• ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เลื่อนมาตรการรีดภาษีที่กำหนดเล่นงานเม็กซิโกออกไป 1 เดือน หลังในวันจันทร์ (3 ก.พ.) เม็กซิโก ตอบตกลงเสริมกำลังตามแนวชายแดนทางเหนือของประเทศ ด้วยสมาชิกกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ 10,000 นาย เพื่อสกัดการไหลบ่าเข้ามาของยาเสพติดผิดกฎหมาย
    .
    ข้อตกลงนี้ยังรวมไปถึงคำมั่นสัญญาของสหรัฐฯ ที่รับปากว่าจะขัดขวางการลักลอบขนอาวุธอานุภาพสูงเข้าไปยังเม็กซิโก จากการเปิดเผยของเคลาเดีย ไชน์บาว์ม ประธานาธิบดีเม็กซิโก ที่โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ หลังจากผู้นำทั้ง 2 ชาติ พูดคุยหารือกันทางโทรศัพท์ในวันจันทร์ (3 ก.พ.) ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าที่มาตรการรีดภาษีของอเมริกาที่กำหนดเล่นงานเม็กซิโก จีนและแคนาดา จะมีผลบังคับใช้ ในความเคลื่อนไหวที่พวกนักเศรษฐศาสตร์มองว่าจะก่อความเจ็บปวดทางเศรษฐกิจในวงกว้าง ในนั้นรวมถึงราคาสินค้าที่เพงขึ้นสำหรับภาคธุรกิจและพวกผู้บริโภคอเมริกา
    .
    ทรัมป์ เขียนบนทรัสต์โซเชียล สื่อสังคมออนไลน์ของเขาเอง ระบุว่าสหรัฐฯ และเม็กซิโก จะใช้ช่วงเวลาแห่งการระงับ 1 เดือน ในการประสานงานเจรจาเพิ่มเติม "ผมตั้งตาคอยมีส่วนร่วมในการเจรจาเหล่านี้กับประธานาธิบดีไชน์บาว์ม ในขณะที่เราพยายามบรรลุข้อตกลงระหว่าง 2 ประเทศ" ส่วนไชน์บาว์ม กล่าวระหว่างแถลงข่าวว่า "เรามีเวลาในเดือนนี้ ที่จะทำงานและโน้มน้าวกันและกัน นี่คือหนทางที่ดีที่สุดในการเดินหน้า"
    .
    ข้อตกลงนี้มีขึ้นไม่ถึง 48 ชั่วโมง หลังจาก ทรัมป์ แถลงจะรีดภาษีอย่างครอบคลุมสินค้าต่างๆ จาก 3 ชาติคู่หูทางการค้าลำดับต้นของสหรัฐฯ มีมูลค่ารวมกันกว่า 2.1 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี ในขณะที่ข้อตกลงช่วยคลายแรงกดดันแก่เม็กซิโกในเบื้องต้น แต่แนวโน้มการบรรเทาโทษให้แคนาดาและจีน ดูเหมือนจะเลือนราง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับชาติเพื่อนบ้านทางเหนือของอเมริกา ที่ทรัมป์และคณะทำงานของเขายังคงส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างไม่ลดละ
    .
    "เราไม่ได้รับการปฏิบัติที่ดีนักจากแคนาดา และเราจำเป็นต้องทำแบบนั้นเช่นกัน" ทรัมป์ กล่าวระหว่างลงนามในคำสั่งบริหารที่ทำเนียบขาว
    .
    ทรัมป์ เปิดเผยในวันจันทร์ (3 ก.พ.) ว่าได้พูดคุยกับ จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาและจะมีการหารือกันอีกรอบในตอนบ่าย (ตามเวลาท้องถิ่น) อย่างไรก็ตาม มาตรการรีดภาษีเล่นงานแคนาดาและจีน ยังคงมีแนวโน้มเริ่มขึ้นตอน 00.01 น.ของวันอังคาร (ราว 12.01 น.ของวันพุธ ตามเวลาในเมืองไทย) และแคนาดา ได้แถลงมาตรการรีดภาษีตอบโต้ออกมาแล้ว
    .
    ระหว่างกล่าวในวอชิงตันเมื่อวันอาทิตย์ (2 ก.พ.) ทรัมป์ บ่งชี้ว่าสหภาพยุโรป ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 27 ชาติ อาจเป็นเป้าหมายต่อไปของเขา แต่ไม่ได้บอกว่าเมื่อไหร่ "พวกเขาไม่ยอมรับรถของเรา พวกเขาไม่ยอมรับผลิตภัณฑ์ฟาร์มของเรา พวกเขาแทบไม่เปิดรับอะไรเลย ผิดกับเราที่อ้าแขนรับทุกๆ อย่างจากพวกเขา" ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าว
    .
    บรรดาผู้นำยุโรป ณ ที่ประชุมซัมมิตอย่างไม่เป็นทางการในบรัสเซลส์ แสดงความเห็นในวันจันทร์ (3 ก.พ.) ว่ายุโรปจะเตรียมพร้อมสำหรับตอบโต้กลับ หากว่าสหรัฐฯ กำหนดมาตรการรีดภาษีเล่นงานพวกเขา แต่ก็เรียกร้องขอความมีเหตุมีผลและการเจรจาตกลงกัน
    .
    อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ แย้มว่าสหราชอาณาจักร ซึ่งถอนตัวออกจากอียูในปี 2020 อาจรอดพ้นจากมาตรการรีดภาษี
    .
    สหรัฐฯ เป็นคู่ค้าและคู่หูด้านการลงทุนรายใหญ่ที่สุดของอียู อ้างอิงข้อมูลจากยูโรสแตท พบว่าปี 2023 สำหรัฐฯ ขาดดุลการค้าอียู 155,800 ล้านยูโร ในการค้าขายสินค้าระหว่างกัน แต่ก็ชดเชยด้วยการเกินดุลการค้า 104,000 ล้านยูโร ในด้านการบริการ
    .
    พวกนักเศรษฐศาสตร์มองว่าแผนรีดภาษีเม็กซิโกและแคนาดา 25% และจีน 10% ของทรัมป์ จะชะลอการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและผลักให้ราคาข้าวของแพงขึ้นสำหรับชาวอเมริกา
    .
    สภาหอการค้านานาชาติ ประเมินว่ามาตรการรีดภาษีจะนำให้การส่งออกของเม็กซิโกลดลง 10% และกระทบจีดีพีของประเทศแห่งนี้ราว 4% ใน 1 ปี ส่วนมาตรการรีดภาษีแคนาดา จะทำให้จีดีพีของประเทศแห่งนี้ลดลง 2.6%
    .
    ทรัมป์ ยอมรับเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ว่า การรีดภาษีอาจก่อความเจ็บปวดในระยะสั้นแก่บรรดาผู้บริโภคสหรัฐฯ แต่กระนั้นก็อ้างว่ามาตรการรีดภาษีเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อจำกัดคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย และการลักลอบขนยาเสพติด รวมถึงกระตุ้นอุตสาหกรรมภายในประเทศ
    .
    นักวิเคราะห์คนอื่นๆ มองว่ามาตรการรีดภาษีอาจผลักให้แคนาดาและเม็กซิโก เข้าสู่ภาวะถดถอยและโหมกระพือภาวะ Stagflation (สภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่เงินเฟ้อกลับพุ่ง และคนว่างงานสูงลิ่ว) ภายในประเทศ ส่วนในยุโรป พวกนักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่ามาตรการของทรัมป์ ที่จะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม 10% กับสินค้านำเข้าจากอียู จะกระทบกับจีดีพีของกลุ่มราว 0.5%
    .
    ทำเนียบขาวไม่ได้ระบุรายละเอียดอย่างเจาะจงว่าก้าวย่างใดบ้างที่จะช่วยแคนาดาและจีน รอดพ้นจากการรีดภาษี ในขณะที่ ทรัมป์ ประกาศกร้าว่าจะยังคงเดินหน้าบังคับใช้มาตรการนี้ไปจนกว่าสิ่งที่เขาเรียกว่า "สถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติ" เกี่ยวกับยาเฟนทานิลและคนเข้าเมืองผิดกฎหมายที่ไหลบ่าเข้าสู่สหรัฐฯ จะยุติลง
    .
    จีน เรียกปัญหายาเฟนทานิลว่าเป็นปัญหาของอเมริกาเอง และบอกว่าจะยื่นคัดค้านมาตรการรีดภาษี ณ องค์การการค้าโลกและใช้มาตรการอื่นๆ ตอบโต้ แต่ก็เปิดกว้างสำหรับการเจรจาเช่นกัน ส่วนแคนาดาบอกว่าจะดำเนินการทางกฎหมายภายใต้องค์กรระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง เพื่อคัดค้านมาตรการรีดภาษีของทรัมป์
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011137
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เลื่อนมาตรการรีดภาษีที่กำหนดเล่นงานเม็กซิโกออกไป 1 เดือน หลังในวันจันทร์ (3 ก.พ.) เม็กซิโก ตอบตกลงเสริมกำลังตามแนวชายแดนทางเหนือของประเทศ ด้วยสมาชิกกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ 10,000 นาย เพื่อสกัดการไหลบ่าเข้ามาของยาเสพติดผิดกฎหมาย . ข้อตกลงนี้ยังรวมไปถึงคำมั่นสัญญาของสหรัฐฯ ที่รับปากว่าจะขัดขวางการลักลอบขนอาวุธอานุภาพสูงเข้าไปยังเม็กซิโก จากการเปิดเผยของเคลาเดีย ไชน์บาว์ม ประธานาธิบดีเม็กซิโก ที่โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ หลังจากผู้นำทั้ง 2 ชาติ พูดคุยหารือกันทางโทรศัพท์ในวันจันทร์ (3 ก.พ.) ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าที่มาตรการรีดภาษีของอเมริกาที่กำหนดเล่นงานเม็กซิโก จีนและแคนาดา จะมีผลบังคับใช้ ในความเคลื่อนไหวที่พวกนักเศรษฐศาสตร์มองว่าจะก่อความเจ็บปวดทางเศรษฐกิจในวงกว้าง ในนั้นรวมถึงราคาสินค้าที่เพงขึ้นสำหรับภาคธุรกิจและพวกผู้บริโภคอเมริกา . ทรัมป์ เขียนบนทรัสต์โซเชียล สื่อสังคมออนไลน์ของเขาเอง ระบุว่าสหรัฐฯ และเม็กซิโก จะใช้ช่วงเวลาแห่งการระงับ 1 เดือน ในการประสานงานเจรจาเพิ่มเติม "ผมตั้งตาคอยมีส่วนร่วมในการเจรจาเหล่านี้กับประธานาธิบดีไชน์บาว์ม ในขณะที่เราพยายามบรรลุข้อตกลงระหว่าง 2 ประเทศ" ส่วนไชน์บาว์ม กล่าวระหว่างแถลงข่าวว่า "เรามีเวลาในเดือนนี้ ที่จะทำงานและโน้มน้าวกันและกัน นี่คือหนทางที่ดีที่สุดในการเดินหน้า" . ข้อตกลงนี้มีขึ้นไม่ถึง 48 ชั่วโมง หลังจาก ทรัมป์ แถลงจะรีดภาษีอย่างครอบคลุมสินค้าต่างๆ จาก 3 ชาติคู่หูทางการค้าลำดับต้นของสหรัฐฯ มีมูลค่ารวมกันกว่า 2.1 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี ในขณะที่ข้อตกลงช่วยคลายแรงกดดันแก่เม็กซิโกในเบื้องต้น แต่แนวโน้มการบรรเทาโทษให้แคนาดาและจีน ดูเหมือนจะเลือนราง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับชาติเพื่อนบ้านทางเหนือของอเมริกา ที่ทรัมป์และคณะทำงานของเขายังคงส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างไม่ลดละ . "เราไม่ได้รับการปฏิบัติที่ดีนักจากแคนาดา และเราจำเป็นต้องทำแบบนั้นเช่นกัน" ทรัมป์ กล่าวระหว่างลงนามในคำสั่งบริหารที่ทำเนียบขาว . ทรัมป์ เปิดเผยในวันจันทร์ (3 ก.พ.) ว่าได้พูดคุยกับ จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาและจะมีการหารือกันอีกรอบในตอนบ่าย (ตามเวลาท้องถิ่น) อย่างไรก็ตาม มาตรการรีดภาษีเล่นงานแคนาดาและจีน ยังคงมีแนวโน้มเริ่มขึ้นตอน 00.01 น.ของวันอังคาร (ราว 12.01 น.ของวันพุธ ตามเวลาในเมืองไทย) และแคนาดา ได้แถลงมาตรการรีดภาษีตอบโต้ออกมาแล้ว . ระหว่างกล่าวในวอชิงตันเมื่อวันอาทิตย์ (2 ก.พ.) ทรัมป์ บ่งชี้ว่าสหภาพยุโรป ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 27 ชาติ อาจเป็นเป้าหมายต่อไปของเขา แต่ไม่ได้บอกว่าเมื่อไหร่ "พวกเขาไม่ยอมรับรถของเรา พวกเขาไม่ยอมรับผลิตภัณฑ์ฟาร์มของเรา พวกเขาแทบไม่เปิดรับอะไรเลย ผิดกับเราที่อ้าแขนรับทุกๆ อย่างจากพวกเขา" ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าว . บรรดาผู้นำยุโรป ณ ที่ประชุมซัมมิตอย่างไม่เป็นทางการในบรัสเซลส์ แสดงความเห็นในวันจันทร์ (3 ก.พ.) ว่ายุโรปจะเตรียมพร้อมสำหรับตอบโต้กลับ หากว่าสหรัฐฯ กำหนดมาตรการรีดภาษีเล่นงานพวกเขา แต่ก็เรียกร้องขอความมีเหตุมีผลและการเจรจาตกลงกัน . อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ แย้มว่าสหราชอาณาจักร ซึ่งถอนตัวออกจากอียูในปี 2020 อาจรอดพ้นจากมาตรการรีดภาษี . สหรัฐฯ เป็นคู่ค้าและคู่หูด้านการลงทุนรายใหญ่ที่สุดของอียู อ้างอิงข้อมูลจากยูโรสแตท พบว่าปี 2023 สำหรัฐฯ ขาดดุลการค้าอียู 155,800 ล้านยูโร ในการค้าขายสินค้าระหว่างกัน แต่ก็ชดเชยด้วยการเกินดุลการค้า 104,000 ล้านยูโร ในด้านการบริการ . พวกนักเศรษฐศาสตร์มองว่าแผนรีดภาษีเม็กซิโกและแคนาดา 25% และจีน 10% ของทรัมป์ จะชะลอการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและผลักให้ราคาข้าวของแพงขึ้นสำหรับชาวอเมริกา . สภาหอการค้านานาชาติ ประเมินว่ามาตรการรีดภาษีจะนำให้การส่งออกของเม็กซิโกลดลง 10% และกระทบจีดีพีของประเทศแห่งนี้ราว 4% ใน 1 ปี ส่วนมาตรการรีดภาษีแคนาดา จะทำให้จีดีพีของประเทศแห่งนี้ลดลง 2.6% . ทรัมป์ ยอมรับเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ว่า การรีดภาษีอาจก่อความเจ็บปวดในระยะสั้นแก่บรรดาผู้บริโภคสหรัฐฯ แต่กระนั้นก็อ้างว่ามาตรการรีดภาษีเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อจำกัดคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย และการลักลอบขนยาเสพติด รวมถึงกระตุ้นอุตสาหกรรมภายในประเทศ . นักวิเคราะห์คนอื่นๆ มองว่ามาตรการรีดภาษีอาจผลักให้แคนาดาและเม็กซิโก เข้าสู่ภาวะถดถอยและโหมกระพือภาวะ Stagflation (สภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่เงินเฟ้อกลับพุ่ง และคนว่างงานสูงลิ่ว) ภายในประเทศ ส่วนในยุโรป พวกนักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่ามาตรการของทรัมป์ ที่จะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม 10% กับสินค้านำเข้าจากอียู จะกระทบกับจีดีพีของกลุ่มราว 0.5% . ทำเนียบขาวไม่ได้ระบุรายละเอียดอย่างเจาะจงว่าก้าวย่างใดบ้างที่จะช่วยแคนาดาและจีน รอดพ้นจากการรีดภาษี ในขณะที่ ทรัมป์ ประกาศกร้าว่าจะยังคงเดินหน้าบังคับใช้มาตรการนี้ไปจนกว่าสิ่งที่เขาเรียกว่า "สถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติ" เกี่ยวกับยาเฟนทานิลและคนเข้าเมืองผิดกฎหมายที่ไหลบ่าเข้าสู่สหรัฐฯ จะยุติลง . จีน เรียกปัญหายาเฟนทานิลว่าเป็นปัญหาของอเมริกาเอง และบอกว่าจะยื่นคัดค้านมาตรการรีดภาษี ณ องค์การการค้าโลกและใช้มาตรการอื่นๆ ตอบโต้ แต่ก็เปิดกว้างสำหรับการเจรจาเช่นกัน ส่วนแคนาดาบอกว่าจะดำเนินการทางกฎหมายภายใต้องค์กรระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง เพื่อคัดค้านมาตรการรีดภาษีของทรัมป์ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011137 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 192 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อผู้นำโง่เขลากับรัฐบาลเทาๆ
    จึงจะเอาแต่สิ่งผิดที่มัวเมามามอมเมา
    ประชาชนเรา ให้โง่ขลาดเขลาตาม
    ความเสื่อมทรามของสังคมบ้านเมือง
    ก็จะตามมา.. วายวุ่นเอย

    โนคาสิโน โนการพนันออนไลน์
    โนยาเสพติด โนสิ่งผิดกฎหมาย
    แล้วจะมีแต่.. ความสุขสบายใจ
    มุมิมุมิ.. จุฟๆ
    เมื่อผู้นำโง่เขลากับรัฐบาลเทาๆ จึงจะเอาแต่สิ่งผิดที่มัวเมามามอมเมา ประชาชนเรา ให้โง่ขลาดเขลาตาม ความเสื่อมทรามของสังคมบ้านเมือง ก็จะตามมา.. วายวุ่นเอย โนคาสิโน โนการพนันออนไลน์ โนยาเสพติด โนสิ่งผิดกฎหมาย แล้วจะมีแต่.. ความสุขสบายใจ มุมิมุมิ.. จุฟๆ
    Yay
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 12 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯระบุต้องการให้ยูเครนป้อนแร่แรร์เอิร์ธแก่อเมริกา ในฐานะรูปแบบหนึ่งของการชำระเงิน แลกกับความช่วยเหลือทางการเงินสนับสนุนประเทศแห่งนี้ที่กำลังทำสงครามกับรัสเซีย
    .
    ทรัมป์ บอกกับพวกผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว ว่ายูเครนจะเต็มใจยอมรับเงื่อนไขนี้ และระบุเขาต้องการแร่แรร์เอิร์ธจากยูเครน ในมูลค่าที่เท่าเทียมกับเงินสนับสนุนเกือบ 300,000 ล้านดอลลาร์ที่วอชิงตันมอบให้แก่เคียฟ
    .
    "เราบอกกับยูเครนไปว่า พวกเขามีแร่แรร์เอิร์ธที่มีมูลค่ามากๆ" ทรัมป์กล่าว และเรากำลังมองหาทำข้อตกลงกับยูเครน ว่าพวกเขาจะได้อะไรบ้าง และเราจะมอบอะไรให้พวกเขา แลกกับแร่แรร์เอิร์ธของพวกเขาและสิ่งอื่นๆ"
    .
    ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า ทรัมป์ ใช้คำจำกัดความ "แรร์เอิร์ธ" ครอบคลุมถึงแร่สำคัญๆทุกชนิด หรือแค่หมายถึงแร่แรร์เอิร์ธแต่เพียงอย่างเดียว
    .
    แรร์เอิร์ธ เป็นแร่ที่มีองค์ประกอบของธาตุเคมี 17 ชนิดในตารางธาตุ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตสมาร์ทโฟน รถยนต์ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ
    .
    สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาแห่งสหรัฐฯ มองว่ามีแร่ 50 ชนิดที่สำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศและการป้องกันประเทศ ในนั้นมีหลายชนิดที่เป็นองค์ประกอบของแร่แรร์เอิร์ธ เช่นเดียวกับนิกเกิลและลิเธียม
    .
    ยูเครน มีทรัพยกรยูเรเนียม ลิเธียมและไทเทเนียม อยู่มหาศาล แม้ไม่ติด 1 ใน 5 ของโลกในแง่ของปริมาณ ส่วนสหรัฐฯก็มีแหล่งสำรองทรัพยกรเหล่านี้ที่ยังไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์เช่นกัน เช่นเดียวกับแร่สำคัญๆอื่นๆ
    .
    อย่างไรก็ตามในส่วนของแร่แรร์เอิร์ธ สหรัฐฯมีเหมืองแร่แรร์เอิร์ธ เพียงแห่งเดียวที่ยังคงปฏิบัติการอยู่ และมีศักยภาพการแปรรูปเพียงเล็กน้อย แม้หลายบริษัทกำลังอยู่ระหว่างหาทางพัฒนาโปรเจ็คต่างๆภายในประเทศ ผิดกับจีน คู่แข่งสำคัญ ที่เป็นชาติผู้ผลิตแร่แร์เอิร์ธใหญ่ที่สุดของโลก รวมไปถึงแร่สำคัญๆอื่นๆอีกมากมาย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011140
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯระบุต้องการให้ยูเครนป้อนแร่แรร์เอิร์ธแก่อเมริกา ในฐานะรูปแบบหนึ่งของการชำระเงิน แลกกับความช่วยเหลือทางการเงินสนับสนุนประเทศแห่งนี้ที่กำลังทำสงครามกับรัสเซีย . ทรัมป์ บอกกับพวกผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว ว่ายูเครนจะเต็มใจยอมรับเงื่อนไขนี้ และระบุเขาต้องการแร่แรร์เอิร์ธจากยูเครน ในมูลค่าที่เท่าเทียมกับเงินสนับสนุนเกือบ 300,000 ล้านดอลลาร์ที่วอชิงตันมอบให้แก่เคียฟ . "เราบอกกับยูเครนไปว่า พวกเขามีแร่แรร์เอิร์ธที่มีมูลค่ามากๆ" ทรัมป์กล่าว และเรากำลังมองหาทำข้อตกลงกับยูเครน ว่าพวกเขาจะได้อะไรบ้าง และเราจะมอบอะไรให้พวกเขา แลกกับแร่แรร์เอิร์ธของพวกเขาและสิ่งอื่นๆ" . ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า ทรัมป์ ใช้คำจำกัดความ "แรร์เอิร์ธ" ครอบคลุมถึงแร่สำคัญๆทุกชนิด หรือแค่หมายถึงแร่แรร์เอิร์ธแต่เพียงอย่างเดียว . แรร์เอิร์ธ เป็นแร่ที่มีองค์ประกอบของธาตุเคมี 17 ชนิดในตารางธาตุ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตสมาร์ทโฟน รถยนต์ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ . สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาแห่งสหรัฐฯ มองว่ามีแร่ 50 ชนิดที่สำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศและการป้องกันประเทศ ในนั้นมีหลายชนิดที่เป็นองค์ประกอบของแร่แรร์เอิร์ธ เช่นเดียวกับนิกเกิลและลิเธียม . ยูเครน มีทรัพยกรยูเรเนียม ลิเธียมและไทเทเนียม อยู่มหาศาล แม้ไม่ติด 1 ใน 5 ของโลกในแง่ของปริมาณ ส่วนสหรัฐฯก็มีแหล่งสำรองทรัพยกรเหล่านี้ที่ยังไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์เช่นกัน เช่นเดียวกับแร่สำคัญๆอื่นๆ . อย่างไรก็ตามในส่วนของแร่แรร์เอิร์ธ สหรัฐฯมีเหมืองแร่แรร์เอิร์ธ เพียงแห่งเดียวที่ยังคงปฏิบัติการอยู่ และมีศักยภาพการแปรรูปเพียงเล็กน้อย แม้หลายบริษัทกำลังอยู่ระหว่างหาทางพัฒนาโปรเจ็คต่างๆภายในประเทศ ผิดกับจีน คู่แข่งสำคัญ ที่เป็นชาติผู้ผลิตแร่แร์เอิร์ธใหญ่ที่สุดของโลก รวมไปถึงแร่สำคัญๆอื่นๆอีกมากมาย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011140 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    3
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 187 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐเก็บชัยชนะได้ 4 นัดรวด ส่งผลให้ขึ้นสู่หัวตาราง มี 12 คะแนนเต็ม!!

    สหรัฐ 4 - 0 (โคลอมเบีย / เม็กซิโก / แคนาดา / ปานามา)
    😂😂
    สหรัฐเก็บชัยชนะได้ 4 นัดรวด ส่งผลให้ขึ้นสู่หัวตาราง มี 12 คะแนนเต็ม!! สหรัฐ 4 - 0 (โคลอมเบีย / เม็กซิโก / แคนาดา / ปานามา) 😂😂
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ยอมแล้วจ้า"

    ทรัมป์ชะลอการขึ้นภาษีแคนาดา 25% ออกไป 30 วัน หลังจากจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ยอมเพิ่มงบประมาณมากกว่าพันล้านดอลลาร์ เพื่อป้องกันการลักลอบขนยาเสพติด "เฟนทานิล"

    ทรูโด โพสต์บนโซเชี่ยลว่า:

    "ผมเพิ่งมีการสนทนาดีๆ กับประธานาธิบดีทรัมป์ แคนาดากำลังดำเนินการตามแผนชายแดนมูลค่า 1.3 พันล้านดอลลาร์ เพื่อ เสริมกำลังชายแดนด้วยเฮลิคอปเตอร์ เทคโนโลยี และบุคลากรใหม่ๆ ปรับปรุงการประสานงานกับอเมริกา และเพิ่มทรัพยากรเพื่อหยุดการลักลอบขนเฟนทานิล เจ้าหน้าที่แนวหน้าเกือบ 10,000 นาย กำลังปฏิบัติหน้าที่และจะทำงานเพื่อปกป้องชายแดน

    นอกจากนี้ แคนาดากำลังให้คำมั่นสัญญาใหม่เพื่อคอยจับตาดูชายแดนตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน เปิดตัวกองกำลังโจมตีร่วมระหว่างแคนาดาและสหรัฐฯ เพื่อต่อสู้กับกลุ่มอาชญากร เฟนทานิล และการฟอกเงิน ผมยังได้ลงนามในคำสั่งข่าวกรองใหม่เกี่ยวกับกลุ่มอาชญากรและเฟนทานิล และเราจะสนับสนุนด้วยเงินอีก 200 ล้านดอลลาร์

    อัตราภาษีของอเมริกาจะถูกหยุดชั่วคราวเป็นเวลาอย่างน้อย 30 วันในขณะที่เราทำงานร่วมกัน"
    "ยอมแล้วจ้า" ทรัมป์ชะลอการขึ้นภาษีแคนาดา 25% ออกไป 30 วัน หลังจากจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ยอมเพิ่มงบประมาณมากกว่าพันล้านดอลลาร์ เพื่อป้องกันการลักลอบขนยาเสพติด "เฟนทานิล" ทรูโด โพสต์บนโซเชี่ยลว่า: "ผมเพิ่งมีการสนทนาดีๆ กับประธานาธิบดีทรัมป์ แคนาดากำลังดำเนินการตามแผนชายแดนมูลค่า 1.3 พันล้านดอลลาร์ เพื่อ เสริมกำลังชายแดนด้วยเฮลิคอปเตอร์ เทคโนโลยี และบุคลากรใหม่ๆ ปรับปรุงการประสานงานกับอเมริกา และเพิ่มทรัพยากรเพื่อหยุดการลักลอบขนเฟนทานิล เจ้าหน้าที่แนวหน้าเกือบ 10,000 นาย กำลังปฏิบัติหน้าที่และจะทำงานเพื่อปกป้องชายแดน นอกจากนี้ แคนาดากำลังให้คำมั่นสัญญาใหม่เพื่อคอยจับตาดูชายแดนตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน เปิดตัวกองกำลังโจมตีร่วมระหว่างแคนาดาและสหรัฐฯ เพื่อต่อสู้กับกลุ่มอาชญากร เฟนทานิล และการฟอกเงิน ผมยังได้ลงนามในคำสั่งข่าวกรองใหม่เกี่ยวกับกลุ่มอาชญากรและเฟนทานิล และเราจะสนับสนุนด้วยเงินอีก 200 ล้านดอลลาร์ อัตราภาษีของอเมริกาจะถูกหยุดชั่วคราวเป็นเวลาอย่างน้อย 30 วันในขณะที่เราทำงานร่วมกัน"
    Like
    Haha
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • "รุ่งอรุณแห่งเมจิ"

    ฟ้าสางในรุ่งอรุณใหม่ เสียงกลองรัวไกล นำทางให้ก้าวเดิน มุตสึฮิโตะ ครองบัลลังก์ศักดิ์ศรี ปลุกญี่ปุ่นนี้ ให้ยิ่งใหญ่เสมอ

    จากเงามืดแห่งวันเก่า ข้ามพ้นเงาโชกุนมา ปฏิรูปให้รุ่งเรืองกว่า โลกต้องจารึกไว้

    * รุ่งอรุณแห่งเมจิ ส่องแสงพลิกชะตา จากศักดินาสู่เสรี กล้าเปลี่ยนโลกา สองทศวรรษแห่งไฟ ศรัทธาไม่โรยรา ญี่ปุ่นก้าวไปข้างหน้า ดั่งตะวันทอแสงทอง

    ** รถไฟแล่นผ่านขุนเขา โรงงานก้องก้าว ช่างเหล็กทอฝัน เมืองเอโดะ เป็นโตเกียวอันยิ่งใหญ่ เปลี่ยนยุคสมัย ด้วยหัวใจนักรบ

    *** ดาบของซามูไร กลายเป็นปากกา ศรัทธาสู่ประชา สู่รุ่งอรุณแห่งเมจิ

    **** รุ่งอรุณแห่งเมจิ ส่องแสงตลอดไป จากวันนั้นถึงวันนี้ ชัยชนะยังคงอยู่

    ซ้ำ *, **, ***, ****

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 032339 ก.พ. 2568

    #รุ่งอรุณแห่งเมจิ #MeijiRestoration #จักรพรรดิเมจิ #ญี่ปุ่นยุคใหม่ #จากดินสู่ฟ้า #20ปีเปลี่ยนโลก #ซามูไรสู่ประชา #ปฏิรูปเมจิ #ศรัทธาไม่สิ้นสุด #โตเกียวศูนย์กลางโลก
    "รุ่งอรุณแห่งเมจิ" ฟ้าสางในรุ่งอรุณใหม่ เสียงกลองรัวไกล นำทางให้ก้าวเดิน มุตสึฮิโตะ ครองบัลลังก์ศักดิ์ศรี ปลุกญี่ปุ่นนี้ ให้ยิ่งใหญ่เสมอ จากเงามืดแห่งวันเก่า ข้ามพ้นเงาโชกุนมา ปฏิรูปให้รุ่งเรืองกว่า โลกต้องจารึกไว้ * รุ่งอรุณแห่งเมจิ ส่องแสงพลิกชะตา จากศักดินาสู่เสรี กล้าเปลี่ยนโลกา สองทศวรรษแห่งไฟ ศรัทธาไม่โรยรา ญี่ปุ่นก้าวไปข้างหน้า ดั่งตะวันทอแสงทอง ** รถไฟแล่นผ่านขุนเขา โรงงานก้องก้าว ช่างเหล็กทอฝัน เมืองเอโดะ เป็นโตเกียวอันยิ่งใหญ่ เปลี่ยนยุคสมัย ด้วยหัวใจนักรบ *** ดาบของซามูไร กลายเป็นปากกา ศรัทธาสู่ประชา สู่รุ่งอรุณแห่งเมจิ **** รุ่งอรุณแห่งเมจิ ส่องแสงตลอดไป จากวันนั้นถึงวันนี้ ชัยชนะยังคงอยู่ ซ้ำ *, **, ***, **** ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 032339 ก.พ. 2568 #รุ่งอรุณแห่งเมจิ #MeijiRestoration #จักรพรรดิเมจิ #ญี่ปุ่นยุคใหม่ #จากดินสู่ฟ้า #20ปีเปลี่ยนโลก #ซามูไรสู่ประชา #ปฏิรูปเมจิ #ศรัทธาไม่สิ้นสุด #โตเกียวศูนย์กลางโลก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 9 0 รีวิว
  • รัฐสมาชิกขององค์การอนามัยโลก(WHO) จะหารือกันเกี่ยวกับการปรับลดงบประมาณลงบางส่วนราว 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคลื่อนไหวพาอเมริกา ในฐานะรัฐบาลผู้สนับสนุนรายใหญ่ ถอนตัวออกจากหน่วยงานสาธารณสุขระหว่างประเทศแห่งนี้ อ้างอิงจากเอกสารที่เผยแพร่ในวันจันทร์(3ก.พ.)
    .
    ระหว่างกล่าวเปิดประชุมประจำปี คณะกรรมการบริหารขององค์การอนามัยโลก ทาง ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ ยังได้กล่าวปกป้องการทำงานขององค์การแห่งนี้และการปฏิรูปเมื่อเร็วๆนี้ พร้อมเน้นย้ำเสียงเรียกร้องให้อเมริกา ทบทวนพิจารณาใหม่เกี่ยวกับการถอนตัว และหันหน้ามาเจรจากับองค์การอนามัยโลก เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆนานาเพิ่มเติม
    .
    "เราจะยินดีอ้าแขนรับคำชี้แนะต่างๆจากสหรัฐฯและรัฐสมาชิกทุกราย สำหรับแนวทางที่เรารับใช้พวกคุณและประชาชนทั่วโลกให้ดีกว่าเดิม" เขากล่าว
    .
    การปรับลดประมาณจะมีการหารือกัน ณ ที่ประชุมในเจนีวา ระหว่างวันที่ 3-11 กุมภาพันธ์ โดยระหว่างนั้นพวกผู้แทนของรัฐสมาชิกจะพูดคุยกันเกี่ยวกับงบประมาณและแผนการทำงานขององค์การอนรามัยโลก สำหรับช่วงเวลาปี 2026-2027
    .
    ในเอกสารที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์(3ก.พ.) คณะกรรมการบริหารเสนอปรับดงบประมาณบนพื้นฐานของหมวดหมู่โครงการต่างๆของงบประมาณ จาก 5,300 ล้านดอลลาร์ เหลือ 4,900 ล้านดอลลาร์ จากเดิมที่เคยมีการเสนอปรับเพิ่มงบประมาณเป็น 7,500 ล้านดอลลาร์ สำหรับปี 2026-2027 ในนั้นรวมถึงเงินทุนสำหรับกำจัดโรคโปลิโอและรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ
    .
    "จากการถอนตัวออกไปของผู้สนับสนุนทางการเงินใหญ่ที่สุด งบประมาณไม่อาจดำเนินไปตามปกติ" เอกสารระบุ ทั้งนี้สหรัฐฯคือผู้บริจาคระดับรัฐรายใหญ่ที่สุดขององค์การอนามัยโลก โดยสนับสนุนเงินทุนคิดเป็นสัดส่วนราวๆ 18 % ของงบประมาณทั้งหมด ทั้งนี้องค์การอนามัยโลกใช้ได้มาตรการปรับลดค่าใช้จ่ายบางส่วนแยกกันไปแล้วก่อนหน้านี้ ตามหลังความเคลื่อนไหวของอเมริกา
    .
    อย่างไรก็ตามตัวแทนบางส่วนของคณะกรรมการ ต้องการส่งสารให้เห็นว่าทางองค์การอนามัยโลก จะคงไว้ซึ่งทิศทางขององค์กร แม้ต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆนานา
    .
    ทั้งนี้งบประมาณที่อาจเหลือเพียง 4,900 ดอลลาร์สหรัฐฯ จะเป็นจำนวนเดียวกับงบประมณบนพื้นฐานของโครงการ สำหรับช่วงเวลาปี 2024-2025
    .
    ทรัมป์ เคลื่อนไหวถอนสหรัฐฯออกจากองค์การอนามัยโลก ในวันแรกของการเข้ารับตำแหน่งเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน และภายใต้กฎหมายของอเมริกา กระบวนการนี้จะใช้เวลา 1 ปี
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011142
    ..............
    Sondhi X
    รัฐสมาชิกขององค์การอนามัยโลก(WHO) จะหารือกันเกี่ยวกับการปรับลดงบประมาณลงบางส่วนราว 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคลื่อนไหวพาอเมริกา ในฐานะรัฐบาลผู้สนับสนุนรายใหญ่ ถอนตัวออกจากหน่วยงานสาธารณสุขระหว่างประเทศแห่งนี้ อ้างอิงจากเอกสารที่เผยแพร่ในวันจันทร์(3ก.พ.) . ระหว่างกล่าวเปิดประชุมประจำปี คณะกรรมการบริหารขององค์การอนามัยโลก ทาง ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ ยังได้กล่าวปกป้องการทำงานขององค์การแห่งนี้และการปฏิรูปเมื่อเร็วๆนี้ พร้อมเน้นย้ำเสียงเรียกร้องให้อเมริกา ทบทวนพิจารณาใหม่เกี่ยวกับการถอนตัว และหันหน้ามาเจรจากับองค์การอนามัยโลก เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆนานาเพิ่มเติม . "เราจะยินดีอ้าแขนรับคำชี้แนะต่างๆจากสหรัฐฯและรัฐสมาชิกทุกราย สำหรับแนวทางที่เรารับใช้พวกคุณและประชาชนทั่วโลกให้ดีกว่าเดิม" เขากล่าว . การปรับลดประมาณจะมีการหารือกัน ณ ที่ประชุมในเจนีวา ระหว่างวันที่ 3-11 กุมภาพันธ์ โดยระหว่างนั้นพวกผู้แทนของรัฐสมาชิกจะพูดคุยกันเกี่ยวกับงบประมาณและแผนการทำงานขององค์การอนรามัยโลก สำหรับช่วงเวลาปี 2026-2027 . ในเอกสารที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์(3ก.พ.) คณะกรรมการบริหารเสนอปรับดงบประมาณบนพื้นฐานของหมวดหมู่โครงการต่างๆของงบประมาณ จาก 5,300 ล้านดอลลาร์ เหลือ 4,900 ล้านดอลลาร์ จากเดิมที่เคยมีการเสนอปรับเพิ่มงบประมาณเป็น 7,500 ล้านดอลลาร์ สำหรับปี 2026-2027 ในนั้นรวมถึงเงินทุนสำหรับกำจัดโรคโปลิโอและรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ . "จากการถอนตัวออกไปของผู้สนับสนุนทางการเงินใหญ่ที่สุด งบประมาณไม่อาจดำเนินไปตามปกติ" เอกสารระบุ ทั้งนี้สหรัฐฯคือผู้บริจาคระดับรัฐรายใหญ่ที่สุดขององค์การอนามัยโลก โดยสนับสนุนเงินทุนคิดเป็นสัดส่วนราวๆ 18 % ของงบประมาณทั้งหมด ทั้งนี้องค์การอนามัยโลกใช้ได้มาตรการปรับลดค่าใช้จ่ายบางส่วนแยกกันไปแล้วก่อนหน้านี้ ตามหลังความเคลื่อนไหวของอเมริกา . อย่างไรก็ตามตัวแทนบางส่วนของคณะกรรมการ ต้องการส่งสารให้เห็นว่าทางองค์การอนามัยโลก จะคงไว้ซึ่งทิศทางขององค์กร แม้ต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆนานา . ทั้งนี้งบประมาณที่อาจเหลือเพียง 4,900 ดอลลาร์สหรัฐฯ จะเป็นจำนวนเดียวกับงบประมณบนพื้นฐานของโครงการ สำหรับช่วงเวลาปี 2024-2025 . ทรัมป์ เคลื่อนไหวถอนสหรัฐฯออกจากองค์การอนามัยโลก ในวันแรกของการเข้ารับตำแหน่งเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน และภายใต้กฎหมายของอเมริกา กระบวนการนี้จะใช้เวลา 1 ปี . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011142 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 182 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาตรการรีดภาษีของสหรัฐฯที่กำนดเล่นงานแคนาดา จะถูกระงับเป็นเวลา 30 วัน จากการเปิดเผยของนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ในวันจันทร์(3ก.พ.) หลังพุดคุยทางโทรศัพท์กับประธานธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งอเมริกา ซึ่งระหว่างนั้น ทรูโด รับปากว่าจะใช้มาตรการชายแดนอย่างเข้มข้น สกัดการข้ามเขตแดนของพวกผู้อพยพและยาเสพติดผิดกฎหมาย
    .
    "ผมเพิ่งมีการพูดคุยทางโทรศัพท์ที่เป็นไปด้วยดีกับประธานาธิบดีทรัมป์" ทรูโดเขียนบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ "ข้อเสนอรีดภาษีจะถูกระงับเป็นเวลาอย่างน้อย 30 วัน ในระหว่างนี้เราจะทำงานร่วมกัน" เขากล่าว
    .
    ทรูโด เผยว่าแคนาดาจะดำเนินแผนการหนึ่งๆมูลค่า 1,300 ล้านดอลลาร์แคนาดา สำหรับคุ้มกันชายแดน โดยมาตรการนี้จะได้เห็นการตรึงจำนวนบุคลากรตามแนวหน้าไว้ที่ 10,000 นาย หลังจากเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน แคนาดาเผยว่าพวกเขาได้ประจำการเจ้าหน้าที่ 8,500 นาย
    .
    ขณะเดียวกัน ทรูโด เผยว่ามาตการคุ้มกันชายแดนจะถูกเสริมด้วยกองบินเฮลิคอปเตอร์ชุดใหม่และเทคโนโลยีอื่นๆ แต่ไม่ได้เจาะจงว่าเป็นอะไร
    .
    นอกจากนี้แล้ว นายกรัฐมนตรีรายนี้บอกด้วยว่า เขาได้ลงนามในคำสั่งข่าวกรองใหม่ ในการต่อสู้กับอาชญากรรมอย่างเป็นระบบ ภายใต้งบประมาณใหม่ 200 ล้านดอลลาร์แคนาดา และจะเปิดตัวหน่วยเฉพาะกิจร่วมระหว่างแคนาดากับสหรัฐฯ ในการสกัดพวกลักลอบขนยาเสพติดข้ามชาติและการฟอกเงิน
    .
    ทรูโด เผยต่อว่าเขายังเห็นพ้องกับข้อเรียกร้องของทรัมป์ สำหรับขึ้นบัญชีแก๊งค้ายาเสพติดในฐานะก่อการร้าย เช่นเดียวกับแต่งตั้งเจ้าหน้าที่รายหนึ่งให้ทำหน้าที่กำกับดูแลความพยายามต่อสู้กับฝิ่นเฟนทานิล
    .
    ถ้อยแถลงนี้มีขึ้นเพียง 1 วัน ก่อนหน้าที่ ทรัมป์ จะบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดา เพิ่มเติมอีก 25% และ 10% สำหรับน้ำมัน
    .
    ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน สหรัฐฯเพิ่งตกลงเลื่อนเริ่มบังคับใช้มาตรการรีดภาษีกับสินค้าของเม็กซิโก หลัง ทรัมป์ พูดคุยกับเคลาเดีย ไชน์บาว์ม ประธานาธิบดีเม็กซิโก
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011141
    ..............
    Sondhi X
    มาตรการรีดภาษีของสหรัฐฯที่กำนดเล่นงานแคนาดา จะถูกระงับเป็นเวลา 30 วัน จากการเปิดเผยของนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ในวันจันทร์(3ก.พ.) หลังพุดคุยทางโทรศัพท์กับประธานธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งอเมริกา ซึ่งระหว่างนั้น ทรูโด รับปากว่าจะใช้มาตรการชายแดนอย่างเข้มข้น สกัดการข้ามเขตแดนของพวกผู้อพยพและยาเสพติดผิดกฎหมาย . "ผมเพิ่งมีการพูดคุยทางโทรศัพท์ที่เป็นไปด้วยดีกับประธานาธิบดีทรัมป์" ทรูโดเขียนบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ "ข้อเสนอรีดภาษีจะถูกระงับเป็นเวลาอย่างน้อย 30 วัน ในระหว่างนี้เราจะทำงานร่วมกัน" เขากล่าว . ทรูโด เผยว่าแคนาดาจะดำเนินแผนการหนึ่งๆมูลค่า 1,300 ล้านดอลลาร์แคนาดา สำหรับคุ้มกันชายแดน โดยมาตรการนี้จะได้เห็นการตรึงจำนวนบุคลากรตามแนวหน้าไว้ที่ 10,000 นาย หลังจากเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน แคนาดาเผยว่าพวกเขาได้ประจำการเจ้าหน้าที่ 8,500 นาย . ขณะเดียวกัน ทรูโด เผยว่ามาตการคุ้มกันชายแดนจะถูกเสริมด้วยกองบินเฮลิคอปเตอร์ชุดใหม่และเทคโนโลยีอื่นๆ แต่ไม่ได้เจาะจงว่าเป็นอะไร . นอกจากนี้แล้ว นายกรัฐมนตรีรายนี้บอกด้วยว่า เขาได้ลงนามในคำสั่งข่าวกรองใหม่ ในการต่อสู้กับอาชญากรรมอย่างเป็นระบบ ภายใต้งบประมาณใหม่ 200 ล้านดอลลาร์แคนาดา และจะเปิดตัวหน่วยเฉพาะกิจร่วมระหว่างแคนาดากับสหรัฐฯ ในการสกัดพวกลักลอบขนยาเสพติดข้ามชาติและการฟอกเงิน . ทรูโด เผยต่อว่าเขายังเห็นพ้องกับข้อเรียกร้องของทรัมป์ สำหรับขึ้นบัญชีแก๊งค้ายาเสพติดในฐานะก่อการร้าย เช่นเดียวกับแต่งตั้งเจ้าหน้าที่รายหนึ่งให้ทำหน้าที่กำกับดูแลความพยายามต่อสู้กับฝิ่นเฟนทานิล . ถ้อยแถลงนี้มีขึ้นเพียง 1 วัน ก่อนหน้าที่ ทรัมป์ จะบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดา เพิ่มเติมอีก 25% และ 10% สำหรับน้ำมัน . ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน สหรัฐฯเพิ่งตกลงเลื่อนเริ่มบังคับใช้มาตรการรีดภาษีกับสินค้าของเม็กซิโก หลัง ทรัมป์ พูดคุยกับเคลาเดีย ไชน์บาว์ม ประธานาธิบดีเม็กซิโก . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011141 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 0 รีวิว
  • Red Hat บริษัทที่มีประสบการณ์ยาวนานในด้านโอเพ่นซอร์ส มุ่งมั่นที่จะทำให้ AI สามารถใช้งานได้จริงในระดับองค์กร แทนที่จะมุ่งหวังที่จะพัฒนา AI ที่มีความสามารถเชิงทั่วไป (AGI) ที่ยังคงเป็นเพียงแค่ฝัน

    Richard Fontana ที่ปรึกษาอาวุโสของ Red Hat กล่าวในงานสัมมนาที่ Linux Foundation ว่า "การเปิดเผยข้อมูลการฝึกฝนทั้งหมดนั้นมีความเสี่ยงที่อาจจะทำให้ผู้พัฒนาโมเดลตกเป็นเป้าหมายในสภาพแวดล้อมที่มีการฟ้องร้องกันมากมายในปัจจุบัน" และยังเสริมอีกว่า "เราควรมุ่งเน้นไปที่การกำหนดนิยามการโอเพ่นซอร์สที่ชัดเจนและสามารถปฏิบัติได้จริงแทนที่จะเป็นอุดมคติที่ไม่สามารถนำไปใช้ได้จริง"

    Chris Wright กล่าวสรุปว่า "อนาคตของ AI ควรจะเป็นแบบโอเพ่นซอร์ส แต่เป็นการเดินทางที่ต้องใช้เวลาและความพยายาม เรากำลังเผชิญหน้ากับความโปร่งใส ความยั่งยืน และความเชื่อมั่นผ่านโครงการโอเพ่นซอร์สทีละขั้นตอน"

    การทำงานของ Red Hat ในการพัฒนา AI ที่เปิดเผยและโปร่งใสนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่พวกเขาเชื่อว่าแนวทางนี้จะช่วยให้ AI สามารถนำประโยชน์มาสู่ทุกคนและหลีกเลี่ยงปัญหาการผูกขาดในอนาคต

    https://www.zdnet.com/article/red-hats-take-on-open-source-ai-pragmatism-over-utopian-dreams/
    Red Hat บริษัทที่มีประสบการณ์ยาวนานในด้านโอเพ่นซอร์ส มุ่งมั่นที่จะทำให้ AI สามารถใช้งานได้จริงในระดับองค์กร แทนที่จะมุ่งหวังที่จะพัฒนา AI ที่มีความสามารถเชิงทั่วไป (AGI) ที่ยังคงเป็นเพียงแค่ฝัน Richard Fontana ที่ปรึกษาอาวุโสของ Red Hat กล่าวในงานสัมมนาที่ Linux Foundation ว่า "การเปิดเผยข้อมูลการฝึกฝนทั้งหมดนั้นมีความเสี่ยงที่อาจจะทำให้ผู้พัฒนาโมเดลตกเป็นเป้าหมายในสภาพแวดล้อมที่มีการฟ้องร้องกันมากมายในปัจจุบัน" และยังเสริมอีกว่า "เราควรมุ่งเน้นไปที่การกำหนดนิยามการโอเพ่นซอร์สที่ชัดเจนและสามารถปฏิบัติได้จริงแทนที่จะเป็นอุดมคติที่ไม่สามารถนำไปใช้ได้จริง" Chris Wright กล่าวสรุปว่า "อนาคตของ AI ควรจะเป็นแบบโอเพ่นซอร์ส แต่เป็นการเดินทางที่ต้องใช้เวลาและความพยายาม เรากำลังเผชิญหน้ากับความโปร่งใส ความยั่งยืน และความเชื่อมั่นผ่านโครงการโอเพ่นซอร์สทีละขั้นตอน" การทำงานของ Red Hat ในการพัฒนา AI ที่เปิดเผยและโปร่งใสนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่พวกเขาเชื่อว่าแนวทางนี้จะช่วยให้ AI สามารถนำประโยชน์มาสู่ทุกคนและหลีกเลี่ยงปัญหาการผูกขาดในอนาคต https://www.zdnet.com/article/red-hats-take-on-open-source-ai-pragmatism-over-utopian-dreams/
    WWW.ZDNET.COM
    Red Hat's take on open-source AI: Pragmatism over utopian dreams
    The Linux giant envisions AI development that mirrors open-source software's collaborative ethos. That won't be easy.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 17 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐสมาชิกขององค์การอนามัยโลก(WHO) จะหารือกันเกี่ยวกับการปรับลดงบประมาณลงบางส่วนราว 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคลื่อนไหวพาอเมริกา ในฐานะรัฐบาลผู้สนับสนุนรายใหญ่ ถอนตัวออกจากหน่วยงานสาธารณสุขระหว่างประเทศแห่งนี้ อ้างอิงจากเอกสารที่เผยแพร่ในวันจันทร์(3ก.พ.)
    .
    ระหว่างกล่าวเปิดประชุมประจำปี คณะกรรมการบริหารขององค์การอนามัยโลก ทาง ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ ยังได้กล่าวปกป้องการทำงานขององค์การแห่งนี้และการปฏิรูปเมื่อเร็วๆนี้ พร้อมเน้นย้ำเสียงเรียกร้องให้อเมริกา ทบทวนพิจารณาใหม่เกี่ยวกับการถอนตัว และหันหน้ามาเจรจากับองค์การอนามัยโลก เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆนานาเพิ่มเติม
    .
    "เราจะยินดีอ้าแขนรับคำชี้แนะต่างๆจากสหรัฐฯและรัฐสมาชิกทุกราย สำหรับแนวทางที่เรารับใช้พวกคุณและประชาชนทั่วโลกให้ดีกว่าเดิม" เขากล่าว
    .
    การปรับลดประมาณจะมีการหารือกัน ณ ที่ประชุมในเจนีวา ระหว่างวันที่ 3-11 กุมภาพันธ์ โดยระหว่างนั้นพวกผู้แทนของรัฐสมาชิกจะพูดคุยกันเกี่ยวกับงบประมาณและแผนการทำงานขององค์การอนรามัยโลก สำหรับช่วงเวลาปี 2026-2027
    .
    ในเอกสารที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์(3ก.พ.) คณะกรรมการบริหารเสนอปรับดงบประมาณบนพื้นฐานของหมวดหมู่โครงการต่างๆของงบประมาณ จาก 5,300 ล้านดอลลาร์ เหลือ 4,900 ล้านดอลลาร์ จากเดิมที่เคยมีการเสนอปรับเพิ่มงบประมาณเป็น 7,500 ล้านดอลลาร์ สำหรับปี 2026-2027 ในนั้นรวมถึงเงินทุนสำหรับกำจัดโรคโปลิโอและรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ
    .
    "จากการถอนตัวออกไปของผู้สนับสนุนทางการเงินใหญ่ที่สุด งบประมาณไม่อาจดำเนินไปตามปกติ" เอกสารระบุ ทั้งนี้สหรัฐฯคือผู้บริจาคระดับรัฐรายใหญ่ที่สุดขององค์การอนามัยโลก โดยสนับสนุนเงินทุนคิดเป็นสัดส่วนราวๆ 18 % ของงบประมาณทั้งหมด ทั้งนี้องค์การอนามัยโลกใช้ได้มาตรการปรับลดค่าใช้จ่ายบางส่วนแยกกันไปแล้วก่อนหน้านี้ ตามหลังความเคลื่อนไหวของอเมริกา
    .
    อย่างไรก็ตามตัวแทนบางส่วนของคณะกรรมการ ต้องการส่งสารให้เห็นว่าทางองค์การอนามัยโลก จะคงไว้ซึ่งทิศทางขององค์กร แม้ต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆนานา
    .
    ทั้งนี้งบประมาณที่อาจเหลือเพียง 4,900 ดอลลาร์สหรัฐฯ จะเป็นจำนวนเดียวกับงบประมณบนพื้นฐานของโครงการ สำหรับช่วงเวลาปี 2024-2025
    .
    ทรัมป์ เคลื่อนไหวถอนสหรัฐฯออกจากองค์การอนามัยโลก ในวันแรกของการเข้ารับตำแหน่งเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน และภายใต้กฎหมายของอเมริกา กระบวนการนี้จะใช้เวลา 1 ปี
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011142
    ..............
    Sondhi X
    รัฐสมาชิกขององค์การอนามัยโลก(WHO) จะหารือกันเกี่ยวกับการปรับลดงบประมาณลงบางส่วนราว 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคลื่อนไหวพาอเมริกา ในฐานะรัฐบาลผู้สนับสนุนรายใหญ่ ถอนตัวออกจากหน่วยงานสาธารณสุขระหว่างประเทศแห่งนี้ อ้างอิงจากเอกสารที่เผยแพร่ในวันจันทร์(3ก.พ.) . ระหว่างกล่าวเปิดประชุมประจำปี คณะกรรมการบริหารขององค์การอนามัยโลก ทาง ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ ยังได้กล่าวปกป้องการทำงานขององค์การแห่งนี้และการปฏิรูปเมื่อเร็วๆนี้ พร้อมเน้นย้ำเสียงเรียกร้องให้อเมริกา ทบทวนพิจารณาใหม่เกี่ยวกับการถอนตัว และหันหน้ามาเจรจากับองค์การอนามัยโลก เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆนานาเพิ่มเติม . "เราจะยินดีอ้าแขนรับคำชี้แนะต่างๆจากสหรัฐฯและรัฐสมาชิกทุกราย สำหรับแนวทางที่เรารับใช้พวกคุณและประชาชนทั่วโลกให้ดีกว่าเดิม" เขากล่าว . การปรับลดประมาณจะมีการหารือกัน ณ ที่ประชุมในเจนีวา ระหว่างวันที่ 3-11 กุมภาพันธ์ โดยระหว่างนั้นพวกผู้แทนของรัฐสมาชิกจะพูดคุยกันเกี่ยวกับงบประมาณและแผนการทำงานขององค์การอนรามัยโลก สำหรับช่วงเวลาปี 2026-2027 . ในเอกสารที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์(3ก.พ.) คณะกรรมการบริหารเสนอปรับดงบประมาณบนพื้นฐานของหมวดหมู่โครงการต่างๆของงบประมาณ จาก 5,300 ล้านดอลลาร์ เหลือ 4,900 ล้านดอลลาร์ จากเดิมที่เคยมีการเสนอปรับเพิ่มงบประมาณเป็น 7,500 ล้านดอลลาร์ สำหรับปี 2026-2027 ในนั้นรวมถึงเงินทุนสำหรับกำจัดโรคโปลิโอและรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ . "จากการถอนตัวออกไปของผู้สนับสนุนทางการเงินใหญ่ที่สุด งบประมาณไม่อาจดำเนินไปตามปกติ" เอกสารระบุ ทั้งนี้สหรัฐฯคือผู้บริจาคระดับรัฐรายใหญ่ที่สุดขององค์การอนามัยโลก โดยสนับสนุนเงินทุนคิดเป็นสัดส่วนราวๆ 18 % ของงบประมาณทั้งหมด ทั้งนี้องค์การอนามัยโลกใช้ได้มาตรการปรับลดค่าใช้จ่ายบางส่วนแยกกันไปแล้วก่อนหน้านี้ ตามหลังความเคลื่อนไหวของอเมริกา . อย่างไรก็ตามตัวแทนบางส่วนของคณะกรรมการ ต้องการส่งสารให้เห็นว่าทางองค์การอนามัยโลก จะคงไว้ซึ่งทิศทางขององค์กร แม้ต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆนานา . ทั้งนี้งบประมาณที่อาจเหลือเพียง 4,900 ดอลลาร์สหรัฐฯ จะเป็นจำนวนเดียวกับงบประมณบนพื้นฐานของโครงการ สำหรับช่วงเวลาปี 2024-2025 . ทรัมป์ เคลื่อนไหวถอนสหรัฐฯออกจากองค์การอนามัยโลก ในวันแรกของการเข้ารับตำแหน่งเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน และภายใต้กฎหมายของอเมริกา กระบวนการนี้จะใช้เวลา 1 ปี . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011142 .............. Sondhi X
    SONDHITALK.COM
    จีนช่วยไหวไหม!WHOเผยอาจต้องลดงบประมาณ$400ล้าน หลังทรัมป์พาสหรัฐฯถอนตัว
    รัฐสมาชิกขององค์การอนามัยโลก(WHO) จะหารือกันเกี่ยวกับการปรับลดงบประมาณลงบางส่วนราว 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคลื่อนไหวพาอเมริกา ในฐานะรัฐบาลผู้สนับสนุนรายใหญ่ ถอนตัวออกจากหน่วยงานสาธารณสุขระหว่างประเ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 33 มุมมอง 0 รีวิว
  • แนวโน้มของการใช้คลาวด์เป็นหัวข้อที่ฮิตติดกระแสในวงการเทคโนโลยีมาตลอดทศวรรษที่ผ่านมา และดูเหมือนว่าบริษัทหลายแห่งเริ่มมีการประเมินคุณค่าที่แท้จริงของคลาวด์ ทั้งข้อดีและข้อเสีย โดยมีหลายบริษัทเริ่มเปลี่ยนกลับไปใช้ระบบภายในองค์กร (on-premise) หรือคลาวด์ส่วนตัว (private cloud)

    จากการสำรวจของ Rackspace ที่มีการสำรวจผู้บริหาร IT จำนวน 1,420 คน พบว่า 69% ของบริษัทได้ย้ายแอปพลิเคชันบางส่วนออกจากคลาวด์และกลับไปใช้ระบบในองค์กร เหตุผลหลัก ๆ ที่กล่าวถึงคือปัญหาด้านความปลอดภัยของข้อมูลและการปฏิบัติตามกฎหมาย 50% ระบุว่าเกี่ยวข้องกับการผนวกระบบเดิม 48% และเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย 44%

    David Linthicum ผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษาและอดีต CTO ของ Deloitte กล่าวว่าค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการใช้คลาวด์ทำให้หลายบริษัทต้องหันกลับมาพิจารณา โดยบางบริษัทไม่ได้ปรับแอปพลิเคชันให้เหมาะสมกับการใช้งานบนคลาวด์ ซึ่งทำให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น

    Miha Kralj จาก IBM Consulting แนะนำว่าควรปรับเปลี่ยนแอปพลิเคชันให้รองรับความสามารถของคลาวด์ เช่น auto-scaling และ containerization ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

    ในทำนองเดียวกัน Timothy E. Bates อาจารย์จาก University of Michigan กล่าวว่า แม้คลาวด์จะมีความยืดหยุ่น แต่มีค่าใช้จ่ายสูง และควรหาสมดุลระหว่างการใช้คลาวด์และการใช้ระบบในองค์กร

    Richard Robbins ผู้ก่อตั้ง TheTechnologyVault.comชี้ให้เห็นว่าบริษัทที่ต้องการควบคุมความปลอดภัยของข้อมูลและมีข้อจำกัดด้านกฎหมายมีแนวโน้มที่จะใช้ระบบในองค์กรหรือระบบแบบไฮบริดมากขึ้น การใช้ระบบแบบไฮบริดที่ผสมผสานระหว่างคลาวด์และระบบในองค์กรกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น เนื่องจากให้ความยืดหยุ่นและการควบคุมที่ดีกว่า

    สรุปแล้ว การใช้คลาวด์ยังคงมีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีข้อจำกัดที่ต้องพิจารณาให้รอบคอบ การใช้ระบบแบบไฮบริดและการปรับแอปพลิเคชันให้เหมาะสมกับคลาวด์สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่ายได้

    https://www.zdnet.com/article/why-some-companies-are-backing-away-from-the-public-cloud/
    แนวโน้มของการใช้คลาวด์เป็นหัวข้อที่ฮิตติดกระแสในวงการเทคโนโลยีมาตลอดทศวรรษที่ผ่านมา และดูเหมือนว่าบริษัทหลายแห่งเริ่มมีการประเมินคุณค่าที่แท้จริงของคลาวด์ ทั้งข้อดีและข้อเสีย โดยมีหลายบริษัทเริ่มเปลี่ยนกลับไปใช้ระบบภายในองค์กร (on-premise) หรือคลาวด์ส่วนตัว (private cloud) จากการสำรวจของ Rackspace ที่มีการสำรวจผู้บริหาร IT จำนวน 1,420 คน พบว่า 69% ของบริษัทได้ย้ายแอปพลิเคชันบางส่วนออกจากคลาวด์และกลับไปใช้ระบบในองค์กร เหตุผลหลัก ๆ ที่กล่าวถึงคือปัญหาด้านความปลอดภัยของข้อมูลและการปฏิบัติตามกฎหมาย 50% ระบุว่าเกี่ยวข้องกับการผนวกระบบเดิม 48% และเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย 44% David Linthicum ผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษาและอดีต CTO ของ Deloitte กล่าวว่าค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการใช้คลาวด์ทำให้หลายบริษัทต้องหันกลับมาพิจารณา โดยบางบริษัทไม่ได้ปรับแอปพลิเคชันให้เหมาะสมกับการใช้งานบนคลาวด์ ซึ่งทำให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น Miha Kralj จาก IBM Consulting แนะนำว่าควรปรับเปลี่ยนแอปพลิเคชันให้รองรับความสามารถของคลาวด์ เช่น auto-scaling และ containerization ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ในทำนองเดียวกัน Timothy E. Bates อาจารย์จาก University of Michigan กล่าวว่า แม้คลาวด์จะมีความยืดหยุ่น แต่มีค่าใช้จ่ายสูง และควรหาสมดุลระหว่างการใช้คลาวด์และการใช้ระบบในองค์กร Richard Robbins ผู้ก่อตั้ง TheTechnologyVault.comชี้ให้เห็นว่าบริษัทที่ต้องการควบคุมความปลอดภัยของข้อมูลและมีข้อจำกัดด้านกฎหมายมีแนวโน้มที่จะใช้ระบบในองค์กรหรือระบบแบบไฮบริดมากขึ้น การใช้ระบบแบบไฮบริดที่ผสมผสานระหว่างคลาวด์และระบบในองค์กรกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น เนื่องจากให้ความยืดหยุ่นและการควบคุมที่ดีกว่า สรุปแล้ว การใช้คลาวด์ยังคงมีประโยชน์มากมาย แต่ก็มีข้อจำกัดที่ต้องพิจารณาให้รอบคอบ การใช้ระบบแบบไฮบริดและการปรับแอปพลิเคชันให้เหมาะสมกับคลาวด์สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่ายได้ https://www.zdnet.com/article/why-some-companies-are-backing-away-from-the-public-cloud/
    WWW.ZDNET.COM
    Why some companies are backing away from the public cloud
    Many business leaders are taking a clear-eyed view of the cloud's benefits and drawbacks. Technical debt may be at the root of many repatriation decisions.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัท AMD กำลังเผชิญกับการตรวจสอบจากนักลงทุนในเรื่องกลยุทธ์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของตน เนื่องจากบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ เช่น Microsoft, Amazon, และ Meta เริ่มพัฒนาชิปแบบกำหนดเองมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้มีคำถามเกี่ยวกับตำแหน่งของ AMD ในการแข่งขันโครงสร้างพื้นฐาน AI

    โดยภาพรวม รายรับของ AMD ในไตรมาสที่สี่ของปีที่แล้วคาดว่าจะเพิ่มขึ้นกว่า 22% เป็น 7.53 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่การเติบโตของบริษัทนี้ถูกขวางทางโดย Nvidia ที่ครอบครองตลาดชิป AI อยู่แล้ว

    ประเด็นสำคัญคือการที่บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ เริ่มพัฒนาชิปแบบกำหนดเอง ซึ่งหมายความว่าพวกเขาไม่ต้องพึ่งพาโพรเซสเซอร์ทั่วไปของ AMD หรือ Nvidia อีกต่อไป นอกจากนี้ สตาร์ทอัปในจีนอย่าง DeepSeek ก็สามารถพัฒนาโมเดล AI ที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่าหรือดีกว่าของบริษัทตะวันตก ในราคาที่ถูกกว่า

    แต่ AMD ยังคงมีความหวังเนื่องจากการพัฒนาโมเดล AI ที่ซับซ้อนขึ้น อาจจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับบริษัท นักวิเคราะห์คาดว่า AMD จะสามารถทำยอดขายชิป AI ได้ถึง 10 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากประมาณการ 5 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 การประชุมของ AMD ในครั้งนี้ถูกจับตาอย่างใกล้ชิดจากนักลงทุน เพราะการเปลี่ยนแปลงในกลยุทธ์ AI จะมีผลกระทบต่ออนาคตของบริษัทในตลาดโครงสร้างพื้นฐาน AI

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/03/amd039s-ai-bets-face-investor-scrutiny-as-big-tech-switches-to-custom-chips
    บริษัท AMD กำลังเผชิญกับการตรวจสอบจากนักลงทุนในเรื่องกลยุทธ์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของตน เนื่องจากบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ เช่น Microsoft, Amazon, และ Meta เริ่มพัฒนาชิปแบบกำหนดเองมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้มีคำถามเกี่ยวกับตำแหน่งของ AMD ในการแข่งขันโครงสร้างพื้นฐาน AI โดยภาพรวม รายรับของ AMD ในไตรมาสที่สี่ของปีที่แล้วคาดว่าจะเพิ่มขึ้นกว่า 22% เป็น 7.53 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่การเติบโตของบริษัทนี้ถูกขวางทางโดย Nvidia ที่ครอบครองตลาดชิป AI อยู่แล้ว ประเด็นสำคัญคือการที่บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ เริ่มพัฒนาชิปแบบกำหนดเอง ซึ่งหมายความว่าพวกเขาไม่ต้องพึ่งพาโพรเซสเซอร์ทั่วไปของ AMD หรือ Nvidia อีกต่อไป นอกจากนี้ สตาร์ทอัปในจีนอย่าง DeepSeek ก็สามารถพัฒนาโมเดล AI ที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่าหรือดีกว่าของบริษัทตะวันตก ในราคาที่ถูกกว่า แต่ AMD ยังคงมีความหวังเนื่องจากการพัฒนาโมเดล AI ที่ซับซ้อนขึ้น อาจจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับบริษัท นักวิเคราะห์คาดว่า AMD จะสามารถทำยอดขายชิป AI ได้ถึง 10 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากประมาณการ 5 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 การประชุมของ AMD ในครั้งนี้ถูกจับตาอย่างใกล้ชิดจากนักลงทุน เพราะการเปลี่ยนแปลงในกลยุทธ์ AI จะมีผลกระทบต่ออนาคตของบริษัทในตลาดโครงสร้างพื้นฐาน AI https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/03/amd039s-ai-bets-face-investor-scrutiny-as-big-tech-switches-to-custom-chips
    WWW.THESTAR.COM.MY
    AMD's AI bets face investor scrutiny as Big Tech switches to custom chips
    (Reuters) - AMD investors will closely examine the chip designer's artificial intelligence strategy when it reports fourth-quarter results on Tuesday as Big Tech's shift to custom silicon raises doubts about its place in the AI infrastructure race.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 26 มุมมอง 0 รีวิว
  • ออนแทรีโอของแคนาดาตัดสินใจที่จะยกเลิกสัญญามูลค่า 100 ล้านดอลลาร์แคนาดากับบริษัท Starlink ของอีลอน มัสก์ การตัดสินใจนี้เป็นการตอบโต้ภาษีที่สหรัฐฯ กำหนดขึ้นมาใหม่จากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

    ภาษีใหม่ของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของแคนาดา โดยมีแผนที่จะเก็บภาษี 25% สำหรับสินค้านำเข้าจากแคนาดาทั้งหมด ยกเว้นน้ำมันที่ต้องเสียภาษี 10% มาตรการเหล่านี้จะทำให้เศรษฐกิจแคนาดาเข้าสู่ภาวะถดถอยหากยังคงดำเนินต่อไป โดยบริษัทในสหรัฐฯ จะสูญเสียรายได้หลายพันล้านดอลลาร์และมีเพียงโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะต้องรับผิดชอบ

    จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาประกาศว่าจะเก็บภาษี 25% จากสินค้าสหรัฐฯ มูลค่า 155 พันล้านดอลลาร์แคนาดา เพื่อตอบโต้ หากมาตรการภาษียังคงดำเนินต่อไป แคนาดาอาจตกลงเจรจากับสหรัฐฯ แต่ไม่มีการคาดหวังว่าจะได้ยืดหยุ่นเหมือนที่ได้รับการยืดหยุ่นชั่วคราวจากเม็กซิโก

    การตัดสินใจของออนแทรีโอแสดงให้เห็นถึงความท้าทายในระดับนานาชาติที่เกิดขึ้นจากการกำหนดภาษีและการตอบโต้ซึ่งกันและกัน โดยบริษัทในสหรัฐฯ และแคนาดาต้องเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองที่ซับซ้อน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/04/ontario-cancels-starlink-contract-in-latest-canadian-tariffs-protest
    ออนแทรีโอของแคนาดาตัดสินใจที่จะยกเลิกสัญญามูลค่า 100 ล้านดอลลาร์แคนาดากับบริษัท Starlink ของอีลอน มัสก์ การตัดสินใจนี้เป็นการตอบโต้ภาษีที่สหรัฐฯ กำหนดขึ้นมาใหม่จากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ภาษีใหม่ของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของแคนาดา โดยมีแผนที่จะเก็บภาษี 25% สำหรับสินค้านำเข้าจากแคนาดาทั้งหมด ยกเว้นน้ำมันที่ต้องเสียภาษี 10% มาตรการเหล่านี้จะทำให้เศรษฐกิจแคนาดาเข้าสู่ภาวะถดถอยหากยังคงดำเนินต่อไป โดยบริษัทในสหรัฐฯ จะสูญเสียรายได้หลายพันล้านดอลลาร์และมีเพียงโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะต้องรับผิดชอบ จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาประกาศว่าจะเก็บภาษี 25% จากสินค้าสหรัฐฯ มูลค่า 155 พันล้านดอลลาร์แคนาดา เพื่อตอบโต้ หากมาตรการภาษียังคงดำเนินต่อไป แคนาดาอาจตกลงเจรจากับสหรัฐฯ แต่ไม่มีการคาดหวังว่าจะได้ยืดหยุ่นเหมือนที่ได้รับการยืดหยุ่นชั่วคราวจากเม็กซิโก การตัดสินใจของออนแทรีโอแสดงให้เห็นถึงความท้าทายในระดับนานาชาติที่เกิดขึ้นจากการกำหนดภาษีและการตอบโต้ซึ่งกันและกัน โดยบริษัทในสหรัฐฯ และแคนาดาต้องเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองที่ซับซ้อน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/04/ontario-cancels-starlink-contract-in-latest-canadian-tariffs-protest
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Ontario cancels Starlink contract in latest Canadian tariffs protest
    OTTAWA (Reuters) - The Canadian province of Ontario on Monday announced it was cancelling a C$100 million ($68.12 million) contract with Elon Musk's Starlink, the latest retaliatory move against tariffs announced by U.S. President Donald Trump.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • กรรมดีมีสุข
    หลุดพ้นด้วยธรรม
    ศรัทธาก้าวนำ
    ทำความพากเพียร

    สติให้อยู่
    รู้ทันไม่เพี้ยน
    มั่นคงเสถียร
    เพียรให้ชำนาญ

    ลับคมปัญญา
    พากรรมการงาน
    มีหลักรากฐาน
    งานการเสร็จดี

    งานกายงานจิต
    คิดพูดทำมี
    พาร่วมชีวี
    ที่ร้ายให้หาย

    ใจบริสุทธิ์
    ผุดผ่องแจ่มใส
    มีธรรมครองไว้
    ได้รู้อุ่นใจ
    กรรมดีมีสุข หลุดพ้นด้วยธรรม ศรัทธาก้าวนำ ทำความพากเพียร สติให้อยู่ รู้ทันไม่เพี้ยน มั่นคงเสถียร เพียรให้ชำนาญ ลับคมปัญญา พากรรมการงาน มีหลักรากฐาน งานการเสร็จดี งานกายงานจิต คิดพูดทำมี พาร่วมชีวี ที่ร้ายให้หาย ใจบริสุทธิ์ ผุดผ่องแจ่มใส มีธรรมครองไว้ ได้รู้อุ่นใจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัท Salesforce กำลังจะลดจำนวนพนักงานกว่า 1,000 ตำแหน่ง ในขณะเดียวกันก็มีการจ้างพนักงานใหม่เพื่อขายผลิตภัณฑ์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ใหม่ของบริษัท ตามรายงานจาก Bloomberg News

    Salesforce เป็นบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่เน้นการให้บริการซอฟต์แวร์ด้านการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) และกำลังลงทุนในเทคโนโลยี AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ การลดจำนวนพนักงานครั้งนี้เป็นสัญญาณหนึ่งของการปรับตัวของบริษัทในยุคที่เทคโนโลยี AI กำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในตลาด การลงทุนใน AI ถือเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญสำหรับบริษัทในอนาคต โดยคาดว่าการพัฒนาผลิตภัณฑ์ AI จะช่วยเพิ่มรายได้และประสิทธิภาพให้กับบริษัทในระยะยาว

    จากเนื้อหาข่าวนี้ เราเห็นว่า Salesforce กำลังเตรียมพร้อมเข้าสู่ยุค AI อย่างเต็มตัว โดยการลดจำนวนพนักงานที่มีอยู่และเพิ่มการจ้างงานในสายงานใหม่เพื่อเตรียมรับกับความต้องการในตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/04/salesforce-to-cut-1000-roles-bloomberg-news-reports
    บริษัท Salesforce กำลังจะลดจำนวนพนักงานกว่า 1,000 ตำแหน่ง ในขณะเดียวกันก็มีการจ้างพนักงานใหม่เพื่อขายผลิตภัณฑ์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ใหม่ของบริษัท ตามรายงานจาก Bloomberg News Salesforce เป็นบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่เน้นการให้บริการซอฟต์แวร์ด้านการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) และกำลังลงทุนในเทคโนโลยี AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ การลดจำนวนพนักงานครั้งนี้เป็นสัญญาณหนึ่งของการปรับตัวของบริษัทในยุคที่เทคโนโลยี AI กำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในตลาด การลงทุนใน AI ถือเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญสำหรับบริษัทในอนาคต โดยคาดว่าการพัฒนาผลิตภัณฑ์ AI จะช่วยเพิ่มรายได้และประสิทธิภาพให้กับบริษัทในระยะยาว จากเนื้อหาข่าวนี้ เราเห็นว่า Salesforce กำลังเตรียมพร้อมเข้าสู่ยุค AI อย่างเต็มตัว โดยการลดจำนวนพนักงานที่มีอยู่และเพิ่มการจ้างงานในสายงานใหม่เพื่อเตรียมรับกับความต้องการในตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/04/salesforce-to-cut-1000-roles-bloomberg-news-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Salesforce to cut 1,000 roles, Bloomberg News reports
    (Reuters) - Salesforce is cutting more than 1,000 jobs as it simultaneously hires workers to sell new artificial intelligence products, Bloomberg News reported on Monday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัท X (เดิมคือ Twitter) ของอีลอน มัสก์ กำลังขยายการฟ้องร้องทางกฎหมายกับผู้ลงโฆษณาเพิ่มเติม รวมถึงบริษัท Lego, Pinterest, และแบรนด์ใหญ่ ๆ อื่น ๆ อีลอน มัสก์ อ้างว่าผู้ลงโฆษณาเหล่านี้ได้ร่วมกันบอยคอตต์แพลตฟอร์ม X โดยการฟ้องร้องครั้งนี้เกิดขึ้นเพื่อรับมือกับผลกระทบที่เกิดจากการบอยคอตต์ดังกล่าว

    การบอยคอตต์เริ่มต้นเมื่อ IBM ระงับการโฆษณาบน X หลังจากมีรายงานว่าโฆษณาของ IBM ไปปรากฏใกล้กับโพสต์ที่ส่งเสริมฮิตเลอร์และนาซี ทำให้มีบริษัทอื่น ๆ ตามมาหยุดโฆษณาบน X ด้วย เช่น Disney

    อีลอน มัสก์ อ้างว่าผู้ลงโฆษณาเหล่านี้ร่วมกันบอยคอตต์เพื่อบังคับให้แพลตฟอร์มปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยของแบรนด์ (Brand Safety Standards) ที่กำหนดโดย Global Alliance for Responsible Media (GARM) ซึ่งองค์กร World Federation of Advertisers (WFA) เป็นผู้ดูแล

    การฟ้องร้องครั้งนี้เป็นการต่อสู้ทางกฎหมายที่ยาวนานและซับซ้อน โดย X กล่าวหาว่าบริษัทที่ถูกฟ้องร้องร่วมกันบอยคอตต์ทำให้แพลตฟอร์มไม่สามารถบรรลุเป้าหมายรายได้ที่คาดหวัง อย่างไรก็ตาม บริษัทที่ถูกบอยคอตต์ยังคงพบว่าราคาการโฆษณาบน X ยังต่ำกว่าแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่น ๆ ซึ่งหมายความว่าพวกเขากำลังละเลยโอกาสที่มีค่าที่จะซื้อสื่อโฆษณาในราคาต่ำ

    นอกจากนี้ อีลอน มัสก์ยังกล่าวในงานสัมมนา Dealbook Summit ว่าการบอยคอตต์นี้เกี่ยวกับเสรีภาพในการพูดของเขา ซึ่งมีการตอบโต้ด้วยการบอกให้แบรนด์เหล่านั้น "ไปที่ไหนก็ไป"

    https://www.techspot.com/news/106616-elon-musk-x-expands-lawsuit-against-advertisers-include.html
    บริษัท X (เดิมคือ Twitter) ของอีลอน มัสก์ กำลังขยายการฟ้องร้องทางกฎหมายกับผู้ลงโฆษณาเพิ่มเติม รวมถึงบริษัท Lego, Pinterest, และแบรนด์ใหญ่ ๆ อื่น ๆ อีลอน มัสก์ อ้างว่าผู้ลงโฆษณาเหล่านี้ได้ร่วมกันบอยคอตต์แพลตฟอร์ม X โดยการฟ้องร้องครั้งนี้เกิดขึ้นเพื่อรับมือกับผลกระทบที่เกิดจากการบอยคอตต์ดังกล่าว การบอยคอตต์เริ่มต้นเมื่อ IBM ระงับการโฆษณาบน X หลังจากมีรายงานว่าโฆษณาของ IBM ไปปรากฏใกล้กับโพสต์ที่ส่งเสริมฮิตเลอร์และนาซี ทำให้มีบริษัทอื่น ๆ ตามมาหยุดโฆษณาบน X ด้วย เช่น Disney อีลอน มัสก์ อ้างว่าผู้ลงโฆษณาเหล่านี้ร่วมกันบอยคอตต์เพื่อบังคับให้แพลตฟอร์มปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยของแบรนด์ (Brand Safety Standards) ที่กำหนดโดย Global Alliance for Responsible Media (GARM) ซึ่งองค์กร World Federation of Advertisers (WFA) เป็นผู้ดูแล การฟ้องร้องครั้งนี้เป็นการต่อสู้ทางกฎหมายที่ยาวนานและซับซ้อน โดย X กล่าวหาว่าบริษัทที่ถูกฟ้องร้องร่วมกันบอยคอตต์ทำให้แพลตฟอร์มไม่สามารถบรรลุเป้าหมายรายได้ที่คาดหวัง อย่างไรก็ตาม บริษัทที่ถูกบอยคอตต์ยังคงพบว่าราคาการโฆษณาบน X ยังต่ำกว่าแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่น ๆ ซึ่งหมายความว่าพวกเขากำลังละเลยโอกาสที่มีค่าที่จะซื้อสื่อโฆษณาในราคาต่ำ นอกจากนี้ อีลอน มัสก์ยังกล่าวในงานสัมมนา Dealbook Summit ว่าการบอยคอตต์นี้เกี่ยวกับเสรีภาพในการพูดของเขา ซึ่งมีการตอบโต้ด้วยการบอกให้แบรนด์เหล่านั้น "ไปที่ไหนก็ไป" https://www.techspot.com/news/106616-elon-musk-x-expands-lawsuit-against-advertisers-include.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Elon Musk's X expands lawsuit against advertisers to include Lego, Pinterest, and other major brands
    In November 2023, IBM suspended its advertising on X after a report said one of its ads appeared next to posts that promoted Hitler and the Nazi...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เกี่ยวข้องกับการที่ Microsoft ได้ซ่อนวิธีการ "ทางลัด" หรือ "วิธีการอย่างไม่เป็นทางการ" ในการติดตั้ง Windows 11 บนอุปกรณ์ที่ไม่รองรับ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้ผู้ใช้หลายคนไม่พอใจ

    เมื่อ Windows 11 เปิดตัวในปี 2021 Microsoft ได้มีวิธีการอย่างเป็นทางการสำหรับการติดตั้งระบบปฏิบัติการนี้บนอุปกรณ์ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ฮาร์ดแวร์ที่เคร่งครัด อย่างไรก็ตาม ในปีที่ 4 หลังจากการเปิดตัว Microsoft และพันธมิตร OEM อยากให้ลูกค้าซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่แทนที่จะนำเครื่องเก่ากลับมาใช้ซ้ำ

    ในเว็บไซต์สนับสนุนอย่างเป็นทางการของ Microsoft ตอนนี้ไม่มีการระบุถึงวิธีการทางลัดสำหรับการติดตั้ง Windows 11 บนอุปกรณ์ที่ไม่รองรับอีกต่อไป แต่ผู้ใช้ยังคงสามารถค้นหาวิธีการเหล่านี้ได้จากการตรวจสอบประวัติบน Wayback Machine ที่เก็บข้อมูลของเว็บไซต์เหล่านี้ไว้

    ผู้ใช้หลายคนใช้เครื่องมือของบุคคลที่สามเช่น Rufus หรือ Ventoy เพื่อข้ามการตรวจสอบฮาร์ดแวร์และติดตั้ง Windows 11 บนอุปกรณ์ที่ไม่รองรับ ในขณะที่ Windows 10 กำลังจะสิ้นสุดการสนับสนุนอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 ตุลาคม 2025 และองค์กรสามารถขยายการสนับสนุนได้โดยการเลือกใช้เวอร์ชัน Long-Term Servicing Channel (LTSC) ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง

    https://www.techspot.com/news/106619-microsoft-hides-official-workaround-installing-windows-11-older.html
    ข่าวนี้เกี่ยวข้องกับการที่ Microsoft ได้ซ่อนวิธีการ "ทางลัด" หรือ "วิธีการอย่างไม่เป็นทางการ" ในการติดตั้ง Windows 11 บนอุปกรณ์ที่ไม่รองรับ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้ผู้ใช้หลายคนไม่พอใจ เมื่อ Windows 11 เปิดตัวในปี 2021 Microsoft ได้มีวิธีการอย่างเป็นทางการสำหรับการติดตั้งระบบปฏิบัติการนี้บนอุปกรณ์ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ฮาร์ดแวร์ที่เคร่งครัด อย่างไรก็ตาม ในปีที่ 4 หลังจากการเปิดตัว Microsoft และพันธมิตร OEM อยากให้ลูกค้าซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่แทนที่จะนำเครื่องเก่ากลับมาใช้ซ้ำ ในเว็บไซต์สนับสนุนอย่างเป็นทางการของ Microsoft ตอนนี้ไม่มีการระบุถึงวิธีการทางลัดสำหรับการติดตั้ง Windows 11 บนอุปกรณ์ที่ไม่รองรับอีกต่อไป แต่ผู้ใช้ยังคงสามารถค้นหาวิธีการเหล่านี้ได้จากการตรวจสอบประวัติบน Wayback Machine ที่เก็บข้อมูลของเว็บไซต์เหล่านี้ไว้ ผู้ใช้หลายคนใช้เครื่องมือของบุคคลที่สามเช่น Rufus หรือ Ventoy เพื่อข้ามการตรวจสอบฮาร์ดแวร์และติดตั้ง Windows 11 บนอุปกรณ์ที่ไม่รองรับ ในขณะที่ Windows 10 กำลังจะสิ้นสุดการสนับสนุนอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 ตุลาคม 2025 และองค์กรสามารถขยายการสนับสนุนได้โดยการเลือกใช้เวอร์ชัน Long-Term Servicing Channel (LTSC) ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง https://www.techspot.com/news/106619-microsoft-hides-official-workaround-installing-windows-11-older.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Microsoft hides "official" workaround for installing Windows 11 on older PCs
    When Windows 11 launched in 2021, Microsoft provided an official method for installing the operating system on devices that didn't meet its stringent hardware requirements. However, four...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์ออก executive order จัดตั้งกองทุนความมั่งคั่ง ( sovereign wealth fund --U.S. government-owned investment fund) ระบุ กองทุนนี้จะเข้าลงทุนใน TikTok และสินทรัพย์อื่นที่มีแนวโน้มสร้างผลตอบแทนได้ดี โดยเงินกองทุนจะมาจากการเก็บภาษีนำเข้า คาร์บอนเครดิต รายได้รัฐบาล
    *ทรัมป์ต้องการที่จะให้สหรัฐถือหุ้นใน tiktok 50% (เบื้องต้นยังไม่ระบุว่าจะให้ใครเข้าไปซื้ออย่างชัดเจน)
    **แต่อย่างไรก็ตามยังต้องผ่านสภาก่อน สหรัฐไม่เคยมีกองทุนความมั่งคั่งมาก่อน

    sovereign wealth fund เป็นกองทุนการลงทุนที่รัฐบาลเป็นเจ้าของทำหน้าที่บริหารเงินของประเทศ ส่วนใหญ่จะเกิดจากเงินรายได้ของประเทศที่มีในระดับสูง อยู่ในภาวะเกินดุล กองทุนฯ จะนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่น ตลาดหุ้น พันธบัตร อสังหาฯ บริษัทต่าง ๆ เพื่อสร้างผลตอบแทนและสนับสุนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ สร้างความมั่นคงให้กับเศรษฐกิจ หรืออาจจะเพื่อหาเงินทุนให้กับโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาล ประเทศที่มี SWF เช่น สวีเดน นอร์เวย์
    ..........................
    พลังงาน
    นโยบายทรัมป์ที่จะหนุนการขุดเจาะน้ำมันในประเทศ
    บริษัทขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐและทางซาอุฯ ปฏิเสธที่จะเพิ่มกำลังการผลิต
    บริษัทขุดเจาะสหรัฐ มุ่งความสนใจไปที่การลดต้นทุนและสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนมากกว่าจะลงทุนเพิ่ม
    ทรัมป์ระบุว่า ราคาน้ำมันที่ลดต่ำลง (จากซัพพลายที่เพิ่ม) จะช่วยแก้ปัญหาให้กับหลาย ๆ ประเทศ
    ทรัมป์ออก executive order จัดตั้งกองทุนความมั่งคั่ง ( sovereign wealth fund --U.S. government-owned investment fund) ระบุ กองทุนนี้จะเข้าลงทุนใน TikTok และสินทรัพย์อื่นที่มีแนวโน้มสร้างผลตอบแทนได้ดี โดยเงินกองทุนจะมาจากการเก็บภาษีนำเข้า คาร์บอนเครดิต รายได้รัฐบาล *ทรัมป์ต้องการที่จะให้สหรัฐถือหุ้นใน tiktok 50% (เบื้องต้นยังไม่ระบุว่าจะให้ใครเข้าไปซื้ออย่างชัดเจน) **แต่อย่างไรก็ตามยังต้องผ่านสภาก่อน สหรัฐไม่เคยมีกองทุนความมั่งคั่งมาก่อน sovereign wealth fund เป็นกองทุนการลงทุนที่รัฐบาลเป็นเจ้าของทำหน้าที่บริหารเงินของประเทศ ส่วนใหญ่จะเกิดจากเงินรายได้ของประเทศที่มีในระดับสูง อยู่ในภาวะเกินดุล กองทุนฯ จะนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่น ตลาดหุ้น พันธบัตร อสังหาฯ บริษัทต่าง ๆ เพื่อสร้างผลตอบแทนและสนับสุนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ สร้างความมั่นคงให้กับเศรษฐกิจ หรืออาจจะเพื่อหาเงินทุนให้กับโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาล ประเทศที่มี SWF เช่น สวีเดน นอร์เวย์ .......................... พลังงาน นโยบายทรัมป์ที่จะหนุนการขุดเจาะน้ำมันในประเทศ บริษัทขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐและทางซาอุฯ ปฏิเสธที่จะเพิ่มกำลังการผลิต บริษัทขุดเจาะสหรัฐ มุ่งความสนใจไปที่การลดต้นทุนและสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนมากกว่าจะลงทุนเพิ่ม ทรัมป์ระบุว่า ราคาน้ำมันที่ลดต่ำลง (จากซัพพลายที่เพิ่ม) จะช่วยแก้ปัญหาให้กับหลาย ๆ ประเทศ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทีมงานที่เชี่ยวชาญในการกำจัดระเบิดได้ใช้ยานใต้น้ำที่มีเทคโนโลยีล้ำหน้าเพื่อค้นหาและกำจัดระเบิดในอ่าวลือเบ็ค (Bay of Lübeck) ทางชายฝั่งตอนเหนือของเยอรมนี

    ในช่วงเดือนกันยายนและตุลาคม 2024 ทีมงานด้านสิ่งแวดล้อมได้ใช้ยานใต้น้ำที่ติดตั้งกล้อง ไฟสว่าง และเซนเซอร์ต่าง ๆ เพื่อตามหาระเบิดใต้น้ำที่ถูกทิ้งไปเกือบแปดสิบปีที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญได้ประเมินวัตถุแต่ละชิ้นจากแพลตฟอร์มที่ลอยอยู่เหนือสถานที่ทิ้งระเบิด จากนั้นใช้แม่เหล็กไฟฟ้าบนหุ่นยนต์หรือแขนขุดไฮดรอลิกในการบรรจุระเบิดลงในภาชนะที่ปิดผนึกอย่างปลอดภัย

    โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนริเริ่มที่กำลังดำเนินการเพื่อจัดการกับซากอาวุธที่เป็นพิษจากสงครามที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมในทะเลบอลติกและทะเลเหนือ คาดว่ามีการทิ้งอาวุธประมาณ 1.6 ล้านตันในน่านน้ำของเยอรมนีเพียงแห่งเดียว ซึ่งรวมถึงอาวุธทางเคมีที่อยู่ใต้น้ำ

    งานวิจัยพบว่ามีสาร TNT อยู่ในหอยแมลงภู่และปลาที่อยู่ใกล้กับสถานที่ทิ้งระเบิด และปลาที่อาศัยอยู่ใกล้เรือรบที่จมน้ำมีอัตราการเป็นมะเร็งตับและความเสียหายของอวัยวะที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โครงการนี้ใช้งบประมาณจำนวน 100 ล้านยูโรจากรัฐบาลเยอรมนีเพื่อพัฒนาระบบที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดระเบิดจากพื้นทะเล และกำลังดำเนินการทดสอบเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น การใช้ยานใต้น้ำที่ควบคุมจากระยะไกลเพื่อทำแผนที่ สแกน และวิเคราะห์พื้นทะเล

    https://www.techspot.com/news/106628-underwater-robots-clearing-german-coast-dangerous-explosives-wwii.html
    ทีมงานที่เชี่ยวชาญในการกำจัดระเบิดได้ใช้ยานใต้น้ำที่มีเทคโนโลยีล้ำหน้าเพื่อค้นหาและกำจัดระเบิดในอ่าวลือเบ็ค (Bay of Lübeck) ทางชายฝั่งตอนเหนือของเยอรมนี ในช่วงเดือนกันยายนและตุลาคม 2024 ทีมงานด้านสิ่งแวดล้อมได้ใช้ยานใต้น้ำที่ติดตั้งกล้อง ไฟสว่าง และเซนเซอร์ต่าง ๆ เพื่อตามหาระเบิดใต้น้ำที่ถูกทิ้งไปเกือบแปดสิบปีที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญได้ประเมินวัตถุแต่ละชิ้นจากแพลตฟอร์มที่ลอยอยู่เหนือสถานที่ทิ้งระเบิด จากนั้นใช้แม่เหล็กไฟฟ้าบนหุ่นยนต์หรือแขนขุดไฮดรอลิกในการบรรจุระเบิดลงในภาชนะที่ปิดผนึกอย่างปลอดภัย โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนริเริ่มที่กำลังดำเนินการเพื่อจัดการกับซากอาวุธที่เป็นพิษจากสงครามที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมในทะเลบอลติกและทะเลเหนือ คาดว่ามีการทิ้งอาวุธประมาณ 1.6 ล้านตันในน่านน้ำของเยอรมนีเพียงแห่งเดียว ซึ่งรวมถึงอาวุธทางเคมีที่อยู่ใต้น้ำ งานวิจัยพบว่ามีสาร TNT อยู่ในหอยแมลงภู่และปลาที่อยู่ใกล้กับสถานที่ทิ้งระเบิด และปลาที่อาศัยอยู่ใกล้เรือรบที่จมน้ำมีอัตราการเป็นมะเร็งตับและความเสียหายของอวัยวะที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โครงการนี้ใช้งบประมาณจำนวน 100 ล้านยูโรจากรัฐบาลเยอรมนีเพื่อพัฒนาระบบที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดระเบิดจากพื้นทะเล และกำลังดำเนินการทดสอบเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น การใช้ยานใต้น้ำที่ควบคุมจากระยะไกลเพื่อทำแผนที่ สแกน และวิเคราะห์พื้นทะเล https://www.techspot.com/news/106628-underwater-robots-clearing-german-coast-dangerous-explosives-wwii.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Underwater robots are clearing the German coast of dangerous explosives from World War II
    Throughout September and October 2024, environmental teams deployed advanced underwater vehicles equipped with cameras, powerful lights, and sensors to hunt for submerged explosives from nearly eight decades...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Company) กำลังเร่งความพยายามในการพัฒนาเทคโนโลยีผลิตชิป 1 นาโนเมตร (1nm) ซึ่งคาดว่าจะพร้อมเปิดตัวในปี 2030 โดยบริษัทได้วางแผนสร้างโรงงานผลิตชิปแห่งใหม่ที่ทันสมัยในเมืองไถหนาน (Tainan) ประเทศไต้หวัน โรงงานนี้จะถูกตั้งชื่อว่า "Fab 25" และคาดว่าจะสามารถผลิตเวเฟอร์ขนาด 12 นิ้วได้ด้วยสายการผลิตถึง 6 สาย

    การพัฒนาเทคโนโลยี 1nm ของ TSMC มีเป้าหมายที่จะบรรลุการบรรจุทรานซิสเตอร์ถึงล้านล้าน (trillion) หน่วยในกระบวนการผลิตผ่านชิปหลายชั้นแบบ 3 มิติ (3D-stacked chipsets) การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่นี้มีค่าใช้จ่ายสูงโดยคาดว่าจะเกินหนึ่งล้านล้านวอน หรือประมาณ 32 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

    TSMC ตั้งใจที่จะนำกฎของมัวร์ (Moore's Law) ไปสู่ระดับใหม่ กฎของมัวร์กล่าวว่า จำนวนทรานซิสเตอร์ในชิปจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าทุก ๆ สองปี ซึ่งจะทำให้ชิปมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและขนาดเล็กลง อัตราการผลิตและการจัดหาวัสดุเป็นปัญหาที่สำคัญในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่กระบวนการผลิตชิปมีการลดขนาดลงอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

    TSMC เป็นโรงงานผลิตชิปที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปัจจุบัน และมีความได้เปรียบที่ชัดเจนจากการได้รับคำสั่งซื้อชิป AI ของ NVIDIA ที่มีความต้องการสูง ทำให้คู่แข่งอย่าง Samsung และ Intel ไม่สามารถท้าทายได้

    https://wccftech.com/tsmc-accelerates-efforts-to-achieve-1nm-production/
    TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Company) กำลังเร่งความพยายามในการพัฒนาเทคโนโลยีผลิตชิป 1 นาโนเมตร (1nm) ซึ่งคาดว่าจะพร้อมเปิดตัวในปี 2030 โดยบริษัทได้วางแผนสร้างโรงงานผลิตชิปแห่งใหม่ที่ทันสมัยในเมืองไถหนาน (Tainan) ประเทศไต้หวัน โรงงานนี้จะถูกตั้งชื่อว่า "Fab 25" และคาดว่าจะสามารถผลิตเวเฟอร์ขนาด 12 นิ้วได้ด้วยสายการผลิตถึง 6 สาย การพัฒนาเทคโนโลยี 1nm ของ TSMC มีเป้าหมายที่จะบรรลุการบรรจุทรานซิสเตอร์ถึงล้านล้าน (trillion) หน่วยในกระบวนการผลิตผ่านชิปหลายชั้นแบบ 3 มิติ (3D-stacked chipsets) การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่นี้มีค่าใช้จ่ายสูงโดยคาดว่าจะเกินหนึ่งล้านล้านวอน หรือประมาณ 32 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ TSMC ตั้งใจที่จะนำกฎของมัวร์ (Moore's Law) ไปสู่ระดับใหม่ กฎของมัวร์กล่าวว่า จำนวนทรานซิสเตอร์ในชิปจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าทุก ๆ สองปี ซึ่งจะทำให้ชิปมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและขนาดเล็กลง อัตราการผลิตและการจัดหาวัสดุเป็นปัญหาที่สำคัญในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่กระบวนการผลิตชิปมีการลดขนาดลงอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา TSMC เป็นโรงงานผลิตชิปที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปัจจุบัน และมีความได้เปรียบที่ชัดเจนจากการได้รับคำสั่งซื้อชิป AI ของ NVIDIA ที่มีความต้องการสูง ทำให้คู่แข่งอย่าง Samsung และ Intel ไม่สามารถท้าทายได้ https://wccftech.com/tsmc-accelerates-efforts-to-achieve-1nm-production/
    WCCFTECH.COM
    TSMC Accelerates Efforts To Achieve 1nm Production, Plans To Set Up "Giga Fabs" In Taiwan
    TSMC is now determined to scale up process tech, in order to incorporate the cutting-edge 1nm process in new facilities.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัท VIPRE ซึ่งเป็นบริษัทด้านความปลอดภัย ได้ประมวลผลอีเมลจำนวน 7.2 พันล้านฉบับในปี 2024 และพบว่ามีอีเมลสแปมมากถึง 858 ล้านฉบับ โดยส่วนใหญ่เกิดจากเนื้อหาหรือลิงก์ภายในอีเมลเหล่านี้ รายงานการวิเคราะห์ของ VIPRE ยังเปิดเผยว่า กว่า 90% ของอีเมลที่ถูกระบุว่าเป็นสแปมนั้นมีข้อความเชิงพาณิชย์ที่ไม่ได้รับเชิญและพยายามฟิชชิงที่เป็นอันตราย

    ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นแหล่งที่มาของอีเมลสแปมมากที่สุด ตามด้วยสหราชอาณาจักร และประเทศอื่น ๆ เช่น สวิตเซอร์แลนด์ และ สวีเดน

    มีการเปลี่ยนแปลงวิธีการโจมตีของแฮกเกอร์อย่างต่อเนื่อง ในไตรมาสแรกของปี 2024 มีการใช้ไฟล์แนบถึง 78% ของการโจมตี ในขณะที่ไตรมาสที่สอง มีการใช้ลิงก์ถึง 86% และในไตรมาสที่สี่ ไฟล์แนบกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง โดยไฟล์ PDF, DOCX, และ XLSX เป็นที่นิยมในการแพร่กระจายมัลแวร์ QR codes กลายเป็นเทคนิคใหม่ในการโจมตีด้วยฟิชชิง โดยมีการใช้งานในอีเมลเพิ่มขึ้นจาก 1% ในไตรมาสแรกถึง 12% ในไตรมาสที่สี่

    รายงานของ VIPRE แนะนำให้ใช้โปรโตคอลการยืนยันอีเมล เช่น SPF, DKIM, และ DMARC เพื่อป้องกันการปลอมแปลงและการเลียนแบบ การลงทุนในเครื่องมือตรวจจับที่ใช้ AI ช่วยให้สามารถป้องกันภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ และการใช้การยืนยันตัวตนหลายชั้น (MFA) ผ่านแอปพลิเคชันยืนยันตัวตนยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่ง

    Usman Choudhary หัวหน้าเจ้าหน้าที่ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีของ VIPRE กล่าวว่า "การวิเคราะห์ภูมิทัศน์อีเมลประจำปีนี้ให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าสำหรับภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ธุรกิจจะต้องเผชิญในปี 2025" การโจมตีทางอีเมลยังคงเป็นปัญหาที่สำคัญและต้องการการป้องกันที่มีประสิทธิภาพเพื่อรักษาความปลอดภัยในองค์กร

    https://www.techradar.com/pro/help-were-drowning-in-email-spam-its-about-to-get-worse-and-theres-nothing-we-can-do-to-stop-it
    บริษัท VIPRE ซึ่งเป็นบริษัทด้านความปลอดภัย ได้ประมวลผลอีเมลจำนวน 7.2 พันล้านฉบับในปี 2024 และพบว่ามีอีเมลสแปมมากถึง 858 ล้านฉบับ โดยส่วนใหญ่เกิดจากเนื้อหาหรือลิงก์ภายในอีเมลเหล่านี้ รายงานการวิเคราะห์ของ VIPRE ยังเปิดเผยว่า กว่า 90% ของอีเมลที่ถูกระบุว่าเป็นสแปมนั้นมีข้อความเชิงพาณิชย์ที่ไม่ได้รับเชิญและพยายามฟิชชิงที่เป็นอันตราย ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นแหล่งที่มาของอีเมลสแปมมากที่สุด ตามด้วยสหราชอาณาจักร และประเทศอื่น ๆ เช่น สวิตเซอร์แลนด์ และ สวีเดน มีการเปลี่ยนแปลงวิธีการโจมตีของแฮกเกอร์อย่างต่อเนื่อง ในไตรมาสแรกของปี 2024 มีการใช้ไฟล์แนบถึง 78% ของการโจมตี ในขณะที่ไตรมาสที่สอง มีการใช้ลิงก์ถึง 86% และในไตรมาสที่สี่ ไฟล์แนบกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง โดยไฟล์ PDF, DOCX, และ XLSX เป็นที่นิยมในการแพร่กระจายมัลแวร์ QR codes กลายเป็นเทคนิคใหม่ในการโจมตีด้วยฟิชชิง โดยมีการใช้งานในอีเมลเพิ่มขึ้นจาก 1% ในไตรมาสแรกถึง 12% ในไตรมาสที่สี่ รายงานของ VIPRE แนะนำให้ใช้โปรโตคอลการยืนยันอีเมล เช่น SPF, DKIM, และ DMARC เพื่อป้องกันการปลอมแปลงและการเลียนแบบ การลงทุนในเครื่องมือตรวจจับที่ใช้ AI ช่วยให้สามารถป้องกันภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ และการใช้การยืนยันตัวตนหลายชั้น (MFA) ผ่านแอปพลิเคชันยืนยันตัวตนยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่ง Usman Choudhary หัวหน้าเจ้าหน้าที่ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีของ VIPRE กล่าวว่า "การวิเคราะห์ภูมิทัศน์อีเมลประจำปีนี้ให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าสำหรับภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ธุรกิจจะต้องเผชิญในปี 2025" การโจมตีทางอีเมลยังคงเป็นปัญหาที่สำคัญและต้องการการป้องกันที่มีประสิทธิภาพเพื่อรักษาความปลอดภัยในองค์กร https://www.techradar.com/pro/help-were-drowning-in-email-spam-its-about-to-get-worse-and-theres-nothing-we-can-do-to-stop-it
    WWW.TECHRADAR.COM
    Help! We're drowning in email spam, it's about to get worse and there's nothing we can do to stop it
    Cybercriminals use QR codes, links and attachments for phishing and malware delivery
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • อ่าน แปลผล..ค่าไต
    1. Creatinine ต้องน้อยกว่า 1.2
    2. eGFR อัตราการกรองต้องมากกว่า 60 ขึ้นไป 90 หรือมากกว่า=ดี
    ----------------------------
    ค่าไต สามารถฟื้นคืนชีพ(เป็นปกติ) ได้ โดย
    1. ดื่มน้ำให้เพียงพอ 6-8 แก้ว หรีอ 2 ลิตร++
    2. เลิกกินอาหารแปรรูป(โซเดียมต่ำ)
    3. ใช้ยาทุกชนิด เมื่อจำเป็น
    4. ออกกำลังกาย 30 นาที/วัน 5วัน/สัปดาห์
    5. พักผ่อน(หัวค่ำ)ให้เพียงพอ
    6. เลิกบุหรี่ และ แอลกอฮอล์
    7. ตั้งใจ และทำอย่างสม่ำเสมอ
    อ่าน แปลผล..ค่าไต 1. Creatinine ต้องน้อยกว่า 1.2 2. eGFR อัตราการกรองต้องมากกว่า 60 ขึ้นไป 90 หรือมากกว่า=ดี ---------------------------- ค่าไต สามารถฟื้นคืนชีพ(เป็นปกติ) ได้ โดย 1. ดื่มน้ำให้เพียงพอ 6-8 แก้ว หรีอ 2 ลิตร++ 2. เลิกกินอาหารแปรรูป(โซเดียมต่ำ) 3. ใช้ยาทุกชนิด เมื่อจำเป็น 4. ออกกำลังกาย 30 นาที/วัน 5วัน/สัปดาห์ 5. พักผ่อน(หัวค่ำ)ให้เพียงพอ 6. เลิกบุหรี่ และ แอลกอฮอล์ 7. ตั้งใจ และทำอย่างสม่ำเสมอ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 2 0 รีวิว
  • มาร์ค รุตต์ เลขาธิการใหญ่องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ(นาโต) เน้นย้ำความตึงเครียดระหว่างยุโรปกับสหรัฐฯในประเด็นการค้า ภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะไม่ส่งผลกระทบต่อการป้องปรามร่วมของพันธมิตรแห่งนี้ แต่ยอมรับว่าพวกเขาไม่อาจยืนหยัดรับมือภัยคุกคามแต่เพียงฝ่ายเดียว หากปราศจากอเมริกา
    .
    ระหว่างให้สัมภาษณ์กับพวกผู้สื่อข่าวในกรุงบรัสเซลส์เมื่อวันจันทร์(3ก.พ.) รุตต์ ยังได้ปฏิเสธความคิดใดๆที่ว่ายุโรปอาจละทิ้งความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงใดๆกับสหรัฐฯ ท่ามกลางประเด็นพิพาทต่างๆนานา โดยเลขาธิการใหญ่นาโต ยอมรับว่ายุทธศาสตร์การป้องกันตนเองใดๆของยุโรปที่ปราศจากอเมริกานั้น เป็น "ความคิดที่โง่เขลามากๆ"
    .
    "เราจำเป็นต้องคงความเชื่อมต่อกัน" รุตต์บอกกับผู้สื่อข่าว อ้างถึงภัยคุกคามต่างๆนานาด้านภูมิรัฐศาสตร์ ในนั้นรวมถึงรัสเซีย "สิ่งที่ดีที่สุดคือตะวันตกสามารถทำมันได้ด้วยการคงความเป็นหนึ่งเดียวกัน และผมรู้ว่าความคิดแบบเดียวกันนี้ยังคงมีมากกว่าในสหรัฐฯ ในนั้นรวมถึงในทำเนียบขาว" เขากล่าว
    .
    ความเห็นของ รุตต์ มีขึ้นหลังจากที่ ทรัมป์ กล่าวหาพันธมิตรนาโตของสหรัฐฯบ่อยครั้ง เกี่ยวกับการไม่ใช้จ่ายเงินมากพอในด้านการป้องกันตนเอง และขู่ว่าจะไม่ปกป้องพวกเขาในกรณีที่ถูกโจมตี
    .
    เร็วนี้สมาชิกยุโรปหลายชาติของนาโต ได้เคลื่อนไหวเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมสู่ระดับ 2% ของจีดีพี ตามกรอบคำแนะนำขั้นต่ำสุดในปัจจุบันของนาโต อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ เรียกร้องให้ทุ่มงบประมาณกว่ามากนี้อีก เรียกร้องให้ใช้จ่ายเงินในเรื่องดังกล่าว แตะระดับ 5% ของจีดีพี
    .
    ในขณะที่ รุตต์ ยอมรับว่าการป้องกันตนเองของยุโรปโดยปราศจากสหรัฐฯ "จะไม่ได้ผล" เขาได้เน้นย้ำว่าความตึงเครียดทางการค้าที่ปลุกปั่นโดยทรัมป์ "จะไม่เข้าแทรกกลางความมุ่งมั่นร่วมกันของเรา ในการรักษาไว้ซึ่งความเข้มแข็งของการป้องกันตนเอง ระหว่างพันธมิตรแล้ว มันมักมีประเด็นปัญหาอยู่ตลอด แต่มันไม่เคยสงบหรือมีความสุขตลอดเวลาหรอก"
    .
    ทรัมป์ ก่อความสั่นคลอนแก่พันธมิตรใกล้ชิดที่สุดของวอชิงตันบางส่วน ด้วยการแถลงรีดภาษี 25% สินค้านำเข้าจากแคนาดา ชาติสมาชิกนาโต และขู่ดำเนินการแบบเดียวกันกับสหภาพยุโรป
    .
    สหรัฐฯ ซึ่งใช้เงินไปเกือบ 850,000 ล้านดอลลาร์ ในด้านการป้องกันตนเองเมื่อปีที่แล้ว คือชาติมหาอำนาจทางทหารใหญ่สุดของนาโต ขณะเดียวกันวอชิงตัน ซึ่งมีทหารประจำการอยู่ทั่วยุโรป ยังมีบทบทสำคัญในการมอบความช่วยเหลือทางทหารและทางการเงินแก่ยูเครน ในความพยายามขับไล่การรุกรานของรัสเซีย
    .
    อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา ทรัมป์ ก่อคำถามเกี่ยวกับคำมั่นสัญญาของสหรัฐฯต่อนโยบายป้องกันตนเองร่วมของนาโต ซึ่งเน้นว่าการโจมตีรัฐสมาชิกหนึ่งๆ เท่ากับเป็นการโจมตีรัฐสมาชิกทั้งมวล
    .
    ไม่นานหลังจากเริ่มดำรงตำแหน่งสมัย 2 ในวันที่ 20 มกราคม ทรัมป์ยังได้ระงับเงินช่วยเหลือต่างประเทศทั้งหมด ส่วนหนึ่งในวาระ "อเมริกาต้องมาก่อน" ความเคลื่อนไหวที่อาจส่งผลกระทบต่อเงินสนับสนุนยูเครน
    .
    นอกเหนือจากคำขู่ทางการค้าและตัดเงินช่วยเหลือแล้ว ทรัมป์ยังคุกคามเดนมาร์ก ชาติสมาชิกนาโต ด้วยการประกาศจะยึดเกาะกรีนแลนด์
    .
    อย่างไรก็ตามในวันจันทร์(3ก.พ.) รุตต์ กลบกระแสความกังวลเกี่ยวกับคำประกาศซื้อเกาะกรีนแลนด์ของทรัมป์ โดยแนะนำให้นาโตแสดงบทบาทมากขึ้นในการยกระดับการป้องกันตนเองในภูมิภาคอาร์กติก
    .
    "ประธานาธิบดีทรัมป์เตือนเราในข้อเท็จจริงที่ว่า เมื่อมันเป็นเรื่องของขั้วโลกเหนือ มันมีประเด็นด้านภูมิรัฐศาสตร์และยุทธศาสตร์เป็นเดิมพัน" รัตต์กล่าว "ภายใต้ความร่วมมือร่วมกันในฐานะพันธมิตร เราจะมองหาหนทางที่ดีที่สุด ทำให้แน่ใจว่าเราจะสามารถจัดการกับความท้าทายต่างๆนานาเหล่านี้"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011157
    ..............
    Sondhi X
    มาร์ค รุตต์ เลขาธิการใหญ่องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ(นาโต) เน้นย้ำความตึงเครียดระหว่างยุโรปกับสหรัฐฯในประเด็นการค้า ภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะไม่ส่งผลกระทบต่อการป้องปรามร่วมของพันธมิตรแห่งนี้ แต่ยอมรับว่าพวกเขาไม่อาจยืนหยัดรับมือภัยคุกคามแต่เพียงฝ่ายเดียว หากปราศจากอเมริกา . ระหว่างให้สัมภาษณ์กับพวกผู้สื่อข่าวในกรุงบรัสเซลส์เมื่อวันจันทร์(3ก.พ.) รุตต์ ยังได้ปฏิเสธความคิดใดๆที่ว่ายุโรปอาจละทิ้งความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงใดๆกับสหรัฐฯ ท่ามกลางประเด็นพิพาทต่างๆนานา โดยเลขาธิการใหญ่นาโต ยอมรับว่ายุทธศาสตร์การป้องกันตนเองใดๆของยุโรปที่ปราศจากอเมริกานั้น เป็น "ความคิดที่โง่เขลามากๆ" . "เราจำเป็นต้องคงความเชื่อมต่อกัน" รุตต์บอกกับผู้สื่อข่าว อ้างถึงภัยคุกคามต่างๆนานาด้านภูมิรัฐศาสตร์ ในนั้นรวมถึงรัสเซีย "สิ่งที่ดีที่สุดคือตะวันตกสามารถทำมันได้ด้วยการคงความเป็นหนึ่งเดียวกัน และผมรู้ว่าความคิดแบบเดียวกันนี้ยังคงมีมากกว่าในสหรัฐฯ ในนั้นรวมถึงในทำเนียบขาว" เขากล่าว . ความเห็นของ รุตต์ มีขึ้นหลังจากที่ ทรัมป์ กล่าวหาพันธมิตรนาโตของสหรัฐฯบ่อยครั้ง เกี่ยวกับการไม่ใช้จ่ายเงินมากพอในด้านการป้องกันตนเอง และขู่ว่าจะไม่ปกป้องพวกเขาในกรณีที่ถูกโจมตี . เร็วนี้สมาชิกยุโรปหลายชาติของนาโต ได้เคลื่อนไหวเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมสู่ระดับ 2% ของจีดีพี ตามกรอบคำแนะนำขั้นต่ำสุดในปัจจุบันของนาโต อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ เรียกร้องให้ทุ่มงบประมาณกว่ามากนี้อีก เรียกร้องให้ใช้จ่ายเงินในเรื่องดังกล่าว แตะระดับ 5% ของจีดีพี . ในขณะที่ รุตต์ ยอมรับว่าการป้องกันตนเองของยุโรปโดยปราศจากสหรัฐฯ "จะไม่ได้ผล" เขาได้เน้นย้ำว่าความตึงเครียดทางการค้าที่ปลุกปั่นโดยทรัมป์ "จะไม่เข้าแทรกกลางความมุ่งมั่นร่วมกันของเรา ในการรักษาไว้ซึ่งความเข้มแข็งของการป้องกันตนเอง ระหว่างพันธมิตรแล้ว มันมักมีประเด็นปัญหาอยู่ตลอด แต่มันไม่เคยสงบหรือมีความสุขตลอดเวลาหรอก" . ทรัมป์ ก่อความสั่นคลอนแก่พันธมิตรใกล้ชิดที่สุดของวอชิงตันบางส่วน ด้วยการแถลงรีดภาษี 25% สินค้านำเข้าจากแคนาดา ชาติสมาชิกนาโต และขู่ดำเนินการแบบเดียวกันกับสหภาพยุโรป . สหรัฐฯ ซึ่งใช้เงินไปเกือบ 850,000 ล้านดอลลาร์ ในด้านการป้องกันตนเองเมื่อปีที่แล้ว คือชาติมหาอำนาจทางทหารใหญ่สุดของนาโต ขณะเดียวกันวอชิงตัน ซึ่งมีทหารประจำการอยู่ทั่วยุโรป ยังมีบทบทสำคัญในการมอบความช่วยเหลือทางทหารและทางการเงินแก่ยูเครน ในความพยายามขับไล่การรุกรานของรัสเซีย . อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา ทรัมป์ ก่อคำถามเกี่ยวกับคำมั่นสัญญาของสหรัฐฯต่อนโยบายป้องกันตนเองร่วมของนาโต ซึ่งเน้นว่าการโจมตีรัฐสมาชิกหนึ่งๆ เท่ากับเป็นการโจมตีรัฐสมาชิกทั้งมวล . ไม่นานหลังจากเริ่มดำรงตำแหน่งสมัย 2 ในวันที่ 20 มกราคม ทรัมป์ยังได้ระงับเงินช่วยเหลือต่างประเทศทั้งหมด ส่วนหนึ่งในวาระ "อเมริกาต้องมาก่อน" ความเคลื่อนไหวที่อาจส่งผลกระทบต่อเงินสนับสนุนยูเครน . นอกเหนือจากคำขู่ทางการค้าและตัดเงินช่วยเหลือแล้ว ทรัมป์ยังคุกคามเดนมาร์ก ชาติสมาชิกนาโต ด้วยการประกาศจะยึดเกาะกรีนแลนด์ . อย่างไรก็ตามในวันจันทร์(3ก.พ.) รุตต์ กลบกระแสความกังวลเกี่ยวกับคำประกาศซื้อเกาะกรีนแลนด์ของทรัมป์ โดยแนะนำให้นาโตแสดงบทบาทมากขึ้นในการยกระดับการป้องกันตนเองในภูมิภาคอาร์กติก . "ประธานาธิบดีทรัมป์เตือนเราในข้อเท็จจริงที่ว่า เมื่อมันเป็นเรื่องของขั้วโลกเหนือ มันมีประเด็นด้านภูมิรัฐศาสตร์และยุทธศาสตร์เป็นเดิมพัน" รัตต์กล่าว "ภายใต้ความร่วมมือร่วมกันในฐานะพันธมิตร เราจะมองหาหนทางที่ดีที่สุด ทำให้แน่ใจว่าเราจะสามารถจัดการกับความท้าทายต่างๆนานาเหล่านี้" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011157 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    5
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 0 รีวิว