• https://youtu.be/_AAqW53B2As?si=VAj5a6jyKSOaUQ1h
    https://youtu.be/_AAqW53B2As?si=VAj5a6jyKSOaUQ1h
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 22 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลสั่งจำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา "เอกลาภ ยิ้มวิไล" อดีตผู้บริหาร "ซิปเม็กซ์" ฉ้อโกงประชาชน เสียหายกว่า 1 พันล้านบาท

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000015842

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ศาลสั่งจำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา "เอกลาภ ยิ้มวิไล" อดีตผู้บริหาร "ซิปเม็กซ์" ฉ้อโกงประชาชน เสียหายกว่า 1 พันล้านบาท อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000015842 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    9
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 753 มุมมอง 0 รีวิว
  • Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • “หม่อง ชิตตู่” เปิดศูนย์บัญชาการ BGF ยันไม่เกี่ยวข้องแก๊งคอลเซ็นเตอร์-ค้ามนุษย์ แต่ประโยชน์แค่ให้เช่าพื้นที่ พร้อมประกาศลั่นขอพิสูจน์ตัวเอง เดินหน้ากวาดล้างให้สิ้นซากภายในเดือนนี้ ถามไทย..ผมทำผิดข้อไหนอย่างไรถึงจะออกหมายจับ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000015841

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “หม่อง ชิตตู่” เปิดศูนย์บัญชาการ BGF ยันไม่เกี่ยวข้องแก๊งคอลเซ็นเตอร์-ค้ามนุษย์ แต่ประโยชน์แค่ให้เช่าพื้นที่ พร้อมประกาศลั่นขอพิสูจน์ตัวเอง เดินหน้ากวาดล้างให้สิ้นซากภายในเดือนนี้ ถามไทย..ผมทำผิดข้อไหนอย่างไรถึงจะออกหมายจับ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000015841 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    7
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 810 มุมมอง 0 รีวิว
  • Sabri Cheriha วิศวกรชาวตูนีเซียที่ก้าวมาเป็นนักสังคมสงเคราะห์ โดยเขาได้ก่อตั้งธุรกิจสตาร์ทอัพที่ชื่อว่า Wefix ในชานเมืองของเมืองตูนิส เพื่อจัดการกับปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มขึ้นในประเทศตูนีเซีย

    ในตูนีเซียมีอุปกรณ์ไฟฟ้าในครัวเรือนประมาณแปดล้านชิ้นและโทรศัพท์มือถือเก้าล้านเครื่องที่ใช้งานอยู่ แต่เมื่ออุปกรณ์เหล่านี้เสียหายหรือถูกทดแทน ไม่มีการบริการใด ๆ ที่จะจัดการกับขยะเหล่านี้อย่างถูกต้อง

    จุดที่น่าสนใจคือการแก้ปัญหานี้เป็นเรื่องที่ท้าทายและจำเป็น เนื่องจากขยะอิเล็กทรอนิกส์มักมีสารอันตรายที่สามารถทำลายสิ่งแวดล้อมได้ถ้าไม่จัดการอย่างถูกวิธี นอกจากนี้การนำขยะอิเล็กทรอนิกส์มารีไซเคิลยังช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอีกด้วย

    โครงการแบบนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ แต่ยังสร้างงานให้กับชุมชนและส่งเสริมให้คนรู้จักการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น นับว่าเป็นอีกหนึ่งก้าวที่สำคัญในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนค่ะ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/17/tunisian-startup-takes-on-ewaste-challenge
    Sabri Cheriha วิศวกรชาวตูนีเซียที่ก้าวมาเป็นนักสังคมสงเคราะห์ โดยเขาได้ก่อตั้งธุรกิจสตาร์ทอัพที่ชื่อว่า Wefix ในชานเมืองของเมืองตูนิส เพื่อจัดการกับปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มขึ้นในประเทศตูนีเซีย ในตูนีเซียมีอุปกรณ์ไฟฟ้าในครัวเรือนประมาณแปดล้านชิ้นและโทรศัพท์มือถือเก้าล้านเครื่องที่ใช้งานอยู่ แต่เมื่ออุปกรณ์เหล่านี้เสียหายหรือถูกทดแทน ไม่มีการบริการใด ๆ ที่จะจัดการกับขยะเหล่านี้อย่างถูกต้อง จุดที่น่าสนใจคือการแก้ปัญหานี้เป็นเรื่องที่ท้าทายและจำเป็น เนื่องจากขยะอิเล็กทรอนิกส์มักมีสารอันตรายที่สามารถทำลายสิ่งแวดล้อมได้ถ้าไม่จัดการอย่างถูกวิธี นอกจากนี้การนำขยะอิเล็กทรอนิกส์มารีไซเคิลยังช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอีกด้วย โครงการแบบนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ แต่ยังสร้างงานให้กับชุมชนและส่งเสริมให้คนรู้จักการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น นับว่าเป็นอีกหนึ่งก้าวที่สำคัญในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนค่ะ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/17/tunisian-startup-takes-on-ewaste-challenge
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Tunisian startup takes on ewaste challenge
    Engineer turned social entrepreneur Sabri Cheriha hunches over a washing machine at a small depot in a suburb of Tunisia's capital, the unassuming home of a startup he launched to tackle the country's mounting electronic waste problem.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 166 มุมมอง 0 รีวิว
  • DeepSeek ได้ก่อให้เกิดความกังวลในเรื่องความมั่นคงของชาติในหลายประเทศ โดยแอปนี้ถูกสร้างขึ้นโดยใช้เซมิคอนดักเตอร์ที่มีราคาถูกและไม่ซับซ้อนจาก Nvidia และทำให้มูลค่าหุ้นเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ลดลงหลายพันล้านดอลลาร์เมื่อเปิดตัวโปรแกรม R1

    หลายประเทศเช่น อิตาลี ไต้หวัน ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ ได้สั่งห้ามการใช้งาน DeepSeek เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับการรั่วไหลของข้อมูลที่มีความสำคัญ นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังดำเนินการออกกฎหมายเพื่อห้ามใช้งาน DeepSeek บนอุปกรณ์ของรัฐบาล เนื่องจาก DeepSeek เป็นผลิตภัณฑ์จากจีนและอาจเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติ

    โครงการพัฒนาเทคโนโลยีเช่นนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยในการแก้ปัญหาทางเทคนิค แต่ยังทำให้เห็นถึงความสำคัญของการลงทุนในซอฟต์แวร์และการพัฒนาทรัพยากรบุคคลในด้านเทคโนโลยีอีกด้วย

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/17/chatbot-vs-national-security-why-deepseek-is-raising-concerns
    DeepSeek ได้ก่อให้เกิดความกังวลในเรื่องความมั่นคงของชาติในหลายประเทศ โดยแอปนี้ถูกสร้างขึ้นโดยใช้เซมิคอนดักเตอร์ที่มีราคาถูกและไม่ซับซ้อนจาก Nvidia และทำให้มูลค่าหุ้นเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ลดลงหลายพันล้านดอลลาร์เมื่อเปิดตัวโปรแกรม R1 หลายประเทศเช่น อิตาลี ไต้หวัน ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ ได้สั่งห้ามการใช้งาน DeepSeek เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับการรั่วไหลของข้อมูลที่มีความสำคัญ นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังดำเนินการออกกฎหมายเพื่อห้ามใช้งาน DeepSeek บนอุปกรณ์ของรัฐบาล เนื่องจาก DeepSeek เป็นผลิตภัณฑ์จากจีนและอาจเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติ โครงการพัฒนาเทคโนโลยีเช่นนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยในการแก้ปัญหาทางเทคนิค แต่ยังทำให้เห็นถึงความสำคัญของการลงทุนในซอฟต์แวร์และการพัฒนาทรัพยากรบุคคลในด้านเทคโนโลยีอีกด้วย https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/17/chatbot-vs-national-security-why-deepseek-is-raising-concerns
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Chatbot vs national security? Why DeepSeek is raising concerns
    Governments from Rome to Seoul are cracking down on the user-friendly Chinese app, saying they need to prevent potential leaks of sensitive information through generative AI services.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ พิมพ์สังฆาฏิสั้น EP.1

    สวัสดีสมาชิกแฟนเพจทุกท่านครับ อย่างที่กล่าวไว้ในโพสที่แล้วนะครับ ทีมงานแอดมินอยากเน้นเรื่องความรู้ในการดูพระ โดยเราจะเริ่มจากพระสมเด็จวัดระฆังฯ พิมพ์ใหญ่กันอย่างเน้นๆ เมื่อท่านอาจารย์ได้ทราบถึงแนวทางของทีมงานแอดมิน ท่านจึงแนะนำว่าให้นำเอาบทความที่เน้นการดูเอกลักษณ์หรือตำหนิพุทธศิลป์มาลงมากยิ่งขึ้น โดยบทความเหล่านี้ท่านอาจารย์ได้เขียนให้ดูทีละจุด และในรูปจะมีการชี้ตำแหน่งที่ท่านเขียนถึง จะทำให้สมาชิกที่สนใจศึกษาการดูพระเกิดความเข้าใจมากยิ่งขึ้น

    แอดมินขออนุญาตนำบทความที่เคยลงไปแล้วในเดือนที่แล้วมา Rewrite กันอีกซักครั้งนะครับ ท่านอาจารย์ได้นำรูปพระองค์นี้มาอธิบายให้แอดมินฟังถึงตำหนิต่างๆ แอดมินเลยนำคำบรรยายของท่านอาจารย์มา Rewrite รวมเข้าไปกับบทความเดิมนะครับ

    🙏🙏พระสมเด็จวัดระฆังโฆสิตาราม พิมพ์ใหญ่ พิมพ์ที่1 พิมพ์สังฆาฏิสั้น ของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพุทฒาจารย์ โต พรหมรังสี🙏🙏

    ท่านอาจารย์ได้อธิบายว่า พระสมเด็จฯองค์นี้มีความสวยงาม 2 ประการใหญ่รวมอยู่ในองค์เดียวกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากมาก

    ประการที่ 1 ด้านความสวยงามจากสีขององค์พระ พระสมเด็จฯองค์นี้มีเนื้อเป็นสีเขียว ท่านอาจารย์บอกว่าหาได้ยากมาก ท่านอาจารย์ได้อธิบายว่า ส่วนประกอบหนึ่งในมวลสารที่สมเด็จโตท่านนำมาสร้างเป็นพระสมเด็จฯ คือดอกไม้ที่ญาติโยมนำมาถวายพระ สมเด็จโตท่านน่าจะเห็นว่าดอกไม้เหล่านี้เป็นของสูง ไม่ควรนำไปทิ้งในที่ที่ไม่ควร ท่านจึงนำดอกไม้เหล่านี้มาตากแห้ง และผสมรวมเข้าไปเป็นมวลสาร หนึ่งในดอกไม้ที่คนสมัยนั้นนิยมนำมาถวายพระคือดอกมะลิซ้อน ซึ่งเวลาญาติโยมนำดอกมะลิซ้อนมาถวายบูชาพระจะนำมาทั้งดอกและก้านใบ โดยมัดมาเป็นช่อเล็กๆ นำมาถวายพระ สีเขียวของพระองค์นี้มาจากสีของก้านมะลิที่เมื่อนำไปตากแห่ง ตำให้ละเอียดและผสมกับมวลสารอื่นๆ การผ่านการผสมกับน้ำมันตังอิ้วที่มีทั้งน้ำมันและความชื้นจึงทำให้สีของก้านมะลิละลายออกมา เหมือนเป็นการย้อมสีมวลสารโดยไม่ได้ตั้งใจ ท่านอาจารย์กล่าวว่าท่านเคยเห็นพระสมเด็จฯที่มีสีเขียวอยู่บ้าง บางองค์เขียวเข้ม บางองค์เขียวอ่อน ล้วนแล้วแต่เป็นพระสมเด็จฯ ที่เป็นที่นิยมทั้งสิ้น

    ประการที่ 2 ด้านความสวยงามจากพุทธศิลป์ ท่านอาจารย์อธิบายว่าพระองค์นี้นอกจากจะสีสวยแล้ว การกดพิมพ์ยังกดได้ลึกและแน่นมาก ทำให้องค์พระประธานดูล่ำใหญ่ สามารถมองเห็นเอกลักษณ์จากแม่พิมพ์และตำหนิพุทธศิลป์ได้อย่างชัดเจน ทำให้เป็นพระที่มีความงดงามเป็นอย่างมาก นอกจากนั้นท่านอาจารย์ยังกล่าวด้วยว่า ด้วยความที่เราสามารถมองเห็นเอกลักษณ์และตำหนิพุทธศิลป์ได้อย่างชัดเจน พระองค์นี้จึงเหมาะมากที่จะกรณีศึกษาสำหรับผู้ที่สนใจในการดูพระ

    เอาละครับ เรามาเริ่มกันเลย กับเอกลักษณ์และตำหนิพุทธศิลป์ต่างๆที่ท่านอาจารย์ได้เคยอธิบายไว้ดังนี้ (ดูตามหมายเลขในภาพได้เลยนะครับ)

    1. กรอบแม่พิมพ์ เป็นพระที่ตัดปีกพอดีกับกรอบแม่พิมพ์ จึงเป็นกรอบแม่พิมพ์ไม่ชัดนัก

    2. กรอบแม่พิมพ์ด้านซ้าย เป็นกรอบกระจกที่เกิดจากการใช้ตอกตัดจากพิมพ์ด้านหลังมาพิมพ์ด้านหน้า ทำให้เกินเป็นสันเล็กๆที่ด้านหน้าเรียกว่ากรอบกระจก ซึ่งเอกลักษณ์ของพระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่ นั้นกรอบกระจกจะเป็นเส้นตรงลงมาจรดซุ้มเรือนแก้วบริเวณแนวข้อศอกซ้ายขององค์พระ

    3. พระเกศ ปลายพระเกศจะแหลมจรดซุ้มเรือนแก้ว แต่โคนพระเกศจะอ้วนใหญ่เป็นกรวย จุดนี้เป็นเอกลักษณ์ของสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์ที่1 ทั้งพิมพ์สังฆาฏิสั้น และสังฆาฏิยาว

    4. พระเศียร ด้วยความที่พระองค์นี้กดพิมพ์ได้ลึกมาก ทำให้พระเศียรกลมโตเป็นพิเศษ

    5. จมูก การกดพิมพ์ที่ลึกมากนั้นยังทำให้บริเวณปลายพระเศียรบริเวณจมูกนูนออกมาเล็กน้อย ซึ่งมีน้อยองค์มากๆที่จะเห็นรอยนูนนี้

    6. พระกรรณ พระกรรณข้างซ้ายจะเป็นปีกคมชัด ปลายพระกรรณยาวเกือบจรดบ่า พระกรรณข้างขวาติดรำไร เพราะเวลาถอดพระออกจากพิมพ์จะออกทางด้านซ้าย ทำให้ซึกซ้ายขององค์พระดูคมชัดกว่าซีกขวา (ในรูปมองเห็นพระกรรณไม่ชัดนัก แม้แต่ด้านซ้ายก็ตาม การถ่ายรูปถึงแม้จะถ่ายจาก Studio ที่มีประสบการณ์ก็ยังไม่สามารถเก็บรายละเอียดเล็กๆนี้ให้เห็นเด่นชัดได้ ท่านอาจารย์บอกว่าถ้าได้ส่องจากองค์จริงจะมองเห็นชัดกว่าในรูป)

    7. รักแร้ขององค์พระ จุดนี้ท่านอาจารย์เน้นย้ำว่า เป็นเอกลักษณ์ของพระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่ทุกพิมพ์ รักแร้ด้านซ้ายจะลึกกว่าด้านขวา

    8. ซุ้มเรือนแก้ว เป็นเส้นกลมเหมือนหวายผ่าซีก สำหรับพระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์ที่1 จะมีซุ้มเรือนแก้วที่อ้วนและใหญ่กว่าพิมพ์ใหญ่พิมพ์อื่นทุกพิมพ์ และการหดตัวของซุ้มเรือนแก้วจะหดตัวในแนวตั้งฉาก (ตัวซุ้มเรือนแก้วเป็นแนวตั้งฉากกับพื้นองค์พระ)

    9. แขนทั้ง 2 ข้าง กลมและใหญ่ มีการหดตัวในแนวตั้งฉากเช่นเดียวกับซุ้มเรือนแก้ว

    10. ตำหนิที่ต้นแขนซ้าย เราจะเห็นตำหนิการยุบลงเล็กน้อยบริเวณต้นแขนซ้าย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของพระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่ทุกพิมพ์ ยกเว้นพิมพ์สังฆาฏิยาวเท่านั้นที่ต้นแขนจะเต็ม ไม่มีตำหนิแบบองค์นี้

    11. จีวรใต้ข้อศอกซ้าย เป็นเส้นเล็กๆยาวจรดที่หัวเข่า ท่านอาจารย์ได้กล่าวว่าต้องมองเทียบกันระหว่างใต้ศอกซ้าย กับใต้ศอกขวา จะเห็นว่าที่ใต้ศอกซ้ายจะมีเนื้อองค์พระที่ตื้นกว่าใต้ศอกขวา เส้นนี้แหละที่เรียกว่าจีวรใต้ศอกซ้าย

    12. ขอบจีวรที่พาดผ่านอก เป็นเส้นตื้นๆ รำไรพาดจากบ่าซ้ายเฉียงลงไปที่ซอกแขนขวา ตามจุดที่ชี้ในรูปจะเห็นเป็นรอย เนื่องจากพระสมเด็จฯองค์นี้กดพิมพ์ได้ลึก จึงทำให้สามารถมองเห็นเส้นขอบจีวรนี้ได้ชัดกว่าองค์อื่นๆ (บางองค์มองแทบไม่เห็น ถ้ามองจากแค่รูปอาจจะไม่เห็นเลย ต้องส่องดูที่องค์จริงอาจจะเห็นเป็นรอยรำไรเท่านั้น)

    13. เส้นสังฆาฏิ เป็นแผ่นโต และนูน พาดจากบ่าซ้ายลงมาที่ต้นช่องท้อง พระสมเด็จฯองค์นี้เราจะเห็นเส้นสังฆาฏิได้ง่ายและชัดมาก แต่บางองค์ที่กดพิมพ์ไม่ลึกมาก เส้นสังฆาฏิอาจจะมองยากซักนิดนึง โดยเฉพาะหากมองจากรูป อาจจะมองไม่เห็นเลย)

    14. พระบาทซ้าย แนบที่หน้าตัก พระบาทยาวเกือบจรดเข่าขวา

    15. ฐานชั้นที่3 เป็นทรงหมอนหนุน กลมโต และยาวตลอดหน้าตัก

    16. เส้นแซมใต้ตัก ปลายฐานชั้นที่3 ทั้งสองข้างจะมีขอบม้วนขึ้นเป็นเส้นแซมใต้ตัก จากรูปตรงจุดที่เลข 16 ชี้นั้นเราจะเห็นเป็นเส้นนูนออกมาเล็กๆ ท่านอาจารย์กล่าวว่าด้วยความที่พระสมเด็จฯ องค์นี้กดพิมพ์ลึก จึงทำให้ยังสามารถเห็นได้แม้จะดูจากรูป แต่พระสมเด็จฯองค์อื่นๆ มองจากในรูปอาจจะไม่เห็นเส้นแซมใต้ตัก ต้องส่องจากองค์จริงถึงจะเห็น

    17. ฐานชั้นที่2 เป็นโต๊ะขาสิงห์ ขอบโต๊ะจะเป็นทรงแหลม

    18. ฐานชั้นที่1 เป็นฐานเขียงใหญ่และหนา ปลายฐานด้านขวาจะตัดเฉียงเป็นทรงหัวขวาน ท่านอาจารย์บอกว่าส่วนมากปลายล่างสุดด้านขวาของฐานชั้นที่ 1 จะชี้ไปยังมุมด้านล่างของซุ้มเรือนแก้ว

    19. รอยหนอนด้น รอยหนอนด้นนั้นเราจะเห็นเป็นเส้นเล็กๆ เหมือนรอยปริแตก เกิดจากการสลายตัวของสารอินทรีย์ในมวลสารขององค์พระ ทำให้เกิดเป็นช่องว่าง เหมือนรอยแยก สำหรับพระสมเด็จฯองค์นี้เราจะเห็นรอยหนอนด้นบนซุ้มเรือนแก้ว (ตำแหน่งของรอยหนอนด้นบนองค์พระไม่แน่นอน แต่ละองค์ไม่เหมือนกัน ท่านอาจารย์ได้กล่าวว่า รอยหนอนด้นเป็นสิ่งหนึ่งที่เอาไว้ดูว่าพระแท้หรือไม่ เพราะรอยดังกล่าวเกิดจากย่อยสลายของสารอินทรีย์ในมวลสาร ซึ่งต้องใช้เวลานานกว่าจะกลายเป็นรอยหนอนด้น)

    20. เม็ดพระธาตุ เม็ดพระธาตุเป็นปูนอีกชนิดหนึ่งที่สมเด็จโตท่านเอามาผสมในมวลสาร ซึ่งปูนชนิดนี้ไม่ได้ผสมกลมกลืนกับปูนเปลือกหอยที่เป็นวัตถุดิบหลักในการทำมวลสาร เมื่อเวลาผ่านไปการหดตัวของปูน 2 ชนิดไม่เท่ากัน ทำให้เกิดรอยแยกเห็นปูนอีกชนิดหนึ่งเป็นเม็ดเล็กๆ ท่านอาจารย์เล่าให้ฟังว่าสันนิษฐานว่าเม็ดพระธาตุนี้คือเศษปูนที่ฉาบพระประธานในพระอุโบสถไว้ (สมัยโบราณจะมีการฉาบปูนทับองค์พระประธานไว้) เมื่อเศษปูนกระเทาะออก หรือมีการกระเทาะออกอย่างตั้งใจเพื่อที่จะทำการฉาบใหม่ สมเด็จโตท่านเห็นว่าปูนนี้เป็นของสูง ไม่ควรทิ้งในที่ที่มิควร จึงนำมาบดให้ละเอียดและผสมลงในมวลสาร แต่ถึงจะบดอย่างไร ปูนคงมิได้ละเอียดเป็นผง ยังคงมีเหลือที่เป็นเม็ดเล็กๆ เป็นที่มาของเม็ดพระธาตุ

    ท่านอาจารย์บอกว่าพระสมเด็จฯ องค์นี้ในสมัยที่ท่านยังโลดแล่นอยู่ในสนามพระ เรียกกันว่า "องค์เขียวมรกต" ถือเป็นหนึ่งในองค์ครูในการศึกษาการดูพระสมเด็จวัดระฆังฯ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์ที่1 พิมพ์สังฆาฏิสั้น โดยเฉพาะการดูเอกลักษณ์แม่พิมพ์และตำหนิพุทธศิลป์ของพิมพ์หน้า แอดมินหวังว่าบทความที่ Rewrite ขึ้นมาใหม่นี้จะเป็นประโยชน์ต่อสมาชิกแฟนเพจที่ต้องการศึกษาการดูพระบ้างไม่มากก็น้อยนะครับ ขอบคุณครับ พบกันใหม่ในโพสหน้าครับ

    #พระสมเด็จ #พระสมเด็จวัดระฆัง #เบญจภาคี #พระเครื่อง #สมเด็จโต
    พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ พิมพ์สังฆาฏิสั้น EP.1 สวัสดีสมาชิกแฟนเพจทุกท่านครับ อย่างที่กล่าวไว้ในโพสที่แล้วนะครับ ทีมงานแอดมินอยากเน้นเรื่องความรู้ในการดูพระ โดยเราจะเริ่มจากพระสมเด็จวัดระฆังฯ พิมพ์ใหญ่กันอย่างเน้นๆ เมื่อท่านอาจารย์ได้ทราบถึงแนวทางของทีมงานแอดมิน ท่านจึงแนะนำว่าให้นำเอาบทความที่เน้นการดูเอกลักษณ์หรือตำหนิพุทธศิลป์มาลงมากยิ่งขึ้น โดยบทความเหล่านี้ท่านอาจารย์ได้เขียนให้ดูทีละจุด และในรูปจะมีการชี้ตำแหน่งที่ท่านเขียนถึง จะทำให้สมาชิกที่สนใจศึกษาการดูพระเกิดความเข้าใจมากยิ่งขึ้น แอดมินขออนุญาตนำบทความที่เคยลงไปแล้วในเดือนที่แล้วมา Rewrite กันอีกซักครั้งนะครับ ท่านอาจารย์ได้นำรูปพระองค์นี้มาอธิบายให้แอดมินฟังถึงตำหนิต่างๆ แอดมินเลยนำคำบรรยายของท่านอาจารย์มา Rewrite รวมเข้าไปกับบทความเดิมนะครับ 🙏🙏พระสมเด็จวัดระฆังโฆสิตาราม พิมพ์ใหญ่ พิมพ์ที่1 พิมพ์สังฆาฏิสั้น ของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพุทฒาจารย์ โต พรหมรังสี🙏🙏 ท่านอาจารย์ได้อธิบายว่า พระสมเด็จฯองค์นี้มีความสวยงาม 2 ประการใหญ่รวมอยู่ในองค์เดียวกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากมาก ประการที่ 1 ด้านความสวยงามจากสีขององค์พระ พระสมเด็จฯองค์นี้มีเนื้อเป็นสีเขียว ท่านอาจารย์บอกว่าหาได้ยากมาก ท่านอาจารย์ได้อธิบายว่า ส่วนประกอบหนึ่งในมวลสารที่สมเด็จโตท่านนำมาสร้างเป็นพระสมเด็จฯ คือดอกไม้ที่ญาติโยมนำมาถวายพระ สมเด็จโตท่านน่าจะเห็นว่าดอกไม้เหล่านี้เป็นของสูง ไม่ควรนำไปทิ้งในที่ที่ไม่ควร ท่านจึงนำดอกไม้เหล่านี้มาตากแห้ง และผสมรวมเข้าไปเป็นมวลสาร หนึ่งในดอกไม้ที่คนสมัยนั้นนิยมนำมาถวายพระคือดอกมะลิซ้อน ซึ่งเวลาญาติโยมนำดอกมะลิซ้อนมาถวายบูชาพระจะนำมาทั้งดอกและก้านใบ โดยมัดมาเป็นช่อเล็กๆ นำมาถวายพระ สีเขียวของพระองค์นี้มาจากสีของก้านมะลิที่เมื่อนำไปตากแห่ง ตำให้ละเอียดและผสมกับมวลสารอื่นๆ การผ่านการผสมกับน้ำมันตังอิ้วที่มีทั้งน้ำมันและความชื้นจึงทำให้สีของก้านมะลิละลายออกมา เหมือนเป็นการย้อมสีมวลสารโดยไม่ได้ตั้งใจ ท่านอาจารย์กล่าวว่าท่านเคยเห็นพระสมเด็จฯที่มีสีเขียวอยู่บ้าง บางองค์เขียวเข้ม บางองค์เขียวอ่อน ล้วนแล้วแต่เป็นพระสมเด็จฯ ที่เป็นที่นิยมทั้งสิ้น ประการที่ 2 ด้านความสวยงามจากพุทธศิลป์ ท่านอาจารย์อธิบายว่าพระองค์นี้นอกจากจะสีสวยแล้ว การกดพิมพ์ยังกดได้ลึกและแน่นมาก ทำให้องค์พระประธานดูล่ำใหญ่ สามารถมองเห็นเอกลักษณ์จากแม่พิมพ์และตำหนิพุทธศิลป์ได้อย่างชัดเจน ทำให้เป็นพระที่มีความงดงามเป็นอย่างมาก นอกจากนั้นท่านอาจารย์ยังกล่าวด้วยว่า ด้วยความที่เราสามารถมองเห็นเอกลักษณ์และตำหนิพุทธศิลป์ได้อย่างชัดเจน พระองค์นี้จึงเหมาะมากที่จะกรณีศึกษาสำหรับผู้ที่สนใจในการดูพระ เอาละครับ เรามาเริ่มกันเลย กับเอกลักษณ์และตำหนิพุทธศิลป์ต่างๆที่ท่านอาจารย์ได้เคยอธิบายไว้ดังนี้ (ดูตามหมายเลขในภาพได้เลยนะครับ) 1. กรอบแม่พิมพ์ เป็นพระที่ตัดปีกพอดีกับกรอบแม่พิมพ์ จึงเป็นกรอบแม่พิมพ์ไม่ชัดนัก 2. กรอบแม่พิมพ์ด้านซ้าย เป็นกรอบกระจกที่เกิดจากการใช้ตอกตัดจากพิมพ์ด้านหลังมาพิมพ์ด้านหน้า ทำให้เกินเป็นสันเล็กๆที่ด้านหน้าเรียกว่ากรอบกระจก ซึ่งเอกลักษณ์ของพระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่ นั้นกรอบกระจกจะเป็นเส้นตรงลงมาจรดซุ้มเรือนแก้วบริเวณแนวข้อศอกซ้ายขององค์พระ 3. พระเกศ ปลายพระเกศจะแหลมจรดซุ้มเรือนแก้ว แต่โคนพระเกศจะอ้วนใหญ่เป็นกรวย จุดนี้เป็นเอกลักษณ์ของสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์ที่1 ทั้งพิมพ์สังฆาฏิสั้น และสังฆาฏิยาว 4. พระเศียร ด้วยความที่พระองค์นี้กดพิมพ์ได้ลึกมาก ทำให้พระเศียรกลมโตเป็นพิเศษ 5. จมูก การกดพิมพ์ที่ลึกมากนั้นยังทำให้บริเวณปลายพระเศียรบริเวณจมูกนูนออกมาเล็กน้อย ซึ่งมีน้อยองค์มากๆที่จะเห็นรอยนูนนี้ 6. พระกรรณ พระกรรณข้างซ้ายจะเป็นปีกคมชัด ปลายพระกรรณยาวเกือบจรดบ่า พระกรรณข้างขวาติดรำไร เพราะเวลาถอดพระออกจากพิมพ์จะออกทางด้านซ้าย ทำให้ซึกซ้ายขององค์พระดูคมชัดกว่าซีกขวา (ในรูปมองเห็นพระกรรณไม่ชัดนัก แม้แต่ด้านซ้ายก็ตาม การถ่ายรูปถึงแม้จะถ่ายจาก Studio ที่มีประสบการณ์ก็ยังไม่สามารถเก็บรายละเอียดเล็กๆนี้ให้เห็นเด่นชัดได้ ท่านอาจารย์บอกว่าถ้าได้ส่องจากองค์จริงจะมองเห็นชัดกว่าในรูป) 7. รักแร้ขององค์พระ จุดนี้ท่านอาจารย์เน้นย้ำว่า เป็นเอกลักษณ์ของพระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่ทุกพิมพ์ รักแร้ด้านซ้ายจะลึกกว่าด้านขวา 8. ซุ้มเรือนแก้ว เป็นเส้นกลมเหมือนหวายผ่าซีก สำหรับพระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์ที่1 จะมีซุ้มเรือนแก้วที่อ้วนและใหญ่กว่าพิมพ์ใหญ่พิมพ์อื่นทุกพิมพ์ และการหดตัวของซุ้มเรือนแก้วจะหดตัวในแนวตั้งฉาก (ตัวซุ้มเรือนแก้วเป็นแนวตั้งฉากกับพื้นองค์พระ) 9. แขนทั้ง 2 ข้าง กลมและใหญ่ มีการหดตัวในแนวตั้งฉากเช่นเดียวกับซุ้มเรือนแก้ว 10. ตำหนิที่ต้นแขนซ้าย เราจะเห็นตำหนิการยุบลงเล็กน้อยบริเวณต้นแขนซ้าย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของพระสมเด็จฯ พิมพ์ใหญ่ทุกพิมพ์ ยกเว้นพิมพ์สังฆาฏิยาวเท่านั้นที่ต้นแขนจะเต็ม ไม่มีตำหนิแบบองค์นี้ 11. จีวรใต้ข้อศอกซ้าย เป็นเส้นเล็กๆยาวจรดที่หัวเข่า ท่านอาจารย์ได้กล่าวว่าต้องมองเทียบกันระหว่างใต้ศอกซ้าย กับใต้ศอกขวา จะเห็นว่าที่ใต้ศอกซ้ายจะมีเนื้อองค์พระที่ตื้นกว่าใต้ศอกขวา เส้นนี้แหละที่เรียกว่าจีวรใต้ศอกซ้าย 12. ขอบจีวรที่พาดผ่านอก เป็นเส้นตื้นๆ รำไรพาดจากบ่าซ้ายเฉียงลงไปที่ซอกแขนขวา ตามจุดที่ชี้ในรูปจะเห็นเป็นรอย เนื่องจากพระสมเด็จฯองค์นี้กดพิมพ์ได้ลึก จึงทำให้สามารถมองเห็นเส้นขอบจีวรนี้ได้ชัดกว่าองค์อื่นๆ (บางองค์มองแทบไม่เห็น ถ้ามองจากแค่รูปอาจจะไม่เห็นเลย ต้องส่องดูที่องค์จริงอาจจะเห็นเป็นรอยรำไรเท่านั้น) 13. เส้นสังฆาฏิ เป็นแผ่นโต และนูน พาดจากบ่าซ้ายลงมาที่ต้นช่องท้อง พระสมเด็จฯองค์นี้เราจะเห็นเส้นสังฆาฏิได้ง่ายและชัดมาก แต่บางองค์ที่กดพิมพ์ไม่ลึกมาก เส้นสังฆาฏิอาจจะมองยากซักนิดนึง โดยเฉพาะหากมองจากรูป อาจจะมองไม่เห็นเลย) 14. พระบาทซ้าย แนบที่หน้าตัก พระบาทยาวเกือบจรดเข่าขวา 15. ฐานชั้นที่3 เป็นทรงหมอนหนุน กลมโต และยาวตลอดหน้าตัก 16. เส้นแซมใต้ตัก ปลายฐานชั้นที่3 ทั้งสองข้างจะมีขอบม้วนขึ้นเป็นเส้นแซมใต้ตัก จากรูปตรงจุดที่เลข 16 ชี้นั้นเราจะเห็นเป็นเส้นนูนออกมาเล็กๆ ท่านอาจารย์กล่าวว่าด้วยความที่พระสมเด็จฯ องค์นี้กดพิมพ์ลึก จึงทำให้ยังสามารถเห็นได้แม้จะดูจากรูป แต่พระสมเด็จฯองค์อื่นๆ มองจากในรูปอาจจะไม่เห็นเส้นแซมใต้ตัก ต้องส่องจากองค์จริงถึงจะเห็น 17. ฐานชั้นที่2 เป็นโต๊ะขาสิงห์ ขอบโต๊ะจะเป็นทรงแหลม 18. ฐานชั้นที่1 เป็นฐานเขียงใหญ่และหนา ปลายฐานด้านขวาจะตัดเฉียงเป็นทรงหัวขวาน ท่านอาจารย์บอกว่าส่วนมากปลายล่างสุดด้านขวาของฐานชั้นที่ 1 จะชี้ไปยังมุมด้านล่างของซุ้มเรือนแก้ว 19. รอยหนอนด้น รอยหนอนด้นนั้นเราจะเห็นเป็นเส้นเล็กๆ เหมือนรอยปริแตก เกิดจากการสลายตัวของสารอินทรีย์ในมวลสารขององค์พระ ทำให้เกิดเป็นช่องว่าง เหมือนรอยแยก สำหรับพระสมเด็จฯองค์นี้เราจะเห็นรอยหนอนด้นบนซุ้มเรือนแก้ว (ตำแหน่งของรอยหนอนด้นบนองค์พระไม่แน่นอน แต่ละองค์ไม่เหมือนกัน ท่านอาจารย์ได้กล่าวว่า รอยหนอนด้นเป็นสิ่งหนึ่งที่เอาไว้ดูว่าพระแท้หรือไม่ เพราะรอยดังกล่าวเกิดจากย่อยสลายของสารอินทรีย์ในมวลสาร ซึ่งต้องใช้เวลานานกว่าจะกลายเป็นรอยหนอนด้น) 20. เม็ดพระธาตุ เม็ดพระธาตุเป็นปูนอีกชนิดหนึ่งที่สมเด็จโตท่านเอามาผสมในมวลสาร ซึ่งปูนชนิดนี้ไม่ได้ผสมกลมกลืนกับปูนเปลือกหอยที่เป็นวัตถุดิบหลักในการทำมวลสาร เมื่อเวลาผ่านไปการหดตัวของปูน 2 ชนิดไม่เท่ากัน ทำให้เกิดรอยแยกเห็นปูนอีกชนิดหนึ่งเป็นเม็ดเล็กๆ ท่านอาจารย์เล่าให้ฟังว่าสันนิษฐานว่าเม็ดพระธาตุนี้คือเศษปูนที่ฉาบพระประธานในพระอุโบสถไว้ (สมัยโบราณจะมีการฉาบปูนทับองค์พระประธานไว้) เมื่อเศษปูนกระเทาะออก หรือมีการกระเทาะออกอย่างตั้งใจเพื่อที่จะทำการฉาบใหม่ สมเด็จโตท่านเห็นว่าปูนนี้เป็นของสูง ไม่ควรทิ้งในที่ที่มิควร จึงนำมาบดให้ละเอียดและผสมลงในมวลสาร แต่ถึงจะบดอย่างไร ปูนคงมิได้ละเอียดเป็นผง ยังคงมีเหลือที่เป็นเม็ดเล็กๆ เป็นที่มาของเม็ดพระธาตุ ท่านอาจารย์บอกว่าพระสมเด็จฯ องค์นี้ในสมัยที่ท่านยังโลดแล่นอยู่ในสนามพระ เรียกกันว่า "องค์เขียวมรกต" ถือเป็นหนึ่งในองค์ครูในการศึกษาการดูพระสมเด็จวัดระฆังฯ พิมพ์ใหญ่ พิมพ์ที่1 พิมพ์สังฆาฏิสั้น โดยเฉพาะการดูเอกลักษณ์แม่พิมพ์และตำหนิพุทธศิลป์ของพิมพ์หน้า แอดมินหวังว่าบทความที่ Rewrite ขึ้นมาใหม่นี้จะเป็นประโยชน์ต่อสมาชิกแฟนเพจที่ต้องการศึกษาการดูพระบ้างไม่มากก็น้อยนะครับ ขอบคุณครับ พบกันใหม่ในโพสหน้าครับ #พระสมเด็จ #พระสมเด็จวัดระฆัง #เบญจภาคี #พระเครื่อง #สมเด็จโต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ประกาศว่าจะลงทุนเพิ่ม 700 ล้านดอลลาร์ในประเทศโปแลนด์ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางไซเบอร์ของประเทศนั้น โดยจะทำงานร่วมกับกองทัพโปแลนด์ ข่าวนี้ได้รับการเผยแพร่ในแถลงข่าวร่วมกันระหว่าง Brad Smith ประธาน Microsoft กับนายกรัฐมนตรี Donald Tusk ของโปแลนด์

    นับว่าเป็นขั้นตอนที่สองของโครงการศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่ Microsoft ได้ลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2020 และเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2023 ศูนย์ข้อมูลนี้ให้บริการคลาวด์แก่ธุรกิจและหน่วยงานรัฐบาลในโปแลนด์

    ความมั่นคงทางไซเบอร์เป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากในยุคปัจจุบัน การลงทุนของ Microsoft ในโปแลนด์ไม่เพียงแค่เพิ่มความปลอดภัยทางไซเบอร์ แต่ยังเป็นการสนับสนุนให้มีการพัฒนาทรัพยากรบุคคลด้านเทคโนโลยีในประเทศโปแลนด์อีกด้วย

    เทคโนโลยีคลาวด์ที่ได้รับการพัฒนาเช่นนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการข้อมูลและลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์ ทำให้โปแลนด์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความมั่นคงทางไซเบอร์สูงขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นต้นแบบให้กับประเทศอื่น ๆ ที่ต้องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านความมั่นคงทางไซเบอร์อีกด้วย

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/17/microsoft-to-invest-700-million-to-boost-poland039s-cybersecurity
    Microsoft ประกาศว่าจะลงทุนเพิ่ม 700 ล้านดอลลาร์ในประเทศโปแลนด์ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางไซเบอร์ของประเทศนั้น โดยจะทำงานร่วมกับกองทัพโปแลนด์ ข่าวนี้ได้รับการเผยแพร่ในแถลงข่าวร่วมกันระหว่าง Brad Smith ประธาน Microsoft กับนายกรัฐมนตรี Donald Tusk ของโปแลนด์ นับว่าเป็นขั้นตอนที่สองของโครงการศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่ Microsoft ได้ลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2020 และเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2023 ศูนย์ข้อมูลนี้ให้บริการคลาวด์แก่ธุรกิจและหน่วยงานรัฐบาลในโปแลนด์ ความมั่นคงทางไซเบอร์เป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากในยุคปัจจุบัน การลงทุนของ Microsoft ในโปแลนด์ไม่เพียงแค่เพิ่มความปลอดภัยทางไซเบอร์ แต่ยังเป็นการสนับสนุนให้มีการพัฒนาทรัพยากรบุคคลด้านเทคโนโลยีในประเทศโปแลนด์อีกด้วย เทคโนโลยีคลาวด์ที่ได้รับการพัฒนาเช่นนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการข้อมูลและลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์ ทำให้โปแลนด์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความมั่นคงทางไซเบอร์สูงขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นต้นแบบให้กับประเทศอื่น ๆ ที่ต้องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านความมั่นคงทางไซเบอร์อีกด้วย https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/17/microsoft-to-invest-700-million-to-boost-poland039s-cybersecurity
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Microsoft to invest $700 million to boost Poland's cybersecurity
    WARSAW (Reuters) -Microsoft plans to invest an additional 700 million dollars in Poland to improve Polish cybersecurity in cooperation with the country's armed forces, the company's president said on Monday without elaborating.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 139 มุมมอง 0 รีวิว
  • “อิ๊งค์”เดินชมย่านเมืองเก่าสงขลา พร้อมรับฟังปัญหา-ข้อเสนอแนะ
    https://www.thai-tai.tv/news/17191/
    “อิ๊งค์”เดินชมย่านเมืองเก่าสงขลา พร้อมรับฟังปัญหา-ข้อเสนอแนะ https://www.thai-tai.tv/news/17191/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีการปรับแต่งเมนูเริ่มต้นใน Windows 11 ให้เหมาะสมและใช้งานได้ง่ายขึ้น โดยใช้ม็อด (mod) ของบุคคลที่สาม ซึ่งม็อดนี้เรียกว่า Windhawk สร้างขึ้นโดยชุมชนผู้พัฒนาที่มีความกระตือรือร้น

    หลายคนยังคงไม่พอใจกับเมนูเริ่มต้นของ Windows 11 แม้ว่า Microsoft จะออกอัพเดตหลายครั้งก็ตาม แต่ก็ยังไม่สามารถเทียบเท่ากับเวอร์ชัน Windows 10 ในเรื่องของความยืดหยุ่น ม็อด Windhawk นี้สามารถทำให้คุณได้รับประสบการณ์การใช้งานเมนูเริ่มต้นที่ดียิ่งขึ้นโดยการรวมแอปพลิเคชันที่ปักหมุดไว้ตรงกลางและมีรายชื่อแอปทั้งหมดอยู่ข้างๆ ทำให้ไม่ต้องคลิกเพิ่มเพื่อค้นหาโปรแกรมที่ซ่อนอยู่ในรายการ

    สิ่งที่น่าสนใจคือ ม็อดนี้ไม่เพียงแค่ปรับปรุงเมนูเริ่มต้น แต่ยังสามารถปรับแต่งแถบงานและเดสก์ท็อปได้อีกด้วย นอกจากนี้ คุณสามารถทำให้เมนูมีความโปร่งใสมากขึ้น หรือแม้แต่ลบส่วนที่แนะนำ (Recommended section) ออกไปทั้งหมดได้

    Windhawk มีชุมชนที่เปิดเผยและโค้ดที่เป็นโอเพนซอร์ส ทำให้มีความปลอดภัยค่อนข้างสูง คุณยังสามารถปรับแต่งม็อดเพิ่มเติมและแจกจ่ายเวอร์ชันที่คุณปรับแต่งเองได้หากมีความรู้ในการพัฒนา

    https://www.techspot.com/news/106792-third-party-mod-delivers-start-menu-windows-11.html
    มีการปรับแต่งเมนูเริ่มต้นใน Windows 11 ให้เหมาะสมและใช้งานได้ง่ายขึ้น โดยใช้ม็อด (mod) ของบุคคลที่สาม ซึ่งม็อดนี้เรียกว่า Windhawk สร้างขึ้นโดยชุมชนผู้พัฒนาที่มีความกระตือรือร้น หลายคนยังคงไม่พอใจกับเมนูเริ่มต้นของ Windows 11 แม้ว่า Microsoft จะออกอัพเดตหลายครั้งก็ตาม แต่ก็ยังไม่สามารถเทียบเท่ากับเวอร์ชัน Windows 10 ในเรื่องของความยืดหยุ่น ม็อด Windhawk นี้สามารถทำให้คุณได้รับประสบการณ์การใช้งานเมนูเริ่มต้นที่ดียิ่งขึ้นโดยการรวมแอปพลิเคชันที่ปักหมุดไว้ตรงกลางและมีรายชื่อแอปทั้งหมดอยู่ข้างๆ ทำให้ไม่ต้องคลิกเพิ่มเพื่อค้นหาโปรแกรมที่ซ่อนอยู่ในรายการ สิ่งที่น่าสนใจคือ ม็อดนี้ไม่เพียงแค่ปรับปรุงเมนูเริ่มต้น แต่ยังสามารถปรับแต่งแถบงานและเดสก์ท็อปได้อีกด้วย นอกจากนี้ คุณสามารถทำให้เมนูมีความโปร่งใสมากขึ้น หรือแม้แต่ลบส่วนที่แนะนำ (Recommended section) ออกไปทั้งหมดได้ Windhawk มีชุมชนที่เปิดเผยและโค้ดที่เป็นโอเพนซอร์ส ทำให้มีความปลอดภัยค่อนข้างสูง คุณยังสามารถปรับแต่งม็อดเพิ่มเติมและแจกจ่ายเวอร์ชันที่คุณปรับแต่งเองได้หากมีความรู้ในการพัฒนา https://www.techspot.com/news/106792-third-party-mod-delivers-start-menu-windows-11.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Third-party mod delivers the Start Menu Windows 11 deserves
    The hero here is Windhawk, a veritable treasure trove of Windows 11 mods created by an active community of tinkerers. One standout tweak allows you to enjoy...
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้พูดถึงการใช้เทคโนโลยีแชทบอท AI ที่ช่วยจดบันทึกในการประชุม ซึ่งกำลังเป็นที่ถกเถียงอย่างมากในเรื่องของประสิทธิภาพและความเป็นส่วนตัว โดยมีบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft และ Google รวมถึงสตาร์ทอัพหลายแห่งที่พัฒนาเครื่องมือดิจิทัลนี้เพื่อใช้ฟังการประชุม บันทึกการสนทนา และสรุปประเด็นสำคัญ

    แม้ว่าจะมีการกล่าวถึงว่าเครื่องมือนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ดี แต่ก็มีข้อกังวลหลายประการเกี่ยวกับความเหมาะสมในการใช้งานและการละเมิดความเป็นส่วนตัว Gokul Rajaram, ผู้ร่วมก่อตั้ง Marathon Management Partners ในซานฟรานซิสโก กล่าวว่าเขามักจะใช้ AI ในการจดบันทึกมากถึง 80% ของการประชุม แต่เขาก็มีความกังวลเกี่ยวกับความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น และการที่ AI จดบันทึกจะเป็นการบันทึกเสียงด้วย ซึ่งเกี่ยวข้องกับการละเมิดความเป็นส่วนตัว

    Margaret Mitchell, หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ด้านจริยธรรมของบริษัท Hugging Face, ได้เน้นย้ำถึงข้อควรระวังในการใช้แชทบอท AI ในการจดบันทึก โดยแนะนำให้แจ้งให้ผู้เข้าร่วมประชุมทราบและให้สิทธิ์ในการปฏิเสธหากไม่ต้องการให้บันทึก เธอยังชี้ให้เห็นถึงข้อจำกัดของเทคโนโลยีนี้ในการตีความความหมายที่ไม่ได้ใช้คำพูด และการแปลสารที่ไม่เข้าใจง่าย เช่น การเสียดสีหรือการหยอกล้อ

    AI แชทบอทนี้ยังไม่สามารถรับรู้สัญญาณที่ไม่ใช่เสียง เช่น การแสดงออกทางใบหน้า การใช้ท่าทาง หรือภาษากายได้ ทำให้เกิดความเสี่ยงในการตีความผิด นอกจากนี้ การที่เราใช้ AI ในการจดบันทึกอาจทำให้เกิดการพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไปและลดความเป็นธรรมชาติในการสนทนา

    สำหรับบริษัทที่พัฒนาเครื่องมือ AI เหล่านี้ นอกจากจะได้ประโยชน์ในด้านการตลาดและรายได้แล้ว ยังได้ข้อมูลสำหรับการฝึกฝน AI เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เริ่มมีความสำคัญมากขึ้นเนื่องจากข้อท้าทายทางกฎหมายและข้อจำกัดในการใช้ข้อมูล

    อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงที่การใช้ AI จดบันทึกอาจลดทอนความเป็นมนุษย์ในการประชุม เช่น การสนทนานอกเรื่องเล็กน้อยที่มักเป็นจุดเริ่มต้นของความคิดสร้างสรรค์ และการที่พนักงานระมัดระวังคำพูดเกินไปอาจทำให้การสื่อสารเปิดกว้างลดลง

    https://www.techspot.com/news/106785-ai-notetakers-changing-meetings-but-not-everyone-board.html
    ข่าวนี้พูดถึงการใช้เทคโนโลยีแชทบอท AI ที่ช่วยจดบันทึกในการประชุม ซึ่งกำลังเป็นที่ถกเถียงอย่างมากในเรื่องของประสิทธิภาพและความเป็นส่วนตัว โดยมีบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft และ Google รวมถึงสตาร์ทอัพหลายแห่งที่พัฒนาเครื่องมือดิจิทัลนี้เพื่อใช้ฟังการประชุม บันทึกการสนทนา และสรุปประเด็นสำคัญ แม้ว่าจะมีการกล่าวถึงว่าเครื่องมือนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ดี แต่ก็มีข้อกังวลหลายประการเกี่ยวกับความเหมาะสมในการใช้งานและการละเมิดความเป็นส่วนตัว Gokul Rajaram, ผู้ร่วมก่อตั้ง Marathon Management Partners ในซานฟรานซิสโก กล่าวว่าเขามักจะใช้ AI ในการจดบันทึกมากถึง 80% ของการประชุม แต่เขาก็มีความกังวลเกี่ยวกับความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น และการที่ AI จดบันทึกจะเป็นการบันทึกเสียงด้วย ซึ่งเกี่ยวข้องกับการละเมิดความเป็นส่วนตัว Margaret Mitchell, หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ด้านจริยธรรมของบริษัท Hugging Face, ได้เน้นย้ำถึงข้อควรระวังในการใช้แชทบอท AI ในการจดบันทึก โดยแนะนำให้แจ้งให้ผู้เข้าร่วมประชุมทราบและให้สิทธิ์ในการปฏิเสธหากไม่ต้องการให้บันทึก เธอยังชี้ให้เห็นถึงข้อจำกัดของเทคโนโลยีนี้ในการตีความความหมายที่ไม่ได้ใช้คำพูด และการแปลสารที่ไม่เข้าใจง่าย เช่น การเสียดสีหรือการหยอกล้อ AI แชทบอทนี้ยังไม่สามารถรับรู้สัญญาณที่ไม่ใช่เสียง เช่น การแสดงออกทางใบหน้า การใช้ท่าทาง หรือภาษากายได้ ทำให้เกิดความเสี่ยงในการตีความผิด นอกจากนี้ การที่เราใช้ AI ในการจดบันทึกอาจทำให้เกิดการพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไปและลดความเป็นธรรมชาติในการสนทนา สำหรับบริษัทที่พัฒนาเครื่องมือ AI เหล่านี้ นอกจากจะได้ประโยชน์ในด้านการตลาดและรายได้แล้ว ยังได้ข้อมูลสำหรับการฝึกฝน AI เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เริ่มมีความสำคัญมากขึ้นเนื่องจากข้อท้าทายทางกฎหมายและข้อจำกัดในการใช้ข้อมูล อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงที่การใช้ AI จดบันทึกอาจลดทอนความเป็นมนุษย์ในการประชุม เช่น การสนทนานอกเรื่องเล็กน้อยที่มักเป็นจุดเริ่มต้นของความคิดสร้างสรรค์ และการที่พนักงานระมัดระวังคำพูดเกินไปอาจทำให้การสื่อสารเปิดกว้างลดลง https://www.techspot.com/news/106785-ai-notetakers-changing-meetings-but-not-everyone-board.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    AI notetakers are changing meetings, but not everyone is on board
    While touted as a leap forward in efficiency, these AI notetakers are raising eyebrows and sparking debates about etiquette, privacy, and the very nature of workplace communication.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 167 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'ไทย-กัมพูชา' เคลียร์ปม ร้องเพลงชาติ บนปราสาทตาเมืองธมลงตัว
    https://www.thai-tai.tv/news/17193/
    'ไทย-กัมพูชา' เคลียร์ปม ร้องเพลงชาติ บนปราสาทตาเมืองธมลงตัว https://www.thai-tai.tv/news/17193/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีเกมชื่อ PirateFi ที่มีอยู่ใน Steam ซึ่งถูกจับได้ว่าติดตั้งมัลแวร์ที่ขโมยรหัสผ่านให้กับผู้ใช้ที่ดาวน์โหลดเกมไป ข่าวระบุว่าเกมนี้อยู่ใน Steam ระหว่างวันที่ 6 ถึง 12 กุมภาพันธ์ และมีผู้ดาวน์โหลดไปใช้งานประมาณ 1,500 คน

    บริษัท Seaworth Interactive ผู้พัฒนาเกม PirateFi ได้ปล่อยอัปเดตที่มีมัลแวร์ประเภท Vidar infostealer ซ่อนอยู่ในไฟล์ชื่อว่า Pirate.exe มัลแวร์นี้มีความสามารถในการขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่าน คุกกี้เซสชั่น และข้อมูลอื่น ๆ ที่เก็บในเบราว์เซอร์และแอพอีเมล ทำให้ผู้ใช้งานต้องเปลี่ยนรหัสผ่านและเปิดใช้การยืนยันตัวตนหลายขั้นตอน

    สิ่งที่น่าสนใจคือ Vidar infostealer เป็นมัลแวร์ที่มีความซับซ้อนและยากต่อการตรวจจับ ทำให้ผู้พัฒนามัลแวร์สามารถเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์และเทคนิคการอำพรางมัลแวร์ได้หลายครั้ง นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่าเกม PirateFi ได้ตั้งชื่อแบบนี้เพื่อดึงดูดผู้เล่นที่สนใจในเทคโนโลยีบล็อกเชนและสกุลเงินดิจิทัล

    สำหรับ Steam การพบมัลแวร์ในเกมนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ในปี 2023 เคยมีมัลแวร์ซ่อนอยู่ในโหมดเกม Dota 2 และม็อดของเกม Slay the Spire ที่ได้รับความนิยมในตอนนั้น

    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/piratefi-game-on-steam-caught-installing-password-stealing-malware/
    มีเกมชื่อ PirateFi ที่มีอยู่ใน Steam ซึ่งถูกจับได้ว่าติดตั้งมัลแวร์ที่ขโมยรหัสผ่านให้กับผู้ใช้ที่ดาวน์โหลดเกมไป ข่าวระบุว่าเกมนี้อยู่ใน Steam ระหว่างวันที่ 6 ถึง 12 กุมภาพันธ์ และมีผู้ดาวน์โหลดไปใช้งานประมาณ 1,500 คน บริษัท Seaworth Interactive ผู้พัฒนาเกม PirateFi ได้ปล่อยอัปเดตที่มีมัลแวร์ประเภท Vidar infostealer ซ่อนอยู่ในไฟล์ชื่อว่า Pirate.exe มัลแวร์นี้มีความสามารถในการขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่าน คุกกี้เซสชั่น และข้อมูลอื่น ๆ ที่เก็บในเบราว์เซอร์และแอพอีเมล ทำให้ผู้ใช้งานต้องเปลี่ยนรหัสผ่านและเปิดใช้การยืนยันตัวตนหลายขั้นตอน สิ่งที่น่าสนใจคือ Vidar infostealer เป็นมัลแวร์ที่มีความซับซ้อนและยากต่อการตรวจจับ ทำให้ผู้พัฒนามัลแวร์สามารถเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์และเทคนิคการอำพรางมัลแวร์ได้หลายครั้ง นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่าเกม PirateFi ได้ตั้งชื่อแบบนี้เพื่อดึงดูดผู้เล่นที่สนใจในเทคโนโลยีบล็อกเชนและสกุลเงินดิจิทัล สำหรับ Steam การพบมัลแวร์ในเกมนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ในปี 2023 เคยมีมัลแวร์ซ่อนอยู่ในโหมดเกม Dota 2 และม็อดของเกม Slay the Spire ที่ได้รับความนิยมในตอนนั้น https://www.bleepingcomputer.com/news/security/piratefi-game-on-steam-caught-installing-password-stealing-malware/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    PirateFi game on Steam caught installing password-stealing malware
    A free-to-play game named PirateFi in the Steam store has been distributing the Vidar infostealing malware to unsuspecting users.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 111 มุมมอง 0 รีวิว
  • TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Company) และ Broadcom กำลังพิจารณาทำข้อตกลงแยกกิจการของ Intel โดย Broadcom สนใจในส่วนการออกแบบและการตลาดชิป ส่วน TSMC สนใจในโรงงานผลิตชิปของ Intel ข้อตกลงนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพูดคุยเบื้องต้นและยังไม่มีการเสนอข้อเสนออย่างเป็นทางการ

    Intel กำลังเผชิญกับความยากลำบากในการแข่งขันกับ TSMC และบริษัทอื่น ๆ ในตลาดชิป และ Pat Gelsinger อดีต CEO ของ Intel ถูกขับไล่ออกจากตำแหน่งในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว เนื่องจากประสบปัญหาในการดำเนินงานหลายครั้ง รวมถึงการล่าช้าในการผลิตชิป การสูญเสียส่วนแบ่งตลาดชิป AI และการพึ่งพาเงินสนับสนุนจากรัฐบาลในการขยายโรงงาน

    สิ่งที่น่าสนใจเพิ่มเติมคือ แม้ว่า Intel จะประสบปัญหาทางการเงิน แต่การที่ TSMC และ Broadcom สนใจที่จะเข้าครอบครองกิจการนั้นยังคงเผชิญกับอุปสรรคใหญ่จากรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งมีความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งชาติและไม่ต้องการให้บริษัทต่างชาติเป็นเจ้าของโรงงานผลิตชิปในสหรัฐฯ แม้รัฐบาลจะสนับสนุนการลงทุนจากต่างชาติ แต่ความสามารถในการผลิตในประเทศของ Intel ถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์

    หากการเจรจานี้ดำเนินต่อไป TSMC และ Broadcom อาจต้องหาพันธมิตรในประเทศสหรัฐฯ เพื่อแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคง การแบ่งกิจการของ Intel อาจนำไปสู่การเน้นความเชี่ยวชาญที่เฉพาะเจาะจงในแต่ละบริษัท ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบหรือการผลิตชิป

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/tsmc-and-broadcom-explore-deals-to-rip-apart-intels-foundry-and-chip-design-wings-says-report
    TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Company) และ Broadcom กำลังพิจารณาทำข้อตกลงแยกกิจการของ Intel โดย Broadcom สนใจในส่วนการออกแบบและการตลาดชิป ส่วน TSMC สนใจในโรงงานผลิตชิปของ Intel ข้อตกลงนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพูดคุยเบื้องต้นและยังไม่มีการเสนอข้อเสนออย่างเป็นทางการ Intel กำลังเผชิญกับความยากลำบากในการแข่งขันกับ TSMC และบริษัทอื่น ๆ ในตลาดชิป และ Pat Gelsinger อดีต CEO ของ Intel ถูกขับไล่ออกจากตำแหน่งในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว เนื่องจากประสบปัญหาในการดำเนินงานหลายครั้ง รวมถึงการล่าช้าในการผลิตชิป การสูญเสียส่วนแบ่งตลาดชิป AI และการพึ่งพาเงินสนับสนุนจากรัฐบาลในการขยายโรงงาน สิ่งที่น่าสนใจเพิ่มเติมคือ แม้ว่า Intel จะประสบปัญหาทางการเงิน แต่การที่ TSMC และ Broadcom สนใจที่จะเข้าครอบครองกิจการนั้นยังคงเผชิญกับอุปสรรคใหญ่จากรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งมีความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งชาติและไม่ต้องการให้บริษัทต่างชาติเป็นเจ้าของโรงงานผลิตชิปในสหรัฐฯ แม้รัฐบาลจะสนับสนุนการลงทุนจากต่างชาติ แต่ความสามารถในการผลิตในประเทศของ Intel ถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ หากการเจรจานี้ดำเนินต่อไป TSMC และ Broadcom อาจต้องหาพันธมิตรในประเทศสหรัฐฯ เพื่อแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคง การแบ่งกิจการของ Intel อาจนำไปสู่การเน้นความเชี่ยวชาญที่เฉพาะเจาะจงในแต่ละบริษัท ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบหรือการผลิตชิป https://www.tomshardware.com/tech-industry/tsmc-and-broadcom-explore-deals-to-rip-apart-intels-foundry-and-chip-design-wings-says-report
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    TSMC and Broadcom explore deals to split Intel's foundry and chip design wings, says report
    Broadcom is interested in chip design and marketing segments, while TSMC is considering taking over its fabrication plants.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 165 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดที่ได้สร้างชิป CMOS (complementary metal-oxide semiconductor) เพื่อบันทึกกิจกรรมไฟฟ้าของเซลล์ประสาทในสมองหนู โดยชิปนี้มีแผงอิเล็กโทรดไมโครโฮล 4,096 ช่อง ซึ่งทำให้สามารถบันทึกข้อมูลจากเซลล์ประสาทมากกว่า 2,000 เซลล์ และเชื่อมต่อระหว่างเซลล์ประสาทได้มากถึง 70,000 การเชื่อมต่อ

    ชิปนี้สามารถวัดความแรงของสัญญาณและลักษณะของสัญญาณที่ถูกส่งผ่านระหว่างการเชื่อมต่อ ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าใหญ่ในงานวิจัยประสาทวิทยา เนื่องจากการใช้อิเล็กตรอนไมโครสโคปในปัจจุบันสามารถมองเห็นการเชื่อมต่อประสาท แต่ไม่สามารถบันทึกสัญญาณที่ส่งผ่านได้ และการใช้เทคนิคแบบ patch-clamp electrode จะทำได้เพียงบันทึกสัญญาณจากเซลล์จำนวนน้อยเท่านั้น

    สิ่งที่น่าสนใจเพิ่มเติมคือการใช้ชิปนี้ช่วยให้สามารถศึกษาการทำงานของเซลล์ประสาทจำนวนมาก และเข้าใจกระบวนการทางจิตที่ซับซ้อน เช่น การคิดและการเรียนรู้ นักวิจัยกล่าวว่าแต่ละไมโครโฮลในชิปนี้เหมือนกับการใช้ patch-clamp electrode และการเพิ่มจำนวนไมโครโฮลกว่า 4,000 ช่องในชิปเดียว ทำให้สามารถตรวจสอบเซลล์ประสาทจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ทีมวิจัยได้ทำการบันทึกข้อมูลจากเซลล์ประสาทหนูมากกว่า 3,600 เซลล์ โดยมีอัตราความสำเร็จเกือบ 90% จากนั้นทีมได้บันทึกการเชื่อมต่อระหว่างเซลล์ประสาทได้มากกว่า 70,000 การเชื่อมต่อ ซึ่งมากกว่าสถิติเดิมถึง 200 เท่า

    แม้จะมีความก้าวหน้านี้ แต่ทีมวิจัยยังคงมีความท้าทายในการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากที่ได้รับ และกำลังพัฒนาชิปรุ่นใหม่ที่สามารถใช้งานในสมองจริง หากประสบความสำเร็จ เทคโนโลยีนี้สามารถนำไปใช้ในการฝึก AI และสร้างชิปที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยไม่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้ามาก และยังสามารถใช้ในการวิจัยด้านสุขภาพจิต เพื่อเข้าใจการทำงานของการเชื่อมต่อประสาทและผลกระทบต่อการรับรู้ของจิตใจ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/harvard-team-built-a-cmos-chip-to-map-70-000-synaptic-connections-between-2-000-rat-neurons
    ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดที่ได้สร้างชิป CMOS (complementary metal-oxide semiconductor) เพื่อบันทึกกิจกรรมไฟฟ้าของเซลล์ประสาทในสมองหนู โดยชิปนี้มีแผงอิเล็กโทรดไมโครโฮล 4,096 ช่อง ซึ่งทำให้สามารถบันทึกข้อมูลจากเซลล์ประสาทมากกว่า 2,000 เซลล์ และเชื่อมต่อระหว่างเซลล์ประสาทได้มากถึง 70,000 การเชื่อมต่อ ชิปนี้สามารถวัดความแรงของสัญญาณและลักษณะของสัญญาณที่ถูกส่งผ่านระหว่างการเชื่อมต่อ ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าใหญ่ในงานวิจัยประสาทวิทยา เนื่องจากการใช้อิเล็กตรอนไมโครสโคปในปัจจุบันสามารถมองเห็นการเชื่อมต่อประสาท แต่ไม่สามารถบันทึกสัญญาณที่ส่งผ่านได้ และการใช้เทคนิคแบบ patch-clamp electrode จะทำได้เพียงบันทึกสัญญาณจากเซลล์จำนวนน้อยเท่านั้น สิ่งที่น่าสนใจเพิ่มเติมคือการใช้ชิปนี้ช่วยให้สามารถศึกษาการทำงานของเซลล์ประสาทจำนวนมาก และเข้าใจกระบวนการทางจิตที่ซับซ้อน เช่น การคิดและการเรียนรู้ นักวิจัยกล่าวว่าแต่ละไมโครโฮลในชิปนี้เหมือนกับการใช้ patch-clamp electrode และการเพิ่มจำนวนไมโครโฮลกว่า 4,000 ช่องในชิปเดียว ทำให้สามารถตรวจสอบเซลล์ประสาทจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทีมวิจัยได้ทำการบันทึกข้อมูลจากเซลล์ประสาทหนูมากกว่า 3,600 เซลล์ โดยมีอัตราความสำเร็จเกือบ 90% จากนั้นทีมได้บันทึกการเชื่อมต่อระหว่างเซลล์ประสาทได้มากกว่า 70,000 การเชื่อมต่อ ซึ่งมากกว่าสถิติเดิมถึง 200 เท่า แม้จะมีความก้าวหน้านี้ แต่ทีมวิจัยยังคงมีความท้าทายในการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากที่ได้รับ และกำลังพัฒนาชิปรุ่นใหม่ที่สามารถใช้งานในสมองจริง หากประสบความสำเร็จ เทคโนโลยีนี้สามารถนำไปใช้ในการฝึก AI และสร้างชิปที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยไม่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้ามาก และยังสามารถใช้ในการวิจัยด้านสุขภาพจิต เพื่อเข้าใจการทำงานของการเชื่อมต่อประสาทและผลกระทบต่อการรับรู้ของจิตใจ https://www.tomshardware.com/tech-industry/harvard-team-built-a-cmos-chip-to-map-70-000-synaptic-connections-between-2-000-rat-neurons
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Harvard team built a CMOS chip to map 70,000 synaptic connections between 2,000 rat neurons
    Research aims to understand large-scale neural networks via a leap in neuronal recording.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.facebook.com/share/15ipCbRsvC/

    ไม่เคยเห็นได้ของแจกเลย...
    https://www.facebook.com/share/15ipCbRsvC/ ไม่เคยเห็นได้ของแจกเลย...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปัญหาการชาร์จในโทรศัพท์ Samsung Galaxy S25 Ultra และ S25 Plus ซึ่งผู้ใช้หลายรายพบว่าโทรศัพท์ของพวกเขาชาร์จช้ากว่าที่ควรจะเป็นหรือไม่ชาร์จเลย โดยปัญหานี้เกิดจากการใช้สาย USB-C ขนาด 5A ร่วมกับที่ชาร์จขนาด 45W ที่มาพร้อมกับเครื่อง

    จากรายงานใน Reddit และฟอรัมของ Samsung เอง (เช่น Android Police) พบว่าสาเหตุของปัญหานี้เกิดจากการใช้สาย USB-C ขนาด 5A ในการชาร์จ ซึ่ง Samsung อิตาลีได้แนะนำว่า การใช้สาย 3A ที่มาพร้อมกับอุปกรณ์จะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้

    อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความแน่ชัดว่าการแก้ไขนี้จะได้ผลสำหรับทุกคนหรือไม่ แต่หวังว่าซอฟต์แวร์ที่กำลังจะมาในอนาคตคาดว่าจะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ ขณะนี้มีการอัปเดตซอฟต์แวร์ครั้งแรกที่เริ่มปล่อยให้ผู้ใช้ Samsung Galaxy S25 ซึ่งซอฟต์แวร์นี้มีการปรับปรุงเรื่องการชาร์จ แม้ว่าจะไม่ได้ระบุชัดเจนว่าปัญหานี้ได้ถูกแก้ไขไปแล้วหรือไม่

    ถ้าคุณพบปัญหานี้ ควรทำการอัปเดตซอฟต์แวร์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน และหากปัญหายังไม่หาย ลองเปลี่ยนไปใช้สาย 3A หรือปิดฟีเจอร์การชาร์จเร็วของอุปกรณ์ และหากทุกวิธีล้มเหลว อาจลองใช้การชาร์จแบบไร้สายแทน

    สำหรับผู้ที่มี Samsung Galaxy S25 รุ่นฐาน (base model) ไม่ต้องกังวลเพราะรุ่นนี้ไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้ เนื่องจากความเร็วในการชาร์จสูงสุดอยู่ที่ 25W แทนที่จะเป็น 45W

    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/the-samsung-galaxy-s25-ultra-and-s25-plus-have-a-charging-issue-heres-the-solution
    ปัญหาการชาร์จในโทรศัพท์ Samsung Galaxy S25 Ultra และ S25 Plus ซึ่งผู้ใช้หลายรายพบว่าโทรศัพท์ของพวกเขาชาร์จช้ากว่าที่ควรจะเป็นหรือไม่ชาร์จเลย โดยปัญหานี้เกิดจากการใช้สาย USB-C ขนาด 5A ร่วมกับที่ชาร์จขนาด 45W ที่มาพร้อมกับเครื่อง จากรายงานใน Reddit และฟอรัมของ Samsung เอง (เช่น Android Police) พบว่าสาเหตุของปัญหานี้เกิดจากการใช้สาย USB-C ขนาด 5A ในการชาร์จ ซึ่ง Samsung อิตาลีได้แนะนำว่า การใช้สาย 3A ที่มาพร้อมกับอุปกรณ์จะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความแน่ชัดว่าการแก้ไขนี้จะได้ผลสำหรับทุกคนหรือไม่ แต่หวังว่าซอฟต์แวร์ที่กำลังจะมาในอนาคตคาดว่าจะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ ขณะนี้มีการอัปเดตซอฟต์แวร์ครั้งแรกที่เริ่มปล่อยให้ผู้ใช้ Samsung Galaxy S25 ซึ่งซอฟต์แวร์นี้มีการปรับปรุงเรื่องการชาร์จ แม้ว่าจะไม่ได้ระบุชัดเจนว่าปัญหานี้ได้ถูกแก้ไขไปแล้วหรือไม่ ถ้าคุณพบปัญหานี้ ควรทำการอัปเดตซอฟต์แวร์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน และหากปัญหายังไม่หาย ลองเปลี่ยนไปใช้สาย 3A หรือปิดฟีเจอร์การชาร์จเร็วของอุปกรณ์ และหากทุกวิธีล้มเหลว อาจลองใช้การชาร์จแบบไร้สายแทน สำหรับผู้ที่มี Samsung Galaxy S25 รุ่นฐาน (base model) ไม่ต้องกังวลเพราะรุ่นนี้ไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้ เนื่องจากความเร็วในการชาร์จสูงสุดอยู่ที่ 25W แทนที่จะเป็น 45W https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/the-samsung-galaxy-s25-ultra-and-s25-plus-have-a-charging-issue-heres-the-solution
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel กำลังพัฒนา GPU แบบ discrete รุ่นใหม่ที่มีชื่อว่า "Celestial" ซึ่งคาดว่าจะมีการใช้สถาปัตยกรรม Xe3P และอาจจะผลิตโดย Intel Foundry Services (IFS) แทนที่จะเป็น TSMC นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในทิศทางการพัฒนา GPU ของ Intel

    การเปิดตัว GPU Celestial นี้คาดว่าจะมีประสิทธิภาพสูงกว่า GPU รุ่นก่อนหน้าที่ชื่อว่า Battlemage โดยมีการปรับปรุงในด้านความสามารถในการประมวลผลและประสิทธิภาพสูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีการกล่าวถึงว่า Celestial จะใช้เซมิคอนดักเตอร์ที่พัฒนาโดย Intel เอง ซึ่งหมายความว่า Intel ได้เปลี่ยนใจจากการใช้บริการของ TSMC มาผลิต GPU ของตนเอง

    นอกจากนั้น มีรายงานว่า Intel มีความตั้งใจที่จะยังคงแข่งขันในตลาด GPU แบบ discrete และจะมีการอัปเดตข้อมูลเกี่ยวกับ GPU Celestial ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า คาดว่า Celestial จะเปิดตัวในช่วงปลายปี 2025 หรือช่วงต้นปี 2026

    เทคโนโลยี Xe3P ที่จะถูกใช้ใน GPU Celestial นี้มีการคาดการณ์ว่าจะเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผลที่สูงขึ้น และทำให้ GPU ของ Intel สามารถแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การเปลี่ยนมาใช้ Intel Foundry Services ในการผลิตชิปยังเป็นการบ่งบอกถึงความพยายามของ Intel ในการลดการพึ่งพาบริษัทภายนอกและเพิ่มการควบคุมการผลิตได้ดีขึ้น

    การพัฒนา GPU รุ่น Celestial นี้อาจจะช่วยให้ Intel มีโอกาสกลับมามีส่วนแบ่งตลาดในตลาด GPU ที่เดิมเคยสูญเสียไปให้กับคู่แข่งอย่าง NVIDIA และ AMD

    https://wccftech.com/intel-celestial-dgpus-are-expected-to-feature-the-xe3p-architecture/
    Intel กำลังพัฒนา GPU แบบ discrete รุ่นใหม่ที่มีชื่อว่า "Celestial" ซึ่งคาดว่าจะมีการใช้สถาปัตยกรรม Xe3P และอาจจะผลิตโดย Intel Foundry Services (IFS) แทนที่จะเป็น TSMC นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในทิศทางการพัฒนา GPU ของ Intel การเปิดตัว GPU Celestial นี้คาดว่าจะมีประสิทธิภาพสูงกว่า GPU รุ่นก่อนหน้าที่ชื่อว่า Battlemage โดยมีการปรับปรุงในด้านความสามารถในการประมวลผลและประสิทธิภาพสูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีการกล่าวถึงว่า Celestial จะใช้เซมิคอนดักเตอร์ที่พัฒนาโดย Intel เอง ซึ่งหมายความว่า Intel ได้เปลี่ยนใจจากการใช้บริการของ TSMC มาผลิต GPU ของตนเอง นอกจากนั้น มีรายงานว่า Intel มีความตั้งใจที่จะยังคงแข่งขันในตลาด GPU แบบ discrete และจะมีการอัปเดตข้อมูลเกี่ยวกับ GPU Celestial ในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า คาดว่า Celestial จะเปิดตัวในช่วงปลายปี 2025 หรือช่วงต้นปี 2026 เทคโนโลยี Xe3P ที่จะถูกใช้ใน GPU Celestial นี้มีการคาดการณ์ว่าจะเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผลที่สูงขึ้น และทำให้ GPU ของ Intel สามารถแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การเปลี่ยนมาใช้ Intel Foundry Services ในการผลิตชิปยังเป็นการบ่งบอกถึงความพยายามของ Intel ในการลดการพึ่งพาบริษัทภายนอกและเพิ่มการควบคุมการผลิตได้ดีขึ้น การพัฒนา GPU รุ่น Celestial นี้อาจจะช่วยให้ Intel มีโอกาสกลับมามีส่วนแบ่งตลาดในตลาด GPU ที่เดิมเคยสูญเสียไปให้กับคู่แข่งอย่าง NVIDIA และ AMD https://wccftech.com/intel-celestial-dgpus-are-expected-to-feature-the-xe3p-architecture/
    WCCFTECH.COM
    Intel's Celestial dGPUs Are Expected To Feature The Xe3P Architecture, Will Likely Use Intel Foundry Instead of TSMC
    Intel's next-gen Celestial discrete GPUs are expected to feature the Xe3P architecture and could potentially be developed by the IFS.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 142 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้พูดถึงการพัฒนาหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่ใช้พลังงานจาก AI โดย Meta ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อช่วยในการทำงานบ้าน เช่น การพับผ้าและการล้างจาน โดย Meta ได้ก่อตั้งแผนกใหม่ใน Reality Labs เพื่อมุ่งเน้นการใช้โมเดล AI ของ Meta ในการปฏิบัติงานเหล่านี้

    Meta จะพัฒนาเซ็นเซอร์ ซอฟต์แวร์ และ AI สำหรับหุ่นยนต์ ซึ่งจะถูกส่งมอบให้กับบริษัทต่าง ๆ เพื่อผลิตหุ่นยนต์เหล่านี้ ในขั้นแรก หุ่นยนต์จะไม่ถูกทำการตลาดในชื่อของ Meta โดยบริษัทได้มีการหารือกับบริษัทหุ่นยนต์อื่น ๆ เช่น Unitree Robotics และ Figure AI สำหรับโครงการนี้

    Andrew Bosworth, ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ Meta ได้กล่าวว่า Meta ได้ลงทุนใน Reality Labs และ AI อย่างมากเพื่อพัฒนาหุ่นยนต์ นอกจากนี้ Meta ยังได้จ้าง Marc Whitten อดีต CEO ของ Cruise มาเป็นรองประธานฝ่ายหุ่นยนต์ ซึ่งมีประสบการณ์กับ Microsoft, Unity, และ Amazon

    สิ่งที่น่าสนใจเพิ่มเติมคือ Meta ไม่ใช่บริษัทเดียวที่กำลังพิจารณาการพัฒนาหุ่นยนต์สำหรับบ้าน Apple เองก็มีแผนที่จะเพิ่มหุ่นยนต์เข้ามาในผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฮม และ Google ก็มีความก้าวหน้าในการวิจัยและพัฒนาหุ่นยนต์เช่นกัน

    การพัฒนาหุ่นยนต์ที่ใช้พลังงานจาก AI นี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่แนวคิด แต่กำลังกลายเป็นความจริง โดยเป็นการนำแนวคิดจาก Rosey Robot ในการ์ตูน The Jetsons มาใช้ในชีวิตประจำวัน

    https://wccftech.com/meta-is-developing-ai-powered-humanoid-robots-set-to-transform-household-chores-bringing-jetsons-rosey-to-life/
    ข่าวนี้พูดถึงการพัฒนาหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่ใช้พลังงานจาก AI โดย Meta ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อช่วยในการทำงานบ้าน เช่น การพับผ้าและการล้างจาน โดย Meta ได้ก่อตั้งแผนกใหม่ใน Reality Labs เพื่อมุ่งเน้นการใช้โมเดล AI ของ Meta ในการปฏิบัติงานเหล่านี้ Meta จะพัฒนาเซ็นเซอร์ ซอฟต์แวร์ และ AI สำหรับหุ่นยนต์ ซึ่งจะถูกส่งมอบให้กับบริษัทต่าง ๆ เพื่อผลิตหุ่นยนต์เหล่านี้ ในขั้นแรก หุ่นยนต์จะไม่ถูกทำการตลาดในชื่อของ Meta โดยบริษัทได้มีการหารือกับบริษัทหุ่นยนต์อื่น ๆ เช่น Unitree Robotics และ Figure AI สำหรับโครงการนี้ Andrew Bosworth, ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ Meta ได้กล่าวว่า Meta ได้ลงทุนใน Reality Labs และ AI อย่างมากเพื่อพัฒนาหุ่นยนต์ นอกจากนี้ Meta ยังได้จ้าง Marc Whitten อดีต CEO ของ Cruise มาเป็นรองประธานฝ่ายหุ่นยนต์ ซึ่งมีประสบการณ์กับ Microsoft, Unity, และ Amazon สิ่งที่น่าสนใจเพิ่มเติมคือ Meta ไม่ใช่บริษัทเดียวที่กำลังพิจารณาการพัฒนาหุ่นยนต์สำหรับบ้าน Apple เองก็มีแผนที่จะเพิ่มหุ่นยนต์เข้ามาในผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฮม และ Google ก็มีความก้าวหน้าในการวิจัยและพัฒนาหุ่นยนต์เช่นกัน การพัฒนาหุ่นยนต์ที่ใช้พลังงานจาก AI นี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่แนวคิด แต่กำลังกลายเป็นความจริง โดยเป็นการนำแนวคิดจาก Rosey Robot ในการ์ตูน The Jetsons มาใช้ในชีวิตประจำวัน https://wccftech.com/meta-is-developing-ai-powered-humanoid-robots-set-to-transform-household-chores-bringing-jetsons-rosey-to-life/
    WCCFTECH.COM
    Meta Is Developing AI-Powered Humanoid Robots Set To Transform Household Chores, Bringing Rosey From The Jetsons To Life
    Meta is reportedly working on humanoid robots driven by AI and augmented reality to handle household chores and aimed at the consumers.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 170 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple กำลังพัฒนาโมเด็ม 5G ของตัวเอง ซึ่งจะถูกใช้ใน iPhone SE 4 ที่คาดว่าจะเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้ แม้ว่าการพัฒนาโมเด็มนี้จะเป็นการก้าวหน้าที่น่าสนใจสำหรับ Apple แต่ก็มีรายงานว่าประสิทธิภาพของโมเด็มนี้ยังไม่สามารถเทียบเท่ากับโมเด็ม Snapdragon X75 ของ Qualcomm ที่จะถูกใช้ใน iPhone 16 ได้

    Apple พยายามเลิกการพึ่งพา Qualcomm และได้ทำงานพัฒนาโมเด็มของตัวเองมาเกือบ 7 ปี iPhone SE 4 จะเป็นอุปกรณ์แรกที่ใช้โมเด็มนี้ แต่จากรายงานล่าสุดโมเด็มนี้ยังมีประสิทธิภาพน้อยกว่า โดยมีปัญหาในเรื่องของความเร็วในการอัพโหลดและดาวน์โหลด ขาดการรองรับเทคโนโลยี mmWave 5G และมีฟีเจอร์การรวมตัวของเครือข่ายที่น้อยกว่า

    สิ่งที่น่าสนใจคือ iPhone SE 4 ยังคงมีจุดเด่นอื่น ๆ ที่น่าจับตา เช่น หน้าจอ OLED ชิป A18 และฟีเจอร์ Apple Intelligence ที่อัพเกรดใหม่ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้โมเด็มของตัวเองแทนการใช้ของ Qualcomm อาจเป็นการทดสอบสำหรับ Apple เพื่อปรับปรุงเทคโนโลยีในอนาคต

    นอกจากนี้ มีความคาดหวังว่า iPhone SE 4 จะเป็นที่นิยมเนื่องจากราคาที่ถูกลงและการปรับปรุงต่าง ๆ ที่ทำให้เครื่องมีประสิทธิภาพมากขึ้น อาจมีการใช้ปุ่ม Action ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถสั่งงานได้หลากหลาย

    https://wccftech.com/apples-custom-5g-modem-chip-inside-the-iphone-se-4-will-deliver-worse-performance-than-qualcomms-snapdragon-x75-chip-in-the-iphone-16-lineup/
    Apple กำลังพัฒนาโมเด็ม 5G ของตัวเอง ซึ่งจะถูกใช้ใน iPhone SE 4 ที่คาดว่าจะเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้ แม้ว่าการพัฒนาโมเด็มนี้จะเป็นการก้าวหน้าที่น่าสนใจสำหรับ Apple แต่ก็มีรายงานว่าประสิทธิภาพของโมเด็มนี้ยังไม่สามารถเทียบเท่ากับโมเด็ม Snapdragon X75 ของ Qualcomm ที่จะถูกใช้ใน iPhone 16 ได้ Apple พยายามเลิกการพึ่งพา Qualcomm และได้ทำงานพัฒนาโมเด็มของตัวเองมาเกือบ 7 ปี iPhone SE 4 จะเป็นอุปกรณ์แรกที่ใช้โมเด็มนี้ แต่จากรายงานล่าสุดโมเด็มนี้ยังมีประสิทธิภาพน้อยกว่า โดยมีปัญหาในเรื่องของความเร็วในการอัพโหลดและดาวน์โหลด ขาดการรองรับเทคโนโลยี mmWave 5G และมีฟีเจอร์การรวมตัวของเครือข่ายที่น้อยกว่า สิ่งที่น่าสนใจคือ iPhone SE 4 ยังคงมีจุดเด่นอื่น ๆ ที่น่าจับตา เช่น หน้าจอ OLED ชิป A18 และฟีเจอร์ Apple Intelligence ที่อัพเกรดใหม่ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้โมเด็มของตัวเองแทนการใช้ของ Qualcomm อาจเป็นการทดสอบสำหรับ Apple เพื่อปรับปรุงเทคโนโลยีในอนาคต นอกจากนี้ มีความคาดหวังว่า iPhone SE 4 จะเป็นที่นิยมเนื่องจากราคาที่ถูกลงและการปรับปรุงต่าง ๆ ที่ทำให้เครื่องมีประสิทธิภาพมากขึ้น อาจมีการใช้ปุ่ม Action ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถสั่งงานได้หลากหลาย https://wccftech.com/apples-custom-5g-modem-chip-inside-the-iphone-se-4-will-deliver-worse-performance-than-qualcomms-snapdragon-x75-chip-in-the-iphone-16-lineup/
    WCCFTECH.COM
    Apple's Custom 5G Modem Chip Inside The iPhone SE 4 Will Deliver Worse Performance Than Qualcomm's Snapdragon X75 Chip In The iPhone 16 Lineup
    Apple's initial custom 5G modem in the iPhone SE 4 will have worse performance compared to Qualcomm's Snapdragon X75 modems.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 116 มุมมอง 0 รีวิว
  • #อาการ #โรคสะสมของ
    https://youtu.be/uy39WAz8D9Q
    #อาการ #โรคสะสมของ https://youtu.be/uy39WAz8D9Q
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลสั่งจำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา "เอกลาภ ยิ้มวิไล" อดีตผู้บริหาร "ซิปเม็กซ์" ฉ้อโกงประชาชน เสียหายกว่า 1 พันล้านบาท

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000015842

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดหนังสือประท้วงกัมพูชา ไม่ทำตามข้อตกลง ที่ปราสาทตาเมือนธม ปล่อยทหารไปร้องเพลงชาติจากกรณีทหารกัมพูชาจำนวนหนึ่งขึ้นมาร้องเพลงชาติบริเวณประสาทตาเมือนธม ซึ่งอยู่ในดินแดนของประเทศไทย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์นั้น ล่าสุด (17 ก.พ.) กองบัญชาการกองกำลังสุรนารี ค่ายวีรวัฒน์โยธิน โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผบ.กองกำลังสุรนารี ได้ทำหนังสือถึงผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 ราชอาณาจักรกัมพูชา เรื่อง ประท้วงการปฏิบัติของฝ่ายกัมพูชาในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษดีเอสไอ เปิดเผยหลัง หลังใช้โดรน-โซนาร์ สำรวจเส้นทางเดินเรือคดีแตงโม3 จุด บริเวณท่าทราย-วัดค้างคาว คาด 2 สัปดาห์ได้ข้อมูลทั้งหมด

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000015787

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • จาก 'อัลไพน์' ถึง 'ปากช่อง' ศึกสามก๊กชำระแค้น 'เพื่อไทย-กล้าธรรม-ภูมิใจไทยมา : ข่าวลึกปมลับ 17/02/67
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 4 0 รีวิว