• A mesmerizing scrapbooking trip to Vianden, Luxembourg.
    A mesmerizing scrapbooking trip to Vianden, Luxembourg.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • แรงซื้อ-แรงขายหุ้น บอกอะไร ?
    แรงซื้อ-แรงขายหุ้น บอกอะไร ?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • #กาแฟยามเช้าหอมกรุ่นอยู่เสมอ
    #กาแฟยามเช้าหอมกรุ่นอยู่เสมอ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขาย Honda Mobilio 1.5RS ปี 2015 รถครอบครัว 7 ที่นั่ง สภาพสวย เจ้าของขายเอง!

    รถบ้านมือเดียว ดูแลดีมาก ไม่เคยชน ไม่เคยจมน้ำ ไม่เคยติดแก๊ส เลขไมล์แท้ 131,XXX กม. ภายในกว้างขวาง เบาะ 3 แถวนั่งสบายทุกที่นั่ง (ผู้ใหญ่ 170 ซม. นั่งได้จริง!)

    เพิ่งเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่เมื่อต้นปี แอร์เย็นฉ่ำเพิ่งเปลี่ยนตู้แอร์ปีที่แล้ว ออปชั่นครบ: เบาะหนัง, จอสัมผัส, กล้องหลัง, แอร์หลัง, ISOFIX ปลอดภัยสำหรับลูกน้อย ประหยัดน้ำมันสุดๆ 16-20 กม./ลิตร

    ราคา 289,000 บาท [ผ่อนเริ่มเดือนละ 4000 บาทเอง] รถพร้อมใช้งาน เล่มพร้อมโอน สนใจนัดดูรถได้เลยครับ
    ดูรถได้แถว ลาดกระบัง หนองจอก มีนบุรี กทม.
    สมุทรสาคร นครปฐม ราชบุรี
    Line Id: firstbas
    เบอร์ติดต่อ 0835464737 บาส

    #ขายรถยนต์มือสอง #honda #mobilio #mobilioclub #โมบิลิโอ้ #hondamobilio #7ที่นั่ง #ขายรถ #รถมือ2 #รถมือสอง #รถใช้มือเดียว #รถใช้คนเดียว #รถสภาพดี #รถครอบครัว #7ที่นั่ง #รถ7ที่นั่ง #รถครอบครัว7ที่นั่ง
    ขาย Honda Mobilio 1.5RS ปี 2015 รถครอบครัว 7 ที่นั่ง สภาพสวย เจ้าของขายเอง! รถบ้านมือเดียว ดูแลดีมาก ไม่เคยชน ไม่เคยจมน้ำ ไม่เคยติดแก๊ส เลขไมล์แท้ 131,XXX กม. ภายในกว้างขวาง เบาะ 3 แถวนั่งสบายทุกที่นั่ง (ผู้ใหญ่ 170 ซม. นั่งได้จริง!) เพิ่งเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่เมื่อต้นปี แอร์เย็นฉ่ำเพิ่งเปลี่ยนตู้แอร์ปีที่แล้ว ออปชั่นครบ: เบาะหนัง, จอสัมผัส, กล้องหลัง, แอร์หลัง, ISOFIX ปลอดภัยสำหรับลูกน้อย ประหยัดน้ำมันสุดๆ 16-20 กม./ลิตร ราคา 289,000 บาท [ผ่อนเริ่มเดือนละ 4000 บาทเอง] รถพร้อมใช้งาน เล่มพร้อมโอน สนใจนัดดูรถได้เลยครับ ดูรถได้แถว ลาดกระบัง หนองจอก มีนบุรี กทม. สมุทรสาคร นครปฐม ราชบุรี Line Id: firstbas เบอร์ติดต่อ 0835464737 บาส #ขายรถยนต์มือสอง #honda #mobilio #mobilioclub #โมบิลิโอ้ #hondamobilio #7ที่นั่ง #ขายรถ #รถมือ2 #รถมือสอง #รถใช้มือเดียว #รถใช้คนเดียว #รถสภาพดี #รถครอบครัว #7ที่นั่ง #รถ7ที่นั่ง #รถครอบครัว7ที่นั่ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประเทศชาติบ้านเมืองไม่เคยทิ้งใคร..มีคนนี่แหละทิ้งประเทศชาติ ขายชาติ ทำลายชาติบ้านเมืองจนย่อยยับ
    ประเทศชาติบ้านเมืองไม่เคยทิ้งใคร..มีคนนี่แหละทิ้งประเทศชาติ ขายชาติ ทำลายชาติบ้านเมืองจนย่อยยับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • กินข้าวมันไก่กันค่ะ🍽️🍚ชมภู่สวนหลังบ้านค่ะ🥰
    กินข้าวมันไก่กันค่ะ🍽️🍚ชมภู่สวนหลังบ้านค่ะ🥰
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • Micro-credential: อาวุธลับอัปสกิล เพิ่มแต้มต่อให้คนทำงานยุคดิจิทัล
    รายงานล่าสุดจาก Coursera Micro-Credentials Impact Report 2025 - Thailand)

    ในโลกการทำงานปัจจุบันที่หมุนเร็วตามเทคโนโลยีดิจิทัล การหยุดนิ่งอยู่กับที่เท่ากับถอยหลัง คนทำงานอย่างเราๆ ต่างต้องเผชิญกับความท้าทายในการรักษาความสามารถในการแข่งขันและสร้างความก้าวหน้าในสายอาชีพ ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงนี้ "Micro-credential" หรือ "หน่วยกิตย่อย" ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้คุณอัปเดตทักษะได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด เพิ่มโอกาสให้คุณโดดเด่นในตลาดแรงงาน

    Micro-credential คืออะไร? (ฉบับคนทำงาน)
    ลองนึกภาพการเข้าคอร์สออนไลน์สั้นๆ หลังเลิกงาน หรือในวันหยุดสุดสัปดาห์ เพื่อเรียนรู้ทักษะใหม่ที่กำลังเป็นที่ต้องการ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) การตลาดดิจิทัล (Digital Marketing) หรือแม้แต่ทักษะเฉพาะทางอย่าง Generative AI (GenAI) เมื่อเรียนจบและผ่านการวัดผล คุณจะได้รับใบรับรองหรือสัญลักษณ์ดิจิทัล (Badge) ที่ใช้ยืนยันกับหัวหน้า เพื่อนร่วมงาน หรือบริษัทใหม่ได้ว่า "ฉันมีทักษะนี้จริง" นี่แหละครับคือ Micro-credential – หลักสูตรเข้มข้น ยืดหยุ่น ใช้เวลาไม่นาน และเน้นทักษะที่เอาไปใช้งานได้ทันที ตอบโจทย์คนทำงานที่มีเวลาน้อยแต่อยากพัฒนาตัวเอง

    ทำไม Micro-credential ถึงสำคัญต่อเส้นทางอาชีพของคุณ?
    -ทันโลก ทันเกม:
    ช่วยให้คุณตามทันเทรนด์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงลักษณะงานของคุณ ทำให้คุณยังคงเป็นที่ต้องการขององค์กร
    -ปิดจุดอ่อน เติมจุดแข็ง:
    รู้สึกว่าตัวเองขาดทักษะไหน หรืออยากเสริมความเชี่ยวชาญด้านใด ก็เลือกเรียนเพิ่มเติมได้ตรงประเด็น ไม่ต้องเสียเวลากับหลักสูตรยาวๆ
    -สร้างความคล่องตัว (Career Agility):
    เพิ่มทางเลือกให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนบทบาทหน้าที่ หรือแม้กระทั่งเปลี่ยนสายงานได้ง่ายขึ้นในอนาคต
    -แสดงความมุ่งมั่น:
    การมี Micro-credential บ่งบอกว่าคุณเป็นคนที่ไม่หยุดเรียนรู้และกระตือรือร้นที่จะพัฒนาตัวเอง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่นายจ้างมองหา

    มุมมองจากฝั่งนายจ้าง: ทำไมบริษัทถึงมองหาคนที่มี Micro-credential?
    การเข้าใจว่านายจ้างคิดอย่างไรจะช่วยให้คุณวางแผนพัฒนาตัวเองได้ดีขึ้น รายงานล่าสุดจาก Coursera (Micro-Credentials Impact Report 2025 - Thailand) ให้ข้อมูลที่น่าสนใจมากครับ:
    -โปรไฟล์โดดเด่น:
    นายจ้างไทยถึง 98% มองว่า Micro-credential ทำให้เรซูเม่ของคุณน่าสนใจขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
    -ตัดสินใจจ้างง่ายขึ้น:
    95% ของนายจ้างมีการจ้างงานคนที่มี Micro-credential อย่างน้อยหนึ่งใบในปีที่ผ่านมา
    -ต่อรองเงินเดือนได้เปรียบ:
    97% ยินดีเสนอเงินเดือนเริ่มต้นสูงขึ้นให้คนที่มี Micro-credential โดยเฉพาะสาย GenAI หรือหน่วยกิตที่เทียบโอนได้ (Credit-bearing)

    ทักษะเฉพาะทางคือแต้มต่อสำคัญ:
    นายจ้าง 98% มีแนวโน้มจะเลือกคนที่มีทักษะ GenAI มากกว่าคนที่ไม่มี
    ถึงขั้นที่ 95% อาจยอมเลือกคนประสบการณ์น้อยกว่าแต่มีใบรับรอง GenAI มากกว่าคนเก๋าเกมแต่ขาดทักษะนี้!
    และ
    98% ก็มีแนวโน้มจะเลือกคนที่มีหน่วยกิตเทียบโอนได้ มากกว่าคนที่ไม่มีเช่นกัน
    -ลดเวลา (และต้นทุน) สอนงาน:
    นายจ้าง 92% พบว่าพนักงานใหม่ที่มี Micro-credential ตรงสายงาน จะเรียนรู้งานได้เร็วขึ้น ช่วยประหยัดต้นทุนการฝึกอบรมภายใน
    -ทักษะการสื่อสารยังคงสำคัญ:
    นอกจากทักษะเฉพาะทาง นายจ้างไทยยังเน้น "การสื่อสารทางธุรกิจ" ที่ดี เพราะต่อให้เก่งเทคโนโลยีแค่ไหน ถ้าสื่อสารไม่รู้เรื่อง งานก็เดินต่อลำบาก โดยเฉพาะในธุรกิจบริการและการท่องเที่ยว

    ประโยชน์โดยตรงต่อคนทำงานอย่างคุณ
    -เพิ่มโอกาสได้งานและเงินเดือน:
    ชัดเจนจากข้อมูลว่า Micro-credential ช่วยให้คุณได้เปรียบทั้งตอนสมัครงานและตอนต่อรองเงินเดือน
    -พัฒนาทักษะแบบเร่งรัด ตรงเป้า:
    เลือกเรียนเฉพาะสิ่งที่คุณต้องการ หรือสิ่งที่จำเป็นต่องานในปัจจุบัน/อนาคต ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย
    -เรียนรู้ได้ตามสไตล์คุณ:
    ไม่ว่าจะเป็นหลังเลิกงาน เสาร์อาทิตย์ หรือตอนพักเที่ยง ก็สามารถจัดสรรเวลาเรียนได้เอง
    -สร้างความมั่นใจ:
    การมีใบรับรองทักษะใหม่ๆ เพิ่มความมั่นใจในการทำงานและการนำเสนอตัวเอง
    -เป็นใบเบิกทางสู่บทบาทใหม่:
    อยากลองเปลี่ยนสายงาน? Micro-credential ช่วยปูพื้นฐานทักษะที่จำเป็นให้คุณได้

    Micro-credential: เครื่องมือจัดการเส้นทางอาชีพเชิงรุก
    ในฐานะคนทำงาน การมองหา Micro-credential ไม่ใช่แค่การเรียนเพิ่ม แต่คือการ "บริหารจัดการเส้นทางอาชีพ" ของคุณในเชิงรุก:
    -รักษาความสดใหม่:
    ทำให้โปรไฟล์ของคุณทันสมัย ไม่ตกยุค
    -สร้างความแตกต่าง:
    ในสนามการแข่งขันที่รุนแรง ทักษะเฉพาะทางคือสิ่งที่ทำให้คุณไม่เหมือนใคร
    -ลงทุนในตัวเอง:
    เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อโอกาสและความก้าวหน้าในระยะยาว

    สถิติยืนยัน Micro-credential คือ Game Changer ของคนทำงาน
    ข้อมูลเชิงลึกจาก Coursera ตอกย้ำอย่างชัดเจนว่า Micro-credential ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่คือปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของนายจ้างในประเทศไทย สถิติที่น่าทึ่ง เช่น 98% ของนายจ้างมองว่าช่วยเสริมแกร่งใบสมัคร, 97% ยินดีจ่ายสูงขึ้นสำหรับผู้มีหน่วยกิตนี้, และความต้องการที่พุ่งสูงถึง 95-98% สำหรับผู้มีทักษะ GenAI หรือหน่วยกิตเทียบโอนได้ ล้วนชี้ให้เห็นว่า การมี Micro-credential สามารถสร้างความได้เปรียบที่จับต้องได้ทั้งในแง่โอกาสการจ้างงานและผลตอบแทน

    การมุ่งมั่นพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ สอดคล้องกับแนวคิดการทำงานยุคใหม่ที่ต้องกล้าลอง กล้าเผชิญความท้าทาย และเรียนรู้จากประสบการณ์อย่างรวดเร็ว สำหรับคนทำงานที่ต้องการเสริมสร้างทัศนคติแบบ "ล้มให้เร็ว สำเร็จให้ไวขึ้น" เพื่อขับเคลื่อนเส้นทางอาชีพ การศึกษาแนวคิดเพิ่มเติมจากแหล่งความรู้อย่างหนังสือ "Fail Fast Succeed More: ล้มให้เร็ว สำเร็จให้สุด" โดย 10X Consulting ก็อาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยเปิดมุมมองและสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาตนเองได้อย่างน่าสนใจครับ

    www.10-xconsulting.com
    Micro-credential: อาวุธลับอัปสกิล เพิ่มแต้มต่อให้คนทำงานยุคดิจิทัล รายงานล่าสุดจาก Coursera Micro-Credentials Impact Report 2025 - Thailand) ในโลกการทำงานปัจจุบันที่หมุนเร็วตามเทคโนโลยีดิจิทัล การหยุดนิ่งอยู่กับที่เท่ากับถอยหลัง คนทำงานอย่างเราๆ ต่างต้องเผชิญกับความท้าทายในการรักษาความสามารถในการแข่งขันและสร้างความก้าวหน้าในสายอาชีพ ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงนี้ "Micro-credential" หรือ "หน่วยกิตย่อย" ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้คุณอัปเดตทักษะได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด เพิ่มโอกาสให้คุณโดดเด่นในตลาดแรงงาน Micro-credential คืออะไร? (ฉบับคนทำงาน) ลองนึกภาพการเข้าคอร์สออนไลน์สั้นๆ หลังเลิกงาน หรือในวันหยุดสุดสัปดาห์ เพื่อเรียนรู้ทักษะใหม่ที่กำลังเป็นที่ต้องการ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) การตลาดดิจิทัล (Digital Marketing) หรือแม้แต่ทักษะเฉพาะทางอย่าง Generative AI (GenAI) เมื่อเรียนจบและผ่านการวัดผล คุณจะได้รับใบรับรองหรือสัญลักษณ์ดิจิทัล (Badge) ที่ใช้ยืนยันกับหัวหน้า เพื่อนร่วมงาน หรือบริษัทใหม่ได้ว่า "ฉันมีทักษะนี้จริง" นี่แหละครับคือ Micro-credential – หลักสูตรเข้มข้น ยืดหยุ่น ใช้เวลาไม่นาน และเน้นทักษะที่เอาไปใช้งานได้ทันที ตอบโจทย์คนทำงานที่มีเวลาน้อยแต่อยากพัฒนาตัวเอง ทำไม Micro-credential ถึงสำคัญต่อเส้นทางอาชีพของคุณ? -ทันโลก ทันเกม: ช่วยให้คุณตามทันเทรนด์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงลักษณะงานของคุณ ทำให้คุณยังคงเป็นที่ต้องการขององค์กร -ปิดจุดอ่อน เติมจุดแข็ง: รู้สึกว่าตัวเองขาดทักษะไหน หรืออยากเสริมความเชี่ยวชาญด้านใด ก็เลือกเรียนเพิ่มเติมได้ตรงประเด็น ไม่ต้องเสียเวลากับหลักสูตรยาวๆ -สร้างความคล่องตัว (Career Agility): เพิ่มทางเลือกให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนบทบาทหน้าที่ หรือแม้กระทั่งเปลี่ยนสายงานได้ง่ายขึ้นในอนาคต -แสดงความมุ่งมั่น: การมี Micro-credential บ่งบอกว่าคุณเป็นคนที่ไม่หยุดเรียนรู้และกระตือรือร้นที่จะพัฒนาตัวเอง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่นายจ้างมองหา มุมมองจากฝั่งนายจ้าง: ทำไมบริษัทถึงมองหาคนที่มี Micro-credential? การเข้าใจว่านายจ้างคิดอย่างไรจะช่วยให้คุณวางแผนพัฒนาตัวเองได้ดีขึ้น รายงานล่าสุดจาก Coursera (Micro-Credentials Impact Report 2025 - Thailand) ให้ข้อมูลที่น่าสนใจมากครับ: -โปรไฟล์โดดเด่น: นายจ้างไทยถึง 98% มองว่า Micro-credential ทำให้เรซูเม่ของคุณน่าสนใจขึ้นอย่างเห็นได้ชัด -ตัดสินใจจ้างง่ายขึ้น: 95% ของนายจ้างมีการจ้างงานคนที่มี Micro-credential อย่างน้อยหนึ่งใบในปีที่ผ่านมา -ต่อรองเงินเดือนได้เปรียบ: 97% ยินดีเสนอเงินเดือนเริ่มต้นสูงขึ้นให้คนที่มี Micro-credential โดยเฉพาะสาย GenAI หรือหน่วยกิตที่เทียบโอนได้ (Credit-bearing) ทักษะเฉพาะทางคือแต้มต่อสำคัญ: นายจ้าง 98% มีแนวโน้มจะเลือกคนที่มีทักษะ GenAI มากกว่าคนที่ไม่มี ถึงขั้นที่ 95% อาจยอมเลือกคนประสบการณ์น้อยกว่าแต่มีใบรับรอง GenAI มากกว่าคนเก๋าเกมแต่ขาดทักษะนี้! และ 98% ก็มีแนวโน้มจะเลือกคนที่มีหน่วยกิตเทียบโอนได้ มากกว่าคนที่ไม่มีเช่นกัน -ลดเวลา (และต้นทุน) สอนงาน: นายจ้าง 92% พบว่าพนักงานใหม่ที่มี Micro-credential ตรงสายงาน จะเรียนรู้งานได้เร็วขึ้น ช่วยประหยัดต้นทุนการฝึกอบรมภายใน -ทักษะการสื่อสารยังคงสำคัญ: นอกจากทักษะเฉพาะทาง นายจ้างไทยยังเน้น "การสื่อสารทางธุรกิจ" ที่ดี เพราะต่อให้เก่งเทคโนโลยีแค่ไหน ถ้าสื่อสารไม่รู้เรื่อง งานก็เดินต่อลำบาก โดยเฉพาะในธุรกิจบริการและการท่องเที่ยว ประโยชน์โดยตรงต่อคนทำงานอย่างคุณ -เพิ่มโอกาสได้งานและเงินเดือน: ชัดเจนจากข้อมูลว่า Micro-credential ช่วยให้คุณได้เปรียบทั้งตอนสมัครงานและตอนต่อรองเงินเดือน -พัฒนาทักษะแบบเร่งรัด ตรงเป้า: เลือกเรียนเฉพาะสิ่งที่คุณต้องการ หรือสิ่งที่จำเป็นต่องานในปัจจุบัน/อนาคต ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย -เรียนรู้ได้ตามสไตล์คุณ: ไม่ว่าจะเป็นหลังเลิกงาน เสาร์อาทิตย์ หรือตอนพักเที่ยง ก็สามารถจัดสรรเวลาเรียนได้เอง -สร้างความมั่นใจ: การมีใบรับรองทักษะใหม่ๆ เพิ่มความมั่นใจในการทำงานและการนำเสนอตัวเอง -เป็นใบเบิกทางสู่บทบาทใหม่: อยากลองเปลี่ยนสายงาน? Micro-credential ช่วยปูพื้นฐานทักษะที่จำเป็นให้คุณได้ Micro-credential: เครื่องมือจัดการเส้นทางอาชีพเชิงรุก ในฐานะคนทำงาน การมองหา Micro-credential ไม่ใช่แค่การเรียนเพิ่ม แต่คือการ "บริหารจัดการเส้นทางอาชีพ" ของคุณในเชิงรุก: -รักษาความสดใหม่: ทำให้โปรไฟล์ของคุณทันสมัย ไม่ตกยุค -สร้างความแตกต่าง: ในสนามการแข่งขันที่รุนแรง ทักษะเฉพาะทางคือสิ่งที่ทำให้คุณไม่เหมือนใคร -ลงทุนในตัวเอง: เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อโอกาสและความก้าวหน้าในระยะยาว สถิติยืนยัน Micro-credential คือ Game Changer ของคนทำงาน ข้อมูลเชิงลึกจาก Coursera ตอกย้ำอย่างชัดเจนว่า Micro-credential ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่คือปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของนายจ้างในประเทศไทย สถิติที่น่าทึ่ง เช่น 98% ของนายจ้างมองว่าช่วยเสริมแกร่งใบสมัคร, 97% ยินดีจ่ายสูงขึ้นสำหรับผู้มีหน่วยกิตนี้, และความต้องการที่พุ่งสูงถึง 95-98% สำหรับผู้มีทักษะ GenAI หรือหน่วยกิตเทียบโอนได้ ล้วนชี้ให้เห็นว่า การมี Micro-credential สามารถสร้างความได้เปรียบที่จับต้องได้ทั้งในแง่โอกาสการจ้างงานและผลตอบแทน การมุ่งมั่นพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ สอดคล้องกับแนวคิดการทำงานยุคใหม่ที่ต้องกล้าลอง กล้าเผชิญความท้าทาย และเรียนรู้จากประสบการณ์อย่างรวดเร็ว สำหรับคนทำงานที่ต้องการเสริมสร้างทัศนคติแบบ "ล้มให้เร็ว สำเร็จให้ไวขึ้น" เพื่อขับเคลื่อนเส้นทางอาชีพ การศึกษาแนวคิดเพิ่มเติมจากแหล่งความรู้อย่างหนังสือ "Fail Fast Succeed More: ล้มให้เร็ว สำเร็จให้สุด" โดย 10X Consulting ก็อาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยเปิดมุมมองและสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาตนเองได้อย่างน่าสนใจครับ www.10-xconsulting.com
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช้าจังวะ
    ช้าจังวะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2 มุมมอง 0 รีวิว
  • ได้เห็นเพียงขา ยังไม่ได้เห็นไข่
    ว่าเป็นยังไงมันแข็งดีไหม
    เล็กหรือใหญ่เล่าเธอ
    ฉันได้มาถึง
    ก็อยากจะคลึงดูสักที คงจะดี
    ขอคลึงฟรีได้ไหมเอ่อ
    มาดูตามห้วงอารมณ์
    ผสมกับความอยากจะคลึง
    สักนิดนึงคิดเงินเท่าไหร่เหรอ
    อย่าทำเป็นร้อง
    คร่ำครวญจนปานจะเหมือนว่า
    กำลังเจ็บขา ดูแย่หนักหนา
    ประหนึ่งว่าไม่เคยเจอ
    อย่าเศร้าใปนัก
    อย่ากลัวว่ารักจะสั่นคลอน
    ฉันเป็นเพื่อนนอน
    ช่วยเธอถอยหมอน
    ถอยให้เธอเองเสมอ
    ฉันมาตามห้วงอารมณ์
    ผสมกับความอยากจะคลึง
    ได้แค่ดึงยังดีเหมือนได้เธอ
    ใช่หลงใช่รัก ใช่หักไม่ลง
    มันมีอารมณ์บ่องตง
    มีควาประสงค์
    จะแตะจะต้องสัมผัสเธอ
    ขอแค่ขำขำ หากได้คลำอยู่อย่างนี้
    อารมณ์จะดี จะเก็บความรู้สึกนี้
    เอาไว้ในใจเสมอ
    จึงมาตามห้วงอารมณ์
    ผสมกับความอยากให้ฟัน
    อย่ารำคาญตัวฉันเลยนะเธอ
    ได้เห็นเพียงขา ยังไม่ได้เห็นไข่ ว่าเป็นยังไงมันแข็งดีไหม เล็กหรือใหญ่เล่าเธอ ฉันได้มาถึง ก็อยากจะคลึงดูสักที คงจะดี ขอคลึงฟรีได้ไหมเอ่อ มาดูตามห้วงอารมณ์ ผสมกับความอยากจะคลึง สักนิดนึงคิดเงินเท่าไหร่เหรอ อย่าทำเป็นร้อง คร่ำครวญจนปานจะเหมือนว่า กำลังเจ็บขา ดูแย่หนักหนา ประหนึ่งว่าไม่เคยเจอ อย่าเศร้าใปนัก อย่ากลัวว่ารักจะสั่นคลอน ฉันเป็นเพื่อนนอน ช่วยเธอถอยหมอน ถอยให้เธอเองเสมอ ฉันมาตามห้วงอารมณ์ ผสมกับความอยากจะคลึง ได้แค่ดึงยังดีเหมือนได้เธอ ใช่หลงใช่รัก ใช่หักไม่ลง มันมีอารมณ์บ่องตง มีควาประสงค์ จะแตะจะต้องสัมผัสเธอ ขอแค่ขำขำ หากได้คลำอยู่อย่างนี้ อารมณ์จะดี จะเก็บความรู้สึกนี้ เอาไว้ในใจเสมอ จึงมาตามห้วงอารมณ์ ผสมกับความอยากให้ฟัน อย่ารำคาญตัวฉันเลยนะเธอ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ได้ประกาศว่าจะ ยกเลิกฟีเจอร์จัดการรหัสผ่านในแอป Authenticator ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2025 เป็นต้นไป โดยมีเป้าหมายเพื่อ ผลักดันให้ผู้ใช้หันมาใช้ Microsoft Edge ซึ่งมีระบบจัดการรหัสผ่านที่ครอบคลุมมากกว่า

    การเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลให้ ผู้ใช้ไม่สามารถบันทึกรหัสผ่านใหม่ใน Authenticator ได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน และในเดือนกรกฎาคม แอปจะหยุดการเติมข้อมูลอัตโนมัติในเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน รวมถึง ลบข้อมูลการชำระเงินทั้งหมด สุดท้ายในเดือนสิงหาคม รหัสผ่านที่บันทึกไว้ทั้งหมดจะถูกลบออกจากแอป

    Microsoft ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงนี้มีเป้าหมายเพื่อทำให้การจัดการรหัสผ่านง่ายขึ้น โดยแนะนำให้ผู้ใช้ ย้ายข้อมูลไปยัง Microsoft Edge หรือใช้ตัวจัดการรหัสผ่านอื่น ก่อนวันที่ 1 สิงหาคม 2025

    =========================================

    🔍 วิธีการย้ายข้อมูลรหัสผ่านจาก Microsoft Authenticator
    ✅ ใช้ฟีเจอร์ Export ใน Microsoft Authenticator
    - เปิดแอป Microsoft Authenticator
    - ไปที่ Settings และเลือก Export Verified IDs
    - กด Export Now เพื่อบันทึกข้อมูล

    ✅ นำเข้าข้อมูลไปยังตัวจัดการรหัสผ่านอื่น
    - สามารถนำเข้าข้อมูลไปยัง Microsoft Edge หรือแอปจัดการรหัสผ่านอื่น
    - หากใช้ Google Chrome สามารถนำเข้าไฟล์ CSV ได้โดยตรง

    ✅ ตรวจสอบข้อมูลหลังการย้าย
    - ตรวจสอบว่ารหัสผ่านทั้งหมดถูกย้ายไปยังตัวจัดการรหัสผ่านใหม่เรียบร้อย
    - ลบข้อมูลจาก Microsoft Authenticator หลังจากย้ายเสร็จ

    =========================================

    ✅ Microsoft จะยกเลิกฟีเจอร์จัดการรหัสผ่านใน Authenticator
    - ตั้งแต่ มิถุนายน 2025 จะไม่สามารถบันทึกรหัสผ่านใหม่ได้
    - ตั้งแต่ กรกฎาคม 2025 แอปจะหยุดการเติมข้อมูลอัตโนมัติ
    - ตั้งแต่ สิงหาคม 2025 รหัสผ่านที่บันทึกไว้ทั้งหมดจะถูกลบ

    ✅ เหตุผลในการเปลี่ยนแปลง
    - Microsoft ต้องการ ผลักดันให้ผู้ใช้หันมาใช้ Edge
    - Edge มี ระบบจัดการรหัสผ่านที่ครอบคลุมมากกว่า

    ✅ แนวทางสำหรับผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบ
    - สามารถ ย้ายข้อมูลไปยัง Microsoft Edge
    - หรือ ใช้ตัวจัดการรหัสผ่านอื่น ก่อนวันที่ 1 สิงหาคม 2025

    ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้
    - ผู้ใช้ที่พึ่งพา Authenticator ในการจัดการรหัสผ่านต้อง หาทางเลือกใหม่
    - อาจต้อง เรียนรู้การใช้ Edge หรือแอปจัดการรหัสผ่านอื่น

    https://www.neowin.net/news/microsoft-is-killing-its-password-manager-in-authenticator-to-make-everyone-use-edge/
    Microsoft ได้ประกาศว่าจะ ยกเลิกฟีเจอร์จัดการรหัสผ่านในแอป Authenticator ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2025 เป็นต้นไป โดยมีเป้าหมายเพื่อ ผลักดันให้ผู้ใช้หันมาใช้ Microsoft Edge ซึ่งมีระบบจัดการรหัสผ่านที่ครอบคลุมมากกว่า การเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลให้ ผู้ใช้ไม่สามารถบันทึกรหัสผ่านใหม่ใน Authenticator ได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน และในเดือนกรกฎาคม แอปจะหยุดการเติมข้อมูลอัตโนมัติในเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน รวมถึง ลบข้อมูลการชำระเงินทั้งหมด สุดท้ายในเดือนสิงหาคม รหัสผ่านที่บันทึกไว้ทั้งหมดจะถูกลบออกจากแอป Microsoft ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงนี้มีเป้าหมายเพื่อทำให้การจัดการรหัสผ่านง่ายขึ้น โดยแนะนำให้ผู้ใช้ ย้ายข้อมูลไปยัง Microsoft Edge หรือใช้ตัวจัดการรหัสผ่านอื่น ก่อนวันที่ 1 สิงหาคม 2025 ========================================= 🔍 วิธีการย้ายข้อมูลรหัสผ่านจาก Microsoft Authenticator ✅ ใช้ฟีเจอร์ Export ใน Microsoft Authenticator - เปิดแอป Microsoft Authenticator - ไปที่ Settings และเลือก Export Verified IDs - กด Export Now เพื่อบันทึกข้อมูล ✅ นำเข้าข้อมูลไปยังตัวจัดการรหัสผ่านอื่น - สามารถนำเข้าข้อมูลไปยัง Microsoft Edge หรือแอปจัดการรหัสผ่านอื่น - หากใช้ Google Chrome สามารถนำเข้าไฟล์ CSV ได้โดยตรง ✅ ตรวจสอบข้อมูลหลังการย้าย - ตรวจสอบว่ารหัสผ่านทั้งหมดถูกย้ายไปยังตัวจัดการรหัสผ่านใหม่เรียบร้อย - ลบข้อมูลจาก Microsoft Authenticator หลังจากย้ายเสร็จ ========================================= ✅ Microsoft จะยกเลิกฟีเจอร์จัดการรหัสผ่านใน Authenticator - ตั้งแต่ มิถุนายน 2025 จะไม่สามารถบันทึกรหัสผ่านใหม่ได้ - ตั้งแต่ กรกฎาคม 2025 แอปจะหยุดการเติมข้อมูลอัตโนมัติ - ตั้งแต่ สิงหาคม 2025 รหัสผ่านที่บันทึกไว้ทั้งหมดจะถูกลบ ✅ เหตุผลในการเปลี่ยนแปลง - Microsoft ต้องการ ผลักดันให้ผู้ใช้หันมาใช้ Edge - Edge มี ระบบจัดการรหัสผ่านที่ครอบคลุมมากกว่า ✅ แนวทางสำหรับผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบ - สามารถ ย้ายข้อมูลไปยัง Microsoft Edge - หรือ ใช้ตัวจัดการรหัสผ่านอื่น ก่อนวันที่ 1 สิงหาคม 2025 ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้ - ผู้ใช้ที่พึ่งพา Authenticator ในการจัดการรหัสผ่านต้อง หาทางเลือกใหม่ - อาจต้อง เรียนรู้การใช้ Edge หรือแอปจัดการรหัสผ่านอื่น https://www.neowin.net/news/microsoft-is-killing-its-password-manager-in-authenticator-to-make-everyone-use-edge/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft is killing its password manager in Authenticator to make everyone use Edge
    Microsoft is changing how its Authenticator app works, and you are not going to like it if you use it to store and autofill passwords.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel ได้ปล่อย ไดรเวอร์กราฟิกเวอร์ชัน 32.0.101.6790 ซึ่งช่วยแก้ไขปัญหากราฟิกในเกม Warhammer 40000: Darktide, The Last of Us Part 2 และ Blender โดยเฉพาะปัญหา เงากระพริบและการแสดงผลผิดพลาด ในเกม The Last of Us Part 2

    นอกจากนี้ ไดรเวอร์ยังมีการปรับปรุงสำหรับ Intel Arc B-Series และ A-Series รวมถึง Intel Core Ultra Series 2 ที่มี GPU ในตัว อย่างไรก็ตาม ยังมี ปัญหาที่พบในเวอร์ชันนี้ เช่น Adobe Premiere Pro อาจเกิดข้อผิดพลาดเป็นระยะ และ Call of Duty: Black Ops 6 อาจมีปัญหากราฟิกกระพริบในบางฉาก

    ✅ การแก้ไขปัญหากราฟิกในเกม
    - Warhammer 40000: Darktide (DX12) แก้ไขปัญหาพื้นผิวสีดำผิดปกติ
    - The Last of Us Part 2 (DX12) แก้ไขปัญหาเงากระพริบ
    - Blender ปรับปรุงความเข้ากันได้กับ camera gizmo

    ✅ การรองรับฮาร์ดแวร์
    - รองรับ Intel Arc A-Series (Alchemist) และ B-Series (Battlemage)
    - รองรับ Intel Core Ultra Series 2 (Lunar Lake และ Arrow Lake)

    ✅ ปัญหาที่ยังพบในเวอร์ชันนี้
    - Adobe Premiere Pro อาจเกิดข้อผิดพลาดเป็นระยะ
    - Call of Duty: Black Ops 6 (DX12) อาจมีปัญหากราฟิกกระพริบ
    - Returnal (DX12) อาจเกิดข้อผิดพลาดเมื่อเปิด Ray-Tracing

    ✅ แนวทางแก้ไขปัญหาที่พบ
    - แนะนำให้ ปิด GPU ในตัว หากพบปัญหาในระบบที่ใช้หลาย GPU
    - ตรวจสอบ การตั้งค่า Ray-Tracing ในเกมที่มีปัญหา

    https://www.neowin.net/news/intels-new-gpu-driver-fixes-display-flickering-in-the-last-of-us-part-2-and-more/
    Intel ได้ปล่อย ไดรเวอร์กราฟิกเวอร์ชัน 32.0.101.6790 ซึ่งช่วยแก้ไขปัญหากราฟิกในเกม Warhammer 40000: Darktide, The Last of Us Part 2 และ Blender โดยเฉพาะปัญหา เงากระพริบและการแสดงผลผิดพลาด ในเกม The Last of Us Part 2 นอกจากนี้ ไดรเวอร์ยังมีการปรับปรุงสำหรับ Intel Arc B-Series และ A-Series รวมถึง Intel Core Ultra Series 2 ที่มี GPU ในตัว อย่างไรก็ตาม ยังมี ปัญหาที่พบในเวอร์ชันนี้ เช่น Adobe Premiere Pro อาจเกิดข้อผิดพลาดเป็นระยะ และ Call of Duty: Black Ops 6 อาจมีปัญหากราฟิกกระพริบในบางฉาก ✅ การแก้ไขปัญหากราฟิกในเกม - Warhammer 40000: Darktide (DX12) แก้ไขปัญหาพื้นผิวสีดำผิดปกติ - The Last of Us Part 2 (DX12) แก้ไขปัญหาเงากระพริบ - Blender ปรับปรุงความเข้ากันได้กับ camera gizmo ✅ การรองรับฮาร์ดแวร์ - รองรับ Intel Arc A-Series (Alchemist) และ B-Series (Battlemage) - รองรับ Intel Core Ultra Series 2 (Lunar Lake และ Arrow Lake) ✅ ปัญหาที่ยังพบในเวอร์ชันนี้ - Adobe Premiere Pro อาจเกิดข้อผิดพลาดเป็นระยะ - Call of Duty: Black Ops 6 (DX12) อาจมีปัญหากราฟิกกระพริบ - Returnal (DX12) อาจเกิดข้อผิดพลาดเมื่อเปิด Ray-Tracing ✅ แนวทางแก้ไขปัญหาที่พบ - แนะนำให้ ปิด GPU ในตัว หากพบปัญหาในระบบที่ใช้หลาย GPU - ตรวจสอบ การตั้งค่า Ray-Tracing ในเกมที่มีปัญหา https://www.neowin.net/news/intels-new-gpu-driver-fixes-display-flickering-in-the-last-of-us-part-2-and-more/
    WWW.NEOWIN.NET
    Intel's new GPU driver fixes display flickering in The Last of Us Part 2 and more
    Intel issued a new driver with some important fixes for The Last of Us Part 2, Warhammer 4000: Darktide, and more.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 รีวิว
  • Xiaomi และกลุ่มผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจีนกำลังพัฒนา ระบบปฏิบัติการทางเลือกที่ไม่มีบริการของ Google โดยมีเป้าหมายเพื่อ ลดการพึ่งพา Android และ Google Play Services ซึ่งอาจเป็นผลมาจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่าง สหรัฐฯ และจีน

    Xiaomi, Oppo, Vivo และ OnePlus ได้หารือเกี่ยวกับการ สร้างระบบปฏิบัติการของตัวเอง โดยเริ่มต้นจาก HyperOS 3 ซึ่งอาจเป็นก้าวแรกของยุคใหม่ที่สมาร์ทโฟนจีน ไม่มีซอฟต์แวร์จาก Google

    แนวคิดนี้มีรากฐานมาจาก กรณีของ Huawei ที่ถูกแบนจาก Google ในปี 2019 และต้องพัฒนา HarmonyOS ซึ่งปัจจุบันมี ผู้ใช้กว่า 1 พันล้านคน และมีแอปมากกว่า 20,000 แอป

    ✅ Xiaomi และพันธมิตรพัฒนา OS ที่ไม่มีบริการของ Google
    - Xiaomi, Oppo, Vivo และ OnePlus กำลังพัฒนา ระบบปฏิบัติการของตัวเอง
    - HyperOS 3 อาจเป็น ก้าวแรกของยุคใหม่ที่ไม่มีซอฟต์แวร์จาก Google

    ✅ แรงจูงใจในการพัฒนา OS ใหม่
    - ความตึงเครียดทางการค้าระหว่าง สหรัฐฯ และจีน
    - Huawei ถูกแบนจาก Google และต้องพัฒนา HarmonyOS

    ✅ ความสำเร็จของ HarmonyOS
    - มีผู้ใช้กว่า 1 พันล้านคน
    - มีแอปมากกว่า 20,000 แอป

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน
    - หาก Xiaomi และพันธมิตรเลิกใช้ Android อาจส่งผลต่อ ตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลก
    - อาจเกิดการแข่งขันระหว่าง Android และระบบปฏิบัติการใหม่จากจีน

    https://www.neowin.net/news/chinese-smartphone-makers-reportedly-want-a-google-free-android-alternative/
    Xiaomi และกลุ่มผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจีนกำลังพัฒนา ระบบปฏิบัติการทางเลือกที่ไม่มีบริการของ Google โดยมีเป้าหมายเพื่อ ลดการพึ่งพา Android และ Google Play Services ซึ่งอาจเป็นผลมาจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่าง สหรัฐฯ และจีน Xiaomi, Oppo, Vivo และ OnePlus ได้หารือเกี่ยวกับการ สร้างระบบปฏิบัติการของตัวเอง โดยเริ่มต้นจาก HyperOS 3 ซึ่งอาจเป็นก้าวแรกของยุคใหม่ที่สมาร์ทโฟนจีน ไม่มีซอฟต์แวร์จาก Google แนวคิดนี้มีรากฐานมาจาก กรณีของ Huawei ที่ถูกแบนจาก Google ในปี 2019 และต้องพัฒนา HarmonyOS ซึ่งปัจจุบันมี ผู้ใช้กว่า 1 พันล้านคน และมีแอปมากกว่า 20,000 แอป ✅ Xiaomi และพันธมิตรพัฒนา OS ที่ไม่มีบริการของ Google - Xiaomi, Oppo, Vivo และ OnePlus กำลังพัฒนา ระบบปฏิบัติการของตัวเอง - HyperOS 3 อาจเป็น ก้าวแรกของยุคใหม่ที่ไม่มีซอฟต์แวร์จาก Google ✅ แรงจูงใจในการพัฒนา OS ใหม่ - ความตึงเครียดทางการค้าระหว่าง สหรัฐฯ และจีน - Huawei ถูกแบนจาก Google และต้องพัฒนา HarmonyOS ✅ ความสำเร็จของ HarmonyOS - มีผู้ใช้กว่า 1 พันล้านคน - มีแอปมากกว่า 20,000 แอป ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน - หาก Xiaomi และพันธมิตรเลิกใช้ Android อาจส่งผลต่อ ตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลก - อาจเกิดการแข่งขันระหว่าง Android และระบบปฏิบัติการใหม่จากจีน https://www.neowin.net/news/chinese-smartphone-makers-reportedly-want-a-google-free-android-alternative/
    WWW.NEOWIN.NET
    Chinese smartphone makers reportedly want a Google-free Android alternative
    A coalition of Chinese smartphone makers have ventilated the idea of ditching Google-owned Android from their devices due to fear of threats from the US government.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • Duolingo กำลังปรับโครงสร้างองค์กรให้เป็น AI-first โดยเน้นการใช้ AI ในการสร้างเนื้อหาการเรียนรู้และปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน

    Luis von Ahn ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Duolingo ระบุว่า AI จะมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจจ้างงานและประเมินผลการทำงานของพนักงาน โดยบริษัทจะขยายทีมงานเฉพาะในกรณีที่ AI ไม่สามารถทำงานนั้นได้

    นอกจากนี้ Duolingo ยังมีแผนที่จะ ลดการใช้ผู้รับเหมา สำหรับงานที่ AI สามารถจัดการได้ และปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทาง AI-first

    ✅ Duolingo ปรับโครงสร้างองค์กรให้เป็น AI-first
    - AI จะมีบทบาทสำคัญในการ สร้างเนื้อหาการเรียนรู้
    - บริษัทจะขยายทีมงานเฉพาะในกรณีที่ AI ไม่สามารถทำงานนั้นได้

    ✅ AI จะมีผลต่อการจ้างงานและการประเมินผลพนักงาน
    - ความสามารถในการใช้ AI จะเป็น ปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจจ้างงาน
    - AI จะถูกนำมาใช้ในการ ประเมินผลการทำงานของพนักงาน

    ✅ การลดการใช้ผู้รับเหมา
    - Duolingo จะ หยุดใช้ผู้รับเหมา สำหรับงานที่ AI สามารถจัดการได้
    - ปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทาง AI-first

    ✅ แนวโน้มของการพัฒนาในอนาคต
    - หากนโยบายนี้ประสบความสำเร็จ อาจมีบริษัทอื่น นำแนวทาง AI-first มาใช้มากขึ้น
    - AI อาจกลายเป็น มาตรฐานใหม่ในการบริหารองค์กร

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/04/duolingo039s-ai-policy-a-glimpse-of-future-ai-first-reality-for-workers
    Duolingo กำลังปรับโครงสร้างองค์กรให้เป็น AI-first โดยเน้นการใช้ AI ในการสร้างเนื้อหาการเรียนรู้และปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน Luis von Ahn ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Duolingo ระบุว่า AI จะมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจจ้างงานและประเมินผลการทำงานของพนักงาน โดยบริษัทจะขยายทีมงานเฉพาะในกรณีที่ AI ไม่สามารถทำงานนั้นได้ นอกจากนี้ Duolingo ยังมีแผนที่จะ ลดการใช้ผู้รับเหมา สำหรับงานที่ AI สามารถจัดการได้ และปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทาง AI-first ✅ Duolingo ปรับโครงสร้างองค์กรให้เป็น AI-first - AI จะมีบทบาทสำคัญในการ สร้างเนื้อหาการเรียนรู้ - บริษัทจะขยายทีมงานเฉพาะในกรณีที่ AI ไม่สามารถทำงานนั้นได้ ✅ AI จะมีผลต่อการจ้างงานและการประเมินผลพนักงาน - ความสามารถในการใช้ AI จะเป็น ปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจจ้างงาน - AI จะถูกนำมาใช้ในการ ประเมินผลการทำงานของพนักงาน ✅ การลดการใช้ผู้รับเหมา - Duolingo จะ หยุดใช้ผู้รับเหมา สำหรับงานที่ AI สามารถจัดการได้ - ปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทาง AI-first ✅ แนวโน้มของการพัฒนาในอนาคต - หากนโยบายนี้ประสบความสำเร็จ อาจมีบริษัทอื่น นำแนวทาง AI-first มาใช้มากขึ้น - AI อาจกลายเป็น มาตรฐานใหม่ในการบริหารองค์กร https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/04/duolingo039s-ai-policy-a-glimpse-of-future-ai-first-reality-for-workers
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Duolingo's AI policy a glimpse of future AI-first reality for workers
    The language-learning app Duolingo is significantly shifting its emphasis in hiring, productivity and corporate structures toward the use of artificial intelligence.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 รีวิว
  • Waymo ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Google กำลังขยายธุรกิจ รถแท็กซี่ไร้คนขับ อย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันให้บริการ มากกว่า 250,000 เที่ยวต่อสัปดาห์ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกในปีหน้า

    Waymo ได้เปิดตัวบริการบน แพลตฟอร์ม Uber ในเมือง Austin และขยายการดำเนินงานจาก ซานฟรานซิสโกไปยัง Silicon Valley นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะนำรถไร้คนขับไปให้บริการใน Washington, D.C. ในปีหน้า

    Sundar Pichai CEO ของ Google เปิดเผยว่า Waymo อาจพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับรถยนต์ส่วนตัว ในอนาคต โดยเน้นไปที่การสร้าง "คนขับที่ดีที่สุดในโลก"

    ✅ Waymo ให้บริการรถแท็กซี่ไร้คนขับมากกว่า 250,000 เที่ยวต่อสัปดาห์
    - เพิ่มขึ้นจาก 200,000 เที่ยวต่อสัปดาห์ในเดือนกุมภาพันธ์
    - ขยายบริการไปยัง Austin และ Silicon Valley

    ✅ แผนการขยายตัวในอนาคต
    - เตรียมเปิดให้บริการใน Washington, D.C. ในปีหน้า
    - อาจพัฒนา เทคโนโลยีสำหรับรถยนต์ส่วนตัว

    ✅ การแข่งขันกับ Tesla และ Volkswagen
    - Volkswagen วางแผนเปิดตัวรถไร้คนขับผ่าน Uber ในปี 2026
    - Elon Musk ประกาศว่า Tesla จะเปิดบริการ robotaxi ใน Austin ภายในเดือนมิถุนายน

    ✅ เทคโนโลยีที่ใช้ในรถไร้คนขับ
    - Waymo ใช้ LIDAR ซึ่งให้ข้อมูลที่แม่นยำกว่ากล้องของ Tesla
    - Tesla พึ่งพา กล้องและ AI แต่ยังต้องการให้คนขับพร้อมควบคุมรถ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/04/waymo039s-robotaxis-now-beyond-250000-driverless-rides-every-week
    Waymo ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Google กำลังขยายธุรกิจ รถแท็กซี่ไร้คนขับ อย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันให้บริการ มากกว่า 250,000 เที่ยวต่อสัปดาห์ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกในปีหน้า Waymo ได้เปิดตัวบริการบน แพลตฟอร์ม Uber ในเมือง Austin และขยายการดำเนินงานจาก ซานฟรานซิสโกไปยัง Silicon Valley นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะนำรถไร้คนขับไปให้บริการใน Washington, D.C. ในปีหน้า Sundar Pichai CEO ของ Google เปิดเผยว่า Waymo อาจพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับรถยนต์ส่วนตัว ในอนาคต โดยเน้นไปที่การสร้าง "คนขับที่ดีที่สุดในโลก" ✅ Waymo ให้บริการรถแท็กซี่ไร้คนขับมากกว่า 250,000 เที่ยวต่อสัปดาห์ - เพิ่มขึ้นจาก 200,000 เที่ยวต่อสัปดาห์ในเดือนกุมภาพันธ์ - ขยายบริการไปยัง Austin และ Silicon Valley ✅ แผนการขยายตัวในอนาคต - เตรียมเปิดให้บริการใน Washington, D.C. ในปีหน้า - อาจพัฒนา เทคโนโลยีสำหรับรถยนต์ส่วนตัว ✅ การแข่งขันกับ Tesla และ Volkswagen - Volkswagen วางแผนเปิดตัวรถไร้คนขับผ่าน Uber ในปี 2026 - Elon Musk ประกาศว่า Tesla จะเปิดบริการ robotaxi ใน Austin ภายในเดือนมิถุนายน ✅ เทคโนโลยีที่ใช้ในรถไร้คนขับ - Waymo ใช้ LIDAR ซึ่งให้ข้อมูลที่แม่นยำกว่ากล้องของ Tesla - Tesla พึ่งพา กล้องและ AI แต่ยังต้องการให้คนขับพร้อมควบคุมรถ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/04/waymo039s-robotaxis-now-beyond-250000-driverless-rides-every-week
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Waymo's robotaxis now beyond 250,000 driverless rides every week
    Google's sister company Waymo is rapidly expanding its robotaxi business ahead of potential arrival of new competitors, notably Elon Musk's Tesla.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ยืนยันว่าต้องการ แยกธุรกิจโฆษณาของ Google เพื่อลดการผูกขาดในตลาดโฆษณาดิจิทัล โดยศาลได้กำหนดให้มีการพิจารณาคดีในเดือนกันยายนนี้

    DOJ กำลังผลักดันให้ Google ขายธุรกิจโฆษณาบางส่วน เช่น Ad Exchange และ Publisher Ad Server เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับตลาดโฆษณาออนไลน์ หลังจากที่ศาลตัดสินว่า Google ใช้วิธีที่ไม่เป็นธรรมในการรักษาอำนาจผูกขาด

    Google คัดค้านแผนการแยกธุรกิจ โดยระบุว่าการบังคับขายธุรกิจโฆษณา อาจเป็นไปไม่ได้และส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของข้อมูล นอกจากนี้ Google ยังเสนอทางเลือกอื่น เช่น การแบ่งปันข้อมูลการประมูลโฆษณาแบบเรียลไทม์ และ การยกเลิกกลยุทธ์การตั้งราคาที่ไม่เป็นธรรม

    ✅ DOJ ต้องการแยกธุรกิจโฆษณาของ Google
    - ศาลกำหนดให้มีการพิจารณาคดีในเดือนกันยายน
    - DOJ ต้องการให้ Google ขายธุรกิจ Ad Exchange และ Publisher Ad Server

    ✅ เหตุผลในการดำเนินคดี
    - ศาลพบว่า Google ใช้วิธีที่ไม่เป็นธรรมในการรักษาอำนาจผูกขาด
    - การผูกขาดของ Google ส่งผลกระทบต่อผู้เผยแพร่โฆษณาและผู้บริโภค

    ✅ ข้อเสนอของ Google เพื่อลดผลกระทบ
    - Google เสนอให้ แบ่งปันข้อมูลการประมูลโฆษณาแบบเรียลไทม์
    - ยกเลิกกลยุทธ์การตั้งราคาที่ไม่เป็นธรรม เช่น Unified Pricing

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโฆษณาดิจิทัล
    - หาก DOJ ประสบความสำเร็จ อาจทำให้ ตลาดโฆษณามีการแข่งขันมากขึ้น
    - Google อาจต้องปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด

    https://www.techspot.com/news/107784-doj-confirms-wants-break-up-google-advertising-tech.html
    กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ยืนยันว่าต้องการ แยกธุรกิจโฆษณาของ Google เพื่อลดการผูกขาดในตลาดโฆษณาดิจิทัล โดยศาลได้กำหนดให้มีการพิจารณาคดีในเดือนกันยายนนี้ DOJ กำลังผลักดันให้ Google ขายธุรกิจโฆษณาบางส่วน เช่น Ad Exchange และ Publisher Ad Server เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับตลาดโฆษณาออนไลน์ หลังจากที่ศาลตัดสินว่า Google ใช้วิธีที่ไม่เป็นธรรมในการรักษาอำนาจผูกขาด Google คัดค้านแผนการแยกธุรกิจ โดยระบุว่าการบังคับขายธุรกิจโฆษณา อาจเป็นไปไม่ได้และส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของข้อมูล นอกจากนี้ Google ยังเสนอทางเลือกอื่น เช่น การแบ่งปันข้อมูลการประมูลโฆษณาแบบเรียลไทม์ และ การยกเลิกกลยุทธ์การตั้งราคาที่ไม่เป็นธรรม ✅ DOJ ต้องการแยกธุรกิจโฆษณาของ Google - ศาลกำหนดให้มีการพิจารณาคดีในเดือนกันยายน - DOJ ต้องการให้ Google ขายธุรกิจ Ad Exchange และ Publisher Ad Server ✅ เหตุผลในการดำเนินคดี - ศาลพบว่า Google ใช้วิธีที่ไม่เป็นธรรมในการรักษาอำนาจผูกขาด - การผูกขาดของ Google ส่งผลกระทบต่อผู้เผยแพร่โฆษณาและผู้บริโภค ✅ ข้อเสนอของ Google เพื่อลดผลกระทบ - Google เสนอให้ แบ่งปันข้อมูลการประมูลโฆษณาแบบเรียลไทม์ - ยกเลิกกลยุทธ์การตั้งราคาที่ไม่เป็นธรรม เช่น Unified Pricing ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโฆษณาดิจิทัล - หาก DOJ ประสบความสำเร็จ อาจทำให้ ตลาดโฆษณามีการแข่งขันมากขึ้น - Google อาจต้องปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด https://www.techspot.com/news/107784-doj-confirms-wants-break-up-google-advertising-tech.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    DOJ confirms it wants to break up Google's advertising tech monopoly
    The US Department of Justice has confirmed its intention to pursue a breakup of Google's advertising technology business, escalating the stakes in a high-profile antitrust battle. The...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • Asus ได้เปิดตัว TUF Gaming T500 ซึ่งเป็นเดสก์ท็อปเกมมิ่งที่ใช้ CPU แบบโมบาย แทนที่จะเป็น CPU เดสก์ท็อปแบบดั้งเดิม โดยมีเป้าหมายเพื่อ ลดอุณหภูมิและเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อน

    TUF Gaming T500 ใช้ Intel Core i7-13620H ซึ่งเป็น CPU แบบ 6+4 คอร์ พร้อม 16 เธรด และสามารถเร่งความเร็วได้ถึง 4.9GHz โดย Asus อ้างว่า สามารถให้ประสิทธิภาพระดับเดสก์ท็อป แต่มีอุณหภูมิที่ต่ำกว่ามาก

    นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังสามารถติดตั้ง Nvidia GeForce RTX 5060 Ti ซึ่งเป็น GPU ที่ใช้สถาปัตยกรรม Blackwell และมี VRAM 16GB รองรับการเล่นเกมที่ 1440p และ 4K ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ✅ ใช้ CPU แบบโมบายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อน
    - ใช้ Intel Core i7-13620H ซึ่งมี 6+4 คอร์ และ 16 เธรด
    - เร่งความเร็วได้ถึง 4.9GHz

    ✅ ระบบระบายความร้อนที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ
    - มี พัดลมขนาด 90mm, ฮีตซิงค์ และท่อระบายความร้อน 3 เส้น
    - ลดโอกาสที่ CPU จะเกิดการ Throttling

    ✅ รองรับ GPU ระดับสูง
    - สามารถติดตั้ง Nvidia GeForce RTX 5060 Ti (VRAM 16GB)
    - รองรับ DLSS สำหรับการเล่นเกมที่ 4K

    ✅ ดีไซน์และความทนทาน
    - ตัวเครื่องได้รับแรงบันดาลใจจาก Mecha Anime
    - ผ่านมาตรฐาน MIL-STD-810H ทนต่อแรงกระแทกและอุณหภูมิสูง

    ✅ การเชื่อมต่อและพอร์ต
    - มี USB-C, USB-A, HDMI, Ethernet และช่องเสียบหูฟัง
    - รองรับ Wi-Fi 6 และ Bluetooth 5.4

    https://www.techspot.com/news/107787-asus-tuf-gaming-t500-mobile-cpu-powered-desktop.html
    Asus ได้เปิดตัว TUF Gaming T500 ซึ่งเป็นเดสก์ท็อปเกมมิ่งที่ใช้ CPU แบบโมบาย แทนที่จะเป็น CPU เดสก์ท็อปแบบดั้งเดิม โดยมีเป้าหมายเพื่อ ลดอุณหภูมิและเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อน TUF Gaming T500 ใช้ Intel Core i7-13620H ซึ่งเป็น CPU แบบ 6+4 คอร์ พร้อม 16 เธรด และสามารถเร่งความเร็วได้ถึง 4.9GHz โดย Asus อ้างว่า สามารถให้ประสิทธิภาพระดับเดสก์ท็อป แต่มีอุณหภูมิที่ต่ำกว่ามาก นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังสามารถติดตั้ง Nvidia GeForce RTX 5060 Ti ซึ่งเป็น GPU ที่ใช้สถาปัตยกรรม Blackwell และมี VRAM 16GB รองรับการเล่นเกมที่ 1440p และ 4K ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ ใช้ CPU แบบโมบายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อน - ใช้ Intel Core i7-13620H ซึ่งมี 6+4 คอร์ และ 16 เธรด - เร่งความเร็วได้ถึง 4.9GHz ✅ ระบบระบายความร้อนที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ - มี พัดลมขนาด 90mm, ฮีตซิงค์ และท่อระบายความร้อน 3 เส้น - ลดโอกาสที่ CPU จะเกิดการ Throttling ✅ รองรับ GPU ระดับสูง - สามารถติดตั้ง Nvidia GeForce RTX 5060 Ti (VRAM 16GB) - รองรับ DLSS สำหรับการเล่นเกมที่ 4K ✅ ดีไซน์และความทนทาน - ตัวเครื่องได้รับแรงบันดาลใจจาก Mecha Anime - ผ่านมาตรฐาน MIL-STD-810H ทนต่อแรงกระแทกและอุณหภูมิสูง ✅ การเชื่อมต่อและพอร์ต - มี USB-C, USB-A, HDMI, Ethernet และช่องเสียบหูฟัง - รองรับ Wi-Fi 6 และ Bluetooth 5.4 https://www.techspot.com/news/107787-asus-tuf-gaming-t500-mobile-cpu-powered-desktop.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    The Asus TUF Gaming T500 is a mobile CPU-powered desktop for better thermals
    At the heart of the TUF Gaming T500 is up to an Intel Core i7-13620H processor. This is a 6+4 core CPU with 16 threads and boosted...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • Dynatron ได้เปิดตัว ชุดระบายความร้อนใหม่ ที่สามารถรองรับ พลังงานสูงสุดถึง 660W สำหรับ Intel Diamond Rapids และ AMD Venice CPUs ซึ่งเป็น ชิปรุ่นใหม่สำหรับเซิร์ฟเวอร์

    AMD ได้ยืนยันว่า Venice จะเป็นชิป EPYC รุ่นแรกที่ใช้กระบวนการผลิต TSMC N2 และคาดว่าจะใช้ สถาปัตยกรรม Zen 6 โดย Venice อาจเปลี่ยนไปใช้ ซ็อกเก็ต SP7 แทน SP5 ที่ใช้ในรุ่นก่อนหน้า

    Intel กำลังพัฒนา Diamond Rapids ซึ่งคาดว่าจะเป็น Xeon 7 และใช้ ซ็อกเก็ต LGA 9324 โดยมีการปรับปรุง I/O ให้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้า

    ✅ Dynatron เปิดตัวชุดระบายความร้อนใหม่
    - รองรับ พลังงานสูงสุดถึง 660W
    - ออกแบบมาสำหรับ Intel Diamond Rapids และ AMD Venice

    ✅ รายละเอียดของ AMD Venice
    - ใช้กระบวนการผลิต TSMC N2
    - คาดว่าจะใช้ สถาปัตยกรรม Zen 6
    - อาจเปลี่ยนไปใช้ ซ็อกเก็ต SP7

    ✅ รายละเอียดของ Intel Diamond Rapids
    - คาดว่าจะเป็น Xeon 7
    - ใช้ ซ็อกเก็ต LGA 9324
    - มีการปรับปรุง I/O ให้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้า

    ✅ การออกแบบของ Dynatron Coolers
    - รุ่น J24 และ J25 รองรับ AMD Venice และสามารถระบายความร้อนได้ถึง 600W
    - รุ่น C21 รองรับ Intel Diamond Rapids และสามารถระบายความร้อนได้ถึง 660W

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/dynatron-coolers-support-up-to-660w-for-intel-diamond-rapids-and-amd-venice-cpus
    Dynatron ได้เปิดตัว ชุดระบายความร้อนใหม่ ที่สามารถรองรับ พลังงานสูงสุดถึง 660W สำหรับ Intel Diamond Rapids และ AMD Venice CPUs ซึ่งเป็น ชิปรุ่นใหม่สำหรับเซิร์ฟเวอร์ AMD ได้ยืนยันว่า Venice จะเป็นชิป EPYC รุ่นแรกที่ใช้กระบวนการผลิต TSMC N2 และคาดว่าจะใช้ สถาปัตยกรรม Zen 6 โดย Venice อาจเปลี่ยนไปใช้ ซ็อกเก็ต SP7 แทน SP5 ที่ใช้ในรุ่นก่อนหน้า Intel กำลังพัฒนา Diamond Rapids ซึ่งคาดว่าจะเป็น Xeon 7 และใช้ ซ็อกเก็ต LGA 9324 โดยมีการปรับปรุง I/O ให้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้า ✅ Dynatron เปิดตัวชุดระบายความร้อนใหม่ - รองรับ พลังงานสูงสุดถึง 660W - ออกแบบมาสำหรับ Intel Diamond Rapids และ AMD Venice ✅ รายละเอียดของ AMD Venice - ใช้กระบวนการผลิต TSMC N2 - คาดว่าจะใช้ สถาปัตยกรรม Zen 6 - อาจเปลี่ยนไปใช้ ซ็อกเก็ต SP7 ✅ รายละเอียดของ Intel Diamond Rapids - คาดว่าจะเป็น Xeon 7 - ใช้ ซ็อกเก็ต LGA 9324 - มีการปรับปรุง I/O ให้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้า ✅ การออกแบบของ Dynatron Coolers - รุ่น J24 และ J25 รองรับ AMD Venice และสามารถระบายความร้อนได้ถึง 600W - รุ่น C21 รองรับ Intel Diamond Rapids และสามารถระบายความร้อนได้ถึง 660W https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/dynatron-coolers-support-up-to-660w-for-intel-diamond-rapids-and-amd-venice-cpus
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • Cerabyte บริษัทสตาร์ทอัพด้านการจัดเก็บข้อมูล ได้เผยแพร่วิดีโอทดสอบความทนทานของ สื่อจัดเก็บข้อมูลแบบแก้วเซรามิก โดยนำไป ต้มในน้ำเกลือเดือด และ อบในเตาอบที่อุณหภูมิสูง เพื่อพิสูจน์ว่า ข้อมูลยังคงอยู่ครบถ้วนแม้ผ่านการทดสอบสุดโหด

    Cerabyte อ้างว่า สื่อจัดเก็บข้อมูลนี้สามารถคงอยู่ได้นานถึง 5,000 ปี และมีความทนทานต่อ ไฟ, น้ำ, รังสี และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (EMP) ซึ่งอาจเป็นทางเลือกใหม่สำหรับ การจัดเก็บข้อมูลระยะยาว

    ✅ การทดสอบความทนทานของสื่อจัดเก็บข้อมูล
    - นำไป ต้มในน้ำเกลือเดือด (100°C) และ อบในเตาอบที่ 250°C
    - ข้อมูลยังคงอยู่ครบถ้วนหลังจากผ่านการทดสอบ

    ✅ เทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลแบบแก้วเซรามิก
    - ใช้ Femtosecond Laser ในการสร้างรูระดับนาโนบนแผ่นเซรามิก
    - Femtosecond Laser) เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์ที่สามารถปล่อยพลังงานในช่วงเวลาสั้นมาก โดยมีความเร็วระดับ หนึ่งในพันล้านล้านวินาที (10⁻¹⁵ วินาที) หรือเฟมโตวินาที ซึ่งทำให้สามารถทำงานได้อย่างแม่นยำโดยไม่สร้างความเสียหายต่อเนื้อเยื่อโดยรอบ
    - แผ่นแก้วบางเฉียบขนาด 9 ซม. สามารถจัดเก็บข้อมูลได้ 1GB ต่อด้าน

    ✅ ความทนทานต่อสภาพแวดล้อม
    - ทนต่อ ไฟ, น้ำ, รังสี และ EMP
    - ไม่เสื่อมสภาพง่ายเหมือน ฮาร์ดดิสก์หรือ SSD

    ✅ แผนการพัฒนาในอนาคต
    - ตั้งเป้าลดต้นทุนให้ต่ำกว่า $1 ต่อ TB ภายในปี 2030
    - พัฒนา CeraTape ที่สามารถจัดเก็บข้อมูลระดับ Exabyte

    https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/firm-boils-storage-device-in-salt-water-then-grills-it-as-proof-of-durability-cerabytes-glass-storage-media-claimed-to-be-ultra-rugged
    Cerabyte บริษัทสตาร์ทอัพด้านการจัดเก็บข้อมูล ได้เผยแพร่วิดีโอทดสอบความทนทานของ สื่อจัดเก็บข้อมูลแบบแก้วเซรามิก โดยนำไป ต้มในน้ำเกลือเดือด และ อบในเตาอบที่อุณหภูมิสูง เพื่อพิสูจน์ว่า ข้อมูลยังคงอยู่ครบถ้วนแม้ผ่านการทดสอบสุดโหด Cerabyte อ้างว่า สื่อจัดเก็บข้อมูลนี้สามารถคงอยู่ได้นานถึง 5,000 ปี และมีความทนทานต่อ ไฟ, น้ำ, รังสี และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (EMP) ซึ่งอาจเป็นทางเลือกใหม่สำหรับ การจัดเก็บข้อมูลระยะยาว ✅ การทดสอบความทนทานของสื่อจัดเก็บข้อมูล - นำไป ต้มในน้ำเกลือเดือด (100°C) และ อบในเตาอบที่ 250°C - ข้อมูลยังคงอยู่ครบถ้วนหลังจากผ่านการทดสอบ ✅ เทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลแบบแก้วเซรามิก - ใช้ Femtosecond Laser ในการสร้างรูระดับนาโนบนแผ่นเซรามิก - Femtosecond Laser) เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์ที่สามารถปล่อยพลังงานในช่วงเวลาสั้นมาก โดยมีความเร็วระดับ หนึ่งในพันล้านล้านวินาที (10⁻¹⁵ วินาที) หรือเฟมโตวินาที ซึ่งทำให้สามารถทำงานได้อย่างแม่นยำโดยไม่สร้างความเสียหายต่อเนื้อเยื่อโดยรอบ - แผ่นแก้วบางเฉียบขนาด 9 ซม. สามารถจัดเก็บข้อมูลได้ 1GB ต่อด้าน ✅ ความทนทานต่อสภาพแวดล้อม - ทนต่อ ไฟ, น้ำ, รังสี และ EMP - ไม่เสื่อมสภาพง่ายเหมือน ฮาร์ดดิสก์หรือ SSD ✅ แผนการพัฒนาในอนาคต - ตั้งเป้าลดต้นทุนให้ต่ำกว่า $1 ต่อ TB ภายในปี 2030 - พัฒนา CeraTape ที่สามารถจัดเก็บข้อมูลระดับ Exabyte https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/firm-boils-storage-device-in-salt-water-then-grills-it-as-proof-of-durability-cerabytes-glass-storage-media-claimed-to-be-ultra-rugged
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • ธุรกิจออนไลน์ทั่วโลกกำลังเผชิญกับ ปัญหาการฉ้อโกงผ่านการเรียกเงินคืน (Chargeback Fraud) ซึ่งคาดว่าจะทำให้ สูญเสียรายได้กว่า 15 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025 โดย Mastercard เตือนว่าหากไม่มีมาตรการแก้ไข จำนวนการเรียกเงินคืนอาจเพิ่มขึ้นเป็น 324 ล้านครั้งภายในปี 2028

    Chargeback Fraud เกิดขึ้นเมื่อ ลูกค้าปฏิเสธธุรกรรมที่ถูกต้อง ผ่านแอปธนาคาร โดยอ้างว่าไม่ได้ทำรายการนั้น ทั้งที่จริงแล้วเป็นการซื้อสินค้าหรือบริการที่ถูกต้อง ส่งผลให้ ผู้ขายต้องคืนเงินโดยไม่มีทางโต้แย้ง

    ✅ ธุรกิจทั่วโลกสูญเสียรายได้กว่า 15 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025
    - Mastercard เตือนว่าหากไม่มีมาตรการแก้ไข จำนวนการเรียกเงินคืนอาจเพิ่มขึ้นเป็น 324 ล้านครั้งภายในปี 2028

    ✅ Chargeback Fraud คืออะไร?
    - ลูกค้าปฏิเสธธุรกรรมที่ถูกต้องผ่านแอปธนาคาร
    - ผู้ขายต้องคืนเงินโดยไม่มีทางโต้แย้ง

    ✅ ผลกระทบต่อธุรกิจออนไลน์
    - ธุรกิจขนาดเล็ก (SMEs) ไม่สามารถรับมือกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้
    - บางบริษัทต้องเลือก แบกรับความสูญเสียหรือเพิ่มงบประมาณด้านความปลอดภัยไซเบอร์

    ✅ แนวทางแก้ไขที่ Mastercard แนะนำ
    - ใช้ AI และระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติ เพื่อตรวจจับธุรกรรมที่น่าสงสัย
    - เพิ่ม ความชัดเจนของใบเสร็จดิจิทัล เพื่อช่วยให้ผู้ขายสามารถโต้แย้งการเรียกเงินคืนได้

    https://www.techradar.com/pro/businesses-globally-set-to-lose-usd15-billion-in-2025-because-of-fraudulent-chargebacks-says-mastercard-heres-how-it-impacts-you-me-and-everyone
    ธุรกิจออนไลน์ทั่วโลกกำลังเผชิญกับ ปัญหาการฉ้อโกงผ่านการเรียกเงินคืน (Chargeback Fraud) ซึ่งคาดว่าจะทำให้ สูญเสียรายได้กว่า 15 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025 โดย Mastercard เตือนว่าหากไม่มีมาตรการแก้ไข จำนวนการเรียกเงินคืนอาจเพิ่มขึ้นเป็น 324 ล้านครั้งภายในปี 2028 Chargeback Fraud เกิดขึ้นเมื่อ ลูกค้าปฏิเสธธุรกรรมที่ถูกต้อง ผ่านแอปธนาคาร โดยอ้างว่าไม่ได้ทำรายการนั้น ทั้งที่จริงแล้วเป็นการซื้อสินค้าหรือบริการที่ถูกต้อง ส่งผลให้ ผู้ขายต้องคืนเงินโดยไม่มีทางโต้แย้ง ✅ ธุรกิจทั่วโลกสูญเสียรายได้กว่า 15 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025 - Mastercard เตือนว่าหากไม่มีมาตรการแก้ไข จำนวนการเรียกเงินคืนอาจเพิ่มขึ้นเป็น 324 ล้านครั้งภายในปี 2028 ✅ Chargeback Fraud คืออะไร? - ลูกค้าปฏิเสธธุรกรรมที่ถูกต้องผ่านแอปธนาคาร - ผู้ขายต้องคืนเงินโดยไม่มีทางโต้แย้ง ✅ ผลกระทบต่อธุรกิจออนไลน์ - ธุรกิจขนาดเล็ก (SMEs) ไม่สามารถรับมือกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้ - บางบริษัทต้องเลือก แบกรับความสูญเสียหรือเพิ่มงบประมาณด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ✅ แนวทางแก้ไขที่ Mastercard แนะนำ - ใช้ AI และระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติ เพื่อตรวจจับธุรกรรมที่น่าสงสัย - เพิ่ม ความชัดเจนของใบเสร็จดิจิทัล เพื่อช่วยให้ผู้ขายสามารถโต้แย้งการเรียกเงินคืนได้ https://www.techradar.com/pro/businesses-globally-set-to-lose-usd15-billion-in-2025-because-of-fraudulent-chargebacks-says-mastercard-heres-how-it-impacts-you-me-and-everyone
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิจัยจาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีไอนด์โฮเวน (TU/e) ได้สร้างสถิติใหม่ในการส่งข้อมูลไร้สายผ่าน แสงอินฟราเรด ด้วยความเร็ว 5.7 เทราบิตต่อวินาที ซึ่งเทียบเท่ากับการสตรีม Netflix HD พร้อมกัน 1.9 ล้านรายการ

    เทคโนโลยีนี้ใช้ เสาอากาศออปติคขั้นสูงจาก Aircision ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพที่พัฒนา การสื่อสารด้วยแสงในอากาศ (Free-Space Optical Communication - FSO) ทำให้สามารถส่งข้อมูลได้โดยไม่มีสัญญาณรบกวน

    ✅ นักวิจัยส่งข้อมูลไร้สายด้วยความเร็ว 5.7 เทราบิตต่อวินาที
    - เทียบเท่ากับการสตรีม Netflix HD พร้อมกัน 1.9 ล้านรายการ
    - ใช้ แสงอินฟราเรดแทนสายเคเบิลหรือคลื่นวิทยุ

    ✅ เทคโนโลยี Free-Space Optical Communication (FSO)
    - ใช้ เสาอากาศออปติคขั้นสูงจาก Aircision
    - ส่งข้อมูลผ่าน ลำแสงอินฟราเรดที่มองไม่เห็น

    ✅ ข้อดีของเทคโนโลยีนี้
    - ไม่มี สัญญาณรบกวนจากคลื่นวิทยุ
    - สามารถเพิ่ม จำนวนช่องสัญญาณได้ไม่จำกัด

    ✅ แนวโน้มของการพัฒนาในอนาคต
    - อาจถูกนำไปใช้ใน เครือข่าย 5G และ 6G
    - สามารถช่วย เชื่อมต่อพื้นที่ห่างไกลที่ไม่มีโครงสร้างพื้นฐาน

    https://www.techradar.com/pro/wi-fi-more-like-wow-fi-researchers-transmit-almost-2-million-netflix-hd-streams-simultaneously-using-a-single-beam-of-infrared-light
    นักวิจัยจาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีไอนด์โฮเวน (TU/e) ได้สร้างสถิติใหม่ในการส่งข้อมูลไร้สายผ่าน แสงอินฟราเรด ด้วยความเร็ว 5.7 เทราบิตต่อวินาที ซึ่งเทียบเท่ากับการสตรีม Netflix HD พร้อมกัน 1.9 ล้านรายการ เทคโนโลยีนี้ใช้ เสาอากาศออปติคขั้นสูงจาก Aircision ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพที่พัฒนา การสื่อสารด้วยแสงในอากาศ (Free-Space Optical Communication - FSO) ทำให้สามารถส่งข้อมูลได้โดยไม่มีสัญญาณรบกวน ✅ นักวิจัยส่งข้อมูลไร้สายด้วยความเร็ว 5.7 เทราบิตต่อวินาที - เทียบเท่ากับการสตรีม Netflix HD พร้อมกัน 1.9 ล้านรายการ - ใช้ แสงอินฟราเรดแทนสายเคเบิลหรือคลื่นวิทยุ ✅ เทคโนโลยี Free-Space Optical Communication (FSO) - ใช้ เสาอากาศออปติคขั้นสูงจาก Aircision - ส่งข้อมูลผ่าน ลำแสงอินฟราเรดที่มองไม่เห็น ✅ ข้อดีของเทคโนโลยีนี้ - ไม่มี สัญญาณรบกวนจากคลื่นวิทยุ - สามารถเพิ่ม จำนวนช่องสัญญาณได้ไม่จำกัด ✅ แนวโน้มของการพัฒนาในอนาคต - อาจถูกนำไปใช้ใน เครือข่าย 5G และ 6G - สามารถช่วย เชื่อมต่อพื้นที่ห่างไกลที่ไม่มีโครงสร้างพื้นฐาน https://www.techradar.com/pro/wi-fi-more-like-wow-fi-researchers-transmit-almost-2-million-netflix-hd-streams-simultaneously-using-a-single-beam-of-infrared-light
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • 8849 Tank 4 Pro เป็นสมาร์ทโฟนสายถึกที่มาพร้อมกับ โปรเจคเตอร์ DLP 100 ลูเมน และ กล้องกลางคืน 64MP ซึ่งออกแบบมาเพื่อการใช้งานกลางแจ้งและสถานการณ์เอาตัวรอด

    นอกจากความทนทานแล้ว Tank 4 Pro ยังมี หน้าจอ AMOLED 6.73 นิ้ว ความละเอียด 3K พร้อม รีเฟรชเรต 120Hz ใช้ชิป Dimensity 8300 พร้อม RAM 16GB และ ROM 512GB

    ✅ สมาร์ทโฟนสายถึกที่มาพร้อมโปรเจคเตอร์
    - โปรเจคเตอร์ DLP 100 ลูเมน สามารถฉายภาพระดับ 720p
    - กล้องกลางคืน 64MP พร้อม กล้องหลัก 50MP และเลนส์เทเล 50MP

    ✅ หน้าจอและประสิทธิภาพ
    - หน้าจอ AMOLED 6.73 นิ้ว ความละเอียด 3K
    - รีเฟรชเรต 120Hz ให้ภาพลื่นไหล

    ✅ แบตเตอรี่และการเชื่อมต่อ
    - แบตเตอรี่ 11,600mAh รองรับ ชาร์จเร็ว 120W
    - รองรับ Wi-Fi 6, 5G, และ Dual SIM

    ✅ ความทนทานและฟีเจอร์พิเศษ
    - กันน้ำและฝุ่นระดับ IP68
    - มี ไฟแคมป์คู่ สำหรับการใช้งานกลางแจ้ง

    https://www.techradar.com/pro/a-100-lumens-dvd-class-dlp-projector-a-64-megapixel-night-camera-and-a-camping-light
    8849 Tank 4 Pro เป็นสมาร์ทโฟนสายถึกที่มาพร้อมกับ โปรเจคเตอร์ DLP 100 ลูเมน และ กล้องกลางคืน 64MP ซึ่งออกแบบมาเพื่อการใช้งานกลางแจ้งและสถานการณ์เอาตัวรอด นอกจากความทนทานแล้ว Tank 4 Pro ยังมี หน้าจอ AMOLED 6.73 นิ้ว ความละเอียด 3K พร้อม รีเฟรชเรต 120Hz ใช้ชิป Dimensity 8300 พร้อม RAM 16GB และ ROM 512GB ✅ สมาร์ทโฟนสายถึกที่มาพร้อมโปรเจคเตอร์ - โปรเจคเตอร์ DLP 100 ลูเมน สามารถฉายภาพระดับ 720p - กล้องกลางคืน 64MP พร้อม กล้องหลัก 50MP และเลนส์เทเล 50MP ✅ หน้าจอและประสิทธิภาพ - หน้าจอ AMOLED 6.73 นิ้ว ความละเอียด 3K - รีเฟรชเรต 120Hz ให้ภาพลื่นไหล ✅ แบตเตอรี่และการเชื่อมต่อ - แบตเตอรี่ 11,600mAh รองรับ ชาร์จเร็ว 120W - รองรับ Wi-Fi 6, 5G, และ Dual SIM ✅ ความทนทานและฟีเจอร์พิเศษ - กันน้ำและฝุ่นระดับ IP68 - มี ไฟแคมป์คู่ สำหรับการใช้งานกลางแจ้ง https://www.techradar.com/pro/a-100-lumens-dvd-class-dlp-projector-a-64-megapixel-night-camera-and-a-camping-light
    WWW.TECHRADAR.COM
    Rugged phones just got wild: meet the Tank 4 Pro with a 64MP night camera and a projector
    Tank 4 Pro isn’t just a phone; it’s your campsite projector, camera, and flashlight combined
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิจัยด้านความปลอดภัยเตือนว่า กลุ่มแฮกเกอร์จากเกาหลีเหนือ กำลังใช้ AI และเทคนิคปลอมตัวขั้นสูง เพื่อสมัครงานระยะไกลในบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก โดยมีเป้าหมายเพื่อ ขโมยทรัพย์สินทางปัญญาและรับเงินเดือนจากบริษัทตะวันตก

    ที่งาน RSA Conference ในซานฟรานซิสโก ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยเปิดเผยว่า แฮกเกอร์เหล่านี้ใช้ AI สร้างโปรไฟล์ LinkedIn ที่ดูน่าเชื่อถือ และใช้ ทีมงานเบื้องหลังช่วยตอบคำถามในการสัมภาษณ์งาน นอกจากนี้ ยังมีการใช้ deepfake และฟาร์มแล็ปท็อป เพื่อปลอมแปลงตำแหน่งที่ตั้งและตัวตนของผู้สมัคร

    ✅ แฮกเกอร์ใช้ AI และ deepfake เพื่อสมัครงานระยะไกล
    - สร้างโปรไฟล์ LinkedIn ที่ดูน่าเชื่อถือ
    - ใช้ทีมงานเบื้องหลังช่วยตอบคำถามในการสัมภาษณ์

    ✅ เทคนิคการปลอมตัวที่ซับซ้อน
    - ใช้ ฟาร์มแล็ปท็อป ในสหรัฐฯ เพื่อปลอมแปลงตำแหน่งที่ตั้ง
    - ใช้ deepfake เพื่อหลอกทีมสรรหาบุคลากร

    ✅ เป้าหมายของแฮกเกอร์
    - ขโมยทรัพย์สินทางปัญญาโดยค่อย ๆ ส่งข้อมูลออกไปทีละน้อย
    - รับเงินเดือนจากบริษัทตะวันตกเพื่อสนับสนุนรัฐบาลเกาหลีเหนือ

    ✅ แนวทางป้องกันที่แนะนำ
    - ใช้ คำถามนอกบท เช่น "คิมจองอึน อ้วนแค่ไหน?" เพื่อทดสอบปฏิกิริยาของผู้สมัคร
    - จัดสัมภาษณ์งาน ภายในองค์กร เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมที่ผิดปกติ

    https://www.techradar.com/pro/security/asking-remote-job-candidates-this-shocking-question-could-save-your-company-big-bucks-security-expert-says
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยเตือนว่า กลุ่มแฮกเกอร์จากเกาหลีเหนือ กำลังใช้ AI และเทคนิคปลอมตัวขั้นสูง เพื่อสมัครงานระยะไกลในบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก โดยมีเป้าหมายเพื่อ ขโมยทรัพย์สินทางปัญญาและรับเงินเดือนจากบริษัทตะวันตก ที่งาน RSA Conference ในซานฟรานซิสโก ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยเปิดเผยว่า แฮกเกอร์เหล่านี้ใช้ AI สร้างโปรไฟล์ LinkedIn ที่ดูน่าเชื่อถือ และใช้ ทีมงานเบื้องหลังช่วยตอบคำถามในการสัมภาษณ์งาน นอกจากนี้ ยังมีการใช้ deepfake และฟาร์มแล็ปท็อป เพื่อปลอมแปลงตำแหน่งที่ตั้งและตัวตนของผู้สมัคร ✅ แฮกเกอร์ใช้ AI และ deepfake เพื่อสมัครงานระยะไกล - สร้างโปรไฟล์ LinkedIn ที่ดูน่าเชื่อถือ - ใช้ทีมงานเบื้องหลังช่วยตอบคำถามในการสัมภาษณ์ ✅ เทคนิคการปลอมตัวที่ซับซ้อน - ใช้ ฟาร์มแล็ปท็อป ในสหรัฐฯ เพื่อปลอมแปลงตำแหน่งที่ตั้ง - ใช้ deepfake เพื่อหลอกทีมสรรหาบุคลากร ✅ เป้าหมายของแฮกเกอร์ - ขโมยทรัพย์สินทางปัญญาโดยค่อย ๆ ส่งข้อมูลออกไปทีละน้อย - รับเงินเดือนจากบริษัทตะวันตกเพื่อสนับสนุนรัฐบาลเกาหลีเหนือ ✅ แนวทางป้องกันที่แนะนำ - ใช้ คำถามนอกบท เช่น "คิมจองอึน อ้วนแค่ไหน?" เพื่อทดสอบปฏิกิริยาของผู้สมัคร - จัดสัมภาษณ์งาน ภายในองค์กร เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมที่ผิดปกติ https://www.techradar.com/pro/security/asking-remote-job-candidates-this-shocking-question-could-save-your-company-big-bucks-security-expert-says
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD กำลังพัฒนา UDNA 5 ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรม GPU รุ่นใหม่ที่มีเป้าหมายเพื่อ ลดช่องว่างด้านประสิทธิภาพของ Ray-Tracing เมื่อเทียบกับ NVIDIA โดยมีการยื่นจดสิทธิบัตรจำนวนมากในช่วงสองปีที่ผ่านมา

    AMD ได้ปรับปรุง BVH (Bounding Volume Hierarchy) Management ซึ่งช่วยให้สามารถ บีบอัดข้อมูลกราฟิกที่คล้ายกัน เพื่อลดการใช้ทรัพยากรและลดภาระของ CPU นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนา Turbocharged Ray Traversal ซึ่งช่วยให้ GPU สามารถ ตรวจจับวัตถุกราฟิกที่ต้องเรนเดอร์ได้เร็วขึ้น

    ✅ AMD พัฒนา UDNA 5 เพื่อแข่งขันกับ NVIDIA ในด้าน Ray-Tracing
    - มีการยื่นจดสิทธิบัตรจำนวนมากในช่วงสองปีที่ผ่านมา
    - เป้าหมายคือ ลดช่องว่างด้านประสิทธิภาพของ Ray-Tracing

    ✅ การปรับปรุง BVH Management
    - ใช้เทคนิค บีบอัดข้อมูลกราฟิกที่คล้ายกัน เพื่อลดการใช้ทรัพยากร
    - ลดภาระของ CPU ในการประมวลผลกราฟิก

    ✅ Turbocharged Ray Traversal
    - ช่วยให้ GPU สามารถ ตรวจจับวัตถุกราฟิกที่ต้องเรนเดอร์ได้เร็วขึ้น
    - เพิ่มประสิทธิภาพของ Ray-Tracing โดยไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์เพิ่มเติม

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเกมและกราฟิก
    - NVIDIA อาจต้อง พัฒนาเทคโนโลยีใหม่เพื่อรักษาความเป็นผู้นำ
    - ผู้บริโภคจะได้รับ GPU ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นในราคาที่แข่งขันได้

    https://wccftech.com/amd-udna-5-gaming-gpus-could-bridge-the-rt-performance-gap-with-nvidia/
    AMD กำลังพัฒนา UDNA 5 ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรม GPU รุ่นใหม่ที่มีเป้าหมายเพื่อ ลดช่องว่างด้านประสิทธิภาพของ Ray-Tracing เมื่อเทียบกับ NVIDIA โดยมีการยื่นจดสิทธิบัตรจำนวนมากในช่วงสองปีที่ผ่านมา AMD ได้ปรับปรุง BVH (Bounding Volume Hierarchy) Management ซึ่งช่วยให้สามารถ บีบอัดข้อมูลกราฟิกที่คล้ายกัน เพื่อลดการใช้ทรัพยากรและลดภาระของ CPU นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนา Turbocharged Ray Traversal ซึ่งช่วยให้ GPU สามารถ ตรวจจับวัตถุกราฟิกที่ต้องเรนเดอร์ได้เร็วขึ้น ✅ AMD พัฒนา UDNA 5 เพื่อแข่งขันกับ NVIDIA ในด้าน Ray-Tracing - มีการยื่นจดสิทธิบัตรจำนวนมากในช่วงสองปีที่ผ่านมา - เป้าหมายคือ ลดช่องว่างด้านประสิทธิภาพของ Ray-Tracing ✅ การปรับปรุง BVH Management - ใช้เทคนิค บีบอัดข้อมูลกราฟิกที่คล้ายกัน เพื่อลดการใช้ทรัพยากร - ลดภาระของ CPU ในการประมวลผลกราฟิก ✅ Turbocharged Ray Traversal - ช่วยให้ GPU สามารถ ตรวจจับวัตถุกราฟิกที่ต้องเรนเดอร์ได้เร็วขึ้น - เพิ่มประสิทธิภาพของ Ray-Tracing โดยไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์เพิ่มเติม ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเกมและกราฟิก - NVIDIA อาจต้อง พัฒนาเทคโนโลยีใหม่เพื่อรักษาความเป็นผู้นำ - ผู้บริโภคจะได้รับ GPU ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นในราคาที่แข่งขันได้ https://wccftech.com/amd-udna-5-gaming-gpus-could-bridge-the-rt-performance-gap-with-nvidia/
    WCCFTECH.COM
    AMD's Next-Gen UDNA 5 Gaming GPUs Could Potentially Bridge The Ray-Tracing Performance Gap With NVIDIA, Indicates Extensive Patent Filings
    AMD has big plans for its UDNA 5 GPUs, as a set of patent filings over the last two years indicate that firm plans to upscale its RT game.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว