Read To Lead อ่านอย่างผู้นำ (2025/107)
หนังสือที่ถ่ายทอดความสำคัญของการอ่านโดย ดร.ณัชร สยามวาลา ซึ่งรายได้ทั้งหมดผู้เขียนมอบให้มูลนิธิชัยพัฒนา
Read To Lead เล่มนี้นำเสนอว่าผู้นำระดับโลกเป็นนักอ่านตังฉกาจ ซึ่งผู้เขียนเล่าได้อย่างน่าตื่นเต้น บุคคลตัวอย่างที่ผู้เขียนนำเสนอน่าทึ่งมากๆ นอกจากนี้ผู้เขียนซึ่งเป็นนักอ่านให้คำแนะนำเทคนิคการอ่านหนังสือในรูปแบบต่างๆ เพื่อเพิ่มความเร็วในการอ่านหนังสือ ซึ่งเธอสามารถอ่านหนังสือได้ปีละ 365เล่มมาแล้ว
---------
ท้ายเล่มมีบทสัมภาษณ์ผู้นำไทยที่เป็นผู้ที่รักการอ่าน มีบทสัมภาษณ์ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา และในบทสัมภาษณ์คราวนั้น มีการกล่าวถึงการปฎิบัติหน้าที่ของ ดร.สุเมธ ที่ถวายงานให้กับในหลวงรัชกาลที่ 9 ตอนหนึ่งว่า
ผู้เขียน : พระราชดำรัสใดของในหลวงที่จับใจท่านที่สุด อยากจะขอทราบสักพระราชดำรัสหนึ่งปิดท้าย มีไหมคะ หมายถึงว่านึกถึงทีไรก็จับใจมาก
ดร.สุเมธ : รู้สึกว่าจะอันนี้ ประโยคนี้
“…ขอขอบใจที่จะมาช่วยงานฉัน
แต่ขอบอกไว้ก่อนว่ามาช่วยงานฉัน
ฉันไม่มีอะไรจะให้นอกจากความสุข
ที่จะมีร่วมกันในการทำประโยชน์ให้กับผู้อื่น....”
ประโยคแรกที่ได้รับ และยังตกค้างมาสามสิบกว่าปี แล้วยังอยู่ในใจเรานี่แหละ และเป็นประโยคนำทางเลย “ไม่มีอะไรจะให้นอกจากความ สุขที่จะมีร่วมกันในการทำประโยชน์ให้กับผู้อื่น”
ผู้เขียน : หนูเข้าใจเลยค่ะ เพราะว่าสิ่งที่หนูท่าทุกวันนี้ก็ทำถวายพระองค์ท่าน งานทุกอย่างที่ทํา ทุกเล่มเลยนะคะหนังสือ บางเล่มเขียนในค่านำ เลยว่าทําถวายในหลวง เพราะพระองค์ท่านทรงเป็นแรงบันดาลใจให้ เราอยากมอบสิ่งดีๆ ให้ผู้อื่น
ดร.สุเมธ : เพราะฉะนั้นมันไม่ใช่เงิน มันไม่ใช่ของ ไม่ใช่ทรัพย์สินเงินทอง มันคือความสุข และความสุขนี่ทำให้คนอื่นด้วยนะไม่ใช่ทำให้กับตัวเอง ตลกมาก ทำให้กับคนอื่น และนี่สุดยอดมีอันนึงที่บอกว่า “ความสุขร่วมกัน” มีสักกี่คนที่จะได้มีโอกาสทำความสุขร่วมกับพระเจ้าอยู่หัว อันนี้พูดเหมือน กับจะยกยอตัวเองนะ ตัวเองได้ไปอยู่ในจุดนั้น ได้มีโอกาสทองแล้ว มันจะเลวได้ต่อเหรอ ใช่หรือเปล่า นี่มีคนอีกตั้ง 68 ล้านคนอยากเป็นเหมือนอย่างเรา นั่งอยู่ร่วมทำงานกับพระเจ้าอยู่หัว เพื่อก่อประโยชน์ แล้วนี่เรามีโอกาส แล้วน่ะ จะไม่ทำเหรอ คนถึงบอกนี่ 77 ทำไมไม่หยุด ผมจะหยุดอย่างไร ช่วยแนะหน่อยเถิด อยากหยุดนะ งานเหนื่อยนะ ไม่ใช่ไม่เหนื่อย เบื่อนะไม่ใช่ไม่เบื่อ ผมไม่โกหก เป็นมนุษย์วิเศษหรอกอยากจะพัก อยากมีเวลาส่วนตัว แต่มันหยุดไม่ได้
ดร.ณัชร: พระเจ้าอยู่หัวยังทรงงานอยู่เลย…
ดร.สุเมธ : ยอมรับว่าพระองค์ท่านทรงไม่ไหวแล้ว แต่ทางใจคิดว่า ท่านไม่หยุด มีประโยคหนึ่งที่ได้รับจากพระองค์ท่านไม่รู้คิดทีไรมันก็สะท้อนอยู่ในหัวอก ตอนนั้นท่านก็ประทับรถเข็นแล้ว แต่ยังไหว หลังจากเข้าเฝ้าถวาย งานเสร็จแล้ว วันนั้นวันเกิด ก็เป็นธรรมเนียมทุกปีขอพระราชทานพร มีรูปอยู่ ในห้องทำงาน เราก็ก้มลงรับพร เหมือนมีอะไรหนักๆ มาอยู่ที่ไหล่เรา ท่านยกมือมาแตะใหล่เราแล้วบีบอยู่นาน แล้วเขย่าให้พรสามคำ ให้ทาย ทายเท่าไร ก็ทายไม่ถูก....
ผู้เขียน : “ขอบใจนะ"?
ดร.สุเมธ : "สุเมธ งานยังไม่เสร็จ สุเมธ งานยังไม่เสร็จ สุเมธ งาน ยังไม่เสร็จ” นี่คือพรครั้งสุดท้ายที่ยังทรงมีแรง “งานยังไม่เสร็จ” แล้วนี่พอใครถามว่าทำไมไม่หยุดงาน ความจริงประโยคนี้เป็นประโยคที่ไม่ใช่คำตอบจากผม แต่เราได้รับมาแล้วเราก็รู้ว่า ไม่ต้องตอบ คือรู้ สื่อถึงกันได้คือหยุดไม่ได้ ท่านก็จะพระราชทานเงินเดือน ผมก็รับไม่ได้ เพราะท่านทำงาน โดยไม่ทรงรับอะไรเลย เราก็ต้องทำอย่างนั้น ก็ต้องทำ ครอบครัวผมก็มีนะ หลานผมก็มี ก็อยากจะไปเล่นเหมือนกัน แต่ว่าทำไม่ได้
คำสัมภาษณ์อาจจะไม่ใช่บทสรุปของหนังสือเล่มนี้ หากแต่ผมอยากนำเสนอคำสัมภาษณ์นี้มากกว่าเนื้อหาในหนังสือ
#ReadToLead #อ่านอย่างผู้นำ #อ่านอย่างผู้นำ
หนังสือที่ถ่ายทอดความสำคัญของการอ่านโดย ดร.ณัชร สยามวาลา ซึ่งรายได้ทั้งหมดผู้เขียนมอบให้มูลนิธิชัยพัฒนา
Read To Lead เล่มนี้นำเสนอว่าผู้นำระดับโลกเป็นนักอ่านตังฉกาจ ซึ่งผู้เขียนเล่าได้อย่างน่าตื่นเต้น บุคคลตัวอย่างที่ผู้เขียนนำเสนอน่าทึ่งมากๆ นอกจากนี้ผู้เขียนซึ่งเป็นนักอ่านให้คำแนะนำเทคนิคการอ่านหนังสือในรูปแบบต่างๆ เพื่อเพิ่มความเร็วในการอ่านหนังสือ ซึ่งเธอสามารถอ่านหนังสือได้ปีละ 365เล่มมาแล้ว
---------
ท้ายเล่มมีบทสัมภาษณ์ผู้นำไทยที่เป็นผู้ที่รักการอ่าน มีบทสัมภาษณ์ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา และในบทสัมภาษณ์คราวนั้น มีการกล่าวถึงการปฎิบัติหน้าที่ของ ดร.สุเมธ ที่ถวายงานให้กับในหลวงรัชกาลที่ 9 ตอนหนึ่งว่า
ผู้เขียน : พระราชดำรัสใดของในหลวงที่จับใจท่านที่สุด อยากจะขอทราบสักพระราชดำรัสหนึ่งปิดท้าย มีไหมคะ หมายถึงว่านึกถึงทีไรก็จับใจมาก
ดร.สุเมธ : รู้สึกว่าจะอันนี้ ประโยคนี้
“…ขอขอบใจที่จะมาช่วยงานฉัน
แต่ขอบอกไว้ก่อนว่ามาช่วยงานฉัน
ฉันไม่มีอะไรจะให้นอกจากความสุข
ที่จะมีร่วมกันในการทำประโยชน์ให้กับผู้อื่น....”
ประโยคแรกที่ได้รับ และยังตกค้างมาสามสิบกว่าปี แล้วยังอยู่ในใจเรานี่แหละ และเป็นประโยคนำทางเลย “ไม่มีอะไรจะให้นอกจากความ สุขที่จะมีร่วมกันในการทำประโยชน์ให้กับผู้อื่น”
ผู้เขียน : หนูเข้าใจเลยค่ะ เพราะว่าสิ่งที่หนูท่าทุกวันนี้ก็ทำถวายพระองค์ท่าน งานทุกอย่างที่ทํา ทุกเล่มเลยนะคะหนังสือ บางเล่มเขียนในค่านำ เลยว่าทําถวายในหลวง เพราะพระองค์ท่านทรงเป็นแรงบันดาลใจให้ เราอยากมอบสิ่งดีๆ ให้ผู้อื่น
ดร.สุเมธ : เพราะฉะนั้นมันไม่ใช่เงิน มันไม่ใช่ของ ไม่ใช่ทรัพย์สินเงินทอง มันคือความสุข และความสุขนี่ทำให้คนอื่นด้วยนะไม่ใช่ทำให้กับตัวเอง ตลกมาก ทำให้กับคนอื่น และนี่สุดยอดมีอันนึงที่บอกว่า “ความสุขร่วมกัน” มีสักกี่คนที่จะได้มีโอกาสทำความสุขร่วมกับพระเจ้าอยู่หัว อันนี้พูดเหมือน กับจะยกยอตัวเองนะ ตัวเองได้ไปอยู่ในจุดนั้น ได้มีโอกาสทองแล้ว มันจะเลวได้ต่อเหรอ ใช่หรือเปล่า นี่มีคนอีกตั้ง 68 ล้านคนอยากเป็นเหมือนอย่างเรา นั่งอยู่ร่วมทำงานกับพระเจ้าอยู่หัว เพื่อก่อประโยชน์ แล้วนี่เรามีโอกาส แล้วน่ะ จะไม่ทำเหรอ คนถึงบอกนี่ 77 ทำไมไม่หยุด ผมจะหยุดอย่างไร ช่วยแนะหน่อยเถิด อยากหยุดนะ งานเหนื่อยนะ ไม่ใช่ไม่เหนื่อย เบื่อนะไม่ใช่ไม่เบื่อ ผมไม่โกหก เป็นมนุษย์วิเศษหรอกอยากจะพัก อยากมีเวลาส่วนตัว แต่มันหยุดไม่ได้
ดร.ณัชร: พระเจ้าอยู่หัวยังทรงงานอยู่เลย…
ดร.สุเมธ : ยอมรับว่าพระองค์ท่านทรงไม่ไหวแล้ว แต่ทางใจคิดว่า ท่านไม่หยุด มีประโยคหนึ่งที่ได้รับจากพระองค์ท่านไม่รู้คิดทีไรมันก็สะท้อนอยู่ในหัวอก ตอนนั้นท่านก็ประทับรถเข็นแล้ว แต่ยังไหว หลังจากเข้าเฝ้าถวาย งานเสร็จแล้ว วันนั้นวันเกิด ก็เป็นธรรมเนียมทุกปีขอพระราชทานพร มีรูปอยู่ ในห้องทำงาน เราก็ก้มลงรับพร เหมือนมีอะไรหนักๆ มาอยู่ที่ไหล่เรา ท่านยกมือมาแตะใหล่เราแล้วบีบอยู่นาน แล้วเขย่าให้พรสามคำ ให้ทาย ทายเท่าไร ก็ทายไม่ถูก....
ผู้เขียน : “ขอบใจนะ"?
ดร.สุเมธ : "สุเมธ งานยังไม่เสร็จ สุเมธ งานยังไม่เสร็จ สุเมธ งาน ยังไม่เสร็จ” นี่คือพรครั้งสุดท้ายที่ยังทรงมีแรง “งานยังไม่เสร็จ” แล้วนี่พอใครถามว่าทำไมไม่หยุดงาน ความจริงประโยคนี้เป็นประโยคที่ไม่ใช่คำตอบจากผม แต่เราได้รับมาแล้วเราก็รู้ว่า ไม่ต้องตอบ คือรู้ สื่อถึงกันได้คือหยุดไม่ได้ ท่านก็จะพระราชทานเงินเดือน ผมก็รับไม่ได้ เพราะท่านทำงาน โดยไม่ทรงรับอะไรเลย เราก็ต้องทำอย่างนั้น ก็ต้องทำ ครอบครัวผมก็มีนะ หลานผมก็มี ก็อยากจะไปเล่นเหมือนกัน แต่ว่าทำไม่ได้
คำสัมภาษณ์อาจจะไม่ใช่บทสรุปของหนังสือเล่มนี้ หากแต่ผมอยากนำเสนอคำสัมภาษณ์นี้มากกว่าเนื้อหาในหนังสือ
#ReadToLead #อ่านอย่างผู้นำ #อ่านอย่างผู้นำ
Read To Lead อ่านอย่างผู้นำ (2025/107)
หนังสือที่ถ่ายทอดความสำคัญของการอ่านโดย ดร.ณัชร สยามวาลา ซึ่งรายได้ทั้งหมดผู้เขียนมอบให้มูลนิธิชัยพัฒนา
Read To Lead เล่มนี้นำเสนอว่าผู้นำระดับโลกเป็นนักอ่านตังฉกาจ ซึ่งผู้เขียนเล่าได้อย่างน่าตื่นเต้น บุคคลตัวอย่างที่ผู้เขียนนำเสนอน่าทึ่งมากๆ นอกจากนี้ผู้เขียนซึ่งเป็นนักอ่านให้คำแนะนำเทคนิคการอ่านหนังสือในรูปแบบต่างๆ เพื่อเพิ่มความเร็วในการอ่านหนังสือ ซึ่งเธอสามารถอ่านหนังสือได้ปีละ 365เล่มมาแล้ว
---------
ท้ายเล่มมีบทสัมภาษณ์ผู้นำไทยที่เป็นผู้ที่รักการอ่าน มีบทสัมภาษณ์ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา และในบทสัมภาษณ์คราวนั้น มีการกล่าวถึงการปฎิบัติหน้าที่ของ ดร.สุเมธ ที่ถวายงานให้กับในหลวงรัชกาลที่ 9 ตอนหนึ่งว่า
ผู้เขียน : พระราชดำรัสใดของในหลวงที่จับใจท่านที่สุด อยากจะขอทราบสักพระราชดำรัสหนึ่งปิดท้าย มีไหมคะ หมายถึงว่านึกถึงทีไรก็จับใจมาก
ดร.สุเมธ : รู้สึกว่าจะอันนี้ ประโยคนี้
“…ขอขอบใจที่จะมาช่วยงานฉัน
แต่ขอบอกไว้ก่อนว่ามาช่วยงานฉัน
ฉันไม่มีอะไรจะให้นอกจากความสุข
ที่จะมีร่วมกันในการทำประโยชน์ให้กับผู้อื่น....”
ประโยคแรกที่ได้รับ และยังตกค้างมาสามสิบกว่าปี แล้วยังอยู่ในใจเรานี่แหละ และเป็นประโยคนำทางเลย “ไม่มีอะไรจะให้นอกจากความ สุขที่จะมีร่วมกันในการทำประโยชน์ให้กับผู้อื่น”
ผู้เขียน : หนูเข้าใจเลยค่ะ เพราะว่าสิ่งที่หนูท่าทุกวันนี้ก็ทำถวายพระองค์ท่าน งานทุกอย่างที่ทํา ทุกเล่มเลยนะคะหนังสือ บางเล่มเขียนในค่านำ เลยว่าทําถวายในหลวง เพราะพระองค์ท่านทรงเป็นแรงบันดาลใจให้ เราอยากมอบสิ่งดีๆ ให้ผู้อื่น
ดร.สุเมธ : เพราะฉะนั้นมันไม่ใช่เงิน มันไม่ใช่ของ ไม่ใช่ทรัพย์สินเงินทอง มันคือความสุข และความสุขนี่ทำให้คนอื่นด้วยนะไม่ใช่ทำให้กับตัวเอง ตลกมาก ทำให้กับคนอื่น และนี่สุดยอดมีอันนึงที่บอกว่า “ความสุขร่วมกัน” มีสักกี่คนที่จะได้มีโอกาสทำความสุขร่วมกับพระเจ้าอยู่หัว อันนี้พูดเหมือน กับจะยกยอตัวเองนะ ตัวเองได้ไปอยู่ในจุดนั้น ได้มีโอกาสทองแล้ว มันจะเลวได้ต่อเหรอ ใช่หรือเปล่า นี่มีคนอีกตั้ง 68 ล้านคนอยากเป็นเหมือนอย่างเรา นั่งอยู่ร่วมทำงานกับพระเจ้าอยู่หัว เพื่อก่อประโยชน์ แล้วนี่เรามีโอกาส แล้วน่ะ จะไม่ทำเหรอ คนถึงบอกนี่ 77 ทำไมไม่หยุด ผมจะหยุดอย่างไร ช่วยแนะหน่อยเถิด อยากหยุดนะ งานเหนื่อยนะ ไม่ใช่ไม่เหนื่อย เบื่อนะไม่ใช่ไม่เบื่อ ผมไม่โกหก เป็นมนุษย์วิเศษหรอกอยากจะพัก อยากมีเวลาส่วนตัว แต่มันหยุดไม่ได้
ดร.ณัชร: พระเจ้าอยู่หัวยังทรงงานอยู่เลย…
ดร.สุเมธ : ยอมรับว่าพระองค์ท่านทรงไม่ไหวแล้ว แต่ทางใจคิดว่า ท่านไม่หยุด มีประโยคหนึ่งที่ได้รับจากพระองค์ท่านไม่รู้คิดทีไรมันก็สะท้อนอยู่ในหัวอก ตอนนั้นท่านก็ประทับรถเข็นแล้ว แต่ยังไหว หลังจากเข้าเฝ้าถวาย งานเสร็จแล้ว วันนั้นวันเกิด ก็เป็นธรรมเนียมทุกปีขอพระราชทานพร มีรูปอยู่ ในห้องทำงาน เราก็ก้มลงรับพร เหมือนมีอะไรหนักๆ มาอยู่ที่ไหล่เรา ท่านยกมือมาแตะใหล่เราแล้วบีบอยู่นาน แล้วเขย่าให้พรสามคำ ให้ทาย ทายเท่าไร ก็ทายไม่ถูก....
ผู้เขียน : “ขอบใจนะ"?
ดร.สุเมธ : "สุเมธ งานยังไม่เสร็จ สุเมธ งานยังไม่เสร็จ สุเมธ งาน ยังไม่เสร็จ” นี่คือพรครั้งสุดท้ายที่ยังทรงมีแรง “งานยังไม่เสร็จ” แล้วนี่พอใครถามว่าทำไมไม่หยุดงาน ความจริงประโยคนี้เป็นประโยคที่ไม่ใช่คำตอบจากผม แต่เราได้รับมาแล้วเราก็รู้ว่า ไม่ต้องตอบ คือรู้ สื่อถึงกันได้คือหยุดไม่ได้ ท่านก็จะพระราชทานเงินเดือน ผมก็รับไม่ได้ เพราะท่านทำงาน โดยไม่ทรงรับอะไรเลย เราก็ต้องทำอย่างนั้น ก็ต้องทำ ครอบครัวผมก็มีนะ หลานผมก็มี ก็อยากจะไปเล่นเหมือนกัน แต่ว่าทำไม่ได้
คำสัมภาษณ์อาจจะไม่ใช่บทสรุปของหนังสือเล่มนี้ หากแต่ผมอยากนำเสนอคำสัมภาษณ์นี้มากกว่าเนื้อหาในหนังสือ
#ReadToLead #อ่านอย่างผู้นำ #อ่านอย่างผู้นำ
0 Comments
0 Shares
2 Views
0 Reviews