💥💥สุดยอด ปรบมือ!! ก.ล.ต. และ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ประสานความร่วมมือ ยกระดับการทำหน้าที่กำกับดูแล
ตลาดทุนร่วมกัน ให้มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยม มากยิ่งขึ้น
บันทึกความเข้าใจฉบับนี้ได้มีการปรับปรุงกรอบการ
ทำงานร่วมกันของทั้ง 2 องค์กรในงานด้านกำกับดูแล
ให้มีความชัดเจน ลดความซ้ำซ้อน รวมถึงสอดรับกับระบบนิเวศ
และการเปลี่ยนแปลงของตลาดทุนในปัจจุบัน
ตลอดจนสามารถรองรับกับแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ได้แก่
(1) การกำกับดูแลบริษัทที่เสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชน
และการกำกับดูแลบริษัทจดทะเบียน
(2) การกำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และสมาชิก
ของตลาดหลักทรัพย์ฯ
(3) การติดตามดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์จดทะเบียน
และการบังคับใช้กฎหมาย และ
(4) การออกระเบียบข้อบังคับหรือกฎเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ
อีกทั้งจะเพิ่มการสนับสนุนและแลกเปลี่ยนข้อมูลการกำกับดูแล
ระหว่างกัน เพื่อให้การทำหน้าที่ของแต่ละองค์กรมีประสิทธิภาพ
มากยิ่งขึ้น เช่น การร่วมกันพิจารณาคำขอกรณีการจดทะเบียนโดยอ้อม
(Backdoor Listing) การขอย้ายกลับมาซื้อขายของบริษัทจดทะเบียน
หลังแก้ไขเหตุอาจถูกเพิกถอน (Resume Trading) เพื่อให้กระบวนการ
พิจารณา มีมาตรฐานเทียบเท่าการรับหลักทรัพย์จดทะเบียนใหม่
และยังจะมีการร่วมกันกำหนดหรือปรับปรุงกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
หากเห็นว่ากฎเกณฑ์ที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอที่จะช่วยสนับสนุน ป้องปราม
หรือยับยั้งพฤติกรรมที่อาจนำไปสู่การซื้อขายหลักทรัพย์ที่ไม่เป็นธรรม
ในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นต้น
อีกทั้งบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ยังครอบคลุมถึงแนวทางการทำงาน
และการประสานงานร่วมกัน ทั้งในระดับคณะกรรมการและฝ่ายจัดการ
ของทั้ง 2 องค์กร เพื่อให้การขับเคลื่อนทิศทางนโยบายการพัฒนา
ตลาดทุน การส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันกับตลาดทุนอื่น
และการกำกับดูแลตลาดทุนของ ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ
มีความสอดคล้องกันมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ทั้ง 2 องค์กรยังมีการหารือในประเด็นที่จะขับเคลื่อน
ร่วมกันที่สำคัญ ดังนี้
(1) การสร้างระบบนิเวศ (ecosystem) หลักทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์
เพื่อรองรับการพัฒนาการลงทุนในรูปแบบใหม่ ที่อยู่ระหว่างปรับปรุง
พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(2) การสนับสนุนการเพิ่มมูลค่า (value up) ของบริษัทจดทะเบียน
เพื่อสนับสนุนและสร้างแรงจูงใจให้บริษัทจดทะเบียนมุ่งมั่น
ที่จะเสริมศักยภาพและมูลค่าของตัวเอง สื่อสารกับนักลงทุน
อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกเหนือจากที่รัฐบาลได้สนับสนุน
การขยายรายชื่อหลักทรัพย์ที่กองทุน Thai ESG สามารถลงทุนได้
(3) การส่งเสริมการเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนตามมาตรฐาน
International Sustainability Standards Board (ISSB)
ซึ่ง ก.ล.ต. อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมและขอความร่วมมือ
จากตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการสนับสนุนและต่อยอดการดำเนินการ
และการทำความเข้าใจกับบริษัทจดทะเบียน
(4) การส่งเสริมผู้ลงทุนให้มีความรู้ (investor empowerment)
ผ่าน Open Data ของภาคตลาดทุนและภาคการเงิน เพื่อให้ผู้ลงทุน
สามารถใช้ข้อมูลของตนที่อยู่กับผู้ประกอบธุรกิจได้อย่างมี
ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ที่มา ก.ล.ต.
#หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
ประสานความร่วมมือ ยกระดับการทำหน้าที่กำกับดูแล
ตลาดทุนร่วมกัน ให้มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยม มากยิ่งขึ้น
บันทึกความเข้าใจฉบับนี้ได้มีการปรับปรุงกรอบการ
ทำงานร่วมกันของทั้ง 2 องค์กรในงานด้านกำกับดูแล
ให้มีความชัดเจน ลดความซ้ำซ้อน รวมถึงสอดรับกับระบบนิเวศ
และการเปลี่ยนแปลงของตลาดทุนในปัจจุบัน
ตลอดจนสามารถรองรับกับแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ได้แก่
(1) การกำกับดูแลบริษัทที่เสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชน
และการกำกับดูแลบริษัทจดทะเบียน
(2) การกำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และสมาชิก
ของตลาดหลักทรัพย์ฯ
(3) การติดตามดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์จดทะเบียน
และการบังคับใช้กฎหมาย และ
(4) การออกระเบียบข้อบังคับหรือกฎเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ
อีกทั้งจะเพิ่มการสนับสนุนและแลกเปลี่ยนข้อมูลการกำกับดูแล
ระหว่างกัน เพื่อให้การทำหน้าที่ของแต่ละองค์กรมีประสิทธิภาพ
มากยิ่งขึ้น เช่น การร่วมกันพิจารณาคำขอกรณีการจดทะเบียนโดยอ้อม
(Backdoor Listing) การขอย้ายกลับมาซื้อขายของบริษัทจดทะเบียน
หลังแก้ไขเหตุอาจถูกเพิกถอน (Resume Trading) เพื่อให้กระบวนการ
พิจารณา มีมาตรฐานเทียบเท่าการรับหลักทรัพย์จดทะเบียนใหม่
และยังจะมีการร่วมกันกำหนดหรือปรับปรุงกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
หากเห็นว่ากฎเกณฑ์ที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอที่จะช่วยสนับสนุน ป้องปราม
หรือยับยั้งพฤติกรรมที่อาจนำไปสู่การซื้อขายหลักทรัพย์ที่ไม่เป็นธรรม
ในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นต้น
อีกทั้งบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ยังครอบคลุมถึงแนวทางการทำงาน
และการประสานงานร่วมกัน ทั้งในระดับคณะกรรมการและฝ่ายจัดการ
ของทั้ง 2 องค์กร เพื่อให้การขับเคลื่อนทิศทางนโยบายการพัฒนา
ตลาดทุน การส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันกับตลาดทุนอื่น
และการกำกับดูแลตลาดทุนของ ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ
มีความสอดคล้องกันมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ทั้ง 2 องค์กรยังมีการหารือในประเด็นที่จะขับเคลื่อน
ร่วมกันที่สำคัญ ดังนี้
(1) การสร้างระบบนิเวศ (ecosystem) หลักทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์
เพื่อรองรับการพัฒนาการลงทุนในรูปแบบใหม่ ที่อยู่ระหว่างปรับปรุง
พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(2) การสนับสนุนการเพิ่มมูลค่า (value up) ของบริษัทจดทะเบียน
เพื่อสนับสนุนและสร้างแรงจูงใจให้บริษัทจดทะเบียนมุ่งมั่น
ที่จะเสริมศักยภาพและมูลค่าของตัวเอง สื่อสารกับนักลงทุน
อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกเหนือจากที่รัฐบาลได้สนับสนุน
การขยายรายชื่อหลักทรัพย์ที่กองทุน Thai ESG สามารถลงทุนได้
(3) การส่งเสริมการเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนตามมาตรฐาน
International Sustainability Standards Board (ISSB)
ซึ่ง ก.ล.ต. อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมและขอความร่วมมือ
จากตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการสนับสนุนและต่อยอดการดำเนินการ
และการทำความเข้าใจกับบริษัทจดทะเบียน
(4) การส่งเสริมผู้ลงทุนให้มีความรู้ (investor empowerment)
ผ่าน Open Data ของภาคตลาดทุนและภาคการเงิน เพื่อให้ผู้ลงทุน
สามารถใช้ข้อมูลของตนที่อยู่กับผู้ประกอบธุรกิจได้อย่างมี
ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ที่มา ก.ล.ต.
#หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
💥💥สุดยอด ปรบมือ!! ก.ล.ต. และ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ประสานความร่วมมือ ยกระดับการทำหน้าที่กำกับดูแล
ตลาดทุนร่วมกัน ให้มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยม มากยิ่งขึ้น
บันทึกความเข้าใจฉบับนี้ได้มีการปรับปรุงกรอบการ
ทำงานร่วมกันของทั้ง 2 องค์กรในงานด้านกำกับดูแล
ให้มีความชัดเจน ลดความซ้ำซ้อน รวมถึงสอดรับกับระบบนิเวศ
และการเปลี่ยนแปลงของตลาดทุนในปัจจุบัน
ตลอดจนสามารถรองรับกับแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ได้แก่
(1) การกำกับดูแลบริษัทที่เสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชน
และการกำกับดูแลบริษัทจดทะเบียน
(2) การกำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และสมาชิก
ของตลาดหลักทรัพย์ฯ
(3) การติดตามดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์จดทะเบียน
และการบังคับใช้กฎหมาย และ
(4) การออกระเบียบข้อบังคับหรือกฎเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ
อีกทั้งจะเพิ่มการสนับสนุนและแลกเปลี่ยนข้อมูลการกำกับดูแล
ระหว่างกัน เพื่อให้การทำหน้าที่ของแต่ละองค์กรมีประสิทธิภาพ
มากยิ่งขึ้น เช่น การร่วมกันพิจารณาคำขอกรณีการจดทะเบียนโดยอ้อม
(Backdoor Listing) การขอย้ายกลับมาซื้อขายของบริษัทจดทะเบียน
หลังแก้ไขเหตุอาจถูกเพิกถอน (Resume Trading) เพื่อให้กระบวนการ
พิจารณา มีมาตรฐานเทียบเท่าการรับหลักทรัพย์จดทะเบียนใหม่
และยังจะมีการร่วมกันกำหนดหรือปรับปรุงกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
หากเห็นว่ากฎเกณฑ์ที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอที่จะช่วยสนับสนุน ป้องปราม
หรือยับยั้งพฤติกรรมที่อาจนำไปสู่การซื้อขายหลักทรัพย์ที่ไม่เป็นธรรม
ในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นต้น
อีกทั้งบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ยังครอบคลุมถึงแนวทางการทำงาน
และการประสานงานร่วมกัน ทั้งในระดับคณะกรรมการและฝ่ายจัดการ
ของทั้ง 2 องค์กร เพื่อให้การขับเคลื่อนทิศทางนโยบายการพัฒนา
ตลาดทุน การส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันกับตลาดทุนอื่น
และการกำกับดูแลตลาดทุนของ ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ
มีความสอดคล้องกันมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ทั้ง 2 องค์กรยังมีการหารือในประเด็นที่จะขับเคลื่อน
ร่วมกันที่สำคัญ ดังนี้
(1) การสร้างระบบนิเวศ (ecosystem) หลักทรัพย์อิเล็กทรอนิกส์
เพื่อรองรับการพัฒนาการลงทุนในรูปแบบใหม่ ที่อยู่ระหว่างปรับปรุง
พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(2) การสนับสนุนการเพิ่มมูลค่า (value up) ของบริษัทจดทะเบียน
เพื่อสนับสนุนและสร้างแรงจูงใจให้บริษัทจดทะเบียนมุ่งมั่น
ที่จะเสริมศักยภาพและมูลค่าของตัวเอง สื่อสารกับนักลงทุน
อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกเหนือจากที่รัฐบาลได้สนับสนุน
การขยายรายชื่อหลักทรัพย์ที่กองทุน Thai ESG สามารถลงทุนได้
(3) การส่งเสริมการเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนตามมาตรฐาน
International Sustainability Standards Board (ISSB)
ซึ่ง ก.ล.ต. อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมและขอความร่วมมือ
จากตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการสนับสนุนและต่อยอดการดำเนินการ
และการทำความเข้าใจกับบริษัทจดทะเบียน
(4) การส่งเสริมผู้ลงทุนให้มีความรู้ (investor empowerment)
ผ่าน Open Data ของภาคตลาดทุนและภาคการเงิน เพื่อให้ผู้ลงทุน
สามารถใช้ข้อมูลของตนที่อยู่กับผู้ประกอบธุรกิจได้อย่างมี
ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ที่มา ก.ล.ต.
#หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
0 Comments
0 Shares
371 Views
0 Reviews