• รัฐบาลเพื่อเขมรเอาแต่ปกป้องโจนข้างบ้าน จนพี่น้องชาวไทยทนไม่ไหว ต้องออกโรงลงถนนไปยื่นประท้วง นายกฯเขมรถึงสถานทูต ส่วนรัฐบาลก็งอมืองอตีน รอเจรจาที่เขมรมันไม่ยอมมา
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #ไทยเลิกทน
    #สู้เพื่อชาติ
    รัฐบาลเพื่อเขมรเอาแต่ปกป้องโจนข้างบ้าน จนพี่น้องชาวไทยทนไม่ไหว ต้องออกโรงลงถนนไปยื่นประท้วง นายกฯเขมรถึงสถานทูต ส่วนรัฐบาลก็งอมืองอตีน รอเจรจาที่เขมรมันไม่ยอมมา #คิงส์โพธิ์แดง #ไทยเลิกทน #สู้เพื่อชาติ
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 127 Views 0 Reviews
  • Storyฯ นึกถึงภาพยนตร์จีนโบราณที่เคยผ่านตาเมื่อนานมาแล้วเรื่องหนึ่งชื่อว่า <หลิ่วหรูซื่อ> (Threads of Time)

    เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับชีวประวัติของนางคณิกานามว่า ‘หลิ่วหรูซื่อ’ นางถูกจารึกในประวัติศาสตร์ว่าเป็นกวีหญิงที่โดดเด่นในสมัยปลายราชวงศ์หมิง และเป็นสตรีที่รักชาติและต่อต้านการรุกรานจากชาวแมนจูในช่วงผลัดแผ่นดิน ไม่แน่ใจว่าเพื่อนเพจคุ้นเคยกับเรื่องของนางกันบ้างหรือไม่? วันนี้เลยมาคุยให้ฟังอย่างย่อ

    หลิ่วหรูซื่อ (ค.ศ. 1618-1664) ถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในสุดยอดแปดนางคณิกาจากแม่น้ำฉินหวย (ฉินหวยปาเยี่ยน / 秦淮八艳)

    อะไรคือ ‘ฉินหวยปาเยี่ยน’ ? ในสมัยปลายราชวงศ์หมิงนั้น สถานสอบราชบันฑิตที่ใหญ่ที่สุดคือเจียงหนานก้งเยวี่ยน (江南贡院) ตั้งอยู่ที่เมืองเจียงหนานริมฝั่งแม่น้ำฉินหวย ในแต่ละปีจะมีบัณฑิตและข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการสอบมาที่นี่ถึงสองสามหมื่นคน จากเมืองเจียงหนานข้ามแม่น้ำฉินหวยมาก็เป็นเมืองหนานจิง (นานกิง) ซึ่งนับว่าเป็นเมืองทางผ่านสำหรับเขาเหล่านี้ ที่นี่จึงกลายเป็นทำเลทองของกิจการหอนางโลม

    เพื่อนเพจอย่าได้คิดว่านางคณิกาเหล่านี้เน้นขายบริการทางเพศแต่อย่างเดียว ในยุคนั้นรายได้เป็นกอบเป็นกำมาจากการขายความบันเทิงทางศิลปะเคล้าสุรา เช่น เล่นดนตรี / เล่นหมากล้อม / โชว์เต้นรำ / แต่งกลอนวาดภาพ หรืออาจทำทั้งหมด มีนางคณิกาจำนวนไม่น้อยที่ขายศิลปะไม่ขายตัวและคนที่ชื่อดังจะต้องมีฝีมือดีเยี่ยม ทั้งนี้เพื่อให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าที่มีการศึกษา ‘ฉินหวยปาเยี่ยน’ ทั้งแปดคนนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็น ‘ที่สุด’ ของนางคณิกาในย่านเมืองหนานจิงนี้นี่เอง

    หลิ่วหรูซื่อมีนามเดิมว่า ‘หยางอ้าย’ ต่อมาเปลี่ยนชื่อตนเองใหม่เป็น ‘อิ่ง’ และมีนามรองว่า ‘หรูซื่อ’ ตามบทกวีจากสมัยซ่ง บ่อยครั้งที่นางแต่งตัวเป็นชายออกไปโต้กลอนกับคนอื่นโดยใช้นามว่า ‘เหอตงจวิน’ นางโด่งดังที่สุดด้านงานอักษรและงานพู่กันจีน (บทกวี คัดพู่กัน และภาพวาด) ผลงานของนางมีมากมายทั้งในนาม ‘หลิ่วหรูซื่อ’ และ ‘เหอตงจวิน’ มีการรวมเล่มผลงานของนางออกจำหน่ายในหลายยุคสมัยจวบจนปัจจุบัน

    นางเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน ถูกขายให้กับหอนางโลมเมื่ออายุแปดขวบ แต่แม่เล้ารับเป็นลูกบุญธรรมและได้ฝึกเรียนศิลปะแขนงต่างๆ ในชีวิตนางมีชายสามคนที่มีบทบาทมาก คนแรกคืออดีตเสนาบดีอดีตจอหงวน ที่รับนางเป็นอนุเมื่ออายุเพียง 14 ปี เขาโปรดปรานนางที่สุด ใช้เวลาทั้งวันกับการสอนศิลปะขั้นสูงเหล่านี้ให้กับนาง

    เมื่อเขาตายลงนางถูกขับออกจากเรือนจึงกลับไปอยู่หอนางโลมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มีวิชาความรู้ติดตัวจนเป็นที่เลื่องลือ ทำให้นางใช้ชีวิตอยู่กับการคบหาสมาคมกับเหล่าบัณฑิตจนได้มาพบรักกับเฉินจื่อหลง เขาเป็นบัณฑิตที่ต่อมารับราชการไปได้ไกล ทั้งสองอยู่ด้วยกันนานหลายปี แต่สุดท้ายไปไม่รอดแยกย้ายกันไปและนางออกเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่นางมีผลงานด้านโคลงกลอนและภาพวาดมากมาย

    ต่อมาในวัย 23 ปี นางได้พบและแต่งงานกับอดีตขุนนางอายุกว่า 50 ปีนามว่าเฉียนเชียนอี้เป็นภรรยารอง (แต่ภรรยาคนแรกเสียไปแล้ว) และอยู่ด้วยกันนานกว่า 20 ปี มีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคน ช่วงเวลาที่อยู่กับเฉียนเชียนอี้นี้ เป็นช่วงเวลาที่นางได้รับการยกย่องเรื่องรักชาติ และนางเป็นผู้ผลักดันให้เฉียนเชียนอี้ทำงานต่อต้านแมนจูอย่างลับๆ เพื่อกอบกู้ราชวงศ์หมิง แม้ว่าฉากหน้าจะสวามิภักดิ์รับราชการกับทางการแมนจูไปแล้ว (เรื่องราวของเฉียนเชียนอี้ที่กลับไปกลับมากับการสนับสนุนฝ่ายใดเป็นเรื่องที่ยาว Storyฯ ขอไม่ลงในรายละเอียด) ต่อมาเฉียนเชียนอี้ลาออกไปใช้ชีวิตบั้นปลายในชนบทโดยนางติดตามไปด้วย เมื่อเขาตายลงมีการแย่งทรัพย์สมบัติ นางจึงฆ่าตัวตายเพื่อเรียกร้องให้ทางการเอาผิดคนโกงและคืนทรัพย์สินกลับมาให้ลูก

    หลิ่วหรูซื่อไม่เพียงฝากผลงานเอาไว้ให้ชนรุ่นหลังมากมาย หากแต่ความเด็ดเดี่ยวกล้าหาญและรักชาติของหลิ่วหรูซื่อถูกสะท้อนออกมาในบทประพันธ์ต่างๆ ของนางด้วยอารมณ์ประมาณว่า “ถ้าฉันเป็นชาย ฉันจะไปสู้เพื่อชาติ” แต่เมื่อเป็นหญิง นางจึงพยายามสนับสนุนกองกำลังกู้ชาติทางการเงินและผลักดันให้สามีของนางสนับสนุนด้วย และนี่คือสาเหตุว่าทำไมเรื่องราวของนางคณิกาธรรมดาคนนี้ยังไม่ถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลาหลายร้อยปีที่ผ่านมา

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพและข้อมูลเรียบเรียงจาก:
    https://kknews.cc/history/b2nbjyo.html
    https://www.chinanews.com.cn/cul/news/2008/03-10/1186637.shtml
    https://new.qq.com/omn/20191102/20191102A03LG800.html
    https://kknews.cc/history/b2nbjyo.html
    http://www.360doc.com/content/20/0325/10/60244337_901533310.shtml
    https://kknews.cc/history/ogan4p.html
    https://baike.baidu.com/item/%E7%A7%A6%E6%B7%AE%E5%85%AB%E8%89%B3/384726

    #หลิ่วหรูซือ #เหอตงจวิน #นางคณิกาจีนโบราณ #ฉินหวยปาเยี่ยน #เฉียนเชียนอี้ #เฉินจื่อหลง #กอบกู้หมิง
    Storyฯ นึกถึงภาพยนตร์จีนโบราณที่เคยผ่านตาเมื่อนานมาแล้วเรื่องหนึ่งชื่อว่า <หลิ่วหรูซื่อ> (Threads of Time) เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับชีวประวัติของนางคณิกานามว่า ‘หลิ่วหรูซื่อ’ นางถูกจารึกในประวัติศาสตร์ว่าเป็นกวีหญิงที่โดดเด่นในสมัยปลายราชวงศ์หมิง และเป็นสตรีที่รักชาติและต่อต้านการรุกรานจากชาวแมนจูในช่วงผลัดแผ่นดิน ไม่แน่ใจว่าเพื่อนเพจคุ้นเคยกับเรื่องของนางกันบ้างหรือไม่? วันนี้เลยมาคุยให้ฟังอย่างย่อ หลิ่วหรูซื่อ (ค.ศ. 1618-1664) ถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในสุดยอดแปดนางคณิกาจากแม่น้ำฉินหวย (ฉินหวยปาเยี่ยน / 秦淮八艳) อะไรคือ ‘ฉินหวยปาเยี่ยน’ ? ในสมัยปลายราชวงศ์หมิงนั้น สถานสอบราชบันฑิตที่ใหญ่ที่สุดคือเจียงหนานก้งเยวี่ยน (江南贡院) ตั้งอยู่ที่เมืองเจียงหนานริมฝั่งแม่น้ำฉินหวย ในแต่ละปีจะมีบัณฑิตและข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการสอบมาที่นี่ถึงสองสามหมื่นคน จากเมืองเจียงหนานข้ามแม่น้ำฉินหวยมาก็เป็นเมืองหนานจิง (นานกิง) ซึ่งนับว่าเป็นเมืองทางผ่านสำหรับเขาเหล่านี้ ที่นี่จึงกลายเป็นทำเลทองของกิจการหอนางโลม เพื่อนเพจอย่าได้คิดว่านางคณิกาเหล่านี้เน้นขายบริการทางเพศแต่อย่างเดียว ในยุคนั้นรายได้เป็นกอบเป็นกำมาจากการขายความบันเทิงทางศิลปะเคล้าสุรา เช่น เล่นดนตรี / เล่นหมากล้อม / โชว์เต้นรำ / แต่งกลอนวาดภาพ หรืออาจทำทั้งหมด มีนางคณิกาจำนวนไม่น้อยที่ขายศิลปะไม่ขายตัวและคนที่ชื่อดังจะต้องมีฝีมือดีเยี่ยม ทั้งนี้เพื่อให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าที่มีการศึกษา ‘ฉินหวยปาเยี่ยน’ ทั้งแปดคนนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็น ‘ที่สุด’ ของนางคณิกาในย่านเมืองหนานจิงนี้นี่เอง หลิ่วหรูซื่อมีนามเดิมว่า ‘หยางอ้าย’ ต่อมาเปลี่ยนชื่อตนเองใหม่เป็น ‘อิ่ง’ และมีนามรองว่า ‘หรูซื่อ’ ตามบทกวีจากสมัยซ่ง บ่อยครั้งที่นางแต่งตัวเป็นชายออกไปโต้กลอนกับคนอื่นโดยใช้นามว่า ‘เหอตงจวิน’ นางโด่งดังที่สุดด้านงานอักษรและงานพู่กันจีน (บทกวี คัดพู่กัน และภาพวาด) ผลงานของนางมีมากมายทั้งในนาม ‘หลิ่วหรูซื่อ’ และ ‘เหอตงจวิน’ มีการรวมเล่มผลงานของนางออกจำหน่ายในหลายยุคสมัยจวบจนปัจจุบัน นางเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน ถูกขายให้กับหอนางโลมเมื่ออายุแปดขวบ แต่แม่เล้ารับเป็นลูกบุญธรรมและได้ฝึกเรียนศิลปะแขนงต่างๆ ในชีวิตนางมีชายสามคนที่มีบทบาทมาก คนแรกคืออดีตเสนาบดีอดีตจอหงวน ที่รับนางเป็นอนุเมื่ออายุเพียง 14 ปี เขาโปรดปรานนางที่สุด ใช้เวลาทั้งวันกับการสอนศิลปะขั้นสูงเหล่านี้ให้กับนาง เมื่อเขาตายลงนางถูกขับออกจากเรือนจึงกลับไปอยู่หอนางโลมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มีวิชาความรู้ติดตัวจนเป็นที่เลื่องลือ ทำให้นางใช้ชีวิตอยู่กับการคบหาสมาคมกับเหล่าบัณฑิตจนได้มาพบรักกับเฉินจื่อหลง เขาเป็นบัณฑิตที่ต่อมารับราชการไปได้ไกล ทั้งสองอยู่ด้วยกันนานหลายปี แต่สุดท้ายไปไม่รอดแยกย้ายกันไปและนางออกเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่นางมีผลงานด้านโคลงกลอนและภาพวาดมากมาย ต่อมาในวัย 23 ปี นางได้พบและแต่งงานกับอดีตขุนนางอายุกว่า 50 ปีนามว่าเฉียนเชียนอี้เป็นภรรยารอง (แต่ภรรยาคนแรกเสียไปแล้ว) และอยู่ด้วยกันนานกว่า 20 ปี มีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคน ช่วงเวลาที่อยู่กับเฉียนเชียนอี้นี้ เป็นช่วงเวลาที่นางได้รับการยกย่องเรื่องรักชาติ และนางเป็นผู้ผลักดันให้เฉียนเชียนอี้ทำงานต่อต้านแมนจูอย่างลับๆ เพื่อกอบกู้ราชวงศ์หมิง แม้ว่าฉากหน้าจะสวามิภักดิ์รับราชการกับทางการแมนจูไปแล้ว (เรื่องราวของเฉียนเชียนอี้ที่กลับไปกลับมากับการสนับสนุนฝ่ายใดเป็นเรื่องที่ยาว Storyฯ ขอไม่ลงในรายละเอียด) ต่อมาเฉียนเชียนอี้ลาออกไปใช้ชีวิตบั้นปลายในชนบทโดยนางติดตามไปด้วย เมื่อเขาตายลงมีการแย่งทรัพย์สมบัติ นางจึงฆ่าตัวตายเพื่อเรียกร้องให้ทางการเอาผิดคนโกงและคืนทรัพย์สินกลับมาให้ลูก หลิ่วหรูซื่อไม่เพียงฝากผลงานเอาไว้ให้ชนรุ่นหลังมากมาย หากแต่ความเด็ดเดี่ยวกล้าหาญและรักชาติของหลิ่วหรูซื่อถูกสะท้อนออกมาในบทประพันธ์ต่างๆ ของนางด้วยอารมณ์ประมาณว่า “ถ้าฉันเป็นชาย ฉันจะไปสู้เพื่อชาติ” แต่เมื่อเป็นหญิง นางจึงพยายามสนับสนุนกองกำลังกู้ชาติทางการเงินและผลักดันให้สามีของนางสนับสนุนด้วย และนี่คือสาเหตุว่าทำไมเรื่องราวของนางคณิกาธรรมดาคนนี้ยังไม่ถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลาหลายร้อยปีที่ผ่านมา (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพและข้อมูลเรียบเรียงจาก: https://kknews.cc/history/b2nbjyo.html https://www.chinanews.com.cn/cul/news/2008/03-10/1186637.shtml https://new.qq.com/omn/20191102/20191102A03LG800.html https://kknews.cc/history/b2nbjyo.html http://www.360doc.com/content/20/0325/10/60244337_901533310.shtml https://kknews.cc/history/ogan4p.html https://baike.baidu.com/item/%E7%A7%A6%E6%B7%AE%E5%85%AB%E8%89%B3/384726 #หลิ่วหรูซือ #เหอตงจวิน #นางคณิกาจีนโบราณ #ฉินหวยปาเยี่ยน #เฉียนเชียนอี้ #เฉินจื่อหลง #กอบกู้หมิง
    2 Comments 0 Shares 529 Views 0 Reviews
  • ช่วงนี้กระแสหนังภารตะเรื่องหนึ่งแรงมาก เป็นเรื่องราวอิงชีวประวัติของโสเภณีหญิงที่กลายมาเป็นแม่เล้าผู้ทรงอิทธิพลในอินเดีย เห็นว่าฟ้องร้องกันอยู่ว่าเรื่องราวบิดเบือนเพราะเธอไม่ได้เป็นโสเภณีจริง ความจริงเป็นอย่างไรไม่รู้ แต่หนังเรื่องนี้ทำให้ Storyฯ นึกถึงภาพยนตร์จีนโบราณที่เคยผ่านตาเมื่อนานมาแล้วเรื่องหนึ่งชื่อว่า <หลิ่วหรูซื่อ> (Threads of Time)

    เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับชีวประวัติของนางคณิกานามว่า ‘หลิ่วหรูซื่อ’ นางถูกจารึกในประวัติศาสตร์ว่าเป็นกวีหญิงที่โดดเด่นในสมัยปลายราชวงศ์หมิง และเป็นสตรีที่รักชาติและต่อต้านการรุกรานจากชาวแมนจูในช่วงผลัดแผ่นดิน ไม่แน่ใจว่าเพื่อนเพจคุ้นเคยกับเรื่องของนางกันบ้างหรือไม่? วันนี้เลยมาคุยให้ฟังอย่างย่อ

    หลิ่วหรูซื่อ (ค.ศ. 1618-1664) ถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในสุดยอดแปดนางคณิกาจากแม่น้ำฉินหวย (ฉินหวยปาเยี่ยน / 秦淮八艳)

    อะไรคือ ‘ฉินหวยปาเยี่ยน’ ? ในสมัยปลายราชวงศ์หมิงนั้น สถานสอบราชบันฑิตที่ใหญ่ที่สุดคือเจียงหนานก้งเยวี่ยน (江南贡院) ตั้งอยู่ที่เมืองเจียงหนานริมฝั่งแม่น้ำฉินหวย ในแต่ละปีจะมีบัณฑิตและข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการสอบมาที่นี่ถึงสองสามหมื่นคน จากเมืองเจียงหนานข้ามแม่น้ำฉินหวยมาก็เป็นเมืองหนานจิง (นานกิง) ซึ่งนับว่าเป็นเมืองทางผ่านสำหรับเขาเหล่านี้ ที่นี่จึงกลายเป็นทำเลทองของกิจการหอนางโลม

    เพื่อนเพจอย่าได้คิดว่านางคณิกาเหล่านี้เน้นขายบริการทางเพศแต่อย่างเดียว ในยุคนั้นรายได้เป็นกอบเป็นกำมาจากการขายความบันเทิงทางศิลปะเคล้าสุรา เช่น เล่นดนตรี / เล่นหมากล้อม / โชว์เต้นรำ / แต่งกลอนวาดภาพ หรืออาจทำทั้งหมด มีนางคณิกาจำนวนไม่น้อยที่ขายศิลปะไม่ขายตัวและคนที่ชื่อดังจะต้องมีฝีมือดีเยี่ยม ทั้งนี้เพื่อให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าที่มีการศึกษา ‘ฉินหวยปาเยี่ยน’ ทั้งแปดคนนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็น ‘ที่สุด’ ของนางคณิกาในย่านเมืองหนานจิงนี้นี่เอง

    หลิ่วหรูซื่อมีนามเดิมว่า ‘หยางอ้าย’ ต่อมาเปลี่ยนชื่อตนเองใหม่เป็น ‘อิ่ง’ และมีนามรองว่า ‘หรูซื่อ’ ตามบทกวีจากสมัยซ่ง บ่อยครั้งที่นางแต่งตัวเป็นชายออกไปโต้กลอนกับคนอื่นโดยใช้นามว่า ‘เหอตงจวิน’ นางโด่งดังที่สุดด้านงานอักษรและงานพู่กันจีน (บทกวี คัดพู่กัน และภาพวาด) ผลงานของนางมีมากมายทั้งในนาม ‘หลิ่วหรูซื่อ’ และ ‘เหอตงจวิน’ มีการรวมเล่มผลงานของนางออกจำหน่ายในหลายยุคสมัยจวบจนปัจจุบัน

    นางเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน ถูกขายให้กับหอนางโลมเมื่ออายุแปดขวบ แต่แม่เล้ารับเป็นลูกบุญธรรมและได้ฝึกเรียนศิลปะแขนงต่างๆ ในชีวิตนางมีชายสามคนที่มีบทบาทมาก คนแรกคืออดีตเสนาบดีอดีตจอหงวน ที่รับนางเป็นอนุเมื่ออายุเพียง 14 ปี เขาโปรดปรานนางที่สุด ใช้เวลาทั้งวันกับการสอนศิลปะขั้นสูงเหล่านี้ให้กับนาง

    เมื่อเขาตายลงนางถูกขับออกจากเรือนจึงกลับไปอยู่หอนางโลมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มีวิชาความรู้ติดตัวจนเป็นที่เลื่องลือ ทำให้นางใช้ชีวิตอยู่กับการคบหาสมาคมกับเหล่าบัณฑิตจนได้มาพบรักกับเฉินจื่อหลง เขาเป็นบัณฑิตที่ต่อมารับราชการไปได้ไกล ทั้งสองอยู่ด้วยกันนานหลายปี แต่สุดท้ายไปไม่รอดแยกย้ายกันไปและนางออกเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่นางมีผลงานด้านโคลงกลอนและภาพวาดมากมาย

    ต่อมาในวัย 23 ปี นางได้พบและแต่งงานกับอดีตขุนนางอายุกว่า 50 ปีนามว่าเฉียนเชียนอี้เป็นภรรยารอง (แต่ภรรยาคนแรกเสียไปแล้ว) และอยู่ด้วยกันนานกว่า 20 ปี มีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคน ช่วงเวลาที่อยู่กับเฉียนเชียนอี้นี้ เป็นช่วงเวลาที่นางได้รับการยกย่องเรื่องรักชาติ และนางเป็นผู้ผลักดันให้เฉียนเชียนอี้ทำงานต่อต้านแมนจูอย่างลับๆ เพื่อกอบกู้ราชวงศ์หมิง แม้ว่าฉากหน้าจะสวามิภักดิ์รับราชการกับทางการแมนจูไปแล้ว (เรื่องราวของเฉียนเชียนอี้ที่กลับไปกลับมากับการสนับสนุนฝ่ายใดเป็นเรื่องที่ยาว Storyฯ ขอไม่ลงในรายละเอียด) ต่อมาเฉียนเชียนอี้ลาออกไปใช้ชีวิตบั้นปลายในชนบทโดยนางติดตามไปด้วย เมื่อเขาตายลงมีการแย่งทรัพย์สมบัติ นางจึงฆ่าตัวตายเพื่อเรียกร้องให้ทางการเอาผิดคนโกงและคืนทรัพย์สินกลับมาให้ลูก

    หลิ่วหรูซื่อไม่เพียงฝากผลงานเอาไว้ให้ชนรุ่นหลังมากมาย หากแต่ความเด็ดเดี่ยวกล้าหาญและรักชาติของหลิ่วหรูซื่อถูกสะท้อนออกมาในบทประพันธ์ต่างๆ ของนางด้วยอารมณ์ประมาณว่า “ถ้าฉันเป็นชาย ฉันจะไปสู้เพื่อชาติ” แต่เมื่อเป็นหญิง นางจึงพยายามสนับสนุนกองกำลังกู้ชาติทางการเงินและผลักดันให้สามีของนางสนับสนุนด้วย และนี่คือสาเหตุว่าทำไมเรื่องราวของนางคณิกาธรรมดาคนนี้ยังไม่ถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลาหลายร้อยปีที่ผ่านมา

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพและข้อมูลเรียบเรียงจาก:
    https://kknews.cc/history/b2nbjyo.html
    https://www.chinanews.com.cn/cul/news/2008/03-10/1186637.shtml
    https://new.qq.com/omn/20191102/20191102A03LG800.html
    https://kknews.cc/history/b2nbjyo.html
    http://www.360doc.com/content/20/0325/10/60244337_901533310.shtml
    https://kknews.cc/history/ogan4p.html
    https://baike.baidu.com/item/%E7%A7%A6%E6%B7%AE%E5%85%AB%E8%89%B3/384726

    #หลิ่วหรูซือ #เหอตงจวิน #นางคณิกาจีนโบราณ #ฉินหวยปาเยี่ยน #เฉียนเชียนอี้ #เฉินจื่อหลง #กอบกู้หมิง
    ช่วงนี้กระแสหนังภารตะเรื่องหนึ่งแรงมาก เป็นเรื่องราวอิงชีวประวัติของโสเภณีหญิงที่กลายมาเป็นแม่เล้าผู้ทรงอิทธิพลในอินเดีย เห็นว่าฟ้องร้องกันอยู่ว่าเรื่องราวบิดเบือนเพราะเธอไม่ได้เป็นโสเภณีจริง ความจริงเป็นอย่างไรไม่รู้ แต่หนังเรื่องนี้ทำให้ Storyฯ นึกถึงภาพยนตร์จีนโบราณที่เคยผ่านตาเมื่อนานมาแล้วเรื่องหนึ่งชื่อว่า <หลิ่วหรูซื่อ> (Threads of Time) เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับชีวประวัติของนางคณิกานามว่า ‘หลิ่วหรูซื่อ’ นางถูกจารึกในประวัติศาสตร์ว่าเป็นกวีหญิงที่โดดเด่นในสมัยปลายราชวงศ์หมิง และเป็นสตรีที่รักชาติและต่อต้านการรุกรานจากชาวแมนจูในช่วงผลัดแผ่นดิน ไม่แน่ใจว่าเพื่อนเพจคุ้นเคยกับเรื่องของนางกันบ้างหรือไม่? วันนี้เลยมาคุยให้ฟังอย่างย่อ หลิ่วหรูซื่อ (ค.ศ. 1618-1664) ถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในสุดยอดแปดนางคณิกาจากแม่น้ำฉินหวย (ฉินหวยปาเยี่ยน / 秦淮八艳) อะไรคือ ‘ฉินหวยปาเยี่ยน’ ? ในสมัยปลายราชวงศ์หมิงนั้น สถานสอบราชบันฑิตที่ใหญ่ที่สุดคือเจียงหนานก้งเยวี่ยน (江南贡院) ตั้งอยู่ที่เมืองเจียงหนานริมฝั่งแม่น้ำฉินหวย ในแต่ละปีจะมีบัณฑิตและข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการสอบมาที่นี่ถึงสองสามหมื่นคน จากเมืองเจียงหนานข้ามแม่น้ำฉินหวยมาก็เป็นเมืองหนานจิง (นานกิง) ซึ่งนับว่าเป็นเมืองทางผ่านสำหรับเขาเหล่านี้ ที่นี่จึงกลายเป็นทำเลทองของกิจการหอนางโลม เพื่อนเพจอย่าได้คิดว่านางคณิกาเหล่านี้เน้นขายบริการทางเพศแต่อย่างเดียว ในยุคนั้นรายได้เป็นกอบเป็นกำมาจากการขายความบันเทิงทางศิลปะเคล้าสุรา เช่น เล่นดนตรี / เล่นหมากล้อม / โชว์เต้นรำ / แต่งกลอนวาดภาพ หรืออาจทำทั้งหมด มีนางคณิกาจำนวนไม่น้อยที่ขายศิลปะไม่ขายตัวและคนที่ชื่อดังจะต้องมีฝีมือดีเยี่ยม ทั้งนี้เพื่อให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าที่มีการศึกษา ‘ฉินหวยปาเยี่ยน’ ทั้งแปดคนนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็น ‘ที่สุด’ ของนางคณิกาในย่านเมืองหนานจิงนี้นี่เอง หลิ่วหรูซื่อมีนามเดิมว่า ‘หยางอ้าย’ ต่อมาเปลี่ยนชื่อตนเองใหม่เป็น ‘อิ่ง’ และมีนามรองว่า ‘หรูซื่อ’ ตามบทกวีจากสมัยซ่ง บ่อยครั้งที่นางแต่งตัวเป็นชายออกไปโต้กลอนกับคนอื่นโดยใช้นามว่า ‘เหอตงจวิน’ นางโด่งดังที่สุดด้านงานอักษรและงานพู่กันจีน (บทกวี คัดพู่กัน และภาพวาด) ผลงานของนางมีมากมายทั้งในนาม ‘หลิ่วหรูซื่อ’ และ ‘เหอตงจวิน’ มีการรวมเล่มผลงานของนางออกจำหน่ายในหลายยุคสมัยจวบจนปัจจุบัน นางเกิดมาในครอบครัวที่ยากจน ถูกขายให้กับหอนางโลมเมื่ออายุแปดขวบ แต่แม่เล้ารับเป็นลูกบุญธรรมและได้ฝึกเรียนศิลปะแขนงต่างๆ ในชีวิตนางมีชายสามคนที่มีบทบาทมาก คนแรกคืออดีตเสนาบดีอดีตจอหงวน ที่รับนางเป็นอนุเมื่ออายุเพียง 14 ปี เขาโปรดปรานนางที่สุด ใช้เวลาทั้งวันกับการสอนศิลปะขั้นสูงเหล่านี้ให้กับนาง เมื่อเขาตายลงนางถูกขับออกจากเรือนจึงกลับไปอยู่หอนางโลมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มีวิชาความรู้ติดตัวจนเป็นที่เลื่องลือ ทำให้นางใช้ชีวิตอยู่กับการคบหาสมาคมกับเหล่าบัณฑิตจนได้มาพบรักกับเฉินจื่อหลง เขาเป็นบัณฑิตที่ต่อมารับราชการไปได้ไกล ทั้งสองอยู่ด้วยกันนานหลายปี แต่สุดท้ายไปไม่รอดแยกย้ายกันไปและนางออกเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่นางมีผลงานด้านโคลงกลอนและภาพวาดมากมาย ต่อมาในวัย 23 ปี นางได้พบและแต่งงานกับอดีตขุนนางอายุกว่า 50 ปีนามว่าเฉียนเชียนอี้เป็นภรรยารอง (แต่ภรรยาคนแรกเสียไปแล้ว) และอยู่ด้วยกันนานกว่า 20 ปี มีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคน ช่วงเวลาที่อยู่กับเฉียนเชียนอี้นี้ เป็นช่วงเวลาที่นางได้รับการยกย่องเรื่องรักชาติ และนางเป็นผู้ผลักดันให้เฉียนเชียนอี้ทำงานต่อต้านแมนจูอย่างลับๆ เพื่อกอบกู้ราชวงศ์หมิง แม้ว่าฉากหน้าจะสวามิภักดิ์รับราชการกับทางการแมนจูไปแล้ว (เรื่องราวของเฉียนเชียนอี้ที่กลับไปกลับมากับการสนับสนุนฝ่ายใดเป็นเรื่องที่ยาว Storyฯ ขอไม่ลงในรายละเอียด) ต่อมาเฉียนเชียนอี้ลาออกไปใช้ชีวิตบั้นปลายในชนบทโดยนางติดตามไปด้วย เมื่อเขาตายลงมีการแย่งทรัพย์สมบัติ นางจึงฆ่าตัวตายเพื่อเรียกร้องให้ทางการเอาผิดคนโกงและคืนทรัพย์สินกลับมาให้ลูก หลิ่วหรูซื่อไม่เพียงฝากผลงานเอาไว้ให้ชนรุ่นหลังมากมาย หากแต่ความเด็ดเดี่ยวกล้าหาญและรักชาติของหลิ่วหรูซื่อถูกสะท้อนออกมาในบทประพันธ์ต่างๆ ของนางด้วยอารมณ์ประมาณว่า “ถ้าฉันเป็นชาย ฉันจะไปสู้เพื่อชาติ” แต่เมื่อเป็นหญิง นางจึงพยายามสนับสนุนกองกำลังกู้ชาติทางการเงินและผลักดันให้สามีของนางสนับสนุนด้วย และนี่คือสาเหตุว่าทำไมเรื่องราวของนางคณิกาธรรมดาคนนี้ยังไม่ถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลาหลายร้อยปีที่ผ่านมา (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพและข้อมูลเรียบเรียงจาก: https://kknews.cc/history/b2nbjyo.html https://www.chinanews.com.cn/cul/news/2008/03-10/1186637.shtml https://new.qq.com/omn/20191102/20191102A03LG800.html https://kknews.cc/history/b2nbjyo.html http://www.360doc.com/content/20/0325/10/60244337_901533310.shtml https://kknews.cc/history/ogan4p.html https://baike.baidu.com/item/%E7%A7%A6%E6%B7%AE%E5%85%AB%E8%89%B3/384726 #หลิ่วหรูซือ #เหอตงจวิน #นางคณิกาจีนโบราณ #ฉินหวยปาเยี่ยน #เฉียนเชียนอี้ #เฉินจื่อหลง #กอบกู้หมิง
    0 Comments 0 Shares 1205 Views 0 Reviews
  • อรุณสวัสดิ์ มิตรรักแฟนเพจคิงส์โพธิ์แดงที่พี่คิงส์ฯรักยิ่ง
    เมื่อคืน ไม่มีอะไรมาก เพจเก่าปลิว ฮ่าๆๆ
    แต่ที่พี่คิงส์ร้อนใจเพราะรับปากแฟนเพจไว้
    ว่าจะมาเปิดลึกถึงก้นเหว เรื่องของป้า โจว
    ที่ยิ่งสาว ยิ่งลึก ยิ่งอึ้ง
    ซึ่ง บรรดาลัทติ๊หลงกิมจิ๊ ก็ถูกจูงหมูก
    มากด รีพอตรัวๆๆๆๆ แหม่ก็มีอยู่ในคอกเป็นพัน
    ก็ต้องขยันเอาใจอิเหวิงกันหน่อย
    ต้องขอบคุณ แฟนเพจผู้รับความถูกต้อง
    และพร้อมลุยไปกับพี่คิงส์ฯ ที่สร้างเพจสำรอง
    มาทดแทนเพียงคืนเดียว ก็กลับมาติดตามเพจใหม่
    อย่างมากมายและรวดเร็ว ทำให้พี่คิงส์ยิ่งต้องเพิ่มความพยายาม
    ในการขุด ความรำยำของพวกส้งทรีนและเบื้องหน้าเบื้องหลัง
    ของคนที่มีส่วนได้ผลประโยชน์ร่วมกับอิกามิจและระบบเครือข่าย
    สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่านรายละเอียดที่เจาะลึกเดี๋ยวแปะไว้ในคอมเม้น
    แต่สำหรับคนที่อ่านมาแล้ว พี่คิงส์จะสรุปให้ทราบแบบย่อยง่ายๆให้อ่านกัน
    สรุปคือ
    กิมจิ มีแพลตฟอร์มที่ดักคนไทยไว้แล้ว เรามาไล่ทาร์มไลน์กัน
    เมื่อแปดเดือนโดยประมาณ ที่ผ่านมา
    อิเหวิง ได้ทำการไลฟ์ตต. โดยการสร้างสตอรี่จาก เอเจนซีส้งทรีนกิมจิ
    ว่าอิเหวิงลำบาก แดรกมาม่าคัป หาทุนเรียน ซึ่งอิเหวิงก็เปิดเผยเรื่องนี้เองในไลฟ์เองโป๊ะเองของช่องอิเหวิง ว่าก่อนชาลีเห็นมันไลฟ์ มันก็มีอินคัมจากส่วนแบ่ง ตต. จากที่เหวิงเรียกว่าทำงาน คือการไลฟ์ทั้งวันทั้งคืน
    สเต็ปสอง
    แน็ก ชาลี ที่มีนิสัยจริงใจ ตรงไปตรงมาและขี้สงสาร บวกกับการแสดงของอิเหวิงที่ต้องยอมรับว่า เป็นนักแสดงที่เก่ง ชาลีก็เข้ามาเห็นสตอรี่ดราม่า ที่เอเจนซี่ส้งทรีนกิมจิ ดักไว้อย่างที่ชาลีไม่รู้ตัว
    สเต็ปสาม
    อิเหวิง ตื่นเต้น ที่คนเข้ามาส่งของขวัญด้วยติ๊กเกอร์รัวๆ เพราะก่อนหน้านั้น ก็จะตกได้แค่ ตัวเล็กๆที่เป็นกิมจิด้วยกัน ก็ยังได้วันละฉองฉามพัน การมาของชาลี จึงกำเนิดโลกใบใหม่ที่กามิจและเอเจนซี่สร้างขึ้น
    สเต็ปที่สี่
    อิเหวิง เริ่มแสดงความเป็นเจ้าของชาลี และอ่อย เรียกชาลีเข้ากล้องแทบทั้งวันทั้งคืน รายรับเข้าเป๋าเอเจนซี่และกามิจแบบรัวๆ อลังการ อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน มีการทำงาน วางแผนอย่างเป็นระบบ
    สเต็ปที่ห้า
    กามิจ ได้สร้างโลกใบใหม่เป็นกลุ่มพิเศษ ที่ผูกกับแอพของกิมจิ โดยจะล่อคนที่เคลิ้มกับสตอรี่ของอิเหวิง เหมือนกับได้คุยใกล้ชิดส่วนตัวกับคนที่ตนเองปลื้ม
    จุดนี่แหละ คือที่มาโดยทุกคนจะต้องเปย์รายเดือนให้อิเหวิง และเป็นศูนย์บชก ที่อิเหวิงเข้าไลฟ์ แล้วส่งสัญญาณมาในกลุ่มว่า ฉานอยากชนะ แค่นั้นแหละพวกนี้ก็จะเข้าไปส่งติ๊กเกอร์กันชนิดที่ หมดเนื้อหมดตัวก็ยอม ความบังลัยจึงเกิด
    สเต็ปที่หก
    การมีอยู่ของกลุ่มปลื้มกิมจิ๊ ถูกพัฒนาด้วยการสร้างอุปทานหมู่ ยกยอปอปั้นให้อิเหวิงเป็นดุจเทพีจุติ โดยมีนักพูดอย่าง ป้า โจ ม. เป็นหัวหน้าทีม โดยได้รับส่วนแบ่งจากการเปย์ของสมาชิก
    ป้าโจ ทั้งเคลิ้ม ทั้งค-ลั่-ง อิเหวิง เพราะชีวิตผ่านเรื่องราวที่ทำให้ดิ่งมาเยอะมาก เคยให้สัมภาษณ์ทางทีวี ว่าชีวิตนี้มีปัญหาจิต ที่ชอบเ-ส-พ ดราม่ามากๆ จากคนดีๆที่เคยต่อสู้เพื่อชาติและสามสถาบัน กลายเป็นคนที่แม้คนรอบข้างใกล้ชิดก็รู้สึกว่า เธอ ไม่ใช่คนเดิม
    ด้วยกว่าแปดเดือน ที่เหมือนสะกด จิต ทั้งสมาชิกในกลุ่ม และตัวป้า โจเอง ก็สร้างโลกที่บิดเบี้ยว ให้อิเหวิงกลายเป็นเทพีอาเทน่า บอกว่าอินี่เหมือนนกฟินิก ที่ยังไงก็ไม่ตุย ทำเหมือนทั้งจักรวารถูกสร้างขึ้นเพื่ออิเหวิง เอากะเค้าสิ
    แต่ที่มันหนักและส่งผลประทบต่อชาลีและคนไทยคือ
    จากปลื้ม กลายเป็น ค-ลั่-ง
    เมื่อชาลีเอง ได้รับรู้ถึงเกมส์โลกในจินตนาการที่อิเหวิงและเอเจนซี่สร้างขึ้น ชาลีจึงออกมาพูดบ่อยๆว่า อย่าอินนะ และไลฟ์ล่าสุด ชาลีก็ห่วงว่าคนไทยจะถูก ห-ล-อ-ก ก็เพราะเหตุนี้แหละ
    ที่ผ่านมาชาลีเชื่อว่า ความรักที่บริสุทธิ์ของน้อง จะทำให้อิเหวิงเปลี่ยน แต่ชาลีได้ฟังทาง cctv ที่อิเหวิงแอบไปคุยข้างนอกคนเดียวบ่อยๆ แล้วให้ล่ามแปล มันเริ่มเลยเถิด ทำให้ต้องแยกทาง ทั้งที่ยังรักแต่ต้องทนเจ็บเพื่อความถูกต้อง
    อิป้าโจ จึงเริ่มปฏิบัติการ โดยจริงๆเรื่องนี้ ก็มีความพยายามจากกลุ่มพิเศษของอิเหวิงตลอดมา ให้เข้าใจผิดว่าชาลีมีอาการไม่ปกติทางจิตใจ ต่อว่าชาลีเสียๆหายๆมานาน พอมีคนมาแตะต้องเทพีในลัทติ๊ จะอยู่เฉยไม่ได้ และเครือข่ายนี้ แอพกิมจิผูกกับแอพตต. จึงมีคนเข้าไปเล่นแแน๊กใน ตต. มากกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ เฮ้อ ผช. ทั้งนั้น หลงกลิ่นตัวอิเหวิงที่ทั้งซกมก และหยำเปไปได้ยังไงฟร๊ะ
    ในมุมมองของพี่คิงส์ฯ สำหรับอิป้าโจ ทั้งเรื่องรายได้+ความเพ้อความค-ลั่-ง เป็นส่วนผสมให้นางกล้าออกมาเปิดหน้าแถถถถถ อยู่ตลอดเวลา
    แม้กระทั้งเพจพี่คิงส์ฯที่ปลิว ก็ฝีมือพวกนี้แหละ ไม่แปลกใจ
    ยังมีข้อมูลที่แฟนเพจส่งมาอีกเยอะมากมายมหาศาล
    เดี๋ยวจะเหลาให้ตื่นตาตื่นใจต่อ
    ฝากติดตามเพจด้วยเน้อ
    จะได้ไม่พลาดข้อมูลสำคัญ
    <<<ติดตามกันเพื่อชาติและคนไทยทุกคน
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    อรุณสวัสดิ์ มิตรรักแฟนเพจคิงส์โพธิ์แดงที่พี่คิงส์ฯรักยิ่ง เมื่อคืน ไม่มีอะไรมาก เพจเก่าปลิว ฮ่าๆๆ แต่ที่พี่คิงส์ร้อนใจเพราะรับปากแฟนเพจไว้ ว่าจะมาเปิดลึกถึงก้นเหว เรื่องของป้า โจว ที่ยิ่งสาว ยิ่งลึก ยิ่งอึ้ง ซึ่ง บรรดาลัทติ๊หลงกิมจิ๊ ก็ถูกจูงหมูก มากด รีพอตรัวๆๆๆๆ แหม่ก็มีอยู่ในคอกเป็นพัน ก็ต้องขยันเอาใจอิเหวิงกันหน่อย ต้องขอบคุณ แฟนเพจผู้รับความถูกต้อง และพร้อมลุยไปกับพี่คิงส์ฯ ที่สร้างเพจสำรอง มาทดแทนเพียงคืนเดียว ก็กลับมาติดตามเพจใหม่ อย่างมากมายและรวดเร็ว ทำให้พี่คิงส์ยิ่งต้องเพิ่มความพยายาม ในการขุด ความรำยำของพวกส้งทรีนและเบื้องหน้าเบื้องหลัง ของคนที่มีส่วนได้ผลประโยชน์ร่วมกับอิกามิจและระบบเครือข่าย สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่านรายละเอียดที่เจาะลึกเดี๋ยวแปะไว้ในคอมเม้น แต่สำหรับคนที่อ่านมาแล้ว พี่คิงส์จะสรุปให้ทราบแบบย่อยง่ายๆให้อ่านกัน สรุปคือ กิมจิ มีแพลตฟอร์มที่ดักคนไทยไว้แล้ว เรามาไล่ทาร์มไลน์กัน เมื่อแปดเดือนโดยประมาณ ที่ผ่านมา อิเหวิง ได้ทำการไลฟ์ตต. โดยการสร้างสตอรี่จาก เอเจนซีส้งทรีนกิมจิ ว่าอิเหวิงลำบาก แดรกมาม่าคัป หาทุนเรียน ซึ่งอิเหวิงก็เปิดเผยเรื่องนี้เองในไลฟ์เองโป๊ะเองของช่องอิเหวิง ว่าก่อนชาลีเห็นมันไลฟ์ มันก็มีอินคัมจากส่วนแบ่ง ตต. จากที่เหวิงเรียกว่าทำงาน คือการไลฟ์ทั้งวันทั้งคืน สเต็ปสอง แน็ก ชาลี ที่มีนิสัยจริงใจ ตรงไปตรงมาและขี้สงสาร บวกกับการแสดงของอิเหวิงที่ต้องยอมรับว่า เป็นนักแสดงที่เก่ง ชาลีก็เข้ามาเห็นสตอรี่ดราม่า ที่เอเจนซี่ส้งทรีนกิมจิ ดักไว้อย่างที่ชาลีไม่รู้ตัว สเต็ปสาม อิเหวิง ตื่นเต้น ที่คนเข้ามาส่งของขวัญด้วยติ๊กเกอร์รัวๆ เพราะก่อนหน้านั้น ก็จะตกได้แค่ ตัวเล็กๆที่เป็นกิมจิด้วยกัน ก็ยังได้วันละฉองฉามพัน การมาของชาลี จึงกำเนิดโลกใบใหม่ที่กามิจและเอเจนซี่สร้างขึ้น สเต็ปที่สี่ อิเหวิง เริ่มแสดงความเป็นเจ้าของชาลี และอ่อย เรียกชาลีเข้ากล้องแทบทั้งวันทั้งคืน รายรับเข้าเป๋าเอเจนซี่และกามิจแบบรัวๆ อลังการ อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน มีการทำงาน วางแผนอย่างเป็นระบบ สเต็ปที่ห้า กามิจ ได้สร้างโลกใบใหม่เป็นกลุ่มพิเศษ ที่ผูกกับแอพของกิมจิ โดยจะล่อคนที่เคลิ้มกับสตอรี่ของอิเหวิง เหมือนกับได้คุยใกล้ชิดส่วนตัวกับคนที่ตนเองปลื้ม จุดนี่แหละ คือที่มาโดยทุกคนจะต้องเปย์รายเดือนให้อิเหวิง และเป็นศูนย์บชก ที่อิเหวิงเข้าไลฟ์ แล้วส่งสัญญาณมาในกลุ่มว่า ฉานอยากชนะ แค่นั้นแหละพวกนี้ก็จะเข้าไปส่งติ๊กเกอร์กันชนิดที่ หมดเนื้อหมดตัวก็ยอม ความบังลัยจึงเกิด สเต็ปที่หก การมีอยู่ของกลุ่มปลื้มกิมจิ๊ ถูกพัฒนาด้วยการสร้างอุปทานหมู่ ยกยอปอปั้นให้อิเหวิงเป็นดุจเทพีจุติ โดยมีนักพูดอย่าง ป้า โจ ม. เป็นหัวหน้าทีม โดยได้รับส่วนแบ่งจากการเปย์ของสมาชิก ป้าโจ ทั้งเคลิ้ม ทั้งค-ลั่-ง อิเหวิง เพราะชีวิตผ่านเรื่องราวที่ทำให้ดิ่งมาเยอะมาก เคยให้สัมภาษณ์ทางทีวี ว่าชีวิตนี้มีปัญหาจิต ที่ชอบเ-ส-พ ดราม่ามากๆ จากคนดีๆที่เคยต่อสู้เพื่อชาติและสามสถาบัน กลายเป็นคนที่แม้คนรอบข้างใกล้ชิดก็รู้สึกว่า เธอ ไม่ใช่คนเดิม ด้วยกว่าแปดเดือน ที่เหมือนสะกด จิต ทั้งสมาชิกในกลุ่ม และตัวป้า โจเอง ก็สร้างโลกที่บิดเบี้ยว ให้อิเหวิงกลายเป็นเทพีอาเทน่า บอกว่าอินี่เหมือนนกฟินิก ที่ยังไงก็ไม่ตุย ทำเหมือนทั้งจักรวารถูกสร้างขึ้นเพื่ออิเหวิง เอากะเค้าสิ แต่ที่มันหนักและส่งผลประทบต่อชาลีและคนไทยคือ จากปลื้ม กลายเป็น ค-ลั่-ง เมื่อชาลีเอง ได้รับรู้ถึงเกมส์โลกในจินตนาการที่อิเหวิงและเอเจนซี่สร้างขึ้น ชาลีจึงออกมาพูดบ่อยๆว่า อย่าอินนะ และไลฟ์ล่าสุด ชาลีก็ห่วงว่าคนไทยจะถูก ห-ล-อ-ก ก็เพราะเหตุนี้แหละ ที่ผ่านมาชาลีเชื่อว่า ความรักที่บริสุทธิ์ของน้อง จะทำให้อิเหวิงเปลี่ยน แต่ชาลีได้ฟังทาง cctv ที่อิเหวิงแอบไปคุยข้างนอกคนเดียวบ่อยๆ แล้วให้ล่ามแปล มันเริ่มเลยเถิด ทำให้ต้องแยกทาง ทั้งที่ยังรักแต่ต้องทนเจ็บเพื่อความถูกต้อง อิป้าโจ จึงเริ่มปฏิบัติการ โดยจริงๆเรื่องนี้ ก็มีความพยายามจากกลุ่มพิเศษของอิเหวิงตลอดมา ให้เข้าใจผิดว่าชาลีมีอาการไม่ปกติทางจิตใจ ต่อว่าชาลีเสียๆหายๆมานาน พอมีคนมาแตะต้องเทพีในลัทติ๊ จะอยู่เฉยไม่ได้ และเครือข่ายนี้ แอพกิมจิผูกกับแอพตต. จึงมีคนเข้าไปเล่นแแน๊กใน ตต. มากกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ เฮ้อ ผช. ทั้งนั้น หลงกลิ่นตัวอิเหวิงที่ทั้งซกมก และหยำเปไปได้ยังไงฟร๊ะ ในมุมมองของพี่คิงส์ฯ สำหรับอิป้าโจ ทั้งเรื่องรายได้+ความเพ้อความค-ลั่-ง เป็นส่วนผสมให้นางกล้าออกมาเปิดหน้าแถถถถถ อยู่ตลอดเวลา แม้กระทั้งเพจพี่คิงส์ฯที่ปลิว ก็ฝีมือพวกนี้แหละ ไม่แปลกใจ ยังมีข้อมูลที่แฟนเพจส่งมาอีกเยอะมากมายมหาศาล เดี๋ยวจะเหลาให้ตื่นตาตื่นใจต่อ ฝากติดตามเพจด้วยเน้อ จะได้ไม่พลาดข้อมูลสำคัญ <<<ติดตามกันเพื่อชาติและคนไทยทุกคน #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 970 Views 0 Reviews