• ตอนนี้แคลิฟอร์เนียมีสถานีชาร์จ EV มากกว่าปั๊มน้ำมันเป็นครั้งแรก! นี่เป็นก้าวสำคัญในการผลักดันรถยนต์พลังงานสะอาด และรัฐกำลังลงทุนอย่างหนักเพื่อขยายโครงสร้างพื้นฐาน โดยมีทั้งสถานีชาร์จทั่วไปและแบบชาร์จเร็ว และยังมีโครงการช่วยเหลือประชาชนรายได้น้อยให้สามารถซื้อ EV ได้ง่ายขึ้น

    จำนวนสถานีชาร์จไฟฟ้าทั่วแคลิฟอร์เนีย:
    - แคลิฟอร์เนียมี 178,549 สถานีชาร์จ EV แซงหน้าปั๊มน้ำมันที่มีประมาณ 120,000 หัวจ่าย
    - ในจำนวนนี้ 162,000 จุด เป็นแบบ Level 2 (สำหรับการชาร์จทั่วไป) และ 17,000 จุด เป็น Fast Charger ที่ชาร์จเร็ว

    - ความพยายามของรัฐบาลในการส่งเสริม EV:
    - หน่วยงานรัฐลงทุนกว่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ ขยายเครือข่ายชาร์จ EV และไฮโดรเจน
    - มีโครงการ Fast Charge California Project ที่เร่งติดตั้งสถานีชาร์จเร็วในพื้นที่ธุรกิจและสาธารณะ
    - มีเงินช่วยเหลือให้ประชาชนรายได้น้อยเพื่อซื้อรถ EV

    ปัญหาที่ต้องแก้ไขในอนาคต:
    - รัฐกำลังเร่งกระบวนการอนุมัติและลดขั้นตอนด้านกฎหมายเพื่อให้การติดตั้งสถานีชาร์จง่ายขึ้น
    - มีแผนรองรับความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น และปรับปรุงความน่าเชื่อถือของสถานีชาร์จ

    แนวโน้มตลาดรถ EV ในแคลิฟอร์เนีย:
    - ในไตรมาสที่ 4 ปี 2024 ชาวแคลิฟอร์เนียซื้อรถ EV กว่า 108,000 คัน คิดเป็นกว่า 25% ของยอดขายรถใหม่ในรัฐ
    - รวมแล้วมีรถ EV กว่า 2 ล้านคัน ที่ถูกขายตั้งแต่เริ่มมีการนำมาใช้

    https://www.techspot.com/news/107367-ev-chargers-now-outnumber-gas-pumps-california-zero.html
    ตอนนี้แคลิฟอร์เนียมีสถานีชาร์จ EV มากกว่าปั๊มน้ำมันเป็นครั้งแรก! นี่เป็นก้าวสำคัญในการผลักดันรถยนต์พลังงานสะอาด และรัฐกำลังลงทุนอย่างหนักเพื่อขยายโครงสร้างพื้นฐาน โดยมีทั้งสถานีชาร์จทั่วไปและแบบชาร์จเร็ว และยังมีโครงการช่วยเหลือประชาชนรายได้น้อยให้สามารถซื้อ EV ได้ง่ายขึ้น จำนวนสถานีชาร์จไฟฟ้าทั่วแคลิฟอร์เนีย: - แคลิฟอร์เนียมี 178,549 สถานีชาร์จ EV แซงหน้าปั๊มน้ำมันที่มีประมาณ 120,000 หัวจ่าย - ในจำนวนนี้ 162,000 จุด เป็นแบบ Level 2 (สำหรับการชาร์จทั่วไป) และ 17,000 จุด เป็น Fast Charger ที่ชาร์จเร็ว - ความพยายามของรัฐบาลในการส่งเสริม EV: - หน่วยงานรัฐลงทุนกว่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ ขยายเครือข่ายชาร์จ EV และไฮโดรเจน - มีโครงการ Fast Charge California Project ที่เร่งติดตั้งสถานีชาร์จเร็วในพื้นที่ธุรกิจและสาธารณะ - มีเงินช่วยเหลือให้ประชาชนรายได้น้อยเพื่อซื้อรถ EV ปัญหาที่ต้องแก้ไขในอนาคต: - รัฐกำลังเร่งกระบวนการอนุมัติและลดขั้นตอนด้านกฎหมายเพื่อให้การติดตั้งสถานีชาร์จง่ายขึ้น - มีแผนรองรับความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น และปรับปรุงความน่าเชื่อถือของสถานีชาร์จ แนวโน้มตลาดรถ EV ในแคลิฟอร์เนีย: - ในไตรมาสที่ 4 ปี 2024 ชาวแคลิฟอร์เนียซื้อรถ EV กว่า 108,000 คัน คิดเป็นกว่า 25% ของยอดขายรถใหม่ในรัฐ - รวมแล้วมีรถ EV กว่า 2 ล้านคัน ที่ถูกขายตั้งแต่เริ่มมีการนำมาใช้ https://www.techspot.com/news/107367-ev-chargers-now-outnumber-gas-pumps-california-zero.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    EV chargers now outnumber gas pumps in California
    The state has also made significant strides in building an expansive electric vehicle charging network. Governor Gavin Newsom recently announced that California now boasts 178,549 public and...
    0 Comments 0 Shares 449 Views 0 Reviews
  • AI อาจช่วยให้ทนายคิดค่าบริการสูงถึง $10,000 ต่อชั่วโมงในอนาคต เพราะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการค้นหากฎหมายและวิเคราะห์ข้อมูลคดี อย่างไรก็ตาม ปัญหาเรื่อง AI Hallucination ทำให้เกิดข้อพิพาททางกฎหมายหลายครั้ง เช่น กรณีที่ทนายถูกปรับเงินหลังใช้ข้อมูลที่ AI สร้างขึ้นเอง ดังนั้นทนายต้องระวังการใช้ AI เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลถูกต้อง

    AI จะช่วยให้ทนายความทำงานเร็วขึ้น
    - AI สามารถช่วย ค้นหาและวิเคราะห์กฎหมาย ได้รวดเร็วกว่ามนุษย์
    - สามารถ สรุปข้อโต้แย้ง และช่วยในการเขียนเอกสารทางกฎหมาย
    - วิเคราะห์ข้อมูลของ ผู้พิพากษาและทนายฝ่ายตรงข้าม เพื่อคาดการณ์แนวโน้มของคดี

    ทนายอาจใช้ AI เพื่อเพิ่มค่าบริการ
    - AI ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพขึ้น ทนายจึง สามารถคิดค่าบริการสูงขึ้นเพราะให้บริการที่ดีกว่า
    - ทนายสามารถ ลดเวลาทำงาน และรับคดีเพิ่มได้ ซึ่งอาจทำให้รายได้สูงขึ้น

    ปัญหาเรื่อง "AI Hallucination" ในเอกสารกฎหมาย
    - มีหลายกรณีที่ AI สร้างข้อมูลทางกฎหมายปลอม เช่น กรณีทนายในรัฐอินเดียนา ที่ถูกปรับ $15,000 เพราะใช้ ChatGPT ที่สร้างคำพิพากษาปลอม
    - ปี 2023 ทนายสองคนถูกปรับเงินในนิวยอร์กหลังใช้ข้อมูลทางกฎหมายที่ AI สร้างขึ้นมาเอง
    - หากทนายใช้ AI อย่างไม่ระวัง อาจเกิดปัญหาทางกฎหมาย และทำให้คดีเสียหายได้

    AI อาจสร้าง "อัตราค่าบริการใหม่" แต่ต้องใช้ด้วยความรอบคอบ
    - Fitzpatrick เชื่อว่า การคิดค่าบริการ $10,000 ต่อชั่วโมงเป็นไปได้ หาก AI ถูกใช้เพื่อให้บริการระดับสูงขึ้น
    - อย่างไรก็ตาม ทนายต้อง ระวังการใช้ข้อมูลจาก AI เพื่อไม่ให้เกิดการสร้างข้อมูลผิดพลาด

    https://www.techspot.com/news/107374-lawyers-may-soon-charge-10000-hour-thanks-ai.html
    AI อาจช่วยให้ทนายคิดค่าบริการสูงถึง $10,000 ต่อชั่วโมงในอนาคต เพราะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการค้นหากฎหมายและวิเคราะห์ข้อมูลคดี อย่างไรก็ตาม ปัญหาเรื่อง AI Hallucination ทำให้เกิดข้อพิพาททางกฎหมายหลายครั้ง เช่น กรณีที่ทนายถูกปรับเงินหลังใช้ข้อมูลที่ AI สร้างขึ้นเอง ดังนั้นทนายต้องระวังการใช้ AI เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลถูกต้อง AI จะช่วยให้ทนายความทำงานเร็วขึ้น - AI สามารถช่วย ค้นหาและวิเคราะห์กฎหมาย ได้รวดเร็วกว่ามนุษย์ - สามารถ สรุปข้อโต้แย้ง และช่วยในการเขียนเอกสารทางกฎหมาย - วิเคราะห์ข้อมูลของ ผู้พิพากษาและทนายฝ่ายตรงข้าม เพื่อคาดการณ์แนวโน้มของคดี ทนายอาจใช้ AI เพื่อเพิ่มค่าบริการ - AI ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพขึ้น ทนายจึง สามารถคิดค่าบริการสูงขึ้นเพราะให้บริการที่ดีกว่า - ทนายสามารถ ลดเวลาทำงาน และรับคดีเพิ่มได้ ซึ่งอาจทำให้รายได้สูงขึ้น ปัญหาเรื่อง "AI Hallucination" ในเอกสารกฎหมาย - มีหลายกรณีที่ AI สร้างข้อมูลทางกฎหมายปลอม เช่น กรณีทนายในรัฐอินเดียนา ที่ถูกปรับ $15,000 เพราะใช้ ChatGPT ที่สร้างคำพิพากษาปลอม - ปี 2023 ทนายสองคนถูกปรับเงินในนิวยอร์กหลังใช้ข้อมูลทางกฎหมายที่ AI สร้างขึ้นมาเอง - หากทนายใช้ AI อย่างไม่ระวัง อาจเกิดปัญหาทางกฎหมาย และทำให้คดีเสียหายได้ AI อาจสร้าง "อัตราค่าบริการใหม่" แต่ต้องใช้ด้วยความรอบคอบ - Fitzpatrick เชื่อว่า การคิดค่าบริการ $10,000 ต่อชั่วโมงเป็นไปได้ หาก AI ถูกใช้เพื่อให้บริการระดับสูงขึ้น - อย่างไรก็ตาม ทนายต้อง ระวังการใช้ข้อมูลจาก AI เพื่อไม่ให้เกิดการสร้างข้อมูลผิดพลาด https://www.techspot.com/news/107374-lawyers-may-soon-charge-10000-hour-thanks-ai.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Lawyers may soon charge $10,000 an hour thanks to AI, says LexisNexis CEO
    Sean Fitzpatrick, CEO of US data analytics company LexisNexis, made the prediction during a panel discussion at Legalweek (via Business Insider).
    0 Comments 0 Shares 361 Views 0 Reviews
  • Microsoft กำลังทดสอบ Quick Machine Recovery ซึ่งช่วยให้ IT ทีมสามารถกู้คืน Windows 11 ที่บูตไม่ได้จากระยะไกล ฟีเจอร์นี้มีเป้าหมายเพื่อป้องกันเหตุการณ์แบบ CrowdStrike ปีที่แล้ว ที่ทำให้เครื่องนับล้านพบ BSOD ฟีเจอร์จะทำให้เครื่องบูตเข้าสู่ Windows Recovery Environment เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และส่งข้อมูลไปยัง Microsoft เพื่อรับแพตช์แก้ไขโดยอัตโนมัติ

    ฟีเจอร์นี้ทำงานอย่างไร?
    - หากอุปกรณ์ บูตไม่ขึ้น ระบบจะเข้าสู่ Windows Recovery Environment (Windows RE) โดยอัตโนมัติ
    - อุปกรณ์จะเชื่อมต่อเครือข่ายผ่าน Wi-Fi หรือ Ethernet และส่งข้อมูลวิเคราะห์ความผิดพลาดไปยัง Microsoft
    - Microsoft ใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อระบุปัญหาที่เกิดขึ้น และพัฒนา แพตช์แก้ไข ซึ่งจะถูกส่งผ่าน Windows Update ไปยังอุปกรณ์ทั้งหมด

    เปรียบเทียบกับกรณี CrowdStrike ปีที่แล้ว
    - ใน กรกฎาคม 2024 อัปเดตจาก CrowdStrike ทำให้เครื่อง Windows จำนวนมากพบ Blue Screen of Death (BSOD)
    - IT ทีมต้องเดินทางไปยังแต่ละเครื่องเพื่อแก้ไขปัญหา
    - Quick Machine Recovery จะช่วยให้ การแก้ไขสามารถทำได้จากระยะไกล และลดภาระงานของ IT ทีม

    ใครสามารถใช้ฟีเจอร์นี้?
    - ฟีเจอร์นี้เปิดใช้งานโดย ค่าเริ่มต้น ใน Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 Insider Preview
    - ผู้ใช้ Windows Pro และ Enterprise สามารถ ปรับแต่งการตั้งค่า ผ่าน Command Prompt หรือ RemoteRemediation CSP
    - ผู้ดูแลระบบสามารถ ตั้งค่าเครือข่ายล่วงหน้า และกำหนดระยะเวลาการสแกน (แนะนำทุก 30 นาที) รวมถึงระยะเวลาการหมดเวลา (Timeout) (72 ชั่วโมง)

    อนาคตของระบบความปลอดภัยของ Windows
    - Microsoft วางแผน ยกเลิกการให้ Security Software เข้าถึง Kernel เพื่อป้องกันการโจมตีแบบลึก
    - Antivirus และ Security Tools จะต้อง ทำงานใน User Mode แทน

    https://www.techspot.com/news/107372-new-microsoft-feature-aims-prevent-crowdstrike-like-outages.html
    Microsoft กำลังทดสอบ Quick Machine Recovery ซึ่งช่วยให้ IT ทีมสามารถกู้คืน Windows 11 ที่บูตไม่ได้จากระยะไกล ฟีเจอร์นี้มีเป้าหมายเพื่อป้องกันเหตุการณ์แบบ CrowdStrike ปีที่แล้ว ที่ทำให้เครื่องนับล้านพบ BSOD ฟีเจอร์จะทำให้เครื่องบูตเข้าสู่ Windows Recovery Environment เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และส่งข้อมูลไปยัง Microsoft เพื่อรับแพตช์แก้ไขโดยอัตโนมัติ ✅ ฟีเจอร์นี้ทำงานอย่างไร? - หากอุปกรณ์ บูตไม่ขึ้น ระบบจะเข้าสู่ Windows Recovery Environment (Windows RE) โดยอัตโนมัติ - อุปกรณ์จะเชื่อมต่อเครือข่ายผ่าน Wi-Fi หรือ Ethernet และส่งข้อมูลวิเคราะห์ความผิดพลาดไปยัง Microsoft - Microsoft ใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อระบุปัญหาที่เกิดขึ้น และพัฒนา แพตช์แก้ไข ซึ่งจะถูกส่งผ่าน Windows Update ไปยังอุปกรณ์ทั้งหมด ✅ เปรียบเทียบกับกรณี CrowdStrike ปีที่แล้ว - ใน กรกฎาคม 2024 อัปเดตจาก CrowdStrike ทำให้เครื่อง Windows จำนวนมากพบ Blue Screen of Death (BSOD) - IT ทีมต้องเดินทางไปยังแต่ละเครื่องเพื่อแก้ไขปัญหา - Quick Machine Recovery จะช่วยให้ การแก้ไขสามารถทำได้จากระยะไกล และลดภาระงานของ IT ทีม ✅ ใครสามารถใช้ฟีเจอร์นี้? - ฟีเจอร์นี้เปิดใช้งานโดย ค่าเริ่มต้น ใน Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 Insider Preview - ผู้ใช้ Windows Pro และ Enterprise สามารถ ปรับแต่งการตั้งค่า ผ่าน Command Prompt หรือ RemoteRemediation CSP - ผู้ดูแลระบบสามารถ ตั้งค่าเครือข่ายล่วงหน้า และกำหนดระยะเวลาการสแกน (แนะนำทุก 30 นาที) รวมถึงระยะเวลาการหมดเวลา (Timeout) (72 ชั่วโมง) ✅ อนาคตของระบบความปลอดภัยของ Windows - Microsoft วางแผน ยกเลิกการให้ Security Software เข้าถึง Kernel เพื่อป้องกันการโจมตีแบบลึก - Antivirus และ Security Tools จะต้อง ทำงานใน User Mode แทน https://www.techspot.com/news/107372-new-microsoft-feature-aims-prevent-crowdstrike-like-outages.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    New Microsoft Windows recovery feature aims to prevent CrowdStrike-like outages
    The feature, part of Microsoft's Windows Resiliency Initiative, was first announced last year. It's now being tested as part of the latest Windows Insider Preview build –...
    0 Comments 0 Shares 294 Views 0 Reviews
  • รุมสับดราม่า สตง. จับมือก้าวผ่านตึกถล่ม ไม่สนใจคนตาย
    .
    สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เผชิญกระแสวิจารณ์หนัก หลังเผยแพร่เอกสารให้กำลังใจเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับเหตุอาคารถล่มจากแผ่นดินไหว โดยเนื้อหาเน้นให้บุคลากรจับมือกันก้าวข้ามปัญหา แต่กลับไม่กล่าวถึงผู้เสียชีวิตและผู้ที่ยังติดอยู่ใต้ซาก
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000031272
    รุมสับดราม่า สตง. จับมือก้าวผ่านตึกถล่ม ไม่สนใจคนตาย . สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เผชิญกระแสวิจารณ์หนัก หลังเผยแพร่เอกสารให้กำลังใจเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับเหตุอาคารถล่มจากแผ่นดินไหว โดยเนื้อหาเน้นให้บุคลากรจับมือกันก้าวข้ามปัญหา แต่กลับไม่กล่าวถึงผู้เสียชีวิตและผู้ที่ยังติดอยู่ใต้ซาก . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000031272
    Like
    Haha
    Sad
    Angry
    Love
    11
    4 Comments 1 Shares 1831 Views 0 Reviews
  • ลุงนี่ร้อง "ว้ววว..!!" เลยครับ

    Mozilla กำลังพัฒนา Thunderbird Pro ซึ่งเป็นชุดบริการอีเมลระดับมืออาชีพสำหรับผู้ใช้ Thunderbird โดยมาพร้อมกับเครื่องมือใหม่ที่ช่วยปรับปรุงการจัดการอีเมล ขณะเดียวกัน Mozilla ได้เปิดตัว Thundermail ซึ่งเป็นบริการอีเมลใหม่ที่มุ่งเน้นความเป็นโอเพ่นซอร์สและไม่ล็อกผู้ใช้เข้ากับระบบปิดแบบ Gmail หรือ Office 365

    Thunderbird Pro ประกอบด้วย 4 บริการหลัก:
    - Thunderbird Appointment: ระบบจัดตารางนัดหมาย ที่ให้ผู้ใช้ส่งลิงก์เชิญประชุมได้ง่ายขึ้น
    - Thunderbird Send: ระบบแชร์ไฟล์ที่พัฒนาใหม่ แทนที่ Firefox Send ที่ถูกปิดตัวไปในปี 2020
    - Thunderbird Assist: บริการ AI ที่ยังอยู่ในช่วงทดลอง ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้จัดการอีเมลและงานด้านอื่น ๆ ได้สะดวกขึ้น
    - Thundermail: บริการอีเมลใหม่ที่ออกแบบให้เป็นทางเลือกที่เปิดกว้างกว่าคู่แข่ง

    เป้าหมายของ Thunderbird Pro:
    - Mozilla ต้องการทำให้ Thunderbird Pro เป็นระบบอีเมลที่ 100% เปิดกว้าง และไม่ผูกติดกับระบบใด
    - คู่แข่งหลักคือ Gmail และ Office 365 ซึ่งมีฟีเจอร์ครบครันแต่ล็อกผู้ใช้ให้อยู่ในระบบของตน

    การเปิดตัว Thundermail—มากกว่าแค่ Thunderbird รุ่นเดิม
    - Thundermail ไม่ใช่แค่การอัปเดต Thunderbird แต่เป็นบริการใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นจาก ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส Stalwart
    - Mozilla ตั้งใจให้ Thundermail มีฟังก์ชันที่ดีขึ้นกว่าระบบอีเมลเดิมทั้งหมด

    Thunderbird Pro จะมีค่าใช้จ่ายหรือไม่?
    - เริ่มแรกให้ใช้ฟรีสำหรับผู้สนับสนุนชุมชน Thunderbird
    - ในอนาคต Mozilla อาจเพิ่ม แพ็กเกจฟรีแบบจำกัด หรือเปิดตัวเวอร์ชันพรีเมียม

    https://www.techspot.com/news/107366-thunderbird-email-client-venturing-new-pro-tier-commercial.html
    ลุงนี่ร้อง "ว้ววว..!!" เลยครับ Mozilla กำลังพัฒนา Thunderbird Pro ซึ่งเป็นชุดบริการอีเมลระดับมืออาชีพสำหรับผู้ใช้ Thunderbird โดยมาพร้อมกับเครื่องมือใหม่ที่ช่วยปรับปรุงการจัดการอีเมล ขณะเดียวกัน Mozilla ได้เปิดตัว Thundermail ซึ่งเป็นบริการอีเมลใหม่ที่มุ่งเน้นความเป็นโอเพ่นซอร์สและไม่ล็อกผู้ใช้เข้ากับระบบปิดแบบ Gmail หรือ Office 365 ✅ Thunderbird Pro ประกอบด้วย 4 บริการหลัก: - Thunderbird Appointment: ระบบจัดตารางนัดหมาย ที่ให้ผู้ใช้ส่งลิงก์เชิญประชุมได้ง่ายขึ้น - Thunderbird Send: ระบบแชร์ไฟล์ที่พัฒนาใหม่ แทนที่ Firefox Send ที่ถูกปิดตัวไปในปี 2020 - Thunderbird Assist: บริการ AI ที่ยังอยู่ในช่วงทดลอง ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้จัดการอีเมลและงานด้านอื่น ๆ ได้สะดวกขึ้น - Thundermail: บริการอีเมลใหม่ที่ออกแบบให้เป็นทางเลือกที่เปิดกว้างกว่าคู่แข่ง ✅ เป้าหมายของ Thunderbird Pro: - Mozilla ต้องการทำให้ Thunderbird Pro เป็นระบบอีเมลที่ 100% เปิดกว้าง และไม่ผูกติดกับระบบใด - คู่แข่งหลักคือ Gmail และ Office 365 ซึ่งมีฟีเจอร์ครบครันแต่ล็อกผู้ใช้ให้อยู่ในระบบของตน ✅ การเปิดตัว Thundermail—มากกว่าแค่ Thunderbird รุ่นเดิม - Thundermail ไม่ใช่แค่การอัปเดต Thunderbird แต่เป็นบริการใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นจาก ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส Stalwart - Mozilla ตั้งใจให้ Thundermail มีฟังก์ชันที่ดีขึ้นกว่าระบบอีเมลเดิมทั้งหมด ✅ Thunderbird Pro จะมีค่าใช้จ่ายหรือไม่? - เริ่มแรกให้ใช้ฟรีสำหรับผู้สนับสนุนชุมชน Thunderbird - ในอนาคต Mozilla อาจเพิ่ม แพ็กเกจฟรีแบบจำกัด หรือเปิดตัวเวอร์ชันพรีเมียม https://www.techspot.com/news/107366-thunderbird-email-client-venturing-new-pro-tier-commercial.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Mozilla is working on new Thunderbird "Pro" email offerings and Thundermail
    In 2023, Mozilla developers announced they were "remaking" Thunderbird's software architecture, aiming to modernize its crumbling and unsustainable codebase. The company later confirmed plans to add new...
    0 Comments 0 Shares 303 Views 0 Reviews
  • ผู้ว่าห่านอะไรไม่แมนเลย แสร้งบอกลูกน้องแต่ฟาดชิ่งใส่สังคม อ้างทวงศักดิ์ศรี แต่ไม่ทวงความเป็นธรรมให้ผู้ที่จากไป ตรวจเงินแผ่นดินกี่โมง
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    ผู้ว่าห่านอะไรไม่แมนเลย แสร้งบอกลูกน้องแต่ฟาดชิ่งใส่สังคม อ้างทวงศักดิ์ศรี แต่ไม่ทวงความเป็นธรรมให้ผู้ที่จากไป ตรวจเงินแผ่นดินกี่โมง #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    0 Comments 0 Shares 305 Views 0 Reviews
  • เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ ๗๐ พรรษา ๒ เมษายน ๒๕๖๘
    ข้าพระพุทธเจ้า ขอถวายพระพรชัยมงคล ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
    พระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน
    สถิตเป็นพระมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยสืบไป
    0 Comments 0 Shares 106 Views 0 Reviews
  • Intel ประกาศให้ Lip-Bu Tan ขึ้นดำรงตำแหน่ง CEO คนใหม่ หลังจากที่ Pat Gelsinger ถูกบีบให้ลาออกเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เนื่องจากบอร์ดบริหารมองว่าแผนฟื้นฟูบริษัทดำเนินไป ช้ากว่าที่ตลาดต้องการ อย่างไรก็ตาม Tan ยังคงเดินหน้าตามแผนของ Gelsinger แต่จะปรับปรุงให้เร็วขึ้นเพื่อเรียกความมั่นใจจากอุตสาหกรรม

    Lip-Bu Tan มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีมายาวนาน
    - เขาเคยเป็น CEO ของ Cadence บริษัทออกแบบชิปชั้นนำ
    - ก่อตั้ง Walden International บริษัทด้านการลงทุนที่มุ่งเน้นเทคโนโลยี
    - เคยอยู่ในบอร์ดบริหารของบริษัทเซมิคอนดักเตอร์หลายแห่ง

    Intel ยังคงเดินหน้าในธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์และโรงงานผลิตชิป
    - Tan เชื่อว่า Intel ต้องเป็นทั้งผู้ผลิตและออกแบบชิป ไม่ใช่แค่ผลิตเพื่อใช้เอง แต่ต้องดึงลูกค้าใหญ่ เช่น Apple, Nvidia และ Qualcomm มาใช้บริการโรงงานของ Intel
    - กระแสข่าวลือว่า Intel อาจ แยกธุรกิจโรงงานออกเป็นบริษัทอิสระ แต่ยังไม่มีการยืนยัน

    ก้าวสำคัญ: เทคโนโลยี 18A และอนาคตของ Intel Foundry
    - Intel กำลังจะเปิดตัวเทคโนโลยี 18A ซึ่งมีฟีเจอร์ Backside Power Delivery และ RibbonFET Transistors
    - เทคโนโลยีใหม่นี้จะช่วยให้ชิปของ Intel เร็วกว่าชิป 2nm ของ TSMC
    - Tan ต้องโน้มน้าวบริษัทต่าง ๆ ให้มาใช้ Intel Foundry เพื่อสร้างฐานธุรกิจที่มั่นคง

    วิสัยทัศน์ของ CEO ใหม่—เร่งให้ Intel กลับมาเป็นผู้นำ
    - Tan ย้ำว่า Intel ต้อง ปรับวัฒนธรรมองค์กรให้รวดเร็วและคล่องตัวเหมือนสตาร์ทอัพ
    - ต้อง สร้างนวัตกรรมใหม่ด้าน AI และ Robotics ให้แข่งขันได้
    - เป้าหมายใหญ่คือ เรียกคืนความเชื่อมั่นของอุตสาหกรรม และทำให้ Intel กลับมาเป็นศูนย์กลางของวงการเซมิคอนดักเตอร์

    https://www.techspot.com/news/107369-new-intel-ceo-lip-bu-tan-takes-reins.html
    Intel ประกาศให้ Lip-Bu Tan ขึ้นดำรงตำแหน่ง CEO คนใหม่ หลังจากที่ Pat Gelsinger ถูกบีบให้ลาออกเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เนื่องจากบอร์ดบริหารมองว่าแผนฟื้นฟูบริษัทดำเนินไป ช้ากว่าที่ตลาดต้องการ อย่างไรก็ตาม Tan ยังคงเดินหน้าตามแผนของ Gelsinger แต่จะปรับปรุงให้เร็วขึ้นเพื่อเรียกความมั่นใจจากอุตสาหกรรม ✅ Lip-Bu Tan มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีมายาวนาน - เขาเคยเป็น CEO ของ Cadence บริษัทออกแบบชิปชั้นนำ - ก่อตั้ง Walden International บริษัทด้านการลงทุนที่มุ่งเน้นเทคโนโลยี - เคยอยู่ในบอร์ดบริหารของบริษัทเซมิคอนดักเตอร์หลายแห่ง ✅ Intel ยังคงเดินหน้าในธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์และโรงงานผลิตชิป - Tan เชื่อว่า Intel ต้องเป็นทั้งผู้ผลิตและออกแบบชิป ไม่ใช่แค่ผลิตเพื่อใช้เอง แต่ต้องดึงลูกค้าใหญ่ เช่น Apple, Nvidia และ Qualcomm มาใช้บริการโรงงานของ Intel - กระแสข่าวลือว่า Intel อาจ แยกธุรกิจโรงงานออกเป็นบริษัทอิสระ แต่ยังไม่มีการยืนยัน ✅ ก้าวสำคัญ: เทคโนโลยี 18A และอนาคตของ Intel Foundry - Intel กำลังจะเปิดตัวเทคโนโลยี 18A ซึ่งมีฟีเจอร์ Backside Power Delivery และ RibbonFET Transistors - เทคโนโลยีใหม่นี้จะช่วยให้ชิปของ Intel เร็วกว่าชิป 2nm ของ TSMC - Tan ต้องโน้มน้าวบริษัทต่าง ๆ ให้มาใช้ Intel Foundry เพื่อสร้างฐานธุรกิจที่มั่นคง ✅ วิสัยทัศน์ของ CEO ใหม่—เร่งให้ Intel กลับมาเป็นผู้นำ - Tan ย้ำว่า Intel ต้อง ปรับวัฒนธรรมองค์กรให้รวดเร็วและคล่องตัวเหมือนสตาร์ทอัพ - ต้อง สร้างนวัตกรรมใหม่ด้าน AI และ Robotics ให้แข่งขันได้ - เป้าหมายใหญ่คือ เรียกคืนความเชื่อมั่นของอุตสาหกรรม และทำให้ Intel กลับมาเป็นศูนย์กลางของวงการเซมิคอนดักเตอร์ https://www.techspot.com/news/107369-new-intel-ceo-lip-bu-tan-takes-reins.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    New Intel CEO Lip-Bu Tan takes the reins with a familiar but faster plan
    Taking a tech industry titan back to the heights from which it once reigned is no easy task for anyone. Just ask Pat Gelsinger, former CEO and...
    0 Comments 0 Shares 469 Views 0 Reviews
  • JR West ได้สร้างสถานีรถไฟ Hatsushima ด้วย เทคโนโลยี 3D Printing ซึ่งช่วยลดต้นทุนการก่อสร้างลง 50% และใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงครึ่ง ในการประกอบสถานี ขณะที่การออกแบบสะท้อนวัฒนธรรมท้องถิ่น การทดลองนี้จะช่วยให้ญี่ปุ่นสามารถพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบรางด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยยิ่งขึ้น

    กระบวนการสร้างอาคารสถานี 3D Printing
    - ใช้เทคนิค พิมพ์ปูนมอร์ตาร์เป็นชั้น ๆ และสร้างแบบแม่พิมพ์สำหรับโครงสร้างภายนอก
    - เสริมความแข็งแรงด้วย เหล็กภายในโครงสร้างก่อนเทคอนกรีต เพื่อให้มีความทนทานต่อแผ่นดินไหว

    ติดตั้งเสร็จในเวลาเพียง 2 ชั่วโมงครึ่ง
    - ชิ้นส่วนหลักของอาคาร เช่น หลังคาและผนัง ถูกพิมพ์ล่วงหน้าและขนส่งไปยังพื้นที่ก่อสร้าง
    - ทีมงานสามารถประกอบโครงสร้างทั้งหมด ภายในช่วงเวลาที่ไม่มีรถไฟวิ่ง (กลางคืนถึงเช้า)

    การออกแบบสะท้อนเอกลักษณ์ท้องถิ่น
    - ผนังอาคารมีภาพศิลปะที่แสดงถึง มikan (ส้มญี่ปุ่น) และ tachiuo (ปลากระบอกยาว) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมือง Arida
    - JR West ต้องการให้สถานีแห่งนี้เป็นศูนย์กลางที่เชื่อมโยงชุมชนกับระบบขนส่ง

    เหตุผลที่เลือกสถานี Hatsushima เป็นโครงการนำร่อง
    - พื้นที่นี้อยู่ติดชายฝั่ง ทำให้สามารถทดสอบ ความทนทานต่อไอเค็มจากทะเล
    - JR West จะใช้ข้อมูลจากสถานีนี้เพื่อประเมินต้นทุนการบำรุงรักษาและประสิทธิภาพของเทคโนโลยี

    อนาคตของ 3D Printing ในโครงสร้างพื้นฐานของญี่ปุ่น
    - หากการทดสอบสำเร็จ JR West อาจขยาย เทคโนโลยี 3D Printing ไปยังสถานีอื่น ๆ ในเครือข่าย
    - บริษัทวางเป้าหมายให้ระบบขนส่งมีความ ปลอดภัย ทนทาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

    https://www.techspot.com/news/107363-japan-first-3d-printed-train-station-assembled-record.html
    JR West ได้สร้างสถานีรถไฟ Hatsushima ด้วย เทคโนโลยี 3D Printing ซึ่งช่วยลดต้นทุนการก่อสร้างลง 50% และใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงครึ่ง ในการประกอบสถานี ขณะที่การออกแบบสะท้อนวัฒนธรรมท้องถิ่น การทดลองนี้จะช่วยให้ญี่ปุ่นสามารถพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบรางด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยยิ่งขึ้น ✅ กระบวนการสร้างอาคารสถานี 3D Printing - ใช้เทคนิค พิมพ์ปูนมอร์ตาร์เป็นชั้น ๆ และสร้างแบบแม่พิมพ์สำหรับโครงสร้างภายนอก - เสริมความแข็งแรงด้วย เหล็กภายในโครงสร้างก่อนเทคอนกรีต เพื่อให้มีความทนทานต่อแผ่นดินไหว ✅ ติดตั้งเสร็จในเวลาเพียง 2 ชั่วโมงครึ่ง - ชิ้นส่วนหลักของอาคาร เช่น หลังคาและผนัง ถูกพิมพ์ล่วงหน้าและขนส่งไปยังพื้นที่ก่อสร้าง - ทีมงานสามารถประกอบโครงสร้างทั้งหมด ภายในช่วงเวลาที่ไม่มีรถไฟวิ่ง (กลางคืนถึงเช้า) ✅ การออกแบบสะท้อนเอกลักษณ์ท้องถิ่น - ผนังอาคารมีภาพศิลปะที่แสดงถึง มikan (ส้มญี่ปุ่น) และ tachiuo (ปลากระบอกยาว) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมือง Arida - JR West ต้องการให้สถานีแห่งนี้เป็นศูนย์กลางที่เชื่อมโยงชุมชนกับระบบขนส่ง ✅ เหตุผลที่เลือกสถานี Hatsushima เป็นโครงการนำร่อง - พื้นที่นี้อยู่ติดชายฝั่ง ทำให้สามารถทดสอบ ความทนทานต่อไอเค็มจากทะเล - JR West จะใช้ข้อมูลจากสถานีนี้เพื่อประเมินต้นทุนการบำรุงรักษาและประสิทธิภาพของเทคโนโลยี ✅ อนาคตของ 3D Printing ในโครงสร้างพื้นฐานของญี่ปุ่น - หากการทดสอบสำเร็จ JR West อาจขยาย เทคโนโลยี 3D Printing ไปยังสถานีอื่น ๆ ในเครือข่าย - บริษัทวางเป้าหมายให้ระบบขนส่งมีความ ปลอดภัย ทนทาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม https://www.techspot.com/news/107363-japan-first-3d-printed-train-station-assembled-record.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    First 3D-printed train station in Japan was assembled in record time
    The new station building, set to open in July, replaces an aging wooden structure that had served the rural community for years. Standing 2.6 meters tall, 6.3...
    0 Comments 0 Shares 389 Views 0 Reviews
  • การใช้จ่ายด้าน AI จะพุ่งถึง $644 พันล้าน ในปี 2025 แม้ว่าหลายองค์กรยังไม่เข้าใจว่าการลงทุนใน Generative AI จะสร้างกำไรให้ธุรกิจอย่างไร Gartner เตือนว่า AI จะถูกตรวจสอบเข้มงวดขึ้นในปีนี้ ขณะที่ผู้ผลิตอุปกรณ์ผู้บริโภคกำลังทำให้ AI เป็นมาตรฐาน แม้ว่าผู้ใช้ทั่วไปจะไม่ได้เรียกร้องสิ่งนี้ก็ตาม

    ตลาด AI เติบโตอย่างรวดเร็ว แม้ว่าบางเทคโนโลยียังขาดประสิทธิภาพ
    - ผู้ให้บริการ โมเดล AI กำลังลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี
    - Gartner เตือนว่าโครงการ AI จะถูกตรวจสอบเข้มงวดขึ้นในปีนี้ เนื่องจากข้อกังวลเกี่ยวกับความแม่นยำ

    องค์กรต้องเลือกระหว่างการพัฒนา AI เองหรือซื้อโซลูชันสำเร็จรูป
    - CIO หลายคน เลิกใช้โครงการ AI ภายใน และหันไปใช้ผลิตภัณฑ์ AI สำเร็จรูปแทน
    - แนวโน้มนี้จะทำให้ Proof-of-Concept AI ลดลง และโซลูชันแบบสำเร็จรูปเติบโตขึ้น

    AI จะถูกฝังในอุปกรณ์ผู้บริโภค โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนและพีซี
    - Gartner คาดว่า 80% ของการใช้จ่าย AI จะถูกดูดซับโดยฮาร์ดแวร์ เช่น เซิร์ฟเวอร์, สมาร์ทโฟน และพีซี
    - แม้ว่าผู้บริโภคจะไม่ได้ต้องการ AI ในทุกผลิตภัณฑ์ แต่ผู้ผลิตกำลังทำให้มันกลายเป็นมาตรฐาน

    อนาคตของตลาด AI: การเติบโตแบบ “บังคับให้เกิดขึ้น”
    - ผู้ผลิตกำลังทำให้ AI กลายเป็นมาตรฐานแม้ว่าผู้บริโภคจะไม่ได้ร้องขอ
    - นักวิเคราะห์เปรียบเทียบกับ ยุคของ Microsoft ที่เคยบังคับให้ผู้ใช้เปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่

    https://www.techspot.com/news/107377-companies-spend-almost-644-billion-generative-ai-despite.html
    การใช้จ่ายด้าน AI จะพุ่งถึง $644 พันล้าน ในปี 2025 แม้ว่าหลายองค์กรยังไม่เข้าใจว่าการลงทุนใน Generative AI จะสร้างกำไรให้ธุรกิจอย่างไร Gartner เตือนว่า AI จะถูกตรวจสอบเข้มงวดขึ้นในปีนี้ ขณะที่ผู้ผลิตอุปกรณ์ผู้บริโภคกำลังทำให้ AI เป็นมาตรฐาน แม้ว่าผู้ใช้ทั่วไปจะไม่ได้เรียกร้องสิ่งนี้ก็ตาม ✅ ตลาด AI เติบโตอย่างรวดเร็ว แม้ว่าบางเทคโนโลยียังขาดประสิทธิภาพ - ผู้ให้บริการ โมเดล AI กำลังลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี - Gartner เตือนว่าโครงการ AI จะถูกตรวจสอบเข้มงวดขึ้นในปีนี้ เนื่องจากข้อกังวลเกี่ยวกับความแม่นยำ ✅ องค์กรต้องเลือกระหว่างการพัฒนา AI เองหรือซื้อโซลูชันสำเร็จรูป - CIO หลายคน เลิกใช้โครงการ AI ภายใน และหันไปใช้ผลิตภัณฑ์ AI สำเร็จรูปแทน - แนวโน้มนี้จะทำให้ Proof-of-Concept AI ลดลง และโซลูชันแบบสำเร็จรูปเติบโตขึ้น ✅ AI จะถูกฝังในอุปกรณ์ผู้บริโภค โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนและพีซี - Gartner คาดว่า 80% ของการใช้จ่าย AI จะถูกดูดซับโดยฮาร์ดแวร์ เช่น เซิร์ฟเวอร์, สมาร์ทโฟน และพีซี - แม้ว่าผู้บริโภคจะไม่ได้ต้องการ AI ในทุกผลิตภัณฑ์ แต่ผู้ผลิตกำลังทำให้มันกลายเป็นมาตรฐาน ✅ อนาคตของตลาด AI: การเติบโตแบบ “บังคับให้เกิดขึ้น” - ผู้ผลิตกำลังทำให้ AI กลายเป็นมาตรฐานแม้ว่าผู้บริโภคจะไม่ได้ร้องขอ - นักวิเคราะห์เปรียบเทียบกับ ยุคของ Microsoft ที่เคยบังคับให้ผู้ใช้เปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ https://www.techspot.com/news/107377-companies-spend-almost-644-billion-generative-ai-despite.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Gartner projects $644 billion in 2025 AI spending, but few understand GenAI's actual value
    A recent Gartner analysis reports that spending on generative AI (GenAI) will grow to unprecedented levels in 2025, even though very few organizations understand how this technology...
    0 Comments 0 Shares 167 Views 0 Reviews
  • Google กำลังผลักดันมาตรฐานความปลอดภัยใหม่สำหรับการเข้ารหัส HTTPS โดยมุ่งเน้นไปที่ TLS Certificates ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการรักษาความปลอดภัยบนอินเทอร์เน็ต ล่าสุดได้เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ Multi-Perspective Issuance Corroboration (MPIC) และระบบตรวจสอบอัตโนมัติ Linting เพื่อป้องกัน การออกใบรับรองปลอมและจุดอ่อนในการเข้ารหัสข้อมูล

    MPIC: เพิ่มการตรวจสอบก่อนออกใบรับรอง
    - MPIC ช่วยให้ระบบตรวจสอบ ความถูกต้องของโดเมน ก่อนออก TLS Certificate
    - ลดความเสี่ยงที่แฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่ Domain Control Validation เพื่อขอใบรับรองปลอม

    Linting: ตรวจสอบความถูกต้องของใบรับรองก่อนใช้งาน
    - Linting ช่วยวิเคราะห์ X.509 Certificates เพื่อป้องกันปัญหาความเข้ากันไม่ได้
    - ตรวจจับ การเข้ารหัสที่ล้าสมัยและไม่ปลอดภัย เพื่อป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์

    Google ได้รับการสนับสนุนจาก CA/Browser Forum
    - องค์กรที่กำหนดมาตรฐาน TLS Certificates ลงมติรับรอง MPIC และ Linting
    - Linting กลายเป็นมาตรฐานบังคับสำหรับใบรับรองที่ออกตั้งแต่ 15 มีนาคม 2025

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเว็บ
    - Certificate Authorities (CAs) ต้องปรับระบบให้รองรับ MPIC และ Linting
    - ระบบเข้ารหัสเว็บจะมีความ น่าเชื่อถือมากขึ้น และลดความเสี่ยงจากใบรับรองปลอม

    https://www.techspot.com/news/107378-google-promotes-new-security-requirements-https-encryption-providers.html
    Google กำลังผลักดันมาตรฐานความปลอดภัยใหม่สำหรับการเข้ารหัส HTTPS โดยมุ่งเน้นไปที่ TLS Certificates ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการรักษาความปลอดภัยบนอินเทอร์เน็ต ล่าสุดได้เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ Multi-Perspective Issuance Corroboration (MPIC) และระบบตรวจสอบอัตโนมัติ Linting เพื่อป้องกัน การออกใบรับรองปลอมและจุดอ่อนในการเข้ารหัสข้อมูล ✅ MPIC: เพิ่มการตรวจสอบก่อนออกใบรับรอง - MPIC ช่วยให้ระบบตรวจสอบ ความถูกต้องของโดเมน ก่อนออก TLS Certificate - ลดความเสี่ยงที่แฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่ Domain Control Validation เพื่อขอใบรับรองปลอม ✅ Linting: ตรวจสอบความถูกต้องของใบรับรองก่อนใช้งาน - Linting ช่วยวิเคราะห์ X.509 Certificates เพื่อป้องกันปัญหาความเข้ากันไม่ได้ - ตรวจจับ การเข้ารหัสที่ล้าสมัยและไม่ปลอดภัย เพื่อป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ ✅ Google ได้รับการสนับสนุนจาก CA/Browser Forum - องค์กรที่กำหนดมาตรฐาน TLS Certificates ลงมติรับรอง MPIC และ Linting - Linting กลายเป็นมาตรฐานบังคับสำหรับใบรับรองที่ออกตั้งแต่ 15 มีนาคม 2025 ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเว็บ - Certificate Authorities (CAs) ต้องปรับระบบให้รองรับ MPIC และ Linting - ระบบเข้ารหัสเว็บจะมีความ น่าเชื่อถือมากขึ้น และลดความเสี่ยงจากใบรับรองปลอม https://www.techspot.com/news/107378-google-promotes-new-security-requirements-https-encryption-providers.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Google promotes new security requirements for HTTPS encryption providers
    Google recently announced two major initiatives aimed at enhancing web security, with the ultimate goal of making encryption and certificate management more reliable and resilient against cybercrime....
    0 Comments 0 Shares 334 Views 0 Reviews
  • ปัญหา ไฟไหม้ขยะและศูนย์รีไซเคิล เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะจากแบตเตอรี่ ลิเธียมไอออน ในบุหรี่ไฟฟ้า ล่าสุด Fire Rover ซึ่งเป็นบริษัทด้านระบบดับเพลิงอัตโนมัติ รายงานว่าจำนวนไฟไหม้ขยะในปี 2024 พุ่งขึ้น 60% จากปี 2023 และสูงขึ้นกว่า 100% เมื่อเทียบกับปี 2022

    ตัวเลขไฟไหม้ขยะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
    - ในปี 2024 มีเหตุไฟไหม้ขยะ 2,910 ครั้ง เพิ่มขึ้นจาก 1,809 ครั้งในปี 2023
    - ศูนย์รีไซเคิลต้องเรียกทีมดับเพลิง 398 ครั้ง ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดตั้งแต่ Fire Rover เริ่มบันทึกข้อมูลในปี 2016

    บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสาเหตุหลัก เนื่องจากการกำจัดที่ผิดวิธี
    - ผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่ทิ้งบุหรี่ไฟฟ้าในขยะทั่วไป แต่ใช้ ถังรีไซเคิล ซึ่งก็ไม่ปลอดภัยเช่นกัน
    - แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสามารถติดไฟได้หลายวิธี เช่น แรงกดทับ, การเจาะ, ไฟฟ้าลัดวงจร และความสั่นสะเทือน จากกระบวนการในโรงงาน

    ค่าเสียหายสูงถึง $2.5 พันล้านในปี 2024
    - Fire Rover ประเมินว่า 50% ของเหตุไฟไหม้ขยะมาจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน
    - ศูนย์กำจัดขยะต้องรับภาระค่าเสียหายจำนวนมาก เนื่องจากไม่มีระบบรีไซเคิลแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพ

    อุตสาหกรรมบุหรี่ไฟฟ้าถูกตั้งคำถามเรื่องความรับผิดชอบ
    - รายงานของ Fire Rover วิจารณ์ว่า อุตสาหกรรมบุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้ลงทุนเพียงพอ ในระบบกำจัดแบตเตอรี่
    - 1.2 พันล้านชิ้น ของบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้งเข้าสู่ขยะและรีไซเคิลทุกปี แต่ไม่มีมาตรการชัดเจนในการจัดการ

    การแก้ปัญหาในอนาคต
    - Fire Rover เสนอให้ มีโครงสร้างพื้นฐานรีไซเคิลแบตเตอรี่ที่เข้มงวดขึ้น
    - ศูนย์กำจัดขยะควร เพิ่มมาตรการตรวจสอบและแยกแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนออกจากขยะทั่วไป

    https://www.techspot.com/news/107379-waste-fires-rise-largely-thanks-lithium-ion-batteries.html
    ปัญหา ไฟไหม้ขยะและศูนย์รีไซเคิล เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะจากแบตเตอรี่ ลิเธียมไอออน ในบุหรี่ไฟฟ้า ล่าสุด Fire Rover ซึ่งเป็นบริษัทด้านระบบดับเพลิงอัตโนมัติ รายงานว่าจำนวนไฟไหม้ขยะในปี 2024 พุ่งขึ้น 60% จากปี 2023 และสูงขึ้นกว่า 100% เมื่อเทียบกับปี 2022 ✅ ตัวเลขไฟไหม้ขยะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว - ในปี 2024 มีเหตุไฟไหม้ขยะ 2,910 ครั้ง เพิ่มขึ้นจาก 1,809 ครั้งในปี 2023 - ศูนย์รีไซเคิลต้องเรียกทีมดับเพลิง 398 ครั้ง ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดตั้งแต่ Fire Rover เริ่มบันทึกข้อมูลในปี 2016 ✅ บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสาเหตุหลัก เนื่องจากการกำจัดที่ผิดวิธี - ผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่ทิ้งบุหรี่ไฟฟ้าในขยะทั่วไป แต่ใช้ ถังรีไซเคิล ซึ่งก็ไม่ปลอดภัยเช่นกัน - แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสามารถติดไฟได้หลายวิธี เช่น แรงกดทับ, การเจาะ, ไฟฟ้าลัดวงจร และความสั่นสะเทือน จากกระบวนการในโรงงาน ✅ ค่าเสียหายสูงถึง $2.5 พันล้านในปี 2024 - Fire Rover ประเมินว่า 50% ของเหตุไฟไหม้ขยะมาจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน - ศูนย์กำจัดขยะต้องรับภาระค่าเสียหายจำนวนมาก เนื่องจากไม่มีระบบรีไซเคิลแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพ ✅ อุตสาหกรรมบุหรี่ไฟฟ้าถูกตั้งคำถามเรื่องความรับผิดชอบ - รายงานของ Fire Rover วิจารณ์ว่า อุตสาหกรรมบุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้ลงทุนเพียงพอ ในระบบกำจัดแบตเตอรี่ - 1.2 พันล้านชิ้น ของบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้งเข้าสู่ขยะและรีไซเคิลทุกปี แต่ไม่มีมาตรการชัดเจนในการจัดการ ✅ การแก้ปัญหาในอนาคต - Fire Rover เสนอให้ มีโครงสร้างพื้นฐานรีไซเคิลแบตเตอรี่ที่เข้มงวดขึ้น - ศูนย์กำจัดขยะควร เพิ่มมาตรการตรวจสอบและแยกแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนออกจากขยะทั่วไป https://www.techspot.com/news/107379-waste-fires-rise-largely-thanks-lithium-ion-batteries.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Waste fires are on the rise largely thanks to the lithium-ion batteries in vape pens
    Fire Rover, a company that specializes in automated and semi-automated fire suppression systems, released its annual report noting that waste and recycling fires are steadily rising. In...
    0 Comments 0 Shares 373 Views 0 Reviews
  • Intel ได้เริ่มการผลิตชิป 18A ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยที่สุด โดยใช้ Gate-All-Around Transistors และ Backside Power Delivery Panther Lake จะเป็นชิปรุ่นแรกที่ใช้ 18A และอาจช่วยให้ Intel แข่งขันกับ TSMC ได้ดีกว่าเดิม ขณะที่ Nvidia และ Broadcom กำลังทดสอบเวเฟอร์ของ Intel และ TSMC กำลังเตรียมเปิดตัว N2 node ในปีนี้

    Risk Production คืออะไร?
    - Risk Production เป็นกระบวนการ ทดสอบการผลิตในปริมาณน้อย ก่อนเข้าสู่การผลิตเต็มรูปแบบ
    - Intel กำลังขยายกำลังการผลิตจาก หลักร้อยเป็นหลักพันแผ่นเวเฟอร์ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการผลิตเชิงพาณิชย์

    Panther Lake CPUs จะเป็นชิปรุ่นแรกที่ใช้ 18A
    - คาดว่า Panther Lake จะมี AI Performance ดีขึ้นอย่างมาก เมื่อเทียบกับ Core Ultra 200V
    - Intel ตั้งเป้าผลิตจำนวนมากก่อนสิ้นปีนี้

    เทคโนโลยี 18A ล้ำกว่าคู่แข่งอย่างไร?
    - Intel ใช้ Gate-All-Around (GAA) Transistors และ Backside Power Delivery
    - GAA ลดการรั่วไหลของพลังงาน ขณะที่ Backside Power Delivery ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์
    - TSMC จะนำ GAA มาใช้ใน N2 node ซึ่งกำลังเข้าสู่ช่วงผลิตเร็ว ๆ นี้

    อนาคตของ Intel กับ 28A และ Nova Lake
    - Intel จะเริ่มออกแบบ 28A node ในครึ่งแรกของปี 2025
    - ชิป Nova Lake และ Clearwater Forest จะตามมาในปี 2026
    - Nova Lake จะใช้ ซิลิคอนจาก TSMC ขณะที่ Clearwater Forest จะเป็นชิป 18A สำหรับตลาดเซิร์ฟเวอร์

    คู่แข่งที่กำลังจับตาดู 18A ของ Intel
    - Nvidia และ Broadcom กำลังทดสอบ เวเฟอร์ 18A แต่ยังไม่ชัดเจนว่าพวกเขาจะใช้ในการผลิตจริง
    - Apple เป็นลูกค้าหลักของ TSMC N2 และอาจใช้ใน iPhone 18 Pro ที่เปิดตัวปี 2026

    https://www.techspot.com/news/107380-intel-18a-node-enters-risk-production-paving-way.html
    Intel ได้เริ่มการผลิตชิป 18A ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยที่สุด โดยใช้ Gate-All-Around Transistors และ Backside Power Delivery Panther Lake จะเป็นชิปรุ่นแรกที่ใช้ 18A และอาจช่วยให้ Intel แข่งขันกับ TSMC ได้ดีกว่าเดิม ขณะที่ Nvidia และ Broadcom กำลังทดสอบเวเฟอร์ของ Intel และ TSMC กำลังเตรียมเปิดตัว N2 node ในปีนี้ ✅ Risk Production คืออะไร? - Risk Production เป็นกระบวนการ ทดสอบการผลิตในปริมาณน้อย ก่อนเข้าสู่การผลิตเต็มรูปแบบ - Intel กำลังขยายกำลังการผลิตจาก หลักร้อยเป็นหลักพันแผ่นเวเฟอร์ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการผลิตเชิงพาณิชย์ ✅ Panther Lake CPUs จะเป็นชิปรุ่นแรกที่ใช้ 18A - คาดว่า Panther Lake จะมี AI Performance ดีขึ้นอย่างมาก เมื่อเทียบกับ Core Ultra 200V - Intel ตั้งเป้าผลิตจำนวนมากก่อนสิ้นปีนี้ ✅ เทคโนโลยี 18A ล้ำกว่าคู่แข่งอย่างไร? - Intel ใช้ Gate-All-Around (GAA) Transistors และ Backside Power Delivery - GAA ลดการรั่วไหลของพลังงาน ขณะที่ Backside Power Delivery ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์ - TSMC จะนำ GAA มาใช้ใน N2 node ซึ่งกำลังเข้าสู่ช่วงผลิตเร็ว ๆ นี้ ✅ อนาคตของ Intel กับ 28A และ Nova Lake - Intel จะเริ่มออกแบบ 28A node ในครึ่งแรกของปี 2025 - ชิป Nova Lake และ Clearwater Forest จะตามมาในปี 2026 - Nova Lake จะใช้ ซิลิคอนจาก TSMC ขณะที่ Clearwater Forest จะเป็นชิป 18A สำหรับตลาดเซิร์ฟเวอร์ ✅ คู่แข่งที่กำลังจับตาดู 18A ของ Intel - Nvidia และ Broadcom กำลังทดสอบ เวเฟอร์ 18A แต่ยังไม่ชัดเจนว่าพวกเขาจะใช้ในการผลิตจริง - Apple เป็นลูกค้าหลักของ TSMC N2 และอาจใช้ใน iPhone 18 Pro ที่เปิดตัวปี 2026 https://www.techspot.com/news/107380-intel-18a-node-enters-risk-production-paving-way.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Intel's 18A node enters risk production, paving the way for Panther Lake
    Kevin O'Buckley, senior vice president and general manager of Intel Foundry Services, confirmed that risk production has begun for the company's upcoming 18A semiconductor node. The announcement,...
    0 Comments 0 Shares 328 Views 0 Reviews
  • Microsoft ประกาศว่า ฟีเจอร์ AI Copilot+ ที่เคยเป็นเอกสิทธิ์สำหรับ Snapdragon X ตอนนี้จะเริ่มทยอยปล่อยให้ใช้งานบน AMD Ryzen AI 300 series และ Intel Core Ultra 200V PCs โดยฟีเจอร์ที่สำคัญ ได้แก่ Live Captions, Cocreator, Restyle Image และ Image Creator ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สร้างสรรค์คอนเทนต์และปรับแต่งรูปภาพได้ง่ายขึ้น

    Live Captions พร้อมแปลภาษาแบบเรียลไทม์
    - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแปลเสียงพูดจาก 27 ภาษาเป็นภาษาจีนแบบย่อ
    - เดิมทีใช้ได้เฉพาะบน Snapdragon X แต่ตอนนี้เตรียมเปิดตัวให้กับ AMD และ Intel PCs

    Cocreator—ช่วยสร้างงานศิลปะใน Paint
    - ผู้ใช้สามารถสร้างภาพจาก ข้อความ (text prompt) หรือให้ AI ปรับแต่งภาพที่วาดเอง
    - ปัจจุบันเปิดให้ใช้งานบน AMD และ Intel PCs ที่มี NPU

    Restyle Image และ Image Creator ในแอป Photos
    - Restyle Image เป็นฟีเจอร์ปรับแต่งภาพให้เป็นสไตล์ศิลปะ เช่น ภาพสเก็ตช์หรือสีน้ำมัน
    - Image Creator ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างภาพจากคำสั่งข้อความได้โดยตรง

    ต้องอัปเดต Windows 11 และเปิดใช้งานการอัปเดตล่าสุด
    - ผู้ใช้ต้องติดตั้ง March non-security preview update
    - ต้องเปิดตัวเลือก Get the latest updates as soon as they’re available ใน Settings

    ฟีเจอร์อื่น ๆ เช่น Voice Access จะเปิดตัวภายในปีนี้
    - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ สั่งงาน Windows ผ่านเสียงได้ดีขึ้น
    - ปัจจุบันเปิดให้ใช้งานบน Snapdragon X และจะมาใน AMD และ Intel PCs ช่วงปลายปี

    https://www.tomshardware.com/software/windows/snapdragon-x-exclusive-copilot-features-begin-trickling-through-to-modern-x86-windows-11-pcs
    Microsoft ประกาศว่า ฟีเจอร์ AI Copilot+ ที่เคยเป็นเอกสิทธิ์สำหรับ Snapdragon X ตอนนี้จะเริ่มทยอยปล่อยให้ใช้งานบน AMD Ryzen AI 300 series และ Intel Core Ultra 200V PCs โดยฟีเจอร์ที่สำคัญ ได้แก่ Live Captions, Cocreator, Restyle Image และ Image Creator ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สร้างสรรค์คอนเทนต์และปรับแต่งรูปภาพได้ง่ายขึ้น ✅ Live Captions พร้อมแปลภาษาแบบเรียลไทม์ - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแปลเสียงพูดจาก 27 ภาษาเป็นภาษาจีนแบบย่อ - เดิมทีใช้ได้เฉพาะบน Snapdragon X แต่ตอนนี้เตรียมเปิดตัวให้กับ AMD และ Intel PCs ✅ Cocreator—ช่วยสร้างงานศิลปะใน Paint - ผู้ใช้สามารถสร้างภาพจาก ข้อความ (text prompt) หรือให้ AI ปรับแต่งภาพที่วาดเอง - ปัจจุบันเปิดให้ใช้งานบน AMD และ Intel PCs ที่มี NPU ✅ Restyle Image และ Image Creator ในแอป Photos - Restyle Image เป็นฟีเจอร์ปรับแต่งภาพให้เป็นสไตล์ศิลปะ เช่น ภาพสเก็ตช์หรือสีน้ำมัน - Image Creator ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างภาพจากคำสั่งข้อความได้โดยตรง ✅ ต้องอัปเดต Windows 11 และเปิดใช้งานการอัปเดตล่าสุด - ผู้ใช้ต้องติดตั้ง March non-security preview update - ต้องเปิดตัวเลือก Get the latest updates as soon as they’re available ใน Settings ✅ ฟีเจอร์อื่น ๆ เช่น Voice Access จะเปิดตัวภายในปีนี้ - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ สั่งงาน Windows ผ่านเสียงได้ดีขึ้น - ปัจจุบันเปิดให้ใช้งานบน Snapdragon X และจะมาใน AMD และ Intel PCs ช่วงปลายปี https://www.tomshardware.com/software/windows/snapdragon-x-exclusive-copilot-features-begin-trickling-through-to-modern-x86-windows-11-pcs
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Snapdragon X exclusive Copilot+ features begin trickling through to modern x86 Windows 11 PCs
    AMD Ryzen AI 300 series and Intel Core Ultra 200V PCs are getting Live Captions, Cocreator, Restyle Image, and Image Creator.
    0 Comments 0 Shares 485 Views 0 Reviews
  • ร้านค้าปลีก Alternate อธิบายว่าการขาย RTX 5090 'B-stock' ที่มี ROP Units ขาดหายไป เป็นเพียงข้อผิดพลาดของระบบ และสินค้านี้เป็นสินค้าคืนจากลูกค้า แม้ว่าราคาถูกตั้งไว้ที่ $3,100 เทียบเท่ากับรุ่นปกติ Nvidia ระบุว่าปัญหานี้กระทบการ์ดจอเพียง 0.5% ของ RTX 5090 และ RTX 5070 Ti และแนะนำให้ลูกค้าติดต่อผู้ผลิตบอร์ดเพื่อเปลี่ยนสินค้า

    ROP Units มีบทบาทสำคัญต่อการแสดงผลของ GPU
    - ROP (Render Output Unit) ทำหน้าที่ประมวลผลพิกเซล รวมถึงการเบลนด์ภาพและแอนตี้แรสเตอร์ไลซ์
    - หาก ROP หายไป อาจทำให้ ประสิทธิภาพการ์ดจอลดลงถึง 11% ตามการทดสอบของ Gamer's Nexus

    ข้อผิดพลาดของ Alternate ทำให้ GPU มีราคาสูงเกินจริง
    - Alternate ลงขาย RTX 5090 'B-stock' ที่มี 168 ROP จาก 176 ที่ควรมี
    - ราคาถูกตั้งไว้ที่ €2,899 ($3,100) ซึ่งเทียบเท่ากับรุ่นปกติที่ไม่มีข้อบกพร่อง

    Nvidia ชี้แจงว่าปัญหานี้กระทบเพียง 0.5% ของ RTX 5090 และ RTX 5070 Ti
    - Nvidia ขอให้ลูกค้าติดต่อผู้ผลิตบอร์ด (AIB Partners) เพื่อรับการเปลี่ยนสินค้า
    - ผลกระทบจากข้อบกพร่องนี้พบใน RTX 5080 ด้วย

    ตลาด Blackwell ยังคงขาดแคลนและราคาสูง
    - แม้ว่าการผลิตจะเริ่มดีขึ้น แต่ ราคาตลาดยังสูงกว่าที่ควรจะเป็น
    - RTX 5090 Founders Edition บน eBay มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ $4,000

    Alternate อธิบายว่าเป็นความผิดพลาดของระบบภายใน
    - บริษัทชี้แจงว่าการ์ดจอที่ขายเป็น สินค้าคืนจากลูกค้า และไม่ได้ตั้งใจนำออกขาย
    - ระบบการตั้งราคาผิดพลาด โดยใช้ราคาของ RTX 5090 รุ่นใหม่แทน

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/retailer-clarifies-rtx-5090-b-stock-listing-with-missing-rops-was-a-system-error
    ร้านค้าปลีก Alternate อธิบายว่าการขาย RTX 5090 'B-stock' ที่มี ROP Units ขาดหายไป เป็นเพียงข้อผิดพลาดของระบบ และสินค้านี้เป็นสินค้าคืนจากลูกค้า แม้ว่าราคาถูกตั้งไว้ที่ $3,100 เทียบเท่ากับรุ่นปกติ Nvidia ระบุว่าปัญหานี้กระทบการ์ดจอเพียง 0.5% ของ RTX 5090 และ RTX 5070 Ti และแนะนำให้ลูกค้าติดต่อผู้ผลิตบอร์ดเพื่อเปลี่ยนสินค้า ✅ ROP Units มีบทบาทสำคัญต่อการแสดงผลของ GPU - ROP (Render Output Unit) ทำหน้าที่ประมวลผลพิกเซล รวมถึงการเบลนด์ภาพและแอนตี้แรสเตอร์ไลซ์ - หาก ROP หายไป อาจทำให้ ประสิทธิภาพการ์ดจอลดลงถึง 11% ตามการทดสอบของ Gamer's Nexus ✅ ข้อผิดพลาดของ Alternate ทำให้ GPU มีราคาสูงเกินจริง - Alternate ลงขาย RTX 5090 'B-stock' ที่มี 168 ROP จาก 176 ที่ควรมี - ราคาถูกตั้งไว้ที่ €2,899 ($3,100) ซึ่งเทียบเท่ากับรุ่นปกติที่ไม่มีข้อบกพร่อง ✅ Nvidia ชี้แจงว่าปัญหานี้กระทบเพียง 0.5% ของ RTX 5090 และ RTX 5070 Ti - Nvidia ขอให้ลูกค้าติดต่อผู้ผลิตบอร์ด (AIB Partners) เพื่อรับการเปลี่ยนสินค้า - ผลกระทบจากข้อบกพร่องนี้พบใน RTX 5080 ด้วย ✅ ตลาด Blackwell ยังคงขาดแคลนและราคาสูง - แม้ว่าการผลิตจะเริ่มดีขึ้น แต่ ราคาตลาดยังสูงกว่าที่ควรจะเป็น - RTX 5090 Founders Edition บน eBay มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ $4,000 ✅ Alternate อธิบายว่าเป็นความผิดพลาดของระบบภายใน - บริษัทชี้แจงว่าการ์ดจอที่ขายเป็น สินค้าคืนจากลูกค้า และไม่ได้ตั้งใจนำออกขาย - ระบบการตั้งราคาผิดพลาด โดยใช้ราคาของ RTX 5090 รุ่นใหม่แทน https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/retailer-clarifies-rtx-5090-b-stock-listing-with-missing-rops-was-a-system-error
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Retailer clarifies RTX 5090 'B-stock' listing with missing ROPs was a system error
    The GPU was sourced from a customer return and was never intended for sale.
    0 Comments 0 Shares 350 Views 0 Reviews
  • นักพัฒนาสร้าง WattWise ซึ่งเป็น เครื่องมือโอเพ่นซอร์ส ที่ช่วยลดการใช้พลังงานของ PC และเซิร์ฟเวอร์ ตามราคาค่าไฟ ระบบนี้ใช้ สมาร์ทปลั๊ก Kasa และปรับความเร็วซีพียู โดยอัตโนมัติ ตามช่วงเวลาที่ค่าไฟแพง นักพัฒนาวางแผนให้ WattWise รองรับสมาร์ทปลั๊กหลายแบรนด์และสามารถควบคุมพลังงานของจีพียูได้ด้วย

    WattWise ทำงานอย่างไร?
    - ใช้ สมาร์ทปลั๊ก Kasa และ Home Assistant เพื่อติดตามการใช้พลังงานแบบเรียลไทม์
    - ใช้อัลกอริธึม Proportional-Integral (PI) Controller เพื่อปรับความเร็วซีพียูตาม โหลดของระบบและราคาพลังงาน
    - ตัวอย่างเช่น การลดความเร็ว AMD EPYC จาก 3.7 GHz เหลือ 1.5 GHz สามารถลดการใช้ไฟได้ 225 วัตต์

    การควบคุมการทำงานของซีพียูและจีพียูแบบอัตโนมัติ
    - แอปสามารถปรับลดความเร็วของ ซีพียูและจีพียู ตามช่วงเวลาที่ค่าไฟสูง
    - นักพัฒนาตั้งเป้าให้ รองรับสมาร์ทปลั๊กหลายตัวและแบรนด์อื่น ๆ นอกเหนือจาก Kasa ในอนาคต

    ลดต้นทุนค่าไฟสำหรับผู้ใช้เซิร์ฟเวอร์และ Workstation
    - ระบบ สามารถลดค่าไฟฟ้าสำหรับเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ที่ใช้พลังงานสูง
    - ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ควบคุมการใช้พลังงานแบบเรียลไทม์และลดค่าใช้จ่าย

    โอเพ่นซอร์สภายใต้ MIT License—ทุกคนสามารถใช้ได้ฟรี
    - นักพัฒนาเปิดให้ดาวน์โหลดจาก GitHub และเปิดรับความคิดเห็นเพื่อพัฒนาเพิ่มเติม
    - ปัจจุบันยังมีเฉพาะ Dashboard UI และระบบปรับลดพลังงานกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา

    https://www.tomshardware.com/software/applications/open-source-tool-designed-to-throttle-pc-and-server-performance-based-on-electricity-pricing-lightweight-cli-can-automatically-limit-clocks-during-peak-hours
    นักพัฒนาสร้าง WattWise ซึ่งเป็น เครื่องมือโอเพ่นซอร์ส ที่ช่วยลดการใช้พลังงานของ PC และเซิร์ฟเวอร์ ตามราคาค่าไฟ ระบบนี้ใช้ สมาร์ทปลั๊ก Kasa และปรับความเร็วซีพียู โดยอัตโนมัติ ตามช่วงเวลาที่ค่าไฟแพง นักพัฒนาวางแผนให้ WattWise รองรับสมาร์ทปลั๊กหลายแบรนด์และสามารถควบคุมพลังงานของจีพียูได้ด้วย ✅ WattWise ทำงานอย่างไร? - ใช้ สมาร์ทปลั๊ก Kasa และ Home Assistant เพื่อติดตามการใช้พลังงานแบบเรียลไทม์ - ใช้อัลกอริธึม Proportional-Integral (PI) Controller เพื่อปรับความเร็วซีพียูตาม โหลดของระบบและราคาพลังงาน - ตัวอย่างเช่น การลดความเร็ว AMD EPYC จาก 3.7 GHz เหลือ 1.5 GHz สามารถลดการใช้ไฟได้ 225 วัตต์ ✅ การควบคุมการทำงานของซีพียูและจีพียูแบบอัตโนมัติ - แอปสามารถปรับลดความเร็วของ ซีพียูและจีพียู ตามช่วงเวลาที่ค่าไฟสูง - นักพัฒนาตั้งเป้าให้ รองรับสมาร์ทปลั๊กหลายตัวและแบรนด์อื่น ๆ นอกเหนือจาก Kasa ในอนาคต ✅ ลดต้นทุนค่าไฟสำหรับผู้ใช้เซิร์ฟเวอร์และ Workstation - ระบบ สามารถลดค่าไฟฟ้าสำหรับเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ที่ใช้พลังงานสูง - ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ควบคุมการใช้พลังงานแบบเรียลไทม์และลดค่าใช้จ่าย ✅ โอเพ่นซอร์สภายใต้ MIT License—ทุกคนสามารถใช้ได้ฟรี - นักพัฒนาเปิดให้ดาวน์โหลดจาก GitHub และเปิดรับความคิดเห็นเพื่อพัฒนาเพิ่มเติม - ปัจจุบันยังมีเฉพาะ Dashboard UI และระบบปรับลดพลังงานกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา https://www.tomshardware.com/software/applications/open-source-tool-designed-to-throttle-pc-and-server-performance-based-on-electricity-pricing-lightweight-cli-can-automatically-limit-clocks-during-peak-hours
    0 Comments 0 Shares 432 Views 0 Reviews
  • Intel กำลังเข้าสู่ยุคใหม่ภายใต้ CEO Lip-Bu Tan ซึ่งเน้นสร้างความเชื่อมั่นกับลูกค้า และปรับตัวให้เหมาะกับธุรกิจโรงงานผลิตชิป Tan เตรียมเดินหน้าสู่ การผลิต High-Volume ของ Panther Lake บนเทคโนโลยี 18A พร้อมมุ่งเน้นการจ้างงานและวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ขณะที่เขาตัดสินใจเก็บธุรกิจโรงงานไว้โดยไม่แยกออกเป็นบริษัทอิสระ

    ความท้าทายของ Intel กับธุรกิจ Foundry
    - Intel ถูกวิจารณ์มานานว่า ไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าได้
    - ปี 2011 Tim Cook เคยบอกกับ Morris Chang (ผู้ก่อตั้ง TSMC) ว่า Intel "ไม่เข้าใจการทำธุรกิจโรงงานผลิตชิป"
    - จุดนี้ทำให้ TSMC กลายเป็นผู้นำตลาด โดยสามารถรองรับลูกค้ารายใหญ่เช่น Apple และ Nvidia

    Lip-Bu Tan ต้องการปรับโครงสร้างเพื่อดึงลูกค้ากลับมา
    - Tan กล่าวว่า "Foundry เป็นธุรกิจบริการ และต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้า"
    - เขาเชื่อว่า ลูกค้าแต่ละรายมีรูปแบบการออกแบบชิปที่แตกต่างกัน และ Intel ต้อง เรียนรู้วิธีปรับตัวให้เข้ากับแต่ละบริษัท
    - กลยุทธ์นี้เคยประสบความสำเร็จในยุคที่เขาเป็น CEO ของ Cadence

    Intel ไม่ได้ยอมแพ้—เตรียมเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่
    - Tan กล่าวว่า Intel พร้อมเข้าสู่การผลิตขนาดใหญ่ (High-Volume Production) ของ Panther Lake บนเทคโนโลยี 18A ในปีนี้
    - นอกจากนี้ Intel กำลังทำงานบน 14A Node ซึ่งจะเป็นเทคโนโลยีระดับสูงกว่า

    มุ่งเน้นการจ้างงานและฟื้นฟูวัฒนธรรมองค์กร
    - Tan มองว่า Intel สูญเสียบุคลากรสำคัญไปหลายปี และเขาต้องการดึงวิศวกรชั้นนำกลับมา
    - เป้าหมายคือ สร้างวัฒนธรรมที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม

    Intel จะเก็บธุรกิจโรงงานไว้—ไม่แยกออกเป็นบริษัทอิสระ
    - ก่อนที่ Tan จะรับตำแหน่ง CEO มีข่าวลือว่า Intel อาจแยกธุรกิจโรงงานออกจากกันเพื่อเพิ่มผลกำไร
    - อย่างไรก็ตาม หลังจากสุนทรพจน์ครั้งแรกของ Tan ดูเหมือนว่า เขาจะพยายามรักษาธุรกิจนี้ไว้และดึงลูกค้ากลับมา

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/lip-bu-tans-first-speech-as-intel-ceo-focuses-on-innovation-and-working-with-foundry-customers
    Intel กำลังเข้าสู่ยุคใหม่ภายใต้ CEO Lip-Bu Tan ซึ่งเน้นสร้างความเชื่อมั่นกับลูกค้า และปรับตัวให้เหมาะกับธุรกิจโรงงานผลิตชิป Tan เตรียมเดินหน้าสู่ การผลิต High-Volume ของ Panther Lake บนเทคโนโลยี 18A พร้อมมุ่งเน้นการจ้างงานและวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ขณะที่เขาตัดสินใจเก็บธุรกิจโรงงานไว้โดยไม่แยกออกเป็นบริษัทอิสระ ✅ ความท้าทายของ Intel กับธุรกิจ Foundry - Intel ถูกวิจารณ์มานานว่า ไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าได้ - ปี 2011 Tim Cook เคยบอกกับ Morris Chang (ผู้ก่อตั้ง TSMC) ว่า Intel "ไม่เข้าใจการทำธุรกิจโรงงานผลิตชิป" - จุดนี้ทำให้ TSMC กลายเป็นผู้นำตลาด โดยสามารถรองรับลูกค้ารายใหญ่เช่น Apple และ Nvidia ✅ Lip-Bu Tan ต้องการปรับโครงสร้างเพื่อดึงลูกค้ากลับมา - Tan กล่าวว่า "Foundry เป็นธุรกิจบริการ และต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้า" - เขาเชื่อว่า ลูกค้าแต่ละรายมีรูปแบบการออกแบบชิปที่แตกต่างกัน และ Intel ต้อง เรียนรู้วิธีปรับตัวให้เข้ากับแต่ละบริษัท - กลยุทธ์นี้เคยประสบความสำเร็จในยุคที่เขาเป็น CEO ของ Cadence ✅ Intel ไม่ได้ยอมแพ้—เตรียมเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ - Tan กล่าวว่า Intel พร้อมเข้าสู่การผลิตขนาดใหญ่ (High-Volume Production) ของ Panther Lake บนเทคโนโลยี 18A ในปีนี้ - นอกจากนี้ Intel กำลังทำงานบน 14A Node ซึ่งจะเป็นเทคโนโลยีระดับสูงกว่า ✅ มุ่งเน้นการจ้างงานและฟื้นฟูวัฒนธรรมองค์กร - Tan มองว่า Intel สูญเสียบุคลากรสำคัญไปหลายปี และเขาต้องการดึงวิศวกรชั้นนำกลับมา - เป้าหมายคือ สร้างวัฒนธรรมที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม ✅ Intel จะเก็บธุรกิจโรงงานไว้—ไม่แยกออกเป็นบริษัทอิสระ - ก่อนที่ Tan จะรับตำแหน่ง CEO มีข่าวลือว่า Intel อาจแยกธุรกิจโรงงานออกจากกันเพื่อเพิ่มผลกำไร - อย่างไรก็ตาม หลังจากสุนทรพจน์ครั้งแรกของ Tan ดูเหมือนว่า เขาจะพยายามรักษาธุรกิจนี้ไว้และดึงลูกค้ากลับมา https://www.tomshardware.com/tech-industry/lip-bu-tans-first-speech-as-intel-ceo-focuses-on-innovation-and-working-with-foundry-customers
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Lip-Bu Tan's first speech as Intel CEO focuses on innovation and working with foundry customers
    “I can’t do it alone: I need your help as a customer — give me honest feedback.”
    0 Comments 0 Shares 660 Views 0 Reviews
  • FENGSHUI DAILY
    อัพเดตทุกวัน ที่นี่ที่เดียว
    สีเสริมดวง เสริมความเฮง
    ทิศมงคล เวลามงคล
    อย่าลืมดูกัน เมื่อเริ่มวันใหม่
    วันพฤหัสบดีที่ 3 เดือนเมษายน พ.ศ.2568
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    FENGSHUI DAILY อัพเดตทุกวัน ที่นี่ที่เดียว สีเสริมดวง เสริมความเฮง ทิศมงคล เวลามงคล อย่าลืมดูกัน เมื่อเริ่มวันใหม่ วันพฤหัสบดีที่ 3 เดือนเมษายน พ.ศ.2568 ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 Comments 0 Shares 171 Views 0 Reviews
  • Arm ตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งตลาด CPU ศูนย์ข้อมูลจาก 15% เป็น 50% ภายในปี 2025 โดยมุ่งเน้นไปที่เซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ AI และระบบ Cloud ขณะที่ Nvidia, AWS และ Ampere Computing เป็นผู้ใช้หลักของ CPU Arm นอกจากนี้ Google และ Microsoft กำลังออกแบบ CPU โดยใช้เทคโนโลยีของ Arm และมีรายงานว่า Meta อาจใช้ CPU Arm สำหรับระบบ Cloud ในอนาคต

    Arm ได้รับแรงหนุนจากเซิร์ฟเวอร์ AI และผู้ให้บริการ Cloud รายใหญ่
    - Nvidia GB200 และ GB300, AWS Graviton, และระบบที่ใช้ Ampere Computing ล้วนเป็นเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ Arm-based CPUs
    - 50% ของเซิร์ฟเวอร์ AWS ใช้ชิป Arm แทน AMD หรือ Intel

    ซอฟต์แวร์เริ่มพัฒนาเพื่อ Arm ก่อน แล้วค่อยพอร์ตไป x86
    - สถานการณ์เริ่มเปลี่ยนไป—แต่เดิม ศูนย์ข้อมูลพึ่งพาซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาสำหรับ x86
    - ตอนนี้บางแอปพลิเคชันถูกออกแบบให้ทำงานบน Arm ก่อน แล้วจึงพอร์ตไป x86

    Google และ Microsoft เริ่มออกแบบ CPU ศูนย์ข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยี Arm
    - แม้ว่าการพัฒนาอยู่ในช่วงต้น Amazon ยังคงนำหน้าในส่วนนี้
    - Meta รายงานว่า Arm กำลังพัฒนา CPU สำหรับระบบ Cloud ของ Meta แต่ยังไม่มีข้อมูลการใช้งานจริง

    Arm มี Compute Subsystems (CSS) ให้บริษัทอื่นสร้าง CPU ได้ง่ายขึ้น
    - ช่วยให้บริษัทสามารถออกแบบ CPU สำหรับศูนย์ข้อมูลของตนเอง ได้อย่างรวดเร็ว
    - อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ Arm ขยายส่วนแบ่งตลาดอย่างรวดเร็ว

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/arm-aims-to-capture-50-percent-of-data-center-cpu-market-in-2025
    Arm ตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งตลาด CPU ศูนย์ข้อมูลจาก 15% เป็น 50% ภายในปี 2025 โดยมุ่งเน้นไปที่เซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ AI และระบบ Cloud ขณะที่ Nvidia, AWS และ Ampere Computing เป็นผู้ใช้หลักของ CPU Arm นอกจากนี้ Google และ Microsoft กำลังออกแบบ CPU โดยใช้เทคโนโลยีของ Arm และมีรายงานว่า Meta อาจใช้ CPU Arm สำหรับระบบ Cloud ในอนาคต ✅ Arm ได้รับแรงหนุนจากเซิร์ฟเวอร์ AI และผู้ให้บริการ Cloud รายใหญ่ - Nvidia GB200 และ GB300, AWS Graviton, และระบบที่ใช้ Ampere Computing ล้วนเป็นเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ Arm-based CPUs - 50% ของเซิร์ฟเวอร์ AWS ใช้ชิป Arm แทน AMD หรือ Intel ✅ ซอฟต์แวร์เริ่มพัฒนาเพื่อ Arm ก่อน แล้วค่อยพอร์ตไป x86 - สถานการณ์เริ่มเปลี่ยนไป—แต่เดิม ศูนย์ข้อมูลพึ่งพาซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาสำหรับ x86 - ตอนนี้บางแอปพลิเคชันถูกออกแบบให้ทำงานบน Arm ก่อน แล้วจึงพอร์ตไป x86 ✅ Google และ Microsoft เริ่มออกแบบ CPU ศูนย์ข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยี Arm - แม้ว่าการพัฒนาอยู่ในช่วงต้น Amazon ยังคงนำหน้าในส่วนนี้ - Meta รายงานว่า Arm กำลังพัฒนา CPU สำหรับระบบ Cloud ของ Meta แต่ยังไม่มีข้อมูลการใช้งานจริง ✅ Arm มี Compute Subsystems (CSS) ให้บริษัทอื่นสร้าง CPU ได้ง่ายขึ้น - ช่วยให้บริษัทสามารถออกแบบ CPU สำหรับศูนย์ข้อมูลของตนเอง ได้อย่างรวดเร็ว - อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ Arm ขยายส่วนแบ่งตลาดอย่างรวดเร็ว https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/arm-aims-to-capture-50-percent-of-data-center-cpu-market-in-2025
    0 Comments 0 Shares 224 Views 0 Reviews
  • ๒ เมษายน วันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
    ๒ เมษายน วันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
    0 Comments 0 Shares 239 Views 0 Reviews
  • Altera ได้เริ่มจัดส่ง Agilex 7 FPGA M-Series ซึ่งเป็นชิปประมวลผลแบบ FPGA ระดับไฮเอนด์ที่ออกแบบมาเพื่อ AI และศูนย์ข้อมูล โดยใช้ HBM2E และ DDR5/LPDDR5 เพื่อเพิ่มแบนด์วิดท์และลดความล่าช้า Positron ซึ่งเป็นบริษัท AI รายงานว่า FPGA นี้ช่วยให้ทำงานได้เร็วกว่า GPU ในการรันโมเดล AI เช่น Llama3 และช่วยประหยัดพลังงานมากกว่า
    Intel คาดว่า FPGA นี้จะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเซิร์ฟเวอร์ AI และอุตสาหกรรมสื่อสาร 5G ในอีก 10 ปีข้างหน้า

    FPGA นี้ออกแบบเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
    - มี 3.8 ล้าน Logic Elements รองรับการประมวลผลระดับสูง
    - ใช้ Hyperflex Architecture รุ่นที่ 2 เพื่อเพิ่มความเร็วและลดการใช้พลังงาน

    หน่วยความจำความเร็วสูงช่วยแก้ปัญหาคอขวด
    - มี HBM2E ขนาด 32 GB พร้อมแบนด์วิดท์สูงสุด 820 GBps
    - รองรับ DDR5/LPDDR5 โดยมี Memory Bandwidth สูงสุด 1 TBps

    การใช้งานหลักของ Agilex 7 FPGA M-Series
    - ศูนย์ข้อมูล: ใช้เป็นเร่งความเร็ว AI และช่วยลดภาระงานของโปรเซสเซอร์ทั่วไป
    - อุปกรณ์เครือข่าย: รองรับไฟร์วอลล์ยุคใหม่ที่ต้องใช้การประมวลผลข้อมูลระดับสูง
    - อุปกรณ์ออกอากาศ: ส่งข้อมูล 8K UHD ได้รวดเร็ว ลดความล่าช้าในเซ็นเซอร์ภาพ

    บริษัท AI ใช้ FPGA เพื่อประสิทธิภาพสูงกว่าระบบ GPU ทั่วไป
    - Positron รายงานว่า Agilex 7 มีการใช้ Bandwidth สูงถึง 93% ซึ่งสูงกว่าระบบ GPU ที่มักอยู่ที่ 10-30%
    - เมื่อใช้ในการประมวลผล LLM (เช่น Llama3 และ MOE Models) ทำให้ได้ ประสิทธิภาพต่อค่าใช้จ่ายดีขึ้น 3.5 เท่า

    อนาคตของ Agilex 7 FPGA M-Series
    - มีอายุการใช้งานถึง ปี 2035 และพร้อมใช้งานทั่วโลก
    - คาดว่าจะถูกนำมาใช้ในเซิร์ฟเวอร์ระดับสูง, การประมวลผล AI, และโครงสร้างพื้นฐาน 5G

    https://www.techpowerup.com/334926/altera-starts-production-shipments-of-agilex-7-fpga-m-series
    Altera ได้เริ่มจัดส่ง Agilex 7 FPGA M-Series ซึ่งเป็นชิปประมวลผลแบบ FPGA ระดับไฮเอนด์ที่ออกแบบมาเพื่อ AI และศูนย์ข้อมูล โดยใช้ HBM2E และ DDR5/LPDDR5 เพื่อเพิ่มแบนด์วิดท์และลดความล่าช้า Positron ซึ่งเป็นบริษัท AI รายงานว่า FPGA นี้ช่วยให้ทำงานได้เร็วกว่า GPU ในการรันโมเดล AI เช่น Llama3 และช่วยประหยัดพลังงานมากกว่า Intel คาดว่า FPGA นี้จะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเซิร์ฟเวอร์ AI และอุตสาหกรรมสื่อสาร 5G ในอีก 10 ปีข้างหน้า ✅ FPGA นี้ออกแบบเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด - มี 3.8 ล้าน Logic Elements รองรับการประมวลผลระดับสูง - ใช้ Hyperflex Architecture รุ่นที่ 2 เพื่อเพิ่มความเร็วและลดการใช้พลังงาน ✅ หน่วยความจำความเร็วสูงช่วยแก้ปัญหาคอขวด - มี HBM2E ขนาด 32 GB พร้อมแบนด์วิดท์สูงสุด 820 GBps - รองรับ DDR5/LPDDR5 โดยมี Memory Bandwidth สูงสุด 1 TBps ✅ การใช้งานหลักของ Agilex 7 FPGA M-Series - ศูนย์ข้อมูล: ใช้เป็นเร่งความเร็ว AI และช่วยลดภาระงานของโปรเซสเซอร์ทั่วไป - อุปกรณ์เครือข่าย: รองรับไฟร์วอลล์ยุคใหม่ที่ต้องใช้การประมวลผลข้อมูลระดับสูง - อุปกรณ์ออกอากาศ: ส่งข้อมูล 8K UHD ได้รวดเร็ว ลดความล่าช้าในเซ็นเซอร์ภาพ ✅ บริษัท AI ใช้ FPGA เพื่อประสิทธิภาพสูงกว่าระบบ GPU ทั่วไป - Positron รายงานว่า Agilex 7 มีการใช้ Bandwidth สูงถึง 93% ซึ่งสูงกว่าระบบ GPU ที่มักอยู่ที่ 10-30% - เมื่อใช้ในการประมวลผล LLM (เช่น Llama3 และ MOE Models) ทำให้ได้ ประสิทธิภาพต่อค่าใช้จ่ายดีขึ้น 3.5 เท่า ✅ อนาคตของ Agilex 7 FPGA M-Series - มีอายุการใช้งานถึง ปี 2035 และพร้อมใช้งานทั่วโลก - คาดว่าจะถูกนำมาใช้ในเซิร์ฟเวอร์ระดับสูง, การประมวลผล AI, และโครงสร้างพื้นฐาน 5G https://www.techpowerup.com/334926/altera-starts-production-shipments-of-agilex-7-fpga-m-series
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Altera Starts Production Shipments of Agilex 7 FPGA M-Series
    Altera Corporation, a leader in FPGA innovations, today announced production shipments of its Agilex 7 FPGA M-Series, the industry's first high-end, high-density FPGA to feature integrated high bandwidth memory and support for DDR5 and LPDDR5 memory technologies. Offering over 3.8 million logic elem...
    0 Comments 0 Shares 402 Views 0 Reviews
  • #แซนวิชพริกเผาหมูหยองน้ำสลัด

    #กาแฟยามเช้าหอมกรุ่นอยู่เสมอ
    #แซนวิชพริกเผาหมูหยองน้ำสลัด #กาแฟยามเช้าหอมกรุ่นอยู่เสมอ
    0 Comments 0 Shares 358 Views 0 Reviews
  • Samsung อาจเลิกใช้ชื่อ Exynos และเตรียมรีแบรนด์ชิปเซ็ตของตนเอง โดย Exynos 2600 จะถูกใช้ใน Galaxy S26 แต่มีจำนวนจำกัด ขณะที่ Exynos 2500 อาจถูกใช้ใน Galaxy Z Flip FE แต่ยังเป็น 4 nm มีข่าวลือว่า Samsung อาจเลิกใช้ Snapdragon และพัฒนาเทคโนโลยี 2 nm GAA ด้วยความช่วยเหลือจากบริษัท AI ภายนอก

    ชิป Exynos 2600 จะใช้ใน Galaxy S26 แต่มีจำนวนจำกัด
    - แหล่งข่าวระบุว่า Exynos 2600 จะถูกใช้ใน Galaxy S26 series แต่มีจำนวนผลิตที่จำกัด
    - อาจมีสถานการณ์คล้ายกับ Exynos 990 ที่เคยมีปริมาณจำกัดในอดีต

    Samsung Foundry อาจเลิกพัฒนา 1.4 nm และเดินหน้าสู่ 2 nm GAA
    - แหล่งข่าวบางแห่งเชื่อว่า Samsung จะไม่ใช้ 1.4 nm node และเดินหน้าสู่ 2 nm GAA (Gate-All-Around)
    - มีข่าวลือว่า Samsung ร่วมมือกับบริษัท AI ภายนอก เพื่อช่วยพัฒนาเทคโนโลยีใหม่

    Exynos 2500 อาจถูกใช้ใน Galaxy Z Flip FE แต่ยังเป็น 4 nm
    - แม้ว่า Exynos 2500 อาจอยู่ในแผนผลิตของปี 2025 แต่รุ่นแรกจะยังคงเป็น 4 nm node
    - ชิปนี้ถูกพัฒนาสำหรับ สมาร์ทโฟนระดับกลาง ไม่ใช่เรือธง

    แหล่งข่าวบางแห่งระบุว่า Samsung อาจเลิกใช้ Snapdragon
    - มีข่าวลือว่า Samsung ต้องการหยุดใช้ Snapdragon และหันมาใช้ชิปที่พัฒนาเองทั้งหมด
    - อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวส่วนใหญ่ยังมองว่า Samsung จะใช้ ชิป Exynos และ Snapdragon ร่วมกัน

    เป้าหมายของ Samsung คือกู้คืนภาพลักษณ์ของชิปเซ็ต Exynos
    - Samsung อาจต้องการ หลีกเลี่ยงภาพลักษณ์เชิงลบที่ Exynos เคยมี โดยเปลี่ยนชื่อใหม่
    - บริษัทยังคงพยายามเพิ่มประสิทธิภาพของชิป และแข่งขันกับ Apple A-Series และ Qualcomm Snapdragon

    https://www.techpowerup.com/334927/leaker-claims-that-samsung-will-stop-using-exynos-nomenclature-next-gen-2-nm-mobile-soc-tipped-for-rebrand
    Samsung อาจเลิกใช้ชื่อ Exynos และเตรียมรีแบรนด์ชิปเซ็ตของตนเอง โดย Exynos 2600 จะถูกใช้ใน Galaxy S26 แต่มีจำนวนจำกัด ขณะที่ Exynos 2500 อาจถูกใช้ใน Galaxy Z Flip FE แต่ยังเป็น 4 nm มีข่าวลือว่า Samsung อาจเลิกใช้ Snapdragon และพัฒนาเทคโนโลยี 2 nm GAA ด้วยความช่วยเหลือจากบริษัท AI ภายนอก ✅ ชิป Exynos 2600 จะใช้ใน Galaxy S26 แต่มีจำนวนจำกัด - แหล่งข่าวระบุว่า Exynos 2600 จะถูกใช้ใน Galaxy S26 series แต่มีจำนวนผลิตที่จำกัด - อาจมีสถานการณ์คล้ายกับ Exynos 990 ที่เคยมีปริมาณจำกัดในอดีต ✅ Samsung Foundry อาจเลิกพัฒนา 1.4 nm และเดินหน้าสู่ 2 nm GAA - แหล่งข่าวบางแห่งเชื่อว่า Samsung จะไม่ใช้ 1.4 nm node และเดินหน้าสู่ 2 nm GAA (Gate-All-Around) - มีข่าวลือว่า Samsung ร่วมมือกับบริษัท AI ภายนอก เพื่อช่วยพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ✅ Exynos 2500 อาจถูกใช้ใน Galaxy Z Flip FE แต่ยังเป็น 4 nm - แม้ว่า Exynos 2500 อาจอยู่ในแผนผลิตของปี 2025 แต่รุ่นแรกจะยังคงเป็น 4 nm node - ชิปนี้ถูกพัฒนาสำหรับ สมาร์ทโฟนระดับกลาง ไม่ใช่เรือธง ✅ แหล่งข่าวบางแห่งระบุว่า Samsung อาจเลิกใช้ Snapdragon - มีข่าวลือว่า Samsung ต้องการหยุดใช้ Snapdragon และหันมาใช้ชิปที่พัฒนาเองทั้งหมด - อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวส่วนใหญ่ยังมองว่า Samsung จะใช้ ชิป Exynos และ Snapdragon ร่วมกัน ✅ เป้าหมายของ Samsung คือกู้คืนภาพลักษณ์ของชิปเซ็ต Exynos - Samsung อาจต้องการ หลีกเลี่ยงภาพลักษณ์เชิงลบที่ Exynos เคยมี โดยเปลี่ยนชื่อใหม่ - บริษัทยังคงพยายามเพิ่มประสิทธิภาพของชิป และแข่งขันกับ Apple A-Series และ Qualcomm Snapdragon https://www.techpowerup.com/334927/leaker-claims-that-samsung-will-stop-using-exynos-nomenclature-next-gen-2-nm-mobile-soc-tipped-for-rebrand
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Leaker Claims that Samsung Will Stop Using "Exynos" Nomenclature, Next-gen 2 nm Mobile SoC Tipped for Rebrand
    Over the past weekend Jukanlosreve declared via social media that Samsung's: "Exynos 2600 (mobile SoC) is definitely back, and it will be used in the Galaxy S26 series. But the chip volume is so limited that it'll likely be similar to the Exynos 990 situation. I'm not sure if SF2 is actually any goo...
    0 Comments 0 Shares 315 Views 0 Reviews
  • NVIDIA และ Quantum Machines เปิดตัว DGX Quantum Early Access Program ซึ่งช่วยผสานการคำนวณควอนตัมเข้ากับการประมวลผลแบบคลาสสิก DGX Quantum ใช้ OPX1000 และ Grace Hopper Superchips เพื่อลดเวลาการส่งข้อมูลให้ต่ำกว่า 4 ไมโครวินาที พร้อมรองรับ AI-driven calibration และ Quantum Error Correction นักวิจัยจาก MIT, IQCC, และสถาบันอื่น ๆ เข้าร่วมเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีใหม่นี้

    NVIDIA DGX Quantum คืออะไร?
    - เป็น สถาปัตยกรรมอ้างอิงที่พัฒนาโดย NVIDIA และ QM
    - เป็นระบบแรกที่ผสาน การประมวลผลควอนตัมและคลาสสิกเข้าด้วยกัน เพื่อรองรับการคำนวณที่ซับซ้อน

    ความท้าทายของควอนตัมคอมพิวติ้ง—จำเป็นต้องมีพลังการประมวลผลแบบคลาสสิกเสริม
    - ควอนตัมคอมพิวเตอร์ต้องใช้การประมวลผลแบบคลาสสิกเพื่อ แก้ไขข้อผิดพลาด (Quantum Error Correction - QEC) และปรับพารามิเตอร์
    - NVIDIA DGX Quantum ช่วยให้ ระบบมีพลังการประมวลผลมากขึ้น ลดความล่าช้าในการสื่อสารระหว่างโปรเซสเซอร์

    OPX1000 ช่วยเร่งความเร็วและลดความล่าช้าในการคำนวณ
    - DGX Quantum ใช้ OPX1000 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มควบคุมแบบโมดูลาร์ ที่สามารถทำงานร่วมกับ Grace Hopper Superchips ของ NVIDIA
    - ลดเวลา รอบการส่งข้อมูลระหว่างควอนตัมกับ AI ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ให้น้อยกว่า 4 ไมโครวินาที ซึ่งเร็วกว่าวิธีอื่น ๆ

    6 กลุ่มนักวิจัยที่เข้าร่วมโปรแกรม Early Access
    - Engineering Quantum Systems ของ MIT
    - Israeli Quantum Computing Center (IQCC)
    - Diraq—บริษัทพัฒนาฮาร์ดแวร์ควอนตัม
    - Quantum Circuit Group ของ ENS Lyon
    - Fraunhofer IAF
    - สถาบันวิจัยทางควอนตัมอื่น ๆ

    DGX Quantum รองรับ AI-driven QPU calibration และการประมวลผลแบบไฮบริด
    - มีการผสาน การเรียนรู้เสริมแรง (Reinforcement Learning) เพื่อช่วยเพิ่มความแม่นยำในการคำนวณควอนตัม
    - สามารถปรับค่า drive และ readout fidelities อย่างแม่นยำเพื่อรองรับ QEC ที่มีประสิทธิภาพสูง

    https://www.techpowerup.com/334928/quantum-machines-announces-nvidia-dgx-quantum-early-access-program
    NVIDIA และ Quantum Machines เปิดตัว DGX Quantum Early Access Program ซึ่งช่วยผสานการคำนวณควอนตัมเข้ากับการประมวลผลแบบคลาสสิก DGX Quantum ใช้ OPX1000 และ Grace Hopper Superchips เพื่อลดเวลาการส่งข้อมูลให้ต่ำกว่า 4 ไมโครวินาที พร้อมรองรับ AI-driven calibration และ Quantum Error Correction นักวิจัยจาก MIT, IQCC, และสถาบันอื่น ๆ เข้าร่วมเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีใหม่นี้ ✅ NVIDIA DGX Quantum คืออะไร? - เป็น สถาปัตยกรรมอ้างอิงที่พัฒนาโดย NVIDIA และ QM - เป็นระบบแรกที่ผสาน การประมวลผลควอนตัมและคลาสสิกเข้าด้วยกัน เพื่อรองรับการคำนวณที่ซับซ้อน ✅ ความท้าทายของควอนตัมคอมพิวติ้ง—จำเป็นต้องมีพลังการประมวลผลแบบคลาสสิกเสริม - ควอนตัมคอมพิวเตอร์ต้องใช้การประมวลผลแบบคลาสสิกเพื่อ แก้ไขข้อผิดพลาด (Quantum Error Correction - QEC) และปรับพารามิเตอร์ - NVIDIA DGX Quantum ช่วยให้ ระบบมีพลังการประมวลผลมากขึ้น ลดความล่าช้าในการสื่อสารระหว่างโปรเซสเซอร์ ✅ OPX1000 ช่วยเร่งความเร็วและลดความล่าช้าในการคำนวณ - DGX Quantum ใช้ OPX1000 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มควบคุมแบบโมดูลาร์ ที่สามารถทำงานร่วมกับ Grace Hopper Superchips ของ NVIDIA - ลดเวลา รอบการส่งข้อมูลระหว่างควอนตัมกับ AI ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ให้น้อยกว่า 4 ไมโครวินาที ซึ่งเร็วกว่าวิธีอื่น ๆ ✅ 6 กลุ่มนักวิจัยที่เข้าร่วมโปรแกรม Early Access - Engineering Quantum Systems ของ MIT - Israeli Quantum Computing Center (IQCC) - Diraq—บริษัทพัฒนาฮาร์ดแวร์ควอนตัม - Quantum Circuit Group ของ ENS Lyon - Fraunhofer IAF - สถาบันวิจัยทางควอนตัมอื่น ๆ ✅ DGX Quantum รองรับ AI-driven QPU calibration และการประมวลผลแบบไฮบริด - มีการผสาน การเรียนรู้เสริมแรง (Reinforcement Learning) เพื่อช่วยเพิ่มความแม่นยำในการคำนวณควอนตัม - สามารถปรับค่า drive และ readout fidelities อย่างแม่นยำเพื่อรองรับ QEC ที่มีประสิทธิภาพสูง https://www.techpowerup.com/334928/quantum-machines-announces-nvidia-dgx-quantum-early-access-program
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Quantum Machines Announces NVIDIA DGX Quantum Early Access Program
    Quantum Machines (QM), the leading provider of advanced quantum control solutions, has recently announced the NVIDIA DGX Quantum Early Customer Program, with a cohort of six leading research groups and quantum computer builders. NVIDIA DGX Quantum, a reference architecture jointly developed by NVIDI...
    0 Comments 0 Shares 427 Views 0 Reviews
  • Intel ยืนยันว่า Core Ultra 300 'Panther Lake' จะเปิดตัวในช่วงต้นปี 2026 แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเคยปฏิเสธข่าวลือเรื่องการล่าช้า CEO Lip-Bu Tan ย้ำว่าเทคโนโลยี 18A Node ของ Intel ไม่ได้มีปัญหา และกำลังเดินหน้าตามแผน การผลิตจำนวนมากจะเริ่มก่อนสิ้นปี 2025 และในเดือนตุลาคมจะมี การเปิดตัวจำนวนจำกัดผ่านโปรแกรม EEP ขณะที่ Nova Lake จะเปิดตัวในปี 2026 เป็นรุ่นต่อจาก Panther Lake

    Panther Lake จะเปิดตัวในช่วงต้นปี 2026 ไม่ใช่ปลายปี 2025 ตามที่เคยกล่าวไว้
    - ก่อนหน้านี้ Intel เคยยืนยันว่า Panther Lake จะเปิดตัวในครึ่งหลังของปี 2025
    - ข้อมูลใหม่จากงาน Vision 2025 ระบุว่า Panther Lake จะเข้าสู่ตลาดในช่วงไตรมาสแรกของปี 2026

    ผู้บริหารยืนยันว่าการพัฒนา 18A Node ไม่ได้มีปัญหา
    - ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่า ปัญหาการผลิตบนเทคโนโลยี 18A อาจทำให้ Panther Lake ล่าช้า
    - อย่างไรก็ตาม Lip-Bu Tan CEO ของ Intel ระบุว่า โครงการเดินหน้าไปได้ดี และจะมีการผลิตจำนวนมากก่อนสิ้นปี 2025

    Intel กำลังทดสอบการผลิตแบบ Early Enablement Program (EEP)
    - Intel วางแผนเปิดตัว Panther Lake ในจำนวนจำกัดผ่านโปรแกรม EEP ในเดือนตุลาคม 2025
    - การผลิตจำนวนมากจะเริ่มในช่วงต้นปี 2026

    Panther Lake ได้รับการออกแบบให้รวมพลังของ Lunar Lake และ Arrow Lake
    - รองประธานกลุ่ม Client Computing ระบุว่า Panther Lake จะใช้พลังงานต่ำเหมือน Lunar Lake
    - มีประสิทธิภาพการประมวลผลสูงเทียบเท่า Arrow Lake
    - เป็น CPU รุ่นแรกของ Intel ที่ใช้เทคโนโลยี 18A เต็มรูปแบบ

    Nova Lake จะเปิดตัวในปี 2026 เป็นรุ่นต่อจาก Panther Lake
    - Nova Lake จะมาพร้อม สถาปัตยกรรมใหม่และโครงสร้างชิปแบบแยกส่วน
    - คาดว่าจะเป็นซีพียูสำหรับเดสก์ท็อปที่ใช้ N3 ของ TSMC ร่วมกับการออกแบบของ Intel

    https://www.techpowerup.com/334929/intel-vision-presentation-labels-core-ultra-300-panther-lake-cpu-series-as-2026-products
    Intel ยืนยันว่า Core Ultra 300 'Panther Lake' จะเปิดตัวในช่วงต้นปี 2026 แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเคยปฏิเสธข่าวลือเรื่องการล่าช้า CEO Lip-Bu Tan ย้ำว่าเทคโนโลยี 18A Node ของ Intel ไม่ได้มีปัญหา และกำลังเดินหน้าตามแผน การผลิตจำนวนมากจะเริ่มก่อนสิ้นปี 2025 และในเดือนตุลาคมจะมี การเปิดตัวจำนวนจำกัดผ่านโปรแกรม EEP ขณะที่ Nova Lake จะเปิดตัวในปี 2026 เป็นรุ่นต่อจาก Panther Lake ✅ Panther Lake จะเปิดตัวในช่วงต้นปี 2026 ไม่ใช่ปลายปี 2025 ตามที่เคยกล่าวไว้ - ก่อนหน้านี้ Intel เคยยืนยันว่า Panther Lake จะเปิดตัวในครึ่งหลังของปี 2025 - ข้อมูลใหม่จากงาน Vision 2025 ระบุว่า Panther Lake จะเข้าสู่ตลาดในช่วงไตรมาสแรกของปี 2026 ✅ ผู้บริหารยืนยันว่าการพัฒนา 18A Node ไม่ได้มีปัญหา - ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่า ปัญหาการผลิตบนเทคโนโลยี 18A อาจทำให้ Panther Lake ล่าช้า - อย่างไรก็ตาม Lip-Bu Tan CEO ของ Intel ระบุว่า โครงการเดินหน้าไปได้ดี และจะมีการผลิตจำนวนมากก่อนสิ้นปี 2025 ✅ Intel กำลังทดสอบการผลิตแบบ Early Enablement Program (EEP) - Intel วางแผนเปิดตัว Panther Lake ในจำนวนจำกัดผ่านโปรแกรม EEP ในเดือนตุลาคม 2025 - การผลิตจำนวนมากจะเริ่มในช่วงต้นปี 2026 ✅ Panther Lake ได้รับการออกแบบให้รวมพลังของ Lunar Lake และ Arrow Lake - รองประธานกลุ่ม Client Computing ระบุว่า Panther Lake จะใช้พลังงานต่ำเหมือน Lunar Lake - มีประสิทธิภาพการประมวลผลสูงเทียบเท่า Arrow Lake - เป็น CPU รุ่นแรกของ Intel ที่ใช้เทคโนโลยี 18A เต็มรูปแบบ ✅ Nova Lake จะเปิดตัวในปี 2026 เป็นรุ่นต่อจาก Panther Lake - Nova Lake จะมาพร้อม สถาปัตยกรรมใหม่และโครงสร้างชิปแบบแยกส่วน - คาดว่าจะเป็นซีพียูสำหรับเดสก์ท็อปที่ใช้ N3 ของ TSMC ร่วมกับการออกแบบของ Intel https://www.techpowerup.com/334929/intel-vision-presentation-labels-core-ultra-300-panther-lake-cpu-series-as-2026-products
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Intel Vision Presentation Labels Core Ultra 300 "Panther Lake" CPU Series as 2026 Products
    Intel's freshly concluded Vision 2025 "Products Update and GTM" showcase included a segment dedicated to forthcoming Core Ultra 300 "Panther Lake" client processors. Industry watchdogs have grabbed a select few screenshots from Team Blue's broadcast from Las Vegas, Nevada—one backdropped slide confi...
    0 Comments 0 Shares 381 Views 0 Reviews