HOP INN ชิงที่พักเมืองรอง

มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. ถึง 30 พ.ย. 2567 กลายเป็นที่สนใจอีกครั้ง เมื่อบัดเจ็ตโฮเต็ลรายใหญ่ในประเทศไทย โรงแรมฮ็อปอินน์ (Hop Inn) ในเครือดิ เอราวัณ กรุ๊ป ประกาศว่า พร้อมให้บริการ E-Tax ตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค. 2567 ผู้เข้าพักสามารถขอใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ได้แล้ว

โดยสาขาโรงแรมฮ็อปอินน์จังหวัดเมืองรองที่เข้าร่วมโครงการ รวม 24 จังหวัด ประกอบด้วย จันทบุรี เชียงราย ชุมพร ตาก (แม่สอด) นครพนม นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ น่าน บุรีรัมย์ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก มหาสารคาม มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ราชบุรี ลพบุรี ลำปาง สกลนคร สระแก้ว สุพรรณบุรี สุรินทร์ หนองคาย อุดรธานี และอุบลราชธานี

ทั้งนี้ ผู้เข้าพักสามารถขอใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อนำไปลดหย่อนภาษี ปีภาษี 2567 สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวรองได้ตามที่จ่ายจริง แต่ต้องไม่เกิน 15,000 บาท ซึ่งข้อมูลจะส่งไปยังกรมสรรพากร เช่นเดียวกับมาตรการช้อปดีมีคืน และมาตรการ Easy e-Receipt ที่เคยแสดงรายการซื้อสินค้าและบริการในเว็บไซต์ MyTax Account โดยอัตโนมัติ

ที่ผ่านมา นับตั้งแต่เปิดตัวมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศ สำหรับจังหวัดเมืองรอง พบว่ามีเพียงโรงแรมขนาดเล็กที่เข้าร่วมโครงการ และยังมีจำนวนน้อย ไม่ได้มีโรงแรมเข้าร่วมโครงการจำนวนมากตามที่นักท่องเที่ยวคาดหวัง เมื่อเทียบกับมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยวในช่วงที่ผ่านมา เช่น โครงการชิมช้อปใช้ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน

ขณะที่โรงแรมขนาดใหญ่ พบว่ามีเครือโรงแรมเซ็นทาราเข้าร่วมโครงการ 5 แห่ง ใน 4 จังหวัด ได้แก่ โรงแรมเซ็นทารา เกาะช้าง ทรอปิคานา รีสอร์ท จ.ตราด, โรงแรมเซ็นทารา ชานทะเล รีสอร์ทและวิลลา จ.ตราด, โรงแรมเซ็นทารา อุบล จ.อุบลราชธานี, โรงแรมเซ็นทารา อุดร จ.อุดรธานี และโรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ แม่สอด จ.ตาก

สำหรับโรงแรมฮ็อปอินน์ เฉพาะในประเทศไทย ที่ผ่านมาเปิดให้บริการแล้ว 4 สาขา ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ศรีราชา จ.ชลบุรี และสาขาล่าสุด ราชบุรี ทำให้ในปัจจุบันมีเครือข่ายโรงแรมมากถึง 55 แห่ง 4,637 ห้องพัก สาขาต่อไปจะเปิดที่นครพนม จำนวน 79 ห้อง ประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 61 ห้อง สงขลา จำนวน 79 ห้อง และพะเยา จำนวน 79 ห้อง

#Newskit #HopInn #พักเมืองรองลดหย่อนภาษี
HOP INN ชิงที่พักเมืองรอง มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. ถึง 30 พ.ย. 2567 กลายเป็นที่สนใจอีกครั้ง เมื่อบัดเจ็ตโฮเต็ลรายใหญ่ในประเทศไทย โรงแรมฮ็อปอินน์ (Hop Inn) ในเครือดิ เอราวัณ กรุ๊ป ประกาศว่า พร้อมให้บริการ E-Tax ตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค. 2567 ผู้เข้าพักสามารถขอใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ได้แล้ว โดยสาขาโรงแรมฮ็อปอินน์จังหวัดเมืองรองที่เข้าร่วมโครงการ รวม 24 จังหวัด ประกอบด้วย จันทบุรี เชียงราย ชุมพร ตาก (แม่สอด) นครพนม นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ น่าน บุรีรัมย์ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก มหาสารคาม มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ราชบุรี ลพบุรี ลำปาง สกลนคร สระแก้ว สุพรรณบุรี สุรินทร์ หนองคาย อุดรธานี และอุบลราชธานี ทั้งนี้ ผู้เข้าพักสามารถขอใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อนำไปลดหย่อนภาษี ปีภาษี 2567 สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวรองได้ตามที่จ่ายจริง แต่ต้องไม่เกิน 15,000 บาท ซึ่งข้อมูลจะส่งไปยังกรมสรรพากร เช่นเดียวกับมาตรการช้อปดีมีคืน และมาตรการ Easy e-Receipt ที่เคยแสดงรายการซื้อสินค้าและบริการในเว็บไซต์ MyTax Account โดยอัตโนมัติ ที่ผ่านมา นับตั้งแต่เปิดตัวมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศ สำหรับจังหวัดเมืองรอง พบว่ามีเพียงโรงแรมขนาดเล็กที่เข้าร่วมโครงการ และยังมีจำนวนน้อย ไม่ได้มีโรงแรมเข้าร่วมโครงการจำนวนมากตามที่นักท่องเที่ยวคาดหวัง เมื่อเทียบกับมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยวในช่วงที่ผ่านมา เช่น โครงการชิมช้อปใช้ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ขณะที่โรงแรมขนาดใหญ่ พบว่ามีเครือโรงแรมเซ็นทาราเข้าร่วมโครงการ 5 แห่ง ใน 4 จังหวัด ได้แก่ โรงแรมเซ็นทารา เกาะช้าง ทรอปิคานา รีสอร์ท จ.ตราด, โรงแรมเซ็นทารา ชานทะเล รีสอร์ทและวิลลา จ.ตราด, โรงแรมเซ็นทารา อุบล จ.อุบลราชธานี, โรงแรมเซ็นทารา อุดร จ.อุดรธานี และโรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ แม่สอด จ.ตาก สำหรับโรงแรมฮ็อปอินน์ เฉพาะในประเทศไทย ที่ผ่านมาเปิดให้บริการแล้ว 4 สาขา ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ศรีราชา จ.ชลบุรี และสาขาล่าสุด ราชบุรี ทำให้ในปัจจุบันมีเครือข่ายโรงแรมมากถึง 55 แห่ง 4,637 ห้องพัก สาขาต่อไปจะเปิดที่นครพนม จำนวน 79 ห้อง ประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 61 ห้อง สงขลา จำนวน 79 ห้อง และพะเยา จำนวน 79 ห้อง #Newskit #HopInn #พักเมืองรองลดหย่อนภาษี
Like
3
0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1098 มุมมอง 0 รีวิว