• สื่อตะวันตกรายงานว่า ซาอุดีอาระเบียพยายามโน้มน้าวให้อิหร่านบรรลุข้อตกลงในการเจรจาเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ ระหว่างอิหร่านและสหรัฐ

    👉ในระหว่างการพบปะเจรจาเป็นการภายใน โดยไม่ได้ให้สื่อมวลชนเข้าไปด้วยเมื่อเดือนที่แล้วในกรุงเตหะราน เจ้าชายคาลิด บิน ซัลมาน รัฐมนตรีกลาโหมซาอุดีอาระเบีย ได้กล่าวกับประธานาธิบดีอิหร่าน มาซูด เปเซชเคียน และเสนาธิการทหารบก โมฮัมหมัด บาเกรี รวมทั้งรัฐมนตรีต่างประเทศ อับบาส อารักชี ว่า อิหร่านจะควรยอมรับข้อตกลงการเจรจานิวเคลียร์ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ของสหรัฐฯ นำเสสนอ เพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์และอาจเกิดสงครามกับอิสราเอล จนลุกลามกลายเป็นสงครามระดับภูมิภาค

    👉ในขณะที่เจ้าชายไฟซอล บิน ฟาร์ฮาน รัฐมนตรีต่างประเทศของซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า หากข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐและอิหร่านประสบความสำเร็จจะช่วยลดความเสี่ยงในภูมิภาคนี้ นอกจากนี้ยังช่วยยกระดับความร่วมมือและเปิดทางไปสู่โอกาสการลงทุนที่สำคัญมหาศาล ซึ่งอาจช่วยปูทางไปสู่ความก้าวหน้าในฉนวนกาซาและการก่อตั้งรัฐปาเลสไตน์

    👉ล่าสุดเมื่อไม่กี่วันก่อน ดูเหมือนว่าประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวเป็นนัยถึงความสำเร็จในการเจรจากับอิหร่าน เหลือเพียงแค่การประกาศอย่างเป็นทางการเท่านั้น


    สื่อตะวันตกรายงานว่า ซาอุดีอาระเบียพยายามโน้มน้าวให้อิหร่านบรรลุข้อตกลงในการเจรจาเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ ระหว่างอิหร่านและสหรัฐ 👉ในระหว่างการพบปะเจรจาเป็นการภายใน โดยไม่ได้ให้สื่อมวลชนเข้าไปด้วยเมื่อเดือนที่แล้วในกรุงเตหะราน เจ้าชายคาลิด บิน ซัลมาน รัฐมนตรีกลาโหมซาอุดีอาระเบีย ได้กล่าวกับประธานาธิบดีอิหร่าน มาซูด เปเซชเคียน และเสนาธิการทหารบก โมฮัมหมัด บาเกรี รวมทั้งรัฐมนตรีต่างประเทศ อับบาส อารักชี ว่า อิหร่านจะควรยอมรับข้อตกลงการเจรจานิวเคลียร์ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ของสหรัฐฯ นำเสสนอ เพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์และอาจเกิดสงครามกับอิสราเอล จนลุกลามกลายเป็นสงครามระดับภูมิภาค 👉ในขณะที่เจ้าชายไฟซอล บิน ฟาร์ฮาน รัฐมนตรีต่างประเทศของซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า หากข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐและอิหร่านประสบความสำเร็จจะช่วยลดความเสี่ยงในภูมิภาคนี้ นอกจากนี้ยังช่วยยกระดับความร่วมมือและเปิดทางไปสู่โอกาสการลงทุนที่สำคัญมหาศาล ซึ่งอาจช่วยปูทางไปสู่ความก้าวหน้าในฉนวนกาซาและการก่อตั้งรัฐปาเลสไตน์ 👉ล่าสุดเมื่อไม่กี่วันก่อน ดูเหมือนว่าประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวเป็นนัยถึงความสำเร็จในการเจรจากับอิหร่าน เหลือเพียงแค่การประกาศอย่างเป็นทางการเท่านั้น
    0 Comments 0 Shares 8 Views 0 Reviews
  • Maria Zakharova โฆษกกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย กล่าวถึงการเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครนที่กำลังจะมีขึ้นในอิสตันบูล:

    ➡️จะไม่มีบุคคลที่สามมีส่วนร่วมในการเจรจาจากบุคคลที่สาม ไม่ว่าจะเป็นตุรกีหรือประเทศอื่นใด

    ➡️คณะผู้แทนรัสเซียจะเดินทางมาถึงอิสตันบูลในวันที่ 2 มิถุนายน พร้อมกับบันทึกข้อตกลงหยุดยิงและข้อเสนอเพิ่มเติม

    ➡️รัสเซียทราบแล้วถึงข้อความของ Kellogg ผู้แทนพิศษของทรัมป์เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร เยอรมนี และฝรั่งเศสกำลังเดินทางมาอิสตันบูลในวันนั้นเช่นกัน

    ➡️แต่มอสโกยังมองไม่เห็นความจำเป็นถึงความเชื่อมโยงที่ต้องให้ประเทศเหล่านั้นเข้ามามีส่วนร่วมระหว่างการเจรจาโดยตรงกับยูเครน
    Maria Zakharova โฆษกกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย กล่าวถึงการเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครนที่กำลังจะมีขึ้นในอิสตันบูล: ➡️จะไม่มีบุคคลที่สามมีส่วนร่วมในการเจรจาจากบุคคลที่สาม ไม่ว่าจะเป็นตุรกีหรือประเทศอื่นใด ➡️คณะผู้แทนรัสเซียจะเดินทางมาถึงอิสตันบูลในวันที่ 2 มิถุนายน พร้อมกับบันทึกข้อตกลงหยุดยิงและข้อเสนอเพิ่มเติม ➡️รัสเซียทราบแล้วถึงข้อความของ Kellogg ผู้แทนพิศษของทรัมป์เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร เยอรมนี และฝรั่งเศสกำลังเดินทางมาอิสตันบูลในวันนั้นเช่นกัน ➡️แต่มอสโกยังมองไม่เห็นความจำเป็นถึงความเชื่อมโยงที่ต้องให้ประเทศเหล่านั้นเข้ามามีส่วนร่วมระหว่างการเจรจาโดยตรงกับยูเครน
    0 Comments 0 Shares 13 Views 0 Reviews
  • 🚀 ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Doudna: ก้าวใหม่ของ AI และวิทยาศาสตร์
    กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ประกาศแผนสร้าง ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Doudna ซึ่งจะตั้งอยู่ที่ ห้องปฏิบัติการแห่งชาติ Lawrence Berkeley โดยระบบนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อเร่งความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และ AI

    Doudna ได้รับการตั้งชื่อตาม Jennifer Doudna นักวิทยาศาสตร์เจ้าของรางวัลโนเบลที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยี CRISPR gene editing

    ซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้จะใช้ แพลตฟอร์ม Vera Rubin ของ Nvidia ซึ่งรวมพลังของ AI และการจำลองทางวิทยาศาสตร์ เข้าด้วยกัน โดยใช้ ซีพียู Arm-based และ ชิป Rubin AI ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับงานด้าน AI และการจำลองข้อมูล

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Doudna จะตั้งอยู่ที่ Lawrence Berkeley National Laboratory และเริ่มใช้งานในปี 2026
    - Dell Technologies ได้รับเลือกให้สร้างระบบนี้ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการซูเปอร์คอมพิวเตอร์
    - ใช้แพลตฟอร์ม Vera Rubin ของ Nvidia ซึ่งรวมพลังของ AI และการจำลองทางวิทยาศาสตร์
    - Doudna จะเร็วกว่า Perlmutter ซูเปอร์คอมพิวเตอร์รุ่นปัจจุบันกว่า 10 เท่า
    - ระบบนี้จะช่วยนักวิทยาศาสตร์กว่า 11,000 คนในการวิจัยด้านพลังงานความร้อนใต้พิภพและควอนตัมคอมพิวติ้ง

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การใช้ AI ในการจำลองข้อมูลอาจต้องปรับเปลี่ยนแนวทางการคำนวณแบบดั้งเดิม
    - การเปลี่ยนจากซีพียู Intel และ AMD ไปใช้ Arm-based อาจมีผลต่อการพัฒนาแอปพลิเคชันที่ต้องปรับตัว
    - ต้องติดตามว่าการรวม AI เข้ากับซูเปอร์คอมพิวเตอร์จะส่งผลต่อความแม่นยำของการจำลองข้อมูลอย่างไร
    - การลงทุนในระบบนี้อาจส่งผลต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ในอนาคต

    Doudna เป็นตัวอย่างของการผสานรวม AI และการจำลองทางวิทยาศาสตร์ เพื่อเร่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี หากระบบนี้สามารถทำงานได้ตามที่คาดหวัง

    https://www.techspot.com/news/108119-energy-department-doudna-supercomputer-signals-new-era-ai.html
    🚀 ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Doudna: ก้าวใหม่ของ AI และวิทยาศาสตร์ กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ประกาศแผนสร้าง ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Doudna ซึ่งจะตั้งอยู่ที่ ห้องปฏิบัติการแห่งชาติ Lawrence Berkeley โดยระบบนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อเร่งความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และ AI Doudna ได้รับการตั้งชื่อตาม Jennifer Doudna นักวิทยาศาสตร์เจ้าของรางวัลโนเบลที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยี CRISPR gene editing ซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้จะใช้ แพลตฟอร์ม Vera Rubin ของ Nvidia ซึ่งรวมพลังของ AI และการจำลองทางวิทยาศาสตร์ เข้าด้วยกัน โดยใช้ ซีพียู Arm-based และ ชิป Rubin AI ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับงานด้าน AI และการจำลองข้อมูล ✅ ข้อมูลจากข่าว - Doudna จะตั้งอยู่ที่ Lawrence Berkeley National Laboratory และเริ่มใช้งานในปี 2026 - Dell Technologies ได้รับเลือกให้สร้างระบบนี้ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการซูเปอร์คอมพิวเตอร์ - ใช้แพลตฟอร์ม Vera Rubin ของ Nvidia ซึ่งรวมพลังของ AI และการจำลองทางวิทยาศาสตร์ - Doudna จะเร็วกว่า Perlmutter ซูเปอร์คอมพิวเตอร์รุ่นปัจจุบันกว่า 10 เท่า - ระบบนี้จะช่วยนักวิทยาศาสตร์กว่า 11,000 คนในการวิจัยด้านพลังงานความร้อนใต้พิภพและควอนตัมคอมพิวติ้ง ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การใช้ AI ในการจำลองข้อมูลอาจต้องปรับเปลี่ยนแนวทางการคำนวณแบบดั้งเดิม - การเปลี่ยนจากซีพียู Intel และ AMD ไปใช้ Arm-based อาจมีผลต่อการพัฒนาแอปพลิเคชันที่ต้องปรับตัว - ต้องติดตามว่าการรวม AI เข้ากับซูเปอร์คอมพิวเตอร์จะส่งผลต่อความแม่นยำของการจำลองข้อมูลอย่างไร - การลงทุนในระบบนี้อาจส่งผลต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ในอนาคต Doudna เป็นตัวอย่างของการผสานรวม AI และการจำลองทางวิทยาศาสตร์ เพื่อเร่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี หากระบบนี้สามารถทำงานได้ตามที่คาดหวัง https://www.techspot.com/news/108119-energy-department-doudna-supercomputer-signals-new-era-ai.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Dell, Nvidia, and Department of Energy join forces on "Doudna" supercomputer for science and AI
    The advanced system, to be housed at Lawrence Berkeley National Laboratory and scheduled to become operational in 2026, will be named "Doudna" in honor of Nobel laureate...
    0 Comments 0 Shares 19 Views 0 Reviews
  • 🎮 GPU รุ่นใหม่ของจีน: ก้าวสำคัญสู่ความเป็นอิสระทางเทคโนโลยี
    Lisuan Technology บริษัทสตาร์ทอัพด้านกราฟิกการ์ดของจีน ประกาศว่า G100 GPU ซึ่งเป็น กราฟิกการ์ด 6nm ตัวแรกที่ผลิตในประเทศ ได้เปิดใช้งานสำเร็จ ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศ

    Lisuan Technology ก่อตั้งขึ้นในปี 2021 โดยมีทีมงานที่มีประสบการณ์กว่า 25 ปีใน Silicon Valley และได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก Dongxin Semiconductor ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถพัฒนา G100 ต่อไปได้แม้จะเผชิญกับปัญหาทางการเงิน

    G100 ใช้ TrueGPU architecture ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่พัฒนาเอง แตกต่างจากบริษัทจีนอื่น ๆ ที่มักใช้ IP จาก Imagination Technologies นอกจากนี้ ยังมีข่าวลือว่า G100 อาจมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ GeForce RTX 4060

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - G100 เป็นกราฟิกการ์ด 6nm ตัวแรกที่ผลิตในจีน
    - Lisuan Technology ก่อตั้งขึ้นในปี 2021 โดยมีทีมงานที่มีประสบการณ์กว่า 25 ปีใน Silicon Valley
    - G100 ใช้ TrueGPU architecture ซึ่งพัฒนาเองโดยไม่ใช้ IP จากบริษัทอื่น
    - Dongxin Semiconductor สนับสนุนเงินทุน 27.7 ล้านเหรียญ เพื่อช่วยให้บริษัทดำเนินการต่อไป
    - G100 อาจมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ GeForce RTX 4060

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - จีนไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี 6nm จาก Samsung หรือ TSMC เนื่องจากข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ
    - G100 อาจผลิตโดย SMIC ซึ่งมีข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี เมื่อเทียบกับโรงงานผลิตชิประดับโลก
    - ยังไม่มีข้อมูลทางเทคนิคที่ชัดเจนเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ G100
    - การพัฒนาไดรเวอร์และซอฟต์แวร์เป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะกำหนดความสามารถของ G100 ในตลาด

    🚀 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม GPU
    การเปิดตัว G100 แสดงให้เห็นถึงความพยายามของจีนในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ความท้าทายด้านการผลิตและซอฟต์แวร์ ยังเป็นอุปสรรคสำคัญที่ต้องแก้ไขก่อนที่ G100 จะสามารถแข่งขันกับแบรนด์ระดับโลกได้

    https://www.techspot.com/news/108122-china-first-6nm-gpu-boots-up-targets-performance.html
    🎮 GPU รุ่นใหม่ของจีน: ก้าวสำคัญสู่ความเป็นอิสระทางเทคโนโลยี Lisuan Technology บริษัทสตาร์ทอัพด้านกราฟิกการ์ดของจีน ประกาศว่า G100 GPU ซึ่งเป็น กราฟิกการ์ด 6nm ตัวแรกที่ผลิตในประเทศ ได้เปิดใช้งานสำเร็จ ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศ Lisuan Technology ก่อตั้งขึ้นในปี 2021 โดยมีทีมงานที่มีประสบการณ์กว่า 25 ปีใน Silicon Valley และได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก Dongxin Semiconductor ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถพัฒนา G100 ต่อไปได้แม้จะเผชิญกับปัญหาทางการเงิน G100 ใช้ TrueGPU architecture ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่พัฒนาเอง แตกต่างจากบริษัทจีนอื่น ๆ ที่มักใช้ IP จาก Imagination Technologies นอกจากนี้ ยังมีข่าวลือว่า G100 อาจมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ GeForce RTX 4060 ✅ ข้อมูลจากข่าว - G100 เป็นกราฟิกการ์ด 6nm ตัวแรกที่ผลิตในจีน - Lisuan Technology ก่อตั้งขึ้นในปี 2021 โดยมีทีมงานที่มีประสบการณ์กว่า 25 ปีใน Silicon Valley - G100 ใช้ TrueGPU architecture ซึ่งพัฒนาเองโดยไม่ใช้ IP จากบริษัทอื่น - Dongxin Semiconductor สนับสนุนเงินทุน 27.7 ล้านเหรียญ เพื่อช่วยให้บริษัทดำเนินการต่อไป - G100 อาจมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ GeForce RTX 4060 ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - จีนไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี 6nm จาก Samsung หรือ TSMC เนื่องจากข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ - G100 อาจผลิตโดย SMIC ซึ่งมีข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี เมื่อเทียบกับโรงงานผลิตชิประดับโลก - ยังไม่มีข้อมูลทางเทคนิคที่ชัดเจนเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ G100 - การพัฒนาไดรเวอร์และซอฟต์แวร์เป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะกำหนดความสามารถของ G100 ในตลาด 🚀 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม GPU การเปิดตัว G100 แสดงให้เห็นถึงความพยายามของจีนในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ความท้าทายด้านการผลิตและซอฟต์แวร์ ยังเป็นอุปสรรคสำคัญที่ต้องแก้ไขก่อนที่ G100 จะสามารถแข่งขันกับแบรนด์ระดับโลกได้ https://www.techspot.com/news/108122-china-first-6nm-gpu-boots-up-targets-performance.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    China's first 6nm GPU boots up, targets performance parity with RTX 4060
    Lisuan was founded in 2021 by a crew of ex-Silicon Valley GPU veterans and is a part of the new wave of Chinese chipmakers like Moore Threads...
    0 Comments 0 Shares 22 Views 0 Reviews
  • 💰 Meliuz เปิดขายหุ้นเพื่อซื้อ Bitcoin
    บริษัทฟินเทค Meliuz จากบราซิลได้ยื่นขอเสนอขายหุ้นเพื่อระดมทุนสำหรับการซื้อ Bitcoin โดยมีการกำหนดราคาหุ้นในวันที่ 12 มิถุนายน 2025

    Meliuz เป็นบริษัทที่ให้บริการ แคชแบ็กและโซลูชันทางการเงิน ในบราซิล และการลงทุนใน Bitcoin ครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงแนวโน้มของบริษัทฟินเทคที่หันมาใช้ สินทรัพย์ดิจิทัล เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ทางการเงิน

    นอกจากนี้ การเสนอขายหุ้นครั้งนี้อาจขยายขนาดได้ถึง 200% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายในตอนแรก ซึ่งหมายความว่าบริษัทอาจสามารถระดมทุนได้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Meliuz ยื่นขอเสนอขายหุ้นเพื่อระดมทุนสำหรับการซื้อ Bitcoin
    - กำหนดราคาหุ้นในวันที่ 12 มิถุนายน 2025
    - การเสนอขายหุ้นครั้งนี้อาจขยายขนาดได้ถึง 200% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายในตอนแรก
    - มูลค่าการเสนอขายหุ้นเริ่มต้นอยู่ที่ 150 ล้านเรียลบราซิล (ประมาณ 26.45 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)
    - อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุดอยู่ที่ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 5.6704 เรียลบราซิล

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การลงทุนใน Bitcoin มีความผันผวนสูง และอาจส่งผลต่อมูลค่าของหุ้น Meliuz
    - ต้องติดตามว่าการเสนอขายหุ้นจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากน้อยเพียงใด
    - ตลาดคริปโตยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบในหลายประเทศ
    - Meliuz อาจต้องเผชิญกับความท้าทายในการบริหารสินทรัพย์ดิจิทัล

    การที่ Meliuz หันมาลงทุนใน Bitcoin อาจเป็นสัญญาณว่า บริษัทฟินเทคในละตินอเมริกากำลังให้ความสนใจสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น อย่างไรก็ตาม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/30/brazil039s-meliuz-launches-share-offering-for-bitcoin-purchase
    💰 Meliuz เปิดขายหุ้นเพื่อซื้อ Bitcoin บริษัทฟินเทค Meliuz จากบราซิลได้ยื่นขอเสนอขายหุ้นเพื่อระดมทุนสำหรับการซื้อ Bitcoin โดยมีการกำหนดราคาหุ้นในวันที่ 12 มิถุนายน 2025 Meliuz เป็นบริษัทที่ให้บริการ แคชแบ็กและโซลูชันทางการเงิน ในบราซิล และการลงทุนใน Bitcoin ครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงแนวโน้มของบริษัทฟินเทคที่หันมาใช้ สินทรัพย์ดิจิทัล เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ทางการเงิน นอกจากนี้ การเสนอขายหุ้นครั้งนี้อาจขยายขนาดได้ถึง 200% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายในตอนแรก ซึ่งหมายความว่าบริษัทอาจสามารถระดมทุนได้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Meliuz ยื่นขอเสนอขายหุ้นเพื่อระดมทุนสำหรับการซื้อ Bitcoin - กำหนดราคาหุ้นในวันที่ 12 มิถุนายน 2025 - การเสนอขายหุ้นครั้งนี้อาจขยายขนาดได้ถึง 200% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายในตอนแรก - มูลค่าการเสนอขายหุ้นเริ่มต้นอยู่ที่ 150 ล้านเรียลบราซิล (ประมาณ 26.45 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) - อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุดอยู่ที่ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 5.6704 เรียลบราซิล ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การลงทุนใน Bitcoin มีความผันผวนสูง และอาจส่งผลต่อมูลค่าของหุ้น Meliuz - ต้องติดตามว่าการเสนอขายหุ้นจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากน้อยเพียงใด - ตลาดคริปโตยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบในหลายประเทศ - Meliuz อาจต้องเผชิญกับความท้าทายในการบริหารสินทรัพย์ดิจิทัล การที่ Meliuz หันมาลงทุนใน Bitcoin อาจเป็นสัญญาณว่า บริษัทฟินเทคในละตินอเมริกากำลังให้ความสนใจสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น อย่างไรก็ตาม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/30/brazil039s-meliuz-launches-share-offering-for-bitcoin-purchase
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Brazil's Meliuz launches share offering for bitcoin purchase
    SAO PAULO (Reuters) - Brazilian fintech Meliuz said it has filed for a primary offering of shares with the aim of raising funds for the acquisition of bitcoin, with pricing scheduled for June 12.
    0 Comments 0 Shares 13 Views 0 Reviews
  • 🔍 อนาคตของการค้นหาข้อมูลท่ามกลางการเติบโตของ AI
    ผู้พิพากษา Amit Mehta ตั้งคำถามต่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ว่า AI จะส่งผลต่อการแข่งขันในตลาดการค้นหาข้อมูลอย่างไร ในขณะที่คดีต่อต้านการผูกขาดของ Google กำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้าย

    Mehta กำลังพิจารณาว่า AI ควรถือเป็นเทคโนโลยีที่แข่งขันกับการค้นหาข้อมูล หรือเป็นเพียงเครื่องมือที่ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น โดย DOJ ต้องการให้ Google หยุดการจ่ายเงินหลายพันล้านดอลลาร์ให้ Apple และบริษัทอื่น ๆ เพื่อเป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น

    นอกจากนี้ DOJ ยังเสนอให้ Google ขาย Chrome และแบ่งปันข้อมูลการค้นหา เพื่อเปิดโอกาสให้คู่แข่งสามารถแข่งขันได้อย่างเป็นธรรม

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - ผู้พิพากษา Mehta ตั้งคำถามว่า AI จะส่งผลต่อการแข่งขันในตลาดการค้นหาข้อมูลอย่างไร
    - DOJ ต้องการให้ Google หยุดจ่ายเงินให้ Apple และบริษัทอื่น ๆ เพื่อเป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น
    - Google ได้ยกเลิกข้อตกลงพิเศษกับ Samsung และผู้ให้บริการเครือข่าย เพื่อให้สามารถติดตั้งแอปค้นหาของคู่แข่งได้
    - DOJ เสนอให้ Google ขาย Chrome และแบ่งปันข้อมูลการค้นหา เพื่อเปิดโอกาสให้คู่แข่งแข่งขันได้
    - OpenAI สนใจซื้อ Chrome หาก Google ถูกบังคับให้ขาย

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การบังคับให้ Google แบ่งปันข้อมูลการค้นหาอาจส่งผลต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้
    - AI อาจไม่สามารถแทนที่เครื่องมือค้นหาแบบดั้งเดิมได้ทั้งหมด
    - Google อาจใช้ข้อได้เปรียบจากการผูกขาดการค้นหาเพื่อพัฒนา AI ของตนเอง เช่น Gemini
    - ต้องติดตามว่าผู้พิพากษาจะตัดสินอย่างไรในเดือนสิงหาคม

    คดีนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับตลาดการค้นหาข้อมูล หาก DOJ ประสบความสำเร็จ Google อาจต้องปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ และเปิดโอกาสให้บริษัท AI เช่น OpenAI และ Perplexity เข้ามาแข่งขัน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/30/google-and-doj-to-make-final-push-in-us-search-antitrust-case
    🔍 อนาคตของการค้นหาข้อมูลท่ามกลางการเติบโตของ AI ผู้พิพากษา Amit Mehta ตั้งคำถามต่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ว่า AI จะส่งผลต่อการแข่งขันในตลาดการค้นหาข้อมูลอย่างไร ในขณะที่คดีต่อต้านการผูกขาดของ Google กำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้าย Mehta กำลังพิจารณาว่า AI ควรถือเป็นเทคโนโลยีที่แข่งขันกับการค้นหาข้อมูล หรือเป็นเพียงเครื่องมือที่ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น โดย DOJ ต้องการให้ Google หยุดการจ่ายเงินหลายพันล้านดอลลาร์ให้ Apple และบริษัทอื่น ๆ เพื่อเป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น นอกจากนี้ DOJ ยังเสนอให้ Google ขาย Chrome และแบ่งปันข้อมูลการค้นหา เพื่อเปิดโอกาสให้คู่แข่งสามารถแข่งขันได้อย่างเป็นธรรม ✅ ข้อมูลจากข่าว - ผู้พิพากษา Mehta ตั้งคำถามว่า AI จะส่งผลต่อการแข่งขันในตลาดการค้นหาข้อมูลอย่างไร - DOJ ต้องการให้ Google หยุดจ่ายเงินให้ Apple และบริษัทอื่น ๆ เพื่อเป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น - Google ได้ยกเลิกข้อตกลงพิเศษกับ Samsung และผู้ให้บริการเครือข่าย เพื่อให้สามารถติดตั้งแอปค้นหาของคู่แข่งได้ - DOJ เสนอให้ Google ขาย Chrome และแบ่งปันข้อมูลการค้นหา เพื่อเปิดโอกาสให้คู่แข่งแข่งขันได้ - OpenAI สนใจซื้อ Chrome หาก Google ถูกบังคับให้ขาย ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การบังคับให้ Google แบ่งปันข้อมูลการค้นหาอาจส่งผลต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ - AI อาจไม่สามารถแทนที่เครื่องมือค้นหาแบบดั้งเดิมได้ทั้งหมด - Google อาจใช้ข้อได้เปรียบจากการผูกขาดการค้นหาเพื่อพัฒนา AI ของตนเอง เช่น Gemini - ต้องติดตามว่าผู้พิพากษาจะตัดสินอย่างไรในเดือนสิงหาคม คดีนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับตลาดการค้นหาข้อมูล หาก DOJ ประสบความสำเร็จ Google อาจต้องปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ และเปิดโอกาสให้บริษัท AI เช่น OpenAI และ Perplexity เข้ามาแข่งขัน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/30/google-and-doj-to-make-final-push-in-us-search-antitrust-case
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Judge in Google case questions future of search amid rise of AI
    WASHINGTON (Reuters) -A judge asked the U.S. Department of Justice on Friday how much room there would be for new search engines to emerge given the rise of artificial intelligence, as antitrust enforcers press for Alphabet's Google to take dramatic measures to restore competition in online search.
    0 Comments 0 Shares 17 Views 0 Reviews
  • "ยูเครนจะไม่ได้เข้าร่วมนาโต"

    คีธ เคลล็อก ผู้แทนของทรัมป์กล่าวยืนยันผ่านทาง ABC News อีกครั้ง

    เขายังกล่าวอีกว่าความกังวลของรัสเซียเกี่ยวกับการขยายตัวของนาโตไปทางยุโรปตะวันออก (เข้าใกล้รัสเซีย) นั้นสมเหตุสมผล และสหรัฐฯ ก็เต็มใจที่จะหารือกับปูตินเกี่ยวกับข้อเรียกร้องของเขาที่จะไม่ขยายนาโตไปทางตะวันออก

    เราอาจหยุดการขยายตัวของนาโต้ใกล้ชายแดนรัสเซียเพื่อแก้ไขข้อกังวลด้านความปลอดภัย เราเสนอทางเลือก ส่วนขั้นตอนการตัดสินใจจะเป็นของประธานาธิบดี

    "สำหรับเรา การเข้าร่วมนาโต้ของยูเครนยังไม่ต้องหารือ เราไม่ใช่ประเทศเดียวที่คิดเช่นนั้น ผมสามารถระบุชื่อประเทศในนาโต้อย่างน้อย 4 ประเทศที่พร้อมโต้แย้ง ซึ่งการจะเข้าร่วม ต้องได้รับการยินยอมจากประเทศสมาชิกนาโต้ทั้ง 32 ประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับใครบางคนที่จะเข้าร่วม"

    "ไม่เพียงแต่ยูเครนเท่านั้นในประเด็นที่รัสเซียกำลังหยิบยกขึ้นมา แต่ยังรวมถึงจอร์เจียและมอลโดวาด้วย ซึ่งพวกเรากำลังพูดว่า: "โอเค งั้นมาจัดการเรื่องนี้ให้มันครอบคลุมไปทีเดียวเหอะ" ผู้แทนพิเศษกล่าวเสริม
    "ยูเครนจะไม่ได้เข้าร่วมนาโต" คีธ เคลล็อก ผู้แทนของทรัมป์กล่าวยืนยันผ่านทาง ABC News อีกครั้ง เขายังกล่าวอีกว่าความกังวลของรัสเซียเกี่ยวกับการขยายตัวของนาโตไปทางยุโรปตะวันออก (เข้าใกล้รัสเซีย) นั้นสมเหตุสมผล และสหรัฐฯ ก็เต็มใจที่จะหารือกับปูตินเกี่ยวกับข้อเรียกร้องของเขาที่จะไม่ขยายนาโตไปทางตะวันออก เราอาจหยุดการขยายตัวของนาโต้ใกล้ชายแดนรัสเซียเพื่อแก้ไขข้อกังวลด้านความปลอดภัย เราเสนอทางเลือก ส่วนขั้นตอนการตัดสินใจจะเป็นของประธานาธิบดี "สำหรับเรา การเข้าร่วมนาโต้ของยูเครนยังไม่ต้องหารือ เราไม่ใช่ประเทศเดียวที่คิดเช่นนั้น ผมสามารถระบุชื่อประเทศในนาโต้อย่างน้อย 4 ประเทศที่พร้อมโต้แย้ง ซึ่งการจะเข้าร่วม ต้องได้รับการยินยอมจากประเทศสมาชิกนาโต้ทั้ง 32 ประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับใครบางคนที่จะเข้าร่วม" "ไม่เพียงแต่ยูเครนเท่านั้นในประเด็นที่รัสเซียกำลังหยิบยกขึ้นมา แต่ยังรวมถึงจอร์เจียและมอลโดวาด้วย ซึ่งพวกเรากำลังพูดว่า: "โอเค งั้นมาจัดการเรื่องนี้ให้มันครอบคลุมไปทีเดียวเหอะ" ผู้แทนพิเศษกล่าวเสริม
    0 Comments 0 Shares 139 Views 18 0 Reviews
  • กองทัพรัสเซียเป็นตัวแทนรับมอบเงินรางวัล 15 ล้านรูเบิล จากบริษัท FORES (ФОРЭС) ที่ประกาศไว้สำหรับเครื่องบิน F-16 ลำแรกที่ถูกยิงตก

    จากรายงานของ TASS สำนักข่าวของรัสเซีย ระบุว่า ทหารรัสเซียจำนวน 12 นาย ซึ่งเป็นหน่วยที่สามารถทำลายเครื่องบินรบ F-16 ของสหรัฐฯ ลำแรกในเขตปฏิบัติการพิเศษจะเป็นผู้ได้รับรางวัล 15 ล้านรูเบิลนี้

    รายงานยังระบุอีกว่า พิธีมอบรางวัลจัดขึ้นเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2025 ที่บริเวณแนวหน้าในเขตปฏิบัติการพิเศษทางทหาร โดยมีผู้บัญชาการเข้าร่วมเป็นสักขีพยานด้วย

    .
    👉เมื่อเดือนสิงหาคม 2024 กองทัพอากาศยูเครนประกาศยืนยันการเสียชีวิตของนักบิน F-16 "อเล็กซี่ เมส" (Alexey Mes / Алексея Меся) ในภูมิภาคซาโปริซเซีย(Zaporozhye) โดยมีการกล่าวไว้อาลัยบนเฟสบุ้คของกองบัญชาการทางอากาศว่า "อเล็กซี่ ต่อสู้ครั้งสุดท้ายของเขาบนท้องฟ้าอย่างกล้าหาญ เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม เขาได้ทำลายขีปนาวุธร่อน 3 ลูก และ UAV โจมตี 1 ลูก" แหล่งข่าวระบุว่าเหตุการณ์ในครั้งนั้นอาจจะเกิดจากการยิงกันเองโดยระบบป้องกันภัยทางอากาศ

    👉 เป็นที่ทราบว่ายูเครนได้รับเครื่องบินขับไล่ F-16 ชุดแรกในเดือนสิงหาคม 2024 และสูญเสียเครื่องแรกในช่วงปลายเดือนเดียวกันระหว่างการโจมตีครั้งใหญ่ของรัสเซีย นักบินผู้เสียชีวิตในครั้งนั้นคือ Oleksii Mes ("Moonfish")

    👉เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม 2024 FORES (ФОРЭС) บริษัทผู้ผลิตสารเคมี ceramic proppant สัญชาติรัสเซีย ประกาศจ่ายเงินโบนัส 15 ล้านรูเบิล (ราว 6.9 ล้านบาท) หรือ 168,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับเครื่องบินขับไล่ F-16 ลำแรกที่ถูกยิงตกในยูเครน - Sergey Shmotyev ผู้อำนวยการทั่วไปของบริษัท กล่าว

    👉ไม่เพียงเท่านี้ ฝนช่วงเวลาเดียวกัน มีรายงานว่ารัฐบาลรัสเซียจัดเตรียมเงินรางวัลเงินสด "1 ล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมกับได้รับสัญชาติรัสเซีย" สำหรับนักบิน F-16 ชาวยูเครน ที่ยอมขับไปมอบให้กับรัสเซีย

    👉รางวัลอาจเพิ่มเกินกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หากเครื่องบิน F-16 ที่ขับไปมอบให้รัสเซีย มีการติดตั้งระบบอาวุธครบชุด เช่น ขีปนาวุธนำวิถีและระเบิด

    👉 สำหรับ FORES (ФОРЭС) เมื่อปี 2023 บริษัทเคยประกาศรางวัลเงินสดสำหรับการทำลายรถถัง Abrams หรือรถถัง Leopard ที่จัดหาโดยชาติตะวันตก และมีการจ่ายเงินรางวัลไปแล้วหลายครั้ง "Fores จะจ่ายเงิน 5 ล้านรูเบิล (ราว 2.3 ล้านบาท) สำหรับคนแรกที่ทำลายได้ ส่วนการจ่ายรางวัลถัดๆ ไป จะอยู่ที่ 500,000 รูเบิล (ราว 230,000 บาท)" Shmotyev อำนวยการทั่วไปของ Fores กล่าวเมื่อครั้งประกาศให้เงินรางวัลแก่ผู้ทำลายรถถังตะวันตก

    👉จากข้อมูลบนเว็บไซต์ บริษัท Fores ก่อตั้งขึ้นในปี 2000 ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายโพรเพนต์ ที่ทางบริษัทน้ำมันและก๊าซทั้งหลายใช้สำหรับ fracking (การใช้พลังน้ำแรงดันสูงผสมสารเคมีและทรายฉีดลงไปในชั้นหินดินดาน เพื่อกระเทาะชั้นหิน) ทั้งนี้ สำนักงานของบริษัทตั้งอยู่ในเมืองยากาเตรินบุร์ก ประเทศรัสเซีย
    กองทัพรัสเซียเป็นตัวแทนรับมอบเงินรางวัล 15 ล้านรูเบิล จากบริษัท FORES (ФОРЭС) ที่ประกาศไว้สำหรับเครื่องบิน F-16 ลำแรกที่ถูกยิงตก จากรายงานของ TASS สำนักข่าวของรัสเซีย ระบุว่า ทหารรัสเซียจำนวน 12 นาย ซึ่งเป็นหน่วยที่สามารถทำลายเครื่องบินรบ F-16 ของสหรัฐฯ ลำแรกในเขตปฏิบัติการพิเศษจะเป็นผู้ได้รับรางวัล 15 ล้านรูเบิลนี้ รายงานยังระบุอีกว่า พิธีมอบรางวัลจัดขึ้นเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2025 ที่บริเวณแนวหน้าในเขตปฏิบัติการพิเศษทางทหาร โดยมีผู้บัญชาการเข้าร่วมเป็นสักขีพยานด้วย . 👉เมื่อเดือนสิงหาคม 2024 กองทัพอากาศยูเครนประกาศยืนยันการเสียชีวิตของนักบิน F-16 "อเล็กซี่ เมส" (Alexey Mes / Алексея Меся) ในภูมิภาคซาโปริซเซีย(Zaporozhye) โดยมีการกล่าวไว้อาลัยบนเฟสบุ้คของกองบัญชาการทางอากาศว่า "อเล็กซี่ ต่อสู้ครั้งสุดท้ายของเขาบนท้องฟ้าอย่างกล้าหาญ เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม เขาได้ทำลายขีปนาวุธร่อน 3 ลูก และ UAV โจมตี 1 ลูก" แหล่งข่าวระบุว่าเหตุการณ์ในครั้งนั้นอาจจะเกิดจากการยิงกันเองโดยระบบป้องกันภัยทางอากาศ 👉 เป็นที่ทราบว่ายูเครนได้รับเครื่องบินขับไล่ F-16 ชุดแรกในเดือนสิงหาคม 2024 และสูญเสียเครื่องแรกในช่วงปลายเดือนเดียวกันระหว่างการโจมตีครั้งใหญ่ของรัสเซีย นักบินผู้เสียชีวิตในครั้งนั้นคือ Oleksii Mes ("Moonfish") 👉เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม 2024 FORES (ФОРЭС) บริษัทผู้ผลิตสารเคมี ceramic proppant สัญชาติรัสเซีย ประกาศจ่ายเงินโบนัส 15 ล้านรูเบิล (ราว 6.9 ล้านบาท) หรือ 168,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับเครื่องบินขับไล่ F-16 ลำแรกที่ถูกยิงตกในยูเครน - Sergey Shmotyev ผู้อำนวยการทั่วไปของบริษัท กล่าว 👉ไม่เพียงเท่านี้ ฝนช่วงเวลาเดียวกัน มีรายงานว่ารัฐบาลรัสเซียจัดเตรียมเงินรางวัลเงินสด "1 ล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมกับได้รับสัญชาติรัสเซีย" สำหรับนักบิน F-16 ชาวยูเครน ที่ยอมขับไปมอบให้กับรัสเซีย 👉รางวัลอาจเพิ่มเกินกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หากเครื่องบิน F-16 ที่ขับไปมอบให้รัสเซีย มีการติดตั้งระบบอาวุธครบชุด เช่น ขีปนาวุธนำวิถีและระเบิด 👉 สำหรับ FORES (ФОРЭС) เมื่อปี 2023 บริษัทเคยประกาศรางวัลเงินสดสำหรับการทำลายรถถัง Abrams หรือรถถัง Leopard ที่จัดหาโดยชาติตะวันตก และมีการจ่ายเงินรางวัลไปแล้วหลายครั้ง "Fores จะจ่ายเงิน 5 ล้านรูเบิล (ราว 2.3 ล้านบาท) สำหรับคนแรกที่ทำลายได้ ส่วนการจ่ายรางวัลถัดๆ ไป จะอยู่ที่ 500,000 รูเบิล (ราว 230,000 บาท)" Shmotyev อำนวยการทั่วไปของ Fores กล่าวเมื่อครั้งประกาศให้เงินรางวัลแก่ผู้ทำลายรถถังตะวันตก 👉จากข้อมูลบนเว็บไซต์ บริษัท Fores ก่อตั้งขึ้นในปี 2000 ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายโพรเพนต์ ที่ทางบริษัทน้ำมันและก๊าซทั้งหลายใช้สำหรับ fracking (การใช้พลังน้ำแรงดันสูงผสมสารเคมีและทรายฉีดลงไปในชั้นหินดินดาน เพื่อกระเทาะชั้นหิน) ทั้งนี้ สำนักงานของบริษัทตั้งอยู่ในเมืองยากาเตรินบุร์ก ประเทศรัสเซีย
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 142 Views 0 Reviews
  • 🎮 GPU รุ่นใหม่ของจีน: ก้าวสำคัญสู่ความเป็นอิสระทางเทคโนโลยี
    Lisuan Technology บริษัทสตาร์ทอัพด้านกราฟิกการ์ดของจีน ประกาศว่า G100 GPU ซึ่งเป็น กราฟิกการ์ด 6nm ตัวแรกที่ผลิตในประเทศ ได้เปิดใช้งานสำเร็จ ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศ

    🔍 เรื่องน่าสนใจที่เสริมเพิ่มเติม
    Lisuan Technology ก่อตั้งขึ้นในปี 2021 โดยมีทีมงานที่มีประสบการณ์กว่า 25 ปีใน Silicon Valley และได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก Dongxin Semiconductor ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถพัฒนา G100 ต่อไปได้แม้จะเผชิญกับปัญหาทางการเงิน

    G100 ใช้ TrueGPU architecture ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่พัฒนาเอง แตกต่างจากบริษัทจีนอื่น ๆ ที่มักใช้ IP จาก Imagination Technologies นอกจากนี้ ยังมีข่าวลือว่า G100 อาจมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ GeForce RTX 4060

    📌 สรุปข้อมูลหลักและคำเตือน
    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - G100 เป็นกราฟิกการ์ด 6nm ตัวแรกที่ผลิตในจีน
    - Lisuan Technology ก่อตั้งขึ้นในปี 2021 โดยมีทีมงานที่มีประสบการณ์กว่า 25 ปีใน Silicon Valley
    - G100 ใช้ TrueGPU architecture ซึ่งพัฒนาเองโดยไม่ใช้ IP จากบริษัทอื่น
    - Dongxin Semiconductor สนับสนุนเงินทุน 27.7 ล้านเหรียญ เพื่อช่วยให้บริษัทดำเนินการต่อไป
    - G100 อาจมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ GeForce RTX 4060

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - จีนไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี 6nm จาก Samsung หรือ TSMC เนื่องจากข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ
    - G100 อาจผลิตโดย SMIC ซึ่งมีข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี เมื่อเทียบกับโรงงานผลิตชิประดับโลก
    - ยังไม่มีข้อมูลทางเทคนิคที่ชัดเจนเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ G100
    - การพัฒนาไดรเวอร์และซอฟต์แวร์เป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะกำหนดความสามารถของ G100 ในตลาด

    🚀 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม GPU
    การเปิดตัว G100 แสดงให้เห็นถึงความพยายามของจีนในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ความท้าทายด้านการผลิตและซอฟต์แวร์ ยังเป็นอุปสรรคสำคัญที่ต้องแก้ไขก่อนที่ G100 จะสามารถแข่งขันกับแบรนด์ระดับโลกได้

    จีนกำลังเดินหน้าสู่ความเป็นอิสระทางเทคโนโลยี แต่ต้องจับตาดูว่า G100 จะสามารถสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรม GPU ได้หรือไม่

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/chinas-first-6nm-domestic-gpu-with-purported-rtx-4060-like-performance-has-powered-on
    🎮 GPU รุ่นใหม่ของจีน: ก้าวสำคัญสู่ความเป็นอิสระทางเทคโนโลยี Lisuan Technology บริษัทสตาร์ทอัพด้านกราฟิกการ์ดของจีน ประกาศว่า G100 GPU ซึ่งเป็น กราฟิกการ์ด 6nm ตัวแรกที่ผลิตในประเทศ ได้เปิดใช้งานสำเร็จ ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศ 🔍 เรื่องน่าสนใจที่เสริมเพิ่มเติม Lisuan Technology ก่อตั้งขึ้นในปี 2021 โดยมีทีมงานที่มีประสบการณ์กว่า 25 ปีใน Silicon Valley และได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก Dongxin Semiconductor ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถพัฒนา G100 ต่อไปได้แม้จะเผชิญกับปัญหาทางการเงิน G100 ใช้ TrueGPU architecture ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่พัฒนาเอง แตกต่างจากบริษัทจีนอื่น ๆ ที่มักใช้ IP จาก Imagination Technologies นอกจากนี้ ยังมีข่าวลือว่า G100 อาจมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ GeForce RTX 4060 📌 สรุปข้อมูลหลักและคำเตือน ✅ ข้อมูลจากข่าว - G100 เป็นกราฟิกการ์ด 6nm ตัวแรกที่ผลิตในจีน - Lisuan Technology ก่อตั้งขึ้นในปี 2021 โดยมีทีมงานที่มีประสบการณ์กว่า 25 ปีใน Silicon Valley - G100 ใช้ TrueGPU architecture ซึ่งพัฒนาเองโดยไม่ใช้ IP จากบริษัทอื่น - Dongxin Semiconductor สนับสนุนเงินทุน 27.7 ล้านเหรียญ เพื่อช่วยให้บริษัทดำเนินการต่อไป - G100 อาจมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ GeForce RTX 4060 ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - จีนไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี 6nm จาก Samsung หรือ TSMC เนื่องจากข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ - G100 อาจผลิตโดย SMIC ซึ่งมีข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี เมื่อเทียบกับโรงงานผลิตชิประดับโลก - ยังไม่มีข้อมูลทางเทคนิคที่ชัดเจนเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ G100 - การพัฒนาไดรเวอร์และซอฟต์แวร์เป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะกำหนดความสามารถของ G100 ในตลาด 🚀 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม GPU การเปิดตัว G100 แสดงให้เห็นถึงความพยายามของจีนในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ความท้าทายด้านการผลิตและซอฟต์แวร์ ยังเป็นอุปสรรคสำคัญที่ต้องแก้ไขก่อนที่ G100 จะสามารถแข่งขันกับแบรนด์ระดับโลกได้ จีนกำลังเดินหน้าสู่ความเป็นอิสระทางเทคโนโลยี แต่ต้องจับตาดูว่า G100 จะสามารถสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรม GPU ได้หรือไม่ https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/chinas-first-6nm-domestic-gpu-with-purported-rtx-4060-like-performance-has-powered-on
    0 Comments 0 Shares 106 Views 0 Reviews
  • 🌍 จีนปรับนโยบายส่งออกแร่หายากเพื่อช่วยอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    รัฐบาลจีนได้ตัดสินใจ ผ่อนปรนข้อจำกัดการส่งออกแร่หายาก เพื่อช่วยเหลือบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ในจีนและยุโรป หลังจากที่มาตรการเดิมทำให้กระบวนการอนุมัติใช้เวลานานและส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน

    แร่หายากเป็น วัตถุดิบสำคัญในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์, รถยนต์ไฟฟ้า และอุปกรณ์ทางทหาร โดยจีนเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของโลก การปรับนโยบายครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการประชุมระหว่าง เจ้าหน้าที่จีนและสมาชิกหอการค้ายุโรป ซึ่งแสดงความกังวลว่าหากไม่มีการเปลี่ยนแปลง สายการผลิตในยุโรปอาจต้องหยุดชะงัก

    อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ, ไต้หวัน และเกาหลีใต้ไม่ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนี้ เนื่องจากจีนยังคงจำกัดการส่งออกไปยังประเทศเหล่านี้

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - จีนผ่อนปรนข้อจำกัดการส่งออกแร่หายาก เพื่อช่วยเหลือบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ในจีนและยุโรป
    - มาตรการเดิมทำให้กระบวนการอนุมัติใช้เวลานาน และส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน
    - การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นหลังจากการประชุมกับหอการค้ายุโรป ซึ่งแสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    - สหรัฐฯ, ไต้หวัน และเกาหลีใต้ไม่ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนี้

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ยังไม่มีข้อมูลว่าจีนจะได้รับผลตอบแทนอะไรจากยุโรป ในการผ่อนปรนนโยบายนี้
    - การเปลี่ยนแปลงนโยบายอาจทำให้เกิดความสับสนในกระบวนการศุลกากร และต้องใช้เวลาปรับตัว
    - สหรัฐฯ และจีนยังคงอยู่ในสงครามการค้า ซึ่งอาจส่งผลต่อการส่งออกแร่หายากในอนาคต
    - บริษัทที่ต้องการนำเข้าแร่หายากยังต้องผ่านกระบวนการอนุมัติที่ซับซ้อน แม้ว่าจะมีการผ่อนปรนแล้ว

    🔎 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    การปรับนโยบายของจีนอาจช่วยให้ บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ในยุโรปสามารถดำเนินการต่อไปได้ โดยไม่ต้องเผชิญกับปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ และพันธมิตรยังคงได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดการส่งออก ซึ่งอาจทำให้ต้องหาทางเลือกอื่นในการจัดหาวัตถุดิบที่จำเป็นสำหรับการผลิตชิป

    จีนกำลังปรับกลยุทธ์เพื่อรักษาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับยุโรป ในขณะที่ยังคงควบคุมการส่งออกไปยังประเทศที่เป็นคู่แข่งทางเทคโนโลยี
    🌍 จีนปรับนโยบายส่งออกแร่หายากเพื่อช่วยอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ รัฐบาลจีนได้ตัดสินใจ ผ่อนปรนข้อจำกัดการส่งออกแร่หายาก เพื่อช่วยเหลือบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ในจีนและยุโรป หลังจากที่มาตรการเดิมทำให้กระบวนการอนุมัติใช้เวลานานและส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน แร่หายากเป็น วัตถุดิบสำคัญในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์, รถยนต์ไฟฟ้า และอุปกรณ์ทางทหาร โดยจีนเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของโลก การปรับนโยบายครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการประชุมระหว่าง เจ้าหน้าที่จีนและสมาชิกหอการค้ายุโรป ซึ่งแสดงความกังวลว่าหากไม่มีการเปลี่ยนแปลง สายการผลิตในยุโรปอาจต้องหยุดชะงัก อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ, ไต้หวัน และเกาหลีใต้ไม่ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนี้ เนื่องจากจีนยังคงจำกัดการส่งออกไปยังประเทศเหล่านี้ ✅ ข้อมูลจากข่าว - จีนผ่อนปรนข้อจำกัดการส่งออกแร่หายาก เพื่อช่วยเหลือบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ในจีนและยุโรป - มาตรการเดิมทำให้กระบวนการอนุมัติใช้เวลานาน และส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน - การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นหลังจากการประชุมกับหอการค้ายุโรป ซึ่งแสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่ออุตสาหกรรม - สหรัฐฯ, ไต้หวัน และเกาหลีใต้ไม่ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนี้ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ยังไม่มีข้อมูลว่าจีนจะได้รับผลตอบแทนอะไรจากยุโรป ในการผ่อนปรนนโยบายนี้ - การเปลี่ยนแปลงนโยบายอาจทำให้เกิดความสับสนในกระบวนการศุลกากร และต้องใช้เวลาปรับตัว - สหรัฐฯ และจีนยังคงอยู่ในสงครามการค้า ซึ่งอาจส่งผลต่อการส่งออกแร่หายากในอนาคต - บริษัทที่ต้องการนำเข้าแร่หายากยังต้องผ่านกระบวนการอนุมัติที่ซับซ้อน แม้ว่าจะมีการผ่อนปรนแล้ว 🔎 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ การปรับนโยบายของจีนอาจช่วยให้ บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ในยุโรปสามารถดำเนินการต่อไปได้ โดยไม่ต้องเผชิญกับปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ และพันธมิตรยังคงได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดการส่งออก ซึ่งอาจทำให้ต้องหาทางเลือกอื่นในการจัดหาวัตถุดิบที่จำเป็นสำหรับการผลิตชิป จีนกำลังปรับกลยุทธ์เพื่อรักษาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับยุโรป ในขณะที่ยังคงควบคุมการส่งออกไปยังประเทศที่เป็นคู่แข่งทางเทคโนโลยี
    0 Comments 0 Shares 86 Views 0 Reviews
  • 🕵️‍♂️ แผนลับของเกาหลีเหนือ: แทรกซึมงานไอทีในสหรัฐฯ
    การสืบสวนล่าสุดเผยว่า เกาหลีเหนือใช้กลยุทธ์แทรกซึมงานไอทีในสหรัฐฯ ผ่าน TikTok influencer ชาวมินนิโซตา โดยอาศัยช่องโหว่ของ การทำงานระยะไกล เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของตนสามารถเข้าถึงระบบของบริษัทอเมริกัน

    แผนนี้เกี่ยวข้องกับ Christina Chapman ผู้ใช้ TikTok ที่มีผู้ติดตามกว่า 100,000 คน ซึ่งไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือ โดยเธอได้รับข้อเสนอผ่าน LinkedIn ให้เป็นตัวแทนของบริษัทที่จัดหางานไอทีจากต่างประเทศ

    Chapman ทำหน้าที่ รับและตั้งค่าคอมพิวเตอร์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือสามารถเข้าถึงระบบของบริษัทอเมริกันได้จากระยะไกล นอกจากนี้ เธอยังช่วยจัดการเอกสารภาษีปลอมและส่งเงินเดือนให้กับบุคคลเหล่านี้

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - เกาหลีเหนือใช้แผนแทรกซึมงานไอทีในสหรัฐฯ ผ่าน TikTok influencer
    - Christina Chapman ไม่รู้ตัวว่ากำลังช่วยเหลือเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือ
    - เธอรับและตั้งค่าคอมพิวเตอร์ให้เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือเข้าถึงระบบบริษัทอเมริกัน
    - แผนนี้เกี่ยวข้องกับกว่า 300 บริษัท และสร้างรายได้ให้เกาหลีเหนือกว่า 17.1 ล้านเหรียญ
    - FBI ระบุว่าแผนลักษณะนี้สร้างรายได้ให้เกาหลีเหนือหลายร้อยล้านเหรียญต่อปี

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - บริษัทอเมริกันอาจส่งอุปกรณ์และเงินให้กับเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือโดยไม่รู้ตัว
    - แฮกเกอร์ใช้ซอฟต์แวร์พิเศษเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับและขโมยข้อมูล
    - มีการใช้ AI เพื่อเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือในการสัมภาษณ์งานออนไลน์
    - บุคคลที่ถูกใช้เป็นตัวแทนอาจต้องรับผิดทางกฎหมาย แม้จะไม่รู้ตัวว่ากำลังช่วยเหลือแผนนี้

    🌍 ผลกระทบต่อความมั่นคงไซเบอร์
    แผนนี้แสดงให้เห็นถึง ความสามารถของเกาหลีเหนือในการใช้เทคโนโลยีเพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร และสร้างรายได้ให้กับรัฐบาล นอกจากนี้ ยังเป็นเครื่องเตือนใจให้บริษัทต่าง ๆ เพิ่มมาตรการตรวจสอบความปลอดภัยของพนักงานระยะไกล เพื่อป้องกันการแทรกซึมจากต่างชาติ

    https://www.techspot.com/news/108104-how-north-korea-infiltrated-remote-us-jobs-through.html
    🕵️‍♂️ แผนลับของเกาหลีเหนือ: แทรกซึมงานไอทีในสหรัฐฯ การสืบสวนล่าสุดเผยว่า เกาหลีเหนือใช้กลยุทธ์แทรกซึมงานไอทีในสหรัฐฯ ผ่าน TikTok influencer ชาวมินนิโซตา โดยอาศัยช่องโหว่ของ การทำงานระยะไกล เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของตนสามารถเข้าถึงระบบของบริษัทอเมริกัน แผนนี้เกี่ยวข้องกับ Christina Chapman ผู้ใช้ TikTok ที่มีผู้ติดตามกว่า 100,000 คน ซึ่งไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือ โดยเธอได้รับข้อเสนอผ่าน LinkedIn ให้เป็นตัวแทนของบริษัทที่จัดหางานไอทีจากต่างประเทศ Chapman ทำหน้าที่ รับและตั้งค่าคอมพิวเตอร์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือสามารถเข้าถึงระบบของบริษัทอเมริกันได้จากระยะไกล นอกจากนี้ เธอยังช่วยจัดการเอกสารภาษีปลอมและส่งเงินเดือนให้กับบุคคลเหล่านี้ ✅ ข้อมูลจากข่าว - เกาหลีเหนือใช้แผนแทรกซึมงานไอทีในสหรัฐฯ ผ่าน TikTok influencer - Christina Chapman ไม่รู้ตัวว่ากำลังช่วยเหลือเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือ - เธอรับและตั้งค่าคอมพิวเตอร์ให้เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือเข้าถึงระบบบริษัทอเมริกัน - แผนนี้เกี่ยวข้องกับกว่า 300 บริษัท และสร้างรายได้ให้เกาหลีเหนือกว่า 17.1 ล้านเหรียญ - FBI ระบุว่าแผนลักษณะนี้สร้างรายได้ให้เกาหลีเหนือหลายร้อยล้านเหรียญต่อปี ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - บริษัทอเมริกันอาจส่งอุปกรณ์และเงินให้กับเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือโดยไม่รู้ตัว - แฮกเกอร์ใช้ซอฟต์แวร์พิเศษเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับและขโมยข้อมูล - มีการใช้ AI เพื่อเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือในการสัมภาษณ์งานออนไลน์ - บุคคลที่ถูกใช้เป็นตัวแทนอาจต้องรับผิดทางกฎหมาย แม้จะไม่รู้ตัวว่ากำลังช่วยเหลือแผนนี้ 🌍 ผลกระทบต่อความมั่นคงไซเบอร์ แผนนี้แสดงให้เห็นถึง ความสามารถของเกาหลีเหนือในการใช้เทคโนโลยีเพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร และสร้างรายได้ให้กับรัฐบาล นอกจากนี้ ยังเป็นเครื่องเตือนใจให้บริษัทต่าง ๆ เพิ่มมาตรการตรวจสอบความปลอดภัยของพนักงานระยะไกล เพื่อป้องกันการแทรกซึมจากต่างชาติ https://www.techspot.com/news/108104-how-north-korea-infiltrated-remote-us-jobs-through.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    How North Korea infiltrated remote US jobs through a TikTok user in Minnesota
    A recent Wall Street Journal investigation highlights the story of Christina Chapman, a Minnesota native and popular TikTok user, showing how ordinary Americans became entangled in a...
    0 Comments 0 Shares 89 Views 0 Reviews
  • 🔥 อิสราเอลใช้เลเซอร์ยิงโดรนในสนามรบเป็นครั้งแรก
    กองทัพอิสราเอลประกาศว่าได้ใช้ ระบบป้องกันด้วยเลเซอร์ ในการยิงโดรนของกลุ่ม Hezbollah เป็นครั้งแรกในสถานการณ์จริง โดยใช้ Lite Beam ซึ่งเป็นต้นแบบของ Iron Beam ที่จะเปิดใช้งานเต็มรูปแบบภายในปี 2025

    ระบบ Iron Beam เป็นเทคโนโลยีป้องกันภัยทางอากาศที่ใช้เลเซอร์แทนขีปนาวุธ ซึ่งช่วยลดต้นทุนต่อการยิงลงเหลือเพียงไม่กี่ดอลลาร์ต่อครั้ง เทียบกับระบบป้องกันแบบเดิมที่มีค่าใช้จ่าย 50,000 - 100,000 ดอลลาร์ต่อการยิงหนึ่งครั้ง

    นอกจากนี้ สหรัฐฯ, สหราชอาณาจักร และเกาหลีใต้ ก็กำลังพัฒนาอาวุธเลเซอร์สำหรับการป้องกันภัยทางอากาศ โดยเฉพาะระบบ DragonFire ของอังกฤษที่สามารถยิงโดรนได้จากระยะ 1 กิโลเมตร ด้วยต้นทุนเพียง 13 ดอลลาร์ต่อครั้ง

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - อิสราเอลใช้เลเซอร์ยิงโดรน Hezbollah เป็นครั้งแรก ในสนามรบจริง
    - Lite Beam เป็นต้นแบบของ Iron Beam ซึ่งจะเปิดใช้งานเต็มรูปแบบในปี 2025
    - Iron Beam ใช้เลเซอร์แทนขีปนาวุธ ลดต้นทุนต่อการยิงลงเหลือไม่กี่ดอลลาร์
    - ระบบสามารถยิงเป้าหมายได้ที่ความเร็วแสง และมี "กระสุน" ไม่จำกัดตราบใดที่มีพลังงาน
    - Iron Beam จะถูกบูรณาการเข้ากับระบบป้องกัน Iron Dome

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ประสิทธิภาพของเลเซอร์ลดลงในสภาพอากาศเลวร้าย เช่น หมอก, ฝนหนัก หรือพายุทราย
    - ระบบยังอยู่ในช่วงต้นของการพัฒนา และต้องรอการทดสอบเพิ่มเติม
    - การใช้เลเซอร์ในสนามรบอาจกระตุ้นให้ประเทศอื่นพัฒนาเทคโนโลยีคล้ายกัน
    - ต้องจับตาดูว่าการใช้เลเซอร์จะส่งผลต่อยุทธศาสตร์การป้องกันภัยทางอากาศในอนาคต

    🌍 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอาวุธ
    การใช้เลเซอร์ในสนามรบจริงเป็นก้าวสำคัญของเทคโนโลยีป้องกันภัยทางอากาศ ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงแนวทางการพัฒนาอาวุธในอนาคต โดยเฉพาะการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการรับมือกับภัยคุกคามทางอากาศ

    https://www.techspot.com/news/108105-first-ever-operational-use-israel-reveals-shot-down.html
    🔥 อิสราเอลใช้เลเซอร์ยิงโดรนในสนามรบเป็นครั้งแรก กองทัพอิสราเอลประกาศว่าได้ใช้ ระบบป้องกันด้วยเลเซอร์ ในการยิงโดรนของกลุ่ม Hezbollah เป็นครั้งแรกในสถานการณ์จริง โดยใช้ Lite Beam ซึ่งเป็นต้นแบบของ Iron Beam ที่จะเปิดใช้งานเต็มรูปแบบภายในปี 2025 ระบบ Iron Beam เป็นเทคโนโลยีป้องกันภัยทางอากาศที่ใช้เลเซอร์แทนขีปนาวุธ ซึ่งช่วยลดต้นทุนต่อการยิงลงเหลือเพียงไม่กี่ดอลลาร์ต่อครั้ง เทียบกับระบบป้องกันแบบเดิมที่มีค่าใช้จ่าย 50,000 - 100,000 ดอลลาร์ต่อการยิงหนึ่งครั้ง นอกจากนี้ สหรัฐฯ, สหราชอาณาจักร และเกาหลีใต้ ก็กำลังพัฒนาอาวุธเลเซอร์สำหรับการป้องกันภัยทางอากาศ โดยเฉพาะระบบ DragonFire ของอังกฤษที่สามารถยิงโดรนได้จากระยะ 1 กิโลเมตร ด้วยต้นทุนเพียง 13 ดอลลาร์ต่อครั้ง ✅ ข้อมูลจากข่าว - อิสราเอลใช้เลเซอร์ยิงโดรน Hezbollah เป็นครั้งแรก ในสนามรบจริง - Lite Beam เป็นต้นแบบของ Iron Beam ซึ่งจะเปิดใช้งานเต็มรูปแบบในปี 2025 - Iron Beam ใช้เลเซอร์แทนขีปนาวุธ ลดต้นทุนต่อการยิงลงเหลือไม่กี่ดอลลาร์ - ระบบสามารถยิงเป้าหมายได้ที่ความเร็วแสง และมี "กระสุน" ไม่จำกัดตราบใดที่มีพลังงาน - Iron Beam จะถูกบูรณาการเข้ากับระบบป้องกัน Iron Dome ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ประสิทธิภาพของเลเซอร์ลดลงในสภาพอากาศเลวร้าย เช่น หมอก, ฝนหนัก หรือพายุทราย - ระบบยังอยู่ในช่วงต้นของการพัฒนา และต้องรอการทดสอบเพิ่มเติม - การใช้เลเซอร์ในสนามรบอาจกระตุ้นให้ประเทศอื่นพัฒนาเทคโนโลยีคล้ายกัน - ต้องจับตาดูว่าการใช้เลเซอร์จะส่งผลต่อยุทธศาสตร์การป้องกันภัยทางอากาศในอนาคต 🌍 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอาวุธ การใช้เลเซอร์ในสนามรบจริงเป็นก้าวสำคัญของเทคโนโลยีป้องกันภัยทางอากาศ ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงแนวทางการพัฒนาอาวุธในอนาคต โดยเฉพาะการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการรับมือกับภัยคุกคามทางอากาศ https://www.techspot.com/news/108105-first-ever-operational-use-israel-reveals-shot-down.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Israel confirms world-first combat use of laser-beam weapon, downs Hezbollah drones
    The 10kW Lite Beam prototype system that was used is a less powerful version of the Iron Beam laser interceptor, which is set to become operational sometime...
    0 Comments 0 Shares 77 Views 0 Reviews
  • 🚨 สหรัฐฯ จำกัดการส่งออกซอฟต์แวร์ออกแบบชิปให้จีน
    รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกคำสั่งให้บริษัทผู้ผลิต Electronic Design Automation (EDA) software เช่น Synopsys, Cadence Design Systems และ Siemens EDA หยุดขายเทคโนโลยีให้กับจีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมการส่งออกที่เข้มงวดขึ้น

    EDA software เป็นเครื่องมือสำคัญในการออกแบบและจำลองชิปเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็นหัวใจของเทคโนโลยี AI และการประมวลผลขั้นสูง การจำกัดการเข้าถึงซอฟต์แวร์นี้อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถของจีนในการพัฒนา ชิปยุคใหม่

    ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้สั่งห้าม Nvidia ขายชิป H20 ให้กับจีน ซึ่งเป็นมาตรการที่ต่อเนื่องจากการควบคุมการส่งออกชิป AI ตั้งแต่ปี 2022

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - สหรัฐฯ สั่งให้ Synopsys, Cadence และ Siemens EDA หยุดขายซอฟต์แวร์ออกแบบชิปให้จีน
    - EDA software มีความสำคัญต่อการพัฒนา AI และเทคโนโลยีขั้นสูง
    - ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ห้าม Nvidia ขายชิป H20 ให้จีน
    - จีนคิดเป็น 16% ของรายได้ Synopsys และ 12% ของรายได้ Cadence
    - หุ้นของ Synopsys และ Cadence ร่วงลงกว่า 9% หลังข่าวนี้เผยแพร่

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การจำกัดการส่งออกอาจกระตุ้นให้จีนเร่งพัฒนาเทคโนโลยีของตนเอง
    - บริษัทสหรัฐฯ อาจสูญเสียรายได้จากตลาดจีน ซึ่งเป็นตลาดเซมิคอนดักเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
    - การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังคงเปราะบาง แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะตกลงหยุดการขึ้นภาษีใหม่เป็นเวลา 90 วัน
    - บริษัทจีน เช่น Empyrean Technology และ Primarius กำลังได้รับแรงหนุนจากมาตรการนี้

    🌍 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    มาตรการของสหรัฐฯ อาจส่งผลให้จีนเร่งพัฒนา EDA software ของตนเอง และลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากตะวันตก ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในระยะยาว

    https://www.techspot.com/news/108102-trump-blocks-china-key-semiconductor-design-software.html
    🚨 สหรัฐฯ จำกัดการส่งออกซอฟต์แวร์ออกแบบชิปให้จีน รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกคำสั่งให้บริษัทผู้ผลิต Electronic Design Automation (EDA) software เช่น Synopsys, Cadence Design Systems และ Siemens EDA หยุดขายเทคโนโลยีให้กับจีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมการส่งออกที่เข้มงวดขึ้น EDA software เป็นเครื่องมือสำคัญในการออกแบบและจำลองชิปเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็นหัวใจของเทคโนโลยี AI และการประมวลผลขั้นสูง การจำกัดการเข้าถึงซอฟต์แวร์นี้อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถของจีนในการพัฒนา ชิปยุคใหม่ ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้สั่งห้าม Nvidia ขายชิป H20 ให้กับจีน ซึ่งเป็นมาตรการที่ต่อเนื่องจากการควบคุมการส่งออกชิป AI ตั้งแต่ปี 2022 ✅ ข้อมูลจากข่าว - สหรัฐฯ สั่งให้ Synopsys, Cadence และ Siemens EDA หยุดขายซอฟต์แวร์ออกแบบชิปให้จีน - EDA software มีความสำคัญต่อการพัฒนา AI และเทคโนโลยีขั้นสูง - ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ห้าม Nvidia ขายชิป H20 ให้จีน - จีนคิดเป็น 16% ของรายได้ Synopsys และ 12% ของรายได้ Cadence - หุ้นของ Synopsys และ Cadence ร่วงลงกว่า 9% หลังข่าวนี้เผยแพร่ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การจำกัดการส่งออกอาจกระตุ้นให้จีนเร่งพัฒนาเทคโนโลยีของตนเอง - บริษัทสหรัฐฯ อาจสูญเสียรายได้จากตลาดจีน ซึ่งเป็นตลาดเซมิคอนดักเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก - การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังคงเปราะบาง แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะตกลงหยุดการขึ้นภาษีใหม่เป็นเวลา 90 วัน - บริษัทจีน เช่น Empyrean Technology และ Primarius กำลังได้รับแรงหนุนจากมาตรการนี้ 🌍 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ มาตรการของสหรัฐฯ อาจส่งผลให้จีนเร่งพัฒนา EDA software ของตนเอง และลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากตะวันตก ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในระยะยาว https://www.techspot.com/news/108102-trump-blocks-china-key-semiconductor-design-software.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Trump blocks China from key semiconductor design software
    These companies collectively control about 80 percent of China's EDA market, making them a critical part of the global semiconductor supply chain. EDA software, though a relatively...
    0 Comments 0 Shares 86 Views 0 Reviews
  • คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) ได้ยกเลิกคดีฟ้องร้อง Binance ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยการตัดสินใจนี้สะท้อนถึงแนวทางใหม่ของ SEC ต่ออุตสาหกรรมคริปโตภายใต้การบริหารของ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

    Binance เคยถูกกล่าวหาว่า เพิ่มปริมาณการซื้อขายโดยไม่โปร่งใส, โอนเงินลูกค้าไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ และให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องแก่นักลงทุน อย่างไรก็ตาม การยกเลิกคดีครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Changpeng Zhao ผู้ก่อตั้ง Binance รับโทษจำคุก 4 เดือน จากคดีฟอกเงิน และ Binance ยอมจ่ายค่าปรับ 4.32 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

    นอกจากนี้ SEC ยังเคยยกเลิกคดีฟ้องร้อง Coinbase ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ โดยกล่าวหาว่า Coinbase จัดการซื้อขายโทเคนที่ไม่ได้ลงทะเบียนเป็นหลักทรัพย์

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - SEC ยกเลิกคดีฟ้องร้อง Binance โดยระบุว่าเป็นการตัดสินใจเชิงนโยบาย
    - Changpeng Zhao ผู้ก่อตั้ง Binance รับโทษจำคุก 4 เดือน จากคดีฟอกเงิน
    - Binance จ่ายค่าปรับ 4.32 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อยุติคดีอาญา
    - SEC เคยยกเลิกคดีฟ้องร้อง Coinbase ซึ่งถูกกล่าวหาว่าจัดการซื้อขายโทเคนที่ไม่ได้ลงทะเบียน

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การยกเลิกคดีไม่ได้หมายความว่า Binance ไม่มีความผิด แต่เป็นการตัดสินใจเชิงนโยบายของ SEC
    - นักลงทุนควรติดตามแนวทางใหม่ของ SEC ต่ออุตสาหกรรมคริปโตภายใต้การบริหารของทรัมป์
    - Binance ยังต้องเผชิญกับความท้าทายด้านกฎระเบียบในประเทศอื่น ๆ
    - ตลาดคริปโตยังคงมีความเสี่ยงสูง และนักลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน

    การยกเลิกคดี Binance ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมคริปโต และอาจส่งผลต่อแนวทางการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/30/us-sec-voluntarily-dismisses-lawsuit-against-binance
    คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) ได้ยกเลิกคดีฟ้องร้อง Binance ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยการตัดสินใจนี้สะท้อนถึงแนวทางใหม่ของ SEC ต่ออุตสาหกรรมคริปโตภายใต้การบริหารของ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ Binance เคยถูกกล่าวหาว่า เพิ่มปริมาณการซื้อขายโดยไม่โปร่งใส, โอนเงินลูกค้าไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ และให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องแก่นักลงทุน อย่างไรก็ตาม การยกเลิกคดีครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Changpeng Zhao ผู้ก่อตั้ง Binance รับโทษจำคุก 4 เดือน จากคดีฟอกเงิน และ Binance ยอมจ่ายค่าปรับ 4.32 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ นอกจากนี้ SEC ยังเคยยกเลิกคดีฟ้องร้อง Coinbase ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ โดยกล่าวหาว่า Coinbase จัดการซื้อขายโทเคนที่ไม่ได้ลงทะเบียนเป็นหลักทรัพย์ ✅ ข้อมูลจากข่าว - SEC ยกเลิกคดีฟ้องร้อง Binance โดยระบุว่าเป็นการตัดสินใจเชิงนโยบาย - Changpeng Zhao ผู้ก่อตั้ง Binance รับโทษจำคุก 4 เดือน จากคดีฟอกเงิน - Binance จ่ายค่าปรับ 4.32 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อยุติคดีอาญา - SEC เคยยกเลิกคดีฟ้องร้อง Coinbase ซึ่งถูกกล่าวหาว่าจัดการซื้อขายโทเคนที่ไม่ได้ลงทะเบียน ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การยกเลิกคดีไม่ได้หมายความว่า Binance ไม่มีความผิด แต่เป็นการตัดสินใจเชิงนโยบายของ SEC - นักลงทุนควรติดตามแนวทางใหม่ของ SEC ต่ออุตสาหกรรมคริปโตภายใต้การบริหารของทรัมป์ - Binance ยังต้องเผชิญกับความท้าทายด้านกฎระเบียบในประเทศอื่น ๆ - ตลาดคริปโตยังคงมีความเสี่ยงสูง และนักลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน การยกเลิกคดี Binance ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมคริปโต และอาจส่งผลต่อแนวทางการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/30/us-sec-voluntarily-dismisses-lawsuit-against-binance
    WWW.THESTAR.COM.MY
    US SEC dismisses lawsuit against Binance crypto exchange
    (Reuters) -The U.S. Securities and Exchange Commission on Thursday voluntarily dismissed its civil lawsuit against Binance, the world's largest cryptocurrency exchange, extending the regulator's new approach to cryptocurrencies since President Donald Trump reentered the White House.
    0 Comments 0 Shares 83 Views 0 Reviews
  • Grammarly ได้รับเงินลงทุน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก General Catalyst เพื่อขยายแพลตฟอร์ม AI ด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน โดยบริษัทมีเป้าหมายที่จะพัฒนาเครื่องมือที่ช่วยให้การสื่อสารและการทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    Grammarly เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับการช่วยตรวจสอบและปรับปรุงการเขียน โดยมีผู้ใช้ 40 ล้านคนต่อวัน นอกจากนี้ บริษัทกำลังพัฒนา AI agent ที่สามารถช่วยจัดการเอกสารและการสื่อสารในองค์กร

    General Catalyst ใช้ Customer Value Fund (CVF) ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง โดย Grammarly เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับเงินลงทุนมากที่สุดจากกองทุนนี้

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Grammarly ได้รับเงินลงทุน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก General Catalyst
    - เงินทุนนี้จะถูกใช้ในการพัฒนา AI และขยายแพลตฟอร์ม
    - Grammarly มีผู้ใช้ 40 ล้านคนต่อวัน และมีรายได้ต่อปีมากกว่า 700 ล้านเหรียญ
    - General Catalyst ไม่ได้รับหุ้นของ Grammarly แต่จะได้รับผลตอบแทนจากรายได้ที่เกิดขึ้นจากเงินลงทุน

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - Grammarly กำลังเปลี่ยนจากเครื่องมือช่วยเขียนไปเป็นแพลตฟอร์ม AI เต็มรูปแบบ ซึ่งอาจส่งผลต่อรูปแบบการใช้งานของผู้ใช้
    - การลงทุนใน AI มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากต้องแข่งขันกับบริษัทใหญ่ เช่น Google และ Microsoft
    - General Catalyst ใช้โมเดลการลงทุนที่แตกต่างจากกองทุนทั่วไป ซึ่งอาจมีผลต่อการเติบโตของ Grammarly ในระยะยาว
    - Grammarly มีแผนที่จะเข้าตลาดหุ้น แต่ยังไม่มีการกำหนดเวลาที่แน่นอน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/29/exclusive-grammarly-secures-1-billion-from-general-catalyst-to-build-ai-productivity-platform
    Grammarly ได้รับเงินลงทุน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก General Catalyst เพื่อขยายแพลตฟอร์ม AI ด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน โดยบริษัทมีเป้าหมายที่จะพัฒนาเครื่องมือที่ช่วยให้การสื่อสารและการทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น Grammarly เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับการช่วยตรวจสอบและปรับปรุงการเขียน โดยมีผู้ใช้ 40 ล้านคนต่อวัน นอกจากนี้ บริษัทกำลังพัฒนา AI agent ที่สามารถช่วยจัดการเอกสารและการสื่อสารในองค์กร General Catalyst ใช้ Customer Value Fund (CVF) ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง โดย Grammarly เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับเงินลงทุนมากที่สุดจากกองทุนนี้ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Grammarly ได้รับเงินลงทุน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก General Catalyst - เงินทุนนี้จะถูกใช้ในการพัฒนา AI และขยายแพลตฟอร์ม - Grammarly มีผู้ใช้ 40 ล้านคนต่อวัน และมีรายได้ต่อปีมากกว่า 700 ล้านเหรียญ - General Catalyst ไม่ได้รับหุ้นของ Grammarly แต่จะได้รับผลตอบแทนจากรายได้ที่เกิดขึ้นจากเงินลงทุน ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - Grammarly กำลังเปลี่ยนจากเครื่องมือช่วยเขียนไปเป็นแพลตฟอร์ม AI เต็มรูปแบบ ซึ่งอาจส่งผลต่อรูปแบบการใช้งานของผู้ใช้ - การลงทุนใน AI มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากต้องแข่งขันกับบริษัทใหญ่ เช่น Google และ Microsoft - General Catalyst ใช้โมเดลการลงทุนที่แตกต่างจากกองทุนทั่วไป ซึ่งอาจมีผลต่อการเติบโตของ Grammarly ในระยะยาว - Grammarly มีแผนที่จะเข้าตลาดหุ้น แต่ยังไม่มีการกำหนดเวลาที่แน่นอน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/29/exclusive-grammarly-secures-1-billion-from-general-catalyst-to-build-ai-productivity-platform
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Grammarly secures $1 billion from General Catalyst to build AI productivity platform
    (This story has been corrected to fix when Grammarly was founded, in paragraph 5, and to clarify the General Catalyst fund relationship, in paragraph 11)
    0 Comments 0 Shares 83 Views 0 Reviews
  • มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ประกาศอย่างเป็นทางการว่า สหรัฐเริ่มดำเนินการตาม “นโยบายวีซ่าใหม่ที่เข้มแข็ง” เพื่อป้องกันไม่ให้ชาวต่างชาติที่มีทัศนคติต่อต้านอิสราเอลเดินทางเข้าสหรัฐ

    สหรัฐจะดำเนินคดีกับ “องค์กรระหว่างประเทศและประเทศต่างๆ” สำหรับการวิพากษ์วิจารณ์อิสราเอล...

    รูบิโอยังกล่าวอีกว่า จะปฏิเสธการออกวีซ่าให้กับนักเรียนนักศึกษาที่พูดหรือแสดงความเห็นในแง่ลบเกี่ยวกับอิสราเอล รวมทั้งชาวยิวทั้งหมด ไม่ใช่เพียงแค่การพูดในแง่ลบเกี่ยวกับสหรัฐฯเท่านั้น
    มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ประกาศอย่างเป็นทางการว่า สหรัฐเริ่มดำเนินการตาม “นโยบายวีซ่าใหม่ที่เข้มแข็ง” เพื่อป้องกันไม่ให้ชาวต่างชาติที่มีทัศนคติต่อต้านอิสราเอลเดินทางเข้าสหรัฐ สหรัฐจะดำเนินคดีกับ “องค์กรระหว่างประเทศและประเทศต่างๆ” สำหรับการวิพากษ์วิจารณ์อิสราเอล... รูบิโอยังกล่าวอีกว่า จะปฏิเสธการออกวีซ่าให้กับนักเรียนนักศึกษาที่พูดหรือแสดงความเห็นในแง่ลบเกี่ยวกับอิสราเอล รวมทั้งชาวยิวทั้งหมด ไม่ใช่เพียงแค่การพูดในแง่ลบเกี่ยวกับสหรัฐฯเท่านั้น
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 169 Views 12 0 Reviews
  • US ระงับออกวีซ่า นศ.ต่างชาติ
    สะเทือนสถานะมหาอำนาจระดับโลก
    .
    จากกรณีเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งการให้สถานทูตและสถานกงสุลของสหรัฐฯ ทั่วโลกระงับออกวีซ่านักเรียน-นักศึกษา ที่ประสงค์จะมาเรียนต่อในสหรัฐฯ ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ก็เตรียมที่จะขยายการตรวจสอบประวัติของผู้ขอวีซ่า โดยล้วงลึกไปถึงเนื้อหาที่บรรดานักเรียนต่างชาติโพสต์ลงโซเชียลมีเดียด้วยนั้น
    .
    ส่งผลให้ นายกาวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ออกมาเตือนว่า นโยบายดังกล่าวกำลังทำให้เกิดสภาวะ "สมองไหล" ของบุคลากรออกจากซิลิคอนวัลเลย์ และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาคไอที ขณะที่มหาวิทยาลัยชั้นนำของเอเชียอย่างเช่น มหาวิทยาลัยโตเกียวของญี่ปุ่น และ มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของฮ่องกง ก็๋ถือโอกาสนี้ในการอ้าแขนรับนักศึกษาต่างชาติที่ได้รับผลกระทบจากการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด แบบไม่มีเงื่อนไขทันที ...
    .
    คลิกชม >> https://vt.tiktok.com/ZSke63cpE/
    .
    #บูรพาไม่แพ้ #สหรัฐระงับออกวีซ่านักศึกษาต่างชาติ #วีซ่านักเรียนสหรัฐ #ทรัมป์ #โดนัลด์ทรัมป์ #สหรัฐสมองไหล
    US ระงับออกวีซ่า นศ.ต่างชาติ สะเทือนสถานะมหาอำนาจระดับโลก . จากกรณีเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งการให้สถานทูตและสถานกงสุลของสหรัฐฯ ทั่วโลกระงับออกวีซ่านักเรียน-นักศึกษา ที่ประสงค์จะมาเรียนต่อในสหรัฐฯ ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ก็เตรียมที่จะขยายการตรวจสอบประวัติของผู้ขอวีซ่า โดยล้วงลึกไปถึงเนื้อหาที่บรรดานักเรียนต่างชาติโพสต์ลงโซเชียลมีเดียด้วยนั้น . ส่งผลให้ นายกาวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ออกมาเตือนว่า นโยบายดังกล่าวกำลังทำให้เกิดสภาวะ "สมองไหล" ของบุคลากรออกจากซิลิคอนวัลเลย์ และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาคไอที ขณะที่มหาวิทยาลัยชั้นนำของเอเชียอย่างเช่น มหาวิทยาลัยโตเกียวของญี่ปุ่น และ มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของฮ่องกง ก็๋ถือโอกาสนี้ในการอ้าแขนรับนักศึกษาต่างชาติที่ได้รับผลกระทบจากการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด แบบไม่มีเงื่อนไขทันที ... . คลิกชม >> https://vt.tiktok.com/ZSke63cpE/ . #บูรพาไม่แพ้ #สหรัฐระงับออกวีซ่านักศึกษาต่างชาติ #วีซ่านักเรียนสหรัฐ #ทรัมป์ #โดนัลด์ทรัมป์ #สหรัฐสมองไหล
    @thedongfangbubai

    US ระงับออกวีซ่า นศ.ต่างชาติ สะเทือนสถานะมหาอำนาจระดับโลก . จากกรณีเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งการให้สถานทูตและสถานกงสุลของสหรัฐฯ ทั่วโลกระงับออกวีซ่านักเรียน-นักศึกษา ที่ประสงค์จะมาเรียนต่อในสหรัฐฯ ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ก็เตรียมที่จะขยายการตรวจสอบประวัติของผู้ขอวีซ่า โดยล้วงลึกไปถึงเนื้อหาที่บรรดานักเรียนต่างชาติโพสต์ลงโซเชียลมีเดียด้วยนั้น . ส่งผลให้ นายกาวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ออกมาเตือนว่า นโยบายดังกล่าวกำลังทำให้เกิดสภาวะ "สมองไหล" ของบุคลากรออกจากซิลิคอนวัลเลย์ และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาคไอที ขณะที่มหาวิทยาลัยชั้นนำของเอเชียอย่างเช่น มหาวิทยาลัยโตเกียวของญี่ปุ่น และ มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของฮ่องกง ก็๋ถือโอกาสนี้ในการอ้าแขนรับนักศึกษาต่างชาติที่ได้รับผลกระทบจากการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด แบบไม่มีเงื่อนไขทันที ... . . #บูรพาไม่แพ้ #สหรัฐระงับออกวีซ่านักศึกษาต่างชาติ #วีซ่านักเรียนสหรัฐ #ทรัมป์ #โดนัลด์ทรัมป์ #สหรัฐสมองไหล

    ♬ original sound - บูรพาไม่แพ้ - บูรพาไม่แพ้
    Haha
    Sad
    2
    0 Comments 1 Shares 107 Views 0 Reviews

  • รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต วิเคราะห์กรณีศาลรัฐบาลกลางสหรัฐตัดสินทรัมป์ไม่มีอำนาจในการกำหนดภาษีศุลกากรทั่วโลกภายใต้กฏหมายฉุกเฉินทางเศรษฐกิจได้

    เมื่อวาน 28 พฤษภาคม 2568

    ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯมีคำวินิจฉัยว่าทรัมป์ไม่สามารถใช้อำนาจฉุกเฉินในการกำหนดภาษีศุลกากรทั่วโลกได้

    ศาลรัฐบาลกลางเพิ่งตัดสินว่าทรัมป์ไม่มีอำนาจในการกำหนดภาษีศุลกากรทั่วโลกภายใต้กฎหมายฉุกเฉินทางเศรษฐกิจ

    เหตุผลของคำวินิจฉัย

    ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ (โดยเฉพาะ US Court of International Trade) ตัดสินว่าทรัมป์ไม่มีอำนาจในการกำหนดภาษีศุลกากรทั่วโลกภายใต้กฎหมายฉุกเฉินทางเศรษฐกิจ (International Emergency Economic Powers Act - IEEPA) สาเหตุหลักๆ น่าจะมาจากประเด็นทางกฎหมายดังนี้:

    1 ขอบเขตของอำนาจฉุกเฉิน: ศาลอาจตีความว่ากฎหมาย IEEPA มีขอบเขตการใช้งานที่จำกัด ไม่ได้ให้อำนาจประธานาธิบดีในการกำหนดภาษีศุลกากรในลักษณะที่กว้างขวางและมีผลกระทบในระดับโลกได้ คำว่า "ฉุกเฉินทางเศรษฐกิจ" อาจถูกตีความว่ามีข้อจำกัดที่ชัดเจน ไม่ได้หมายถึงสถานการณ์ทางการค้าทั่วไป

    2 การจำแนกระหว่างภาษีศุลกากรและมาตรการฉุกเฉินอื่นๆ: ศาลอาจมองว่าการกำหนดภาษีศุลกากรเป็นอำนาจที่เกี่ยวข้องกับการคลังและนโยบายการค้า ซึ่งโดยทั่วไปอยู่ภายใต้อำนาจของสภาคองเกรส (ฝ่ายนิติบัญญัติ) มากกว่าอำนาจฉุกเฉินของฝ่ายบริหาร การใช้กฎหมายฉุกเฉินเพื่อข้ามกระบวนการนิติบัญญัติในการเก็บภาษี อาจถูกมองว่าเป็นการละเมิดการแบ่งแยกอำนาจ

    3 การขาดความชอบธรรมของสถานการณ์ฉุกเฉิน: ศาลอาจเห็นว่าสถานการณ์ทางการค้าที่ทรัมป์อ้างว่าเป็น "ภาวะฉุกเฉิน" นั้นไม่เข้าข่ายตามความหมายของกฎหมายฉุกเฉินทางเศรษฐกิจ หรือไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนถึงขั้นต้องใช้อำนาจพิเศษ

    4 การปกป้องการแบ่งแยกอำนาจ (Separation of Powers): คำวินิจฉัยนี้เป็นการตอกย้ำหลักการแบ่งแยกอำนาจระหว่างฝ่ายบริหาร (ประธานาธิบดี) และฝ่ายนิติบัญญัติ (สภาคองเกรส) ซึ่งเป็นหลักการสำคัญในรัฐธรรมนูญของสหรัฐฯ ศาลมองว่าการเก็บภาษีเป็นอำนาจของสภาคองเกรส และประธานาธิบดีไม่สามารถใช้อำนาจฉุกเฉินมาแทนที่อำนาจดังกล่าวได้

    5 รัฐบาลทรัมป์มีทางเลือกในการอุทธรณ์คำวินิจฉัยนี้ไปยังศาลสูงกว่า เช่น ศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลาง หรืออาจถึงศาลฎีกา ซึ่งกระบวนการอุทธรณ์อาจใช้เวลาและผลลัพธ์ก็ไม่แน่นอน

    อย่างไรก็ตาม คำวินิจฉัยนี้ถือเป็นความพ่ายแพ้ทางกฎหมายครั้งสำคัญสำหรับรัฐบาลทรัมป์ และอาจส่งผลให้กลยุทธ์ทางการค้าของสหรัฐฯ ต้องมีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากศาลสูงยืนยันคำวินิจฉัยดังกล่าว
    รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต วิเคราะห์กรณีศาลรัฐบาลกลางสหรัฐตัดสินทรัมป์ไม่มีอำนาจในการกำหนดภาษีศุลกากรทั่วโลกภายใต้กฏหมายฉุกเฉินทางเศรษฐกิจได้ เมื่อวาน 28 พฤษภาคม 2568 ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯมีคำวินิจฉัยว่าทรัมป์ไม่สามารถใช้อำนาจฉุกเฉินในการกำหนดภาษีศุลกากรทั่วโลกได้ ศาลรัฐบาลกลางเพิ่งตัดสินว่าทรัมป์ไม่มีอำนาจในการกำหนดภาษีศุลกากรทั่วโลกภายใต้กฎหมายฉุกเฉินทางเศรษฐกิจ เหตุผลของคำวินิจฉัย ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ (โดยเฉพาะ US Court of International Trade) ตัดสินว่าทรัมป์ไม่มีอำนาจในการกำหนดภาษีศุลกากรทั่วโลกภายใต้กฎหมายฉุกเฉินทางเศรษฐกิจ (International Emergency Economic Powers Act - IEEPA) สาเหตุหลักๆ น่าจะมาจากประเด็นทางกฎหมายดังนี้: 1 ขอบเขตของอำนาจฉุกเฉิน: ศาลอาจตีความว่ากฎหมาย IEEPA มีขอบเขตการใช้งานที่จำกัด ไม่ได้ให้อำนาจประธานาธิบดีในการกำหนดภาษีศุลกากรในลักษณะที่กว้างขวางและมีผลกระทบในระดับโลกได้ คำว่า "ฉุกเฉินทางเศรษฐกิจ" อาจถูกตีความว่ามีข้อจำกัดที่ชัดเจน ไม่ได้หมายถึงสถานการณ์ทางการค้าทั่วไป 2 การจำแนกระหว่างภาษีศุลกากรและมาตรการฉุกเฉินอื่นๆ: ศาลอาจมองว่าการกำหนดภาษีศุลกากรเป็นอำนาจที่เกี่ยวข้องกับการคลังและนโยบายการค้า ซึ่งโดยทั่วไปอยู่ภายใต้อำนาจของสภาคองเกรส (ฝ่ายนิติบัญญัติ) มากกว่าอำนาจฉุกเฉินของฝ่ายบริหาร การใช้กฎหมายฉุกเฉินเพื่อข้ามกระบวนการนิติบัญญัติในการเก็บภาษี อาจถูกมองว่าเป็นการละเมิดการแบ่งแยกอำนาจ 3 การขาดความชอบธรรมของสถานการณ์ฉุกเฉิน: ศาลอาจเห็นว่าสถานการณ์ทางการค้าที่ทรัมป์อ้างว่าเป็น "ภาวะฉุกเฉิน" นั้นไม่เข้าข่ายตามความหมายของกฎหมายฉุกเฉินทางเศรษฐกิจ หรือไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนถึงขั้นต้องใช้อำนาจพิเศษ 4 การปกป้องการแบ่งแยกอำนาจ (Separation of Powers): คำวินิจฉัยนี้เป็นการตอกย้ำหลักการแบ่งแยกอำนาจระหว่างฝ่ายบริหาร (ประธานาธิบดี) และฝ่ายนิติบัญญัติ (สภาคองเกรส) ซึ่งเป็นหลักการสำคัญในรัฐธรรมนูญของสหรัฐฯ ศาลมองว่าการเก็บภาษีเป็นอำนาจของสภาคองเกรส และประธานาธิบดีไม่สามารถใช้อำนาจฉุกเฉินมาแทนที่อำนาจดังกล่าวได้ 5 รัฐบาลทรัมป์มีทางเลือกในการอุทธรณ์คำวินิจฉัยนี้ไปยังศาลสูงกว่า เช่น ศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลาง หรืออาจถึงศาลฎีกา ซึ่งกระบวนการอุทธรณ์อาจใช้เวลาและผลลัพธ์ก็ไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม คำวินิจฉัยนี้ถือเป็นความพ่ายแพ้ทางกฎหมายครั้งสำคัญสำหรับรัฐบาลทรัมป์ และอาจส่งผลให้กลยุทธ์ทางการค้าของสหรัฐฯ ต้องมีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากศาลสูงยืนยันคำวินิจฉัยดังกล่าว
    0 Comments 0 Shares 93 Views 0 Reviews
  • AMD กำลังเตรียมเปิดตัว Radeon AI PRO R9700 ซึ่งเป็น AI workstation GPU ที่ออกแบบมาเพื่อเจาะตลาดจีน โดยชิปนี้จะเป็นรุ่นที่ปรับลดสเปกให้สอดคล้องกับข้อจำกัดของสหรัฐฯ และเป็นทางเลือกแทน NVIDIA Blackwell

    ตลาด AI ในจีนกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอน เนื่องจากข้อจำกัดทางการค้าของสหรัฐฯ ทำให้ NVIDIA อาจต้องลดการดำเนินธุรกิจในภูมิภาคนี้ ในขณะเดียวกัน Huawei กำลังกลายเป็นคู่แข่งสำคัญที่อาจเข้ามาแทนที่ NVIDIA และ AMD ในตลาดจีน

    AMD หวังใช้ ราคาที่แข่งขันได้และความพร้อมในการจัดส่ง เป็นจุดขายหลักของ Radeon AI PRO R9700 อย่างไรก็ตาม NVIDIA ยังคงได้เปรียบในด้าน ซอฟต์แวร์และระบบนิเวศ ที่แข็งแกร่งกว่า

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - AMD เตรียมเปิดตัว Radeon AI PRO R9700 เพื่อเจาะตลาดจีน
    - ชิปนี้เป็น รุ่นปรับลดสเปก ให้สอดคล้องกับข้อจำกัดของสหรัฐฯ
    - NVIDIA อาจต้องลดธุรกิจในจีน เนื่องจากข้อจำกัดทางการค้า
    - Huawei กำลังกลายเป็นคู่แข่งสำคัญ ในตลาด AI ของจีน
    - AMD หวังใช้ ราคาที่แข่งขันได้และความพร้อมในการจัดส่ง เป็นจุดขาย

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - AMD มีอิทธิพลในตลาดจีนน้อยกว่า NVIDIA ซึ่งอาจทำให้การเจาะตลาดเป็นเรื่องยาก
    - ข้อจำกัดทางการค้าของสหรัฐฯ อาจส่งผลต่อการพัฒนา AI chips ในอนาคต
    - Huawei กำลังขยายอิทธิพลในตลาด AI ซึ่งอาจทำให้ AMD และ NVIDIA แข่งขันได้ยากขึ้น
    - ต้องรอติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสเปกและประสิทธิภาพของ Radeon AI PRO R9700

    AMD กำลังพยายามขยายตลาด AI ในจีน แต่ต้องเผชิญกับความท้าทายจากข้อจำกัดทางการค้าและการแข่งขันที่รุนแรงจาก Huawei และ NVIDIA

    https://wccftech.com/amd-to-launch-a-china-specific-ai-chip-option-to-rival-nvidia/
    AMD กำลังเตรียมเปิดตัว Radeon AI PRO R9700 ซึ่งเป็น AI workstation GPU ที่ออกแบบมาเพื่อเจาะตลาดจีน โดยชิปนี้จะเป็นรุ่นที่ปรับลดสเปกให้สอดคล้องกับข้อจำกัดของสหรัฐฯ และเป็นทางเลือกแทน NVIDIA Blackwell ตลาด AI ในจีนกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอน เนื่องจากข้อจำกัดทางการค้าของสหรัฐฯ ทำให้ NVIDIA อาจต้องลดการดำเนินธุรกิจในภูมิภาคนี้ ในขณะเดียวกัน Huawei กำลังกลายเป็นคู่แข่งสำคัญที่อาจเข้ามาแทนที่ NVIDIA และ AMD ในตลาดจีน AMD หวังใช้ ราคาที่แข่งขันได้และความพร้อมในการจัดส่ง เป็นจุดขายหลักของ Radeon AI PRO R9700 อย่างไรก็ตาม NVIDIA ยังคงได้เปรียบในด้าน ซอฟต์แวร์และระบบนิเวศ ที่แข็งแกร่งกว่า ✅ ข้อมูลจากข่าว - AMD เตรียมเปิดตัว Radeon AI PRO R9700 เพื่อเจาะตลาดจีน - ชิปนี้เป็น รุ่นปรับลดสเปก ให้สอดคล้องกับข้อจำกัดของสหรัฐฯ - NVIDIA อาจต้องลดธุรกิจในจีน เนื่องจากข้อจำกัดทางการค้า - Huawei กำลังกลายเป็นคู่แข่งสำคัญ ในตลาด AI ของจีน - AMD หวังใช้ ราคาที่แข่งขันได้และความพร้อมในการจัดส่ง เป็นจุดขาย ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - AMD มีอิทธิพลในตลาดจีนน้อยกว่า NVIDIA ซึ่งอาจทำให้การเจาะตลาดเป็นเรื่องยาก - ข้อจำกัดทางการค้าของสหรัฐฯ อาจส่งผลต่อการพัฒนา AI chips ในอนาคต - Huawei กำลังขยายอิทธิพลในตลาด AI ซึ่งอาจทำให้ AMD และ NVIDIA แข่งขันได้ยากขึ้น - ต้องรอติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสเปกและประสิทธิภาพของ Radeon AI PRO R9700 AMD กำลังพยายามขยายตลาด AI ในจีน แต่ต้องเผชิญกับความท้าทายจากข้อจำกัดทางการค้าและการแข่งขันที่รุนแรงจาก Huawei และ NVIDIA https://wccftech.com/amd-to-launch-a-china-specific-ai-chip-option-to-rival-nvidia/
    WCCFTECH.COM
    AMD to Launch a "China-Specific" AI Chip Option To Rival NVIDIA & Huawei; Expected to Be a Cut-Down Version of the Radeon AI PRO R9700
    AMD plans to focus on the China AI markets with its "Radeon PRO" workstation GPUs, which comply with US regulations.
    0 Comments 0 Shares 65 Views 0 Reviews
  • TSMC กำลังเปิด ศูนย์ออกแบบชิปแห่งแรกในยุโรป ที่เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี เพื่อช่วยนักพัฒนาชิปในยุโรปปรับแต่งการออกแบบให้เหมาะสมกับเทคโนโลยีการผลิตของบริษัท โดยศูนย์นี้จะให้บริการตั้งแต่การช่วยพัฒนา ไมโครคอนโทรลเลอร์ (MCU) สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ไปจนถึงการปรับแต่งเทคโนโลยีการออกแบบ (DTCO) สำหรับ โปรเซสเซอร์ขั้นสูงที่ใช้ใน AI และ HPC

    TSMC มีศูนย์ออกแบบชิป 9 แห่งทั่วโลก ในแคนาดา จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน และสหรัฐฯ โดยศูนย์ในมิวนิกจะเป็นแห่งที่ 10 และเป็นแห่งแรกในยุโรป ซึ่งสะท้อนถึงการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในยุโรป

    นอกจากนี้ TSMC ยังร่วมมือกับ Bosch, Infineon และ NXP ในการสร้างโรงงานผลิตชิปแห่งแรกในยุโรป ซึ่งจะสามารถผลิตชิปที่ใช้กระบวนการ 12nm และ 16nm โดยเน้นไปที่ MCU แต่ก็สามารถผลิตชิปประเภทอื่นได้

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - TSMC เปิดศูนย์ออกแบบชิปแห่งแรกในยุโรป ที่เมืองมิวนิก เยอรมนี
    - ศูนย์นี้จะช่วยนักพัฒนาชิปปรับแต่งการออกแบบให้เหมาะกับเทคโนโลยีของ TSMC
    - ให้บริการตั้งแต่ MCU สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ไปจนถึง โปรเซสเซอร์ AI และ HPC
    - TSMC มีศูนย์ออกแบบชิป 9 แห่งทั่วโลก และศูนย์ในมิวนิกเป็นแห่งที่ 10
    - TSMC ร่วมมือกับ Bosch, Infineon และ NXP สร้างโรงงานผลิตชิปแห่งแรกในยุโรป

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การออกแบบชิปต้องมีการปรับแต่งอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
    - การผลิตชิปต้องใช้เทคโนโลยีที่ซับซ้อน และต้องทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด
    - ตลาดเซมิคอนดักเตอร์ในยุโรปยังอยู่ในช่วงฟื้นตัว และต้องแข่งขันกับสหรัฐฯ และเอเชีย
    - TSMC ไม่ได้ออกแบบชิปเอง แต่ให้บริการปรับแต่งการออกแบบให้เหมาะกับการผลิต

    การเปิดศูนย์ออกแบบชิปในยุโรปของ TSMC เป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้นักพัฒนาชิปในยุโรปสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีการผลิตระดับสูงได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ยังคงเข้มข้น และต้องจับตาดูว่าการลงทุนนี้จะช่วยให้ยุโรปสามารถแข่งขันกับตลาดอื่น ๆ ได้มากน้อยเพียงใด

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/tsmc-to-open-up-chip-design-center-in-munich-to-help-local-chip-developers
    TSMC กำลังเปิด ศูนย์ออกแบบชิปแห่งแรกในยุโรป ที่เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี เพื่อช่วยนักพัฒนาชิปในยุโรปปรับแต่งการออกแบบให้เหมาะสมกับเทคโนโลยีการผลิตของบริษัท โดยศูนย์นี้จะให้บริการตั้งแต่การช่วยพัฒนา ไมโครคอนโทรลเลอร์ (MCU) สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ไปจนถึงการปรับแต่งเทคโนโลยีการออกแบบ (DTCO) สำหรับ โปรเซสเซอร์ขั้นสูงที่ใช้ใน AI และ HPC TSMC มีศูนย์ออกแบบชิป 9 แห่งทั่วโลก ในแคนาดา จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน และสหรัฐฯ โดยศูนย์ในมิวนิกจะเป็นแห่งที่ 10 และเป็นแห่งแรกในยุโรป ซึ่งสะท้อนถึงการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในยุโรป นอกจากนี้ TSMC ยังร่วมมือกับ Bosch, Infineon และ NXP ในการสร้างโรงงานผลิตชิปแห่งแรกในยุโรป ซึ่งจะสามารถผลิตชิปที่ใช้กระบวนการ 12nm และ 16nm โดยเน้นไปที่ MCU แต่ก็สามารถผลิตชิปประเภทอื่นได้ ✅ ข้อมูลจากข่าว - TSMC เปิดศูนย์ออกแบบชิปแห่งแรกในยุโรป ที่เมืองมิวนิก เยอรมนี - ศูนย์นี้จะช่วยนักพัฒนาชิปปรับแต่งการออกแบบให้เหมาะกับเทคโนโลยีของ TSMC - ให้บริการตั้งแต่ MCU สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ไปจนถึง โปรเซสเซอร์ AI และ HPC - TSMC มีศูนย์ออกแบบชิป 9 แห่งทั่วโลก และศูนย์ในมิวนิกเป็นแห่งที่ 10 - TSMC ร่วมมือกับ Bosch, Infineon และ NXP สร้างโรงงานผลิตชิปแห่งแรกในยุโรป ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การออกแบบชิปต้องมีการปรับแต่งอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด - การผลิตชิปต้องใช้เทคโนโลยีที่ซับซ้อน และต้องทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด - ตลาดเซมิคอนดักเตอร์ในยุโรปยังอยู่ในช่วงฟื้นตัว และต้องแข่งขันกับสหรัฐฯ และเอเชีย - TSMC ไม่ได้ออกแบบชิปเอง แต่ให้บริการปรับแต่งการออกแบบให้เหมาะกับการผลิต การเปิดศูนย์ออกแบบชิปในยุโรปของ TSMC เป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้นักพัฒนาชิปในยุโรปสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีการผลิตระดับสูงได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ยังคงเข้มข้น และต้องจับตาดูว่าการลงทุนนี้จะช่วยให้ยุโรปสามารถแข่งขันกับตลาดอื่น ๆ ได้มากน้อยเพียงใด https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/tsmc-to-open-up-chip-design-center-in-munich-to-help-local-chip-developers
    0 Comments 0 Shares 61 Views 0 Reviews
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯเผย จะบอกกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล ให้ระงับการโจมตีที่ตั้งทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน ในขณะที่เขาส่งเสียงในแง่บวกเกี่ยวกับการเจรจานิวเคลียร์ ที่เวลานี้รัฐบาลของเขากำลังพูดคุยกับเตหะราน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000050209

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯเผย จะบอกกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล ให้ระงับการโจมตีที่ตั้งทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน ในขณะที่เขาส่งเสียงในแง่บวกเกี่ยวกับการเจรจานิวเคลียร์ ที่เวลานี้รัฐบาลของเขากำลังพูดคุยกับเตหะราน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000050209 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Sad
    3
    0 Comments 0 Shares 704 Views 0 Reviews
  • GameStop บริษัทค้าปลีกวิดีโอเกมที่เคยเป็นกระแสจากปรากฏการณ์หุ้นมีมในปี 2021 ได้ลงทุนซื้อ Bitcoin มูลค่า 513 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อปรับกลยุทธ์ธุรกิจให้สอดคล้องกับแนวโน้มการยอมรับสกุลเงินดิจิทัลทั่วโลก โดยบริษัทซื้อ Bitcoin จำนวน 4,710 เหรียญ แม้ว่าจะไม่ได้เปิดเผยช่วงเวลาที่ทำการซื้อก็ตาม

    GameStop ดำเนินกลยุทธ์ที่คล้ายคลึงกับบริษัท Strategy ของ Michael Saylor ซึ่งเป็นบริษัทด้านซอฟต์แวร์ระดับองค์กรที่ถือครอง Bitcoin มากที่สุด และราคาหุ้นของ Strategy มักจะปรับตัวขึ้นตามราคาของ Bitcoin ทำให้นักลงทุนบางรายสนใจลงทุนในบริษัทนี้แทนการลงทุนใน Bitcoin โดยตรง

    การลงทุนใน Bitcoin ของ GameStop อาจช่วยกระตุ้นความสนใจของนักลงทุนและฟื้นฟูธุรกิจที่กำลังประสบปัญหาในการปรับตัวสู่ยุคดิจิทัล นอกจากนี้ หุ้นของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.4% ในช่วงก่อนเปิดตลาด ซึ่งสะท้อนถึงความหวังของนักลงทุนที่อาจมองว่าการเข้าสู่ตลาดคริปโตเป็นโอกาสใหม่

    🔍 สรุปข้อมูลหลักและคำเตือน
    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - GameStop ซื้อ Bitcoin มูลค่า 513 ล้านเหรียญ
    - ซื้อ Bitcoin จำนวน 4,710 เหรียญ
    - ราคาของ Bitcoin อยู่ที่ 108,903 เหรียญ ณ เวลา 7:00 น. ET
    - เป็นการซื้อ Bitcoin ครั้งแรกของบริษัทหลังประกาศแผนลงทุนในเดือนมีนาคม
    - หุ้นของ GameStop เพิ่มขึ้น 4.4% ในช่วงก่อนเปิดตลาด
    - บริษัทมีเงินสดและหลักทรัพย์มูลค่า 4.78 พันล้านเหรียญ ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2025

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การลงทุนใน Bitcoin มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากมูลค่าของสกุลเงินดิจิทัลมีความผันผวนอย่างมาก
    - นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนลงทุน เนื่องจาก Bitcoin อาจมีแนวโน้มลดลงหรือเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
    - เกมสต็อปกำลังเผชิญความท้าทายในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจ และการซื้อ Bitcoin อาจเป็นเพียงกลยุทธ์ชั่วคราว
    - นักลงทุนที่สนใจหุ้น GameStop ควรพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ เช่น ศักยภาพในการฟื้นตัวของธุรกิจหลัก ไม่ใช่เพียงแค่การลงทุนใน Bitcoin

    GameStop อาจพยายามใช้กลยุทธ์นี้เพื่อสร้างความสนใจจากตลาดและนักลงทุน แต่ก็ยังคงต้องพิสูจน์ว่าการลงทุนใน Bitcoin จะช่วยให้ธุรกิจฟื้นตัวได้จริงหรือไม่

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/28/gamestop-buys-bitcoin-worth-513-million-in-crypto-push
    GameStop บริษัทค้าปลีกวิดีโอเกมที่เคยเป็นกระแสจากปรากฏการณ์หุ้นมีมในปี 2021 ได้ลงทุนซื้อ Bitcoin มูลค่า 513 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อปรับกลยุทธ์ธุรกิจให้สอดคล้องกับแนวโน้มการยอมรับสกุลเงินดิจิทัลทั่วโลก โดยบริษัทซื้อ Bitcoin จำนวน 4,710 เหรียญ แม้ว่าจะไม่ได้เปิดเผยช่วงเวลาที่ทำการซื้อก็ตาม GameStop ดำเนินกลยุทธ์ที่คล้ายคลึงกับบริษัท Strategy ของ Michael Saylor ซึ่งเป็นบริษัทด้านซอฟต์แวร์ระดับองค์กรที่ถือครอง Bitcoin มากที่สุด และราคาหุ้นของ Strategy มักจะปรับตัวขึ้นตามราคาของ Bitcoin ทำให้นักลงทุนบางรายสนใจลงทุนในบริษัทนี้แทนการลงทุนใน Bitcoin โดยตรง การลงทุนใน Bitcoin ของ GameStop อาจช่วยกระตุ้นความสนใจของนักลงทุนและฟื้นฟูธุรกิจที่กำลังประสบปัญหาในการปรับตัวสู่ยุคดิจิทัล นอกจากนี้ หุ้นของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.4% ในช่วงก่อนเปิดตลาด ซึ่งสะท้อนถึงความหวังของนักลงทุนที่อาจมองว่าการเข้าสู่ตลาดคริปโตเป็นโอกาสใหม่ 🔍 สรุปข้อมูลหลักและคำเตือน ✅ ข้อมูลจากข่าว - GameStop ซื้อ Bitcoin มูลค่า 513 ล้านเหรียญ - ซื้อ Bitcoin จำนวน 4,710 เหรียญ - ราคาของ Bitcoin อยู่ที่ 108,903 เหรียญ ณ เวลา 7:00 น. ET - เป็นการซื้อ Bitcoin ครั้งแรกของบริษัทหลังประกาศแผนลงทุนในเดือนมีนาคม - หุ้นของ GameStop เพิ่มขึ้น 4.4% ในช่วงก่อนเปิดตลาด - บริษัทมีเงินสดและหลักทรัพย์มูลค่า 4.78 พันล้านเหรียญ ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2025 ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การลงทุนใน Bitcoin มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากมูลค่าของสกุลเงินดิจิทัลมีความผันผวนอย่างมาก - นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนลงทุน เนื่องจาก Bitcoin อาจมีแนวโน้มลดลงหรือเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว - เกมสต็อปกำลังเผชิญความท้าทายในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจ และการซื้อ Bitcoin อาจเป็นเพียงกลยุทธ์ชั่วคราว - นักลงทุนที่สนใจหุ้น GameStop ควรพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ เช่น ศักยภาพในการฟื้นตัวของธุรกิจหลัก ไม่ใช่เพียงแค่การลงทุนใน Bitcoin GameStop อาจพยายามใช้กลยุทธ์นี้เพื่อสร้างความสนใจจากตลาดและนักลงทุน แต่ก็ยังคงต้องพิสูจน์ว่าการลงทุนใน Bitcoin จะช่วยให้ธุรกิจฟื้นตัวได้จริงหรือไม่ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/28/gamestop-buys-bitcoin-worth-513-million-in-crypto-push
    WWW.THESTAR.COM.MY
    GameStop buys bitcoin worth $513 million in crypto push
    (Reuters) -GameStop has purchased bitcoin worth about $513 million, the company said on Wednesday as the ailing video game retailer looks to capitalize on the growing adoption of cryptocurrencies globally.
    0 Comments 0 Shares 71 Views 0 Reviews
  • วังเคลมลิน แสดงความคิดเห็นตอบโต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่ขู่ว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย "กำลังเล่นกับไฟ" ด้วยการปฏิเสธมีส่วนร่วมในการเจรจาหยุดยิงกับเคียฟ ระบุผลประโยชน์ของประเทศชาติคือสิ่งสำคัญสูงสุดของผู้นำรัสเซีย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000050208

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    วังเคลมลิน แสดงความคิดเห็นตอบโต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่ขู่ว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย "กำลังเล่นกับไฟ" ด้วยการปฏิเสธมีส่วนร่วมในการเจรจาหยุดยิงกับเคียฟ ระบุผลประโยชน์ของประเทศชาติคือสิ่งสำคัญสูงสุดของผู้นำรัสเซีย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000050208 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    5
    0 Comments 0 Shares 694 Views 0 Reviews
  • พวกนักวิเคราะห์ทางทหารของจีน จัดวางเครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 ของสหรัฐฯ ในฐานะภัยคุกคามลำดับต้นๆ เหนือกว่าเครื่องบินล่องหนล้ำสมัยอย่าง F-35 สืบเนื่องจากศักยภาพในการบรรทุกนิวเคลียร์ พิสัยทำการและความอเนกประสงค์ในทางยุทธศาสตร์ เรียกร้องให้จีนยกระดับระบบตรวจการณ์และระบบป้องกันภัยทางอากาศ รับมือกับภัยคุกคามนี้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000049821

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    พวกนักวิเคราะห์ทางทหารของจีน จัดวางเครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 ของสหรัฐฯ ในฐานะภัยคุกคามลำดับต้นๆ เหนือกว่าเครื่องบินล่องหนล้ำสมัยอย่าง F-35 สืบเนื่องจากศักยภาพในการบรรทุกนิวเคลียร์ พิสัยทำการและความอเนกประสงค์ในทางยุทธศาสตร์ เรียกร้องให้จีนยกระดับระบบตรวจการณ์และระบบป้องกันภัยทางอากาศ รับมือกับภัยคุกคามนี้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000049821 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    5
    0 Comments 0 Shares 705 Views 0 Reviews
  • ผู้เชี่ยวชาญเตือน! แผนของ EU ที่ต้องการลดความปลอดภัยของการเข้ารหัสอาจส่งผลกระทบร้ายแรง

    กลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ออกจดหมายเปิดผนึกถึงคณะกรรมาธิการยุโรป เพื่อเรียกร้องให้ ทบทวนแผน ProtectEU ที่ต้องการสร้างช่องโหว่ในระบบเข้ารหัส โดยพวกเขาเตือนว่า การลดความปลอดภัยของการเข้ารหัสจะทำให้บุคคลและองค์กรเสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์มากขึ้น

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับแผน ProtectEU
    ✅ ProtectEU เป็นแผนของ EU ที่ต้องการสร้างช่องทางให้หน่วยงานรัฐสามารถเข้าถึงข้อมูลที่เข้ารหัสได้
    - มีเป้าหมายเพื่อ ช่วยให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายสามารถตรวจสอบการสื่อสารที่เป็นภัยคุกคาม

    ✅ ผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรด้านความปลอดภัยไซเบอร์และผู้ให้บริการ VPN คัดค้านแผนนี้
    - รวมถึง Proton, Surfshark, Tuta Mail, Mozilla และ Element

    ✅ การเข้ารหัสเป็นเครื่องมือสำคัญในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวและความปลอดภัยทางไซเบอร์
    - ใช้ใน บริการเช่น Signal, WhatsApp และ Proton Mail

    ✅ แม้ว่า FBI และ CISA ในสหรัฐฯ จะสนับสนุนการใช้การเข้ารหัสเพื่อป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์ แต่ EU กลับต้องการลดความปลอดภัยของมัน
    - ขัดแย้งกับ แนวทางที่เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้

    ✅ ศาลสิทธิมนุษยชนยุโรปเคยตัดสินว่าการทำลายการเข้ารหัสเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
    - เป็นอุปสรรคสำคัญต่อ ความพยายามของ EU ในการผลักดันแผนนี้

    https://www.techradar.com/computing/cyber-security/experts-deeply-concerned-by-the-eu-plan-to-weaken-encryption
    ผู้เชี่ยวชาญเตือน! แผนของ EU ที่ต้องการลดความปลอดภัยของการเข้ารหัสอาจส่งผลกระทบร้ายแรง กลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ออกจดหมายเปิดผนึกถึงคณะกรรมาธิการยุโรป เพื่อเรียกร้องให้ ทบทวนแผน ProtectEU ที่ต้องการสร้างช่องโหว่ในระบบเข้ารหัส โดยพวกเขาเตือนว่า การลดความปลอดภัยของการเข้ารหัสจะทำให้บุคคลและองค์กรเสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์มากขึ้น 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับแผน ProtectEU ✅ ProtectEU เป็นแผนของ EU ที่ต้องการสร้างช่องทางให้หน่วยงานรัฐสามารถเข้าถึงข้อมูลที่เข้ารหัสได้ - มีเป้าหมายเพื่อ ช่วยให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายสามารถตรวจสอบการสื่อสารที่เป็นภัยคุกคาม ✅ ผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรด้านความปลอดภัยไซเบอร์และผู้ให้บริการ VPN คัดค้านแผนนี้ - รวมถึง Proton, Surfshark, Tuta Mail, Mozilla และ Element ✅ การเข้ารหัสเป็นเครื่องมือสำคัญในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวและความปลอดภัยทางไซเบอร์ - ใช้ใน บริการเช่น Signal, WhatsApp และ Proton Mail ✅ แม้ว่า FBI และ CISA ในสหรัฐฯ จะสนับสนุนการใช้การเข้ารหัสเพื่อป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์ แต่ EU กลับต้องการลดความปลอดภัยของมัน - ขัดแย้งกับ แนวทางที่เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ ✅ ศาลสิทธิมนุษยชนยุโรปเคยตัดสินว่าการทำลายการเข้ารหัสเป็นสิ่งผิดกฎหมาย - เป็นอุปสรรคสำคัญต่อ ความพยายามของ EU ในการผลักดันแผนนี้ https://www.techradar.com/computing/cyber-security/experts-deeply-concerned-by-the-eu-plan-to-weaken-encryption
    0 Comments 0 Shares 92 Views 0 Reviews
More Results