่องเล็กอีกต่อไป ✅ ศาลเซี่ยงไฮ้ตัดสินจำคุกอดีตพนักงาน Huawei 14 คน ➡️ จากข้อหาขโมยข้อมูลลับด้านเทคโนโลยีชิป ✅ ผู้ต้องหาก่อตั้งบริษัท Zunpai เพื่อพัฒนาชิป Wi-Fi ➡️ โดยใช้ข้อมูลจาก HiSilicon ซึ่งเป็นหน่วยงานของ Huawei ✅ ตำรวจพบว่าเทคโนโลยีของ Zunpai คล้ายกับของ Huawei ถึง 90% ➡️ และอายัดทรัพย์สินมูลค่า 95 ล้านหยวน ✅ คำตัดสินยังไม่เผยแพร่ แต่มีรายงานว่าผู้ต้องหาอาจถูกจำคุกสูงสุด 6 ปี ➡️ พร้อมโทษปรับทางการเงิน ✅ Huawei ยังไม่ออกความเห็นอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับคดีนี้ ➡️ แต่ได้ดำเนินการทางกฎหมายตั้งแต่ปี 2023 ✅ จีนมีแนวโน้มเพิ่มความเข้มงวดในการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา ➡️ มีผู้ถูกดำเนินคดีด้าน IP มากกว่า 21,000 คนในปี 2024 ✅ HiSilicon เป็นหน่วยงานพัฒนาชิปของ Huawei ที่มีบทบาทสำคัญ ➡️ โดยเฉพาะในด้านการพัฒนา AI และการสื่อสาร ✅ การลอกเลียนเทคโนโลยีชิปส่งผลต่อการแข่งขันในระดับโลก ➡️ และอาจกระทบต่อความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยี ✅ การตั้งบริษัทใหม่โดยอดีตพนักงานเป็นเรื่องปกติในวงการเทคโนโลยี ➡️ แต่ต้องไม่ละเมิดข้อมูลลับของบริษัทเดิม https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/14-ex-huawei-employees-handed-down-prison-sentences-in-china-accused-face-up-to-six-years-for-taking-chip-related-business-secrets-with-them-to-form-startup-zunpai
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกชิป: เมื่อเทคโนโลยีระดับนาโนกลายเป็นเป้าหมายของการจารกรรม

    ในโลกของเซมิคอนดักเตอร์ที่แข่งขันกันดุเดือด TSMC บริษัทผู้ผลิตชิปอันดับหนึ่งของโลกจากไต้หวัน กำลังเผชิญกับคดีร้ายแรง เมื่อมีพนักงานปัจจุบันและอดีตพนักงานรวม 6 คนถูกจับกุมในข้อหาพยายามขโมยข้อมูลลับเกี่ยวกับเทคโนโลยีการผลิตชิปขนาด 2 นาโนเมตร ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีล้ำหน้าที่สุดในปัจจุบัน และมีมูลค่าสูงถึง $30,000 ต่อแผ่นเวเฟอร์

    การสืบสวนเริ่มต้นจากระบบตรวจสอบภายในของ TSMC ที่พบพฤติกรรมเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับแก้ไขของไต้หวัน ซึ่งระบุชัดว่าการรั่วไหลของเทคโนโลยีระดับต่ำกว่า 14 นาโนเมตรถือเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ

    เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นบ้านและที่ทำงานของผู้ต้องสงสัย รวมถึงบริษัทญี่ปุ่น Tokyo Electron ที่อาจเกี่ยวข้องกับคดีนี้ แม้ยังไม่มีการเปิดเผยว่าข้อมูลถูกส่งต่อไปยังใคร แต่ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นนั้นมหาศาล เพราะ TSMC เป็นผู้ผลิตชิปให้กับบริษัทระดับโลกอย่าง Apple, Nvidia และ Qualcomm

    ในยุคที่ AI และเทคโนโลยีขั้นสูงเป็นหัวใจของเศรษฐกิจโลก การขโมยข้อมูลลับไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจ แต่เป็นเรื่องของความมั่นคงระดับชาติ และผู้กระทำผิดอาจต้องโทษจำคุกสูงสุด 12 ปี พร้อมปรับกว่า 100 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน

    พนักงาน TSMC ถูกจับกุมในข้อหาพยายามขโมยข้อมูลเทคโนโลยี 2nm
    รวมทั้งหมด 6 คน มีทั้งพนักงานปัจจุบันและอดีต

    TSMC ตรวจพบการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาตจากระบบภายใน
    ก่อนส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดี

    คดีนี้อยู่ภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ของไต้หวัน
    เน้นปกป้องเทคโนโลยีระดับนาโนที่ถือเป็น “เทคโนโลยีหลักของชาติ”

    เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้านและที่ทำงานของผู้ต้องสงสัย
    รวมถึงบริษัทญี่ปุ่น Tokyo Electron ที่อาจเกี่ยวข้อง

    TSMC ยืนยันจะดำเนินคดีอย่างเต็มที่และเสริมระบบตรวจสอบภายใน
    เพื่อรักษาความได้เปรียบทางการแข่งขันและเสถียรภาพองค์กร

    เทคโนโลยี 2nm เป็นขั้นสูงสุดของการผลิตชิปในปัจจุบัน
    มีประสิทธิภาพสูงและใช้ในอุปกรณ์ระดับพรีเมียม เช่น iPhone 18

    ราคาการผลิตชิป 2nm สูงถึง $30,000 ต่อเวเฟอร์
    แพงกว่าชิป 3nm ถึง 66%

    TSMC มีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า Samsung ถึง 3 เท่า
    เป็นผู้ผลิตชิปให้บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำทั่วโลก

    การแข่งขันด้าน AI และเซิร์ฟเวอร์ทำให้เทคโนโลยีชิปเป็นเป้าหมายสำคัญ
    โดยเฉพาะในยุคหลัง ChatGPT ที่ต้องใช้พลังประมวลผลมหาศาล

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/two-former-tsmc-employees-arrested
    🔍💥 เรื่องเล่าจากโลกชิป: เมื่อเทคโนโลยีระดับนาโนกลายเป็นเป้าหมายของการจารกรรม ในโลกของเซมิคอนดักเตอร์ที่แข่งขันกันดุเดือด TSMC บริษัทผู้ผลิตชิปอันดับหนึ่งของโลกจากไต้หวัน กำลังเผชิญกับคดีร้ายแรง เมื่อมีพนักงานปัจจุบันและอดีตพนักงานรวม 6 คนถูกจับกุมในข้อหาพยายามขโมยข้อมูลลับเกี่ยวกับเทคโนโลยีการผลิตชิปขนาด 2 นาโนเมตร ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีล้ำหน้าที่สุดในปัจจุบัน และมีมูลค่าสูงถึง $30,000 ต่อแผ่นเวเฟอร์ การสืบสวนเริ่มต้นจากระบบตรวจสอบภายในของ TSMC ที่พบพฤติกรรมเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับแก้ไขของไต้หวัน ซึ่งระบุชัดว่าการรั่วไหลของเทคโนโลยีระดับต่ำกว่า 14 นาโนเมตรถือเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นบ้านและที่ทำงานของผู้ต้องสงสัย รวมถึงบริษัทญี่ปุ่น Tokyo Electron ที่อาจเกี่ยวข้องกับคดีนี้ แม้ยังไม่มีการเปิดเผยว่าข้อมูลถูกส่งต่อไปยังใคร แต่ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นนั้นมหาศาล เพราะ TSMC เป็นผู้ผลิตชิปให้กับบริษัทระดับโลกอย่าง Apple, Nvidia และ Qualcomm ในยุคที่ AI และเทคโนโลยีขั้นสูงเป็นหัวใจของเศรษฐกิจโลก การขโมยข้อมูลลับไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจ แต่เป็นเรื่องของความมั่นคงระดับชาติ และผู้กระทำผิดอาจต้องโทษจำคุกสูงสุด 12 ปี พร้อมปรับกว่า 100 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน ✅ พนักงาน TSMC ถูกจับกุมในข้อหาพยายามขโมยข้อมูลเทคโนโลยี 2nm ➡️ รวมทั้งหมด 6 คน มีทั้งพนักงานปัจจุบันและอดีต ✅ TSMC ตรวจพบการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาตจากระบบภายใน ➡️ ก่อนส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดี ✅ คดีนี้อยู่ภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ของไต้หวัน ➡️ เน้นปกป้องเทคโนโลยีระดับนาโนที่ถือเป็น “เทคโนโลยีหลักของชาติ” ✅ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้านและที่ทำงานของผู้ต้องสงสัย ➡️ รวมถึงบริษัทญี่ปุ่น Tokyo Electron ที่อาจเกี่ยวข้อง ✅ TSMC ยืนยันจะดำเนินคดีอย่างเต็มที่และเสริมระบบตรวจสอบภายใน ➡️ เพื่อรักษาความได้เปรียบทางการแข่งขันและเสถียรภาพองค์กร ✅ เทคโนโลยี 2nm เป็นขั้นสูงสุดของการผลิตชิปในปัจจุบัน ➡️ มีประสิทธิภาพสูงและใช้ในอุปกรณ์ระดับพรีเมียม เช่น iPhone 18 ✅ ราคาการผลิตชิป 2nm สูงถึง $30,000 ต่อเวเฟอร์ ➡️ แพงกว่าชิป 3nm ถึง 66% ✅ TSMC มีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า Samsung ถึง 3 เท่า ➡️ เป็นผู้ผลิตชิปให้บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำทั่วโลก ✅ การแข่งขันด้าน AI และเซิร์ฟเวอร์ทำให้เทคโนโลยีชิปเป็นเป้าหมายสำคัญ ➡️ โดยเฉพาะในยุคหลัง ChatGPT ที่ต้องใช้พลังประมวลผลมหาศาล https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/two-former-tsmc-employees-arrested
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว
  • หัวใจที่เข้มแข็ง เท่านั้น...ที่จะพา...ชีวิตผ่านมรสุมไปได้
    Cr.Wiwan Boonya
    หัวใจที่เข้มแข็ง เท่านั้น...ที่จะพา...ชีวิตผ่านมรสุมไปได้ Cr.Wiwan Boonya
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ มอบขนมเส้นบุก 36,000 ซอง ผ่าน ไทยพีบีเอส ส่งแรงใจถึงทหารชายแดนไทย–กัมพูชา
    https://www.thai-tai.tv/news/20769/
    .
    #มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ #สถานีประชาชน #ทหารชายแดน #ความมั่นคง #ไทยพีบีเอส #ไทยไท
    มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ มอบขนมเส้นบุก 36,000 ซอง ผ่าน ไทยพีบีเอส ส่งแรงใจถึงทหารชายแดนไทย–กัมพูชา https://www.thai-tai.tv/news/20769/ . #มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ #สถานีประชาชน #ทหารชายแดน #ความมั่นคง #ไทยพีบีเอส #ไทยไท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • "สุชัชวีร์" เตือนรัฐบาล! ต้อง "เข้มแข็ง-เฝ้าระวัง" เหลี่ยมผู้นำเขมร...ชี้ "การทูตเฉียบคม" คือหัวใจสำคัญในทุกสมรภูมิ
    https://www.thai-tai.tv/news/20766/
    .
    #truthfromthailand #ไทยกัมพูชา #ทหารไทย #ชายแดนไทยกัมพูชา #รัฐบาล #กองทัพบก
    "สุชัชวีร์" เตือนรัฐบาล! ต้อง "เข้มแข็ง-เฝ้าระวัง" เหลี่ยมผู้นำเขมร...ชี้ "การทูตเฉียบคม" คือหัวใจสำคัญในทุกสมรภูมิ https://www.thai-tai.tv/news/20766/ . #truthfromthailand #ไทยกัมพูชา #ทหารไทย #ชายแดนไทยกัมพูชา #รัฐบาล #กองทัพบก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: ชิป AI จาก MIT ที่ประมวลผลเร็วระดับแสง—เปิดทางสู่ยุค 6G ที่แท้จริง

    ในยุคที่ข้อมูลพุ่งทะยานตามกฎของ Edholm และความต้องการแบนด์วิดธ์เพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ขณะที่ Moore’s Law เริ่มชะลอตัว MIT จึงพัฒนา MAFT-ONN (Multiplicative Analog Frequency Transform Optical Neural Network) ซึ่งเป็นชิป AI ที่ทำงานด้วยแสงและประมวลผลสัญญาณ RF แบบแอนะล็อกโดยตรง

    MAFT-ONN ไม่ต้องแปลงสัญญาณเป็นดิจิทัลก่อนประมวลผล แต่ใช้การแปลงความถี่และคำนวณทั้ง linear และ nonlinear บน optical processor เดียว ทำให้สามารถใส่ neuron ได้ถึง 10,000 ตัวในอุปกรณ์เดียว และประมวลผลได้ใน “ช็อตเดียว” ด้วยความเร็วระดับนาโนวินาที

    ผลลัพธ์คือความแม่นยำสูงถึง 95% ในการจำแนก modulation และสามารถพุ่งถึง 99% หากวัดเพิ่มอีกเล็กน้อย โดยใช้พลังงานต่ำกว่าเดิมมาก และขนาดเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด เหมาะกับ edge device เช่น cognitive radio, รถยนต์ไร้คนขับ หรือแม้แต่เครื่องกระตุ้นหัวใจอัจฉริยะ

    MIT พัฒนาชิป MAFT-ONN ที่ใช้แสงในการประมวลผลสัญญาณ RF แบบแอนะล็อกโดยตรง
    ไม่ต้องแปลงเป็นดิจิทัลก่อน ทำให้เร็วและประหยัดพลังงาน
    ใช้ optical processor เดียวในการคำนวณทั้ง linear และ nonlinear

    สามารถใส่ neuron ได้ถึง 10,000 ตัวในอุปกรณ์เดียว และประมวลผลใน “ช็อตเดียว”
    ทำให้การ inference เร็วระดับนาโนวินาที
    ความแม่นยำสูงถึง 95% และพุ่งถึง 99% ด้วยการวัดเพิ่ม

    ชิปนี้เร็วกว่า digital AI chip ถึง 100 เท่า และใช้พลังงานน้อยกว่ามาก
    ขนาดเล็ก, น้ำหนักเบา, ราคาถูก
    เหมาะกับ edge device ที่ต้องการประมวลผลแบบ real-time

    สามารถประมวลผลข้อมูลจาก MNIST dataset ได้เกือบ 4 ล้านครั้งแบบ fully analog
    แสดงถึงความสามารถในการเรียนรู้และจำแนกภาพ
    เป็นก้าวสำคัญของ optical neural network ที่ใช้งานได้จริง

    เหมาะกับการใช้งานในยุค 6G เช่น cognitive radio ที่ปรับ modulation แบบ real-time
    ช่วยเพิ่ม data rate และลดการรบกวนสัญญาณ
    เปิดทางสู่การสื่อสารไร้สายที่เร็วและแม่นยำกว่าเดิม

    สามารถนำไปใช้ในอุปกรณ์อื่น เช่น รถยนต์ไร้คนขับ หรือเครื่องกระตุ้นหัวใจอัจฉริยะ
    ช่วยให้รถตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมได้ทันที
    ตรวจจับสัญญาณชีพแบบ real-time เพื่อดูแลสุขภาพ

    https://www.neowin.net/news/mit-sees-astonishing-light-speed-6g-processing-with-its-new-100-times-faster-chip/
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: ชิป AI จาก MIT ที่ประมวลผลเร็วระดับแสง—เปิดทางสู่ยุค 6G ที่แท้จริง ในยุคที่ข้อมูลพุ่งทะยานตามกฎของ Edholm และความต้องการแบนด์วิดธ์เพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ขณะที่ Moore’s Law เริ่มชะลอตัว MIT จึงพัฒนา MAFT-ONN (Multiplicative Analog Frequency Transform Optical Neural Network) ซึ่งเป็นชิป AI ที่ทำงานด้วยแสงและประมวลผลสัญญาณ RF แบบแอนะล็อกโดยตรง MAFT-ONN ไม่ต้องแปลงสัญญาณเป็นดิจิทัลก่อนประมวลผล แต่ใช้การแปลงความถี่และคำนวณทั้ง linear และ nonlinear บน optical processor เดียว ทำให้สามารถใส่ neuron ได้ถึง 10,000 ตัวในอุปกรณ์เดียว และประมวลผลได้ใน “ช็อตเดียว” ด้วยความเร็วระดับนาโนวินาที ผลลัพธ์คือความแม่นยำสูงถึง 95% ในการจำแนก modulation และสามารถพุ่งถึง 99% หากวัดเพิ่มอีกเล็กน้อย โดยใช้พลังงานต่ำกว่าเดิมมาก และขนาดเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด เหมาะกับ edge device เช่น cognitive radio, รถยนต์ไร้คนขับ หรือแม้แต่เครื่องกระตุ้นหัวใจอัจฉริยะ ✅ MIT พัฒนาชิป MAFT-ONN ที่ใช้แสงในการประมวลผลสัญญาณ RF แบบแอนะล็อกโดยตรง ➡️ ไม่ต้องแปลงเป็นดิจิทัลก่อน ทำให้เร็วและประหยัดพลังงาน ➡️ ใช้ optical processor เดียวในการคำนวณทั้ง linear และ nonlinear ✅ สามารถใส่ neuron ได้ถึง 10,000 ตัวในอุปกรณ์เดียว และประมวลผลใน “ช็อตเดียว” ➡️ ทำให้การ inference เร็วระดับนาโนวินาที ➡️ ความแม่นยำสูงถึง 95% และพุ่งถึง 99% ด้วยการวัดเพิ่ม ✅ ชิปนี้เร็วกว่า digital AI chip ถึง 100 เท่า และใช้พลังงานน้อยกว่ามาก ➡️ ขนาดเล็ก, น้ำหนักเบา, ราคาถูก ➡️ เหมาะกับ edge device ที่ต้องการประมวลผลแบบ real-time ✅ สามารถประมวลผลข้อมูลจาก MNIST dataset ได้เกือบ 4 ล้านครั้งแบบ fully analog ➡️ แสดงถึงความสามารถในการเรียนรู้และจำแนกภาพ ➡️ เป็นก้าวสำคัญของ optical neural network ที่ใช้งานได้จริง ✅ เหมาะกับการใช้งานในยุค 6G เช่น cognitive radio ที่ปรับ modulation แบบ real-time ➡️ ช่วยเพิ่ม data rate และลดการรบกวนสัญญาณ ➡️ เปิดทางสู่การสื่อสารไร้สายที่เร็วและแม่นยำกว่าเดิม ✅ สามารถนำไปใช้ในอุปกรณ์อื่น เช่น รถยนต์ไร้คนขับ หรือเครื่องกระตุ้นหัวใจอัจฉริยะ ➡️ ช่วยให้รถตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อมได้ทันที ➡️ ตรวจจับสัญญาณชีพแบบ real-time เพื่อดูแลสุขภาพ https://www.neowin.net/news/mit-sees-astonishing-light-speed-6g-processing-with-its-new-100-times-faster-chip/
    WWW.NEOWIN.NET
    MIT sees astonishing light-speed 6G processing with its new "100 times faster" chip
    MIT's pioneering optical AI chip uses photonics and the power of light-speed, promising way better 6G speeds.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดูคลิปด่วน! เขมรโพสคลิปเอง น่าจะเป็นอีแร้งบินว่อนชายแดนเขมร-ไทย (4/8/68)
    #TruthFromThailand
    #CambodiaNoCeasefire
    #Hunsenfiredfirst
    #CambodianDeception
    #กัมพูชายิงก่อน
    #เสียงจากสมรภูมิ
    #ข่าวด่วนชายแดน
    #จุกถึงหัวใจ
    #Thaitimes
    #Shorts
    #TruthForTheWorld
    #CambodiaLies
    ดูคลิปด่วน! เขมรโพสคลิปเอง น่าจะเป็นอีแร้งบินว่อนชายแดนเขมร-ไทย (4/8/68) #TruthFromThailand #CambodiaNoCeasefire #Hunsenfiredfirst #CambodianDeception #กัมพูชายิงก่อน #เสียงจากสมรภูมิ #ข่าวด่วนชายแดน #จุกถึงหัวใจ #Thaitimes #Shorts #TruthForTheWorld #CambodiaLies
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • "มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์" มอบเมล็ดแตงโม 8,424 ซอง! ส่งต่อความสุข...ร่วมเฉลิมฉลอง "วันแม่แห่งชาติ 68"
    https://www.thai-tai.tv/news/20726/
    .
    #มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ #วันแม่2568 #เฉลิมพระเกียรติ #แบ่งปัน #เมล็ดแตงโม #ไบ่ลี่เอ็นเตอร์ไพร์ส #ไทยไท
    "มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์" มอบเมล็ดแตงโม 8,424 ซอง! ส่งต่อความสุข...ร่วมเฉลิมฉลอง "วันแม่แห่งชาติ 68" https://www.thai-tai.tv/news/20726/ . #มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ #วันแม่2568 #เฉลิมพระเกียรติ #แบ่งปัน #เมล็ดแตงโม #ไบ่ลี่เอ็นเตอร์ไพร์ส #ไทยไท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • พลังงานหัวใจ คนไทยร่วมแรง ส่งความห่วงใยไปถึงชายแดน [4/8/68]
    United by heart — Thais send love and care to our troops at the border.

    #TruthFromThailand
    #CambodiaNoCeasefire
    #Hunsenfiredfirst
    #พลังคนไทย
    #รวมใจปกป้องแผ่นดิน
    #เสียงจากชายแดน
    #ส่งใจให้ทหาร
    #Thaitimes #News1 #Shorts
    #CambodianDeception
    #กัมพูชายิงก่อน
    พลังงานหัวใจ ❤️ คนไทยร่วมแรง ส่งความห่วงใยไปถึงชายแดน [4/8/68] United by heart — Thais send love and care to our troops at the border. #TruthFromThailand #CambodiaNoCeasefire #Hunsenfiredfirst #พลังคนไทย #รวมใจปกป้องแผ่นดิน #เสียงจากชายแดน #ส่งใจให้ทหาร #Thaitimes #News1 #Shorts #CambodianDeception #กัมพูชายิงก่อน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • หมอโหน่งพูดหมด เล่าเหตุการณ์วันเขมรโจมตีรพ. ฟังแล้วจุกที่หัวใจ (3/8/68)
    Doctor recounts the day Cambodia attacked the Thai hospital — a heartbreaking story.

    #TruthFromThailand
    #CambodiaNoCeasefire
    #Hunsenfiredfirst
    #CambodianDeception
    #กัมพูชายิงก่อน
    #Scambodia
    #KhmerAttackOnHospital
    #ข่าวด่วนชายแดน
    #News1 #Shorts
    หมอโหน่งพูดหมด เล่าเหตุการณ์วันเขมรโจมตีรพ. ฟังแล้วจุกที่หัวใจ (3/8/68) Doctor recounts the day Cambodia attacked the Thai hospital — a heartbreaking story. #TruthFromThailand #CambodiaNoCeasefire #Hunsenfiredfirst #CambodianDeception #กัมพูชายิงก่อน #Scambodia #KhmerAttackOnHospital #ข่าวด่วนชายแดน #News1 #Shorts
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เย็นวันอาทิตย์ กับเสียงเพลงที่ไม่มีวันจาง – I Like Chopin

    ลุงยังจำได้ดี... หน้าร้อนช่วงหนึ่งของวัยเด็ก ในเย็นวันอาทิตย์ที่แสงแดดเริ่มอ่อนลง เสียงจั๊กจั่นเงียบลงไปทีละตัว สายลมจากพัดลมโต๊ะตัวเก่าๆ หมุนวนอย่างช้าๆ พ่อมักจะเปิดวิทยุทรานซิสเตอร์ที่ต่อกับเครื่องเสียงของแกที่ซื้อมาประกอบเอง

    ทุกวันอาทิตย์ช่วงเย็น พ่อจะหมุนหาคลื่นวิทยุที่เปิดเพลงจากต่างประเทศ แนวที่เขาชอบมักเป็นเพลงสากลนุ่มๆ จากยุค 70s หรือ 80s และในบรรดาเพลงเหล่านั้น มีอยู่เพลงหนึ่งที่ยังฝังอยู่ในความทรงจำของผมเสมอ...

    "Raining Days .. Never Say "Goodbye"...

    เสียงเปียโนเบาๆ ดังขึ้นพร้อมเสียงร้องของนักร้องชายที่ผมตอนนั้นยังไม่รู้จักชื่อ รู้แค่ว่ามันไพเราะเหลือเกิน จนผมนั่งนิ่งอยู่ตรงพื้นเย็นๆ ฟังด้วยหัวใจเบาๆ เหมือนโลกเงียบไปทั้งใบ และมีแค่เสียงเพลงนี้ลอยอยู่ในอากาศ

    พ่อหันมายิ้ม แล้วพูดว่า
    “เพลงนี้ชื่อ I Like Chopin – เพราะดีนะ... เหมือนฟังเปียโนตอนฝนตก”

    วันนั้นเป็นครั้งแรกที่ลุงรู้จักชื่อ Gazebo ชื่อนี้แปลกสำหรับเด็กไทยอย่างลุง แต่ความแปลกก็ยิ่งทำให้ลุงจำได้ เพลงนี้เป็นของศิลปินลูกครึ่งอิตาลี-อเมริกัน ที่ชื่อจริงคือ Paul Mazzolini แต่ลุงเรียกเขาตามที่วิทยุบอกว่า “กาเซโบ”

    ภายหลังเมื่อลุงโตขึ้น ได้รู้ว่าเพลงนี้ออกมาในปี 1983 เป็นผลงานที่ทำร่วมกับโปรดิวเซอร์ชื่อดัง Pierluigi Giombini และแม้ชื่อเพลงจะบอกว่า “ฉันชอบโชแปง” แต่มันไม่ได้ใช้บทเพลงของโชแปงจริงๆ — เพียงแต่สร้างบรรยากาศเหงาและคลาสสิกเหมือนนั่งฟังเปียโนกลางสายฝนเย็น

    เพลงนี้เคย ขึ้นอันดับ 1 ในหลายประเทศทั่วโลก
    มียอดขายทะลุกว่า 8 ล้านแผ่น
    กลายเป็นตำนานของแนวเพลง Italo Disco
    และยังมีคนนำมา คัฟเวอร์และรีมิกซ์ อยู่เรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน

    กว่า 20 ปีผ่านไป ลุงเจอเพลงนี้อีกครั้งใน Youtube ตอนปลายทศวรรษ 2000 เสียงเปียโนในอินโทรยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน เสียงร้องยังคงห่อหุ้มความทรงจำของลุงเอาไว้อย่างแผ่วเบา

    มันไม่ใช่แค่เพลงสากลเพลงหนึ่ง แต่มันคือหนึ่งใน ภาพจำของวัยเยาว์ ที่รวมเอากลิ่นหน้าร้อน แสงเย็นของวันอาทิตย์ เสียงพ่อหรี่พัดลมให้เบา และความสงบของบ้านหลังเก่าเอาไว้ในท่วงทำนองเดียว

    วันนี้ แม้ลุงจะเปิดเพลงจาก Spotify ผ่านลำโพงไร้สายที่ทันสมัย แต่ใจลุงก็ยังลอยกลับไปในเย็นวันนั้นเสมอ... วันที่ “I Like Chopin” ดังผ่านชุดวิทยุเครื่องเสียงของพ่อ และได้รู้จักความสวยงามของเสียงดนตรี... เป็นครั้งแรกในชีวิต

    #ลุงเล่าหลานฟัง

    https://youtu.be/Dtrgwqei7ww
    ☀️ เย็นวันอาทิตย์ กับเสียงเพลงที่ไม่มีวันจาง – I Like Chopin ลุงยังจำได้ดี... หน้าร้อนช่วงหนึ่งของวัยเด็ก ในเย็นวันอาทิตย์ที่แสงแดดเริ่มอ่อนลง เสียงจั๊กจั่นเงียบลงไปทีละตัว สายลมจากพัดลมโต๊ะตัวเก่าๆ หมุนวนอย่างช้าๆ พ่อมักจะเปิดวิทยุทรานซิสเตอร์ที่ต่อกับเครื่องเสียงของแกที่ซื้อมาประกอบเอง ทุกวันอาทิตย์ช่วงเย็น พ่อจะหมุนหาคลื่นวิทยุที่เปิดเพลงจากต่างประเทศ แนวที่เขาชอบมักเป็นเพลงสากลนุ่มๆ จากยุค 70s หรือ 80s และในบรรดาเพลงเหล่านั้น มีอยู่เพลงหนึ่งที่ยังฝังอยู่ในความทรงจำของผมเสมอ... 🔖 "Raining Days .. Never Say "Goodbye"... 🎵 เสียงเปียโนเบาๆ ดังขึ้นพร้อมเสียงร้องของนักร้องชายที่ผมตอนนั้นยังไม่รู้จักชื่อ รู้แค่ว่ามันไพเราะเหลือเกิน จนผมนั่งนิ่งอยู่ตรงพื้นเย็นๆ ฟังด้วยหัวใจเบาๆ เหมือนโลกเงียบไปทั้งใบ และมีแค่เสียงเพลงนี้ลอยอยู่ในอากาศ พ่อหันมายิ้ม แล้วพูดว่า “เพลงนี้ชื่อ I Like Chopin – เพราะดีนะ... เหมือนฟังเปียโนตอนฝนตก” วันนั้นเป็นครั้งแรกที่ลุงรู้จักชื่อ Gazebo ชื่อนี้แปลกสำหรับเด็กไทยอย่างลุง แต่ความแปลกก็ยิ่งทำให้ลุงจำได้ เพลงนี้เป็นของศิลปินลูกครึ่งอิตาลี-อเมริกัน ที่ชื่อจริงคือ Paul Mazzolini แต่ลุงเรียกเขาตามที่วิทยุบอกว่า “กาเซโบ” ภายหลังเมื่อลุงโตขึ้น ได้รู้ว่าเพลงนี้ออกมาในปี 1983 เป็นผลงานที่ทำร่วมกับโปรดิวเซอร์ชื่อดัง Pierluigi Giombini และแม้ชื่อเพลงจะบอกว่า “ฉันชอบโชแปง” แต่มันไม่ได้ใช้บทเพลงของโชแปงจริงๆ — เพียงแต่สร้างบรรยากาศเหงาและคลาสสิกเหมือนนั่งฟังเปียโนกลางสายฝนเย็น 🎵 เพลงนี้เคย ขึ้นอันดับ 1 ในหลายประเทศทั่วโลก 🎵 มียอดขายทะลุกว่า 8 ล้านแผ่น 🎵 กลายเป็นตำนานของแนวเพลง Italo Disco 🎵 และยังมีคนนำมา คัฟเวอร์และรีมิกซ์ อยู่เรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน กว่า 20 ปีผ่านไป ลุงเจอเพลงนี้อีกครั้งใน Youtube ตอนปลายทศวรรษ 2000 เสียงเปียโนในอินโทรยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน เสียงร้องยังคงห่อหุ้มความทรงจำของลุงเอาไว้อย่างแผ่วเบา มันไม่ใช่แค่เพลงสากลเพลงหนึ่ง แต่มันคือหนึ่งใน ภาพจำของวัยเยาว์ ที่รวมเอากลิ่นหน้าร้อน แสงเย็นของวันอาทิตย์ เสียงพ่อหรี่พัดลมให้เบา และความสงบของบ้านหลังเก่าเอาไว้ในท่วงทำนองเดียว วันนี้ แม้ลุงจะเปิดเพลงจาก Spotify ผ่านลำโพงไร้สายที่ทันสมัย แต่ใจลุงก็ยังลอยกลับไปในเย็นวันนั้นเสมอ... วันที่ “I Like Chopin” ดังผ่านชุดวิทยุเครื่องเสียงของพ่อ และได้รู้จักความสวยงามของเสียงดนตรี... เป็นครั้งแรกในชีวิต #ลุงเล่าหลานฟัง https://youtu.be/Dtrgwqei7ww
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 127 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: Apple กับภารกิจไล่ตาม AI—เปิดรับ M&A, ปรับทีม, และอาจซื้อ Perplexity เพื่อเติมช่องว่าง

    Apple เคยเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม แต่ในสนาม AI กลับถูกมองว่า “ตามหลัง” คู่แข่งอย่าง Google, Microsoft และ OpenAI อย่างชัดเจน Tim Cook จึงประกาศในงานแถลงผลประกอบการล่าสุดว่า Apple “เปิดรับการซื้อกิจการทุกขนาด” หากช่วยเร่งแผน AI ได้

    ปีนี้ Apple ซื้อกิจการไปแล้ว 7 แห่ง แม้ส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทขนาดเล็ก แต่มีข่าวลือว่า Apple กำลังพิจารณาซื้อ Perplexity—สตาร์ทอัพ AI ด้านการค้นหาที่มีมูลค่ากว่า $18 พันล้าน ซึ่งจะกลายเป็นดีลใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Apple หากเกิดขึ้นจริง

    นอกจากการซื้อกิจการ Apple ยังปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ โดยย้ายพนักงานจำนวนมากไปทำงานด้าน AI และเพิ่มงบลงทุนอย่างต่อเนื่อง แม้จะยังตามหลังคู่แข่งในด้านโครงสร้างพื้นฐานและโมเดล AI ขนาดใหญ่

    Tim Cook ประกาศว่า Apple “เปิดรับ M&A ทุกขนาด” เพื่อเร่งแผน AI
    ไม่จำกัดขนาดบริษัท หากช่วยเร่ง roadmap ได้
    ปีนี้ซื้อกิจการแล้ว 7 แห่ง แม้ส่วนใหญ่ไม่เกี่ยวกับ AI

    Apple กำลังพิจารณาซื้อ Perplexity สตาร์ทอัพ AI ด้านการค้นหาที่มีมูลค่ากว่า $18 พันล้าน
    จะกลายเป็นดีลใหญ่ที่สุดของ Apple
    มีการเจรจาระหว่างผู้บริหารระดับสูงแล้ว

    Apple ปรับโครงสร้างองค์กรโดยย้ายพนักงานจำนวนมากไปทำงานด้าน AI
    เน้นพัฒนา machine learning และฟีเจอร์ใหม่ใน ecosystem
    รวมถึงการออกแบบชิปด้วย generative AI

    Apple เพิ่มงบลงทุนด้าน AI อย่างต่อเนื่อง แม้ยังตามหลังคู่แข่งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน
    CapEx ปีนี้อยู่ที่ ~$13–14 พันล้าน
    เทียบกับ Google $85B, Meta $72B, Microsoft $80B

    Apple มองว่า AI คือ “เทคโนโลยีที่ลึกซึ้งที่สุดในยุคของเรา” และจะฝังอยู่ในทุกอุปกรณ์
    เน้นการทำให้ AI ใช้งานง่ายและเข้าถึงได้
    เป็นหัวใจของกลยุทธ์ระยะยาว

    รายได้ไตรมาสล่าสุดของ Apple อยู่ที่ $94 พันล้าน กำไรสุทธิ $23.4 พันล้าน
    iPhone ยังเป็นรายได้หลักที่ $44.6 พันล้าน
    รายได้จากบริการโตต่อเนื่องที่ $27.4 พันล้าน

    Apple ยังไม่มีผลิตภัณฑ์ AI แบบ generative ที่เด่นชัดเหมือนคู่แข่ง
    Siri รุ่นใหม่ถูกเลื่อนเปิดตัวไปปี 2026
    ยังไม่มีโมเดล LLM ที่แข่งขันกับ GPT หรือ Claude ได้

    การซื้อกิจการขนาดใหญ่เช่น Perplexity อาจขัดกับแนวทางเดิมของ Apple ที่เน้นการเติบโตภายใน
    เสี่ยงต่อการเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร
    ต้องปรับตัวกับเทคโนโลยีภายนอกอย่างรวดเร็ว

    การปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่เพื่อเน้น AI อาจกระทบต่อทีมงานเดิมและโครงการอื่น
    อาจเกิดความไม่ชัดเจนในบทบาทของทีม
    เสี่ยงต่อการสูญเสียบุคลากรที่ไม่เห็นด้วย

    งบลงทุนด้าน AI ของ Apple ยังน้อยกว่าคู่แข่งหลายเท่า อาจทำให้ตามไม่ทันในระยะกลาง
    โครงสร้างพื้นฐานยังไม่เทียบเท่า Google หรือ Microsoft
    ต้องเร่งลงทุนใน data center และโมเดลขนาดใหญ่

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/apples-tim-cook-very-open-to-m-and-a-that-accelerates-our-road-map-for-ai-company-increasing-spending-on-ai-initiatives-reorganizing-teams-to-address-expansion
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: Apple กับภารกิจไล่ตาม AI—เปิดรับ M&A, ปรับทีม, และอาจซื้อ Perplexity เพื่อเติมช่องว่าง Apple เคยเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม แต่ในสนาม AI กลับถูกมองว่า “ตามหลัง” คู่แข่งอย่าง Google, Microsoft และ OpenAI อย่างชัดเจน Tim Cook จึงประกาศในงานแถลงผลประกอบการล่าสุดว่า Apple “เปิดรับการซื้อกิจการทุกขนาด” หากช่วยเร่งแผน AI ได้ ปีนี้ Apple ซื้อกิจการไปแล้ว 7 แห่ง แม้ส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทขนาดเล็ก แต่มีข่าวลือว่า Apple กำลังพิจารณาซื้อ Perplexity—สตาร์ทอัพ AI ด้านการค้นหาที่มีมูลค่ากว่า $18 พันล้าน ซึ่งจะกลายเป็นดีลใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Apple หากเกิดขึ้นจริง นอกจากการซื้อกิจการ Apple ยังปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ โดยย้ายพนักงานจำนวนมากไปทำงานด้าน AI และเพิ่มงบลงทุนอย่างต่อเนื่อง แม้จะยังตามหลังคู่แข่งในด้านโครงสร้างพื้นฐานและโมเดล AI ขนาดใหญ่ ✅ Tim Cook ประกาศว่า Apple “เปิดรับ M&A ทุกขนาด” เพื่อเร่งแผน AI ➡️ ไม่จำกัดขนาดบริษัท หากช่วยเร่ง roadmap ได้ ➡️ ปีนี้ซื้อกิจการแล้ว 7 แห่ง แม้ส่วนใหญ่ไม่เกี่ยวกับ AI ✅ Apple กำลังพิจารณาซื้อ Perplexity สตาร์ทอัพ AI ด้านการค้นหาที่มีมูลค่ากว่า $18 พันล้าน ➡️ จะกลายเป็นดีลใหญ่ที่สุดของ Apple ➡️ มีการเจรจาระหว่างผู้บริหารระดับสูงแล้ว ✅ Apple ปรับโครงสร้างองค์กรโดยย้ายพนักงานจำนวนมากไปทำงานด้าน AI ➡️ เน้นพัฒนา machine learning และฟีเจอร์ใหม่ใน ecosystem ➡️ รวมถึงการออกแบบชิปด้วย generative AI ✅ Apple เพิ่มงบลงทุนด้าน AI อย่างต่อเนื่อง แม้ยังตามหลังคู่แข่งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน ➡️ CapEx ปีนี้อยู่ที่ ~$13–14 พันล้าน ➡️ เทียบกับ Google $85B, Meta $72B, Microsoft $80B ✅ Apple มองว่า AI คือ “เทคโนโลยีที่ลึกซึ้งที่สุดในยุคของเรา” และจะฝังอยู่ในทุกอุปกรณ์ ➡️ เน้นการทำให้ AI ใช้งานง่ายและเข้าถึงได้ ➡️ เป็นหัวใจของกลยุทธ์ระยะยาว ✅ รายได้ไตรมาสล่าสุดของ Apple อยู่ที่ $94 พันล้าน กำไรสุทธิ $23.4 พันล้าน ➡️ iPhone ยังเป็นรายได้หลักที่ $44.6 พันล้าน ➡️ รายได้จากบริการโตต่อเนื่องที่ $27.4 พันล้าน ‼️ Apple ยังไม่มีผลิตภัณฑ์ AI แบบ generative ที่เด่นชัดเหมือนคู่แข่ง ⛔ Siri รุ่นใหม่ถูกเลื่อนเปิดตัวไปปี 2026 ⛔ ยังไม่มีโมเดล LLM ที่แข่งขันกับ GPT หรือ Claude ได้ ‼️ การซื้อกิจการขนาดใหญ่เช่น Perplexity อาจขัดกับแนวทางเดิมของ Apple ที่เน้นการเติบโตภายใน ⛔ เสี่ยงต่อการเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร ⛔ ต้องปรับตัวกับเทคโนโลยีภายนอกอย่างรวดเร็ว ‼️ การปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่เพื่อเน้น AI อาจกระทบต่อทีมงานเดิมและโครงการอื่น ⛔ อาจเกิดความไม่ชัดเจนในบทบาทของทีม ⛔ เสี่ยงต่อการสูญเสียบุคลากรที่ไม่เห็นด้วย ‼️ งบลงทุนด้าน AI ของ Apple ยังน้อยกว่าคู่แข่งหลายเท่า อาจทำให้ตามไม่ทันในระยะกลาง ⛔ โครงสร้างพื้นฐานยังไม่เทียบเท่า Google หรือ Microsoft ⛔ ต้องเร่งลงทุนใน data center และโมเดลขนาดใหญ่ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/apples-tim-cook-very-open-to-m-and-a-that-accelerates-our-road-map-for-ai-company-increasing-spending-on-ai-initiatives-reorganizing-teams-to-address-expansion
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 132 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: SK hynix แซง Samsung ขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งของโลก—ชัยชนะจาก HBM ที่ขับเคลื่อน AI

    ในไตรมาส 2 ปี 2025 SK hynix สร้างประวัติศาสตร์ด้วยรายได้จากธุรกิจหน่วยความจำสูงถึง $9.66 พันล้าน แซงหน้า Samsung ที่ทำได้ $8.94 พันล้าน และครองส่วนแบ่งตลาด 36.2% เทียบกับ 33.5% ของคู่แข่ง นี่เป็นครั้งแรกที่ SK hynix ขึ้นนำตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1983

    เบื้องหลังความสำเร็จคือการรุกเข้าสู่ตลาด High-Bandwidth Memory (HBM) อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ HBM3 และ HBM3E ที่กลายเป็นหัวใจของการประมวลผล AI บน GPU ของ Nvidia เช่น B300 และ L40S

    ในขณะที่ Samsung ยังครองตลาด NAND และ DRAM แบบดั้งเดิม แต่กลับล่าช้าในการส่งมอบ HBM3E ให้ลูกค้า ทำให้เสียโอกาสในตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดในยุค AI

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/sk-hynix-dethrones-samsung-to-become-worlds-top-selling-memory-maker-for-the-first-time-success-mostly-attributed-to-its-hbm3-dominance-for-nvidias-ai-gpus
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: SK hynix แซง Samsung ขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งของโลก—ชัยชนะจาก HBM ที่ขับเคลื่อน AI ในไตรมาส 2 ปี 2025 SK hynix สร้างประวัติศาสตร์ด้วยรายได้จากธุรกิจหน่วยความจำสูงถึง $9.66 พันล้าน แซงหน้า Samsung ที่ทำได้ $8.94 พันล้าน และครองส่วนแบ่งตลาด 36.2% เทียบกับ 33.5% ของคู่แข่ง นี่เป็นครั้งแรกที่ SK hynix ขึ้นนำตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1983 เบื้องหลังความสำเร็จคือการรุกเข้าสู่ตลาด High-Bandwidth Memory (HBM) อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ HBM3 และ HBM3E ที่กลายเป็นหัวใจของการประมวลผล AI บน GPU ของ Nvidia เช่น B300 และ L40S ในขณะที่ Samsung ยังครองตลาด NAND และ DRAM แบบดั้งเดิม แต่กลับล่าช้าในการส่งมอบ HBM3E ให้ลูกค้า ทำให้เสียโอกาสในตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดในยุค AI https://www.tomshardware.com/tech-industry/sk-hynix-dethrones-samsung-to-become-worlds-top-selling-memory-maker-for-the-first-time-success-mostly-attributed-to-its-hbm3-dominance-for-nvidias-ai-gpus
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 79 มุมมอง 0 รีวิว
  • มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ ส่งต่อความห่วงใย มอบข้าวโอ๊ตผ่านกระทรวงแรงงาน กระจายสู่พื้นที่ประสบอุทกภัย 11 จังหวัด
    https://www.thai-tai.tv/news/20696/
    .
    #ไทยไท #มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ #กระทรวงแรงงาน #น้ำท่วม #อุทกภัย #พายุวิภา #ช่วยเหลือผู้ประสบภัย #น้ำใจคนไทย #ข้าวโอ๊ต
    มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ ส่งต่อความห่วงใย มอบข้าวโอ๊ตผ่านกระทรวงแรงงาน กระจายสู่พื้นที่ประสบอุทกภัย 11 จังหวัด https://www.thai-tai.tv/news/20696/ . #ไทยไท #มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ #กระทรวงแรงงาน #น้ำท่วม #อุทกภัย #พายุวิภา #ช่วยเหลือผู้ประสบภัย #น้ำใจคนไทย #ข้าวโอ๊ต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: AMD เตรียมเปิดตัวชิป NPU แบบแยก เพื่อท้าชน GPU ในยุค AI PC

    ในยุคที่ AI กลายเป็นหัวใจของการประมวลผลบนพีซี ผู้ผลิตชิปต่างเร่งพัฒนา NPU (Neural Processing Unit) เพื่อรองรับงาน AI โดยเฉพาะ ซึ่ง AMD ก็ไม่ยอมน้อยหน้า ล่าสุดมีการเปิดเผยว่า AMD กำลังพิจารณาเปิดตัว “Discrete NPU” หรือชิป NPU แบบแยกชิ้น ไม่ฝังอยู่ใน CPU หรือ GPU เหมือนที่ผ่านมา

    Rahul Tikoo หัวหน้าฝ่าย CPU ของ AMD ระบุว่า บริษัทกำลังพูดคุยกับลูกค้าเกี่ยวกับการใช้งานและโอกาสของชิป NPU แบบแยก ซึ่งจะช่วยให้พีซีสามารถประมวลผล AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยไม่ต้องพึ่ง GPU ที่กินไฟและสร้างความร้อนสูง

    แนวคิดนี้เกิดขึ้นหลังจาก Dell เปิดตัวแล็ปท็อป Pro Max Plus ที่ใช้การ์ด Qualcomm AI 100 ซึ่งเป็น NPU แบบแยกตัวแรกในระดับองค์กร และมีประสิทธิภาพสูงถึง 450 TOPS ในพลังงานเพียง 75 วัตต์

    AMD เองก็มีพื้นฐานจากเทคโนโลยี Xilinx ที่ใช้สร้าง NPU ฝังใน Ryzen รุ่นใหม่ และมีโครงการ Gaia ที่ช่วยให้สามารถรันโมเดล LLM ขนาดใหญ่บนเครื่องพีซีได้โดยตรง

    AMD เตรียมเปิดตัวชิป NPU แบบแยกสำหรับพีซีในอนาคต
    ไม่ใช่ GPU แต่เป็นตัวเร่ง AI โดยเฉพาะ
    อยู่ระหว่างการพูดคุยกับลูกค้าเกี่ยวกับการใช้งานและโอกาส

    ชิป NPU แบบแยกจะช่วยลดภาระของ CPU และ GPU ในการประมวลผล AI
    เหมาะสำหรับงาน inference และการรันโมเดล LLM บนเครื่อง
    ช่วยให้พีซีบางเบายังคงมีประสิทธิภาพสูงด้าน AI

    AMD มีพื้นฐานจากเทคโนโลยี Xilinx และโครงการ Gaia สำหรับการรันโมเดล AI บน Ryzen
    ใช้ NPU tile ที่สามารถสร้างได้ถึง 50 TOPS ต่อชิ้น
    สามารถรวมหลาย tile เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพได้

    Dell เปิดตัวแล็ปท็อปที่ใช้การ์ด Qualcomm AI 100 ซึ่งเป็น NPU แบบแยกตัวแรกในระดับองค์กร
    มี 16 AI cores และหน่วยความจำ 32GB ต่อการ์ด
    ประสิทธิภาพสูงถึง 450 TOPS ในพลังงานเพียง 75 วัตต์

    Discrete NPU จะช่วยลดความต้องการ GPU ระดับสูงในตลาด
    ทำให้ราคาการ์ดจอสำหรับเกมเมอร์ลดลง
    เป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ใช้งาน AI โดยเฉพาะ

    AMD XDNA 2 NPU มีประสิทธิภาพสูงถึง 50 TOPS และออกแบบให้ประหยัดพลังงาน
    ใช้ engine tile แบบแยกที่สามารถประมวลผลได้อย่างอิสระ
    รองรับการปรับแต่งโครงสร้างการประมวลผล AI ได้ตามต้องการ

    Intel Lunar Lake NPU 4 มีประสิทธิภาพสูงถึง 48 TOPS และออกแบบให้มีพลังงานต่ำ
    ใช้สถาปัตยกรรมแบบ parallel inference pipeline
    มี SHAVE DSP ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล

    Qualcomm Snapdragon X Elite มี NPU 45 TOPS และมีประสิทธิภาพสูงในพลังงานต่ำ
    เหมาะกับโน้ตบุ๊กบางเบาและใช้งาน AI แบบต่อเนื่อง
    เป็นผู้นำในด้านประสิทธิภาพต่อวัตต์

    Discrete NPU อาจกลายเป็นอุปกรณ์เสริมใหม่ในพีซี เหมือนกับการ์ดจอในอดีต
    ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกอัปเกรดเฉพาะด้าน AI ได้
    อาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในยุค AI PC

    Discrete NPU อาจกลายเป็นส่วนประกอบที่กินไฟและสร้างความร้อน หากออกแบบไม่ดี
    หากไม่ประหยัดพลังงาน จะไม่ต่างจาก GPU ที่มีปัญหาเรื่องความร้อน
    อาจไม่เหมาะกับพีซีบางเบาหรือโน้ตบุ๊ก

    ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า AMD จะเปิดตัวเมื่อใด และจะมีประสิทธิภาพเท่าใด
    อยู่ภายใต้ NDA และยังไม่มีแผนเปิดเผย
    อาจใช้เวลานานกว่าจะเข้าสู่ตลาดจริง

    การพัฒนา NPU แบบแยกต้องมี ecosystem ซอฟต์แวร์ที่รองรับอย่างเต็มรูปแบบ
    หากไม่มีเครื่องมือพัฒนาและไลบรารีที่พร้อมใช้งาน จะไม่สามารถแข่งขันได้
    ต้องมีการร่วมมือกับนักพัฒนาและผู้ผลิตซอฟต์แวร์อย่างใกล้ชิด

    ผู้ใช้งานทั่วไปอาจยังไม่เห็นความจำเป็นของ NPU แบบแยกในชีวิตประจำวัน
    ฟีเจอร์ AI บน Windows ยังจำกัดและไม่ใช่จุดขายหลัก
    อาจเหมาะกับผู้ใช้ระดับมืออาชีพมากกว่าผู้ใช้ทั่วไป

    https://www.techspot.com/news/108894-amd-signals-push-discrete-npus-rival-gpus-ai.html
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: AMD เตรียมเปิดตัวชิป NPU แบบแยก เพื่อท้าชน GPU ในยุค AI PC ในยุคที่ AI กลายเป็นหัวใจของการประมวลผลบนพีซี ผู้ผลิตชิปต่างเร่งพัฒนา NPU (Neural Processing Unit) เพื่อรองรับงาน AI โดยเฉพาะ ซึ่ง AMD ก็ไม่ยอมน้อยหน้า ล่าสุดมีการเปิดเผยว่า AMD กำลังพิจารณาเปิดตัว “Discrete NPU” หรือชิป NPU แบบแยกชิ้น ไม่ฝังอยู่ใน CPU หรือ GPU เหมือนที่ผ่านมา Rahul Tikoo หัวหน้าฝ่าย CPU ของ AMD ระบุว่า บริษัทกำลังพูดคุยกับลูกค้าเกี่ยวกับการใช้งานและโอกาสของชิป NPU แบบแยก ซึ่งจะช่วยให้พีซีสามารถประมวลผล AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยไม่ต้องพึ่ง GPU ที่กินไฟและสร้างความร้อนสูง แนวคิดนี้เกิดขึ้นหลังจาก Dell เปิดตัวแล็ปท็อป Pro Max Plus ที่ใช้การ์ด Qualcomm AI 100 ซึ่งเป็น NPU แบบแยกตัวแรกในระดับองค์กร และมีประสิทธิภาพสูงถึง 450 TOPS ในพลังงานเพียง 75 วัตต์ AMD เองก็มีพื้นฐานจากเทคโนโลยี Xilinx ที่ใช้สร้าง NPU ฝังใน Ryzen รุ่นใหม่ และมีโครงการ Gaia ที่ช่วยให้สามารถรันโมเดล LLM ขนาดใหญ่บนเครื่องพีซีได้โดยตรง ✅ AMD เตรียมเปิดตัวชิป NPU แบบแยกสำหรับพีซีในอนาคต ➡️ ไม่ใช่ GPU แต่เป็นตัวเร่ง AI โดยเฉพาะ ➡️ อยู่ระหว่างการพูดคุยกับลูกค้าเกี่ยวกับการใช้งานและโอกาส ✅ ชิป NPU แบบแยกจะช่วยลดภาระของ CPU และ GPU ในการประมวลผล AI ➡️ เหมาะสำหรับงาน inference และการรันโมเดล LLM บนเครื่อง ➡️ ช่วยให้พีซีบางเบายังคงมีประสิทธิภาพสูงด้าน AI ✅ AMD มีพื้นฐานจากเทคโนโลยี Xilinx และโครงการ Gaia สำหรับการรันโมเดล AI บน Ryzen ➡️ ใช้ NPU tile ที่สามารถสร้างได้ถึง 50 TOPS ต่อชิ้น ➡️ สามารถรวมหลาย tile เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพได้ ✅ Dell เปิดตัวแล็ปท็อปที่ใช้การ์ด Qualcomm AI 100 ซึ่งเป็น NPU แบบแยกตัวแรกในระดับองค์กร ➡️ มี 16 AI cores และหน่วยความจำ 32GB ต่อการ์ด ➡️ ประสิทธิภาพสูงถึง 450 TOPS ในพลังงานเพียง 75 วัตต์ ✅ Discrete NPU จะช่วยลดความต้องการ GPU ระดับสูงในตลาด ➡️ ทำให้ราคาการ์ดจอสำหรับเกมเมอร์ลดลง ➡️ เป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ใช้งาน AI โดยเฉพาะ ✅ AMD XDNA 2 NPU มีประสิทธิภาพสูงถึง 50 TOPS และออกแบบให้ประหยัดพลังงาน ➡️ ใช้ engine tile แบบแยกที่สามารถประมวลผลได้อย่างอิสระ ➡️ รองรับการปรับแต่งโครงสร้างการประมวลผล AI ได้ตามต้องการ ✅ Intel Lunar Lake NPU 4 มีประสิทธิภาพสูงถึง 48 TOPS และออกแบบให้มีพลังงานต่ำ ➡️ ใช้สถาปัตยกรรมแบบ parallel inference pipeline ➡️ มี SHAVE DSP ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล ✅ Qualcomm Snapdragon X Elite มี NPU 45 TOPS และมีประสิทธิภาพสูงในพลังงานต่ำ ➡️ เหมาะกับโน้ตบุ๊กบางเบาและใช้งาน AI แบบต่อเนื่อง ➡️ เป็นผู้นำในด้านประสิทธิภาพต่อวัตต์ ✅ Discrete NPU อาจกลายเป็นอุปกรณ์เสริมใหม่ในพีซี เหมือนกับการ์ดจอในอดีต ➡️ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกอัปเกรดเฉพาะด้าน AI ได้ ➡️ อาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในยุค AI PC ‼️ Discrete NPU อาจกลายเป็นส่วนประกอบที่กินไฟและสร้างความร้อน หากออกแบบไม่ดี ⛔ หากไม่ประหยัดพลังงาน จะไม่ต่างจาก GPU ที่มีปัญหาเรื่องความร้อน ⛔ อาจไม่เหมาะกับพีซีบางเบาหรือโน้ตบุ๊ก ‼️ ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า AMD จะเปิดตัวเมื่อใด และจะมีประสิทธิภาพเท่าใด ⛔ อยู่ภายใต้ NDA และยังไม่มีแผนเปิดเผย ⛔ อาจใช้เวลานานกว่าจะเข้าสู่ตลาดจริง ‼️ การพัฒนา NPU แบบแยกต้องมี ecosystem ซอฟต์แวร์ที่รองรับอย่างเต็มรูปแบบ ⛔ หากไม่มีเครื่องมือพัฒนาและไลบรารีที่พร้อมใช้งาน จะไม่สามารถแข่งขันได้ ⛔ ต้องมีการร่วมมือกับนักพัฒนาและผู้ผลิตซอฟต์แวร์อย่างใกล้ชิด ‼️ ผู้ใช้งานทั่วไปอาจยังไม่เห็นความจำเป็นของ NPU แบบแยกในชีวิตประจำวัน ⛔ ฟีเจอร์ AI บน Windows ยังจำกัดและไม่ใช่จุดขายหลัก ⛔ อาจเหมาะกับผู้ใช้ระดับมืออาชีพมากกว่าผู้ใช้ทั่วไป https://www.techspot.com/news/108894-amd-signals-push-discrete-npus-rival-gpus-ai.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    AMD signals push for discrete NPUs to rival GPUs in AI-powered PCs
    AMD is exploring whether PCs could benefit from a new kind of accelerator: a discrete neural processing unit. The company has long relied on GPUs for demanding...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 120 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: “SS7 encoding attack” เมื่อการสื่อสารกลายเป็นช่องทางลับของการสอดแนม

    SS7 หรือ Signaling System 7 คือโปรโตคอลเก่าแก่ที่ใช้เชื่อมต่อสายโทรศัพท์, ส่งข้อความ, และจัดการการโรมมิ่งระหว่างเครือข่ายมือถือทั่วโลก แม้จะเป็นหัวใจของการสื่อสารยุคใหม่ แต่ SS7 ไม่เคยถูกออกแบบมาให้ปลอดภัยในระดับที่ทันสมัย

    ล่าสุดนักวิจัยจาก Enea พบว่า บริษัทสอดแนมแห่งหนึ่งใช้เทคนิคใหม่ในการ “ปรับรูปแบบการเข้ารหัส” ของข้อความ SS7 เพื่อหลบเลี่ยงระบบตรวจจับ เช่น firewall และระบบเฝ้าระวัง ทำให้สามารถขอข้อมูลตำแหน่งของผู้ใช้มือถือจากผู้ให้บริการได้โดยไม่ถูกบล็อก

    เทคนิคนี้อาศัยการปรับโครงสร้างของข้อความ TCAP (Transaction Capabilities Application Part) ซึ่งเป็นชั้นใน SS7 ที่ใช้ส่งข้อมูลระหว่างเครือข่าย โดยใช้การเข้ารหัสแบบ ASN.1 BER ที่มีความยืดหยุ่นสูง ทำให้สามารถสร้างข้อความที่ “ถูกต้องตามหลักการ แต่ผิดจากที่ระบบคาดไว้” จนระบบไม่สามารถตรวจจับได้

    การโจมตีนี้ถูกใช้จริงตั้งแต่ปลายปี 2024 และสามารถระบุตำแหน่งผู้ใช้ได้ใกล้ถึงระดับเสาสัญญาณ ซึ่งในเมืองใหญ่หมายถึงระยะเพียงไม่กี่ร้อยเมตร

    SS7 encoding attack คือการปรับรูปแบบการเข้ารหัสของข้อความ SS7 เพื่อหลบเลี่ยงระบบตรวจจับ
    ใช้เทคนิคการเข้ารหัสแบบ ASN.1 BER ในชั้น TCAP ของ SS7
    สร้างข้อความที่ดูถูกต้องแต่ระบบไม่สามารถถอดรหัสได้

    บริษัทสอดแนมใช้เทคนิคนี้เพื่อขอข้อมูลตำแหน่งผู้ใช้มือถือจากผู้ให้บริการ
    ส่งคำสั่ง PSI (ProvideSubscriberInfo) ที่ถูกปรับแต่ง
    ระบบไม่สามารถตรวจสอบ IMSI ได้ จึงไม่บล็อกคำขอ

    การโจมตีนี้ถูกใช้จริงตั้งแต่ปลายปี 2024 และยังคงมีผลในปี 2025
    พบหลักฐานการใช้งานในเครือข่ายจริง
    บริษัทสอดแนมสามารถระบุตำแหน่งผู้ใช้ได้ใกล้ระดับเสาสัญญาณ

    SS7 ยังคงถูกใช้งานอย่างแพร่หลาย แม้จะมีเทคโนโลยีใหม่อย่าง Diameter และ 5G signaling
    การเลิกใช้ SS7 ไม่ใช่ทางเลือกสำหรับผู้ให้บริการส่วนใหญ่
    ต้องใช้วิธีป้องกันเชิงพฤติกรรมและการวิเคราะห์ภัยคุกคาม

    Enea แนะนำให้ผู้ให้บริการตรวจสอบรูปแบบการเข้ารหัสที่ผิดปกติและเสริม firewall ให้แข็งแรงขึ้น
    ใช้การวิเคราะห์พฤติกรรมร่วมกับ threat intelligence
    ป้องกันการหลบเลี่ยงระบบตรวจจับในระดับโครงสร้างข้อความ

    ผู้ใช้มือถือไม่สามารถป้องกันการโจมตีนี้ได้ด้วยตัวเอง
    การโจมตีเกิดในระดับเครือข่ายมือถือ ไม่ใช่ที่อุปกรณ์ของผู้ใช้
    ต้องพึ่งผู้ให้บริการในการป้องกัน

    ระบบ SS7 firewall แบบเดิมไม่สามารถตรวจจับการเข้ารหัสที่ผิดปกติได้
    ข้อความที่ใช้ encoding แบบใหม่จะผ่าน firewall โดยไม่ถูกบล็อก
    IMSI ที่ถูกซ่อนไว้จะไม่ถูกตรวจสอบว่าเป็นเครือข่ายภายในหรือภายนอก

    บริษัทสอดแนมสามารถใช้ช่องโหว่นี้เพื่อสอดแนมผู้ใช้โดยไม่ต้องได้รับอนุญาตจากรัฐ
    แม้จะอ้างว่าใช้เพื่อจับอาชญากร แต่มีการใช้กับนักข่าวและนักเคลื่อนไหว
    เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลอย่างร้ายแรง

    ระบบ SS7 มีความซับซ้อนและไม่ถูกออกแบบมาให้รองรับการป้องกันภัยสมัยใหม่
    ASN.1 BER มีความยืดหยุ่นสูงจนกลายเป็นช่องโหว่
    การปรับโครงสร้างข้อความสามารถหลบเลี่ยงระบบตรวจจับได้ง่าย

    https://hackread.com/researchers-ss7-encoding-attack-surveillance-vendor/
    🧠 เรื่องเล่าจากข่าว: “SS7 encoding attack” เมื่อการสื่อสารกลายเป็นช่องทางลับของการสอดแนม SS7 หรือ Signaling System 7 คือโปรโตคอลเก่าแก่ที่ใช้เชื่อมต่อสายโทรศัพท์, ส่งข้อความ, และจัดการการโรมมิ่งระหว่างเครือข่ายมือถือทั่วโลก แม้จะเป็นหัวใจของการสื่อสารยุคใหม่ แต่ SS7 ไม่เคยถูกออกแบบมาให้ปลอดภัยในระดับที่ทันสมัย ล่าสุดนักวิจัยจาก Enea พบว่า บริษัทสอดแนมแห่งหนึ่งใช้เทคนิคใหม่ในการ “ปรับรูปแบบการเข้ารหัส” ของข้อความ SS7 เพื่อหลบเลี่ยงระบบตรวจจับ เช่น firewall และระบบเฝ้าระวัง ทำให้สามารถขอข้อมูลตำแหน่งของผู้ใช้มือถือจากผู้ให้บริการได้โดยไม่ถูกบล็อก เทคนิคนี้อาศัยการปรับโครงสร้างของข้อความ TCAP (Transaction Capabilities Application Part) ซึ่งเป็นชั้นใน SS7 ที่ใช้ส่งข้อมูลระหว่างเครือข่าย โดยใช้การเข้ารหัสแบบ ASN.1 BER ที่มีความยืดหยุ่นสูง ทำให้สามารถสร้างข้อความที่ “ถูกต้องตามหลักการ แต่ผิดจากที่ระบบคาดไว้” จนระบบไม่สามารถตรวจจับได้ การโจมตีนี้ถูกใช้จริงตั้งแต่ปลายปี 2024 และสามารถระบุตำแหน่งผู้ใช้ได้ใกล้ถึงระดับเสาสัญญาณ ซึ่งในเมืองใหญ่หมายถึงระยะเพียงไม่กี่ร้อยเมตร ✅ SS7 encoding attack คือการปรับรูปแบบการเข้ารหัสของข้อความ SS7 เพื่อหลบเลี่ยงระบบตรวจจับ ➡️ ใช้เทคนิคการเข้ารหัสแบบ ASN.1 BER ในชั้น TCAP ของ SS7 ➡️ สร้างข้อความที่ดูถูกต้องแต่ระบบไม่สามารถถอดรหัสได้ ✅ บริษัทสอดแนมใช้เทคนิคนี้เพื่อขอข้อมูลตำแหน่งผู้ใช้มือถือจากผู้ให้บริการ ➡️ ส่งคำสั่ง PSI (ProvideSubscriberInfo) ที่ถูกปรับแต่ง ➡️ ระบบไม่สามารถตรวจสอบ IMSI ได้ จึงไม่บล็อกคำขอ ✅ การโจมตีนี้ถูกใช้จริงตั้งแต่ปลายปี 2024 และยังคงมีผลในปี 2025 ➡️ พบหลักฐานการใช้งานในเครือข่ายจริง ➡️ บริษัทสอดแนมสามารถระบุตำแหน่งผู้ใช้ได้ใกล้ระดับเสาสัญญาณ ✅ SS7 ยังคงถูกใช้งานอย่างแพร่หลาย แม้จะมีเทคโนโลยีใหม่อย่าง Diameter และ 5G signaling ➡️ การเลิกใช้ SS7 ไม่ใช่ทางเลือกสำหรับผู้ให้บริการส่วนใหญ่ ➡️ ต้องใช้วิธีป้องกันเชิงพฤติกรรมและการวิเคราะห์ภัยคุกคาม ✅ Enea แนะนำให้ผู้ให้บริการตรวจสอบรูปแบบการเข้ารหัสที่ผิดปกติและเสริม firewall ให้แข็งแรงขึ้น ➡️ ใช้การวิเคราะห์พฤติกรรมร่วมกับ threat intelligence ➡️ ป้องกันการหลบเลี่ยงระบบตรวจจับในระดับโครงสร้างข้อความ ‼️ ผู้ใช้มือถือไม่สามารถป้องกันการโจมตีนี้ได้ด้วยตัวเอง ⛔ การโจมตีเกิดในระดับเครือข่ายมือถือ ไม่ใช่ที่อุปกรณ์ของผู้ใช้ ⛔ ต้องพึ่งผู้ให้บริการในการป้องกัน ‼️ ระบบ SS7 firewall แบบเดิมไม่สามารถตรวจจับการเข้ารหัสที่ผิดปกติได้ ⛔ ข้อความที่ใช้ encoding แบบใหม่จะผ่าน firewall โดยไม่ถูกบล็อก ⛔ IMSI ที่ถูกซ่อนไว้จะไม่ถูกตรวจสอบว่าเป็นเครือข่ายภายในหรือภายนอก ‼️ บริษัทสอดแนมสามารถใช้ช่องโหว่นี้เพื่อสอดแนมผู้ใช้โดยไม่ต้องได้รับอนุญาตจากรัฐ ⛔ แม้จะอ้างว่าใช้เพื่อจับอาชญากร แต่มีการใช้กับนักข่าวและนักเคลื่อนไหว ⛔ เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลอย่างร้ายแรง ‼️ ระบบ SS7 มีความซับซ้อนและไม่ถูกออกแบบมาให้รองรับการป้องกันภัยสมัยใหม่ ⛔ ASN.1 BER มีความยืดหยุ่นสูงจนกลายเป็นช่องโหว่ ⛔ การปรับโครงสร้างข้อความสามารถหลบเลี่ยงระบบตรวจจับได้ง่าย https://hackread.com/researchers-ss7-encoding-attack-surveillance-vendor/
    HACKREAD.COM
    Researchers Link New SS7 Encoding Attack to Surveillance Vendor Activity
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 139 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข้อมืออดีต: Pebble กลับมาแล้ว พร้อมระบบเปิดและแบตเตอรี่ 30 วัน

    หลังจากหายไปเกือบ 10 ปี Eric Migicovsky ผู้ก่อตั้ง Pebble ได้เปิดตัวบริษัทใหม่ชื่อ Core Devices และประกาศว่าเขาได้ “ซื้อคืน” เครื่องหมายการค้า Pebble เพื่อใช้กับนาฬิกาอัจฉริยะรุ่นใหม่ที่พัฒนาบนระบบปฏิบัติการ PebbleOS แบบโอเพ่นซอร์ส

    นาฬิกาใหม่สองรุ่นคือ:
    - Pebble 2 Duo (เดิมชื่อ Core 2 Duo): หน้าจอขาวดำ e-paper ขนาด 1.26 นิ้ว, กันน้ำระดับ IPX8, มีไมค์และลำโพง, เซ็นเซอร์วัดความสูงและทิศทาง, แบตเตอรี่ใช้งานได้ 30 วัน
    - Pebble Time 2 (เดิมชื่อ Core Time 2): หน้าจอสี e-paper ขนาด 1.5 นิ้วแบบสัมผัส, ดีไซน์โลหะ, มีเซ็นเซอร์วัดหัวใจ, ไมค์และลำโพง, แบตเตอรี่ 30 วันเช่นกัน

    ทั้งสองรุ่นรองรับแอปและหน้าปัดกว่า 10,000 รายการจาก PebbleOS เดิม และสามารถปรับแต่งหรือพัฒนาเพิ่มเติมได้ด้วยซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส

    Pebble 2 Duo จะเริ่มจัดส่งปลายเดือนสิงหาคม 2025 (ล่าช้าจากกำหนดเดิมในเดือนกรกฎาคม) ส่วน Pebble Time 2 ยังอยู่ในขั้นตอนทดสอบ EVT และคาดว่าจะจัดส่งปลายปีนี้

    Pebble กลับมาอีกครั้งในปี 2025 โดยใช้ชื่อเดิมและระบบเดิม
    Eric Migicovsky ซื้อคืนเครื่องหมายการค้า Pebble
    เปิดตัวผ่านบริษัทใหม่ชื่อ Core Devices

    เปิดตัวนาฬิกาใหม่ 2 รุ่น: Pebble 2 Duo และ Pebble Time 2
    Pebble 2 Duo ราคา $149 พร้อมแบตเตอรี่ 30 วัน
    Pebble Time 2 ราคา $225 พร้อมหน้าจอสัมผัสและดีไซน์โลหะ

    ใช้ระบบปฏิบัติการ PebbleOS แบบโอเพ่นซอร์ส
    รองรับแอปและหน้าปัดกว่า 10,000 รายการ
    ผู้ใช้สามารถปรับแต่งหรือพัฒนาเพิ่มเติมได้เอง

    Pebble 2 Duo จะเริ่มจัดส่งปลายเดือนสิงหาคม 2025
    ล่าช้าจากกำหนดเดิมเพราะทดสอบระบบกันน้ำและลำโพง
    มี Bluetooth range ประมาณ 140 เมตรในพื้นที่เปิด

    Pebble Time 2 ยังอยู่ในขั้นตอน EVT และยังไม่มีกำหนดจัดส่ง
    ปรับดีไซน์ให้บางลงและดูทันสมัยขึ้น
    เพิ่มหน้าจอสัมผัสและเซ็นเซอร์วัดหัวใจ

    สามารถสั่งจองล่วงหน้าได้ผ่านเว็บไซต์ rePebble
    มีให้เลือกสีขาวและดำ พร้อมสายขนาดมาตรฐาน 22 มม.
    สินค้าจัดส่งจากฮ่องกง—สหรัฐฯ มีค่าภาษีเพิ่ม $10 ต่อเรือน

    https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/the-all-new-pebble-watches-just-got-a-new-name-and-release-date-heres-how-to-get-one
    ⌚ เรื่องเล่าจากข้อมืออดีต: Pebble กลับมาแล้ว พร้อมระบบเปิดและแบตเตอรี่ 30 วัน หลังจากหายไปเกือบ 10 ปี Eric Migicovsky ผู้ก่อตั้ง Pebble ได้เปิดตัวบริษัทใหม่ชื่อ Core Devices และประกาศว่าเขาได้ “ซื้อคืน” เครื่องหมายการค้า Pebble เพื่อใช้กับนาฬิกาอัจฉริยะรุ่นใหม่ที่พัฒนาบนระบบปฏิบัติการ PebbleOS แบบโอเพ่นซอร์ส นาฬิกาใหม่สองรุ่นคือ: - Pebble 2 Duo (เดิมชื่อ Core 2 Duo): หน้าจอขาวดำ e-paper ขนาด 1.26 นิ้ว, กันน้ำระดับ IPX8, มีไมค์และลำโพง, เซ็นเซอร์วัดความสูงและทิศทาง, แบตเตอรี่ใช้งานได้ 30 วัน - Pebble Time 2 (เดิมชื่อ Core Time 2): หน้าจอสี e-paper ขนาด 1.5 นิ้วแบบสัมผัส, ดีไซน์โลหะ, มีเซ็นเซอร์วัดหัวใจ, ไมค์และลำโพง, แบตเตอรี่ 30 วันเช่นกัน ทั้งสองรุ่นรองรับแอปและหน้าปัดกว่า 10,000 รายการจาก PebbleOS เดิม และสามารถปรับแต่งหรือพัฒนาเพิ่มเติมได้ด้วยซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส Pebble 2 Duo จะเริ่มจัดส่งปลายเดือนสิงหาคม 2025 (ล่าช้าจากกำหนดเดิมในเดือนกรกฎาคม) ส่วน Pebble Time 2 ยังอยู่ในขั้นตอนทดสอบ EVT และคาดว่าจะจัดส่งปลายปีนี้ ✅ Pebble กลับมาอีกครั้งในปี 2025 โดยใช้ชื่อเดิมและระบบเดิม ➡️ Eric Migicovsky ซื้อคืนเครื่องหมายการค้า Pebble ➡️ เปิดตัวผ่านบริษัทใหม่ชื่อ Core Devices ✅ เปิดตัวนาฬิกาใหม่ 2 รุ่น: Pebble 2 Duo และ Pebble Time 2 ➡️ Pebble 2 Duo ราคา $149 พร้อมแบตเตอรี่ 30 วัน ➡️ Pebble Time 2 ราคา $225 พร้อมหน้าจอสัมผัสและดีไซน์โลหะ ✅ ใช้ระบบปฏิบัติการ PebbleOS แบบโอเพ่นซอร์ส ➡️ รองรับแอปและหน้าปัดกว่า 10,000 รายการ ➡️ ผู้ใช้สามารถปรับแต่งหรือพัฒนาเพิ่มเติมได้เอง ✅ Pebble 2 Duo จะเริ่มจัดส่งปลายเดือนสิงหาคม 2025 ➡️ ล่าช้าจากกำหนดเดิมเพราะทดสอบระบบกันน้ำและลำโพง ➡️ มี Bluetooth range ประมาณ 140 เมตรในพื้นที่เปิด ✅ Pebble Time 2 ยังอยู่ในขั้นตอน EVT และยังไม่มีกำหนดจัดส่ง ➡️ ปรับดีไซน์ให้บางลงและดูทันสมัยขึ้น ➡️ เพิ่มหน้าจอสัมผัสและเซ็นเซอร์วัดหัวใจ ✅ สามารถสั่งจองล่วงหน้าได้ผ่านเว็บไซต์ rePebble ➡️ มีให้เลือกสีขาวและดำ พร้อมสายขนาดมาตรฐาน 22 มม. ➡️ สินค้าจัดส่งจากฮ่องกง—สหรัฐฯ มีค่าภาษีเพิ่ม $10 ต่อเรือน https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/the-all-new-pebble-watches-just-got-a-new-name-and-release-date-heres-how-to-get-one
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • "สส.ไทยหัวใจต่างชาติ"?! 'รอมฎอน ปันจอร์' โดนทัวร์ลงหนัก หลังโวย รพ.อุบลฯ แบนผู้ป่วยเขมร...ชาวเน็ตสวนกลับ "ใครกันแน่ทำชาติเสียเกียรติ!"
    https://www.thai-tai.tv/news/20665/
    .
    #รอมฎอนปันจอร์ #สสพรรคประชาชน #โรงพยาบาลอุบล #ชาวกัมพูชา #เกียรติภูมิประเทศ #ดราม่าโซเชียล #ชายแดนไทยกัมพูชา #ไทยไท
    "สส.ไทยหัวใจต่างชาติ"?! 'รอมฎอน ปันจอร์' โดนทัวร์ลงหนัก หลังโวย รพ.อุบลฯ แบนผู้ป่วยเขมร...ชาวเน็ตสวนกลับ "ใครกันแน่ทำชาติเสียเกียรติ!" https://www.thai-tai.tv/news/20665/ . #รอมฎอนปันจอร์ #สสพรรคประชาชน #โรงพยาบาลอุบล #ชาวกัมพูชา #เกียรติภูมิประเทศ #ดราม่าโซเชียล #ชายแดนไทยกัมพูชา #ไทยไท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • ร.31 รอ. เปิดเผยสถานการณ์วันปะทะ ฝากถึงเพื่อนในสมรภูมิฟังแล้วจุกถึงหัวใจ [31/7/68]

    #ร31รอ #ทหารไทย #วันปะทะจริง #เสียงจากสมรภูมิ #กองทัพไทย #ข่าวด่วนชายแดน #จุกถึงหัวใจ #Thaitimes #News1 #Shorts #TruthFromThailand #CambodiaNoCeasefire #Hunsenfiredfirst
    ร.31 รอ. เปิดเผยสถานการณ์วันปะทะ ฝากถึงเพื่อนในสมรภูมิฟังแล้วจุกถึงหัวใจ [31/7/68] #ร31รอ #ทหารไทย #วันปะทะจริง #เสียงจากสมรภูมิ #กองทัพไทย #ข่าวด่วนชายแดน #จุกถึงหัวใจ #Thaitimes #News1 #Shorts #TruthFromThailand #CambodiaNoCeasefire #Hunsenfiredfirst
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เมื่อพิจารณาความซับซ้อนของกระบวนการเกิดความอยากอาหาร รวมทั้งความเข้าใจที่ยังไม่สมบูรณ์ในเรื่องนี้ เราก็ไม่ควรแปลกใจที่ยา ปรับความอยากอาหารประสบความสำเร็จเพียงเล็กน้อยในการทำให้ คนกินอาหารลดลง (ยาผสมระหว่างเฟนฟลูรามีน (fenfluramine) และ เฟนเทอร์มิน (phentermine) หรือ “เฟนเฟน” (fen-phen) ดูจะประสบความสำเร็จมากที่สุดในการลดความอยากอาหาร แต่ก็พบว่ายาตัวนี้เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของลิ้นหัวใจ ทำให้ถูกถอนออกจากตลาด ไปแล้ว) นักวิจัยในมหาวิทยาลัยและในบริษัทยายังคงทำงานอย่างจริง จังเพื่อค้นหายาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคอ้วนชนิดรุนแรงจน ถึงตอนนี้เรายังคงห่างไกลจากการค้นพบยาดังกล่าว อย่างไรก็ตามมีการรักษาชนิดหนึ่งที่พบว่ามีประสิทธิภาพ และที่น่าแปลกก็คือมันไม่ใช่ยาแต่เป็นการผ่าตัด

    จากหนังสือ #เหยื่อหมอ? #Complications
    เมื่อพิจารณาความซับซ้อนของกระบวนการเกิดความอยากอาหาร รวมทั้งความเข้าใจที่ยังไม่สมบูรณ์ในเรื่องนี้ เราก็ไม่ควรแปลกใจที่ยา ปรับความอยากอาหารประสบความสำเร็จเพียงเล็กน้อยในการทำให้ คนกินอาหารลดลง (ยาผสมระหว่างเฟนฟลูรามีน (fenfluramine) และ เฟนเทอร์มิน (phentermine) หรือ “เฟนเฟน” (fen-phen) ดูจะประสบความสำเร็จมากที่สุดในการลดความอยากอาหาร แต่ก็พบว่ายาตัวนี้เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของลิ้นหัวใจ ทำให้ถูกถอนออกจากตลาด ไปแล้ว) นักวิจัยในมหาวิทยาลัยและในบริษัทยายังคงทำงานอย่างจริง จังเพื่อค้นหายาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคอ้วนชนิดรุนแรงจน ถึงตอนนี้เรายังคงห่างไกลจากการค้นพบยาดังกล่าว อย่างไรก็ตามมีการรักษาชนิดหนึ่งที่พบว่ามีประสิทธิภาพ และที่น่าแปลกก็คือมันไม่ใช่ยาแต่เป็นการผ่าตัด จากหนังสือ #เหยื่อหมอ? #Complications
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ศีลคือเครื่องพิสูจน์ใจ ไม่ใช่แค่พฤติกรรมภายนอก”

    ศีลที่แท้ ต้องมี “ตัวพิสูจน์ใจ”

    ไม่ใช่แค่ตั้งใจจะไม่ทำผิด
    แต่ต้อง เจอสิ่งยั่วยุ แล้วใจยังมั่นคง ไม่ไหลตามกิเลส
    นั่นแหละจึงเรียกว่า “ศีลสมบูรณ์แบบ”

    ตั้งใจรักษาศีล แต่ยังไม่เคยถูกทดสอบ
    เหมือนอาวุธที่ยังไม่เคยผ่านสนามรบ
    ยังไม่รู้ว่าแกร่งจริงไหม

    ไม่ตั้งใจไว้ล่วงหน้า แต่พอถึงเหตุแล้ว “ห้ามใจได้”

    นั่นก็เกิดบุญเหมือนกัน
    แม้ไม่เคยประกาศว่าจะรักษาศีล
    แต่เมื่อถึงเวลาจริง
    กลับ “เลือกที่จะไม่ทำบาป”
    ก็เป็นกุศลจิต เป็นศีลโดยเจตนาเช่นกัน

    ถ้าไม่มีการยั่วยุ…

    ชีวิตอาจดูเรียบร้อย แต่ไม่มี การฝึกใจจริง
    ไม่ได้ทำผิดก็จริง
    แต่ก็ไม่ได้บุญจากการ “ต่อสู้ในใจ”
    นั่นคือโอกาสฝึกตนที่ยังไม่เกิดขึ้น

    ศีล = เข็มทิศของใจ

    เมื่อ ไม่มีการกำหนดเป้าหมายทางใจไว้
    วันนี้อาจอยากเป็นคนดี พรุ่งนี้อาจอยากตามอารมณ์
    จิตจะโลเล เพราะไม่มีเส้นทางที่มั่นคง

    ศีล คือการกำหนดทิศให้ใจ
    ศีล คือเข็มทิศป้องกันใจไม่ให้หลงไปกับเหยื่อล่อของโลก

    ทำไมพุทธเจ้าจึงให้ตั้งใจรักษาศีลไว้ตลอดชีวิต?

    เพราะศีลคือพื้นฐานของ “ความไม่เดือดเนื้อร้อนใจ”
    ทั้งในชาตินี้ และอนาคต
    คือ “ใบประกัน” ว่าใจจะไม่ตกต่ำ
    คือ “ทางด่วน” สู่สมาธิและปัญญา
    และเมื่อ ต่อยอดด้วยสติ อย่างถูกทาง
    ก็อาจไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไปเลย

    ศีล คือของจริงสำหรับผู้จริง
    ไม่ใช่แค่สิ่งภายนอก
    แต่เป็น “หัวใจ” ที่เลือกจะไม่ทำร้ายตนเองและผู้อื่น
    ในทุกห้วงของความโลเล
    🌿 “ศีลคือเครื่องพิสูจน์ใจ ไม่ใช่แค่พฤติกรรมภายนอก” ✳️ ศีลที่แท้ ต้องมี “ตัวพิสูจน์ใจ” ไม่ใช่แค่ตั้งใจจะไม่ทำผิด แต่ต้อง เจอสิ่งยั่วยุ แล้วใจยังมั่นคง ไม่ไหลตามกิเลส นั่นแหละจึงเรียกว่า “ศีลสมบูรณ์แบบ” ตั้งใจรักษาศีล แต่ยังไม่เคยถูกทดสอบ เหมือนอาวุธที่ยังไม่เคยผ่านสนามรบ ยังไม่รู้ว่าแกร่งจริงไหม ✳️ ไม่ตั้งใจไว้ล่วงหน้า แต่พอถึงเหตุแล้ว “ห้ามใจได้” นั่นก็เกิดบุญเหมือนกัน แม้ไม่เคยประกาศว่าจะรักษาศีล แต่เมื่อถึงเวลาจริง กลับ “เลือกที่จะไม่ทำบาป” ก็เป็นกุศลจิต เป็นศีลโดยเจตนาเช่นกัน ✳️ ถ้าไม่มีการยั่วยุ… ชีวิตอาจดูเรียบร้อย แต่ไม่มี การฝึกใจจริง ไม่ได้ทำผิดก็จริง แต่ก็ไม่ได้บุญจากการ “ต่อสู้ในใจ” นั่นคือโอกาสฝึกตนที่ยังไม่เกิดขึ้น ✳️ ศีล = เข็มทิศของใจ เมื่อ ไม่มีการกำหนดเป้าหมายทางใจไว้ วันนี้อาจอยากเป็นคนดี พรุ่งนี้อาจอยากตามอารมณ์ จิตจะโลเล เพราะไม่มีเส้นทางที่มั่นคง ศีล คือการกำหนดทิศให้ใจ ศีล คือเข็มทิศป้องกันใจไม่ให้หลงไปกับเหยื่อล่อของโลก ✳️ ทำไมพุทธเจ้าจึงให้ตั้งใจรักษาศีลไว้ตลอดชีวิต? เพราะศีลคือพื้นฐานของ “ความไม่เดือดเนื้อร้อนใจ” ทั้งในชาตินี้ และอนาคต คือ “ใบประกัน” ว่าใจจะไม่ตกต่ำ คือ “ทางด่วน” สู่สมาธิและปัญญา และเมื่อ ต่อยอดด้วยสติ อย่างถูกทาง ก็อาจไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไปเลย 🌿 ศีล คือของจริงสำหรับผู้จริง ไม่ใช่แค่สิ่งภายนอก แต่เป็น “หัวใจ” ที่เลือกจะไม่ทำร้ายตนเองและผู้อื่น ในทุกห้วงของความโลเล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้กล้า​ -​ Solitary​ Toolคำร้องเสียงปืนก้องสมรภูมิเตรียมพร้อมป้องกันและเข้าตีด้วยเลือดเนื้อและชีวิตยุทธการปราบอริราชศัตรูหน้าที่ของเราไม่หวั่นเกรงเราจะทำเป็นชาติพลีแม้เหล่าศัตรูมากน้อยเพียงใดเราสวมหัวใจแห่งราชสีห์เกียรติภูมิจารึกไว้หนทางลำบากยากเข็ญเป็นหน้าที่เราไม่หนีหายเพื่อพี่น้องได้หลับสบายเราทหารหาญก็คือชาวบ้านคือประชาชนคนไทยเสียสละเพื่อความดีเพื่อพี่น้องไทยเพื่อลูกหลานไทยเพื่ออธิปไตยเพื่อพ่อหลวงของเราเราทหารหาญก็คือชาวบ้านก็คือประชาชนคนไทยเสียสละให้มาตุภูมิให้พื้นเพื่อนผองไทยบรรพบุรุษแลกไว้เรานี้คือไทยไม่เป็นทาสใคร
    ผู้กล้า​ -​ Solitary​ Toolคำร้องเสียงปืนก้องสมรภูมิเตรียมพร้อมป้องกันและเข้าตีด้วยเลือดเนื้อและชีวิตยุทธการปราบอริราชศัตรูหน้าที่ของเราไม่หวั่นเกรงเราจะทำเป็นชาติพลีแม้เหล่าศัตรูมากน้อยเพียงใดเราสวมหัวใจแห่งราชสีห์เกียรติภูมิจารึกไว้หนทางลำบากยากเข็ญเป็นหน้าที่เราไม่หนีหายเพื่อพี่น้องได้หลับสบายเราทหารหาญก็คือชาวบ้านคือประชาชนคนไทยเสียสละเพื่อความดีเพื่อพี่น้องไทยเพื่อลูกหลานไทยเพื่ออธิปไตยเพื่อพ่อหลวงของเราเราทหารหาญก็คือชาวบ้านก็คือประชาชนคนไทยเสียสละให้มาตุภูมิให้พื้นเพื่อนผองไทยบรรพบุรุษแลกไว้เรานี้คือไทยไม่เป็นทาสใคร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 0 รีวิว
  • จ่าโอ อดีตทหาร US สอนรบ.ไทย พูดแทนคนไทยทั้งประเทศ (Sergeant O, former US soldier training Thai forces, speaks for the entire Thai nation.) [30/7/68]

    #จ่าโอพูดแทนคนไทย #อดีตทหารUSเคียงข้างไทย #สอนรบไทยด้วยหัวใจ #SergeantO #VoiceOfTheThaiPeople #TrainingWithHonor #ThaiUSMilitarySupport #ข่าววันนี้ #ข่าวความมั่นคง #ข่าวดัง #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #CambodiaNoCeasefire #TruthFromThailand #Hunsenfiredfirst #thaitimes #news1 #shorts
    จ่าโอ อดีตทหาร US สอนรบ.ไทย พูดแทนคนไทยทั้งประเทศ (Sergeant O, former US soldier training Thai forces, speaks for the entire Thai nation.) [30/7/68] #จ่าโอพูดแทนคนไทย #อดีตทหารUSเคียงข้างไทย #สอนรบไทยด้วยหัวใจ #SergeantO #VoiceOfTheThaiPeople #TrainingWithHonor #ThaiUSMilitarySupport #ข่าววันนี้ #ข่าวความมั่นคง #ข่าวดัง #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #CambodiaNoCeasefire #TruthFromThailand #Hunsenfiredfirst #thaitimes #news1 #shorts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ ร่วมกับสถานีประชาชน ไทยพีบีเอส ส่งต่อน้ำใจช่วยเหลือเจ้าหน้าที่และประชาชนชายแดนสุรินทร์
    https://www.thai-tai.tv/news/20632/
    มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ ร่วมกับสถานีประชาชน ไทยพีบีเอส ส่งต่อน้ำใจช่วยเหลือเจ้าหน้าที่และประชาชนชายแดนสุรินทร์ https://www.thai-tai.tv/news/20632/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 รีวิว
  • มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ มอบขนมขบเคี้ยว แบ่งปันความสุข แก่โรงเรียนบ้านเด็กรามอินทรา
    https://www.thai-tai.tv/news/20615/
    มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ มอบขนมขบเคี้ยว แบ่งปันความสุข แก่โรงเรียนบ้านเด็กรามอินทรา https://www.thai-tai.tv/news/20615/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts