“ปัญหาไพ่ 4 ใบของวาสัน” (Four-card Problem) ของปีเตอร์ เคทคาร์ต วาสัน (Peter Cathcart Wason) เป็น นักจิตวิทยาด้านการรับรู้ที่มีชื่อเสียงระดับโลก เป็นที่รู้กันว่าในเวลานั้น มีคนตอบถูกไม่ถึง 10% ด้วยซ้ำ

ที่จริงเราเอาสิ่งที่เคยเรียนมาใช้แก้ปัญหานี้ได้นะครับ จำเรื่อง “เซตและตรรกะ” ที่เรียนในวิชาคณิตศาสตร์สมัยมัธยมปลายได้ไหมครับ มันคือพวก "p อยู่ในเซต A" "กฎเดอมอร์แกน” “บทกลับ” “ประพจน์ ผกผัน” หรือ “ประพจน์แย้งสลับที่” พวกนั้นแหละครับ (ช่างเป็น คณิตศาสตร์เสียจนไม่อยากแม้แต่จะมองเลยละ) “ประพจน์แย้งสลับที่ ที่เราเรียนรู้ตรงนี้คือกฏที่ว่า “ถ้า A จะเป็น B" เป็นจริง ก็แสดงว่า "ถ้าไม่ใช่ B ก็ไม่ใช่ A” ด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น “ถ้าเป็นมนุษย์ก็เป็นสัตว์” เป็นจริง ก็แสดงว่า “ถ้าไม่ใช่สัตว์ก็ไม่ใช่มนุษย์" ด้วย

จากหนังสือ #ไต่ระดับลับสมองด้วยคำถามเชิงตรรกะ
“ปัญหาไพ่ 4 ใบของวาสัน” (Four-card Problem) ของปีเตอร์ เคทคาร์ต วาสัน (Peter Cathcart Wason) เป็น นักจิตวิทยาด้านการรับรู้ที่มีชื่อเสียงระดับโลก เป็นที่รู้กันว่าในเวลานั้น มีคนตอบถูกไม่ถึง 10% ด้วยซ้ำ ที่จริงเราเอาสิ่งที่เคยเรียนมาใช้แก้ปัญหานี้ได้นะครับ จำเรื่อง “เซตและตรรกะ” ที่เรียนในวิชาคณิตศาสตร์สมัยมัธยมปลายได้ไหมครับ มันคือพวก "p อยู่ในเซต A" "กฎเดอมอร์แกน” “บทกลับ” “ประพจน์ ผกผัน” หรือ “ประพจน์แย้งสลับที่” พวกนั้นแหละครับ (ช่างเป็น คณิตศาสตร์เสียจนไม่อยากแม้แต่จะมองเลยละ) “ประพจน์แย้งสลับที่ ที่เราเรียนรู้ตรงนี้คือกฏที่ว่า “ถ้า A จะเป็น B" เป็นจริง ก็แสดงว่า "ถ้าไม่ใช่ B ก็ไม่ใช่ A” ด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น “ถ้าเป็นมนุษย์ก็เป็นสัตว์” เป็นจริง ก็แสดงว่า “ถ้าไม่ใช่สัตว์ก็ไม่ใช่มนุษย์" ด้วย จากหนังสือ #ไต่ระดับลับสมองด้วยคำถามเชิงตรรกะ
0 Comments 0 Shares 10 Views 0 Reviews