• ทิศต้องห้าม.....ประจำเดือนธันวาคม 2568

    ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 7 เดือนธันวาคม พ.ศ.2568 ไปจนถึง วันอาทิตย์ที่ 4 เดือนมกราคม พ.ศ.2569 สิ่งสำคัญคือ ควรเลี่ยงต่อการกระทบ ทุบ ตอก ขุด เจาะ ในตำแหน่งวิบากทิศทาง ดังนี้

    1. ทิศแตกสลาย 月破(ง๊วยผั่ว) ทิศใต้ 離卦(ลี้ข่วย) ราศี 午(โง้ว) ตั้งแต่รัศมี 172.5 ถึง 187.5 องศา

    2. ทิศ 3 อสูร 月三煞(หง่วยซาสั่วะ) ตั้งแต่ทิศตะวันออก/ใต้ 巽卦(สุ่งข่วย) รัศมี 135 องศา ถึง ทิศตะวันตก/ใต้ 坤卦(คุงข่วย) รัศมี 225 องศา

    3. ทิศ 5 เหลือง 五黃(โหงวอี๊ง) ทิศใต้ 離卦(ลี้ข่วย) ตั้งแต่รัศมี 157.5 ถึง 202.5 องศา

    ดังนั้นหากกระทบสะเทือนถึงดินที่อัดอั้นด้วยกระแสพลังร้ายอันรุนแรงรอเพียงแค่การปลดปล่อย ด้วยการทุบ ตอก ขุด เจาะ ในตำแหน่งวิบากทิศทางดังที่กล่าวไว้ในข้างต้น ส่งผลให้ท่านที่ชะตาตก ชีวิตจะเกิดวิกฤต กลุ้ม วุ่นวาย มากอุปสรรคปัญหา ขัดแย้ง แตกแยก ถูกแทงหลัง ปองร้าย จี้ ปล้น ขโมย เสียทรัพย์อย่างไม่จำเป็น พัวพันเรื่องคดีความจนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล หรือเกิดเจ็บป่วย ต้องผ่าตัดรักษาอาการ หรือจะบาดเจ็บจนเลือดตกยางออกจากอุบัติเหตุเภทภัยที่ไม่คาดคิด โดยเฉพาะบุคคลที่เกิดปีมะเมียพึงระวังเป็นพิเศษ
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    ทิศต้องห้าม.....ประจำเดือนธันวาคม 2568 ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 7 เดือนธันวาคม พ.ศ.2568 ไปจนถึง วันอาทิตย์ที่ 4 เดือนมกราคม พ.ศ.2569 สิ่งสำคัญคือ ควรเลี่ยงต่อการกระทบ ทุบ ตอก ขุด เจาะ ในตำแหน่งวิบากทิศทาง ดังนี้ 1. ทิศแตกสลาย 月破(ง๊วยผั่ว) ทิศใต้ 離卦(ลี้ข่วย) ราศี 午(โง้ว) ตั้งแต่รัศมี 172.5 ถึง 187.5 องศา 2. ทิศ 3 อสูร 月三煞(หง่วยซาสั่วะ) ตั้งแต่ทิศตะวันออก/ใต้ 巽卦(สุ่งข่วย) รัศมี 135 องศา ถึง ทิศตะวันตก/ใต้ 坤卦(คุงข่วย) รัศมี 225 องศา 3. ทิศ 5 เหลือง 五黃(โหงวอี๊ง) ทิศใต้ 離卦(ลี้ข่วย) ตั้งแต่รัศมี 157.5 ถึง 202.5 องศา ดังนั้นหากกระทบสะเทือนถึงดินที่อัดอั้นด้วยกระแสพลังร้ายอันรุนแรงรอเพียงแค่การปลดปล่อย ด้วยการทุบ ตอก ขุด เจาะ ในตำแหน่งวิบากทิศทางดังที่กล่าวไว้ในข้างต้น ส่งผลให้ท่านที่ชะตาตก ชีวิตจะเกิดวิกฤต กลุ้ม วุ่นวาย มากอุปสรรคปัญหา ขัดแย้ง แตกแยก ถูกแทงหลัง ปองร้าย จี้ ปล้น ขโมย เสียทรัพย์อย่างไม่จำเป็น พัวพันเรื่องคดีความจนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล หรือเกิดเจ็บป่วย ต้องผ่าตัดรักษาอาการ หรือจะบาดเจ็บจนเลือดตกยางออกจากอุบัติเหตุเภทภัยที่ไม่คาดคิด โดยเฉพาะบุคคลที่เกิดปีมะเมียพึงระวังเป็นพิเศษ ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Google Pixel เปิดฟีเจอร์ใหม่ RCS Archival – ข้อความของคุณอาจอยู่ในมือเจ้านาย”

    Google ประกาศฟีเจอร์ RCS Archival สำหรับเครื่อง Pixel ที่ถูกจัดการโดยองค์กร (Managed Devices) ซึ่งจะทำให้ข้อความ RCS ที่ส่ง รับ หรือแก้ไข ถูกบันทึกลงในระบบของบริษัทพร้อมเวลาและรายละเอียด แม้ข้อความจะยังคงถูกเข้ารหัสระหว่างการส่ง แต่การเก็บบันทึกนี้ทำให้ฝ่าย IT สามารถเข้าถึงข้อมูลได้โดยตรงจากเครื่องพนักงาน

    เหตุผลด้านกฎหมายและการปฏิบัติตามข้อบังคับ
    ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยองค์กรปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น การเก็บบันทึกการสื่อสารเพื่อใช้ในกรณีฟ้องร้อง การตรวจสอบ หรือการร้องขอข้อมูลจากหน่วยงานรัฐ หลายบริษัทในภาคการเงิน การแพทย์ และรัฐบาลจำเป็นต้องมีระบบเก็บข้อมูลที่ครบถ้วนเพื่อหลีกเลี่ยงการละเมิดกฎหมาย

    ความเป็นส่วนตัวและข้อกังวล
    แม้ Google ยืนยันว่าฟีเจอร์นี้จะมีการแจ้งเตือนบนเครื่องพนักงานเมื่อมีการเปิดใช้งาน แต่ก็ยังมีข้อกังวลว่าเจ้านายอาจเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวได้ หากพนักงานใช้เครื่องที่บริษัทจัดการในการติดต่อเรื่องส่วนตัว ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้แยกการใช้งานออกเป็นสองเครื่อง เพื่อป้องกันการสูญเสียความเป็นส่วนตัว

    แนวโน้มในอนาคต
    การเก็บบันทึกข้อความลักษณะนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ หลายองค์กรทั่วโลกใช้ระบบ Mobile Device Management (MDM) และเครื่องมือ Compliance เพื่อควบคุมและตรวจสอบการใช้งานอุปกรณ์พนักงาน แนวโน้มคือการผสานเข้ากับระบบ AI และ Cloud เพื่อให้การตรวจสอบมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ก็ยิ่งเพิ่มแรงกดดันต่อการรักษาสมดุลระหว่าง “ความปลอดภัย” และ “สิทธิส่วนบุคคล”

    สรุปเป็นหัวข้อ
    ฟีเจอร์ใหม่ RCS Archival บน Pixel
    ใช้ได้เฉพาะเครื่องที่บริษัทจัดการ (Managed Devices)
    ข้อความ RCS จะถูกบันทึกพร้อมเวลาและรายละเอียด

    เหตุผลด้านกฎหมายและ Compliance
    ช่วยองค์กรปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น การเก็บบันทึกเพื่อใช้ในคดีความ
    รองรับการตรวจสอบจากหน่วยงานรัฐและข้อบังคับในอุตสาหกรรม

    การแจ้งเตือนบนเครื่องพนักงาน
    ผู้ใช้จะเห็นการแจ้งเตือนเมื่อระบบเก็บบันทึกถูกเปิดใช้งาน
    องค์กรสามารถเลือกแอปเก็บบันทึกที่ต้องการ เช่น Smarsh, Celltrust

    ความเสี่ยงต่อความเป็นส่วนตัวของพนักงาน
    หากใช้เครื่องบริษัทติดต่อเรื่องส่วนตัว ข้อมูลอาจถูกบันทึก
    การเข้าถึงข้อมูลโดยนายจ้างอาจสร้างความไม่ไว้วางใจ

    คำแนะนำในการใช้งาน
    ควรแยกเครื่องส่วนตัวออกจากเครื่องที่บริษัทจัดการ
    หลีกเลี่ยงการเก็บข้อมูลส่วนตัวสำคัญไว้ในเครื่องที่ถูกควบคุม

    https://www.slashgear.com/2036862/google-pixel-rcs-text-message-archive-update/
    📱 “Google Pixel เปิดฟีเจอร์ใหม่ RCS Archival – ข้อความของคุณอาจอยู่ในมือเจ้านาย” Google ประกาศฟีเจอร์ RCS Archival สำหรับเครื่อง Pixel ที่ถูกจัดการโดยองค์กร (Managed Devices) ซึ่งจะทำให้ข้อความ RCS ที่ส่ง รับ หรือแก้ไข ถูกบันทึกลงในระบบของบริษัทพร้อมเวลาและรายละเอียด แม้ข้อความจะยังคงถูกเข้ารหัสระหว่างการส่ง แต่การเก็บบันทึกนี้ทำให้ฝ่าย IT สามารถเข้าถึงข้อมูลได้โดยตรงจากเครื่องพนักงาน ⚖️ เหตุผลด้านกฎหมายและการปฏิบัติตามข้อบังคับ ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยองค์กรปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น การเก็บบันทึกการสื่อสารเพื่อใช้ในกรณีฟ้องร้อง การตรวจสอบ หรือการร้องขอข้อมูลจากหน่วยงานรัฐ หลายบริษัทในภาคการเงิน การแพทย์ และรัฐบาลจำเป็นต้องมีระบบเก็บข้อมูลที่ครบถ้วนเพื่อหลีกเลี่ยงการละเมิดกฎหมาย 🔒 ความเป็นส่วนตัวและข้อกังวล แม้ Google ยืนยันว่าฟีเจอร์นี้จะมีการแจ้งเตือนบนเครื่องพนักงานเมื่อมีการเปิดใช้งาน แต่ก็ยังมีข้อกังวลว่าเจ้านายอาจเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวได้ หากพนักงานใช้เครื่องที่บริษัทจัดการในการติดต่อเรื่องส่วนตัว ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้แยกการใช้งานออกเป็นสองเครื่อง เพื่อป้องกันการสูญเสียความเป็นส่วนตัว 🌐 แนวโน้มในอนาคต การเก็บบันทึกข้อความลักษณะนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ หลายองค์กรทั่วโลกใช้ระบบ Mobile Device Management (MDM) และเครื่องมือ Compliance เพื่อควบคุมและตรวจสอบการใช้งานอุปกรณ์พนักงาน แนวโน้มคือการผสานเข้ากับระบบ AI และ Cloud เพื่อให้การตรวจสอบมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ก็ยิ่งเพิ่มแรงกดดันต่อการรักษาสมดุลระหว่าง “ความปลอดภัย” และ “สิทธิส่วนบุคคล” 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ RCS Archival บน Pixel ➡️ ใช้ได้เฉพาะเครื่องที่บริษัทจัดการ (Managed Devices) ➡️ ข้อความ RCS จะถูกบันทึกพร้อมเวลาและรายละเอียด ✅ เหตุผลด้านกฎหมายและ Compliance ➡️ ช่วยองค์กรปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น การเก็บบันทึกเพื่อใช้ในคดีความ ➡️ รองรับการตรวจสอบจากหน่วยงานรัฐและข้อบังคับในอุตสาหกรรม ✅ การแจ้งเตือนบนเครื่องพนักงาน ➡️ ผู้ใช้จะเห็นการแจ้งเตือนเมื่อระบบเก็บบันทึกถูกเปิดใช้งาน ➡️ องค์กรสามารถเลือกแอปเก็บบันทึกที่ต้องการ เช่น Smarsh, Celltrust ‼️ ความเสี่ยงต่อความเป็นส่วนตัวของพนักงาน ⛔ หากใช้เครื่องบริษัทติดต่อเรื่องส่วนตัว ข้อมูลอาจถูกบันทึก ⛔ การเข้าถึงข้อมูลโดยนายจ้างอาจสร้างความไม่ไว้วางใจ ‼️ คำแนะนำในการใช้งาน ⛔ ควรแยกเครื่องส่วนตัวออกจากเครื่องที่บริษัทจัดการ ⛔ หลีกเลี่ยงการเก็บข้อมูลส่วนตัวสำคัญไว้ในเครื่องที่ถูกควบคุม https://www.slashgear.com/2036862/google-pixel-rcs-text-message-archive-update/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    This Google Pixel Update Could Share All Your Text Messages With Your Boss - SlashGear
    The new RCS Archival feature will send timestamped copies of RCS messages to company servers, but only for fully-managed Pixel phones.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 127 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Meta ถูกกล่าวหาปกปิดหลักฐานผลกระทบโซเชียลมีเดียต่อเยาวชน"

    ในเอกสารที่ถูกเปิดเผยล่าสุดในศาลสหรัฐฯ มีการกล่าวหาว่า Meta (บริษัทแม่ของ Facebook และ Instagram) รับรู้ถึงความเสี่ยงที่แพลตฟอร์มของตนอาจทำให้วัยรุ่นมีอาการซึมเศร้า วิตกกังวล และเปรียบเทียบตนเองในทางลบ แต่กลับเลือกที่จะไม่เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อสาธารณะหรือสภาคองเกรส ข้อกล่าวหานี้เปรียบเทียบกับการที่อุตสาหกรรมบุหรี่เคยปกปิดข้อมูลอันตรายจากการสูบบุหรี่ในอดีต

    คดีความใหญ่: การฟ้องร้องหลายบริษัทโซเชียลมีเดีย
    คดีนี้ไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับ Meta แต่ยังรวมถึง YouTube, TikTok และ Snapchat โดยมีโจทก์กว่า 1,800 ราย ทั้งผู้ปกครอง โรงเรียน และหน่วยงานรัฐ กล่าวหาว่าบริษัทเหล่านี้ "เติบโตโดยไม่สนใจผลกระทบต่อสุขภาพเด็ก" หลักฐานที่ถูกเปิดเผยแสดงให้เห็นว่า Meta มีนโยบายที่ยอมให้บัญชีที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ทางเพศถูกละเมิดได้ถึง 16 ครั้งก่อนจะถูกลบ ซึ่งถูกวิจารณ์ว่าเป็นมาตรการที่อันตรายและไม่สมเหตุสมผล

    ผลกระทบต่อสุขภาพจิตวัยรุ่น
    งานวิจัยภายในที่ถูกเปิดเผย เช่น Project Mercury พบว่าเมื่อผู้ใช้หยุดใช้ Facebook หรือ Instagram เพียงหนึ่งสัปดาห์ ระดับความซึมเศร้าและความเหงาลดลง แต่ Meta กลับหยุดการศึกษาและไม่เผยแพร่ผลลัพธ์ นอกจากนี้ยังมีการกล่าวหาว่าบริษัทพยายามออกแบบฟีเจอร์ที่ทำให้ผู้ใช้ติดการใช้งาน เช่น ระบบ "ไลก์" และคอนเทนต์ที่กระตุ้นการเปรียบเทียบรูปร่างหน้าตา ซึ่งส่งผลกระทบต่อวัยรุ่นโดยเฉพาะผู้หญิง

    มุมมองระดับโลกและมาตรการใหม่
    หลายประเทศเริ่มตื่นตัว เช่น ออสเตรเลียประกาศแบนโซเชียลมีเดียสำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปี เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจิต ขณะที่ Meta เองก็พยายามแก้ไขด้วยการเปิดตัว Instagram Teen Accounts ที่ตั้งค่าเป็นส่วนตัวโดยอัตโนมัติและมีระบบควบคุมจากผู้ปกครอง แต่คำถามยังคงอยู่ว่าเป็นการแก้ปัญหาที่แท้จริงหรือเพียงการตอบสนองต่อแรงกดดันจากสังคมและกฎหมาย

    สรุปสาระสำคัญ
    ข้อกล่าวหาต่อ Meta และบริษัทโซเชียลมีเดียอื่น ๆ
    ปกปิดผลวิจัยที่ชี้ว่าโซเชียลมีเดียทำให้วัยรุ่นมีภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวล
    มีนโยบายที่ยอมให้บัญชีละเมิดร้ายแรง เช่น ค้ามนุษย์ทางเพศ ได้หลายครั้งก่อนถูกลบ

    ผลกระทบต่อสุขภาพจิตวัยรุ่น
    การใช้โซเชียลมีเดียมากเกินไปเชื่อมโยงกับการเปรียบเทียบทางสังคมและความรู้สึกด้อยค่า
    ฟีเจอร์บางอย่าง เช่น "ไลก์" และฟิลเตอร์ความงาม เพิ่มแรงกดดันต่อวัยรุ่น โดยเฉพาะผู้หญิง

    มาตรการแก้ไขและการตอบสนอง
    Meta เปิดตัว Instagram Teen Accounts ที่ตั้งค่าเป็นส่วนตัวและมีระบบควบคุมจากผู้ปกครอง
    ประเทศออสเตรเลียประกาศแบนโซเชียลมีเดียสำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปี

    คำเตือนจากข้อมูลข่าว
    การปกปิดข้อมูลวิจัยอาจทำให้ผู้ปกครองและสังคมไม่ตระหนักถึงความเสี่ยงที่แท้จริง
    การออกแบบแพลตฟอร์มที่กระตุ้นการเสพติดอาจส่งผลระยะยาวต่อสุขภาพจิตและพฤติกรรมของเด็ก

    https://time.com/7336204/meta-lawsuit-files-child-safety/
    📰 "Meta ถูกกล่าวหาปกปิดหลักฐานผลกระทบโซเชียลมีเดียต่อเยาวชน" ในเอกสารที่ถูกเปิดเผยล่าสุดในศาลสหรัฐฯ มีการกล่าวหาว่า Meta (บริษัทแม่ของ Facebook และ Instagram) รับรู้ถึงความเสี่ยงที่แพลตฟอร์มของตนอาจทำให้วัยรุ่นมีอาการซึมเศร้า วิตกกังวล และเปรียบเทียบตนเองในทางลบ แต่กลับเลือกที่จะไม่เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อสาธารณะหรือสภาคองเกรส ข้อกล่าวหานี้เปรียบเทียบกับการที่อุตสาหกรรมบุหรี่เคยปกปิดข้อมูลอันตรายจากการสูบบุหรี่ในอดีต ⚖️ คดีความใหญ่: การฟ้องร้องหลายบริษัทโซเชียลมีเดีย คดีนี้ไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับ Meta แต่ยังรวมถึง YouTube, TikTok และ Snapchat โดยมีโจทก์กว่า 1,800 ราย ทั้งผู้ปกครอง โรงเรียน และหน่วยงานรัฐ กล่าวหาว่าบริษัทเหล่านี้ "เติบโตโดยไม่สนใจผลกระทบต่อสุขภาพเด็ก" หลักฐานที่ถูกเปิดเผยแสดงให้เห็นว่า Meta มีนโยบายที่ยอมให้บัญชีที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ทางเพศถูกละเมิดได้ถึง 16 ครั้งก่อนจะถูกลบ ซึ่งถูกวิจารณ์ว่าเป็นมาตรการที่อันตรายและไม่สมเหตุสมผล 🧠 ผลกระทบต่อสุขภาพจิตวัยรุ่น งานวิจัยภายในที่ถูกเปิดเผย เช่น Project Mercury พบว่าเมื่อผู้ใช้หยุดใช้ Facebook หรือ Instagram เพียงหนึ่งสัปดาห์ ระดับความซึมเศร้าและความเหงาลดลง แต่ Meta กลับหยุดการศึกษาและไม่เผยแพร่ผลลัพธ์ นอกจากนี้ยังมีการกล่าวหาว่าบริษัทพยายามออกแบบฟีเจอร์ที่ทำให้ผู้ใช้ติดการใช้งาน เช่น ระบบ "ไลก์" และคอนเทนต์ที่กระตุ้นการเปรียบเทียบรูปร่างหน้าตา ซึ่งส่งผลกระทบต่อวัยรุ่นโดยเฉพาะผู้หญิง 🌍 มุมมองระดับโลกและมาตรการใหม่ หลายประเทศเริ่มตื่นตัว เช่น ออสเตรเลียประกาศแบนโซเชียลมีเดียสำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปี เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจิต ขณะที่ Meta เองก็พยายามแก้ไขด้วยการเปิดตัว Instagram Teen Accounts ที่ตั้งค่าเป็นส่วนตัวโดยอัตโนมัติและมีระบบควบคุมจากผู้ปกครอง แต่คำถามยังคงอยู่ว่าเป็นการแก้ปัญหาที่แท้จริงหรือเพียงการตอบสนองต่อแรงกดดันจากสังคมและกฎหมาย 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ข้อกล่าวหาต่อ Meta และบริษัทโซเชียลมีเดียอื่น ๆ ➡️ ปกปิดผลวิจัยที่ชี้ว่าโซเชียลมีเดียทำให้วัยรุ่นมีภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวล ➡️ มีนโยบายที่ยอมให้บัญชีละเมิดร้ายแรง เช่น ค้ามนุษย์ทางเพศ ได้หลายครั้งก่อนถูกลบ ✅ ผลกระทบต่อสุขภาพจิตวัยรุ่น ➡️ การใช้โซเชียลมีเดียมากเกินไปเชื่อมโยงกับการเปรียบเทียบทางสังคมและความรู้สึกด้อยค่า ➡️ ฟีเจอร์บางอย่าง เช่น "ไลก์" และฟิลเตอร์ความงาม เพิ่มแรงกดดันต่อวัยรุ่น โดยเฉพาะผู้หญิง ✅ มาตรการแก้ไขและการตอบสนอง ➡️ Meta เปิดตัว Instagram Teen Accounts ที่ตั้งค่าเป็นส่วนตัวและมีระบบควบคุมจากผู้ปกครอง ➡️ ประเทศออสเตรเลียประกาศแบนโซเชียลมีเดียสำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปี ‼️ คำเตือนจากข้อมูลข่าว ⛔ การปกปิดข้อมูลวิจัยอาจทำให้ผู้ปกครองและสังคมไม่ตระหนักถึงความเสี่ยงที่แท้จริง ⛔ การออกแบบแพลตฟอร์มที่กระตุ้นการเสพติดอาจส่งผลระยะยาวต่อสุขภาพจิตและพฤติกรรมของเด็ก https://time.com/7336204/meta-lawsuit-files-child-safety/
    TIME.COM
    7 Allegations Against Meta in Newly Unsealed Filings
    Court filings allege Meta tolerated sex trafficking, hid harms to teens, and prioritized growth over user safety for years.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 280 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความกฎหมาย EP.31

    ทนายความมิใช่เพียงผู้ประกอบวิชาชีพ แต่คือกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนกระบวนการยุติธรรมและเป็นผู้พิทักษ์สิทธิเสรีภาพของประชาชนตามหลักนิติรัฐ ในฐานะที่กฎหมายเป็นเครื่องมือที่รัฐใช้ในการจัดระเบียบสังคม การเข้าถึงความรู้และความเข้าใจในข้อกฎหมายจึงเป็นสิ่งจำเป็นยิ่งยวดสำหรับทุกคน ทว่าด้วยความสลับซับซ้อนและรายละเอียดปลีกย่อยของตัวบทกฎหมายและระเบียบปฏิบัติทางศาล ทำให้ประชาชนทั่วไปยากที่จะสามารถดำเนินคดีหรือปกป้องผลประโยชน์ของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การมีอยู่ของทนายความจึงเข้ามาเติมเต็มช่องว่างนี้ โดยทำหน้าที่เป็นผู้แทนทางกฎหมาย เป็นปากเสียง และเป็นผู้ให้คำปรึกษาทางวิชาการที่ถูกต้อง การเริ่มต้นตั้งแต่การให้คำปรึกษาเบื้องต้น การจัดเตรียมเอกสาร การสืบพยานหลักฐาน ไปจนถึงการว่าความในศาล ล้วนต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะทางจากทนายความผู้ซึ่งมีความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในข้อกฎหมายแพ่ง อาญา ปกครอง และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทนายความที่ดีจึงต้องมีคุณสมบัติที่ประกอบไปด้วยความรู้ทางวิชาการที่มั่นคง จริยธรรมและมรรยาททนายความที่เคร่งครัด ความสามารถในการวิเคราะห์สถานการณ์อย่างรอบด้าน และทักษะการสื่อสารที่คมคายและน่าเชื่อถือ การทำหน้าที่ว่าความในศาลนั้น ทนายความต้องแสดงความสามารถในการนำเสนอข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเพื่อสนับสนุนลูกความของตนอย่างเต็มที่ ภายใต้กรอบของกฎหมายและจริยธรรม โดยต้องรักษาความลับของลูกความและหลีกเลี่ยงการกระทำที่อาจนำมาซึ่งความเสื่อมเสียต่อเกียรติภูมิของวิชาชีพ ในหลายกรณี บทบาทของทนายความมิได้จำกัดอยู่แค่การสู้คดีในศาลเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท การเจรจาต่อรอง การร่างสัญญา และการวางแผนทางกฎหมายเชิงป้องกัน เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดข้อพิพาทในอนาคต ซึ่งถือเป็นการให้บริการที่ทรงคุณค่าในการช่วยลดภาระของศาลและช่วยให้คู่ความสามารถหาข้อยุติที่เป็นธรรมและเป็นที่ยอมรับร่วมกันได้ การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมในประเทศไทยได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเข้าถึงความยุติธรรมอย่างเท่าเทียม ซึ่งรวมถึงการจัดหาทนายความขอแรงหรือทนายความอาสาสำหรับผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อให้มั่นใจว่าสิทธิในการต่อสู้คดีและการได้รับความช่วยเหลือทางกฎหมายจะไม่ถูกจำกัดด้วยสถานะทางเศรษฐกิจ ทนายความจึงเป็นด่านหน้าในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเป็นผู้ที่คอยตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐให้เป็นไปตามหลักการแห่งกฎหมาย ความท้าทายในปัจจุบันที่ทนายความต้องเผชิญคือการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งจำเป็นต้องมีการพัฒนาความรู้และทักษะใหม่อยู่เสมอเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกความได้อย่างทันท่วงที ท้ายที่สุดแล้ว ความไว้วางใจที่ประชาชนมีต่อทนายความเป็นพื้นฐานสำคัญที่ทำให้วิชาชีพนี้สามารถดำรงอยู่ได้อย่างสง่างามและเป็นที่พึ่งของสังคม

    ด้วยเหตุนี้ ทนายความจึงเป็นเสมือนสะพานเชื่อมระหว่างประชาชนกับระบบกฎหมาย เป็นผู้ที่คอยนำทางและปกป้องผลประโยชน์ของลูกความอย่างซื่อสัตย์และมีจรรยาบรรณ การเลือกใช้บริการทนายความที่เปี่ยมด้วยความรู้ ความสามารถ และความรับผิดชอบ จึงเป็นก้าวแรกที่สำคัญที่สุดในการแสวงหาความยุติธรรมและสร้างความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สิน การทำงานอย่างหนักและความมุ่งมั่นของทนายความแต่ละคนไม่เพียงแต่ส่งผลต่อคดีความของลูกความเท่านั้น แต่ยังส่งผลสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของสาธารณชนต่อความศักดิ์สิทธิ์และประสิทธิภาพของกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด การให้ความเคารพและตระหนักถึงบทบาทอันทรงเกียรตินี้จึงเป็นสิ่งสำคัญในการธำรงไว้ซึ่งหลักนิติธรรมในสังคมไทยตลอดไป
    บทความกฎหมาย EP.31 ทนายความมิใช่เพียงผู้ประกอบวิชาชีพ แต่คือกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนกระบวนการยุติธรรมและเป็นผู้พิทักษ์สิทธิเสรีภาพของประชาชนตามหลักนิติรัฐ ในฐานะที่กฎหมายเป็นเครื่องมือที่รัฐใช้ในการจัดระเบียบสังคม การเข้าถึงความรู้และความเข้าใจในข้อกฎหมายจึงเป็นสิ่งจำเป็นยิ่งยวดสำหรับทุกคน ทว่าด้วยความสลับซับซ้อนและรายละเอียดปลีกย่อยของตัวบทกฎหมายและระเบียบปฏิบัติทางศาล ทำให้ประชาชนทั่วไปยากที่จะสามารถดำเนินคดีหรือปกป้องผลประโยชน์ของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การมีอยู่ของทนายความจึงเข้ามาเติมเต็มช่องว่างนี้ โดยทำหน้าที่เป็นผู้แทนทางกฎหมาย เป็นปากเสียง และเป็นผู้ให้คำปรึกษาทางวิชาการที่ถูกต้อง การเริ่มต้นตั้งแต่การให้คำปรึกษาเบื้องต้น การจัดเตรียมเอกสาร การสืบพยานหลักฐาน ไปจนถึงการว่าความในศาล ล้วนต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะทางจากทนายความผู้ซึ่งมีความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในข้อกฎหมายแพ่ง อาญา ปกครอง และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทนายความที่ดีจึงต้องมีคุณสมบัติที่ประกอบไปด้วยความรู้ทางวิชาการที่มั่นคง จริยธรรมและมรรยาททนายความที่เคร่งครัด ความสามารถในการวิเคราะห์สถานการณ์อย่างรอบด้าน และทักษะการสื่อสารที่คมคายและน่าเชื่อถือ การทำหน้าที่ว่าความในศาลนั้น ทนายความต้องแสดงความสามารถในการนำเสนอข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเพื่อสนับสนุนลูกความของตนอย่างเต็มที่ ภายใต้กรอบของกฎหมายและจริยธรรม โดยต้องรักษาความลับของลูกความและหลีกเลี่ยงการกระทำที่อาจนำมาซึ่งความเสื่อมเสียต่อเกียรติภูมิของวิชาชีพ ในหลายกรณี บทบาทของทนายความมิได้จำกัดอยู่แค่การสู้คดีในศาลเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท การเจรจาต่อรอง การร่างสัญญา และการวางแผนทางกฎหมายเชิงป้องกัน เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดข้อพิพาทในอนาคต ซึ่งถือเป็นการให้บริการที่ทรงคุณค่าในการช่วยลดภาระของศาลและช่วยให้คู่ความสามารถหาข้อยุติที่เป็นธรรมและเป็นที่ยอมรับร่วมกันได้ การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมในประเทศไทยได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเข้าถึงความยุติธรรมอย่างเท่าเทียม ซึ่งรวมถึงการจัดหาทนายความขอแรงหรือทนายความอาสาสำหรับผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อให้มั่นใจว่าสิทธิในการต่อสู้คดีและการได้รับความช่วยเหลือทางกฎหมายจะไม่ถูกจำกัดด้วยสถานะทางเศรษฐกิจ ทนายความจึงเป็นด่านหน้าในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเป็นผู้ที่คอยตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐให้เป็นไปตามหลักการแห่งกฎหมาย ความท้าทายในปัจจุบันที่ทนายความต้องเผชิญคือการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งจำเป็นต้องมีการพัฒนาความรู้และทักษะใหม่อยู่เสมอเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกความได้อย่างทันท่วงที ท้ายที่สุดแล้ว ความไว้วางใจที่ประชาชนมีต่อทนายความเป็นพื้นฐานสำคัญที่ทำให้วิชาชีพนี้สามารถดำรงอยู่ได้อย่างสง่างามและเป็นที่พึ่งของสังคม ด้วยเหตุนี้ ทนายความจึงเป็นเสมือนสะพานเชื่อมระหว่างประชาชนกับระบบกฎหมาย เป็นผู้ที่คอยนำทางและปกป้องผลประโยชน์ของลูกความอย่างซื่อสัตย์และมีจรรยาบรรณ การเลือกใช้บริการทนายความที่เปี่ยมด้วยความรู้ ความสามารถ และความรับผิดชอบ จึงเป็นก้าวแรกที่สำคัญที่สุดในการแสวงหาความยุติธรรมและสร้างความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สิน การทำงานอย่างหนักและความมุ่งมั่นของทนายความแต่ละคนไม่เพียงแต่ส่งผลต่อคดีความของลูกความเท่านั้น แต่ยังส่งผลสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของสาธารณชนต่อความศักดิ์สิทธิ์และประสิทธิภาพของกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด การให้ความเคารพและตระหนักถึงบทบาทอันทรงเกียรตินี้จึงเป็นสิ่งสำคัญในการธำรงไว้ซึ่งหลักนิติธรรมในสังคมไทยตลอดไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 488 มุมมอง 0 รีวิว
  • เทพไท ซัดเพื่อไทย "ปลุกผีทักษิณ" โยงคดีความยุติธรรมเป็นประเด็นการเมือง หลังคะแนนนิยมพรรคตกต่ำ ชี้ "ลูกไม้เก่าๆ" ที่ใช้มาตลอดเพื่อรักษามวลชนเสื้อแดง
    https://www.thai-tai.tv/news/22446/
    .
    #ไทยไท #เทพไทเสนพงศ์ #เพื่อไทย #ขายทักษิณ #คะแนนสงสาร #อุทธรณ์คดี112

    เทพไท ซัดเพื่อไทย "ปลุกผีทักษิณ" โยงคดีความยุติธรรมเป็นประเด็นการเมือง หลังคะแนนนิยมพรรคตกต่ำ ชี้ "ลูกไม้เก่าๆ" ที่ใช้มาตลอดเพื่อรักษามวลชนเสื้อแดง https://www.thai-tai.tv/news/22446/ . #ไทยไท #เทพไทเสนพงศ์ #เพื่อไทย #ขายทักษิณ #คะแนนสงสาร #อุทธรณ์คดี112
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 0 รีวิว
  • Roblox เพิ่มระบบตรวจสอบอายุเพื่อความปลอดภัยของเด็ก

    Roblox ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเกมออนไลน์ยอดนิยมประกาศว่าจะเริ่มใช้ระบบ ตรวจสอบอายุด้วยการสแกนใบหน้า เพื่อให้ผู้เล่นสามารถเข้าถึงฟีเจอร์แชทได้ โดยผู้ใช้ต้องถ่าย ภาพเซลฟี เพื่อให้ระบบ AI ประเมินอายุ และจัดกลุ่มผู้เล่นตามช่วงวัย เช่น 9–12 ปี หรือ 13–15 ปี เพื่อป้องกันการสื่อสารระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ที่อาจเสี่ยงต่อการถูกล่อลวงหรือคุกคามทางออนไลน์

    มาตรการนี้เกิดขึ้นหลังจาก Roblox ถูกวิจารณ์อย่างหนักจาก รัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแลในหลายประเทศ ว่าไม่สามารถปกป้องผู้ใช้ที่เป็นเด็กจากภัยคุกคามทางออนไลน์ได้เพียงพอ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ที่บริษัทกำลังเผชิญ คดีความจากอัยการรัฐ Texas, Kentucky และ Louisiana รวมถึงผู้ฟ้องร้องรายบุคคลที่กล่าวหาว่า Roblox ล้มเหลวในการดูแลความปลอดภัยของเยาวชน

    Matt Kaufman หัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยของ Roblox ระบุว่า บริษัทต้องการเป็นตัวอย่างให้แพลตฟอร์มอื่น ๆ เห็นว่า การตรวจสอบอายุไม่ใช่เรื่อง “เป็นไปไม่ได้” แต่สามารถทำได้จริงหากมีความตั้งใจ โดยการบังคับใช้ครั้งแรกจะเริ่มใน ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และเนเธอร์แลนด์ เดือนธันวาคม 2025 และจะขยายไปยังประเทศอื่น ๆ ในเดือนมกราคม 2026

    แม้ระบบใหม่นี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัย แต่ก็มีข้อถกเถียงเรื่อง ความเป็นส่วนตัวของข้อมูลชีวภาพ (biometric data) ที่ผู้ใช้ต้องส่งให้ Roblox ซึ่งอาจสร้างความกังวลว่าบริษัทจะจัดเก็บและใช้ข้อมูลเหล่านี้อย่างไรในอนาคต

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Roblox เพิ่มระบบตรวจสอบอายุด้วยการสแกนใบหน้า
    ผู้เล่นต้องถ่ายเซลฟีเพื่อให้ระบบ AI ประเมินอายุ

    จัดกลุ่มผู้เล่นตามช่วงวัย
    เช่น 9–12 ปี หรือ 13–15 ปี เพื่อจำกัดการแชทระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่

    เริ่มใช้ในออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และเนเธอร์แลนด์
    เดือนธันวาคม 2025 ก่อนขยายไปทั่วโลกในเดือนมกราคม 2026

    มาตรการเกิดจากแรงกดดันและคดีความในสหรัฐฯ
    อัยการรัฐและผู้ฟ้องร้องกล่าวหาว่า Roblox ไม่ปกป้องเด็กเพียงพอ

    ความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัวของข้อมูลชีวภาพ
    ผู้ใช้ต้องส่งข้อมูลใบหน้า ซึ่งอาจถูกเก็บและนำไปใช้ในอนาคต

    การแบ่งกลุ่มอายุอาจไม่แม่นยำ 100%
    ระบบ AI อาจประเมินผิดพลาด ทำให้เกิดข้อโต้แย้งหรือปัญหาในการใช้งาน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/18/roblox-to-require-age-checks-to-use-platform039s-chat-features
    🧒 Roblox เพิ่มระบบตรวจสอบอายุเพื่อความปลอดภัยของเด็ก Roblox ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเกมออนไลน์ยอดนิยมประกาศว่าจะเริ่มใช้ระบบ ตรวจสอบอายุด้วยการสแกนใบหน้า เพื่อให้ผู้เล่นสามารถเข้าถึงฟีเจอร์แชทได้ โดยผู้ใช้ต้องถ่าย ภาพเซลฟี เพื่อให้ระบบ AI ประเมินอายุ และจัดกลุ่มผู้เล่นตามช่วงวัย เช่น 9–12 ปี หรือ 13–15 ปี เพื่อป้องกันการสื่อสารระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ที่อาจเสี่ยงต่อการถูกล่อลวงหรือคุกคามทางออนไลน์ มาตรการนี้เกิดขึ้นหลังจาก Roblox ถูกวิจารณ์อย่างหนักจาก รัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแลในหลายประเทศ ว่าไม่สามารถปกป้องผู้ใช้ที่เป็นเด็กจากภัยคุกคามทางออนไลน์ได้เพียงพอ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ที่บริษัทกำลังเผชิญ คดีความจากอัยการรัฐ Texas, Kentucky และ Louisiana รวมถึงผู้ฟ้องร้องรายบุคคลที่กล่าวหาว่า Roblox ล้มเหลวในการดูแลความปลอดภัยของเยาวชน Matt Kaufman หัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยของ Roblox ระบุว่า บริษัทต้องการเป็นตัวอย่างให้แพลตฟอร์มอื่น ๆ เห็นว่า การตรวจสอบอายุไม่ใช่เรื่อง “เป็นไปไม่ได้” แต่สามารถทำได้จริงหากมีความตั้งใจ โดยการบังคับใช้ครั้งแรกจะเริ่มใน ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และเนเธอร์แลนด์ เดือนธันวาคม 2025 และจะขยายไปยังประเทศอื่น ๆ ในเดือนมกราคม 2026 แม้ระบบใหม่นี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัย แต่ก็มีข้อถกเถียงเรื่อง ความเป็นส่วนตัวของข้อมูลชีวภาพ (biometric data) ที่ผู้ใช้ต้องส่งให้ Roblox ซึ่งอาจสร้างความกังวลว่าบริษัทจะจัดเก็บและใช้ข้อมูลเหล่านี้อย่างไรในอนาคต 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Roblox เพิ่มระบบตรวจสอบอายุด้วยการสแกนใบหน้า ➡️ ผู้เล่นต้องถ่ายเซลฟีเพื่อให้ระบบ AI ประเมินอายุ ✅ จัดกลุ่มผู้เล่นตามช่วงวัย ➡️ เช่น 9–12 ปี หรือ 13–15 ปี เพื่อจำกัดการแชทระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ ✅ เริ่มใช้ในออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และเนเธอร์แลนด์ ➡️ เดือนธันวาคม 2025 ก่อนขยายไปทั่วโลกในเดือนมกราคม 2026 ✅ มาตรการเกิดจากแรงกดดันและคดีความในสหรัฐฯ ➡️ อัยการรัฐและผู้ฟ้องร้องกล่าวหาว่า Roblox ไม่ปกป้องเด็กเพียงพอ ‼️ ความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัวของข้อมูลชีวภาพ ⛔ ผู้ใช้ต้องส่งข้อมูลใบหน้า ซึ่งอาจถูกเก็บและนำไปใช้ในอนาคต ‼️ การแบ่งกลุ่มอายุอาจไม่แม่นยำ 100% ⛔ ระบบ AI อาจประเมินผิดพลาด ทำให้เกิดข้อโต้แย้งหรือปัญหาในการใช้งาน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/18/roblox-to-require-age-checks-to-use-platform039s-chat-features
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Roblox to require age checks to use platform's chat features
    WASHINGTON (Reuters) -Gaming platform Roblox will require users to verify their age using facial recognition software to chat with other players, a company executive said, with the goal of limiting communication between kids and adults on the platform.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 197 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความกฎหมาย EP.22

    อำนาจแห่งการพรากชีวิต การฆาตกรรมคือความมืดมนที่สุดของการกระทำมนุษย์ มันคือการตัดสินใจอย่างจงใจและเลือดเย็นที่จะยุติการมีอยู่ของผู้อื่น การกระทำนี้มิใช่เพียงการละเมิดกฎหมายอาญา แต่เป็นการละเมิดหลักการพื้นฐานที่สุดของศีลธรรมจริยธรรมที่มนุษย์พึงมีต่อกัน กฎหมายของทุกประเทศล้วนถือว่าการฆ่าผู้อื่นเป็นอาชญากรรมที่ร้ายแรงที่สุด เพราะเป็นการทำลายสิทธิที่ไม่อาจโอนได้และไม่อาจเรียกคืนได้นั่นคือสิทธิในการมีชีวิต การกระทำโดยเจตนาให้ผู้อื่นตายนั้นแตกต่างจากการกระทำอื่น ๆ ที่ก่อให้เกิดความเสียหาย เนื่องจากมันเป็นการทำลายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และสร้างความสูญเสียที่ไม่มีสิ่งใดมาทดแทนได้ ความรุนแรงของบทลงโทษทางกฎหมายที่กำหนดไว้สำหรับการฆาตกรรม ไม่ว่าจะเป็นโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต ก็เป็นเครื่องบ่งชี้ที่ชัดเจนที่สุดว่า สังคมถือว่าการกระทำนี้เป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของส่วนรวม การฆาตกรรมสั่นสะเทือนความเชื่อมั่นในความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน ทำให้ผู้คนหวาดระแวง และทำลายใยแห่งความไว้ใจที่ผูกพันผู้คนไว้ด้วยกัน

    การฆาตกรรมจึงไม่ใช่แค่คดีความส่วนบุคคล แต่เป็นบาดแผลทางสังคมที่ต้องได้รับการเยียวยาด้วยความเป็นธรรมอย่างถึงที่สุด เมื่อมีผู้ใดก้าวข้ามเส้นแบ่งแห่งความมีสติและกระทำสิ่งที่มิอาจให้อภัยได้เช่นนี้ ระบบยุติธรรมต้องทำหน้าที่ด้วยความเด็ดขาด รวดเร็ว และเป็นธรรม เพื่อให้ผู้กระทำผิดได้รับโทษทัณฑ์ที่สาสมกับความผิดที่ได้ก่อขึ้น การลงโทษที่หนักหน่วงนั้นมีจุดประสงค์เพื่อการยับยั้งการกระทำผิดซ้ำในอนาคต และเพื่อส่งสัญญาณอันหนักแน่นไปยังสังคมว่า ชีวิตของพลเมืองทุกคนนั้นมีค่าและได้รับการคุ้มครองอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักนิติรัฐ นอกเหนือจากการลงโทษแล้ว สังคมยังต้องพิจารณาถึงรากเหง้าของปัญหาความรุนแรงในเชิงโครงสร้างและจิตวิทยา เพื่อหาทางป้องกันและลดเหตุการณ์อันน่าเศร้าสลดเช่นนี้ในระยะยาว

    ดังนั้น การฆาตกรรม คือ การกระทำที่โหดร้ายและเป็นความผิดร้ายแรงที่สุดที่เกิดจากเจตนาชั่วร้ายของมนุษย์ การตอบสนองของสังคมและกฎหมายต้องเป็นไปอย่างหนักแน่นและไม่ประนีประนอม เพื่อปกป้องสิทธิในการมีชีวิตของทุกคน และเพื่อธำรงไว้ซึ่งหลักการแห่งความยุติธรรมที่ว่า ไม่มีใครมีอำนาจเหนือชีวิตของผู้อื่น การรักษาไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของชีวิตคือหัวใจสำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติและมีอารยะ
    บทความกฎหมาย EP.22 อำนาจแห่งการพรากชีวิต การฆาตกรรมคือความมืดมนที่สุดของการกระทำมนุษย์ มันคือการตัดสินใจอย่างจงใจและเลือดเย็นที่จะยุติการมีอยู่ของผู้อื่น การกระทำนี้มิใช่เพียงการละเมิดกฎหมายอาญา แต่เป็นการละเมิดหลักการพื้นฐานที่สุดของศีลธรรมจริยธรรมที่มนุษย์พึงมีต่อกัน กฎหมายของทุกประเทศล้วนถือว่าการฆ่าผู้อื่นเป็นอาชญากรรมที่ร้ายแรงที่สุด เพราะเป็นการทำลายสิทธิที่ไม่อาจโอนได้และไม่อาจเรียกคืนได้นั่นคือสิทธิในการมีชีวิต การกระทำโดยเจตนาให้ผู้อื่นตายนั้นแตกต่างจากการกระทำอื่น ๆ ที่ก่อให้เกิดความเสียหาย เนื่องจากมันเป็นการทำลายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และสร้างความสูญเสียที่ไม่มีสิ่งใดมาทดแทนได้ ความรุนแรงของบทลงโทษทางกฎหมายที่กำหนดไว้สำหรับการฆาตกรรม ไม่ว่าจะเป็นโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต ก็เป็นเครื่องบ่งชี้ที่ชัดเจนที่สุดว่า สังคมถือว่าการกระทำนี้เป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของส่วนรวม การฆาตกรรมสั่นสะเทือนความเชื่อมั่นในความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน ทำให้ผู้คนหวาดระแวง และทำลายใยแห่งความไว้ใจที่ผูกพันผู้คนไว้ด้วยกัน การฆาตกรรมจึงไม่ใช่แค่คดีความส่วนบุคคล แต่เป็นบาดแผลทางสังคมที่ต้องได้รับการเยียวยาด้วยความเป็นธรรมอย่างถึงที่สุด เมื่อมีผู้ใดก้าวข้ามเส้นแบ่งแห่งความมีสติและกระทำสิ่งที่มิอาจให้อภัยได้เช่นนี้ ระบบยุติธรรมต้องทำหน้าที่ด้วยความเด็ดขาด รวดเร็ว และเป็นธรรม เพื่อให้ผู้กระทำผิดได้รับโทษทัณฑ์ที่สาสมกับความผิดที่ได้ก่อขึ้น การลงโทษที่หนักหน่วงนั้นมีจุดประสงค์เพื่อการยับยั้งการกระทำผิดซ้ำในอนาคต และเพื่อส่งสัญญาณอันหนักแน่นไปยังสังคมว่า ชีวิตของพลเมืองทุกคนนั้นมีค่าและได้รับการคุ้มครองอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักนิติรัฐ นอกเหนือจากการลงโทษแล้ว สังคมยังต้องพิจารณาถึงรากเหง้าของปัญหาความรุนแรงในเชิงโครงสร้างและจิตวิทยา เพื่อหาทางป้องกันและลดเหตุการณ์อันน่าเศร้าสลดเช่นนี้ในระยะยาว ดังนั้น การฆาตกรรม คือ การกระทำที่โหดร้ายและเป็นความผิดร้ายแรงที่สุดที่เกิดจากเจตนาชั่วร้ายของมนุษย์ การตอบสนองของสังคมและกฎหมายต้องเป็นไปอย่างหนักแน่นและไม่ประนีประนอม เพื่อปกป้องสิทธิในการมีชีวิตของทุกคน และเพื่อธำรงไว้ซึ่งหลักการแห่งความยุติธรรมที่ว่า ไม่มีใครมีอำนาจเหนือชีวิตของผู้อื่น การรักษาไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของชีวิตคือหัวใจสำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติและมีอารยะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 547 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความกฎหมาย EP.21

    คำให้การ ไม่ได้เป็นเพียงข้อความ แต่คือองค์ประกอบสำคัญที่ทำหน้าที่เป็นหัวใจของการแสวงหาความจริงในกระบวนการยุติธรรม คำให้การที่จำเลยหรือพยานนำเสนอต่อศาลนั้นมีความหมายลึกซึ้งกว่าการให้ข้อมูลทั่วไป เพราะมันเป็นเครื่องมือหลักที่ศาลใช้ในการพิจารณาไต่สวนและประกอบการวินิจฉัยชี้ขาดคดีความต่างๆ การกล่าวถ้อยคำอย่างถี่ถ้วนตามความเป็นจริง จึงถือเป็นความรับผิดชอบอันใหญ่หลวง เนื่องจากคำพูดทุกคำมีน้ำหนัก มีผลกระทบโดยตรงต่อรูปคดี ชะตากรรมของคู่ความ และความถูกต้องเที่ยงธรรมที่จะเกิดขึ้นในสังคม การที่จำเลยได้มีโอกาสชี้แจงข้อเท็จจริงในมุมของตน ขณะที่พยานได้ให้ข้อมูลที่รับรู้มาตามหน้าที่ ย่อมเป็นการสร้างภาพที่สมบูรณ์ขึ้นเพื่อให้ศาลเห็นข้อเท็จจริงทั้งหมดรอบด้าน คำให้การจึงเป็นตัวแทนของเสียงของผู้เกี่ยวข้อง เป็นภาพสะท้อนของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเป็นหลักฐานทางวาจาที่ทรงพลังที่สุดในการพิสูจน์หรือหักล้างข้อกล่าวหา บทบาทนี้ทำให้คำให้การเป็นมากกว่าแค่ถ้อยคำ แต่คือรากฐานของการตัดสินใจที่ยุติธรรม

    ด้วยเหตุนี้ การเตรียมคำให้การจึงต้องทำด้วยความรอบคอบและเข้าใจในสาระสำคัญของคดีอย่างถ่องแท้ นักกฎหมายและคู่ความต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อกลั่นกรองข้อเท็จจริงและลำดับเรื่องราวให้มีความชัดเจน สอดคล้องกับพยานหลักฐานอื่นที่ปรากฏในสำนวนคดี ความน่าเชื่อถือของคำให้การขึ้นอยู่กับความจริงใจ ความสม่ำเสมอ และความสอดคล้องกันของข้อมูลที่นำเสนอในทุกขั้นตอนของการพิจารณา การใช้ถ้อยคำที่ชัดเจน ตรงประเด็น และปราศจากความคลุมเครือจะช่วยให้ศาลสามารถทำความเข้าใจในเจตนาและเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการกระทำหรือข้อกล่าวหาต่างๆ ได้โดยง่าย แม้ว่าในทางปฏิบัติอาจมีความกดดันหรือความซับซ้อนทางอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่หลักการสำคัญที่สุดของคำให้การคือการเป็นสะพานเชื่อมระหว่างข้อเท็จจริงกับข้อกฎหมาย เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีเหตุผลและเที่ยงธรรม การเคารพในความศักดิ์สิทธิ์ของคำให้การจึงเป็นการเคารพต่อความศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการยุติธรรมในองค์รวม

    ดังนั้น คำให้การที่จำเลยหรือพยานมอบต่อศาลจึงเป็นปัจจัยชี้ขาดความสำเร็จหรือความล้มเหลวของการพิจารณาคดี เป็นเครื่องมือในการค้นหาความจริงที่สำคัญยิ่ง เป็นพันธะสัญญาที่จะต้องกล่าวแต่สิ่งที่ถูกต้องเพื่อให้บรรลุผลแห่งความยุติธรรมสูงสุด บทบาทนี้ทำให้คำให้การเป็นเสาหลักที่ค้ำจุนความน่าเชื่อถือของระบบกฎหมาย และเป็นสิ่งยืนยันว่าทุกฝ่ายมีสิทธิและโอกาสในการนำเสนอข้อเท็จจริงเพื่อปกป้องสิทธิของตนอย่างเต็มที่ภายใต้ร่มเงาของกฎหมาย

    #กฎหมาย #ทนายความ
    #จันทศิษฐ์ทนายความ
    บทความกฎหมาย EP.21 คำให้การ ไม่ได้เป็นเพียงข้อความ แต่คือองค์ประกอบสำคัญที่ทำหน้าที่เป็นหัวใจของการแสวงหาความจริงในกระบวนการยุติธรรม คำให้การที่จำเลยหรือพยานนำเสนอต่อศาลนั้นมีความหมายลึกซึ้งกว่าการให้ข้อมูลทั่วไป เพราะมันเป็นเครื่องมือหลักที่ศาลใช้ในการพิจารณาไต่สวนและประกอบการวินิจฉัยชี้ขาดคดีความต่างๆ การกล่าวถ้อยคำอย่างถี่ถ้วนตามความเป็นจริง จึงถือเป็นความรับผิดชอบอันใหญ่หลวง เนื่องจากคำพูดทุกคำมีน้ำหนัก มีผลกระทบโดยตรงต่อรูปคดี ชะตากรรมของคู่ความ และความถูกต้องเที่ยงธรรมที่จะเกิดขึ้นในสังคม การที่จำเลยได้มีโอกาสชี้แจงข้อเท็จจริงในมุมของตน ขณะที่พยานได้ให้ข้อมูลที่รับรู้มาตามหน้าที่ ย่อมเป็นการสร้างภาพที่สมบูรณ์ขึ้นเพื่อให้ศาลเห็นข้อเท็จจริงทั้งหมดรอบด้าน คำให้การจึงเป็นตัวแทนของเสียงของผู้เกี่ยวข้อง เป็นภาพสะท้อนของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเป็นหลักฐานทางวาจาที่ทรงพลังที่สุดในการพิสูจน์หรือหักล้างข้อกล่าวหา บทบาทนี้ทำให้คำให้การเป็นมากกว่าแค่ถ้อยคำ แต่คือรากฐานของการตัดสินใจที่ยุติธรรม ด้วยเหตุนี้ การเตรียมคำให้การจึงต้องทำด้วยความรอบคอบและเข้าใจในสาระสำคัญของคดีอย่างถ่องแท้ นักกฎหมายและคู่ความต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อกลั่นกรองข้อเท็จจริงและลำดับเรื่องราวให้มีความชัดเจน สอดคล้องกับพยานหลักฐานอื่นที่ปรากฏในสำนวนคดี ความน่าเชื่อถือของคำให้การขึ้นอยู่กับความจริงใจ ความสม่ำเสมอ และความสอดคล้องกันของข้อมูลที่นำเสนอในทุกขั้นตอนของการพิจารณา การใช้ถ้อยคำที่ชัดเจน ตรงประเด็น และปราศจากความคลุมเครือจะช่วยให้ศาลสามารถทำความเข้าใจในเจตนาและเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการกระทำหรือข้อกล่าวหาต่างๆ ได้โดยง่าย แม้ว่าในทางปฏิบัติอาจมีความกดดันหรือความซับซ้อนทางอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่หลักการสำคัญที่สุดของคำให้การคือการเป็นสะพานเชื่อมระหว่างข้อเท็จจริงกับข้อกฎหมาย เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีเหตุผลและเที่ยงธรรม การเคารพในความศักดิ์สิทธิ์ของคำให้การจึงเป็นการเคารพต่อความศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการยุติธรรมในองค์รวม ดังนั้น คำให้การที่จำเลยหรือพยานมอบต่อศาลจึงเป็นปัจจัยชี้ขาดความสำเร็จหรือความล้มเหลวของการพิจารณาคดี เป็นเครื่องมือในการค้นหาความจริงที่สำคัญยิ่ง เป็นพันธะสัญญาที่จะต้องกล่าวแต่สิ่งที่ถูกต้องเพื่อให้บรรลุผลแห่งความยุติธรรมสูงสุด บทบาทนี้ทำให้คำให้การเป็นเสาหลักที่ค้ำจุนความน่าเชื่อถือของระบบกฎหมาย และเป็นสิ่งยืนยันว่าทุกฝ่ายมีสิทธิและโอกาสในการนำเสนอข้อเท็จจริงเพื่อปกป้องสิทธิของตนอย่างเต็มที่ภายใต้ร่มเงาของกฎหมาย #กฎหมาย #ทนายความ #จันทศิษฐ์ทนายความ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 417 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทิศต้องห้าม.....ประจำเดือนพฤศจิกายน 2568

    ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 7 เดือนพฤศจิกายน ไปจนถึง วันเสาร์ที่ 6 เดือนธันวาคม พ.ศ. 2568 สิ่งสำคัญคือ ควรเลี่ยงต่อการกระทบ ทุบ ตอก ขุด เจาะ ในตำแหน่งวิบากทิศทาง ดังนี้

    1. ทิศแตกสลาย 月破(ง๊วยผั่ว) ทิศตะวันออก/ใต้ 巽卦(สุ่งข่วย) ราศี 巳(จี๋) ตั้งแต่รัศมี 142.5 ถึง 157.5 องศา

    2. ทิศ 3 อสูร 月三煞(หง่วยซาสั่วะ) ตั้งแต่ทิศตะวันตก/ใต้ 坤卦(คุงข่วย) รัศมี 225 องศา ถึง ทิศตะวันตก/เหนือ 乾卦(เคี้ยงข่วย) รัศมี 315 องศา

    3. ทิศ 5 เหลือง 五黃(โหงวอี๊ง) ทิศตะวันออก/เหนือ 艮卦(กึ๊งข่วย) ตั้งแต่รัศมี 22.5 ถึง 67.5 องศา

    ดังนั้นหากกระทบสะเทือนถึงดินที่อัดอั้นด้วยกระแสพลังร้ายอันรุนแรงรอเพียงแค่การปลดปล่อย ด้วยการทุบ ตอก ขุด เจาะ ในตำแหน่งวิบากทิศทางดังที่กล่าวไว้ในข้างต้น ส่งผลให้ท่านที่ชะตาตก ชีวิตจะเกิดวิกฤต กลุ้ม วุ่นวาย มากอุปสรรคปัญหา ขัดแย้ง แตกแยก ถูกแทงหลัง ปองร้าย จี้ ปล้น ขโมย เสียทรัพย์อย่างไม่จำเป็น พัวพันเรื่องคดีความจนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล หรือเกิดเจ็บป่วย ต้องผ่าตัดรักษาอาการ หรือจะบาดเจ็บจนเลือดตกยางออกจากอุบัติเหตุเภทภัยที่ไม่คาดคิด โดยเฉพาะบุคคลที่เกิดปีมะเส็งพึงระวังเป็นพิเศษ

    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    ทิศต้องห้าม.....ประจำเดือนพฤศจิกายน 2568 ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 7 เดือนพฤศจิกายน ไปจนถึง วันเสาร์ที่ 6 เดือนธันวาคม พ.ศ. 2568 สิ่งสำคัญคือ ควรเลี่ยงต่อการกระทบ ทุบ ตอก ขุด เจาะ ในตำแหน่งวิบากทิศทาง ดังนี้ 1. ทิศแตกสลาย 月破(ง๊วยผั่ว) ทิศตะวันออก/ใต้ 巽卦(สุ่งข่วย) ราศี 巳(จี๋) ตั้งแต่รัศมี 142.5 ถึง 157.5 องศา 2. ทิศ 3 อสูร 月三煞(หง่วยซาสั่วะ) ตั้งแต่ทิศตะวันตก/ใต้ 坤卦(คุงข่วย) รัศมี 225 องศา ถึง ทิศตะวันตก/เหนือ 乾卦(เคี้ยงข่วย) รัศมี 315 องศา 3. ทิศ 5 เหลือง 五黃(โหงวอี๊ง) ทิศตะวันออก/เหนือ 艮卦(กึ๊งข่วย) ตั้งแต่รัศมี 22.5 ถึง 67.5 องศา ดังนั้นหากกระทบสะเทือนถึงดินที่อัดอั้นด้วยกระแสพลังร้ายอันรุนแรงรอเพียงแค่การปลดปล่อย ด้วยการทุบ ตอก ขุด เจาะ ในตำแหน่งวิบากทิศทางดังที่กล่าวไว้ในข้างต้น ส่งผลให้ท่านที่ชะตาตก ชีวิตจะเกิดวิกฤต กลุ้ม วุ่นวาย มากอุปสรรคปัญหา ขัดแย้ง แตกแยก ถูกแทงหลัง ปองร้าย จี้ ปล้น ขโมย เสียทรัพย์อย่างไม่จำเป็น พัวพันเรื่องคดีความจนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล หรือเกิดเจ็บป่วย ต้องผ่าตัดรักษาอาการ หรือจะบาดเจ็บจนเลือดตกยางออกจากอุบัติเหตุเภทภัยที่ไม่คาดคิด โดยเฉพาะบุคคลที่เกิดปีมะเส็งพึงระวังเป็นพิเศษ ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 203 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดร. สุชาริต ภักดี นักจุลชีววิทยาชื่อดัง ได้ออกแถลงการณ์ที่น่าตกตะลึง โดยระบุว่าวัคซีน mRNA เป็น "อันตรายร้ายแรงที่สุดที่มนุษยชาติเคยเผชิญ" แต่ข้อโต้แย้งล่าสุดของเขาไม่ใช่แค่เรื่องวิทยาศาสตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องถูกกฎหมายอีกด้วย

    เขาชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในสหรัฐอเมริกา นั่นคือ การที่โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ ยกเลิกคำแนะนำการฉีดวัคซีนสำหรับผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงและไม่มีความเสี่ยง ภักดีโต้แย้งว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อเกราะป้องกันทางกฎหมายที่ปกป้องผู้ผลิตวัคซีน

    นี่คือรายละเอียดสำคัญ:

    1. การล่มสลายของเกราะป้องกัน: พระราชบัญญัติความพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินและความพร้อมรับมือสาธารณะ (PREP) ให้ความคุ้มครองความรับผิดแก่ผู้ผลิตวัคซีน ภักดีโต้แย้งว่าการที่ยกเลิกคำแนะนำอย่างเป็นทางการสำหรับประชากรส่วนใหญ่ (ทั้งคนหนุ่มสาวและคนสุขภาพดี) ทำให้พื้นฐานทางกฎหมายสำหรับการคุ้มครองนี้ "หมดไปแล้ว"

    2. การพิพากษาที่กำลังจะมาถึง: หากปราศจากเกราะป้องกันความรับผิดนี้ คดีความขนาดใหญ่ระลอกแรกในอเมริกาก็ใกล้จะเกิดขึ้น ใครก็ตามที่กล้าฉีดวัคซีนให้เด็กหรือเยาวชนที่มีสุขภาพดีโดยฝ่าฝืนคำแนะนำอย่างเป็นทางการจะถูกเปิดโปง หากเกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ช่องทางในการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายก็เปิดกว้างแล้ว

    3. ภาระการพิสูจน์พลิกกลับ: นี่คือประเด็นสำคัญที่สุด ภักดีระบุว่าในกรณีที่เกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนจนเป็นอันตรายถึงชีวิต สิทธิในการกลับคืนสู่สังคมจะถูกกระตุ้น ซึ่งหมายความว่าอุตสาหกรรมยาจะถูกบังคับให้ต้องพิสูจน์ว่าวัคซีนไม่ได้ก่อให้เกิดอันตราย

    ข้อสรุปของเขาคืออะไร? "พวกเขาจะทำแบบนั้นไม่ได้"

    ดร.ภักดีไม่ได้วางตำแหน่งสิ่งนี้ไว้ในฐานะความปรารถนาที่จะให้เกิดอันตราย แต่เป็น "ความหวังอันยิ่งใหญ่ของฉัน" ซึ่งเป็นกลไกที่จะทำให้หน่วยงานที่มีอำนาจต้องรับผิดชอบและเปิดเผยความจริงในที่สุด

    ภูมิทัศน์ทางกฎหมายได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ผลกระทบมีมากมายมหาศาล

    เข้าร่วม https://t.me/RogerHodkinson
    ดร. สุชาริต ภักดี นักจุลชีววิทยาชื่อดัง ได้ออกแถลงการณ์ที่น่าตกตะลึง โดยระบุว่าวัคซีน mRNA เป็น "อันตรายร้ายแรงที่สุดที่มนุษยชาติเคยเผชิญ" แต่ข้อโต้แย้งล่าสุดของเขาไม่ใช่แค่เรื่องวิทยาศาสตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องถูกกฎหมายอีกด้วย เขาชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในสหรัฐอเมริกา นั่นคือ การที่โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ ยกเลิกคำแนะนำการฉีดวัคซีนสำหรับผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงและไม่มีความเสี่ยง ภักดีโต้แย้งว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อเกราะป้องกันทางกฎหมายที่ปกป้องผู้ผลิตวัคซีน นี่คือรายละเอียดสำคัญ: 1. การล่มสลายของเกราะป้องกัน: พระราชบัญญัติความพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินและความพร้อมรับมือสาธารณะ (PREP) ให้ความคุ้มครองความรับผิดแก่ผู้ผลิตวัคซีน ภักดีโต้แย้งว่าการที่ยกเลิกคำแนะนำอย่างเป็นทางการสำหรับประชากรส่วนใหญ่ (ทั้งคนหนุ่มสาวและคนสุขภาพดี) ทำให้พื้นฐานทางกฎหมายสำหรับการคุ้มครองนี้ "หมดไปแล้ว" 2. การพิพากษาที่กำลังจะมาถึง: หากปราศจากเกราะป้องกันความรับผิดนี้ คดีความขนาดใหญ่ระลอกแรกในอเมริกาก็ใกล้จะเกิดขึ้น ใครก็ตามที่กล้าฉีดวัคซีนให้เด็กหรือเยาวชนที่มีสุขภาพดีโดยฝ่าฝืนคำแนะนำอย่างเป็นทางการจะถูกเปิดโปง หากเกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ช่องทางในการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายก็เปิดกว้างแล้ว 3. ภาระการพิสูจน์พลิกกลับ: นี่คือประเด็นสำคัญที่สุด ภักดีระบุว่าในกรณีที่เกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนจนเป็นอันตรายถึงชีวิต สิทธิในการกลับคืนสู่สังคมจะถูกกระตุ้น ซึ่งหมายความว่าอุตสาหกรรมยาจะถูกบังคับให้ต้องพิสูจน์ว่าวัคซีนไม่ได้ก่อให้เกิดอันตราย ข้อสรุปของเขาคืออะไร? "พวกเขาจะทำแบบนั้นไม่ได้" ดร.ภักดีไม่ได้วางตำแหน่งสิ่งนี้ไว้ในฐานะความปรารถนาที่จะให้เกิดอันตราย แต่เป็น "ความหวังอันยิ่งใหญ่ของฉัน" ซึ่งเป็นกลไกที่จะทำให้หน่วยงานที่มีอำนาจต้องรับผิดชอบและเปิดเผยความจริงในที่สุด ภูมิทัศน์ทางกฎหมายได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ผลกระทบมีมากมายมหาศาล เข้าร่วม 👉 https://t.me/RogerHodkinson
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 455 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประตูเปิดทางทิศใต้

    เดือนนี้ ต้องระวังป้องกันภัยจากพวกมิจฉาชีพ หลีกห่างปัญหาจากการปล้นโจรกรรม อีกประเด็นหนึ่งเพื่อไม่ให้ ผู้สูงวัยเกิดเรื่องวุ่นๆทางชู้สาวคาวโลกีย์ ด้วยการยับยั้งชั่งใจต่อเสน่หาเด็กสาววัยรุ่น ควรใช้สติข่มอารมณ์ จะได้ ไม่ต้องเสียผู้เสียคน อีกทั้งระมัดระวังอุบัติเหตุจากยวดยานพาหนะขณะสัญจรเดินทางไปมา ตลอดจนของมีคม ให้บาดเจ็บเลือดตกยางออก ต้องผ่าตัดรักษาอาการเจ็บไข้ได้ป่วย และด้วยผลสืบเนื่องจากเหตุปัจจัยในเรื่องของ เงินทองทำให้ผลประโยชน์ไม่ลงตัว จนเกิดการแข่งขันชิงดีชิงเด่นให้เกิดการแตกแยก ใส่ร้ายป้ายสี นินทาว่าร้าย ต่อกัน จนกระทั่งเกิดเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง วิวาทะ ใช้กำลังชกต่อยต่อสู้ห้ำหั่นกัน เป็นผลให้เกิดคดีความยืดเยื้อ ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลยาวนาน

    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    ประตูเปิดทางทิศใต้ เดือนนี้ ต้องระวังป้องกันภัยจากพวกมิจฉาชีพ หลีกห่างปัญหาจากการปล้นโจรกรรม อีกประเด็นหนึ่งเพื่อไม่ให้ ผู้สูงวัยเกิดเรื่องวุ่นๆทางชู้สาวคาวโลกีย์ ด้วยการยับยั้งชั่งใจต่อเสน่หาเด็กสาววัยรุ่น ควรใช้สติข่มอารมณ์ จะได้ ไม่ต้องเสียผู้เสียคน อีกทั้งระมัดระวังอุบัติเหตุจากยวดยานพาหนะขณะสัญจรเดินทางไปมา ตลอดจนของมีคม ให้บาดเจ็บเลือดตกยางออก ต้องผ่าตัดรักษาอาการเจ็บไข้ได้ป่วย และด้วยผลสืบเนื่องจากเหตุปัจจัยในเรื่องของ เงินทองทำให้ผลประโยชน์ไม่ลงตัว จนเกิดการแข่งขันชิงดีชิงเด่นให้เกิดการแตกแยก ใส่ร้ายป้ายสี นินทาว่าร้าย ต่อกัน จนกระทั่งเกิดเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง วิวาทะ ใช้กำลังชกต่อยต่อสู้ห้ำหั่นกัน เป็นผลให้เกิดคดีความยืดเยื้อ ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลยาวนาน ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 271 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประตูเปิดทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ

    เดือนนี้ มีเกณฑ์จะประสบพบเหตุร้ายที่ไม่คาดคิด ที่ต้องห่วงใยและใส่ใจคือ เรื่องของสุขภาพร่างกาย จะปีนป่ายขึ้นที่สูงที่ใดควรมีสิ่งป้องกันภัยจากอุบัติเหตุตกจากที่สูง รวมทั้งควรใส่ใจดูแลระบบสมอง กระดูก และระบบ ทางเดินหายใจ จะได้ไม่ป่วยเจ็บจนต้องรักษาพยาบาล เป็นผู้นำหรือเป็นพ่อควรระมัดระวังจะถูกลวงหลอกให้ เสียหาย เอกสารสัญญาที่มีผลผูกพันทางด้านกฏหมายก็ควรละเอียดรอบคอบด้วยเช่นกัน ทั้งปัญหาที่คาราคาซังมานานจะยังคงเรื้อรังแก้ไม่ตกหาทางออกไม่ได้ส่งผลให้คิดวิตกจนเกิดเป็นความเครียด มีโอกาสจะผิดพลาดให้ถูกฟ้องร้องฟ้องศาลเกิดคดีความวุ่นวาย อีกทั้งลูกน้องบริวารและผู้มีอำนาจจะสร้างปัญหาให้เดือดร้อน รวมทั้งเรื่องของการเงินการทองก็ยังคงอับโชคต้องทำใจไปอีกสักพัก

    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    ประตูเปิดทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เดือนนี้ มีเกณฑ์จะประสบพบเหตุร้ายที่ไม่คาดคิด ที่ต้องห่วงใยและใส่ใจคือ เรื่องของสุขภาพร่างกาย จะปีนป่ายขึ้นที่สูงที่ใดควรมีสิ่งป้องกันภัยจากอุบัติเหตุตกจากที่สูง รวมทั้งควรใส่ใจดูแลระบบสมอง กระดูก และระบบ ทางเดินหายใจ จะได้ไม่ป่วยเจ็บจนต้องรักษาพยาบาล เป็นผู้นำหรือเป็นพ่อควรระมัดระวังจะถูกลวงหลอกให้ เสียหาย เอกสารสัญญาที่มีผลผูกพันทางด้านกฏหมายก็ควรละเอียดรอบคอบด้วยเช่นกัน ทั้งปัญหาที่คาราคาซังมานานจะยังคงเรื้อรังแก้ไม่ตกหาทางออกไม่ได้ส่งผลให้คิดวิตกจนเกิดเป็นความเครียด มีโอกาสจะผิดพลาดให้ถูกฟ้องร้องฟ้องศาลเกิดคดีความวุ่นวาย อีกทั้งลูกน้องบริวารและผู้มีอำนาจจะสร้างปัญหาให้เดือดร้อน รวมทั้งเรื่องของการเงินการทองก็ยังคงอับโชคต้องทำใจไปอีกสักพัก ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 281 มุมมอง 0 รีวิว
  • ธนาธรและแม่ธนาธรตลอดเครือญาติ,ไปถึงไหนแล้ว,สนิทสนมคนชนชั้นผู้ดีนี้รอดหมดนะ,ปวีณา เคสตย.แล้ว นักการเมืองและเจ้าสัวอื่นๆควรโดนด้วย,
    ..กฎหมายที่ดินสมควรปฏิรูปเถอะทัังระบบ,เช่น ยกเลิกกฎหมายที่ดินที่นักลงทุนต่างชาติถือครองได้หรือเช่าได้หลายปีหรือซื้อได้แบบยุคลุงออกไป แบบขายไร่ละ40ล้านบาทนั้น,เชิงลักษณะนี้ต้องยกเลิกทั้งหมด,ห้ามเด็ดขาดไม่ให้ต่างชาติมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินประเทศไทยทั่วราชอาณาจักรไทย สงวนสิทธิ์เฉพาะคนไทยสัญชาติไทยเท่านั้นทุกๆกรณี,
    ..ประชาชนธรรมดาถือครองไม่เกินคนละ50ไร่อย่างมากสุด, กิจการบริษัทรวมกันทุกๆแปลงทั่วประเทศ รวมกันถือครองไม่เกิน100ไร่,บริษัทมหาชน ถือครองไม่เกิน200ไร่รวมทุกๆแปลงทั่วประเทศไทย,เราจะตัดตอนการเก็งกำไรทันทีและถือครองคนเดียวมากมายเกินผืดปกติ,จะเสมือนประเทศไทยนี้แผ่นดินไทยนี้ซื้อได้ด้วยเงิน,เอกชนใดๆซื้อแผ่นดินไทยนี้แย่งชิงแผ่นดินไทยนี้ ที่ดินทำกินจากชาวบ้านได้ง่ายดายสาระพัดรูปแบบ เช่นจำนองจำนำในร้านทองคำ,เจ้าสัวกวาดซื้อเป็นแสนเป็นล้านไร่กระจายทั่วประเทศได้โดยบีบบังคับทางอ้อมจากสถานะความยากจนขัดสนด้านทรัพย์สินเงินทองหรือหลอกล่อด้วยบ่อนด้วยการพนันต่างๆ คดีความต่างๆ สร้างเหตุปัจจัยเล่นงานชาวบ้านเป้าหมายที่ตนต้องการจะได้ที่ดินของชาวบ้านประชาชนตรงทำเลทองนั้นๆ,บริบทการปฏิวัติกฎหมายที่ดินจึงสมควรทำความสะอาดใหม่,อำมาตย์ศักดินาเก่า เจ้าขุนมูลนายเดิม ลูกท่านหลานเธอคงรับไม่ได้ ลูกหลานสนมเชื้อพระวงศ์ในอดีตก็ด้วยที่มีที่ดินถือครองมากมายทั้งในนามกิจการธุรกิจต่างๆที่เครือญาติวงศ์ตระกูลตนกระทำการประเด็นนี้มาโดยตลอด,หากไร้รายละเอียดกันจริงๆ ที่ดินที่คนพวกนี้ถือครองเกิน200ไร่มีใครบ้างในประเทศไทย เราจะลงลึกในรายละเอียดต่างๆในนัยยะที่แอบซ่อนอีกมากมาย,ชาวบ้านมีที่ดินคนละ5-10ไร่ในปัจจุบันก็บุญหัวแล้ว แบ่งมูลมรดกอีก,มากสุดไม่เกินคนละ40-50ไร่ต่อคน.,
    ..กฎหมายที่ดินต้องปฏิวัติมิใช่ปฏิรูป.

    https://youtube.com/live/6mGupix5Sw4?si=jNQadG20nnMPXBHA
    ธนาธรและแม่ธนาธรตลอดเครือญาติ,ไปถึงไหนแล้ว,สนิทสนมคนชนชั้นผู้ดีนี้รอดหมดนะ,ปวีณา เคสตย.แล้ว นักการเมืองและเจ้าสัวอื่นๆควรโดนด้วย, ..กฎหมายที่ดินสมควรปฏิรูปเถอะทัังระบบ,เช่น ยกเลิกกฎหมายที่ดินที่นักลงทุนต่างชาติถือครองได้หรือเช่าได้หลายปีหรือซื้อได้แบบยุคลุงออกไป แบบขายไร่ละ40ล้านบาทนั้น,เชิงลักษณะนี้ต้องยกเลิกทั้งหมด,ห้ามเด็ดขาดไม่ให้ต่างชาติมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินประเทศไทยทั่วราชอาณาจักรไทย สงวนสิทธิ์เฉพาะคนไทยสัญชาติไทยเท่านั้นทุกๆกรณี, ..ประชาชนธรรมดาถือครองไม่เกินคนละ50ไร่อย่างมากสุด, กิจการบริษัทรวมกันทุกๆแปลงทั่วประเทศ รวมกันถือครองไม่เกิน100ไร่,บริษัทมหาชน ถือครองไม่เกิน200ไร่รวมทุกๆแปลงทั่วประเทศไทย,เราจะตัดตอนการเก็งกำไรทันทีและถือครองคนเดียวมากมายเกินผืดปกติ,จะเสมือนประเทศไทยนี้แผ่นดินไทยนี้ซื้อได้ด้วยเงิน,เอกชนใดๆซื้อแผ่นดินไทยนี้แย่งชิงแผ่นดินไทยนี้ ที่ดินทำกินจากชาวบ้านได้ง่ายดายสาระพัดรูปแบบ เช่นจำนองจำนำในร้านทองคำ,เจ้าสัวกวาดซื้อเป็นแสนเป็นล้านไร่กระจายทั่วประเทศได้โดยบีบบังคับทางอ้อมจากสถานะความยากจนขัดสนด้านทรัพย์สินเงินทองหรือหลอกล่อด้วยบ่อนด้วยการพนันต่างๆ คดีความต่างๆ สร้างเหตุปัจจัยเล่นงานชาวบ้านเป้าหมายที่ตนต้องการจะได้ที่ดินของชาวบ้านประชาชนตรงทำเลทองนั้นๆ,บริบทการปฏิวัติกฎหมายที่ดินจึงสมควรทำความสะอาดใหม่,อำมาตย์ศักดินาเก่า เจ้าขุนมูลนายเดิม ลูกท่านหลานเธอคงรับไม่ได้ ลูกหลานสนมเชื้อพระวงศ์ในอดีตก็ด้วยที่มีที่ดินถือครองมากมายทั้งในนามกิจการธุรกิจต่างๆที่เครือญาติวงศ์ตระกูลตนกระทำการประเด็นนี้มาโดยตลอด,หากไร้รายละเอียดกันจริงๆ ที่ดินที่คนพวกนี้ถือครองเกิน200ไร่มีใครบ้างในประเทศไทย เราจะลงลึกในรายละเอียดต่างๆในนัยยะที่แอบซ่อนอีกมากมาย,ชาวบ้านมีที่ดินคนละ5-10ไร่ในปัจจุบันก็บุญหัวแล้ว แบ่งมูลมรดกอีก,มากสุดไม่เกินคนละ40-50ไร่ต่อคน., ..กฎหมายที่ดินต้องปฏิวัติมิใช่ปฏิรูป. https://youtube.com/live/6mGupix5Sw4?si=jNQadG20nnMPXBHA
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 549 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทิศต้องห้าม.....ประจำเดือนตุลาคม 2568

    ตั้งแต่วันพุธที่ 8 เดือนตุลาคม ไปจนถึง วันพฤหัสบดีที่ 6 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2568 สิ่งสำคัญคือ ควรเลี่ยงต่อการกระทบ ทุบ ตอก ขุด เจาะ ในตำแหน่งวิบากทิศทาง ดังนี้

    1. ทิศแตกสลาย 月破(ง๊วยผั่ว) ทิศตะวันออก/ใต้ 巽卦(สุ่งข่วย) ราศี 辰(ซิ้ง) ตั้งแต่รัศมี 112.5 ถึง 127.5 องศา

    2. ทิศ 3 อสูร 月三煞(หง่วยซาสั่วะ) ตั้งแต่ทิศตะวันตก/เหนือ 乾卦(เคี้ยงข่วย) รัศมี 315 องศา ถึง ทิศตะวันออก/เหนือ 艮卦(กึ่งข่วย) รัศมี 45 องศา

    3. ทิศ 5 เหลือง 五黃(โหงวอี๊ง) ทิศตะวันตก 兑卦(ต๋วยข่วย) ตั้งแต่รัศมี 247.5 ถึง 292.5 องศา

    ดังนั้นหากกระทบสะเทือนถึงดินที่อัดอั้นด้วยกระแสพลังร้ายอันรุนแรงรอเพียงแค่การปลดปล่อย ด้วยการทุบ ตอก ขุด เจาะ ในตำแหน่งวิบากทิศทางดังที่กล่าวไว้ในข้างต้น ส่งผลให้ท่านที่ชะตาตก ชีวิตจะเกิดวิกฤต กลุ้ม วุ่นวาย มากอุปสรรคปัญหา ขัดแย้ง แตกแยก ถูกแทงหลัง ปองร้าย จี้ ปล้น ขโมย เสียทรัพย์อย่างไม่จำเป็น พัวพันเรื่องคดีความจนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล หรือเกิดเจ็บป่วย ต้องผ่าตัดรักษาอาการ หรือจะบาดเจ็บจนเลือดตกยางออกจากอุบัติเหตุเภทภัยที่ไม่คาดคิด โดยเฉพาะบุคคลที่เกิดปีมะโรงพึงระวังเป็นพิเศษ

    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    ทิศต้องห้าม.....ประจำเดือนตุลาคม 2568 ตั้งแต่วันพุธที่ 8 เดือนตุลาคม ไปจนถึง วันพฤหัสบดีที่ 6 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2568 สิ่งสำคัญคือ ควรเลี่ยงต่อการกระทบ ทุบ ตอก ขุด เจาะ ในตำแหน่งวิบากทิศทาง ดังนี้ 1. ทิศแตกสลาย 月破(ง๊วยผั่ว) ทิศตะวันออก/ใต้ 巽卦(สุ่งข่วย) ราศี 辰(ซิ้ง) ตั้งแต่รัศมี 112.5 ถึง 127.5 องศา 2. ทิศ 3 อสูร 月三煞(หง่วยซาสั่วะ) ตั้งแต่ทิศตะวันตก/เหนือ 乾卦(เคี้ยงข่วย) รัศมี 315 องศา ถึง ทิศตะวันออก/เหนือ 艮卦(กึ่งข่วย) รัศมี 45 องศา 3. ทิศ 5 เหลือง 五黃(โหงวอี๊ง) ทิศตะวันตก 兑卦(ต๋วยข่วย) ตั้งแต่รัศมี 247.5 ถึง 292.5 องศา ดังนั้นหากกระทบสะเทือนถึงดินที่อัดอั้นด้วยกระแสพลังร้ายอันรุนแรงรอเพียงแค่การปลดปล่อย ด้วยการทุบ ตอก ขุด เจาะ ในตำแหน่งวิบากทิศทางดังที่กล่าวไว้ในข้างต้น ส่งผลให้ท่านที่ชะตาตก ชีวิตจะเกิดวิกฤต กลุ้ม วุ่นวาย มากอุปสรรคปัญหา ขัดแย้ง แตกแยก ถูกแทงหลัง ปองร้าย จี้ ปล้น ขโมย เสียทรัพย์อย่างไม่จำเป็น พัวพันเรื่องคดีความจนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล หรือเกิดเจ็บป่วย ต้องผ่าตัดรักษาอาการ หรือจะบาดเจ็บจนเลือดตกยางออกจากอุบัติเหตุเภทภัยที่ไม่คาดคิด โดยเฉพาะบุคคลที่เกิดปีมะโรงพึงระวังเป็นพิเศษ ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 240 มุมมอง 0 รีวิว
  • .. "เอกภาพ" และ "เอกสิทธิ" ส.ส. หมายถึง สภาพที่ ส.ส. มีความเป็นเอกภาพในฐานะองค์กรที่ทำหน้าที่แทนประชาชน และ "เอกสิทธิ์" ของ ส.ส. คือ สิทธิเด็ดขาดในการกล่าวแสดงความคิดเห็น ออกเสียงลงคะแนน หรือกระทำการอื่นใดในที่ประชุมสภา โดยไม่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีทางกฎหมายใดๆ เพื่อให้ ส.ส. สามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่

    เอกภาพของ ส.ส.
    ในฐานะองค์กร:
    ส.ส. รวมกันเป็นสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นองค์กรทางการเมืองที่สำคัญ

    การทำงานร่วมกัน:
    แม้ว่าจะมีแนวคิดทางการเมืองที่แตกต่างกัน ส.ส. ก็ต้องทำงานร่วมกันในสภาเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน

    การรักษาผลประโยชน์:
    ความเป็นเอกภาพนี้มีความสำคัญเพื่อให้สภาสามารถทำหน้าที่ในการควบคุมฝ่ายบริหาร และออกกฎหมายเพื่อประโยชน์ส่วนรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    เอกสิทธิ์ของ ส.ส.
    สิทธิเด็ดขาดในการแสดงความคิดเห็น:
    ส.ส. มีสิทธิอย่างเด็ดขาดที่จะกล่าวแถลงข้อเท็จจริง แสดงความคิดเห็น หรือออกเสียงลงคะแนนในที่ประชุมสภา โดยไม่มีใครสามารถนำเรื่องนั้นไปฟ้องร้องดำเนินคดีได้

    ขอบเขตของเอกสิทธิ์:
    เอกสิทธิ์นี้มีผลเฉพาะการกระทำที่เกิดขึ้นในที่ประชุมสภาเท่านั้น หากเป็นการกล่าวถ้อยคำนอกที่ประชุมสภา หรือก่อนและหลังการประชุม ก็จะไม่ได้รับความคุ้มครอง

    วัตถุประสงค์:
    เอกสิทธิ์นี้มีขึ้นเพื่อคุ้มครองเสรีภาพในการทำหน้าที่ของผู้แทนราษฎร เพื่อให้สามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องเกรงกลัวต่อการถูกฟ้องร้องหรือลงโทษจากผู้อื่น

    ที่มา:
    แนวคิดนี้มีต้นกำเนิดจากระบบรัฐสภาของสหราชอาณาจักรในอดีต เพื่อปกป้องสมาชิกสภาจากการถูกจับกุมหรือฟ้องร้องในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

    ..เงื่อนไข MOAที่ครอบงำและควบคุม สส.ในพรรคตนเองทั้งหมดนั้นที่รวมลงนามMOAกันนั้น มีความผิดเต็มๆจะพรรคส้มและพรรคสีน้ำเงิน หรือพรรคใดๆที่ลงร่วมลงนามข้อตกลงสิ่งนี้บนMOA68นี้ ,ผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญปี60แน่นอน,ซวยแน่นอนในสถานะสส.ทุกๆคน กรรมการพรรคนั้นๆตลอดสถานะพรรคการเมืองชื่อนั้นๆด้วย อาจถูกยุบพรรคหรือตัดสิทธิทางการเมืองได้ จะตลอดชีวิตหรือไม่ก็ตามพิจารณาเหตุคดีความความผิด เข้าข่ายครอบงำสส.พรรคตนด้วย ครอบ สส.พรรคอื่นด้วย ตลอดครอบงำบนฐานเงื่อนไขที่MOAตนเขียนเงื่อนไขนั้นด้วยที่อ้างกล่าว สรุปครอบงำนั่นเอง.
    ..สถาบันกษัตริย์มีคณาประการมากมายในการสร้างชาติไทยขึ้นมาจนเป็นประเทศไทย เรา..ประชาชนคนไทย ร่วมกันรักษาถนอมไว้ไม่ผิดอะไรดอก,พระองค์ก็มีบทบาทของพระองค์ท่าน,เรา..ประชาชนก็มีบทบาทของเราตามยุคสมัย ผสามกลมเกลียวกันได้ มิเดือดร้อนอะไร,เสรีภาพเราก็มี แค่กฎหมายเราร่วมออกร่วมเขียนผ่านสส.สว.คนของข้าราชการกระทรวงทบวงกรมนั้น,อันใดกดขี่ข่มเหงไม่เป็นคุณประโยชน์ขัดขวางประชาชนไม่ให้สะดวก ทำให้ลำบาก เรา..ประชาชนก็ร่วมกันยกเลิกได้.

    ..แพลตฟอร์มออนไลน์ลงมติเสียงคะแนนเรียลไทม์จากประชาชนเราต้องพัฒนาขึ้นโดยรวดเร็ว เวลาประชาชนเดือดร้อนด้วยกฎหมายปัญญาที่คนข้าราชการออกมาบังคับกดหัวประชาชนมากเกินไปแบบกฎหมายผีบ้าไม่สวมหมวกกันน็อคในขี่มอไซค์ปรับ2,000บาท คนซ้อนท้ายไม่ใส่ด้วยปรับ2เท่าคือ4,000บาท กฎหมายแบบนี้จัญไรอุบาทก์บัดสบเกินไปก็ร่วมกันโหวตลงประชามติเรียลไทม์ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เราร่วมกันยกเลิกเรียลไทม์ได้,สามารถประเมินแบนคนข้าราชการคณะออกกฎหมายนั้นได้อีกกับความปัญญาอ่อนที่ก่อการเรื่องกฎกติกาผีบ้าไร้สมองคิดตามความเป็นจริงออก. เป็นต้น ตลอดMOU43,44คนไทยก็ลงมติเรียลไทม์ได้,หรือร่วมย้ายแม่ทัพภาค1ที่ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ไม่ยึดคืนบ้านหนองจานจากคนเขมรได้ในช่วงเวลาเดียวกันที่แม่ทัพภาค2กลับยึดได้ถึง11จุดพื้นที่ คนไร้น้ำยาไร้ฝีมือเรามิอาจเอาชาติบ้านเมืองมาเสี่ยงได้และเขมรคือภัยคุกคามรุกรานศัตรูเราจริง ยิงระเบิดใส่7/11ประชาชนเราตายเกือบหมดครอบครัว เด็กๆตัวน้อยๆผู้บริสุทธิ์ไม่รู้ห่าอะไรด้วย นอกแนวรบอีกต้องมาเสียชีวิต,แต่แม่ทัพภาคที่1ทำลายจิตใจคนไทยทั้งประเทศมิอาจปล่อยไว้ได้หรืออภัยให้ได้จริงๆ เป็นต้น.

    https://youtube.com/watch?v=5uHtZTK7Xmo&si=oivLl0K396LtfHRH
    .. "เอกภาพ" และ "เอกสิทธิ" ส.ส. หมายถึง สภาพที่ ส.ส. มีความเป็นเอกภาพในฐานะองค์กรที่ทำหน้าที่แทนประชาชน และ "เอกสิทธิ์" ของ ส.ส. คือ สิทธิเด็ดขาดในการกล่าวแสดงความคิดเห็น ออกเสียงลงคะแนน หรือกระทำการอื่นใดในที่ประชุมสภา โดยไม่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีทางกฎหมายใดๆ เพื่อให้ ส.ส. สามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ เอกภาพของ ส.ส. ในฐานะองค์กร: ส.ส. รวมกันเป็นสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นองค์กรทางการเมืองที่สำคัญ การทำงานร่วมกัน: แม้ว่าจะมีแนวคิดทางการเมืองที่แตกต่างกัน ส.ส. ก็ต้องทำงานร่วมกันในสภาเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน การรักษาผลประโยชน์: ความเป็นเอกภาพนี้มีความสำคัญเพื่อให้สภาสามารถทำหน้าที่ในการควบคุมฝ่ายบริหาร และออกกฎหมายเพื่อประโยชน์ส่วนรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เอกสิทธิ์ของ ส.ส. สิทธิเด็ดขาดในการแสดงความคิดเห็น: ส.ส. มีสิทธิอย่างเด็ดขาดที่จะกล่าวแถลงข้อเท็จจริง แสดงความคิดเห็น หรือออกเสียงลงคะแนนในที่ประชุมสภา โดยไม่มีใครสามารถนำเรื่องนั้นไปฟ้องร้องดำเนินคดีได้ ขอบเขตของเอกสิทธิ์: เอกสิทธิ์นี้มีผลเฉพาะการกระทำที่เกิดขึ้นในที่ประชุมสภาเท่านั้น หากเป็นการกล่าวถ้อยคำนอกที่ประชุมสภา หรือก่อนและหลังการประชุม ก็จะไม่ได้รับความคุ้มครอง วัตถุประสงค์: เอกสิทธิ์นี้มีขึ้นเพื่อคุ้มครองเสรีภาพในการทำหน้าที่ของผู้แทนราษฎร เพื่อให้สามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องเกรงกลัวต่อการถูกฟ้องร้องหรือลงโทษจากผู้อื่น ที่มา: แนวคิดนี้มีต้นกำเนิดจากระบบรัฐสภาของสหราชอาณาจักรในอดีต เพื่อปกป้องสมาชิกสภาจากการถูกจับกุมหรือฟ้องร้องในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ..เงื่อนไข MOAที่ครอบงำและควบคุม สส.ในพรรคตนเองทั้งหมดนั้นที่รวมลงนามMOAกันนั้น มีความผิดเต็มๆจะพรรคส้มและพรรคสีน้ำเงิน หรือพรรคใดๆที่ลงร่วมลงนามข้อตกลงสิ่งนี้บนMOA68นี้ ,ผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญปี60แน่นอน,ซวยแน่นอนในสถานะสส.ทุกๆคน กรรมการพรรคนั้นๆตลอดสถานะพรรคการเมืองชื่อนั้นๆด้วย อาจถูกยุบพรรคหรือตัดสิทธิทางการเมืองได้ จะตลอดชีวิตหรือไม่ก็ตามพิจารณาเหตุคดีความความผิด เข้าข่ายครอบงำสส.พรรคตนด้วย ครอบ สส.พรรคอื่นด้วย ตลอดครอบงำบนฐานเงื่อนไขที่MOAตนเขียนเงื่อนไขนั้นด้วยที่อ้างกล่าว สรุปครอบงำนั่นเอง. ..สถาบันกษัตริย์มีคณาประการมากมายในการสร้างชาติไทยขึ้นมาจนเป็นประเทศไทย เรา..ประชาชนคนไทย ร่วมกันรักษาถนอมไว้ไม่ผิดอะไรดอก,พระองค์ก็มีบทบาทของพระองค์ท่าน,เรา..ประชาชนก็มีบทบาทของเราตามยุคสมัย ผสามกลมเกลียวกันได้ มิเดือดร้อนอะไร,เสรีภาพเราก็มี แค่กฎหมายเราร่วมออกร่วมเขียนผ่านสส.สว.คนของข้าราชการกระทรวงทบวงกรมนั้น,อันใดกดขี่ข่มเหงไม่เป็นคุณประโยชน์ขัดขวางประชาชนไม่ให้สะดวก ทำให้ลำบาก เรา..ประชาชนก็ร่วมกันยกเลิกได้. ..แพลตฟอร์มออนไลน์ลงมติเสียงคะแนนเรียลไทม์จากประชาชนเราต้องพัฒนาขึ้นโดยรวดเร็ว เวลาประชาชนเดือดร้อนด้วยกฎหมายปัญญาที่คนข้าราชการออกมาบังคับกดหัวประชาชนมากเกินไปแบบกฎหมายผีบ้าไม่สวมหมวกกันน็อคในขี่มอไซค์ปรับ2,000บาท คนซ้อนท้ายไม่ใส่ด้วยปรับ2เท่าคือ4,000บาท กฎหมายแบบนี้จัญไรอุบาทก์บัดสบเกินไปก็ร่วมกันโหวตลงประชามติเรียลไทม์ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เราร่วมกันยกเลิกเรียลไทม์ได้,สามารถประเมินแบนคนข้าราชการคณะออกกฎหมายนั้นได้อีกกับความปัญญาอ่อนที่ก่อการเรื่องกฎกติกาผีบ้าไร้สมองคิดตามความเป็นจริงออก. เป็นต้น ตลอดMOU43,44คนไทยก็ลงมติเรียลไทม์ได้,หรือร่วมย้ายแม่ทัพภาค1ที่ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ไม่ยึดคืนบ้านหนองจานจากคนเขมรได้ในช่วงเวลาเดียวกันที่แม่ทัพภาค2กลับยึดได้ถึง11จุดพื้นที่ คนไร้น้ำยาไร้ฝีมือเรามิอาจเอาชาติบ้านเมืองมาเสี่ยงได้และเขมรคือภัยคุกคามรุกรานศัตรูเราจริง ยิงระเบิดใส่7/11ประชาชนเราตายเกือบหมดครอบครัว เด็กๆตัวน้อยๆผู้บริสุทธิ์ไม่รู้ห่าอะไรด้วย นอกแนวรบอีกต้องมาเสียชีวิต,แต่แม่ทัพภาคที่1ทำลายจิตใจคนไทยทั้งประเทศมิอาจปล่อยไว้ได้หรืออภัยให้ได้จริงๆ เป็นต้น. https://youtube.com/watch?v=5uHtZTK7Xmo&si=oivLl0K396LtfHRH
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 658 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Meta ซื้อกิจการ Rivos — ปั้น GPU RISC-V สู้ Nvidia พร้อมเร่งเครื่อง MTIA เพื่อ AI ยุคใหม่”

    Meta กำลังเดินเกมครั้งใหญ่ในสนาม AI ด้วยการเข้าซื้อกิจการ Rivos บริษัทสตาร์ทอัพด้านชิปที่เน้นสถาปัตยกรรม RISC-V โดยดีลนี้ยังไม่เปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่ได้รับการยืนยันจากหลายแหล่งข่าว รวมถึงโพสต์ของรองประธานฝ่ายวิศวกรรมของ Meta บน LinkedIn ว่า “เราตื่นเต้นที่จะนำทีม Rivos เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับการพัฒนา MTIA” — ชิป AI แบบ custom ที่ Meta พัฒนาร่วมกับ Broadcom

    Rivos เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการออกแบบ GPU และ AI accelerator โดยใช้สถาปัตยกรรม RISC-V ซึ่งเป็นมาตรฐานเปิดที่ไม่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์เหมือนกับ Arm หรือ x86 ทำให้สามารถพัฒนาได้อย่างยืดหยุ่นและลดต้นทุนในระยะยาว

    Meta มีเป้าหมายชัดเจนในการลดการพึ่งพา Nvidia โดยเฉพาะในยุคที่ความต้องการชิป AI พุ่งสูงและเกิดปัญหาคอขวดด้านซัพพลาย Meta จึงต้องการควบคุมห่วงโซ่ฮาร์ดแวร์ของตัวเองให้มากขึ้น และการซื้อ Rivos ก็เป็นก้าวสำคัญในแผนนี้

    ก่อนหน้านี้ Meta ได้พัฒนา MTIA รุ่นแรกและเริ่มใช้งานในดาต้าเซ็นเตอร์ร่วมกับ GPU ของ Nvidia แต่มีรายงานว่า Mark Zuckerberg ไม่พอใจกับความล่าช้าในการพัฒนา MTIA รุ่นถัดไป จึงเร่งการซื้อกิจการเพื่อเสริมทีมและเร่งการ tape-out รุ่นใหม่

    Rivos เคยมีประเด็นทางกฎหมายกับ Apple ในปี 2022 จากข้อกล่าวหาว่าดึงวิศวกรกว่า 40 คนออกจากทีม SoC ของ Apple พร้อมข้อมูลภายในหลายกิกะไบต์ แต่สุดท้ายทั้งสองฝ่ายตกลงกันในปี 2024

    หากดีลนี้สำเร็จ Meta จะกลายเป็นหนึ่งในบริษัทแรกที่นำ RISC-V เข้าสู่ดาต้าเซ็นเตอร์ในระดับใหญ่ ซึ่งอาจเปลี่ยนสมดุลของตลาด AI hardware และเปิดทางให้สถาปัตยกรรมเปิดกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในยุค AI

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Meta เตรียมซื้อกิจการ Rivos เพื่อเสริมทีมพัฒนาชิป AI ภายในองค์กร
    Rivos เชี่ยวชาญด้าน GPU และ AI accelerator บนสถาปัตยกรรม RISC-V
    MTIA เป็นชิป AI ที่ Meta พัฒนาร่วมกับ Broadcom และเริ่มใช้งานแล้วในดาต้าเซ็นเตอร์
    Meta ต้องการลดการพึ่งพา Nvidia และควบคุมห่วงโซ่ฮาร์ดแวร์ของตัวเอง
    Mark Zuckerberg ไม่พอใจกับความล่าช้าในการพัฒนา MTIA รุ่นใหม่
    Rivos เคยมีคดีความกับ Apple จากการดึงวิศวกรและข้อมูลภายใน
    ดีลนี้อาจทำให้ RISC-V เข้าสู่ดาต้าเซ็นเตอร์ในระดับใหญ่เป็นครั้งแรก
    Meta ลงทุนกว่า $70 พันล้านในปี 2025 ส่วนใหญ่เพื่อโครงสร้างพื้นฐาน AI

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    RISC-V เป็นสถาปัตยกรรมเปิดที่ไม่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ เหมาะกับการพัฒนาแบบ custom
    Nvidia Rubin CPX เป็นชิป AI รุ่นใหม่ที่ใช้สถาปัตยกรรม Arm ซึ่งแข่งขันกับ Rivos โดยตรง
    Rivos พัฒนา GPU แบบ Data Parallel Accelerator ที่เน้นงาน inference โดยเฉพาะ
    HBM (High Bandwidth Memory) เป็นหน่วยความจำที่ Rivos ใช้ในชิปเพื่อเร่งการประมวลผล AI
    การควบรวมกิจการในวงการชิป AI กำลังเป็นเทรนด์ของ Big Tech เช่น Google, Amazon, Microsoft

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/meta-reportedly-buying-risc-v-ai-gpu-firm-rivos-acquisition-to-bolster-dev-team-and-possibly-replace-nvidia-internally
    🚀 “Meta ซื้อกิจการ Rivos — ปั้น GPU RISC-V สู้ Nvidia พร้อมเร่งเครื่อง MTIA เพื่อ AI ยุคใหม่” Meta กำลังเดินเกมครั้งใหญ่ในสนาม AI ด้วยการเข้าซื้อกิจการ Rivos บริษัทสตาร์ทอัพด้านชิปที่เน้นสถาปัตยกรรม RISC-V โดยดีลนี้ยังไม่เปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่ได้รับการยืนยันจากหลายแหล่งข่าว รวมถึงโพสต์ของรองประธานฝ่ายวิศวกรรมของ Meta บน LinkedIn ว่า “เราตื่นเต้นที่จะนำทีม Rivos เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับการพัฒนา MTIA” — ชิป AI แบบ custom ที่ Meta พัฒนาร่วมกับ Broadcom Rivos เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการออกแบบ GPU และ AI accelerator โดยใช้สถาปัตยกรรม RISC-V ซึ่งเป็นมาตรฐานเปิดที่ไม่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์เหมือนกับ Arm หรือ x86 ทำให้สามารถพัฒนาได้อย่างยืดหยุ่นและลดต้นทุนในระยะยาว Meta มีเป้าหมายชัดเจนในการลดการพึ่งพา Nvidia โดยเฉพาะในยุคที่ความต้องการชิป AI พุ่งสูงและเกิดปัญหาคอขวดด้านซัพพลาย Meta จึงต้องการควบคุมห่วงโซ่ฮาร์ดแวร์ของตัวเองให้มากขึ้น และการซื้อ Rivos ก็เป็นก้าวสำคัญในแผนนี้ ก่อนหน้านี้ Meta ได้พัฒนา MTIA รุ่นแรกและเริ่มใช้งานในดาต้าเซ็นเตอร์ร่วมกับ GPU ของ Nvidia แต่มีรายงานว่า Mark Zuckerberg ไม่พอใจกับความล่าช้าในการพัฒนา MTIA รุ่นถัดไป จึงเร่งการซื้อกิจการเพื่อเสริมทีมและเร่งการ tape-out รุ่นใหม่ Rivos เคยมีประเด็นทางกฎหมายกับ Apple ในปี 2022 จากข้อกล่าวหาว่าดึงวิศวกรกว่า 40 คนออกจากทีม SoC ของ Apple พร้อมข้อมูลภายในหลายกิกะไบต์ แต่สุดท้ายทั้งสองฝ่ายตกลงกันในปี 2024 หากดีลนี้สำเร็จ Meta จะกลายเป็นหนึ่งในบริษัทแรกที่นำ RISC-V เข้าสู่ดาต้าเซ็นเตอร์ในระดับใหญ่ ซึ่งอาจเปลี่ยนสมดุลของตลาด AI hardware และเปิดทางให้สถาปัตยกรรมเปิดกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในยุค AI ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Meta เตรียมซื้อกิจการ Rivos เพื่อเสริมทีมพัฒนาชิป AI ภายในองค์กร ➡️ Rivos เชี่ยวชาญด้าน GPU และ AI accelerator บนสถาปัตยกรรม RISC-V ➡️ MTIA เป็นชิป AI ที่ Meta พัฒนาร่วมกับ Broadcom และเริ่มใช้งานแล้วในดาต้าเซ็นเตอร์ ➡️ Meta ต้องการลดการพึ่งพา Nvidia และควบคุมห่วงโซ่ฮาร์ดแวร์ของตัวเอง ➡️ Mark Zuckerberg ไม่พอใจกับความล่าช้าในการพัฒนา MTIA รุ่นใหม่ ➡️ Rivos เคยมีคดีความกับ Apple จากการดึงวิศวกรและข้อมูลภายใน ➡️ ดีลนี้อาจทำให้ RISC-V เข้าสู่ดาต้าเซ็นเตอร์ในระดับใหญ่เป็นครั้งแรก ➡️ Meta ลงทุนกว่า $70 พันล้านในปี 2025 ส่วนใหญ่เพื่อโครงสร้างพื้นฐาน AI ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ RISC-V เป็นสถาปัตยกรรมเปิดที่ไม่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ เหมาะกับการพัฒนาแบบ custom ➡️ Nvidia Rubin CPX เป็นชิป AI รุ่นใหม่ที่ใช้สถาปัตยกรรม Arm ซึ่งแข่งขันกับ Rivos โดยตรง ➡️ Rivos พัฒนา GPU แบบ Data Parallel Accelerator ที่เน้นงาน inference โดยเฉพาะ ➡️ HBM (High Bandwidth Memory) เป็นหน่วยความจำที่ Rivos ใช้ในชิปเพื่อเร่งการประมวลผล AI ➡️ การควบรวมกิจการในวงการชิป AI กำลังเป็นเทรนด์ของ Big Tech เช่น Google, Amazon, Microsoft https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/meta-reportedly-buying-risc-v-ai-gpu-firm-rivos-acquisition-to-bolster-dev-team-and-possibly-replace-nvidia-internally
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 284 มุมมอง 0 รีวิว
  • 555,อ.วีระ และทีมงานสายลับภาคประชาชนคนดีบวกข้าราชการไทยดีๆที่ให้ข้อมูลท่านด้วย สุดยอดจริงๆ.

    ..ทหารภาค1 ถือว่าล้มเหลวทั้งหมด ไม่สุจริตใจต่อดินแดนอธิปไตยไทยตนเอง ปกป้องอธิปไตยไทยตนเอง,ปล่อยให้เขมรกระทำชั่วเลวต่อแผ่นดินไทยและคนไทยได้,แตกต่างชัดเจนเมื่อเทียบกับใจรักษาชาติแบบแม่ทัพภาค2ที่ปลูกฝังทหารใต้บังคับบัญชาท่าน นำทั้งกองทัพท่านจัดการกับศัตรูสมศักดิ์ศรี,แต่แม่ทัพภาค1 ไร้ศักดิ์ศรีและดำรงเกียรติแห่งทหารไทยไว้ได้เลย บูรพาพยัคฆ์กากมากในยุคนี้ กระทำการชั่วเลวปล่อยเขมรรุกล้ำดินแดนไทยยึดครองที่ดินบนแผ่นดินไทยแทนประชาชนคนไทย ค้าของเถื่อนตามกูรูแฉ บ่อนคาสิโน ตราดอีกที่รุกล้ำชายแดนไทยตน ถนนภาษีประชาชน ไฟฟ้า เน็ตน้ำประปา สาระพัดอำนวยสถานที่บ่อนคาสิโน นี้คือความผิดชัดเจน ศาลทหารไทยมีไว้ทำไม แอ็คชั่นไม่มีเลย เงียบกริบ ลงโทษนายพลและอดีตนายพลคนทรยศไม่มีเลย,นอกจากเป็นภาระกิจชาติจะไม่ว่าเลย,แผนการทหารก็แล้วไป,ให้อภัยได้,จากนี้จึงค่อยมาจัดการเขมรกันจริงจังร่วมกัน,แต่ต้องชดเชยเยียวยาภาคประชาชนที่ได้รับผลกระทบรอบด้าน,ใครกลับตัวกลับใจไม่เอาผิดย้อนหลัง เหตุเกิดอดีตคดีความใดๆให้จบให้อภัยกันแล้วมาร่วมพัฒนาชาติร่วมกันให้เข้มแข็งๆแรงแข็งแกร่งกันใหม่,หน้างานคือยกเลิกmou43,44,ใช้1:1คือเสา73-74หลักที่เรามีคือเขตแดนถาวรเสียเหมือนในอดีตคือสันปันน้ำ หากเขมรไม่ยอมทวงคืนทิศบูรพาทั้งหมดในอดีตที่ฝรั่งเศสคืนผิดคน จะพระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ เกาะกง บูรพาตะวันออกทั้งหมดที่เป็นของไทยปกติยึดคืนเลยทันทีด้วยกำลังกองทัพ ทำลายชาติเขมรสิ้นซากก็ต้องทำทันที.,สร้างรั้วลวดหนามให้ชัดเจนเพื่อรักษาความสงบสุขตลอดไป,ไร้กระทบบัดสบเงื่อนใดๆอีก อยู่ใครอยู่มัน,อภัยโทษนี้จะครั้งสุดท้าย อดีตรัฐบาลไทยทั้งหมดที่หมกเม็ดทำผิดพลาดไปให้จบความที่ยุคนี้ไม่ดำเนินคดีเอาความผิดใดๆ,แต่ต้องเข้าไปสาระภาพผิดบอกสิ่งที่กระทบชั่วเลวใดๆแก่วังแก่ฟ้า,เพื่อแก้ไขปัญหาให้จบสิ้น,ผิดตรงไหน พลาดสิ่งใด กระทำชั่วอะไร เลิกหมด จากนั้นมาร่วมกันทำให้ถูกต้องเสีย,ดินแดนไทยส่วนใดของไทยตามสันปันน้ำก็แบ่งสร้างกั้นลวดตลอดแนวให้จบปัญหา,พื้นที่ทะเลส่วนของไทยก็ของไทยคุยให้จบ ไม่จบก็ยึดประเทศเขมรเด็ดหัวฮุนเซนฮุนมาเนตทันที,เพื่อสร้างความสงบในภูมิภาคนี้,มันคารังคาชังควรแก่เวลาแล้ว คนไม่สงบสุข ชีวิตประชาชนไม่สงบสุขพอแล้ว.,ถ้าทั้งหมดไม่กลับตัวกลับใจจะนักการเมือง เจ้าของกิจการใด ประชาชนข้าราชการใด ไม่สำนึก ความตายเท่านั้นคือที่สุดแก่คนพวกนี้ การไล่ล่ากำจัดและทำลายภายในประเทศไทยเราหรือทำความสะอาดครั้งใหญ่ต้องเกิดขึ้น.

    https://youtube.com/watch?v=zQ3mJtrqvJE&si=3CYhOl54IQJm4R7p
    555,อ.วีระ และทีมงานสายลับภาคประชาชนคนดีบวกข้าราชการไทยดีๆที่ให้ข้อมูลท่านด้วย สุดยอดจริงๆ. ..ทหารภาค1 ถือว่าล้มเหลวทั้งหมด ไม่สุจริตใจต่อดินแดนอธิปไตยไทยตนเอง ปกป้องอธิปไตยไทยตนเอง,ปล่อยให้เขมรกระทำชั่วเลวต่อแผ่นดินไทยและคนไทยได้,แตกต่างชัดเจนเมื่อเทียบกับใจรักษาชาติแบบแม่ทัพภาค2ที่ปลูกฝังทหารใต้บังคับบัญชาท่าน นำทั้งกองทัพท่านจัดการกับศัตรูสมศักดิ์ศรี,แต่แม่ทัพภาค1 ไร้ศักดิ์ศรีและดำรงเกียรติแห่งทหารไทยไว้ได้เลย บูรพาพยัคฆ์กากมากในยุคนี้ กระทำการชั่วเลวปล่อยเขมรรุกล้ำดินแดนไทยยึดครองที่ดินบนแผ่นดินไทยแทนประชาชนคนไทย ค้าของเถื่อนตามกูรูแฉ บ่อนคาสิโน ตราดอีกที่รุกล้ำชายแดนไทยตน ถนนภาษีประชาชน ไฟฟ้า เน็ตน้ำประปา สาระพัดอำนวยสถานที่บ่อนคาสิโน นี้คือความผิดชัดเจน ศาลทหารไทยมีไว้ทำไม แอ็คชั่นไม่มีเลย เงียบกริบ ลงโทษนายพลและอดีตนายพลคนทรยศไม่มีเลย,นอกจากเป็นภาระกิจชาติจะไม่ว่าเลย,แผนการทหารก็แล้วไป,ให้อภัยได้,จากนี้จึงค่อยมาจัดการเขมรกันจริงจังร่วมกัน,แต่ต้องชดเชยเยียวยาภาคประชาชนที่ได้รับผลกระทบรอบด้าน,ใครกลับตัวกลับใจไม่เอาผิดย้อนหลัง เหตุเกิดอดีตคดีความใดๆให้จบให้อภัยกันแล้วมาร่วมพัฒนาชาติร่วมกันให้เข้มแข็งๆแรงแข็งแกร่งกันใหม่,หน้างานคือยกเลิกmou43,44,ใช้1:1คือเสา73-74หลักที่เรามีคือเขตแดนถาวรเสียเหมือนในอดีตคือสันปันน้ำ หากเขมรไม่ยอมทวงคืนทิศบูรพาทั้งหมดในอดีตที่ฝรั่งเศสคืนผิดคน จะพระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ เกาะกง บูรพาตะวันออกทั้งหมดที่เป็นของไทยปกติยึดคืนเลยทันทีด้วยกำลังกองทัพ ทำลายชาติเขมรสิ้นซากก็ต้องทำทันที.,สร้างรั้วลวดหนามให้ชัดเจนเพื่อรักษาความสงบสุขตลอดไป,ไร้กระทบบัดสบเงื่อนใดๆอีก อยู่ใครอยู่มัน,อภัยโทษนี้จะครั้งสุดท้าย อดีตรัฐบาลไทยทั้งหมดที่หมกเม็ดทำผิดพลาดไปให้จบความที่ยุคนี้ไม่ดำเนินคดีเอาความผิดใดๆ,แต่ต้องเข้าไปสาระภาพผิดบอกสิ่งที่กระทบชั่วเลวใดๆแก่วังแก่ฟ้า,เพื่อแก้ไขปัญหาให้จบสิ้น,ผิดตรงไหน พลาดสิ่งใด กระทำชั่วอะไร เลิกหมด จากนั้นมาร่วมกันทำให้ถูกต้องเสีย,ดินแดนไทยส่วนใดของไทยตามสันปันน้ำก็แบ่งสร้างกั้นลวดตลอดแนวให้จบปัญหา,พื้นที่ทะเลส่วนของไทยก็ของไทยคุยให้จบ ไม่จบก็ยึดประเทศเขมรเด็ดหัวฮุนเซนฮุนมาเนตทันที,เพื่อสร้างความสงบในภูมิภาคนี้,มันคารังคาชังควรแก่เวลาแล้ว คนไม่สงบสุข ชีวิตประชาชนไม่สงบสุขพอแล้ว.,ถ้าทั้งหมดไม่กลับตัวกลับใจจะนักการเมือง เจ้าของกิจการใด ประชาชนข้าราชการใด ไม่สำนึก ความตายเท่านั้นคือที่สุดแก่คนพวกนี้ การไล่ล่ากำจัดและทำลายภายในประเทศไทยเราหรือทำความสะอาดครั้งใหญ่ต้องเกิดขึ้น. https://youtube.com/watch?v=zQ3mJtrqvJE&si=3CYhOl54IQJm4R7p
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 832 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Meta เปิดใช้งาน Teen Accounts ทั่วโลก — ปรับโซเชียลให้ปลอดภัยขึ้นสำหรับวัยรุ่นยุคใหม่”

    Meta ประกาศเปิดใช้งานฟีเจอร์ “Teen Accounts” บน Facebook และ Messenger ทั่วโลกเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2025 หลังจากทดลองใช้ในกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก เช่น สหรัฐฯ อังกฤษ แคนาดา และออสเตรเลีย ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้วัยรุ่นอายุ 13–17 ปี โดยมีการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวอัตโนมัติ การจำกัดเนื้อหา และระบบควบคุมโดยผู้ปกครอง

    Teen Accounts ถูกออกแบบให้ตอบโจทย์ความกังวลของผู้ปกครอง เช่น การจำกัดการส่งข้อความเฉพาะกับคนที่เคยติดต่อกันมาก่อน การตั้งค่าบัญชีเป็นแบบส่วนตัวโดยอัตโนมัติ และการจำกัดการมองเห็นเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ “Quiet Mode” ที่เปิดใช้งานในช่วงกลางคืน และระบบแจ้งเตือนให้หยุดใช้งานเมื่อครบ 60 นาทีต่อวัน

    สำหรับผู้ใช้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปี การเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าความปลอดภัยจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองก่อน เช่น การปิดระบบเบลอภาพที่อาจมีเนื้อหาไม่เหมาะสมในข้อความส่วนตัว หรือการเปิดใช้งานฟีเจอร์ Live บน Instagram

    การเปิดใช้งาน Teen Accounts ทั่วโลกเกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันจากสังคมและหน่วยงานกำกับดูแลที่ต้องการให้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียรับผิดชอบต่อผลกระทบที่มีต่อเยาวชน โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพจิต การเสพติดหน้าจอ และการถูกล่อลวงออนไลน์

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Meta เปิดใช้งาน Teen Accounts บน Facebook และ Messenger ทั่วโลก
    ฟีเจอร์นี้ออกแบบสำหรับผู้ใช้วัยรุ่นอายุ 13–17 ปี
    บัญชีจะถูกตั้งค่าเป็นแบบส่วนตัวโดยอัตโนมัติ
    จำกัดการส่งข้อความเฉพาะกับคนที่เคยติดต่อกันมาก่อน
    จำกัดการมองเห็นเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมและการโต้ตอบกับคนแปลกหน้า
    มีระบบแจ้งเตือนให้หยุดใช้งานเมื่อครบ 60 นาทีต่อวัน
    เปิดใช้งาน Quiet Mode ในช่วงกลางคืน
    ผู้ใช้ต่ำกว่า 16 ปีต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองในการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่า
    ฟีเจอร์นี้เคยเปิดใช้งานบน Instagram ก่อนขยายมายัง Facebook และ Messenger

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Facebook มีผู้ใช้วัยรุ่นลดลงจาก 71% ในปี 2014 เหลือเพียง 32% ในปี 2024
    วัยรุ่นนิยมใช้แพลตฟอร์มอื่น เช่น TikTok, YouTube และ Snapchat มากกว่า
    Teen Accounts เป็นส่วนหนึ่งของการตอบสนองต่อกฎหมาย Kids Online Safety Act (KOSA)
    Meta เผชิญคดีความหลายร้อยคดีเกี่ยวกับผลกระทบของโซเชียลมีเดียต่อเด็ก
    ฟีเจอร์ใหม่ช่วยให้ผู้ปกครองสามารถดูรายชื่อเพื่อนและเวลาการใช้งานของลูกได้

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/26/meta-activates-facebook-039teen-accounts039-worldwide
    🧒 “Meta เปิดใช้งาน Teen Accounts ทั่วโลก — ปรับโซเชียลให้ปลอดภัยขึ้นสำหรับวัยรุ่นยุคใหม่” Meta ประกาศเปิดใช้งานฟีเจอร์ “Teen Accounts” บน Facebook และ Messenger ทั่วโลกเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2025 หลังจากทดลองใช้ในกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก เช่น สหรัฐฯ อังกฤษ แคนาดา และออสเตรเลีย ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้วัยรุ่นอายุ 13–17 ปี โดยมีการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวอัตโนมัติ การจำกัดเนื้อหา และระบบควบคุมโดยผู้ปกครอง Teen Accounts ถูกออกแบบให้ตอบโจทย์ความกังวลของผู้ปกครอง เช่น การจำกัดการส่งข้อความเฉพาะกับคนที่เคยติดต่อกันมาก่อน การตั้งค่าบัญชีเป็นแบบส่วนตัวโดยอัตโนมัติ และการจำกัดการมองเห็นเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ “Quiet Mode” ที่เปิดใช้งานในช่วงกลางคืน และระบบแจ้งเตือนให้หยุดใช้งานเมื่อครบ 60 นาทีต่อวัน สำหรับผู้ใช้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปี การเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าความปลอดภัยจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองก่อน เช่น การปิดระบบเบลอภาพที่อาจมีเนื้อหาไม่เหมาะสมในข้อความส่วนตัว หรือการเปิดใช้งานฟีเจอร์ Live บน Instagram การเปิดใช้งาน Teen Accounts ทั่วโลกเกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันจากสังคมและหน่วยงานกำกับดูแลที่ต้องการให้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียรับผิดชอบต่อผลกระทบที่มีต่อเยาวชน โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพจิต การเสพติดหน้าจอ และการถูกล่อลวงออนไลน์ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Meta เปิดใช้งาน Teen Accounts บน Facebook และ Messenger ทั่วโลก ➡️ ฟีเจอร์นี้ออกแบบสำหรับผู้ใช้วัยรุ่นอายุ 13–17 ปี ➡️ บัญชีจะถูกตั้งค่าเป็นแบบส่วนตัวโดยอัตโนมัติ ➡️ จำกัดการส่งข้อความเฉพาะกับคนที่เคยติดต่อกันมาก่อน ➡️ จำกัดการมองเห็นเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมและการโต้ตอบกับคนแปลกหน้า ➡️ มีระบบแจ้งเตือนให้หยุดใช้งานเมื่อครบ 60 นาทีต่อวัน ➡️ เปิดใช้งาน Quiet Mode ในช่วงกลางคืน ➡️ ผู้ใช้ต่ำกว่า 16 ปีต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองในการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่า ➡️ ฟีเจอร์นี้เคยเปิดใช้งานบน Instagram ก่อนขยายมายัง Facebook และ Messenger ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Facebook มีผู้ใช้วัยรุ่นลดลงจาก 71% ในปี 2014 เหลือเพียง 32% ในปี 2024 ➡️ วัยรุ่นนิยมใช้แพลตฟอร์มอื่น เช่น TikTok, YouTube และ Snapchat มากกว่า ➡️ Teen Accounts เป็นส่วนหนึ่งของการตอบสนองต่อกฎหมาย Kids Online Safety Act (KOSA) ➡️ Meta เผชิญคดีความหลายร้อยคดีเกี่ยวกับผลกระทบของโซเชียลมีเดียต่อเด็ก ➡️ ฟีเจอร์ใหม่ช่วยให้ผู้ปกครองสามารถดูรายชื่อเพื่อนและเวลาการใช้งานของลูกได้ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/26/meta-activates-facebook-039teen-accounts039-worldwide
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Meta activates Facebook 'teen accounts' worldwide
    Meta's teen accounts, which offer additional security settings, content restrictions and parental controls for users aged 13 to 17, were first introduced on Instagram last year.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 396 มุมมอง 0 รีวิว
  • งามไส้แล้ว!!! อาจไม่ได้ติดแค่1ปี อีก2คดีตามมาติดๆ (23/9/68)

    #ThaiTimes
    #News1
    #News1short
    #TruthFromThailand
    #shorts
    #คดีความ
    #การเมืองไทย
    #ทักษิณ
    งามไส้แล้ว!!! อาจไม่ได้ติดแค่1ปี อีก2คดีตามมาติดๆ (23/9/68) #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #คดีความ #การเมืองไทย #ทักษิณ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 209 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • บทความกฎหมาย EP.4

    คำว่า “เคหสถาน” ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ตัวบ้าน
    หรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นที่พักอาศัยเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงบริเวณรอบๆ ที่อยู่อาศัยนั้นด้วย
    ไม่ว่าจะมีรั้วล้อมรอบหรือไม่ก็ตาม ซึ่งเป็นหลักการที่สำคัญยิ่งในการคุ้มครองสิทธิความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของประชาชน
    เช่นเดียวกับในคดีความอาญาที่เกี่ยวกับข้อหาบุกรุก
    การกระทำที่ถือว่าเป็นการบุกรุกเคหสถานจึงไม่ได้หมายถึงการเข้าสู่ตัวอาคารเพียงอย่างเดียว
    แต่ยังรวมถึงการเข้าไปในอาณาบริเวณโดยรอบโดยไม่ได้รับอนุญาต
    ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิในเคหสถานของผู้อื่น

    หลักการนี้สะท้อนให้เห็นว่ากฎหมายให้ความสำคัญกับการปกป้องพื้นที่ส่วนตัวที่บุคคลใช้เป็นที่พำนักอาศัย
    เพราะเคหสถานเป็นสถานที่ที่บุคคลควรได้รับความคุ้มครองสูงสุดจากภยันตรายและการรบกวน
    การทำความเข้าใจขอบเขตของคำว่า “เคหสถาน” จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
    เพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงหน้าที่ในการเคารพสิทธิของผู้อื่น
    และเพื่อป้องกันการกระทำที่อาจนำไปสู่การละเมิดกฎหมายโดยไม่ตั้งใจ
    หรือในทางกลับกันก็เพื่อรักษาสิทธิของตนเองในยามที่ถูกละเมิด

    ดังนั้น การทราบความหมายที่แท้จริงของคำว่า “เคหสถาน”
    ตามหลักกฎหมายจึงเป็นรากฐานสำคัญในการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสงบสุขเพราะการเคารพในพื้นที่ส่วนตัวของผู้อื่นนั้น
    เป็นหัวใจสำคัญของการสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของทุกคนในสังคม.
    บทความกฎหมาย EP.4 คำว่า “เคหสถาน” ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ตัวบ้าน หรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นที่พักอาศัยเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงบริเวณรอบๆ ที่อยู่อาศัยนั้นด้วย ไม่ว่าจะมีรั้วล้อมรอบหรือไม่ก็ตาม ซึ่งเป็นหลักการที่สำคัญยิ่งในการคุ้มครองสิทธิความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของประชาชน เช่นเดียวกับในคดีความอาญาที่เกี่ยวกับข้อหาบุกรุก การกระทำที่ถือว่าเป็นการบุกรุกเคหสถานจึงไม่ได้หมายถึงการเข้าสู่ตัวอาคารเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการเข้าไปในอาณาบริเวณโดยรอบโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิในเคหสถานของผู้อื่น หลักการนี้สะท้อนให้เห็นว่ากฎหมายให้ความสำคัญกับการปกป้องพื้นที่ส่วนตัวที่บุคคลใช้เป็นที่พำนักอาศัย เพราะเคหสถานเป็นสถานที่ที่บุคคลควรได้รับความคุ้มครองสูงสุดจากภยันตรายและการรบกวน การทำความเข้าใจขอบเขตของคำว่า “เคหสถาน” จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงหน้าที่ในการเคารพสิทธิของผู้อื่น และเพื่อป้องกันการกระทำที่อาจนำไปสู่การละเมิดกฎหมายโดยไม่ตั้งใจ หรือในทางกลับกันก็เพื่อรักษาสิทธิของตนเองในยามที่ถูกละเมิด ดังนั้น การทราบความหมายที่แท้จริงของคำว่า “เคหสถาน” ตามหลักกฎหมายจึงเป็นรากฐานสำคัญในการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสงบสุขเพราะการเคารพในพื้นที่ส่วนตัวของผู้อื่นนั้น เป็นหัวใจสำคัญของการสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของทุกคนในสังคม.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 451 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความ เข้าใจง่าย EP.1
    -------------------------------------------------------------------------
    คำว่า "โดยทุจริต" ในประมวลกฎหมายอาญา: ความหมายที่มากกว่าแค่การโกงเงิน

    คำว่า "โดยทุจริต" เป็นคำที่เราได้ยินบ่อยครั้งในข่าวคดีความที่เกี่ยวข้องกับการประพฤติมิชอบ แต่ในทางกฎหมาย คำนี้มีความหมายที่ลึกซึ้งและครอบคลุมมากกว่าที่เราคิด การทำความเข้าใจความหมายที่แท้จริงของคำนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราเห็นภาพรวมของความผิดทางอาญาได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

    ตามประมวลกฎหมายอาญา คำว่า "โดยทุจริต" หมายถึง "เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น" นี่คือเจตนาพิเศษที่อยู่เบื้องหลังการกระทำผิด ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่แค่การแสวงหาประโยชน์ในรูปแบบของทรัพย์สินเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงประโยชน์ในรูปแบบอื่นๆ ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายด้วย เช่น การใช้ตำแหน่งหน้าที่เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ การใช้เอกสารปลอมเพื่อเลื่อนตำแหน่ง หรือการทำลายหลักฐานเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกดำเนินคดี ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือกรณีที่พนักงานเบิกเงินบริษัทไปใช้ส่วนตัว นี่คือการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเอง หรือการที่ผู้สอบนำใบรับรองแพทย์ปลอมไปยื่นเพื่อขอเลื่อนการสอบ นี่ก็ถือเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยทุจริตเช่นกัน เพราะเป็นการกระทำเพื่อได้รับประโยชน์ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย

    การกระทำ "โดยทุจริต" จึงเป็นหัวใจสำคัญที่กำหนดว่าการกระทำใดๆ จะถือเป็นความผิดอาญาหรือไม่ เพราะแม้ว่าการกระทำนั้นจะดูเหมือนไม่มีความผิดร้ายแรง แต่หากมีเจตนาทุจริตแอบแฝงอยู่เบื้องหลัง ก็จะทำให้การกระทำนั้นกลายเป็นความผิดอาญาได้ทันที ความทุจริตจึงไม่ใช่แค่เรื่องของบุคคลที่ได้รับความเสียหายเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของสังคมและระบบกฎหมายโดยรวมด้วย การทำความเข้าใจคำนี้อย่างถ่องแท้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรตระหนักถึง

    ดังนั้น "โดยทุจริต" จึงเป็นมากกว่าแค่คำทางกฎหมาย แต่เป็นตัวบ่งชี้ถึงเจตนาอันไม่บริสุทธิ์ของมนุษย์ที่ต้องการได้รับผลประโยชน์ที่ไม่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม ซึ่งเป็นรากฐานของปัญหาอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและสังคม การสร้างสังคมที่โปร่งใสและเป็นธรรมจึงต้องเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจและต่อต้านการกระทำที่เกิดขึ้นจากเจตนา "โดยทุจริต" นี้อย่างจริงจัง.
    บทความ เข้าใจง่าย EP.1 ------------------------------------------------------------------------- คำว่า "โดยทุจริต" ในประมวลกฎหมายอาญา: ความหมายที่มากกว่าแค่การโกงเงิน คำว่า "โดยทุจริต" เป็นคำที่เราได้ยินบ่อยครั้งในข่าวคดีความที่เกี่ยวข้องกับการประพฤติมิชอบ แต่ในทางกฎหมาย คำนี้มีความหมายที่ลึกซึ้งและครอบคลุมมากกว่าที่เราคิด การทำความเข้าใจความหมายที่แท้จริงของคำนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราเห็นภาพรวมของความผิดทางอาญาได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ตามประมวลกฎหมายอาญา คำว่า "โดยทุจริต" หมายถึง "เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น" นี่คือเจตนาพิเศษที่อยู่เบื้องหลังการกระทำผิด ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่แค่การแสวงหาประโยชน์ในรูปแบบของทรัพย์สินเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงประโยชน์ในรูปแบบอื่นๆ ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายด้วย เช่น การใช้ตำแหน่งหน้าที่เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ การใช้เอกสารปลอมเพื่อเลื่อนตำแหน่ง หรือการทำลายหลักฐานเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกดำเนินคดี ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือกรณีที่พนักงานเบิกเงินบริษัทไปใช้ส่วนตัว นี่คือการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเอง หรือการที่ผู้สอบนำใบรับรองแพทย์ปลอมไปยื่นเพื่อขอเลื่อนการสอบ นี่ก็ถือเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยทุจริตเช่นกัน เพราะเป็นการกระทำเพื่อได้รับประโยชน์ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย การกระทำ "โดยทุจริต" จึงเป็นหัวใจสำคัญที่กำหนดว่าการกระทำใดๆ จะถือเป็นความผิดอาญาหรือไม่ เพราะแม้ว่าการกระทำนั้นจะดูเหมือนไม่มีความผิดร้ายแรง แต่หากมีเจตนาทุจริตแอบแฝงอยู่เบื้องหลัง ก็จะทำให้การกระทำนั้นกลายเป็นความผิดอาญาได้ทันที ความทุจริตจึงไม่ใช่แค่เรื่องของบุคคลที่ได้รับความเสียหายเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของสังคมและระบบกฎหมายโดยรวมด้วย การทำความเข้าใจคำนี้อย่างถ่องแท้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรตระหนักถึง ดังนั้น "โดยทุจริต" จึงเป็นมากกว่าแค่คำทางกฎหมาย แต่เป็นตัวบ่งชี้ถึงเจตนาอันไม่บริสุทธิ์ของมนุษย์ที่ต้องการได้รับผลประโยชน์ที่ไม่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม ซึ่งเป็นรากฐานของปัญหาอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและสังคม การสร้างสังคมที่โปร่งใสและเป็นธรรมจึงต้องเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจและต่อต้านการกระทำที่เกิดขึ้นจากเจตนา "โดยทุจริต" นี้อย่างจริงจัง.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 503 มุมมอง 0 รีวิว
  • คลิปนี้ชัดเจนมาก, อ.ปานเทพฯและรายการพ่อเลี้ยงก็ชัดเจนด้วย.

    อนุทินนายกฯเซ็นต์ยกเลิก คัดคนของตนยกมือยกเลิกmou43นี้ก็จบที่ มติคณะครม.ชุดแรกตนเองเลย,ได้ใจคนไทยทั้งประเทศด้วย,ทางการเมืองเลือกตั้งสมัยหน้าส่วนตัวสนับสนุนเป็นนายกฯคนต่อไปที่33แน่นอน,มีจิตใจสำนึกรักษาชาติในยามวิกฤติรู้ถูกรู้ผิด ถือว่าเป็นคนใช้ได้,เมื่อตัดสินใจเรื่องสำคัญจริงระดับชาติ,จะเป็นตำนานในประวัติศาสตร์ด้วย นำพาพรรคภูมิใจไทยอย่างมีศักดิ์ศรี ก้มหน้าไม่อายแผ่นดินไทย เงยหน้าไม่ฟ้าอายเทวดาแผ่นดินไทย,เรื่องอื่นๆขี้หมาเลย,อีกทั้งสามารถดำเนินคดีความเอาผิดย้อนหลังแทนประชาชนกับพวกขายชาติขายแดนดินอธิปไตยไทยด้วย แบบอดีตนายกฯยุคขายชาติmou43,44ต่างๆนี้ ดำเนินคดีกับอดีตรมต.กระทรวงต่างประเทศและคนกระทรวงทั้งหมดที่เกี่ยวข้องด้วย,ตัวพ่อก่อการสร้างเรื่องขายชาติมาโดยตลอด ไม่เกรงกลัวอะไรต่อการกระทำผิดตนเองในหน้าที่.
    ..นายกฯหนูจะเป็นฮีโรทันที ประชาชนจะร่วมปกป้องแน่นอน ทหารเราด้วย,เพื่อเป็นตัวแทนประชาชนทำสงครามศึกชดเชยความผิดที่ตนผิดพลาดไปได้,จากคำดูถูกงูเห่า จะเป็นราชสีห์ทันที.
    ..นี้คือการตัดสินใจครั้งสำคัญ โอกาสดีๆมีมากไม่มาก,ตัดสินใจผืดพลาดนรกแน่นอน ประชาชนก็ไม่เอาคนทรยศแผ่นดินไทยตนเองไว้อีกด้วยเช่นกันและจะตามเก็บพวกขายชาตินี้เองทั้งหมดได้เหมือนเดิม,อาจมีทนายมือทองยื่นฟ้องพวกนี้แล้วด้วย

    ..https://youtube.com/watch?v=vjuqIIbBZoo&si=BSaRFbHlHl9TNZSr
    คลิปนี้ชัดเจนมาก, อ.ปานเทพฯและรายการพ่อเลี้ยงก็ชัดเจนด้วย. อนุทินนายกฯเซ็นต์ยกเลิก คัดคนของตนยกมือยกเลิกmou43นี้ก็จบที่ มติคณะครม.ชุดแรกตนเองเลย,ได้ใจคนไทยทั้งประเทศด้วย,ทางการเมืองเลือกตั้งสมัยหน้าส่วนตัวสนับสนุนเป็นนายกฯคนต่อไปที่33แน่นอน,มีจิตใจสำนึกรักษาชาติในยามวิกฤติรู้ถูกรู้ผิด ถือว่าเป็นคนใช้ได้,เมื่อตัดสินใจเรื่องสำคัญจริงระดับชาติ,จะเป็นตำนานในประวัติศาสตร์ด้วย นำพาพรรคภูมิใจไทยอย่างมีศักดิ์ศรี ก้มหน้าไม่อายแผ่นดินไทย เงยหน้าไม่ฟ้าอายเทวดาแผ่นดินไทย,เรื่องอื่นๆขี้หมาเลย,อีกทั้งสามารถดำเนินคดีความเอาผิดย้อนหลังแทนประชาชนกับพวกขายชาติขายแดนดินอธิปไตยไทยด้วย แบบอดีตนายกฯยุคขายชาติmou43,44ต่างๆนี้ ดำเนินคดีกับอดีตรมต.กระทรวงต่างประเทศและคนกระทรวงทั้งหมดที่เกี่ยวข้องด้วย,ตัวพ่อก่อการสร้างเรื่องขายชาติมาโดยตลอด ไม่เกรงกลัวอะไรต่อการกระทำผิดตนเองในหน้าที่. ..นายกฯหนูจะเป็นฮีโรทันที ประชาชนจะร่วมปกป้องแน่นอน ทหารเราด้วย,เพื่อเป็นตัวแทนประชาชนทำสงครามศึกชดเชยความผิดที่ตนผิดพลาดไปได้,จากคำดูถูกงูเห่า จะเป็นราชสีห์ทันที. ..นี้คือการตัดสินใจครั้งสำคัญ โอกาสดีๆมีมากไม่มาก,ตัดสินใจผืดพลาดนรกแน่นอน ประชาชนก็ไม่เอาคนทรยศแผ่นดินไทยตนเองไว้อีกด้วยเช่นกันและจะตามเก็บพวกขายชาตินี้เองทั้งหมดได้เหมือนเดิม,อาจมีทนายมือทองยื่นฟ้องพวกนี้แล้วด้วย ..https://youtube.com/watch?v=vjuqIIbBZoo&si=BSaRFbHlHl9TNZSr
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 420 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก XMP ถึงศาลกลาง: เมื่อความเร็ว RAM กลายเป็นเรื่องฟ้องร้อง

    หลายคนที่ซื้อ RAM รุ่น Vengeance หรือ Dominator ของ Corsair ระหว่างปี 2018–2025 อาจเคยเห็นตัวเลขสวย ๆ อย่าง DDR4-3600 หรือ DDR5-6400 บนกล่อง แล้วคาดหวังว่าเสียบแล้วจะได้ความเร็วตามนั้นทันที แต่ความจริงคือ RAM เหล่านี้ทำงานที่ความเร็วมาตรฐาน JEDEC (เช่น DDR4-2133 หรือ DDR5-4800) โดยค่าเริ่มต้น และต้องเข้าไปเปิดโปรไฟล์ XMP หรือ EXPO ใน BIOS เพื่อให้ได้ความเร็วที่โฆษณาไว้

    คดี McKinney v. Corsair Gaming, Inc. ถูกฟ้องในปี 2022 โดยกล่าวหาว่า Corsair โฆษณา RAM ด้วยความเร็วที่ต้องใช้การโอเวอร์คล็อกโดยไม่แจ้งให้ชัดเจน ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดและจ่ายเงินแพงขึ้นโดยไม่รู้ว่าอาจไม่ได้ความเร็วตามที่ระบุไว้เลย หากระบบของตนไม่รองรับหรือไม่เสถียรพอ

    แม้ Corsair จะปฏิเสธว่าไม่ได้ทำผิด แต่สุดท้ายก็ยอมตกลงจ่ายเงินชดเชย และจะปรับข้อความบนกล่องและหน้าเว็บให้ชัดเจนขึ้น เช่น การใช้คำว่า “up to” และเพิ่มคำเตือนว่าเป็นความเร็วจากการโอเวอร์คล็อก

    ผู้ซื้อในสหรัฐฯ ที่เคยซื้อ RAM รุ่นที่เข้าข่ายสามารถยื่นขอเงินชดเชยได้สูงสุด 5 รายการ โดยไม่ต้องมีใบเสร็จสำหรับเคลมเล็ก ๆ และสามารถยื่นได้จนถึงวันที่ 28 ตุลาคม 2025 ผ่านเว็บไซต์

    รายละเอียดของคดีความ
    คดี McKinney v. Corsair Gaming, Inc. เริ่มในปี 2022
    Corsair ถูกกล่าวหาว่าโฆษณาความเร็ว RAM แบบ XMP โดยไม่แจ้งว่าเป็นการโอเวอร์คล็อก
    RAM ทำงานที่ความเร็ว JEDEC โดยค่าเริ่มต้น ต้องเปิด XMP/EXPO ใน BIOS

    ผลการตกลงและการชดเชย
    Corsair ยอมจ่ายเงินชดเชยรวม $5.5 ล้าน
    จะปรับข้อความบนกล่องและหน้าเว็บให้ชัดเจนขึ้น
    ผู้ซื้อในสหรัฐฯ ระหว่างปี 2018–2025 สามารถยื่นขอเงินคืนได้

    วิธีการยื่นเคลม
    ยื่นได้สูงสุด 5 รายการต่อคน
    ไม่ต้องใช้ใบเสร็จสำหรับเคลมเล็ก ๆ
    ยื่นผ่านเว็บไซต์ที่ศาลแต่งตั้งภายในวันที่ 28 ตุลาคม 2025

    ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ XMP/EXPO
    XMP (Intel) และ EXPO (AMD) เป็นโปรไฟล์โอเวอร์คล็อกที่ต้องเปิดใช้งานใน BIOS
    ความเร็วที่โฆษณาไม่ใช่ความเร็วที่ได้ทันทีหลังติดตั้ง
    ความเสถียรขึ้นอยู่กับ CPU, เมนบอร์ด และคุณภาพของ RAM

    https://www.tomshardware.com/pc-components/ram/corsair-lost-a-lawsuit-over-advertising-overclocked-memory-speeds-and-you-could-get-paid-the-settlement-covers-u-s-purchases-between-2018-and-2025
    🎙️ เรื่องเล่าจาก XMP ถึงศาลกลาง: เมื่อความเร็ว RAM กลายเป็นเรื่องฟ้องร้อง หลายคนที่ซื้อ RAM รุ่น Vengeance หรือ Dominator ของ Corsair ระหว่างปี 2018–2025 อาจเคยเห็นตัวเลขสวย ๆ อย่าง DDR4-3600 หรือ DDR5-6400 บนกล่อง แล้วคาดหวังว่าเสียบแล้วจะได้ความเร็วตามนั้นทันที แต่ความจริงคือ RAM เหล่านี้ทำงานที่ความเร็วมาตรฐาน JEDEC (เช่น DDR4-2133 หรือ DDR5-4800) โดยค่าเริ่มต้น และต้องเข้าไปเปิดโปรไฟล์ XMP หรือ EXPO ใน BIOS เพื่อให้ได้ความเร็วที่โฆษณาไว้ คดี McKinney v. Corsair Gaming, Inc. ถูกฟ้องในปี 2022 โดยกล่าวหาว่า Corsair โฆษณา RAM ด้วยความเร็วที่ต้องใช้การโอเวอร์คล็อกโดยไม่แจ้งให้ชัดเจน ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดและจ่ายเงินแพงขึ้นโดยไม่รู้ว่าอาจไม่ได้ความเร็วตามที่ระบุไว้เลย หากระบบของตนไม่รองรับหรือไม่เสถียรพอ แม้ Corsair จะปฏิเสธว่าไม่ได้ทำผิด แต่สุดท้ายก็ยอมตกลงจ่ายเงินชดเชย และจะปรับข้อความบนกล่องและหน้าเว็บให้ชัดเจนขึ้น เช่น การใช้คำว่า “up to” และเพิ่มคำเตือนว่าเป็นความเร็วจากการโอเวอร์คล็อก ผู้ซื้อในสหรัฐฯ ที่เคยซื้อ RAM รุ่นที่เข้าข่ายสามารถยื่นขอเงินชดเชยได้สูงสุด 5 รายการ โดยไม่ต้องมีใบเสร็จสำหรับเคลมเล็ก ๆ และสามารถยื่นได้จนถึงวันที่ 28 ตุลาคม 2025 ผ่านเว็บไซต์ ✅ รายละเอียดของคดีความ ➡️ คดี McKinney v. Corsair Gaming, Inc. เริ่มในปี 2022 ➡️ Corsair ถูกกล่าวหาว่าโฆษณาความเร็ว RAM แบบ XMP โดยไม่แจ้งว่าเป็นการโอเวอร์คล็อก ➡️ RAM ทำงานที่ความเร็ว JEDEC โดยค่าเริ่มต้น ต้องเปิด XMP/EXPO ใน BIOS ✅ ผลการตกลงและการชดเชย ➡️ Corsair ยอมจ่ายเงินชดเชยรวม $5.5 ล้าน ➡️ จะปรับข้อความบนกล่องและหน้าเว็บให้ชัดเจนขึ้น ➡️ ผู้ซื้อในสหรัฐฯ ระหว่างปี 2018–2025 สามารถยื่นขอเงินคืนได้ ✅ วิธีการยื่นเคลม ➡️ ยื่นได้สูงสุด 5 รายการต่อคน ➡️ ไม่ต้องใช้ใบเสร็จสำหรับเคลมเล็ก ๆ ➡️ ยื่นผ่านเว็บไซต์ที่ศาลแต่งตั้งภายในวันที่ 28 ตุลาคม 2025 ✅ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ XMP/EXPO ➡️ XMP (Intel) และ EXPO (AMD) เป็นโปรไฟล์โอเวอร์คล็อกที่ต้องเปิดใช้งานใน BIOS ➡️ ความเร็วที่โฆษณาไม่ใช่ความเร็วที่ได้ทันทีหลังติดตั้ง ➡️ ความเสถียรขึ้นอยู่กับ CPU, เมนบอร์ด และคุณภาพของ RAM https://www.tomshardware.com/pc-components/ram/corsair-lost-a-lawsuit-over-advertising-overclocked-memory-speeds-and-you-could-get-paid-the-settlement-covers-u-s-purchases-between-2018-and-2025
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 297 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Microsoft vs ValueLicensing: ศึกชี้ชะตาตลาดซอฟต์แวร์มือสองในยุโรป — เมื่อสิทธิ์การใช้งานกลายเป็นสนามรบ”

    คดีความระหว่าง Microsoft และ ValueLicensing กลับมาอีกครั้งในศาล Competition Appeal Tribunal ของสหราชอาณาจักร โดยมีประเด็นสำคัญคือ “การขายสิทธิ์ใช้งานซอฟต์แวร์มือสอง” เช่น Windows และ Office นั้นผิดกฎหมายหรือไม่ Microsoft ยืนยันว่าการขายสิทธิ์ใช้งานแบบ perpetual ที่เคยซื้อมาแล้วไม่ควรเกิดขึ้นตั้งแต่แรก เพราะองค์ประกอบบางส่วนของซอฟต์แวร์ เช่น graphical user interface (GUI) ไม่อยู่ภายใต้ข้อกำหนดของ European Software Directive

    ValueLicensing ซึ่งเป็นบริษัทรีเซลเลอร์ซอฟต์แวร์มือสองในสหราชอาณาจักร ยื่นฟ้อง Microsoft ตั้งแต่ปี 2021 โดยกล่าวหาว่า Microsoft ใช้กลยุทธ์กีดกันการแข่งขัน เช่น เสนอส่วนลดให้ลูกค้าองค์กรที่ยอมคืนสิทธิ์ perpetual license เพื่อเปลี่ยนไปใช้บริการแบบ subscription ซึ่งทำให้ตลาดมือสองขาดแคลนสิทธิ์ใช้งาน และบริษัทสูญเสียรายได้กว่า £270 ล้าน

    Microsoft เปลี่ยนแนวทางการป้องกันจากเดิมที่ปฏิเสธการกระทำผิด มาเป็นการโต้แย้งว่าตลาดซอฟต์แวร์มือสอง “ไม่ควรมีอยู่เลย” โดยอ้างสิทธิ์ในองค์ประกอบที่ไม่ใช่โค้ดโปรแกรม เช่น GUI และสื่อประกอบอื่น ๆ ซึ่งไม่อยู่ภายใต้สิทธิ์การขายต่อ

    หากศาลตัดสินตามแนวทางของ Microsoft อาจส่งผลให้ตลาดซอฟต์แวร์มือสองในยุโรปต้องปิดตัวลง และผู้ใช้งานทั่วไปที่เคยซื้อสิทธิ์ราคาถูกจากรีเซลเลอร์อาจไม่มีทางเลือกอีกต่อไป

    ประเด็นสำคัญในคดี Microsoft vs ValueLicensing
    Microsoft โต้แย้งว่าการขายสิทธิ์ใช้งานซอฟต์แวร์มือสองเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
    อ้างสิทธิ์ในองค์ประกอบที่ไม่ใช่โค้ด เช่น GUI ซึ่งไม่อยู่ภายใต้ European Software Directive
    ValueLicensing ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายกว่า £270 ล้าน จากการสูญเสียรายได้

    กลยุทธ์ที่ถูกกล่าวหา
    Microsoft เสนอส่วนลดให้ลูกค้าองค์กรที่คืนสิทธิ์ perpetual license เพื่อใช้ subscription
    ใส่เงื่อนไขในสัญญาที่จำกัดสิทธิ์การขายต่อ
    ส่งผลให้ตลาดมือสองขาดแคลนสิทธิ์ใช้งาน และรีเซลเลอร์ไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    คดีนี้อ้างอิงคำตัดสินของศาลยุโรปในคดี UsedSoft ซึ่งเคยอนุญาตให้ขายซอฟต์แวร์มือสองได้
    ตลาดซอฟต์แวร์มือสองในยุโรปมีมูลค่าสูง และช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงซอฟต์แวร์ในราคาถูก
    การขายสิทธิ์แบบ perpetual เป็นทางเลือกที่สำคัญสำหรับองค์กรที่ไม่ต้องการ subscription
    หาก Microsoft ชนะคดี อาจมีผลกระทบต่อบริษัทรีเซลเลอร์กว่า 50 แห่งทั่วยุโรป

    https://www.techradar.com/pro/security/microsoft-wants-to-ban-pre-owned-software-cheap-office-keys-and-windows-11-serials-but-is-that-a-lost-battle-already
    ⚖️ “Microsoft vs ValueLicensing: ศึกชี้ชะตาตลาดซอฟต์แวร์มือสองในยุโรป — เมื่อสิทธิ์การใช้งานกลายเป็นสนามรบ” คดีความระหว่าง Microsoft และ ValueLicensing กลับมาอีกครั้งในศาล Competition Appeal Tribunal ของสหราชอาณาจักร โดยมีประเด็นสำคัญคือ “การขายสิทธิ์ใช้งานซอฟต์แวร์มือสอง” เช่น Windows และ Office นั้นผิดกฎหมายหรือไม่ Microsoft ยืนยันว่าการขายสิทธิ์ใช้งานแบบ perpetual ที่เคยซื้อมาแล้วไม่ควรเกิดขึ้นตั้งแต่แรก เพราะองค์ประกอบบางส่วนของซอฟต์แวร์ เช่น graphical user interface (GUI) ไม่อยู่ภายใต้ข้อกำหนดของ European Software Directive ValueLicensing ซึ่งเป็นบริษัทรีเซลเลอร์ซอฟต์แวร์มือสองในสหราชอาณาจักร ยื่นฟ้อง Microsoft ตั้งแต่ปี 2021 โดยกล่าวหาว่า Microsoft ใช้กลยุทธ์กีดกันการแข่งขัน เช่น เสนอส่วนลดให้ลูกค้าองค์กรที่ยอมคืนสิทธิ์ perpetual license เพื่อเปลี่ยนไปใช้บริการแบบ subscription ซึ่งทำให้ตลาดมือสองขาดแคลนสิทธิ์ใช้งาน และบริษัทสูญเสียรายได้กว่า £270 ล้าน Microsoft เปลี่ยนแนวทางการป้องกันจากเดิมที่ปฏิเสธการกระทำผิด มาเป็นการโต้แย้งว่าตลาดซอฟต์แวร์มือสอง “ไม่ควรมีอยู่เลย” โดยอ้างสิทธิ์ในองค์ประกอบที่ไม่ใช่โค้ดโปรแกรม เช่น GUI และสื่อประกอบอื่น ๆ ซึ่งไม่อยู่ภายใต้สิทธิ์การขายต่อ หากศาลตัดสินตามแนวทางของ Microsoft อาจส่งผลให้ตลาดซอฟต์แวร์มือสองในยุโรปต้องปิดตัวลง และผู้ใช้งานทั่วไปที่เคยซื้อสิทธิ์ราคาถูกจากรีเซลเลอร์อาจไม่มีทางเลือกอีกต่อไป ✅ ประเด็นสำคัญในคดี Microsoft vs ValueLicensing ➡️ Microsoft โต้แย้งว่าการขายสิทธิ์ใช้งานซอฟต์แวร์มือสองเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ➡️ อ้างสิทธิ์ในองค์ประกอบที่ไม่ใช่โค้ด เช่น GUI ซึ่งไม่อยู่ภายใต้ European Software Directive ➡️ ValueLicensing ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายกว่า £270 ล้าน จากการสูญเสียรายได้ ✅ กลยุทธ์ที่ถูกกล่าวหา ➡️ Microsoft เสนอส่วนลดให้ลูกค้าองค์กรที่คืนสิทธิ์ perpetual license เพื่อใช้ subscription ➡️ ใส่เงื่อนไขในสัญญาที่จำกัดสิทธิ์การขายต่อ ➡️ ส่งผลให้ตลาดมือสองขาดแคลนสิทธิ์ใช้งาน และรีเซลเลอร์ไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ คดีนี้อ้างอิงคำตัดสินของศาลยุโรปในคดี UsedSoft ซึ่งเคยอนุญาตให้ขายซอฟต์แวร์มือสองได้ ➡️ ตลาดซอฟต์แวร์มือสองในยุโรปมีมูลค่าสูง และช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงซอฟต์แวร์ในราคาถูก ➡️ การขายสิทธิ์แบบ perpetual เป็นทางเลือกที่สำคัญสำหรับองค์กรที่ไม่ต้องการ subscription ➡️ หาก Microsoft ชนะคดี อาจมีผลกระทบต่อบริษัทรีเซลเลอร์กว่า 50 แห่งทั่วยุโรป https://www.techradar.com/pro/security/microsoft-wants-to-ban-pre-owned-software-cheap-office-keys-and-windows-11-serials-but-is-that-a-lost-battle-already
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 397 มุมมอง 0 รีวิว
  • เคลียร์ชัด! กรมการจัดหางานแจงกรณีแรงงานไทยไปฟินแลนด์ไม่ได้ถูกหลอกหรือค้ามนุษย์ ชี้คนละบริษัทกับที่มีคดีความ
    https://www.thai-tai.tv/news/21369/
    .
    #ไทยไท #กรมการจัดหางาน #แรงงานไทย #ฟินแลนด์ #ข่าววันนี้ #ข่าวสังคม
    เคลียร์ชัด! กรมการจัดหางานแจงกรณีแรงงานไทยไปฟินแลนด์ไม่ได้ถูกหลอกหรือค้ามนุษย์ ชี้คนละบริษัทกับที่มีคดีความ https://www.thai-tai.tv/news/21369/ . #ไทยไท #กรมการจัดหางาน #แรงงานไทย #ฟินแลนด์ #ข่าววันนี้ #ข่าวสังคม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 259 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts