นายกฯ สิงคโปร์ บินโลว์คอสต์กลับบ้าน

กลายเป็นเรื่องฮือฮาของชาวสิงคโปร์ เมื่อ ลอว์เรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ เดินทางกลับจากการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่นครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว เมื่อวันเสาร์ที่ 12 ต.ค. ด้วยสายการบินสกู๊ต (Scoot) โลว์คอสต์แอร์ไลน์ของกลุ่มสิงคโปร์แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TR351 ออกจากท่าอากาศยานวัตไต เวลา 12.55 น. ถึงท่าอากาศยานชางงี เวลา 17.05 น.

เที่ยวบินดังกล่าว มีคณะทัวร์ผู้สูงอายุชาวสิงคโปร์กว่า 40 คน เพิ่งกลับจากการท่องเที่ยวในประเทศลาว เมื่อพบเห็นนายหว่องก็ความแปลกใจและตื่นเต้น วีดีโอคลิปของผู้สื่อข่าวสำนักข่าวซีเอ็นเอ (CNA) ของสิงคโปร์ เผยให้เห็นนายหว่องขึ้นไปบนเครื่องบิน ได้รับเสียงปรบมือและเสียงเชียร์ นายหว่องจึงโบกมือทักทายด้วยรอยยิ้มแล้วนั่งลงบนที่นั่ง 1C ซึ่งอยู่หน้าสุด

เมื่อกลับถึงประเทศสิงคโปร์ นายหว่องได้โพสต์วีดีโอคลิป พร้อมข้อความระบุว่า "เมื่อกลับจากลาว รู้สึกเหมือนอยู่บ้านเมื่อขึ้นเครื่องบิน ขอบคุณทุกคนสำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่น" โดยเป็นภาพที่ผู้โดยสารต่างส่งเสียงเชียร์และปรบมือบนเครื่องบิน ซึ่งผู้สนับสนุนนายหว่องต่างชื่นชมในความอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นคนติดดิน แทนที่จะนั่งเครื่องบินส่วนตัวหรือเที่ยวบินชั้นธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม เที่ยวบินจากสิงคโปร์ไปเวียงจันทน์ มีเพียงสายการบินสกู๊ต ให้บริการสัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน ถ้าจะนั่งแบบฟลูเซอร์วิสต้องไปต่อเครื่องที่กรุงเทพฯ ซึ่งนายหว่องเปิดเผยว่า จะเพิ่มเป็น 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2567 โดยชาวสิงคโปร์จำนวนมากนิยมเดินทางไปยังหลวงพระบาง รวมทั้งมายังประเทศลาวเพื่อทำงานพัฒนาชุมชนและงานอาสาสมัคร

ด้านสื่อฝ่ายต่อต้านรัฐบาลสิงคโปร์อย่าง ดิออนไลน์ซิตีเซน (TOC) ที่ย้ายไปตั้งสำนักงานที่ไต้หวัน วิจารณ์ว่าการกลับบ้านของนายหว่องมีอะไรน่าตื่นเต้น แทนที่การหารือระดับภูมิภาคเกี่ยวกับการทูต การค้า และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ สมควรได้รับความสนใจมากกว่า และกังวลว่ากรณีนี้จะถูกใช้เพื่อสร้างภาพลักษณ์ว่าเข้าถึงได้และเป็นกันเอง การดึงดูดความสนใจเที่ยวบินราคาประหยัด ย้ำให้เห็นถึงพลังในการกำหนดวาระทางการเมือง แต่ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาค่าครองชีพและเศรษฐกิจของประเทศ

สำหรับลอว์เรนซ์ หว่อง วัย 51 ปี เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 4 ของสิงคโปร์ รับตำแหน่งต่อจากนายลี เซียนลุง ที่ดำรงตำแหน่งมานานถึง 20 ปี เคยเป็นนักเศรษฐศาสตร์ อดีตข้าราชการ และประธานกรรมการบริหารของธนาคารกลางแห่งสิงคโปร์ (MAS) มีผลงานโดดเด่นในด้านการเป็นประธานร่วมของคณะทำงานของรัฐบาลเพื่อต่อสู้โรคระบาดโควิด-19

#Newskit #LawrenceWong #Scoot
นายกฯ สิงคโปร์ บินโลว์คอสต์กลับบ้าน กลายเป็นเรื่องฮือฮาของชาวสิงคโปร์ เมื่อ ลอว์เรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ เดินทางกลับจากการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่นครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว เมื่อวันเสาร์ที่ 12 ต.ค. ด้วยสายการบินสกู๊ต (Scoot) โลว์คอสต์แอร์ไลน์ของกลุ่มสิงคโปร์แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TR351 ออกจากท่าอากาศยานวัตไต เวลา 12.55 น. ถึงท่าอากาศยานชางงี เวลา 17.05 น. เที่ยวบินดังกล่าว มีคณะทัวร์ผู้สูงอายุชาวสิงคโปร์กว่า 40 คน เพิ่งกลับจากการท่องเที่ยวในประเทศลาว เมื่อพบเห็นนายหว่องก็ความแปลกใจและตื่นเต้น วีดีโอคลิปของผู้สื่อข่าวสำนักข่าวซีเอ็นเอ (CNA) ของสิงคโปร์ เผยให้เห็นนายหว่องขึ้นไปบนเครื่องบิน ได้รับเสียงปรบมือและเสียงเชียร์ นายหว่องจึงโบกมือทักทายด้วยรอยยิ้มแล้วนั่งลงบนที่นั่ง 1C ซึ่งอยู่หน้าสุด เมื่อกลับถึงประเทศสิงคโปร์ นายหว่องได้โพสต์วีดีโอคลิป พร้อมข้อความระบุว่า "เมื่อกลับจากลาว รู้สึกเหมือนอยู่บ้านเมื่อขึ้นเครื่องบิน ขอบคุณทุกคนสำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่น" โดยเป็นภาพที่ผู้โดยสารต่างส่งเสียงเชียร์และปรบมือบนเครื่องบิน ซึ่งผู้สนับสนุนนายหว่องต่างชื่นชมในความอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นคนติดดิน แทนที่จะนั่งเครื่องบินส่วนตัวหรือเที่ยวบินชั้นธุรกิจ อย่างไรก็ตาม เที่ยวบินจากสิงคโปร์ไปเวียงจันทน์ มีเพียงสายการบินสกู๊ต ให้บริการสัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน ถ้าจะนั่งแบบฟลูเซอร์วิสต้องไปต่อเครื่องที่กรุงเทพฯ ซึ่งนายหว่องเปิดเผยว่า จะเพิ่มเป็น 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2567 โดยชาวสิงคโปร์จำนวนมากนิยมเดินทางไปยังหลวงพระบาง รวมทั้งมายังประเทศลาวเพื่อทำงานพัฒนาชุมชนและงานอาสาสมัคร ด้านสื่อฝ่ายต่อต้านรัฐบาลสิงคโปร์อย่าง ดิออนไลน์ซิตีเซน (TOC) ที่ย้ายไปตั้งสำนักงานที่ไต้หวัน วิจารณ์ว่าการกลับบ้านของนายหว่องมีอะไรน่าตื่นเต้น แทนที่การหารือระดับภูมิภาคเกี่ยวกับการทูต การค้า และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ สมควรได้รับความสนใจมากกว่า และกังวลว่ากรณีนี้จะถูกใช้เพื่อสร้างภาพลักษณ์ว่าเข้าถึงได้และเป็นกันเอง การดึงดูดความสนใจเที่ยวบินราคาประหยัด ย้ำให้เห็นถึงพลังในการกำหนดวาระทางการเมือง แต่ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาค่าครองชีพและเศรษฐกิจของประเทศ สำหรับลอว์เรนซ์ หว่อง วัย 51 ปี เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 4 ของสิงคโปร์ รับตำแหน่งต่อจากนายลี เซียนลุง ที่ดำรงตำแหน่งมานานถึง 20 ปี เคยเป็นนักเศรษฐศาสตร์ อดีตข้าราชการ และประธานกรรมการบริหารของธนาคารกลางแห่งสิงคโปร์ (MAS) มีผลงานโดดเด่นในด้านการเป็นประธานร่วมของคณะทำงานของรัฐบาลเพื่อต่อสู้โรคระบาดโควิด-19 #Newskit #LawrenceWong #Scoot
Like
Love
Yay
10
0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 564 มุมมอง 0 รีวิว