• สแกนใบหน้าขึ้นเครื่อง เขาทำกันยังไง?

    เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2567 ที่ผ่านมา ท่าอากาศยานในสังกัด บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ จ.สงขลา ได้นำระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล หรือไบโอเมตริกซ์ (Biometric) มาใช้ ด้วยเทคโนโลยี Facial Recognition เพื่อลดขั้นตอนการเช็คบัตรโดยสาร นำร่องเฉพาะผู้โดยสารภายในประเทศ (Domestic) ใช้งานได้ก่อน จากนั้นในวันที่ 1 ธ.ค. 2567 จะพร้อมใช้งานสำหรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ (International)

    Newskit มีโอกาสเดินทางด้วยเครื่องบินไปต่างจังหวัดเมื่อวันก่อน พบว่าที่เคาน์เตอร์เช็กอินของสายการบิน พนักงานภาคพื้นจะทำการลงทะเบียนข้อมูลจากบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง ก่อนที่จะให้ผู้โดยสารถ่ายรูปกับกล้องเพียง 1 ครั้งเป็นอันเสร็จสิ้น ก่อนหน้านี้จะให้ติดสติกเกอร์สีฟ้าไว้ แต่ปัจจุบันจะเขียนคำว่า "BIO" (ไบโอ) บนบัตรโดยสารเพื่อระบุว่าผ่านการลงทะเบียนใบหน้าแล้ว ส่วนคนที่เช็กอินผ่านเครื่องเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ (CUSS) หลังจากเช็กอินเสร็จแล้วจะให้สแกนบาร์โค้ด เสียบบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง และสแกนใบหน้า 1 ครั้งเป็นอันเสร็จสิ้น ระบบจะจัดเก็บข้อมูลใบหน้าและเอกสารการเดินทางเอาไว้

    สิ่งที่เห็นผลจากระบบไบโอเมตริกซ์ก็คือ จุดแรก จุดตรวจเอกสารการเดินทาง จากเดิมจะแสดงบัตรโดยสารพร้อมบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทางให้ตรงกับใบหน้า เปลี่ยนเป็นเข้าไปสแกนใบหน้าในช่อง Face Registration หรือ Biometric แล้วเดินไปยังจุดตรวจค้นได้ทันที เปรียบเหมือนเวลาขับรถขึ้นทางด่วนที่เข้าช่องเงินสดกับช่อง EASY PASS จุดที่สอง คือทางออกขึ้นเครื่อง หลังจากเรียกผู้โดยสารตามโซนแถวที่นั่งพิเศษแล้ว สามารถเข้าช่อง Face Registration หรือ Biometric เพื่อขึ้นเครื่องได้ทันที โดยไม่ต้องแสดงบัตรโดยสารพร้อมบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทางแก่เจ้าหน้าที่อีก

    อย่างไรก็ตาม แม้สนามบิน ทอท.ทั้ง 6 แห่งจะติดตั้งระบบไบโอเมตริกซ์เสร็จสิ้นแล้ว แต่ก็ยังเปิดใช้ไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์กับทุกสนามบินของ ทอท.ยังมีบางแห่งที่บางสายการบินยังให้ใช้ระบบเดิม สำหรับข้อมูลผู้โดยสาร ได้แก่ บัตรโดยสาร บัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง และภาพถ่ายใบหน้าผู้โดยสาร ทอท.จะเก็บข้อมูลไว้ 24 ชั่วโมง จากนั้นจะทำลายข้อมูลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (กฎหมาย PDPA) ซึ่งระยะยาว ทอท.จะพัฒนาระบบเพื่อจัดเก็บข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลไว้ยาวนาน แต่มีความปลอดภัยและผ่านขั้นตอนกฎหมาย PDPA ต่อไป

    #Newskit
    สแกนใบหน้าขึ้นเครื่อง เขาทำกันยังไง? เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2567 ที่ผ่านมา ท่าอากาศยานในสังกัด บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ จ.สงขลา ได้นำระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล หรือไบโอเมตริกซ์ (Biometric) มาใช้ ด้วยเทคโนโลยี Facial Recognition เพื่อลดขั้นตอนการเช็คบัตรโดยสาร นำร่องเฉพาะผู้โดยสารภายในประเทศ (Domestic) ใช้งานได้ก่อน จากนั้นในวันที่ 1 ธ.ค. 2567 จะพร้อมใช้งานสำหรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ (International) Newskit มีโอกาสเดินทางด้วยเครื่องบินไปต่างจังหวัดเมื่อวันก่อน พบว่าที่เคาน์เตอร์เช็กอินของสายการบิน พนักงานภาคพื้นจะทำการลงทะเบียนข้อมูลจากบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง ก่อนที่จะให้ผู้โดยสารถ่ายรูปกับกล้องเพียง 1 ครั้งเป็นอันเสร็จสิ้น ก่อนหน้านี้จะให้ติดสติกเกอร์สีฟ้าไว้ แต่ปัจจุบันจะเขียนคำว่า "BIO" (ไบโอ) บนบัตรโดยสารเพื่อระบุว่าผ่านการลงทะเบียนใบหน้าแล้ว ส่วนคนที่เช็กอินผ่านเครื่องเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ (CUSS) หลังจากเช็กอินเสร็จแล้วจะให้สแกนบาร์โค้ด เสียบบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง และสแกนใบหน้า 1 ครั้งเป็นอันเสร็จสิ้น ระบบจะจัดเก็บข้อมูลใบหน้าและเอกสารการเดินทางเอาไว้ สิ่งที่เห็นผลจากระบบไบโอเมตริกซ์ก็คือ จุดแรก จุดตรวจเอกสารการเดินทาง จากเดิมจะแสดงบัตรโดยสารพร้อมบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทางให้ตรงกับใบหน้า เปลี่ยนเป็นเข้าไปสแกนใบหน้าในช่อง Face Registration หรือ Biometric แล้วเดินไปยังจุดตรวจค้นได้ทันที เปรียบเหมือนเวลาขับรถขึ้นทางด่วนที่เข้าช่องเงินสดกับช่อง EASY PASS จุดที่สอง คือทางออกขึ้นเครื่อง หลังจากเรียกผู้โดยสารตามโซนแถวที่นั่งพิเศษแล้ว สามารถเข้าช่อง Face Registration หรือ Biometric เพื่อขึ้นเครื่องได้ทันที โดยไม่ต้องแสดงบัตรโดยสารพร้อมบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทางแก่เจ้าหน้าที่อีก อย่างไรก็ตาม แม้สนามบิน ทอท.ทั้ง 6 แห่งจะติดตั้งระบบไบโอเมตริกซ์เสร็จสิ้นแล้ว แต่ก็ยังเปิดใช้ไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์กับทุกสนามบินของ ทอท.ยังมีบางแห่งที่บางสายการบินยังให้ใช้ระบบเดิม สำหรับข้อมูลผู้โดยสาร ได้แก่ บัตรโดยสาร บัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง และภาพถ่ายใบหน้าผู้โดยสาร ทอท.จะเก็บข้อมูลไว้ 24 ชั่วโมง จากนั้นจะทำลายข้อมูลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (กฎหมาย PDPA) ซึ่งระยะยาว ทอท.จะพัฒนาระบบเพื่อจัดเก็บข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลไว้ยาวนาน แต่มีความปลอดภัยและผ่านขั้นตอนกฎหมาย PDPA ต่อไป #Newskit
    0 Comments 0 Shares 24 Views 0 Reviews
  • 2/

    นายไนเจล เคซีย์ เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำกรุงมอสโกถูกเรียกตัวเข้าพบที่กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เพื่อรับจดหมายประท้วงอย่างเป็นทางการจากรัสเซีย หลังจากเจ้าหน้าที่สถานทูตอังกฤษรายหนึ่งมีพฤติกรรมจารกรรมข้อมูลข่าวกรองของรัสเซีย

    สำนักข่าวกรองกลางของสหพันธรัฐรัสเซียรายงานว่า "เอ็ดเวิร์ด ไพรเออร์ วิลค์ส" (Edward Pryor Wilkes) ซึ่งทำหน้าที่เลขานุการฝ่ายการเมืองของสถานทูตอังกฤษประจำกรุงมอสโก ถูกเพิกถอนการรับรองเป็นนักการทูตอังกฤษ และต้องเดินทางออกนอกรัสเซียภายใน 2 วัน หลังจากเข้ามาแทนที่เจ้าหน้าที่อังกฤษคนหนึ่งที่ถูกไล่ออกก่อนหน้านี้

    เมื่อเดือนสิงหาคม 2567 เจ้าหน้าที่การทูตของอังกฤษ 6 คน ถูกขับออกจากรัสเซีย หลังจากนั้น "เอ็ดเวิร์ด ไพรเออร์" ถูกส่งเข้ามาแทนที่เจ้าหน้าที่ 1 ใน 6 รายนั้น ตามรายงานของหน่วยงาน FSB เอ็ดเวิร์ดถูกกล่าวหาว่าให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับประวัติส่วนตัวเป็นเท็จ ในการยื่นคำร้องขอเข้าประเทศรัสเซีย นอกจากนี้ FSB ยังระบุอีกว่า เอ็ดเวิร์ดมีพฤติกรรมเป็น "สายลับ" โดยการลักลอบทำงานข่าวกรองและก่อวินาศกรรมภายในประเทศรัสเซียด้วย

    "เอ็ดเวิร์ด ไพรเออร์" เป็นเจ้าหน้าที่ทางการทูตของอังกฤษคนที่ 7 ที่มีพฤติกรรมเป็น "สายลับ" และถูกขับออกจากรัสเซียในรอบ 4 เดือน ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นจากความขัดแย้งในยูเครน

    วิดีโอ1- ไนเจล เคซีย์ เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำกรุงมอสโกถูกเรียกตัวเข้าพบที่กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย

    วิดีโอ2- นายเชย์ โบวส์ (Chay Bowes) ผู้สื่อข่าว RT ตะโกนถามเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำรัสเซียตรงๆว่า เหตุใดรัฐบาลของเขาจึงยอมทุ่มเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์เพื่อยกระดับสงครามในยูเครนซึ่งทำให้ชาวรัสเซียต้องสูญเสียชีวิต

    โบวส์ยังตั้งคำถามอีกว่า เหตุใดสถานทูตอังกฤษจึงถูกใช้เป็นฐานข่าวกรองเพื่อบ่อนทำลายสหพันธรัฐรัสเซีย ขณะที่ชาวอังกฤษกำลังเหน็บหนาวจนตายเพราะรัฐบาลตัดสวัสดิการเชื้อเพลิงของพวกเขา

    "เอกอัครราชทูตอังกฤษ ไม่ต่อบคำถามใดๆ และรับชิ่งหนีไป"
    2/ นายไนเจล เคซีย์ เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำกรุงมอสโกถูกเรียกตัวเข้าพบที่กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เพื่อรับจดหมายประท้วงอย่างเป็นทางการจากรัสเซีย หลังจากเจ้าหน้าที่สถานทูตอังกฤษรายหนึ่งมีพฤติกรรมจารกรรมข้อมูลข่าวกรองของรัสเซีย สำนักข่าวกรองกลางของสหพันธรัฐรัสเซียรายงานว่า "เอ็ดเวิร์ด ไพรเออร์ วิลค์ส" (Edward Pryor Wilkes) ซึ่งทำหน้าที่เลขานุการฝ่ายการเมืองของสถานทูตอังกฤษประจำกรุงมอสโก ถูกเพิกถอนการรับรองเป็นนักการทูตอังกฤษ และต้องเดินทางออกนอกรัสเซียภายใน 2 วัน หลังจากเข้ามาแทนที่เจ้าหน้าที่อังกฤษคนหนึ่งที่ถูกไล่ออกก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนสิงหาคม 2567 เจ้าหน้าที่การทูตของอังกฤษ 6 คน ถูกขับออกจากรัสเซีย หลังจากนั้น "เอ็ดเวิร์ด ไพรเออร์" ถูกส่งเข้ามาแทนที่เจ้าหน้าที่ 1 ใน 6 รายนั้น ตามรายงานของหน่วยงาน FSB เอ็ดเวิร์ดถูกกล่าวหาว่าให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับประวัติส่วนตัวเป็นเท็จ ในการยื่นคำร้องขอเข้าประเทศรัสเซีย นอกจากนี้ FSB ยังระบุอีกว่า เอ็ดเวิร์ดมีพฤติกรรมเป็น "สายลับ" โดยการลักลอบทำงานข่าวกรองและก่อวินาศกรรมภายในประเทศรัสเซียด้วย "เอ็ดเวิร์ด ไพรเออร์" เป็นเจ้าหน้าที่ทางการทูตของอังกฤษคนที่ 7 ที่มีพฤติกรรมเป็น "สายลับ" และถูกขับออกจากรัสเซียในรอบ 4 เดือน ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นจากความขัดแย้งในยูเครน วิดีโอ1- ไนเจล เคซีย์ เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำกรุงมอสโกถูกเรียกตัวเข้าพบที่กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย วิดีโอ2- นายเชย์ โบวส์ (Chay Bowes) ผู้สื่อข่าว RT ตะโกนถามเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำรัสเซียตรงๆว่า เหตุใดรัฐบาลของเขาจึงยอมทุ่มเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์เพื่อยกระดับสงครามในยูเครนซึ่งทำให้ชาวรัสเซียต้องสูญเสียชีวิต โบวส์ยังตั้งคำถามอีกว่า เหตุใดสถานทูตอังกฤษจึงถูกใช้เป็นฐานข่าวกรองเพื่อบ่อนทำลายสหพันธรัฐรัสเซีย ขณะที่ชาวอังกฤษกำลังเหน็บหนาวจนตายเพราะรัฐบาลตัดสวัสดิการเชื้อเพลิงของพวกเขา "เอกอัครราชทูตอังกฤษ ไม่ต่อบคำถามใดๆ และรับชิ่งหนีไป"
    0 Comments 0 Shares 38 Views 9 0 Reviews
  • 1/

    นายไนเจล เคซีย์ เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำกรุงมอสโกถูกเรียกตัวเข้าพบที่กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เพื่อรับจดหมายประท้วงอย่างเป็นทางการจากรัสเซีย หลังจากเจ้าหน้าที่สถานทูตอังกฤษรายหนึ่งมีพฤติกรรมจารกรรมข้อมูลข่าวกรองของรัสเซีย

    สำนักข่าวกรองกลางของสหพันธรัฐรัสเซียรายงานว่า "เอ็ดเวิร์ด ไพรเออร์ วิลค์ส" (Edward Pryor Wilkes) ซึ่งทำหน้าที่เลขานุการฝ่ายการเมืองของสถานทูตอังกฤษประจำกรุงมอสโก ถูกเพิกถอนการรับรองเป็นนักการทูตอังกฤษ และต้องเดินทางออกนอกรัสเซียภายใน 2 วัน หลังจากเข้ามาแทนที่เจ้าหน้าที่อังกฤษคนหนึ่งที่ถูกไล่ออกก่อนหน้านี้

    เมื่อเดือนสิงหาคม 2567 เจ้าหน้าที่การทูตของอังกฤษ 6 คน ถูกขับออกจากรัสเซีย หลังจากนั้น "เอ็ดเวิร์ด ไพรเออร์" ถูกส่งเข้ามาแทนที่เจ้าหน้าที่ 1 ใน 6 รายนั้น ตามรายงานของหน่วยงาน FSB เอ็ดเวิร์ดถูกกล่าวหาว่าให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับประวัติส่วนตัวเป็นเท็จ ในการยื่นคำร้องขอเข้าประเทศรัสเซีย นอกจากนี้ FSB ยังระบุอีกว่า เอ็ดเวิร์ดมีพฤติกรรมเป็น "สายลับ" โดยการลักลอบทำงานข่าวกรองและก่อวินาศกรรมภายในประเทศรัสเซียด้วย

    "เอ็ดเวิร์ด ไพรเออร์" เป็นเจ้าหน้าที่ทางการทูตของอังกฤษคนที่ 7 ที่มีพฤติกรรมเป็น "สายลับ" และถูกขับออกจากรัสเซียในรอบ 4 เดือน ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นจากความขัดแย้งในยูเครน

    วิดีโอ1- ไนเจล เคซีย์ เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำกรุงมอสโกถูกเรียกตัวเข้าพบที่กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย

    วิดีโอ2- นายเชย์ โบวส์ (Chay Bowes) ผู้สื่อข่าว RT ตะโกนถามเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำรัสเซียตรงๆว่า เหตุใดรัฐบาลของเขาจึงยอมทุ่มเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์เพื่อยกระดับสงครามในยูเครนซึ่งทำให้ชาวรัสเซียต้องสูญเสียชีวิต

    โบวส์ยังตั้งคำถามอีกว่า เหตุใดสถานทูตอังกฤษจึงถูกใช้เป็นฐานข่าวกรองเพื่อบ่อนทำลายสหพันธรัฐรัสเซีย ขณะที่ชาวอังกฤษกำลังเหน็บหนาวจนตายเพราะรัฐบาลตัดสวัสดิการเชื้อเพลิงของพวกเขา

    "เอกอัครราชทูตอังกฤษ ไม่ต่อบคำถามใดๆ และรับชิ่งหนีไป"
    1/ นายไนเจล เคซีย์ เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำกรุงมอสโกถูกเรียกตัวเข้าพบที่กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เพื่อรับจดหมายประท้วงอย่างเป็นทางการจากรัสเซีย หลังจากเจ้าหน้าที่สถานทูตอังกฤษรายหนึ่งมีพฤติกรรมจารกรรมข้อมูลข่าวกรองของรัสเซีย สำนักข่าวกรองกลางของสหพันธรัฐรัสเซียรายงานว่า "เอ็ดเวิร์ด ไพรเออร์ วิลค์ส" (Edward Pryor Wilkes) ซึ่งทำหน้าที่เลขานุการฝ่ายการเมืองของสถานทูตอังกฤษประจำกรุงมอสโก ถูกเพิกถอนการรับรองเป็นนักการทูตอังกฤษ และต้องเดินทางออกนอกรัสเซียภายใน 2 วัน หลังจากเข้ามาแทนที่เจ้าหน้าที่อังกฤษคนหนึ่งที่ถูกไล่ออกก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนสิงหาคม 2567 เจ้าหน้าที่การทูตของอังกฤษ 6 คน ถูกขับออกจากรัสเซีย หลังจากนั้น "เอ็ดเวิร์ด ไพรเออร์" ถูกส่งเข้ามาแทนที่เจ้าหน้าที่ 1 ใน 6 รายนั้น ตามรายงานของหน่วยงาน FSB เอ็ดเวิร์ดถูกกล่าวหาว่าให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับประวัติส่วนตัวเป็นเท็จ ในการยื่นคำร้องขอเข้าประเทศรัสเซีย นอกจากนี้ FSB ยังระบุอีกว่า เอ็ดเวิร์ดมีพฤติกรรมเป็น "สายลับ" โดยการลักลอบทำงานข่าวกรองและก่อวินาศกรรมภายในประเทศรัสเซียด้วย "เอ็ดเวิร์ด ไพรเออร์" เป็นเจ้าหน้าที่ทางการทูตของอังกฤษคนที่ 7 ที่มีพฤติกรรมเป็น "สายลับ" และถูกขับออกจากรัสเซียในรอบ 4 เดือน ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นจากความขัดแย้งในยูเครน วิดีโอ1- ไนเจล เคซีย์ เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำกรุงมอสโกถูกเรียกตัวเข้าพบที่กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย วิดีโอ2- นายเชย์ โบวส์ (Chay Bowes) ผู้สื่อข่าว RT ตะโกนถามเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำรัสเซียตรงๆว่า เหตุใดรัฐบาลของเขาจึงยอมทุ่มเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์เพื่อยกระดับสงครามในยูเครนซึ่งทำให้ชาวรัสเซียต้องสูญเสียชีวิต โบวส์ยังตั้งคำถามอีกว่า เหตุใดสถานทูตอังกฤษจึงถูกใช้เป็นฐานข่าวกรองเพื่อบ่อนทำลายสหพันธรัฐรัสเซีย ขณะที่ชาวอังกฤษกำลังเหน็บหนาวจนตายเพราะรัฐบาลตัดสวัสดิการเชื้อเพลิงของพวกเขา "เอกอัครราชทูตอังกฤษ ไม่ต่อบคำถามใดๆ และรับชิ่งหนีไป"
    0 Comments 0 Shares 37 Views 0 Reviews
  • มีรายงานว่าพลโทอเล็กซานเดอร์ ซานชิก (генерал-лейтенант Александр Санчик / Lieutenant General Alexander Sanchik) ได้รับการแต่งตั้งเป็นรักษาการผู้บัญชาการทหารเขตใต้ (Southern Military District) เพื่อทำหน้าที่แทน "พลเอก Gennady Anashkin" (Генера́л-полко́вник Геннадий Анашкин) ที่ถูกปลดออกไปก่อนหน้านี้

    ก่อนหน้านี้ พลโทอเล็กซานเดอร์ ซานชิก ดำรงตำแหน่งรักษาการผู้บัญชาการทหารเขตตะวันออก (Eastern Military District) และทำหน้าที่บัญชาการแนวหน้าในทิศทางโดเน็ตสก์ตอนใต้ จนสามารถปลดปล่อย Ugledar (หรือ Vuhledar) ได้ในที่สุด นอกจากนี้ยังรวมถึง Urozhaine, Makarivka และ Velyka Novosilka ที่กองกำลังรัสเซียกำลังบุกเข้าถึงเมืองอยู่ตอนนี้ เป็นต้น


    วิดีโอ1- เมื่อเดือนกรกฎาคม ปีนี้ พลโทอเล็กซานเดอร์ ซานชิค กล่าวรายงานสถานการณ์แนวหน้าต่อพลเอก Valery Gerasimov หัวหน้าเสนาธิการทหารสูงสุด ขณะตรวจเยี่ยมศูนย์บัญชาการชั่วคราวของกลุ่มวอสตอค และกล่าวชื่นชมถึงความสำเร็จในการปลดปล่อย Urozhaine และกำหนดภารกิจสำหรับการดำเนินการขั้นต่อไป

    .
    รายละเอียดข่าว "พลเอก Gennady Anashkin" อดีตผู้บัญชาการทหารเขตใต้ (Southern Military District) ถูกปลดออกจากตำแหน่ง
    https://www.facebook.com/groups/194174770388504/permalink/374289932376986/
    มีรายงานว่าพลโทอเล็กซานเดอร์ ซานชิก (генерал-лейтенант Александр Санчик / Lieutenant General Alexander Sanchik) ได้รับการแต่งตั้งเป็นรักษาการผู้บัญชาการทหารเขตใต้ (Southern Military District) เพื่อทำหน้าที่แทน "พลเอก Gennady Anashkin" (Генера́л-полко́вник Геннадий Анашкин) ที่ถูกปลดออกไปก่อนหน้านี้ ก่อนหน้านี้ พลโทอเล็กซานเดอร์ ซานชิก ดำรงตำแหน่งรักษาการผู้บัญชาการทหารเขตตะวันออก (Eastern Military District) และทำหน้าที่บัญชาการแนวหน้าในทิศทางโดเน็ตสก์ตอนใต้ จนสามารถปลดปล่อย Ugledar (หรือ Vuhledar) ได้ในที่สุด นอกจากนี้ยังรวมถึง Urozhaine, Makarivka และ Velyka Novosilka ที่กองกำลังรัสเซียกำลังบุกเข้าถึงเมืองอยู่ตอนนี้ เป็นต้น วิดีโอ1- เมื่อเดือนกรกฎาคม ปีนี้ พลโทอเล็กซานเดอร์ ซานชิค กล่าวรายงานสถานการณ์แนวหน้าต่อพลเอก Valery Gerasimov หัวหน้าเสนาธิการทหารสูงสุด ขณะตรวจเยี่ยมศูนย์บัญชาการชั่วคราวของกลุ่มวอสตอค และกล่าวชื่นชมถึงความสำเร็จในการปลดปล่อย Urozhaine และกำหนดภารกิจสำหรับการดำเนินการขั้นต่อไป . รายละเอียดข่าว "พลเอก Gennady Anashkin" อดีตผู้บัญชาการทหารเขตใต้ (Southern Military District) ถูกปลดออกจากตำแหน่ง https://www.facebook.com/groups/194174770388504/permalink/374289932376986/
    0 Comments 0 Shares 85 Views 0 Reviews
  • โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียเยาะเย้ยระบบยุติธรรมของสหรัฐฯ หลังจากกระทรวงยุติธรรมยกเลิกข้อกล่าวหาทางอาญาต่อทรัมป์

    การตัดสินใจของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ที่จะยอมความในคดีอาญาทั้งหมดนอกศาลต่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่ากระบวนการยุติธรรมของสหรัฐฯ มี "ลักษณะวงจรที่น่าทึ่ง", โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย มาเรีย ซาคาโรวา กล่าว

    “เพราะคุณได้คิดมันออกแล้ว, ใช่ไหม? ความยุติธรรมในระบอบประชาธิปไตยของสหรัฐฯ มีลักษณะเป็นวัฏจักรที่น่าทึ่ง - ทุกๆ ๔ ปี, ความยุติธรรมจะแสดงออกมาอย่างชัดเจน ลำดับแรก, ก่อนการเลือกตั้ง, และทันทีหลังจากนั้น, ผลลัพธ์ก็ออกมาแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงถึงสองครั้ง นี่คือสิ่งที่ประชาธิปไตยของสหรัฐฯเป็น,” ซาคาโรวา กล่าวบน Telegram

    ก่อนหน้านี้ แจ็ค สมิธ อัยการพิเศษของสหรัฐฯ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลแขวงประจำเขตโคลัมเบียให้ยกฟ้องคดีที่นายทรัมป์ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุจลาจลที่อาคารรัฐสภาเมื่อปี ๒๐๒๑ ซึ่งทำให้นายทรัมป์กลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯคนแรกที่ถูกสอบสวนและถูกตัดสินว่ามีความผิด
    .
    RUSSIA'S FM SPOKESWOMAN MOCKS US JUSTICE SYSTEM AFTER DOJ DROPS CRIMINAL CHARGES AGAINST TRUMP

    The US Department of Justice's (DOJ) decision to settle all federal offenses out of court against US President-elect Donald Trump demonstrates the "amazing cyclical nature" of US justice, Russian Foreign Ministry spokeswoman Maria Zakharova said.

    "Because you have figured it out, right? US democratic justice has an amazing cyclical nature - every 4 years, it demonstrates absolute impartiality. First, before the election, and then immediately after, with two completely different results. This is what US democracy is all about," Zakharova said on Telegram.

    US Special Counsel Jack Smith has earlier asked the District Court for the District of Columbia to dismiss the case against Trump regarding his alleged role in the Capitol riot of 2021. This makes Trump the first US president-elect into whom probes have been launched and against whom a verdict has been returned.
    .
    2:08 PM · Nov 26, 2024 · 2,448 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1861306036516221164
    โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียเยาะเย้ยระบบยุติธรรมของสหรัฐฯ หลังจากกระทรวงยุติธรรมยกเลิกข้อกล่าวหาทางอาญาต่อทรัมป์ การตัดสินใจของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ที่จะยอมความในคดีอาญาทั้งหมดนอกศาลต่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่ากระบวนการยุติธรรมของสหรัฐฯ มี "ลักษณะวงจรที่น่าทึ่ง", โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย มาเรีย ซาคาโรวา กล่าว “เพราะคุณได้คิดมันออกแล้ว, ใช่ไหม? ความยุติธรรมในระบอบประชาธิปไตยของสหรัฐฯ มีลักษณะเป็นวัฏจักรที่น่าทึ่ง - ทุกๆ ๔ ปี, ความยุติธรรมจะแสดงออกมาอย่างชัดเจน ลำดับแรก, ก่อนการเลือกตั้ง, และทันทีหลังจากนั้น, ผลลัพธ์ก็ออกมาแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงถึงสองครั้ง นี่คือสิ่งที่ประชาธิปไตยของสหรัฐฯเป็น,” ซาคาโรวา กล่าวบน Telegram ก่อนหน้านี้ แจ็ค สมิธ อัยการพิเศษของสหรัฐฯ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลแขวงประจำเขตโคลัมเบียให้ยกฟ้องคดีที่นายทรัมป์ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุจลาจลที่อาคารรัฐสภาเมื่อปี ๒๐๒๑ ซึ่งทำให้นายทรัมป์กลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯคนแรกที่ถูกสอบสวนและถูกตัดสินว่ามีความผิด . RUSSIA'S FM SPOKESWOMAN MOCKS US JUSTICE SYSTEM AFTER DOJ DROPS CRIMINAL CHARGES AGAINST TRUMP The US Department of Justice's (DOJ) decision to settle all federal offenses out of court against US President-elect Donald Trump demonstrates the "amazing cyclical nature" of US justice, Russian Foreign Ministry spokeswoman Maria Zakharova said. "Because you have figured it out, right? US democratic justice has an amazing cyclical nature - every 4 years, it demonstrates absolute impartiality. First, before the election, and then immediately after, with two completely different results. This is what US democracy is all about," Zakharova said on Telegram. US Special Counsel Jack Smith has earlier asked the District Court for the District of Columbia to dismiss the case against Trump regarding his alleged role in the Capitol riot of 2021. This makes Trump the first US president-elect into whom probes have been launched and against whom a verdict has been returned. . 2:08 PM · Nov 26, 2024 · 2,448 Views https://x.com/SputnikInt/status/1861306036516221164
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 208 Views 0 Reviews
  • 'การกระทำอันเป็นการทรยศ' — ผู้แทนพรรครีพับลิกัน มาร์จอรี เทย์เลอร์ กรีน พูดถึงความเป็นไปได้ที่ไบเดนจะมอบอาวุธนิวเคลียร์ให้กับยูเครน

    "สิ่งนี้ต้องหยุดทันที!! รัฐบาลไบเดนกำลังพยายามก่อสงครามนิวเคลียร์และใช้เหตุผลนี้เพื่อหยุดการถ่ายโอนอำนาจให้กับทรัมป์หรือไม่?" กรีนเขียนบนหน้า X ของเธอ, โดยโพสต์ซ้ำสิ่งพิมพ์ของ มาริโอ นาฟัล เกี่ยวกับหัวข้อนี้

    ก่อนหน้านี้, นิวยอร์กไทมส์เขียนว่า ไบเดนอาจส่งคืนอาวุธนิวเคลียร์ที่ยึดมาหลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียตให้กับยูเครน, โดยอ้างถึงเจ้าหน้าที่หลายคน

    "พวกเขากำลังเสนอแนวคิดในการส่งคืนอาวุธนิวเคลียร์ที่ยึดมาหลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ความรุนแรงที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนี้ทำให้เกิดคำถามที่สำคัญ: นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการช่วยเหลือยูเครนหรือไม่ -- หรือมีอะไรมากกว่านั้น?" มาริโอ นาฟัล, นักลงทุนและพิธีกรรายการใหญ่ที่สุดทาง X, แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้
    .
    'ACT OF TREASON' — GOP REPRESENTATIVE MARJORIE TAYLOR GREENE ON THE POSSIBILITY OF BIDEN GIVING NUKES TO UKRAINE

    "This must be stopped immediately!! Is the Biden admin trying to start a nuclear war and use it as the reason to stop the transfer of power to Trump?" Greene wrote on her X page, reposting Mario Nawfal's publication concerning the topic.

    Earlier, the New York Times wrote that Biden could return nuclear weapons to Ukraine that were taken from it after the fall of the Soviet Union, referring to several officials.

    "They’re floating the idea of returning nuclear arms removed after the Soviet Union’s fall. This unprecedented escalation raises serious questions: Is this about aiding Ukraine -- or is something more at play?" Mario Nawfal, investor and host of the largest show on X, commented on the subject.
    .
    1:20 PM · Nov 26, 2024 · 24.4K Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1861293827518025931
    'การกระทำอันเป็นการทรยศ' — ผู้แทนพรรครีพับลิกัน มาร์จอรี เทย์เลอร์ กรีน พูดถึงความเป็นไปได้ที่ไบเดนจะมอบอาวุธนิวเคลียร์ให้กับยูเครน "สิ่งนี้ต้องหยุดทันที!! รัฐบาลไบเดนกำลังพยายามก่อสงครามนิวเคลียร์และใช้เหตุผลนี้เพื่อหยุดการถ่ายโอนอำนาจให้กับทรัมป์หรือไม่?" กรีนเขียนบนหน้า X ของเธอ, โดยโพสต์ซ้ำสิ่งพิมพ์ของ มาริโอ นาฟัล เกี่ยวกับหัวข้อนี้ ก่อนหน้านี้, นิวยอร์กไทมส์เขียนว่า ไบเดนอาจส่งคืนอาวุธนิวเคลียร์ที่ยึดมาหลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียตให้กับยูเครน, โดยอ้างถึงเจ้าหน้าที่หลายคน "พวกเขากำลังเสนอแนวคิดในการส่งคืนอาวุธนิวเคลียร์ที่ยึดมาหลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ความรุนแรงที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนี้ทำให้เกิดคำถามที่สำคัญ: นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการช่วยเหลือยูเครนหรือไม่ -- หรือมีอะไรมากกว่านั้น?" มาริโอ นาฟัล, นักลงทุนและพิธีกรรายการใหญ่ที่สุดทาง X, แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ . 'ACT OF TREASON' — GOP REPRESENTATIVE MARJORIE TAYLOR GREENE ON THE POSSIBILITY OF BIDEN GIVING NUKES TO UKRAINE "This must be stopped immediately!! Is the Biden admin trying to start a nuclear war and use it as the reason to stop the transfer of power to Trump?" Greene wrote on her X page, reposting Mario Nawfal's publication concerning the topic. Earlier, the New York Times wrote that Biden could return nuclear weapons to Ukraine that were taken from it after the fall of the Soviet Union, referring to several officials. "They’re floating the idea of returning nuclear arms removed after the Soviet Union’s fall. This unprecedented escalation raises serious questions: Is this about aiding Ukraine -- or is something more at play?" Mario Nawfal, investor and host of the largest show on X, commented on the subject. . 1:20 PM · Nov 26, 2024 · 24.4K Views https://x.com/SputnikInt/status/1861293827518025931
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 188 Views 0 Reviews
  • "ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น และปูตินไม่ยอมให้ยูเครนใช้ก่อนแน่นอน!"
    สส.มาร์จอรี เทย์เลอร์ กรีน จากพรรครีพับลิกัน พูดถึงกระแสข่าวที่ไบเดนจะมอบอาวุธนิวเคลียร์ให้กับยูเครนว่าเป็น 'เรื่องที่บ้ามากและยังเป็นการทรยศต่อรัฐธรรมนูญสหรัฐ'

    "เรื่องนี้ต้องหยุดทันที!! รัฐบาลไบเดนกำลังพยายามก่อสงครามนิวเคลียร์และใช้เหตุผลนี้เพื่อหยุดการถ่ายโอนอำนาจให้กับทรัมป์หรือไม่" กรีนเขียนบน X ของเธอ โดยอ้างอิงโพสต์ของมาริโอ นาฟัล นักสื่อสารมวลชื่อดังของสหรัฐ

    ก่อนหน้านี้ นิวยอร์กไทมส์เขียนว่าไบเดนอาจส่งอาวุธนิวเคลียร์ที่ยึดมาได้หลังสหภาพโซเวียตล่มสลายคืนให้กับยูเครน โดยอ้างแหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่หลายคนในรัฐบาลไบเดน

    "พวกเขากำลังเสนอแนวคิดในการส่งอาวุธนิวเคลียร์ที่ยึดมาได้หลังสหภาพโซเวียตล่มสลายกลับคืนสู่ยูเครน นี่จะเป็นการยกระดับความรุนแรงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำให้เกิดคำถามสำคัญว่า นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการช่วยเหลือยูเครนหรือไม่ หรือมีอะไรมากกว่านั้น" มาริโอ นาฟัล กล่าวแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้
    "ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น และปูตินไม่ยอมให้ยูเครนใช้ก่อนแน่นอน!" สส.มาร์จอรี เทย์เลอร์ กรีน จากพรรครีพับลิกัน พูดถึงกระแสข่าวที่ไบเดนจะมอบอาวุธนิวเคลียร์ให้กับยูเครนว่าเป็น 'เรื่องที่บ้ามากและยังเป็นการทรยศต่อรัฐธรรมนูญสหรัฐ' "เรื่องนี้ต้องหยุดทันที!! รัฐบาลไบเดนกำลังพยายามก่อสงครามนิวเคลียร์และใช้เหตุผลนี้เพื่อหยุดการถ่ายโอนอำนาจให้กับทรัมป์หรือไม่" กรีนเขียนบน X ของเธอ โดยอ้างอิงโพสต์ของมาริโอ นาฟัล นักสื่อสารมวลชื่อดังของสหรัฐ ก่อนหน้านี้ นิวยอร์กไทมส์เขียนว่าไบเดนอาจส่งอาวุธนิวเคลียร์ที่ยึดมาได้หลังสหภาพโซเวียตล่มสลายคืนให้กับยูเครน โดยอ้างแหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่หลายคนในรัฐบาลไบเดน "พวกเขากำลังเสนอแนวคิดในการส่งอาวุธนิวเคลียร์ที่ยึดมาได้หลังสหภาพโซเวียตล่มสลายกลับคืนสู่ยูเครน นี่จะเป็นการยกระดับความรุนแรงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำให้เกิดคำถามสำคัญว่า นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการช่วยเหลือยูเครนหรือไม่ หรือมีอะไรมากกว่านั้น" มาริโอ นาฟัล กล่าวแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้
    Sad
    1
    0 Comments 0 Shares 123 Views 0 Reviews
  • คณะรัฐมนตรีด้านความมั่นคงของอิสราเอล กำลังเตรียมการตัดสินใจว่าจะตอบรับข้อเสนอหนึ่งๆสำหรับหยุดยิงในศึกสงครามกับฮิซบอลเลาะห์หรือไม่ จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ ขณะที่ทำเนียบขาวเชื่อว่าข้อตกลงยุติการสู้รบในเลบานอน ใกล้เข้ามาแล้ว
    .
    เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา สหรัฐฯ สหภาพยุโรปและสหประชาชาติ ทุ่มเทสุดกำลังร่วมกันผลักดันข้อตกลงหยุดยิงฉบับหนึ่ง เพื่อยุติความเป็นปรปักษ์ที่ยืดเยื้อมานานระหว่างอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์ จนปะทุเข้าสู่สงครามเต็มรูปแบบเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายน
    .
    ท่ามกลางการเจรจาที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ทางกระทรวงสาธารณสุของเลบานอน บอกว่าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล สังหารผู้คนอีกอย่างน้อย 31 รายในวันจันทร์(25พ.ย.) ส่วนใหญ่เสียชีวิตในทางภาคใต้ของประเทศ
    .
    ปฏิบัติการโจมตีระลอกใหม่ของอิสราเอล มีขึ้นหลังจากพวกฮิซบอลเลาะห์ยกระดับยิงห่าจรวดเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา บางส่วนเป็นการโจมตีเข้าไปในดินแดนลึกของอิสราเอล
    .
    เจ้าหน้าที่อิสราเอลรายหนึ่ง ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม บอกกับเอเอฟพีว่า คณะรัฐมนตรีด้านความมั่นคง "จะตัดสินใจช่วงเย็นวันอังคาร(26พ.ย.) เกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิง"
    .
    จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ แสดงความหวังต่อแนวโน้มข้อตกลงหยุดยิง แต่บอกว่าการเจรจายังคงดำเนินต่อไป "เราเชื่อว่า เรามาถึงจุดนี้แล้ว จุดที่เราเข้าใกล้ แต่เรายังไม่บรรลุข้อตกลงดี" เขาบอกกับผู้สื่อข่าว
    .
    ที่ผ่านมา สหรัฐฯ เคยส่งเสียงมุมมองในแง่บวกซ้ำๆแล้วซ้ำเล่า เกี่ยวกับการเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในกาซาในปีนี้ แต่จนถึงปัจจุบัน อิสราเอลก็ยังคงสู้รบกับพวกนักรบฮามาส และกระทั่งเปิดการต่อสู้ในแนวรบที่ 2 ในเลบานอน อีกต่างหาก
    .
    ฝรั่งเศส ที่ยืนเคียงข้างสหรัฐฯในการเป็นหัวหอกความพยายามมุ่งหน้าสู่ข้อตกลงหยุดยิงในเลบานอน รายงานในวันจันทร์(25พ.ย.) ว่ามีความคืบหน้าอย่างมากในการเจรจาหยุดยิง ขณะที่ทำเนียบประธานาธิบดีแดนน้ำหอม เร่งเร้าอิสราเอลและฮิซบอลเลาะห์ ฉวยโอกาสนี้เอาไว้
    .
    Axios เว็บไซต์ข่าวสัญชาติสหรัฐฯ เคยรายงานว่าฝ่ายต่างๆใกล้บรรลุข้อตกลงหนึ่งๆ ที่จะเกี่ยวข้องกับช่วงเวลาการเปลี่ยนผ่าน 60 วัน โดยระหว่างนั้นกองทัพอิสราเอลจะถอนทหารกลับ ส่วนทหารเลบานอนจะมีการสับเปลี่ยนกำลังพลใกล้ชายแดน ในขณะที่พวกฮิซบอลเลาะห์จะถอนอาวุธหนักออกจากทางเหนือของแม่น้ำลิตานี
    .
    ร่างข้อตกลงนี้ยังเปิดทางจัดตั้งคณะกรรมการชุดหนึ่งที่นำโดยสหรัฐฯ สำหรับตรวจตราการบังคับใช้ข้อตกลง เช่นเดียวกับคำรับประกันจากอเมริกา ว่าอิสราเอลจะสามารถดำเนินการจัดการกับภัยคุกคามได้ทันที หากกองทัพเลบานอนไม่ทำเช่นนั้น
    .
    ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มีเสียงเรียกร้องมากขึ้นเรื่อยๆให้หยุดการสู้รบในเลบานอน ในนั้นรวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งของสหประชาชาติ ที่เมื่อวันจันทร์(25พ.ย.) เรียกร้องให้ทุกฝ่ายตอบรับข้อตกลงหยุดยิง
    .
    ในกรุงเบรุตเมื่อวันอาทิตย์(24พ.ย.) โจเซฟ บอร์เรล หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป เรียกร้องให้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงในทันที หลังจาก อาโมส โฮชสไตน์ ทูตพิเศษของสหรัฐฯ บอกว่าข้อตกลงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
    .
    สื่อมวลชนอิสราเอล รายงานว่ามีความเป็นไปได้ที่นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู จะสนับสนุนข้อตกลงหยุดยิงที่เสนอโดยสหรัฐฯ
    .
    เมื่อถูกถามในนิวยอร์ก เกี่ยวกับความเป็นไปได้ของข้อตกลงหยุดยิง ทาง แดนนี ดาวอน ผู้แทนถาวรอิสราเอลประจำสหประชาชาติ บอกว่า "เรากำลังมุ่งหน้าสู่แนวหน้านี้" พร้อมเผยว่าคณะรัฐมนตรีจะประชุมกันเร็วๆนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อเสนอดังกล่าว
    .
    อย่างไรก็ตาม อิตามาร์ เบน กาวีร์ รัฐมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หัวขวาจัดของอิสราเอล เตือนบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ว่าการใกล้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงในเลบานอน อาจเป็นการพลาดโอกาสครั้งประวัติศาสตร์ในการกำจัดฮิซบอลเลาะห์
    .
    ทั้งนี้ เบน กาวีร์ เคยขู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าจะโค่นล้มรัฐบาล หากรัฐบาลเห็นพ้องในข้อตกลงหยุดยิงกับฮามาสในฉนวนกาซา หรือกับพวกฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน
    .
    สงครามในเลบานอน มีขึ้นหลังจากพวกฮิซบอลเลาะห์กับอิสราเอลเปิดศึกยิงปะทะข้ามชายแดนมานานเกือบ 1 ปี โดยพวกฮิซบอลเลาะห์บอกว่าพวกเขาลงมือเพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนนักรบปาเลสไตน์ฮามาส หลังฮามาสเปิดปฏิบัติการจู่โจมเล่นงานอิสราเอล แบบไม่ทันตั้งตัวเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 โหมกระพือสงครามในกาซา
    .
    เลบานอน บอกว่ามีผู้เสียชีวิตในประเทศแล้วอย่างน้อย 3,768 ราย นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 ส่วนใหญ่เสียชีวิตในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนทางฝั่งอิสราเอล มีทหารเสียชีวิตอย่างน้อย 82 นายและพลเรือน 47 ราย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000113499
    ..............
    Sondhi X
    คณะรัฐมนตรีด้านความมั่นคงของอิสราเอล กำลังเตรียมการตัดสินใจว่าจะตอบรับข้อเสนอหนึ่งๆสำหรับหยุดยิงในศึกสงครามกับฮิซบอลเลาะห์หรือไม่ จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ ขณะที่ทำเนียบขาวเชื่อว่าข้อตกลงยุติการสู้รบในเลบานอน ใกล้เข้ามาแล้ว . เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา สหรัฐฯ สหภาพยุโรปและสหประชาชาติ ทุ่มเทสุดกำลังร่วมกันผลักดันข้อตกลงหยุดยิงฉบับหนึ่ง เพื่อยุติความเป็นปรปักษ์ที่ยืดเยื้อมานานระหว่างอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์ จนปะทุเข้าสู่สงครามเต็มรูปแบบเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายน . ท่ามกลางการเจรจาที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ทางกระทรวงสาธารณสุของเลบานอน บอกว่าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล สังหารผู้คนอีกอย่างน้อย 31 รายในวันจันทร์(25พ.ย.) ส่วนใหญ่เสียชีวิตในทางภาคใต้ของประเทศ . ปฏิบัติการโจมตีระลอกใหม่ของอิสราเอล มีขึ้นหลังจากพวกฮิซบอลเลาะห์ยกระดับยิงห่าจรวดเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา บางส่วนเป็นการโจมตีเข้าไปในดินแดนลึกของอิสราเอล . เจ้าหน้าที่อิสราเอลรายหนึ่ง ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม บอกกับเอเอฟพีว่า คณะรัฐมนตรีด้านความมั่นคง "จะตัดสินใจช่วงเย็นวันอังคาร(26พ.ย.) เกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิง" . จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ แสดงความหวังต่อแนวโน้มข้อตกลงหยุดยิง แต่บอกว่าการเจรจายังคงดำเนินต่อไป "เราเชื่อว่า เรามาถึงจุดนี้แล้ว จุดที่เราเข้าใกล้ แต่เรายังไม่บรรลุข้อตกลงดี" เขาบอกกับผู้สื่อข่าว . ที่ผ่านมา สหรัฐฯ เคยส่งเสียงมุมมองในแง่บวกซ้ำๆแล้วซ้ำเล่า เกี่ยวกับการเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในกาซาในปีนี้ แต่จนถึงปัจจุบัน อิสราเอลก็ยังคงสู้รบกับพวกนักรบฮามาส และกระทั่งเปิดการต่อสู้ในแนวรบที่ 2 ในเลบานอน อีกต่างหาก . ฝรั่งเศส ที่ยืนเคียงข้างสหรัฐฯในการเป็นหัวหอกความพยายามมุ่งหน้าสู่ข้อตกลงหยุดยิงในเลบานอน รายงานในวันจันทร์(25พ.ย.) ว่ามีความคืบหน้าอย่างมากในการเจรจาหยุดยิง ขณะที่ทำเนียบประธานาธิบดีแดนน้ำหอม เร่งเร้าอิสราเอลและฮิซบอลเลาะห์ ฉวยโอกาสนี้เอาไว้ . Axios เว็บไซต์ข่าวสัญชาติสหรัฐฯ เคยรายงานว่าฝ่ายต่างๆใกล้บรรลุข้อตกลงหนึ่งๆ ที่จะเกี่ยวข้องกับช่วงเวลาการเปลี่ยนผ่าน 60 วัน โดยระหว่างนั้นกองทัพอิสราเอลจะถอนทหารกลับ ส่วนทหารเลบานอนจะมีการสับเปลี่ยนกำลังพลใกล้ชายแดน ในขณะที่พวกฮิซบอลเลาะห์จะถอนอาวุธหนักออกจากทางเหนือของแม่น้ำลิตานี . ร่างข้อตกลงนี้ยังเปิดทางจัดตั้งคณะกรรมการชุดหนึ่งที่นำโดยสหรัฐฯ สำหรับตรวจตราการบังคับใช้ข้อตกลง เช่นเดียวกับคำรับประกันจากอเมริกา ว่าอิสราเอลจะสามารถดำเนินการจัดการกับภัยคุกคามได้ทันที หากกองทัพเลบานอนไม่ทำเช่นนั้น . ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มีเสียงเรียกร้องมากขึ้นเรื่อยๆให้หยุดการสู้รบในเลบานอน ในนั้นรวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งของสหประชาชาติ ที่เมื่อวันจันทร์(25พ.ย.) เรียกร้องให้ทุกฝ่ายตอบรับข้อตกลงหยุดยิง . ในกรุงเบรุตเมื่อวันอาทิตย์(24พ.ย.) โจเซฟ บอร์เรล หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป เรียกร้องให้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงในทันที หลังจาก อาโมส โฮชสไตน์ ทูตพิเศษของสหรัฐฯ บอกว่าข้อตกลงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม . สื่อมวลชนอิสราเอล รายงานว่ามีความเป็นไปได้ที่นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู จะสนับสนุนข้อตกลงหยุดยิงที่เสนอโดยสหรัฐฯ . เมื่อถูกถามในนิวยอร์ก เกี่ยวกับความเป็นไปได้ของข้อตกลงหยุดยิง ทาง แดนนี ดาวอน ผู้แทนถาวรอิสราเอลประจำสหประชาชาติ บอกว่า "เรากำลังมุ่งหน้าสู่แนวหน้านี้" พร้อมเผยว่าคณะรัฐมนตรีจะประชุมกันเร็วๆนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อเสนอดังกล่าว . อย่างไรก็ตาม อิตามาร์ เบน กาวีร์ รัฐมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หัวขวาจัดของอิสราเอล เตือนบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ว่าการใกล้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงในเลบานอน อาจเป็นการพลาดโอกาสครั้งประวัติศาสตร์ในการกำจัดฮิซบอลเลาะห์ . ทั้งนี้ เบน กาวีร์ เคยขู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าจะโค่นล้มรัฐบาล หากรัฐบาลเห็นพ้องในข้อตกลงหยุดยิงกับฮามาสในฉนวนกาซา หรือกับพวกฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน . สงครามในเลบานอน มีขึ้นหลังจากพวกฮิซบอลเลาะห์กับอิสราเอลเปิดศึกยิงปะทะข้ามชายแดนมานานเกือบ 1 ปี โดยพวกฮิซบอลเลาะห์บอกว่าพวกเขาลงมือเพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนนักรบปาเลสไตน์ฮามาส หลังฮามาสเปิดปฏิบัติการจู่โจมเล่นงานอิสราเอล แบบไม่ทันตั้งตัวเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 โหมกระพือสงครามในกาซา . เลบานอน บอกว่ามีผู้เสียชีวิตในประเทศแล้วอย่างน้อย 3,768 ราย นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 ส่วนใหญ่เสียชีวิตในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนทางฝั่งอิสราเอล มีทหารเสียชีวิตอย่างน้อย 82 นายและพลเรือน 47 ราย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000113499 .............. Sondhi X
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 390 Views 0 Reviews
  • ไมค์ วอลซ์ บุคคลซึ่งว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เลือกให้เป็นที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของเขา เผยยุทธศาสตร์ของคณะบริหารชุดที่กำลังจะเข้ามารับตำแหน่ง ในการจัดการกับการสู้รบขัดแย้งยูเครน ระบุทีมทรัมป์จะเริ่มต้นดำเนินการเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเจรจากัน ตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับมอบงานในวันที่ 20 ม.ค.ปีหน้า
    .
    วอลซ์ ซึ่งปัจจุบันยังมีตำแหน่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯจากรัฐฟลอริดา ให้สัมภาษณ์ โทรทัศน์ ฟ็อกซ์ นิวส์ เมื่อวันอาทิตย์ (24 พ.ย.) ว่า เรื่องที่มีลำดับความสำคัญสูงเรื่องหนึ่งคือการจัดให้มีการพูดจากันระหว่างรัสเซียกับยูเครน ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะนำทั้งสองฝ่ายเข้ามาร่วมกันเจรจาเพื่อทำข้อตกลงหยุดยิงหรือข้อตกลงสันติภาพ
    .
    “เราจำเป็นต้องหารือกันในเรื่องว่าใครจะเข้ามานั่งในโต๊ะเจรจานี้บ้าง มันจะเป็นการทำข้อตกลง (สันติภาพ) กัน หรือเป็นการตกลงหยุดยิงกัน จะใช้วิธีการยังไงในการทำให้ทั้งสองฝ่ายเข้าสู่โต๊ะเจรจา และจากนั้นก็คือขอบเขตของการทำความตกลงกันครั้งนี้” เขากล่าว
    .
    วอลซ์ยังย้ำถึงความสำคัญของการให้พวกพันธมิตรของอเมริกาในยุโรปเข้ามีส่วนในกระบวนการนี้ “พันธมิตรและหุ้นส่วนของเราทั้งหมดจำเป็นต้องมาแบกรับภารกิจนี้” เขาย้ำ และสำทับว่า การแก้ไขการสู้รบขัดแย้งครั้งนี้ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศ
    .
    ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ย้ำให้สัญญาว่า จะทำให้การสู้รบขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนยุติลงโดยรวดเร็ว และแสดงความกังวลที่สถานการณ์ลุกลาม ทว่าไม่ได้ให้รายละเอียดแผนการที่เขาจะดำเนินการ
    .
    การแสดงความคิดเห็นของ วอลซ์ ครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่กำลังพุ่งสูงขึ้น หลังจากสหรัฐฯอนุมัติให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธยุทธวิธีพิสัยไกล อย่างระบบ อะแทคซิมส์ (ATACMS) โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนหมีขาว และมอสโกตอบโต้ด้วยการยิงระบบขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยปานกลางระบบใหม่ที่ใช้ชื่อว่า “โอเรซนิก” โจมตีใส่ยูเครนในสัปดาห์ที่แล้ว
    .
    วอลซ์ตั้งข้อสังเกตว่า การตัดสินใจเมื่อเร็วๆ นี้ของสหรัฐฯ ซึ่งกระทำโดยคณะบริหารประธานาธิบดีโจ ไบเดน นำไปสู่การสู้รบอย่างดุเดือดรุนแรงขึ้น พร้อมกับพูดถึง สถานการณ์แนวหน้ายูเครนเวลานี้ว่า พวกที่อยู่ที่นั่นเหมือนตกอยู่ใน “เครื่องบดเนื้ออย่างแท้จริง”
    .
    วอลซ์ เป็นนายทหารปฏิบัติการพิเศษหน่วย “กรีน แบเรต์” ของสหรัฐฯที่เกษียณจากกองทัพขณะมียศพันเอก ก่อนหันมาเล่นการเมือง และได้ชื่อว่ามีแนวทางต่างประเทศสายเหยี่ยว เขาแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์รัสเซียมาโดยตลอด ทว่าขณะเดียวกันก็คัดค้านการเพิ่มความช่วยเหลือให้ยูเครนเช่นเดียวกับทรัมป์
    .
    ว่าที่ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯผู้นี้ แสดงความมั่นใจว่า คณะบริหารของทรัมป์จะทำให้การสู้รบขัดแย้งในยูเครนยุติลงอย่างรวดเร็วและอย่างมีความรับผิดชอบ พร้อมกันนั้นก็สำทับว่า อเมริกาต้องฟื้นฟูยกระดับการป้องปรามและสันติภาพ เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้บานปลายขยายตัวในภายหลัง แทนที่จะเพียงแค่แสดงปฏิกิริยาโต้ตอบกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วเท่านั้น
    .
    อย่างไรก็ดี ถึงแม้ทรัมป์แสดงความมุ่งมั่นที่จะยุติการสู้รบในยูเครน แต่ยังมีความเคลือบแคลงทั้งในอเมริกาและรัสเซีย ตัวอย่างเช่น วุฒิสมาชิกไมค์ ราวส์ สังกัดพรรครีพับลิกันจากรัฐเซาท์ดาโคตา ซึ่งออกมาตั้งคำถามเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะมีการเจรจาโดยตรงระหว่างมอสโกกับเคียฟ
    .
    ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ของยูเครน ก็คัดค้านตลอดมาต่อข้อเสนอให้ยูเครนยอมยกดินแดนให้รัสเซีย ถึงแม้เมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้ว เขาได้ยอมรับกับฟ็อกซ์ นิวส์ว่า ยูเครนคงแพ้สงคราม ถ้าวอชิงตันยุติการสนับสนุน
    .
    นอกจากเรื่องยูเครนแล้ว วอลซ์ยังเปิดเผยในการพูดกับฟ็อกซ์ นิวส์คราวนี้ว่า เขาได้มีการหารือกับ เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของไบเดน และเตือนอริต่างชาติว่า อย่าคิดฉวยโอกาสระหว่างการถ่ายโอนอำนาจในสหรัฐฯ พร้อมย้ำว่า ทีมถ่ายโอนอำนาจของทรัมป์และของไบเดนขณะนี้มีการร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด
    .
    วอลซ์ยังยกย่องความเข้มแข็งและความพยายามของอิสราเอลในการทำสงครามกับกลุ่มฮามาสที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตในกาซาไปอย่างน้อยเกือบๆ 45,000 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน และประกาศว่า ถึงเวลาแล้วที่จะร่างแผนการซึ่งไม่เพียงป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยวันที่ 7 ต.ค.ปีที่แล้วที่ฮามาสบุกเข้าไปโจมตีอิสราเอลและจุดชนวนสงครามในกาซา แต่ต้องนำเสถียรภาพมาสู่ตะวันออกกลางอย่างแท้จริง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000113496
    ..............
    Sondhi X
    ไมค์ วอลซ์ บุคคลซึ่งว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เลือกให้เป็นที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของเขา เผยยุทธศาสตร์ของคณะบริหารชุดที่กำลังจะเข้ามารับตำแหน่ง ในการจัดการกับการสู้รบขัดแย้งยูเครน ระบุทีมทรัมป์จะเริ่มต้นดำเนินการเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเจรจากัน ตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับมอบงานในวันที่ 20 ม.ค.ปีหน้า . วอลซ์ ซึ่งปัจจุบันยังมีตำแหน่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯจากรัฐฟลอริดา ให้สัมภาษณ์ โทรทัศน์ ฟ็อกซ์ นิวส์ เมื่อวันอาทิตย์ (24 พ.ย.) ว่า เรื่องที่มีลำดับความสำคัญสูงเรื่องหนึ่งคือการจัดให้มีการพูดจากันระหว่างรัสเซียกับยูเครน ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะนำทั้งสองฝ่ายเข้ามาร่วมกันเจรจาเพื่อทำข้อตกลงหยุดยิงหรือข้อตกลงสันติภาพ . “เราจำเป็นต้องหารือกันในเรื่องว่าใครจะเข้ามานั่งในโต๊ะเจรจานี้บ้าง มันจะเป็นการทำข้อตกลง (สันติภาพ) กัน หรือเป็นการตกลงหยุดยิงกัน จะใช้วิธีการยังไงในการทำให้ทั้งสองฝ่ายเข้าสู่โต๊ะเจรจา และจากนั้นก็คือขอบเขตของการทำความตกลงกันครั้งนี้” เขากล่าว . วอลซ์ยังย้ำถึงความสำคัญของการให้พวกพันธมิตรของอเมริกาในยุโรปเข้ามีส่วนในกระบวนการนี้ “พันธมิตรและหุ้นส่วนของเราทั้งหมดจำเป็นต้องมาแบกรับภารกิจนี้” เขาย้ำ และสำทับว่า การแก้ไขการสู้รบขัดแย้งครั้งนี้ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศ . ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ย้ำให้สัญญาว่า จะทำให้การสู้รบขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนยุติลงโดยรวดเร็ว และแสดงความกังวลที่สถานการณ์ลุกลาม ทว่าไม่ได้ให้รายละเอียดแผนการที่เขาจะดำเนินการ . การแสดงความคิดเห็นของ วอลซ์ ครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่กำลังพุ่งสูงขึ้น หลังจากสหรัฐฯอนุมัติให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธยุทธวิธีพิสัยไกล อย่างระบบ อะแทคซิมส์ (ATACMS) โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนหมีขาว และมอสโกตอบโต้ด้วยการยิงระบบขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยปานกลางระบบใหม่ที่ใช้ชื่อว่า “โอเรซนิก” โจมตีใส่ยูเครนในสัปดาห์ที่แล้ว . วอลซ์ตั้งข้อสังเกตว่า การตัดสินใจเมื่อเร็วๆ นี้ของสหรัฐฯ ซึ่งกระทำโดยคณะบริหารประธานาธิบดีโจ ไบเดน นำไปสู่การสู้รบอย่างดุเดือดรุนแรงขึ้น พร้อมกับพูดถึง สถานการณ์แนวหน้ายูเครนเวลานี้ว่า พวกที่อยู่ที่นั่นเหมือนตกอยู่ใน “เครื่องบดเนื้ออย่างแท้จริง” . วอลซ์ เป็นนายทหารปฏิบัติการพิเศษหน่วย “กรีน แบเรต์” ของสหรัฐฯที่เกษียณจากกองทัพขณะมียศพันเอก ก่อนหันมาเล่นการเมือง และได้ชื่อว่ามีแนวทางต่างประเทศสายเหยี่ยว เขาแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์รัสเซียมาโดยตลอด ทว่าขณะเดียวกันก็คัดค้านการเพิ่มความช่วยเหลือให้ยูเครนเช่นเดียวกับทรัมป์ . ว่าที่ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯผู้นี้ แสดงความมั่นใจว่า คณะบริหารของทรัมป์จะทำให้การสู้รบขัดแย้งในยูเครนยุติลงอย่างรวดเร็วและอย่างมีความรับผิดชอบ พร้อมกันนั้นก็สำทับว่า อเมริกาต้องฟื้นฟูยกระดับการป้องปรามและสันติภาพ เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้บานปลายขยายตัวในภายหลัง แทนที่จะเพียงแค่แสดงปฏิกิริยาโต้ตอบกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วเท่านั้น . อย่างไรก็ดี ถึงแม้ทรัมป์แสดงความมุ่งมั่นที่จะยุติการสู้รบในยูเครน แต่ยังมีความเคลือบแคลงทั้งในอเมริกาและรัสเซีย ตัวอย่างเช่น วุฒิสมาชิกไมค์ ราวส์ สังกัดพรรครีพับลิกันจากรัฐเซาท์ดาโคตา ซึ่งออกมาตั้งคำถามเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะมีการเจรจาโดยตรงระหว่างมอสโกกับเคียฟ . ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ของยูเครน ก็คัดค้านตลอดมาต่อข้อเสนอให้ยูเครนยอมยกดินแดนให้รัสเซีย ถึงแม้เมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้ว เขาได้ยอมรับกับฟ็อกซ์ นิวส์ว่า ยูเครนคงแพ้สงคราม ถ้าวอชิงตันยุติการสนับสนุน . นอกจากเรื่องยูเครนแล้ว วอลซ์ยังเปิดเผยในการพูดกับฟ็อกซ์ นิวส์คราวนี้ว่า เขาได้มีการหารือกับ เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของไบเดน และเตือนอริต่างชาติว่า อย่าคิดฉวยโอกาสระหว่างการถ่ายโอนอำนาจในสหรัฐฯ พร้อมย้ำว่า ทีมถ่ายโอนอำนาจของทรัมป์และของไบเดนขณะนี้มีการร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด . วอลซ์ยังยกย่องความเข้มแข็งและความพยายามของอิสราเอลในการทำสงครามกับกลุ่มฮามาสที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตในกาซาไปอย่างน้อยเกือบๆ 45,000 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน และประกาศว่า ถึงเวลาแล้วที่จะร่างแผนการซึ่งไม่เพียงป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยวันที่ 7 ต.ค.ปีที่แล้วที่ฮามาสบุกเข้าไปโจมตีอิสราเอลและจุดชนวนสงครามในกาซา แต่ต้องนำเสถียรภาพมาสู่ตะวันออกกลางอย่างแท้จริง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000113496 .............. Sondhi X
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 393 Views 0 Reviews
  • ช็อก! ผู้สมัครโปรรัสเซียคว้าชัยชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีโรมาเนียรอบแรก หลังปลุกกระแสต่อต้านนาโต้-ยูเครน

    Calin Georgescu ผู้สมัครอิสระฝ่ายขวาจัดที่สนับสนุนรัสเซีย นำคะแนนอย่างน่าประหลาดใจในการเลือกตั้งประธานาธิบดีโรมาเนียรอบแรก หลังนับคะแนนกว่า 99% ได้ 23% ตามด้วย Elena Lasconi จากพรรคกลางขวา Save Romania Union และนายกรัฐมนตรี Marcel Ciolacu ที่เคยเป็นตัวเต็ง

    ชัยชนะของ Georgescu ที่รณรงค์ผ่าน TikTok ด้วยสโลแกน "คืนศักดิ์ศรีให้ชาติโรมาเนีย" สร้างความประหลาดใจอย่างมาก เพราะโพลก่อนหน้านี้ให้คะแนนเพียง 5% สื่อรัสเซียต้อนรับผลดังกล่าวอย่างอบอุ่น โดยเขาเคยประณามฐานต่อต้านขีปนาวุธนาโตในโรมาเนียว่าเป็น "ความอัปยศ"

    การเลือกตั้งครั้งนี้เน้นประเด็นค่าครองชีพที่พุ่งสูง โดยโรมาเนียมีสัดส่วนประชากรเสี่ยงยากจนสูงสุดในสหภาพยุโรป และความไม่พอใจต่อการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยยูเครน โดย Lasconi มีคะแนนนำ Ciolacu เพียง 2,000 คะแนน และจะเข้าชิงรอบสุดท้ายกับ Georgescu วันที่ 8 ธันวาคม ท่ามกลางความกังวลว่าผู้สนับสนุนพรรคสังคมประชาธิปไตยในชนบทจะไม่ยอมรับแนวคิดเสรีนิยมก้าวหน้าของ Lasconi
    .
    https://www.facebook.com/groups/194174770388504/permalink/375438628928783/
    ช็อก! ผู้สมัครโปรรัสเซียคว้าชัยชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีโรมาเนียรอบแรก หลังปลุกกระแสต่อต้านนาโต้-ยูเครน Calin Georgescu ผู้สมัครอิสระฝ่ายขวาจัดที่สนับสนุนรัสเซีย นำคะแนนอย่างน่าประหลาดใจในการเลือกตั้งประธานาธิบดีโรมาเนียรอบแรก หลังนับคะแนนกว่า 99% ได้ 23% ตามด้วย Elena Lasconi จากพรรคกลางขวา Save Romania Union และนายกรัฐมนตรี Marcel Ciolacu ที่เคยเป็นตัวเต็ง ชัยชนะของ Georgescu ที่รณรงค์ผ่าน TikTok ด้วยสโลแกน "คืนศักดิ์ศรีให้ชาติโรมาเนีย" สร้างความประหลาดใจอย่างมาก เพราะโพลก่อนหน้านี้ให้คะแนนเพียง 5% สื่อรัสเซียต้อนรับผลดังกล่าวอย่างอบอุ่น โดยเขาเคยประณามฐานต่อต้านขีปนาวุธนาโตในโรมาเนียว่าเป็น "ความอัปยศ" การเลือกตั้งครั้งนี้เน้นประเด็นค่าครองชีพที่พุ่งสูง โดยโรมาเนียมีสัดส่วนประชากรเสี่ยงยากจนสูงสุดในสหภาพยุโรป และความไม่พอใจต่อการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยยูเครน โดย Lasconi มีคะแนนนำ Ciolacu เพียง 2,000 คะแนน และจะเข้าชิงรอบสุดท้ายกับ Georgescu วันที่ 8 ธันวาคม ท่ามกลางความกังวลว่าผู้สนับสนุนพรรคสังคมประชาธิปไตยในชนบทจะไม่ยอมรับแนวคิดเสรีนิยมก้าวหน้าของ Lasconi . https://www.facebook.com/groups/194174770388504/permalink/375438628928783/
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 183 Views 0 Reviews
  • เนทันยาฮูมีคำสั่งคว่ำบาตรสำนักข่าว Haaretz หลังจากกล่าวหาอิสราเอลว่าเป็นระบอบที่กระทำการโหดร้ายต่อชาวปาเลสไตน์

    มติการคว่ำบาตรต่อสำนักข่าวดังกล่าวถูกเสนอเข้าในวาระการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอาทิตย์ในนาทีสุดท้าย และได้รับการรับรองจากเนทันยาฮูโดยทันที โดยไม่ได้ผ่านกระบวนการพิจารณาทางกฎหมายตามปกติ

    รายละเอียดของมติการคว่ำบาตรจะมีคำสั่งไปยังทุกองค์กรที่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลอิสราเอล ต้องยุติการติดต่อกับสำนักข่าว Haaretz โดยทันที และจะต้องถอนโฆษณาออกจากหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวด้วย

    เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลเนทันยาฮูออกมาเปิดเผยว่า การตัดสินใจดังกล่าวเกิดจาก "บทความจำนวนมากที่ต่อต้านต่อความชอบธรรมของอิสราเอลจากคำสั่งการของเนทันยาฮูในการกระทำที่กำลังปกป้องสิทธิในการป้องกันตนเองจากฮามาส นอกจากนี้ อามอส ช็อคเกน ผู้บริหารของ Haaretz ยังไปพูดในลอนดอนเพื่อสนับสนุนปาเลสไตน์ และยังเรียกร้องให้คว่ำบาตรอิสราเอลอีกด้วย" ทำให้ความอดทนของอิสราเอลสิ้นสุดลง

    สำนักข่าว Haaretz ได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้ทันทีเมื่อวันอาทิตย์ว่า "มติคว่ำบาตรดังกล่าว เป็นการฉวยโอกาสโดยไม่มีการตรวจสอบทางกฎหมายใดๆ ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งในเส้นทางของเนทันยาฮูที่กำลังทำลายล้างประชาธิปไตยของอิสราเอล เนทันยาฮูกำลังพยายามปิดปากหนังสือพิมพ์อิสระที่มีสิทธิวิพากษ์วิจารณ์ได้"

    ก่อนหน้านี้ เนทันยาฮูมีคำสั่งปิดสำนักข่าว อัล จาซีรา ไปแล้วจากข้อกล่าวหาที่คล้ายกัน

    ต่อมามีการออกกฎหมายุติการดำเนินกิจกรรมของ UNRWA ทำให้องค์กรนี้รวมทั้งเจ้าหน้าที่ไม่มีกฎหมายรองรับการทำงานในพื้นที่ปกครองของอิสราเอลอีกต่อไป

    การกระทำของอิสราเอลในลักษณะนี้ไม่เคยถูกประณามจากสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส หรือแม้แต่เยอรมัน แต่อย่างใด
    เนทันยาฮูมีคำสั่งคว่ำบาตรสำนักข่าว Haaretz หลังจากกล่าวหาอิสราเอลว่าเป็นระบอบที่กระทำการโหดร้ายต่อชาวปาเลสไตน์ มติการคว่ำบาตรต่อสำนักข่าวดังกล่าวถูกเสนอเข้าในวาระการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอาทิตย์ในนาทีสุดท้าย และได้รับการรับรองจากเนทันยาฮูโดยทันที โดยไม่ได้ผ่านกระบวนการพิจารณาทางกฎหมายตามปกติ รายละเอียดของมติการคว่ำบาตรจะมีคำสั่งไปยังทุกองค์กรที่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลอิสราเอล ต้องยุติการติดต่อกับสำนักข่าว Haaretz โดยทันที และจะต้องถอนโฆษณาออกจากหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวด้วย เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลเนทันยาฮูออกมาเปิดเผยว่า การตัดสินใจดังกล่าวเกิดจาก "บทความจำนวนมากที่ต่อต้านต่อความชอบธรรมของอิสราเอลจากคำสั่งการของเนทันยาฮูในการกระทำที่กำลังปกป้องสิทธิในการป้องกันตนเองจากฮามาส นอกจากนี้ อามอส ช็อคเกน ผู้บริหารของ Haaretz ยังไปพูดในลอนดอนเพื่อสนับสนุนปาเลสไตน์ และยังเรียกร้องให้คว่ำบาตรอิสราเอลอีกด้วย" ทำให้ความอดทนของอิสราเอลสิ้นสุดลง สำนักข่าว Haaretz ได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้ทันทีเมื่อวันอาทิตย์ว่า "มติคว่ำบาตรดังกล่าว เป็นการฉวยโอกาสโดยไม่มีการตรวจสอบทางกฎหมายใดๆ ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งในเส้นทางของเนทันยาฮูที่กำลังทำลายล้างประชาธิปไตยของอิสราเอล เนทันยาฮูกำลังพยายามปิดปากหนังสือพิมพ์อิสระที่มีสิทธิวิพากษ์วิจารณ์ได้" ก่อนหน้านี้ เนทันยาฮูมีคำสั่งปิดสำนักข่าว อัล จาซีรา ไปแล้วจากข้อกล่าวหาที่คล้ายกัน ต่อมามีการออกกฎหมายุติการดำเนินกิจกรรมของ UNRWA ทำให้องค์กรนี้รวมทั้งเจ้าหน้าที่ไม่มีกฎหมายรองรับการทำงานในพื้นที่ปกครองของอิสราเอลอีกต่อไป การกระทำของอิสราเอลในลักษณะนี้ไม่เคยถูกประณามจากสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส หรือแม้แต่เยอรมัน แต่อย่างใด
    0 Comments 0 Shares 243 Views 0 Reviews
  • #เล่นกันหนุกๆ
    แฟนเพจคิดว่า เจี๊ยบแพ้ก็ไม่รู้สึกเสียหน้านั้น
    ท่านเชื่อหรือไม่
    เชื่อ กด 1
    ไม่เชื่อ กด 2
    ไม่เคยเชื่อ กด 3
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    #เล่นกันหนุกๆ แฟนเพจคิดว่า เจี๊ยบแพ้ก็ไม่รู้สึกเสียหน้านั้น ท่านเชื่อหรือไม่ เชื่อ กด 1 ไม่เชื่อ กด 2 ไม่เคยเชื่อ กด 3 #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 226 Views 0 Reviews
  • สหรัฐฯจะปรับยุทธศาสตร์ป้องปรามทางนิวเคลียร์ของตนเอง เพื่อรับมือกับความเป็นไปได้ของภัยคุกคามต่างๆนานาจากรัสเซียและจีน อ้างอิงรายงานฉบับหนึ่งของเพนตากอน
    .
    ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ในวันพฤหัสบดีที่แล้ว(21พ.ย.) กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯะบุว่า "พวกศัตรูที่ทัดเทียมทางนิวเคลียร์หลายชาติ ท้าทายความมั่นคงของสหรัฐฯ พันธมิตรและคู่หู" พร้อมระบุประเทศเหล่านี้กำลังยกระดับคลังแสงให้เติบโตขึ้นเรื่อยๆและกำลังปรับปรุงให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น
    .
    ริชาร์ด จอห์นสัน รองผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหม ชี้เป้าที่ไปรัสเซียและจีน พร้อมเน้นว่าบางทีสหรัฐฯอาจจำเป็นต้องปรับแก้ Nuclear Posture Review ปี 2022 เพื่อธำรงไว้ซึ่งการป้องปรามทางนิวเคลียร์ อย่างไรก็ตามเขาเน้นว่าความพยายามปรับปรุงทางนิวเคลียร์ให้มีความทันสมัยมากขึ้น อาจจะไม่เพียงพอ
    .
    จอห์นสัน กล่าวถึงความกังวลเหล่านี้ โดยชี้ว่า "เพนตากอนได้ใช้ก้าวย่างต่างๆนานา ในการยกระดับความสามารถในภาคสนามในการเสริมการป้องปรามและความยืดหยุ่นทางนิวเคลียร์" ซึ่งองค์ประกอบหลักของมาตรการนี้ก็คือ การประจำการระเบิดแรงโน้มถ่วง B61-13 เพิ่มความพร้อมของอาวุธนิวเคลียร์และยกระดับแสนยานุภาพของกองเรือดำน้ำชั้นโอไฮโอ
    .
    ก่อนหน้านี้เพนตากอนแถลงประจำการระเบิด B61 รุ่นใหม่เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว และบอกว่ามันจะเข้ามาแทนที่เวอร์ชันเก่าบางรุ่น และมอบทางเลือกต่างๆเพิ่มเติมแก่สหรัฐฯในการจัดการกับเป้าหมายทางทหารในพื้นที่ขนาดใหญ่และยากลำบากกว่าเดิม อย่างไรก็ตามวอชิงตันเน้นย้ำว่าการประจำการ B61-13 ไม่ใช่การตอบสนองต่อสถานการณ์ใดๆในปัจจุบัน และจะไม่เป็นการเพิ่มสต๊อกนิวเคลียร์ในภาพรวม
    .
    เรือดำน้ำชั้นโอไฮโอ คือองค์ประกอบหลักของ "สามเหล่านิวเคลียร์(nuclear triad)" ของสหรัฐฯ และออกแบบมาเฉพาะเจาะจงสำหรับป้องปรามทางนิวเคลียร์ ทั้งนี้เรือดำน้ำชั้นโอไฮโอ สามารถติดขีปนาวุธไทรแดนท์ ที่มีพิสัยทำการสูงสุด 12,000 กิโลเมตร
    .
    ความเห็นของ จอห์นสัน มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ออกคำสั่งให้ปรับแก้หลักการนิวเคลียร์ของประเทศเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายน เอกสารที่มีการปรับแก้นั้นกำหนดให้ "การรุกรานเล่นงานสหพันธรัฐรัสเซียและ/หรือชาติพันธมิตร โดยรัฐหนึ่งที่ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง แต่ดำเนินการภายใต้การมีส่วนร่วมหรือสนับสนุนจากประเทศที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ จะถูกมองในฐานะเป็นการโจมตีร่วม"
    .
    ปูติน อนุมัติการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวในวันที่ 19 พฤศจิกายน หลังจากสหรัฐฯและบรรดาพันธมิตรตะวันตกหลายชาติของอเมริกา ไฟเขียวให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลที่จัดหาให้ โจมตีลึกเข้ามาในดินแดนรัสเซีย แม้มอสโกเคยเตือนว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะทำให้ความขัดแย้งลุกลามบานปลาย และผลก็คือเป็นการลากนาโตเข้าร่วมความขัดแย้งโดยตรง
    .
    ก่อนหน้านี้ในสัปดาห์ที่แล้วเช่นกัน รัสเซียปฏิบัติการโจมตียูเครน ด้วยการใช้ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกพิสัยปานกลางล่าสุด Oreshnik พร้อมระบุมันเป็นการตอบโต้การโจมตีข้ามชายแดนของเคียฟ ที่ใช้ระบบ ATACMS และ HIMARS ที่ผลิตโดยสหรัฐฯ เช่นเดียวกับขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์ ที่ผลิตโดยสหราชอาณาจักร
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000113055
    ..............
    Sondhi X
    สหรัฐฯจะปรับยุทธศาสตร์ป้องปรามทางนิวเคลียร์ของตนเอง เพื่อรับมือกับความเป็นไปได้ของภัยคุกคามต่างๆนานาจากรัสเซียและจีน อ้างอิงรายงานฉบับหนึ่งของเพนตากอน . ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ในวันพฤหัสบดีที่แล้ว(21พ.ย.) กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯะบุว่า "พวกศัตรูที่ทัดเทียมทางนิวเคลียร์หลายชาติ ท้าทายความมั่นคงของสหรัฐฯ พันธมิตรและคู่หู" พร้อมระบุประเทศเหล่านี้กำลังยกระดับคลังแสงให้เติบโตขึ้นเรื่อยๆและกำลังปรับปรุงให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น . ริชาร์ด จอห์นสัน รองผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหม ชี้เป้าที่ไปรัสเซียและจีน พร้อมเน้นว่าบางทีสหรัฐฯอาจจำเป็นต้องปรับแก้ Nuclear Posture Review ปี 2022 เพื่อธำรงไว้ซึ่งการป้องปรามทางนิวเคลียร์ อย่างไรก็ตามเขาเน้นว่าความพยายามปรับปรุงทางนิวเคลียร์ให้มีความทันสมัยมากขึ้น อาจจะไม่เพียงพอ . จอห์นสัน กล่าวถึงความกังวลเหล่านี้ โดยชี้ว่า "เพนตากอนได้ใช้ก้าวย่างต่างๆนานา ในการยกระดับความสามารถในภาคสนามในการเสริมการป้องปรามและความยืดหยุ่นทางนิวเคลียร์" ซึ่งองค์ประกอบหลักของมาตรการนี้ก็คือ การประจำการระเบิดแรงโน้มถ่วง B61-13 เพิ่มความพร้อมของอาวุธนิวเคลียร์และยกระดับแสนยานุภาพของกองเรือดำน้ำชั้นโอไฮโอ . ก่อนหน้านี้เพนตากอนแถลงประจำการระเบิด B61 รุ่นใหม่เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว และบอกว่ามันจะเข้ามาแทนที่เวอร์ชันเก่าบางรุ่น และมอบทางเลือกต่างๆเพิ่มเติมแก่สหรัฐฯในการจัดการกับเป้าหมายทางทหารในพื้นที่ขนาดใหญ่และยากลำบากกว่าเดิม อย่างไรก็ตามวอชิงตันเน้นย้ำว่าการประจำการ B61-13 ไม่ใช่การตอบสนองต่อสถานการณ์ใดๆในปัจจุบัน และจะไม่เป็นการเพิ่มสต๊อกนิวเคลียร์ในภาพรวม . เรือดำน้ำชั้นโอไฮโอ คือองค์ประกอบหลักของ "สามเหล่านิวเคลียร์(nuclear triad)" ของสหรัฐฯ และออกแบบมาเฉพาะเจาะจงสำหรับป้องปรามทางนิวเคลียร์ ทั้งนี้เรือดำน้ำชั้นโอไฮโอ สามารถติดขีปนาวุธไทรแดนท์ ที่มีพิสัยทำการสูงสุด 12,000 กิโลเมตร . ความเห็นของ จอห์นสัน มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ออกคำสั่งให้ปรับแก้หลักการนิวเคลียร์ของประเทศเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายน เอกสารที่มีการปรับแก้นั้นกำหนดให้ "การรุกรานเล่นงานสหพันธรัฐรัสเซียและ/หรือชาติพันธมิตร โดยรัฐหนึ่งที่ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง แต่ดำเนินการภายใต้การมีส่วนร่วมหรือสนับสนุนจากประเทศที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ จะถูกมองในฐานะเป็นการโจมตีร่วม" . ปูติน อนุมัติการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวในวันที่ 19 พฤศจิกายน หลังจากสหรัฐฯและบรรดาพันธมิตรตะวันตกหลายชาติของอเมริกา ไฟเขียวให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลที่จัดหาให้ โจมตีลึกเข้ามาในดินแดนรัสเซีย แม้มอสโกเคยเตือนว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะทำให้ความขัดแย้งลุกลามบานปลาย และผลก็คือเป็นการลากนาโตเข้าร่วมความขัดแย้งโดยตรง . ก่อนหน้านี้ในสัปดาห์ที่แล้วเช่นกัน รัสเซียปฏิบัติการโจมตียูเครน ด้วยการใช้ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกพิสัยปานกลางล่าสุด Oreshnik พร้อมระบุมันเป็นการตอบโต้การโจมตีข้ามชายแดนของเคียฟ ที่ใช้ระบบ ATACMS และ HIMARS ที่ผลิตโดยสหรัฐฯ เช่นเดียวกับขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์ ที่ผลิตโดยสหราชอาณาจักร . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000113055 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Sad
    8
    0 Comments 0 Shares 658 Views 0 Reviews
  • อิสราเอลถล่มป้อมปราการของพวกฮิซบอลเลาะห์ทางใต้ของกรุงเบรุต ขณะที่สื่อมวลชนเลบานอนรายงานเกี่ยวกับการสู้รบอันดุเดือดตามแนวชายแดน และทางกองทัพอิสราเอลระบุว่าพวกติดอาวุธกลุ่มนี้ยิงจรวดราว 250 ลูก เข้าใส่ดินแดนของพวกเขา
    .
    การยิงปะทะหนักหน่วงมีขึ้นแม้ว่ามีเสียงเรียกร้องจาก โจเซฟ บอร์เรล หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป ที่เดินทางเยือนเลบานอนในวันอาทิตย์ (24 พ.ย.) ให้หยุดสู้รบในทันที
    .
    กองทัพอิสราเอลระบุว่าพวกฮิซบอลเลาะห์ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ยิงจรวดราว 250 ลูก เข้าใส่อิสราเอล ตลอดวันอาทิตย์ (24 พ.ย.) ถือเป็นหนึ่งในการยิงจรวดมากที่สุดในรอบ 1 วัน นับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น โดยก่อนหน้านี้ ฮิซบอลเลาะห์ เคยยิงจรวด 350 ลูก ออกมาจากเลบานอน เข้าใส่ อิสราเอล เมื่อวันที่ 24 กันยายน
    .
    การยิงตอบโต้อย่างดุเดือดมีขึ้นหลังจากอิสราเอลยกระดับโจมตีทางอากาสเล่นงานฮิซบอลเลาะห์ ความเคลื่อนไหวที่กำลังแปรเปลี่ยนการสู้รบอย่างจำกัดที่ลากยาวมาเกือบ 1 ปี เข้าสู่สงครามเต็มรูปแบบ ขณะที่การสู้รบระหว่าง 2 ฝ่าย มีจุดเริ่มต้นจากการที่กลุ่มติดอาวุธเลบานอน เปิดฉากยิงเข้าใส่อิสราเอล เพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับพวกนักรบปาเลสไตน์ฮามาส
    .
    รายงานของเอเอฟพีระบุว่า จรวดบางส่วนที่พวกฮิซบอลเลาะห์ยิงออกมา ถูกสกัดไว้ได้โดยระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิสราเอล แต่มีบางส่วนที่ก่อความเสียหายแก่บ้านเรือนย่านในกลางอิสราเอลเช่นกัน
    .
    ในเลบานอน หนึ่งวันหลังจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล สังหารผู้คน 84 ราย รายงานข่าวระบุว่าอิสราเอลได้โจมตีป้อมปราการของพวกฮิซบอลเลาะห์อีกรอบ ในย่านต่างๆ ทางใต้ของกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน
    .
    ท่ามกลางปฏิบัติการโจมตีนองเลือดย่านใจกลางกรุงเบรุตตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาและในวันอาทิตย์ (24 พ.ย.) ทางเลบานอนเปิดเผยว่าจะระงับการเรียนการสอนตามโรงเรียนต่างๆ ในพื้นที่เมืองหลวง ไปจนถึงเดือนกันยายน สืบเนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัย
    .
    นับตั้งแต่วันที่เดือนตุลาคม 2023 ความขัดแย้งได้สังหารผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 3,754 คน ส่วนฝั่งอิสราเอล พวกเจ้าหน้าที่เผยว่ามีทหารอย่างน้อย 82 ราย และพลเรือน 47 คนเสียชีวิต
    .
    ก่อนหน้าเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ อามอส ฮอชสไตน์ ทูตพิเศษสหรัฐฯ ระบุในเลบานอน ว่าข้อตกลงหยุดยิงหนึ่งๆ "อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม" และจากนั้นก็มุ่งหน้าสู่อิสราเอล เพื่อเจรจากับพวกเจ้าหน้าที่ที่นั่น
    .
    ในเมืองหลวงของอิสราเอล บอร์เรล พูดคุยกับ นาบิห์ เบอร์รี ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผู้ซึ่งเป็นแกนนำความพยายามเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยในนามของฮิซบอลเลาะห์ พันธมิตรของเขา
    .
    "เราเห็นเพียงหนทางที่เป็นไปได้หนทางเดียวข้างหน้า นั่นคือข้อตกลงหยุดยิง และบังคับใช้มติ 1701 ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเต็มรูปแบบ" บอร์เรลระบุ "เลบานอนกำลังอยู่บนขอบเขตแห่งการล่มสลาย"
    .
    ภายใต้มติ 1701 ซึ่งยุติสงครามฮิซบอลเลาะห์-อิสราเอลหนสุดท้ายในปี 2006 ทหารเลบานอนและกองกำลังรักษาสันติภาพสหประชาชาติ ควรเป็นกองกำลังติดอาวุธเดียวที่ประจำการอยู่ในพื้นที่ชายแดนทางใต้ นอกจากนี้ มติดังกล่าวยังเรียกร้องให้อิสราเอลถอนทหารออกจากเลบานอน และเน้นย้ำเสียงเรียกร้องก่อนหน้านั้น "สำหรับปลดอาวุธพวกกลุ่มติดอาวุธทั้งหมดในเลบานอน"
    .
    ในวันอาทิตย์ (24 พ.ย.) ฮิซบอลเลาะห์ บอกว่าพวกเขาเปิดปฏิบัติการโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรน โดยตรงเข้าใส่ฐานทัพเรืออัชดอด ทางใต้ของอิสราเอล หนึ่งในเป้าหมายที่อยู่ลึกที่สุดจนถึงตอนนี้ เช่นเดียวกับที่ตั้งทางทหารต่างๆ ในพื้นที่ตอนกลางของเทลอาวีฟ
    .
    กองทัพอิสราเอล ไม่แสดงความคิดเห็นอย่างเจาะจง แต่ก่อนหน้านี้พวกเขาเผยว่าเสียงไซเรนเตือนภัยโจมตีทางอากาศดังระงมในหลายพื้นที่ ในย่านชานเมืองเทลอาวีฟ ในขณะที่บรรดาหน่วยงานด้านการแพทย์รายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 11 คน ในอิสราเอล
    .
    สมาคมเสี้ยววงเดือนแดงปาเลสไตน์ เปิดเผยว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 13 ราย ในเขตยึดครองเวสต์แบงก์ จากการร่วงหล่นลงมาของเศษซากขีปนาวุธที่ถูกสกัด
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000113053
    ..............
    Sondhi X
    อิสราเอลถล่มป้อมปราการของพวกฮิซบอลเลาะห์ทางใต้ของกรุงเบรุต ขณะที่สื่อมวลชนเลบานอนรายงานเกี่ยวกับการสู้รบอันดุเดือดตามแนวชายแดน และทางกองทัพอิสราเอลระบุว่าพวกติดอาวุธกลุ่มนี้ยิงจรวดราว 250 ลูก เข้าใส่ดินแดนของพวกเขา . การยิงปะทะหนักหน่วงมีขึ้นแม้ว่ามีเสียงเรียกร้องจาก โจเซฟ บอร์เรล หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป ที่เดินทางเยือนเลบานอนในวันอาทิตย์ (24 พ.ย.) ให้หยุดสู้รบในทันที . กองทัพอิสราเอลระบุว่าพวกฮิซบอลเลาะห์ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ยิงจรวดราว 250 ลูก เข้าใส่อิสราเอล ตลอดวันอาทิตย์ (24 พ.ย.) ถือเป็นหนึ่งในการยิงจรวดมากที่สุดในรอบ 1 วัน นับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น โดยก่อนหน้านี้ ฮิซบอลเลาะห์ เคยยิงจรวด 350 ลูก ออกมาจากเลบานอน เข้าใส่ อิสราเอล เมื่อวันที่ 24 กันยายน . การยิงตอบโต้อย่างดุเดือดมีขึ้นหลังจากอิสราเอลยกระดับโจมตีทางอากาสเล่นงานฮิซบอลเลาะห์ ความเคลื่อนไหวที่กำลังแปรเปลี่ยนการสู้รบอย่างจำกัดที่ลากยาวมาเกือบ 1 ปี เข้าสู่สงครามเต็มรูปแบบ ขณะที่การสู้รบระหว่าง 2 ฝ่าย มีจุดเริ่มต้นจากการที่กลุ่มติดอาวุธเลบานอน เปิดฉากยิงเข้าใส่อิสราเอล เพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับพวกนักรบปาเลสไตน์ฮามาส . รายงานของเอเอฟพีระบุว่า จรวดบางส่วนที่พวกฮิซบอลเลาะห์ยิงออกมา ถูกสกัดไว้ได้โดยระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิสราเอล แต่มีบางส่วนที่ก่อความเสียหายแก่บ้านเรือนย่านในกลางอิสราเอลเช่นกัน . ในเลบานอน หนึ่งวันหลังจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล สังหารผู้คน 84 ราย รายงานข่าวระบุว่าอิสราเอลได้โจมตีป้อมปราการของพวกฮิซบอลเลาะห์อีกรอบ ในย่านต่างๆ ทางใต้ของกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน . ท่ามกลางปฏิบัติการโจมตีนองเลือดย่านใจกลางกรุงเบรุตตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาและในวันอาทิตย์ (24 พ.ย.) ทางเลบานอนเปิดเผยว่าจะระงับการเรียนการสอนตามโรงเรียนต่างๆ ในพื้นที่เมืองหลวง ไปจนถึงเดือนกันยายน สืบเนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัย . นับตั้งแต่วันที่เดือนตุลาคม 2023 ความขัดแย้งได้สังหารผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 3,754 คน ส่วนฝั่งอิสราเอล พวกเจ้าหน้าที่เผยว่ามีทหารอย่างน้อย 82 ราย และพลเรือน 47 คนเสียชีวิต . ก่อนหน้าเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ อามอส ฮอชสไตน์ ทูตพิเศษสหรัฐฯ ระบุในเลบานอน ว่าข้อตกลงหยุดยิงหนึ่งๆ "อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม" และจากนั้นก็มุ่งหน้าสู่อิสราเอล เพื่อเจรจากับพวกเจ้าหน้าที่ที่นั่น . ในเมืองหลวงของอิสราเอล บอร์เรล พูดคุยกับ นาบิห์ เบอร์รี ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผู้ซึ่งเป็นแกนนำความพยายามเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยในนามของฮิซบอลเลาะห์ พันธมิตรของเขา . "เราเห็นเพียงหนทางที่เป็นไปได้หนทางเดียวข้างหน้า นั่นคือข้อตกลงหยุดยิง และบังคับใช้มติ 1701 ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเต็มรูปแบบ" บอร์เรลระบุ "เลบานอนกำลังอยู่บนขอบเขตแห่งการล่มสลาย" . ภายใต้มติ 1701 ซึ่งยุติสงครามฮิซบอลเลาะห์-อิสราเอลหนสุดท้ายในปี 2006 ทหารเลบานอนและกองกำลังรักษาสันติภาพสหประชาชาติ ควรเป็นกองกำลังติดอาวุธเดียวที่ประจำการอยู่ในพื้นที่ชายแดนทางใต้ นอกจากนี้ มติดังกล่าวยังเรียกร้องให้อิสราเอลถอนทหารออกจากเลบานอน และเน้นย้ำเสียงเรียกร้องก่อนหน้านั้น "สำหรับปลดอาวุธพวกกลุ่มติดอาวุธทั้งหมดในเลบานอน" . ในวันอาทิตย์ (24 พ.ย.) ฮิซบอลเลาะห์ บอกว่าพวกเขาเปิดปฏิบัติการโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรน โดยตรงเข้าใส่ฐานทัพเรืออัชดอด ทางใต้ของอิสราเอล หนึ่งในเป้าหมายที่อยู่ลึกที่สุดจนถึงตอนนี้ เช่นเดียวกับที่ตั้งทางทหารต่างๆ ในพื้นที่ตอนกลางของเทลอาวีฟ . กองทัพอิสราเอล ไม่แสดงความคิดเห็นอย่างเจาะจง แต่ก่อนหน้านี้พวกเขาเผยว่าเสียงไซเรนเตือนภัยโจมตีทางอากาศดังระงมในหลายพื้นที่ ในย่านชานเมืองเทลอาวีฟ ในขณะที่บรรดาหน่วยงานด้านการแพทย์รายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 11 คน ในอิสราเอล . สมาคมเสี้ยววงเดือนแดงปาเลสไตน์ เปิดเผยว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 13 ราย ในเขตยึดครองเวสต์แบงก์ จากการร่วงหล่นลงมาของเศษซากขีปนาวุธที่ถูกสกัด . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000113053 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    5
    0 Comments 0 Shares 647 Views 0 Reviews
  • น่าน - ชุดเฉพาะกิจ ตชด.สนธิกำลัง รวบหนุ่มใหญ่ 45 ปี ลักลอบขนไม้ชิงชันปิดอำพรางไม่รอด

    https://youtu.be/JOWidIuIi78
    น่าน - ชุดเฉพาะกิจ ตชด.สนธิกำลัง รวบหนุ่มใหญ่ 45 ปี ลักลอบขนไม้ชิงชันปิดอำพรางไม่รอด https://youtu.be/JOWidIuIi78
    0 Comments 0 Shares 95 Views 0 Reviews
  • ถอดรหัส The World Ahead 2025 !!!- มาแล้วนะครับ สำหรับหน้าปกสำคัญของ The Economist “The World Ahead 2025” เรียกง่ายๆว่า เป็นการ สปอยแผนการณ์ จากท่านลอร์ด ที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า นั่นเอง ว่าจะมีเรื่องอะไร เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ !!!- แอด และ สมาชิกกลุ่มลับ ช่วยกันแกะมาคร่าวๆ ประมาณนี้ครับ เก่งกันทุกคนแล้วนะครับ สมาชิกกลุ่มลับ นิวเวิลด์ออเดอร์ !!!#เพจนิวเวิลด์ออเดอร์- มามองภาพรวมกันก่อนครับ หน้าปกนี้เราจะเห็นเป็นหน้าคนเลย มีตา 2 ข้าง มี จมูก มีปาก ครบเลยนะครับ คราวนี้เรา ลองขีดกลาง แบ่งเป็น 2 ฝั่ง !!!- ตาข้างซ้าย มีสัญลักษณ์ ของ นิวเคลียร์ ฝั่งนี้จะมีภาพของ ประธาน EU ”Aursula Fon Dair Lien“ และ มีภาพของ “Volodymyr Zelenskyy” ปธน.ยูเครน อาจจะตีความได้ว่า ทั้ง EU และ Ukraine อาจจะเตรียมโดน “นิวเคลียร์” ในปีหน้านั้นเอง !!!!- ตาฝั่งขวา เป็นดวงตาที่เราคุ้นเคย ดวงตา “All seeing eye” หรือ ดวงตา illuminati ฝั่งนี้มีภาพของ ปธน. “Xi Jinping” และ “Putin” ยังมีรูป นาฬิกาทราย อยู่ใกล้ๆด้วย ตรงนี้ อาจนะตีความได้ว่า ท่านลอร์ด ได้ย้ายขั้วอำนาจของตัวเอง มาไว้ที่ฝั่งนี้เรียบร้อย นาฬิกาทราย ด้านบนเต็มเปี่ยม แปลว่า “เริ่มนับหนึ่ง” ใหม่ของ “New World Order” ครั้งถัดไปนั่นเอง !!!!- ตรงกลาง เป็นภาพของ ปธน. Trump ที่อยู่ข้าง ขีปนาวุธ อาจจะแปลได้ว่า เมกาก็ยังได้ผลประโยชน์ จากการค้าอาวุธให้ทั้ง 2 ฝั่งนั่นเอง หรือ ขีปนาวุธ ของ อเมริกาลูกนี้ จะเป็น ชนวน สำคัญ ทำให้เกิด “WW3” ตามข่าวที่ Biden อนุมิตัให้ ยูเครนใช้ ขีปนาวุธ ของ อเมริกา ในการโจมตีรัสเซีย !!!!- คราวนี้เราลองมา ตีความ ภาพย่อย สำคัญๆ ที่เหลือทีละรูปกันดีกว่า เนื่องจากภาพเยอะ จะเรียงจากบนลงล่าง และ ซ้ายไปขวา นะครับ - ภาพดาวเสาร์ สื่อถึง เทพ “Baal” แบบชัดเจน แปลว่าจะต้องมีการ บูชา สังเวยชีวิตเพิ่มขึ้นในปีหน้า เพื่อความอุดมสมบูรณ์ !!!! และ ภาพ ดาวเสาร์ ยังเคยปรากฏ อยู่บนหน้าปกในตำนานของ The Economist หน้าปก “Phoenix” อีกด้วย เป็นสัญลักษณ์ ของ สกุลเงินใหม่ นั่นเอง !!!! (ภาพประกอบในคอมเม้น) - รูปดวงอาทิตย์ ที่มีเปลว สุริยะ “Solar Flare” เหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้และ น่าจะยังคงเกิด อยู่ในปีหน้า เพื่อล้างสมอง ให้คนเชื่อว่า เพราะ “Solar Flare” ที่ระเบิด ออกมานี่หละจะส่งผลให้ ไฟดับ ระบบสื่อสาร ใช้งานไม่ได้ ในขณะที่ ฉากหลัง อาจจะจัดการให้เรื่องเหล่านี้ เกิดขึ้นโดยการใช้ ”EMP” นั่นเอง !!!- ภาพเมือง ที่ดูเป็น ดึก สีดำ ไม่มีแสงจากหน้าต่าง มโนว่า น่าจะเป็น การแจ้งเตือน “Cyber Attack” ที่อาจจะเกิดขึ้น จากภาพข้างๆกัน ผลงานจาก “EMP” !!!!- ภาพ เฮีย Xi ซ้อนอยู่กับ รหัส 0-1 เลขฐาน 2 ของ คอมพิวเตอร์ น่าจะหมายถึง จีนจะกลายเป็นผู้นำ ทาง เทคโนโลยี ดิจิตอล ไม่ว่าจะเป็นเงินดิจิตอล “CBDC” หรือ เมืองอัจฉริยะ “Smart City” นั่นเอง !!! - ภาพหีบเลือกตั้ง ที่มีรอยร้าว อาจจะหมายถึง การเลือกตั้ง อเมริกาที่ผ่านมา แปลได้ว่า Trump อาจจะอยู่ไม่ครบสมัย หรือ อาจจะไม่ได้เป็น ปธน. เลย !!! หรือ การเลือกตั้งครั้งนี้ อาจจะเป็น จุดเริ่มต้นของ รอยร้าว ความแตกแยก ใน อเมริกา “Civil War” นั่นเอง !!!!- ภาพ รถไฟฟ้า เป็นการยืนยันถึง เทรน รถไฟฟ้าที่จะแพร่หลาย มากขึ้นในปีหน้านั่นเอง - ภาพเข็มฉีดยา ติดกับภาพรูปโลก แปลว่าในปีหน้า ก็คงยังมีการ กระหน่ำสร้างความหวาดกลัว เพื่อต้อนคน เข้าไปรับ ยาพิษกันอย่างต่อเนื่อง ทั่วโลกแน่นอน !!! และ ภาพข้างๆกัน เป็นภาพคล้าย ซี่ของลูกกรง อาจ แปลได้ว่า ใน ปีหน้า อาจจะมีการ Lock Down เกิดขึ้นอีก !!!!- ภาพคล้าย โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ อาจจะหมายถึง การใช้นิวเคลียร์ เป็นพลังงานใน อนาคต เพราะตอนนี้ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ กำลังเป็น Trend ใหญ่ของ โลกใบนี้เช่นกัน ดูได้จากบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างๆ ที่กระโดดลงมาเล่นด้วย โดยข้ออ้างว่า เป็นพลังงานสะอาด ยุคใหม่ ของโลกใบนี้นั้นเอง !!!- ภาพ Chip และ ลายแผงวงจร น่าจะสื่อว่าในปีหน้า จะมี ประเด็น เรื่อง Chip ที่จะ ขาดแคลนในปีหน้า สาเหตุ อาจจะเพราะสงคราม การค้า หรือไม่ก็ เพราะ จีน ปิดล้อมไต้หวันนั่นเอง !!!- ภาพ “Jane Austen“ เป็นนักประพันธ์ชาวอังกฤษที่มีผลงานเด่นในแนวเสียดสีสังคม อย่างเรื่อง เด่นของเธอ Pride and Prejudice และเธอยังเป็น ต้นแบบของ “Feminism”อีกด้วย ใบหน้าของ Jane Austen ยังอยู่บนธนบัตร 10 ปอนด์ ของอังกฤษอีกด้วย !!!- ภาพกำปั้น ที่สื่อถึง การปฏิวัติ แปลว่าปีหน้า อาจจะมีการ ปฏิวัติ ที่รุนแรงเกิดขึ้น หรือ อาจจะมี Civil War เกิดขึ้นใน อเมริกา ก็เป็นได้!!!- ภาพสุดท้าย “ดอกเห็ด” ระเบิดนิวเคลียร์ แปลว่า ปีหน้าเราอาจจะได้เห็น การโชว์เคส ใช้ “นิวเคลียร์” ระเบิด ที่ไหน สักแห่ง หรือเปล่า !!!!!- ยังมีภาพเล็กๆน้อยๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสัญลักษณ์ “Dollar” ค่าเงิน “Yuan” และ ภาพ ลูกศร ที่มีทั้ง ชี้ขึ้นและลง ที่ยังตีความไม่ออก - ทั้งหมดนี้คือ การตีความ จาก แอด และ สมาชิกกลุ่มลับนะครับ ถัาทั้งหมด บนหน้าปกนี้ เกิดขึ้นจริง ก็แปลว่า ปีหน้า โลกใบนี้ ก็คงจะเดือด เป็นปีที่แสนโหดร้ายอีกปีหละครับ ถ้าใครตีความอะไรเพิ่มได้ Comment บอกกันมาได้นะครับ !!!** ใครอยาก แกะ ถอดรหัส เก่ง เป็นสุดยอด มนุษย์สบคบคิด เหมือนสมาชิกกลุ่มลับ ตอนนี้ เตรียมตัวให้พร้อม เปิดรับสมัคร กลุ่มลับ นิวเวิลด์ออเดอร์ ศุกร์ที่ “13” ธ.ค. ครับ **
    ถอดรหัส The World Ahead 2025 !!!- มาแล้วนะครับ สำหรับหน้าปกสำคัญของ The Economist “The World Ahead 2025” เรียกง่ายๆว่า เป็นการ สปอยแผนการณ์ จากท่านลอร์ด ที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า นั่นเอง ว่าจะมีเรื่องอะไร เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ !!!- แอด และ สมาชิกกลุ่มลับ ช่วยกันแกะมาคร่าวๆ ประมาณนี้ครับ เก่งกันทุกคนแล้วนะครับ สมาชิกกลุ่มลับ นิวเวิลด์ออเดอร์ !!!#เพจนิวเวิลด์ออเดอร์- มามองภาพรวมกันก่อนครับ หน้าปกนี้เราจะเห็นเป็นหน้าคนเลย มีตา 2 ข้าง มี จมูก มีปาก ครบเลยนะครับ คราวนี้เรา ลองขีดกลาง แบ่งเป็น 2 ฝั่ง !!!- ตาข้างซ้าย มีสัญลักษณ์ ของ นิวเคลียร์ ฝั่งนี้จะมีภาพของ ประธาน EU ”Aursula Fon Dair Lien“ และ มีภาพของ “Volodymyr Zelenskyy” ปธน.ยูเครน อาจจะตีความได้ว่า ทั้ง EU และ Ukraine อาจจะเตรียมโดน “นิวเคลียร์” ในปีหน้านั้นเอง !!!!- ตาฝั่งขวา เป็นดวงตาที่เราคุ้นเคย ดวงตา “All seeing eye” หรือ ดวงตา illuminati ฝั่งนี้มีภาพของ ปธน. “Xi Jinping” และ “Putin” ยังมีรูป นาฬิกาทราย อยู่ใกล้ๆด้วย ตรงนี้ อาจนะตีความได้ว่า ท่านลอร์ด ได้ย้ายขั้วอำนาจของตัวเอง มาไว้ที่ฝั่งนี้เรียบร้อย นาฬิกาทราย ด้านบนเต็มเปี่ยม แปลว่า “เริ่มนับหนึ่ง” ใหม่ของ “New World Order” ครั้งถัดไปนั่นเอง !!!!- ตรงกลาง เป็นภาพของ ปธน. Trump ที่อยู่ข้าง ขีปนาวุธ อาจจะแปลได้ว่า เมกาก็ยังได้ผลประโยชน์ จากการค้าอาวุธให้ทั้ง 2 ฝั่งนั่นเอง หรือ ขีปนาวุธ ของ อเมริกาลูกนี้ จะเป็น ชนวน สำคัญ ทำให้เกิด “WW3” ตามข่าวที่ Biden อนุมิตัให้ ยูเครนใช้ ขีปนาวุธ ของ อเมริกา ในการโจมตีรัสเซีย !!!!- คราวนี้เราลองมา ตีความ ภาพย่อย สำคัญๆ ที่เหลือทีละรูปกันดีกว่า เนื่องจากภาพเยอะ จะเรียงจากบนลงล่าง และ ซ้ายไปขวา นะครับ - ภาพดาวเสาร์ สื่อถึง เทพ “Baal” แบบชัดเจน แปลว่าจะต้องมีการ บูชา สังเวยชีวิตเพิ่มขึ้นในปีหน้า เพื่อความอุดมสมบูรณ์ !!!! และ ภาพ ดาวเสาร์ ยังเคยปรากฏ อยู่บนหน้าปกในตำนานของ The Economist หน้าปก “Phoenix” อีกด้วย เป็นสัญลักษณ์ ของ สกุลเงินใหม่ นั่นเอง !!!! (ภาพประกอบในคอมเม้น) - รูปดวงอาทิตย์ ที่มีเปลว สุริยะ “Solar Flare” เหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้และ น่าจะยังคงเกิด อยู่ในปีหน้า เพื่อล้างสมอง ให้คนเชื่อว่า เพราะ “Solar Flare” ที่ระเบิด ออกมานี่หละจะส่งผลให้ ไฟดับ ระบบสื่อสาร ใช้งานไม่ได้ ในขณะที่ ฉากหลัง อาจจะจัดการให้เรื่องเหล่านี้ เกิดขึ้นโดยการใช้ ”EMP” นั่นเอง !!!- ภาพเมือง ที่ดูเป็น ดึก สีดำ ไม่มีแสงจากหน้าต่าง มโนว่า น่าจะเป็น การแจ้งเตือน “Cyber Attack” ที่อาจจะเกิดขึ้น จากภาพข้างๆกัน ผลงานจาก “EMP” !!!!- ภาพ เฮีย Xi ซ้อนอยู่กับ รหัส 0-1 เลขฐาน 2 ของ คอมพิวเตอร์ น่าจะหมายถึง จีนจะกลายเป็นผู้นำ ทาง เทคโนโลยี ดิจิตอล ไม่ว่าจะเป็นเงินดิจิตอล “CBDC” หรือ เมืองอัจฉริยะ “Smart City” นั่นเอง !!! - ภาพหีบเลือกตั้ง ที่มีรอยร้าว อาจจะหมายถึง การเลือกตั้ง อเมริกาที่ผ่านมา แปลได้ว่า Trump อาจจะอยู่ไม่ครบสมัย หรือ อาจจะไม่ได้เป็น ปธน. เลย !!! หรือ การเลือกตั้งครั้งนี้ อาจจะเป็น จุดเริ่มต้นของ รอยร้าว ความแตกแยก ใน อเมริกา “Civil War” นั่นเอง !!!!- ภาพ รถไฟฟ้า เป็นการยืนยันถึง เทรน รถไฟฟ้าที่จะแพร่หลาย มากขึ้นในปีหน้านั่นเอง - ภาพเข็มฉีดยา ติดกับภาพรูปโลก แปลว่าในปีหน้า ก็คงยังมีการ กระหน่ำสร้างความหวาดกลัว เพื่อต้อนคน เข้าไปรับ ยาพิษกันอย่างต่อเนื่อง ทั่วโลกแน่นอน !!! และ ภาพข้างๆกัน เป็นภาพคล้าย ซี่ของลูกกรง อาจ แปลได้ว่า ใน ปีหน้า อาจจะมีการ Lock Down เกิดขึ้นอีก !!!!- ภาพคล้าย โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ อาจจะหมายถึง การใช้นิวเคลียร์ เป็นพลังงานใน อนาคต เพราะตอนนี้ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ กำลังเป็น Trend ใหญ่ของ โลกใบนี้เช่นกัน ดูได้จากบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างๆ ที่กระโดดลงมาเล่นด้วย โดยข้ออ้างว่า เป็นพลังงานสะอาด ยุคใหม่ ของโลกใบนี้นั้นเอง !!!- ภาพ Chip และ ลายแผงวงจร น่าจะสื่อว่าในปีหน้า จะมี ประเด็น เรื่อง Chip ที่จะ ขาดแคลนในปีหน้า สาเหตุ อาจจะเพราะสงคราม การค้า หรือไม่ก็ เพราะ จีน ปิดล้อมไต้หวันนั่นเอง !!!- ภาพ “Jane Austen“ เป็นนักประพันธ์ชาวอังกฤษที่มีผลงานเด่นในแนวเสียดสีสังคม อย่างเรื่อง เด่นของเธอ Pride and Prejudice และเธอยังเป็น ต้นแบบของ “Feminism”อีกด้วย ใบหน้าของ Jane Austen ยังอยู่บนธนบัตร 10 ปอนด์ ของอังกฤษอีกด้วย !!!- ภาพกำปั้น ที่สื่อถึง การปฏิวัติ แปลว่าปีหน้า อาจจะมีการ ปฏิวัติ ที่รุนแรงเกิดขึ้น หรือ อาจจะมี Civil War เกิดขึ้นใน อเมริกา ก็เป็นได้!!!- ภาพสุดท้าย “ดอกเห็ด” ระเบิดนิวเคลียร์ แปลว่า ปีหน้าเราอาจจะได้เห็น การโชว์เคส ใช้ “นิวเคลียร์” ระเบิด ที่ไหน สักแห่ง หรือเปล่า !!!!!- ยังมีภาพเล็กๆน้อยๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสัญลักษณ์ “Dollar” ค่าเงิน “Yuan” และ ภาพ ลูกศร ที่มีทั้ง ชี้ขึ้นและลง ที่ยังตีความไม่ออก - ทั้งหมดนี้คือ การตีความ จาก แอด และ สมาชิกกลุ่มลับนะครับ ถัาทั้งหมด บนหน้าปกนี้ เกิดขึ้นจริง ก็แปลว่า ปีหน้า โลกใบนี้ ก็คงจะเดือด เป็นปีที่แสนโหดร้ายอีกปีหละครับ ถ้าใครตีความอะไรเพิ่มได้ Comment บอกกันมาได้นะครับ !!!** ใครอยาก แกะ ถอดรหัส เก่ง เป็นสุดยอด มนุษย์สบคบคิด เหมือนสมาชิกกลุ่มลับ ตอนนี้ เตรียมตัวให้พร้อม เปิดรับสมัคร กลุ่มลับ นิวเวิลด์ออเดอร์ ศุกร์ที่ “13” ธ.ค. ครับ **
    0 Comments 0 Shares 316 Views 0 Reviews
  • 💬คำสั่งห้ามโจมตีรัสเซียของอิตาลี 'ไม่มีความหมาย' เพราะขึ้นอยู่กับนาโต้ - นักข่าวอิตาลี

    การห้ามใช้อาวุธที่อิตาลีจัดหาให้โจมตีรัสเซียเป็นเพียงเสียงเท่านั้น, เนื่องจากโรมยังคงให้การสนับสนุนตามที่นาโต้ร้องขอได้, นักข่าวอิตาลี จอร์โจ เบียนคี กล่าวกับสปุตนิก

    🗨️“ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม, อาวุธพิสัยไกลเหล่านี้จัดหาโดยสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร อาวุธเหล่านี้คือ ATACMS ของอเมริกาและ Storm Shadow ของอังกฤษ ดังนั้น, คำกล่าวของอันโตนิโอ ทาจานี รัฐมนตรีต่างประเทศอิตาลี จึงไม่มีความหมายใดๆทั้งสิ้น, หากเครื่องบินหรือฐานทัพจำเป็นต้องคำนวณระยะทาง [สำหรับการโจมตีรัสเซีย], อิตาลีไม่สามารถละเลยที่จะจัดหาให้ได้ อิตาลีได้บูรณาการกับนาโต้โดยสมบูรณ์แล้ว,” เขากล่าว

    คำกล่าวของทางการอิตาลีที่ว่ายูเครนไม่สามารถใช้อาวุธที่อิตาลีจัดหาให้โจมตีรัสเซียได้นั้น “เป็นเรื่องตลกที่ยังคงเล่นงานประชาชนอยู่เท่านั้น”

    ก่อนหน้านี้, กระทรวงกลาโหมรัสเซียรายงานว่ากองกำลังยูเครนได้ยิงขีปนาวุธ ATACMS ถล่มเขต Bryansk ของรัสเซียเมื่อคืนวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน โดยระบบ Pantsir และ S-400 สามารถสกัดกั้นขีปนาวุธได้ ๕ ลูก, และ ๑ ลูกได้รับความเสียหาย
    .
    💬ITALY'S BAN ON STRIKES AGAINST RUSSIA ‘MEANS NOTHING,’ AS IT DEPENDS ON NATO – Italian journalist

    The ban on using Italian-supplied weapons by Kiev to strike Russia is mere noise, since Rome can still provide all the support NATO may request, Italian journalist Giorgio Bianchi told Sputnik.

    🗨️“In any case, these long-range weapons are supplied by the US and the UK. They are the American ATACMS and the British Storm Shadow. Therefore, the statement of the Italian foreign minister, Antonio Tajani, is nothing. It means nothing. If there is a need in planes or bases to calculate the distance [for strikes on Russia], Italy cannot fail to provide it. Italy is fully integrated in NATO,” he said.

    Statements by the Italian authorities that Ukraine cannot use Italian-supplied weapons against Russia are “a farce that continues to play only for the electorate.”

    Earlier, the Russian Defense Ministry reported that Ukrainian forces launched ATACMS missiles at Russia’s Bryansk region during the night of November 19. Five missiles were intercepted by Pantsir and S-400 systems, while one was damaged.
    .
    Last edited 4:38 PM · Nov 23, 2024 · 2,808 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1860256708116857281
    💬คำสั่งห้ามโจมตีรัสเซียของอิตาลี 'ไม่มีความหมาย' เพราะขึ้นอยู่กับนาโต้ - นักข่าวอิตาลี การห้ามใช้อาวุธที่อิตาลีจัดหาให้โจมตีรัสเซียเป็นเพียงเสียงเท่านั้น, เนื่องจากโรมยังคงให้การสนับสนุนตามที่นาโต้ร้องขอได้, นักข่าวอิตาลี จอร์โจ เบียนคี กล่าวกับสปุตนิก 🗨️“ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม, อาวุธพิสัยไกลเหล่านี้จัดหาโดยสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร อาวุธเหล่านี้คือ ATACMS ของอเมริกาและ Storm Shadow ของอังกฤษ ดังนั้น, คำกล่าวของอันโตนิโอ ทาจานี รัฐมนตรีต่างประเทศอิตาลี จึงไม่มีความหมายใดๆทั้งสิ้น, หากเครื่องบินหรือฐานทัพจำเป็นต้องคำนวณระยะทาง [สำหรับการโจมตีรัสเซีย], อิตาลีไม่สามารถละเลยที่จะจัดหาให้ได้ อิตาลีได้บูรณาการกับนาโต้โดยสมบูรณ์แล้ว,” เขากล่าว คำกล่าวของทางการอิตาลีที่ว่ายูเครนไม่สามารถใช้อาวุธที่อิตาลีจัดหาให้โจมตีรัสเซียได้นั้น “เป็นเรื่องตลกที่ยังคงเล่นงานประชาชนอยู่เท่านั้น” ก่อนหน้านี้, กระทรวงกลาโหมรัสเซียรายงานว่ากองกำลังยูเครนได้ยิงขีปนาวุธ ATACMS ถล่มเขต Bryansk ของรัสเซียเมื่อคืนวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน โดยระบบ Pantsir และ S-400 สามารถสกัดกั้นขีปนาวุธได้ ๕ ลูก, และ ๑ ลูกได้รับความเสียหาย . 💬ITALY'S BAN ON STRIKES AGAINST RUSSIA ‘MEANS NOTHING,’ AS IT DEPENDS ON NATO – Italian journalist The ban on using Italian-supplied weapons by Kiev to strike Russia is mere noise, since Rome can still provide all the support NATO may request, Italian journalist Giorgio Bianchi told Sputnik. 🗨️“In any case, these long-range weapons are supplied by the US and the UK. They are the American ATACMS and the British Storm Shadow. Therefore, the statement of the Italian foreign minister, Antonio Tajani, is nothing. It means nothing. If there is a need in planes or bases to calculate the distance [for strikes on Russia], Italy cannot fail to provide it. Italy is fully integrated in NATO,” he said. Statements by the Italian authorities that Ukraine cannot use Italian-supplied weapons against Russia are “a farce that continues to play only for the electorate.” Earlier, the Russian Defense Ministry reported that Ukrainian forces launched ATACMS missiles at Russia’s Bryansk region during the night of November 19. Five missiles were intercepted by Pantsir and S-400 systems, while one was damaged. . Last edited 4:38 PM · Nov 23, 2024 · 2,808 Views https://x.com/SputnikInt/status/1860256708116857281
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 259 Views 0 Reviews
  • ถามตรงๆ ปีหน้า "เมลาย รัชดา" จะเอาอีกไหม? พบทริปน้ำไม่อาบคราวนี้ก่อความเดือดร้อน ล้มคว่ำกันเอง สะพัดตายแล้ว 2 ศพ ขายน้ำกระท่อม แต่งกายเลียนแบบตำรวจ แถมเหิมเกริมบังอาจ เฉี่ยวชนพระบิณฑบาตแล้วหนี ไม่รู้จะหาคำด่ายังไงดี

    วันนี้ (23 พ.ย.) จากกรณีที่อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังที่ชื่อว่า "เมลาย รัชดา" ไม่เปิดเผยชื่อและนามสกุลจริง นัดรวมพลคนขี่รถจักรยานยนต์แต่งซิ่งนับหมื่นคน ไปรวมตัวกันที่ภูทับเบิก อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ออกเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์แต่งซิ่งตั้งแต่เวลา 03.00 น. สร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนในพื้นที่ รวมถึงนักท่องเที่ยวที่จะไปเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ และผู้ใช้รถใช้ถนนพหลโยธิน และถนนสายสระบุรี-หล่มสัก โดยก่อนหน้านี้ เมลาย รัชดา อ้างว่าปีนี้ภาพไม่ดี ปีหน้าคงไม่มีแล้ว แต่ปรากฎว่ายังมีการเบิ้ลเครื่องเสียงดังขณะเข้าเขตชุมชนจนได้

    ล่าสุด เฟซบุ๊ก "อีซ้อขยี้แหลก" ที่เกาะติดกลุ่มน้ำไม่อาบเปิดเผยดรามาทริปน้ำไม่อาบจำนวนมาก ทั้งกรณีที่รถจักรยานยนต์ในกลุ่มล้มคว่ำบาดเจ็บ 1 ราย ทั้งการจำหน่ายน้ำกระท่อม ทั้งกรณีมีผู้เสียชีวิต 2 ราย หนึ่งในนั้นคือรถคาวาซากิ ผู้ขับขี่ถูกนำส่งขึ้นรถตู้ที่ชื่อว่า "รถขนผี" กรณีเฉี่ยวพระบิณฑบาตได้รับบาดเจ็บแล้วหนี และกรณีที่ชายแต่งกายคล้ายตำรวจอยู่ในกลุ่มน้ำไม่อาบ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000112765

    #MGROnline #กลุ่มน้ำไม่อาบ #ทริปน้ำไม่อาบ
    ถามตรงๆ ปีหน้า "เมลาย รัชดา" จะเอาอีกไหม? พบทริปน้ำไม่อาบคราวนี้ก่อความเดือดร้อน ล้มคว่ำกันเอง สะพัดตายแล้ว 2 ศพ ขายน้ำกระท่อม แต่งกายเลียนแบบตำรวจ แถมเหิมเกริมบังอาจ เฉี่ยวชนพระบิณฑบาตแล้วหนี ไม่รู้จะหาคำด่ายังไงดี • วันนี้ (23 พ.ย.) จากกรณีที่อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังที่ชื่อว่า "เมลาย รัชดา" ไม่เปิดเผยชื่อและนามสกุลจริง นัดรวมพลคนขี่รถจักรยานยนต์แต่งซิ่งนับหมื่นคน ไปรวมตัวกันที่ภูทับเบิก อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ออกเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์แต่งซิ่งตั้งแต่เวลา 03.00 น. สร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนในพื้นที่ รวมถึงนักท่องเที่ยวที่จะไปเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ และผู้ใช้รถใช้ถนนพหลโยธิน และถนนสายสระบุรี-หล่มสัก โดยก่อนหน้านี้ เมลาย รัชดา อ้างว่าปีนี้ภาพไม่ดี ปีหน้าคงไม่มีแล้ว แต่ปรากฎว่ายังมีการเบิ้ลเครื่องเสียงดังขณะเข้าเขตชุมชนจนได้ • ล่าสุด เฟซบุ๊ก "อีซ้อขยี้แหลก" ที่เกาะติดกลุ่มน้ำไม่อาบเปิดเผยดรามาทริปน้ำไม่อาบจำนวนมาก ทั้งกรณีที่รถจักรยานยนต์ในกลุ่มล้มคว่ำบาดเจ็บ 1 ราย ทั้งการจำหน่ายน้ำกระท่อม ทั้งกรณีมีผู้เสียชีวิต 2 ราย หนึ่งในนั้นคือรถคาวาซากิ ผู้ขับขี่ถูกนำส่งขึ้นรถตู้ที่ชื่อว่า "รถขนผี" กรณีเฉี่ยวพระบิณฑบาตได้รับบาดเจ็บแล้วหนี และกรณีที่ชายแต่งกายคล้ายตำรวจอยู่ในกลุ่มน้ำไม่อาบ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000112765 • #MGROnline #กลุ่มน้ำไม่อาบ #ทริปน้ำไม่อาบ
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 301 Views 0 Reviews
  • ทรัมป์กำลังพิจารณาให้ริชาร์ด เกรเนลล์ อดีตผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติของสหรัฐฯ(National Intelligence) และเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำเยอรมนี ดำรงตำแหน่งผู้แทนพิเศษในการเจรจาด้านความขัดแย้งในยูเครน

    "อาจจะไม่ถูกใจเซเลนสกี"

    เนื่องจากก่อนหน้านี้ เกรเนลล์เคยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ว่าอาจป้องกันได้หากการทูตของชาติตะวันตกมีความกระตือรือร้นมากกว่านี้

    เกรเนลล์ยังวิจารณ์อีกว่า นาโต้ สหรัฐฯ และเยอรมนีซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจทางฝั่งยุโรป ควรดำเนินไปในทิศทางแผนสันติภาพมากกว่านี้

    ที่สำคัญ เกรเนลล์เน้นย้ำว่า ไม่ควรยอมรับยูเครนเข้าร่วมเป็นสมาชิกนาโต ในระยะเวลาใกล้ๆนี้ หรือแม้แต่ในอนาคตก็ตาม

    ครั้งหนึ่งเกรเนลล์เคยเสนอให้พื้นที่ความขัดแย้ง ใช้แนวทางแก้ไข เช่น ตั้งให้เป็น “เขตปกครองตนเอง” ซึ่งอาจจะไม่ถูกใจปูติน หากข้อเสนอนี้ถูกนำกลับมาพิจารณาใหม่

    อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการตัดสินใจขั้นสุดท้ายของทรัมป์ และยังไม่แน่ชัดว่าเกรเนลล์จะรับเข้ารับบทบาทนี้หรือไม่
    ทรัมป์กำลังพิจารณาให้ริชาร์ด เกรเนลล์ อดีตผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติของสหรัฐฯ(National Intelligence) และเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำเยอรมนี ดำรงตำแหน่งผู้แทนพิเศษในการเจรจาด้านความขัดแย้งในยูเครน "อาจจะไม่ถูกใจเซเลนสกี" เนื่องจากก่อนหน้านี้ เกรเนลล์เคยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ว่าอาจป้องกันได้หากการทูตของชาติตะวันตกมีความกระตือรือร้นมากกว่านี้ เกรเนลล์ยังวิจารณ์อีกว่า นาโต้ สหรัฐฯ และเยอรมนีซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจทางฝั่งยุโรป ควรดำเนินไปในทิศทางแผนสันติภาพมากกว่านี้ ที่สำคัญ เกรเนลล์เน้นย้ำว่า ไม่ควรยอมรับยูเครนเข้าร่วมเป็นสมาชิกนาโต ในระยะเวลาใกล้ๆนี้ หรือแม้แต่ในอนาคตก็ตาม ครั้งหนึ่งเกรเนลล์เคยเสนอให้พื้นที่ความขัดแย้ง ใช้แนวทางแก้ไข เช่น ตั้งให้เป็น “เขตปกครองตนเอง” ซึ่งอาจจะไม่ถูกใจปูติน หากข้อเสนอนี้ถูกนำกลับมาพิจารณาใหม่ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการตัดสินใจขั้นสุดท้ายของทรัมป์ และยังไม่แน่ชัดว่าเกรเนลล์จะรับเข้ารับบทบาทนี้หรือไม่
    0 Comments 0 Shares 184 Views 0 Reviews
  • ย้อนรอยหมอบุญ จ้อสื่อทุ่ม 1.6 หมื่นล้าน รุกธุรกิจเฮลท์แคร์ สุดท้ายฉ้อโกง-ฟอกเงิน

    สำหรับพฤติการณ์การออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย เนื่องจากก่อนหน้านี้ ในห้วงวันที่ 2-4 ก.พ. 2566 นพ.บุญ ได้สร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวเอง โดยออกสื่อสารธารณะแพร่ข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์สาธารณะ โดยกล่าวอ้างการลงทุนที่น่าสนใจ จำนวน 5 โครงการ จากนั้นจึงมีผู้เสียหายซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจชั้นนำระดับประเทศ และบุคลากรวงการแพทย์หลายร้อยราย หลงเชื่อเพราะ นพ.บุญ และครอบครัว มีบริษัทหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหลายแห่ง จึงเข้าร่วมลงทุน ผ่านการติดต่อจากตัวแทน (โบรกเกอร์) บริษัทหลักทรัพย์ เป็นตัวแทนการระดมเงินลงทุน ให้ นพ.บุญ และครอบครัว ตลอดจนการลงทุนในลักษณะโครงการที่เสนอให้ลงทุนในรูปแบบที่ นพ.บุญ ทำสัญญากู้ยืมเงินโดยให้ดอกเบี้ยกับผู้เสียหาย และได้จ่ายเช็คให้ผู้เสียหายเพื่อชำระหนี้เงินกู้ พร้อมทั้งเช็คเพื่อชำระค่าดอกเบี้ยล่วงหน้าในชื่อ นพ.บุญ วนาสิน พร้อมทั้งมี นางจารุวรรณ วนาสิน และนางณวรา วนาสิน บุคคลในครอบครัวเป็นผู้ค้ำประกันตามสัญญา
    นอกจากนี้ นางจารุวรรณ และ นางณวรา ทั้งสองคนยังเซ็นสลักหลังในเช็คทุกใบของ นพ.บุญ มอบให้แก่ผู้ให้กู้ โดยในช่วงแรกมีการให้ดอกเบี้ย แต่ต่อมาไม่มีการชำระแต่อย่างใด ในส่วนเช็คที่ออกไว้ เมื่อผู้เสียหายนำเช็คไปขึ้นเงินตามวันเวลาที่สั่งจ่าย ปรากฏว่า ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จนกระทั่งต่อมาจากการตรวจสอบ พบว่า นพ.บุญ ได้เดินทางออกไปจากประเทศไทย ในวันที่ 29 ก.ย. 67 เวลา 14.25 น. โดยสายการบินคาร์เธฯ ออกไปประเทศจีน โดยมีพฤติการณ์หลบหนี ซึ่งในกรณี ตั้งแต่ช่วงเดือน ธ.ค. 66 ถึง ต.ค. 67 มีกลุ่มผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค 2534 แล้วจำนวน 527 ราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 7,564,433,637 บาท

    อนึ่ง นพ.บุญเคยถูกยกย่องจากสังคมไทยส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นผลมาจากนักการเมืองบางพรรค สื่อมวลชนกระแสหลักบางค่ายของประเทศไทย และอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังในประเทศไทย ต่างยกย่องในฐานะที่ นพ.บุญเป็นผู้ประกาศตนว่าจะจัดหาวัคซีนไฟเซอร์ชนิด MRNA ที่สังคมไทยส่วนหนึ่งถูกทำให้เชื่อว่าเป็นวัคซีนที่ดีที่สุด จำนวน 20 ล้านโดส แต่สุดท้ายนอกจากไม่มีการลงนามในสัญญานำเข้าวัคซีนภายในเดือนดังกล่าวจริงแล้ว ในช่วงที่เป็นข่าวเคยทำให้มีผลต่อหุ้น THG สุดท้ายเมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2565 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ลงโทษทางแพ่ง นพ.บุญ ในอัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติ คือ 2 ล้านบาท และชดใช้ค่าใช้จ่ายเนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิดเป็นเงิน 2,348,834 บาท และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ หรือบริษัทหลักทรัพย์เป็นเวลา 42 เดือน

    .
    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000112606
    ย้อนรอยหมอบุญ จ้อสื่อทุ่ม 1.6 หมื่นล้าน รุกธุรกิจเฮลท์แคร์ สุดท้ายฉ้อโกง-ฟอกเงิน สำหรับพฤติการณ์การออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย เนื่องจากก่อนหน้านี้ ในห้วงวันที่ 2-4 ก.พ. 2566 นพ.บุญ ได้สร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวเอง โดยออกสื่อสารธารณะแพร่ข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์สาธารณะ โดยกล่าวอ้างการลงทุนที่น่าสนใจ จำนวน 5 โครงการ จากนั้นจึงมีผู้เสียหายซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจชั้นนำระดับประเทศ และบุคลากรวงการแพทย์หลายร้อยราย หลงเชื่อเพราะ นพ.บุญ และครอบครัว มีบริษัทหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหลายแห่ง จึงเข้าร่วมลงทุน ผ่านการติดต่อจากตัวแทน (โบรกเกอร์) บริษัทหลักทรัพย์ เป็นตัวแทนการระดมเงินลงทุน ให้ นพ.บุญ และครอบครัว ตลอดจนการลงทุนในลักษณะโครงการที่เสนอให้ลงทุนในรูปแบบที่ นพ.บุญ ทำสัญญากู้ยืมเงินโดยให้ดอกเบี้ยกับผู้เสียหาย และได้จ่ายเช็คให้ผู้เสียหายเพื่อชำระหนี้เงินกู้ พร้อมทั้งเช็คเพื่อชำระค่าดอกเบี้ยล่วงหน้าในชื่อ นพ.บุญ วนาสิน พร้อมทั้งมี นางจารุวรรณ วนาสิน และนางณวรา วนาสิน บุคคลในครอบครัวเป็นผู้ค้ำประกันตามสัญญา นอกจากนี้ นางจารุวรรณ และ นางณวรา ทั้งสองคนยังเซ็นสลักหลังในเช็คทุกใบของ นพ.บุญ มอบให้แก่ผู้ให้กู้ โดยในช่วงแรกมีการให้ดอกเบี้ย แต่ต่อมาไม่มีการชำระแต่อย่างใด ในส่วนเช็คที่ออกไว้ เมื่อผู้เสียหายนำเช็คไปขึ้นเงินตามวันเวลาที่สั่งจ่าย ปรากฏว่า ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จนกระทั่งต่อมาจากการตรวจสอบ พบว่า นพ.บุญ ได้เดินทางออกไปจากประเทศไทย ในวันที่ 29 ก.ย. 67 เวลา 14.25 น. โดยสายการบินคาร์เธฯ ออกไปประเทศจีน โดยมีพฤติการณ์หลบหนี ซึ่งในกรณี ตั้งแต่ช่วงเดือน ธ.ค. 66 ถึง ต.ค. 67 มีกลุ่มผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค 2534 แล้วจำนวน 527 ราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 7,564,433,637 บาท อนึ่ง นพ.บุญเคยถูกยกย่องจากสังคมไทยส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นผลมาจากนักการเมืองบางพรรค สื่อมวลชนกระแสหลักบางค่ายของประเทศไทย และอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังในประเทศไทย ต่างยกย่องในฐานะที่ นพ.บุญเป็นผู้ประกาศตนว่าจะจัดหาวัคซีนไฟเซอร์ชนิด MRNA ที่สังคมไทยส่วนหนึ่งถูกทำให้เชื่อว่าเป็นวัคซีนที่ดีที่สุด จำนวน 20 ล้านโดส แต่สุดท้ายนอกจากไม่มีการลงนามในสัญญานำเข้าวัคซีนภายในเดือนดังกล่าวจริงแล้ว ในช่วงที่เป็นข่าวเคยทำให้มีผลต่อหุ้น THG สุดท้ายเมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2565 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ลงโทษทางแพ่ง นพ.บุญ ในอัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติ คือ 2 ล้านบาท และชดใช้ค่าใช้จ่ายเนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิดเป็นเงิน 2,348,834 บาท และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ หรือบริษัทหลักทรัพย์เป็นเวลา 42 เดือน . https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000112606
    MGRONLINE.COM
    ย้อนรอยหมอบุญ จ้อสื่อทุ่ม 1.6 หมื่นล้าน รุกธุรกิจเฮลท์แคร์ สุดท้ายฉ้อโกง-ฟอกเงิน
    ถอดบทเรียนนักลงทุน หมอบุญคนดี ฮีโร่ของคนไทย อัศวินม้าขาวผู้จัดหาวัคซีนไฟเซอร์ทิพย์ เคยออกฐานเศรษฐกิจเมื่อ 2 ปีก่อน เตรียมแผนลงทุน 1.6 หมื่นล้าน สยายปีกลงทุนรับอุตสาหกรรมเฮลท์แคร์โตแรง ทั้งศูนย์มะเร็งย่านปิ่นเกล้า เวลเนสเซ็นเตอร์ย่
    0 Comments 0 Shares 312 Views 0 Reviews
  • ครอบครัวไทก้า นีน่าจากไปด้วยหมา2ตัวข้างสวนบุกเข้าในบ้านกัดที่ท้องแผลลึก นีน่าทานอิ่มมื้อสุดท้ายช่วง2ทุ่ม ช่วง3ทุ่มได้ยินเสียงหมาแมวสู้กัน ยามเช้าพบนีน่านอนนิ่งในสนามด้านหลัง จึงไล่ดูกล้อง
    ครอบครัวไทก้า นีน่าจากไปด้วยหมา2ตัวข้างสวนบุกเข้าในบ้านกัดที่ท้องแผลลึก นีน่าทานอิ่มมื้อสุดท้ายช่วง2ทุ่ม ช่วง3ทุ่มได้ยินเสียงหมาแมวสู้กัน ยามเช้าพบนีน่านอนนิ่งในสนามด้านหลัง จึงไล่ดูกล้อง
    0 Comments 0 Shares 114 Views 0 Reviews
  • นี่คือเหตุผลที่ทำไมขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง ORESHNIK ของรัสเซียจึงพร้อมสำหรับการผลิตจำนวนมาก

    การทดสอบการรบประจำการของระบบขีปนาวุธ Oreshnik ในวันพฤหัสบดีกับเป้าหมายทางทหารและอุตสาหกรรมของยูเครนในเมือง Dnepropetrovsk แสดงให้เห็นว่าระบบขีปนาวุธใหม่ของรัสเซียพร้อมสำหรับการนำไปปฏิบัติและการผลิตจำนวนมากแล้ว, และเหตุผลก็คืออาวุธขีปนาวุธของรัสเซียได้รับการออกแบบมาอย่างไรมาหลายทศวรรษ, Dmitry Kornev ผู้สังเกตการณ์ทางทหารที่มีประสบการณ์ของรัสเซียกล่าว

    ศักยภาพของกลุ่มอุตสาหกรรมการทหารของรัสเซียในการผลิตอาวุธแบบ Oreshnik นั้น "สูงกว่าของชาติตะวันตกอย่างเห็นได้ชัด," Kornev กล่าวกับ Sputnik, โดยชี้ไปที่ปรัชญาการออกแบบขีปนาวุธของรัสเซีย (และก่อนหน้านั้นก็คือสหภาพโซเวียต) ที่ย้อนกลับไปถึงการเผชิญหน้าในยุคสงครามเย็นระหว่าง RSD-10 Pioneer และ Pershing 2 โดยระบบของสหภาพโซเวียตได้รับการออกแบบมาเพื่อให้แน่ใจว่ามีการยับยั้งเชิงกลยุทธ์ในระดับทวีป, ซึ่งต่างจากเป้าหมายของสหรัฐฯ ในการโจมตีเป้าหมายของศัตรูให้เร็วที่สุดจากฐานที่มั่นในแนวหน้า

    💬“ระบบของเรามีศักยภาพในการโจมตีที่สูงกว่ามากในแง่ที่ว่ามันถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของเทคโนโลยีขีปนาวุธที่ถูกพิสูจน์แล้ว - ซึ่งมีแนวโน้มสูงสุดที่สถาบันวิศวกรรมความร้อนมอสโก, ซึ่งหมายความว่าการผลิตจำนวนมากและการใช้งานขีปนาวุธจำนวนมากอย่างรวดเร็วเป็นสิ่งที่มั่นใจได้,” Kornev กล่าว

    💬“ในกรณีของตะวันตก, ระบบที่คล้ายคลึงกัน จะมีราคาค่อนข้างแพงในการสร้าง,” Kornev เน้นย้ำ

    ประธานาธิบดีปูตินยืนยันในการแถลงข่าวต่อเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมเมื่อวันศุกร์ว่า ได้ตัดสินใจแล้วเกี่ยวกับการผลิตจำนวนมากของ Oreshnik, และกองทัพได้รวบรวมคลังอาวุธขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงรุ่นใหม่นี้ไว้, และ “จะดำเนินการทดสอบต่อไป, รวมถึงในสภาพการสู้รบ, ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และลักษณะของภัยคุกคามต่อความปลอดภัยที่รัสเซียเผชิญ”
    .
    HERE’S WHY RUSSIA’S ORESHNIK HYPERSONIC MISSILE IS READY FOR MASS PRODUCTION

    Thursday’s combat deployment testing of the Oreshnik missile system against a Ukrainian military-industrial target in Dnepropetrovsk speaks to the fact that the new Russian missile system is ready for deployment and mass production, and the reason comes down to the way Russia’s missile weaponry has been designed for many decades, says veteran Russian military observer Dmitry Kornev.

    The capabilities of Russia’s military-industrial complex when it comes to producing Oreshnik-style weaponry is “significantly higher than those of the West,” Kornev told Sputnik, pointing to the Russian (and before that Soviet) missile design philosophy going back to the Cold War-era standoff involving the RSD-10 Pioneer and the Pershing 2 – with the Soviet system designed to ensure strategic deterrence on the continental scale, vs. the US goal of delivering a strike against enemy targets as quickly as possible from a forward foothold.

    💬“Our system likely has a far greater strike potential in the sense that it was created on the basis of already proven ballistic missile technologies - most likely, at the Moscow Institute of Thermal Engineering, which means that mass production and rapid deployment of large quantities of the missiles is assured,” Kornev said.

    💬“In the case of the West, any similar system will be rather expensive to create,” Kornev emphasized.

    President Putin confirmed in a briefing with defense officials Friday that a decision on the Oreshnik’s mass production has been taken, and that the military has amassed a stockpile of the new ballistic hypersonic missiles, and “will continue these tests, including in combat conditions, depending on the situation and the nature of the security threats that are created for Russia.”
    .
    2:52 AM · Nov 23, 2024 · 2,723 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1860048762300682281
    นี่คือเหตุผลที่ทำไมขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง ORESHNIK ของรัสเซียจึงพร้อมสำหรับการผลิตจำนวนมาก การทดสอบการรบประจำการของระบบขีปนาวุธ Oreshnik ในวันพฤหัสบดีกับเป้าหมายทางทหารและอุตสาหกรรมของยูเครนในเมือง Dnepropetrovsk แสดงให้เห็นว่าระบบขีปนาวุธใหม่ของรัสเซียพร้อมสำหรับการนำไปปฏิบัติและการผลิตจำนวนมากแล้ว, และเหตุผลก็คืออาวุธขีปนาวุธของรัสเซียได้รับการออกแบบมาอย่างไรมาหลายทศวรรษ, Dmitry Kornev ผู้สังเกตการณ์ทางทหารที่มีประสบการณ์ของรัสเซียกล่าว ศักยภาพของกลุ่มอุตสาหกรรมการทหารของรัสเซียในการผลิตอาวุธแบบ Oreshnik นั้น "สูงกว่าของชาติตะวันตกอย่างเห็นได้ชัด," Kornev กล่าวกับ Sputnik, โดยชี้ไปที่ปรัชญาการออกแบบขีปนาวุธของรัสเซีย (และก่อนหน้านั้นก็คือสหภาพโซเวียต) ที่ย้อนกลับไปถึงการเผชิญหน้าในยุคสงครามเย็นระหว่าง RSD-10 Pioneer และ Pershing 2 โดยระบบของสหภาพโซเวียตได้รับการออกแบบมาเพื่อให้แน่ใจว่ามีการยับยั้งเชิงกลยุทธ์ในระดับทวีป, ซึ่งต่างจากเป้าหมายของสหรัฐฯ ในการโจมตีเป้าหมายของศัตรูให้เร็วที่สุดจากฐานที่มั่นในแนวหน้า 💬“ระบบของเรามีศักยภาพในการโจมตีที่สูงกว่ามากในแง่ที่ว่ามันถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของเทคโนโลยีขีปนาวุธที่ถูกพิสูจน์แล้ว - ซึ่งมีแนวโน้มสูงสุดที่สถาบันวิศวกรรมความร้อนมอสโก, ซึ่งหมายความว่าการผลิตจำนวนมากและการใช้งานขีปนาวุธจำนวนมากอย่างรวดเร็วเป็นสิ่งที่มั่นใจได้,” Kornev กล่าว 💬“ในกรณีของตะวันตก, ระบบที่คล้ายคลึงกัน จะมีราคาค่อนข้างแพงในการสร้าง,” Kornev เน้นย้ำ ประธานาธิบดีปูตินยืนยันในการแถลงข่าวต่อเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมเมื่อวันศุกร์ว่า ได้ตัดสินใจแล้วเกี่ยวกับการผลิตจำนวนมากของ Oreshnik, และกองทัพได้รวบรวมคลังอาวุธขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงรุ่นใหม่นี้ไว้, และ “จะดำเนินการทดสอบต่อไป, รวมถึงในสภาพการสู้รบ, ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และลักษณะของภัยคุกคามต่อความปลอดภัยที่รัสเซียเผชิญ” . HERE’S WHY RUSSIA’S ORESHNIK HYPERSONIC MISSILE IS READY FOR MASS PRODUCTION Thursday’s combat deployment testing of the Oreshnik missile system against a Ukrainian military-industrial target in Dnepropetrovsk speaks to the fact that the new Russian missile system is ready for deployment and mass production, and the reason comes down to the way Russia’s missile weaponry has been designed for many decades, says veteran Russian military observer Dmitry Kornev. The capabilities of Russia’s military-industrial complex when it comes to producing Oreshnik-style weaponry is “significantly higher than those of the West,” Kornev told Sputnik, pointing to the Russian (and before that Soviet) missile design philosophy going back to the Cold War-era standoff involving the RSD-10 Pioneer and the Pershing 2 – with the Soviet system designed to ensure strategic deterrence on the continental scale, vs. the US goal of delivering a strike against enemy targets as quickly as possible from a forward foothold. 💬“Our system likely has a far greater strike potential in the sense that it was created on the basis of already proven ballistic missile technologies - most likely, at the Moscow Institute of Thermal Engineering, which means that mass production and rapid deployment of large quantities of the missiles is assured,” Kornev said. 💬“In the case of the West, any similar system will be rather expensive to create,” Kornev emphasized. President Putin confirmed in a briefing with defense officials Friday that a decision on the Oreshnik’s mass production has been taken, and that the military has amassed a stockpile of the new ballistic hypersonic missiles, and “will continue these tests, including in combat conditions, depending on the situation and the nature of the security threats that are created for Russia.” . 2:52 AM · Nov 23, 2024 · 2,723 Views https://x.com/SputnikInt/status/1860048762300682281
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 404 Views 0 Reviews
  • ICC ยังได้เรียกร้องให้ประเทศที่ไม่ได้เป็นสมาชิกจับกุม เบนจามิน เนทันยาฮู

    ตอนนี้เขาต้องหลีกเลี่ยงน่านฟ้าของเลบานอน, ซีเรีย, อิรัก, อิหร่าน และเยเมน ตามกฎหมายระหว่างประเทศ, เครื่องบินของเขาจะถูกสกัดกั้นและเบนจามินจะถูกจับกุม
    .
    ⚡️BREAKING

    The ICC has also called on non-member states to arrest Benjamin Netanyahu.

    He must now avoid the airspace of Lebanon, Syria, Iraq, Iran and Yemen. Under international law, his plane will be intercepted and Benjamin arrested
    .
    9:01 PM · Nov 22, 2024 · 139.1K Views
    https://x.com/IranObserver0/status/1859960429914853401
    ICC ยังได้เรียกร้องให้ประเทศที่ไม่ได้เป็นสมาชิกจับกุม เบนจามิน เนทันยาฮู ตอนนี้เขาต้องหลีกเลี่ยงน่านฟ้าของเลบานอน, ซีเรีย, อิรัก, อิหร่าน และเยเมน ตามกฎหมายระหว่างประเทศ, เครื่องบินของเขาจะถูกสกัดกั้นและเบนจามินจะถูกจับกุม . ⚡️BREAKING The ICC has also called on non-member states to arrest Benjamin Netanyahu. He must now avoid the airspace of Lebanon, Syria, Iraq, Iran and Yemen. Under international law, his plane will be intercepted and Benjamin arrested . 9:01 PM · Nov 22, 2024 · 139.1K Views https://x.com/IranObserver0/status/1859960429914853401
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 206 Views 0 Reviews
  • เหยื่อเมทานอล 6 ศพ จากเหล้าเถื่อนที่วังเวียง

    สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษรายงานว่า น.ส.ฮอลลี่ โบว์ลส์ นักท่องเที่ยวหญิงชาวออสเตรเลียวัย 19 ปี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2567 หลังเข้ารับการรักษาตัวด้วยภาวะเป็นพิษจากเมทานอล (Methanol) มานาน 1 สัปดาห์ ขณะที่ น.ส.บิอังกา โจนส์ วัย 19 ปี ชาวออสเตรเลีย และ น.ส.ซิโมน ไวท์ ทนายความชาวอังกฤษวัย 28 ปี เสียชีวิตเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 พ.ย. 2567 รวมทั้ง นายเจมส์ ฮัตสัน วัย 57 ปี ชาวอเมริกัน น.ส.แอนน์-โซฟี คอยแมน วัย 20 ปี และ น.ส.เฟรยา โซเรนเซน อายุ 21 ปี ชาวเดนมาร์ค ทั้งหมดมีสาเหตุมาจากดื่มสุราเถื่อนที่มีสารเมทานอลปนอยู่ในวังเวียง เมืองท่องเที่ยวของประเทศลาว

    ผู้ประสบภัยหลายรายเข้าพักที่ Nana Backpacker Hostel พนักงานได้รับแจ้งว่ามีผู้เข้าพักล้มป่วยหลังจากที่ไม่ได้เช็คเอาต์เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 2567 ก่อนหน้านี้ทางที่พักได้แจกเครื่องดื่มสุราช็อตฟรีให้กับแขกประมาณ 100 คน แต่ผู้จัดการโฮสเทลเปิดเผยต่อสำนักข่าว Associated Press ว่า ไม่มีผู้เข้าพักคนอื่นป่วยแต่อย่างใด ขณะนี้ถูกตำรวจท้องถิ่นเรียกตัวไปสอบปากคำ ส่วนผู้ให้บริการจองที่พักโฮสเทล Hostelworld ได้ลบชื่อ Nana Backpacker Hostel ออกจากแพลตฟอร์ม พร้อมแนะนำให้ใช้ความระมัดระวังเมื่อดื่มแอลกอฮอล์ และซื้อเฉพาะผลิตภัณฑ์จากผู้ขายที่มีชื่อเสียงเท่านั้น

    บางประเทศออกคำเตือนพลเมืองของตนให้ระวังพิษจากเมทานอล เมื่อดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในประเทศลาว โดยทางการออสเตรเลียเตือนให้ระวังความเสี่ยง โดยเฉพาะเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ เช่น ค็อกเทล เช่นเดียวกับนิวซีแลนด์ ส่วนสหราชอาณาจักร เตือนให้ระวังการซื้อสุราพื้นเมือง เครื่องดื่มผสมจากสุรา เช่น ค็อกเทล และสุราปลอมในร้านค้าหรือหลังบาร์ โดยแนะนำให้ซื้อจากร้านที่มีใบอนุญาตเท่านั้น หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ทำเอง ตรวจสอบซีลและฉลากว่าสมบูรณ์หรือไม่

    สำหรับเมทานอลเป็นสารอันตรายที่พบได้ในสุราเถื่อน แพร่ระบาดอย่างมากในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากราคาถูก มีการบังคับใช้กฎหมายต่ำ แทบไม่มีการควบคุมในอุตสาหกรรมอาหารและบริการ และเนื่องจากไม่มีรสและไม่มีสี จึงสังเกตได้ยากในเครื่องดื่ม กว่าจะแสดงอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง อาจใช้เวลามากถึง 24 ชั่วโมง ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน มิ.ย. 2567 มีรายงานผู้เสียชีวิตจากสุราเถื่อนในอินเดีย 57 ราย สำหรับประเทศไทยเคยเกิดคลัสเตอร์ยาดอง ที่เขตคลองสามวา มีนบุรี และหนองจอก กรุงเทพฯ เสียชีวิต 10 ราย ตำรวจได้ดำเนินคดีผู้ผสมยาดอง ผู้ผลิตสุราเถื่อน และผู้จำหน่ายสารเอทานอล รวม 4 ราย

    #Newskit
    เหยื่อเมทานอล 6 ศพ จากเหล้าเถื่อนที่วังเวียง สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษรายงานว่า น.ส.ฮอลลี่ โบว์ลส์ นักท่องเที่ยวหญิงชาวออสเตรเลียวัย 19 ปี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2567 หลังเข้ารับการรักษาตัวด้วยภาวะเป็นพิษจากเมทานอล (Methanol) มานาน 1 สัปดาห์ ขณะที่ น.ส.บิอังกา โจนส์ วัย 19 ปี ชาวออสเตรเลีย และ น.ส.ซิโมน ไวท์ ทนายความชาวอังกฤษวัย 28 ปี เสียชีวิตเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 พ.ย. 2567 รวมทั้ง นายเจมส์ ฮัตสัน วัย 57 ปี ชาวอเมริกัน น.ส.แอนน์-โซฟี คอยแมน วัย 20 ปี และ น.ส.เฟรยา โซเรนเซน อายุ 21 ปี ชาวเดนมาร์ค ทั้งหมดมีสาเหตุมาจากดื่มสุราเถื่อนที่มีสารเมทานอลปนอยู่ในวังเวียง เมืองท่องเที่ยวของประเทศลาว ผู้ประสบภัยหลายรายเข้าพักที่ Nana Backpacker Hostel พนักงานได้รับแจ้งว่ามีผู้เข้าพักล้มป่วยหลังจากที่ไม่ได้เช็คเอาต์เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 2567 ก่อนหน้านี้ทางที่พักได้แจกเครื่องดื่มสุราช็อตฟรีให้กับแขกประมาณ 100 คน แต่ผู้จัดการโฮสเทลเปิดเผยต่อสำนักข่าว Associated Press ว่า ไม่มีผู้เข้าพักคนอื่นป่วยแต่อย่างใด ขณะนี้ถูกตำรวจท้องถิ่นเรียกตัวไปสอบปากคำ ส่วนผู้ให้บริการจองที่พักโฮสเทล Hostelworld ได้ลบชื่อ Nana Backpacker Hostel ออกจากแพลตฟอร์ม พร้อมแนะนำให้ใช้ความระมัดระวังเมื่อดื่มแอลกอฮอล์ และซื้อเฉพาะผลิตภัณฑ์จากผู้ขายที่มีชื่อเสียงเท่านั้น บางประเทศออกคำเตือนพลเมืองของตนให้ระวังพิษจากเมทานอล เมื่อดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในประเทศลาว โดยทางการออสเตรเลียเตือนให้ระวังความเสี่ยง โดยเฉพาะเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ เช่น ค็อกเทล เช่นเดียวกับนิวซีแลนด์ ส่วนสหราชอาณาจักร เตือนให้ระวังการซื้อสุราพื้นเมือง เครื่องดื่มผสมจากสุรา เช่น ค็อกเทล และสุราปลอมในร้านค้าหรือหลังบาร์ โดยแนะนำให้ซื้อจากร้านที่มีใบอนุญาตเท่านั้น หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ทำเอง ตรวจสอบซีลและฉลากว่าสมบูรณ์หรือไม่ สำหรับเมทานอลเป็นสารอันตรายที่พบได้ในสุราเถื่อน แพร่ระบาดอย่างมากในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากราคาถูก มีการบังคับใช้กฎหมายต่ำ แทบไม่มีการควบคุมในอุตสาหกรรมอาหารและบริการ และเนื่องจากไม่มีรสและไม่มีสี จึงสังเกตได้ยากในเครื่องดื่ม กว่าจะแสดงอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง อาจใช้เวลามากถึง 24 ชั่วโมง ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน มิ.ย. 2567 มีรายงานผู้เสียชีวิตจากสุราเถื่อนในอินเดีย 57 ราย สำหรับประเทศไทยเคยเกิดคลัสเตอร์ยาดอง ที่เขตคลองสามวา มีนบุรี และหนองจอก กรุงเทพฯ เสียชีวิต 10 ราย ตำรวจได้ดำเนินคดีผู้ผสมยาดอง ผู้ผลิตสุราเถื่อน และผู้จำหน่ายสารเอทานอล รวม 4 ราย #Newskit
    Like
    Sad
    Angry
    8
    0 Comments 0 Shares 625 Views 0 Reviews
  • จากกรณีที่เมื่อวันจันทร์ที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้ออกรายการสนธิเล่าเรื่อง เพื่อเปิดโปงพฤติกรรมของ นายแพทย์บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี ที่ปลอมลายเซ็นอดีตลูกสะใภ้เพื่อกู้เงินผ่านเอเย่นต์ จนได้รับความเสียหายกว่า 8,000 ล้านบาท รวมถึงมีการตั้งข้อสังเกตว่า น่าจะมีผู้เสียหายที่ถูกนายแพทย์คนดัง ฉ้อโกงฯ เงิน ผ่านกลโกงการทำธุรกรรม ชักชวนลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์อีกหลายราย จนอาจทำให้เกิดความเสียหายในวงกว้างนับหมื่นล้าน กระทั่งมีรายงานด้วยว่าขณะนี้ นายแพทย์บุญ วนาสิน น่าจะหลบหนีคดีไปยังต่างประเทศแล้ว.ความคืบหน้าเมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 22 พ.ย. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 และ คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ตามคำสั่ง บก.น.1 ที่ 285/2567 ลงวันที่ 11 พ.ย.67 ไปขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญา จนสามารถนำมาสู่การออกหมายจับ นายแพทย์บุญ วนาสิน รวมถึงผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการ และมีพฤติการณ์ เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ได้ 9 คน ได้แก่.1.นายแพทย์บุญ วนาสิน อายุ 86 ปี ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5645/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน, ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค และธนาคารปฏิเสธไม่ให้ใช้เงินตามเช็คนั้น.2.น.ส.จิดาภา พุ่มพุฒ อายุ 53 ปี เลขาส่วนตัว นายแพทย์บุญ ซี่งเป็นผู้จัดการเรื่องการเงิน และการบัญชีสัญญากู้เงินทั้งหมด ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5646/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.3.น.ส.ศิวิมล จาดเมือง อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นผู้จัดการเกี่ยวกับเอกสาร สัญญาต่างๆ และจัดการด้านการเงิน ตามคำสั่ง น.ส.จิดาภา อาทิ การจ่ายเงินให้กับผู้เสียหาย เป็นผู้จ่ายเช็ค พร้อมทั้งติดต่อตัวแทนต่างๆ ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5647/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.4.นางจารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี ภรรยาของ นายแพทย์บุญ ซึ่งเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ เป็นผู้ลงลายมือชื่ออาวัลในเช็ค เป็นผู้ถือหุ้น THG ซึ่งนำมาค้ำประกันในสัญญากู้ต่างๆ ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5648/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.5.น.ส.นลิน วนาสิน อายุ 51 ปี บุตรสาวของนายแพทย์บุญ และ นางจารุวรรณ ซึ่งเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ และ เป็นผู้ลงลายมือชื่ออาวัลในเช็ค ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5649/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.6.นางอัจจิมา พาณิชเกรียงไกร อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของ บริษัทหลักทรัพย์ คิงฟอร์ด เป็นผู้ชักชวนให้ร่วมลงทุน และมอบหมายให้คนนำสัญญากู้ยืม ทำสัญญาค้ำประกัน ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5650/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.7.นายภาคย์ วัฒนาพร อายุ 36 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ บริษัทหลักทรัพย์ คิงฟอร์ด ร่วมกับนางอัจจิมา เป็นผู้ประสานงานให้คำปรึกษา ชักชวนลงทุน ผู้ชักชวนให้ร่วมลงทุน ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5651/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.8.นางภัทรานิษฐ์ ณ สงขลา อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นนายหน้า และผู้ชักชวนแนะนำการลงทุน เป็นผู้จัดทำเอกสารเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นพยานในสัญญากู้ยืมเงิน สัญญาค้ำประกัน หนังสือส่งมอบเช็ค สัญญาซื้อและขายหุ้นคืนและหนังสือชำระหนี้ ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5652/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.9.นายธนภูมิ ชนประเสริฐ อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นตัวแทนติดต่อชักชวนผู้เสียหาย เป็นผู้จัดทำสัญญา ลงลายมือชื่อเป็นพยานในสัญญากู้ สัญญาค้ำประกัน และเป็นผู้นำสัญญามามอบให้ผู้เสียหาย ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5653/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.การออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย เนื่องจากก่อนหน้านี้ ในห้วงวันที่ 2-4 ก.พ.66 นายแพทย์บุญ ได้สร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวเอง โดยออกสื่อสารธารณะแพร่ข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์สาธารณะ โดยกล่าวอ้างการลงทุนที่น่าสนใจ จำนวน 5 โครงการ ได้แก่ .1.โครงการสร้างศูนย์มะเร็ง ย่านปิ่นเกล้า พื้นที่ 7 ไร่ งบลงทุน 4,๐๐๐ ล้านบาท (ทันสมัยที่สุดในเอเชีย) 2.โครงการเวสเนสเซ็นเตอร์ ย่านพระราม 3 ริมแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่ 5 ไร่เศษ งบลงทุนประมาณ 4,๐๐๐ – 5,๐๐๐ ล้านบาท (อาคารที่พักสูง 52 ชั้น รองรับผู้สูงวัย 400 ห้อง).3.โครงการสร้างโรงพยาบาลใน สปป.ลาว จำนวน 3 แห่ง (ในเวียงจันทร์ 2 แห่ง, จำปาสัก 1 แห่ง) 4.โครงการเข้าร่วมลงทุนกับโรงพยาบาลในเวียดนาม โดยใช้งบลงทุน ประมาณ 4,๐๐๐ – 5,๐๐๐ ล้านบาท และ 5.โครงการสร้างเมดิคอล อินเทลลิเจน (Medical Intelligen) ซึ่งทำหน้าที่ด้านไอที ใช้งบประมาณ 1๐๐ ล้านบาท โดยหากมีการร่วมลงทุน ในปี 66 อ้างว่าจะได้กำไร 7๐๐ ล้านบาท และในปี 67 อ้างว่าจะได้กำไรเพิ่มขึ้นเป็น  1,000 ล้านบาท.จากนั้นจึงมีผู้เสียหายซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจชั้นนำระดับประเทศ และบุคลากรวงการแพทย์ หลายร้อยราย หลงเชื่อเพราะ นายแพทย์บุญ และครอบครัว มีบริษัทหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหลายแห่ง จึงเข้าร่วมลงทุน ผ่านการติดต่อจากตัวแทน (โบรกเกอร์) บริษัทหลักทรัพย์ เป็นตัวแทนการระดมเงินลงทุน ให้นายแพทย์บุญ และครอบครัว.ตลอดจนการลงทุนในลักษณะโครงการที่เสนอให้ลงทุนในรูปแบบที่ นายแพทย์บุญ ทำสัญญากู้ยืมเงินโดยให้ดอกเบี้ยกับผู้เสียหาย และได้จ่ายเช็คให้ผู้เสียหายเพื่อชำระหนี้เงินกู้ พร้อมทั้งเช็คเพื่อชำระค่าดอกเบี้ยล่วงหน้า ในชื่อนายแพทย์บุญ วนาสิน พร้อมทั้งมี นางจารุวรรณ วนาสิน และนางณวรา วนาสิน บุคคลในครอบครัวเป็น ผู้ค้ำประกันตามสัญญา.นอกจากนี้ นางจารุวรรณ วนาสิน และนางณวรา วนาสิน ทั้งสองคนยังเซ็นต์สลักหลังในเช็คทุกใบของนายแพทย์บุญ วนาสิน มอบให้แก่ผู้ให้กู้ โดยในช่วงแรกมีการให้ดอกเบี้ย แต่ต่อมาไม่มีการชำระแต่อย่างใด ในส่วนเช็คที่ออกไว้ เมื่อผู้เสียหายนำเช็คไปขึ้นเงินตามวันเวลาที่สั่งจ่าย ปรากฎว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จนกระทั่งต่อมาจากการตรวจสอบพบว่า นายแพทย์บุญ ได้เดินทางออกไปจากประเทศไทย ในวันที่ 29 ก.ย.67 เวลา 14.25 น. โดยสายการบินคาร์เธฯออกไปประเทศจีน โดยมีพฤติการณ์หลบหนี.ซึ่งในกรณี ตั้งแต่ช่วงเดือน ธ.ค.66 – ต.ค.67 มีกลุ่มผู้เสียหาย เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 แล้วจำนวน 527 ราย รวมมูลค่าความเสียหาย กว่า 7,564,433,637 บาท (เจ็ดพันห้าร้อยหกสิบสี่ล้านสี่แสนสามหมื่นสามพันหกร้อยสามสิบเจ็ดบาท) โดยในทันทีที่ศาลอนุมติหมายจับ ผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจนครบาล และ กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 จึงได้เร่งติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา เอาไว้ได้แล้ว จำนวน 6 ราย  คือ.1.น.ส.จิดาภา พุ่มพุฒ อายุ 53 ปี 2.น.ส.ศิวิมล จาดเมือง อายุ 38 ปี 3.นางอัจจิมา พาณิชเกรียงไกร อายุ 49 ปี 4.นายภาคย์ วัฒนาพร อายุ 36 ปี 5.นางภัทรานิษฐ์ ณ สงขลา อายุ 55 ปี และ 6.นายธนภูมิ ชนประเสริฐ อายุ 36 ปี ยังเหลือที่ยังหลบหนีไปได้อีก 3 ราย คือ นายแพทย์บุญ วนาสิน อายุ 86 ปี นางจารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี ภรรยาของ นายแพทย์บุญ และ น.ส.นลิน วนาสิน อายุ 51 ปี บุตรสาวของนายแพทย์บุญ กับ นางจารุวรรณ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งกองบัญชาการตำรวจนครบาลเห็นควรอนุมัติให้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีดังกล่าวนี้ไปยังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ DSI เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนตามอำนาจหน้าที่ โดยจะแถลงความคืบหน้าให้ทราบอย่างเป็นทางการต่อไป (จบ 3/3)......Sondhi X
    จากกรณีที่เมื่อวันจันทร์ที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้ออกรายการสนธิเล่าเรื่อง เพื่อเปิดโปงพฤติกรรมของ นายแพทย์บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี ที่ปลอมลายเซ็นอดีตลูกสะใภ้เพื่อกู้เงินผ่านเอเย่นต์ จนได้รับความเสียหายกว่า 8,000 ล้านบาท รวมถึงมีการตั้งข้อสังเกตว่า น่าจะมีผู้เสียหายที่ถูกนายแพทย์คนดัง ฉ้อโกงฯ เงิน ผ่านกลโกงการทำธุรกรรม ชักชวนลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์อีกหลายราย จนอาจทำให้เกิดความเสียหายในวงกว้างนับหมื่นล้าน กระทั่งมีรายงานด้วยว่าขณะนี้ นายแพทย์บุญ วนาสิน น่าจะหลบหนีคดีไปยังต่างประเทศแล้ว.ความคืบหน้าเมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 22 พ.ย. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 และ คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ตามคำสั่ง บก.น.1 ที่ 285/2567 ลงวันที่ 11 พ.ย.67 ไปขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญา จนสามารถนำมาสู่การออกหมายจับ นายแพทย์บุญ วนาสิน รวมถึงผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการ และมีพฤติการณ์ เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ได้ 9 คน ได้แก่.1.นายแพทย์บุญ วนาสิน อายุ 86 ปี ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5645/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน, ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค และธนาคารปฏิเสธไม่ให้ใช้เงินตามเช็คนั้น.2.น.ส.จิดาภา พุ่มพุฒ อายุ 53 ปี เลขาส่วนตัว นายแพทย์บุญ ซี่งเป็นผู้จัดการเรื่องการเงิน และการบัญชีสัญญากู้เงินทั้งหมด ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5646/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.3.น.ส.ศิวิมล จาดเมือง อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นผู้จัดการเกี่ยวกับเอกสาร สัญญาต่างๆ และจัดการด้านการเงิน ตามคำสั่ง น.ส.จิดาภา อาทิ การจ่ายเงินให้กับผู้เสียหาย เป็นผู้จ่ายเช็ค พร้อมทั้งติดต่อตัวแทนต่างๆ ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5647/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.4.นางจารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี ภรรยาของ นายแพทย์บุญ ซึ่งเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ เป็นผู้ลงลายมือชื่ออาวัลในเช็ค เป็นผู้ถือหุ้น THG ซึ่งนำมาค้ำประกันในสัญญากู้ต่างๆ ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5648/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.5.น.ส.นลิน วนาสิน อายุ 51 ปี บุตรสาวของนายแพทย์บุญ และ นางจารุวรรณ ซึ่งเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ และ เป็นผู้ลงลายมือชื่ออาวัลในเช็ค ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5649/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.6.นางอัจจิมา พาณิชเกรียงไกร อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของ บริษัทหลักทรัพย์ คิงฟอร์ด เป็นผู้ชักชวนให้ร่วมลงทุน และมอบหมายให้คนนำสัญญากู้ยืม ทำสัญญาค้ำประกัน ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5650/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.7.นายภาคย์ วัฒนาพร อายุ 36 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ บริษัทหลักทรัพย์ คิงฟอร์ด ร่วมกับนางอัจจิมา เป็นผู้ประสานงานให้คำปรึกษา ชักชวนลงทุน ผู้ชักชวนให้ร่วมลงทุน ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5651/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.8.นางภัทรานิษฐ์ ณ สงขลา อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นนายหน้า และผู้ชักชวนแนะนำการลงทุน เป็นผู้จัดทำเอกสารเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นพยานในสัญญากู้ยืมเงิน สัญญาค้ำประกัน หนังสือส่งมอบเช็ค สัญญาซื้อและขายหุ้นคืนและหนังสือชำระหนี้ ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5652/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.9.นายธนภูมิ ชนประเสริฐ อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นตัวแทนติดต่อชักชวนผู้เสียหาย เป็นผู้จัดทำสัญญา ลงลายมือชื่อเป็นพยานในสัญญากู้ สัญญาค้ำประกัน และเป็นผู้นำสัญญามามอบให้ผู้เสียหาย ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5653/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.การออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย เนื่องจากก่อนหน้านี้ ในห้วงวันที่ 2-4 ก.พ.66 นายแพทย์บุญ ได้สร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวเอง โดยออกสื่อสารธารณะแพร่ข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์สาธารณะ โดยกล่าวอ้างการลงทุนที่น่าสนใจ จำนวน 5 โครงการ ได้แก่ .1.โครงการสร้างศูนย์มะเร็ง ย่านปิ่นเกล้า พื้นที่ 7 ไร่ งบลงทุน 4,๐๐๐ ล้านบาท (ทันสมัยที่สุดในเอเชีย) 2.โครงการเวสเนสเซ็นเตอร์ ย่านพระราม 3 ริมแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่ 5 ไร่เศษ งบลงทุนประมาณ 4,๐๐๐ – 5,๐๐๐ ล้านบาท (อาคารที่พักสูง 52 ชั้น รองรับผู้สูงวัย 400 ห้อง).3.โครงการสร้างโรงพยาบาลใน สปป.ลาว จำนวน 3 แห่ง (ในเวียงจันทร์ 2 แห่ง, จำปาสัก 1 แห่ง) 4.โครงการเข้าร่วมลงทุนกับโรงพยาบาลในเวียดนาม โดยใช้งบลงทุน ประมาณ 4,๐๐๐ – 5,๐๐๐ ล้านบาท และ 5.โครงการสร้างเมดิคอล อินเทลลิเจน (Medical Intelligen) ซึ่งทำหน้าที่ด้านไอที ใช้งบประมาณ 1๐๐ ล้านบาท โดยหากมีการร่วมลงทุน ในปี 66 อ้างว่าจะได้กำไร 7๐๐ ล้านบาท และในปี 67 อ้างว่าจะได้กำไรเพิ่มขึ้นเป็น  1,000 ล้านบาท.จากนั้นจึงมีผู้เสียหายซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจชั้นนำระดับประเทศ และบุคลากรวงการแพทย์ หลายร้อยราย หลงเชื่อเพราะ นายแพทย์บุญ และครอบครัว มีบริษัทหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหลายแห่ง จึงเข้าร่วมลงทุน ผ่านการติดต่อจากตัวแทน (โบรกเกอร์) บริษัทหลักทรัพย์ เป็นตัวแทนการระดมเงินลงทุน ให้นายแพทย์บุญ และครอบครัว.ตลอดจนการลงทุนในลักษณะโครงการที่เสนอให้ลงทุนในรูปแบบที่ นายแพทย์บุญ ทำสัญญากู้ยืมเงินโดยให้ดอกเบี้ยกับผู้เสียหาย และได้จ่ายเช็คให้ผู้เสียหายเพื่อชำระหนี้เงินกู้ พร้อมทั้งเช็คเพื่อชำระค่าดอกเบี้ยล่วงหน้า ในชื่อนายแพทย์บุญ วนาสิน พร้อมทั้งมี นางจารุวรรณ วนาสิน และนางณวรา วนาสิน บุคคลในครอบครัวเป็น ผู้ค้ำประกันตามสัญญา.นอกจากนี้ นางจารุวรรณ วนาสิน และนางณวรา วนาสิน ทั้งสองคนยังเซ็นต์สลักหลังในเช็คทุกใบของนายแพทย์บุญ วนาสิน มอบให้แก่ผู้ให้กู้ โดยในช่วงแรกมีการให้ดอกเบี้ย แต่ต่อมาไม่มีการชำระแต่อย่างใด ในส่วนเช็คที่ออกไว้ เมื่อผู้เสียหายนำเช็คไปขึ้นเงินตามวันเวลาที่สั่งจ่าย ปรากฎว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จนกระทั่งต่อมาจากการตรวจสอบพบว่า นายแพทย์บุญ ได้เดินทางออกไปจากประเทศไทย ในวันที่ 29 ก.ย.67 เวลา 14.25 น. โดยสายการบินคาร์เธฯออกไปประเทศจีน โดยมีพฤติการณ์หลบหนี.ซึ่งในกรณี ตั้งแต่ช่วงเดือน ธ.ค.66 – ต.ค.67 มีกลุ่มผู้เสียหาย เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 แล้วจำนวน 527 ราย รวมมูลค่าความเสียหาย กว่า 7,564,433,637 บาท (เจ็ดพันห้าร้อยหกสิบสี่ล้านสี่แสนสามหมื่นสามพันหกร้อยสามสิบเจ็ดบาท) โดยในทันทีที่ศาลอนุมติหมายจับ ผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจนครบาล และ กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 จึงได้เร่งติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา เอาไว้ได้แล้ว จำนวน 6 ราย  คือ.1.น.ส.จิดาภา พุ่มพุฒ อายุ 53 ปี 2.น.ส.ศิวิมล จาดเมือง อายุ 38 ปี 3.นางอัจจิมา พาณิชเกรียงไกร อายุ 49 ปี 4.นายภาคย์ วัฒนาพร อายุ 36 ปี 5.นางภัทรานิษฐ์ ณ สงขลา อายุ 55 ปี และ 6.นายธนภูมิ ชนประเสริฐ อายุ 36 ปี ยังเหลือที่ยังหลบหนีไปได้อีก 3 ราย คือ นายแพทย์บุญ วนาสิน อายุ 86 ปี นางจารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี ภรรยาของ นายแพทย์บุญ และ น.ส.นลิน วนาสิน อายุ 51 ปี บุตรสาวของนายแพทย์บุญ กับ นางจารุวรรณ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งกองบัญชาการตำรวจนครบาลเห็นควรอนุมัติให้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีดังกล่าวนี้ไปยังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ DSI เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนตามอำนาจหน้าที่ โดยจะแถลงความคืบหน้าให้ทราบอย่างเป็นทางการต่อไป (จบ 3/3)......Sondhi X
    Like
    Yay
    3
    0 Comments 0 Shares 720 Views 0 Reviews
More Results