💥5 สิ่งที่ความฉลาด หรือ ความเก่ง
มักพ่ายแพ้ให้กับความเฉลียว
หรือ ความไม่ประมาท ในการลงทุน
💥วันนี้แอดมินเพจหุ้นติดดอย จะพาเพื่อนๆ
มาดูถึงความแตกต่างระหว่าง ความฉลาด
หรือ ความเก่ง ซึ่งมักจะพ่ายแพ้ ให้กับ
ความเฉลียว หรือ ความไม่ประมาท
ในการลงทุน ซึ่งมี 5 ข้อดังต่อไปนี้
🚩1. การเข้าใจตลาดและพฤติกรรมของนักลงทุน
ความเฉลียว หรือ ความไม่ประมาท จะช่วยให้
นักลงทุนเข้าใจแนวโน้ม และพฤติกรรมของตลาด
การมองสถานการณ์ และการคาดการณ์พฤติกรรม
ของนักลงทุนคนอื่นๆ ได้ดีกว่า เพราะจะมอง
ด้วยความรอบครอบ รอบด้าน
🚩2. การจัดการอารมณ์
นักลงทุนที่มีความเฉลียว หรือความไม่ประมาท
จะสามารถควบคุมอารมณ์ และ ไม่ให้ความรู้สึก
มามีอิทธิพลต่อการตัดสินใจ ในขณะที่ความเก่ง
หรือ ความฉลาด มักควบคุมอารมณ์ได้ยากกว่า
ในเรื่องความโลภ และ ความกลัว
🚩3. การปรับตัวและยืดหยุ่น
ความเฉลียว หรือ ความไม่ประมาท จะทำให้เรา
สามารถปรับตัว ปรับกลยุทธ์ และยืดหยุ่น
ตามสภาวะของตลาดได้ดีกว่า ความฉลาด และ
ความเก่ง ซึ่งบางครั้งเต็มไปด้วยความมั่นใจ
แต่ขาดความรอบครอบ ระมัดระวัง
🚩4. การมองเห็นโอกาสในความเสี่ยง
นักลงทุนที่มีความเฉลียว หรือความไม่ประมาท
มักจะมองเห็นโอกาส ในความเสี่ยง ที่ผ่านการประเมิน
การวิเคราะห์ข้อมูลอย่างรอบด้านก่อนเข้าไปลงทุน
ในขณะที่ความเก่ง หรือ ฉลาด มักด่วนตัดสินใจ
ทำให้โอกาสผิดพลาดมากกว่า
🚩5. การสร้างเครือข่าย และความสัมพันธ์
นักลงทุนที่มีความเก่ง ความฉลาด มักจะมีอีโก้สูง
มักจะมีปัญหาในการสร้างเครือข่าย คอนเน็คชั่น
ในขณะที่นักลงทุนที่มีความเฉลียว หรือ ไม่ประมาท
มักจะมีความยืดหยุ่น เข้ากับคนอื่นๆ และสร้างความ
สัมพันธ์ กับคนอื่นๆ ได้ดีกว่า
💥ดังนั้น การลงทุนที่จะประสบความสำเร็จ จะไม่เพียง
แค่ใช้ความรู้ ความสามารถ ซึ่งคือ ความเก่ง และ
ความฉลาดเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีองค์ประกอบอื่นๆ
คือ ความเฉลียว การปรับตัวยืดหยุ่น การปรับกลยุทธ์
ให้เหมาะสมกับสภาวะของตลาด รวมทั้งมีความไม่ประมาท
มีความรอบครอบ มองข้อมูลให้รอบด้าน ก่อนเข้าไป
ลงทุนทุกครั้ง
#หุ้นติดดอย #การลงทุน
#5สิ่งที่ความฉลาดหรือความเก่งมักพ่ายแพ้ให้กับความเฉลียว
#thaitimes
มักพ่ายแพ้ให้กับความเฉลียว
หรือ ความไม่ประมาท ในการลงทุน
💥วันนี้แอดมินเพจหุ้นติดดอย จะพาเพื่อนๆ
มาดูถึงความแตกต่างระหว่าง ความฉลาด
หรือ ความเก่ง ซึ่งมักจะพ่ายแพ้ ให้กับ
ความเฉลียว หรือ ความไม่ประมาท
ในการลงทุน ซึ่งมี 5 ข้อดังต่อไปนี้
🚩1. การเข้าใจตลาดและพฤติกรรมของนักลงทุน
ความเฉลียว หรือ ความไม่ประมาท จะช่วยให้
นักลงทุนเข้าใจแนวโน้ม และพฤติกรรมของตลาด
การมองสถานการณ์ และการคาดการณ์พฤติกรรม
ของนักลงทุนคนอื่นๆ ได้ดีกว่า เพราะจะมอง
ด้วยความรอบครอบ รอบด้าน
🚩2. การจัดการอารมณ์
นักลงทุนที่มีความเฉลียว หรือความไม่ประมาท
จะสามารถควบคุมอารมณ์ และ ไม่ให้ความรู้สึก
มามีอิทธิพลต่อการตัดสินใจ ในขณะที่ความเก่ง
หรือ ความฉลาด มักควบคุมอารมณ์ได้ยากกว่า
ในเรื่องความโลภ และ ความกลัว
🚩3. การปรับตัวและยืดหยุ่น
ความเฉลียว หรือ ความไม่ประมาท จะทำให้เรา
สามารถปรับตัว ปรับกลยุทธ์ และยืดหยุ่น
ตามสภาวะของตลาดได้ดีกว่า ความฉลาด และ
ความเก่ง ซึ่งบางครั้งเต็มไปด้วยความมั่นใจ
แต่ขาดความรอบครอบ ระมัดระวัง
🚩4. การมองเห็นโอกาสในความเสี่ยง
นักลงทุนที่มีความเฉลียว หรือความไม่ประมาท
มักจะมองเห็นโอกาส ในความเสี่ยง ที่ผ่านการประเมิน
การวิเคราะห์ข้อมูลอย่างรอบด้านก่อนเข้าไปลงทุน
ในขณะที่ความเก่ง หรือ ฉลาด มักด่วนตัดสินใจ
ทำให้โอกาสผิดพลาดมากกว่า
🚩5. การสร้างเครือข่าย และความสัมพันธ์
นักลงทุนที่มีความเก่ง ความฉลาด มักจะมีอีโก้สูง
มักจะมีปัญหาในการสร้างเครือข่าย คอนเน็คชั่น
ในขณะที่นักลงทุนที่มีความเฉลียว หรือ ไม่ประมาท
มักจะมีความยืดหยุ่น เข้ากับคนอื่นๆ และสร้างความ
สัมพันธ์ กับคนอื่นๆ ได้ดีกว่า
💥ดังนั้น การลงทุนที่จะประสบความสำเร็จ จะไม่เพียง
แค่ใช้ความรู้ ความสามารถ ซึ่งคือ ความเก่ง และ
ความฉลาดเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีองค์ประกอบอื่นๆ
คือ ความเฉลียว การปรับตัวยืดหยุ่น การปรับกลยุทธ์
ให้เหมาะสมกับสภาวะของตลาด รวมทั้งมีความไม่ประมาท
มีความรอบครอบ มองข้อมูลให้รอบด้าน ก่อนเข้าไป
ลงทุนทุกครั้ง
#หุ้นติดดอย #การลงทุน
#5สิ่งที่ความฉลาดหรือความเก่งมักพ่ายแพ้ให้กับความเฉลียว
#thaitimes
💥5 สิ่งที่ความฉลาด หรือ ความเก่ง
มักพ่ายแพ้ให้กับความเฉลียว
หรือ ความไม่ประมาท ในการลงทุน
💥วันนี้แอดมินเพจหุ้นติดดอย จะพาเพื่อนๆ
มาดูถึงความแตกต่างระหว่าง ความฉลาด
หรือ ความเก่ง ซึ่งมักจะพ่ายแพ้ ให้กับ
ความเฉลียว หรือ ความไม่ประมาท
ในการลงทุน ซึ่งมี 5 ข้อดังต่อไปนี้
🚩1. การเข้าใจตลาดและพฤติกรรมของนักลงทุน
ความเฉลียว หรือ ความไม่ประมาท จะช่วยให้
นักลงทุนเข้าใจแนวโน้ม และพฤติกรรมของตลาด
การมองสถานการณ์ และการคาดการณ์พฤติกรรม
ของนักลงทุนคนอื่นๆ ได้ดีกว่า เพราะจะมอง
ด้วยความรอบครอบ รอบด้าน
🚩2. การจัดการอารมณ์
นักลงทุนที่มีความเฉลียว หรือความไม่ประมาท
จะสามารถควบคุมอารมณ์ และ ไม่ให้ความรู้สึก
มามีอิทธิพลต่อการตัดสินใจ ในขณะที่ความเก่ง
หรือ ความฉลาด มักควบคุมอารมณ์ได้ยากกว่า
ในเรื่องความโลภ และ ความกลัว
🚩3. การปรับตัวและยืดหยุ่น
ความเฉลียว หรือ ความไม่ประมาท จะทำให้เรา
สามารถปรับตัว ปรับกลยุทธ์ และยืดหยุ่น
ตามสภาวะของตลาดได้ดีกว่า ความฉลาด และ
ความเก่ง ซึ่งบางครั้งเต็มไปด้วยความมั่นใจ
แต่ขาดความรอบครอบ ระมัดระวัง
🚩4. การมองเห็นโอกาสในความเสี่ยง
นักลงทุนที่มีความเฉลียว หรือความไม่ประมาท
มักจะมองเห็นโอกาส ในความเสี่ยง ที่ผ่านการประเมิน
การวิเคราะห์ข้อมูลอย่างรอบด้านก่อนเข้าไปลงทุน
ในขณะที่ความเก่ง หรือ ฉลาด มักด่วนตัดสินใจ
ทำให้โอกาสผิดพลาดมากกว่า
🚩5. การสร้างเครือข่าย และความสัมพันธ์
นักลงทุนที่มีความเก่ง ความฉลาด มักจะมีอีโก้สูง
มักจะมีปัญหาในการสร้างเครือข่าย คอนเน็คชั่น
ในขณะที่นักลงทุนที่มีความเฉลียว หรือ ไม่ประมาท
มักจะมีความยืดหยุ่น เข้ากับคนอื่นๆ และสร้างความ
สัมพันธ์ กับคนอื่นๆ ได้ดีกว่า
💥ดังนั้น การลงทุนที่จะประสบความสำเร็จ จะไม่เพียง
แค่ใช้ความรู้ ความสามารถ ซึ่งคือ ความเก่ง และ
ความฉลาดเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีองค์ประกอบอื่นๆ
คือ ความเฉลียว การปรับตัวยืดหยุ่น การปรับกลยุทธ์
ให้เหมาะสมกับสภาวะของตลาด รวมทั้งมีความไม่ประมาท
มีความรอบครอบ มองข้อมูลให้รอบด้าน ก่อนเข้าไป
ลงทุนทุกครั้ง
#หุ้นติดดอย #การลงทุน
#5สิ่งที่ความฉลาดหรือความเก่งมักพ่ายแพ้ให้กับความเฉลียว
#thaitimes