• ..จริงบางส่วน,เยาวชนเราใช่จะประพฤติตนไม่ดีส่วนใหญ่,แค่ส่วนน้อยเท่านั้น,เหมือนๆวัยรุ่นยุคสมัยอดีตนั้นล่ะ.
    ..แท้จริง มันมากับวัคซีนโควิดที่ฉีดใส่เด็กๆเยาวชนเรานี้ด้วย,ภูมิคุ้มกันตก มันก็เริ่มออกฤทธิ์ได้ตลอดเวลา ในวัคซีนโดยพื้นฐานมีเอดส์ มีโรคหวัดนกตัดแต่ง มีมะเร็ง บวกรองๆอีกตรึม โลหะหนักต่างๆหรือกราฟีนตัวดีที่ทำลายระบบเลือด&หลอดเลือดด้วย.
    ..แพะหรือโยนความผิดให้สิ่งอื่นๆแทนที่มิใช่ต้นเหตุจริงจะมีมาตลอด อาทิ โรคไข้ดินผีบ้านั้นด้วย สร้างวลีโรคไปเรื่อย ในหมู่หมอแพทย์ของบ้านเรา ขนาดวัคซีนยังค้าความตายได้ตังจากค้าวัคซีนมหาศาลในเดอะแก๊งหมอสมุนรับใช้อีลิทในประเทศไทยเราและพวกมันยังลอยหน้าลอยตาไม่เคยถูกตัดสินลงโทษจริงใดๆเลย,ระบบการปกครองเราจึงถือว่าล้มเหลว,คนเลวชั่วมีที่หยัดยืนในสังคมชุมชนไทยเราอย่างมั่นคงต่อยอดอำนาจชั่วสร้างเลวได้ต่อเนื่องชั่งบัดสบนัก.,ทหารพระราชาและประชาชนหรือเรา..ประชาชนคือนหนทางเดียวเท่านั้น,ยึดอำนาจและปฏิวัติบ้านเมืองใหม่ ล้างระบบที่ล้มเหลวนี้ทิ้ง.
    ..เยาวชนไทยและเรา..ทุกๆคนไทยคือกำลังสำคัญในการสร้างชาติไทยร่วมกัน,คนรุ่นหลังถูกล้างสมองถูกทำลาย ชาติอื่นเมืองอื่นก็ยึดครองง่ายๆได้ทันที.
    https://youtu.be/UJKK3R_fCV0?si=hg8M5lz1R_qmeePd
    ..จริงบางส่วน,เยาวชนเราใช่จะประพฤติตนไม่ดีส่วนใหญ่,แค่ส่วนน้อยเท่านั้น,เหมือนๆวัยรุ่นยุคสมัยอดีตนั้นล่ะ. ..แท้จริง มันมากับวัคซีนโควิดที่ฉีดใส่เด็กๆเยาวชนเรานี้ด้วย,ภูมิคุ้มกันตก มันก็เริ่มออกฤทธิ์ได้ตลอดเวลา ในวัคซีนโดยพื้นฐานมีเอดส์ มีโรคหวัดนกตัดแต่ง มีมะเร็ง บวกรองๆอีกตรึม โลหะหนักต่างๆหรือกราฟีนตัวดีที่ทำลายระบบเลือด&หลอดเลือดด้วย. ..แพะหรือโยนความผิดให้สิ่งอื่นๆแทนที่มิใช่ต้นเหตุจริงจะมีมาตลอด อาทิ โรคไข้ดินผีบ้านั้นด้วย สร้างวลีโรคไปเรื่อย ในหมู่หมอแพทย์ของบ้านเรา ขนาดวัคซีนยังค้าความตายได้ตังจากค้าวัคซีนมหาศาลในเดอะแก๊งหมอสมุนรับใช้อีลิทในประเทศไทยเราและพวกมันยังลอยหน้าลอยตาไม่เคยถูกตัดสินลงโทษจริงใดๆเลย,ระบบการปกครองเราจึงถือว่าล้มเหลว,คนเลวชั่วมีที่หยัดยืนในสังคมชุมชนไทยเราอย่างมั่นคงต่อยอดอำนาจชั่วสร้างเลวได้ต่อเนื่องชั่งบัดสบนัก.,ทหารพระราชาและประชาชนหรือเรา..ประชาชนคือนหนทางเดียวเท่านั้น,ยึดอำนาจและปฏิวัติบ้านเมืองใหม่ ล้างระบบที่ล้มเหลวนี้ทิ้ง. ..เยาวชนไทยและเรา..ทุกๆคนไทยคือกำลังสำคัญในการสร้างชาติไทยร่วมกัน,คนรุ่นหลังถูกล้างสมองถูกทำลาย ชาติอื่นเมืองอื่นก็ยึดครองง่ายๆได้ทันที. https://youtu.be/UJKK3R_fCV0?si=hg8M5lz1R_qmeePd
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • “แม้ว” ชี้ ปมฮั้ว สว.เป็นไปตามกระบวนการ เมื่อมีคนร้อง กกต.แล้วมีดีเอสไอมาร่วมเป็นกรรมการสอบ ก็ต้องทำตามหน้าที่ เหมือนตนโดนคดี 112 กลับมาก็ต้องเข้ากระบวนการ หากบริสุทธิ์ก็อธิบายให้บริสุทธิ์ไม่มีปัญหา แต่จะหยุดกลางกระบวนการไม่ได้ ไม่งั้นคดีค้าง

    วันนี้ (27พ.ค.) เมื่อเวลา 14.55 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องการฮั้ว สว. ว่า จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้เกิดจากการที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา เพราะมีการร้องเรียนไปที่ กกต. จึงตั้งกรรมการขึ้นมาโดยมีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าร่วมด้วย โดยมีพยานหลักฐานต่างๆ ไหลไปที่ดีเอสไอ เขาจึงทำตามหน้าที่ ไม่ต้องมีใครไปสั่ง ถ้าไม่ทำเขาอาจจะโดนมาตรา 157 เมื่อเขามีพยานหลักฐาน ส่วน สว หรือผู้ถูกกล่าวหาก็แก้ไปตามประมวลกฎหมาย ทุกอย่างเมื่อมีกระบวนการเข้าไปแล้ว ก็ต้องจบที่กระบวนการ เหมือนตนที่ถูกทหารเกี่ยวเบ็ดไว้ 112 ตอนสมัยปฏิวัติยิ่งลักษณ์ เมื่อตนกลับมาก็ต้องเข้าสู่กระบวนการให้จบ เราบริสุทธิ์ก็อธิบายให้บริสุทธิ์ ไม่มีปัญหาอะไร เรื่องนี้เมื่อมีกระบวนการแล้ว การจะหยุดกลางกระบวนการไม่ได้ ไม่งั้นทุกคนก็ยังมีปัญหาหรือคดีค้างอยู่

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000049635

    #MGROnline #ทักษิณชินวัตร #อดีตนายกรัฐมนตรี #ดีเอสไอ
    “แม้ว” ชี้ ปมฮั้ว สว.เป็นไปตามกระบวนการ เมื่อมีคนร้อง กกต.แล้วมีดีเอสไอมาร่วมเป็นกรรมการสอบ ก็ต้องทำตามหน้าที่ เหมือนตนโดนคดี 112 กลับมาก็ต้องเข้ากระบวนการ หากบริสุทธิ์ก็อธิบายให้บริสุทธิ์ไม่มีปัญหา แต่จะหยุดกลางกระบวนการไม่ได้ ไม่งั้นคดีค้าง • วันนี้ (27พ.ค.) เมื่อเวลา 14.55 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องการฮั้ว สว. ว่า จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้เกิดจากการที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา เพราะมีการร้องเรียนไปที่ กกต. จึงตั้งกรรมการขึ้นมาโดยมีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าร่วมด้วย โดยมีพยานหลักฐานต่างๆ ไหลไปที่ดีเอสไอ เขาจึงทำตามหน้าที่ ไม่ต้องมีใครไปสั่ง ถ้าไม่ทำเขาอาจจะโดนมาตรา 157 เมื่อเขามีพยานหลักฐาน ส่วน สว หรือผู้ถูกกล่าวหาก็แก้ไปตามประมวลกฎหมาย ทุกอย่างเมื่อมีกระบวนการเข้าไปแล้ว ก็ต้องจบที่กระบวนการ เหมือนตนที่ถูกทหารเกี่ยวเบ็ดไว้ 112 ตอนสมัยปฏิวัติยิ่งลักษณ์ เมื่อตนกลับมาก็ต้องเข้าสู่กระบวนการให้จบ เราบริสุทธิ์ก็อธิบายให้บริสุทธิ์ ไม่มีปัญหาอะไร เรื่องนี้เมื่อมีกระบวนการแล้ว การจะหยุดกลางกระบวนการไม่ได้ ไม่งั้นทุกคนก็ยังมีปัญหาหรือคดีค้างอยู่ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000049635 • #MGROnline #ทักษิณชินวัตร #อดีตนายกรัฐมนตรี #ดีเอสไอ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • RS มาถึงจุดตกต่ำเช่นนี้ ใครจะคิด...
    ไม่สามารถชำระหนี้แค่ 27 ล้าน
    หากถูกทวงหนี้ต้นทุนทั้งหมดหลักพันล้านจะทำอย่างไร?
    .
    ผมทำงานในวงการเพลงในฐานะคอมโพสเซอร์ นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์มาตั้งแต่ปี 2530 งานโปรดิวซ์ครั้งแรกคืองานชุดคนเขียนเพลงบรรเลงชีวิตของเธนศร์ วรากุลนุเคราะห์ เห็นวัฏจักรวงการเพลงมาตั้งแต่ยุคเก่ารุ่นพ่อช่วงปลายๆ ต่อเข้ายุคมืดที่นายทุนเอาเปรียบนักแต่งเพลงรุ่นครู จ่ายสองสามพันบาทค่าจ้างแต่งเพลงแล้วถือครองสิทธิ์ตลอดกาลจนถึงลูกเต้ามัน
    .
    ในช่วงก่อนยุคเปลี่ยนผ่านครั้งที่หนึ่ง เรียกว่ายุคปฏิวัติวงการก็ได้ ผมกำลังเรียนรู้อยู่ที่บริษัทบัตเตอร์ฟลาย ความที่มีครูดีเป็นแบบอย่าง ได้เรียนรู้ระบบแบบฝรั่งว่าเป็นอย่างไร ทำให้เราเข้าใจกลไกของมัน รู้แล้วก็อยากจะสร้างความเปลี่ยนแปลง เลยริเริ่มไปเรียกร้องกับนายทุนมาเฟียค่ายเพลงคนนึงที่วงที่ผมไปเล่นอยู่ด้วยสังกัดอยู่ กำลังจะมีการทำงานชุดใหม่ ก็เลยไปเสนอว่าอยากให้มีการจ่ายค่าผลิตอย่างเป็นธรรม ทั้งเรียบเรียง คำร้องทำนอง มิกซ์เสียง ค่าควบคุมการผลิตต่างๆ รวมทั้งขอส่วนแบ่งจากยอดขาย ผลคือ "มึงหัวหมอหรือ?" งานหยุดชะงัก พวกผมถูกแบนจากสังกัดนั้นจนภายหลังพากันออกมาตั้งเป็นวงตาวัน แต่ไม่วายยังโดนไอ้เสี่ยคนนั้นตามมากลั่นแกล้งภายหลังได้ ตอนที่ออกผลงานชุดแรกของวงตาวัน หุ่นกระบอก แม้จะสังกัดแกรมมี่แล้ว แต่ต้องขายกับบริษัทจัดจำหน่ายของพวกมัน แกรมมี่ยังไม่มีระบบจัดจำหน่ายในตอนนั้น เอ็มจีเอเกิดขึ้นในภายหลัง เสี่ยมันให้สถานีวิทยุในเครือมันมาเรียกวงไปสัมภาษ เสร็จแล้วเรียกไปเชือดที่ห้องทำงานมัน แล้วบอกเราว่า "มึงคิดว่าจะหนีกูพ้นหรือ" ตอนนี้มันเป็นคนจัดจำหน่ายอัลบั้มของพวกผม มันคุมยี่ปั๊ว ซาปั๊ว สถานีวิทยุทั่วประเทศ มันว่าอย่าหวังเลยว่ามึงจะขายได้ และกูจะไม่ให้สถานีวิทยุของกูที่มึงเห็นปักหมุดอยู่เต็มบนแผนที่ประเทศไทยนั่นเล่นเพลงของพวกมึง... มันกดอินเตอร์คอมหาเลขา "เฮ้ย ไอ้อัลบั้มหุ่นกระป๋องนี่ขายได้เท่าไหร่แล้ววันนี้... สองพันค่ะ... สองพัน! มึงได้ยินไหม มึงคงขายได้ประมาณนี้แหละ อย่าหวังว่าจะมากกว่านี้" พี่หมูเลือดขึ้นหน้าเกือบลุกขึ้นเตะก้านคอมัน แต่รู้ว่าอยู่ในตึกมัน หากไปกระทืบมันเข้า วงตาวันวันนั้นคงหามใส่เปลกันออกมาจากตึกนั่นทั้งวง
    .
    นายทุนยุคมืดมีความระยำเช่นนี้ ศิลปินคนไหนขายได้มันแจกสร้อยทองแจกเงินให้ตามความพอใจ ขายดีมากมันให้กุญแจรถไปขับ หมดพิสวาทก็เรียกกุญแจคืน ชอบนักร้องหญิงของวงก็เอาทำเมีย ไม่มีส่วนแบ่งจากการขายใดๆ ทั้งสิ้น มีเสี่ยในวงการยุคมืดอยู่สองสามคนที่รู้จักกันนับแต่เวลานั้น
    .
    การดำเนินธุรกิจด้วยความเป็นธรรมในวงการเพลงนั้นเป็นสิ่งที่หาไม่ได้ เถ้าแก่พวกนี้ เจ่กแปะพวกนี้ โน๊ตตัวเดียวก็ไม่กระดิก แต่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์นับร้อยนับพันเพลงไปได้อย่างน่าขนลุก นักแต่งเพลงไม่เคยถูกให้เกียรติ ทั้งที่ธุรกิจมีไม่ได้หากไม่มีคนสร้างสรรค์ แต่สิทธิ์ผู้ประพันธ์ของผู้สร้างสรรค์กลับกลายเป็นของนายทุนพวกนี้ นับจากนาทีนั้น ผมสาบานกับตัวเองว่าจะดิ้นให้หลุดจากบ่วงอุบาทย์นี้สักวัน รวมทั้งกฏหมายที่ว่าด้วยการจ้างทำของ และแน่นอนว่า ผมพบทางสลัดหลุดจากวังวนพวกนี้ได้ในที่สุด
    .
    คุณธรรม กรรมใดที่ใครก่อ ย่อมบ่งชี้เจตนาของบุคคลนั้น และบุคคลย่อมต้องรับผลนั้นในสักวัน ไม่ช้าก็เร็ว
    .
    วันนึง เมื่อผมดำเนินอาชีพของผมมาถึงจุดที่เป็นคอมโพสเซอร์ที่มีค่าตัวแพงที่สุดคนนึง ดนตรีผมหนึ่งนาทีมีค่าจ้างประมาณแสนบาท ผมรับดนตรีประกอบภาพยนตร์เรื่องละหนึ่งล้านบาท และไม่เคยเสียสิทธิ์ผู้ประพันธ์ไปให้ใครอีกเลย ที่งานออกร้านของนักโทษกรมราชทันฑ์ มีพ่อค้าแม่ค้ามาร่วมเปิดท้ายขายของ ผมเห็นไอ้เสี่ยระยำที่เคยยิ่งใหญ่นั่นหอบกล่องอัลบั้มเพลงเก่าๆ ทั้งเทปเก่าและซีดีเก่ามาขายถูกๆ น่าสมเพชที่เมืองไทยมาถึงจุดพินาศเพราะมีเทปผีซีดีเถื่อนเกลื่อนเมือง ซึ่งพวกเสี่ยในยุคของมันบางคนก็มีส่วนในธุรกิจผีพวกนี้... มันนั่งหน้ามันอยู่ข้างแผงและกล่องอัลบั้มแทบไม่มีใครซื้อ มันมีโหลดได้ฟรีๆ ทั่วไปหมด ผมไปหยุดยืนดูมันหัวจรดตีนด้วยใบหน้าเหยียดหยาม สะใจสุดๆ ยามรุ่งเรืองฟุ้งเฟ้อใช้ชีวิตสุดโต่ง ยามตกต่ำสิ้นไร้มีแต่หนี้สิน
    .
    ทำไมผมถึงรำลึกถึงพี่เต๋อด้วยความยกย่องเสมอ ก็เพราะเหตุนี้ ระบบที่ดีกว่าเป็นธรรมกว่าอย่างที่ผมไปพลีชีพเรียกร้องกัน ในที่สุดเกิดขึ้นเพราะพี่เต๋อไปก่อตั้งแกรมมี่แล้วสร้างระบบแบบนี้ขึ้นมาได้สำเร็จ ทีมผลิตมีค่าผลิตเป็นสัดส่วนครบถ้วนตามหน้าที่แบบฝรั่งและมีการแบ่งเปอร์เซ็นต์จากยอดขายให้ผู้ประพันธ์และโปรดิวเซอร์ ผมไม่ยกย่องคุณไพบูลย์ในข้อนี้หรอก เพราะระบบที่เป็นธรรมกว่าเช่นนี้ บังเกิดขึ้นได้เพราะพี่เต๋อ ไม่ใช่พี่บูลย์ ถ้าพี่บูลย์ไม่ยอมรับให้สร้างระบบธุรกิจเช่นนี้พี่เต๋อคงไม่เอาด้วย และพวกพี่ๆ จากบัตเตอร์ฟลายก็คงจะไม่ไปเป็นกำลังผลิตให้ บริษัทแกรมมี่ก็จะไม่เกิด
    .
    อย่างไรก็ตาม มีรุ่งเรืองก็มีเสื่อมถอย สำหรับผมมันเริ่มเสื่อมลงเมื่อมี mp3 แต่ยิ่งเสื่อมกว่าหลังจากพี่เต๋อเสียชีวิต.. หนึ่งปีให้หลังจากนั้น ผมก็ลาออกจากแกรมมี่ มูลเหตุของการลาออกน่าจะเคยเล่าให้บางคนฟังบ้างแล้ว พวกเราทีมผลิตที่อยู่ในทีมใบตองได้รับอนุญาตให้ขึ้นลิฟท์ตัวเดียวกับที่พี่เต๋อพี่บูลย์ขึ้น วันหนึ่งผมเจอพี่บูลย์ ตอนนั้นเราแยกจากแกรมมี่แกรนด์มาตั้งเป็นอีกเลเบลหนึ่งคือ RPG (Rewat's Producer Group) แล้ว ในลิฟท์พี่บูลย์พูดกับผม... "พี่ปุ้ม.. ผมว่าเราต้องทำงานหนักให้เป็นสองเท่าเพื่อกำไรเท่าเดิม ต้องผลิตให้เร็วขึ้น... ผมว่าอย่างพี่เอาตีนเขี่ยแป๊บเดียวก็เสร็จแล้ว... เก่งไม่กลัวกลัวช้า..." ผมจำประโยคนี้แจ่มชัดแม้ผ่านไปยี่สิบปี พวกเราไม่ได้ช้า ไม่มีใครในตึกมีทักษะทางดนตรีและทักษะทางเทคนิคัลเท่าพวกเราอีกแล้ว เราทำงานละเอียด แม้แต่เสียง Snare แค่แทร็คเดียวเรายังพิถีพิถันเลือกกันอยู่หลายชั่วโมง ทุกเทคทุกแทร็คปราณีต เล่นและบันทึกอย่างตั้งใจ มันปลูกฝังกันมาจากการทำงานกับพี่ๆ กับครูของเราและพี่เต๋อ ความตั้งใจนี้เป็นสันดานและ "เอาตีนเขี่ยไม่ได้..." ผมออกจากลิฟท์วันนั้นแล้วตรงไปลาออกกับโอม ชาตรี คงสุวรรณ ซึ่งนั่งแท่นเป็น managing director อยู่
    .
    เพียงหนึ่งปีให้หลังการเสียชีวิตของพี่เต๋อ ผมรู้สึกได้เลยว่าคุณธรรมที่เคยมีก็เสื่อมลง ผมรู้ทันทีว่าถึงเวลาต้องไป จากวันนั้นเป็นต้นมา ผมรู้ว่าแกรมมี่จะเสื่อมถอยลง อีกปีต่อมาผมกับเพื่อนชื่อฝิ่น คณิต พฤกษ์พระกานต์ ซึ่งเป็นคนลงทุน เราเปิดสถาบันผลิตบุคคลากรสายอาชีพบันเทิงชื่อ Gen-X Academy เปิดอยู่ 14 ปี สอนวิชาที่ไม่เคยมีสอนในมหาวิทยาลัยเมืองไทยมาก่อนนอกจากที่ต่างประเทศ เช่น Songwriting, Arranging, Computer Music, Studio Sound Engineer, Live Sound Engineer, Film Scoring, Sounddesign, Video Post Production, Motion Graphics... เราผลิตบุคคลากรให้กับวงการบันเทิงอาชีพไปนับพันคน ผลิตนักแต่งเพลงไปประมาณสองร้อยกว่าคนเป็นอย่างน้อย ซาวด์เอนจิเนียร์สตูดิโอไม่ต่ำกว่าสามร้อยคน ไลฟ์ซาวด์เอนจิเนียร์อีกไม่ต่ำกว่าสามร้อยคน ยังไม่นับสาขาอื่นเช่น คอมพิวเตอร์กราฟฟิค นักตัดต่อวิดิโอ ทีวีรีพอร์ตเตอร์ ดีเจ นักพากย์... จนกระทั่งมหาลัยวิทยาลัยทั่วทั้งประเทศเกิดการปรับตัวครั้งใหญ่ บรรจุการสอนวิชาเหล่านี้เข้าในระดับปริญญาตรีของ๕ณะดนตรีทุกแห่ง มีห้องอัด มีแลบคอมพิวเตอร์ให้นักศึกษาใช้ ในที่สุดพวกเขาทำตามทุกอย่างที่เรานำร่องมาก่อน แม้ธุรกิจจบ แต่ผมกลับภูมิใจที่ภารกิจจบ GenX Academy ปิดลงเพราะเราไม่มีความจำเป็นอีกต่อไปแล้ว สิ่งที่เราทำมันได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นผลไปทั่ว
    .
    มันปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผลลัพธ์จากการได้แบบอย่างที่ดีมาก่อนหน้านั้น มันได้ขยายผลอย่างเป็นรูปธรรมในภายหลัง ตอนอยู่ที่บัตเตอร์ฟลาย พี่ๆ ทำ B.I.T. กัน สอนกันอยู่หลายรุ่น พอมาทำงานกับพี่เต๋อ ไม่ว่าพี่เขาจะมีงานบริหารตื่นเช้าเพียงใด ตกเย็นพี่เต๋อจะมาขลุกอยู่กับพวกเราที่สตูดิโอแทบทุกวัน มีเรื่องมากมายที่ผมได้เรียนรู้ ตอนนั้นยึดหัวหาดที่ห้องอัดศรีสยามเป็นหลัก ผมยังจำประโยคที่พี่เต๋อพูดตอนที่ทานอาหารร่วมกันในคืนหนึ่ง ผมอยู่กับทีมและมีน้องๆ รุ่นใหม่บางคนกำลังเรียนรู้การทำงาน ดูเหมือนวันนั้นจะมีก๊อล์ฟวายนอทเซเว่น... พี่เต๋อพูดว่า "เราต้องสอนน้องๆ ต้องสร้างน้องๆ รุ่นใหม่ที่คิดเหมือนเรา ตั้งใจทำงานให้ดีมีคุณภาพ เชื่อในมาตรฐานการทำงานแบบที่เราทำ"
    .
    คุณธรรมในวงการเพลง ไม่ใช่สิ่งที่หาได้ง่ายโดยทั่วไป แม้เคยเจอกับพวกยุคมืด แต่ผมก็ยังโชคดีที่เห็นมันในยุคของพี่เต๋อและการทำงานกับพี่ๆ หลายคน ผมมีน้องๆ ที่รู้จักชอบพอกันหลายคนอยู่ในค่ายเพลงอื่น ผมมักจะได้ยินเสียงสะท้อนออกมาให้รู้เสมอ หลากหลายเรื่องราว.. อย่างหนึ่งที่มักได้ยินจากฝั่งของอาร์เอส พูดตามจริง ไม่ค่อยดีนัก การดูแลชีวิตและให้เกียรติคนทำงานผลิตไม่ได้ดีเท่าไหร่ ความเป็นธรรมในการจ้าง ส่วนแบ่งในรายได้ ที่สำคัญคือการปันผลให้คนสร้างสรรค์ ไม่ค่อยดีนัก และลิขสิทธิ์อยู่กับนายทุนหมด อย่างน้อยก็ได้ยินมาอย่างนั้น... ยังดีที่แกรมมี่ถือลิขสิทธิ์ร่วมกันกับผู้ประพันธ์ แม้ว่าระบบจะไม่มีการปรับให้ดีมากขึ้นตามกาลเวลาและค่าครองชีพ แต่ระบบจัดเก็บและดูแลพับลิชชิ่งของแกรมมี่ยังคงทำงาน และยี่สิบปีที่ผ่านมามีส่วนแบ่งโอนเข้าบัญชีเสมอไม่ได้ขาด มากบ้างน้อยบ้าง
    .
    มีนายทุนสายบันเทิงไม่น้อยที่ผมรู้เช่นเห็นชาติมาแต่โบราณ ต้องใช้คำนี้ เช่น บริษัทหนึ่งที่โดดเด่นในการทำคาราโอเกะมีนางแบบโป๊เดินอล่างฉ่างประกอบแบ๊คกิ้งแทร็ค วันนึงร่วมกับบริษัทญี่ปุ่นที่มีเน็ทเวิร์คโฟโต้บุ๊ควัยรุ่นนุ่งน้อยห่มน้อยซึ่งบางที น้อยมาก... ทำค่ายไอดอลข้ามชาติกัน ผมเคยพยายามเตือน ผลคือทัวร์ลง. ไม่มีใครรู้ว่าสัญญาที่เซ็นต์นั้นครอบคลุมการเป็นเจ้าของตัวตนไปจนถึงภาพถ่ายเซลฟี่ส่วนตัวของศิลปินในสังกัดคนนั้น พวกนั้นสามารถอ้างได้แม้ลิขสิทธิของภาพที่เป็นส่วนตัว ในพื้นที่การทำงานเช่น คอนเสิร์ท การปรากฏตัวในที่ต่างๆ ฯ เขาไม่อนุญาตให้ช่างภาพอื่นที่เป็นคนนอกถ่ายภาพเลย แต่จะมีช่างภาพของเขาเท่านั้นที่จะตามถ่ายตลอดเวลา แม้จะเป็นเวลาและพื้นที่ที่ไม่สมควรถ่ายก็จะถูกถ่ายไปได้ คลังภาพจำนวนมากถูกเก็บไว้และเป็นสิทธิของเขาตามกฏหมาย และคุณไม่มีทางรู้ว่ามีภาพอะไรที่ไม่ควรถ่ายถูกถ่ายเก็บไว้
    .
    คุณธรรมในวงการนี้หายากมาก และยิ่งในยุคนี้คุณจะยิ่งสิ้นหวังมากขึ้นไปอีกเพราะมาตรฐานทางจริยธรรมของมนุษย์ตกต่ำมาก ไม่กี่วันมานี้ มีคุณแม่คนหนึ่งออกมาพูดออกสื่อโซเชียลแทนลูกชายที่โดนคดีทำร้ายผู้หญิงว่า... "อย่าให้เรื่องทะเลาะกันของชายหญิงมาทำให้อนาคตเสียเลย มันเล็กน้อยมาก ขอให้คิดว่าน้องเขาเป็นเด็กเรียนดี เรียนเก่ง ให้ดูที่การเรียนของน้องเป็นสำคัญ เรื่องอื่นมันเล็กน้อย".... นี่คือตรรกะของสังคมที่ป่วยและผู้คนขาดวิจารณญาณในการพิจารณาชั่วดี
    .
    กรรมเป็นตัวกำหนด คนที่ทำกรรมใดไว้จะได้รับผลของกรรมนั้นแล
    กราบขอบพระคุณ พี่ๆ และครูอาจารย์ที่ปูทางให้โลกของผมตลอดสามสิบกว่าปีที่ผ่านไป มีความดีงามและอุ้มชูผมมาตลอดอาชีพการทำงาน
    .
    ขอภาวนาให้สิทธิผู้ประพันธ์คืนกลับไปยังผู้สร้างสรรค์ทุกท่าน
    .
    RS มาถึงจุดตกต่ำเช่นนี้ ใครจะคิด... ไม่สามารถชำระหนี้แค่ 27 ล้าน หากถูกทวงหนี้ต้นทุนทั้งหมดหลักพันล้านจะทำอย่างไร? . ผมทำงานในวงการเพลงในฐานะคอมโพสเซอร์ นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์มาตั้งแต่ปี 2530 งานโปรดิวซ์ครั้งแรกคืองานชุดคนเขียนเพลงบรรเลงชีวิตของเธนศร์ วรากุลนุเคราะห์ เห็นวัฏจักรวงการเพลงมาตั้งแต่ยุคเก่ารุ่นพ่อช่วงปลายๆ ต่อเข้ายุคมืดที่นายทุนเอาเปรียบนักแต่งเพลงรุ่นครู จ่ายสองสามพันบาทค่าจ้างแต่งเพลงแล้วถือครองสิทธิ์ตลอดกาลจนถึงลูกเต้ามัน . ในช่วงก่อนยุคเปลี่ยนผ่านครั้งที่หนึ่ง เรียกว่ายุคปฏิวัติวงการก็ได้ ผมกำลังเรียนรู้อยู่ที่บริษัทบัตเตอร์ฟลาย ความที่มีครูดีเป็นแบบอย่าง ได้เรียนรู้ระบบแบบฝรั่งว่าเป็นอย่างไร ทำให้เราเข้าใจกลไกของมัน รู้แล้วก็อยากจะสร้างความเปลี่ยนแปลง เลยริเริ่มไปเรียกร้องกับนายทุนมาเฟียค่ายเพลงคนนึงที่วงที่ผมไปเล่นอยู่ด้วยสังกัดอยู่ กำลังจะมีการทำงานชุดใหม่ ก็เลยไปเสนอว่าอยากให้มีการจ่ายค่าผลิตอย่างเป็นธรรม ทั้งเรียบเรียง คำร้องทำนอง มิกซ์เสียง ค่าควบคุมการผลิตต่างๆ รวมทั้งขอส่วนแบ่งจากยอดขาย ผลคือ "มึงหัวหมอหรือ?" งานหยุดชะงัก พวกผมถูกแบนจากสังกัดนั้นจนภายหลังพากันออกมาตั้งเป็นวงตาวัน แต่ไม่วายยังโดนไอ้เสี่ยคนนั้นตามมากลั่นแกล้งภายหลังได้ ตอนที่ออกผลงานชุดแรกของวงตาวัน หุ่นกระบอก แม้จะสังกัดแกรมมี่แล้ว แต่ต้องขายกับบริษัทจัดจำหน่ายของพวกมัน แกรมมี่ยังไม่มีระบบจัดจำหน่ายในตอนนั้น เอ็มจีเอเกิดขึ้นในภายหลัง เสี่ยมันให้สถานีวิทยุในเครือมันมาเรียกวงไปสัมภาษ เสร็จแล้วเรียกไปเชือดที่ห้องทำงานมัน แล้วบอกเราว่า "มึงคิดว่าจะหนีกูพ้นหรือ" ตอนนี้มันเป็นคนจัดจำหน่ายอัลบั้มของพวกผม มันคุมยี่ปั๊ว ซาปั๊ว สถานีวิทยุทั่วประเทศ มันว่าอย่าหวังเลยว่ามึงจะขายได้ และกูจะไม่ให้สถานีวิทยุของกูที่มึงเห็นปักหมุดอยู่เต็มบนแผนที่ประเทศไทยนั่นเล่นเพลงของพวกมึง... มันกดอินเตอร์คอมหาเลขา "เฮ้ย ไอ้อัลบั้มหุ่นกระป๋องนี่ขายได้เท่าไหร่แล้ววันนี้... สองพันค่ะ... สองพัน! มึงได้ยินไหม มึงคงขายได้ประมาณนี้แหละ อย่าหวังว่าจะมากกว่านี้" พี่หมูเลือดขึ้นหน้าเกือบลุกขึ้นเตะก้านคอมัน แต่รู้ว่าอยู่ในตึกมัน หากไปกระทืบมันเข้า วงตาวันวันนั้นคงหามใส่เปลกันออกมาจากตึกนั่นทั้งวง . นายทุนยุคมืดมีความระยำเช่นนี้ ศิลปินคนไหนขายได้มันแจกสร้อยทองแจกเงินให้ตามความพอใจ ขายดีมากมันให้กุญแจรถไปขับ หมดพิสวาทก็เรียกกุญแจคืน ชอบนักร้องหญิงของวงก็เอาทำเมีย ไม่มีส่วนแบ่งจากการขายใดๆ ทั้งสิ้น มีเสี่ยในวงการยุคมืดอยู่สองสามคนที่รู้จักกันนับแต่เวลานั้น . การดำเนินธุรกิจด้วยความเป็นธรรมในวงการเพลงนั้นเป็นสิ่งที่หาไม่ได้ เถ้าแก่พวกนี้ เจ่กแปะพวกนี้ โน๊ตตัวเดียวก็ไม่กระดิก แต่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์นับร้อยนับพันเพลงไปได้อย่างน่าขนลุก นักแต่งเพลงไม่เคยถูกให้เกียรติ ทั้งที่ธุรกิจมีไม่ได้หากไม่มีคนสร้างสรรค์ แต่สิทธิ์ผู้ประพันธ์ของผู้สร้างสรรค์กลับกลายเป็นของนายทุนพวกนี้ นับจากนาทีนั้น ผมสาบานกับตัวเองว่าจะดิ้นให้หลุดจากบ่วงอุบาทย์นี้สักวัน รวมทั้งกฏหมายที่ว่าด้วยการจ้างทำของ และแน่นอนว่า ผมพบทางสลัดหลุดจากวังวนพวกนี้ได้ในที่สุด . คุณธรรม กรรมใดที่ใครก่อ ย่อมบ่งชี้เจตนาของบุคคลนั้น และบุคคลย่อมต้องรับผลนั้นในสักวัน ไม่ช้าก็เร็ว . วันนึง เมื่อผมดำเนินอาชีพของผมมาถึงจุดที่เป็นคอมโพสเซอร์ที่มีค่าตัวแพงที่สุดคนนึง ดนตรีผมหนึ่งนาทีมีค่าจ้างประมาณแสนบาท ผมรับดนตรีประกอบภาพยนตร์เรื่องละหนึ่งล้านบาท และไม่เคยเสียสิทธิ์ผู้ประพันธ์ไปให้ใครอีกเลย ที่งานออกร้านของนักโทษกรมราชทันฑ์ มีพ่อค้าแม่ค้ามาร่วมเปิดท้ายขายของ ผมเห็นไอ้เสี่ยระยำที่เคยยิ่งใหญ่นั่นหอบกล่องอัลบั้มเพลงเก่าๆ ทั้งเทปเก่าและซีดีเก่ามาขายถูกๆ น่าสมเพชที่เมืองไทยมาถึงจุดพินาศเพราะมีเทปผีซีดีเถื่อนเกลื่อนเมือง ซึ่งพวกเสี่ยในยุคของมันบางคนก็มีส่วนในธุรกิจผีพวกนี้... มันนั่งหน้ามันอยู่ข้างแผงและกล่องอัลบั้มแทบไม่มีใครซื้อ มันมีโหลดได้ฟรีๆ ทั่วไปหมด ผมไปหยุดยืนดูมันหัวจรดตีนด้วยใบหน้าเหยียดหยาม สะใจสุดๆ ยามรุ่งเรืองฟุ้งเฟ้อใช้ชีวิตสุดโต่ง ยามตกต่ำสิ้นไร้มีแต่หนี้สิน . ทำไมผมถึงรำลึกถึงพี่เต๋อด้วยความยกย่องเสมอ ก็เพราะเหตุนี้ ระบบที่ดีกว่าเป็นธรรมกว่าอย่างที่ผมไปพลีชีพเรียกร้องกัน ในที่สุดเกิดขึ้นเพราะพี่เต๋อไปก่อตั้งแกรมมี่แล้วสร้างระบบแบบนี้ขึ้นมาได้สำเร็จ ทีมผลิตมีค่าผลิตเป็นสัดส่วนครบถ้วนตามหน้าที่แบบฝรั่งและมีการแบ่งเปอร์เซ็นต์จากยอดขายให้ผู้ประพันธ์และโปรดิวเซอร์ ผมไม่ยกย่องคุณไพบูลย์ในข้อนี้หรอก เพราะระบบที่เป็นธรรมกว่าเช่นนี้ บังเกิดขึ้นได้เพราะพี่เต๋อ ไม่ใช่พี่บูลย์ ถ้าพี่บูลย์ไม่ยอมรับให้สร้างระบบธุรกิจเช่นนี้พี่เต๋อคงไม่เอาด้วย และพวกพี่ๆ จากบัตเตอร์ฟลายก็คงจะไม่ไปเป็นกำลังผลิตให้ บริษัทแกรมมี่ก็จะไม่เกิด . อย่างไรก็ตาม มีรุ่งเรืองก็มีเสื่อมถอย สำหรับผมมันเริ่มเสื่อมลงเมื่อมี mp3 แต่ยิ่งเสื่อมกว่าหลังจากพี่เต๋อเสียชีวิต.. หนึ่งปีให้หลังจากนั้น ผมก็ลาออกจากแกรมมี่ มูลเหตุของการลาออกน่าจะเคยเล่าให้บางคนฟังบ้างแล้ว พวกเราทีมผลิตที่อยู่ในทีมใบตองได้รับอนุญาตให้ขึ้นลิฟท์ตัวเดียวกับที่พี่เต๋อพี่บูลย์ขึ้น วันหนึ่งผมเจอพี่บูลย์ ตอนนั้นเราแยกจากแกรมมี่แกรนด์มาตั้งเป็นอีกเลเบลหนึ่งคือ RPG (Rewat's Producer Group) แล้ว ในลิฟท์พี่บูลย์พูดกับผม... "พี่ปุ้ม.. ผมว่าเราต้องทำงานหนักให้เป็นสองเท่าเพื่อกำไรเท่าเดิม ต้องผลิตให้เร็วขึ้น... ผมว่าอย่างพี่เอาตีนเขี่ยแป๊บเดียวก็เสร็จแล้ว... เก่งไม่กลัวกลัวช้า..." ผมจำประโยคนี้แจ่มชัดแม้ผ่านไปยี่สิบปี พวกเราไม่ได้ช้า ไม่มีใครในตึกมีทักษะทางดนตรีและทักษะทางเทคนิคัลเท่าพวกเราอีกแล้ว เราทำงานละเอียด แม้แต่เสียง Snare แค่แทร็คเดียวเรายังพิถีพิถันเลือกกันอยู่หลายชั่วโมง ทุกเทคทุกแทร็คปราณีต เล่นและบันทึกอย่างตั้งใจ มันปลูกฝังกันมาจากการทำงานกับพี่ๆ กับครูของเราและพี่เต๋อ ความตั้งใจนี้เป็นสันดานและ "เอาตีนเขี่ยไม่ได้..." ผมออกจากลิฟท์วันนั้นแล้วตรงไปลาออกกับโอม ชาตรี คงสุวรรณ ซึ่งนั่งแท่นเป็น managing director อยู่ . เพียงหนึ่งปีให้หลังการเสียชีวิตของพี่เต๋อ ผมรู้สึกได้เลยว่าคุณธรรมที่เคยมีก็เสื่อมลง ผมรู้ทันทีว่าถึงเวลาต้องไป จากวันนั้นเป็นต้นมา ผมรู้ว่าแกรมมี่จะเสื่อมถอยลง อีกปีต่อมาผมกับเพื่อนชื่อฝิ่น คณิต พฤกษ์พระกานต์ ซึ่งเป็นคนลงทุน เราเปิดสถาบันผลิตบุคคลากรสายอาชีพบันเทิงชื่อ Gen-X Academy เปิดอยู่ 14 ปี สอนวิชาที่ไม่เคยมีสอนในมหาวิทยาลัยเมืองไทยมาก่อนนอกจากที่ต่างประเทศ เช่น Songwriting, Arranging, Computer Music, Studio Sound Engineer, Live Sound Engineer, Film Scoring, Sounddesign, Video Post Production, Motion Graphics... เราผลิตบุคคลากรให้กับวงการบันเทิงอาชีพไปนับพันคน ผลิตนักแต่งเพลงไปประมาณสองร้อยกว่าคนเป็นอย่างน้อย ซาวด์เอนจิเนียร์สตูดิโอไม่ต่ำกว่าสามร้อยคน ไลฟ์ซาวด์เอนจิเนียร์อีกไม่ต่ำกว่าสามร้อยคน ยังไม่นับสาขาอื่นเช่น คอมพิวเตอร์กราฟฟิค นักตัดต่อวิดิโอ ทีวีรีพอร์ตเตอร์ ดีเจ นักพากย์... จนกระทั่งมหาลัยวิทยาลัยทั่วทั้งประเทศเกิดการปรับตัวครั้งใหญ่ บรรจุการสอนวิชาเหล่านี้เข้าในระดับปริญญาตรีของ๕ณะดนตรีทุกแห่ง มีห้องอัด มีแลบคอมพิวเตอร์ให้นักศึกษาใช้ ในที่สุดพวกเขาทำตามทุกอย่างที่เรานำร่องมาก่อน แม้ธุรกิจจบ แต่ผมกลับภูมิใจที่ภารกิจจบ GenX Academy ปิดลงเพราะเราไม่มีความจำเป็นอีกต่อไปแล้ว สิ่งที่เราทำมันได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นผลไปทั่ว . มันปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผลลัพธ์จากการได้แบบอย่างที่ดีมาก่อนหน้านั้น มันได้ขยายผลอย่างเป็นรูปธรรมในภายหลัง ตอนอยู่ที่บัตเตอร์ฟลาย พี่ๆ ทำ B.I.T. กัน สอนกันอยู่หลายรุ่น พอมาทำงานกับพี่เต๋อ ไม่ว่าพี่เขาจะมีงานบริหารตื่นเช้าเพียงใด ตกเย็นพี่เต๋อจะมาขลุกอยู่กับพวกเราที่สตูดิโอแทบทุกวัน มีเรื่องมากมายที่ผมได้เรียนรู้ ตอนนั้นยึดหัวหาดที่ห้องอัดศรีสยามเป็นหลัก ผมยังจำประโยคที่พี่เต๋อพูดตอนที่ทานอาหารร่วมกันในคืนหนึ่ง ผมอยู่กับทีมและมีน้องๆ รุ่นใหม่บางคนกำลังเรียนรู้การทำงาน ดูเหมือนวันนั้นจะมีก๊อล์ฟวายนอทเซเว่น... พี่เต๋อพูดว่า "เราต้องสอนน้องๆ ต้องสร้างน้องๆ รุ่นใหม่ที่คิดเหมือนเรา ตั้งใจทำงานให้ดีมีคุณภาพ เชื่อในมาตรฐานการทำงานแบบที่เราทำ" . คุณธรรมในวงการเพลง ไม่ใช่สิ่งที่หาได้ง่ายโดยทั่วไป แม้เคยเจอกับพวกยุคมืด แต่ผมก็ยังโชคดีที่เห็นมันในยุคของพี่เต๋อและการทำงานกับพี่ๆ หลายคน ผมมีน้องๆ ที่รู้จักชอบพอกันหลายคนอยู่ในค่ายเพลงอื่น ผมมักจะได้ยินเสียงสะท้อนออกมาให้รู้เสมอ หลากหลายเรื่องราว.. อย่างหนึ่งที่มักได้ยินจากฝั่งของอาร์เอส พูดตามจริง ไม่ค่อยดีนัก การดูแลชีวิตและให้เกียรติคนทำงานผลิตไม่ได้ดีเท่าไหร่ ความเป็นธรรมในการจ้าง ส่วนแบ่งในรายได้ ที่สำคัญคือการปันผลให้คนสร้างสรรค์ ไม่ค่อยดีนัก และลิขสิทธิ์อยู่กับนายทุนหมด อย่างน้อยก็ได้ยินมาอย่างนั้น... ยังดีที่แกรมมี่ถือลิขสิทธิ์ร่วมกันกับผู้ประพันธ์ แม้ว่าระบบจะไม่มีการปรับให้ดีมากขึ้นตามกาลเวลาและค่าครองชีพ แต่ระบบจัดเก็บและดูแลพับลิชชิ่งของแกรมมี่ยังคงทำงาน และยี่สิบปีที่ผ่านมามีส่วนแบ่งโอนเข้าบัญชีเสมอไม่ได้ขาด มากบ้างน้อยบ้าง . มีนายทุนสายบันเทิงไม่น้อยที่ผมรู้เช่นเห็นชาติมาแต่โบราณ ต้องใช้คำนี้ เช่น บริษัทหนึ่งที่โดดเด่นในการทำคาราโอเกะมีนางแบบโป๊เดินอล่างฉ่างประกอบแบ๊คกิ้งแทร็ค วันนึงร่วมกับบริษัทญี่ปุ่นที่มีเน็ทเวิร์คโฟโต้บุ๊ควัยรุ่นนุ่งน้อยห่มน้อยซึ่งบางที น้อยมาก... ทำค่ายไอดอลข้ามชาติกัน ผมเคยพยายามเตือน ผลคือทัวร์ลง. ไม่มีใครรู้ว่าสัญญาที่เซ็นต์นั้นครอบคลุมการเป็นเจ้าของตัวตนไปจนถึงภาพถ่ายเซลฟี่ส่วนตัวของศิลปินในสังกัดคนนั้น พวกนั้นสามารถอ้างได้แม้ลิขสิทธิของภาพที่เป็นส่วนตัว ในพื้นที่การทำงานเช่น คอนเสิร์ท การปรากฏตัวในที่ต่างๆ ฯ เขาไม่อนุญาตให้ช่างภาพอื่นที่เป็นคนนอกถ่ายภาพเลย แต่จะมีช่างภาพของเขาเท่านั้นที่จะตามถ่ายตลอดเวลา แม้จะเป็นเวลาและพื้นที่ที่ไม่สมควรถ่ายก็จะถูกถ่ายไปได้ คลังภาพจำนวนมากถูกเก็บไว้และเป็นสิทธิของเขาตามกฏหมาย และคุณไม่มีทางรู้ว่ามีภาพอะไรที่ไม่ควรถ่ายถูกถ่ายเก็บไว้ . คุณธรรมในวงการนี้หายากมาก และยิ่งในยุคนี้คุณจะยิ่งสิ้นหวังมากขึ้นไปอีกเพราะมาตรฐานทางจริยธรรมของมนุษย์ตกต่ำมาก ไม่กี่วันมานี้ มีคุณแม่คนหนึ่งออกมาพูดออกสื่อโซเชียลแทนลูกชายที่โดนคดีทำร้ายผู้หญิงว่า... "อย่าให้เรื่องทะเลาะกันของชายหญิงมาทำให้อนาคตเสียเลย มันเล็กน้อยมาก ขอให้คิดว่าน้องเขาเป็นเด็กเรียนดี เรียนเก่ง ให้ดูที่การเรียนของน้องเป็นสำคัญ เรื่องอื่นมันเล็กน้อย".... นี่คือตรรกะของสังคมที่ป่วยและผู้คนขาดวิจารณญาณในการพิจารณาชั่วดี . กรรมเป็นตัวกำหนด คนที่ทำกรรมใดไว้จะได้รับผลของกรรมนั้นแล กราบขอบพระคุณ พี่ๆ และครูอาจารย์ที่ปูทางให้โลกของผมตลอดสามสิบกว่าปีที่ผ่านไป มีความดีงามและอุ้มชูผมมาตลอดอาชีพการทำงาน . ขอภาวนาให้สิทธิผู้ประพันธ์คืนกลับไปยังผู้สร้างสรรค์ทุกท่าน .
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 127 มุมมอง 0 รีวิว
  • Minisforum เปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ AI ที่ใช้ชิป Ryzen แทน EPYC – การเปลี่ยนแปลงที่ AMD อาจไม่พอใจ

    Minisforum เปิดตัว MS-S1 Max ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์ 2U rackmount ที่ใช้ชิป Ryzen AI Max+ 395 แทนที่จะเป็น EPYC โดยบริษัทอ้างว่า ระบบนี้จะช่วยปฏิวัติการทำงานด้าน AI ในสภาพแวดล้อมคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก อย่างไรก็ตาม แนวทางนี้อาจส่งผลกระทบต่อกลยุทธ์ของ AMD ในตลาดเซิร์ฟเวอร์

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ MS-S1 Max และผลกระทบต่อ AMD
    ✅ MS-S1 Max ใช้ชิป Ryzen AI Max+ 395 ซึ่งเป็นชิปสำหรับลูกค้า ไม่ใช่เซิร์ฟเวอร์
    - มี กราฟิก Radeon และ NPU สำหรับงาน AI

    ✅ Minisforum อ้างว่าเซิร์ฟเวอร์นี้เหมาะสำหรับมหาวิทยาลัย, ห้องทดลอง และสตาร์ทอัพด้าน AI
    - สามารถ รันโมเดลขนาดใหญ่ เช่น DeepSeek 70B ได้โดยไม่ต้องใช้โครงสร้างพื้นฐานแบบดั้งเดิม

    ✅ MS-S1 Max มีขนาดเล็กเพียง 3.2 ลิตร และออกแบบให้เป็นระบบ all-in-one
    - ทำให้ มีประสิทธิภาพด้านพลังงานและต้นทุนต่ำกว่าระบบเซิร์ฟเวอร์ทั่วไป

    ✅ AMD อาจต้องตัดสินใจว่าจะยอมรับหรือจำกัดการใช้ Ryzen ในเซิร์ฟเวอร์
    - เนื่องจาก EPYC ได้รับการออกแบบมาเพื่อความน่าเชื่อถือและรองรับงานที่ต้องการความเสถียรสูง

    ✅ Ryzen ไม่มีการรองรับ ECC memory และฟีเจอร์ระดับเซิร์ฟเวอร์
    - อาจทำให้ ไม่เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความเสถียรระยะยาว

    https://www.techradar.com/pro/amd-has-a-problem-chinese-vendor-goes-rogue-and-puts-ryzen-ai-cpus-in-server-racks-instead-of-epyc-processors
    Minisforum เปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ AI ที่ใช้ชิป Ryzen แทน EPYC – การเปลี่ยนแปลงที่ AMD อาจไม่พอใจ Minisforum เปิดตัว MS-S1 Max ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์ 2U rackmount ที่ใช้ชิป Ryzen AI Max+ 395 แทนที่จะเป็น EPYC โดยบริษัทอ้างว่า ระบบนี้จะช่วยปฏิวัติการทำงานด้าน AI ในสภาพแวดล้อมคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก อย่างไรก็ตาม แนวทางนี้อาจส่งผลกระทบต่อกลยุทธ์ของ AMD ในตลาดเซิร์ฟเวอร์ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ MS-S1 Max และผลกระทบต่อ AMD ✅ MS-S1 Max ใช้ชิป Ryzen AI Max+ 395 ซึ่งเป็นชิปสำหรับลูกค้า ไม่ใช่เซิร์ฟเวอร์ - มี กราฟิก Radeon และ NPU สำหรับงาน AI ✅ Minisforum อ้างว่าเซิร์ฟเวอร์นี้เหมาะสำหรับมหาวิทยาลัย, ห้องทดลอง และสตาร์ทอัพด้าน AI - สามารถ รันโมเดลขนาดใหญ่ เช่น DeepSeek 70B ได้โดยไม่ต้องใช้โครงสร้างพื้นฐานแบบดั้งเดิม ✅ MS-S1 Max มีขนาดเล็กเพียง 3.2 ลิตร และออกแบบให้เป็นระบบ all-in-one - ทำให้ มีประสิทธิภาพด้านพลังงานและต้นทุนต่ำกว่าระบบเซิร์ฟเวอร์ทั่วไป ✅ AMD อาจต้องตัดสินใจว่าจะยอมรับหรือจำกัดการใช้ Ryzen ในเซิร์ฟเวอร์ - เนื่องจาก EPYC ได้รับการออกแบบมาเพื่อความน่าเชื่อถือและรองรับงานที่ต้องการความเสถียรสูง ✅ Ryzen ไม่มีการรองรับ ECC memory และฟีเจอร์ระดับเซิร์ฟเวอร์ - อาจทำให้ ไม่เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความเสถียรระยะยาว https://www.techradar.com/pro/amd-has-a-problem-chinese-vendor-goes-rogue-and-puts-ryzen-ai-cpus-in-server-racks-instead-of-epyc-processors
    WWW.TECHRADAR.COM
    This weird little Ryzen rack server could ruin AMD’s carefully planned EPYC business empire
    MS-S1 Max is the AI rebel server AMD didn’t want, but might have to live with
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 111 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตู่น้องพี่ที่กล้าหาญ
    ‘สนธิ’รับ ‘จตุพร’เป็นศิษย์น้อง แสวงจุดร่วม ‘ทักษิณ’เลว

    ////////////////////

    วันที่ 25 พฤษภาคม 2568 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กลุ่มอดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำโดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล ร่วมกับนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์, นายทนง ขันทอง, นายนพรัตน์ พรวนสุข, นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประพันธุ์ และนายคูณมี จัดเวที “ความจริงมีหนึ่งเดียวครั้งที่ 2/2568” ขณะที่นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตหัวหน้าศูนย์นโยบายและวิชาการของพรรคพลังประชารัฐ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ร่วมรับฟังด้วย
    โดยนายจตุพร เข้าสวมกอดนายสนธิ และกล่าวตอนหนึ่งว่า ตนเชื่อว่าตลอดระยะเวลา 20 ปีมานี้ ภาพที่ท่านทั้งหลายได้เห็นขณะนี้ไม่มีใครคิดว่าจะเกิดขึ้น เพราะคำว่าทวงความถูกต้องให้กับคนไทยเป็นหัวใจหลักนำพาให้ตนมาพบกับนายสนธิ ลิ้มทองกูล ในวันนี้ ซึ่งนายสนธิได้ชวนตนในขณะที่พบกันที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ เมือประมาณ 7 ปีที่แล้ว ว่าเราจะได้มีโอกาสถ้อยแถลงพร้อมกัน โดยผ่านมา 7 ปีเพิ่งประสบความสำเร็จในวันนี้ และก่อนหน้านี้ 5 วัน เหมือนของนายสนธิแรงเหลือเกิน เพราะตนติดโควิด-19 แต่ได้กินยาฟ้าทะลายโจรของนายปานเทพ จึงทำให้สภาพร่างกายพร้อม
    อย่างไรก็ตามวันนี้คงไม่มีอะไรสำคัญมากกว่าประเทศไทย ที่ผ่านมาตนจะอย่างไรทุกอย่างเป็นเรื่องเล็ก ส่วนเรื่องใหญ่ของบ้านเมืองในวันนี้คือจะนำพาให้ประเทศไทยเดินทางในทิศทางที่ถูกต้อง และพลิกฟื้นประเทศชาติขึ้นมาได้อย่างไร ตนผ่านมาหลายเหตุการณ์ มารู้ตัวอีกทีก็อายุ 60 ปี แต่ทันทีที่ตนประกาศรบกับนายทักษิณ ทุกคนก็กลับมาญาติดีกับตนเหมือนเดิม ทั้งนี้วันที่นายทักษิณ กลับมาประเทศไทยและยื่นถวายฎีกา ยอมรับว่ากระทำความผิดตามคำพิพากษา มองว่าไม่ใช่ผลพวงการยึดอำนาจหรือตุลาการภิวัฒน์ แต่เขายอมรับว่าทุจริตจริง ไม่ว่าระบอบการเมืองใดทุจริตคือทุจริต โกงก็คือโกง ไม่ว่าจะเป็นเผด็จการหรือประชาธิปไตย
    และขณะนี้มีการตั้งคำถามว่านายทักษิณ จะหนีหรือไม่ หรือมีการหนีออกนอกประเทศไปแล้วหรือยัง ซึ่งตนไม่อยากให้หนีอยากให้ได้ซึมซับบรรยากาศอย่างที่ตนและนายสนธิ ได้ซึมซับในเรือนจำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่มีคนไทยคนไหนได้รับโอกาสเหมือนนายทักษิณอีกแล้ว และเขาไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว และหากเขายอมรับตามที่ได้เขียนถวายฎีกา คนก็ไม่ต้องมาลุ้นว่าจะหนีหรือไม่ และหัวใจหลักที่คนออกมาต่อสู้กับนายทักษิณ คือการปฎิบัติ 2 มาตรฐานและอภิสิทธิ์ชน ซึ่งนายทักษิณได้ทำครบทุกข้อ ที่ผ่านมาเราได้เห็นความเป็นทักษิณ ผู้สนับสนุนได้หูตาสว่างมากขึ้น เพราะการกระทำทั้งหมดเป็นการทำลายตัวเองอย่างย่อยยับไม่มีใครไปทำอะไรเขา ตอนอยู่ต่างประเทศกระแสนิยมสูง เพราะเห็นว่าไม่ได้รับความยุติธรรม แต่เมื่อกลับมาประเทศไทยตั้งแต่ 22 สิงหาคม 66 จนถึงวันนี้ คนไทยได้เห็นความเป็นตัวตนของนายทักษิณครบถ้วน สิ่งที่เสียไปคือการได้รัฐบาลแบบนี้ และเราได้เห็นการเปลือยตัวอย่างล่อนจ้อนของนายทักษิณ และเชื่อว่าหาคนไปตายแทบจะไม่เห็นในเวลาต่อมา

    ดังนั้นจึงควรมาเริ่มต้นความถูกต้องให้เกิดขึ้นในแผ่นดินนี้ เราต้องยอมรับความจริงว่าบ้านเมืองเดินมาถึงจุดเสียหายครบทุกด้าน เลยคำว่าปฏิรูป อาจถึงขั้นการปฏิวัติและล้างบางกันใหม่ โดยยึดแนวทางสร้างสถาบันหลักของชาติและประชาชนให้แข็งแรง เพราะแต่ละขบวนการเราหาสิ่งที่ถูกต้องไม่เจอ กล่าวอ้างประชาธิปไตยเพียงแค่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ซึ่งก่อนหน้านั้นมีการซื้อเสียงตั้งแต่ระดับผู้ใหญ่บ้านแต่กลับอธิบายว่าเป็นประชาธิปไตย
    นายจตุพร กล่าวว่า วันนี้ตนมีโอกาสอยู่ท้องถนนและเข้าสู่สภาฯ บ้าง ซึ่งเทียบแล้วอยู่บนถนนมีความสุขมากกว่ารัฐสภา วันนี้เป็นตัวของตัวเองไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง จึงต้องกล้าคิดว่าหนทางบ้านเมืองต่อไปนี้จะช่วยอะไรได้บ้าง ตนรู้ว่าพี่น้องสู้กันมานาน ผ่านเหตุการณ์ต่างๆ เช่น 14 ตุลา 6 ตุลา และสงครามที่เกี่ยวกับนายทักษิณมา 20 ปี ล้วนยังไม่มีที่สิ้นสุดแต่ประเทศกลับแย่ ทั้งนี้หากสู้เพื่อสลับอำนาจให้กับนักการเมืองหรือผู้อื่น ก่อนเข้าสู่อำนาจรับปากหมด แต่เมื่อเป็นผู้มีอำนาจระหว่างเดินทางจากบ้านไปทำเนียบกลับทำสมองหล่นกลางทาง เราเจอผู้ปกครองลักษณะนี้มาโดยบ้านเมืองจึงแก้ไขไม่ได้

    ทั้งนี้ตนกับทนายนกเขา จัดรายการมา 2 ปี เพื่ออธิบายว่าหากประชาชนไม่สามัคคีกันเราไม่มีทางเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ได้รวมถึงถ้าประชาชนถูกปลุกปั่นให้ทะเลาะกัน วันนี้เป็นโอกาสดีที่สุดที่นายทักษิณกลับมาประเทศไทย และทำให้แต่ละฝ่ายสามัคคีกันโดยไม่ได้นัดหมาย เรื่องราวของบ้านเมืองจากนี้ไปภาคประชาชนต้องให้กำลังใจกัน เราเจอการบริหารประเทศแบ่งแยกและปกครอง รัฐบาลทั้งโลกและประเทศไทยล้วนแต่ชั่วทั้งสิ้น วิธีจัดการรัฐบาลนี้คือประชาชนต้องสามัคคีเท่านั้น
    อย่างไรก็ตามหลังวันที่ 13 มิถุนายน 2568 นี้บ้านเมืองนี้คงเจริญและรวดเร็วขึ้นทุกกระบวนการ เพราะผลนั้นจะเป็นน้ำมันหล่อลื่น เรื่องที่หนืดในกกต. ผู้ตรวจการแผ่นดินหรือ ป.ป.ช. จะมีความรวดเร็วมากขึ้น เพราะทุกขบวนการทำหน้าที่จะเริ่มต้นในการคิดใหม่ แต่ถ้าทุกคนรอคนใหม่มาทำหน้าที่จะทำให้บ้านเมืองจะย่อยยับ ตนมองว่าบ้านเมืองจะเปลี่ยนแต่ปัญหาคือจะเปลี่ยนไปเป็นแบบเดิมได้หรือไม่ ขออย่าหนีจิ้งจกมาเจอตุ๊กแก

    อย่างไรก็ตามตลอด 2 ปีที่ผ่านมา กับสองนายกรัฐมนตรีมีอะไรที่ดีขึ้นบ้าง และนโยบายที่หาเสียงสามารถทำได้จริงหรือไม่ ทั้งลดค่าน้ำมัน ค่าแก๊ส ค่าไฟฟ้าทันที ไฟฟ้า 20 บาททุกสาย รวมถึงแจกเงินหมื่นผ่สนดิจิทัลวอลเล็ต ตอนนี้กลับทำไม่ได้ ความจริงที่กล้าลวง เพราะคิดว่าประชาชนประเทศนี้อะไรก็ได้ วันนี้ถึงเวลาของประชาชนที่เห็นบ้านเมืองไม่ถูกต้อง ผิดทำนองคลองธรรม ประเทศนี้เป็นของเรา ต้องมีสิทธิ์กำหนดอนาคต ไม่ใช่ให้นายทักษิณคิดคนเดียว แต่ประชาชนสามารถคิดในแผ่นดินนี้ได้เหมือนกัน และสุดท้ายเวลาที่ต้องการความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจมาถึงแล้ว วันนี้ตนและทนายนกเขาพร้อมร่วมมือกับนายสนธิ เรื่องชาติบ้านเมือง เพื่อร่วมเปลี่ยนประเทศไทยไปด้วยกัน
    ตู่น้องพี่ที่กล้าหาญ ‘สนธิ’รับ ‘จตุพร’เป็นศิษย์น้อง แสวงจุดร่วม ‘ทักษิณ’เลว //////////////////// วันที่ 25 พฤษภาคม 2568 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กลุ่มอดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำโดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล ร่วมกับนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์, นายทนง ขันทอง, นายนพรัตน์ พรวนสุข, นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประพันธุ์ และนายคูณมี จัดเวที “ความจริงมีหนึ่งเดียวครั้งที่ 2/2568” ขณะที่นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตหัวหน้าศูนย์นโยบายและวิชาการของพรรคพลังประชารัฐ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ร่วมรับฟังด้วย โดยนายจตุพร เข้าสวมกอดนายสนธิ และกล่าวตอนหนึ่งว่า ตนเชื่อว่าตลอดระยะเวลา 20 ปีมานี้ ภาพที่ท่านทั้งหลายได้เห็นขณะนี้ไม่มีใครคิดว่าจะเกิดขึ้น เพราะคำว่าทวงความถูกต้องให้กับคนไทยเป็นหัวใจหลักนำพาให้ตนมาพบกับนายสนธิ ลิ้มทองกูล ในวันนี้ ซึ่งนายสนธิได้ชวนตนในขณะที่พบกันที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ เมือประมาณ 7 ปีที่แล้ว ว่าเราจะได้มีโอกาสถ้อยแถลงพร้อมกัน โดยผ่านมา 7 ปีเพิ่งประสบความสำเร็จในวันนี้ และก่อนหน้านี้ 5 วัน เหมือนของนายสนธิแรงเหลือเกิน เพราะตนติดโควิด-19 แต่ได้กินยาฟ้าทะลายโจรของนายปานเทพ จึงทำให้สภาพร่างกายพร้อม อย่างไรก็ตามวันนี้คงไม่มีอะไรสำคัญมากกว่าประเทศไทย ที่ผ่านมาตนจะอย่างไรทุกอย่างเป็นเรื่องเล็ก ส่วนเรื่องใหญ่ของบ้านเมืองในวันนี้คือจะนำพาให้ประเทศไทยเดินทางในทิศทางที่ถูกต้อง และพลิกฟื้นประเทศชาติขึ้นมาได้อย่างไร ตนผ่านมาหลายเหตุการณ์ มารู้ตัวอีกทีก็อายุ 60 ปี แต่ทันทีที่ตนประกาศรบกับนายทักษิณ ทุกคนก็กลับมาญาติดีกับตนเหมือนเดิม ทั้งนี้วันที่นายทักษิณ กลับมาประเทศไทยและยื่นถวายฎีกา ยอมรับว่ากระทำความผิดตามคำพิพากษา มองว่าไม่ใช่ผลพวงการยึดอำนาจหรือตุลาการภิวัฒน์ แต่เขายอมรับว่าทุจริตจริง ไม่ว่าระบอบการเมืองใดทุจริตคือทุจริต โกงก็คือโกง ไม่ว่าจะเป็นเผด็จการหรือประชาธิปไตย และขณะนี้มีการตั้งคำถามว่านายทักษิณ จะหนีหรือไม่ หรือมีการหนีออกนอกประเทศไปแล้วหรือยัง ซึ่งตนไม่อยากให้หนีอยากให้ได้ซึมซับบรรยากาศอย่างที่ตนและนายสนธิ ได้ซึมซับในเรือนจำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่มีคนไทยคนไหนได้รับโอกาสเหมือนนายทักษิณอีกแล้ว และเขาไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว และหากเขายอมรับตามที่ได้เขียนถวายฎีกา คนก็ไม่ต้องมาลุ้นว่าจะหนีหรือไม่ และหัวใจหลักที่คนออกมาต่อสู้กับนายทักษิณ คือการปฎิบัติ 2 มาตรฐานและอภิสิทธิ์ชน ซึ่งนายทักษิณได้ทำครบทุกข้อ ที่ผ่านมาเราได้เห็นความเป็นทักษิณ ผู้สนับสนุนได้หูตาสว่างมากขึ้น เพราะการกระทำทั้งหมดเป็นการทำลายตัวเองอย่างย่อยยับไม่มีใครไปทำอะไรเขา ตอนอยู่ต่างประเทศกระแสนิยมสูง เพราะเห็นว่าไม่ได้รับความยุติธรรม แต่เมื่อกลับมาประเทศไทยตั้งแต่ 22 สิงหาคม 66 จนถึงวันนี้ คนไทยได้เห็นความเป็นตัวตนของนายทักษิณครบถ้วน สิ่งที่เสียไปคือการได้รัฐบาลแบบนี้ และเราได้เห็นการเปลือยตัวอย่างล่อนจ้อนของนายทักษิณ และเชื่อว่าหาคนไปตายแทบจะไม่เห็นในเวลาต่อมา ดังนั้นจึงควรมาเริ่มต้นความถูกต้องให้เกิดขึ้นในแผ่นดินนี้ เราต้องยอมรับความจริงว่าบ้านเมืองเดินมาถึงจุดเสียหายครบทุกด้าน เลยคำว่าปฏิรูป อาจถึงขั้นการปฏิวัติและล้างบางกันใหม่ โดยยึดแนวทางสร้างสถาบันหลักของชาติและประชาชนให้แข็งแรง เพราะแต่ละขบวนการเราหาสิ่งที่ถูกต้องไม่เจอ กล่าวอ้างประชาธิปไตยเพียงแค่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ซึ่งก่อนหน้านั้นมีการซื้อเสียงตั้งแต่ระดับผู้ใหญ่บ้านแต่กลับอธิบายว่าเป็นประชาธิปไตย นายจตุพร กล่าวว่า วันนี้ตนมีโอกาสอยู่ท้องถนนและเข้าสู่สภาฯ บ้าง ซึ่งเทียบแล้วอยู่บนถนนมีความสุขมากกว่ารัฐสภา วันนี้เป็นตัวของตัวเองไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง จึงต้องกล้าคิดว่าหนทางบ้านเมืองต่อไปนี้จะช่วยอะไรได้บ้าง ตนรู้ว่าพี่น้องสู้กันมานาน ผ่านเหตุการณ์ต่างๆ เช่น 14 ตุลา 6 ตุลา และสงครามที่เกี่ยวกับนายทักษิณมา 20 ปี ล้วนยังไม่มีที่สิ้นสุดแต่ประเทศกลับแย่ ทั้งนี้หากสู้เพื่อสลับอำนาจให้กับนักการเมืองหรือผู้อื่น ก่อนเข้าสู่อำนาจรับปากหมด แต่เมื่อเป็นผู้มีอำนาจระหว่างเดินทางจากบ้านไปทำเนียบกลับทำสมองหล่นกลางทาง เราเจอผู้ปกครองลักษณะนี้มาโดยบ้านเมืองจึงแก้ไขไม่ได้ ทั้งนี้ตนกับทนายนกเขา จัดรายการมา 2 ปี เพื่ออธิบายว่าหากประชาชนไม่สามัคคีกันเราไม่มีทางเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ได้รวมถึงถ้าประชาชนถูกปลุกปั่นให้ทะเลาะกัน วันนี้เป็นโอกาสดีที่สุดที่นายทักษิณกลับมาประเทศไทย และทำให้แต่ละฝ่ายสามัคคีกันโดยไม่ได้นัดหมาย เรื่องราวของบ้านเมืองจากนี้ไปภาคประชาชนต้องให้กำลังใจกัน เราเจอการบริหารประเทศแบ่งแยกและปกครอง รัฐบาลทั้งโลกและประเทศไทยล้วนแต่ชั่วทั้งสิ้น วิธีจัดการรัฐบาลนี้คือประชาชนต้องสามัคคีเท่านั้น อย่างไรก็ตามหลังวันที่ 13 มิถุนายน 2568 นี้บ้านเมืองนี้คงเจริญและรวดเร็วขึ้นทุกกระบวนการ เพราะผลนั้นจะเป็นน้ำมันหล่อลื่น เรื่องที่หนืดในกกต. ผู้ตรวจการแผ่นดินหรือ ป.ป.ช. จะมีความรวดเร็วมากขึ้น เพราะทุกขบวนการทำหน้าที่จะเริ่มต้นในการคิดใหม่ แต่ถ้าทุกคนรอคนใหม่มาทำหน้าที่จะทำให้บ้านเมืองจะย่อยยับ ตนมองว่าบ้านเมืองจะเปลี่ยนแต่ปัญหาคือจะเปลี่ยนไปเป็นแบบเดิมได้หรือไม่ ขออย่าหนีจิ้งจกมาเจอตุ๊กแก อย่างไรก็ตามตลอด 2 ปีที่ผ่านมา กับสองนายกรัฐมนตรีมีอะไรที่ดีขึ้นบ้าง และนโยบายที่หาเสียงสามารถทำได้จริงหรือไม่ ทั้งลดค่าน้ำมัน ค่าแก๊ส ค่าไฟฟ้าทันที ไฟฟ้า 20 บาททุกสาย รวมถึงแจกเงินหมื่นผ่สนดิจิทัลวอลเล็ต ตอนนี้กลับทำไม่ได้ ความจริงที่กล้าลวง เพราะคิดว่าประชาชนประเทศนี้อะไรก็ได้ วันนี้ถึงเวลาของประชาชนที่เห็นบ้านเมืองไม่ถูกต้อง ผิดทำนองคลองธรรม ประเทศนี้เป็นของเรา ต้องมีสิทธิ์กำหนดอนาคต ไม่ใช่ให้นายทักษิณคิดคนเดียว แต่ประชาชนสามารถคิดในแผ่นดินนี้ได้เหมือนกัน และสุดท้ายเวลาที่ต้องการความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจมาถึงแล้ว วันนี้ตนและทนายนกเขาพร้อมร่วมมือกับนายสนธิ เรื่องชาติบ้านเมือง เพื่อร่วมเปลี่ยนประเทศไทยไปด้วยกัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 267 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌑⭐️🪐ดาวตรีเทพย้ายในเดือนพฤษภาคม2568..
    ดาวราหูย้ายเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2568
    ดาวพฤหัสย้ายเมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2568 และดาวสุดท้าย ดาวเสาร์ 7 โคจรอยู่ในราศีกุมภ์จนถึงวันที่ 19 พ.ค. 2568 ย้ายมาอยู่ในราศีมีน ทำมุมจตุโกณฑ์กับอังคาร ๓ ตนุลัคน์ของเมืองและดาวมฤตยู ๐ จรในราศีพฤษภ เป็นระยะเชิงมุมที่มีสัมพันธ์ร้ายต่อกัน ในโหราศาสตร์ชะตาบ้านเมืองได้กล่าวถึงการที่ดาวเสาร์ 7 และดาวมฤตยู ๐ มีสัมพันธ์ร้ายต่อกันไว้ว่า จะนำความยุ่งยากมาสู่รัฐบาลและผู้มีอำนาจปกครองประเทศ การเมืองของประเทศจะถูกรบกวนและเกิดการเปลี่ยนแปลง มีความผันแปรและมีอุปสรรคขัดขวางการทำงานของผู้มีอำนาจ รัฐบาลต้องเผชิญหน้ากับความปั่นป่วนซึ่งอาจทำให้สูญเสียความนิยมหรือพ่ายแพ้ เกิดการเปลี่ยนแปลงในคณะรัฐมนตรี อาจมีการตายหรือลาออก การแตกแยกภายในพรรคการเมือง มีการเลือกตั้งทั่วไปหรือการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ที่ยังผลถึงรัฐสภา

    ดาวเสาร์ 7 โคจรในราศีกุมภ์ทำมุมจตุโกณฑ์กับดาวอังคาร ๓ ตนุลัคน์ของเมืองถึงวันที่ 19 พ.ค. 2568 เป็นระยะเชิงมุมที่มีสัมพันธ์ร้ายต่อกัน ซึ่งจะยังความอับโชคมาสู่รัฐบาล เกิดความยุ่งยากภายในประเทศ ความไม่พอใจของประชาชน เกิดความวุ่นวาย อาชญากรรม ฆาตกรรม รัฐบาลอาจถึงกับเสื่อมเสียความนิยมหรือการสนับสนุน คนสำคัญบางคนอาจถึงแก่ความตายหรือถูกลอบปองร้ายชีวิต ความไม่พอใจอาจพาดพิงมาถึงกองทัพ และอาจเกิดการปฏิวัติ รัฐประหารขึ้นได้

    ดาวมฤตยู (๐) โคจรในราศีพฤษภ ภพกดุมภะ เรือนของดาวศุกร์ ขณะที่ราหู 8 โคจรในภพวินาศของดวงเมืองจนถึงวันที่ 5 พ.ค. 68และสัมพันธ์ถึงดาวศุกร์ (๖) เจ้าเรือนกดุมภะ ในพื้นดวงเมือง จะก่อให้เกิดความผันผวนทางด้านเศรษฐกิจภายในประเทศ อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากเศรษฐกิจโลก ธุรกิจ การค้าขายเกิดภาวะฝืดเคือง เจ้าของกิจการ ห้างร้าน บริษัท โรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งปิดตัวลง เนื่องมาจากต้นทุนการผลิตสูงขึ้นมาก ประสบภาวะขาดทุนเพราะประชาชนไม่มีกำลังซื้อ และเกิดภาวะว่างงานเป็นจำนวนมาก ทำให้รัฐบาลต้องเพิ่มงบประมาณในการช่วยเหลือประชาชนและเพื่อพยุงเศรษฐกิจ ขณะที่รายได้จากภาษีอากรไม่สอดคล้องกับภาระค่าใช้จ่ายของรัฐบาล

    รัฐบาลจะออกพันธบัตรขายให้แก่นักลงทุนและประชาชนทั่วไป รวมถึงการกู้เงินเพื่อมาใช้จ่ายในกิจการของรัฐ ขณะที่หน่วยงานที่ดำเนินการเกี่ยวกับความมั่นคงทางการเงินและการจัดการเกี่ยวกับระบบการเงินของชาติต้องทำงานกันอย่างหนัก เพื่อดูแลระบบการเงินให้มีเสถียรภาพ มีการปรับปรุงระบบการจัดเก็บภาษีอากรให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และอาจมีการเพิ่มภาษีบางอย่าง ปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับสวัสดิการของรัฐและเงินบำเหน็จบำนาญให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ มีการติดต่อเจรจาค้าขายรวมถึงการใช้สกุลเงินของประเทศที่ปกครองในระบอบคอมมิวนิสต์มากขึ้นและสกุลเงินเหล่านี้จะมีบทบาทมากขึ้นในเวทีการค้าโลกซึ่งได้ปรากฎให้เห็นมาแล้วเป็นระยะ

    ที่มา..ส่องดวงเมืองผ่านดวงดาว 2568 (ตอนที่ 1) โดย พล พยากรณ์
    🌑⭐️🪐ดาวตรีเทพย้ายในเดือนพฤษภาคม2568.. ดาวราหูย้ายเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2568 ดาวพฤหัสย้ายเมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2568 และดาวสุดท้าย ดาวเสาร์ 7 โคจรอยู่ในราศีกุมภ์จนถึงวันที่ 19 พ.ค. 2568 ย้ายมาอยู่ในราศีมีน ทำมุมจตุโกณฑ์กับอังคาร ๓ ตนุลัคน์ของเมืองและดาวมฤตยู ๐ จรในราศีพฤษภ เป็นระยะเชิงมุมที่มีสัมพันธ์ร้ายต่อกัน ในโหราศาสตร์ชะตาบ้านเมืองได้กล่าวถึงการที่ดาวเสาร์ 7 และดาวมฤตยู ๐ มีสัมพันธ์ร้ายต่อกันไว้ว่า จะนำความยุ่งยากมาสู่รัฐบาลและผู้มีอำนาจปกครองประเทศ การเมืองของประเทศจะถูกรบกวนและเกิดการเปลี่ยนแปลง มีความผันแปรและมีอุปสรรคขัดขวางการทำงานของผู้มีอำนาจ รัฐบาลต้องเผชิญหน้ากับความปั่นป่วนซึ่งอาจทำให้สูญเสียความนิยมหรือพ่ายแพ้ เกิดการเปลี่ยนแปลงในคณะรัฐมนตรี อาจมีการตายหรือลาออก การแตกแยกภายในพรรคการเมือง มีการเลือกตั้งทั่วไปหรือการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ที่ยังผลถึงรัฐสภา ดาวเสาร์ 7 โคจรในราศีกุมภ์ทำมุมจตุโกณฑ์กับดาวอังคาร ๓ ตนุลัคน์ของเมืองถึงวันที่ 19 พ.ค. 2568 เป็นระยะเชิงมุมที่มีสัมพันธ์ร้ายต่อกัน ซึ่งจะยังความอับโชคมาสู่รัฐบาล เกิดความยุ่งยากภายในประเทศ ความไม่พอใจของประชาชน เกิดความวุ่นวาย อาชญากรรม ฆาตกรรม รัฐบาลอาจถึงกับเสื่อมเสียความนิยมหรือการสนับสนุน คนสำคัญบางคนอาจถึงแก่ความตายหรือถูกลอบปองร้ายชีวิต ความไม่พอใจอาจพาดพิงมาถึงกองทัพ และอาจเกิดการปฏิวัติ รัฐประหารขึ้นได้ ดาวมฤตยู (๐) โคจรในราศีพฤษภ ภพกดุมภะ เรือนของดาวศุกร์ ขณะที่ราหู 8 โคจรในภพวินาศของดวงเมืองจนถึงวันที่ 5 พ.ค. 68และสัมพันธ์ถึงดาวศุกร์ (๖) เจ้าเรือนกดุมภะ ในพื้นดวงเมือง จะก่อให้เกิดความผันผวนทางด้านเศรษฐกิจภายในประเทศ อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากเศรษฐกิจโลก ธุรกิจ การค้าขายเกิดภาวะฝืดเคือง เจ้าของกิจการ ห้างร้าน บริษัท โรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งปิดตัวลง เนื่องมาจากต้นทุนการผลิตสูงขึ้นมาก ประสบภาวะขาดทุนเพราะประชาชนไม่มีกำลังซื้อ และเกิดภาวะว่างงานเป็นจำนวนมาก ทำให้รัฐบาลต้องเพิ่มงบประมาณในการช่วยเหลือประชาชนและเพื่อพยุงเศรษฐกิจ ขณะที่รายได้จากภาษีอากรไม่สอดคล้องกับภาระค่าใช้จ่ายของรัฐบาล รัฐบาลจะออกพันธบัตรขายให้แก่นักลงทุนและประชาชนทั่วไป รวมถึงการกู้เงินเพื่อมาใช้จ่ายในกิจการของรัฐ ขณะที่หน่วยงานที่ดำเนินการเกี่ยวกับความมั่นคงทางการเงินและการจัดการเกี่ยวกับระบบการเงินของชาติต้องทำงานกันอย่างหนัก เพื่อดูแลระบบการเงินให้มีเสถียรภาพ มีการปรับปรุงระบบการจัดเก็บภาษีอากรให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และอาจมีการเพิ่มภาษีบางอย่าง ปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับสวัสดิการของรัฐและเงินบำเหน็จบำนาญให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ มีการติดต่อเจรจาค้าขายรวมถึงการใช้สกุลเงินของประเทศที่ปกครองในระบอบคอมมิวนิสต์มากขึ้นและสกุลเงินเหล่านี้จะมีบทบาทมากขึ้นในเวทีการค้าโลกซึ่งได้ปรากฎให้เห็นมาแล้วเป็นระยะ ที่มา..ส่องดวงเมืองผ่านดวงดาว 2568 (ตอนที่ 1) โดย พล พยากรณ์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 172 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ด่วน: การยึดครอง QFS – การควบคุมทั้งหมดหรืออิสรภาพทั้งหมด?

    ระบบการเงินควอนตัม (QFS) มาถึงแล้ว และไม่ใช่แค่การอัปเกรดเท่านั้น แต่ยังเป็นการรีเซ็ตทุกอย่างที่เรารู้เกี่ยวกับการเงินทั้งหมด เตรียมพร้อมสำหรับการเข้ารหัสควอนตัม การตรวจสอบข้อมูลชีวภาพ และการกำจัดระบบธนาคารที่ทุจริตให้หมดสิ้น

    🔥 เงินของคุณ—ถูกล็อกหรือปลดปล่อย?
    บัญชี QFS ทุกบัญชีเป็นของบุคคลเท่านั้น—ไม่มีบัญชีที่ใช้ร่วมกัน ไม่มีการเข้าถึงของครอบครัว ไม่มีช่องโหว่ ระบบนี้จะขจัดการควบคุมทางการเงินโดยธนาคาร คู่สมรส หรือแม้แต่พ่อแม่ ผู้เยาว์จะมีบัญชีที่ถูกล็อก ซึ่งสามารถเข้าถึงได้เฉพาะเมื่อได้รับ "การอนุมัติ" จากระบบเท่านั้น ใครเป็นคนตัดสินใจ ไม่ใช่คุณ

    💰 UBI, การควบคุม หรือการเป็นทาส?
    พวกเขาขายมันในฐานะ "ระบบที่ยุติธรรม" ที่พลเมืองทุกคนมีเงินที่โหลดไว้ล่วงหน้า แต่เงื่อนไขคือ คุณจะเข้าถึงได้ก็ต่อเมื่อคุณปฏิบัติตามเท่านั้น Universal Basic Income (UBI) มาพร้อมกับเงื่อนไข คุณจะต้องมีคะแนนเครดิตทางสังคมหรือไม่? การยืนยันตัวตนที่เชื่อมโยงกับ DNA ของคุณ? ราคาที่แท้จริงของ "เงินฟรี" คือการควบคุมทั้งหมด

    🚨 การเปิดเผยครั้งยิ่งใหญ่—การประกาศของ EBS
    ระบบกระจายเสียงฉุกเฉิน (EBS) จะยืนยันในไม่ช้านี้ว่าชะตากรรมทางการเงินของคุณได้ถูกวางแผนไว้แล้ว บัญชี QFS ของคุณมีอยู่จริงและได้สะสมเงินมาตั้งแต่เกิด แต่ใครล่ะที่ควบคุมมันจริงๆ คุณเป็นอิสระอย่างแท้จริงหรือไม่ หรือว่านี่คือคุกทางการเงินแห่งใหม่ที่ปลอมตัวมาเป็นของขวัญ

    💀 จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคุณตาย?
    ไม่เหมือนธนาคารแบบดั้งเดิม เงิน QFS ของคุณอาจไม่โอนไปยังครอบครัวของคุณ หากแต่ละคนมีทรัพย์สมบัติของตนเอง เหตุใดระบบจึงต้องการ "มรดก" นี่คือการลบล้างทรัพย์สมบัติของรุ่นต่อรุ่นโดยสิ้นเชิง—การรีเซ็ตโดยตั้งใจ

    🏦 ลาก่อนธนาคาร สวัสดีระบบใหม่
    บัญชีแบบดั้งเดิมของคุณจะถูกบังคับให้ใช้ QFS ไม่ต้องโอนด้วยตนเอง—เป็นระบบอัตโนมัติ หากเงินของคุณถูกทำเครื่องหมาย คุณจะมีสิทธิ์เข้าถึงหรือไม่ บอกลาความเป็นส่วนตัวทางการเงินได้เลย นี่คือการครอบงำแบบเต็มรูปแบบ

    ⚠️ ไร้บ้าน? ถูกจองจำ? คุณยังอยู่ในระบบ
    แม้แต่คนไร้บ้านก็จะถูกติดตามและมอบบัญชีให้ ผู้ต้องขัง? ถูกบังคับให้จ่ายค่าใช้จ่ายในเรือนจำของตนเองจากกองทุน QFS นี่ไม่ใช่เรื่องความยุติธรรม—แต่เป็นเรื่องของการควบคุมทั้งหมด

    🔥 พายุมาถึงแล้ว คุณพร้อมหรือยัง?
    สิ่งที่พวกเขาเรียกว่า "การปฏิวัติการเงินเชิงควอนตัม" แท้จริงแล้วเป็นการรัดคอแบบดิจิทัลที่รัดแน่นขึ้นรอบๆ มนุษยชาติ ทางเลือกนั้นชัดเจน—ต่อต้านหรือยอมจำนน

    เวลาใกล้หมดลงแล้ว เตรียมตัวตอนนี้

    ..ด่วน: การยึดครอง QFS – การควบคุมทั้งหมดหรืออิสรภาพทั้งหมด? ระบบการเงินควอนตัม (QFS) มาถึงแล้ว และไม่ใช่แค่การอัปเกรดเท่านั้น แต่ยังเป็นการรีเซ็ตทุกอย่างที่เรารู้เกี่ยวกับการเงินทั้งหมด เตรียมพร้อมสำหรับการเข้ารหัสควอนตัม การตรวจสอบข้อมูลชีวภาพ และการกำจัดระบบธนาคารที่ทุจริตให้หมดสิ้น 🔥 เงินของคุณ—ถูกล็อกหรือปลดปล่อย? บัญชี QFS ทุกบัญชีเป็นของบุคคลเท่านั้น—ไม่มีบัญชีที่ใช้ร่วมกัน ไม่มีการเข้าถึงของครอบครัว ไม่มีช่องโหว่ ระบบนี้จะขจัดการควบคุมทางการเงินโดยธนาคาร คู่สมรส หรือแม้แต่พ่อแม่ ผู้เยาว์จะมีบัญชีที่ถูกล็อก ซึ่งสามารถเข้าถึงได้เฉพาะเมื่อได้รับ "การอนุมัติ" จากระบบเท่านั้น ใครเป็นคนตัดสินใจ ไม่ใช่คุณ 💰 UBI, การควบคุม หรือการเป็นทาส? พวกเขาขายมันในฐานะ "ระบบที่ยุติธรรม" ที่พลเมืองทุกคนมีเงินที่โหลดไว้ล่วงหน้า แต่เงื่อนไขคือ คุณจะเข้าถึงได้ก็ต่อเมื่อคุณปฏิบัติตามเท่านั้น Universal Basic Income (UBI) มาพร้อมกับเงื่อนไข คุณจะต้องมีคะแนนเครดิตทางสังคมหรือไม่? การยืนยันตัวตนที่เชื่อมโยงกับ DNA ของคุณ? ราคาที่แท้จริงของ "เงินฟรี" คือการควบคุมทั้งหมด 🚨 การเปิดเผยครั้งยิ่งใหญ่—การประกาศของ EBS ระบบกระจายเสียงฉุกเฉิน (EBS) จะยืนยันในไม่ช้านี้ว่าชะตากรรมทางการเงินของคุณได้ถูกวางแผนไว้แล้ว บัญชี QFS ของคุณมีอยู่จริงและได้สะสมเงินมาตั้งแต่เกิด แต่ใครล่ะที่ควบคุมมันจริงๆ คุณเป็นอิสระอย่างแท้จริงหรือไม่ หรือว่านี่คือคุกทางการเงินแห่งใหม่ที่ปลอมตัวมาเป็นของขวัญ 💀 จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคุณตาย? ไม่เหมือนธนาคารแบบดั้งเดิม เงิน QFS ของคุณอาจไม่โอนไปยังครอบครัวของคุณ หากแต่ละคนมีทรัพย์สมบัติของตนเอง เหตุใดระบบจึงต้องการ "มรดก" นี่คือการลบล้างทรัพย์สมบัติของรุ่นต่อรุ่นโดยสิ้นเชิง—การรีเซ็ตโดยตั้งใจ 🏦 ลาก่อนธนาคาร สวัสดีระบบใหม่ บัญชีแบบดั้งเดิมของคุณจะถูกบังคับให้ใช้ QFS ไม่ต้องโอนด้วยตนเอง—เป็นระบบอัตโนมัติ หากเงินของคุณถูกทำเครื่องหมาย คุณจะมีสิทธิ์เข้าถึงหรือไม่ บอกลาความเป็นส่วนตัวทางการเงินได้เลย นี่คือการครอบงำแบบเต็มรูปแบบ ⚠️ ไร้บ้าน? ถูกจองจำ? คุณยังอยู่ในระบบ แม้แต่คนไร้บ้านก็จะถูกติดตามและมอบบัญชีให้ ผู้ต้องขัง? ถูกบังคับให้จ่ายค่าใช้จ่ายในเรือนจำของตนเองจากกองทุน QFS นี่ไม่ใช่เรื่องความยุติธรรม—แต่เป็นเรื่องของการควบคุมทั้งหมด 🔥 พายุมาถึงแล้ว คุณพร้อมหรือยัง? สิ่งที่พวกเขาเรียกว่า "การปฏิวัติการเงินเชิงควอนตัม" แท้จริงแล้วเป็นการรัดคอแบบดิจิทัลที่รัดแน่นขึ้นรอบๆ มนุษยชาติ ทางเลือกนั้นชัดเจน—ต่อต้านหรือยอมจำนน เวลาใกล้หมดลงแล้ว เตรียมตัวตอนนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 290 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปฏิวัติ 'คนตายขายคนเป็น' | ธงทอง จันทรางศุ
    https://www.thai-tai.tv/news/18680/
    ปฏิวัติ 'คนตายขายคนเป็น' | ธงทอง จันทรางศุ https://www.thai-tai.tv/news/18680/
    WWW.THAI-TAI.TV
    ปฏิวัติ 'คนตายขายคนเป็น' | ธงทอง จันทรางศุ ไทยไท แชนเนล : Thai-Tai Channel
    ช่องข่าวคุณภาพเพื่อชาติเพื่อคุณ ไทยไท แชนเนล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • Space Forge เตรียมเปิดตัวดาวเทียมผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในอวกาศปี 2025

    Space Forge บริษัทสตาร์ทอัพจากสหราชอาณาจักร ได้รับเงินทุน 30 ล้านดอลลาร์ ในรอบ Series A เพื่อพัฒนา ดาวเทียม ForgeStar-1 และ ForgeStar-2 สำหรับการผลิตวัสดุที่ไม่สามารถสร้างบนโลกได้ โดยใช้ สภาวะไร้น้ำหนัก, สูญญากาศ และอุณหภูมิที่แตกต่างกันสุดขั้วในอวกาศ

    ✅ Space Forge ได้รับเงินทุน 30 ล้านดอลลาร์เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตในอวกาศ
    - เป็น เงินทุนรอบ Series A ที่สูงที่สุดสำหรับบริษัทเทคโนโลยีอวกาศในสหราชอาณาจักร

    ✅ ดาวเทียม ForgeStar-1 จะเป็นดาวเทียมผลิตวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
    - ช่วยให้ สามารถทำการทดลองและผลิตวัสดุในอวกาศได้อย่างต่อเนื่อง

    ✅ วัสดุที่ผลิตในอวกาศมีศักยภาพในการปรับปรุงเซมิคอนดักเตอร์และคอมพิวเตอร์ควอนตัม
    - อาจช่วย ลดการปล่อย CO2 ได้ถึง 75% ในโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ศูนย์ข้อมูล

    ✅ Space Forge Inc. ในสหรัฐฯ ตั้งเป้าปฏิวัติการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ภายในประเทศ
    - สอดคล้องกับ CHIPS and Science Act เพื่อเสริมความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทาน

    ✅ ดาวเทียม ForgeStar-1 จะเริ่มภารกิจทดสอบในวงโคจรครั้งแรกในปี 2025
    - เป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาแพลตฟอร์มการผลิตในอวกาศที่สามารถใช้งานซ้ำได้

    ‼️ การผลิตในอวกาศต้องเผชิญกับความท้าทายด้านต้นทุนและเทคโนโลยี
    - ต้องติดตามว่า Space Forge จะสามารถทำให้โครงการนี้คุ้มค่าทางเศรษฐกิจได้หรือไม่

    ‼️ ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์อาจส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์
    - การพึ่งพาไต้หวันในปัจจุบัน อาจมีผลกระทบหากเกิดความขัดแย้งทางการเมือง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/space-forge-to-pioneer-semiconductor-manufacturing-in-space-with-first-satellite-launch-in-2025
    Space Forge เตรียมเปิดตัวดาวเทียมผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในอวกาศปี 2025 Space Forge บริษัทสตาร์ทอัพจากสหราชอาณาจักร ได้รับเงินทุน 30 ล้านดอลลาร์ ในรอบ Series A เพื่อพัฒนา ดาวเทียม ForgeStar-1 และ ForgeStar-2 สำหรับการผลิตวัสดุที่ไม่สามารถสร้างบนโลกได้ โดยใช้ สภาวะไร้น้ำหนัก, สูญญากาศ และอุณหภูมิที่แตกต่างกันสุดขั้วในอวกาศ ✅ Space Forge ได้รับเงินทุน 30 ล้านดอลลาร์เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตในอวกาศ - เป็น เงินทุนรอบ Series A ที่สูงที่สุดสำหรับบริษัทเทคโนโลยีอวกาศในสหราชอาณาจักร ✅ ดาวเทียม ForgeStar-1 จะเป็นดาวเทียมผลิตวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ - ช่วยให้ สามารถทำการทดลองและผลิตวัสดุในอวกาศได้อย่างต่อเนื่อง ✅ วัสดุที่ผลิตในอวกาศมีศักยภาพในการปรับปรุงเซมิคอนดักเตอร์และคอมพิวเตอร์ควอนตัม - อาจช่วย ลดการปล่อย CO2 ได้ถึง 75% ในโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ศูนย์ข้อมูล ✅ Space Forge Inc. ในสหรัฐฯ ตั้งเป้าปฏิวัติการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ภายในประเทศ - สอดคล้องกับ CHIPS and Science Act เพื่อเสริมความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทาน ✅ ดาวเทียม ForgeStar-1 จะเริ่มภารกิจทดสอบในวงโคจรครั้งแรกในปี 2025 - เป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาแพลตฟอร์มการผลิตในอวกาศที่สามารถใช้งานซ้ำได้ ‼️ การผลิตในอวกาศต้องเผชิญกับความท้าทายด้านต้นทุนและเทคโนโลยี - ต้องติดตามว่า Space Forge จะสามารถทำให้โครงการนี้คุ้มค่าทางเศรษฐกิจได้หรือไม่ ‼️ ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์อาจส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์ - การพึ่งพาไต้หวันในปัจจุบัน อาจมีผลกระทบหากเกิดความขัดแย้งทางการเมือง https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/space-forge-to-pioneer-semiconductor-manufacturing-in-space-with-first-satellite-launch-in-2025
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..อิหร่านคลิปนี้ชอบค่าจริง จริงๆ,ซึ่งในประเทศไทยเราสมควรปฏิวัติไปเลย.,ภายในประเทศอิหร่านจะขายน้ำมันชนิดแบบเบนซินหรือดีเชล อยู่ระหว่าง1-2บาทต่อลิตรเอง.,ประเทศไทยต้องยึดอำนาจปฏิวัติรัฐประหารต้องเพื่องานนี้จริงๆ,ไม่เสียของแบบๆที่เคยๆยึดอำนาจกันแบบกากๆที่ผ่านมา ไร้ค่าไร้สมองแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุจริงๆ จะราคาน้ำมัน ค่าไฟฟ้าแพง หรือค่าครองชีพแพง ต้นทุนพื้นฐานแพงทั้งหมดของต้นทุนทุกๆภาคส่วน บ่อน้ำมันนี้ล่ะคือต้นเหตุที่แท้จริงของปัญหาทั้งหมดของชาติไทย,ตลอดต่างชาติทั้งหมดที่คตโกงไม่ซื่อสัตย์ต่อประเทศไทย ปล้นชิงแย่งขิงทรัพยากรวัตถุดิบที่เป็นหัวใจของการพัฒนาชาติไทยเราไปจริงคือสิ่งนี้ในยุคนี้สมัยนี้คือบ่อน้ำมัน,แม้ดวงอาทิตย์ดับ เพียงมีบ่อน้ำมัน เราก็สามารถอยู่กันได้ตลอดหลายพันปีอย่างสบายๆของประเทศไทยเรา,ด้วบความละโมบของต่างชาติ เอาแต่ได้เห็นแก่ตัวแก่ชาติมัน จึงมาปล้นชิงของเราไปจากแผ่นดินไทยอย่างอยุติธรรมทางข้อตกลงต่างๆตรึม.
    ..คลิปนี้ชัดเจนดีมาก ไร้คำติ,ด้านเปรียบเทียบราคาที่ซื้อขายกันจริง,มิใช่ซื้อขายเถื่อน ขโมยมาขายสไตล์ชาวบ้านท้องถิ่นต่างๆอาทิทุบท่อส่งน้ำของรัฐของเอกชนขโมยเอามาขายเป็นคันๆรถบรรทุกหรือเรือลำอภิมหาใหญ่ต่างๆ,แต่คือตัวอย่างการซื้อขายแบบเปิดเผยจริง เห็นชัดเจน.
    ..ชาติไทยเรามีคนชั่วเลวในระบบทั้งการเมือง และในระบบราชการนานพอแล้ว ทำผิดไม่เคยต้องโทษประหารจริงสักตัว แล้วก็คืนกลับมาก่อชั่วเลวต่อคนทั้งชาติไม่ยอมหยุด,ข้าราชการไทยคือตัวสร้างปัญหาสร้างความเดือดร้อนตรงแก่ประชาชน กฎกระทรวงทบงกรมมันทั้งสิ้นพากันเขียนเองตีตราออกมาบังคับในกระทรวงทบวงกรมมัน,แต่เวลาผิด ไม่เคยลงโทษจริงจังอะไรเลย ไม่เกรงกลัวอะไรด้วย เหมือนมันเองอยู่เหนือกฎหมายที่มันเขียนเองไม่มีความผิด,ทรัพยากรชาติไทยเป็นอันมากคนข้าราชการคือบ่อนธุรการร่วมก่อการกับภาคนักการเมือง,สัมปทานบ่อน้ำมัน สัมปทานไฟฟ้าสดๆร้อนๆเหี้ยหน่วยงานรัฐเองดำเนินการผิดพลาดปาหี่แหกตาว่านักการเมืองสั่งการ นายทุนสั่งยัดไส้ ซึ่งแท้จริงเดอะแก๊งมันสมคบคิดกันร่วมก่อการหมด,เรามีการปกครองที่ล้มเหลวและน่าเศร้าใจมากต่อแผ่นดินบ้านเกิดเมืองนอนเมืองตายไทยเราเอง,เรามีวิถีปกครองที่เหี้ยสิ้นดี มีแต่สิ่งเลวเต็มบ้านเต็มเมือง หวยเอยรัฐก็ผลิตเอง บ่อนคาสิโนก็กำลังก่อสร้าง,มองดูอดีตที่ผ่านๆมาย้อนหลังแค่30-40ปีพอ มันเหี้ยบัดสบมาก,ระบบปกครองที่ล้มเหลวจริงๆ.คณะบริหารประเทศและปกครองประเทศเต็มไปด้วยการคตโกงทุจริตไม่ซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินไทยตนเอง ไม่เคยมีใครเจอโทษประหารให้เป็นเยี่ยงอย่างฐานไม่ซื่อสัตย์ทั้งคณะเลย,มาทัังคณะต้องไปทั้งคณะ,ชาติไทยเราพอแก่ความผิดพลาดนานพอหรือยัง.
    ..อิหร่านคลิปนี้ชอบค่าจริง จริงๆ,ซึ่งในประเทศไทยเราสมควรปฏิวัติไปเลย.,ภายในประเทศอิหร่านจะขายน้ำมันชนิดแบบเบนซินหรือดีเชล อยู่ระหว่าง1-2บาทต่อลิตรเอง.,ประเทศไทยต้องยึดอำนาจปฏิวัติรัฐประหารต้องเพื่องานนี้จริงๆ,ไม่เสียของแบบๆที่เคยๆยึดอำนาจกันแบบกากๆที่ผ่านมา ไร้ค่าไร้สมองแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุจริงๆ จะราคาน้ำมัน ค่าไฟฟ้าแพง หรือค่าครองชีพแพง ต้นทุนพื้นฐานแพงทั้งหมดของต้นทุนทุกๆภาคส่วน บ่อน้ำมันนี้ล่ะคือต้นเหตุที่แท้จริงของปัญหาทั้งหมดของชาติไทย,ตลอดต่างชาติทั้งหมดที่คตโกงไม่ซื่อสัตย์ต่อประเทศไทย ปล้นชิงแย่งขิงทรัพยากรวัตถุดิบที่เป็นหัวใจของการพัฒนาชาติไทยเราไปจริงคือสิ่งนี้ในยุคนี้สมัยนี้คือบ่อน้ำมัน,แม้ดวงอาทิตย์ดับ เพียงมีบ่อน้ำมัน เราก็สามารถอยู่กันได้ตลอดหลายพันปีอย่างสบายๆของประเทศไทยเรา,ด้วบความละโมบของต่างชาติ เอาแต่ได้เห็นแก่ตัวแก่ชาติมัน จึงมาปล้นชิงของเราไปจากแผ่นดินไทยอย่างอยุติธรรมทางข้อตกลงต่างๆตรึม. ..คลิปนี้ชัดเจนดีมาก ไร้คำติ,ด้านเปรียบเทียบราคาที่ซื้อขายกันจริง,มิใช่ซื้อขายเถื่อน ขโมยมาขายสไตล์ชาวบ้านท้องถิ่นต่างๆอาทิทุบท่อส่งน้ำของรัฐของเอกชนขโมยเอามาขายเป็นคันๆรถบรรทุกหรือเรือลำอภิมหาใหญ่ต่างๆ,แต่คือตัวอย่างการซื้อขายแบบเปิดเผยจริง เห็นชัดเจน. ..ชาติไทยเรามีคนชั่วเลวในระบบทั้งการเมือง และในระบบราชการนานพอแล้ว ทำผิดไม่เคยต้องโทษประหารจริงสักตัว แล้วก็คืนกลับมาก่อชั่วเลวต่อคนทั้งชาติไม่ยอมหยุด,ข้าราชการไทยคือตัวสร้างปัญหาสร้างความเดือดร้อนตรงแก่ประชาชน กฎกระทรวงทบงกรมมันทั้งสิ้นพากันเขียนเองตีตราออกมาบังคับในกระทรวงทบวงกรมมัน,แต่เวลาผิด ไม่เคยลงโทษจริงจังอะไรเลย ไม่เกรงกลัวอะไรด้วย เหมือนมันเองอยู่เหนือกฎหมายที่มันเขียนเองไม่มีความผิด,ทรัพยากรชาติไทยเป็นอันมากคนข้าราชการคือบ่อนธุรการร่วมก่อการกับภาคนักการเมือง,สัมปทานบ่อน้ำมัน สัมปทานไฟฟ้าสดๆร้อนๆเหี้ยหน่วยงานรัฐเองดำเนินการผิดพลาดปาหี่แหกตาว่านักการเมืองสั่งการ นายทุนสั่งยัดไส้ ซึ่งแท้จริงเดอะแก๊งมันสมคบคิดกันร่วมก่อการหมด,เรามีการปกครองที่ล้มเหลวและน่าเศร้าใจมากต่อแผ่นดินบ้านเกิดเมืองนอนเมืองตายไทยเราเอง,เรามีวิถีปกครองที่เหี้ยสิ้นดี มีแต่สิ่งเลวเต็มบ้านเต็มเมือง หวยเอยรัฐก็ผลิตเอง บ่อนคาสิโนก็กำลังก่อสร้าง,มองดูอดีตที่ผ่านๆมาย้อนหลังแค่30-40ปีพอ มันเหี้ยบัดสบมาก,ระบบปกครองที่ล้มเหลวจริงๆ.คณะบริหารประเทศและปกครองประเทศเต็มไปด้วยการคตโกงทุจริตไม่ซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินไทยตนเอง ไม่เคยมีใครเจอโทษประหารให้เป็นเยี่ยงอย่างฐานไม่ซื่อสัตย์ทั้งคณะเลย,มาทัังคณะต้องไปทั้งคณะ,ชาติไทยเราพอแก่ความผิดพลาดนานพอหรือยัง.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 353 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • **ควอนตัมคอมพิวติ้ง (Quantum Computing)** คือ สาขาหนึ่งของการคำนวณที่ใช้หลักการของ **กลศาสตร์ควอนตัม** เพื่อประมวลผลข้อมูล แทนที่การใช้บิตแบบคลาสสิก (0 หรือ 1) ในคอมพิวเตอร์ทั่วไป ควอนตัมคอมพิวเตอร์ใช้ **คิวบิต (Qubit)** ซึ่งสามารถอยู่ในสถานะ **ซ้อนทับ (Superposition)** และ **纠缠 (Entanglement)** ได้ ทำให้มีความสามารถในการคำนวณที่เร็วกว่าในบางงานเฉพาะทาง

    ### **หลักการสำคัญของควอนตัมคอมพิวติ้ง**
    1. **Superposition (สถานะซ้อนทับ)**
    - คิวบิตสามารถเป็นได้ทั้ง 0 และ 1 ในเวลาเดียวกัน (ต่างจากบิตแบบคลาสสิกที่เป็นได้เพียง 0 หรือ 1)
    - ทำให้ควอนตัมคอมพิวเตอร์ประมวลผลข้อมูลหลายสถานะพร้อมกัน

    2. **Entanglement (การ纠缠)**
    - คิวบิตสามารถเชื่อมโยงกันแม้จะอยู่ห่างไกล การเปลี่ยนแปลงหนึ่งคิวบิตส่งผลต่อคิวบิตที่纠缠กันทันที
    - ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการคำนวณแบบขนาน

    3. **Quantum Interference (การแทรกสอดควอนตัม)**
    - ใช้เพื่อขยายความน่าจะเป็นของผลลัพธ์ที่ถูกต้องและลดผลลัพธ์ที่ผิด

    ### **ความได้เปรียบของควอนตัมคอมพิวติ้ง**
    - **แก้ปัญหาบางประเภทได้เร็วกว่า** เช่น:
    - **การแยกตัวประกอบจำนวนใหญ่** (สำคัญต่อการ破解การเข้ารหัส RSA) → อัลกอริทึม **Shor's Algorithm**
    - **การค้นหาข้อมูลในฐานข้อมูลขนาดใหญ่** → อัลกอริทึม **Grover's Algorithm**
    - **การจำลองระบบควอนตัม** (เช่น โมเลกุลสำหรับการพัฒนายา)
    - **ปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง (Quantum Machine Learning)**

    ### **ความท้าทาย**
    1. **สัญญาณรบกวนและความผิดพลาด (Noise and Decoherence)**
    - คิวบิตมีความเปราะบางต่อสิ่งรบกวนจากสิ่งแวดล้อม ทำให้สูญเสียสถานะควอนตัม (Quantum Decoherence)
    2. **การแก้ไขข้อผิดพลาด (Quantum Error Correction)**
    - ต้องใช้คิวบิตจำนวนมากเพื่อสร้าง "Logical Qubit" ที่เสถียร
    3. **อุณหภูมิต่ำมาก (Cryogenic Cooling)**
    - ควอนตัมคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ต้องทำงานที่อุณหภูมิใกล้ **ศูนย์สัมบูรณ์ (−273°C)**

    ### **สถานะปัจจุบัน (2024)**
    - **บริษัทชั้นนำ** เช่น Google, IBM, Microsoft, และ startups เช่น Rigetti, IonQ กำลังพัฒนาควอนตัมคอมพิวเตอร์
    - **IBM** มีระบบ **Quantum Processor** ขนาด **1,000+ คิวบิต** (แต่ยังไม่เสถียรเต็มที่)
    - **Google** อ้างว่าได้บรรลุ **Quantum Supremacy** (แก้ปัญหาที่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ทำไม่ได้ในเวลาที่สมเหตุสมผล)

    ### **การประยุกต์ใช้ในอนาคต**
    - **การเข้ารหัสและความปลอดภัย** (Post-Quantum Cryptography)
    - **การออกแบบวัสดุใหม่**
    - **การปรับปรุงระบบ logistics และ supply chain**
    - **การพัฒนายาและเคมีควอนตัม**

    ### **สรุป**
    ควอนตัมคอมพิวติ้งยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่มีศักยภาพปฏิวัติหลายอุตสาหกรรมในอนาคต อย่างไรก็ตาม ยังต้องแก้ไขปัญหาทางเทคนิคอีกมากก่อนที่จะนำมาใช้อย่างแพร่หลาย

    **ควอนตัมคอมพิวติ้ง (Quantum Computing)** คือ สาขาหนึ่งของการคำนวณที่ใช้หลักการของ **กลศาสตร์ควอนตัม** เพื่อประมวลผลข้อมูล แทนที่การใช้บิตแบบคลาสสิก (0 หรือ 1) ในคอมพิวเตอร์ทั่วไป ควอนตัมคอมพิวเตอร์ใช้ **คิวบิต (Qubit)** ซึ่งสามารถอยู่ในสถานะ **ซ้อนทับ (Superposition)** และ **纠缠 (Entanglement)** ได้ ทำให้มีความสามารถในการคำนวณที่เร็วกว่าในบางงานเฉพาะทาง ### **หลักการสำคัญของควอนตัมคอมพิวติ้ง** 1. **Superposition (สถานะซ้อนทับ)** - คิวบิตสามารถเป็นได้ทั้ง 0 และ 1 ในเวลาเดียวกัน (ต่างจากบิตแบบคลาสสิกที่เป็นได้เพียง 0 หรือ 1) - ทำให้ควอนตัมคอมพิวเตอร์ประมวลผลข้อมูลหลายสถานะพร้อมกัน 2. **Entanglement (การ纠缠)** - คิวบิตสามารถเชื่อมโยงกันแม้จะอยู่ห่างไกล การเปลี่ยนแปลงหนึ่งคิวบิตส่งผลต่อคิวบิตที่纠缠กันทันที - ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการคำนวณแบบขนาน 3. **Quantum Interference (การแทรกสอดควอนตัม)** - ใช้เพื่อขยายความน่าจะเป็นของผลลัพธ์ที่ถูกต้องและลดผลลัพธ์ที่ผิด ### **ความได้เปรียบของควอนตัมคอมพิวติ้ง** - **แก้ปัญหาบางประเภทได้เร็วกว่า** เช่น: - **การแยกตัวประกอบจำนวนใหญ่** (สำคัญต่อการ破解การเข้ารหัส RSA) → อัลกอริทึม **Shor's Algorithm** - **การค้นหาข้อมูลในฐานข้อมูลขนาดใหญ่** → อัลกอริทึม **Grover's Algorithm** - **การจำลองระบบควอนตัม** (เช่น โมเลกุลสำหรับการพัฒนายา) - **ปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง (Quantum Machine Learning)** ### **ความท้าทาย** 1. **สัญญาณรบกวนและความผิดพลาด (Noise and Decoherence)** - คิวบิตมีความเปราะบางต่อสิ่งรบกวนจากสิ่งแวดล้อม ทำให้สูญเสียสถานะควอนตัม (Quantum Decoherence) 2. **การแก้ไขข้อผิดพลาด (Quantum Error Correction)** - ต้องใช้คิวบิตจำนวนมากเพื่อสร้าง "Logical Qubit" ที่เสถียร 3. **อุณหภูมิต่ำมาก (Cryogenic Cooling)** - ควอนตัมคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ต้องทำงานที่อุณหภูมิใกล้ **ศูนย์สัมบูรณ์ (−273°C)** ### **สถานะปัจจุบัน (2024)** - **บริษัทชั้นนำ** เช่น Google, IBM, Microsoft, และ startups เช่น Rigetti, IonQ กำลังพัฒนาควอนตัมคอมพิวเตอร์ - **IBM** มีระบบ **Quantum Processor** ขนาด **1,000+ คิวบิต** (แต่ยังไม่เสถียรเต็มที่) - **Google** อ้างว่าได้บรรลุ **Quantum Supremacy** (แก้ปัญหาที่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ทำไม่ได้ในเวลาที่สมเหตุสมผล) ### **การประยุกต์ใช้ในอนาคต** - **การเข้ารหัสและความปลอดภัย** (Post-Quantum Cryptography) - **การออกแบบวัสดุใหม่** - **การปรับปรุงระบบ logistics และ supply chain** - **การพัฒนายาและเคมีควอนตัม** ### **สรุป** ควอนตัมคอมพิวติ้งยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่มีศักยภาพปฏิวัติหลายอุตสาหกรรมในอนาคต อย่างไรก็ตาม ยังต้องแก้ไขปัญหาทางเทคนิคอีกมากก่อนที่จะนำมาใช้อย่างแพร่หลาย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ศิริมงคลในหัว…คือชีวิตที่คิดเป็น”

    คนที่พอใจในตนเอง
    ไม่จำเป็นต้องหน้าตาดี
    ไม่จำเป็นต้องรวยล้นฟ้า
    ไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของอาณาจักร
    แต่จำเป็นต้อง “คิดอะไรแล้วมีความสุขได้เอง”
    จบด้วยข้อสรุปดีๆในใจ…โดยไม่ต้องให้ใครตบมือ

    ---

    ชีวิตดี เริ่มที่วิธีคิดดี

    เพราะจริงๆ แล้ว “การพอใจในตนเอง”
    ก็คือ การพอใจในวิธีคิดของตัวเอง

    – คิดแล้วหัวโล่ง ไม่อึดอัด
    – คิดแล้วใจสว่าง ไม่มืดหม่น
    – คิดแล้วมีแรงจะทำสิ่งดีๆ
    – คิดแล้วโลกภายในสงบ
    – คิดแล้วเป็นจุดเริ่มต้นที่โลกภายนอกดีขึ้นตาม

    ใครคิดได้อย่างนี้
    เขาคือผู้มีศิริมงคลอยู่ในหัว 24 ชั่วโมง
    แม้เงียบอยู่คนเดียว…แต่เต็มไปด้วยพลัง

    ---

    คิดเป็นเส้นตรง ดีกว่าคิดวนเป็นวงกลม

    คนที่ฝึกคิดแบบเส้นตรงได้
    คือคนที่ฝึกใจให้เดินไปข้างหน้า
    ไม่หลงไปกับอดีต ไม่สะดุดอยู่กับความลังเล
    คือคนที่มีจุดหมายดีๆให้แล่นไป
    มีแผนการดีๆให้ก้าวเดิน
    ไม่คิดวกกลับมาทำลายความตั้งใจของตนเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    ตรงกันข้าม
    คนที่ คิดวน คือคนที่ติดกรรม
    หัวคิดฟุ้ง ตัดสินใจไม่ได้ หาทางออกไม่เจอ
    แทนที่จะพร้อมรับมือกับปัญหา
    ก็มัวร้องไห้ล่วงหน้า ทั้งที่ปัญหายังไม่เกิดด้วยซ้ำ

    ---

    เริ่มต้นที่เรื่องดีเล็กๆ เพื่อหลุดจากวงวน

    ถ้าอยากเลิกคิดวน
    ไม่ต้องคิดใหญ่อะไรก่อน
    แต่ให้ “ทำเรื่องดีง่ายๆสักเรื่อง”
    เช่น ปล่อยปลา ให้ข้าวนก เอ่ยคำขอบคุณใครสักคน

    ทำให้รู้สึกดีแบบไม่ต้องคิดเยอะ
    ทำแล้วหัวโล่ง
    จากนั้น “อธิษฐานในใจ”
    ว่าจะเอาวิธีคิดแบบนี้ไว้
    ตั้งจิตอย่างนี้ไว้
    ยึดจุดหมายดีๆไว้เป็นธงในใจ แล้ววิ่งไปให้ถึง

    ---

    ทุกครั้งที่คิดดีได้…คือการปฏิวัติชีวิตจากข้างใน

    เมื่อฝึกคิดเป็นเส้นตรงมากขึ้น
    คุณจะรู้ว่า “การคิดให้เป็น”
    คือวิธีสร้างชีวิตให้สงบ สว่าง และมั่นคง
    จนวันหนึ่งคุณจะพบว่า
    ศิริมงคลทั้งหลาย…ไม่ได้มาจากวัดไหน
    แต่มาจาก หัวใจที่คิดดีเป็นจนไม่อยากคิดเละอีกเลย
    “ศิริมงคลในหัว…คือชีวิตที่คิดเป็น” คนที่พอใจในตนเอง ไม่จำเป็นต้องหน้าตาดี ไม่จำเป็นต้องรวยล้นฟ้า ไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของอาณาจักร แต่จำเป็นต้อง “คิดอะไรแล้วมีความสุขได้เอง” จบด้วยข้อสรุปดีๆในใจ…โดยไม่ต้องให้ใครตบมือ --- ชีวิตดี เริ่มที่วิธีคิดดี เพราะจริงๆ แล้ว “การพอใจในตนเอง” ก็คือ การพอใจในวิธีคิดของตัวเอง – คิดแล้วหัวโล่ง ไม่อึดอัด – คิดแล้วใจสว่าง ไม่มืดหม่น – คิดแล้วมีแรงจะทำสิ่งดีๆ – คิดแล้วโลกภายในสงบ – คิดแล้วเป็นจุดเริ่มต้นที่โลกภายนอกดีขึ้นตาม ใครคิดได้อย่างนี้ เขาคือผู้มีศิริมงคลอยู่ในหัว 24 ชั่วโมง แม้เงียบอยู่คนเดียว…แต่เต็มไปด้วยพลัง --- คิดเป็นเส้นตรง ดีกว่าคิดวนเป็นวงกลม คนที่ฝึกคิดแบบเส้นตรงได้ คือคนที่ฝึกใจให้เดินไปข้างหน้า ไม่หลงไปกับอดีต ไม่สะดุดอยู่กับความลังเล คือคนที่มีจุดหมายดีๆให้แล่นไป มีแผนการดีๆให้ก้าวเดิน ไม่คิดวกกลับมาทำลายความตั้งใจของตนเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตรงกันข้าม คนที่ คิดวน คือคนที่ติดกรรม หัวคิดฟุ้ง ตัดสินใจไม่ได้ หาทางออกไม่เจอ แทนที่จะพร้อมรับมือกับปัญหา ก็มัวร้องไห้ล่วงหน้า ทั้งที่ปัญหายังไม่เกิดด้วยซ้ำ --- เริ่มต้นที่เรื่องดีเล็กๆ เพื่อหลุดจากวงวน ถ้าอยากเลิกคิดวน ไม่ต้องคิดใหญ่อะไรก่อน แต่ให้ “ทำเรื่องดีง่ายๆสักเรื่อง” เช่น ปล่อยปลา ให้ข้าวนก เอ่ยคำขอบคุณใครสักคน ทำให้รู้สึกดีแบบไม่ต้องคิดเยอะ ทำแล้วหัวโล่ง จากนั้น “อธิษฐานในใจ” ว่าจะเอาวิธีคิดแบบนี้ไว้ ตั้งจิตอย่างนี้ไว้ ยึดจุดหมายดีๆไว้เป็นธงในใจ แล้ววิ่งไปให้ถึง --- ทุกครั้งที่คิดดีได้…คือการปฏิวัติชีวิตจากข้างใน เมื่อฝึกคิดเป็นเส้นตรงมากขึ้น คุณจะรู้ว่า “การคิดให้เป็น” คือวิธีสร้างชีวิตให้สงบ สว่าง และมั่นคง จนวันหนึ่งคุณจะพบว่า ศิริมงคลทั้งหลาย…ไม่ได้มาจากวัดไหน แต่มาจาก หัวใจที่คิดดีเป็นจนไม่อยากคิดเละอีกเลย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 168 มุมมอง 0 รีวิว
  • Vibe Coding เป็นแนวคิดใหม่ในการเขียนโปรแกรมที่เน้นการ สื่อสารกับ AI ด้วยภาษาธรรมชาติ แทนที่จะต้องใช้โค้ดแบบดั้งเดิม นักพัฒนาสามารถ อธิบายปัญหาเป็นประโยคง่าย ๆ แล้วให้ AI สร้างโค้ดที่เหมาะสมโดยอัตโนมัติ

    แนวคิดนี้ช่วยให้ ผู้ที่ไม่มีพื้นฐานการเขียนโปรแกรมสามารถสร้างซอฟต์แวร์ได้ โดยไม่ต้องเรียนรู้ไวยากรณ์ของภาษาโปรแกรมต่าง ๆ AI จะทำหน้าที่ แปลงคำอธิบายเป็นโค้ดที่ใช้งานได้จริง ทำให้การพัฒนาโปรแกรมเป็นเรื่องที่เข้าถึงง่ายขึ้น

    แม้ว่าจะมีข้อกังวลเกี่ยวกับ คุณภาพของโค้ดที่ AI สร้างขึ้น แต่หลายคนมองว่า Vibe Coding เป็นการปฏิวัติวงการซอฟต์แวร์ ที่ช่วยให้ผู้คนสามารถ โต้ตอบกับเครื่องมือได้โดยตรง แทนที่จะต้องเรียนรู้ภาษาคอมพิวเตอร์ที่ซับซ้อน

    ✅ Vibe Coding คืออะไร?
    - เป็นแนวทางการเขียนโปรแกรมที่ใช้ ภาษาธรรมชาติแทนโค้ด
    - AI จะ สร้างโค้ดตามคำอธิบายของผู้ใช้

    ✅ ข้อดีของ Vibe Coding
    - ลดอุปสรรคในการเรียนรู้การเขียนโปรแกรม
    - ช่วยให้ ผู้ที่ไม่มีพื้นฐานด้านเทคนิคสามารถสร้างซอฟต์แวร์ได้

    ✅ เครื่องมือที่รองรับ Vibe Coding
    - GitHub Copilot – แนะนำโค้ดอัตโนมัติ
    - Cursor IDE – ออกแบบมาเพื่อการสร้างโค้ดด้วย AI
    - ChatGPT และ Claude – ช่วยสร้างโค้ดจากคำอธิบาย

    ✅ การนำไปใช้ในอุตสาหกรรม
    - ใช้ในการ พัฒนาโปรแกรมต้นแบบและการทดสอบแนวคิด
    - ช่วยให้ทีมพัฒนา สามารถทำงานร่วมกันได้ง่ายขึ้น

    https://computercity.com/software/what-is-vibe-coding
    Vibe Coding เป็นแนวคิดใหม่ในการเขียนโปรแกรมที่เน้นการ สื่อสารกับ AI ด้วยภาษาธรรมชาติ แทนที่จะต้องใช้โค้ดแบบดั้งเดิม นักพัฒนาสามารถ อธิบายปัญหาเป็นประโยคง่าย ๆ แล้วให้ AI สร้างโค้ดที่เหมาะสมโดยอัตโนมัติ แนวคิดนี้ช่วยให้ ผู้ที่ไม่มีพื้นฐานการเขียนโปรแกรมสามารถสร้างซอฟต์แวร์ได้ โดยไม่ต้องเรียนรู้ไวยากรณ์ของภาษาโปรแกรมต่าง ๆ AI จะทำหน้าที่ แปลงคำอธิบายเป็นโค้ดที่ใช้งานได้จริง ทำให้การพัฒนาโปรแกรมเป็นเรื่องที่เข้าถึงง่ายขึ้น แม้ว่าจะมีข้อกังวลเกี่ยวกับ คุณภาพของโค้ดที่ AI สร้างขึ้น แต่หลายคนมองว่า Vibe Coding เป็นการปฏิวัติวงการซอฟต์แวร์ ที่ช่วยให้ผู้คนสามารถ โต้ตอบกับเครื่องมือได้โดยตรง แทนที่จะต้องเรียนรู้ภาษาคอมพิวเตอร์ที่ซับซ้อน ✅ Vibe Coding คืออะไร? - เป็นแนวทางการเขียนโปรแกรมที่ใช้ ภาษาธรรมชาติแทนโค้ด - AI จะ สร้างโค้ดตามคำอธิบายของผู้ใช้ ✅ ข้อดีของ Vibe Coding - ลดอุปสรรคในการเรียนรู้การเขียนโปรแกรม - ช่วยให้ ผู้ที่ไม่มีพื้นฐานด้านเทคนิคสามารถสร้างซอฟต์แวร์ได้ ✅ เครื่องมือที่รองรับ Vibe Coding - GitHub Copilot – แนะนำโค้ดอัตโนมัติ - Cursor IDE – ออกแบบมาเพื่อการสร้างโค้ดด้วย AI - ChatGPT และ Claude – ช่วยสร้างโค้ดจากคำอธิบาย ✅ การนำไปใช้ในอุตสาหกรรม - ใช้ในการ พัฒนาโปรแกรมต้นแบบและการทดสอบแนวคิด - ช่วยให้ทีมพัฒนา สามารถทำงานร่วมกันได้ง่ายขึ้น https://computercity.com/software/what-is-vibe-coding
    COMPUTERCITY.COM
    What Is Vibe Coding?
    Imagine telling your computer what you want in regular language, and it just builds it for you. That's the essence of vibe coding. Vibe coding is a
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
  • “เพื่อไทย” ฉะ! ”เสรีพิศุทธ์”ยุให้มีปฏิวัติ (02/05/68) #news1 #เพื่อไทย #เสรีพิศุทธ์ #ปฏิวัติ
    “เพื่อไทย” ฉะ! ”เสรีพิศุทธ์”ยุให้มีปฏิวัติ (02/05/68) #news1 #เพื่อไทย #เสรีพิศุทธ์ #ปฏิวัติ
    Like
    Haha
    Love
    Angry
    8
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 613 มุมมอง 22 0 รีวิว
  • คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ควงบุตรสาวสุดที่รัก "คิม จูแอ" ร่วมพิธีเปิดตัวเรือพิฆาตอเนกประสงค์ลำใหม่ของกองทัพโสมแดงซึ่งมีขนาด 5,000 ตัน และติดตั้ง “ระบบอาวุธอันทรงพลังที่สุด” ตามรายงานของสื่อวันนี้ (26 เม.ย.)

    โจ ชุน-รยอง เลขาธิการคนหนึ่งของพรรคแรงงานเกาหลีเหนือ ระบุว่า เรือรบลำนี้ “สร้างเสร็จภายในเวลาแค่ 400 วันด้วยพลังและเทคโนโลยีของเราเอง”

    ด้านผู้นำ คิม ระบุในสุนทรพจน์ระหว่างพิธีเปิดตัวเรือว่า เรือพิฆาตลำนี้จะถูกส่งมอบให้กับกองทัพเรือเกาหลีเหนือ และเริ่มประจำการภายในต้นปีหน้า

    พิธีเปิดตัวเรือเกิดขึ้นวานนี้ (25) ที่อู่ต่อเรือนัมโป และถือเป็นสัญลักษณ์ของ “ยุคสมัยแห่งการสร้างกองเรือรบที่ยิ่งใหญ่ในสไตล์ คิม จองอึน” ตามรายงานของ KCNA ซึ่งอ้างคำพูดของ พล.ร.ท. พัค กวางซอป

    เรือลำนี้ถูกจัดให้เป็นเรือพิฆาตชั้น ‘โชฮยอน’ (Choe Hyon-class) ซึ่งเป็นการขนานนามตามชื่อของอดีตนักรบและนักปฏิวัติต่อต้านญี่ปุ่น

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/around/detail/9680000039110

    #MGROnline #คิมจองอึน #ผู้นำเกาหลีเหนือ
    คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ควงบุตรสาวสุดที่รัก "คิม จูแอ" ร่วมพิธีเปิดตัวเรือพิฆาตอเนกประสงค์ลำใหม่ของกองทัพโสมแดงซึ่งมีขนาด 5,000 ตัน และติดตั้ง “ระบบอาวุธอันทรงพลังที่สุด” ตามรายงานของสื่อวันนี้ (26 เม.ย.) • โจ ชุน-รยอง เลขาธิการคนหนึ่งของพรรคแรงงานเกาหลีเหนือ ระบุว่า เรือรบลำนี้ “สร้างเสร็จภายในเวลาแค่ 400 วันด้วยพลังและเทคโนโลยีของเราเอง” • ด้านผู้นำ คิม ระบุในสุนทรพจน์ระหว่างพิธีเปิดตัวเรือว่า เรือพิฆาตลำนี้จะถูกส่งมอบให้กับกองทัพเรือเกาหลีเหนือ และเริ่มประจำการภายในต้นปีหน้า • พิธีเปิดตัวเรือเกิดขึ้นวานนี้ (25) ที่อู่ต่อเรือนัมโป และถือเป็นสัญลักษณ์ของ “ยุคสมัยแห่งการสร้างกองเรือรบที่ยิ่งใหญ่ในสไตล์ คิม จองอึน” ตามรายงานของ KCNA ซึ่งอ้างคำพูดของ พล.ร.ท. พัค กวางซอป • เรือลำนี้ถูกจัดให้เป็นเรือพิฆาตชั้น ‘โชฮยอน’ (Choe Hyon-class) ซึ่งเป็นการขนานนามตามชื่อของอดีตนักรบและนักปฏิวัติต่อต้านญี่ปุ่น • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/around/detail/9680000039110 • #MGROnline #คิมจองอึน #ผู้นำเกาหลีเหนือ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 362 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในงาน RSA 2025 มีคำถามสำคัญ 10 ข้อที่ผู้นำด้านความปลอดภัยควรพิจารณาเพื่อปรับกลยุทธ์และตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมความปลอดภัยไซเบอร์:

    1️⃣ Google-Wiz มีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมความปลอดภัยอย่างไร?
    - การเข้าซื้อ Wiz ของ Alphabet มูลค่า 32 พันล้านดอลลาร์ส่งผลต่อกลยุทธ์ด้านความปลอดภัยบนคลาวด์อย่างไร?

    2️⃣ Agentic AI เป็นความจริงหรือเพียงแค่ความหวัง?
    - AI ที่สามารถตัดสินใจและดำเนินการได้เองจะมีบทบาทสำคัญในอนาคตหรือไม่?

    3️⃣ แพลตฟอร์มสามารถครองตลาดองค์กรได้หรือไม่?
    - การรวมระบบและการลดความซับซ้อนของแพลตฟอร์มจะตอบโจทย์องค์กรขนาดใหญ่ได้หรือไม่?

    4️⃣ การปฏิวัติระบบไร้รหัสผ่านมาถึงแล้วหรือยัง?
    - การเปลี่ยนผ่านจากรหัสผ่านไปสู่ passkeys และ FIDO2 จะเปลี่ยนแปลงวิธีการยืนยันตัวตนอย่างไร?

    5️⃣ การเดินทางของ Zero Trust จะไปในทิศทางใดในปี 2025?
    - Zero Trust จะพัฒนาไปพร้อมกับการนำ SASE และ FIDO2 มาใช้ได้อย่างไร?

    6️⃣ กลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงกำลังพัฒนาไปอย่างไร?
    - การจัดการความเสี่ยงแบบต่อเนื่อง (CTEM) และการใช้ AI ในการจัดลำดับความสำคัญของสินทรัพย์จะช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างไร?

    7️⃣ CISOs สามารถเรียนรู้อะไรจากนวัตกรรมของ MSSP?
    - ผู้ให้บริการความปลอดภัยที่มีการจัดการ (MSSP) ใช้ AI และระบบอัตโนมัติในการแก้ปัญหาความปลอดภัยอย่างไร?

    8️⃣ ความปลอดภัยเครือข่ายกำลังกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้งหรือไม่?
    - การตรวจสอบการเคลื่อนไหวของข้อมูลในเครือข่ายยังคงมีความสำคัญในยุคของ EDR หรือไม่?

    9️⃣ ผู้ขายเข้าใจความเป็นจริงของ Cyber Resilience หรือไม่?
    - ความยืดหยุ่นทางไซเบอร์ (Cyber Resilience) เป็นเพียงคำโฆษณาหรือเป็นกลยุทธ์ที่แท้จริง?

    🔟 ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองส่งผลต่ออุตสาหกรรมอย่างไร?
    - การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและการเมือง เช่น ภาษีและการลดงบประมาณ จะส่งผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยีความปลอดภัยอย่างไร?

    https://www.csoonline.com/article/3965415/10-key-questions-security-leaders-must-ask-at-rsa-2025.html
    ในงาน RSA 2025 มีคำถามสำคัญ 10 ข้อที่ผู้นำด้านความปลอดภัยควรพิจารณาเพื่อปรับกลยุทธ์และตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมความปลอดภัยไซเบอร์: 1️⃣ Google-Wiz มีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมความปลอดภัยอย่างไร? - การเข้าซื้อ Wiz ของ Alphabet มูลค่า 32 พันล้านดอลลาร์ส่งผลต่อกลยุทธ์ด้านความปลอดภัยบนคลาวด์อย่างไร? 2️⃣ Agentic AI เป็นความจริงหรือเพียงแค่ความหวัง? - AI ที่สามารถตัดสินใจและดำเนินการได้เองจะมีบทบาทสำคัญในอนาคตหรือไม่? 3️⃣ แพลตฟอร์มสามารถครองตลาดองค์กรได้หรือไม่? - การรวมระบบและการลดความซับซ้อนของแพลตฟอร์มจะตอบโจทย์องค์กรขนาดใหญ่ได้หรือไม่? 4️⃣ การปฏิวัติระบบไร้รหัสผ่านมาถึงแล้วหรือยัง? - การเปลี่ยนผ่านจากรหัสผ่านไปสู่ passkeys และ FIDO2 จะเปลี่ยนแปลงวิธีการยืนยันตัวตนอย่างไร? 5️⃣ การเดินทางของ Zero Trust จะไปในทิศทางใดในปี 2025? - Zero Trust จะพัฒนาไปพร้อมกับการนำ SASE และ FIDO2 มาใช้ได้อย่างไร? 6️⃣ กลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงกำลังพัฒนาไปอย่างไร? - การจัดการความเสี่ยงแบบต่อเนื่อง (CTEM) และการใช้ AI ในการจัดลำดับความสำคัญของสินทรัพย์จะช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างไร? 7️⃣ CISOs สามารถเรียนรู้อะไรจากนวัตกรรมของ MSSP? - ผู้ให้บริการความปลอดภัยที่มีการจัดการ (MSSP) ใช้ AI และระบบอัตโนมัติในการแก้ปัญหาความปลอดภัยอย่างไร? 8️⃣ ความปลอดภัยเครือข่ายกำลังกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้งหรือไม่? - การตรวจสอบการเคลื่อนไหวของข้อมูลในเครือข่ายยังคงมีความสำคัญในยุคของ EDR หรือไม่? 9️⃣ ผู้ขายเข้าใจความเป็นจริงของ Cyber Resilience หรือไม่? - ความยืดหยุ่นทางไซเบอร์ (Cyber Resilience) เป็นเพียงคำโฆษณาหรือเป็นกลยุทธ์ที่แท้จริง? 🔟 ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองส่งผลต่ออุตสาหกรรมอย่างไร? - การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและการเมือง เช่น ภาษีและการลดงบประมาณ จะส่งผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยีความปลอดภัยอย่างไร? https://www.csoonline.com/article/3965415/10-key-questions-security-leaders-must-ask-at-rsa-2025.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    10 key questions security leaders must ask at RSA 2025
    Agentic AI, platform hype, identity management, and economic uncertainty will dominate the RSA agenda. But discussions with fellow attendees will provide the real payoff.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 233 มุมมอง 0 รีวิว
  • 48 ปี ประหาร “เสธ.หลาด” พลเอกฉลาด หิรัญศิริ นักโทษกบฏคนสุดท้าย ที่ตายด้วยการยิงเป้า 🇹🇭⚖️ เสียงปืนสุดท้าย ของการปฏิวัติ ที่ไม่สำเร็จ

    ย้อนรอยคดีประหารชีวิตด้วยการยิงเป้า ที่สะท้อนทั้งความหวัง ความกล้า และการถูกลืม

    🧭 บทเรียนจากอดีต ที่ไม่อาจมองข้าม บ่ายวันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2520 เวลา 15.24 น. ณ เรือนจำกลางบางขวาง เสียงปืนชุดหนึ่ง ดังก้องสะท้อนในความเงียบสงบ เป็นการสิ้นสุดชีวิตของ “เสธ. หลาด” หรือ "พลเอกฉลาด หิรัญศิริ" นายทหารชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งถูกตัดสินประหารชีวิต ในข้อหากบฏ

    เสธ.หลาดเป็นคนสุดท้ายในประวัติศาสตร์ไทย ที่ถูกประหารด้วยการยิงเป้า โดยคำสั่งตามมาตรา 21 แห่งรัฐธรรมนูญไทย ซึ่งเปิดช่องให้รัฐบาลในเวลานั้น สามารถออกคำสั่งให้ประหารชีวิตได้ โดยไม่ต้องผ่านศาล 👁️‍🗨️

    จะพาเจาะลึกตั้งแต่ชีวประวัติของ "พล.อ.ฉลาด หิรัญศิริ" เหตุการณ์รัฐประหารที่ล้มเหลว การตัดสินโทษ และคำถามที่ยังไร้คำตอบว่า... “ทำไมเสธ.หลาดต้องถูกประหาร?” 🤔

    👤 จากทหารกล้า สู่ผู้นำกบฏ "พล.อ. ฉลาด หิรัญศิริ" ถือกำเนิดในยุคสงครามโลก ครั้งที่สอง เริ่มรับราชการในปี พ.ศ. 2483 ที่อุดรธานี มีชีวิตในวงการทหารมายาวนาน ผ่านสงครามเกาหลี และสงครามเวียดนาม เป็นหนึ่งในผู้ได้รับการยอมรับว่าเป็น “ทหารนักรบของจริง” 🪖

    เคยดำรงตำแหน่ง รองผู้บังคับกองร้อย เสนาธิการกรมยุทธศึกษาทหารบก ผู้บัญชาการกองกำลังทหารไทย ในเวียดนามใต้ (ผลัด 2) และผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก

    ชื่อเสียงของเสธ.หลาดในสนามรบ เป็นที่เลื่องลือ ถึงขนาดได้รับประกาศเกียรติคุณ จากประธานาธิบดีเวียดนามใต้ 🎖️

    อย่างไรก็ตาม เส้นทางในกองทัพ กลับไม่เป็นไปตามฝัน เมื่อการเมืองเข้ามาแทรกแซง ส่งผลให้ความทะเยอทะยานของเสธ.หลาด ในการก้าวสู่ตำแหน่ง "ผู้บัญชาการทหารบก" ต้องพังทลายลง

    ⚔️ ปฏิบัติการยึดอำนาจ 26 มีนาคม 2520 ความพยายามที่สิ้นสุดด้วยการล้อม เมื่อการเมืองไม่เอื้อ เสธ.หลาดเลือกเส้นทาง ของการก่อรัฐประหาร โดยในวันที่ 26 มีนาคม 2520 พล.อ. ฉลาด พร้อมพวก เข้ายึดศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก “สวนรื่นฤดี” โดยมีลูกชายของเขา "พ.ต. อัศวิน หิรัญศิริ" เป็นผู้บัญชาการกองกำลัง

    แผนการดูเหมือนจะประสบความสำเร็จในช่วงแรก แต่กลับถูกฝ่ายรัฐบาล ควบคุมสถานการณ์ได้ ในเวลาไม่นาน โดยมี "พ.ต. สุรยุทธ์ จุลานนท์" เป็นตัวกลางในการเจรจาให้ยอมแพ้ และเสนอให้ลี้ภัยไปไต้หวัน

    แต่ข้อตกลงนี้ กลับไม่สำเร็จ เมื่อการเดินทางไปไต้หวันล้มเหลว และผู้นำรัฐประหารทั้งหมด ถูกจับกุมทันที

    🔥 ทำไมต้องประหาร? คำถามที่ยังไร้คำตอบ การใช้ มาตรา 21 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2519 คือประเด็นที่ถกเถียงมากที่สุดในกรณีนี้ เนื่องจากไม่ผ่านกระบวนการศาลปกติ แต่เป็นอำนาจตรงจากรัฐบาลในเวลานั้น

    นายกรัฐมนตรี "ธานินทร์ กรัยวิเชียร" กล่าวภายหลังว่า “ไม่เห็นควรใช้มาตรา 21 อย่างพร่ำเพรื่อ”

    แต่เสียงของนายกฯ แพ้เสียงทหาร ในที่ประชุมร่วมรัฐบาล-คณะปฏิรูป เพราะคะแนนเสียงห่างกัน 16 ต่อ 26 ทำให้คดีนี้ถูกนำไปสู่การตัดสินโทษประหารทันที

    ✨ ข้อสังเกตจาก "สุธรรม แสงประทุม" นักโทษการเมือง ฝ่ายทหารหวาดกลัวว่า เสธ.หลาด จะหลบหนี ดพราะเชื่อว่ายังมีอิทธิพลภายใน รวมถึงกังวลว่า จะถูกเปิดโปงภายในกองทัพ

    นี่คือการ "กำจัด" มากกว่าการ "ยุติธรรม"?

    🕊️ ช่วงสุดท้ายของชีวิต “เสธ. หลาด”
    เวลา 14.00 น. เสธ.หลาดถูกเบิกตัวจากแดนพิเศษ ไปยังห้องควบคุม เขาถามเจ้าหน้าที่พี่เลี้ยงว่า “ญาติมาเยี่ยมหรือ เขาอนุญาตให้เยี่ยมแล้วใช่ไหม?”

    ไม่มีคำตอบ เขารู้ในใจว่าชะตากำลังจะมาถึง

    เวลา 14.20 น. เสธ.หลาดฟังคำสั่งประหารอย่างสงบ พร้อมเซ็นชื่อรับทราบ แล้วเขียนพินัยกรรม 4 แผ่น ✍️ ปฏิเสธอาหารมื้อสุดท้าย และขอดื่มเพียง น้ำส้ม 1 ขวด

    เวลา 14.50 น. พระมหาเจียมเทศนาเรื่องกรรม เสธ.หลาดกล่าว "สาธุ" และก้มกราบ 3 ครั้ง พร้อมประเคนเงินจำนวน 100 บาท และนาฬิกาโอเมกา🙏

    เวลา 15.24 น. เสียงปืนจบชีวิต "เสธ.หลาด" ตรงศาลาแปดเหลี่ยม ในเรือนจำบางขวาง

    คำพูดสุดท้าย "ถ้าพร้อมแล้ว จะบอกนะ"

    จากนั้น...มือของเสธ.หลาดสั่นเบา ๆ เพื่อ "เขย่าดอกไม้ในมือ" เป็นสัญญาณให้เพชฌฆาตเหนี่ยวไก

    🪦 เสธ. หลาดในความทรงจำ ของนักโทษการเมือง "สุธรรม แสงประทุม" เล่าว่า เสธ.หลาด หรือ “ลุงหลาด” อยู่ตึกเดียวกันในบางขวาง โดย “ลุงหลาด” มักชอบพูดเสมอว่า

    “ลุงถูกหักหลัง” ใครคือผู้หักหลัง? ยังไม่มีใครรู้แน่ชัด... หรืออาจรู้ แต่ไม่มีใครกล้าพูด

    เสธ.หลาดยังถามสุธรรมซ้ำ ๆ ว่า "การต่อสู้ของลุง สมควรแก่เหตุหรือเปล่า?"

    สุธรรมตอบว่า "ก็พอสมควรแก่เหตุครับ"

    🧩 เสธ. หลาดในหน้าประวัติศาสตร์: วีรบุรุษ? กบฏ? หรือเหยื่อการเมือง? สิ่งที่ควรถามในวันนี้ไม่ใช่แค่ว่า “เขาผิดหรือไม่?”

    แต่คือ “เขาได้รับความยุติธรรมหรือเปล่า?”

    การประหารชีวิต ที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการศาล

    การเจรจาที่หลอกให้เขายอมแพ้

    การกล่าวหาว่า เขามีอิทธิพลเกินไป

    ทั้งหมดนี้คือคำถาม ที่ยังไม่มีคำตอบ และอาจไม่เคยมีวันหนึ่ง ที่คำตอบเหล่านั้นจะถูกเปิดเผย...

    🔚 เสียงสะท้อนจากกระสุนในวันนั้น เรื่องราวของ “เสธ.หลาด” พลเอกฉลาด หิรัญศิริ ไม่ใช่แค่ประวัติศาสตร์ของคน คนหนึ่ง แต่มันสะท้อนถึง โครงสร้างอำนาจของไทยในอดีต สะท้อนถึงความเปราะบางของ “ความยุติธรรม” เมื่อ “อำนาจ” มาแทนที่ 📜⚖️

    48 ปี ผ่านไป คำถามยังคงอยู่...

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 221706 เม.ย. 2568

    📱 #เสธหลาด #ฉลาดหิรัญศิริ #กบฏ2520 #ประหารชีวิต #ประวัติศาสตร์ไทย #คดีดังไทย #รัฐประหาร #การเมืองไทย #บางขวาง #มาตรา21
    48 ปี ประหาร “เสธ.หลาด” พลเอกฉลาด หิรัญศิริ นักโทษกบฏคนสุดท้าย ที่ตายด้วยการยิงเป้า 🇹🇭⚖️ เสียงปืนสุดท้าย ของการปฏิวัติ ที่ไม่สำเร็จ ย้อนรอยคดีประหารชีวิตด้วยการยิงเป้า ที่สะท้อนทั้งความหวัง ความกล้า และการถูกลืม 🧭 บทเรียนจากอดีต ที่ไม่อาจมองข้าม บ่ายวันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2520 เวลา 15.24 น. ณ เรือนจำกลางบางขวาง เสียงปืนชุดหนึ่ง ดังก้องสะท้อนในความเงียบสงบ เป็นการสิ้นสุดชีวิตของ “เสธ. หลาด” หรือ "พลเอกฉลาด หิรัญศิริ" นายทหารชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งถูกตัดสินประหารชีวิต ในข้อหากบฏ เสธ.หลาดเป็นคนสุดท้ายในประวัติศาสตร์ไทย ที่ถูกประหารด้วยการยิงเป้า โดยคำสั่งตามมาตรา 21 แห่งรัฐธรรมนูญไทย ซึ่งเปิดช่องให้รัฐบาลในเวลานั้น สามารถออกคำสั่งให้ประหารชีวิตได้ โดยไม่ต้องผ่านศาล 👁️‍🗨️ จะพาเจาะลึกตั้งแต่ชีวประวัติของ "พล.อ.ฉลาด หิรัญศิริ" เหตุการณ์รัฐประหารที่ล้มเหลว การตัดสินโทษ และคำถามที่ยังไร้คำตอบว่า... “ทำไมเสธ.หลาดต้องถูกประหาร?” 🤔 👤 จากทหารกล้า สู่ผู้นำกบฏ "พล.อ. ฉลาด หิรัญศิริ" ถือกำเนิดในยุคสงครามโลก ครั้งที่สอง เริ่มรับราชการในปี พ.ศ. 2483 ที่อุดรธานี มีชีวิตในวงการทหารมายาวนาน ผ่านสงครามเกาหลี และสงครามเวียดนาม เป็นหนึ่งในผู้ได้รับการยอมรับว่าเป็น “ทหารนักรบของจริง” 🪖 เคยดำรงตำแหน่ง รองผู้บังคับกองร้อย เสนาธิการกรมยุทธศึกษาทหารบก ผู้บัญชาการกองกำลังทหารไทย ในเวียดนามใต้ (ผลัด 2) และผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ชื่อเสียงของเสธ.หลาดในสนามรบ เป็นที่เลื่องลือ ถึงขนาดได้รับประกาศเกียรติคุณ จากประธานาธิบดีเวียดนามใต้ 🎖️ อย่างไรก็ตาม เส้นทางในกองทัพ กลับไม่เป็นไปตามฝัน เมื่อการเมืองเข้ามาแทรกแซง ส่งผลให้ความทะเยอทะยานของเสธ.หลาด ในการก้าวสู่ตำแหน่ง "ผู้บัญชาการทหารบก" ต้องพังทลายลง ⚔️ ปฏิบัติการยึดอำนาจ 26 มีนาคม 2520 ความพยายามที่สิ้นสุดด้วยการล้อม เมื่อการเมืองไม่เอื้อ เสธ.หลาดเลือกเส้นทาง ของการก่อรัฐประหาร โดยในวันที่ 26 มีนาคม 2520 พล.อ. ฉลาด พร้อมพวก เข้ายึดศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก “สวนรื่นฤดี” โดยมีลูกชายของเขา "พ.ต. อัศวิน หิรัญศิริ" เป็นผู้บัญชาการกองกำลัง แผนการดูเหมือนจะประสบความสำเร็จในช่วงแรก แต่กลับถูกฝ่ายรัฐบาล ควบคุมสถานการณ์ได้ ในเวลาไม่นาน โดยมี "พ.ต. สุรยุทธ์ จุลานนท์" เป็นตัวกลางในการเจรจาให้ยอมแพ้ และเสนอให้ลี้ภัยไปไต้หวัน แต่ข้อตกลงนี้ กลับไม่สำเร็จ เมื่อการเดินทางไปไต้หวันล้มเหลว และผู้นำรัฐประหารทั้งหมด ถูกจับกุมทันที 🔥 ทำไมต้องประหาร? คำถามที่ยังไร้คำตอบ การใช้ มาตรา 21 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2519 คือประเด็นที่ถกเถียงมากที่สุดในกรณีนี้ เนื่องจากไม่ผ่านกระบวนการศาลปกติ แต่เป็นอำนาจตรงจากรัฐบาลในเวลานั้น นายกรัฐมนตรี "ธานินทร์ กรัยวิเชียร" กล่าวภายหลังว่า “ไม่เห็นควรใช้มาตรา 21 อย่างพร่ำเพรื่อ” แต่เสียงของนายกฯ แพ้เสียงทหาร ในที่ประชุมร่วมรัฐบาล-คณะปฏิรูป เพราะคะแนนเสียงห่างกัน 16 ต่อ 26 ทำให้คดีนี้ถูกนำไปสู่การตัดสินโทษประหารทันที ✨ ข้อสังเกตจาก "สุธรรม แสงประทุม" นักโทษการเมือง ฝ่ายทหารหวาดกลัวว่า เสธ.หลาด จะหลบหนี ดพราะเชื่อว่ายังมีอิทธิพลภายใน รวมถึงกังวลว่า จะถูกเปิดโปงภายในกองทัพ นี่คือการ "กำจัด" มากกว่าการ "ยุติธรรม"? 🕊️ ช่วงสุดท้ายของชีวิต “เสธ. หลาด” เวลา 14.00 น. เสธ.หลาดถูกเบิกตัวจากแดนพิเศษ ไปยังห้องควบคุม เขาถามเจ้าหน้าที่พี่เลี้ยงว่า “ญาติมาเยี่ยมหรือ เขาอนุญาตให้เยี่ยมแล้วใช่ไหม?” ไม่มีคำตอบ เขารู้ในใจว่าชะตากำลังจะมาถึง เวลา 14.20 น. เสธ.หลาดฟังคำสั่งประหารอย่างสงบ พร้อมเซ็นชื่อรับทราบ แล้วเขียนพินัยกรรม 4 แผ่น ✍️ ปฏิเสธอาหารมื้อสุดท้าย และขอดื่มเพียง น้ำส้ม 1 ขวด เวลา 14.50 น. พระมหาเจียมเทศนาเรื่องกรรม เสธ.หลาดกล่าว "สาธุ" และก้มกราบ 3 ครั้ง พร้อมประเคนเงินจำนวน 100 บาท และนาฬิกาโอเมกา🙏 เวลา 15.24 น. เสียงปืนจบชีวิต "เสธ.หลาด" ตรงศาลาแปดเหลี่ยม ในเรือนจำบางขวาง คำพูดสุดท้าย "ถ้าพร้อมแล้ว จะบอกนะ" จากนั้น...มือของเสธ.หลาดสั่นเบา ๆ เพื่อ "เขย่าดอกไม้ในมือ" เป็นสัญญาณให้เพชฌฆาตเหนี่ยวไก 🪦 เสธ. หลาดในความทรงจำ ของนักโทษการเมือง "สุธรรม แสงประทุม" เล่าว่า เสธ.หลาด หรือ “ลุงหลาด” อยู่ตึกเดียวกันในบางขวาง โดย “ลุงหลาด” มักชอบพูดเสมอว่า “ลุงถูกหักหลัง” ใครคือผู้หักหลัง? ยังไม่มีใครรู้แน่ชัด... หรืออาจรู้ แต่ไม่มีใครกล้าพูด เสธ.หลาดยังถามสุธรรมซ้ำ ๆ ว่า "การต่อสู้ของลุง สมควรแก่เหตุหรือเปล่า?" สุธรรมตอบว่า "ก็พอสมควรแก่เหตุครับ" 🧩 เสธ. หลาดในหน้าประวัติศาสตร์: วีรบุรุษ? กบฏ? หรือเหยื่อการเมือง? สิ่งที่ควรถามในวันนี้ไม่ใช่แค่ว่า “เขาผิดหรือไม่?” แต่คือ “เขาได้รับความยุติธรรมหรือเปล่า?” การประหารชีวิต ที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการศาล การเจรจาที่หลอกให้เขายอมแพ้ การกล่าวหาว่า เขามีอิทธิพลเกินไป ทั้งหมดนี้คือคำถาม ที่ยังไม่มีคำตอบ และอาจไม่เคยมีวันหนึ่ง ที่คำตอบเหล่านั้นจะถูกเปิดเผย... 🔚 เสียงสะท้อนจากกระสุนในวันนั้น เรื่องราวของ “เสธ.หลาด” พลเอกฉลาด หิรัญศิริ ไม่ใช่แค่ประวัติศาสตร์ของคน คนหนึ่ง แต่มันสะท้อนถึง โครงสร้างอำนาจของไทยในอดีต สะท้อนถึงความเปราะบางของ “ความยุติธรรม” เมื่อ “อำนาจ” มาแทนที่ 📜⚖️ 48 ปี ผ่านไป คำถามยังคงอยู่... ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 221706 เม.ย. 2568 📱 #เสธหลาด #ฉลาดหิรัญศิริ #กบฏ2520 #ประหารชีวิต #ประวัติศาสตร์ไทย #คดีดังไทย #รัฐประหาร #การเมืองไทย #บางขวาง #มาตรา21
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 686 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทวิเคราะห์ของ สมหมาย ภาษี อดีตรัฐมนตรีคลัง “นโยบายปรับภาษี (Tariff) ของ Trump จะทำให้โลกใบนี้ไม่เหมือนเดิมอีกแล้วพัฒนาการของการค้าโลกในช่วงประมาณ 50 ปีที่ผ่านมา มีการตั้งองค์การด้านการค้าโลกขึ้น เริ่มด้วยการตั้ง GATTS แล้วต่อมาปรับเป็น WTO (World Trade Organization) เพื่อสร้างกฎเกณฑ์การค้าขายระหว่างประเทศและกำกับให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามแนวทางการค้าเสรี ช่วงนี้จะมีประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา รัสเซีย ประเทศใหญ่ๆในยุโรป และประเทศญี่ปุ่นได้ปรับตัวให้ตนเองมั่งคั่งและสะสมความร่ำรวย เข้าไปควบคุมตลาดเงินและสกุลเงินตราสำคัญ รวมทั้งควบคุมตลาดการค้าหลักๆให้เป็นระเบียบและเอื้อต่อการขยายตัวของการค้าขายของแต่ละประเทศเพื่อประโยชน์ต่อตนเองมากขึ้นเรื่อยๆ .แต่แล้วในช่วงดังกล่าวนี้ประเทศจีนเสือหลับแห่งเอเชีย ที่ได้ผู้นำประเทศที่ขึ้นมาพลิกผันประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรมได้รวดเร็วและต่อเนื่อง ชื่อ เติ้ง เสี่ยวผิง เติ้งได้ทำการปฏิวัติและปฏิรูปประเทศในทุกด้านโดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรมตั้งแต่แบบเก่าจนแบบที่ต้องใช้เทคนิคล้ำหน้า จนขณะนี้จีนภายใต้ผู้นำชื่อ สี จิ้น ผิง ที่เข้มแข็ง มือสะอาด มีฝีมือ มีคุณธรรม มีความตั้งใจจริง เข้ามาบริหารประเทศที่มีพลเมืองมากที่สุดให้ใหญ่โตจนทัดเทียมกับประเทศสหรัฐอเมริกาในทุกด้าน จนผู้นำของสหรัฐอย่าง Trump รู้สึกเสียหน้ามาก. ที่มาของการใช้มาตรการทำสงครามการค้าของ Trump ความแข็งแกร่งของจีนในขณะนี้ Trump ได้เฝ้าดูแลมาร่วม 8 ปี เมื่อเขาสามารถเข้ามาเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอีกครั้งก็ไม่รีรอที่จะลงมือนำนโยบายปรับภาษีสินค้านำเข้าและส่งออก (Tariff) ชนิดสุดโต่งและจำเพาะเจาะจงมาใช้กับประเทศจีนโดยทันที ขณะเดียวกันก็ได้ประกาศใช้กับประเทศคู่ค้าอื่นๆ ทั่วโลกด้วย แต่มาตรการจะเบากว่าที่ใช้กับจีน. สิ่งที่เห็นตามที่เป็นข่าวอยู่ทุกวันนี้ก็คือ การเกิดแรงกระแทกอย่างมากต่อวิถีการค้าระหว่างประเทศที่เป็นอยู่ทั่วโลก ไม่ต้องถามว่าทำไม Trump ต้องทำแบบนี้ เพราะเขาเองเห็นชัดว่า ประเทศสหรัฐอเมริกาของเขากำลังตกต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขาดดุลการค้าอย่างมากที่เกิดต่อเนื่องมานานและมีหนี้สาธารณะสูงมาก .Trump ยังได้เห็นชัดว่า ฝ่ายของจีนมีพวกพ้องมากขึ้น โดยเฉพาะการจัดตั้งกลุ่ม BRICS ประกอบด้วย Brazil, Russia, India, China และ South Africa รวมหัวกันทำการค้าต่อกันอย่างใกล้ชิด คิดใช้สกุลเงินตราของตนเอง โดยหันหน้าหนีการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐ.เท่านั้นยังไม่พอ กลุ่ม BRICS ยังค่อยๆลดการลงทุนในพันธบัตรของสหรัฐที่แต่ละประเทศถือไว้มากมายลงไปโดยการขายออก และหันไปซื้อทองคำหรือกระจายการลงทุนเป็นอย่างอื่น ขณะเดียวกันนักลงทุนรายใหญ่อื่นๆ ในตลาดเงินก็ทำการทิ้งพันธบัตรสหรัฐตามกันไปด้วย มีผลทำให้พันธบัตรซึ่งเป็นสินทรัพย์ในอนาคตจำนวนมากของสหรัฐด้อยค่าลงมากอย่างที่ไม่เคยเกิดมาก่อน.สรุปได้ว่า Trump ได้มองเห็นอย่างชัดเจนว่าสหรัฐอเมริกาตอนนี้ได้ต่ำต้อยลงอย่างรวดเร็วมาก ตัวเองจึงจำเป็นต้องทำตัวเป็นอัศวินขี่ม้าขาวเข้ามากู้ประเทศให้พลิกผันให้สหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งอย่างเต็มตัวต่อไป ที่ Trump ตั้งใจจะทำก่อนและให้แรงมากคือเล่นงานด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าของสินค้าจีนอย่างบ้าระห่ำ ซึ่งจีนก็ได้ตอบโต้ด้วยมาตรการทำนองเดียวกัน แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน นี่เป็นแค่ยกแรกแค่นั้น.ประเทศน้อยใหญ่ และสถาบันการเงินระหว่างประเทศทั้งหลายต่างก็มองการกระทำของ Trump ในแง่ลบ แม้แต่ประธาน Federal Reserve ของสหรัฐเองอย่าง Jerome Powell เองก็มีอาการกึ่งช็อคกึ่งหัวหมุนกับนโยบายประเภทบ้าบิ่นที่ประธานาธิบดีของเขาจัดมาเป็นชุดๆ Powell ถึงกับกล่าวว่านโยบายของ Trump ที่นำออกมาใช้นี้จะเป็นสิ่งกระตุ้นให้เงินเฟ้อสูงขึ้น ภาวะเศรษฐกิจจะตกต่ำและการว่างงานจะมีมากขึ้น ตลาดหลักทรัพย์หรือตลาดหุ้นก็จะปั่นป่วนมาก ความตั้งใจที่ Fed จะลดดอกเบี้ยลงจึงทำได้ยากขึ้นซึ่งความเห็นของประธาน Fed ดังกล่าว Trump ไม่พอใจมากเพราะเขาอยากให้มีการลดดอกเบี้ยถึงกับเอ่ยออกมาว่าคงต้องคิดเรื่องการเด้งประธาน Fed ซะแล้ว ฟังคล้ายกำลังจะเอาอย่างประเทศไทย.แนวทางของไทยที่จะรับมือเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประเทศทุกประเทศที่โดนผลกระทบในเรื่องการขึ้น Tariff ของ Trump ต่างก็กำลังระดมความคิดและเตรียมตัวที่จะส่งผู้แทนไปเจรจา ยกเว้นจีนประเทศเดียวที่ขึ้นป้ายจะสู้กับสหรัฐอย่างแน่วแน่.สำหรับประเทศไทย ยังฟังไม่ได้ศัพท์จากฝ่ายรัฐบาลว่าจะมีกลยุทธ์ในการรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร ชี้ให้เห็นชัดว่าศักยภาพของรัฐบาลไทยในการแก้ปัญหาใหญ่ต่ำมาก ฟังความได้อย่างเดียวจากท่านนายกรัฐมนตรีว่าจะใช้นโยบายและแนวทางเหมือนกับประเทศอาเซียนอื่นๆเท่านั้นตอนนี้ก็เห็นภาพชัดขึ้นอีกจากคณะผู้แทนที่เตรียมการจะไปเจรจา โดยจะไปบอกทางสหรัฐว่าไทยเราจะซื้อสินค้าจากเขามากขึ้น เช่น LNG ข้าวโพด ถั่วเหลือง เป็นต้น ถ้าจะเดาก็จะขอให้ทางสหรัฐบันยะบันยังกับการเพิ่มภาษีสินค้าที่นำเข้าจากไทยที่มีมูลค่าถึง 18 % ของมูลค่าการส่งออกของไทยทั้งหมด.ส่วนผลกระทบต่อไทย เท่าที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พยายามจะบอกพอสังเขป สรุปได้ว่าการส่งออกของไทยจะโดนกระทบมากโดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องใช้ไฟฟ้า และอาหารแปรรูป และจะทำให้การเติบโตของ GDP ในปีนี้ลดต่ำกว่าเป้าเหลือโตไม่ถึง 2.5 % และอัตราเงินเฟ้อของไทยก็จะชะลอลงด้วย นี่ยังไม่พูดถึงผลกระทบในปีหน้าและต่อๆไป ว่าจะรุนแรงสักแค่ไหน เชื่อได้เถอะครับมันแรงเกินคาด.ความเห็นผมนั้น เห็นว่าไทยเราจะโดนหนักกว่าที่รัฐบาลและหน่วยราชการไทยประเมินไว้มาก เกินศักยภาพของรัฐบาลไทยชุดนี้จะรับมือได้ วิกฤตที่จะเกิดขึ้นจากเรื่อง Tariff หนนี้ ไม่ใช่ Covid 19 นะครับ มันเป็นเรื่องประเทศใครประเทศมัน ใครมีผู้นำเก่งก็ทำให้เบาได้ สามารถเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสได้.แนวทางในการคิดแก้วิกฤตของประเทศขนาดเล็กผมอยากนำท่านผู้อ่านไปดูว่าผู้นำของสิงคโปร์อย่างอดีตนายกลี เซียนลุง ได้พูดเมื่อไม่กี่วันมานี้ซึ่งดีมาก เขาเริ่มบอกประชาชนรวมทั้งคณะรัฐมนตรีที่บริหารประเทศและนักธุรกิจ นักลงทุนของเขาว่าแม้จะมีความไม่แน่นอนในช่วง 90 วันที่ Trump จะให้ประเทศอื่นๆ นอกจากจีนไปคิดกันให้ดี แต่ก็ต้องมองให้ออกว่าทุกอย่างจะไม่กลับไปเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว ดังนั้น เราต้องกังวลและคิดให้ตกว่ามันจะส่งผลกับเรามากแค่ไหน ต้องตระหนักให้ได้ว่าวิกฤตที่จะเกิดทั่วโลกนี้ บางสิ่งบางอย่างที่สำคัญมันแตกต่างไปจากเดิมมาก .ลี เซียนลุง ชี้ให้เห็นชัดว่า การขึ้นภาษีหรือ Tariff ไปทั่วโลกครั้งนี้มันจะก่อกวนต่อการผลิตมากกว่าที่คิด เพราะ Supply Chain หรือ ห่วงโซ่การผลิตทุกอย่างจะหยุดชะงัก แผนการผลิตเดิมทุกอย่างจะหายไป และจะนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ (Recession) อย่างรวดเร็ว และขอให้คาดหวังไว้ได้เลยว่า ปัญหานี้จะอยู่กับเราไปอีกนาน.หลังจากลี เซียนลุง พูดเรื่องนี้ได้ไม่กี่วัน นายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ที่มีเสียงสนับสนุนหนาแน่นอยู่ได้ประเทศยุบสภาไปเมื่อวันที่ 18 เมษายน นี้เอง เหตุผลเพื่อให้ประชาชนมีโอกาสเลือกผู้นำใหม่ขึ้นมา นี่คือสิงคโปร์ นี่คือสิ่งที่เขาเป็นชาติที่เจริญได้อย่างรวดเร็วและมั่นคงจนเราไม่สามารถแหงนหน้าขึ้นไปมองเขาได้แล้ว.ทางรอดของไทยจะเป็นอย่างไร ท้ายที่สุดนี้ เรามาดูว่าประเทศไทยเราจะมีทางรอดแค่ไหนก่อนเราต้องส่องกระจกดูตัวเอง และต้องฟังดูว่ามีใครมองเราอย่างไรบ้างให้ชัดก่อน เมื่อไม่กี่เดือนมานี้เองได้มีการชี้แนะจากสถาบันการเงินระหว่างประเทศแห่งหนึ่งว่า “ประเทศไทยนั้นมีเรื่องคอร์รัปชั่นเป็นตัวหลักที่ทำให้การบริหารประเทศในทุกด้านเดินหน้าไม่ได้” และเมื่อมีนาคม 2568 นี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ชี้ว่าเศรษฐกิจไทยน่าห่วงเทียบได้เป็น “คนป่วยแห่งเอเชีย”เป็นคนป่วยยังไงหรือ ทางด้านเศรษฐกิจก็เห็นกันชัดอยู่แล้วว่าไทยเรา กำลังเผชิญกับหนี้สาธารณะสูงมาก ภาษีเก็บได้น้อย ช่องทางในการหาเงินมาบริหารประเทศยังชักหน้าไม่ถึงหลัง อนาคตด้านการคลังริบหรี่ ปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจเรื่องหนี้ครัวเรือนก็ไม่มีทางจะแก้ให้เบาบางลงได้ แม้ไม่มีเรื่องการปรับ Tariff ของ Trump ประเทศไทยเราก็มีความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจมากเกินอยู่แล้ว นี่คืออาการของคนป่วยเรื้อรังแห่งเอเชีย.ไม่ต้องสาธยายกันมาก อีกเรื่องทุกคนก็รู้ดีอยู่ว่า การเมืองของไทยยักแย่ยักยันอยู่ในปลักโคลนตมเดิมจนโงหัวไม่ขึ้นมานานแล้ว การเล่นการเมืองของนักการเมืองไทยเด็กๆก็รู้ว่าเพื่ออำนาจและผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องเท่านั้น ใครจะเห็นต่างกี่คนก็บอกมา.เมื่อองคาพยพของการเมืองไทยซึ่งมีการแต่งตั้งคณะรัฐบาลมาบริหารประเทศจากรากเหง้าเก่าๆที่รู้กันอยู่ เมื่อเจอกับปัญหาใหญ่ระดับโลกชนิดที่ว่าหันไปทางไหนก็มากระทบเราทั้งนั้น ท่านผู้ที่ได้ใช้สิทธิใช้เสียงเลือกพวกเขาเข้ามาบริหารประเทศ เชื่อและมั่นใจหรือไม่ว่าเขาจะแก้ปัญหาใหญ่ที่จะมากระทบประเทศเราได้ .หันไปดูนโยบายของพรรคการเมืองผู้กุมอำนาจบริหารประเทศอยู่ในขณะนี้ก็จะเห็นชัดเจนว่า ตอนนี้นโยบายของพวกเขาเหล่านั้น มันเน่าบูดกันแทบหมดแล้วครับ ถ้าจะแก้ปัญหาใหญ่ที่จะมีแรงกระแทกก่อให้เกิดวิกฤตที่ใหญ่เกินคาด ด้วยการปรับ ครม. แต่ยังดันทุรังคงสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ไว้ น่าจะไม่เป็นการกระทำของผู้นำที่รักชาติจริง”
    บทวิเคราะห์ของ สมหมาย ภาษี อดีตรัฐมนตรีคลัง “นโยบายปรับภาษี (Tariff) ของ Trump จะทำให้โลกใบนี้ไม่เหมือนเดิมอีกแล้วพัฒนาการของการค้าโลกในช่วงประมาณ 50 ปีที่ผ่านมา มีการตั้งองค์การด้านการค้าโลกขึ้น เริ่มด้วยการตั้ง GATTS แล้วต่อมาปรับเป็น WTO (World Trade Organization) เพื่อสร้างกฎเกณฑ์การค้าขายระหว่างประเทศและกำกับให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามแนวทางการค้าเสรี ช่วงนี้จะมีประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา รัสเซีย ประเทศใหญ่ๆในยุโรป และประเทศญี่ปุ่นได้ปรับตัวให้ตนเองมั่งคั่งและสะสมความร่ำรวย เข้าไปควบคุมตลาดเงินและสกุลเงินตราสำคัญ รวมทั้งควบคุมตลาดการค้าหลักๆให้เป็นระเบียบและเอื้อต่อการขยายตัวของการค้าขายของแต่ละประเทศเพื่อประโยชน์ต่อตนเองมากขึ้นเรื่อยๆ .แต่แล้วในช่วงดังกล่าวนี้ประเทศจีนเสือหลับแห่งเอเชีย ที่ได้ผู้นำประเทศที่ขึ้นมาพลิกผันประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรมได้รวดเร็วและต่อเนื่อง ชื่อ เติ้ง เสี่ยวผิง เติ้งได้ทำการปฏิวัติและปฏิรูปประเทศในทุกด้านโดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรมตั้งแต่แบบเก่าจนแบบที่ต้องใช้เทคนิคล้ำหน้า จนขณะนี้จีนภายใต้ผู้นำชื่อ สี จิ้น ผิง ที่เข้มแข็ง มือสะอาด มีฝีมือ มีคุณธรรม มีความตั้งใจจริง เข้ามาบริหารประเทศที่มีพลเมืองมากที่สุดให้ใหญ่โตจนทัดเทียมกับประเทศสหรัฐอเมริกาในทุกด้าน จนผู้นำของสหรัฐอย่าง Trump รู้สึกเสียหน้ามาก. ที่มาของการใช้มาตรการทำสงครามการค้าของ Trump ความแข็งแกร่งของจีนในขณะนี้ Trump ได้เฝ้าดูแลมาร่วม 8 ปี เมื่อเขาสามารถเข้ามาเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอีกครั้งก็ไม่รีรอที่จะลงมือนำนโยบายปรับภาษีสินค้านำเข้าและส่งออก (Tariff) ชนิดสุดโต่งและจำเพาะเจาะจงมาใช้กับประเทศจีนโดยทันที ขณะเดียวกันก็ได้ประกาศใช้กับประเทศคู่ค้าอื่นๆ ทั่วโลกด้วย แต่มาตรการจะเบากว่าที่ใช้กับจีน. สิ่งที่เห็นตามที่เป็นข่าวอยู่ทุกวันนี้ก็คือ การเกิดแรงกระแทกอย่างมากต่อวิถีการค้าระหว่างประเทศที่เป็นอยู่ทั่วโลก ไม่ต้องถามว่าทำไม Trump ต้องทำแบบนี้ เพราะเขาเองเห็นชัดว่า ประเทศสหรัฐอเมริกาของเขากำลังตกต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขาดดุลการค้าอย่างมากที่เกิดต่อเนื่องมานานและมีหนี้สาธารณะสูงมาก .Trump ยังได้เห็นชัดว่า ฝ่ายของจีนมีพวกพ้องมากขึ้น โดยเฉพาะการจัดตั้งกลุ่ม BRICS ประกอบด้วย Brazil, Russia, India, China และ South Africa รวมหัวกันทำการค้าต่อกันอย่างใกล้ชิด คิดใช้สกุลเงินตราของตนเอง โดยหันหน้าหนีการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐ.เท่านั้นยังไม่พอ กลุ่ม BRICS ยังค่อยๆลดการลงทุนในพันธบัตรของสหรัฐที่แต่ละประเทศถือไว้มากมายลงไปโดยการขายออก และหันไปซื้อทองคำหรือกระจายการลงทุนเป็นอย่างอื่น ขณะเดียวกันนักลงทุนรายใหญ่อื่นๆ ในตลาดเงินก็ทำการทิ้งพันธบัตรสหรัฐตามกันไปด้วย มีผลทำให้พันธบัตรซึ่งเป็นสินทรัพย์ในอนาคตจำนวนมากของสหรัฐด้อยค่าลงมากอย่างที่ไม่เคยเกิดมาก่อน.สรุปได้ว่า Trump ได้มองเห็นอย่างชัดเจนว่าสหรัฐอเมริกาตอนนี้ได้ต่ำต้อยลงอย่างรวดเร็วมาก ตัวเองจึงจำเป็นต้องทำตัวเป็นอัศวินขี่ม้าขาวเข้ามากู้ประเทศให้พลิกผันให้สหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งอย่างเต็มตัวต่อไป ที่ Trump ตั้งใจจะทำก่อนและให้แรงมากคือเล่นงานด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าของสินค้าจีนอย่างบ้าระห่ำ ซึ่งจีนก็ได้ตอบโต้ด้วยมาตรการทำนองเดียวกัน แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน นี่เป็นแค่ยกแรกแค่นั้น.ประเทศน้อยใหญ่ และสถาบันการเงินระหว่างประเทศทั้งหลายต่างก็มองการกระทำของ Trump ในแง่ลบ แม้แต่ประธาน Federal Reserve ของสหรัฐเองอย่าง Jerome Powell เองก็มีอาการกึ่งช็อคกึ่งหัวหมุนกับนโยบายประเภทบ้าบิ่นที่ประธานาธิบดีของเขาจัดมาเป็นชุดๆ Powell ถึงกับกล่าวว่านโยบายของ Trump ที่นำออกมาใช้นี้จะเป็นสิ่งกระตุ้นให้เงินเฟ้อสูงขึ้น ภาวะเศรษฐกิจจะตกต่ำและการว่างงานจะมีมากขึ้น ตลาดหลักทรัพย์หรือตลาดหุ้นก็จะปั่นป่วนมาก ความตั้งใจที่ Fed จะลดดอกเบี้ยลงจึงทำได้ยากขึ้นซึ่งความเห็นของประธาน Fed ดังกล่าว Trump ไม่พอใจมากเพราะเขาอยากให้มีการลดดอกเบี้ยถึงกับเอ่ยออกมาว่าคงต้องคิดเรื่องการเด้งประธาน Fed ซะแล้ว ฟังคล้ายกำลังจะเอาอย่างประเทศไทย.แนวทางของไทยที่จะรับมือเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประเทศทุกประเทศที่โดนผลกระทบในเรื่องการขึ้น Tariff ของ Trump ต่างก็กำลังระดมความคิดและเตรียมตัวที่จะส่งผู้แทนไปเจรจา ยกเว้นจีนประเทศเดียวที่ขึ้นป้ายจะสู้กับสหรัฐอย่างแน่วแน่.สำหรับประเทศไทย ยังฟังไม่ได้ศัพท์จากฝ่ายรัฐบาลว่าจะมีกลยุทธ์ในการรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร ชี้ให้เห็นชัดว่าศักยภาพของรัฐบาลไทยในการแก้ปัญหาใหญ่ต่ำมาก ฟังความได้อย่างเดียวจากท่านนายกรัฐมนตรีว่าจะใช้นโยบายและแนวทางเหมือนกับประเทศอาเซียนอื่นๆเท่านั้นตอนนี้ก็เห็นภาพชัดขึ้นอีกจากคณะผู้แทนที่เตรียมการจะไปเจรจา โดยจะไปบอกทางสหรัฐว่าไทยเราจะซื้อสินค้าจากเขามากขึ้น เช่น LNG ข้าวโพด ถั่วเหลือง เป็นต้น ถ้าจะเดาก็จะขอให้ทางสหรัฐบันยะบันยังกับการเพิ่มภาษีสินค้าที่นำเข้าจากไทยที่มีมูลค่าถึง 18 % ของมูลค่าการส่งออกของไทยทั้งหมด.ส่วนผลกระทบต่อไทย เท่าที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พยายามจะบอกพอสังเขป สรุปได้ว่าการส่งออกของไทยจะโดนกระทบมากโดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องใช้ไฟฟ้า และอาหารแปรรูป และจะทำให้การเติบโตของ GDP ในปีนี้ลดต่ำกว่าเป้าเหลือโตไม่ถึง 2.5 % และอัตราเงินเฟ้อของไทยก็จะชะลอลงด้วย นี่ยังไม่พูดถึงผลกระทบในปีหน้าและต่อๆไป ว่าจะรุนแรงสักแค่ไหน เชื่อได้เถอะครับมันแรงเกินคาด.ความเห็นผมนั้น เห็นว่าไทยเราจะโดนหนักกว่าที่รัฐบาลและหน่วยราชการไทยประเมินไว้มาก เกินศักยภาพของรัฐบาลไทยชุดนี้จะรับมือได้ วิกฤตที่จะเกิดขึ้นจากเรื่อง Tariff หนนี้ ไม่ใช่ Covid 19 นะครับ มันเป็นเรื่องประเทศใครประเทศมัน ใครมีผู้นำเก่งก็ทำให้เบาได้ สามารถเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสได้.แนวทางในการคิดแก้วิกฤตของประเทศขนาดเล็กผมอยากนำท่านผู้อ่านไปดูว่าผู้นำของสิงคโปร์อย่างอดีตนายกลี เซียนลุง ได้พูดเมื่อไม่กี่วันมานี้ซึ่งดีมาก เขาเริ่มบอกประชาชนรวมทั้งคณะรัฐมนตรีที่บริหารประเทศและนักธุรกิจ นักลงทุนของเขาว่าแม้จะมีความไม่แน่นอนในช่วง 90 วันที่ Trump จะให้ประเทศอื่นๆ นอกจากจีนไปคิดกันให้ดี แต่ก็ต้องมองให้ออกว่าทุกอย่างจะไม่กลับไปเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว ดังนั้น เราต้องกังวลและคิดให้ตกว่ามันจะส่งผลกับเรามากแค่ไหน ต้องตระหนักให้ได้ว่าวิกฤตที่จะเกิดทั่วโลกนี้ บางสิ่งบางอย่างที่สำคัญมันแตกต่างไปจากเดิมมาก .ลี เซียนลุง ชี้ให้เห็นชัดว่า การขึ้นภาษีหรือ Tariff ไปทั่วโลกครั้งนี้มันจะก่อกวนต่อการผลิตมากกว่าที่คิด เพราะ Supply Chain หรือ ห่วงโซ่การผลิตทุกอย่างจะหยุดชะงัก แผนการผลิตเดิมทุกอย่างจะหายไป และจะนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ (Recession) อย่างรวดเร็ว และขอให้คาดหวังไว้ได้เลยว่า ปัญหานี้จะอยู่กับเราไปอีกนาน.หลังจากลี เซียนลุง พูดเรื่องนี้ได้ไม่กี่วัน นายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ที่มีเสียงสนับสนุนหนาแน่นอยู่ได้ประเทศยุบสภาไปเมื่อวันที่ 18 เมษายน นี้เอง เหตุผลเพื่อให้ประชาชนมีโอกาสเลือกผู้นำใหม่ขึ้นมา นี่คือสิงคโปร์ นี่คือสิ่งที่เขาเป็นชาติที่เจริญได้อย่างรวดเร็วและมั่นคงจนเราไม่สามารถแหงนหน้าขึ้นไปมองเขาได้แล้ว.ทางรอดของไทยจะเป็นอย่างไร ท้ายที่สุดนี้ เรามาดูว่าประเทศไทยเราจะมีทางรอดแค่ไหนก่อนเราต้องส่องกระจกดูตัวเอง และต้องฟังดูว่ามีใครมองเราอย่างไรบ้างให้ชัดก่อน เมื่อไม่กี่เดือนมานี้เองได้มีการชี้แนะจากสถาบันการเงินระหว่างประเทศแห่งหนึ่งว่า “ประเทศไทยนั้นมีเรื่องคอร์รัปชั่นเป็นตัวหลักที่ทำให้การบริหารประเทศในทุกด้านเดินหน้าไม่ได้” และเมื่อมีนาคม 2568 นี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ชี้ว่าเศรษฐกิจไทยน่าห่วงเทียบได้เป็น “คนป่วยแห่งเอเชีย”เป็นคนป่วยยังไงหรือ ทางด้านเศรษฐกิจก็เห็นกันชัดอยู่แล้วว่าไทยเรา กำลังเผชิญกับหนี้สาธารณะสูงมาก ภาษีเก็บได้น้อย ช่องทางในการหาเงินมาบริหารประเทศยังชักหน้าไม่ถึงหลัง อนาคตด้านการคลังริบหรี่ ปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจเรื่องหนี้ครัวเรือนก็ไม่มีทางจะแก้ให้เบาบางลงได้ แม้ไม่มีเรื่องการปรับ Tariff ของ Trump ประเทศไทยเราก็มีความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจมากเกินอยู่แล้ว นี่คืออาการของคนป่วยเรื้อรังแห่งเอเชีย.ไม่ต้องสาธยายกันมาก อีกเรื่องทุกคนก็รู้ดีอยู่ว่า การเมืองของไทยยักแย่ยักยันอยู่ในปลักโคลนตมเดิมจนโงหัวไม่ขึ้นมานานแล้ว การเล่นการเมืองของนักการเมืองไทยเด็กๆก็รู้ว่าเพื่ออำนาจและผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องเท่านั้น ใครจะเห็นต่างกี่คนก็บอกมา.เมื่อองคาพยพของการเมืองไทยซึ่งมีการแต่งตั้งคณะรัฐบาลมาบริหารประเทศจากรากเหง้าเก่าๆที่รู้กันอยู่ เมื่อเจอกับปัญหาใหญ่ระดับโลกชนิดที่ว่าหันไปทางไหนก็มากระทบเราทั้งนั้น ท่านผู้ที่ได้ใช้สิทธิใช้เสียงเลือกพวกเขาเข้ามาบริหารประเทศ เชื่อและมั่นใจหรือไม่ว่าเขาจะแก้ปัญหาใหญ่ที่จะมากระทบประเทศเราได้ .หันไปดูนโยบายของพรรคการเมืองผู้กุมอำนาจบริหารประเทศอยู่ในขณะนี้ก็จะเห็นชัดเจนว่า ตอนนี้นโยบายของพวกเขาเหล่านั้น มันเน่าบูดกันแทบหมดแล้วครับ ถ้าจะแก้ปัญหาใหญ่ที่จะมีแรงกระแทกก่อให้เกิดวิกฤตที่ใหญ่เกินคาด ด้วยการปรับ ครม. แต่ยังดันทุรังคงสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ไว้ น่าจะไม่เป็นการกระทำของผู้นำที่รักชาติจริง”
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 814 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..เราก้าวมาถึงทางตันเลยก็ว่าหรือผู้นำนั้นล่ะพาเดินมาทางตัน ,หลงทาง ออกจากเขาวงกตไม่ได้ และเจตจาพามาฆ่าสังหารทำให้ตายแล้วยึดชิงปล้นทรัพย์เต็มที่ไร้การขัดขืนใดๆอีก.

    ..ปฏิวัตอย่างเดียว ทหารคือหนทางออกกับนักการเมืองอีลิทdeep stateควบคุมนี้,ล้มเหลว&ตกประเมินด้านไปทางพ้นยากจนด้วย,เจริญเพียงเดอะแก๊งdeep state ,จะมองคาสิโนมองบ่อน้ำมันมองแลนด์บริจด์ล้วนdeep stateข้ามชาติต้องการอยากได้หมด.

    ..เรามันยุคปฏิวัติรุ่นน้ำหมากจริงๆ,คนหนุ่มสาวไร้สติปัญญากำลังไร้สมองบวกถูกล้างสมองสิ้น,โน้นdeep stateพาชูสามนิ้วแทรกแซงมุกปั่นป่วนสร้างก่อโกลาหลมันก็พากันไปตรึม.ดีนะที่ยังมีคนรุ่นน้ำหมากรุ่นสุดท้ายยังเหลือ,ชาติไทยจึงต้องจบและเริ่มกวาดล้างสิ้นซากมิให้คนพวกนี้มีชีวิตจึงสำคัญมากๆ.
    ..และทำไมจึงรอนานจังหวะมาขนาดนี้,เราไม่ยินดีในทหารยึดอำนาจแบบๆยุคอดีตซึ่งทั้งหมดเป็นฝ่ายของdeep stateเล่นบททำเองแต่งชงกินเองทั้งสิ้น,เราต้องการทหารพระราชาจริงๆ.บ้านเมืองชาติไหนจะเป็นแบบใดไม่ใส่ใจ บ้านเมืองเราต้องดีขึ้นคู่ขนานทั้งกายวัตถุธาตุภายนอกและเจริญล้ำทางจิตวิญญาณที่ทรงคุณค่าสถานเดียวจริงๆและสมควรเป็นเช่นนั้นนานมาแล้ว.
    ..การปกครองจริงๆเพราะอำนาจการปกครองคนดีต้องได้ครอบครอง.

    https://youtube.com/watch?v=6a5e8msRYLE&si=MDVkuZBrEh4QXq8B
    ..เราก้าวมาถึงทางตันเลยก็ว่าหรือผู้นำนั้นล่ะพาเดินมาทางตัน ,หลงทาง ออกจากเขาวงกตไม่ได้ และเจตจาพามาฆ่าสังหารทำให้ตายแล้วยึดชิงปล้นทรัพย์เต็มที่ไร้การขัดขืนใดๆอีก. ..ปฏิวัตอย่างเดียว ทหารคือหนทางออกกับนักการเมืองอีลิทdeep stateควบคุมนี้,ล้มเหลว&ตกประเมินด้านไปทางพ้นยากจนด้วย,เจริญเพียงเดอะแก๊งdeep state ,จะมองคาสิโนมองบ่อน้ำมันมองแลนด์บริจด์ล้วนdeep stateข้ามชาติต้องการอยากได้หมด. ..เรามันยุคปฏิวัติรุ่นน้ำหมากจริงๆ,คนหนุ่มสาวไร้สติปัญญากำลังไร้สมองบวกถูกล้างสมองสิ้น,โน้นdeep stateพาชูสามนิ้วแทรกแซงมุกปั่นป่วนสร้างก่อโกลาหลมันก็พากันไปตรึม.ดีนะที่ยังมีคนรุ่นน้ำหมากรุ่นสุดท้ายยังเหลือ,ชาติไทยจึงต้องจบและเริ่มกวาดล้างสิ้นซากมิให้คนพวกนี้มีชีวิตจึงสำคัญมากๆ. ..และทำไมจึงรอนานจังหวะมาขนาดนี้,เราไม่ยินดีในทหารยึดอำนาจแบบๆยุคอดีตซึ่งทั้งหมดเป็นฝ่ายของdeep stateเล่นบททำเองแต่งชงกินเองทั้งสิ้น,เราต้องการทหารพระราชาจริงๆ.บ้านเมืองชาติไหนจะเป็นแบบใดไม่ใส่ใจ บ้านเมืองเราต้องดีขึ้นคู่ขนานทั้งกายวัตถุธาตุภายนอกและเจริญล้ำทางจิตวิญญาณที่ทรงคุณค่าสถานเดียวจริงๆและสมควรเป็นเช่นนั้นนานมาแล้ว. ..การปกครองจริงๆเพราะอำนาจการปกครองคนดีต้องได้ครอบครอง. https://youtube.com/watch?v=6a5e8msRYLE&si=MDVkuZBrEh4QXq8B
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 324 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฉีกหน้ากาก”โกงซ้อนโกง” ตึก สตง.ถล่ม
    ปลอมลายเซ็นวิศวกร บิดเบือนไม่รับผิดชอบ
    .
    เรื่องตึก สตง.(สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน)ถล่ม อีกสิบปีก็พูดได้ว่ามันเป็นมหากาพย์การโกง ผมว่ามันโคตรจะระยำตำบอนเลย ผม 78 ปี ปีนี้ ผมทำข่าวมาห้าสิบกว่าปี ผมไม่เคยเจอขบวนการคอร์รัปชันที่ยิ่งใหญ่และลึกลับซับซ้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทยก็ว่าได้ เรื่องขบวนการทุจริตในการจัดจ้างเพื่อก่อสร้างและตกแต่งอาคาร สตง. แห่งใหม่ ในเขตจตุจักร อย่างที่ผมฟันธงและบอกไปแล้วว่ามันมีเงื่อนงำในทุกกระบวนการ ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ
    .
    จริงๆ เรื่องนี้ต้องทำเป็นกรณีศึกษา Case study สถาบันการศึกษา อาจารย์น่าจะเอาข้อมูลพวกนี้ แล้วมาสั่งสอนลูกศิษย์ลูกหาว่ามันโกงกันอย่างไร ความเป็น สตง. นี่ไงที่ผมบอกว่าผมจะฟ้องท่านผู้ชม ให้จารึกลงในประวัติศาสตร์ ให้คนรุ่นลูกรุ่นหลานมันพูดถึงคน สตง. เลวๆ ที่มันระยำตำบอนและโกงชาติบ้านเมือง ทำผิดคุณธรรม จริยธรรม ในหน้าที่ที่ตัวเองต้องตรวจสอบการทุจริต แต่กลับทุจริตเสียเอง
    .
    ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความไม่ชอบมาพากลในการจัดจ้างเพื่อก่อสร้างโครงการนี้ยิ่งขึ้นไปอีก คือมันมีการปลอมลายเซ็นสำหรับกรณีวิศวกรทั้งสองคนที่มีชื่อไปเกี่ยวข้องและรับผิดชอบเกี่ยวกับการควบคุมการก่อสร้างและออกแบบอาคาร คือ หนึ่ง คุณสมเกียรติ ชูแสงสุข ที่ถูกอ้างชื่อและปลอมลายเซ็นว่าเป็นผู้ควบคุมงานของกิจการร่วมค้า PWK สอง คือคุณพิมล เจริญยิ่ง วิศวกรอายุ 85 ปี ที่ถูกระบุว่าเป็นผู้ออกแบบอาคาร 2 สตง. จริงหรือไม่ เจ้าตัวกลับปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่องด้วย และไม่ได้ทำงานออกแบบมาหลายปีแล้ว ท่านผู้ชมครับเห็นหรือยังครับ มหากาพย์ของการโกง โกงกันตั้งแต่เริ่มออกแบบแล้ว ตรงนี้มันมีพิรุธไหม ? เพราะกรมโยธาธิการฯได้แจ้งว่า ที่ขอมาขอให้มีการเร่งออกแบบตึก สตง.ที่มีงบสองพันล้านบาทภายใน 180 วันไม่ทัน ก็เป็นสิทธิ์หน่วยงานนี้จะเอาสิทธิ์ตรงนั้นไปแจ้งบริษัทเอกชนออกแบบแทน นี่คือการเจตนาที่จะทุจริตที่เห็นได้ชัดเจน
    .
    มีคนหนึ่งที่ผมอยากให้ออกมาชี้แจงเรื่องนี้ใจแทบขาด เพราะน่าจะเป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง คือ คุณปฏิวัติ ศิริไทย ซีอีโอ และเจ้าของบริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด ซึ่งบริษัทนี้เป็นหนึ่งในสามบริษัทที่ไปรวมตัวกันเป็นกิจการร่วมค้า PKWได้งานควบคุมก่อสร้างตึก สตง. ในวงเงิน 74.65 ล้านบาท
    .
    คุณปฏิวัติครับ คุณอย่านั่งนิ่งเฉย เพราะผมได้ยินว่าคุณเป็นผู้กว้างขวาง รู้จักคุณประจักษ์ บุญยัง อดีตผู้ว่าฯ สตง. รู้จักนายสุทธิพงษ์ บุญนิธิ รองผู้ว่าฯ สตง. มือไม้ของคุณประจักษ์ รวมทั้งผู้หลักผู้ใหญ่ อย่างประธาน คตง. คือ พล.อ.ชนะทัพ อินทามระ ประธาน คตง. หรือประธานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน เรื่อยไปจนถึงคนใกล้ชิด ทั้งทหาร ตำรวจ พลเรือน ซึ่งเป็นเครือญาติและคนใกล้ชิด พล.อ.ชนะทัพ ด้วย แม้หน่วยงานโคตรอภิสิทธิ์อย่าง สตง. ยืนยันที่ทำนั้น ล้วนแต่ดำเนินด้วยความถูกต้องบริสุทธิ์ผูดผ่องทั้งสิ้น
    .
    แต่ถ้ามันเน่าข้างในหมดแล้ว จะเอาหนังอะไรมากลบ ใส่เสื้อกี่ตัว กลิ่นมันออก พอกลิ่นมันออก ถอดเสื้อออกก็เหม็นเสื้อเชิ้ตก็เหม็น ถอดเสื้อเชิ้ตออก เสื้อเชิ้ตก็เหม็น ถอดคอกลมออก คอกลมก็เหม็น พอถอดออกหมดแล้ว อ้าว ตายห่า มันเน่าหมดแล้วนี่ มันเน่าก็คือว่า ทำมาหาแดกกันทุกระดับ ตั้งแต่ผู้หลักผู้ใหญ่ใน สตง. จะเป็นใครก็ตาม ท่านผู้ชมเดาเอาเองก็แล้วกัน
    ฉีกหน้ากาก”โกงซ้อนโกง” ตึก สตง.ถล่ม ปลอมลายเซ็นวิศวกร บิดเบือนไม่รับผิดชอบ . เรื่องตึก สตง.(สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน)ถล่ม อีกสิบปีก็พูดได้ว่ามันเป็นมหากาพย์การโกง ผมว่ามันโคตรจะระยำตำบอนเลย ผม 78 ปี ปีนี้ ผมทำข่าวมาห้าสิบกว่าปี ผมไม่เคยเจอขบวนการคอร์รัปชันที่ยิ่งใหญ่และลึกลับซับซ้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทยก็ว่าได้ เรื่องขบวนการทุจริตในการจัดจ้างเพื่อก่อสร้างและตกแต่งอาคาร สตง. แห่งใหม่ ในเขตจตุจักร อย่างที่ผมฟันธงและบอกไปแล้วว่ามันมีเงื่อนงำในทุกกระบวนการ ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ . จริงๆ เรื่องนี้ต้องทำเป็นกรณีศึกษา Case study สถาบันการศึกษา อาจารย์น่าจะเอาข้อมูลพวกนี้ แล้วมาสั่งสอนลูกศิษย์ลูกหาว่ามันโกงกันอย่างไร ความเป็น สตง. นี่ไงที่ผมบอกว่าผมจะฟ้องท่านผู้ชม ให้จารึกลงในประวัติศาสตร์ ให้คนรุ่นลูกรุ่นหลานมันพูดถึงคน สตง. เลวๆ ที่มันระยำตำบอนและโกงชาติบ้านเมือง ทำผิดคุณธรรม จริยธรรม ในหน้าที่ที่ตัวเองต้องตรวจสอบการทุจริต แต่กลับทุจริตเสียเอง . ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความไม่ชอบมาพากลในการจัดจ้างเพื่อก่อสร้างโครงการนี้ยิ่งขึ้นไปอีก คือมันมีการปลอมลายเซ็นสำหรับกรณีวิศวกรทั้งสองคนที่มีชื่อไปเกี่ยวข้องและรับผิดชอบเกี่ยวกับการควบคุมการก่อสร้างและออกแบบอาคาร คือ หนึ่ง คุณสมเกียรติ ชูแสงสุข ที่ถูกอ้างชื่อและปลอมลายเซ็นว่าเป็นผู้ควบคุมงานของกิจการร่วมค้า PWK สอง คือคุณพิมล เจริญยิ่ง วิศวกรอายุ 85 ปี ที่ถูกระบุว่าเป็นผู้ออกแบบอาคาร 2 สตง. จริงหรือไม่ เจ้าตัวกลับปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่องด้วย และไม่ได้ทำงานออกแบบมาหลายปีแล้ว ท่านผู้ชมครับเห็นหรือยังครับ มหากาพย์ของการโกง โกงกันตั้งแต่เริ่มออกแบบแล้ว ตรงนี้มันมีพิรุธไหม ? เพราะกรมโยธาธิการฯได้แจ้งว่า ที่ขอมาขอให้มีการเร่งออกแบบตึก สตง.ที่มีงบสองพันล้านบาทภายใน 180 วันไม่ทัน ก็เป็นสิทธิ์หน่วยงานนี้จะเอาสิทธิ์ตรงนั้นไปแจ้งบริษัทเอกชนออกแบบแทน นี่คือการเจตนาที่จะทุจริตที่เห็นได้ชัดเจน . มีคนหนึ่งที่ผมอยากให้ออกมาชี้แจงเรื่องนี้ใจแทบขาด เพราะน่าจะเป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง คือ คุณปฏิวัติ ศิริไทย ซีอีโอ และเจ้าของบริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด ซึ่งบริษัทนี้เป็นหนึ่งในสามบริษัทที่ไปรวมตัวกันเป็นกิจการร่วมค้า PKWได้งานควบคุมก่อสร้างตึก สตง. ในวงเงิน 74.65 ล้านบาท . คุณปฏิวัติครับ คุณอย่านั่งนิ่งเฉย เพราะผมได้ยินว่าคุณเป็นผู้กว้างขวาง รู้จักคุณประจักษ์ บุญยัง อดีตผู้ว่าฯ สตง. รู้จักนายสุทธิพงษ์ บุญนิธิ รองผู้ว่าฯ สตง. มือไม้ของคุณประจักษ์ รวมทั้งผู้หลักผู้ใหญ่ อย่างประธาน คตง. คือ พล.อ.ชนะทัพ อินทามระ ประธาน คตง. หรือประธานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน เรื่อยไปจนถึงคนใกล้ชิด ทั้งทหาร ตำรวจ พลเรือน ซึ่งเป็นเครือญาติและคนใกล้ชิด พล.อ.ชนะทัพ ด้วย แม้หน่วยงานโคตรอภิสิทธิ์อย่าง สตง. ยืนยันที่ทำนั้น ล้วนแต่ดำเนินด้วยความถูกต้องบริสุทธิ์ผูดผ่องทั้งสิ้น . แต่ถ้ามันเน่าข้างในหมดแล้ว จะเอาหนังอะไรมากลบ ใส่เสื้อกี่ตัว กลิ่นมันออก พอกลิ่นมันออก ถอดเสื้อออกก็เหม็นเสื้อเชิ้ตก็เหม็น ถอดเสื้อเชิ้ตออก เสื้อเชิ้ตก็เหม็น ถอดคอกลมออก คอกลมก็เหม็น พอถอดออกหมดแล้ว อ้าว ตายห่า มันเน่าหมดแล้วนี่ มันเน่าก็คือว่า ทำมาหาแดกกันทุกระดับ ตั้งแต่ผู้หลักผู้ใหญ่ใน สตง. จะเป็นใครก็ตาม ท่านผู้ชมเดาเอาเองก็แล้วกัน
    Like
    Love
    25
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1373 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดภาพ พิธีลงนามสัญญาจ้างควบคุมงานก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคม 2564 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ได้จัดให้มีพิธีลงนามในสัญญาจ้างควบคุมงานก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ โดยมีนายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ลงนามในสัญญา กับ กิจการร่วมค้า PKW ซึ่งเป็นผู้ชนะการยื่นข้อเสนองานจ้างควบคุมงาน ในวงเงิน 74.65 ล้านบาท ณ ห้องดำริอิศรานุวรรต สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ดำเนินการจัดทำร่างขอบเขตของงานจ้างควบคุมงานโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานแห่งใหม่ โดยกำหนดระยะเวลาดำเนินการและการจ่ายเงินค่าจ้างเป็น 2 ระยะ ระยะที่ 1 เป็นระยะเวลาควบคุมงานก่อสร้างจนแล้วเสร็จ (3 ปี) และระยะที่ 2 เป็นระยะเวลาควบคุมงานสำหรับงานรับประกันความชำรุดบกพร่องของผู้รับจ้างก่อสร้าง (2 ปี) ทำให้มีระยะเวลาผูกพันตามสัญญาจ้างเป็นระยะเวลาทั้งหมด 5 ปี และได้ดำเนินการจัดหาผู้ให้บริการควบคุมงานก่อสร้างตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 โดยวิธีคัดเลือกผู้ให้บริการควบคุมงานจ้างก่อสร้าง3 บริษัท ควบคุมงาน ตึก สตง. เอกชนที่ได้รับงานควบคุมงานก่อสร้างอาคาร สตง.วงเงิน 74.65 ล้านบาท 1. บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2554 ทุนจดทะเบียนล่าสุด 8,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 63/123 ตำบลบางแม่นาง อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี แจ้งประกอบธุรกิจการก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย ปรากฏชื่อ นาย ปฏิวัติ ศิริไทย นาง พรรณนภา ศิริไทย นาย นัฏพร กฤษฎานุภาพ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ณ วันที่ 29 เมษายน 2567 นาย ปฏิวัติ ศิริไทย ถือหุ้นใหญ่สุด หุ้นที่เหลืออยู่ในชื่อ นาง พรรณภา ศิริไทย นาย นัฏพร กฤษฎานุภาพ 2.บริษัท ว.และสหายคอนซัลแตนตส์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2526 ทุนจดทะเบียนล่าสุด 4,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 55 ซอยรามคำแหง 18 (แม้นเขียน 3) ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ จังหวัดกรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจกิจกรรมงานวิศวกรรมและการให้คำปรึกษาทางด้านเทคนิค ที่เกี่ยวข้อง ปรากฏชื่อ นาย โชควิชิต ลักษณากร นาย พลเดช เทอดพิทักษ์วานิช นาง ปราณีต แสงอลังการ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2567 นาย โชควิชิต ลักษณากร ถือหุ้นใหญ่สุด หุ้นที่เหลืออยู่ในชื่อ นาง พิมลดา ลักษณากร นาย วิชัย ลักษณากร นาย วิทู รักษ์วนิชพงศ์3. บริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ แอนด์ แมเนจเม้นท์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2548 ทุนจดทะเบียนล่าสุด 2,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 76/2 ถนนรามคำแหง แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี จังหวัดกรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจการก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย ปรากฏชื่อ นาย กฤตภัฏ ปล่องกระโทก นาย ศิริศักดิ์ วดีศิริศักดิ์ นาย มนตรี สุดรักษ์ นาย ณัฐวุฒิ เลิศศรีดำรงค์กุล เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ณ วันที่ 30 เมษายน 2567 นาย กฤตภัฏ ปล่องกระโทก ถือหุ้นใหญ่สุด หุ้นที่เหลืออยู่ในชื่อ นาย ศิริศักดิ์ วดีศิริศักดิ์ นาย มนตรี สุดรักษ์ นาย ณัฐวุฒิ เลิศศรีดำรงค์กุล นางสาว พนิดดา พิทักษ์เกียรติยศหลังจากมีการขยายสัญญา ครม.ชุดปัจจุบันนี้เพิ่งอนุมัติเพิ่มวงเงินค่าควบคุมงานก่อสร้างอาคาร เป็นวงเงิน 84.3 ล้าน มีการแก้ไขแบบก่อสร้าง จำเป็นขยายระยะเวลาก่อสร้าง 155 วัน จาก 1,080 วัน เป็น 1,235 วัน และโครงการอยู่ใน “ข้อตกลงคุณธรรม” รัฐ-ผู้รับเหมา-ผู้ควบคุมงานก่อสร้าง.. จนเกิดเหตุกาณ์แผ่นดินไหว ตึกถล่มดังกล่าว .ที่มา : ศูนย์ปฏิบัติการSTRONGประเทศไทย
    เปิดภาพ พิธีลงนามสัญญาจ้างควบคุมงานก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคม 2564 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ได้จัดให้มีพิธีลงนามในสัญญาจ้างควบคุมงานก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ โดยมีนายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ลงนามในสัญญา กับ กิจการร่วมค้า PKW ซึ่งเป็นผู้ชนะการยื่นข้อเสนองานจ้างควบคุมงาน ในวงเงิน 74.65 ล้านบาท ณ ห้องดำริอิศรานุวรรต สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ดำเนินการจัดทำร่างขอบเขตของงานจ้างควบคุมงานโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานแห่งใหม่ โดยกำหนดระยะเวลาดำเนินการและการจ่ายเงินค่าจ้างเป็น 2 ระยะ ระยะที่ 1 เป็นระยะเวลาควบคุมงานก่อสร้างจนแล้วเสร็จ (3 ปี) และระยะที่ 2 เป็นระยะเวลาควบคุมงานสำหรับงานรับประกันความชำรุดบกพร่องของผู้รับจ้างก่อสร้าง (2 ปี) ทำให้มีระยะเวลาผูกพันตามสัญญาจ้างเป็นระยะเวลาทั้งหมด 5 ปี และได้ดำเนินการจัดหาผู้ให้บริการควบคุมงานก่อสร้างตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 โดยวิธีคัดเลือกผู้ให้บริการควบคุมงานจ้างก่อสร้าง3 บริษัท ควบคุมงาน ตึก สตง. เอกชนที่ได้รับงานควบคุมงานก่อสร้างอาคาร สตง.วงเงิน 74.65 ล้านบาท 1. บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2554 ทุนจดทะเบียนล่าสุด 8,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 63/123 ตำบลบางแม่นาง อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี แจ้งประกอบธุรกิจการก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย ปรากฏชื่อ นาย ปฏิวัติ ศิริไทย นาง พรรณนภา ศิริไทย นาย นัฏพร กฤษฎานุภาพ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ณ วันที่ 29 เมษายน 2567 นาย ปฏิวัติ ศิริไทย ถือหุ้นใหญ่สุด หุ้นที่เหลืออยู่ในชื่อ นาง พรรณภา ศิริไทย นาย นัฏพร กฤษฎานุภาพ 2.บริษัท ว.และสหายคอนซัลแตนตส์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2526 ทุนจดทะเบียนล่าสุด 4,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 55 ซอยรามคำแหง 18 (แม้นเขียน 3) ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ จังหวัดกรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจกิจกรรมงานวิศวกรรมและการให้คำปรึกษาทางด้านเทคนิค ที่เกี่ยวข้อง ปรากฏชื่อ นาย โชควิชิต ลักษณากร นาย พลเดช เทอดพิทักษ์วานิช นาง ปราณีต แสงอลังการ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2567 นาย โชควิชิต ลักษณากร ถือหุ้นใหญ่สุด หุ้นที่เหลืออยู่ในชื่อ นาง พิมลดา ลักษณากร นาย วิชัย ลักษณากร นาย วิทู รักษ์วนิชพงศ์3. บริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ แอนด์ แมเนจเม้นท์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2548 ทุนจดทะเบียนล่าสุด 2,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 76/2 ถนนรามคำแหง แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี จังหวัดกรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจการก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย ปรากฏชื่อ นาย กฤตภัฏ ปล่องกระโทก นาย ศิริศักดิ์ วดีศิริศักดิ์ นาย มนตรี สุดรักษ์ นาย ณัฐวุฒิ เลิศศรีดำรงค์กุล เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ณ วันที่ 30 เมษายน 2567 นาย กฤตภัฏ ปล่องกระโทก ถือหุ้นใหญ่สุด หุ้นที่เหลืออยู่ในชื่อ นาย ศิริศักดิ์ วดีศิริศักดิ์ นาย มนตรี สุดรักษ์ นาย ณัฐวุฒิ เลิศศรีดำรงค์กุล นางสาว พนิดดา พิทักษ์เกียรติยศหลังจากมีการขยายสัญญา ครม.ชุดปัจจุบันนี้เพิ่งอนุมัติเพิ่มวงเงินค่าควบคุมงานก่อสร้างอาคาร เป็นวงเงิน 84.3 ล้าน มีการแก้ไขแบบก่อสร้าง จำเป็นขยายระยะเวลาก่อสร้าง 155 วัน จาก 1,080 วัน เป็น 1,235 วัน และโครงการอยู่ใน “ข้อตกลงคุณธรรม” รัฐ-ผู้รับเหมา-ผู้ควบคุมงานก่อสร้าง.. จนเกิดเหตุกาณ์แผ่นดินไหว ตึกถล่มดังกล่าว .ที่มา : ศูนย์ปฏิบัติการSTRONGประเทศไทย
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 517 มุมมอง 0 รีวิว
  • รีโพสต์บทความของ ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ “คานงัดประเทศไทยหลายประเทศมีการผลักดัน “การปฏิรูปเชิงโครงสร้าง” อย่างจริงจังและต่อเนื่อง จนสามารถพลิกฟื้นตัวเองจากรัฐที่ตามหลัง (Following State) สู่รัฐที่ล้ำหน้า (Forefront State) อย่างจีน สิงค์โปร์ หรือ เกาหลีใต้ ผิดกับประเทศไทย ที่ปัจจุบันยังเป็นเพียงรัฐที่ตามหลัง และกำลังมีแนวโน้มถดถอยไปสู่รัฐที่กำลังล้มเหลว (Falling State)ที่ผ่านมา ประเทศไทยนั้นมีการปฏิรูปเชิงโครงสร้าง (Great Reform) เพียงครั้งเดียว คือในสมัยล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 แต่เงื่อนไขในการเปลี่ยนแปลงในสมัยนั้นกับในยุคปัจจุบันมีความแตกต่างกัน ทั้งเงื่อนไขที่มาจากปัจจัยภายในและภายนอก ในสมัยล้นเกล้าฯ รัชการที่ 5 น้ำหนักจะอยู่ที่การพัฒนาเพื่อไปสู่ความทันสมัย เพื่อที่จะแสดงให้ประชาคมโลกตระหนักว่าประเทศของเรานั้นไม่ได้ล้าหลัง เนื่องจากต้องเผชิญกับการล่าอาณานิคม ประเด็นท้าทายในยุคปัจจุบัน คือจะมุ่งการพัฒนาเพื่อไปสู่ความยั่งยืน ความเท่าเทียมในสังคม และความเท่าทันเทคโนโลยี ได้อย่างไร~แรงเฉื่อยต่อการเปลี่ยนแปลงหลังกระแสการล่าอาณานิคมผ่านพ้นไป ประเทศไทยไม่เคยต้องเผชิญกับแรงกดดันอย่างรุนแรง เราเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากสงครามโลกครั้งที่ 1 แล 2 น้อยมาก ดังนั้น ระบบและโครงสร้างเก่า แนวคิดและจารีตนิยมจึงไม่ได้ถูกทำลาย ทำให้อิทธิพลของระบบอุปถัมภ์ อำนาจนิยม และอภิสิทธิชนยังคงอยู่ ระบบคุณค่าดังกล่าวเป็นอุปสรรคต่อการพลิกโฉมประเทศไปสู่สังคมสมัยใหม่ ที่เน้นความเป็นระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบ ตระหนักในหน้าที่พลเมือง มีจิตอาสา กล้าที่จะเสนอความเห็น มีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ และความเสมอภาคระบบอุปถัมภ์ อำนาจนิยม และอภิสิทธิชน ยังได้หล่อหลอมคนไทยให้เป็น “ปัจเจกบุคคลที่ไร้บรรทัดฐานและคุณค่าร่วมในสังคม” (Anomic Individualism) สะท้อนผ่านพฤติกรรมตัวใครตัวมัน ไม่ชอบถูกบังคับ ไร้ระเบียบวินัย และขาดความรับผิดชอบ ผลข้างเคียงที่ตามมา คือคนไทยโดยส่วนใหญ่จะเรียกร้องสิทธิมากกว่าหน้าที่ เน้นถูกใจมากกว่าถูกต้อง เน้นมองเพื่อตัวเองมากกว่ามองเพื่อส่วนรวม เน้นชิงสุกก่อนห่ามมากกว่าอดเปรี้ยวไว้กินหวาน เน้นรูปแบบมากกว่าสาระ เน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพ เน้นมูลค่ามากกว่าคุณค่า และเน้นคอนเนคชั่นมากกว่าเนื้องานความไร้บรรทัดฐานและคุณค่าร่วมในสังคม ทำให้คนไทยโดยส่วนใหญ่มักตัดสินใจเลือกเส้นทางหรือวิธีการที่ “มักง่าย” ทำให้เรื่องที่ “ผิดปกติ” กลายเป็นเรื่อง “ไม่ผิดปกติ” และกระทำลงไปโดยปราศจาก “ความรู้สึกผิด” อาทิ นักการเมืองโกงกินไม่เป็นไร ขอเพียงให้มีผลงานบ้าง การทำปฏิวัติรัฐประหาร การใช้กำลังยุติความขัดแย้ง เชื่อในอำนาจเหนือธรรมชาติ ไสยศาสตร์ และความมหัศจรรย์ ไม่รักษาเวลา ขาดความรับผิดชอบในหน้าที่ ทิ้งงานโดยไม่มีเหตุผล เป็นต้น ~ค้นหาจุดคานงัด ทลายวงจรอุบาทว์หากพวกเราไม่คิดแก้ไขปรับเปลี่ยนค่านิยมและพฤติกรรมเหล่านี้ ก็ยากที่ประเทศไทยจะยืนเคียงบ่าเคียงไหล่ประเทศอื่น ๆ ในประชาคมโลกในศตวรรษที่ 21 นี้ได้ในการทลายวงจรอุบาทว์เชิงซ้อน จุดคานงัดของการเปลี่ยนแปลง (Leveraging Point) อาจจะอยู่ทึ่ “การปฏิรูประบบคุณค่า” (Value System Reform) ครั้งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในค่านิยม 2 ชุดหลักด้วยกัน คือชุดที่ 1: อุปถัมภ์นิยม อำนาจนิยม และอภิสิทธินิยมชุดที่ 2: บริโภคนิยม วัตถุนิยม และสุขนิยมบริโภคนิยม วัตถุนิยม และสุขนิยม เป็นด้านลบของระบอบทุนนิยม แต่ในด้านบวกของระบอบทุนนิยม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแข่งขันอย่างเสรี การยึดธรรมาภิบาล กฎกติกา กลับไม่ได้ถูกสังคมไทยนำมาใช้อย่างเต็มที่ เพราะถูกอิทธิพลของระบบอุปถัมภ์ อำนาจนิยม และอภิสิทธินิยมเข้าบดบังระบบคุณค่าทั้ง 2 ชุด ยังคงแทรกซึมลึกอยู่ในเกือบทุกอณูของสังคมไทย เป็น Counter-Productive Value ที่นอกจากจะไม่สอดรับกับรูปแบบการพัฒนาและโครงสร้างเศรษฐกิจสังคมในโลกปัจจุบัน ยังเป็นอุปสรรคตัวสำคัญที่สุดของการขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า ระบบคุณค่าทั้งสองชุดได้ทำให้ธรรมาภิบาล โครงสร้าง ตลอดจนพฤติกรรมของผู้คนในสังคม เกิดการบิดเบี้ยวเชิงระบบ ไม่ว่าจะเป็น• การบิดเบี้ยวเชิงการเมือง ที่ก่อให้เกิดการเมืองที่มีผู้มีอิทธิพลครอบงำ และก่อให้เกิดระบอบธนาธิปไตย และระบอบอมาตยาธิปไตย แทนที่จะเป็นระบอบประชาธิปไตย • การบิดเบี้ยวเชิงบริหารราชการแผ่นดิน ที่การบริหารจัดการภาครัฐถูกแทรกแซง บิดเบือน ไม่เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลและระบบคุณธรรม • การบิดเบี้ยวเชิงสังคม ที่ก่อให้เกิด Contra-Individuals มากกว่า Collective Individuals รวมถึงเกิดความกระชับแน่นของคนในกลุ่มเดียวกัน (Bonding) เพิ่มขึ้น ในขณะที่ความสัมพันธ์ของคนต่างกลุ่ม (Bridging) ลดลง เกิดเป็น “สังคมของพวกกู” มากกว่า “สังคมของพวกเรา”• ความบิดเบี้ยวเชิงเศรษฐกิจ ที่ก่อให้เกิดระบบทุนนิยมแบบพวกพ้อง (Crony Capitalism) นำมาสู่ระบบเศรษฐกิจปรสิต (Parasite Economy) และสังคมพึ่งพิงประชานิยม (Dependent Society) • ความบิดเบี้ยวของผู้นำ ที่ก่อให้เกิดการขาดแคลนผู้นำที่เป็นต้นแบบที่ดี มีแต่ผู้นำที่คิดอย่าง พูดอย่าง ทำอย่างอยู่มากมาย เกิดผู้นำที่ใส่ใจในวาระซ่อนเร้นของตน มากกว่า วาระของชาติ• ความบิดเบี้ยวเชิงสถาบัน ที่สถาบันต่าง ๆ ไม่ได้ทำหน้าที่ตามภารกิจอย่างเป็นอิสระ อย่างที่สังคมคาดหวังที่สำคัญ ระบบอุปถัมภ์ อำนาจนิยม และอภิสิทธิชน ยังก่อให้เกิดความย้อนแย้งระหว่างอำนาจที่แท้จริงและอำนาจทางการ หรือที่เรียกว่า “Power Paradox” กล่าวคือ การที่เรายังมองประชาชนเป็นผู้ถูกปกครอง โดยมีผู้ปกครองคือรัฐ ทั้งที่จริง ๆ แล้วรัฐต้องเป็นผู้รับใช้ประชาชน เป็นความย้อนแย้งระหว่างพฤตินัยและนิตินัยดังนั้น หากปราศจากการปรับเปลี่ยนระบบคุณค่า เพื่อทำให้เกิดความสอดคล้องกับธรรมาภิบาลและโครงสร้างส่วนอื่นๆของสังคม วาระการปฎิรูปต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการปฏิรูปการเมือง ปฏิรูประบบราชการ ปฏิรูประบบเศรษฐกิจ จะไม่มีทางตอบโจทย์ประเด็นปัญหาฐานรากที่เกิดขึ้นในสังคมไทย~ประชาธิปไตยเทียม ทุนนิยมพวกพ้อง ระบบเศรษฐกิจปรสิต และสังคมพึ่งพิงรัฐระบบคุณค่าทั้ง 2 ชุด: อุปถัมภ์นิยม อำนาจนิยม และอภิสิทธินิยม; บริโภคนิยม วัตถุนิยม และสุขนิยม เป็นปฐมบทของการเกิดโครงสร้างเศรษฐกิจการเมืองแบบ Extractive Political Economy ที่มีผู้คนเพียงบางกลุ่ม ได้ประโยชน์จากอำนาจการปกครองและอำนาจทางเศรษฐกิจ โดยความพยายามที่จะกีดกั้น เอารัดเอาเปรียบ และทำให้เกิดการกระจุกตัวของอำนาจและความมั่งคั่ง และนำพาสู่การอุบัติขึ้นของ ประชาธิปไตยเทียม ทุนนิยมพวกพ้อง ระบบเศรษฐกิจปรสิต และสังคมพึ่งพิงรัฐ ในที่สุดโครงสร้าง Extractive Political Economy ได้นำพาประเทศไทยสู่ “ทศวรรษแห่งความสูญเปล่า” เกิดสังคมที่ไม่ Clean & Clear ไม่ Free & Fair และไม่ Care & Share สังคมดังกล่าวนำมาซึ่งความเสื่อมถอยของทุนทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นทุนมนุษย์ที่อ่อนแอ ทุนเศรษฐกิจที่อ่อนด้อย ทุนสังคมที่เปราะบาง ทุนคุณธรรมจริยธรรมที่เสื่อมทราม และทุนทรัพยากรธรรมชาติที่เสื่อมโทรมถึงเวลาปฎิรูประบบคุณค่า เพื่อใช้เป็นจุดคานงัดในการก้าวพ้นกับดัก และปรับเปลี่ยนไทยสู่ประเทศที่พัฒนาแล้วในโลกที่หนึ่ง”
    รีโพสต์บทความของ ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ “คานงัดประเทศไทยหลายประเทศมีการผลักดัน “การปฏิรูปเชิงโครงสร้าง” อย่างจริงจังและต่อเนื่อง จนสามารถพลิกฟื้นตัวเองจากรัฐที่ตามหลัง (Following State) สู่รัฐที่ล้ำหน้า (Forefront State) อย่างจีน สิงค์โปร์ หรือ เกาหลีใต้ ผิดกับประเทศไทย ที่ปัจจุบันยังเป็นเพียงรัฐที่ตามหลัง และกำลังมีแนวโน้มถดถอยไปสู่รัฐที่กำลังล้มเหลว (Falling State)ที่ผ่านมา ประเทศไทยนั้นมีการปฏิรูปเชิงโครงสร้าง (Great Reform) เพียงครั้งเดียว คือในสมัยล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 แต่เงื่อนไขในการเปลี่ยนแปลงในสมัยนั้นกับในยุคปัจจุบันมีความแตกต่างกัน ทั้งเงื่อนไขที่มาจากปัจจัยภายในและภายนอก ในสมัยล้นเกล้าฯ รัชการที่ 5 น้ำหนักจะอยู่ที่การพัฒนาเพื่อไปสู่ความทันสมัย เพื่อที่จะแสดงให้ประชาคมโลกตระหนักว่าประเทศของเรานั้นไม่ได้ล้าหลัง เนื่องจากต้องเผชิญกับการล่าอาณานิคม ประเด็นท้าทายในยุคปัจจุบัน คือจะมุ่งการพัฒนาเพื่อไปสู่ความยั่งยืน ความเท่าเทียมในสังคม และความเท่าทันเทคโนโลยี ได้อย่างไร~แรงเฉื่อยต่อการเปลี่ยนแปลงหลังกระแสการล่าอาณานิคมผ่านพ้นไป ประเทศไทยไม่เคยต้องเผชิญกับแรงกดดันอย่างรุนแรง เราเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากสงครามโลกครั้งที่ 1 แล 2 น้อยมาก ดังนั้น ระบบและโครงสร้างเก่า แนวคิดและจารีตนิยมจึงไม่ได้ถูกทำลาย ทำให้อิทธิพลของระบบอุปถัมภ์ อำนาจนิยม และอภิสิทธิชนยังคงอยู่ ระบบคุณค่าดังกล่าวเป็นอุปสรรคต่อการพลิกโฉมประเทศไปสู่สังคมสมัยใหม่ ที่เน้นความเป็นระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบ ตระหนักในหน้าที่พลเมือง มีจิตอาสา กล้าที่จะเสนอความเห็น มีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ และความเสมอภาคระบบอุปถัมภ์ อำนาจนิยม และอภิสิทธิชน ยังได้หล่อหลอมคนไทยให้เป็น “ปัจเจกบุคคลที่ไร้บรรทัดฐานและคุณค่าร่วมในสังคม” (Anomic Individualism) สะท้อนผ่านพฤติกรรมตัวใครตัวมัน ไม่ชอบถูกบังคับ ไร้ระเบียบวินัย และขาดความรับผิดชอบ ผลข้างเคียงที่ตามมา คือคนไทยโดยส่วนใหญ่จะเรียกร้องสิทธิมากกว่าหน้าที่ เน้นถูกใจมากกว่าถูกต้อง เน้นมองเพื่อตัวเองมากกว่ามองเพื่อส่วนรวม เน้นชิงสุกก่อนห่ามมากกว่าอดเปรี้ยวไว้กินหวาน เน้นรูปแบบมากกว่าสาระ เน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพ เน้นมูลค่ามากกว่าคุณค่า และเน้นคอนเนคชั่นมากกว่าเนื้องานความไร้บรรทัดฐานและคุณค่าร่วมในสังคม ทำให้คนไทยโดยส่วนใหญ่มักตัดสินใจเลือกเส้นทางหรือวิธีการที่ “มักง่าย” ทำให้เรื่องที่ “ผิดปกติ” กลายเป็นเรื่อง “ไม่ผิดปกติ” และกระทำลงไปโดยปราศจาก “ความรู้สึกผิด” อาทิ นักการเมืองโกงกินไม่เป็นไร ขอเพียงให้มีผลงานบ้าง การทำปฏิวัติรัฐประหาร การใช้กำลังยุติความขัดแย้ง เชื่อในอำนาจเหนือธรรมชาติ ไสยศาสตร์ และความมหัศจรรย์ ไม่รักษาเวลา ขาดความรับผิดชอบในหน้าที่ ทิ้งงานโดยไม่มีเหตุผล เป็นต้น ~ค้นหาจุดคานงัด ทลายวงจรอุบาทว์หากพวกเราไม่คิดแก้ไขปรับเปลี่ยนค่านิยมและพฤติกรรมเหล่านี้ ก็ยากที่ประเทศไทยจะยืนเคียงบ่าเคียงไหล่ประเทศอื่น ๆ ในประชาคมโลกในศตวรรษที่ 21 นี้ได้ในการทลายวงจรอุบาทว์เชิงซ้อน จุดคานงัดของการเปลี่ยนแปลง (Leveraging Point) อาจจะอยู่ทึ่ “การปฏิรูประบบคุณค่า” (Value System Reform) ครั้งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในค่านิยม 2 ชุดหลักด้วยกัน คือชุดที่ 1: อุปถัมภ์นิยม อำนาจนิยม และอภิสิทธินิยมชุดที่ 2: บริโภคนิยม วัตถุนิยม และสุขนิยมบริโภคนิยม วัตถุนิยม และสุขนิยม เป็นด้านลบของระบอบทุนนิยม แต่ในด้านบวกของระบอบทุนนิยม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแข่งขันอย่างเสรี การยึดธรรมาภิบาล กฎกติกา กลับไม่ได้ถูกสังคมไทยนำมาใช้อย่างเต็มที่ เพราะถูกอิทธิพลของระบบอุปถัมภ์ อำนาจนิยม และอภิสิทธินิยมเข้าบดบังระบบคุณค่าทั้ง 2 ชุด ยังคงแทรกซึมลึกอยู่ในเกือบทุกอณูของสังคมไทย เป็น Counter-Productive Value ที่นอกจากจะไม่สอดรับกับรูปแบบการพัฒนาและโครงสร้างเศรษฐกิจสังคมในโลกปัจจุบัน ยังเป็นอุปสรรคตัวสำคัญที่สุดของการขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า ระบบคุณค่าทั้งสองชุดได้ทำให้ธรรมาภิบาล โครงสร้าง ตลอดจนพฤติกรรมของผู้คนในสังคม เกิดการบิดเบี้ยวเชิงระบบ ไม่ว่าจะเป็น• การบิดเบี้ยวเชิงการเมือง ที่ก่อให้เกิดการเมืองที่มีผู้มีอิทธิพลครอบงำ และก่อให้เกิดระบอบธนาธิปไตย และระบอบอมาตยาธิปไตย แทนที่จะเป็นระบอบประชาธิปไตย • การบิดเบี้ยวเชิงบริหารราชการแผ่นดิน ที่การบริหารจัดการภาครัฐถูกแทรกแซง บิดเบือน ไม่เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลและระบบคุณธรรม • การบิดเบี้ยวเชิงสังคม ที่ก่อให้เกิด Contra-Individuals มากกว่า Collective Individuals รวมถึงเกิดความกระชับแน่นของคนในกลุ่มเดียวกัน (Bonding) เพิ่มขึ้น ในขณะที่ความสัมพันธ์ของคนต่างกลุ่ม (Bridging) ลดลง เกิดเป็น “สังคมของพวกกู” มากกว่า “สังคมของพวกเรา”• ความบิดเบี้ยวเชิงเศรษฐกิจ ที่ก่อให้เกิดระบบทุนนิยมแบบพวกพ้อง (Crony Capitalism) นำมาสู่ระบบเศรษฐกิจปรสิต (Parasite Economy) และสังคมพึ่งพิงประชานิยม (Dependent Society) • ความบิดเบี้ยวของผู้นำ ที่ก่อให้เกิดการขาดแคลนผู้นำที่เป็นต้นแบบที่ดี มีแต่ผู้นำที่คิดอย่าง พูดอย่าง ทำอย่างอยู่มากมาย เกิดผู้นำที่ใส่ใจในวาระซ่อนเร้นของตน มากกว่า วาระของชาติ• ความบิดเบี้ยวเชิงสถาบัน ที่สถาบันต่าง ๆ ไม่ได้ทำหน้าที่ตามภารกิจอย่างเป็นอิสระ อย่างที่สังคมคาดหวังที่สำคัญ ระบบอุปถัมภ์ อำนาจนิยม และอภิสิทธิชน ยังก่อให้เกิดความย้อนแย้งระหว่างอำนาจที่แท้จริงและอำนาจทางการ หรือที่เรียกว่า “Power Paradox” กล่าวคือ การที่เรายังมองประชาชนเป็นผู้ถูกปกครอง โดยมีผู้ปกครองคือรัฐ ทั้งที่จริง ๆ แล้วรัฐต้องเป็นผู้รับใช้ประชาชน เป็นความย้อนแย้งระหว่างพฤตินัยและนิตินัยดังนั้น หากปราศจากการปรับเปลี่ยนระบบคุณค่า เพื่อทำให้เกิดความสอดคล้องกับธรรมาภิบาลและโครงสร้างส่วนอื่นๆของสังคม วาระการปฎิรูปต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการปฏิรูปการเมือง ปฏิรูประบบราชการ ปฏิรูประบบเศรษฐกิจ จะไม่มีทางตอบโจทย์ประเด็นปัญหาฐานรากที่เกิดขึ้นในสังคมไทย~ประชาธิปไตยเทียม ทุนนิยมพวกพ้อง ระบบเศรษฐกิจปรสิต และสังคมพึ่งพิงรัฐระบบคุณค่าทั้ง 2 ชุด: อุปถัมภ์นิยม อำนาจนิยม และอภิสิทธินิยม; บริโภคนิยม วัตถุนิยม และสุขนิยม เป็นปฐมบทของการเกิดโครงสร้างเศรษฐกิจการเมืองแบบ Extractive Political Economy ที่มีผู้คนเพียงบางกลุ่ม ได้ประโยชน์จากอำนาจการปกครองและอำนาจทางเศรษฐกิจ โดยความพยายามที่จะกีดกั้น เอารัดเอาเปรียบ และทำให้เกิดการกระจุกตัวของอำนาจและความมั่งคั่ง และนำพาสู่การอุบัติขึ้นของ ประชาธิปไตยเทียม ทุนนิยมพวกพ้อง ระบบเศรษฐกิจปรสิต และสังคมพึ่งพิงรัฐ ในที่สุดโครงสร้าง Extractive Political Economy ได้นำพาประเทศไทยสู่ “ทศวรรษแห่งความสูญเปล่า” เกิดสังคมที่ไม่ Clean & Clear ไม่ Free & Fair และไม่ Care & Share สังคมดังกล่าวนำมาซึ่งความเสื่อมถอยของทุนทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นทุนมนุษย์ที่อ่อนแอ ทุนเศรษฐกิจที่อ่อนด้อย ทุนสังคมที่เปราะบาง ทุนคุณธรรมจริยธรรมที่เสื่อมทราม และทุนทรัพยากรธรรมชาติที่เสื่อมโทรมถึงเวลาปฎิรูประบบคุณค่า เพื่อใช้เป็นจุดคานงัดในการก้าวพ้นกับดัก และปรับเปลี่ยนไทยสู่ประเทศที่พัฒนาแล้วในโลกที่หนึ่ง”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 869 มุมมอง 0 รีวิว
  • **การลื้อล้างแล้วสร้างใหม่ (Demolition and Rebuilding)**
    หมายถึงกระบวนการทำลายโครงสร้างหรือระบบเดิมเพื่อสร้างสิ่งใหม่ขึ้นแทนที่ อาจเกิดขึ้นได้ในหลายบริบท ทั้งทางกายภาพ สังคม เศรษฐกิจ หรือการเมือง

    ---

    ### **บริบทการนำไปใช้**
    1. **การพัฒนาเมือง**
    - **ตัวอย่าง**: การรื้ออาคารเก่าเพื่อสร้างตึกระฟ้า ถนนหนทางใหม่ หรือระบบขนส่งมวลชน
    - **ประโยชน์**: ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่
    - **ข้อโต้แย้ง**: อาจทำลายมรดกทางวัฒนธรรม หรือกระทบชุมชนเดิม

    2. **การปฏิรูปเศรษฐกิจ/องค์กร**
    - **ตัวอย่าง**: การยกเลิกนโยบายเก่า ปรับโครงสร้างบริษัท หรือเปลี่ยนระบบการทำงาน
    - **ประโยชน์**: สร้างนวัตกรรม เพิ่มความคล่องตัว
    - **ความเสี่ยง**: การต่อต้านจากผู้เสียประโยชน์ หรือความไม่แน่นอนชั่วคราว

    3. **การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง**
    - **ตัวอย่าง**: การปฏิวัติที่ล้มล้างระบอบเดิมเพื่อสร้างระบบการปกครองใหม่
    - **ประโยชน์**: ขจัดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม
    - **ความท้าทาย**: อาจเกิดความวุ่นวายหรือสูญเสียเสถียรภาพ

    4. **สิ่งแวดล้อม**
    - **ตัวอย่าง**: ทดแทนอุตสาหกรรมเก่าด้วยเทคโนโลยีสะอาด
    - **ประโยชน์**: ลดมลภาวะ สร้างความยั่งยืน
    - **ข้อจำกัด**: ต้นทุนสูงและต้องใช้เวลาปรับตัว

    ---

    ### **ประเด็นสำคัญ**
    - **ความสมดุล**: ระหว่างความก้าวหน้า vs. การอนุรักษ์
    - **ผลกระทบทางสังคม**: การโยกย้ายชุมชน การสูญเสียอัตลักษณ์ท้องถิ่น
    - **การมีส่วนร่วม**: ควรรับฟังความเห็นผู้เกี่ยวข้องเพื่อลดความขัดแย้ง

    ---

    ### **ตัวอย่างในประวัติศาสตร์**
    - **ปารีสสมัยพระเจ้านโปเลียนที่ 3**: ปรับผังเมืองให้เป็นถนนกว้างแบบปัจจุบัน
    - **จีนสมัยเติ้งเสี่ยวผิง**: เปลี่ยนจากระบบวางแผนสู่เศรษฐกิจตลาด
    - **การปฏิวัติอุตสาหกรรมสีเขียว**: แทนที่พลังงานฟอสซิลด้วยพลังงานหมุนเวียน

    ---

    ### **สรุป**
    การลื้อล้างแล้วสร้างใหม่เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการพัฒนา แต่ต้องคำนึงถึงบริบททางวัฒนธรรม สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อไม่ให้ความก้าวหน้าสร้างบาดแผลให้สังคมในระยะยาว
    **การลื้อล้างแล้วสร้างใหม่ (Demolition and Rebuilding)** หมายถึงกระบวนการทำลายโครงสร้างหรือระบบเดิมเพื่อสร้างสิ่งใหม่ขึ้นแทนที่ อาจเกิดขึ้นได้ในหลายบริบท ทั้งทางกายภาพ สังคม เศรษฐกิจ หรือการเมือง --- ### **บริบทการนำไปใช้** 1. **การพัฒนาเมือง** - **ตัวอย่าง**: การรื้ออาคารเก่าเพื่อสร้างตึกระฟ้า ถนนหนทางใหม่ หรือระบบขนส่งมวลชน - **ประโยชน์**: ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่ - **ข้อโต้แย้ง**: อาจทำลายมรดกทางวัฒนธรรม หรือกระทบชุมชนเดิม 2. **การปฏิรูปเศรษฐกิจ/องค์กร** - **ตัวอย่าง**: การยกเลิกนโยบายเก่า ปรับโครงสร้างบริษัท หรือเปลี่ยนระบบการทำงาน - **ประโยชน์**: สร้างนวัตกรรม เพิ่มความคล่องตัว - **ความเสี่ยง**: การต่อต้านจากผู้เสียประโยชน์ หรือความไม่แน่นอนชั่วคราว 3. **การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง** - **ตัวอย่าง**: การปฏิวัติที่ล้มล้างระบอบเดิมเพื่อสร้างระบบการปกครองใหม่ - **ประโยชน์**: ขจัดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม - **ความท้าทาย**: อาจเกิดความวุ่นวายหรือสูญเสียเสถียรภาพ 4. **สิ่งแวดล้อม** - **ตัวอย่าง**: ทดแทนอุตสาหกรรมเก่าด้วยเทคโนโลยีสะอาด - **ประโยชน์**: ลดมลภาวะ สร้างความยั่งยืน - **ข้อจำกัด**: ต้นทุนสูงและต้องใช้เวลาปรับตัว --- ### **ประเด็นสำคัญ** - **ความสมดุล**: ระหว่างความก้าวหน้า vs. การอนุรักษ์ - **ผลกระทบทางสังคม**: การโยกย้ายชุมชน การสูญเสียอัตลักษณ์ท้องถิ่น - **การมีส่วนร่วม**: ควรรับฟังความเห็นผู้เกี่ยวข้องเพื่อลดความขัดแย้ง --- ### **ตัวอย่างในประวัติศาสตร์** - **ปารีสสมัยพระเจ้านโปเลียนที่ 3**: ปรับผังเมืองให้เป็นถนนกว้างแบบปัจจุบัน - **จีนสมัยเติ้งเสี่ยวผิง**: เปลี่ยนจากระบบวางแผนสู่เศรษฐกิจตลาด - **การปฏิวัติอุตสาหกรรมสีเขียว**: แทนที่พลังงานฟอสซิลด้วยพลังงานหมุนเวียน --- ### **สรุป** การลื้อล้างแล้วสร้างใหม่เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการพัฒนา แต่ต้องคำนึงถึงบริบททางวัฒนธรรม สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อไม่ให้ความก้าวหน้าสร้างบาดแผลให้สังคมในระยะยาว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 390 มุมมอง 0 รีวิว
  • ใครกันแน่จะปกป้องบ่อนเถื่อน ชาวบ้านแถวซอยไผ่สิงโต ตรงแยกคลองเตย เห็นคนว่างงานหลังโดนปฏิวัติ เข้าๆ ออกๆ บ่อนเถื่อนแถวนั้นประจำ มีกาสิโนบ่อนก็ไม่หมด เหมือนมีหวยบนดินก็ยังมีหวยใต้ดิน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    ใครกันแน่จะปกป้องบ่อนเถื่อน ชาวบ้านแถวซอยไผ่สิงโต ตรงแยกคลองเตย เห็นคนว่างงานหลังโดนปฏิวัติ เข้าๆ ออกๆ บ่อนเถื่อนแถวนั้นประจำ มีกาสิโนบ่อนก็ไม่หมด เหมือนมีหวยบนดินก็ยังมีหวยใต้ดิน #คิงส์โพธิ์แดง
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 324 มุมมอง 0 รีวิว
  • Rapidus บริษัทผลิตเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำจากญี่ปุ่น กำลังเร่งแผนการผลิตชิป 2nm ที่คาดว่าจะปฏิวัติวงการด้วยเทคโนโลยี BSPDN (Backside Power Delivery Network) และ GAA (Gate-All-Around) ซึ่งยังไม่เคยถูกใช้งานมาก่อนในอุตสาหกรรม การพัฒนานี้เกิดขึ้นท่ามกลางความสนใจจากบริษัทเทคโนโลยีชื่อดัง เช่น Google และ Apple โดยมีเป้าหมายเข้าสู่การผลิตในเชิงพาณิชย์ภายในปี 2027

    ✅ เทคโนโลยี BSPDN และ GAA:
    - BSPDN ช่วยให้การจ่ายพลังงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่นเดียวกับ GAA ที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการควบคุมทรานซิสเตอร์ โดยก่อนหน้านี้มีเพียง Intel ที่ใช้ BSPDN ในกระบวนการ 18A Process

    ✅ การลงทุนด้านอุปกรณ์:
    - Rapidus ลงทุนซื้อเครื่อง EUV (Extreme Ultraviolet Lithography) จาก ASML แม้จะเผชิญปัญหาด้าน yield rate ในการผลิตชิปที่ซับซ้อน

    ✅ ความสนใจจากพันธมิตรระดับโลก:
    - Rapidus ได้รับการติดต่อจาก Google และ Apple เพื่อช่วยผลิตชิป 2nm ซึ่งอาจใช้ในการพัฒนาอุปกรณ์ที่ล้ำหน้าขึ้น

    https://wccftech.com/rapidus-accelerates-efforts-on-2nm-process-amid-interest-from-google-apple/
    Rapidus บริษัทผลิตเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำจากญี่ปุ่น กำลังเร่งแผนการผลิตชิป 2nm ที่คาดว่าจะปฏิวัติวงการด้วยเทคโนโลยี BSPDN (Backside Power Delivery Network) และ GAA (Gate-All-Around) ซึ่งยังไม่เคยถูกใช้งานมาก่อนในอุตสาหกรรม การพัฒนานี้เกิดขึ้นท่ามกลางความสนใจจากบริษัทเทคโนโลยีชื่อดัง เช่น Google และ Apple โดยมีเป้าหมายเข้าสู่การผลิตในเชิงพาณิชย์ภายในปี 2027 ✅ เทคโนโลยี BSPDN และ GAA: - BSPDN ช่วยให้การจ่ายพลังงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่นเดียวกับ GAA ที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการควบคุมทรานซิสเตอร์ โดยก่อนหน้านี้มีเพียง Intel ที่ใช้ BSPDN ในกระบวนการ 18A Process ✅ การลงทุนด้านอุปกรณ์: - Rapidus ลงทุนซื้อเครื่อง EUV (Extreme Ultraviolet Lithography) จาก ASML แม้จะเผชิญปัญหาด้าน yield rate ในการผลิตชิปที่ซับซ้อน ✅ ความสนใจจากพันธมิตรระดับโลก: - Rapidus ได้รับการติดต่อจาก Google และ Apple เพื่อช่วยผลิตชิป 2nm ซึ่งอาจใช้ในการพัฒนาอุปกรณ์ที่ล้ำหน้าขึ้น https://wccftech.com/rapidus-accelerates-efforts-on-2nm-process-amid-interest-from-google-apple/
    WCCFTECH.COM
    Japanese Semiconductor Giant Rapidus Accelerates Efforts On 2nm Process Amid Interest From Google & Apple; Mass-Production Expected By 2027
    Rapidus plans to scale up its 2nm efforts tremendously in the upcoming years, as the firm sees massive interest.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 177 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts