“จะนำทีมที่เต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญได้อย่างไร — เมื่อความรู้ไม่ใช่คำตอบ แต่การสื่อสารคือพลังที่แท้จริงของผู้นำ”

บทความจาก Ibrahim Diallo ได้ถ่ายทอดประสบการณ์ตรงของเขาในฐานะหัวหน้าทีมพัฒนา ที่ต้องทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญหลากหลายด้าน ตั้งแต่ backend ที่เข้าใจระบบ microservice ลึกซึ้ง, frontend ที่ debug React ได้ในฝัน, ไปจนถึงทีมผลิตภัณฑ์ที่รู้ทุกเส้นทางของผู้ใช้บนเว็บไซต์ แต่ในฐานะ “ผู้นำ” เขากลับไม่ใช่คนที่รู้ลึกที่สุดในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แล้วบทบาทของเขาคืออะไร?

คำตอบคือ “การเป็นนักแปล” — ไม่ใช่แปลภาษา แต่แปลความคิดระหว่างทีมต่าง ๆ ให้เข้าใจตรงกัน เช่น เมื่อ backend บอกว่าระบบ authentication ใหม่จะใช้เวลา 3 สัปดาห์ เขาไม่ได้ลงลึกเรื่อง OAuth หรือ JWT แต่คิดว่าจะอธิบายให้ทีมผลิตภัณฑ์เข้าใจอย่างไรว่า “ทำไมมันไม่เสร็จภายในสัปดาห์นี้”

การนำทีมในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญ ไม่ใช่การเป็นคนที่ฉลาดที่สุด แต่คือการมีทักษะทางสังคมที่ดีพอจะทำให้การประชุมเกิดผลลัพธ์ เช่น การรู้ว่าเมื่อใดควรปล่อยให้การถกเถียงทางเทคนิคดำเนินต่อไป และเมื่อใดควรหยุดเพราะมันเริ่มกลายเป็นเรื่องส่วนตัว

อีกหนึ่งบทเรียนสำคัญคือ “การนิยามปัญหาให้ชัดเจน” เพราะบางครั้งทีมมัวแต่ถกเถียงเรื่อง caching strategy ทั้งที่ปัญหาจริงคือ “ผู้ใช้รู้สึกว่าเว็บช้า” ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น cart โหลดไม่ขึ้น หรือ event trigger ผิดเวลา การนิยามปัญหาชัดเจนจะช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญแต่ละคนสามารถเสนอทางออกที่ตรงจุดได้

สุดท้ายคือ “การกล้ายอมรับว่าไม่รู้” เพราะการแกล้งรู้ทุกอย่างในห้องที่เต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญจะทำให้คุณดูโง่ การพูดว่า “ไม่รู้ แต่เราจะหาคำตอบไปด้วยกัน” คือการเปิดพื้นที่ให้ทีมแสดงศักยภาพ และสร้างวัฒนธรรมที่เน้นการแก้ปัญหา มากกว่าการปกป้องอัตตา

ข้อมูลสำคัญจากบทความ
ผู้นำไม่จำเป็นต้องรู้ลึกที่สุด แต่ต้องรู้วิธีเชื่อมโยงความรู้ระหว่างทีม
บทบาทหลักคือการ “แปล” ความคิดระหว่างทีมเทคนิค, ผลิตภัณฑ์ และผู้บริหาร
การสื่อสารที่ดีสำคัญกว่าความรู้เชิงเทคนิคในห้องที่เต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญ
ต้องรู้ว่าเมื่อใดควรปล่อยให้การถกเถียงดำเนินต่อ และเมื่อใดควรแทรกแซง
การนิยามปัญหาให้ชัดเจนช่วยให้ทีมแก้ไขได้ตรงจุด
การยอมรับว่า “ไม่รู้” คือการเปิดพื้นที่ให้ทีมร่วมกันหาคำตอบ
ผู้นำควรเป็นคนตั้งคำถามที่ถูกต้อง ไม่ใช่คนมีคำตอบเสมอไป
การสื่อสารต้องปรับตามผู้ฟัง เช่น ใช้ภาษาที่ต่างกันสำหรับนักพัฒนา, ทีมผลิตภัณฑ์, และผู้บริหาร
การตัดสินใจที่ดีต้องมีเหตุผล ไม่ใช่แค่ “เพราะฉันเป็นหัวหน้า”

ข้อมูลเสริมจากภายนอก
ทักษะการสื่อสารข้ามทีม (cross-functional communication) เป็นหนึ่งใน soft skill ที่องค์กรยุคใหม่ให้ความสำคัญ
การนิยามปัญหา (problem framing) เป็นหัวใจของการแก้ปัญหาในทีมที่มีความเชี่ยวชาญหลากหลาย
การยอมรับว่าไม่รู้ เป็นหนึ่งในหลักของ “intellectual humility” ที่ช่วยสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้
การใช้ภาษาที่เหมาะสมกับผู้ฟังช่วยลดความขัดแย้งและเพิ่มความเข้าใจร่วม
ผู้นำที่ดีไม่ใช่คนที่ตัดสินใจเร็วที่สุด แต่คือคนที่สร้างพื้นที่ให้ทีมตัดสินใจร่วมกันได้ดีที่สุด

https://idiallo.com/blog/how-to-lead-in-a-room-full-of-experts
🧠 “จะนำทีมที่เต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญได้อย่างไร — เมื่อความรู้ไม่ใช่คำตอบ แต่การสื่อสารคือพลังที่แท้จริงของผู้นำ” บทความจาก Ibrahim Diallo ได้ถ่ายทอดประสบการณ์ตรงของเขาในฐานะหัวหน้าทีมพัฒนา ที่ต้องทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญหลากหลายด้าน ตั้งแต่ backend ที่เข้าใจระบบ microservice ลึกซึ้ง, frontend ที่ debug React ได้ในฝัน, ไปจนถึงทีมผลิตภัณฑ์ที่รู้ทุกเส้นทางของผู้ใช้บนเว็บไซต์ แต่ในฐานะ “ผู้นำ” เขากลับไม่ใช่คนที่รู้ลึกที่สุดในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แล้วบทบาทของเขาคืออะไร? คำตอบคือ “การเป็นนักแปล” — ไม่ใช่แปลภาษา แต่แปลความคิดระหว่างทีมต่าง ๆ ให้เข้าใจตรงกัน เช่น เมื่อ backend บอกว่าระบบ authentication ใหม่จะใช้เวลา 3 สัปดาห์ เขาไม่ได้ลงลึกเรื่อง OAuth หรือ JWT แต่คิดว่าจะอธิบายให้ทีมผลิตภัณฑ์เข้าใจอย่างไรว่า “ทำไมมันไม่เสร็จภายในสัปดาห์นี้” การนำทีมในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญ ไม่ใช่การเป็นคนที่ฉลาดที่สุด แต่คือการมีทักษะทางสังคมที่ดีพอจะทำให้การประชุมเกิดผลลัพธ์ เช่น การรู้ว่าเมื่อใดควรปล่อยให้การถกเถียงทางเทคนิคดำเนินต่อไป และเมื่อใดควรหยุดเพราะมันเริ่มกลายเป็นเรื่องส่วนตัว อีกหนึ่งบทเรียนสำคัญคือ “การนิยามปัญหาให้ชัดเจน” เพราะบางครั้งทีมมัวแต่ถกเถียงเรื่อง caching strategy ทั้งที่ปัญหาจริงคือ “ผู้ใช้รู้สึกว่าเว็บช้า” ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น cart โหลดไม่ขึ้น หรือ event trigger ผิดเวลา การนิยามปัญหาชัดเจนจะช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญแต่ละคนสามารถเสนอทางออกที่ตรงจุดได้ สุดท้ายคือ “การกล้ายอมรับว่าไม่รู้” เพราะการแกล้งรู้ทุกอย่างในห้องที่เต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญจะทำให้คุณดูโง่ การพูดว่า “ไม่รู้ แต่เราจะหาคำตอบไปด้วยกัน” คือการเปิดพื้นที่ให้ทีมแสดงศักยภาพ และสร้างวัฒนธรรมที่เน้นการแก้ปัญหา มากกว่าการปกป้องอัตตา ✅ ข้อมูลสำคัญจากบทความ ➡️ ผู้นำไม่จำเป็นต้องรู้ลึกที่สุด แต่ต้องรู้วิธีเชื่อมโยงความรู้ระหว่างทีม ➡️ บทบาทหลักคือการ “แปล” ความคิดระหว่างทีมเทคนิค, ผลิตภัณฑ์ และผู้บริหาร ➡️ การสื่อสารที่ดีสำคัญกว่าความรู้เชิงเทคนิคในห้องที่เต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญ ➡️ ต้องรู้ว่าเมื่อใดควรปล่อยให้การถกเถียงดำเนินต่อ และเมื่อใดควรแทรกแซง ➡️ การนิยามปัญหาให้ชัดเจนช่วยให้ทีมแก้ไขได้ตรงจุด ➡️ การยอมรับว่า “ไม่รู้” คือการเปิดพื้นที่ให้ทีมร่วมกันหาคำตอบ ➡️ ผู้นำควรเป็นคนตั้งคำถามที่ถูกต้อง ไม่ใช่คนมีคำตอบเสมอไป ➡️ การสื่อสารต้องปรับตามผู้ฟัง เช่น ใช้ภาษาที่ต่างกันสำหรับนักพัฒนา, ทีมผลิตภัณฑ์, และผู้บริหาร ➡️ การตัดสินใจที่ดีต้องมีเหตุผล ไม่ใช่แค่ “เพราะฉันเป็นหัวหน้า” ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ทักษะการสื่อสารข้ามทีม (cross-functional communication) เป็นหนึ่งใน soft skill ที่องค์กรยุคใหม่ให้ความสำคัญ ➡️ การนิยามปัญหา (problem framing) เป็นหัวใจของการแก้ปัญหาในทีมที่มีความเชี่ยวชาญหลากหลาย ➡️ การยอมรับว่าไม่รู้ เป็นหนึ่งในหลักของ “intellectual humility” ที่ช่วยสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ ➡️ การใช้ภาษาที่เหมาะสมกับผู้ฟังช่วยลดความขัดแย้งและเพิ่มความเข้าใจร่วม ➡️ ผู้นำที่ดีไม่ใช่คนที่ตัดสินใจเร็วที่สุด แต่คือคนที่สร้างพื้นที่ให้ทีมตัดสินใจร่วมกันได้ดีที่สุด https://idiallo.com/blog/how-to-lead-in-a-room-full-of-experts
IDIALLO.COM
How to Lead in a Room Full of Experts
Here is a realization I made recently. I'm sitting in a room full of smart people. On one side are developers who understand the ins and outs of our microservice architecture. On the other are the fro
0 Comments 0 Shares 24 Views 0 Reviews