• Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • บ้านเคลื่อนที่ อีกยี่ห้อหนึ่ง
    บ้านเคลื่อนที่ อีกยี่ห้อหนึ่ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • นั่งร้านสารพัดประโยชน์ จาก เมืองจีน
    นั่งร้านสารพัดประโยชน์ จาก เมืองจีน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • 8.3kw x 3.5บาท/kw(tou)=29.05บาท
    8.3kw x 3.5บาท/kw(tou)=29.05บาท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 27 มุมมอง 0 รีวิว
  • เสื่อมและเสียชื่อฝรั่งเศส เจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิก

    ฝ่ายจัดแข่งขันการันตีว่าจะมีการเปลี่ยนเหรียญรางวัลใหม่ให้กับนักกีฬาและได้ยกเลิกสัญญากับบริษัทที่จัดทำเหรียญรางวัลไปแล้ว โดยหนังสือพิมพ์ La Lettre ในประเทศฝรั่งเศส รายงานว่า สาเหตุของปัญญาดังกล่าวเป็นเพราะขาดเวลาในการทดสอบเหรียญ และวัสดุบางอย่างที่ใช้ในการผลิต ไม่ตรงไปตามที่ต้องการ
    เสื่อมและเสียชื่อฝรั่งเศส เจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ฝ่ายจัดแข่งขันการันตีว่าจะมีการเปลี่ยนเหรียญรางวัลใหม่ให้กับนักกีฬาและได้ยกเลิกสัญญากับบริษัทที่จัดทำเหรียญรางวัลไปแล้ว โดยหนังสือพิมพ์ La Lettre ในประเทศฝรั่งเศส รายงานว่า สาเหตุของปัญญาดังกล่าวเป็นเพราะขาดเวลาในการทดสอบเหรียญ และวัสดุบางอย่างที่ใช้ในการผลิต ไม่ตรงไปตามที่ต้องการ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมพลัง คนทำบัตรเสีย และไม่เลือกผู้ใด ทั่วประเทศให้ได้เกิน 10% เพื่อบอกพวกเขาว่า เลือกทำไม อบจ. อบต. ในเมื่อ มีผู้ว่า ผู้ใหญ่บ้าน ก็ปกครองให้ดีก็ทำได้แล้วhttps://youtu.be/Ma4YlfbbP3Y?si=MueWxa11qyP4FYzY
    รวมพลัง คนทำบัตรเสีย และไม่เลือกผู้ใด ทั่วประเทศให้ได้เกิน 10% เพื่อบอกพวกเขาว่า เลือกทำไม อบจ. อบต. ในเมื่อ มีผู้ว่า ผู้ใหญ่บ้าน ก็ปกครองให้ดีก็ทำได้แล้วhttps://youtu.be/Ma4YlfbbP3Y?si=MueWxa11qyP4FYzY
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • FENGSHUI DAILY
    อัพเดตทุกวัน ที่นี่ที่เดียว
    สีเสริมดวง เสริมความเฮง
    ทิศมงคล เวลามงคล
    อย่าลืมดูกัน เมื่อเริ่มวันใหม่
    วันอังคารที่ 4 เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2568
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    FENGSHUI DAILY อัพเดตทุกวัน ที่นี่ที่เดียว สีเสริมดวง เสริมความเฮง ทิศมงคล เวลามงคล อย่าลืมดูกัน เมื่อเริ่มวันใหม่ วันอังคารที่ 4 เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2568 ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 33 มุมมอง 0 รีวิว
  • อยู่ร่วมกันแบบมีสติ : รอด หรือ ร่วง?

    💡 กฎพื้นฐานของ "การไปกันรอด" ในความสัมพันธ์

    ความสัมพันธ์ที่อยู่รอด ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าทั้งคู่ "ถูกต้อง" เสมอไป แต่ขึ้นอยู่กับว่า ทั้งคู่ตั้งใจไปด้วยกันแค่ไหน และพร้อมปรับตัวเข้าหากันมากเพียงใด

    ✔ ถ้าตั้งใจให้รอด มีสิทธิ์ไปกันรอด แม้อาจได้คนผิดด้วยกันทั้งคู่
    ❌ ถ้าไม่ตั้งใจให้รอด ต่อให้ได้คนถูกต้องทั้งคู่ ก็อาจไปกันไม่รอด


    ---

    🎭 ทำไมเรามองเห็น "คนอื่น" ได้ชัด แต่ไม่เห็น "ตัวเอง" ?

    ธรรมชาติออกแบบให้ เราเห็นข้อบกพร่องของผู้อื่นได้ชัด แต่ ไม่ให้เห็นตัวเองได้ในขณะนั้น

    เราไม่เห็นว่า "หน้าตาตัวเอง" เป็นยังไง เวลาพูดจาแรงๆ

    เราไม่เห็นว่า "น้ำเสียงตัวเอง" แข็งกระด้างแค่ไหน ตอนเถียงกัน

    เราไม่เห็นว่า "กิริยาท่าทางตัวเอง" เป็นอย่างไร เวลาหงุดหงิด


    แต่เรา เห็นทุกอย่างของอีกฝ่าย ได้ชัดเจน
    👉 เลยรู้สึกว่าอีกฝ่ายผิดเสมอ
    👉 เลยคิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายที่ "น่าจะถูกต้อง" กว่า


    ---

    🌀 วงจรของอารมณ์ที่ทำให้คู่รัก "ออกอ่าว" กันไปเรื่อยๆ

    1️⃣ แรงดันทางอารมณ์ ทำให้ "มั่นใจ" ว่าตัวเองพูดถูก ทำถูกแล้ว

    ตอนโมโห เรารู้สึกว่า "ฉันต้องพูดแบบนี้แหละถึงจะถูก"

    ตอนน้อยใจ เรารู้สึกว่า "เธอต้องรู้ตัวเองสิว่าทำอะไรผิด"

    ตอนเถียงกัน เรารู้สึกว่า "ฉันมีเหตุผลของฉัน ฉันพูดจริง!"


    2️⃣ เมฆหมอกทางอารมณ์ ปิดกั้น "ความเห็นอกเห็นใจ"

    ตอนโกรธ เราไม่เห็นว่าเขากำลังเสียใจ

    ตอนน้อยใจ เราไม่เห็นว่าเขาก็พยายามอธิบาย

    ตอนเถียงกัน เราไม่เห็นว่าเขากำลังเครียดไม่แพ้กัน


    👉 สุดท้าย เหลือแค่ "ความอยากเอาชนะ" และ "ความกลัวจะแพ้"
    👉 ถ้าไม่มีใครหยุดวงจรนี้ ทุกความสัมพันธ์ก็จะ "ออกอ่าว" ไปเรื่อยๆ


    ---

    🛶 วิธี "จับเข็มทิศ" ไม่ให้ชีวิตคู่ ออกทะเล

    1️⃣ ตั้งเข็มทิศให้ชัดก่อนเดินทาง

    ถามตัวเองให้ชัด ว่า "อยากไปให้ถึงไหน?"

    "เราอยากอยู่กันไปยาวๆ จริงไหม?"

    "เราต้องการให้ความสัมพันธ์นี้ดีขึ้นไหม?"


    2️⃣ ตั้งเป้าหมายระยะยาว มากกว่าชนะกันแค่วันนี้

    ถ้าหวังจะอยู่กันยาวๆ อย่าเถียงเพื่อเอาชนะแค่วันนี้

    ถ้าหวังจะเข้าใจกัน อย่าพูดเพื่อให้อีกฝ่ายเจ็บใจ


    3️⃣ ระวัง "คลื่นลมทางอารมณ์" ที่พัดพาให้ "ออกอ่าว"

    คำพูดที่พ่นออกมาตอนโกรธ คือใบพัดเรือที่อาจทำให้ล่ม

    การเอาแต่รู้สึกถูกต้องฝ่ายเดียว คือหางเสือที่ทำให้เรือลอยคว้าง


    4️⃣ หยุดโต้เถียง แล้วมองตัวเองให้ชัดเจน

    เวลามีปัญหา อย่าถามว่า "เขาผิดอะไร?" แต่ถามว่า "ฉันเป็นยังไง?"

    ถ้าอีกฝ่ายพูดจาแย่ อย่าถามว่า "ทำไมเขาพูดแบบนี้?" แต่ถามว่า "ฉันทำให้เขารู้สึกยังไง?"



    ---

    📌 สรุป : รอด หรือ ร่วง ขึ้นอยู่กับ "ทิศทางที่ตั้งใจไป"

    ✔ ถ้าตั้งใจไปด้วยกัน เราจะพยายามประคองกัน ไม่ว่าทางข้างหน้าจะลำบากแค่ไหน
    ✔ ถ้าตั้งใจเลิกกัน เราจะพยายามหาเหตุผลที่จะเดินออกไป ไม่ว่ามันจะดีแค่ไหนก็ตาม
    ✔ ถ้าไม่ตั้งใจอะไรเลย เราจะถูกคลื่นลมพัดไปเรื่อยๆ ไม่มีเป้าหมาย จนสุดท้ายก็หายไปจากกันเอง

    👉 รักกันไม่ต้องเพอร์เฟกต์ แต่ต้องมี "เข็มทิศ" ที่มุ่งไปทางเดียวกัน
    👉 อย่าเถียงกันเพื่อชนะ แต่ให้เถียงกันเพื่ออยู่รอดด้วยกัน
    👉 ทุกความสัมพันธ์จะไปรอด ถ้าคนสองคน "ตั้งใจไปด้วยกัน" ตั้งแต่แรก

    อยู่ร่วมกันแบบมีสติ : รอด หรือ ร่วง? 💡 กฎพื้นฐานของ "การไปกันรอด" ในความสัมพันธ์ ความสัมพันธ์ที่อยู่รอด ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าทั้งคู่ "ถูกต้อง" เสมอไป แต่ขึ้นอยู่กับว่า ทั้งคู่ตั้งใจไปด้วยกันแค่ไหน และพร้อมปรับตัวเข้าหากันมากเพียงใด ✔ ถ้าตั้งใจให้รอด มีสิทธิ์ไปกันรอด แม้อาจได้คนผิดด้วยกันทั้งคู่ ❌ ถ้าไม่ตั้งใจให้รอด ต่อให้ได้คนถูกต้องทั้งคู่ ก็อาจไปกันไม่รอด --- 🎭 ทำไมเรามองเห็น "คนอื่น" ได้ชัด แต่ไม่เห็น "ตัวเอง" ? ธรรมชาติออกแบบให้ เราเห็นข้อบกพร่องของผู้อื่นได้ชัด แต่ ไม่ให้เห็นตัวเองได้ในขณะนั้น เราไม่เห็นว่า "หน้าตาตัวเอง" เป็นยังไง เวลาพูดจาแรงๆ เราไม่เห็นว่า "น้ำเสียงตัวเอง" แข็งกระด้างแค่ไหน ตอนเถียงกัน เราไม่เห็นว่า "กิริยาท่าทางตัวเอง" เป็นอย่างไร เวลาหงุดหงิด แต่เรา เห็นทุกอย่างของอีกฝ่าย ได้ชัดเจน 👉 เลยรู้สึกว่าอีกฝ่ายผิดเสมอ 👉 เลยคิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายที่ "น่าจะถูกต้อง" กว่า --- 🌀 วงจรของอารมณ์ที่ทำให้คู่รัก "ออกอ่าว" กันไปเรื่อยๆ 1️⃣ แรงดันทางอารมณ์ ทำให้ "มั่นใจ" ว่าตัวเองพูดถูก ทำถูกแล้ว ตอนโมโห เรารู้สึกว่า "ฉันต้องพูดแบบนี้แหละถึงจะถูก" ตอนน้อยใจ เรารู้สึกว่า "เธอต้องรู้ตัวเองสิว่าทำอะไรผิด" ตอนเถียงกัน เรารู้สึกว่า "ฉันมีเหตุผลของฉัน ฉันพูดจริง!" 2️⃣ เมฆหมอกทางอารมณ์ ปิดกั้น "ความเห็นอกเห็นใจ" ตอนโกรธ เราไม่เห็นว่าเขากำลังเสียใจ ตอนน้อยใจ เราไม่เห็นว่าเขาก็พยายามอธิบาย ตอนเถียงกัน เราไม่เห็นว่าเขากำลังเครียดไม่แพ้กัน 👉 สุดท้าย เหลือแค่ "ความอยากเอาชนะ" และ "ความกลัวจะแพ้" 👉 ถ้าไม่มีใครหยุดวงจรนี้ ทุกความสัมพันธ์ก็จะ "ออกอ่าว" ไปเรื่อยๆ --- 🛶 วิธี "จับเข็มทิศ" ไม่ให้ชีวิตคู่ ออกทะเล 1️⃣ ตั้งเข็มทิศให้ชัดก่อนเดินทาง ถามตัวเองให้ชัด ว่า "อยากไปให้ถึงไหน?" "เราอยากอยู่กันไปยาวๆ จริงไหม?" "เราต้องการให้ความสัมพันธ์นี้ดีขึ้นไหม?" 2️⃣ ตั้งเป้าหมายระยะยาว มากกว่าชนะกันแค่วันนี้ ถ้าหวังจะอยู่กันยาวๆ อย่าเถียงเพื่อเอาชนะแค่วันนี้ ถ้าหวังจะเข้าใจกัน อย่าพูดเพื่อให้อีกฝ่ายเจ็บใจ 3️⃣ ระวัง "คลื่นลมทางอารมณ์" ที่พัดพาให้ "ออกอ่าว" คำพูดที่พ่นออกมาตอนโกรธ คือใบพัดเรือที่อาจทำให้ล่ม การเอาแต่รู้สึกถูกต้องฝ่ายเดียว คือหางเสือที่ทำให้เรือลอยคว้าง 4️⃣ หยุดโต้เถียง แล้วมองตัวเองให้ชัดเจน เวลามีปัญหา อย่าถามว่า "เขาผิดอะไร?" แต่ถามว่า "ฉันเป็นยังไง?" ถ้าอีกฝ่ายพูดจาแย่ อย่าถามว่า "ทำไมเขาพูดแบบนี้?" แต่ถามว่า "ฉันทำให้เขารู้สึกยังไง?" --- 📌 สรุป : รอด หรือ ร่วง ขึ้นอยู่กับ "ทิศทางที่ตั้งใจไป" ✔ ถ้าตั้งใจไปด้วยกัน เราจะพยายามประคองกัน ไม่ว่าทางข้างหน้าจะลำบากแค่ไหน ✔ ถ้าตั้งใจเลิกกัน เราจะพยายามหาเหตุผลที่จะเดินออกไป ไม่ว่ามันจะดีแค่ไหนก็ตาม ✔ ถ้าไม่ตั้งใจอะไรเลย เราจะถูกคลื่นลมพัดไปเรื่อยๆ ไม่มีเป้าหมาย จนสุดท้ายก็หายไปจากกันเอง 👉 รักกันไม่ต้องเพอร์เฟกต์ แต่ต้องมี "เข็มทิศ" ที่มุ่งไปทางเดียวกัน 👉 อย่าเถียงกันเพื่อชนะ แต่ให้เถียงกันเพื่ออยู่รอดด้วยกัน 👉 ทุกความสัมพันธ์จะไปรอด ถ้าคนสองคน "ตั้งใจไปด้วยกัน" ตั้งแต่แรก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์ลงนามคำสั่งรีดภาษีศุลากรสินค้านำเข้าจากเม็กซิโก แคนาดา และจีนเมื่อวันเสาร์ (1 ก.พ.) และถูกทั้งสามชาติประกาศตอบโต้ทันควัน ขณะที่พวกนักวิเคราะห์แสดงความกังวล มาตรการครั้งนี้มีแนวโน้มทำให้อัตราเงินเฟ้อของอเมริกายิ่งเลวร้ายลง ทำลายความไว้ใจของประชาชนจำนวนมากที่โหวตให้ทรัมป์จากการหาเสียงจะทำให้ราคาสินค้าถูกลง รวมทั้งยังมีความเสี่ยงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลกอีกด้วย
    .
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์บนโซเชียลมีเดียของตนในวันเสาร์ (1) ว่า มาตรการขึ้นภาษีศุลกากรเช่นนี้มีความจำเป็นเพื่อปกป้องคนอเมริกัน และกดดันให้แคนาดา เม็กซิโก ตลอดจนจีน ต้องใช้ความพยายามมากขึ้นในการควบคุมการผลิตและการส่งออกสารเสพติด “เฟนทานิล” ผิดกฎหมาย ซึ่งมีปลายทางอยู่ที่สหรัฐฯ รวมทั้งเป็นการเพิ่มแรงบีบให้แคนาดาและเม็กซิโกลดจำนวนผู้อาศัยดินแดนของพวกเขาลักลอบเดินทางเข้าสู่อเมริกา
    .
    ในคำสั่งฝ่ายบริหารที่เขาลงนามครั้งนี้ ซึ่งทรัมป์อ้างอำนาจตามรัฐบัญญัติให้อำนาจทางเศรษฐกิจแก่ประธานาธิบดีในกรณีฉุกเฉินระหว่างประเทศ กำหนดให้จัดเก็บภาษีศุลกากรจากสินค้านำเข้าทั้งหมดจากจีนสูงขึ้นอีก 10% ขณะที่สินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาจะถูกเก็บเพิ่มในอัตรา 25% ยกเว้นเฉพาะพวกสินค้าพลังงานที่นำเข้าจากแคนาดา ซึ่งรวมถึงน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และไฟฟ้า ให้ขึ้นภาษี 10%
    .
    อย่างไรก็ตาม มีเสียงแสดงความกังวลขึ้นในสหรัฐฯ ว่า หากบังคับใช้มาตรการภาษีศุลกากรเป็นเวลานาน อาจทำให้สถานการณ์เงินเฟ้อของอเมริกาเลวร้ายลง ซึ่งคุกคามความไว้วางใจของผู้มีสิทธิออกเสียงจำนวนมากที่ลงคะแนนเลือกทรัมป์เพื่อให้จัดการทำให้ราคาของชำ น้ำมันเบนซิน บ้าน รถ และสินค้าอื่นๆ ถูกลงตามที่หาเสียงไว้ ไม่เพียงเท่านั้นยังอาจเป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจโลกโดยรวมอีกด้วย
    .
    นอกจากนั้น คำสั่งของทรัมป์ครั้งนี้ยังครอบคลุมถึงการให้สหรัฐฯ ใช้กลไกขึ้นภาษีขึ้นไปอีกเพื่อเล่นงานการตอบโต้เอาคืนของประเทศอื่นๆ จึงทำให้เห็นกันว่าเพิ่มความเป็นไปได้ที่จะเกิดการสะดุดติดขัดทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงมากขึ้น
    .
    ยิ่งกว่านั้น ประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันผู้นี้ยังส่งสัญญาณว่า คำสั่งในวันเสาร์เป็นแค่หมัดแรกในการจัดการความขัดแย้งทางการค้า แถมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเขายังประกาศว่า จะขึ้นภาษีศุลกากรเอากับสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรปด้วย รวมทั้งเพิ่มภาษีสำหรับสินค้านำเข้าจำพวกเซมิคอนดักเตอร์ เหล็กกล้า อะลูมิเนียม น้ำมัน และก๊าซ
    .
    หลังประกาศของทรัมป์ ด้านนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดว์ ของแคนาดา แถลงในวันเสาร์ว่า การดำเนินการเช่นนี้ของทำเนียบขาวทำให้สองประเทศที่เป็นเพื่อนบ้านกันและมีนโยบายไปในแนวทางเดียวกันมาแต่ไหนแต่ไร เกิดความแตกแยกแทนที่จะสามัคคีกัน พร้อมประกาศตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีศุลกากรอัตรา 25% กับสินค้านำเข้าจากอเมริกามูลค่า 155,000 ล้านดอลลาร์ ที่รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และผลไม้ ตลอดจนถึงเรียกร้องให้คนแคนาดาใช้สินค้าและบริการในประเทศแทนที่จะซื้อของอเมริกา
    .
    ทรูโดว์เสริมว่า คนแคนาดาจำนวนมากรู้สึกเหมือนถูกหักหลัง เนื่องจากที่ผ่านมา กองกำลังแคนาดาต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับอเมริกาในอัฟกานิสถาน รวมทั้งช่วยเหลือสหรัฐฯ ในการจัดการวิกฤตต่างๆ ตั้งแต่ไฟป่าในแคลิฟอร์เนีย จนถึงเฮอร์ริเคนแคทรินา
    .
    ขณะที่ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบาม ของเม็กซิโก โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ปฏิเสธการใส่ร้ายของทำเนียบขาวที่ว่า รัฐบาลเม็กซิโกร่วมมือกับองค์การอาชญากรรม รวมทั้งคัดค้านเจตนารมณ์ของสหรัฐฯ ในการแทรกแซงดินแดนเม็กซิโก ก่อนสำทับว่า ได้สั่งให้รัฐมนตรีเศรษฐกิจดำเนินการตอบโต้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของเม็กซิโก
    .
    ผู้นำเม็กซิโกยังเหน็บทรัมป์ว่า ถ้ารัฐบาลและหน่วยงานของอเมริกาต้องการจัดการปัญหาการใช้เฟนทานิลอย่างจริงจังแล้ว ก็ควรต่อสู้กับการขายยาตามท้องถนนในเมืองใหญ่ๆ ของอเมริกา รวมถึงการฟอกเงิน
    .
    ด้านกระทรวงการต่างประเทศของจีนระบุในวันอาทิตย์ (2) ว่า รัฐบาลจีนไม่พอใจอย่างมากและคัดค้านความเคลื่อนไหวนี้ รวมทั้งจะดำเนินมาตรการตอบโต้ที่จำเป็นเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของประเทศ และสำทับว่า จีนเริ่มควบคุมยาที่เกี่ยวข้องกับเฟนทานิลในรูปสารที่ต้องควบคุมตั้งแต่ปี 2019 และร่วมกับอเมริกาในการต่อต้านสารเสพติด พร้อมเรียกร้องให้สหรัฐฯ แก้ไขการดำเนินการที่ผิดพลาดครั้งนี้
    .
    นอกจากนั้น กระทรวงพาณิชย์จีนยังเตรียมฟ้องร้องต่อองค์การการค้าโลก (WTO) สำหรับแนวทางปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องเหล่านี้ของอเมริกา
    .
    มาตรการภาษีศุลกากรของทรัมป์ครั้งนี้จะมีผลบังคับใช้ในวันอังคาร (4 ) ท่ามกลางความคิดเห็นที่ว่ามันอาจบ่อนทำลายการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยงานวิเคราะห์ชิ้นใหม่ของห้องปฏิบัติการงบประมาณ มหาวิทยาลัยเยล ระบุว่า มาตรการนี้อาจส่งผลให้ชาวอเมริกันแต่ละครัวเรือนสูญเสียรายได้เฉลี่ย 1,170 ดอลลาร์ เศรษฐกิจชะลอตัว เงินเฟ้อสูงขึ้น และสถานการณ์จะยิ่งเลวร้ายลงหากประเทศอื่นๆ ตอบโต้
    .
    วุฒิสมาชิกชัค ชูเมอร์ จากพรรคเดโมแครตก็ เตือนว่า มาตรการภาษีศุลกากรของทรัมป์อาจทำให้ค่าครองชีพคนอเมริกันพุ่งขึ้น
    .
    เกรเกอรี ดาโก หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ อีวาย ชี้ว่า ต้นทุนสินค้านำเข้าที่เพิ่มขึ้นจะบ่อนทำลายการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการลงทุนของภาคธุรกิจ และยังคาดว่า อัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 0.7% ในไตรมาสแรกก่อนลดลงอย่างช้าๆ นอกจากนั้นนโยบายการค้าที่ไร้ความแน่นอนมากขึ้นจะทำให้ตลาดการเงินผันผวนหนักขึ้น
    .
    อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้สนับสนุนทรัมป์พยายามผ่อนคลายความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ โดยบางคนบอกว่า แผนลดภาษีและผ่อนคลายกฎระเบียบที่ทรัมป์กำลังจะนำมาใช้จะช่วยกระตุ้นการเติบโตเป็นการชดเชย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000010777
    ..................
    Sondhi X
    ทรัมป์ลงนามคำสั่งรีดภาษีศุลากรสินค้านำเข้าจากเม็กซิโก แคนาดา และจีนเมื่อวันเสาร์ (1 ก.พ.) และถูกทั้งสามชาติประกาศตอบโต้ทันควัน ขณะที่พวกนักวิเคราะห์แสดงความกังวล มาตรการครั้งนี้มีแนวโน้มทำให้อัตราเงินเฟ้อของอเมริกายิ่งเลวร้ายลง ทำลายความไว้ใจของประชาชนจำนวนมากที่โหวตให้ทรัมป์จากการหาเสียงจะทำให้ราคาสินค้าถูกลง รวมทั้งยังมีความเสี่ยงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลกอีกด้วย . ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์บนโซเชียลมีเดียของตนในวันเสาร์ (1) ว่า มาตรการขึ้นภาษีศุลกากรเช่นนี้มีความจำเป็นเพื่อปกป้องคนอเมริกัน และกดดันให้แคนาดา เม็กซิโก ตลอดจนจีน ต้องใช้ความพยายามมากขึ้นในการควบคุมการผลิตและการส่งออกสารเสพติด “เฟนทานิล” ผิดกฎหมาย ซึ่งมีปลายทางอยู่ที่สหรัฐฯ รวมทั้งเป็นการเพิ่มแรงบีบให้แคนาดาและเม็กซิโกลดจำนวนผู้อาศัยดินแดนของพวกเขาลักลอบเดินทางเข้าสู่อเมริกา . ในคำสั่งฝ่ายบริหารที่เขาลงนามครั้งนี้ ซึ่งทรัมป์อ้างอำนาจตามรัฐบัญญัติให้อำนาจทางเศรษฐกิจแก่ประธานาธิบดีในกรณีฉุกเฉินระหว่างประเทศ กำหนดให้จัดเก็บภาษีศุลกากรจากสินค้านำเข้าทั้งหมดจากจีนสูงขึ้นอีก 10% ขณะที่สินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาจะถูกเก็บเพิ่มในอัตรา 25% ยกเว้นเฉพาะพวกสินค้าพลังงานที่นำเข้าจากแคนาดา ซึ่งรวมถึงน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และไฟฟ้า ให้ขึ้นภาษี 10% . อย่างไรก็ตาม มีเสียงแสดงความกังวลขึ้นในสหรัฐฯ ว่า หากบังคับใช้มาตรการภาษีศุลกากรเป็นเวลานาน อาจทำให้สถานการณ์เงินเฟ้อของอเมริกาเลวร้ายลง ซึ่งคุกคามความไว้วางใจของผู้มีสิทธิออกเสียงจำนวนมากที่ลงคะแนนเลือกทรัมป์เพื่อให้จัดการทำให้ราคาของชำ น้ำมันเบนซิน บ้าน รถ และสินค้าอื่นๆ ถูกลงตามที่หาเสียงไว้ ไม่เพียงเท่านั้นยังอาจเป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจโลกโดยรวมอีกด้วย . นอกจากนั้น คำสั่งของทรัมป์ครั้งนี้ยังครอบคลุมถึงการให้สหรัฐฯ ใช้กลไกขึ้นภาษีขึ้นไปอีกเพื่อเล่นงานการตอบโต้เอาคืนของประเทศอื่นๆ จึงทำให้เห็นกันว่าเพิ่มความเป็นไปได้ที่จะเกิดการสะดุดติดขัดทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงมากขึ้น . ยิ่งกว่านั้น ประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันผู้นี้ยังส่งสัญญาณว่า คำสั่งในวันเสาร์เป็นแค่หมัดแรกในการจัดการความขัดแย้งทางการค้า แถมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเขายังประกาศว่า จะขึ้นภาษีศุลกากรเอากับสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรปด้วย รวมทั้งเพิ่มภาษีสำหรับสินค้านำเข้าจำพวกเซมิคอนดักเตอร์ เหล็กกล้า อะลูมิเนียม น้ำมัน และก๊าซ . หลังประกาศของทรัมป์ ด้านนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดว์ ของแคนาดา แถลงในวันเสาร์ว่า การดำเนินการเช่นนี้ของทำเนียบขาวทำให้สองประเทศที่เป็นเพื่อนบ้านกันและมีนโยบายไปในแนวทางเดียวกันมาแต่ไหนแต่ไร เกิดความแตกแยกแทนที่จะสามัคคีกัน พร้อมประกาศตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีศุลกากรอัตรา 25% กับสินค้านำเข้าจากอเมริกามูลค่า 155,000 ล้านดอลลาร์ ที่รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และผลไม้ ตลอดจนถึงเรียกร้องให้คนแคนาดาใช้สินค้าและบริการในประเทศแทนที่จะซื้อของอเมริกา . ทรูโดว์เสริมว่า คนแคนาดาจำนวนมากรู้สึกเหมือนถูกหักหลัง เนื่องจากที่ผ่านมา กองกำลังแคนาดาต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับอเมริกาในอัฟกานิสถาน รวมทั้งช่วยเหลือสหรัฐฯ ในการจัดการวิกฤตต่างๆ ตั้งแต่ไฟป่าในแคลิฟอร์เนีย จนถึงเฮอร์ริเคนแคทรินา . ขณะที่ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบาม ของเม็กซิโก โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ปฏิเสธการใส่ร้ายของทำเนียบขาวที่ว่า รัฐบาลเม็กซิโกร่วมมือกับองค์การอาชญากรรม รวมทั้งคัดค้านเจตนารมณ์ของสหรัฐฯ ในการแทรกแซงดินแดนเม็กซิโก ก่อนสำทับว่า ได้สั่งให้รัฐมนตรีเศรษฐกิจดำเนินการตอบโต้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของเม็กซิโก . ผู้นำเม็กซิโกยังเหน็บทรัมป์ว่า ถ้ารัฐบาลและหน่วยงานของอเมริกาต้องการจัดการปัญหาการใช้เฟนทานิลอย่างจริงจังแล้ว ก็ควรต่อสู้กับการขายยาตามท้องถนนในเมืองใหญ่ๆ ของอเมริกา รวมถึงการฟอกเงิน . ด้านกระทรวงการต่างประเทศของจีนระบุในวันอาทิตย์ (2) ว่า รัฐบาลจีนไม่พอใจอย่างมากและคัดค้านความเคลื่อนไหวนี้ รวมทั้งจะดำเนินมาตรการตอบโต้ที่จำเป็นเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของประเทศ และสำทับว่า จีนเริ่มควบคุมยาที่เกี่ยวข้องกับเฟนทานิลในรูปสารที่ต้องควบคุมตั้งแต่ปี 2019 และร่วมกับอเมริกาในการต่อต้านสารเสพติด พร้อมเรียกร้องให้สหรัฐฯ แก้ไขการดำเนินการที่ผิดพลาดครั้งนี้ . นอกจากนั้น กระทรวงพาณิชย์จีนยังเตรียมฟ้องร้องต่อองค์การการค้าโลก (WTO) สำหรับแนวทางปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องเหล่านี้ของอเมริกา . มาตรการภาษีศุลกากรของทรัมป์ครั้งนี้จะมีผลบังคับใช้ในวันอังคาร (4 ) ท่ามกลางความคิดเห็นที่ว่ามันอาจบ่อนทำลายการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยงานวิเคราะห์ชิ้นใหม่ของห้องปฏิบัติการงบประมาณ มหาวิทยาลัยเยล ระบุว่า มาตรการนี้อาจส่งผลให้ชาวอเมริกันแต่ละครัวเรือนสูญเสียรายได้เฉลี่ย 1,170 ดอลลาร์ เศรษฐกิจชะลอตัว เงินเฟ้อสูงขึ้น และสถานการณ์จะยิ่งเลวร้ายลงหากประเทศอื่นๆ ตอบโต้ . วุฒิสมาชิกชัค ชูเมอร์ จากพรรคเดโมแครตก็ เตือนว่า มาตรการภาษีศุลกากรของทรัมป์อาจทำให้ค่าครองชีพคนอเมริกันพุ่งขึ้น . เกรเกอรี ดาโก หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ อีวาย ชี้ว่า ต้นทุนสินค้านำเข้าที่เพิ่มขึ้นจะบ่อนทำลายการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการลงทุนของภาคธุรกิจ และยังคาดว่า อัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 0.7% ในไตรมาสแรกก่อนลดลงอย่างช้าๆ นอกจากนั้นนโยบายการค้าที่ไร้ความแน่นอนมากขึ้นจะทำให้ตลาดการเงินผันผวนหนักขึ้น . อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้สนับสนุนทรัมป์พยายามผ่อนคลายความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ โดยบางคนบอกว่า แผนลดภาษีและผ่อนคลายกฎระเบียบที่ทรัมป์กำลังจะนำมาใช้จะช่วยกระตุ้นการเติบโตเป็นการชดเชย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000010777 .................. Sondhi X
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 284 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวจาก BBC เรื่องจ้างทำงานต่ำกว่ามาตรฐานในจีน
    (กรุณาใช้วิจารณญาณในการรับชม)
    ข่าวจาก BBC เรื่องจ้างทำงานต่ำกว่ามาตรฐานในจีน (กรุณาใช้วิจารณญาณในการรับชม)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
    รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 รีวิว
  • เครื่องฟอกอากาศดูดอะไรเข้าไปบ้าง?
    เครื่องฟอกอากาศดูดอะไรเข้าไปบ้าง?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 5 0 รีวิว
  • ออตตาวา จะยื่นฟ้ององค์การการค้าโลก(WTO) เกี่ยวกับมาตรการรีดภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ นอกจากนี้แล้วยังจะเรียกค่าชดเชยภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีระดับภูมิภาคฉบับหนึ่งด้วย จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าทีแคนาดาในวันอาทิตย์(2ก.พ.)
    .
    "ชัดเจนว่า รัฐบาลแคนาดามองว่ามาตรการรีดภาษีนี้ละเมิดพันธสัญาทางการค้าที่สหรัฐฯมี" เจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนามระบุ
    .
    หลังจากขู่มานานหลายสัปดาห์ ในที่สุดในวันอาทิตย์(2ก.พ.) ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งขึ้นภาษีสินค้านำเข้าทั้งหมดจากแคนาดาอีก 25% ยกเว้นทรัพยากรพลังงาน ซึ่งจะถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม 10%
    .
    "แน่นอนว่าเราจะเดินหน้าพึ่งพากฎหมาย ที่เราเชื่อว่าเรามี ผ่านข้อตกลงต่างๆที่เราทำร่วมกับสหรัฐฯ" เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวระบุ อ้างถึงองค์การการค้าโลกและข้อตกลงสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา(CUSMA) ที่ตัวทรัมป์เองเป็นคนลงนามในปี 2018
    .
    การพิจารณาทบทวนข้อตกลง ที่ทางเจ้าหน้าที่แคนาดาเรียกมันว่าเป็น "ข้อตกลงมาตรฐานทองคำ" มีกำหนดดำเนินการในปีหน้า
    .
    นอกจากนี้แล้วในวันอาทิตย์(2ก.พ.) ยังเปิดตัวรายชื่อสินค้าอเมริกา 1,256 รายการ ที่พวกเขามีแผนเล่นงานในรอบแรกของการรีดภาษีตอบโต้ ซึ่้งคิดเป็นมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดาและมีกำหนดบังคับใช้ในวันอังคาร(4ก.พ.) ในนั้นรวมถึงเครื่องสำอาง เครื่องใช้ไฟฟ้า ยางรถยนต์ เครื่องไม้เครื่องมือ พลาสติก เฟอร์นิเจอร์ ไวน์ สุรา ผลิตภัณฑ์นมและผลไม้
    .
    พวกเจ้าหน้าที่บอกว่ามาตรการรีดภาษีของแคนาดา ไม่ได้เจาะจงเล่นงานรัฐต่างๆที่บริหารงานโดยรีพับลิกัน แต่เล็งเป้าหมายถาโถมแรงกดดันใส่พวกสมาชิกสภาคองเกรสที่มีอิทธิพลกับทรัมป์ ซึ่งก็น่าจะเป็นเหล่าสมาชิกจากรีพับลิกันนั่นเอง
    .
    เจ้าหน้าที่แคนาดาคาดหมายว่าอาจมีการแถลงมาตรการรีดภาษีตอบโต้รอบ 2 ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหย้า โดยครั้งนี้คาดว่าปริมาณสินค้าที่ตกเป็นเป้าหมาย น่าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นแตะระดับ 155,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา(ราว 106,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)
    .
    "เราหวังว่ามาตรการต่างๆที่เราใช้จะพอเพียงสำหรับโน้มน้าวสหรัฐฯให้เห็นว่าพวกเขากำลังเดินทางผิดเส้นทาง และพวกเขาจะกลับมาหาทางทำงานร่วมกับเรา ในหนทางในการกลับสู่ความเป็นรัฐปกติมากกว่าเดิม" เจ้าหน้าที่รายนี้ระบุ "แต่ถ้าไม่ นายกรัฐมนตรีและคนอื่นๆ บ่งชี้ว่าทุกทางเลือกยังคงอยู่บนโต๊ะ และจะมีการพิจารณาใช้มาตรการที่เหมาะสมเพิ่มเติม"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000010781
    ..................
    Sondhi X
    ออตตาวา จะยื่นฟ้ององค์การการค้าโลก(WTO) เกี่ยวกับมาตรการรีดภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ นอกจากนี้แล้วยังจะเรียกค่าชดเชยภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีระดับภูมิภาคฉบับหนึ่งด้วย จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าทีแคนาดาในวันอาทิตย์(2ก.พ.) . "ชัดเจนว่า รัฐบาลแคนาดามองว่ามาตรการรีดภาษีนี้ละเมิดพันธสัญาทางการค้าที่สหรัฐฯมี" เจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนามระบุ . หลังจากขู่มานานหลายสัปดาห์ ในที่สุดในวันอาทิตย์(2ก.พ.) ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งขึ้นภาษีสินค้านำเข้าทั้งหมดจากแคนาดาอีก 25% ยกเว้นทรัพยากรพลังงาน ซึ่งจะถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม 10% . "แน่นอนว่าเราจะเดินหน้าพึ่งพากฎหมาย ที่เราเชื่อว่าเรามี ผ่านข้อตกลงต่างๆที่เราทำร่วมกับสหรัฐฯ" เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวระบุ อ้างถึงองค์การการค้าโลกและข้อตกลงสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา(CUSMA) ที่ตัวทรัมป์เองเป็นคนลงนามในปี 2018 . การพิจารณาทบทวนข้อตกลง ที่ทางเจ้าหน้าที่แคนาดาเรียกมันว่าเป็น "ข้อตกลงมาตรฐานทองคำ" มีกำหนดดำเนินการในปีหน้า . นอกจากนี้แล้วในวันอาทิตย์(2ก.พ.) ยังเปิดตัวรายชื่อสินค้าอเมริกา 1,256 รายการ ที่พวกเขามีแผนเล่นงานในรอบแรกของการรีดภาษีตอบโต้ ซึ่้งคิดเป็นมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดาและมีกำหนดบังคับใช้ในวันอังคาร(4ก.พ.) ในนั้นรวมถึงเครื่องสำอาง เครื่องใช้ไฟฟ้า ยางรถยนต์ เครื่องไม้เครื่องมือ พลาสติก เฟอร์นิเจอร์ ไวน์ สุรา ผลิตภัณฑ์นมและผลไม้ . พวกเจ้าหน้าที่บอกว่ามาตรการรีดภาษีของแคนาดา ไม่ได้เจาะจงเล่นงานรัฐต่างๆที่บริหารงานโดยรีพับลิกัน แต่เล็งเป้าหมายถาโถมแรงกดดันใส่พวกสมาชิกสภาคองเกรสที่มีอิทธิพลกับทรัมป์ ซึ่งก็น่าจะเป็นเหล่าสมาชิกจากรีพับลิกันนั่นเอง . เจ้าหน้าที่แคนาดาคาดหมายว่าอาจมีการแถลงมาตรการรีดภาษีตอบโต้รอบ 2 ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหย้า โดยครั้งนี้คาดว่าปริมาณสินค้าที่ตกเป็นเป้าหมาย น่าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นแตะระดับ 155,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา(ราว 106,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) . "เราหวังว่ามาตรการต่างๆที่เราใช้จะพอเพียงสำหรับโน้มน้าวสหรัฐฯให้เห็นว่าพวกเขากำลังเดินทางผิดเส้นทาง และพวกเขาจะกลับมาหาทางทำงานร่วมกับเรา ในหนทางในการกลับสู่ความเป็นรัฐปกติมากกว่าเดิม" เจ้าหน้าที่รายนี้ระบุ "แต่ถ้าไม่ นายกรัฐมนตรีและคนอื่นๆ บ่งชี้ว่าทุกทางเลือกยังคงอยู่บนโต๊ะ และจะมีการพิจารณาใช้มาตรการที่เหมาะสมเพิ่มเติม" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000010781 .................. Sondhi X
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 277 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3 กุมภาพันธ์ 2568 เกียรติยศผู้กล้า "วันทหารผ่านศึก"
    กาแฟ ชา ไข่ลวก ไฮ้ หมวย https://goo.gl/maps/rf3UG3QF3pHTPSAz8
    ร้าน เจ กาแฟโบราณ https://goo.gl/maps/H7rqh7TzoHMXZHeh9
    สั่งออนไลน์ ลิงค์อยู่ในช่องแสดงความคิดเห็น
    3 กุมภาพันธ์ 2568 เกียรติยศผู้กล้า "วันทหารผ่านศึก" กาแฟ ชา ไข่ลวก ไฮ้ หมวย https://goo.gl/maps/rf3UG3QF3pHTPSAz8 ร้าน เจ กาแฟโบราณ https://goo.gl/maps/H7rqh7TzoHMXZHeh9 สั่งออนไลน์ ลิงค์อยู่ในช่องแสดงความคิดเห็น
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • การเลือก(เบอร์)แผ่นกรองอากาศ
    การเลือก(เบอร์)แผ่นกรองอากาศ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 5 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 27 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เน้นย้ำข้อเสนอของเขาที่เรียกร้องให้แคนาดา เข้ามาเป็นรัฐที่ 51 ของอเมริกา รับปากว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะนำมาซึ่ง "การไม่รีดภาษี" และ ชาวแคนาดา ถูกเรียกเก็บภาษีน้อยลงอย่างมาก แม้แคนาดาปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อแนวคิดดังกล่าว เน้นย้ำถึงภาระหน้าที่ของประเทศที่มีต่ออำนาจอธิปไตยแห่งชาติ
    .
    ในข้อความที่โพสต์บนทรัสต์โซเชียล สื่อสังคมออนไลน์ของเขาเองเมื่อวันอาทิตย์(2ก.พ.) "เราจ่ายเงินหลายแสนล้านดอลลาร์เพื่ออุดหนุนแคนาดา แล้วทำไม ถึงจะไม่มีเหตุผล" ทรัมป์ระบุ
    .
    นอกจากนี้แล้ว ทรัมป์ บอกต่อว่าหากปราศจากการสนับสนุนของสหรัฐฯแล้ว เพื่อนบ้านทางเหนือแห่งนี้ก็คงต้องกระเสือกกระสนอย่างหนักในการอยู่รอด และหยิบยกข้อเสนอความเป็นรัฐเป็นทางออก โดยสัญญาว่า "ภาษีจะลดลงอย่างมาก และชาวแคนาดาจะได้รับการปกป้องทางทหารที่ดีกว่าเดิมมาก และไม่มีการรีดภาษี"
    .
    ถ้อยแถลงนี้มีขึ้นตามหลังเขาตัดสินใจกำหนดเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม 25% สินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก อ้างถึงการลักลอบเข้าเมืองผิดฎหมายและลักลอบขนยาเสพติด อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ยอมรับว่าประชาชนชาวอเมริกาอาจต้องประสบ "ความเจ็บปวดบ้าง" จากมาตรการเหล่านี้ แต่เน้นย้ำว่ามันเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อประโยชน์ในระยะยาว
    .
    ไม่นานหลังจากนั้น เพื่อนบ้านทั้ง 2 ชาติของสหรัฐฯ แถลงมาตรการรีดภาษีตอบโต้เช่นกัน โดย จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา เตือนว่า "มันจะส่งผลสนองกลับอย่างแท้จริงสำหรับคุณ ประชาชนชาวอเมริกา" บ่งชี้ว่าผลลัพธ์ของการตอบโต้ทางภาษี ก็คือราคาของชำและสินค้าอื่นๆพุ่งสูงขึ้น
    .
    ทรูโด เน้นย้ำคำปฏิเสธข้อเสนอให้แคนาดาเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ เน้นย้ำว่าไม่มีทางเป็นไปได้แม้แต่น้อยที่เรื่องดังกล่าวจะเกิดขึ้น
    .
    ไม่ใช่ครั้งแรกที่ ทรัมป์ หยิบยกเกี่ยวกับการขยายเขตแดนของสหรัฐฯขึ้นมา โดยหลังจากกลับสู่ทำเนียบขาว เขายังได้รื้อฟื้นความพยายามซื้อเกาะกรีนแลนด์และเข้าควบคุมคลองปานามา อ้างถึงความจำเป็นด้านความมั่นคงแห่งชาติ อย่างไรก็ตามข้อเสนอเหล่านี้ก็เจอกับเสียงปฏิเสธอย่างแข็งกร้าวเช่นกัน จากรัฐบาลปานามาและเดนมาร์ก
    .
    ข้อเสนอที่เรียกร้องให้แคนาดากลายมาเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ โหมกระพือเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางจากพวกเจ้าหน้าที่แคนาดาในทั่วทุกขอบเขตทางการเมือง โดย ปิแอร์ พอยลิเยฟร์ หัวหน้าพรรคคอนเซอร์เวทีฟ เน้นว่า "แคนาดาจะไม่มีวันเป็นรัฐที่ 51 เราเป็นประเทศเอกราชที่ยิ่งใหญ่" ส่วน แจ็กมีต ซิงห์ หัวหน้าพรรคนิวเดโมแครต ปฏิเสธข้อเสนอว่าไร้สาระ และบอกว่าไม่มีชาวแคนาดาคนไหนที่ปรารถนาเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ
    .
    ผลสำรวจความคิดเห็นในแคนาดาเมื่อเร็วๆนี้ บ่งชี้ว่าชาวแคนาดาคัดค้านอย่างแข็งกร้าวต่อความคิดเข้าร่วมกับสหรัฐฯ โดยพบว่ามีชาวแคนาดาแค่ 13% ที่สนับสนุนข้อเสนอดังกล่าว และมีถึง 82% ที่คัดค้าน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000010782
    ..................
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เน้นย้ำข้อเสนอของเขาที่เรียกร้องให้แคนาดา เข้ามาเป็นรัฐที่ 51 ของอเมริกา รับปากว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะนำมาซึ่ง "การไม่รีดภาษี" และ ชาวแคนาดา ถูกเรียกเก็บภาษีน้อยลงอย่างมาก แม้แคนาดาปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อแนวคิดดังกล่าว เน้นย้ำถึงภาระหน้าที่ของประเทศที่มีต่ออำนาจอธิปไตยแห่งชาติ . ในข้อความที่โพสต์บนทรัสต์โซเชียล สื่อสังคมออนไลน์ของเขาเองเมื่อวันอาทิตย์(2ก.พ.) "เราจ่ายเงินหลายแสนล้านดอลลาร์เพื่ออุดหนุนแคนาดา แล้วทำไม ถึงจะไม่มีเหตุผล" ทรัมป์ระบุ . นอกจากนี้แล้ว ทรัมป์ บอกต่อว่าหากปราศจากการสนับสนุนของสหรัฐฯแล้ว เพื่อนบ้านทางเหนือแห่งนี้ก็คงต้องกระเสือกกระสนอย่างหนักในการอยู่รอด และหยิบยกข้อเสนอความเป็นรัฐเป็นทางออก โดยสัญญาว่า "ภาษีจะลดลงอย่างมาก และชาวแคนาดาจะได้รับการปกป้องทางทหารที่ดีกว่าเดิมมาก และไม่มีการรีดภาษี" . ถ้อยแถลงนี้มีขึ้นตามหลังเขาตัดสินใจกำหนดเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม 25% สินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก อ้างถึงการลักลอบเข้าเมืองผิดฎหมายและลักลอบขนยาเสพติด อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ยอมรับว่าประชาชนชาวอเมริกาอาจต้องประสบ "ความเจ็บปวดบ้าง" จากมาตรการเหล่านี้ แต่เน้นย้ำว่ามันเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อประโยชน์ในระยะยาว . ไม่นานหลังจากนั้น เพื่อนบ้านทั้ง 2 ชาติของสหรัฐฯ แถลงมาตรการรีดภาษีตอบโต้เช่นกัน โดย จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา เตือนว่า "มันจะส่งผลสนองกลับอย่างแท้จริงสำหรับคุณ ประชาชนชาวอเมริกา" บ่งชี้ว่าผลลัพธ์ของการตอบโต้ทางภาษี ก็คือราคาของชำและสินค้าอื่นๆพุ่งสูงขึ้น . ทรูโด เน้นย้ำคำปฏิเสธข้อเสนอให้แคนาดาเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ เน้นย้ำว่าไม่มีทางเป็นไปได้แม้แต่น้อยที่เรื่องดังกล่าวจะเกิดขึ้น . ไม่ใช่ครั้งแรกที่ ทรัมป์ หยิบยกเกี่ยวกับการขยายเขตแดนของสหรัฐฯขึ้นมา โดยหลังจากกลับสู่ทำเนียบขาว เขายังได้รื้อฟื้นความพยายามซื้อเกาะกรีนแลนด์และเข้าควบคุมคลองปานามา อ้างถึงความจำเป็นด้านความมั่นคงแห่งชาติ อย่างไรก็ตามข้อเสนอเหล่านี้ก็เจอกับเสียงปฏิเสธอย่างแข็งกร้าวเช่นกัน จากรัฐบาลปานามาและเดนมาร์ก . ข้อเสนอที่เรียกร้องให้แคนาดากลายมาเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ โหมกระพือเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางจากพวกเจ้าหน้าที่แคนาดาในทั่วทุกขอบเขตทางการเมือง โดย ปิแอร์ พอยลิเยฟร์ หัวหน้าพรรคคอนเซอร์เวทีฟ เน้นว่า "แคนาดาจะไม่มีวันเป็นรัฐที่ 51 เราเป็นประเทศเอกราชที่ยิ่งใหญ่" ส่วน แจ็กมีต ซิงห์ หัวหน้าพรรคนิวเดโมแครต ปฏิเสธข้อเสนอว่าไร้สาระ และบอกว่าไม่มีชาวแคนาดาคนไหนที่ปรารถนาเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ . ผลสำรวจความคิดเห็นในแคนาดาเมื่อเร็วๆนี้ บ่งชี้ว่าชาวแคนาดาคัดค้านอย่างแข็งกร้าวต่อความคิดเข้าร่วมกับสหรัฐฯ โดยพบว่ามีชาวแคนาดาแค่ 13% ที่สนับสนุนข้อเสนอดังกล่าว และมีถึง 82% ที่คัดค้าน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000010782 .................. Sondhi X
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 271 มุมมอง 0 รีวิว
  • Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 26 มุมมอง 0 รีวิว
  • EP 35 Final FM LPF
    Set Solder mask TOP and BOTTOM and review ..
    EP 35 Final FM LPF Set Solder mask TOP and BOTTOM and review ..
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 13 0 รีวิว
  • ไทย "ของแพง ค่าแรงถูก" เป็นเรื่องธรรมดา
    ไต้หวัน "ของถูก ค่าแรงแพง" ทำได้ไง?
    ไทย "ของแพง ค่าแรงถูก" เป็นเรื่องธรรมดา ไต้หวัน "ของถูก ค่าแรงแพง" ทำได้ไง?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 81 มุมมอง 3 0 รีวิว
  • มหาเศรษฐี อีลอน มัสก์ กล่าวโจมตีสำนักงานพัฒนาการระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAID) ในวันอาทิตย์ (2 ก.พ.) เรียกหน่วยงานแห่งนี้ว่าเป็น "องค์กรก่อการร้าย" หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคลื่อนไหวระงับเงินช่วยเหลือต่างประเทศของวอชิงตันเป็นเวลา 3 เดือน
    .
    หลังจากระงับเงินช่วยเหลือต่างประเทศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นับตั้งแต่นั้นรัฐบาลของทรัมป์ ได้ออกประกาศมอบข้อยกเว้นบางส่วนสำหรับเงินช่วยเหลือด้านอาการและมนุษยธรรมอื่นๆ แต่บรรดาเจ้าหน้าที่ด้านความช่วยเหลือบอกว่าคำสั่งดังกล่าวยังคงนำพามาซึ่งความไม่แน่นอน และกลุ่มคนอ่อนแอที่สุดในโลกบางส่วนเริ่มสัมผัสได้ถึงผลกระทบของมันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    .
    ทรัมป์ มอบหมายให้ มัสก์ รับผิดชอบด้านการตัดลดคนงานรัฐบาลและปรับลดในสิ่งที่ประธานาธิบดีจากรีพับลิกันรายนี้เรียกว่าเป็นการใช้จ่ายที่เปล่าประโยชน์และไม่จำเป็น ภายใต้หน้ากากของกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (Department of Government Efficiency - DOGE) ซึ่งเวลานี้กำลังเล่นงาน USAID ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
    .
    "USAID คือองค์กรอาชญากรรม" มัสก์ เขียนบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ของเขาเอง ตอบกลับวิดีโอหนึ่งที่กล่าวอ้างว่า USAID เกี่ยวข้องกับ "งานเกเรของ CIA" และ "เซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ต"
    .
    ข้อความในโพสต์ต่อมา มัสก์เน้นย้ำในคำกล่าวหานี้ แต่ไม่ได้ให้หลักฐานใดๆ เขาถามผู้ติดตามบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ 215 ล้านคน "คุณรู้หรือไม่ว่า USAID ใช้ภาษีเงินดอลลาร์ของคุณเป็นทุนวิจัยอาวุธชีวภาพ ในนั้นรวมถึงโควิด-19 ที่เข่นฆ่าผู้คนหลายล้านคน"
    .
    มีรายงานว่า ทรัมป์ ต้องการดึง USAID ซึ่งปัจจุบันเป็นหน่วยงานอิสระ เข้าไปอยู่ภายใต้สังกัดของกระทรวงการต่างประเทศ แต่พอสำนักข่าวเอเอฟพีติดต่อสอบถามในเรื่องนี้ ทางคณะทำงานของทรัมป์ ยังไม่แสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว
    .
    เอเอฟพียืนยันว่าเวลานี้เว็บไซต์ของ USAID หยุดให้บริการแล้ว หลังจากที่ ทรัมป์ สั่งระงับการช่วยเหลือต่างประเทศและองค์การพัฒนาทั่วโลก ทำให้ต้องมีการพักงาน เลิกจ้าง และปิดโครงการต่างๆ หลายพันโครงการ
    .
    USAID เป็นองค์กรอิสระที่ถูกจัดตั้งขึ้นในนามของสภาคองเกรส ทำหน้าที่บริหารจัดการงบประมาณกว่า 42,800 ล้านดอลลาร์ ที่มีเจตนาบรรเทาทุกข์ด้านมนุษยธรรมและมอบความช่วยเหลือด้านการพัฒนาแก่ทั่วโลก
    .
    คริส เมอร์ฟีย์ สมาชิกวุฒิสภาจากเดโมแครต วิพากษ์วิจารณ์คำสั่งของทรัมป์ ว่าเทียบเท่ากับเป็นการทำลายล้างองค์กรแห่งนี้โดยสิ้นเชิง
    .
    ซีเอ็นเอ็นรายงานว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงของ USAID จำนวน 2 ราย ถูกบังคับให้ลางาน หลังจากพวกเขาห้ามเจ้าหน้าที่จากกระทรวง DOGE ของมัสก์ เข้าถึงเอกสารลับ ส่วนหนึ่งในความพยายามอย่างกว้างขวางในการตรวจสอบงบประมาณของรัฐบาล
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000010780
    ..................
    Sondhi X
    มหาเศรษฐี อีลอน มัสก์ กล่าวโจมตีสำนักงานพัฒนาการระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAID) ในวันอาทิตย์ (2 ก.พ.) เรียกหน่วยงานแห่งนี้ว่าเป็น "องค์กรก่อการร้าย" หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคลื่อนไหวระงับเงินช่วยเหลือต่างประเทศของวอชิงตันเป็นเวลา 3 เดือน . หลังจากระงับเงินช่วยเหลือต่างประเทศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นับตั้งแต่นั้นรัฐบาลของทรัมป์ ได้ออกประกาศมอบข้อยกเว้นบางส่วนสำหรับเงินช่วยเหลือด้านอาการและมนุษยธรรมอื่นๆ แต่บรรดาเจ้าหน้าที่ด้านความช่วยเหลือบอกว่าคำสั่งดังกล่าวยังคงนำพามาซึ่งความไม่แน่นอน และกลุ่มคนอ่อนแอที่สุดในโลกบางส่วนเริ่มสัมผัสได้ถึงผลกระทบของมันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว . ทรัมป์ มอบหมายให้ มัสก์ รับผิดชอบด้านการตัดลดคนงานรัฐบาลและปรับลดในสิ่งที่ประธานาธิบดีจากรีพับลิกันรายนี้เรียกว่าเป็นการใช้จ่ายที่เปล่าประโยชน์และไม่จำเป็น ภายใต้หน้ากากของกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (Department of Government Efficiency - DOGE) ซึ่งเวลานี้กำลังเล่นงาน USAID ซ้ำแล้วซ้ำเล่า . "USAID คือองค์กรอาชญากรรม" มัสก์ เขียนบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ของเขาเอง ตอบกลับวิดีโอหนึ่งที่กล่าวอ้างว่า USAID เกี่ยวข้องกับ "งานเกเรของ CIA" และ "เซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ต" . ข้อความในโพสต์ต่อมา มัสก์เน้นย้ำในคำกล่าวหานี้ แต่ไม่ได้ให้หลักฐานใดๆ เขาถามผู้ติดตามบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ 215 ล้านคน "คุณรู้หรือไม่ว่า USAID ใช้ภาษีเงินดอลลาร์ของคุณเป็นทุนวิจัยอาวุธชีวภาพ ในนั้นรวมถึงโควิด-19 ที่เข่นฆ่าผู้คนหลายล้านคน" . มีรายงานว่า ทรัมป์ ต้องการดึง USAID ซึ่งปัจจุบันเป็นหน่วยงานอิสระ เข้าไปอยู่ภายใต้สังกัดของกระทรวงการต่างประเทศ แต่พอสำนักข่าวเอเอฟพีติดต่อสอบถามในเรื่องนี้ ทางคณะทำงานของทรัมป์ ยังไม่แสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว . เอเอฟพียืนยันว่าเวลานี้เว็บไซต์ของ USAID หยุดให้บริการแล้ว หลังจากที่ ทรัมป์ สั่งระงับการช่วยเหลือต่างประเทศและองค์การพัฒนาทั่วโลก ทำให้ต้องมีการพักงาน เลิกจ้าง และปิดโครงการต่างๆ หลายพันโครงการ . USAID เป็นองค์กรอิสระที่ถูกจัดตั้งขึ้นในนามของสภาคองเกรส ทำหน้าที่บริหารจัดการงบประมาณกว่า 42,800 ล้านดอลลาร์ ที่มีเจตนาบรรเทาทุกข์ด้านมนุษยธรรมและมอบความช่วยเหลือด้านการพัฒนาแก่ทั่วโลก . คริส เมอร์ฟีย์ สมาชิกวุฒิสภาจากเดโมแครต วิพากษ์วิจารณ์คำสั่งของทรัมป์ ว่าเทียบเท่ากับเป็นการทำลายล้างองค์กรแห่งนี้โดยสิ้นเชิง . ซีเอ็นเอ็นรายงานว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงของ USAID จำนวน 2 ราย ถูกบังคับให้ลางาน หลังจากพวกเขาห้ามเจ้าหน้าที่จากกระทรวง DOGE ของมัสก์ เข้าถึงเอกสารลับ ส่วนหนึ่งในความพยายามอย่างกว้างขวางในการตรวจสอบงบประมาณของรัฐบาล . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000010780 .................. Sondhi X
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 268 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในวันอาทิตย์ (2 ก.พ.) ขู่ดำเนินการกับปานามา หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงต่างๆ เพื่อลดอิทธิพลของจีนเหนือคลองปานามา อย่างไรก็ตาม ผู้นำของประเทศแห่งนี้ยืนกรานว่าเขาไม่กลัวอเมริกาจะใช้กำลังเข้ายึด และเสนอให้ทั้ง 2 ฝ่ายหันหน้าพูดคุยเจรจากัน
    .
    รูบิโอ ซึ่งเดินทางเยือนต่างแดนเป็นครั้งแรกในฐานะรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ บอกกับปานามา ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สรุปแล้วว่าประเทศแห่งนี้ละเมิดเงื่อนไขในสนธิสัญญา เกี่ยวกับการส่งมอบน่านน้ำสำคัญนี้คืนแก่ปานามาในปี 1999
    .
    เขาชี้ถึงกรณีที่จีนมีอิทธิพลและควบคุมคลองปานามา ทางน้ำสำคัญที่เชื่อมระหว่างมหาสมุทรแอตแลนติกกับมหาสมุทรแปซิฟิก และเป็นเส้นทางการสัญจรผ่านของตู้สินค้าสหรัฐฯ ราว 40%
    .
    แทมมี บรูซ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่าระหว่างพบปะกับประธานาธิบดีโฮเซ ราอูล มาลิโน ทางรูบิโอ "พูดอย่างชัดเจนว่าสถานภาพปัจจุบันเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้และถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงในทันทีทันใด มันจะจำเป็นที่สหรัฐฯ ต้องใช้มาตรการต่างๆ ที่จำเป็นเพื่อปกป้องสิทธิของตนเองภายใต้สนธิสัญญา"
    .
    อย่างไรก็ตาม รูบิโอ ให้ภาพการประชุมเลวร้ายน้อยกว่าทางสหรัฐฯ หลังจากก่อนหน้านี้เขาให้การตอบรับ รูบิโอ เขาสู่ทำเนียบประธานาธิบดี ด้วยทหารกองเกียรติยศ
    .
    "ณ เวลานี้ ผมไม่รู้ถึงภัยคุกคามที่เป็นจริงเป็นจังใดๆ ที่มีต่อสนธิสัญญา มันยังอยู่ดี และรู้สึกกังวลน้อยกว่ามากเกี่ยวกับการใช้กำลังทหารเข้ายึดคลอง" มูลิโน บอกกับผู้สื่อข่าวหลังการพบปะหารือ อ้างถึงสนธิสัญญาส่งมอบคลองในช่วงปลายปี 1999 "อธิปไตยเหนือคลองแห่งนี้ ไม่อยู่ในข้อสงสัยใดๆ" เขากล่าว พร้อมเสนอเจรจาระดับเทคนิคกับสหรัฐฯ เพื่อปัดเป่าความกังวล
    .
    รูบิโอ ไม่ได้บอกว่าสหรัฐฯ จะใช้มาตรการใด แต่เมื่อเร็วๆ นี้ ทรัมป์ เพิ่งกำหนดมาตรการรีดภาษีสูงลิ่วเล่นงาน 3 คู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของอเมริกา ได้แก่ แคนาดา จีน และเม็กซิโก
    .
    ทั้ง รูบิโอ และ ทรัมป์ ต่างกล่าวหา จีน มีอิทธิพลอย่างมากเหนือโครงสร้างพื้นฐานโดยรอบคลอง ที่อาจดำเนินการปิดมันในกรณีที่เกิดความขัดแย้งใดๆ ซึ่งอาจส่งผลกระทบหายนะสำหรับสหรัฐฯ
    .
    มีการประท้วงกลุ่มเล็กๆ แต่เป็นไปอย่างดุเดือดในปานามา ก่อนหน้าการเดินทางเยือนของรูบิโอ กระตุ้นให้ตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตา
    .
    พวกผู้ประท้วงเผาหุ่นรูบิโอที่สวมสูทสีแดงขาวน้ำเงิน และชูภาพเขากับทรัมป์ต่อหน้าธงนาซี "รูบิโอ ออกไปจากปานามา" เหล่าผู้ชุมนุมต่างร้องตะโกนตอนที่รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ พบปะกับมูลิโน "นี่คือการส่งสารถึงพวกจักรวรรดินิยม" ซาอูล เมนเดซ ผู้นำสหภาพแรงงานกล่าวถึงรูบิโอ "เราเน้นย้ำว่า ที่นี่ไม่มีอะไรให้ทรัมป์ ปานามาเป็นประเทศเสรีและมีอำนาจอธิปไตย"
    .
    ระหว่างให้สัมภาษณ์กับพวกผู้สื่อข่าวในวันศุกร์ (31 ม.ค.) ทรัมป์ ระบุว่าการอ้อนข้อเกี่ยวกับคลองยังไม่เพียงพอ และ "มันเป็นเรื่องเหมาะสมที่เราจะเอาคลองคืนมา"
    .
    คลองปานามาถูกสร้างขึ้นโดยสหรัฐฯ ที่ต้องแลกมาด้วยชีวิตของแรงงานหลายพันคน ส่วนใหญ่เป็นชนเชื้อสายแอฟริกา ที่มาจากบาร์บาดอส จาไมกา และที่อื่นๆ ในแถบแคริบเบียน
    .
    สหรัฐฯ คงไว้ซึ่งการควบคุมคลองปานามา ครั้งที่เปิดทำการในปี 1914 แต่เริ่มเจรจาต่อรอง ตามหลังเหตุจลาจลนองเลือดในปี 1964 โดยผู้ประท้วงชาวปานามา ที่โกรธเคืองกรณีที่ปล่อยให้ต่างชาติควบคุมคลองแห่งนี้
    .
    จิมมี คาร์เตอร์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ณ ขณะนั้น ตกลงมอบคลองแห่งนี้แก่ปานามาในช่วงปลายปี 1999 โดยอดีตประธานาธิบดีผู้ล่วงลับรายนี้มองว่าเป็นสิ่งจำเป็นทางศีลธรรมที่อเมริกาต้องเคารพต่อประเทศที่เล็กกว่าแต่มีอธิปไตยแห่งนี้
    .
    แต่สำหรับ ทรัมป์ เขามีมุมมองที่ต่างออกไป และหันมาใช้แนวทาง "Big Stick" (การใช้ความเข้มแข็งหรือการข่มขู่ในการจัดการกับสถานการณ์ทางการเมืองหรือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ) แบบเดียวกับในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งสหรัฐฯ มักขู่ใช้กำลังในการเปิดทางดำเนินการต่างๆ โดยเฉพาะในละตินอเมริกา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000010779
    ..................
    Sondhi X
    มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในวันอาทิตย์ (2 ก.พ.) ขู่ดำเนินการกับปานามา หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงต่างๆ เพื่อลดอิทธิพลของจีนเหนือคลองปานามา อย่างไรก็ตาม ผู้นำของประเทศแห่งนี้ยืนกรานว่าเขาไม่กลัวอเมริกาจะใช้กำลังเข้ายึด และเสนอให้ทั้ง 2 ฝ่ายหันหน้าพูดคุยเจรจากัน . รูบิโอ ซึ่งเดินทางเยือนต่างแดนเป็นครั้งแรกในฐานะรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ บอกกับปานามา ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สรุปแล้วว่าประเทศแห่งนี้ละเมิดเงื่อนไขในสนธิสัญญา เกี่ยวกับการส่งมอบน่านน้ำสำคัญนี้คืนแก่ปานามาในปี 1999 . เขาชี้ถึงกรณีที่จีนมีอิทธิพลและควบคุมคลองปานามา ทางน้ำสำคัญที่เชื่อมระหว่างมหาสมุทรแอตแลนติกกับมหาสมุทรแปซิฟิก และเป็นเส้นทางการสัญจรผ่านของตู้สินค้าสหรัฐฯ ราว 40% . แทมมี บรูซ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่าระหว่างพบปะกับประธานาธิบดีโฮเซ ราอูล มาลิโน ทางรูบิโอ "พูดอย่างชัดเจนว่าสถานภาพปัจจุบันเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้และถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงในทันทีทันใด มันจะจำเป็นที่สหรัฐฯ ต้องใช้มาตรการต่างๆ ที่จำเป็นเพื่อปกป้องสิทธิของตนเองภายใต้สนธิสัญญา" . อย่างไรก็ตาม รูบิโอ ให้ภาพการประชุมเลวร้ายน้อยกว่าทางสหรัฐฯ หลังจากก่อนหน้านี้เขาให้การตอบรับ รูบิโอ เขาสู่ทำเนียบประธานาธิบดี ด้วยทหารกองเกียรติยศ . "ณ เวลานี้ ผมไม่รู้ถึงภัยคุกคามที่เป็นจริงเป็นจังใดๆ ที่มีต่อสนธิสัญญา มันยังอยู่ดี และรู้สึกกังวลน้อยกว่ามากเกี่ยวกับการใช้กำลังทหารเข้ายึดคลอง" มูลิโน บอกกับผู้สื่อข่าวหลังการพบปะหารือ อ้างถึงสนธิสัญญาส่งมอบคลองในช่วงปลายปี 1999 "อธิปไตยเหนือคลองแห่งนี้ ไม่อยู่ในข้อสงสัยใดๆ" เขากล่าว พร้อมเสนอเจรจาระดับเทคนิคกับสหรัฐฯ เพื่อปัดเป่าความกังวล . รูบิโอ ไม่ได้บอกว่าสหรัฐฯ จะใช้มาตรการใด แต่เมื่อเร็วๆ นี้ ทรัมป์ เพิ่งกำหนดมาตรการรีดภาษีสูงลิ่วเล่นงาน 3 คู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของอเมริกา ได้แก่ แคนาดา จีน และเม็กซิโก . ทั้ง รูบิโอ และ ทรัมป์ ต่างกล่าวหา จีน มีอิทธิพลอย่างมากเหนือโครงสร้างพื้นฐานโดยรอบคลอง ที่อาจดำเนินการปิดมันในกรณีที่เกิดความขัดแย้งใดๆ ซึ่งอาจส่งผลกระทบหายนะสำหรับสหรัฐฯ . มีการประท้วงกลุ่มเล็กๆ แต่เป็นไปอย่างดุเดือดในปานามา ก่อนหน้าการเดินทางเยือนของรูบิโอ กระตุ้นให้ตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตา . พวกผู้ประท้วงเผาหุ่นรูบิโอที่สวมสูทสีแดงขาวน้ำเงิน และชูภาพเขากับทรัมป์ต่อหน้าธงนาซี "รูบิโอ ออกไปจากปานามา" เหล่าผู้ชุมนุมต่างร้องตะโกนตอนที่รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ พบปะกับมูลิโน "นี่คือการส่งสารถึงพวกจักรวรรดินิยม" ซาอูล เมนเดซ ผู้นำสหภาพแรงงานกล่าวถึงรูบิโอ "เราเน้นย้ำว่า ที่นี่ไม่มีอะไรให้ทรัมป์ ปานามาเป็นประเทศเสรีและมีอำนาจอธิปไตย" . ระหว่างให้สัมภาษณ์กับพวกผู้สื่อข่าวในวันศุกร์ (31 ม.ค.) ทรัมป์ ระบุว่าการอ้อนข้อเกี่ยวกับคลองยังไม่เพียงพอ และ "มันเป็นเรื่องเหมาะสมที่เราจะเอาคลองคืนมา" . คลองปานามาถูกสร้างขึ้นโดยสหรัฐฯ ที่ต้องแลกมาด้วยชีวิตของแรงงานหลายพันคน ส่วนใหญ่เป็นชนเชื้อสายแอฟริกา ที่มาจากบาร์บาดอส จาไมกา และที่อื่นๆ ในแถบแคริบเบียน . สหรัฐฯ คงไว้ซึ่งการควบคุมคลองปานามา ครั้งที่เปิดทำการในปี 1914 แต่เริ่มเจรจาต่อรอง ตามหลังเหตุจลาจลนองเลือดในปี 1964 โดยผู้ประท้วงชาวปานามา ที่โกรธเคืองกรณีที่ปล่อยให้ต่างชาติควบคุมคลองแห่งนี้ . จิมมี คาร์เตอร์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ณ ขณะนั้น ตกลงมอบคลองแห่งนี้แก่ปานามาในช่วงปลายปี 1999 โดยอดีตประธานาธิบดีผู้ล่วงลับรายนี้มองว่าเป็นสิ่งจำเป็นทางศีลธรรมที่อเมริกาต้องเคารพต่อประเทศที่เล็กกว่าแต่มีอธิปไตยแห่งนี้ . แต่สำหรับ ทรัมป์ เขามีมุมมองที่ต่างออกไป และหันมาใช้แนวทาง "Big Stick" (การใช้ความเข้มแข็งหรือการข่มขู่ในการจัดการกับสถานการณ์ทางการเมืองหรือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ) แบบเดียวกับในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งสหรัฐฯ มักขู่ใช้กำลังในการเปิดทางดำเนินการต่างๆ โดยเฉพาะในละตินอเมริกา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000010779 .................. Sondhi X
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 270 มุมมอง 0 รีวิว
  • แบบการสร้างบ้านเคลื่อนที่(ขนาดเล็ก)
    แบบการสร้างบ้านเคลื่อนที่(ขนาดเล็ก)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 74 มุมมอง 7 0 รีวิว