ช่วงกลางศตวรรษที่ 5 ชาวแองเกิล (Angles) และแซ็กซอน (Saxons) เดินทางข้ามทะเลเหนือจากเยอรมนีตอนเหนือมารุกราน (กาะอังกฤษ ทำให้ชนพื้นเมืองที่พูดภาษาเคลติก (Celtic) ต้อง รุ่นหนีไปอยู่ทางตะวันตกและตอนเหนือของเกาะ (ปัจจุบันคือ แถบเวลส์ สกอตแลนด์ และไอร์แลนด์)
ส่วนภาษาตระกูลเจอร์แมนิกที่ชาวแองเกิลและแซ็กซอน พกติดตัวมาด้วย ในที่สุดก็พัฒนามาเป็นภาษาที่เป็นรากฐาน ของภาษาอังกฤษ ซึ่งนักวิชาการเรียกภาษานี้ว่า 'ภาษาแองโกล แซ็กซอน (Anglo-Saxons) หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า “ภาษา อังกฤษเก่า' (Old English) นั่นเอง
จากหนังสือ Word Odyssey คำสัมพันธ์ศัพท์ซ้อน
ส่วนภาษาตระกูลเจอร์แมนิกที่ชาวแองเกิลและแซ็กซอน พกติดตัวมาด้วย ในที่สุดก็พัฒนามาเป็นภาษาที่เป็นรากฐาน ของภาษาอังกฤษ ซึ่งนักวิชาการเรียกภาษานี้ว่า 'ภาษาแองโกล แซ็กซอน (Anglo-Saxons) หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า “ภาษา อังกฤษเก่า' (Old English) นั่นเอง
จากหนังสือ Word Odyssey คำสัมพันธ์ศัพท์ซ้อน
ช่วงกลางศตวรรษที่ 5 ชาวแองเกิล (Angles) และแซ็กซอน (Saxons) เดินทางข้ามทะเลเหนือจากเยอรมนีตอนเหนือมารุกราน (กาะอังกฤษ ทำให้ชนพื้นเมืองที่พูดภาษาเคลติก (Celtic) ต้อง รุ่นหนีไปอยู่ทางตะวันตกและตอนเหนือของเกาะ (ปัจจุบันคือ แถบเวลส์ สกอตแลนด์ และไอร์แลนด์)
ส่วนภาษาตระกูลเจอร์แมนิกที่ชาวแองเกิลและแซ็กซอน พกติดตัวมาด้วย ในที่สุดก็พัฒนามาเป็นภาษาที่เป็นรากฐาน ของภาษาอังกฤษ ซึ่งนักวิชาการเรียกภาษานี้ว่า 'ภาษาแองโกล แซ็กซอน (Anglo-Saxons) หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า “ภาษา อังกฤษเก่า' (Old English) นั่นเอง
จากหนังสือ Word Odyssey คำสัมพันธ์ศัพท์ซ้อน
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
3 มุมมอง
0 รีวิว