• 💥💥วันนี้แอดมิน เพจหุ้นติดดอย
    จะมาแนะนำ Mindset หรือ แนวคิด
    ที่นักลงทุนควรต้องมี ซึ่งมี 5 ข้อสำคัญได้แก่

    🚩1. การมองระยะยาว
    การลงทุน เช่น ในหุ้น หรือ สินทรัพย์ใดๆก็ตาม
    ควรมองการลงทุนในระยะยาว เพื่อลดความผันแปร
    จากการเก็งกำไรระยะสั้นๆ ซึ่งการมองการลงทุน
    ระยะยาวเราควรมีความรู้ และ ความเข้าใจ ในตัว
    ธุรกิจที่จะเข้าไปลงทุน หรือ สินทรัพย์นั้นๆ เป็นอย่างดีว่า
    ในอนาคตข้างหน้าธุรกิจ หรือ สินทรัพย์เหล่านี้
    จะมีการเติบโต และให้ผลตอบแทนที่ดีได้

    🚩2. การเรียนรู้ตลอดชีวิต
    การลงทุน เราควรทำตัวเป็นน้ำครึ่งแก้ว และเรียนรู้
    ปรับปรุง เพิ่มเติม อัพเดต ความรู้ และสิ่งใหม่ๆ
    อยู่เสมอ เพื่อสามารถนำมาประยุกต์ใช้ และต่อยอด
    กับการลงทุนได้

    🚩3. การจัดการและควบคุมอารมณ์
    ควรมีสภาวะจิตใจ และความมั่นคงทางอารมณ์
    โดยไม่ลงทุนไปตามกระแส หรือ การชักจูง ชี้นำ
    จากกระแสข่าวต่างๆ หรือ สามารถจัดการกับ
    อารมณ์ความโลภ และ ความกลัวต่างๆ นิ่ง และ
    ไม่ตะหนกกับสิ่งต่างๆ มากจนเกินไป

    🚩4. การกระจายความเสี่ยง
    ควรกระจายความเสี่ยง ในการลงทุน ไม่ควรลงทุน
    กับสิ่งใด สิ่งหนึ่งเพียงอย่างเดียว เช่น การลงทุนในหุ้น
    ควรกระจายความเสี่ยงไปในหลายอุตสาหกรรม
    เพื่อที่ว่า เมื่ออุตสาหกรรมใด อุตสาหกรรมหนึ่ง
    หุ้นมีราคาลดลง เรายังมีหุ้นในอุตสาหกรรมอื่นๆ
    มาชดเชยพอร์ตโดยรวมของเราได้

    🚩5. การมีวินัย
    ข้อนี้สำคัญมาก นักลงทุนต้องมีวินัย โดยมีเป้าหมาย
    และแผนการลงทุนที่ชัดเจน เช่น ลงทุนระยะยาว
    เพื่อปันผล ต้องสามารถถือรอ เพื่อเงินปันผลได้
    หรือ เก็งกำไรกินส่วนต่างของราคา ในหุ้นระยะสั้น
    และระยะกลาง เมื่อราคาหุ้นที่ซื้อ ราคาตกอย่างฉับพลัน
    ต้องมีวินัย ในการตัดขาดทุนด้วย ไม่ใช่เปลี่ยนไป
    ถือหุ้นในระยะยาว เป็นต้น

    💥ทั้ง 5 ข้อนี้ เป็น Mindset หรือ แนวคิดในการลงทุน
    เพียงบางส่วนเท่านั้น นักลงทุนทุกท่านควรเรียนรู้
    จากประสบการณ์จริง และ นำทั้งจุดที่ประสบความสำเร็จ
    และ จุดข้อผิดพลาดต่างๆ มาประยุกต์ใช้ ก็จะทำให้เรา
    มี Mindset หรือ แนวคิดการลงทุน ที่สามารถลดความเสี่ยง
    ในด้านต่างๆ ลงได้ ไม่มากก็น้อย

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #5Mindsetหรือแนวคิดในการลงทุนที่ควรต้องมี
    #thaitimes
    💥💥วันนี้แอดมิน เพจหุ้นติดดอย จะมาแนะนำ Mindset หรือ แนวคิด ที่นักลงทุนควรต้องมี ซึ่งมี 5 ข้อสำคัญได้แก่ 🚩1. การมองระยะยาว การลงทุน เช่น ในหุ้น หรือ สินทรัพย์ใดๆก็ตาม ควรมองการลงทุนในระยะยาว เพื่อลดความผันแปร จากการเก็งกำไรระยะสั้นๆ ซึ่งการมองการลงทุน ระยะยาวเราควรมีความรู้ และ ความเข้าใจ ในตัว ธุรกิจที่จะเข้าไปลงทุน หรือ สินทรัพย์นั้นๆ เป็นอย่างดีว่า ในอนาคตข้างหน้าธุรกิจ หรือ สินทรัพย์เหล่านี้ จะมีการเติบโต และให้ผลตอบแทนที่ดีได้ 🚩2. การเรียนรู้ตลอดชีวิต การลงทุน เราควรทำตัวเป็นน้ำครึ่งแก้ว และเรียนรู้ ปรับปรุง เพิ่มเติม อัพเดต ความรู้ และสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อสามารถนำมาประยุกต์ใช้ และต่อยอด กับการลงทุนได้ 🚩3. การจัดการและควบคุมอารมณ์ ควรมีสภาวะจิตใจ และความมั่นคงทางอารมณ์ โดยไม่ลงทุนไปตามกระแส หรือ การชักจูง ชี้นำ จากกระแสข่าวต่างๆ หรือ สามารถจัดการกับ อารมณ์ความโลภ และ ความกลัวต่างๆ นิ่ง และ ไม่ตะหนกกับสิ่งต่างๆ มากจนเกินไป 🚩4. การกระจายความเสี่ยง ควรกระจายความเสี่ยง ในการลงทุน ไม่ควรลงทุน กับสิ่งใด สิ่งหนึ่งเพียงอย่างเดียว เช่น การลงทุนในหุ้น ควรกระจายความเสี่ยงไปในหลายอุตสาหกรรม เพื่อที่ว่า เมื่ออุตสาหกรรมใด อุตสาหกรรมหนึ่ง หุ้นมีราคาลดลง เรายังมีหุ้นในอุตสาหกรรมอื่นๆ มาชดเชยพอร์ตโดยรวมของเราได้ 🚩5. การมีวินัย ข้อนี้สำคัญมาก นักลงทุนต้องมีวินัย โดยมีเป้าหมาย และแผนการลงทุนที่ชัดเจน เช่น ลงทุนระยะยาว เพื่อปันผล ต้องสามารถถือรอ เพื่อเงินปันผลได้ หรือ เก็งกำไรกินส่วนต่างของราคา ในหุ้นระยะสั้น และระยะกลาง เมื่อราคาหุ้นที่ซื้อ ราคาตกอย่างฉับพลัน ต้องมีวินัย ในการตัดขาดทุนด้วย ไม่ใช่เปลี่ยนไป ถือหุ้นในระยะยาว เป็นต้น 💥ทั้ง 5 ข้อนี้ เป็น Mindset หรือ แนวคิดในการลงทุน เพียงบางส่วนเท่านั้น นักลงทุนทุกท่านควรเรียนรู้ จากประสบการณ์จริง และ นำทั้งจุดที่ประสบความสำเร็จ และ จุดข้อผิดพลาดต่างๆ มาประยุกต์ใช้ ก็จะทำให้เรา มี Mindset หรือ แนวคิดการลงทุน ที่สามารถลดความเสี่ยง ในด้านต่างๆ ลงได้ ไม่มากก็น้อย #หุ้นติดดอย #การลงทุน #5Mindsetหรือแนวคิดในการลงทุนที่ควรต้องมี #thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 161 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥💥วันนี้แอดมิน เพจหุ้นติดดอย
    จะมาแนะนำ Mindset หรือ แนวคิด
    ที่นักลงทุนควรต้องมี ซึ่งมี 5 ข้อสำคัญได้แก่

    🚩1. การมองระยะยาว
    การลงทุน เช่น ในหุ้น หรือ สินทรัพย์ใดๆก็ตาม
    ควรมองการลงทุนในระยะยาว เพื่อลดความผันแปร
    จากการเก็งกำไรระยะสั้นๆ ซึ่งการมองการลงทุน
    ระยะยาวเราควรมีความรู้ และ ความเข้าใจ ในตัว
    ธุรกิจที่จะเข้าไปลงทุน หรือ สินทรัพย์นั้นๆ เป็นอย่างดีว่า
    ในอนาคตข้างหน้าธุรกิจ หรือ สินทรัพย์เหล่านี้
    จะมีการเติบโต และให้ผลตอบแทนที่ดีได้

    🚩2. การเรียนรู้ตลอดชีวิต
    การลงทุน เราควรทำตัวเป็นน้ำครึ่งแก้ว และเรียนรู้
    ปรับปรุง เพิ่มเติม อัพเดต ความรู้ และสิ่งใหม่ๆ
    อยู่เสมอ เพื่อสามารถนำมาประยุกต์ใช้ และต่อยอด
    กับการลงทุนได้

    🚩3. การจัดการและควบคุมอารมณ์
    ควรมีสภาวะจิตใจ และความมั่นคงทางอารมณ์
    โดยไม่ลงทุนไปตามกระแส หรือ การชักจูง ชี้นำ
    จากกระแสข่าวต่างๆ หรือ สามารถจัดการกับ
    อารมณ์ความโลภ และ ความกลัวต่างๆ นิ่ง และ
    ไม่ตะหนกกับสิ่งต่างๆ มากจนเกินไป

    🚩4. การกระจายความเสี่ยง
    ควรกระจายความเสี่ยง ในการลงทุน ไม่ควรลงทุน
    กับสิ่งใด สิ่งหนึ่งเพียงอย่างเดียว เช่น การลงทุนในหุ้น
    ควรกระจายความเสี่ยงไปในหลายอุตสาหกรรม
    เพื่อที่ว่า เมื่ออุตสาหกรรมใด อุตสาหกรรมหนึ่ง
    หุ้นมีราคาลดลง เรายังมีหุ้นในอุตสาหกรรมอื่นๆ
    มาชดเชยพอร์ตโดยรวมของเราได้

    🚩5. การมีวินัย
    ข้อนี้สำคัญมาก นักลงทุนต้องมีวินัย โดยมีเป้าหมาย
    และแผนการลงทุนที่ชัดเจน เช่น ลงทุนระยะยาว
    เพื่อปันผล ต้องสามารถถือรอ เพื่อเงินปันผลได้
    หรือ เก็งกำไรกินส่วนต่างของราคา ในหุ้นระยะสั้น
    และระยะกลาง เมื่อราคาหุ้นที่ซื้อ ราคาตกอย่างฉับพลัน
    ต้องมีวินัย ในการตัดขาดทุนด้วย ไม่ใช่เปลี่ยนไป
    ถือหุ้นในระยะยาว เป็นต้น

    💥ทั้ง 5 ข้อนี้ เป็น Mindset หรือ แนวคิดในการลงทุน
    เพียงบางส่วนเท่านั้น นักลงทุนทุกท่านควรเรียนรู้
    จากประสบการณ์จริง และ นำทั้งจุดที่ประสบความสำเร็จ
    และ จุดข้อผิดพลาดต่างๆ มาประยุกต์ใช้ ก็จะทำให้เรา
    มี Mindset หรือ แนวคิดการลงทุน ที่สามารถลดความเสี่ยง
    ในด้านต่างๆ ลงได้ ไม่มากก็น้อย

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #5Mindsetหรือแนวคิดในการลงทุนที่ควรต้องมี
    #thaitimes
    💥💥วันนี้แอดมิน เพจหุ้นติดดอย จะมาแนะนำ Mindset หรือ แนวคิด ที่นักลงทุนควรต้องมี ซึ่งมี 5 ข้อสำคัญได้แก่ 🚩1. การมองระยะยาว การลงทุน เช่น ในหุ้น หรือ สินทรัพย์ใดๆก็ตาม ควรมองการลงทุนในระยะยาว เพื่อลดความผันแปร จากการเก็งกำไรระยะสั้นๆ ซึ่งการมองการลงทุน ระยะยาวเราควรมีความรู้ และ ความเข้าใจ ในตัว ธุรกิจที่จะเข้าไปลงทุน หรือ สินทรัพย์นั้นๆ เป็นอย่างดีว่า ในอนาคตข้างหน้าธุรกิจ หรือ สินทรัพย์เหล่านี้ จะมีการเติบโต และให้ผลตอบแทนที่ดีได้ 🚩2. การเรียนรู้ตลอดชีวิต การลงทุน เราควรทำตัวเป็นน้ำครึ่งแก้ว และเรียนรู้ ปรับปรุง เพิ่มเติม อัพเดต ความรู้ และสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อสามารถนำมาประยุกต์ใช้ และต่อยอด กับการลงทุนได้ 🚩3. การจัดการและควบคุมอารมณ์ ควรมีสภาวะจิตใจ และความมั่นคงทางอารมณ์ โดยไม่ลงทุนไปตามกระแส หรือ การชักจูง ชี้นำ จากกระแสข่าวต่างๆ หรือ สามารถจัดการกับ อารมณ์ความโลภ และ ความกลัวต่างๆ นิ่ง และ ไม่ตะหนกกับสิ่งต่างๆ มากจนเกินไป 🚩4. การกระจายความเสี่ยง ควรกระจายความเสี่ยง ในการลงทุน ไม่ควรลงทุน กับสิ่งใด สิ่งหนึ่งเพียงอย่างเดียว เช่น การลงทุนในหุ้น ควรกระจายความเสี่ยงไปในหลายอุตสาหกรรม เพื่อที่ว่า เมื่ออุตสาหกรรมใด อุตสาหกรรมหนึ่ง หุ้นมีราคาลดลง เรายังมีหุ้นในอุตสาหกรรมอื่นๆ มาชดเชยพอร์ตโดยรวมของเราได้ 🚩5. การมีวินัย ข้อนี้สำคัญมาก นักลงทุนต้องมีวินัย โดยมีเป้าหมาย และแผนการลงทุนที่ชัดเจน เช่น ลงทุนระยะยาว เพื่อปันผล ต้องสามารถถือรอ เพื่อเงินปันผลได้ หรือ เก็งกำไรกินส่วนต่างของราคา ในหุ้นระยะสั้น และระยะกลาง เมื่อราคาหุ้นที่ซื้อ ราคาตกอย่างฉับพลัน ต้องมีวินัย ในการตัดขาดทุนด้วย ไม่ใช่เปลี่ยนไป ถือหุ้นในระยะยาว เป็นต้น 💥ทั้ง 5 ข้อนี้ เป็น Mindset หรือ แนวคิดในการลงทุน เพียงบางส่วนเท่านั้น นักลงทุนทุกท่านควรเรียนรู้ จากประสบการณ์จริง และ นำทั้งจุดที่ประสบความสำเร็จ และ จุดข้อผิดพลาดต่างๆ มาประยุกต์ใช้ ก็จะทำให้เรา มี Mindset หรือ แนวคิดการลงทุน ที่สามารถลดความเสี่ยง ในด้านต่างๆ ลงได้ ไม่มากก็น้อย #หุ้นติดดอย #การลงทุน #5Mindsetหรือแนวคิดในการลงทุนที่ควรต้องมี #thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 203 มุมมอง 132 0 รีวิว
  • วิกฤตน้ำท่วมปางช้าง20กว่าแห่งที่แม่แตง เชียงใหม่ ต้องเร่งอพยพช้างประสบภัย500ตัวขึ้นดอย ขาดแคลนอาหาร บางตัวจมน้ำตายและลอยคอในสายน้ำเชี่ยวกราก

    4 ตุลาคม 2567 -รายงานข่าวเมติชนออนไลน์ ระบุว่า น.ส.โซไรดา ซาลวาลา เลขาธิการมูลนิธิเพื่อนช้าง เปิดเผยกับมติชนว่า จากเหตุการน้ำท่วมพื้นที่ อ.แม่แตง แม่วาง จ.เชียงใหม่ ที่วิกฤตอย่างยิ่ง โดยน้ำในแม่น้ำแม่แตงไหลเชี่ยวอย่างมาก ซึ่งพื้นที่ อ.แม่วาง แม่แตง นั้น มีปางช้างตั้งอยู่ประมาณ 20 กว่าปาง มีช้างรวมเกือบ 500 ตัว ตอนนี้ ทั้งหมด ย้ายขึ้นไปอยู่บนดอยหมดแล้ว ที่น่าเศร้าคือ ได้รับรายงานว่า ที่ อ.แม่แตงนั้น มีช้างลอยคอมา 2 เชือก ท่ามกลางน้ำที่เชี่ยวกราก เจ้าหน้าที่พยายามตัวเอาไว้ได้ 1 เชือก แต่อีก 1 เชือกนั้นติดตอไม้ และเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปช่วยออกมาได้ จึงจมน้ำตายในที่สุด สร้างความเศร้าใจแก่ทุกคนที่เห็นภาพอย่างยิ่ง โดยยังไม่รู้ว่า ช้างทั้ง 2 ตัว นั้น เป็นช้างจากปางของใคร

    น.ส.โซไรดา กล่าวว่า ทราบด้วยว่า ยังมีช้างอีก 30 ตัว ยังลอยคออยู่ในแม่น้ำแม่แตง ซึ่งไหลเชี่ยวมาก ถามว่า ช้างว่ายน้ำได้หรือเปล่า ก็ว่ายได้ แต่สภาพที่น้ำเชี่ยวแบบนี้ ก็ไม่ต่างจากคนที่ลอยคออยู่ในน้ำกลางน้ำเชี่ยว แม้ว่าว่ายน้ำเป็นแต่คงอยู่ในสภาพตะเกียกตะกาย หากหมดแรงเมื่อไรก็คงจมน้ำเมื่อนั้น

    “ตอนนี้ก็ได้แต่คอยลุ้น และช่วยกันทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายปกครอง และทหาร ตอนนี้ต้องใช้โดรน บินหา แต่ปัญหาคือ ตอนนี้ใกล้ค่ำแล้ว ฝนก็ยังตกอยู่ เข้าใจว่า หากมืด ก็คงต้องถอนตัวออกมาจากพื้นที่ก่อน เพราะคงทำอะไรได้ไม่มาก”เลขาธิการมูลนิธิเพื่อช้าง กล่าว

    ด้าน นายวิโรจน์ สุภโชคสหกุล ที่ปรึกษาฝ่ายวิชาการมูลนิธิเพื่อช้าง กล่าวว่า ปัญหาเวลานี้คือ ช้างเกือบ 500 เชือก จากปางช้าง แม่แตง แม่วาง ที่ย้ายขึ้นไปอยู่บนดอยนั้น ไม่มีอาหารกิน แม้จะมีผู้เอาหญ้าขึ้นไปให้ 200 มัด แล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าน้ำจะลดเมื่อไร ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ต้องเฝ้าระวังอย่างไม่ให้เดินเพ่นพ่านบนดอย แต่ยังดีกว่า ลอยคอแช่น้ำอยู่ด้านล่าง

    ที่มา https://www.matichon.co.th/region/news_4828398#m1uoo0hdcn91kt8ezl4

    #Thaitimes
    วิกฤตน้ำท่วมปางช้าง20กว่าแห่งที่แม่แตง เชียงใหม่ ต้องเร่งอพยพช้างประสบภัย500ตัวขึ้นดอย ขาดแคลนอาหาร บางตัวจมน้ำตายและลอยคอในสายน้ำเชี่ยวกราก 4 ตุลาคม 2567 -รายงานข่าวเมติชนออนไลน์ ระบุว่า น.ส.โซไรดา ซาลวาลา เลขาธิการมูลนิธิเพื่อนช้าง เปิดเผยกับมติชนว่า จากเหตุการน้ำท่วมพื้นที่ อ.แม่แตง แม่วาง จ.เชียงใหม่ ที่วิกฤตอย่างยิ่ง โดยน้ำในแม่น้ำแม่แตงไหลเชี่ยวอย่างมาก ซึ่งพื้นที่ อ.แม่วาง แม่แตง นั้น มีปางช้างตั้งอยู่ประมาณ 20 กว่าปาง มีช้างรวมเกือบ 500 ตัว ตอนนี้ ทั้งหมด ย้ายขึ้นไปอยู่บนดอยหมดแล้ว ที่น่าเศร้าคือ ได้รับรายงานว่า ที่ อ.แม่แตงนั้น มีช้างลอยคอมา 2 เชือก ท่ามกลางน้ำที่เชี่ยวกราก เจ้าหน้าที่พยายามตัวเอาไว้ได้ 1 เชือก แต่อีก 1 เชือกนั้นติดตอไม้ และเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปช่วยออกมาได้ จึงจมน้ำตายในที่สุด สร้างความเศร้าใจแก่ทุกคนที่เห็นภาพอย่างยิ่ง โดยยังไม่รู้ว่า ช้างทั้ง 2 ตัว นั้น เป็นช้างจากปางของใคร น.ส.โซไรดา กล่าวว่า ทราบด้วยว่า ยังมีช้างอีก 30 ตัว ยังลอยคออยู่ในแม่น้ำแม่แตง ซึ่งไหลเชี่ยวมาก ถามว่า ช้างว่ายน้ำได้หรือเปล่า ก็ว่ายได้ แต่สภาพที่น้ำเชี่ยวแบบนี้ ก็ไม่ต่างจากคนที่ลอยคออยู่ในน้ำกลางน้ำเชี่ยว แม้ว่าว่ายน้ำเป็นแต่คงอยู่ในสภาพตะเกียกตะกาย หากหมดแรงเมื่อไรก็คงจมน้ำเมื่อนั้น “ตอนนี้ก็ได้แต่คอยลุ้น และช่วยกันทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายปกครอง และทหาร ตอนนี้ต้องใช้โดรน บินหา แต่ปัญหาคือ ตอนนี้ใกล้ค่ำแล้ว ฝนก็ยังตกอยู่ เข้าใจว่า หากมืด ก็คงต้องถอนตัวออกมาจากพื้นที่ก่อน เพราะคงทำอะไรได้ไม่มาก”เลขาธิการมูลนิธิเพื่อช้าง กล่าว ด้าน นายวิโรจน์ สุภโชคสหกุล ที่ปรึกษาฝ่ายวิชาการมูลนิธิเพื่อช้าง กล่าวว่า ปัญหาเวลานี้คือ ช้างเกือบ 500 เชือก จากปางช้าง แม่แตง แม่วาง ที่ย้ายขึ้นไปอยู่บนดอยนั้น ไม่มีอาหารกิน แม้จะมีผู้เอาหญ้าขึ้นไปให้ 200 มัด แล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าน้ำจะลดเมื่อไร ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ต้องเฝ้าระวังอย่างไม่ให้เดินเพ่นพ่านบนดอย แต่ยังดีกว่า ลอยคอแช่น้ำอยู่ด้านล่าง ที่มา https://www.matichon.co.th/region/news_4828398#m1uoo0hdcn91kt8ezl4 #Thaitimes
    WWW.MATICHON.CO.TH
    สุดสลดช้างจมน้ำตาย แล้ว 1 หนีท่วมเชียงใหม่ ลอยคออีก 30 เชือก ยังไม่รู้ชะตากรรม
    สุดสลดช้าง 2 เชือก ลอยคอกลางน้ำเชี่ยวกรากแต่หมดแรง ตะเกียกตะกายไปติดตอไม้จมน้ำตาย อีกตัวช่วยได้หวุดหวิด
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 172 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • 4 ตุลาคม 2567-Live รายการ NewsHour

    https://www.youtube.com/live/7xdoaH282NM?si=T4o4wsQkVyWc3QTP

    #Thaitimes
    4 ตุลาคม 2567-Live รายการ NewsHour https://www.youtube.com/live/7xdoaH282NM?si=T4o4wsQkVyWc3QTP #Thaitimes
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดอยสุเทพเกิดเหตุดินสไลด์ปิดทางเข้าออกหมู่บ้านดอยปุย บ้านพังเสียหาย 1 หลัง แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเป็นอันตราย พบนักท่องเที่ยว 30 คน ติดค้าง ทางผู้ใหญ่บ้านต้องจัดรถช่วยเหลือลำเลียงออกจากหมู่บ้าน แต่ในส่วนของรถนักท่องเที่ยวอีกประมาณ 10 คัน ต้องจอดทิ้งไว้

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000094207

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
  • พบอู่ถอดถังแก๊ส "บัสมรณะ" เป็นอู่เถื่อน (04/10/67) #news1 #บัสมรณะ #ไฟไหม้รถบัส #อู่ถอดถังแก๊ส
    พบอู่ถอดถังแก๊ส "บัสมรณะ" เป็นอู่เถื่อน (04/10/67) #news1 #บัสมรณะ #ไฟไหม้รถบัส #อู่ถอดถังแก๊ส
    Like
    Sad
    Angry
    Love
    Yay
    20
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 411 มุมมอง 380 0 รีวิว
  • พบอู่ถอดถังแก๊ส "บัสมรณะ" เป็นอู่เถื่อน (04/10/67) #news1 #บัสมรณะ #ไฟไหม้รถบัส #อู่ถอดถังแก๊ส
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 380 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 รีวิว
  • Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 61 0 รีวิว
  • Newsstory : สนธิเผย สาเหตุที่ทักษิณไม่ยอมเข้าคุก เป็นเพราะ...
    แล้วทำไมสุดท้ายถึงยอม
    #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่
    #สาเหตุ #ทักษิณ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 411 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • เตรียมรับวันเสาร์​💜💜💜💜💜💜💜💜💜💜💜💜💜💜💜💜💜💜💜💜💜💜
    เตรียมรับวันเสาร์​💜💜💜💜💜💜💜💜💜💜💜💜💜💜💜💜💜💜💜💜💜💜
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • สวัสดีเพื่อนพี่น้องใหม่ทุกท่านครับ
    สวัสดีเพื่อนพี่น้องใหม่ทุกท่านครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตรวจสอบอู่รถโคราช ที่ถอดถังก๊าซ “ชินบุตรทัวร์” ไร้เงาเจ้าของ พบเป็นอู่เถื่อนไร้ใบอนุญาต ลักษณะใช้เป็นสถานที่ชำแหละรถ ขณะที่มีหลักฐาน ถังก๊าซและเบาะรถชินบุตรทัวร์ ถอดทิ้งไว้เกลื่อน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000094275

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ตรวจสอบอู่รถโคราช ที่ถอดถังก๊าซ “ชินบุตรทัวร์” ไร้เงาเจ้าของ พบเป็นอู่เถื่อนไร้ใบอนุญาต ลักษณะใช้เป็นสถานที่ชำแหละรถ ขณะที่มีหลักฐาน ถังก๊าซและเบาะรถชินบุตรทัวร์ ถอดทิ้งไว้เกลื่อน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000094275 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Angry
    Yay
    15
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 501 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • รพ.ธรรมศาสตร์ฯแถลงผลการรักษาเด็กนักเรียนหญิงสองรายอายุ 7 ขวบและ9 ขวบได้รับบาดเจ็บกรณีเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้ รถบัสทัศนศึกษา โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ได้รับการส่งต่อผู้ป่วยจากโรงพยาบาลแพทย์รังสิต 2 ราย ล่าสุด(13:00น.) แพทย์ได้ประเมินอาการ ดังนี้
    .
    รายที่ 1 เด็กหญิงอายุ 7 ปี แพทย์ประเมินแล้วว่า ร่างกายถูกไฟไหม้บริเวณใบหน้า และลำตัว แผลไหม้ ระดับ ที่ 2 ทั้งหมดประมาณ 13% สัญญาณชีพปกติ หยุดการให้ยากระตุ้นความดันโลหิต ผู้ป่วยหายใจผ่านท่อช่วยหายใจโดยการใช้เครื่องช่วยหายใจ สามารถลดการช่วยเหลือจากเครื่องช่วยหายใจ ให้ยาแก้ปวด และให้ยานอนหลับต่อเนื่อง ปัสสาวะออกปกติ เริ่มรับอาหารทางการแพทย์ผ่านสายให้อาหารทางจมูกได้ ได้รับการประเมินทางเดินหายใจด้วยการส่องกล้องทางเดินหายใจโดยกุมารแพทย์ด้านระบบทางเดินหายใจ พบทางเดินหายใจบวมลดลง ใช้อุปกรณ์บีบคลายขาทั้ง 2 ข้าง เพื่อป้องกันลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำส่วนลึกอุดตัน แผลดี ปากบวมลดลง ไม่พบการติดเชื้อของแผล และยังคงต้องทำความสะอาดแผลและป้ายยาต้านจุลชีพวันละครั้ง ทีมแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูใช้เฝือกร่วมกับอุปกรณ์ประคองมือและแขนสูง เพื่อช่วยลดบวม และมีแผนใส่อุปกรณ์รัดลดแผลเป็นในลำดับถัดไป เปลือกตาและเยื่อตายุบบวมลง สามารถหลับตาลืมตาพอได้ เยื่อหุ้มรก และ eye corneal shield อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ทั้ง 2 ข้าง
    .
    รายที่ 2 เด็กหญิงอายุ 9 ปี แพทย์ประเมินแล้วว่า ร่างกายถูกไฟไหม้บริเวณใบหน้า คอ แขน และมือ ทั้ง 2 ข้าง แผลไหม้ระดับที่สอง ทั้งหมดประมาณ 30% สัญญาณชีพปกติ แต่ยังคงต้องใส่ท่อช่วยหายใจ สามารถลดการช่วยเหลือจากเครื่องช่วยหายใจได้ เริ่มรับอาหารทางการแพทย์ผ่านสายให้อาหารทางจมูกได้ ให้ยาแก้ปวด และให้ยานอนหลับต่อเนื่อง สามารถลดการให้สารน้ำและเกลือแร่ทดแทนเข้าทางหลอดเลือดดำได้ โดยประเมินสารน้ำในร่างกายมีภาวะน้ำเกิน เริ่มให้ยาขับปัสสาวะทางหลอดเลือดดำ บาดแผลบริเวณใบหน้ายุบบวมลง ความดันบริเวณแขนทั้ง 2 ข้างลดลง เนื้อเยื่อผิวหนังดีขึ้น กระบวนการอักเสบลดลง มีการฟื้นฟูของเนื้อเยื่อ ผิวหนัง ทีมแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูใช้เฝือกร่วมกับอุปกรณ์ประคองมือและแขนสูง เพื่อช่วยลดบวม ในส่วนของเปลือกตาและเยื่อตายุบบวมลง สามารถหลับตา ลืมตาพอได้ เยื่อหุ้มรก และ eye corneal shield อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมทั้ง 2 ข้าง

    ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/8eyigjYBqXrF5ePG/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    รพ.ธรรมศาสตร์ฯแถลงผลการรักษาเด็กนักเรียนหญิงสองรายอายุ 7 ขวบและ9 ขวบได้รับบาดเจ็บกรณีเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้ รถบัสทัศนศึกษา โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ได้รับการส่งต่อผู้ป่วยจากโรงพยาบาลแพทย์รังสิต 2 ราย ล่าสุด(13:00น.) แพทย์ได้ประเมินอาการ ดังนี้ . รายที่ 1 เด็กหญิงอายุ 7 ปี แพทย์ประเมินแล้วว่า ร่างกายถูกไฟไหม้บริเวณใบหน้า และลำตัว แผลไหม้ ระดับ ที่ 2 ทั้งหมดประมาณ 13% สัญญาณชีพปกติ หยุดการให้ยากระตุ้นความดันโลหิต ผู้ป่วยหายใจผ่านท่อช่วยหายใจโดยการใช้เครื่องช่วยหายใจ สามารถลดการช่วยเหลือจากเครื่องช่วยหายใจ ให้ยาแก้ปวด และให้ยานอนหลับต่อเนื่อง ปัสสาวะออกปกติ เริ่มรับอาหารทางการแพทย์ผ่านสายให้อาหารทางจมูกได้ ได้รับการประเมินทางเดินหายใจด้วยการส่องกล้องทางเดินหายใจโดยกุมารแพทย์ด้านระบบทางเดินหายใจ พบทางเดินหายใจบวมลดลง ใช้อุปกรณ์บีบคลายขาทั้ง 2 ข้าง เพื่อป้องกันลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำส่วนลึกอุดตัน แผลดี ปากบวมลดลง ไม่พบการติดเชื้อของแผล และยังคงต้องทำความสะอาดแผลและป้ายยาต้านจุลชีพวันละครั้ง ทีมแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูใช้เฝือกร่วมกับอุปกรณ์ประคองมือและแขนสูง เพื่อช่วยลดบวม และมีแผนใส่อุปกรณ์รัดลดแผลเป็นในลำดับถัดไป เปลือกตาและเยื่อตายุบบวมลง สามารถหลับตาลืมตาพอได้ เยื่อหุ้มรก และ eye corneal shield อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม ทั้ง 2 ข้าง . รายที่ 2 เด็กหญิงอายุ 9 ปี แพทย์ประเมินแล้วว่า ร่างกายถูกไฟไหม้บริเวณใบหน้า คอ แขน และมือ ทั้ง 2 ข้าง แผลไหม้ระดับที่สอง ทั้งหมดประมาณ 30% สัญญาณชีพปกติ แต่ยังคงต้องใส่ท่อช่วยหายใจ สามารถลดการช่วยเหลือจากเครื่องช่วยหายใจได้ เริ่มรับอาหารทางการแพทย์ผ่านสายให้อาหารทางจมูกได้ ให้ยาแก้ปวด และให้ยานอนหลับต่อเนื่อง สามารถลดการให้สารน้ำและเกลือแร่ทดแทนเข้าทางหลอดเลือดดำได้ โดยประเมินสารน้ำในร่างกายมีภาวะน้ำเกิน เริ่มให้ยาขับปัสสาวะทางหลอดเลือดดำ บาดแผลบริเวณใบหน้ายุบบวมลง ความดันบริเวณแขนทั้ง 2 ข้างลดลง เนื้อเยื่อผิวหนังดีขึ้น กระบวนการอักเสบลดลง มีการฟื้นฟูของเนื้อเยื่อ ผิวหนัง ทีมแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูใช้เฝือกร่วมกับอุปกรณ์ประคองมือและแขนสูง เพื่อช่วยลดบวม ในส่วนของเปลือกตาและเยื่อตายุบบวมลง สามารถหลับตา ลืมตาพอได้ เยื่อหุ้มรก และ eye corneal shield อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมทั้ง 2 ข้าง ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/8eyigjYBqXrF5ePG/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • เขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มระบายน้ำเป็น 2,000 ลบ.ม./วินาที หลังฝนตกทำให้น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นต่อเนื่อง ด้านท้ายเขื่อนจะมีพื้นที่ถูกน้ำท่วมเพิ่มขึ้น ขอ ปชช.เตรียมรับสถานการณ์

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000094288

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    เขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มระบายน้ำเป็น 2,000 ลบ.ม./วินาที หลังฝนตกทำให้น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นต่อเนื่อง ด้านท้ายเขื่อนจะมีพื้นที่ถูกน้ำท่วมเพิ่มขึ้น ขอ ปชช.เตรียมรับสถานการณ์ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000094288 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Yay
    Sad
    31
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 487 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • สวัสดีคนที่เข้ามาดูผม ชื่อเจมส์ งานอดิเรก เขียนนิยาย เป็นการผสม หลากหลายแนวเข้าด้วยกัน
    จะพยามเขียนให้จบ
    สวัสดีคนที่เข้ามาดูผม ชื่อเจมส์ งานอดิเรก เขียนนิยาย เป็นการผสม หลากหลายแนวเข้าด้วยกัน จะพยามเขียนให้จบ
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขออภัยนะคะ……ไปเที่ยวมานิดนึง แต่……ในฐานะติ่งอาวุโส ก็ต้องรีบกลับมาประจำที่ค่าาา……พี่ปูเค้ากำลังฮ็อต…!!!

    ตอนยี่สิบสอง……เรื่องการแทรกแซงในยูเครนไม่ใช่เรื่องใหม่……ยังไงก็ต้องเป็นสนามรบ……!!!

    2013 ในระหว่างที่รัสเซียกำลังพุ่งแรงในเรื่องของเศรษฐกิจและการส่งพลังงาน อเมริกาก็เริ่มอึดอัด……เพราะระหว่างสัมพันธภาพดีๆระหว่างรัสเซียกับอเมริกานั้น……ก็แค่ภาพลักษณ์ภายนอกในสำนักข่าวเท่านั้น
    ที่เหลือคือ…การคุมเชิงกันแบบไม่กระพริบตา……
    โชคได้เข้าข้างปูติน……แบบบุญหล่นทับ……ในวันที่ 23 มิถุนายน 2013
    ที่สายการบินแอโรฟลอตได้นำชายอเมริกันคนหนึ่งมาสู่แผ่นดินรัสเซีย
    เขาคนนั้นคือ Edward Snowden ชายวัย 40 ปี ที่เคยเป็นหนึ่งในทีมของบริษัท Dell และ Booz Allen Hamilton ที่เป็นบริษัทที่ดูแลระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมดของ NSA (National Security Agency) หรือ ฝ่ายความมั่นคงของสหรัฐอเมริกา
    สโนว์เดน……ได้พบกับความไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับรัฐบาลสหรัฐ ด้วยหลักฐานหลายๆอย่างที่มีการดักฟังโทรศัพท์ประชาชน และ ควบคุมเพื่อเข้าถึงคอมพิวเตอร์ในทุกที่ ที่ข้ามไปถึง แคนาดา, อังกฤษ, ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์
    เขาได้ข้อมูลไปกระจายใน WikiLeaks และ หนังสือพิมพ์ออนไลน์ เช่น The Guardian, The Washington Post
    และได้หลบหนีไปยังฮ่องกง เพื่อไปพบกับใครบางคนที่สถานกงสุลรัสเซียที่นั่น……
    จากนั้นเขาตั้งใจจะไปที่คิวบา………แต่ทางสหรัฐอเมริกาได้ประกาศอายัดพาสปอร์ตของเขาและมีหมายจับ……นั่นหมายความว่าเขาจะไปที่ไหนไม่ได้ นอกจากจะต้องส่งกลับ หรือ ต้องติดอยู่ที่สนามบินที่ฮ่องกงเพื่อรอการจับกุมตัว

    แต่ทางฮ่องกงได้ส่งเขาขึ้นเครื่องบินไปที่มอสโคว์..…ที่ทางรัฐบาลของปูตินปูพรมแดงรอรับ……ที่หัวหน้าของ FSB ไปรอรับด้วยตัวเองในฐานะแขกผู้มีเกียรติและถือว่าเป็นว่าวีรบุรุษ……

    ปธน. บารัค โอบามา พยายามที่จะติดต่อขอตัว”ผู้ร้าย” กลับไป โดยอ้างว่าสโนว์เดนเป็นคนขายชาติ และเป็นพิษเป็นภัยกับความมั่นคง
    รวมทั้งสัญญาว่า……จะไม่มีการทำร้าย หรือ จับไปทารุณกรรม จะดำเนินคดีตามกฏหมายเท่านั้น……
    ปูตินตอกกลับไปว่า……เขาไม่ได้มีความผิดอะไรในรัสเซีย และ ด้วยสิทธิมนุษยชน เขามีสิทธิที่จะขออยู่ในรัสเซียได้ เพราะมีคุณสมบัติครบถ้วน
    ว่าแล้ว…สโนว์เดนก็ได้รับวีซ่าลี้ภัยให้อยู่ในรัสเซียแบบยาวนาน

    การเปิดเผยความลับของสโนว์เดนนี้ ผู้นำหลายชาติจึงได้ทราบว่า โทรศัพท์ของตัวเองมีการถูกดักฟัง เช่น นางแองเจลา เมอร์เคิล ด้วยระบบ
    SORM (System of Operative-Investigative Measures) ที่อเมริกาได้สร้างเป็นมุ้งคลุมไว้ทั่วเพื่อเป็นสปายทางระบบใยแก้ว

    เมื่อความลับจากสโนว์เดนที่แจกแจงออกมาให้ชาวโลกได้ทราบ
    โอบามายิ่งแค้นปูตินมากขึ้นเป็นทวีคูณ……เขามีกำหนดการที่จะต้องพบกับปูตินในเดือนกันยายน ที่เซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก ในการประชุม G20
    แต่…ขอยกเลิก……โดยอ้างกับนักข่าวว่า พบไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะรัสเซียทำตรงกันข้ามทุกอย่าง เช่นการเท่าเทียมทางกลุ่มรักร่วมเพศ,
    การลดขนาดการสร้างอาวุธ, ยกเลิกการรับเลี้ยงดูเด็ก และความวุ่นวายที่ตะวันออกกลาง
    แต่……โอบามาไม่ปริปากในเรื่องการรั่วไหลของความลับที่กำลังเป็นข่าวดังในขณะนั้น…
    ทางฝ่ายโฆษกของรัสเซียได้ออกมาตอบโต้ว่า……ตบมือข้างเดียวย่อมไม่ดัง……!!!

    ผลจากวิกิลีคส์ ที่เผยแพร่ไปได้สร้างความหวั่นไหวให้กับหลายๆชาติ
    ที่ตอนนี้เริ่มมองเห็นความสำคัญของรัสเซีย เพราะทุกคนเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า……รัฐบาลรัสเซียได้ล่วงรู้ข้อมูลลับไปมากน้อยแค่ไหน
    สายตาทั้งหมดที่มองไปที่สหรัฐอเมริกา……มีแต่ความเคลือบแคลงและหมดความไว้ใจ
    แม้แต่นิตยสาร Forbes ได้ติดตำแหน่งให้ปูตินเป็นบุคคลที่ทรงอานุภาพที่สุดในโลก
    บุคคลที่ทรงอานุภาพ……ได้หันมาโฟกัสที่ยูเครนอย่างเป็นเรื่องเป็นราว
    เพราะเมื่อปี 2010 ที่ Viktor Yanukovych ได้ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี
    ได้มีความกลมเกลียวเป็นอันดีกับรัสเซีย แต่พอมาปลายสมัย คือ 2015
    เขาเริ่มเปลี่ยนไป……หันไปซบกับตะวันตก ที่กำลังขยายยุโรปมาจนติดชายขอบ เช่น Moldova, Georgia และ Armenia โดยเริ่มจากลงนามในสนธิสัญญาทางการค้า โดยหวังว่าจะต่อยอดไปจนถึงสมาชิกสภายูโรเปี้ยน

    สำหรับปูติน……การก้าวล่วงมาถึงยูเครน……มันเกินกว่าที่จะรับได้
    เพราะเขามองออกว่า……นั่นคือ สิ่งที่ตะวันตกต้องการมากที่สุด คือ พื้นที่ที่จะจัดตั้งเป็นเขตทหารในนามของนาโต้……
    และทางพลังงาน……ที่จะเข้ามาควบคุมแหล่งทรัพยากร……
    ถ้าเกิดมีสงครามระหว่าง รัสเซียกับอเมริกา (มีความเป็นไปได้สูง)
    ทางตะวันตกแทบไม่ต้องลงแรงรบเลย เพราะ มีพลังงานให้ใช้ไม่มีหมด
    มีการหนุนหลังเรื่องเสบียงจากยุโรปไม่อั้น และ สามารถปิดกั้นทะเลบอลติก……
    ดังนั้น ยูเครนคือกล่องดวงใจ……ที่ต้องเต้นตามจังหวะของรัสเซียเท่านั้น
    ปูตินตั้งใจที่จะสร้างกลุ่ม Eurasian Union ขึ้นมา คือ เป็นการรวมตัวของโลกฝั่งตะวันออก ( ตอนนี้ก็เริ่มแล้ว คือ BRICS)
    แต่หัวใจสำคัญคือ ยูเครนที่ปูตินถือว่า เป็นดินแดน(เก่าแก่)ต้นกำเนิดของรัสเซียจะต้องเป็นพื้นที่ที่ปลอดตะวันตก….โดยเริ่มความเป็น Eurasian Union จากพรมแดนตรงนั้น……
    แต่ไปๆมาๆ…ยูเครนได้หันไปโปรตะวันตกอย่างออกหน้าออกตา
    โดยเฉพาะกับนางฮิลลารี คลินตันที่เคยออกมาเย้ยเยาะว่า (2012)
    “ถ้าคิดว่ายูเครนคือหมูในอวย…ฝันไปเถอะ……”

    ก่อนที่ EU จะรับ Lithuania เข้าไปเป็นสมาชิก อียูได้หันมาเร่งให้ยูเครนรีบเซ็นสัญญาค้าขายกันเสียก่อน เพื่อจะได้เอาไว้เป็นเครดิตว่ามีกิจกรรมกับทางยุโรป
    ปูตินพยายามคัดค้าน และพยายามไปเยี่ยมเยียนบ่อยครั้ง แม้กระทั่งในเดือนกรกฎาคม 2013 ที่เป็นวันสำคัญทางศาสนาร่วมกัน ที่ปูตินได้ย้ำเตือนถึงความเป็นออโธด็อกซ์ที่ผูกพันมาตั้งแต่ ปี 988

    ฝ่ายพ่อค้ายูเครนที่โปรตะวันตก เช่น บริษัท Roshen (ขายขนมทอฟฟี่)
    ปูตินสั่งบอยคอต……ห้ามเข้า
    เขาได้พบกับประธานาธิบดี Yanukovych สองครั้งติดกันในเดือนตุลาคมและ พฤศจิกายน และบอกตรงๆว่า……ยูเครนจะต้องเจอกับอะไรบ้าง หากคิดที่จะหวังไปร่วมกับยุโรป……รวมทั้ง พลังงานทั้งหลายแหล่ จะต้องถูกตัดขาด……
    เมื่อโดนเข้าไปเต็มๆ……ท่าทีของยานุโควิชที่มีต่อยูโรปได้เปลี่ยนไปไม่กล้าที่จะออกความเห็นหรือตัดสินใจ เขาได้บอกกับทางอียูไปตรงๆว่า
    ยูเครนเป็นหนี้รัสเซียอยู่ แสนหกหมื่นล้านเหรียญ ถ้าทางสภายุโรปมีหนทางที่จะช่วยแบ่งเบาภาระตรงนี้ได้ ยูเครนก็จะได้มีโอกาสทำสัญญาทางการค้าด้วย
    สภายุโรปได้ยินจำนวนเงิน………ก็ลมจับ ไม่เสนอหน้ามาชวนอีกเลย

    แต่ก่อนที่จะโดนปูตินอัดเข้าไป ยานุโควิชได้ทำการโฆษณาให้ความหวังกับประชาชนไว้ล่วงหน้าแล้วว่า จะเปิดความสัมพันธ์กับยูโรป และจะพยายามเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในสภาอียู
    แต่เมื่อถึงเวลาการประชุม ที่ลิธัวเนีย ในวันที่ 21 พฤศจิกายน
    ยานุโควิช……ได้ประกาศออกสื่อให้ทราบทั่วกันว่า เขาเปลี่ยนใจแล้ว
    ไม่ขอเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสัมพันธ์ทางพานิชย์กับอียู
    อยู่อย่างนี้เหมือนเดิม…
    ผลคือ……ประชาชนออกมาเดินขบวน แน่นหนาเต็มเมือง
    แต่คราวนี้ไม่ใช่ธงสีส้ม……แต่เป็นธงอียูสีฟ้าที่มีดาวเหลืองเป็นวงกลม

    ยานุโควิช……แทบไม่ต้องแก้ไขอะไรเพราะในเวลานั้นเป็นฤดูหนาวที่ใกล้เทศกาลปลายปี ชุมนุมกันก็ได้แค่เดี๋ยวเดียว เขาบินไปจีน ไปทำสัญญาการค้าขาย (แทนยุโรป) ก่อนไปที่จีน เขาแวะพบกับปูตินเพื่อทำการตกลงกันว่า ทางรัสเซียจะให้เงินอุดหนุนสภาพคล่องหมื่นห้าพันล้านเหรียญ
    และลดราคาก๊าส จาก$400 คิวบิตเมตร เป็น $268
    ที่จะเก็บเป็นความลับไปจนกว่าจะถึงวันที่ 9 มีนาคม 2014 ที่ผู้นำทั้งสองจะมีการพบปะกัน แล้วค่อยประกาศอย่างเป็นทางการ………

    เป็นอันว่า…ในยกนี้ ปูตินได้เอาชนะต่อคำเยาะเย้ยของนางคลินตันไปได้

    ตอนนั้นเป็นช่วงที่ใกล้จะเปิดพิธีกีฬาโอลิมปิกที่ Sochi ประมุขของประเทศต่างๆจะเข้ามาเป็นอาคันตุกะ เขาได้ทำการปล่อยนักโทษการเมือง ให้เป็นอิสระ อย่างเช่น Mikhaïl Khodorkovsky ที่จำคุกมาแล้ว10 ปี
    โดยมีการทำสัญญาว่าจะไม่มายุ่งกับการเมืองอีก…… และปลดปล่อยกลุ่มสาวห่าม ***** Riot ตามด้วยกลุ่มที่เคยประท้วงอื่นๆ
    สองวันก่อนที่จะมีพิธีเปิด….กลุ่มนักข่าวสามสิบกว่าคนได้ทำการเขียนข่าวในทำนองว่า เป็นการใช้เงินอย่างสิ้นเปลืองเพื่อสนองความต้องการของคนคนเดียว……
    ปูตินให้สัมภาษณ์โต้ว่า……”การทำให้คนรักเรา สรรเสริญเรา ชื่นชมเรา นั้นทำไม่ยากเลย..”
    นักข่าวถามว่า ต้องทำอย่างไร?
    คำตอบคือ……ก็เวลาที่เราลดขนาดกองทัพ…ยกพื้นที่ให้เขา…ขายทรัพยากรให้เขาอย่างถูกๆไงล่ะ ……แค่นั้นเขาก็จะรักเรา ดีกับเราสารพัด…!!
    แต่เมื่อพิธีงานเปิดผ่านไป.……คนที่เคยติ……คนที่เคยต่อต้านกลับมาชื่นชมในผลงานและภาคภูมิใจไปตามๆกัน

    สำหรับปูติน.……มันคือการเรียกศักดิ์ศรีของประเทศกลับคืนมา เฉกเช่นเมื่อครั้ง Yuri Gagarin ขึ้นสู่ห้วงอวกาศ……และกองทัพแดงได้ชัยชนะในสงครามกับนาซี
    ความยิ่งใหญ่ในครั้งนี้…ได้ส่งข้ามไปถึงสหรัฐอเมริกา ที่ ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ไม่ได้เข้ามาร่วม เพราะหนึ่งคือความขัดแย้ง
    สองคือ……ความบาดตาบาดใจ…!!!!


    Wiwanda W. Vichit
    ขออภัยนะคะ……ไปเที่ยวมานิดนึง แต่……ในฐานะติ่งอาวุโส ก็ต้องรีบกลับมาประจำที่ค่าาา……พี่ปูเค้ากำลังฮ็อต…!!! ตอนยี่สิบสอง……เรื่องการแทรกแซงในยูเครนไม่ใช่เรื่องใหม่……ยังไงก็ต้องเป็นสนามรบ……!!! 2013 ในระหว่างที่รัสเซียกำลังพุ่งแรงในเรื่องของเศรษฐกิจและการส่งพลังงาน อเมริกาก็เริ่มอึดอัด……เพราะระหว่างสัมพันธภาพดีๆระหว่างรัสเซียกับอเมริกานั้น……ก็แค่ภาพลักษณ์ภายนอกในสำนักข่าวเท่านั้น ที่เหลือคือ…การคุมเชิงกันแบบไม่กระพริบตา…… โชคได้เข้าข้างปูติน……แบบบุญหล่นทับ……ในวันที่ 23 มิถุนายน 2013 ที่สายการบินแอโรฟลอตได้นำชายอเมริกันคนหนึ่งมาสู่แผ่นดินรัสเซีย เขาคนนั้นคือ Edward Snowden ชายวัย 40 ปี ที่เคยเป็นหนึ่งในทีมของบริษัท Dell และ Booz Allen Hamilton ที่เป็นบริษัทที่ดูแลระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมดของ NSA (National Security Agency) หรือ ฝ่ายความมั่นคงของสหรัฐอเมริกา สโนว์เดน……ได้พบกับความไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับรัฐบาลสหรัฐ ด้วยหลักฐานหลายๆอย่างที่มีการดักฟังโทรศัพท์ประชาชน และ ควบคุมเพื่อเข้าถึงคอมพิวเตอร์ในทุกที่ ที่ข้ามไปถึง แคนาดา, อังกฤษ, ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ เขาได้ข้อมูลไปกระจายใน WikiLeaks และ หนังสือพิมพ์ออนไลน์ เช่น The Guardian, The Washington Post และได้หลบหนีไปยังฮ่องกง เพื่อไปพบกับใครบางคนที่สถานกงสุลรัสเซียที่นั่น…… จากนั้นเขาตั้งใจจะไปที่คิวบา………แต่ทางสหรัฐอเมริกาได้ประกาศอายัดพาสปอร์ตของเขาและมีหมายจับ……นั่นหมายความว่าเขาจะไปที่ไหนไม่ได้ นอกจากจะต้องส่งกลับ หรือ ต้องติดอยู่ที่สนามบินที่ฮ่องกงเพื่อรอการจับกุมตัว แต่ทางฮ่องกงได้ส่งเขาขึ้นเครื่องบินไปที่มอสโคว์..…ที่ทางรัฐบาลของปูตินปูพรมแดงรอรับ……ที่หัวหน้าของ FSB ไปรอรับด้วยตัวเองในฐานะแขกผู้มีเกียรติและถือว่าเป็นว่าวีรบุรุษ…… ปธน. บารัค โอบามา พยายามที่จะติดต่อขอตัว”ผู้ร้าย” กลับไป โดยอ้างว่าสโนว์เดนเป็นคนขายชาติ และเป็นพิษเป็นภัยกับความมั่นคง รวมทั้งสัญญาว่า……จะไม่มีการทำร้าย หรือ จับไปทารุณกรรม จะดำเนินคดีตามกฏหมายเท่านั้น…… ปูตินตอกกลับไปว่า……เขาไม่ได้มีความผิดอะไรในรัสเซีย และ ด้วยสิทธิมนุษยชน เขามีสิทธิที่จะขออยู่ในรัสเซียได้ เพราะมีคุณสมบัติครบถ้วน ว่าแล้ว…สโนว์เดนก็ได้รับวีซ่าลี้ภัยให้อยู่ในรัสเซียแบบยาวนาน การเปิดเผยความลับของสโนว์เดนนี้ ผู้นำหลายชาติจึงได้ทราบว่า โทรศัพท์ของตัวเองมีการถูกดักฟัง เช่น นางแองเจลา เมอร์เคิล ด้วยระบบ SORM (System of Operative-Investigative Measures) ที่อเมริกาได้สร้างเป็นมุ้งคลุมไว้ทั่วเพื่อเป็นสปายทางระบบใยแก้ว เมื่อความลับจากสโนว์เดนที่แจกแจงออกมาให้ชาวโลกได้ทราบ โอบามายิ่งแค้นปูตินมากขึ้นเป็นทวีคูณ……เขามีกำหนดการที่จะต้องพบกับปูตินในเดือนกันยายน ที่เซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก ในการประชุม G20 แต่…ขอยกเลิก……โดยอ้างกับนักข่าวว่า พบไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะรัสเซียทำตรงกันข้ามทุกอย่าง เช่นการเท่าเทียมทางกลุ่มรักร่วมเพศ, การลดขนาดการสร้างอาวุธ, ยกเลิกการรับเลี้ยงดูเด็ก และความวุ่นวายที่ตะวันออกกลาง แต่……โอบามาไม่ปริปากในเรื่องการรั่วไหลของความลับที่กำลังเป็นข่าวดังในขณะนั้น… ทางฝ่ายโฆษกของรัสเซียได้ออกมาตอบโต้ว่า……ตบมือข้างเดียวย่อมไม่ดัง……!!! ผลจากวิกิลีคส์ ที่เผยแพร่ไปได้สร้างความหวั่นไหวให้กับหลายๆชาติ ที่ตอนนี้เริ่มมองเห็นความสำคัญของรัสเซีย เพราะทุกคนเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า……รัฐบาลรัสเซียได้ล่วงรู้ข้อมูลลับไปมากน้อยแค่ไหน สายตาทั้งหมดที่มองไปที่สหรัฐอเมริกา……มีแต่ความเคลือบแคลงและหมดความไว้ใจ แม้แต่นิตยสาร Forbes ได้ติดตำแหน่งให้ปูตินเป็นบุคคลที่ทรงอานุภาพที่สุดในโลก บุคคลที่ทรงอานุภาพ……ได้หันมาโฟกัสที่ยูเครนอย่างเป็นเรื่องเป็นราว เพราะเมื่อปี 2010 ที่ Viktor Yanukovych ได้ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี ได้มีความกลมเกลียวเป็นอันดีกับรัสเซีย แต่พอมาปลายสมัย คือ 2015 เขาเริ่มเปลี่ยนไป……หันไปซบกับตะวันตก ที่กำลังขยายยุโรปมาจนติดชายขอบ เช่น Moldova, Georgia และ Armenia โดยเริ่มจากลงนามในสนธิสัญญาทางการค้า โดยหวังว่าจะต่อยอดไปจนถึงสมาชิกสภายูโรเปี้ยน สำหรับปูติน……การก้าวล่วงมาถึงยูเครน……มันเกินกว่าที่จะรับได้ เพราะเขามองออกว่า……นั่นคือ สิ่งที่ตะวันตกต้องการมากที่สุด คือ พื้นที่ที่จะจัดตั้งเป็นเขตทหารในนามของนาโต้…… และทางพลังงาน……ที่จะเข้ามาควบคุมแหล่งทรัพยากร…… ถ้าเกิดมีสงครามระหว่าง รัสเซียกับอเมริกา (มีความเป็นไปได้สูง) ทางตะวันตกแทบไม่ต้องลงแรงรบเลย เพราะ มีพลังงานให้ใช้ไม่มีหมด มีการหนุนหลังเรื่องเสบียงจากยุโรปไม่อั้น และ สามารถปิดกั้นทะเลบอลติก…… ดังนั้น ยูเครนคือกล่องดวงใจ……ที่ต้องเต้นตามจังหวะของรัสเซียเท่านั้น ปูตินตั้งใจที่จะสร้างกลุ่ม Eurasian Union ขึ้นมา คือ เป็นการรวมตัวของโลกฝั่งตะวันออก ( ตอนนี้ก็เริ่มแล้ว คือ BRICS) แต่หัวใจสำคัญคือ ยูเครนที่ปูตินถือว่า เป็นดินแดน(เก่าแก่)ต้นกำเนิดของรัสเซียจะต้องเป็นพื้นที่ที่ปลอดตะวันตก….โดยเริ่มความเป็น Eurasian Union จากพรมแดนตรงนั้น…… แต่ไปๆมาๆ…ยูเครนได้หันไปโปรตะวันตกอย่างออกหน้าออกตา โดยเฉพาะกับนางฮิลลารี คลินตันที่เคยออกมาเย้ยเยาะว่า (2012) “ถ้าคิดว่ายูเครนคือหมูในอวย…ฝันไปเถอะ……” ก่อนที่ EU จะรับ Lithuania เข้าไปเป็นสมาชิก อียูได้หันมาเร่งให้ยูเครนรีบเซ็นสัญญาค้าขายกันเสียก่อน เพื่อจะได้เอาไว้เป็นเครดิตว่ามีกิจกรรมกับทางยุโรป ปูตินพยายามคัดค้าน และพยายามไปเยี่ยมเยียนบ่อยครั้ง แม้กระทั่งในเดือนกรกฎาคม 2013 ที่เป็นวันสำคัญทางศาสนาร่วมกัน ที่ปูตินได้ย้ำเตือนถึงความเป็นออโธด็อกซ์ที่ผูกพันมาตั้งแต่ ปี 988 ฝ่ายพ่อค้ายูเครนที่โปรตะวันตก เช่น บริษัท Roshen (ขายขนมทอฟฟี่) ปูตินสั่งบอยคอต……ห้ามเข้า เขาได้พบกับประธานาธิบดี Yanukovych สองครั้งติดกันในเดือนตุลาคมและ พฤศจิกายน และบอกตรงๆว่า……ยูเครนจะต้องเจอกับอะไรบ้าง หากคิดที่จะหวังไปร่วมกับยุโรป……รวมทั้ง พลังงานทั้งหลายแหล่ จะต้องถูกตัดขาด…… เมื่อโดนเข้าไปเต็มๆ……ท่าทีของยานุโควิชที่มีต่อยูโรปได้เปลี่ยนไปไม่กล้าที่จะออกความเห็นหรือตัดสินใจ เขาได้บอกกับทางอียูไปตรงๆว่า ยูเครนเป็นหนี้รัสเซียอยู่ แสนหกหมื่นล้านเหรียญ ถ้าทางสภายุโรปมีหนทางที่จะช่วยแบ่งเบาภาระตรงนี้ได้ ยูเครนก็จะได้มีโอกาสทำสัญญาทางการค้าด้วย สภายุโรปได้ยินจำนวนเงิน………ก็ลมจับ ไม่เสนอหน้ามาชวนอีกเลย แต่ก่อนที่จะโดนปูตินอัดเข้าไป ยานุโควิชได้ทำการโฆษณาให้ความหวังกับประชาชนไว้ล่วงหน้าแล้วว่า จะเปิดความสัมพันธ์กับยูโรป และจะพยายามเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในสภาอียู แต่เมื่อถึงเวลาการประชุม ที่ลิธัวเนีย ในวันที่ 21 พฤศจิกายน ยานุโควิช……ได้ประกาศออกสื่อให้ทราบทั่วกันว่า เขาเปลี่ยนใจแล้ว ไม่ขอเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสัมพันธ์ทางพานิชย์กับอียู อยู่อย่างนี้เหมือนเดิม… ผลคือ……ประชาชนออกมาเดินขบวน แน่นหนาเต็มเมือง แต่คราวนี้ไม่ใช่ธงสีส้ม……แต่เป็นธงอียูสีฟ้าที่มีดาวเหลืองเป็นวงกลม ยานุโควิช……แทบไม่ต้องแก้ไขอะไรเพราะในเวลานั้นเป็นฤดูหนาวที่ใกล้เทศกาลปลายปี ชุมนุมกันก็ได้แค่เดี๋ยวเดียว เขาบินไปจีน ไปทำสัญญาการค้าขาย (แทนยุโรป) ก่อนไปที่จีน เขาแวะพบกับปูตินเพื่อทำการตกลงกันว่า ทางรัสเซียจะให้เงินอุดหนุนสภาพคล่องหมื่นห้าพันล้านเหรียญ และลดราคาก๊าส จาก$400 คิวบิตเมตร เป็น $268 ที่จะเก็บเป็นความลับไปจนกว่าจะถึงวันที่ 9 มีนาคม 2014 ที่ผู้นำทั้งสองจะมีการพบปะกัน แล้วค่อยประกาศอย่างเป็นทางการ……… เป็นอันว่า…ในยกนี้ ปูตินได้เอาชนะต่อคำเยาะเย้ยของนางคลินตันไปได้ ตอนนั้นเป็นช่วงที่ใกล้จะเปิดพิธีกีฬาโอลิมปิกที่ Sochi ประมุขของประเทศต่างๆจะเข้ามาเป็นอาคันตุกะ เขาได้ทำการปล่อยนักโทษการเมือง ให้เป็นอิสระ อย่างเช่น Mikhaïl Khodorkovsky ที่จำคุกมาแล้ว10 ปี โดยมีการทำสัญญาว่าจะไม่มายุ่งกับการเมืองอีก…… และปลดปล่อยกลุ่มสาวห่าม Pussy Riot ตามด้วยกลุ่มที่เคยประท้วงอื่นๆ สองวันก่อนที่จะมีพิธีเปิด….กลุ่มนักข่าวสามสิบกว่าคนได้ทำการเขียนข่าวในทำนองว่า เป็นการใช้เงินอย่างสิ้นเปลืองเพื่อสนองความต้องการของคนคนเดียว…… ปูตินให้สัมภาษณ์โต้ว่า……”การทำให้คนรักเรา สรรเสริญเรา ชื่นชมเรา นั้นทำไม่ยากเลย..” นักข่าวถามว่า ต้องทำอย่างไร? คำตอบคือ……ก็เวลาที่เราลดขนาดกองทัพ…ยกพื้นที่ให้เขา…ขายทรัพยากรให้เขาอย่างถูกๆไงล่ะ ……แค่นั้นเขาก็จะรักเรา ดีกับเราสารพัด…!! แต่เมื่อพิธีงานเปิดผ่านไป.……คนที่เคยติ……คนที่เคยต่อต้านกลับมาชื่นชมในผลงานและภาคภูมิใจไปตามๆกัน สำหรับปูติน.……มันคือการเรียกศักดิ์ศรีของประเทศกลับคืนมา เฉกเช่นเมื่อครั้ง Yuri Gagarin ขึ้นสู่ห้วงอวกาศ……และกองทัพแดงได้ชัยชนะในสงครามกับนาซี ความยิ่งใหญ่ในครั้งนี้…ได้ส่งข้ามไปถึงสหรัฐอเมริกา ที่ ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ไม่ได้เข้ามาร่วม เพราะหนึ่งคือความขัดแย้ง สองคือ……ความบาดตาบาดใจ…!!!! Wiwanda W. Vichit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • Love
    Like
    3
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • หกทักษะของสุภาพบุรุษ ตอน 2 ‘เยวี่ย’

    สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้วเราคุยกันถึง ‘จวินจื่อลิ่วอี้’ (君子六艺) หรือหกทักษะที่สุภาพบุรุษในตระกูลสูงศักดิ์พึงมี (หมายเหตุ อี้ แปลได้ว่าทักษะความสามารถ) ซึ่งในบันทึกพิธีการโจวหลี่ระบุไว้ว่าคือ 1. ห้าพิธีการ (หลี่/礼) 2. หกดนตรี (เยวี่ย/乐) 3. ห้าการยิงธนู (เซ่อ/射) 4. ห้าการขับขี่ (อวี้/御) 5. หกอักษร (ซู/书) และ 6. เก้าคำนวณ (ซู่/数)

    สัปดาห์ที่แล้วคุยกันเรื่องทักษะแรกคือห้าพิธีการ วันนี้คุยกันต่อถึงทักษะที่สองคือ ‘เยวี่ย’ เรียกรวมกว่าหกดนตรี ซึ่ง Storyฯ มั่นใจว่าเพื่อนเพจหลายคนคงเข้าใจผิดเหมือน Storyฯ ว่ามันหมายถึงการเล่นดนตรี และภาพที่ลอยมาในหัวคือคุณชายดีดพิณหรือเป่าขลุ่ย

    แต่จริงๆ แล้ว ‘เยวี่ย’ ในบริบทของหกทักษะของสุภาพบุรุษนี้หมายถึงการเต้นรำ

    ใช่ค่ะ สุภาพบุรุษโบราณต้องเรียนรู้ที่จะเต้นรำ แต่มันไม่ใช่การเต้นรำทั่วไป หากแต่หมายถึงการเต้นรำหมู่ของบุรุษประกอบการบวงสรวงหรืองานสำคัญ ซึ่งเราไม่ค่อยเห็นในซีรีส์

    ‘ลิ่วเยวี่ย’ หรือหกดนตรี คือคำเรียกย่อของระบำหกยุคสมัย ‘ลิ่วไต้เยวี่ยอู่’ (六代乐舞) ซึ่งมีมาแต่หกยุคสมัยจีนโบราณบรรพกาล ประกอบด้วย
    (1) ‘อวิ๋นเหมินต้าเจวี้ยน’ (云门大卷/ระบำประตูเมฆ) หรือเรียกสั้นๆ ว่า ‘อวิ๋นเหมิน’ เป็นการงานเฉลิมฉลองร่วมกับประชาชนในสมัยของจักรพรรดิเหลือง (หวงตี้ ประมาณสองพันหกร้อยปีก่อนคริสตกาล) เพื่อเป็นการแซ่ซ้องคุณงามความดีและความเรืองรองของรัชสมัย จากรูปวาดโบราณจะเห็นว่าเป็นการเล่นเครื่องดนตรีบางชนิดไปพร้อมกับเดินเต้นไปด้วย ระบำนี้ในยุคสมัยโจวถูกใช้เป็นระบำหลักในการบวงสรวงฟ้าและเทพยดา
    (2) ‘เสียนฉือ’ (咸池) หรือ ‘ต้าเสียน’ (大咸) เป็นระบำจากยุคสมัยจักรพรรดิเหยา (ประมาณสองพันสามร้อยปีก่อนคริสตกาล) ซึ่งคำว่าเสียนฉือเป็นชื่อเรียกเดิมของทิศพยัคฆ์ขาวหรือทิศตะวันตก ระบำเสียนฉือจึงถูกนำมาใช้เป็นระบำสักการะดินและเทพเจ้าแห่งผืนดิน
    (3) ‘ต้าสาว’ (大韶) เป็นระบำจากยุคสมัยจักรพรรดิซุ่น (ประมาณสองพันสองร้อยปีก่อนคริสตกาล) เป็นระบำที่เชิดชูความงดงามของธรรมชาติรอบกาย ผสมผสานบทกลอน ดนตรี และระบำเข้าด้วยกัน กล่าวคือมีคนอ่านกลอนเป็นท่วงทำนอง มีเสียงเครื่องดนตรีนับสิบชนิดบรรเลงประกอบโดยเน้นเสียงขลุ่ยเซียวเป็นหลัก และมีคนสวมหน้ากากแสดงเป็นเหล่าปักษาและนกเฟิ่งหวงฟ้อนรำ ถูกใช้เป็นระบำบวงสรวงสี่ทิศ
    (4) ‘ต้าเซี่ย’ (大夏) เป็นระบำยุคสมัยราชวงศ์เซี่ย (ประมาณสองพันปีก่อนคริสตกาล) เป็นระบำที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเหตุการณ์ต้าสู่แก้ไขปัญหาน้ำท่วม ถูกใช้เป็นระบำสักการะขุนเขาและสายน้ำ เป็นระบำโบราณเดียวที่ยังคงสืบทอดมาจวบจนปัจจุบันแม้ว่าจะผ่านการเปลี่ยนแปลงมาไม่น้อย(ดูรูปประกอบ)
    (5) ‘ต้าฮู่’ (大濩) เป็นระบำยุคสมัยราชวงศ์ซาง (ประมาณหนึ่งพันหกร้อยปีก่อนคริสตกาล) เพื่อเฉลิมฉลองการล้มราชวงศ์เซี่ยสำเร็จ ใช้เป็นระบำสักการะบรรพบุรุษ
    (6) ‘ต้าอู่’ (大武) เป็นระบำยุคสมัยราชวงศ์โจว เพื่อเฉลิมฉลองการล้มราชวงศ์ซางสำเร็จ ถูกใช้เป็นระบำสักการะบรรพบุรุษเช่นกัน

    ทั้งนี้ ระบำสี่แบบแรกเป็นแบบที่เรียกว่า ‘เหวิน’ (หรือบุ๋น) แต่ระบำสองแบบสุดท้ายเป็นแบบที่เรียกว่า ‘อู่’ (หรือบู๊) ซึ่งเป็นการแสดงออกแนวฮึกเหิม นักแสดงถือโล่และอาวุธเช่นขวาน (แต่ไม่ได้ถอดเสื้อเหมือนใน <กำเนิดเทพเจ้า 1 อาณาจักรแห่งพายุ> นะ) ทั้งหมดนี้มีการกำหนดจัดเรียงแถวอย่างชัดเจน รวมแปดแถว แต่ละแถวแปดคน รวมหกสิบสี่คน และในงานใหญ่อาจมีการจัดการรำหลายแบบพร้อมกันบนลานกว้าง

    นอกจากนี้ ในงานใหญ่ยังมีการรำเสริมโดยเหล่าราชนิกุลชาย โดยกำหนดเป็นการรำอีกหกรูปแบบเรียกเป็น ‘รำเล็ก’ เพราะเป็นการรำเดี่ยวหรือกลุ่มเล็ก แต่ Storyฯ ขอไม่ลงรายละเอียดในชนิดของระบำ ทั้งนี้ ราชนิกุลชายในยุคราชวงศ์โจวเมื่ออายุสิบสามปีก็จะเริ่มเรียน ‘รำเล็ก’ อายุสิบห้าเรียนรำอาวุธ และเมื่ออายุได้ยี่สิบก็เรียน ‘รำใหญ่’ สำหรับพิธีบวงสรวงซึ่งก็คือหกระบำที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเอง และเมื่อสำเร็จการเรียนรู้ระบำต่างๆ เหล่านี้แล้วจึงเข้ารับราชการบรรจุเป็นขุนนางได้

    ทักษะด้านการรำนี้ ถูกใช้สอนในเรื่องของความพร้อมเพรียงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และช่วยปรับท่าทางการเดินเหินให้สง่าผึ่งผาย รวมถึงเรียนรู้เกี่ยวกับขนบธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับงานสักการะต่างๆ แน่นอนว่าสุภาพบุรุษต้องเรียนรู้การเล่นดนตรี เพียงแต่มันได้ถูกระบุเป็นหกทักษะของสุภาพบุรุษเท่านั้นเอง

    สัปดาห์หน้ามาคุยกันต่อค่ะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://app.xinhuanet.com/news/article.html?articleId=1e283da99d5077df8508b27c88bfaeae
    https://chinakongzi.org/zt/2021jikong/yange/202109/t20210922_521023.htm https://guoxue.ifeng.com/c/7qhsbaO24FU
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com/item/六艺/238715
    https://m.jiemian.com/article/1154435.html
    https://m.thepaper.cn/newsDetail_forward_20109083
    https://h.bkzx.cn/knowledge/1733

    #กำเนิดเทพเจ้า #เฟิงเสิน #ทักษะสุภาพบุรุษจีน #ศิลปะสุภาพบุรุษจีน #คำสอนขงจื๊อ #จวินจื่อลิ่วอี้ #สาระจีน
    หกทักษะของสุภาพบุรุษ ตอน 2 ‘เยวี่ย’ สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้วเราคุยกันถึง ‘จวินจื่อลิ่วอี้’ (君子六艺) หรือหกทักษะที่สุภาพบุรุษในตระกูลสูงศักดิ์พึงมี (หมายเหตุ อี้ แปลได้ว่าทักษะความสามารถ) ซึ่งในบันทึกพิธีการโจวหลี่ระบุไว้ว่าคือ 1. ห้าพิธีการ (หลี่/礼) 2. หกดนตรี (เยวี่ย/乐) 3. ห้าการยิงธนู (เซ่อ/射) 4. ห้าการขับขี่ (อวี้/御) 5. หกอักษร (ซู/书) และ 6. เก้าคำนวณ (ซู่/数) สัปดาห์ที่แล้วคุยกันเรื่องทักษะแรกคือห้าพิธีการ วันนี้คุยกันต่อถึงทักษะที่สองคือ ‘เยวี่ย’ เรียกรวมกว่าหกดนตรี ซึ่ง Storyฯ มั่นใจว่าเพื่อนเพจหลายคนคงเข้าใจผิดเหมือน Storyฯ ว่ามันหมายถึงการเล่นดนตรี และภาพที่ลอยมาในหัวคือคุณชายดีดพิณหรือเป่าขลุ่ย แต่จริงๆ แล้ว ‘เยวี่ย’ ในบริบทของหกทักษะของสุภาพบุรุษนี้หมายถึงการเต้นรำ ใช่ค่ะ สุภาพบุรุษโบราณต้องเรียนรู้ที่จะเต้นรำ แต่มันไม่ใช่การเต้นรำทั่วไป หากแต่หมายถึงการเต้นรำหมู่ของบุรุษประกอบการบวงสรวงหรืองานสำคัญ ซึ่งเราไม่ค่อยเห็นในซีรีส์ ‘ลิ่วเยวี่ย’ หรือหกดนตรี คือคำเรียกย่อของระบำหกยุคสมัย ‘ลิ่วไต้เยวี่ยอู่’ (六代乐舞) ซึ่งมีมาแต่หกยุคสมัยจีนโบราณบรรพกาล ประกอบด้วย (1) ‘อวิ๋นเหมินต้าเจวี้ยน’ (云门大卷/ระบำประตูเมฆ) หรือเรียกสั้นๆ ว่า ‘อวิ๋นเหมิน’ เป็นการงานเฉลิมฉลองร่วมกับประชาชนในสมัยของจักรพรรดิเหลือง (หวงตี้ ประมาณสองพันหกร้อยปีก่อนคริสตกาล) เพื่อเป็นการแซ่ซ้องคุณงามความดีและความเรืองรองของรัชสมัย จากรูปวาดโบราณจะเห็นว่าเป็นการเล่นเครื่องดนตรีบางชนิดไปพร้อมกับเดินเต้นไปด้วย ระบำนี้ในยุคสมัยโจวถูกใช้เป็นระบำหลักในการบวงสรวงฟ้าและเทพยดา (2) ‘เสียนฉือ’ (咸池) หรือ ‘ต้าเสียน’ (大咸) เป็นระบำจากยุคสมัยจักรพรรดิเหยา (ประมาณสองพันสามร้อยปีก่อนคริสตกาล) ซึ่งคำว่าเสียนฉือเป็นชื่อเรียกเดิมของทิศพยัคฆ์ขาวหรือทิศตะวันตก ระบำเสียนฉือจึงถูกนำมาใช้เป็นระบำสักการะดินและเทพเจ้าแห่งผืนดิน (3) ‘ต้าสาว’ (大韶) เป็นระบำจากยุคสมัยจักรพรรดิซุ่น (ประมาณสองพันสองร้อยปีก่อนคริสตกาล) เป็นระบำที่เชิดชูความงดงามของธรรมชาติรอบกาย ผสมผสานบทกลอน ดนตรี และระบำเข้าด้วยกัน กล่าวคือมีคนอ่านกลอนเป็นท่วงทำนอง มีเสียงเครื่องดนตรีนับสิบชนิดบรรเลงประกอบโดยเน้นเสียงขลุ่ยเซียวเป็นหลัก และมีคนสวมหน้ากากแสดงเป็นเหล่าปักษาและนกเฟิ่งหวงฟ้อนรำ ถูกใช้เป็นระบำบวงสรวงสี่ทิศ (4) ‘ต้าเซี่ย’ (大夏) เป็นระบำยุคสมัยราชวงศ์เซี่ย (ประมาณสองพันปีก่อนคริสตกาล) เป็นระบำที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเหตุการณ์ต้าสู่แก้ไขปัญหาน้ำท่วม ถูกใช้เป็นระบำสักการะขุนเขาและสายน้ำ เป็นระบำโบราณเดียวที่ยังคงสืบทอดมาจวบจนปัจจุบันแม้ว่าจะผ่านการเปลี่ยนแปลงมาไม่น้อย(ดูรูปประกอบ) (5) ‘ต้าฮู่’ (大濩) เป็นระบำยุคสมัยราชวงศ์ซาง (ประมาณหนึ่งพันหกร้อยปีก่อนคริสตกาล) เพื่อเฉลิมฉลองการล้มราชวงศ์เซี่ยสำเร็จ ใช้เป็นระบำสักการะบรรพบุรุษ (6) ‘ต้าอู่’ (大武) เป็นระบำยุคสมัยราชวงศ์โจว เพื่อเฉลิมฉลองการล้มราชวงศ์ซางสำเร็จ ถูกใช้เป็นระบำสักการะบรรพบุรุษเช่นกัน ทั้งนี้ ระบำสี่แบบแรกเป็นแบบที่เรียกว่า ‘เหวิน’ (หรือบุ๋น) แต่ระบำสองแบบสุดท้ายเป็นแบบที่เรียกว่า ‘อู่’ (หรือบู๊) ซึ่งเป็นการแสดงออกแนวฮึกเหิม นักแสดงถือโล่และอาวุธเช่นขวาน (แต่ไม่ได้ถอดเสื้อเหมือนใน <กำเนิดเทพเจ้า 1 อาณาจักรแห่งพายุ> นะ) ทั้งหมดนี้มีการกำหนดจัดเรียงแถวอย่างชัดเจน รวมแปดแถว แต่ละแถวแปดคน รวมหกสิบสี่คน และในงานใหญ่อาจมีการจัดการรำหลายแบบพร้อมกันบนลานกว้าง นอกจากนี้ ในงานใหญ่ยังมีการรำเสริมโดยเหล่าราชนิกุลชาย โดยกำหนดเป็นการรำอีกหกรูปแบบเรียกเป็น ‘รำเล็ก’ เพราะเป็นการรำเดี่ยวหรือกลุ่มเล็ก แต่ Storyฯ ขอไม่ลงรายละเอียดในชนิดของระบำ ทั้งนี้ ราชนิกุลชายในยุคราชวงศ์โจวเมื่ออายุสิบสามปีก็จะเริ่มเรียน ‘รำเล็ก’ อายุสิบห้าเรียนรำอาวุธ และเมื่ออายุได้ยี่สิบก็เรียน ‘รำใหญ่’ สำหรับพิธีบวงสรวงซึ่งก็คือหกระบำที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเอง และเมื่อสำเร็จการเรียนรู้ระบำต่างๆ เหล่านี้แล้วจึงเข้ารับราชการบรรจุเป็นขุนนางได้ ทักษะด้านการรำนี้ ถูกใช้สอนในเรื่องของความพร้อมเพรียงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และช่วยปรับท่าทางการเดินเหินให้สง่าผึ่งผาย รวมถึงเรียนรู้เกี่ยวกับขนบธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับงานสักการะต่างๆ แน่นอนว่าสุภาพบุรุษต้องเรียนรู้การเล่นดนตรี เพียงแต่มันได้ถูกระบุเป็นหกทักษะของสุภาพบุรุษเท่านั้นเอง สัปดาห์หน้ามาคุยกันต่อค่ะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://app.xinhuanet.com/news/article.html?articleId=1e283da99d5077df8508b27c88bfaeae https://chinakongzi.org/zt/2021jikong/yange/202109/t20210922_521023.htm https://guoxue.ifeng.com/c/7qhsbaO24FU Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://baike.baidu.com/item/六艺/238715 https://m.jiemian.com/article/1154435.html https://m.thepaper.cn/newsDetail_forward_20109083 https://h.bkzx.cn/knowledge/1733 #กำเนิดเทพเจ้า #เฟิงเสิน #ทักษะสุภาพบุรุษจีน #ศิลปะสุภาพบุรุษจีน #คำสอนขงจื๊อ #จวินจื่อลิ่วอี้ #สาระจีน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • Yay
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ความจริงมีหนึ่งเดียว ครั้งที่ 4"
    คอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายของปี จัดใหญ่ จัดเต็ม ยิ่งกว่าเดิม
    วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2567 เวลา 10:00 - 17:00 น.
    หอประชุมใหญ่ ม.ธรรมศาตร์ท่าพระจันทร์

    !! ห้ามพลาด บัตรมีจำนวนจำกัด หมดแล้วหมดเลย !!

    สามารถจองบัตรและสอบถามรายละเอียดได้ที่
    Line@sondhitalk คลิก https://lin.ee/Skns1k1
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประเทศไทยมีปัญหาทุกอย่างเพราะความเห็นผิด จึงเชื่อคำพูดของคนอ่านหนังสือเล่มเดียว ด้านเดียว ...จึงมีความเห็นแบบม้าลำปาง
    ตัวอย่าง: กะปิบูด, ทะนาทวย, ช่อกันนิกา, รวมทั้งอาจมในสถานศึกษาบางแห่ง ล้วนเป็นคนตาบอด อ่านน้อย ไม่รู้แม้ประวัติศาสตร์ชาติไทย รวมทั้งประวัติการต่อสู้ของชาติตะวันออก..พรรคสีส้มและแดง จึงควรตระหนักเรื่องนี้ให้มาก
    ประเทศไทยมีปัญหาทุกอย่างเพราะความเห็นผิด จึงเชื่อคำพูดของคนอ่านหนังสือเล่มเดียว ด้านเดียว ...จึงมีความเห็นแบบม้าลำปาง ตัวอย่าง: กะปิบูด, ทะนาทวย, ช่อกันนิกา, รวมทั้งอาจมในสถานศึกษาบางแห่ง ล้วนเป็นคนตาบอด อ่านน้อย ไม่รู้แม้ประวัติศาสตร์ชาติไทย รวมทั้งประวัติการต่อสู้ของชาติตะวันออก..พรรคสีส้มและแดง จึงควรตระหนักเรื่องนี้ให้มาก
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • การตายไม่ทรมานหรอกไม่ต้องกลัว แต่ก่อนตายนั่นแหละความหวาดกลัวจะหลอนในหัวคุณ
    การตายไม่ทรมานหรอกไม่ต้องกลัว แต่ก่อนตายนั่นแหละความหวาดกลัวจะหลอนในหัวคุณ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว