ปี 1940 รายได้ของภาคธุรกิจการเงินมีมูลค่าเท่ากับร้อยละสามของ GDP ของประเทศอเมริกา แต่พอปี 2000 เป็นต้นไป ตัวเลขนั้นก็เพิ่มขึ้นเกือบสี่เท่า” นับเป็นระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ก่อนตลาดหุ้นล่มในปี 1929 ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ แต่ไม่เพียงเท่านั้น ในกลางทศวรรษ 2000 ร้อยละ 40ของกำไรจากภาคเอกชนทั้งหมดของ อเมริกามาจากธนาคาร สถาบันการลงทุน กองทุนส่วนบุคคล และส่วนอื่นๆของภาคธุรกิจการเงิน ในขณะเดียวกัน ระหว่างปี 1999 ถึง 2008 หนี้ครัวเรือนของอเมริกาเพิ่มขึ้นอย่างเป็นทางการจากร้อยละ 67 ของ GDP ไปเป็นร้อยละ 100 ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการจำนองบ้าน” เหตุการณ์ เป็นไปตามที่เอลิซาเบท วอร์เรน คาดไว้ มันจบลงด้วยการล่มสลาย แต่ตอนนี้ก็ยังมีระเบิดเวลารอกระตุ้นให้วิกฤตระเบิดขึ้นอีกครั้ง ตัวอย่างหนึ่งคือเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา

จากหนังสือ โลกาปฏิวัติ Revolt
ปี 1940 รายได้ของภาคธุรกิจการเงินมีมูลค่าเท่ากับร้อยละสามของ GDP ของประเทศอเมริกา แต่พอปี 2000 เป็นต้นไป ตัวเลขนั้นก็เพิ่มขึ้นเกือบสี่เท่า” นับเป็นระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ก่อนตลาดหุ้นล่มในปี 1929 ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ แต่ไม่เพียงเท่านั้น ในกลางทศวรรษ 2000 ร้อยละ 40ของกำไรจากภาคเอกชนทั้งหมดของ อเมริกามาจากธนาคาร สถาบันการลงทุน กองทุนส่วนบุคคล และส่วนอื่นๆของภาคธุรกิจการเงิน ในขณะเดียวกัน ระหว่างปี 1999 ถึง 2008 หนี้ครัวเรือนของอเมริกาเพิ่มขึ้นอย่างเป็นทางการจากร้อยละ 67 ของ GDP ไปเป็นร้อยละ 100 ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการจำนองบ้าน” เหตุการณ์ เป็นไปตามที่เอลิซาเบท วอร์เรน คาดไว้ มันจบลงด้วยการล่มสลาย แต่ตอนนี้ก็ยังมีระเบิดเวลารอกระตุ้นให้วิกฤตระเบิดขึ้นอีกครั้ง ตัวอย่างหนึ่งคือเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา จากหนังสือ โลกาปฏิวัติ Revolt
0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว