• 0 Comments 0 Shares 11 Views 0 Reviews
  • Like
    1
    0 Comments 0 Shares 9 Views 0 Reviews
  • 🥰🥰🥰😇😇
    🥰🥰🥰😇😇
    0 Comments 0 Shares 98 Views 38 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 19 Views 0 Reviews
  • สวัสดีค่ะ
    สวัสดีค่ะ
    0 Comments 0 Shares 14 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 12 Views 0 Reviews
  • Love
    1
    0 Comments 0 Shares 12 Views 0 Reviews
  • บุคคลทำกรรมใดเเล้ว ย่อมไม่เดือดร้อนใจ
    ในภายหลัง มีปีติเอิบอิ่ม
    “ ตญฺจ กมมํ กตํ สาธุ ยํ กตฺวา นานุตปฺปติ
    ยสฺส ปีติโต สุมโน วิปากํ ปฏิเสวตีติ "

    บุคคลทำกรรมใดเเล้ว ย่อมไม่เดือดร้อนใจ
    ในภายหลัง มีปีติเอิบอิ่ม ดีใจ
    เสวยผลกรรมใด กรรมนั้นเเล
    ที่บุคคลทำเเล้วเป็นกรรมดี "
    บุคคลทำกรรมใดเเล้ว ย่อมไม่เดือดร้อนใจ ในภายหลัง มีปีติเอิบอิ่ม “ ตญฺจ กมมํ กตํ สาธุ ยํ กตฺวา นานุตปฺปติ ยสฺส ปีติโต สุมโน วิปากํ ปฏิเสวตีติ " บุคคลทำกรรมใดเเล้ว ย่อมไม่เดือดร้อนใจ ในภายหลัง มีปีติเอิบอิ่ม ดีใจ เสวยผลกรรมใด กรรมนั้นเเล ที่บุคคลทำเเล้วเป็นกรรมดี "
    Like
    1
    0 Comments 1 Shares 113 Views 0 Reviews
  • บุคคลทำกรรมใดเเล้ว ย่อมไม่เดือดร้อนใจ
    ในภายหลัง มีปีติเอิบอิ่ม
    “ ตญฺจ กมมํ กตํ สาธุ ยํ กตฺวา นานุตปฺปติ
    ยสฺส ปีติโต สุมโน วิปากํ ปฏิเสวตีติ "

    บุคคลทำกรรมใดเเล้ว ย่อมไม่เดือดร้อนใจ
    ในภายหลัง มีปีติเอิบอิ่ม ดีใจ
    เสวยผลกรรมใด กรรมนั้นเเล
    ที่บุคคลทำเเล้วเป็นกรรมดี "
    0 Comments 0 Shares 18 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 15 Views 0 Reviews
  • บุคคลทำกรรมใดเเล้ว ย่อมไม่เดือดร้อนใจ
    ในภายหลัง มีปีติเอิบอิ่ม
    บุคคลทำกรรมใดเเล้ว ย่อมไม่เดือดร้อนใจ ในภายหลัง มีปีติเอิบอิ่ม
    1 Comments 0 Shares 124 Views 38 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 6 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 127 Views 70 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 127 Views 85 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 9 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 93 Views 39 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 16 Views 0 Reviews
  • ้เซิฟหลุด หลังจากนั้นก็เข้าไม่ได้ เข้าใจ เซิฟระเบิดเถิดเทิง ช่วงเวลาคนเลิกงานในสิงคโปร์ เซิฟเลยระเบิดและแลคแบบนี้แหละ
    ที่ผมเล่น MapleSEA เพราะเซิฟไทยปิดไปนานแล้ว ตอนที่เซิฟไทยกลับมาเปิดก็ไม่ค่อยเชื่อมั่นทีมงานเซิฟไทยครับ
    ้เซิฟหลุด หลังจากนั้นก็เข้าไม่ได้ เข้าใจ เซิฟระเบิดเถิดเทิง ช่วงเวลาคนเลิกงานในสิงคโปร์ เซิฟเลยระเบิดและแลคแบบนี้แหละ ที่ผมเล่น MapleSEA เพราะเซิฟไทยปิดไปนานแล้ว ตอนที่เซิฟไทยกลับมาเปิดก็ไม่ค่อยเชื่อมั่นทีมงานเซิฟไทยครับ
    0 Comments 0 Shares 92 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 124 Views 120 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 8 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 7 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 7 Views 0 Reviews
  • ลูกที่ต้องดูแลพ่อ แม่ยามชรา เสียสละทั้งแรงกาย แรงใจ และทรัพย์แทนพี่น้อง
    อาจเป็นคนที่ไม่ใช่พ่อ แม่รักที่สุด ถูกใจที่สุด ภูมิใจที่สุดเลยก็ได้
    อาจเป็นคนที่เรียนไม่เก่ง ทำงานที่ไม่ได้มีหน้ามีตา ฐานะกลางๆ ไม่ใช่ลูกชาย หรือเป็นเพศที่สาม
    แต่ยังยืนหยัดความกตัญญู ทำเรื่องที่สมควรทำ อาจไม่ได้ต้องการมรดก เพราะใช้ทรัพย์ที่หาเองได้สบายใจกว่า มีร่างกายแข็งแรงมั่นใจเลี้ยงดูตัวเองได้

    แต่ที่ต้องการ อาจแค่อยากถูกรัก อยากถูกมองด้วยสายตาที่ภาคภูมิใจ เชื่อมั่นว่าจะประสบความสำเร็จในชีวิต มีความสุข และพวกท่านทั้งสองรู้สึกดีใจที่มีลูกคนนี้
    ลูกที่ต้องดูแลพ่อ แม่ยามชรา เสียสละทั้งแรงกาย แรงใจ และทรัพย์แทนพี่น้อง อาจเป็นคนที่ไม่ใช่พ่อ แม่รักที่สุด ถูกใจที่สุด ภูมิใจที่สุดเลยก็ได้ อาจเป็นคนที่เรียนไม่เก่ง ทำงานที่ไม่ได้มีหน้ามีตา ฐานะกลางๆ ไม่ใช่ลูกชาย หรือเป็นเพศที่สาม แต่ยังยืนหยัดความกตัญญู ทำเรื่องที่สมควรทำ อาจไม่ได้ต้องการมรดก เพราะใช้ทรัพย์ที่หาเองได้สบายใจกว่า มีร่างกายแข็งแรงมั่นใจเลี้ยงดูตัวเองได้ แต่ที่ต้องการ อาจแค่อยากถูกรัก อยากถูกมองด้วยสายตาที่ภาคภูมิใจ เชื่อมั่นว่าจะประสบความสำเร็จในชีวิต มีความสุข และพวกท่านทั้งสองรู้สึกดีใจที่มีลูกคนนี้
    0 Comments 0 Shares 79 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 7 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 8 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 11 Views 0 Reviews
  • Like
    1
    0 Comments 0 Shares 120 Views 207 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 15 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 6 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 7 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 4 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 6 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 7 Views 0 Reviews
  • Like
    1
    0 Comments 0 Shares 5 Views 0 Reviews
  • ชีวิตนักลงทุน
    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
    ชีวิตนักลงทุน #หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 770 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 4 Views 0 Reviews
  • ประโยชน์ของแว่นกันแดด

    ประโยชน์ของแว่นกันแดด
    0 Comments 0 Shares 105 Views 230 0 Reviews
  • ตอนเช้าไม่ได้ฟัง เราก็มาฟังยัอนหลังได้ค่ะ … พี่โสกับพี่มนตรี รายการพูดนอกสภา

    https://www.youtube.com/live/_QdVFccyvdo?feature=shared
    ตอนเช้าไม่ได้ฟัง เราก็มาฟังยัอนหลังได้ค่ะ … พี่โสกับพี่มนตรี รายการพูดนอกสภา https://www.youtube.com/live/_QdVFccyvdo?feature=shared
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 82 Views 0 Reviews
  • #ดึกแล้วโพสต์รูปของกินได้

    #กล้วยไข่เชื่อม แยกน้ำเชื่อมแต่ใส่กะทิแทน หวานๆ เค็มๆ ตัดกันดี๊ดี

    #วันจันทร์สีเหลือง
    #ดึกแล้วโพสต์รูปของกินได้ #กล้วยไข่เชื่อม แยกน้ำเชื่อมแต่ใส่กะทิแทน หวานๆ เค็มๆ ตัดกันดี๊ดี #วันจันทร์สีเหลือง
    0 Comments 0 Shares 79 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 5 Views 0 Reviews
  • ชีวิตนักลงทุน
    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
    ชีวิตนักลงทุน #หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
    0 Comments 0 Shares 829 Views 422 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 8 Views 0 Reviews
  • บ้านฉันครอบครัวคนจีน ค่อนข้างอนุรักษ์นิยม พี่ น้องหลายคน เราจึงต้องแบ่วปัน หรือร่วมกันในหลายๆ อย่าง
    อาจถูกบุกรุกความเป็นส่วนตัวได้โดยไม่ทันคิด เพราะความเคยชินที่ต้องแบ่งปัน หรือร่วมกัน
    ฉันเลยระแวงว่าสมุดบันทึจะถูกแอบเปิดอ่านบ้างหรือเปล่า เวลเขียนจึงเลือกเขียนแต่เรื่องดี ไม่ก็วาดรูปแทน สุดท้ายรำคาญตัวเอง จะโลกสวยไปไหน เลิกเขียน

    เขียนลงโซเชี่ยล ไม่เหลือ จะรอดได้ไง

    บ้านคนเยอะ ถ้าจัดงานกีฬาสี คงครบทุกสี แต่สีที่ฉันอยู่มีฉันคนเดียว ที่นี่คงไม่มีใครตามฉันมา ฉันเลยสบายใจ อยากพูด อยากทำอะไร อิสระ

    แต่ว่า เหมือนน้ำที่ขุ่นข้น บัดนี้นิ่งใสตกตะกอน ฉันจึงเห็นอะไรนอนก้นอยู่ใต้น้ำนั่นเต็มไปหมดเลย
    ทั้งของที่ไม่ได้ใช้แล้ว ของที่จงใจจมน้ำซ่อนเอาไว้ ของที่หมักหมมยังไม่ได้สะสาง

    มันน่ากลัวอย่างนี้นี่เอง เวลาได้เห็นตัวเองชัดๆ
    ถึงว่า คนถึงได้คอยหลบเลี่ยงที่จะรู้จักตัวเอง
    ถึงว่า ที่เขาบอกว่า การจดบันทึก คือ การได้พูดคุย ทบทวนตัวเอง
    ถึงว่า คนที่ชอบพัฒนาตัวเองเขาถึงชอบจดบันทึก

    ฉันไม่ได้อยากพัฒนาอะไรหรอก แต่ให้นึกภาพ ฉันได้มาเจอตัวฉันสักที เรามองหน้ากัน สื่อสารกันตัวต่อตัว
    ฉันอยากได้คุยกับตัวฉันมานานแล้วนี่นา และที่นี่ คือที่ของเรานะ


    บ้านฉันครอบครัวคนจีน ค่อนข้างอนุรักษ์นิยม พี่ น้องหลายคน เราจึงต้องแบ่วปัน หรือร่วมกันในหลายๆ อย่าง อาจถูกบุกรุกความเป็นส่วนตัวได้โดยไม่ทันคิด เพราะความเคยชินที่ต้องแบ่งปัน หรือร่วมกัน ฉันเลยระแวงว่าสมุดบันทึจะถูกแอบเปิดอ่านบ้างหรือเปล่า เวลเขียนจึงเลือกเขียนแต่เรื่องดี ไม่ก็วาดรูปแทน สุดท้ายรำคาญตัวเอง จะโลกสวยไปไหน เลิกเขียน เขียนลงโซเชี่ยล ไม่เหลือ จะรอดได้ไง บ้านคนเยอะ ถ้าจัดงานกีฬาสี คงครบทุกสี แต่สีที่ฉันอยู่มีฉันคนเดียว ที่นี่คงไม่มีใครตามฉันมา ฉันเลยสบายใจ อยากพูด อยากทำอะไร อิสระ แต่ว่า เหมือนน้ำที่ขุ่นข้น บัดนี้นิ่งใสตกตะกอน ฉันจึงเห็นอะไรนอนก้นอยู่ใต้น้ำนั่นเต็มไปหมดเลย ทั้งของที่ไม่ได้ใช้แล้ว ของที่จงใจจมน้ำซ่อนเอาไว้ ของที่หมักหมมยังไม่ได้สะสาง มันน่ากลัวอย่างนี้นี่เอง เวลาได้เห็นตัวเองชัดๆ ถึงว่า คนถึงได้คอยหลบเลี่ยงที่จะรู้จักตัวเอง ถึงว่า ที่เขาบอกว่า การจดบันทึก คือ การได้พูดคุย ทบทวนตัวเอง ถึงว่า คนที่ชอบพัฒนาตัวเองเขาถึงชอบจดบันทึก ฉันไม่ได้อยากพัฒนาอะไรหรอก แต่ให้นึกภาพ ฉันได้มาเจอตัวฉันสักที เรามองหน้ากัน สื่อสารกันตัวต่อตัว ฉันอยากได้คุยกับตัวฉันมานานแล้วนี่นา และที่นี่ คือที่ของเรานะ
    0 Comments 0 Shares 129 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 5 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 4 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 6 Views 0 Reviews
  • พัชรี ว่องไววิทย์ - Pachäree Wõng 黄香山 อายุ 65 ปี
    สถานภาพ : แต่งงานแล้ว ลูก 3 หลาน 8 เหลน 2
    เชื้อชาติ : จีน(กวางตุ้ง) สัญชาติ : ไทย-อเมริกัน
    อาชีพ : วิศวกรเครื่องกล-ไฟฟ้า / อาจารย์มหาวิทยาลัย / นักธุรกิจ
    อาศัยอยู่ที่ : Sausalito / San Francisco แคลิฟอร์เนีย, สหรัฐฯ
    นับถือพุทธศาสนา(สันติอโศก) ไม่กินเนื้อสัตว์ กินวันละมื้อเดียว ปฏิบัติธรรมสมาธิ-วิปัสสนา
    กีฬา : Ice Skating, Weight Trainning, Cycling, Shooting, Trekking, Swimming, Car Racing.
    เพลง : สากล จีน(กวางตุ้ง) เกือบทุกแนว ป๊อป ร๊อค แจ๊ส R&B
    หนังสือ : แนวปรัชญา-ศาสนา-การเมือง เทคโนโลยี สารคดี ท่องเที่ยว อาหาร(มังสวิรัติ) สุขภาพ
    พรรคการเมือง : VoteNO never NOVOTE
    พัชรี ว่องไววิทย์ - Pachäree Wõng 黄香山 อายุ 65 ปี สถานภาพ : แต่งงานแล้ว ลูก 3 หลาน 8 เหลน 2 เชื้อชาติ : จีน(กวางตุ้ง) สัญชาติ : ไทย-อเมริกัน อาชีพ : วิศวกรเครื่องกล-ไฟฟ้า / อาจารย์มหาวิทยาลัย / นักธุรกิจ อาศัยอยู่ที่ : Sausalito / San Francisco แคลิฟอร์เนีย, สหรัฐฯ นับถือพุทธศาสนา(สันติอโศก) ไม่กินเนื้อสัตว์ กินวันละมื้อเดียว ปฏิบัติธรรมสมาธิ-วิปัสสนา กีฬา : Ice Skating, Weight Trainning, Cycling, Shooting, Trekking, Swimming, Car Racing. เพลง : สากล จีน(กวางตุ้ง) เกือบทุกแนว ป๊อป ร๊อค แจ๊ส R&B หนังสือ : แนวปรัชญา-ศาสนา-การเมือง เทคโนโลยี สารคดี ท่องเที่ยว อาหาร(มังสวิรัติ) สุขภาพ พรรคการเมือง : VoteNO never NOVOTE
    Like
    Love
    2
    0 Comments 0 Shares 20 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 5 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 10 Views 0 Reviews
  • 8 อุปนิสัยสำหรับผู้มีประสิทธิผลสูง
    8 อุปนิสัยสำหรับผู้มีประสิทธิผลสูง
    0 Comments 0 Shares 100 Views 32 0 Reviews
  • จะบอกติ่งๆทั้งหลายว่า……โหด……มัน……ฮานิดหน่อย ไม่มีใครเกินพี่ปูคนนี้….

    ตอนสิบสอง……สู่บัลลังก์อำนาจ ด้วยการผ่านอุปสรรคที่เกิดขึ้นรายวัน……ไม่ว่าบู๊……ว่าบุ๋น……!!!

    ประธานาธิบดีบุชได้โทรกลับมา ปูตินได้แสดงความเสียใจและเศร้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างจริงใจ
    ความโกรธ ความชังอเมริกันที่นาโต้ไปบอมบ์ที่ Kosovo ก็พักไว้ก่อน
    ประชาชนชาวรัสเซียได้นำดอกไม้ไปวางเพื่อแสดงความเสียใจที่หน้าสถานทูตอเมริกาเป็นกองพะเนิน
    ปูตินได้ย้ำกับปธน. บุช ว่า……
    “ในช่วงเวลาที่วุ่นวาย โหดร้ายเช่นนี้ ……เราจะยืนหยัดสู้ไปด้วยกัน……”
    ที่ลึกๆแล้ว……ปูตินมีความประทับใจในประธานาธิบดีบุชอยู่เป็นทุน
    เนื่องจากตอนที่บุชหาเสียงในปี 1999 (คู่แข่งคือ นาย Al Gore)
    เขาได้ประกาศนโยบายว่า ……จะไม่ยุ่งกับสงครามเชเชน..…

    เมื่อทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ทั้งคู่จึงได้พบกันเป็นครั้วแรกใน เดือนมิถุนายน
    2001 ที่ Ljubljana, Slovenia
    คราวนี้ต่างคนต่างเตรียมตัวมาดี ในการ(แอบ) อ่านประวัติส่วนตัวของคู่สนทนากันมา เช่น
    ปูตินชวนบุชคุยถึงเรื่องรักบี้ (เพราะเป็นกีฬาโปรดสมัยหนุ่ม)
    แต่บุชมาเหนือกว่า……เขาถามปูตินถึงเรื่อง”กางเขน” ที่ถูกไฟไหม้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น้อยคนจะทราบ
    เล่นเอาปูติน…งงไปพักนึง(นับว่าการข่าวของอเมริกันนั้น เชื่อถือได้ในระดับหนึ่ง

    ต่อภายหลังเมื่อมีคนถามบุช…ว่า คิดว่าคนอย่างปูตินเป็นอย่างไร?
    เขาตอบว่า เป็นคนตรงไปตรงมา เป็นคนที่มั่นคงกับการเห็นชาติพัฒนาไปในทางที่ดี ผมชอบเขานะ……ได้เขิญเขามาเที่ยวที่บ้านไร่ในเท็กซัสด้วย”
    ทั้งๆที่งานนี้……มีแต่คนสงสัยว่า จะเชื่อปูตินได้ยังไง ในเมื่อ KGB เก่าพวกนี้
    เขาไม่เคยพูดความจริงอะไรกับใคร……

    ในช่วงของการขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี ปูตินเดินทางไปทั่วรัสเซีย
    และอีก 18 ประเทศ ที่มีลุดมิลาเคียงคู่ไปด้วย เป็นการประกาศกลายๆ
    ว่าโลกได้ปลอดจากสงครามเย็นไปแล้ว และตอนนี้รัสเซียพร้อมที่จะเปิดกว้างกับการที่จะก้าวสู่การเป็นประเทศที่พัฒนาอย่างเต็มสูบ

    ในปี 2001 ปูตินปิดหน่วยงาน(โซเวียต) ที่ คิวบา, เวียดนาม
    พร้อมทั้งหันมาพัฒนากองทัพเต็มรูปแบบ และเพิ่มประสิทธิภาพทางฝั่งเหนือของคอร์เคซัส ในการที่จะส่ายตาหากลุ่มอิสลามหัวรุนแรง

    หลังจากวิกฤต 9/11 ปูตินอ่อนข้อให้กับการขยายเขตแดนของนาโต้ ที่ก้าวเข้ามากวาด Lithuania, Latvia, Estonia ที่อยู่ติดกับรัสเซีย
    บางครั้งปูตินยังเคยบอกว่า……รัสเซียเองก็สนใจที่จะเข้าร่วมในนาโต้ด้วยเช่นกัน (ไม่รู้ว่าประชด หรือ พูดจริง)
    อเมริกาได้เปิดฉากทำสงครามล้างแค้นกับกลุ่มอัลเคดะห์ และ กลุ่มตาลีบัน
    ในอาฟกานิสถาน ในเดือนตุลาคม ที่ปูตินได้ช่วยทั้งเงินและอาวุธ
    ช่วยกองทัพอัฟกันในการต่อต้านกับตาลีบัน
    และได้โอนอ่อน…ไม่ขัดขวางเมื่อกองทัพอเมริกันมาตั้งฐานที่ Uzbekistan และ Kyrgyzstan
    ซึ่งนี่คือประวัติศาสตร์ครั้งแรกที่กองทัพอเมริกันได้เข้ามาเหยียบในแผ่นดินฝั่งนี้ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง

    หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุกับเรือดำน้ำ Kursk ปูตินได้หันมาจี้เรื่องกองทัพด้วยตัวเอง เขาปลดพวกนายพลเช้าชามเย็นชามออกไปเป็นแผง
    เพิ่มเงินเดือนให้กับทหารรุ่นใหม่ พร้อมสวัสดิการอัดแน่น
    ทำเพลงชาติให้มีเนื้อเพลงคำร้อง ให้ทันสมัย ให้พ้นไปจากเงาของโซเวียต
    เพราะตอนที่นักกีฬารัสเซียไปแข่งในโอลิมปิคที่ซิดนีย์ ในปี 2000
    ได้เหรียญมากันทุกชนิด แต่เวลาขึ้นแท่นรับเหรียญ ไม่สามารถร้องเพลงชาติได้ เพราะมีแต่ดนตรี
    ชาวรัสเชี่ยนเริ่มมีชีวิตชีวากับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ และชื่นชมปูตินที่เขาได้พูดถึงก้าวใหม่นี้ว่า
    “ใครก็ตามที่ไม่รู้สึกรู้สมกับความล่มสลายของโซเวียต คือคนไม่มีหัวใจ
    และใครก็ตามที่ไม่อยากก้าวไปข้างหน้า…คือคนไม่มีสมอง…”

    การปฏิวัติทางด้านกองทัพ เขาได้แต่งตั้ง Sergei Ivanov (KGB เพื่อนเก่าและร่วมมหาวิทยาลัย เชี่ยวชาญภาษาอังกฤษ และ สวีดิช)
    ขึ้นมาคุมกำลัง เป็น รัฐมนตรีกลาโหม
    และฝ่ายงบประมาณกองทัพ คือ Lyubov Kudelina เพื่อมาดูแลเรื่องเงิน
    ส่วนนายพลที่มีประวัติมือไม่สะอาด เช่นYevgeny Adamov (สมัยเยลซิน)
    ที่มีส่วนพัวพันกับเปอร์เซ็นต์ในงบสร้างฐานนิวเคลียร์ พร้อมกับคนอื่นๆ
    ถูกส่งเข้าเก็บกรุนายพลที่ไร้สมรรถภาพ…

    รัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ อิวานอฟ ทำงานเร็วทันใจ เพียงสามวันหลังจากเหตุการณ์ 9/11 เขาได้ส่งสัญญาณให้ปูตินทราบว่า อเมริกากำลังขยายกำลังของนาโต้เข้ามาในส่วนของฝั่งชายขอบเอเซียกลาง (กลุ่มประเทศที่ลงท้ายด้วยคำว่า สถาน ทั้งหลาย)
    แต่ปูติน……มองเห็นว่า การสร้างสัมพันธภาพอันดีกับบุช คือสิ่งจำเป็น
    อย่างอื่นค่อยมาว่ากันทีหลัง…
    และการที่จะสร้างสัมพันธไมตรีอันดี อย่างแรกเลยที่เขาจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง โดยการเรียนภาษาอังกฤษวันละหนึ่งชั่วโมงที่สถาบัน
    American Diplomacy and Commerce และเขาได้ใช้เป็นครั้งแรกในการสนทนากับบุช ในภาษาอังกฤษสำเนียงรัสเซียปนเยอรมันว่า
    “ผมเห็นว่าคุณตั้งชื่อลูกสาวตามชื่อแม่ และ แม่ยายของคุณ……”
    “นั่นซิ…ก็ผมมันเป็นนักการเมืองชั้นเยี่ยมไงล่ะ..”
    “เออ……ใช่จริงๆ เพราะของผมก็เหมือนกัน..”
    แล้วสองคนก็หัวเราะเฮฮากันไป

    สองคนนี้ได้พบกันอีกครั้งเมื่อการประชุม Asia-Pacific Economic Cooperation Summit ที่เซี่ยงไฮ้ ในเดือนตุลาคม
    และได้คุยกันถึงเรื่องการสร้าง(จำนวน) ซ้อม(ยิง) นิวเคลียร์ที่ยังไม่ชัดเจน
    ที่ทำให้ประธานาธิบดีบุช ต้องเชิญปูตินไปยังทำเนียบขาว สหรัฐอเมริกาในเดือน พฤศจิกายน
    เขาได้ไปเยี่ยมไร่ของบุชที่เท๊กซัสเป็นการส่วนตัว มีการเลี้ยงปิ้งย่าง บาร์บีคิว ปูตินได้กล่าวว่า
    “ผมไม่เคยไปเยี่ยมเยียนผู้คนไหนถึงในบ้านเลย…นับว่าเป็นโชคดีที่ได้มาถึงที่นี่ “
    และเขาได้ไปดูตึกที่ถล่มทลายและได้แสดงความอาลัย

    แต่.…เพียงสามอาทิตย์ต่อมา บุชได้โทรศัพท์มาถึงปูติน บอกว่า
    นโยบายทางเพนตากอนได้มีมติให้อเมริกาถอนตัวไม่เข้าร่วมกับโครงการ
    ABM (Anti-Ballistic Missile)
    เท่ากับว่า….ปูตินถูกอเมริกาเทอย่างหน้าตาเฉย…ทั้งๆที่เริ่มต้นทำท่าจะดี..

    การก่อกวนในเชเชนหลังจากสงครามยังไม่หยุด กลุ่มหัวรุนแรงได้เริ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่ปูตินได้ประกาศว่า ต้องยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไขเท่านั้น
    จึงทำให้เกิดคลื่นใต้น้ำเป็นขบวนการใต้ดิน
    ที่ทำให้เกิดการจับคนดูเป็นตัวประกันที่ โรงละคร Palace of Culture ในกรุงมอสโคว์ วันที่ 24 ตุลาคม 2002 ที่กำลังแสดงละครย้อนยุคที่ทุ่มทุนสร้างมหาศาล บัตรใบละ 15 ดอลล่าร์ (เทียบเท่า ที่นับว่าแพงมาก)
    โดยกลุ่มผู้ก่อการร้ายแต่งกายเป็นคนงาน ขึ้นไปบนเวที
    ท่ามกลางความสับสนของคนดู ที่คิดว่าเป็นส่วนหนึ่งของการแสดง
    แต่.…คณะผู้ก่อการร้ายในการนำของ Movsar Barayev** ได้กราดกระสุน AK-47 ขึ้นไปบนเพดาน และประกาศว่า ประตูทุกบานได้มีสลักระเบิดผูกติดอยู่
    ผู้หญิงคนหนึ่งในชุดเสื้อคลุมสีดำ ได้ก้าวเข้ามาอยู่กลางกลุ่มคนดู
    และเปิดเสื้อคลุมให้เห็นว่า ข้างในนั้น ร่างของเธอได้ผูกติดระเบิดเอาไว้
    พร้อมที่จะดึงสลัก หากว่า……มีเจ้าหน้าที่จู่โจมเข้ามา
    ทั้งประกาศก้องว่า….ในนามพระอัลลาห์ พวกเราตายหนึ่ง แต่จะเกิดร้อย
    และถ้าใครมีโทรศัพท์……ให้โทรไปบอกครอบครัวได้เลยว่า
    ต้องตายเพราะสงครามเชเชน และถ้าอยากรอด……หนทางเดียวคือรัสเซียต้องถอนทัพออกไป เลิกสงครามทันที…!!!

    ปูตินอยู่ในสภาพที่หลังชนกำแพง จากที่กองทัพทำสงครามยืดเยื้อในเชเชน……หน่วย FSB ที่ทำงานประสาอะไรปล่อยให้ผู้ก่อการร้ายเข้ามาถึงในมอสโคว์
    เขายกเลิกแผนการเดินทางทั้งหมด (ที่จะไป เยอรมัน,โปรตุเกส และ เม๊กซิโก)
    เรียกหน่วยข่าวกรอง บรรดาสายลับทั้งหลาย และตัวหัวหน้า Nikolai Patrushev เข้ามาพบโดยด่วน เตรียมการบุกโรงละคร
    เรียกหน่วยคอมมานโดให้เตรียมพร้อม
    คนค้าน……คือ นายกรัฐมนตรี Mikhaïl Kasyanov ด้วยเกรงว่าการทำอย่างนี้เสี่ยงเกินไป ผู้บริสุทธิ์อาจจะได้รับเคราะห์
    ปูตินบอกว่า “ถ้าป๊อด……ก็ออกไปห่างๆเลย……”
    เขาได้ส่งท่านนายกรัฐมนตรีมิเกล ออกไปประชุมแทนในตามรายชื่อประเทศ…จะได้ไม่ต้องมารับรู้อะไร

    ข้างในโรงละคร…ในกลุ่มคนดู ก็มีบุคคลสำคัญหลายคนในหลายวงการ
    ส่วนผู้ที่ได้ถูกปล่อยตัวออกมา คือ กลุ่มเด็กเล็กจำนวน 39 คน ที่ได้ให้การว่ากลุ่มผู้ก่อการร้ายส่วนใหญ่เป็นเด็กวัยรุ่น ที่เติบโตมากับสงครามในคอร์เคซัส ไม่ได้เรียนหนังสือ เพราะยังไม่รู้เรื่องราวอะไรมากนัก
    เมื่อถูกถามว่า “ที่อยากให้เลิกสงคราม หมายความว่าอะไร..เพื่อ..?”
    คนกลุ่มนั้น ตอบไม่ได้ ลังเล ไม่แน่ใจ……
    ในวันที่สองของการจับตัวประกัน ที่ทุกคนเริ่มอ่อนล้า หิวโหย กระหาย
    วิตก……
    กลุ่มก่อการร้ายได้สังหารคนไปหลายคน ที่พยายามหาทางออก
    เจ้าหน้าที่ได้เจรจาขอให้มีการส่งอาหารและน้ำได้สำเร็จ

    ตีห้าของวันรุ่งขึ้น ขณะที่ทุกคนกำลังหลับ อ่อนแรง เตรียมพร้อมกับการที่จะเจรจาในตอนสิบโมงเช้า ตามที่เครมลินได้ส่งข่าวมา
    ทางหน่วยคอมมานโดที่ได้เจาะอุโมงค์ใต้ดินเข้าไปจากอาคารข้างๆ และได้ติดไมโครโฟนดักฟังจนรู้ตำแหน่งของผู้ก่อการร้าย
    กังวลที่สุด คือ อาคารทั้งหลังอาจจะระเบิดขึ้นมาได้
    ปูตินได้สั่งการเด็ดขาดว่า……จับตายทั้งหมดเท่านั้น……!!
    การใช้ ยาสลบ fentanyl ที่เป็นอาวุธชนิดหนึ่งของ FSB ได้ทำการแสดงฝีมือ คือ ฉีดส่งเข้าไปในท่อระบายอากาศ ที่ทำให้ทุกคนหลับแบบร่วงผล็อย
    แต่กลุ่มที่ระวังอยู่ด้านนอก มีการปะทะดุเดือด กลุ่มผู้ก่อการร้าย 41 คน
    มีกระสุนเจาะที่สมอง…… ตัวหัวหน้า Barayev ได้ถูกสังหารในวันคล้ายวันเกิดของตัวเอง
    แต่ตัวประกันได้เสียชีวิตไปกว่าร้อยคน จากการโดนสังหารของผู้ก่อการร้าย และ บางคนเสียชีวิตเพราะสารยาสลบ เพราะมีอายุ และสุขภาพที่ไม่ดี

    ปูตินได้ออกโทรทัศน์ เพื่อทำการขอโทษประชาชนที่เขาไม่สามารถรักษาชีวิตได้ทุกคน ……แต่รัสเซียจะไม่ยอมให้หน้าไหนมาหยาม..!!

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันได้บอกกับปูตินว่าสงครามได้มาในรูปแบบใหม่
    ที่ได้ก้าวล่วงเข้ามาก่อกวนในประเทศ และที่นอกประเทศในขอบชายแดน
    ก็ขยายวงขึ้นเพราะการได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มที่ต้องการแบ่งแยกแผ่นดิน ปูตินไม่มีทางอื่น นอกจากต้องหักเท่านั้น……ไม่มีงอ
    ข่าวนี้……ทำให้ Aslan Maskhadov หัวหน้ากบฎเชเชนที่ได้ใช้ตัวแทนในโคเปนเฮเกน มาเสนอการเจรจาสันติภาพแบบไม่มีเงื่อนไข
    แต่ทางเครมลิน……ปฏิเสธ ไม่เจรจา แถมยังประกาศจับตัวแทนเจรจา Ahmed Zakayev(อดีตรองนายกรัฐมนตรีเชเชน และ เป็นฝ่ายโปรกบฏ)
    เดนมาร์ก……จับตัวให้ แต่ไม่ส่งให้รัสเซีย เพราะข้อกล่าวหาทางรัสเซียที่พัวพันไปในเรื่องโรงละครด้วย

    คนที่ออกมารับหน้าในเรื่องโรงละคร คือ Shamil Basayev**(หัวหน้าใหญ่กลุ่มกบฏเชเชน) ที่ออกมาประกาศกร้าวว่า “นี่คือบทเรียนที่รัสเซียสมควรได้รับ..”
    ปูตินรับคำขู่ด้วยการขานรับ เล่นงานเชเชนหนักขึ้น
    ฝ่ายโลกเสรีได้ยิงคำถามในเรื่องการใช้อาวุธด้วยการฝังทุ่นระเบิดไปทั่ว
    เขาตอบว่า “ ในวินาทีนี้ ใครก็ตามที่นับถือศาสนาคริสต์ ล้วนแต่ตกอยู่ในอันตราย แต่ถ้าจะเปลี่ยนเป็นมุสลิม……ก็ไม่รอด เพราะเขาเชื่อว่าการตายคือการไปพบพระเจ้า…ไม่ใช่หรือ……?!!
    และต่อด้วยภาษานักเลงสุดๆ กับนักข่าวที่ถาม (จนบางคนไม่กล้าแปล…)
    ว่า……

    “ ถ้าคุณตัดสินใจอยากจะเป็นมุสลิมอย่างที่พวกเขาเป็น และพร้อมที่จะไปพบกับพระเจ้า…ขอเชิญไปที่มอสโคว์ เพราะพวกเราไม่ใช่ประชาธิปไตยเต็มตัว และรับรองได้ว่า เรามีสารพัดวิธีที่คุณจะไม่เติบโตต่อไปอีก………”

    **Shamil Basayev ผู้ก่อการร้ายตัวยง ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ร้ายที่ทั้งโลกต้องการตัว เขาเป็นคนวางแผนเรื่องโรงละคร และการวางระเบิดเครื่องบินรัสเซีย เขาได้ถูกสังหารด้วยระเบิดกับดักที่มากับรถบรรทุก ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2006

    Wiwanda W. Vichit
    จะบอกติ่งๆทั้งหลายว่า……โหด……มัน……ฮานิดหน่อย ไม่มีใครเกินพี่ปูคนนี้…. ตอนสิบสอง……สู่บัลลังก์อำนาจ ด้วยการผ่านอุปสรรคที่เกิดขึ้นรายวัน……ไม่ว่าบู๊……ว่าบุ๋น……!!! ประธานาธิบดีบุชได้โทรกลับมา ปูตินได้แสดงความเสียใจและเศร้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างจริงใจ ความโกรธ ความชังอเมริกันที่นาโต้ไปบอมบ์ที่ Kosovo ก็พักไว้ก่อน ประชาชนชาวรัสเซียได้นำดอกไม้ไปวางเพื่อแสดงความเสียใจที่หน้าสถานทูตอเมริกาเป็นกองพะเนิน ปูตินได้ย้ำกับปธน. บุช ว่า…… “ในช่วงเวลาที่วุ่นวาย โหดร้ายเช่นนี้ ……เราจะยืนหยัดสู้ไปด้วยกัน……” ที่ลึกๆแล้ว……ปูตินมีความประทับใจในประธานาธิบดีบุชอยู่เป็นทุน เนื่องจากตอนที่บุชหาเสียงในปี 1999 (คู่แข่งคือ นาย Al Gore) เขาได้ประกาศนโยบายว่า ……จะไม่ยุ่งกับสงครามเชเชน..… เมื่อทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ทั้งคู่จึงได้พบกันเป็นครั้วแรกใน เดือนมิถุนายน 2001 ที่ Ljubljana, Slovenia คราวนี้ต่างคนต่างเตรียมตัวมาดี ในการ(แอบ) อ่านประวัติส่วนตัวของคู่สนทนากันมา เช่น ปูตินชวนบุชคุยถึงเรื่องรักบี้ (เพราะเป็นกีฬาโปรดสมัยหนุ่ม) แต่บุชมาเหนือกว่า……เขาถามปูตินถึงเรื่อง”กางเขน” ที่ถูกไฟไหม้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น้อยคนจะทราบ เล่นเอาปูติน…งงไปพักนึง(นับว่าการข่าวของอเมริกันนั้น เชื่อถือได้ในระดับหนึ่ง ต่อภายหลังเมื่อมีคนถามบุช…ว่า คิดว่าคนอย่างปูตินเป็นอย่างไร? เขาตอบว่า เป็นคนตรงไปตรงมา เป็นคนที่มั่นคงกับการเห็นชาติพัฒนาไปในทางที่ดี ผมชอบเขานะ……ได้เขิญเขามาเที่ยวที่บ้านไร่ในเท็กซัสด้วย” ทั้งๆที่งานนี้……มีแต่คนสงสัยว่า จะเชื่อปูตินได้ยังไง ในเมื่อ KGB เก่าพวกนี้ เขาไม่เคยพูดความจริงอะไรกับใคร…… ในช่วงของการขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี ปูตินเดินทางไปทั่วรัสเซีย และอีก 18 ประเทศ ที่มีลุดมิลาเคียงคู่ไปด้วย เป็นการประกาศกลายๆ ว่าโลกได้ปลอดจากสงครามเย็นไปแล้ว และตอนนี้รัสเซียพร้อมที่จะเปิดกว้างกับการที่จะก้าวสู่การเป็นประเทศที่พัฒนาอย่างเต็มสูบ ในปี 2001 ปูตินปิดหน่วยงาน(โซเวียต) ที่ คิวบา, เวียดนาม พร้อมทั้งหันมาพัฒนากองทัพเต็มรูปแบบ และเพิ่มประสิทธิภาพทางฝั่งเหนือของคอร์เคซัส ในการที่จะส่ายตาหากลุ่มอิสลามหัวรุนแรง หลังจากวิกฤต 9/11 ปูตินอ่อนข้อให้กับการขยายเขตแดนของนาโต้ ที่ก้าวเข้ามากวาด Lithuania, Latvia, Estonia ที่อยู่ติดกับรัสเซีย บางครั้งปูตินยังเคยบอกว่า……รัสเซียเองก็สนใจที่จะเข้าร่วมในนาโต้ด้วยเช่นกัน (ไม่รู้ว่าประชด หรือ พูดจริง) อเมริกาได้เปิดฉากทำสงครามล้างแค้นกับกลุ่มอัลเคดะห์ และ กลุ่มตาลีบัน ในอาฟกานิสถาน ในเดือนตุลาคม ที่ปูตินได้ช่วยทั้งเงินและอาวุธ ช่วยกองทัพอัฟกันในการต่อต้านกับตาลีบัน และได้โอนอ่อน…ไม่ขัดขวางเมื่อกองทัพอเมริกันมาตั้งฐานที่ Uzbekistan และ Kyrgyzstan ซึ่งนี่คือประวัติศาสตร์ครั้งแรกที่กองทัพอเมริกันได้เข้ามาเหยียบในแผ่นดินฝั่งนี้ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุกับเรือดำน้ำ Kursk ปูตินได้หันมาจี้เรื่องกองทัพด้วยตัวเอง เขาปลดพวกนายพลเช้าชามเย็นชามออกไปเป็นแผง เพิ่มเงินเดือนให้กับทหารรุ่นใหม่ พร้อมสวัสดิการอัดแน่น ทำเพลงชาติให้มีเนื้อเพลงคำร้อง ให้ทันสมัย ให้พ้นไปจากเงาของโซเวียต เพราะตอนที่นักกีฬารัสเซียไปแข่งในโอลิมปิคที่ซิดนีย์ ในปี 2000 ได้เหรียญมากันทุกชนิด แต่เวลาขึ้นแท่นรับเหรียญ ไม่สามารถร้องเพลงชาติได้ เพราะมีแต่ดนตรี ชาวรัสเชี่ยนเริ่มมีชีวิตชีวากับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ และชื่นชมปูตินที่เขาได้พูดถึงก้าวใหม่นี้ว่า “ใครก็ตามที่ไม่รู้สึกรู้สมกับความล่มสลายของโซเวียต คือคนไม่มีหัวใจ และใครก็ตามที่ไม่อยากก้าวไปข้างหน้า…คือคนไม่มีสมอง…” การปฏิวัติทางด้านกองทัพ เขาได้แต่งตั้ง Sergei Ivanov (KGB เพื่อนเก่าและร่วมมหาวิทยาลัย เชี่ยวชาญภาษาอังกฤษ และ สวีดิช) ขึ้นมาคุมกำลัง เป็น รัฐมนตรีกลาโหม และฝ่ายงบประมาณกองทัพ คือ Lyubov Kudelina เพื่อมาดูแลเรื่องเงิน ส่วนนายพลที่มีประวัติมือไม่สะอาด เช่นYevgeny Adamov (สมัยเยลซิน) ที่มีส่วนพัวพันกับเปอร์เซ็นต์ในงบสร้างฐานนิวเคลียร์ พร้อมกับคนอื่นๆ ถูกส่งเข้าเก็บกรุนายพลที่ไร้สมรรถภาพ… รัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ อิวานอฟ ทำงานเร็วทันใจ เพียงสามวันหลังจากเหตุการณ์ 9/11 เขาได้ส่งสัญญาณให้ปูตินทราบว่า อเมริกากำลังขยายกำลังของนาโต้เข้ามาในส่วนของฝั่งชายขอบเอเซียกลาง (กลุ่มประเทศที่ลงท้ายด้วยคำว่า สถาน ทั้งหลาย) แต่ปูติน……มองเห็นว่า การสร้างสัมพันธภาพอันดีกับบุช คือสิ่งจำเป็น อย่างอื่นค่อยมาว่ากันทีหลัง… และการที่จะสร้างสัมพันธไมตรีอันดี อย่างแรกเลยที่เขาจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง โดยการเรียนภาษาอังกฤษวันละหนึ่งชั่วโมงที่สถาบัน American Diplomacy and Commerce และเขาได้ใช้เป็นครั้งแรกในการสนทนากับบุช ในภาษาอังกฤษสำเนียงรัสเซียปนเยอรมันว่า “ผมเห็นว่าคุณตั้งชื่อลูกสาวตามชื่อแม่ และ แม่ยายของคุณ……” “นั่นซิ…ก็ผมมันเป็นนักการเมืองชั้นเยี่ยมไงล่ะ..” “เออ……ใช่จริงๆ เพราะของผมก็เหมือนกัน..” แล้วสองคนก็หัวเราะเฮฮากันไป สองคนนี้ได้พบกันอีกครั้งเมื่อการประชุม Asia-Pacific Economic Cooperation Summit ที่เซี่ยงไฮ้ ในเดือนตุลาคม และได้คุยกันถึงเรื่องการสร้าง(จำนวน) ซ้อม(ยิง) นิวเคลียร์ที่ยังไม่ชัดเจน ที่ทำให้ประธานาธิบดีบุช ต้องเชิญปูตินไปยังทำเนียบขาว สหรัฐอเมริกาในเดือน พฤศจิกายน เขาได้ไปเยี่ยมไร่ของบุชที่เท๊กซัสเป็นการส่วนตัว มีการเลี้ยงปิ้งย่าง บาร์บีคิว ปูตินได้กล่าวว่า “ผมไม่เคยไปเยี่ยมเยียนผู้คนไหนถึงในบ้านเลย…นับว่าเป็นโชคดีที่ได้มาถึงที่นี่ “ และเขาได้ไปดูตึกที่ถล่มทลายและได้แสดงความอาลัย แต่.…เพียงสามอาทิตย์ต่อมา บุชได้โทรศัพท์มาถึงปูติน บอกว่า นโยบายทางเพนตากอนได้มีมติให้อเมริกาถอนตัวไม่เข้าร่วมกับโครงการ ABM (Anti-Ballistic Missile) เท่ากับว่า….ปูตินถูกอเมริกาเทอย่างหน้าตาเฉย…ทั้งๆที่เริ่มต้นทำท่าจะดี.. การก่อกวนในเชเชนหลังจากสงครามยังไม่หยุด กลุ่มหัวรุนแรงได้เริ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่ปูตินได้ประกาศว่า ต้องยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไขเท่านั้น จึงทำให้เกิดคลื่นใต้น้ำเป็นขบวนการใต้ดิน ที่ทำให้เกิดการจับคนดูเป็นตัวประกันที่ โรงละคร Palace of Culture ในกรุงมอสโคว์ วันที่ 24 ตุลาคม 2002 ที่กำลังแสดงละครย้อนยุคที่ทุ่มทุนสร้างมหาศาล บัตรใบละ 15 ดอลล่าร์ (เทียบเท่า ที่นับว่าแพงมาก) โดยกลุ่มผู้ก่อการร้ายแต่งกายเป็นคนงาน ขึ้นไปบนเวที ท่ามกลางความสับสนของคนดู ที่คิดว่าเป็นส่วนหนึ่งของการแสดง แต่.…คณะผู้ก่อการร้ายในการนำของ Movsar Barayev** ได้กราดกระสุน AK-47 ขึ้นไปบนเพดาน และประกาศว่า ประตูทุกบานได้มีสลักระเบิดผูกติดอยู่ ผู้หญิงคนหนึ่งในชุดเสื้อคลุมสีดำ ได้ก้าวเข้ามาอยู่กลางกลุ่มคนดู และเปิดเสื้อคลุมให้เห็นว่า ข้างในนั้น ร่างของเธอได้ผูกติดระเบิดเอาไว้ พร้อมที่จะดึงสลัก หากว่า……มีเจ้าหน้าที่จู่โจมเข้ามา ทั้งประกาศก้องว่า….ในนามพระอัลลาห์ พวกเราตายหนึ่ง แต่จะเกิดร้อย และถ้าใครมีโทรศัพท์……ให้โทรไปบอกครอบครัวได้เลยว่า ต้องตายเพราะสงครามเชเชน และถ้าอยากรอด……หนทางเดียวคือรัสเซียต้องถอนทัพออกไป เลิกสงครามทันที…!!! ปูตินอยู่ในสภาพที่หลังชนกำแพง จากที่กองทัพทำสงครามยืดเยื้อในเชเชน……หน่วย FSB ที่ทำงานประสาอะไรปล่อยให้ผู้ก่อการร้ายเข้ามาถึงในมอสโคว์ เขายกเลิกแผนการเดินทางทั้งหมด (ที่จะไป เยอรมัน,โปรตุเกส และ เม๊กซิโก) เรียกหน่วยข่าวกรอง บรรดาสายลับทั้งหลาย และตัวหัวหน้า Nikolai Patrushev เข้ามาพบโดยด่วน เตรียมการบุกโรงละคร เรียกหน่วยคอมมานโดให้เตรียมพร้อม คนค้าน……คือ นายกรัฐมนตรี Mikhaïl Kasyanov ด้วยเกรงว่าการทำอย่างนี้เสี่ยงเกินไป ผู้บริสุทธิ์อาจจะได้รับเคราะห์ ปูตินบอกว่า “ถ้าป๊อด……ก็ออกไปห่างๆเลย……” เขาได้ส่งท่านนายกรัฐมนตรีมิเกล ออกไปประชุมแทนในตามรายชื่อประเทศ…จะได้ไม่ต้องมารับรู้อะไร ข้างในโรงละคร…ในกลุ่มคนดู ก็มีบุคคลสำคัญหลายคนในหลายวงการ ส่วนผู้ที่ได้ถูกปล่อยตัวออกมา คือ กลุ่มเด็กเล็กจำนวน 39 คน ที่ได้ให้การว่ากลุ่มผู้ก่อการร้ายส่วนใหญ่เป็นเด็กวัยรุ่น ที่เติบโตมากับสงครามในคอร์เคซัส ไม่ได้เรียนหนังสือ เพราะยังไม่รู้เรื่องราวอะไรมากนัก เมื่อถูกถามว่า “ที่อยากให้เลิกสงคราม หมายความว่าอะไร..เพื่อ..?” คนกลุ่มนั้น ตอบไม่ได้ ลังเล ไม่แน่ใจ…… ในวันที่สองของการจับตัวประกัน ที่ทุกคนเริ่มอ่อนล้า หิวโหย กระหาย วิตก…… กลุ่มก่อการร้ายได้สังหารคนไปหลายคน ที่พยายามหาทางออก เจ้าหน้าที่ได้เจรจาขอให้มีการส่งอาหารและน้ำได้สำเร็จ ตีห้าของวันรุ่งขึ้น ขณะที่ทุกคนกำลังหลับ อ่อนแรง เตรียมพร้อมกับการที่จะเจรจาในตอนสิบโมงเช้า ตามที่เครมลินได้ส่งข่าวมา ทางหน่วยคอมมานโดที่ได้เจาะอุโมงค์ใต้ดินเข้าไปจากอาคารข้างๆ และได้ติดไมโครโฟนดักฟังจนรู้ตำแหน่งของผู้ก่อการร้าย กังวลที่สุด คือ อาคารทั้งหลังอาจจะระเบิดขึ้นมาได้ ปูตินได้สั่งการเด็ดขาดว่า……จับตายทั้งหมดเท่านั้น……!! การใช้ ยาสลบ fentanyl ที่เป็นอาวุธชนิดหนึ่งของ FSB ได้ทำการแสดงฝีมือ คือ ฉีดส่งเข้าไปในท่อระบายอากาศ ที่ทำให้ทุกคนหลับแบบร่วงผล็อย แต่กลุ่มที่ระวังอยู่ด้านนอก มีการปะทะดุเดือด กลุ่มผู้ก่อการร้าย 41 คน มีกระสุนเจาะที่สมอง…… ตัวหัวหน้า Barayev ได้ถูกสังหารในวันคล้ายวันเกิดของตัวเอง แต่ตัวประกันได้เสียชีวิตไปกว่าร้อยคน จากการโดนสังหารของผู้ก่อการร้าย และ บางคนเสียชีวิตเพราะสารยาสลบ เพราะมีอายุ และสุขภาพที่ไม่ดี ปูตินได้ออกโทรทัศน์ เพื่อทำการขอโทษประชาชนที่เขาไม่สามารถรักษาชีวิตได้ทุกคน ……แต่รัสเซียจะไม่ยอมให้หน้าไหนมาหยาม..!! เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันได้บอกกับปูตินว่าสงครามได้มาในรูปแบบใหม่ ที่ได้ก้าวล่วงเข้ามาก่อกวนในประเทศ และที่นอกประเทศในขอบชายแดน ก็ขยายวงขึ้นเพราะการได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มที่ต้องการแบ่งแยกแผ่นดิน ปูตินไม่มีทางอื่น นอกจากต้องหักเท่านั้น……ไม่มีงอ ข่าวนี้……ทำให้ Aslan Maskhadov หัวหน้ากบฎเชเชนที่ได้ใช้ตัวแทนในโคเปนเฮเกน มาเสนอการเจรจาสันติภาพแบบไม่มีเงื่อนไข แต่ทางเครมลิน……ปฏิเสธ ไม่เจรจา แถมยังประกาศจับตัวแทนเจรจา Ahmed Zakayev(อดีตรองนายกรัฐมนตรีเชเชน และ เป็นฝ่ายโปรกบฏ) เดนมาร์ก……จับตัวให้ แต่ไม่ส่งให้รัสเซีย เพราะข้อกล่าวหาทางรัสเซียที่พัวพันไปในเรื่องโรงละครด้วย คนที่ออกมารับหน้าในเรื่องโรงละคร คือ Shamil Basayev**(หัวหน้าใหญ่กลุ่มกบฏเชเชน) ที่ออกมาประกาศกร้าวว่า “นี่คือบทเรียนที่รัสเซียสมควรได้รับ..” ปูตินรับคำขู่ด้วยการขานรับ เล่นงานเชเชนหนักขึ้น ฝ่ายโลกเสรีได้ยิงคำถามในเรื่องการใช้อาวุธด้วยการฝังทุ่นระเบิดไปทั่ว เขาตอบว่า “ ในวินาทีนี้ ใครก็ตามที่นับถือศาสนาคริสต์ ล้วนแต่ตกอยู่ในอันตราย แต่ถ้าจะเปลี่ยนเป็นมุสลิม……ก็ไม่รอด เพราะเขาเชื่อว่าการตายคือการไปพบพระเจ้า…ไม่ใช่หรือ……?!! และต่อด้วยภาษานักเลงสุดๆ กับนักข่าวที่ถาม (จนบางคนไม่กล้าแปล…) ว่า…… “ ถ้าคุณตัดสินใจอยากจะเป็นมุสลิมอย่างที่พวกเขาเป็น และพร้อมที่จะไปพบกับพระเจ้า…ขอเชิญไปที่มอสโคว์ เพราะพวกเราไม่ใช่ประชาธิปไตยเต็มตัว และรับรองได้ว่า เรามีสารพัดวิธีที่คุณจะไม่เติบโตต่อไปอีก………” **Shamil Basayev ผู้ก่อการร้ายตัวยง ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ร้ายที่ทั้งโลกต้องการตัว เขาเป็นคนวางแผนเรื่องโรงละคร และการวางระเบิดเครื่องบินรัสเซีย เขาได้ถูกสังหารด้วยระเบิดกับดักที่มากับรถบรรทุก ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2006 Wiwanda W. Vichit
    0 Comments 0 Shares 509 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 8 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 6 Views 0 Reviews
  • AIA CI PROCARE แบบประกันที่ตอบโจทย์ กับคำถามยอดฮิต🤭🤭🤭

    #ประกันเลือกได้byPJ #ประกันโรคร้าย #เจอจ่ายหลายจบ #ค่าเบี้ยคงที่ #ไม่ใช่ได้เงินคืน #CIProcare
    AIA CI PROCARE แบบประกันที่ตอบโจทย์ กับคำถามยอดฮิต🤭🤭🤭 #ประกันเลือกได้byPJ #ประกันโรคร้าย #เจอจ่ายหลายจบ #ค่าเบี้ยคงที่ #ไม่ใช่ได้เงินคืน #CIProcare
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 67 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 8 Views 0 Reviews
  • น่ากลัวขึ้นทุกวัน😭
    น่ากลัวขึ้นทุกวัน😭
    0 Comments 0 Shares 94 Views 32 0 Reviews
  • Like
    1
    0 Comments 0 Shares 6 Views 0 Reviews
  • ชาร์จในปั๊มที่บ้านโป่ง ราชบุรี ไฟเข้า 58.5 kW ครับ #ThaiTimes #EV #ThaiEV #EVThai
    ชาร์จในปั๊มที่บ้านโป่ง ราชบุรี ไฟเข้า 58.5 kW ครับ #ThaiTimes #EV #ThaiEV #EVThai
    0 Comments 0 Shares 460 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 6 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 6 Views 0 Reviews