0 Comments
0 Shares
30 Views
0 Reviews
Directory
Discover new people, create new connections and make new friends
- Please log in to like, share and comment!
-
-
-
-
-
-
- #ปริศนาแมวดำทั้ง7
เรื่องสั้นนักสืบ จากผลงานเขียนโดย เอลเลอรี ควีน แปลโดย กันยรัตน์
หนึ่งในเรื่องจากหนังสือ ปรัศนี รวมนิยายนักสืบเรื่องสั้นที่สรรแล้ว จากยอดนักเขียนชื่อก้องหลายคน
เลือกเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟังเป็นเรื่องแรกก่อน นับเป็นเรื่องสั้นขนาดกลางที่อ่านสนุก มีแทรกอารมณ์ขันบางช่วง
ตัวเอกของเรื่องก็ชื่อเดียวกับคนเขียนนั่นแหละ
เปิดเรื่องด้วยการที่ ยอดชายของเรื่องต้องการหาซื้อหมาสักตัว จึงเข้าไปคุยกับเจ้าของร้านซึ่งเป็นสาวสวยคนหนึ่ง หญิงสาวมีอัธยาศัยดี ช่างจ้อ บอกว่าพันธุ์ที่ควีนต้องการนั้นไม่มี ถ้าอีกพันธุ์ได้ไหม คุยไปคุยมาเกิดกรี๊ดกร๊าดเมื่อทราบว่าชายตรงหน้าคือคนดัง เอลเลอรี ควีน ทีนี้จ้อไม่หยุด เปรยถามว่าคุณควีนพักอยู่แถวใกล้ๆนี้ คงรู้จักหญิงคนหนึ่งที่ชื่อ..กระมัง เพราะเธอก็เป็นลูกค้าของร้านเช่นกัน ควีนบอกไม่รู้จักแต่สนใจชื่อที่แปลกของหญิงคนนั้น เจ้าของร้านจึงเล่าว่าเป็นสตรีชราเดินเหินไม่ได้ เมื่อสักหกเดือนก่อน น้องสาวที่หน้าคล้ายกัน อายุห่างกันไม่มากมาอยู่ด้วยที่ห้องของเธอเพื่อดูแล แต่เข้ากันไม่ได้ เพราะคนน้องรักแมวมาก เคยมาซื้อแมวดำตัวผู้ตาเขียวจากที่ร้าน แล้วอีกสองวันต่อมาโทรศัพท์บอกขอนำมาคืน เพราะพี่สาวเกลียดแมว แต่สุดท้ายก็ไม่ได้มาคืน
เธอเล่าต่อไปว่า ที่น่าแปลกคือ จากนั้นไม่นานคนพี่ที่เดินไม่ได้ก็โทรมาที่ร้าน ขอให้หาแมวสีเดียวกันตัวผู้ ที่เหมือนตัวที่น้องสาวเคยซื้อไปในราคาไม่แพง แล้วให้นำไปส่งที่แฟลตในช่วงบ่าย ซึ่งเป็นเวลาที่น้องสาวจะไม่อยู่เพราะออกไปเดินเล่นข้างนอก ด้วยความที่ไม่อยากให้น้องสาวทราบจึงห้ามคนขายไม่ให้บอก ทุกครั้งที่นำแมวไปส่งจึงไม่เคยพบหญิงชราคนน้อง น่าแปลกกว่านั้นคือคนพี่จะโทรมาสั่งแมวสัปดาห์ละครั้ง รวมกว่า5สัปดาห์เข้าแล้ว ทั้งที่เป็นคนเกลียดแมว เรื่องนี้สะดุดใจนักสืบควีนมาก จึงอยากลองไปเจอกับหญิงชราคนพี่ที่ป่วยเดินไม่ได้ โดยขอให้เจ้าของร้านสาวพาไป โดยจะอ้างว่าควีนสั่งแมวไว้ก่อน พอแมวถูกขายให้หญิงชราไปจึงไม่ยอม ต้องการมาคุยทำความตกลง สาวเจ้าของร้านตกลงช่วย เพราะดูเธอชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านเป็นกิจวัตร และวันนี้ได้เวลาที่ต้องไปตามนัดพอดี
เมื่อไปถึงแฟลตที่หญิงชราอาศัย ทั้งสองกดกริ่งหลายหน ส่งเสียงดังเรียก แต่กลับไม่ได้รับการเปิดประตู ขวดนมสดวางตั้งไว้ที่หน้าประตูสองขวด ควีนรู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากล ประตูก็ล็อก ซึ่งต่างจากที่สาวขายแมวบอกว่าทุกครั้งที่มาส่งแมวช่วงเวลานี้ ประตูจะเปิดเพราะคนน้องจะออกไปข้างนอกแล้วไม่ล็อก ทั้งสองจึงลองไปสอบถามกับทางสำนักงานของคนดูแลตึกนามสกุล พอตเตอร์ แต่ปรากฏสามีที่ดูแลตึกไม่อยู่ ภรรยาออกมารับหน้าถามมีธุระอะไร พอทราบว่าทั้งสองมาหาหญิงชราแต่เข้าไม่ได้เพราะประตูล็อก และมีขวดนมวางไว้สองขวดจึงแปลกใจ ควีนสอบถามว่าเห็นหรือคุยกับหญิงชราครั้งสุดท้ายเมื่อไร ภรรยาคนดูแลบอกว่าน่าจะสองวันก่อน พอถูกถามถึงสามี ก็ตอบว่าไปทำงานพิเศษช่วงครึ่งวันที่โรงงานเคมี คงจะกลับช่วงเย็น เธอบอกอีกว่าหญิงชราเรียกสามีไปช่วยทาสีซ่อมแซมในห้องช่วงบ่ายหรือเย็นมาเกือบเดือนแล้ว โดยจะให้ค่าจ้างด้วย
ควีนกับสาวขายแมวจึงขอมาสเตอร์คีย์ แล้วย้อนจะไปไขประตูห้องหญิงชรา ทว่าควีนได้ยินเสียง มีคนอยู่ในห้อง และคนคนนั้นได้หาอะไรมาขัดไม่ให้เขาผลักประตูเข้าไปได้ สุดท้ายจึงต้องออกแรงพุ่งชนจนประตูเปิด แต่คนที่อยู่ในห้องรีบหนีหลบออกทางหน้าต่างแล้วปีนบันไดวนขึ้นบนดาดฟ้าหนีไปแล้ว เขาจึงตรวจสภาพในห้อง ขณะนั้นมีชายคนหนึ่งมายืนหน้าประตูอย่างงุนงง บอกเป็นหลานมาพบหญิงชรา ตามที่เธอได้เขียนจดหมายส่งหาเขา เขาติดธุระจึงมาช้า พอทราบว่าอาจเกิดเหตุไม่ดีขึ้นกับหญิงชราทั้งสองก็ตกใจ ควีนสอบถามเขาและขอดูจดหมาย เนื้อความในนั้นหญิงชรากำลังกลัวเพราะคาดว่าตนกำลังตกอยู่ในอันตรายอะไรสักอย่าง ขอให้หลานช่วยมาหาโดยเร็วที่สุด ควีนถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเขา ได้ทราบว่าป้าทั้งสองไม่ค่อยลงรอยกัน ป้าคนโตพอมีเงินเก็บก้อนหนึ่ง แต่ไม่ไว้ใจธนาคาร และไม่ไว้ใจน้องสาว จึงแอบเก็บเงินไว้สักแห่งในห้อง เธอกลัวว่าน้องสาวจะขโมยเงินนี้ไป ควีนแนะให้เขาเข้าพักโรงแรมแถวใกล้ ๆ เพื่อรอฟังข่าวต่อไป
ปรากฏว่าหญิงชราหายตัวไป มีแต่เตียงว่างเปล่ายับยู่ยี่ เธอเดินไม่ได้ แต่กลับไม่อยู่ในห้อง คนน้องก็น่าจะไม่ได้อยู่ที่นี่มาอย่างน้อยสองวันเช่นกัน ถึงมีขวดนมวางหน้าประตู ที่น่าแปลกคือไม่เห็นแมวเลยสักตัว ทั้งที่ควรจะมีอยู่ 7 ตัว ควีนตรวจจานอาหารที่มีอาหารเหลืออยู่ เขาตรวจหาลายนิ้วมือบนช้อน ส้อมและมีด แต่ไม่พบลายนิ้วมือใครเลย เขาวานเจ้าของร้านขายแมวให้นำเอาอาหารที่เหลือนี้ไปส่งตรวจกับ ดอกเตอร์คนหนึ่ง จากนั้นตัวเองก็จะสำรวจต่อให้ทั่ว ก่อนสาวสวยร้านแมวจะออกจากห้อง ควีนส่งเสียงด้วยความตกใจ ให้รีบมาดูที่อ่างอาบน้ำ ที่สุดทั้งสองจึงเห็นว่ามีซากแมวดำตัวหนึ่งนอนตายจมกองเลือดในสภาพน่าอนาถ ที่หัวถูกทุบแหลกเละด้วยแปรงถูตัวที่ถูกทิ้งไว้ใกล้ ๆ
ควีนได้ไปพบภรรยาคนดูแลตึกอีกครั้ง คราวนี้นายพอตเตอร์ผู้ดูแลกลับมาจากทำงานแล้ว จึงสอบถามเพิ่มเติมว่าเคยเห็นแมวตายในช่วงที่ผ่านมาบ้างไหม ภรรยานายพอตเตอร์ตกใจ บอกว่าใช่ ทำไมถึงรู้ ส่วนสามีบอกว่าใช่พบกระโหลกแมวในเตาเผาขยะหกตัว สัปดาห์ละตัว ไม่คิดว่าเจ้าของจะโหดเหี้ยมขนาดนี้ ควีนเดินไปสำรวจรอบ ๆ เตาเผาขยะ รวบรวมหลักฐานเพิ่ม เมื่อสาวร้านขายแมวกลับมาพร้อมแจ้งว่าตรวจไม่พบอะไรในอาหารที่เหลือ ควีนสรุปว่าควรเป็นเช่นนั้น ที่สุดเขาพออนุมานได้แล้วว่าหญิงชราทั้งสองน่าจะตายไปแล้ว
คนพี่คงระแวงว่าน้องสาวจะวางยาพิษตนเพื่อหวังเงินที่เก็บซ่อนไว้ จึงสั่งซื้อแมวมาทั้งที่เกลียด เพื่อใช้ทดสอบกินอาหารก่อน ถ้าแมวปลอดภัยตนจึงจะกินอาหาร แต่เนื่องจากคนร้ายวางยาทุกสัปดาห์ แมวจึงตายทำให้ต้องสั่งแมวตัวใหม่ และต้องการไม่ให้น้องสาวสงสัยจึงเลือกที่สีและขนาดรวมถึงเพศเดียวกับแมวของน้องสาว เมื่อแมวตายเพราะพิษ ก็คงจะห่อศพแล้วฝากเมียคนดูแลให้ไปทิ้งในเตาเผารวมกับขยะอื่น แต่ครั้งสุดท้าย คนร้ายคงเปลี่ยนแผน ไม่ใส่ยาพิษในอาหารเพราะทำมาหกครั้งไม่สำเร็จ จึงทายาพิษที่ช้อน ส้อม มีดแทน แมวกินไม่เป็นไร หญิงชราจึงกินอาหารจานนั้นและตายจากพิษที่ติดกับสิ่งที่เธอไม่ทันระวัง คนร้ายจึงเช็ดทำลายหลักฐาน และฆ่าแมวตัวที่เหลือด้วยวิธีอำมหิต และคนร้ายต้องไม่ใช่น้องสาวแน่ เพราะเธอรักแมว คงไม่กล้าพอที่จะลงมือฆ่าแมว น่าจะมาเห็นเหตุการณ์เข้าจึงถูกฆ่าปิดปาก ส่วนศพของทั้งสองคงถูกเอาไปใส่เตาเผาขยะ แล้วเช่นนั้นคนร้ายคือใครล่ะ
ขณะสาวร้านขายแมวถามควีน ทั้งสองได้ยินเสียงไขกุญแจห้อง ที่แท้คนร้ายนึกว่าคงไม่มีคนอยู่ในห้องแล้ว และย้อนกลับมาเพื่อต้องการหาเงินที่หญิงชราซ่อนไว้ ควีนรีบพาตัวหญิงสาวไปแอบในตู้เสื้อผ้า ส่วนเขาออกไปตะลุมบอนกับคนร้าย ขณะจะพลาดท่าถูกคนร้ายเอามีดเสียบ หญิงสาวถลันออกจากตู้เตะไปที่ข้อมือชายคนนั้นที่เธอยังไม่เห็นหน้า ควีนร้องบอกให้ไปเปิดประตู ทันใดนั้นตำรวจหลายคนกรูเข้ามา จากนั้นเธอก็สลบไป
ฟื้นอีกที เธอรีบถามใครคือคนร้าย ควีนบอกจะเป็นใครได้อีก นอกจากคนที่เข้ามาทาสีในห้องอยู่เกือบเดือน และทำงานโรงงานเคมีสามารถหายาพิษได้ง่าย อีกทั้งมีกุญแจห้องอีกดอก และคอยจัดการทิ้งขยะในเตาเผา ดีที่ควีนแอบโทรแจ้งตำรวจไว้ให้มาช่วยก่อนหน้านั้น และก็มาทันเวลาพอดี
📌ส่วนเงินที่หญิงชราแอบไว้ พบซ่อนในหนังสือเล่มหนึ่ง! ใต้เตียงนอน
📌 ที่น่าสนใจที่สุดคือ คนร้ายรายนี้ชื่อว่า แฮรี่ พอตเตอร์!
#เรื่องสั้น
#เรื่องสั้นแปล
#กันยรัตน์
#แมวดำ
#สืบสวน
#คดีปริศนา
#เอลเลอรีควีน
#นักสืบ
#thaitimes#ปริศนาแมวดำทั้ง7 เรื่องสั้นนักสืบ จากผลงานเขียนโดย เอลเลอรี ควีน แปลโดย กันยรัตน์ หนึ่งในเรื่องจากหนังสือ ปรัศนี รวมนิยายนักสืบเรื่องสั้นที่สรรแล้ว จากยอดนักเขียนชื่อก้องหลายคน เลือกเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟังเป็นเรื่องแรกก่อน นับเป็นเรื่องสั้นขนาดกลางที่อ่านสนุก มีแทรกอารมณ์ขันบางช่วง ตัวเอกของเรื่องก็ชื่อเดียวกับคนเขียนนั่นแหละ เปิดเรื่องด้วยการที่ ยอดชายของเรื่องต้องการหาซื้อหมาสักตัว จึงเข้าไปคุยกับเจ้าของร้านซึ่งเป็นสาวสวยคนหนึ่ง หญิงสาวมีอัธยาศัยดี ช่างจ้อ บอกว่าพันธุ์ที่ควีนต้องการนั้นไม่มี ถ้าอีกพันธุ์ได้ไหม คุยไปคุยมาเกิดกรี๊ดกร๊าดเมื่อทราบว่าชายตรงหน้าคือคนดัง เอลเลอรี ควีน ทีนี้จ้อไม่หยุด เปรยถามว่าคุณควีนพักอยู่แถวใกล้ๆนี้ คงรู้จักหญิงคนหนึ่งที่ชื่อ..กระมัง เพราะเธอก็เป็นลูกค้าของร้านเช่นกัน ควีนบอกไม่รู้จักแต่สนใจชื่อที่แปลกของหญิงคนนั้น เจ้าของร้านจึงเล่าว่าเป็นสตรีชราเดินเหินไม่ได้ เมื่อสักหกเดือนก่อน น้องสาวที่หน้าคล้ายกัน อายุห่างกันไม่มากมาอยู่ด้วยที่ห้องของเธอเพื่อดูแล แต่เข้ากันไม่ได้ เพราะคนน้องรักแมวมาก เคยมาซื้อแมวดำตัวผู้ตาเขียวจากที่ร้าน แล้วอีกสองวันต่อมาโทรศัพท์บอกขอนำมาคืน เพราะพี่สาวเกลียดแมว แต่สุดท้ายก็ไม่ได้มาคืน เธอเล่าต่อไปว่า ที่น่าแปลกคือ จากนั้นไม่นานคนพี่ที่เดินไม่ได้ก็โทรมาที่ร้าน ขอให้หาแมวสีเดียวกันตัวผู้ ที่เหมือนตัวที่น้องสาวเคยซื้อไปในราคาไม่แพง แล้วให้นำไปส่งที่แฟลตในช่วงบ่าย ซึ่งเป็นเวลาที่น้องสาวจะไม่อยู่เพราะออกไปเดินเล่นข้างนอก ด้วยความที่ไม่อยากให้น้องสาวทราบจึงห้ามคนขายไม่ให้บอก ทุกครั้งที่นำแมวไปส่งจึงไม่เคยพบหญิงชราคนน้อง น่าแปลกกว่านั้นคือคนพี่จะโทรมาสั่งแมวสัปดาห์ละครั้ง รวมกว่า5สัปดาห์เข้าแล้ว ทั้งที่เป็นคนเกลียดแมว เรื่องนี้สะดุดใจนักสืบควีนมาก จึงอยากลองไปเจอกับหญิงชราคนพี่ที่ป่วยเดินไม่ได้ โดยขอให้เจ้าของร้านสาวพาไป โดยจะอ้างว่าควีนสั่งแมวไว้ก่อน พอแมวถูกขายให้หญิงชราไปจึงไม่ยอม ต้องการมาคุยทำความตกลง สาวเจ้าของร้านตกลงช่วย เพราะดูเธอชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านเป็นกิจวัตร และวันนี้ได้เวลาที่ต้องไปตามนัดพอดี เมื่อไปถึงแฟลตที่หญิงชราอาศัย ทั้งสองกดกริ่งหลายหน ส่งเสียงดังเรียก แต่กลับไม่ได้รับการเปิดประตู ขวดนมสดวางตั้งไว้ที่หน้าประตูสองขวด ควีนรู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากล ประตูก็ล็อก ซึ่งต่างจากที่สาวขายแมวบอกว่าทุกครั้งที่มาส่งแมวช่วงเวลานี้ ประตูจะเปิดเพราะคนน้องจะออกไปข้างนอกแล้วไม่ล็อก ทั้งสองจึงลองไปสอบถามกับทางสำนักงานของคนดูแลตึกนามสกุล พอตเตอร์ แต่ปรากฏสามีที่ดูแลตึกไม่อยู่ ภรรยาออกมารับหน้าถามมีธุระอะไร พอทราบว่าทั้งสองมาหาหญิงชราแต่เข้าไม่ได้เพราะประตูล็อก และมีขวดนมวางไว้สองขวดจึงแปลกใจ ควีนสอบถามว่าเห็นหรือคุยกับหญิงชราครั้งสุดท้ายเมื่อไร ภรรยาคนดูแลบอกว่าน่าจะสองวันก่อน พอถูกถามถึงสามี ก็ตอบว่าไปทำงานพิเศษช่วงครึ่งวันที่โรงงานเคมี คงจะกลับช่วงเย็น เธอบอกอีกว่าหญิงชราเรียกสามีไปช่วยทาสีซ่อมแซมในห้องช่วงบ่ายหรือเย็นมาเกือบเดือนแล้ว โดยจะให้ค่าจ้างด้วย ควีนกับสาวขายแมวจึงขอมาสเตอร์คีย์ แล้วย้อนจะไปไขประตูห้องหญิงชรา ทว่าควีนได้ยินเสียง มีคนอยู่ในห้อง และคนคนนั้นได้หาอะไรมาขัดไม่ให้เขาผลักประตูเข้าไปได้ สุดท้ายจึงต้องออกแรงพุ่งชนจนประตูเปิด แต่คนที่อยู่ในห้องรีบหนีหลบออกทางหน้าต่างแล้วปีนบันไดวนขึ้นบนดาดฟ้าหนีไปแล้ว เขาจึงตรวจสภาพในห้อง ขณะนั้นมีชายคนหนึ่งมายืนหน้าประตูอย่างงุนงง บอกเป็นหลานมาพบหญิงชรา ตามที่เธอได้เขียนจดหมายส่งหาเขา เขาติดธุระจึงมาช้า พอทราบว่าอาจเกิดเหตุไม่ดีขึ้นกับหญิงชราทั้งสองก็ตกใจ ควีนสอบถามเขาและขอดูจดหมาย เนื้อความในนั้นหญิงชรากำลังกลัวเพราะคาดว่าตนกำลังตกอยู่ในอันตรายอะไรสักอย่าง ขอให้หลานช่วยมาหาโดยเร็วที่สุด ควีนถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเขา ได้ทราบว่าป้าทั้งสองไม่ค่อยลงรอยกัน ป้าคนโตพอมีเงินเก็บก้อนหนึ่ง แต่ไม่ไว้ใจธนาคาร และไม่ไว้ใจน้องสาว จึงแอบเก็บเงินไว้สักแห่งในห้อง เธอกลัวว่าน้องสาวจะขโมยเงินนี้ไป ควีนแนะให้เขาเข้าพักโรงแรมแถวใกล้ ๆ เพื่อรอฟังข่าวต่อไป ปรากฏว่าหญิงชราหายตัวไป มีแต่เตียงว่างเปล่ายับยู่ยี่ เธอเดินไม่ได้ แต่กลับไม่อยู่ในห้อง คนน้องก็น่าจะไม่ได้อยู่ที่นี่มาอย่างน้อยสองวันเช่นกัน ถึงมีขวดนมวางหน้าประตู ที่น่าแปลกคือไม่เห็นแมวเลยสักตัว ทั้งที่ควรจะมีอยู่ 7 ตัว ควีนตรวจจานอาหารที่มีอาหารเหลืออยู่ เขาตรวจหาลายนิ้วมือบนช้อน ส้อมและมีด แต่ไม่พบลายนิ้วมือใครเลย เขาวานเจ้าของร้านขายแมวให้นำเอาอาหารที่เหลือนี้ไปส่งตรวจกับ ดอกเตอร์คนหนึ่ง จากนั้นตัวเองก็จะสำรวจต่อให้ทั่ว ก่อนสาวสวยร้านแมวจะออกจากห้อง ควีนส่งเสียงด้วยความตกใจ ให้รีบมาดูที่อ่างอาบน้ำ ที่สุดทั้งสองจึงเห็นว่ามีซากแมวดำตัวหนึ่งนอนตายจมกองเลือดในสภาพน่าอนาถ ที่หัวถูกทุบแหลกเละด้วยแปรงถูตัวที่ถูกทิ้งไว้ใกล้ ๆ ควีนได้ไปพบภรรยาคนดูแลตึกอีกครั้ง คราวนี้นายพอตเตอร์ผู้ดูแลกลับมาจากทำงานแล้ว จึงสอบถามเพิ่มเติมว่าเคยเห็นแมวตายในช่วงที่ผ่านมาบ้างไหม ภรรยานายพอตเตอร์ตกใจ บอกว่าใช่ ทำไมถึงรู้ ส่วนสามีบอกว่าใช่พบกระโหลกแมวในเตาเผาขยะหกตัว สัปดาห์ละตัว ไม่คิดว่าเจ้าของจะโหดเหี้ยมขนาดนี้ ควีนเดินไปสำรวจรอบ ๆ เตาเผาขยะ รวบรวมหลักฐานเพิ่ม เมื่อสาวร้านขายแมวกลับมาพร้อมแจ้งว่าตรวจไม่พบอะไรในอาหารที่เหลือ ควีนสรุปว่าควรเป็นเช่นนั้น ที่สุดเขาพออนุมานได้แล้วว่าหญิงชราทั้งสองน่าจะตายไปแล้ว คนพี่คงระแวงว่าน้องสาวจะวางยาพิษตนเพื่อหวังเงินที่เก็บซ่อนไว้ จึงสั่งซื้อแมวมาทั้งที่เกลียด เพื่อใช้ทดสอบกินอาหารก่อน ถ้าแมวปลอดภัยตนจึงจะกินอาหาร แต่เนื่องจากคนร้ายวางยาทุกสัปดาห์ แมวจึงตายทำให้ต้องสั่งแมวตัวใหม่ และต้องการไม่ให้น้องสาวสงสัยจึงเลือกที่สีและขนาดรวมถึงเพศเดียวกับแมวของน้องสาว เมื่อแมวตายเพราะพิษ ก็คงจะห่อศพแล้วฝากเมียคนดูแลให้ไปทิ้งในเตาเผารวมกับขยะอื่น แต่ครั้งสุดท้าย คนร้ายคงเปลี่ยนแผน ไม่ใส่ยาพิษในอาหารเพราะทำมาหกครั้งไม่สำเร็จ จึงทายาพิษที่ช้อน ส้อม มีดแทน แมวกินไม่เป็นไร หญิงชราจึงกินอาหารจานนั้นและตายจากพิษที่ติดกับสิ่งที่เธอไม่ทันระวัง คนร้ายจึงเช็ดทำลายหลักฐาน และฆ่าแมวตัวที่เหลือด้วยวิธีอำมหิต และคนร้ายต้องไม่ใช่น้องสาวแน่ เพราะเธอรักแมว คงไม่กล้าพอที่จะลงมือฆ่าแมว น่าจะมาเห็นเหตุการณ์เข้าจึงถูกฆ่าปิดปาก ส่วนศพของทั้งสองคงถูกเอาไปใส่เตาเผาขยะ แล้วเช่นนั้นคนร้ายคือใครล่ะ ขณะสาวร้านขายแมวถามควีน ทั้งสองได้ยินเสียงไขกุญแจห้อง ที่แท้คนร้ายนึกว่าคงไม่มีคนอยู่ในห้องแล้ว และย้อนกลับมาเพื่อต้องการหาเงินที่หญิงชราซ่อนไว้ ควีนรีบพาตัวหญิงสาวไปแอบในตู้เสื้อผ้า ส่วนเขาออกไปตะลุมบอนกับคนร้าย ขณะจะพลาดท่าถูกคนร้ายเอามีดเสียบ หญิงสาวถลันออกจากตู้เตะไปที่ข้อมือชายคนนั้นที่เธอยังไม่เห็นหน้า ควีนร้องบอกให้ไปเปิดประตู ทันใดนั้นตำรวจหลายคนกรูเข้ามา จากนั้นเธอก็สลบไป ฟื้นอีกที เธอรีบถามใครคือคนร้าย ควีนบอกจะเป็นใครได้อีก นอกจากคนที่เข้ามาทาสีในห้องอยู่เกือบเดือน และทำงานโรงงานเคมีสามารถหายาพิษได้ง่าย อีกทั้งมีกุญแจห้องอีกดอก และคอยจัดการทิ้งขยะในเตาเผา ดีที่ควีนแอบโทรแจ้งตำรวจไว้ให้มาช่วยก่อนหน้านั้น และก็มาทันเวลาพอดี 📌ส่วนเงินที่หญิงชราแอบไว้ พบซ่อนในหนังสือเล่มหนึ่ง! ใต้เตียงนอน 📌 ที่น่าสนใจที่สุดคือ คนร้ายรายนี้ชื่อว่า แฮรี่ พอตเตอร์! #เรื่องสั้น #เรื่องสั้นแปล #กันยรัตน์ #แมวดำ #สืบสวน #คดีปริศนา #เอลเลอรีควีน #นักสืบ #thaitimes -
-
-
- นุดเราสงสัย..? #เป็นทาสก็ยอม #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
- สะสมบุญกุศลในพระพุทธศาสนา added 36 photos to the album: ทำบุญตักบาตร วันที่ 1,628 : 17/09/2567ตักบาตร >>> วันที่ 1,628
วันพระ: ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง
วันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๖๗ (17 September 2024)
ใส่บาตรภิกษุ/สามเณร 30 รูป เป็นเงิน 360 บาท
ตลาดบางเขน เขตพระโขนง กรุงเทพฯ
สิ่งของใส่บาตร ชุดละ 12 บาท
1. บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ยำยำ ต้มยำกุ้ง 63g. (6 บาท)
2. แครกเกอร์ มอลคิสท์ รสต้มยำกุ้ง 15g. (2 บาท)
3. ลูกอม เมนทอส ซาวน์มิกซ์ 2.7g. 8 เม็ด (2 บาท)
4. กาแฟ 3in1 Indocafe Espresso 15g. (2 บาท)
#ทำบุญตักบาตรโดยคุณณรงค์
* เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๔๘ วัน
I am willing to depart this life at the age of 75.ตักบาตร >>> วันที่ 1,628 วันพระ: ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง วันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๖๗ (17 September 2024) ใส่บาตรภิกษุ/สามเณร 30 รูป เป็นเงิน 360 บาท ตลาดบางเขน เขตพระโขนง กรุงเทพฯ สิ่งของใส่บาตร ชุดละ 12 บาท 1. บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ยำยำ ต้มยำกุ้ง 63g. (6 บาท) 2. แครกเกอร์ มอลคิสท์ รสต้มยำกุ้ง 15g. (2 บาท) 3. ลูกอม เมนทอส ซาวน์มิกซ์ 2.7g. 8 เม็ด (2 บาท) 4. กาแฟ 3in1 Indocafe Espresso 15g. (2 บาท) #ทำบุญตักบาตรโดยคุณณรงค์ * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๔๘ วัน I am willing to depart this life at the age of 75.0 Comments 0 Shares 164 Views 0 Reviews -
- Narong Khonkham added 37 photos to the album: ทำบุญตักบาตร วันที่ 1,628 : 17/09/2567ตักบาตร >>> วันที่ 1,628
วันพระ: ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง
วันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๖๗ (17 September 2024)
ใส่บาตรภิกษุ/สามเณร 30 รูป เป็นเงิน 360 บาท
ตลาดบางเขน เขตพระโขนง กรุงเทพฯ
สิ่งของใส่บาตร ชุดละ 12 บาท
1. บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ยำยำ ต้มยำกุ้ง 63g. (6 บาท)
2. แครกเกอร์ มอลคิสท์ รสต้มยำกุ้ง 15g. (2 บาท)
3. ลูกอม เมนทอส ซาวน์มิกซ์ 2.7g. 8 เม็ด (2 บาท)
4. กาแฟ 3in1 Indocafe Espresso 15g. (2 บาท)
#ทำบุญตักบาตรโดยคุณณรงค์
* เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๔๘ วัน
I am willing to depart this life at the age of 75.ตักบาตร >>> วันที่ 1,628 วันพระ: ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีมะโรง วันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๖๗ (17 September 2024) ใส่บาตรภิกษุ/สามเณร 30 รูป เป็นเงิน 360 บาท ตลาดบางเขน เขตพระโขนง กรุงเทพฯ สิ่งของใส่บาตร ชุดละ 12 บาท 1. บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ยำยำ ต้มยำกุ้ง 63g. (6 บาท) 2. แครกเกอร์ มอลคิสท์ รสต้มยำกุ้ง 15g. (2 บาท) 3. ลูกอม เมนทอส ซาวน์มิกซ์ 2.7g. 8 เม็ด (2 บาท) 4. กาแฟ 3in1 Indocafe Espresso 15g. (2 บาท) #ทำบุญตักบาตรโดยคุณณรงค์ * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๔๘ วัน I am willing to depart this life at the age of 75. - 0 Comments 0 Shares 77 Views 0 Reviews
-
-
-
-
-
-
- ยูเครนมาถึงทางตันแล้ว:
ผมนั่งทำงานอยู่นะครับ แล้วก็แว็บไปดูข่าวต่างประเทศเป็นบางครั้งและอัปเดทให้ทุกท่านได้อ่านจะได้ทันโลก
ตอนนี้ ยูเครนมาถึงทางตันแล้ว เมื่ออเมริกาและแก๊งนาโต้ยอมบอกเซเลนสกี ผู้นำยูเครนไปตรงๆ ว่า 'กองทัพยูเครนไม่มีความหวังจะชนะกองทัพรัสเซียได้เลย' สรุปก็คืออย่าฝันไปเลยว่าจะชนะกองทัพรัสเซีย
เซเลนสกีมีทางเลือก ๒ ทางเท่านั้น ๑.ยอมแพ้ต่อรัสเซีย ยินดีทำตามเงื่อนไขของรัสเซีย ๒.ดันทุรังเอาประชาชนยูเครนไปตายที่สมรภูมิเหมือนเดิม จนประเทศชาติล่มสลาย ไปต่อไม่ไหวเอง
สรุปก็คือที่กลุ่มประเทศนาโต้นำโดยอเมริกาบอกให้เซเลนสกีทรยศต่อรัสเซีย ยอมเป็นทาสรับใช้นาโต้ แล้วยูเครนจะได้รับการดันเป็นสมาชิกนาโต้และอียูเมื่อแปรพักตร์จากรัสเซีย เป็นการหลอกใช้ดีๆ นี่เอง
ต้องรอดูต่อไปว่าเซเลนสกีจะหาทางลงอย่างไร บางคนก็เดาไปแล้วว่าเซเลนสกีจะทำอย่างไรต่อ
ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ยูเครนมาถึงทางตันแล้ว: ผมนั่งทำงานอยู่นะครับ แล้วก็แว็บไปดูข่าวต่างประเทศเป็นบางครั้งและอัปเดทให้ทุกท่านได้อ่านจะได้ทันโลก ตอนนี้ ยูเครนมาถึงทางตันแล้ว เมื่ออเมริกาและแก๊งนาโต้ยอมบอกเซเลนสกี ผู้นำยูเครนไปตรงๆ ว่า 'กองทัพยูเครนไม่มีความหวังจะชนะกองทัพรัสเซียได้เลย' สรุปก็คืออย่าฝันไปเลยว่าจะชนะกองทัพรัสเซีย เซเลนสกีมีทางเลือก ๒ ทางเท่านั้น ๑.ยอมแพ้ต่อรัสเซีย ยินดีทำตามเงื่อนไขของรัสเซีย ๒.ดันทุรังเอาประชาชนยูเครนไปตายที่สมรภูมิเหมือนเดิม จนประเทศชาติล่มสลาย ไปต่อไม่ไหวเอง สรุปก็คือที่กลุ่มประเทศนาโต้นำโดยอเมริกาบอกให้เซเลนสกีทรยศต่อรัสเซีย ยอมเป็นทาสรับใช้นาโต้ แล้วยูเครนจะได้รับการดันเป็นสมาชิกนาโต้และอียูเมื่อแปรพักตร์จากรัสเซีย เป็นการหลอกใช้ดีๆ นี่เอง ต้องรอดูต่อไปว่าเซเลนสกีจะหาทางลงอย่างไร บางคนก็เดาไปแล้วว่าเซเลนสกีจะทำอย่างไรต่อ ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ -
- หลังจากมีข่าวว่ากองทัพเรือส่งยานรบสะเทินน้ำสะเทินบก AAV ของนาวิกโยธินไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ก็มีหลายคนให้ความสนใจยานเกราะชนิดนี้ว่าปัจจุบันไทยเรามีใช้งานอยู่กี่คัน ควรจัดหาเพิ่มหรือไม่ ฯลฯ
ปัจจุบันไทยเรามี AAV หรือที่สมัยก่อนเรียกว่า LVPT-7 ผลิตในสหรัฐฯ ประมาณ 30 คันเศษๆ ครับ ตัวเลขเป๊ะๆ ถ้าผมจำไม่ผิดคือ 36 คัน แต่ปัจจุบันจะอยู่ในสภาพพร้อมรบกี่คันอันนี้ไม่สามารถบอกได้
สำหรับ AAV ภารกิจหลักของมันก็คือลำเลียงนาวิกโยธินขึ้นบกครับ ซึ่ง AAV ปัจจุบันถือว่ามีอายุพอสมควรแล้วครับ รุ่นแรกสุดเข้าประจำการในกองทัพสหรัฐฯ ตั้งแต่ช่วงต้นยุค 70 ปลายๆ สงครามเวียดนามนู่นเลย ตอนนี้แม้นาวิกโยธินสหรัฐฯ จะยังมีประจำการอยู่ประมาณ 1,000 คันเศษๆ แต่ก็กำลังทยอยปลดประจำการแล้ว ที่น่าสนใจคือยานเกราะสะเทินน้ำสะเทินบกรุ่นใหม่ที่สหรัฐฯ จะจัดหามาทดแทน AAV กลับไม่ใช่รถสายพาน แต่เป็นรถหุ้มเกราะล้อยาง ACV ซึ่งปัจจุบันเข้าประจำการแล้วประมาณ 200 คัน (ความจริงสหรัฐฯ เคยพยายามพัฒนารถสายพาน EFV มาทดแทน AAV แต่โครงการล้มเหลว ก่อนจะเปลี่ยนไปเป็นรถหุ้มเกราะล้อยางแทน)
เมื่อสหรัฐฯ กำลังทยอยปลดประจำการ AAV ทดแทนด้วยรถหุ้มเกราะล้อยาง ACV ถ้าไทยเราจะจัดหา AAV เพิ่ม สหรัฐฯ ก็น่าจะมีของมือสองพร้อมขายแหละครับ ปัญหาอยู่ที่ความคุ้มค่ามากกว่า ในเมื่อสหรัฐฯ เองก็จะเปลี่ยนหลักนิยมให้นาวิกโยธินหันไปใช้รถหุ้มเกราะล้อยางแทนอยู่แล้ว ผมคิดว่าเราก็ไม่ควรย่ำอยู่กับ AAV ครับ ยานเกราะใหม่สำหรับนาวิกโยธินก็เน้นจัดหาเป็นรถหุ้มเกราะล้อยางไปเลยดีกว่า
สวัสดี
13.09.2024
ภาพ AAV ของนาวิกโยธินสหรัฐฯ ระหว่างการฝึก Cobra Gold 2020 ที่ประเทศไทย (U.S. Marine Corps photo by Lance Cpl. Hannah Hall)
การทูตและการทหาร
Military and Diplomacyหลังจากมีข่าวว่ากองทัพเรือส่งยานรบสะเทินน้ำสะเทินบก AAV ของนาวิกโยธินไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ก็มีหลายคนให้ความสนใจยานเกราะชนิดนี้ว่าปัจจุบันไทยเรามีใช้งานอยู่กี่คัน ควรจัดหาเพิ่มหรือไม่ ฯลฯ ปัจจุบันไทยเรามี AAV หรือที่สมัยก่อนเรียกว่า LVPT-7 ผลิตในสหรัฐฯ ประมาณ 30 คันเศษๆ ครับ ตัวเลขเป๊ะๆ ถ้าผมจำไม่ผิดคือ 36 คัน แต่ปัจจุบันจะอยู่ในสภาพพร้อมรบกี่คันอันนี้ไม่สามารถบอกได้ สำหรับ AAV ภารกิจหลักของมันก็คือลำเลียงนาวิกโยธินขึ้นบกครับ ซึ่ง AAV ปัจจุบันถือว่ามีอายุพอสมควรแล้วครับ รุ่นแรกสุดเข้าประจำการในกองทัพสหรัฐฯ ตั้งแต่ช่วงต้นยุค 70 ปลายๆ สงครามเวียดนามนู่นเลย ตอนนี้แม้นาวิกโยธินสหรัฐฯ จะยังมีประจำการอยู่ประมาณ 1,000 คันเศษๆ แต่ก็กำลังทยอยปลดประจำการแล้ว ที่น่าสนใจคือยานเกราะสะเทินน้ำสะเทินบกรุ่นใหม่ที่สหรัฐฯ จะจัดหามาทดแทน AAV กลับไม่ใช่รถสายพาน แต่เป็นรถหุ้มเกราะล้อยาง ACV ซึ่งปัจจุบันเข้าประจำการแล้วประมาณ 200 คัน (ความจริงสหรัฐฯ เคยพยายามพัฒนารถสายพาน EFV มาทดแทน AAV แต่โครงการล้มเหลว ก่อนจะเปลี่ยนไปเป็นรถหุ้มเกราะล้อยางแทน) เมื่อสหรัฐฯ กำลังทยอยปลดประจำการ AAV ทดแทนด้วยรถหุ้มเกราะล้อยาง ACV ถ้าไทยเราจะจัดหา AAV เพิ่ม สหรัฐฯ ก็น่าจะมีของมือสองพร้อมขายแหละครับ ปัญหาอยู่ที่ความคุ้มค่ามากกว่า ในเมื่อสหรัฐฯ เองก็จะเปลี่ยนหลักนิยมให้นาวิกโยธินหันไปใช้รถหุ้มเกราะล้อยางแทนอยู่แล้ว ผมคิดว่าเราก็ไม่ควรย่ำอยู่กับ AAV ครับ ยานเกราะใหม่สำหรับนาวิกโยธินก็เน้นจัดหาเป็นรถหุ้มเกราะล้อยางไปเลยดีกว่า สวัสดี 13.09.2024 ภาพ AAV ของนาวิกโยธินสหรัฐฯ ระหว่างการฝึก Cobra Gold 2020 ที่ประเทศไทย (U.S. Marine Corps photo by Lance Cpl. Hannah Hall) การทูตและการทหาร Military and Diplomacy0 Comments 0 Shares 613 Views 0 Reviews