• xAI อัปเดต Grok หลังเกิดข้อถกเถียงเกี่ยวกับ "white genocide"

    Elon Musk และทีม xAI ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับ Grok chatbot หลังจากที่มีรายงานว่า AI ตัวนี้ กล่าวถึง "white genocide" ในแอฟริกาใต้ โดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับคำถามที่ผู้ใช้ถาม ซึ่ง xAI ระบุว่า มีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ได้รับอนุญาตในระบบของ Grok ทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการตอบ

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการอัปเดต Grok
    xAI ระบุว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ได้รับอนุญาตในระบบของ Grok
    - การเปลี่ยนแปลงนี้ ข้ามกระบวนการตรวจสอบตามปกติของ xAI

    Grok ตอบคำถามเกี่ยวกับหัวข้ออื่น แต่กลับกล่าวถึง "white genocide" ในแอฟริกาใต้
    - ผู้ใช้บนแพลตฟอร์ม X แชร์ภาพหน้าจอของการตอบกลับที่ผิดปกติ

    xAI ยืนยันว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ละเมิดนโยบายภายในของบริษัท
    - บริษัท กำลังดำเนินการแก้ไขและปรับปรุงระบบ

    xAI จะเผยแพร่ system prompts ของ Grok บน GitHub เพื่อให้สาธารณชนตรวจสอบ
    - ผู้ใช้สามารถ ดูและให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของ AI

    xAI จะเพิ่มทีมตรวจสอบตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อป้องกันข้อผิดพลาดในอนาคต
    - ทีมนี้ จะช่วยตรวจสอบคำตอบที่อาจมีปัญหาก่อนเผยแพร่

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/17/musk039s-xai-updates-grok-chatbot-after-039white-genocide039-comments
    xAI อัปเดต Grok หลังเกิดข้อถกเถียงเกี่ยวกับ "white genocide" Elon Musk และทีม xAI ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับ Grok chatbot หลังจากที่มีรายงานว่า AI ตัวนี้ กล่าวถึง "white genocide" ในแอฟริกาใต้ โดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับคำถามที่ผู้ใช้ถาม ซึ่ง xAI ระบุว่า มีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ได้รับอนุญาตในระบบของ Grok ทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการตอบ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการอัปเดต Grok ✅ xAI ระบุว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ได้รับอนุญาตในระบบของ Grok - การเปลี่ยนแปลงนี้ ข้ามกระบวนการตรวจสอบตามปกติของ xAI ✅ Grok ตอบคำถามเกี่ยวกับหัวข้ออื่น แต่กลับกล่าวถึง "white genocide" ในแอฟริกาใต้ - ผู้ใช้บนแพลตฟอร์ม X แชร์ภาพหน้าจอของการตอบกลับที่ผิดปกติ ✅ xAI ยืนยันว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ละเมิดนโยบายภายในของบริษัท - บริษัท กำลังดำเนินการแก้ไขและปรับปรุงระบบ ✅ xAI จะเผยแพร่ system prompts ของ Grok บน GitHub เพื่อให้สาธารณชนตรวจสอบ - ผู้ใช้สามารถ ดูและให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของ AI ✅ xAI จะเพิ่มทีมตรวจสอบตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อป้องกันข้อผิดพลาดในอนาคต - ทีมนี้ จะช่วยตรวจสอบคำตอบที่อาจมีปัญหาก่อนเผยแพร่ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/17/musk039s-xai-updates-grok-chatbot-after-039white-genocide039-comments
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Musk's xAI updates Grok chatbot after 'white genocide' comments
    (Reuters) -Elon Musk's xAI responded to widespread reports that its Grok chatbot made claims about a genocide against white citizens in South Africa, saying there had been an unauthorized change to the artificial intelligence bot. In a post on X on Thursday, xAI said it would update the system to address the problem.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 294 มุมมอง 0 รีวิว
  • Deepfake และความเสี่ยงของการอัปโหลดภาพใบหน้าสู่ AI

    การใช้ AI เพื่อสร้างภาพเซลฟี่ที่ดูสมจริงกำลังเป็นที่นิยม แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์เตือนว่า การอัปโหลดภาพใบหน้าของคุณไปยัง AI อาจมีความเสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อข้อมูลเหล่านี้สามารถถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด เช่น การสร้าง Deepfake หรือการโจมตีทางไซเบอร์

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับความเสี่ยงของ AI และ Deepfake
    AI สามารถนำภาพใบหน้าของคุณไปใช้ในการสร้าง Deepfake ได้
    - ภาพที่อัปโหลด อาจถูกนำไปใช้ในวิดีโอปลอม หรือเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม

    ผู้ให้บริการ AI อาจบันทึกข้อมูลส่วนตัวของคุณ เช่น IP และอีเมล
    - ทำให้ คุณอาจเปิดเผยข้อมูลมากกว่าที่คิด

    AI สามารถวิเคราะห์ใบหน้า อายุ ท่าทาง และอารมณ์จากภาพที่อัปโหลด
    - เทคโนโลยีนี้ สามารถใช้ในการติดตามตัวบุคคลได้

    AI สามารถคาดเดาตำแหน่งของคุณจากภาพที่ไม่มีจุดสังเกตชัดเจน
    - แม้ไม่มีสถานที่ในพื้นหลัง AI ก็สามารถระบุตำแหน่งของคุณได้

    ข้อมูลที่อัปโหลดอาจถูกนำไปใช้ในการโจมตีแบบฟิชชิ่ง
    - เช่น การสร้างบัญชีปลอม หรือการหลอกลวงทางออนไลน์

    เด็กและเยาวชนมีความเสี่ยงสูงต่อการถูกนำภาพไปใช้ในทางที่ผิด
    - ควรมี การให้ความรู้และการควบคุมการใช้งาน AI สำหรับเด็ก

    ภาพที่อัปโหลดไปยัง AI อาจไม่สามารถลบออกจากระบบได้
    - หากผู้ให้บริการ ไม่ได้อยู่ภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูล เช่น GDPR

    AI อาจใช้ข้อมูลใบหน้าเพื่อฝึกระบบจดจำใบหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต
    - อาจนำไปสู่ การใช้เทคโนโลยีติดตามตัวบุคคลในทางที่ผิด

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/17/deepfake-me-are-there-risks-to-uploading-your-face-for-ai-selfies
    Deepfake และความเสี่ยงของการอัปโหลดภาพใบหน้าสู่ AI การใช้ AI เพื่อสร้างภาพเซลฟี่ที่ดูสมจริงกำลังเป็นที่นิยม แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์เตือนว่า การอัปโหลดภาพใบหน้าของคุณไปยัง AI อาจมีความเสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อข้อมูลเหล่านี้สามารถถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด เช่น การสร้าง Deepfake หรือการโจมตีทางไซเบอร์ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับความเสี่ยงของ AI และ Deepfake ✅ AI สามารถนำภาพใบหน้าของคุณไปใช้ในการสร้าง Deepfake ได้ - ภาพที่อัปโหลด อาจถูกนำไปใช้ในวิดีโอปลอม หรือเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ✅ ผู้ให้บริการ AI อาจบันทึกข้อมูลส่วนตัวของคุณ เช่น IP และอีเมล - ทำให้ คุณอาจเปิดเผยข้อมูลมากกว่าที่คิด ✅ AI สามารถวิเคราะห์ใบหน้า อายุ ท่าทาง และอารมณ์จากภาพที่อัปโหลด - เทคโนโลยีนี้ สามารถใช้ในการติดตามตัวบุคคลได้ ✅ AI สามารถคาดเดาตำแหน่งของคุณจากภาพที่ไม่มีจุดสังเกตชัดเจน - แม้ไม่มีสถานที่ในพื้นหลัง AI ก็สามารถระบุตำแหน่งของคุณได้ ✅ ข้อมูลที่อัปโหลดอาจถูกนำไปใช้ในการโจมตีแบบฟิชชิ่ง - เช่น การสร้างบัญชีปลอม หรือการหลอกลวงทางออนไลน์ ✅ เด็กและเยาวชนมีความเสี่ยงสูงต่อการถูกนำภาพไปใช้ในทางที่ผิด - ควรมี การให้ความรู้และการควบคุมการใช้งาน AI สำหรับเด็ก ‼️ ภาพที่อัปโหลดไปยัง AI อาจไม่สามารถลบออกจากระบบได้ - หากผู้ให้บริการ ไม่ได้อยู่ภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูล เช่น GDPR ‼️ AI อาจใช้ข้อมูลใบหน้าเพื่อฝึกระบบจดจำใบหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต - อาจนำไปสู่ การใช้เทคโนโลยีติดตามตัวบุคคลในทางที่ผิด https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/17/deepfake-me-are-there-risks-to-uploading-your-face-for-ai-selfies
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Deepfake me: Are there risks to uploading your face for AI selfies?
    New research has even shown that AI is now suprisingly good at guessing your location even from obscure photographs without recognisable places in the background.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 404 มุมมอง 0 รีวิว
  • AI สามารถระบุตำแหน่งของคุณจากภาพที่ไม่มีข้อมูล GPS ได้อย่างแม่นยำ

    นักวิจัยด้านความปลอดภัยไซเบอร์พบว่า AI สามารถใช้เบาะแสเล็ก ๆ น้อย ๆ ในภาพเพื่อระบุตำแหน่งของคุณได้ แม้ว่าภาพนั้นจะถูกลบข้อมูลเมตา (Metadata) เช่น GPS, เวลา และวันที่ ออกไปแล้ว

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับความสามารถของ AI ในการระบุตำแหน่ง
    AI สามารถใช้รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในภาพเพื่อระบุตำแหน่งของคุณ
    - เช่น รูปแบบสถาปัตยกรรม, ประเภทของต้นไม้ หรือแม้แต่แบรนด์ของรถเข็นที่ปรากฏในภาพ

    Malwarebytes พบว่า ChatGPT มีความสามารถ "creepy good" ในการเดาตำแหน่งจากภาพ
    - AI สามารถวิเคราะห์สิ่งแวดล้อมและจำกัดขอบเขตของสถานที่ได้อย่างแม่นยำ

    นักวิจัยจาก Fraunhofer Heinrich-Hertz-Institute พบว่า AI สามารถสร้าง Deepfake ที่มีสัญญาณชีพจร
    - ทำให้ การตรวจจับ Deepfake ด้วยเทคนิคเดิม เช่น การวิเคราะห์อัตราการเต้นของหัวใจ อาจใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป

    การพัฒนา AI ด้านการวิเคราะห์ภาพกำลังทำให้การตรวจจับเนื้อหาปลอมยากขึ้น
    - นักวิจัย กำลังมองหาวิธีใหม่ในการตรวจจับ Deepfake ที่มีคุณภาพสูง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/17/039creepy-good039-ai-can-now-tell-your-location-from-obscure-photographs
    AI สามารถระบุตำแหน่งของคุณจากภาพที่ไม่มีข้อมูล GPS ได้อย่างแม่นยำ นักวิจัยด้านความปลอดภัยไซเบอร์พบว่า AI สามารถใช้เบาะแสเล็ก ๆ น้อย ๆ ในภาพเพื่อระบุตำแหน่งของคุณได้ แม้ว่าภาพนั้นจะถูกลบข้อมูลเมตา (Metadata) เช่น GPS, เวลา และวันที่ ออกไปแล้ว 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับความสามารถของ AI ในการระบุตำแหน่ง ✅ AI สามารถใช้รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในภาพเพื่อระบุตำแหน่งของคุณ - เช่น รูปแบบสถาปัตยกรรม, ประเภทของต้นไม้ หรือแม้แต่แบรนด์ของรถเข็นที่ปรากฏในภาพ ✅ Malwarebytes พบว่า ChatGPT มีความสามารถ "creepy good" ในการเดาตำแหน่งจากภาพ - AI สามารถวิเคราะห์สิ่งแวดล้อมและจำกัดขอบเขตของสถานที่ได้อย่างแม่นยำ ✅ นักวิจัยจาก Fraunhofer Heinrich-Hertz-Institute พบว่า AI สามารถสร้าง Deepfake ที่มีสัญญาณชีพจร - ทำให้ การตรวจจับ Deepfake ด้วยเทคนิคเดิม เช่น การวิเคราะห์อัตราการเต้นของหัวใจ อาจใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป ✅ การพัฒนา AI ด้านการวิเคราะห์ภาพกำลังทำให้การตรวจจับเนื้อหาปลอมยากขึ้น - นักวิจัย กำลังมองหาวิธีใหม่ในการตรวจจับ Deepfake ที่มีคุณภาพสูง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/17/039creepy-good039-ai-can-now-tell-your-location-from-obscure-photographs
    WWW.THESTAR.COM.MY
    'Creepy good': AI can now tell your location from obscure photographs
    The chatbot was albe to use clues and cues in architecture and environment to narrow down possible locations in photos before either nailing it or coming uncannily close.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 367 มุมมอง 0 รีวิว
  • หุ่นยนต์ที่ดู "น่ารัก" สามารถมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของมนุษย์ได้

    นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Penn State พบว่า หุ่นยนต์ที่มีลักษณะ "น่ารัก" เช่น ดวงตากลมโตและแก้มที่ยกขึ้น สามารถโน้มน้าวให้ผู้คนยอมรับคำแนะนำได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการ เช่น ร้านอาหารและการขายสินค้า

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับผลกระทบของหุ่นยนต์ที่ดูน่ารัก
    หุ่นยนต์ที่มีลักษณะน่ารักสามารถเพิ่มความไว้วางใจและความอบอุ่นทางอารมณ์
    - ทำให้ ผู้คนรู้สึกสบายใจและมีแนวโน้มที่จะทำตามคำแนะนำของหุ่นยนต์

    การออกแบบหุ่นยนต์ให้มีลักษณะคล้ายมนุษย์สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการโน้มน้าวใจ
    - เช่น หุ่นยนต์ที่มีเสียงทุ้มต่ำอาจมีประสิทธิภาพมากกว่าหุ่นยนต์ที่มีเสียงหวานใสในการขายสินค้า

    ผู้บริโภคที่มี "sense of power" ต่ำมีแนวโน้มที่จะเชื่อคำแนะนำของหุ่นยนต์มากขึ้น
    - โดยเฉพาะ ผู้หญิงที่รู้สึกว่าตนเองมีอำนาจต่ำมักจะเชื่อคำแนะนำของหุ่นยนต์ที่มีลักษณะเป็นชายมากกว่า

    การศึกษาแสดงให้เห็นว่าหุ่นยนต์สามารถมีบทบาทสำคัญในการตลาดและการให้บริการ
    - เช่น การแนะนำเมนูอาหารในร้านอาหาร หรือการโปรโมตสินค้าใหม่

    ผลการศึกษาถูกตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Hospitality and Tourism Management
    - แสดงให้เห็นว่า การออกแบบหุ่นยนต์สามารถส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคได้จริง

    การออกแบบหุ่นยนต์ให้มีลักษณะน่ารักอาจถูกนำไปใช้เพื่อโน้มน้าวใจในทางที่ผิด
    - เช่น การชักจูงให้ซื้อสินค้าที่ไม่จำเป็น หรือการใช้ในโฆษณาที่มีเจตนาแอบแฝง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/17/robots-that-look-039cute039-can-influence-human-decisions-study-finds
    หุ่นยนต์ที่ดู "น่ารัก" สามารถมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของมนุษย์ได้ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Penn State พบว่า หุ่นยนต์ที่มีลักษณะ "น่ารัก" เช่น ดวงตากลมโตและแก้มที่ยกขึ้น สามารถโน้มน้าวให้ผู้คนยอมรับคำแนะนำได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการ เช่น ร้านอาหารและการขายสินค้า 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับผลกระทบของหุ่นยนต์ที่ดูน่ารัก ✅ หุ่นยนต์ที่มีลักษณะน่ารักสามารถเพิ่มความไว้วางใจและความอบอุ่นทางอารมณ์ - ทำให้ ผู้คนรู้สึกสบายใจและมีแนวโน้มที่จะทำตามคำแนะนำของหุ่นยนต์ ✅ การออกแบบหุ่นยนต์ให้มีลักษณะคล้ายมนุษย์สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการโน้มน้าวใจ - เช่น หุ่นยนต์ที่มีเสียงทุ้มต่ำอาจมีประสิทธิภาพมากกว่าหุ่นยนต์ที่มีเสียงหวานใสในการขายสินค้า ✅ ผู้บริโภคที่มี "sense of power" ต่ำมีแนวโน้มที่จะเชื่อคำแนะนำของหุ่นยนต์มากขึ้น - โดยเฉพาะ ผู้หญิงที่รู้สึกว่าตนเองมีอำนาจต่ำมักจะเชื่อคำแนะนำของหุ่นยนต์ที่มีลักษณะเป็นชายมากกว่า ✅ การศึกษาแสดงให้เห็นว่าหุ่นยนต์สามารถมีบทบาทสำคัญในการตลาดและการให้บริการ - เช่น การแนะนำเมนูอาหารในร้านอาหาร หรือการโปรโมตสินค้าใหม่ ✅ ผลการศึกษาถูกตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Hospitality and Tourism Management - แสดงให้เห็นว่า การออกแบบหุ่นยนต์สามารถส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคได้จริง ‼️ การออกแบบหุ่นยนต์ให้มีลักษณะน่ารักอาจถูกนำไปใช้เพื่อโน้มน้าวใจในทางที่ผิด - เช่น การชักจูงให้ซื้อสินค้าที่ไม่จำเป็น หรือการใช้ในโฆษณาที่มีเจตนาแอบแฝง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/17/robots-that-look-039cute039-can-influence-human-decisions-study-finds
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Robots that look 'cute' can influence human decisions, study finds
    The most susceptible group of people turned out to be "powerless female consumers," which the team found to be more likely than others to go with menu suggestions made by male-like robots.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 501 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯ อาจแบน TP-Link หลังข้อกล่าวหาเกี่ยวกับความปลอดภัยไซเบอร์

    TP-Link ซึ่งเป็นแบรนด์เราเตอร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับความเป็นไปได้ที่จะถูกแบน หลังจากที่สมาชิกสภาคองเกรสของสหรัฐฯ เรียกร้องให้กระทรวงพาณิชย์สั่งห้ามการขายผลิตภัณฑ์ของ TP-Link เนื่องจากข้อกังวลเกี่ยวกับ ความสัมพันธ์ของบริษัทกับรัฐบาลจีนและพฤติกรรมทางการตลาดที่ไม่เป็นธรรม

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับข้อกล่าวหาต่อ TP-Link
    สมาชิกสภาคองเกรส 17 คนเรียกร้องให้กระทรวงพาณิชย์สั่งห้ามการขายผลิตภัณฑ์ของ TP-Link
    - อ้างว่า TP-Link มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัฐบาลจีน และอาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ

    TP-Link ถูกกล่าวหาว่าใช้กลยุทธ์ "predatory pricing" เพื่อลดราคาสินค้าให้ต่ำกว่าคู่แข่ง
    - ทำให้ แบรนด์สหรัฐฯ เสียเปรียบและสูญเสียส่วนแบ่งตลาด

    มีรายงานว่า TP-Link ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการโจมตีไซเบอร์โดยกลุ่มแฮกเกอร์จีน
    - เช่น กรณีของ "CovertNetwork-1658" ซึ่งใช้เราเตอร์ TP-Link ในการขโมยข้อมูลจาก Azure

    TP-Link ปฏิเสธข้อกล่าวหาและยืนยันว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลจีน
    - บริษัทระบุว่า เป็นองค์กรอิสระและไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ

    TP-Link USA ได้ปรับโครงสร้างองค์กรในปี 2024 เพื่อแยกการดำเนินงานออกจากบริษัทแม่ในจีน
    - โดยตั้งสำนักงานใหญ่ใน Irvine, California

    https://www.techspot.com/news/107944-lawmakers-tp-link-rock-bottom-prices-fuel-chinese.html
    สหรัฐฯ อาจแบน TP-Link หลังข้อกล่าวหาเกี่ยวกับความปลอดภัยไซเบอร์ TP-Link ซึ่งเป็นแบรนด์เราเตอร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับความเป็นไปได้ที่จะถูกแบน หลังจากที่สมาชิกสภาคองเกรสของสหรัฐฯ เรียกร้องให้กระทรวงพาณิชย์สั่งห้ามการขายผลิตภัณฑ์ของ TP-Link เนื่องจากข้อกังวลเกี่ยวกับ ความสัมพันธ์ของบริษัทกับรัฐบาลจีนและพฤติกรรมทางการตลาดที่ไม่เป็นธรรม 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับข้อกล่าวหาต่อ TP-Link ✅ สมาชิกสภาคองเกรส 17 คนเรียกร้องให้กระทรวงพาณิชย์สั่งห้ามการขายผลิตภัณฑ์ของ TP-Link - อ้างว่า TP-Link มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัฐบาลจีน และอาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ ✅ TP-Link ถูกกล่าวหาว่าใช้กลยุทธ์ "predatory pricing" เพื่อลดราคาสินค้าให้ต่ำกว่าคู่แข่ง - ทำให้ แบรนด์สหรัฐฯ เสียเปรียบและสูญเสียส่วนแบ่งตลาด ✅ มีรายงานว่า TP-Link ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการโจมตีไซเบอร์โดยกลุ่มแฮกเกอร์จีน - เช่น กรณีของ "CovertNetwork-1658" ซึ่งใช้เราเตอร์ TP-Link ในการขโมยข้อมูลจาก Azure ✅ TP-Link ปฏิเสธข้อกล่าวหาและยืนยันว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลจีน - บริษัทระบุว่า เป็นองค์กรอิสระและไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ ✅ TP-Link USA ได้ปรับโครงสร้างองค์กรในปี 2024 เพื่อแยกการดำเนินงานออกจากบริษัทแม่ในจีน - โดยตั้งสำนักงานใหญ่ใน Irvine, California https://www.techspot.com/news/107944-lawmakers-tp-link-rock-bottom-prices-fuel-chinese.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Lawmakers say TP-Link's rock-bottom prices fuel Chinese cyberattacks, back US sales ban
    The seventeen senators and representatives wrote a letter to Commerce Secretary Howard Lutnick this week to support the ongoing investigations into TP-Link. The company is being investigated...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 459 มุมมอง 0 รีวิว
  • Coinbase เผชิญเหตุโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่ พร้อมเรียกค่าไถ่ 20 ล้านดอลลาร์

    Coinbase ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ เปิดเผยว่ามีการโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่ทำให้ข้อมูลลูกค้าบางส่วนรั่วไหล โดยแฮกเกอร์เรียกร้องค่าไถ่ 20 ล้านดอลลาร์ แต่บริษัทปฏิเสธที่จะจ่ายเงินและเลือกที่จะร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายแทน

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับเหตุโจมตีไซเบอร์ของ Coinbase
    Coinbase ถูกโจมตีไซเบอร์โดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่ใช้เครือข่ายพนักงานภายนอก
    - แฮกเกอร์ ติดสินบนพนักงานฝ่ายสนับสนุนเพื่อเข้าถึงข้อมูลลูกค้า

    ข้อมูลที่รั่วไหลประกอบด้วยชื่อ, ที่อยู่, อีเมล, หมายเลขบัญชีธนาคารที่ถูกปกปิด และหมายเลขประกันสังคมบางส่วน
    - แต่ ไม่มีรหัสผ่าน, คีย์ส่วนตัว หรือการเข้าถึงเงินของลูกค้าโดยตรง

    Coinbase ปฏิเสธที่จะจ่ายค่าไถ่ 20 ล้านดอลลาร์ให้กับแฮกเกอร์
    - บริษัท เลือกที่จะร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายแทน

    Coinbase ตั้งกองทุนรางวัล 20 ล้านดอลลาร์สำหรับข้อมูลที่นำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิด
    - พร้อม เพิ่มระบบตรวจจับการฉ้อโกงเพื่อป้องกันเหตุการณ์ในอนาคต

    Coinbase ให้คำมั่นว่าจะชดเชยลูกค้าที่ถูกหลอกให้โอนเงินไปยังแฮกเกอร์
    - เพื่อ ลดผลกระทบจากการโจมตีครั้งนี้

    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงที่ Coinbase กำลังเตรียมเข้าร่วมดัชนี S&P 500
    - ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของแพลตฟอร์ม

    https://www.techspot.com/news/107943-coinbase-data-breach-exposes-customer-info-20-million.html
    Coinbase เผชิญเหตุโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่ พร้อมเรียกค่าไถ่ 20 ล้านดอลลาร์ Coinbase ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ เปิดเผยว่ามีการโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่ทำให้ข้อมูลลูกค้าบางส่วนรั่วไหล โดยแฮกเกอร์เรียกร้องค่าไถ่ 20 ล้านดอลลาร์ แต่บริษัทปฏิเสธที่จะจ่ายเงินและเลือกที่จะร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายแทน 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับเหตุโจมตีไซเบอร์ของ Coinbase ✅ Coinbase ถูกโจมตีไซเบอร์โดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่ใช้เครือข่ายพนักงานภายนอก - แฮกเกอร์ ติดสินบนพนักงานฝ่ายสนับสนุนเพื่อเข้าถึงข้อมูลลูกค้า ✅ ข้อมูลที่รั่วไหลประกอบด้วยชื่อ, ที่อยู่, อีเมล, หมายเลขบัญชีธนาคารที่ถูกปกปิด และหมายเลขประกันสังคมบางส่วน - แต่ ไม่มีรหัสผ่าน, คีย์ส่วนตัว หรือการเข้าถึงเงินของลูกค้าโดยตรง ✅ Coinbase ปฏิเสธที่จะจ่ายค่าไถ่ 20 ล้านดอลลาร์ให้กับแฮกเกอร์ - บริษัท เลือกที่จะร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายแทน ✅ Coinbase ตั้งกองทุนรางวัล 20 ล้านดอลลาร์สำหรับข้อมูลที่นำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิด - พร้อม เพิ่มระบบตรวจจับการฉ้อโกงเพื่อป้องกันเหตุการณ์ในอนาคต ✅ Coinbase ให้คำมั่นว่าจะชดเชยลูกค้าที่ถูกหลอกให้โอนเงินไปยังแฮกเกอร์ - เพื่อ ลดผลกระทบจากการโจมตีครั้งนี้ ✅ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงที่ Coinbase กำลังเตรียมเข้าร่วมดัชนี S&P 500 - ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของแพลตฟอร์ม https://www.techspot.com/news/107943-coinbase-data-breach-exposes-customer-info-20-million.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Inside job at Coinbase leads to massive data breach, $20 million ransom demanded
    Coinbase, the largest cryptocurrency exchange in the United States, is facing significant fallout after disclosing a major cyberattack that compromised sensitive data from some of its customers....
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 617 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple บล็อกการส่ง Fortnite ไปยัง App Store ทำให้เกมออฟไลน์ทั่วโลกบน iOS

    Epic Games ยังคงเผชิญกับข้อพิพาทกับ Apple หลังจากที่ Apple บล็อกการส่งเกม Fortnite ไปยัง App Store ทำให้เกมไม่สามารถเปิดให้เล่นบน iOS ได้ทั่วโลก Epic ระบุว่า Fortnite จะยังคงออฟไลน์บน iOS จนกว่า Apple จะปลดบล็อก

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการบล็อก Fortnite บน iOS
    Apple บล็อกการส่ง Fortnite ไปยัง App Store ในสหรัฐฯ และ Epic Games Store สำหรับ iOS ในยุโรป
    - ส่งผลให้ เกมไม่สามารถเปิดให้เล่นบน iOS ได้ทั่วโลก

    Fortnite ถูกลบออกจาก App Store ตั้งแต่ปี 2020 หลังจาก Epic ใช้ระบบชำระเงินโดยตรง
    - ระบบนี้ หลีกเลี่ยงค่าคอมมิชชัน 30% ของ Apple

    Epic Games ชนะคดีในศาลที่สั่งให้ Apple เปิด App Store ให้มีการแข่งขันมากขึ้น
    - แต่ Apple ตอบโต้ด้วยการกำหนดค่าคอมมิชชัน 27% สำหรับการชำระเงินภายนอก

    Epic Games CEO Tim Sweeney เคยประกาศว่า Fortnite จะกลับสู่ iOS ในสหรัฐฯ แต่ถูกบล็อกก่อนเปิดตัว
    - ทำให้ เกมยังคงไม่สามารถเล่นได้บน iOS

    Apple และรองประธานฝ่ายการเงินถูกส่งเรื่องไปยังอัยการกลางเพื่อสอบสวนข้อหาดูหมิ่นศาล
    - ศาลระบุว่า Apple จงใจละเมิดคำสั่งศาลเพื่อจำกัดการแข่งขัน

    https://www.techspot.com/news/107946-epic-apple-has-blocked-fortnite-app-store-submission.html
    Apple บล็อกการส่ง Fortnite ไปยัง App Store ทำให้เกมออฟไลน์ทั่วโลกบน iOS Epic Games ยังคงเผชิญกับข้อพิพาทกับ Apple หลังจากที่ Apple บล็อกการส่งเกม Fortnite ไปยัง App Store ทำให้เกมไม่สามารถเปิดให้เล่นบน iOS ได้ทั่วโลก Epic ระบุว่า Fortnite จะยังคงออฟไลน์บน iOS จนกว่า Apple จะปลดบล็อก 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการบล็อก Fortnite บน iOS ✅ Apple บล็อกการส่ง Fortnite ไปยัง App Store ในสหรัฐฯ และ Epic Games Store สำหรับ iOS ในยุโรป - ส่งผลให้ เกมไม่สามารถเปิดให้เล่นบน iOS ได้ทั่วโลก ✅ Fortnite ถูกลบออกจาก App Store ตั้งแต่ปี 2020 หลังจาก Epic ใช้ระบบชำระเงินโดยตรง - ระบบนี้ หลีกเลี่ยงค่าคอมมิชชัน 30% ของ Apple ✅ Epic Games ชนะคดีในศาลที่สั่งให้ Apple เปิด App Store ให้มีการแข่งขันมากขึ้น - แต่ Apple ตอบโต้ด้วยการกำหนดค่าคอมมิชชัน 27% สำหรับการชำระเงินภายนอก ✅ Epic Games CEO Tim Sweeney เคยประกาศว่า Fortnite จะกลับสู่ iOS ในสหรัฐฯ แต่ถูกบล็อกก่อนเปิดตัว - ทำให้ เกมยังคงไม่สามารถเล่นได้บน iOS ✅ Apple และรองประธานฝ่ายการเงินถูกส่งเรื่องไปยังอัยการกลางเพื่อสอบสวนข้อหาดูหมิ่นศาล - ศาลระบุว่า Apple จงใจละเมิดคำสั่งศาลเพื่อจำกัดการแข่งขัน https://www.techspot.com/news/107946-epic-apple-has-blocked-fortnite-app-store-submission.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Epic says Apple has blocked Fortnite's App Store submission - game now offline worldwide on iOS
    A post on the official Fortnite X account states, "Apple has blocked our Fortnite submission so we cannot release to the US App Store or to the...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 278 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยใน CPU, GPU และซอฟต์แวร์เกม

    Intel ได้ปล่อยอัปเดต แพตช์ความปลอดภัย เพื่อแก้ไขช่องโหว่ที่พบใน CPU, GPU และซอฟต์แวร์เกม โดยช่องโหว่เหล่านี้มีระดับความรุนแรงตั้งแต่ ปานกลางถึงสูง ซึ่งอาจถูกใช้ในการโจมตีไซเบอร์

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับแพตช์ความปลอดภัยของ Intel
    Intel ออกแพตช์ใหม่เพื่อแก้ไขช่องโหว่ในหลายผลิตภัณฑ์
    - ครอบคลุม CPU, GPU และซอฟต์แวร์เกม

    ช่องโหว่ใน Endurance Gaming Mode อาจถูกใช้เพื่อเพิ่มสิทธิ์การเข้าถึงระบบ
    - Intel ได้แก้ไขปัญหานี้ในเวอร์ชันล่าสุดของซอฟต์แวร์

    ช่องโหว่ที่ร้ายแรงที่สุดพบในไดรเวอร์กราฟิกของ Intel
    - มี 10 ช่องโหว่ที่อาจถูกใช้เพื่อเข้าถึงข้อมูลสำคัญหรือโจมตีแบบ DDoS

    ไดรเวอร์ที่ได้รับผลกระทบครอบคลุมตั้งแต่ Intel Core รุ่นที่ 6 ถึง Core Ultra
    - รวมถึง สถาปัตยกรรม Arrow Lake และ Data Center GPU Flex series

    Intel ออกอัปเดตเฟิร์มแวร์เพื่อแก้ไขช่องโหว่ใน Core Ultra CPU
    - ช่องโหว่เหล่านี้ อาจถูกใช้เพื่อเพิ่มสิทธิ์การเข้าถึงระบบ

    ช่องโหว่ CVE-2025-20012 และ CVE-2025-24495 ถูกค้นพบโดยนักวิจัยด้านความปลอดภัย
    - Intel ได้แก้ไขปัญหานี้ด้วยการอัปเดต microcode

    https://www.techspot.com/news/107942-intel-releases-patches-fix-security-vulnerabilities-cpus-gpus.html
    Intel ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยใน CPU, GPU และซอฟต์แวร์เกม Intel ได้ปล่อยอัปเดต แพตช์ความปลอดภัย เพื่อแก้ไขช่องโหว่ที่พบใน CPU, GPU และซอฟต์แวร์เกม โดยช่องโหว่เหล่านี้มีระดับความรุนแรงตั้งแต่ ปานกลางถึงสูง ซึ่งอาจถูกใช้ในการโจมตีไซเบอร์ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับแพตช์ความปลอดภัยของ Intel ✅ Intel ออกแพตช์ใหม่เพื่อแก้ไขช่องโหว่ในหลายผลิตภัณฑ์ - ครอบคลุม CPU, GPU และซอฟต์แวร์เกม ✅ ช่องโหว่ใน Endurance Gaming Mode อาจถูกใช้เพื่อเพิ่มสิทธิ์การเข้าถึงระบบ - Intel ได้แก้ไขปัญหานี้ในเวอร์ชันล่าสุดของซอฟต์แวร์ ✅ ช่องโหว่ที่ร้ายแรงที่สุดพบในไดรเวอร์กราฟิกของ Intel - มี 10 ช่องโหว่ที่อาจถูกใช้เพื่อเข้าถึงข้อมูลสำคัญหรือโจมตีแบบ DDoS ✅ ไดรเวอร์ที่ได้รับผลกระทบครอบคลุมตั้งแต่ Intel Core รุ่นที่ 6 ถึง Core Ultra - รวมถึง สถาปัตยกรรม Arrow Lake และ Data Center GPU Flex series ✅ Intel ออกอัปเดตเฟิร์มแวร์เพื่อแก้ไขช่องโหว่ใน Core Ultra CPU - ช่องโหว่เหล่านี้ อาจถูกใช้เพื่อเพิ่มสิทธิ์การเข้าถึงระบบ ✅ ช่องโหว่ CVE-2025-20012 และ CVE-2025-24495 ถูกค้นพบโดยนักวิจัยด้านความปลอดภัย - Intel ได้แก้ไขปัญหานี้ด้วยการอัปเดต microcode https://www.techspot.com/news/107942-intel-releases-patches-fix-security-vulnerabilities-cpus-gpus.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Intel releases patches to fix security vulnerabilities in its CPUs, GPUs, and gaming software
    Like many other IT vendors and software developers, Intel has long been releasing new security patches at the same time as Microsoft's Patch Tuesday. This month's series...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 195 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia RTX Pro 6000: GPU เวิร์กสเตชันที่แรงกว่า RTX 5090 แต่ราคาสูงกว่าสามเท่า

    Nvidia ได้เปิดตัว RTX Pro 6000 Blackwell ซึ่งเป็น GPU เวิร์กสเตชันระดับสูง ที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่า RTX 5090 ในการทดสอบเบื้องต้น อย่างไรก็ตาม ราคาของมันสูงกว่าถึงสามเท่า ทำให้ไม่ใช่ตัวเลือกสำหรับเกมเมอร์ทั่วไป

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ RTX Pro 6000
    RTX Pro 6000 ใช้ชิปเดียวกับ RTX 5090 แต่มีสเปกที่สูงกว่า
    - มี 24,064 CUDA cores มากกว่า RTX 5090 ถึง 9%
    - ใช้ VRAM GDDR7 ขนาด 96GB เทียบกับ 32GB ของ RTX 5090
    - มี TGP สูงถึง 600W มากกว่า RTX 5090 ที่ 575W

    ผลการทดสอบเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่า RTX Pro 6000 มีประสิทธิภาพสูงกว่า RTX 5090
    - คะแนน Time Spy อยู่ที่ 51,776 และ Time Spy Extreme อยู่ที่ 28,009
    - เมื่อโอเวอร์คล็อก 350Hz คะแนนเพิ่มขึ้นเป็น 54,300 และ 30,019

    RTX Pro 6000 มีประสิทธิภาพสูงกว่า RTX 5090 ในบางการทดสอบ แต่ยังช้ากว่าเมื่อโอเวอร์คล็อก
    - เมื่อเปรียบเทียบกับ RTX 5090 ที่โอเวอร์คล็อก RTX Pro 6000 ยังช้ากว่า 5% ใน Time Spy

    การทดสอบ Cyberpunk 2077 พบว่า RTX Pro 6000 ทำเฟรมเรตเฉลี่ย 126 fps ที่ 4K
    - ใช้ DLSS Auto และ Ultra Ray Tracing Preset

    Nvidia วางตำแหน่ง RTX Pro 6000 เป็น GPU เวิร์กสเตชัน ไม่ใช่สำหรับเกมเมอร์
    - แม้ว่าจะใช้ชิปเดียวกับ RTX 5090 แต่ ออกแบบมาเพื่อการทำงานระดับมืออาชีพ

    ราคาของ RTX Pro 6000 อยู่ระหว่าง $8,000 ถึง $11,000
    - ทำให้ RTX 5090 ยังคงเป็นตัวเลือกหลักสำหรับเกมเมอร์

    https://www.techspot.com/news/107947-nvidia-rtx-pro-6000-quietly-beats-rtx-5090.html
    Nvidia RTX Pro 6000: GPU เวิร์กสเตชันที่แรงกว่า RTX 5090 แต่ราคาสูงกว่าสามเท่า Nvidia ได้เปิดตัว RTX Pro 6000 Blackwell ซึ่งเป็น GPU เวิร์กสเตชันระดับสูง ที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่า RTX 5090 ในการทดสอบเบื้องต้น อย่างไรก็ตาม ราคาของมันสูงกว่าถึงสามเท่า ทำให้ไม่ใช่ตัวเลือกสำหรับเกมเมอร์ทั่วไป 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ RTX Pro 6000 ✅ RTX Pro 6000 ใช้ชิปเดียวกับ RTX 5090 แต่มีสเปกที่สูงกว่า - มี 24,064 CUDA cores มากกว่า RTX 5090 ถึง 9% - ใช้ VRAM GDDR7 ขนาด 96GB เทียบกับ 32GB ของ RTX 5090 - มี TGP สูงถึง 600W มากกว่า RTX 5090 ที่ 575W ✅ ผลการทดสอบเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่า RTX Pro 6000 มีประสิทธิภาพสูงกว่า RTX 5090 - คะแนน Time Spy อยู่ที่ 51,776 และ Time Spy Extreme อยู่ที่ 28,009 - เมื่อโอเวอร์คล็อก 350Hz คะแนนเพิ่มขึ้นเป็น 54,300 และ 30,019 ✅ RTX Pro 6000 มีประสิทธิภาพสูงกว่า RTX 5090 ในบางการทดสอบ แต่ยังช้ากว่าเมื่อโอเวอร์คล็อก - เมื่อเปรียบเทียบกับ RTX 5090 ที่โอเวอร์คล็อก RTX Pro 6000 ยังช้ากว่า 5% ใน Time Spy ✅ การทดสอบ Cyberpunk 2077 พบว่า RTX Pro 6000 ทำเฟรมเรตเฉลี่ย 126 fps ที่ 4K - ใช้ DLSS Auto และ Ultra Ray Tracing Preset ✅ Nvidia วางตำแหน่ง RTX Pro 6000 เป็น GPU เวิร์กสเตชัน ไม่ใช่สำหรับเกมเมอร์ - แม้ว่าจะใช้ชิปเดียวกับ RTX 5090 แต่ ออกแบบมาเพื่อการทำงานระดับมืออาชีพ ✅ ราคาของ RTX Pro 6000 อยู่ระหว่าง $8,000 ถึง $11,000 - ทำให้ RTX 5090 ยังคงเป็นตัวเลือกหลักสำหรับเกมเมอร์ https://www.techspot.com/news/107947-nvidia-rtx-pro-6000-quietly-beats-rtx-5090.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Nvidia's RTX Pro 6000 quietly beats the RTX 5090 in early benchmarks, at triple the cost
    Redditor Privaterbok tested the RTX Pro 6000 Blackwell using several benchmarking tools, including 3DMark Time Spy, Time Spy Extreme, Steel Nomad, Port Royal, and Geekbench 6. The...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • แฮปปี้วันหยุดนะคะพึงเปลี่ยนกระถางให้ใหม่ฟูเต็มกระถางเลย เห็นแล้วใจฟูเลยค่ะ#แคคตัส
    แฮปปี้วันหยุดนะคะพึงเปลี่ยนกระถางให้ใหม่🌵ฟูเต็มกระถางเลย🌵🪴 เห็นแล้วใจฟูเลยค่ะ🥰#แคคตัส
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 0 รีวิว
  • Superwood: วัสดุแห่งอนาคตที่อาจแทนที่เหล็กและคอนกรีต

    InventWood บริษัทสตาร์ทอัพจากมหาวิทยาลัยแมริแลนด์ กำลังเตรียมเปิดตัววัสดุใหม่ที่เรียกว่า "Superwood" ซึ่งเป็นไม้ที่ผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์เพื่อให้มีความแข็งแรงมากกว่าเหล็กถึง 10 เท่า แต่ยังคงมีน้ำหนักเบาและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Superwood
    Superwood มีความแข็งแรงมากกว่าเหล็กถึง 10 เท่า แต่เบากว่า
    - ใช้เทคนิค การปรับโครงสร้างโมเลกุลของไม้เพื่อเพิ่มความแข็งแรง

    กระบวนการผลิตใช้สารเคมีจากอุตสาหกรรมอาหารเพื่อเสริมความแข็งแรงของเซลลูโลส
    - ทำให้ ไม้มีความทนทานต่อไฟ, น้ำ, การผุกร่อน และแมลง

    InventWood ได้รับเงินทุนกว่า 50 ล้านดอลลาร์ และเตรียมเปิดโรงงานผลิตเชิงพาณิชย์ในปี 2025
    - โรงงานแห่งแรกจะตั้งอยู่ที่ เมือง Frederick รัฐแมริแลนด์

    Superwood สามารถใช้แทนวัสดุก่อสร้างแบบดั้งเดิม เช่น คอนกรีตและเหล็ก
    - ช่วยลด การปล่อยคาร์บอนจากอุตสาหกรรมก่อสร้าง

    บริษัทมีแผนขยายการใช้งานไปยังโครงสร้างอาคารและวัสดุภายนอก เช่น หลังคาและพื้นไม้
    - โดยร่วมมือกับ Intectural ผู้จัดจำหน่ายวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ในอเมริกาเหนือ

    ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐบาล เช่น กระทรวงพลังงานและกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ
    - แสดงให้เห็นว่า วัสดุนี้มีศักยภาพในการใช้งานที่หลากหลาย

    Superwood ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการผลิตเชิงพาณิชย์
    - ต้องติดตามว่า จะสามารถผลิตในปริมาณมากได้หรือไม่

    https://www.techspot.com/news/107948-superwood-aims-replace-steel-concrete-sustainable-alternative.html
    Superwood: วัสดุแห่งอนาคตที่อาจแทนที่เหล็กและคอนกรีต InventWood บริษัทสตาร์ทอัพจากมหาวิทยาลัยแมริแลนด์ กำลังเตรียมเปิดตัววัสดุใหม่ที่เรียกว่า "Superwood" ซึ่งเป็นไม้ที่ผ่านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์เพื่อให้มีความแข็งแรงมากกว่าเหล็กถึง 10 เท่า แต่ยังคงมีน้ำหนักเบาและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Superwood ✅ Superwood มีความแข็งแรงมากกว่าเหล็กถึง 10 เท่า แต่เบากว่า - ใช้เทคนิค การปรับโครงสร้างโมเลกุลของไม้เพื่อเพิ่มความแข็งแรง ✅ กระบวนการผลิตใช้สารเคมีจากอุตสาหกรรมอาหารเพื่อเสริมความแข็งแรงของเซลลูโลส - ทำให้ ไม้มีความทนทานต่อไฟ, น้ำ, การผุกร่อน และแมลง ✅ InventWood ได้รับเงินทุนกว่า 50 ล้านดอลลาร์ และเตรียมเปิดโรงงานผลิตเชิงพาณิชย์ในปี 2025 - โรงงานแห่งแรกจะตั้งอยู่ที่ เมือง Frederick รัฐแมริแลนด์ ✅ Superwood สามารถใช้แทนวัสดุก่อสร้างแบบดั้งเดิม เช่น คอนกรีตและเหล็ก - ช่วยลด การปล่อยคาร์บอนจากอุตสาหกรรมก่อสร้าง ✅ บริษัทมีแผนขยายการใช้งานไปยังโครงสร้างอาคารและวัสดุภายนอก เช่น หลังคาและพื้นไม้ - โดยร่วมมือกับ Intectural ผู้จัดจำหน่ายวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ในอเมริกาเหนือ ✅ ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐบาล เช่น กระทรวงพลังงานและกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ - แสดงให้เห็นว่า วัสดุนี้มีศักยภาพในการใช้งานที่หลากหลาย ‼️ Superwood ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการผลิตเชิงพาณิชย์ - ต้องติดตามว่า จะสามารถผลิตในปริมาณมากได้หรือไม่ https://www.techspot.com/news/107948-superwood-aims-replace-steel-concrete-sustainable-alternative.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Superwood aims to replace steel and concrete with a sustainable alternative
    What began as a laboratory experiment at the University of Maryland is now poised to significantly influence construction practices. InventWood, a startup spun out of the university,...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 486 มุมมอง 0 รีวิว
  • Bungie ถูกจับได้ว่าใช้ภาพศิลปะที่ถูกขโมยในเกม Marathon และให้คำมั่นว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก

    Bungie กำลังเผชิญกับข้อกล่าวหาว่า ใช้ภาพศิลปะที่ถูกขโมยในเกม Marathon ซึ่งเป็นเกมยิงแบบมัลติเพลเยอร์ที่กำลังอยู่ในช่วงพัฒนา โดยศิลปินอิสระที่ชื่อ Antireal พบว่า ภาพบางส่วนในเกมมีความคล้ายคลึงกับผลงานของเธอที่สร้างขึ้นในปี 2017

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับกรณีของ Bungie และ Marathon
    Antireal พบว่าภาพศิลปะของเธอถูกใช้ใน Marathon โดยไม่ได้รับอนุญาต
    - เธอระบุว่า Bungie นำภาพของเธอไปใช้โดยไม่มีเครดิตหรือค่าตอบแทน

    Bungie อ้างว่าภาพที่ถูกใช้มาจากอดีตพนักงานที่ไม่ได้รับอนุญาต
    - ทีมพัฒนา ไม่ทราบว่ามีการละเมิดลิขสิทธิ์เกิดขึ้น

    Bungie ให้คำมั่นว่าจะตรวจสอบและแก้ไขปัญหานี้
    - บริษัท ติดต่อ Antireal เพื่อชดเชยและแก้ไขข้อผิดพลาด

    Bungie จะเพิ่มมาตรการตรวจสอบภาพศิลปะในเกมให้เข้มงวดขึ้น
    - เพื่อ ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกในอนาคต

    Marathon เป็นเกมยิงแบบ Extraction Shooter ที่จะเปิดตัวในเดือนกันยายน 2025
    - เกมนี้ เป็นการรีบูตจากเกม Marathon ดั้งเดิมที่เปิดตัวในปี 1994

    https://www.techspot.com/news/107951-bungie-caught-using-stolen-art-assets-marathon-promises.html
    Bungie ถูกจับได้ว่าใช้ภาพศิลปะที่ถูกขโมยในเกม Marathon และให้คำมั่นว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก Bungie กำลังเผชิญกับข้อกล่าวหาว่า ใช้ภาพศิลปะที่ถูกขโมยในเกม Marathon ซึ่งเป็นเกมยิงแบบมัลติเพลเยอร์ที่กำลังอยู่ในช่วงพัฒนา โดยศิลปินอิสระที่ชื่อ Antireal พบว่า ภาพบางส่วนในเกมมีความคล้ายคลึงกับผลงานของเธอที่สร้างขึ้นในปี 2017 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับกรณีของ Bungie และ Marathon ✅ Antireal พบว่าภาพศิลปะของเธอถูกใช้ใน Marathon โดยไม่ได้รับอนุญาต - เธอระบุว่า Bungie นำภาพของเธอไปใช้โดยไม่มีเครดิตหรือค่าตอบแทน ✅ Bungie อ้างว่าภาพที่ถูกใช้มาจากอดีตพนักงานที่ไม่ได้รับอนุญาต - ทีมพัฒนา ไม่ทราบว่ามีการละเมิดลิขสิทธิ์เกิดขึ้น ✅ Bungie ให้คำมั่นว่าจะตรวจสอบและแก้ไขปัญหานี้ - บริษัท ติดต่อ Antireal เพื่อชดเชยและแก้ไขข้อผิดพลาด ✅ Bungie จะเพิ่มมาตรการตรวจสอบภาพศิลปะในเกมให้เข้มงวดขึ้น - เพื่อ ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกในอนาคต ✅ Marathon เป็นเกมยิงแบบ Extraction Shooter ที่จะเปิดตัวในเดือนกันยายน 2025 - เกมนี้ เป็นการรีบูตจากเกม Marathon ดั้งเดิมที่เปิดตัวในปี 1994 https://www.techspot.com/news/107951-bungie-caught-using-stolen-art-assets-marathon-promises.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Bungie caught using stolen art assets in Marathon, promises it will not happen again
    Bungie is under fire for allegedly using stolen art assets in its extraction shooter Marathon. Independent artist Antireal caught the Washington-based studio "recycling" some of her designs,...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 265 มุมมอง 0 รีวิว
  • Pliops เปิดตัว XDP LightningAI: เร่งความเร็ว AI ด้วย SSD ประสิทธิภาพสูง

    Pliops ได้เปิดตัว XDP LightningAI ซึ่งเป็นอุปกรณ์ PCIe ที่ช่วยขยาย context window ของ AI โดยใช้ 3D NAND SSD เพื่อจัดเก็บข้อมูลที่คำนวณไว้ล่วงหน้า ทำให้สามารถเรียกใช้ข้อมูลได้ทันทีเมื่อจำเป็น และช่วยลดภาระของ HBM (High Bandwidth Memory) ใน GPU

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ XDP LightningAI
    XDP LightningAI ใช้ SSD ประสิทธิภาพสูงแทน HBM เพื่อจัดเก็บข้อมูล context
    - ช่วยให้ AI สามารถเรียกใช้ข้อมูลที่คำนวณไว้ล่วงหน้าได้ทันที

    สามารถเร่งความเร็ว inference ได้สูงสุดถึง 8 เท่า
    - ลด การคำนวณซ้ำซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ

    รองรับการทำงานร่วมกับ AI serving frameworks เช่น vLLM และ Nvidia Dynamo
    - ทำให้ สามารถใช้งานร่วมกับระบบ AI ที่มีอยู่ได้อย่างราบรื่น

    สามารถทำงานร่วมกับ GPU หลายตัวและรองรับ multi-node deployment
    - ช่วยให้ สามารถแชร์ข้อมูล context ระหว่าง inference jobs ได้

    ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานของ AI infrastructure
    - ทำให้ สามารถให้บริการโมเดลขนาดใหญ่ได้โดยไม่ต้องเพิ่ม GPU

    https://www.tomshardware.com/pc-components/ssds/pliops-expands-ais-context-windows-with-3d-nand-based-accelerator-can-accelerate-certain-inference-workflows-by-up-to-eight-times
    Pliops เปิดตัว XDP LightningAI: เร่งความเร็ว AI ด้วย SSD ประสิทธิภาพสูง Pliops ได้เปิดตัว XDP LightningAI ซึ่งเป็นอุปกรณ์ PCIe ที่ช่วยขยาย context window ของ AI โดยใช้ 3D NAND SSD เพื่อจัดเก็บข้อมูลที่คำนวณไว้ล่วงหน้า ทำให้สามารถเรียกใช้ข้อมูลได้ทันทีเมื่อจำเป็น และช่วยลดภาระของ HBM (High Bandwidth Memory) ใน GPU 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ XDP LightningAI ✅ XDP LightningAI ใช้ SSD ประสิทธิภาพสูงแทน HBM เพื่อจัดเก็บข้อมูล context - ช่วยให้ AI สามารถเรียกใช้ข้อมูลที่คำนวณไว้ล่วงหน้าได้ทันที ✅ สามารถเร่งความเร็ว inference ได้สูงสุดถึง 8 เท่า - ลด การคำนวณซ้ำซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ ✅ รองรับการทำงานร่วมกับ AI serving frameworks เช่น vLLM และ Nvidia Dynamo - ทำให้ สามารถใช้งานร่วมกับระบบ AI ที่มีอยู่ได้อย่างราบรื่น ✅ สามารถทำงานร่วมกับ GPU หลายตัวและรองรับ multi-node deployment - ช่วยให้ สามารถแชร์ข้อมูล context ระหว่าง inference jobs ได้ ✅ ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานของ AI infrastructure - ทำให้ สามารถให้บริการโมเดลขนาดใหญ่ได้โดยไม่ต้องเพิ่ม GPU https://www.tomshardware.com/pc-components/ssds/pliops-expands-ais-context-windows-with-3d-nand-based-accelerator-can-accelerate-certain-inference-workflows-by-up-to-eight-times
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 240 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯ อาจเพิ่ม CXMT และบริษัทชิปจีนอื่น ๆ เข้าไปในบัญชีดำการส่งออก

    รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณาเพิ่มบริษัทผู้ผลิตชิปของจีนหลายแห่งเข้าไปในบัญชีดำการส่งออก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีน โดยหนึ่งในบริษัทที่ถูกกล่าวถึงคือ ChangXin Memory Technologies (CXMT) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปหน่วยความจำรายใหญ่ของจีน

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการเพิ่มบริษัทชิปจีนเข้าไปในบัญชีดำ
    กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ กำลังพิจารณาเพิ่ม CXMT และบริษัทอื่น ๆ เข้าไปในบัญชีดำ
    - รายงานจาก Financial Times ระบุว่ามีแหล่งข่าว 5 รายที่ยืนยันเรื่องนี้

    บัญชีดำนี้จัดทำโดย Bureau of Industry and Security (BIS)
    - รวมถึง บริษัทในเครือของ Semiconductor Manufacturing International Corp (SMIC) และ Yangtze Memory Technologies Co

    CXMT เริ่มผลิตชิป DDR5 ในเดือนธันวาคม 2024
    - เป็น ชิป DDR5 ตัวแรกที่ผลิตในจีนสำหรับตลาดพีซี

    บริษัทที่อยู่ในบัญชีดำจะถูกจำกัดการซื้อเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ
    - เนื่องจาก สหรัฐฯ กังวลว่าจีนอาจใช้เทคโนโลยีอเมริกันเพื่อพัฒนาอาวุธไฮเปอร์โซนิกและแบบจำลองอาวุธนิวเคลียร์

    การเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนอาจเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจ
    - มีการประกาศ ข้อตกลงยกเลิกภาษีระหว่างสองประเทศเป็นเวลา 90 วัน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/trump-administration-could-add-cxmt-and-other-chinese-chipmakers-to-ever-expanding-export-blacklist
    สหรัฐฯ อาจเพิ่ม CXMT และบริษัทชิปจีนอื่น ๆ เข้าไปในบัญชีดำการส่งออก รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณาเพิ่มบริษัทผู้ผลิตชิปของจีนหลายแห่งเข้าไปในบัญชีดำการส่งออก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีน โดยหนึ่งในบริษัทที่ถูกกล่าวถึงคือ ChangXin Memory Technologies (CXMT) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปหน่วยความจำรายใหญ่ของจีน 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการเพิ่มบริษัทชิปจีนเข้าไปในบัญชีดำ ✅ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ กำลังพิจารณาเพิ่ม CXMT และบริษัทอื่น ๆ เข้าไปในบัญชีดำ - รายงานจาก Financial Times ระบุว่ามีแหล่งข่าว 5 รายที่ยืนยันเรื่องนี้ ✅ บัญชีดำนี้จัดทำโดย Bureau of Industry and Security (BIS) - รวมถึง บริษัทในเครือของ Semiconductor Manufacturing International Corp (SMIC) และ Yangtze Memory Technologies Co ✅ CXMT เริ่มผลิตชิป DDR5 ในเดือนธันวาคม 2024 - เป็น ชิป DDR5 ตัวแรกที่ผลิตในจีนสำหรับตลาดพีซี ✅ บริษัทที่อยู่ในบัญชีดำจะถูกจำกัดการซื้อเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ - เนื่องจาก สหรัฐฯ กังวลว่าจีนอาจใช้เทคโนโลยีอเมริกันเพื่อพัฒนาอาวุธไฮเปอร์โซนิกและแบบจำลองอาวุธนิวเคลียร์ ✅ การเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนอาจเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจ - มีการประกาศ ข้อตกลงยกเลิกภาษีระหว่างสองประเทศเป็นเวลา 90 วัน https://www.tomshardware.com/tech-industry/trump-administration-could-add-cxmt-and-other-chinese-chipmakers-to-ever-expanding-export-blacklist
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 327 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD Zen 6 "Medusa Point": APU รุ่นใหม่ที่อาจมีมากถึง 22 คอร์

    AMD กำลังพัฒนา Zen 6 "Medusa Point" ซึ่งเป็น APU รุ่นใหม่ที่คาดว่าจะมี สูงสุดถึง 22 คอร์ โดยใช้สถาปัตยกรรม MCM (Multi-Chip Module) ซึ่งช่วยให้สามารถรวมคอร์ประเภทต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นในการใช้งาน

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Zen 6 "Medusa Point"
    Zen 6 Medusa Point จะเป็นรุ่นต่อจาก Strix Point ที่ใช้ Zen 5
    - AMD อาจเปิดตัว Gorgon Point (Strix Point Refresh) ก่อน Medusa Point

    Medusa Point จะใช้สถาปัตยกรรม Zen 6 พร้อมคอร์แบบ Hybrid
    - ประกอบด้วย คอร์แบบ Classic, Dense และ Low-Power (LP)

    Ryzen 5 และ Ryzen 7 ใน Medusa Point อาจมีสูงสุด 10 คอร์
    - แบ่งเป็น 4 Classic Zen 6, 4 Dense Zen 6c และ 2 LP Cores

    Ryzen 9 Medusa Point อาจมีสูงสุดถึง 22 คอร์
    - ประกอบด้วย 12 Zen 6 CCD, 4 Classic Zen 6, 4 Dense Zen 6c และ 2 LP Cores

    ใช้กราฟิก RDNA 3.5+ พร้อม 8 Compute Units
    - อาจรองรับ FSR 4 และการปรับปรุงด้าน Machine Learning

    Medusa Point อาจใช้กระบวนการผลิต 3nm จาก TSMC
    - ช่วยให้ ประสิทธิภาพสูงขึ้นและใช้พลังงานน้อยลง

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amds-next-generation-zen-6-medusa-point-apus-could-feature-as-many-as-22-cores
    AMD Zen 6 "Medusa Point": APU รุ่นใหม่ที่อาจมีมากถึง 22 คอร์ AMD กำลังพัฒนา Zen 6 "Medusa Point" ซึ่งเป็น APU รุ่นใหม่ที่คาดว่าจะมี สูงสุดถึง 22 คอร์ โดยใช้สถาปัตยกรรม MCM (Multi-Chip Module) ซึ่งช่วยให้สามารถรวมคอร์ประเภทต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นในการใช้งาน 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Zen 6 "Medusa Point" ✅ Zen 6 Medusa Point จะเป็นรุ่นต่อจาก Strix Point ที่ใช้ Zen 5 - AMD อาจเปิดตัว Gorgon Point (Strix Point Refresh) ก่อน Medusa Point ✅ Medusa Point จะใช้สถาปัตยกรรม Zen 6 พร้อมคอร์แบบ Hybrid - ประกอบด้วย คอร์แบบ Classic, Dense และ Low-Power (LP) ✅ Ryzen 5 และ Ryzen 7 ใน Medusa Point อาจมีสูงสุด 10 คอร์ - แบ่งเป็น 4 Classic Zen 6, 4 Dense Zen 6c และ 2 LP Cores ✅ Ryzen 9 Medusa Point อาจมีสูงสุดถึง 22 คอร์ - ประกอบด้วย 12 Zen 6 CCD, 4 Classic Zen 6, 4 Dense Zen 6c และ 2 LP Cores ✅ ใช้กราฟิก RDNA 3.5+ พร้อม 8 Compute Units - อาจรองรับ FSR 4 และการปรับปรุงด้าน Machine Learning ✅ Medusa Point อาจใช้กระบวนการผลิต 3nm จาก TSMC - ช่วยให้ ประสิทธิภาพสูงขึ้นและใช้พลังงานน้อยลง https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amds-next-generation-zen-6-medusa-point-apus-could-feature-as-many-as-22-cores
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 234 มุมมอง 0 รีวิว
  • GlobalWafers ลงทุน 4 พันล้านดอลลาร์ในอุตสาหกรรมชิปของสหรัฐฯ หลังเปิดโรงงานในเท็กซัส

    GlobalWafers บริษัทผู้ผลิตแผ่นเวเฟอร์ซิลิคอนจากไต้หวัน ประกาศลงทุนเพิ่มอีก 4 พันล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ หลังจากเปิดโรงงานใหม่ในเมือง Sherman รัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนขยายการผลิตชิปในประเทศ

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการลงทุนของ GlobalWafers
    GlobalWafers เปิดโรงงานผลิตแผ่นเวเฟอร์ซิลิคอนใน Sherman, Texas
    - โรงงานนี้ จะผลิตแผ่นเวเฟอร์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์

    บริษัทประกาศลงทุนเพิ่มอีก 4 พันล้านดอลลาร์เพื่อขยายการผลิตในสหรัฐฯ
    - เป็นการ สนับสนุนการผลิตชิปภายในประเทศเพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้า

    โรงงานในเท็กซัสสร้างงานกว่า 200 ตำแหน่ง และมีพนักงานก่อสร้างกว่า 1,000 คน
    - คาดว่า จะเพิ่มตำแหน่งงานอีก 650 ตำแหน่งภายในปี 2028

    TSMC และ Nvidia ก็มีแผนลงทุนในตลาดชิปของสหรัฐฯ เช่นกัน
    - TSMC ประกาศลงทุน 165 พันล้านดอลลาร์ในโรงงานและศูนย์วิจัยในสหรัฐฯ
    - Nvidia ยืนยันว่าจะผลิตชิป Blackwell ในสหรัฐฯ

    การลงทุนนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความไม่แน่นอนด้านภาษีการนำเข้าฮาร์ดแวร์
    - เป็นผลจาก นโยบายของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ต้องการลดการพึ่งพาการผลิตจากเอเชีย

    แม้จะมีการลงทุนเพิ่มขึ้น แต่ยังต้องติดตามว่าการผลิตชิปในสหรัฐฯ จะสามารถแข่งขันกับเอเชียได้หรือไม่
    - อาจต้องใช้ เวลาหลายปีในการสร้างซัพพลายเชนที่มั่นคง

    การลงทุนของ GlobalWafers อาจได้รับผลกระทบจากนโยบายภาษีและข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อม
    - ต้องติดตามว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จะให้สิทธิพิเศษทางภาษีหรือไม่

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/globalwafers-to-invest-usd4-billion-into-u-s-chip-manufacturing-after-opening-texas-plant
    GlobalWafers ลงทุน 4 พันล้านดอลลาร์ในอุตสาหกรรมชิปของสหรัฐฯ หลังเปิดโรงงานในเท็กซัส GlobalWafers บริษัทผู้ผลิตแผ่นเวเฟอร์ซิลิคอนจากไต้หวัน ประกาศลงทุนเพิ่มอีก 4 พันล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ หลังจากเปิดโรงงานใหม่ในเมือง Sherman รัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนขยายการผลิตชิปในประเทศ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการลงทุนของ GlobalWafers ✅ GlobalWafers เปิดโรงงานผลิตแผ่นเวเฟอร์ซิลิคอนใน Sherman, Texas - โรงงานนี้ จะผลิตแผ่นเวเฟอร์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ✅ บริษัทประกาศลงทุนเพิ่มอีก 4 พันล้านดอลลาร์เพื่อขยายการผลิตในสหรัฐฯ - เป็นการ สนับสนุนการผลิตชิปภายในประเทศเพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้า ✅ โรงงานในเท็กซัสสร้างงานกว่า 200 ตำแหน่ง และมีพนักงานก่อสร้างกว่า 1,000 คน - คาดว่า จะเพิ่มตำแหน่งงานอีก 650 ตำแหน่งภายในปี 2028 ✅ TSMC และ Nvidia ก็มีแผนลงทุนในตลาดชิปของสหรัฐฯ เช่นกัน - TSMC ประกาศลงทุน 165 พันล้านดอลลาร์ในโรงงานและศูนย์วิจัยในสหรัฐฯ - Nvidia ยืนยันว่าจะผลิตชิป Blackwell ในสหรัฐฯ ✅ การลงทุนนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความไม่แน่นอนด้านภาษีการนำเข้าฮาร์ดแวร์ - เป็นผลจาก นโยบายของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ต้องการลดการพึ่งพาการผลิตจากเอเชีย ‼️ แม้จะมีการลงทุนเพิ่มขึ้น แต่ยังต้องติดตามว่าการผลิตชิปในสหรัฐฯ จะสามารถแข่งขันกับเอเชียได้หรือไม่ - อาจต้องใช้ เวลาหลายปีในการสร้างซัพพลายเชนที่มั่นคง ‼️ การลงทุนของ GlobalWafers อาจได้รับผลกระทบจากนโยบายภาษีและข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อม - ต้องติดตามว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จะให้สิทธิพิเศษทางภาษีหรือไม่ https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/globalwafers-to-invest-usd4-billion-into-u-s-chip-manufacturing-after-opening-texas-plant
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    GlobalWafers to invest $4 billion into U.S. chip manufacturing after opening Texas plant
    GlobalWafers is expanding its U.S. presence in the midst of tariff uncertainty.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 363 มุมมอง 0 รีวิว
  • TSMC ทุ่มงบ 42 พันล้านดอลลาร์ ขยายโรงงานผลิตชิป 9 แห่งในปี 2025

    TSMC ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ของโลก ประกาศแผนลงทุนระหว่าง 38-42 พันล้านดอลลาร์ เพื่อขยายกำลังการผลิต โดยจะสร้าง โรงงานผลิตชิป 8 แห่ง และโรงงานบรรจุภัณฑ์ขั้นสูง 1 แห่ง ในปี 2025

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับแผนขยายโรงงานของ TSMC
    TSMC จะสร้างโรงงานใหม่ 9 แห่งในปี 2025
    - ประกอบด้วย 8 โรงงานผลิตเวเฟอร์ และ 1 โรงงานบรรจุภัณฑ์ขั้นสูง

    โรงงานใหม่จะตั้งอยู่ในไต้หวัน, สหรัฐฯ, ญี่ปุ่น และเยอรมนี
    - รวมถึง Fab 21 ในรัฐแอริโซนา และ Fab 24 ในเยอรมนี

    TSMC จะเริ่มผลิตชิป 2nm (N2) ใน Fab 20 และ Fab 22 ในไต้หวัน
    - พร้อมรองรับ เทคโนโลยี A16 (1.6nm) ในปี 2026

    โรงงาน Fab 25 ในไต้หวันจะผลิตชิป 1.4nm (A14) ในปี 2028
    - เป็นหนึ่งในโรงงานที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงที่สุดของ TSMC

    TSMC กำลังเพิ่มการใช้เครื่อง EUV รุ่นใหม่จาก ASML
    - เครื่อง Low-NA EUV มีราคาสูงถึง 235 ล้านดอลลาร์ต่อเครื่อง

    TSMC วางแผนใช้เครื่อง High-NA EUV ในอนาคต ซึ่งมีราคาสูงถึง 380 ล้านดอลลาร์ต่อเครื่อง
    - เพื่อ เพิ่มความแม่นยำในการผลิตชิปขั้นสูง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/tsmc-to-spend-usd42-billion-on-expansion-in-2025-ambitious-plans-detail-nine-production-facilities
    TSMC ทุ่มงบ 42 พันล้านดอลลาร์ ขยายโรงงานผลิตชิป 9 แห่งในปี 2025 TSMC ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ของโลก ประกาศแผนลงทุนระหว่าง 38-42 พันล้านดอลลาร์ เพื่อขยายกำลังการผลิต โดยจะสร้าง โรงงานผลิตชิป 8 แห่ง และโรงงานบรรจุภัณฑ์ขั้นสูง 1 แห่ง ในปี 2025 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับแผนขยายโรงงานของ TSMC ✅ TSMC จะสร้างโรงงานใหม่ 9 แห่งในปี 2025 - ประกอบด้วย 8 โรงงานผลิตเวเฟอร์ และ 1 โรงงานบรรจุภัณฑ์ขั้นสูง ✅ โรงงานใหม่จะตั้งอยู่ในไต้หวัน, สหรัฐฯ, ญี่ปุ่น และเยอรมนี - รวมถึง Fab 21 ในรัฐแอริโซนา และ Fab 24 ในเยอรมนี ✅ TSMC จะเริ่มผลิตชิป 2nm (N2) ใน Fab 20 และ Fab 22 ในไต้หวัน - พร้อมรองรับ เทคโนโลยี A16 (1.6nm) ในปี 2026 ✅ โรงงาน Fab 25 ในไต้หวันจะผลิตชิป 1.4nm (A14) ในปี 2028 - เป็นหนึ่งในโรงงานที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงที่สุดของ TSMC ✅ TSMC กำลังเพิ่มการใช้เครื่อง EUV รุ่นใหม่จาก ASML - เครื่อง Low-NA EUV มีราคาสูงถึง 235 ล้านดอลลาร์ต่อเครื่อง ✅ TSMC วางแผนใช้เครื่อง High-NA EUV ในอนาคต ซึ่งมีราคาสูงถึง 380 ล้านดอลลาร์ต่อเครื่อง - เพื่อ เพิ่มความแม่นยำในการผลิตชิปขั้นสูง https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/tsmc-to-spend-usd42-billion-on-expansion-in-2025-ambitious-plans-detail-nine-production-facilities
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 282 มุมมอง 0 รีวิว
  • น่าสนใจทีเดียว ลุงก็ไม่ชอบลง app พวกนี้ เพราะใช้น้อยครั้งมาก

    MSI เปิดตัว PortalX: ควบคุมไฟ RGB ผ่านเว็บโดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์

    MSI ได้เปิดตัว PortalX ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเว็บที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ควบคุมไฟ RGB ของอุปกรณ์ MSI ผ่านเบราว์เซอร์ โดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติม เช่น MSI Center หรือ Mystic Light

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ MSI PortalX
    PortalX เป็นแพลตฟอร์มเว็บที่ช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมไฟ RGB ได้โดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์
    - รองรับ เมนบอร์ด, การ์ดจอ, พัดลมระบายความร้อน, คีย์บอร์ด และเมาส์ของ MSI

    ระบบสามารถตรวจจับอุปกรณ์ MSI ที่เชื่อมต่อกับเครื่องโดยอัตโนมัติ
    - ทำให้ การตั้งค่า RGB ง่ายขึ้นและลดความยุ่งยากในการติดตั้งซอฟต์แวร์

    PortalX รองรับเฉพาะ Windows ในตอนนี้
    - MSI ยังไม่มีแผนรองรับ macOS หรือ Linux

    แพลตฟอร์มนี้ใช้ Microsoft Edge ในการทดสอบ แต่ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเบราว์เซอร์อื่น ๆ
    - ผู้ใช้ อาจต้องรอการประกาศเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรองรับ Chrome หรือ Firefox

    https://www.tomshardware.com/software/msi-preps-web-based-rgb-controls-so-you-dont-have-to-install-bloatware-on-your-pc
    น่าสนใจทีเดียว ลุงก็ไม่ชอบลง app พวกนี้ เพราะใช้น้อยครั้งมาก MSI เปิดตัว PortalX: ควบคุมไฟ RGB ผ่านเว็บโดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ MSI ได้เปิดตัว PortalX ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเว็บที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ควบคุมไฟ RGB ของอุปกรณ์ MSI ผ่านเบราว์เซอร์ โดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติม เช่น MSI Center หรือ Mystic Light 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ MSI PortalX ✅ PortalX เป็นแพลตฟอร์มเว็บที่ช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมไฟ RGB ได้โดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ - รองรับ เมนบอร์ด, การ์ดจอ, พัดลมระบายความร้อน, คีย์บอร์ด และเมาส์ของ MSI ✅ ระบบสามารถตรวจจับอุปกรณ์ MSI ที่เชื่อมต่อกับเครื่องโดยอัตโนมัติ - ทำให้ การตั้งค่า RGB ง่ายขึ้นและลดความยุ่งยากในการติดตั้งซอฟต์แวร์ ✅ PortalX รองรับเฉพาะ Windows ในตอนนี้ - MSI ยังไม่มีแผนรองรับ macOS หรือ Linux ✅ แพลตฟอร์มนี้ใช้ Microsoft Edge ในการทดสอบ แต่ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเบราว์เซอร์อื่น ๆ - ผู้ใช้ อาจต้องรอการประกาศเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรองรับ Chrome หรือ Firefox https://www.tomshardware.com/software/msi-preps-web-based-rgb-controls-so-you-dont-have-to-install-bloatware-on-your-pc
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    MSI preps web-based RGB controls so you don't have to install bloatware on your PC
    MSI PortalX is set to become the web hub for RGB control and customization.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 283 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft พลาดกำหนดเส้นตายในการเปิดตัว Azure เวอร์ชันเฉพาะสำหรับ EU

    Microsoft ล้มเหลวในการส่งมอบ Azure เวอร์ชันเฉพาะสำหรับสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้ให้สำเร็จภายใน กลางเดือนเมษายน 2025 โดยโครงการนี้เป็นผลมาจาก ข้อร้องเรียนด้านการต่อต้านการแข่งขันจาก CISPE ซึ่งกล่าวหาว่า Microsoft ให้สิทธิพิเศษแก่ Azure มากกว่าคู่แข่ง

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับกรณีของ Microsoft และ CISPE
    Microsoft เคยให้คำมั่นว่าจะสร้าง Hoster Product สำหรับผู้ให้บริการคลาวด์ใน EU
    - ฟีเจอร์ที่สัญญาไว้ ได้แก่ การรองรับ multi-tenancy, การจำกัดการใช้งานเสมือนแบบไม่จำกัด และการให้สิทธิ์ใช้งาน SQL Server แบบจ่ายตามการใช้งาน

    CISPE เคยร้องเรียนว่า Microsoft ทำให้การใช้ซอฟต์แวร์ของตนบนคลาวด์คู่แข่งมีต้นทุนสูงขึ้น
    - ทำให้ Microsoft ต้องปรับเงื่อนไขการให้สิทธิ์ใช้งานเพื่อเปิดโอกาสให้เกิดการแข่งขันมากขึ้น

    European Cloud Competition Observatory (ECCO) ออกรายงานฉบับที่สองเกี่ยวกับ Microsoft
    - ECCO ยังคงให้คะแนน "amber" ซึ่งหมายถึงยังมีข้อกังวลอยู่

    Microsoft ต้องเสนอทางเลือกใหม่ (Plan B) ภายในวันที่ 10 กรกฎาคม 2025
    - หากไม่สามารถทำได้ อาจเผชิญกับการดำเนินคดีทางกฎหมายเพิ่มเติม

    CISPE ระบุว่าการเจรจายังดำเนินต่อไป แม้ว่า Microsoft จะพลาดกำหนดเส้นตาย
    - CISPE ยังคงเปิดรับทางเลือกอื่นที่สามารถแข่งขันได้อย่างเป็นธรรม

    https://www.techradar.com/pro/microsoft-misses-deadline-for-secure-eu-azure
    Microsoft พลาดกำหนดเส้นตายในการเปิดตัว Azure เวอร์ชันเฉพาะสำหรับ EU Microsoft ล้มเหลวในการส่งมอบ Azure เวอร์ชันเฉพาะสำหรับสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้ให้สำเร็จภายใน กลางเดือนเมษายน 2025 โดยโครงการนี้เป็นผลมาจาก ข้อร้องเรียนด้านการต่อต้านการแข่งขันจาก CISPE ซึ่งกล่าวหาว่า Microsoft ให้สิทธิพิเศษแก่ Azure มากกว่าคู่แข่ง 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับกรณีของ Microsoft และ CISPE ✅ Microsoft เคยให้คำมั่นว่าจะสร้าง Hoster Product สำหรับผู้ให้บริการคลาวด์ใน EU - ฟีเจอร์ที่สัญญาไว้ ได้แก่ การรองรับ multi-tenancy, การจำกัดการใช้งานเสมือนแบบไม่จำกัด และการให้สิทธิ์ใช้งาน SQL Server แบบจ่ายตามการใช้งาน ✅ CISPE เคยร้องเรียนว่า Microsoft ทำให้การใช้ซอฟต์แวร์ของตนบนคลาวด์คู่แข่งมีต้นทุนสูงขึ้น - ทำให้ Microsoft ต้องปรับเงื่อนไขการให้สิทธิ์ใช้งานเพื่อเปิดโอกาสให้เกิดการแข่งขันมากขึ้น ✅ European Cloud Competition Observatory (ECCO) ออกรายงานฉบับที่สองเกี่ยวกับ Microsoft - ECCO ยังคงให้คะแนน "amber" ซึ่งหมายถึงยังมีข้อกังวลอยู่ ✅ Microsoft ต้องเสนอทางเลือกใหม่ (Plan B) ภายในวันที่ 10 กรกฎาคม 2025 - หากไม่สามารถทำได้ อาจเผชิญกับการดำเนินคดีทางกฎหมายเพิ่มเติม ✅ CISPE ระบุว่าการเจรจายังดำเนินต่อไป แม้ว่า Microsoft จะพลาดกำหนดเส้นตาย - CISPE ยังคงเปิดรับทางเลือกอื่นที่สามารถแข่งขันได้อย่างเป็นธรรม https://www.techradar.com/pro/microsoft-misses-deadline-for-secure-eu-azure
    WWW.TECHRADAR.COM
    Microsoft misses deadline for secure EU Azure
    Microsoft failed to meet its agreement with CISPE
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 338 มุมมอง 0 รีวิว
  • 17 พฤษภาคม 2568-SONDHI TALK Live ผู้เสียหาย กยศ.รวมตัวเดินทางเข้าบ้านพระอาทิตย์เซ็นมอบอำนาจฟ้อง

    https://www.facebook.com/share/v/1ACCGuL24X/?mibextid=wwXIfr
    17 พฤษภาคม 2568-SONDHI TALK Live ผู้เสียหาย กยศ.รวมตัวเดินทางเข้าบ้านพระอาทิตย์เซ็นมอบอำนาจฟ้อง https://www.facebook.com/share/v/1ACCGuL24X/?mibextid=wwXIfr
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 425 มุมมอง 0 รีวิว
  • Acer เปิดตัว FreeSense Ring: สมาร์ตริงติดตามสุขภาพด้วย AI

    Acer ได้เปิดตัว FreeSense Ring ซึ่งเป็น สมาร์ตริงสำหรับติดตามสุขภาพ ที่มาพร้อมกับ AI-enhanced wellness insights โดยอุปกรณ์นี้สามารถ วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, ความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจ, ระดับออกซิเจนในเลือด และคุณภาพการนอนหลับ

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Acer FreeSense Ring
    FreeSense Ring เปิดตัวที่งาน Computex 2025 ในไทเป
    - Acer ยังไม่เปิดเผยราคาหรือวันวางจำหน่าย

    มีให้เลือกสองสี: Rose Gold (ด้าน) และ Black (เงา)
    - ขนาด 7-13 และน้ำหนักระหว่าง 2-3 กรัม

    ผลิตจากไทเทเนียมอัลลอยน้ำหนักเบา
    - ช่วยให้ สวมใส่สบายและทนทานต่อการใช้งาน

    กันน้ำระดับ 5ATM สามารถใส่อาบน้ำและว่ายน้ำได้
    - แต่ ไม่เหมาะสำหรับการดำน้ำลึก

    ใช้แอปมือถือในการวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพและให้คำแนะนำส่วนบุคคล
    - มี ฟีเจอร์วิเคราะห์ช่วงการนอนและติดตามสุขภาพอย่างต่อเนื่อง

    ไม่มีค่าธรรมเนียมสมัครสมาชิกเพิ่มเติม
    - แตกต่างจาก Oura Ring 4 ที่ต้องสมัครสมาชิกเพื่อเข้าถึงฟีเจอร์บางอย่าง

    https://www.techradar.com/health-fitness/acers-surprise-new-device-is-nothing-to-do-with-your-laptop-its-a-fitness-tracking-smart-ring
    Acer เปิดตัว FreeSense Ring: สมาร์ตริงติดตามสุขภาพด้วย AI Acer ได้เปิดตัว FreeSense Ring ซึ่งเป็น สมาร์ตริงสำหรับติดตามสุขภาพ ที่มาพร้อมกับ AI-enhanced wellness insights โดยอุปกรณ์นี้สามารถ วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, ความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจ, ระดับออกซิเจนในเลือด และคุณภาพการนอนหลับ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Acer FreeSense Ring ✅ FreeSense Ring เปิดตัวที่งาน Computex 2025 ในไทเป - Acer ยังไม่เปิดเผยราคาหรือวันวางจำหน่าย ✅ มีให้เลือกสองสี: Rose Gold (ด้าน) และ Black (เงา) - ขนาด 7-13 และน้ำหนักระหว่าง 2-3 กรัม ✅ ผลิตจากไทเทเนียมอัลลอยน้ำหนักเบา - ช่วยให้ สวมใส่สบายและทนทานต่อการใช้งาน ✅ กันน้ำระดับ 5ATM สามารถใส่อาบน้ำและว่ายน้ำได้ - แต่ ไม่เหมาะสำหรับการดำน้ำลึก ✅ ใช้แอปมือถือในการวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพและให้คำแนะนำส่วนบุคคล - มี ฟีเจอร์วิเคราะห์ช่วงการนอนและติดตามสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ✅ ไม่มีค่าธรรมเนียมสมัครสมาชิกเพิ่มเติม - แตกต่างจาก Oura Ring 4 ที่ต้องสมัครสมาชิกเพื่อเข้าถึงฟีเจอร์บางอย่าง https://www.techradar.com/health-fitness/acers-surprise-new-device-is-nothing-to-do-with-your-laptop-its-a-fitness-tracking-smart-ring
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 566 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nova Scotia Power ถูกโจมตีไซเบอร์ ข้อมูลลูกค้ารั่วไหล

    Nova Scotia Power ซึ่งเป็นผู้ให้บริการไฟฟ้ารายใหญ่ในแคนาดา ยืนยันว่าถูกโจมตีไซเบอร์เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2025 โดยแฮกเกอร์สามารถ ขโมยข้อมูลลูกค้าจำนวนมาก รวมถึง ชื่อ, หมายเลขโทรศัพท์, อีเมล, ที่อยู่, ประวัติการใช้ไฟฟ้า และหมายเลขประกันสังคม

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับเหตุโจมตีไซเบอร์ของ Nova Scotia Power
    การโจมตีเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2025
    - Nova Scotia Power ยืนยันว่าข้อมูลลูกค้าถูกขโมย แต่ระบบไฟฟ้าไม่ได้รับผลกระทบ

    ข้อมูลที่ถูกขโมยรวมถึงชื่อ, หมายเลขโทรศัพท์, อีเมล, ที่อยู่ และหมายเลขประกันสังคม
    - นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลบัญชีธนาคารของลูกค้าบางรายที่ใช้ระบบชำระเงินอัตโนมัติ

    บริษัทเสนอให้ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบสมัครบริการตรวจสอบเครดิตฟรีเป็นเวลา 2 ปี
    - เพื่อ ช่วยป้องกันการโจรกรรมข้อมูลส่วนตัว

    ยังไม่มีหลักฐานว่าข้อมูลที่ถูกขโมยถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด
    - Nova Scotia Power กำลังแจ้งเตือนลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ

    ไม่มีแฮกเกอร์กลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อการโจมตีครั้งนี้
    - ทำให้ ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นการโจมตีจากกลุ่มใด

    https://www.techradar.com/pro/security/hackers-steal-customer-data-in-nova-scotia-power-cyberattack
    Nova Scotia Power ถูกโจมตีไซเบอร์ ข้อมูลลูกค้ารั่วไหล Nova Scotia Power ซึ่งเป็นผู้ให้บริการไฟฟ้ารายใหญ่ในแคนาดา ยืนยันว่าถูกโจมตีไซเบอร์เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2025 โดยแฮกเกอร์สามารถ ขโมยข้อมูลลูกค้าจำนวนมาก รวมถึง ชื่อ, หมายเลขโทรศัพท์, อีเมล, ที่อยู่, ประวัติการใช้ไฟฟ้า และหมายเลขประกันสังคม 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับเหตุโจมตีไซเบอร์ของ Nova Scotia Power ✅ การโจมตีเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2025 - Nova Scotia Power ยืนยันว่าข้อมูลลูกค้าถูกขโมย แต่ระบบไฟฟ้าไม่ได้รับผลกระทบ ✅ ข้อมูลที่ถูกขโมยรวมถึงชื่อ, หมายเลขโทรศัพท์, อีเมล, ที่อยู่ และหมายเลขประกันสังคม - นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลบัญชีธนาคารของลูกค้าบางรายที่ใช้ระบบชำระเงินอัตโนมัติ ✅ บริษัทเสนอให้ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบสมัครบริการตรวจสอบเครดิตฟรีเป็นเวลา 2 ปี - เพื่อ ช่วยป้องกันการโจรกรรมข้อมูลส่วนตัว ✅ ยังไม่มีหลักฐานว่าข้อมูลที่ถูกขโมยถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด - Nova Scotia Power กำลังแจ้งเตือนลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ ✅ ไม่มีแฮกเกอร์กลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อการโจมตีครั้งนี้ - ทำให้ ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นการโจมตีจากกลุ่มใด https://www.techradar.com/pro/security/hackers-steal-customer-data-in-nova-scotia-power-cyberattack
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 262 มุมมอง 0 รีวิว
  • CISA เตือนช่องโหว่ใหม่ใน Chrome แม้ Google จะออกแพตช์แล้ว

    CISA (Cybersecurity and Infrastructure Security Agency) เพิ่มช่องโหว่ใหม่ของ Chrome เข้าไปในรายการ Known Exploited Vulnerabilities (KEV) ซึ่งหมายความว่า ช่องโหว่นี้กำลังถูกใช้โจมตีในโลกไซเบอร์ แม้ว่า Google จะออกแพตช์แก้ไขแล้ว

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับช่องโหว่ CVE-2025-4664
    ช่องโหว่ถูกค้นพบโดยนักวิจัยจาก Solidlab เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2025
    - เป็น ปัญหาการบังคับใช้นโยบายที่ไม่เพียงพอใน Loader ของ Chrome

    ช่องโหว่ทำให้แฮกเกอร์สามารถขโมยข้อมูลข้ามโดเมนผ่าน HTML ที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ
    - อาจนำไปสู่ การเข้ายึดบัญชี (Account Takeover) ใน OAuth flows

    Google ออกแพตช์แก้ไขเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2025
    - เวอร์ชันที่ปลอดภัยคือ 136.0.7103.113 สำหรับ Windows/Linux และ 136.0.7103.114 สำหรับ macOS

    CISA กำหนดให้หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ต้องอัปเดต Chrome ภายในวันที่ 5 มิถุนายน 2025
    - หากไม่สามารถอัปเดตได้ ต้องหยุดใช้ Chrome ทันที

    ช่องโหว่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อหน่วยงานรัฐบาลและองค์กรขนาดใหญ่
    - เนื่องจาก เว็บเบราว์เซอร์เป็นเป้าหมายหลักของแฮกเกอร์

    https://www.techradar.com/pro/security/chrome-patched-this-bug-but-cisa-says-its-still-actively-exploited
    CISA เตือนช่องโหว่ใหม่ใน Chrome แม้ Google จะออกแพตช์แล้ว CISA (Cybersecurity and Infrastructure Security Agency) เพิ่มช่องโหว่ใหม่ของ Chrome เข้าไปในรายการ Known Exploited Vulnerabilities (KEV) ซึ่งหมายความว่า ช่องโหว่นี้กำลังถูกใช้โจมตีในโลกไซเบอร์ แม้ว่า Google จะออกแพตช์แก้ไขแล้ว 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับช่องโหว่ CVE-2025-4664 ✅ ช่องโหว่ถูกค้นพบโดยนักวิจัยจาก Solidlab เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2025 - เป็น ปัญหาการบังคับใช้นโยบายที่ไม่เพียงพอใน Loader ของ Chrome ✅ ช่องโหว่ทำให้แฮกเกอร์สามารถขโมยข้อมูลข้ามโดเมนผ่าน HTML ที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ - อาจนำไปสู่ การเข้ายึดบัญชี (Account Takeover) ใน OAuth flows ✅ Google ออกแพตช์แก้ไขเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2025 - เวอร์ชันที่ปลอดภัยคือ 136.0.7103.113 สำหรับ Windows/Linux และ 136.0.7103.114 สำหรับ macOS ✅ CISA กำหนดให้หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ต้องอัปเดต Chrome ภายในวันที่ 5 มิถุนายน 2025 - หากไม่สามารถอัปเดตได้ ต้องหยุดใช้ Chrome ทันที ✅ ช่องโหว่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อหน่วยงานรัฐบาลและองค์กรขนาดใหญ่ - เนื่องจาก เว็บเบราว์เซอร์เป็นเป้าหมายหลักของแฮกเกอร์ https://www.techradar.com/pro/security/chrome-patched-this-bug-but-cisa-says-its-still-actively-exploited
    WWW.TECHRADAR.COM
    Chrome patched this bug, but CISA says it's still actively exploited
    CISA added it to KEV, giving FCEB agencies three weeks to patch up
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 312 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัสเซียเพิ่มมาตรการปราบปราม VPN: การควบคุมอินเทอร์เน็ตที่เข้มงวดขึ้น

    รัฐบาลรัสเซีย เดินหน้าปราบปรามการใช้ VPN อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด Samsung และ Xiaomi ได้ลบแอป AdGuard VPN ออกจากร้านค้าแอปในรัสเซีย ตามคำสั่งของ Roskomnadzor ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลอินเทอร์เน็ตของรัสเซีย

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการปราบปราม VPN ในรัสเซีย
    Samsung และ Xiaomi ลบแอป AdGuard VPN ตามคำสั่งของ Roskomnadzor
    - นอกจากนี้ HideMyName VPN ก็ถูกลบออกจาก Huawei Store ในรัสเซียและจีน

    Roskomnadzor ใช้กฎหมายใหม่เพื่อบังคับให้บริษัทเทคโนโลยีปฏิบัติตามข้อกำหนด
    - กฎหมายนี้ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2024 และกำหนดให้การเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงการเซ็นเซอร์เป็นอาชญากรรม

    Apple ลบแอป VPN ออกจาก App Store ในรัสเซียไปแล้วกว่า 100 แอป
    - รวมถึง AdGuard VPN และ Amnezia VPN ซึ่งเป็นบริการยอดนิยมในรัสเซีย

    Google ยังคงต่อต้านคำสั่งของรัฐบาลรัสเซีย
    - แต่ มีข้อมูลว่ามี VPN อย่างน้อย 53 แอปที่ถูกลบออกจาก Google Play Store ในรัสเซีย

    Roskomnadzor ขยายเป้าหมายไปยังผู้ให้บริการแอปสโตร์รายเล็ก
    - เช่น F-Droid ซึ่งถูกกดดันให้ลบแอป VPN ในปี 2024

    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/a-clear-escalation-in-russias-crackdown-on-digital-privacy-tools-experts-warn-against-recent-vpn-disappearances-in-russia
    รัสเซียเพิ่มมาตรการปราบปราม VPN: การควบคุมอินเทอร์เน็ตที่เข้มงวดขึ้น รัฐบาลรัสเซีย เดินหน้าปราบปรามการใช้ VPN อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด Samsung และ Xiaomi ได้ลบแอป AdGuard VPN ออกจากร้านค้าแอปในรัสเซีย ตามคำสั่งของ Roskomnadzor ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลอินเทอร์เน็ตของรัสเซีย 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการปราบปราม VPN ในรัสเซีย ✅ Samsung และ Xiaomi ลบแอป AdGuard VPN ตามคำสั่งของ Roskomnadzor - นอกจากนี้ HideMyName VPN ก็ถูกลบออกจาก Huawei Store ในรัสเซียและจีน ✅ Roskomnadzor ใช้กฎหมายใหม่เพื่อบังคับให้บริษัทเทคโนโลยีปฏิบัติตามข้อกำหนด - กฎหมายนี้ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2024 และกำหนดให้การเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงการเซ็นเซอร์เป็นอาชญากรรม ✅ Apple ลบแอป VPN ออกจาก App Store ในรัสเซียไปแล้วกว่า 100 แอป - รวมถึง AdGuard VPN และ Amnezia VPN ซึ่งเป็นบริการยอดนิยมในรัสเซีย ✅ Google ยังคงต่อต้านคำสั่งของรัฐบาลรัสเซีย - แต่ มีข้อมูลว่ามี VPN อย่างน้อย 53 แอปที่ถูกลบออกจาก Google Play Store ในรัสเซีย ✅ Roskomnadzor ขยายเป้าหมายไปยังผู้ให้บริการแอปสโตร์รายเล็ก - เช่น F-Droid ซึ่งถูกกดดันให้ลบแอป VPN ในปี 2024 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/a-clear-escalation-in-russias-crackdown-on-digital-privacy-tools-experts-warn-against-recent-vpn-disappearances-in-russia
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 418 มุมมอง 0 รีวิว