สหรัฐฯ ใช้คำหยาบคาย มากที่สุดบนโลกออนไลน์

เมื่อวันก่อน สองนักวิจัย ดร.มาร์ติน ชไวน์เบอร์เกอร์ จากมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ และ ศ.เคท เบอร์ริดจ์ จากมหาวิทยาลัยโมนาช ประเทศออสเตรเลีย เปิดเผยผลการศึกษาในหัวข้อ "Vulgarity in online discourse around the English-speaking world" (ความหยาบคายในบทสนทนาออนไลน์ทั่วโลกที่ใช้ภาษาอังกฤษ) ตีพิมพ์ลงในวารสารวิชาการลินกัว (Lingua) วิเคราะห์คำหยาบจากเนื้อหาออนไลน์กว่า 1.7 พันล้านคำในคลังข้อมูล GloWbE (Global Web-Based English Corpus)

ผลการศึกษาพบว่า จาก 20 ประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน สหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรมีการใช้คำหยาบมากกว่าออสเตรเลีย โดย สหรัฐอเมริกามีคำหยาบคิดเป็น 0.036% ของเนื้อหาออนไลน์ รองลงมาคือ สหราชอาณาจักร 0.025% และออสเตรเลีย 0.022% ถึงกระนั้น แม้ออสเตรเลียจะมีสัดส่วนการใช้คำหยาบน้อยกว่า แต่การศึกษาพบว่าออสเตรเลียมีความคิดสร้างสรรค์ในการใช้คำหยาบสูง เช่น คำว่า “cockknuckle” ที่ไม่พบในประเทศอื่นๆ

สำหรับศัพท์ที่ใช้บ่อยที่สุดในแต่ละประเทศ สหรัฐอเมริกานิยมใช้คำว่า “*******” ส่วนสหราชอาณาจักรนิยมใช้คำว่า “cunt” ขณะที่ออสเตรเลียใช้คำว่า “crap” บ่อยที่สุด ส่วนประเทศในภูมิภาคอาเซียน พบว่าสิงคโปร์ใช้คำหยาบคายอันดับที่ 4 มาเลเซียอยู่อันดับที่ 6 แต่ประเทศที่ใช้คำหยาบคายต่ำที่สุดคือบังคลาเทศ กานา และแทนซาเนีย

อย่างไรก็ตาม การศึกษานี้อาจมีข้อจำกัด เนื่องจากข้อมูลจากบล็อกของออสเตรเลียไม่ได้รวมอยู่ในชุดข้อมูล ซึ่งอาจทำให้สัดส่วนการใช้คำหยาบของออสเตรเลียต่ำกว่าความเป็นจริง นอกจากนี้ การใช้คำหยาบยังมีบริบทและความหมายที่แตกต่างกันในแต่ละวัฒนธรรม เช่น คำว่า “cunt” ที่ถือว่าเป็นคำหยาบรุนแรงในหลายประเทศ แต่ในหมู่คนรุ่นใหม่ของออสเตรเลียกลับมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ของออสเตรเลียที่มองว่าเป็นเรื่องปกติ

ผู้เขียนงานวิจัยกล่าวในตอนหนึ่งว่า ภาษาหยาบคายเป็นสนามเด็กเล่นตามธรรมชาติ สำหรับการปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ทางภาษา ภาษาหยาบคายใช้ประโยชน์จากข้อห้ามและความกลัวทางสังคม เพื่อสร้างผลกระทบผ่านปริมาณความสั่นสะเทือน พลังทางอารมณ์ และผลกระทบทางสังคมเมื่อละเมิดขอบเขต

นอกจากนี้ เป็นไปได้ว่าในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับลัทธิที่เคร่งครัดของนิกายโปรเตสแตนต์ ความศรัทธาในศาสนาคริสต์ และความถือตัว ผู้คนมักไม่ค่อยใช้คำหยาบคายในที่สาธารณะ นั่นอาจหมายความว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะเปิดเผยเรื่องเหล่านี้ทางออนไลน์มากขึ้น ส่วนชาวออสเตรเลียมีแนวโน้มที่จะพูดคุยแบบเห็นหน้ามากขึ้น และที่ทำได้ดีกว่าคือความคิดสร้างสรรค์

#Newskit
สหรัฐฯ ใช้คำหยาบคาย มากที่สุดบนโลกออนไลน์ เมื่อวันก่อน สองนักวิจัย ดร.มาร์ติน ชไวน์เบอร์เกอร์ จากมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ และ ศ.เคท เบอร์ริดจ์ จากมหาวิทยาลัยโมนาช ประเทศออสเตรเลีย เปิดเผยผลการศึกษาในหัวข้อ "Vulgarity in online discourse around the English-speaking world" (ความหยาบคายในบทสนทนาออนไลน์ทั่วโลกที่ใช้ภาษาอังกฤษ) ตีพิมพ์ลงในวารสารวิชาการลินกัว (Lingua) วิเคราะห์คำหยาบจากเนื้อหาออนไลน์กว่า 1.7 พันล้านคำในคลังข้อมูล GloWbE (Global Web-Based English Corpus) ผลการศึกษาพบว่า จาก 20 ประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน สหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรมีการใช้คำหยาบมากกว่าออสเตรเลีย โดย สหรัฐอเมริกามีคำหยาบคิดเป็น 0.036% ของเนื้อหาออนไลน์ รองลงมาคือ สหราชอาณาจักร 0.025% และออสเตรเลีย 0.022% ถึงกระนั้น แม้ออสเตรเลียจะมีสัดส่วนการใช้คำหยาบน้อยกว่า แต่การศึกษาพบว่าออสเตรเลียมีความคิดสร้างสรรค์ในการใช้คำหยาบสูง เช่น คำว่า “cockknuckle” ที่ไม่พบในประเทศอื่นๆ สำหรับศัพท์ที่ใช้บ่อยที่สุดในแต่ละประเทศ สหรัฐอเมริกานิยมใช้คำว่า “asshole” ส่วนสหราชอาณาจักรนิยมใช้คำว่า “cunt” ขณะที่ออสเตรเลียใช้คำว่า “crap” บ่อยที่สุด ส่วนประเทศในภูมิภาคอาเซียน พบว่าสิงคโปร์ใช้คำหยาบคายอันดับที่ 4 มาเลเซียอยู่อันดับที่ 6 แต่ประเทศที่ใช้คำหยาบคายต่ำที่สุดคือบังคลาเทศ กานา และแทนซาเนีย อย่างไรก็ตาม การศึกษานี้อาจมีข้อจำกัด เนื่องจากข้อมูลจากบล็อกของออสเตรเลียไม่ได้รวมอยู่ในชุดข้อมูล ซึ่งอาจทำให้สัดส่วนการใช้คำหยาบของออสเตรเลียต่ำกว่าความเป็นจริง นอกจากนี้ การใช้คำหยาบยังมีบริบทและความหมายที่แตกต่างกันในแต่ละวัฒนธรรม เช่น คำว่า “cunt” ที่ถือว่าเป็นคำหยาบรุนแรงในหลายประเทศ แต่ในหมู่คนรุ่นใหม่ของออสเตรเลียกลับมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ของออสเตรเลียที่มองว่าเป็นเรื่องปกติ ผู้เขียนงานวิจัยกล่าวในตอนหนึ่งว่า ภาษาหยาบคายเป็นสนามเด็กเล่นตามธรรมชาติ สำหรับการปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ทางภาษา ภาษาหยาบคายใช้ประโยชน์จากข้อห้ามและความกลัวทางสังคม เพื่อสร้างผลกระทบผ่านปริมาณความสั่นสะเทือน พลังทางอารมณ์ และผลกระทบทางสังคมเมื่อละเมิดขอบเขต นอกจากนี้ เป็นไปได้ว่าในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับลัทธิที่เคร่งครัดของนิกายโปรเตสแตนต์ ความศรัทธาในศาสนาคริสต์ และความถือตัว ผู้คนมักไม่ค่อยใช้คำหยาบคายในที่สาธารณะ นั่นอาจหมายความว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะเปิดเผยเรื่องเหล่านี้ทางออนไลน์มากขึ้น ส่วนชาวออสเตรเลียมีแนวโน้มที่จะพูดคุยแบบเห็นหน้ามากขึ้น และที่ทำได้ดีกว่าคือความคิดสร้างสรรค์ #Newskit
Like
1
0 Comments 0 Shares 43 Views 0 Reviews