• ที้น ก๊วน ซี ฟุก หรือ 天官賜福 ในภาษาจีนกวางตุ้ง
    天 ( tin1 ) แปลว่า สวรรค์ heavens หรือ เทพเจ้า God
    官 ( gun1 ) แปลว่า เจ้าหน้าที่ หรือ official
    賜 ( ci3 ) แปล ว่า ประทาน bestow หรือ give หรือ grant,
    福 ( fuk1 ) แปลว่า พร blessing

    เป็นชื่อ หนึ่งในสาม..เทพลัทธิเต๋า คือ

    1. ที๊นก๊วน หรือ จักรพรรดิจื้อเว่ย เทพแห่งสรวงสวรรค์
    ผู้ประทานพรแห่งความสุข
    2. ตี๊ก๊วน หรือ จักรพรรดิชิงซวี เทพแห่งผืนแผ่นดิน
    ผู้ให้อภัย ขจัด ล้างบาป
    3. ชุ่นก๊วน หรือ จักรพรรดิตงหยิน เทพแห่งวารี
    ผู้ปัดเป่าความโชคร้าย

    ภาพพิมพ์ ที้นก๊วน หรือเทพจากสวรรค์
    มีค้างคาวสีชาดประดับรอบพระเศียร 5 ตัว ซึ่งเป็นตัวแทนของลาภอันประเสริฐ ทั้ง 5 ได้แก่ อายุยืนยาว ความมั่งคั่ง สุขภาพแข็งแรง ยึดมั่นในคุณธรรม และความสันติสุข

    --------------------------------------
    ภาพพิมพ์นี้ ต้นกำเนิดที่เมืองเทียนจิน มณฑลเหอเป่ย
    ปัจจุบัน อยู่ที่ British Museum ประเทศอังกฤษ





    ที้น ก๊วน ซี ฟุก หรือ 天官賜福 ในภาษาจีนกวางตุ้ง 天 ( tin1 ) แปลว่า สวรรค์ heavens หรือ เทพเจ้า God 官 ( gun1 ) แปลว่า เจ้าหน้าที่ หรือ official 賜 ( ci3 ) แปล ว่า ประทาน bestow หรือ give หรือ grant, 福 ( fuk1 ) แปลว่า พร blessing เป็นชื่อ หนึ่งในสาม..เทพลัทธิเต๋า คือ 1. ที๊นก๊วน หรือ จักรพรรดิจื้อเว่ย เทพแห่งสรวงสวรรค์ ผู้ประทานพรแห่งความสุข 2. ตี๊ก๊วน หรือ จักรพรรดิชิงซวี เทพแห่งผืนแผ่นดิน ผู้ให้อภัย ขจัด ล้างบาป 3. ชุ่นก๊วน หรือ จักรพรรดิตงหยิน เทพแห่งวารี ผู้ปัดเป่าความโชคร้าย ภาพพิมพ์ ที้นก๊วน หรือเทพจากสวรรค์ มีค้างคาวสีชาดประดับรอบพระเศียร 5 ตัว ซึ่งเป็นตัวแทนของลาภอันประเสริฐ ทั้ง 5 ได้แก่ อายุยืนยาว ความมั่งคั่ง สุขภาพแข็งแรง ยึดมั่นในคุณธรรม และความสันติสุข -------------------------------------- ภาพพิมพ์นี้ ต้นกำเนิดที่เมืองเทียนจิน มณฑลเหอเป่ย ปัจจุบัน อยู่ที่ British Museum ประเทศอังกฤษ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 147 มุมมอง 0 รีวิว
  • คุณงามความดี
    มีอยู่เชื่อมั่น
    เพียรพาบากบั่น
    หมั่นเพียรขวนขวาย

    สติให้มี
    ดีงามมุ่งหมาย
    สมาธิได้
    ให้ปัญญาธรรม

    ระวังกายใจ
    ไม่ให้บาปกรรม
    ดีงามศีลธรรม
    นำดับทุกข์ภัย
    คุณงามความดี มีอยู่เชื่อมั่น เพียรพาบากบั่น หมั่นเพียรขวนขวาย สติให้มี ดีงามมุ่งหมาย สมาธิได้ ให้ปัญญาธรรม ระวังกายใจ ไม่ให้บาปกรรม ดีงามศีลธรรม นำดับทุกข์ภัย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 รีวิว
  • สอบถามได้ครับ
    สอบถามได้ครับ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว
  • ที้น ก๊วน ซี ฟุก หรือ 天官賜福 เทพแห่งสวรรค์ ของชาวจีนกวางตุ้ง
    ที่ นิยมเขียนเป็นงานศิลปะ ติดไว้ในบ้านเพื่อเป็นสิริมงคล
    ที้น ก๊วน ซี ฟุก หรือ 天官賜福 เทพแห่งสวรรค์ ของชาวจีนกวางตุ้ง ที่ นิยมเขียนเป็นงานศิลปะ ติดไว้ในบ้านเพื่อเป็นสิริมงคล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • *****.....28.....ประสบการณ์จริง.....เหตุการณ์จริง.....ครบทุกด้าน.....เนื้อเงิน.....( กรรมการ ).....เลข.....459.....495.....รวมกันได้.....9.....*****

    *****.....ขอน้อมนำ.....3.....สิ่งศักดิ์สิทธิ์.....แห่งแดนใต้.....มารวมไว้.....ในเหรียญเดียวกัน.....รุ่น.....ไตรบารมี 56.....*****

    *****.....1.หลวงปู่ทวด.....เหยียบน้ำทะเลจืด.....*****
    *****.....2.พ่อท่าน คล้าย วาจาสิทธิ์.....*****
    *****.....3.ปลุกเสกภายใต้ร่มเงาบารมี.....พระบรมสารีริกธาตุ.....ของ.....สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า.....ประดิษฐานอยู่ที่.....วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร.....จ.นครศรีธรรมราช.....มานานนับ.....1,000.....ปี.....พระบารมีแผ่ไพศาล.....ไปทั้ง.....3....โลก.....*****

    *****.....line : oak_999.....หรือ.....โทร.....089-471-5666.....*****

    #พระเก๊มีทุกรุ่น #พระใหม่ดีกว่าพระเก๊แน่นอน #พระใหม่พิธีดี #เจตนาการสร้างดี #พระใหม่ยอดนิยม #พระสายใต้ #พระเครื่อง #พระเครื่องยอดนิยม #หลวงปู่ทวด #หลวงพ่อทวด #พ่อท่านคล้าย #ไตรบารมี56 #ทวดคล้าย #หน้าทวดหลังคล้าย #ประสบการณ์จริงเพียบ #รับประกันพระแท้ตลอดชีพ #ทุกเหรียญตอกโค๊ดตอกเลขรันนัมเบอร์
    *****.....28.....ประสบการณ์จริง.....เหตุการณ์จริง.....ครบทุกด้าน.....เนื้อเงิน.....( กรรมการ ).....เลข.....459.....495.....รวมกันได้.....9.....***** *****.....ขอน้อมนำ.....3.....สิ่งศักดิ์สิทธิ์.....แห่งแดนใต้.....มารวมไว้.....ในเหรียญเดียวกัน.....รุ่น.....ไตรบารมี 56.....***** *****.....1.หลวงปู่ทวด.....เหยียบน้ำทะเลจืด.....***** *****.....2.พ่อท่าน คล้าย วาจาสิทธิ์.....***** *****.....3.ปลุกเสกภายใต้ร่มเงาบารมี.....พระบรมสารีริกธาตุ.....ของ.....สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า.....ประดิษฐานอยู่ที่.....วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร.....จ.นครศรีธรรมราช.....มานานนับ.....1,000.....ปี.....พระบารมีแผ่ไพศาล.....ไปทั้ง.....3....โลก.....***** *****.....line : oak_999.....หรือ.....โทร.....089-471-5666.....***** #พระเก๊มีทุกรุ่น #พระใหม่ดีกว่าพระเก๊แน่นอน #พระใหม่พิธีดี #เจตนาการสร้างดี #พระใหม่ยอดนิยม #พระสายใต้ #พระเครื่อง #พระเครื่องยอดนิยม #หลวงปู่ทวด #หลวงพ่อทวด #พ่อท่านคล้าย #ไตรบารมี56 #ทวดคล้าย #หน้าทวดหลังคล้าย #ประสบการณ์จริงเพียบ #รับประกันพระแท้ตลอดชีพ #ทุกเหรียญตอกโค๊ดตอกเลขรันนัมเบอร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 290 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • Montage Technology ได้เปิดตัวชิปเซ็ต MRCD และ MDB รุ่นที่ 2 ซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของโมดูลหน่วยความจำ DDR5 MRDIMM ชิปเซ็ตใหม่นี้รองรับอัตราการส่งข้อมูลสูงสุดถึง 12800 MT/s ซึ่งช่วยให้ประสิทธิภาพหน่วยความจำสำหรับแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์รุ่นต่อไปดีขึ้นอย่างมาก

    MRDIMM (Multiplexed Rank DIMM) เหมาะสำหรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลและการประมวลผลที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่และการประมวลผลแบบเรียลไทม์

    การเปิดตัวนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สำคัญ เนื่องจาก AI และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่กำลังเพิ่มความต้องการแบนด์วิดท์หน่วยความจำในศูนย์ข้อมูล เทคโนโลยี MRDIMM ได้กลายเป็นโซลูชันสำคัญในการตอบสนองความท้าทายนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโปรเซสเซอร์เซิร์ฟเวอร์ยังคงเพิ่มจำนวนคอร์

    ชิป MRCD และ MDB รุ่นที่ 2 ของ Montage Technology มีสถาปัตยกรรมบัฟเฟอร์ "1+10" ซึ่งแต่ละโมดูล MRDIMM จะมี MRCD หนึ่งตัวและ MDB สิบตัว ในการกำหนดค่านี้ ชิป MRCD จะจัดการการบัฟเฟอร์และการขับเคลื่อนสัญญาณที่อยู่ คำสั่ง นาฬิกา และการควบคุม ในขณะที่ชิป MDB จะจัดการการจราจรข้อมูลระหว่างตัวควบคุมหน่วยความจำและชิป DRAM

    นอกจากนี้ Montage Technology ยังมีโซลูชันการสนับสนุนอินเทอร์เฟซหน่วยความจำและโมดูลที่ครอบคลุม รวมถึง RCD, DB, CKD, SPD Hub, PMIC และ TS ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดหาทุกอย่างได้ในที่เดียวและมั่นใจได้ว่าระบบจะทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    https://wccftech.com/montage-technology-unveils-2nd-generation-mrcd-mdb-chipsets/
    Montage Technology ได้เปิดตัวชิปเซ็ต MRCD และ MDB รุ่นที่ 2 ซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของโมดูลหน่วยความจำ DDR5 MRDIMM ชิปเซ็ตใหม่นี้รองรับอัตราการส่งข้อมูลสูงสุดถึง 12800 MT/s ซึ่งช่วยให้ประสิทธิภาพหน่วยความจำสำหรับแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์รุ่นต่อไปดีขึ้นอย่างมาก MRDIMM (Multiplexed Rank DIMM) เหมาะสำหรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลและการประมวลผลที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่และการประมวลผลแบบเรียลไทม์ การเปิดตัวนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สำคัญ เนื่องจาก AI และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่กำลังเพิ่มความต้องการแบนด์วิดท์หน่วยความจำในศูนย์ข้อมูล เทคโนโลยี MRDIMM ได้กลายเป็นโซลูชันสำคัญในการตอบสนองความท้าทายนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโปรเซสเซอร์เซิร์ฟเวอร์ยังคงเพิ่มจำนวนคอร์ ชิป MRCD และ MDB รุ่นที่ 2 ของ Montage Technology มีสถาปัตยกรรมบัฟเฟอร์ "1+10" ซึ่งแต่ละโมดูล MRDIMM จะมี MRCD หนึ่งตัวและ MDB สิบตัว ในการกำหนดค่านี้ ชิป MRCD จะจัดการการบัฟเฟอร์และการขับเคลื่อนสัญญาณที่อยู่ คำสั่ง นาฬิกา และการควบคุม ในขณะที่ชิป MDB จะจัดการการจราจรข้อมูลระหว่างตัวควบคุมหน่วยความจำและชิป DRAM นอกจากนี้ Montage Technology ยังมีโซลูชันการสนับสนุนอินเทอร์เฟซหน่วยความจำและโมดูลที่ครอบคลุม รวมถึง RCD, DB, CKD, SPD Hub, PMIC และ TS ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดหาทุกอย่างได้ในที่เดียวและมั่นใจได้ว่าระบบจะทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ https://wccftech.com/montage-technology-unveils-2nd-generation-mrcd-mdb-chipsets/
    WCCFTECH.COM
    Montage Technology Unveils 2nd-Generation MRCD & MDB Chipsets, Designed For Fueling Performance Of DDR5 MRDIMM Memory Modules
    Montage Technology, the Chinese semiconductor design company, has announced successful sampling of 2nd Gen MRCD and MDB chipsets.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • Meta ได้เปิดตัวเทคโนโลยีการแปลภาษาใหม่ที่ชื่อว่า SeamlessM4T ซึ่งสามารถแปลได้ถึง 101 ภาษา เทคโนโลยีนี้สามารถแปลได้ทั้งข้อความเป็นข้อความ, เสียงเป็นข้อความ, เสียงเป็นเสียง, และข้อความเป็นเสียง SeamlessM4T ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาของระบบการแปลแบบดั้งเดิมที่ต้องใช้ระบบย่อยหลายระบบในการแปล Meta อ้างว่า SeamlessM4T มีความแม่นยำในการแปลสูงถึง 23% และสามารถทนต่อเสียงรบกวนและความแตกต่างของผู้พูดได้ดี

    ทีมงานของ Meta ได้ใช้ข้อมูลเสียงดิบหลายภาษามากกว่า 4 ล้านชั่วโมงในการพัฒนา SeamlessM4T และได้สร้างฐานข้อมูล SeamlessAlign ที่มีข้อมูลเสียงที่สอดคล้องกันมากกว่า 470,000 ชั่วโมง เทคโนโลยีนี้ยังใช้เทคนิคการเรียนรู้ของเครื่องที่ทันสมัย เช่น SONAR ซึ่งช่วยให้การเข้ารหัสหลายภาษาและหลายรูปแบบสำหรับข้อความและเสียง

    Meta ยังได้กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาทางสังคมและจริยธรรมผ่านการใช้มาตรการป้องกัน เช่น การลดความลำเอียงทางเพศและการลดปัญหาคำหยาบคายที่เพิ่มขึ้นในการแปล

    https://www.techradar.com/pro/universal-translators-are-tantalizing-close-as-facebooks-meta-reveals-its-tech-can-translate-between-101-languages
    Meta ได้เปิดตัวเทคโนโลยีการแปลภาษาใหม่ที่ชื่อว่า SeamlessM4T ซึ่งสามารถแปลได้ถึง 101 ภาษา เทคโนโลยีนี้สามารถแปลได้ทั้งข้อความเป็นข้อความ, เสียงเป็นข้อความ, เสียงเป็นเสียง, และข้อความเป็นเสียง SeamlessM4T ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาของระบบการแปลแบบดั้งเดิมที่ต้องใช้ระบบย่อยหลายระบบในการแปล Meta อ้างว่า SeamlessM4T มีความแม่นยำในการแปลสูงถึง 23% และสามารถทนต่อเสียงรบกวนและความแตกต่างของผู้พูดได้ดี ทีมงานของ Meta ได้ใช้ข้อมูลเสียงดิบหลายภาษามากกว่า 4 ล้านชั่วโมงในการพัฒนา SeamlessM4T และได้สร้างฐานข้อมูล SeamlessAlign ที่มีข้อมูลเสียงที่สอดคล้องกันมากกว่า 470,000 ชั่วโมง เทคโนโลยีนี้ยังใช้เทคนิคการเรียนรู้ของเครื่องที่ทันสมัย เช่น SONAR ซึ่งช่วยให้การเข้ารหัสหลายภาษาและหลายรูปแบบสำหรับข้อความและเสียง Meta ยังได้กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาทางสังคมและจริยธรรมผ่านการใช้มาตรการป้องกัน เช่น การลดความลำเอียงทางเพศและการลดปัญหาคำหยาบคายที่เพิ่มขึ้นในการแปล https://www.techradar.com/pro/universal-translators-are-tantalizing-close-as-facebooks-meta-reveals-its-tech-can-translate-between-101-languages
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 221 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้เปิดตัวแอป Gemini ที่สามารถควบคุมบ้านอัจฉริยะผ่านส่วนขยายของ Google Home แอปนี้สามารถเข้าใจภาษาธรรมชาติและทำงานตามคำสั่งที่ผู้ใช้พูดได้ เช่น ถ้าคุณบอกว่า "แสงสว่างเกินไป" Gemini จะหรี่ไฟให้โดยไม่ต้องระบุระดับแสงที่ต้องการ นอกจากนี้ยังสามารถจัดการอุปกรณ์หลายตัวพร้อมกันได้ด้วยภาษาที่ไม่เป็นทางการ เช่น "หรี่ไฟในห้องนั่งเล่น เปิดโคมไฟในห้องนอน และลดม่านลง" Gemini จะเข้าใจและทำตามคำสั่งทั้งหมดนี้ได้

    Gemini ยังสามารถควบคุมการเล่นสื่อ เช่น ปรับระดับเสียงและการเล่นเพลงหรือวิดีโอ และสามารถเปิดแอป Google Home อัตโนมัติเมื่อมีการจัดการกล้องและล็อคเพื่อความปลอดภัยของข้อมูล นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่สามารถตอบคำถามเช่น "ฉันทิ้งไฟหน้าบ้านเปิดไว้หรือเปล่า" Gemini จะตรวจสอบและแจ้งให้คุณทราบ

    Google หวังว่า Gemini จะทำให้บ้านอัจฉริยะมีความสะดวกสบายและง่ายต่อการจัดการมากขึ้น และในอนาคตอาจมีการพัฒนาให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้มากขึ้น เช่น ถ้าคุณบอกว่า "ฉันเครียด" บ้านอาจจะชงชาให้คุณ หรี่ไฟ และเปิดเพลงผ่อนคลาย

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/google-gemini-is-your-new-smart-home-butler
    Google ได้เปิดตัวแอป Gemini ที่สามารถควบคุมบ้านอัจฉริยะผ่านส่วนขยายของ Google Home แอปนี้สามารถเข้าใจภาษาธรรมชาติและทำงานตามคำสั่งที่ผู้ใช้พูดได้ เช่น ถ้าคุณบอกว่า "แสงสว่างเกินไป" Gemini จะหรี่ไฟให้โดยไม่ต้องระบุระดับแสงที่ต้องการ นอกจากนี้ยังสามารถจัดการอุปกรณ์หลายตัวพร้อมกันได้ด้วยภาษาที่ไม่เป็นทางการ เช่น "หรี่ไฟในห้องนั่งเล่น เปิดโคมไฟในห้องนอน และลดม่านลง" Gemini จะเข้าใจและทำตามคำสั่งทั้งหมดนี้ได้ Gemini ยังสามารถควบคุมการเล่นสื่อ เช่น ปรับระดับเสียงและการเล่นเพลงหรือวิดีโอ และสามารถเปิดแอป Google Home อัตโนมัติเมื่อมีการจัดการกล้องและล็อคเพื่อความปลอดภัยของข้อมูล นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่สามารถตอบคำถามเช่น "ฉันทิ้งไฟหน้าบ้านเปิดไว้หรือเปล่า" Gemini จะตรวจสอบและแจ้งให้คุณทราบ Google หวังว่า Gemini จะทำให้บ้านอัจฉริยะมีความสะดวกสบายและง่ายต่อการจัดการมากขึ้น และในอนาคตอาจมีการพัฒนาให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้มากขึ้น เช่น ถ้าคุณบอกว่า "ฉันเครียด" บ้านอาจจะชงชาให้คุณ หรี่ไฟ และเปิดเพลงผ่อนคลาย https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/google-gemini-is-your-new-smart-home-butler
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 184 มุมมอง 0 รีวิว
  • อินเดียกำลังจะเปิดตัวชิปที่ผลิตในประเทศเป็นครั้งแรกในปีนี้! ข่าวนี้ถูกประกาศในงาน World Economic Forum ที่เมืองดาวอส โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศของอินเดีย, Ashwini Vaishnaw, ได้กล่าวว่า ชิปนี้จะเป็นชิปขนาด 28 นาโนเมตร ซึ่งเป็นก้าวสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของอินเดีย

    แม้ว่าชิปขนาด 28 นาโนเมตรจะดูเหมือนล้าสมัยเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีล่าสุด แต่การพัฒนานี้เป็นก้าวแรกที่สำคัญสำหรับอินเดียในการสร้างอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของตนเอง นอกจากนี้ อินเดียยังมีแผนที่จะพัฒนาอุปกรณ์และวัสดุที่ใช้ในการผลิตชิปให้มีความบริสุทธิ์สูงขึ้น เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้

    นอกจากนี้ อินเดียยังมีโครงการ AI Mission ที่มีเป้าหมายในการสร้างโมเดล AI และชิป AI ที่ผลิตในประเทศเอง ซึ่งจะใช้ GPU จำนวน 10,000 ตัวในการประมวลผล การพัฒนาเหล่านี้จะช่วยให้อินเดียสามารถแข่งขันในตลาดเทคโนโลยีระดับโลกได้มากขึ้น

    ประเทศเราเอาอะไรไปโชว์มั่งครับเนี่ยะ !!?

    https://www.techpowerup.com/331586/first-made-in-india-chip-projected-to-launch-this-year
    อินเดียกำลังจะเปิดตัวชิปที่ผลิตในประเทศเป็นครั้งแรกในปีนี้! ข่าวนี้ถูกประกาศในงาน World Economic Forum ที่เมืองดาวอส โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศของอินเดีย, Ashwini Vaishnaw, ได้กล่าวว่า ชิปนี้จะเป็นชิปขนาด 28 นาโนเมตร ซึ่งเป็นก้าวสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของอินเดีย แม้ว่าชิปขนาด 28 นาโนเมตรจะดูเหมือนล้าสมัยเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีล่าสุด แต่การพัฒนานี้เป็นก้าวแรกที่สำคัญสำหรับอินเดียในการสร้างอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของตนเอง นอกจากนี้ อินเดียยังมีแผนที่จะพัฒนาอุปกรณ์และวัสดุที่ใช้ในการผลิตชิปให้มีความบริสุทธิ์สูงขึ้น เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ อินเดียยังมีโครงการ AI Mission ที่มีเป้าหมายในการสร้างโมเดล AI และชิป AI ที่ผลิตในประเทศเอง ซึ่งจะใช้ GPU จำนวน 10,000 ตัวในการประมวลผล การพัฒนาเหล่านี้จะช่วยให้อินเดียสามารถแข่งขันในตลาดเทคโนโลยีระดับโลกได้มากขึ้น ประเทศเราเอาอะไรไปโชว์มั่งครับเนี่ยะ !!? https://www.techpowerup.com/331586/first-made-in-india-chip-projected-to-launch-this-year
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    First "Made in India" Chip Projected to Launch This Year
    Mid-week—at the World Economic Forum in Davos—India's government announced that its native semiconductor industry will release its debut product at some point this year. A similar announcement was made at last year's event, but the reported 28 nm "Made in India" chip would eventually miss its (then)...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 154 มุมมอง 0 รีวิว
  • มันถูกพิสูจน์แล้วว่าจริง จนเป็นทฤษฏีทางจิตวิทยาเลย..ส่วนตัวเท่าที่สัมผัสมา ก็จริง...ตามนั้น...คือ สร้างเกราะไว้ปกปิดความเป็นตัวเอง.
    มันถูกพิสูจน์แล้วว่าจริง จนเป็นทฤษฏีทางจิตวิทยาเลย..ส่วนตัวเท่าที่สัมผัสมา ก็จริง...ตามนั้น...คือ สร้างเกราะไว้ปกปิดความเป็นตัวเอง.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 81 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีข่าวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการผลิตหน่วยความจำ HBM (High-Bandwidth Memory) ในประเทศจีน! บริษัท Tongfu Microelectronics ได้เริ่มผลิตหน่วยความจำ HBM สำหรับโปรเซสเซอร์ AI และ HPC (High-Performance Computing) โดย Tongfu Microelectronics เป็นบริษัทที่สามในจีนที่เข้าร่วมการผลิต HBM ต่อจาก CXMT และ Wuhan Xinxin

    Tongfu Microelectronics ไม่ใช่ผู้ผลิต DRAM โดยตรง แต่เป็นผู้ให้บริการประกอบและทดสอบเซมิคอนดักเตอร์ที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก โดยมีลูกค้าหลักคือ AMD ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทนี้ด้วย Tongfu Microelectronics ได้เริ่มทดสอบผลิตภัณฑ์ HBM2 กับลูกค้าบางรายแล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าระบบนิเวศที่จำเป็นสำหรับการผลิตหน่วยความจำประเภทนี้กำลังพัฒนา

    หน่วยความจำ HBM ใช้การออกแบบ DRAM ที่ซ้อนกันบนฐานและเชื่อมต่อกันผ่านทาง TSVs (Through-Silicon Vias). Tongfu Microelectronics ไม่ได้ผลิต DRAM หรือฐานเอง แต่จะประกอบและทดสอบส่วนประกอบเหล่านี้ให้เป็น HBM2 ที่สามารถใช้กับโปรเซสเซอร์ต่างๆ ได้

    นอกจากนี้ Tongfu Microelectronics ยังมีประวัติที่น่าสนใจ ในปี 2015 AMD เกือบจะล้มละลาย จึงได้ตกลงร่วมทุนกับ Nantong Fujitsu Microelectronics (NFME) และสร้างบริษัทใหม่ชื่อว่า AMD's Assembly, Test, Mark, and Packaging (ATMP) ต่อมา NFME ได้รวมเข้ากับ Tongfu Microelectronics ผ่านการปรับโครงสร้างองค์กร และตอนนี้ Tongfu Microelectronics จัดการร่วมทุน TF-AMD ร่วมกับ AMD

    การพัฒนานี้เป็นก้าวสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมหน่วยความจำในจีน และจะช่วยให้จีนสามารถแข่งขันในตลาดเทคโนโลยีระดับโลกได้มากขึ้น

    https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/third-chinese-company-begins-hbm-memory-production-for-ai-processors-report
    มีข่าวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการผลิตหน่วยความจำ HBM (High-Bandwidth Memory) ในประเทศจีน! บริษัท Tongfu Microelectronics ได้เริ่มผลิตหน่วยความจำ HBM สำหรับโปรเซสเซอร์ AI และ HPC (High-Performance Computing) โดย Tongfu Microelectronics เป็นบริษัทที่สามในจีนที่เข้าร่วมการผลิต HBM ต่อจาก CXMT และ Wuhan Xinxin Tongfu Microelectronics ไม่ใช่ผู้ผลิต DRAM โดยตรง แต่เป็นผู้ให้บริการประกอบและทดสอบเซมิคอนดักเตอร์ที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก โดยมีลูกค้าหลักคือ AMD ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทนี้ด้วย Tongfu Microelectronics ได้เริ่มทดสอบผลิตภัณฑ์ HBM2 กับลูกค้าบางรายแล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าระบบนิเวศที่จำเป็นสำหรับการผลิตหน่วยความจำประเภทนี้กำลังพัฒนา หน่วยความจำ HBM ใช้การออกแบบ DRAM ที่ซ้อนกันบนฐานและเชื่อมต่อกันผ่านทาง TSVs (Through-Silicon Vias). Tongfu Microelectronics ไม่ได้ผลิต DRAM หรือฐานเอง แต่จะประกอบและทดสอบส่วนประกอบเหล่านี้ให้เป็น HBM2 ที่สามารถใช้กับโปรเซสเซอร์ต่างๆ ได้ นอกจากนี้ Tongfu Microelectronics ยังมีประวัติที่น่าสนใจ ในปี 2015 AMD เกือบจะล้มละลาย จึงได้ตกลงร่วมทุนกับ Nantong Fujitsu Microelectronics (NFME) และสร้างบริษัทใหม่ชื่อว่า AMD's Assembly, Test, Mark, and Packaging (ATMP) ต่อมา NFME ได้รวมเข้ากับ Tongfu Microelectronics ผ่านการปรับโครงสร้างองค์กร และตอนนี้ Tongfu Microelectronics จัดการร่วมทุน TF-AMD ร่วมกับ AMD การพัฒนานี้เป็นก้าวสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมหน่วยความจำในจีน และจะช่วยให้จีนสามารถแข่งขันในตลาดเทคโนโลยีระดับโลกได้มากขึ้น https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/third-chinese-company-begins-hbm-memory-production-for-ai-processors-report
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Third Chinese company begins HBM memory production for AI processors: Report
    Tongfu Microelectronics joins CXMT and Wuhan Xinxin in HBM production for Chinese developers of AI processors.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 222 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้ผลิตการ์ดจอได้เพิ่มแผ่นระบายความร้อนบนขั้วต่อ 16-pin ของ RTX 5090 เพื่อช่วยกระจายความร้อนส่วนเกิน การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นเนื่องจากปัญหาขั้วต่อ 16-pin ละลายในรุ่นก่อนหน้านี้ ซึ่งทำให้ลูกค้าหลายคนกังวล ผู้ผลิตอย่าง Asus และ MSI ได้เพิ่มมาตรการความปลอดภัยเพิ่มเติมโดยการติดตั้งแผ่นระบายความร้อนบนด้านหลังของขั้วต่อ เพื่อช่วยในการถ่ายเทความร้อนไปยังแผ่นโลหะด้านหลัง

    การ์ดจอรุ่น ROG Astral GeForce RTX 5090, GeForce RTX 5090 32G Suprim SOC, และ GeForce RTX 5090 32G Suprim Liquid SOC มีแผ่นระบายความร้อนนี้ Nvidia เป็นผู้ผลิต GPU รายแรกที่นำขั้วต่อ 16-pin มาใช้ในการ์ดจอรุ่นหลัก. ขั้วต่อรุ่นแรกที่เรียกว่า 12VHPWR มีข้อบกพร่องที่สำคัญ การเชื่อมต่อที่ไม่ถูกต้องจะเพิ่มความต้านทานและความร้อน ทำให้ขั้วต่อละลาย แต่ขั้วต่อรุ่นใหม่ 12V-2x6 ได้แก้ไขปัญหานี้และสามารถรักษาอุณหภูมิให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยได้แม้จะเชื่อมต่อไม่สมบูรณ์.

    นอกจากนี้ ผู้ผลิตอย่าง MSI และ Zotac ยังได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าสายเคเบิลถูกติดตั้งอย่างถูกต้อง. สายเคเบิลของ MSI มีปลายสีเหลืองเป็นสัญลักษณ์บอกว่าถ้ายังเห็นสีเหลืองหลังจากเชื่อมต่อ แสดงว่าสายเคเบิลยังไม่ถูกติดตั้งอย่างถูกต้อง ส่วน Zotac มีวิธีที่แน่นอนยิ่งขึ้น โดยจะป้องกันไม่ให้ GPU ทำงานถ้าสายเคเบิลหลวม

    การพัฒนาเหล่านี้ทำให้การ์ดจอ RTX 50 series มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น และช่วยลดปัญหาการละลายของขั้วต่อ การ์ดจอรุ่นใหม่เหล่านี้ยังสามารถรองรับ TDP ที่สูงขึ้นและช่วยลดความยุ่งเหยิงของสายเคเบิลได้อีกด้วย

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/vendors-safeguard-16-pin-connector-on-rtx-5090-with-thermal-pads-helps-dissipate-excess-heat
    ผู้ผลิตการ์ดจอได้เพิ่มแผ่นระบายความร้อนบนขั้วต่อ 16-pin ของ RTX 5090 เพื่อช่วยกระจายความร้อนส่วนเกิน การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นเนื่องจากปัญหาขั้วต่อ 16-pin ละลายในรุ่นก่อนหน้านี้ ซึ่งทำให้ลูกค้าหลายคนกังวล ผู้ผลิตอย่าง Asus และ MSI ได้เพิ่มมาตรการความปลอดภัยเพิ่มเติมโดยการติดตั้งแผ่นระบายความร้อนบนด้านหลังของขั้วต่อ เพื่อช่วยในการถ่ายเทความร้อนไปยังแผ่นโลหะด้านหลัง การ์ดจอรุ่น ROG Astral GeForce RTX 5090, GeForce RTX 5090 32G Suprim SOC, และ GeForce RTX 5090 32G Suprim Liquid SOC มีแผ่นระบายความร้อนนี้ Nvidia เป็นผู้ผลิต GPU รายแรกที่นำขั้วต่อ 16-pin มาใช้ในการ์ดจอรุ่นหลัก. ขั้วต่อรุ่นแรกที่เรียกว่า 12VHPWR มีข้อบกพร่องที่สำคัญ การเชื่อมต่อที่ไม่ถูกต้องจะเพิ่มความต้านทานและความร้อน ทำให้ขั้วต่อละลาย แต่ขั้วต่อรุ่นใหม่ 12V-2x6 ได้แก้ไขปัญหานี้และสามารถรักษาอุณหภูมิให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยได้แม้จะเชื่อมต่อไม่สมบูรณ์. นอกจากนี้ ผู้ผลิตอย่าง MSI และ Zotac ยังได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าสายเคเบิลถูกติดตั้งอย่างถูกต้อง. สายเคเบิลของ MSI มีปลายสีเหลืองเป็นสัญลักษณ์บอกว่าถ้ายังเห็นสีเหลืองหลังจากเชื่อมต่อ แสดงว่าสายเคเบิลยังไม่ถูกติดตั้งอย่างถูกต้อง ส่วน Zotac มีวิธีที่แน่นอนยิ่งขึ้น โดยจะป้องกันไม่ให้ GPU ทำงานถ้าสายเคเบิลหลวม การพัฒนาเหล่านี้ทำให้การ์ดจอ RTX 50 series มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น และช่วยลดปัญหาการละลายของขั้วต่อ การ์ดจอรุ่นใหม่เหล่านี้ยังสามารถรองรับ TDP ที่สูงขึ้นและช่วยลดความยุ่งเหยิงของสายเคเบิลได้อีกด้วย https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/vendors-safeguard-16-pin-connector-on-rtx-5090-with-thermal-pads-helps-dissipate-excess-heat
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Vendors safeguard 16-pin connector on RTX 5090 with thermal pads — helps dissipate excess heat
    Another safety measure to prevent the 16-pin power connector from overheating
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 165 มุมมอง 0 รีวิว
  • Ayaneo ได้เปิดตัวเครื่องเล่นเกมพกพารุ่นใหม่ที่ชื่อว่า Ayaneo 3 ซึ่งมีการออกแบบคอนโทรลเลอร์แบบโมดูลาร์ที่สามารถปรับแต่งได้ถึง 56 รูปแบบ! คุณสามารถเลือกใช้โมดูลต่างๆ เช่น โมดูลมาตรฐานที่มีจอยสติ๊กและปุ่ม ABXY, โมดูลทัชแพดที่แทนที่จอยสติ๊กด้วยทัชแพด, และโมดูลต่อสู้ที่แทนที่ปุ่ม ABXY และจอยสติ๊กด้วยปุ่มหกปุ่ม

    นอกจากนี้ Ayaneo 3 ยังใช้โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen AI 9 HX 370 ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องเล่นเกมพกพาแรกที่ใช้โปรเซสเซอร์นี้ คุณยังสามารถเลือกใช้โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen 7 8840U ถ้าคุณไม่ต้องการพลังงานมากนัก หน้าจอมีให้เลือกทั้งแบบ OLED 144 Hz และ LCD 120 Hz โดยมีความสว่างสูงสุดถึง 800 nits สำหรับหน้าจอ OLED

    เครื่องเล่นเกมนี้มีหลายรุ่นให้เลือก โดยเริ่มต้นที่ราคา $699 สำหรับรุ่นพื้นฐาน และสูงสุดถึง $2,099 สำหรับรุ่นที่มีสเปคสูงสุด Ayaneo ยังมีส่วนลดระหว่าง $200 ถึง $300 ถ้าคุณซื้อในช่วงแคมเปญ

    https://www.tomshardware.com/video-games/handheld-gaming/zen-5-powered-gaming-handheld-launches-with-modular-controller-design-ayaneo-3-starts-at-usd699
    Ayaneo ได้เปิดตัวเครื่องเล่นเกมพกพารุ่นใหม่ที่ชื่อว่า Ayaneo 3 ซึ่งมีการออกแบบคอนโทรลเลอร์แบบโมดูลาร์ที่สามารถปรับแต่งได้ถึง 56 รูปแบบ! คุณสามารถเลือกใช้โมดูลต่างๆ เช่น โมดูลมาตรฐานที่มีจอยสติ๊กและปุ่ม ABXY, โมดูลทัชแพดที่แทนที่จอยสติ๊กด้วยทัชแพด, และโมดูลต่อสู้ที่แทนที่ปุ่ม ABXY และจอยสติ๊กด้วยปุ่มหกปุ่ม นอกจากนี้ Ayaneo 3 ยังใช้โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen AI 9 HX 370 ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องเล่นเกมพกพาแรกที่ใช้โปรเซสเซอร์นี้ คุณยังสามารถเลือกใช้โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen 7 8840U ถ้าคุณไม่ต้องการพลังงานมากนัก หน้าจอมีให้เลือกทั้งแบบ OLED 144 Hz และ LCD 120 Hz โดยมีความสว่างสูงสุดถึง 800 nits สำหรับหน้าจอ OLED เครื่องเล่นเกมนี้มีหลายรุ่นให้เลือก โดยเริ่มต้นที่ราคา $699 สำหรับรุ่นพื้นฐาน และสูงสุดถึง $2,099 สำหรับรุ่นที่มีสเปคสูงสุด Ayaneo ยังมีส่วนลดระหว่าง $200 ถึง $300 ถ้าคุณซื้อในช่วงแคมเปญ https://www.tomshardware.com/video-games/handheld-gaming/zen-5-powered-gaming-handheld-launches-with-modular-controller-design-ayaneo-3-starts-at-usd699
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Zen 5-powered gaming handheld launches with modular controller design — Ayaneo 3 starts at $699
    This one handheld console could give you as many as 56 different controller layouts.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 182 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักเรียนมัธยมปลายสร้างแล็ปท็อปโอเพ่นซอร์สในเวลาเพียง 6 เดือน! Bryan Huang นักเรียนจาก Phillips Exeter Academy ได้สร้างแล็ปท็อปที่ชื่อว่า "anyon_e" ซึ่งมีหน้าจอ 4K AMOLED, คีย์บอร์ด Cherry MX และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานถึง 7 ชั่วโมง

    Bryan ต้องการสร้างแล็ปท็อปที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับแล็ปท็อปเชิงพาณิชย์ที่บางและเบา โดยใช้ชิป Rockchip RK3588 ซึ่งเป็นชิปที่เร็วที่สุดในตลาดสำหรับผู้บริโภคทั่วไป หน้าจอ 4K AMOLED ขนาด 13.3 นิ้วจาก Samsung ที่ใช้ในแล็ปท็อปนี้ยังพบในแล็ปท็อปของ Asus หลายรุ่นด้วย

    นอกจากนี้ Bryan ยังได้ออกแบบคีย์บอร์ดเชิงกลที่สามารถถอดออกมาใช้เป็นคีย์บอร์ดไร้สายได้ และใช้ทัชแพดที่มีพื้นผิวกระจกและรองรับการสัมผัสหลายจุด เขายังใช้ชิ้นส่วนจากแหล่งต่างๆ เช่น แบตเตอรี่จาก AA Portable Power Corp. และบานพับหน้าจอจาก Framework Laptop 13

    การสร้างแล็ปท็อปนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย Bryan ต้องแก้ปัญหาหลายอย่าง เช่น การขับเคลื่อนหน้าจอ 4K ผ่าน eDP 1.4 ซึ่งเขาแก้ไขได้โดยการลดความยาวระหว่าง CPU และหน้าจอ นอกจากนี้เขายังต้องสร้างเมนบอร์ดและโครงอลูมิเนียม CNC เอง

    แล็ปท็อป anyon_e นี้สามารถบูตได้เร็วกว่า MacBook Pro ของ Bryan เองถึงสามวินาที และเนื่องจากเป็นโครงการโอเพ่นซอร์ส ใครก็ตามที่มีความรู้และอุปกรณ์สามารถสร้างแล็ปท็อปนี้ได้ตามกระบวนการของเขา

    https://www.tomshardware.com/laptops/student-builds-open-source-laptop-in-6-months-uses-4k-amoled-screen-and-has-7h-battery-life
    นักเรียนมัธยมปลายสร้างแล็ปท็อปโอเพ่นซอร์สในเวลาเพียง 6 เดือน! Bryan Huang นักเรียนจาก Phillips Exeter Academy ได้สร้างแล็ปท็อปที่ชื่อว่า "anyon_e" ซึ่งมีหน้าจอ 4K AMOLED, คีย์บอร์ด Cherry MX และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานถึง 7 ชั่วโมง Bryan ต้องการสร้างแล็ปท็อปที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับแล็ปท็อปเชิงพาณิชย์ที่บางและเบา โดยใช้ชิป Rockchip RK3588 ซึ่งเป็นชิปที่เร็วที่สุดในตลาดสำหรับผู้บริโภคทั่วไป หน้าจอ 4K AMOLED ขนาด 13.3 นิ้วจาก Samsung ที่ใช้ในแล็ปท็อปนี้ยังพบในแล็ปท็อปของ Asus หลายรุ่นด้วย นอกจากนี้ Bryan ยังได้ออกแบบคีย์บอร์ดเชิงกลที่สามารถถอดออกมาใช้เป็นคีย์บอร์ดไร้สายได้ และใช้ทัชแพดที่มีพื้นผิวกระจกและรองรับการสัมผัสหลายจุด เขายังใช้ชิ้นส่วนจากแหล่งต่างๆ เช่น แบตเตอรี่จาก AA Portable Power Corp. และบานพับหน้าจอจาก Framework Laptop 13 การสร้างแล็ปท็อปนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย Bryan ต้องแก้ปัญหาหลายอย่าง เช่น การขับเคลื่อนหน้าจอ 4K ผ่าน eDP 1.4 ซึ่งเขาแก้ไขได้โดยการลดความยาวระหว่าง CPU และหน้าจอ นอกจากนี้เขายังต้องสร้างเมนบอร์ดและโครงอลูมิเนียม CNC เอง แล็ปท็อป anyon_e นี้สามารถบูตได้เร็วกว่า MacBook Pro ของ Bryan เองถึงสามวินาที และเนื่องจากเป็นโครงการโอเพ่นซอร์ส ใครก็ตามที่มีความรู้และอุปกรณ์สามารถสร้างแล็ปท็อปนี้ได้ตามกระบวนการของเขา https://www.tomshardware.com/laptops/student-builds-open-source-laptop-in-6-months-uses-4k-amoled-screen-and-has-7h-battery-life
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Student builds open-source laptop with 4K AMOLED display in 6 months
    This student project is even better than some entry-level laptops.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 187 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีข่าวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการทดสอบ AI ที่เรียกว่า "Humanity's Last Exam" ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อทดสอบความสามารถของระบบ AI ในการตอบคำถามที่ซับซ้อนในหลากหลายสาขาวิชา เช่น ปรัชญาเชิงวิเคราะห์และวิศวกรรมจรวด การทดสอบนี้ประกอบด้วยคำถามแบบหลายตัวเลือกและคำถามแบบตอบสั้นๆ ประมาณ 3,000 ข้อ

    Dan Hendrycks, นักวิจัยด้านความปลอดภัยของ AI และผู้อำนวยการของ Center for AI Safety, ได้ร่วมมือกับ Scale AI ในการสร้างการทดสอบนี้ คำถามถูกส่งโดยผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ เช่น อาจารย์มหาวิทยาลัยและนักคณิตศาสตร์ที่ได้รับรางวัล การทดสอบนี้มีเป้าหมายเพื่อวัดความสามารถของ AI ในการตอบคำถามที่ซับซ้อนและให้คะแนนความฉลาดทั่วไปของ AI

    การทดสอบนี้ถูกนำไปใช้กับโมเดล AI ชั้นนำ 6 โมเดล รวมถึง Google’s Gemini 1.5 Pro และ Anthropic’s Claude 3.5 Sonnet ผลลัพธ์ที่ได้คือทุกโมเดลล้มเหลวในการทดสอบนี้ โดยโมเดลของ OpenAI ได้คะแนนสูงสุดที่ 8.3% Hendrycks คาดว่าคะแนนเหล่านี้จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและอาจเกิน 50% ภายในสิ้นปีนี้

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/24/opinion-when-ai-passes-this-test-look-out
    มีข่าวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการทดสอบ AI ที่เรียกว่า "Humanity's Last Exam" ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อทดสอบความสามารถของระบบ AI ในการตอบคำถามที่ซับซ้อนในหลากหลายสาขาวิชา เช่น ปรัชญาเชิงวิเคราะห์และวิศวกรรมจรวด การทดสอบนี้ประกอบด้วยคำถามแบบหลายตัวเลือกและคำถามแบบตอบสั้นๆ ประมาณ 3,000 ข้อ Dan Hendrycks, นักวิจัยด้านความปลอดภัยของ AI และผู้อำนวยการของ Center for AI Safety, ได้ร่วมมือกับ Scale AI ในการสร้างการทดสอบนี้ คำถามถูกส่งโดยผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ เช่น อาจารย์มหาวิทยาลัยและนักคณิตศาสตร์ที่ได้รับรางวัล การทดสอบนี้มีเป้าหมายเพื่อวัดความสามารถของ AI ในการตอบคำถามที่ซับซ้อนและให้คะแนนความฉลาดทั่วไปของ AI การทดสอบนี้ถูกนำไปใช้กับโมเดล AI ชั้นนำ 6 โมเดล รวมถึง Google’s Gemini 1.5 Pro และ Anthropic’s Claude 3.5 Sonnet ผลลัพธ์ที่ได้คือทุกโมเดลล้มเหลวในการทดสอบนี้ โดยโมเดลของ OpenAI ได้คะแนนสูงสุดที่ 8.3% Hendrycks คาดว่าคะแนนเหล่านี้จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและอาจเกิน 50% ภายในสิ้นปีนี้ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/24/opinion-when-ai-passes-this-test-look-out
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Opinion: When AI passes this test, look out
    If you’re looking for a new reason to be nervous about artificial intelligence, try this: Some of the smartest humans in the world are struggling to create tests that AI systems can’t pass.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 277 มุมมอง 0 รีวิว
  • Meta กำลังทดสอบการแสดงโฆษณาบนแพลตฟอร์ม Threads ในสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น! การทดสอบนี้เริ่มต้นในวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยจะมีโฆษณาภาพปรากฏในฟีดหน้าแรกของ Threads สำหรับผู้ใช้บางส่วน Meta จะติดตามผลการทดสอบอย่างใกล้ชิดก่อนที่จะขยายการแสดงโฆษณาให้กว้างขึ้น นอกจากนี้ ธุรกิจยังสามารถขยายแคมเปญโฆษณาที่มีอยู่ใน Meta ไปยัง Threads ได้ด้วย

    Meta ยังได้เริ่มทดสอบฟิลเตอร์สำหรับโฆษณาใน Threads ซึ่งใช้ AI เพื่อให้ผู้ลงโฆษณาสามารถควบคุมระดับความไวของเนื้อหาที่โฆษณาของพวกเขาปรากฏอยู่ข้างๆ การเปิดตัวโฆษณาบน Threads เกิดขึ้นหลังจากที่ Meta ได้ปรับปรุงการตรวจสอบเนื้อหา ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงโฆษณาบางรายกังวล แต่ความไม่แน่นอนที่ TikTok ทำให้แบรนด์ต่างๆ มองหาทางเลือกอื่น และ Meta ก็ไม่พลาดโอกาสที่จะนำ Threads เข้ามาในตลาด

    Threads ถูกเปิดตัวในเดือนกรกฎาคม 2023 เพื่อแข่งขันกับ X (เดิมชื่อ Twitter) ในช่วงที่ Elon Musk เข้าซื้อกิจการ แม้ว่า Meta จะไม่คาดหวังว่า Threads จะเป็นแหล่งรายได้หลักในปี 2025 แต่บริษัทมีแผนที่จะใช้เงินสูงถึง 65 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้เพื่อขยายโครงสร้างพื้นฐาน AI เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการแข่งขันกับ OpenAI และ Google

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/25/meta-to-test-ads-on-threads-in-us-and-japan
    Meta กำลังทดสอบการแสดงโฆษณาบนแพลตฟอร์ม Threads ในสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น! การทดสอบนี้เริ่มต้นในวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยจะมีโฆษณาภาพปรากฏในฟีดหน้าแรกของ Threads สำหรับผู้ใช้บางส่วน Meta จะติดตามผลการทดสอบอย่างใกล้ชิดก่อนที่จะขยายการแสดงโฆษณาให้กว้างขึ้น นอกจากนี้ ธุรกิจยังสามารถขยายแคมเปญโฆษณาที่มีอยู่ใน Meta ไปยัง Threads ได้ด้วย Meta ยังได้เริ่มทดสอบฟิลเตอร์สำหรับโฆษณาใน Threads ซึ่งใช้ AI เพื่อให้ผู้ลงโฆษณาสามารถควบคุมระดับความไวของเนื้อหาที่โฆษณาของพวกเขาปรากฏอยู่ข้างๆ การเปิดตัวโฆษณาบน Threads เกิดขึ้นหลังจากที่ Meta ได้ปรับปรุงการตรวจสอบเนื้อหา ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงโฆษณาบางรายกังวล แต่ความไม่แน่นอนที่ TikTok ทำให้แบรนด์ต่างๆ มองหาทางเลือกอื่น และ Meta ก็ไม่พลาดโอกาสที่จะนำ Threads เข้ามาในตลาด Threads ถูกเปิดตัวในเดือนกรกฎาคม 2023 เพื่อแข่งขันกับ X (เดิมชื่อ Twitter) ในช่วงที่ Elon Musk เข้าซื้อกิจการ แม้ว่า Meta จะไม่คาดหวังว่า Threads จะเป็นแหล่งรายได้หลักในปี 2025 แต่บริษัทมีแผนที่จะใช้เงินสูงถึง 65 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้เพื่อขยายโครงสร้างพื้นฐาน AI เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการแข่งขันกับ OpenAI และ Google https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/25/meta-to-test-ads-on-threads-in-us-and-japan
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Meta to test ads on Threads in US and Japan
    (Reuters) - Meta Platforms will begin test launching ads on its social media platform Threads with a few brands in the U.S. and Japan, it said on Friday, as the app hits over 300 million monthly active users.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 225 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีข่าวที่น่าสนใจเกี่ยวกับมาตรการต่อต้านการละเมิดลิขสิทธิ์ของอิตาลีที่ชื่อว่า "Piracy Shield" ซึ่งถูกวิจารณ์อย่างหนักตั้งแต่เปิดตัวในต้นปี 2024 ระบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดกีฬาโดยการบล็อกโดเมนและที่อยู่ IP ที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดลิขสิทธิ์อย่างรวดเร็ว แม้ว่าระบบนี้จะสามารถบล็อกแหล่งที่มาของการละเมิดลิขสิทธิ์ได้หลายแห่ง แต่ก็มีปัญหาการบล็อกเกินไปด้วย

    มีรายงานว่าบริการที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น Google Drive และ Cloudflare ถูกบล็อกโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในอิตาลีได้รับผลกระทบ เหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2024 เมื่อ Google Drive ถูกบล็อกโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้ผู้ใช้ในอิตาลีไม่สามารถเข้าถึงได้เป็นเวลาสามชั่วโมง และมีผลกระทบต่อผู้ใช้บางส่วนแม้หลังจาก 12 ชั่วโมง

    อุตสาหกรรมเทคโนโลยีได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับระบบนี้ โดยสมาคมอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร (CCIA) ซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ๆ เช่น Amazon, Cloudflare และ Google ได้ส่งจดหมายถึงคณะกรรมาธิการยุโรปเพื่อแสดงความกังวล CCIA ระบุว่ามาตรการบล็อก DNS และ IP ของ Piracy Shield นั้นกว้างเกินไปและอาจเป็นอันตรายได้

    นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขกฎหมายลิขสิทธิ์ของอิตาลีที่เพิ่มข้อกำหนดการรายงานใหม่สำหรับผู้ให้บริการตัวกลาง ซึ่งรวมถึงบทลงโทษทางอาญาสำหรับการไม่ปฏิบัติตาม การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ถูกวิจารณ์ว่าอาจขัดแย้งกับกฎหมายของสหภาพยุโรปและสร้างผลกระทบต่อการแสดงออกทางออนไลน์และนวัตกรรม

    https://www.techspot.com/news/106483-tech-giants-urge-eu-review-italy-anti-piracy.html
    มีข่าวที่น่าสนใจเกี่ยวกับมาตรการต่อต้านการละเมิดลิขสิทธิ์ของอิตาลีที่ชื่อว่า "Piracy Shield" ซึ่งถูกวิจารณ์อย่างหนักตั้งแต่เปิดตัวในต้นปี 2024 ระบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดกีฬาโดยการบล็อกโดเมนและที่อยู่ IP ที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดลิขสิทธิ์อย่างรวดเร็ว แม้ว่าระบบนี้จะสามารถบล็อกแหล่งที่มาของการละเมิดลิขสิทธิ์ได้หลายแห่ง แต่ก็มีปัญหาการบล็อกเกินไปด้วย มีรายงานว่าบริการที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น Google Drive และ Cloudflare ถูกบล็อกโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในอิตาลีได้รับผลกระทบ เหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2024 เมื่อ Google Drive ถูกบล็อกโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้ผู้ใช้ในอิตาลีไม่สามารถเข้าถึงได้เป็นเวลาสามชั่วโมง และมีผลกระทบต่อผู้ใช้บางส่วนแม้หลังจาก 12 ชั่วโมง อุตสาหกรรมเทคโนโลยีได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับระบบนี้ โดยสมาคมอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร (CCIA) ซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ๆ เช่น Amazon, Cloudflare และ Google ได้ส่งจดหมายถึงคณะกรรมาธิการยุโรปเพื่อแสดงความกังวล CCIA ระบุว่ามาตรการบล็อก DNS และ IP ของ Piracy Shield นั้นกว้างเกินไปและอาจเป็นอันตรายได้ นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขกฎหมายลิขสิทธิ์ของอิตาลีที่เพิ่มข้อกำหนดการรายงานใหม่สำหรับผู้ให้บริการตัวกลาง ซึ่งรวมถึงบทลงโทษทางอาญาสำหรับการไม่ปฏิบัติตาม การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ถูกวิจารณ์ว่าอาจขัดแย้งกับกฎหมายของสหภาพยุโรปและสร้างผลกระทบต่อการแสดงออกทางออนไลน์และนวัตกรรม https://www.techspot.com/news/106483-tech-giants-urge-eu-review-italy-anti-piracy.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Tech giants urge EU to review Italy's anti-piracy measures amid overblocking concerns
    While Piracy Shield has successfully blocked numerous pirate sources, it has also been plagued by incidents of overblocking. Reports indicate that legitimate services such as Google Drive...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 218 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีข่าวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนใหม่จาก MIT และ Caltech ที่อาจช่วยป้องกันการระบาดของไวรัสโคโรนาในอนาคต! นักวิจัยได้พัฒนาวัคซีนแบบนาโนพาร์ติเคิลที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันไวรัสโคโรนาหลายชนิด ไม่เพียงแค่ไวรัสที่ทำให้เกิดโรคโควิด-19 แต่ยังรวมถึงไวรัสโคโรนาที่กำลังแพร่ระบาดในสัตว์และอาจแพร่สู่มนุษย์ในอนาคตด้วย

    วัคซีนแบบดั้งเดิมมักจะเน้นที่ส่วนที่เข้าถึงได้ง่ายของไวรัส ซึ่งมักจะเป็นส่วนที่กลายพันธุ์ได้เร็ว แต่วัคซีนใหม่นี้เน้นที่ส่วนที่คงที่ของไวรัส ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก นักวิจัยได้ออกแบบวัคซีนที่แสดงสำเนาของ RBDs จากไวรัสโคโรนาหลายชนิดพร้อมกัน ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันสามารถตอบสนองต่อไวรัสหลายชนิดได้พร้อมกัน

    ในการทดสอบกับสัตว์ วัคซีนที่ชื่อว่า "mosaic-7COM" สามารถสร้างการตอบสนองของแอนติบอดีที่แข็งแกร่งต่อไวรัส SARS-CoV-2 หลายสายพันธุ์และไวรัสโคโรนาอื่นๆ จากตระกูล sarbecovirus วัคซีนนี้ยังสามารถป้องกันไวรัสไม่ให้ติดเชื้อในสัตว์ทดลองได้สำเร็จ

    นอกจากนี้ วัคซีน mosaic-7COM ยังแสดงประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกันในสัตว์ที่เคยได้รับวัคซีน mRNA สำหรับโควิด-19 มาก่อน ซึ่งสะท้อนถึงสถานการณ์ในโลกจริงที่วัคซีนรุ่นต่อไปต้องเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่มีอยู่แล้ว

    การพัฒนาเทคโนโลยีนี้จะช่วยให้เรามีการป้องกันที่ดีกว่าในอนาคต และอาจช่วยป้องกันการระบาดของไวรัสโคโรนาใหม่ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้

    https://www.techspot.com/news/106489-new-vaccine-mit-caltech-could-prevent-future-coronavirus.html
    มีข่าวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนใหม่จาก MIT และ Caltech ที่อาจช่วยป้องกันการระบาดของไวรัสโคโรนาในอนาคต! นักวิจัยได้พัฒนาวัคซีนแบบนาโนพาร์ติเคิลที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันไวรัสโคโรนาหลายชนิด ไม่เพียงแค่ไวรัสที่ทำให้เกิดโรคโควิด-19 แต่ยังรวมถึงไวรัสโคโรนาที่กำลังแพร่ระบาดในสัตว์และอาจแพร่สู่มนุษย์ในอนาคตด้วย วัคซีนแบบดั้งเดิมมักจะเน้นที่ส่วนที่เข้าถึงได้ง่ายของไวรัส ซึ่งมักจะเป็นส่วนที่กลายพันธุ์ได้เร็ว แต่วัคซีนใหม่นี้เน้นที่ส่วนที่คงที่ของไวรัส ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก นักวิจัยได้ออกแบบวัคซีนที่แสดงสำเนาของ RBDs จากไวรัสโคโรนาหลายชนิดพร้อมกัน ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันสามารถตอบสนองต่อไวรัสหลายชนิดได้พร้อมกัน ในการทดสอบกับสัตว์ วัคซีนที่ชื่อว่า "mosaic-7COM" สามารถสร้างการตอบสนองของแอนติบอดีที่แข็งแกร่งต่อไวรัส SARS-CoV-2 หลายสายพันธุ์และไวรัสโคโรนาอื่นๆ จากตระกูล sarbecovirus วัคซีนนี้ยังสามารถป้องกันไวรัสไม่ให้ติดเชื้อในสัตว์ทดลองได้สำเร็จ นอกจากนี้ วัคซีน mosaic-7COM ยังแสดงประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกันในสัตว์ที่เคยได้รับวัคซีน mRNA สำหรับโควิด-19 มาก่อน ซึ่งสะท้อนถึงสถานการณ์ในโลกจริงที่วัคซีนรุ่นต่อไปต้องเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่มีอยู่แล้ว การพัฒนาเทคโนโลยีนี้จะช่วยให้เรามีการป้องกันที่ดีกว่าในอนาคต และอาจช่วยป้องกันการระบาดของไวรัสโคโรนาใหม่ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ https://www.techspot.com/news/106489-new-vaccine-mit-caltech-could-prevent-future-coronavirus.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    New vaccine from MIT and Caltech could prevent future coronavirus outbreaks
    Traditional vaccines typically focus on the most accessible parts of viruses, which are often the rapidly mutating receptor-binding domains. These RBDs enable the virus to latch onto...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 0 รีวิว
  • Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 207 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • Mukesh Ambani, มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในเอเชีย กำลังวางแผนสร้างศูนย์ข้อมูล AI ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในรัฐคุชราต ประเทศอินเดีย ศูนย์ข้อมูลนี้จะตั้งอยู่ในเมืองจามนาการ์ และคาดว่าจะมีความจุรวมถึงสามกิกะวัตต์เมื่อสร้างเสร็จ ซึ่งจะใหญ่กว่าศูนย์ข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบันที่มีความจุน้อยกว่าหนึ่งกิกะวัตต์

    การสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่นี้ไม่ใช่เรื่องง่าย คาดว่าค่าใช้จ่ายจะอยู่ในช่วง 20-30 พันล้านดอลลาร์ โดย Reliance Industries บริษัทหลักของ Ambani มีเงินสดประมาณ 26 พันล้านดอลลาร์ในบัญชี เพื่อเป็นการสนับสนุนโครงการนี้ Ambani อาจต้องหาวิธีการทางการเงินที่สร้างสรรค์ รวมถึงการขอรับเงินทุนจากรัฐบาล

    นอกจากนี้ Ambani ยังได้เริ่มซื้อชิปจาก Nvidia เพื่อใช้ในโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูลนี้ หาก Ambani สามารถทำสำเร็จ เขามีเป้าหมายที่จะครองตลาด AI โดยการให้บริการ inferencing ที่มีต้นทุนต่ำ ซึ่งหมายถึงการให้เช่าพลังการประมวลผลให้กับบริษัทที่ต้องการรันโมเดล AI โดยไม่ต้องสร้างและดูแลศูนย์ข้อมูลของตนเอง

    สิ่งที่ทำให้โครงการนี้น่าสนใจยิ่งขึ้นคือความมุ่งมั่นของ Ambani ในการใช้พลังงานหมุนเวียน ศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่นี้จะใช้พลังงานหมุนเวียนจากคอมเพล็กซ์พลังงานสีเขียวที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งประกอบด้วยพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานไฮโดรเจน

    https://www.techspot.com/news/106490-indian-billionaire-plots-world-largest-ai-data-center.html
    Mukesh Ambani, มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในเอเชีย กำลังวางแผนสร้างศูนย์ข้อมูล AI ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในรัฐคุชราต ประเทศอินเดีย ศูนย์ข้อมูลนี้จะตั้งอยู่ในเมืองจามนาการ์ และคาดว่าจะมีความจุรวมถึงสามกิกะวัตต์เมื่อสร้างเสร็จ ซึ่งจะใหญ่กว่าศูนย์ข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบันที่มีความจุน้อยกว่าหนึ่งกิกะวัตต์ การสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่นี้ไม่ใช่เรื่องง่าย คาดว่าค่าใช้จ่ายจะอยู่ในช่วง 20-30 พันล้านดอลลาร์ โดย Reliance Industries บริษัทหลักของ Ambani มีเงินสดประมาณ 26 พันล้านดอลลาร์ในบัญชี เพื่อเป็นการสนับสนุนโครงการนี้ Ambani อาจต้องหาวิธีการทางการเงินที่สร้างสรรค์ รวมถึงการขอรับเงินทุนจากรัฐบาล นอกจากนี้ Ambani ยังได้เริ่มซื้อชิปจาก Nvidia เพื่อใช้ในโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูลนี้ หาก Ambani สามารถทำสำเร็จ เขามีเป้าหมายที่จะครองตลาด AI โดยการให้บริการ inferencing ที่มีต้นทุนต่ำ ซึ่งหมายถึงการให้เช่าพลังการประมวลผลให้กับบริษัทที่ต้องการรันโมเดล AI โดยไม่ต้องสร้างและดูแลศูนย์ข้อมูลของตนเอง สิ่งที่ทำให้โครงการนี้น่าสนใจยิ่งขึ้นคือความมุ่งมั่นของ Ambani ในการใช้พลังงานหมุนเวียน ศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่นี้จะใช้พลังงานหมุนเวียนจากคอมเพล็กซ์พลังงานสีเขียวที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งประกอบด้วยพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานไฮโดรเจน https://www.techspot.com/news/106490-indian-billionaire-plots-world-largest-ai-data-center.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Asia's richest man Mukesh Ambani plots world's largest AI data center in India
    The data center is being constructed in Jamnagar and is projected to have a staggering total capacity of three gigawatts upon completion. For perspective, the largest operational...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 197 มุมมอง 0 รีวิว
  • Sony กำลังเตรียมเปิดตัวหูฟังรุ่นใหม่ WH-1000XM6 ในช่วงฤดูร้อนนี้! จากข้อมูลที่ได้รับจากการยื่นขออนุญาตของ FCC หูฟังรุ่นใหม่นี้อาจมีการออกแบบที่ปรับปรุงจากรุ่น XM5 โดยมีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ เช่น แผ่นรองหูที่สามารถถอดออกได้ ซึ่งจะช่วยให้การซ่อมแซมหรือเปลี่ยนแผ่นรองหูทำได้ง่ายขึ้น

    นอกจากนี้ หูฟังรุ่น XM6 ยังมีการปรับปรุงบานพับที่อาจทำให้สามารถพับเก็บได้อย่างกะทัดรัดมากขึ้น ซึ่งเป็นการแก้ไขข้อเสียของรุ่น XM5 ที่ไม่สามารถพับเก็บได้อย่างสมบูรณ์ หูฟังรุ่นใหม่นี้ยังคงใช้ Bluetooth 5.3 และรองรับ LE Audio ซึ่งอาจช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการเชื่อมต่อไร้สายและระยะการใช้งาน

    การเปิดตัวหูฟังรุ่น XM6 นี้คาดว่าจะเกิดขึ้นก่อนวันที่ 22 กรกฎาคม 2025 เนื่องจากการยื่นขออนุญาตของ FCC มีระยะเวลาความลับสั้นๆ จนถึงวันดังกล่าว การเปิดตัวหูฟังรุ่น XM6 นี้เป็นไปตามตารางการเปิดตัวของหูฟังซีรีส์ XM ที่มีการเปิดตัวทุกสองปี โดยรุ่น XM3 เปิดตัวในเดือนสิงหาคม 2018, รุ่น XM4 ในเดือนสิงหาคม 2020, และรุ่น XM5 ในเดือนพฤษภาคม 2022

    https://www.techspot.com/news/106491-fcc-filing-points-sony-wh-1000xm6-headphones-launch.html
    Sony กำลังเตรียมเปิดตัวหูฟังรุ่นใหม่ WH-1000XM6 ในช่วงฤดูร้อนนี้! จากข้อมูลที่ได้รับจากการยื่นขออนุญาตของ FCC หูฟังรุ่นใหม่นี้อาจมีการออกแบบที่ปรับปรุงจากรุ่น XM5 โดยมีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ เช่น แผ่นรองหูที่สามารถถอดออกได้ ซึ่งจะช่วยให้การซ่อมแซมหรือเปลี่ยนแผ่นรองหูทำได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ หูฟังรุ่น XM6 ยังมีการปรับปรุงบานพับที่อาจทำให้สามารถพับเก็บได้อย่างกะทัดรัดมากขึ้น ซึ่งเป็นการแก้ไขข้อเสียของรุ่น XM5 ที่ไม่สามารถพับเก็บได้อย่างสมบูรณ์ หูฟังรุ่นใหม่นี้ยังคงใช้ Bluetooth 5.3 และรองรับ LE Audio ซึ่งอาจช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการเชื่อมต่อไร้สายและระยะการใช้งาน การเปิดตัวหูฟังรุ่น XM6 นี้คาดว่าจะเกิดขึ้นก่อนวันที่ 22 กรกฎาคม 2025 เนื่องจากการยื่นขออนุญาตของ FCC มีระยะเวลาความลับสั้นๆ จนถึงวันดังกล่าว การเปิดตัวหูฟังรุ่น XM6 นี้เป็นไปตามตารางการเปิดตัวของหูฟังซีรีส์ XM ที่มีการเปิดตัวทุกสองปี โดยรุ่น XM3 เปิดตัวในเดือนสิงหาคม 2018, รุ่น XM4 ในเดือนสิงหาคม 2020, และรุ่น XM5 ในเดือนพฤษภาคม 2022 https://www.techspot.com/news/106491-fcc-filing-points-sony-wh-1000xm6-headphones-launch.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Sony's next-gen XM6 headphones might drop this summer
    Recent FCC filings give us a sneak peek into what could be Sony's next-gen XM6 headset. Drawings suggest a slightly tweaked physical design from the current XM5...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 204 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีข่าวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการโจมตีทางไซเบอร์ที่ใช้เทคนิค RID hijacking เพื่อสร้างบัญชีผู้ดูแลระบบที่ซ่อนอยู่ใน Windows! กลุ่มแฮกเกอร์จากเกาหลีเหนือได้ใช้เทคนิคนี้เพื่อหลอกให้ Windows มองว่าบัญชีที่มีสิทธิ์ต่ำเป็นบัญชีที่มีสิทธิ์ผู้ดูแลระบบ

    เทคนิคนี้ทำงานโดยการแก้ไขค่า RID (Relative Identifier) ของบัญชีที่มีสิทธิ์ต่ำให้ตรงกับค่าของบัญชีผู้ดูแลระบบ ซึ่งทำให้ Windows มอบสิทธิ์ที่สูงขึ้นให้กับบัญชีนี้ อย่างไรก็ตาม การโจมตีนี้ต้องการการเข้าถึงรีจิสทรี SAM (Security Account Manager) ดังนั้นแฮกเกอร์ต้องเจาะระบบและได้รับสิทธิ์ SYSTEM ก่อน

    กลุ่มแฮกเกอร์ Andariel ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่ม Lazarus ของเกาหลีเหนือ ได้ใช้เทคนิคนี้ในการโจมตี โดยเริ่มจากการสร้างบัญชีผู้ใช้ที่มีสิทธิ์ต่ำและซ่อนอยู่ จากนั้นทำการ hijack RID เพื่อเพิ่มสิทธิ์เป็นผู้ดูแลระบบ บัญชีที่ซ่อนอยู่นี้จะไม่ปรากฏในคำสั่ง "net user" แต่สามารถพบได้ในรีจิสทรี SAM

    เพื่อป้องกันการโจมตีแบบนี้ ผู้ดูแลระบบควรใช้ Local Security Authority (LSA) Subsystem Service เพื่อตรวจสอบการพยายามเข้าสู่ระบบและการเปลี่ยนรหัสผ่าน รวมถึงป้องกันการเข้าถึงและการเปลี่ยนแปลงรีจิสทรี SAM โดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ยังควรจำกัดการใช้งานเครื่องมือเช่น PsExec และ JuicyPotato และป้องกันบัญชีผู้ใช้ที่มีสิทธิ์ต่ำด้วยการยืนยันตัวตนหลายขั้นตอน

    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/hackers-use-windows-rid-hijacking-to-create-hidden-admin-account/
    มีข่าวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการโจมตีทางไซเบอร์ที่ใช้เทคนิค RID hijacking เพื่อสร้างบัญชีผู้ดูแลระบบที่ซ่อนอยู่ใน Windows! กลุ่มแฮกเกอร์จากเกาหลีเหนือได้ใช้เทคนิคนี้เพื่อหลอกให้ Windows มองว่าบัญชีที่มีสิทธิ์ต่ำเป็นบัญชีที่มีสิทธิ์ผู้ดูแลระบบ เทคนิคนี้ทำงานโดยการแก้ไขค่า RID (Relative Identifier) ของบัญชีที่มีสิทธิ์ต่ำให้ตรงกับค่าของบัญชีผู้ดูแลระบบ ซึ่งทำให้ Windows มอบสิทธิ์ที่สูงขึ้นให้กับบัญชีนี้ อย่างไรก็ตาม การโจมตีนี้ต้องการการเข้าถึงรีจิสทรี SAM (Security Account Manager) ดังนั้นแฮกเกอร์ต้องเจาะระบบและได้รับสิทธิ์ SYSTEM ก่อน กลุ่มแฮกเกอร์ Andariel ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่ม Lazarus ของเกาหลีเหนือ ได้ใช้เทคนิคนี้ในการโจมตี โดยเริ่มจากการสร้างบัญชีผู้ใช้ที่มีสิทธิ์ต่ำและซ่อนอยู่ จากนั้นทำการ hijack RID เพื่อเพิ่มสิทธิ์เป็นผู้ดูแลระบบ บัญชีที่ซ่อนอยู่นี้จะไม่ปรากฏในคำสั่ง "net user" แต่สามารถพบได้ในรีจิสทรี SAM เพื่อป้องกันการโจมตีแบบนี้ ผู้ดูแลระบบควรใช้ Local Security Authority (LSA) Subsystem Service เพื่อตรวจสอบการพยายามเข้าสู่ระบบและการเปลี่ยนรหัสผ่าน รวมถึงป้องกันการเข้าถึงและการเปลี่ยนแปลงรีจิสทรี SAM โดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ยังควรจำกัดการใช้งานเครื่องมือเช่น PsExec และ JuicyPotato และป้องกันบัญชีผู้ใช้ที่มีสิทธิ์ต่ำด้วยการยืนยันตัวตนหลายขั้นตอน https://www.bleepingcomputer.com/news/security/hackers-use-windows-rid-hijacking-to-create-hidden-admin-account/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    Hackers use Windows RID hijacking to create hidden admin account
    A North Korean threat group has been using a technique called RID hijacking that tricks Windows into treating a low-privileged account as one with administrator permissions.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 165 มุมมอง 0 รีวิว
  • "จะเอาให้ได้!"

    มีรานงานว่า ทรัมป์โทรหานายกรัฐมนตรีเดนมาร์ก เมตเต้ เฟรเดอริกเซน และกดดันให้เดนมาร์กยอมมอบกรีนแลนด์ให้กับสหรัฐอเมริกา

    ตามรายงานของสื่อ การสนทนาครั้งนี้นับเป็นครั้งที่เลวร้ามาก มีรายงานว่าทรัมป์แสดงท่าทีก้าวร้าวอย่างซึ่งหน้า โดยปฏิเสธข้อเสนอความร่วมมือทั้งหมดที่เดนมาร์กพยายามยื่นให้ และมุ่งเน้นแต่เพียงการครอบครองกรีนแลนด์ด้วยการซื้อขาด

    เจ้าหน้าที่ในเหตุการณ์บรรยายถึงบรรยากาศว่า "แย่มาก" และตกตะลึงกับน้ำเสียงและพฤติกรรมของทรัมป์อย่างมาก หลังจากที่ข่าวออกมาในช่วงแรก ทุกคนเชื่อว่านี่เป็นเพียงกลยุทธทางการเมืองของทรัมป์ แต่ตอนนี้มันทำให้เดนมาร์ก ซึ่งเป็นพันธมิตรในยุโรปวิตกกังวลอย่างมาก เนื่องจากหลายคนเชื่อว่าทรัมป์จริงจังกับการผนวกเกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้

    นี่เป็นความอับอายครั้งใหญ่สำหรับสหรัฐอเมริกาบนเวทีโลก เดนมาร์กเป็นพันธมิตรสำคัญของ NATO และการกระทำของทรัมป์ที่ต้องการผนวกดินแดนของประเทศอื่น ถือเป็นการรุกล้ำอธิปไตยหรือไม่! แม้ว่ามันยังไปไม่ถึงขั้นใช้กำลังทหารก็ตามที แต่มีผลลัพธ์เดียวกัน
    "จะเอาให้ได้!" มีรานงานว่า ทรัมป์โทรหานายกรัฐมนตรีเดนมาร์ก เมตเต้ เฟรเดอริกเซน และกดดันให้เดนมาร์กยอมมอบกรีนแลนด์ให้กับสหรัฐอเมริกา ตามรายงานของสื่อ การสนทนาครั้งนี้นับเป็นครั้งที่เลวร้ามาก มีรายงานว่าทรัมป์แสดงท่าทีก้าวร้าวอย่างซึ่งหน้า โดยปฏิเสธข้อเสนอความร่วมมือทั้งหมดที่เดนมาร์กพยายามยื่นให้ และมุ่งเน้นแต่เพียงการครอบครองกรีนแลนด์ด้วยการซื้อขาด เจ้าหน้าที่ในเหตุการณ์บรรยายถึงบรรยากาศว่า "แย่มาก" และตกตะลึงกับน้ำเสียงและพฤติกรรมของทรัมป์อย่างมาก หลังจากที่ข่าวออกมาในช่วงแรก ทุกคนเชื่อว่านี่เป็นเพียงกลยุทธทางการเมืองของทรัมป์ แต่ตอนนี้มันทำให้เดนมาร์ก ซึ่งเป็นพันธมิตรในยุโรปวิตกกังวลอย่างมาก เนื่องจากหลายคนเชื่อว่าทรัมป์จริงจังกับการผนวกเกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้ นี่เป็นความอับอายครั้งใหญ่สำหรับสหรัฐอเมริกาบนเวทีโลก เดนมาร์กเป็นพันธมิตรสำคัญของ NATO และการกระทำของทรัมป์ที่ต้องการผนวกดินแดนของประเทศอื่น ถือเป็นการรุกล้ำอธิปไตยหรือไม่! แม้ว่ามันยังไปไม่ถึงขั้นใช้กำลังทหารก็ตามที แต่มีผลลัพธ์เดียวกัน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 283 มุมมอง 0 รีวิว